ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 197
แต่งท่ีเสด็จออก
เจ้าพนักงารได้ยกอาสน์สงฆ์แลเตียงสวดกับกระโจมเทียนไชยแลเก้าอี้ท่ีเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทออก
จากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ชักพระสูตร์ก้ันหน้าพระที่น่ังมหาเศวตฉัตร โต๊ะ ๒ ข้างพระที่นั่งพุดตาล
บนพระที่นั่งพระมหาเศวตฉัตรตั้งเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ แลเครื่องราชูปโภค ใช้เครื่องพานพระขันหมาก
ส�ำรับใหญ่ เมื่อใกล้เวลาเสด็จออกพระบรมวงศานุวงศ์แลข้าทูลลอองธุลีพระบาทแต่งเต็มยศใหญ่ สวมเส้ือครุย
ผู้ท่ีได้รับพระราชทานปฐมจุลจอมเกล้า ประดับสร้อยเครื่องราชอิศริยาภรณ์จุลจอมเกล้า กับอรรคราชทูต
ต่างประเทศท่ีมาเฝ้าแต่งเต็มยศเข้ายืนที่ตามต�ำแหน่ง พระบรมวงศานุวงศ์ทรงยืนเฝ้าหว่างเสาหน้าพระฉาก
ข้างขวา หม่อมเจ้าห้อยท้ายลงไปทางเฉลียงตวันออก อรรคราชทูตผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศเฝ้าหว่างเสา
ข้างซ้าย ข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนเฝ้ากลางท้องพระโรงตามต�ำแหน่ง ราชองครักษ์แลมหาดเล็กเฝ้า
หลังพระท่ีนั่งมหาเศวตฉัตรในพระสูตร แตรสังข์แตรฝรั่งแลมโหรทึกอยู่หลังขวาง กลองชนะอยู่หน้าพระท่ีน่ัง
อมรินทรวินิจฉัย กองทหารเฉลิมพระเกียรติยศยืนแถวมีธงประจ�ำกองแลแตรวงต้ังแต่หน้าพระท่ีนั่งดุสิดาภิรมย์
ไปจนหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระราเชนทรราชยาน แลพระยาช้างต้นพระเศวตสกลวโรภาสเทียบเกย
พระยาม้าต้นยืนที่สนามหญ้าหน้าพระทวารเทเวศร์รักษาประจ�ำที่
เสด็จออกท้องพระโรง
ครัน้ ใกล้เวลาพระฤกษบ์ า่ ยโมงเศษ1 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวทรงเครอ่ื งพระภษู าแลฉลองพระองค์
เครื่องพระบรมราชาภิเษก ประดับพระดาราเคร่ืองราชอิศริยาภรณ์ทั้ง ๕ ทรงสายสพายเครื่องราชอิศริยยศ
มหาจกั รพี รอ้ มทง้ั พระสงั วาล แลทรงพระสงั วาลนพรตั นร์ าชวราภรณ์ พระสงั วาลพระนพ แลพระสงั วาลพราหมณ์
สร้อยธุร�ำ ในฉลองพระองค์ครุยร้ิวปัตหล่า ทรงพระสังวาลจุลจอมเกล้า ภายนอกฉลองพระองค์ครุยเสด็จออก
พระทวารเทวราชมเหศวร์ ทรงรบั พระแสงขรรคไ์ ชยศรมี าทรงถอื เสดจ็ ขนึ้ สถติ ยพระบรมราชอาสน์ เหนอื พระทน่ี ง่ั
พดุ ตาลบนพระทน่ี งั่ มหาเศวตฉตั ร แลว้ ทรงพระมหาพไิ ชยมงกฎุ พระยาบรุ ษุ รตั นราชพลั ลภจางวางมหาดเลก็ สอด
ฉลองพระบาทถวาย มีมหาดเล็กหุ้มแพรเชิญพระแสงรายตีนตอง ข้างพระที่นั่งมหาเศวตฉัตรข้างละคู่ อยู่งาร
พัดโบกอยเู่ บื้องหลัง ข้างละนาย พระอนิ ทรเทพเจา้ กรมพระต�ำรวจใหญข่ วา เชญิ ธงไชยราชกระบธ่ี ุช ยนื ข้างขวา
แถวหน้าเรียงกับพระแสงรายตีนตอง พระพิเรนทรเทพ เจ้ากรมพระต�ำรวจใหญ่ซ้ายเชิญธงไชยครุฑพาห
ยนื ขา้ งซา้ ยแนวเดยี วกนั ครน้ั ไดเ้ วลาอดุ มฤกษ์ เจา้ หมน่ื เสมอใจราช หวั หมนื่ มหาดเลก็ รวั กรบั ชาวมา่ นไขพระสตู ร
จม่ืนจงรักษาองค์ซ้ายชูพุ่มเข้าบิณฑ์ดอกไม้ทองให้สัญญา เจ้าพนักงารประโคมแตรสังข์ แตรฝร่ัง มโหรทึก
กลองชนะ พระบรมวงศานวุ งศ์ แลอรรคราชทตู ผแู้ ทนรฐั บาลตา่ งประเทศ กบั ขา้ ทลู ลอองธลุ พี ระบาทถวายค�ำนบั
กองทหารท�ำวันทยาวุธ แตรวงบรรเลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ ผู้ด�ำรงต�ำแหน่งเสนาบดีนานยิ่งกว่าเสนาบดีทั้งหลาย อ่านค�ำกราบบังคมทูลถวาย
ไชยมงคล ดังน้ี
1 เวลา ๑๓.๐๐ น. เศษ
198 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ค�ำถวายไชยมงคลฝ่ายหน้า
สรวมชีพ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้รับสกลฉันทานุมัติแห่งพระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดีมนตรีมุขอมาตย์
แลข้าทูลลอองธุลีพระบาท ฝ่ายทหารพลเรือนถ้วนหน้า ผู้มาพร้อมกันในมหาสันนิบาตน้ีก็ดี มีราชการประจ�ำ
อยู่ในที่อื่นมิอาจมาได้ก็ดี ขอถวายอัญชลีบังคมบรมบาทบงกชมาสแลขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาศ
เพ่ือกราบบังคมทูลถวายพระพรไชยแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ เอกอรรคมหาบุรุษ
บรมนราธิราช พินิตประชานาถมหาสมมตวงศ์ อติศัยพงศวิมลรัตน วรขัตติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหา
จักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาตสังสุทธเคราะหณี จักรีบรมนาถ จุฬาลงกรณราชวรางกูร บรมมกุฎนเรนทรสูร
สันตติวงศวิสิฐ สุสาธิตบุรพาธิการ อดุลยกฤษฎาภินิหาร อติเรกบุญฤทธ์ิ ธัญลักษณวิจิตรโสภาคยสรรพางค์
มหาชโนตมางคประณตบาทบงกชยคุ ล ประสทิ ธสิ รรพศภุ ผลอดุ มบรมสขุ มุ าลย์ ทพิ ยเทพาวตารไพศาลเกยี รตคิ ณุ
อดลุ ยพเิ ศษ สรรพเทเวศรานรุ กั ษ์ บรุ มิ ศกั ดสิ มญาเทพทวาราวดี ศรมี หาบรุ ษุ สตุ สมบตั ิ เสนางคนกิ รรตั นอ์ ศั วโกศล
ประพนธปรีชามัทวสมาจาร บริบูรณ์คุณสารสยามาทินครวรุตเมกราชดิลก มหาปริวารนายกอนันต
มหันตวรฤทธิเดช สรรพวิเศษศิรินธร บรมชนกาดิศรสมมต ประสิทธิวรยศมโหดมบรมราชสมบัติ นพปฎล
เศวตฉัตราดฉิ ัตร ศิรริ ัตโนปลกั ษณมหาบรมราชาภิเษกาภิษิต สรรพทศทศิ วชิ ติ ไชย สกลมไหศวริยมหาสวามนิ ทร์
มเหศวรมหินทรมหารามาธิราชวโรดม บรมนาถชาติอาชาวไศรย พุทธาทิไตรรัตนสรณารักษ์ อดุลยศักดิอรรค
นเรศรามาธิบดี เมตตากรุณาสีตลหฤทัย อโนปไมยบุญการ สกลไพศาลมหารัษฎาธิเบนทร์ ปรเมนทรธรรมิก
มหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว1 อันได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบสุริยสันตติวงศ์
ฉลองพระองค์สมเด็จพระบรมชนกนาถ เปนบรมราชาธิราชของสยามรัฐแลบัดนี้ได้ทรงรับพระบรมราชาภิเษก
ทรงพระมหามงกุฎพร้อมด้วยเครื่องราชกกุธภัณฑ์ แลเคร่ืองประดับพระราชอิศริยยศอย่างอ่ืนบริบูรณ์ครบ
ทุกอัน เสด็จเถลิงถวัลย์พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยามหาดิลกภพ
นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถานน้ี อันเปนพระบรมราชธานีหลักประเทศเขตร์สยามรัฐ
ตามขัตติยราชประเพณี
ขอเดชะพระศรีรัตนตรัยนิรัตสัยบุญเขตร์ แลอานุภาพท้าวเทเวศร์มเหศวรศักด์ิ จงอภิบาลรักษาพระบาท
สมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเดชานุภาพแผ่ไปในทิศานุทิศเปนที่
เกรงขามของผู้จะก่อการณ์เปนปัจจามิตร์ราชดัสกร สามารถเปนท่ีร่มเย็นของพระมหานครกับท้ังประชาชน
ทรงพระเจริญด้วยศุภอรรถมนุญผลทุกประการ ทรงบริบูรณ์ด้วยธนสารสมบัติ จ�ำรูญด้วยพระราชอิศริยยศ
พระเกียรติคุณบุญฤทธิ คลาดแคล้วจากพิพิธอุปัทวพยาธิทุกข์ ทรงพระเกษมสุขสดวกพระราชหฤทัย มีพระราช
ประสงค์ใด ๆ จงส�ำเร็จ ทรงพระชนมายุเสด็จสถิตย์ในสิริราชสมบัติยืนนาน ขอสิริสวัสด์ิพิพัฒมงคลทุกประการ
จงประสิทธิแด่พระบาทสมเด็จพระบรมนาถบพิตรพระเจ้าอยู่หัว ด้วยอ�ำนาจสัตยาธิฐานของข้าพระพุทธเจ้า
ทั้งปวงฉนี้
อนึ่งข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง ขอต้ังความสวามิภักดิ์ไว้ใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท สมเด็จพระบรมนาถ
1 เฉลิมพระปรมาภิไธยในพระสุพรรณบัฏของพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยู่หัว
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 199
บพิตร์พระเจ้าอยู่หัว เพ่ือเชิดชูพระเกียรติยศเดชานุภาพให้ไพศาล เปนที่ร่มเย็นของพระราชอาณาจักรย่ิง ๆ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับราชการฉลองพระเดชพระคุณโดยสถานใด จักต้ังใจปฏิบัติด้วยความสัตย์
สุจริตเต็มอุตสาหทุกประการ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ จบแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์แลอรรคราชทูต
ผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศกับข้าทูลลอองธุลีพระบาท ถวายค�ำนับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรม
ราชโองการด�ำรัสตอบดังน้ี
พระราชด�ำรัสตอบฝ่ายหน้า
ได้ฟังค�ำอ�ำนวยพรแลแสดงความสวามิภักดิ์ของท่านท้ังหลายเปนท่ีจับใจนัก ขอจงได้รับความขอบใจ
อย่างย่ิงทั่วกันฯ บรรดาท่านผู้ได้รับราชการมาแต่คร้ังสมเด็จพระบรมชนกนาถ ใครเคยอยู่ในต�ำแหน่งใด ๆ
จงรบั ราชการตอ่ ไปในต�ำแหน่งนน้ั ๆ จะไดพ้ รอ้ มกนั ท�ำนบุ �ำรงุ พระบรมพทุ ธศาสนาแลแผน่ ดินใหส้ มณพราหมณ์
แลประชาราษฎร์อยู่เย็นเปนสุขทั่วถึงตลอดพระราชอาณาเขตร์ แลพระมหากษัตริย์ในปางก่อนย่อม
พระราชทานโอกาศให้ข้าขอบขัณฑสีมาเข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทได้โดยกาล ท่านท้ังหลายผู้มีหน้าที่ปฏิบัติ
พระราชประสงค์ จงได้โอกาศเพ่ือจะแจ้งเหตุการณ์นั้น ๆ โดยสดวกใจ ไม่ต้องมีผู้กราบทูลแทนตนฯ
ขอสวัสดิมงคลจงมีแก่ท่านท้ังหลายทั่วกันเทอญ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ จึงรับพระบรมราชโองการเปนพระฤกษ์ ดังนี้
ข้าพระพุทธเจ้าท้ังปวงรับพระบรมราชโองการใส่เกล้าใส่กระหม่อม ขอเดชะ แล้วเจ้าหมื่นเสมอใจราชรัวกรับ
พระบรมวงศานุวงศ์แลอรรคราชทูต กับข้าทูลลอองธุลีพระบาทถวายค�ำนับพร้อมกัน จมื่นจงรักษาองค์ซ้าย
ชูพุ่มเข้าบิณฑ์ดอกไม้ทองให้สัญญา ชาวประโคม ๆ แตรสังข์ แตรฝรั่ง มโหรทึก กลองชนะ กองทหารท�ำ
วันทยาวุธแลแตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี กรมวังชาวม่านชักพระสูตรปิด เสด็จขึ้นในห้องพระฉาก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชฎามหากฐิน1 ทรงพระแสงขรรค์เนาวโลห เสด็จข้ึนพระท่ีนั่ง
ไพศาลทักษิณ ประทับพระที่น่ังภัทรบิฐ พระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายในเฝ้าทูลลออง
ธุลีพระบาท พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสมรรัตน์สิริเชษฐ2 กราบบังคมทูลถวายไชยมงคลแทนพระบรม
วงศานุวงศ์ข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายใน ดังน้ี
1 พระชฎามหากฐิน เป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศหมวดเคร่ืองศิราภรณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างข้ึนใหม่ ท�ำด้วยทองค�ำลงยาประดับเพชร เคร่ืองประกอบมีมาลากับเกี้ยว ส่วนยอดเป็น ๕ แฉก
ยอดกลางสูง อีก ๔ ยอดเล็กและต่�ำกว่า ปลายสะบัดไปข้างหลัง ตรงกระหม่อมติดกระจังโดยรอบเป็นชั้น ๆ มีกรรเจียกตอนล่าง
สว่ นยอดพระชฎาปกั ใบสน หรอื ขนนกวายภุ กั ษ์ หรอื ขนนกการเวก หรอื ดอกไมท้ องคำ� ทท่ี ำ� คลา้ ยขนนก ใชส้ ำ� หรบั พระมหากษตั รยิ ท์ รง
และมเี คร่อื งตน้ ประกอบในการพระราชพิธสี ำ� คัญ
2 พระนามเดิม พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
กบั เจา้ จอมมารดาเทย่ี ง ประสตู เิ มอ่ื วนั ท่ี ๑๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๓๙๕ ในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดเกลา้ ฯ
สถาปนาเป็นกรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๖ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรักษากุญแจ
เขตพระราชฐานชั้นใน ในพระบรมมหาราชวัง สิ้นพระชนม์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เม่ือวันที่ ๕ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๔๗๔ พระชนั ษา ๗๙ ปี
200 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ค�ำถวายไชยมงคลของฝ่ายใน
สรวมชีพ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้รับฉันทานุมัติ ของพระบรมวงศานุวงศ์แลข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายใน
ทง้ั ปวง ขอพระราชทานกราบบงั คมทลู พระกรณุ า แดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชริ าวธุ เอกอรรคมหาบรุ ษุ
บรมนราธริ าช พนิ ติ ประชานาถสมมตวงศ์ อตศิ ยั พงศวมิ ลรตั น์ วรขตั ตยิ ราชนกิ โรดม จาตรุ นั ตบรมมหาจกั รพรรดิ
ราชสงั กาศ บรมธรรมกิ มหาราชาธริ าช บรมนาถบพติ ร พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั อนั ไดเ้ สดจ็ เถลงิ ถวลั ยราชสมบตั ิ
สบื พระบรมราชสนั ตตวิ งศใ์ นสมเดจ็ พระบรมชนกนาถ มเี ครอ่ื งประดบั พระบรมราชอศิ รยิ ยศแลราชสมบตั พิ รอ้ ม
บริบูรณ์ทุกสิ่งสรรพ์ แลได้บรมราชาภิเษกเปนเอกอรรคบรมธรรมิกมหาราชาธิราช เสด็จด�ำรงกรุงเทพมหานคร
อมรรัตนโกสินทรมหินทรายุทยา มหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อันตั้งอยู่ใน
สยามรฐั ราชอาณาจักร์ บัดนขี้ ้าพระพทุ ธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตท่จี ะกราบบงั คมทลู พระกรณุ า
ความซอ่ื สตั ยสวามภิ กั ดข์ิ องขา้ พระพทุ ธเจา้ ทงั้ หลาย อนั มคี วามยนิ ดตี อ่ พระบรมเดชานภุ าพ ขอถวายพระพรไชย
มงคล ดว้ ยอ�ำนาจพระพุทธาทิไตรรัตน์ กบั ท้งั ความสตั ยส์ จุ รติ กตัญญกู ตเวทิตาของข้าพระพุทธเจา้ ท้งั ปวง ขอให้
พระบาทสมเดจ็ บรมนาถบพติ ร พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ดำ� รงในสริ ริ าชสมบตั ริ ชั กาลยนื ยาวปราศจากสรรพ
โรคาพาธภยั พบิ ตั อปุ ทั วนั ตราย มพี ระราชประสงคจ์ ำ� นงหมายสง่ิ ใดจงสำ� เรจ็ ทกุ ประการ มพี ระชนมายเุ จรญิ นาน
นัยด้วยร้อยพรรษา ทรงบ�ำรุงรัฐสีมาประชาราษฎร์ท้ังพระพุทธศาสนาให้วัฒนาการภิยโยภาพ บริบูรณ์ด้วย
พระราชลาภเพิ่มพูลอยู่เนืองนิจ ขอเทพยเจ้าผู้มีมหิทธิศักดา จงอภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จบรมนาถบพิตร
ให้เสด็จสถิตย์เกษมสุขสถาพร เหล่าอริราชดัสกรท่ีมีจิตร์ประทุษร้ายจงพ่ายแพ้พระบารมีทั่วทิศานุทิศ ขอให้
พระเกียรติคุณอดุลยฤทธ์ิแผ่ไพศาลขจรจบทั่วเมทนีดล ขอพระพรไชยมงคลอันข้าพระพุทธเจ้ากราบทูลถวายน้ี
จงประสิทธิแด่พระบาทสมเด็จบรมนาถบพิตร พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทุกประการ ข้าพระพุทธเจ้าขอต้ังใจ
รบั ราชการฉลองพระเดชพระคณุ โดยความสตั ยส์ จุ รติ มจี ติ รส์ วามิภักด์ซิ อื่ ตรงกตัญญูกตเวทีอยเู่ สมอเปนนิจกาล
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
พระราชด�ำรัสตอบฝ่ายใน
มีความยินดียิ่งนัก ที่พระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการฝ่ายในได้แสดงความสัตย์สุจริตแลอ�ำนวยพร
ในเวลานี้ ด้วยมีประสงค์จะให้เปนสิริสวัสดิพิพัฒนมงคลในการบรมราชาภิเษก ขอให้ได้รับความขอบใจท่ัวกัน
ขอท่านท้ังหลายจงตั้งใจท�ำราชการอันสมควรแก่หน้าท่ี เม่ือมีราชกิจอันใดก็จงมีโอกาศท่ีจะบอกเหตุการณ์
ในหน้าท่ีตามเวลาอันควร ให้รักษาพระเกียรติยศพระเกียรติคุณของพระบรมราชวงศ์อันน้ีให้ม่ันคง จะได้เปน
ความดีความชอบของท่านท้ังหลาย ปรากฏอยู่ตลอดกาลนาน ขออ�ำนวยพรให้ท่านท้ังหลายเจริญอายุวรรณ
สุขพลทุกประการเทอญ
เสร็จแล้ว ชาวประโคม ๆ แตรสังข์เครื่องดุริยดนตรี ทรงโปรยดอกพิกุลทองเงินแลเงินสลึงแล้วจึงหยุด
ประโคม
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 201
พระบรมรูปเสด็จโดยกระบวรแห่ไปวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
202 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เฉลิมพระราชมณเฑียร
เสด็จทรงเปลื้องพระชฎาแลฉลองพระองค์ครุยในหอพระสุราลัยพิมานแล้ว เสด็จพระราชด�ำเนิรขึ้น
พระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงโปรยพิกุลทองเงินแลเงินสลึงด้วย มีนางเช้ือพระวงศ์เชิญพระแสงเชิญ
เครอื่ งเฉลมิ พระราชมณเฑยี รแลเชญิ เครอื่ งราชปู โภคตามเสดจ็ เมอื่ ถงึ ในทพ่ี ระราชมณเฑยี รทรงจดุ เทยี นนมสั การแลว้
เสด็จข้ึนพระแท่นท่ีพระบรรธม พระเจ้าไอยิกาเธอ พระองค์เจ้าแม้นเขียน ถวายดอกหมากทองค�ำแลพระแส้
หางช้างเผือกผู้ ทรงรับแล้ววางข้างท่ี ท้าวทรงกันดาลถวายกุญแจทองค�ำ แล้วเอนพระองค์ลงเหนือพระแท่น
ท่ีโดยทักษิณปรัศเปนพระฤกษ์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีทรงอวยพระพรแล้ว พระบรมวงศ์
ผู้ใหญ่ฝ่ายในถวายไชยมงคลมีประโคมแตรสังข์เคร่ืองดุริยดนตรี เสร็จแล้วประทับในพระมหามณเฑียร
ทรงบูชา
ครั้นเวลาบ่าย ๔ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคร่ืองจอมพลทหารบก ทรงสายสพาย
เครอื่ งราชอศิ รยิ าภรณม์ หาจกั รบี รมราชวงศท์ รงพระคทาจอมพล เสดจ็ ออกพระทน่ี งั่ อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั เสดจ็ ขนึ้ เกย
พระท่ีน่ังดุสิดาภิรมย์ ทรงพระราชยานกง เสด็จพระราชด�ำเนิรเปนขบวรราบ มีทหารรายทาง แลกองทหาร
บกเรือ ต้ังแถวรับเสด็จ มีราษฎรมาคอยชมพระบารมีเต็มตลอดสองข้างทาง เสด็จออกประตูพิมานไชยศรี
ประทับเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จโดยทางลาดพระบาท เข้าในพระอุโบสถ ทรงนมัสการถวาย
ต้นไม้ทองเงินเปนพุทธบูชาพระมหามณีรัตนปฏิมากรเสร็จแล้ว เสด็จกลับโดยทางเดิมเลี้ยวหน้าห้อง
กรมพระอาลักษณ์ ประทับเกยข้ึนพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาทถวายบังคมพระบรมอัฐิ สมเด็จพระปฐมบรมมหา
ไปยกาธิบดี1 พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ัง ๔ รัชกาล2 แลถวายบังคมพระบรมศพ สดัปกรณ์
พระบรมอัฐิ ไตร ๑ ผ้าขาวพับ ๙ เหมือนกันท้ัง ๕ พระองค์ พระบรมศพไตร ๑๐ รวมเปน ๖๐ รูป พระสงฆ์
ถวายอนุโมทนา ถวายอติเรกถวายพระพรลา แล้วเสด็จขึ้นทางข้างใน ทรงโปรยเงินสลึงเสด็จยังพระที่น่ัง
บรมราชสถิตย์มโหฬาร ถวายดอกไม้ธูปเทียนแด่สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี ณ ที่ประทับ
แล้วเสด็จขึ้นพระมหามณเฑียร
1 พระนามเดิม ทองดี เป็นพระราชบิดาในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นบุตรของพระยา
ราชนิกูล (ทองคำ� ) ปลดั ทูลฉลองกรมมหาดไทยในรัชกาลสมเด็จพระสรรเพชญท์ ี่ ๙ แหง่ กรงุ ศรีอยุธยา เม่อื ยงั ดำ� รงพระชนมช์ ีพไดร้ บั
ราชการในกรมมหาดไทย รับพระราชทานบรรดาศกั ดิ์ท่พี ระอกั ษรสุนทรศาสตร์ ในรัชกาลสมเด็จพระทนี่ ง่ั สุริยาศน์อมรินทร์ ภายหลัง
เสียกรุงศรีอยธุ ยา พ.ศ. ๒๓๑๐ เสด็จพระราชดำ� เนนิ ไปประทบั ทีเ่ มอื งพษิ ณุโลก จนสน้ิ พระชนมใ์ น พ.ศ. ๒๓๑๒
2 พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จ
พระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร จัดข้ึน
ระหวา่ งการพระราชพธิ พี ระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ซงึ่ ในรชั กาลกอ่ น ๆ ขน้ั ตอนดงั กลา่ วนป้ี รากฏรายละเอยี ด
เพยี งถวายดอกหมากทองคำ�
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 203
เวลาเย็นเจ้าพนักงารได้ตั้งบายศรีแก้ว บายศรีทอง บายศรีเงิน แลบายศรีตองลองทองขาว ชีพ่อ
พราหมณ์ข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายหน้าฝ่ายในพร้อมกันเวียนเทียนสมโภชพระราชมณเฑียร ตามจารีต
โบราณขัตติยราชประเพณี
งารเน่ืองต่อบรมราชาภิเษก
๑๖ วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ1 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องยศทหาร
โดยปรกติ เสด็จออกพระท่ีน่ังจักรีมหาปราสาท พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการเสนาบดี
ว่าการต่างประเทศ ทรงน�ำอรรคราชทูตผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายไชยมงคล
โดยฉเพาะตนแล้ว พระราชทานดอกพิกุลทองเงินแก่อรรคราชทูตผู้แทนรัฐบาลนานาประเทศตามสมควรแล้ว
เสดจ็ ขน้ึ เสดจ็ ยงั พระทน่ี งั่ ไพศาลทกั ษณิ ทรงจดุ เทยี นเครอ่ื งนมสั การทพี่ ระแทน่ มณฑลแลว้ พระบรมวงศานวุ งศ์
แลข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายในเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ถวายดอกไม้ธูปเทียนในการพระบรมราชาภิเษก
เฉลิมพระราชมณเฑียร ตามขัตติยราชประเพณีแล้วเสด็จออกพระที่น่ังอมรินทรวินิจฉัย ทรงตั้งต�ำแหน่ง
สมณศักดิ์พระราชาคณะ ๓ รูปเปนปฐม เพ่ือสวัสดิมงคลในสิริราชสมบัติมีพระน�ำ ๑๐ รูป พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมหลวงวชิรญาณวโรรสเปนประธานสวดไชยมงคล พระราชทานไตรแพร สัญญาบัฏ พัดยศ พัดรอง
พร้อมด้วยบาตรย่ามเคร่ืองบริกขาร คือ
ให้พระมหาอยู่ปเรียญ ๘ ประโยค วัดอนงคาราม เปนพระปริยัติบัณฑิต ท่ีพระราชาคณะ ไปอยู่
วัดประยุรวงศาราม มีนิตยภัตรเดือนละ ๕ ๑2
ให้พระปลัดช่ืนบาเรียนโท เทียบ ๕ ประโยค วัดสัมพันธวงศาราม เปนพระวิเชียรกระวี ท่ีพระราชาคณะ
มีนิตยภัตรราคาเดือนละ ๔ ๑3
ให้พระครูอุตโมรุวงศ์ธาดา วัดสัมแลเมืองประทุมธานี เปนพระอริยธัช ที่พระราชาคณะ ที่สังฆปาโมกข์
เจ้าคณะใหญ่เมืองประทุมธานี มีนิตยภัตรราคาเดือนละ ๓ 4 แล้วประทับพระราชอาสน์ พระราชาคณะ
ท่ีรับต�ำแหน่งออกไปครองผ้า เจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกรเสนาบดีกระทรวงธรรมการ น�ำพระบรมธาตุ
แลพระบัวเข็มของพระสุเมธาจารย์ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย พระครองผ้าแล้วมาน่ัง ณ อาสน์สงฆ์ โปรดเกล้าฯ
ให้หม่อมเจ้าท่ียังเยาว์ ประเคนผ้าขาวพับหมากพลูแก่พระราชาคณะท่ีรับพระราชทานสัญญาบัตรทั้ง ๓ รูป
แล้วพระปริยัติบัณฑิตถวายยถาอนุโมทนา พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวชิรญาณวโรรสถวายอติเรก
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระสถาพรพิริยพรตถวายพระพรลา แล้วประทับท่ีเฉลียงด้านตวันตก พระบรม
วงศานุวงศ์ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนพร้อมกัน แล้วเสด็จประทับพระราชบัลลังก์หน้าพระที่นั่ง
1 เวลา ๑๗.๐๐ น. เศษ
2 อ่านวา่ ๕ ตำ� ลึง ๑ บาท เทา่ กับ ๒๑ บาท
3 อ่านว่า ๔ ตำ� ลงึ ๑ บาท เทา่ กบั ๑๗ บาท
4 อา่ นวา่ ๓ ต�ำลงึ เท่ากับ ๑๒ บาท
204 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระมหาเศวตฉัตร ข้าราชการกระทรวงกลาโหม กรมทหารบก กรมทหารเรือ แลกระทรวงมหาดไทย
เดิรเรียงตัวกันเข้าไปถวายค�ำนับฉเพาะหน้าพระท่ีน่ัง แลคู้เข่าลงชูพานดอกไม้ธูปเทียนข้ึนทูลเกล้าทูลกระหม่อม
ถวาย ในการพระบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร หมดตอนแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับ
พระราชอาสน์หน้าพระฉากข้างพระท่ีนั่งมหาเศวตฉัตร ซ่ึงได้ถอนพระยี่ภู่ราชอาสน์ออก ลาดอาสน์สงฆ์
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชาคณะถวายธรรมเทศนาในงารพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก
บนพระทนี่ ง่ั มหาเศวตฉตั รเพอ่ื สวสั ดมิ งคลนน้ั ครนั้ ทรงจดุ เทยี นเครอื่ งนมสั การทรงธรรมพระวรวงศเ์ ธอพระองคเ์ จา้
พระสถาพรพริ ยิ พรตขนึ้ สพู่ ระทนี่ งั่ มหาเศวตฉตั ร ถวายศลี ศกั ราชแลถวายเทศนามงคลสตู รกณั ฑ์ ๑ ทรงประเคน
เคร่ืองไทยธรรมแลใบวัตถุปัจจัยมูลราคา ๘๐ บาทบูชากัณฑ์แล้ว สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายเทศนา
รัตนสูตรอีกกัณฑ์ ๑ แล้วถวายยถา พระครูฐานานุกรม ๔ รูปรับสัพพีจบ ทรงประเคนเคร่ืองไทยธรรม
เหมือนกัณฑ์ก่อน แลทรงประเคนเคร่ืองไทยธรรมตามสมควรแก่พระรับสัพพีแล้ว สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
ถวายอติเรกถวายพระพรลาแล้วเสด็จข้ึน เวลา ๔ ทุ่มเศษ
๑๗ วันท่ี ๑๓ พฤศจิกายน เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ1 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระท่ีนั่งไพศาล
ทักษิณ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการท่ีพระแท่นมณฑล แล้วข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายในทูลเกล้าฯ ถวาย
ดอกไม้ธูปเทียน แลเสด็จออกพระท่ีนั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับพระราชบัลลังก์ หน้าพระที่น่ังมหาเศวตฉัตร
ข้าราชการกระทรวงนครบาล กระทรวงว่าการต่างประเทศ กระทรวงเกษตราธิการ กระทรวงธรรมการ
กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ กระทรวงโยธาธิการ เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทเรียงตัวกัน
คู้เข่าทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายดอกไม้ธูปเทียนฉเพาะหน้าพระท่ีน่ังเหมือนวันก่อนแล้ว เสด็จประทับ
พระราชอาสน์ทรงธรรม พระพิมลธรรมขึ้นสู่พระที่น่ังมหาเศวตฉัตรถวายศีลแลเทศนาเมตตสูตรกัณฑ์ ๑
พระธรรมวโรดมถวายเทศนาเทวตาทิศนกถากัณฑ์ ๑ ทรงประเคนเครื่องไทยธรรมอย่างวันก่อน
๑๘ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จออกทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการท่ีพระแท่นมณฑล
พระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ ข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายในถวายดอกไม้ธูปเทียนแล้ว เสด็จออกพระท่ีน่ังอมรินทร
วินิจฉัย ข้าทูลลอองธุลีพระบาทในพระราชส�ำนัก คือกรมมหาดเล็ก กระทรวงวัง กรมราชเลขานุการ
กรมพระอาลักษณ์ กรมพระคลังข้างท่ี แลกรมพระต�ำรวจ เข้าเฝ้าน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายค�ำนับแลคู้เข่า
ลงทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายดอกไม้ธูปเทียนฉเพาะหน้าพระที่น่ังแล้ว เสด็จประทับทรงจุดเทียนทรงธรรม
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวชิรญาณวโรรสเสด็จสู่พระที่น่ังมหาเศวตฉัตร ถวายเทศนาทศพิธราชธรรม
สังคหวัตถุ แลจักรวัติวัตร มีพระราชาคณะแลเปรียญรับสัพพี ๔ รูป ทรงประเคนเคร่ืองไทยธรรมแลใบวัตถุ
เปนมูลค่าจตุปัจจัยราคา ๘๐ บาท เปนเครื่องบูชากัณฑ์แล้ว พระสงฆ์ถวายอดิเรกถวายพระพรลากลับ พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับมีพระราชด�ำรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ แลข้าราชการตามสมควรแล้วเสด็จขึ้น
พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายในท่ีทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนนั้น ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้กรมพระคลังข้างที่แจกดอกพิกุลทองเงินเปนของพระราชทานท่ัวกันตามฐานานุศักดิ์ แลดอกไม้
ธูปเทียนน้ันโปรดให้ถวายพระสงฆ์ที่มาในการพระราชพิธีตั้งแต่วันแรกถวายดอกไม้ธูปเทียนน้ัน แลวันต่อไป
1 เวลา ๑๗.๐๐ น. เศษ
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 205
๑๙ กับโปรดเกล้าฯ ให้จัดต้นไม้ทองเงินเทียนทองธูปเงินเปนเครื่องราชสักการทรงจบพระหัดถ์
พระราชทานให้ข้าหลวงเทศาภิบาลฤๅผู้แทน เชิญไปบูชาเจดียสถานท่ีเปนหลักอยู่หัวเมืองในพระราช
อาณาเขตร คือ
๑ พระพุทธบาท1 เปนหลักกรุงเก่าแลกรุงละโว้รวมกันแห่งหนึ่ง
๒ พระพุทธชินราช2 เมืองพิษณุโลก เป็นหลักราชธานีข้างฝ่ายเหนือแห่งหนึ่ง
๓ พระบรมธาตุ3 เมืองสวรรคโลกเก่า เปนที่เคารพแห่งพระราชาธิบดีกรุงสุโขทัยศรีสัชนาลัย ในโบราณ
สมัย แห่งหนึ่ง
๔ พระธาตุหริภุญไชย4 เปนหลักราชธานีเชียงใหม่ เชียงแสน เชียงราย พเยา แลนครเขลางค์รวมกัน
แห่งหนึ่ง
๕ พระปฐมเจดีย์5 เปนหลักราชธานีศรีวิไชยแลสุพรรณบุรีรวมกันแห่งหน่ึง
๖ พระมหาธาตุเมืองนครศรีธรรมราช6 เปนหลักราชธานีข้างฝ่ายใต้แห่งหน่ึง
๗ พระธาตุพนม7 ในมณฑลอุดร เปนหลักโคตรบูรพ์ราชธานีข้างตวันออกแห่งหน่ึง
พระเจดีย์สถานที่ส�ำคัญในรัฐสีมาอาณาจักรเหล่าน้ี ได้เคยเสด็จทรงนมัสการด้วยพระองค์เองแล้ว
๖ แห่ง เว้นแต่พระธาตุพนม
๒๐ อน่งึ ในการพระบรมราชาภิเษกนี้ ข้าราชการหัวเมอื งที่มรี าชการไม่ไดเ้ ขา้ มาเฝา้ ทลู ลอองธุลีพระบาท
ผู้เปนหัวหน้าได้จัดการประชุม ณ ที่ว่าการพร้อมกันถวายบังคมพระบรมรูป แลถวายดอกไม้ธูปเทียน ถวาย
ไชยมงคลทั่วพระราชอาณาเขตร กับพระเจ้าแผ่นดินแลผู้เปนประธานในนานาประเทศที่มีทางพระราชไมตรี
ท้ังชาวต่างประเทศท่ีคุ้นเคยต่อใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท ได้มีโทรเลขมาถวายไชยมงคลแต่ทิศานุทิศ เสด็จสถิตย์
ณ พระท่ีน่ังจักรพรรดิพิมานพอสมควรแก่กาลแล้ว เสด็จประทับพระที่น่ังบรรณาคมสรณีย์ภายในพระท่ีน่ัง
จักรีมหาปราสาท
1 ปัจจุบันคือ วัดพระพุทธบาท พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ ณ ต�ำบล
ขุนโขลน อำ� เภอพระพุทธบาท จงั หวัดสระบรุ ี
2 ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระอารามหลวงช้ันเอก ชนิดวรมหาวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
ตง้ั อยู่ ณ ตำ� บลในเมอื ง อ�ำเภอเมืองพษิ ณโุ ลก จังหวัดพษิ ณโุ ลก
3 ปจั จบุ ันคอื วดั พระศรีรตั นมหาธาตุ พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวหิ าร สงั กัดคณะสงฆม์ หานิกาย ต้งั อยู่ ณ ต�ำบล
ศรสี ัชนาลัย อำ� เภอศรสี ชั นาลัย จังหวดั สุโขทยั
4 ปัจจุบันคือ วัดพระธาตุหริภุญชัย พระอารามหลวงช้ันโท ชนิดวรมหาวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ต้ังอยู่ ณ ต�ำบล
ในเมอื ง อำ� เภอเมอื งลำ� พนู จงั หวดั ล�ำพูน
5 ปัจจุบันคือ วัดพระปฐมเจดีย์ พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ ณ ต�ำบล
พระปฐมเจดยี ์ อำ� เภอเมอื งนครปฐม จังหวัดนครปฐม
6 ปัจจุบันคือ วัดพระมหาธาตุ พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ ณ ต�ำบล
ในเมือง อำ� เภอเมอื งนครศรีธรรมราช จังหวดั นครศรีธรรมราช
7 ปัจจุบนั คือ วัดพระธาตพุ นม พระอารามหลวงชน้ั เอก ชนดิ วรมหาวหิ าร สังกดั คณะสงฆ์มหานกิ าย ตัง้ อยู่ ณ ต�ำบลธาตุพนม
อำ� เภอธาตพุ นม จงั หวัดนครพนม ปรากฏเปน็ ครงั้ แรกท่ีโปรดเกล้าฯ ให้จดั ดอกไมเ้ งนิ ดอกไมท้ อง บชู าพระธาตพุ นม ในงานพระราช
พิธบี รมราชาภิเษกพระมหากษตั ริย์ในพระบรมราชจกั รวี งศ์
206 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ทศพิธราชธรรมจรรยาทิกถา
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวชิรญาณวโรรส
ถวายในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ร.ศ. ๑๒๙ ฯ
นมตฺถุ สุคตสฺส ฯ
ทานํ สีลํ ปริจฺจาคํ อาชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ
อกฺโกธํ อวิหึสญฺจ ขนฺติญฺจ อวิโรธนํ
อิจฺเจเต กุสเล ธมฺเม เิ ต ปสฺสาหิ อตฺตนิ
ตโต เต ชายเต ปีติ โสมนสฺสญฺจนปฺปกนฺติ ฯ
บัดนี้จักรับพระราชทานถวายวิสัชนาทศพิธราชธรรมจรรยาทิกถาพรรณาราชจรรยานุวัตร อันพระ
มหากษัตริยาธิราชเจ้า ผู้ด�ำรงเอกราไชศวรรยาธิปัตย์ เปนพระเจ้าปฐพีมณฑล จะพึงบ�ำเพ็ญให้ต้องตามขัตติย
ราชประเพณี มีทศพิธราชธรรมเปนอาทิ ฉลองพระเดชพระคุณประดับพระปัญญาบารมี โดยอนุรูปแก่
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกมหามงคลการฯ ด้วยสมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ได้เสดจผ่านพิภพฉลอง
พระองค์สมเดจพระบรมชนกนาถ จึงพระราชวงศานุวงศ์ เสนาบดีมนตรีมุขเสวกามาตย์ สมณพราหมณาจารย์
มีสมานฉันท์ พรักพร้อมกันต้ังพระราชพิธีถวายพระบรมราชาภิเษก ตามขัตติยราชประเพณีเพ่ือเชิดชู
พระบารมีอันจะเปนท่ีร่มเกล้าให้ไพศาลฯ สมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าน้ัน เปนจตุรพิธทายาทของ
พระบรมราชวงศ์ ฉลองพระองค์สมเดจพระบรมชนกนาถ เปนกุลทายาทผู้รับราชตระกูล ด้วยความเปนใหญ่
เปนประธาน ในท่ีจะบริหารปกครองให้เจริญมั่น เปนรัชทายาทผู้รับราชมไหศวรรยสมบัติ ด�ำรงแผ่นดินให้เปนที่
ร่มเยนของประชาชนทั่วไป เปนธรรมทายาท ผู้รับรักษาธรรมอันเปนของพระมหากษัตริย์แลราชตระกูล
เพอ่ื เพมิ่ พลู ความดคี วามงามของชนทง้ั หลายทง้ั พระราชวงศแ์ ลเสวกามาตย์ ตลอดลงไปถงึ ราษฎร เพราะพระเจา้
แผ่นดินย่อมเปนประมุขของพศกนิกร ผู้คอยถือเปนแบบอย่าง เปนสาสนทายาท ผู้รับรักษาพระพุทธสาสนา
เพื่อน�ำประชาชนให้ประพฤติธรรมสม่�ำเสมอเปนส่วนสุจริตฯ สมเดจพระบรมศาสดาธรรมสามิศร์ได้ทรงบัลลุ
พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ บริบูรณ์ด้วยพุทธาลังการธรรมแล้ว ยังต้องทรงบ�ำเพ็ญสัมมาสัมพุทธกิจ
ประกาศพระสยัมภูภาพให้ปรากฎ ด้วยตรัสเทศนาโปรดพุทธเวไนยให้ได้ด่ืมรสพระสัทธรรม จึงจะยังพุทธภูมิให้
ส�ำเรจเปนอันดี ข้อนี้มีอุปมาฉันใด พระเจ้าแผ่นดินผู้ด�ำรงราชมไหศวรรย์ ก็มีอุปไมยฉันนั้น ได้เสดจเถลิงถวัลย
ราชสมบัติเปนมูรธาภิสิตกษัตริย์ พร้อมด้วยพระราชอิศริยยศแล้ว ยังจะต้องทรงบ�ำเพ็ญราชกรณียะ ประกาศ
พระราชานุภาพให้ขจร ด้วยยังชนนิกรให้ได้รับศุภวิบูลผลเกิดแต่ราชธรรม จึงจะยังราชภูมิให้ส�ำเรจเปนอันดี
ดุจกันฯ เหตุดังน้ัน จักรับพระราชทานเลือกสรรค์ราชธรรมของโบราณกษัตริย์ในปกรณนั้น ๆ มาถวายวิสัชนา
เพ่ือเปนเคร่ืองประดับพระปัญญาบารมี
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 207
วาระนี้ จักรับพระราชทานถวายวิสัชนาทศพิธราชธรรมเปนประถม พระคุณสมบัติน้ี เปนท่ีนิยมมาแต่
ครั้งโบราณ มีอาคตสถานท่ีมาในคัมภีร์ชาดกเปนค�ำโศลกที่บัณฑิตยกข้ึนกล่าวถวายเปนโอวาทานุศาสน์แด่
พระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ดังนี้ว่า
ทานํ สีลํ ปริจฺจาคํ อาชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ
อกฺโกธํ อวิหึสญฺจ ขนฺติญฺจ อวิโรธนํ
อิจฺเจเต กุสเล ธมฺเม เิ ต ปสฺสาหิ อตฺตนิ
ตโต เต ชายเต ปีติ โสมนสฺสญฺจนปฺปกํฯ
แสดงความเปนสยามพากย์ว่า ขอพระองค์ผู้เปนบรมกษัตริยาธิราชจงทรงพระปรีชาสามารถพิจารณา
เหนราชธรรมท่ีเปนกุศลส่วนชอบ ๑๐ ประการ ให้ด�ำรงในพระราชสันดานเปนนิตย์ดังน้ี ทานํ พระราชทาน
พัสดุแก่ผู้ควรได้รับพระราชทาน ๑ สีลํ ทรงต้ังสังวรรักษาพระอาการกายวาจาให้สอาดปราศจากโทษควร
ครหา ๑ ปริจฺจาคํ ทรงพระราชบริจาคไทยธรรม บันเทามัจฉริยโลภเสียได้ ๑ อาชฺชวํ มีพระราชอัธยาศัยกอบ
ด้วยความซื่อตรง ด�ำรงในสัตยสุจริต ๑ มทฺทวํ มีพระราชอัธยาศัยอ่อนโยน ไม่ดึงดื้อถือพระองค์ด้วยถัมภะ
แลมานะ ๑ ตปํ ทรงสมาทานกุศลวัตร เผาผลาญก�ำจัดอกุศล วิตกบาปธรรมให้เสื่อมสูญไม่ตั้งอยู่ได้ ๑ อกฺโกธํ
ไม่ทรงพระพิโรธโดยวิสัยมิใช่เหตุควรทรงพระพิโรธ ๑ อวิหึสญฺจ ไม่ทรงเบียดเบียฬประชาชนให้ได้ทุกข์ยาก
ด้วยเหตุอันไม่ควรกระท�ำ ๑ ขน̣ติญฺจ มีพระราชหฤทัยด�ำรงม่ันในขันตี มีความอดทนต่อสิ่งท่ีควรอดทนเปน
เบ้ืองหน้า ๑ อวิโรธนํ ทรงรักษายุกติธรรมไม่ให้แปรผันผิดจากส่ิงท่ีตรง แลด�ำรงพระอาการคงท่ีไม่แสดงให้
วิการด้วยอ�ำนาจยินดียินร้าย ๑ บรรจบเปนกุศลส่วนชอบ ๑๐ ประการ ล�ำดับน้ันพระปีติแลโสมนัสมีประมาณ
ไม่น้อยจะเกิดมีแต่พระองค์ เพราะได้ทรงพิจารณาเหนทศพิธราชธรรมน้ี ด�ำรงม่ันในพระราชสันดานเปนนิตย์ฯ
ก็แลสุภาสิตโศลกแสดงราชธรรม ๑๐ ประการ ซ่ึงโบราณบัณฑิตได้กล่าวถวายเปนโอวาทานุศาสน์
แด่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้ด�ำรงรัฐชนบทได้ปรากฎมาในคัมภีร์ชาดกนี้ แสดงให้เหนว่าเปนภาสิตของ
บัณฑิตผู้เกิดนอกพุทธุบบาทสมัยมาก่อน ภายหลังจึงได้น�ำมาร้อยกรองเปนค�ำสอนในคัมภีร์พระพุทธศาสนา
ควรมีอรรถาธิบายดังน้ีฯ
กิริยาท่ีให้ไม่คิดเอาคืนกลับมา กล่าวโดยสามัญโวหารว่า ทานํฯ เม่ือกล่าวความแห่งทานศัพท์ท่ีมาใน
พระพุทธศาสนา ถ้ามีแต่ทานศัพท์อย่างเดียวประสงค์ความว่า กิริยาที่ให้พัสดุสิ่งของด้วยกุศลเจตนาด้วยคิด
จะบชู าก็ดี ดว้ ยคิดจะอนเุ คราะหก์ ็ดี ชอ่ื ว่า ทานฯํ ถ้ามบี ริจาคศัพทม์ าดว้ ยเปนคู่กนั ควรแสดงอรรถแหง่ สองศัพท์
น้ันอย่างละแผนกว่ากิริยาที่ให้หวังผลในภพนี้ภพหน้า ซึ่งยังมีตัณหาแลโลภก�ำกับอยู่ด้วยเพื่อจะช่วยอนุเคราะห์
หรือบูชาแต่จ�ำเพาะให้เปนปาฏิบุคคลิกภาค ช่ือว่า ทานํ ในท่ีนี้ฯ กิริยาที่สละให้ด้วยต้ังใจจะบันเทา
มัจฉริยโลภเปนเบ้ืองหน้าไม่จ�ำเพาะเปนปาฏิบุคคลิกภาค บริจาคให้เปนสาธารณ์ ช่ือว่าปริจฺจาโคในท่ีน้ีฯ
โดยนัยน้ี ได้สันนิษฐานว่า ข้อที่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงชุบเลี้ยงพระราชวงศานุวงศ์แลข้าทูลลออง
ธลุ พี ระบาท ดว้ ยพระราชทานพระราชทรพั ย์ เครอ่ื งอปุ โภคบรโิ ภคภณั ฑ์ ตามฐานานรุ ปู ของบทุ คลนนั้ ๆ อนั ไดร้ บั
ราชการฉลองพระเดชพระคุณ ด้วยคิดจะทรงเกื้อกูลอุปถัมภ์ก็ดี พระราชทานพัสดุมีเข้าน�้ำผ้านุ่งห่มเปนต้น
208 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
แก่ประชาชนอันมิได้ประกอบราชกิจ ด้วยพระราชหฤทัยคิดจะอนุเคราะห์ให้เปนประโยชน์แก่ผู้ได้รับ หรือจ่าย
พระราชทรพั ยต์ ง้ั โรงทาน เพอื่ ผตู้ กยากจะไดอ้ าศยั เลย้ี งชวี ติ ในนติ ยสมยั หรอื กาลสมยั หรอื พระราชทานจตปุ จั จยั
แก่บัพพชิตผู้ประกอบกิจพระศาสนา นับเปนการบูชาธรรมปฏิบัติก็ดี ดังนี้นับว่า ทานํ เปนบทที่ต้นฯ
เจตนาที่รวังรักษากายกรรมวจีกรรมให้ตั้งเปนปกติดี ชื่อว่า สีลํฯ เม่ือแสดงความตามประสงค์ในท่ีน้ี
เบญจเวรวิรัติ เจตนาอันงดเว้นจากเวร ๕ ปาณาติบาต อทินนาทาน กามมิจฉาจาร มุสาวาท สุราเมรยปมาทฐาน
ของผู้ได้สมาทานก็ดี ไม่ได้สมาทานก็ดี ช่ือว่า สีลํ ในท่ีน้ีทั้งภายในภายนอกพุทธกาลฯ โดยนัยนี้ ได้สันนิษฐานว่า
ข้อท่ีพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงประพฤติพระกิริยาพร้อมทั้งพระกายพระวาจาให้สอาดงาม ต้องตาม
ขัตติยราชประเพณี ด�ำรงด้วยดีในเบญจเวรวิรัติให้เปนคุณสมบัติในพระองค์ ดังนี้นับว่า สีลํ เปนบทท่ี ๒ฯ
กิริยาที่สละให้ ด้วยตั้งใจจะบันเทามัจฉริยโลภเปนเบ้ืองหน้า ไม่จ�ำเพาะเปนปาฏิบุคคลิกภาค บริจาค
เปนสาธารณ์ ช่ือปริจฺจาโคฯ โดยนัยนี้ได้สันนิษฐานว่า ข้อท่ีพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงสละพระราชาทรัพย์
อันจะนับคณนามิได้ ท่ีน่าจะตระหนี่แลเสียดายสร้างถาวรวัตถุให้เปนทานทั่วไป เช่นสร้างท่ีพักท่ีอาศัยสร้าง
ถนนสพานขุดคลองเปนต้น ให้เปนประโยชน์แก่ประชาชนท้ังคฤหัสถ์บัพพชิต ไม่นิยมว่าจ�ำพวกไหนจะเปน
ผู้ใหญ่หรือผู้น้อยไม่เลือกหน้าก็ดี ทรงสละพระราชทรัพย์สร้างเจดียสถานสังฆาวาส ทรงอุทิศไว้ในพระศาสนา
ก็ดี ดังนี้นับว่า ปริจฺจาโค บทท่ี ๓ฯ
ความเปนผู้มีอัธยาศัยตรง ชื่อว่า อาชฺชวํฯ โดยนัยน้ี ได้สันนิษฐานว่า ข้อท่ีพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า
มพี ระราชอัธยาศยั กอบด้วยความตรง ปราศจากมารยาสาไถย ด�ำรงในสัตยสุจริตซอ่ื ตรงต่อพระราชสัมพันธมิตร
แลพระราชวงศานุวงศ์ข้าทูลลอองธุลีพระบาทท้ังปวง ไม่ทรงคิดลวงประทุษร้าย โดยอุบายผิดยุกติธรรมดังน้ี
นับว่า อาชฺชวํ เปนบทที่ ๔ฯ
ความเปนผู้มีอัธยาศัยอ่อนโยน ช่ือว่า มทฺทวํฯ โดยนัยน้ีได้สันนิษฐานว่า ข้อท่ีพระมหากษัตริยาธิราช
เจ้ามีพระราชอัธยาศัยอ่อนโยนไม่ดึงดื้อถือพระองค์ด้วยอ�ำนาจถัมภะ คือ เมื่อมีผู้มากราบทูลตักเตือนด้วยข้อ
อรรถข้อธรรมที่กอบด้วยเหตุผล ซึ่งเปนวิสัยของบัณฑิตชนจะเหนชอบแล้วประพฤติตาม มิได้ทรงห้ามปราม
คัดค้าน ทรงวิจารณ์โดยถ้วนถ่ี ถ้าดีชอบก็ทรงอนุโมทนาแล้วอนุวัตรตามก็ดี ไม่ทรงถือพระองค์ด้วยอ�ำนาจ
มานะ ทรงสัมมาคารวะอ่อนน้อมแก่ท่านผู้เจริญโดยวัยแลเจริญโดยคุณ ไม่ทรงดูหมิ่นก็ดี ดังนี้นับว่า มทฺทวํ
เปนบทค�ำรบ ๕ฯ
กุศลสมาทาน อันเผาผลาญอกุศลวิตกบาปธรรม แม้โดยอย่างต�่ำเพียงอุโบสถกรรม คือสมาทานวัตร
ตามแบบบัญญัติ ในพุทธกาลก็ดีนอกพุทธกาลก็ดี เปนกาลยุตตะกุศลวิธีท่ีจะบ�ำเพ็ญเพียงการ ซึ่งเปนอุบาย
อันจะสังหารอกุศลวิตกบาปธรรมให้ร�ำงับไปเพียงขณะหนึ่งสมัยหนึ่งช่ือว่า ตโป ท้ังภายในภายนอก
พุทธกาลฯ แต่ในพราหมณสมัย แสดงตปศัพท์โดยบุทคลาธิษฐานอิกแผนกหนึ่งว่า การปกครองประชาชนเปน
ตป ของพระมหากษัตริย์ ดังนี้ฯ ส่วน ตป ศัพท์ที่มาในพระพุทธศาสนานั้น ก็หลายอย่างต่าง ๆ กัน แต่ย่นส้ันลง
ก็ประสงค์แต่เพียงกุศลสมาทานอันเผาผลาญอกุศลวิตกบาปธรรมในสันดานอย่างเดียวว่า ตโปฯ โดยนัยน้ี
ได้สันนิษฐานว่า ข้อที่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงพระพิริยะอุตสาหะเอาพระราชหฤทัยใส่ในการปกครอง
พระราชอาณาเขตต์แลประชาชน ให้เกษมสุขปราศจากภยันตราย ปราบปรามโจรผู้ร้ายแลศัตรูให้สงบราบคาบ
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 209
เปนอันดี ดังน้ีนับว่า ตโป ในพราหมณสมัยนอกพุทธกาลอย่างเดียวฯ ข้อที่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรง
พระพิริยอุตสาหะอันแรงกล้าในกุศลสมาทานเครื่องทรมานพระกายพระกมล เพ่ือรวังบาปอกุศลท่ียังไม่เกิด
ไม่ให้เกิดขึ้น เพ่ือจะก�ำจัดบาปอกุศลท่ีเกิดขึ้นแล้วให้เสื่อมสูญไม่ต้ังอยู่ได้ในพระสันดาน แม้เพียงทรงสมาทาน
อุโบสถกรรมเดือนละ ๔ คร้ัง เปนกาลยุตตะปฏิบัติก็ดี ดังน้ีนับว่า ตโป ได้ทั้งภายในภายนอกพุทธกาล เปนบท
ค�ำรบ ๖ฯ
กิริยาที่ไม่โกรธโดยวิสัยมิใช่เหตุที่ควรจะโกรธชื่อว่า อกฺโกโธฯ อิกนัยหน่ึง ธรรมเปนเบ้ืองต้นของเมตตา
เปนข้าศึกแก่ความโกรธคือความปราถนาไม่มีภัยไม่มีเวรในผู้หน่ึงผู้ใด ช่ือว่า อกฺโกโธฯ โดยนัยนี้ ได้สันนิษฐาน
ว่า ข้อท่ีพระมหากษัตริยาธิราชเจ้ามีพระราชอัธยาศัยประกอบด้วยพระเมตตา ไม่ทรงปราถนาจะก่อภัย
ก่อเวรในผู้หนึ่งผู้ใด ไม่ทรงพระพิโรธโดยเหตุท่ีไม่ควรจะทรงพระพิโรธก็ดี แม้มีเหตุท่ีให้ทรงพระพิโรธ แต่ทรง
ข่มเสียด้วยโยนิโสมนสิการ ให้อันตรธานสงบรงับไปก็ดี ดังน้ีนับว่า อกฺโกโธ เปนบทที่ ๗ฯ
กิริยาที่ไม่เบียดเบียฬให้ลำ�บาก ชื่อว่า อวิหิํสา ฯ อิกนัยหนึ่งธรรมเปนเบื้องต้นของกรุณา เปนข้าศึกแก่
วิหิํสา คือความไม่ปราถนาจะก่อทุกข์แก่ผู้หนึ่งผู้ใด ชื่อว่า อวิหิํสาฯ โดยนัยนี้ได้สันนิษฐานว่าข้อที่พระมหา
กษัตริยาธิราชเจ้ามีพระราชอัธยาศัยกอบด้วยพระกรุณา ไม่ทรงปราถนาจะก่อทุกข์แก่ผู้หนึ่งผู้ใด ไม่ทรง
เบียดเบียฬพระราชวงศานุวงศ์ ข้าทูลลอองธุลีพระบาทแลอาณาประชาราษฎรให้ลำ�บากด้วยเหตุอันไม่ควร
กระทำ� คือด้วยราชทัณฑ์อันไม่ควรก็ดี ด้วยตั้งพิกัดเก็บภาษีอากรเกินขนาดก็ดี ดังนี้นับว่า อวิหิํสา เปนบท
ที่ ๘ฯ
กิริยาที่อดทน ให้ส่ิงที่ควรอดทนอยู่ทับในสันดาน ชื่อว่า ขน̣ติฯ โดยนัยนี้ ได้สันนิษฐานว่า ข้อท่ีพระมหา
กษัตริย์เจ้ามีพระราชหฤทยกล้าหาญ อดทนต่อทุกข์เปนที่ต้ังแห่งโลภโกรธหลง คือทรงอดทนต่อเย็นร้อน
เปนต้น ทรงอดทนต่อถ้อยค�ำที่ผู้กล่าวชั่วไม่เปนที่ชอบพระราชอัธยาศัย มาในโศรตทวารโดยอาการอันช่ัวร้าย
ทรงอดทนต่อเวทนาอันเกิดข้ึนในพระกายเปนทุกข์กล้าแสบเผ็ด ไม่ส�ำราญไม่เปนที่พอพระราชหฤทัย
อาจน�ำพระชนมชีพเสียได้ก็ดี เมื่อพระราชวงศานุวงศ์ข้าทูลลอองธุลีพระบาท มีความประมาทกระท�ำผิด
ล่วงพระอาชญาควรจะลงราชทัณฑ์ แต่อาศัยพระขันติเมตตากรุณาทิคุณ ทรงอดโทษน้ันไว้ก็ดี ทรงอดทนต่อ
ก�ำลังอกุศลวิตกท่ีเกิดขึ้น ไม่ปล่อยพระราชอัธยาศัยให้ลุอ�ำนาจน้อมไปตามก็ดี ดังนี้นับว่า ขนฺติ เปนบทท่ี ๙ฯ
พระอรรถกถาจารยเจ้าแสดงไวพจน์แห่งบทท่ี ๑๐ ไว้ว่า อวิโรโธ ช่ือว่าอวิโรธนํ ดังนี้ฯ โดยที่มา วิโรธ
ศัพท์มีความ ๒ อย่าง คือ วิโรโธ แปลว่าผิดจากสิ่งที่ตรง เช่นค�ำว่า อญฺ ถา อฏฺกถาวจนํ อญฺมญฺวิโรธํ
อาปชฺชติ ความว่า โดยอย่างอื่น ค�ำในอรรถกถาย่อมถึงความผิดจากกันแลกัน ดังน้ีอย่าง ๑ วิโรโธ แปลว่า
ความยินร้ายเช่นค�ำว่า อนุโรธวิโรธสมาปนฺโน ความว่า บุถุชนคนไม่ได้สดับแล้วต้องถึงพร้อมด้วยความยินดี
ยินร้าย ดังนี้อย่าง ๑ฯ เม่ือมีอะอักษรน�ำหน้าก็แปลความว่า ไม่ผิดจากสิ่งท่ีตรงอย่าง ๑ ไม่ยินร้ายอย่าง ๑ฯ
โดยนัยน้ี ได้สันนิษฐานว่า ข้อที่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงต้ังอยู่ในขัตติยราชประเพณี ไม่ทรงประพฤติ
ผิดจากราชจรรยานุวัตรนิติศาสตร์ราชศาสตร์ ไม่ทรงประพฤติให้คลาดจากยุกติธรรม ทรงอุปถัมภ์ยกย่องคน
มีคุณความชอบควรอุปถัมภ์ยกย่อง ทรงบ�ำราบคนมีความผิดควรบ�ำราบ โดยทางท่ีเปนธรรม ไม่ทรงอุปถัมภ์
ยกย่องแลบ�ำราบบุทคลนั้น ๆ ด้วยอ�ำนาจอคติ ๔ ประการมีฉันทาคติเปนต้นก็ดี เมื่อมีลาภยศสรรเสริญสุข
210 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ซึ่งเปนท่ีพอพระราชหฤทัยมาถึงพระองค์ ก็ไม่ทรงแสดงความยินดีซ่ึงเปนที่ให้ผู้อ่ืนดูหมิ่นได้ว่าทรงมัวเมา
อยู่ในส่ิงนั้น ๆ ให้ปรากฏ เมื่อมีความเสื่อมลาภเส่ือมยศต้องนินทาได้ความทุกข์ร้อนประการใด ซึ่งไม่เปนท่ีพอ
พระราชหฤทยั มาถงึ พระองค์ กไ็ มท่ รงแสดงความยนิ รา้ ยเสยี พระราชหฤทยั ตกพระราชหฤทยั ซงึ่ เปนเหตใุ หผ้ อู้ น่ื
ดูหมิ่นได้ว่าทรงหาขันติคุณมิได้ หรือเปนเหตุให้ผู้น้อยซึ่งอยู่ในพระบรมเดชานุภาพพลอยตกใจแตกตื่นอลหม่าน
ทรงรักษาพระอาการคงท่ีอยู่เปนนิตย์ไม่แสดงให้ผิดจากปกติเดิมก็ดี ดังนี้นับว่า อวิโรธนํ เปนบทท่ีครบ ๑๐ฯ
เม่ือพระมหากษัตรยิ าธิราชเจา้ ด�ำรงทศพิธราชธรรมนี้ใหต้ ัง้ บรบิ รู ณดว้ ยดีในพระองค์ พระราชวงศานวุ งศ์
ข้าทูลลอองธุลีพระบาท แลอาณาประชาราษฎร์ข้าขอบขันธสีมา ย่อมมีความสวามิภักด์ินับถือรักใคร่ตั้งใจ
ประกอบราชกิจฉลองพระเดชพระคุณ โดยเต็มก�ำลังกายแลเต็มก�ำลังความคิด โดยซ่ือสัตย์สุจริตมิได้คิดทุรยศ
ช่วยบ�ำรุงรัฐชนบทให้สมบูรณม่ังค่ัง สมดังพระราชประสงค์ทุกประการ เบื้องหน้าแต่น้ันเม่ือทรงพิจารณาด้วย
พระปรีชาญาณถึงวุฒิศุภผล ก็จะทรงเห็นกุศลธรรมส่วนชอบ ๑๐ ประการนี้ ซ่ึงต้ังบริบูรณ์เต็มท่ีในพระองค์
ว่าเปนเหตุมีก�ำลังกล้า สามารถให้เกิดผลได้ถึงเพียงน้ัน ก็จะทรงพระปีติโสมนัสเปนอันมากพ้นประมาณฯ
เหตุนั้น โบราณบัณฑิตจึงได้ประพันธ์ผูกค�ำโศลกแสดงทศพิธราชธรรมจรรยา ถวายเปนโอวาทานุศาสน์
แต่พระมหากระษัตริยาธิราชเจ้าในปางหลัง ดังรับพระราชทานถวายวิสัชนามา ด้วยประการฉนี้ฯ
ล�ำดับน้ี จักรับพระราชทานถวายวิสัชนาสังคหวัตถุต่อไปฯ แลสังคหวัตถุอันเน่ืองในพระราชจรรยานุวัตร
นั้น ๔ ประการ โบราณบัณฑิตได้บัญญัตต้ังไว้เปนแบบอย่าง ดังนี้ว่า สสฺสเมธํ ความที่ทรงพระปรีชาในการ
บ�ำรุงธัญญาหารให้บริบูรณ์ในพระราชอาณาเขตต์ ๑ ปุริสเมธํ ความท่ีทรงพระปรีชาในการทรงสงเคราะห์บุรุษ
๑ สมฺมาปาสํ อุบายเคร่ืองผูกคล้องน้�ำใจมนุษย์ให้นิยมยินดี ๑ วาจาเปยฺยํ ตรัสพระวาจาอ่อนหวานควรดื่มไว้
ในใจ ท�ำความเปนท่ีรักให้เกิด ๑ ส่ีสังคหวัตถุนี้ เปนอุบายให้เกิดรัฐสมบัติ ซ่ึงได้นามบัญญัติว่า นิรคฺคลํ
สถานท่ีราบคาบปราศจากโจรภัย จนถึงมีทวารเรือนไม่ต้องลงกลอนเปนค�ำรบ ๕ฯ
พรรณาความโดยอนรุ ปู นยั วา่ ขอ้ ทพ่ี ระมหากษตั รยิ าธริ าชเจา้ เอาพระราชหฤทยั ใส่ อดุ หนนุ บำ� รงุ กสกิ รรม
คือการท�ำนาให้เจริญโดยอุบายน้ัน ๆ เช่นขุดคลองในภูมิภาคอันจะให้ผลดีแก่การท�ำนา แต่หากว่าเปนที่รกร้าง
เพราะห่างจากน�้ำ เพื่อราษฎรจะได้จับจองแล้วขวนขวายโก่นสร้างสถานท่ีรกร้างนั้นให้ควรแก่กสิกรรม ยกเว้น
ค่านาแก่ผู้เร่ิมลงมือท�ำในท่ีเช่นนั้นกว่าจะได้ผลดี ค่านาที่เก็บอยู่เล่าก็ลดหย่อนผ่อนเบา เพื่อผู้ท�ำได้รับประโยชน์
ออกโฉนดเปนส�ำคัญกันพิพาท ป้องกันสัตวพาหนะให้ปราศจากภัยอันตราย สอดส่องแสวงหาอุบายอันจะให้
ทุ่นแรงท�ำ แลบ�ำรุงให้เจริญผล ผ่อนปรนทดน้�ำเข้าไขน้�ำออกตามเวลาดังน้ีนับว่า สสฺสเมธํ เปนสังคหวัตถุท่ีต้นฯ
แม้บ�ำรุงการท�ำสวนให้ได้ผลไพบูลย์ด้วยอุบายน้ัน ๆ ก็สงเคราะห์เข้าในข้อน้ีฯ
ข้อที่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงสงเคราะห์พระราชวงศานุวงศ์แลข้าทูลละอองธุลีพระบาท
ผู้ประกอบราชกิจฉลองพระเดชพระคุณ ยึดหน่วงน้�ำใจให้นิยมยินดี ด้วยวิธีนั้น ๆ เปนต้นว่า พระราชทานยศ
ฐานันดรโดยสมควรแก่กุลวงศ์วิทยาแลความชอบในราชการ พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เปนเคร่ืองเล้ียง
ชีวิต ยกย่องให้มีอ�ำนาจในราชกิจสมแก่หน้าที่ดังน้ีนับว่า ปุริสเมธํ เปนสังคหวัตถุท่ี ๒ฯ
ข้อที่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงผูกคล้องน�้ำใจมนุษย์นิกรให้นิยมยินดีด้วยวิธีนั้น ๆ คือทรงอุดหนุน
สรรพพณิชกรรมอันจะน�ำให้เกิดผลอันดีแก่แผ่นดิน เปิดสินค้าภายในภายนอกให้เข้าออกได้ตามถนัดต้ังพิกัด
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 211
เก็บภาษีเปนส่วนหลวงแต่พอสมควรผู้ค้าจะได้ก�ำไร ผู้ใดคิดจะประกอบกิจอย่างใดอย่างหนึ่งที่เจริญผล
แก่แผ่นดิน แต่ไม่มีสินทรัพย์พอจะท�ำกิจน้ันได้ ก็พระราชทานพระราชทรัพย์อุดหนุนให้เปนก�ำลัง ตั้งพระราช
บัญญัติจัดมาตรา ก�ำหนดเคร่ืองสอบประมาณสินค้าวางลงเปนหลักแห่งการซื้อขาย ออกกฎหมายลักษณกู้ยืม
ให้เจ้าหน้ีแลลูกหนี้มีสุจริตต่อกันในเรื่องทรัพย์ ดังนี้นับว่า สมฺมาปาสํ เปนสังควัตถุที่ ๓ฯ
ข้อที่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าตรัสพระวาจาอ่อนหวานควรดื่มไว้ในใจทักทายปราไสประปรายไปแก่
บุทคลทุกชั้น ทั้งพระราชวงศานุวงศ์ข้าทูลลอองธุลีพระบาท ตลอดลงมาถึงราษฎรสามัญ ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย
โดยควรแก่ชาติสกุลแลวัย ยังความรักของชนนั้น ๆ ให้เกิดในพระองค์ทั่วหน้า ดังน้ีนับว่า วาจาเปยฺยํ เปน
สังคหวัตถุท่ีครบ ๔ฯ
นิรคฺคลํ บทที่ ๕ นั้น แสดงรัฐสมบัติของพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าซึ่งทรงสงเคราะห์ยึดหน่วงน�้ำใจ
ประชาชน ด้วยสังคหวัตถุ ๔ ประการน้ีให้มีความยินดีเบิกบาน ต้ังใจรับราชการด้วยความสวามิภักด์ซ่ือสัตย์
กตัญญูกตเวทีเปนเบ้ืองหน้า ประกอบการค้าขายแสวงหาเล้ียงชีพโดยทางธรรม ไม่ต้องกระท�ำโจรกรรม
แย่งชิงทรัพย์ส่ิงของ ๆ ผู้อ่ืนมาเล้ียงชีวิตตน ซึ่งจะก่อการณ์จลาจลให้เกิดในรัฐชนบท เรียบร้อยราบคาบทั้งหมด
ทั่วทุกสถาน จนทวารเรือนไม่ต้องลงล่ิมกลอนเพื่อจะรวังโจรภัยฯ สังคหวัตถุมีนัยดังรับพระราชทานถวาย
วิสัชนามาด้วยประการฉนี้ฯ
ล�ำดับนี้ จักรับพระราชทานถวายวิสัชนาจักรวัติวัตรต่อไป โดยนัยอันมาในบาฬีแลอรรถกถาจักรวัติสูตร
ในคัมภีร์ทีฆนิกาย บรรยายความโดยสังเขปว่า พระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ผู้สถิตในเอกราไชศวรรยาธิปัตย์
ปกครองรัชสีมามณฑล ควรด�ำรงพระองค์ในธรรมคือกุศลกรรมบถสิบประการ อิงอาศัยให้เปนหลักสักการ
นับถือบูชามีธรรมเปนเบื้องหน้าดุจธงชัย มีธรรมเปนใหญ่เปนอธิบดี แต่น้ันควรสถิตในขันติเมตตากรุณาสาม
สามคั คธี รรม อปุ ถมั ภบ์ ำ� รงุ ชนนกิ ร ดว้ ยยศฐานนั ดรเคหสถาน แลธนสารสมบตั ิ คอยหา้ มกนั สรรพภยปุ ทั วนั ตราย
ทรงจัดธรรมิการักขาวรณคุโต๎ยบายสามอย่างน้ี ให้เนื่องในจักรวัติวัตร ๑๒ ประการ ที่ ๑ ควรพระราชทาน
โอวาทแก่อันโตชนคนภายในราชส�ำนัก ให้สถิตในกุศลสมาทาน แลพระราชทานธนสารสมบัติพัสตราภรณ์
ยศฐานันดรอิศริยศักด์ิ ทรงพิทักษ์รักษาห้ามกันสรรพภยุปัทวันตราย แลทรงอนุเคราะห์พลกายกองเสนาด้วย
พระราชทานลาภแลยศเหมือนอย่างน้ัน กับท้ังเบี้ยเล้ียงแลรางวัลไม่ให้ล่วงกาลฯ ท่ี ๒ ควรทรงผูกพระราชไมตรี
สมานราชสัมพันธมิตรกับอภิสิตกษัตริย์สามนตราช ด้วยมหัคฆภัณฑ์มงคลบรรณาการ มีคชสารอัศวาชาไนย
แลอุดมรัตน์เปนต้นฯ ที่ ๓ ควรให้พระราชวงศานุวงศ์ ซึ่งนับว่าอนุยนตกษัตริย์ชื่นบาน ด้วยพระราชทาน
ยานพาหนะตามควรแก่พระราชอิศริยยศฯ ที่ ๔ ควรทรงเกื้อกูลคฤหัสถ์พราหมณ์ด้วยเคร่ืองพรตแลไทยธรรม
มีเข้าน้�ำผ้านุ่งห่มเปนต้น แลอนุเคราะห์คฤหบดีชน ด้วยพระราชทานพืชเข้าปลูกแลแอกไถกับทั้งโคกระบือ
เครื่องอุดหนุนแก่การนาฯ ท่ีครบ ๕ ควรทรงอนุเคราะห์ประชาชนชาวชนบทเหมือนอย่างน้ัน ให้เล้ียงชีพ
เปนสุขตามวิสัยฯ ท่ีครบ ๖ ควรทรงสักการพราหมณ์ผู้สมณะด้วยพระราชทานไทยธรรมบริกขารเกื้อกูลแก่
ธรรมปฏิบัติฯ ท่ี ๗ ควรทรงจัดรักษาฝูงมฤคปักษีชาติด้วยพระราชทานอภัย ห้ามไม่ให้ใครเบียดเบียฬกระท�ำ
อันตรายจนสูญพืชพันธุ์ฯ ที่ ๘ ควรห้ามชนทั้งหลายไม่ให้กระท�ำอธรรมิกกิจ ชักน�ำให้ต้ังอยู่ในกุศลสุจริต
ส่วนชอบ ประกอบการเลี้ยงชีพโดยทางธรรมฯ ที่ ๙ ชนใดขัดสนไม่มีทรัพย์พอจะเล้ียงชีพโดยสัมมาอาชีวะได้
212 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ควรพระราชทานพระราชทรัพย์เจือจานให้เล้ียงชีพไม่ต้องแสวงหาโดยทางทุจริตฯ ที่ ๑๐ ควรเสดจเข้าไปใกล้
สมณะพราหมณ์ ตรัสถามถึงบุญบาปกุศลากุศลให้ประจักษ์ชัดฯ ที่ ๑๑ ควรทรงต้ังวิรัติห้ามจิตต์ไม่ให้เกิด
อธรรมราคในอคมนิยสถานฯ ที่ ๑๒ ควรทรงประหานวิสมโลภเจตนา ห้ามจิตต์ไม่ให้ปราถนาลาภท่ีไม่ควร
จะได้ฯ พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้ด�ำรงเอกราไชศวรรยาธิปัตย์ ควรสถิตในจักรวัติวัตร ๑๒ ประการ บ�ำรุง
พระราชอาณาจักรให้ไพโรจน์ชัชวาล ด้วยพระราชวรฤทธิเดชานุภาพบุญบารมี เกษมสวัสดีด�ำรงมั่นพ้นสรรพ
พิบัติอุปัทวันตราย ดังรับพระราชทานถวายวิสัชนามา ด้วยประการฉน้ีฯ
ล�ำดับน้ี จักรับพระราชทานถวายวิสัชนาพละของพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ๕ ประการ อันมาใน
เตสกุณชาดกฯ
ที่ต้น กายพลํ ก�ำลังพระกายฯ สมบัตินี้เปนผลเกิดแด่ทรงผาสุกสบายปราศจากพระโรคบีฑาฯ
อันพระมหากษัตริย์ย่อมเปนจอมพลผู้จะน�ำโยธาหารหมู่ใหญ่เข้าสู้สงคราม จ�ำต้องทรงพระก�ำลังเข้มแขง
จึงจะเปนท่ีเกรงขามแห่งข้าศึก แลเปนที่ไว้ใจของพลโยธี ถ้าขาดสมบัติข้อน้ี แม้แต่จะทรงราชการก็คง
ไม่สดวกไปได้ฯ เหตุดังน้ันพระองค์จึงควรบริหารพระองค์ให้ทรงพระก�ำลังเปนนิตย์ฯ
ที่ ๒ โภคพลํ ก�ำลังคือโภคสมบัติฯ อันพระมหากษัตริยาธิราชเจ้ามีราชกิจที่จะพึงจัดพึงท�ำ แลมีบุทคล
ที่จะพึงบ�ำรุงเลี้ยงเปนอันมาก หากขาดสมบัติข้อน้ี ไหนเลยจะมีก�ำลังบ�ำเพ็ญราชธรรมให้ส�ำเร็จผลฯ เหตุดังน้ัน
พระองค์จึงควรขวนขวายบ�ำรุงกสิกรรมพณิชกิจอันเปนทางเกิดแห่งพระราชทรัพย์ให้ไพศาล แลจัดการ
พระคลังให้เปนระเบียบอันดีฯ
ที่ ๓ อมจฺจพลํ ก�ำลังคืออมาตย์ฯ อันพระมหากษัตริยาธิราชเจ้ามีราชภาระท่ีจะพึงทรงมากกว่ามาก
ยากที่จะทรงสอดส่องได้ท่ัวถึงจึงต้องมีอมาตย์ผู้ใหญ่ผู้น้อยไว้เปนก�ำลัง ตั้งแต่เสนาบดีลงมา จะได้บัญชาราชกิจ
ต่างพระเนตรพระกรรณฯ เหตุดังน้ัน พระองค์จึงควรสอดส่องวุฒิของข้าราชการ แล้วแลพระราชทานยศศักด์ิ
โดยสมควรแก่วงศสกุลคุณสมบัติแลความชอบฯ
ที่ ๔ อภิชจฺจพลํ กำ�ลังคือมีพระชาติสูงฯ สมบัติข้อนี้ เปนที่นิยมของมหาชน เปนผลมีมาเพราะบุพเพ
กตบญุ ตา คอื ไดเ้ คยทรงบำ�เพญพระราชกศุ ลอบรมมาแตใ่ นกาลกอ่ นฯ แมส้ นงั กมุ ารพรหมกไ็ ดก้ ลา่ วคำ�ประพนั ธ
สรรเสริญสมบัติข้อนี้ไว้ว่า ขตฺติโย เสฏฺโ ชเน ตสฺมิํ เย โคตฺติปฏิสาริโน ความว่า กษัตริย์เปนผู้ประเสริฐสุด
ในชุมนุมชนผู้มีปกติรังเกียจด้วยชาติดังนี้ฯ อันชนมีชาติสูง ย่อมมีคุณสมบัติพิเศษกว่าสามัญชน เปนต้นว่า
มีสติปัญญา อุตสาหะกล้าหาญรู้จักลอาย ดังคชสาร อัสดร อุศภ ผู้อาชาไนย ย่อมองอาจกว่าสัตว์สามัญฯ
เหตุดังน้ัน พระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ควรตั้งพระราชประสงค์สมบัตินี้ให้มีสืบพระวงศ์ลงไป ให้สมดังแสดงไว้
ในพระบาฬีว่าอุภโต สุชาโต โหติ เปนต้น ความว่า เปนผู้เกิดมาดีโดยชนกชนนีทั้งสองฝ่ายไม่ลักลั่น มีอุทร
ทถ่ี ือปฏสิ นธบิ รสิ ทุ ธิ ตลอดเจ็ดชั้นแหง่ บรุ พบิดา อนั ใคร ๆ ไมก่ ลา้ คัดคา้ นยกโทษได้ ดว้ ยกลา่ วปรารภกำ�เนิดดังนี้
จะได้เปนศรีสวัสดิ์แก่พระราชอาณาจักรสืบไปฯ
ที่ครบ ๕ ปญฺญาพลํ ก�ำลังคือพระปัญญาฯ พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้ทรงพระปรีชาญาณรอบคอบ
สามารถประกอบพระราโชบายให้ลุล่วงอุปสัคทั้งหลาย ท�ำนุบ�ำรุงรัฐมณฑลให้เจริญสถาพรด�ำรงมั่นฯ เหตุดังน้ัน
พระองค์จึงควรแสวงหาทางมาแห่งปัญญา ทรงหมั่นศึกษาสดับแลทรงพระวิจารณ์เหตุการณ์ภายในภายนอก
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 213
อันเปนไปในสมัย เพื่อจะได้พระญาณแจ้งเหตุผลประจักษ์ชัดฯ พละ ๕ ของพระมหากษัตริย์มีมาในเตสกุณ
ชาดกฉนี้ฯ
พระราชจรรยานุวัตรท่ีเปนคุณาภรณอลงกฎพระมหากษัตริยาธิราชซึ่งมาในคัมภีร์พุทธศาสน์
เปนค�ำสอนของสมเดจพระโลกุตมาจารย์มีนัยดังรับพระราชทานถวายวิสัชนามา ด้วยประการฉนี้ฯ
สมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ได้เสดจด�ำรงราชมไหศวรรยาธิปัตย์ใหม่ ก็เปนเหมือนสมเดจ
พระบรมศาสดาแรกได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เม่ือได้ทรงบ�ำเพญราชธรรมใหส�ำเรจประโยชน์แก่
ประชาชนผู้อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร ก็จักเปนดุจสมเดจพระบรมนราสภได้ทรงบ�ำเพญพระพุทธกิจเสร็จ
ทรงเปล่งสุรนาทโวหารได้ว่า ยํ สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน เปนต้น ความว่ากิจอันใด
อันศาสดาผู้มีกรุณาแสวงหาประโยชน์แก่สาวกจะควรกระท�ำ กิจอันนั้นเราถือเอาความเอนดูได้กระท�ำแล้ว
แก่ท่านท้ังหลายทุกประการดังนี้ฯ ข้อนี้จักส�ำเรจเปนพระบารมีไปในอนาคต ยังอุปบัติของพระองค์ให้มีผล
สมด้วยพระพุทธพจนภาสิตว่า เท̣วเม ภิกฺขเว ปุคฺคลา โลเก อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺติ พหุชนหิตาย
พหุชนสุขาย พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ ความว่า ดูก่อนภิกษุท้ังหลายสองบุทคลน้ี
เมอ่ื เกดิ ขน้ึ ในโลก ยอ่ มเกดิ ขนึ้ เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ แหง่ ชนเปนอนั มาก เพอื่ ความตอ้ งการ เพอ่ื ความเกอื้ กลู เพอ่ื ความ
ส�ำราญแห่งชนเปนอันมาก ท้ังเทวดาแลมนุษย์ สองบุทคลนี้คือใคร พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะ ๑
พระราชาจกั รพรรดิ ๑ ดงั นฯ้ี อปุ บตั ขิ องพระมหากษตั รยิ าธริ าชเจา้ จะพงึ มผี ลดงั สมเดจพระทศพลตรสสรรเสรญิ
ไว้ฉนี้ ก็ด้วยอ�ำนาจทรงบ�ำเพญราชธรรมให้บริบูรณทุกประการฯ
บัดนี้จักต้ังสัตยาธิษฐานประสิทธิพระพรถวายสมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าเปนล�ำดับไปฯ
พุทฺธานุภาโว ปรเมนฺทมหาวชิราวุธํ มหาราชํ อภิรกฺขตุ ขออานุภาพพระพุทธเจ้า จงอภิบาลสมเดจ
พระปรเมนทรมหาวชิราวุธ บรมราชาธิราชฯ
ธมฺมานุภาโวฯลฯ อภิรกฺขตุ ขออานุภาพพระธรรมเจ้า จงอภิบาลฯลฯ
สํฆานุภาโวฯลฯ อภิรกฺขตุ ขออานุภาพพระสงฆเจ้า จงอภิบาลฯลฯ
พุทฺธานุภาวํ นิสฺสาย ปรเมนฺทมหาวชิราวุโธ มหาราชา พุท̣ธสาสนํ อภิปาเลนฺโต สุขํ ชีวตุ อาศัยอานุภาพ
พระพุทธเจ้า ขอสมเดจพระปรเมนทรมหาวชิราวุธบรมราชาธิราช จงอภิบาลพระพุทธศาสนาด�ำรงพระชนมายุ
เปนสุขฯ
ธมฺมานุภาวํ นิสฺสายฯลฯ รฏฺํ อภิปาเลนฺโต จิรํ รชฺเช ปติฏฺฐาตุ อาศัยอานุภาพพระธรรมเจ้าฯลฯ
จงอภิบาลรัฐมณฑลเสดจสถิตในราชสมบัติยืนนานฯ
สํฆานุภาวํ นิสฺสายฯลฯ ปชํ อภิปาเลนฺโต นิจฺจํ ชยตุ อาศัยอานุภาพพระสงฆเจ้าฯลฯ จงอภิบาลประชาชน
มีชัยเปนนิตยกาลฯ
พุทฺธานุภาเวน ปรเมนฺทมหาวชิราวุธสฺส มหาราชสฺส โสตฺถิภวตุ ด้วยอานุภาพพระพุทธเจ้า ขอสวัสดีคือ
ความปลอดโปร่ง จงมีแด่สมเดจพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ บรมราชาธิราชฯ
ธมฺมานุภาเวนฯลฯ อิทฺธิ ภวตุ ด้วยอานุภาพพระธรรมเจ้า ขอฤทธิคือความส�ำเร็จ จงมีฯลฯ
สํฆานุภาเวนฯลฯ วุฑฺฒิ ภวตุ ด้วยอานุภาพพระสงฆเจ้าขอวุฒิคือความจ�ำเริญ จงมีฯลฯ
214 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ขออ�ำนาจพระราชปณิธาน คือความต้ังพระราชหฤทัยในอันบ�ำเพ็ญราชธรรมให้ส�ำเร็จประโยชน์แก่
มหาชนทั่วหล้า แลขอเดชเทวดาผู้ศักดิ์สิทธ์ิ จงอภิบาลรักษาสมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า กับทั้ง
พระบรมราชวงศ์แลรัฐมณฑล ให้สถาพรด�ำรงมั่น พ้นสรรพพิบัติอุปัทวันตราย เปนนิตยกาลฯ
อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุตฺตมํ ธมฺมมชฺฌคา
มหาสํฆํ ปโพเธสิ อิจฺเจตํ รตนตฺตยํ
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ธรรมอันสูงสุดแล้ว ยังสงฆ์หมู่ใหญ่ให้ตรัสรู้เบิกบานต่ืนจากกิเลส
นิทรา น้ีจัดว่าพระรัตนตรัยฯ แม้ถึงจะต่างกันโดยวัตถุว่า พุทฺโธ ธมฺโม สํโฆ ดังนี้ก็จริงอยู่ ถึงอย่างนั้นก็ชื่อว่า
เปนอันเดียวกันโดยอรรถ เพราะไม่แยกจากกันไปได้พระพุทธเจ้าตรัสรู้พระธรรมก่อนแล้วสอนผู้อื่นให้ตรัสรู้
ตาม พระธรรมนั้นพระสงฆ์ได้ทรงไว้ แลพระสงฆ์เล่าก็เปนสาวกของพระพุทธเจ้าเนื่องกันเปนอันเดียวฉน้ีฯ
พระรัตนตรัยน้ี บริสุทธ์อุดมประเสริฐในโลกย่อมเปนไปเพื่อความบริสุทธ์ิอย่างยิ่งแก่ผู้เล่ือมใสแล้ว
ใคร่ความบริสุทธ์ิแก่ตน ปฏิบัติอยู่โดยชอบฯ ความบริสุทธ์ิจากกิเลสทั้งปวง เปนความดับจากทุกข์ท้ังปวง
พระนิพพานเปนธรรมชาติสูญอย่างยิ่ง คือว่างจากกิเลสแลกองทุกข์ท้ังปวงนั้น ได้ชื่อว่าเปนบรมสุขฯ
ดว้ ยสจั วาจาภาสติ น้ี ขอความสวสั ดจี งเกดิ มใี นกาลทกุ เมอ่ื ฯ ดว้ ยเดชานภุ าพ พระรตั นตรยั เปนปฏพิ าหโนบายกางกน้ั
ขออุปัทวันตรายแลอุปสัคคือข้อติดขัดท้ังหลาย จงอย่าไดถ้ ูกต้องพอ้ งพานซึ่งสยามรัฐ มหาชนบทน้ีในกาลไหน ๆ
จงบ�ำราศไกลด้วยประการท้ังปวง ขอความเปนผู้ไม่มีโรคความสุขส�ำราญ ความเปนผู้มีอายุยืนนาน แลความ
บริบูรณ์แห่งวัตถุทั้งหลายอันเปนที่ต้ังแห่งวิบุลผลน้ัน ทั้งสุขโสมนัสสวัสดีในท่ีทุกสถาน จงเกิดมี จงเปนไป
แด่สมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า กับพระบรมราชวงศ์ผู้ทรงอภิบาลสยามรัฐมหาชนบทน้ีฯ ขอเทพเจ้า
ผู้สิงสถิตในสยามรัฐมณฑล ตั้งต้นแต่พระราชนิเวศน์ ตลอดเขตต์รัชสีมา ท่ีสมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า
ได้ทรงบูชาแล้วด้วยธรรมพลีแลอามิษพลี จงตั้งไมตรีจิตต์อภิบาลรักษาสมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า
กับรัฐมณฑล ด้วยน�ำเข้าไปใกล้ซ่ึงอิฐวิบุลผลอันเปนหิตานุหิตประโยชน์ แลคอยป้องกันซ่ึงสรรพโทษ
อันไม่เก้ือกูลแก่ความเจริญ อย่าให้เกิดมีฯ
สิทฺธมตฺถุ สิทฺธมตฺถุ สิทฺธมตฺถุ อิทํ ผลํ
เอตส̣มิํ รตนตฺตยสฺมิํ สมฺปสาทนเจตโส
ขอผลท่ีกล่าวนี้ จงเปนผลสัมฤทธิ์ จงเปนผลสัมฤทธ์ิ จงเปนผลสัมฤทธ์ิ แด่สมเดจบรมบพิตรพระราช
สมภารเจ้า ผู้มีพระราชหฤทัยเลื่อมใสในพระรัตนตรัยนี้ สมพระบรมราชประสงค์ทุกประการ เทอญ๚
จดหมายเหตุงารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียรหมดเพียงนี้
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 215
งารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช
อธิบายลักษณงาร
งารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช พ่ึงจะมีข้ึนในรัชกาลปัจจุบันนี้เปนครั้งแรก โดยเหตุที่ทรง
พระราชด�ำริห์ดังได้แสดงมาแล้วข้างต้นหนังสือน้ี จึงต้องคิดระเบียบแบบแผนข้ึนใหม่ มีลักษณการเปน ๓ อย่าง
คือ การบรมราชาภิเษกอย่าง ๑ การสมโภชอย่าง ๑ การเล้ียงลูกขุนอย่าง ๑ อนุโลมตามโบราณราชประเพณี
แต่เปล่ียนแปลงรายการให้ต้องตามนิยมในปัจจุบันนี้ อิกประการ ๑ เม่ือนานาประเทศทราบว่า จะมีการ
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช สมเด็จพระเจ้าราชาธิราช สมเด็จพระราชาธิบดี แลประธานาธิบดีนานา
ประเทศท่ีเปนสัมพันธมิตรไมตรี ต่างก็ยินดีแต่งเจ้านายในพระราชวงศ์บ้าง ขุนนางผู้ใหญ่บ้าง เปนราชทูต
พิเศษมาช่วยแทนพระองค์แลต่างตน จึงมีการรับแขกเมืองเปนงารใหญ่ข้ึนอิกอย่าง ๑ ซึ่งมิได้เคยมีมาแต่ก่อน
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชเม่ือ พ.ศ. ๒๔๕๔ ถ้าว่าโดยลักษณงาร ท�ำเปน ๓ ตอน ตอนต้น
ตั้งพิธีตามหัวเมืองทุกมณฑล ท�ำน�้ำมนต์อภิเษกส�ำหรับถวาย ณ พระแท่นอัฐทิศ เปนเครื่องหมายถวายแผ่นดิน
ส้ินท้ังรัฐสีมาอาณาเขตรประเทศสยาม ท�ำพิธีตอนน้ีแต่ในเดือนพฤศจิกายน เพื่อจะให้มีเวลาส่งน้�ำอภิเษก
เข้ามาถึงกรุงเทพฯ พร้อมกันทันก�ำหนด ตอนกลางท�ำพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เม่ือต้นเดือนธันวาคม
ตอนท้ายเปนงารสมโภชเล้ียงลูกขุน ท�ำต่อเน่ืองกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมา งารทั้ง ๓ ตอนเร่ิมท�ำตั้งแต่
วันที่ ๘ พฤศจิกายนเสร็จส้ินงารเมื่อวันท่ี ๑๐ ธันวาคม มีรายการโดยพิสดารดังจะแสดงต่อไป
พิธีท�ำน�้ำมนต์อภิเษก
วันพุธที่ ๘ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๓๐
ก�ำหนดเร่ิมต้นพิธีเสกน้�ำมนต์อภิเษก ท่ีพระมหาเจดีย์สถานซึ่งเปนหลักมหานครโบราณในพระราช
อาณาจักร์ท้ัง ๗ แห่ง คือ : -
๑. ที่พระพุทธบาท ในมณฑลกรุงเก่า อันเปนมหาเจดีย์สถานสถิตยในมณฑลประเทศที่ต้ังพระมหานคร
ละโว้ แลกรุงศรีอยุธยามหานคร อันเคยเปนโบราณราชธานีด้วยกันแห่งหน่ึง
๒. ในพระวิหารพระพุทธชินราช ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพระพิษณุโลก อันเปนมหาเจดีย์สถาน
อยู่ในโบราณราชธานีฝ่ายเหนือแห่งหนึ่ง
๓. ที่วัดพระมหาธาตุ เมืองสวรรคโลก อันเปนมหาเจดีย์สถานในโบราณราชธานีคร้ังสมเด็จพระร่วงเจ้า
แห่งหน่ึง
๔. ท่ีพระปฐมเจดีย์ เมืองนครไชยศรี อันเปนโบราณมหาเจดีย์ในประเทศท่ีต้ังพระนครศรีวิไชยราชธานี
แห่งหนึ่ง
216 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๕. ที่วัดพระมหาธาตุ เมืองนครศรีธรรมราช อันเปนมหาเจดีย์สถานอยู่ในโบราณราชธานีศรีธรรมราช
แห่งหนึ่ง
๖. ท่ีวัดพระมหาธาตุหริภุญไชย เมืองนครล�ำพูนในมณฑลพายัพอันเปนมหาเจดีย์สถานในแว่นแคว้น
โบราณราชธานีท้ังหลายฝ่ายเหนือคือ นครหริภุญไชย นครเขลางค์ นครเชียงแสน นครเชียงราย นครพเยา
นครเชียงใหม่แห่งหนึ่ง
๗. ท่ีพระธาตุพนม เมืองนครพนมในมณฑลอุดร อันเปนมหาเจดียสถานอยู่ในประเทศที่ต้ังโบราณ
ราชธานีโคตรบูรพ์หลวงแห่งหน่ึง
น้�ำอภิเษกน้ัน ข้าหลวงเทศาภิบาลได้จัดให้ราชบุรุษไปพลีกรรมตักน้�ำที่เปนสิริมงคลในมณฑลน้ัน ๆ คือ
น้�ำสถานที่ศักดิ์สิทธ์ิ แลน�้ำในประเทศท่ีเคยได้ใช้เปนน้�ำอภิเษกของอดีตมหาราชแต่ก่อนมาทุก ๆ แห่งมารวม
ลงในหม้อ ตั้งในมณฑลพิธีสถานพร้อมด้วยเครื่องสักการบูชา
เวลาเช้าพระสงฆ์ท่ีจะท�ำการพิธีแห่งละ ๓๐ รูป มีสังฆนายกในมณฑลน้ันเปนประธาน กับข้าราชการ
ทงั้ ฝา่ ยทหารพลเรอื น มขี า้ หลวงเทศาภบิ าลสำ� เรจ็ ราชการมณฑลเปนหวั หนา้ ประชมุ พรอ้ มกนั ณ พธิ สี ถาน เวลา
เช้าโมงครึ่งสังฆนายกได้ประกาศเทวดา เวลาเช้า ๒ โมง สังฆนายกจุดเทียนไชย เริ่มการพิธีแล้ว ข้าราชการจัด
อาหารบิณฑบาตเลี้ยงพระสงฆ์ที่ท�ำพิธี เมื่อพระสงฆ์ฉันแล้ว พระสงฆ์ผลัดเปล่ียนกันสวดภาณวารตลอดการพิธี
เวลาบ่าย ๔ โมง พระสงฆ์แลข้าราชการประชุมพร้อมกัน พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์แล้วสวดภาณวารต่อไป
วันที่ ๙ ที่ ๑๐ พฤศจิกายน เวลาเช้าแลเพน ข้าราชการจัดอาหารบิณฑบาตเลี้ยงพระสงฆ์ เวลาบ่าย
๔ โมง ประชุมข้าราชการแลพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์แล้ว สวดภาณวารต่อทั้งกลางวันกลางคืน ถึงวันท่ี
๑๑ พฤศจิกายน ซ่ึงนับตามสุริยคติกาลพอบรรจบรอบปี ตรงกับวันพระบรมราชาภิเษกเถลิงถวัลยราชสมบัติ
เฉลิมพระปรมาภิไธยน้ัน เปนวันท่ีพระสงฆ์ท�ำพิธีเสกน�้ำอภิเษกครบ ๓ วัน ๓ คืน เวลาเช้าข้าราชการประชุม
พร้อมกัน แลจัดอาหารเลี้ยงพระสงฆ์เหมือนวันก่อน ๆ เม่ือพระสงฆ์ฉันแล้ว สังฆานุนายกดับเทียนไชย
แลสังฆนายกท�ำน้�ำพระพุทธมนต์เจือในน�้ำอภิเษก พระสงฆ์สวดอนุโมทนาประสิทธิ์พระพรแล้วสังฆนายก
ได้มอบหม้อน�้ำอภิเษกแก่ข้าหลวงเทศาภิบาล ๆ แลข้าราชการได้ต้ังบายศรีเวียนเทียนสมโภชน�้ำอภิเษก การพิธี
นี้ท�ำเหมือนกันทั้ง ๗ แห่ง เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ข้าหลวงเทศาภิบาลได้แต่งให้ข้าราชการเชิญน้�ำอภิเษกเข้ามายัง
กรุงเทพฯ รักษาไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จะได้รวมตั้งในมณฑลพระราชพิธี วันตั้งการ
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช
วันพุธที่ ๑๕ พฤศจิกายน เวลาเช้า มณฑลอื่นนอกจากมณฑลท่ีมีมหาเจดียสถานท้ัง ๗ แห่งที่กล่าวมา
แล้ว เร่ิมต้นท�ำพิธีเสกน�้ำอภิเษกก�ำหนดจุดเทียนไชย ตั้งต้นพระสงฆ์สวดภาณวารตลอด ๓ วัน ๓ คืน จนถึง
วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน เวลาเช้าดับเทียนไชยเปนเสร็จการพิธี คือ
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 217
๑. มณฑลนครสวรรค์ ท�ำท่ีวัดบรมธาตุ เมืองไชยนาท1
๒. มณฑลเพ็ชรบูรณ์ ท�ำที่วัดพระมหาธาตุ เมืองเพ็ชรบูรณ์2
๓. มณฑลนครราชสีมา ท�ำท่ีวัดกลาง เมืองนครราชสีมา3
๔. มณฑลอิสาณ ท�ำท่ีวัดสีทอง เมืองอุบลราชบุรี4
๕. มณฑลปราจิณบุรี ท�ำท่ีวัดยโสธร เมืองฉเชิงเทรา5
๖. มณฑลจันทบุรี ท�ำท่ีวัดพลับ เมืองจันทบุรี6
๗. มณฑลปัตตานี ท�ำท่ีวัดตนีนรสโมสร เมืองตานี7
๘. มณฑลภูเก็ต ท�ำที่วัดพระทอง เมืองถลาง8
๙. มณฑลชุมพร ท�ำที่วัดพระมหาธาตุ เมืองไชยา9
๑๐. มณฑลราชบุรี ท�ำท่ีวัดพระมหาธาตุ เมืองเพ็ชรบุรี10
ระเบียบการพิธีท�ำเหมือนกับที่พระมหาเจดียสถานทั้ง ๗ แห่งนั้นทุกประการ
1 ปจั จบุ นั คอื วัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวงชนั้ โท ชนดิ วรวหิ าร สงั กัดคณะสงฆ์มหานกิ าย ตง้ั อยู่ ณ ตำ� บลชัยนาท อำ� เภอ
เมืองชัยนาท จงั หวดั ชยั นาท
2 ปัจจุบันคือ วัดมหาธาตุ พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ต้ังอยู่ ณ ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอ
เมอื งเพชรบรู ณ์ จงั หวัดเพชรบูรณ์
3 ปัจจุบันคือ วัดพระนารายณ์มหาราช พระอารามหลวงช้ันตรี ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ต้ังอยู่ ณ ต�ำบล
ในเมือง อำ� เภอเมืองนครราชสีมา จงั หวัดนครราชสมี า
4 ปจั จบุ นั คอื วดั ศรอี บุ ลรตั นาราม พระอารามหลวงชนั้ ตรี ชนดิ สามญั สงั กดั คณะสงฆธ์ รรมยตุ กิ นกิ าย ตง้ั อยู่ ณ ต�ำบลในเมอื ง
อำ� เภอเมอื งอุบลราชธานี จังหวัดอบุ ลราชธานี
5 ปัจจุบันคือ วัดโสธรวราราม พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ ณ ต�ำบลหน้าเมือง
อำ� เภอเมืองฉะเชงิ เทรา จังหวดั ฉะเชงิ เทรา
6 ปัจจบุ ันคือ วัดพลับ วดั ราษฎร สงั กัดคณะสงฆ์มหานกิ าย ตั้งอยู่ ณ ตำ� บลบางกะจะ อำ� เภอเมอื งจนั ทบุรี จังหวดั จนั ทบรุ ี
7 ปัจจุบันคือ วัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ ณ ต�ำบลตะเนาะรู
อำ� เภอเมืองปัตตานี จังหวดั ปัตตานี
8 ปจั จุบันคือ วดั พระทอง วัดราษฎร สงั กัดคณะสงฆม์ หานกิ าย ตั้งอยู่ ณ ต�ำบลเทพกระษตั รี อำ� เภอถลาง จงั หวดั ภูเก็ต
9 ปัจจบุ นั คือ วัดพระบรมธาตุไชยา พระอารามหลวงช้นั เอก ชนดิ ราชวรวหิ าร สังกดั คณะสงฆม์ หานิกาย ต้งั อยู่ ณ ตำ� บลเวียง
อำ� เภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
10 ปัจจุบันคือ วัดมหาธาตุ พระอารามหลวงช้ันตรี ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ ณ ต�ำบลคลองกระแชง
อำ� เภอเมอื งเพชรบรุ ี จังหวดั เพชรบรุ ี
218 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
การแต่งต้ังเตรียมพระราชพิธีในกรุงเทพฯ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงารจัดแต่งตั้งการพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวัง ที่สนาม
สวนขวาข้างพระท่ีน่ังพิมานรัถยาหน้าเขาไกรลาส ต้ังพระมณฑปสรงพระกระยาสนานยกพื้นชั้นหนึ่งเปนฐาน
รองพระมณฑปนั้นหุ้มด้วยผ้าขาวมีนาคปักช่อต้ังช่อห้อยแลเฟื่องอุบะเครื่องทองเพดานผ้าขาวลายทองห้อย
อุบะดอกจ�ำปาทองค�ำ ผูกพระสูตรขาวลายทรงเข้าบิณฑ์ก้านแย่ง ทองแผ่ลวดท้ัง ๔ ด้าน น้�ำสรงสหัสธารา
มุรธาภิเษกสนาน ใช้น�้ำอภิเษก ซึ่งได้ต้ังพระราชพิธีเสกมาแต่พระมหาเจดียสถานกับทั้งท่ัวทุกมณฑลใน
พระราชอาณาจกั รแ์ ลเจอื ดว้ ยน้�ำเบญจมหานทใี นพระมณฑปทอดถาดทองรองน�้ำสรง แลตง้ั ตง่ั อทุ มุ พรทปี่ ระทบั
บนถาดทอง วันสรงมุรธาภิเษก ตั้งที่สรงพระพักตรมีพระครอบมุรธาภิเษกเครื่องกระยาสนาน แลวางใบไม้
นามวันกาลกิณีทรงเหยียบด้วย แลท่ีบนฐานรองพระมณฑป มีเคร่ืองสูง ๗ ชั้น ทองแผ่ลวดพ้ืนโหมดทอง เงิน
นาก ท้ัง ๔ มุม ๆ ละ 3 ประดับด้วยราชวัตรไม้จริงทรงเครื่องพื้นขาวลายทอง ประกอบด้วยต้นกล้วยต้นอ้อย
จ่ันหมาก จั่นมะพร้าว มีทางขึ้น ๔ ด้าน มีบุษบกน้อยจ�ำหลักลายทองส�ำหรับต้ังพระไชยเนาวโลหที่เชิญน�ำเสด็จ
สู่พระมณฑปท่ีสรงทิศตวันออก ส�ำหรับตั้งพระมหาพิฆเนศวร ทิศตวันตก มีศาลจัตุโลกบาลส�ำหรับบูชา
พระฤกษด์ ว้ ย เปนบษุ บกยอดพน้ื ขาว เครอื่ งทองอยบู่ นฐานพระมณฑปมมุ ละศาลทง้ั ๔ มมุ แลทหี่ นา้ พระมณฑป
ทิศทักษิณตั้งโต๊ะเครื่องสังเวยเทวดากลางหาวด้วย
ท่ีชาลารักแร้พระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาททิศตวันออกเฉียงใต้ระหว่างพระท่ีนั่งราชกรัณยสภายกพ้ืน
ข้ึนเสมอมุขกระสัน ปูพ้ืนถึงชาลาพระท่ีน่ังอาภรณ์พิโมกข์ มีอัฒจันท์ลงท่ีชาลาประดิษฐานพระที่นั่งอัฐทิศ
อุทุมพรราชอาสน์ รูป ๘ เหลี่ยม มีเสา ๘ เสา ดาดเพดานผ้าขาว ๘ เหล่ียม ระบาย ๓ ชั้น ครีบทอง
ห้อยพวงอุบะดอกจ�ำปาทองยอดเปนนพปฎลเศวตฉัตร มีพระสูตรขาวครีบครุยทองผูกทุกเสา ทอดราชอาสน์
ผา้ ขาว (โรยแป้งยันต์วางหญ้าคาดอกไม้แลเข้าสารศรีทั้ง ๕ แล้ว ดาดผ้าขาวปกบนเปนราชอาสน์) แลพระที่น่ัง
อัฐทิศนั้นมีฐานเขียงรองรูป ๘ เหล่ียม ต้ังต่ังอัฐทิศท�ำด้วยไม้ไผ่สีสุกหุ้มผ้าขาวปูผ้าขาวล้อมทั้ง ๘ ทิศ ต้ังเทวรูป
อธิไทยโพธิบาตแลเทวรูปนพเคราะห์ประจ�ำทิศ มีหม้อน�้ำศิลาซ่ึงมาแต่พระอารามหลวงต่าง ๆ พร้อมด้วย
น�้ำพระพุทธมนต์เจือน�้ำอภิเษกแลน้�ำเบญจมหานทีตั้งบนต่ังพร้อมด้วยพระถ้วยศิลาจารึกอักษรปิดคลุมตาด
มีกรดเงินบันจุน�้ำอภิเษกมาแต่โรงราชพิธีพราหมณ์พร้อมด้วยสังข์ทักษิณาวัฏ มีเครื่องบูชาประจ�ำทิศทุกตั่ง
กับท้ังกระบะเคร่ืองบูชาเทวดาอธิไทยโพธิบาตส�ำรับละทิศ แลวันเจริญพระพุทธมนต์ตั้งบัตประจ�ำทิศ
โหรบูชานวเคราะห์ด้วย แลฐานรองฐานเขียงพระที่น่ังอัฐทิศน้ันเปนรูป ๔ เหล่ียม แวดล้อมด้วยเครื่องสูงขาว
๕ ช้ันลายทองก�ำมลอทุกมุม ๑๒ องค์ประกอบด้วยราชวัตรไม้จริงทรงเคร่ืองพื้นขาวลายทอง ท่ีตรงพระท่ีน่ัง
อัฐทิศด้านใต้ ต้ังพลับพลาทองตรีมุขเปนท่ีส�ำหรับเจ้านานาประเทศแลพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้า เม่ือเวลาทรง
รับน�้ำอภิเษก ณ พระท่ีน่ังอัฐทิศ
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 219
ในท่ามกลางพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท ประดิษฐานพระท่ีน่ังภัทรบิฐมนังคศิลารามราชอาสน์1เปนรัตน
สิงหาสน์ ภายใต้พระมหาเศวตฉัตร2 ตรงสูญยอดพระมหาปราสาทมีพระแท่นลารองเปน ๒ ช้ัน แลพระที่น่ัง
ภัทรบิฐมนังคศิลารามราชอาสน์นั้น (ดาดผ้าขาวโรยแป้งวางหญ้าคาดอกไม้แลเข้าสารศรีทั้ง ๕ แล้ว) ลาดหนัง
ไกรสรราชสีห์ท้ังผืนผันหน้าไปทางตวันออก ห้อยมือแลเท้าซ้ายลงข้างเก็จรองพระบาททอดพระกระดาน
พิงพระนารายณ์ทรงครุฑบนหนังไกรสรราชสีห์ ปูผ้าขาวแล้วดาดแผ่นทองค�ำซ่ึงเขียนรูปราชสีห์ด้วยชาดหรคุณ
ลาดพระย่ีภู่ขาวแลคลุมบนด้วยผ้าขาวครุยทอง ทอดพระเขนยขาวปกด้วยผ้าขาวชายครุยทองเปนรัตนสิงหาสน์
มีเคร่ืองสูงเศวตขลิบทอง ๗ ช้ัน ตั้งข้างพระท่ีน่ังคู่ ๑ ต้นไม้ทองเงินขนาดใหญ่คู่ ๑ แลต้ังเคร่ืองสูงหักทอง
ขวาง ๗ ช้ัน ๕ ช้ันพร้อมทั้งบังแทรกตามแนวผนังรอบทุกมุข แลมีชุมสายต้ังใกล้ช่องพระทวารมุขใต้ด้านหลัง
นั้นด้วย แลต้ังพระเก้าอี้เปนท่ีประทับเจ้านานาประเทศแลพระบรมวงศานุวงศ์ที่มุขตวันออก ผันพระพักตร
สู่รัตนสิงหาสน์ เว้นช่องเปนทางข้างผนังกว้าง ๒ ศอกท้ัง ๓ ด้านเดิรได้รอบ
มุขเหนือเปนท่ีข้าราชการฝ่ายเสนาต�ำแหน่งชั้นนายพลกับนายพันเอกท้ังทูตานุทูตเฝ้า เว้นช่องทางกลาง
ตามแนวอัฒจันท์มุขเด็จเปนทางเสด็จออกมุขเด็จ
มุขตวันตกเปนที่เอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษผู้แทนพระเจ้าแผ่นดินกับประธานาธิบดี
นานาประเทศ แลอรรคราชทูตผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศ กับข้าราชการฝ่ายอ�ำมาตย์ต�ำแหน่งชั้นมหากับ
อ�ำมาตย์เอกเฝ้า
มุขใต้เปนท่ีข้าราชการฝ่ายเสวกเฝ้า เว้นช่องกลางเปนทางขบวรเสด็จออก
แลแต่งมุขเด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เปนที่เสด็จออกข้าราชการผู้น้อยเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท
คือแต่งพระสูตรที่ช่องมุขเด็จท้ัง ๓ ด้านส�ำหรับไขขณะเสด็จออก แลมีพระสูตรขนาดย่อมติดที่พระทวารส�ำหรับ
ไขเม่ือเสด็จขึ้นประทับในบุษบกนั้นอีกด้าน ๑ ด้วย ที่มุมบุษบกด้านหน้าตั้งต้นไม้ทองเงินคู่ ๑ ด้านหลังตั้ง
เครื่องสูงหักทองขวาง ๗ ชั้นคู่ ๑ มีมหาดเล็กเชิญพระแสง ๒ คู่ ยืนระหว่างต้นไม้ทองเงินกับเคร่ืองสูงข้างละ
๒ นาย มีมหาดเล็กถวายอยู่งารพัดอยู่ด้านหลัง ๒ นาย
ท่ีชาลายกพื้นหน้ามุขเด็จพระที่น่ังดุสิตมหาปราสาท เจ้าพนักงารแตรฝรั่งยืนประจ�ำเรียงแถวตามแนว
มุขเด็จห่าง ๒ ศอกผันหน้าสู่ทิศเหนือมโหรทึกยืนประจ�ำสกัดแถวแตรฝร่ังท้ัง ๒ ข้าง ตรงอัฒจันท์ขึ้น
พระมหาปราสาทผันหน้าสู่มุขเด็จ กลองชนะยืนแถวเปนตับที่ชาลาพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาทท้ัง ๒ ข้าง มุขเด็จ
เปน ๒ หมู่ขวาแลซ้ายตามแนวชลายกพ้ืนหน้ามุขเด็จ ผันหน้าสู่มุขเด็จทั้ง ๒ หมู่ ๆ หนึ่งยืนแถวเปนตับละ
๔ คน ๑๐ แถว เปนกลองชนะ ๔๐ ๒ หมู่รวมเปนกลองชนะ ๘๐ มีจ่ากลองยืนประจ�ำหน้ากลองชนะ
หมู่ตวันออก มีจ่าปี่ยืนประจ�ำหน้ากลองชนะหมู่ตวันตก
1 เป็นครั้งแรกท่ีมีการใช้พระที่นั่งภัทรบิฐมนังคศิลารามราชอาสน์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์
แหง่ พระบรมราชจักรีวงศ์
2 คราวพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียรใช้สตปฎลเศวตฉัตร หรือฉัตร ๗ ชั้น มิใช่พระมหาเศวตฉัตร
(พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร) หรือฉัตร ๙ ชั้น สันนิษฐานว่าเนื่องจากทรงรับพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรแล้วเม่ือคราวพระราชพิธี
บรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑยี ร
220 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ที่ระหว่างทิมคดยกพ้ืนข้ึน ๘ น้ิว ท�ำหลังคาเต็มที่ แลชาลาข้างทิมคดทั้ง ๒ ข้างยกพ้ืนอย่างเดียวกัน
มีปร�ำ เปนท่ีข้าราชการต�ำแหน่งช้ันนายพันโท แลอ�ำมาตย์โทลงไปยืนเฝ้า ฝ่ายทหารข้างตวันตกฝ่ายพลเรือน
ข้างตวันออก แต่ฝ่ายเสวกโทลงไปยืนเฝ้าที่ปร�ำ ๒ ข้างมุขเหนือพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท
ที่ชาลาพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาทตามแนวก�ำแพงแก้ว วางแถวกองทหารเฉลิมพระเกียรติยศทั้ง ๒
ด้าน คือด้านตวันออกกองทหารบกรักษาพระองค์ ด้านตวันตกกองทหารเรือรักษาพระองค์ มีธงประจ�ำกอง
แลแตรวงพร้อม
แลแต่งพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท กั้นพระสูตรเปนท่ีประทับทรงเคร่ืองที่มุขใต้ ในวันพระบรม
ราชาภิเษกได้เชิญพระราเชนทรยานมาประทับเกย แลแต่งพระยาช้างต้นพระเศวตสกลวโรภาสเปนช้าง
พระที่นั่งประทับเกย ณ พระท่ีน่ังดุสิดาภิรมย์ กับแต่งพระยาม้าต้น ๔ ม้ายืนสนามหน้าพระที่นั่งอาภรณ์
พิโมกขปราสาทน้ันด้วย
ปืนมหาฤกษ์, ปืนมหาไชย, ปืนมหาจักร แลปืนมหาปราบยุคซ่ึงจะได้ยิงเปนสัญญาพระฤกษ์ทรง
พระมหาพิไชยมงกุฎน้ันวางที่สนามหน้าพระที่น่ังจักรีมหาปราสาท กองทหารปืนใหญ่ที่จะยิงปืนใหญ่เฉลิม
พระเกียรติยศน้ันกองทหารบกวางที่ท้องสนามหลวง กองทหารเรือประจ�ำอยู่ในเรือรบ
ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ยกธรรมาสน์ศิลาออก) ตั้งพระแท่นมณฑล (ตรงท่ีน้ัน)
มีเตียงลารอง บนพระแท่นมณฑลต้ังโต๊ะหมู่ จ�ำหลักลายทองเชิญพระพุทธบุศยรัตยประดิษฐานเปนประธาน
ในพระแท่นมณฑล ท้ังพระพุทธบุศยรัตนน้อย และพระแก้วเชียงแสนด้วย ต่อออกมาต้ังพระเจดีย์ลังกา
ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแลพระไชยเนาวโลหรัชกาลที่ ๔ แลรัชกาลปัตยุบันทั้ง ๒ องค์ เบื้องขวาซ้าย
เชิญพระไชยวัฒนประจ�ำรัชกาลท้ัง ๖ รัชกาล ประดิษฐานข้างละ ๓ องค์ แลต้ังพระไตรปิฎกย่อบนโต๊ะหมู่ทอง
เบ้ืองหลังพระพุทธบุศยรัตน แลเชิญพระสุพรรณบัฏกับดวงพระชนมพรรษาประดิษฐานหน้าโต๊ะพระไชยวัฒน
ถัดออกมาริมพนักพระแท่นมณฑลเบ้ืองซ้ายทิศเหนือต้ังพานทอง ๒ ช้ันรองพระมหาพิไชยมงกุฏ (ต้ังเปิดคลุม)
ในวันเจริญพระพุทธมนต์, คร้ันรุ่งเช้าเชิญไปถวายในเวลาพระบรมราชาภิเษก ต้ังพระชฎาพระกลีบแทน
กับพระมหามาลา (เบ่ียง) พิไชยสงคราม (ตั้งเปิดคลุม) เบ้ืองขวาทิศใต้ตั้งพานทอง ๒ ชั้นรองพระมหากระฐิน
องค์น้อยที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างข้ึนใหม่ กับพระมหามาลาเสร้าสูง (ต้ังเปิดคลุม) ต้ังหีบพระเคร่ืองพิไชยสงคราม
หีบพระธ�ำมรงค์ หีบพระราชลัญจกร พระเครื่องบรมราชาภรณ์ พระเครื่องราชูปโภค พระแสงศรก�ำลังราม
พระแสงราชาวุธ กับพระแสงอัษฎาวุธ ทอดท่ีบันไดแก้วด้านหลังแลประกอบทเสา พระแท่นมณฑลประดับ
พระเศวตฉัตร กับพระกันภิรมย์ทั้งถุงแลผูกทั้งธงไชยกระบ่ีธุชพระครุฑพาหแลธงมหาราช, ธงไอยราพต ธงบรม
ราชธวัช แลธงประจ�ำกองเสือป่าด้วยพร้อม ด้านหน้าในพระแท่นมณฑล ต้ังพระขันหยกเทียนทอง พระครอบ
พระกร่ิง พระมหาสังข์ต่าง ๆ แลพระเต้าต่าง ๆ บรรจุน้�ำอภิเษกซึ่งได้ตั้งพระราชพิธีเสกแล้ว ณ มหาเจดียสถาน
ทั้ง ๗ กับท้ังท่ัวทุกมณฑลในพระราชอาณาจักร ส่งมารวมตั้งพระราชพิธีประสิทธิ์น้�ำอภิเษกในพระอุโบสถ
วัดพระศรีรัตนศาสดารามน้ัน ได้รวมกันต้ังท่ีพระแท่นมณฑล แลตั้งเหมปักแว่นเทียนกับตั้งเทียนทองขนาดใหญ่
คู่ ๑ ต่อออกมาเทียนทองขนาดย่อมคู่ ๑ พร้อมทั้งพานทองพุ่มดอกไม้ประดับเบ้ืองขวาซ้ายในพระแท่นมณฑล
ด้วยพร้อม ที่ช้ันลดหน้าพระแท่นมณฑลต้ังเทียนพระมหามงคลคู่ ๑ กับทั้งตั้งตู้เทียนเท่าพระองค์คู่ ๑ ท่ีข้าง
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 221
พระแท่นมณฑลน้ันด้วย ที่เคร่ืองบูชาชั้นหมู่แว่นฟ้าหน้าพระปฏิมากรพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกต้ัง
พระหา้ มสมทุ แกะดว้ ยไมพ้ ระศรมี หาโพธิ์ ทเี่ ครอื่ งบชู าชนั้ หมู่ แวน่ ฟา้ หนา้ พระปฏมิ ากรพระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั
ต้ังพระนิรันตราย หน้าพระแท่นมณฑลตั้งเครื่องนมัสการทองค�ำลงยาราชาวดีแลทอดพระแท่นทรงกราบ
ต่อออกมาตรงแนวพระแกลที่ ๓ แต่หน้าพระอุโบสถตั้งกระโจมเทียนไชยกลาง ถัดกระโจมเทียนไชยต้ัง
ธรรมาสน์พระราชาคณะนั่งปรกหันหน้าเข้าหาเทียนไชย ต่อหลังธรรมาสน์ตั้งเตียงพระราชาคณะสวดภาณวาร
หลังเตียงสวดภาณวารต้ังม้ามีพนักส�ำหรับราชบัณฑิตน่ังปรกชักประค�ำ มีสพานด้ายสายสิญจน์วงโยงมาแต่
พนักฐานชุกชีที่ประดิษฐานพระมหามณีรัตนปฏิมากรสู่พระแท่นมณฑลโยงเปนสายสพานมายังกระโจม
เทียนไชยกับเตียงพระสวดภาณวาร แลต่อยังอาสน์สงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ แลล่ามสายสิญจน์ตลอดไปยัง
พระราชมณเฑียรทั้ง ๓ สถาน กับโยงสายสิญจน์ยังมณฑปสรงพระกระยาสนานท้ังพระท่ีน่ังอัฐทิศนั้นด้วย
พระฉากในพระอุโบสถซ่ึงกั้นข้างหลังพระปฏิมากรพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก แลพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
น้ันร้ือออกต้ังอาสน์สงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เริ่มตั้งแต่แนวฐานพระปฏิมากรด้านหน้าเหล่ียมในห่างออกมา
๔ ศอก ต้ังอาสน์สงฆ์ขวางยืนเข้าไปจนผนังแล้วเล้ียวเลียบเข้าไปตามแนวชิดผนังทั้งข้างเหนือแลข้างใต้
ทั้ง ๒ ข้าง จนสุดเสมอแนวฐานชุกชีด้านหลัง ทอดพระราชบัลลังก์มีพระแท่นลดแลฐานก�ำมะหยี่รองช้ัน ๑ ท่ีริม
ผนังต้นอาสน์สงฆ์ทิศใต้ ต่อออกมาต้ังพระเก้าอี้เจ้านานาประเทศกับพระบรมวงศานุวงศ์ (เช่นการพระราชพิธี
ถือน้�ำพระพิพัฒนสัตยา) เปน ๒ หย่อมทั้งข้างเหนือแลข้างใต้ ตั้งเก้าอ้ีขุนนางฉเพาะวันสวดมนต์ตามแนวหลัง
เตยี งสวดภาณวารเปน ๓ หยอ่ ม คอื หยอ่ มกลางตอนหลงั เตยี งสวดเปนเกา้ อเ้ี อกอรรคราชทตู อรรคราชทตู พเิ ศษ
ผู้แทนพระเจ้าแผ่นดินแลประธานาธิบดีนานาประเทศ ทั้งอรรคราชทูตประจ�ำพระนคร แลทูตานุทูตนั่ง
หย่อมขา้ งขวาขา้ ราชการฝ่ายทหารตำ� แหนง่ ยศชน้ั นายพลน่ัง หย่อมข้างซ้ายขา้ ราชการฝา่ ยพลเรือนต�ำแหนง่ ยศ
ชั้นมหาอ�ำมาตย์กับช้ันมหาเสวกนั่ง
ด้านหน้าพระอุโบสถฉเพาะแต่วันเจริญพระพุทธมนต์ ต้ังเก้าอ้ีข้าราชการน่ังตามแนวเสาตลอดเข้าไป
จนก�ำแพงแก้ว ฝ่ายทหารชั้นต�ำแหน่งนายพันเฝ้าเบ้ืองขวา ฝ่ายพลเรือนชั้นต�ำแหน่งอ�ำมาตย์1กับช้ันเสวก2
เฝ้าเบื้องซ้าย
ข้าราชการฝ่ายทหารช้ันต�ำแหน่งนายร้อย ฝ่ายพลเรือนช้ันต�ำแหน่งรองอ�ำมาตย์แลรองเสวกเฝ้าท่ีชาลา
พระอารามระหว่างศาลารายตามแนวปร�ำทางเสด็จตลอดทาง ฉเพาะวันสวดมนต์เวลาเดียวมีเก้าอี้น่ัง
1 เป็นชั้นยศขุนนางของข้าราชการพลเรือนชั้นผู้ใหญ่ แบ่งเป็น ๓ ช้ัน ได้แก่ รองอ�ำมาตย์ อ�ำมาตย์ และมหาอ�ำมาตย์
แต่ละช้ันแบ่งเป็น ๓ ระดับ คือ ตรี โท และเอก ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ เพิ่มชั้นยศ
ช้ันพิเศษสูงกว่าระดับมหาอ�ำมาตย์เอกเพ่ิมขึ้นอีก ๑ ชั้น คือ มหาอ�ำมาตย์นายก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๑ มีผู้ได้รับพระราชทานชั้นยศ
ขุนนางช้ันพิเศษน้ีเพียง ๒ คน คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ และเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)
ขนุ นางชน้ั ยศอำ� มาตยน์ ยี้ กเลกิ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๘๕ ตามพระราชโองการ เรอ่ื งการยกเลกิ บรรดาศกั ด์ิ เมอื่ วนั ท่ี ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕
2 อ่านว่า เส-วก หมายถึง ช้ันยศขุนนางของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สังกัดกระทรวงวัง และหน่วยงานที่ข้ึนตรงต่อ
กระทรวงวัง แบ่งเป็น ๓ ช้ัน ได้แก่ รองเสวก เสวก และมหาเสวก แต่ละช้ันแบ่งเป็น ๓ ระดับ คือ ตรี โท และเอก นอกจากน้ียัง
มีช้ันยศระดับที่ต�่ำกว่าระดับรองเสวกตรีอีกหน่ึงระดับ คือ ว่าท่ีรองเสวกตรี ชั้นยศขุนนางช้ันยศเสวกน้ียกเลิกเม่ือ พ.ศ. ๒๔๘๕
ตามพระราชโองการ เรือ่ งการยกเลกิ บรรดาศักด์ิ เมอ่ื วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕
222 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เฉลยี งพระอุโบสถด้านเหนือวันสวดพระพุทธมนต์ตงั้ เก้าอ้สี �ำหรับเจ้ากรมปลัดกรมพระตำ� รวจน�ำเสดจ็ น่ัง
เฉลียงพระอุโบสถด้านใต้วันสวดพระพุทธมนต์ ตั้งเก้าอ้ีส�ำหรับหัวหม่ืน นายเวร จ่า หุ้มแพรแลมหาดเล็ก
ที่ตามเสด็จนั่ง
ทางเสด็จพระราชด�ำเนิรแต่ประตูหลังวัดพระศรีรัตนศาสดารามมายังพระอุโบสถมีปร�ำดาดด้วยผ้าขาว
ระบายขลิบทอง แลห้อยพวงอุบะจ�ำปาทอง เพดานประดับดวงดาวทองลายฉลุสอดสีมีม่านผ้าโปร่งขาวลาย
ดอกไม้ร่วงทองผูกประจ�ำเสา ข้างในปร�ำปูเสื่อแลดาดพรมทางลาดพระบาท
พระราชพิธีพราหมณ์ กระท�ำที่หอพระราชพิธีหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ในพระบรมมหาราชวังต้ังซุ้มประดับด้วยธงจุดประทีปโคมไฟฟ้าโคมกระดาดทั่วไป ตามใบเสมาแลป้อม
ประดับด้วยธงแลอักษรพระบรมนามาภิธัยย่อ ว.ป.ร. ทุกใบเสมา แลปักฉัตรผ้าแดง ๕ ช้ันระบายขลิบลวดทอง
เปนระยะห่างกันสัก ๔ วา รอบก�ำแพงพระบรมมหาราชวัง
ส่วนพระราชวิถีท่ีจะเสด็จพระราชด�ำเนิรเลียบพระนคร แต่ก่อนเคยปักราชวัตรฉัตรเบญจรงค์รายทาง
แต่คร้ังนี้เสนาบดีเจ้ากระทรวงทุกต�ำแหน่งสนองพระเดชพระคุณแต่งเคร่ืองประดับด้วยฉัตร์ธงแลเฟื่องผ้า
บุบผามาลาโดยประณีตต่าง ๆ กันเปนระยะไปตลอดต้ังแต่ถนนหน้าพระธาตุไปเล้ียวถนนราชินี ข้ามสะพาน
เสยี้ วไปตามถนนจกั รพงศ เลยี้ วถนนพระสเุ มรุ ถนนราชดำ� เนริ กลาง ขา้ มสพานผา่ นพภิ พลลี าไปถนนราชดำ� เนริ ใน
ถนนสนามไชย เล้ียวถนนเชตุพนแลถนนมหาราช ถนนหน้าพระลาน แลตามข้างถนนทางท่ีเสด็จพระราชด�ำเนิร
เลียบพระนคร มีปร�ำยกพื้นเปนชั้น บุตร์แลภรรยาแลญาติวงศ์ข้าราชการแลหญิงผู้ดีมาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท
ชมพระบรมโพธิสมภาร เปนระยะ ๆ ไปตลอดพระราชวิถี
ตามสถานท่ีว่าการต่าง ๆ ของรัฐบาล แลวังพระบรมวงศานุวงศ์แลบ้านข้าราชการประชาชนราษฎร
ก็ได้ประดับประดาด้วยธงจุดประทีปโคมไฟทุกถนนหนทาง ทั้งทางบกแลทางน�้ำตลอดไปทั่วหน้ากัน
การรับแขกเมืองต่างประเทศ
วันท่ี ๒๘ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๓๐ เจ้านานาประเทศกับเอกอรรคราชทูตพิเศษ ซึ่งสมเด็จ
พระเจ้าแผ่นดินกับประธานาธิบดีประเทศต่างๆ โปรดให้มาแทนพระองค์ชุมนุมในการพระราชพิธี
บรมราชาภิเษกสมโภชนั้น มาถึงกรุงเทพฯ คือ
ฮิส. รอแยล. ไฮเนสส์ ปรินซ์วัลดิมากับโอรส ๓ พระองค์ ปรินซ์ โอเก ปรินซ์อักเซล แลปรินซ์เอริก
เจ้าประเทศเดนมารค1 มาด้วยเรือประชาธิปก แลฮิสอิมปิเรียล ไฮเนสส์ ปรินซ์ ฮิโรยะสุ ฟุชิมิ เจ้าประเทศ
ย่ีปุ่น2 มาด้วยเรือรบก�ำหนดถึงวันนี้
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการผู้มีหน้าท่ีอยู่ประจ�ำด้วยเจ้า น�ำเรือกลไฟถลางไปรับเจ้า
ประเทศเดนมารคจากเรือประชาธิปกท่ีเมืองสมุทปราการมายังกรุงเทพฯ แลน�ำเรือกลไฟศรีธรรมราชไปรับ
เจ้าประเทศยี่ปุ่นจากเรือรบท่ีปากน�้ำเมืองสมุทปราการมากรุงเทพฯ เมื่อเจ้าท้ัง ๒ ประเทศลงเรือกลไฟที่
ไปรับมาถึงเมืองสมุทปราการที่ป้อมผีเสื้อสมุทได้ยิงปืนใหญ่ถวายเปนเกียรติยศ ๒๑ นัด เมื่อเรือกลไฟถลางรับ
1 ราชอาณาจักรเดนมาร์ก
2 ประเทศญป่ี ุ่น
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 223
รูปรับเจ้าต่างประเทศท่ีท่าราชวรดิษฐ
224 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ฮิส รอยัล ไฮเนส ปรินซ วัลเดมา
ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้ากรุงเดนมารค กับเจ้าโอรส ๓ พระองค์
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 225
เจ้าเดนมารคมาถึงทอดสมอที่หน้าสุนันทาลัย จมื่นจงรักษาองค์ซ้ายไปในเรือพระที่นั่งกราบรับเจ้าเดนมารค
เชิญเสด็จเจ้าลงเรือพระที่นั่งกราบมีเรือกลไฟกองตระเวนน�ำ ๒ ล�ำมาเทียบท่ีท่าราชวรดิษฐ์ เม่ือเวลาเท่ียง
แล้ว ๓๐ นาที, พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ1 เสด็จแทนพระองค์คอยรับเจ้าท่ีท่าราชวรดิษฐ์ พร้อมด้วยพระบรม
วงศานุวงศ์ที่ทรงรู้จักคุ้นเคยกับเจ้า คือสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต2 ๑
1 พระนามเดิม สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษภูวนาถ นริศรราชมหามกุฎวงศ์ จุฬาลงกรณนรินทร์ สยามพิชิตินทรวรางกูร
สมบูรณพสิ ุทธิชาติ วมิ โลภาสอภุ ัยปกั ษ์ อรรควรรตั น์ ขตั ตยิ ราชกมุ าร เปน็ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั
และสมเดจ็ พระศรพี ชั รนิ ทรา บรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนี พนั ปหี ลวง ประสตู เิ มอื่ วนั ที่ ๓ มนี าคม พ.ศ. ๒๔๒๕ ไดร้ บั การสถาปนา
ขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนพิษณุโลกประชานาถ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๓๔ เสด็จไปทรงศึกษาที่สหราชอาณาจักร แล้วเสด็จไปประทับ
ในราชสำ� นกั สมเดจ็ พระเจา้ ซารน์ โิ คลสั ที่ ๒ จกั รพรรดแิ หง่ รสั เซยี ทรงเลา่ เรยี นในโรงเรยี นมหาดเลก็ หลวงซงึ่ เปน็ โรงเรยี นนายทหารบก
ในตัว ทรงสอบได้ชั้นสูงสุดในประเทศรัสเซีย ทรงเป็นราชทูตพิเศษเมื่อเสด็จอยู่ในทวีปยุโรป เสด็จกลับมาเข้ารับราชการในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นนายพลตรีราชองครักษ์ ต�ำแหน่งเสนาบดีทหารบก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดเกลา้ ฯ ใหท้ รงบญั ชาการกรมทหารมหาดเลก็ รกั ษาพระองคแ์ ทนพระองค์ แลว้ เลอ่ื นเปน็ สมเดจ็ เจา้ ฟา้ ฯ
กรมหลวง เม่ือ พ.ศ. ๒๔๕๔ เลื่อนขึ้นเป็นนายพลโท นายพลเอก และเป็นจอมพลทหารบก ราชองครักษ์ คงต�ำแหน่งเสนาธิการ
ทหารบก เสด็จทิวงคต ณ เมืองสิงคโปร์ อาณานิคมของสหราชอาณาจักร เม่ือวันที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๓ พระชนมายุ ๓๘ ปี
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาพระเกียรติยศเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช พระราชทานเศวตฉัตร ๕ ช้ัน
เปน็ ต้นราชสกุล จกั รพงษ์
2 พระนามเดิม สมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ ดิลกจันทรนิภาพงศ์ มหามกุฎวงศ์นราธิราช จุฬาลงกรณนาถราชวโรรส
อดุลยยศอุภโตพงศ์พิสุทธิ์ นรุตมรัตนขัตติยราชกุมาร เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จ
พระปิตจุ ฉาเจา้ สุขุมาลมารศรี พระอคั รราชเทวี ประสตู เิ ม่ือวันที่ ๒๙ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๔๒๔ ได้รบั โปรดเกล้าฯ สถาปนาขน้ึ เปน็ สมเดจ็
เจา้ ฟา้ ฯ กรมขนุ มไหสรู ยิ สงขลา เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๓๔ ไดเ้ สดจ็ ไปทรงศกึ ษาทส่ี หราชอาณาจกั ร แลว้ จงึ ทรงเขา้ ศกึ ษาวชิ าทหารบกในประเทศ
เยอรมนี เสดจ็ กลบั มารบั ราชการไดร้ บั พระมหากรณุ าโปรดเกลา้ ฯ เปลยี่ นพระนามกรมเปน็ กรมขนุ นครสวรรคว์ รพนิ ติ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๔๔
ไดร้ บั โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานยศเปน็ นายพลตรี ราชองครกั ษ์ ตำ� แหนง่ เสนาธกิ ารทหารบก แลว้ เลอ่ื นเปน็ นายพลเรอื โท ราชองครกั ษ์
ผู้บัญชาการทหารเรือ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ เล่ือนเป็นสมเด็จเจ้าฟ้า
กรมหลวง เม่ือ พ.ศ. ๒๔๕๔ เป็นนายพลเรือเอก แล้วเป็นจอมพลเรือ ราชองครักษ์ จอมพลตำ� แหน่งเสนาธิการทหารบก อุปนายก
แหง่ สภากาชาดสยาม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว เป็นอภิรัฐมนตรี และโปรดเกล้าฯ สถาปนา
เป็นสมเด็จพระเจ้าพ่ียาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๘ เป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม เป็นเสนาบดี
กระทรวงมหาดไทย ภายหลงั เปลยี่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ เสดจ็ ไปประทบั ณ เมอื งบนั ดงุ เกาะชวา อาณานคิ มของราชอาณาจกั ร
เนเธอร์แลนด์ (สาธารณรัฐอินโดนีเซียในปัจจุบัน) สิ้นพระชนม์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
พระอฐั มรามาธิบดินทร เม่อื วันท่ี ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๗ พระชันษา ๖๓ ปี เป็นตน้ ราชสกุล บริพัตร
226 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระด�ำรงราชานุภาพ1 ๑ พระเจ้าพ่ียาเธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช2 ๑ พระเจ้า
น้องยาเธอ กรมหมื่นก�ำแพงเพ็ชร์อรรคโยธิน3 ๑ ท้ังราชองครักษ์แลข้าราชการกระทรวงวัง กระทรวง
การต่างประเทศ กระทรวงนครบาล นายทหารเรือกับนายทหารบก ผู้บังคับทหารกองเกียรติยศ คอยรับเสด็จ
อยู่ที่ท่าราชวรดิษฐ์ มีทหารราบที่ ๑๑ พร้อมด้วยแตรวงธงประจ�ำกองยืนแถวรับเสด็จเปนเกียรติยศ เม่ือเรือ
พระท่ีน่ังกราบเทียบท่าเรียบร้อยแล้ว เสด็จขึ้นจากเรือพระท่ีนั่งกราบ ตรัสปฏิสันถารกันตามสมควร แตรวง
บรรเลงเพลงสรรเสริญเดนมารค แล้วเสด็จมาทรงจับพระหัดถ์พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่ืนก�ำแพงเพ็ชร์
อรรคโยธิน ซ่ึงทรงบังคับกองทหารอยู่ที่นั้น แล้วเสด็จข้ึนยืนบนหน้าพลับพลาเล็กที่ข้างพระท่ีนั่งราชกิจวินิจฉัย
ด้านเหนือ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นก�ำแพงเพ็ชร์อรรคโยธิน ทรงบอกทหารเดิรสวนสนามถวาย
1 พระนามเดิม พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาชุ่ม
ประสตู ิเม่อื วันท่ี ๒๑ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๔๐๕ ในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว โปรดเกลา้ ฯ สถาปนาเปน็ กรมหมน่ื
ด�ำรงราชานุภาพ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๙ เป็นอธิบดีกรมศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๔๓๓ เป็นราชทูตพิเศษเสด็จไปทวีปยุโรป เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๔
เป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เมอื่ พ.ศ. ๒๔๓๕ เลื่อนเป็นกรมหลวง เม่อื พ.ศ. ๒๔๔๒ ในรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นกรมพระด�ำรงราชานุภาพ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔ เป็นสภานายกหอพระสมุดส�ำหรับพระนคร
เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๕๘ เป็นกรรมการตรวจช�ำระกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ และเป็นกรรมการสภาการคลัง เมือ่ พ.ศ. ๒๔๖๕ เป็นเสนาบดี
กระทรวงมุรธาธร และนายพลเอก พ.ศ. ๒๔๖๖ ในรัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อยหู่ วั โปรดเกล้าฯ แตง่ ต้งั เป็นอภิรฐั มนตรี
เม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๘ เป็นนายกราชบัณฑิตยสภา พ.ศ. ๒๔๖๙ แล้วเลื่อนเป็นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ
เมอ่ื วนั ท่ี ๘ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๗๒ ภายหลงั การเปลยี่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ เสดจ็ ไปประทบั ณ เกาะปนี งั อาณานคิ มของ
สหราชอาณาจักร จนถึง พ.ศ. ๒๔๘๔ ภายหลังกองทัพญี่ปนุ่ เข้ายดึ มลายาอาณานคิ มของสหราชอาณาจักร จงึ ไดเ้ สด็จกลบั มาประทับ
ในพระนคร ส้ินพระชนม์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เม่ือวันที่ ๑ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๔๘๑ พระชนั ษา ๘๑ ปี เป็นตน้ ราชสกุล ดิศกลุ
2 พระนามเดิม พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอม
มารดาทับทิม ประสูตเิ มื่อวนั ท่ี ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๙ เสด็จไปทรงศึกษา ณ สหราชอาณาจักร แล้วเสด็จทรงศกึ ษาวิชาทหารบก
ณ ราชอาณาจักรเดนมาร์ก ขณะท่ีทรงศึกษา ณ ทวีปยุโรปทรงเป็นราชทูตพิเศษเน่ืองในวาระพิเศษหลายคราว พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นกรมหม่ืนนครไชยศรีสุรเดช เม่ือ พ.ศ. ๒๔๔๓ เป็นนายพลเอก ราชองครักษ์
ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ เป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ เป็นกรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช เม่ือ พ.ศ. ๒๔๕๔ เป็นจอมพลทหารบก คงต�ำแหน่งเสนาบดีกระทรวงกลาโหม
สน้ิ พระชนม์เม่อื วนั ท่ี ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๕๖ พระชนั ษา ๓๘ ปี เป็นต้นราชสกุล จิรประวตั ิ
3 พระนามเดิม พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอม
มารดาวาด ประสูติเมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๔ ทรงเสด็จไปศึกษาวิชาทหารช่าง ณ สหราชอาณาจักร พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นกรมหม่ืนก�ำแพงเพ็ชรอัครโยธิน เม่ือ พ.ศ. ๒๔๔๙ เป็นนายพลตรีราชองครักษ์
ต�ำแหน่งผู้บัญชาการกองพลและจเรการช่างทหารบก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เลื่อนข้ึนเป็นนายพลโท
ราชองครักษ์ ต�ำแหน่งแม่ทัพน้อย โปรดเกล้าฯ เล่ือนขึ้นเป็นกรมขุนก�ำแพงเพ็ชรอัครโยธิน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ ทรงบัญชาการ
กรมรถไฟหลวง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ เป็นนายพลเอกทหารบก โปรดเกล้าฯ เลื่อนข้ึนเป็นกรมหลวงก�ำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ เป็นเสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม เป็นอภิรัฐมนตรี เม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๙
โปรดเกลา้ ฯ เลื่อนขึ้นเป็นกรมพระก�ำแพงเพ็ชรอัครโยธนิ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๒ ภายหลงั เปลยี่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ เสดจ็ ไป
ประทบั ณ เมืองสิงคโปร์ อาณานคิ มของสหราชอาณาจกั ร จนส้ินพระชนม์ในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหิดล
พระอัฐมรามาธิบดินทร เม่อื วันที่ ๑๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๗๙ พระชันษา ๕๕ ปี เป็นต้นราชสกลุ ฉตั รชัย
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 227
ฮิส อิมปีเรียล ไฮเนส ปรินซ ฮิโรยะสุ ฟุชิมิ
เจ้าผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าราชาธิราชกรุงยี่ปุ่น
228 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ทอดพระเนตรตลอดแลว้ สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจา้ ฟา้ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ ทรงนำ� ขน้ึ รถเทยี มมา้ ๔
ข้าราชการท่ีตามเสด็จมาด้วยเจ้าก็ได้ข้ึนรถมากับข้าราชการท่ีไปรับ มีทหารม้าแห่น�ำตามเสด็จไปตาม
ถนนมหาราชเลยี้ วถนนหนา้ พระลานเขา้ พระบรมมหาราชวงั ทางประตวู เิ ศษไชยศรี แลประตพู มิ านไชยศรี ประทบั
รถท่ีหน้าอัฒจันท์พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียรคอยรับอยู่ท่ีหน้าอัฒจันท์ น�ำเสด็จขึ้น
ไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซ่ึงเสด็จออกรับอยู่ท่ีมุขเด็จ เจ้าตามเสด็จพระราชด�ำเนิรเข้าในท่ีเฝ้า
ณ พระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาทองค์ตวันออก แต่ข้าราชการที่ตามเสด็จมากับเจ้า พักอยู่เพียงมุขกระสันตวันออก
ด้วยกันกับข้าราชการในพระราชส�ำนัก เจ้าเฝ้าสมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวงซ่ึงเสด็จออกรับแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ช้างเผือกอย่าง
สูงสุดมหาปรมาภรณ์ แก่โอรสของฮีส รอแยล ไฮเนสส์ ปรินซ์วัลดิมาท้ัง ๓ องค์เสร็จ, เสด็จออกมุขกระสัน
พร้อมด้วยเจ้า เจ้าได้น�ำข้าราชการท่ีมาด้วยเฝ้าเสร็จแล้ว สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลก
ประชานาถ ทรงน�ำเจ้ากลับลงไปยังอัฒจันท์หน้าพระท่ีน่ังจักรีมหาปราสาท ทรงรถยนต์เสด็จไปประทับ
พระต�ำหนักพญาไท
เมื่อเรือกลไฟศรีธรรมราชซึง่ ไปรับ ฮีสอิมปิเรยี ลไฮเนสส์ ปรนิ ซ์ ฮโิ รยะสุ ฟุชิมิ เจา้ ประเทศย่ปี ุน่ จากเรือรบ
ที่ปากน�้ำเมืองสมุทปราการขึ้นมาทอดสมอที่หน้าสุนันทาลัย แลเชิญลงประทับเรือพระท่ีนั่งกราบมีเรือกลไฟ
กองตระเวนน�ำ ๒ ล�ำ น�ำมาเทียบที่ท่าราชวรดิษฐ์เม่ือเวลาบ่าย ๓ โมงครึ่ง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้า
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถเสด็จไปทรงรับพร้อมด้วยราชองครักษ์ กับข้าราชการในกระทรวงตามหน้าท่ี
เช่นรับเจ้าประเทศเดนมารคนั้น ตรัสปฏิสันถารตามสมควร ทหารกองเกียรติยศกระท�ำวันทยาวุธ แตรวง
บรรเลงเพลงสรรเสริญยี่ปุ่น แลเจ้าตรวจแถวทหารแล้ว สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลก
ประชานาถ ทรงน�ำขึ้นรถม้า ๔ ข้าราชการที่ตามเสด็จเจ้าข้ึนรถกับข้าราชการท่ีไปรับมีทหารม้าแห่น�ำ
ตามเสด็จ มาหยุดรถท่ีหน้าอัฒจันท์พระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาท เฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แลเฝ้า
สมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวงอย่างเจ้าเดนมารค พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรด
พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์แก่เจ้าแล้วเสด็จออกมุขกระสันพร้อมด้วยเจ้า เจ้าได้
น�ำข้าราชการที่ตามเสด็จมาด้วยเฝ้าเสร็จแล้ว สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
ทรงน�ำมายังอัฒจันท์หน้าพระท่ีน่ังจักรี ขึ้นรถยนตร์เสด็จไปส่งเจ้าประเทศย่ีปุ่นยังพระราชวังสวนดุสิต ประทับ
อยู่พระที่นั่งอัมพรสถาน
ส่วนมาควิส อี. ดี. เดอ. ลาเปนเน เอกอรรคราชทูตพิเศษ ผู้แทนพระเจ้าแผ่นดินอิตาลี1 ได้มาถึงอยู่ใน
กรุงเทพฯ แล้ว เวลาบ่าย ๓ โมง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการที่ได้รับหน้าท่ีประจ�ำอยู่ด้วย
เอกอรรคราชทูต น�ำรถหลวงไปรับจากสถานราชทูตอิตาลีมายังท่ีพักอยู่ต�ำหนักสวนพุดตาลเล้ือย ในพระราชวัง
สวนดุสิตในวันนี้ด้วย
1 สาธารณรฐั อติ าลใี นปจั จบุ ัน
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 229
อน่ึงอรรคราชทูตต่างประเทศผู้อยู่ประจ�ำในพระนครซ่ึงได้รับต�ำแหน่งเปนอรรคราชทูตพิเศษ
แทนพระองค์ พระเจ้าแผ่นดิน คือ
ประเทศเยอรมนี1 ๑ ประเทศเบลเย่ียม2 ๑ ประเทศฮอลันด์3 ๑ ผู้แทนประธานาธิบดีประเทศอเมริกา4
๑ รวม ๔ ประเทศนั้น ได้มาในการพระราชพิธีในแผนกอรรคราชทูตพิเศษน้ันด้วย
เวลา ๒ ทุ่ม5 มีการพระราชทานเลี้ยงอาหารเวลาค�่ำที่พระท่ีนั่งมูลสถานบรมอาสน์ให้เปนเกียรติยศ
แก่เจ้ากับเอกอรรคราชทูตแลอรรคราชทูตพิเศษนานาประเทศผู้ที่มาถึงในวันน้ี
เวลาเกือบ ๒ ทุ่ม เจ้านานาประเทศแลพระบรมวงศานุวงศ์ที่ได้รับเชิญ แต่งพระองค์เต็มยศขาวประดับ
เครื่องราชอิศริยาภรณ์ เสด็จรถยนตร์ขึ้นทางบันไดห้องเคร่ืองมหาดเล็ก ประทับท่ีพระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาท
องค์ตวันออก เอกอรรคราชทูตแลอรรคราชทูตพิเศษกับข้าราชการที่ตามเสด็จมากับเจ้า แลข้าราชการที่
โปรดเกลา้ ฯ ใหม้ ารบั พระราชทานเลยี้ งขน้ึ ทางอฒั จนั ทห์ นา้ พระทนี่ งั่ จกั รพี ระมหาปราสาทพกั อยทู่ ม่ี ขุ กระสนั ตวนั ออก
เวลา ๒ ทุ่ม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทางพระทวารมุขกระสันด้านตวันออก พร้อมด้วย
สมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวงกับสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเพ็ชร์บุรีราชสิรินธร
เจ้านานาประเทศกับพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท มีพระราชด�ำรัสปฏิสันถารแก่เจ้านานา
ประเทศแลพระบรมวงศานุวงศ์ตามสมควรแล้ว เสด็จออกมุขกระสัน เสนาบดีว่าการต่างประเทศน�ำเอกอรรค
ราชทูต กับอรรคราชทูตพิเศษผู้มาถึงเฝ้าแล้ว มีพระราชปฏิสันถารแก่เอกอรรคราชทูตแลอรรคราชทูตพิเศษ
กับข้าราชการที่เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทตามสมควรแล้ว เสด็จพระราชด�ำเนิรโดยทางพระทวารมุขกระสัน
ตวันออก ทรงน�ำไปประทับโต๊ะเสวยที่พระท่ีน่ังมูลสถานบรมอาสน์รวม ๓๘ ท้ังท่ีประทับ เมื่อเสวยแลเลี้ยง
แล้วเสด็จออกพร้อมด้วยเจ้าต่างประเทศ กับพระบรมราชวงศ์ประทับยังพระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาท
องค์ตวันออกอย่างเดิม เอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษแลข้าราชการอยู่ท่ีมุขกระสันตวันออก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพร้อมด้วยเจ้านาย มีพระราชด�ำรัสปฏิสันถารแก่เอกอรรคราชทูต
กับอรรคราชทูตพิเศษแลข้าราชการพอเวลาสมควรแล้วเสด็จข้ึน เจ้าต่างประเทศแลพระบรมวงศานุวงศ์
เอกอรรคราชทตู พเิ ศษแลขา้ ราชการกลบั ลงทางอฒั จนั ทใ์ หญม่ ขุ เดจ็ หนา้ พระทนี่ ง่ั จกั รมี หาปราสาท เจา้ ตา่ งประเทศ
ข้ึนรถไปยังพระที่น่ังแลพระต�ำหนักท่ีพัก
วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๓๐ ในวันนี้ก�ำหนด ฮิส. รอแยล. ไฮเนสส์ ดุ๊กกับเฮอร์อิม
ปีเรียล ไฮเนสส์ ดัชเชสสุเดอร์ มาเนีย (หรือปรินซ์วิลเลียมกับปรินเซสมารี) เจ้าประเทศสวิเดน6กับฮิส ซริน
ไฮเนสส์ ปรินซ์อาเล็กซานเดอร์ กับ เฮอร์. รอแยล. ไฮเนสส์ ปรินเซสอาเล็กซานเดอร์ออฟเตก เจ้าประเทศ
1 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนใี นปจั จุบัน
2 ราชอาณาจักรเบลเยยี ม
3 ราชอาณาจกั รเนเธอร์แลนด์
4 สหรฐั อเมริกา
5 เวลา ๒๐.๐๐ น.
6 ราชอาณาจักรสวเี ดน
230 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ฮิส สรีน ไฮเนส ปรินซ อาเลกซานเดอร ออฟ เต๊ก
เจ้าผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้ากรุงอังกฤษ กับเจ้าหญิงพระชายา
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 231
อังกฤษ1 แลฮีส. อิมปิเรียล ไฮเนสส์ แกรนดุ๊กบอริส เจ้าประเทศรัซเซีย2 กับเอกอรรคราชทูตพิเศษประเทศ
ฝร่ังเศส3 จะมาถึง เม่ือเรือแล่นผ่านมา ป้อมผีเสื้อสมุทได้ยิงปืนใหญ่ตามเกียรติยศ
เจ้าประเทศสวิเดนกับเจ้าประเทศอังกฤษมาด้วยเรือพระที่นั่งมหาจักรี ซ่ึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
ข้าราชการผู้ที่ได้รับหน้าท่ีประจ�ำอยู่ด้วยเจ้า น�ำเรือพระท่ีนั่งมหาจักรีออกไปรับแต่เมืองสิงคโปร์มายังกรุงเทพฯ
ทอดสมอที่หน้าสุนันทาลัย ข้าราชการกระทรวงวังได้น�ำเรือพระท่ีน่ังกราบไปรับเหมือนวันก่อน เชิญเสด็จ
เจ้าสวิเดนแลเจ้าอังกฤษท้ัง ๒ ประเทศลงประทับในเรือพระท่ีน่ังกราบ มีเรือกลไฟกองตระเวนน�ำ ๒ ล�ำ
มาเทียบขึ้นท่ีท่าราชวรดิษฐ์เม่ือเวลาบ่าย ๓ โมง4
สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจา้ ฟา้ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถเสดจ็ ไปคอยรบั เจา้ พรอ้ มดว้ ยราชองครกั ษ์
กับข้าราชการตามกระทรวงหน้าท่ีมีทหารกองเกียรติยศรับเสด็จ เจ้าทรงตรวจแถวทหารตลอดแล้วสมเด็จ
พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เสด็จขึ้นทรงรถเทียมม้า ๔ กับเจ้า มีทหารแห่น�ำ
ตามเสดจ็ เขา้ ในพระบรมมหาราชวงั เฝา้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ณ พระทน่ี ง่ั จกั รมี หาปราสาทองคต์ วนั ออก
แต่ข้าราชการท่ีตามเสด็จมากับเจ้าพักอยู่เพียงมุขกระสันตวันออกกับข้าราชการในพระราชส�ำนัก เจ้าเฝ้า
สมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวงแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทาน
เคร่ืองราชอิศริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์แก่เจ้าสวิเดน เจ้าอังกฤษท้ัง ๒ พระองค์แล้ว เสด็จออกมุขกระสัน
พร้อมด้วยเจ้า เจ้าได้น�ำข้าราชการที่ตามเสด็จมาด้วยเฝ้า มีพระราชด�ำรัสปฏิสันถารตามสมควรแล้ว สมเด็จ
พระเจ้านอ้ งยาเธอ เจ้าฟา้ กรมหลวงพิษณโุ ลกประชานาถ พาเจา้ ขึ้นรถยนตรเ์ สด็จไปสง่ เจ้าสวิเดนท่ีวงั สราญรมย์
ส่งเจ้าประเทศอังกฤษท่ีพระท่ีน่ังอัมพรสถานพระราชวังสวนดุสิต
เมื่อเรือเมล์กลไฟเดลีมาถึงแล้ว เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการที่รับ
หน้าที่อยู่ประจ�ำด้วยอรรคราชทูตพิเศษ น�ำเรือยนตร์ไปรับอรรคราชทูตพิเศษที่มาด้วยเรือเมล์กลไฟเดลี
คือ ฮิส เอกซาเลนซี เคาน์ ทัดเด เดอ โบเลสทาโกดซิบร๊อดสกีอรรคราชทูตพิเศษผู้แทนพระองค์สมเด็จ
พระบรมราชาธิราชกรุงออสเตรีย ฮังการี6 ๑ ดอนลุวิส พาสเทอร์ อีย์ เดอ โมระ อรรคราชทูตพิเศษผู้แทน
พระองค์สมเด็จพระเจ้ากรุงสเปญ7 ๑ มองสิเออร์ แฮร์มัน เลโอโปลด์เลอเวนสกยอลด์ อรรคราชทูตพิเศษ
ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้ากรุงนรเวย8์ ๑ มาข้ึนที่ท่าวาสุกรี พระยาราชวัลภานุศิษฎ์ ราชองครักษ์ผู้แทน
1 สหราชอาณาจกั รบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ ปัจจบุ นั คือดนิ แดนของสหราชอาณาจกั รและสาธารณรัฐไอร์แลนด์
2 ปจั จุบันคอื สหพันธรัฐรัสเซีย
3 สาธารณรฐั ฝรงั่ เศส
4 เวลา ๑๕.๐๐ น.
5 เวลา ๑๔.๐๐ น. เศษ
6 จกั รวรรดอิ อสเตรยี -ฮงั การี ลม่ สลายภายหลงั สงครามโลกครง้ั ที่ ๑ ปจั จบุ นั คอื ดนิ แดนของสาธารณรฐั ออสเตรยี สาธารณรฐั
ฮังการี สาธารณรฐั เช็ก สาธารณรฐั สโลวกั สาธารณรัฐสโลวีเนยี สาธารณรฐั โครเอเชยี ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สาธารณรัฐ
เซอร์เบีย และบางส่วนของสาธารณรัฐโปแลนด์ สาธารณรัฐยเู ครน และสาธารณรฐั โรมาเนีย
7 ราชอาณาจกั รสเปน
8 ราชอาณาจักรนอร์เวย์
232 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เคานต ทัดเด เดอ โบเลสทา โกดซี บร๊อดสกี
อรรคราชทูตพิเศษแทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าราชาธิราชเอาสเตรีย
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 233
พระองค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แลเจ้าพระยายมราชเสนาบดีกระทรวงนครบาล พระยาพิพัฒโกษา
ปลัดทูลฉลองกระทรวงว่าการต่างประเทศ ข้าราชการกระทรวงวังกับนายทหารบกผู้บังคับกรมทหารราบ
ท่ี ๒ เปนกองเกียรติยศพร้อมด้วยธงประจ�ำกองแลแตรวงยืนแถวรับเปนเกียรติยศอยู่ที่ถนนพระฉนวนท่าวาสุกรี
คอยรับอรรคราชทูตพิเศษอยู่ที่นั้น เม่ืออรรคราชทูตพิเศษมาถึง ขึ้นท่าวาสุกรีเม่ือเวลาบ่าย ๓ โมง1 ทหารกอง
เกียรติยศกระท�ำวันทยาวุธแตรวงบรรเลงเพลงตามธรรมเนียมแล้ว พระยาราชวัลภานุศิษฎ์ น�ำอรรคราชทูต
ขึ้นรถม้าคู่ไปยังต�ำหนักในพระราชวังสวนดุสิต ข้าราชการกระทรวงวังกรมมหาดเล็ก ผู้ประจ�ำการในต�ำหนัก
รับท่ีอัฒจันท์ น�ำอรรคราชทูตขึ้นไปยังห้องท่ีอยู่แล้ว พระยาราชวัลภานุศิษฎ์กลับ อรรคราชทูตพิเศษผู้แทน
พระองค์สมเด็จพระเจ้ากรุงสเปญอยู่ที่ต�ำหนักสวนพุดตาลต้น แลอรรคราชทูตพิเศษผู้แทนพระองค์สมเด็จ
พระเจ้ากรุงนรเวย์อยู่ท่ีต�ำหนักสวนพุดตาลเลื้อย
แต่ ฮีสเอกซาเลนซี มองซิเออร์ พิแอร์ ยาคัง เดอมายารี เอกอรรคราชทูตพิเศษผู้แทนประธานาธิบดี
ริปับลิกฝร่ังเศสยังพักอยู่ในเรือกลไฟเดลี คอยมาด้วยเรือถลาง
ส่วนเจ้าประเทศรัซเซียซึ่งมาด้วยเรือรบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ใหข้ า้ ราชการทไี่ ดร้ บั หนา้ ทอ่ี ยปู่ ระจำ� ดว้ ยกบั เจา้ รซั เซยี นำ� เรอื ถลางออกไปรบั ทเี่ รอื รบ ณ ปากนำ้� เมอื งสมทุ ปราการ
เชิญเจ้าเสด็จลงเรือถลางแล่นขึ้นมารออยู่ตรงท่าเรือเมล์กลไฟเดลีจอด นายทหารเรือได้น�ำเรือกล ๓๕ รับ
เอกอรรคราชทูตพิเศษฝรั่งเศสท่ีเรือเดลีมาส่งข้ึนยังเรือถลาง ๆ ได้แล่นต่อมาทอดสมอที่หน้าสุนันทาลัย
ข้าราชการกระทรวงวังได้น�ำเรือพระที่น่ังกราบไปรับ เชิญเสด็จเจ้าประเทศรัซเซียลงประทับในเรือพระที่น่ัง
กราบพร้อมด้วยเอกอรรคราชทูตพิเศษประเทศฝร่ังเศส มีเรือกลไฟกองตระเวนน�ำ ๒ ล�ำ มาเทียบข้ึนที่
ท่าราชวรดิษฐ์ เวลาบ่าย ๔ โมงคร่ึง2 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
พร้อมด้วยราชองครักษ์กับข้าราชการตามกระทรวงหน้าที่คอยรับอยู่ท่ีท่าราชวรดิษฐ์ มีทหารกองเกียรติยศ
รับเสด็จ เจ้าได้เสด็จตรวจแถวทหารตลอดแล้ว สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอได้เสด็จขึ้นทรงรถเทียมม้า ๔ ด้วย
เจ้ารัซเซีย พระยาราชวัลภานุศิษฎ์ขึ้นรถเทียมม้าคู่ด้วยเอกอรรคราชทูตพิเศษฝรั่งเศส ทหารม้าน�ำแลตามเสด็จ
เข้าในพระบรมมหาราชวังขึ้นเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แลเฝ้าสมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวง
บนพระท่ีน่ังจักรีมหาปราสาทเหมือนเจ้าที่มาเฝ้าคราวก่อน ๆ แล้วเสด็จออกมุขกระสัน เจ้าได้น�ำข้าราชการ
ท่ีตามเสด็จมาด้วยเฝ้าเสร็จ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงน�ำเจ้าแล
เอกอรรคราชทูตพิเศษถวายค�ำนับกลับจากที่เฝ้าลงไปทรงรถยนตร์กับเจ้า พระยาราชวัลภานุศิษฎ์ข้ึนรถด้วย
เอกอรรคราชทูตพิเศษฝรั่งเศส สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ เสด็จส่งเจ้ารัซเซีย ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระยา
ราชวัลภานุศิษฎ์ ส่งเอกอรรคราชทูตพิเศษฝร่ังเศสท่ีต�ำหนักสวนพุดตาลเล้ือยข้าราชการท่ีได้รับหน้าที่ประจ�ำ
อยู่ด้วยเจ้า แลเอกอรรคราชทูตได้รับเจ้าแลรับเอกอรรคราชทูตที่อัฒจันท์น�ำสู่พระที่นั่งห้องท่ีประทับ
แลต�ำหนักห้องที่อยู่
1 เวลา ๑๕.๐๐ น.
2 เวลา ๑๖.๓๐ น.
234 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
รูปแครนด์ดยุก บอริส วลาดิมีโรวิช เจ้ารุสเซีย
ผู้แทนสมเด็จพระเจ้าราชาธิราชกรุงรุสเซีย
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 235
เริ่มพิธีพราหมณ์
อน่ึงเวลาบ่ายวันน้ีเปนวันเริ่มต้นตั้งพระราชพิธีพราหมณ์ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช เวลา
บ่าย ๔ โมงเศษ1 กรมมหาดเล็กได้ตั้งเคร่ืองบวงสรวงเทวดาณพระที่น่ังแลสถานที่ต่าง ๆ รวม ๑๗ แห่ง คือ
(๑) พระสยามเทวาธิราช ในพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ (๒) พระมหาเศวตฉัตร ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
(๓) พระมหาเศวตฉัตรในพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท (องค์ใหม่ส�ำหรับพระท่ีนั่งมนังคศิลา) (๔) พระมหา
เศวตฉัตร ในพระท่ีน่ังจักรีมหาปราสาท (๕) พระมหาเศวตฉัตรในพระท่ีน่ังสุทไธศวรรย์ปราสาท (องค์พระแท่น
มุขที่ย้ายไปแต่พระที่น่ังดุสิตมหาปราสาท) (๖) พระนเรศวรเปนเจ้า ณ ห้องเคร่ืองภูษามาลา (๗) เทวสถาน
พระอิศวร (๘) เทวสถานพระนารายณ์ (๙) เทวสถานพระพิฆเนศวร (๑๐) เทวรูปท่ีหอเชือก (๑๑) พระหลักเมือง
(๑๒) พระเสื้อเมือง (๑๓) พระกาฬ (๑๔) พระเพลิง (๑๕) พระเจตคุปต์ (๑๖) เทวรูปท่ีหอแก้ว (๑๗) เทวรูป
ท่ีตึกดิน เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่น่ังจักรีมหาปราสาท ทรงจบ
พระหัดถ์พระราชทานให้มหาดเล็กน�ำเครื่องสักการไปบวงสรวงตามสถานท่ีได้กล่าวมาแล้วท้ัง ๑๗ แห่ง
พระมหาราชครูพิธีพราหมณ์ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายใบไม้2 (๓ อย่าง คือใบมะม่วง ๒๕ ใบ ได้แก่ภยันตราย
ใบทอง ๓๒ ใบ ได้แก่อุปัทวันตราย แลใบตขบ ๙๖ ใบ ได้แก่โรคันตราย,รับ) ทรงปัดพระองค์แล้วพระราชทาน
ให้แก่พระมหาราชครูพิธี ๆ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายน�้ำพระมหาสังข์แล้วไปกระท�ำพิธีศาสตร์ปุณยาชุบ
โหมกุณฑ์ ณ หอพระราชพิธีพราหมณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้น
พระราชทานเล้ียงแขกเมือง
เวลา ๒ ทุ่ม3 มีการพระราชทานเล้ียงอาหารเวลาค�่ำท่ีพระท่ีนั่งมูลสถานบรมอาสน์ให้เปนเกียรติยศ
ฉเพาะเจ้านานาประเทศกับท้ังเอกอรรคราชทูตแลอรรคราชทูตพิเศษผู้มาถึงในวันน้ี
เวลาใกล้ ๒ ทุ่ม เจ้านานาประเทศแลพระบรมวงศานุวงศ์ท่ีได้รับเชิญ ท้ังเอกอรรคราชทูตกับ
อรรคราชทูตพิเศษแลข้าราชการที่ตามเสด็จมากับเจ้า แลข้าราชการที่โปรดเกล้าฯ ให้มารับพระราชทานเลี้ยง
มาพร้อมกันเช่นวันก่อน
เวลา ๒ ทุ่ม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวง
กับสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเพ็ชร์บุรีราชสิรินธร4 เจ้านานาประเทศ พระบรมวงศานุวงศ์
1 เวลา ๑๖.๐๐ น. เศษ
2 เรียกว่า ใบสมิต
3 เวลา ๒๐.๐๐ น.
4 พระนามเดิม สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ นรินทรเทพยกุมารี เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ประสูติเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๗ ในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร เม่ือ พ.ศ. ๒๔๕๔
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชปิตุจฉา
เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรรี าชสิรินธร สิน้ พระชนม์เม่อื วันท่ี ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๑ พระชนั ษา ๕๔ ปี
236 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกมุขกระสันมีพระราชปฏิสันถารด้วยเอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูต
พิเศษท่ีมาถึงวันน้ี แลมีพระราชด�ำรัสแก่ข้าราชการท่ีเฝ้าแล้ว เสด็จประทับโต๊ะเสวยที่พระท่ีนั่งมูลสถาน
บรมอาสน์ รวม ๔๒ ทั้งที่ประทับ เมื่อเสวยแลเลี้ยงแล้วเสด็จออกพร้อมด้วยเจ้านานาประเทศกับพระบรม
ราชวงศ์ประทับพระท่ีน่ังจักรีมหาปราสาทองค์ตวันออกอย่างเดิม เอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษ
แลขา้ ราชการอยทู่ มี่ ขุ กระสนั ตวนั ออก พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ออกพรอ้ มดว้ ยเจา้ นาย มพี ระราชดำ� รสั
แก่เอกอรรคราชทูตอรรคราชทูตพิเศษแลข้าราชการพอเวลาสมควรแล้วเสด็จข้ึน
ในเวลาค่�ำวันนี้ พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดชได้เชิญเสด็จเจ้าย่ีปุ่นแลเจ้าประเทศ
เดนมารคไปเสวยพระอาหารท่ีวัง
วันท่ี ๓๐ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๓๐ เวลาเท่ียง เอกอรรคราชทูตพิเศษผู้แทนพระเจ้าแผ่นดิน
แลผู้แทนประธานาธิบดี นานาประเทศซึ่งมาในงารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่งเต็มยศขาวประดับ
เครื่องราชอิศริยาภรณ์ ได้มาพร้อมกันในพระบรมมหาราชวัง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทวะวงศ์วโรปการ
เสนาบดกี ระทรวงการตา่ งประเทศ เสดจ็ ทรงนำ� ขน้ึ ไปพกั อยทู่ มี่ ขุ กระสนั พระทนี่ ง่ั จกั รมี หาปราสาทองคต์ วนั ออกคอื
(๑) ฮีสเอกซาเลนซี มองซิเออร์ พิแอร์ ยาคัง เดอ มายารี เอกอรรคราชทูตพิเศษผู้แทนประธานาธิบดี
ริปับลิกประเทศฝรั่งเศส
(๒) ฮีสเอกซาเลนซี มาควิส องอี ดีรัง เดอ ลาเพนน์ เอกอรรคราชทูตพิเศษผู้แทนพระองค์สมเด็จ
พระเจ้าแผ่นดินกรุงอิตาลี
(๓) ฮสี เอกซาเลนซี แฮมิลตอน กิง อรรคราชทตู พเิ ศษผ้แู ทนประธานาธบิ ดปี ระเทศยไู นเตดสเตส อเมรกิ า
(๔) ฮีสเอกซาเลนซี ไฟแอร์ ฟอนแดร์ คอลท์ส อรรคราชทูตพิเศษ ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระบรม
ราชาธิราชกรุงเยอรมนี
(๕) ฮีสเอกซาเลนซี เคาน์ต ทัดเด เดอ โบเลสทา โกดซีบร๊อดสกี อรรคราชทูตพิเศษ ผู้แทนพระองค์
สมเด็จพระบรมราชาธิราชกรุงออสเตรียฮังการี
(๖) ฮสี เอกซาเลนซี มองซเิ ออร์ โดเมลา นวิ เวนฮยุ ส์ อรรคราชทตู พเิ ศษ ผแู้ ทนพระองคส์ มเดจ็ พระนางเจา้
กรุงฮอลันดา
(๗) ฮีสเอกซาเลนซี มองซิเออร์ อาเทอร์ แฟรร์ อรรคราชทูตพิเศษผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้า
กรุงเบลเยียม
(๘) ฮีสเอกซาเลนซี ดอน ลุวิส พาสเทอร์ อีย์ เดอ โมระ อรรคราชทูตพิเศษผู้แทนพระองค์สมเด็จ
พระเจ้ากรุงสเปญ
(๙) ฮีสเอกซาเลนซี แฮร์มัน เลโอโปลด์ เลอเวนส์กยอลด์ อรรคราชทูตพิเศษผู้แทนพระองค์สมเด็จ
พระเจ้ากรุงนรเวย์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระท่ีน่ังจักรีมหาปราสาทองค์ตวันออก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระเทวะวงศ์วโรปการ เสนาบดีว่าการต่างประเทศ กราบบังคมทูลพระกรุณาน�ำเอกอรรคราชทูต
แลอรรคราชทูตพิเศษนานาประเทศที่มาชุมนุมในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช เฝ้าตามล�ำดับ
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 237
ฮอนเนอเรเบอล แฮมิลตอน กิง (แต่งพลเรือน)
อรรคราชทูตพิเศษ แทนปธานาธิบดีแห่งสหปาลีรัฐอะเมริกา
238 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชด�ำรัสปฏิสันถารแก่เอกอรรคราชทูตแลอรรคราชทูตพิเศษ ท่ีมาเฝ้า
ตลอดท่ัวกันแล้ว เสด็จข้ึน เอกอรรคราชทูตแลอรรคราชทูตพิเศษพักรอรับพระราชทานเลี้ยงอาหารเวลา
บ่ายโมงอยู่ท่ีมุขกระสันตวันออกน้ัน
คร้ันเวลาใกล้บ่ายโมง เจ้านานาประเทศพระบรมวงศานุวงศ์แต่งพระองค์เต็มยศขาวประดับ
เครื่องราชอิศริยาภรณ์ เข้ามาในพระบรมมหาราชวัง ขึ้นทางบันไดห้องเคร่ืองมหาดเล็ก พักอยู่ณท่ีเฝ้าพระท่ีน่ัง
จักรีองค์ตวันออก ข้าราชการข้ึนทางอัฒจันท์มุขเด็จหน้าพระท่ีน่ังพักอยู่ท่ีมุขกระสันตวันออก
เวลาบ่ายโมง1 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาทองค์ตวันออก พร้อม
ด้วยสมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวง กับสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร
เจ้านานาประเทศพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าแล้ว เสด็จออกมุขกระสัน เอกอรรคราชทูตแลอรรคราชทูตพิเศษ
กบั ขา้ ราชการเฝา้ ทลู ลอองธลุ พี ระบาทแลว้ เสดจ็ พระราชดำ� เนริ โดยทางพระทวารมขุ กระสนั ไปประทบั โตะ๊ เสวย
ทพ่ี ระทนี่ งั่ มลู สถานบรมอาสน์ พรอ้ มดว้ ยเจา้ นานาประเทศ พระบรมวงศานวุ งศ์ เอกอรรคราชทตู กบั อรรคราชทตู
พิเศษแลข้าราชการ รวม ๔๒ ท้ังที่ประทับ เมื่อเสวยแลเล้ียงแล้วเสด็จประทับเสวยพระสุธารสท่ีพระท่ีน่ังสมมติ
เทวราชอุปบัติ กับด้วยเจ้านานาประเทศแลพระบรมวงศานุวงศ์ ส่วนเอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษ
แลข้าราชการ คอยเฝ้าอยู่ที่ท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จออกท้องพระโรงกลางพร้อมด้วยเจ้านานาประเทศแลพระบรมวงศานุวงศ์ เอกอรรคราชทูตกับ
อรรคราชทูตพิเศษข้าราชการเฝ้า มีพระราชด�ำรัสตามสมควรแล้วเสด็จข้ึน
เจ้านานาประเทศ เอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษแลข้าราชการกลับร่วมทางกันลงทางอัฒจันท์
มุขเด็จหน้าพระท่ีน่ัง ขึ้นรถกลับยังพระที่นั่งแลพระต�ำหนักที่พัก
เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ2 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระมหา
ราชครูพิธีพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายใบไม้ทรงปัดแลถวายน้�ำพระมหาสังข์แล้วเสด็จขึ้น พราหมณ์กลับไป
กระท�ำพิธีศาสตร์ปุณยาชุปโหมกุณฑ์ที่หอพระราชพิธีพราหมณ์ตามเดิม
อนึ่งในเวลาค่�ำวันน้ี พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดชได้เชิญเสด็จเจ้าสวิเดนกับเจ้าประเทศ
รัซเซีย แลเจ้าประเทศอังกฤษไปเสวยพระอาหารท่ีวังแห่ง ๑ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระด�ำรงราชานุภาพ
ได้เชิญเสด็จเจ้าประเทศยี่ปุ่นกับเจ้าประเทศเดนมารคไปเสวยพระอาหารที่วังอิกแห่ง ๑
เริ่มพิธีสงฆ์
วันที่ ๑ ธันวาคม รัตนโกสินทรศก ๑๓๐ เปนวันตั้งพระราชพิธีสงฆ์รวมน้�ำอภิเษก ซ่ึงได้ท�ำพระราชพิธี
มาแต่มหาเจดียสถานท้ัง ๗ แห่ง กับท้ังน้�ำในมณฑลทั้ง ๑๐ พร้อมกันกับเสกน้�ำพระปริตรมุรธาภิเษกสนาน
1 เวลา ๑๓.๐๐ น.
2 เวลา ๑๗.๐๐ น.
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 239
ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช เวลาเช้าพระสงฆ์พระบรมวงศานุวงศ์สมเด็จพระราชาคณะ
พระราชาคณะแลเปรียญเอกมาพร้อมน่ังณอาสน์สงฆ์ตามล�ำดับในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย รวม ๘๐ รูป
มีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เปนประธาน
เวลาเช้า ๕ โมงเศษ1 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระท่ีนั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระสุหร่าย
น�้ำพระสุคนธ์สรงแลทรงเจิมพระพุทธรูปพระไชยวัฒนประจ�ำรัชกาลปัตยุบัน ซึ่งได้ต้ังพระราชพิธีหล่อแล้ว
เจ้าพนักงารได้แต่งเสร็จบริบูรณ์ เชิญมาต้ังบนโต๊ะอยู่ท่ีข้างพระแท่นทรงกราบน้ันแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้
เจ้าพนักงารภูษามาลาเชิญข้ึนประดิษฐานเหนือโต๊ะหมู่ทองบนพระท่ีน่ังมหาเศวตฉัตร แล้วจะได้เชิญไป
ประดิษฐานท่ีพระแท่นมณฑลพระราชพิธีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดเทียนเคร่ืองนมัสการ
ทรงศีลแล้ว ทรงประเคนบาตรฝาแลเชิงประดับมุกบรรจุอาหารบิณฑบาตกับเคร่ืองเสวยแด่สมเด็จพระเจ้า
บรมวงศเธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส แลพระบรมวงศานุวงศ์ทรงประเคนบาตรฝาเชิงประดับมุกอาหาร
บิณฑบาตถวายส�ำหรับงารพระบรมราชาภิเษกสมโภชแก่พระสงฆ์ฉันทั่วกัน แลพระมหาราชครูพิธีพราหมณ์
ถวายน้�ำพระมหาสังข์ตามราชประเพณี เม่ือพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงประเคนไตรแพรพัดรอง
ปักไหมสีพร้อมทั้งย่ามแพรลายตรางารพระบรมราชาภิเษกสมโภชแลบาญชีของไทยธรรมล้วนด้วยเครื่อง
ประดับมุกแก่พระสงฆ์ ๘๐ รูปแล้ว พระสงฆ์ถวายยถาอนุโมทนา พระราชาคณะถวายอติเรกแลถวายพระพรลา
แล้ว มีพระราชด�ำรัสด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลลอองธุลีพระบาทอยู่จนเวลาเกือบบ่ายโมงจึงเสด็จข้ึน
วันน้ีเวลากลางวัน เจ้าพระยายมราช เสนาบดีกระทรวงนครบาลได้เชิญเจ้านานาประเทศไปเสวย
พระอาหารกลางวันท่ีบ้าน
เวลาบ่าย ๓ โมง2 พระสงฆ์สมณศักดิ์ ๘๐ รูป ที่จะเจริญพระพุทธมนต์มาพร้อมอยู่ที่อาสน์สงฆ์
ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้านานาประเทศพระบรมวงศานุวงศ์ แลเอกอรรคราชทูตกับ
อรรคราชทูตพิเศษ ทูตานุทูตท่ีประจ�ำอยู่ในพระนคร แลข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนที่มียศบรรดาศักด์ิ
ได้มาพร้อมอยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดารามตามก�ำหนดในระเบียบ
เวลาบ่าย ๓ โมงคร่ึง3 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องเต็มยศทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์
ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดเทียนทองเงินบูชา
พระมหาเศวตฉัตร พระมหาราชครูพิธีพราหมณ์ถวายน้�ำพระมหาสังข์แลถวายใบไม้ทรงปัดเหมือนวันก่อน ๆ
แล้ว เสด็จกลับทางเดิมยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเสด็จขึ้นหอพระบรมอัฐิ ทรงจุดเทียนธูปเครื่องสักการบูชา
กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว สมเด็จกรมพระเทพศิรินทรามาตย์แล้ว เสด็จท้องพระโรงกลางทรงจุดเทียนทองเงินบูชาพระมหา
เศวตฉัตรเสร็จ เสด็จขึ้นหอพระธาตุมณเฑียร ทรงจุดเทียนธูปเครื่องสักการบูชากราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ
1 เวลา ๑๑.๐๐ น.
2 เวลา ๑๕.๐๐ น.
3 เวลา ๑๕.๓๐ น.
240 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นภาลยั พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ กรมพระอมรนิ ทรามาตย์ สมเดจ็ กรมพระศรสี รุ เิ ยนทรามาตย์
แล้วเสด็จยังพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดเทียนทองเงินบูชาพระสยามเทวาธิราชแลพระมหาเศวตฉัตร
ที่พระที่น่ังอัฐิทิศกับพระที่น่ังภัทรบิฐองค์เดิมน้ันแล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดเทียนทอง
เงินบูชาพระมหาเศวตฉัตรเสร็จ เวลาบ่าย ๔ โมงเสด็จออกเกยพระทวารเทเวศร์รักษาประทับพระราชยานกง
เสด็จพระราชด�ำเนิรโดยกระบวรราบออกประตูพิมานไชยศรี มีทหารบกรายทางเสด็จท้ัง ๒ ข้าง แลทหารกอง
เฉลิมพระเกียรติยศรับเสด็จอยู่ในสนามหญ้าหน้าหอพระสมุดวชิรญาณกระท�ำวันทยาวุธ แตรวงบรรเลงเพลง
สรรเสริญพระบารมี พระราชยานประทับท่ีเกยพลับพลาหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชด�ำเนิร
เข้าพระอารามยังพระอุโบสถโดยทางลาดพระบาทภายในปร�ำ ข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนเฝ้าทูลลอองธุลี
พระบาทข้างปร�ำตามแนวราชวิถีตลอดเม่ือเสด็จขึ้นหน้าพระอุโบสถ ข้าราชการผู้ใหญ่เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท
แล้ว เสด็จข้ึนบนพระอุโบสถ เจ้านานาประเทศ พระบรมวงศานุวงศ์แลเอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูต
พิเศษ แลทูตานุทูต เสนาบดีข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่เฝ้าตามต�ำแหน่งเปนล�ำดับกัน พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวทรงจุดชนวนเทียนต่าง ๆ บนพระแท่นมณฑลแลเทียนเครื่องนมัสการพระมหามณีรัตนปฏิมากร
แล้ว ประทับพระราชบัลลังก์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรสถวายศีล ทรงศีลแล้ว
คร้ันได้อุดมฤกษ์เวลาบ่าย ๔ โมง ๒๔ นาฑี ๕๘ วินาฑี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเทียนชนวน
ทองจุดไฟฟ้า ทรงต้ังสัตยาธิษฐานแล้ว ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงจุด
เทียนไชย แปรพระพักตร์สู่มงคลทิศอาคเณย์ พระสงฆ์สวดพระคาถาจุดเทียนไชย โหรล่ันฆ้องไชยให้สัญญา
พราหมณ์เป่าสังข์เจ้าพนักงารขับไม้บัณเฑาะว์ แลประโคมมโหรทึกแตรสังข์พิณพาทย์ดุริยดนตรี เมื่อเทียนไชย
ได้จุดเสร็จสุดเสียงประโคมแล้ว
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์มายืนท่ามกลางพระอุโบสถณภายใต้สายสิญจน์สพานหน้ากระโจมเทียนไชย
ผันพักตร์สู่ฉเพาะพระมหามณีรัตนปฏิมากร กล่าวค�ำนมัสการแล้ว ผันกลับมายังกระโจมเทียนไชย จับด้าย
สายสิญจน์อ่านประกาศเทวดาในงารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชจบแล้ว พระสงฆ์ ๘๐ รูป เจริญ
พระพุทธมนต์
ในขณะน้ีราชบัณฑิต ๙ นายได้บูชาจุลาฏฐทิศ กับโหร ๘ นาย ได้บูชาเทวดาโพไทยธิบาตกับบูชา
นวเคราะห์ท่ีพระที่น่ังอัฐทิศ แลโหรบูชาจัตุโลกบาลเทวราช ที่มณฑปพระกระยาสนานน้ันด้วย
ส่วนท่ีวัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบพระราชาคณะถวายอติเรก ถวาย
พระพรลาแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนเคร่ืองบูชาพระธรรมท่ีเตียงพระสวด พระราชาคณะ
๔ รูปข้ึนน่ังเตียงเริ่มสวดภาณวาร แลข้ึนเตียงน่ังปรกอิกรูปหน่ึง ท้ังราชบัณฑิตข้ึนบนม้านั่งปรกชักประค�ำ
หลังเตียงพระสวดภาณวารด้วย แลพระสงฆ์จะได้ผลัดเปลี่ยนกันสวดยามละส�ำรับตลอดคืน จนรุ่งข้ึนได้สรง
พระมุรธาภิเษกสนานแล้ว จึ่งดับเทียนไชยเสร็จการพระราชพิธีสงฆ์
เม่ือพระราชาคณะได้เร่ิมสวดภาณวารแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชด�ำเนิรกลับ
ออกจากพระอุโบสถ ประทับพระราชยานท่ีเกยพลับพลาหลังพระอาราม เสด็จพระราชด�ำเนิรโดยกระบวรราบ
ตามทางเดิม ประทับที่เกยหน้าพระทวารเทเวศร์รักษาเสด็จข้ึนเวลาย�่ำค่�ำ
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 241
อนึ่งในวันนี้ที่พระอารามหลวงแลวัดทั้งหลายท้ังในกรุงแลหัวเมืองกับศาลาท่ีท�ำการรัฐบาลมณฑล
ในพระราชอาณาจักร์ได้จัดแต่งเครื่องบูชาแลตามประทีป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถหรือ
พระวิหารทุกวัด กับท้ังท่ีศาลาท�ำการรัฐบาลด้วย
แลตามราชวิถีทางบกแลทางน้�ำ วังเจ้า บ้านข้าราชการ สถานที่ท�ำการต่าง ๆ แลบ้านเรือนประชาชน
ท้ังเรือนแพแลเรือท้ังหลายในท้องน้�ำทั้งในกรุงแลหัวเมืองทั่วพระราชอาณาจักร์ ได้แต่งตั้งเคร่ืองสักการบูชา
ประดับธงทิวแลตามประทีป มีงารมหรศพเฉลิมพระเกียรติในงารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชตั้งแต่
วันนี้เปนต้นไป ตลอด ๔ วัน ๔ คืน
เวลายามเศษ1 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำ� เนริ โดยรถพระทนี่ ง่ั ยนตรย์ งั ทา่ ราชวรดษิ ฐ์
ประทับเรือพระที่น่ังยนตร์ เสด็จพระราชด�ำเนิรโดยชลมารค ประพาสทอดพระเนตรการจุดประทีปแล
การมหรสพในงารพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสมโภชซงึ่ ไดเ้ รม่ิ ตน้ วนั นพี้ อเวลาสมควรแลว้ เสดจ็ พระราชดำ� เนริ กลบั
พระบรมมหาราชวัง
ในเวลาค่�ำวันน้ี สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ได้มีการเล้ียงเจ้า
นานาประเทศกับพระบรมวงศานุวงศ์ แลเอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษแลข้าราชการท่ีสวนจิตรลดา
เฉลิมพระเกียรต์ิในงารพระบรมราชาภิเษกสมโภชนี้ด้วย
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
วันท่ี ๒ ธันวาคม รัตนโกสินทรศก ๑๓๐ เวลาเช้า ๒ โมงครึ่ง2 เจ้าพนักงารผู้มีหน้าที่เก่ียวในการ
พระราชพิธี คือ
(๑) สรงพระกระยาสนาน
(๒) เข้าขบวรน�ำแลตามเสด็จสู่ที่สรงแลเสด็จสู่รัตนสิงหาสน์พระบรมราชาภิเษก
(๓) ประจ�ำหน้าท่ีถวายน�้ำอภิเษก
(๔) ประจ�ำหน้าท่ีประโคม
(๕) กองทหารเฉลิมพระเกียรติยศ
มาประจ�ำที่ต�ำแหน่งพร้อม
เวลาเช้า ๓ โมง ๓๐ นาฑี3 พระสงฆ์สมณศักด์ิท่ีสวดพระพุทธมนต์ผู้ประจ�ำสวดภาณวารแลนั่งปรก
ตอนเวลายามรุ่ง แลมาผลัดเปลี่ยนตอนเช้า ๑๐ รูป รับพระราชทานฉันเช้าแลเพลในพระอุโบสถ
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระสงฆ์ที่จะมาสวดถวายไชยเวลาพระบรมราชาภิเษกอีก ๖๙ รูป รับพระราชทาน
1 เวลา ๒๑.๐๐ น. เศษ
2 เวลา ๐๘.๓๐ น.
3 เวลา ๐๙.๓๐ น.
242 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
มองสิเออร์ พิแอ คายัง เดอ มายารี
เอกอรรคราชทูตพิเศษ แทนประธานาธิบดีฝร่ังเศส
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 243
ฉันเพลท่ีพระที่นั่งสุทไธศวรรย์เมื่อเวลาเช้า ๓ โมงคร่ึง1 ฉันแล้วเวลาเช้า ๔ โมง2มาพร้อมกันในพระอุโบสถ
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แต่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรสนั้น เมื่อเสด็จกลับแต่
สรงน�้ำพระพุทธมนต์ถวายณพระมณฑปพระกระยาสนานแล้ว ต้ังเครื่องเพล เสวยท่ีหอพระนาค เจ้านานา
ประเทศซึ่งเข้ามาชุมนุมในงารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช ได้เสด็จโดยรถแต่พระท่ีนั่งแลพระต�ำหนัก
ท่ีประทับเข้าในพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูวิมานไชยศรี ประทับรถเสด็จข้ึนพระที่น่ัง
ดุสิตมหาปราสาททางประตูก�ำแพงแก้ว ใกล้พระท่ีนั่งราชกรัณยสภาทรงพระด�ำเนิรข้ึนบันไดชาลาพระท่ีน่ัง
อัฐทิศ เข้าทางพระทวารมุขกระสันขึ้นอัฒจันท์มุขใต้ ไปประทับเก้าอี้ในพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท
มุขตวันออกกับพระบรมวงศานุวงศ์
พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในเสด็จออกทางพระทวารมุขกระสันก่อนสรงพระกระยาสนานประทับมุข
ตวันออก
พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าทรงรถม้าประทับเข้าทางประตูศรีสุนทรเสด็จขึ้นชาลาพระมหาปราสาท
ทางประตูก�ำแพงแก้วริมเขาไกรลาส ข้ึนพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาททางมุขกระสันอัฒจันท์ตวันตกประทับ
มุขตวันออก
ส่วนเอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษแลทูตานุทูตได้มาหยุดรถท่ีประตูก�ำแพงแก้วใกล้ห้อง
กรมพระอาลักษณ์ไปข้ึนพระที่น่ังดุสิตมหาปราสาททางอัฒจันท์มุขเด็จ เอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษ
แลราชทูตผู้อยู่ประจ�ำพระนครยืนเฝ้าอยู่ท่ีมุขตวันตก แต่ทูตานุทูตยืนเฝ้าท่ีมุขเหนือ ข้างหลังเสนาชั้นนายพล
ข้าราชการมาลงจากรถที่ประตูวิมานเทเวศร์เข้าประตูสุวรรณบริบาลข้ึนชาลาพระมหาปราสาท
ทางประตูก�ำแพงแก้วด้านเหนือ
ต�ำแหน่งเสนายศชั้นนายพลกับนายพันเอกขึ้นพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาทยืนเฝ้าในมุขเหนือ แต่ยศชั้น
นายพันโทกับนายพันตรียืนเฝ้าในทิมคด แลยศช้ันนายร้อยยืนเฝ้าในปร�ำข้างทิมคดฝ่ายตวันตก
ต�ำแหน่งอ�ำมาตย์ ยศชั้นมหาอ�ำมาตย์กับอ�ำมาตย์เอกข้ึนพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาทยืนเฝ้าในมุขตวันตก
แต่ยศชั้นอ�ำมาตย์โทกับอ�ำมาตย์ตรียืนเฝ้าในทิมคด แลยศชั้นรองอ�ำมาตย์ยืนเฝ้าในปร�ำข้างทิมคดฝ่ายตวันออก
ต�ำแหน่งเสวก ยศชั้นมหาเสวกกับเสวกเอก หรือมียศช้ันต่�ำลงไป แต่เปนผู้มีหน้าท่ีเก่ียวแก่
การพระราชพิธีบนพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาทยืนเฝ้าท่ีมุขใต้ แต่ยศช้ันเสวกโทลงไป ผู้มิได้เกี่ยวหน้าที่การ
บนพระมหาปราสาท ยืนเฝ้าในปร�ำ ๒ ข้างมุขเหนือพระมหาปราสาท
คร้ันใกล้เวลาพระฤกษ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระภูษาเศวตพัสตร ทรงสพักขาวขอบขลิบ
ทองค�ำ เสด็จออกประทับพระท่ีน่ังราชปรีดีวโรทัย คร้ันได้เวลามหาอุดมพิไชยมงคลฤกษ์ เช้า ๓ โมง ๔๑ นาฑี
กับ ๕ วินาฑี3 พระมหาราชครูพิธีพราหมณ์กราบบังคมทูลพระกรุณาอัญเชิญเสด็จสู่พระมณฑปสรง
พระมุรธาภิเษกสนาน เสด็จพระราชด�ำเนิรโดยมีขบวรน�ำแลตามเสด็จ ดังนี้
1 เวลา ๐๙.๓๐ น.
2 เวลา ๑๐.๐๐ น.
3 เวลา ๙ นาฬกิ า ๔๑ นาที ๕ วินาที
244 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ขบวรน�ำเสด็จพระราชด�ำเนิร
(ราชบัณฑิต กับพราหมณ์แลภูษามาลาแต่งเต็มยศใหญ่สีขาวสวมครุยเฉียงบ่า เว้นแต่เจ้ากรมพระต�ำรวจ
เชิญธงไชยแต่งเต็มยศสวมครุย)
(เบ้ืองซ้าย) (เบื้องขวา)
เชิญพระมหาพิฆเนศวร์ เชิญพระไชยเนาวโลห
คู่ที่ ๑ หลวงเทพาจารย์ (มี) หม่อมเจ้าพร้อมในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๓
กรมหม่ืนภูมินทรภักดีราชบัณฑิต
ขับไม้บัณเฑาะว์ ขับไม้บัณเฑาะว์
คู่ท่ี ๒ ขุนทิพสมบัติ (จวง) ขุนพิทักษ์อาภรณ์ (เสริม)
ขับไม้บัณเฑาะว์ ขับไม้บัณเฑาะว์
คู่ท่ี ๓ หลวงราชาภิมณฑ์ (จ้อย) หลวงสุนทรภูษา (จีน)
เป่าสังข์อุตราวัฎ เป่าสังข์อุตราวัฏ
คู่ท่ี ๔ ขุนศรีวาเภา (นา) ขุนศรีอนันต์ (แม้น)
เป่าสังข์อุตราวัฏ เป่าสังข์อุตราวัฏ
คู่ที่ ๕ ขุนเจริญไตรเพท (ตาด) หลวงสุริยาเทเวศร์ (เอม)
เป่าสังข์ทักษิณาวัฏ เป่าสังข์ทักษิณาวัฏ
คู่ที่ ๖ หลวงญาณสยมภูว์ (แขก) หลวงเทพมุนี (ปลอด)
โปรยเข้าตอก โปรยเข้าตอก
คู่ท่ี ๗ หลวงราชมุนี (เอม) พระครูวามเทพ (หว่าง)
โปรยเข้าตอก โปรยเข้าตอก
คู่ที่ ๘ พระสิทธิไชยบดี (อิน) พระมหาราชครูพิธี (อุ่ม)
เชิญธงไชยพระครุฑพาห เชิญธงไชยราชกระบี่ธุช
คู่ท่ี ๙ พระพิเรนทรเทพ (ฉาย) พระอินทรเทพ (ไทย)
ขบวรตามเสด็จ
แต่งเต็มยศใหญ่สวมสนับเพลานุ่งสังเวียนเสื้อเย่ียรบับสีสวมครุยหมวกทรงประพาส
เชิญพระแสงดาบ (ประจ�ำรัชกาล)
เจ้าหมื่นสรรพเพธภักดี (ม.ล. เฟื้อ)
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 245
(เบื้องซ้าย) (เบ้ืองขวา)
เชิญพานฉลองพระบาท เชิญพานฉลองพระองค์คลุม
คู่ท่ี ๑ (ซับน้�ำ) นายจ่ายง (ซับน้�ำ)
(กุหลาบ) พระราชโกษา (อุ่น)
กรมวัง สมุหราชองครักษ์
พระยาอนุรักษ์ราช นายพลตรี พระยาสุรเสนา
คู่ท่ี ๒ มณเฑียร (ม.ร.ว. ปุ้ม) (กล่ิน)
จางวางมหาดเล็ก จางวางมหาดเล็ก
พระยาบุรุษรัตนราช พระยาเทพทวาราวดี (สาย)
คู่ที่ ๓ พัลลภ (นบ)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชด�ำเนิรโดยทางพระเฉลียงพระที่นั่งด�ำรงสวัสดิ์อนัญวงศ์
แลพระเฉลียงหลังพระท่ีนั่งราชกรัณยสภา ลงอัฒจันท์มุขกระสันข้างในไปตามเฉลียงพระท่ีน่ังพิมานรัถยา
ลงสนามหน้าเขาไกรลาส เจ้าพนักงารภูษามาลาถวายอยู่งารพระกลดแลบังพระสุริย์ เสด็จถึงหน้ามณฑป
พระกระยาสนาน ราชบัณฑิตผู้เชิญพานทองรองพระไชยเนาวโลหประดิษฐานต้ังไว้ในบุษบกเล็กหน้า
พระมณฑปทิศตวันออก พราหมณ์ผู้เชิญพานทองรองเทวรูปพระมหาพิฆเนศวร์ ประดิษฐานตั้งไว้ในบุษบกเล็ก
หน้ามณฑปทิศตวันตกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนทองเงินธูปที่โต๊ะสังเวยเทวดากลางหาว
หน้ามณฑปพระกระยาสนานทิศทักษิณ แล้วเสด็จข้ึนสู่พระมณฑปพระกระยาสนาน สถิตย์เหนือตั่งอุทุมพร
ราชอาสน์บนถาดทองในพระมณฑป แปรพระพักตร์สู่สิริมงคลทิศอุดร
พระยาอุไทยธรรมทูลเกล้าฯ ถวายพระครอบเคร่ืองสรงพระกระยาสนาน พระยาโหราธิบดีลั่นฆ้องไชย
พราหมณ์เป่าพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏ พระยาเทพาภรณ์ไขสหัสธาราน�้ำพระปริตซึ่งส่งมาแต่พระอารามต่าง ๆ
ในกรงุ แบง่ มาเจอื กบั นำ�้ อภเิ ษกทกี่ ระทำ� พธิ เี สกมาแตพ่ ระมหาเจดยี ส์ ถานทง้ั ๗ แหง่ แลมณฑลทง้ั ๑๐ ทงั้ เจอื ดว้ ย
น้�ำ ๔ สระกับน้�ำนทีท้ัง ๕ แลน้�ำเบญจมหานทีในมัชฌิมประเทศด้วย สรงพระมุรธาภิเษกสนาน ชาวประโคม ๆ
แตรสังข์ มโหรทึก ภูษามาลา เจ้าพนักงารแสงในขับไม้บัณเฑาะว์พร้อมด้วยมโหรีแลพิณพาทย์เคร่ืองดุริยดนตรี
เม่ือสรงสหัสธาราแล้ว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (ซ่ึงประทับอยู่บน
พระท่ีน่ังราชกรัณยสภา) เสด็จขึ้นยังพระมณฑปทางทิศอุดรถวายน�้ำพระพุทธมนต์ด้วยพระครอบพระกริ่ง
ของหลวงแลพระครอบยันตรนพคุณ สรงท่ีพระขนองแลท่ีพระหัดถ์ ทรงรับลูบพระพักตรแล้ว เสด็จกลับออก
ทางประตูพรหมโสภา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี เสด็จข้ึนพระมณฑปทางทิศอุดรสรงน�้ำ
พระพุทธมนต์ถวายด้วยพระเต้าศิลายอดพระเกี้ยว ท่ีพระขนองแลท่ีพระหัดถ์ ทรงลูบพระพักตรแล้ว
เจ้าพนักงารเชิญพระเต้าน้�ำพระพุทธมนต์ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย คือ ภูษามาลา พระยาอุไทยธรรมทูลเกล้าฯ
ถวายพระเต้าโมรา พระเต้าหยก พระเต้าศิลาต่าง ๆ ท้ังพระเต้าไกรลาส แลพระเต้าเทวบิฐ เจ้าพนักงารชาวท่ี
ทูลเกล้าฯ ถวายพระเต้า ๕ กระษัตริย์ เจ้าพนักงารสนมพลเรือน พระยาอัพภันตริกามาตย์ทูลเกล้าฯ ถวาย
246 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระเตา้ ประทมุ นมิ ติ รแลว้ พระยาโหราธบิ ดที ลู เกลา้ ฯ ถวายนำ้� พระพทุ ธมนตพ์ ระเตา้ นวเคราะห์ พระมหาราชครู
พิธีพราหมณ์ทูลเกล้าฯ ถวายน�้ำพระราชพิธีด้วยพระเต้าเบญจครรภพราหมณ์ทั้งหลายทูลเกล้าฯ ถวายน้�ำ
พระมหาสังข์ห้า พระมหาสังข์สาม หลวงอินทรฦๅไชยพราหมณ์พฤฒิบาศ ทูลเกล้าฯ ถวายน้�ำสังข์สัมฤทธ์ิแล้ว
พระยาอุไทยธรรมทูลเกล้าฯ ถวายน้�ำพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏตามขัตติยราชประเพณี คร้ันเสร็จสรง
พระมุรธาภิเษกสนานแล้ว พระราชโกษาภูษามาลาถวายฉลองพระองค์คลุมซับน้�ำ นายจ่ายงถวายฉลอง
พระบาทซับน้�ำ ราชบัณฑิตเชิญพระไชยเนาวโลห พราหมณ์เชิญพระมหาพิฆเนศวร์แต่บุษบกทั้งสองเข้า
ร้ิวกระบวรน�ำเสด็จอย่างเดิม เสด็จลงจากมณฑปพระกระยาสนานขึ้นสู่พระท่ีนั่งพิมานรัถยา ทรงผลัดพระภูษา
พนักงารหยุดประโคม
เม่ือสุดเสียงประโคมสรงพระมุรธาภิเษกสนานแล้ว เจ้านานาประเทศพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จออก
จากพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาทประทับที่พลับพลาทองคอยเฝ้าเม่ือเสด็จขึ้นพระท่ีนั่งอัฐทิศทรงรับน�้ำอภิเษก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องพระภูษาฉลองพระองค์ครุยสพักเฉวียงพระอังษาภายนอก
ล้วนด้วยเศวตพัสตรขอบขลิบทองค�ำ แลทรงฉลองพระบาทขาว ทรงพระด�ำเนิรแต่พระท่ีน่ังพิมานรัถยา
ราชบัณฑติ เชญิ พานพระไชยเนาวโลห พราหมณ์เชญิ พานพระมหาพิฆเนศวร์กบั เป่าสงั ขโ์ ปรยเขา้ ตอก ภูษามาลา
ขับไม้บัณเฑาะว์ แลเจ้ากรมพระต�ำรวจเชิญธงไชยราชกระบ่ีธุชพระครุฑพาห น�ำเสด็จเหมือนเมื่อเสด็จสู่
พระมณฑปพระกระยาสนาน แต่กระบวรตามเสด็จคู่ที่ ๑ เบ้ืองซ้าย เจ้าหม่ืนสรรพเพธภักดี (ม.ล. เฟื้อ)
เชิญพระแสงดาบเบ้ืองขวา พระยาเทพาภรณ์ (ร่ืน) เชิญพานพระเต้าเบญจครรภ คู่ที่ ๒ เบ้ืองซ้าย กรมวัง พระยา
อนุรักษ์ราชมณเฑียร (ม.ร.ว. ปุ้ม) เบื้องขวาสมุหราชองครักษ์ พระยาสุรเสนา (กลิ่น) คู่ท่ี ๓ จางวางมหาดเล็ก
เบื้องซ้ายพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นบ) เบ้ืองขวา พระยาเทพทวาราวดี (สาย) ตามเสด็จ ๆ ออกทางพระ
ทวารมุขกระสันยังชาลาพระที่น่ังอัฐทิศ เจ้านานาประเทศ พระบรมวงศานุวงศ์ยืนเฝ้าบนพลับพลา พระบาท
สมเด็จพระเจา้ อยู่หวั เสด็จพระราชดำ� เนริ โดยประทกั ษณิ ไปขน้ึ อฒั จนั ทฐ์ านรองพระทนี่ ง่ั อฐั ทศิ ดา้ นอดุ ร ราชบณั ฑติ
เชญิ พานพระไชยเนาวโลหขึ้นยืนอยู่บนฐานรองพระท่ีน่ังอัฐทิศด้านอาคเณย์ พราหมณ์เชิญพานพระมหาพิฆเนศ
วร์ขึ้นยืนอยู่บนฐานรองพระที่น่ังอัฐทิศด้านอิสาณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จข้ึนสถิตย์เหนืออุทุมพร
ราชอาสน์พระที่นั่งอัฐทิศภายใต้นพปฎลเศวตฉัตร ผันพระพักตร์สู่บุรพทิศเปนปฐม พระยาเทพาภรณ์ทูลเกล้าฯ
ถวายพระเต้าเบญจครรภส�ำหรับทรงรับน�้ำอภิเษกแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการผู้เปนราชบัณฑิตซึ่ง
จะได้ถวายน้�ำอภิเษก กับพราหมณ์ผู้ได้บวชพรตซึ่งจะถวายน้�ำสังข์ เมื่อทรงรับน้�ำอภิเษกแล้วยืนเฝ้าประจ�ำทิศ
อยู่เปนคู่ ๆ ผันหน้าสู่พระที่นั่งอัฐทิศ เม่ือประทับเปนปรกติแล้ว พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์
ซึ่งประจ�ำอยู่บุรพทิศเปนปฐมเสด็จขึ้นบนฐานเขียงพระท่ีนั่งอัฐทิศ ทรงคุกพระชานุลงกราบบังคมทูลเปนมคธ
ภาษาถวายไชยแล้วถวายน�้ำอภิเษกซ่ึงได้ท�ำมาแต่มหาเจดียสถานแลมณฑลตามทิศด้วยถ้วยศิลาจาฤกอักษร
ทรงรับด้วยพระหัดถ์ ทรงจิบแลลูบพระพักตร์แล้ว ทรงรับด้วยพระเต้าเบญจครรภหน่อยหน่ึง แล้วมีพระราช
ด�ำรัสตอบด้วยมคธภาษา กรมพระสมมตอมรพันธุ์ รับพระราชด�ำรัสตอบด้วยมคธภาษาเสร็จ พราหมณ์เป่า
พระมหาสังข์แลพระมหาราชครพู ิธผี ูป้ ระจำ� ทิศข้ึนบนฐานเขยี งพระที่นั่งอฐั ทิศ คกุ เข่าถวายนำ้� พระมหาสังข์แลว้
พระสทิ ธไิ ชยบดีพราหมณ์พฤฒิบาศขึ้นถวายน้�ำในพระครอบเวียนตามไปถวายทุกทิศ เม่ือทรงรับน้�ำอภิเษกแล้ว