ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 97
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช
พุทธศักราช ๒๓๙๔ ถ่ายถอดจากหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๔๕๙
พญาเพชรชฎา พญารามก�ำแหง พญาสุริยจักร........(ช�ำรุด)........(พญา)วิชิตณรงค์ พญานครอินท
........(ช�ำรุด)........(พ)ญาพิไชยรณฤทธิ พญาพรหมจักร........(ช�ำรุด)........(พ)ญาพิทักษภูบาล พญาภักดีสงคราม
........(ช�ำรุด)........ฐีพญาราชสงคราม พญาจงใจยุทธ........(ช�ำรุด)........พญาเกวียน พญารัตนจักร พญาอุดม
ราชา พญาพิพิธโภไคย พญาอรรคมนตรี พญาแผลงผลาญ........(ช�ำรุด)........พญาอภัยภักดี........(ช�ำรุด)........
พญาก�ำแพง........(ช�ำรุด)........พญาพระ........(ช�ำรุด)........พญาสิ........(ช�ำรุด)........พญารัตนาภรพิมล
พระมหาราชครู........(ช�ำรุด)........แล (ข้าราชการ) ผู้ ใหญ่ ฝ่ายทหารพลเรือน ท้ังพระพุทธจักรแลพระ
น้อย
ราช (อาณาจักร)........(ช�ำรุด)........ปฤกษาพร้อมกันว่า พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระพุท........
(ช�ำรุด)........เสด็จสู่สวรรคตแล้ว1 แลสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎ........(ช�ำรุด)........พงษอิศร
กระษัตรขัติยราชกุมาร แลสมเด็จพระเจ้าน้ (อง)........(ช�ำรุด)........อิศเรศรังสรร2 ทรงกอบประด้วยพระไวยวุฒิ
ปรีชาญาณสุระภาพ........(ช�ำรุด)........พระสติปัญาพระเมตามหาปะระกะมะอันประเสริฐ สามรรถเปน
บรมสาสนูปถัมภกพระพุทธศาสนา แลสมควรท่ีจะด�ำรงราชสมบัติ (ปกป้อง)........(ช�ำรุด)........ธเสมาสม........
(ช�ำรุด)........หมณาประชาราษฎรให้........(ช�ำรุด)........เป็นศุข........(ช�ำรุด)........ภารบาระมี อันสัมสมมาหา
ผู้จะเสมอมิได้ ขอพระราชทานอัญเชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎ แลสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ข้ึนผ่านพิภพมไหสวรรยาธิปัตย์ถวัลราชประเพณีสืบสันตะติศรีสุริวงษด�ำรงพิภพ
มณฑลสกลกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทมหินทรโยทยามหาดิลกภพนพรัตนราศีมหานครบวรราชธานี
บุริรมอุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อันอ�ำพลด้วยสามนต์ประเทศนา ๆ มหาไพบูลย์พิศาลราชเจ้าศรีมาอาณาเขต
มณฑลท้ังปวงโดยบุรพประเพณี ะ...(ช�ำรุด)........ๆ มา ๚ะ๛
๏ ครั้นถึงกาล ณ วัน........(ช�ำรุด)........ค�่ำปีกุนตรีศก ะ
1 หมายถึง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า เสด็จสวรรคตเมื่อวันพุธ เดือน ๕ ขึ้น ๑ ค�่ำ
เวลา ๘ นาฬกิ า ๕ บาทเศษ ตรงกบั วนั ท่ี ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๓๙๔
2 พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั และที่ ๓ ในสมเดจ็ พระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี เสด็จพระราช
สมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๑ ในรัชกาลที่ ๓ เม่ือ พ.ศ. ๒๓๗๕ ทรงสถาปนาให้ทรงกรมเป็น “สมเด็จพระเจ้า
น้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์” ต่อมาในรัชกาลที่ ๔ เม่ือ พ.ศ. ๒๓๙๔ เฉลิมพระนามเป็น “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
เจ้าฟ้าอิศเรศจุฑามณี” แล้วพระราชทานบวรราชาภิเษกเป็น “พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว” รับพระบวรราชโองการ
เสดจ็ สวรรคตเมอื่ วนั อาทิตยท์ ่ี ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๐๘ (วนั ท่ี ๑ เมษายน เปน็ วนั ขนึ้ ปใี หม่)
98 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ขุนโชติพรหมมา
ปลัดกรมโหรหน้า
๏ ข้าพระพุทธเจ้าหลวงโลกทีปนีเจ้ากรมโหรหลัง โหรมีช่ือค�ำนวณพระฤกษ์มังคลา
ขุนเทพากร
ปลัดกรมโหรหลัง
บรมภิเษกทูลเกล้าฯ ถวาย ก�ำหนดศิริสยุภมัศดุ พระพุทศักราชอดิตกาล ชะไมยสหัศสังวัจฉะระ ไตรยสตาธฤกะ
ไตรยนวุติสังวัจฉะระปัตยุบันนะกาล สุกระสังวัจฉะระ วิศาขมาศสุคปักษทุติยดฤษถีสุกรวาร1 ปริเฉทกาลอุกษฐ
เพลาย่�ำรุ่งแล้ว โมงหน่ึงแปดบาท พระลักขณาสถิตยราศีพฤศภ เสวยพระฤกษ.........(ช�ำรุด).......... จันทร์
..(ช�ำรุด)..
พระจันทร์สถิตยราศีพฤศภเสวยฤกษ........(ช�ำรุด)........ราศีเมศ พระอังคารสถิตยราศีมิญ พระพุทธสถิตยราศี
พฦศภ พฤหัศสถิตยราศีกัญ ะ พระสุกร์สถิตยราศีมิญ พระเสาร์สถิตยราศีเมศ พระราหูสถิตยราศีกรกฎเปน
หลวงโลกทีปจะได้จาฤกษดวงพระชันษา
พระมหาไชยะมังคลบรมราชาฤกษ ลงใน
ขุนสารประเสิรฐจะได้จาฤกษพระนาม
กว้าง ๑๐ น้ิว หนัก ๒ 2
ดวงพระชันณษา น้ิว หนัก ๒ 3
ยาว ๑๐
แผ่นพระสุพรรณบัดทองค�ำเนื้อแปดเศศสอง
กว้าง ๗
พระนาม
ยาว ๑๔
พระมหาราชครูจุณเจิมแล้ว พันด้วยไหมเบญจพรรณ ใส่ในพระกล่องทองค�ำจ�ำหลักลายกุด่ัน แล้วใส่ในหีบ
ถมยาตะทองใส่ถุงเข้มขาบนอกตีตราประจ�ำเล็บ เชิญขึ้นไว้บน...(ช�ำรุด)...ช้ันส�ำรับใหญ่ ปิดคลุมปักเล่ือม
1 ตรงกับวนั ที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
2 อา่ นว่า ๒ ต�ำลงึ
3 อ่านว่า ๒ ต�ำลึง
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 99
แก้ว ๑
ขา้ ราชการผู้ ใหญ่ มีบายศรี ทองส�ำรับ ๑ ศีศสุกร ๒ ศีศะ
พร้อม...(ช�ำรุด)...สมโภชเวียนพระเทียน
น้อย เงินส�ำรับ ๑
ใบตอง ๒ ส�ำรับ
เครื่องกระยาบวดพร้อมสัพด้วยแตรสังข์มโหรีปี่พาทย์กลองแขกฆ้องไชย พระมหาราชครูเป่าพระมหา
ทักขิณา
สังข์ วัฏ สมโภชเสร็จแล้วเชิญประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนสาศดาราม
อุตตรา
คร้ันศิริศยุภมัศดุ พระพุทธศักราชอดิตกาล ชะไมยะสหัศสังวัจฉะระไตรยสตาธฤกะไตรยนวุดิสังวัจ
ฉะระปัตยุ.....บันกาละ สุกรสังวัจฉะระวิศาขมาศสุดปักษพารัศะมีดฤษถี ศศิวาระ1...ปริเฉท กาลอุกฤษฐ
เพลาบ่าย ๓ โมง กาลก�ำหนด พระสงฆ์จะได้สวดพระพุทธมนตร์ในพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ ๓๐ รูป ในพระ
มหามณเฑียร ๕ รูป พระท่ีน่ังอมรินทร์วินิจไฉย ๕๐ รูป ทรงพระภูษาพื้นขาว ฉลองพระองค์ครุยขาวกรองทอง
รัตพระองค์ประดับเพชร เสด็จพระราชด�ำเนินเข้าไปในพระที่นั่งไพศาลทักษิณทรงจุดเทียนเคร่ืองนมัสการ
ทรงศีลแล้วถวายเทียนชนวนแก่กรมหมื่นนุชิดชิโนรสเสด็จ ๆ ออกมา ณ พระที่น่ังอมรินทรวินิจไฉยจุดเทียนชัย
แล้วพระมหาราชครูถวายใบมะม่วง ๒๕ ได้แก่ มหาไภย2 ใบทอง ๓๒ ได้แก่ อุปัทวะทั้งปวง3 ใบตะขบ ๙๖
ได้แก่ ฉันนะวุตติโรคันตราย ทรงรับมาควาด4 พระองค์ แล้วส่งให้แก่พระมหาราชครู ๆ รับมากระท�ำ
สาตรปุนยาชุบโหมพระเพลิง แล้วเสด็จพระราชด�ำเนินเข้าในพระมหามณเฑียรทรงจุดเทียนนมัสการ
ทรงสอดพระมหามงคลฟังพระสงฆ์ห้ารูปสวดพระพุทธมนตร์ทั้งสามวัน ๚ะ๛
ครั้นวิศาขมาศสุกปักษบุรรณมีดฤถีชีวะวาระ5 เวลาเช้าทรงพระภูษาขาวลายทองฉลองพระองค์ครุย
กรองทองรัตพระองค์ประดับเพชรเหมือนอย่างทรงฟังสวด ะ เสด็จพระราชด�ำเนินเข้าไป หยุดอยู่ ณ พระท่ีน่ัง
ไพศาลทักษิณ ทรงจุดเทียนนมัสการแล้ว
คร้ันเวลาโมงหน่ึงกับเก้าบาท พระลักขณาสถิตยราศีเมถุน
1 วนั จนั ทร์ เดือน ๖ ขนึ้ ๑๒ ค�่ำ ตรงกบั วนั ท่ี ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
2 ดา้ นใต้มรี อยแก้เปน็ “ภยนั ตราย”
3 ด้านใต้ค�ำวา่ “ท้ังปวง” มรี อยแก้เปน็ “มตราย”
4 หมายถงึ ฟาด; ภาษาไทยถิ่นใตย้ งั คงใชศ้ ัพทค์ ำ� นอี้ ยู่ในปัจจบุ นั
5 วันพฤหัสบดี เดือน ๖ ข้ึน ๑๕ ค่�ำ ตรงกบั วนั ท่ี ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
100 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ณวางพฤหัส
เกาะ เสวยฤกษหก พระอาถิตยสถิตยราศีพฤศภ พระจันทร์สถิตราศีพิจิตร เสวยฤกษ ๑๖
ตรียางพุท
อังคาร พุฒ
พระ สถิตยราษีมิญ พระ สถิตยราสีเมศ พระพฤหัศสถิตยราสีกัญ พระราหูสถิตยราสี
สุกร เสาร
กรกฎบริบูรรณด้วยวิศาขนักขัตบทโสฬศราชาฤกษ พระมหาไชยมังคลาบรมราชาภิเษกต้องอย่างขัติยราช
หลวงโลกทีป ภูษา
ประเพณี ะ มาแต่ก่อน จึงทูลอัญเชิญเสด็จสรง เจ้าพนักงานชาวพระ ถวาย
แลพระมหาราชครู มาลา
พระภูษาแลฉลองพระองค์ถอด1 แล้วพระเมธาธิบดีเชิญพระไชย หลวงสิทธิไชยหมอเถ้า เชิญพระพุทธฆิเนศ
มหาราชครู ราชมุนี
พระ โปรยขา้ วตอก หลวง เปา่ พระมหาสงั ขท์ กั ษณิ าวฏั นำ� เสดจ็ เบอ้ื งมขุ ประเทศ
ครูอัศดาจารย ศรีวาจารย
ไปสู่มรฎปพระกระยาสนาน เสด็จสถิตยเหนืออุทุมภรราชาอาศน์ ผันพระภักตร์สู่ทิศอิสาน จึ่งพญาราชโกษา
ถวายเคร่ืองพระกระยาสนาน หลวงราชวงษาไขสหัศธารา
กรมหม่ืนนุชิตชิโนรส2 ถวายพระเต้าสัมฤทธิ์
สรงสหัศธาราแล้ว พระเจ้าพี่ยาเธอ
พระบรมวงษ์เธอ กรมขุนรามอิศเรศ3 ถวายพระเต้าทอง
1 จดหมายเหตรุ าชาภเิ ษกครงั้ กรงุ ศรอี ยธุ ยา ซงึ่ จดบนั ทกึ ในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช เรยี กวา่
“ทรงเสอื้ ถอดผา้ ถอด” ในพระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลท่ี ๔ ของเจา้ พระยาทพิ ากรวงศมหาโกษาธบิ ดี เรยี กวา่ “ภษู าขาว
ขลิบทอง” ส่วนในจดหมายเหตุบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๕ เรียกว่า “พระภูษาถอด”
ต่อมาในรัชกาลท่ี ๖ ๗ และ ๙ เรียกฉลองพระองค์ท่ีทรงสวมใส่ในการสรงมุรธาภิเษก ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า เศวตพัสตร์,
พระภษู าเศวตพสั ตร์
2 พระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ประสตู แิ ตเ่ จา้ จอมมารดาจยุ้ เมอื่ วนั เสารท์ ่ี ๑๑ ธนั วาคม
พ.ศ. ๒๓๙๔ พระนามเดิม “พระองค์เจ้าชายวาสุกรี” ทรงผนวชเป็นสามเณรเม่ือ พ.ศ. ๒๓๔๕ ประทับ ณ วัดพระเชตุพนวิมล
มังคลาราม จนทรงผนวชเป็นพระภิกษุในรัชกาลที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๓ และทรงสถาปนาเป็นพระราชาคณะและเป็น “กรมหมื่น
นุชิตชิโนรส” สถิต ณ วัดพระเชตุพนฯ ถึงรัชกาลท่ี ๓ ทรงพระกรุณาโปรดให้เป็นเจ้าคณะกลาง ครั้นถึงรัชกาลท่ี ๔ เม่ือวันศุกร์
ท่ี ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๓๙๔ ทรงรับมหาสมณุตมาภิเษกเป็น “กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส” สิ้นพระชนม์เมื่อวันท่ี ๙ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๓๙๖ ต่อมาเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๖๔ ในรชั กาลท่ี ๖ ทรงสถาปนาเป็น “สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส”
3 พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเพ็งใหญ่ เม่ือวันอังคารท่ี ๓
พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๓๒ พระนามเดิม “พระองค์เจ้าชายสรุ ยิ า” ในรัชกาลท่ี ๒ เมอ่ื พ.ศ. ๒๓๕๙ ทรงสถาปนาเป็นพระเจา้ นอ้ งยาเธอ
กรมหมืน่ รามอศิ เรศร์ และในรชั กาลท่ี ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ เล่ือนเปน็ “กรมขนุ รามอศิ เรศร”์ ต่อมาในรัชกาลที่ ๔ เมอ่ื พ.ศ. ๒๓๙๔
เลื่อนเป็น “กรมพระรามอิศเรศร์” ส้ินพระชนม์ในรัชกาลที่ ๔ เมื่อวันอาทิตย์ท่ี ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๙๗ พระชันษา ๖๖ ปี
เปน็ ตน้ ราชสกลุ สรุ ยิ กุล
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 101
เดชอดิศรถวายพระเต้าส�ำ1 หลวงสทธิไชยหมอเถ้าถวายพระสังขทักขิณาวัฏ
กรมขุน พระมหาราชครูพิธีถวายพระเต้าเบญครรภ
พิพิธภูเบนทรถวายพระเต้าทอง พระครูอัษดาจารยถวายพระมหาสังขทอง
หลวงจักรปาณีถวายพระมหาสังขเงิน
หลวงราชมูนีถวายพระมหาสังข์นาค
หลวงศรีวาจารยถวายพระมหาสังขงาจ�ำเริญ
หลวงเทพาจารยถวายพระครอบ
รักษนารายน์
ทรงรับต่อพระหัตถ์ ขุน เป่าพระมหาสังข์ทักขิณาวัฎสององค์ ขุนหมื่นพราหมมีชื่อเป่าสังข์
ราชธาดา
อุดตราวัฎ ๖ องค์ เจ้าพนักงานประโคมดุริยางคดนตรีมโหระทึกแตรสังขบัณเฑาะ คร้ันสรงเสร็จแล้ว
พญาราชโกษาถวายพระภูษาทรงผลัดลายพ้ืนเหลืองเขียนลายทอง ทรงฉลองพระองค์ครุยกรองเสด็จกลับมา
สถิตยเหนืออุทุมภรราชาอาศน์มีพระมหาเศวตฉัตรเจ็ดช้ัน ที่ตั้งอัษฐทิศล้อม ผันพระภักตรไปสู่อุตรทิศ2
ราชบัณฑิตยถวายน้�ำพระพุทธมนตร์
เป็นปถมจ่ึง ทรงรับมาสสงพระภักตรแล้วรับเสวย
พราหมณ์ถวายน�้ำพระมหาสังขทักขิณาวัฎน้�ำกรด
น้อยหน่ึง แล้วผันพระองค์ไปตามทิศอาคเนย์โดยทักขิณาวัฎ ทรงรับน้�ำพระพุทธมนตร์น�้ำสังข์ท้ังแปดทิศแล้ว
พระมหาราชครูประคองพระองค์เชิญเสด็จพระราชด�ำเนินมาข้ึนบนพระท่ีนั่งภัทบิษฐ มีพระมหาเศวตฉัตร
เจ็ดช้ัน เสด็จน่ังเหนือแผ่นทองซ่ึงเขียนเป็นรูปราชสีหอันมีมหันตเดช ผันพระภักตรสู่ทิศอิสานทิศ พระมหา
ราชครูอ่านเวทสรรเสริญไกรลาศแล้วถวายพระสุพรรณบัตเบญจราชกุกกุภัณฑ์แล้วถวายพระแสง
อัษฎาวุธแลเครื่องราโชประโภก ประกอบด้วยวิษณุเวทอิศวรมนต์ ทั้งน้ีจะทรงรับทั้งสิ้นก็ได้ตาม
พระอัษฌาไศรย ถ้าจะทรงรับพระแสงขรรค์วางข้างขวา ธารพระกรวางข้างซ้าย เคร่ืองนอกนี้ ทรงรับแล้วส่งให้
พญาราชโกษาแล้วพญาราชโกษารับต่อพระหัตถ์ ส่งให้เจ้าพนักงาน แต่ฉลองพระบาทพระมหาราชครู
พร
รับมาสอดทรงถวายแล้วถวาย เสร็จแล้ว ๛
ไชย
1 ดา้ นใต้ข้อความมีรอยแก้เปน็ “เงิน”
2 พระราชพงศาวดารกรงุ รัตนโกสินทร์ ฉบบั เจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี ระบวุ ่าเป็น “บูรพาทศิ ”
102 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๏ พระมหาราชครูพิธีกราบบังคมทูลว่า ขอเดชะฝ่าลอองฯ ปกเกล้า ๚ะ๛
๏ ศิริราชสมบัติ อันหาพระมหากระษัตรจะครอบครองมิได้ ข้าพระพุทธเจ้ากับเสนาบดีมนตรีมุกข
ทงั้ ปวงขอพระราชทานทลู เกลา้ ฯ ถวายแดพ่ ระบาทสมเดจ็ บรมนารถบรมบพติ รพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เปน็ ทพ่ี ง่ึ
แก่สมณพราหมณาจารย์อาณาประชาราษฎรสืบไป ขอเดชะฯ ๚ะ๛
๏ หลวงสิทธิไชยพระหมอเถ้ากราบบังคมทูลว่า ขอเดชะฝ่าละอองฯ ปกเกล้าฯ ข้าพระพุทธเจ้า
ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมขอถวายพระบวร1 เศวตรฉัตรเป็นท่ีเฉลิมศิริราชสมบัติ สัมรับบรม
กระษัตรสืบมา แด่พระบาทสมเด็จพระบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚ะ๛
๏ เสรจ็ แลว้ จงึ่ มพี ระราชโองการตรสั สง่ั แกพ่ ระมหาราชครผู ใู้ หญว่ า่ พรรณพฤกษชลธแี ลสง่ิ ของในแผน่ ดนิ
ทั่วเขตร์พระนครซึ่งหาผู้หวงแหนมิได้นั้นตามแต่สมณชีพราหมณาจารย์ราชฎรปราถนาเถิด2 จ่ึงพระมหาราชครู
ผู้ใหญ่ซึ่งมีตระกูลรับพระราชโองการเป็นฤกษก่อน ว่าข้าพระพุทธเจ้าขอรับพระราชโองการมารพระบัณฑูล
ทอง
สุรสิงหนาทใส่เกล้าฯ ขอเดชะ๚ะ๛ แล้วทรงโปรยดอกพิกุล ทรงหลั่งน�้ำทักษิโณทกด้วยพระคาถา
เงิน
ตามเคย ะ ทรงสังเกตน้ัน ทรงอธิษฐานตามพระอัชฌาไศรย แล้วพราหมณเป่ามหาสังขประโคมดนตรีมโหรทึก
สุดเสียงประโคมแล้วเสดจ์เข้าไปทรงถวายไทยทานแก่พระสงฆ์ ในพระมหามณเฑียร พระสังฆราชถวาย
อดิเรก พระสังฆราชาคะณะถวายสัพพุทธาแล้วถวายพระพรลา จึ่งพระครูราชพิธีพระหมอเถ้า ขึ้นไปบน
กรด ใน
พระมหามณเฑียรประพรมน้�ำ รอบพระมหามณเฑียรข้าง อวยไชยถวายพรแล้ว ทรงผลัด
สังข์ นอก
พระภูษารัดพระองค์กรองฉลองพระองค์ครุยศรีทรงพระแสงดาบใจเพชร์ แล้วทรงฉลองพระบาทเสด็จออก
พระที่น่ังอมรินทร์วินิไชย ถวายไทยทานแก่พระสงฆ์ ๆ รับไทยทานแล้ว ถวายพระพรลา จึ่งเสดจ์ขึ้นสู่พระที่น่ัง
ใหญ่ ทหาร
เสวตรฉตั ร เจา้ ตา่ งกรมหากรมมไิ ดแ้ ลขา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทผู้ ฝา่ ย เขา้ เฝา้ พรอ้ มกนั ๚ะ๛
น้อย พลเรือน
1 ดา้ นใตค้ ำ� วา่ บวร มีลายมอื เขยี นวา่ มหา
2 พระปฐมบรมราชโองการนมี้ ขี อ้ ความสอดคลอ้ งกบั พระปฐมบรมราชโองการกอ่ นหนา้ นี้ ซง่ึ แตกตา่ งกบั ขอ้ ความในพระราช
พงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลที่ ๔ ของเจา้ พระยาทพิ ากรวงศมหาโกษาธบิ ดเี ลก็ นอ้ ย คอื “...ผลพฤกษช์ ลธารแลสงิ่ ของในแผน่ ดนิ
เขตพระนคร ซ่ึงหามีผู้หวงห้ามไม่นั้น ตามแต่สมณพราหมณาจารย์อาณาประชาราษฎรจะปรารถนาเถิด...” และเป็นท่ีน่าสังเกตว่า
ไมป่ รากฏพระปฐมบรมราชโองการพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในเอกสารชนั้ ตน้ ทเ่ี ปน็ ภาษาบาลี แตเ่ อกสารชน้ั รองโดยทว่ั ไป
มักกล่าววา่ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เปน็ กษตั รยิ ์พระองค์แรกทีม่ พี ระปฐมบรมราชโองการท้ังภาษาไทยและภาษามคธ
(บาลี) ซ่ึงหลักฐานที่พบพระปฐมบรมราชโองการท้ังภาษาไทยและภาษามคธ (บาลี) เป็นครั้งแรกคือ การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ครง้ั ท่ี ๒ พ.ศ. ๒๔๑๖ และถอื เปน็ ธรรมเนยี มปฏบิ ตั สิ บื มาในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั และพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 103
๏ เจ้าพญา ว่าท่ีจักรีกราบทูลว่าข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ
เอก
พญาช้างพระท่ีน่ังต้น โท ท้ังพลฝ่ายพลเรือนในใต้ฝ่าลอองฯ พระบาทสมเด็จบรมนารถ
ถวาย กับเมือง ตรี
พญาม้าพระท่ีน่ังต้น
จัตวา
บพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚ะ๛
๏ เจ้าพญา ว่าที่กระลาโหมกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าฯ
พระมหาพิไชยราชรถ
ศรีสมรถไชย
เรือพระท่ีน่ัง เอก
ไกรสรมุธ กับเมือง โท
ถวาย ไพร่พล ะ
เรือกระบวนใหญ่น้อย ตรี
แลเครื่องสรรพยุทธท้ังปวง จัตวา
ฝ่ายทหารในใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขอเดชะ
๏ เจ้าพญาว่าท่ีธรรมากราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายมณเฑียรปราสาท
ราชนิเวศมหาสถาน พระราเชนทรราชยาน ะ ท้ังเครื่องสูงเฉลิมพระเกียรติยศในใต้ฝ่าละอองฯ สมเด็จบรมนารถ
บรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚ะ๛
๏ เจ้าพญา ว่าที่ยมราชกราบทูลว่าข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายกรุงเทพพระมหานคร
ศรียุทธยาในใต้ฝ่าละออง ฯ สมเด็จพระบรมนาถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚ะ๛
๏ เจ้าพญา ว่าที่พลเทพกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวาย ธัญาหารแดนสถาน
ลานนาเขตรป์ ระเทศตำ� บลในใตฝ้ า่ ละอองฯ สมเดจ็ พระบรมนารถบรมบพติ รพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ขอเดชะ ๚ะ๛
๏ เจ้าพญา ว่าท่ีพญาพระคลัง กราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายเครื่อง
พระพัทยากรราชสมบัติทั้ง ๑๒ พระคังในใต้ฝ่าละอองฯ สมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขอเดชะ ๚ะ๛
แล้วจ่ึงมีพระราชโองการตรัสประฎิสันฐานแก่เจ้าพญาแลพญาท้ังปวงว่าสิ่งของทั้งน้ีจงจัด ท�ำนุบ�ำรุง
ไว้ให้ดี จะได้ป้องกันรักษาแผ่นดินท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศาสนาสืบไป แลอัคมหาเสนาธิบดี รับพระราชโองการ
104 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
กราบถวายบังคมว่าพระพุทธเจ้าคะขอรับพระราชโองการมาณพระบัณทุลสุรสีหนาทใส่เกล้าฯ แล้วเสด็จ
กลับขึ้นพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณเสด็จนั่งเหนือพระภัทธบิษฐ ท้าววรจันกราบทูลว่าข้าพระพุทธเจ้า ท้าววรจัน
ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายพระสนม ๑๒ พระก�ำนัล........(ช�ำรุด)........บาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚ะ๛
๏ ทรงพระราชประดิสัณานตามพระอัชฌาไศรยเสร็จแล้ว คร้ันได้พระฤกษ์เสด็จพระราชด�ำเนิน
เงิน
เข้าสู่พระมหามณเฑียรทรงโปรยดอกพิกุล มีนางช�ำระพระบาท ๒ นางเชิญเครื่องราชบริโภคครบตาม
ทอง
ประเพณี แล้วมีนางเช้ือพระวงศ์ ๖ อุ้มวิลา ๑ อุ้มศิลาบด ๑ อุ้มฟักเขียว ๑ ถือขันข้าวเปลือ1 ๑ ถือ
ถั่วทอง ๑ ถืองา ๑ ครั้นเสด็จถึงในที่ทรงจุดเทียนนมัศการก่อน แล้วเสด็จขึ้นพระแท่นท่ีบันทม พระบรม
วงษาผู้ใหญ่ฝ่ายใน........(ช�ำรุด)........(ด) อกหมากท�ำด้วยทองค�ำหนัก ๕2 หางช้างเผือกผู้ทรงรับแล้ววางไว้
ข้างที่แล้วท้าวทรงกันดานถวายลูกกุญแจแล้วเอนพระองค์ลงบันทมเหนือพระแท่นท่ีโดยทักษิณปรัศ
เบ้ืองขวาเป็นฤกษก่อน แลพระวงศ์ฝ่ายใน ผู้ทรงพระชนมายุ ถวายพรก่อนแล้ว พระวงศานุวงศ์ท้าว
นางข้างในถวายพระพรพร้อมกัน แล้วให้ประโคมดุริยางคดนตรี ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว แล้วเสด็จ
พระราชด�ำเนินตามทางข้างในทรงโปรยเงินไปจนถึงพระมหาปราสาท ถวายบังคมพระบรมศพ........(ช�ำรุด)
ใหญ่
พระราชด�ำเนิน........(ช�ำรุด)........สู่พระมหามณเฑียร ครั้นเพลาบ่าย........(ช�ำรุด)........ศานุวงศ ผู้
หน้า ทหาร
น้อย
ข้าง แลข้าราชการฝ่าย พร้อมกันเวียนพระเทียน เฉลิมพระมหามณเฑียรตามราชประเพณี
ใน พลเรือน
แต่ก่อนมา เสร็จแล้ว
จะได้สวคดรพ้ันรณะพวุทันธม๖นฯต๑ร๖์ในคพ่�ำร3ะอเพุโบลสาถบว่าัดยพสราะมศโมรงีรพัตนระสราาศชดาาครณามะถานานุกรมเปรียนพระครูอธิการ ๔๐๐ รูป
ครั้น ๗ ฯ๒ ๖ ค่�ำ4 เพลาเช้า ข้าทูลลอองธุลีพระบาทจะได้ท�ำส�ำรับถวายพระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว พระบรม
ใหญ่
วงศานุวงศ์แลข้าราชการผู้ จะได้รับพระราชทานน้�ำพระพัทธสัจจาเป็นเสร็จการพระราชพิธี
น้อย
มหามังคลาบรมราชาภิเษกแต่เท่านี้ ขอเดชะ ๚ะ๛
1 ต้นฉบับน่าจะเขยี นตกตัว “ก” ท่ถี ูกตอ้ งนา่ จะเปน็ “เข้าเปลือก”
2 อา่ นว่า ๕ ต�ำลงึ
3 วนั ศกุ ร์ เดอื น ๖ แรม ๑ คำ�่ ตรงกบั วนั ที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
4 วนั เสาร์ เดอื น ๖ แรม ๒ คำ่� ตรงกับวนั ที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 105
ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย
เรื่อง
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลท่ี ๔
106 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หมู่ พระราชพิธี ช่ือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร.๔ ปีกุนยังเป็นโทศก จ.ศ.๑๒๑๓ เลขท่ี ๔๕๙
ประวัติ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ให้หอสมุดฯ ๑๒ ธันวาคม ๒๔๖๘
ปก
หน้าต้น (น.) ๑ - ๒
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 107
หน้าต้น ๓ - ๔
หน้าต้น ๕ - ๖
108 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าต้น ๗ - ๘
หน้าต้น ๙ - ๑๐
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 109
หน้าต้น ๑๑ - ๑๒
หน้าต้น ๑๓ - ๑๔
110 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าต้น ๑๕ - ๑๖
หน้าต้น ๑๗ - ๑๘
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 111
หน้าต้น ๑๙ - ๒๐
หน้าต้น ๒๑ - ๒๒
112 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าต้น ๒๓ - ๒๔
หน้าต้น ๒๕ - ๒๖
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 113
หน้าต้น ๒๗ - ๒๘
หน้าต้น ๒๙ - ๓๐
114 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าต้น ๓๑ - ๓๒
หน้าต้น ๓๓ - ๓๔
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 115
หน้าต้น ๓๕ - ๓๖
หน้าต้น ๓๗ - ๓๘
116 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าต้น ๓๙ - ๔๐
หน้าต้น ๔๑ - ๔๒
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 117
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช พุทธศักราช ๒๓๙๔
ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลท่ี ๔
ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค)
เมื่อ ณ วันศุกร์ เดือนหก ขึ้นสองค่�ำ ปีกุนตรีศก1 โหรมีช่ือค�ำนวณพระฤกษ์มหามงคลวันอุดม2
ตั้งบายศรีแก้ว บายศรีทอง บายศรีเงิน บายศรีตอง ขุนสารประเสรฐิ ได้จารึกพระนามลงในแผ่นพระสุพรรณบัตร
ทองเก้าน�้ำ พระสุพรรณบัตรกว้างเจ็ดนิ้ว ยาวสิบส่ีนิ้ว เมื่อพระมหาราชครูพิธีจุณเจิมแล้วพันด้วยไหม
เบญจพรรณใส่ในพระกล่องทองค�ำจ�ำหลักลายกุด่ัน แล้วประดิษฐานไว้ในหีบถมตะทองค�ำ3 สวมถุงเข้มขาบ
ประทับตราประจ�ำครั่ง เชิญขึ้นประดิษฐานไว้ในพานทองค�ำสองช้ันส�ำรับใหญ่ ปิดคลุมหักทองขวาง ข้าทูล
ละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อย พร้อมกันสมโภชเวียนเทียน พราหมณ์ก็เป่าสังข์ทักขิณาวัฏ สังข์อุตราวัฏ
ประโคมดุริยางค์ดนตรี แตร สังข์ พิณพาทย์ ฆ้องกลอง สมโภชพระสุพรรณบัตรเสร็จแล้ว จ่ึงก�ำหนดพระฤกษ์
ได้กระท�ำการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก4 ณ วันพฤหัสบดี เดือนหก ข้ึนสิบห้าค่�ำ5 เป็นวันวิสาขบูรรณมี
อุตมหามงคลฤกษ์สมควรยิ่งนัก จะได้ต้ังสวด ณ วันจันทร์ข้ึนสิบสองค่�ำ6 เจ้าพนักงานได้จัดการปลูกโรงพิธี
พราหมณ์ หน้าพระที่น่ังอมรินทวินิจฉัยตามอย่างธรรมเนียม ในพระท่ีน่ังอัมรินทวินิจฉัยน้ัน ตรงประตูกลาง
ท่ีแขกเมืองเข้า7 ตั้งเตียงพิธีพระสวดท้องภาณที่หลังลับแล ตั้งเคร่ืองนมัสการ ต้ังโคมเทียนชัย ต้ังเคร่ืองสูง
ทุกส่ิง8 ไว้ตามท่ี ตั้งต้นไม้เงิน ต้นไม้ทอง แลตกแต่งเปลี่ยนพระมหาเศวตฉัตรใหม่9 แลเตียงพิธีน้ัน ส�ำหรับ
พระสงฆ์จะได้สวดท้องภาณ ต้ังแต่สมัยการ10 จนเสร็จพระราชพิธีราชาภิเษก แต่งท่ีไว้พระสงฆ์สวดพระปริตร
สามสิบรูป แล้วจัด11 ในพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ ได้ตกแต่งข้างบุรพทิศ ตั้งพระแท่นแว่นฟ้ามีระบายตาด
1 วนั ท่ี ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
2 ฉบับพมิ พ์ครั้งท่ี ๑ ใช้ว่า “...อนั อุดม...”
3 ฉบบั พมิ พ์คร้งั ที่ ๑ ใชว้ ่า “...ถมทองคำ� ...”
4 ข้อความส่วนต้นนี้ไม่ปรากฏใน “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร์” ท่ีพิมพ์รวมเล่มในหนังสือ “ราชาภิเษก
และจดหมายเหตุบรมราชาภเิ ษก รัชกาลท่ี ๕” โดยเริม่ ต้นเนอื้ หาหลังจากนี้เป็นต้นไป
5 วนั ท่ี ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
6 วันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
7 ฉบับพมิ พ์ครง้ั ที่ ๑ ใชว้ ่า “...เข้าเฝา้ ...”
8 ฉบับพิมพค์ ร้งั ท่ี ๑ ใชว้ ่า “...ตงั้ เครื่องทุกสิ่ง...”
9 “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร์” ใช้ว่า “...พระมหาเศวตฉัตรใหม่ขลิบระบายด้วยทองค�ำ ท�ำระบายเป็น
สามชนั้ ...”
10 ฉบบั พิมพ์ครั้งที่ ๑ ใช้วา่ “...สมยั กาล...”
11 ฉบับพมิ พค์ รัง้ ท่ี ๑ ไม่ปรากฏขอ้ ความ “...แล้วจัด...”
118 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
แล้วต้ังระย้ากินนรบรรจุพระบรมธาตุ ตั้งพระไชย1 พระพุทธบุศยรัตน แลพระแก้วเชิงแสน2 พระแก้ว
เรือนทอง พระไชยทอง พระไชยเงิน พระไชยเนาวโลหะ พระไชยผ้าห่มลงยาราชาวดี พระไชยพิธี พระมหาสมุทร
สององค3์ รวมสบิ สององค์ ครอบพระกรง่ิ หนงึ่ ตงั้ พระสพุ รรณบตั รแลสรอ้ ยธรุ ำ� ดวงพระชนั ษา เครอ่ื งมรุ ธาภเิ ษก
พระเต้าเบญจคัภประดับเพชรพลอยห้าอย่าง ท�ำด้วยโมราองค์หนึ่ง ท�ำด้วยศิลาหยกองค์หนึ่ง ตั้งพระเต้า
พระทุมนิมิตรทองหนึ่ง นาคหนึ่ง เงินหนึ่ง สัมฤทธิ์หนึ่ง พระเต้าเทวบิดหนึ่ง ไตรลาศหนึ่ง เนาวเคราะห์หนึ่ง
มังสีหน่ึง4 พระมหาสังข์ทักขิณาวัฏ พระมหาสังข์สาม พระมหาสังข์5 เคร่ืองพิไชยสงคราม เกราะนวมฉลอง
พระองค์ ลงราชหน่ึง6 ฉลองพระองค์สามสิบสองช้ัน พระภูษาเจ็ดสี ขวดใส่น�้ำศรีศะ7 ขวดแก้วใส่น�้ำมันเคร่ือง
สองขวด ธงไชยศึกแลธงกระบี่ครุฑ พระเคร่ืองต้น ราชกกุธภัณฑ์ พระแสงขรรค์ชัยศรี พัดวาลวิชนี ธารพระกร
ลุ้งพระมาลาเบี่ยง พระมหาชฎาเพชร พระธ�ำมรงค์ พระสุพรรณภาชน์ใหญ่น้อย พานพระขันหมาก เข้าพิธี8
แลพระเต้าราชาวดี พระสุพรรณศรีบัวแฉก ฉลองพระบาท เครื่องทั้งน้ีมีผ้าโขมพัตรอง พระแสงดาบคาบค่าย
พระแสงหอกไชย พระแสงดาบเชลย พระแสงดาบใจเพชร พระแสงตรีจักรธนู พระแสงเวียดห้าว พระแสง
ฅอคร่�ำไม้เท้า พระแสงง้าวพลพ่าย พระแสงฅอตีช้างล้ม พระแสงปืนคาบชุดข้ามแม่น�้ำสโตง พระแสงเขน9
ต่ังท�ำด้วยไม้อุทุมพรรองเคร่ืองนมัสการ แลบาตรน้�ำบาตรทรายส่ิงละห้า เกี่ยวหญ้าคาถักเป็นสายสิญจน์กับ
ด้ายสายสิญจน์ประสมกัน วงสายสิญจน์โยงเข้าไปรอบทุกแห่ง10 พระบรมมราชวัง แต่งท่ีพระสงฆ์น่ังเจริญ
พระปริตรห้าสิบรูป ริมพระแท่นพิธีแว่นฟ้าตั้งพระที่นั่งอัฐทิศท�ำด้วยไม้อุทุมพร มีพระเศวตฉัตรปักกลาง มีรูป
เทพยดา11 ทั้งแปดทิศ ตั้งกรตสรง12 พานทองเครื่องบูชาเทวดาทุกทิศ แล้วตั้งพระที่น่ังภัทบิฐเบ้ืองประจิม
ทิศ ท�ำด้วยไม้ไชยพฤกษ์หุ้มด้วยเงินชั้นหนึ่ง ทองชั้นหนึ่ง กั้นเศวตฉัตรเจ็ดชั้น พ้ืนพระที่นั่งลาดผ้าอุทุมพร
แล้ววางแผ่นทองค�ำ เขียนรูปราชสีห์ด้วยชาดหรคุณ แล้ววางตะรางคา13 แผ่นทอง แล้วพราหมณ์โรยแป้ง
ข้าวสาลี เสกด้วยอิศรมนต์ แลปูผ้าลาดบนพระท่ีน่ังภัทบิฐ พระที่นั่งภัทบิฐคล้ายพระที่นั่งเก้าอี้ ท่ีมุขกระสัน
พระวงศานวุ งศ1์ 4 ฝา่ ยในตง้ั โตะ๊ เครอื่ งบชู าหนา้ เสาทกุ เสา ขา้ งมขุ กระสนั ฝา่ ยตะวนั ออก ตง้ั พระทน่ี ง่ั กระยาสนาน
1 ฉบบั พิมพ์ครง้ั ท่ี ๑ ใช้วา่ “...พระปฏมิ าไชย...”
2 ฉบบั พิมพ์คร้งั ท่ี ๑ ใชว้ ่า “...พระแก้วเชียงแสน...”
3 ฉบับพิมพค์ ร้งั ที่ ๑ และ “จดหมายเหตรุ าชาภิเษกในกรงุ รตั นโกสนิ ทร์” ใชว้ า่ “พระห้ามสมทุ รสององค”์
4 “จดหมายเหตุราชาภเิ ษกในกรงุ รัตนโกสินทร”์ ใช้วา่ “...พระเตา้ เนาวเคราะหห์ นึ่ง พระเต้ามงั ศรีหน่ึง...”
5 ฉบับพิมพ์ครงั้ ที่ ๑ ใช้วา่ “...พระมหาสังข์ ๕...”
6 ฉบับพมิ พค์ ร้ังท่ี ๑ ใชว้ ่า “...ลงราชวัติ ๑...”
7 หมายถึง น้�ำสส่ี ระ
8 “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร”์ ไม่มีขอ้ ความ “เข้าพิธี”
9 ฉบบั พิมพค์ รง้ั ที่ ๑ ใช้ว่า “...พระแสงดาบเขต...” และเรียงลำ� ดบั พระแสงศัสตราวุธตา่ งออกไป
10 ฉบับพิมพค์ รัง้ ท่ี ๑ และ “จดหมายเหตุราชาภเิ ษกในกรงุ รัตนโกสนิ ทร”์ ใช้ว่า “วงสายสิญจน์โยงทว่ั ไปทุกแหง่ รอบ”
11 ฉบบั พิมพ์ครัง้ ที่ ๑ ใช้วา่ “...มีเทพดา...”
12 ฉบับพิมพ์ครั้งท่ี ๑ ใช้วา่ “...ตงั้ กลศสงั ข.์ ..”
13 “จดหมายเหตรุ าชาภเิ ษกในกรุงรัตนโกสนิ ทร์” ใชว้ า่ “คาบน”
14 ฉบับพมิ พ์ครงั้ ท่ี ๑ ใชว้ า่ “...พระบรมวงศานวุ งศ.์ ..”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 119
สรงนำ้� มรู ธาภเิ ษก ดว้ ยไมอ้ ทุ มุ พรเปน็ มณฑปเครอ่ื งทองคำ� เพดานแลมา่ นผา้ ขาวเขยี นลายทอง มรี าชวดั ฉตั รทอง
ฉัตรเงิน ฉัตรนาก รายรอบท้ังสี่ทิศ ในพระมณฑปต้ังพระแท่นสรงลาดผ้าขาว แลวางถาดทองรองใบไม้
ไชยพฤกษ์ในถาดน้ัน แล้วมีผ้าโขมพัตรปิดไว้ ในพระท่ีน่ังจักรพัตรพิมาน แต่งการในที่พระมณเฑียร1
ต้ังแท่นทองดาดเพดานบนแท่นตั้งพระบรมธาตุ ห้ามสมุทรทองค�ำ พระไชยข้าหลวงเดิม เครื่องนมัสการ
เทียนเท่าพระองค์เล่มหน่ึง เทียนพระมหามงคลเล่มหน่ึง พระมหามงคลสวมมือฟังสวดองค์หน่ึง พานทองรอง
ดอกหมากทองค�ำ พานทองรองลูกกุญแจ พานทองถ่ัว พานทองงา พานทองฟัก พานทองศิลาบด
พานทองข้าวเปลือก แต่งท่ีพระสวดบนพระแท่นบันทมห้ารูป แต่งที่เสด็จฟังพระปริตรแห่งหน่ึง
มีภูษาทรงพระพักตร์หน่ึง พระครอบทองค�ำหน่ึงตั้งไว้ริมท่ี เจ้าพนักงานจัดการเสร็จแล้ว การข้างนอกก็ปัก
ราชวดั ฉตั รเบญจรงคเ์ จด็ ชน้ั รอบพระราชวงั ชนั้ ในชน้ั นอก ทป่ี ระตมู เี สาธงจดุ ประทปี หนา้ ประตเู ปน็ คู่ ๆ ทกุ ประตู
ขอแรงขุนนาง เจ้าภาษีนายอากร กับจีนนายส�ำเภา เอาโต๊ะเคร่ืองสการบูชาเข้าไปตั้งในพระราชวังเต็มแล้ว
จงึ ไปตงั้ รายรอบวดั พระศรรี ตั นสาศดารามดว้ ย เปน็ โตะ๊ เครอื่ งบชู ารวมกนั รอ้ ยหนง่ึ แลกำ� แพงแกว้ พระมหามณเฑยี ร
พระมหาปราสาท ตามประทีปชวาลา มีจ�ำนวนจ่ายน้�ำมันคืนหนึ่งถึงเจ็ดพันดวง
ครั้น ณ วันจันทร์ เดือนหก ขึ้นสิบสองค่�ำ2 เวลาบ่ายสามโมง พราหมณ์เชิญเทวรูปเข้าสู่พิธี แล้วทรง
พระภูษาลายเขียนทองพ้ืนขาวฉลองพระองค์กรองทองพื้นขาว รัดพระองค์ประดับเพชร พระบรมวงศานุวงศ์
ก็แต่งพระองค์ทรงผ้าเขียนทองคาดเสื้อครุยต่างสี ข้าราชการก็นุ่งสมปักลายคาดเส้ือครุยขาวตามเสด็จ
หมู่องครักษ์ก็ขัดกระบ่ีน�ำแห่เสด็จพระราชด�ำเนินเข้าไปในพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ทรงถวายผ้าไตรย่าม
พัชนี แก่พระสงฆ์ราชาคณะแปดสิบห้ารูป ครองผ้าไตรแล้ว ทรงถวายเทียนชนวนแด่สมเด็จกรมหมื่น
นุชิดชิโนรส ศรีสุคตขัติยวงษ ให้ทรงจุดเทียนไชย แล้วพระสงฆ์ราชาคณะสวดพระพุทธมนต์ที่พระที่นั่ง
อมั รนิ ทรวนิ จิ ฉยั สามสบิ รปู เขา้ ไปสวดในพระทน่ี ง่ั ไพศาลทกั ษณิ หา้ สบิ รปู เขา้ ไปสวดในพระทนี่ ง่ั จกั รพตั รพมิ านหา้ รปู
แล้วก็เสด็จเข้าไปในพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ จุดเครื่องนมัสการทรงศีลฟังพระสงฆ์ประกาศเทวดาแล้ว
เสด็จเข้าไปในพระที่น่ังจักรพัดิพิมาณ จุดเทียนเครื่องนมัสการ ฟังพระสงฆ์เจริญพระปริตรในพระที่น่ังสามวัน
ถวายไทยทานผ่อนไปทุก ๆ วัน3
1 ฉบบั พมิ พ์ครงั้ ท่ี ๑ ใชว้ ่า “พระมหามนเทยี ร”
2 วันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
3 “จดหมายเหตุราชาภเิ ษกในกรงุ รตั นโกสนิ ทร์” ใชว้ ่า “ทุกวนั ๆ”
120 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สรงพระมูรธาภิเษก1
คร้ัน ณ วันพฤหัสบดี เดือนหก ข้ึนสิบห้าค่�ำ2 เวลาเช้าเป็นมหามงคลวันอุดม3 พระสงฆ์ราชาคณะเข้าไป
พร้อมประจ�ำที่อยู่ทุกแห่ง แล้วกรมหม่ืนนุชิดชิโนรสก็ดับเทียนไชยเสียก่อนยังไม่เสด็จ คร้ันเสด็จพระราชด�ำเนิน
เข้าไปเห็นเทียนไชยดับจ่ึงด�ำรัสถาม ข้าราชการทั้งปวงกราบทูลว่า กรมหม่ืนนุชิดชิโนรสทรงดับ ด�ำรัสว่าไม่ถูก
ยังไม่แล้วการ4 แล้วเสด็จพระราชด�ำเนินเข้าไปในพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ ทรงจุดเทียนนมัสการแล้ว ครั้นเพลา
นาฬิกาหนึ่งกับเก้าบาท ได้วิศาขนักขัตฤกษ์ พระมหาไชยมงคลบรมราชาภิเษก ต้องอย่างบูราณราชประเพณี
แต่ก่อน เจ้าพนักงานจึงเชิญเสด็จทรงพระกระยาสนาน ชาวภูษามาลาถวายพระภูษาขาวขลิบทอง ราชบัณฑิตย์
เชิญพระไชย พระครูพราหมณ์เชิญพระพิฆเนศวร แล้วโปรยข้าวตอก เป่าสังข์ทักขิณาวัฏน�ำเสด็จไปสู่พระมหา
มณฑปกระยาสนาน ขึ้นสถิตยเหนืออุทุมพรพระราชาอาสน์ บ่ายพระพักตร์สู่ทิศอีสาน จึงชาวภูษามาลา5
ถวายเครื่องมูรธาภิเษกแล้วไขสหัสธารา
ครั้นเสด็จสรงสหัสธาราน้�ำปัญจมหานที6 แล้ว พระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ที่มีพระชนมายุ ฝ่ายบรรพชิต
คฤหัสถ์เข้าไปถวายน�้ำพระประทุมนิมิต กรมหมื่นนุชิดชิโนรสศรีสุคตขัติยวงษ พระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ ถวาย (น�้ำ)
พระเต้าแก้ว พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าฤกษ ถวายน้�ำพระเต้าเนาวโลหะ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้า
กรมขุนอิศเรศรังสรร ถวายน้�ำพระเต้าทอง พระบรมวงศ์เธอ กรมขุนรามอิศเรศร ถวายน้�ำพระเต้าเงิน พระเจ้า
พ่ียาเธอ กรมขุนเดชอดิศร ถวายน�้ำพระเต้านาก พระเจ้าพ่ียาเธอ กรมขุนพิพิธภูเบนทร์ถวายน้�ำพระเต้าสัมฤทธิ์
แล้วพระบรมวงศาเสนาบดีผู้ใหญ่ เจ้าพระยาพระคลังว่าท่ีสมุหพระกรลาโหม ถวายน้�ำพระเต้ามังศรีเคร่ืองทอง
พระยาศรีพิพัฒนรัตนราชโกษา ถวายน้�ำพระเต้ามังศรีเคร่ืองเงิน สรงน�้ำพระเต้าประทุมนิมิตเสร็จแล้ว จึงหลวง
ศรีสิทธิไชยหมอเฒ่า ถวายน�้ำพระสังข์ทักขิณาวัฏหน่ึง พระมหาราชครูพิธีถวายน�้ำพระเต้าเบญจคัภหนึ่ง
พระครูอัศดาจาริย์ถวายน้�ำพระมหาสังข์ทองหนึ่ง หลวงจักรปาณีถวายน้�ำพระมหาสังข์เงินหนึ่ง หลวงราชมณี7
ถวายน�้ำพระมหาสังข์นากหนึ่ง หลวงศรีวาจารย์8 ถวายน�้ำพระมหาสังข์งาจ�ำเริญช้างเผือกหนึ่ง หลวงเทพา
จารย์ถวายน�้ำพระครอบหนึ่ง ทรงรับน้�ำด้วยพระหัตถ์ แล้วพราหมณ์ก็เป่าพระมหาสังข์ทักขิณาวัฏสององค์
อุตราวัฏหกองค์ เจ้าพนักงานประโคมดุริยางคดนตรี มโหระทึก แตรสังข์บัณ (เฑาะว์) พระสงฆ์สวดไชยมงคล
1 เพิม่ หัวเรือ่ งในคร้งั น้ี
2 วนั ท่ี ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
3 ฉบับพมิ พค์ รั้งที่ ๑ ใช้วา่ “...อันอดุ ม...”
4 ข้อความ “...แล้วกรมหม่นื นชุ ดิ ชโิ นรสกด็ บั เทียนชัยเสียก่อนยงั ไม่ทนั เสด็จ คร้ันเสดจ็ พระราชด�ำเนนิ เขา้ ไปเห็นเทียนชยั ดบั
จ่งึ ดำ� รัสถาม ขา้ ราชการทัง้ ปวงกราบทลู ว่า กรมหมน่ื นุชิดชิโนรสทรงดับ ดำ� รสั ว่า ไมถ่ กู ยงั ไม่แล้วการ...” ไม่ปรากฏใน “จดหมายเหตุ
ราชาภิเษกในกรงุ รัตนโกสนิ ทร”์
5 “จดหมายเหตรุ าชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร”์ ใช้วา่ “...พระภษู ามาลา...”
6 “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรงุ รตั นโกสินทร”์ ใช้วา่ “...สหสั ธาราปัญจมหานท.ี ..”
7 ฉบบั พมิ พ์คร้ังท่ี ๑ ใช้ว่า “...หลวงราชมนุ .ี ..”
8 ฉบับพิมพค์ รง้ั ท่ี ๑ ใช้วา่ “...หลวงศวิ าจารย.์ ..”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 121
รับน้�ำอภิเษก1
ครั้นสรงมูรธาภิเษกแล้ว พระสงฆ์ก็เข้าไปในพระที่นั่งจักรพัตร์พิมานทั้งห้าสิบรูป ชาวพระภูษามาลา
ถวายพระภูษา ทรงผลัดพ้ืนเหลืองเขียนทอง ทรงฉลองพระองค์คาดร้ิวทอง เสด็จกลับมาสถิตเหนืออัฏฐังโส
ทุมพรราชาอาสน์มีต่างอัฐทิศล้อม มีราชบัณฑิตประจ�ำทิศละคน ผันพระพักตร์ไปสู่บุรพทิศเป็นประถม
จึงมีราชบัณฑิตกล่าวค�ำอันเป็นมงคล โดยมคธภาษาถวายมอบแผ่นดิน อันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา
ทรงรบั ดว้ ยพระเต้าเบญจคัภกระท�ำด้วยโมราประดบั เพชร ประดับทับทิม มรี าคาเปน็ อนั มาก พราหมณถ์ วายน�้ำ
พระมหาสังข์ทักขิณาวัฏน�้ำกรด2 ทรง (รับมา) สรงพระพักตร์ แล้วเสวยหน่อยหนึ่ง แล้วผันพระองค์ไปตาม
ทิศอาคเนย์โดยทักขิณาวัฏ ทรงรับน้�ำพระพุทธปริตร น�้ำสรง3 ทั้งแปดทิศเสร็จแล้ว เสด็จพระราชด�ำเนินมาข้ึน
บนพระที่น่ังภัทรบิฐ ผันพระพักตร์สู่อีสานทิศ พระครูพราหมณ์ก็อ่านอิศรเวทสรรเสริญเขาไกรลาศ แล้วถวาย
ชัยมงคล4 แล้วกราบบังคมทูลถวายสิริราชสมบัติ อันพระมหากษัตริย์จะครอบครองสืบต่อไป เจ้าพนักงาน5
กราบบังคมทูลถวายพระเศวตฉัตร6 เป็นที่เฉลิมสิริราชสมบัติส�ำหรับพระบรมกษัตริย์สืบมา แล้วพระมหา
ราชครถู วายพระสพุ รรณบตั ร พระมหาพชิ ยั มงกฎุ พระมหาสงั วาล7 ทรงรบั มาสวมสอดทรงในพระองค์ แลว้ พระ
มหาราชครูถวายธารพระกรกับพระแสงขรรค์ ทรงรับธารพระกรพาดเบ้ืองขวา พระแสงพาดเบื้องซ้าย แล้วทรง
รับพระแสงอัษฎาวุธ เคร่ืองราชกกุธภัณฑ์ ราชูปโภคประกอบด้วยวิษณุเวทอิศรมนตร์ ทั้งน้ีทรงรับแล้ว8
แต่ฉลองพระบาท พระมหาราชครูมาสอดทรงถวายเสร็จแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการตรัสสั่ง9แก่พระมหา
ราชครูผู้ใหญ่ว่า ผลพฤกษ์ชลธารและส่ิงของ ในแผ่นดินเขตพระนคร10 ซึ่งหามีผู้หวงห้ามไม่นั้น ตามแต่
สมณพราหมณาจารยร์ าษฎร11 จะปรารถนาเทอญ จงึ พระมหาราชครผู ใู้ หญร่ บั พระบรมราชโองการเปน็ ประพฤติ
เหตุก่อนว่า ข้าพระพุทธเจ้า ขอรับพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาทใส่เกล้าใส่กระหม่อมดังน้ี
แล้วทรงโปรยดอกพิกุลทองพิกุลเงิน ทรงหลั่งน�้ำทักษิโณทกแล้ว พราหมณ์เป่าพระมหาสังข์ ประโคมดุริยางค
ดนตรีมโหระทึกกึกก้อง คร้ันหยุดประโคมแล้วเสด็จเข้าไปในพระมหามณเฑียร ทรงถวายส�ำรับคาวหวาน
1 เพิม่ หวั เรอื่ งในครงั้ น้ี
2 ข้อความหลังจากน้ีไปต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๓๘ ช�ำรุด มีข้อความขาดหายบางช่วง จึงตรวจสอบจาก
หนงั สือสมดุ ไทย เลขท่ี ๒๕
3 ฉบับพมิ พ์ครั้งที่ ๑ ใช้ว่า “...นำ้� สังข.์ ..”
4 ฉบบั พมิ พค์ รัง้ ที่ ๑ ไมป่ รากฏข้อความ “...แลว้ ถวายชยั มงคล...”
5 “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร์” ใช้ว่า “...ซ่ึงหาพระมหากษัตริย์จะครอบครองมิได้สืบต่อไปแต่พระบาท
สมเดจ็ พระเจ้าน้องยาเธอ เจา้ ฟา้ มงกุฎ พราหมณพ์ ฤฒามาตย์...”
6 ฉบับพิมพค์ รง้ั ที่ ๑ ใช้วา่ “...พระมหาบวรเศวตฉัตร...”
7 “จดหมายเหตุราชาภเิ ษกในกรงุ รตั นโกสินทร”์ ใชว้ า่ “...พระมหาสงั วาล คอื สงั วาลพราหมณ์ คือสังวาลพระนพเก้า...”
8 “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรงุ รัตนโกสินทร”์ ใช้ว่า “...เครอื่ งราชบรโิ ภคทุกสิ่ง...”
9 “จดหมายเหตุราชาภเิ ษกในกรุงรัตนโกสินทร”์ ใช้ว่า “...จึงมีรับส่งั ...”
10 เนื้อความหลงั จากนไี้ ปไมป่ รากฏในหนังสอื สมุดไทย เลขที่ ๓๘ จงึ ใช้เนื้อความจากหนังสอื สมดุ ไทย เลขท่ี ๒๕ แทน
11 “จดหมายเหตุราชาภเิ ษกในกรงุ รัตนโกสนิ ทร์” ใชว้ า่ “...อาณาราษฎร...”
122 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
แก่พระสงฆ์ราชาคณะ มีกรมหม่ืนนุชิตชิโนรสเป็นประธาน ท�ำภัตกิจ1 เสร็จแล้ว ทรงถวายเครื่องสมณบริขาร
ไทยธรรมท้ังปวง พระสงฆ์ราชาคณะรับแล้ว ก็ถวายอติเรกสัพพะพุทธาแล้ว ถวายพระพรลาไป จึงพระครู
พระราชพิธีขึ้นไปบนพระมหามณเฑียร ประพรมน้�ำกลศ น้�ำสังข์ รอบพระมหามณเฑียรทั้งข้างในข้างนอก
อวยชัยถวายพระพรแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระแสงขรรค์ประดับเพชร2 (สอดฉลอง
พระบาท3) เสด็จออก ณ พระที่น่ังอมรินทรวินิจฉัย ถวายไทยธรรมแก่พระสงฆ์ราชาคณะสามสิบรูปเสร็จแล้ว
พระสงฆ์จึงถวายพระพรลาไป
ข้าราชการฝ่ายหน้าถวายสิริราชสมบัติ4
เสด็จเข้าในพระวิสูตร ทรงผลัดพระภูษาเขียนทองต่างสี ทรงฉลองพระองค์พระกรน้อยชั้นใน
ฉลองพระองค์ครุยชั้นนอก ทรงพระมหาชฎาเดินหน เครื่องราชกกุธภัณฑ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่
ผู้น้อย ฝ่ายทหารพลเรือนทุกพนักงาน แต่งตัวเต็มยศอย่างเสด็จออกใหญ่5 ตั้งเครื่องยศตามต�ำแหน่งผู้ใหญ่
ผู้น้อยทุกนาย6 ฝ่ายในจัดทหารอย่างยุโรปยืนแถวหน่ึงสองร้อยคน ฝ่ายนอกประตูพิมานไชยศรี จัดทหารไทย
สิบหมู่พันคน แต่งตัวถืออาวุธต่าง ๆ เป็นเหล่า ๆ ยืนสองฟากถนน ผูกช้างต้นม้าต้นยืนในปะร�ำ ยืนประจ�ำ
ที่เกย คือพระยาไชยานุภาพ แต่งผูกเรือพระที่น่ังศรีสมรรถไชยหน่ึง พระที่น่ังไกรสรมุขหนึ่ง มีบุษบก ฝีพาย
แต่งตัวพร้อมประทับอยู่หน้าพระต�ำหนักน�้ำตามราชประเพณี7 แต่ก่อน บรรดาแขกเมืองต่างประเทศ
เขมร ลาว ล้ือ ลาวเมืองหลวงพระบาง เมืองน่าน อันเป็นเมืองมาอ่อนน้อมถวายต้นไม้ทองต้นไม้เงินเป็นเคร่ือง
ราชบรรณาการ ซึ่งเข้ามาค้างอยู่ ณ กรุงเทพมหานครกับพวกอังกฤษ อเมริกัน วิลันดา โปรตุเกส แขกเทศ
แขกมลายู ซึ่งเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ ณ กรุงเทพมหานคร แต่ก่อนมิได้มีธรรมเนียมที่จะประชุม
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในเวลาอย่างน้ี โดยทรงพระมหากรุณาเมตตาแก่ชนต่างประเทศก็โปรดให้เข้ามา
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย จะได้เชยชมพระบรมศิริวิลาศ เห็นการวิเศษในพระพิธีบรมราชาภิเษก ชาววัง
ไขพระวิสูตรแล้ว เสด็จพระราชด�ำเนินออกขึ้นบนพระท่ีนั่งใต้พระมหาบรมเศวตฉัตรเก้าชั้น เหนือพระบรม
ราชรัตราภรณ์พิจิตรสุพรรณบัลลังก์ จึงประโคมแตรสังข์มโหรีพิณพาทย์กลองมโหระทึกกึกก้อง กลองชนะ
ฆ้องชัย หลวงราชมานูชูพุ่มดอกไม้ทอง จางวางมหาดเล็กตีกรับเป็นสัญญา ให้ข้าทูลละอองธุลีพระบาท
กราบถวายบังคมพร้อมกัน ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว พราหมณ์อ่านวิษณุเวทอิศรมนตร์ เป่าพระมหาสังข์
1 หนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๒๖ และ “จดหมายเหตุราชาภเิ ษกในกรุงรตั นโกสนิ ทร์” ใชว้ ่า “...รับพระราชทานฉนั ...”
2 “จดหมายเหตุราชาภเิ ษกในกรุงรัตนโกสินทร์” ใช้วา่ “...พระแสงใจเพชร..”
3 เน้ือความนป้ี รากฏในหนงั สอื สมดุ ไทย เลขที่ ๒๖ และใน “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรุงรตั นโกสินทร์”
4 เพิ่มหัวเรอ่ื งในครัง้ นี้
5 “จดหมายเหตุราชาภเิ ษกในกรงุ รัตนโกสินทร”์ ใชว้ า่ “...อยา่ งเสด็จออกเป็นการใหญ.่ ..”
6 “จดหมายเหตรุ าชาภเิ ษกในกรุงรัตนโกสินทร์” ใชว้ ่า “...ทกุ ท่านทกุ นาย...”
7 “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรุงรตั นโกสินทร์” ใชว้ า่ “...โบราณราชประเพณี...”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 123
ถวายชัยมงคล พระศรีภูริปรีชาเสนาบดีศรีสาลักษณ์เจ้าพนักงาน ซ่ึงได้น�ำความกราบทูลก่อนเสนาบดี
ท้ังปวง กราบทูลว่า สรวมชีพข้าพระพุทธเจ้าผู้รับอธิบายแห่งท่านทั้งหลายนี้ อรรคมหาเสนาบดีแลอ�ำมาตย์
มขุ มนตรี ขา้ ทูลละอองธลุ ีพระบาท บรรดามาพร้อมในสถานที่น้ี ขอถวายอัญชลบี ังคมประนมนอ้ มศโิ รตมางค์แด่
พระบาทสมเด็จพระบรมนารถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันได้เสด็จเถลิงถวัลยราชย์บรมราชาภิเษก
เป็นองค์เอกอัครมหาราชาธิราชทรงพระยศวโรภาสสถิตภายใต้พระมหาบวรเศวตฉัตร เหนือพระวโรดม
บรมรัตน์ราชบัลลังก์ มีพระปรมาภิไธยได้ประดิษฐานตั้ง1 ในแผ่นพระบรมสุพรรณบัตร โดยอักษรลักษณะ
แสดงอรรถว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎ สุทธสมมติเทพยพงศ์ วงศาดิศรกษัตริย์วรขัตติย
ราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาติสังสุทธเคราหณี จักรกรีบรมนารถอดิศร
ราชรามวรังกูร สุจริตมูลสุสาธิตอุกฤษฐวิมูลย์ บูรพาดุลยกฤษฎาภินิหาร สุภาธิการรังสฤษฎิ์ธัญลักษณวิจิตร
โสภาคยส์ รรพางค์ มหาชโนตตะมางคประณต บาทบงกชยคุ ล ประสทิ ธสิ รรพศภุ ผลอดุ มบรมศขุ มุ าลยมหาบรุ ษุ รตั น
ศึกษาพิพัฒนสรรพโกศล สุวิสทุ ธวมิ ลศุภศลี สมาจาร เพชรญาณประภาไพโรจน์ อเนกโกฏิสาธคุ ณุ วบิ ุลยสันดาน
ทิพยเทพาวตาลไพศาลเกียรตคิ ณุ อดลุ ยพเิ ศษ สรรพเทเวศรานรุ กั ษ์ เอกอรรคมหาบุรุษ สตุ พุทธมหากวี ตรีปิฏกา
ทิโกศล วิมลปรีชามหาอุดมบัณฑิตย สุนทรวิจิตรปฏิภาณ บริบูรณ์คุณสารสยามาทิโลกยดิลก มหาปริวารนายก
อนันต์มหันตวฤทธิเดช สรรพวิเศษสิรินทร มหาชนนิกรสโมสรสมมตประสิทธิวรยศมโหดมบรมราชสมบัติ
นพปดลเศวตฉัตร สริ ริ ัตโนปลักษณมหาบรมราชาภเิ สกาภิษิต สรรพทศทิศวิชติ ชยั สกลมไหศวรยิ มหาสวามนิ ทร์
มเหศวรมหินทรมหารามาธิราชวโรดม บรมนารถชาติอาชาวไสย พุทธาทิไตรยรัตนสรณารักษ์ อุกฤษฐศักดิอัคร
นเรศรามาธิบดี เมตตากรุณาสีตลหฤทัย อโนปไมยบุญการ สกลไพศาลมหารัษฎาธิเบนทร ปรเมนทรธรรมิก
มหาราชาธิราชบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชย์ในพระมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
อมรรัตนโกสินทรมหินทรายุธยา สรวมชีพข้าพระพุทธเจ้า เจ้าพระยาอรรคมหาเสนาธิบดี ว่าท่ีสมุห
พระกระลาโหม พระยาราชสุภาวดีว่าที่สมุหนายก พระยาพิพัฒนโกษา เจ้าพนักงานกรมท่าสิบสองพระคลัง
พระยาบ�ำเรอภักตร เจ้าพนักงานกรมวัง พระยาประชาชีพ เจ้าพนักงานกรมนา พระยาเพ็ชรปาณี เจ้าพนักงาน
กรมพระนครบาล ขอรับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสอนุญาตแด่พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อจะกราบทูลพระกรุณามอบถวายสรรพส่ิงซึ่งเป็นเคร่ืองประดับพระบรมราช
อิสริยยศ แลราชสมบัติท้ังปวง อันปฏิพัทธ์เฉพาะพนักงานต่าง ๆ ตามธรรมเนียมแต่ก่อนมาในใต้ฝ่าละอองธุลี
พระบาท สมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ควรมิควรสุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อม ขอเดชะ ะ
ส้ินค�ำอาลักษณ์กราบทูลเบิกแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการด�ำรัสสั่งว่า บรรดาเสนาบดีมุขมนตรี
หมู่อ�ำมาตย์ซ่ึงมีบรรดาศักด์ิจะได้เข้ามาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในท่ีเฉพาะพระพักตร์ท้ังปวง ตั้งแต่วันน้ีไป
จงได้โอกาสเพ่ือจะกราบทูลเหตุการณ์อันสมควรตามอัธยาศัยในเวลาอันควร อย่าให้ป่วยการเนิ่นช้าด้วยจะหา
ผูก้ ราบทูลแทนตัวเลย จงมคี วามสะดวกใจในท่จี ะกราบทูลพระกรุณาด้วยวาจาของตนทกุ คนนน้ั เถิด อาลักษณผ์ ู้
1 เน้ือความหลงั จากน้ปี รากฏในหนงั สือสมดุ ไทย เลขที่ ๓๘
124 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
กราบทูลเบิกขอรับพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมแล้วดังน้ี จึงจางวาง
มหาดเล็กตีกรับเป็นสัญญา ให้ข้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบถวายบังคมให้พร้อมกันอีกคร้ังหนึ่ง
เสนาบดีจตุสดมภ์กราบบังคมทูล
แล้วเจ้าพระยาพระคลัง [ดิศ] ว่าที่สมุหพระกรลาโหมกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทาน
ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายพระมหาพไิ ชยราชรถ แลเรอื พระทน่ี งั่ ศรสี มรรถไชย เรอื พระทนี่ งั่ ไกรสรมขุ เรอื พระทนี่ งั่
มีชื่อต่าง ๆ เรือกระบวนใหญ่น้อย แลเคร่ืองสรรพยุทธ์ท้ังปวงกับเมืองเอก โท ตรี จัตวา ไพร่พลฝ่ายทหาร
ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทบรมนารถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมแล้วดังน้ี
จึงพระยาราชสุภาวดี [โต] ท่ีสมุหนายกกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้า
ทูลกระหม่อมถวายพระยาช้างพระท่ีน่ังต้น พระยาม้าพระท่ีน่ังต้น กับเมืองเอก โท ตรี จัตวา ทั้งไพร่พล
ฝ่ายพลเรือน ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้า
ด้วยกระหม่อมแล้วดังน้ี
จึงพระยาบ�ำเรอภักดิ์ ราชปลัดทูลฉลองฝ่ายกรมวังกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทาน
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระมหามณเฑียรปราสาทราชนิเวศน์สถาน พระราเชนทรราชยาน ทั้งเครื่องสูง
เฉลิมพระเกียรติยศในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระบรมนารถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมแล้วดังน้ี
จึงพระยาเพ็ชรปาณี ราชปลัดทูลฉลองฝ่ายกรมเมืองกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทาน
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทรมหินทรายุทธยา ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
สมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมแล้วดังนี้
จึงพระยาประชาชีพ ราชปลัดทูลฉลองฝ่ายกรมนากราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้า
ทูลกระหม่อมถวายธัญญาหาร แดนสถานลานนาเขตรประเทศต�ำบล ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สมเด็จ
บรมนารถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมแล้วดังน้ี
จึงพระยาพิพัฒนโกษา ราชปลัดทูลฉลองฝ่ายกรมท่ากราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทาน
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องพระพัทธยากรราชสมบัติท้ังสิบสองพระคลัง ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
สมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม แล้วดังนี้
คร้ังน้ันปลัดทูลฉลองได้กราบทูล เพราะจัตุสดมภ์ไม่มีตัว มิใช่เป็นธรรมเนียมของปลัดทูลฉลองดอก
ครั้นทูลถวายเสร็จแล้วจึงมีพระบรมราชโองการตรัสปฏิสัณฐารแก่เจ้าพระยาแลพระยาทั้งปวงว่า สิ่งของ
ของท้ังปวงนี้ จงจัดการท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศาสนาสืบไป
แล้วอรรคมหาเสนาบดีผู้ใหญ่รับพระบรมราชโองการกราบถวายบังคมทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง
ขอรับพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทใส่เกล้าใส่กระหม่อม จึงทรงตรัสเป็นราชปฏิสัณฐารกับ
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 125
ราชอ�ำมาตย์ทั้งปวงด้วยข้อความคือ การอันเป็นธรรมโดยราชปรริหาร1 อันเป็นมงคลสมควรกับธรรมเนียมแล้ว
จึงทรงปราศรัยด้วยพวกแขกต่าง ๆ ที่เข้ามาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ให้ล่ามแปลตามภาษาไทยให้
แขกเมืองฟังบ้างเล็กน้อย แล้วจึงด�ำรัสสั่งให้ล่ามพนักงานต่างภาษาพาพวกแขกเมืองทั้งปวงไปเลี้ยงโต๊ะท่ี
โรงเลี้ยงแขกเมืองต่างประเทศ แล้วให้เจ้าพนักงานเอาดอกพิกุลทอง พิกุลเงิน กับเงินตราทองตรามงกุฎ
แผ่นดินใหม่ มีสัณฐานต่าง ๆ อย่างเช่นใช้ในกรุงเทพมหานครครบทุกอย่าง ใส่ถุงผ้าแดงคิดเป็นเงินตราสองต�ำลึง
กับดอกพิกุลคนละสองดอกไปพระราชทานให้ท่ัวทุกคน แล้วหลวงราชมานูชูพุ่มดอกไม้ทองเป็นสัญญา
พราหมณ์ก็เป่าสังข์ ชาวแตรก็เป่าแตร ประโคมดุริยดนตรีพิณพาทย์กลองมโหระทึก กลองชนะฆ้องไชยข้ึน
พร้อมกัน จางวางมหาดเล็กตีกรับเป็นสัญญา ให้ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยกราบถวายบังคมสามหน
ข้าราชการฝ่ายในถวายตัว
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชด�ำเนินกลับขึ้นพระที่น่ังไพศาลทักษิณ
เสด็จเหนือพระท่ีนั่งพระภัทรบิฐ พระวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ผู้น้อย ข้าราชการฝ่ายใน ก็ต้ังดอกไม้ธูปเทียนถวายตัว
ท้าววรจันทรกราบทูลถวายสิบสองพระก�ำนัล
การเฉลิมพระราชมณเฑียร2
คร้ันได้พระฤกษ์เสด็จพระราชด�ำเนินเข้าสู่พระมหามณเฑียร มีนางราชนิกุลช�ำระพระบาทนางหน่ึง
นางเชิญเคร่ืองราชบริโภคส�ำหรับพระบรมกษัตริย์แปดนาง แล้วมีนางเช้ือพระวงศ์หกนาง เชิญส่ิงของอันเป็น
สิริวิลาแลธัญญาหาร ถ่ัวแลงาผลแลศิลาบด ดอกหมากทองค�ำ ตามเสด็จเข้าไปในพระมหามณเฑียร
คร้ันเสด็จถึงในท่ีทรงจุดเทียนนมัสการแล้ว เสด็จข้ึนพระแท่นบันทม พระบรมวงศาผู้ใหญ่ คือพระองค์เจ้าพลับ
ถวายดอกหมากท�ำด้วยทองค�ำแปดน�้ำหนักห้าต�ำลึง3 พระแส้หางช้างเผือกผู้ ทรงรับแล้ววางไว้ข้างท่ี
แลว้ ทา้ วทรงกนั ดารถวายลกู กญุ แจทองคำ� แลว้ เอนพระองคท์ รงพระบรรทมลงเหนอื พระแทน่ ท่ี โดยทกั ษณิ ปรศั ว์
เบ้ืองขวาเป็นฤกษ์4 ก่อน แลพระบรมวงศ์ฝ่ายในที่ทรงพระชนมายุถวายไชยมงคลก่อน แล้วพระวงศานุวงศ์5
ท้าวนางข้างในอวยไชยถวายพระพรต่าง ๆ พร้อมกัน ชาวประโคมก็ประโคมดุริยดนตรีมโหระทึก
1 ฉบับพิมพค์ รงั้ ที่ ๑ ใช้วา่ “...ราชบริหาร...”
2 เพมิ่ หวั เรื่องในคร้ังนี้
3 “จดหมายเหตรุ าชาภเิ ษกในกรุงรตั นโกสินทร์” ใช้วา่ “...ถวายดอกหมากทองคำ� หนักห้าต�ำลงึ ...”
4 ฉบบั พิมพค์ รงั้ ท่ี ๑ ใชว้ า่ “...พระฤกษ์...”
5 “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรุงรตั นโกสนิ ทร์” ใชว้ า่ “...พระราชวงศานุวงศ์...”
126 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
คร้ันสุดเสียงประโคมแล้ว เสด็จจากที่พระบรรทม1 นางพนักงานก็เชิญเคร่ืองสุพรรณภาชน์
พระกระยาเสวยเข้ามาถวาย2 ทรงเสวยพระกระยาหาร3 เสร็จแล้ว เสด็จพระราชด�ำเนินมาขึ้นพระราชยานกง
ถมตะทอง กงกระจังท�ำด้วยทองค�ำจ�ำหลักลายกุด่ันประดับพลอยเนาวรัตน์ พร้อมด้วยข้าทูลละอองธุลีพระบาท
แห่ห้อมล้อมไปทางพระฉนวน ทรงโปรยเงินไปยังวัดพระศรีรัตนสาศดาราม พระยาวิเสศสงครามพาพวกพ่อค้า
อังกฤษ อเมริกัน วิลันดา โปรตุเกษ ไปคอยเฝ้ารับเสด็จอยู่ที่พระระเบียง ทรงโปรยเงินพระราชทานให้ชิงกัน
แล้วเสด็จเข้าไปในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนสาศดาราม ประทับในพระอุโบสถแล้วทรงจุดเทียนนมัสการ
พระพุทธปฏิมากรเสร็จแล้ว อัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมอัยกาธิราชมหาชนกนารถออกไป
ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนสาศดาราม ทรงจุดเทียนกราบถวายบังคมเคารพพระบรมอัฐิ นิมนต์
พระสงฆ์สดับปกรณ์ เสร็จแล้วเสด็จโดยประตูพิมานไชยศรีไปยังพระที่น่ังดุสิดามหาปราสาท4 ทรงจุดเทียน
นมัสการถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช ซึ่งสถิตอยู่ในพระโกฏ พระสงฆ์สดับปกรณ์
เสร็จแล้วเสด็จพระราชด�ำเนินทรงโปรยเงินไปทางข้างในสู่พระมหามณเฑียร
ครั้นเพลาบ่ายสามโมง เจ้าพนักงานต้ังบายศรีทอง บายศรีเงิน บายศรีตอง พระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่
ผู้น้อยข้างหน้าข้างในแลข้าราชการ พร้อมกันกระท�ำพิธีติดแว่นเวียนเทียนเจ็ดรอบ เฉลิมพระมหามณเฑียร
ตามพระราชประเพณีแต่ก่อนเสร็จแล้ว
การถือน้�ำพระพิพัฒน์สัตยา5
คร้ัน ณ วันศุกร์ เดือนหก แรมค�่ำหน่ึง6 เพลาบ่ายสามโมง พระราชาคณะฐานานุกรมเปรียญ พระครู
อธิการห้าร้อยรูป สวดพระพุทธมนต์พิธีถือน�้ำในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนสาศดาราม
คร้ัน ณ วันเสาร์ เดือนหก แรมสองค�่ำ7 เวลาเช้าพระสงฆ์ห้าร้อย ได้รับพระราชทานฉันข้าวกระทง
ที่ขอแรงข้าราชการท�ำถวายเสร็จแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยได้รับพระราชทาน
นำ�้ พระพพิ ฒั สตั ยาอกี ครง้ั หนงึ่ เปน็ เสรจ็ การพระราชพธิ มี หาไชยมงคลอนั อดุ มบรมราชาภเิ ษก ครนั้ ถอื นำ้� เสรจ็ แลว้
พระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดี ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายหน้าฝ่ายใน จัดดอกไม้ธูปเทียนเข้าไป
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตัว ขอพระเดชพระคุณบารมีเป็นท่ีพึ่งปกครองสืบต่อไป จะได้ตั้งใจท�ำราชการ
1 ฉบบั พมิ พ์คร้งั ท่ี ๑ ใช้วา่ “...แท่นทีพ่ ระบรรทม...”
2 “จดหมายเหตุราชาภิเษกในกรงุ รตั นโกสนิ ทร”์ ใช้วา่ “...เข้ามาตง้ั ถวาย...”
3 “จดหมายเหตรุ าชาภเิ ษกในกรงุ รัตนโกสินทร์” ใช้วา่ “...จึงเสวยพระกระยาหาร เปน็ ฤกษ์พอสมควร...” แลว้ จงึ จบเนอ้ื หา
พรอ้ มระบุวา่ “...จบเร่อื งปัญจราชาภเิ ษกและบรมราชาภเิ ษกแตเ่ ท่านี้”
4 ฉบบั พมิ พ์ครง้ั ท่ี ๑ ใช้ว่า “...พระทนี่ ัง่ ดสุ ิตมหาปราสาท...”
5 เพม่ิ หัวเรอ่ื งในคร้งั น้ี
6 วันท่ี ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
7 วันท่ี ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 127
ฉลองพระเดชพระคุณกว่าจะส้ินชีวิต จ่ึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระมหากรุณาด�ำรัสส่ัง
ให้เจ้าพนักงานข้าหลวงเดิมจัดของเป็นส่วนเพ่ือคนหน่ึง ๆ ตามผู้ใหญ่ผู้น้อยที่มีความชอบมากแลน้อยส่วนอย่าง
ใหญ่กว่าท้ังปวง คิดเป็นราคาถึงช่ังหนึ่ง แลมีส่วนน้อยลดกันล�ำดับลงมาจนถึงราคาต�ำลึงหนึ่ง พระราชทาน
แจกให้โดยสมควรแก่กันเป็นอันมาก ทั้งข้างหน้าข้างในกว่าพันคน แลในกรุงเทพ พระบรมวงศานุวงศ์แล
ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย สมณพราหมณาจารย์อาณาประชาราษฎรสมัครสโมสรชื่นชมบรมโพธิสมภาร สมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงเถลิงถวัลยราชสมบัติใหม่ จึงชักชวนกันปักเสาธงตามประทีปโคมแขวน ต้ังโต๊ะ
กระท�ำสักการบูชาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วมีการเครื่องเล่นสมโภชต่าง ๆ ทั่วไปทุกบ้าน
ทุกเรือนในจังหวัดกรุงเทพ ต้ังแต่วันจับการพิธีราชาภิเษกมาจนเสร็จการเลียบพระนคร1 ๚ะ๛
เสด็จเลียบพระนครทางสถลมารค
การเลียบพระนครน้ัน2 เจ้าพนักงานจัดการแต่งสถลมารค ปก3 ฉัตรเบญจรงค์เจ็ดช้ัน ราชวัดรายไป
สองฟากถนน มีพิณพาทย์กลองแขกตามราชวัด ราษฎรไทยจีนยกธงต้ังโต๊ะเคร่ืองสักการบูชาอย่างไทยจีน
เรียงไปตามสองฟากถนน
วันอังคาร เดือนหก แรมห้าค�่ำ4 เจ้าพนักงานนายทหารจัดกระบวนพยุหคอยรับเสด็จ คนหม่ืนเดิน
เป็นกระบวนแปดแถว กระบวนม้าทหารขึ้นมาถือธงไชย ธงฉาน ถืออาวุธน�ำหน้า ถัดมาทหารปืนใหญ่แต่งตัว
เป็นทหารยุโรปลากปืนไปก่อนหมู่หนึ่ง ทหารปืนคาบศิลาแต่งตัวอย่างทหารยุโรปหมู่หนึ่ง แล้วถึงทหารกอง
อาสาอย่างไทย เจ้ากรม ปลัดกรม นายทหารแต่งตัวสวมเสื้อทรงประพาสหมวกตุ้มปี่ ขัดกระบี่บั้งนากบั้งเงิน
ไพร่ทหารแต่งตัวสวมกางเกงและเส้ือเสนากุฎหมวกหนัง ถือเคร่ืองสาตอาวุทธต่าง ๆ เป็นหมวดเป็นหมู่กัน
มีกลองชนะ กลองเงิน กลองทอง กลองมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง เคร่ืองประโคมและเครื่องสูง
บังแซกบังพระสุริยา5 อภิรุมชุมสาย มีมหาดเล็กเชิญพระแสงเดินตามหว่างเคร่ืองสูง กระบวนหน้ากระบวนหลัง
ต้ังกองคอยรับเสด็จ
คร้ันได้มหาพิไชยฤกษ์เวลาย�่ำรุ่งแล้วสามนาฬิกา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องต้น
อย่างใหญ่ พระมหาพิไชยมงกุฎและเคร่ืองส�ำรับพระมหากษัตริย์ แล้วเสด็จข้ึนทรงพระที่นั่งราเชนทร์เป็น
พระท่ีนั่งมณฑป มียอดหุ้มด้วยทองค�ำคาดกระจังจ�ำหลักลายกุด่ัน ประดับพลอยสีต่าง ๆ กระบวนหน้า
ฝรั่งแม่นปืนก็ยิงปืนค�ำนับย่ีสิบเอ็ดนัด ให้เคลื่อนพยุหยาตรากระบวนแห่เลียบพระนคร ทรงโปรยเงินตรา
1 จบหนงั สอื สมดุ ไทยหมวดพงศาวดารหมกู่ รงุ รตั นโกสนิ ทร์รชั กาลท่ี๔เลขท่ี๓๘เนอ้ื ความหลงั จากนต้ี รวจสอบกบั หนงั สอื สมดุ ไทย
หมวดพงศาวดาร หมกู่ รงุ รตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลที่ ๔ เลขที่ ๑๑
2 ฉบับพิมพค์ รงั้ ที่ ๑ ใช้ว่า “...ครงั้ น้ัน...”
3 ฉบบั พมิ พ์คร้ังที่ ๑ ใชว้ ่า “...ปัก...”
4 วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
5 ฉบบั พิมพค์ ร้งั ท่ี ๑ ใชว้ า่ “...บังแซกพระสุริยา...”
128 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
มงกุฎเป็นของแผ่นดินใหม่ ให้ทานแก่อาณาประชาราษฎรชายหญิง ซ่ึงกราบถวายบังคมเชยชมพระสิริวิลาศ
อวยไชยถวายพรอยู่สองฟากถนน
พระวงศานุวงศ์ทรงพระมาลาเคร่ืองทองค�ำลงยา สวมฉลองพระองค์เข้มขาบจีบเอว ทรงมาท่ีนั่ง1
มีมหาดเล็กเชิญเคร่ืองตามเสด็จเป็นคู่ ๆ
เจ้าพระยาพระคลังว่าที่สมุหพระกระลาโหมบรมวงศาเสนาบดี ขี่เสลี่ยงงากั้นกลด มีทะลวงฟัน
ถือมัดหวายน�ำหน้า มีทนาย2 ถือเคร่ืองยศตามตรวจทางไปหน้ากระบวนพยุหยาตรา
พระยาศรีพิพัฒรัตนราชโกษาบรมวงศาเสนาบดี ข่ีเสล่ียงงาก้ันกลด มีนักการในกรมถือมัดหวายน�ำหน้า
ส่ีคนไปหลังกระบวนพยุหยาตรา มีทนายถือเคร่ืองยศตาม
ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยซึ่งมิได้เข้ากระบวนแห่ก็ข่ีแคร่มีเครื่องยศไปเบ้ืองหลัง3
ครั้นกระบวนแห่มาถึงหน้าวัดพระเชตุพล เสด็จเข้าประทับท่ีเกย ลงจากพระที่นั่งราเชนทรไป
พลับพลาพัก เปล้ืองเครื่องทรงแล้ว เสด็จพระราชด�ำเนินเข้าในพระอุโบสถ นมัสการถวายไทยธรรมแก่พระสงฆ์
เป็นอันมาก เม่ือเสด็จกลับทรงเคร่ืองต้นส�ำรับพิไชยุธรณรงค์4 ทรงพระมหามาลาเบี่ยงเส้าสูงยอดประดับเพชร
มีราคาเป็นอันมาก แล้วเสด็จทรงพระยานุมาศแห่อ้อมวัดพระเชตุพน มาเข้าพระราชวัง
ในเวลานั้นก็โปรด5 ให้หัวเมืองประเทศราชแลพวกแขกเมืองต่าง ๆ ไปคอยดูกระบวนแห่ที่ศาลาหน้า
ท้องสนามใหญ่ ก็ได้โปรยเงินพระราชทานให้อีกคร้ังหนึ่ง แล้วทรงพระราชด�ำริว่า พระมหากษัตริย์แต่ก่อน
เลียบพระนครก็แต่ทางสถลมารควันเดียวเท่าน้ัน คร้ังน้ีเห็นว่าราษฎรนิยมชมชื่นทั่วกัน เรือพระที่น่ัง
แลเรือต่าง ๆ มีอยู่เป็นอันมาก ไม่มีการส่ิงไรเก็บไว้ ก็ไม่มีผู้ใดเห็น ครั้งนี้จะแห่พยุหยาตราเรือให้ราษฎรเชยชม
พระบรมโพธิสมภารท่ัวกันอีกคราวหน่ึง จะได้เป็นเกียรติยศปรากฏไปภายหน้า จึงส่ังเจ้าพนักงานให้เตรียม
พยุหยาตราเรือไว้
เสด็จเลียบพระนครทางชลมารค
รุ่งข้ึน ณ วันพุธ เดือนหก แรมหกค�่ำ6 เสด็จออกเลียบพระนครทางชลมารค พวกข้าทูลละอองผู้ใหญ่
ผู้น้อย ราษฎรไพร่บ้านพลเมืองไทยจีน ท่ีอยู่แพอยู่เรือนริมน้�ำชวนกันยกธงตั้งโต๊ะ7 เคร่ืองบูชาอย่างไทยจีน
จุดประทีปธูปเทียนกระท�ำสักการบูชารับเสด็จรอบพระนคร มีความชื่นชมโสมนัสยินดีย่ิงนัก กระบวนเรือ
1 ฉบบั พมิ พ์ครั้งท่ี ๑ ใชว้ า่ “...ทรงม้าทีน่ ัง่ ...”
2 ฉบับพิมพค์ รั้งท่ี ๑ ใช้ว่า “...มีนายทหาร...”
3 ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑ ใช้ว่า “...มีเคร่อื งยศตามไปเบอื้ งหลงั ...”
4 ฉบบั พิมพค์ รั้งท่ี ๑ ใช้ว่า “...พิไชยยุทธณรงค์...”
5 ฉบบั พิมพ์ครั้งที่ ๑ ใช้ว่า “...โปรดฯ...”
6 วนั ท่ี ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๔
7 ฉบับพิมพ์คร้งั ที่ ๑ ใช้ว่า “...ชวนกนั ต้งั โตะ๊ ...”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 129
เตรียมแห่รับเสด็จมีเรือแง่ทรายน�ำเสด็จไปหน้าหกล�ำ ยาวสิบวา มีธงหน้าธงท้าย มีปืนเปรียม1 น�ำเรือล�ำละ
บอก เจ้ากรมทหารปืนปากน�้ำเป็นนายล�ำแต่งตัวนุ่งปูม สวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง พลแจวแต่งตัวสวมเสื้อ
แดง กางเกงขาว หมวกฝาชีล�ำละหกสิบคน มีเรือประตูแห่กระบวนหน้า เรือกัญญาพระเทพปลู2 นายล�ำซ้าย
พระราชรองเมืองนายล�ำขวา แต่งตัวนุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายสวมเส้ือแดงหมวกแดงล�ำละ
ยี่สิบห้าคน เรือเหราลายก�ำมะลอมีกูบจัตุรมุข มีปืนใหญ่หน้าเรือบอกหนึ่ง ฝรั่งแม่นปืนล�ำละสี่คน หลวงเสน่ห์
สรชิตเป็นนายล�ำนุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบ โพกขลิบทอง ฝีพายสวมเสื้อแดงหมวกแดง3 ล�ำละสี่สิบเอ็ดคน
เรือแซคชร�ำบานขวา เรือแซคชสารสินธุซ้าย4 พระยารัตนจักร พระยาภักดีสงครามเป็นนายล�ำ เรือแซตลุม
ละเวงขวา เรือแซตะเลงละวนซ้าย พระยาสีหราชา พระยาฤทธิ์ค�ำรณภพเป็นนายล�ำ เรือแซวรวารีขวา เรือแซศรี
ปักสมุทรซ้าย5 พระยาก�ำแหงหารณรงค์ขวา พระยาจงใจยุต6 ซ้ายเป็นนายล�ำ เรือแซจระเข้ค�ำรามร้องขวา
เรือแซจระเข้ขนองซ้าย7 พระยาจตุรงฤทธ์ิ พระยาอัคศิริเป็นนายล�ำ เรือแซชิงไชเยศรขวา เรือแซเพชร์
ปูมคามซ้าย พระยาแผลงศัตรู พระปราบปัจจามิตร8 เป็นนายล�ำ มีธงท้ายผูกปืนหน้าเรือ ฝร่ังแม่นปืนล�ำละ
สองคน นายล�ำแต่งตัวเป็นรามัญ คนตีกรรเชียงแต่งตัวโพกผ้าเป็นรามัญ สวมเส้ือสีคราม เรือสิบล�ำ ๆ ละ
ห้าสิบสองคน
หมู่หน่ึงท่ีสอง เรือภาลีล้างทวีป9 มีปืนหน้าเรือ ธงหักทองขวางปักหน้าเรือ10 ท้ายเรือ เจ้าพระยา
พระคลังว่าท่ีสมุหพระกระลาโหม ซ่ึงโปรด11 ให้เรียกว่าเจ้าพระยาอัคอุดมบรมเสนาบดีเป็นนายล�ำ แต่งตัว
สวมมาลาสวมเสื้อตาดอย่างน้อย มีทนายแต่งตัวสวมเสื้ออัตลัดโพกแพรสีหมอบหน้า ฝีพายสวมกางเกงมัศรู่
หกสิบ คน เรือกัญญา พระยาเทพวรชุน12 เป็นนายล�ำขวา พระยาราชนิกุลนายล�ำซ้าย นุ่มปูมสวมเสื้อ
ทรงประพาสหมวกตมุ้ ป่ี ฝพี ายลำ� ละสสี่ บิ คน มเี รอื สารวตั รตรวจสองลำ� ขนุ นางเปน็ นายลำ� ฝพี ายลำ� ละยสี่ บิ สามคน
เรือเอกไชยพ้ืนด�ำ มีธงหน้าธงท้าย กลางทรงพระไชยมีฉัตรห้าช้ันปักเคียงมณฑป ต�ำรวจใหญ่ซ้ายเป็นนายล�ำ
ฝีพายห้าสิบแปดคน เรือกัญญากลองน�ำเสด็จ พระยาวิชิตรณรงค์ก็เป็นนายล�ำ แต่งตัวสวมเสื้อทรงประพาส
หมวกตุ้มปี่ ตีกลองไปหว่างกลาง ฝีพายย่ีสิบห้าคน เรือก่ิงชลพิมานไชยขวา ไกรสรมาศซ้าย มีธงปักหน้า
1 นา่ จะเป็น บาเรียม ซง่ึ หมายถึง ปืนโบราณ
2 ฉบับพมิ พค์ รง้ั ท่ี ๑ ใช้ว่า “...พระเทพผลู...”
3 ฉบบั พิมพค์ ร้งั ท่ี ๑ ใช้วา่ “...ฝพี ายสวมเสอ้ื แดงลำ� ละ...”
4 ฉบับพมิ พค์ รัง้ ท่ี ๑ ใช้ว่า “...เรอื แซสารสนิ ธซุ์ า้ ย...”
5 ฉบบั พิมพ์ครง้ั ที่ ๑ ใช้วา่ “...เรอื แซศรปี ัทมสมทุ รซ้าย...”
6 ฉบับพมิ พค์ รงั้ ท่ี ๑ ใชว้ ่า “...พระยาจงใจหาญ...”
7 ฉบบั พมิ พ์ครั้งที่ ๑ ใชว้ า่ “...เรือแซจรเขค้ ะนองซา้ ย...”
8 ฉบับพมิ พค์ รั้งที่ ๑ ใชว้ ่า “...พระยาปราบปัจจามติ ร...”
9 ฉบับพมิ พค์ รั้งที่ ๑ ใชว้ า่ “...เรือพาลีร้ังทวปี ...”
10 ฉบับพิมพ์ครง้ั ที่ ๑ ใช้ว่า “...ธงหกั ทองขวางหนา้ เรือ...”
11 ฉบับพิมพ์ครง้ั ที่ ๑ ใช้วา่ “...โปรดฯ...”
12 ฉบับพิมพ์ครั้งท่ี ๑ ใช้วา่ “...พระยาเทพอรชนุ ...”
130 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ปักท้าย มีมณฑปกลางตั้งพระมหากฐิน วางผ้าทรงพระพุทธิรูปมีฉัตรห้าช้ันปักซ้ายขวาข้างมณฑป เจ้าพนักงาน
เป็นนายล�ำ ฝีพายล�ำละห้าสิบสองคน
หมู่หนึ่งท่ีสาม เรือกระบี่รานรอนราบขวา เรือกระบ่ีปราบเมืองมารซ้าย มีธงหน้าเรือ มีคนกระทุ้งเส้า
พระอนุรักษโยธา พระมหาสงครามเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละสามสิบห้า
คน เรือเสือทยานชลขวา เรือเสือค�ำรณชลสินธุ์ซ้าย มีคนกระทุ้งเส้า หลวงเดชส�ำแดง หลวงแสงสรสิทธิ
เจ้ากรมทหารปืนปากน�้ำเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละสามสิบแปดคน เรือโต
ขมังคลื่นขวา เรือโตฝืนสมุทรซ้าย มีคนกระทุ้งเส้า หลวงวิจารโกษา หลวงโยธาภักดิ เจ้ากรมไพร่หลวง
คลังสินค้า1 เป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละสามสิบคน เรือสางก�ำแหงหารขวา
ชานชลสนิ ธซ์ุ า้ ย2 มคี นกระทงุ้ เสา้ หลวงพทิ กั โยธา หลวงนราเรอื งเดช เจา้ กรมไพรห่ ลวงอาสาใหมก่ รมทา่ เปน็ นายลำ�
นุ่งปูมสวมเส้ือเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละสามสิบคน เรือเหราล่องลอยสินธุ์ขวา เรือเหราลิลาสมุทซ้าย
มีคนกระทุ้งเส้า หลวงวิเชียรไพชนต์ หลวงสกลพิมาน เจ้ากรมไพร่หลวงกรมวังเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเสื้อ
เข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละสามสิบคน เรือกิเลนประลองเชิงขวา เรือกิเลนละเลิงชลซ้าย คนกระทุ้งเส้า3
ล�ำหลวงเทพเดชะ หลวงสุรินเดชะ เจ้ากรมท�ำลุเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเส้ือเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพาย
ล�ำละสามสิบคน เรือมังกรจ�ำแลงอาสาขวา แผลงฤทธิอาสาซ้าย4 มีธงหน้าเรือ มีคนกระทุ้งเส้า หลวงรามเดชะ
หลวงเพชก�ำแหงกรมอาสาหกเหล่า5 ซ้ายขวาเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเส้ือเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละ
สามสิบคน
หมู่หนึ่ง เรืออสุรวายุภักษ6 เรือสุรปักษีรสมุท7 หลวงสรส�ำแดงฤทธ์ิ หลวงจงพยุหะ ปลัดเขนทองซ้ายขวา
เป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละสี่สิบคน เรือครุธเหินเห็จ8 เรือครุธเตร็จไตรจักร์
หลวงไชยเดชะ หลวงจัตุรงค์วิไชย ปลัดกรมเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเส้ือโพกขลิบทอง9 ฝีพายล�ำละส่ีสิบคน
เรือสุวรรณเหรา เรือเหราข้ามสมุท นักสราด10 ถือธงหักทองขวางหน้าเรือท้ายเรือมีกลองชนะท�ำด้วยเงิน
ลำ� ละหา้ คน เจา้ พนกั งานเปน็ นายกำ� กบั ลำ� นงุ่ ปมู สวมเสอื้ เขม้ ขาบโพกขลบิ ทอง ฝพี ายลำ� สสี่ บิ แปดคน มเี รอื กลอง
น�ำไปหว่างกลาง พระยาพิไชยรณฤทธ์ิเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเส้ือทรงประพาส สวมหมวกตุ้มปี่ ฝีพายล�ำละย่ีสิบ
1 ฉบับพิมพค์ ร้งั ท่ี ๑ ใชว้ ่า “...กรมสินคา้ ...”
2 ฉบับพิมพค์ ร้ังท่ี ๑ ใช้ว่า “...เรอื สางชาญชลสินธุซ์ า้ ย...”
3 ฉบับพมิ พ์ครง้ั ที่ ๑ ใชว้ า่ “...มีคนกระทุ้งเส้า...”
4 ฉบับพมิ พค์ รง้ั ที่ ๑ ใช้ว่า “...เรอื มงั กรแผลงฤทธอิ์ าสาซ้าย...”
5 ฉบับพิมพ์ครง้ั ที่ ๑ ใช้ว่า “...เจ้ากรมอาสา ๖ เหล่า...”
6 ฉบบั พมิ พ์ครงั้ ท่ี ๑ ใช้ว่า “...ที่ ๔ เรืออสรุ วายภุ กั ษ์...”
7 ฉบับพมิ พ์ครง้ั ท่ี ๑ ใช้ว่า “...เรืออสุรปกั ษ.ี ..”
8 ฉบบั พิมพค์ รง้ั ท่ี ๑ ใช้ว่า “...เรอื ครุฑเหนิ ระเห็จ...”
9 ฉบบั พมิ พค์ ร้ังท่ี ๑ ใช้วา่ “...น่งุ ปูมสวมเสื้อเขม้ ขาบโพกขลิบทอง...”
10 ฉบบั พมิ พค์ รง้ั ที่ ๑ ใชว้ า่ “...นกั สารด...”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 131
ห้าคน เรือมงคลสุบรรณ เรือศรีสุพรรณหงษ นักสราด1 ถือธงหักทองขวางหน้าเรือท้ายเรือ มีกลองชนะท�ำด้วย
เงินล�ำละห้าคน เจ้าพนักงานเป็นนายก�ำกับล�ำ นุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายรวมล�ำละหกสิบห้า
คน เรือก่ิงศรีสมรรถไชย เรือก่ิงไกรแก้วจักรรัตน์ มีนักสราด2 ถือธงหน้าธงท้าย มีมณฑปต้ังพระเจดีย์เงิน
พระสุพรรณบัตร มีสังข์แตรงอนแตรฝร่ังล�ำละสิบเจ็ดคน เจ้าพนักงานเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเส้ือเข้มขาบโพก
ขลิบทอง ฝีพายล�ำละหกสิบห้าคน เรือกิ่งศรีสุนทรไชย เรือก่ิงไกรสจักร3 มีนักสราด4 ถือธงหน้าธงท้าย
มีคชาธารปักฉัตรเจ็ดช้ัน หม่ืนสิทธิโสม หม่ืนภักดีศวร ต�ำรวจในเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเส้ือเข้มขาบโพกขลิบทอง
ฝีพายล�ำละห้าสิบหกคน เรือกระโห้อาสาจามซ้ายขวา หลวงลักษมนา หลวงสุรินภักดีเป็นนายล�ำ นุ่งปูม
สวมเส้ือเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละสามสิบห้าคน เรือกระโห้อาสาจามซ้ายขวา หลวงสุรเสนี5
ขุนวิชิตรสงครามเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละสามสิบห้าคน
หมู่หนึ่งท่ีห้า เรือดั้งซ้าย เรือกันขวา เรือดั้งกองกลางซ้ายขวา เรือดั้งต�ำรวจสนมซ้ายขวา เรือด้ังต�ำรวจ
นอกซ้ายขวา เรือดั้งต�ำรวจใหญ่ซ้ายขวา เรือดั้งต�ำรวจในซ้ายขวา เรือด้ังล้อมวังซ้ายขวา เรือดั้งเกนหัดซ้ายขวา
เรือดั้งอาสาวิเศษซ้ายขวา เรือดั้งน�ำหน้าฉานซ้ายขวา ผลานสมุทซ้ายขวา6 เรือดั้งทองขวานฟ้าบ้าบ่ินซ้ายขวา7
เรือย่ีสิบสองล�ำมีนายก�ำกับล�ำถือปืนคาบศิลาล�ำละสี่คน นุ่งปูมสวมเส้ือเข้มขาบโพกขลิบทอง มีคนกระทุ้งเส้า
ล�ำละสองคน ฝีพายล�ำละสี่สิบห้าคน มีเรือกัญญาสารวัตรไปกลางแถวล�ำหนึ่ง จม่ืนสมุหพิมานเป็นนายล�ำ
นุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายสามสิบห้าคน
ที่หก เรือเอกไชยเหินหาวซ้าย เรือเอกไชยหลาวทองขวา นักสราด8 ถือธงหักทองขวางหน้าเรือท้ายเรือ
มีกลองมโหระทึกประโคมไปล�ำละห้าคน เจ้าพนักงานก�ำกับล�ำ นุ่งปูมใส่เส้ือ9 เข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพาย
ล�ำละสี่สิบห้าคน มีเรือกลองน�ำเสด็จ พระยาพิไชยสงครามเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเส้ือทรงประพาสหมวกตุ้มปี่
ฝีพายยี่สิบห้าคน เรือในกระบวนหน้า ฝีพายสวมเสื้อแดง หมวกแดง กางเกงแดงท้ังสิ้น เรือก่ิงศรีประภัศไชย
ล�ำพระที่นั่งทรง เรือกิ่งไกรสรมุขพระที่น่ังรอง มีนักสราด10 ถือธงหักทองขวางหน้าท้าย มีมณฑปยอด
พระท่ีนั่งประดับพลอยสีต่าง ๆ มีเศวตฉัตรขาวลายทองเจ็ดช้ัน ปักเคียงพระมณฑปซ้ายขวาเคร่ืองสูงอภิรุม
ชุมสายต้ังรายไปตามเรือ ฝีพายสวมเส้ือสวมหมวกสวมกางเกงสักหลาดขลิบโหมดร้อยคน เรือกราบมีกัญญา
ผ้าหน้าโขนหักทองขวาง จางวางเจ้ากรม ปลัด ต�ำรวจหน้า ต�ำรวจหลัง ทหารในรักษาพระองค์กรมวังแสงต้น
1 ฉบับพมิ พค์ รั้งท่ี ๑ ใชว้ า่ “...นกั สารด...”
2 ฉบับพมิ พค์ รงั้ ที่ ๑ ใชว้ ่า “...นักสารด...”
3 ฉบบั พิมพ์ครั้งที่ ๑ ใช้วา่ “...เรือกิง่ ไกรสรจักร...”
4 ฉบบั พิมพค์ รงั้ ที่ ๑ ใชว้ า่ “...นักสารด...”
5 ฉบบั พมิ พ์ครัง้ ที่ ๑ ใช้วา่ “...หลวงศรเสน.ี ..”
6 ฉบบั พมิ พค์ รง้ั ที่ ๑ ใชว้ ่า “...เรอื ดง้ั ผลาญสมุทรซ้ายขวา...”
7 ฉบบั พิมพค์ ร้ังท่ี ๑ ใช้ว่า “...เรือด้งั ทองขวานฟา้ ซา้ ย เรอื ด้ังบ้าบ่นิ ขวา...”
8 ฉบบั พมิ พ์คร้งั ที่ ๑ ใชว้ า่ “...นกั สารด...”
9 ฉบับพิมพค์ รั้งที่ ๑ ใช้วา่ “...สวมเส้อื ...”
10 ฉบบั พิมพค์ ร้งั ท่ี ๑ ใชว้ ่า “...นักสารด...”
132 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
มหาดเล็กเป็นนายล�ำตามเสด็จ นุ่งปูมสวมเสื้อทรงประพาส หมวกตุ้มปี่ สวมเส้ือเข้มขาบโพกขลิบทอง พายไป
ส่ีแถว ๆ ละ หกล�ำ เรือยี่สิบสี่ล�ำ เรือตาร้ายเกณฑ์หัดแสงปืนประทุนแดงส่ีล�ำ พระอัคเนศร พระศรส�ำแดง
จมื่นกงสิล จม่ืนกงสร เป็นนายล�ำ แต่งตัวนุ่งปูมสวมเสื้อเข้มขาบโพกขลิบทอง บรรทุกปืนเคร่ืองอาวุธ
เตรียมไป ฝีพายสวมเส้ือแดงหมวกแดงกางเกงแดงล�ำละยี่สิบห้าคน ถัดเรือตาร้ายลงมา
อีกหมู่หน่ึงเรือศรีประกอบเขียนลายทอง เรือสวัด์ิสธิงไชย1 เรือวิไลเลขา เรือรังศรีทิพรัตน์ เรือจักรพรรดิ
ภิรมย์ เรือทินกรส่องศรี เรือมณีจักรพรรด์ิ ม่านทองแย่ง2 กรมฝ่ายในตามเสด็จ ฝีพายสวมเส้ือแดง หมวกแดง
กางเกงแดง ล�ำละห้าสิบคน
อีกหมู่หน่ึง เรือแซหมูชลจร เรือแซสุกรก�ำเลาะ เรือแซพิพัฒชล3 เรือแซนนตัศสมุท4 ส่ีล�ำมีธงมีทวน
ปักท้าย พระยาเกียรต์ิ พระยาพระราม พระยาปราบปัจามิตร์ พระยาแผลงสัตรูเป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเส้ือ
ทรงประพาส หมวกตุ้มปี่ ฝีพายแต่งตัวเป็นรามัญล�ำละสามสิบห้าคน5 เรือกราบมีกัญญาประตูหลัง
พระนรินทรเสนี พระราชเสนา6 เป็นนายล�ำ นุ่งปูมสวมเส้ือเข้มขาบโพกขลิบทอง ฝีพายล�ำละสามสิบห้าคน
หมู่หนึ่ง เรือกัญญาผูกผ้าหน้าโขนหักทองขวาง ผูกพู่ ผูกดาว7 พระเจ้าน้องยาเธอ พระเจ้าลูกยาเธอ
พระเจา้ หลานเธอ พระเจา้ ราชวรวงศ์เธอ แตง่ พระองคท์ รงเครอื่ งฉลองพระองค์จบี เอว สวมพระมหามาลาเส้าสงู
ปักขนนกตามเสด็จย่ีสิบสามล�ำ ฝีพายล�ำละห้าสิบคน ถัดลงมาถึงเรือสุครีพครองเมือง พระยาศรีพิพัตรัตนราช
โกษา8 ซึ่งโปรด9 ให้เรียกว่าเจ้าพระยาบรมญาติ10 เสนาบดีผู้ใหญ่เป็นนายล�ำ แต่งตัวสวมมาลาเสื้อตาด
อย่างน้อย มีธงหักทองขวางปักหน้าปักท้ายเรือ ทนายแต่งตัวสวมเส้ืออัตลัดโพกแพรสีหมอบหน้า ฝีพายสวม
กางเกงมัศรู่หกสิบคน เรือกราบมีกัญญาหมู่มุขมาตยาผู้ใหญ่ผู้น้อย ท่ีมิได้เข้ากระบวนเป็นนายล�ำ มีผ้า
หนา้ โขนตาดเขม้ ขาบ ผกู ดาว แตง่ ตวั นงุ่ ปมู สวมเสอื้ ทรงประพาส หมวกตมุ้ ปส่ี ามสบิ หกลำ� ฝพี ายสวมกางเกงตา่ ง ๆ
ล�ำละสามสิบคนบ้างส่ีสิบคนบ้าง11
หมู่หนึ่ง เรือเก๋งพ้ัง ขุนนางจีนเจ้าภาษี แต่งตัวอย่างขุนนางเมืองจีนตามเสด็จไปเบ้ืองหลังยี่สิบล�ำ ฝีพาย
สวมกางเกง เส้ือกั๊ก หมวกจีโบ ขุนนางน้อย ๆ ซึ่งมิได้เข้ากระบวนแห่ ข่ีเรือส�ำปั้นยาว หกวา เจ็ดวา แปดวา
1 ฉบับพมิ พค์ ร้ังที่ ๑ ใชว้ า่ “...เรือสวัสด์ิชงิ ไชย...”
2 ฉบับพมิ พค์ ร้ังท่ี ๑ ใช้ว่า “...เรอื มณีจักรพรรดมิ า่ นทองแย่ง เป็นเรอื พระประเทียบ ๖ ลำ� ...”
3 ฉบับพิมพค์ รั้งที่ ๑ ใช้ว่า “...เรอื แซวิภชั นชล...”
4 ฉบับพิมพ์ครั้งท่ี ๑ ใชว้ ่า “...เรือแซอนนตสมทุ ร...”
5 ฉบบั พิมพ์ครั้งที่ ๑ ใชว้ ่า “...พลกรรเชยี งแต่งตัวโพกศีรษะสวมเสอ้ื เป็นรามัญลำ� ละ ๓๕ คน...”
6 ฉบบั พิมพค์ รั้งท่ี ๑ ใชว้ ่า “...พระราชเสนา (แทนพระศรสี หเทพ)...”
7 ในต้นฉบบั หนังสอื สมุดไทย เลขที่ ๑๑ พบลายมอื เขยี นเพ่มิ เตมิ คำ� ว่า “ล้วนเรอื ” โดยในฉบบั พมิ พ์คร้ังแรกใชว้ ่า “...ลว้ นเรอื
พระเจ้านอ้ งยาเธอ...”
8 ฉบบั พิมพ์คร้งั ที่ ๑ ใช้ว่า “...ท่านพระยาศรีพพิ ัฒนรัตนราชโกษา...”
9 ฉบบั พมิ พค์ ร้งั ที่ ๑ ใชว้ า่ “...โปรดฯ...”
10 ฉบับพมิ พค์ ร้งั ท่ี ๑ ใชว้ า่ “...เจา้ พระยาบรมมหาพชิ ยั ญาต.ิ ..”
11 ฉบบั พมิ พค์ รัง้ ท่ี ๑ ใชว้ ่า “...ล�ำละ ๔๐ คนบา้ ง ๓๐ คนบ้าง...”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 133
ฝีพายล�ำละสิบส่ีคน สิบห้าคน ย่ีสิบคนบ้าง คอยตามเสด็จไปเบื้องหลังเป็นอันมาก เจ้าพนักงานจัดเรือ
กระบวนใหญ่น้อยพร้อมกันแล้ว1 เป็นพลพายหมื่นเศษ เป็นเรือกระบวนสองร้อยหกสิบเก้าล�ำ เรือนอกกระบวน
ประมาณห้าสิบล�ำเศษ จึงเลื่อนเรือพระที่น่ังมาประทับคอยรับเสด็จท่ีพระต�ำหนักท่าพระนิเวศวรดิฐ2
เรือกระบวนหน้าหลังก็จอดเป็นคู่ ๆ3 ล�ำดับกันไป
คร้ันได้มหาพิไชยฤกษ์เสด็จสรงสนานทรงเครื่องต้นส�ำรับพระมหากษัตริย์4 เสร็จแล้ว
เสด็จพระราชด�ำเนินลงมาเรือพระท่ีนั่งกระบวนหน้าฝร่ังนายทหารแม่นปืนยิงสลุตล�ำละสามนัด ทหารปืน
ในเรือก�ำปั่นหลวง ช่ือพุทธอ�ำนารถก็ยิงปืนรับยี่สิบเอ็ดนัด ก�ำปั่นขุนนาง เรือจีนลูกค้าก็ยิงปืนค�ำนับล�ำละสามนัด
ทุกล�ำ แล้วเคล่ือนพยุหยาตราโดยทักษิณรอบพระนคร ถึงพระอารามวัดบวรนิเวศมหาสถาน5 เสด็จประทับ6
เรือพระที่น่ังขึ้นทรงพระราชยานเสด็จทางสถลมารคเข้าไปในพระอุโบสถ จุดธูปเทียน7 บูชานมัสการ
พระพุทธรูปธินศรี8 ถวายไทยธรรมแก่พระสงฆ์ราชาคณะอันดับเสร็จแล้วเสด็จกลับ ให้เลื่อน9 พยุหกระบวนแห่
ยาตราเรอื พระทน่ี งั่ ไปถงึ วดั อรณุ ราชวรารามหยดุ ประทบั เรอื พระทน่ี งั่ เสดจ็ เขา้ ไปในพระอโุ บสถทรงจดุ ธปู เทยี น
บูชาพระรัตนตรัย นมัสการ ถวายไทยธรรมแก่พระสงฆ์ราชาคณะอันดับเสร็จแล้ว เสด็จกลับมาประทับ
เรือพระท่ีน่ังอยู่10 พระต�ำหนักท่านิเวศวรดิฐ11 พระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ข้างหน้าข้างในซ่ึงมิได้ตามเสด็จ
พร้อมกันมาคอยรับเสด็จเข้าในพระราชวัง แลเมื่อเสด็จพระราชด�ำเนินเลียบพระนครทางชลมารคน้ัน
โปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหเ้ จา้ พนกั งานกลงึ ไมเ้ ปน็ รปู ผลกลั ปพฤกษท์ าแดงทาเขยี ว มเี งนิ อยขู่ า้ งในไวม้ ากกวา่ หมน่ื
ทรงโปรยตามกระแสชลพระราชทาน12 ไพร่ฟ้าประชากร ซึ่งมาคอยสรรเสริญถวายพรเชยชม
พระบรมโพธิสมภารรอบพระนคร สิ้นพระราชทรัพย์เป็นอันมาก
เสร็จการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแลการเลียบพระนครในสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว
แลธรรมเนียมในอุปราชาภิเษกต�ำแหน่งกรมพระราชวังบวรแต่ก่อน ๆ มา มีธรรมเนียมลดหย่อนน้อยกว่า
พระราชวังหลวงหลายอย่าง มิได้มีแห่เลียบพระนครแลสรงพระกระสนาน13 น�้ำมุรธาภิเษก แต่ครั้งนี้
1 ฉบบั พมิ พ์คร้งั ท่ี ๑ ใชว้ ่า “...พร้อมแลว้ ...”
2 ฉบบั พมิ พค์ รง้ั ที่ ๑ ใชว้ า่ “...พระตำ� หนักท่าราชวรดติ ถ์...”
3 ฉบับพมิ พค์ รัง้ ท่ี ๑ ใชว้ า่ “...ออกเป็นคู่ ๆ...”
4 ฉบบั พิมพ์ครัง้ ท่ี ๑ ใช้วา่ “...พระมหากษัตราธริ าช...”
5 ฉบบั พมิ พค์ ร้ังที่ ๑ ใชว้ า่ “...วัดบวรนเิ วศน์วรวหิ าร...”
6 ฉบบั พิมพค์ ร้ังที่ ๑ ใช้วา่ “...เสด็จจาก...”
7 ฉบบั พมิ พ์ครั้งที่ ๑ ใช้วา่ “...ทรงจุดธูปเทียน...”
8 ฉบบั พมิ พค์ รัง้ ท่ี ๑ ใช้ว่า “...พระพทุ ธชนิ สีห์...”
9 ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑ ใชว้ า่ “...ใหเ้ คลื่อน...”
10 ฉบบั พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๑ ใชว้ ่า “...อยู่ที่...”
11 ฉบบั พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ใชว้ า่ “...พระต�ำหนกั ท่าราชวรดิตถ.์ ..”
12 ฉบับพมิ พ์ครงั้ ที่ ๑ ใช้วา่ “...พระราชทานให.้ ..”
13 ฉบบั พมิ พค์ ร้ังท่ี ๑ ใช้ว่า “...สรงพระกระยาสนาน...”
134 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณธรรมอันมหาประเสริฐ ทรงพระราชด�ำริเห็นว่า สมเด็จพระอนุชา
ธริ าชเจา้ ก็ทรงพระปรีชารอบรู้การในพระนครแลการต่างประเทศแลฉบับ1 ธรรมเนียมต่าง ๆ แลศิลปศาสตร์
ในการณรงค์สงครามเป็นอันมาก พระบรมวงศานุวงศ์2 เสนาบดี3 ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อย
ก็รักใคร่นับถือ4 มาก เมื่อกระท�ำสัตย์สาบานถวายก็ได้ออกพระนามท้ังสองพระองค์ สมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว มีพระทัยสนิทเสน่หาย่ิงนัก มีการณรงค์สงครามคับขันมาประการใด จะได้ให้เสด็จไปเป็น
จอมพยุหโยธาหาญ5 ท้ังปวง ปราบ6 ปัจจามิตรข้าศึกศัตรู มีพระเดชานุภาพจะได้เหมือนสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชด�ำเนินเหมือนกัน เพราะดังน้ัน จึงมิได้7 จัดการพระราชพิธีอุปราชาภิเษกอย่าง
กรมพระราชวังบวรสถานมงคลแต่ก่อน ๆ ไม่
จึงโปรด8 พระราชทานให้มียศใหญ่กว่าแต่ก่อน ก็ได้จารึกพระนามประดิษฐานไว้ในแผ่น
พระสุพรรณบัตร มีพระนามอันวิเศษคล้ายกันกับ9 สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์
เสนาบดีข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อย ก็ได้ออกพระนามว่า สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
รับพระราชโองการทั้ง สองพระองค์ ก็ผิดกันแต่ค�ำน�ำหน้า ท่ีว่าแลรับพระบวรราชโองการเท่าน้ัน10
แลซึ่งจะกระท�ำการพระราชพิธีบวรราชาภิเษกนั้น ก็แม้น ๆ กันกับการราชาภิเษก11
1 ฉบบั พิมพ์ครง้ั ที่ ๑ ใชว้ า่ “...ขนบ...”
2 ฉบบั พิมพ์คร้งั ที่ ๑ ใช้ว่า “...พระบรมราชวงศานุวงศ.์ ..”
3 ฉบบั พมิ พ์ครง้ั ที่ ๑ ใชว้ ่า “...และเสนาบด.ี ..”
4 ฉบบั พิมพค์ รง้ั ท่ี ๑ ใชว้ ่า “...นิยมยนิ ดนี บั ถอื ...”
5 ฉบับพมิ พค์ รั้งท่ี ๑ ใชว้ ่า “...พยหุ โยธาทหาร...”
6 ฉบบั พิมพ์ครง้ั ที่ ๑ ใช้วา่ “...ปราบปราม...”
7 ฉบบั พิมพค์ รง้ั ท่ี ๑ ใชว้ า่ “...หาได้...”
8 ฉบบั พิมพค์ ร้งั ท่ี ๑ ใช้ว่า “...โปรดฯ...”
9 ฉบบั พมิ พค์ ร้ังท่ี ๑ ใชว้ า่ “...คล้ายกับ...”
10 ฉบบั พิมพค์ รง้ั ที่ ๑ ใช้วา่ “...ท่วี ่ารบั พระบรมราชโองการและรบั พระบวรราชโองการเทา่ นน้ั ...”
11 ฉบบั พมิ พ์คร้งั ท่ี ๑ ใชว้ า่ “...ก็แมน้ ๆ กนั กับการพระราชพิธบี รมราชาภิเษก...”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 135
ประกาศเทวดา
บรมราชาภิเศก รัชกาลที่ ๔
๏ สรัช์ชํ สเสนํ สพัน์ธุํ นริน์ทํ ปริต์ตานุภาโว สทา รัก์ขตูติ ผริต๎วาน เมต์ตํ สเมต์ตา ภทัน์ตา อวิก์ขิต์ต
จิต์ตา ปริต์ตํ ภณัน์ตุ ฯ
๏ ภทัน์ตา ข้าแต่พระผู้เปนเจ้าท้ังหลาย นิมนต์พระผู้เปนเจ้า จงส�ำรวมจิตรอย่าให้ฟุ้งซ่าน จงประกอบ
ด้วยเมตตาจิตรแผ่เมตตาพรหมวิหารไปในราชสกูล แล้วจึงส�ำแดงซ่ึงพระปริตต์ ด้วยอธิษฐานจิตรว่า ปริต์ตานุ
ภาโว อันว่าอานุภาพพระปริตต์น้ี จงคุ้มครองป้องกันรักษาสมเด็จบรมกระษัตริย์ กับทั้งไอสุริยราชสมบัติ แล
พระบรมราชวงษาเสนาพฤฒามาตย์ ให้ปราศจากสรรพภยันตราย เจริญสุขสิริสวัสด์ิ เปนนิพัทธกาลนิรันดร
เทอญ ฯ
๏ สมัน์ตา จัก์กวาเฬสุ อัต๎ราคัจ์ฉัน์ตุ เทวตา
สัท์ธัม์มํ มุนิราชัส์ส สุณัน์ตุ สัค์คโมก์ขทํ ฯ
๏ สัค์เค กาเม จ รูเป คิริสิขรตเฏ จัน์ตลิก์เข วิมาเน
ทีเป รัฏ์เฐ จ คาเม ตรุวนคหเน เคหวัต์ถุม๎หิ เขต์เต
ภุม์มา จายัน์ตุ เทวา ชลถลวิสเม ยัก์ขคัน์ธัพ์พนาคา
ติฏ์ฐัน์ตา สัน์ติเก ยํ มุนิวรวจนํ สาธโว เม สุณัน์ตุ ฯ
ธัม์มสวนกาโล อยัม์ภทัน์ตา
ธัม์มสวนกาโล อยัม์ภทัน์ตา
ธัม์มสวนกาโล อยัม์ภทัน์ตา ฯ
๏ โภน์โต เทวสํฆา ดูกรหมู่เทพอมรนิกรแลยักขกุมภัณฑ์ คันธัพพทานพนาคทั้งหลาย มีอาทิคือท้าว
ธตรฐราช แลท้าววิรุฬหก แลท้าววิรูปักษ์ แลท้าวกุเวรุราช กับทั้งสมเด็จท้าววัชรินทรเทพโกสีย์ผู้มีมหิทธิอ�ำนาจ
อันมีทิพโสตทิพจักษุอันประเสริฐ ซึ่งบังเกิดประดิษฐานอยู่ในทิพยพิมานมาศ แลเทพยภูมพฤกษอากาศ
ฉกามาวจรโสฬศพรหมพภิ พ อกิ องคม์ หศิ รวศิ ณนุ พเคราะหเ์ ทพยดาทวาทศราษสี ถติ ย์ กบั ทงั้ เทพยสบั ดาพศิ นกั ษตั ร
ดารา แลเทพยท้าวอันอภิบาลบ�ำรุงรักษาพระนครบวรราชวัง พระที่น่ังเสวตรบวรฉัตรมณฑิรรัตนปราสาท จง
มาสโมสรสันนิบาตไนพระราชนิเวศน์มหาสถาน สมาทานเบญจางคิกศีลสดับรับรศพระสธรรมพุทโธวาท
สาสนกถา แลว้ จงปรดี ารบั ราชพลที ง้ั สองประการ คอื อามศิ พลกี บั ธรรมพลที ท่ี รงตกแตง่ เครอื่ งมโหฬารสกั การวธิ ี
มีต้นว่าธูปเทียนสุคันธบุบผาอันทรงบูชาพระรัตนไตรย ในการพระบรมราชาภิเศก ทรงพระราชูทิศแผ่ผล
พระราชกุศลไปน้ัน อิกอเนกส่ิงสรรพบูชาสักการอุฬาร อันมีในพระมหาวิหารนานาพุทธสังฆาวาศ มีพระศรีรัตน
สาศดารามเปนต้น กับท้ังพระราชอานิสงสผลที่ทรงถวายจตุปัจจัยมหาทานบริขารวิธี มีไตรจีวรเปนอาทิแก่
พระภิกษุสงฆ์ แลทรงพระราชทานปณีตโภชาหาร เลี้ยงราชบรรพสัษย์ทั้งหลาย ในมหาราชาภิเศกสมาคมน้ี
136 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เทพยเจ้าทั้งปวงจงสโมสรเปรมปรีปราโมชรับอนุโมทนา ในทานมัยบุญกิริยากุศลสุจริต แล้วจงมีกระมลจิตร
พิจารณาในพระอนิจจตาทิไตรลักษณญาณ ด้วยสมเด็จพระบรมนราธิบาลอันเปนปฐมกระษัตริย์ ทรงฐาปนา
กรุงรัตนโกสินทร์มหินทรายุทธยาน้ี ได้เสวยสวรรยาธิปัติถวัลยราช สืบศรีสุริยสันตติวงษ์ถึงสามพระองค์แล้ว
ล่วงมา ก็มิได้พานพ้องปัจจุบันนพยาธิทุกขไภยพยาธิ์ เปนต้นว่าปักขัณฑิกโรคาพาธอันมีแก่หมู่มนุษย์ทั้งหลาย
แลนานาอเนกพิบัติอุปัทวภยันตรายท้ังปวง ล่วงพระชนมชีพโดยอายุไขยทิวงคต ควรแก่กาลก�ำหนดโดยปรกติ
ธรรมดา จะได้ถึงแก่อกาลมรณภาพด้วยเหตุอันใดอันหนึ่งน้ันหามิได้ ก็เห็นแท้ว่าด้วยอานุภาพเทพยไททั้งปวง
ช่วยอภิบาลบริรักษ์ ทั้งหมู่อริราชปรปักษ์ก็มิได้มายายี กระท่ังถึงพระราชธานีอันเปนอุดมสถาน กาลบัดนี้สมณ
พรหมณาจารย์ แลพระราชวงษาคณาภิมุขมาตย์มนตรี มีสัมโมทนจิตร มิได้คิดเภทนาการรานร้าวจากกัน
ประกอบด้วยสโมสรสมานฉันท์ชื่นชมประชุมเชิญเสด็จ สมเด็จพระบรมราชอนุชา ซ่ึงทรงพระนามสมเด็จ
พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎสมมุตติเทวาวงษ์องค์อิศรกระษัตริย์ เปนเอกอรรคอดุลขัตติยสุขุมาลบดินทร์
อสัมภินอุภโตสุชาติ ข้ึนเสวยมไหสุริยราชสมบัติ ธ�ำรงเสวตรบวรราชาฉัตรผลัดแผ่นดินใหม่ จะได้ถวายพระนาม
กรประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฏ สมมุตติเทพยพงษ์ วงษาดิศวรกระษัตริย์ วรขัติยราช
นิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาติสังสุทธเคราะหณี จักรกรีบรมนาถร อิศรราชราม
วรังกูร สุจริตมูลสุสาธิตอุกฤษฐวิบุลย์บุรพาดุลยกฤษฎาภินิหาร สุภาธิการรังสฤสด์ิ ธัญลักษณวิจิตรโสภาคย
สรรพางค์ มหาชโนตมางคสผุสต์ บาทกมุทยุคลประสิทธิสรรพศุภผลอุดม บรมสุขุมาลมหาบุรุรัตน์ ศึกษา
พิพัทธสรรพโกศล สุวิสุทธวิมลศุภศีลสมาจาร เพ็ชรญาณประภาไพโรจน์ อเนกโกฏิสาธุคุณวิบุลยสันดาน ทิพย
เทพาวตารไพศาลเกียรติคุณอดุลพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ เอกัคมหาบุรุษ สุตพุทธมหากวี ตรีปิฏกาทิโกศล
วิมลปรีชามหาอุดมบัณฑิตย์ สุนทรวิจิตรปฏิภาณ บริบุรณคุณสารสยามาทิโลกยดิลก มหาปริวารนายกอนันต์
มหันตวรฤทธิเดช สรรพวิเศษศิรินทร มหาชนนิกรสโมสรสมมติ ประสิทธิวรยศมโหดมบรมราชสมบัติ นพปดล
เสวตรฉัตราดิฉัตร ศิริรัตโนปลักษณมหาบรมราชาภิเศกาภิสิต ปรปักษทศทิศวิชิตไชย สกลมไหสวรรย์มหา
สวามนิ ทร์ มเหศวรมหินทรมหารามาธิราช วโรดมบรมนารถชาติอาชาวไสย พุทธาทิไตรรตั นสรณารกั ษ์ อกุ ฤษฐ
ศักด์ิอรรคนเรศราธิบดี เมตตากรุณาสีตลหฤไทย อโนปไมยบุญการ สกลไพศาลมหารัษฎาธิเบนทร์ ปรเมนทร
ธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชพระบรมมหาราชวัง
กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุทธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์
มหาสถาน เทพยท้าวท้ังหลายจงพร้อมกันบริบาลถวายพระพรอ�ำนวยไชย ให้เจริญพระราชศิริสวัสดิวัฒนา
จงไพรบูลย์พระราชกฤษฎาดิเรกยศ ปรากฏแผ่ไพศาลไปในนานาประเทศ ทุกเขตรขันธสิมารอาพระเดช ปราศ
จากสรรพไภยเภทพยาธิทุกข์ จงเสวยไอสุริยศุขทีฆายุสมบูรณ์ภูลพิพัทธยืนโยค นฤโศกนิรันตราย กับทั้ง
พระบรมราชวงษาเสนามาตย์ ราชบรรพสัษย์ท้ังหลาย แลสมณพราหมณ์ประชากรในกรุงเทพมหานครอมร
รัตนโกสินทร์ มหินทรายุทธยา ทั่วทุกคามนิคมชนบทสีมาประเทศราชธานี บุรีรอบขอบขันธ์ปัจจันตนครา
บนั ดาเปนเมอื งขนึ้ เมอื งออกแกพ่ ระนครน้ี คอื เมอื งศรอี ยทุ ธยามหานครบรุ าณ วเิ สศไชยชาญไชยนาทนครสวรรค์
สุพรรณบุรี นครไชยศรีสิงห์สรรค์อินทร์พรหม มโนรมลพบุรี อุไทยธานีพิจิตรพิศณุโลก โอฆบุรีศรีภิรมศรีภิรม
พรหมภิราม ชุมสรส�ำแดงชุมแสงสงคราม ไชยนามนครชุมภูมิค�ำ นครผ่าหมากนครนายก นครไทยไทยบุรี
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 137
ศรีพนมมาศชาตรการด่านซ้ายเทพบุรี พิไชยธานีพิพัทธพิบุลขุนกัณนคร ตรอนตรีสินฉวางบางโพชโลปาด ลับแล
ปากเหืองเมืองสวรรคโลกบุรี อุศภคัมภีรบุเรศ พิเสศไชยสัจสุธนทุ่งยั้งบางขังบางยม สุโขไทยภิแรมรมภิราม
รงค์ กงตราบส�ำโรงทอง นครคีรีมาศราชธานี บุรีวิเชียรปราการ บงพานไตรตรึงษ์โกสามพิน บุรินทบุราณราช
นาถนครา นครราชสิมานารังคพิมายบุรีร�ำบ�ำเหน็จณรงค์ ปักธงไชยพุไทสง ประโคนไชยไชยภูมิจันทึกจัตุรัส
รัตนบุรี วิเชียรธานีไชยบาดาน ก�ำพรานประทมุ สมหุ ะ ปรนั ตปะสระบุรี เพชปรุ ธานแี ก่นท้าว เลยหลม่ สกั นัคคร
ปาจนิ กระบลิ ปัจจันตคามเขตร อรัญประเทศ วัฒนานครนายกฉะเชงิ เทรา ล�ำเนาโยนกพไิ สย เวยี งไชยตากเชยี ง
เงินเชียงทอง เถินป่องนครล�ำปาง ท่าลองเลิมจางพยากพยาว วังงาวเวียงตีนเตาะเมาะจางแจ้ห่มหริภุญไชย
บุรี ยองหนองล่องลี้ป่าทรางเชียงใหม่ เฟื้อยไรเชียงดาวพร้าวปาวแดนคอนนครแจ่มเทิงท้ายเชียงรายทั้งปวง
หนองขวางหางหลวงยอมฮอดตีนด่าน น่านหินเงินง่ัวท่ัวทุกด้าว สลาวโป่งฟ้าพาราเชียงของ แพร่สองแสน
หลวง กระทรวงมลาวธานี บุรีหลวงพระบาง บุญเหนือบุญใต้ เวียนในภูลหุ่งเพียงทุ่งปักแสง เขลาเลือกแปงตา
แสงเหนือใต้ เชียงเงินเงินไชยสะกกด่านขวา หท้าวมวยงาวังบุญหุนไว ฮึกยอกอไตผาหลาบุรี ศรีสตนาคนหุต
นามะหุงหนองหาร หนองคายเชียงคานเวียงคุกทุกท่ัว หนองบัวล�ำภูคูเวียงท่าบ่อ ต่อถึงพานพร้าวเวียงหาวว่าง
บ่อ ต่อค�ำเกิดค�ำมวนถ้วนโดยนุกรม อิกนครพนมเรณูภูแล่นช้าง รามราฐอาทมาตถท่าอุเทนไชยบุรีศรีสัณฐัต
ปากแซง กาฬสินธุ์กุจฉินนรายแซงบาดาลท่าขอนยางเพงคอุบลบุรีมีชื่อ ล�ำเนาหนองปรือเสนางคนิคมสองคอน
ดอนดงสกลพรรณากุสุมาล ค�ำเข่ือนแก้วมุกดาหารเขมราฐหนองสูง ร้อยเอ็ดสุวรรณภูมภูเขียวขอนแก่นชนบท
ยศสุนทร นครจ�ำปาศักดิ์เซล�ำเพาสาลวัน สีทันดรคงคค�ำทองใหญ่ โพนพิสัยสภาษสมียแสนปางอัตตปือโสกซุ้ง
เชียงแตง แขวงกุรุรัฐปัตตบองสามราวะตะโหนดพนม สกระสือสวายจีดจงกัน พุไทสมันศรีโสภณมงคลบุรี
ศรีสะเกษเดชอุดมมโนไพรคุขันสังขสุรินท ปาจินปัจจันตเขตรประเทศกัมโพชพงษ์ อุดงลือไชยเชิงไพรพุทไท
มาศไพรกบาทบาราย ก�ำพงโสมก�ำพงสวายก�ำพงเสียม ก�ำปอดเปียมเปียมจอกระแจะตรังคะตรอขลุงโฉลง
กรองสโทงกโบงคมมุ มกุ กมั ปนู สมบกุ สมบญู ชแี คลง ไพรแวงลแวกเวยี งไชยไพรกดี บาทศี รสี นุ ทรลำ� ดวงสทงึ ตรอง
ล�ำโรงทองบริบูรณบาพนมพนมเปนสวายทาบลาบปะเอียอันลงราษโพธิสัตจังหวัดอุดรสิมา สัตตาสีตยาธิกะ
ทวิสะตะพาราโดยประมวน ส่วนทักษิณาปักษสถาน กาญจนบุรีศรีสวัสด์ิสินนลุ่มสุ่มบัพพตภูมิกุจฉิติปุกดิตถ
ปนสติตถสมิงคสังคล่า ท่ากระดานไชยโยคราชบุรี เพ็ชรบุรีชอ�ำกุยปราณวานนกันทรก�ำเนิดนพคุณนคร อุทุมพร
ธานีฉวีวิไสยปทิวท่าแซะตะโกรนังคกระมลิวันสรลวาปี บุรีไชยานาวาติตถโฉลกหลังสวนประสงค์กะโตะพุนพิน
สินธุสมันต์พงันทวีปบุรี นครศรีธรรมราชพิบูลล�ำพูนเวียงสระระมุกุแหระกระแดะ กระแหระกระรอ ทรศักด์ิศรี
ชมพรมดวงม่วงงาม บางงวนขนอนพนมพนัง ตรังคลายสายกลายอลองคลาวมุขมหาคีรี เหมติตถธานีมัจฉอัฏฐิ
กพแสงพโสภสุชลชเลน้อยนครปราน สถานทวีปลันดา ตรังคพุราอายามสมุยกะเปอกาไสระโนด นิโครธเวียง
ไชยไทรปัจฉิมปรโบะลเวียดกะลามุดา กาวิกัญญาทิปปะลิตสตูนละงูกะบังปาสูชัมพูเขตร กลันตันประเทศมลายู
บุรี ถลางบางคลีละเงงคกุระอนกุระกะรา พังงาสาคูพุเกษตุกกลอยกระลองพะตองติปุกวันติ ปุกังคณพโสมบุรี
พัทธลุงคธานีนครปะเหลียนวิเชียรปราการ คชราชาศรีชนาพะโตะชะรัดสะทัง สังขลาสทิงคจะหนะมะนารา
เทพารัตตภูมี ตานียะริงคยลารามัญ สุพรรณปะล�ำปะโละระแงะมายอน นครจวบสิโปยสายพลายวันมหาอรัญ
บุรี มุจจลินทวาปีประดังตรังคกนูมลายูประเทศ บุเรศประทุมธานีนครเข่ือนขันธ์ประจันตนคราฉะติงสาธิกะ
138 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สะตะนครประมาณ ฯ ด้านบุรพทิศธานี จันทบุรีนครตราดเกาะกงแกลงขลุง ลมุงรยองพนัศนิคมพารา สาคร
สมุทสงครามสมุทปราการชลนนทบุรี ตรีรสนครา คณนาไตรโกฏฐาสราชอาณาเขตร ฉะติงสาธิกะจะตุสะตะ
บุเรศ ประเทศรัฐสิมาฯ ขออานุภาพเทพยมเหศรศักข์ท้ังหลาย แลเทพยเจ้าอันอภิบาลรักษาพระมหานคร
ราชธานีน้ี มีต้นว่าพระกาลไชยศรี แลพระเสื้อเมืองพระทรงเมืองเทพยเทพารักษ์หลักพระนคร จงบันดาลให้
บันดาราชดัสกรท้ังหลาย ฝ่ายสัมมาทิฏฐิแลมิจฉาทิฏฐิ ในนานาประเทศท่ีมีเดชอ�ำนาจ เร่งคร้ันคร้ามขามขยาด
ย�ำเยงเกรงพระราชกฤษฎาธิการ ให้สยบสยอนหย่อนก�ำลังหาญระทดท้อต่อบุญญานุภาพบารมี อย่าได้ก่อกิจ
อมิตรไพรีมารันท�ำประทุษฐร้าย จงบันดาลให้พระบรมวงษาเสนามาตย์ ราชพิริยโยธาทั้งหลายท่ีมีจิตรย่อท้อ
ต่อรณรงค์ ให้มีมนัศทรนงองอาจสุรภาพเหี้ยมหาญในการยุทธสงคราม มิได้เข็ดขามคิดย่นย่อต่อปัจจามิตร
ไภย อาจสามารถจะปราบปรปักษ์ประไลยลาญชิพิตพินาศ ไม่ต่อหาญดาลปราไชยประลาศคืนนครตน ยังหมู่
นิกรประชาชนให้พ้นปัจนิกอ�ำนาจ อิกอมนุษยภยันตรายจงบ�ำราษสรรพอุปัทวโรคาทุกขาดูร ให้ร�ำงับดับสูญ
เสื่อมส้ินทุกประการ มีกมลเบิกบานปรีเปรมเขษมสุข ทั่วทุกอเนกมนุษย์นิกรประชา คณาสัตวจตุบททวิบาท
จงสมบูรณภูลสวัสด์ิบ�ำราษพิบัติวัฒนา ท้ังวัสโสทกธาราให้ตกต้องตามฤดูการ เปนอุปการแก่สรรพธัญญาหาร
แลพืชผลพฤกษาลดาชาติ ให้บริบูรณ์ท่ัวประเทศราฐภาราคามนิคมชนบท ก�ำหนดในบริเวณจังหวัดพระราช
อาณาปวัติมณฑล สกลเขตรขัณฑ์ปัจจันตพิไสยสิมา โดยในประกาศอันอาตมพรรณามา ฉะน้ี ฯ
_________________
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 139
ค�ำอธิบาย
หรือท่ีอาจารย์บางพวกเรียกว่า วิจาร
๏ ประกาศบรมราชาภิเศกนี้ ค้นพบแต่รัชกาลที่ ๔ เปนต้นเดิม รัชกาลก่อนขึ้นไปไม่เคยพบเลย เข้าใจ
ว่าไม่มี พ่ึงมีขึ้นเมื่อรัชกาลที่ ๔ พบท้ังร่างก่อนแลร่างหลัง ร่างก่อนน้ัน เข้าใจว่าสมเด็จกรมพระปรมานุชิตร่าง
ถวาย แล้วมีพระกระแสแก้ไข ฯ
๏ บท สรัช์ชํ สเสนํ ฯลฯ ปริต์ตํ ภณัน์ตุ น้ัน บางท่านกล่าวว่า เปนคาถาสมเด็จกรมพระปรมานุชิตทรง
นิพนธ์ขึ้นส�ำหรับประกาศราชาภิเศกน้ัน เห็นจะเปนการเคล่ือนคลาดอยู่เพราะเห็นในพระกระแส เปนพระราช
หัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงไว้ในร่างดังคัดมาลงต่อไปนี้ ฯ
๏ ขอรับประทานให้มีค�ำประกาศพระสงฆ์ผู้จะสวดก่อน ด้วยคาถา สรัช์ชํ สเสนํ ฯลฯ รัก์ขตูติ แล้วมี
ค�ำไทยแต่งตามเชิงเนื้อความค�ำนี้ ให้พระสงฆ์ท้ังปวงผู้จะสวด มีความเมตตาปรานีแก่ราชสกูล สวดพระปริต
ด้วยน�้ำใจอันไม่ฟุ้งซ่านแล้วจึงเอาคาถา สมัน์ตาจัก์กวาเฬสุ ฯลฯ สัค์คโมก์ขทํ แล สัค์เคกาเม ฯลฯ สาธโวเม
สุณัน์ตุ ว่าต่อไปเปนค�ำมคธอย่างขัดต�ำนานก่อน แล้วจึงว่าค�ำที่แต่งไว้น้ันต่อไป แลท่ีจะแก้ไขนั้น ได้บอกมา
กับกรมวงษาสนิทแล้ว ฯ
๏ ตามพระกระแสน้ี เปนอันปรากฏว่าคาถา สรัช์ชํ มีอยู่เดิมแล้ว สมเด็จกรมพระปรมานุชิตทรงแต่ง
แต่ค�ำแปลเท่าน้ัน ร่างเดิมนั้น ขึ้นต้น โภน์โต เทวสังฆา ทีเดียว แลท่ีออกชื่อเมืองขึ้นต่างๆ นั้นก็อยู่ข้างต้น เปน
เชิญเทวดารักษากรุงเทพฯ แลหัวเมือง คือเมืองนั้นๆ ดังนี้ ท่ีโปรดให้แก้ใหม่น้ัน ยกช่ือเมืองมาไว้ท้าย แลท่ี
อ่ืนก็แก้ไขเพ่ิมเติม ผิดจากร่างเดิมบ้างแห่งละเล็กละน้อยหลายแห่ง ที่คัดลงน้ีคัดตามฉบับท่ีแก้ไขใหม่ตาม
พระกระแส ซ่ึงเข้าใจว่าได้ใช้ฉบับนี้ประกาศ ฯ
๏ การใช้อักขรวิธี ต้นฉบับเปนหนังสือขอม เม่ือคัดมาเปนตัวไทยก็ผิดเพี้ยนไปบ้าง เช่นตัวซ้อนขอมใช้
สองตัว เมื่อคัดเปนไทยได้ลดออกเสียบ้างตามวิธีหนังสือไทย เพราะจะคัดตามตัวขอมก็ซ้อนตัวกันรุงรังนัก
กับตัวสกดผิดโดยพลั้งพลาดเคยมือ คงจะหลงเหลือมีอยู่บ้าง แต่ได้พยายามที่จะให้ตรงตามของเดิมอยู่เสมอ
เปนแต่ตรวจไม่เห็นจะพล้ังพลาดบ้างเท่านั้น ฯ
๏ ค�ำบวร ที่ใช้ว่า พระมหานครบวรราชวัง กับ เสวตรบวรฉัตรดูรู้สึกเปนวังน่า ข้อน้ีเห็นว่าแต่ก่อนค�ำ
บวรจะไม่รู้สึกอะไรนอกจากว่าเปนค�ำไพเราะห์เท่าน้ัน ท่ีมาถือบรมเปนวังหลวง บวรเปนวังน่า ชัดเจนแน่นอน
ข้ึนนั้น เห็นว่าจะเปนภายหลัง เพราะฉะนั้น ค�ำว่าบวรในท่ีสองแห่งนี้ เข้าใจว่าของเดิมใช้เช่นนั้น เห็นจะไม่ใช่
คัดผิดเขียนผิด ฯ
๏ ค�ำว่าจักรกรี ท่ีในบัดน้ีใช้ว่า จักรี ด้วยเห็นว่าตัว ก กับตัว ร จะเกินไปอย่างละตัว เพราะมาแต่ จัก์กี
ในภาษามคธว่ามีจักรนั้น เห็นหนังสือในรัชกาลที่ ๔ ทรงใช้จักรกรีทั้งน้ัน ท่ีสุดจนคาถาภาษามคธก็ทรงใช้ว่า
จัก์กกรี บ้าง จัก์กัก์กรี บ้าง ถ้าจะคิดแปลว่า มีกรทรงไว้ซ่ึงจักร หรือมีจักรในกร ก็น่าจะไปได้ ฯ
140 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๏ พระนามพิสดาร พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่ในประกาศนี้ ดูผิดกับท่ีเห็นในท่ีอ่ืนอยู่
หลายแห่ง คือ
๏ มหามกุฏสมมุติเทพยพงษ์ ในประกาศนี้ ท่ีอ่ืนเคยเห็นเปน มหามกุฏสุทธสมมุติเทพยพงษ์ มีสุทธเติม
ขึ้นค�ำหน่ึง ฯ
๏ อิศรราชรามวรังกูร เคยเห็นเปน อดิศรราชรามวรางกูรก็มี ฯ
๏ มหาชโนตมางคสผุสต์ บาทกมุทยุคล ในที่อ่ืนเปน มหาชโนตมางคประนต บาทบงกชยุคล ฯ
๏ ปรปักษ์ทศทิศวิชิตไชย ในอ่ืนท่ีเปน สรรพทศทิศวิชิตไชย ฯ
๏ บรมนารถบรมบพิตร ในที่อ่ืนเปน บรมนารถบพิตร ฯ
๏ พระนามที่ผิดกันกับที่เห็นในท่ีอ่ืนดังน้ี จะเปนด้วยโปรดให้แก้ไขภายหลังหรืออย่างไร เหลือท่ีทราบ
ได้ จะสืบถามท่ีไหนเวลานี้ ก็แลไม่เห็นผู้ท่ีจะสืบได้ ฯ
กรมพระสมมตอมรพันธุ์
วันอังคาร ที่ ๑๒ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร์ศ๓ก ๑๓๑
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์
ประทับพระท่ีนั่งพุดตานกง แวดล้อมด้วยเครื่องบรมขัตติยราชูปโภค
ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกคร้ังหลัง วันท่ี ๑๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๑๖
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 143
ค�ำอธิบาย
เอกสารชั้นต้นว่าด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบ
ด้วยเอกสาร ๒ ส่วน คือ ส่วนท่ี ๑ เร่ืองจดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รัชกาลท่ี ๕ คร้ังแรก พ.ศ. ๒๔๑๑ และ
คร้ังหลัง พ.ศ. ๒๔๑๖ ส่วนที่ ๒ คือ ประกาศเทวดาบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๕ ซึ่งรวบรวมอยู่ในหนังสือ
“ประกาศพระราชพิธี เล่ม ๒ ส�ำหรับพระราชพิธีการจร”
จดหมายเหตุบรมราชาภิเษกครั้งแรก รัชกาลท่ี ๕ พุทธศักราช ๒๔๑๑ และจดหมายเหตุบรม
ราชาภิเษกคร้ังหลัง รัชกาลที่ ๕ พุทธศักราช ๒๔๑๖
เร่ืองจดหมายเหตุบรมราชาภิเษกคร้ังแรก รัชกาลท่ี ๕ พ.ศ. ๒๔๑๑ พิมพ์เผยแพร่คร้ังแรกในวารสาร
ศิลปากร ปีท่ี ๑ เล่ม ๔ พ.ศ. ๒๔๘๐ ส่วนเร่ืองจดหมายเหตุบรมราชาภิเษกคร้ังหลัง รัชกาลที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๑๖
พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกในวารสารศิลปากร ปีที่ ๒ เล่มที่ ๑ - ๒ พ.ศ. ๒๔๙๑ หลังจากนั้นได้พิมพ์เผยแพร่อีก
หลายคร้ัง เช่น
เม่ือ พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้น�ำมาพิมพ์รวมเล่มต่อท้ายจากหนังสือเรื่อง ปัญจราชาภิเษก ราชาภิเษกคร้ัง
กรุงศรีอยุธยา และราชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ ๔) โดยใช้ชื่อหนังสือว่า “เร่ืองราชาภิเษกและ
จดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๕” พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพนาวาอากาศตรี สมภพ
สุตสุนทร ณ ฌาปนสถานกองทัพบก วัดโสมนัสวิหาร วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๙
เม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๖ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพลอากาศตรี จ�ำนง ผุสสราค์มาลัย
ณ ฌาปนสถานกองทัพอากาศ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วันเสาร์ท่ี ๑๓
ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ การจัดพิมพ์ในคร้ังน้ีใช้ชื่อหนังสือว่า “รวมเร่ืองราชาภิเษก ธรรมเนียมราชตระกูลใน
กรุงสยาม พระราชานุกิจ และอธิบายว่าด้วยยศเจ้า” ซ่ึงรวมเรื่องราชาภิเษกประกอบด้วยปัญจราชาภิเษก
ราชาภิเษกครั้งกรุงศรีอยุธยา ราชาภิเษกคร้ังกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ ๔) จดหมายเหตุบรมราชาภิเษก
รัชกาลที่ ๕ (ครั้งแรกและครั้งหลัง)
ประกาศเทวดาบรมราชาภิเษก รัชกาลท่ี ๕
นอกจากเรื่องจดหมายเหตุบรมราชาภิเษก ซ่ึงเป็นเอกสารที่ให้รายละเอียดเก่ียวกับการพระราชพิธี
นบั ตงั้ แตแ่ รกตง้ั การพระราชพธิ จี นถงึ ทส่ี ดุ แหง่ การพระราชพธิ แี ลว้ ในการจดั พมิ พค์ รง้ั นไี้ ดค้ ดั ประกาศการพระราช
พิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลท่ี ๕ หรือ “ประกาศเทวดาบรมราชาภิเศก รัชกาลท่ี ๕” ท่ีพิมพ์อยู่ใน“ประกาศ
พระราชพิธี เล่ม ๒ ส�ำหรับพระราชพิธีประจ�ำปี” เนื้อหาว่าด้วยการพระราชพิธีจรต่าง ๆ ซ่ึงพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระสมมตอมรพันธุ์ ทรงเรียบเรียงมาพิมพ์รวมไว้ด้วย เพ่ือประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าและสร้าง
ความเข้าใจเกี่ยวกับการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
144 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ในการนี้ คณะท�ำงานจัดท�ำหนังสือประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมอบหมายให้
นายบัณฑิต ลิ่วชัยชาญ นักอักษรศาสตร์ช�ำนาญการพิเศษ กลุ่มประวัติศาสตร์ ส�ำนักวรรณกรรม
และประวัติศาสตร์ และนายจุง ดิบประโคน นักภาษาโบราณช�ำนาญการพิเศษ กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก
ส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ ตรวจสอบช�ำระเอกสารส่วนที่ ๑ โดยจดหมายเหตุบรมราชาภิเษกครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๑๑
ไม่พบต้นฉบับสมุดไทย จึงใช้ต้นฉบับท่ีจัดพิมพ์เผยแพร่เป็นหลักในการตรวจสอบช�ำระ ส่วนจดหมายเหตุบรม
ราชาภิเษกครั้งหลัง พ.ศ. ๒๔๑๖ ใช้ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๒๗๕ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกรัชกาลที่
๕ สมุดไทยด�ำ เส้นดินสอ อักษรไทย - อักษรขอม ภาษาไทยและภาษาบาลี ซึ่งกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
มอบให้หอพระสมุดวชิรญาณ ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ท่ีกลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก ส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ
เป็นหลักในการตรวจสอบช�ำระ สอบทานกับฉบับพิมพ์เผยแพร่โดยคงอักขรวิธีส่วนใหญ่ตามต้นฉบับสมุดไทย
ซึ่งเชิงอรรถเคร่ืองหมายดอกจัน * เป็นเชิงอรรถเดิมในฉบับพิมพ์ ส่วนเชิงอรรถท่ีเป็นหมายเลขเป็นเชิงอรรถ
ท่ีจัดท�ำเพ่ิมเติมในคร้ังนี้ อีกทั้งยังคงใช้ช่ือเอกสารชุดน้ีว่า “จดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๕” ตาม
ฉบับพิมพ์เผยแพร่
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 145
จดหมายเหตุบรมราชาภิเษกคร้ังแรก
รัชกาลที่ ๕
พุทธศักราช ๒๔๑๑
๏ ศิริศยุภมัศดุ พระพุทธศักราชอดีตกาล ชไมยสหัสสะสังวัจฉระ จัตุสตาธฤก เอกาทศสังวัจฉระ
ปัตยุบันกาล มังกระสังวัจฉระ อัสยุชมาศ ศุกรปักษ์ บรรณ (ร) สิยดฤถี คุรุวาร1 ปริเฉทกาลอุกฤษฐ์ เวลา ๔ ทุ่ม
ทุติยบาท กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ พระวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองฯ ผู้ใหญ่ ผู้น้อย ปรึกษาพร้อมกัน กรมหมื่น
บวรรังษีสุริยพันธุ์ พระศาสนโสภณ พระอมรโมลี พระราชาคณะคามวาสี อรัญวาสี กับพระครูฐานานุกรม
เปรียญท้ังปวง ฝ่ายข้างพุทธจักร และฝ่ายข้างพระราชอาณาจักร กรมหลวงเทเวศรวัชรินทร์ กรมหลวงวงศา
ธิราชสนิท กรมหม่ืนถาวรวรยศ กรมหม่ืนวรศักดาพิศาล กรมหม่ืนภูบาลบริรักษ์ กรมขุนวรจักรธรานุภาพ
เจ้าฟ้ากรมขุนบ�ำราบปรปักษ กรมหมื่นภูมินทรภักดี กรมหมื่นอดุลยลักษณสมบัติ กรมหมื่นภูบดีราชหฤทัย
กรมหม่ีนภูวไนยนฤเบนทราธิบาล กรมหมื่นอักษรสารโสภณ กรมหมื่นเจริญผลพูนสวัสด์ิ กรมหม่ืนอนันต
การฤทธิ กรมหมื่นสิทธิสุขุมการ ท่านเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ท่ีสมุหพระกลาโหม ท่านเจ้าพระยาภูธราภัย
ท่ีสมุหนายก พระยามหาอ�ำมาตย์ พระยาราชภักดี พระยาศรีพิพัฒน์ พระยาเพ็ชรพิไชย พระยาสีหราชเดโช
พระยาสีหราชฤทธิไกร พระยาราชวรานุกูล พระยาอภัยรณฤทธิ พระยาอนุชิตชาญไชย พระยาสุรวงศ์วัยวัฒน์
พระยาบุรุษรัตราชพัลลภ พระยาศรีเสาวราช ท่านเจ้าพระยามุขมนตรี พระยามณเทียรบาล พระยาเสนา
ภูเบศร พระยาศิริไอศวรรย์ พระยาสุรินทรราชเสนี พระวงศานุวงศ์ผู้น้อยท่ียังไม่ได้ตั้งกรม กับข้าทูลละออง ฯ
และข้าราชการผู้ใหญ่ ผู้น้อย ฝ่ายทหาร พลเรือนทั้งพระพุทธจักร และพระราชอาณาจักรประชุมในพระที่นั่ง
อนันตสมาคมปรึกษาพร้อมกันว่า พระบาทสมเด็จพระบรมนาถบรมบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสู่
สวรรคตแล้ว และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ กรมขุนพินิตประชานาถ ทรงกอปรด้วย
พระวัยวุฒิปรีชาญาณสุรภาพ และทรงพระสติปัญญาพระเมตตา มหาปรักกมะอันประเสริฐ สามารถเป็นบรม
ศาสนูปภัมภกพระพุทธศาสนา สมควรที่ด�ำรงราชสมบัติปกป้องพระมหานคร ขอบขัณฑเสมา สมณพราหมณา
ประชาราษฎร ให้อยู่เย็นเป็นสุขได้ด้วยพระบุญฤทธิมหาบารมี อันส�่ำสมมาหาผู้จะเสมอมิได้ จึงกราบทูล
อัญเชิญสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ กรมขุนพินิตประชานาถข้ึนพานพิภพมไหศวรรยาธิปัตย์
1 วนั พฤหสั บดี เดอื น ๑๑ ขน้ึ ๑๕ คำ่� ตรงกบั วนั ที่ ๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๑๑ ซงึ่ เปน็ วนั สวรรคตของพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้
เจา้ อยู่หัว
146 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ถวัลยราชประเพณีสืบศรีสุริยสันตติวงศ์ด�ำรงพิภพมณฑลสกลกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทรมหินทรา
โยธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราศรีมหานคร บวรราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อันอ�ำพนด้วย
สามนตประเทศนานามหาไพบูลยพิศาลราชเจ้าสีมาอาณาเขตมณฑลท้ังปวง โดยบุรพประเพณีพระมหา
กษัตราธิราชเจ้าสืบ ๆ มา ฯ
๏ ข้าพระพุทธเจ้า พระยาโหราธิบดี เจ้ากรมโหรหน้า ๑ ขุนโชตพรหมา ปลัดกรม ๑ หลวงโลกทีป
เจา้ กรมโหรหลงั ๑ ขนุ เทพพยากรณ์ ปลดั กรม ๑ โหรมชี อื่ คำ� นวณพระฤกษม์ งั คลมหาราชาภเิ ษกทลู เกลา้ ถวาย ฯ
๏ ศิริศยุภมัศดุ พระพุทธศักราชอดีตกาล ชมัยสหัสสสังวัจฉระ จัตุสตาธฤก เอกาทศสังวัจฉระ
ปัตยุบันกาล มังกระสังวัจฉระ กติกมาศ ศุกปักษ เตรัสมิยดฤดี พุธวาร1 ปริเฉทกาลอุกฤษฐ์ เวลาบ่ายแล้ว ๓๐
นาที พระลัคนาสถิตราศีมังกร เสวยพระฤกษ์บุรพาสาฬห ๒๐ เกาะนวางค์ ๕ ตรียางค์ ๗ พระจันทร์สถิตราศีมีน
เสวยฤกษ์บุรพภัทร ๒๕ พระอาทิตย์สถิตราศีดุล พระอังคารสถิตราศีกรกฎ พระพุทธสถิตราศีดุล พระพฤหัสบดี
สถิตราศิมิน พระศุกร์สถิตราศีสิงห์ พระเสาร์สถิตราศีพิจิก พระราหูสถิตราศีกรกฎ เป็นพระมหาชัยมงคลอุดม
ฤกษ์ ขุนพรหมาได้จารึกพระชันษา นายราชสาสน์ได้จารึกพระนามลงในแผ่นพระสุพรรณบัฏทองค�ำเน้ือแปด
เศษสอง ดวงพระชันษากว้าง ๑๐ นิ้ว ยาว ๑๐ นิ้ว หนัก ๒ 2 ดวงพระนามกว้าง ๗ นิ้ว ยาว ๑๔ นิ้ว หนัก ๒ 3
๏ พระมหาราชครูจุณเจิมแล้วพันด้วยไหมเบญ(จ)พรรณ บรรจุไว้ในพระกล่องทองค�ำจ�ำหลัก
ลายกุดั่นแล้วเชิญลงไว้ในหีบถมยาด�ำตะทอง มีถุงเข้มขาบนอกตีตราประจ�ำเล็บ เชิญข้ึนไว้บนพานทองสองช้ัน
ส�ำรับใหญ่ ปิดคลุมปักเลื่อม ข้าทูลละออง ฯ ผู้ใหญ่ผู้น้อยพร้อมกันสมโภชเวียนเทียน มีบายศรีแก้ว ๑ บายศรี
ทอง ๑ บายศรีเงิน ๑ บายศรีตอง ๒ ส�ำรับ ศีรษะสุกร ๒ ศีรษะ เคร่ืองกระยาบวชพร้อมสรรพ ด้วยแตรสังข์
มโหรีปี่พาทย์กลองแขกฆ้องชัย พระมหาราชครูเป่าพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏ อุตราวัฏ สมโภชเสร็จแล้ว
เชิญประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ฯ
๏ ครั้นศิริศยุภมัศดุ พระพุทธศักราชอดีตกาล ชไมยสหัสสสังวัจฉระ จัตุสตาธฤก เอการสสังวัจฉระ
ปัตยุบันกาล มังกระสังวัจฉระ กติกมาศ กาฬปักษ์ นวมิยดฤถี รวิวาร4 ปริเฉทกาลอุกฤกษฐ์ เวลาบ่าย ๓ โมง
การก�ำหนด พระราชาคณะจะได้สวดพระพุทธมนต์ในพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ ๕๐ รูป ในพระมหามนเทียร
๕ รูป ในพระที่น่ังอมรินทรวินิจฉัย ๓๐ รูป ทรงพระภูษาพ้ืนขาว ฉลองพระองค์ครุยขาวกรองทอง รัดพระองค์
1 วันพธุ เดือน ๑๒ ขนึ้ ๑๓ ค�่ำ ตรงกบั วันที่ ๒๘ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๑๑
2 อ่านว่า หนัก ๒ ต�ำลึง
3 อา่ นว่า หนัก ๒ ต�ำลงึ
4 วันอาทิตย์ เดอื น ๑๒ แรม ๙ คำ่� ตรงกบั วนั ท่ี ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๑