325
ทา่ นปรารภกนั วา่ ระยะน้เี หน่ือยเตม็ ที นมิ นต์กันไมม่ เี วลาหยุดพักเลย บางทฉี ันเช้าเสรจ็ กจ็ ะมี
คนนิมนต์ไปเหยียบบ้านเหยียบโรงงาน เทศน์จากบ้านนี้ไปต่อบ้านโน้น โรงงานน้ัน โรงพยาบาลน้ี
ร้านค้าน้ัน บางวันกว่าจะกลับถึงที่พักก็สี่ทุ่ม และยังมีแขกคอยรอกราบอีก เคยเห็นท่านรับนิมนต์
สวดมนตเ์ ย็นจังหวัดหนงึ่ แลว้ ไปตอ่ สวดมนต์พธิ ีฉลองโบสถอ์ กี จังหวัดหนึ่ง กวา่ จะถงึ บริเวณพิธกี ็ตหี นึง่
เม่ือถงึ แล้วทา่ นกเ็ ร่มิ สวดต่อไปจนสว่างเลย
ใครเหน็ ก็อดสงสารทา่ นไม่ได้ รบั นมิ นตท์ ีหน่งึ ๆ กลับวัดท่านจะแทบ “ลม้ พับ” กนั ไป บางทกี ็
ไม่ได้สรงน้�ำ
“เมอ่ื ไรเราจะเกษียณกนั สักท”ี ทา่ นพระอาจารยว์ ันปรารภขึ้นในวนั นนั้ ท่ีลาดพร้าว
“เกษียณเป็นอย่างไร ?” ทา่ นพระอาจารยจ์ วนซัก
“เกษียณ กแ็ บบข้าราชการไงล่ะ เขาท�ำงานมามาก พออายคุ รบ ๖๐ ราชการเขาให้พกั ไมต่ ้อง
ไปท�ำงานอกี เรียกว่าเกษียณ” ทา่ นพระอาจารย์วันอธบิ าย
ท่านพระอาจารย์จวนไดฟ้ ังกร็ อ้ ง “อ๋อ ! งัน้ เกษยี ณกนั ตอน ๖๐ ปีน้แี หละ”
หลงั จากทา่ นมรณภาพแล้ว ระหวา่ งตงั้ ศพบ�ำเพ็ญกุศลอยู่ ณ วดั พระศรมี หาธาตุ สมเดจ็ พระ–
ญาณสังวรฯ ได้ซักคุณสุรีพันธุ์ว่า “ท่านอาจารย์เคยพูดว่าอย่างไรบ้าง ?” เมื่อเล่าถวายมาถึงเรื่อง
เกษยี ณ ท่านกอ็ ุทานวา่ ความจรงิ “เกษียณ” นน้ั แปลวา่ หมดไป สน้ิ ไป
ครงั้ หนึ่งก่อนมรณภาพไมน่ านนกั ท่านพระอาจารย์จวนได้บอกทุกคนวา่ “ต่อไปใครถามหา
เจ้าอาวาสภูทอก ก็ให้บอกว่าท่านแยง ไม่ใช่อาตมา” เพราะว่าท่านได้ยกท่านแยงเป็นเจ้าอาวาส
แทนแลว้ แมก้ ระทงั่ เทปประวตั ทิ ที่ า่ นไดอ้ ดั เอาไว้ ๗ มว้ นสดุ ทา้ ยกอ่ นมรณภาพเพยี ง ๒ – ๓ วนั ทา่ นก็
สง่ั ใหท้ างวัดเก็บไวใ้ ห้คณุ สรุ ีพนั ธ์ุ ทงั้ ๆ ทที่ ่านก�ำลงั จะเดนิ ทางเข้ากรุงเทพฯ อยู่แล้ว ท่านได้บอกกับ
ทางวัดว่าคุณสรุ พี นั ธุจ์ ะมารับเทปชดุ สุดทา้ ยนีเ้ อง ถ้าท่านน�ำเทปชุดนีม้ าด้วยกค็ งเสยี หายไปพร้อมกับ
ชีวิตของท่านอย่างไม่ตอ้ งสงสัย
ท่านพระอาจารย์จวนรูล้ ว่ งหนา้ วา่ ความตายรออยู่ ในชว่ งก่อนมรณภาพไมน่ าน ทา่ นอยากให้
ญาติมานมิ นต์ท่านกอ่ น ท่านไมอ่ ยากไปงานในวนั เคร่อื งบนิ ตก โดยทา่ นพระอาจารย์ค�ำศรี อปุ สนฺโต
ได้เมตตาเลา่ เรอ่ื งน้ไี วด้ งั น้ี
“ตั้งแต่ท่านทราบวา่ ทางวงั จะนมิ นต์ ท่านมแี ต่ส่ังไวว้ ่า “มีญาตจิ ะมานมิ นตไ์ หม ?” “ไม่อยาก
จะไปงานของพระเจา้ อย่หู วั ใครหนอจะมานิมนต์ ?” อยากใหญ้ าติมานมิ นตต์ ัดหน้า อยากใหญ้ าติมา
ญาตกิ ไ็ มม่ า เปน็ อบุ ายของทา่ นนะ มนั ไมม่ ใี ครมานมิ นตท์ า่ น ทา่ นกไ็ ปแลว้ วนั ทต่ี กเครอ่ื งบนิ ในชว่ งนน้ั
อยากใหโ้ ยมมานมิ นตท์ า่ นวา่ จะท�ำบญุ จะได้อา้ งว่า “จะตดิ งานแล้ว จะไมไ่ ด้ไปงานแล้วกระมังนะ”
เรอื่ งนห้ี ลวงตาแยงท่านเล่าใหฟ้ ัง งานนมิ นตว์ นั ที่ ๒๘ เมษาฯ ทา่ นไม่อยากไป คอื ท่านรู้ ท่านพดู อยา่ ง
326
นน้ั สิ พอทา่ นตกเครอื่ งบนิ ไปแลว้ อาตมากโ็ อ๋ ! ทา่ นว่าอยา่ งนนี้ อ้ ยังนึกถงึ ได”้
และมีศษิ ยผ์ ใู้ กล้ชิดคนหนึง่ ได้มีโอกาสกราบท่านกอ่ นเดนิ ทางมากรงุ เทพฯ ครงั้ น้ี เลา่ วา่ ท่านได้
บอกวา่ “นบั แตน่ ไี้ ปอกี ๓ วัน จะมีคนเชด็ นำ�้ ตาใหเ้ ราทัง้ เมือง เหมอื นที่เราเคยเช็ดนำ�้ ตามาแลว้
นบั ชาตไิ มถ่ ้วน แต่น้ีไปเราจะไมต่ อ้ งเช็ดนำ้� ตาอีกแลว้ ”
ญาณหยั่งรู้ของครูบาอาจารย์ท้ัง ๓
ครั้งหน่ึงระหว่างท่ีท่านอาจารย์วัน ท่านอาจารย์จวน และท่านอาจารย์สิงห์ทองอยู่ด้วยกัน
ท่านท้งั สามได้กลา่ วถงึ เรอ่ื งตายขึน้ มาเฉยๆ
ทา่ นอาจารยจ์ วนได้กลา่ ววา่ “ตวั ทา่ นคงจะตายอย่ใู กลก้ บั ทา่ นอาจารยว์ นั ”
ส่วนท่านอาจารย์สิงห์ทองก็บุ้ยใบ้บ้างว่า “ตัวท่านก็จะตายพร้อมกับหลวงตาโน่น” (ท่านบุ้ย
มาทางทา่ นอาจารย์จวน) แลว้ หวั เราะกัน
หมศู่ ิษย์ท่ไี ดย้ ินเร่อื งน้ตี า่ งเขา้ ใจได้เพียงวา่ ครบู าอาจารย์ทง้ั ๓ ทา่ นมีความสนิทสนมกนั เปน็
พเิ ศษ จงึ ไดแ้ สดงความสนทิ สนมกนั ออกมาเทา่ นน้ั ไมม่ ใี ครคดิ ว่านั่นคอื ญาณหย่งั รู้ของพวกท่าน
เกยี่ วกับญาณหยัง่ รู้ของครูบาอาจารย์เหลา่ นม้ี บี ันทกึ แสดงเหตกุ ารณ์เอาไว้มากมาย เพ่อื ยนื ยนั
การหย่งั รวู้ า่ เปน็ สมบตั ิของพวกท่านจริง จงึ ขอยกเรอื่ งญาณหย่งั รขู้ องทา่ นอาจารยจ์ วน กอ่ นท่ที ่านจะ
มรณภาพดว้ ยเครื่องบินตก โดยทา่ นพระอาจารย์สงบ มนสฺสนโฺ ต ไดเ้ มตตาเทศนเ์ รอ่ื งนีไ้ ว้ดังน้ี
“ดอู ยา่ งเชน่ อาจารย์จวนนะ อาจารย์จวนท่านมาเครื่องบนิ ตก ก่อนทีจ่ ะลงจากวดั ไป ท่านเขียน
ไวบ้ นกระดานด�ำ “วัดนี้ยกใหท้ า่ นแยง” น่ี ! พระอรหนั ต์ และพอทา่ นตายไปแล้วเผา ๗ วนั กระดกู เป็น
พระธาตเุ ลย คอื ท่านรทู้ ่านจะต้องมาตาย แตท่ ่านไมเ่ คยหวน่ั ไหวเลยเห็นไหม มาแบบปกติ แล้วในวัด
ไม่ได้บอกใคร ไมใ่ หใ้ ครรู้เรื่องเลย ตายแบบสนิทมากเห็นไหม คอื ว่าพระอรหันต์ไม่กลัวตาย”
และจากหนังสอื กุลเชฏฐาภวิ าท มกี ารบันทกึ เร่ืองน้ีไว้ดงั น้ี
“ขอเลา่ อกี เพียงเรื่องหนง่ึ อนั เปน็ ครั้งลา่ สุดทีเ่ พ่อื นๆและผู้เขยี นไดป้ ระสบคอื ว่าวนั น้นั เป็นวันท่ี
๗ เมษายน ๒๕๒๓ เมอื่ เราไปส่งท่านท่ีภูทอก และรุ่งขึ้นก็จะลากลับ จงึ ขอใหท้ า่ นกรุณาพาเราไปดูกฏุ ิ
ท่ีเพง่ิ สร้างทภ่ี ูทอกใหญ่หรือภูแจ่มจำ� รัส ท่านก็กรุณาพาไป ภูทอกใหญ่น้ีถ้าเดนิ ตดั ไปก็คงราวกโิ ลเมตร
คร่งึ เท่านนั้ แต่ถ้าไปตามถนนกอ็ อ้ มหน่อย เราเลือกไปทางรถ ขาไปเราไดอ้ าศัยรถจป๊ี ชาวบ้านไปส่ง
เพราะรถของเราไมอ่ ยู่ พอถงึ เชงิ เขา ท่านก็สง่ั ให้รถจีป๊ กลับวดั และให้ไปตามรถของคณะเรามา
พอลงจากเขาจะกลบั เราเห็นรถจป๊ี จอดอยู่คนั เดยี ว แตร่ ถของเราไมอ่ ยู่ ไดค้ วามวา่ รถมาแลว้
แต่เพิ่งไปส่งพระท่ีท่านมีธุระขอกลับก่อน ท่านอาจารย์ลงมาถึง เห็นเราขึ้นไปน่ังบนรถจ๊ีปกันหมด
กบ็ ่นเสียงดัง “เอ ! ไปข้นึ รถจป๊ี ท�ำไม บอกใหร้ อรถมารับไงล่ะ”
327
ท่านเรียกหารถแล้วสั่งให้พวกเราลงรอรถของเรา คร้ังแรกไม่มีใครยอมลงจากรถจ๊ีป ด้วยนึก
เกรงใจผู้ขับ เขาอุตส่าห์กลับมารอรับเรา และกระตือรือร้นเชิญเราขึ้นรถขึ้นไปนั่งแล้วยังลงไปเสียอีก
เขาจะนกึ วา่ เรารังเกียจเขาดูถกู เขา ข้อส�ำคัญ ขามายงั น่งั มาได้ แต่พอมรี ถท่ดี กี ว่ากจ็ ะทิ้งเขาไปทีเดียว
เชียวหรือ
เรายนื กรานว่าเราจะกลบั โดยรถจีป๊ เราชอบรถจี๊ป นมิ นต์ท่านอาจารย์รอรถของเราเถดิ บดั น้ี
มองเห็นรถก�ำลังยอ้ นกลับมาแล้ว ทา่ นกไ็ มย่ อม สงั่ ให้ทกุ คนลงจากรถจ๊ีป ทุกคนเร่มิ คิดว่าท่านคงจะมี
เหตุผลอะไรกระมัง เพราะทุกคร้ังถ้าท่านสั่งด้วยเสียงอันเฉียบขาดดังน้ี ถ้าไม่เชื่อก็มักจะมีเหตุอะไร
เกิดข้ึนเสมอ เสียงเช่นนี้ ถ้าใช้ตามส�ำนวนขององค์ท่านเอง เม่ือท่านเล่าในอัตตโนประวัติของท่าน
กต็ ้องว่า “ขูเ่ ขญ็ ค�ำราม” นัน่ เอง
ไมก่ น่ี าทตี ่อมา เรากร็ วู้ ่า “เหตอุ ะไร” ทีท่ ่าน “ขเู่ ข็ญค�ำราม” ไม่ให้พวกเรากลับ โดยรถจี๊ปท่ี
ตามเรามาก็ไหลลงไปในหว้ ย ได้ความวา่ เบรกแตก แมค้ นขับจะไมเ่ ปน็ อันตรายมากด้วยมอื ยึดม่นั อยู่
กบั พวงมาลัย แต่ถ้าพวกเราน่งั อย่ใู นรถด้วยก็คงไม่วายเจบ็ ไปตามๆ กนั
คุณสุรีพันธ์บุ อกวา่ ทา่ นคงหม่นั ไสพ้ วก “ดือ้ ” จงึ ออกปากเป็นเชิงสอนว่า “เหน็ ไหม คนเราต้อง
รู้จกั เลอื กนง่ั รถซี คนั ไหนมีอันตรายก็อย่าน่ัง คันไหนไม่มอี ันตรายถึงจะนง่ั ”
“พวกเราใครจะทราบล่ะเจา้ คะว่ารถคนั น้ันเบรกจะแตก ไม่เหมอื นท่านอาจารยน์ นี่ า เราจะได้
ทราบเหตกุ ารณ์ลว่ งหน้า”
ท่านไดย้ นิ ใครคนหนงึ่ ย้อนกห็ ัวเราะแลว้ แก้ว่า “เราคยุ ไปเช่นนัน้ เอง ไม่ไดร้ ้อู ะไรหรอก”
เร่ืองเล่าก่อนการมรณภาพด้วยเคร่ืองบินตก
พระเดชพระคณุ หลวงปู่ลือ ปญุ โฺ วดั ป่านาทามวนาวาส บ้านนาทาม ต�ำบลปา่ ไร่ อ�ำเภอ
ดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร (ฉายา “ปุญฺโ” เริ่มใช้ตั้งแต่ท่านได้ญัตติเป็นธรรมยุติกนิกาย คือเป็น
พระสายกมั มัฏฐาน ลูกศิษยข์ องหลวงปเู่ สาร์ กนฺตสีโล และหลวงปู่มั่น ภรู ทิ ตฺตเถร เป็นต้นมา)
หลวงป่ลู อื เป็นพระสงฆ์ผู้ปฏบิ ัตดิ ี ปฏิบตั ชิ อบ เปน็ ผ้ทู รงอภญิ ญาสามารถหย่งั รู้ญาณชนั้ สงู เชน่
อตีตงั สญาณ คอื หยง่ั รเู้ ร่ืองราวในอดีตของตนเองวา่ หลวงปู่เมือ่ ชาตกิ ่อนท่านเปน็ ฤๅษบี �ำเพญ็ เพยี ร
อยู่ในถ�้ำใต้ชะงอ่ นผา ซงึ่ เป็นท่ตี ง้ั วดั ปา่ นาทามวนาวาสในปจั จุบัน ได้เสยี ชวี ติ ในถ�้ำ ปัจจบุ ันอัฐธิ าตุของ
ทา่ นยังอยูใ่ นถ้ำ� ดงั กล่าว และนอกจากนั้นทา่ นยังหย่งั รู้ อนาคตงั สญาณ คอื หยัง่ รูเ้ รอื่ งราวในอนาคต
ไดล้ ว่ งหน้าดงั เหตกุ ารณเ์ คร่อื งบนิ โดยสารตกในเขตอ�ำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี เมอื่ วนั ที่ ๒๗
เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ ทำ� ใหผ้ ู้โดยสารตายเกอื บหมดทงั้ ล�ำ (ทีเ่ หลือบาดเจ็บสาหัสและยังมีชวี ิตอยถู่ งึ
ปัจจบุ ัน ๒ – ๓ คน ตามทป่ี รากฏเปน็ ขา่ ว)
328
ในเครื่องบินดังกล่าวพระกัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น ได้ร่วมเดินทางไปด้วย ๕ องค์ และได้
มรณภาพทงั้ หมด คอื พระอาจารยบ์ ญุ มา ติ เปโม พระอาจารยว์ นั อตุ ตฺ โม พระอาจารยจ์ วน กลุ เชฏโฺ
พระอาจารยส์ งิ หท์ อง ธมมฺ วโร และ พระอาจารยส์ ุพัฒน์ สขุ กาโม พระอาจารย์ทัง้ ๕ องคด์ ังกลา่ ว
ได้รับนมิ นต์ไปร่วมพิธสี ำ� คญั ที่พระทนี่ ง่ั ไพศาลทกั ษิณ และเจา้ ภาพได้มีการนมิ นตห์ ลวงปู่ลอื ไปรว่ มพิธี
ดงั กลา่ วดว้ ย โดยนำ� ต๋วั เครือ่ งบินไป – กลบั ในเท่ียวดังกล่าวมาถวายหลวงปถู่ งึ วดั ปา่ นาทามวนาวาส แต่
หลวงปูล่ อื ไม่รับนิมนต์ เนอ่ื งจากได้นิมิตเหน็ ไฟไหมห้ างของเครอื่ งบินล�ำดงั กลา่ วขณะบินอยบู่ นทอ้ งฟ้า
กอ่ นจะถึงวันเดินทาง ๒ – ๓ วนั หลวงป่เู ลา่ ว่า พระอาจารย์ท้งั ๕ องคท์ ี่มรณภาพครัง้ น้ี
ทุกท่านมีญาณหยั่งรู้ว่าเคร่ืองบินจะตกและจะดับขันธ์ในครั้งนี้ แต่ทุกท่านได้ยินยอมให้เป็นไปตาม
วิบากกรรม สว่ นหลวงปลู่ อื ทา่ นยังมภี ารกจิ ท่ตี อ้ งโปรดสตั ว์และสืบสานพระศาสนายงั ไมส่ �ำเร็จตามที่
ทา่ นได้ปวารณาเอาไว้
หลวงปหู่ ล้า เขมปตโฺ ต วดั ภูจอ้ ก้อ จงั หวดั มกุ ดาหาร เคยบอกวา่ พระโมคคลั ลาน์ที่ถกู กลุม่ โจร
รมุ ฆ่าน้นั แทจ้ ริงแล้วโจรฟันตีไมถ่ กู ท่าน ทถี่ กู นั้นคือถกู ธาตขุ ันธ์ของทา่ นเทา่ นนั้
เครือ่ งบนิ ตก พระตายไปหลายองคน์ น้ั พออาศยั คำ� บอกของหลวงปู่หล้าเป็นคำ� อธิบายไดไ้ หม
เรื่องเครื่องบินตกพระตายนั้น ได้ยินค�ำเล่าหลายปาก เล่าไปต่างๆ นานาไม่ตรงกันนัก แต่ทุกปาก
เลา่ ไดใ้ จความเดียวกัน คือ พระทกุ องคก์ ่อนข้ึนเครอ่ื งบินกร็ ลู้ ่วงหนา้ ทงั้ นน้ั
ทา่ นพระอาจารยช์ า สภุ ทฺโท หรอื หลวงพ่อชา วดั หนองป่าพง อ�ำเภอวารินช�ำราบ จังหวดั
อบุ ลราชธานี ไดเ้ ทศน์ในเวลาประมาณ ๕ โมงเชา้ ของวนั ท่ี ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ ตอนหน่งึ
หลวงพอ่ ชาเทศน์ว่า “เขามานมิ นตไ์ ปกรุงเทพฯ เหมอื นกนั บงั เอญิ ไม่สบาย จึงไม่รบั นิมนต์ ถา้ รบั
กม็ ีหวงั ไปแล้วไมก่ ลับมาพบหน้าญาตโิ ยมอกี ” ปรากฏวา่ ตกบ่ายวันนนั้ ข่าวเครือ่ งบินตกพระตายก็
แพร่ไปท่วั ประเทศ
ท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ท่านรู้ตัวก่อนข้ึนเคร่ืองบิน ท่านได้ไล่ให้โยมวัดท่านหน่ึงกลับ
ไมย่ อมให้เดินทางข้ึนเครอื่ งบินไปดว้ ยกนั
ทา่ นพระอาจารย์จวน กลุ เชฏฺโ ทา่ นเคยปรารภเชิงเลน่ ๆ กับครูบาอาจารย์รปู อื่นวา่ “ท่าน
นะ่ ตายสูงนะ” ยังมีผู้คดิ กนั ว่า ภูทอกอย่ใู นทส่ี ูง ท่านกลา่ วเช่นนี้ คงหมายจะละขนั ธบ์ นภทู อก และ
ก่อนทท่ี า่ นจะลงมา กทม. กบั เทีย่ วบินนัน้ ท่านอดั เทปประวตั ขิ องทา่ นไว้ และท่านสั่งกบั พระศษิ ยไ์ วว้ ่า
“เอาไว้ที่นลี่ ะ่ เด๋ยี วจะมคี นมาเอาไปเอง”
หลวงปสู่ มหมาย จิตฺตปาโล ได้เมตตาเลา่ เรื่องนีไ้ วด้ งั นี้
“หลวงปู่จวนท่านไม่ได้พูดเหตุการณ์ไว้ล่วงหน้า เห็นแต่ท่านอาจารย์แยงเล่าให้ฟัง ท่านสั่ง
ตอนท่ที ่านจะมากรงุ เทพฯ นแ่ี หละ ทา่ นบอกเพยี งวา่ “ใหด้ ูแลวัดวาให้ดีนะ ผมไปช่วงน้จี ะได้กลับหรอื
ไม่ได้กลบั กไ็ ม่รู้” ท่านก็บอกแค่น้นั ”
329
ท่านพระอาจารย์บุญเลศิ เขมโิ ย ไดเ้ มตตาเลา่ เรื่องนี้ไวด้ ังน้ี
“หลวงปจู่ วนกอ่ นมรณภาพด้วยเครอ่ื งบินตก ท่านก็ไมไ่ ดบ้ อกอะไรเป็นนยั ทา่ นกว็ ่าจะไป
งานสมเด็จฯ “จะไปหาเงินมาสร้างถนน” ท่านก็พูดเท่านั้น ท�ำถนนอ้อมวัดน่ันนะไปถึงภูกิ่วโน่น
รถแทรกเตอร์ช่วย”
ท่านพระอาจารยส์ พุ ฒั น์ สุขกาโม ก็ฝันร้ายก่อนเครอื่ งบนิ ตก เลยตง้ั ใจไวว้ า่ ถ้าท่านพระ
อาจารย์สิงห์ทองไม่รับนิมนต์คร้ังน้ี ท่านก็จะไม่รับนิมนต์ด้วย พอดีท่านพระอาจารย์สิงห์ทองรับ
ท่านกจ็ �ำต้องรบั ดว้ ย โดยองคห์ ลวงตาพระมหาบวั เทศนไ์ วด้ งั นี้
“ตกเครือ่ งบินไปงานอะไรไม่รู้ อุปคตุ (ท่านสุพฒั น์) ทา่ นฝนั แม่นย�ำมากนะ ท่ที ่านจะไปตาย
คราวนี้ ไปเกาะไหนกพ็ ัง คือทา่ นฝันกลางคืนนจี้ นตื่นเตน้ ตกใจเสยี ใจ ทำ� ไมถึงฝันร้ายขนาดน้ี ทา่ นวา่
อย่างนัน้ นะ ไมเ่ คยฝนั อย่างน้ีเลย ฝนั รา้ ยกาจไมม่ ชี ิ้นดีเลย ทา่ นว่าอยา่ งน้นั แลว้ เขามานิมนตใ์ ห้ไปใน
งานนล้ี ะ่ แลว้ กนั กบั ความฝนั มนั เขา้ กนั ไดแ้ ลว้ ไมใ่ ชจ่ ะเอาเราไปตกเครอื่ งบนิ ตายเหรอ ทา่ นพดู อยา่ งนน้ั
เลย ทา่ นเลยหาท่ีเกาะ ไปนิมนต์อาจารย์สิงหท์ อง ถ้าท่านสิงห์ทองไป เราถงึ จะไป เกาะตรงนน้ั นะ
ถ้าท่านไมไ่ ป เรากไ็ มไ่ ป เขาไปนิมนตท์ ่านสงิ หท์ อง ทา่ นสิงห์ทองรับเขาแลว้ ก็พงั ไปเลย ถ้าหากวา่ ทา่ น
สงิ หท์ องไม่ไป ท่านจะไมไ่ ป ชวี ติ ท่านก็จะยงั อยู่ เลยตายในระยะนั้นละ่
ทา่ นฝันแปลกประหลาดมาก พอตื่นขึ้นมานด้ี อู าการโศกเศร้าเหงาหงอย มันฝันรา้ ยเหลอื
เกนิ ทา่ นว่าอยา่ งน้ันนะ แต่ท่านไมพ่ ูดเรือ่ งฝนั รา้ ยว่าเปน็ อยา่ งไรๆ แต่มันฝนั ร้ายไมม่ ีช้ินดีเลย ทา่ นบอก
อยา่ งน้นั มแี ตล่ ้มพงั ทง้ั นั้น
พอดีเขากม็ านิมนต์ ท่านกไ็ ปเกาะท่านสิงห์ทอง ท่านสงิ ห์ทองไป เราก็จะไป พอดไี ปนมิ นต์
ท่านสงิ ห์ทอง ท่านก็รับเขา เรยี กว่าเกาะแลว้ พังเลย ตายด้วยกันทั้งสอง ทา่ นอุปคุตนีส่ ำ� คัญ ท่านฝัน
ไม่ดีเลยทา่ นว่า เขามานิมนตโ์ ดยล�ำพงั ทา่ น ทา่ นจะไม่รับ ท่านบอก ทนี ้เี พราะความเคารพกนั เกี่ยวกับ
ทา่ นสงิ หท์ อง ท่านรบั แลว้ ท่านเลยตอ้ งรับไปดว้ ย แล้วก็ไปตายด้วยกัน”
องคห์ ลวงตาพระมหาบวั าณสมฺปนโฺ น ทา่ นไดต้ งั้ ฉายาประจ�ำตวั ให้ พระอาจารย์สพุ ัฒน์
สุขกาโม ว่า “ท่านอุปคุต” เนื่องด้วยมีครั้งหนึ่งในงานครูบาอาจารย์ พระอาจารย์สุพัฒน์ ท่านได้
นง่ั ภาวนาฟังธรรมแล้วเกดิ สปั หงกล้มลง จนส่งเสยี งดัง แลว้ มคี นเห็นเหตกุ ารณอ์ ย่พู อสมควร แต่ท่าน
กร็ บี ลกุ ขนึ้ นง่ั หลบั ตาฟงั ธรรมตอ่ ไปเหมอื นไมม่ อี ะไรเกดิ ขนึ้ จงึ ถกู องคห์ ลวงตาพระมหาบวั นำ� มายกเปน็
เหตุเตือนหมคู่ ณะ และให้ฉายาแกล่ ูกศษิ ยข์ องทา่ นองค์นี้ใหม่วา่ “ท่านอปุ คุตปราบมาร” เพื่อเตือน
สติให้ท่านส�ำรวมระวงั และตง้ั ใจภาวนาด้วยความมสี ติ
หลวงปสู่ มหมาย จติ ตฺ ปาโล ได้เมตตาเลา่ เรื่องทา่ นพระอาจารยส์ ิงห์ทอง ธมฺมวโร พูดคยุ
สนทนาธรรมกับหลวงปหู่ ลา้ เขมปตโฺ ต ใครตายก่อนตายหลัง ดงั น้ี
330
“ตอนเคร่ืองบนิ ตกนะ หลวงปู่อยโู่ คราช หลวงปู่กงแก้วทา่ นมรณะ ท่านมารกั ษาอยู่ทีโ่ คราช
แลว้ กม็ รณะเลย หลวงป่สู ิงห์ทอง หลวงปูห่ ลา้ ก็ลงมา หลวงปจู่ วนไมม่ า พอถึงเดอื นเมษาฯ วันที่
๑๙ งานศพหลวงปู่กงแก้ว หลวงปสู่ งิ หท์ อง หลวงปู่หลา้ มาเผาศพ ก็เลยไปน่งั ฟัง หลวงปู่หล้า หลวงปู่
สิงหท์ องก็นง่ั ลอ้ มวงคุยกัน หลวงปู่สิงหท์ องกพ็ ูดว่า “ใครจะตายก่อนตายหลังนะพวกเฮา (พวกเรา)”
น่แี หละทา่ นว่ากว็ นั ท่ี ๒๗ กเ็ ครอ่ื งบนิ ตก เรากน็ ง่ั ฟงั ก็ประมาณน้นั ทา่ นบอกอะไรลว่ งหน้ากไ็ มร่ ู้ ท่านก็
คยุ กนั อยา่ งนีล้ ่ะ”
สรงน�้ำครั้งสุดท้ายปรารภเร่ืองเดินทางก่อนเครื่องบินตก
ท่านพระอาจารย์ถาวร อนุตฺตโร ได้เมตตาเลา่ เรื่องน้ีไวด้ งั น้ี
“สมยั ก่อนนเี้ ครื่องบินอดุ รฯ อาทิตยห์ นง่ึ มนั มอี ยู่ ๓ เท่ยี ว เครื่องบินแอฟโร่ ครูบาอาจารย์
แต่ก่อนองค์ไหนไดน้ ัง่ เคร่ืองบนิ แสดงวา่ ต้องดงั มาก ตอ้ งมีบารมีมาก ตอนเครื่องบนิ ตกน่ี ตอนสรงน้�ำ
หลวงปู่จวนเยน็ วันที่ ๒๖ เมษาฯ นะ กม็ ีอาจารย์พวน อาตมา เณรจอหน์ นต่ี ายไปแลว้ ท่านยังถาม
เลยว่า “เอะ๊ ! เราจะไปดหี รอื จะไม่ไปดี ?” ถามทงั้ ๓ องคเ์ ลย พวกอาตมากบ็ อกวา่ “ถ้าหลวงพ่อ
ไปก็ดี เพราะวา่ มนั เป็นงานพระราชพิธ”ี อกี อย่างกต็ อนน้นั เร่อื งปจั จยั กไ็ มค่ อ่ ยมีเทา่ ไหร่ แล้วตอนนั้น
ทางวดั ก็ทำ� ทางรอบภูทอก ปีทา่ นจะมรณภาพ ทา่ นท�ำไวใ้ ห้หมดเลย จะได้ปจั จัยมาท�ำทางรอบภูทอก
ท่านมาถามอกี พวกอาตมาก็ตอบอีกวา่ “ไปก็ด”ี แต่ไมร่ วู้ า่ มันมคี วามหมายไง”
อาหารเช้ามื้อสุดท้ายก่อนเคร่ืองบินตก
คณุ หมออมรา มลิลา ได้เมตตาเลา่ เร่อื งน้ไี วด้ ังนี้
“เพราะตอนแรกน่ี ที่ไอเดียท่ีปกติวันอภิเษกสมรสเนี่ยก็จะมีงานท่ีไกลกังวลเฉยๆ เป็นงาน
ภายใน ทนี ้ปี นี ั้นทา่ นผู้หญิงสวุ รี เทพาคำ� ท่านผู้หญงิ แดงก็กราบบังคมทลู กับสมเด็จพระนางเจ้าฯ วา่
ปนี ี้มันครบ ๓๐ ปี ท่เี ขาเรยี กว่า “คอปเปอร์ จบู ลิ ี”่ เพราะฉะนัน้ จะตอ้ งเซอร์ไพรส์ในหลวง เซอรไ์ พรส์
ยังไงล่ะ นิมนต์ครูบาอาจารย์แล้วก็มาสวดมนต์ที่พระที่น่ังไพศาลทักษิณ น้ีพอเป็นแบบนี้ คุณหญิง
สรุ ีพันธุ์กส็ นองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจา้ ฯ โดยทบี่ อกมาทางคณุ ธเนศ เอียสกลุ คณุ ธเนศเขา
กเ็ ลยบอกวา่ ไมต่ ้องเอาคา่ เรือบนิ อะไร เขารับสปอนเซอรต์ ัว๋ เรอื บนิ ท้ังหมด แลว้ เขากจ็ ะไปนิมนต์แตล่ ะ
วัด เพราะฉะนัน้ พอเรือบินตก คณุ ธเนศสั่นไปทง้ั ตัวเลย แล้วกค็ ล้ายๆ กบั วา่ ไปถามหลวงตาว่า
“แล้วบาปกรรมอนั นี้จะแคไ่ หน”
หลวงตากบ็ อกว่า “มันกรรมของครบู าอาจารย์”
และอกี อยา่ งหนง่ึ คณุ ธเนศเอง ปกตคิ รบู าอาจารยเ์ หลา่ นี้ ทา่ นกจ็ ะฉนั จากวดั ของทา่ น แตว่ นั นนั้
ท่านเมตตาไปฉันท่ีบา้ นคณุ ธเนศ กเ็ ทา่ กับอาหารมอื้ สุดท้ายของพระอรหนั ต์ แล้วยังจะบ้าบวมอะไร
331
คือหลวงตาก็ให้ก�ำลังใจ เพราะว่าไปฉันให้ แล้วก็ข้ึนเครื่องบินไป เพราะฉะน้ันงานศพน่ีเขาขอเป็น
สปอนเซอร์ โลงศพ โตะ๊ หมบู่ ูชา เสรจ็ แล้วเขาเผาไปกับศพทา่ นหมด แลว้ เขากม็ ีใครกเ็ ขยี นคำ� ร่ายโศลก
วา่ ใหเ้ ขามากราบ แลว้ กก็ ลา่ วอะไรของเขา ว่าอย่าใหเ้ ปน็ บาปเป็นกรรม”
ท่านเดินจงกรมก่อนเครื่องบินตก
คณุ หมอประพกั ตร์ โสฬสจนิ ดา ไดเ้ มตตาเลา่ เรื่องนี้ไวด้ ังนี้
“มแี ต่ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมที่รอด ดเู หมอื นรอด ๔ คนน่ี ผวู้ า่ ฯ คนหนึ่ง มีผูว้ ่าฯ ที่
หลังจากรอดตายแล้ว ฟน้ื มาแลว้ ให้สมั ภาษณห์ นงั สือพิมพไ์ ทยรฐั ท�ำนองวา่ ผู้ว่าฯ เล่ารายละเอียดวา่
ขณะท่ีเรือบินจะข้นึ อาจารยจ์ วนจะเดินจงกรมอยทู่ ใ่ี ตเ้ รือบนิ เดินจงกรม ตอนเรือบนิ ยังไมข่ น้ึ ทา่ น
เดินองค์เดียว แลว้ ทางอาจารย์สุพัฒน์เดินมาบอกวา่ “อาจารย์ ทางเรอื บนิ เจ้าหนา้ ท่ีเขาบอกใหไ้ ปขน้ึ
เรือบิน รดั เขม็ ขัดได้แลว้ ” ทีน้ีอาจารยจ์ วนไดพ้ ูดออกมาวา่ “จะรบี ไปไหน พวกเราไปจะต้องไปตาย
ทกุ คน” พดู ทำ� นองน้ี เป็นคำ� สัมภาษณข์ องผู้ว่าฯ นครพนม
ตามข่าวว่าตอนท่ีท่านไปจากน่ี กิมก่ายมารับ มารับทีแรกว่าจะไปฉันข้าวที่บ้านกิมก่าย ที่
ทา่ เสดจ็ ปรากฏว่ามนั รอ้ น เอาพัดลมมาให้ ๔ ตวั อาจารย์จวนก็บอกมันร้อน พวกทอี่ ยใู่ กลเ้ คียง
กิมกา่ ยเลา่ ใหฟ้ ังวา่ มันรอ้ น เลยไปฉนั อย่ขู ้างนอก
ทนี ก้ี มิ ก่าย อาจารย์จวนทา่ นไมช่ อบขีเ่ รือบนิ ใชไ่ หมล่ะ กิมก่ายนีบ่ ุ๊ค (จอง) รถไฟตู้นอนได้แล้ว
อยากจะเปลีย่ นกบั อาจารย์จวน นกี้ ็ไปบอกอาจารย์จวนวา่ “อาจารย์ ถ้าอาจารย์ไมอ่ ยากข่เี รอื บนิ
ผมไปแทนก็ได้ อาจารย์มารถไฟ” อาจารย์จวนเลยบอก “เอ้ย ! เอาเถอะ เดี๋ยวมันจะไม่ถึงหรอก”
บอกท�ำนองน้ี
ทนี พี้ อขึ้นไปถึงพบ้ั พระผูใ้ หญน่ งั่ เพราะเรือบินแอฟโรม่ นั บรรทกุ ผโู้ ดยสารได้ ๓๒ อาจารย์
จวนไม่น่งั ทีนโี้ ดยบังเอิญผวู้ า่ ฯ ท่ีรอดกเ็ พราะว่าผู้ว่าฯ เขาบุ๊ค เขาได้นั่งกลางแล้ว พอเหน็ พระผใู้ หญ่
มาก็เลยไปนง่ั ทา้ ยที่หน้าห้องส้วม เวลามันตี พนื้ มนั ขาด ๓ ท่อน ท่อนหลังมนั ยาว พวกนัน้ อยทู่ า้ ยหมด
เลยรอด
ผวู้ ่าฯ เขาให้สัมภาษณว์ า่ ทา่ นยงั หลุดปากต�ำหนอิ อกมาวา่ “เอ้ ! พระองคน์ ไี้ ม่สงบ ไมส่ งบ
สกั อย่าง ทำ� ไมไมส่ ำ� รวม” ทา่ นไมร่ ู้จักอาจารยจ์ วนนะ พระองค์อืน่ เขานง่ั มีอาจารยจ์ วนเดินจงกรม
หัว – ท้าย หัว – ท้าย ท่านเดินจงกรมก่อนเคร่ืองบินตก แล้วก่อนขึ้นก็เดินอยู่ข้างล่างใต้เครื่องบิน
พอเคร่อื งตัง้ ลำ� ไดแ้ ลว้ ทา่ นกเ็ ดิน ทา่ นก็เดินอย่ขู า้ งบนตลอด ก็เดินธรรมดาน่ลี ะ่ เพราะว่าอาจารย์จวน
ทา่ นรู้แล้วอาจจะเขา้ สมาธิ ท่านเดินจงกรมก็ได้ องคอ์ ื่นกอ็ าจจะใช้วธิ นี ั่งสมาธิ กอ่ นมรณภาพดว้ ย
เครอื่ งบนิ ตก ท่านยงั ปฏิบัตธิ รรม แล้วกพ็ อใกล้ๆ เวลาลดระดบั เพดานบนิ ขณะเข้าเขตจะบนิ ลง
อาจารย์สุพฒั นบ์ อกกับอาจารย์จวนวา่ “ท่านอาจารย์ เขาใหร้ ัดเข็มขัดแล้ว”
332
ทนี คี้ ณุ ผหู้ ญิงคนนนั้ ท่านไมไ่ ดอ้ า่ นทผี่ ู้วา่ ฯ ให้สัมภาษณ์ ทีนีพ้ อเลา่ ให้เขาฟัง เขาไม่ค่อยเชือ่ ว่า
ผวู้ ่าฯ คนไหนพดู ไอ้เราอ่านในไทยรฐั ใชไ่ หม ? เทจ็ จริงก็อยูก่ บั ผู้วา่ ฯ สมพร กล่ินพงษานัน่ ”
ครูบาอาจารย์พูดคุยกันทางจิตก่อนเคร่ืองบินตก
เรื่องการกราบทูลลาก่อนนิพพานของบรรดาพระอรหันตสาวกนั้น มีมาแต่สมัยคร้ังพุทธกาล
เช่น กรณี พระอัญญาโกณฑัญญะ และ พระสารีบุตร ก่อนนิพพานได้มาเข้าเฝ้าเพื่อกราบทูลลา
พระพทุ ธเจ้า และกรณี พระโมคคัลลาน์ ทา่ นนพิ พานสถานท่ีถูกโจรท�ำลาย กไ็ ดแ้ สดงฤทธ์ิประสาน
กายและเหาะมากราบทูลลาพระพทุ ธเจ้า
ในสมยั ปัจจบุ นั เรื่องครบู าอาจารยท์ ่านบอกลากนั ทางจติ ก่อนมรณภาพนัน้ เชน่ กรณพี ่อแม่–
ครอู าจารย์ม่นั พกั อยทู่ ีว่ ดั ปา่ บ้านหนองผือ จังหวัดสกลนคร ก่อนมรณภาพท่านไปบอกลาหลวงปู่
ชอบ านสโม ที่จังหวดั เชยี งใหม่ และไปบอกคณุ แมช่ ีแกว้ เสียงลำ�้ ทบ่ี ้านห้วยทราย จังหวดั มกุ ดาหาร
ใหม้ ากราบ รวมทั้งกรณี ทา่ นพ่อลี ธมมฺ ธโร วัดอโศการาม จงั หวดั สมุทรปราการ กอ่ นมรณภาพไดไ้ ป
บอกลา หลวงป่ตู ื้อ อจลธมฺโม ทจี่ งั หวัดเชียงใหม่ เปน็ ต้น เหตุการณ์พระคณาจารยเ์ คร่ืองบินตก
มรณภาพพรอ้ มกนั กเ็ ชน่ เดยี วกัน ทา่ นก็ไปบอกลากัน
กรณขี องทา่ นพระอาจารยจ์ วน กุลเชฏโฺ ท่านทราบเหตุการณล์ ว่ งหน้า ก่อนมรณภาพด้วย
เครื่องบินตก ทา่ นกับหลวงป่ขู าว อนาลโย ไดส้ นทนากันถงึ เรื่องนี้ท่ีวัดถ้�ำกลองเพล แม้วัดทงั้ สอง
จะตั้งอยู่ห่างไกลกัน แต่ทา่ นท้ังสองกลับมีความผกู พันใกลช้ ดิ ทางจิตใจกันมาก ประดุจพ่อกับลกู ทา่ น
มคี วามสมั พนั ธฉ์ นั ทอ์ าจารยก์ บั ศษิ ย์ ทา่ นพระอาจารยจ์ วนใหค้ วามเคารพนบั ถอื หลวงปขู่ าวเปน็ พอ่ แม–่
ครูอาจารย์ เป็นผู้ชบุ เล้ียงทางธรรมแกท่ า่ น เป็นผทู้ ี่มพี ระคณุ อย่างสงู สุดตอ่ ท่าน ด้วยท่านท้งั สอง
ตา่ งก็เป็นพระอรหันต์ที่ทรงอภิญญา มีอิทธิฤทธิ์ จนเป็นที่ยอมรับในวงกรรมฐาน ย่ิงท�ำให้เชื่อม่ัน
ได้ว่าหลวงปู่ขาวท่านเองย่อมทราบเหตุการณ์นี้ล่วงหน้า และเรื่องการเกิดการตายเป็นเร่ืองธรรมดา
ท่านรับรู้กนั ได้
คณุ ประเสรฐิ อยูส่ ขุ หรอื พอ่ กี้ เปน็ ลกู ชายของพ่อสี อย่สู ขุ พ่อลกู คนู่ เี้ ปน็ ฆราวาสอุปัฏฐาก
และทำ� หนา้ ทค่ี นขบั รถรับใช้ท่านพระอาจารยจ์ วนอยา่ งใกลช้ ดิ คุณประเสริฐ อย่สู ขุ ไดเ้ ลา่ เหตุการณ์
สำ� คัญตอนหนึ่งซงึ่ หลวงปขู่ าวกับท่านพระอาจารย์จวนไดส้ นทนากันถึงเรอื่ งความตายไว้ดังนี้
“เหตุการณน์ ้เี กดิ ขึน้ เมื่อประมาณปลายปี ๒๕๒๒ – ๒๕๒๓ กอ่ นหลวงปจู่ วนจะมรณภาพด้วย
เครอ่ื งบินตกไมน่ าน หลวงปขู่ าวกบั หลวงปู่จวนทา่ นทัง้ สองมคี วามรกั ใคร่สนิทสนมกันมาก เหมอื นเป็น
พอ่ ลกู กัน หลวงป่จู วนทา่ นเคารพหลวงปู่ขาวมากจงึ ไปกราบคารวะเปน็ ประจ�ำ เม่อื ทา่ นรบั กิจนมิ นต์
ที่บ้านคุณกิมก่ายจังหวัดหนองคาย หรือไปกิจนิมนต์อ่ืน หากใกล้วัดถ้�ำกลองเพล ท่านจะส่ังให้แวะ
ทุกครงั้ ตามปรกติทา่ นไปเดือนละคร้งั แตช่ ่วงก่อนมรณภาพท่านไปเป็นพิเศษ เดอื นละ ๒ ครั้ง คอื
333
ต้นเดือนกับปลายเดือน บางคร้ังผมก็ขับรถไป บางคร้ังพ่อของผมก็ขับ ท่านมีแต่ว่า “อ้อ ! ถ้าไป
ทางน้นั ก็ใกลๆ้ เรากไ็ ปดหู ลวงป่เู ราหน่อย ไปกราบคารวะท่านหนอ่ ย มันก็ไมเ่ สยี เทยี่ วแล้ว เราเป็น
ลูกศษิ ย์หลวงปู่ขาว เป็นลูกศิษยค์ รูบาอาจารย์”
คราวสนทนาเร่ืองความตายนั้นผมได้ยนิ ด้วย วนั นน้ั หลวงปจู่ วนท่านส่งั ใหผ้ มขับรถจากภูทอก
ไปกราบคารวะหลวงปูข่ าวทีว่ ดั ถ้�ำกลองเพล เมื่อผมขบั รถถงึ วดั พระเวรพอทราบวา่ หลวงปู่จวนมาถงึ
ก็ขึ้นไปกราบเรียนหลวงปู่ขาว หลวงปู่ขาวท่านก็ดีใจและบอกกับพระว่า “ท่านจวนมาแล้วๆ ให้ขึ้น
มาเลย” พอข้ึนไปแล้ว เมื่อหลวงปู่จวนกราบหลวงปู่ขาวเสร็จ ผมก็ได้ยินหลวงปู่ทั้งสองสนทนากัน
ประโยคสำ� คญั ท่ีผมไดย้ ิน หลวงป่ขู าวกพ็ ดู ข้นึ วา่ “มงึ จะตายก่อนกูเดอ้ ” หลวงปู่จวนก็ตอบวา่ “เวย้ !
ตายกต็ ายตัว๊ คนเรา” แลว้ หลวงปูท่ ัง้ สองต่างก็หัวเราะชอบใจ”
ซงึ่ ค�ำสนทนาธรรมน้ตี ่อมาก็เปน็ ความจริง กลา่ วคือ ทา่ นพระอาจารยจ์ วนได้ถึงแก่มรณภาพ
เมอ่ื วนั ท่ี ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ อกี สามปีเศษหลวงปู่ขาวก็ได้ถงึ แกม่ รณภาพ เมอ่ื วันที่ ๑๖
พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๖
ในคราวเหตุการณ์ที่ครูบาอาจารย์พระกรรมฐานเครื่องบินตกมรณภาพพร้อมกัน ๕ รูปนั้น
องค์หลวงตาพระมหาบัว าณสมฺปนฺโน ท่านก็เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์องค์ส�ำคัญอีกองค์หน่ึงที่ทาง
ส�ำนักพระราชวังได้กราบอาราธนานิมนต์ไปร่วมงานพระราชพิธีบ�ำเพ็ญพระราชกุศลในวโรกาสครบ
รอบ ๓๐ ปี แห่งวนั บรมราชาภิเษกสมรส ในวันจันทร์ท่ี ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ พรอ้ มกับครูบา–
อาจารยท์ างภาคอสี านอีกหลายรปู องค์หลวงตาทา่ นทราบด้วยญาณหย่ังทราบลว่ งหน้าแล้วว่า จะมี
เหตกุ ารณอ์ บุ ัติเหตุเครอื่ งบินตก และในขณะนนั้ สุขภาพของทา่ นกไ็ มด่ ีนัก ท่านจงึ ไม่ไดร้ บั นิมนต์ในงาน
พระราชพธิ ดี ังกล่าว มฉิ ะนนั้ แลว้ หากองคห์ ลวงตารบั นมิ นตก์ ต็ ้องขึ้นเครื่องบนิ มาพร้อมกบั คณะ
และองค์หลวงตาท่านก็หยั่งทราบด้วยว่า เป็นคราวที่ท่านพระอาจารย์สิงห์ทองจะต้องชดใช้
กรรมถึงแกม่ รณภาพ อนั เปน็ เร่ืองของกรรมซ่ึง ไมอ่ าจหนพี น้ ได้ เหตุการณ์อบุ ตั เิ หตุจนตอ้ งสูญเสีย
ศษิ ย์รกั ศิษย์โปรดองคส์ ำ� คัญอยา่ งท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง แมอ้ งค์หลวงตาท่านจะมีความรัก ความ
ผกู พนั และความเมตตาในตวั ท่านพระอาจารย์สิงหท์ องมากเพียงไรก็ตาม ท่านก็ไม่ฝืนกรรม จงึ ไมส่ งั่
ห้ามทา่ นพระอาจารยส์ ิงห์ทองเดินทางไปในงานพระราชพธิ ดี ังกล่าว
เช้าวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ วันเกดิ เหตุอบุ ัติเหตเุ ครอ่ื งบนิ ตก องค์หลวงตาท่านอยทู่ ี่
วดั ป่าบา้ นตาด บณิ ฑบาต ฉันเชา้ เปน็ ปกติ แตใ่ นวันนนั้ องค์หลวงตาทา่ นใหค้ วามเมตตาคณุ หญงิ ไขศรี
ณ ศีลวันต์ เป็นกรณีพเิ ศษ ก่อนที่คุณหญิงไขศรีจะเดนิ ทางขนึ้ เครอื่ งบนิ ดงั กล่าว ทา่ นให้การอบรม
ธรรมะ และตอบปญั หาธรรมแกค่ ณุ หญิง
ในบา่ ยของวันนั้นเอง ทางวิทยกุ ็ประกาศข่าวดว่ นว่า “เครื่องบินโดยสารแอฟโร่ ๔ ของบรษิ ัท
การบินไทย จำ� กดั ประสบอุบัตเิ หตุตกกอ่ นถงึ กรุงเทพมหานคร ๒๐ กโิ ลเมตร ณ กลางทุ่งนารงั สิต
334
บริเวณคลองส่ี อ�ำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีผู้เสียชีวิตเกือบหมดท้ังล�ำ ในจ�ำนวนน้ีมี
พระสงฆม์ รณภาพ ๗ รปู เปน็ สายพระป่า ๕ รปู คอื ๑. หลวงปบู่ ญุ มา ติ เปโม ๒. พระอุดมสังวร–
วสิ ทุ ธเิ ถร (ท่านพระอาจารยว์ ัน อุตตฺ โม) ๓. ทา่ นพระอาจารย์จวน กลุ เชฏโฺ ๔. ทา่ นพระอาจารย์
สงิ หท์ อง ธมมฺ วโร ๕. ท่านพระอาจารย์สพุ ฒั น์ สขุ กาโม”
เหตกุ ารณข์ ณะอบุ ตั เิ หตเุ ครอ่ื งบนิ ตกในวนั นนั้ ชาวบา้ นในละแวกนน้ั ตา่ งเกดิ ความสบั สนอลหมา่ น
วง่ิ บา้ ง เดินบ้าง ตำ� รวจ ทหาร แน่นท้งั สองขา้ งทางถนน ควันขาวๆ พวยพงุ่ อย่กู ลางทอ้ งนา ซากเครื่องบิน
ซากศพครูบาอาจารย์และผโู้ ดยสาร รวมทัง้ เคร่อื งอฐั บรขิ าร ขา้ วของเครือ่ งใช้ตา่ งๆ ตกกระจดั กระจาย
เกลือ่ นไปทั่วบริเวณ เจ้าหนา้ ทไ่ี ด้เขา้ มาดบั เพลงิ และช่วยเหลือผูร้ อดชวี ิต พระสงฆ์และเจ้าหนา้ ท่ีได้มา
เกบ็ สรรี ะศพ ตลอดอฐั บริขารของครูบาอาจารย์ และไดเ้ ก็บศพ ขา้ วของเคร่อื งใชข้ องผู้โดยสาร นกั ข่าว
แทบทกุ ส�ำนักได้มาทำ� ขา่ วใหญใ่ นครงั้ นี้ ทา่ มกลางไทยมงุ ท่ีเบยี ดเสียดกันอย่างแน่นขนัด
อบุ ัติเหตุเคร่อื งบนิ ตกในครั้งน้ีเป็นขา่ วส�ำคัญใหญ่โตของประเทศและของวงกรรมฐานสายทา่ น
พระอาจารย์มน่ั เพราะมีคนตายพร้อมกันมาก และต้องสูญเสียครูบาอาจารย์องคส์ �ำคญั ในวงกรรมฐาน
พร้อมกันถงึ ๕ องค์ ยังความเศร้าโศกเสียพระทยั ใหก้ บั พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั และ สมเดจ็ –
พระนางเจา้ ฯ เป็นอนั มาก โดยเฉพาะสมเด็จพระนางเจา้ ฯ น้�ำพระเนตรของพระองคท์ า่ นหลั่งไหลมาก
กค็ ราวนี้ ดวงพระเนตรของพระองคท์ ่านกป็ ดู บวม พระพักตร์ก็รว่ งโรย เศร้าโศกอย่างเหน็ ได้ชดั
ท่านมรณภาพด้วยเคร่ืองบินตก เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓
ทา่ นพระอาจารยจ์ วน กุลเชฏฺโ พรอ้ มด้วยพระคณาจารยพ์ ระป่ากมั มัฏฐานอีก ๔ รปู คือ
ทา่ นพระอาจารย์บุญมา ติ เปโม ทา่ นพระอาจารยว์ ัน อตุ ฺตโม ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมมฺ วโร
ท่านพระอาจารยส์ พุ ัฒน์ สขุ กาโม ท่รี บั อาราธนานิมนตง์ านพระราชพธิ ีบ�ำเพ็ญพระราชกุศลในวโรกาส
ครบรอบ ๓๐ ปี วันบรมราชาภิเษกสมรส วันจันทร์ท่ี ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓
ทา่ นพระอาจารยจ์ วนพรอ้ มกบั พระคณาจารยท์ งั้ หมด ไดไ้ ปรวมกนั ทสี่ นามบนิ จงั หวดั อดุ รธานี
เมื่อวันอาทติ ยท์ ่ี ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ เพ่อื ข้ึนเครอ่ื งบินเทยี่ วบนิ TG 231 อุดรธานี – กรุงเทพฯ
ซง่ึ เป็นเครอ่ื งบิน ๒ ใบพัด รุ่น HS – 748 รหัส HS – THB บนิ ออกจากทา่ อากาศยานอุดรธานี จะไปลง
ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เพราะลูกศิษย์ลูกหาต้องการถวายความสะดวกและ
ความรวดเร็วในการเดนิ ทาง ไดป้ ระสบอบุ ัติเหตุเครือ่ งบนิ ตกถึงแกม่ รณภาพพร้อมกนั ณ ท้องท่งุ รงั สิต
หมู่ท่ี ๔ ตำ� บลคลองสี่ อำ� เภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ นาฬิกา
ทา่ มกลางความเศร้าสลดอาลยั ของคณะสงฆ์ เพ่ือนสหธรรมกิ คณะศษิ ยานุศิษย์ และสาธชุ น
ท่ัวไปเป็นย่ิงนัก ที่ต้องสูญเสียพระคณาจารย์พระป่ากัมมัฏฐานสายท่านพระอาจารย์ม่ัน ภูริทตฺโต
ไปพร้อมกันทเี ดยี วถงึ ๕ รูปดว้ ยกัน ถอื ไดว้ ่าเป็นการสูญเสียของวงการสงฆค์ ร้งั ใหญ่มากอีกครง้ั หนึ่ง
ของเมอื งไทย
335
ท่านพระอาจารยจ์ วน อย่จู ำ� พรรษา ณ วัดเจตยิ าคริ วี ิหาร หรือภูทอก ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๑๒
มาจนถึงวันอาทิตย์ท่ี ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้ถึงแก่มรณภาพ สิริรวมอายุนับได้ ๕๙ ปี
๙ เดือน ๑๗ วัน นับเป็นพรรษาท่ี ๓๗
ความฝันของคุณหมอประพักตร์ก่อนเคร่ืองบินตก
คณุ หมอประพกั ตร์ โสฬสจนิ ดา ไดเ้ มตตาเล่าเรอื่ งนไี้ วด้ งั นี้
“พอดีผมฝันนะ สกั ตี ๓ ฝนั วา่ มเี รือบนิ บินผ่านศาลาวดั ไฟมนั ไหมท้ ่ีหางแดงผ่านศาลาทผ่ี ม
นอนไป ผมตน่ื มา เอ้ ! ราชการจะสง่ เราไปดงู านรัสเซีย วา้ ! สแี ดง คนื ๒๖ เมษาฯ คนื นั้นละ่ คนื ท่ี
ท่านตก ตกบา่ ย ๒๗ เมษาฯ ผมฝนั กลางคนื แลว้ ตกบา่ ย แต่เราไมน่ ึกถงึ เร่อื งน้ีนะ นกึ ถึงแต่วา่ โอย้ !
ไฟไหมม้ ันแดง มันแดงมนั สีแดงคอมมิวนสิ ต์นะ คดิ ไปอยา่ งน้นั
ปรากฏวา่ พอสักเท่ียงออกมาจะกลบั ขอนแก่น อู๋ ! หนังสือพิมพ์เขาลงมีแต่เกจิอาจารย์ อ่าน
ไปไหนก็มแี ต่อาจารย์เราหมด ตอนที่ทราบข่าวเครอ่ื งบินตก โอ้ ! ไมเ่ ชือ่ มนั ปั่นปว่ นในใจอยู่ โอ้ !
ไทยรฐั ลงแบบเกจอิ าจารยเ์ ปน็ หนา้ ๆๆๆ ไป เสรจ็ เลย ออ้ ! อาจารยว์ นั นี่ก็ของเรา อาจารยบ์ ญุ มาก็
ยิ่งเปน็ ของเราใหญ่เลย อาจารย์จวนก็เป็นของเราอีก อาจารยส์ งิ หท์ องกข็ องเราอกี อาจารยส์ ุพัฒน์
ติดรา่ งแหไป ดเู หมือนรอด ๔ คนน่ี ผูว้ ่าฯ นครพนมคนหน่ึง ผู้ว่าฯ หลงั จากทร่ี อดตายแลว้ ฟนื้ มาแลว้
ใหส้ ัมภาษณท์ างหนังสอื พิมพ์ไทยรฐั
โวะ้ ! ตายเลยทนี ี้ ปนั่ ปว่ นแลว้ ว่ะ โทรศัพทถ์ ึงคณุ หญิงสุรีพันธ์ุ ท่านก็เปลี่ยนเบอร์โทรศพั ท์ใหม่
โทรกันไม่ได้ อยากรวู้ ่าศพจะอยู่ไหน ? แลว้ พอรู้ ผมก็เดนิ ทางเขา้ กรงุ เทพฯ ถงึ วดั พระศรฯี ผมกไ็ ปเอา
ล็อกเกตน่ันล่ะมากราบไปไหว้ แล้วไปวางลงบนหีบ อาจารย์จวนตอนมีชีวิตอยู่ไม่ได้เสก เสกตอน
ตายเลย”
เร่ืองเล่าสภาพศพครูบาอาจารย์ในที่เกิดเหตุเครื่องบินตก
หลวงปู่สมหมาย จิตฺตปาโล ได้เมตตาเลา่ เร่ืองนไ้ี ว้ดงั นี้
“พอดีนะ วันท่ี ๒๘ หลวงปู่ (หลวงปสู่ มหมาย) เขา้ มาทวี่ ดั พระศรฯี เพราะว่าหลวงพ่อพธุ
เจา้ คณุ วดั ป่าสาลวัน ทา่ นพามา ทา่ นมรี ถตู้ มาถึงพามา พอมาแลว้ กไ็ มไ่ ดเ้ หน็ ศพหรอก เพราะวา่ เห็น
แต่อาจารย์จนั ดเี ลา่ ให้ฟัง ทา่ นจันดอี ยู่กรุงเทพฯ แลว้ ไมไ่ ด้อยู่วดั พระศรีฯ แตว่ า่ ตอนเช้ามา ทา่ นกม็ า
ฉันจงั หันท่นี นั่ เพราะวา่ ญาตโิ ยมเขาจะมาท�ำบุญ นิมนตท์ า่ นจันดีมา ทา่ นกเ็ ลยมา มาท่านเลยเล่าใหฟ้ งั
“โอย้ ! หมู่พวกเอย้ ! สังเวช ผมไปเห็นแลว้ ตอนเคร่อื งบินตก ผมยังอยู่กรงุ เทพฯ” อาจารยจ์ ันดเี ลา่
ใหฟ้ ัง “พอหลน่ ตรงทเี่ ครือ่ งบนิ ตกปบุ๊ ผมก็ไปแลว้ หลวงปจู่ วนนี่หัวเนี่ยแตกหมดเลย หลวงปู่วันนี่
ขานี่ขาด ขาขวาขาด หลวงปสู่ งิ หท์ องหลงั ขาด เพราะวา่ เขายังไมไ่ ด้ปดิ เขายงั ไม่ได้ก้นั ”
336
อาจารยจ์ ันดี อยู่ท่ีบา้ นโนนสะอาด ทา่ นเปน็ ศษิ ยห์ ลวงปพู่ รหม ท่านมรณภาพไปหลายปแี ล้ว
อาจารย์จนั ดี ทา่ นอยูก่ รงุ เทพฯ พอได้ขา่ วเครื่องบินตก ท่านกไ็ ปเลย ไปเหน็ สดๆ เลย ไปเหน็ สภาพ
ศพแตล่ ะองคๆ์ ท่านบอกว่าเครื่องนี่มนั ตกลงไปน่ี มันกข็ าด เหล็กมันแบบว่านี่ ช่วงครูบาอาจารย์นกี่ น็ ั่ง
ไปข้างหน้าหมด เครือ่ งมันยงั ไม่ดับ พอตกปบุ๊ น่มี ันกข็ าด ขา้ งหลงั นแ่ี ก้วก็ไมแ่ ตก ท่านบอกว่า ขาดที่มัน
ยืดหยนุ่ พอ มีอยู่ ๔ คนไม่ตาย คนหนึง่ ต�ำรวจอยู่ทนี่ ครปฐม แลว้ ผูว้ า่ ฯ นครพนม แล้วอกี สองคนจ�ำไมไ่ ด้
ยงั ไม่เป็นไร อืม ! นอกนัน้ เรยี บหมด ไม่เหลอื ครูบาอาจารยเ์ น่ียจะน่ังไปขา้ งหน้านี่ เพราะเครอื่ งเน่ีย
มนั ดับ มนั ก็ไถไปเสน้ สองเสน้ รา่ งกบั เกา้ อ้ีมนั กระเดน็ ออก กระเดน็ หมดเลย กระแทกหัวแตก แขนขาด
ขาขาด หลงั ขาด ฯลฯ
ทางโรงพยาบาลเขามาเกบ็ พอตอน ๒ ทุ่มวนั ที่ ๒๘ ในหลวงก็เสดจ็ มา ราชนิ กี ็เสดจ็ มา ท่านก็
มาสวดอภิธรรมน่ันแหละ เสรจ็ ๔ ทมุ่ ก็กลบั เอ้อ ! อยทู่ ี่วดั พระศรฯี ดูเหมอื น ๗ วนั แลว้ กส็ ง่ ศพไป
โอ้ย ! พระอาจารย์จันดีเลา่ ไม่ต้องไป “โอย้ ! สังเวช หมู่เอ้ย อย่าไปเหอะ” ทแี รกวา่ จะไปอยู่นิ
แตว่ า่ มนั เหมน็ คาว อ้ยุ ! ไม่ไหวหรอก คาว พวกเลือดพวกอะไร สักกีค่ น ใครเปน็ ใครว่าศพเยอะ จะไป
กไ็ ด้ ทีแรกวา่ จะไปดูอยู่นิ พระเก็บศพมาแลว้ แตว่ า่ จะไปดูทเ่ี ครอ่ื งบินตก เออ ! ว่าจะไป ก็เลย
ไมไ่ ดไ้ ป ท่านจันดีเล่าให้ฟัง “ผมไปเห็นกับตา ผมสังเวชอยู่ช่วงน้ันน่ะ” ตอนเช้ามาพวกโยมก็มา
ตักบาตรที่วัดพระศรฯี หลวงปู่ (หลวงปู่สมหมาย) อยู่วดั พระศรฯี ได้ ๒ คืนละ่ ตอ่ ไปก็ หลวงปู่มหาบัว
บ้านตาด ท่านก็เลยส่ังบอกว่า “อย่าไปเก็บไว้นาน” อาจารย์สุพัฒน์เน่ียเผาก่อน แล้วตอนหลังมา
เลยไปงานอาจารยส์ ิงห์ทอง หลวงปจู่ วนก็ไม่รูก้ ่วี ัน”
เร่ืองครูนภัทร ป้องเทียน
ท่านพระอาจารย์เติมศกั ดิ์ ยตุ ฺตติธมฺโม ได้เมตตาเล่าเร่อื งนไ้ี วด้ ังนี้
“หลวงปู่แบนก็ถูกนิมนต์ไปงาน แต่ทา่ นไมไ่ ด้ไป กเ็ ลยให้โยมจากหาดใหญท่ ีม่ าปฏิบัตธิ รรม
ประจ�ำทีภ่ ูทอก เป็นครชู อ่ื ครนู ภทั ร ป้องเทยี น หลวงปูจ่ วนว่า “เออ้ ! ถา้ จะกลบั ครบกำ� หนดแล้วน่ี
กลบั พรอ้ มอาตมากไ็ ด้” ทีนเ้ี ขากก็ ลบั เพราะวา่ ได้ตั๋วของหลวงปู่แบนพอดี คุณกมิ ก่ายเขาจัดการให้
หมดทกุ องค์นะ หลวงปู่จวนก็เลยบอกว่า ต๋วั นีห่ ลวงปู่แบนมีอย่แู ลว้ กเ็ อาไปเปล่ยี นเป็นชอ่ื ครนู ภัทร
สมยั กอ่ นเปลีย่ นชื่อได้ไม่มีปัญหาเหมอื นสมยั ปจั จบุ ันนี้ ก็เลยเอาเขาไปดว้ ย เขาคิดว่ามาปฏิบตั ธิ รรมคือ
หมอดทู ักวา่ เขาดวงไม่ดี ต้องให้ปฏบิ ัตธิ รรมนะ เพราะอันตรายนะ ก็เลยมาปฏบิ ัติธรรมกบั หลวงปู่จวน
พ่อแม่ครูบาอาจารยท์ ีม่ ชี ่ือเสียงหนอ่ ย ก็มาอยู่กับท่านจนครบ ๗ วนั แล้ว เขากก็ ลบั พร้อมหลวงปจู่ วน
คือกลับกบั พอ่ แมค่ รูบาอาจารยค์ งปลอดภยั เสรจ็ แลว้ กม็ าข้นึ เครอื่ งที่อุดรฯ กไ็ ปตกเครอ่ื งบินด้วยกนั
เขากเ็ ลยเสียชวี ติ เรือ่ งอนจิ จงั นะ”
337
นักธุรกิจตายเพราะเคร่ืองบินตกท่ีรังสิต
คณุ หมออมรา มลิลา ได้เลา่ เรอ่ื งนกั ธรุ กจิ ตายเพราะเครื่องบินตกที่รังสติ ในคราวเดียวกบั การ
มรณภาพของพระกัมมฏั ฐานศิษย์ทา่ นพระอาจารย์มน่ั ทงั้ ๕ องค์ ไว้ดงั น้ี
“นกึ ถงึ เมื่อคร้ังทา่ นอาจารยส์ ิงหท์ องเคร่ืองบนิ ตกท่รี งั สติ ก็ปรากฏว่า มหี มอท่านหนึ่งไปสอน
ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และทางมหาวิทยาลัยซ้ือตั๋วเคร่ืองบินเที่ยวกลับไว้ให้ท่านแล้ว ขณะท่ีคอย
เคร่อื งบนิ จากอุดรฯ มาแวะทขี่ อนแก่นกอ่ นจะเขา้ กรุงเทพฯ ก็มีนักธุรกจิ ทา่ นหนง่ึ ว่ิงมาขอคณุ หมอวา่
เขามีความจ�ำเป็นอย่างย่ิง เขาซื้อตั๋วเคร่ืองบินเที่ยวนี้ไม่ได้ เขาจ�ำเป็นต้องไปพบคู่สัญญาที่กรุงเทพฯ
ซง่ึ ถ้าพลาดเทย่ี วบินน้ี ธุรกิจของเขาจะเกดิ หนีส้ นิ มากมายมหาศาล เขาขอรอ้ งวา่ ถ้าคุณหมอจะยอม
ขายตัว๋ เครือ่ งบินใบที่มใี ห้เขาเป็น ๕ เทา่ ของราคาจรงิ เขากย็ นิ ดจี ะจ่ายให้
คุณหมอกน็ กึ วา่ เราก็ไม่ได้มีกจิ กรรมอะไรเร่งดว่ นที่ต้องกลบั เครื่องบินเท่ยี วนี้ แลว้ เรากไ็ ม่ได้
น่ังรถไฟต้ังนานแล้ว คือนายคนน้ีเมื่อต๋ัวเครื่องบินหมดก็ซ้ือตั๋วรถไฟส�ำรองไว้ ถ้าคุณหมอยอมขาย
ตั๋วเครอ่ื งบินให้ เขาก็จะให้ตั๋วรถไฟ คุณหมอก็นกึ ว่าดเี หมอื นกัน แทนที่เราจะกลบั ไปนอนท่ีบ้านเรา
เรานอนในรถไฟก็ได้ ก็ตกลงใหต้ ๋วั เครอื่ งบินเขาไปดว้ ยราคาเทา่ ท่มี หาวิทยาลยั ซอื้ มา โดยให้ไปตกลง
กับทางมหาวิทยาลัย
ถ้าคณุ หมอไมใ่ หต้ วั๋ เครือ่ งบนิ เครือ่ งบินอาจข้นึ ไมไ่ ด้ หรือขึ้นไดก้ ไ็ ม่ไปตกท่รี งั สติ เพราะ
เหตปุ จั จัยยงั ไมค่ รบผ้คู น เหตุจงึ ท�ำให้อยดู่ ๆี นกั ธรุ กิจทา่ นนก้ี ็วง่ิ มากราบกรานขอร้อง แลว้ ยงั จะ
แถมสตางค์ใหค้ ุณหมออีก
เมื่อคุณหมอกลับมา รู้ข่าวเคร่ืองบินตกเข้า ก็รู้สึกสาธุที่เราไม่ได้เอาค่าตั๋ว ๕ เท่า เพราะ
ถ้าเอาแล้ว ไมร่ วู้ ่าจะทำ� บญุ ใหเ้ ขาอย่างไร เพราะเหมือนกับเราเอาความตายไปใหเ้ ขา แลว้ ยงั คิดกำ� ไร
เกนิ พออีก ถา้ เราพจิ ารณาให้รอบคอบ เหตุที่มจี งึ ท�ำใหค้ นคนนั้นร้อนรนกระเซอะกระเซงิ ท่ีจะต้องไป
ให้ได้เพ่ือผลจะได้เป็นอย่างน้ัน ส่ิงเหล่านี้เรายังหยั่งไม่รู้ พระพุทธเจ้าจึงสอนให้เจริญสติ ตั้งอยู่ใน
ความไม่ประมาท”
ความรู้สึกของพระศิษย์หลังเครื่องบินตก
ท่านพระอาจารย์คลาด ครุธมฺโม ไดเ้ มตตาเลา่ เร่อื งนไี้ ว้ดงั นี้
“เรามาภูทอก เห็นเขาท�ำงาน แตไ่ มไ่ ด้ไปชว่ ยหรอก เราไปพ่งึ ทา่ นเรอ่ื งอรรถธรรมอย่างเดียว
พอหลวงป่จู วนท่านเสีย เราไม่เคยนง่ั น�้ำตาออกหรอก พอเห็นหลวงปูจ่ วนเสยี น้ี โอ้ ! นำ้� ตาออก
ไหลตกท่วมเลยแหละ แปลกมากเลย วันที่เขาเอาศพมาที่ภทู อกนะ เรายังอยภู่ วู ัวอยู่ พอลงมาเห็นเขา
หามศพหลวงปจู่ วนมานี่ น้�ำตาร่วง มาไม่ทนั ไรนำ้� ตารว่ งเลย เสียใจ เสียดายมากเลย เพราะวา่ ท่านจะ
ไดแ้ นะน�ำส่ังสอนประชาชนไดเ้ ยอะ สอนพระไดเ้ ยอะ สอนเณรไดเ้ ยอะ เสยี ดายมากเลย เสียดายวา่
338
โอ้ ! ไปเร็ว เสียดายทา่ น
หลวงปูจ่ วนทำ� ประโยชนใ์ หโ้ ลก ใหพ้ ระไดอ้ าศยั เราตนื้ ตนั ท่านอยู่แถวนนั้ พระแถวนน้ั มา
อาศยั ทา่ นหมด ทั้งภกู ระแต ภูอะไร อาจารยส์ อน อาจารย์อะไร เสยี ไปหมดแลว้ แต่ก่อนนะ่ อาจารย์
แยง อาจารย์ตุ๊ อาจารยอ์ ะไร กม็ ีพระยงั ภาวนาท้งั นั้น ยงั ต้องการความสงบ ยงั อาศัยครบู าอาจารยอ์ ยู่
มาเกาะมาอะไรเต็มน่ันน่ะ เสียใจ หลักใหญ่ก็คือท่านเป็นร่มโพธ์ิร่มไทร ท่านไปเร็ว ท่านอยู่จะสร้าง
ศาสนทายาทได้
หลักใหญ่ เพราะว่ามันมีหลวงปู่ฝั้นอยู่แถวสกลฯ แล้วมาทางแถวภูวัวอะไรอย่างน้ีได้อาศัย
หลวงป่จู วน จากแถวสกลฯ แถวอะไรก็ไปถงึ หนองคาย สกลฯ อะไรนีไ่ ด้อาศัยปา่ แถวในน้ัน เวลาขนึ้ ไป
ภาวนาเท่านน้ั มนั ไม่มีอะไร เพราะวา่ หลกั ใหญ่ครูบาอาจารย์กย็ งั มีเยอะตอนน้นั หลวงป่ขู าว หลวงปู่
เทสก์ หลวงปูบ่ า้ นตาด หลวงปู่ไหนก็มีเยอะ แตว่ า่ เท่ยี วป่านั้น หลวงปูจ่ วนอยฝู่ ั่งน้ี พอหลวงปูจ่ วน
ไมอ่ ยู่ เราก็ไปอยกู่ ับหลวงป่สู วุ จั น์
เราประทับใจเรือ่ งธรรมะทา่ น เสียงทา่ นดดี ้วย อะไรทุกอย่างทา่ นพร้อม ถ้าว่าเสยี ดาย เสียดาย
ท่านไปเสียก่อน ท่านพาญาติโยมข้ึนไปเท่ียววิเวกภูวัว มาจากกรุงเทพฯ มาจากไหนๆ พาเที่ยว
ตอนหนา้ แล้ง พาไปนอนตามปา่ ตามอะไร เดนิ จนเหน่ือยแลว้ ใหน้ ง่ั สมาธิ ให้ไดค้ วามสงบบา้ ง บางคน
ได้สงบ บางคนกไ็ ม่ไดส้ งบ เพราะว่าเดนิ เดนิ ใหม้ ากจนเหน่ือยจนเพลยี นงั่ แลว้ กไ็ ดน้ าน เขามาภาวนา
ได้ประโยชน์มหาศาล เพราะว่าท่านจะท�ำทางขน้ึ เหมือนภวู วั นะ ทา่ นจะท�ำทางขึ้นเวียนไปถงึ ถำ้� พระ
น่นั นะ่ แล้วก็พาคนทางกรงุ เทพฯ อะไรทไ่ี หนๆ ขน้ึ ไปภาวนา พอเวลาวา่ ง เวลาอะไร ท่านจะท�ำแลว้ นะ
ทา่ นมาด่วนเสียเสียก่อน เสยี ดาย เสยี ดายมาก
ที่เราน้�ำตาไหลเพราะว่าเสียดาย หลวงปู่จวนทา่ นท�ำประโยชน์เพ่อื ชาติ เพอื่ พระมหากษัตรยิ ์
มนั เก่ียวเนือ่ งกนั ถา้ ญาตโิ ยมเราอยู่ในศีลในธรรมก็เหมือนกับเรารักษาพระมหากษตั ริย์ แต่วา่ เหนิ หา่ ง
ทางศลี ทางธรรมไมส่ นใจอะไรกเ็ สยี นกี่ ห็ ลงอยูใ่ นวงมืด หลวงปู่จวนทา่ นมีอดุ มการณเ์ หมือนในหลวง
พอทา่ นบรรลุธรรม ทา่ นก็มาชว่ ย เพราะวา่ เกยี่ วขอ้ งกนั หมด เกี่ยวข้องเพราะวา่ ในหลวงชอบทา่ นมาก
เสียดาย เสียดายมาก ทา่ นทำ� ประโยชนม์ หาศาล เสียดายตรงน้นั เพราะว่าทา่ นอายเุ พงิ่ จะ ๖๐ ปี
ทา่ นท�ำประโยชนไ์ ดเ้ ยอะนะ”
ทา่ นพระอาจารย์พวน ชตุ ินฺธโร ได้เมตตาเล่าเรอ่ื งนไี้ วด้ ังนี้
“ตอนเคร่ืองบนิ ตกไมม่ ลี างสงั หรณอ์ ะไร มนั กป็ กติ ท่านไมไ่ ดส้ งั่ เสียอะไร พอเคร่ืองบนิ ตกก็
ตกใจ ไม่เชื่อ ไมน่ กึ วา่ จะเปน็ อยา่ งนี้ ตอนนวดท่านก็ไมไ่ ดว้ ่าอะไร มนั กป็ กติ เครอื่ งบินตกกย็ ังไมไ่ ดเ้ ข้า
กรุงเทพฯ ไม่เชื่อด้วยซ�้ำไป ไมค่ ดิ ว่าจะเป็นอย่างน้ี ท่านก็เคยเดนิ ทางส่วนมากกไ็ ปเครือ่ งบินนน่ั แหละ
แตท่ า่ นก็ไมเ่ ห็นจะเปน็ อะไร ท่านกป็ ลอดภัย ทา่ นก็กลับมา ปรกตริ ถรบั ส่งนี่ ถ้าสว่ นมากกก็ ิมก่าย
บา้ ง แล้วก็รถของพอ่ สี อยสู่ ุข ท่บี า้ นนาคำ� แคน ทา่ นเสยี ไปแล้ว ปกติต้องพอ่ สี อยูส่ ขุ ตามรบั ใช้ประจำ�
339
มนั เปน็ รถปิคอพั โอ้ย ! แตก่ อ่ นมันไมม่ ี มนั อัตคัดมากเลย พอเคร่อื งบนิ ตกก็อยู่ทวี่ ดั ภูทอก ทา่ นเก็บศพ
บรรจศุ พอะไรเสรจ็ เรียบรอ้ ย ไปดูแลว้ มันเรยี บรอ้ ยหมดแลว้ ทา่ นเก็บท�ำพธิ อี ะไร แตล่ ะองค์ แต่ละองค์
ตอนนั้นมีท่านป๊อก (ท่านพระอาจารย์ถาวร ที่พักสงฆ์ กม. ๒๗) ท่านเดินทางไปก่อนแล้ว ท่านรู้
ทา่ นก็ไปเคลยี ร์ ไปดศู พ”
ล�ำดับเหตุการณ์จากภูทอกกลับสู่ภูทอก
(เรยี บเรยี งจากค�ำสมั ภาษณ์ของพระศษิ ย์และจากหนงั สือกุลเชฏฐาภิวาท)
• วนั อาทิตยท์ ่ี ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓
ทา่ นพระอาจารยแ์ ยง สุขกาโม เจ้าอาวาสวดั เจตยิ าคริ วี ิหาร ได้เมตตาเลา่ เร่อื งนไี้ วด้ งั น้ี
“คนื วนั เสารท์ ่ี ๒๖ เมษายน ๒๕๒๓ ทา่ นพระอาจารยจ์ วนยงั พกั จำ� วดั อยทู่ กี่ ฏุ บิ นภทู อกชน้ั ๕
เปน็ ปกติ เวลาประมาณตี ๔ ของวนั อาทิตยท์ ี่ ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓ ทา่ นก็ลงจากเขา เรามอบใหท้ ่าน
พระอาจารยพ์ วน ชุตนิ ฺธโร พระอปุ ฏั ฐากคอยดแู ล ลงมาแลว้ กม็ ีรถกมิ กา่ ยมารอรบั ประมาณตสี เี่ ศษ
ท่านก็ออกเดนิ ทางไปบ้านกิมกา่ ย เพอ่ื ฉนั จังหันเชา้ ก่อนข้ึนเครื่องบินเขา้ กรงุ เทพฯ โดยทา่ นอนญุ าตให้
คณุ นภทั ร ปอ้ งเทยี น ศษิ ยฆ์ ราวาสคนหนึ่งรว่ มเดินทางไปด้วย”
ทา่ นพระอาจารยพ์ วน ชุตนิ ธฺ โร ไดเ้ มตตาเลา่ ไวด้ ังนี้
“โอ๋ ! น่ีมัน ตี ๔ เราก็ลงมาแล้ว ตี ๔ เรม่ิ ออกจากชั้น ๕ ละ่ เดินสะพายบาตรของทา่ นลงมาล่ะ
มาส่งทา่ นขน้ึ รถ คณุ นภัทรพกั อยชู่ ั้นลา่ งก็มารอข้นึ รถไปดว้ ย นดั เจอขึน้ รถตีนเขาขา้ งลา่ ง ไปพรอ้ มกัน
ชว่ งนกี้ ็ไม่มีอะไร ปรกติๆ ท่านก็คอ่ ยๆ เดนิ ลงมาเรอื่ ยๆ ไมก่ ล่าวอะไร มืดมากสมยั น้ัน ท่านกใ็ ชไ้ ฟฉาย
เนาะ กพ็ อสะพายบาตรสง่ ขึ้นรถ ท่านไมไ่ ดบ้ อกลา
ทา่ นก็ชอบเดินทางองค์เดยี วอยแู่ ล้ว ตอนนน้ั ท่านก็ยงั แข็งแรงดีอยู่ ทา่ นไมม่ ีพระติดตามหรอก
ชว่ งนน้ั พระตดิ ตามกม็ ีเป็นบางคร้ัง เรอื่ งสังหรณใ์ จไม่มี ลางสงั หรณ์อะไรอยา่ งนี้ไมม่ ี ก็ไมค่ ดิ ว่าจะเปน็
อยา่ งน้ี ทา่ นกเ็ คยเข้ากรุงเทพฯ อยบู่ ่อยๆ ท่านกป็ ลอดภัย ซึง่ ก็ไป – กลบั ตลอดปลอดภัย ไมเ่ คยมีเหตุ
อะไรเกดิ ขึน้ ”
เชา้ มืดของวันท่ี ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓ พ่อสี อยู่สุข พรอ้ มลกู ชาย คอื คุณประเสรฐิ (พอ่ ก้ี)
อยสู่ ขุ เปน็ ศษิ ย์อุปฏั ฐากใกลช้ ดิ กไ็ ด้มารว่ มสง่ ทา่ นพระอาจารยจ์ วนขน้ึ รถคณุ กิมกา่ ย พ่อกเ้ี ลา่ ให้ฟงั วา่
“ตอนท่านพระอาจารยจ์ วนจะขึน้ รถคุณกิมก่าย บริเวณศาลาตีนเขา ไดย้ ินทา่ นสัง่ ก�ำชบั พระ
และศิษย์ท่ีมาส่งวา่ “ให้พากันดูแลวัดเด้อ” และ “ใหท้ า่ นแยงเปน็ เจา้ อาวาสเดอ้ ”
เวลาประมาณ ๐๘.๐๐ น. ทา่ นรับนมิ นตฉ์ นั จงั หนั เช้าทบี่ า้ นคุณกมิ ก่าย ร่วมกบั คณาจารยต์ ่างๆ
ทร่ี บั นิมนตไ์ ปในงาน จากนัน้ รถคุณกมิ กา่ ยกไ็ ปสง่ ข้นึ เครื่องบนิ ทส่ี นามบินอุดรธานี
340
เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. เศษ คณุ สุบรรณ สุวรรณพ โทรศพั ท์มาบอกคุณสุรีพนั ธวุ์ า่ “ในงาน
พรงุ่ น้ีได้นมิ นตท์ า่ นอาจารยว์ ัน ท่านอาจารย์จวน ทา่ นอาจารยส์ งิ หท์ อง และท่านอาจารย์สุพัฒนม์ า
กรุงเทพฯ คณุ สุบรรณเพ่งิ ได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากบา้ นคุณธเนศ (กิมก่าย) ซงึ่ เป็นผูเ้ ขา้ ไปนมิ นตแ์ ละ
รับท่านอาจารยว์ นั ท่านอาจารย์จวน ทา่ นอาจารย์สิงหท์ อง และทา่ นอาจารย์สุพฒั น์ มาสง่ ทสี่ นามบิน
โดย ท่านอาจารย์จวนบอกคราวนี้จะไปอยู่วัดพระศรีมหาธาตุ ส่วนอีก ๓ องค์ คือ
ท่านอาจารยว์ ัน ทา่ นอาจารย์สิงหท์ อง ท่านอาจารยส์ ุพัฒน์ จะไปอยศู่ านตนิ เิ วศน์ ความจรงิ ปกติ
ทา่ นอาจารยว์ นั ทา่ นอาจารย์จวน ท่านก็พกั ทบี่ ้านเรือนไทยบอ่ ยๆ สว่ นหลวงปบู่ ุญมาก็รบั นิมนต์
ดว้ ย แตจ่ ะไปอย่วู ัดบรมนวิ าส
คณุ สุบรรณวา่ เคร่ืองบินจะเข้าบ่ายโมงครึ่ง ปรากฏว่าบ่ายสามโมงแลว้ ยงั มาไม่ถึงบ้านเรอื นไทย
จึงโทรศพั ทไ์ ปถามทด่ี อนเมือง จงึ รู้วา่ เคร่ืองบนิ ตก จุดเครื่องบนิ ตก... คลองสี่ คลองหลวง ปทมุ ธานี
จึงเดนิ ทางไปโรงพยาบาลภูมิพลฯ เม่อื ไปถึงอาคารอุบัติเหตุ ถงึ ได้ทราบวา่ นอกจากท่านอาจารยแ์ ลว้
ยังมคี ณุ หญิงไขศรี ณ ศลี วนั ต์ ดว้ ย
พอดีมโี ทรศพั ทม์ าจากกองราชเลขานุการในพระองคส์ มเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ
ขอพดู กับทางโรงพยาบาลภมู ิพลฯ ทราบจากท่านผหู้ ญิงสปุ ระภาดาว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเศร้าเสียพระทัยมากส�ำหรับผู้ประสบอุปัทวเหตุ
ทกุ คน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถ ทรงมพี ระราชกระแสใหท้ างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
โรงพยาบาลพระมงกฎุ เกลา้ เตรียมช่วยรับคนเจ็บด้วย รถพยาบาลทางโน้นก�ำลังมาชว่ ยแล้ว” คุณหญงิ
ไขศรีก็ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท เฉพาะท่านอาจารย์ทุกองค์ยิ่งเศร้าพระทัยเป็นทวีคูณ ทรงต�ำหนิ
พระองค์ตลอดเวลา และทรงรบั สัง่ ว่า “ขอให้ท่านไดแ้ สดงความรักและกตัญญบู ้าง”
ค�ำวา่ “ขอให้เราได้แสดงความรักและกตัญญบู ้าง” นนั้ ในภายหลังบรรดาศิษยานุศษิ ยข์ อง
ท่านอาจารย์ ไดย้ นิ อกี หลายครัง้ เป็นพระราชกระแสจากพระโอษฐ์ของสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรม–
ราชินีนาถทกุ ครง้ั เป็นทีซ่ าบซ้งึ และตน้ื ตันในพระมหากรณุ าธคิ ุณลน้ เกลา้ ลน้ กระหมอ่ ม
คณุ ไชย บุตร ดร.เชาวน์ โทรกลับไปทใ่ี นวัง วางหูโทรศัพทก์ บ็ อกข่าวว่า “ทลู กระหมอ่ มเล็ก
(ปัจจุบันสมเด็จพระเจ้าลกู เธอ เจ้าฟา้ จุฬาภรณวลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี) รับส่งั วา่ จะเสดจ็ มาเด๋ยี วน้ี
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถเสด็จพระราชด�ำเนนิ มาในภายหลงั ”
กองเลขานุการในพระองคส์ มเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แจง้ ใหท้ ราบว่า ทรงพระ
กรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์การบ�ำเพ็ญกุศลท่านอาจารย์ทุกองค์และ
คุณหญิงไขศรี ในระยะ ๗ วันแรก ก�ำหนดตั้งศพท่ีศาลาติสสเถระ วัดพระศรีมหาธาตุ และสมเด็จ–
พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถจะเสด็จพระราชด�ำเนินไปพระราชทานน้�ำอาบศพเป็นการส่วน
พระองค์ในคืนน้ี
341
มีคนว่งิ มาบอกคุณสมควรว่า ทลู กระหมอ่ มฯ เสดจ็ แลว้ เสด็จเข้าไปเยีย่ มผู้ป่วยทุกคน รบั สงั่ กับ
ผบู้ ญั ชาการทหารอากาศและผอู้ ำ� นวยการโรงพยาบาลภมู พิ ลฯ วา่ “สมเดจ็ แมท่ รงปรารภวา่ คนปว่ ยมาก
ถ้าแพทย์ พยาบาล ทางโรงพยาบาลมีไม่พอ จะให้การรักษาพยาบาลไม่ทัน ให้ใช้บริการทาง
โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณแ์ ละโรงพยาบาลพระมงกฎุ เกล้าก็เตรียมพรอ้ มทีจ่ ะให้ความร่วมมือชว่ ยเหลอื ”
ผู้บญั ชาการทหารอากาศนอ้ มรบั พระราชปรารภใสเ่ กลา้ ฯ และกราบทูลวา่ “พอจะด�ำเนินการได้”
เมื่อทลู กระหมอ่ มฯ เสดจ็ ถึงแลว้ เสด็จเยี่ยมคนปว่ ยทกุ คนโดยทั่วถึง คณะผ้ตู ิดตามเสด็จก็
พากนั จดบนั ทึกอาการคนเจบ็ เพ่อื เวลากราบบังคมพระกรุณารายงานจะไดท้ รงทราบ ประหนง่ึ เสดจ็
พระราชดำ� เนินดว้ ยพระองคเ์ อง
มีผู้มาเรียนผู้บัญชาการทหารอากาศว่า เฮลิคอปเตอร์น�ำศพท่านอาจารย์จากท่ีเกิดเหตุมายัง
กองบนิ บน.๖ ดอนเมืองแลว้ และจะสง่ ต่อมายังโรงพยาบาล เพอ่ื ด�ำเนนิ การตกแตง่ ศพก่อนจะสง่ ตอ่
ไปยงั วดั พระศรีมหาธาตุ ทูลกระหม่อมฯ ทรงทราบจึงเสด็จไปยงั อาคารที่เก็บศพซ่ึงอยู่ลกึ เข้าไปทาง
ดา้ นหลังสดุ ของโรงพยาบาล
พดู กนั ถงึ วา่ “ร่างของทกุ คนเปียกฝน โคลน สบง จีวร เสอ้ื ผา้ คงจะขาดเป่อื ย” ท่านผูห้ ญงิ
เกนหลงจงึ แนะใหจ้ ัดสบง จวี ร เสอ้ื ผา้ มาเปลี่ยนให้ ส�ำหรับคณุ หญงิ ไขศรี คุณสุนียร์ บั กลับไปจดั การให้
สว่ นสบง จวี ร ทา่ นอาจารยท์ กุ องค์น้นั ตกลงกันว่าจะติดต่อวดั พระศรมี หาธาตุ ขอจากท่านเจา้ คุณ–
วิมลศีลาจารย์ ซ่ึงท่านคุ้นเคยกบั ท่านอาจารยจ์ วนเปน็ อย่างดี
พอมาถึงหน้าห้องแต่งศพ ทูลกระหม่อมฯ เสด็จออกมาพอดี รับส่ังว่า “ทอดพระเนตรแล้ว
จ�ำท่านอาจารยว์ ันได้องค์เดียว เพราะองคท์ า่ นใหญ่ องค์อ่ืนๆ จ�ำไม่ได้”
ดร.เชาวน์ เขา้ ไปกราบท่านอาจารย์ทกุ องค์ แลว้ ก็ออกมาบอกวา่ “เจา้ หน้าท่เี ขาอยากทราบว่า
องคไ์ หนเป็นองค์ไหน ผมดูแล้วจ�ำไม่ได้จรงิ ๆ พส่ี รุ พี ันธแุ์ นะ่ ใกล้ชดิ ทา่ นหน่อย พอจะเข้าไปดูไดไ้ หม ?”
เราก็เดินเขา้ ไปในห้องน้นั คร้ังแรกเดนิ ออ้ มๆ ไปดรู ่างพระทง้ั ๗ องค์ กจ็ �ำไดท้ ั้ง ๕ องค์ ส่วนอกี ๒ องค์
ทา่ นพระครูประสาทฯ และพระเฉลิมชยั เราไมร่ ู้จัก จึงตอบไม่ได้
ระหว่างนั้น ทุกคนก�ำลังรอร่างของคุณหญิงไขศรีอีกคนหน่ึง ด้วยความกระวนกระวายใจ
ทูลกระหมอ่ มฯ กป็ ระทับอยู่ด้วย ตรสั ปลอบประโลมใหก้ ำ� ลงั ใจพวกเราอยา่ งไม่ถอื องค์ อากาศตรง
ศาลาหน้าอาคารไว้ศพนั้นร้อนอบอ้าว และยุงก็ชุมมาก เชิญเสด็จให้ไปประทับในตึกอ่ืน ซ่ึงมีห้อง
ปรบั อากาศก็ไม่ทรงยนิ ยอม จะคงประทบั “อยรู่ ่วมทุกข”์ กับพวกเราดว้ ย ประทับรออย่จู นไดศ้ พของ
คุณหญิงไขศรี รบั สั่งว่า “ดร.เชาวน์ ไมจ่ �ำเปน็ จะต้องเข้าไปดูดอก จะเข้าไปดแู ลแทนใหเ้ อง จำ� อาจารย์
ไขศรีได้แน่ มือเรียวเล็ก นิ้วเล็กอย่างน้ันจ�ำได้แน่” รับส่ังแล้วก็เสด็จเข้าไปในห้องเก็บศพ ทรงยกมือ
ของคุณหญงิ ขน้ึ มาทอดพระเนตรอย่างใกล้ชดิ แล้วกร็ ับส่ังว่า “ใช่อาจารย์แน่”
342
ทา่ นผบู้ ญั ชาการทหารอากาศมากระซบิ วา่ “การตกแตง่ ศพทา่ นอาจารยท์ กุ องค์ กวา่ จะเรยี บรอ้ ย
คงจะต้องใช้เวลามาก ใคร่จะขอใหส้ มเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถ เสด็จพระราชดำ� เนนิ พรุง่ น้ี
จะเหมาะกวา่ ขอใหก้ ราบทลู ทลู กระหม่อมฯ ด้วย”
พอกราบทลู ทลู กระหมอ่ มฯ กร็ ับสั่งว่า “สมเดจ็ แม่ คงตงั้ พระทัยจะเสด็จฯ คนื นม้ี ากกว่า”
รบั สั่งไม่ทันขาดพระโอษฐ์ เจ้าหนา้ ทผ่ี ู้ถอื วทิ ยุ ก็กราบทลู วา่ “รถพระทนี่ ง่ั ออกจากพระราชวงั มาแลว้ ”
ทลู กระหม่อมฯ จึงตรัสชวนใหพ้ วกเราไปคอยเฝา้ รบั เสดจ็ ท่ีวัดพระศรีมหาธาตุ
ครเู่ ดียวขา่ วที่วา่ เสด็จพระราชด�ำเนินจากพระราชวงั แลว้ กแ็ พรส่ ะพัด ทางโรงพยาบาลเรง่ มอื
จัดการตกแตง่ ศพกนั มือเปน็ ระวงิ เพ่อื สง่ ศพไปวัดพระศรีมหาธาตใุ หท้ ันการ
ดว้ ยพระมหากรณุ าธิคุณปกเกลา้ ปกกระหม่อม เจ้าหนา้ ท่สี �ำนักพระราชวงั ก�ำลังเนรมติ สถานท่ี
อย่างขะมกั เขมน้ ส�ำหรบั ตั้งศพเพ่อื รับพระราชทานน�้ำอาบศพ ดอกบัวสัตตบงกชคลี่กลบี สชี มพูสะพร่ัง
ในแจกนั แก้วเจยี ระไน ตั้งเรียงรายเป็นระยะๆ อยา่ งงดงาม
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ ทรงคุกพระชานุ เอยี งพระศออย่างครนุ่ คำ� นึง เมอ่ื
ทรงลำ� ดบั บวั สตั ตบงกชลงในอ่างแก้วเจยี ระไนทลี ะดอก ทลี ะดอก บางขณะกท็ รงเล่ือนอา่ งแก้วใบน้ัน
ใหห้ ่างองค์ออกไป เพอื่ จะได้ทอดพระเนตรใหช้ ัดเจนสำ� หรบั ผลงานที่ทรงอุตสาหะวริ ยิ ะ พระพักตร์ที่
งามประทบั ใจพวกเราชาวพสกนกิ รทกุ ผู้ทุกคนตลอดมานนั้ มีพระเสโทซมึ แสดงวา่ คงทรงหมกมุน่ ใน
พระอริ ยิ าบถน้นั มานานแล้ว
บวั สัตตบงกชทป่ี ระดบั ศาลาติสสมหาเถระในคนื น้ัน มีมากมายนับเปน็ พันๆ ดอก แต่ละดอก
ตกแต่งให้แผก่ ลีบสชี มพขู ยายออกมาอย่างงดงาม กวา่ จะจัดไดเ้ ชน่ นีค้ งใช้เวลามาก ทรงรับสั่งวา่ “ใช้
ดอกไม้ทเ่ี ตรียมไว้ส�ำหรบั งานวันพรุง่ นี้ (วนั คล้ายวนั อภเิ ษกสมรส) ยกมาท่ีนห่ี มดเลย เรารบี มาจะได้มี
โอกาสแสดงความรกั และกตัญญูบ้าง”
ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานพระราชวโรกาสใหศ้ ษิ ยานศุ ิษยไ์ ด้เฝา้ แหนโดยใกล้ชดิ
ทูลกระหมอ่ มเล็กเสดจ็ แวะศาลาตง้ั ศพคุณหญงิ ไขศรกี ่อน จึงเสดจ็ มาถงึ ภายหลงั
ทลู กระหมอ่ มฯ ชา่ งทรงละเอียดและจดจ�ำ แม้ในเรื่องเลก็ ๆ น้อยๆ ทรงกราบบังคมทูลถึง
สภาพศพ สภาพคนเจ็บ ความทรงจำ� ในด้านรายละเอยี ด เกรด็ ยอ่ ยตา่ งๆ ของทลู กระหม่อมฯ นน้ั เป็นที่
เลือ่ งลอื กันอยูแ่ ลว้ คืนนี้ก็เช่นเดียวกัน ทูลกระหมอ่ มฯ ถวายรายงานอย่างละเอยี ดถ่ถี ้วน
พระราชอาญาไม่พน้ เกล้าฯ ไม่ทราบนัยน์ตาของเราหลอกตัวเองหรือเปล่า ทีเ่ หน็ น�้ำพระเนตร
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึมตลอดเวลา ถอนพระอัสสาสะบ่อยครั้ง ไหนจะทรงห่วง
ชีวิตประชาชนที่เสียไป ไหนจะทรงกังวลถึงผู้ท่ียังบาดเจ็บอยู่ ไหนจะทรงเสียพระทัยถึงท่านอาจารย์
ทกุ องค์
343
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ (ปจั จุบนั เพ่ิมสยามบรมราชกมุ ารตี ่อท้าย) เสด็จพระราชด�ำเนนิ
ไปในงานเล้ียงแตง่ งานของพระสหายก่อน ต้องเสดจ็ ฯ ไปทรงเปลี่ยนฉลองพระองคด์ �ำแล้วจงึ เพิ่งเสด็จ
พระราชด�ำเนนิ มาถงึ ไล่เลยี่ กับพระเจา้ วรวงศ์เธอ พระองคเ์ จ้าโสมสวลพี ระวรชายา (ปจั จุบนั พระเจา้ –
วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาต)ุ
เมอื่ สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถ โปรดประทับบนลาดพระบาท ทุกพระองค์จงึ
ประทับบนลาดพระบาทเช่นเดียวกนั เป็นโอกาสใหพ้ วกเราไดเ้ ฝา้ ทกุ พระองคโ์ ดยใกลช้ ิด มีพระราช–
กระแสว่า “ในสภาพเช่นน้ี ควรน�ำศพบรรจุลงหีบก่อน ใช้สายสิญจน์โยงคล้องมารวมกันสรงน้�ำในท่ี
เดียวกนั ” ทรงรอจนเจา้ หนา้ ทีม่ ากราบบังคมทูล เมือ่ จดั การทกุ อยา่ งพร้อมแลว้ จงึ เสดจ็ ไปประทบั บน
พระเก้าอ้ี เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ พร้อมทูลกระหมอ่ มทง้ั สองพระองคแ์ ละพระวรชายา ทรงนมสั การและ
สรงน�้ำศพ
ตามประเพณี เม่ือพระราชทานน�้ำอาบศพแล้ว ผู้ใดจะรดน้�ำศพต่อไปไม่ได้ ก็พระราชทาน
พระบรมราชานุญาตใหร้ าษฎรและศษิ ยานุศษิ ย์ สรงนำ้� ศพต่อไปได้
เม่ือทรงเห็นพวกเรางงงันกันอยู่ เหตุการณ์ทุกอย่างกะทันหันและรวดเร็วจนไม่มีใครอยากจะ
เช่ือว่าเปน็ ความจรงิ จนกระทงั่ สงฆ์สวดพธิ ีธรรมเสร็จแล้ว ก็ยงั ไม่มีผู้ใดขยับเขยอื้ น กท็ รงปลอบใหส้ ติ
พวกเรา และทรงเตอื นดึกแลว้ พวกศษิ ยค์ วรจะเร่ิมสรงน�้ำกนั ได้ พระราชทานเทียนน�ำใหเ้ ราไปจุด
หน้าศพทุกศพ และมพี ระราชด�ำรัส “พระและพวกลูกศิษย์จากตา่ งจงั หวัดคงจะมาไม่ทันในคนื น้ี พรุง่ นี้
ก็ใหเ้ ขาสรงน้�ำกันตอ่ ไปไดต้ ามศรทั ธา”
“อย่าลมื นกึ ถงึ ราษฎรที่ตา่ งจงั หวดั เขารกั เขาเคารพทา่ นอาจารย์กนั ทงั้ น้ัน รอเขาดว้ ย”
คืนน้ันกว่าเราจะเสร็จงาน กลับบ้านก็ตีหนึ่ง เสด็จพระราชด�ำเนินกลับแล้วยังมีลูกศิษย์เป็น
จ�ำนวนมากอ้อนวอนเจ้าหน้าท่ีส�ำนกั พระราชวัง ขอดหู น้าทา่ นกันอกี หลายคนกราบซ�้ำ บ้างขอจบั
ขาทา่ น บ้างขอแตะเทา้ ทา่ น ขอให้แนใ่ จว่า พวกเรามิไดฝ้ ันไป
ทา่ นพระอาจารยเ์ ติมศกั ด์ิ ยุตตฺ ติธมโฺ ม ไดเ้ มตตาเล่าเรื่องนี้ไว้ดังน้ี
“เราพึง่ กลับจากภูทอกนะยงั ไม่ถึงอาทิตย์เลย กลับไปทีค่ ลองมะลิ จันทบุรี พอเช้าวันท่ี ๒๘
โยมเอาใบโทรเลขไปสง่ พระท่วี ัดพระศรฯี โทรเลขไปบอก “ทา่ นอาจารย์จวนเครอ่ื งบินตก ศพตั้ง
วัดพระศรีฯ” โอ้ย ! ตาย... เราหวังพ่งึ พ่อแมเ่ รานี่ พอ่ แมเ่ ราไปหมดแลว้ เท่าน้นั เองก็เลยรีบมา เรานง่ั
รถทวั รม์ าถงึ วันที่ ๒๘ ตอนสองทุ่ม อาตมาอยู่ที่วดั พระศรฯี ทุกวนั จนถงึ วนั อญั เชญิ ศพหลวงปู่กลับ ก็
ส่งพร้อมกนั ทุกองค์ ทา่ นพระครูประสาทฯ รวมท้ังท่านเฉลมิ ชัยดว้ ย ในงานศพหลวงปจู่ วน เราไมใ่ ช่
เป็นหลกั เทา่ ไหร่ หลักก็จรงิ อยู่ แตว่ ่าเราเป็นพระผนู้ อ้ ย เราไปตั้งแต่วนั แรกๆ เพราะเราเป็นลกู ศิษย์
อยใู่ กลท้ า่ น พอทา่ นสน้ิ เรากต็ อ้ งอยทู่ นี่ นั่ ชว่ งนนั้ อาตมาไมไ่ ดจ้ ำ� พรรษากบั ทา่ น ไปจำ� พรรษาทจี่ นั ทบรุ ี”
344
• วนั จนั ทร์ท่ี ๒๘ เมษายน ๒๕๒๓
ท่านอาจารยไ์ มใ่ ช่ “พอ่ ” ไม่ใช่ “แม”่ ของเราคนใดคนหนงึ่ แตก่ รณุ าธรรมและเมตตาธรรม
ของทา่ นนน้ั แผไ่ พศาลไปโดยท่ัว ขอ้ วัตรปฏบิ ัตขิ องท่านทำ� ใหเ้ ราเคารพเลอ่ื มใสและศรัทธาในปฏิปทา
ของท่าน ตดิ ตามไปเห็นธรรมะปา่ ของท่าน ไปเรียนการภาวนาจากท่าน ไปฟังขอ้ คดิ เหน็ ของท่าน
ทา่ นอาจารย์วัน จบการศึกษาเพียงแคป่ ระถมปที ่ี ๔
ทา่ นอาจารยจ์ วน จบการศกึ ษาเพียงแค่ประถมปีท่ี ๖
ท่านอาจารยส์ ิงหท์ อง ก็มกี ารศกึ ษาเพยี งแคช่ น้ั ประถมเช่นกัน
แตท่ ่านก็ปฏิบัตธิ รรมไปจนกระท่ัง พวกทจ่ี บปรญิ ญาตรี ปริญญาโท ปรญิ ญาเอก ขา้ ราชการ
ช้นั เอก ชน้ั พเิ ศษ หลงั่ ไหลมากราบทา่ นด้วยความเลอ่ื มใสศรัทธา
วัดพระศรมี หาธาตตุ ลอดทงั้ วัน คลาคลำ�่ ดว้ ยพระภิกษุ สามเณร แม่ชี ตลอดลกู ศษิ ย์ลูกหา
ฆราวาส ทั้งจากกรุงเทพฯ และที่เดินทางไกลมาจากต่างจังหวัด ซึ่งเม่ือทราบข่าวร้ายก็พากันรีบมา
กราบศพครูบาอาจารยก์ นั ด้วยความเศรา้ โศกเสียใจ ทางส�ำนกั พระราชวงั เพิง่ จะขอใหห้ ยดุ การสรงน�้ำ
จะได้มเี วลาพอสำ� หรับเตรียมจัดสถานท่ี
พระภิกษุ สามเณรและชี จากวดั อโศการาม สมทุ รปราการ มาเคารพศพกนั อยา่ งพรอ้ มเพรียง
หลายคันรถ เราเข้าไปกราบท่านเจ้าคุณราชวรคุณ เจ้าอาวาสวัดอโศการาม และเมื่อปี ๒๕๑๙
เม่อื พวกเรานมิ นต์ ทา่ นอาจารย์วนั และ ท่านอาจารยจ์ วน ไปนมสั การสังเวชนยี สถาน ท่ีอินเดยี
ท่านเจ้าคุณกร็ ว่ มไปด้วยและให้ความเมตตาแกเ่ ราเป็นอย่างดี และเม่อื ต้นเดือนเมษายนน้เี อง ท่าน
อาจารย์วันและทา่ นอาจารย์จวน ก็ใหจ้ ดั รถใหไ้ ปกราบเย่ียมท่านเจ้าคุณถงึ ที่วดั อโศการามดว้ ย เวลา
ผ่านไปยงั ไม่ถงึ หนึง่ เดือนเลย
เม่ือคำ� นงึ ถงึ วา่ งานนค้ี งจะมพี ระฝา่ ยกมั มัฏฐานเดินทางมากันมาก ซึ่งการต้อนรับคงเปน็ ภาระ
อนั หนักยิ่งส�ำหรบั ทางวดั ซึ่งทุกเรื่องทกุ อย่างคงจะประดังกนั เขา้ มาเปน็ ปญั หา พอเหน็ หนา้ ท่านเจา้ คุณ
วัดอโศการาม ศษิ ย์หลายคนจึงโลง่ ใจ เพราะทา่ นเคยอยูว่ ัดพระศรีมหาธาตุมาเก่า และเป็นพระผใู้ หญ่
ที่ทางฝ่ายกมั มัฏฐานเคารพและรจู้ ักดี พวกเราจงึ ไปกราบเท้าขอความกรณุ าให้ท่านเมตตาชว่ ยอยรู่ ว่ ม
เปน็ ประธานเปน็ ร่มโพธร์ิ ม่ ไทรใหพ้ วกเราอกี องค์หนง่ึ ดว้ ย
ท่านก็ดีใจหาย รับปากพวกเราทันที ท่านคงจะระลึกถึงท่านอาจารย์ทั้ง ๒ องค์ด้วย เมื่อ
ท่านเจ้าคุณจัดงานฉลองโบสถว์ ัดพระบาทภูพานคำ� ทเ่ี ข่อื นอบุ ลรตั น์ ทา่ นอาจารย์จวนตดิ กิจนิมนต์
ที่กรุงเทพฯ แต่ก็เดินทางตลอดวันขึ้นไปถึงจนเย็น ส่วนท่านอาจารย์วันติดกิจนิมนต์สวดมนต์เย็นท่ี
สกลนคร แต่ก็ดว้ ยความนบั ถอื ท่านเจ้าคุณ ทา่ นอตุ สา่ หอ์ อกเดนิ ทางไปเกือบตลอดคนื ไปถงึ จนเกอื บ
ตีหนง่ึ และตรงเข้าส่พู ิธสี วดในโบสถเ์ ลย
345
ท่านไม่ได้เตรียมบาตร และจีวรครองมาด้วย เราจึงส่งรถกลับไปรับมาจากวัดอโศการามมา
ถวายท่าน ปรากฏว่าตลอดงาน ทา่ นเจ้าคณุ วดั อโศการามไดช้ ว่ ยเป็นองค์ประธานอีกองคห์ น่งึ ท�ำให้
งานผ่านพน้ ไปด้วยดี
การพระพธิ ธี รรมคนื แรกน้ี พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว และ สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรม–
ราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ มาวางพวงมาลาดว้ ยพระองคเ์ อง รวมทงั้ ทรงวางพวงมาลาแทนสมเดจ็ –
พระบรมโอรสาธิราชฯ ดว้ ย ส�ำหรับงานบรมราชาภเิ ษกสมเดจ็ พระนางเจา้ พระราชินนี าถพระองค์ใหม่
แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ และสมเดจ็ –
พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ เสด็จแทนพระองค์
ล้นเกล้าฯ ทั้ง ๒ พระองค์ ทรงประทับอยู่ในงานพระพิธีธรรม สวดอภิธรรมจนเสร็จการ
เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ก่อนเสด็จพระราชด�ำเนินกลับ ได้เสด็จไปทอดพระเนตร
ดอกไม้ที่แต่งหนา้ ศพอย่างใกล้ชิด พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยหลายประการ ซง่ึ ต่อมาสมเด็จ–
พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ ได้ทรงพระกรุณาตรัสเลา่ ว่า
– ทรงเห็นว่า ดอกไม้นนั้ น้อยไป ยังไมง่ ามพอ
– ให้รบี หารปู ทา่ นพระอาจารยม์ าตั้งบนหีบศพเร็วๆ
– ควรจะจัดท�ำแท่นที่ต้ังดอกไม้เหนือหีบศพท่านพระอาจารย์จวน และ ท่านพระอาจารย์
สิงห์ทองอีก ๒ ที่ เพ่อื จะไดว้ างดอกไม้อีก
– หบี ทองทบึ ของทา่ นพระอาจารยว์ ันเก่าไปไม่งาม ขอให้เปลี่ยนใหม่
– บนหีบศพทกุ องค์ ควรจะตั้งเชิงเทียนคู่
ด้วยทางวัดพระศรีมหาธาตุมีพระ เณร มาร่วมงานกันจ�ำนวนมาก ซึ่งจะตอ้ งจัดเตรียมอาหาร
น�้ำปานะ ตลอดงาน ด้วยมีผ้บู ริจาคเงินจำ� นวนมาก จงึ จ�ำเป็นต้องมีไวยาวจั กรดูแล ทีแรกทางวดั เกรง
จะถกู ครหาว่าหาเงินจากศพ แตใ่ นท่สี ุดก็ยินยอม โดยตอนดกึ ท่านเจ้าคุณราชธรรมสุธี เจ้าอาวาส
วดั พระศรีมหาธาตุ ทา่ นไดห้ าไวยาวัจกรไดแ้ ล้ว คือ พล.อ.ต.วรสนธ์ิ วรเสยี งสขุ (ปจั จบุ ัน พล.อ.ท.)
ซง่ึ เปน็ ศิษย์ของทา่ นอาจารย์เหมอื นกัน ยอดทม่ี ีผฝู้ ากบรจิ าคไวใ้ นวันแรกนี้มีส่ีหม่นื บาทเศษ
• วนั อังคารท่ี ๒๙ เมษายน ๒๕๒๓
ตามหมายก�ำหนดการบ�ำเพญ็ พระคณาจารยข์ องส�ำนักพระราชวงั ก�ำหนดไว้ชดั แจง้ วา่ สมเดจ็ –
พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชด�ำเนนิ ในวนั จนั ทร์ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๒๓ แตเ่ พียง
วันเดยี ว เชา้ วันนส้ี มเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถทรงมพี ระราชเสาวนยี ์
346
– ขอใหเ้ ราส่งคนไปช่วยดดู อกไม้แตเ่ ช้า เผอื่ ว่าถา้ หากมดี อกใดเห่ยี ว ไม่งาม กข็ อใหเ้ ราชว่ ยจัด
เปล่ยี นแซมใหด้ ้วย เพราะวา่ กวา่ ทางเจ้าหนา้ ทีใ่ นพระราชวงั จะจดั มาเปลีย่ นในตอนบา่ ย อาจจะช้าไป
มพี ระราชประสงค์ให้เวลาคนมากราบทา่ นพระอาจารย์ ควรจะได้เหน็ แต่ภาพดอกไมส้ ดงามอยตู่ ลอด
เวลา
– เสด็จคืนนี้ ใหเ้ ลื่อนพระเก้าอ้ที ่ีตัง้ อยหู่ น้าทพี่ ระสวดอภิธรรมนนั้ ขึ้นมาขา้ งหนา้ เพ่ือว่าจะได้มี
ทวี่ ่างข้างหลังให้ลกู ศิษย์ไดน้ ง่ั มากข้ึน
เม่ือคืนนี้ก่อนจะเสด็จพระราชด�ำเนินกลับ ทรงมีพระราชปรารภว่า ดอกไม้ท่ีสมควรบูชา
พระอริยเจ้าอย่างท่านอาจารยน์ ้นั นอกจากดอกบัวสัตตบงกช ซึง่ เปน็ ดอกไม้ท่หี ายาก แต่มีสชี มพแู ลว้
ควรจะเปน็ ดอกไม้ไทยสขี าวบรสิ ทุ ธิ์ ท่เี หมาะเปน็ พทุ ธบชู า อย่างเชน่ บัวขาวและมะลิเท่านัน้ ทรงยอม
ให้ดอกไม้อ่นื อกี อยา่ งเดียวคอื หวายแจคเคอลีนซง่ึ มีสีขาวบรสิ ทุ ธ์ิเชน่ กัน
ตอนบา่ ยระหว่างพวกอาสาสมคั รก�ำลังช่วยกนั จดั ดอกไม้ถวายกันอยอู่ ย่างขะมักเขมน้ สมเดจ็ –
พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถทรงมีพระราชเสาวนียเ์ พมิ่ เติมมาอกี
– ทรงเตอื นเร่อื งให้เลื่อนพระเกา้ อข้ี ้นึ มาข้างหนา้ เพ่ือลกู ศษิ ย์จะไดม้ ที ใี่ กล้ขึน้
– ทรงเป็นห่วงว่าจะจัดหารูปพระอาจารย์ไม่ได้หมดทุกองค์ ทรงจ�ำได้ว่าเม่ือคืนน้ีเรากราบ
บังคมทูลว่า ยงั หารปู ทา่ นอาจารย์สุพฒั น์ไม่ได้ มีพระราชเสาวนียว์ า่ คณุ ข้าหลวงเหน็ ในหนงั สือพมิ พ์
(อนั เปน็ หนงั สือพิมพ์เช้าฉบบั หนึง่ ) ประจำ� วันที่ ๒๙ เมษายนนี้เอง ให้เราขอท่ีหนงั สอื พมิ พ์น้ัน แต่ขอให้
ดใู ห้แน่เสยี กอ่ นว่าใช่ทา่ นหรือไม่
– ทรงอยากจะทราบวา่ ลกู ศษิ ย์พระอาจารยอ์ งคไ์ หนจะรับศพท่านกลับวัดกันบ้าง องค์ไหน
รับไป องค์ไหนไม่รบั กลบั ไป ขอใหท้ ำ� บญั ชถี วายด้วย
– พระรูปพระอาจารย์ทกุ องค์ให้วางบนผ้าพิมพ์ แตง่ ด้วยแจกันดอกบัว
คนื นสี้ มเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชด�ำเนินมาเป็นองค์ประธานในการ
สวดพระอภิธรรม เมอ่ื ทรงทราบวา่ “หลวงปชู่ อบ านสโม” แหง่ วัดป่าสัมมานสุ รณ์ จงั หวดั เลย ได้มา
ในงานดว้ ย กเ็ สดจ็ ฯ ไปทรงกราบนมัสการด้วยความเคารพ พระราชจรยิ าวัตรยามที่ทรงหมอบกราบ
กับลาดพระบาทและทรงประณมพระหัตถต์ ลอดเวลาที่มกี ระแสรับสง่ั กับหลวงปู่นัน้ งดงามนกั เปน็ ท่ี
ช่นื ใจ ช่นื ตา แก่ผูท้ ีพ่ บเห็นอยา่ งยิ่ง
หลงั จากเสร็จการสวดพระอภธิ รรมแล้ว มไิ ดเ้ สด็จฯ กลับในทันที ไดเ้ สด็จฯ มาประทับบน
พ้ืนพรมหนา้ ท่ีตง้ั หีบศพ ทรงจัดดอกไมท้ ่ีคณะคุณขา้ หลวงจัดท�ำเพิ่มเติมมาแต่ในพระราชวงั ทัง้ ดอกบัว
สีขาว ทงั้ ดอกบวั สัตตบงกชสีชมพู และดอกมะลสิ ขี าวสะอาด ประดิษฐ์ในรูปลกั ษณ์ตา่ งๆ กันอยา่ ง
งดงามและแปลกตา ทั้งสวย ท้ังหอมกรุ่นละมุนใจไปท้ังศาลา ทรงฉีดน�้ำเพ่ือให้ดอกไม้สดตลอดคืน
347
ทรงประคองยกแจกันที่ตกแต่งแล้วไปต้ังยังที่ด้วยพระองค์เอง หลายต่อหลายครั้งที่ต้องทรงใช้ผ้าซับ
พระพักตร์ แตม่ ิไดแ้ สดงความเหน็ดเหนือ่ ยพระวรกายให้ปรากฏ สิง่ เดยี วทต่ี ง้ั พระทยั ม่ัน ก็คอื ทรงขอ
ถวายเปน็ พทุ ธบูชา ธรรมบูชา และสงั ฆบชู า
สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ประชาชนไดเ้ ฝา้ แหน
อย่างใกล้ชิด มพี ระราชกระแสรับสัง่ ถามถงึ ทกุ ขส์ ุขของประดาศษิ ย์ทีว่ ดั ตามต่างจงั หวัดตา่ งๆ อยา่ งทรง
เอ้อื อาทร ไดก้ ราบบังคมทลู วา่ “ศษิ ยข์ องทกุ องค์คงจะขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตน�ำศพกลบั
วัดทงั้ นั้น” มพี ระราชด�ำรัสวา่ “พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัวรับสง่ั วา่ ทกุ อยา่ งขอใหต้ ามใจประชาชน
ขอใหร้ ักษาน�ำ้ ใจของราษฎรท่ีเขาเคารพทา่ นอาจารย์ คงจะพระราชทานพระบรมราชานญุ าต”
• วนั พธุ ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๒๓
วันนี้มีข่าวสับสน มีพวกศิษย์จากสกลนคร และหนองคายมาพบพวกเราหลายกลุ่มบอกว่า
“ไดข้ ่าวมาทางกรงุ เทพฯ จะยดึ ศพทา่ นอาจารย์ไว”้ พวกเขาไม่ยอมอย่างเดด็ ขาด ถ้าไมส่ ง่ ศพกลับไป
คงจะมเี รอื่ งไมส่ งบ เพราะชาวบา้ นไมย่ อมเชอื่ ขา่ วรา้ ยเรอื่ งเครอื่ งบนิ ตกอยแู่ ลว้ ถา้ ไมเ่ หน็ ศพคงไมย่ อม
เชื่อใหญ่ มีข่าวว่า จะเผาป่าแถวส่องดาวบ้าง (ในกรณีท่านอาจารย์วัน) จะเผาป่าบนภูวัวบ้าง
(ในกรณีท่านอาจารย์จวน) ข่าวเหล่านี้มิได้มีมาจากฆราวาสเท่านั้น จากพระภิกษุก็มีเช่นเดียวกัน
พวกเราจงึ ช่วยกันชีแ้ จงให้ฟังว่าเป็นขา่ วทไ่ี มม่ ีมลู ความจรงิ เลย และไดอ้ ัญเชิญพระราชด�ำรสั ถ่ายทอด
ให้ฟังกันต่อไป ทุกคนจึงฟงั ด้วยความโล่งใจ บางกลุ่มก็สง่ ผูแ้ ทนกลับไปให้ “ข่าวทีถ่ กู ต้อง” ใหพ้ วกที่
รอคอยอยู่ทางวดั ได้หายกงั วล
ท่านพระอาจารย์เตมิ ศกั ด์ิ ยตุ ฺตตธิ มฺโม ได้เมตตาเล่าเรื่องน้ีไว้ดังนี้
“ขา่ วทางกรงุ เทพฯ จะยดึ ศพไว้ เหตมุ ันคืออยา่ งนี้ คือทางน้ีจะเผาเลย ๗ วนั พอช่วงแรกเขายงั
ไม่ไดย้ นิ อะไรเลย เขายังไม่ได้ประชมุ จะเผา ๗ วนั มันกเ็ ลยลงเอยกันวา่ ท�ำยังไงทางโนน้ กจ็ ะเอา ๗ วัน
ทางกรุงเทพฯ ก็รู้ว่าทางโน้นถ้าเอากลับไป ๗ วันก็เผาเลยท�ำนองน้ี เพราะทางน้ันก็เตรียมการไป
พอสมควร ก็เลยพอถึงวันเตรียมการว่าจะไปรับศพพ่อแม่ครูบาอาจารย์กลับมานะ เพราะแต่ก่อน
สอื่ สารไมม่ ีโทรศพั ทอ์ ะไร มันก็วา่ คนละที มนั ไมเ่ หมอื นปจั จุบนั นี้ ทางโนน้ วา่ ทางโนน้ ทางนี้กว็ ่าทางนี้
เสร็จแล้วทางครบู าอาจารย์ทางน้นั จะเอา ๗ วัน ๗ วนั ๗ วัน อยา่ งท่วี ่านะมาทางหลวงปสู่ งิ ห์ทอง
๗ วนั ท่านเอาไว้ไมน่ าน ต่างคนตา่ งไม่เอาไวน้ าน หลวงปสู่ ุพัฒน์เอาไวไ้ มน่ าน พอมาถงึ กจ็ ดั ท�ำเอา
สดุ ท้ายกม็ าคยุ กัน ถา้ อยา่ งนน้ั กจ็ ดั การเผาทีว่ ดั พระศรีฯ นเ่ี ลยไมด่ ีเหรอ
“โอ ! ไม่ได้หรอก” คอื ประชุม ทางกรุงเทพฯ ถา้ งน้ั เผาทีน่ ่หี มดเลยจะตกลงไหม ? ท�ำนองน้ีนะ
“โอ้ ! ถามลูกศิษย์ก่อนเด้อ” อาตมาก็เลยบอก “คุณกมิ กา่ ยเขาว่ายงั ไง เจา้ ภาพใหญ่นะ ถา้ คณุ กมิ กา่ ย
ยอมก็เอา” พอคุณกมิ กา่ ยได้ยินกโ็ มโห เป็นฟนื เป็นไฟ ไม่ยอม ไม่ยอมเดด็ ขาดเลย ยังไงกต็ อ้ งเอา
กลบั บา้ นใหไ้ ด้ ครูบาอาจารยข์ องเขานี่ เขาเคารพนบั ถือ เขาเอาลงมาใหไ้ ด้ เขาไม่ยอม พวกกรงุ เทพฯ
348
มาร้จู กั ครบู าอาจารยท์ ีหลัง
คุณกมิ ก่ายไม่เหน็ ดว้ ย ลกู ศิษย์ทางน้ีก็ไมเ่ หน็ ด้วย ลกู ศิษย์หลายๆ ท่กี ็ไม่เหน็ ดว้ ย คอื จะเผาจรงิ
ต้องเผาทนี่ ่ี เผาที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ ทีอ่ �ำเภอสว่างฯ ก็เผาที่อ�ำเภอสว่างฯ หลวงปู่สุพัฒนก์ เ็ ผาทีบ่ า้ นต้าย
หลวงปู่สิงห์ทองก็เผาที่บ้านชุมพลอย่างนี้ หลวงปู่จวนก็ไปเผาภูทอก ส่วนข่าวว่าชาวบ้านถ้าไม่ได้
ศพคนื จะเผาปา่ อันนัน้ กค็ อื วธิ กี ารพดู วธิ ขี ”ู่
ตลอดเวลาตั้งแตว่ นั ท่ี ๒๘ เป็นตน้ มาจนถึงวนั นี้ ไดร้ บั ข่าวจากคุณธเนศ เอียสกุล และภรรยา
ซึ่งเป็นบุคคลส�ำคัญท่ีจัดส่งท่านอาจารย์ทุกองค์ขึ้นเคร่ืองบินท่ีอุดรธานี และผู้มาส่งท่านที่สนามบิน
รวมทั้งพระเณรและศิษย์ท่ีวัด ดูเหมือนจะให้ข่าวตรงกันในท่ีสุด ในเรื่องที่ว่า “ท่านอาจารย์ทุกองค์
คงจะทราบล่วงหน้าถงึ เหตุการณท์ ี่จะเกดิ ขึน้ ”
บางองค์ปรากฏนมิ ิตวา่ เครื่องบินตก ยงั ได้เล่าใหเ้ พ่ือนพระภกิ ษฟุ งั บางองค์กลา่ ววา่ มาคราวนี้
คงจะอยู่แค่วัดพระศรีมหาธาตุ บางองค์จัดต้ังเจ้าอาวาสแทนองค์ท่านไว้ บางองค์ไม่ให้ลูกศิษย์ท่ีเคย
ติดตามขึ้นเคร่ืองบินมาด้วย บางองค์ส่ังศิษย์ให้ช่วยจัดงานศพให้ท่านด้วย ฯลฯ ค�ำปรารภของท่าน
ค�ำส่งั เสยี ของทา่ นอนั เปน็ นยั ต่างๆ กนั น้ัน เมื่อเกดิ เรือ่ งแล้ว จงึ มานกึ กนั ได้ในภายหลังกนั ทั้งน้นั
ท่าน “ร้”ู กันทกุ องค์ แต่ท่านก็ยังมา
ตอนบา่ ย ท่านเจา้ คุณวชั รธรรมาภรณ์ เรียกเราไปบอกให้ทราบวา่ คนื นีค้ ณุ ภาวาส บุนนาค
รองราชเลขาธิการ จะเชิญประชุมหารอื เรื่องการเชญิ ศพทา่ นอาจารยท์ กุ องค์กลับไปวัดของท่าน
ความจริงเรื่องน้ี ท่านอาจารย์ทองสุก สุกฺกธมฺโม แห่งวัดถ�้ำอภัยด�ำรงธรรม ซึ่งเป็นหลาน
ทา่ นอาจารย์วนั ท่านอาจารยน์ อ้ ยแหง่ วัดถำ�้ กลองเพล ซึง่ เป็นญาติผู้นอ้ งของท่านอาจารย์สิงห์ทอง
และท่านอาจารย์เติมศกั ด์ิ ยตุ ฺตติธมฺโม วัดเจติยาคิรวี หิ าร (ภทู อก) ได้เรยี กเราไปหารือแตว่ นั วานนแี้ ลว้
ว่าได้ทราบขา่ ววา่ “มีศษิ ยบ์ างกลุม่ คิดจะแยกนำ� ทา่ นอาจารย์ต่างองค์ตา่ งกลับวดั ” ในเม่ือทา่ นอาจารย์
ทุกองค์มาดว้ ยกนั ประสบชะตากรรมพรอ้ มกัน กค็ วรจะใหท้ า่ นไปดว้ ยกนั
โดยเฉพาะทา่ นอาจารยว์ นั ท่านอาจารย์จวน ทา่ นอาจารยส์ งิ หท์ อง และ ท่านอาจารย์
สุพัฒน์ นนั้ เวลารบั นมิ นต์มาในพระราชวัง เวลากลบั ทา่ นจะกลบั ไปด้วยกนั เปน็ ขบวนเดยี วกนั เสมอ
ท่านเองก็มักจะปรารภวา่ “มาดว้ ยกัน ก็ต้องไปดว้ ยกันซ”ี สง่ ทา่ นอาจารย์สงิ ห์ทองเป็นองคแ์ รกเล้ยี ว
เขา้ ไปในทางแยก กิโลเมตรท่ี ๕๙ ไปบา้ นชุมพล แล้วกจ็ ะส่งท่านอาจารย์สุพัฒน์ทบี่ า้ นตา้ ย ต่อไป
ส่งท่านอาจารยว์ ัน เลยี้ วตรงทางแยก กิโลเมตรท่ี ๖๗ บ้านหนองหลวงไปภูเหลก็ แลว้ กจ็ ะเลยไปสง่
ท่านอาจารย์จวน ซ่งึ อยู่ที่ไกลท่ีสดุ ภูทอก เป็นองคส์ ดุ ท้าย ขณะเม่ือมีชวี ติ ทา่ นกลบั ด้วยกัน เมื่อหา
ชวี ิตไมแ่ ล้ว ก็นา่ จะใหท้ ่านกลบั ด้วยกันเปน็ คำ� รบสดุ ทา้ ย
349
แต่คราวน้ี คงไม่อาจจะให้ตามกันเป็นขบวนตลอดทางเช่นนนั้ ได้ เพราะศิษย์มเี ปน็ จ�ำนวนมาก
ด้วยกัน ควรจะให้ท่านร่วมกันไปเป็นขบวนเดียวกันจนถึงอุดรธานี แล้วจึงจะแยกย้ายกันไปเป็น
๓ สาย คอื
ไปวัดหลวงปู่บญุ มาซงึ่ อยู่ในทางจากอดุ รฯ – เลย สายหน่ึง
ไปทางสกลนคร สำ� หรบั ทา่ นอาจารย์วนั ท่านอาจารยส์ งิ หท์ อง และ ทา่ นอาจารย์สพุ ัฒน์
สายหนึ่ง
และไปทางหนองคายส�ำหรบั ท่านอาจารยจ์ วน อกี สายหน่ึง
เฉพาะทีอ่ ดุ รฯ นน้ั โดยที่ทา่ นอาจารย์ทุกองคต์ า่ งมศี ษิ ย์เปน็ ชาวอดุ รฯ เปน็ จำ� นวนมาก ควร
จะให้ขบวนแวะที่อดุ รฯ ซึง่ อยู่ในเสน้ ทางก่อน เพอ่ื ใหช้ าวอดุ รฯ ไดก้ ราบคารวะ ไมต่ ้องพดู ถงึ หลวงปู่
บญุ มาซง่ึ วดั ของทา่ นอยใู่ นตวั เมอื งอดุ รฯ หลวงปยู่ อ่ มเปน็ ทเี่ คารพสกั การะอยา่ งสงู ของชาวอดุ รฯ อยแู่ ลว้
และท่านอาจารย์วัน ซ่ึงศิษย์เป็นชาวอุดรฯ เกือบจะเท่าชาวสกลนคร ท่านอาจารย์จวนเป็นศิษย์
ใกล้ชิดกับหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้�ำกลองเพลมานาน ท่านอาจารย์สิงห์ทองและท่านอาจารย์
สพุ ฒั นเ์ ป็นศิษย์ใกล้ชิดของท่านอาจารย์พระมหาบัว าณสมฺปนฺโน อยู่ในวัดป่าบ้านตาดมานาน
เช่นกัน ชาวอุดรฯ นึกถึงท่านทัง้ ๓ เหมือนกบั เป็นพระที่โปรดเขาอยู่ในเมอื งอุดรฯ
ส่วนการแวะที่อุดรฯ ให้ศิษย์ชาวอุดรฯ ได้กราบคารวะนั้น คงไม่มีที่ใดจะเหมาะสมเท่าที่
วัดโพธิสมภรณ์ ซ่ึงเป็นวัดในประวัติศาสตร์ของพระกัมมัฏฐานสายท่านพระอาจารย์ม่ัน ภูริทตฺโต
ท่านเจา้ คณุ ธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) อดตี เจา้ อาวาสแหง่ วดั นี้ มคี วามสัมพันธแ์ นบแน่นและเคารพ
ท่านพระอาจารย์มั่นอย่างย่ิง ท่านเคยเป็นองค์อุปัชฌาย์ของพระเถระผู้ใหญ่ท่ีท่านอาจารย์เองเคารพ
หลายองค์ อย่างเชน่ หลวงปอู่ ่อน าณสิริ หลวงปหู่ ลยุ จนฺทสาโร หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ฝั้น
อาจาโร ทา่ นอาจารยพ์ ระมหาบวั าณสมฺปนฺโน
พดู งา่ ยๆ วดั โพธสิ มภรณ์เปน็ วัดองค์อปุ ัชฌายแ์ ห่งอาจารยข์ องท่าน
มาในสมยั ทา่ นเจา้ คณุ เมธาจารย์เป็นเจา้ อาวาสปัจจุบันของวดั โพธสิ มภรณ์นี้ ท่านก็ยังให้ความ
ส�ำคัญเคารพวัดโพธสิ มภรณเ์ สมอ เฉพาะทา่ นอาจารย์วนั เคยให้เราไปรบั ท่านท่วี ัดนน้ี ับครัง้ ไม่ถ้วน
เมอื่ ทา่ นอาจารยน์ อ้ ย ทา่ นอาจารยท์ องสกุ ทา่ นอาจารย์เตมิ ศักดิ์ ทราบวา่ จะมีการประชมุ กัน
คืนน้ี จึงตกลงให้เราเป็นผู้เรียนเสนอความคิดเห็นนี้ต่อท่ีประชุม ท่านบอกว่า “ท่านลองซาวเสียง
พระอ่นื ๆ แล้ว ทา่ นก็เห็นด้วยทัง้ นน้ั ”
คืนน้ีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชด�ำเนินมาทรงเปลี่ยนพวงมาลา
พระราชทานใหม่ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ วางพวงมาลาแทนสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ และ
สมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟ้าจุฬาภรณวลัยลกั ษณ์ด้วย
350
และก็เชน่ เคย เมอื่ เสร็จการสวดพระอภิธรรมแล้ว ได้เสด็จลงประทับท่ลี าดพระบาทหนา้ ทีต่ ้ัง
หบี ศพ ทรงจัดดอกไม้ที่สง่ เพม่ิ เติมมาจากพระราชวัง ทงั้ ดอกบัวขาว ทั้งดอกบวั สัตตบงกชสชี มพู และ
ดอกมะลสิ ขี าวสะอาด ท่ีว่าเมื่อคนื วานนี้มีมากแลว้ คืนน้ยี ิง่ มมี ากไปกวา่
ท่านเจา้ คุณวนิ ัยฯ แห่งวัดพระศรีมหาธาตุ ถึงกับอทุ านว่า “ตงั้ แตท่ า่ นเห็นดอกไม้ในงานศพที่
วัดนีม้ า ยงั ไมเ่ คยเห็นดอกไมใ้ นงานใดทีจ่ ะมากเทา่ นี้และทจ่ี ะงามเท่านี้”
ในเรอื่ งดอกไมท้ ี่มากและหอมกรุ่นนี้ อย่างไรกด็ เู หมอื นจะไม่สมพระราชหฤทัยทีท่ รงปรารถนา
ไว้สักที พระราชกระแสเล่าพระราชทานใหพ้ วกเราฟังว่า “ทกุ วนั เจ้าหน้าทตี่ อ้ งออกไปกวา้ นดอกบวั
สตั ตบงกชมาจากเรือ ต้งั แต่ตอนตีสี่ ส�ำหรบั ดอกมะลกิ ็ตอ้ งเหมากนั มาเป็นสวนๆ ทีเดยี ว เพ่ือจะได้มี
ดอกไม้บชู าท่านอาจารย์ใหเ้ พียงพอ”
– บูชาท่านอาจารย์ ต้องบูชาด้วยดอกบัว และดอกไม้ท่ีหอมและสีขาวอันเป็นสีแห่งความ
บริสทุ ธ์ิ เป็นพระราชด�ำรสั ทค่ี ณะศิษยท์ ี่เฝ้าเบอื้ งพระยคุ ลบาทจะได้ยนิ กันอยู่เสมอ
ความทราบถงึ พระเนตรพระกรรณวา่ “ชาวบ้านทางสกลนครและหนองคาย เปน็ ห่วงกลัววา่
ทางกรุงเทพฯ ไม่คืนศพท่านอาจารย์” และมีข่าวเรื่องพวกท่ีอยู่ห่างไกลในป่าในภูจะเผาป่า จึงทรง
ซักถาม เม่ือกราบบังคมทูลว่า “ได้อธิบายความจริงให้ทราบแล้วและหลายกลุ่มก็ส่งผู้แทนเดินทาง
กลับไปช้ีแจงให้ชาวบ้านมีความเข้าใจถูกต้องแล้ว” ก็ทรงโล่งพระทัย และทรงเตือนให้พวกศิษย์ทาง
กรงุ เทพฯ “อย่าลืมตามใจประชาชน จะท�ำอะไรให้ปรกึ ษาหารอื กันดว้ ยความพร้อมเพรียงโดยเฉพาะ
ให้รักษานำ�้ ใจของพวกชาวบ้านทอ่ี ยูห่ ่างไกลด้วย”
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหเ้ ครอื ญาตทิ ่านอาจารย์เข้าเฝ้า โยมแม่ของท่านอาจารย์วัน กราบ
บังคมทลู พระกรุณาวา่ คนื ก่อนจะทราบขา่ วร้าย สะดุง้ ตกใจตื่นขนึ้ ราวกบั มใี ครมาปลกุ เหน็ แสงสว่าง
มาปรากฏที่หัวนอน สว่างโร่ราวกับกลางวนั มีเสยี งเรียกวา่ “แม.่ .. แม่... แม.่ .. ๓ ครงั้ ” จำ� ได้ว่าเป็น
เสยี งท่านอาจารยว์ ัน วนั ต่อมาจงึ ทราบขา่ ว โยมแม่เล่าไป มอื ก็คลำ� นยั นต์ าปอ้ ยๆ น�้ำตาคลอ ความ
เศรา้ โศกอย่างสดุ กล้นั นั้นดูจะผ่อนคลายไป เม่ือพระราชทานพระหัตถ์ใหโ้ ยมแมก่ มุ ไวเ้ ป็นหลกั ประทปี
ทดแทนสงิ่ ท่สี ูญเสยี ไป
เสดจ็ พระราชด�ำเนินกลับเวลาประมาณ ๕ ทุ่มกวา่ จากนัน้ คุณภาวาส บุนนาค รองราชเลขา–
ธิการ จงึ ไดเ้ ชญิ ประชมุ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ แหง่ วัดราชผาติการาม ซึ่งเป็นองคป์ ระธานฝา่ ยสงฆ์
กลบั ไปกอ่ น ท่านเจ้าคณุ เทพเมธาจารย์ แห่งวดั โพธิสมภรณ์ จึงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์แทน ด้วยท่าน
ดำ� รงตำ� แหนง่ รองเจา้ คณะภาค ๙ ดแู ลจงั หวดั สกลนคร อดุ รธานแี ละหนองคาย พระสงฆอ์ นื่ ๆ กม็ ที า่ น
เจา้ คณุ วชั รธรรมาภรณ์ วดั ตรที ศเทพ ทา่ นเจา้ คณุ ปรยิ ตั สิ ารสธุ ี วดั สมั พนั ธวงศ์ ทา่ นพระครโู อภาส–
ธรรมภาณ หลานหลวงปู่บุญมา ท่านอาจารยน์ ้อย วดั ถ้�ำกลองเพล ญาติผ้นู ้องท่านอาจารยส์ ิงห์ทอง
ทา่ นอาจารยท์ องสุก สุกกฺ ธมโฺ ม วัดถ้ำ� อภยั ด�ำรงธรรม ทา่ นอาจารย์เติมศกั ดิ์ ยตุ ตฺ ตธิ มฺโม วดั เจตยิ า–
351
คริ วี ิหาร (ภทู อก) ฝ่ายจงั หวัดมีคุณพศิ าล มูลศาสตรส์ าทร ทา่ นผูว้ ่าราชการจงั หวัดอุดรธานี รองผวู้ ่า–
ราชการจงั หวดั สกลนคร มกี ารเสนอความเหน็ กนั หลายอย่าง แตส่ ดุ ท้ายสว่ นใหญ่ทปี่ ระชุมกเ็ ห็นด้วย
กับขอ้ เสนอของเรา ทเ่ี สนอตามที่ทางสงฆผ์ ้แู ทนของวดั ท่านอาจารย์วนั ท่านอาจารยจ์ วน และ
ทา่ นอาจารย์สงิ หท์ อง ได้หารอื กันไว้ก่อนแลว้ กลา่ วคือ
จะมีการเชิญศพกลับไปพร้อมกันทุกองค์ ไม่ใช่ลูกศิษย์ของแต่ละองค์ต่างจัดขบวนไป จะมี
การแวะขบวนท่วี ดั โพธิสมภรณ์ ซึ่งเปน็ วัดองคอ์ ุปัชฌาย์แหง่ อาจารยข์ องท่านอาจารย์ ใหช้ าวอุดรฯ
และขอนแก่นกราบคารวะ แลว้ จึงจะแยกย้ายกันกลับไปแต่ละวัด โดยแยกเป็น ๓ สาย สายหนงึ่ ไปทาง
สายอดุ รฯ – เลย กลบั ไปวัดหลวงปู่บญุ มา ทา่ นพระครูประสาทฯ และพระเฉลิมชยั สายหนึ่ง
ไปสกลนคร ท่านอาจารย์วัน ท่านอาจารย์สิงห์ทอง และ ทา่ นอาจารย์สุพฒั น์ และอีกสายหน่งึ
ทา่ นอาจารยจ์ วน กลับไปหนองคาย
นอกจากน้นั ได้มีการตกลงเรือ่ งการบำ� เพญ็ กุศลดว้ ย คอื เม่ือเสรจ็ การบ�ำเพ็ญพระราชกุศลครบ
๗ วนั ในวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๒๓ แล้ว จะให้มกี ารบำ� เพ็ญกศุ ลตอ่ อกี เพยี ง ๒ วัน คอื วนั ที่
๕ พฤษภาคม ๒๕๒๓ สมเด็จพระสงั ฆราชจะทรงบำ� เพ็ญพระกศุ ลประทาน วันท่ี ๖ พฤษภาคม
๒๕๒๓ ใหค้ ณะศษิ ยานศุ ษิ ยใ์ นกรงุ เทพมหานครรว่ มกนั เปน็ เจา้ ภาพ จากนนั้ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั สกลนคร
อุดรธานี และหนองคาย จะมหี นังสือมาพระราชทานพระบรมราชานญุ าตเชญิ ศพทา่ นอาจารยก์ ลบั วดั
ของท่าน โดยขบวนศพจะออกจากวัดพระศรมี หาธาตุ ในเช้าวนั ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๒๓ เวลา ๐๔.๐๐
นาฬกิ า
โดยท่ีเชือ่ ว่า ศษิ ย์ที่จะตามไปสง่ ศพคงจะมมี าก แมจ้ ะมีรถต�ำรวจทางหลวงน�ำใหค้ วามสะดวก
เนื่องจากหนทางไกลมาก เกรงจะเปน็ ปญั หาด้านการจราจรตดิ ขดั จงึ ตกลงกนั ว่า ลกู ศษิ ยค์ วรจะจัด
รถตามนอกขบวน และเนื่องจากเฉพาะวัดท่านอาจารย์จวนอยู่ไกลเกินกว่าจะไปถึงในวันเดียวได้
จึงจะเชญิ ศพไปตง้ั ที่วัดศรเี มอื ง จงั หวัดหนองคาย กอ่ นคืนหนง่ึ รุ่งขน้ึ เช้าจงึ จะเดินทางต่อไปวดั เจตยิ า-
คริ ีวหิ ารทภ่ี ูทอก
คุณหมอปัญญา ส่งสัมพันธ์ แห่งโรงพยาบาลแพทย์ปัญญา รับจะจัดรถพยาบาล ๗ คัน
เชิญท่านอาจารยแ์ ตล่ ะองค์
• วนั พฤหัสบดีที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๒๓
ตอนกลางคืนสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ มาเช่นเคย รับส่ัง
พระสุรเสยี งราวกบั ทรงทราบว่ามีผ้เู ฝ้ารอชมพระบารมี ทกุ คืนจะประทบั อยจู่ นดกึ บางคืนเตรยี มจะ
เสด็จพระราชด�ำเนินกลับ เมื่อทอดพระเนตรเห็นผู้ทรงรู้จักจะทรงชะงัก ทรุดพระองค์ลงมีพระราช–
ปฏสิ นั ถารดว้ ย กว่าจะเสดจ็ พระราชด�ำเนนิ กลับกเ็ กือบ ๒ ยาม
352
• วันศุกร์ท่ี ๒ พฤษภาคม ๒๕๒๓
ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ ลื่อนการบ�ำเพ็ญพระราชกุศล ๗ วันพระราชทานศพ ซ่ึงเดิม
กำ� หนดไวเ้ ปน็ วันเสารท์ ี่ ๓ นั้น มาเปน็ วนั น้แี ทน เพราะเม่ือทางส�ำนักพระราชวังท�ำหมายก�ำหนดการ
นั้น ลืมนกึ ไปถงึ งานพระราชพิธเี นื่องในวนั ฉตั รมงคล วันที่ ๕ พฤษภาคม จะต้องมหี มายกำ� หนดการ
ตา่ งๆ ทจ่ี ะตอ้ งเสด็จพระราชด�ำเนนิ ต้ังแตว่ ันที่ ๓ พฤษภาคม เปน็ ต้นไป เพ่งิ โปรดเกลา้ ฯ มาเดย๋ี วนี้
เป็นการสลับก�ำหนดการของวันท่ี ๓ มาเปน็ วันท่ี ๒ และเปลีย่ นกำ� หนดการของวันท่ี ๔ มาเป็นวันที่ ๓
ส่วนกำ� หนดการของวันที่ ๒ ยอ้ นไปเปน็ ของวันท่ี ๔ แทน
คอื จะเสด็จพระราชด�ำเนิน พระราชทานพวงมาลาในคืนน้ี มีธรรมเทศนาของเจ้าคุณพรหม–
คุณาภรณ์ เจา้ อาวาสวัดสระเกศ และพระพธิ ีธรรมสวดพระอภิธรรม
ตกกลางคนื พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถ และ
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ เสดจ็ พระราชด�ำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟา้ จุฬาภรณ–
วลยั ลักษณ์ มาทรงวางพวงมาลาหน้าหีบศพ สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอทง้ั ๒ พระองค์ เพิ่งเสดจ็ นวิ ตั ิ
พระนครกลบั มาจากงานบรมราชาภเิ ษกพระราชนิ นี าถแหง่ เนเธอรแ์ ลนด์ ถงึ กรงุ เทพฯ ในวนั นเี้ อง เมอื่
เสรจ็ พิธกี ารตา่ งๆ คอื มธี รรมเทศนาและสวดพระอภิธรรมแลว้ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ได้โดยเสด็จ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั เสด็จพระราชด�ำเนนิ กลับ แต่ในตอนดกึ ก็เสดจ็ กลบั มาอกี วาระหน่งึ
ความจรงิ ในวนั หลงั ๆ นีเ้ ปน็ ที่ทราบกนั ดวี า่ เมือ่ สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถเสดจ็
พระราชด�ำเนินกลับแล้ว จะเสด็จหวนกลับมาอีกวาระหนึ่ง เมื่อคนบางตาลง มีพระราชด�ำรัสว่า
“เกรงใจประชาชนเขา ถา้ อยู่นาน เขามธี รุ ะจะกลับบา้ นกก็ ลับไมไ่ ด้ เลยตอ้ งกลับไปก่อน แล้วแอบมา
ไม่ให้รบกวนเขา” น�้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาธิคุณ ไม่มีพระราชประสงค์จะให้เป็นภาระ
รบกวนแก่ผหู้ นึ่งผูใ้ ด จึงทรงพยายามเสดจ็ ในเวลาดึกหน่อย เพอ่ื ให้ประชาชนกลับกันไปกอ่ น
คืนนี้เสดจ็ ประทบั บนลาดพระบาททั้ง ๓ พระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทรงปรารภถงึ เมตตาคณุ กรุณาคุณ คณุ านปุ ระการของทา่ นอาจารย์ทุกองคท์ ่มี ีตอ่ ศษิ ย์ ตอ่ ประชาชน
มีพระราชเสาวนยี ก์ บั บรรดาศิษยแ์ ละญาติว่า “การอนั ใดทีท่ ่านอาจารยท์ �ำอยู่ ขออยา่ ใหท้ อดทง้ิ ขอให้
ช่วยกันท�ำตอ่ ไป เสมือนท่านอาจารยย์ ังชีวิตอยู”่
คณะศษิ ย์และญาตนิ ้อมรับพระราชเสาวนีย์ใส่เกล้าฯ
• วันเสาร์ท่ี ๓ พฤษภาคม ๒๕๒๓
ตอนเพลพระสงฆ์ท่ีสวดพระพุทธมนต์แต่วานน้ี รับพระราชทานฉัน แล้วมีบังสุกุล เสด็จ
พระราชดำ� เนินทงั้ ๔ พระองค์
353
ระหว่างวันหยุดน้ี คนมากนั แนน่ ศาลาตลอดวัน มีผู้โดยเสดจ็ พระราชกุศล น�ำเคร่ืองดื่มมาถวาย
พระและเล้ยี งแขกอยา่ งอุดมสมบูรณ์ แมแ้ ต่ผทู้ ่ีนั่งอยูใ่ นรถยนต์ก็จะมีคนยกถาดน้�ำปานะ เช่น น้�ำมะตูม
นำ�้ มะขาม นำ�้ ใบเตยนำ� ไปเสริ ์ฟใหจ้ นถงึ ท่ี
คืนน้ีเป็นคืนแรกที่มิได้เสด็จพระราชด�ำเนิน แต่สมเด็จพระญาณสังวรท่านมาฟังสวด
พระอภิธรรมด้วย ท่านเพิ่งกลับมาจากอเมริกา เสร็จการสวดอภิธรรมแล้ว ท่านก็ต้องรีบกลับไป
พกั ผอ่ น ทราบวา่ ทา่ นพระอาจารย์สวุ จั น์ สุวโจ จะเทศน์ทก่ี ฏุ ิท่านพระคร.ู .. จึงมาฟังกนั เตม็ หลังจาก
ฟังเทศนแ์ ลว้ ก็มีผเู้ สนอขอให้ทา่ นอาจารย์นำ� ภาวนาในคนื นี้ ท่านอาจารย์ก็เมตตารับนิมนต์
เวลาประมาณ ๐๑.๓๐ น. สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ เสด็จออกจากพระราชวงั
เมื่อรถพระท่ีนง่ั จอดเทยี บหน้าศาลาตสิ สเถระ เป็นเวลา ๐๑.๔๕ น. เปน็ การเสด็จสว่ นพระองคโ์ ดยแท้
ไมม่ ีผใู้ ดตามเสดจ็ ได้ทนั นอกจากนางสนองพระโอษฐ์ ๒ ทา่ น คอื ทา่ นผหู้ ญิงเกนหลง สนิทวงศ์ และ
คณุ หญิงสุวรี เทพาค�ำ อีกครู่หนง่ึ จึงมีรถตามเสดจ็ มาทันอกี คันหน่ึง
เม่ือเสด็จพระราชด�ำเนินมาถึง ได้เสด็จไปทรงกราบพระประธานแล้วมาทรงกราบคารวะศพ
ทอดพระเนตรเหน็ ทา่ นอาจารยส์ ุวัจนเ์ ปน็ ประธานสงฆ์ทร่ี ับเสด็จ ก็เสดจ็ มาทรงกราบและมพี ระราช–
ปฏิสนั ถาร เมื่อทรงทราบวา่ ท่านอาจารย์ก�ำลงั จะน�ำพวกลูกศษิ ยภ์ าวนาถวายกุศลท่านคณาจารย์เป็น
ปฏบิ ตั บิ ชู า สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถก็มีพระราชด�ำรสั ว่า “ทรงปรารถนาจะขอรว่ ม
ปฏิบตั ภิ าวนาดว้ ย”
ทรงสวดมนต์พร้อมกับประชาชน เสร็จจากสวดมนต์แล้วพระราชทานพระราชานุญาตให้
บรรดาศิษย์ปฏิบัติภาวนาไปตามปกติ ไม่ต้องพะวงห่วงเรื่องจะคอยส่งเสด็จ “ถึงเวลาก็จะกลับเอง
ภาวนาไปตามสบาย”
ประทบั รว่ มในการท�ำจิตตภาวนา จนเกือบ ๓ นาฬิกา จงึ เสดจ็ พระราชด�ำเนินกลับ
• วนั อาทิตยท์ ่ี ๔ พฤษภาคม ๒๕๒๓
ระหวา่ งน้ี มศี ิษยห์ ลายคณะ ทง้ั บรรพชิตและฆราวาสปรึกษากนั เร่ืองทีท่ ่านอาจารยจ์ วนเคย
สง่ั ไว้เปน็ ปกตธิ รรมดาว่า “ถา้ อาตมาตายกใ็ หเ้ ผาภายใน ๗ วัน” จึงคิดกันวา่ เพ่ือเคารพค�ำส่ังของ
ครูบาอาจารย์ ศิษย์จึงควรปฏบิ ัติตามคำ� สั่งของทา่ นโดยเคร่งครัด แตเ่ มือ่ การศพอยใู่ นพระบรมราชา–
นเุ คราะห์ สมควรจะกราบบังคมทลู เป็นการภายใน ขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าต ถวายเพลิงศพ
ท่านภายในก�ำหนดน้นั ความจริงศิษย์จ�ำนวนหน่งึ ท่ีเคยตดิ ตามท่านมาแต่สมัยดงหม้อทอง ถ�้ำจนั ทน์
ถำ�้ บชู า พากนั กลบั วดั ไปเตรยี มหาไม้จันทนห์ อมส�ำหรบั การถวายเพลงิ ไวแ้ ล้วด้วยซ�้ำ เพราะเช่อื ว่าจะ
ตอ้ งถวายเพลงิ เร็วแน่ ปรกึ ษาเครอื ญาตขิ องทา่ นแล้ว ไมข่ ัดข้อง บังเอญิ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรม–
ราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ให้คุณหญิงสุวรี โทรศัพท์มาถามข่าวที่วัด เป็นพระมหากรุณาธิคุณ
354
อยา่ งสุดจะกล่าว แม้ไม่ว่างจากพระราชภารกิจในงานพระราชพิธีฉัตรมงคล ก็ทรงระลึกถึงงานศพ
ทา่ นอาจารยท์ กุ องค์ จึงได้โอกาสเรยี นคณุ หญิงสวุ รเี รื่องน้ี เข้าใจว่าคงจะประทับอยู่ใกล้เคร่ืองโทรศัพท์
คณุ หญิงจงึ สามารถอญั เชญิ พระราชกระแสด�ำรัสมาทนั ที
– ถ้านบั ๗ วัน น่ีกจ็ ะเกินแล้ว
ไดข้ อใหก้ ราบบังคมทลู ว่า “คณะศษิ ยแ์ ละญาตจิ ะขอนบั กำ� หนดเวลา ๗ วนั เมอ่ื เสรจ็ งานจาก
กรงุ เทพฯ แล้ว” หมายความว่า การในพระบรมราชานเุ คราะห์ ๗ วัน และการสวดต่อท่กี รงุ เทพฯ อีก
๒ วัน เป็นเรอ่ื งนอกเหนอื การดำ� เนนิ งานของทางหมศู่ ิษย์
มีพระราชด�ำรสั ถามตอ่ ไปวา่ “ท�ำไมจะขอเผาแตเ่ ฉพาะท่านอาจารย์จวน ? ท�ำไมทา่ นอาจารย์
วันจงึ ยงั ไมต่ ้องเผา ?”
เรยี นคณุ หญงิ สวุ รี ใหก้ ราบบงั คมทลู วา่ “ทา่ นอาจารย์จวนเคยสงั่ พระ สั่งลกู ศษิ ย์ไวห้ ลายครง้ั
แต่ท่านอาจารย์วันไม่ได้ส่ังไว้ ทราบว่า ประชาชนทางสกลนคร ก็คิดจะรักษาศพท่านไว้เพื่อความ
อบอนุ่ ใจประมาณ ๑ ปี
รบั สั่งถามวา่ “ลูกศิษย์ทางท่านอาจารย์จวนไม่ตอ้ งการเช่นนั้นบ้างหรอื ?”
กราบบังคมทลู วา่ “ลูกศษิ ยโ์ ดยเฉพาะทางกรงุ เทพฯ กต็ อ้ งการเชน่ นั้น แต่ไม่มใี ครคดิ กลา้ ขัด
ค�ำสง่ั ของท่าน”
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชด�ำรัสว่า “เรื่องน้ีต้องกราบบังคมทูล
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั กอ่ น ไมท่ ราบวา่ จะทรงมพี ระราชวนิ จิ ฉยั ประการใด ขอใหร้ อฟงั ขา่ วกอ่ น”
ท่านพระอาจารย์เติมศักด์ิ ยุตฺตติธมฺโม ได้เมตตาเล่าเรื่องทางวัดได้เตรียมประชุมเพลิงศพ
ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโ ไว้ดังน้ี
“อาจารย์แยง พวกลกู ศิษย์ทางภทู อกน้ี กห็ ลวงพ่ออทุ ยั ท่านก็คดิ วา่ จะเอาไว้ไม่นาน แตท่ า่ น
ไม่รเู้ ร่ืองหรอกว่าขา้ งนอกเป็นยังไงนะ คอื ประชมุ ลูกศิษยท์ างนวี้ า่ จะเอาไวไ้ มน่ าน อยา่ งมากก็ไมเ่ กนิ
๑ เดือน ท่านกเ็ ตรียมการไวห้ มดแล้ว ห้องนง้ หอ้ งน้�ำอะไรต่างๆ ท่านเตรียมหมด พน้ื ทป่ี ะรงปะรำ�
ทา่ นเตรยี มไว้เพ่ือจะเอาไวไ้ มน่ าน คือเจตนาลกู ศษิ ยก์ รรมฐานก็จะตกลงวา่ เอายังง้ีๆ นะ แต่พอทา่ น
ลงไปทางโนน้ ทา่ นกเ็ ลยเลกิ รากัน แมจ้ ะตกลงไวก้ ็ตาม”
• วันจนั ทรท์ ี่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๒๓
วันน้เี ป็นวันพระราชพธิ ีฉัตรมงคล คนื นีส้ มเด็จพระสงั ฆราชทรงเป็นเจา้ ภาพ
จนหนึง่ นาฬกิ าเศษ คณุ หญิงสวุ รี จึงอญั เชญิ พระราชเสาวนีย์เรอื่ งขอพระราชทานพระบรม–
ราชานญุ าตจัดงานพระราชทานเพลิงศพทา่ นอาจารยม์ าให้ทราบ มรี ับส่งั ว่า
355
“ได้กราบบงั คมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั แล้ว มพี ระราชด�ำรัสวา่ ที่ทา่ นอาจารยส์ ั่งให้
เผาภายใน ๗ วันน้ัน ทา่ นส่งั พระและสั่งลูกศษิ ย์ ไมไ่ ด้สง่ั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ฉะนัน้ ทา่ น
ขอรับผดิ ชอบ ขออยา่ เพงิ่ จดั การเผา ถา้ จัดตอนน้ี ไมท่ รงว่าง จะไปร่วมด้วยไมไ่ ด้ ขอใหเ้ ลื่อนไปก่อน
ถ้ารอไปจนถึงเดอื นพฤศจิกายนจะได้ไปร่วมงานกับประชาชนด้วย”
นกึ ถึงค�ำของทา่ นอาจารย์ ทีเ่ คยสอนใหพ้ วกลูกศิษย์มแี ต่ความอ่อนนอ้ มถ่อมตวั ละ “มานะ”
ท่านเคยเปรยเสมอว่า “ตน้ ไม้ยง่ิ สงู ยิง่ ใหญ่ ย่ิงค้อมยอดลงดิน”
• วันอังคารที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๒๓
วันนเ้ี ป็นวันที่ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสลู านนท์ นายกรฐั มนตรี และคณะเป็นเจ้าภาพงานศพ
และเป็นคนื สุดท้าย
• วนั พธุ ท่ี ๗ พฤษภาคม ๒๕๒๓
ทา่ นพระอาจารย์เตมิ ศักดิ์ ยุตฺตติธมโฺ ม ได้เมตตาเล่าเรอื่ งการเตรยี มรบั ศพดงั น้ี
“พอไดเ้ วลาเชา้ มดื เขาจะเคล่อื นศพ เขาเคลื่อนศพออกมาแต่เชา้ ลกู ศิษยล์ ูกหากเ็ ตรยี ม พวกที่
นั่งรถทวั รเ์ ขาล่วงหน้ามาก่อน เพราะว่าเราจะมาพร้อมขบวนมันก็ยาวเกินไป พวกนีก้ ็ตามกันมา แต่
หางกย็ งั ยาวอยู่นะ มาเร่ือยๆ จะมาฉันทโี่ คราช หลวงป่พู ุธนกี่ ็เอาขา้ วห่อมาแจกเลย คือมาเทา่ ไหร่
ไมอ่ ั้น ทา่ นวา่ มเี ลยี้ ง ทา่ นก็มาถึงท่ีปั๊มน�้ำมันเอสโซใ่ หญ่ คอื จอดตรงน้ัน จอดเติมน้�ำมันพร้อม คณุ กมิ กา่ ย
กร็ ถทุกคันเตมิ น้�ำมนั ใหฟ้ รี
ปมั๊ เอสโซ่สมยั น้ันใหญ่ทส่ี ดุ ในโคราช แล้วมนั ลานกวา้ ง ลกู ศษิ ยล์ กู หาจอดรถไดต้ รงนนั้ แล้วก็
ขา้ วหอ่ มาเตรยี มแจก พอรถจอดปุ๊บ โอโ้ ห ! เตรยี มขา้ วหอ่ ไว้เพียบเลย พระทา่ นกฉ็ ันเชา้ อย่ทู ่นี ั่น กม็ า
ถึงน่ันมนั สวา่ งประมาณ ๘ โมง เพราะรถมันมีทหารนำ� ทาง ไม่ชา้ นกั วง่ิ ไดเ้ ร็ว มาถงึ วัดโพธสิ มภรณ์
อดุ รฯ ประมาณบ่ายโมง เร็วนะ มีรถขบวนน�ำมา
ระหว่างทางมาก็ราบร่ืนไม่มีอุปสรรคขัดข้องอะไร บรรยากาศก็ธรรมดา ท้องฟ้าโปร่ง มา
เรอื่ ยๆ ไดเ้ ร่ือยๆ มาถงึ สเู่ ปา้ หมายกม็ นี ดิ หน่อย ช่วงอยู่ทางเลยขอนแก่นมา มวี วั วิง่ ตดั ถนน ตดั หน้ารถ
แป๊บเดยี วเขาก็แกไ้ ขปัญหาได้ เสรจ็ แลว้ ก็มาถึงน�้ำพอง นภรเขาเป็นลกู ศิษย์หลวงปู่สงิ หท์ อง เขาก็มา
ถวายเคร่ืองสกั การะเอาหรีดมาถวายทา่ นท่รี ถศพหลวงปู่สงิ ห์ทอง เขาหยดุ ใหน้ ภร รถทกุ คันกต็ อ้ งหยดุ
พอถงึ อดุ รธานี ผู้วา่ ฯ อดุ รธานี ท่านร้กู ็เกณฑป์ ระชาชนไปตั้งตง๊ ตัง้ เต็นท์ทำ� ท่ีรับ โรงทานก็เพียบ
ท่ีวัดโพธิสมภรณ์ ครูบาอาจารยก์ เ็ ตรยี มรับทางนี้ วัดตา่ งๆ ก็เตรียมรับ ไปรับท่นี น่ั ลูกศิษยล์ ูกหาก็ไป
เตรยี มรับท่นี ัน่ ทไี่ ม่ไดไ้ ปนะ ทไี่ ปจากโน่น ที่ลงไปรับก็แค่นงั่ รถตามพวกมูลนิธิมา คอื ทางมลู นธิ ติ า่ งๆ
เขากม็ าคยุ กัน ทางคุณหมอปญั ญาว่าครบู าอาจารยท์ ้ังหมดไม่เปน็ ไร ผมรับผดิ ชอบ หลวงปู่วนั นีเ่ อา
356
รถผม นอกนน้ั ก็เอาโรงพยาบาลต่างๆ มีรถต้นู ะ รถส่งศพ ไมต่ อ้ งเปน็ ห่วง มลี ูกศษิ ย์นั่งหนา้ คนหนง่ึ
เอาเป็นพระนั่งหน้ากับคนขับ น่ังหน้าจะเอาใครลูกศิษย์ ครูบาอาจารย์เห็นสมควรใคร ท่ีลูกศิษย์
พอ่ แมค่ รูบาอาจารยอ์ ยกู่ ับทา่ น
ทางผวู้ า่ ฯ สกลนคร เตรยี มรับ อยา่ งสวา่ งฯ นะ เขากเ็ ตรียมรับเป็นล�ำดบั วนั เสารน์ ้ีเยอะมาก
ครบู าอาจารย์ หลวงปู่วัน หลวงปสู่ ิงห์ทอง หลวงปู่สุพฒั น์ ๓ องค์ ผวู้ า่ ฯ สกลนคร สมัยน้ันเตรยี มรับ
เขาเป็นลกู ศษิ ยบ์ า้ นตาด เขาก็เป็นคนศรสี ะเกษ เขาไปไหวเ้ สียก่อน ครบู าอาจารย์บ้านตาดนะ เขาก็
เตรยี มรับทน่ี ี่ ครบู าอาจารย์ก็เตรยี มรบั เตม็ ท่ี อย่างหลวงปวู่ ันทา่ นเป็นพระราชาคณะ ลูกศษิ ยเ์ ขาก็
เตรียมรับ ทา่ นกก็ �ำลงั จะดังมาก กำ� ลงั ขึ้น ดังมาก ดงั กว่าเพื่อนคอื หลวงปู่วัน
บรรยากาศทวี่ ดั โพธสิ มภรณ์ โอโ้ ห ! ประชาชนแนน่ เลย เตม็ วดั เตม็ เลย มาเตม็ เพยี บเลย โรงทาน
ถา้ เปน็ ทกุ วนั นยี้ งิ่ แนน่ กวา่ น้ี สมยั นน้ั การสอ่ื สารกย็ งั ไมท่ นั สมยั ครบู าอาจารยท์ มี่ าหลกั ๆ คอื ใกลๆ้ แถวๆ
นน้ั มาหมด มาตอ้ นรบั เห็นหมดนะ เวลาเตรียมทใี่ ห้อาจารย์องคน์ ๆ้ี เขาต้ังเรยี งเลยตามล�ำดับพรรษา
ต้ังศพไว้ให้ญาติโยมมาคารวะประมาณ ๒ ชั่วโมง แล้วเคลื่อนต่อ เขาก็ประกาศว่า ต่อไปน้จี ะไดเ้ คลือ่ น
ไปตามจังหวัดท่ีท่านอยู่ ท่ีหนองคายก็จะมาพักที่วัดศรีเมืองคืนหนึ่ง ก่อนจะเคล่ือนไปโน้นไกล
ท่านเจา้ คณุ ธรรมไตรโลกาจารย์ท่านกม็ ารับทีน่ เ่ี ลย
ตอนท่ีศพใกลจ้ วนจะออกจากวดั โพธิสมภรณ์ ลมซัดพดั เอาเตน็ ท์พังเลยนะ ลมแรง เตน็ ท์พงั
เลยน่ะ โห ! พายุมา ลม เตน็ ท์พงั เลย แป๊บเดียวแลว้ กไ็ ปๆ เกดิ พายุ คือลมมามันแรงกระชากเต็นทพ์ งั
มนั ก็เปน็ เร่ืองธรรมชาติ คอื เราจะไปว่าดีไม่ดี ก็ไมน่ า่ วิจารณ์ พอลมแรง มนั กค็ รึ้มฟ้าครม้ึ ฝนจะมานะ
ลมกระชากกพ็ ังไป
ตอนเคลอ่ื นศพ อาตมานงั่ หน้าคู่คนขับรถเคลอื่ นศพ เป็นรถตูข้ องโรงพยาบาลสมติ เิ วช นัง่ ต้งั แต่
จากกรงุ เทพฯ มาถงึ ภทู อก พอมาถงึ หนองคาย รถตู้เขาก็ส่งที่นน่ั เขาก็กลับไปแลว้ เขาก็เปล่ียนเอา
หลวงปู่จวนข้ึนไปที่เขาก�ำหนดไว้ เขาไปอยู่ท่ีซุ้มแต่งก่อน ไปอยู่เต็นท์ท่ีทางโบสถ์ ประชาชนก็มา
กราบคารวะหนึง่ คนื ทางวดั ได้จดั บำ� เพ็ญกศุ ลถวายหลวงปูน่ ะ โดยท่านเจ้าคณุ ธรรมไตรโลกาจารย์
เจา้ คณะภาค ๙ เป็นประธานฝา่ ยสงฆ์ และทา่ นผู้ว่าราชการจงั หวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
คืนน้ันก็มพี วกขา้ ราชการ ทหาร ต�ำรวจ พอ่ ค้า ประชาชน มาคารวะศพกันแนน่ เลย”
อนง่ึ วนั ท่ี ๗ พฤษภาคม ๒๕๒๓ เวลา ๑๖.๔๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเดจ็ –
พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ และสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ
พระราชดำ� เนินโดยรถยนตพ์ ระท่ีน่งั พร้อมดว้ ยสมเดจ็ พระเจ้าลกู เธอ เจา้ ฟ้าจฬุ าภรณวลัยลักษณ์ และ
พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จ้าโสมสวลี พระวรชายา จากพระตำ� หนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต
ไปพระราชทานเพลิงศพ คณุ หญงิ ไขศรี ณ ศลี วันต์ ต.จ., ป.ม. ณ เมรวุ ัดพระศรมี หาธาตุ
357
หมายเหตุ ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมไตรโลกาจารย์ ทา่ นขอใหต้ ง้ั ศพทา่ นพระอาจารยจ์ วนทวี่ ดั ศรเี มอื ง
๕ คนื แต่คณะสงฆแ์ ละลูกศษิ ย์ทางวัดเจตยิ าคิรีวิหาร ตา่ งไม่ยินยอม จึงตัง้ ศพเพียง ๑ คนื
• วันพฤหสั บดีท่ี ๘ พฤษภาคม ๒๕๒๓
ทา่ นพระอาจารยเ์ ติมศกั ด์ิ ยตุ ตฺ ติธมโฺ ม ไดเ้ มตตาเลา่ การเคลื่อนศพส่ภู ูทอกไวด้ งั น้ี
“พอเช้าฉนั เสร็จแลว้ ก็ออกเดนิ ทาง เอาขึน้ รถ ๖ ลอ้ ของคณุ กิมกา่ ย สมัยนัน้ ยังไมม่ รี ถ ๑๐ ล้อ
คุณกิมก่ายเอาข้นึ รถ ๖ ล้อ ก็ไปแวะภูกระแตก่อน แล้วหยุดทนี่ าสะแบง หยดุ ให้เขาคารวะ อาตมาก็
น่ังหน้า และมที า่ นอาจารยแ์ สวง อมโร วดั ป่าชัยวารนิ ทร์ อ�ำเภอบา้ นไผ่ จงั หวดั ขอนแก่น ทา่ นนง่ั มา
ด้วยกัน ทา่ นยังมชี ีวติ อยนู่ ะ ทา่ นเคยมาจ�ำพรรษาทภี่ ทู อกนะ”
ขบวนศพเคลื่อนออกจากวดั ศรเี มอื ง เมอ่ื เวลา ๐๙.๐๐ น. ไปตามถนนสายหนองคาย – บงึ กาฬ
เมอ่ื ผา่ นหมู่บ้านจะหยดุ รถให้ประชาชน ๒ ข้างทางเคารพศพกันเปน็ ระยะๆ เชน่ ทีป่ ากคาด โซพ่ ิสัย
โพนพิสัย เปน็ ตน้ บางทรี ถว่งิ เรว็ จะมคี นถือดอกไม้ธูปเทียนวิ่งออกมาจากหมู่บา้ น ออกมาโบกมือให้
รถหยดุ ขอทำ� ความเคารพ บ้างกข็ อถวายผกั ผลไม้ พืชผลทป่ี ลกู ขอรว่ มไปท�ำบุญดว้ ย
ประมาณ ๑๑.๑๕ นาฬิกา ขบวนมาถงึ วดั ป่าสามัคคีอุปถมั ภ์ อ�ำเภอบึงกาฬ เพื่อพกั รถและให้
พระจากจังหวัดได้ฉันเพล ปรากฏว่ามีพระสงฆ์และประชาชนมาคอยกันเนืองแน่น บริเวณวัดป่าที่
กว้างขวางดูแคบไปถนัดใจ จากน้ันรถก็ออกมุ่งไปในเส้นทางบึงกาฬ – พังโคน ๒ ข้างทางท่ีผ่าน
มีชาวบ้านและนกั เรียนถอื ดอกไม้ธูปเทียน นัง่ หมอบกราบกนั เปน็ แถว ทกุ คนน่ังสงบอยา่ งไมค่ �ำนึงถงึ
แสงแดดท่ีแผดรอ้ น เพราะนยั นต์ าของทุกคนดูจะผา่ วรอ้ นไปด้วยความเคารพรักและอาลยั มากกว่า
พอรถเลยี้ วเขา้ ปากทางแยกเขา้ หมบู่ า้ นศรวี ไิ ล ซงึ่ ทา่ นอาจารยเ์ คยมาโปรดชาวบา้ นอยา่ งใกลช้ ดิ
ขบวนต้องหยุดจอดนานกวา่ ปกติ ดว้ ยมีการจดั ทำ� ซมุ้ ต้อนรับ โดยมีชาวบ้านและนกั เรยี นตง้ั แถวรับ
๒ ขา้ งทางแน่น ทกุ คนกราบแล้วก็กรูกนั มาขอแตะขอจบั หีบศพ บา้ งก็ขอน�ำนำ้� หอมมาสรง พอรถ
จะจากไป มีคนจากทางบ้านพรเจริญว่ิงกันมาเป็นกลุ่มใหญ่ ได้ความว่าขบวนมาเร็วกว่าก�ำหนดเกือบ
ครึ่งช่ัวโมง เจา้ หน้าที่ทางส�ำนักพระราชวงั จึงให้หยดุ รถรอ ทที่ ุกคนต้องเบือนหน้าหนอี ยา่ งสะเทอื นใจ
กค็ ือ พ่อเฒ่า แม่แก่ ท่ีถอื ดอกไม้ธปู เทยี น งกๆ เง่นิ ๆ จะมาขอสรงน้�ำให้ทัน น�้ำตาไหลอาบหนา้
อันเห่ยี วย่นนน้ั และรำ� พนั ว่า
“เพิน่ (ท่าน) ไปแล้วจริงๆ นอ้ จะใหเ้ พ่ินเผาคะนอ้ ย (ขา้ น้อย) ก็ไมม่ แี ล้ว”
พ่อแม่ลูกบางบ้าน นั่งพนมมืออยู่บนชานเรือน เด็กตัวน้อยเพิ่งสอนเดิน ยังรู้จักวางชามข้าว
ยกมือขึ้นพนมเหนอื หัวโดยไม่ต้องใหใ้ ครสอน
358
ทุกแหง่ เหมือนกันหมด ไมว่ ่าจะเปน็ บ้านไหนต�ำบลใด บา้ นศรวี ิไล บา้ นนาทราย บ้านนาสงิ ห์
บา้ นชมภพู าน บ้านนาสะแบง ทุกแหง่ เม่อื ถงึ ปากทางเข้าหมบู่ ้านจะตั้งซุ้มบูชา ๒ ข้างทางตงั้ โตะ๊ หมบู่ ชู า
ทกุ คนมดี อกไมธ้ ปู เทยี นอย่ใู นมอื พนมไวแ้ ค่อก บางแห่งทส่ี ะดวกกจ็ ะนั่งหมอบกราบแสดงความเคารพ
อยา่ งสงู สดุ ถา้ รถจอดก็จะว่งิ กรกู ันเขา้ มาขอสรงน้�ำ บา้ งก็ขอลูบคล�ำหบี ศพอย่างไม่ยอมจะเช่ือวา่ เป็น
ความจรงิ ทั้งพ่อเฒา่ แมแ่ ก่ ทัง้ เด็ก ทัง้ ผใู้ หญ่ ทั้งหญงิ ทั้งชาย น�้ำตาไหลกันอย่างไมอ่ ับอายกัน
ย่งิ ใกลจ้ ะถึงภูทอก รถกย็ งิ่ ต้องเคลื่อนชา้ มากขึ้น พอรถผ่านตัวไป ชาวบา้ นทุกคนก็จะวิง่ กรู
ตามขบวนกนั มาที่วดั ท่บี ้านนาคำ� แคนนำ� รปู ท่านอาจารย์ก�ำลังเดนิ นำ� แทรกเตอร์กรยุ ทางท�ำฝายมา
ขยายใหญ่ คงด้วยความเคารพอาลยั นึกถงึ การน�ำชาวบ้านท�ำฝายและอ่างเก็บน้�ำ ช่วยชาวบา้ นและ
โรงเรียนนัน่ เอง
ในที่สุดรถกม็ าถงึ ภทู อก !
ทา่ นปลดั จงั หวดั เปน็ ผเู้ ชญิ รปู ทา่ นลงจากรถ ทา่ นพระอาจารยส์ อน อตุ ตฺ รปญโฺ ทา่ นพระคร–ู
สิริธรรมวฒั น์ (หลวงปทู่ องพลู สริ ิกาโม) เจ้าคณะอ�ำเภอบึงกาฬ (ธรรมยตุ ) น�ำศพขน้ึ ศาลา ท่ามกลาง
ชาวบ้านจากภูวัว สะแนน ถ้�ำพระ ถ้�ำบูชา บ้านดอนเสียด บ้านโสกก่าม บ้านแพง บ้านค�ำภู
บา้ นทงุ่ ทรายจก ฯลฯ ท่ีมารอกนั อย่างคบั คั่ง แน่นอัดแอกันไปทั้งบริเวณ
ทา่ นพระอาจารยจ์ วน กลุ เชฏฺโ ไดก้ ลบั มาถึงวดั เจติยาคิรีวิหารของท่านแลว้
โดยทางวดั เจตยิ าคริ ีวหิ าร ได้จดั เตรียมศาลาหลงั เกา่ เพ่อื เปน็ สถานทีต่ งั้ ศพ ปัจจบุ ันศาลาหลังน้ี
ซึง่ ทำ� จากไมไ้ ดผ้ พุ ังตามกาลเวลา ต่อมาได้รื้อถอนและใช้เปน็ สถานท่สี รา้ งอาคารศาลาเฉลมิ พระเกยี รติ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวาระท่ที รงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา
ประมวลเหตุการณ์ พระคณาจารย์ ๕ รูปที่มรณภาพพร้อมกันด้วยเหตุเครื่องบินตก
เรียบเรยี งมาจาก : หนงั สอื อนสุ รณง์ านพระราชทานเพลงิ ศพ พระอดุ มสังวรวสิ ุทธิเถร
(พระอาจารยว์ นั อตุ ตฺ โม) วันท่ี ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๔
พ.ศ. ๒๕๒๓ เดือนเมษายน พระคณาจารย์ ๕ รูป อนั ไดแ้ ก่ ท่านพระอาจารย์วนั อุตฺตโม
ท่านพระอาจารย์บุญมา ติ เปโม ทา่ นพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฺ ทา่ นพระอาจารยส์ ิงห์ทอง
ธมฺมวโร และ ท่านพระอาจารย์สพุ ฒั น์ สขุ กาโม ได้รับอาราธนานมิ นต์ทางกรุงเทพมหานคร จงึ ได้
รวมกันท่ีจังหวัดอุดรธานี เพ่ือข้ึนเคร่ืองบิน เพราะลูกศิษย์ต้องการถวายความสะดวกและรวดเร็ว
ในการเดินทางได้ข้นึ เครอื่ งบินท่ีอุดรธานี เมื่อวนั อาทิตยท์ ี่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ เมอ่ื เครือ่ งบิน
มาถึงเขตจงั หวดั ปทุมธานี อำ� เภอคลองหลวง เหลือระยะทางประมาณ ๒๐ กิโลเมตรเศษ เครอ่ื งบิน
ได้ตั้งล�ำและลดเพดานบินเพื่อเตรียมลงสู่สนามบินดอนเมือง แต่เนื่องจากเคร่ืองบินได้ประสบพายุ
หมุนและประกอบกับฝนตกหนัก เคร่ืองบินจึงเสียหลักตกลงที่ท้องนาเขตอ�ำเภอคลองหลวง จังหวัด
359
ปทุมธานี พระคณาจารยท์ ัง้ หลายจึงถึงแก่มรณภาพพรอ้ มดว้ ยผโู้ ดยสารอกี เป็นจ�ำนวนมาก
ผทู้ ี่รอดชวี ิตเป็นผทู้ ่ีน่งั ทางสว่ นหางของเคร่ืองบิน เพราะสว่ นหางของเครอื่ งบินยังอยูใ่ นสภาพดี
เมอ่ื พระคณาจารย์ถงึ แก่มรณภาพแลว้ จงึ นำ� ศพไปตกแต่งบาดแผลท่โี รงพยาบาลภมู ิพลอดุลยเดช และ
น�ำศพไปต้งั บำ� เพ็ญกศุ ลที่ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน โดยอยใู่ นพระบรมราชานุเคราะห์ทัง้ ๗ วัน
วันแรกพระราชทานหีบทองทึบ วันตอ่ มา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถรับส่ังให้
เปลยี่ นใหม่ เพราะทรงเหน็ วา่ ไมส่ วยงาม จึงไดเ้ ปลี่ยนเป็นหีบลายทอง
ศพพระคณาจารย์ทต่ี ั้งบ�ำเพญ็ กศุ ลทีว่ ัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพมหานคร
หลงั จาก ๗ วนั แลว้ ในวนั ท่ี ๕ พฤษภาคม สมเด็จพระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปริณายก
วัดราชบพธิ สถิตมหาสีมาราม ทรงเป็นเจ้าภาพ วนั ท่ี ๖ พฤษภาคม คณะรัฐบาลซง่ึ มี พลเอกเปรม
ตณิ สูลานนท์ นายกรฐั มนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะศิษยท์ ี่อยูใ่ นกรุงเทพมหานคร เปน็ เจา้ ภาพ
นับว่าเป็นเกียรติประวัติแก่พระคณาจารย์ที่จากไปอย่างยิ่งยวด ยังความปลื้มปิติยินดีแก่ญาติ เพ่ือน
สหธรรมิก ลกู ศษิ ย์ของพระคณาจารย์อยา่ งหาท่สี ุดมิได้
เมอื่ ครบกำ� หนดการบำ� เพ็ญกุศลอุทิศถวายท่วี ัดพระศรมี หาธาตุ บางเขน แลว้ ก็ไดอ้ ญั เชญิ ศพ
พระคณาจารย์กลบั สู่ยังวดั เดมิ โดยทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้หัวหนา้ แผนกพระราชพิธีเปน็ ผู้ดแู ล
โดยตลอด
ส�ำหรับรถยนตท์ ่ีเชิญศพพระคณาจารยต์ ่างๆ คณุ หมอปัญญา ส่งสมั พันธ์ แห่งโรงพยาบาล
แพทย์ปัญญา เป็นผจู้ ดั หา และไดร้ บั ความร่วมมือจากโรงพยาบาลต่างๆ เปน็ อย่างดียงิ่ รถพยาบาล
หลายคันจากโรงพยาบาลในกรงุ เทพฯ เชญิ ศพพระคณาจารยต์ ่างๆ เดนิ ทางจากวัดพระศรีมหาธาตุ
บางเขน ไปถงึ วดั โพธิสมภรณ์ จงั หวดั อุดรธานี บรรดาพระภิกษุสามเณรและประชาชนไปคอยเคารพ
ศพอยู่อย่างคับค่ัง ตลอดทางเข้าวัดถ้�ำอภัยด�ำรงธรรม ชาวบ้านสองข้างทางต่างก็จัดท�ำซุ้มสักการะ
เม่ือขบวนศพท่านพระอาจารยว์ ันผ่านเข้าไป
วันพธุ ที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ เวลา ๐๔.๐๐ น. รถเชิญศพไดเ้ คลือ่ นออกจากวัดพระศร–ี
มหาธาตุ เขตบางเขน กรงุ เทพมหานคร โดยมรี ถตำ� รวจทางหลวงนำ� ถดั มาเปน็ รถหลวง รถครบู าอาจารย์
และรถเชิญศพพระอาจารยต์ า่ งๆ ตามลำ� ดบั เวลา ๐๗.๐๐ น. เศษ ขบวนเชญิ ศพถงึ จงั หวัดนครราชสมี า
มพี ระภกิ ษุสามเณร ซึ่งมีพระชนิ วงศาจารย์ พระครูคณุ สารสัมบัน พรอ้ มดว้ ยอบุ าสก อุบาสิกา ไดน้ �ำ
ขา้ วหอ่ มาตอ้ นรับคณะเชิญศพ และมาเคารพศพเปน็ จำ� นวนมาก
หลังจากพระฉนั อาหารและเจ้าหนา้ ทีร่ ับประทานอาหารเสรจ็ แลว้ ขบวนเชญิ ศพไดอ้ อกเดนิ ทาง
ต่อไปถึงวัดโพธสิ มภรณ์ จงั หวัดอุดรธานี เมือ่ เวลา ๑๒.๓๐ น. ทางวัดโพธสิ มภรณ์และชาวจงั หวัด
อุดรธานี ได้จัดตอ้ นรบั เป็นอย่างดี ผวู้ ่าราชการจงั หวัดอดุ รธานี ได้น�ำประชาชนหลายจังหวดั มารอและ
เคารพศพเสรจ็ แล้ว เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. เศษ รถเชิญศพจึงไดแ้ ยกยา้ ยกันไปยังวัดต่างๆ
360
ส�ำหรับศพท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ได้ไปถึงวัดถ้�ำอภัยด�ำรงธรรม (วัดถ�้ำพวง) ต�ำบล
ปทมุ วาปี อำ� เภอส่องดาว จังหวดั สกลนคร เมอื่ เวลา ๑๗.๐๐ น.
ศพของท่านพระอาจารยบ์ ญุ มา ติ เปโม ตัง้ บ�ำเพ็ญกศุ ลที่วัดสิรสิ าลวนั บา้ นโนนทนั ตำ� บล
โนนทัน อ�ำเภอเมือง จงั หวดั หนองบวั ลำ� ภู
ศพของท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโ ตัง้ บ�ำเพ็ญกุศลที่วัดเจติยาคริ วี ิหาร (วัดภทู อก) ตำ� บล
นาแสง อ�ำเภอศรีวิไล จังหวดั หนองคาย (ปจั จุบนั ขนึ้ กับจังหวัดบึงกาฬ)
ศพของท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ตั้งบ�ำเพ็ญกุศลที่วัดป่าแก้วชุมพล ต�ำบลค้อใต้
อำ� เภอสว่างแดนดนิ จังหวัดสกลนคร
ส่วนศพของท่านพระอาจารย์สพุ ัฒน์ สุขกาโม น�ำไปต้ังบ�ำเพ็ญกศุ ลทีว่ ดั ป่าประสิทธิส์ ามคั คี
บา้ นตา้ ย ตำ� บลบ้านต้าย อ�ำเภอสวา่ งแดนดิน จงั หวัดสกลนคร
นบั ว่าการเชิญศพถงึ วดั ได้รับความสะดวกสบายปลอดภยั ทุกประการ
งานพระราชทานเพลิงศพ ท่านพระอาจารยส์ พุ ฒั น์ สุขกาโม นั้น จัดขน้ึ เมอื่ วันอาทติ ยท์ ่ี
๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ โดยไดร้ ับพระราชทานเพลิงก่อนท่านพระอาจารย์สงิ หท์ อง ธมมฺ วโร
ซึง่ จัดขน้ึ ในวนั เสารท์ ่ี ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ ซึ่งทั้งสองงานมี ท่านอาจารยพ์ ระมหาบัว
าณสมปฺ นฺโน เมตตาเปน็ องคป์ ระธาน ซ่งึ งานพระราชทานเพลงิ เรยี บร้อยลลุ ่วงไปดว้ ยดี
ส�ำหรับท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม น้ัน เมื่อเชิญศพไปถึงวัดแล้วได้ต้ังบ�ำเพ็ญกุศลอุทิศ
ถวาย โดยมผี ู้วา่ ราชการจงั หวัดสกลนคร เป็นเจ้าภาพ ตอ่ จากน้นั กม็ หี นว่ ยงานตา่ งๆ รบั เปน็ เจ้าภาพ
ติดต่อมาอีกหลายราย ประชาชนทั้งใกล้และไกลได้มาคารวะศพและเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม
จนถงึ ปญั ญาสมวาร (๕๐ วนั ) และศตมวาร (๑๐๐ วัน) โดยอยูใ่ นพระบรมราชานเุ คราะหพ์ ระบาท–
สมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว ซ่งึ ไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหผ้ ้แู ทนพระองคไ์ ปเป็นประธาน นบั ว่าเปน็
มหากรณุ าธคิ ณุ หาที่สุดมไิ ด้ หลงั จาก ๑๐๐ วันแลว้ กย็ ังเปิดใหป้ ระชาชนไดบ้ �ำเพ็ญกศุ ลเรอื่ ยมาเพือ่
สนองความต้องการของประชาชน
วันท่ี ๑๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๓ เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม–
ราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ได้เสด็จพระราชด�ำเนิน
ทรงเย่ียมคารวะศพท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม และทรงเยี่ยมประชาชนท่ีมาถวายการต้อนรับท่ี
วัดถ้�ำอภยั ด�ำรงธรรม อ�ำเภอส่องดาว เป็นการส่วนพระองค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั และสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถ เสดจ็ ฯ เป็นการ
สว่ นพระองคไ์ ปทรงนมสั การศพทา่ นพระอาจารยว์ นั อตุ ฺตโม ณ วดั ถำ้� อภยั ด�ำรงธรรม เม่อื วนั ท่ี
๒๕ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๓
361
วันท่ี ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๓ เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั
สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ พรอ้ มด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้เสด็จเย่ียมคารวะศพท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ทรงวางพวงมาลาและทรงจัดดอกไม้ถวาย
เปน็ การส่วนพระองค์
วนั เสารท์ ่ี ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๔ เวลา ๑๔.๑๐ น. พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็
พระราชดำ� เนนิ พร้อมดว้ ยสมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลยั ลักษณ์ โดยเฮลิคอปเตอรพ์ ระทนี่ ัง่
จากพระต�ำหนกั ภพู านราชนิเวศนไ์ ปพระราชทานเพลิงศพ ท่านพระอาจารย์จวน กลุ เชฏฺโ ณ เมรุ
วดั เจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) ต�ำบลนาแสง อ�ำเภอศรีวิไล จังหวดั หนองคาย (ปัจจบุ นั จังหวดั บงึ กาฬ)
คร้ันเสด็จพระราชด�ำเนินถึงบริเวณเชิงภูทอกน้อย ได้ทรงพระด�ำเนินไปยังวัดเจติยาคิรีวิหาร
เสดจ็ ขนึ้ ประทบั ณ มขุ พลบั พลา แลว้ เสดจ็ ขนึ้ เมรุ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ
พระบรมราชินีนาถ ทรงทอดผา้ ไตรและทรงวางกระทงข้าวตอกดอกไมท้ จี่ ติ กาธานขา้ งหบี ศพ จากน้นั
ทรงหยบิ ธปู เทยี น ดอกไมจ้ นั ทน์ แลว้ ทรงจดุ ไฟชนวนพระราชทานเพลงิ เสรจ็ แลว้ เสดจ็ ลงจากเมรกุ ลบั
ไปประทบั ณ มขุ พลบั พลา สมควรแกเ่ วลา จงึ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ลงจากพลบั พลา เพอื่ ทรงเยย่ี มราษฎร
ทเ่ี ฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทอยเู่ ปน็ จ�ำนวนมากในบริเวณนน้ั แล้วประทบั เฮลคิ อปเตอร์พระที่น่งั เสด็จ
พระราชด�ำเนินกลับถงึ ภพู านราชนเิ วศน์ เมอ่ื เวลา ๒๐.๐๐ น.
วันพุธที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสด็จ
พระราชด�ำเนินพรอ้ มด้วยสมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟา้ จุฬาภรณวลัยลกั ษณ์ โดยเฮลคิ อปเตอรพ์ ระท่ีน่งั
จากพระต�ำหนักภูพานราชนเิ วศนไ์ ปพระราชทานเพลงิ ศพ ท่านพระอาจารยบ์ ุญมา ติ เปโม ณ เมรุ
วดั สริ สิ าลวนั บ้านโนนทัน ต�ำบลโนนทนั อำ� เภอเมือง จงั หวัดหนองบวั ล�ำภู
เสร็จแลว้ ประทับรถยนตพ์ ระทีน่ ง่ั เสด็จพระราชด�ำเนินต่อไปยงั วัดถ้�ำกลองเพล ตำ� บลหนองบวั
อ�ำเภอหนองบัวลำ� ภู จังหวดั อุดรธานี เพ่ือทรงนมัสการ หลวงปู่ขาว อนาลโย ในการนไี้ ด้มีพระราช–
ด�ำรัสกับหลวงปู่ขาว ตลอดจนทรงถวายผ้าห่มแก่พระภิกษุด้วย สมควรแก่เวลาจึงประทับรถยนต์
พระที่น่ัง เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ กลบั ถงึ พระต�ำหนักภูพานราชนิเวศน์ เม่อื เวลา ๒๒.๑๐ น.
วนั เสาร์ท่ี ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๔ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชนิ นี าถ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�ำเนนิ พรอ้ มด้วย
สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟา้ จุฬาภรณวลยั ลกั ษณ์ โดยเฮลิคอปเตอรพ์ ระทน่ี ั่ง จากพระต�ำหนกั ภูพาน–
ราชนิเวศน์ ไปพระราชทานเพลงิ ศพ พระอุดมสงั วรวิสุทธเิ ถร (พระอาจารยว์ ัน อตุ ฺตโม) ณ เมรุ
วัดถำ�้ อภยั ด�ำรงธรรม ต�ำบลปทุมวาปี อำ� เภอสอ่ งดาว จังหวัดสกลนคร
362
ครน้ั เสดจ็ พระราชดำ� เนินถึงสนามโรงเรียนอภัยดำ� รงธรรม ณ ทีน่ น้ั สมเด็จพระบรมโอรสา–
ธริ าชฯ สยามมกุฎราชกมุ าร เฝ้าทลู ละอองธุลีพระบาทรับเสด็จพระราชด�ำเนิน
แล้วประทับรถยนต์พระท่ีน่ัง เสด็จพระราชด�ำเนินต่อไปยังวัดถ้�ำอภัยด�ำรงธรรม เสด็จขึ้น
ประทับ ณ มุขพลับพลา แลว้ เสด็จขึ้นเมรุ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินนี าถ ทรงทอดผ้าไตรและทรงวางกระทงขา้ วตอกดอกไม้ ทจี่ ิตกาธานขา้ งหีบศพ จากน้ัน
ทรงหยบิ ธูปเทียน ดอกไมจ้ นั ทน์ แลว้ ทรงจุดไฟชนวนพระราชทานเพลิง เสรจ็ แล้วเสด็จลงจากเมรุ
กลบั ไปประทบั ณ มขุ พลบั พลา สมควรแก่เวลา จงึ เสด็จลงจากมขุ พลบั พลา เพอื่ ทรงเยี่ยมราษฎรที่
เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทอยูเ่ ปน็ จำ� นวนมากในบรเิ วณนน้ั เสรจ็ แลว้ เสดจ็ พระราชด�ำเนินโดยรถยนต์
พระที่นัง่ กลับมายงั โรงเรียนอภัยดำ� รงธรรม เพือ่ ประทบั เฮลคิ อปเตอร์พระทนี่ ัง่ เสด็จพระราชดำ� เนิน
กลับถงึ พระต�ำหนักภพู านราชนเิ วศน์ เม่อื เวลา ๑๗.๒๐ น.
หลวงปู่หลุย เล่าเร่ืองบุพกรรมเก่าของพระอริยเจ้าทั้ง ๕ องค์ท่ีเครื่องบินตก
หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ศิษย์อาวุโสส�ำคัญท่านหนึ่งของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
ทไ่ี ดร้ ับการยกยอ่ งวา่ เป็น “เพชรนำ�้ หนง่ึ ” ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟงั ถงึ บุพกรรมในกาลก่อน ซ่ึงทำ� ให้
พระธุดงคกรรมฐานศิษย์สายท่านพระอาจารยม์ น่ั ภรู ิทตฺโต ทั้ง ๕ องค์ ได้แก่ ทา่ นพระอาจารยบ์ ุญมา
ติ เปโม ท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ท่านพระอาจารย์จวน กลุ เชฏโฺ ทา่ นพระอาจารย์สิงห์ทอง
ธมฺมวโร และ ทา่ นพระอาจารยส์ ุพัฒน์ สขุ กาโม ตอ้ งประสบอบุ ัติเหตเุ คร่ืองบินตก จนกระทง่ั เป็นเหตุ
ท�ำให้มรณภาพลงพร้อมกนั
ในอดีตชาติท่ีนานมาแล้ว ท่านทั้ง ๕ เกิดในสกุลชาวนาท่ียากจน ต้องขวนขวายหาเล้ียงชีพ
ไปวนั ๆ ทง้ั ๕ คนเป็นเพื่อนท่ีคุน้ เคยกันมา เมอ่ื ยงั เด็กไดจ้ งู ควายออกไปเลีย้ งพรอ้ มกนั ผูกควายกันแล้ว
กพ็ ากนั เลน่ และออกหากบเขยี ดไปเปน็ อาหารประสาจน ทีน้ี ๑ ใน ๕ เกิดไปเหน็ รงั นกเข้า ก็ชว่ ยกนั
หาไม้เข่ียรังนกให้ตกลงมาเพ่ือหวังเอาไข่นกไปกิน แต่เมื่อรังนกตกลงมากลับกลายเป็นลูกนก ๓ ตัว
แลว้ ตายสิน้ ไมใ่ ชไ่ ขน่ กดังท่ีเขา้ ใจ
ด้วยวิบากกรรมอนั นสี้ ง่ ผลใหท้ ่านทั้ง ๕ ต้องตกจากท่สี งู มามรณภาพ
ในเครือ่ งบินล�ำน้นั มคี ุณหญิงไขศรี ณ ศลี วันต์ ภรรยาของ ดร.เชาวน์ ณ ศลี วนั ต์ อดีตองคมนตรี
ทา่ นกลับจากการไปปฏบิ ัตธิ รรมกบั ท่านอาจารยพ์ ระมหาบัว าณสมปฺ นฺโน ทว่ี ดั ป่าบา้ นตาด มาดว้ ย
ทา่ นเลยมาส้ินชีวติ พร้อมกนั
ในอดตี ขณะท่ีเดก็ ชายทง้ั ๕ ก�ำลงั เข่ยี รังนกอยนู่ ้นั เด็กหญิงลูกชาวนาผู้เปน็ นอ้ งสาวของ ๑
ใน ๕ คนกม็ ายืนเชียรอ์ ยู่ขา้ งๆ “จะหล่นแล้ว...จะหล่นแลว้ ” โดยเธอไมไ่ ดล้ งมอื ท�ำ
363
เดก็ หญงิ ในภพนั้น คอื คณุ หญิงไขศรี ณ ศีลวันต์ ในภพนี้ ซ่ึงทา่ นได้เสยี ชีวิต เพราะประสบ
อบุ ัติเหตเุ ครอ่ื งบินตกในครง้ั นีด้ ้วย ก็เพยี งมจี ิตคิดยนิ ดใี นการประกอบอกศุ ลกรรมของผูอ้ น่ื วบิ ากกรรม
น้นั ยงั ส่งผลมาให้เกดิ ในภพชาติเดียวกัน บันดาลใหไ้ ปตกเครอื่ งบนิ พร้อมกัน
แลว้ ถา้ ทำ� เองเล่า ถึงตรงน้ี หลวงปหู่ ลุย จนฺทสาโร ก็สงั่ ว่า “อย่าไปยินดใี นการท�ำชวั่ ของ
คนอ่ืน เพราะเราจะมีส่วนในบาปนั้นด้วย แต่ให้ยินดีในการประกอบคุณงามความดีของตนและของ
คนอ่นื เพราะจะได้แต่บญุ โดยฝา่ ยเดยี ว”
พระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ ถึงหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ
หลายคนคงเคยไดย้ ินชื่อ หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณโฺ ณ (พระราชสังวราภมิ ณฑ)์ วัดประดฉู่ ิมพลี
กรุงเทพมหานคร โดยรู้จักผ่านชุดพระเครื่องอันโด่งดังของท่าน แท้จริงแล้วหลวงปู่โต๊ะเป็นพระ
นักปฏิบัติที่มีปฏิปทาอันเรียบง่าย รักสันโดษ การปฏิบัติธรรมของท่านเป็นไปอย่างราบเรียบ แต่
หนกั แนน่ และจริงจงั
วา่ กันวา่ หลวงปโู่ ต๊ะ ท่านมีญาณวเิ ศษอยู่อย่างหนึง่ คือ “อาเทสนาปาฏิหารยิ ”์ ซ่ึงหมายถงึ
ญาณหยั่งรจู้ ิตใจผอู้ ่ืน ทายใจผู้อน่ื ได้ เวลาทท่ี า่ นเทศนาสอนใคร จงึ มกั จะตรงกับใจท่บี ุคคลนั้นอยากฟัง
เสมอ เรือ่ งเมตตาธรรมก็เปน็ อกี เรือ่ งหน่ึงทหี่ ลวงปูโ่ ตะ๊ ขึ้นชือ่ ลอื ชา หลวงปูโ่ ต๊ะเป็นพระทม่ี เี มตตาธรรม
ตอ่ ผ้อู น่ื เปน็ อยา่ งยงิ่ และไม่จ�ำกดั ว่าบุคคลผนู้ ้ันจะเปน็ ใคร เมื่อใครขออะไร ถา้ ท่านใหไ้ ด้ ทา่ นก็ใหเ้ ต็มท่ี
มที ้งั มาขอน�้ำมนต์ ขอพระเครื่องจากท่าน ท่านกใ็ ห้ ไมเ่ คยขัดใจใครเลย และเม่อื ให้สิง่ ของเหล่านี้ไปแลว้
ท่านจะก�ำชบั เสมอวา่ ตอ้ งนกึ ถึงคณุ พระรัตนตรยั ควบคไู่ ปดว้ ย แม้จะมขี องทว่ี ่าศักด์ิสทิ ธ์นิ ้ีแล้ว กอ็ ย่า
ลืมนกึ ถึงคุณพระรตั นตรยั อย่านำ� ไปใชใ้ นทางทีผ่ ดิ ดว้ ยความเมตตาทเี่ ปี่ยมล้นนีเ้ องทที่ �ำให้ทา่ นเป็น
ที่รักและเคารพของชาวพุทธอยูเ่ สมอ แม้จะดบั ขันธ์ไปนานแล้ว
เมอื่ วันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ หลงั เหตกุ ารณเ์ คร่อื งบนิ ล�ำเลก็ ของการบินไทยตก ท�ำให้
พระอาจารย์สายพระป่าธดุ งคกรรมฐานมรณภาพรวม ๕ รูป ซึ่งล้วนเปน็ พระนกั ปฏบิ ตั ิศิษย์หลวงปู่
มั่น ทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั และ สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถ ทรงเคารพบชู า
สร้างความโศกพระทัยใหแ้ กท่ ้งั สองพระองค์เปน็ อยา่ งย่ิง จนเม่อื ไดม้ โี อกาสกราบนมสั การหลวงปโู่ ตะ๊
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ีนาถจงึ ตรสั ถามธรรมะในเรือ่ งนก้ี ับทา่ น
สมเด็จพระนางเจ้าฯ รู้แล้ววา่ คนเรานัน้ ตายเม่อื ไหร่กไ็ ด้ท้ังน้ัน แต่กลับไปคิดว่า พระอริยเจ้า
ทัง้ หลายน้นั ท่านปฏิบตั ิแต่กรรมดเี ท่าน้นั เลยมไิ ดค้ ดิ ว่า พระอรยิ เจา้ ท่านจะต้องมาประสบอปุ ทั วเหตุ
เช่นน้ี
หลวงปู่โต๊ะ : “โลกน้ี เขาก็เป็นของเขาอย่างนี้แหละ ไม่มีอะไรที่ยึดถือได้ว่า “แน่นอน”
ถา้ คนเรามศี รัทธาว่า
364
พระพทุ ธองคท์ า่ นหยั่งรูล้ กึ ซง้ึ ถึงโลกน้ีเป็นอยา่ งดี ด้วยพระปัญญาคณุ ของพระองคท์ ่านเอง
พระพุทธองค์ทรงสงสารเมตตาสัตว์โลก วา่ เวยี นวนอย่ใู นความทุกข์ทรมานไม่มที ีส่ ้ินสดุ
พระพุทธองคไ์ ด้ทรงพบทางพ้นความทกุ ขโ์ ดยสิ้นเชิงแลว้ ด้วยพระปัญญาคุณ ทรงพระเมตตา
บอกทางพน้ ความทุกขใ์ หแ้ กท่ กุ ๆ คน จะไปหาทไ่ี หนอกี ละ่ ผู้ทเ่ี ปย่ี มลน้ ไปดว้ ยความเมตตาอนั บรสิ ุทธิ์
ตอ่ มวลมนษุ ย์”
บนั ทกึ ทา้ ยบท
เร่ืองที่มีผู้สงสัยหลังเกิดเหตุการณ์ในคร้ังน้ัน ก็คือ ท่านพระอาจารย์ท้ังหลายเคยปฏิบัติสมาธิ
ภาวนามาก่อนอยา่ งจริงจงั ทา่ นไมม่ ีญาณทราบถึงเหตุการณ์ลว่ งหนา้ ในครัง้ นห้ี รืออยา่ งไร
ความจริงนั้น ถ้าใครได้ศึกษาธรรมะและวิธีการปฏิบัติในแนวทางของพระป่ากรรมฐานสาย
ทา่ นพระอาจารย์มน่ั จะทราบดีวา่ หลวงป่มู น่ั ไม่เคยสอนหรอื ไมพ่ ึงพอใจท่จี ะสอนลูกศษิ ย์ของทา่ นให้
ปฏิบตั สิ มาธิ เพื่อหวังผลในทางอทิ ธปิ าฏหิ าริยแ์ ตอ่ ยา่ งใด นอกจากจะไมใ่ ห้ความสนใจในเรือ่ งนแ้ี ล้ว
ถ้าใครหมกมุ่นในเร่ืองอิทธิปาฏิหาริย์ หวังจะฝึกฝนเอาดีในด้านนี้ จะต้องถูกหลวงปู่มั่นดุเอาอย่าง
แนน่ อน เพราะหลวงปมู่ ั่นสอนลกู ศิษยใ์ หม้ งุ่ ที่ความพ้นทุกข์เป็นหลัก การปฏบิ ตั ิสมถภาวนา ก็เพ่ือ
ให้เป็นพื้นฐานแห่งการวปิ ัสสนาเทา่ นั้น
หลังจากเกิดเหตุการณ์เคร่ืองบินตกในคร้ังนั้นแล้ว บรรดาลูกศิษย์ของพระอาจารย์ทั้งหลาย
เม่ือทราบขา่ วต่างกเ็ ศร้าใจ แต่กระนน้ั กย็ งั รู้สึกแปลกใจ เพราะก่อนจะขนึ้ เครอื่ งบินน้นั พระอาจารย์
ท้งั หลายได้สงั่ งานลกู ศษิ ยเ์ อาไว้อยา่ งละเอียด ราวกับว่าท่านสัง่ เสียเหมอื นจะรเู้ หตกุ ารณ์ลว่ งหน้า
อยา่ งไรก็ตาม ธรรมดาของพระอรยิ เจา้ นนั้ ทา่ นไมห่ วาดหวั่นตอ่ ความตายอยูแ่ ลว้ เพราะจติ
ของทา่ นถกู ฝกึ มาเพอ่ื ใหพ้ จิ ารณาอยเู่ นอื งๆ วา่ เรามคี วามตายเปน็ ธรรมดา จะเลยี่ งพน้ ความตายไปไมไ่ ด้
อกี ทง้ั การปฏบิ ตั ติ ามแนวทางของหลวงปมู่ น่ั นนั้ ไดบ้ ม่ เพาะเอาไวเ้ สมอ จนศษิ ยท์ กุ คนตอ้ งจำ� ใหข้ น้ึ ใจวา่
“นิพพานอยฟู่ ากตาย” ถา้ หากปฏบิ ตั ิไมจ่ รงิ จงั ปฏิบัติอยา่ งกลวั ตาย มรรคผลนพิ พานยอ่ มไม่อาจ
เกิดข้ึนได้ ตรงกันข้าม ถ้าหากการปฏิบัติเป็นไปอย่างจริงจัง ไม่หวาดหว่ันต่อความตาย มรรคผล
นพิ พานกย็ อ่ มจะปรากฏให้เห็น
อนงึ่ ในเรอ่ื งเดียวกันนี้ หลวงปูโ่ ต๊ะ ได้กล่าวถึงสามญั ลักษณะของสรรพสิ่งว่า ขึ้นชอ่ื ว่า “โลก”
ย่อมไม่มีอะไรแน่นอน เป็นไปตามกฎแห่งไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง (ไม่เที่ยงแท้แน่นอน) เป็นทุกข์
(ทนอย่ไู ดไ้ ม่นาน) อนตั ตา (ไม่มแี ก่นสารสาระ) ความหมายก็คอื แม้แต่ผูท้ เี่ ปน็ พระอรหันต์ เมือ่ ท่าน
ยังถือครองขันธ์อยู่ ก็ย่อมต้องตกอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ ดังท่ีกล่าวมาน้ี แม้ในสมัยพุทธกาลก็มี
พระอรหันต์หลายองค์ที่ดับขันธ์ด้วยเหตุไม่ปกติ เช่น พระมหาโมคคัลลานะ (ถูกหมู่โจรรุมท�ำร้าย)
พระพาหยิ ะ (ถกู ววั บ้าขวิดตาย) เปน็ ต้น
365
องค์หลวงตากล่าวลักษณะการนิพพานของพระอรหันต์
เกี่ยวกับลักษณะการนิพพานของพระอรหนั ต์นั้น องค์หลวงตา ไดเ้ ทศน์ไวด้ ังนี้
“...จิตท่ีท�ำลายสมมุติหมดโดยสิ้นเชิงแล้ว อะไรเวทนาไหนจะไปแทรก นี่เราถึงได้กล้าพูดว่า
พระอรหันต์ตาย ตายเม่อื ไร ตายท่ีไหน ตายเร่ืองอะไร ดว้ ยเหตผุ ลกลไกอะไรกต็ าม กจ็ ติ พระอรหนั ต์
ล้วนๆ วา่ งัน้ เลย ท่านไม่มีปัญหาอะไรกับสมมุติ คอื การตาย กริ ิยาแห่งการตายตา่ งๆ นน้ั เป็นเร่อื ง
สมมตุ ทิ ้งั หมด ความบรสิ ทุ ธ์เิ ตม็ ภมู ิ จงึ ไมว่ ิตกวจิ ารณ์เรื่องการเป็นการตาย...
แลว้ คำ� วา่ บริสทุ ธ์แิ ลว้ นัน้ จะมกี าล สถานท่ี เวล่�ำเวลาทีไ่ หนเปน็ ก�ำหนดกฎเกณฑ์ เปน็ ทใ่ี ห้เกิด
สัญญาอารมณก์ บั ทา่ น นพิ พานทา่ ไหนจะดี หรือนิพพานทา่ ไหนจะเสยี ที หรอื ตายทา่ ไหนดี ทา่ ไหนไมด่ ี
ท่านไมม่ ี ตายทา่ ไหน ก็คอื พระอรหนั ต์ตาย เอ้า ! เราพดู เร่อื งตาย จะตายด้วยอุบัติเหตอุ ะไรกต็ าม
ตายด้วยการเจ็บไขไ้ ดป้ ่วยอะไรกต็ าม จะเขา้ สมาธิสมาบตั ิ หรือไมเ่ ข้ากต็ าม ไมม่ สี ิง่ ใดส�ำคญั ทง้ั นนั้ ไมม่ ี
อนั ใดท่จี ะลบลา้ งความบริสุทธ์นิ น้ั ได้เลย ทา่ นเป็นพระอรหนั ตอ์ ยู่เตม็ ตวั ทกุ กาล สถานที่ อิรยิ าบถ...
เพราะการตายนีเ้ ปน็ ไปตามวิบากขันธ์ บางองค์ก็จะตายด้วยความสงบของธาตุขนั ธ์ บางองค์
ก็จะไม่สงบ จะดดี จะดนิ้ เปน็ ประเภทตา่ งๆ ตามวิบากกรรมที่เป็นมาต่างๆ กนั แต่จติ นั้นบริสทุ ธิแ์ ล้ว
จะไม่มีอะไรเก่ยี วข้อง ขันธ์จะตายแบบไหนก็ตาม จะตายดนิ้ เหมอื นหมาบ้ากต็ าม เรื่องขันธม์ ันดน้ิ
ของมนั ตา่ งหาก จิตท่ีบรสิ ุทธิ์แล้วไปด้นิ หาอะไร นน่ั มนั เปน็ คนละฝง่ั ละฝาอยนู่ ั่น เหน็ กนั ชัดๆ อย่างนั้น
อำ� นาจแหง่ วบิ ากกรรมมมี าอยา่ งไรทเ่ี คยสรา้ งเคยเปน็ มาแลว้ บางทา่ นบางองคก์ ส็ งบไปธรรมดาๆ
บางท่านบางองค์ก็มีดีดมีดิ้นเป็นไปธรรมดา เพราะวิบากกรรมอันน้ีแก้ไม่ตกในเร่ืองกรรม เกี่ยวกับ
เรอ่ื งวิบากขันธส์ มมุติอนั นี้ แล้วสิง่ เหล่านี้มันก็ตามได้แค่ขันธเ์ ท่านนั้ ไมต่ ามไปในหวั ใจท่บี ริสุทธ์ิได้น่ีนะ
เพราะฉะน้นั ท่านจงึ ไม่มีได้มเี สียกับสง่ิ เหล่าน้ี...”
ความคิดของเด็กชาวบ้านคนหน่ึง
(จากหนังสือกุลเชฏฐาภวิ าท)
วันหนึ่งได้พูดคุยกับเด็กๆ ชาวบ้านที่อยู่อาศัยใกล้ภูทอก เด็กๆ ได้คุยให้พวกเราฟังอย่างน่า
ประหลาดใจในความชา่ งจ�ำช่างคิดของเด็กวยั เพียงแค่น้ี จงึ ไดข้ อให้ “อารมณ์ ส�ำราญสุข” เด็กชาวบา้ น
นาคำ� แคนคนหนึง่ เขียนมาให้เราตามทเี่ ขาแสดงความคิดเหน็ กบั เรา ถอ้ ยค�ำ สำ� นวนโวหาร ทง้ั หมดเปน็
ของเขา ผู้เรียบเรยี งเพยี งแต่แก้ตัวสะกดการันต์ใหถ้ กู ต้องเทา่ นั้น จะเหน็ ว่าเด็กได้แสดงความคดิ เหน็
อย่างบรสิ ุทธ์ิ จากส่วนลึกของจิตใจอย่างแทจ้ ริง
ถามผมว่า ผมมาอย่ภู ูทอกนานเทา่ ไหรแ่ ล้ว กป่ี ี เปน็ อยา่ งไร ทางเข้าหมบู่ า้ นเหมอื นแต่กอ่ นไหม
หรือครับ ผมมาอยภู่ ทู อก ๑๐ ปเี ตม็ แลว้ แตแ่ รกมาผมอายุได้ ๓ ขวบ เดย๋ี วนอี้ ายุ ๑๓ ปี จบประถม
366
ปีที่ ๖ แล้ว ครอบครวั ผมอพยพมาแตอ่ บุ ลฯ โนน่ แต่แรกมาทางเขา้ หมบู่ า้ นเปน็ ดนิ ทราย มรี ถอยู่
คันเดียวเทา่ นนั้ เป็นรถที่เกา่ แกม่ ากครบั วิง่ ไปเข็นไป แต่กระนน้ั ชาวบ้านกด็ ีใจ พากันออกมาเท่ยี วบา้ น
ศรีวไิ ล เพื่อมาซื้อยาแกไ้ ข้มาลาเรียบ้าง ของอย่างอ่ืนบา้ ง ผมมาอยู่ใหม่ๆ ยงั ตวั นดิ เดียว จ�ำได้ว่ามพี ระ
มาบณิ ฑบาต ๓ รปู ผ้าขาว ๑ รปู ขณะนั้นทา่ นพระอาจารยจ์ วนยังสรา้ งภทู อกอยู่ เอาหนิ มาเปน็ ก้อน
แลว้ เอามาถม ท�ำเป็นบันไดขึ้นไปภทู อก เม่อื กอ่ นนีท้ างขน้ึ ภูทอก ล�ำบากมากครบั บันไดก็ไมม่ ี เราต้อง
เดนิ ไปตามหิน ตามทมี่ ปี ่าไม้
สมัยนั้นมนั นา่ กลวั มาก เพราะบา้ นในหมบู่ ้านกม็ ีไมม่ ากนกั ทั้งยังมีพวก ผกค. (ผ้กู อ่ การรา้ ย
คอมมวิ นิสต)์ มาก เขาชมุ นมุ กันอยู่ท่ภี สู ิงห์ ทต่ี ่อจากภทู อกใหญ่นั่นแหละ ทา่ นอาจารย์สรา้ งสะพาน
ชน้ั ท่ี ๕ รอบไปหาหัวจุนแจน ที่เรียกกนั ว่า พทุ ธวหิ าร วิหารเล็กนัน่ แหละครับ ชาวบา้ นก็ตอ้ งท�ำไร่
ไถนากันจึงมีคนไปช่วยวัดน้อย แต่ท่านก็ท�ำของท่านไป การขนไม้ข้ึนไปบนเขานั้นไม่ใช่ของง่ายนัก
เพราะตอนนน้ั ทางขึ้นเขาก็ไม่สะดวก จึงต้องใช้เวลานานกว่าจะเสรจ็ ส�ำเรจ็ ช้ัน ๕ แล้ว ท่านก็ท�ำ
ชนั้ ท่ี ๖ ตอ่ ไป ช้นั ท่ี ๖ ยงิ่ ยากมากขึน้ ไปอีก เพราะมนั อยู่สงู กวา่ ชั้นที่ ๕ ชนั และล�ำบากมากกวา่ เดิม
คนไม่กล้า ถา้ หากพลาดกน็ ึกถึงแต่พระเท่าน้ันเอง คณุ ลองคดิ ดูว่า มนั ล�ำบากแคไ่ หน แต่กอ่ นท่าน
ถามฝร่ัง จะจา้ งเขา กไ็ ม่มี เขาเรียก ๑๑ ลา้ นบาท แตท่ ่านอาจารย์บอกวา่ มลี า้ นเดียว คือหวั ล้าน
น่ันเองครบั ผมอ่านไปหวั เราะนา่ กลวั ทัง้ ได้ความรู้ดว้ ย
ตอ่ มามคี นเลอื่ มใสทา่ นมาก คนกม็ าชว่ ยกนั มากขนึ้ เรอื่ ยๆ และมคี นมาบรจิ าคเงนิ สรา้ งวดั ภทู อก
มากมาย จงึ สรา้ งช้ัน ๖ ไปเร่ือยๆ ต่อมาไม่นานก็สามารถสรา้ งไดส้ ำ� เรจ็ ทางราชการจงึ ท�ำถนน ทำ� ทาง
มาภูทอก แล้วสร้างโรงเรียน มีอาคาร ๑ หลงั ภายหลังมีกฐินจากกรงุ เทพฯ ไปทอดทีน่ ัน่ จึงมีเงนิ สร้าง
ชน้ั ๗ ต่อ ปตี ่อๆ มาก็มีผ้าป่า กฐนิ มาทอดมากมาย และมคี นมาเท่ียวมากขึ้น เงนิ ก็ไดม้ ากข้ึน ชัน้ ๗
เป็นชั้นสงู สดุ แต่มนั ไม่ชนั เหมือนชัน้ ตา่ งๆ ที่ท�ำมา แต่ทางขนึ้ ช้ัน ๗ ยังคงเป็นหินอยา่ งเดมิ
มีกฐินใหญ่มา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จมา มีโครงการอ่างเก็บน�้ำมาต้ังท่ี
กึง่ กลางระหว่างหมูบ่ ้านนาต้อง กับหมู่บา้ นนาคำ� แคน ภูทอกนนั่ เอง โดยทา่ นอาจารยเ์ อาเงนิ กฐินมาท�ำ
อา่ งเกบ็ นำ�้ คกู ้ันน�้ำเพ่ิมอีก เพือ่ ใชท้ างเกษตร ทำ� อ่างเก็บน�ำ้ แทงก์เกบ็ น้�ำใหโ้ รงเรียน เดย๋ี วนี้มีนกั เรยี น
๓๖๐ คน อปุ กรณก์ ารเรียนก็ไมค่ รบเทา่ ไร
ตอ่ มามโี ครงการอา่ งเกบ็ นำ�้ ชลประทาน ทำ� ตอ่ จากอา่ งเกบ็ นำ้� ของทา่ นอาจารย์ เวลาขนึ้ บนภทู อก
แล้ว จะเหน็ ทวิ ทศั นจ์ ากภเู ขามากมาย มองเห็นอา่ งเก็บนำ้� สวย ภูเขาตา่ งๆ และรถบัสคันเล็กนิดเดยี ว
ลมพดั แรง เยน็ สบาย หายเหนือ่ ยเลยครบั
ท่านบอกพวกชาวบา้ นวา่ จะมโี ครงการสร้างภูทอกใหญ่ท่อี ยตู่ ดิ กบั ภูทอกเลก็ น่นั เอง และจะมี
โครงการไฟฟ้า ประปา ให้หมู่บ้านดว้ ย เพราะท่านอาจารยจ์ วน กลุ เชฏฺโ ท่ีน�ำความเจริญมาสูห่ มบู่ ้าน
ต่างๆ เช่น หมู่บ้านนาตอ้ ง ไดร้ ับความชว่ ยเหลือจากทา่ นอาจารย์มาก และหมู่บ้านต่างๆ อีกมากมาย
367
หลายหมู่บ้าน ส่วนโครงการทางราชการน้ันท�ำถนนมาหาวัดภูทอกก็มีโครงการไว้แล้ว ต่อมาวัดได้มี
น้�ำประปาใช้ และท่านจะนำ� ประปาเขา้ หมบู่ ้านใหด้ ้วย
แตว่ นั หนงึ่ ทา่ นอาจารยจ์ วน กลุ เชฏโฺ ไดเ้ ดนิ ทางเขา้ กรงุ เทพฯ ขณะนน้ั ทางบา้ นผมกำ� ลงั กนิ
ขา้ วอยู่ ฟังวิทยพุ อได้ยนิ ขา่ วว่าเคร่ืองบนิ ตก ต่างคนต่างนงิ่ ฟงั พอไดย้ ินวา่ พระอาจารย์จวน กลุ เชฏฺโ
เครอื่ งบินตกถงึ แกม่ รณภาพ ทุกคนที่ได้ยินขา่ วนต้ี ่างรอ้ งไห้ ผมท้งิ ชามขา้ วตกจากมือ รอ้ งไห้ บางคน
ถงึ กบั จุดธูปเทยี นบชู าพระ ขออย่าให้เป็นจริงตามขา่ ววา่ ครอบครวั ผมก�ำลงั กนิ ข้าว ก็หยดุ กิน มนั กิน
ไมล่ งเพราะเสียใจ บางคนพอ่ แม่ตายยงั ไมร่ ้องไห้ พอท่านอาจารยต์ าย ตา่ งคนต่างร้องไห้กันทกุ คน และ
อีกหลายวนั ต่อมา ก็นำ� ศพทา่ นอาจารยม์ าท่ภี ทู อก ระยะทว่ี ่งิ ผ่านหม่บู า้ นเปรียบเสมือนวิ่งผา่ นน้�ำตา
ของชาวบา้ นท่นี ัน้ พนม (มือว่งิ ) ตามท่รี ถศพวง่ิ ผ่านมา แล้วเอาศพลงจากรถขนึ้ ศาลาวัดภูทอก เตม็ ไป
ด้วยนำ้� ตาของพวกชาวบา้ นนาคำ� แคน และชาวบา้ นอ่นื ๆ อีกมากมาย
และอกี ต่อมา ๓ วัน กน็ ำ� เอาศพทา่ นอาจารย์ขึ้นไปไวบ้ นชนั้ ที่ ๕ ทถ่ี ้�ำวหิ าร เพราะชาวบ้าน
เหน็ วา่ ทา่ นเคยอยบู่ นนนั้ เวลาทา่ นอยกู่ ข็ นึ้ ไปไหวท้ า่ นอยบู่ นนน้ั ตอ่ มากม็ คี นไปไหวศ้ พทา่ นอาจารยจ์ วน
กลุ เชฏฺโ พร้อมกนั นน้ั กับความหวังของชาวบ้านกห็ มดไปด้วย เพราะชาวบ้านสว่ นหนงึ่ นน้ั ไปขายยา
กำ� ลังเสือโคร่งทว่ี ัดภทู อก เพอื่ น�ำเงนิ มาซอ้ื ขา้ วกนิ แต่ถา้ อาจารยจ์ วนไมม่ ีแล้ว คนกจ็ ะไม่มีมาเท่ยี ว
นี่ความคิดของชาวบ้านนะครับ เขาคดิ ว่า ถา้ ไมม่ ีท่านอาจารย์จวน กลุ เชฏฺโ โครงการสร้างภทู อกใหญ่
กจ็ ะไมเ่ สร็จดว้ ย และโครงการไฟฟ้า โครงการถนน โครงการตา่ งๆ ก็จะลม้ ละลายลง
เพราะ (ฉะนนั้ ) ชาวบา้ นจึงพากันย้ายออกจากภูทอก ๔ ครอบครัว ทุกคนจึงแตกต่ืนกัน กลัว
ไม่มีใครเขามาเท่ียวอีก กจ็ ะเป็นวัดรา้ ง ทัง้ ท่โี ครงการอ่างเกบ็ น้�ำของทางราชการขอมานนั้ ยังไม่ไดส้ ร้าง
เลย ชาวบ้านก็พากนั แตกกันหมด
จริงอยู่ ตง้ั แตท่ า่ นอาจารยจ์ วน มรณภาพลงน้ี ก็ยังมีคนมาเทยี่ วภทู อกอย่มู ากมาย สว่ นคนท่ี
ขายเสือโครง่ กข็ ายกันอยู่ ยาก�ำลงั เสือโคร่งทา่ นอาจารย์จวน กลุ เชฏโฺ กนิ เปน็ ประจำ� โดยการต้มใส่
กานำ�้ รอ้ นแล้วพอเดือดกน็ ำ� มากินได้ทันที ดกี ว่ากินน้�ำชา เพราะเป็นยาบ�ำรงุ รา่ งกาย แต่ตอ่ ไป ชาวบา้ น
กลัวกันว่า เผาศพท่านแล้ว คนก็จะไม่มาเท่ียว เมื่อไม่มีท่านอาจารย์จวนแล้ว ความเจริญก็จะไม่มี
ชาวบา้ นจงึ พากันกลวั อีกอย่างหนึ่งคือ กลวั ผกค. ด้วย ชาวบ้านสว่ นหนึ่งคิดกนั วา่ อกี หนอ่ ยกล็ ่ี (หลบ
หรอื แอบ) บางสว่ นไมไ่ ป แต่บางส่วนต้งั ใจไปลกู เดยี ว น้คี ือความคิดของชาวบา้ น เมอ่ื ท่านอาจารย์
มรณภาพ และความจรงิ ก็จะหมดไปนะครับ ส่วนอา่ งเก็บน�้ำที่ทา่ นอาจารยจ์ วนสรา้ งไว้ภายในหมูบ่ ้าน
นาคำ� แคน และโรงเรียนมอี ยู่ ๖ แห่งดว้ ยกันครบั
368
เก็บอัฐบริขารบริเวณเครื่องบินตก
ทา่ นพระอาจารย์ถาวร อนตุ ฺตโร ได้เมตตาเลา่ เร่ืองนไ้ี วด้ ังน้ี
“เหตทุ ่ีอาตมาไดล้ งมาอยา่ งน้ี คอื ระยะน้นั เขาก�ำลังเปลีย่ นบาตรนะ จากทเี่ ป็นบาตรเผานน่ี ะ
ก�ำลงั ฮติ เร่ืองสแตนเลส ยุคสแตนเลสมนั มาเฟือ่ งฟู พอดีมีโยมเขาอยากจะเปล่ยี นบาตรใหห้ ลวงปู่จวน
ก่อนท่านเครือ่ งบินตกก็นานเหมือนกนั ปรารภกันมานาน ทีน้ีเขากเ็ ลยนดั ใหม้ าดู อาตมากเ็ ลยตามลง
มาอกี วันหนึ่ง น่งั รถบารมีทวั ร์อยู่หนองคายลงมาถึงกรุงเทพฯ เช้าวันท่ี ๒๘ เมษาฯ เดินทางกลางคืน
ที่ ๒๗ เมษาฯ วันนัน้ เลย อาตมายังไมร่ ูเ้ ลยนะวา่ เคร่อื งบนิ ตก มารตู้ อนบ่ายสามวนั ที่ ๒๘ นี่ มาเอา
บาตร พอมาพกั วดั พระศรีฯ ถงึ รู้เรอ่ื งราวเกดิ ขน้ึ มันคนละวัน คุณหญิงเขาเลยใหค้ นขบั มารบั อาตมา
ไปดูบรขิ าร เพราะตอนน้นั คนก็ไม่ค่อยอยากไปไหนล่ะ เพราะฝนตก กเ็ ลยตรงเขา้ ไปบรเิ วณเครอ่ื งบนิ
ตกเป็นวนั ทส่ี อง สดๆ เลย ศพกเ็ อาออกหมดละ่ อาตมาเก็บอฐั บริขารท้ังหมดทกุ องคน์ ่ะ เอาใส่ผ้าจีวร
นะ รวมๆ แล้วก็ผูก แลว้ ก็หามออกมา อาตมาไปกบั เณรวดั พระศรฯี ไมร่ ้วู า่ ใครถ่ายภาพอาตมากบั
ซากเคร่อื งบนิ ตกขาดสองทอ่ น ภาพปรากฏในหนังสอื พมิ พ์ อาตมาพึง่ รูไ้ ด้เหน็ ทีหลัง
ตอนน้ันเรายงั เป็นพระบวชใหมก่ ย็ ังไม่ลกึ ซ้งึ บาตรบบุ จริงๆ ขาบาตรหัก แล้วก็ไมร่ ู้วา่ มอี ะไรอยู่
ในนั้น มันติดกันมีเอกสารราชการของผูว้ า่ ฯ นครพนมอยใู่ นนน้ั ผูว้ ่าฯ เขานง่ั อยขู่ า้ งหลัง เป็นพระหนุม่ ก็
ไมค่ อ่ ยนนี่ ะ กท็ ำ� แบบผวิ เผนิ ไปไม่ไดเ้ ปดิ ดู ยา่ มก็มี กเ็ ฉพาะหลวงปูจ่ วนรู้สึกจะเป็นย่ามของสมเดจ็ ฯ
สีฟา้ ๆ น่ะ เป็นผา้ ไหม มันมอี ยู่สองชัน้ จ�ำได้ หลวงปู่ทา่ นจะใช้ยา่ มสองใบ ยา่ มใบขา้ งนอกเป็นสีกรัก
ย่ามใบข้างในเปน็ สีฟา้ ใบท่ที า่ นใชป้ ระจ�ำ ใบอนั หนึ่งกเ็ ปน็ ใบของสมเด็จฯ แตก่ ็ขาด บรขิ ารอืน่ ๆ ม้งุ
กลด ก็มีทั้งหมดเลย เพราะสมยั กอ่ นน้ีครบู าอาจารย์ทา่ นไมไ่ ดใ้ ช้กระเป๋านะ ใช้ถุงบาตรเอา แลว้ สะพาย
กเ็ ลยได้มาประสบเหตุน้”ี
บาตรบุบ
(จากหนงั สอื กุลเชฏฐาภวิ าท)
คณุ สมพร กล่ินพงษา (ผูว้ ่าราชการจงั หวัดนครพนมขณะนน้ั ) เป็นผ้หู นงึ่ ที่ร่วมเดนิ ทางมากบั
เครื่องบินล�ำท่ีประสบอุบัติเหตุตกเป็นเหตุให้ ท่านอาจารย์จวน ท่านอาจารย์วัน ท่านอาจารย์
สิงหท์ อง และท่านอาจารยส์ ุพฒั น์ ถึงแก่มรณภาพ แตท่ ่านเป็นผู้โชคดไี มเ่ สยี ชีวิต เพราะวา่ ได้น่งั อยู่
ตอนท้ายของเคร่ืองบิน ซ่ึงเป็นส่วนที่ถูกกระทบกระแทกน้อยที่สุด ท่านสมพรได้น�ำเอกสารส�ำคัญ
ซ่ึงหากตกไปอยูก่ ับฝ่ายตรงข้ามแล้ว จะเกิดความเสียหายและอนั ตรายอย่างมากแก่ประเทศชาติ
เม่ือไดร้ ับความชว่ ยเหลอื ออกจากซากเครอ่ื งบินแลว้ ทา่ นสมพรยงั มสี ตอิ ยู่ จึงบอกแก่ผู้ไว้ใจได้
ว่ามเี อกสารลบั ตดิ ตัวมาด้วยช่วยหาที ปรากฏว่าหากนั ไม่พบ ไมว่ า่ จะในตัวทา่ นสมพร หรือทไ่ี หนๆ
ในบริเวณซากเคร่อื งบนิ หลายฝา่ ยไมส่ บายใจ จนกระทงั่ ได้ตรวจค้นซากเครือ่ งบนิ เพอ่ื เกบ็ อัฐบรขิ าร
369
ของครูบาอาจารยท์ ุกองค์ เมอ่ื มาพบบาตรของท่านอาจารย์จวน ซง่ึ อยู่ในสภาพบบุ จนไม่อาจเปดิ ฝา
บาตรไดด้ ้วยมอื เปล่า ตอ้ งใช้เครอื่ งมอื ชว่ ยงดั ฝาบาตรใหเ้ ปิดออก เมือ่ เปดิ แลว้ กพ็ บเอกสารซองหนึง่
วางอยู่บนอฐั บรขิ ารทง้ั หมด
ผู้เขียนเห็นตรากระทรวงมหาดไทย เห็นมุมซองแสดงว่าเป็นเอกสารจากผู้ว่าราชการจังหวัด
นครพนมกร็ อ้ งด้วยความดีใจ เราหากันมาแทบจะพลิกแผ่นดนิ (ตรงบรเิ วณเครอื่ งตก) เอกสารซองน้ี
อยู่ในบาตรของท่านอาจารย์นีเ่ อง หลังจากนั้นไดม้ อบเอกสารใหก้ ับกระทรวงมหาดไทยไป ขณะนั้น
นึกเพียงว่าประหลาด ท�ำไมคุณสมพรนึกยังไงถึงได้เอาซองเอกสารส�ำคัญมาฝากท่านอาจารย์เก็บไว้
ไมเ่ กบ็ ไวก้ บั ตัว หรอื เกดิ สงั หรณอ์ ย่างไรจงึ ฝากไว้ หรือทา่ นอาจารย์รลู้ ่วงหน้ากเ็ ลยเรียกให้ไปฝาก วา่ จะ
ถามแตค่ ณุ สมพรกเ็ จบ็ หนกั ไมค่ วรไปกวน ตอ่ มาเมอ่ื ทา่ นหายเจบ็ แลว้ ตามวสิ ยั คนกรงุ เรอื่ งผา่ นไปแลว้
กล็ มื เลย พบคณุ สมพรภายหลงั ก็พดู คุยเรอ่ื งอนื่ ไปหมด
จนกระท่งั เมอ่ื จะจดั ตง้ั เครอ่ื งบรขิ ารในห้องพพิ ิธภัณฑ์คิดจะแยกเป็นกล่มุ แสดงบรขิ ารท่ีทา่ นใช้
วนั เครอื่ งบนิ ตกโดยเฉพาะ เหน็ บาตรบบุ จงึ นกึ ขน้ึ ได้ โทรศพั ทต์ ดิ ตอ่ กบั ทา่ นไดเ้ มอื่ ตน้ เดอื นพฤศจกิ ายน
๒๕๓๒ นเี้ อง ท่านอุทานดงั ลน่ั เมือ่ ทราบเร่อื ง “อะไรนะครบั ซองเอกสารน่นั หรือครับได้มาจากบาตร
ทา่ นอาจารยจ์ วน”
“คะ่ ”
“ผมไมท่ ราบเลย เพิ่งทราบจากพเี่ ดี๋ยวนีเ้ อง โอ ! ผมขนลกุ ไปหมด”
“ทำ� ไมคะ ?”
“ผมไม่ได้เอาไปฝากท่าน อยู่กับตัวผมตลอดเวลาจนเครื่องบินตก เอกสารลับเป็นความเป็น
ความตายอย่างน้ัน ใครจะให้คลาดจากตัว แลว้ เขา้ ไปอยู่ในบาตรท่านไดอ้ ย่างไร ผมขนลุกจรงิ ๆ พบ่ี อก
วา่ บาตรบบุ อดั แนน่ เปดิ ไมไ่ ด้ จนพระตอ้ งชว่ ยกนั งดั เทา่ กบั ทา่ นชว่ ยไมใ่ หใ้ ครไปพบกอ่ นพวกเราจะพบ”
เรือ่ งเอกสารลับท่วี ่าน้ี แมท้ า่ นสมพรเองก็เพิ่งรวู้ า่ อย่ใู นบาตรของทา่ นอาจารย์จวน หลงั จาก
เวลาผ่านไปนับ ๑๐ ปี ไมไ่ ด้คดิ วา่ จะมเี หตอุ ัศจรรยน์ ี้เปน็ ควันหลงอยู่
นี่เป็นอจนิ ไตยอยา่ งแทจ้ รงิ ใครจะเป็นผู้อธบิ ายได้
กระดูกหน้าผากท่านพระอาจารย์จวน
คุณหมอประพกั ตร์ โสฬสจนิ ดา ไดเ้ มตตาเลา่ เรอื่ งนไ้ี วด้ งั น้ี
“โอย๊ ! ไอบ้ าตรบุบ ครูบายงคล์ ูกหลวงปโู่ ปรดน่ีบอกมาหรอก สกึ แลว้ เพราะว่า อาจารย์จวน
ตกเครื่องป๊บั ครบู ายงค์รเู้ ร่ือง ครบู ายงคไ์ ปเย่ยี มศพ ท่านอยทู่ ่โี รงพยาบาลภูมิพลฯ ครบู ายงคก์ ็ไปเอา
ไอน้ มี่ าให้ผมทั้งแท่งเลยนะ่ หน้าผากอาจารยจ์ วนน่สี ดๆ อยู่ มเี ลอื ดอยู่ เอามาให้ผมทข่ี อนแก่น ท่านว่า
370
“เอาไว้” “โอย๊ ! ไมไ่ ด้” ผมกน็ ึกวา่ ยังไม่ไดเ้ ผาเลยเอาไป เดีย๋ วกป็ อบกนิ ซะแล้ว เราก็คดิ แตเ่ รอ่ื งไม่คอ่ ย
ดีนะ เพน่ิ (ท่าน) ไดเ้ ลอื ดแตก
เป็นกระดูกอันนี้แหละ เป็นกระดูกแล้วผ่าชิ้นเนื้อมาทั้งชิ้นเลย ใหญ่ประมาณฝ่ามือน่ี ผมก็
ไมเ่ อาล่ะ มันเลอื ดแห้งติดอยู่ เออ้ ! ถา้ เผาไปแลว้ หรอื ทำ� พิธแี ลว้ นะ เราเอาอยู่ แตป่ รากฏว่าอันน้ี
ไปตกอย่กู ับหลวงปูอ่ งค์หนง่ึ ผมไดก้ อ่ นเลย แตผ่ มกไ็ ม่เอา ไมก่ ล้า เพราะว่าเรากเ็ ช่อื ของเกา่ โอ้ ! วา่
มนั สดๆ ร้อนๆ น”่ี
ทา่ นพระอาจารย์เติมศักด์ิ ยตุ ฺตติธมฺโม ได้เมตตาเล่าเร่อื งน้ีไวด้ งั นี้
“เรอ่ื งนม้ี นั เรือ่ งภายนอก ไม่ใช่เรอ่ื งภายใน คอื เขาไปเอากะโหลกใครไมร่ ู้ เหน็ อยูท่ เี่ ครือ่ งบินตก
เขาไดม้ า เขาเอามาใหม้ า คอื ศพอืน่ เขาไม่แตก มแี ต่ศพของหลวงป่จู วนแตก อาจารย์ยงคน์ ี่ ท่านสกึ
ไปแล้ว แต่กอ่ นเปน็ พระอยู่ ท่านได้รับไว้ รบั ไวก้ พ็ อเสร็จแล้ว เขาท�ำพิธศี พตรงนี้ เผา ท่านทำ� พธิ ศี พ
เหมือนกนั เผาตรงน้ี วันเดียวกนั ”
ค�ำท�ำนายโหรหลวง
(จากหนงั สือกุลเชฏฐาภิวาท)
เป็นเวลา ๙ ปกี วา่ ทผี่ ้เู ขยี นได้รบั คำ� ถามเก่ยี วกบั การเดินทางมาประสบอบุ ัติเหตุเครื่องบินตก
ของท่าน เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓
“ทา่ นรู้ลว่ งหน้าไหม ?”
“ถ้าร้ทู ำ� ไมท่านจงึ มา ?”
“พระระดับนีท้ �ำไมตอ้ งมาตายอยา่ งนี้ ?”
แรกๆ ค�ำถามจะเปน็ ไปในท�ำนองกา้ วรา้ ว ดูแคลน แตเ่ มอื่ เวลาผา่ นไป เกียรติคุณของทา่ น
เริ่มประจักษ์ พระธาตุของท่านเร่มิ ประจักษ์ พระธาตุของทา่ นเร่มิ ปรากฏ น้�ำเสียงของค�ำถามคอ่ ย
เปล่ยี นไปนอบนอ้ มขึน้ คารวะ แต่ก็ยงั สงสัยอยบู่ ้างตามวสิ ยั ของปถุ ุชนธรรมดา
“ทา่ นร.ู้ ..ทำ� ไมจงึ เดนิ ทางมา ?” ยังเป็นค�ำถามทผ่ี ูเ้ ขียนไดร้ ับและไมก่ ล้าตอบใหถ้ ึงใจ
วันน้ีน่าจะถึงเวลาท่ีควรบันทึกเหตุการณ์น้ีไว้ ถ้าเป็นส�ำนวนของท่านอาจารย์เอง ท่านจะว่า
“เพอื่ ให้เร่อื งสมบรู ณ์”
ผู้เขียนขอเล่าภาพเหตุการณ์ในคืนวันท่ี ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓ คืนแรกที่ต้ังศพท่านและ
ทา่ นอาจารยท์ ุกองคท์ ่วี ัดพระศรีมหาธาตุ เรากำ� ลังเตรียมตวั คอยรดน้�ำศพด้วยใจอนั โศกสลด
371
ทา่ นผ้ใู หญ่ในแผน่ ดินทา่ นหนึ่ง เห็นหน้าผ้เู ขยี นกเ็ รียกไปหาอยา่ งเมตตา เปน็ การปลอบใจ มใิ ห้
เศรา้ โศกจนเกินไป แลว้ ทา่ นก็บอกความข้อหนง่ึ ให้ฟงั
โหรหลวงเขาท�ำนายไว้วา่ “ปนี ี้ชะตาเมอื งไทยจะตกต�่ำถึงขีดสุด อาจจะมขี า้ ศึกยกเข้ามาใน
เมอื งไทย หรอื มิฉะนั้นก็จะต้องเสยี พระอริยเจ้าหลายองค์ในเวลาเดยี วกัน”
ทา่ นมองเรานิ่งอย่อู ย่างเห็นใจในความทกุ ข์และปลอบประโลมใจ
ผู้เขียนหายใจขดั ๆ โหรหลวงจะใหค้ �ำท�ำนายแม่นยำ� ถูกต้องหรือไมน่ น้ั อยา่ งไรกเ็ ป็นขอนไมท้ ่ี
ลอยมาให้เราเกาะนน่ั แหละ กราบเรยี นถามทา่ นวา่ “โหรหลวงท�ำนายไว้แต่เมอ่ื ใด ?”
ท่านบอกวา่ “โหรบอกไวแ้ ต่เมื่อกอ่ นปีใหม”่
ผ้เู ขยี นกราบแทบเท้าของท่าน
ท่านยอมสละชีวิตเพื่อประเทศชาติ
(จากหนงั สือกลุ เชฏฐาภวิ าท)
เราเคยคิด ขอใหเ้ ราตายไป จะตอ้ งตายอกี สักกคี่ รั้ง เพื่อแลกกับอสิ รภาพของชาติ เราก็ยนิ ดี
แลกชีวติ ทุกชาตินนั้ เพอ่ื อสิ รภาพของชาตไิ ทยเพียงหนเดยี ว
ท่านอาจารย์แทบทุกองค์มีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกับเรา ก่อนบวชก็คงเป็นเด็กหนุ่มท่ีมีเลือดรัก
ผนื แผน่ ดินไทย รอ้ นระอเุ หมือนๆ พวกเรา
ท�ำไมชะตาบา้ นเมืองจงึ ต้องการของแลกที่มรี าคาแพงอย่างน้ี
แตน่ ั่นแหละ ของท่ีเรารักทสี่ ุด ของทีเ่ ราหวงแหนทีส่ ดุ ก็ต้องประเมนิ ค่าท่ีจะตอ้ งแลกดว้ ยรัตนะ
อันมีคา่ ที่สุด
เลอื ก “รตั นะ” อนั เปรยี บดว้ ย “เพชรบนยอดมงกุฎแห่งอีสาน” เทียวหรือ
โอ ! ท่านอาจารยข์ องเราทกุ องค์
ผเู้ ขยี นกเ็ คยเลา่ ไวแ้ ลว้ วา่ ทา่ นอาจารยจ์ วนบอกกบั ทา่ นอาจารยว์ นั ตา่ งเขา้ ทพ่ี จิ ารณา ไดค้ วาม
ตรงกันว่า ทั้งสองจะมีอายุยืนมาก เฉพาะท่านน้ันจะอยู่จนอายุ ๙๒ ปีทีเดียว ท่านพูดเช่นน้ีตลอด
จนเดือนกมุ ภาพันธ์ปลายเดือน จึงเปล่ียนมาเริม่ พดู ถงึ การพลดั พรากจากกนั
นิมติ เร่อื งทท่ี า่ นเดินทางไปพบแมน่ ำ้� ใหญ่ขวางหน้าอยู่ น�้ำไหลเชีย่ วมาก ทา่ นอธษิ ฐานว่าขอให้
ข้ามไปถึงฝ่ังตรงข้ามใหไ้ ด้ น้ันเป็นนมิ ติ ท่นี ักกัมมัฏฐานยอ่ มเขา้ ใจได้ดวี ่า ทา่ นจะสามารถข้ามแมน่ �้ำแห่ง
โอฆสงสารไปพระนพิ พานได้ (ถา้ เรง่ ความเพียร) ในเทปประวตั ิที่ท่านอัดให้ผ้เู ขียนไวแ้ ต่เมอ่ื ปี ๒๕๒๑
372
ไม่มเี รอ่ื งนี้ ทา่ นเพ่งิ ยอมเลา่ เมอ่ื เดอื นมนี าคม ๒๕๒๓ เพยี ง ๑ เดือนก่อนมรณภาพ จำ� ไดว้ ่าเสียงตำ�่ เบา
เผอญิ อัดเทปไว้ได้
เร่ืองท่านพระอาจารย์ม่ันพยากรณ์ท่านว่า “กาเยนะ วาจายะ วะเจตะ วิสุทธิยา” อันมี
ความหมายว่า “ท่านจวนเป็นผมู้ ีกายและจิตสมควรแก่วสิ ุทธยิ า ความบริสทุ ธหิ์ ลดุ พน้ ” นท้ี ่านเพิง่ เล่า
ให้ผู้เขยี นฟัง เมอื่ วนั ท่ี ๗ เมษายน ๒๕๒๓ เพียงหนง่ึ วันก่อนเราเดนิ ทางกลบั จากภทู อก และไมไ่ ด้พบ
ทา่ นอีกเลย จนกระทัง่ ทา่ นสิ้นชีวิต
นมิ ติ ท�ำนองน้ีก็ดี คำ� พยากรณ์ของพอ่ แมค่ รอู าจารยก์ ็ดี ในเร่อื งเชน่ นี้ ปกตจิ ะไม่คอ่ ยมใี คร
ยอมบอกใหผ้ ูอ้ นื่ ฟัง ในเทปประวตั จิ งึ ไม่มี เปน็ ไปไดไ้ หม ครั้นเมื่อทา่ นคิดเปล่ยี นใจไม่อยูจ่ นกวา่ อายุ
๙๐ กวา่ คดิ จะปลงสังขารในเดือนเมษายนแลว้ ท่านจึงบอกให้ศษิ ยท์ ราบ
สำ� หรับผู้เขียนนนั้ แมอ้ ้อนวอนเซ้าซซี้ กั โน่นถามน่ี อันเปน็ เรอ่ื งลึกซึง้ มากๆ โดยอา้ งว่าเพอ่ื ทำ�
ประวัตอิ ันจะเป็นประโยชนแ์ กผ่ ้อู ยหู่ ลัง ทา่ นกห็ ลุดปากออกมา ๒ – ๓ ครง้ั ว่า “เอาเถอะ ไวอ้ าตมา
จวนจะตายแลว้ จะบอก”
การไปอยภู่ ูทอกเทีย่ วหลงั สดุ ต้นเดอื นเมษายนนน้ั เอง ท่านกถ็ ึงกับถามผเู้ ขียนวา่ “ชว่ ยท�ำ
ศพใหอ้ าตมาดว้ ยได้ไหม ?” ทา่ นย�้ำถงึ สองครง้ั เมือ่ ผเู้ ขียนอ้างว่า จะท�ำศพได้อย่างไร ทา่ นจะอยถู่ งึ
๙๐ กวา่ ตัวผ้เู ขยี นกอ็ ายุ ๘๐ กวา่ จะทำ� อยา่ งไร ท่านก็วา่ “ก็ถ้าเผ่อื มันตอ้ งเปลยี่ นแปลงล่ะ”
การพิจารณาอนาคตของทา่ นอาจารยว์ ันและทา่ นอาจารย์ไม่เคยพลาด ท่านบอกว่า ท่านจะมี
อายุถงึ ๙๐ กวา่ แต่แล้วในเดือนเมษายน กอ่ นหนา้ เสียชีวิต ทา่ นกบ็ อกขอให้ศิษย์คนหนึ่งช่วยท�ำศพให้
โดยบอกว่า “ถา้ เผื่อมนั ต้องเปลี่ยนแปลง”
ท�ำไมต้องเปลี่ยนแปลง ?
นิมติ และคำ� พยากรณ์ส�ำคญั ของทา่ นพระอาจารย์มั่น ทท่ี า่ นยอมบอก และท่านเคยว่า จะบอก
ใหต้ อนจวนจะตาย เป็นไปได้ไหม วา่ ท่านปลงสังขารใหม่แลว้ และท่านเตรยี มละขันธ์ ?
ทา่ นสัง่ ตงั้ เจา้ อาวาสลว่ งหนา้
ท่านพดู แลว้ ว่า มากรุงเทพฯ คราวนก้ี อ็ ยู่แค่วดั พระศรฯี (ซง่ึ กลายเป็นทีต่ ง้ั ศพของท่าน)
แนน่ อน... ท่านยอ่ มทราบ
ปัญหามเี พยี งวา่ ท�ำไมท่านต้องเปล่ียนแปลงก�ำหนดละขันธ์ของท่าน
ลกู โซท่ ุกหว่ งต่อเน่ืองกันมา หว่ งทขี่ าดหายไป คอื ห่วงซ่ึงผ้เู ขียนไมไ่ ดเ้ ขยี นเลา่ เรือ่ งการท�ำนาย
ของโหรหลวงน่ันเอง เป็นไปได้ไหม ถ้าค�ำท�ำนายของโหรหลวงแม่นย�ำ และญาณของท่านอาจารย์
ทุกองคก์ ส็ อดคล้องกบั ความน้ี มสี ิ่งศักดิส์ ิทธิ์มาอาราธนาเชิญทา่ นไป เพือ่ แลกให้กบั ความสงบสขุ ของ
373
บา้ นเมอื ง ? ท่านจะไม่ยนิ ดไี ปกระนน้ั หรอื
ทีท่ ่านอาจารย์ใชค้ �ำวา่ “ต้องเปลี่ยนแปลง” นั้นนา่ คดิ
ระหว่างแรกๆ ท่ีศรัทธาของคนส่วนใหญ่คลอนแคลน แต่ศรัทธาของผู้เขียนน้ันมีแต่จะม่ันคง
ยง่ิ ข้ึน ยิ่งมกี รณขี องบาตรบบุ มาเพม่ิ เตมิ อกี พลงั จิตของทา่ นแกร่งกลา้ ขนาดนี้ อิทธปิ าฏิหารยิ ์ของทา่ น
ยง่ิ ใหญ่ แม้ก�ำลังจะละขนั ธย์ งั สามารถคุ้มครองปกปอ้ งงานของแผ่นดินได้
เรอ่ื งเลก็ ขนาดนี้ ท่านยงั แผเ่ มตตาให้ เรอ่ื งใหญ่ขนาดซงึ่ เกย่ี วพันกบั ความเป็นความตาย
ความสขุ สบายของชาติ ทา่ นจะไม่เมตตาเลยหรอื ?
ในปี ๒๕๒๓ นั้นเอง ญวนยงั บกุ เขา้ มาถึงโนนหมากม่นุ คิดเลน่ ๆ ว่า ถา้ ท่านอาจารย์ทกุ ๆ องค์
ไมจ่ ากไป เหตกุ ารณแ์ ผน่ ดนิ จะวิกฤตเิ พยี งไหน
374
ภาค ๑๒ งานพระราชทานเพลิงศพท่านพระอาจารย์จวน
อัญเชิญศพท่านพระอาจารย์จวนประดิษฐานบนศาลาช้ัน ๕
“การอัญเชิญศพของ ทา่ นพระอาจารยจ์ วน กลุ เชฏฺโ จากวัดพระศรีมหาธาตุ กลับคนื มาสู่
วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภทู อก) สำ� เร็จลลุ ว่ ง ตง้ั แตว่ นั ท่ี ๘ พฤษภาคม ๒๕๒๓ ทางวัดได้ต้ังศพบ�ำเพ็ญกศุ ล
อยู่ ณ ศาลาเชงิ เขาชั้นล่างอย่อู กี ๗ วัน ในระหว่างน้ีไดม้ กี ารประชมุ คณะสงฆแ์ ละบรรดาศษิ ยข์ องทา่ น
โดยมหี ลวงปเู่ หรียญ วรลาโภ วดั อรัญญบรรพต จังหวดั หนองคาย เปน็ ประธาน ที่ประชมุ ไดป้ รึกษา
หารือกันเรื่องการจะจัดงานศพไม่ควรเก็บเอาไว้นาน โดยเฉพาะสถานที่ต้ังศพของท่านต้องตั้งไว้นาน
อย่างน้อยก็ ๖ เดอื น
เพราะกว่าจะถึงวันพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระกรุณา
โปรดเกลา้ ฯ กำ� หนดวันมานน้ั อยา่ งน้อยคงจะหลงั เดอื นพฤศจิกายน ซ่ึงหมดฝนแลว้ และข้าวในนาก็
เก็บเก่ียวหมดแล้ว ในระหว่างน้ันคาดว่าจะมีผู้เดินทางมากราบศพท่านเป็นจ�ำนวนมาก หากต้ังไว้
ณ ศาลาเชงิ เขาชน้ั ล่าง พระเณรยอ่ มไมส่ ะดวก เพราะตามปรกตเิ มื่อทา่ นฉันเช้าเสร็จแลว้ ต่างองค์
ก็จะปลกี วิเวกขน้ึ เขาไปภาวนาในป่าบนเขา หรอื ตามหน้าผา ตามหลบื ถำ�้ ตามสะพานรอบเขาช้นั ๕
หรอื ชน้ั ๖ สว่ นทศี่ าลาเชงิ เขาช้นั ลา่ งแทบจะไมม่ ีผ้คู น ฉะนั้น การต้งั ศพไว้ ณ ศาลาเชิงเขาชัน้ ล่าง
ย่อมต้องจัดพระเณรผลัดเปล่ียนกันเฝ้าเวร เพื่อดูแลความสะดวกเรียบร้อย แม้จะมีพระเณรจากวัด
ตา่ งๆ มาช่วยงาน กไ็ ม่อาจวางใจไดว้ า่ ท่านจะอยู่ชว่ ยงานไดต้ ลอดจนถึงวนั พระราชทานเพลิงศพ
ซ่งึ ทป่ี ระชมุ ตา่ งมมี ตเิ ห็นชอบใหเ้ คลอื่ นศพส่ชู ั้น ๕ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ในฐานะประธาน
ที่ประชุม ทา่ นได้ตดั สนิ วา่ หลงั จากการบ�ำเพญ็ กุศลครบ ๗ วันแลว้ ให้เชิญศพทา่ นพระอาจารยจ์ วน
ขึ้นไปตัง้ บนศาลาบนเขาชั้นท่ี ๕ “ใครจะมาว่าอะไร อาตมารบั ผิดชอบเอง” ท่านกล่าวอย่างหนักแนน่
และเสริมวา่ “ความจริงเม่อื ท่านอาจารย์จวนยงั มชี วี ิต นอกจากเวลาบิณฑบาตและฉนั จงั หนั แล้ว
ใครอยากกราบทา่ น กต็ อ้ งขนึ้ ไปบนเขาท้ังนนั้ ”
ทา่ นพระอาจารยเ์ ติมศักดิ์ ยุตตฺ ตธิ มโฺ ม ได้เมตตาเลา่ เรอื่ งน้ีไว้ดังนี้
“คือเรือ่ งประชมุ หลวงปู่เหรียญอยู่น้นั เร่ืองเคลื่อนศพขนึ้ ไปช้ัน ๕ อาตมาเปน็ ผถู้ ามในท่ี
ประชุมเองนะ คอื ทางอาจารยณ์ รงค์ สมุทรสาครนีแ้ หละ อาจารย์ณรงค์จะชว้ี ่า เอาไว้นานมันจะ
ยุ่งยากอะไรอย่างนั้นอย่างนี้ โยมผู้หญิงคนหนึ่งก็พยายามมาเอี่ยวกับเร่ืองน้ีด้วยว่าอย่างนั้นอย่างน้ีๆ
พดู ไปมันกไ็ มเ่ ขา้ ใจ โยมผู้หญงิ คนนัน้ ก็รอ้ งไห้ อาจารยณ์ รงคก์ ็ลกุ ไป โอ๊ะ ! อย่างน้กี ห็ ยุดพูดกันแล้ว
ไมต่ อ้ งพดู แล้ว กเ็ ลยพอวันที่ ๑ ผา่ นไป วันท่ี ๒ อาจารยณ์ รงค์ก็ยังอย่ใู ช่ไหม ? เขากป็ ระกาศทีข่ า้ งลา่ ง
เขานะว่า จะไวข้ ้างล่างหรอื ไวข้ า้ งบน ขอเสยี ง เอาไว้ขา้ งลา่ ง เงยี บ เสยี งไมก่ คี่ นเลย เอาไว้ขา้ งบน
เพียบหมด ถ้างน้ั ก็เอาขึ้นข้างบน เพราะเรากไ็ มไ่ ดเ้ อาขึ้นคนเดียวนะ เพราะเพยี งแต่พดู ๆ เท่านัน้ เองว่า