The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Narin Nonthamand, 2021-05-04 13:58:10

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

530

โ ป ร แ ก ร ม Sony Vegas ค ื อ โ ป ร แ ก ร ม ต ่ อ ว ิ ด ี โ อ บ น
ระบบปฏิบัติการWindows ที่ถูกพัฒนามาเพื่องานตัดต่อภาพยนตร์ และเสียง โดยในหนึ่ง
โปรแกรมนี้รองรับและสนับสนุนไฟล์รูปแบบไฟล์ จึงสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมอื่น ๆ ได้
อย่างมากมาย และโปรแกรมให้ผลงานที่มีระดับสูงได้ เช่น วิดีโอระดับ Full HD หรือเสียงระดบั
HQ VBR Studio Audio ได้

ภาพที่ 11.200 Sony Vegas
ภาพจาก : https://medium.com/@nichpol55/review-magix-vegas-pro-16-69b38ef7480f

เนื่องจาก การใช้งานที่ง่ายแต่มีอะไรที่ซับขึ้นอยู่ลึก ๆ มีลูกเล่นมากพอที่สามารถ
ประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ซึ่งแตกต่างจาก โปรแกรมทั่วไป ที่ทำได้น้อยกว่าและไม่ยืดหยุ่นใน
การใชง้ าน ด้วยการทำงานแบบชั้น (Layer) คล้าย ๆ กับโปรแกรม Photoshop และมี Effect และ
Transition ที่มากพอเช่นเดียวกับโปรแกรมอื่น ๆ ที่สำเร็จรูปมาให้ใช้ได้ทนั ที่จึงทำความเข้าใจได้
ง่าย นอกจากนีย้ ัง สามารถในการตดั ต่อภาพและเสียงไปพร้อมกันได้เลย ซึ่งเป็นความสามารถ
อันโดดเด่นสำหรบั Sony Vegas

3.1.5.3.4 edius

ภาพที่ 11.201 edius
ภาพจาก : https://iconape.com/edius-pro-logo-logo-icon-svg-png.html

531

ภาพที่ 11.202 edius
ภาพจาก : http://www.thaidfilm.com/simple/?t11833.html

edius คือ โปรแกรมชั้นเยี่ยมจากแดนอาทิตย์อทุ ัย เกิดขึ้นครั้ง
แรกเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2544 ในงาน InterBEE ประเทศญี่ปุ่นคราวนั้น บริษัท Canopus
พัฒนาซอฟต์แวร์หนึ่งให้กับสถานี NHKของญี่ปุ่นเพื่อให้ใช้กับระบบตดั ต่อCWS (Creative Work
Station) ผู้ที่เคยพบเห็น รูปร่างหน้าตาสีสันของซอฟต์แวร์ดังกล่าว ซึ่ง CWS เป็นโปรแกรม
ต้นแบบของ EDIUS ที่เราคุ้นหน้ากันดีในปัจจุบันนั่นเองในปี 2545 บริษัท Canopus เริ่มแถม
โปรแกรมตดั ตอ่ “EDIUS”ในกลอ่ งสินคา้ การด์ ตัดตอ่ หลายรุ่น

EDIUS ให้เครื่องมือพิเศษสำหรับทำงาน กับสื่อรูปแบบต่าง ๆ
เกือบทั้งหมดเพือ่ ให้มัน่ ใจว่า สื่อเหล่านจี้ ะนำเข้ามาใช้งานพร้อมกับ ข้อมูลเสริม (meta) ถ้ามีได้
นอกจากนั้นยังให้ตัวส่งออกในรูปของ MXF ซึ่งจะเพิ่มช่องทาง การนำวิดีโอที่สร้างเสร็จไปใช้
งานได้กว้างขวาง ขึ้น ตัวคอนเทนเนอร์ MXF ทำให้ระบบต่าง ๆ นำไปเปิดใช้งานได้ไม่เพียงแต่
เซิรฟ์ เวอร์ K2 ของ Grass Valley เท่าน้ัน แตร่ วมทั้งเซิรฟ์ เวอร์จากผพู้ ัฒนาอิสระอื่น ๆ อีกด้วย
นอกจากั้น ตัวส่งออก MXF ยังมี FTP สำหรับส่งข้อ มูลขึ้น (upload) และเพื่อนำการเข้ารหัส
แบบ เซ็กเมนต์ และมัลติเทรด ที่สนับสนุน MPEG-2 ซึ่งเป็นจุดเด่นของ EDIUS มาใช้ได้อย่าง
เต็มที่

โดยในปัจจุบัน โปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อ มีมากมายขึ้นอยู่กับ ผู้ผลิต ที่จะเลือกใช้
โปรแกรมได้ให้เหมาะกับงานของตนซึ่งพื้นฐานการใช้โปรแกรมต่างๆนั้นมีพื้น ฐานการใช้
เหมือนกัน เพียงแต่หน้าจออินเตอร์เฟสหน้าจอการออกแบบหน้าจอตำแหน่งเครื่องมือต่างๆที่

532

แตกต่างกันถ้าผู้สอนหรือผู้ผลิต สามารถใช้โปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งได้ผู้สอนหรือผู้ผลิตนั้นก็
สามารถใช้โปรแกรมตดั ตอ่ ได้ทกุ โปรแกรม

ภาพที่ 11.203 โปรแกรมทีใ่ ช้ร่วมในการตดั ต่อวิดีโอ
ภาพจาก นรินธน์ นนทมาลย์

จากภาพ ผู้สอนจะเห็นว่ามีโปรแกรมต่าง ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการผลิต
วิดีโอร่วมกันได้ เช่น ช่องที่หนึ่งเป็นโปรแกรม หรือซอฟต์แวร์ที่ในการผลิตภาพ โปรแกรมที่
ยกตัวอย่างมาก็คือการใช้โฟโต้ชอปและอิลาสเตเตอร์ ชอ่ งทีส่ องเป็นซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่
ใช้ในการตดั ต่อและผลิตเสียง ช่องทีส่ ามเปน็ Flash แอนเิ มชนั่ ซึง่ ปจั จุบันอาจไมไ่ ด้รบั ความนิยม
ช่องที่สี่เป็นการทำกราฟฟิคอะนิเมชัน เอฟเฟคต่างๆของวิดีโอ คือ อาฟเตอร์เอฟเฟคและไอ
โมช่นั ชอ่ งที่หา้ คือ การนำภาพนิ่งหลายๆภาพมารวมกันเป็นวิดีโอแล้วใส่ดนตรีบรรเลงและช่อง
สุดท้ายเป็นโปรแกรมทีใ่ ช้ในการตัดต่อวิดโี อ

533

3.1.5.4 แอพพลิเคชั่น ตัดตอ่ วีดิโอ (Videos editing applications)
ด้วยเทคโนโลยี ที่ปัจจบุ นั มี แอพพลิเคชั่น ตา่ งๆ ที่สามารถทำให้ตัดต่อ
วีดิโอได้ด้วยตนเองผ่านสมาร์ทโฟน (Smart Phone) หรือ แท็บเล็ต (Tablet) จึงเป็นสิ่งที่อำนวย
ความสะดวกที่ช่วยให้ผู้ผลิตวีดิโอไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือ โน๊ตบุ๊ค
เพราะได้มโี ปรแกรมตัดต่อวิดีโอเหล่านอี้ ยู่บนมอื ถือ หรอื อปุ กรณ์ตา่ งๆกับผู้ผลิตแล้ว ดังน้ันจึง
สามารถช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตัดต่อวีดิโอเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งแอพพลิเคชันตัดต่อวีดิโอสามารถใช้
งานได้ง่ายบนหน้าจอสัมผัสขนาดเล็ก และมักจะมีราคาถูกกว่าซอฟต์แวร์เดสก์ท็อปมากด้วย
ในปี 2020 มีเครื่องมือมากมายในตลาด และแต่ละรายการมีสิ่งที่แตกต่างกันสำหรับ
วัตถุประสงค์และระดับทักษะทีแ่ ตกต่างกัน และมีให้ผู้ใช้ได้เลือกแอพพลิเคชั่น ตัดต่อวีดิโอ ที่มี
อยู่ในปัจจุบันทั้งแบบชำระเงิน และไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งมีแอพพลิเคชั่น ตัดต่อวีดิโอ อาทิเช่น
(Tom May, 2020)

3.1.5.4.1 Adobe Premiere Rush (cross-platform)

ภาพที่ 11.204 Adobe Premiere Rush CC 2019 iPhone
ภาพจาก : https://www.youtube.com/watch?v=G3mhVJtyg8w

แนวคิดคือไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นในช่วงการเรียนรู้ที่สูงชันซึ่ง
เกีย่ วข้องกับเครื่องมอื ตัดตอ่ วิดีโอที่ซับซ้อนมากขึ้นของ Adobe เช่น Premiere Pro, After Effects
และ Audition แต่คุณสามารถเลือกแอพฯ ที่ใช้งานง่ายนี้ประมวลผล คลิปของคุณได้อย่าง
รวดเร็ว และอัปโหลดไปยังแพลตฟอร์มโซเชียล แอปจะดูแลอัตราส่วนและคุณภาพที่ต้องการ
สำหรับแต่ละแพลตฟอรม์ โดยอตั โนมัตชิ ว่ ยใหค้ ุณไม่ตอ้ งกงั วลไปพร้อมกัน

534

3.1.5.4.2 GoPro App (cross-platform)

ภาพที่ 11.205 GoPro integrates Quik video editing tools into its main mobile app
ภาพจาก : https://www.dpreview.com/news/6521446201/gopro-integrates-quik-video-

editing-tools-into-its-main-mobile-app
ด้วยอินเทอร์เฟซทีช่ ัดเจน และใช้งานง่าย GoPro App สามารถ

นำเข้าภาพเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ และช่วยให้ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเช่น พากษ์เสียง
คลิป ของคุณ กับเพลงเพิ่มรูปภาพชื่อเรื่อง และลำดับเวลารวมกราฟตามสถิติของคุณ การ
เคลื่อนไหว และอื่น ๆ และเมื่อตัดต่อเสร็จแล้วคุณสามารถอัปโหลดรูปภาพ และวิดีโอไปยัง
Instagram, Facebook, YouTube และอืน่ ๆ ได้โดยตรงหรือแชร์ทางข้อความหรอื อีเมล แอพฯ นี้
ให้บริการฟรี แต่หากคุณสมัครสมาชิก GoPro Plus คุณจะสามารถเข้าถึงเพลงประกอบพิเศษ
และคณุ สามารถอัปโหลดรูปภาพ และวิดีโอไปยังระบบคลาวดโ์ ดยอตั โนมัตเิ พื่อแก้ไขได้ทกุ ที่

3.1.5.4.3 LumaFusion (iOS)

ภาพที่ 11.206 Lumafusion
ภาพจาก : https://www.techxcite.com/topic/33681.html

535

แอพฯ นี้สำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad มีแทร็กวิดีโอ / เสียง 6
แทรก็ สำหรบั รูปภาพวิดีโอช่อื เรื่องและกราฟิกพร้อม กับแทร็กเสียงพิเศษอีก 6 แทร็กสำหรับคำ
บรรยายเพลง และเอฟเฟกต์เสียง อินเทอร์เฟซค่อนข้างคล้ายกับ Final Cut Pro โดยมีไทม์ไลน์
แม่เหล็ก และเครื่องมือขั้นสูงที่นำเสนอ ได้แก่ ความสามารถในการแทรก / เขียนทับคีย์เฟรม
การแก้ไขสีรองรับ PAL ที่ 25fps อยา่ งเตม็ ทีเ่ ม่อื สง่ ออกตัวผสมเสียงที่มีคณุ สมบัติครบถ้วนการ
ส่งออกแบบไม่สูญเสีย รองรับวิดีโอแนวต้ังเครื่องมือสร้างชื่อขั้นสูงและการเคลื่อนไหวช้า / เร็ว
(ไปข้างหน้าและถอยหลัง) เมื่อตัดต่อเสร็จแล้วจะมีตัวเลือกการแบ่งปัน และตัวเลือกการ
ส่งออกทีไ่ มม่ ที ีส่ ้ินสดุ

3.1.5.4.4 KineMaster Pro (Android)

ภาพที่ 11.207 KineMaster
ภาพจาก : https://droidsans.com/kinemaster-simple-video-editing-app/

เป็นแอพฯ ตัดต่อวิดีโอสำหรับ Android เท่านั้น KineMaster
เป็นแอพที่ดีที่สุดในเมือง เครื่องมือระดับมืออาชีพที่ทรงพลัง และหลากหลายนี้ช่วยให้คุณ
สามารถถ่ายภาพแก้ไข และส่งออกภาพของคุณทั้งหมดบนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณ และ
นั่นไม่ได้หมายความว่าจะลดทอนคุณภาพ ด้วย KineMaster คุณสามารถตัดต่อคลิปวิดีโอ
และเลเยอร์ได้อย่างแม่นยำด้วยความละเอียดทีละเฟรมในขณะที่สามารถปรับเวลาของคลิป
เสียงได้ด้วยความแมน่ ยำของเฟรมยอ่ ย

536
3.1.5.4.5 iMovie (Apple devices)

ภาพที่ 11.208 iMovie (Apple devices)
ภาพจาก : https://appletld.com/imovie-update-brings-new-filters-soundtracks-and-fixes/

iMovie รองรับ 4K บนอปุ กรณ์ Apple สมยั ใหม่และอย่างที่คุณ
คาดหวังผสานเข้ากับระบบนิเวศของ Apple โดยรวมได้อย่างสวยงาม ตัวอย่าง เช่น สามารถ
บันทึกคลิปของคุณไปยังไดรฟ์ iCloud หรือสตรีมไปยัง Apple TV ผ่าน AirPlay และทุกอย่างก็
เลน่ ได้ดีกับ Apple Photos, Mail และ Messages ด้วย

3.1.5.4.6 FilmoraGo (Android)

ภาพที่ 11.209 FilmoraGo (Android)
ภาพจาก : https://appletld.com/imovie-update-brings-new-filters-soundtracks-and-fixes/

537

การใช้งานง่าย และสามารถช่วยให้วิดีโอของคุณดูเป็นมือ
อาชีพอย่างนา่ ประทบั ใจด้วยฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ตามธีมต่างๆ ซึ่งแตกตา่ งจากเดสก์ท็อป คือ
ดาวน์โหลดได้ฟรี และจะไม่ประทับลายน้ำหรือ จำกัด เวลาในคลิปของคุณดังนั้นจึงควรค่าแก่
การลอง เป็นที่ยอมรับว่ามีการซื้อในแอพฯ บางอย่างเช่นเพลง และเอฟเฟกต์ แต่วิดีโอของคุณ
สามารถทำงานได้ดีหากไมม่ พี วกเขาและโฆษณาภายในก็ไม่ได้รบกวนโดยเฉพาะเช่นกนั

3.1.5.4.7 Apple Clips (iOS)

ภาพที่ 11.210 Apple Clips (iOS)
ภาพจาก : https://series.tech/2019/04/apple-clips-update-video-editing-garageband-title-
cards/

Apple Clips ให้คณุ สร้างและส่งข้อความวิดโี อหรือเล่าเร่ืองราว
วิดีโอด้วยฟิลเตอร์ข้อความเคลื่อนไหวเพลงอีโมจิ และสติกเกอร์ คุณสมบัติที่เพิ่มล่าสุด ได้แก่
ตัวเลือกการแชร์ที่หลากหลายมากขึ้น (แชร์วิดีโอผ่าน AirDrop หรืออีเมลบันทึกลงในไฟล์หรือ
อัปโหลดไปยังบริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์) ความสามารถในการสร้างเพลงใน GarageBand
และเพิม่ ลงในวิดีโอใหมห่ รอื วิดีโอทีม่ ีอยไู่ ด้โดยตรง และฟิลเตอร์กล้องถ่ายวิดีโอใหม่ นอกจากนี้
ยังมีปุ่มทำสำเนาสำหรับทำสำเนาคลิปของคุณ และปุ่มแยกเพื่อแบ่งคลิปของคุณออกเป็นสอง
ส่วน

538

3.1.5.4.8 Filmmaker Pro (iOS)

ภาพที่ 11.211 Filmmaker Pro (iOS)
ภาพจาก : https://www.jonzmikly.com/7-best-mobile-video-editors/

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับการตัดต่อวิดีโอระดับโปรบน iPhone
แอพฯ ตดั ต่อวิดีโอทีท่ นั สมยั ทีส่ ดุ น้ีมาพร้อมกับฟิลเตอร์ทีย่ อดเยีย่ ม 30 ตัวเช่นไม่ต้องพูดถึงการ
เปลี่ยน 17 ครั้ง และเสียงพากษ์ที่ช่วย Audiometer มีการจัดลำดับวิดีโอการสนบั สนุนหน้าจอสี
เขียวที่ยอดเยี่ยมแบบอักษรที่แตกต่างกันเกือบ 200 แบบสำหรับการวางซ้อนข้อความของคณุ
และเครือ่ งมือข้ันสงู เช่น การคีย์โครเมียม ในรายการน้ีแอพฯ นีใ้ ห้ดาวนโ์ หลดฟรี แต่ไม่ได้ให้ชุด
คุณลักษณะทั้งหมดแก่คุณ เพื่อให้คุณถูกนำไปสู่การซื้อในแอพฯ นอกจากนี้ยังใส่ลายน้ำให้
วิดีโอของคุณ และหากคุณต้องการลบออกคุณจะต้องสมัครสมาชิกรายเดือนหรือรายปี กล่าว
อีกนัยหนึ่งให้พิจารณาว่านี่เป็นแอพฯ แบบชำระเงินสำหรับการสมัครสมาชิกและถือว่าการ
ดาวน์โหลดฟรีเปน็ เวอรช์ ันทดลองใช้ฟรี

3.1.5.4.9 Power Director (cross platform)

ภาพที่ 11.212 Power Director (cross platform)
ภาพจาก : https://www.jonzmikly.com/7-best-mobile-video-editors/

539

PowerDirector ของ Cyberlink เป็น iMovie ที่เทียบเทา่ กบั Android
(ด้านบน) แม้ว่าจะมีให้บริการสำหรับ iOS ก็ตาม อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของแอพฯ ช่วยให้
จัดเรียง และแก้ไขฉากของคุณบนไทม์ไลน์รวมถึงเพิ่มชื่อเรื่องและช่วงการเปลี่ยนภาพ
นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟกต์ที่คัดสรรมาอย่างดีความสามารถในการเพิ่มเพลงประกอบ และเสียง
พากษเ์ ครื่องตัดต่อภาพและรองรบั การเคลือ่ นไหวช้า

3.1.5.4.10 Inshot (cross-platform)

ภาพที่ 11.213 Inshot (cross-platform)
ภาพจาก : https://www.softforpc.com/inshot-video-editor-online-for-pc/

หน่งึ ในแอปตดั ต่อวิดีโอทีด่ ที ี่สดุ หากคุณใช้เวลาออนไลน์เป็นจำนวนมาก Inshot
เปน็ โปรแกรมตัดต่อภาพ และวิดีโอ HD แบบออลอินวันสำหรบั iOS และ Android ที่มุ่งเน้นไปที่
การสรา้ งวิดโี อสำหรบั โซเชยี ลมีเดียเป็นอยา่ งมาก ตัวอย่างเชน่ มาพร้อมกบั ขนาดผา้ ใบที่สร้างไว้
ล่วงหนา้ สำหรบั ทกุ อย่างตง้ั แต่ IGTV ไปจนถึง TikTok

3.2 การตดั ตอ่ (Editing)
คือ การลำดับภาพจากภาพยนตร์ที่ถ่ายทา ไวโดยนา แต่ละฉากมาเรียงกัน
ตามโครงเรือ่ งจากน้ันใช้เทคนิคการตดั ต่อให้ภาพ และเสียงมีความสมั พันธ์ที่ต่อเนอื่ งกัน เพื่อให้
ได้ภาพยนตร์ที่เต็มรูปแบบ การตัดต่อเป็นส่วนหนึ่งของ กระบวนการหลังการผลิตสื่อ (Post-
production) ซึ่งประกอบไปด้วย การตรวจสอบวิดิโอต้นฉบับ(ตรวจสอบ Footage) การตัดต่อ
การแก้ไขระบบสี และการผสมเสียง ฯลฯ ซึง่ ในการตดั ต่อ มีขน้ั ตอนดังน้ี

540

3.2.1 Import resources
คือ การการนำคลิปเสียง และ / หรือ คลิปภาพถ่าย โดยเป็นการ
Import ไฟล์ต่างๆ เพื่อนำมาใช้งาน ในการทำงานกับชิ้นงานเราควรต้องมีการจัดการกับคลิป
วิดีโอทีเ่ รา Import เข้าไป โดยต้องทำให้เปน็ ระเบียบเพื่อไม่ใหเ้ ราสงสัยว่าคลิปใดเปน็ คลิปใด เรา
ควรต้องมีการแบ่งแยกคลิปไว้เป็นโฟลเดอร์อย่างเช่น การจัดเก็บคลิปวิดีโอ ให้เราสร้าง
โฟลเดอร์ขึ้นในหนา้ ต่างโปรเจ็ค แล้วตงั้ ชื่อที่เราคิดว่าจำได้
3.2.2 Editing
ขั้นตอนการแก้ไข และ Timeline นี้ ในขั้นตอนนี้คุณสามารถที่จะ
เรียงลำดับคลิปวิดีโอที่ถ่ายมาแต่ไม่ได้เรียงลำดับเหตุการณ์กัน ก็มาเรียงลำดับเหตุการณ์ใน
ขั้นตอนนี้ หรือแทรกคลิปวิดีโออื่นๆ เข้ามาในกระบวนการตัดต่อ เช่นหลังจากที่คุณจับภาพมา
จากกล้องแล้ว เห็นว่าคลิปวิดีโอที่มีอยู่ในเครื่องเหมาะสม น่าที่จะนำมาแทรกในบางช่วงของ
วิดีโอทีค่ ณุ กำลงั ตัดต่อ ก็สามารถทำได้ กรณีที่มคี ลิปวิดีโอเพียงไฟล์เดียว เช่น จับภาพวิดีโอมา
เปน็ ไฟล์เดียว ไม่ได้แยกไฟลเ์ ปน็ หลายๆ สว่ นก็สามารถตัดแยก scene วิดีโอได้ เพือ่ ใส่เอฟ็ เฟ็กต์
ระหว่าง scene ลบคลิปวิดีโอที่ไม่ ตอ้ งการออก ตัดคลิปวิดีโอบางสว่ นที่ถา่ ยเสียหรอื ไม่ต้องการ
ออก และการใส่วิดีโอฟิลเตอร์ (เช่น การใส่ตัวฟิลเตอร์ ฝนตกในคลิปวิดีโอ ทำให้คลิปวิดีโอนั้น
ดเู หมอื นมฝี นตกจริงๆ ) ก็สามารถทำได้ในขั้นตอนนเี้ ชน่ กนั
3.2.3 Add transitions
ในขั้นตอนนี้ ให้คุณสามารถใส่ทรานสิชั่น (transition) ระหว่างคลิป
วิดีโอใน project กลมุ่ ของทรานสิช่นั ต่างๆ ให้เลือกอยา่ งมากมายใน Library ทรานสิชั่น เป็นเอ็ฟ
เฟก็ ต์ทีใ่ ส่ไว้ในระหว่างคลิป ทำให้วิดีโอดนู ่าสนใจยิง่ ขนึ้ เช่น ฉากทีค่ อ่ ยๆ จางหายไปจนมดื แล้ว
ก็มีฉากถัดไปที่จางแล้วค่อยๆ ชัดเจนขึ้น หรือ ในระหว่างที่มีการเปลี่ยนฉากนั้น จะมีภาพซ้อน
กันของท้ังสองฉาก เป็นต้น นี่เปน็ การใส่ทรานสิชัน่ นัน่ เอง
3.2.4 audio (music, voice over, sound effects)
ขั้นตอนนี้สำหรับใส่ดนตรีประกอบวิดีโอ สามารถเลือกเพลงจากแผ่น
CD แล้วบันทึกมาเป็นไฟล์ทำดนตรี ประกอบได้ บันทึกเสียงบรรยายวิดีโอ รวมทั้งการปรับแตง่
เสียงต่างๆ เช่น ลดเสียงในวิดีโอต้นฉบับในบางช่วง ขณะที่บันทึกเสียงบรรยายลงไป เพื่อให้ได้
ยินเสียงบรรยายชดั เจนมากยิ่งขึ้น หรอื ปรับระดับเสียงของดนตรีประกอบ เปน็ ต้น

รปู แบบของไฟลเ์ สียง
มีรปู แบบของการเกบ็ ข้อมลู เสียงมากมาย และแต่ละรูปแบบก็
สามารถเปลี่ยนไปมากันได้ บางรูปแบบที่มีการบีบอัด เมื่อเปลี่ยนกับมาเป็นรูปแบบที่ไม่มีการ

541

บีบอัดก็จะได้คุณภาพเสียงเหมือนที่บีบอัดไป แล้ว เพราะมีการสูญเสียคุณภาพสัญญาณไปใน
ขั้นตอนของการบีบอัดไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้โปรแกรมดนตรีมักจะเก็บข้อมูล
เสียงดังน้ี

1. AIFF
ย ่ อ ม า จ า ก Audio Interchange File Format เ ป็ น
รูปแบบที่ใช้กันมากกับโปรแกรมบน Mac เพราะ Apple เป็นผู้ริเริ่ม เป็นได้ทั้ง Mono และ
Stereo ความละเอียดเริม่ ต้นที่ 8 Bit/22 kHz ไปจนถึง 24 bit/ 96 kHz และมากกวา่ นนั้
2.. MP3
เป็นรูปแบบที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน ในฐานะที่คุณภาพ
เสียงที่ดีในขณะที่ข้อมูลน้อยมาก ประมาณ 1 MB ต่อ เพลงความยาว 1 นาทีแบบ Stereo ซึ่ง
เป็นการบีบอัดโดยลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลเสียง และตัดเสียงที่หูของมนุษย์ไม่สามารถได้ยิน
โดยอ้างองิ จากงานวิจยั Psychoacoustic แต่ไม่สามารถใหค้ ุณภาพเสียงที่ดีกว่าเสียงแบบ Full
Bandwidth หรือ Hi-fi ได้ เพราะมันเป็นการบีบอัดที่สูญเสียหรือ เรียกว่า “Lossy Technology”
ถึงแม้วา่ เจ้าของค่ายเพลงในเมอื งไทยหรือท่ัวโลกไม่ชอบมัน แตใ่ นเมื่อมันคุ้มคา่ สำหรบั เกบ็ ไว้ฟัง
หรือส่งต่องานให้เพื่อน โปรแกรมดนตรีส่วนใหญ่ก็ให้เราสามารถ import /export งานเป็น
MP3 ได้
3. QuickTime
แม้ไม่ได้เป็นรูปแบบของการเก็บข้อมูลเสียงโดยเป็น
โปรแกรมเล่น media ที่พัฒนาโดย Apple แต่โปรแกรมดนตรีบางตัวก็ สามารถ Save หรือ
Load ข้อมูลเสียง , Video , MIDI เป็น File ของ QuickTime ได้ สิ่งสำคัญที่ควรรู้อีกอย่างก็คือ
ข้อมูลเสียงที่ save มาจาก QuickTime หรือโปรแกรมที่ Compatible กับ QT อย่าง TC Works
Spark อาจจะเป็นไฟล์ Extension อย่าง .mov , .aif หรือ .WAV ก็ได้ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง
เรื่องนี้ เนื่องจากโปรแกรมดนตรีส่วนใหญ่จะสามารถเล่นไฟล์ QT โดยไม่สนใจว่าจะเป็นไฟล์
Extension แบบไหนกต็ าม
4. RealAudio
คนชอบฟังเพลงบน Internet คงรู้จักกันดี ไฟล์
RealAudio จะแสดง Extension เป็น .ra หรือ .rm ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบ RealSystem G2 ไว้
สำหรับการเล่น multimedia จาก RealNetworks ซึ่งจะมี Tools ในการเล่น, encode รวมไปถึง
tools ในการทำ server ให้ใช้ฟรี ๆ ในการส่ง Audio, Video, Animation ผ่านเวป แต่แม้ว่า
โปรแกรมดนตรีส่วนใหญ่จะไม่ใช้ RealAudio ในการบันทึก แต่กับ บางโปรแกรม เราสามารถ

542

เก็บงานของเราเป็น RealAudio เพื่อใช้บนเว็ป ซึ่งแน่นอน ว่า RealAudio ก็เป็น Lossy Format
เหมอื นกบั MP3

5. REX
เป็นไฟล์เสียงของโปรแกรม Propellerhead Recycle
ซึ่งเป็นโปรแกรมที่แบ่งไฟล์เสียงประเภท Loop (เป็นวลีดนตรีหรือจังหวะที่ สามารถเล่นซ้ำไป
เรื่อย ๆ ต่อเนื่องกันได้) ออกเป็นชิ้น ๆ เช่นเสียงกระเดื่อง กลองสแนร์ หรือ ไฮ-แฮท ซึ่งไฟล์ที่
ถูกแบ่งเหล่านี้สามารถ นำไปใช้กับ Sampler แล้ว Trigger โดย MIDI Sequence ที่สร้างขึ้นมา
โดย Recycle เช่นกัน ทำให้เราสามารถที่จะเร่งหรือลดความเร็ว โดยที่ pitch ของเสียงไม่มีการ
เปลี่ยนเลย ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับ Technology Groove Control จาก Spectrasonics และ
ILIO แต่ต่างกันตรงที่ Groove Control นั้นมีการเตรียมไฟล์ที่หั่นไว้แล้วกับ MIDI โดยทาง
Spectrasonics เอง ไม่รู้ว่า ทาง Spectrasonics จะใช้ Recycle ทำรึเปล่านะครับ ไฟล์ REX เองมี
Extension อยู่หลายอันเลยอย่าง .rx2 (Recycle 2.0 หรือสูงกว่า).ryc และ .rex ซึ่งสร้าง มาจาก
เวอรช์ ันแรก
6. Sound Designer II
โด่งดังมาจาก โปรแกรม Sound Designer Stereo
Editing จาก Digidesign และใช้กับ Pro Tools ด้วย Sound Designer II หรือ SD II สนับสนุนไฟล์
เสียงที่ความละเอียด ต่าง ๆ เหมือนกับ WAV และ AIFF โปรแกรมดนตรีส่วนใหญ่ก็จะมี
คณุ สมบัติในการแปลงไฟล์ WAV หรอื AIFF มาเปน็ SD II
7. WAV
ถูกสร้างขึ้นจากการรวมตัวกนั ของ Microsoft กับ IBM
WAV format สามารถใช้ได้กับ bit depths และ sample rate ในระดับ ต่างกัน ในขณะที่ AIFF
เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ PC ด้วย ในเร็วๆนี้ Acidized WAV files ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอีก นี่คือ
ชนิดของ WAV files ที่รวมข้อมูลของ pitch กับ tempo เข้าไว้ด้วยกัน Acidized WAV สามารถ
ถูกอ่านได้โดย Sonic Foundry Acid และ โปรแกรมอื่นๆที่สามารถให้ samples ที่จัด pitch and
tempo ได้โดยอตั โนมตั ิ
8. WMA
ยอ่ มาจาก Windows Media Audio เป็นไฟล์เฉพาะของ
ทางไมโครซอฟต์ ถือเปน็ คแู่ ข่งโดยตรงกบั ไฟล์ .mp3 เลยทีเดียว เนื่องจากมีคุณสมบัติใกล้เคียง
กันแต่มีขนาดไฟลท์ ีเ่ ล็กกว่านั่นเอง ทั้งนี้ .wma ยังรองรับการ Streaming ผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย

543

เนื่องจากขนาดไฟล์เล็ก ทำให้ผู้ใช้บริการโหลดคอ่ นข้างไว ถือว่าได้รับความนิยมในมุมของการ
เลน่ เพลงผ่านอินเทอรเ์ นต็ พอสมควร

9. AAC
ถกู พฒั นามาจากไฟลป์ ระเภท MPEG-2 ซึ่งจุดเด่น
ของ .aac จะมีขนาดไฟลท์ ี่เลก็ มาก อีกท้ังยงั ได้คณุ ภาพทีด่ สี งู กว่า .mp3 อีกด้วย รองรับอตั รา
การเล่นไฟลท์ ี่สงู ถึง 576 Kbps นอกจากนีย้ งั สามารถแยกเสียงได้ถึงระบบ Dolby Digital 5.1
ด้วยเช่นกนั
10. OGG
รูปแบบไฟลเ์ สียงใหม่ลา่ สดุ ย่อมาจาก Ogg Vorbis ที่
ใช้เทคโนโลยีการบีบอัดไฟลแ์ บบใหม่ มขี นาดเล็กกวา่ .mp3 แตใ่ ห้คุณภาพเสียงที่ดีมาก รองรับ
Steaming ผ่านอินเทอร์เนต็ อีกด้วย สามารถเข้ารหัสเสียงได้ตงั้ แตแ่ บบ Mono, Stereo ไปจนถึง
ระบบ 5.1 Surround Sound
11. FLAC
ย่อมาจาก Free Lossless Audio Codec เป็นรูปแบบ
การบันทึกเสียงชนดิ หนง่ึ ที่ถือได้วา่ เป็นมาตรฐานการบีบอัดข้อมลู แบบไมส่ ูญเสียของไฟล์เสียง
ดิจิทัล โดยขั้นตอนวิธีของไฟล์ FLAC จะสามารถประหยัดพื้นที่ขึ้น 50-60% ของไฟล์ต้นฉบับ
แต่ถ้าหากเปรียบเทียบในกับไฟล์ประเภท LOSSY Audio จะพบว่า FLAC ที่เป็น LOSSLESS จะมี
ขนาดใหญ่กวา่ มาก เช่นจากเดิมไฟลข์ นาด 5mb อาจเพิ่มเป็น 10mb กเ็ ปน็ ได้
12. M4A
พัฒนามาจาก AAC เดิม ซึ่งผู้ผลิต .m4a คือบริษัท
Apple นัน่ เอง หลายๆคนทีเ่ คยใช้ iTune จะคุ้นเคยกนั ดีกับไฟลป์ ระเภทนี้ เมือ่ เทียบกบั .aac เดิม
จะพบว่าคุณภาพการบีบอัดของ .m4a จะมีประสิทธิภาพมากกว่า อีกทั้งยังรองรับ Tagging
Standard ซึ่งสามารถเก็บได้ทั้งชื่อเพลงและอัลบ้ัม (สังเกตได้จากไฟล์ทีโ่ หลดจาก iTune เป็นต้น
โดยความสามารถนี้ไฟล์ .aac จะไม่รองรับ ถือเป็นอีกจุดเดนที่ Apple ได้พัฒนาขึ้นมาใช้เลย
ทีเดียว
13. Cda
จริงๆแล้ว CDA ย่อมากจาก CD Audio เป็นไฟล์ที่อยู่
ในแผ่น CD นั่นเอง ซึ่งถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัล เหมือนกับไฟล์ Wave แต่ถูกบรรจุไว้ในแผ่น
ซีดีเพลงด้วยรูปแบบพิเศษ มีขนาดไฟล์ค่อนข้างใหญ่ ถ้าลองซื้อแผ่นซีดีเพลงมาหนึ่งแผ่นจะ
พบว่ามีเพลงประมาณ 10-12 เพลง แต่เนื้อที่ซีดีถูกใช้จนเกือบหมด (500-800mb) แสดงให้

544

เห็นว่าขนาดไฟลค์ อ่ นข้างใหญ่ ถูกบีบอัดชนิดที่ว่าไม่สูญเสียเลยก็ว่าได้ครับ แต่ข้อเสียคือไฟลน์ ี้
จะถูกบรรจุในแผ่น CD ไม่สามารถนำลงเคร่อื งได้เหมอื นไฟล์ทั่วๆไป ต้องใช้โปรแกรมพิเศษ

3.2.5 titles and credits / text, credits
ใส่ตัวหนังสือในวิดีโอ เช่น ชื่อเรื่องวิดีโอ แสดงชื่อบุคคล หรือ
ตัวหนังสือปิดท้ายวิดีโอ ใครถ่ายทำ ถ่ายเมื่อไหร่ ที่ไหน เป็นต้น สามารถที่จะสร้างตัวหนังสือ
แบบเคลือ่ นไหวได้ มีมากมากหลายแบบ เช่น ตัวหนังสือลอยจากจอภาพด้านล่างขึ้นไปด้านบน
เหมอื นกบั ตัวหนังสือเม่อื ดูภาพยนตร์ตอนจบ หรอื จะวิ่งจากด้านขวามือมาซ้ายมือหรือจะเลือก
ชดุ สำเร็จรปู จาก Library ก็ได้
3.2.6 graphics and animation
คือ การใส่กราฟฟิคที่เคลื่อนไหวได้ โดยการนำมาจัดเรียงต่อๆกันหรือ
เรียกอีกอย่างหนึ่งคือ การผสมผสานกันระหว่างงานดีไซนก์ ับภาพเคลื่อนไหว ก่อให้เกิดเปน็ ตวั
งานที่น่าสนใจขึ้นมา เป็นไฟล์งานอยู่ในภาพยนตร์ เพื่อให้งานออกมาดูสะดุดตาและให้งานมี
ความน่าสนใจมากขึน้
3.2.7 special effects
คือ เทคนิควิธีการหรือเครื่องมือต่างๆที่ใช้ในการสร้างภาพลวงตาใน
หนังให้ดูเหมือนจริง อาจเป็นภาพจากจินตนาการ เหตุการณท์ ี่เป็นไปไม่ได้ เหตุการณ์ทีย่ ากต่อ
การถ่ายทำ อีกทั้งเป็นการประหยัดงบประมาณในกระบวนการสร้าง และเพื่อความปลอดภัย
กว่าของทีมงาน นักแสดงแทนที่จะใช้ของหรือสถานที่จริงที่เป็นอันตราย เช่นการฝืน
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ การทำฝนตก แดดออก ฟ้าผ่า พายุ คลื่นยักษ์ หรือสิ่งที่ฝืน
กฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ การทำให้คนบินได้ซึ่งฝืนกฎเรื่องแรงดึงดูดของโลกเป็นต้น การ
สร้างสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เช่น พลังงานบางอย่าง ภูตผี ปีศาจ หรือการสร้างฉากปลอมขึ้นมา
แทนที่จะส่งทีมงานไปถ่ายในสถานที่จริงซึ่งไกล และเปลืองงบประมาณ แล้วใชว้ ิธีนำมาซ้อนกับ
ภาพทีถ่ ่ายในโรงถา่ ยหนัง การทีจ่ ะเซฟความปลอดภยั ของนกั แสดงเช่น การใชส้ ารสงั เคราะห์เร
ซินที่ใสและบางใช้แทนกระจกที่นักแสดงจะต้องพุ่งชนในฉากของหนัง หรือการใช้มุมกล้อง
หลอกถ่ายในสตูดิโอหรือสถานที่จริงและปรับแต่งทางโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้ควบคุมได้
ง่ายและปลอดภัยกว่า รวมถึงการสร้างฉากปลอมขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเช่น การสร้างสถานที่ที่ไม่
เคยมีมาก่อน การสรา้ งฉากในอวกาศ หรอื แมก้ ระทั่งฉากสถานที่ที่เคยมีในประวัติศาสตร์แต่ถูก
ทำลายไปแล้วเป็นต้น

545

Green Screen
ขั้นตอนก่อนการวาดต่อเติมฉากในการทำงานสร้างภาพ
เทคนิคพิเศษ หากมีการวางแผนล่วงหน้ามาแล้วน้ันจะต้องมกี ารถ่ายแยกองคประกอบของวัตถุ
ในฉากให้เรียบร้อย เทคนิคที่นิยมใช้กันมากคือเทคนิคการซ้อนภาพโดยการเจาะค่าสีในฉาก
เป็นคำศัพท์สำหรับนักสร้างภาพเทคนิคพิเศษเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Green/Bluescreen Keying
หมายถึง การถ่ายภาพหรือวิดีโอแยกส่วนวัตถุจากองค์ประกอบอื่น โดยใช้ฉากหลังเป็นสีใดสี
หนึ่งเพื่อประโยชน์ในการเจาะเปลี่ยนฉากหลัง ฉากหน้า วัสดุหุ่น หรือสิ่งของอื่นภายในภาพ
เฟรม วิดีโอเพื่อทดแทน ลบ เพิ่มเติมภาพนั้น ๆ ด้วยเหตุผลอื่นใดก็ตาม จากนั้นจึงนำ
องค์ประกอบทั้งหมดมาประกอบกันในภายหลัง เมื่อเทคนิคการเจาะค่าสีในฉากถูกนำมาใช้
ร่วมกับคอมพิวเตอร์จึงถูกเรียกว่า โครมาคีย์ (Chroma key) หมายถึงเทคนิคในการเจาะค่าสี
ด้วยย่อหน้าต่างคำส่ัง (Window Effect) ในโปรแกรมการประกอบภาพด้วยคอมพิวเตอร์น่นั เอง

ภาพที่ 11.214 Green Screen
ภาพจาก : http://www.kamlangniyom.com/content/greenscreen.php
หลักในการทำงานของการเจาะค่าสีในฉากมีดงั นี้
1. องค์ประกอบภายในภาพ เฟรมหรือวิดีโอต้องมีการวางแผนการแยกชิ้นส่วนไว้
ล่วงหน้าก่อนการถ่ายทำมีการคลุม ห่อหุ้มหรือระบายสีส่วนที่ไม่ต้องการใช้อย่างมิดชิด
ราบเรียบเป็นสีเดียวกันทั้งหมด (Richard Rickitt, 2000) เพื่อความสะดวกในการเจาะคา่ สี

546

2. การถ่ายวิดีโอหรือภาพยนตร์ที่เป็นภาพเคลื่อนไหวของวัตถุหรือนักแสดงต้องมีการ
ใช้ขาตั้งกล้องและปรับค่าการทำงานของกล้องทำงานในโหมดปรับโฟกัสเองด้วยมือพยายาม
โฟกัสไปทีต่ ัวบุคคลหรอื วตั ถุหลกั ใหช้ ัดที่สุด

3. การจัดแสงต้องมีการจัดให้แสงทั้งหมดในวัตถุมีความเสมอกัน เพื่อแก้ปัญหาการ
เจาะคา่ สอี อกไม่หมด ขอบหนา ขอบเลอะ ผมหลุด เงาหายไม่ได้คุณภาพ

4. การแสดงของนักแสดงจะต้องกลมกลืน หรือเข้ากันไปกับฉาก หรือวัตถุรวมไปถึง
การเคลื่อนไหวตองอยู่ในจุดที่กำหนดไว้

5. การนำภาพหรือวิดีโอมาซ้อนแทนที่การเจาะคา่ สีต้องเลือกให้กลมกลืน และปรับคา่
แสงใหด้ ไู ม่แตกต่างกัน

6. ในการทำโครมาคีย์จะดูสมจริงมาก หรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ทีน่ ำมาใช้ซ้อน
ภาพ ปัจจุบันฮาร์ดแวร์ที่นำเข้าภาพและซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอทุกชนิดมีความสามารถในการ
ทำงานโครมาคีย์โดยแต่ละชนิดจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปหากใช้เพียงความสามารถดั้งเดิม
ที่มีมาจะทำงานแบบละเอียดไม่ได้ ถ้าจะให้สมบูรณ์ นั้นต้องใช้โปรแกรมเสริม (Plug-ins) ซึ่งมี
ให้เลือกมากมาย เช่น Ultimate, Key Light สำหรับ Adobe After Effect, Adobe Premiere,
Autodesk Combustion หรอื แมแ้ ต่โปรแกรมที่ไมซ่ ับขึน้ อยา่ ง FXhome ก็ทำงานได้เป็นอย่างดี

ภาพที่ 11.215 หลักการทำงานของการเจาะค่าสีในฉาก

ภาพจาก Richard J.Radke (2013) Computer Vision for Visual Effects Cambridge. New York : Virgin Publishing Ltd. p48.

ตามหลกั การเจาะคา่ สี สามารถใช้ฉากหลงั หรอื ห่อหมุ้ วัตถุสีใดกไ็ ด้ แต่โดยท่ัวไปนิยมใช้
เพียงสองสีคือสีน้ำเงินและสีเขียว เหตุผลที่เลือกใช้สองสีนี้เป็นหลักเพราะว่าประการแรกสีน้ำ
เงินนี้เป็นแม่สี การจัดการกับแม่สีย่อมง่ายกว่าสีอื่นซึ่งอาจจะมาจากการผสมสองหรือสามสี
รวมกัน ประการที่สองเนื่องจากวัตถุหลักของการทำโครมาคีย์คือมนุษย์ ดังนั้นสีที่ใช้ทำ

547

ฉากหลังจะต้องไม่เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของสี บนร่างกายของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีของ
ผวิ หนัง สีของเสื้อผ้าเครือ่ งแต่งกายอาจเลือกใหไ้ มซ่ ้ำกับฉากหลังแตไ่ ม่สามารถเปลี่ยนสีผิวหนัง
และสีผมที่ปรากฏอยบู่ นรา่ งกายได้แก่ สีดำ แดง เหลอื ง น้ำตาล และชมพู เป็นต้นการเลือกสีใด
สีหนึง่ น้ันข้นึ อยูก่ ับความจำเป็นในการสร้างงาน ในยคุ แรกจะมีการใช้สีน้ำเงินเพียงสีเดียวเพราะ
การถา่ ยภาพยนตร์ในยุคน้ันต้องใช้แสงมาก หากใช้สเี ขียวจะทำใหส้ ีทีส่ ะท้อนจากฉากไปติดตาม
ส่วนของร่างกายได้ง่ายจึงนิยมใช้แต่สีน้ำเงิน ปัจจุบันกล้องถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการ
ถ่ายทำสูงขึ้นจนไม่ต้องจัดแสงให้สว่างเหมือนในอดีต ปัญหาสีเลอะจึงน้อยลงทำให้สีเขียวเริ่ม
เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเป็นสีที่สะท้อนแสงได้ดีจึงช่วยประหยัดไฟและลดความร้อนซึ่งเป็น
ปัญหาใหญ่ในสตูดิโอได้อีกด้วย เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องอาศัยการจัดฉากหลังและแสงที่
เหมาะสมจึงจะได้คุณภาพของภาพที่ต้องการแต่การเจาะค่าสีมีข้อจำกัดที่สำคัญบางประการ
กลา่ วคือจะให้ผลไมด่ ีนกั กับวัตถทุ ี่มขี นาดเล็กมากและบริเวณขอบวัตถุ เช่น เส้นผมหรือวัตถุที่มี
ความโปร่งแสงบางส่วน ไม่สามารถใช้วิธีการถ่ายทำโดยติดพื้นหลังที่ปรากฏตามธรรมชาติได้
อาทิ ต้นไม้ หญ้า ภูเขา เป็นต้นจึงต้องเลี่ยงใช้สี หรือวิธีการอื่น ๆ แทน (Jeffrey A.Okun and
Susan Zwerman, 2010)

ประเภทของการเจาะค่าสีในฉาก
1. การเจาะค่าสีในฉากหลัง (Background)

ภาพที่ 11.216 การเจาะค่าสีในฉากหลัง
ภาพจาก : http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=229566

548

เปน็ เทคนิคทีน่ ิยมใช้เพอื่ ประโยชนท์ ี่กล่าวขา้ งตน้ คือ
ประหยัดงบประมาณ สามารถเสริมแต่งจนิ ตนาการของผสู้ ร้าง ผกู้ ำกบั ได้อย่างไมจ่ ำกัด

2. การเจาะค่าสีวัตถุเพือ่ แทนที่การจำลองฉาก หรอื
ตัวละครแบบยอ่ ส่วนหรอื ถา่ ยทำวตั ถุทีม่ ขี นาดแตกต่างจากวัตถจุ ริง

ภาพที่ 11.217 การเจาะคา่ สีวัตถเุ พือ่ แทนทีก่ ารจำลองฉาก
ภาพจาก : http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=229566

ด้วยการสร้างการเคลื่อนไหวให้ดูสมจริงร่วมกับนักแสดง ไม่
ว่าจะเป็นการถ่ายหนุ่ จำลองแยกชิน้ สว่ น เช่น เสือใน Life of Pie (2012) ที่สรา้ งข้นึ ดว้ ยโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ เปน็ ต้น

3. การเจาะค่าสีในสว่ นอื่นใดของร่างกายมนุษย์โดยใช้
วิธีการพัน ห่อหมุ้ บริเวณใดบริเวณหนง่ึ เอาไว้ เพื่อแทนที่สนี ั้นดว้ ยการตัด กันออกไปจากภาพ
เปน็ ต้น

ภาพที่ 11.218 การเจาะค่าสีในส่วนอื่นใดของร่างกายมนุษย์โดยใช้วธิ ีการพัน
ภาพจาก : http://www.kamlangniyom.com/content/greenscreen.php

549

ข้อควรระวังในการซ้อนภาพแบบการเจาะคา่ สีในฉาก
ทั้งแบบอนาลอ็ กและ แบบดิจทิ ลั ทีท่ ำให้ประสบปญั หาอยเู่ สมอเช่น ปญั หาความกลมกลืนกันใน
การประกอบภาพระหว่างวัตถุที่อยู่ด้านหน้ากับฉากหลังที่สร้างขึ้นใหม่ หรือบริเวณที่วัตถุ
ด้านหน้ามีขนาดเล็ก เช่น เส้นผมหรือวัตถุที่มีความใสหรือโปร่งแสงบางส่วน ยกตัวอย่างเช่น
แก้วหรอื กีร่ ะจก เปน็ ต้นปญั หาแสงสะท้อนจากฉากที่ใช้ในการถา่ ยทำภาพผู้แสดง ซึ่งไปปรากฏ
อยู่ตามขอบของร่างกาย หรือเสื้อผ้าของผู้แสดงเรียกว่าปริากฏการณ์บลูสปิล (Blue spill)
(Jeffrey A.Okun and Susan Zwerman, 2010) จะส่งผลทำให้เห็นขอบรอย ต่อระหว่างผู้แสดง
กับฉากหลังใหม่ที่ไม่เรียบร้อย อีกทั้งยังอาจทำให้ปรากฏแสงสะท้อนสีเดียวกับฉากหลังเดิม
ปรากฏอยู่ตามขอบของวัตถุที่อยู่ด้านหน้าในภาพที่ซ้อนทับฉากหลังแล้ว ซึ่งอาจจะแก้ไขด้วย
คำสั่งอื่น ๆ เพิม่ เตมิ เพื่อความสวยงาม

3.2.8 Render / Export
คือ การทำการประมวลผลวิดีโอที่ตัดต่อเสร็จหมดแล้ว ให้ออกมาเปน็
วิดีโอชิน้ เดียว วิธีการ render เบอื้ งตน้ ซึงการ Render เป็นการส่งออกผลลัพท์ในงานของเราไป
ใช้งาน ซึ่งเราตอ้ งรจู้ ุดประสงค์ก่อนว่าจะเอาไฟล์ทีต่ ดั ตอ่ เสรจ็ แล้วไปทำอะไร เพราะการนำไฟล์
ไปใช้งานแต่ละประเภทจะไม่เหมือนกัน (สังเกตที่นามสกุล เช่น .avi, .wmv, mp4, mpg ฯลฯ)
ซึง่ เปน็ ข้ันตอนสุดท้ายของกระบวนการตดั ต่อวิดีโอ คือ การ Renderเพื่อนำวิดีโอออกไปใช้ตาม
รูปแบบที่ต้องการ ระยะเวลาในการRender จะขึ้นอยู่กับความยาวของวิดีโอ คุณภาพของวิดีโอ
และประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นสำคัญเน่อื งจากการ Render ในแต่ละคร้ังต้องใช้
เวลานาน ดังนั้น จึงจาเป็นต้องมั่นใจว่า งานตัดต่อทุกอย่างเรียบร้อย ถูกต้อง และตรงตาม
ความตอ้ งการ โดยควรจะ Preview ดูจนมัน่ ใจ จงึ ทำการ Render
. รูปแบบของไฟลว์ ิดีโอ

ไฟล์วิดีโอที่จะนำมาใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีด้วยกัน
หลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันทั้งขนาดไฟล์และคุณภาพของภาพและเสียง
ไฟลว์ ิดีโอแบบต่าง ๆ ที่นยิ มใช้กันในปจั จุบนั ดงั ตอ่ ไปนี้

1. MPEG (Motion Picture Exports Group)
เป็นไฟล์มาตรฐานในการบีบอัดไฟล์วิดีโอซึ่งเป็นรูปแบบของ
วิดีโอที่มีคุณภาพสูงและนิยมนำมาใช้กับงานวิดีโอหลายประเภท ไฟล์ MPEG ยังสามารถแบ่ง
ออกตามคุณสมบตั ิตา่ ง ๆ ได้ดงั น้ี

550

1.1 MPEG-1 เป็นรูปแบบไฟล์ที่เข้ารหัสด้วยการบีบอดั
ไฟล์ให้มีขนาดเล็ก เพื่อสร้างไฟล์วิดีโอในรูปแบบ VCD ซึ่งจะมีขนาดสูงสุดอยู่ที่ 352 X 288
และมีการบีบอัดทีส่ งู มีค่าบิตเรทอยู่ที่ 1.5 Mb/s 2 ช่องสญั ญาณเสียง

1.2 MPEG-2 เป็นรูปแบบการเข้ารหัสไฟล์ที่สร้างมา
เพื่อภาพยนตร์โดยเฉพาะ โดยจะสร้างเป็น SVCD หรือ DVD ซึ่งจะมีขนาดสูงสุดอยู่ที่
1920X1080 ซึง่ อตั ราการบีบอัดจะน้อยกว่ารูปแบบ MPEG-1 ไฟลท์ ี่ได้จงึ มขี นาดใหญ่กว่าและมี
คุณภาพทีด่ ีกวา่ ซึง่ รูปแบบ MPEG-2 สามารถทีจ่ ะบีบอดั ข้อมลู ตามที่ต้องการเองได้

1.3 MPEG-4 เป็นรูปแบบการเข้ารหัสไฟล์ที่ดีกว่า
MPEG-1 และ MPEG-2 เป็นไฟล์วิดีโอบีบอัดที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีขนาดสูงสุดอยู่ที่ 720×576
รองรบั สือ่ วดิ ีโอดิจทิ ลั ในปจั จุบัน เชน่ Mobile Phone, PSP, PDA และ iPod

2. AVI (Audio Video Interleaved)
เป็นรปู แบบของไฟลม์ ัลติมีเดียบน Windows สำหรบั เสียงและ
ภาพเคลื่อนไหวที่ใช้คุณสมบัติของ RIFF (Resource Interchange File Format) ของ Windows
เป็นไฟล์วิดีโอที่มีความละเอียดสูง เหมาะสมกับการนำมาใช้ในงานตัดต่อวิดีโอ แต่ไม่นิยม
นำมาใช้ในสือ่ ดิจทิ ลั อื่น ๆ เพราะไฟล์มีขนาดใหญม่ าก
3. DAT
เป็นระบบของไฟล์ภาพยนตร์หรือไฟล์คาราโอเกะจากแผ่น
VCD ที่อยู่ในรูปแบบไฟล์ MPEG-1 สามารถเปิดเล่นด้วยโปรแกรมดูหนัง เช่น Power DVD หรือ
โปรแกรม Windows Media Player มีการเข้ารหัสบีบอัดไฟล์คล้ายกับไฟล์ MPEG สามารถเล่น
ได้บนเคร่อื งเล่น VCD หรอื DVD ท่ัวไป
4. WMV (Windows Media Video)
เป็นไฟล์วิดีโอของบริษัทไมโครซอฟท์ สร้างขึ้นมาจาก
โปรแกรม Windows Movie Maker เป็นไฟล์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันจากสื่ออินเทอร์เน็ต มี
จดุ ประสงคท์ ี่สร้างข้ึนมาเพือ่ การชมวิดีโอแบบ Movie on Demand ด้วยคุณภาพที่ดีและมีขนาด
ไฟลท์ ีเ่ ลก็ สามารถทีจ่ ะ Upload ขึน้ เวบ็ ไซต์ได้งา่ ยและสะดวกรวดเรว็
5. MOV (QuickTime Movie)
เป็นไฟล์ของโปรแกรม QuickTime จากบริษัท Apple ซึ่งมี
ความนิยมสูงในเครื่องตระกูล Macintosh สามารถใช้ได้กับเครื่องที่ใช้ระบบ Windows แต่
จำเปน็ ต้องติดตงั้ โปรแกรม QuickTime กอ่ น

551

6. VOB (Voice of Barbados)
เป็นไฟลข์ อง ซึง่ ใช้การเข้ารหัสหรอื การบีบอัดในรูปแบบซึง่ มี
คุณภาพสูงท้ังระบบภาพและเสียง สามารถเล่นได้จากเครือ่ งเล่น DVD หรอื ไดรว์ DVD ใน
เครื่องคอมพวิ เตอร์
7. DV (Digital Video)
ไฟล์เป็นประเภท AVI เช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่ มีการ
กำหนดขนาดความละเอียดของภาพ ที่ต่างกัน และอัตราการส่งข้อมูลต่างกัน ไฟล์ประเภทนี้
เหมาะสำหรับใช้เปน็ ไฟล์ต้นฉบบั ในการนำไปแปลงเปน็ VCD/DVD ทีเ่ รารู้จักกนั ดี ไฟล์ประเภท
นมี้ ักถา่ ยมาจากกล้องดิจทิ ัลทีบ่ ันทึกลงเทป DV, miniDV
8. RM (Streaming RealVideo)
พัฒนาโดยบริษัท Real Network ที่เคยโด่งดังมานาน เป็นไฟล์
วิดีโออีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้สำหรับการเผยแพรท่ างอินเตอร์เน็ต ในรูปแบบ “Streaming” ซึ่ง
มีความคมชัดของภาพและเสียงค่อนข้างต่ำ แต่เหมาะสำหรับการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต
ปจั จบุ ันไฟล์ FLV เป็นอีกหน่งึ ที่นิยมใชเ้ ผยแพร่ทางอนิ เตอรเ์ นต็
9. DixV
ไฟล์วีดีโดรูปแบบใหม่ที่นิยมใช้งานกันมาก เนื่องจากมี
คุณภาพสูงในขณะที่ไฟล์มีขนาดเล็กลง เรียกว่าคุณภาพระดับ DVD เลย เป็นไฟล์ประเภท
เดียวกบั MPEG-4
10. XviD
ไฟล์วิดีโอมีความใกล้เคียงกับ DixV แต่เนื่องจากเป็นไฟล์
ประเภท Open Source (ฟรีในการใชง้ าน และพัฒนาตอ่ )
11. FLV
.flv เป็นไฟล์วิดีโอประเภท Flash ทีใ่ ชง้ านใน youtube มีการบีบ
อัดไฟล์ที่มีขนาดเล็ก แต่ยังให้คุณภาพที่ดีและรักษารายละเอียดของต้นฉบับไว้ได้เป็นอย่างดี
รวมทั้งยงั ใชง้ านกับอุปกรณ์อืน่ ๆ ที่รองรบั ระบบ Flash ด้วยเช่นกัน
ระบบภาพ
ระบบภาพนั้นสำคญั มาก ๆ ควรตรวจสอบ Footage ทกุ คร้ังวา่
มีระบบภาพ แบบไหน ระบบการแสดงผลวิดิโอในโลกนั้น มีการพัฒนาขึ้นมากมาย ทำให้ในแต่
ละประเทศมีระบบที่แตกต่าง กันซึ่งขึ้นอยู่กับการรับหรือเลือกใช้ของประเทศนั้น ๆ ซึ่งถ้าหาก

552

เรานำไฟล์วิดิโอที่มีระบบภาพไม่ เหมือนกันมาใช้ ในการตัดต่ออาจทำให้เกิดปัญหาในการตัด
ตอ่ และการนำไปใช้โดยระบบภาพที่นยิ มใช้กนั ท่ัวโลกมี 3 ระบบ หลัก ๆ ดงั น้ี

1. NTSC (National Television System Committee)
เป็นระบบโทรทัศน์อนาล็อกที่นิยมใช้กันในประเทศแถบ
อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ญี่ปุ่นเกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์และพม่า คิดค้นขึ้นในประเทศ
สหรัฐอเมริกาโดย Federal Communications Commission (FCC) เพื่อแก้ปัญหาความแตกต่าง
ของระบบภาพโทรทัศน์ที่หลากหลายใน สหรัฐอเมริกา ระบบนี้มีความละเอียดของภาพ 525
เส้น (720์ 480 pixels) แสดงผลภาพ 30ภาพต่อวินาที(30 fps.) หรอื 29.97 fps.เนื่องจากในยุค
ทีวสี ีตอ้ งใส่ช่องสัญญานสีเข้าไป จงึ ตอ้ งลดลงไปอีก 0.03 fps. สว่ นมากใช้กับประเทศทีม่ ี ระบบ
ไฟฟ้า 110 V. 60 Hz. ในยุคแรกระบบนี้มีปัญญาเรื่องการแสดงสีที่ผิดเพี้ยน ต้องมีการปรับสี
(Tint) เอง ที่เครื่องรับโทรทัศน์ทำให้ไม่สะดวกต่อการใช้งานแต่ภายหลังก็ได้มีการปรับปรุง
ระบบการแสดงสีให้ดขี ึน้ โดยการเพิม่ ขนาดช่องสญั ญาน และวิธีการเข้ารหัสสีระบบภาพ NTSC
จะมีความละเอียดน้อยเนื่องจาก จำนวนเส้นที่น้อยกว่า แต่จะมีการเคลื่อนไหวที่นนุ่นวล
เนือ่ งจากจำนวนภาพตอ่ วินาทีที่มากกวา่ 2. PAL (Phase Alternating Line)
2. PAL (Phase Alternating Line)
เป็นระบบโทรทัศนอนาล็อกที่นิยมใช้กันในแถบสห
ราชอาณาจกั ร ยุโรปและประเทศจีน รวมทั้ง ประเทศไทยด้วย คิดค้นข้ึนในประเทศเยอรมันโดย
Walter Bruch เพื่อแก้ใขปัญหาการแสดงสีของNTSC ใน ยุคนั้น ใช้งานครั้งแรกในสหราช
อาณาจักรในปี 1964 โดยสถานีโทรทัศน์ BBC ระบบนี้มีความละเอียดของ ภาพ 625 เส้น
(720×576 pixels) แสดงผลภาพ 25 ภาพต่อวินาที (25 fps.) โดยส่วนใหญ่ใช้กับประเทศที่มี
ระบบไฟฟ้า 220 V. 50 Hz. โดยระบบภาพนี้จะให้สีสันที่สดกว่า ภาพคมชัดกว่าเนื่องจาก
จำนวนเส้นที่ มากกว่า แต่การเคลื่อนไหวของภาพจะดูไม่สมจริงเนื่องจากมีจำนวนภาพต่อ
วินาทีนอ้ ยกวา่ NTSC โดยใน การตัดต่อของประเทศไทยนั้น จะตั้งคา่ ระบบภาพเปน็ PAL เสมอ
3. SECAM System Camcorder
ย่อมาจาก Sequential Color with a memory โดยมีการส่ง
625 เส้น 25 ภาพต่อ วินาที เป็นระบบที่ใช้ในประเทศฝรั่งเศสและหลายประเทศในยุโรป และ
แอฟริกา

553

อตั ราสว่ นภาพ (Aspect Ratio)
อัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio) หมายถึง สัดส่วนความแตกต่าง
กันของด้านกว้าง และด้านยาวของ ภาพดังนั้นก่อนที่จะเริ่มกระบวนการตัดต่อ โดยอัตราส่วน
ภาพทีใ่ ชก้ นั เป็นระบบสากล มีดังตอ่ ไปนี้
1.อตั ราสว่ นภาพแบบ 4:3
เป็นอัตราส่วนภาพสำหรับโทรทัศน์อนาล็อก วิดิโอเกมในยุค
ก่อนๆ ระบบกล้องวิดิโอรุ่น ก่อนๆจอคอมพิวเตอร์เก่าๆ เช่นจอ CRTหรือLCD ในยุคแรกอีกทั้ง
ยังพบในฟิล์มภาพยนตรแ์ บบ- Super35 ในยุคหนงั เงยี บ มีลกั ษณะคล้ายรูปสีเ่ หลีย่ มจตั ุรัส
2.อตั ราส่วนภาพแบบ 3:2
เปน็ อัตราส่วนภาพที่ใชส้ ำหรับระบบการเก็บภาพนิ่งของกล้อง
ถ่ายรปู SLR ท้ังแบบฟิล์มและ ดิจทิ ัล ในปัจจุบนั ระบบกล้องดิจทิ ัลสมัยใหมบ่ างรุน่ อาจสามารถ
ปรับภาพเปน็ อัตราส่วน 16:9 ได้
3. อัตราสว่ นภาพแบบ 16:9
เป็นอัตราส่วนภาพสำหรับการแสดงผลที่เป็นมาตรฐานของ
โทรทัศน์ความละเอียดสูง (HDTV) กล้องวิดิโอในปัจจุบัน DVD, Blu-Ray และจอแสดงผลแบบ
Widescreen ของคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็น สี่เหลี่ยมผืนผ้า มีพื้นที่ของภาพที่มากกว่าใน
แนวนอน ทำให้ได้รับความนิยมในปัจจบุ ัน
4. US widescreen cinema standard
เป็นขนาดภาพที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศ
สหรัฐอเมริกา
5. Widescreen cinema standard
เป็นขนาดภาพที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์สากลทั่วโลกใน
ปัจจุบนั Safe Area บริเวณปลอดภยั สำหรบั การแสดงผล
3.3 วิธีการตัดต่อรปู แบบต่าง ๆ
3.3.1 การตัดต่อแบบเชงิ เส้น (Linear video editing)
การตัดต่อแบบเชิงเส้น คือ การตัดต่อภาพและเสียงโดยการเข้าถึง
ข้อมูล ต้นฉบับ ตามลำดบั ไมส่ ามารถข้ามไปยังช่วงเวลาหน่ึงๆได้ทันทีส่วนใหญ่มกั อยู่ในรูปของ
เทปบันทึกชนิดต่างๆ การตัดต่อทำได้โดยต้องมีเครื่องอ่านเทปต้น ฉบับ และเครื่องบันทึกเทป
พร้อมเทปเปล่าอย่างน้อย 2 เครื่อง เชื่อมต่อเข้าด้วยกันโดยมีจอ Monitor แสดงภาพในการ
ทำ งาน หากเป็นการรับสัญญานสดหรือเพิ่มเทคนิค พิเศษต่างๆ ก็จะมีเครื่องสลับ /ผสม

554

สญั ญาน และอุปกรณอ์ ืน่ ๆร่วมกนั วิธีการตดั ตอ่ ทำโดยการให้เคร่อื งอา่ นเทปต้นฉบับเล่นภาพใน
ส่วนทีต่ อ้ งการตดั ตอ่ โดยอาจป้อนค่าของเวลา (Timecode) ในเทปน้ันๆเพือ่ ความ รวดเร็วในการ
ข้ามไปยังส่วนต่าง ๆ แล้วบันทึกส่วนนั้นลงเทปเปล่าในเครื่องบันทึกที่ต่อไว้อีกเครื่องหนึ่งข้อดี
ของ ระบบการตัดต่อแบบเชิงเส้น (Linear Editing) คือ มีความรวดเร็วในการแสดงภาพให้เห็น
โดยหน้าทีมีความ ยืดหยุ่น กับการทำงานแบบ Realtime โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานีโทรทัศน์ที่
ต้องการความเร่งรีบในการ ออกอากาศสด การน าเสนอข่าวการตัดต่อในลักษณะนี้เพียงแค่
เลน่ เทปต้นฉบบั ในส่วนที่ต้องการก็สามารถ แสดงภาพออกไปได้ทนั ทีส่วนข้อเสียของการตัดต่อ
ในลักษณะคือความช้าในการค้นหาสว่ นต่างๆในเทป เนื่องจากต้องอ่านข้อมูลไปเรื่อยๆจนหมด
เทป ไม่สามารถข้ามไปได้โดยทันทีและหากมีความผิดพลาดในการตัด ต่อในแบบบัน ทึกเทป
การแก้ไขนั้นทำได้ยากและไม่สะดวกเพราะต้องเริ่มทำจากต้นเทปจนจบเทป การใส่ เทคนิค
พิเศษในวิดิโอก็ทำได้จำกัดเนื่องจากต้องพึ่งความสามารถจากตัวอุปกรณ์จึงมีต้นทุนสูงทั้งใน
ด้านอุปกรณ์ ต่างๆ รวมทั้งเทปบันทึกเพราะหากซื้ออุปกรณ์ที่มีความสามารถน้อยก็จะทำงาน
ได้จำกดั จงึ ไม่เป็นที่นิยมใน งานขนาดเลก็

3.3.2 การตดั ต่อแบบไม่เป็นเชงิ เส้น (Non-Linear video editing)
การตัดต่อในลักษณะนี้ Footage จากสื่อบันทึกทั้งหมดจะถูกบันทึก
ลงใน ฮาร์ดดสิ ก์อย่ใู นรูปของไฟล์วิดิโอเพือ่ ใชก้ บั คอมพิวเตอร์จากนั้นตดั ต่อโดยใช้โปรแกรมต่าง
ๆ เช่น Adobe Premiere-Pro, Final Cut, Avid, Ulead Video Studioฯลฯ เมื่อตัดต่อเสร็จแล้ว
วีดิโอทั้งหมดจะต้องผ่าน การRender และบันทึกเป็นไฟล์ วิดิโอหรือสื่อชนิดอื่น ๆ เสียก่อน จึง
จะนำไปใช้ได้การตัดต่อในลักษณะนี้มีข้อ ดีคือสามารถแก้ไขส่วนต่าง ๆได้อย่างรวดเร็วตาม
ต้องการอีกทั้งยังสามารถใส่เทคนิคพิเศษต่าง ๆ ได้อย่าง ง่ายดายและมีให้เลือกได้มากมาย
หลายรูปแบบ โดยสามารถเลือกใช้ได้จากโปรแกรมตัดต่อหรือสามารถดาวน์ โหลด Plug-in
หรือโปรแกรมเพิ่มเติมได้จากอินเตอร์เน็ต ส่วนข้อเสียของการตัดต่อในลักษณะนี้คือต้องใช้
คอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการประมวลผลกราฟฟิกสูงจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ต้อง Render ไฟล์ทั้งหมดก่อนจึงจะบันทึกเป็นไฟลห์ รือลงสื่อได้ไม่เหมาะสำหรบั
การทำงานที่ต้องการความเร่งรีบ เช่น การถ่ายทอดสด เป็นต้น การตัดต่อลักษณะนี้จึงเหมาะ
สำหรับวิดิโอที่นำไปใช้ในภายหลังอีกทั้งโปรแกรมที่ ใช้สำหรับการตัดต่อก็มีความสามารถใน
การสนบั สนนุ ไฟลท์ ำานตัดตอ่ ได้ในระดับ หนง่ึ

555

เทคนิคการตัดตอ่
การตัดต่อเพื่อความต่อเนื่องทางภาพและเสียง มักใช้ในการร้อยเรียงซีน 1
ซีนหรือ 1 ซีเคว๊นซ์เข้าด้วยกัน โดยจะเป็นการเชื่อมภาพเพื่อความต่อเนื่องทางเวลาหรือความ
ต่อเนื่องทาง กายภาพก็แล้วแต่ ด้วยธรรมชาติของภาพทีไ่ ด้มาจากขบวนการถ่ายทำซึ่งเราถ่าย
มาทีละภาพนั้น ไม่มี ความต่อเนื่องแต่อยา่ งใด การตัดต่อแบบนี้จึงหลักการทางเทคนิคคร่าว ๆ
ดงั น้ี

1. Establishing Shot
คือภาพเปิดฉาก เรามักเลือกภาพที่แนะนำ สถานที่หรือสถานการณ์
โดยรวมของเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในซีนนั้น ๆ ในกรณีที่เป็นซีนสนทนา เรามักเลือกภาพที่
ครอบคลุมตัวละครวัตถุ และสถานที่ เพื่อ geological orientation หรือแสดงลักษณะทาง
ภมู ศิ าสตร์เพือ่ ให้เหน็ ถึงความสัมพันธท์ าง กายภาพขององคป์ ระกอบในฉากแกผ่ ู้ชม ซึ่งในกรณี
นี้บางทีเราก็เรียก master shot อนึ่ง ในสไตล์การตัดต่อสมัยใหม่เช่นปัจจุบัน บางทีเราก็ไม่
จำเป็นต้องเปิดซีนด้วย establishing shot เสมอไป เราอาจนำมันไปไว้ในกลางซีนหรือท้ายซีนก็
ย่อมได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมแก่การเล่า เรื่องหรืออารมณ์ของซีนนั้น ๆ ในกรณีนี้บางทีเรา
จงึ เรียกว่า re-establishing shot
2. Shot / Reverse Shot
คือการตัดต่อด้วยการสลับภาพ 2 มุมมองของเหตุการณ์ๆเดียวกัน
เนื่องด้วยการแช่ภาพๆ หนึ่งไว้ยาวนานเกินไปอาจทำความเบื่อหน่ายแก่ผู้ชม หรือไม่เหมาะสม
กับอารมณ์หรือการเล่าเรื่อง ของซีน ๆ นั้น เราจึงใช้การสลับภาพกิริยากับปฏิกิริยา (การ
กระทำ และผลของการกระทำ ) หรอื ภาพ วัตถุวิสัยกบั ภาพอตั ตวิสยั (ตวั ละครและสิ่งทีต่ ัวละคร
เห็น) หรืออย่างกรณีพื้นฐานที่สุดก็คือการสลับ ภาพตัวละคร 2 ตัวแบบข้ามไหล่ในซีนสนทนา
เช่นนี้เป็นต้น เพื่อร้อยเรียงเนื้อหาของซีนตามเรื่อง และอารมณ์ของซีน ๆ นั้น อนึ่งการตัดต่อ
ด้วยการสลับภาพแบบนีย้ งั อาจใช้เพื่อกลบเกลือ่ นความบกพร่องจากขบวนการถา่ ย ทำหรือเพื่อ
ปลอมให้เกิดความตอ่ เนือ่ งในกรณีที่ footage ถ่ายมาขาดความต่อเน่อื งได้อีกด้วย
3. Cutting on Action
ในการเชื่อมภาพที่มีความต่อเนื่องกันแต่ถ่ายจากต่างมุมหรือขนาด
ภาพ เรามักจะเชื่อมภาพ ตรงจดุ ทีม่ กี ารกระทำ หรอื ความเคลื่อนไหวที่มนี ยั สำคัญ เพือ่ ใช้ความ
เคลือ่ นไหวน้ันดึงความสนใจ ของผู้ชมจนเกิดเปน็ ความรู้สกึ ตอ่ เนอ่ื ง ไม่รู้สึกว่ามกี ารตัดภาพ

556

4. Eyeline Match
ในการตัดแบบ shot/reverse shot นั้น ในกรณีที่เปน็ การตัดสลับไปเป็น
ภาพแทนสายตา หรือภาพข้ามไหล่ สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงคือมมุ ของภาพน้ันต้องให้ทิศทางการ
มองที่ถูกต้องด้วย ยกตัวอย่างถ้า shot เป็นภาพตัวละครมองไปทางขวา ในภาพ reaction shot
ถ้าเห็นผู้มอง ผู้มองก็ควร จะอยู่ด้านซ้ายเป็นต้น ซึ่งในกรณีนี้ต้องคำนึงถึงกฎ 180 องศามา
ตั้งแต่ขั้นตอนการถ่ายทำในกรณีที่ ถ่ายมาผิดพลาดข้ามเส้น ถ้าภาพ shot/reverse shot
ก่อให้เกิดความสบั สนทางทิศทางแก่ผู้ชมมากเกิน กว่าจะรับได้ เราอาจจะต้องใช้การกลับภาพ
หรอื CG ช่วยในขั้นตอนโพสต์
การเชือ่ มภาพ (Transition)
โดยทั่วไปแล้ว การเชื่อมเหตุการณ์สถานที่ เวลา ในรายการโทรทัศน์ เพื่อให้
เกิดความ น่าสนใจ ให้ผู้ชมมีความรู้สึกว่า เรื่องราวที่นำเสนอนั้นเป็นเรื่องราวเดียวกัน โดยไม่
ขัดแย้งหรือไม่ นกระโดด ไม่ต่อเนื่อง (jump cut) มักจะใช ้transition เป็นเครื่องมือเชื่อมภาพอัน
ได้แก่
1. FADE คือการเลื่อนภาพเข้ามาในจอจากพื้นสี (fade in) หรือการ
เลื่อนภาพออกไปจากจอสู่ พื้นสี (fade out) โดยที่ fade in ใช้สำหรับการเริ่มเรื่อง หรือเริ่มฉาก
ใหม่ ซึ่งตรงกันข้ามกับ fade out ที่ใช้สำหรับการจบเรื่องหรือการจบตอนเพื่อเริ่มตอนหรือฉาก
ใหม่
2. CUT คือ ลกั ษณะการตดั ตรง โดยเปลีย่ นจากภาพหน่ึงไปยังอีกภาพ
หนึ่งอย่างรวดเรว็ เพื่อ จะเปลี่ยนภาพเหตุการณ์ เวลา หรือสถานที่ ไปสู่อีกภาพหนึ่งตามความ
ต้องการ
3. DISSOLVE คือ การจางซ้อนโดยที่ค่อยๆเลือนภาพแรกลงในขณะที่
ภาพที่สองก็ถูกเลือน เข้ามาแทน เหมาะสำหรับ การเปลี่ยนภาพที่ต้องการให้ความรู้สึกว่าถูก
เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ นุ่มนวล หรือบางทีก็ใช้กับกรณีที่แก้ไขข้อบกพร่องของการต่อเหตุการณ์
เพือ่ ป้องกนั การ กระโดด อาทิเชน่ ภาพทีม่ ลี ักษณะของคนละเวลาหรอื สถานทีก่ นั
4. WIPE คือการกวาดภาพ เป็นเทคนิคพิเศษ ที่ใช้เพื่อการเปลี่ยนภาพ
เหตุการณ์ ที่เป็นภาพคน ละเวลา หรือคนละสถานที่กัน โดยการกวาดในรูปแบบต่างๆ เช่น
กวาดแนวตั้ง กวาด แนวนอน กวาดแนวเฉียง หรือกวาดเป็นรูปภาพ (matte key) ต่างๆ เหมาะ
สำหรับการเปลี่ยนที่มกี ารกระโดดของภาพ หรอื สำหรับการจงใจโชว์ special effects เพื่อความ
นา่ สนใจ

557

5. SUPERIMPOSE คือ การซ้อนภาพกับภาพ หรือการซ้อนภาพกับ
ตวั หนงั สือหรอื กราฟิคตา่ ง ๆ โดยภาพทั้งสองปรากฏจอในขณะเดียวกัน ทั้งนเี้ พือ่ ความน่าสนใจ
ในการตดิ ตามชม

รูปแบบในการวางตำแหน่งลำดับชอ็ ต คอื การเรียงลำดับเหตุการณ์ด้วยวิธีการต่างๆ
ดังตอ่ ไปนี้

1. Narrative cutting
2. Cross cutting
3. Montage cutting
4. Dynamic cutting
5. Parallel cutting
6. Flashback cutting
7. Flash forward cutting
การประเมินวิดีโอ
1. การฉายเพื่อตรวจสอบ (Preview) หลังจากตัดต่อภาพ และบันทึกเสียง
เรียบร้อยแลว้ จะต้องนำมาฉายเพือ่ ตรวจสอบกอ่ นว่า มีอะไรที่จะต้องปรบั ปรงุ แก้ไขหรอื ไม่
2. การประเมินกระบวนการผลิต โดยจะประเมินความถูกต้องของเนื้อหา
คุณภาพของเทคนิคการนำเสนอ ความสมบูรณ์ของเทคนิคการผลิต โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน
เนือ้ หา ผเู้ ขียนบท ผกู้ ำกบั รายการ ทีมงานการผลิต
3. การประเมินผลผลิต ประเมินโดยกลุ่มเป้าหมาย โดยประเมินจากความ
น่าสนใจ ความเข้าในในเนือ้ หาทีน่ ำเสนอ การตดิ ตามรายการ และสาระทีน่ ำเสนอ ฯลฯ
4. ตรวจสอบชิน้ งานกอ่ นส่งมอบหรอื สง่ เผยแพร่ โดยมีเกณฑก์ ารตรวจสอบให้
วิดีโอนั้นๆ เป็นไปตามแผนที่กำหนด ได้แก่ เนื้อหา ความยาว ความคมชัดของภาพและเสียง
คณุ ภาพของสื่อทีบ่ นั ทึกวิดีโอ ด้วยการเปิดเทปหรอื แผน่ ดีวีดีทีบ่ นั ทึกวิดีโอภายหลังทำการเขียน
(Write) เสรจ็ สิน้ เพื่อตรวจสอบว่าการบนั ทึกสมบรู ณ์จรงิ
ลกั ษณะการตดั ตอ่ ทด่ี ี
การตัดต่อมีความคล้ายกับงานศิลปหัตถกรรมอื่นๆในกรณีที่ว่าถ้าผู้ผลิตมี
ทักษะที่ดีแล้วจะ ไม่ทำให้ผู้ชมดูเกิดความรำคาญ ในการตัดต่อก็เช่นกันถ้าทำออกมาดีผู้ชมก็
จะไมป่ ระท้วงแต่จะซึม ซับเอาผลทีเ่ กิดขึน้ จากงานน้ันเข้าไป ตัวอยา่ งเช่นในฉากที่ตื่นเต้นเร้าใจ
ที่ประกอบไปด้วยช่วงสั้น ๆ เพื่อก่อให้เกิดความตึงเครียด ผู้ชมย่อมตระหนักได้เพียงถึงการ
เพิ่มขึ้นของการปลุกเร้าให้มี ความรู้สึกเป็นกังวลและมองเห็นภาพของการเคลื่อนไหวอย่าง

558

รวดเร็วเท่าน้ัน มนั มกี ฎเกณฑท์ ี่ตั้งขึน้ มาสำหรับวิธีการตดั ต่อ และย่อมเป็นเช่นกฎท่ัวไปที่ว่าใน
บางโอกาส แล้วก็สามารถละเลยได้เช่นกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของการทำงานเป็น
สำคญั ดงั ต่อไปนีค้ ือ

1. หลีกเลี่ยงการตัดภาพทีม่ ีขนาดแตกต่างกันมากๆของวัตถชุ นิ้
เดียวกนั เพราะว่าทำ ให้ผชู้ ม รสู้ ึกกระตกุ ตกใจหรอื ประหลาดใจ

2. อยา่ ตัดภาพระหว่างคนสองคนทีม่ ีขนาดเทา่ กันหรือคล้ายกันเพราะ
จะดเู หมือนวา่ ผนู้ ั้นกลายร่าง

3. อย่าตัดภาพวัตถเุ ดียวกนั ด้วยขนาดภาพเท่ากนั เพราะทำให้ภาพโดด
4. ถ้าวัตถุสองสง่ิ กำลังเคลื่อนทีไ่ ปในทิศทางเดียวกนั ควรปล่อยให้ท้ัง
คเู่ คลือ่ นที่ผา่ นจอไป ในทิศทางเดียวกัน แต่ถ้าเป็นการเคลื่อนที่สวนทางกันย่อมหมายถึงการ
พบกนั หรือจากกันไป
5. ถ้ามีวตั ถกุ ำลังเดินทางผ่านจอในทิศทางใดๆ ในฉากถัดมากค็ วรเป็น
ทิศทางเดียวกนั เว้น ไว้แต่ว่าได้ปรากฏภาพใหเ้ หน็ กอ่ นแล้วว่าวัตถนุ ้ันได้หมุนตัวกลับทิศทาง
6. หลีกเลี่ยงการตัดภาพระหว่างภาพที่กล้องอยู่นิ่งกับภาพที่เกิดจาก
กล้องเคลื่อนไหวด้วย การแพน ทิล้ ท์ ซูม ยกเว้นมีวัตถุประสงคเ์ ฉพาะ
7. หลีกเลี่ยงการตัดภาพระหว่างวัตถุที่อยู่นิ่งกับภาพวัตถุที่กำลัง
เคลื่อนไหว เพราะเป็นเหตุให้สกัดกั้นความต่อเนื่อง ผู้ชมมีความจำเป็นต้องเห็นวัตถุหยุดการ
เคลื่อนไหวก่อนทีจ่ ะถึงฉากถัดมา
8. ถ้าหากว่าเป็นการสกัดกั้นความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องควรใช้
วิธีการทำให้หลุดจาก เฟรมไปเลย แต่ต้องพยายามให้แน่ใจได้ว่ายังคงรักษาความหมายของ
การเคลื่อนไหวนั้นไว้ได้ ตัวอย่างเช่น การตัดภาพไปยังใบหน้าคนดูที่กำลังตื่นเต้นในฉากการ
แข่งขันชกมวยย่อมสร้างความ เร้าใจ แต่ถ้าตัดภาพไปยังคนดูที่แสดงความรู้สึกเบื่อหน่ายย่อม
ปราศจากความหมาย
9. หลีกเลี่ยงการตัดภาพทีเ่ ป็นบุคคลหรือวตั ถกุ ระโดดข้ามจากด้าน
หนง่ึ ของจอภาพไปอยู่ อีกด้าน
10. อย่าตดั เฟรมทีไ่ ม่เท่ากันให้สงั เกตที่ headroom ของภาพ
11. ตัด Shot ที่มี Background เหมือนกัน เช่น ถ้าชัดตื้นก็ชัดตื้น
เหมอื นกนั
12. เมื่อตัดภาพยนตรแ์ นว Drama อย่าตัดในจังหวะทีต่ ัวละครหยุดพูด
ทันที

559

13. ควรมี Shot รับคสู่ นทนาแทรกดีกวา่ การพูดทีละคน
14. เวลาตดั Dialog ควรมีการรับหน้าคู่สนทนา
15. เวลาถา่ ย 3 ตัวละคร อย่าตัด 2 Shot ไป 2 Shot
16. ควรใช้ Shot CU สำหรับตวั ละครตัวเดียว
17. ถ้าตัวละครตวั เดียว ให้หลีกเลีย่ งการใช้ภาพมุมเดิม
18. เวลาตัดจงั หวะ “ลกุ หรือน่ัง” ใหส้ ายตาของตวั ละครอย่ใู นเฟรม
นานที่สุด
19. พยายามเลือก Shot ที่ใชT้ racking ดีกว่า Zoom
20. อยา่ ใช้ภาพ Track out ระหว่าง Cut
21. เวลาตัด Pan Shot ให้ใช้ภาพคนทีเ่ ดินไปในทิศทางเดียวกัน
22. เวลาตัด Pan, Track อย่าตัดไปที่ภาพนิ่ง
23. อยา่ ขา้ ม Line 180
24. เวลาตดั 2 Shot อย่าตัดไปภาพ 2 Shot ของวัตถุเดิม
25. เวลาตัด Shot คุยโทรศัพท์ให้อยคู่ นละฝ่ังกัน
26. เวลาคนเดินออกด้านซ้าย ก็ต้องเข้ามาทางขวาของเฟรม
27. อย่าตดั ภาพที่จดุ สนใจเดียวกนั
28. เมือ่ ใช้ CU ติด ๆ กนั แล้วควรตัดกลบั มาที่ LS
29. หลังจากแนะนำตัวละครใหมแ่ ลว้ ใหต้ ดั เข้ามาที่ CU
30. จบเพลงควรจบภาพ
คำศัพทด์ ้านการตัดต่อภาพ
1. Footage คือ วิดีโอ หรอื รูปภาพ ทีย่ งั ไม่ได้ผ่านการตัดตอ่ ใด ๆ
2. Insert คือ การแทรก วิดีโอ หรอื รปู ภาพ เข้าไปในวิดีโอ ให้ตรงกับ
สิง่ ทีพ่ ูดถึงอยู่
3. Deadair คือ ชว่ งที่หยุดพักหายใจ หรือ ช่วงที่วิดีโอเงียบ เป็นส่วนที่
เราจะตดั ทิง้
4. Lower Third คือ Subject ทีอ่ ยบู่ ริเวณด้านล่างของวิดีโอ นิยมใชเ้ ปน็
แถบ หรอื บาร์ เพือ่ ใส่ช่ือ ไว้ทีต่ ำแหน่งน้คี รบั
5. Element คือ Effect ประกอบคลิป เพื่อใหค้ ลิปดูน่าสนใจมากยิง่ ขนึ้
6. Transition คือ การเชอ่ื มจากฉาก A >> B โดยการ Fade / Zoom /
Pan / Flip และอื่น ๆ

560

7. Color Grading คือ การย้อมสีวิดีโอให้ตรงกับความต้องการ เพื่อให้
คลิปดสู วยงามขนึ้

8. Sound Effect คือ เสียงประกอบคลิปใช้ดูสนกุ มากขึ้น เชน่ เสียงลม
แตร กระดิง่ นาฬิกา เป็นต้น

9. Subtitle คือ คำบรรยายใต้วิดีโอ
10. Render คือ การ Save หรอื Export ออกมาใชง้ านจริง
วิธีการประเมินวิดีโอการสอน
การประเมินสื่อการเรียนการสอนนับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากอีกขั้นตอน
หนึ่งของกระบวนการเรียนการสอนการประเมินสื่อการเรียนการสอนมักจะควบคู่ไปกับวิธีการ
ประเมินไปด้วย การประเมินสื่อเป็นการพิจารณาประสิทธิภาพและคุณภาพของสื่อการเรียน
การสอนซึ่งถ้าจะให้ได้ผลดีนั้นควรจะมีการประเมินสื่อนั้นเมื่อมีการใช้สื่อเป็นครั้งแรกเพื่อการ
ปรบั ปรงุ การใช้สือ่ ในครั้งต่อไป การประเมนิ สือ่ อาจทำได้โดย
1. การประเมินโดยผู้สอน
ผู้สอนควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการสอน เคยได้รับการฝึกอบรมจนมี
ความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับการผลิตและการใช้สื่อและมีประสบการณ์ในการใช้สื่อการเรียน
การสอนมาเปน็ อย่างดี
2. การประเมนิ โดยผชู้ ำนาญ
ซึ่งผู้ชำนาญในที่นี้ หมายถึง ผู้ชำนาญด้านสื่อการเรียนการสอนและจะต้องมี
ประสบการณ์ด้านการประเมนิ ด้วย ดงั นน้ั ผชู้ ำนาญอาจเป็นผู้สอน เปน็ อาจารย์ในมหาวิทยาลัย
ที่สอนในสาขาวิชาสื่อและเทคโนโลยีการศึกษา รวมทั้งอาจารย์ด้านการวัดผลและการ
ประเมินผลที่มีความรู้ความสามารถด้านสื่อการเรียนการสอน เป็นต้น หลักในการประเมินผล
สื่อการเรียนรู้โดยผเู้ ชย่ี วชาญมีดังน้ี
2.1. ควรเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชี่ยวชาญ รอบรู้ มีประสบการณ์
เกี่ยวกับสือ่ นนั้ ๆรวมท้ังเกีย่ วกบั เนือ้ หาสาระที่เสนอหรอื ถา่ ยทอดโดยสือ่ น้ัน
2.2 การให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนประเมินผลสื่อการเรียนรู้ ย่อมได้ผลที่
น่าเชื่อถือมากกว่าประเมินผลเพียงคนเดียวบ่งบอกคุณลักษณะและคุณภาพของสื่อการเรียนรู้
ว่ามีความเหมาะสม ถกู ต้อง หรอื เหมาะสมทีจ่ ะนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้หรอื ไม่
2.3 ในการประเมินผลสื่อการเรียนรู้แต่ละประเภท ควรใช้แบบ
ประเมินผลเฉพาะของส่อื การเรียนรปู้ ระเภทนั้นๆ ซึง่ อาจมคี วามแตกต่างจากสื่อประเภทอืน่ ๆ

561

2.4. สำหรับสื่อการเรียนรู้ทีม่ ที ้ัง Hardware และ Software นั้น จะ
ประเมินผล Software เปน็ สำคญั แตถ่ ้าต้องการประเมิน Hardware โดยเฉพาะกจ็ ะมเี กณฑ์
การประเมนิ สาหรบั สือ่ แต่ละประเภทเป็นเครื่องมอื สาหรับการประเมินสื่อน้ันๆ

อย่างไรก็ตามมีประเดน็ สำคญั และเปน็ ข้อสังเกตบางประการทีเ่ ป็นปัญหาของการ
ประเมินผลสื่อการเรียนรู้โดยผู้เชี่ยวชาญหรือครดู งั ตอ่ ไปนี้

1. สื่อการเรียนรู้ที่ผู้สอนสร้างขนึ้ ใช้เองโดยทั่วไปจะผลิตออกมาตามความจำเป็นที่
จะใช้เทา่ น้ัน การส่งใหผ้ เู้ ชีย่ วชาญพิจารณาอาจทาได้ยากโดยเฉพาะเม่ือต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญ
หลายคนพิจารณา และการพิจารณา Software จะต้องอาศัย Hardware ด้วยไม่ใช่ดูเฉพาะสื่อ
วัสดุโดยไม่ทดลองเปิดดู และถ้าจะให้ดีจะต้องพิจารณาประกอบการใช้จากผู้ใช้หรือนักเรียน
ด้วย ดังนนั้ ในทางปฏิบัติจึงเป็นไปได้ยากที่จะประเมินผลโดยผเู้ ชี่ยวชาญในกรณีที่กล่าวมา และ
สาหรับสื่อการเรียนรู้บางประเภทโดยเฉพาะประเภทสื่อประสม ( Multimedia ) หรือสื่อเชิง
ปฏิสมั พนั ธ์ ( Interactive Media ) กจ็ ะยิ่งมีปัญหามากในประเดน็ การประเมินลักษณะดังกล่าวนี้

2. การที่จะทราบว่าสื่อการเรียนรู้นั้นมีคุณลักษณะ คุณภาพดีตามความเห็น
ของผู้เชี่ยวชาญหรือครูผู้สอน ไม่ได้เป็นการประเมินเพื่อตอบคำถามที่ว่า ผู้เรียนเห็นว่าสื่อนั้น
ช่วยให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ
สื่อการเรียนรู้นั้น จนกว่าสื่อนั้นจะถูกนำไปสู่กระบวนการวิจัยและพัฒนาให้เกิดผลที่ชัดเจน
เสียก่อน

3. การประเมินโดยคณะกรรมการเฉพาะกิจ คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อ
ประเมินสื่อการสอนเป็นกลุ่มบุคคลที่หน่วยงานแต่งตั้งขึ้นมาประเมินสื่อ ซึ่งลักษณะของ
กรรมการชุดนี้จะประเมินคุณลักษณะ ประสิทธิภาพการใช้และคุณลักษณะด้านอื่นๆของสื่อ
การเรียนการสอนดว้ ย

4. การประเมินผลโดยผู้เรียน ผู้เรียนเป็นเป้าหมายสำคัญของการใช้สื่อการ
เรียนการสอน ผู้เรียนเป็นผู้ใช้สื่อหรือเรียนรู้จำสื่อการเรียนรู้นั้นๆ หรือได้ใช้ประสาทสัมผัสกับ
สื่อการเรียนรู้นั้นในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือหลายรูปแบบ ดังนั้นผู้เรียนจึงเป็นผู้ที่มี
ประสบการณ์ตรงและเป็นผทู้ ี่มีการรับรู้ สามารถพิจารณาถึงคุณลกั ษณะ คณุ ภาพ และคุณค่า
ของส่อื การเรียนรไู้ ด้อย่างสมเหตุสมผล

562

การประเมินผลสือ่ การเรียนรู้โดยผ้เู รยี นมีหลักสำคญั ดังตอ่ ไปน้ี
1. จะต้องประเมินผลทันทีหลังจากการใช้สื่อนั้นเสร็จแล้ว ไม่ควรปล่อยไว้นาน

เพราะจะจาไม่ได้ หรือการปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้ประสบการณ์จากการสัมผัสสื่อการเรียนรู้
นั้นเลอื นหายไปได้

2. ให้ผเู้ รียนพิจารณาประเมินเฉพาะสื่อการเรียนรู้นั้น โดยแยกสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง
ออก เช่น แยกความสามารถในการสอนของผสู้ อนออก

3. ใช้แบบประเมินผลเฉพาะของสื่อการเรียนรู้ชนิดนั้นๆ ซึ่งอาจแตกต่างจาก
สือ่ การเรียนรู้ชนิดอ่นื ๆทีม่ คี ณุ ลกั ษณะเฉพาะในตวั สือ่ เอง

4. ชี้แจงให้ผู้เรียนเข้าใจอย่างถูกต้องว่าการประเมินผลสื่อการเรียนรู้นั้น เพื่อ
มุ่งให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอน คุณค่าของการประเมินผลอยู่ที่การตอบตรง
กบั ความรสู้ ึกนึกคิดทีแ่ ท้จริงของผู้เรยี นทุกคนที่มีตอ่ สอ่ื การเรียนรนู้ ้ัน

5. การประเมินประสิทธิภาพของสื่อ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่อาจทำได้ด้วยเช่นกัน ซึ่ง
การประเมินประสิทธิภาพของสื่อนั้นสื่อที่จะต้องได้รับการประเมินประสิทธิภาพส่วนใหญ่จะ
เป็นสื่อที่ผลิตขึ้นตามหลักการของการสอนแบบโปรแกรม เช่น บทเรียนโปรแกรมชุดการสอน
โมดลุ และโสตทัศนปู กรณ์โปรแกรม เปน็ ต้น การประเมนิ สื่อโดยวิธีน้ีจะคำนงึ ถึงจดุ มุ่งหมายของ
สื่อการเรียนการสอนและการวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนภายหลังจากที่เรียนจากสื่อ
นั้นแล้ว

6. การประเมินผลโดยตรวจสอบผลทีเ่ กิดขึ้นกับผเู้ รียน การประเมินผลสื่อการ
เรียนรู้โดยตรวจสอบผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน เป็นการหาประสิทธิภาพของสื่อการเรียนการสอน
เพื่อหาความเที่ยงตรง และนับว่าเป็นการพิสูจน์คุณภาพและคุณค่าของสื่อการเรียนรู้นั้น
การประเมินผลโดยวิธีนี้จะต้องมีการวัดว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อะไรบ้าง โดยวัดเฉพาะผลที่
เป็นจุดประสงค์ของการสอนที่เกิดจากการใช้สื่อการเรียนรู้นั้นๆ การประเมินผลลักษณะ
ดงั กลา่ วนอี้ าจจำแนกออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คอื

วิธีที่ 1 กำหนดเกณฑ์หรือมาตรฐานขั้นต่ำสุดไว้เช่น ผู้เรียนต้องสอบได้ 80%
หรอื 90% ของคะแนนเต็มจึงจะถือว่าสื่อน้ันมปี ระสิทธิภาพ สือ่ บางประเภทจะกำหนดเกณฑ์ไว้
มากกว่า 1 เกณฑเ์ ชน่ การประเมนิ เพื่อหาประสิทธิภาพบทเรียนแบบโปรแกรม หรอื ชดุ การสอน
จากสูตร E1/E2โดยกำหนดเกณฑ์มาตรฐานการประเมินไว้เช่น 80/80 Standard หรือ 90/90
Standard เป็นต้น

563

วิธีที่ 2 ไม่ได้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานไว้ล่วงหน้า แต่จะพิจารณาประสิทธิภาพ
จากการเปรียบเทียบ กล่าวคือเปรียบเทียบผลการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี
นัยสำคัญหรือไม่ หรือเปรียบเทียบว่าผลสัมฤทธิ์จากการเรียนด้วยสื่อการเรียนรู้นั้นสูงกว่า
(หรอื เท่ากนั กบั ) สื่อหรอื เทคนิคการสอนอยา่ งอื่น เช่นการเปรียบเทียบผลการทดสอบหลังเรียน
กับกอ่ นเรียนจากการใชแ้ บบทดสอบชดุ เดียวกัน 2 คร้ัง ( Pretest-Posttest ) โดยใช้สถิตทิ ดสอบ
ชนิด t-dependent จากการคำนวณเปรียบเทียบค่าวกิ ฤตจากสตู ร t-test , Z-test เป็นต้น

สรปุ ทา้ ยบท
ในการผลิตวิดีโอการสอนจำเป็นต้องทราบถึง ความหมายความสำคัญ หลักการ

กระบวนการผลิตวิดีโอการสอน การวางแผน การถ่ายทำ และการตัดต่อ รวมไปถึงการจัด
องค์ประกอบการถ่ายทำการเลือกใช้อุปกรณ์ รูปแบบของไฟล์เสียง ไฟล์ภาพ ไฟล์วิดีโอ เข้ามา
ใช้ในการผลิตวิดีโอ อีกทั้งเทคนิคที่สร้างสรรค์งานวิดีโอต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญ ในการผลิต
หากทราบถึงแนวทางหลักการหรือวิธีการในการผลิตแล้วนั้น จะทำให้ผลิตวิดีโอการสอน
ออกมาได้อย่างมีคุณภาพตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ รวมไปถึงวิธีการประเมินวิดีโอการสอน
เมื่อผลิตวิดีโอการสอนขึ้นมาแล้วควรจะนำวิดีโอที่ผลิตขึ้น ผ่านการประเมิน เพื่อพัฒนาและ
ปรับปรุง วีดีโอการสอนให้มคี ณุ ภาพดียิ่งข้นึ
คำถามท้ายบท
1. จงเขียนแผนผงั การทำงานเพือ่ การวางแผนผลติ วิดีโอการสอนของตนเองในรปู แบบรายการ
2. จงเขียนแผนผังการทำงานเพื่อการวางแผนผลิตวิดีโอการสอนของตนเองโดยใช้เทคนิค

Green Screen
3. จงเขียนแผนผังการทำงานในขั้นกอ่ นการผลติ วิดีโอ
4. จงเขียนแผนผงั การทำงานในขั้นผลติ วิดโี อ
5. จงเขียนแผนผงั การทำงานในข้ันหลังการผลติ วิดโี อ
6. จงผลติ วิดีโอการสอนในเนือ้ หาวิชาเองของตนเอง
7. จงบอกวิธีการประเมนิ วิดีโอการสอน

564

วดิ ีโอเป็นส่อื ที่นำเสนอท้ังภาพและเสียง นำเสนอ
สิ่งที่เกิดขึน้ เล่าเรือ่ ง และมีความผกู พันทาง

อารมณ์ และให้คุณคา่ ทางการเรียนมากที่สุด เมอ่ื
เทียบกบั สื่ออ่ืนๆ

565

เอกสารอา้ งอิง

ถาวร สายสืบ. (2546). บทความวชิ าการการเขียนบทโทรทศั น.์ ภาควิชาเทคโนโลยีและส่อื สาร
การศกึ ษา. คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร.

นรนิ ธน์ นนทมาลย์,(2553). เอกสารประกอบการสอน วิชา 2726207 เทคโนโลยีและ
สารสนเทศทางการศกึ ษา ภาควิชาเทคโนโลยีและส่อื สารการศึกษา. จฬุ าลงกรณ์
มหาวิทยาลัย

นรนิ ธน์ นนทมาลย์. (2562). การขายภาพออนไลนก์ บั การเรียนรตู้ ลอดชีวติ ในชุมชนนักปฏิบตั ิ
ออนไลน์. วารสารครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย, 47(4), 268-288.

นรนิ ธน์ นนทมาลย์. (2562). การวางแผนการผลติ วิดีโอการสอนในยคุ ดิจทิ ัล. วารสาร
เทคโนโลยีและสอ่ื สารการศึกษา ECT Journal, 16(1), 35-53.

นรนิ ธน์ นนทมาลย.์ (2561). วดิ ีโอปฏิสัมพันธใ์ นการเรียนแบบเปิดในศตวรรษที่ 21.
วารสารครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั , 46(4), 211-227.

นรนิ ธน์ นนทมาลย.์ (2561). รูปแบบการผลิตวิดีโอออนดีมานด์เพือ่ การเรียนรู้ในการเรียน
ทางไกลแบบเปิด. วารสารสารเทคโนโลยีและสอ่ื สารการศกึ ษา (ETC Journal), 13(14-
15), 71-84.

นรนิ ธน์ นนทมาลย์. (2554). ผลของการแทรกเทคนิคการตง้ั คำถาม 5W1H ในวิดีโอบรรยาย
ออนดีมานด์บนเวบ็ 2.0 ทีม่ ีตอ่ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการ
แก้ปญั หาของนิสติ ปริญญาตรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบณั ฑติ สาขา
เทคโนโลยีและส่อื สารการศึกษา คณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นรนิ ธน์ นนทมาลย.์ (2551). การตัดตอ่ รายการสารคดีเชงิ ข่าว แนวสืบสวนสอบสวน
กรณีศกึ ษารายการหอ้ งสบื สวนหมายเลข 9สารนพิ นธ์ ปริญญาศึกษาศาสตร์บัณฑิต
สาขาเทคโนโลยีทางการศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั บรู พา

ปิยะดนัย วิเคียน. (2560). กระบวนการผลติ วีดิทัศน์และภาพยนตร์. [Online]. Available from :
https://krupiyadanai.wordpress.com/computer4/เทคโนโลยีส่อื ประสม/กระบวนการ
ผลติ วีดิทัศน์

พุฒิพงษ์ จันดาโชต. (2560). การหาสถานทีถ่ า่ ยทำ. [Online]. Available from :
https://sites.google.com/a/ses26.go.th/krupuhcom5/kar-has-than-thi-thay-tha

566

ฟิวส์ พาราไดร.์ (2560). หูฟัง HYBRID DRIVER คอื อะไร. [Online]. Available from :
https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_4631.html

เยาวนารถ พันธเุ์ พ็ง. (2556). เทคโนโลยีดจิ ทิ ัลกบั การถา่ ยภาพ. [Online]. Available from :
https://www.chonburi.spu.ac.th/comm/index.php?p=knowledge_detail&detail=2778
39403

วชริ ะ อนิ ทรอ์ ุดม. (2539). เอกสารประกอบการสอนวิชา 212 703 การผลติ วีดิทศั น์เพื่อ
การศกึ ษา. ขอนแกน่ : สาขาวิชาเทคโนโลยีการศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์

ศภุ ชัย แพเทพย์ และคณะ.(2534). เทคนิคการถ่ายภาพฉบับสมบูรณ์ . กรงุ เทพฯ :
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สังคม ภูมิพนั ธ์ุ. (2530). บทโทรทศั น์. [Online]. Available from :
http://www.lib.ubu.ac.th/techno/Down%20Load/Bod%2047.pdf

แสงไฟดอทคอม. (2560). อุณหภูมิสี Kelvin (K) บอกอะไรเรา. [Online]. Available from :
https://www.sangfi.com/kelvin-color-temperature/

108 DAILY. (2562). กล้อง DSLR คืออะไร. [Online]. Available from : http://108-
daily.blogspot.com/2019/04/What-is-DSLR-camera.html

Bluetech. (2019). อุณหภมู ิสีของแสง (Color Temperature). [Online]. Available from :
https://www.bluetech-
led.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%A0%
E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%8
2%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87-color-
temperature/

Bjorn Petersen. (2019). A Guide to Choosing Umbrellas and Softboxes. [Online]. Available
from : https://www.bhphotovideo.com/explora/photography/buying-guide/a-guide-
to-choosing-umbrellas-and-softboxes

Dhurakij Pundit University. (2018). การเขียนสตอรีบ่ อร์ด (Storyboard). [Online]. Available
from : https://docs.google.com/presentation/d/1uuqIb10WLDmWm

OtjhqeR_ub2HvAo_h_XZl8OT3NxgPo/htmlpresent

Files101. (2021). files101. Available from : https://files101.com/

567

Hillary K. Grigonis. (2021). What is a mirrorless camera, and what makes it different from
a DSLR?. [Online]. Available from :
https://www.digitaltrends.com/photography/what-is-a-mirrorless-camera/

Jeffrey A.Okun, Susan Zwerman. (2010). The VES Handbook of Visual Effect. Oxford: Focal
Press.

John, H. (2001). New Introductory Photography Course. USA: Focal Press.
Kamlangniyom. (2018). มาทำความรู้จกั กับ SteadiCam. [Online]. Available from :

http://www.kamlangniyom.com/content/Steadicam.php
Lookcamera. (2020). รู้หรือไมว่ ่า SOFTBOX น้ันมีความสำคญั เปน็ อย่างมาก และมีเทคนิคการ

ใช้งานทีถ่ ูกวิธีอยา่ งไร. [Online]. Available from :
https://www.lookcamera.com/article/63/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89
%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8
%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2-softbox-
%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%
B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B
8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0
%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2
%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81-
%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%
80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B
8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0
%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88
%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%
98%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B
8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3
lovemkvhd. (2564). MKV คืออะไร. Available from
http://lovemkvhd.blogspot.com/p/mkv_11.html
PEERA WONGPANYA. (2021). 7 FORMAT ไฟล์วิดีโอทีค่ วรรู้ . Available from :
https://www.fotoinfo.online/7-format-
%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%

568

B4%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B
8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0
%B8%B9%E0%B9%89
Martin Bailey. (2011). What is a compact system camera?. [Online]. Available from :
https://www.techradar.com/uk/news/photography-video-capture/cameras/what-
is-a-compact-system-camera-1031090/2
MAS. (2019). Intercom และไฟคิว Tally สำคญั อยา่ งไร ?. [Online]. Available from :
https://www.focus.in.th/index.php/articles/266-intercom-
%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%
84%E0%B8%B4%E0%B8%A7-tally-
%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%
AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B
8%A3
MasterClass. (2020). How to Use a Ring Light for Better Portrait Photography. [Online].
Available from : https://www.masterclass.com/articles/how-to-use-a-ring-light-
for-better-portrait-photography#what-is-a-ring-light
MasterClass. (2020). What Is a Mirrorless Camera and How Does It Compare to a DSLR?.
[Online]. Available from : https://www.masterclass.com/articles/what-is-a-
mirrorless-camera#what-is-a-mirrorless-camera
Mercular. (2019). เลือกประเภทของหฟู ังอย่างไร ให้เหมาะกบั คุณ?. [Online]. Available from :
https://www.mercular.com/review-article/headphone-type
Mercular. (2020) ชนิดไฟล์เสียงบอกอะไรเราได้บ้าง [Online]. Available from :
https://www.mercular.com/review-article/audio-file-type
Nattawut R. (2017). กล้องดิจทิ ัล DSLR หรอื Mirrorless ดี ?. [Online]. Available from :

https://www.wemall.com/blog/1703/dslr-or-mirrorless
Ncsbcs. (2018). ประโยชน์ที่ได้จากอปุ กรณข์ าตั้งกล้อง. [Online]. Available from :

https://www.ncsbcs.org/
Netinbag. (2018). Steadicam คืออะไร. [Online]. Available from :

https://www.netinbag.com/th/technology/what-is-a-steadicam.html

569

Netinbag. (2018). VHS คืออะไร. [Online]. Available from :
https://www.netinbag.com/th/technology/what-is-vhs.html

Omnicoreagency. (2021). The 8 Best Camera Cranes & Jibs for 2021. [Online]. Available
from : https://www.omnicoreagency.com/best-camera-cranes/

Photogenic1976. (2020). การใชง้ านขาตั้งกล้องเบือ้ งต้น (ตอนที่ 1 : ส่วนประกอบของขาต้ัง
กล้อง). [Online]. Available from : http://www.photogenic1976.com/article/8/การใช้
งานขาตั้งกล้องเบื้องต้น-ตอนที่-1-สว่ นประกอบของขาตั้งกล้อง-2

Pongsakorn S.. (2021). กล้อง Mirrorless กบั กล้อง DSLR: แนวทางที่จะชว่ ยคณุ ตัดสินใจว่า
กล้องชนิดไหนเหมาะกับคุณ. [Online]. Available from : https://yotyiam.com/กล้อง-
mirrorless-กบั กล้อง-dslr

Ralight. (2019). หลอดไฟ LED คือ. [Online]. Available from : https://ra-
light.com/th/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%8
4%E0%B8%9F-led-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD/

Richard J.Radke. (2013). Computer Vision for Visual Effects. New York: Virgin Publishing
Ltd.

Richard Rickitt. (2000). Special Effect the history and technique. New York: Billboard
books.

Ryosuke Takahashi. (2018). รู้จกั ส่วนต่างๆ. [Online]. Available from :
https://snapshot.canon-asia.com/thailand/article/th/lesson-2-knowing-the-
different-parts-of-the-camera

Stephen Cavalier. (2011). The World History of Animation. London: Arurum Press Ltd.
TechTarget Contributor. (2009). camcorder (camera recorder). [Online]. Available from :

https://searchmobilecomputing.techtarget.com/definition/camcorder
THANANCHAI L. (2018). 16 ศัพทข์ าตั้งกล้องน่ารู้. [Online]. Available from :

https://advancedphotosystems.com/16-
%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C-
%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%
87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87/

570

The Lens Lounge. (2021). 7 types of lines in photography composition and how to use
them. [Online]. Available from : https://thelenslounge.com/lines-in-photography-
composition/

Tom May. (2020). The best video editing apps in 2020. [Online]. From.
https://www.creativebloq.com/features/6-great-video-editing-apps-for-mobile

Wikipedia. (2021). Camcorder [Online]. Available from :
https://en.wikipedia.org/wiki/Camcorder

Wikipedia. (2021). 8 mm video format [Online]. Available from :
https://en.wikipedia.org/wiki/8_mm_video_format

Wikipedia. (2021). Mirrorless interchangeable-lens camera [Online]. Available from :
https://en.wikipedia.org/wiki/Mirrorless_interchangeable-lens_camera

Wikipedia. (2021). Micro Four Thirds system [Online]. Available from :
https://en.wikipedia.org/wiki/Micro_Four_Thirds_system

Wikipedia. (2021). Point-and-shoot camera. [Online]. Available from :
https://en.wikipedia.org/wiki/Point-and-shoot_camera

Wikipedia. (2021). Jib (camera). [Online]. Available from :
https://en.wikipedia.org/wiki/Jib_(camera)

Wikipedia. (2020). หฟู งั . [Online]. Available from :
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%
B1%E0%B8%87

Wikipedia. (2019). Softbox. [Online]. Available from :
https://en.wikipedia.org/wiki/Softbox

แผนการสอนประจำบทท่ี 12

การออกแบบการเรียนการสอนโดยประยุกต์ใชเ้ คร่อื งมือเทคโนโลยีทางการศึกษา

หวั ข้อเนือ้ หา
1. ความเป็นมาของการออกแบบการเรียนสอน
2. ความหมายของระบบการเรียนการสอน
3. ความหมายของการออกแบบการสอน
4. รูปแบบการออกแบบการสอน
5. การหาคา่ ประสทิ ธิภาพ
6. ความหมายของเกณฑ์ประสิทธิภาพ
7. ขอบขา่ ยของการทดสอบประสิทธิภาพ
8. การตงั้ เกณฑ์ของการทดสอบประสิทธิภาพ
9. การคำนวณหาประสิทธิภาพตามสตู รทีก่ ำหนด
10. การหาค่าความสอดคล้อง
11. การจัดการเรียนการสอน
12. การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นการสอน
13. กรอบแนวคิดทีแพค (TPACK)
14. องคป์ ระกอบของกรอบแนวคิดทีแพค

วัตถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม
1. นิสติ สามารถบอกความเป็นมาของการออกแบบการเรียนสอน
2. นิสติ สามารถบอกความหมายของระบบการเรียนการสอน
3. นิสติ สามารถบอกความหมายของการออกแบบการสอน
4. นิสติ สามารถบอกความแตกต่างของรูปแบบการออกแบบการสอนได้
5. นิสติ สามารถบอกวิธีการหาคา่ ประสทิ ธิภาพ
6. นิสติ สามารถบอกความหมายของเกณฑ์ประสิทธิภาพ
7. นิสติ สามารถบอกเลือกขอบขา่ ยของการทดสอบประสิทธิภาพ
8. นิสติ สามารถตั้งเกณฑข์ องการทดสอบประสิทธิภาพ

572

9. นิสติ สามารถบอกวิธีการคำนวณหาประสิทธิภาพตามสูตรที่กำหนด
10. นิสติ สามารถบอกวิธีการหาคา่ ความสอดคล้อง
11. นิสติ สามารถบอกวิธีการจัดการเรียนการสอนตามรปู แบบการสอนของนสิ ิตได้
12. นิสติ สามารถบอกวิธีการประเมินผลการจดั การเรยี นการสอน
13. นิสติ สามารถบอกความหมายของกรอบแนวคิดทีแพค
14. นิสติ สามารถบอกองค์ประกอบของกรอบแนวคิดทีแพค
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ก่อนเข้าช้ันเรยี น
1. ให้ผู้เรยี นศึกษาวิดีโอการสอน เรือ่ ง การออกแบบการสอน ตอนที่ 1 - 4
2. ให้ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หัดหลงั จากดูวิดีโอการสอน เรอ่ื ง เครื่องฉาย ตอนที่
1-4

ในช้ันเรยี น
5. ผู้สอนบรรยายสรุปแบบมีปฏิสัมพันธ์ โดยระหว่างบรรยายใช้คำถามที่มีอยู่

ในไสด์บรรยายแล้วให้ผู้เรยี นพิมพ์ตอบคำถาม ดังน้ี
- การออกแบบการสอนคืออะไร
- 1 2 3 4 หรอื ABCD หรอื ก ข ค เป็นระบบประเภทใด
- ID model ของ Dick and Carry เปน็ ระบบแบบใด
- Gerlach and Ely เป็นระบบแบบใด
- Morrison, Ross and Kemp เปน็ ระบบแบบใด
- ADDIE คืออะไร
- ขั้น Analysis ทำอะไรบ้าง
- นิสติ ชอบการเรียนรู้อย่างไร
- ขั้น Design ทำอะไรบ้าง
- ข้ัน Development ทำอะไรบ้าง
- ขั้น Implement ทำอะไรบ้าง
- ข้ัน Evaluation ทำอะไรบ้าง

6. ผู้สอนพูดคุยเกี่ยวกับการออกแบบการสอน ยกตัวอยา่ งแนวคิด TPACK กบั
Micro Learning หรือ online learning หรือวิธีการสอนอื่นๆ เพื่อสร้างเป็นรูปแบบการสอน แล้ว

573

นำรูปแบบการสอนนั้นไปหาค่าความสอดคล้อง หรือ วิธีการหาค่าประสิทธิภาพของสื่อการ
สอนทีใ่ ชใ้ นแต่ละขน้ั ของกิจกรรม แล้วนำรูปแบบทีอ่ อกแบบไปจดั การเรยี นการสอน

7. ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับการเรียนในเนื้อหา
8. มอบหมายให้ผู้เรียนออกแบบการสอนโดยประยุกต์ใช้เครื่องมือออนไลน์ใน
การจดั การเรียนการสอน ตามเนือ้ หาของสาขาที่นิสิตกำลังศึกษา โดยระบขุ ั้นตอนของการสอน
และ เครื่องมือเทคโนโลยีที่ใช้ พร้อมทั้งสรุปขั้นตอนและเครื่องมือเป็นภาพ โดยผู้เรียนสามารถ
download แบบฟอร์ม งานออกแบบการสอน (งานเดี่ยว) ได้ในระบบการจัดการเรียนการสอน
9. นดั หมายวันและเวลาส่งงานกบั ผเู้ รียน
10. แบ่งกลมุ่ ผู้เรยี น
11. มอบหมายใหผ้ เู้ รียนในแต่ละกล่มุ ระดมสมองเลือกเครือ่ งมอื ออนไลน์ใน
การจัดการเรียนการสอนมา 1 เครือ่ งมือ แล้วอธิบายลักษณะของเครือ่ ง และการนำเครื่องมือ
ไปใช้ในการจดั การเรียนการสอน พรอ้ มยกตัวอย่างกิจกรรม สำหรับการนำเสนอ
12. นดั หมายวันนำเสนองาน
13. ให้ผู้เรยี นสะท้อนความคิด หรอื แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับการเรียนในคร้ัง
นีโ้ ดยการพิมพ์
หลังจากช้ันเรยี น
13. ให้ผู้เรียนบอกชื่อวิชา และเนื้อหาที่ผู้เรียนจะออกแบบการสอน ในระบบ
การจัดการเรียนการสอน
14. ให้ผู้เรียน ศึกษาเครื่องมือออนไลน์ในการจัดการเรียนการสอน และ Top
Tools for Learning หรอื แหลง่ เรียนรู้ที่ผู้สอนแนะนำให้ผู้เรยี นได้ศึกษา
15. ให้ผู้เรยี นออกแบบการสอนโดยประยุกตใ์ ช้เครื่องมือออนไลน์ในการจัดการ
เรียนการสอน ตามเนื้อหาของสาขาที่นิสิตกำลังศึกษา โดยระบุขั้นตอนของการสอน และ
เครื่องมือเทคโนโลยีที่ใช้ พร้อมทั้งสรุปขั้นตอนและเครื่องมือเป็นภาพ ในการส่งงาน ให้ผู้เรียน
ส่งไฟล์ .doc หรือ .pdf โดยทั้งในไฟล์ที่ส่งจะต้องมีชื่อ นามสกุล รหัสผู้เรียน และตอนเรียนของ
ผเู้ รียน
16. ให้ผู้เรียนตามกลุ่มที่ได้แบ่งไว้ ระดมสมองเลือกเครื่องมือออนไลน์ในการ
จัดการเรยี นการสอนมา 1 เครื่องมือ แล้วอธิบายลักษณะของเคร่ือง และการนำเคร่ืองมือไปใช้
ในการจัดการเรยี นการสอน พร้อมยกตวั อย่างกิจกรรม สำหรบั การนำเสนอ

574

สือ่ การเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอนบทที่ 12 เรื่อง การออกแบบการเรียนการสอนโดย

ประยกุ ต์ใช้เคร่อื งมอื เทคโนโลยีทางการศกึ ษา
2. วิดีโอการสอน เรื่อง การออกแบบการสอน ตอนที่ 1 - 4
3. แบบฝกึ หัดหลังจากดูวิดีโอการสอน เรือ่ ง เครื่องฉาย ตอนที่ 1-4
4. วิดีโอการสอน เรื่อง เครือ่ งฉาย ตอนที่ 2
5. PowerPoint เรื่อง การออกแบบการสอน
6. ระบบการจดั การเรียนการสอน (https://lms.up.ac.th)
7. เครื่องมือออนไลนท์ างเทคโนโลยีการศกึ ษา และ Top Tools for Learning หรอื แหล่ง

เรียนรเู้ กีย่ วกบั เครื่องมือออนไลนท์ างเทคโนโลยีการศกึ ษา
การวัดและประเมินผล

1. การทำแบบฝกึ หัดหลังจากดูวิดีโอการสอน เร่ือง เครื่องฉาย ตอนที่ 1-4
2. การร่วมอภิปรายและตอบคำถามในชน้ั เรียน
3. งานเดี่ยว การออกแบบการสอนโดยประยุกตใ์ ช้เครือ่ งมือออนไลน์ในการจัดการ
เรียนการสอน ตามเน้ือหาของสาขาที่นสิ ิตกำลังศึกษา
4. งานกลุ่ม นำเสนอเครื่องมือออนไลน์ในการจัดการเรียนการสอนมา 1 เครื่องมือ
แล้วอธิบายลักษณะของเครื่อง และการนำเครื่องมือไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน พร้อม
ยกตวั อยา่ งกิจกรรมการสังเกตจากการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำถามระหว่างการบรรยาย
สรุปแบบมีปฏิสัมพันธ์ ในข้อคำถามดังนี้ (1) การออกแบบการสอนคืออะไร (2) 1 2 3 4 หรือ
ABCD หรือ ก ข ค เป็นระบบประเภทใด (3) ID model ของ Dick and Carry เป็นระบบแบบใด
(4) Gerlach and Ely เป็นระบบแบบใด (5) Morrison, Ross and Kemp เป็นระบบแบบใด (6)
ADDIE คืออะไร (7) ขั้น Analysis ทำอะไรบ้าง (8) นิสิตชอบการเรียนรู้อย่างไร (9) ขั้น Design
ทำอะไรบ้าง (10) ขั้น Development ทำอะไรบ้าง (11) ขั้น Implement ทำอะไรบ้าง (12) ขั้น
Evaluation ทำอะไรบ้าง
5. ความสนใจและความรับผดิ ชอบในการเรียน

575

บทท่ี 12

การออกแบบการเรียนการสอนโดยประยกุ ตใ์ ชเ้ คร่อื งมือเทคโนโลยีทางการศึกษา

การออกแบบการเรียนการสอน (instructional design) เกิดจากการใช้กระบวนการของ
วิธีระบบ (system approach) ในการฝึกทหารของกองทัพบกอเมริกันในชว่ งสงครามโลกครั้งที่
2 โดยมี ความเชื่อว่าการเรียนรู้ใดๆ ไม่ควรจะเกิดอย่างบังเอิญแต่ควรเกิดจากการพัฒนาสิ่ง
ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม มีกระบวนการ มีขั้นตอน และสามารถวัดผลจากการเรียนรู้ได้อย่าง
ชัดเจน ในการออกแบบการเรียนการสอนต้องอาศัยความรู้ศาสตร์สาขาต่างๆ อันได้แก่
จิตวิทยาการศึกษา การสื่อความหมายการศึกษาศาสตร์ทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และ
ศาสตร์อื่น ๆ เข้ามาร่วม การออกแบบการเรียนการสอนจะประกอบด้วยองค์ประกอบที่เป็น
ขั้นตอนต่างๆ ที่อาศัยหลักการและทฤษฎีสนับสนุนจากองค์ความรู้และการวิจัยทางการศึกษา
จนถึงปัจจุบันนักการศึกษาได้พัฒนารูปแบบการเรียนการสอน (Instructional model) ขึ้น
มากกว่า 50 รูปแบบ รูปแบบเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบ ทดสอบและการปรับปรุงมาแล้ว
กอ่ นทีจ่ ะเปน็ รูปแบบที่สมบูรณท์ ี่เชือ่ ได้ว่า ถ้านำไปใช้แล้วจะทำให้ประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
ในการสอนอยา่ งสูงสุด โดยการออกแบบการสอน เป็นการคำนึงถึงการดำเนินการจัดการเรียน
การสอนอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน
เช่น วิเคราะหผ์ ู้เรยี น ผสู้ อน หลกั สตู ร วิธีการจัดการเรียนรู้ สภาพแวดล้อม เป็นต้น
ความเปน็ มาของการออกแบบการเรยี นสอน

ความเป็นมาของการออกแบบการเรียนการสอนมีมากว่า 50 ปี โดยเริ่มมาจากการ
พัฒนาโปรแกรมสำหรับการฝึกอบรมในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปี 1960-1970 และ
ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน กระบวนการออกแบบระบบการจัดการเรียนการสอนถูกมักกล่าวถึง
ด ้ ว ย ค า ว ่ า “ The Systems Approach” “Instructional System Design (ISD)” “Instructional
Development” และ “Instructional Design” (Robert A. Reiser,2012 อ้างถึงใน กิตติพันธ์ อุดม
เศรษฐ์, 2554) ซึ่งแตล่ ะช่วงของพฒั นาการ ได้อธิบายไว้สรปุ ได้ดังน้ี

The Origins of Instructional Design: World War II
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นักจิตวิทยาและนักการศึกษาที่เชี่ยวชาญและมี
ประสบการณ์ จำนวนมากถูกเรียกให้มาพัฒนากระบวนการจัดการฝึกอบรมให้กับกองทัพ
อเมริกา เช่น Robert Gagne, Leslie Briggs, John Flanagan รวมถึงคนอื่นๆ โดยพัฒนาบน
พื้นฐานของหลักการจดั การเรียนการสอนที่มาจากงานวิจัยและทฤษฎีทางการสอน ทฤษฎีการ

576

เรียนรู้และพฤติกรรมของมนุษย์ นอกจากนี้นักจิตวิทยายังใช้ความรู้เกี่ยวกับการประเมิน การ
ทดสอบ มาช่วยในการวัดทักษะของผู้รบั การอบรมเพื่อคัดเลือกผู้มีความเหมาะสมทีเ่ หมาะกบั
ตาแหน่งหน้าที่และภาระงานต่างๆ ในกองทัพ หลังสงครามโลก นักจิตวิทยาจานวนมากที่
ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมให้กองทัพ ได้นาความรู้และ
ประสบการณ์ไปพัฒนางานต่อไป มีการจัดตั้งองค์กร เช่น The American Institutes for
Research ขนึ้ โดยนาความรทู้ ี่มไี ปใช้แก้ปญั หาในการจดั การเรียนการสอน ตั้งแตป่ ลาย ทศวรรษ
ที่ 1940 ไปจนถึงปี 1950 เริ่มมองเห็นว่า การฝึกอบรมหรือการจัดการเรียนการสอนต้องเป็น
ระบบ โดยมีการวิเคราะห์อย่างหลากหลายรูปแบบ รวมถึงกระบวนการออกแบบ และการ
ประเมิน

More Early Developments: The Programmed Instruction Movement
ช่วงกลางทศวรรษที่ 1950 ถึงกลางทศวรรษที่ 1960 วิธีระบบ (systems approach)
ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นอีกปัจจัยทีส่ ำคัญในการพัฒนา โดยในปี 1954 B. F. Skinner (ซึ่ง
อยู่ในกลุ่มพฤติกรรมนิยม) ระบุว่า การจัดโปรแกรมการสอนควรแบ่งออกเป็นหน่วยย่อย ๆ
นำเสนออย่างเป็นขั้นตอนและใช้คาถามที่กระตุ้นให้มีการตอบสนองในทันที และอนุญาตให้
ผเู้ รียนได้เรียนตามจังหวะ (สไตล)์ ของตนเองรวมถึงมีการเสริมแรงอย่างเหมาะสม
The Population of Behavioral Objectives
การกำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมมีการนำเสนออย่างแพร่หลาย ในปี 1962
Robert Mager ได้เขียนหนังสือ Preparing Objectives for Programmed Instruction ซึ่ง อธิบาย
ว่าวัตถุประสงค์การเรียนรู้จะต้องระบุพฤติกรรมของผู้เรียน เงื่อนไขภายใต้พฤติกรรมที่
แสดงออกและมาตรฐาน (เกณฑ์) โดยที่พฤติกรรมนั้นจะต้องถูกตัดสินได้ นอกจากยังมี Ralph
Tyler (1934) ซึ่งมักจะถูกยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการกาหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้เชิง
พฤติกรรมก็ได้เขียนอธิบายมาแล้วก่อนหน้านี้ ต่อมาในปี 1956 Benjamin S. Bloom และคณะ
ได้ตีพิมพ์ Taxonomy of Educational Objectives ซึ่งกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ออกเป็น
ลำดับขั้นท้ังดา้ นสติปัญญา (cognitive) ด้านทกั ษะ (psychomotor) และเจตคติ (attitudes)
The Criterion-Referenced Testing Movement
ในชว่ งตน้ ทศวรรษที่ 1960 ปัจจยั อืน่ ๆ ของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนได้
มีการ กล่าวถึง ได้แก่ การทดสอบแบบอิงเกณฑ์ (the criterion-referenced testing) ซึ่งก่อนนั้น
มีการใชก้ ารทดสอบแบบอิงกลุ่ม (norm-referenced test)
Domain of Learning, Events of Instruction, and Hierarchical Analysis ใ น ป ี 1 9 6 5
Robert M. Gagne ได้เขียน The Conditions of Learning โดยอธิบายถึง ขอบเขตหรือชนิดของ

577

ผลลัพธ์ของการเรียนรู้ ซึ่งมี 5 อย่าง คือ verbal information, intellectual skills, psychomotor
skills, attitudes, and cognitive strategies นอกจากนีย้ งั กาหนด 9 ข้ันของการสอน (9 events of
instruction) ซึ่งเป็นแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชนั้ เรียนขึน้ มาด้วย

Sputnik: The Indirect Launching of Formative Evaluation
ในปี 1957 อดีตสหภาพโซเวียต ส่งดาวเทียมสปุตนิกขึ้นสวู่ งโคจรเป็นผลสำเร็จ ทำให้
สหรัฐอเมริกาตื่นตะลึง และถึงกับมีการทุ่มเงินนับล้านเหรียญในการปรับปรุงการเรียนสอน
คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในอเมริกา โดยการจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหามาเป็นผู้เขียน
เนื้อหาและจัดทำโปรแกรมการเรียนการสอนแต่นำไปใช้โดยไม่ได้มีการทดลอง (try-out) ใช้
ก่อน จึงทาให้หลักสูตรที่พัฒนาขึ้นไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร Michael Scriven (1967) ชี้ว่าควรมีการ
ทดลองใช้แบบร่างก่อนและมีการประเมินผลโปรแกรมการเรียนเป็นระยะๆ และกำหนดคำว่า
“การประเมินระหว่างเรียน” (formative evaluation) กับ “การประเมินหลังเรียน” (summative
evaluation) ขึ้นมาอย่างไรก็ตามลักษณะของการประเมินดังกล่าวก็ได้มีผู้กล่าวถึงมาแล้วก่อน
หนา้ นั้น ตั้งแตป่ ี 1963 และในระหว่างปี 1940-1950
Early Instructional Design Models
ช่วงต้นของ Instructional Design Models ตั้งแต่ช่วงต้นและกลางทศวรรษที่ 1960
แนวคิดในการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบก็เป็นที่รบั รู้ทั่วกัน โดยมีการวิเคราะห์ภาระ
งาน (Task analysis) การกาหนดวัตถุประสงค์เฉพาะ (Objectives Specification) และการ
ทดสอบแบบอิงเกณฑ์ criterion-referenced testing การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนมีการ
ใ ช ้ ค ำ ว ่ า “ instructional design” “system development” “ systematic instruction” แ ล ะ
“instructional system” เพื่อใช้อธิบายถึงแบบจำลอง (รูปแบบ (model)) ที่สร้างขึ้นซึ่งเป็น
จุดเริม่ ต้นของการพัฒนาแบบจำลองของการออกแบบการเรียนการสอนในยคุ ต่อมา
The 1970s: Burgeoning of Interest in the Systems Approach
ระหว่างทศวรรษที่ 1970 แบบจำลองของการออกแบบการเรียนการสอนมกี ารพฒั นา
เพิ่มขึ้นอย่างมากที่เป็นที่รู้กันทั่วไป ได้แก่ Dick & Carey (1978), Gange & Briggs (1974),
Gerlach& Ely (1971), และ Kemp (1971), โดยมีหลายแบบจำลองที่กลายเป็นมาตรฐานของ
แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนและมีการพัฒนาอย่างต่อ เนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
(Dick, Carey, & Carey, 2009; Morrison, Ross, Kemp, & kalman, 2010) โดยเมื่อสิ้นทศวรรษ
1970 มี แบบจำลองมากกวา่ 40 รูปแบบในหลากหลายสาขาไม่เพียงแตใ่ นด้านการศึกษาแต่ยัง
นาไปใช้อยา่ งแพร่หลายในการฝกึ อบรมทางการทหาร ทางธรุ กิจ และอตุ สาหกรรม ซึ่งต่างเห็น
คณุ คา่ และความสำคัญของการออกแบบการเรียนการสอนในการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพ

578

ของการฝึกอบรม ไม่เฉพาะแต่ในประเทศสหรฐั อเมริกาเท่าน้ัน ในอีกหลายๆ ประเทศก็นาไปใช้
ในการพัฒนา เช่น เกาหลีใต้ ไลบีเรีย อินโดนีเซีย เป็นต้น ผลงานจากการพัฒนารูปแบบการ
ออกแบบการเรียนการสอนแบบต่างๆ เหล่านี้ต่างได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร
the Journal of Instructional Development ซึ่งตีพมิ พ์คร้ังแรกในระหวา่ งปี 1970

The 1980s: Growth and Redirection
ในหลายๆ ภาคส่วน การออกแบบการเรียนการสอนจะให้ความสนใจกับกระบวนการ
โดยเฉพาะในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม แต่ในระยะต่อมามุ่งเน้นไปที่การออกแบบสื่อและ
นวตั กรรมเพือ่ การเรียนการสอน หรอื ในการจัดทาหลักสูตรการเรียนการสอน ซึง่ เปน็ ส่วนเล็กๆ
ในระบบการเรียนการสอน ตลอดจนนำไปใช้ออกแบบและผลิตตารา เอกสาร สิ่งพิมพ์และวัสดุ
การเรียนรใู้ นโรงเรยี นจนถึงระดบั มหาวิทยาลัย ปัจจยั ที่สำคัญอย่างหนึง่ คือ การเพิม่ จำนวนการ
ใช้งานของคอมพิวเตอร์สว่ นบคุ คล (personal computers) และมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ใน
การเรียนการสอน และมีการพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น (Computer-
Based Instruction)
The 1990s: Changing Views and Practices
ในระหว่างปี 1990 และเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในแนวโน้มที่สำคัญคือมุ่งเน้นให้
ความสำคัญกับผลของการพัฒนาและวิธีการที่ปฏิบัติ โดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนา
บุคลากร การอบรมพัฒนาวิชาชีพ โดยมีความระมัดระวังในการวิเคราะห์ปัญหา การออกแบบ
โดยใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมสอดคล้องกับปัญหาที่พบ รวมถึงการค้นหาจุดอ่อนหรือจุดด้อยของ
ระบบการเรียนการสอนหรอื การฝึกอบรมแบบเดิม กิจกรรมต่างๆ เหล่าน้มี กี ารขยายตัวออกไป
มาก อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ ในมุมของการเรียนการสอนเริ่มมีความสนใจในทฤษฎีการเรียนรู้แบบ
คอนสรัคติวิสม์ (Constructivism) ซึง่ มีแนวทางสำคัญคือ การออกแบบให้เรียนรู้จาการปฏิบัติใน
สภาพจริง มอบหมายงานที่ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริงโดยใช้ทักษะที่ได้
เรียนรมู้ า มีการนำเอาคอมพิวเตอร์และอุปกรณอ์ ิเลคทรอนิกส์มาใช้ในระบบการเรียนการสอน
อย่างมาก และใช้ในแทบทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นในการเรียนการสอน การฝึกอบรม การพัฒนา
ระบบ การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ และการติดต่อสื่อสาร เห็นได้ว่าเทคโนโลยีด้านอิเลคทรอนิกส์
และคอมพิวเตอร์ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลังของทศวรรษที่ 1990
ก่อนปี 2000 มีการขยายตัวในเรื่องของการจัดการศึกษาทางไกล ( Distance Learning) โดย
ผา่ นระบบอินเทอร์เนต็ จึงได้มีการพัฒนาระบบการจัดการเรียนการสอนแบบทางไกลขึ้นมาด้วย
เนื่องจากวิธีการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน อาจไม่ได้ผลกับการเรียนแบบทางไกลหรือ
การเรียนแบบออนไลน์

579

การจัดการความรู้ (Knowledge Management) เป็นอีกกระแสหนึ่งของการออกแบบ
การเรียนการสอนในยุค 2000 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลความรู้ในองค์กร ทั้งที่เป็น
เอกสารหรือสิ่งอื่นๆ ที่ศึกษาได้ (Explicit Knowledge) และความรู้ในตัวบุคคล (Tacit
Knowledge) สำหรับองค์กรที่มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน การ
ขยายตัวของแนวคิดการจัดการความรู้ ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และขยายรูปแบบของการ
ออกแบบการเรียนการสอนให้มีมากขึ้นและมีประสทิ ธิภาพสงู ขึ้น

Into the Twenty-First Century: e-Learning and Informal learning
ปจั จบุ ัน ในโลกที่มกี ารพฒั นาการด้านการส่อื สารอย่างรวดเร็วและไร้ขีดจากัด การเพิม่
จำนวนของการเรียนรู้ออนไลน์ทั้งในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม การทหาร ระดับโรงเรียนและ
มหาวิทยาลัย มีอัตราสูงข้ึนมากอยา่ งเห็นได้ชดั จากสภาพการณน์ เี้ ป็นการเปิดโอกาสให้กับการ
ออกแบบการเรียนการสอนทีจ่ ะนาเสนอความท้าทายในการออกแบบการเรียนการสอนในแบบ
ออนไลน์ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทั้งในการเรียนการสอนและการฝึกอบรมเพื่อ
ปรับปรุงและพัฒนางานอาชีพ ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มปริมาณการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการ
แบ่งปันข้อมูล ข่าวสาร ก็ช่วยเสริมการปรับปรุงคุณภาพทั้งการเรียนรู้และการทางาน ทั้งนี้นัก
ออกแบบการเรียนการสอนทั้งหลายจะต้องเรียนรู้วิธีการออกแบบ การนำไปใช้ และการ
สนับสนุนวิธีการทางเลือกเหลา่ นี้
ความหมายของระบบการเรยี นการสอน
การออกแบบระบบการเรียนการสอน (Instructional System design) มีชื่อเรียก
หลากหลาย เช่น การออกแบบการเรียนการสอน (Instructional design) การออกแบบและ
พัฒนาการสอน (Instructional design and development) การพัฒนาระบบการเรียนการสอน
(Instructional development System) กระบวนการของวิธีระบบ (System Approach) เป็นต้น
ไม่ว่าชื่อจะมีความหลากหลายเพียงใด แต่ชื่อเหล่านั้นก็มากจากต้นตอเดียวกัน คือมาจาก
แนวคิดในการใชก้ ระบวนการของวธิ ีระบบ (system approach)
ระบบ (System) หมายถึงการรวบรวมสิ่งต่างๆ ทีม่ นุษยอ์ อกแบบสร้างขึ้นประกอบด้วย
ส่วนย่อยทีม่ ปี ฏิสมั พนั ธ์ต่อกนั เพือ่ ดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ (Banathy, 1968 อ้างถึง
ในเอกสารการสอนมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2553) หรือบางท่านอาจมองว่าระบบคือ
ผลรวมขององค์ประกอบย่อยๆ ที่มีเอกลักษณ์ของตนเองนำมาประกอบรวมกันเป็นระบบเพื่อ
ทำหน้าที่บางอย่างโดยที่องค์ประกอบย่อยๆ แต่ละอย่างในระบบจะรับข้อมูลมาทำการแปรรูป
เ พ ื ่ อ ใ ห ้ ไ ด ้ ผ ล ผ ล ิ ต ห ร ื อ ผ ล ล ั พ ธ ์ ( Robbins, 1 9 8 3 อ ้ า ง ถ ึ ง ใ น เ อ ก ส า ร ก า ร ส อ น
มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช 2553) นอกจากนีย้ งั หมายถึง การรวมกลุ่มของส่วนประกอบ


Click to View FlipBook Version