The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Narin Nonthamand, 2021-05-04 13:58:10

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

220

ภาพที่ 8.174 ตวั อย่างผังการต่ออปุ กรณ์ในการถ่ายทอดสด
ภาพจาก : https://webcastandbeyond.com/live-streaming-reliability/

ภาพที่ 8.175 ตวั อย่างผังการตอ่ อุปกรณใ์ นการถ่ายทอดสด
ภาพจาก : https://www.dmmusic.com/live-streaming-your-church-service/

ภาพที่ 8.176 ตวั อย่างผงั การต่ออปุ กรณใ์ นการถ่ายทอดสด
ภาพจาก : https://www.youtube.com/watch?v=UCmr0KwbXxA

221

ภาพที่ 8.177 ตัวอย่างผังการต่ออปุ กรณใ์ นการถา่ ยทอดสด

ภาพจาก : https://support.faithlife.com/hc/en-us/articles/360041602931-What-Equipment-Do-I-Need-to-Use-Faithlife-Live-Stream-

ภาพที่ 8.178 ตวั อย่างผังการต่ออปุ กรณใ์ นการถ่ายทอดสด

ภาพจาก : https://multicameravideoproductiondiary.wordpress.com/2012/10/23/the-multiple-camera-setup/

ภาพที่ 8.179 ตัวอย่างผงั การตอ่ อปุ กรณ์ในการถ่ายทอดสด
ภาพจาก : https://pro.sony/en_FI/solutions/professional-live-streaming

222

3. การใช้กลอ้ งถ่ายทอดสด
คือ กล้องวิดีโอที่ฟีด หรือสตรีมรูปภาพหรือวิดีโอแบบเรียลไทม์ไปยังหรือผ่าน

คอมพิวเตอร์ไปยงั เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์เช่นอินเทอร์เน็ต โดยทวั่ ไปเปน็ กล้องขนาดเล็กที่วางอยู่
บนโต๊ะทำงานติดกับจอภาพของผู้ใช้หรือติดตั้งไว้ในฮาร์ดแวร์ สามารถใช้กล้องวิดีโอ ระหว่าง
เซสชันวิดีโอแชทที่เกี่ยวข้องกับคนสองคนขึ้นไปโดยมีการสนทนาที่มีทั้งเสียง และวิดีโอสด
ตัวอยา่ งเช่นกล้อง iSight ของ Apple ซึง่ ติดตง้ั อยู่ในแลป็ ทอ็ ป Apple, iMacs และ iPhone จำนวน
หนึ่งสามารถใช้สำหรับวิดีโอแชทโดยใช้โปรแกรมส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีของ Messages
ซอฟต์แวร์เว็บแคมช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกวิดีโอหรือสตรีมวิดีโอบนอินเทอร์เน็ต เนื่องจาก
การสตรมี วิดโี อผา่ นอินเทอรเ์ น็ตต้องใช้แบนด์วิดทม์ ากโดยปกติสตรีมดงั กล่าวจะใช้รูปแบบที่บีบ
อดั ความละเอียดสูงสุดของเว็บแคมกต็ ่ำกว่ากล้องวิดโี อแบบใช้มือถือสว่ นใหญเ่ ชน่ กันเนื่องจาก
ความละเอียดที่สูงขึ้นจะลดลงระหว่างการส่ง ความละเอียดที่ต่ำกว่าทำให้เว็บแคมมีราคาไม่
แพงเม่อื เทียบกับกล้องวิดีโอส่วนใหญ่ แต่เอฟเฟกต์นั้นเพียงพอสำหรับเซสชนั วดิ ีโอแชท

3.1 Mevo

ภาพที่ 8.180 – 8.181 Mevo
Mevo ซึ่งเป็นกล้องใหม่จาก Livestream ที่ช่วยให้ถ่ายทอดสดกิจกรรมในรูปแบบ HD
ได้ง่ายกว่าที่เคย Mevo เป็นกล้องวิดีโอถ่ายทอดสดขนาดพกพาที่ให้คุณตัดต่อบน iPhone

223

ในขณะที่คุณถ่ายทำทำให้คุณสามารถแชร์เหตุการณ์สดแบบเรียลไทม์ด้วยมูลค่าการผลิตที่ไม่
เคยมีมาก่อน Mevo ช่วยให้ผู้บริโภคที่มีงานยุ่งองค์กรและผู้ผลิตงานอีเวนต์สามารถแบ่งปัน
เรื่องราวที่น่าสนใจของกิจกรรมสดของพวกเขาได้อย่างราบรื่นด้วยการใช้พลังและ
ความสามารถของสตูดิโอผลติ กล้องหลายตวั ทีป่ ลายนิว้

ภาพที่ 8.182 หน้าจอ Mevo
ภาพจาก : https://livestream.com/blog/livestream-live-event-camera-introducing-mevo

กล้องวิดีโอ Mevo รูปทรงเพรียวบางขนาดพอดีมือ แต่เลนส์แก้วทั้งหมด 150 องศา
และเซน็ เซอร์ 4k ทำให้แอป iOS สามารถควบคุมกล้อง HD เสมือนได้ถึงเก้าตัว การตัดต่อแบบ
สดรวมถึงความสามารถในการแพนซูมและตัดระหว่างช็อตสดหลาย ๆ ช็อตจากกล้องตัวเดียว
ซึ่งให้ความสามารถในการเล่าเร่อื งแบบเดียวกับที่ใชใ้ นการถ่ายทำสดระดับมอื อาชีพ นอกจากนี้
ยงั สามารถเพิ่ม Mevo เป็นกล้องระยะไกลใน Livestream Studio ได้อย่างง่ายดาย เทคโนโลยีลำ้
สมัยของ Mevo ช่วยให้สามารถแบ่งปันวิดีโอรูปแบบใหม่สำหรับการใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่
คอนเสิร์ตไปจนถึงการประชุมกีฬาไปจนถึงละครของโรงเรียนและกิจกรรมที่เจ้าของธุรกิจทุก
ขนาดต้องแชรท์ างออนไลน์ สามารถแชร์วิดีโอทีแ่ ก้ไขทั้งหมดไปยังเครือข่ายโซเชียลที่ชื่นชอบได้
อย่างง่ายดายหรอื สตรีมกิจกรรมไปยัง Livestream พร้อมกนั (Jesse Hertzberg, 2021)

224

3.2 GoPro

ภาพที่ 8.183 – 8.184 GoPro
การถ่ายทอดสดไม่ได้มีไว้สำหรับผู้มีอิทธิพลทางสังคมผู้แพร่ภาพข่าว และบุคคลที่มี
ชื่อเสียงของโลกเท่าน้ัน สำหรับทุกคน และทุกคนที่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์แบบเรียลไทม์
ด้วยวิธีการทำงานร่วมกันที่สนุกสนาน และตอนนี้มันเป็นคุณสมบัติของกล้อง GoPro สามารถ
ถ่ายทอดสดในสถานการณ์ต่างๆและจาก POV ที่คุณไม่กล้าเปิดเผยสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์
สตรีมมิ่งอื่น ๆ รถแข่งจักรยานเสือภูเขาดิ่งพสุธาเจ็ทแพ็คสวนสัตว์ป่า - นี่เป็นเพียงไม่กี่กรณี
การใช้งานที่เราชื่นชอบจนถึงตอนนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสตรีมมิงแบบสดจาก GoPro ไม่
เหมาะสำหรับสถานการณ์ในสตูดิโอและการแชร์สตรีมจากทั่วบ้านด้วย เป็นโรงไฟฟ้า
คุณภาพสูงขนาดกะทัดรัดที่พร้อมจะแบ่งปันชีวิตของคุณจากมุมมองของคุณโดยมีแอป GoPro
เพียงเล็กน้อยที่จับคู่กับกล้องที่พอดีกบั ฝา่ มือ เมื่อใช้แอป GoPro สมาชิก GoPro สามารถสตรีม
แบบสดไปยังผู้ชมที่ตนเลือกผ่านลิงก์ส่วนตัว คุณยังสามารถสตรีมแบบสดโดยตรงไปยัง
Twitch, YouTube ™และ Facebook รวมถึงไซต์ที่ยอมรบั RTMP URL ซึง่ เราจะพดู ถึงในภายหลัง
YouTube และ Facebook จำเป็นต้องมีขั้นตอนการตั้งค่าเริ่มต้น (ตามรายการด้านล่าง) ในการ
ถ่ายทอดสดคร้ังแรกดงั นน้ั ควรวางแผนให้เหมาะสม (GoPro, 2020)
สรปุ ท้ายบท
ในการใช้งานเครื่องเสียงเครื่องฉาย จำเป็นต้องทราบว่าสัญญาณออกจากอุปกรณ์ใด
ไปยังอุปกรณ์ใด และสัญญานั่นเป็นสัญญาณภาพหรือสัญญาณเสียงแล้ว จะใช้สายสัญญาณ
หรือขั้วต่อได้ ในการส่งสัญญาณ หรือแปลงสัญญาณ ผสมสัญญาณ โดยใช้อุปกรณ์ใดบ้าง ให้
เหมาะสม ถูกต้องปลอดภัยสำหรับการใช้งาน รวมไปถึงการถ่ายทอดสัญญาณสด หรือวิดีโอ
ถ่ายทอดสด ที่จำเป็นต้องทราบว่าควรจะใช้อุปกรณ์ใดบ้างสำหรับการถ่ายทอดสด

225

สายสัญญาณขั้วต่อ อุปกรณ์แปลงสัญญาณ ที่จำเป็นต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับ
รปู แบบการถา่ ยทอดสด และการใชอ้ ปุ กรณใ์ นการถา่ ยทอดสดตา่ งๆ

คำถามท้ายบท

1. จงเขียนผังการต่ออุปกรณเ์ พื่อการใช้งานเครือ่ งฉาย
2. จงบอกความแตกตา่ งของสายสัญญาณภาพแตล่ ะประเภท
3. จงบอกความแตกต่างของสายแปลงสญั ญาณภาพแตล่ ะประเภท
4. จงบอกวิธีการใชง้ านวิชวลไลเซอร์
5. จงบอกวิธีการใชง้ านอปุ กรณเ์ ชอ่ื มตอ่ ภาพไร้สายแต่ละประเภท
6. จงเขียนผังการต่ออุปกรณ์เพื่อการใชง้ านเครือ่ งเสียง
7. จงบอกหน้าที่และการใชง้ านของมิกเซอรค์ อนโซล
8. จงบอกความแตกตา่ งของอุปกรณ์รบั สง่ สญั ญาณเสียงแบบไร้สาย
9. จงเขียนผังการต่ออุปกณณ์เพือ่ การถา่ ยทอดสดแตล่ ะรูปแบบ

226

เอกสารอ้างอิง

สมสิทธิ์ จิตรสถาพร. 2529. การใช้เครือ่ งมือเทคโนโลยีทางการศกึ ษา ตอนที่ 1
ระบบเครือ่ งฉาย. พิมพค์ รั้งที่ 1 : คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
สงขลา

สมสิทธิ์ จิตรสถาพร. 2529. การใช้เครอื่ งมือเทคโนโลยีทางการศกึ ษา ตอนที่ 2
ระบบเครือ่ งเสียง. พิมพ์ครั้งที่ 1 : คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
สงขลา

สมสิทธิ์ จิตรสถาพร. สายไมโครโฟนและขั้วต่อ เอกสารประกอบการเรียน วิชา 423231
ปฏิบัติการการใชเ้ ครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา : ภาควิชาเทคโนโลยีการศกึ ษา
มหาวิทยาลัยบูรพา. ม.ป.ป.

สมสิทธิ์ จิตรสถาพร. ส่ือบันทึกเสียง(audio recording media) เอกสารประกอบบรรยายวิชา
423231 ปฏิบัติการการใชเ้ ครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา : ภาควิชาเทคโนโลยี
การศกึ ษา มหาวิทยาลัยบูรพา.ม.ป.ป.

สัมภาษณ.์ ววิ ัฒน์ชยั สุขทัพภ.์ คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั , 10 มนี าคม 2554.
นรนิ ธน์ นนทมาลย์,(2553). เอกสารประกอบการสอน วิชา 2726207 เทคโนโลยีและ

สารสนเทศทางการศกึ ษา ภาควิชาเทคโนโลยีและสอ่ื สารการศึกษา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั
Apple Inc. (2021). Lightning Digital AV Adapter. [Online]. Available from :
https://www.apple.com/shop/product/MD826AM/A/lightning-digital-av-adapter
Apple Inc. (2021). Lightning to VGA Adapter. [Online]. Available from :
https://www.apple.com/th-en/shop/product/MD825ZA/A/lightning-to-vga-
adapter
Anthony Romero. (2020). How to Live Stream from Your Smartphone or Tablet.
[Online]. Available from : https://blog.video.ibm.com/streaming-video-tips/how-to-
live-stream-from-your-smartphone-or-tablet/
Belkin. (2021). USB-C™ to VGA Adapter (USB Type-C™). [Online]. Available from :
https://www.belkin.com/ph/p/P-F2CU037/
Bzbexpress. (2021). SDI Switchers. [Online]. Available from :
https://bzbexpress.com/switchers/sdi-switcher/

227

Carrie Tsai. (2020). How Does Micro USB to HDMI Adapter Work with Your TV. [Online].
Available from : https://carrienewaymobile.medium.com/how-does-micro-usb-to-
hdmi-adapter-work-with-your-tv-924a7600aed5

Electronicsnotes. (2021). HDMI Connectors - Type A, B, C, D, E (mini-HDMI & micro-
HDMI). [Online]. Available from : https://www.electronics-notes.com/articles/audio-
video/hdmi/hdmi-connectors.php

Gamehub. (2020). Android TV คืออะไร?. [Online]. Available from :
https://www.gamehub.in.th/android-tv-
%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-aosp-
%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9
%84%E0%B8%A3/

Gibson, B. (2011). Live Sound Operator's Handbook. 2nd Ed. United State of
America: Hal Leonard Book.

International Events, (2021). มารู้จกั กบั Live Streaming Application ในปัจจบุ ัน กันเถอะ วา่ มี
อะไรบ้าง ? [Online]. Available from :
https://www.nccinternationalevents.com/2020/06/15/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%
E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%8
1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-live-streaming-application-
%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%
88%E0%B8%B8%E0%B8%9A/

Inplayer. (2021). 7 Best Mobile Live Streaming Apps (2021). [Online]. Available from :
https://inplayer.com/7-best-mobile-live-streaming-apps-2021/

Jan Sørup. (2021). What Is SDI In A Video Camera? SDI vs HDMI Explained. [Online].
Available from : https://filmdaft.com/what-is-sdi-in-a-video-camera-sdi-vs-
hdmi-explained/

Jesse Hertzberg. (2021). Introducing the Mevo Live Event Camera for Streaming.
[Online]. Available from : https://livestream.com/blog/livestream-live-event-
camera-introducing-mevo

Josh. (2013). What are HDMI, HDMI Mini & HDMI Micro Cables?. [Online]. Available
from : https://tethertools.com/blog/what-are-hdmi-hdmi-mini-hdmi-micro-cables/

228

JONAH M. (2021). HDMI Switches: What Are They and Are They Useful?. [Online].
Available from : https://thehometheaterdiy.com/hdmi-switch/

Kenny Novak. (2018). How to Stream to Facebook and Instagram At The Same Time.
[Online]. Available from : https://boostlikes.com/blog/2018/10/stream-facebook-
instagram-time

Marta Chernova. (2019). Live streaming hardware encoder primer. [Online]. Available
from : https://www.epiphan.com/blog/hardware-encoder-primer/

MAX WILBERT. (2021). Comparison of the Top 10 Live Streaming Software: What You
Need to Know. [Online]. Available from : https://www.dacast.com/blog/live-
broadcasting-software/

Monster In the sea. (2020). วธิ ีแชร์หน้าจอมอื ถือไปยงั จอทีวี ทำอย่างไรได้บ้าง ทั้งแบบมีสาย
และแบบไร้สาย เรามีคำตอบ. [Online]. Available from :
https://th.priceprice.com/mobilephone/news/How-to-share-phone-screen-to-TV-
9008/

Multicom. (2021). Component Video vs. Composite Video? What’s the Difference?.
[Online]. Available from : https://www.multicominc.com/training/technical-
resources/component-video-vs-composite-video-whats-the-difference/

Pongsakorn Siwannapa. (2021). กล่องแอนดรอย (Android box) แกด็ เจ็ตใหม่สำหรับคนยคุ
ใหม.่ [Online]. Available from :
https://yotyiam.com/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0
%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%A3%
E0%B8%AD%E0%B8%A2-android-box-
%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%
88%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B
9%88-
%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%
9A%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B
9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/

Procab. (2021). SDI. [Online]. Available from : https://procab.be/cable-properties/s/sdi

229

Pratima-ishop. (2016). อุปกรณ์ ทีช่ ว่ ยใหก้ ารฉายภาพออก เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์ เป็น แบบ
ไร้สาย ใชง้ านง่าย (wireless). [Online]. Available from : https://www.pratima-
ishop.com/article/10/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0
%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C-
%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8
%A7%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%
B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A0%E
0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81-
%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%
AD%E0%B8%87%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B
8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B9%80%E0
%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-
%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99-
%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%
89%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2-
%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%
99%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2-
%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B0-wireless

ROZY S. (2020). สายมินิ HDMI ที่ขายดีที่สดุ ในปี 2020. [Online]. Available from :
https://gadgetarq.com/th/electronics/best-selling-mini-hdmi-cables-in-2020/

Sewell. (2021). What is an HDMI Splitter and do I need one?. [Online]. Available from :
https://sewelldirect.com/blogs/learning-center/what-is-an-hdmi-splitter-and-do-
i-need-one

Somkiet.com. (2558). สายสัญญาณ ออดโิ อ วดิ ีโอ และ Splitter แบบต่างๆ. [Online].
Available from : http://www.somkiet.com/AudioVideo/SignalCable.htm

Spacehifi. (2021). What is the Difference Between a HDMI Switch, Splitter and a Matrix
Switch?. [Online]. Available from : https://www.spacehifi.com.au/hdmi-switch-
hdmi-splitter-hdmi-matrix-guide

TechGuru. (2020). Micro HDMI vs. Mini HDMI – Differences Explained. [Online].
Available from https://nerdtechy.com/micro-hdmi-vs-mini-hdmi

230

TechTarget Contributo. (2013). micro USB. [Online]. Available from :
https://whatis.techtarget.com/definition/micro-USB

TeammyInside. (2017). [เรื่องนา่ รู้] ทำความรู้จักพอร์ตเชอ่ื มต่อจอมอนเิ ตอร์ VGA, DVI, HDMI
และ DisplayPort. [Online]. Available from : https://www.extremeit.com/vga-dvi-
hdmi-displayport/

ThaiMKV. (2018). Android Box คืออะไร ใชง้ านด้านไหน เลือกซือ้ อย่างไร. [Online]. Available
from : https://www.thaimkv.com/post/android-box-%E0%B8%84-
%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-
%E0%B9%83%E0%B8%8A-
%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%94-
%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99-
%E0%B9%80%E0%B8%A5-%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B-
%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%A2-
%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3

The Adopted Trademarks HDMI. (2021). HDMI ALT MODE USB TYPE-C. [Online].
Available from : https://www.hdmi.org/spec/typec

Thinkuknow. (2021). A short guide to live streaming. [Online]. Available from :
https://www.thinkuknow.co.uk/parents/articles/what-is-live-streaming/

Visunext. (2021). How do I connect the projector and the source?. [Online]. Available
from : https://www.visunext.co.uk/en/connecting-projector

Wikipedia. (2021). แอปเปิลทีวี. [Online]. Available from :
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B9%
80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B
8%A7%E0%B8%B5

Wikipedia. (2021). Component video. [Online]. Available from :
https://en.wikipedia.org/wiki/Component_video

Wikipedia. (2021). S-Video. [Online]. Available from : https://en.wikipedia.org/wiki/S-
Video

Wikipedia. (2021). Serial digital interface. [Online]. Available from :
https://en.wikipedia.org/wiki/Serial_digital_interface

231

แผนการสอนประจำบทท่ี 9

ระบบการพมิ พ์

เนื้อหา

1. ประวตั ิความเป็นมาของการพิมพ์
2. ความหมายการพิมพ์
3. ความหมายสือ่ สิ่งพิมพ์
4. ประเภทของสื่อสิ่งพิมพ์
5. ความสำคัญของสอ่ื สิ่งพิมพ์
6. ขั้นตอนการผลติ สื่อสิ่งพิมพ์
7. หลกั การออกแบบสิง่ พิมพ์
8. ข้ันตอนของการออกแบบสื่อสิง่ พิมพ์
9. องคป์ ระกอบในการออกแบบ
10. กระบวนการผลติ สื่อส่งิ พิมพ์
11. ประเภทของการพิมพ์
12. การกำหนดระบบการพิมพ์ และการเลือกกระดาษพิมพ์
13. ประเมินสอ่ื สิ่งพิมพ์

วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
หลงั จากจบการเรียนการสอนบทนีแ้ ล้ว นิสติ มคี วามสามารถดงั นี้

1. นิสติ ิสามารถบอกประวัติความเปน็ มาของการพิมพ์
2. นิสิตสิ ามารถบอกความหมายการพิมพ์
3. นิสิตสิ ามารถบอกความหมายสื่อสิง่ พิมพ์
4. นิสิตสิ ามารถจำแนกประเภทของส่อื สิ่งพิมพ์
5. นสิ ิตสิ ามารถบอกความสำคัญของสื่อสิ่งพิมพ์
6. นสิ ิตสิ ามารถบอกข้ันตอนการผลิตสือ่ ส่งิ พิมพ์
7. นิสิตสิ ามารถบอกหลกั การออกแบบสิง่ พิมพ์
8. นิสิตสิ ามารถออกแบบสื่อส่ิงพิมพ์

232

9. นิสิตสิ ามารถบอกองค์ประกอบในการออกแบบ
10. นิสิตสิ ามารถบอกกระบวนการผลิตส่ือสิ่งพิมพ์
11. นิสิตสิ ามารถจำแนกประเภทของการพมิ พ์
12. นิสิตสิ ามารถกำหนดระบบการพิมพ์ และการเลือกกระดาษพิมพ์
13. นิสิตสิ ามารถประเมินสือ่ ส่งิ พิมพ์

กิจกรรมการเรยี นการสอน
กอ่ นเขา้ ชั้นเรยี น
1. ให้ผู้เรยี นศึกษาวิดีโอการสอน เร่อื ง การพิมพ์
2. ให้ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั จากดูวิดีโอการสอน เร่อื ง การพิมพ์
ในชั้นเรยี น
3. ผู้สอนบรรยายสรุปแบบมีปฏิสัมพันธ์ โดยระหว่างบรรยายใช้คำถาม
ระหวา่ งการบรรยายดังน้ี
- สือ่ ส่งิ พิมพ์คืออะไร
- ประเภทของสิ่งพิมพ์ มีอะไรบ้าง
- ความสำคัญของสอ่ื สิ่งพิมพ์ มีอะไรบ้าง
- ประโยชน์ของส่ือสิง่ พิมพท์ างการศกึ ษามีอะไรบ้าง
- ข้ันตอนการผลติ สือ่ สิง่ พิมพ์มีอะไรบ้างหลัก
- สีมกี ี่ระบบ
- ประโยชน์ของการใช้สมี ีอะไรบ้าง
- การพิมพม์ กี ีป่ ระเภท
4. ผสู้ อนพดู คยุ เกีย่ วกบั (1) สือ่ การสอนในรูปแบบของส่ือสิ่งพิมพ์ (2) creative

commons (3) จุดเดน่ ของสอื่ สิ่งพิมพ์
5. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การเรียนในเนื้อหา
6. มอบหมายงานให้ผู้เรียน คือ (1) ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์โดบใช้เนื้อหาในสาขา

ของผู้เรียน (2) อธิบายหลักการออกแบบที่ใช้ในการออกแบบ (4) เลือกวัสดุพิมพ์ (5) เลือก
ประเภทของการพิมพ์ (6) บอกประโยชนข์ องสอ่ื สิง่ พิมพ์ที่ผเู้ รียนผลติ ขนึ้ มา

7. นดั หมายวนั และเวลาสง่ งานกบั ผเู้ รียน

233

หลงั จากช้ันเรยี น
8. ผเู้ รียนส่งงานในระบบการจดั การเรยี นการสอน

สือ่ การเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอนบทที่ 9 เรื่อง ระบบการพิมพ์
2. วิดีโอการสอน เร่อื ง การพิมพ์
3. PowerPoint เรื่อง การพิมพ์
4. ระบบการจดั การเรียนการสอน (https://lms.up.ac.th)

การวัดและประเมินผล
1. การทำแบบฝกึ หดั หลังจากดวู ิดีโอการสอน เรื่อง การพิมพ์
2. การร่วมอภิปรายและตอบคำถามในชนั้ เรียน
3. การสังเกตจากการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำถามระหว่างการบรรยายสรุป

แบบมีปฏิสมั พันธ์ ในข้อคำถามดังน้ี (1) สื่อสง่ิ พิมพค์ ืออะไร (2) ประเภทของสิ่งพิมพ์ มีอะไรบ้าง
(3) ความสำคัญของสื่อสิ่งพิมพ์ มีอะไรบ้าง (4) ประโยชน์ของสื่อสิ่งพิมพ์ทางการศึกษามี
อะไรบ้าง (5) ขั้นตอนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์มีอะไรบ้างหลัก (6) สีมกี ี่ระบบ (7) ประโยชน์ของการ
ใช้สมี ีอะไรบ้าง (8) การพิมพม์ กี ีป่ ระเภท

4. งานของผู้เรียนที่ได้ตอบคำถาม (1) ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์โดบใช้เนื้อหาในสาขาของ
ผู้เรียน (2) อธิบายหลักการออกแบบที่ใช้ในการออกแบบ (3) บอกประโยชน์ของสื่อสิ่งพิมพ์ที่
ผเู้ รียนผลติ ขึน้ มา

5. ความสนใจและความรบั ผดิ ชอบในการเรียน

234

สื่อสิง่ พมิ พย์ ังเป็นสือ่ ทีถ่ า่ ยทอด อารมณ์
ความรสู้ ึก ผ่านการสมั ผัสอยา่ งมีเอกลักษณ์

ซึง่ สือ่ ดิจทิ ลั ไมส่ ามารถถา่ ยทอดได้

235

บทท่ี 9

ระบบการพมิ พ์

การพิมพ์ เป็นกลวิธีที่ทำให้หมึกติดบนภาพ หรือข้อความบน พื้นผิววัสดุ ที่ต้องการจะ
พิมพ์ในขณะที่สิ่งพิมพ์ เป็นวัสดุสิ่งของต่าง ๆ ที่ผ่านกระบวนการพิมพ์ เช่น แผ่นภาพ
ใบประกาศ หนังสือ สมุดการทำให้เป็นหนังสือ ภาพ หรือรูปรอยต่าง ๆ ด้วยวิธีการกด วิธีการ
ทางเคมีหรือเครื่องกลที่ทำให้หมึกติด ปรากฏเป็นสิ่งพิมพ์จำนวนมาก เช่น สมุด หนังสือ รูป
ภาพรวมไปถึงบทเพลง แผนผงั แผนที่ การอดั รปู และกระดาษปิดฝาผนงั
1. ประวตั ิความเปน็ มาของการพิมพ์

จากหลักฐานทางประวัติศาสตรศ์ ิลปะของมนษุ ย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งปรากฏอยู่
บนผนังถ้ำลาสควักซ์ (Lascaux) ในฝรั่งเศส และถ้ำอัลตามิรา (Altamira) ในสเปน นอกจาก
ปรากฎผลงานด้านจติ รกรรมทีม่ ีคุณคา่ ด้านความงามของมนุษยชาติ ในช่วงประมาณ 17,000 -
12,000 ปีที่ผ่านมาแล้ว ยังปรากฏผลงานแกะสลักหิน แกะสลักผนังถ้ำเป็นรูปสัตว์ลายเส้นซึ่ง
การแกะสลักภาพลายเส้นบนผนังถ้ำนั้น อาจนับได้ว่าเป็นพยานหลักฐานในการแกะแบบพิมพ์
ของมนษุ ยเ์ ปน็ ครั้งแรกกไ็ ด้ นอกจากนั้น ยังปรากฎการเริ่มต้นพิมพ์ภาพผ่านฉากพิมพ์ (Stensil)
อีกด้วย โดยวิธีการใช้มือวางทาบลงบนผนังถ้ำ แล้วพ่นหรือเป่าสีลงบนฝ่ามือ ส่วนที่เป็นมือจะ
บังสีไว้ ให้ปรากฏเป็นภาพแบน ๆ แสดงขอบนอกอย่างชัดเจน ซึ่งนักว่าเป็นการพิมพ์อย่าง
งา่ ย ๆ วิธีหน่งึ

ในสมัยอารยธรรมประวัติศาสตรย์ ุคแรก ๆ กลุ่มประเทศเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia)
ได้รู้จักการใช้ของแข็งกดลงบนดินทำให้เกิดเป็นลวดลายตัวอักษร เรียกว่า อักษรลิ่ม
(Cuneiform) ซึ่งมีอายปุ ระมาณ 5,000 ปีก่อนคริสตก์ าล (5,000 B.C.)

โดยประวัติศาสตร์ของการพิมพ์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 หวั ข้อดงั นี้
1.1 ประวัติการพมิ พ์ของโลกตะวันออก
โลกตะวันออก หมายถึง ดินแดนทวีปเอเซียตะวันออก อันได้แก่ ประเทศจีน ประเทศ
เกาหลี ประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ เมื่อราว ปี พ.ศ. 288 ชาวจีนเปน็ ชาติแรกทีค่ ิดค้นการพิมพ์ได้สำเร็จ
โดยใช้การแกะสลักบนแผ่นหิน กระดูกสัตว์ และงาช้าง สำหรับใช้ประทับลงบนดินเหนียวหรือ
ขี้ผึ้ง เนื่องจากในขณะนั้นมนุษย์ยังไม่รู้จักกระดาษและหมึก การแกะสลักนั้นต้องแกะเป็นตัว
กลับ ซึ่งนบั ว่าเป็นจุดเริม่ ต้นของการพิมพแ์ บบเลตเตอร์เพรส (letterpress)

ปี พ.ศ. 648 ชาวจีนชื่อไซลั่น ได้คิดวิธีการทำกระดาษขึ้นจากเยื่อของพืช เช่น เยื่อ
จากต้นปอ ทำให้กระดาษเป็นวสั ดุหลกั ในการเขียนและพิมพ์

236

ปี พ.ศ. 718 ชาวจีนได้แกะสลกั วิชาความรตู้ ่าง ๆ ไว้บนแผน่ หนิ จงึ ได้เกิดการจำลอง
หรือคัดลอกต้นฉบับที่สลักไว้บนแผ่นหินด้วยวิธีพิมพ์แบบการลอกรปู (stone rubbing) โดยการ
ใช้กระดาษไปทาบบนแผน่ หนิ แลว้ ใช้ถา่ นหรอื สีถูทาทำให้เกิดภาพหรอื รปู รอยบนแผ่นกระดาษ

ปี พ.ศ. 943 ชาวจีนรู้จักนำเขม่าไฟมาทำเป็นหมึกดำ เมื่อนำเขม่าไฟมาทำเป็นหมึก
แล้ว จงึ คิดวธิ ีที่จะทำหมกึ จากเขม่าไฟไว้ใชไ้ ด้ตลอดเวลา โดยนำเอาเขมา่ ไฟเป็นเนือ้ สี (pigment)
ใช้กาวทีเ่ คี่ยวจากกระดูกสัตว์ หนังสตั ว์ เขาสัตว์ เป็นตวั ยึดโดยทำเป็นแท่ง ๆ ซึ่งชาวจีนเรียกว่า
บ๊ัก เวลาใช้กเ็ อาแท่งหมกึ แตะน้ำแล้วฝนลงบนแผ่นหิน หมกึ กจ็ ะออกมาบนแผ่นหนิ แล้วใช้พู่กัน
จุ่มหมึกและเขียน หมกึ แทง่ ที่คิดได้นีย้ งั ใช้กนั อยู่จนถึงปัจจบุ ัน

ปี พ.ศ. 1118 จีนได้เริ่มการพิมพ์โดยใช้บล็อกไม้ (wood block printing) โดยการแกะ
แม่พิมพ์บนแผ่นไม้ โดยแกะเป็นตัวกลับ ส่วนที่ต้องจะเป็นส่วนที่นูนสูงขึ้นมา เมื่อเอาหมึกคลึง
บนแมพ่ มิ พ์ หมกึ จะเกาะบนสว่ นที่นนู สงู ขึน้ เมื่อเอากระดาษวางบนแมพ่ มิ พ์ แล้วใชแ้ รงกด หมึก
จะติดบนกระดาษขึน้ มา

ปี พ.ศ. 1411 วางเชยี ะ (Wang Chieh) ได้พิมพ์หนังสอื ขนึ้ เปน็ เลม่ แรก ซึง่ ยังคงให้เห็น
อยู่ในปัจจุบัน ชื่อ วัชรสูตร (Diamond Sutar) มีลักษณะเป็นม้วนยาว 16 ฟุต กว้าง 1 ฟุต พบใน
ผนังถ้ำทนุ วาง (Tunhuang) ของจีน ในหนงั สอื มีระบวุ ่าพมิ พ์เมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ.1411

ปี พ.ศ. 1584-1592 ชาวจีนชื่อไป่เช็ง (Pi Sheng) คิดวิธีที่จะนำแม่พิมพ์ที่ใช้แล้วนำ
กลับมาเรียงใช้ได้อีก จึงทดลองเอาดินเหนียวมาปั้นเป็นแท่งแล้วแกะเป็นตัวอักษรนูนตัวกลับ
แล้วนำไปตากใหแ้ หง้ กอ่ นเผาไฟ แล้วเกบ็ ไว้เปน็ ชอ่ ง ๆ ในช่องหนึง่ ช่องจะมีอกั ษรเดียวกัน หลาย
ๆ ตัว เมือ่ ตอ้ งการจะใช้ตวั ใดก็นำมาเรียงต่อกัน เมือ่ ใชเ้ สร็จกน็ ำเก็บไว้ยังช่องเดิม เพื่อสามารถ
นำมาใช้ใหมไ่ ด้อีก วิธีการน้ีเป็นจดุ เริ่มตน้ ของการเรียงพิมพ์

ปี พ.ศ. 1933 ชาวเกาหลี เป็นชาติแรกทีค่ ิดหล่อตัวพิมพด์ ้วยโลหะได้สำเร็จ โดยเบ้า
หลอมทำดว้ ยดินทราย ตวั พิมพ์หล่อด้วยโลหะทองบรอนซ์ (โลหะผสมระหวา่ งทองแดงกับดีบุก)
ซึ่งตัวเรียงโลหะนี้ยังใช้กันจนถึงปัจจุบัน แต่เปลี่ยนส่วนผสมของโลหะไปเป็นพลวง ตะกั่ว และ
ดีบุก นับเป็นการพิมพ์แบบตัวเรียงด้วยโลหะเป็นครั้งแรก การหล่อตัวพิมพ์ได้แพร่หลายเข้าไป
ประเทศจนี และญี่ปุน่

ทีก่ ล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นประวัติความเป็นมาและวิวัฒนาการทางการพิมพ์ของโลก
ตะวันออก โดยมีชาติจีนเปน็ ชาติแรกที่บุกเบิกศาสตรแ์ ขนงนีเ้ ปน็ สำคญั

1.2 ประวัติการพมิ พข์ องโลกตะวันตก
โลกตะวันตก หมายถึง ดินแดนทวีปยุโรป อันได้แก่ ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน
เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ ยุโรปรู้จักการพิมพ์ครั้งแรกในราวปี พ.ศ.1963 โดยใช้การพิมพด์ ้วยบลอ็ กไม้
เป็นระบบแรก

ปี พ.ศ.1993 ชาวเยอรมนั ชื่อ โจฮัน กเู ตนเบิรก์ (Johann Gutenberg) ชาวเมืองไมนซ์
(Mainz) ประเทศเยอรมนี เป็นบุคคลแรกของชาวตะวันตก ได้คิดวิธีการพิมพ์ โดยเรียงตัวด้วย

237

โลหะ โลหะที่ใช้เป็นส่วนผสมระหว่าง ดีบุก 5% พลวง 12% และตะกั่ว 83% นอกจากคิดตัว
เรียงแล้วกูเตนเบิร์ก ยังเป็นคนที่คิดออกแบบตัวพิมพ์ การแกะสลักแม่พิมพ์ การหล่อตัวพิมพ์
การทำหมึกพิมพ์ และการประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ โดยเครื่องพิมพ์ทำด้วยไม้ ดัดแปลงมาจาก
เครื่องสำหรับคั้นองุ่นเพื่อทำเหล้าองุ่น ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุด และยังปรากฏให้เห็นจนถึง
ปัจจบุ ันคือ คมั ภรี ์ไบเบิล้ 42 บรรทดั (forty-two line Bible) โดยเริม่ พิมพ์ ในราวปี

พ.ศ.1995 ในแต่ละหน้าของคัมภีร์จะมี 42 บรรทัด และมีตัวอักษร 2,800 ตัวต่อหน้า
ซึ่งหนังสือ มีความหนาถึง 1,282 หน้า และพิมพ์จำนวนทั้งหมด 200 เล่ม นับเป็นจุดเริ่มของ
การพิมพแ์ บบเลตเตอร์เพรสในโลกตะวนั ตก ด้วยความสามารถในหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับการ
พิมพ์ กูเตนเบิร์ก จึงได้รับการยกย่องให้เป็น บิดาแห่งการพิมพ์ โจฮัน กูเตนเบิร์ก ( Johann
Gutenberg) และเครื่องพมิ พ์ทีค่ ิดค้นข้ึน

ซึ่งโจฮัน กูเตนเบิร์ก ถือเป็นบิดาแห่งการพิมพ์ (ค.ศ. 1398-1468) อัจฉริยะผู้สร้าง
เครื่องพิมพ์ สิ่งประดิษฐ์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกนานัปการ กูเต็นเบิร์ก เป็นนักขุด
ทองและช่างพิมพ์ชาวเยอรมนั เปน็ ผู้ประดษิ ฐ์ตวั เรียงพมิ พ์โลหะ ผลงานทีม่ ีชือ่ เสียงที่สุดของเขา
คือ คัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับกูเต็นเบิร์ก หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม “คัมภีร์ไบเบิ้ล 42 บรรทัด”
ในบรรดาผลงานของเขา ผลงานทีน่ ่าจะสร้างชื่อที่สุดคือ

การประดษิ ฐ์เคร่อื งพิมพ์ตัวเรียงพิมพโ์ ลหะ การประดษิ ฐ์คิดค้นนไี้ ด้นำมาซึ่งการพัฒนา
ข้ันตอนของการพมิ พ์ใหม้ ีความรวดเร็วขึ้นโดยใช้น้ำมัน เครือ่ งพมิ พ์ทีท่ ำดว้ ย ไม้น็อต และเคร่ือง
สำหรับคั้นองุ่นเพื่อทำเหล้าองุ่น การประดิษฐ์คิดค้นของเขานั้นเป็นการผสมผสานสิ่งเหล่านี้ไว้
ด้วยกัน และสามารถใช้งานได้จริงตัวเรียงพิมพ์โลหะได้ถูกนำเข้ามาใช้ในการทำต้นฉบับคือว่า
งานประดิษฐน์ ี้ได้ล้มล้างวิธีการพิมพ์แบบเก่าสมยั ทีย่ ังเปน็ แท่นพิมพ์แกะไม้อยู่ วิธีการพิมพ์แบบ
ใหม่นี้ได้เป็นที่นิยมในยโุ รปอย่างกว้างขวาง และถือว่ามีส่วนสำคัญตอ่ มาอย่างมากในงานพิมพ์
สมัย เรเนอซองส์ กูเต็นเบิร์ก ได้ถูกจารึกชื่ออยู่ในหอคอยเกียรติยศปี 1998 รวมถึง A&E
network ได้จัดอันดับให้เขาติดอันดับ 1 ใน People of the Millennium และในปี 1997 นิตยสาร
Time จดั ให้สง่ิ ประดษิ ฐ์ของ กูเตน็ เบิรก์ เปน็ สิง่ ประดิษฐ์ที่สำคัญทีส่ ดุ ในยุคศตวรรษที่ 20

ปี พ.ศ. 2038 อัลเบรค ดูเรอร์ (Albrecht Durer) ศิลปินช่างแกะไม้ชาวเยอรมัน
ได้คิดวิธีการพิมพ์โดยใช้แม่พิมพ์ทองแดง (copper plate engraving) โดยใช้ของแหลมขูดขีดให้
เป็นรูปรอยร่องลึกบนแผ่นทองแดงและใช้พิมพ์แบบกราวัวร์ (gravure) นับเป็นครั้งแรกของการ
ใช้แมพ่ ิมพพ์ ื้นลกึ

ปี พ.ศ. 2163 วิลเลม จานโซน บลาว (Willem Janszoon Blaeu) ชาวเนเธอร์แลนด์
ได้ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับแม่พิมพ์พื้นนูน เราเรียกว่าเครื่องพิมพ์ดัคซ์ (dutch press)

238

เครื่องพมิ พท์ ำด้วยโลหะ ใช้วธิ ีอัดแรงกดกระดาษด้วยการหมุนแขนของแกนกลาง ซึง่ เป็นเกลียว
และมีปลายยึดติดกับแผ่นแรงกด เมื่อจะพิมพ์ต้องคลึงหมึกลงบนแม่พิมพ์แล้วนำกระดาษวาง
จึงหมุนแขนของแกนให้อัดแผ่นแรงกดกดลงไปบนกระดาษ เมื่อพิมพ์เสร็จก็หมุนแขนขึ้นนำ
กระดาษออก เมือ่ จะพิมพแ์ ผน่ ใหม่ก็ทำเชน่ เดิม

ปี พ.ศ. 2333 วิลเลียม นิคโคสัน (William Nicholson) ชาวอังกฤษแหง่ นครลอนดอน
ได้คิดแท่นพิมพแ์ บบทรงกระบอก (cylinder press) ขึน้

ปี พ.ศ. 2336 อลัวส์ เซเนเฟลเดอร์ (Alois Senefelder) ชาวเยอรมัน แห่งรัฐบาวา
เรีย ได้ค้นพบวิธีพิมพ์หิน (lithography) ซึ่งเป็นวิธีการพิมพ์แบบพื้นราบ (planographic printing)
ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งการค้นพบของเซเนเฟลเดอร์ เป็นไปด้วยความบังเอิญ โดยในขณะที่เขา
กำลังจะจดรายการซักผ้าที่ครอบครัวเขารับจ้างมาซักนั้นไม่มีกระดาษอยู่ใกล้มือ เขาจึงเขียน
รายการซักลงบนแผ่นหินด้วยหมึกที่มีส่วนผสมของเขม่าไฟ ขี้ผึ้งและไขมันสบู่ เมื่อจะลบออก
จากแผน่ หนิ เขาไมส่ ามารถจะลบออกได้ เพราะหมกึ ได้ฝงั ตวั อยู่บนเนื้อหิน และเม่ือเอาน้ำทาน้ำ
กเ็ กาะบนแผ่นหนิ แตไ่ มเ่ กาะบนหมกึ เพราะหมกึ เป็นไขมัน น้ำกบั ไขมนั ไมผ่ สมกัน ทำให้เซเนเฟล
เดอรเ์ กิดความคิดที่จะใช้แผ่นหนิ เปน็ แมพ่ ิมพ์ โดยทาน้ำกอ่ นทาหมึก หมึกมีส่วนผสมของน้ำมัน
และไขมนั ดังนน้ั ถ้าทีใ่ ดมีนำ้ เกาะหมึกก็จะไมเ่ กาะและในทางตรงกันข้ามทีใ่ ด มีหมึกเกาะก็จะไม่
มีน้ำเกาะ เมือ่ เอากระดาษมาวางแล้วใช้ แรงกด ๆ ลงไป หมึกที่เกาะอยกู่ จ็ ะติดบนกระดาษ

1.3 ประวัติการพมิ พ์ของประเทศสหรฐั อเมริกา
หลังจากที่กูเตนเบิร์กได้พัฒนาการพิมพ์ได้แล้วกว่า 180 ปี การพิมพ์ในประเทศ
สหรฐั อเมริกา จงึ ได้เริม่ ข้นึ ในราวปี พ.ศ. 2181
ปี พ.ศ. 2356 ยอร์จ อี. ไคลเมอร์ (George E. Clymer) ชาวอเมริกัน แห่งเมือง ฟิลา
เดลเฟีย ได้คิดแท่นพิมพ์โคลมั เบียน (columbian press) เป็นเครื่องพิมพ์ระบบคานกระเดื่อง ซึ่ง
เปลีย่ นจากการหมุน แกนกลางมาเป็นการกดลงด้วยคานแบบเดียวกับทีใ่ ช้ทบั กล้วย ซึ่งเบาแรง
แต่มีกำลังมากกว่าเครื่องพิมพ์ ชนิดนี้ประดับประดาอย่างสวยงาม โดยเฉพาะจะมี นกอินทรีย์
และจระเข้อย่ดู ้วยแท่นพิมพโ์ คลมั เบียน (columbian press)
ปี พ.ศ. 2401 ยอร์จ พี. กอร์ดอน (George P. Gordon) ชาวอเมริกนั แหง่ เมืองนิวยอร์ค
ได้แม่พิมพเ์ พลเตน (platen press) ซึง่ ส่วนทีท่ ำการกดพิมพ์จะเป็นแผ่นราบ เวลาพิมพ์แรงกดจะ
วิ่งเข้าหาแม่พิมพ์ โดยตัวแม่พิมพ์จะอยู่กับที่ ตัวแรงกดจะเป็นที่สำหรับวางกระดาษที่ต้องการ
จะพิมพ์
ปี พ.ศ. 2447 อิรา วอชิงตัน รูเบล (Ira Washington Rubel) ช่างพิมพ์ ชาวอเมริกันได้
สังเกตเห็นว่าในการป้อนกระดาษบนแท่นพิมพ์ทรงกระบอก (cylinder press) บางครั้งป้อน

239

กระดาษไมท่ ันหมกึ จะพิมพต์ ิดไปบนลกู โมแรงกดเมื่อป้อนกระดาษแผ่นตอ่ ไปหมึกบนแม่พิมพ์จะ
ติดบนกระดาษด้านหนึ่ง แต่หมึกที่ขาดอยู่บนลูกโมแรงกดจะติดมาบนกระดาษ อีกด้านหนึ่ง
เมื่อหยิบกระดาษมาดูหมึกที่ติดมาจากลูกโมแรงกดจะมีลักษณะสวยงาม นุ่มกว่า หมึกที่ผ่าน
จากตัวพิมพ์ไปติดบนกระดาษโดยตรง จึงได้เป็นแนวคิดของการพิมพ์ในระบบออฟเซต (offset
printing) ขึน้

1.4 ประวตั ิการพมิ พข์ องประเทศไทย
การพิมพ์ของประเทศไทยตามหลักฐานที่ค้นพบน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรี
อยธุ ยา ในช่วงรชั สมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช แมว้ า่ ประเทศไทยจะอยู่ใกล้กบั ประเทศจีน
ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของการพิมพ์ก่อนสว่ นใด ๆ ของโลก แต่ประเทศไทยกลับได้รับอิทธิพลของ
การพิมพ์จากชาวยุโรป
ปี พ.ศ. 2205 คณะมิชชันนารีคาทอลิกฝรั่งเศส ที่เข้ามาในประเทศไทย โดยมี
บาทหลวงสังฆราชองค์หนึ่ง ชื่อหลุยส์ ลาโน (Louis Laneau) ได้แต่งและพิมพ์หนังสือเป็น
ภาษาไทย แต่ใช้พิมพ์ด้วยตัวอักษรโรมัน (โดยเขียนทับคำ เช่น คำว่า ในวัด จะพิมพ์เป็นภาษา
โรมันว่า nai vat) หนังสือคำสอนทางคริสต์ศาสนาจำนวน 26 เล่ม หนังสือไวยกรณ์ไทยและ
บาลี 1 เลม่ และพจนานุกรมไทยอีก 1 เล่ม
ปี พ.ศ. 2339 บาทหลวงคาทอลิก ชือ่ การโ์ นล์ (Garnault) ได้เข้ามาสอนศาสนาและตั้ง
โรงพิมพแ์ ละพิมพ์หนังสือขึน้ ที่ วัดซางตาครูส ตำบลกุฎีจีน จงั หวัดธนบุรี หนังสือที่พิมพ์แล้วยัง
หลงเหลือมาถึงปัจจุบันคือ หนังสือคำสอนคริสตัง ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธ
ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ หนังสือจัดพิมพ์เป็นคำอ่าน
ภาษาไทยแต่ใช้ตัวอกั ษรโรมันเป็นตวั พิมพ์
ปี พ.ศ. 2356 มิชชันนารีชาวอเมริกัน คู่หนึ่ง สามีเป็นบาทหลวง ชื่อศาสนาจารย์
แอดดอไนราม จั๊ดสัน (Reverend Adoniram Judson) ภรรยาชื่อ นางแอน เฮเซนไทล์ จั๊ดสัน
(Ann Hazeltine Judson) สังกัดคณะA.B.C.F.M. (American Board of Commissioners for Foreign
Missions) ได้เดินทางมาเผยแผ่คริสต์ศาสนาในประเทศพม่า และได้ทำงาน ร่วมกับพวก
มิชชันนารีคณะแบปติสต์ (Baptist) ภายหลังทั้งคู่ได้เปลี่ยนมาสังกัดกับพวกมิชชันนารีอเมริกัน
คณะแบปติสต์ นางจั๊ดสันได้พบเชลยคนไทยและลูกหลานไทยที่ถูกกวาดต้อนมา เมื่อครั้งกรุง
ศรอี ยุธยาแตกครั้งที่ 2 นางจึงได้ศึกษาภาษาไทยและหนังสอื ภาษาไทยจนเข้าใจดี นางจด๊ั สัน จึง
ได้แปลคำสอนของสามีและพระคัมภีร์แมทธิวเป็นภาษาไทย พร้อมกับได้ออกแบบตัวพิมพ์
อักษรไทยขึ้น

240

ปี พ.ศ. 2359 คณะแบปติสต์ได้ส่ง นายยอร์จ เอ็ช. ฮัฟ (George H. Hough) ให้นำแท่น
พิมพ์และตวั พิมพ์ มาตั้งโรงพิมพแ์ บปติสต์ในพม่า

ปี พ.ศ. 2360 นายฮัฟได้ทำการพิมพ์หนังสือจากตัวพิมพ์ที่ออกแบบและหล่อขึ้นโดย
นางจั๊ดสัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการพิมพ์ตัวหนังสือไทยจากตัวพิมพ์เป็นครั้งแรก การพิมพ์นี้พิมพ์ที่
เมืองรา่ งกุ้ง ประเทศพมา่ แต่จะเป็นหนังสืออะไรบ้างไม่มีหลกั ฐานเหลอื มาจนถึงปัจจบุ ัน

ปี พ.ศ. 2362 พมา่ เกิดสถานการณ์สงครามคบั ขันกบั อังกฤษ คณะแบปติสต์ได้มาอยู่ที่
เมืองเซรัมโปร์ (Serampore) นครกัลกัตตา (Calcutta) ประเทศอินเดีย โดยได้นำตัวพิมพ์
อักษรไทยไปด้วย

ปี พ.ศ. 2371 ได้มีการจัดพิมพ์หนังสือเป็นตัวอักษรไทย ชื่อ ตำราไวยกรณ์ไทย (A
Grammar of The Thai or Siamese Language) แต่งโดย กัปตันเจมส์โลว์ (Captain James Low)
ซึ่งเปน็ นายทหารองั กฤษ พิมพท์ ี่ The Baptist Mission Press เมืองเซรมั โปร์ นครกลั กัตตา เรียบ
เรียงเป็นภาษาอังกฤษ อธิบายไวยกรณ์ไทยและมีตัวอย่างหน้าหนังสือไทยอยู่หลายหน้าที่เป็น
หน้าตัวเขียนลายมืออักษรไทย พิมพ์ด้วยบล็อกโลหะก็มี พิมพ์ด้วยตัวเรียง พิมพ์ที่นางจั๊ดสันได้
จัดหล่อข้ึนทีพ่ ม่าก็มี

ปี พ.ศ. 2373 โรเบิร์ต เบิร์น มิชชันนารีคณะลอนดอน ได้ขอซื้อแท่นพิมพ์และตัวพิมพ์
ภาษาไทยจากโรงพิมพ์คณะแบปติสต์ นครกัลกัลตา มาติดตั้งดำเนินการอยู่ที่สิงคโปร์ และ
ได้รบั งานตีพมิ พ์คำสอนของพวกมิชชนั นารีอเมริกันที่อยใู่ นกรุงเทพฯเวลาน้ันไปจ้างให้ พิมพ์ด้วย

ปี พ.ศ. 2375 โรเบิร์ต เบิรน์ ได้ถึงแก่กรรมลง โรงพิมพด์ งั กลา่ วจึงได้ขายแท่นพิมพ์และ
ตัวพิมพภ์ าษาไทยให้แก่มิชชนั นารีคณะอเมริกนั บอรด์

ปี พ.ศ. 2378 นายแพทย์แดน บีช บรดั เลย์ (Dr. Dan Beach Bradley) หรอื หมอบรัดเลย์
และคนไทยมักเรียกวา่ หมอปลดั เล เปน็ มชิ ชนั นารีชาวอเมรกิ ัน ได้รบั มอบแท่นพิมพ์และตัวพิมพ์
ภาษาไทยจากคณะอเมรกิ ันบอร์ด โดยขนย้ายมาจากสิงคโปร์มายงั กรุงเทพฯ

ปี พ.ศ. 2379 เริ่มติดตั้งแท่นพิมพ์และทดลองพิมพ์เป็นภาษาไทย โดยหมอบรัดเลย์
งานที่พิมพ์มีงานของศาสนาจารย์ชาลส์ โรบินสัน ซึ่งเป็นพวกคำสอนของศาสนา พระบัญญัติ
สิบประการ คำอธิบายสั้น ๆ และบทสรรเสริญ แต่ตัวอักษรยังไม่สวยงาม และตัวพิมพ์ที่นำมา
จากสิงคโปร์กไ็ ด้สึกหรอเสียหายไปตามเวลา หมอบรดั เลย์จงึ ได้คิดประดิษฐอกั ษรไทยขึ้นใหม่

ปี พ.ศ. 2362 พมา่ เกิดสถานการณ์สงครามคับขนั กบั องั กฤษ คณะแบปติสต์ได้มาอยู่ที่
เมืองเซรัมโปร์ (Serampore) นครกัลกัตตา (Calcutta) ประเทศอินเดีย โดยได้นำตัวพิมพ์
อกั ษรไทยไปด้วย

241

ปี พ.ศ. 2371 ได้มีการจัดพิมพ์หนังสือเป็นตัวอักษรไทย ชื่อ ตำราไวยกรณ์ไทย (A
Grammar of The Thai or Siamese Language) แต่งโดย กัปตันเจมส์โลว์ (Captain James Low)
ซึ่งเปน็ นายทหารองั กฤษ พิมพท์ ี่ The Baptist Mission Press เมืองเซรัมโปร์ นครกลั กัตตา เรียบ
เรียงเป็นภาษาอังกฤษ อธิบายไวยกรณ์ไทยและมีตัวอย่างหน้าหนังสือไทยอยู่หลายหน้าที่เป็น
หน้าตัวเขียนลายมืออักษรไทย พิมพ์ด้วยบล็อกโลหะก็มี พิมพ์ด้วยตัวเรียง พิมพ์ที่นางจั๊ดสันได้
จดั หล่อข้ึนที่พม่าก็มี

ปี พ.ศ. 2373 โรเบิร์ต เบิร์น มิชชันนารีคณะลอนดอน ได้ขอซื้อแท่นพิมพ์และตัวพิมพ์
ภาษาไทยจากโรงพิมพ์คณะแบปติสต์ นครกัลป์กัลป์ตา มาติดตั้งดำเนินการอยู่ที่สิงคโปร์ และ
ได้รับงานตีพมิ พค์ ำสอนของพวกมิชชนั นารีอเมริกันที่อยูใ่ นกรุงเทพฯเวลาน้ันไปจ้างให้ พิมพ์ด้วย

ปี พ.ศ. 2375 โรเบิร์ต เบิรน์ ได้ถึงแกก่ รรมลง โรงพิมพด์ ังกล่าวจึงได้ขายแท่นพิมพ์และ
ตวั พิมพภ์ าษาไทยใหแ้ ก่มิชชันนารีคณะอเมริกนั บอรด์

ปี พ.ศ. 2378 นายแพทยแ์ ดน บีช บรัดเลย์ (Dr. Dan Beach Bradley) หรอื หมอบรัดเลย์
และคนไทยมักเรียกวา่ หมอปลัดเล เปน็ มชิ ชนั นารีชาวอเมรกิ ัน ได้รับมอบแท่นพิมพ์และตัวพิมพ์
ภาษาไทยจากคณะอเมริกันบอร์ด โดยขนย้ายมาจากสิงคโปร์มายงั กรุงเทพฯ

ปี พ.ศ. 2379 เริ่มติดตั้งแท่นพิมพ์และทดลองพิมพ์เป็นภาษาไทย โดยหมอบรัดเลย์
งานที่พิมพ์มีงานของศาสนาจารย์ชาลส์ โรบินสัน ซึ่งเป็นพวกคำสอนของศาสนา พระบัญญัติ
สิบประการ คำอธิบายสั้น ๆ และบทสรรเสริญ แต่ตัวอักษรยังไม่สวยงาม และตัวพิมพ์ที่นำมา
จากสิงคโปรก์ ไ็ ด้สึกหรอเสียหายไปตามเวลา
หมอบรัดเลย์จงึ ได้คิดประดิษฐ์อกั ษรไทยขึ้นใหม่
2. ความหมายการพมิ พ์

คำว่า “พิมพ์” ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า “print” ซึ่งหมายความถึง การผลิต
ข้อความและภาพโดยใช้ตัวพิมพ์ แม่พิมพ์ หรือ แบบพิมพ์ ซึ่งถูกทาหรือฉาบด้วยหมึกแล้วกด
ทับลงบนวัสดุที่ต้องการพิมพ์ เช่นกระดาษ ผ้า ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิต
สถาน พ.ศ. 2542 คือ

1. การใชเ้ ครื่องจกั รกดตวั หนงั สอื หรอื ภาพใหต้ ิดลงบนวตั ถุ เช่น กระดาษ ผา้
2. การทำให้เป็นตัวหนังสือหรือรูปรอยอย่างใด ๆ โดยการกดหรือการใช้พิมพ์หิน
เครือ่ งกล วิธีเคมี หรอื วิธีอน่ื ใด อันอาจให้เกิดเป็นสิ่งพิมพ์ขนึ้ มาหลายสำเนา
ส่วนคำว่า “การพิมพ์” ตรงกับคำในภาษาอังกฤษวา่ “printing” ซึ่งหมายความถึง การ
ผลิตสำเนาข้อความและภาพลงบนวัสดุที่ต้องการพิมพ์ เช่นกระดาษ ผ้า ตามความหมายใน
พระราชบัญญัติการพิมพ์

242

พ.ศ. 2484 คือ การทำให้เปน็ ตัวหนังสือหรอื รูปรอยอย่างใด ๆ โดยการกด หรอื การใช้
พิมพ์หนิ เครื่องกล วิธีเคมี หรอื วิธีอ่ืนใดใหเ้ กิดเปน็ สือ่ พมิ พ์ขนึ้ หลายสำเนา

และมีนกั วิชาการหลายคน ได้ให้ความหมายของการพิมพ์ไว้ดงั น้ี
Lechene (Lechne, 1974) ได้แสดงความหมายของการพิมพ์ไว้ว่า "เป็นวิธีการใช้แรงกด
ให้หมึกติด เปน็ ข้อความหรอื ภาพ บนพืน้ ผิวของส่งิ ทีต่ ้องการพิมพ์" ซึง่ ความหมายของการพิมพ์
ในทัศนะนจี้ ะเน้นเฉพาะการพิมพ์ที่ต้องอาศัยแรงกดเทา่ น้ัน แต่ในกระบวนการพิมพ์ปัจจุบันบาง
ระบบไมจ่ ำเป็นต้องอาศยั แรงกดเลยกไ็ ด้
Mill (1968) ได้ให้ความหมายของการพิมพ์อย่างกว้าง ๆ ว่า "หมายถึงกรรมวิธีใด ๆ ใน
การจำลองภาพ หรือสำเนาภาพ หรือหนังสือจากต้นฉบับในลักษณะสองมิติ แบนราบ ทั้งนี้
รวมถึงการพมิ พผ์ า้ การพิมพ์กระดาษปิดฝาผนงั และการอัดรปู
สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย. (2540) กล่าวว่า สิ่งพิมพ์
ตามความหมายใน พ.ร.บ. หมายถึง สมุด แผ่นกระดาษ หรอื วตั ถใุ ด ๆ ที่พิมพ์ขนึ้ รวมตลอด ถึง
ทั้งบทเพลง แผนที่ แผนภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผ่นเสียง หรือสิ่งอื่นใดอันมี
ลักษณะเช่นเดียวกัน (เช่น เทปเสียง) ทั้งนี้ ยกเว้น สิ่งพิมพ์ของรัฐบาล สิ่งพิมพ์ซึ่งรัฐมนตรี
กำหนด และบัตรตราสาร แบบพิมพ์ และรายงานซึ่งใช้กันตามปกติในส่วนตัว การสังคม
การเมอื ง การค้า หรอื กิจธรุ ะ
พจนานุกรมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน. (2542) ได้ให้ความหมายของคำวา่ พิมพ์ หมายถึง
การทำให้เปน็ รูป รปู ร่าง แบบ ถา่ ยแบบ การใชเ้ ครื่องจกั รกดตวั หนังสือหรือภาพ เป็นต้นให้ติด
บนวัตถุ เช่นแผ่นกระดาษ ผ้า เช่น พิมพ์ผ้า พิมพ์ขนม เป็นรูปต่าง ๆ ทำให้เป็นตัวหนังสือ หรือ
รูปรอยอย่างใด ๆ โดยการกดหรือการใช้พิมพ์หนิ เครือ่ งกล วิธีเคมี หรอื วิธีอื่นใดอันอาจให้เกิด
เป็นสิง่ พิมพ์ขนึ้ หลายสำเนา
กำธร สถิรกุล (2515) กล่าวว่า "การพิมพ์ คือ การจำลองต้นฉบับอันหนึ่งจะเป็นภาพ
หรอื ตวั หนงั สือก็ตามออกเป็นจำนวนมาก ๆ เหมอื นกัน บนวัสดทุ ี่เปน็ พืน้ แบน หรือใกล้เคียงกับ
พืน้ แบนด้วยการใชเ้ ครื่องมือกล"
ศิริพงษ์ พยอมแย้ม (2530) กล่าวว่า "การพิมพ์นั้น เป็นการจำลองต้นฉบับอันหนึ่ง
ต้นฉบับนี้จะเป็นภาพหรือตัวหนังสือก็ตาม การพิมพ์ไม่ได้เป็นการสร้างต้นฉบับ แต่เป็นการ
จำลองต้นฉบับออกมา การถ่ายรูปเป็นการสร้างต้นฉบับไม่ใช่การพิมพ์ แต่การอัดรูปเป็นการ
จำลองต้นฉบับเป็นการพิมพ์ การจำลองนี้จะต้องเป็นการจำลองจำนวนมาก ๆ ไม่ใช่การเขียน
ลอกแบบภาพออกมาทีละภาพซึง่ ไมเ่ ป็นการพิมพ์ ภาพแตล่ ะแผน่ ทีจ่ ำลองออกมาต้องเหมือน ๆ
กนั การจำลองนนั้ จะต้องจำลองบนวัตถทุ ี่เปน็ พืน้ แบนหรอื ใกล้เคียงกบั พื้นแบน แม้การพิมพ์บน

243

ขวด บนหลอดยาสีฟันที่แม้เป็นรปู แล้วจะไม่มีลักษณะแบนทีเดียว แต่พื้นผิวที่พิมพ์เรียบแบนไม่
ขรขุ ระ

วัลลภ สวัสดิวัลลภ (2527) กล่าวว่า พระราชบัญญัติการพิมพ์ พุทธศักราช 2484
ซึ่งใช้อยู่ในปจั จุบันได้ใหค้ ำจำกัดความของคำว่า "พิมพ์" ไว้ว่า "ทำให้เปน็ ตัวหนงั สือ หรือรูปรอย
ใด ๆ โดยการกดหรือการใช้พิมพ์หิน เครื่องกล วิธีเคมี หรือวิธีอื่นใดอันอาจให้เกิดเป็นสิ่งพิมพ์
ขึน้ มาหลายสำเนา"

ทองเติม เสมรสุต (2517) กล่าวว่า ขอบข่ายของงานพิมพ์เป็นประดิษฐ์การซึ่งมุ่ง
หมายที่จะจำลองภาพต้นฉบับ ได้แก่ ภาพวาด (Art work) ภาพถ่าย (Photography) ตัวอักษร
(Letter) ให้เกิดเป็นชิ้นงานที่มีลักษณะเหมือนภาพต้นฉบับในปริมาณมาก ๆ บนพื้นผิวของวัสดุ
หลาย ๆ ชนดิ ซึง่ จะพบการพิมพท์ ี่ปรากฎในอุปกรณใ์ นการดำรงชีวติ

สรุปได้ว่า การพิมพ์ หมายถึง กลวิธีที่ทำให้หมึกติดบนภาพ หรือข้อความบน พื้นผิว
วัสดุ ที่ต้องการจะพิมพ์ ในขณะที่สิ่งพิมพ์ เป็นวัสดุสิ่งของต่าง ๆ ที่ผ่านกระบวนการพิมพ์ เช่น
แผ่นภาพ ใบประกาศ หนังสือ สมุดการทำให้เป็นหนังสือ ภาพ หรือรูปรอยต่าง ๆ ด้วยวิธีการ
กด วิธีการ ทางเคมีหรือเครื่องกลที่ทำให้หมึกติด ปรากฏเป็นสิ่งพิมพ์จำนวนมาก เช่น สมุด
หนังสือ รูปภาพรวมไปถึงบทเพลง แผนผัง แผนที่ การอัดรูปและกระดาษปิดฝาผนัง แต่ใน
ปจั จบุ ันกระบวนการพิมพ์บาง ระบบไม่จำเปน็ ต้องอาศัยแรงกดเลยกไ็ ด้
3. ความหมายสือ่ สิง่ พิมพ์

คำว่า “สิ่งพิมพ์” พรบ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 ได้ให้ความหมายไว้ว่า “สิ่งพิมพ์”
หมายความว่า สมุด หนังสือแผ่น กระดาษ หรือวัตถุใดๆ ที่พิมพ์ขึ้นเป็นหลายสำเนาในทาง
บรรณารักษศาสตร์คำว่า “สง่ิ พิมพ์” หมายถึง วัสดุตีพิมพ์ได้แก่ สิ่งพิมพท์ ี่รวบรวมเป็นเล่มจาก
การตีพิมพ์จากเครื่องพิมพ์เป็นวัสดุเพื่อการอ่าน และการศึกษาค้นคว้าต่าง ๆ ที่ห้องสมุดได้
รวบรวม จัดหาจัดเก็บ เพื่อให้บริการในห้องสมุดมีรูปลักษณะต่างๆ กันได้แก่หนังสือวารสาร
หรอื นิตยสาร เป็นต้น

สื่อสิ่งพิมพ์นับว่าเปน็ สื่อหนึ่งที่นำมาใช้ในการประชาสัมพันธ์องค์การ เนื่องจากเป็นสื่อ
ที่มี หลักฐานอ้างอิงเป็นลายลักษณอ์ ักษร เชื่อถือได้ ให้รายละเอียดได้มาก และคงทนถาวร จึง
เป็นที่นิยม นำมาใช้เพื่องานประชาสัมพนั ธอ์ งค์การได้เปน็ อยา่ งดี

พจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 (2546) ได้ให้ความหมายของ สิ่งพิมพ์
หมายถึง “สมุด แผ่นกระดาษ หรือวัตถุใดๆ ที่พิมพ์ขึ้น รวมตลอดทั้งบทเพลง แผนที่ แผนผัง
แผนภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผ่นเสียง หรือสิ่งอื่นใดอันมีลักษณะ
เช่นเดียวกนั ”

244

นลินี เสาวภาคย์ (2542) ได้ให้ความหมายของสื่อสิ่งพิมพ์ คือ “สิ่งที่ใช้ติดต่อสื่อสาร
ทำความเข้าใจกันด้วยการเขียน โดยใช้การเขียนหรอื พิมพ์ออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อแจกจ่าย
ให้ ผอู้ ่านโดยท่วั ถึงกัน ซึง่ อาจจัดทำออกมาในรูปแบบต่างๆ กนั เช่น นิตยสาร วารสาร จุลสาร
ใบปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ หนังสือ คูม่ ือ หนงั สอื พิมพ์ เปน็ ต้น”

นันทา วิทวุฒิศักดิ์ (2542) ได้อธิบายความหมายของสิ่งพิมพ์ คือ “วัสดุตีพิมพ์ ได้แก่
สิ่งพิมพ์ที่รวบรวมเป็นเล่มจากการตีพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ เป็นวัสดุเพื่อการอ่าน การศึกษา
ค้นคว้า การวิจัย เป็นต้น”

ซึ่งสิ่งพิมพต์ ามความหมายของเทคโนโลยีหรอื กระบวนการพิมพค์ ือวสั ดุหรือผลิตภัณฑ์
ใดๆ ที่ปรากฏมีองค์ประกอบของสีสัน ลวดลาย ภาพสัญลักษณ์ข้อความ ตัวอักษรอันเกิดจาก
การะบวนการพิมพ์ทีต่ ้องมีแม่พิมพเ์ ปน็ ตัวกลางรับถ่ายทอดภาพจากต้นแบบ และถ่ายทอดหมึก
พิมพ์ต่อไปยังวัสดุรองรบั การพิมพ์โดยอาศัยแรงกดแรงดันฉายแสงผ่านทะลุ

จากคำจำกัดความดังกล่าวพอสรุปได้ว่า สื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อที่มีการตีพิมพ์เป็นลาย
ลกั ษณ์ อกั ษร ทั้งนีเ้ พื่อใช้ในกิจกรรมตา่ งๆ
4. ประเภทของสือ่ สิง่ พิมพ์

สิ่งพิมพ์มีหลายแบบหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างกัน ทำให้
สนองความต้องการของวงการต่างๆได้อย่างทั่วถึง นักออกแบบและจัดทำต้นฉบับสิ่งพิมพ์
จำเป็นต้องรู้จักสิ่งพิมพ์แต่ละประเภทเป็นอย่างดีเพื่อการออกแบบได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
สิง่ พิมพ์ที่ปรากฏอย่ใู นสงั คมขณะนีจ้ ัดได้เปน็
2 ประเภทใหญ่ๆคือส่งิ พิมพโ์ ดยตรง และสิ่งพิมพ์โดยอ้อมดงั จะกลา่ วต่อไปนี้

1. สง่ิ พิมพโ์ ดยตรง เปน็ สิ่งพิมพ์ที่จัดทำขนึ้ เพื่อการอ่าน โดยผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จาก
เนือ้ หาอย่างตอ่ เต็มที่ แสดงคุณค่าของความเป็นสิง่ พิมพ์ด้วยตวั ของมนั เอง ดังจะกล่าวตอ่ ไปนี้

1.1.หนงั สือหรอื เอกสารตำรา แบ่งเปน็ 2 ประเภทคือ
1.1.1 หนังสือวิชาการและสารคดี เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระ เป็น

ความรู้ที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาโดยตรง มีลักษณะเป็นเล่ม อาจจะมีภาพประกอบ
หรอื ไมก่ ็ได้ ไมม่ ีวาระในการออก ได้แก่ หนงั สือ ตำรา แบบเรียน หรอื เอกสารประกอบการสอน
ต่างๆ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีการใช้ที่แตกต่างกันคือ แบบเรียนมักจะใช้กับนักเรียนตั้งแต่ระดับ
ประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำหรับหนังสือ ตำรา จะใช้กับการศึกษาในวิชาการ
สาขาต่างๆ ระดับสูงกว่าหรือพ้นระดับมัธยมศึกษาไปแล้ว ใช้เป็นหลักฐานหรือเอกสารอ้างอิง
ทางวิชาการได้

245

1.1.2 หนังสือบันเทิงคดี เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระ ทั้งความรู้และ
ความบันเทิงไปในขณะเดียวกัน ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ ไม่มุ่งหวังประโยชน์จากการ
อ่านเหมือนแบบเรียนหรือตำรา แต่บางครั้งสามารถใช้ประกอบการศึกษาได้ ทั้งนี้เพราะเป็น
สิ่งพิมพ์ที่รวบรวมข้อมูลและประสบการณ์และจินตนาการของผู้เขียน โดยได้แนวคิดจากความ
จรงิ ในสังคมแม้จะมีจุดมุ่งหมายเพือ่ ความเพลิดเพลิน ผ่อนคลายอารมณ์ แต่บางคร้ังก็ได้ข้อคิด
หรือแนวทางการดำเนินชีวิตที่น่าสนใจแทรกไว้ด้วย หนังสือบันเทิงคดีแบ่งออกเป็นลักษณะ
ต่างๆดังน้ี

1.1.2.1 นิตยสารหรือวารสาร เป็นสิ่งพิมพ์ที่เป็นรูปเล่ม ต่าง
จากหนังสือพิมพ์ตรงที่ไม่ได้ออกเป็นรายวัน แต่ออกเป็นรายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน มี
ความพิถีพิถนั ในการจดั ทำ มีการเยบ็ เล่ม มีปกหน้า ปกรอง และพิมพ์สอดสีสวยงาม เก็บรักษา
ไว้ได้นาน นิตยสารแต่ละประเภทจะมีผู้อ่านประจำอยู่เชน่ นิตยสารสำหรบั ผู้หญิง นิตยสารการ
กีฬา นิตยสารเกีย่ วกับพระเคร่ืองหรือวัตถมุ งคล ปัจจบุ ันนิตยสารมหี ลายชนิดนิยมเรียกกันเป็น
ยก เช่น 8 หนา้ ยกธรรมดา ได้แก่ ลลนา ดรณุ ี ขวญั เรอื น และขนาด 8 หน้ายกพิเศษ เช่น สตาร์
ปิค ไฮชค์ ลาส หรอื ใหญก่ วา่ ท้ังสองขนาดก็มี เชน่ บางกอก สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ มติชนและ
ฟ้าเมืองไทย เป็นต้น นติ ยสารแบง่ ออกเป็น 2 กลุม่ ใหญ่ๆ คือ

- นิตยสารเพื่อผอู้ ่านทว่ั ไป (General Magazine) หรือนิตยสาร
สำหรับมหาชน (Mass Magazine ) มีเนื้อหาสาระเป็นเรื่องทั่วไป เช่น เศรษฐกิจ การเมือง
ข่าวสาร นวนิยาย การตกแต่งที่อยู่อาศัย บ้านและสวน และดาราภาพยนต์เป็นต้น ซึ่งสมารถ
อ่านได้ทุกเพศทกุ วยั สามารถหาอ่านได้ตามแผงหนงั สือทั่วไป

- นิตยสารเพือ่ ผู้อา่ นเฉพาะกลมุ่ (Special Magazine) มีเน้ือหา
สาระทีเ่ น้นด้านใดด้านหนง่ึ สำหรบั ผอู้ ่านเฉพาะกลุม่ การวิจารณ์ การแสดงความคิดเห็นในเร่ือง
ที่กำลังได้รับความสนใจ เช่นนิตยสารสำหรับวัยรุ่น การ์ตูน กีฬา นิตยสารเชิงวิชาการ และ
นิตยสารวิทยาศาสตร์ เปน็ ต้น นิตยสารแต่ละฉบับจะมีการจัดเนื้อทีส่ ำหรับการโฆษณา นับเป็น
รายได้ทีด่ ีซึ่งเรียกว่าการโฆษณาในหน้านิตยสาร (Magazine Advertising) โดยมีข้อคำนึงในการ
ออกแบบดงั น้ี

1. สามารถสื่อความหมายให้ผู้อ่านเข้าใจภาพลักษณ์ของสินค้าหรือบริการได้เป็นอยา่ ง
ดี

2. ขอ้ ความกระทดั รดั สละสลวย ดึงดูดให้ผอู้ า่ น อา่ นจนจบ
3. การจดั องค์ประกอบ กลมกลืน สวยงาม มีระเบียบ
4. ทำให้ผู้อา่ นเข้าใจได้อยา่ งถูกต้อง จนถึงขั้นตัดสนิ ใจซือ้ และบอกต่อๆกันไป

246

5. ออกแบบได้อย่างอสิ ระ
1.1.2.2 จุลสารหรืออนุสาร (Tamphlet or Booklets) เป็น

สิ่งพิมพ์เย็บเล่มมีขนาดไมแ่ น่นอนตายตัว ส่วนมากจะเป็นขนาด 16 หน้ายก 8 หน้ายกธรรมดา
มีความหนาประมาณ 8 ถึง 48 หน้า (บางกว่าหนังสือ) รูปเล่มไมถ่ าวร ปกอ่อนหรือใช้กระดาษ
เดียวกันทั้งเล่ม เย็บกลาง (หนังสือจะมีปกหนากว่าเนื้อใน) จุลสารมีเนื้อหาสาระเรื่องใดเรื่อง
หนง่ึ เช่นอันตรายจากยาม้า การลด ละเลิก อบายมุข ผแู้ ทนของเรา เป็นต้น ไม่มีกำหนดออกที่
แนน่ อน แจกฟรี มกั จะจดั ทำโดยหน่วยงานราชการทีร่ ับผดิ ชอบในงานนั้น ถ้าเปน็ บริษัท ร้านค้า
หรอื หา้ งสรรพสินค้า จะเกีย่ วกบั การลดราคา นิทรรศการเกี่ยวกบั การลดราคา นิทรรศการการ
จดั รายการส่งเสริมการขายต่างๆ

1.1.2.3 แคตตาลอ็ ก (Caltaloge ) เป็นสิง่ พิมพ์ทีใ่ ห้รายละเอียด
ของสินค้า บริการ ได้มากที่สดุ ตั้งแตส่ ี ขนาด คณุ สมบัติ ราคา หมายเลขของสินค้า มีลักษณะ
เป็นเล่ม มีหลายขนาด บางครั้งมีใบสั่งซื้อแนบไปด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อ
ส่ังซื้อ สิ่งพิมพท์ ี่เยบ็ เลม่ ประเภทหนงั สือจุดแรกที่ประชาชนพบเหน็ คือ ปกหนังสอื นักออกแบบ
ควรคำนงึ ถึงขอ้ สังเกตใุ นการออกแบบดงั น้ี

1. ปกเป็นจดุ แรกทีผ่ ู้อ่านพบเหน็ จึงควรออกแบบอยา่ งปราณีตบรรจง
และบ่งบอกถึงลักษณะหรอื บคุ คลิกภาพของหนงั สือ ชือ่ สนั้ กระทดั รดั จำง่าย

2. จุดเด่นหรือจุดสนใจบนปกอาจใชภ้ าพหรอื ข้อความกไ็ ด้
3. ปกควรมีความเหมาะสมทั้งรปู แบบ ขนาด สี ทนั สมยั หรอื ดไู มเ่ ชย
4. ความหนาของกระดาษปก ขึ้นอยู่กับประเภทของหนังสือหรือ
นิตยสารและควรอาบมัน หรอื เคลือบยวู ีดว้ ย
5. ปกนิตยสาร ควรกำหนดตำแหน่งของ ชื่อ ฉบับที่ เล่มที่ วัน เดือน
ปี ให้อยูใ่ นตำแหน่งเดียวกันตลอดท้ังปี
1.2 สิ่งพิมพ์โฆษณาเผยแพร่ เป็นสิ่งพิมพ์ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับตัวสินค้า
หรือบริการ ความเคลื่อนไหวทางการเมือง การต่อต้านรณรงค์ การแสดงผลงานต่างๆ รวมทั้ง
การแสดงภาพยนตร์ ละคร ดนตรี และการแสดงมหรสพต่างๆเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีบทบาทสำคัญใน
การดำเนินชีวิต ในสังคมที่กำลังเจริญเติบโต กำลังขยายตัวในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ
การเมือง การเผยแพร่และการอนุรักษ์วัฒนธรรม โดยทำหน้าที่บอกกล่าวเรื่องราวของสินค้า
บริการตา่ งๆ มีหลายแบบดงั จะกลา่ วตอ่ ไปนี้
1.2.1 บัตรหรือการ์ดต่างๆ (Poster) หัวจดหมาย (Letter ) เป็นสิ่งพิมพ์
แผ่นเดียว ขนาดเล็ก (ไม่เกิน 3"x5") พิมพ์บนวัสดุต่างๆทั้งกระดาษและพลาสติก ถ้าเป็นการ์ด

247

เชญิ นักออกแบบต้องเน้นความแปลกใหม่ เพือ่ ให้ผู้รบั เชิญ อยากมาดู มาสมั ผัส การ์ดนอกจาก
จะใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์แล้ว ยังออกแบบให้ใช้กับเครื่องกลต่างๆ เช่น บัตร เอทีเอ็ม บัตร
เครดิตของธนาคารต่างๆเป็นต้น บางครั้งมีการพิมพ์นูน เพื่อยากแก่การปลอมแปลง และ
เนื่องจากมีขนาดเล็กการจัดวางภาพประกอบ โลโก้ ข้อความต่างๆ ต้องกระทัดรัด มากกว่า
สิง่ พิมพ์ประเภทอืน่ ๆ

หัวจดหมาย เป็นสิ่งพิมพ์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ องค์การ หน่วยงาน บริษัทห้างร้าน
ต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งของการเขียนจดหมายและซอง ประกอบด้วยโลโก้ และที่อยู่ขององค์กร
สว่ นใหญ่จะพิมพไ์ มเ่ กิน 3 สี มีทีว่ า่ งสำหรบั เขียนข้อความสือ่ สารทั้งภายในและภายนอกองค์กร
ข้อคำนึงในการออกแบบหวั จดหมาย

1. โลโก้ควรอยู่ในตำแหน่งทีส่ ะดดุ ตาน่าอา่ น
2. ชือ่ สถานประกอบการและที่อยู่ ควรส้ันกระทัดรัด อ่านง่าย รูปแบบทันสมัย
3. มีเน้อื ที่วา่ งมากพอที่จะเขียนข้อความ

1.2.2 หนังสือพิมพ์ (Newspaper ) เป็นสิ่งพิมพ์ไม่เย็บเล่ม นำเสนอ
ข่าวสาร ความรู้ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งบทความ กีฬาและ
บนั เทิงคดีไปในขณะเดียวกัน เปน็ สิง่ พิมพท์ ี่มีการผลติ ได้ทนั ตอ่ เหตกุ ารณ์และความต้องการของ
ประชาชน นอกจากนีย้ งั จัดเนือ้ ทีไ่ ว้สำหรับการโฆษณา ซึ่งเปน็ รายได้ที่ดี หนังสือพมิ พ์มีท้ังที่เป็น
ส่วนกลางพิมพ์จำหน่ายทัว่ ประเทศ เช่น หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ไทยรัฐ เดลินิวส์ บางกอกโพสต์
และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ซึ่งพิมพ์จำหน่ายเฉพาะจังหวัด หรือเฉพาะภาค เช่น ชาวใต้ สระบุรี
นิวส์ หนังสือพมิ พ์จะออกตามระยะเวลาทีก่ ำหนด มีท้ังรายวัน รายสามวนั รายห้าวัน
หนงั สือพมิ พ์มี 2 ประเภทใหญ่ๆคือ

1.2.2.1 Popular Newspaper นำเสนอข่าวสารทั่วไปรวมกัน มี
หลายรส เชน่ สังคม เศรษฐกิจ การเมือง บนั เทิง การศกึ ษา อาชญากรรม นวนิยาย เปน็ ต้น

1.2.2.2 Quality Newspaper นำเสนอข่าวสารเฉพาะด้าน เช่น
ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวต่างประเทศ เป็นต้น กลุ่มเป้าหมายมีน้อยกว่าประเภทแรก
การออกแบบหนังสือพิมพ์ควรใช้เนื้อที่ทุกตารางนิ้วให้เป็นประโยชน์มากที่สุดทั้งเนื้อข่าวและ
ภาพประกอบนอกจากนี้การจัดวางนํ้าหนักขาวดำของภาพและข้อความควรกลมกลืนกันหรือ
กระจาย นํ้าหนักใหท้ ่วั ทั้งหนา้

1.2.3 แผน่ ปลิวหรือใบปลิว(Leaflet ) เปน็ สิ่งพิมพ์แผ่นเดียวไม่มกี ารเย็บ
เล่ม เป็นสื่อสง่ิ พิมพ์ที่มีราคาถูกทีส่ ดุ ไมจ่ ำกดั ขนาด (วรพงษ์ วรชาติอดุ มพงษ์, 2535) สว่ นใหญ่
จะใช้ขนาด A4 มีทั้งพิมพ์สีเดียว เช่น ใบตรวจสลากลอตเตอร์ลี่ และพิมพ์สอดสี เช่น ใบกำกับ

248

สินค้า (ซึ่งแสดงถึงคุณสมบัติ ส่วนประกอบ และวิธีการใช้ อายุการใช้งาน การเก็บรักษา) ใบ
โฆษณาสินค้าที่เจาะจงตัวลกู ค้า (Dilect Mail) อัดแน่นดว้ ยข้อความ ภาพประกอบ เนื่องจากเป็น
สิ่งพิมพ์ที่แจกในวงกว้าง จึงต้องมีการออกแบบให้สะดุดตาอยากหยิบดู อยากอ่านให้จบ เก็บ
กบั บ้านเพื่อการอ่านพิจารณา และอยากใหผ้ อู้ ื่นเหน็ ด้วย ข้อคำนึงในการออกแบบแผ่นปลิว

1. ภาพสินค้าหรอื บริการควรคมชัด
2. ข้อความออกแบบได้ตามเหมาะสม และใช้ขนาดตัวอักษรได้หลายขนาด พรรณา
คุณสมบัติหรือสิ่งที่ต้องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้พอสมควร จึงควรเลือกเอาเฉพาะ
คุณลกั ษณะทีเ่ ด่น
3. การใชส้ ี ใช้ได้อย่างอิสระแต่ควรจะสง่ เสริมใหต้ วั สินค้าเด่นชัดขึน้
4. ควรออกแบบให้มคี วามโดดเด่นเฉพาะตัวไม่ซํ้าแบบใคร

1.2.4 แผ่นพับ (Folder ) เป็นสิ่งพิมพ์แผ่นเดียวคล้ายแผ่นปลิว แต่ใช้
กระดาษหนากว่า สามารถพับได้หลายขนาดตั้งแต่ สองพับถึงสี่พับ ทำให้พกพาได้สะดวก
สามารถเลือกแจกเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ปัจจุบันมีการทำให้แปลกออกไปโดยแทรกกระดาษ
บางๆเข้าไปในแต่ละพับทำให้ได้เนื้อที่ในการพิมพ์มากขึ้นอีกด้วย เช่นแผ่นพับของธนาคาร
อาคารสงเคราะห์ ด้านในทำเป็นกระดาษเล็ก ใส่รายละเอียดต่างๆได้มากยิ่งขึ้น แผ่นพับบาง
ชนิดมีการเจาะปกเป็นรูปทรงต่างๆ บางครั้งมีการนำเสียงมาใส่ เวลาเปิดจะมีเสียงดนตรี
ไพเราะน่ารัก การออกแบบต้องจัดข้อความและภาพประกอบให้กระชับ น่าอ่าน จัดให้ลงหน้า
อย่างเหมาะสม ตามเนือ้ ที่ของหนา้ ที่เกิดจากรอยพบั ข้อคำนึงในการออกแบบแผ่นพบั

1. จัดขนาด รูปแบบ ได้ตามความเหมาะสม แต่ถ้าสอดคล้อง
กับขนาดของกระดาษ เพลท จะช่วยลดต้นทนุ ได้มาก

2. แบ่งเนือ้ ทีต่ ามรอยพบั มีทั้งปกหน้า และปกหลงั
3. ข้อความและภาพบง่ บอกถึงสิ่งทีต่ ้องการนำเสนอเพียง
อยา่ งเดียว
1.2.5 ใบปิดโปสเตอร์ (Poster) เป็นสิ่งพิมพ์ที่เรียกชื่อตามลักษณะการ
ใช้งาน คือใช้ปิดบนแผ่นรองรับ เป็นสื่อที่ติดตั้งอยู่กับที่ ผลิตเป็นจำนวนมาก ติดตั้งไว้ในที่
สาธารณะแต่ก่อนเป็นเพียงการประกาศแจ้งความ ปัจจุบันมีบทบาทในการโฆษณา
ประชาสมั พันธม์ ากเพราะสามารถเผยแพรไ่ ด้สะดวก กว้างขวาง มีทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่
นิยมพิมพ์บนกระดาษขนาด A3 (20x30นิ้ว) ส่วนใหญ่จะมีภาพเด่นชัดสวยงาม และมีข้อความ
แจ้งให้ทราบตามความเหมาะสม เช่น โปสเตอร์โฆษณาสินค้าและบริการต่างๆ ภาพโฆษณา
มหรสพและการบันเทิงและใบปิดโฆษณาการเมือง การเลือกตั้ง เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบ

249

ปิดโปสเตอร์หนังไทย ซึง่ สร้างสรรคข์ ้ึนโดยการเขียนด้วยทักษะฝมี อื และทำกนั มานาน มีคุณค่า
มาก จนทำให้กิลเบิรด์ บราวสโตน (Gilbert Browstone ) เข้ามาศกึ ษาวิจยั แล้วเขียนเป็นหนังสือ
ชื่อ Thai Move Poater เผยแพรไ่ ปท่ัวโลก ขอ้ คำนงึ ในการออกแบบโปสเตอร์

1. ควรเป็นแผ่นเดียวโดดๆ สามารถนำไปติดบนพื้นผวิ ใดกไ็ ด้
2. ควรมีภาพประกอบและข้อความ ที่บ่งบอกถึงอะไร ที่ไหน
เมื่อใด ใชข้ ้อความกระทดั รดั เข้าใจง่าย แสดงแนวคิดหลกั เพียงอยา่ งเดียว
3. ผลติ ขนึ้ เป็นจำนวนมาก
4. การวางตำแหน่งภาพประกอบ และข้อความต้องประสาน
สง่ เสริมซึง่ กันและกัน และงา่ ยแกก่ ารจดจำ (ควรมีคำขวญั หรือสโลแกน)
5. ขนาดของตัวอักษรควรแตกต่างกันตามหน้าที่ เช่น ตัวหัว
เรือ่ งหรอื พาดหวั ควรมขี นาดใหญ่กว่าตวั พืน้ หรอื ตวั พรรณา
1.2.6 แผ่นป้าย (Bill Board) เป็นสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่ ประเภทกลางแจ้ง
หรือติดตั้งตามป้ายรถประจำทาง หรือข้างรถประจำทาง (Bus side) แผ่นป้ายจราจร นำเสนอ
เรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการต่างๆ ที่ดินบ้านจัดสรร ส่วนใหญ่จะติดตั้งใกล้ถนนหลวง
เนื่องจากเป็นสิ่งพิมพ์กลางแจ้งจึงต้องใช้วัสดุที่ทนทานมากกว่ากระดาษ จึงนิยมใช้โลหะและ
พิมพใ์ นระบบแมพ่ มิ พ์ฉลุ ซิลสกรีน ข้อคำนึงในการออกแบบแผน่ ป้ายกลางแจง้
1. ควรจดั ภาพเปน็ กล่มุ เพือ่ สะดวกแกก่ าร รบั รู้ จดจำ
2. ข้อความกระทัดรัด เข้าใจง่าย และมีขนาดใหญ่สามารถ
มองเห็นได้ในระยะไกล
3. ใช้สเี ป็นตวั เน้นให้เด่นบางจดุ มิใชเ่ ดน่ ทั้งแผน่ ป้าย
1.2.7 ปฏิทิน (Calendar) เป็นสิ่งพิมพ์เผยแพร่ที่มีอายยุ าวนาน โดยใช้ดู
วัน เดือน ปี เป็นเวลา 1 ปี ต่างกับสิ่งพิมพ์เผยแพร่อื่นๆ เช่น โปสเตอร์ แผ่นปลิว แผ่นพับ เมื่อ
ได้รับแล้ว อาจจะเก็บไว้ 2-3 วนั หรอื อาจจะทิ้งเลย นอกจากนีป้ ฏิทินยังมี วัน เดือน ปี ถูกต้อง
เป็นสากล มีวันหยุดพิมพ์เป็นตัวสีแดง ปฏิทินของไทยบางฉบับมีตัวเลขบอกข้างขึ้นข้างแรมไว้
ด้วย ปัจจุบันปฏิทินมีหลายรูปแบบ เช่น แบบแขวน แบบตั้งโต๊ะ และแบบพกติดตัว เป็นต้น
เนื่องจากสิ่งพิมพท์ ี่มีอายุใช้งานนาน ภาพประกอบ ข้อความ คุณภาพของกระดาษ และเทคนิค
การพิมพจ์ งึ ตอ้ งประณีต บรรจงเปน็ พิเศษ
2. สง่ิ พิมพโ์ ดยอ้อม
เป็นสิ่งพิมพท์ ี่นำไปประกอบหรือไปเป็นส่วนหนึ่งของตัวสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ มี
หลายแบบดงั น้ี

250

2.1 ชื่อสินค้าหรือสลากสินค้า (Trade Mark or Lable) จะพิมพ์ติดกับตัวสินค้า
หรือผลิตภัณฑ์ เพื่อแสดงเอกลักษณ์หรือเอกสิทธิ์ของสินค้านั้น ปัจจุบันนักออกแบบสิ่งพิมพ์
ออกแบบฉลากสินค้าได้สวยงามแปลกตาขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เพราะเน้นเรื่องความงาม ความ
น่ารัก มากกว่าความเชื่อถือต่างๆ จึงทำให้ง่ายแก่การจดจำ ติดปาก ติดตา ประชาชน
ตลอดเวลา บางครั้งทำเป็นป้ายแขวนรูปทรงต่างๆ หน้าร้าน (Mobile ) เป็นโฆษณา ณ จุดขาย
แบบหนง่ึ

- สลากสินค้ามีบทบาทที่สำคัญต่อการตลาด เป็นส่วนหนึ่งของภาชนะบรรจุที่
ผบู้ ริโภคพบเห็นเปน็ จุดแรก ข้อคำนึงในการออกแบบสลากสินค้า

1. เป็นสิ่งพิมพ์ที่ต้องเกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ของทางราชการ เช่น
ต้องมีชื่อเฉพาะทางการค้า เลขที่ที่ได้รับอนุญาต ยิ่งถ้าเป็นสลากเกี่ยวกับ อาหาร ยา ต้องมี
ข้อกำหนด ปลีกยอ่ ยลงไปอีก

2. ควรออกแบบให้งา่ ยแก่การจดจำ
3. ควรใช้สใี ห้เดน่ สะดดุ ตา
2.2 โลโก้ (Logo) เป็นสิ่งพิมพ์ที่เป็นภาพ เครื่องหมาย ตรา สัญลักษณ์ และ
ข้อความ ที่สื่อถึงกิจกรรมต่างๆของหน่วยงาน หรือสถานประกอบการ ส่วนใหญ่จะพิมพ์บน
เอกสาร ประกาศแจ้งความ หัวจดหมาย ซองจดหมาย และของชำร่วย เป็นต้น ปัจจุบันมีการ
ออกแบบ พิมพ์สอดสีสวยงามนับเป็นหน้าเป็นตาของกิจการอย่างหนึ่ง ข้อคำนึงในการ
ออกแบบโลโก้
1. ควรออกแบบให้ดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนมากนัก ควรใช้สีน้อยไม่เกิน
3 สี และควรจะเปน็ รปู แบบทีบ่ ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะของหน่วยงานหรอื องค์กรน้ัน
2. มีรูปแบบที่ทันสมัย แสดงถึงความมั่นคง ความก้าวหน้า และความ
นา่ เช่อื ถือ
3. การออกแบบโลโก้ควรให้เป็นหน่วยเดียวกัน (Unity) มากกว่าการ
กระจาย สามารถนำไปย่อ-ขยายเพือ่ ใช้กบั งานอื่นๆได้
4. โลโก้ควรมีที่มาในการออกแบบ ซึ่งจะช่วยให้ประขาขนเข้าใจ และ
เห็นคุณคา่ ในการออกแบบมากขึ้น
2.3 บรรจุภัณฑ์ (Package ) เป็นงานพิมพ์ที่พิมพ์บนหีบห่อ หรือภาชนะบรรจุ
ต่างๆส่วนใหญ่จะเป็นชื่อตัวสินค้า โลโก้ เครื่องหมายการค้า บรรจุภัณฑ์บางอย่างจะบอกถึง
คุณสมบัติของตัวสินค้าด้วย เช่น บรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยาบำรุง ยารักษาโรค บรรจุภัณฑ์บาง
ชนิดเน้นความงามของสิ่งพิมพ์มาก มีการออกแบบ ข้อความ โลโก้ ภาพประกอบ มีการพิมพ์

251

สอดสีสวยงาม สะดุดตาผู้ดูผู้บริโภค จนบางครั้งผู้บริโภคบางคนตดั สินใจซื้อเพราะบรรจุภัณฑ์
สวย แปลกตา บรรจุภณั ฑ์บางชนิดมีค่ามากกวา่ ตัวผลิตภัณฑ์ เชน่ น้ําหอม
โคโรนส์ สุรา และ เครื่องสำอางค์เป็นต้น

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญ เป็น
สิ่งแรกที่ลูกค้าพบเห็น จึงต้องมีการออกแบบให้โดดเด่น น่าสนใจจนผู้บริโภคอยากรู้ว่าเป็น
อยา่ งไร ข้อคำนึงในการออกแบบผลติ ภณั ฑ์

1. ควรเรียบง่าย ชดั เจน และงา่ ยในการรับรู้วา่ เป็นอะไร
2. ภาพและข้อความอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น ตรงกลาง และ
ด้านบน เป็นต้น
2.4 โฆษณาข้างรถประจำทาง (Bus side ) เป็นงานโฆษณา ประชาสัมพันธ์
ที่ติดไว้กับรถประจำทาง ทั้งด้านซ้าย ข้างขวา และด้านหลัง นับเป็นสื่อที่เคลื่อนที่ได้ โดยวิ่งไป
ตามเส้นทางที่รถวิง่ ประจำ การโฆษณาแบบนี้เป็นการโฆษณาวงกว้าง ไม่เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย
มกั จะเนน้ ภาพรวมเพื่อ ให้รจู้ ักตัวสินค้ามากกว่ารายละเอียด เชน่ ผลติ ภณั ฑ์ของโกดัก นำเอาสี
ของกล่องมาเป็นจุดขายเพื่อกระตุ้นใหร้ ู้จกั จดจำผลติ ภัณฑข์ องโกดัก
สรุป สิ่งพิมพ์มีหลายแบบหลายชนิด แต่ละแบบจะมีลักษณะเฉพาะ สามารถจัดแบ่งได้
เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ตามลักษณะการใช้งานคือ สิ่งพิมพ์โดยตรง เป็นสิ่งพิมพ์ที่พิมพ์ขึ้นเพื่อการ
อ่าน เชน่ หนังสือ นิตยสาร และสิ่งพิมพโ์ ดยอ้อม ซึ่งเปน็ สิ่งพิมพ์ที่พิมพ์ขนึ้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ
ตัวสินค้าหรอื บริการตา่ งๆ เชน่ สลากสินค้า ตราสญั ลกั ษณ์ และบรรจุภัณฑ์
นอกจากนี้ขนาดของสิ่งพิมพ์มีผลต่อการพิจารณาภาพประกอบ ข้อความ และเทคนิค
การพิมพ์ด้วย เช่น การ์ดจะมีเนื้อที่บรรจุภาพประกอบและข้อความน้อยกว่าเนื้อที่ในโปสเตอร์
และการโฆษณาในหน้านิตยสาร เป็นต้น
องคป์ ระกอบของนิตยสาร
สุรสิทธิ์ วิทยารัฐ (2549) ไดแบงองคประกอบของนิตยสารออกเปน 5 องคประกอบ
ไดแก
1. หนาปก
หนาปกนิตยสารมักมีสีสันสวยงามและสะดุดตาเพื่อดึงดูดความสนใจ มักใชภาพถ่าย
บุคคลทีม่ ชี ือ่ เสียง เปนภาพปก เชน นกั แสดง นักรอง นักการเมือง นกั กีฬา เปนตน
หนาปกเปนสวนสําคัญที่สุดของนิตยสาร เพราะเปนจุดแรกที่คนพบเห็นและมีผลต
อยอดขายของ นิตยสาร บนหนาปกจะมีขอมูลจํานวนมากที่บอกลักษณะเฉพาะตัวของ
นิตยสารแตละฉบับ ตั้งแตชื่อนิตยสาร โลโก คําขวัญประจํานิตยสาร (ถามี) ภาพปก ขอมูล

252

แสดงปที่ ฉบบัที่ วันที่ เดือน ปีพทุธศกัราช ราคาจำหนาย เรื่องเดนประจาํ ฉบบั รวมท้ังเลขเรียก
ประจํานิตยสาร (International Standard Serial Number หรือ ISSN) แตขอมูลดังกลาวอาจ
ปรากฏที่สนั ปกหรอื หนาในของนิตยสารแทนทีจ่ ะรวมอยูบนหนาปกกไ็ ด

การออกแบบจัดหนาปกนิตยสารควรเปนรูปแบบพื้นฐานที่สอดคลองกันในแตละฉบับ
เพื่อแสดง เอกลักษณของนิตยสารนั้น ๆ สวนปกอื่น ๆ ไดแก ปกหนาดานใน ปกหลังดานใน
และปกหลงั มักเปนเนือ้ ที่ โฆษณา

2. หนาสารบัญ
หนาสารบัญมักเลือกเนื้อหาที่นาสนใจมาก (Highlight) และมีการออกแบบที่สวยงาม
โดยอาจจะใช ภาพประกอบเรื่องมาเปนภาพประกอบ ทั้งนี้นิตยสารอาจมีสารบัญมากกวา
1 หนาได
หนาสารบัญเปนสวนประกอบสําคัญรองจากหนาปก เพราะเปนหนาของนิตยสารที่
แสดงขอมูล ทั้งหมดซึ่งจําเปนตอการจัดทํานิตยสาร มีการแสดงรายชื่อคอลัมนและบทความ
ท้ังหมดที่มใี นนิตยสารนน้ั
พรอมทั้งระบุเลขหนาเพื่อสะดวกตอการเปดอาน โดยเฉพาะเมื่อผูอานตองการ
อานเรื่องที่สนใจหรือเรื่องที่ให ความสําคัญกอน หนาสารบัญตองมีชื่อนิตยสาร ปที่ ฉบับที่
เดือน และปพุทธศักราชที่นิตยสารวางจําหนาย เหมือนอยางเชนหนาปก รวมทั้งรายชื่อกอง
บรรณาธิการ คณะผูจัดทํา ชื่อบริษัทสํานักพิมพ ที่อยูของ สํานักพิมพ ระยะเวลาในการออก
จาํ หนาย และรายช่อื แผนก
3. บทบรรณาธกิาร
บทบรรณาธิการเปนขอเขียนของบรรณาธิการ มักเปนการทักทายกับผูอาน รวมทั้ง
แนะนาํ เรือ่ งตาง ๆ ภายในเลม อาจแนะนําผเู ขียนลงไปดวยเพื่อเปนขอมูลเลือกอานใหกับผูอาน
4. เนือ้ หา
ขอเขียน บทความ และคอลัมน มักเปนสารคดี ความรู ความบันเทิง และขาวสาร
เนื้อหาจะเนนหนัก ในดานใด ทั้งนี้ขึ้นอยูกับประเภทหรือกลุมของผูอานเปาหมาย (Target
Audience) ของนิตยสารฉบับนั้น การจัดหนาภายในเลมควรจัดอยางพิถีพิถัน มีภาพประกอบ
ทีส่ วยงาม จัดคอลัมนใหเหมาะสมกบั การเคลือ่ นที่ ของสายตา และมีพ้ืนทีว่ างขาวประกอบ
เอกลักษณเดนของนิตยสาร คือ การเสนอเนื้อในที่ประกอบดวยเรื่องราว บทความ
และคอลัมนที่มี ความหลากหลาย ทั้งด านความรูและบันเทิง โดยใชผูเขียนจํานวนมาก
การจะเนนเนื้อหาในดานใดนั้นขึ้นอยู กับวัตถุประสงคในการจัดทําเปนสําคัญ ถาเปนนิตยสาร
ทั่วไปอาจเสนอเรื่องราวซึ่งคนทั่วไปสนใจ เชน เรื่องสั้น การสัมภาษณบุคคลที่เดนหรือมี

253

ความสําคัญ เปนตน ถาเปนนิตยสารสตรีอาจเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสตรี เช น แฟชั่น
เครือ่ งแตงกาย เครือ่ งประดบั การตกแตงบาน การทาํ อาหาร นวนิยาย เปนตน

นอกจากเนื้อหาที่เปนตัวหนังสือแลว ยังมีการใชภาพประกอบเนื้อหาเพื่อเพิ่มความ
นาสนใจและ ความสวยงามในแตละหนา การใชภาพประกอบชวยใหผูดูไดพักสายตา อีกทั้งช
วยใหจัดหนาไดสัดสวน มากยิ่งขึ้นอีกดวย ในกรณีที่เนื้อหานอยอาจใชภาพประกอบเปน
ตัวเสริม

5. หนาโฆษณา
หนาโฆษณานับเปนสวนประกอบที่จําเปนของนิตยสาร เพราะทํารายไดหลักใหกับ
นิตยสารมากกวา รายไดจากการจัดจําหนาย หนาโฆษณาของนิตยสารมักอยูที่ปกหลัง
ปกหนาดานใน ปกหลังดานใน สวนตน ของนิตยสารกอนหนาสารบัญ และแทรกระหวางบท
ความหรอื คอลัมน์
5. ความสำคัญของสื่อสิ่งพิมพ์
สื่อสิ่งพิมพม์ ีลักษณะพิเศษหลายประการ และมีความสำคญั อยา่ งมากในปัจจบุ ัน แม้มี
ผู้ตั้ง ข้อสังเกตว่า การใช้สื่อสิ่งพิมพ์จะลดน้อยลง และจะหายไปจากบรรณพิภพ เนื่องจาก
เทคโนโลยี คอมพิวเตอรม์ ีบทบาทมากขึ้น และสื่ออินเตอรเ์ น็ตเข้ามาทดแทน ข้อสังเกตข้างต้น
นีอ้ าจไม่เป็น ความจรงิ เวลานี้ จงึ ขอกลา่ วถึงลักษณะพิเศษของสอ่ื สิง่ พิมพ์ที่ทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ยัง
มีความสำคัญอยู่ เวลานี้ คือ
1. เป็นสิ่งทีม่ รี าคาถกู เมื่อเปรียบเทียบกับสื่อมวลชนประเภทอื่น
2. สือ่ ส่งิ พิมพแ์ พร่หลายท่ัวไปหาซือ้ ได้งา่ ย
3. สื่อสง่ิ พิมพน์ ้ันเมอ่ื ซอื้ มาแล้วจะอ่านเมือ่ ใดกไ็ ด้ตามแต่อารมณ์
4. สื่อสิ่งพิมพ์เสนอรเองราวที่สามารถเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานได้คงสภาพนาน
เมื่อประสงค์อ่านหรอื อ้างองิ
5. สือ่ ส่งิ พิมพ์ใหข้ า่ วสารและรายละเอียดได้ลึกซงึ้ มากกวา่ วทิ ยุและโทรทัศน์
6. สื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อมวลชนที่แตกต่างไปจากสิ่งพิมพ์ประเภทอื่น ข่าวสารเป็น เรื่องที่
น่าสนใจ ชักจูงได้ อยากอ่าน อ่านแล้วเกิดความรู้และเข้าใจเหตุการณ์ต่าง ๆ เมื่อเปรียบเทียบ
หนังสือพิมพ์กับสื่อสิ่งพิมพ์กับสื่อมวลชนประเภทอิเล็กทรอนิกส์ในด้านการเสนอข่าวหรือ
เรือ่ งราว ตา่ ง ๆ แล้วพบวา่ หนังสือพมิ พ์มีขอ้ ได้เปรียบดังน้คี อื (สุรสิทธิ์ วิทยารัฐ, 2549)

- ด้านความเชือ่ ถือได้ (reliability)
- ด้านความสมบรู ณ์ (completeness)
- ด้านการอา้ งองิ (deferability)

254

- ด้านการย้ำ (repetition)
6. ข้ันตอนการผลิตสื่อสิง่ พิมพ์

วัตถุประสงค์ของการวางแผนเพื่อการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ มีหลายประการกล่าวคือ
เพื่อทราบ ความต้องการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อควบคมุ ต้นทุนการผลิตให้อยู่ในงบประมาณ เพื่อให้
การผลิตสอ่ื สิง่ พิมพส์ ามารถเสร็จทันเวลา และเพื่อให้ได้งานสื่อส่ิงพิมพท์ ีม่ คี ณุ ภาพ

ในการวางแผนเพื่อการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ขององค์กรจำเป็นต้องตั้งคณะทำงานในการ
ผลิตสื่อ สิ่งพิมพ์ขึ้น โดยต้องกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ต้องแต่งตั้ง
ผู้รับผิดชอบที่รู้งาน และเข้าใจวิธีการทำงาน มีศูนย์กลางการวางแผนแลติดตามที่ชัดเจน ไม่
ซ้ำซ้อน นอกจากนั้น ในการวางแผนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ จำเป็นต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับ
กระบวนการดำเนินการผลิตอย่างครบ วงจร จงึ จะสามารถวางแผนได้อย่างสมบูรณ์

6.1 ขน้ั ตอนในการวางแผนการผลิต
1. หาข้อมูลการใช้งานสือ่ ส่งิ พิมพท์ ีต่ อ้ งผลติ
2. การหาข้อมูลแหลง่ ที่จะได้มาซึง่ ต้นฉบับทั้งหมด
3. การประสานงานภายในและภายนอกเพือ่ ประเมินความเปน็ ไปได้
4. การสรุปรายละเอียดจองสือ่ สง่ิ พิมพ์ที่ตอ้ งการผลิต
5. การประสานงานผลู้ ิตเพื่อประเมนิ ราคา โดยอาจจะติดต่อผ่าน
- โรงพิมพ์
- บริษทั นายหน้าโฆษณา
- บริษัทรับจ้างผลิต
6. การวางกำหนดเวลาในการทำงานตามข้ันตอนต่าง ๆ
- ตารางตดิ ตามงาน
- แยกแยะงานตา่ งๆ และกำหนดขน้ั ตอนการทำงาน
- กำหนดกรอบเวลาทีง่ านแตล่ ะอยา่ งจะต้องทำแล้วเสร็จ
- กำหนดผู้รับผดิ ชอบดำเนินการและติดตามแต่ละงาน
7. มีการสรปุ สถานการณแ์ ละตดิ ตามความคบื หน้าตลอดเวลา
8. การติดตามตน้ ฉบับให้ส่งตามกำหนด
9. การเตรียมตน้ ฉบับให้พร้อมสำหรับการผลิต
10. การตรวจปร๊ฟู กอ่ นพิมพ์

ข้อควรคำนึงในการวางแผนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เตรียมความพร้อมภายในให้มากที่สุด
ใช้ ภาษาในการสื่อสารที่เป็นสากลหาตัวประกอบในการกำหนดคุณลกั ษณะของงาน หาข้อมูล

255

แหล่ง บริการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ไว้ให้มาก ประเมินผู้ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ จำแนกตามความชำนาญ
เฉพาะด้านหา แนวทางสำรองไว้ในกรณีที่การผลิตสอ่ื ไม่เปน็ ไปตามแผน

6.2 การกำหนดนโยบายและวตั ถุประสงค์
นโยบายและวัตถุประสงค์ของการจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อการวางจำหน่ายนั้น จำเป็น
อย่างยิ่ง ที่จะต้องศึกษากลุ่มผู้อ่าน เป้าหมาย (target audience) เพื่อจะได้ว้างแผนการผลิตให้
สมั พันธ์และ ตอบสนองความตอ้ งการของกลุ่มผู้อ่านเป้าหมายซึ่งเปน็ ผู้ซือ้ ได้เป็นอย่างดี
ส่วนการกำหนดวัตถุประสงค์ของสื่อสิ่งพิมพ์เฉพาะกิจ (special publication) ต้องให้
สอดคล้องกับภารกิจและหน้าทีข่ ององค์กร เช่น การกำหนดวตั ถุประสงค์ของส่ิงพิมพ์จะต้องให้
ประสานสอดคล้องกบั วัตถุประสงคแ์ ละนโยบายขององค์กรและบางครั้งก็ต้องให้สอดคลอ้ งกบั
นโยบายของราชการด้วย
วัตถุประสงค์ของสิ่งพิมพ์เป็นการกำหนดวัตถุประสงค์ว่าสิ่งพิมพ์นั้นจัดทำขึ้นเพื่อให้
อะไร แก่ผู้อ่าน และองค์กรต้องการได้อะไรจากการผลิตสิ่งพิมพ์เผยแพร่ เป็นการกำหนด
แนวทางของการ จัดเรอ่ื งสง่ิ พิมพ์ การสรา้ งเค้าโครงเอกสารและการออกแบบ
โดยทั่วไปแล้วการผลิตสื่อสิ่งพิมพเ์ ฉพาะกิจ ซึ่งเป็นการจัดทำนอกเหนือจากการจัดทำ
เรื่อง การจัดจำหน่ายมกั มีวัตถุประสงค์ดงั ตอ่ ไปนี้
1. เพือ่ สร้างภาพลักษณท์ ี่ดใี ห้แกอ่ งค์กรและสถาบัน
2. เพื่อแจ้งขา่ วสารเกี่ยวกบั กิจกรรมขององคก์ รไปสูป่ ระชนอย่างสม่ำเสมอ
3. เพือ่ ชีแ้ จ้งหรอื ให้ข้อเท็จจรงิ เพื่อแก้ไขความเข้าใจผดิ
4. เพือ่ สร้างขวัญและกำลงั ใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน
5. เพือ่ ให้ขา่ วสารเกีย่ วกบั สินค้าและบริการ
6. เพื่อให้ความเข้าใจเกี่ยวกบั ข่าวสารและบริการ
7. เพือ่ ชวนเชญิ ใหร้ ว่ มกิจกรรมทีอ่ งค์กรจัดขึน้
6.3 การวางแผนการเลือกเนือ้ หา
การวางแผนการเลือกเนื้อหา เพื่อให้เนื้อหาที่ปรากฏในสื่อสิ่งพิมพ์มีเค้าโครงเรื่องที่
เหมาะสม กับการพิมพ์เผยแพร่และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การผลิตที่ได้กำหนดไว้ ใน
การวางแผนการเลือกเนื้อหาเพือ่ ผลิตเป็นสิง่ พิมพน์ ั้น ต้องประกอบไปด้วยการศึกษา วิเคราะห์
ในด้านตา่ งๆดงั นี้
1. วิเคราะห์ประเด็นหรือแก่นของเรื่อง ก่อนจะผลิตสิ่งพิมพ์เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ควร
พิจารณาจากวัตถุประสงค์ว่าเราจะผลิตสิ่งพิมพ์นั้นเพื่ออะไร ตัวอย่าง หากเราต้องการผลิต
สิ่งพิมพเ์ พื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ขององคก์ รหรอื สถาบันในเชิงบวก ประเด็นของ

256

เรื่องกค็ วรเปน็ เรื่องที่องคก์ รหรอื สถาบนั ของเราแสดงความรบั ผิดชอบต่อสงั คมหรอื แสดงความ
ห่วงใยถึงสวสั ดิภาพของประชาชน

2. วิเคราะห์เนื้อหารให้สอดคล้องกับลักษณะของสิ่งพิมพก์ ารจะนา เนื้อหาไป บรรจุไว้
ในสิ่งพิมพ์ที่เราจะผลิตขึ้นนั้น ต้องพิจารณาด้วยว่าสิ่งพิมพ์ที่เราจะผลิตเหมาะสมกับเนื้อหา
ลักษณะใด อย่างเช่น หนังสือพิมพ์ก็ควรจะเน้นเนื้อหาที่เปน็ ข่าวและบทความ หากเป็นสิ่งพิมพ์
ประเภทแผ่นพับหรือใบปลิว ก็ควรจะเป็นเนื้อหาสั้นๆ ที่สามารถนำเสนอให้ผู้อ่านเข้าใจได้โดย
ไม่ ต้องเขียนอธิบายอย่างซับซ้อน เป็นต้น

3. การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายนี้ นอกจากจะใช้ภาษา ให้มี
ความยากง่ายสอดคล้องกับลักษณะของกลุ่มเป้าหมายแล้วยังต้องพิจารณาถึงระดับความเป็น
“รูปธรรม” “นามธรรม” ของเนื้อหาด้วย เช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กวัยรุ่น ก็ไม่ควรเสนอ
เนื้อหาที่ เป็นนามธรรมเกินกว่าจะเข้าใจได้ ควรจะปรับเนื้อหาที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม
เพือ่ งา่ ยแก่การ เข้าใจ

4. วิเคราะห์เนื้อหาให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่ใช้เผยแพร่การจัดทำสิ่งพิมพ์ จะต้อง
พิจารณาวา่ เน้ือหาสาระทีจ่ ะนำเสนอนั้นมีระยะเวลาทีใ่ ชไ้ ด้นานเพียงใด เพราะเนือ้ หาสาระ บาง
เรื่องสามารถใช้ได้นาน แต่เนื้อหาสาระบางเรื่องสามารถใช้ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เช่น
เนื้อหาสาระในลักษณะเชิญชวนให้ร่วมกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง มักจะใช้ในช่วงสั้นๆ การเลือก
นักเขียนกเ็ ป็นปัจจัยสำคัญของการวางแผนเกี่ยวกบั เนื้อหา และบางครั้งองค์กรต้องเน้นด้านใด
ด้าน หนึ่งก็ต้องเลือกนักเขียนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆการพิจารณาแหล่งข้อมูล
หมายถึง การวางแผนที่จะใช้ข่าวสารข้อมูลต่างๆเพื่อเปน็ ข้อมูลในการผลิตเนื้อหาที่จะบรรจุใน
สิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ ผู้รับผิดชอบเนื้อหาอาจตั้งเป็นคณะทำงาน หรือมีกองบรรณาธิการรับผิดชอบ
โดยตรง

5. การวางแผนเกีย่ วกับกระบวนการผลิตเป็นการวางแผนเกี่ยวกบั แผนปฏิบตั ิงาน การ
ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ โดยวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานว่า ในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ขึ้นมาสกั ชิ้นหนึ่งนั้น
จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เช่นเตรียมต้นฉบับ ออกแบบจัดหน้า เป็นต้น ต้องรู้ว่ามี่จุดเริ่มต้น
อย่างไร และสิ้นสุดอย่างไร เพื่อใช้ในการควบคุมให้การผลิตสิ่งพิมพ์เป็นไปตามกำหนดเวลาที่
เราจะออก สิ่งพิมพ์น้ัน

257

7. หลักการออกแบบสิ่งพิมพ์
สิ่งพิมพ์ที่พบเห็นโดยทั่วไปประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายอย่าง ได้แก่

ตัวอักษรหรือข้อความภาพ ประกอบเนื้อที่ว่าง และส่วนประกอบอื่น การออกแบบสิ่งพิมพ์ที่
ต้องคำนงึ ถึงการจัดวางองคป์ ระกอบต่าง ๆ ดงั กล่าว เข้าด้วยกันโดยใช้หลกั การ ดงั น้ี

1. ทิศทางและการเคลื่อนไหว (Direction & Movement) เมื่อผู้รับสารมองดูสื่อสิ่งพิมพ์
การรบั รู้เกิดขึ้นเป็นลำดับตามการมองเห็น กลา่ วคือ เกิดตามการวาดสายตา จากองคป์ ระกอบ
หนึ่งไปยังอีกองค์ประกอบหนึ่ง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการดำเนินการวางแผน
กำหนด และชักจงู สายตาผู้รับสารใหเ้ คลื่อนไหวในทิศทางที่ถกู ต้อง ตามลำดบั ขององค์ประกอบ
ที่ต้องการให้รับรู้ก่อนหลัง โดยทั่วไปหากไม่มีการสร้างจุดเด่นขึ้นมา สายตาของผู้รับสารจะ
มองดหู น้ากระดาษที่เป็นสือ่ สิ่งพิมพ์ในทิศทางที่เป็น ตวั อักษร (Z) ในภาษาอังกฤษ คือ จะเริ่มที่
มุมบนด้านขวาตามลำดับการจัดองค์ประกอบที่สอดคล้องกับธรรมชาติ การมองนี้ เป็นส่วน
ชว่ ยใหเ้ กิดการรับรู้ตามลำดบั ที่ตอ้ งการ

2. เอกภาพและความกลมกลืน (Unity & Harmony) เอกภาพคือความเป็นอันหนึ่งอัน
เดียวกนั ซึ่งในการจดั ทำเลย์เอาต์ หมายถึงการเอาองค์ประกอบที่แตกต่างกนั มาวางไว้ในพื้นที่
หน้ากระดาษเดียวกันอย่างกลมกลืน ทำหน้าที่สอดคล้องและส่งเสริมกันและกันในการสื่อสาร
ความคิด รวบยอด และบุคลิกภาพของสื่อสิ่งพิมพ์นั้น ๆ การสร้างเอกภาพนี้สามารถทำได้
หลายวิธีเช่น

- การเลือกใช้องค์ประกอบอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเลือกใช้แบบตัวอักษรเดียวกัน
การเลือกใช้ภาพขาว ดำทั้งหมด เปน็ ต้น

- การสรา้ งความต่อเนือ่ งกันใหอ้ งคป์ ระกอบ เช่น การจัดให้พาดหัววางทบั ลงบนภาพ
การใชต้ ัวอกั ษร ทีเ่ ปน็ ข้อความ ล้อตามทรวดทรงของภาพ เป็นต้น

- การเว้นพื้นที่ว่างรอบองค์ประกอบทั้งหมด ซึ่งจำทำให้พื้นที่ว่างนั้นทำหน้าที่เหมือน
กรอบสีขาวล้อมรอบ องค์ประกอบทั้งหมดไว้ภายใน ช่วยให้องค์ประกอบทั้งดูเหมือนว่าอยู่กัน
อยา่ งเปน็ กลมุ่ เปน็ ก้อน

3. ความสมดุล (Balance) หลักการเรื่องความสมดุลนี้เป็นการตอบสนองธรรมชาติ
ของผู้รับสาร ในเรอ่ื งของแรงโน้มถ่วง โดยการจดั วางองคป์ ระกอบทั้งหมดในพืน้ ที่หนา้ กระดาษ
จะต้องไม่ขัดกับความรู้สึกนี้ คือจะต้องไม่ดูเองเอียงหรือหนักไปด้านใด ด้านหนึ่ง โดยไม่มี
องคป์ ระกอบมาถ่วงในอีกด้าน การจดั องค์ประกอบให้เกิดความสมดลุ แงได้เปน็ 3 ลักษณะคือ

258

- สมดุลแบบสมมาตร (Symmetrical Balance) เป็นการจัดวางองค์โดยใหอ้ งค์ประกอบ
ในด้านซ้าย และด้านขวาพื้นที่หน้ากระดาษมีลักษณะเหมือนกันทั้งสองข้าง ซึ่งองค์ประกอบที่
เหมอื นกันในแตล่ ะด้านนจี้ ะถว่ งนำ้ หนกั กนั และกันให้ความรู้สกึ สมดลุ

- สมดุลแบบอสมมาตร (Asymmetrical Balance) เป็นการจักวางองค์ประกอบโดยให้
องค์ประกอบ ในด้านซ้ายและด้านขวาพื้นที่หน้ากระดาษมีลักษณะไม่เหมือนกันทั้งสองข้าง แม้
องคป์ ระกอบจะไม่เหมอื นกันในแตล่ ะ ด้านแต่ก็จะถ่วงนำ้ หนกั กันและกันใหเ้ กิดความสมดุล

- สมดุลแบบรัศมี (Radial Balance) เป็นการจัดวางองค์ประกอบ โดยให้องค์ประกอบ
แผ่ไปทุกทิศทาง จากจดุ ศูนย์กลาง

4. สัดส่วน (Proportion) การกำหนดสัดส่วนนี้เป็นการกำหนดความสัมพันธ์ในเรื่อง
ของขนาดซึ่งมีความสัมพันธ์โดยเฉพาะในหน้า กระดาษของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ต้องการให้มีจุดเด่น
เช่น หนา้ ปกหนงั สอื เปน็ ต้น เพราะองคป์ ระกอบที่มสี ัดส่วนแตกต่างกัน จะดึงดดู สายตาได้ดีกว่า
การใช้องค์ประกอบทั้งหมดในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ในการกำหนดสัดส่วนจะต้องกำหนด
องค์ประกอบทั้งหมดในพื้นทีห่ น้ากระดาษไปพร้อม ๆ กันว่าควรจะเพิ่มหรือลดองค์ประกอบใด
ไม่ใช่คอ่ ย ๆ ทำไปทีละองค์ประกอบ

5. ความแตกต่าง (Contrast) เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด โดยการเน้นให้องค์ประกอบใด
องค์ประกอบหนึ่งเดน่ ขึ้นมาด้วยการเพิ่มขนาดใหญก่ วา่ องค์ประกอบอื่น ๆ โดยรอบ เช่น พาด
หวั ขนาดใหญ่ เปน็ ต้น ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วผู้ดูจะเลือกดูองค์ประกอบใหญก่ ่อน

- ความแตกต่างโดยขนาด เป็นวิธีการที่ง่ายที่สด โดยการเน้นให้องค์ประกอบใด
องค์ประกอบหนึ่ง เด่น ขึ้นมาด้วยการเพิ่มขึ้นมาด้วยการเพิ่มขนาดใหญ่กว่าองค์ประกอบอื่น ๆ
โดยรอบ เช่น พาดหัวขนาดใหญ่ เปน็ ต้น ซึง่

- ความแตกต่างโดยรูปร่าง เป็นวิธีที่เน้นองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งเด่นขึ้นมา
ด้วยการใชร้ ูปรา่ งที่ แตกตา่ งกนั ออกไปจากองคป์ ระกอบอื่นในหน้ากระดาษ เชน่ การได้ตดั ภาพ
คนตามรูปร่างของร่างกายแล้วนำไปวางที่ หน้ากระดาษที่มีภาพแทรกเล็ก ๆ ที่อยู่ในกรอบ
สี่เหลีย่ ม เปน็ ต้น

- ความแตกต่างโดยความเข้ม เป็นวิธีการที่เน้นให้องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง
เดน่ ขึ้นมาด้วยการใช้ เพิ่มหรอื ลดความเข้มหรอื น้ำหนกั ขององคป์ ระกอบน้ันใหเ้ ข้มหรืออ่อนกว่า
องค์ประกอบอื่น ๆ ที่อยู่ร่วมกันในหน้ากระดาษ เช่น การใช้ตัวอักษรที่เป็นตัวหนาในย่อหน้าที่
ต้องการเน้นเพียงย่อหนา้ เดียวในหน้ากระดาษ เป็นต้น

259

8. ขน้ั ตอนของการออกแบบสือ่ สิ่งพิมพ์
ในการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ถือเป็นกระบวนการสำคัญที่สุดในกระบวนการสร้างสรรค์

สิ่งพิมพ์ให้ปรากฏต่อผู้รับสาร เพราะในขั้นตอนนี้จะรวมส่วนประกอบในการนำเสนอรูปแบบ
และเนื้อหาชนิดของภาพประกอบ แบบตัวอักษร ชนิดกระดาษและเทคนิคการพิมพ์ต่าง ๆ เข้า
มาดำเนินการโดยไม่ให้ละเลยหรือละทิ้งส่วนใดให้หลุดหายไปจากแนวคิด ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่ง
การออกแบบสื่อส่งิ พิมพส์ ามารถแบง่ ได้เปน็ 6 ขั้นตอนดังน้ี (ปราโมทย์ แสงพลสิทธิ์, 2540)

1. ขั้นศึกษาข้อมูลหรือขั้นตีโจทย์ (identify) หมายถึง ขึ้นพินิจพิจารณาเกี่ยวกับปัญหา
ของโจทย์ เพือ่ ให้ เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย โดยกำหนดรายละเอียด
ปลีกยอ่ ยทีเ่ กี่ยวข้องกับสิง่ ทีล่ ูกค้าหรอื โจทยก์ ำหนด รวมทั้งขอ้ จำกดั และวิธีการในการส่อื สาร

2. ขั้นร่างแบบจิ๋วหรือขั้นระดมคำตอบ (preliminary) หมายถึง ขั้นตอนในการแสวงหา
คำตอบในหลาย ๆ หนทางและหลาย ๆ วิธีการ เพือ่ ขยายแนวความคดิ ในการตอบปญั หานั้น ๆ
ให้กว้างข้ัน วิธีการหาคำตอบในขั้นนถี้ ือเป็นขั้นตอนแรกที่จะปรากฏ ออกมาเป็นรูปวาดคร่าว ๆ
ขนาดเล็ก (thumbnail) บางกลมุ่ นิยมเรียกว่า “แบบสเก็ตซ์ ขนาดเล็ก” (thumbnail sketch) หรือ
บางกลมุ่ เรียกว่า “เลยเ์ อาท์ขนาดเล็ก” (thumbnail layout)

3. ขั้นร่างแบบหยาบ หรือขั้นจัดกลุ่มคำตอบ (refinement) หมายถึง ขั้นตอนคัดเลือก
คำตอบที่มีลักษณะ ใกล้เคียงกันเข้ากลุ่มเดียวกัน โดยคัดเลือกอันที่เด่นที่สุดในแต่ละกลุ่มมา
ออกแบบใหม่เพิ่มเติม เพื่อแสดงรายละเอียด เพิม่ ขึน้ เช่น ขนาด การจดั วาง แบบตัวอักษรชนิด
คร่าว ๆ และการใช้สี เรียกขั้นตอนการจัดกลุ่มคำตอบในขั้นนี้ว่า “สเก็ตซ์หยาบ” ( rough
sketch) หรอื “เลย์เอาท์แบบหยาบ” (rough layout) ก็ได้

4. ข้ันร่างแบบละเอียดหรอื ขั้นคำตอบทีส่ มบูรณ์ (analyze) หมายถึง ข้ันตอนที่เกี่ยวข้อง
กับการประเมนิ และตรวจสอบเกีย่ วกบั รายละเอียดของรูปแบบท้ังหมด ในสว่ นของรายละเอียด
เกี่ยวกับตัวอักษร การจัดวางภาพ ประกอบ การใช้สี การเจียนตัด และการประกอบหน้า ฯลฯ
โดยนักออกแบบกราฟิก จะต้องทำการออกแบบให้มี ลักษณะใกล้เคียงความจริง เรียกว่า
“คอมพรีเฮนสีฟ สเก็ตซ์” (comprehensive sketch) หรือ “คอมพรีเฮนสีฟ เลย์เอาท์”
(comprehensive layout) เพื่อเลือกคำตอบที่ดีที่สุดจากขั้นที่ดีที่สุดจากขั้นจัดกลุ่มคำตอบโดย
วิธีการ เปรียบเทียบและตดั สินใจเพียงคำตอบเดียว

5. ขั้นจัดทำต้นฉบับงานออกแบบสิ่งพิมพ์หรือกราฟิก เรียกว่าขั้นตัดสินใจ (decide)
เป็นขั้นตอนสุดท้าย ในกระบวนการออกแบบที่นัก ออกแบบและผู้เกี่ยวข้องตัดสินใจเลือกใช้
ชิ้นงานใดชิ้นงานหนึ่งที่ ปรากฏอยู่ตรงหน้าชิ้นงาน ที่ได้รับการคัดเลือกจะถูกนำไปสู่การจัดทำ
ต้นฉบับทางการพมิ พ์ (artwork) ทีเ่ ปรียบเสมือนคำตอบทีต่ รงกบั โจทย์ใน ขน้ั ตอนแรก

260

6. ขั้นงานพิมพ์สำเร็จ หรือขั้นการนำไปใช้ (implement) เป็นขั้นตอนของการนำคำตอบ
ซึง่ ผ่านการ พิจารณาและคัดเลือกแล้วอย่างพิถีพิถันว่าเปน็ คำตอบที่ดีและสมบูรณ์ที่สุดเพื่อนำ
ออกเผยแพรด่ ว้ ยสือ่ ชนิดตา่ ง ๆ เช่น ใบปลิว โปสเตอร์ นติ ยสาร ฯลฯ
9. องคประกอบในการออกแบบ

จินตนา ถ้ำแกว (2555) ไดนิยามองคประกอบในการออกแบบวาเปนการจัดวางและ
จัดเรียง องคประกอบใหเกิดความสมบูรณขึ้นแกชิ้นงาน โดยการนําองคประกอบมาใชสราง
สรรคงานนั้นขึ้นอยูกับ ประเภท ลักษณะของงาน จุดมุงหมาย ทักษะ ประสบการณ ตลอดจน
ความพึงพอใจของผูสรางสรรคผลงาน และไดแบงองคประกอบในการออกแบบออกเปน 7 ขอ
ไดแก

1. เสน (Line)
2. รปู รางและรูปทรง (Shape & Form)
3. พืน้ ผิว (Texture)
4. บริเวณวาง (Space)
5. ขนาดและสัดสวน (Size & Proportion)
6. สี (Color)
7. ตัวอักษร (Typography)
มีรายละเอียดดงั ตอไปนี้
1. เสน (Line)
เสน (Line) เปนพื้นฐานของโครงสรางของการออกแบบ เสนแสดงความรูสึกไดดวยตัว
ของมันเองและ ดวยการนําเสนมาสรางเปนรูปทรงตาง ๆ เสนสามารถแสดงอารมณและ
ความคิดไดตามจนิ ตนาการ เสนเกิด จากจุดหลาย ๆ จดุ มาเรียงตอ ๆ กนั จนเกิดเปนเสน หรือ
รอยขีดขวนดวยวัสดุตาง ๆ ที่ปรากฏบนพื้นระนาบ หรือรอยขีดขวนบนวัสดุ เสนแบงได 5
ลักษณะ ไดแก่
1.1 เสนแสดงสญั ลกั ษณ (Line as Symbol) การใชเสนเพื่อเขียนเปนตัวอักษรในการ
ใชสือ่ ความหมาย เสนมหี ลากหลายรปู แบบและใหความรสู ึกทีห่ ลากหลายดวยเชนกัน เชน
- เสนตรง (Vertical Line) คือ เสนที่ใหความรูสึกสงางาม มั่นคง แข็งแรง และแน
นอน แสดงระยะหางระหวางจดุ 2 จุด เสนตรงใหความรสู ึกในทางเรยี บเปนระเบียบ

261

ภาพที่ 9.1 เส้นตรง
- เสนนอน/เสนราบ (Horizontal Line) คือ เสนที่ใหทิศทางในแนวนอน เงียบสงบ
นิง่ เฉย แสดงความรูสึกถึงความกวางและความเรียบ

ภาพที่ 9.2 เสนนอน/เสนราบ
- เสนทแยง/เสนเฉียง (Diagonal Line) คือ เสนที่ใหความรูสึกเคลื่อนไหว ไมอยูนิ่ง
ไมแนนอน ไมสามารถบงั คับได แสดงถึงสิ่งทีก่ าํ ลังจะลมลง

ภาพที่ 9.3 เสนทแยง/เสนเฉียง

262
- เสนโคง (Curved Line) คือ เสนที่เปลี่ยนทิศทางไปในแนวเดียวกัน ใหความรูสึกนิ่ม

นวล ออนหวาน ออนชอย ใหความรสู ึกถึงการเคลื่อนไหวที่ยืดหยุน มีอสิ ระ

ภาพที่ 9.4 เส้นโค้ง
- เสนฟนปลา (Zigzag Line) คือ เสนที่ใหความรูสึกเคลื่อนไหวรุนแรง รวดเร็ว แน
นอน นาตน่ื เตน หวาดเสียว นากลัว หนักแนน และมนั่ คง

ภาพที่ 9.5 เสนฟนปลา

263
1.2 เสนแสดงทิศทาง (Line as Direction) การใชเสนบงบอกทิศทาง ทาํ ใหรู
สึกถึงความเคลื่อนไหว ในบริเวณวาง

ภาพที่ 9.6 เสนแสดงทิศทาง
ภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/235735361724700547/

1.3 เสนแสดงขอบเขต (Line as Boundary) การใชเสนเพื่อแสดงขอบเขต
แสดงกรอบ แสดงการแบง่ เขต พืน้ ที่ออกเปนสวน ๆ

ภาพที่ 9.7 เสนแสดงขอบเขต
ภาพจาก : https://designbundles.net/expressshop/10647-hand-drawn-geometric-

frames#:~:text=Add%20to%20Cart

264
1.4 เสนแสดงน้ำหนัก การใชเสนเพื่อแสดงน้ำหนักในภาพ โดยถาเสนชิดกัน

หลายเสน จะดูมีนำ้ หนักมากกวาเสนทีอ่ ยูหางกัน

ภาพที่ 9.8 เสนแสดงน้ำหนัก
ภาพจาก : https://www.pinterest.cl/pin/352266002108378659/

1.5 เสนแสดงพื้นผิว (Line as Texture) การใชเสนเพื่อเนนพื้นผิว เชน เส
นผม ขนสัตว เปนตน

ภาพที่ 9.9 เสนแสดงพื้นผิว
ภาพจาก : https://www.wallpaperflare.com/highlander-animal-fur-backdrop-background-

brown-hairy-bigfoot-wallpaper-aqxto

265

ในการออกแบบ จะใชเ้ สน้ เพือ่ สิง่ ตา่ งๆ ดงั นี้
- เปนเสนกรอบของรปู ภาพหรอื ขอความ
- สรางเสนกริด (Grid)
- เนนสวนสําคญั
- เช่อื มสวนประกอบตาง ๆ เขาดวยกัน
- สรางลวดลายดวยเสนรปู แบบตาง ๆ
- สรางอารมณใหโนมนําความรูสึก
- ใชในการแบงที่วางออกเปนสวน ๆ
- กําหนดขอบเขตของที่วาง โดยการทาํ ใหเกิดเปนรูปราง (Shape) ขนึ้ มา
- กาํ หนดเสนรอบนอกของรปู ทรง ทําใหมองรูปทรง (Form) ชดั ขึน้

2. รูปร่างและรูปทรง (Shape & Form)

ภาพที่ 9.10 รูปร่างและรูปทรง
ภาพจาก : https://thevirtualinstructor.com/shapes-into-forms.html
รูปราง (Shape) คือ รูปที่มีลักษณะ 2 มิติ มีความกวางกับความยาว ไมมีความหนา
เกิดจากเสน รอบนอกที่แสดงพื้นที่ขอบเขตของรูปตาง ๆ เชน รูปวงกลม รูปสามเหลี่ยม
รปู อิสระ เปนตน โดยแสดงเนือ้ ที่ ของผิวทีเ่ ปนระนาบมากกวาแสดงปริมาตรหรือมวล
รูปทรง (Form) คือ รูปที่มีลักษณะ 3 มิติ โดยจะแสดงความกวาง ความยาว และ
ความลกึ เชน รปู ทรงกลม รปู ทรงสามเหลี่ยม รูปทรงกระบอก เปนตน ใหความรูสึกมีปริมาตร
ความหนาแนน มีมวลสาร เราสามารถแบงรปู รางรูปทรงได 3 ประเภท ไดแก
2.1 รูปทรงเรขาคณิต (Geometric Shape/Form) เปนรูปทรงเรขาคณิต เป็น
รปู ทีใ่ หโครงสรางพื้นฐาน ของรปู ตาง ๆ มีเกณฑที่เกิดจากการสรางของมนุษย สามารถวัดหรือ

266

คํานวณได ใหความรูสึกตาม ลักษณะตาง ๆ เชน รูปสี่เหลี่ยมใหความรูสึกมั่นคง มีน้ำหนัก
รูปหลายเหลี่ยมใหความรูสึกเคลือ่ นไหว ไดบางเล็กนอย รปู ทรงกลมใหความรูสึกเคลื่อนไหวง
าย ไมหยดุ นิง่

ภาพที่ 9.11 รปู ทรงเรขาคณิต
ภาพจาก : https://ourhomeworkhelp.wordpress.com/2016/07/14/different-shapes/

2.2 รูปทรงอิสระ (Free Form) เปนรูปทรงที่เกิดขึ้นอยางอิสระ เปนรูปแบบ
โครงสรางที่ไมแนนอน ใหความรูสึกเคลื่อนไหว ลื่นไหล เปนอิสระ ซึ่งเกิดจากความคิดสราง
สรรคของผูออกแบบเอง ถามอง อยางวิเคราะหรูปรางอิสระอาจเกิดจากรูปเรขาคณิตหรือรูป
ธรรมชาติทีถ่ กู กระทาํ จนมีรปู ลักษณะ เปลีย่ นไปจากเดิม จนไมเหลือสภาพเดิม

ภาพที่ 9.12 รปู ทรงอิสระ
ภาพจาก : https://www.freepik.com/

267

2.3 รูปทรงธรรมชาติ (Natural Form) เปนรูปทรงที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตใน
ธรรมชาติ เชน คน สัตว พืช เปนตน ใหความรสู ึกมีชีวิต รูปทรงธรรมชาติไมใชการเลียนแบบ
ธรรมชาติ แตเปนการนํารูปทรงที่มี อยูตามธรรมชาติรอบตัวเรา เชน ดอกไม ใบไม สัตว แมลง
เปนตน มาใชเปนแมแบบในการออกแบบ และสรางสรรค โดยยังคงใหความรูสึกและรูปทรงที่
เปนธรรมชาติอยู รปู ทรงไมไดเปลีย่ นไปมากนัก

ภาพที่ 9.13 รปู ทรงธรรมชาติ
ภาพจาก : https://www.freepik.com/
ในการออกแบบ จะใชร้ ูปรา่ งรปู ทรงเพื่อสิง่ ตา่ งๆ ดงั นี้
- จัดวางขอความอยูภายในกรอบที่มรี ปู รางรปู ทรงแบบตาง ๆ
- สรางสง่ิ พิมพรูปแบบใหม ๆ
- ใสสีใหเปนรูปทรงตาง ๆ บนขอความทีต่ องการเนนหรอื ดึงดูดความสนใจ
- ทาํ รูปทรงเฉพาะขึน้ แทนสัญลกั ษณตาง ๆ
- ตัดกรอบภาพเปนรูปทรงที่แปลกออกไป เพื่อใหดูนาสนใจขึ้น

268

3. พ้นื ผิว (Texture)

ภาพที่ 9.14 พืน้ ผวิ

ภาพจาก : https://www.123rf.com/photo_47992471_illustrated-frozen-ice-texture.html
https://www.photoblog.com/
https://expertphotography.com/

https://photography.tutsplus.com/

หมายถึง พื้นผิวของรูปรางหรือรูปทรงตาง ๆ ทั้งที่มีอยูในธรรมชาติและที่มนุษย สราง
ขึ้น มีลักษณะตาง ๆ กัน ทั้งที่มีลักษณะผิวหยาบ ผิวขรุขระ ผิวดาน ผิวละเอียด และผิวมัน ซึ่ง
เราสามารถ รับรูลักษณะของพื้นผิวไดดวยการมองเห็น หรือการสัมผัสบนผิวหนาของงาน
ออกแบบพื้นผิวที่ไมเหมือนกัน ทําใหงานออกแบบประเภทเดียวกันดูแตกตางกัน นอกจากนี้
พืน้ ผิวยังชวยเพิ่มมิติใหกับงานออกแบบอีกดวย พืน้ ผิวแบงได 2 ลักษณะ ไดแก

3.1 พื้นผิวที่สัมผัสไดดวยมือ เปนลักษณะพื้นผิวที่เปนอยูจริง ๆ ของผิวหนา
ของวัสดุนั้น ๆ พื้นผิว ลักษณะนี้จะพบเห็นในงานออกแบบที่มีลักษณะ 2 มิติ และ 3 มิติ ซึ่ง
สามารถสัมผสั ได เชน งานประตมิ ากรรม งานสถาปตยกรรม สิง่ ประดิษฐตาง ๆ เปนตน

269

ภาพที่ 9.15 พ้ืนผิวทีส่ มั ผัสไดดวยมอื

ภาพจาก :
https://wichai885.files.wordpress.com/2013/09/e0b89be0b8a3e0b8b0e0b895e0b8b41.jpg
https://www.maxpixel.net/The-Statue-The-Art-Of-Leonardo-Da-Vinci-Sculpture-3235368

3.2 พืน้ ผิวทีส่ ัมผัสไดดวยสายตา ไมใชลักษณะทีแ่ ทจรงิ ของผวิ วัสดุ เชน การ
วาดภาพกอนหินบนกระดาษ จะใหความรูสึกจากการสัมผัสดวยตาวาเปนกอนหินแตมือ
สัมผัสเปนกระดาษ เปนการสรางพื้นผิว ลวงตาใหสัมผัสไดดวยการมองเห็น พื้นผิวลักษณะต
าง ๆ ใหความรูสึกตองานศิลปะที่ตางกัน พื้นผิวหยาบจะใหความรูสึกหนักแนน มั่นคง และ
แขง็ แรง พ้ืนผิวเรียบจะใหความรสู ึกเบาสบาย

ภาพที่ 9.16 พื้นผิวทีส่ ัมผัสไดดวยสายตา
ภาพจาก : https://www.pinterest.com/ , https://besthqwallpapers.com/


Click to View FlipBook Version