The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Narin Nonthamand, 2021-05-04 13:58:10

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

480

พื้นผิวที่สว่าง - พื้นผิวผ้าอลูมิไนซ์หรืออลูมิเนียมฟอยล์เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวสะท้อนแสงที่มี
ประสิทธิภาพ ในบางรุ่นที่มีวางจำหน่ายทั่วไปนั้นดิฟฟิวเซอร์สามารถถอดออกได้เพื่อให้
สามารถใช้ไฟเพียงอย่างเดียวเปน็ ไฟฟลัดไลท์หรือกับตวั สะท้อนร่ม กลอ่ งซอฟต์บ็อกซ์สามารถ
ใช้กับแฟลชหรือแหล่งกำเนิดแสงแบบต่อเนื่องเช่นหลอดฟลูออเรสเซนต์หรือ "ไฟร้อน" เช่น
หลอดฮาโลเจนควอทซ์หรือหลอดทังสเตน หากใช้ไฟซอฟต์บ็อกซ์กับแหล่งกำเนิดแสง "ร้อน"
ช่างภาพจะต้องแน่ใจว่าซอฟต์บ็อกซ์ได้รับการจัดระดับความร้อนสำหรับวัตต์ของไฟที่ติดเพื่อ
หลีกเลี่ยงอนั ตรายจากไฟไหม้ (Wikipedia, 2019)

ภาพที่ 11.128 ซอฟตบ์ ็อกซ์

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/photography/buying-guide/a-guide-to-choosing-umbrellas-and-softboxes

นอกจากนี้กล่องซอฟต์บ็อกซ์ยังใช้ในการปรับขนาดของ
แหล่งกำเนิดแสงที่มีขนาดเล็กลงและเพิ่มขนาดของแหล่งกำเนิดแสงที่เล็กลงและแหล่งกำเนิด
แสงแบบกระจายไม่ต่างจากร่มโดยมีข้อแตกต่างที่น่าสังเกตเล็กน้อย ซอฟต์บ็อกซ์ควบคุม
รูปร่างและทิศทางของแสงได้มากกว่าร่มและป้องกันไม่ให้แสงรั่วไหลมากขึ้น ซอฟต์บ็อกซ์
เนื่องจากโดยทั่วไปมักเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าจึงมีข้อได้เปรียบในการผลิตแสงที่ดูเป็นธรรมชาติ
โดยการเลียนแบบรูปร่างของหน้าต่าง เช่นเดียวกับร่มซอฟต์บ็อกซ์มีให้เลือกหลายรูปทรงและ
ขนาดและสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับหัวข้อได้ ซอฟต์บ็อกซ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าจะให้แสงที่
นมุ่ นวลกว่า แต่ยงั ตอ้ งการแสงที่มากขึ้นเพื่อใหเ้ ต็มซอฟต์บอ็ กซ์ทั้งหมดอย่างเพียงพอ หากคุณ
กำลังถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือในงานแต่งงานโดยเปิดแฟลชหรือปิดกล้องเพียงอย่างเดียว
ซอฟต์บ็อกซ์ที่มีขนาดเล็กกว่าจะเป็นคู่หูที่เหมาะสำหรับการกระจายแสงอย่างง่ายดายในวัตถุ
เดี่ยวในระยะที่ใกล้ขึ้น สำหรับการถ่ายภาพเป็นกลุ่มหรือแบบเต็มตัวกล่องซอฟต์บ็อกซ์ขนาด
ใหญข่ ึ้นหรอื ซอฟตบ์ ็อกซห์ ลายตวั เป็นตวั เลือกที่เหมาะสมกว่าสำหรบั การจดั แสงที่นุ่มนวล ตาม
กฎทั่วไปขนาดของซอฟต์บ็อกซ์ควรมีขนาดใกล้เคียงกับวัตถุของคุณโดยประมาณ หมายถึงเฮ
ดช็อตหรือฮาล์ฟช็อตอาจต้องใช้ซอฟต์บ็อกซ์ในระยะประมาณ 18 ถึง 24 "ในขณะที่การ
ถ่ายภาพเต็มตัวอาจต้องใช้ซอฟต์บ็อกซ์หลายตัวในระยะ 48" หรือมากกว่า นอกเหนือจาก
ซอฟต์บ็อกซ์ที่มีขนาดแตกต่างกันแล้วรูปร่างที่แตกต่างกันยังช่วยให้สามา รถเปลี่ยนคุณภาพ

481

ของแสงได้อีกด้วย สิ่งนี้สามารถเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายภาพบุคคลจาก
ระยะใกล้เนื่องจากรูปร่างของแหล่งกำเนิดแสงที่ใช้มักจะเห็นได้จากแสงสะท้อนในดวงตาของ
พวกเขา (เรียกว่าไฟ "จับ") ซอฟต์บ็อกซ์มีให้เลือกหลายรูปทรงเช่นสี่เหลี่ยมสี่เหลี่ยมจัตุรัสแปด
เหลี่ยมหรือเส้นยาวบาง ๆ รูปทรงที่พบน้อย ได้แก่ หกเหลี่ยมพาราโบลาและกลม เอฟเฟกต์
ของแต่ละรูปทรงเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับตัวแบบที่เฉพาะเจาะจงและสามารถใช้ร่วมกันเพื่อ
พัฒนาภาพที่มีความรอบรู้ซึ่งเก็บเกี่ยวประโยชน์จากสิ่งนั้นได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นผิวภาย ในที่
แตกต่างกันเช่นเดียวกับร่มสีเงินหรือสีขาวและจะเปลี่ยนคุณภาพของแสงที่ส่งออกไป ซับในสี
เงินจะให้รูปลักษณท์ ี่โดดเด่นยิ่งขึ้นพร้อมคอนทราสตแ์ ละการส่งผ่านแสงที่มากขึ้นในขณะที่ซับ
ในสีขาวเหมาะอย่างยิง่ สำหรบั การรกั ษาสีที่เปน็ กลาง (Bjorn Petersen, 2019)

ขนาดของ Softbox ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ โดยคำนึงถึงขนาด
ต่อวัตถุที่ต้องการถ่ายสิ่งนี้ก็มีผลกระทบต่อความแข็งหรือความนุ่มนวลของแสง คุณสามารถ
เลื่อน Softbox ให้เข้าใกล้หรือไกลออกไปเพือ่ ควบคุมความแขง็ หรอื ความน่มุ นวลของแสง ซึ่งถ้า
ขนาดของ Softbox มีขนาดใหญ่กว่าวัตถุแล้วโดยมากจะให้แสงที่ค่อนข้างดีและนุ่มนวลเหมาะ
กับการถา่ ยภาพ แต่ก็อยา่ ลืมปรบั เปลี่ยยนกำลังไฟใหเ้ หมาะสมอีกด้วยในปัจจบุ ันมีโคมไฟที่เน้น
ขนาดแต่ไมค่ ำนงึ ถึงกำลังไฟ และ การวางการกระจายแสงภายในซึง่ เป็นจดุ เด่นสำคญั ที่ซ่อนกัน
ไว้เพื่อการขาย ไมค่ ำนึงถึงการใชง้ านจรงิ ๆ

ภาพที่ 11.129 ซอฟตบ์ ็อกซ์ และขาตั้ง

ภาพจาก : https://www.lookcamera.com/article/63/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2-softbox-
%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0

%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81-
%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0

%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3

482

รูปร่างของ Softbox ของคุณจะไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อ
แสงทีล่ ้อมรอบตัวแบบของคุณแต่ยงั รวมถึงส่ิงต่าง ๆ เชน่ การจบั แสงและการสะท้อนดังนั้นการ
ใช้ Octabox จะไม่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดถ้าคุณถ่ายภาพขวดสะท้อนแสงสูง และ Rectangular
Softbox ก็จะเหมาะกับงานที่ต้องการควบคุมรูปแบบแสงให้เป็นเส้นมากกว่าแบบอื่นๆ เป็นต้น
การวางต่ำแหน่งของโคมไฟ Softbox น้ันมีความสำคญั มากๆ ในการเลือกใหแ้ สงกระจายส่องไป
ยังจุดที่ต้องการ โฟกัส โดยปกติจะวางไว้ต่ำแหน่งที่สูงแล้วกดแสงส่องลงในระดับพอดี แต่ใน
บางครง้ั โคมไฟก็อาจจะต้องวางต่ำกว่าศรีษะในกรณีที่ต้องการโฟกัสที่มอื ของบคุ คลที่กำลังถ่าย
วิดีโอ ทำอาหาร งานฝีมือเป็นต้น เพื่อให้แสงโชว์ความสวยงามของการเคลื่อนไหวในต่ำแหน่ง
น้ันไดอยา่ งชดั เจน (lookcamera, 2020)

ภาพที่ 11.130 การจดั แสงโดยใช้ซอฟตบ์ อ็ กซ์
ภาพจาก : https://www.adorama.com/alc/best-lighting-for-youtube-videos/

แสงซอฟต์บ็อกซจ์ ะเลียนแบบแสงธรรมชาติทีม่ าจากหน้าต่าง
ซึ่งเหมาะสำหรับการจัดแสงด้านหน้า การครอบคลุมที่กว้างทำให้เหมาะสำหรับการทำให้เงา
อ่อนลงและทำให้บริเวณที่วางมันสว่างขึ้น ซับด้านในสีเงินสะท้อนแสงหรือสีขาวกลางสามารถ
ใช้เพื่อปรับเปลี่ยนคุณภาพของแสงที่ผลิตได้ ไฟซอฟต์บ็อกซ์มักเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือ
สี่เหลี่ยม แต่ยังมีรูปแปดเหลี่ยมหกเหลี่ยมแถบยาวพาราโบลาและทรงกลมด้วย ซอฟต์บ็อกซ์
เป็นกล่องที่สร้างขึ้นรอบแหล่งกำเนิดแสงที่ต่อเนื่องซึ่งทำจากวัสดุภายในสะท้อนแ สงและแผง
กระจายแสงด้านหน้าเพื่อลดความรุนแรงของแสง คุณสามารถใช้ซอฟต์บ็อกซ์อย่างน้อยหนึ่ง
กล่องและวางไว้ที่มุม 45 องศาเพื่อเพิ่มมิติให้กับชุดของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกใช้
สองอนั ในแต่ละด้านของการตั้งค่าของคณุ เพื่อกำจัดเงา

ไฟซอฟต์บอ็ กซ์จะปล่อยแสงที่ดูเป็นธรรมชาติในพื้นที่เดียวทำ
ให้เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอในร่ม ใช้กันอย่างแพร่หลายในการรีวิวผลิตภัณฑ์การแสดง

483

ทำอาหารการทำวิดีโอบล็อกในห้องและวิดีโออื่น ๆ ที่อาศัยแสงกระจาย นี่คือวิธีเปรียบเทียบ
กับไฟในห้องมาตรฐาน

ลกั ษณะของ Softbox Lighting
- ใช้แผงกระจายแสงเพื่อสรา้ งแสงธรรมชาติ
- ครอบคลุมกว้างและแบน
- มาในรูปทรงและขนาดทีแ่ ตกต่างกนั
- มีพ้ืนผิวภายในสีเงนิ หรอื สีขาว
- ต้องมีการต้ังค่า
- เหมาะสำหรับการทำวิดโี อบล็อกในร่มบทวิจารณ์

ผลติ ภัณฑ์และรายการทำอาหารสินค้าแนะนำ

ภาพที่ 11.131 Softbox
ภาพจาก : https://www.adorama.com/alc/best-lighting-for-youtube-videos/

Flashpoint Solo Softbox เหมาะอย่างยิง่ สำหรับวิดโี อ
แฟชั่นและความงาม นอกจากนี้ยงั เหมาะอย่างยิง่ สำหรับการถ่ายภาพบคุ คลเนื่องจากสามารถ
จับแสงทีน่ ุ่มนวลและเปน็ ธรรมชาติซึง่ สามารถขบั เน้นลักษณะใบหนา้ ทีด่ ที ีส่ ดุ ของบุคคลได้ แสง
ทีส่ รา้ งข้ึนจะทำให้วัตถุของคุณอาบน้ำด้วยแสงอนุ่ ในขณะทีใ่ ห้แสงเงาทีล่ ะเอียดอ่อน Flashpoint
Solo Softbox มีน้ำหนักเบา แตใ่ ชง้ านได้มีแฟลชทีร่ วมคุณสมบัติทั้งหมดของไฟแฟลช 150 WS
ระดับมอื อาชีพ ขาตั้งไฟอะลูมิเนยี มด้านหลงั เป็นแบบพกพาและสามารถเก็บร่มขนาดใหญแ่ ละ
การตงั้ ค่าซอฟต์บอ็ กซ์ได้

484

ภาพที่ 11.132 Softbox
ภาพจาก : https://www.adorama.com/alc/best-lighting-for-youtube-videos/

ต้องการโซลชู ันระบบแสงซอฟต์บ็อกซ์ต่อเนื่องแบบออล - อิน
- วันในแพ็คเกจเดียวหรือไม่? หันไปหา Smith-Victor 2000 Watt Pro Softbox Two Light Kit
คุณสามารถใช้หลอดฮาโลเจนควอทซ์ 500 วัตต์หรือ 1000 วัตต์เพื่อเป็นแหล่งกำเนิดแสงที่
ต่อเนื่อง ระบบใช้หลอดฮาโลเจนเชิงเส้นทังสเตนที่ปรับสมดุลความเข้มสูงและความนุ่มนวลที่
เหมาะสมหากคุณกำลังวางแผนการถ่ายทำระยะยาวคุณสามารถใช้ชุดอุปกรณ์นี้ได้ ซอฟต์
บ็อกซ์มีช่องระบายความร้อนและทำจากซับเงินทนความร้อนซึ่งสามารถทนความร้อน จาก
หลอดไฟได้มากถึง 1000W เป็นระยะเวลานาน

- Led

ภาพที่ 11.133 หลอดแอลอีดี

ภาพจาก : https://www.lightworddesign.org/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AA%E0%B
8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9F-led-

%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B9%89/

485

light-emitting diode หรอื ย่อว่า LED เป็นอุปกรณส์ ารกึ่งตัวนำ
อย่างหนึ่ง จัดอยู่ในจำพวกไดโอด ที่สามารถเปล่งแสงในช่วงสเปกตรัมแคบ เมื่อถูกไบอัสทาง
ไฟฟ้าในทิศทางไปข้างหน้า ปรากฏการณ์นอี้ ยใู่ นรปู ของ electroluminescence สีของแสงที่เปล่ง
ออกมานั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีของวัสดุกึ่งตัวนำที่ใช้ และเปล่งแสงได้ใกล้ช่วง
อลั ตราไวโอเลต ชว่ งแสงที่มองเห็น และช่วงอินฟราเรด ผพู้ ัฒนาไดโอดเปล่งแสงขึ้นเป็นคนแรก
คือ นิก โฮโลยัก (Nick Holonyak Jr.) (เกิด ค.ศ. 1928) แห่งบริษัทเจเนรัล อิเล็กทริก (General
Electric Company) โดยได้พัฒนาไดโอดเปล่งแสงในช่วงแสงที่มองเห็น LED สามารถเปล่งแสง
ออกมาได้แสงที่เปลง่ ออกมาประกอบด้วยคลื่นความถี่เดียวและ เฟสต่อเนือ่ งกัน ซึ่งต่างกับแสง
ธรรมดาที่ตาคนมองเห็น โดย หลอดLED สามารถเปล่งแสงได้เมื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าเพียง
เล็กน้อยเท่านั้น และประสิทธิภาพในการให้แสงสว่างกย็ ังดีกว่าหลอดไฟขนาดเลก็ ทั่วๆ ไป LED
โดยทั่วไปมี 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือLED ชนิดที่ตาคนเห็นได้ กับชนิดที่ตาคนมองไม่เห็นต้องใช้
ทรานซิสเตอร์มาเป็นตัวรับแสงแทนตาคน ปัจจุบันจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของ
เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้เทคโนโลยีของ LED ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วตามไปด้วย. LED
ได้ถูกพฒั นาข้นึ เรอ่ื ยๆ ทั้งในด้านสขี องแสงที่เปลง่ ออกมา ไม่วา่ จะเปน็ สีแดง ,สีเขียว ,สีส้ม หรือ
ที่ผลิตได้ท้ายสุด และทำให้วงการแอลอีดีพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วคือสีน้ำเงิน ซึ่งการเกิดขึ้นของ
แอลอีดสี ีนำ้ เงินนี้ ทำให้ครบแม่สี 3 สี คือ สีแดง สีเขียว และสีนำ้ เงิน และเกิดเปน็ จดุ เริ่มต้นของ
จอแอลอีดี และแอลอีดีในงานไฟประดับต่างๆ, ทั้งยังใช้ประโยชน์แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น
ในเครื่องคิดเลข สัญญาณจราจร ไฟท้ายรถยนต์ ป้ายสัญญาณต่างๆ ไฟฉาย ไฟให้สัญญาณ
ของประภาคาร จอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ ยิง่ ไปกวา่ น้ัน หนา้ จอ LCD ของโทรศพั ท์มือถือที่เราใช้
กันทัว่ ไป เกือบท้ังหมดจะให้แสงสวา่ งด้วย LED

ภาพที่ 11.134 หลกั การทำงานของหลอด LED

ภาพจาก : https://ra-light.com/th/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9F-
led-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD/

โครงสรา้ งประกอบไปด้วยสารกึ่งตัวนำสองชนิด (สาร
กึ่งตัวนำชนิด N และสารกึ่งตัวนำชนิด P) ประกบเข้าด้วยกัน มีผิวข้างหนึ่งเรียบคล้ายกระจก

486

เมื่อจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงผ่านตัว LED โดยจ่ายไฟบวกให้ขาแอโนด (A) จ่ายไฟลบให้ขาแคโทด
(K) ทำให้อิเล็กตรอนที่สารกึ่งตัวนำชนิด N มีพลังงานสูงขึ้น จนสามารถวิ่งข้ามรอยต่อจากสาร
ชนิด N ไปรวมกับโฮลในสารชนิด P การทีอ่ ิเลก็ ตรอนเคลื่อนที่ผ่านรอยต่อ PN ทำให้เกิดกระแส
ไหล เป็นผลให้ระดับพลังงานของอิเล็กตรอนเปลี่ยนไปและคายพลังงานออกมาในรูปคลื่นแสง
(Ralight, 2019)

รปู แบบของ LED
ปัจจบุ นั แอลอดี ีมีหลายรูปแบบ หากแบ่งตามลักษณะ
ของ Packet แบ่งได้ 2 แบบคือ
1. แบบ Lamp Type

ภาพที่ 11.135 LED แบบ Lamp Type

ภาพจาก : https://ra-light.com/th/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9F-
led-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD/

เป็นแอลอดี ีชนิดทีพ่ บกนั อยู่ท่ัวไปมีขายื่นออกมาจาก
ตวั Epoxy 2 ขาหรอื มากกว่า โดยมีขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลางตง้ั แต่ 3 mm. ขึน้ ไป บริษทั ผผู้ ลติ
จะออกแบบให้ขบั กระแสได้ไม่เกิน 150 mA

2. แบบ Surface Mount Type (SMD)

ภาพที่ 11.136 – 11.137 LED แบบ Surface Mount Type
(SMD)

ภาพจาก : https://ra-light.com/th/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9F-
led-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD/

487

มีลักษณะ packet เป็นตัวบาง ๆ เวลาประกอบต้องใช้
เครื่องมือชนิดพิเศษมี ขนาดการขับกระแสตั้งแต่ 20 mA – 1 A สำหรับแอลอีดีแบบ SMD ถ้า
ขับกระแสได้ตั้งแต่ 300 mA ขึ้นไป จะเรียกว่า Power LED การใช้งานส่วนใหญ่จะใช้ภายใน
เนื่องจากสารเคลือบหน้าหลอดแอลอีดีส่วนใหญ่จะเป็นซิลิโคน ซึ่งละอองน้ำหรือความชื้น
สามารถซึมผา่ นได้

ประเภทของ LED
LED จำแนกออกเปน็ ประเภทต่างๆ ดงั นี้
1. LED แบบดั้งเดิม

ภาพที่ 11.138 LED แบบด้ังเดิม
ภาพจาก : https://www.klcbright.com/LEDis.php

กำลังวัตต์น้อย ขนาดหรือรูปร่างหรือสีขึ้นอยู่กับ
พลาสตกิ ทีใ่ ชท้ ำเปลือกหมุ้ ใชท้ ำไฟสัญลกั ษณ์ในวงจร

2.LED ขนาดเล็กมาก

ภาพที่ 11.139 LED ขนาดเล็กมาก
ภาพจาก : https://www.klcbright.com/LEDis.php

ใช้เทคโนโลยีการเชื่อมเมด็ LED ติดลงไปกับแผงวงจร
หรือที่เรียกว่า Surface Mounting Technology (SMT) ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับการประกอบ
ชิ้นส่วนอิเลคโทรนิคและsemi-conductorขนาดเล็ก ในบางครั้งก็เรียก LED ชนิดนี้ว่า Surface
Mounting Device LED หรอื SMD LED

488

3.LED กำลงั สูง

ภาพที่ 11.140 LED กำลงั สูง
ภาพจาก : https://www.klcbright.com/LEDis.php

LED กำลังสูง หรือ Hi-power LED เป็น LED ชนิดที่ให้
กำลังสูง ให้ความสว่างมาก ต้องการกระแสขับสูงถึง 100mA บางรุ่นอาจต้องการกระแสขับถึง
1A ดังนั้นการระบายความร้อนสำหรับ LED ชนิดนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าระบายความร้อนไม่ดี
อาจจะทำให้พังหรือเสียในภายในไม่กี่วินาที LED ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะใช้ทำอุปกรณ์ให้แสงสว่าง
หรอื จะเข้ามาทดแทนหลอดไฟที่ใช้อยู่ในปจั จุบัน

การต่อวงจร
ด้วยภายในไดโอดเปล่งแสงหรอื LED มีคา่ ความ
ต้านทานอย่คู ่าหนึง่ (Rd) จะทำให้แสงเปลง่ ออกมาได้ตอ้ งมกี ระแส (I) ไหลผ่านทีม่ ากพอแต่ตอ้ ง
ไมม่ ากจนเกินไป การควบคุมกระไหลผ่าน LED ให้พอดี เราจึงจำเปน็ ต้องทราบคณุ สมบัติที่
สำคญั 2 อย่างของ LED คือ
1. แรงดนั ตกครอ่ มเมอื่ มีกระแสไหลผา่ น (Forword
Valtage:Vf)
2. กระแสที่ LED ต้องการ (Imax) ส่วนสิง่ ทีเ่ ราต้อง
คำนวณหาคือ R ภายนอกที่มาตอ่ เพิ่ม เพื่อจำกัดกระแส และแรงดนั สำหรบั จ่ายไฟซึ่งเราทราบ
อยแู่ ล้ว\
วิธีการหาค่า R ใช้สตู รง่ายๆ กฏของโอหม์
V=IR

489

V=(Vdc-Vf)
ดังนน้ั R=(Vdc-Vf)/I โอห์ม
การต่อวงจรของ LED ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงจ่ายไฟ
บวกกระแสตรงเข้าที่ขา อาร์โนด (Anode) หรือขาที่ยาวกว่า และต่อไฟลบเข้ากับขา แคโธด
(Cathode )หรอื ขาสั้น และตอ่ อนกุ รมวงจรดว้ ย R ภายนอกทีเ่ ราคำนวณมาได้ ดังรูปข้างลา่ ง

ภาพที่ 11.141 การต่ออนุกรมวงจรด้วย R
ภาพจาก : https://www.klcbright.com/LEDis.php

ตัวต้านทานหรือ R ภายนอกที่นำมาใช้จำกัดกระแส
เมื่อมีกระแสไหลผ่านก็มีความร้อนเกิดขึ้นเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในการออกแบบหลอดไฟ
LED อีกอย่างหนึ่งคือการระบายความร้อน และการเลือกตัวต้านทานหรือ R ที่ทนความร้อนได้
ดี

การระบายความร้อน
โดยหลักการแล้วในไดโอดเปล่งแสงหรือ LED แบบ
ทั่วๆไปจะเปล่งแสงโดยมีความร้อนเกิดขึ้นน้อยมากจนเราสามรถใช้มือเปล่าสัมผัสได้ แต่ใน Hi
Power LED หรอื LED กำลงั สงู ทีใ่ ห้แสงสวา่ งมากๆ มีความรอ้ นเกิดข้ึนมาก การออกแบบระบบ
ระบายความร้อนจงึ มีความสำคญั อปุ กรณ์สำคัญอย่างหน่ึงที่ต้องใส่เพิ่มเข้ามาในระบบคือแผง
ระบายความร้อนหรือที่เรียกว่าฮีทซิงค์ (Heat Sink) ส่วนใหญ่ทำมาจาก อลูมิเนียมซึ่งมี
คณุ สมบตั ิคอื หลอมข้ึนรปู ได้ง่าย น้ำหนกั เบา และพาความรอ้ นได้ดี

ภาพที่ 11.142 Heat sink แบบตา่ งๆ
ภาพจาก : https://www.klcbright.com/LEDis.php

490

ทั้งนี้ การออกแบบฮีทซิงค์ นอกจากจะคำนึงถึงการระบายความร้อนแล้ว ยังต้อง
คำนึงถึง ให้รูปทรงเป็นตามลักษณะของหลอดไฟอีกด้วย การออกแบบระบบระบายความร้อน
ทีด่ ี จะชว่ ยให้อายกุ ารใช้งานของ หลอดไฟLED แตใ่ นทางตรงกนั ข้ามการออกแบบ heat sink ที่
ไม่ดีย่อมทำให้ความร้อนสะสมในหลอด LED มาก ผลก็คืออายุของ LED จะสั้นลงและไม่เปน็ ไป
ตามผู้ผลิตกำหนดไว้นั่นเอง

LED On-Camera Lights

ภาพที่ 11.143 – 11.144 LED On-Camera Lights
ภาพจาก : https://www.adorama.com/alc/best-lighting-for-youtube-videos/

ไฟ LED บนกล้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือทรง
สี่เหลี่ยมและสี่เหลี่ยม โดยทั่วไปจะติดตั้งไว้ที่ด้านบนของกล้องและทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิด
แสงต่อเนื่องสำหรับวัตถุที่อยู่ด้านหน้าโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งบนขาตั้งเพื่อสร้าง
แสงที่มีทิศทางและสร้างสรรค์ ในกรณีส่วนใหญ่ไฟออนแคม LED มีราคาย่อมเยากว่าซอฟต์
บ็อกซ์ร่ม และไฟวงแหวน เชน่ เดียวกบั ซอฟต์บอ็ กซ์ไฟกล้อง LED ทรงสเ่ี หลีย่ มหรอื สี่เหลีย่ มเป็น
ไฟหน้าต่างที่คล้ายกันยกเว้นว่ามีขนาดเล็กกว่าและพกพาสะดวกกว่า พวกเขามีหลอด LED
ขนาดเล็กหลายร้อยหลอดที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างแสงสว่างที่สม่ำเสมอโดยไม่มี "จุดร้อน"
เป็นศูนย์ แม้ว่าขนาดที่เล็กจะ จำกัด กำลังไฟ แต่ไฟ LED ในปัจจุบันสามารถผลิตได้มากกว่า
หนึ่งพันลูเมนเพื่อให้แหล่งกำเนิดแสงที่เสถียร ไฟประเภทนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการ
บันทึกวิดีโอการเดินทางหรือการบันทึกระหว่างเดินทางประเภทอืน่ ๆ เนือ่ งจากใช้พลังงานจาก
แบตเตอรีแ่ ละพกพาได้ การถา่ ยภาพกลางแจ้งมกั จะทำให้แสงสลวั และไม่สม่ำเสมอดังนั้นแม้ว่า
คุณจะอยู่กลางแจ้ง แต่การมีไฟในกล้องก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดี และแม้ว่าคุณจะไม่ได้ถา่ ยภาพ
กลางแจ้งคุณก็ยังสามารถใช้ไฟ LED ได้หากคุณต้องการตัวเลือกที่ประหยัดกว่าตัวปรับแต่ง
แสง (Bjorn Petersen, 2019

491

ลกั ษณะของ LED On-Camera Lights
- ใช้หลอด LED ขนาดเลก็ หลายรอ้ ยหลอด
- สร้างแสงทิศทางทีส่ ม่ำเสมอ
- มาในรปู ทรงและขนาดที่แตกต่างกัน
- พลงั งานและอุณหภูมิสที ี่ปรบั แต่งได้
- แบบพกพาและใช้แบตเตอรี่
- เหมาะสำหรบั การทำวิดโี อบล็อกขณะเดินทาง
- ring light

ภาพที่ 11.145 ring light
ภาพจาก : https://www.bigcamera.co.th/article/review-led-viltrox-ring-light-2020-3.html

ไฟวงแหวนเป็นเครื่องมือจัดแสงแบบวงกลมที่ให้แสงสว่างแก่
วัตถุในภาพถ่ายระยะใกล้อย่างเท่าเทียมกัน ไฟวงแหวนเป็นที่นิยมในการถ่ายภาพบุคคล
นอกเหนอื จากการจดั แสงในสตูดิโอโดยรวมแล้วช่างภาพมอื อาชีพหรอื นักถ่ายวิดีโออาจใช้ไฟวง
แหวนเพือ่ ใหแ้ น่ใจวา่ ใบหน้าของตวั แบบของพวกเขาสว่างสม่ำเสมอด้วยแสงที่นุ่มนวลและน่าพึง
พอใจ ในยุคของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนไฟวงแหวน LED เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการ
ถ่ายภาพที่พบมากขึ้นเรื่อย ๆ ไฟวงแหวนเซลฟี่บางดวงติดเข้ากับสมาร์ทโฟนของคุณโดยตรง
ชดุ ไฟวงแหวนอ่นื ๆ อาจรวมถึงขาตั้งกล้อง และที่ชารจ์ นอกเหนือจากไฟวงแหวน LED

แสงวงแหวนทำให้เกิดแสงที่นุ่มนวลและตรงไปยังวัตถุโดยลด
เงาให้เหลือน้อยที่สุด เมื่อคุณถ่ายภาพโดยใช้ไฟวงแหวนให้วางเลนส์กล้องไว้ตรงกลางวงแหวน

492

เพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุของคุณจะสว่างจากทิศทางของกล้องอย่างเท่าเทียมกัน แหล่งกำเนิดแสง
อืน่ ๆ อาจให้แสงที่สวยงามในบางส่วนของวัตถุในขณะทีป่ ล่อยใหแ้ สงอ่ืน ๆ อยู่ในเงามืด ในทาง
ตรงกนั ข้ามไฟวงแหวนที่ติดต้ังอย่างเหมาะสมบนขาตั้งไฟจะใหค้ วามสม่ำเสมอกับพื้นผิวที่สว่าง
ไฟวงแหวนเรืองแสงใหแ้ สงสีขาวที่ค่อนข้างสว่าง (นีค่ อื เนือ้ แท้ของหลอดฟลอู อเรสเซนต์ไม่ใช่ไฟ
วงแหวนโดยเฉพาะ) ไฟวงแหวนส่วนใหญ่ในปัจจุบันใช้ไฟ LED ซึ่งโดยทั่วไปจะมีเอฟเฟกต์ที่
นุ่มนวลกว่า ไฟวงแหวน LED หลายดวงหรี่แสงได้ไมว่ า่ จะผ่านทางหรี่ออนบอร์ดหรือแอพสมาร์
ทโฟน ไฟวงแหวนแบบหรี่แสงได้มอบความคล่องตัวและการควบคุมอุณหภูมิสีที่มากขึ้นและ
โดยทั่วไปแล้วจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ และวิดีโอระดับมืออาชีพ
(MasterClass, 2020)

Ring Lighting เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ YouTube ท้ายที่สุดมันเป็น
แหล่งกำเนิดแสงที่สวยงามสำหรับสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพที่หลากหลาย นอกจากนี้ยัง
กำจัดเงาส่วนใหญ่และสร้าง "รัศมี" ที่จับตา มีขนาดเล็กกว่าพกพาสะดวกและติดตั้งง่ายมาก
เพียงแค่เสียบเข้ากับเต้ารบั และวางไว้ตรงหนา้ คุณหรอื วตั ถุของคุณ ผลลพั ธ์: แหลง่ กำเนิดแสงที่
สดใสและสม่ำเสมอแทนที่จะใช้แหล่งกำเนิดแสงหลายแหล่งเพื่อล้อมรอบใบหน้าของวัตถุและ
กำจัดเงารูปทรงวงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ของไฟวงแหวนทำหน้าที่เป็นโซลูชันแสงเดียว รูตรง
กลางจะป้องกันไม่ให้แสงพุ่งไปที่กึ่งกลางใบหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวแบบของคุณดูแบน
หลอดไฟทรงกลมมักมาพร้อมกบั แผ่นกระจายแสงภายนอกเพื่อให้ท้ังแสง และเงานุ่มนวล แสง
วงแหวนเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการส่องสว่างใบหน้าซึ่งเป็นสาเหตุที่ช่องเสริมความงามนิยมใช้
มากกว่า หากคุณเคยดูรีวิวการแต่งหน้าหรือบทแนะนำคุณจะรู้ว่าวิดีโอนี้เป็นเนื้อหาหลักใน
วิดีโอเกี่ยวกับการแต่งหน้า เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์แสงที่ดีที่สุดให้วางทั้งกล้องและไฟวงแหวนไว้
ด้านหน้าคุณหรือตัวแบบของคุณที่ระดับใบหน้า แต่ถ้าคุณต้องการทดลองคุณสามารถลองใช้
ไฟวงแหวนจากด้านข้างเพื่อให้ดูนา่ ทึง่ ยิ่งข้ึน (Bjorn Petersen, 2019)

ลกั ษณะของไฟวงแหวน
- ใช้หลอดไฟชนดิ วงแหวนกระจาย
- กำจัดเงาส่วนใหญ่
- สร้างประกายรัศมีที่น่าดึงดดู สำหรับดวงตา
- มีหลายขนาด
- ติดตั้งงา่ ย
- เหมาะสำหรบั วิดีโอความงามและการแต่งหน้า

493

วิธีในการใช้ไฟวงแหวน
1. สำหรับการถ่ายภาพมาโคร : ในการถ่ายภาพมา
โคร - การถา่ ยภาพวตั ถุขนาดเล็กมากในระยะใกล้ - ไฟวงแหวนช่วยให้ได้แสงทีส่ มดลุ อยา่ งเท่า
เทียมกันในทุกช็อต ไฟวงแหวนที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของกล้องช่วยให้ช่างภาพมาโครได้แสงที่
สมำ่ เสมอในแต่ละภาพใหม่
2. สำหรับภาพระยะใกล้ที่มีรายละเอียดสูง : ไฟวง
แหวนเป็นตัวเลือกการจัดแสงที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้และโปรเจ็กต์วิดีโอเช่นการ
สอนแตง่ หนา้ สิง่ นีท้ ำให้มปี ระโยชนอ์ ย่างยิง่ สำหรับชา่ งแต่งหน้า
3. สำหรับการผลิตวิดีโอ: นักถ่ายภาพยนตร์และนัก
ถา่ ยวิดีโอมกั ใช้ไฟวงแหวนในการจัดแสงโดยท่วั ไปจะใช้ร่วมกบั เครื่องมืออื่น ๆ เช่นซอฟต์บ็อกซ์
ไฟเติมแสงหรืองานอดิเรก ไฟวงแหวนที่ติดอยู่ด้านหน้ากล้องจะมีประโยชน์เม่ือคุณถ่ายทำวัตถุ
ที่ศีรษะเคลือ่ นไปมามาก หากวตั ถุไมห่ ลงทางไกลเกินไปพวกเขาจะยงั คงอยู่ในแสงเสมอ
4. สำหรับการถ่ายเซลฟี่ด้วยสมาร์ทโฟน : หากคุณ
ต้องการดึงเอาลักษณะใบหน้าที่ดีที่สุดออกมาให้ลองใช้ไฟวงแหวนเพื่อความงามเมื่อคุณถ่าย
เซลฟี่ เอฟเฟกตแ์ สงวงแหวนชว่ ยให้คณุ ได้แสงทีส่ ม่ำเสมอด้วยการตงั้ ค่าแสงที่ค่อนข้างง่าย
- อณุ หภูมไิ ฟ ขาว ส้ม

ภาพที่ 11.146 อณุ หภมู ขิ องแสง

ภาพจาก : https://www.bluetech-
led.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B

8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87-color-temperature/

อุณหภมู ิสี (Color Temperature)
เนื่องมาจากสีนนั้ คือคลืน่ พลังงานความรอ้ นชนิดหน่ึง ดังนั้นใน
การวดั คา่ สที ี่เกิดจากแสงน้ัน จงึ วดั ด้วยหนว่ ยอุณหภูมิเดียวกับอุณหภูมิความร้อนซึ่งการวัดค่า

494

อุณหภูมิสีของแสงนั้นใช้หน่วยเป็น K (เคลวิน) โดยมีความสำคัญคือ ใช้ในการวัดค่าจากการที่
แสงสามสีมาผสมกันแล้วจึงวัดค่าเพื่อหาค่ามาตราฐาน หาค่าชดเชยในการผสมสีและอื่นๆ ซึ่ง
ค่าที่แสงทั้งสามสี (RGB)ผสมออกมาเท่าๆกันแล้วจะได้แสงสีขาวที่ อุณหภูมิสีที่ 6500K
(bluetech, 2019)

โดยปกติแล้วในการใช้งาน หลอดไฟ และ โคมไฟ ในเชิง
พาณิชย์ หรือที่อยู่อาศัยจะนิยมใช้อุณหภูมิสี Kelvin กันอยู่ในช่วงตั้งแต่ 3000K ถึง 6500K ซึ่ง
จะจำแนกแสงออกเป็น 3 สีหลักๆ ดังน้ี

» 3000K Warmwhtie แสงวอร์มไวท์ (สีโทนเหลืองเข้ม)
» 4000K Coolwhtie แสงคูลไวท์ (สีโทนเหลืองขาว)
» 6500K Daylight แสงเดย์ไลท์ (สีโทนขาว)
วิวัฒนาการในการผลิตหลอดไฟใหแ้ สงสว่างเริ่มตั้งแต่หลอดไส้ ทังสเตน ทีใ่ ชข้ ดลวดนำ
ความร้อนเพื่อทำให้เกิดแสงสว่างขึ้น ต่อมาได้พัฒนามาเรื่อยๆ จนถึงยุคของ ไฟ LED ซึ่งใน
ปัจจุบันสามารถผลิตอุณหภูมิสี Kelvin ได้เหมือนกันกับหลอดประหยัดไฟแบบเดิม ดังนั้น LED
จงึ สามารถใช้ทดแทนหลอดไฟแบบเดิมได้อยา่ งไมม่ ปี ัญหา (แสงไฟดอทคอม, 2560)

ภาพที่ 11.147 อุณหภูมแิ สง

ภาพจาก : https://www.bluetech-
led.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1
%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87-

color-temperature/

495

ภาพที่ 11.148 อุณหภูมิแสง

ภาพจาก : https://www.crystalsymphonylighting.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%
B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8

%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87/

อุณหภมู ิของแสงแบง่ ออกได้เป็น 3 ชนิดหลักๆ
1. เดยไ์ ลท์ (Day Light)

ภาพที่ 11.149 อุณหภมู แิ สงเดยไ์ ลท์

ภาพจาก : https://www.bluetech-
led.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B

8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87-color-temperature/

โทนแสงสว่างตา เป็นโทนแสงเดียวกับแสงกลางวัน ให้แสง
สว่างสูง ออกไปในโทนสีฟ้า มองเห็นได้ชัด ให้ความรู้สึกสดใส กระฉับกระเฉง ตื่นตัว
ประยุกต์ใช้กับการทำงานเป็นหลัก เช่น ห้องทำงาน ภายในออฟฟิศ สำนักงาน ห้องครัว หรือ
แม้แต่ห้องนอน ในมุมที่ต้องการแสงสว่างอย่างเพียงพอ อาทิเช่น มุมอ่านหนังสือ มุมทำงาน
อาจเรียกได้ว่า เป็นชนิดหลอดไฟที่ได้รับความนิยมในการใช้งานมากที่สุดก็ว่าได้ เนื่องด้วย

496

คุณสมบัติที่มองเห็นได้อยา่ งชัดเจน สามารถนำไปใช้ได้ทุกๆงาน 6500K Daylight แสงเดย์ไลท์
อุณหภูมิสีเดย์ไลท์ถือเป็นสีมาตรฐานที่มีความนิยมใช้มากที่สุด เพราะให้สีที่ใกล้เคียงกับ
แสงอาทิตย์ (แสงขาว) ไม่ทำให้สีของวัตถุที่สะท้อนกลับมาผิดเพี้ยน ดังนั้นแสงเดย์ไลท์จึง
สามารถนำไปใช้ได้กบั ทกุ ที่ โดยมากนิยมใชใ้ นอาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม บ้านพักที่
อยู่อาศัย เป็นต้น เนื่องจากสีเดย์ไลท์ให้แสงขาวเป็นธรรมชาติจึงเหมาะกับการนำไปใช้ได้ทุก
ความต้องการ เป็นสีที่ให้ค่าความสว่าง Lumen (ลูเมน) สูงสุด ทำให้มองเห็นวัตถุต่างๆ ได้
ชัดเจนไมห่ ลอกตา

2.คลู ไวท์ (Cool White)

ภาพที่ 11.150 อุณหภูมิแสงคลู ไวท์

ภาพจาก : https://www.bluetech-
led.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8

%AA%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87-color-temperature/

โทนแสงระหว่างวอร์มไวท์และเดย์ไลท์ เรียกได้ว่า หากใคร
ต้องการความเป็นกลาง เลือกไม่ถูกระหว่าง 2 ตัวเลือกก่อนหน้านี้ คูลไวท์อาจเป็นอีกหนึ่ง
คำตอบได้เป็นอย่างดี ระดับแสงคูลไวท์ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้ทุกรูปแบบ ทั้ง
ภายในและภายนอก ลดความอุ่นของแสงสีส้ม และลดความสว่างของแสงเดย์ไลท์ ทำให้เกิด
ความสมดุล ลักษณะเป็นแสงสีขาวนวลตา 4000K Coolwhtie แสงคูลไวท์ สำหรับอุณหภูมิสีนี้
นิยมใช้งานเฉพาะกลุ่ม และไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก โดยจะเห็นได้จากสินค้าที่ผลิตออกมามี

497

ค่อนข้างจำกัด และไม่หลากหลาย ทั้งนี้เนือ่ งจากอุณภูมิสี 4000K นิยมนำไปใช้กับงาน Display
ตา่ งๆ เชน่ งานสอ่ งป้ายโฆษณา งานไฟเวที หรอื แมก้ ระท่งั ร้านขายสินค้าแฟชนั่ ต่างๆ ด้วย โดย
คุณสมบตั ิเด่นของสคี ูลไวท์จะชว่ ยใหส้ ีที่สะท้อนกลบั มาจากวัตถุดูเข้มขึ้น ช่วยขับให้สีของวัตถุดู
สวยงาม สดใสชัดเจนขึ้น ทำให้เรามองเห็นสีของวตั ถุนั้นผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง แต่ต่างกัน
กับแสงวอรม์ ไวท์ทีไ่ ปกลบสีของวตั ถุจนผิดเพี้ยนจากความเป็นจรงิ มากเกินไป

3.วอรม์ ไวท์ (Warm White)

ภาพที่ 11.151 อุณหภูมแิ สงวอร์มไวท์

ภาพจาก : https://www.bluetech-
led.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8

%AA%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87-color-temperature/

ให้โทนแสงนวลตา เปน็ สีโทนอุ่น ให้ความสว่างไม่มากนัก ออก
สีทองส้ม เหมาะกับการใช้เพื่อประดับตกแต่งมากกว่าเน้นการมองเห็น ประยุกต์ใช้ร่วมกับการ
จัดสวนได้ดี แสงวอร์มไวท์ จะสะท้อนกับวัสดุให้แสงสีทอง ทำให้บริเวณพื้นที่ดูงดงามขึ้นมาทนั
ตาเห็น หากนำไปใช้ตกแต่งภายใน เหมาะกับแสงภายในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องที่ใช้ใน
การพักผ่อน ไม่เพียงแค่สร้างความอบอุ่นเท่านั้น แต่แสงชนิดวอร์มไวท์ ยังให้ความรู้สึกโรแมน
ติก ผ่อนคลายอีกด้วย สถานที่พักต่างๆ จึงนิยมใช้หลอดไฟชนิดนี้มาตกแต่งกัน 3000K
Warmwhtie แสงวอร์มไวท์ อุณหภูมิสีในระดับนี้เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะสถานบริการต่างๆ

498

เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่ม รวมถึงบ้านที่พักอาศัยด้วย โทนแสงวอร์มไวท์
3000K จะให้แสงอบอุ่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ดังนั้นจึงเหมาะที่จะนำไปใช้ใน ห้องนอน
ห้องรับแขก หรือ ห้องน้ำ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศภายในห้องดูสงบ อีกทั้งยังช่วยเพิ่ม
ความโดดเด่นให้กับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้แสงวอร์มไวท์จะทำให้สีที่
สะท้อนกลับมาผิดเพี้ยนไม่ตรงตามจริงได้ เช่น เห็นเสื้อสีขาวเป็นสีไข่ไก่ได้ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้
แสงวอร์มไวทใ์ นการทำงานบางอย่างเช่น การถ่ายรปู วตั ถุ เป็นต้น

ความแตกต่างขององศาเคลวิน
บอ่ ยครั้งทีม่ กั เกิดความสบั สนเกีย่ วกับอุณหภมู ิสี
Kelvin ค่า (K) ทีร่ ะบุในรายละเอียดสินคา้ ซึ่งปจั จบุ นั เรามกั จะเห็นตวั เลขทีก่ ำกับไว้ทีต่ วั สินค้า
หรอื ที่กลอ่ งสินค้าอาจมคี วามแตกต่างกันได้ในแตล่ ะยีห่ ้อสินค้า เชน่
- แสงวอรม์ ไวท์ Warmwhite จะมีค่า K ระหว่าง 2700K ถึง 3000K
- แสงคลู ไวท์ Coolwhite จะมีคา่ K ระหวา่ ง 4000K ถึง 4200K
- แสงเดย์ไลท์ Daylight จะมีค่า K ระหว่าง 6000K ถึง 6500K

ภาพที่ 11.152 ค่า k ของแสง
ภาพจาก : https://www.sangfi.com/kelvin-color-temperature/
2.2 องค์ประกอบของภาพ (framing and composition) ประกอบไปด้วย ขนาด
ภาพ การกำหนดภาพของแต่ละช็อตในการถ่ายทำภาพยนตร์สั้น มีลักษณะสำคัญเพราะเป็น
การใช้กล้องโน้มน้าวชักจูงใจ ความสนใจของคนดูและเพื่อให้เกิดความหมายที่ต้องการสื่อสาร
กับผู้ดู ซึ่งต้องพิจารณาใช้องค์ประกอบหลายอย่างในการกำหนดภาพ เช่น ความยาวของช็อต
แอ็คชั่นของผู้แสดง ระยะความสัมพันธ์ระหว่างคนดูกับผู้แสดง หรือ subject มุมมอง การ
เคลื่อนไหวของกล้องและผู้แสดง ตลอดจนบอกหน้าที่ของช็อตว่าทำหน้าที่อะไร เช่น แทน
สายตาใคร เป็นต้น การกำหนดขนาดภาพในแต่ละช็อตเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ซึ่งต้อง
สอดคล้องกับความหมายที่ต้อง การสื่อ แต่อย่างไรก็ตาม ความหมายของภาพระยะใกล้และ

499

ระยะไกลของผู้กำกับคนหนึ่ง อาจมคี วามแตก ตา่ งจากอีกคนหนง่ึ นอกจากนี้ การใช้ภาพต้องมี
ความสัมพันธ์เชื่อมต่อกันได้เป็นอย่างดี แม้แต่ภาพยนตร์กับโทรทัศน์ยังมีความแตกต่างกันอีก
ด้วย โดยทั่วไปการกำหนดขนาดภาพนั้นไม่มีกฎแน่นอนที่ตายตัว ในหลักปฏิบัติแล้วมักใช้ 3
ขนาด คือ ขนาดภาพระยะไกล ระยะปานกลาง และระยะใกล้ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นขนาด
เรียกกว้าง ๆ ที่เขียนไว้ในบทภาพยนตร์ ซึ่ง ใช้รูปร่างของคนเป็นตัวกำหนดขนาดของภาพ แต่
อยา่ งไรกต็ าม เราสามารถแบ่งยอ่ ยขนาดของภาพได้อกี และมีชื่อเรยี กชัดเจนขึน้ ดังน้ี

2.2.1 ภาพระยะไกลมาก หรอื ระยะไกลสดุ (Extreme Long shot)

ภาพที่ 11.153 ภาพระยะไกลมาก หรอื ระยะไกลสุด (Extreme Long shot)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

ใช้เพื่อแสดงวัตถุจากระยะไกลหรือบริเวณที่เกิดเหตุ ช็อตประเภทนี้มี
ประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการสร้างฉาก (ดูการสร้างช็อตต่อไปในบทความ) ในแง่ของเวลาและ
สถานที่ตลอดจนความสัมพันธ์ทางร่างกายหรืออารมณ์ของตัวละครกับสภาพแวดล้อมและ
องคป์ ระกอบภายในฉากน้ัน ไม่จำเปน็ ต้องดตู ัวละครในช็อตนี้ ได้แก่ ภาพทีถ่ ่ายภายนอกสถานที่
โล่งแจ้ง มักเน้นพื้นที่หรือบริเวณทีก่ ว้างใหญ่ไพศาล เมื่อเปรียบ เทียบกับสดั ส่วนของมนุษยท์ ี่มี
ขนาดเล็ก ภาพ ELS ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการเปิดฉากเพื่อบอกเวลาและสถานที่ อาจเรียกว่า
Establishing Shot ก็ได้ เป็นช็อตที่แสดงความยิ่งใหญ่ของฉากหลัง หรือแสดงแสนยานุภาพของ
ตัวละครในหนังประเภทสงครามหรือหนังประวัติศาสตร์ ส่วนช็อตที่ใช้ตามหลังมักเป็นภาพ
ระยะไกล (LS) แต่ในภาพยนตร์หลายเรื่องใช้ภาพระยะใกล้ (CU) เปิดฉากก่อนเพื่อเปน็ การเน้น
เรียก จุดสนใจหรอื บีบอารมณค์ นดใู หส้ งู ข้ึนอย่างทันทีทันใด

500

2.2.2 ภาพระยะไกล (Long shot)

ภาพที่ 11.154 ภาพระยะไกล (Long shot)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

ภาพระยะไกล เป็นภาพที่ค่อนข้างสับสนเพราะมีขนาดที่ไม่แน่นอน
ตายตัว บางครั้งเรียกภาพกว้าง (Wide Shot) ตั้งแต่ภาพระยะไกลมาก (ELS) ถึงภาพระยะไกล
(LS) ซึ่งเป็นภาพขนาดกว้างแต่สามารถเห็นรายละเอียดของฉากหลังและผู้แสดงมากขึ้น เมื่อ
เปรียบเทียบกับภาพระยะไกลมากหรือเรียกว่า Full Shot เป็นภาพกว้างเห็นผู้แสดงเต็มตัว
ตั้งแต่ศีรษะจนถึงส่วนเท้า ภาพระยะไกล (LS) บางครงั้ นำไปใช้เปรียบเทียบเหมอื นกบั ขนาดภาพ
ระหว่างหนังกับละครที่คนดูมองเป็นเท่ากัน คือ สามารถเห็นแอ็คชั่นหรืออากัปกริยาของผู้
แสดงเต็มตัวและชัดเจนพอ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าหนังของชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin) มัก
ใช้ขนาดภาพนี้กับภาพปานกลาง (MS) ถ่ายทอดอารมณ์ตลกประสบความสำเร็จในหนังเงียบ
ของเขา แสดงเรื่องจากบนลงล่าง สำหรับคนสิ่งนี้จะเป็นแบบหัวจรดเท้า แต่ไม่จำเป็นต้องเติม
เต็มกรอบ ตัวละครกลายเป็นจุดสนใจมากกว่าการถ่ายภาพแบบ Extreme Long Shot แต่การ
ถ่ายภาพมักจะยังคงถูกครอบงำโดยทิวทัศน์ ช็อตนี้มักจะจัดฉากและตำแหน่งตัวละครของเรา
อยใู่ นน้ัน นอกจากนีย้ ังสามารถใช้เป็นการสร้างภาพแทนการยิงไกลสุดขีด

501

2.2.3 ภาพระยะไกลปานกลาง (Medium Long shot)

ภาพที่ 11.155 ภาพระยะไกลปานกลาง (Medium Long shot)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

เป็นภาพทีเ่ หน็ รายละเอียดของผู้แสดงมากขึ้นตงั้ แตศ่ ีรษะจนถึงขา
หรอื หัวเข่า ซึ่งบางครงั้ กเ็ รียกว่า Knee Shot เป็นภาพทีเ่ ห็นตัวผู้แสดงเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับ
ฉากหลังหรือเห็นเฟอร์นิเจอร์ในฉากน้ัน

2.2.4 ภาพระยะปานกลาง (Medium shot)

ภาพที่ 11.156 ภาพระยะปานกลาง (Medium shot)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

ภาพระยะปานกลาง เป็นขนาดที่มีความหลากหลายและมีชื่อเรียกได้
หลายชื่อเช่นเดียวกัน แต่โดยปกติจะมีขนาดประมาณตั้งแต่หนึ่งในสี่ถึงสามในสี่ของร่างกาย
บางครั้งเรียกว่า Mid Shot หรือ Waist Shot ก็ได้ เป็นช็อตที่ใช้มากสุดอันหนึ่งภาพยนตร์ ภาพ
ระยะปานกลางมักใช้เป็นฉากสนทนาและเห็น แอ็คชั่นของผู้แสดง นิยมใช้เชื่อมเพื่อรักษาความ
ตอ่ เนือ่ งของภาพระยะไกล (LS) กับภาพระยะใกล้ (CU) แสดงรายละเอียดเพิ่มเติมบางส่วนของ
เรื่อง สำหรับคน ๆ หนึ่งการถ่ายภาพระยะกลางมักจะวางกรอบจากเอวขึ้น นี่เป็นหนึง่ ในช็อตที่

502

พบเห็นบ่อยที่สุดในภาพยนตร์เนื่องจากโฟกัสไปที่ตัวละคร (หรือตัวละคร) ในฉากขณะที่ยังคง
แสดงสภาพแวดล้อมบางอย่าง

2.2.5 ภาพระยะใกล้ปานกลาง (Medium Close Up shot)

ภาพที่ 11.157 ภาพระยะใกล้ปานกลาง (Medium Close Up shot)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

เป็นภาพแคบ ครอบคลุมบริเวณตั้งแต่ศีรษะถึงไหล่ของผู้แสดง ใช้
สำหรับในฉากสนทนาที่เห็นอารมณ์ความรู้สึกที่ใบหน้า ผู้แสดงรู้สึกเด่นในเฟรม บางครั้ง
เรียกว่า Bust Shot มีขนาดเท่ารูปปั้นครึ่งตัว อยู่ระหว่างการถ่ายภาพระยะกลางและระยะใกล้
โดยทั่วไปจะจัดกรอบวตั ถุจากหนา้ อกหรือไหลข่ นึ้

2.2.6 ภาพระยะใกล้ (Close Up)

ภาพที่ 11.158 ภาพระยะใกล้ (Close Up)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

เป็นภาพที่เห็นบริเวณศีรษะและบริเวณใบหน้าของผู้แสดง
มีรายละเอียดชัดเจนขึ้น เช่น ริ้วรอยบนใบหน้า น้ำตา ส่วนใหญ่เน้นความรู้สึกของผู้แสดงที่
สายตา แววตา เป็นช็อตที่นิ่งเงียบมากกว่าให้มีบทสนทนา โดยกล้องนำคนดูเข้าไปสำรวจตัว

503

ละครอย่างใกล้ชิด เติมเตม็ หน้าจอด้วยส่วนหน่ึงของวัตถเุ ช่นศีรษะ / ใบหนา้ ของบุคคล อารมณ์
และปฏิกิริยาของตัวละครมีอทิ ธิพลเหนอื ฉากนี้

2.2.7 ภาพระยะใกล้มาก (Extreme Close Up)

ภาพที่ 11.159 ภาพระยะใกล้มาก (Extreme Close Up)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

เป็นภาพที่เน้นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น ตา ปาก เท้า มือ เป็น
ต้น ภาพจะถูกขยายใหญ่บนจอ เห็นรายละเอียดมาก เป็นการเพิ่มการเล่าเรื่องในหนังให้ได้
อารมณ์มากขึ้น เช่น ในช็อตของหญิงสาวเดินทางกลับบ้านคนเดียวในยามวิกาลบนถนน เรา
อาจใช้ภาพ ECU ด้านหลังที่หูของเธอเพื่อเป็นการบอกว่าเธอได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่ว ๆ ที่กำลัง
ติดตามเธอ จากนั้นอาจใช้ภาพระยะนี้ที่ตาของเธอเพื่อแสดงความหวาด กลัว เป็นช็อตที่เรา
คุ้นเคยกัน แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้ได้ในความหมายอื่น ๆ โดยอาศัยแสงและมุมมอง
เพื่อหารูปแบบการใชใ้ ห้หลากหลายออกไป

2.2.8 Choker

ภาพที่ 11.160 Choker

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/exp lora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

รปู แบบหน่งึ ของ Close-Up ชอ็ ตนจี้ ะทำให้ใบหน้าของตัวแบบจาก
เหนือคิ้วถึงใต้ปาก

504

2.2.9 มุมสายตานก (Bird’s-eye view)

ภาพที่ 11.161 มุมสายตานก (Bird’s-eye view)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

มุมชนิดนี้มักเรียกทับศัพท์ทำให้เข้าใจมากกว่า เป็นมุมถ่ายมาจาก
ด้านบนเหนอื ศีรษะ ทำมมุ ตง้ั ฉากเปน็ แนวดิ่ง 90 องศากับผู้แสดง เป็นมมุ มองที่เราไม่คุ้นเคยใน
ชีวติ ประจำวนั จงึ เป็นมมุ ที่แปลก แทนสายตานกทีอ่ ยู่บนท้องฟ้าหรือผู้กำกบั บางคน เช่น Alfred
Hitchcock ใช้แทนความหมายเป็นมุมของเทพเจ้าเบื้องบนที่ทรงอำนาจ มองลงมาหาตัวละครที่
หอ้ ยอยู่บนสะพาน ตึก หนา้ ผา เพิม่ ความน่าหวาดเสียวมากขึ้น มุมกล้องที่คล้ายกับมุม Bird’s-
eye view คือ aerial shot ซึ่งถ่ายมาจากเฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบินบ้างก็เรียกว่า helicopter
shot หรอื airplane shot เปน็ ช็อตเคลื่อนไหวถ่ายมาจากด้านบนทั้งสิน้

2.2.10 มุมสูง (High-angle shot)

ภาพที่ 11.162 มุมสงู (High-angle shot)
ภาพจาก : https://nofilmschool.com/high-angle-shot-definition-examples

คือมุมสูงกล้องอยู่ด้านบนหรือวางไว้บนเครน (crane) ถ่ายกดมาที่ผู้
แสดง แตไ่ ม่ตั้งฉากเทา่ Bird’s-eye view ประมาณ 45 องศา เปน็ มมุ มองที่เห็นผู้แสดงหรือวัตถุ
อยู่ต่ำกว่า ใช้แสดงแทนสายตามองไปเบื้องล่างที่พื้น ถ้าใช้กับตัวละครจะให้ความรู้สึกต่ำต้อย

505

ไร้ศกั ดิศ์ รี ไม่มีความสำคัญ หรอื เพือ่ เผยให้เห็นลักษณะภูมิประเทศหรือความกว้างใหญ่ไพศาล
ของภูมิทัศน์เม่อื ใช้กบั ภาพระยะไกล (LS)

2.2.11 มมุ ระดบั สายตา (Eye-level shot)

\
ภาพที่ 11.163 มุมระดบั สายตา (Eye-level shot)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

เป็นมุมที่มีความหมายตรงตามชื่อที่เรียก คือคนดูถูกวางไว้ในระดับ
เดียวกับสายตาของตัวละครหรือระดับเดียวกับกล้องที่วางไว้บนไหล่ของตากล้อง โดยผู้แสดง
ไม่เหลอื บสายตาเข้าไปในกล้องในระหว่างการถ่ายทำ มมุ ระดับสายตานีถ้ ึงแม้จะเป็นมุมที่เราใช้
มองในชีวิตประจำวัน แต่ก็ถือว่าเป็นมุมที่สูงเล็กน้อย เพราะโดยปกติมักใช้กล้องสูงระดับ
หนา้ อก ซึง่ เรียกวา่ a chest high camera angle หรอื เปน็ มมุ ปกติ (normal camera angle) ไม่ใช่
มุมระดับสายตา ซึ่งเป็นมุมที่คนดูคุ้นเคยกับการดูหนังบนจอใหญ่ที่ถ่ายดาราภาพยนตร์ให้ดู
ใหญ่เกินกว่าชีวติ จรงิ larger-than-life

2.2.12 มุมตำ่ (Low-angle shot)

ภาพที่ 11.164 มมุ ต่ำ (Low-angle shot)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

506

คือมุมที่ต่ำกว่าระดับสายตาของตัวละคร แล้วเงยกล้องขึ้นประมาณ
70 องศา ทำให้เกิดผลทางด้านความลึกของซับเจ็คหรือตัวละคร มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม
รูปทรงเรขาคณิตให้ความมั่นคง น่าเกรงขาม ทรงพลังอำนาจ ความเป็นวีรบุรุษ เช่น ช็อต
ของคิงคอง ยกั ษ์ ตกึ อาคารสิ่งกอ่ สร้าง สัตว์ประหลาด พระเอก เป็นต้น

2.2.13 มุมสายตาหนอน (Worm’s-eye view)

ภาพที่ 11.165 มุมสายตาหนอน (Worm’s-eye view)
ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photos-vectors/worms-eye-view

คือมุมที่ตรงข้ามกับมุมสายตานก (Bird’s-eye view) กล้องเงยตั้งฉาก
90 องศากับตัวละครหรือซับเจ็ค บอกตำแหน่งของคนดูอยู่ต่ำสุด มองเห็นพื้นหลังเป็นเพดาน
หรอื ท้องฟ้า เห็นตวั ละครมลี ักษณะเด่น เปน็ มุมทีแ่ ปลกนอกเหนือจากชีวิตประจำวันอีกมุมหนึ่ง
ลักษณะของมมุ นี้ เมือ่ ใชก้ บั ซับเจค็ ทีต่ กลงมาจากทีส่ งู สู้พ้ืนดิน เคลื่อนบังเฟรม อาจนำไปใช้เป็น
ตวั เชอ่ื มระหวา่ งฉาก (transition) คล้ายการเฟดมืด (Fade out)

2.2.14 มุมเอียง (Oblique angle shot)

ภาพที่ 11.166 มมุ เอียง (Oblique angle shot)

ภาพจาก : https://www.studiobinder.com/blog/dutch-angle-shot-camera-movement/

507

เป็นมุมที่มีเส้นระนาบ (Horizontal line) ของเฟรมไม่อยู่ใน
ระดับสมดุล เอียงไปด้านใดด้านหนึ่งเข้าหาเส้นตั้งฉาก (Vertical line) ความหมายของมุมชนดิ นี้
คือ ความไม่สมดุลลาดเอียงของพื้นที่ บางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในสภาพไม่ดี เช่น ในฉากชุลมุน
โกลาหล แผ่นดินไหว ถ้าใช้แทนสายตาตัวละคร หมายถึงคนที่เมาเหล้า หกล้ม สับสน ให้
ความรสู้ ึกทีต่ งึ เครียด มุมเอียงเป็นมุมที่ไม่ค่อยใช้บ่อยนัก ส่วนใหญ่ใช้ตามความหมายที่อธิบาย
ในภาพยนตร์และมีชือ่ เรยี กหลายอยา่ ง เชน่ Dutch angle, Tilted shot หรอื Canted shot
เป็นต้น

2.2.15 ภาพข้ามไหล่ (Over-the-Shoulder Shot)

ภาพที่ 11.167 ภาพข้ามไหล่ (Over-the-Shoulder Shot)

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/explora/video/tips-and-solutions/filmmaking-101-camera-shot-types

ช็อตยอดนิยมที่ตัวแบบจะถ่ายจากด้านหลังไหล่ของอีกคนหนึ่งโดยจัด
กรอบเป้าหมายจากระยะกลางถึงระยะใกล้ ไหล่คอและ / หรือด้านหลังของศีรษะของบุคคลที่
หันหน้าออกจากกล้องยังคงสามารถมองเห็นได้ทำให้ภาพนี้มีประโยชน์ในการแสดงปฏิกิริยา
ระหว่างการสนทนา มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อระหว่างลำโพงสองตัว
มากกวา่ การแยกหรือการแยกที่เป็นผลจากการถ่ายภาพเดีย่ ว การตง้ั กล้องไว้ทางซ้ายหรือขวา
ของคู่สนทนาถ่ายเฉียงผ่านไหล่ของคู่สนทนา เห็นหน้าของคนที่แสดงหรือคนที่กำลังพูดแสดง
โดยไม่มีไหล่และบางส่วนของศีรษะคู่สนทนาเป็นฉากหน้า ให้รู้ว่ากำลังคุยกับผู้อื่น และทำให้
ภาพมีมติ ิมีความลึก

2.3 องค์ประกอบภาพ composition
การจะให้ได้ภาพที่ตรงตามความต้องการ มีคุณค่ามีความงามทางด้านศิลปะ
นอกจาก ผู้ถ่ายต้องจะทําความเข้าใจในเรื่องของการใช้กล้องถ่ายภาพ และเครื่องมือ
ประกอบการถ่ายภาพทีด่ ีแล้ว การจดั องค์ประกอบภาพ ก็เปน็ สิ่งที่สําคัญ ที่จะทําให้ภาพที่ได้มี
คุณค่ามากขึ้น การจัดองค์ประกอบภาพ คือ การจัดองค์ประกอบภาพที่มีวัตถุสิ่งของครบถ้วน

508

สมบูรณ์ สื่อความหมายถึงผู้รับได้ถูกต้องตรงกับเจตนาของผู้สื่อ การจัดองค์ประกอบภาพ ใน
ทีน่ ้ี จะกล่าวถึงการจัดองค์ประกอบภาพอยู่ ดงั น้ี คือ

2.3.1 ความเรยี บง่าย (Simplicity)

ภาพที่ 11.167 ความเรียบงา่ ย (Simplicity)
ภาพจาก : Copyright : Probably it's KODAK,
ความเรยี บงา่ ยเทียบเทา่ การถ่ายภาพของมินิมอลลิสต์ เป็นเทคนิคการ
จัดองค์ประกอบภาพที่เน้นการเก็บเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นอย่างยิ่งในเฟรม คุณอาจถูกหลอกได้
ง่ายๆว่าการจัดองค์ประกอบภาพธรรมดา ๆ นั้นเรียบง่ายและคิดไม่ออก อย่างไรก็ตาม
เนื่องจากคุณเลือกที่จะจัดองค์ประกอบให้เรียบง่ายคุณจึงต้องพิจารณาเทคนิคการจัด
องค์ประกอบหลายอย่างเพื่อสร้างภาพที่โดดเด่นและดึงดูดความสนใจของผู้ชม วิธีการทาง
เทคนิคเพิ่มเติมในการบรรลุความเรียบง่ายคือการโฟกัสไปที่วัตถุในขณะที่ทำให้ฉากหลังไม่ได้
โฟกสั การตง้ั คา่ มาโครในกล้องดิจทิ ลั มักจะทำโดยอตั โนมัตเิ น่ืองจากมีระยะชัดลึกที่แคบในการ
เริ่มต้น ผลเช่นเดียวกันสามารถทำได้ด้วยการปรับด้วยตนเอง ภาพถ่ายที่แสดงความเรียบง่าย
ควรมีเหตผุ ลที่ชัดเจนในการเลือกวตั ถุ เหตผุ ลในการถ่ายภาพควรชัดเจน ไม่ควรนำเสนอหัวข้อ
ที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมด สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับระยะชัดตื้นด้วยเช่นกันซึ่งจะทำให้ฉากหลังพร่ามัวและ
โฟกัสไปที่สิ่งที่เป็นตัวแบบหลักของภาพถ่าย ไม่ว่าวัตถุดังกล่าวจะอยู่ตรงกลางหรืออย่างอื่นก็
ไม่สำคัญเน่อื งจากเป็นผลิตภณั ฑท์ ี่มีองค์ประกอบภาพถ่ายอย่างเครง่ ครัด

509

2.3.2 กฎ 3 ส่วน (The Rule of Thirds)

ภาพที่ 11.168 – 11.169 กฎ 3 สว่ น (The Rule of Thirds)
ภาพจาก : Copyright : Probably it's KODAK,
เป็นการจดั ภาพที่นยิ มมากที่สดุ ภาพดูมีชีวติ ชีวา ไมจ่ ืดชืด การจัดภาพ

โดยใช้เส้นตรง 4เส้นตัดกันในแนวตั้งและแนวนอน จะเกิดจุดตัด 4 จุดหรือแบ่งเป็น 3 ส่วน ทั้ง
แนวตั้งและแนวนอน การวางจุดสนใจของภาพจะเลือกวางใกล้ ๆ หรือตรงจุด 4 จุดนี้ จุดใดจดุ
หนึ่ง โดยหันหน้าของวัตถุไปในทิศทางที่มีพื้นที่ว่างมากกว่า ทำให้ภาพดูเด่น ไม่อึดอัด ไม่แน่น
หรอื หลวมจนเกินไป นกั ถา่ ยภาพท้ังมอื อาชีพ และมอื สมคั รเลน่ นิยมจัดภาพแบบนีม้ าก

510

2.3.3 เส้นนำสายตา (Lines)

ภาพที่ 11.170 เส้นนำสายตา (Lines)
ภาพจาก : Copyright : Probably it's KODAK,
เป็นการจัดภาพที่ใช้เส้นที่เกิดจากวัตถุ หรือสิ่ง อื่น ๆ ที่มีรูปร่าง
ลักษณะใกล้เคียงกันเรียงตัวกันเป็นทิศทางไปสู่จุดสนใจ ช่วยให้วัตถุที่ต้องการเน้นมีความ
เด่นชัดและน่าสนใจยิ่งขึ้น เส้นหรือองค์ประกอบที่นำสายตา (นำทาง) ผู้ชมภาพไปยัง
องคป์ ระกอบอืน่ ๆ ของภาพถ่าย จากจุดหนึ่งไปยงั อีกจุดหน่ึง และสร้างความน่าสนใจให้แก่ภาพ
โดยทำให้เกิดความรู้สึกว่าภาพน้ันมีความลึก เส้นในองค์ประกอบการถ่ายภาพอาจเป็นเส้นจริง
หรอื เส้นโดยนัยกไ็ ด้ เส้นเกิดข้ึนรอบตวั เราทั้งในธรรมชาติและโครงสร้างทีม่ นุษย์สร้างขึ้น แม้ว่า
เราจะโพสท่าอย่างไรในการถา่ ยภาพบคุ คลก็ยงั สร้างเส้นได้ ในความเปน็ จรงิ แทบจะเปน็ ไปไม่ได้
เลยที่จะถ่ายภาพโดยไม่มีเส้นในการถ่ายภาพ ดังนั้นคุณต้องใส่ใจกับเส้นในฉากของคุณ ยิ่งไป
กวา่ นั้นใหม้ องหาเส้นในการจัดองคป์ ระกอบภาพ เพียงแค่ใช้ระดบั พิเศษนี้ก่อนสร้างภาพจะช่วย
ให้คณุ ถ่ายภาพได้ดีข้นึ
เส้นแนวตั้งแสดงถึงการเติบโตความแข็งแกร่งและความมั่นใจใน
ภาพถ่าย เช่นเดียวกับภาษากายของเราเมื่อเรายืนตัวตรงเราจะควบคุมได้มากขึ้นมั่นใจและ
เข้มแข็ง หากวตั ถุพิงเส้นแนวต้ังในภาพวัตถเุ หล่าน้ันจะดไู ด้รบั การสนบั สนุนอย่างไรก็ตามความ
กว้างของเส้นแนวตั้งในการถ่ายภาพบ่งบอกถึงความรู้สึกที่แตกต่างกัน เส้นแนวตั้งหนาให้
ความรสู้ ึกแขง็ แกร่งและโอ่อา่ และเพิม่ ความมั่นคงใหก้ ับองค์ประกอบ ในทางกลับกนั เส้นแนวตั้ง
บาง ๆ ให้ความรู้สึกเปราะบางและสง่างามกว่า เราสแกนภาพถ่ายจากซ้ายไปขวาไม่ใช่จากบน
ลงล่างหรือในทางกลับกันและดวงตาของเราจะติดตามเส้นในรูปภาพ ดังนั้นจึงสามารถใช้
เส้นแนวตง้ั ในการถ่ายภาพเพือ่ นำสายตาของผู้ชมขนึ้ ไป การพาผชู้ มเดินทางขึ้นไปในภาพถ่ายนี้

511

บง่ บอกถึงขอ้ ความของการเติบโตและความมุง่ มั่น เช่นเดียวกับในชีวิตเมื่อสิ่งต่างๆเติบโตขึ้นมัน
กเ็ ติบโตขึน้ ยกเว้นงแู ละถัว่ นักวิง่ แน่นอน แตค่ ณุ จะได้ภาพ อาคารสว่ นใหญเ่ ป็นแนวตั้งและแนว
ตรงดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องตรวจสอบให้แนใ่ จว่าเมื่อรวมอาคารและโครงสร้างที่
มนุษย์สร้างขึ้นในภาพถ่ายแล้วจะมีแนวตรง หากคุณกำลังจะเอียงกล้องให้มองให้ชัดเจน
มิฉะนั้นจะดูเหมือนว่าคุณไม่ได้ให้ความสนใจและผู้ชมจะรู้สึกเหมือนกำลังเลื่อนออกจากภา พ
(The Lens Lounge, 2021)

2.3.4 ความสมดลุ (Balance)

ภาพที่ 11.171 – 11.173 ความสมดลุ (Balance)
ภาพจาก : Copyright : Probably it's KODAK,
สมดุล คือ การรักษาระดับที่เท่ากนั ขององค์ประกอบในภาพ ไมใ่ หห้ นกั
ไปด้านใดด้านหนึ่ง ในทางศิลปะยังรวมถึงความผสมผสานกลมกลืน ความพอเหมาะพอดีของ
ส่วนต่างๆในรูปทรงหนึ่ง หรืองานศิลปะชิ้นหนึ่ง การจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ลงในงานนั้น

512

จะต้องคำนงึ ถึงจุดศูนย์ถว่ ง ตามธรรมชาติแล้วทุกสิ่งทีท่ รงตวั อยไู่ ด้โดยไม่ล้ม ก็เพราะมีน้ำหนัก
เฉลี่ยเทา่ กนั หรอื มีความสมดุลกันน่ันเอง หลักการพิจารณาเรือ่ งความสมดุลในงานศลิ ปะน้ัน มี
หลักอยู่ว่าถ้ามองดูแล้วรู้สึกว่าบางส่วนหนักไป หนาแน่นไป หรือเบาบางไป ก็อาจจะส่งผลให้
งานนั้นดูเอนเอียง และเกิดความรู้สึกที่ขาดความสมดุลขึ้นได้ นับเป็นความบกพร่องในผลงาน
น้ัน ความสมดลุ (Balance) ถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกันดงั น้ี

2.3.4.1 สมดุลแบบสมมาตร (Symmetrical Balance)

ภาพที่ 11.174 สมดลุ แบบสมมาตร

ภาพจาก : https://makamstories.com/symmetry-
%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A8%E

0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7/

เป็นความสมดุลที่เรียกว่า “ความสมดุลโดยองค์ประกอบ
ภาพ” กลา่ วคือ เปน็ การจดั วางสว่ นประกอบภาพที่มีลักษณะเหมือนกนั หรอื คล้ายคลึงกัน เช่น
เหมือนกันด้วย สัดส่วน ขนาด น้ำหนัก ทั้งด้านซ้ายและขวาของภาพ ส่งผลให้ด้านซ้ายและขวา
ของภาพนั้นมีน้ำหนักที่เท่ากัน เมื่อแบ่งกึ่งกลางภาพแล้วจะสามารถประกบกันได้ เช่น ใบหน้า
ของมนุษย์ สมดุลแบบสมมาตรนี้ให้ความรู้สึกถึงลักษณะทีด่ ูเป็นทางการ ซึ่งเราจะพบเห็นบอ่ ย
ในการถ่ายภาพบุคคลหน้าตรง หรือการถ่ายภาพพระประธานในโบสถ์ รวมถึงการถ่ายภาพ
สถาปตั ยกรรมดา้ นหนา้ มุมตรงเช่นกัน

513

2.3.4.2 สมดุลแบบอสมมาตร (Asymmetrical Balance)

ภาพที่ 11.175 สมดลุ แบบอสมมาตร
ภาพจาก : https://www.camerartmagazine.com/techniques/com-po-si-tion/7421.html

เป็นความสมดุลที่เรียกวา่ “สมดุลโดยความรู้สกึ ” ซึง่ ไม่จำเป็น
ที่องค์ประกอบซ้าย-ขวา หรือ บน-ล่าง จะต้องเหมือนกัน หรือมีขนาด ปริมาตร เท่าๆ กัน แต่
ควรใหค้ วามรู้สึกในขณะที่มองดูแล้วมีความสมดุลภายในภาพไม่หนักไปด้านใดด้านหนึ่ง สมดุล
แบบอสมมาตรน้ีในภาพถ่ายเราสามารถจัดวางวัตถเุ พื่อถว่ งดุลกันในภาพได้อย่างอิสระ โดยจะ
มงุ่ เนน้ เรื่องของการจัดวางองค์ประกอบภายในภาพ

2.3.5 กรอบภาพ (Framing)

ภาพที่ 11.176 กรอบภาพ
ภาพจาก : Copyright : Probably it's KODAK,

514

บทบาทของกฎการจัดองค์ประกอบภาพคือการดึงสายตาให้เป็น
ภาพถ่าย การจัดเฟรมหมายถึงการใช้องคป์ ระกอบของฉากเพื่อสร้างเฟรมภายในเฟรมของคุณ
ตัวอย่างเช่นคุณอาจถ่ายภาพผ่านทางเข้าประตูม่านดึงกลับกิ่งไม้รั้วอุโมงค์หรือซุ้มประตูเพื่อ
เน้นวัตถุของคุณ การเพิ่มจุดโฟกัสผ่านการจัดเฟรมแสดงให้ผู้ชมเห็นว่าจะมองไปที่ใด
นอกเหนือจากการดึงดูดความสนใจแล้วการใช้การจัดกรอบยังให้บริบทของภาพถ่าย
องค์ประกอบเบื้องหน้ารอบ ๆ เรื่องของคุณตัวอย่างเช่นเพิ่มเรื่องราวที่เล่าโดยภาพของคุณ
กรอบรูปกิ่งไม้หรือดอกไม้บ่งบอกว่าถ่ายในป่าหรือสวน หนังสือรอบขอบของภาพแสดงให้เห็น
วา่ วัตถอุ ยใู่ นหอ้ งสมดุ ต่อไปนีเ้ ปน็ เพียงไม่กี่วิธีทีค่ ณุ อาจใช้การจัดเฟรมเพื่อจดั องค์ประกอบภาพ
ของคุณ กรอบรูปธรรมชาติเช่นใบไม้หรือดอกไม้นั้นหาได้ง่าย มองหามุมที่ทำให้คุณมี
"หน้าต่าง" ในการถ่ายภาพ การใช้สีที่ตัดกันระหว่างเฟรมและตัวแบบยังช่วยดึงดูดความสนใจ
ของผู้ชมได้อีกด้วย

2.3.6 สิง่ ทีค่ วรหลกี เลี่ยง (Avoiding Mergers)

ภาพที่ 11.177 สิ่งทีค่ วรหลีกเลี่ยง
ภาพจาก : Copyright : Probably it's KODAK,
การรวมกนั ของต้นไม้นีก้ บั หัวของเดฟนั้นชัดเจนมากคุณอาจคิดว่าไม่มี
ใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ก่อนที่จะกดชัตเตอร์ ข้อควรจำ เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ เป็นสามมิติ
ดังนน้ั จงึ งา่ ยกว่าที่คุณจะคาดเดาว่าให้เพง่ สายตาไปทีต่ ัวแบบหลักเท่านั้น และไม่เหน็ พื้นหลังนั้น
เลย อธิบายได้โดย ในการถา่ ยภาพหรอื ถา่ ยวิดีโอเราควรตรวจสอบพืน้ หลงั ของแบบหรือวัตถุว่า
เปรียบเสมือนมีอะไรโผล่มากลางศีรษะหรือโผล่มากลางหัวหรือไม่เช่นแบบยืน ในที่โล่งแล้วมี
ต้นไม้เสาไฟฟ้าโผล่ขึ้นมากลางหัวรวมถึงน้ำพุ พระอาทิตย์ที่โผล่ขึ้นมากลางหัวหรือไม่ การ
หลีกเลีย่ งการควบรวมเปน็ แนวทางทีห่ กของเราสำหรับการจดั องค์ประกอบที่ดีขนึ้ คุณสามารถ

515

มนั่ ใจได้ว่ากล้องจะมองเหน็ การรวมกันอยูเ่ สมอดังน้ันควรมองหาพื้นหลังธรรมดาก่อนที่คุณจะ
โพสท่า ในกรณีนีก้ ารแก้ไขทำได้งา่ ยเนื่องจากการต้ังค่าทั้งสองหา่ งกนั เพียงไมก่ ีฟ่ ุต

2.3.7 ชอ่ งเหนอื ศรษี ะ Headroom

ภาพที่ 11.177 – 11.178 ชอ่ งเหนือศรษี ะ

ภาพจาก : http://bcicommtech11-12.weebly.com/video---shot-composition-techniques.html

ในการถ่ายภาพและการถ่ายภาพยนตร์เฮดรูมหรือเฮดรูมเป็นแนวคิด
ของการจัดองคป์ ระกอบความงามทีเ่ น้นตำแหน่งแนวตั้งสัมพัทธ์ของวตั ถุภายในกรอบของภาพ
Headroom หมายถึงระยะห่างระหว่างส่วนบนของส่วนหัวและส่วนบนของเฟรมโดยเฉพาะ แต่
บางครงั้ คำนีใ้ ช้แทนหอ้ งนำหอ้ งจมูกหรอื "ห้องมองหา" เพือ่ รวมความรู้สกึ ของพื้นที่ทั้งสองด้าน
ของภาพ จำนวนเฮดรูมที่ถือว่าน่าพึงพอใจคือปริมาณไดนามิก มันจะเปลี่ยนแปลงโดยสัมพนั ธ์
กับจำนวนเฟรมที่ถูกเติมเต็มโดยตัวแบบ แทนที่จะชี้และถ่ายต้องจัดองค์ประกอบภาพให้ถูกใจ
พืน้ ที่ระหวา่ งสว่ นหวั ของตวั แบบและด้านบนของเฟรมมากเกินไปสง่ ผลใหม้ ีพ้ืนที่ว่าง

2.3.8 ฉากหลงั Background

ภาพที่ 11.179 ฉากหลัง Background
ภาพจาก : www.photographytuts.com

516

ส่วนประกอบในภาพที่อยู่ด้านหลังของวัตถุหลักที่ถ่าย เรื่องนี้ถือเป็น
ความละเอียดของช่างภาพก่อนถ่ายภาพทุกครั้ง เพราะฉากหลังที่ดีควรจะเสริมให้วัตถุหลักใน
ภาพดูโดดเด่น น่าสนใจขึ้น เช่น ฉากหลังที่มีโทนสีเรียบ ฉากหลังที่มีคู่สีตรงข้ามกับสีของวัตถุ
หลัก หรอื อาจจะเลือกฉากหลังที่มีเร่ืองราวสอดคล้องอนั จะส่งผลใหว้ ัตถุหลักในภาพดูน่าสนใจ
มากขึ้น แต่ในทางตรงข้าม ถ้าเราเลือกฉากหลังทีไ่ ม่ดี เชน่ ฉากหลงั ทีม่ ีรว้ั ผุพัง หรือฝาผนังที่มีสี
เปรอะเปือ้ นกอ็ าจสง่ ผลใหภ้ าพลดความสวยงามลงไปได้เช่นกนั

2.3.9 ฉากหน้า FOREGROUND

ภาพที่ 11.180 ฉากหน้า

ภาพจาก : https://www.camerartmagazine.com/techniques/com-po-si-tion/composition-ep-3-3-composition-for-photography-foreground-background.html

การจัดส่วนประกอบในภาพที่อยู่ด้านหน้าวัตถุหลักที่ถ่าย ซึ่งจะ
สามารถช่วยถ่วงน้ำหนักของภาพให้สมดุล บางครั้งในสภาพแวดล้อมของสิ่งที่จะถ่ายไม่
เอือ้ อำนวย ชา่ งภาพอาจจะใช้ฉากหน้าช่วยบดบังบางสิ่งบางอย่างที่เข้ามารบกวนวัตถุหลักที่เรา
จะถา่ ยภาพ เมื่อมีฉากหนา้ มาชว่ ยบังส่วนเกินเหล่าน้ัน ก็จะส่งผลใหว้ ัตถหุ ลกั ในภาพมีความโดด
เด่นมากยิ่งขึ้นได้ และหลายครั้งที่วัตถุที่น่าสนใจในภาพมีมากกว่าหนึ่ง ฉากหน้าจะถูกนำมา
บงั คับใหค้ นดภู าพสนใจที่วัตถุเดียวได้เช่นกนั

2.4 การเคลื่อนที่ของกล้อง Camera movements
การกำหนดการเคลื่อนไหวที่เกิดจากการทำงานของกล้อง นับได้ว่าเป็นการ
เปลีย่ นแปลงตำแหน่งของกล้องไปพร้อมกบั การบันทึกภาพ และจะมีผลทำใหภ้ าพเปลี่ยนแปลง
ลักษณะภาพ รูปแบบ และเนื้อหาของการนำเสนอภาพไปด้วยการเคลื่อนไหวกล้องที่มีเหตุผล
และมีความเชี่ยวชาญจะเป็นส่วนช่วยเสริมภาษาของภาพและผู้ชมเกิดบทบาทร่วม ที่เป็นจริง
มากขึ้นกับการนำเสนอภาพในช่วงนั้นการเคลื่อนไหวกล้อง มีหลักการขั้นพื้นฐานที่นำมาใช้ใน
การถ่ายภาพ ตา่ งๆ ดงั น้ี

517

2.4.1 การกวาดภาพทางซ้าย – ขวา (Pans left - right)

ภาพที่ 11.181 การกวาดภาพทางซ้าย – ขวา

ภาพจาก : https://planetinfocus.org/wp-content/uploads/2015/08/CAMERA-MOVEMENTS.pdf

การกวาดภาพทางซ้าย (Pan left) คือการส่ายกล้องโทรทัศน์ใน
แนวนอน ไปทางด้านซ้ายมือของ คนถ่ายภาพ โดยฐานกล้องยังอยู่ที่เดิมเพื่อเปรียบเสมือนว่า
กล้องโทรทัศน์แทนสายตาของผู้แสดง ที่กำลังหันหน้ามองไปทางขวา เพื่อบอกให้ผู้ชมทราบว่า
ผู้แสดงกำลังหันมองไปทางขวาเพื่อดูอะไรบางอย่างดังนั้น ผู้ตัดต่อลำดับภาพก็จะนำ ภาพอีก
ภาพหนึ่ง มาเรียงลำดบั ตอ่ จากการกวาดภาพ เพือ่ สื่อใหผ้ ชู้ มเหน็ ว่า ผแู้ สดงมองภาพอะไร ภาพ
ที่นามาลำดับต่อจากกวาดภาพ จะมีขนาดใกล้ไกลแค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับเส้นนา สายตาการ
มองของผแู้ สดง

การกวาดภาพทางขวา (Pan right) คือการส่ายกล้องโทรทัศน์ใน
แนวนอน ไปทางด้านขวามือของคนถ่ายภาพ โดยฐานกล้องยังคงอยู่ที่เดิมเช่นกัน เพื่อ
เปรียบเสมือนว่า กล้องโทรทัศน์แทรกสายตาของผู้แสดงที่กำลังหันมองไปทางซ้ายเป็นการสื่อ
ความหมายเพือ่ บอกให้ผชู้ มทราบว่า ผแู้ สดงกำลังหันมองไปทางซ้ายเพือ่ ดูอะไรบางอย่างดังน้ัน
ผตู้ ดั ตอ่ ลำดับภาพก็จะต้องนา ภาพอีกภาพหนึ่งมาเรียงลำดับตอ่ จาการกวาดภาพเพื่อสื่อให้ชม
เห็นว่า ผู้แสดงมองภาพอะไร ภาพที่นามาลำดับต่อจากการกวาดภาพ จะมีขนาดใกล้ไกลแค่
ไหน ก็ต้องข้ึนอยู่กับเส้นนำสายต่อการมองของผแู้ สดง

2.4.2 .การเงยขึน้ – การก้มลง (Tilts up – down)

ภาพที่ 11.182 การเงยขึ้น – การก้มลง

ภาพจาก : https://planetinfocus.org/wp-content/uploads/2015/08/CAMERA-MOVEMENTS.pdf

518

การเงยขึ้น (Tilt up) คือการเงยหน้ากล้องขึ้นสูงในทางดิ่งที่อยู่ในแนว
เส้นตรงเดียวกัน โดยฐานกล้องยงั อยทู่ ีเ่ ดิม เพื่อเปรียบเสมือนวา่ กล้องโทรทศั นแ์ ทนสายตาของ
ผู้แสดงกำลังเงยหน้าขึ้น เป็นการสื่อความหมายเพือ่ บอกให้ผู้ชมทราบว่า ผู้แสดงกำลังเงยหน้า
ขนึ้ ดูอะไรบางอย่างดังน้ันผตู้ ัดต่อลำดับภาพกต็ ้องนำภาพอีกภาพหน่ึงมาเรียงลำดับต่อจากการ
เงยขึ้นของกล้องโทรทศั น์เพื่อสื่อให้ผู้ชมทราบว่า ผแู้ สดงเงยหน้าดูภาพอะไร ภาพที่นามาลำดับ
ต่อจากการเงยขึ้นของกล้องจะมีขนาดใกล้ไกลแค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับเส้นนา สายตาการเงย
หนา้ ขนึ้ ของผู้แสดง

การก้มลง (Tilt down) คือการลดหน้ากล้องต่ำลงในทางดิ่ง (Vertical)
ทีอ่ ยใู่ นแนวเส้นตรงเดียวกัน โดยฐานกล้องยังอยู่ที่เดิมเพื่อเปรียบเสมอื นว่า กล้องโทรทัศน์แทน
สายตาของผู้แสดงที่กำลังก้มหน้าลง เป็นการสื่อความหมายเพื่อบอกให้ผู้ชมทราบว่า ผู้แสดง
กำลังก้มดูอะไรบางอย่างดังนั้นตัดต่อลำดับภาพก็ต้องนำ ภาพอีกภาพหนึ่งมาเรียงลำดับต่อ
จากการก้มลงของกล้องโทรทัศน์เพื่อสื่อให้ผู้ชมเห็นว่า ผู้แสดงก้มมองภาพอะไร ภาพที่นำมา
ลำดบั ต่อจากการก้มลงของกล้องจะมีขนาดใกล้ไกลแค่ไหน กต็ ้องข้นึ อยกู่ ับเส้น
นา สายตาการก้มลงของผู้แสดง

2.4.3 การซมู เข้า – การซูมออก (Zooms In – out)

ภาพที่ 11.183 การซมู เข้า – การซูมออก
ภาพจาก : https://filmmakingdiary.wordpress.com/2013/02/18/storyboard/

การซูมเข้า (Zoom out) คือการดึงภาพในระยะห่างให้มีขนาดโตได้โดย
ไม่ต้องเปลีย่ นแปลงทีต่ ั้งกล้องให้ผดิ ไปจากเดิม และระยะความคมชดั ของภาพจะเท่ากัน ตลอด
ในการซูมเข้า เพื่อเปรียบเสมือนวา่ กล้องแทนสายตาของผู้แสงที่กำลังเพ่ง มองการตัดต่อลำดับ

519

ภาพในลกั ษณะนี้ต้องการบอกให้ผู้ชมทราบว่า ผชู้ มแสดงกำลังเพ่ง มองอะไรบางอย่างโดยการ
นำ ภาพการซูมเข้าให้มขี นาดโต้ข้ึน เพือ่ ให้ผู้ชมทราบวา่ ผแู้ สดงกำลงั เพ่งออกอะไร

การซูมออก (Zoom out) คือการถอยภาพในระยะใกล้ให้เป็นระยะกล
โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงที่ตั้งกล้องให้ผิดไปจากเดิม และระยะความคมชัดของภาพจะเท่ากัน
ตลอด เพื่อเปรียบเหมือนว่า กล้องแทนสายตาของผู้แสดงที่กำลังละสายตาการตัดต่อลำดับ
ภาพในลักษณะนี้ต้องการบอกให้ผู้ชมทราบว่า ผู้แสดงกำลังละสายตาจากสิ่งที่กำลังมองโดย
การถอยภาพในระยะใกล้ให้เป็นระยะกล

2.4.4 การดอลลีเ่ ข้า – การดอลลีอ่ อก (Dolly in – out)

ภาพที่ 11.184 การดอลลี่

ภาพจาก : https://planetinfocus.org/wp-content/uploads/2015/08/CAMERA-MOVEMENTS.pdf

ภาพที่ 11.185 การดอลลี่
ภาพจาก : https://gauss.film/blog-gauss/camera-movement/

การดอลลี่เข้า หรือถ่ายตามเข้า (Dolly in) คือการเลื่อนกล้องโทรทัศน์
โดยที่ฐานของกล้องมีล้อเลื่อน หรือรถเลื่อน เลื่อนเข้าไปหาวัตถุที่เราจะถ่ายและทำให้ระยะ
ความคมชดั ของฉากหลังเปลีย่ นแปลง เพือ่ เปรียบเสมือนวา่ กล้องแทนสายตาของผู้แสดงกำลัง
เคลื่อนทีก่ ารตดั ต่อลำดบั ภาพในลักษณะนีเ้ พือ่ บอกให้ผู้ชมทราบว่า ผู้แสดงเคลื่อนที่ไปหาอะไร
บางอย่าง

520

การดอลลีอ่ อก หรอื ถา่ ยตามออก (Dolly out) คือการเลื่อนกล้องโดยที่
ฐานของกล้องมีล้อเลื่อน หรือรถเลื่อน เลื่อนออกจากวัตถุที่เราจะถ่ายเพื่อเปรียบเสมือนว่า
กล้องโทรทศั นแ์ ทนสายตาของผู้แสดงกำลังเคลื่อนทีก่ ารตัดต่อลำดบั ภาพในลักษณะนี้เพื่อบอก
ให้ผู้ชมทราบวา่ ผแู้ สดงกำลงั เคลือ่ นทีอ่ อก
จากที่หมาย

2.4.5 Truck right – left

ภาพที่ 11.186 Truck right – left

ภาพจาก : https://planetinfocus.org/wp-content/uploads/2015/08/CAMERA-MOVEMENTS.pdf

คือ การเคลื่อนกล้องไปด้านซ้ายหรือขวาให้ขนาดกับวัตถุ การทรัคจะ
คล้ายกับการแพน แต่จะให้ความรู้สึกเคลื่อนผู้ชมให้เคลื่อนที่ เพราะฉากจะมีการเปลี่ยนแปลง
ตามการเคลื่อนกล้อง การเลื่อนไหวกล้องไปด้านซ้ายให้ขนานกบั วัตถุไปทางซ้าย เรียกว่า หรือ
ไปทางขวา เรียกว่า ซึ่งผลจะคล้ายกับการแพน แต่การทรัคจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมิติ
เรื่องความลึกของ ภาพได้ดีกว่า คล้ายๆกับความรู้สึกของเราที่มองออกไปนอกหน้าต่างรถ
ขณะที่เคลื่อนที่ไป

3. ขั้นหลังการผลิตวิดีโอ (Post Production)
คือ ขั้นของการตัดต่อ และคอมพิวเตอร์กราฟฟิก (Editing (video, sound) /

Effect) ในการผลิตสอ่ื วิดีโอ แมว้ า่ การถา่ ยทำ จะดำเนนิ ไปตามข้ันตอนของบทวิดีโอ (Scirpt) แต่
ความเป็นจริงนั้น การถ่ายทำในแต่ละฉาก (Shot) อาจถ่ายทำหลายครั้ง หรือหลายเทค (Take)
บางที่ต้องถ่ายทา ถึง 5-6 ครั้ง ผู้ตัดต่อ (Editor) ก็ต้องเลือกหาภาพที่ดีที่สุดมานำเสนอหรือ
บางครั้งอาจอาศัยภาพจากที่อื่น ๆ หรือภาพที่มีอยู่แล้ว (Stock) ในกรณีที่ไม่สามารถจะถ่ายทำ
ได้มาเพิ่มเติม ก็เป็นดุลยพินิจ และความสามารถของผู้ตัดต่อซึ่งจะต้องเลือกภาพที่เหมาะสม
กลมกลืนกับภาพที่มีอยู่การตัดต่อภาพก็คือการนำ ภาพมาลำดับใหม่ให้ดูดี น่าสนใจ บางครั้ง
เราก็เรียกเป็นการลำดับภาพ ซึ่งในการตัดต่อภาพนี้ นับว่าเป็นสีสันของบทวิดีโอ ลีลา ลูกเล่น
มุมกล้อง จะดูตื่นตาตื่นใจ เร้าอารมณ์มากน้อย เพียงใด ย่อมอยู่ที่การสร้างงาน หรือ

521

ความสามารถของคนตัดต่อความคิดสร้างสรรค์ที่ ต้องการคาดคะเนว่าอะไรจะเกิด อะไรจะ
ติดตามมา ผลที่จะบังเกิดกับผู้ชม น่าจะออกมาอย่างไร ทั้งจิตวิทยาและศิลปะ การนำเสนอ
ความรคู้ วามสามารถทางด้านเทคนิคมีอยเู่ พียบพร้อมบางคร้ังถ่ายทำ มามากถึง 2 ช่ัวโมง การ
ตัดต่ออาจจะเลือกไว้แต่สิ่งที่ดี ๆ แค่ 10 - 15 นาที ขั้นของการตัดต่อ และคอมพิวเตอร์
กราฟฟิกจะประกอบไปด้วย

3.1 Software/Hardware ที่ใช้การตัดตอ่ แบ่งออกเป็น
3.1.1 PC

ภาพที่ 11.187 Computer PC

ภาพจาก : https://sites.google.com/site/softwarecomputerm6225582015/mikhor-khxmphiwtexr-microcomputer-hrux-phisi-personal-computer-hrux-pc

เครื่องคอมพิวเตอร์ ควรเป็นเครื่องที่มาความเร็วของซีพียูสูง ไม่ควร
ต่ำกว่า Pentium III 500 MHz ควรเป็นเครื่องที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วสูง เช่น ความเร็ว
7200 rpm แบบ UDMA /66 หรือ UDMA/100 หากเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ SCSI จะดี และควรมี
ขนาดที่มากเพียงพอสำหรับเก็บข้อมลู วดิ ีโอได้

3.1.2 MAC

ภาพที่ 11.188 MAC
ภาพจาก : https://support.apple.com/th-th/HT204899

หรือเรียกเต็มๆ ว่า Macintosh เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คิดค้นและ
ผลิตจาก Apple ซึ่งมีในส่วนของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Mac mini, iMac, Mac Pro) และแบบ
คอมพิวเตอร์พกพา (MacBook Air, MacBook Pro, MacPro with Retina Display) โดยอุปกรณ์
ในส่วนของฮาร์ดแวร์รวมไปถึงซอฟต์แวร์ได้ออกมาอย่างเฉพาะ ?จึงทำให้สามารถใช้งาน

522

ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ 100% ส่งผลมีความสเถียรภาพในระบบที่สูงไว้ใจได้ ?ซึ่งฮาร์ดแวร์
ต่างๆ สามารถใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่ใช้ Windows ได้ อาทิเช่น เมาส์ คีย์บอร์ด
ฮาร์ดดิสก์ แรม แฟลชไดร์ฟ เป็นต้น แต่สำหรับด้านซอฟต์แวร์ Mac ได้ใช้เป็นระบบปฏิบัติการ
ของตนเองเฉพาะ ที่ใช้ชื่อว่า OS X ฉะนั้นโปรแกรมที่เป็นของ Windows จะไม่สามารถติดตั้งบน
เครื่อง Mac ได้เลย หรือโปรแกรมของ Mac ก็ไม่สามารถติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac ได้
เช่นกัน ด้วยความทีว่ า่ มสี ถาปัตยกรรมการออกแบบซอฟต์แวร์ทีแ่ ตกต่างกัน อยา่ งไรก็ตามทาง
ผู้ผลิตซอฟต์แวร์โปรแกรมในปจั จบุ ันสว่ นมากก็จะทำออกมาท้ัง 2 เวอร์ชั่น ทั้ง OS X ของ Mac
และ Windows ของคอมพิวเตอร์ทั่วไป ฉะนั้นในส่วนของการใช้งานซอฟต์แวร์จึงไม่ต้องเป็น
กังวลมากนัก แม้ว่าจริงๆ แล้วก็มีอีกหลายๆ โปรแกรมและเกมที่ไม่รองรับเหมือนกัน ซึ่งก็
สามารถติดต้ัง Windows ใน Mac เพือ่ ใช้งานโปรแกรมเหลา่ นั้นได้ นอกจากนเี้ ครื่อง Mac นั้นจัด
ได้ว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับคนที่ต้องการด้านเน้นในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่
สวยงามและล้ำกว่าคอมพิวเตอร์ในท้องตลาดทั่วไป ที่สำคัญยังต้องการประสิทธิภาพ และ
ความสเถียรในการทำงานที่สูง แน่นอนว่าทำให้เรามักจะเห็นเครื่อง Mac นั้น ใช้ในงานระดับมือ
อาชีพ อย่างด้านกราฟิก งานตกแต่งภาพ งานตัดต่อภาพยนตร์ งานทำดนตรี งานออกแบบ
ดีไซน์ ตลอดจนไปถึงงานทีเ่ กี่ยวข้องกับวิทยศาสตร์ และด้วยราคาของเคร่อื ง Mac ที่ถูกลงหาก
เทียบกับเมื่อก่อน (แต่ก็ยังราคาแพงกว่าในสเปกเดียวกันเหมือนเทียบกับคอมพิวเตอร์ที่เป็น
Windows อยู่ดี) ซึง่ จะสังเกตได้จากในช่วงปีหลงั ๆ นี้ มคี นใช้ Mac กันมากขึน้ จากสมัยกอ่ นแทบ
จะไม่เห็นเลย ทำให้ปัจจุบันเริ่มเห็นคนนำ Mac ที่เป็นคอมพิวเตอร์พกพาอย่าง MacBook ไปน่ัง
ใช้งานตามที่ตา่ งๆ มากขึ้นอยา่ งเห็นได้ชัด

3.1.3 Smartphone

ภาพที่ 11.189 Smartphone
ภาพจาก : https://www.eventpop.me/blogs/261-smartphone-6-hacks

523

ทุกวันนี้การถ่ายวิดีโอนั้น สมาร์ทโฟน ทำได้ไม่ยากเพราะ กล้องนั้น
พัฒนา และมีความคมชัด เก็บภาพได้อย่างสวยงาม และยุคสมัยแห่งการแชร์เนื้อหา แบ่งปัน
เรือ่ งราวบนโซเชยี ลมีเดีย วิดีโอกถ็ ือเป็นเรือ่ งทีก่ ำลงั นิยม เลา่ เร่อื งราวในหน่งึ วนั หรอื ใช้สื่อสาร
สิ่งทีน่ ่าสนใจกับผทู้ ี่ตดิ ตาม ส่วนจะใช้ซอฟทแ์ วร์ตดั ตอ่ ที่มใี ห้มาในเครื่อง หรอื นำเข้ามาเพิ่มเติม
โดยใช้แอพตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานก็ทำความเข้าใจได้สบายๆ มีเมนูต่างๆ และ
การเรียกใช้ Effect ภายในแอพ เรียกโดยการแตะที่ไอคอนที่ทันทีทีมองก็เข้าใจความหมายได้
ทันที มี Sticker , Filter และเพลงให้เลือกใช้ภายในตัวแอพ และหากเสียเงินซื้อเวอร์ชั่น Pro
สามารถซือ้ ขาดได้โดยการจ่ายแคค่ ร้ังเดียว หรอื จะจ่ายแบบรายเดือนก็ได้เชน่ กัน เมือ่ ใช้ตัว Pro
กจ็ ะมลี ูกเล่นที่สามารถใช้งานได้ อยา่ งเช่นเพลงประกอบ Sound Effect เพิ่มขนึ้ มาอีกมาก

3.1.4 Ipad

ภาพที่ 11.190 Ipad
ภาพจาก : https://www.apple.com/th-en/shop/buy-ipad/ipad-mini

iPad คือ tablet ผลติ โดยบริษัทแอปเปลิ้ เปน็ เเท็บเล็ตแบบสมั ผสั ระบบ
Multi Touch สามารถเล่นวิดีโอ, ฟังเพลง, ดูรูปภาพและเล่นอินเทอร์เน็ตได้ ไอแพดมีหน้าจอ
ขนาด 9.7 นิว้ มคี วามละเอียด 768 x 1024 พิกเซล หนา 0.5 นิว้ ใชซ้ ีพียู Apple A4 ทีพ่ ัฒนาขึ้น
เองโดยบริษัทแอปเปิล ใช้ระบบปฏิบัติการไอโฟนรุ่น 3.2 ซึ่งสามารถใช้โปรแกรมต่างๆ ร่วมกบั
ไอพอดทัช และ ไอโฟนได้ ด้วยขนาดที่เล็กพอๆกับสมุดโน๊ต ทำให้พกพาสะดวก มีลักษณะการ
ใช้งานไม่ต่างกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เพียงเเต่เฉพาะส่วนหน้าจอมาใช้งาน ไม่มีคีย์บอร์ด แล้ว
เปลี่ยนการพิมพ์บนคีย์บอร์ดมาพิมพ์บนหน้าจอ ไม่มีเมาส์ เปลี่ยนมาใช้นิ้วจิ้มบนหน้าจอแทน

524

ซึ่งใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ notebook ที่ทุกท่านรู้จักดี แต่ตอนนี้ได้รวบรวมกันทำงาน
ประสิทธิภาพรวมท้ังนวัตกรรมใหมๆ่ เข้ามาอยู่รวมกนั ใน ipad เครื่องเลก็ ๆเครือ่ งหนึ่ง หลงเหลือ
เพียงแค่หน้าจอเท่านั้น ที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้เพียงแค่หน้าจอเดียว โดยพื้นฐานแล้ว
tablet pc ไมแ่ ตกต่างจากคอมพิวเตอร์ notebook มากนกั เพียงแตไ่ ม่มีคยี บ์ อร์ดและเมาสเ์ ท่าน้ัน
ipad จึงจัดอยู่ในประเภท tablet pc ซึ่งถือเป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพา ประสิทธิภาพสูงเครื่อง
หนึ่งที่สะดวกในการใช้งาน ไอแพดมีระบบปฏิบัติการตัวเดียวที่ใช้ของไอโฟนก็คือ
ระบบปฏิบัติการ ios หรือเรียกว่า iphone os ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการที่ปลอดภัยและเป็นที่นิยม
มีจุดเด่นอยู่ที่คงความเป็น iphone และเทคโนโลยีของไอโฟนเข้ามาอยู่ใน ipad เครื่องใหญ่
กวา่ เดิม และมีฟังก์ชนั ทุกอย่างครบครนั

3.1.5 Software ในการตัดต่อ
3.1.5.1 Basic
3.1.5.1.1 imovie

ภาพที่ 11.191 imovie
ภาพจาก : http://goodhealthalliance.org/using-imvie/

เป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ย่อย ในชุดซอฟต์แวร์ของไอไลฟ์ ที่
ผลติ โดยบริษทั แอปเปิล ซึ่งไว้ใชร้ ่วมกบั ระบบปฏิบัติการ แมค โอเอส เอก็ ซ์, ไอโอเอส และ แมค
โอเอส เป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่สำหรับการจัดการ, แก้ไขตัดต่อภาพยนตร์ โดยปัจจุบันได้
พัฒนาถึงเวอร์ชันสำหรับไอโอเอสแล้วiMovie รองรับ 4K บนอุปกรณ์ Apple สมัยใหม่ และ
อย่างที่คุณคาดหวังผสานเข้ากับระบบนิเวศของ Apple โดยรวมได้อย่างสวยงาม ตัวอย่าง เช่น
สามารถบันทึกคลิปของคุณไปยังไดรฟ์ iCloud หรือสตรีมไปยัง Apple TV ผ่าน AirPlay และทุก
อยา่ งกเ็ ล่นได้ดีกบั Apple Photos, Mail และ Messages ด้วย

525

ภาพที่ 11.192 imovie
ภาพจาก : http://goodhealthalliance.org/using-imvie/

การใช้งานแอพตัดต่อนี้ อาจจะมีความคล้ายๆกับการใช้แอพ
อื่นๆตัด แต่ตัวแอพนี้จะมีประสิทธิภาพใน การตัดต่อคลิปวิดีโอค่อนข้างสูงอยู่ ฉะนั้นเราต้อง
รู้จักการตัดวิดีโอก่อน คือการเลือกสิ่งที่เราต้องการนำมาทำวิดีโอเพื่อการสื่อสารออกไป เรา
ต้องเลือกคลิปหรือวิดีโอที่ต้องการจะนำมาตัดก่อน เพราะเป็นอันดับแรกในการใช้งานการตัด
ต่อเลย เราสามารถตัดได้ตามที่เราต้องการเลย ถ้าหากเราคิดว่ายังละเอียดไม่พอ ก็สามารถ
เลือกการตัดแบบนาที วินาทีได้เลย ว่าเรานั้นต้องการตั้งแต่นาที่ไหน จนถึงถึงนาทีไหน เพราะ
การตัดแบบนีจ้ ะเป็นสิง่ ที่ดี มีคณุ ภาพสูงในการตัดอย่างมาก เพื่อให้คลิปของเรานน้ั ออกมาดี ไม่
มีติดคลิปอื่นตอนตัดออกไป ฉะนั้นการตัดแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี จะได้แสดงเห็นวิดีโอของเราอย่าง
ชดั เจนยิ่งข้ึน ฉะนั้นคนทีเ่ ป็นมอื ใหม่ อาจจะต้องรู้การใช้งานในส่วนตรงนี้นึดนึงเพื่อการใช้งานที่
ดีของเราและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการนำไปใช้งานของเรา สิ่งแรกก่อนที่เรานั้นจะตัดต่อ
วิดีโอได้ เราตอ้ งนกึ ถึงสิง่ ที่เรานั้น ต้องการจะทำ สื่อวิดีโอทีเ่ ราน้ันต้องการที่จะสื่อสาร เราต้อง
คิดว่า สิง่ ทีเ่ ราทำน้ัน สือ่ ไปถึงเรื่องไหน เพื่อความใจในการตดั ต่อของเราด้วย รวมผู้ที่ดูสื่อวิดีโอ
ของเรา จะได้เกิดความเข้าใจ ในการรบั ชมสอ่ื อยา่ งมากเช่นกนั ฉะน้ันสิง่ สำคัญกค็ ือ สิ่งที่เราจะ
นำเสนอออกมานั้น จะต้องแสดงออกมาอย่างชัดเจน มีความเข้าใจง่าย เข้าใจในการสื่อสาร
ฉะนั้นการตัดของเราจะต้องตรงตามที่เรานั้น ต้องการที่จะสื่อสารออกไปด้วย เพื่อการตัดตอ่ ที่
ดี เราตอ้ งมองเห็นถึงประเด็นหรือจดุ ประสงคใ์ นการทำงานของเราด้วย เพือ่ ให้เกิดผลประโยชน์
ที่สุด ในการที่จะตัดต่ออกมา นอกจากนี้แอพ imovie นี้ จะมีโหมดการทำตัวอย่างหนัง การ
สร้างหนัง มีอย่างหลากหลายแบบ หลายแนวมาก ฉะนั้นเราสามารถลองการใช้งานแบบนั้น
ดกู ่อนก็ได้ เพื่อเกิดความเข้าใจในการใชง้ านมากยิง่ ขนึ้ ในการตัดต่อวิดโี อนี้

3.1.5.1.2 window movie maker

526

ภาพที่ 11.193 window movie maker
ภาพจาก : https://cracktube.net/windows-movie-maker-crack-registration-code-latest/

Window Movie Maker เ ป ็ น โ ป ร แ ก ร ม ท ี ่ ม า พ ร ้ อ ม กั บ
ระบบปฏิบัติการ Windows และในเวอร์ชั่นที่สูงกว่า เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการสร้างและตัดต่อ
วิดีโอ นอกจากนั้นยังสามารถแทรกภาพนิ่ง แทรกเสียง และเอฟเฟ็กต่างๆ เข้าประกอบกันได้
ใช้งานง่ายเหมาะสำหรบั มือใหม่ผทู้ ีเ่ รม่ิ ตน้ ตัดต่อครอบคลุมทั้งภาพและเสียง

ภาพที่ 11.194 window movie maker

ภาพจาก : http://thaifree-download.blogspot.com/2013/01/windows-live-movie-maker2011-15435380513.html

3.1.5.2 online
3.1.5.2.1 Youtube

ภาพที่ 11.195 Youtube
ภาพจาก : https://brandinside.asia/insight-consumer-youtube-platform-vdo-online/

527

ปัจจุบันเราสามารถตัดต่อวิดีโอผ่านยูทูบได้โดย ผู้ตัดต่อ
อพั โหลดวิดีโอขึน้ ไปแล้วเลือกส่วนที่จัดในยูทูปได้เลยแล้วรอยูทูบประมวลผล ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่ง
ที่สามารถ ตัดต่อวิดีโอออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลาได้อย่างสะดวกเพียงแต่ต้องมีอินเทอร์เน็ตเพื่อ
เข้าถึงยูทูป ซึ่งวิดีโอเหล่านี้จะถูกสร้างสรรค์จาก Creator YouTube หรือบุคคลทั่วไปที่สร้าง
Chanel (ชาแนล) เป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นได้ชมวิดีโอ เมื่อชาแนลได้รับความนิยมและมี
แฟนๆติดตามจำนวนมากทำใหก้ ารจดั การและบริการแฟนของชอ่ งอย่างทั่วถึงอาจจะทำได้ยาก
แต่สำหรับ YouTube ได้พัฒนาเครื่องมือสำหรับจัดการช่องวิดีโอได้อย่างง่ายได้เรียกว่า
YouTube Studio ซึง่ ขณะนีอ้ ย่ใู นชว่ งทดสอบการใชง้ าน

3.1.5.3 Prosumer
3.1.5.3.1 Adobe Premiere

ภาพที่ 11.196 Adobe Premiere

ภาพจาก : https://medium.com/@kawklong152/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B9%80%E0%B8%8
1%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%88%E

0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AD-729c4787f74d

เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อภาพและเสียง ซึ่งตัวโปรแกรม
เองมีความสามารถในการตกแต่งและตัดต่อภาพ-เสียง และ ใส่ Effect และ Transition ให้กับ
ภาพและเสียงโปรแกรม Premiere เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Adobe แนวคิดคือ
ไม่จำเป็นต้องเรม่ิ ตน้ ในชว่ งการเรียนรู้ที่สงู ชันซึง่ เกี่ยวข้องกบั เครื่องมอื ตัดตอ่ วิดีโอที่ซับซ้อนมาก
ขึ้นของ Adobe เช่น Premiere Pro, After Effects และ Audition แต่คุณสามารถเลือกแอพฯ ที่ใช้
งานง่ายนี้ประมวลผล คลิปของคุณได้อย่างรวดเร็ว และอัปโหลดไปยังแพลตฟอร์มโซเชียล
แอปจะดแู ลอัตราส่วนและคุณภาพที่ต้องการสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มโดยอัตโนมัติช่วยให้คุณ
ไม่ต้องกงั วลไปพร้อมกัน

528

3.1.5.3.2 Final cut Pro

ภาพที่ 11.197 Final cut Pro
ภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/781022760363001434/

เปน็ โปรแกรมตดั ต่อที่มีใหใ้ ช้งานเฉพาะบน MacOS เท่านั้น ถ้า
จะเทียบตัวที่ใกล้เคียงกันก็คือ Adobe Premier Pro ที่สามารถใช้ได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ
Windows และ MacOS สำหรับตัวโปรแกรม Final Cut Pro ถือเป็นโปรแกรมในระดับ
อุตสาหกรรม มาพร้อมกับเครื่องมือที่ใช้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดต่อโดยเฉพาะ ซึ่งมันให้
ผใู้ ชง้ านสามารถจบงานทกุ อย่างได้ภายในโปรแกรมเดียว

ภาพที่ 11.198 Final cut Pro
ภาพจาก : https://www.flashfly.net/wp/296600
หนา้ ตาของตัวโปรแกรมจะคล้ายกับ iMovie ทำให้คนที่เคยใช้มากอ่ นปรบั ตวั ได้ไม่อยาก
โดยมันจะมีหน้าคลังเอฟเฟ็คขนาดใหญ่ ที่เอาไว้ใช้สำหรับวิดีโอ เสียง รวมถึงเอฟเฟคการ
เคลื่อนไหวด้วย การทำงานก็ง่ายๆ เพียงแค่ลากวางเท่านั้นเอง หากไม่พอใจกับของที่มีอยู่

529

สามารถดาว์โหลดมาใส่เพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังมีระบบอัพโหลดขึ้น YouTube, Facebook และ
Vimeo ในตัวอีกด้วย การใช้งานง่ายไม่ใช่จุดแข็งที่สุดของ Final Cut Pro X เพราะมันเครื่องมือ
ระดับมอื อาชีพ มนั มคี วามซับซ้อนพอสมควร ซึง่ เปน็ ผลข้างเคียงของเครื่องมอื อันทรงพลังที่มัน
มอบใหแ้ กผ่ ใู้ ช้ โดยตัวโปรแกรมรองรบั นามสกุลไฟล์วิดีโอและเสียงมากมาย ไมว่ า่ จะเป็น MOV
MXF HDV MPEG AppProRes QuickTime ฯลฯ โดยเราสามารถส่งออกไฟล์สำหรับนำไปใช้สร้าง
แผ่น DVD หรือ Blu Ray ได้โดยตรง จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของโปรแกรมนี้ คือไฟล์ทั้งหมดที่เรา
ทำงานด้วยนั้น จะถูกรวบรวมเก็บไว้อยู่ในไฟล์เดียวเรียกว่า Master File ซึ่งสะดวกมากสำหรับ
การเคลื่อนย้ายไปทำงานที่อื่นได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไฟล์จะมาไม่ครบหรือเปิดไม่ได้
เหมือนกับ Adobe Premier Pro ซึ่งหลายคนอาจะเคยเจอกับปัญหา “Missing File” อยู่บ่อยๆ
แตข่ อ้ เสียของมนั ก็มีเช่นกัน เนือ่ งจากไฟล์ท้ังหมดที่เราทำงานด้วยรวมกันอยูเ่ พียงที่เดียว ทำให้
ขนาดไฟล์นั้นกินพื้นทีเ่ ยอะมาก คลิปที่เราจะทำงานจะถูกจัดเรียงใน “Roles” ซึ่งจะเป็นตัวแทน
ของ ข้อความ เอฟเฟค วิดีโอ เสียง ฯลฯ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบเพื่อให้ง่ายต่อ
การทำงาน ถ้าทำงานขนาดใหญ่มากก็สามารถรวมคลิปเป็น “Compound Clip” ซึ่งจะเก็บ
องค์ประกอบทุกอย่างไว้อยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย ช่วยทำให้ไทมไลน์
เป็นระเบียบ งา่ ยตอ่ การค้นหา หน่งึ ในความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Final Cut Pro กบั iMovie
คือ ความสามารถในการปรับแต่งไฟล์วิดีโอแบบ 360 องศา รวมถึงระบบรองรับกล้อง VR หรือ
จำลองการใช้งานผ่าน HTC Vive เพื่อทดสอบการแสดงผล ในการทำงานร่วมกับไฟล์ 3D เป็น
อะไรที่สนกุ มาก อีกทั้งยังรองรับการแสดงผลแบบ High Dynamic Rage ที่จะช่วยแสดงผลภาพ
ทีม่ สี ีสนั สดใส สมจรงิ มากที่สดุ ในด้านภาพยนตรก์ ็รองรับการตัดต่อแบบ Multi-Camera ทำให้
งานตดั ตอ่ งา่ ยยิง่ ขึน้ ไปอีก

3.1.5.3.3 sony vegas

ภาพที่ 11.199 sony vegas

ภาพจาก : https://medium.com/artisan-digital-agency/%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD-
%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%AA-sony-vegas-d69126025f45


Click to View FlipBook Version