The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Narin Nonthamand, 2021-05-04 13:58:10

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 2

430

และสามารถส่งภาพเคลื่อนไหวนี้ผ่านระบบเครือข่ายเพื่อให้คนอีกฟากหนึ่งสามารถเห็นตัวเรา
เคลื่อนไหว ได้เหมือนอยู่ต่อหน้า ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์อีกตัวหนึ่ง เว็บแคมคือกล้อง
วิดีโอที่ฟีดหรอื สตรีมรูปภาพหรือวิดีโอแบบเรียลไทม์ไปยงั หรอื ผ่านคอมพิวเตอร์ไปยังเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ เช่นอินเทอร์เน็ต โดยทั่วไปเว็บแคมเป็นกล้องขนาดเล็กทีว่ างอยู่บนโต๊ะทำงานติด
กับจอภาพของผู้ใช้หรือติดตั้งไว้ในฮาร์ดแวร์ สามารถใช้เว็บแคมระหว่างเซสชันวิดีโอแชทที่
เกี่ยวข้องกับคนสองคนขึ้นไปโดยมีการสนทนาที่มีทั้งเสียงและวิดีโอสด ตัวอย่างเช่นกล้อง
iSight ของ Apple ซึ่งติดตั้งอยู่ในแล็ปท็อป Apple, iMacs และ iPhone จำนวนหนึ่งสามารถใช้
สำหรับวิดีโอแชทโดยใช้โปรแกรมส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีของ Messages ซอฟต์แวร์เว็บ
แคมช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกวิดีโอหรือสตรีมวิดีโอบนอินเทอร์เน็ต เนื่องจากการสตรีมวิดีโอ
ผ่านอินเทอร์เน็ตต้องใช้แบนด์วิดท์มากโดยปกติสตรีมดังกล่าวจะใช้รูปแบบที่บีบอัด ความ
ละเอียดสูงสุดของเว็บแคมก็ต่ำกว่ากล้องวิดีโอแบบใช้มือถือส่วนใหญ่เช่นกันเนื่อง จากความ
ละเอียดทีส่ ูงขึน้ จะลดลงระหว่างการสง่ ความละเอียดที่ต่ำกว่าทำใหเ้ ว็บแคมมีราคาไม่แพงเม่ือ
เทียบกับกล้องวิดีโอส่วนใหญ่ แต่เอฟเฟกต์นั้นเพียงพอสำหรับเซสชันวิดีโอแชท และเริ่มมี
ความจำเปน็ มากขึ้นเรอ่ื ยๆซึง่ เวบ็ แคม (Webcam) สามารถแบง่ ประเภทออกได้ดังนี้

1. แบ่งตามรูปทรงของกล้อง

ภาพที่ 11.62 กล้อง webcam แบ่งตามรปู ทรงของกล้อง
ภาพจาก : http://wanrada123.blogspot.com/2010/11/webcam.html

โดยปกติกล้องเว็บแคมส่วนใหญ่จะเป็นทรงกลม
เนื่องจากเป็นรูปทรง ต้นแบบทำกันมานานและก็ทำให้รู้ได้ทันที่ว่านี้คืออุปกรณ์เว็บแคมแต่ไม่
จำเป็นที่กล้องเว็บแคมต้องเป็นทรงกลมเสมอไปเพราะบางครั้งกล้องเว็บแคมก็จำเป็นต้องมี
รปู ทรงอ่นื ๆ เพือ่ ใหเ้ ข้ากับการใชง้ านใน บางลักษณะดังนน้ั การเลือกรปู ทรงใหเ้ หมาะสมน้ันก็จะ
ขึน้ อยู่กับลกั ษณะการใชง้ านของมากกวา่

431

2. แบง่ ตามประเภทของขากล้อง

ภาพที่ 11.63 กล้อง webcam แบง่ ตามประเภทของขากล้อง

ภาพจาก : https://www.zoomcamera.net/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1-4-
%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A1-webcam-1080p-full-hd/

กล้อง webcam แบ่งตามประเภทของขากล้องโดย
ส่วนใหญ่ลักษณะของฐานตั้งกล้องจะเป็นแบบตั้งพื้นเสียส่วนใหญ่โดย แบบแรกคือแบบมีขา
สำหรับวางบนพื้นอาจจะมีขา 3 ขาหรือ 4 ขาก็แล้วแต่การออกแบบแต่ฐานแบบ 3 ขาจะมี
ปัญหาตรงที่ว่างแล้วยังไม่มั่นคงดีนักและไม่สามารถหมุนตัวกล้องได้สะดวกกัน ดังนั้นถ้า
ต้องการเว็บแคมที่มีฐานมั่นคงและสามารถหมุนได้ง่าย ๆ ก็ต้องเลือกแบบฐานทรงกลมขนาด
ใหญซ่ ึ่งแบบนีจ้ ะมีขอ้ ดีตรงที่ว่างได้มน่ั คงและยังสามารถหมุนแกนของตวั กล้องได้ไม่จำเป็นต้อง
ยกตวั กล้องหมุนไป มาให้เสียเวลา

3. แบ่งตามชนิดของเซ็นเซอร์

ภาพที่ 11.64 กล้อง webcam แบง่ ตามชนิดของเซน็ เซอร์

ภาพจาก : https://shopee.co.th/amp/HD-Webcam-Desktop-Laptop-USB-Web-Camera-720P-Web-Cam-CMOS-Sensor-with-Built-in-Microphone-for-Video-
Calling-i.118553827.6130948264

สำหรับเซ็นเซอร์ที่กล้องเว็บแคมใช้นั้นจะมีหลัก ๆ อยู่
2 ชนิดคือ CCD และCMOS แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ CMO Sเนื่องจากเหตุผล

432

หลาย ๆ ประการและตัว เซ็นเซอร์แบบ CMOS เองก็สามารถ แบ่งออกได้ถึง 2 ชนิดด้วยกันคือ
CLF Color CMOS Censor ที่มี ความละเอียดของพิกเซลแค่ 110,000 พิกเซล ( 367 x 291 )
เท่านั้นในขณะที่VGA Color CMOS Censor ให้ความละเอียดที่สูงกว่าที่ 350,000 พิกเซล ( 655
x 493 ) ดงั นนั้ เวลาเลือกซอื้ กล้องเว็บแคม ก็ดูได้ทั้งความละเอียดที่ระบุไว้หรือชนิดของ CMOS
สำหรับเซ็นเซอร์แบบ CCD จะเป็นเซ็นเซอร์ที่นิยมใช้ในกล้องดิจิทัลเพราะให้ความละเอียดที่สูง
กวา่ และกม็ ี noise ไมม่ ากเหมอื นกับเซ็นเซอร์แบบ CMOS

4. แบ่งตามรูปแบบการเชื่อมตอ่

ภาพที่ 11.65 กล้อง webcam แบ่งตามรูปแบบการเชื่อตอ่

ภาพจาก : https://www.hama.com/00053104/hama-wireless-lan-ip-camera-m360-300-mbps-mpeg4

สำหรับการเชื่อมต่อของกล้องเว็บแคมในปัจจุบันส่วน
ใหญ่จะเป็น อินเทอร์เฟซแบบ USB แทบทั้งสิ้นโดย USB ที่ใช้ก็จะเป็นเวอร์ช้ัน 1.1 เสียส่วนมาก
แต่ก็จะมีเวอร์ชั้น 2.0 ในบางรุ่นกล้องเว็บแคมแบบไร้สายจะใช้การเชื่อมต่อในแบบ Wi-Fi หรือ
Wireless LAN นั่นเอง ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องคำนึงถึงสายให้วุน่ วายแต่
เวบ็ แคมที่เปน็ Wireless ตอนน้ีกย็ งั มีราคาค่อนขา้ งแพง

- Action cam

ภาพที่ 11.66 Action cam
ภาพจาก : https://www.mercular.com/drone-camera/action-camera

433

Action cam คือ กล้องถ่ายรูปรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถพกพาไป
ยงั สถานทีต่ ่างๆ ได้งา่ ย รวมท้ังยงั สามารถใช้เก็บภาพประทบั ใจท้ังภาพนิ่งหรอื ภาพวิดีโอได้ แม้
ในตอนนั้นจะทำกิจกรรมแบบ Xtream ด้วยการเคลื่อนไหวไปด้วยก็ตาม โดยคุณสมบัติหลัก ๆ
ของกล้องประเภทนี้คือมีความสามารถในการกันน้ำได้ หรือถ่ายใต้น้ำได้ สามารถเก็บภาพได้
มุมกว้าง มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก จึงทำให้กล้องประเภทนี้กำลังได้รับความนิยม
และมีส่วนแบ่งทางการตลาดกล้องถา่ ยภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยทัว่ ไปกล้องจะสวมใส่หรือติดต้ัง
ในลกั ษณะทีส่ ามารถถา่ ยภาพจากมมุ มองของผถู้ า่ ยได้ ตัวอย่างสถานที่ท่วั ไปในการตดิ ตั้งกล้อง
แอ็คชั่นคือหมวกหรือหมวกนิรภัยที่หน้าอกหรือบนแฮนด์ของจักรยานหรือยานพาหนะที่
คล้ายกัน นอกจากนี้ยังอาจติดตั้งบนขาตั้งกล้องหรือบนขาตั้งกล้องสำหรับใช้มือถือ โดยปกติ
แล้วกล้องแอคชั่นได้รับการออกแบบมาให้ต้องการการโต้ตอบน้อยที่สุดเมื่อเริ่มการบันทึกแล้ว
เนื่องจากจะช่วยให้สามารถจับภาพการกระทำได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องโต้ตอบกับกล้อง
กล้องแอคช่ันทัว่ ไปจะบันทึกลงในการ์ด micro SD และมีขวั้ ต่อ Micro-USB หรอื USB-C

- Camera 360

ภาพที่ 11.67 Camera 360
ภาพจาก : https://th.aliexpress.com/item/32945220434.html

กล้องที่สามารถบันทึกภาพได้ 360 องศาในการถ่ายรูปหรือ
วิดีโอใน 1 ครั้ง ซึ่งที่จริงกล้องแนวนี้มีมาได้ระยะหนึ่ง แต่ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมสัก
เท่าไร เพราะคุณภาพภาพที่ได้ในรุ่นก่อนๆ ยังไม่ค่อยดีนัก การใช้เอารูปหรือวิดีโอมาจัดการ
ต้องก็ต้องทำผ่านคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดความรู้สึกว่ายังไมค่ ่อยคุ้มค่าเท่าไรที่จะซื้อมาใช้ แต่ใน
กล้องรนุ่ ใหม่ๆ ทีออกมาในปี 2019 นั้นมีหลายตวั ที่ใชง้ านได้ง่าย และราคาไมแ่ พง

434

- Drones Camera

ภาพที่ 11.68 Drones Camera
ภาพจาก : https://store.lnwgadget.com/blog/dji-drone/

โดรน นั้นมีอีกชื่อนึงว่า UAV (Unmanned Aerial Vehicle) ซึ่ง
ในทางปฏิบัติแล้วโดรนไม่ได้ใช้ในการบันเทิงเหมือนในปัจจุบัน แต่จะใช้ในการทหาร ซึ่งใน
สมัยก่อนจะใช้โดรนในการสอดแนมพื้นที่แวดล้อมของ ข้าศกึ หรอื อาจจะโหดกว่าน้ันก็ติดอาวุธ
เข้าไปถล่มศัตรูจากระยะไกลซะเลย ซึ่งก็มีข้อดีก็คือไม่ต้องใช้คนจริงเข้า ไปในพื้นที่ซึ่งเสี่ ยง
อันตรายนั่นเอง ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 จนมาถึงปัจจุบัน เทคโนโลยีของโดรนได้ถูก
พัฒนาข้นึ มาเร่อื ย ๆ จนไมไ่ ด้ จำกดั แคใ่ นทางทหารเท่าน้ัน ในปัจจุบันโดรนถกู ใช้ในหลากหลาย
รูปแบบ เช่น ใช้โดรนถ่ายรูป/ถา่ ยวิดีโอจาก มุมสูง ใช้ในการเกษตร หรือแม้กระทั่งใช้การขนส่ง
สินค้าที่ทำง google และamazon กำลังพัฒนาให้สามารถ ส่งสินค้าไปยังบ้านคนซื้อได้ภายใน
รัศมีทำการ สำหรับในปัจจุบันั้นน โดรนที่นิยมใช้กันในรูปแบบต่าง ๆ นั้นก็คือมัลติโรเตอร์
หรือมัลติคอปเตอร์ที่เรียกอย่างนี้เพราะเป็นโดรนแบบใบพัด แต่ละใบพัดก็มีมอเตอรข์ องตัวเอง
รูปร่างก็จะคล้าย ๆ เฮลิคอปเตอร์แต่ จะอาศัยใบพัดเยอะกว่า ที่นิยมกันก็จะเป็นแบบ 4 ใบพัด
และ6 ใบพัด ซึ่งมัลติคอปเตอร์นั้นก็มีข้อดีตรง สามารถขึ้น - ลง ในแนวตั้งได้ ซึ่งเจ้าตัวมัลติโร
เตอรน์ ี่เองทีเ่ ป็นพระเอกทีค่ นนำไปดดั แปลงในรปู แบบต่าง ๆ

กล้องโดรน (Drones Camera) คือ โดรนที่ถูกติดตั้งด้วยกล้อง
โดรนน้ีสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของสายตามนษุ ยใ์ นการมองโลก ให้เราสามารถมองโลกในมุม
ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เพื่อให้ได้เห็นมิติมุมมองใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำภาพยนตร์ การ
ถ่ายภาพ การตระเวนพื้นที่ การสำรวจ การทำแผนที่ และอื่นๆ กล้องโดรนสามารถช่วยให้เรา

435

สามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆและสร้างองค์ประกอบทางการมองเห็น ในเส้นทางใหม่ๆ จาก
ช่างภาพธรรมดาๆ สู่ผลงานแปลกใหม่ เช่น งานแต่งงาน การเดินทาง งานแข่งกีฬาต่างๆ ทุก
วันนี้โดรนกำลังจะถูกใช้ในทุกๆที่ อย่างแพร่หลาย กล้องโดรนรุ่นท๊อปๆ จะมาพร้อมกับฟังกช์ น่ั
การบินอันชาญฉลาด ซึ่งจะทำให้การบันทึกภาพในสถานการณ์ลำบากง่ายขึ้นและน่าสนุกขึ้น
เช่น ในเวลาที่ต้องถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หากใช้ฟรีเจอร์ “ActieTrack” จะทำ
ให้กล้องโดรนรับรู้และติดตามวัตถุนั้นให้อยู่ในเฟรมได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอัน
ชาญฉลาดอ่นื ๆอีกมากมายที่นา่

ระบบการถ่ายภาพ

ภาพที่ 11.69 ระบบการถ่ายภาพของ Drone
ภาพจาก : https://store.lnwgadget.com/blog/dji-drone/

กล้องโดรนที่ดี คือเครือ่ งมอื ที่มปี ระสิทธิภาพ ซึ่งควรมีกล้องที่
มีคุณสมบัติความละเอียดสูงที่เป็นคุณภาพชั้นนำของอุตสาหกรรม ขนาดเซ็นเซอร์ ค่าISO
speed shutter โหมดการถ่ายภาพและอื่น ๆ กล้องโดรนรุ่นท๊อปๆจะมีขนาดเซ็นเซอร์ ที่ 1 นิ้ว
และสามารถถ่ายรูปได้อยา่ งต่ำที่ขนาด 12-megapixel ,อัดวิดีโอแบบ 4k จนถึง 5.2k และไฟล์
Raw สิง่ สำคัญของโดรนคือคุณภาพของ gimbal (กันส่ัน3แกน) รปู ถ่ายทางอากาศจำเป็นต้องมี

436

ระบบกันสั่นเพื่อการเก็บภาพทื่ลืน่ ไหลตลอดการบิน เราจึงควรเลือก gimbal ทีม่ คี ณุ ภาพสูง ซึ่ง
จะชว่ ยลดการสั่นสะเทือนจากการบิน ในท้องตลาดปจั จบุ นั มีแบบ 2 แกน และ 3 แกน อย่างไร
ก็ตาม เราแนะนำว่าไมค่ วรใช้แกนน้อยกวา่ 3 แกน

ภาพที่ 11.70 ระบบการถ่ายทอดสด
ภาพจาก : https://store.lnwgadget.com/blog/dji-drone/

การถ่ายทอดวิดีโอเป็นสิ่งสำคัญของการถ่ายภาพทางอากาศ
ซึ่งสามารถถ่ายทอดสดจากมุมมองของกล้องในแบบ real time หากการถ่ายทอดวิดีโอเกิด
ความdelayหรือถูกรบกวน คุณจะรู้สึกว่าควบคุมกล้องโดรนแบบHDได้ยากขึ้น อย่าว่าแต่การ
ถ่ายภาพเลย ระบบการถ่ายทอดระดับสูงจะรองรับท้ังคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5.8 GHz เพื่อ
การตา้ นทานสัญญาณรบกวนทีม่ ากขึ้นและถา่ ยทอดได้ระยะไกลขึน้

- Time Lapse

ภาพที 11.71 กล้อง Time Lapse

ภาพจาก : https://www.photospecialist.com/brinno-tlc2020-hdr-time-lapse-camera-met-extra-lange-batterijduur

437

ภาพที่ 11.72 ภาพถา่ ย Time Lapse

ภาพจาก : https://www.videomaker.com/article/c02/19307-how-to-create-a-stunningtime-lapse-even-in-changing-light

เป็นการถ่ายภาพในช่วงเวลาหนึ่งๆ ใช้เทคนิคเหมือนการถ่าย
ทำภาพยนตร์แบบเร่งความเร็ว สามารถย่นระยะเวลาจาก ปี เดือน วัน ชั่วโมง มาเหลือเพียง
นาที หรือไม่กี่วินาทีเท่านั้น การถ่ายภาพเหลื่อมเวลาเป็นเทคนิคที่ความถี่ในการจับภาพฟิล์ม
(อัตราเฟรม) จะกระจายออกไปมากกว่าความถี่ที่ใช้ในการดูลำดับภาพ เมื่อเล่นด้วยความเร็ว
ปกติเวลาดูเหมือนจะเดินเร็วขึ้นและล่วงเลยไป ตัวอย่างเช่นภาพของฉากอาจถูกจับที่ 1 เฟรม
ตอ่ วินาที แต่จะเล่นที่ 30 เฟรมตอ่ วินาที ผลที่ได้คือความเร็วเพิ่มขึ้น 30 เทา่ ในทำนองเดียวกัน
ยังสามารถเล่นภาพยนตร์ในอัตราที่ต่ำกว่าที่ถ่ายได้มากซึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวที่รวดเรว็ ช้า
ลงเช่นเดียวกับการถ่ายภาพแบบสโลว์โมชั่นหรือการถ่ายภาพความเร็วสูง กระบวนการที่ปกติ
จะปรากฏอย่างละเอียดและช้าต่อสายตามนุษย์เช่นการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และดวงดาว
บนท้องฟ้าหรือการเติบโตของพืชจะเด่นชัดมาก ไทม์แลปส์คือเทคนิคการถ่ายภาพยนตร์ใน
รูปแบบสุดโต่ง ภาพเคลื่อนไหวแบบสต็อปโมชันเป็นเทคนิคที่เปรียบได้ วัตถุที่ไม่ได้เคลื่อนไหว
จริงเช่นหุ่นสามารถเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ได้ด้วยตนเองโดยใช้ระยะห่างเพียงเล็กน้อยและถ่ายภาพ
จากนั้นสามารถเลน่ ภาพเป็นฟิลม์ ด้วยความเร็วทีแ่ สดงให้เหน็ วัตถทุ ี่เคลื่อนไหว

ไทม์แลปส์ทำงานอย่างไร
ภาพยนตร์มักฉายที่ 24 เฟรม / วินาทีซึ่งหมายความว่ามีภาพ
24 ภาพปรากฏบนหน้าจอทุกวินาที ภายใต้สถานการณ์ปกติกล้องฟิล์มจะบันทึกภาพที่ 24
เฟรม / วินาที เนือ่ งจากความเร็วในการฉายและความเร็วในการบันทึกเท่ากัน แม้ว่ากล้องฟิล์ม
จะถูกตั้งค่าให้บันทึกด้วยความเร็วที่ช้าลง แต่ก็ยังคงฉายที่ 24 เฟรม / วินาที ดังนั้นภาพบน
หนา้ จอจะปรากฏใหเ้ คลื่อนไหวเรว็ ขนึ้

438

ภาพที่ 11.73 การทำงานของ Time Lapse
ภาพจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Time-lapse_photography#/media/File:Time-lapse_undercranked_timeline.svg

ดังนั้นภาพยนตร์ที่บันทึกด้วยความเร็ว 12 เฟรมต่อ
วินาทีจะปรากฏว่าเคลื่อนที่เร็วขึ้นเป็นสองเท่า การถ่ายภาพด้วยความเร็วกล้องระหว่าง 8 ถึง
22 เฟรมต่อวินาทีมักจะอยู่ในหมวดหมู่การเคลื่อนไหวเร็วที่ไม่ถูกจัดอันดับโดยภาพที่ถ่ายด้วย
ความเร็วที่ช้ากว่าจะตกอยู่ในขอบเขตของไทม์แลปส์อย่างใกล้ชิดมากขึ้นแม้ว่าความแตกต่าง
ของคำศพั ท์เหล่านีจ้ ะไมไ่ ด้รบั การระบุอย่างสมบรู ณใ์ นภาพยนตรท์ ้ังหมด

Time-lapse สามารถทำได้ด้วยกล้องถ่ายภาพยนตร์
ทั่วไปเพียงแค่ถ่ายภาพทีละเฟรมด้วยตนเอง แต่ความแม่นยำที่มากขึ้นในการเพิ่มเวลาและ
ความสม่ำเสมอของอัตราการเปิดรับแสงของเฟรมต่อเนื่องทำได้ดีกว่าผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
กับระบบชัตเตอรข์ องกล้อง (อนุญาตให้ออกแบบกล้อง) ที่เรียกว่าเครื่องวดั ช่วงเวลา เครื่องวดั
ช่วงเวลาจะควบคุม การเคลื่อนไหวของกล้องตามช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงระหว่างเฟรม
ปัจจุบันกล้องดิจิทัลระดับ ผู้บริโภคจำนวนมากรวมถึงกล้องแบบเล็งแล้วถ่ายบางรุ่นก็มี
เครื่องวัดช่วงเวลาฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ เครื่องวัดช่วงเวลาบางรุ่นสามารถเชื่อมต่อกับ
ระบบควบคมุ การเคลื่อนไหวทีเ่ คลื่อนกล้องไปตามแกน จำนวนเท่าใดก็ได้เมอ่ื สามารถถ่ายภาพ
เหลื่อมเวลาได้สร้างการเอียงกระทะแทร็คและการถ่ายภาพด้วย รถบรรทุกเมื่อเล่นภาพยนตร์
ในอัตราเฟรมปกติ Ron Fricke เป็นผู้พัฒนาหลักของระบบดังกล่าวซึ่ง สามารถเห็นได้ใน
ภาพยนตร์สั้นเรื่อง Chronos (1985) และภาพยนตร์สารคดีของเขา Baraka (1992 เปิดตัวเป็น
วิดีโอในปี 2544) และSamsara (2011)

การบนั ทกึ ภาพ
กล้องต้องสามารถต้ังเวลาถา่ ยภาพได้แบบ Interval
Timer หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม เช่น รีโมทคอนโทรล หรือ program คอมพิวเตอร์ที่ตั้ง
เวลาตัวกล้องผ่านสาย USB เช่น EOS Utility
ต้งั คา่ Timer remote controller เข้ากับตวั กล้อง ตงั้ ค่า
ต่าง ๆ ที่Interval และExposure count.ใช้ขาตั้งกล้อง เพื่อให้ภาพในเฟรมที่ไม่ เคลื่อนไหว
จะหยุดนิ่งอยทู่ ีเ่ ดิม มีเพียงแค่วตั ถทุ ีเ่ ราอยากเหน็ ความเปลี่ยนแปลง

439

เริ่มบันทึกภาพ
เข้าโปรแกรมทำ time lapse
การทำ Time lapse การต้ังคา่ กล้อง ไมค่ วรใช้โหมด
Auto white balance, auto ISO, auto focus และauto exposure เพราะ การใช้ auto white
balance อาจทำให้โทนสีของภาพเปลี่ยนไปการใช้ auto ISO อาจทำให้ค่าความไวแสงต่างกนั ,
การใช้ auto focus ในกรณีแสงนอ้ ยอาจทำให้กล้องทำการวดั ระยะผิดพลาด , การใช้ auto
exposure เปลี่ยนไปตามสภาพแสงอาจทำให้ความสว่างของภาพตา่ งกัน
2.1.2 ขาตั้งกล้อง (Tripod)

ภาพที่ 11.74 ขาต้ังกล้อง

ภาพจาก : http://www.centralsolution.co.th/product/1733607/vinten-v10as-cp2f-visionpozi-loc-carbon-fiber-
tripodsystem%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87
%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%
B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7 .html

ขาตั้งกล้องเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งกล้องเพื่อให้กล้องยึดกับขา
ตั้งให้นิ่งและคามมั่นคง จำเป็นสำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงสว่างน้อย ที่ต้องใช้ความเร็ว
ชตั เตอรต์ ำ่ ๆ เพือ่ ให้ได้รับแสงนาน ๆ หรอื การถา่ ยภาพระยะไกลทีใ่ ชเ้ ลนสถ์ ่ายไกลโดยเฉพาะที่
มีความยาวโฟกัสสูง ๆ ภาพจะมีช่วงความชัดต่ำ หรือการถ่ายภาพระยะใกล้โดยใช้เลนส์แมค
โครจำเป็นต้องให้กล้องนิ่งไม่สั่นไหวหรือการถ่ายภาพไฟประดับตามอาคาร ร้านค้าตามท้อง
ถนนเวลากลางคืนที่ต้องตั้งความเร็ว ชัตเตอร์ที่B เพราะจะทำให้แน่ใจได้ว่าภาพที่ได้จะไม่พร่า
หรอื สน่ั ไหวขาตง้ั กล้องถา่ ยภาพโดยท่ัวไป มีลักษณะเป็นสามขาสามารถพบั หรอื กางออก ยืดขึ้น
ลงให้สูงหรือต่ำได้ ที่ส่วนหัวของขาตั้งกล้องทำ เป็นฐานรองรับกล้อง มีสกรูสำหรับยึดกล้องไว้

440

ให้แน่นสามารถปรับให้กล้องหมุนไปได้ทั้งทางซ้ายและทางขวา (Pan) มีแขนทำหน้าที่หมุนปรับ
ให้กล้องก้มลง (Tilt down) และเงยขึ้น (Tilt up) ได้ขาต้ัง กล้องแบบ 3 ขามีทั้งขนาดเล็กสามารถ
นำติดตัวออกไปถ่ายภาพนอกสถานที่ได้โดยสะดวก และชนิดที่มีขนาดใหญ่สำหรับใช้กับกล้อง
ขนาดกลางหรอขนาดใหญ่ในสตดู ิโอนอกจากขาต้ังกล้องแบบที่มีสาม ขา ตามทีเ่ ห็นกนั ทว่ั ๆ ไป
แล้ว ก็มีแบบขาเดียวใช้ในทีๆ่ มีเน้ือที่จำกัดสามารถยืดออกให้สูงขึน้ ได้ ถือ ไปมาได้สะดวก บาง
ชนิดก็ทำเป็นแท่นเล็ก ๆ สำหรับตั้งโต๊ะ พับใส่กระเป๋าได้บางอย่างก็ทำเป็นแบบ ด้ามจับถือ
สำหรับติดยึดกล้องทีใ่ ส่เลนส์ถ่ายไกล นอกจากนีก้ ย็ ังมีแบบททำเป็นด้ามยืดติดประทับไหล่ แม้
จะไม่สมบูรณ์ แต่ก็สามารถช่วยยึดกล้องชี้วยแก้ปัญหาการถือกล้องให้นิ่ง ขณะถ่ายภาพได้
มาก ที่เดียว ขาตั้งกล้องเป็นโครงหรือขาตั้งแบบสามขาแบบพกพาใช้เป็นแท่นสำหรับรองรับ
น้ำหนักและรักษาความมั่นคงของวัตถุอื่น ๆ ขาตั้งกล้องให้ความมั่นคงต่อแรงลงและแรงใน
แนวนอนและการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับแกนแนวนอน การวางตำแหน่งของขาทั้งสามข้างให้ห่าง
จากศนู ยก์ ลางแนวตงั้ ช่วย ให้ขาตั้งกล้องสามารถต้านทานแรงดา้ นข้างได้ดขี นึ้

ขาตั้งกล้องใช้สำหรับการถ่ายภาพทั้งแบบเคลื่อนไหวและ
ภาพนิ่งเพอ่ื ป้องกนั การเคลื่อนไหวของกล้องและให้ความเสถียร สิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นอย่าง
ยิ่งเมื่อมีการเปิดรับ แสงความเร็วต่ำหรือเมื่อใช้เลนส์เทเลโฟโต้เนื่องจากกล้องสั่นในขณะที่ชัต
เตอร์เปิดอยู่จะทำให้ภาพ เบลอในหลอดเลือดดำเดียวกันพวกเขาลดการสั่นของกล้องและเปน็
เครื่องมือในการให้ได้ความคมชัด สูงสุด ขาตั้งกล้องยังมีประโยชน์ในการทำให้ได้กรอบภาพที่
แมน่ ยำหรอื เมื่อมีการสร้างภาพมากกว่า หน่งึ ภาพในฉากเดียวกันตัวอย่างเช่นเม่ือถ่ายคร่อมค่า
แสง การใชข้ าต้ังกล้องอาจทำใหไ้ ด้แนวทางใน การถา่ ยภาพที่รอบคอบมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ขาต้ัง
กล้องบางประเภทจึงจำเป็นสำหรับการถ่ายภาพมืออาชีพ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ /
วิดีโอการใช้ขาตั้งกล้องจะให้ความเสถียรภายในช็อตและความสูงที่ต้องการการใช้ขาตั้งกล้อง
ในภาพยนตร์ / วิดีโอมักเป็นตัวเลือกที่สร้างสรรค์ของผู้กำกับ เพื่อความแข็งแรงและความ
มั่นคงสูงสุดรวมท้ังเพื่อการปรับระดับที่ง่ายขาตั้งกล้องสำหรบั ถ่ายภาพ ส่วนใหญ่จะยึดรอบขา
กล้องส่องทางไกลแบบพับได้โดยมีเสาตรงกลางทีเ่ ลือ่ นขึ้นและลง ในการอนุญาตให้มีการขยาย
เพิ่มเติมโดยปกติเสาตรงกลางจะสามารถยื่นออกมาเหนอื การประชุมของขาท้ังสามได้ที่ด้านบน
ของขาตั้งกล้องคือส่วนหัวซึ่งรวมถึงทีย่ ึดกล้อง (โดยปกติจะเป็นแผ่นที่ถอดออกได้โดย มีสกรูหัว
แมม่ ือเพื่อยึดกล้อง) สว่ นหวั เชอ่ื มตอ่ กับเฟรมด้วยข้อต่อหลายจุดทำให้กล้องสามารถแพน เอียง
และม้วนได้ ส่วนหัวมักจะยึดติดกับคันโยกเพื่อให้สามารถปรับทิศทางได้อย่างละเอียดอ่อน
ยิ่งขึ้น ขาตั้งกล้องบางรุ่นยังมีรีโมทคอนโทรลในตัวสำหรับกล้องแม้ว่าโดยปกติแล้วจะเป็น

441

กรรมสิทธิ์ของ บริษัท ทีผ่ ลิตกล้อง (Wikipedia, 2021) ซึ่งขาต้ังกล้อง สามารถแบง่ ประเภทออก
ได้ดังนี้

1. Monopod

ภาพที่ 11.75 Monopod

ภาพจาก : https://www.amazon.com/Professional-COMAN-KX3232-Lightweight-Telescopic/dp/B06XR6QX29

ขาตั้งกล้องที่มีเพียงแค่ขาเดียวตามชื่อเรียก “mono” โดย
อุปกรณ์ชนิดนี้จะมีประโยชน์ช่วยให้กล้องสามารถตั้งได้เอง ใช้เพื่อช่วยให้สามารถจับกล้องได้
นิ่งมากขึ้นกวา่ เดิม เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระจากน้ำหนกั กล้อง พกพาสะดวก มีขอ้ เสีย
คือความสามารถในการรับน้ำหนักต่ำ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการเบลอได้เพราะยังมีมือเป็น
ตัวประคองน้ำหนักอยู่ตลอด หลักๆเราจะเห็นได้ตามงาน Event อย่างงานภาพนิ่ง และ/หรือ
งาน Video ที่เน้นความรวดเร็ว ฉาบฉวย โดยใช้เวลาสนั้ ๆ ณ กิจกรรมนนั้ ๆ

2. ขาต้ังกล้อง (Tripod)

ภาพที่ 11.76 ขาต้ังกล้อง
ภาพจาก : https://www.ec-mall.com/product/tripod/sirui-tripod/95077.html

442
ขาตั้งกล้องอีกประเภท มีลักษณะเป็นขายื่นออกมารับน้ำหนักด้วยกัน

ทั้งหมด 3 ขา มีประเภทใหเ้ ลือกด้วยสองรูปแบบคือ แบบที่มแี กนยึดระหวา่ งขาแต่ละกันกับส่วน
ของแกนกลาง ซึ่งจะเป็นตัวช่วยสร้างความมัน่ คง และแบบขาที่สามารถกางออกได้อย่างอิสระ
เหมาะสำหรบั การจดั วางในพืน้ ทีต่ ่างระดับได้เปน็ อยา่ งดี (photogenic1976, 2020)

ภาพที่ 11.77 ส่วนประกอบของขาต้ังกล้อง
ภาพจาก : http://www.photogenic1976.com/article/8/การใช้งานขาตง้ั กล้องเบอื้ งต้น-ตอนท-ี่ 1-ส่วนประกอบของ

ขาต้ังกลอ้ ง-2

443

หวั (HEAD)

ภาพที่ 11.78 – 11.79 หัวของขาตั้งกล้อง

ภาพจาก : http://www.photogenic1976.com/article/8/การใช้งานขาตง้ั กล้องเบอื้ งต้น-ตอนท-ี่ 1-
สว่ นประกอบของขาต้ังกลอ้ ง-2

มีทั้งชนิดหัวบอล (Ball-Head) หัวแพน (Panning-Head) (รูป
PIC.03) เขากระทิง (Gimbal Head) ทำหน้าที่รองรับกล้องของเรา โดยที่จะมีเพลท (Quick
Release Plate) เป็นตัวยึดกับฐานกล้อง (Body) ซึ่งปกติจะมีขนาดเกลียว 1/4 (2หุน) เป็น
มาตรฐานท่วั ไป

ฐาน (MOUNTING PLATE)

ภาพที่ 11.80 ฐาน (MOUNTING PLATE)

ภาพจาก : http://www.photogenic1976.com/article/8/การใชง้ านขาตั้งกล้องเบ้อื งต้น-ตอนที-่ 1-ส่วนประกอบของขาต้ังกล้อง-2

ทำหน้าที่รองรับหัวกล้องทั้งชนิด หัวบอล หัวแพน Gimbal
ขนาดจะเล็กใหญ่ต่างกันไปตามรุ่นของขาตั้งกล้อง แต่ควรมีขนาดที่สมดุลกับหัวบอล ไม่ควรมี
ขนาดที่เลก็ ไปหรอื ใหญ่เกินไป เกลียวทีฐ่ านจะมีขนาด 3/8 ซึ่งเป็นมาตรฐานสามารถใช้ได้กับหัว
กล้องที่มจี ำหน่ายตามท้องตลาดทว่ั ไป

444

แกนยึดขา (LEG ANGLE LOCK)
ทำหน้าที่ยึดขาทั้งสามขาไว้ สามารถปรับแต่งความหนืดของ
ขาได้ ด้วยประแจหกเหลี่ยม วัสดุที่ใช้จะมีหลายชนิด เช่น

ภาพที่ 11.81 แกนยึดขา (LEG ANGLE LOCK)

ภาพจาก : http://www.photogenic1976.com/article/8/การใชง้ านขาตั้งกล้องเบือ้ งต้น-ตอนที-่ 1-ส่วนประกอบของขาตั้งกล้อง-2

แกนยึดขา (LEG ANGLE LOCK)ที่เป็นพลาสติก : นิยม
ใช้งานขาตั้งกล้องราคาประหยัด ตัวอย่างเช่น (ขาตั้งกล้องรุ่น QZSD-555) รองรับน้ำหนักได้ดี
ในระดับนึง ข้อดคี ือมนี ้ำหนักเบา แต่อายกุ ารใชง้ านน้อยกวา่ ชนิดโลหะ

ภาพที่ 11.82 แกนยึดขา (LEG ANGLE LOCK)

ภาพจาก : http://www.photogenic1976.com/article/8/การใชง้ านขาตั้งกล้องเบ้อื งต้น-ตอนที-่ 1-ส่วนประกอบของขาต้ังกล้อง-2

โลหะหลอ่ : มีท้ังอลมู ิเนียม, อัลลอยด์ และโลหะผสม
อื่นๆ (ตัวอย่างเช่น ขาตั้งกล้องรุ่น AZ-310) สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี แข็งแรงทนทาน ทน
ความรอ้ นได้ในระดบั นึง ไม่แตกหกั ง่าย ข้อเสียคือ มีน้ำหนักมากกว่าพลาสติกพอสมควร

445

ภาพที่ 11.83 แกนยึดขา (LEG ANGLE LOCK)

ภาพจาก : http://www.photogenic1976.com/article/8/การใชง้ านขาต้ังกล้องเบ้อื งต้น-ตอนที-่ 1-สว่ นประกอบของขาต้ังกล้อง-2

โลหะขึ้นรูป CNC : ส่วนใหญ่มักใช้อลูมิเนียมขึ้นรูป
(ตัวอย่างเช่น ขาตั้งกล้องรุ่น CZ-305) จากนั้นทำการทำให้เป็นชิ้นด้วยการ CNC งานที่ได้จะมี
ความสวยงาม เรียบร้อย ทนทาน นา่ ใช้ มกั นิยมใช้ในการผลิตขาต้ังกล้องที่มีราคาระดับกลาง-
สูง

ตะขอถ่วงน้ำหนกั (WEIGHT BALANCE HOOK)

ภาพที่ 11.84 ตะขอถว่ งน้ำหนัก (WEIGHT BALANCE HOOK)

ภาพจาก : http://www.photogenic1976.com/article/8/การใชง้ านขาตั้งกล้องเบ้อื งต้น-ตอนที-่ 1-สว่ นประกอบของขาตั้งกล้อง-2

ข้อดีของขาตั้งกล้องที่มีน้ำหนักเบา คือ เวลาพกพาไปไหนมา
ไหนจะสะดวกสบาย แตจ่ ะมีปญั หาขาไมน่ ่ิงตามมา เพราะด้วยน้ำหนกั ทีเ่ บาจึงทำให้เวลาใช้งาน
จริงนั้นอาจมีลมแรงพัดขาเราทำให้ภาพที่ได้นั้นเบลอไม่คมชัด หลายยี่ห้อจึงทำตะขอถ่วง
น้ำหนัก (Weight Balance Hook) เพื่อแก้ปัญหาตรงจุดนี้ โดยการใช้งานก็ง่ายมากๆ เพียงหา

446

กระเป๋าที่มีน้ำหนักสักหน่อย จากนั้นดึงตะขอที่แกนกลางแล้วคล้องสายสะพายกระเป๋าถ่วงไว้
เท่านีก้ ท็ ำให้ขาต้ังกล้องเราม่ันคงข้ึนเยอะ

ทอ่ นขา (LEG SECTION)

ภาพที่ 11.85 ท่อนขา (LEG SECTION)

ภาพจาก : http://www.photogenic1976.com/article/8/การใชง้ านขาตั้งกล้องเบ้อื งต้น-ตอนที-่ 1-ส่วนประกอบของขาตั้งกล้อง-2

วัสดุของขาจะมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ อลูมินัม และ
คาร์บอน ไฟเบอร์ วัสดุอลูมินัม จะมีความแข็งแรง ทนทาน แต่มีน้ำหนักมาก ส่วนท่อนขา
คาร์บอน ไฟเบอร์นั้น ที่การรับน้ำหนักเท่ากัน จะมีน้ำหนักขาที่เบากว่าขาอลูมินัม จำนวนท่อน
ขาจะมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่รุ่นที่ผู้ผลิตได้ออกแบบไว้ บางรุ่นมี 2 ท่อน บางรุ่นมีถึง 4 ท่อน
การมีจำนวนท่อนที่มากสามารถปรับความสูงต่ำได้ละเอียดมากขึ้น ในขณะที่ยังคงความ
แขง็ แรงของขาต้ังกล้องไว้ได้เป็นอย่างดี

- ขาตั้งกล้องภาพนิ่ง

ภาพที่ 11.86 ขาตั้งกล้องภาพนิ่ง
ภาพจาก : https://www.bigcamera.co.th/article/4-trip-tripod.html

447

ขาต้ังกล้องคืออปุ กรณ์สว่ นช่วยของกล้องช่างภาพส่วนใหญ่ถ้า
หากมีโอกาสเลือกใช้ก็มักจะใช้กัน เราจึงไม่ค่อยแปลกใจเวลาที่เห็นช่างภาพมืออาชีพทั้งหลาย
แม้ว่างานนั้นอาจไม่ค่อยมีโอกาสใช้ขาตั้งกล้องแต่พวกเขาก็ยั งคงแบกมาเพื่อโอก าส อัน
เหมาะเจาะแล้วจะได้ใช้ หลายคนคงมีข้อสงสัยว่าในเมื่อขาตั้งกล้องมันใช้บ้างไม่ใช้บ้างแล้ว
ชา่ งภาพจะแบกมาทำไมใหม้ ันหนัก ซึ่งชว่ ยสิ่งต่างๆดังนี้ (ncsbcs, 2018)

1. ความคมชัดของภาพสูงขนึ้
อาจมีคำถามว่าขาตั้งกล้องมันเกี่ยวอะไรกับความ
คมชัดของภาพ คือต้องทำความเข้าใจว่าเรื่องความคมชัดไม่ได้หมายถึงความละเอียดของภาพ
หรือความชัดเจนในค่าต่างๆ แต่มีขาตั้งกล้องช่วยทำให้ภาพนิ่งขึ้น ตั้งมุมกล้องตามแสงที่
ต้องการเนียนขึ้นเพราะไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ เหมือนมือเรา นั่นย่อมทำให้ภาพของกล้องเมื่อถูก
ถ่ายบนขาตั้งกล้องมีสูงกว่า ที่สำคัญยังชว่ ยลด Noise ของภาพออกไปได้อกี เพียบ
2. การจัดองค์ประกอบภาพง่ายขึ้น
มันเป็นประโยชน์ที่สัมพันธ์มาจากข้อแรกนั่นเพราะ
เมื่อเราตั้งกล้องไว้บนขาตั้งกล้องเราสามารถกำหนดมุมภาพได้แล้วว่าต้องให้ ออกมาประมาณ
ไหน แล้วเราก็คอ่ ยจดั องคป์ ระกอบภาพได้ตามตอ้ งการไมเ่ หมอื นการถา่ ยด้วยมือทีค่ ร้ังแรกอาจ
ยกในระดับหนึ่งพอจดั องคป์ ระกอบเสร็จยังไงก็ไมม่ ีทางยกได้เท่ากันเป๊ะๆ ภาพที่ออกมามุมมัน
อาจไม่เป็นอย่างใจต้องการ
3. ช่วยในการถ่ายกับสภาพที่ไม่คิดว่าจะถ่ายได้
ยกตัวอย่างชัดเจนสุดๆ สมมุติเวลาเราเดินเข้าไปในป่าแล้วเราพบว่ามุมๆ หนึ่งมีนกสวยๆ อยู่
เต็มไปหมดแตเ่ ราเล็งแล้วว่ามุมนี้เป็นมุมที่ดีกับการจะได้ภาพนักนั้นมา ตั้งกล้องบนขาตั้งกล้อง
แล้วเลือกมุมชัดเจนจะชว่ ยให้ภาพเราออกมาตามต้องการและเป็นมมุ สวยๆ ที่ไม่ต้องเคลื่อนหา
มมุ กล้องบ่อยๆ แถมยังใช้ได้กบั สภาพแวดล้อมซึง่ นกึ ไม่ถึงดว้ ย
4. สร้างจินตนาการของการคิดมุมภาพการตั้งกล้อง
เอาไว้บนขาตั้งกล้องแล้วพยายามโฟกัสจากหน้าจอกล้องออกมาสถานที่จริงจะช่วยให้เรา
มีไอเดียในการถ่ายรูปได้อีกเพียบ เพราะเรามีองศากล้องเหมือนเดิมเพียงแค่มองผ่านหน้าจอ
กล้องและมองมุมจริงว่ามันดีอย่างที่คิดหรือไม่ เป็นการสร้างจินตนาการสำหรับถ่ายภาพยอด
เยี่ยม

448

- ขาตั้งกล้องวิดีโอหวั บอล

ภาพที่ 11.87 ขาตั้งกล้องวิดีโอหวั บอล

ภาพจาก : https://www.bhinneka.com/libec-th-z-tripod-system-with-mid-level-spreade-sku3329013520.
https://www.icamplus.co.th/product/722/%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A

D%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AD-libec-th-z-snap-on-off-plate-dual-head

Ball Head หรือ “หัวบอล” ลักษณะเด่นคือ มีลูกบอลกลมๆ อยู่ภายใน
ตัวหัว หมุนได้รอบตัว 360 องศา สามารถทำมุมเอียงได้ประมาณ 45 องศารอบตัว และมีร่อง
ให้สามารถเอียงได้ 90 องศาสำหรับถ่ายภาพแนวต้ังข้อดีของหวั บอลคือ ด้วยความที่มันหมุนได้
รอบตัวและเอียงได้อิสระ มันจึงสะดวก และช่วยทำให้ถ่ายภาพรวดเร็วไม่ยุ่งยาก มีประโยชน์
อย่างมากในกรณีที่ขาไม่อาจตั้งบนพื้นราบ ปัจจุบันหัวบอลน่าจะเป็นหัวที่ได้รับความนิยมสูง
ที่สุด เนื่องจากเวลาติดตั้งเข้ากับขาตั้งมันจะไม่เกะกะไม่มีก้านอะไรยื่นยาวออกมา และมี
น้ำหนักที่เบาเมือ่ เทียบกับหัวชนิดอ่นื ๆ ทีข่ นาดเทา่ ๆ กัน แตข่ อ้ ดีของมันกก็ ลบั กลายเป็นข้อเสีย
ทันทีเมื่อต้องการถ่ายภาพบางกรณีที่ต้องการระนาบขนานที่ต้ังตรงทีอ่ าจจะต้องใช้เวลาเล็งกบั
ตัวกล้องซักนิด และบางกรณีที่ต้องการแพนกล้องที่ใช้ถ่ายวิดีโอ เนื่องจากมันจะกะน้ำหนักมือ
การแพนได้ลำบากและไมม่ ีดา้ มให้จับน้ันเอง (THANANCHAI LOHACHARTKUL, 2018)

449

- Selfie Stick

ภาพที่ 11.88 Selfie Stick

ภาพจาก : https://www.nandt-
shop.com/category/120/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD-

%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%A1-
%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E

0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%86-
%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87/%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B9%80%E

0%B8%8B%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B8%B5%E0%B9%88-
%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E

0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B

ไม้เซลฟี่ หรือ selfie stick คือ ไม้ยาวที่ทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน

หรือกล้องดิจิทัล สามารถถ่ายภาพตัวเองได้ในมุมกว้างกว่าการเหยียดแขนธรรมดาคือ โมโน

พอดใช้สำหรับถ่ายภาพเซลฟี โดยการใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน หรือกล้องถ่ายรูป ปกติแล้วแท่ง

โลหะสามารถยืดหดได้ โดยด้านหนึ่งเป็นด้ามจับ ส่วนอีกด้านเป็นที่หนีบโทรศัพท์ บางทีอาจมี

การบังคับระยะไกลผ่านรีโมท หรือบลูทูธ เพื่อให้ผู้ถ่ายสามารถเลือกกดถ่ายได้ตามต้องการ

บางรนุ่ อาจมกี ระจกข้างหลังกล้องเพือ่ ให้ผถู้ ่ายสามารถดูภาพขณะถ่ายได้ไม่เหมือนกับโมโนพอ

ดธรรมดา ตัวไม้เซลฟีมีขนาดใหญ่ใกล้ด้ามจับทำให้ถือง่ายและมีความสมดุลขณะจับพราะ

เหตุผลด้านความปลอดภัยและความไม่สะดวกของผู้อื่น ไม้เซลฟี่ใช้ในการถ่ายภาพหรือวิดีโอ

โดยการวางตำแหนง่ อุปกรณ์กล้องดิจิทัลซึ่งโดยปกติจะเปน็ สมารท์ โฟนใหอ้ ยู่เหนือช่วงแขนปกติ

สิ่งนี้ช่วยให้สามารถถ่ายภาพในมุมและระยะทางที่ไม่สามารถทำได้ด้วยแขนของมนุษย์ด้วยตัว

มันเอง โดยทั่วไปไม้จะสามารถยืดออกได้โดยมีที่จับที่ปลายด้านหนึ่งและที่ยึดทีป่ รับได้ที่ปลาย

อีกด้านหนึ่งเพื่อยึดอุปกรณ์ให้เข้าที่ ตามชื่อของพวกเขามักใช้สำหรับการถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้อง

450

โทรศัพท์ บางเครื่องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านปลั๊กแจ็คในขณะที่บางเครื่องเชื่อมต่ อกับ
สมาร์ทโฟนโดยใช้การควบคุมบลูทูธการเชื่อมต่อระหว่ างอุปกรณ์และไม้เซลฟี่ช่วยให้ผู้ใ ช้
ตดั สินใจได้ว่าจะถ่ายภาพหรือเริม่ บนั ทึกวิดีโอเม่อื ใดโดยคลิกปมุ่ ที่อยู่บนด้ามจับ รุ่นที่ออกแบบ
มาสำหรับกล้องคอมแพคจะมีกระจกอยู่ด้านหลังของช่องมองภาพเพือ่ ให้สามารถจัดเรียงภาพ
ได้ ในทางตรงกันข้ามกับขาตั้งกล้องแบบโมโนพอดทีท่ ำให้กล้องทรงตัวบนพื้นได้แขนของไม้เซล
ฟี่จะหนาที่สุดและแข็งแรงที่สุดที่ปลายอีกด้านหนึ่งจากกล้องเพื่อให้การยึดเกาะและความ
สมดุลที่ดีขึ้นเมื่อถือในที่สูง ความกังวลด้านความปลอดภัยและความไม่สะดวกที่ทำให้
ผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นกับผู้อื่นส่งผลให้พวกเขาถูกแบนในสถานที่จัดงานหลายแห่งรวมถึง Disney
Parks ทั้งหมดท้ัง Universal Studios Orlando และ Hollywood

ไม้เซลฟี่ควรพกพาได้ดังนั้นคุณจึงต้องการไม้ที่มีขนาด
กะทัดรัดเปน็ พิเศษเมอ่ื พบั ในขณะที่ไม้เซลฟี่ส่วนใหญ่จะพับให้มีความยาวประมาณ 8 นิ้ว แต่ก็
มีบางรุ่น (มักจะแพงกว่า) ที่ยุบให้มีความยาวสั้นลงเพือ่ ง่ายต่อการจดั เก็บในกระเป๋าเป้กระเป๋า
เงินหรือกระเป๋าของคุณ เราไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความยาวพับมากนัก แต่เป็นเรื่องที่น่ากังวล
สำหรับบางคน พื้นที่หนึ่งทีเ่ ราเปน็ ผู้ยึดติดคือการเข้าถึงทั้งหมด แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ที่จะได้ไม้เซลฟี่หากมนั ไม่สามารถยื่นออกมาไกลจากร่างกายของคุณได้มากพอที่จะถ่ายภาพที่
คุณต้องการดังนั้นจงคำนวณหาความยาวตามที่คุณต้องการ เราขอแนะนำให้ใช้อันที่ยาวเกิน
30 นวิ้ และควรไปให้ใกล้กว่า 40 นิว้ ขึน้ อยกู่ ับคุณและความตอ้ งการของคณุ

ภาพที่ 11.89 รีโมทคอนโทรลถ่ายภาพ

ภาพจาก : https://www.pocket-lint.com/gadgets/news/134008-a-buyer-s-guide-to-smartphone-selfie-sticks-which-one-should-you-get-and-why

คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าไม้เซลฟี่เป็นมากกว่าแท่งโลหะที่ยึดติด
กับโทรศัพทข์ องคุณ นอกจากนี้ยังเป็นรีโมทคอนโทรล เกือบทุกรุ่นมีปุ่มในตวั ที่จับและด้วยการ
กดปุ่มดังกล่าวคุณสามารถถ่ายภาพหรือเริ่มบันทึกวิดีโอได้ แต่เพื่อให้อุปกรณ์ของคุณจดจำ
คำสั่งดังกล่าวได้จำเป็นต้องเชื่อมต่อกบั ไม้เซลฟี่ มีสองวิธีหลักในการเชื่อมต่อโทรศัพท์ของคณุ
กับไม้เซลฟี่ บลูทูธ และสายเคเบิลที่มีแจ็ค 3.5 มม. (เสียบเข้ากับพอร์ตหูฟังของสมาร์ทโฟนข
องคุณ) ด้วยตัวเลือก Bluetooth คุณเพียงแคจ่ บั ค่โู ทรศพั ทข์ องคุณกบั แท่งไม้จากน้ันเลื่อนเข้าไป

451

ในที่หนีบของไม้เซลฟี่จากนั้นเริ่มกดปุ่มกล้องที่ด้ามจับไม้เซลฟี่เพื่อถ่ายภาพและวิดีโอ
ตัวเลือกบลทู ูธ เปน็ ร่นุ ที่มเี ทคโนโลยีสูงกว่า แต่กต็ ้องใช้พลังงานเชน่ กัน ไม้เซลฟี่ที่รองรับบลูทูธ
มักจะมีพอร์ต micro-USB อยู่ที่ฐานที่จับสำหรับชาร์จ (และโดยทั่วไปแล้วสาย USB จะรวมอยู่
ด้วย) เราไม่แนะนำให้ใช้ไม้เซลฟี่บลูทูธ เพราะต้องจำการชาร์จให้ยุ่งยากและอายุการใช้งาน
แบตเตอรี่มักจะไม่ค่อยดีนัก ด้วยตัวเลือกสายเคเบิลคุณเพียงแค่เอาสายขดเลก็ ๆ โผล่ออกมา
จากด้านบนของไม้เซลฟีจ่ ากน้ันเสียบเข้ากับสมาร์ทโฟนของคุณในขณะที่ติดตั้งหรือยึดเข้าที่ ไม่
จำเป็นต้องจับคู่โทรศัพท์ของคุณหรือชาร์จไม้เซลฟี่หรืออุปกรณ์ใด ๆ เพราะทุกอย่างจะพร้อม
ใช้งานทันที เพียงกดปุ่มกล้องบนแท่งไม้เพื่อถ่ายภาพและวิดีโอข้อเสียเพียงอย่างเดียวในการใช้
ตัวเลือกสายเคเบิลคือโทรศัพท์ของคุณจะไม่บันทึกเสียงในขณะที่ใช้แจ็ค 3.5 มม. (แม้ว่าใน
อุปกรณ์ Android คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเพื่อแก้ไขปัญหาได้) หากคุณใช้ iPhone และ
ต้องการเสียงคุณจะต้องเริ่มบันทึกวิดีโอก่อนจากนั้นติดตั้งโทรศัพท์ของคุณและถ่ายภาพด้วย
ตนเองโดยไม่สามารถใช้ปุ่มควบคุมกล้องได้ สามารถติดอุปกรณ์ไว้ที่ส่วนท้ายของไม้เซลฟี่
จากนั้นขยายออกไปให้ไกลกว่าแขนปกติ แท่งไม้รุ่นต่างๆจะถูกกระตุ้นด้วยวิธีต่างๆเช่นการกด
ปุ่มที่ด้ามจับซึ่งเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ (โดยปกติจะใช้ปลั๊กแจ็ค) การกดปุ่มบนรีโมทไร้สาย (มัก
ใช้บลูทูธ) โดยใช้กล้องที่สร้างขึ้น ในการจับเวลาหรือส่งเสียงที่อุปกรณ์ตรวจจับได้เพื่อเริ่ม
บันทึกวิดีโอหรอื ถา่ ยภาพ

วิธีการทางกายภาพของสมาร์ทโฟนในการเรียกใช้กล้องเช่น
ตัวควบคุมระดับเสียงหรือปุ่มกล้องหน้าจอสัมผัสของอุปกรณ์จะจำลองแบบบนหูฟังที่มีการ
ควบคุมบนสาย เมือ่ เสียบไม้เซลฟี่เข้ากับปลัก๊ แจค็ อปุ กรณ์จะมองว่าเป็นหฟู ัง ไม้เซลฟี่ช่วยให้ใช้
งานได้จริงมากขึ้นในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือในการถ่ายภาพ / วิดีโอในมุมที่ยาก
ซึ่งจำเป็นต้องถ่ายจากระยะที่กว้างขึ้นและสูงเกินเอื้อมแขน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพและ
วิดีโอในสถานการณ์ที่อันตรายหรือเป็นไปไม่ได้เช่นการบันทึกภาพในหลุมที่ลึกมากบนหน้าผา
หรอื เพียงแคใ่ นมุมทีห่ า่ งจากผู้ใชม้ ากเกินไป

452

- ขาต้ังหนีบโทรศัพท์

ภาพที่ 11.90 ขาหนบี โทรศัพท์

ภาพจาก : https://www.zetashoponline.com/product/2815/%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B
8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%95-

%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A1-top-
%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A2%E0%B8%B6%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%8A%E0%B8%B0-
%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87-%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7-100-%E0%B8%8B%E0%B8%A1-

2?gclid=Cj0KCQjw3duCBhCAARIsAJeFyPVzrK3ZqKp_MUQwenA8ci-ZAWLaUy5PWnauKoTQ4S_xyQLzDMhofboaAl6jEALw_wcB

ขาหนีบโทรศัพท์ คือ แท่นวางโทรศัพท์เป็นวัตถุขนาดเล็กที่ใช้
เพื่อรองรับอปุ กรณ์เคลื่อนที่ของคณุ ออกแบบมาให้นั่งบนพื้นแข็งเช่นโต๊ะหรือโต๊ะทำงานดังนั้น
คุณสามารถดวู ิดโี อเลื่อนดูรปู ภาพและในที่สดุ กร็ กั ษาโทรศัพท์ของคุณใหส้ ะอาดและปลอดภัย

- Steadicam

ภาพที่ 11.91 Steadicam
ภาพจาก : https://teknoav.com/en/product/steadicam-aero-30-system-with-arm-vest

453

เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวยึดที่มั่นคงสำหรับกล้อง
ถ่ายภาพเคลื่อนไหว ด้วยการใช้กล้องติดตั้งแบบต่อเนื่องมันเป็นไปได้ที่จะถ่ายภาพแอ็คชั่นโดย
ไม่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวกระตุกโดยไม่ตั้งใจหรือขาดสมาธิในการถ่ายภาพ กล้องวิดีโอ
สามารถใช้รูปแบบที่แตกต่างกันสองแบบขึ้นอยู่กับประเภทของกล้องที่ใช้และสภาพแวดล้อมที่
ใช้งานกล้อง ในภาพยนตร์หรือในสถานที่ต่าง ๆ กล้องที่มีขนาดใหญ่และทรงพลังเหล่านี้มักจะ
ถูกโหลดลงบนขาตั้งที่ควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิกส์ซึ่งจะช่วยบรรเทาผู้ปฏิบัติงานในการใช้
พลังงานทางกายภาพเพื่อให้กล้องมั่นคง ตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่กว่าของตัวยึดที่มีเสถียรภาพ
เหล่านี้อาจมีที่นั่งสำหรับตัวกล้องหรือให้พื้นที่สำหรับผู้ใช้งานที่จะยืนด้านหลังตัวเครื่องและ
โฟกัสมมุ และเลนส์ คุณค่าของการรองรับกล้องถ่ายภาพต่อเนื่องขนาดใหญ่ประเภทนี้คือกล้อง
สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างง่ายดายเพื่อรองรับการถ่ายทำโดยไม่สร้างปัญหาเช่นการโฟกัส
แบบฟัสซีหรือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วนอกระยะเวลา นอกเหนือจากการรองรับขนาดใหญ่
เหลา่ น้ที ี่ทำหนา้ ทีเ่ ป็นขาตั้งที่ได้รับการปรับปรงุ แล้ว มักใช้กบั กล้องมอื ถือขนาดเล็ก ผู้ให้บริการ
กล้องที่ทำงานกบั แผนกขา่ วของสถานีโทรทัศน์มักใช้ประโยชน์จากสายรัดเข็มขัดนิรภัยเม่ือถ่าย
ทำบทสัมภาษณ์และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นนอกสตูดิโอโทรทัศน์ สายรัดพอดีรอบลำตัวและ
ไหล่เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับกล้องมือถือ เนื่องจากสายรัดแบบต่อเนื่องทำ
หน้าที่แบกน้ำหนักส่วนใหญ่ของกล้องและช่วยรักษาความมั่นคงของอุปกรณ์กล้องจึงมีโอกาส
น้อยที่จะได้รับความเมื่อยล้าในกล้ามเนื้อแขนและสามารถรับการบันทึกเหตุการณ์ระยะไกลได้
อยา่ งคมชดั (netinbag, 2018)

steadicam ถือกำเนิดขึ้นในปี 1976 โดยตากล้อง/นักประดิษฐ์
การ์เร็ตต์ บราวน์ ก่อนจะถูกนำมาใช้ถ่ายทำภาพยนตรเ์ ป็นคร้ังแรกใน Bound for Glory (1976)
อย่างไรก็ตาม คนเริ่มหันมาสนใจสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้อย่างจริงจัง หลังจากหนังเรื่อง The Shining
ใช้ประโยชน์จาก steadicam ได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ steadicam (และกล้องดิจทิ ัล) ยงั เป็น
ส่วนสำคัญที่ทำให้ไอเดีย การสร้างหนังที่ปราศจากการตัดภาพตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง (แต่
กล้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและเปลี่ยนฉากอย่างต่อเนื่อง) แบบ Russian Ark กลายเป็นจริง
ได้ ในอดีตผู้กำกับภาพยนตร์มีแค่สองทางถ้าต้องการจะเคลื่อนกล้อง หนึ่ง ตั้งบนรางดอลลี
(dolly) ซึ่งใช้เวลาและไม่สามารถกระทำได้ในหลายสถานการณ์ หรือแบกไว้บนบ่า (handheld)
ซึ่งง่าย และคล่องตัว แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการสั่นไหวของภาพได้ แม้ว่าตากล้องคนนั้นจะ
เชี่ยวชาญขนาดไหน ก็ตาม steadicam ผนวกข้อดีของ dolly กับ handheld เข้าไว้ด้วยกัน
กล่าวคือ มันให้ภาพ ที่ค่อนข้างนิ่งและลื่นไหล แต่ขณะเดียวกันก็สะดวกสบายเพราะกล้องผูก
ติดกับลำตัวของตากล้อง ซึ่งสามารถกำหนดเฟรมภาพได้โดยใช้การเคลื่อนไหวของมือเพียง

454

เล็กน้อย ขณะมองเหตุการณ์ผ่านจอ มอนิเตอร์ ส่วนผู้ช่วยตากล้องจะทำหน้าที่ในการปรับ
โฟกัสโดยใช้รโี มท (Kamlangniyom, 2018)

- Gimbal

ภาพที่ 11.92 Gimbal

ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/c/product/1576695-REG/manfrotto_mvg220_gimbal_220_kit.html

อุปกรณ์มอเตอร์ 3 แกนหมุนอิสระ ทำให้ตัวกล้องตั้งตรงคงที่
อยู่ในทิศทางเดียวกบั แนวเส้นขอบฟ้า หรือตั้งให้หันไปในทิศทางอื่นตามต้องการ ควบคุมกล้อง
ไม่ให้สั่นไหวเคลื่อนที่ไปตามมือที่ถือ หรือวัตถุอื่นๆ ที่มีการเคลื่อนที่ ป้องกันอาการสั่นไหวของ
ภาพ ทำให้ได้ภาพที่นิ่งและตั้งตรงเสมอ ในโหมดการแพน(Pan) และทิ้ว (Tilt) มอเตอร์สามารถ
ควบคุมความเร็วของกล้องในการแพนซ้าย-ขวา หรือทิ้วก้ม-เงย ให้เป็นไปตามจังหวะที่
เหมาะสม ทำให้ได้ภาพเคลื่อนไหวที่เป็นไปอย่างนุ่มนวล อุปกรณ์ Gimbal มีทั้งแบบ Handheld
ที่ใช้สำหรับถือถ่ายโดยเฉพาะ เหมาะกับช่างภาพที่เน้นถ่ายวิดีโอในงานสำคัญต่างๆ กับแบบ
Wearable สำหรับสวมใส่ติดตามร่างกาย หรอื ติดอปุ กรณ์ต่างๆ เหมาะที่จะใช้กับอุปกรณ์ขายึด
ขาจับกล้องในแบบต่างๆ เช่น หมวกกันน็อก, จักรยาน และอุปกรณ์อื่นๆ กิมบอลแบ่งเป็น 2
ชนิด ดงั น้ี

455

1. Wearable

ภาพที่ 11.93 Wearable
ภาพจาก : https://www.intrendmall.com/what-is-a-gimbal-and-how-to-buy-it/

กิมบอลแบบ Wearable คือ แบบที่ใช้ในการสวมใส่
ร่างกาย แตห่ มายถึงเปน็ กิมบอลที่ตดิ ตามอุปกรณ์ตา่ งๆทีใ่ ชง้ าน ซึง่ จำเปน็ ต้องใช้กับอปุ กรณ์ยึด
ขาจบั กล้องในแบบต่างๆตวั อย่างอปุ กรณท์ ี่เอาไปใช้งานก็จะได้แก่ หมวกกนั นอ็ ค จกั รยาน และ
อุปกรณ์อืน่ ๆ

2. Handheld

ภาพที่ 11.94 Handheld
ภาพจาก : https://www.intrendmall.com/what-is-a-gimbal-and-how-to-buy-it/

กิมบอลแบบ Handheld คือ แบบที่ใช้สำหรับถือถ่าย
โดยเฉพาะ เหมาะกับช่างภาพที่เน้นถ่ายวิดีโอในงานสำคัญต่างๆ หรือก็คือพวกไม้กันสั่นที่เรา
เห็นขายกันอยู่หลายๆยี่ห้อ มีทั้งแบบราคาไม่กี่พันบาทไม่จนถึงหลายหมื่นบาท หลายเกรดให้
เลือกใช้กันตามสไตลก์ ารใชง้ านของแต่ละคน

456
Gimbal แบบ 2 แกน กับ 3 แกน

ภาพที่ 11.95 – 11.96 Handheld Gimbal แบบ 2 แกน และ แบบ 3 แกน
ภาพจาก : https://www.intrendmall.com/what-is-a-gimbal-and-how-to-buy-it/

ภาพที่ 11.97 – 11.98 Handheld Gimbal แบบ 2 แกน และ แบบ 3 แกน
ภาพจาก : https://www.intrendmall.com/what-is-a-gimbal-and-how-to-buy-it/

- Dolly Slide

ภาพที่ 11.99 Dolly Slide

ภาพจาก : https://www.tookdeecamera.com/product/798/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88-dolly-
slider%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99-

%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B7%E0%B8%99-%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99-
%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7-60-cm

457

Dolly Slide คือ อุปกรณ์ สำหรับถ่ายภาพยนตร์
ภาพนิ่ง ภาพเคลือ่ นไหว Video Dolly Slider ทำให้ถ่ายได้นุ่มนวลมากยิ่งข้ึน ใช้ได้กับกล้องทุกรุ่น
ด้านล่างสามารถยึดเข้ากับขาตั้งที่เป็นหัวแบบ Quick Release ได้ทันที หรือจะหมุนเข้าเกลียว
ขนาด 1/4" ก็ได้ พับเก็บแล้วยังมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ทำจากอลูมิเนียมแข็งแรง รับน้ำหนักได้
สูง

- mini jib / crane

ภาพที่ 11.100 mini jib / crane

ภาพจาก : https://thai.alibaba.com/product-detail/3m-aluminum-camera-mini-jib-crane-photo-studio-jib-arm-60727457230.html

เครน และจิ๊บใช้เป็น "แขนกล" ซึ่งช่วยให้การเปลี่ยนภาพและ
การเคลือ่ นไหวของกล้องราบร่ืนขึน้ ในขณะทีบ่ ันทึกฉากหรือจบั การเคลือ่ นไหวโดยไม่สะดุด Jibs
เป็นทีร่ ู้จักกันดีในเรื่องความสามารถในการจับภาพ 360 องศาในขณะเดียวกนั ก็ช่วยให้สามารถ
แพนเอียงและทำงานได้อย่างราบรื่นทั้งในแนวตั้งและแนวนอน คำว่า "crane" และ "jib" มักใช้
แทนกันได้เนื่องจาก crane ถือเป็น "แขน" ในขณะที่ jib มักเรียกกันว่า "crane" ในอุตสาหกรรม
ภาพยนตร์

458

ในการตั้งค่าระดับมืออาชีพและสตูดิโอภาพยนตร์ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างสองอย่าง
คือ jibs มักจะมีขนาดเล็กกว่าเครนกล้องแบบเดิมทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้นโดย
ไม่รบกวนกระบวนการถ่ายทำหรือทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพต่ำ ในขณะที่ผู้ใช้ YouTube มัก
พบว่าใช้ Sliders และ Overhead rigs แต่ jib นั้นลื่นไหลกว่ามากและให้ความยืดหยุ่นเพิ่มเติมที่
ไม่พบในแท่นขุดเจาะแบบ Overhead และ Slider แบบดั้งเดิม Jibs และ cranes ช่วยให้คุณจับ
ภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับความสูงทีแ่ ตกต่างกนั โดยไม่สะดุดกับการเคลือ่ นไหว การ
ใช้ป้ันจน่ั เปน็ สิง่ ที่ดอี ยา่ งยิ่งหากคุณต้องการปรบั ปรุงคุณภาพของภาพอย่างมากในขณะที่มีส่วน
ร่วมและเจาะลึกมากขึ้นด้วยเทคนิคทั่วไปที่ใช้ในการสร้างภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ สามารถ
ใช้จิบ๊ ในการถ่ายภาพสูงหรือต่ำซึง่ ยากสำหรบั ผู้ควบคมุ กล้องที่ถือกล้องด้วยมือหรือภาพที่ต้อง
เคลื่อนที่เป็นระยะทางสั้น ๆ ในแนวนอนหรือแนวตั้งโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและปัญหาด้าน
ความปลอดภัยในการวางผคู้ วบคุมกล้อง ปั้นจนั่ สำหรบั ยิงเครนหรือวางรางสำหรับกล้องดอลลี่
ยงั สามารถติดต้ัง jib บนดอลลีส่ ำหรับภาพที่กล้องเคลือ่ นผ่านสิ่งกีดขวางเช่นเฟอร์นิเจอร์เม่ือไม่
สามารถใช้ภาพดอลลี่ธรรมดาได้

jib มีความซับซ้อนมากกว่าคันโยกธรรมดาเนื่องจากเกือบ
ตลอดเวลาจำเป็นต้องควบคุมจุดมุ่งหมายของกล้องโดยไม่ขึ้นกับการแกว่งของแขนจับ ซึ่ง
สามารถทำได้โดยวิธีเชิงกลที่ค่อนข้างง่ายหรือโดยใช้เซอร์โวมอเตอร์ไฟฟ้าที่ควบคุมจาก
ระยะไกลเชน่ เดียวกบั ที่ใชใ้ นหวั รีโมท เนือ่ งจากโดยปกติแล้วผู้ควบคุมกล้องจะไม่สามารถใช้การ
ควบคุมของกล้องได้โดยตรงหรือมองผ่านช่องมองภาพของกล้องจึงมักใช้จิ๊บร่วมกับระบบ
ควบคุมระยะไกลเพื่อโฟกัสและ / หรือ ซูมและ / หรือฟังก์ชั่นกล้องและกับวิดีโอแบบพกพา
จอภาพที่ตดิ ต้ังอย่ใู กล้กับตัวดำเนินการ jib อุปกรณ์ที่เรยี กวา่ hot head หรอื remote head ติด
อยู่ที่ปลายกล้องของจิ๊บที่ใหญ่กว่า รองรับกล้องและเปิดใช้งานฟังก์ชั่นแพน / ก้มเงยจาก
ระยะไกลพร้อมการควบคุมโฟกัส / ซูม การตั้งค่านี้สามารถดำเนินการได้โดยบุคคลเดียวหรือ
ในสถานการณ์อาจต้องใช้ตัวดำเนินการสองตัว ในสถานการณ์ที่มีผู้ปฏิบัติงานสองคนคนหนึ่ง
ใช้แขนจับ / บูมในขณะที่อีกคนใช้ฟังก์ชันแพน / ก้ม / เงย / ซูมของหัวรีโมท ตัวอย่างเช่นหัวที่มี
ความเสถียรของนิวตัน ที่ช่วยให้กล้องมีเสถียรภาพภายใต้การใช้งานที่รวดเร็วและยังช่วยให้
สามารถม้วนฟิล์มได้อีกด้วย (Omnicoreagency, 2021 ; Wikipedia, 2021)

2.1.3 เสียง Audio mic กับ เครื่องบันทึกเสียง
Audio mic คือ อุปกรณ์ที่เปลีย่ นเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้า การ

ออกแบบไมโครโฟนที่ดี จะต้องสามารถเปลีย่ นพลงั เสียงได้ดี ตลอดย่านความถีเ่ สียง ซึ่งมีความ

459

จำกัดมาก จึงมีเทคโนโลยีหลายอยา่ งเกิดขึ้นเพื่อให้ได้สัญญาณสียง ที่ดีเหมือนต้นกำเนิดเสียง
ดังนน้ั จงึ มไี มโครโฟนหลายชนดิ ที่มคี ุณลักษณะไม่เหมอื นกนั

เครื่องบันทึกเสียง คือ คือเครื่องที่ใช้สำหรับเก็บบันทึกเสียง
ใดๆไว้ในรูปของไฟล์ เพือ่ นำไปใช้ในงานต่างๆ ไมว่ า่ จะเปน็ บนั ทึกเสียงสำหรบั การเรียน อัดเสียง
ในที่ประชุม หรือแม้กระทั่งบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งลักษณะการทำงานของเครื่อง
บันทึกเสียงจะเป็นการบันทึกแบบต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มกดบันทึกเสียง เครื่องบันทึกเสียงจะ
บันทึกเสียงตลอดเวลาไปจนกว่าจะกดหยุดบันทึก หรือแบตฯ หมด หรือหน่วยความจำเต็ม
แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง จากนั้นผู้ใช้งานจึงนำเครื่องบันทึกเสียงออกมาเปิดฟังในภายหลัง
เป็นจุดที่แตกต่างกันกับเครื่องดักฟัง ซึ่งเครื่องดักฟังจะเป็นการฟังแบบสดๆในเวลานั้นๆ แต่
ไมไ่ ด้เกบ็ บนั ทึกไฟล์เสียงใดๆ

- shot gun

ภาพที่ 11.101 shot gun
ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/c/product/1449118-
REG/e_image_pm_500_hyper_cardioid_shotgun_microphone.html

ไมโครโฟนปืนลูกซองเป็นไมโครโฟนทิศทางที่ใช้กันทั่วไปใน
การผลิตรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ มันถูกใช้เพื่อประมวลผลหรือขยายเสียงที่ด้านหน้า
ไมโครโฟนโดยตรงแทนที่จะเป็นเสียงจากด้านข้างหรือเสียงรอบข้างในห้อง รูปทรงที่แคบของ
ไมโครโฟนปืนลูกซองและการวางแนวเมื่อติดตั้งบนกล้องทำให้ปรากฏเหมือนปืนลูกซองดังนั้น
ชื่อ ไมโครโฟนสามารถรับเสียงไปทางซ้ายขวาและด้านหลังของไมโครโฟนได้ แต่ได้รับการ
ออกแบบมาโดยเฉพาะเพือ่ รบั เสียงส่วนใหญจ่ ากด้านหนา้ ของไมโครโฟน

ห ม ว ด ห ม ู ่ ท ี ่ ป ื น ล ู ก ซ อ ง ต ก อ ย ู ่ ค ื อ ไ ม โ ค ร โ ฟ น ท ิ ศ ท า ง ซ ึ่ ง
หมายความว่าไมโครโฟนใช้ดีที่สุดในการรับเสียงจากทิศทางที่แน่นอน ไมโครโฟนรอบทิศทาง
เช่นไมโครโฟนคอนเดนเซอร์เหมาะสำหรับการเก็บเสียงจากหลายทิศทางและกลั่นเป็น

460

สัญญาณขนาดเล็กสำหรับการประมวลผล ไมโครโฟนคอนเดนเซอร์มีประโยชน์มากที่สุดใน
สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมเช่นพื้นที่สตูดิโอในขณะที่ไมโครโฟนลูกซองใช้ดีที่สุดในการ
กำหนดในสถานที่ต่างๆโดยเฉพาะในสถานที่ที่มีเสียงดัง คนทีย่ ืนอย่ดู ้านหน้าไมโครโฟนจะยังคง
สามารถได้ยินได้แม้จะมีเสียงรบกวนรอบข้างเปน็ จำนวนมาก

- ไมโครโฟนหนบี ปกเสือ้

ภาพที่ 11.102 ไมโครโฟนหนีบปกเสือ้

ภาพจาก : https://www.ucall.in.th/Microphone-BOYA-BY-LM10-
%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E

0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD

ไมโครโฟนหนีบปกเสื้อ หรือ Lavalier Microphone เป็น
ไมโครโฟนประเภทที่ใช้ห้อยคอหรอื ซ่อนไว้ในเสื้อระยะตดิ ต้ัง ระหว่างปากผพู้ ูดกบั ไมโครโฟนจึง
คงที่แต่การใช้งานจะต้องระมัดระวังเรื่องเสียงรบกวนที่เกิดจากสาย ไมโครโฟน หรือตัว
ไมโครโฟน ถูกับเสื้อผ้าหรือสายไมโครโฟนถูกลากไปมากับพื้น เป็นไมโครโฟนแบบมีสายขนาด
เล็กที่ใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย ในการสรา้ งภาพยนตรแ์ ละการออกอากาศ

- ไมโครโฟนไร้สาย

ภาพที่ 11.103 ไมโครโฟนไร้สาย

461

ภาพจาก : https://musicspace.co.th/product/shure-svx288pg58-dual-vocal-wireless-system/

ไมโครโฟนไร้สาย คือไมโครโฟนประเภทหนึ่งซึ่งมีจุดเด่น คือ
ไม่ต้องใช้สายสัญญาณในการส่งสัญญาณเสียงหลักการทำงานและโครงสร้างภายในจะ
เหมือนกันกับไมโครโฟนแบบ ไดนามิค และ คอนเดนเซอร์เพียงแต่ไมโครโฟนชนิดนี้จะมีส่วน
ของวงจรส่งสัญญาณความถี่วิทยุเพิ่มเข้ามาและใช้การส่งสัญญาณทางคลื่นความถี่วิทยุแทน
การใช้สายไมโครโฟน ไมโครโฟนไร้สายจะประกอบไปด้วยตัวไมโครโฟน และตัวรับสัญญาณ
โดยสัญญาณวิทยุที่ส่งออกมาจากไมโครโฟนจะส่งไปยังตัวรับเพื่อแปลงสัญญาณกลับเป็น
สญั ญาณไฟฟ้า แล้วสง่ ตอ่ ไปยังระบบเสียงสว่ นอืน่ ๆต่อไป

- ไมโครโฟน usb

ภาพที่ 11.104 ไมโครโฟน usb
ภาพจาก : https://www.digital2home.com/fifine-k670b-usb-microphone

ไมโครโฟน USB เป็นไมโครโฟนคุณภาพที่มีอินเทอร์เฟซ "ใน
ตัว" เพื่อให้คุณสามารถเสียบเข้า กับพอร์ต USB ของคุณได้โดยตรง คุณข้ามการ์ดเสียงในตัว
ของคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกผลลัพธ์จึงดีกว่ามาก นอกจากนี้ยังมีการขยายสัญญาณที่จ่าเป็น
เพื่อให้สัญญาณอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยไม่จ่าเป็นต้องซื้อการ์ด เสียงเพิ่มเติมเมื่อคุณซื้อ
ไมโครโฟน USB คอมพิวเตอร์ของคุณจะมีการ์ดเสียงในตัวสำหรับเล่นเสียง ไมโครโฟน USB มี
คุณสมบัติเทียบเท่าการ์ดเสียงสำหรับการบันทึก (และบางตัวจะสามารถเล่นได้ด้วย) ดังนั้น
ขึ้นอยู่กับ ไมโครโฟน USB ที่คุณซื้อคุณจะบันทึกด้วยไมโครโฟน USB จากนั้นเล่นการบันทึก
ของคุณผ่านการ์ดเสียงของ คอมพิวเตอร์หรือคุณจะเสียบหูฟังเข้ากับไมโครโฟน USB (หากมี
ช่องเสียบหูฟัง) จากนั้นคุณจะสามารถบันทึก และเล่นผ่านไมโครโฟน มีคุณสมบัติพิเศษตรงที่
มีการเพิ่มวงจรแปลงสัญญาณ อนาล็อกเป็นดิจิทัล Analog To Digital Converters(ADC) เข้าไป
ในตัวไมโครโฟนเลย สัญญาณเสียงจึงต้องเข้ามาที่วงจร (ADC) ก่อน และหลังจากนั้นก็จะ

462

ปล่อยสัญญาณดิจิทัลมาที่ขั้วต่อแบบ USB เพื่อให้ผู้ใช้งาน ไปเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้
โดยตรง

- ไมโครโฟนบมู

ภาพที่ 11.105 ไมโครโฟนแบบบูม

ภาพจาก : https://www.sharegrid.com/newyork/l/17348-sennheiser-shotgun-mic-boompole-support-holder?type=rent

ไมโครโฟนบูมเป็นไมโครโฟนทิศทางที่ติดตั้งหรือยึดติดกับเสา
หรือแขน ส่วนใหญ่ใช้ในภาพยนตร์และโทรทัศน์ไมโครโฟนบูมช่วยให้มือของนักแสดงหรือ
นักข่าวในขณะที่พวกเขาเพลิดเพลินไปกับเสียงที่ขยายของไมโครโฟนแบบดั้งเดิม ไมโครโฟน
บมู สามารถใช้เพื่อขยายการสนทนากลุ่มได้เนอ่ื งจากสามารถวางตำแหนง่ เพือ่ ให้ได้ยินเสียงของ
ทกุ คน

- เครือ่ งบันทึกเสียง

ภาพที่ 11.106 – 11.107 เครื่องบันทึกเสียง

463

ภาพจาก https://www.musicarms.net/zoom-h1-handy-recorder-2/
https://musicspace.co.th/product/tascam-dr40-v2-handheld-recorder/

เครือ่ งบนั ทึกเสียง เปน็ อุปกรณข์ นาดเล็กที่ชว่ ยให้คุณสามารถ
บันทึกการสนทนาทางโทรศพั ท์บนั ทึกการบรรยายและการประชุม บทสัมภาษณ์ หรอื ที่นักเขียน
ที่มักจะใช้บนั ทึกเสียงของตัวเองลงไป ประโยชน์หลักของการมเี ครื่องบันทึกเสียงดงั กล่าวคือเรา
จะได้รับฟังไฟล์เสียง สิ่งที่เราได้ทำการบันทึกไว้ และยังสามารถถ่ายโอนไฟล์เสียงของคุณผา่ น
ทางพอร์ต USB ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแล็ปท็อปของคุณเพื่อการฟังย้อนหลังการเก็บ
ข้อมูลหรือแม้กระทั่งส่งแนบอีเมลสำหรับคนอืน่ ๆ ที่จะใช้ส่วนใหญ่เครือ่ งบันทึกเสียงเหล่านี้จะ
เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ให้ประสิทธิภาพการทำงาน ที่ไม่ใช่แค่การบันทึกเสียง
แต่มันเป็นอุปกรณ์มัลติฟังก์ช่ันเป็น เครื่องบันทึกเสียง mp3 สามารถใช้มันเป็นเครือ่ งเล่น mp3
สำหรับการฟังเพลง หรือเป็นเครื่องบันทึกโทรศัพทส์ ำหรับการบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์
หรือเพียงแค่เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ที่มีความจุที่แตกต่างกัน GBและอยู่ได้นานถึง 560
ชว่ั โมงพรอ้ มกบั แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟนอกจากนยี้ งั มีบนั ทึกทีก่ ำหนดไว้ เช่นเดียวกับการเปิดใช้
งานเสียงกับเครื่องบันทึกเสียงนี้ส่วนใหญ่ออกแบบมีขนาดเล็กพอเหมาะกับมือ ที่สามารถใช้
บันทึกการสนทนา หรือจดบันทึกออกแบบที่เพรียวบางและมีขนาดเล็ก สามารถใส่ในกระเป๋า
ตา่ งๆ และคุณสามารถบนั ทึกเสียงซ่อนเร้นหรอื สขุ มุ กับมนั ยิง่ งา่ ยตอ่ การใช้

2.1.4 หฟู งั (Headphones) (Wikipedia, 2020 ; Mercular, 2019)

ภาพที่ 11.108 หูฟงั
ภาพจาก : https://www.bhphotovideo.com/c/product/1360330-
REG/beats_by_dr_dre_mqd02ll_a_studio3_wireless_bluetooth_headphones.html

- หฟู ัง

464

เป็นอุปกรณ์เครื่องเสียงชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในประเภทอุปกรณ์
แสดงผลข้อมูลในรูปแบบเสียง โดยมีหน้าที่คล้ายกับลำโพงประกอบด้วยตัวหูฟัง จะได้ยินเสียง
เมื่อนำไปครอบกับหู และไมโครโฟนขนาดเล็กในตัวสำหรับใช้สำหรับติดต่อสื่อสารเพื่อการพูด
ได้ เช่นทางโทรศพั ท์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น รวมถึงใชเ้ ป็นสิ่งบันเทิงในการฟังเพลงเล่นวิดีโอเกมส์
ปรับให้เข้ากับกระบวนการทำงานต่าง ๆ ที่ต้องใช้เสียง สามารถพกพาไปในสถานที่ต่าง ๆ ได้
เพราะมีน้ำหนักเบา ใช้สำหรับในการตรวจสอบเสียงเวลาบันทึกการถ่ายทำว่าเสียงที่บันทึก
ระหว่างการถ่ายทำนั้น ไม่เสี่ยงเข้ามาหรือไม่ ซึ่งถ้าหากผู้สอนหรือผู้ผลิต ไม่มีการเช็คเสียง
ระหว่างการถา่ ยทำอาจจะทำให้เสียง สนทนาหรอื เสียงบรรยายระหว่างการสอนไม่ได้ถูกบันทึก
หรอื มีเสียงรบกวนเวลาบันทึก จงึ เป็นการตรวจสอบเสียงระหว่างการบันทึกวิดีโอ

หูฟงั ขนาดเลก็
หูฟังประเภทหูฟังขนาดเล็ก เป็นหูฟังที่ถูกพัฒนามาจากหูฟัง
ขนาดกลาง หูฟังจะมีขนาดเล็กกว่าใบหู เพื่อที่จะพกพาและสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมาก
ยิง่ ข้นึ จดุ เด่นของหูฟังประเภทนี้คือ มีระยะทีใ่ กล้ชิดกบั หูทำให้ได้ยินเสียงทุกมิติชัดเจน ป้องกัน
เสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี และยังมีน้ำหนักเบาทำให้พกพาได้สะดวก จุดด้อยของหูฟัง
ประเภทนี้คอื ทำให้ไมไ่ ด้ยินเสียงภายนอกที่เกิดขึน้ รอบ ๆ ตวั เน่อื งจากเวลาใชง้ านจะต้องใส่เข้า
ไปในรูหูให้แน่น จึงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ หากใช้ขณะทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การขับรถ
หรอื การเดินทางเท้าที่มีการจราจรหนาแน่น และอัตราคุณภาพต่อราคามีความคุ้มค่าน้อยที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบกับหูฟงั ประเภทอื่น ๆ
หฟู ังประเภทหูฟงั ขนาดเลก็ สามารถแบง่ ออกได้อกี เปน็ 3 ประเภทหลกั ๆ ดังนี้

1. หูฟงั Earbud

ภาพที่ 11.109 หฟู ัง Earbud
ภาพจาก : http://www.triangletechhire.com/headphones-earbuds

465

หูฟังประเภทนี้จะมีลักษณะกลมแบนขนาดใหญ่กว่ารู
หูไม่มาก เมื่อสวมใส่หูฟังตวั หูฟังจะปิดรหู ูไว้พอดี บางชนิดจะมีตัวไมโครโฟนอยูท่ ี่สายของหูฟงั
ด้วย เพื่อที่จะเอาไว้ใช้พูดคุยติดต่อสื่อสารได้ (การคุยโทรศัพท์) หูฟังประเภทนี้เป็นหูฟงั ที่มีขาย
อยู่ตามทั่วทุกที่อย่างมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่จะเริ่มใช้หูฟังเพราะว่าสามารถหาซื้อได้ง่าย
เป็นที่รู้จกั กันในคนหมมู่ าก เมื่อเราซือ้ มอื ถือหรอื เครื่องเล่นเพลงแบบพกพา หฟู งั ที่ทางร้านแถม
มาให้นั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นหูฟังประเภทนี้ ดังนั้นเมื่อมีการกล่าวถึงหูฟังคนส่วนมากจะรู้จักและ
นึกถึงหูฟังประเภทนี้ แต่หูฟังประเภทนี้อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่นิยมชื่นชอบในการเล่นหู
ฟัง เพราะวา่ หฟู งั ประเภทนี้น้ันจะออกแบบออกมาใหด้ ีมากนั้นทำได้ยาก เนื่องจากมีข้อจำกัดใน
เรื่องของขนาดส่งผลให้ระยะของเสียงจากตัวหูฟังไปยังแก้วหูนั้นอยู่ในระยะที่ใกล้มาก ทำให้
คณุ ภาพของเสียงที่ผฟู้ ังได้รับน้ันก็จะมีประสิทธิภาพด้อยลงไป ท้ังนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของหูฟังด้วย
ว่ายี่ห้อต่าง ๆ นั้นได้ทำการผลิตออกมาได้เป็นอย่างไร ถ้าเป็นของยี่ห้อที่ไม่มีชื่อเสียงที่ทำการ
ลอกเลียนแบบยี่หอ้ ที่มีชื่อเสียงนั้น หูฟังที่ผลิตออกมาก็จะมีคุณภาพเสียงที่ไม่ดีและหูฟังอาจจะ
พังงา่ ยเพราะสายไฟด้านในขาด เปน็ ต้น

ข้อดี (1) พกพาง่าย (2) ราคาไม่แพง (3) ปลอดภัย
เพราะได้ยินเสียงภายนอก

ข้อเสีย (1) กันเสียงรบกวนภายนอกไม่ได้เลย
(2) หลุดง่าย และใส่ไม่ค่อยพอดีเพราะขนาดหูแต่ละคนไม่เท่ากัน (3) ใส่นานๆแล้วมักจะเจ็บ
รอบรูหู

2. หูฟงั In-ear

ภาพที่ 11.110 หูฟัง In-ear
ภาพจาก : https://www.mercular.com/review-article/headphone-type

466

หูฟังประเภทนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Ear Plug หูฟัง
ประเภทนี้จะมีจุกยางโค้งมนครอบตัวปล่อยเสียงไว้เพื่อสวมใส่เข้าที่รูหู ขนาดของจุกยางจะมี
หลายขนาดตามความเหมาะสมของผทู้ ีจ่ ะนำไปใช้ หูฟงั ประเภทนี้กำลังก้าวมาเป็นหูฟังที่นิยมใช้
กันในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ใกล้จะมาแทนที่หูฟังประเภท Ear Bud ได้อย่างเต็มตัว จากการที่
เหน็ ได้จากปัจจุบนั นีร้ ้านค้าทีข่ ายเคร่อื งเล่นเพลงแบบพกพาหรอื ร้านขายโทรศัพท์มือถือก็เริ่มที่
จะให้หูฟังประเภทนี้มาเป็นของแถมแทนที่หูฟังประเภท Ear Bud จึงเป็นข้อสังเกตของค่านิยมที่
กำลังจะเปลี่ยนไป หูฟังประเภทนีจ้ ะให้เสียงทีม่ ีรายละเอียดดีมีความเพี้ยนต่ำเพราะว่าตัวลำโพง
ของหูฟังจะมีขนาดเล็กและอยู่ใกล้กับโครงสร้างของหูในสว่ นที่ใช้รบั เสียงมากกว่าหูฟังประเภท
อื่น ส่งผลให้ไม่ต้องเปิดเสียงดังมากจนทำให้เสียงเกิดความเพี้ยนขึ้นมา หูฟังประเภทนี้จะให้มิติ
ของเสียงได้ดีเนื่องจากตอนใช้งานจะต้องใส่ลงไปในรูหูให้พอดี ซึ่งจะช่วยป้องกันเสียงจาก
ภายนอกไม่ให้เข้าไปรบกวนได้ จัดได้ว่าเป็นประเภทของหูฟังที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน
นอกจากความสะดวกในการพกพาแล้ว หูฟงั แบบ In-Ear สามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอก
ได้ดีมากๆ ด้วยความที่จุกยาง หรือจุกโฟมมีหลายขนาดและ ถูกสอดเข้าไปในรหู ูจนปิดสนิทจึง
ทำให้หูฟังสวมใส่ได้พอดี และหลุดได้ยาก ในด้านเสียงมีจุดเด่นคือรายละเอียดได้ชัดเจนและ
ครบครัน เนื่องความที่หูฟังอยู่ใกล้รูหู และการกันเสียงรบกวนที่ดีเยี่ยม จึงทำให้ได้เสียง
รายละเอียดดีขึน้ ไปอีกขั้น ข้อควรระวังของหฟู งั ประเภทนี้คือเร่อื งความปลอดภยั เนือ่ งจากหูฟัง
ประเภทนี้สามารถกันเสียงได้ดีมากๆ ทำใหเ้ ราไมค่ อ่ ยได้ยินเสียงจากภายนอก บางคร้ังอาจเกิด
อันตรายได้ และสำหรบั คนที่ชอบเปิดเสียงดงั มากๆก็จะเป็นอันตรายตอ่ หไู ด้เช่นกนั

ข้อดี (1) พกพาง่าย (2) กันเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม
(3) รายละเอียดเสียงชัดเจน ครบถ้วน

ข้อเสีย (1) ไม่ได้ยินเสียงรบกวนภายนอก อาจได้รับ
อันตรายได้ (2) ถ้าเปิดเสียงดังจะเปน็ อนั ตรายตอ่ หู

3. หฟู งั Hybrid

467

ภาพที่ 11.111 หูฟงั Hybrid

ภาพจาก : http://www.indygadget.com/product/476/kz-zst-%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87-hybrid-2drivers-1dynamic-
1ba-%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%

B0%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84
%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B9-2

หูฟังประเภทนี้เกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างหูฟงั
ประเภท Ear Bud และหูฟังประเภท In Ear หูฟังประเภทนี้ทีต่ ัวฐานจะมีลักษณะกลมแบนคล้าย
กับหูฟังประเภท Ear Bud ส่วนตัวลำโพงจะต่อยื่นจากฐานออกมาโดยมีรูปทรงคล้ายหูฟัง
ประเภท In Ear คือจะมีจุกยางที่โค้งมนไว้เพื่อสวมใส่เข้าที่รูหู ในปัจจุบันหูฟังประเภทนี้ยังไมไ่ ด้
รบั ความนิยมจากผทู้ ี่ชืน่ ชอบการใช้หฟู ัง อีกท้ังบริษัททีท่ ำการผลิตหูฟังประเภทนี้ก็ยังมีน้อย ทำ
ให้หูฟังประเภทนี้คนส่วนใหญ่จะไม่รู้จักหรือไม่รู้ว่ามีหูฟังประเภทนี้อยู่ หูฟัง HYBRID DRIVER
นั้นไม่ได้เป็นไดร์เวอร์แบบใหม่แต่อย่างใด! แต่เป็นการนำไดร์เวอร์แบบ DYNAMIC และ
Balanced Armature พระเอกทั้งสองของเราในวันนี้ มาทำงานร่วมกันในหูฟังตัวกันเดียวนั่นเอง
เรียกบ้านๆก็คือ เสริมแรงบวก 2 in 1

ภาพที่ 11.112 การทำงานของหฟู งั Hybrid
ภาพจาก : https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_4631.html
เหตุที่ต้องมีการรวมร่างทำงานร่วมกันนั้น ผู้เขียนคาดว่าน่าจะเป็นการ “ขายจุดเด่น
เสริมจุดด้อย”ของไดรเ์ วอร์หูฟังทั้งสองแบบ ซึ่งผู้อ่านจะทราบไปแล้วในข้างต้นแล้วว่าไดร์เวอร์
แบบ DYNAMIC น้ันมีความโดดเด่นเรื่องเนื้อเสียงที่เป็นธรรมชาติ ความลน่ื ไหลที่ดีของเสียง แต่
ในเร่อื งของการลงรายละเอียดดนตรียงั ทำได้ไม่ดีนกั เมอ่ื เทียบกับ Balanced Armature ทีม่ คี วาม
โดดเด่นเรื่องการให้รายละเอียดของเสียงกลาง และเสียงสูง เมื่อนำมาทำงานร่วมบนหูฟังตัว
เดียวกนั โดยมากจะนิยมจูนเสียงให้ DYNAMIC ทำงานในยา่ นเสียงต่ำ และ Balanced Armature

468

ทำงานในส่วนของเสียงกลาง และเสียงสูง ด้วยเหตนุ ้จี ึงมีการให้นยิ ามในการเรียกประเภทของหู
ฟังในลักษณะนีว้ ่า หฟู งั HYBRID หรอื HYBRID DRIVER

หูฟังขนาดกลาง
หูฟังประเภทหูฟังขนาดกลาง เป็นหูฟังที่มีขนาดใหญ่กว่าหูฟัง
ขนาดเล็กเพียงเล็กน้อย โดยถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการพกพาที่มากขึ้นเมื่อ
เทียบกับหฟู งั ขนาดใหญ่ ลักษณะของหูฟังขนาดกลาง จะมีขนาดใกล้เคียงกับใบหู เมื่อใส่แล้วจะ
แนบหูพอดี ไม่ได้ครอบปิดหูทั้งหมดเหมือนแบบหฟู ังขนาดใหญ่ จุดเด่นของหูฟังขนาดกลางคือ
จะได้คณุ ภาพเสียงทีด่ ีขึน้ จากหูฟงั ขนาดเลก็ เพราะว่าหฟู งั ขนาดกลางจะมีตวั ขับเสียงที่ใหญ่กว่า
หูฟังขนาดเล็ก ทำให้มีเวทีของเสียงที่กว้างกว่า จุดด้อยของหูฟังขนาดกลางคือ การป้องกัน
เสียงรบกวนจากภายนอก จะทำได้ไม่ดีเท่าหูฟังขนาดเล็ก และเนื่องจากน้ำหนักและขนาดที่
เพิ่มขนึ้ เมื่อเทียบกับหฟู ังขนาดเล็ก ทำให้หฟู งั ขนาดกลางจะไม่เหมาะสมสำหรับการทำกิจกรรม
ตา่ ง ๆ ทีต่ อ้ งมกี ารเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น การวิ่ง เป็นต้น
หูฟังประเภทหูฟงั ขนาดกลางสามารถแบง่ ออกได้อกี เป็น 2 ประเภทหลกั ๆ ดังน้ี

1. หฟู ัง Street Style

ภาพที่ 11.113 หูฟงั Street Style
ภาพจาก : https://www.kaidee.com/product-136437652

หฟู งั ประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นหูฟังที่มีก้านเชื่อมหูฟัง
ทั้งสองข้างอ้อมไปทางด้านหลังหัวหรือจะเป็นก้านเชื่อมหูฟังทั้งสองข้างแบบคาดหัว แบบแรก
จะมีก้านลอ็ กตรงใบหเู พื่อช่วยให้ลำโพงแนบสนิทกบั ใบหูมากยิ่งขึน้ แต่ถ้าเป็นแบบคาดหัวที่ก้าน
จะไม่มีที่ล็อกตรงใบหู ตัวลำโพงของหูฟังประเภทนี้จะมีขนาดแนบพอดีกับใบหู ในปัจจุบันหูฟัง
ประเภทนี้กม็ ีการใช้กันในกล่มุ คนสว่ นน้อยเพราะไมค่ ่อยได้รับความนยิ มมากนัก

469

2. หูฟงั Ear Clip

ภาพที่ 11.114 หูฟัง Ear Clip
ภาพจาก : https://www.philips.co.th/c-p/SHS4701_97/earclip-headphones

หูฟังประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นหูฟังที่มีก้านล็อกตรง
ใบหูทั้งสองข้าง แต่จะไม่มีก้านที่เชื่อมหูฟังทั้งสองข้างเหมือนกับหูฟังประเภท Street style
เพราะว่าจะทำให้ใส่แล้วรู้สึกไม่สบายและยังทำให้พกพาได้สะดวกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ตัวลำโพง
ของหูฟังประเภทนี้ก็จะมีขนาดแนบพอดีกับใบหู หูฟังประเภทนี้ได้รับความนิยมพอสมควร
เนื่องจากตัวหูฟังใส่แล้วไม่หลุดง่าย พกพาได้สะดวกและยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ทำให้คน
ท่ัวไปเลือกใช้หฟู ังประเภทนี้

หูฟงั ขนาดใหญ่
หูฟังประเภทหูฟังขนาดใหญ่ จะมีขนาดที่ใหญ่
พอสมควร สามารถครอบได้ทั้งใบหู หรือแค่แนบบนใบหูก็เป็นได้ โดยส่วนมากจะมีเส้นผ่าน
ศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 10 เซนติเมตรต่อหนึ่งข้าง และมีก้านคาดหัวระหว่างสองข้างทุกคู่ จุดเด่น
ของหูฟงั ขนาดใหญ่คือ จะมีลำโพงขนาดคอ่ นข้างใหญพ่ อที่จะครอบหูได้ทั้งหมด ซึ่งช่วยให้เสียง
ทีไ่ ด้มคี ณุ ภาพ มีบรรยากาศ มีมิตทิ ีด่ ี มากกวา่ หฟู งั ประเภทอื่น ๆ ทั้งหมด ทำให้เสียงที่ได้ยินน้ัน
สมจริงใกล้เคียงกับลำโพงเครื่องเสียงที่ใช้ภายในบ้าน ที่ลำโพงจะมีฟองน้ำหนุนครอบหูเอาไว้
ทำให้ตัวลำโพงไม่ต้องกดทับที่ใบหูมาก ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บใบหูเวลาใช้งานไปนาน ๆ และอัตรา
คุณภาพต่อราคามีความคุ้มค่ามากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับหูฟังประเภทอื่น ๆ จุดด้อยของหูฟัง
ขนาดใหญ่คือ พกพาไม่สะดวก เนื่องจากขนาดที่ใหญ่และน้ำหนักที่มากพอสมควร จึงไม่ค่อย
เหมาะสมสำหรบั ผู้ใชง้ านทีต่ ้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา

470

หฟู งั ประเภทหูฟงั ขนาดใหญ่สามารถแบ่งออกได้อกี เปน็ 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1. หูฟังแบบเปิด (Open Back)

ภาพที่ 11.115 หฟู ังแบบเปิด

ภาพจาก : https://www.mercular.com/review-article/open-back-vs-closed-back-headphone

หูฟังประเภทนี้จะมีลักษณะเด่นคือเสียงจะสามารถ
ผา่ นออกทางด้านข้างของตวั หฟู ังได้ เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้หูฟังสามารถฟังได้นานโดยไม่รู้สึกอึดอัด
หูฟังประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ฟังเพลงทั่วไปและใช้งานในที่พักอาศัยเพราะว่าจะมีเสียง
ภายนอกเข้ามารบกวนได้ ในปจั จบุ ันหูฟังประเภทนกี้ ็จะได้รับความนยิ มจากผู้ที่ชื่นชอบการใช้หู
ฟงั เน่อื งจากคุณภาพเสียงทีไ่ ด้จะมีคุณภาพอยู่ในขั้นดี แต่หูฟงั ขนาดใหญ่ทกุ ประเภทก็จะมีราคา
ที่สูงพอสมควร จงึ ไมเ่ หมาะกับคนทว่ั ไปที่ไม่ได้ชืน่ ชอบในตัวหูฟงั

2. หูฟังแบบปิด (Closed-Back)

ภาพที่ 11.116 หฟู ังแบบปิด

ภาพจาก : https://www.mercular.com/review-article/open-back-vs-closed-back-headphone

หฟู ังประเภทนจี้ ะมีลกั ษณะทีส่ ำคญั คือดา้ นข้างของตัว
หูฟังจะถูกปิดเอาไว้อย่างดี เพื่อป้องกันไม่ให้เสียงจากภายนอกเข้ามารบกวนได้ ถ้ามีก็จะมีใน
ปริมาณที่น้อยมาก ในทางกลับกันเสียงจากหูฟังก็จะไม่ดังออกมาภายนอกได้เช่นกัน หูฟัง
ประเภทนี้จะได้รบั ความนิยมเป็นอย่างมากกบั ผู้ที่มีอาชีพจดั รายการเพลง(DJ)เพราะว่าสามารถ
ป้องกันเสียงจากภายนอกได้เปน็ อย่างดี และยังได้รบั ความนยิ มจากผู้ทีช่ ื่นชอบในหฟู งั อีกด้วย

471

3. หฟู ังแบบกึง่ เปิดกึ่งปิด (Semi – Open – Back
Type)

ภาพที่ 11.117 หฟู ังแบบกึ่งเปิดกึ่งปิด

ภาพจาก : https://www.soundspacethai.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%
B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9

F%E0%B8%B1%E0%B8%87/

หูฟังประเภทนี้จะมีลักษณะเด่นคือเสียงจากตัวหูฟัง
สามารถออกมาภายนอกได้เล็กน้อยและเสียงจากภายนอกก็สามารถผ่านเข้าไปได้เล็กน้อย
หฟู ังประเภทนีเ้ ป็นหูฟงั ที่วิศวกรเสียง (Sound Engineer) ใช้ในการทำงาน แต่คนทั่วไปก็สามารถ
นำมาใช้ได้ตามปกติเช่นกนั ขึ้นอยูก่ บั ความชื่นชอบของแตล่ ะบุคคล

หากจะเปรียบเทียบหูฟังโดยใช้ลักษณะการใช้งานเป็นเกณฑ์
จะสามารถเปรียบเทียบได้ดังนี้ หฟู ังขนาดเล็กถกู ออกแบบมาเพือ่ เน้นความสะดวกในการพกพา
เป็นหลัก หากผู้ใช้กำลังมองหาหูฟังที่สามารถนำมาฟังในขณะเดินทาง เล่นกีฬา หรือทำ
กิจกรรมตา่ ง ๆ ทีต่ อ้ งเคลื่อนไหวเยอะๆ หรอื มีเสียงรบกวนมาก ควรจะพิจารณาหูฟังประเภทนี้
เป็นหลัก หูฟังขนาดกลางเป็นหูฟังที่ออกแบบมาให้มีตัวขับเสียงที่ใหญ่ขึ้น และยังคงสามารถ
พกพาได้สะดวก แต่ไม่เหมาะกับการใส่ขณะทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวเยอะๆ และยิ่งไปกว่า
นั้น โดยส่วนมากแล้วหูฟงั ประเภทนีจ้ ะมีฟองน้ำตรงบริเวณที่หฟู ังสมั ผัสใบหู จงึ ไม่ควรใส่ขณะที่
ออกกำลังกาย เพราะเหงื่ออาจซึมเข้าไปในฟองน้ำ ทำให้เกิดความชื้นข้างในหูฟังซึ่งอาจจะทำ
ให้หูฟังเสียหายได้ หูฟังขนาดใหญ่ไม่เหมาะกับการใส่ขณะเดินทาง เนื่องจากเป็นหูฟังที่มีขนาด
ที่ใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างเยอะกว่าหูฟังประเภทอื่น จึงทำให้พกพาไม่สะดวก โดยส่วนมาก

472

แล้ว หูฟังขนาดใหญ่จึงถูกใช้ภายในที่พักอาศัย หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่งที่ไม่ต้องเคลือ่ นย้าย
ไปไหนมาก โดยทั่วไปแล้ว การเปรียบเทียบเสียงของหูฟังจะมีปัจจัยหลักๆอยู่ 4 ประการ
ประการแรกคือ เสียงทุ้ม (Bass) ของหูฟัง เสียงทุ้มในที่นี้หมายถึงเสียงในย่านความถี่ต่ำที่หูฟัง
ขับออกมา ประการต่อมาคือ เสียงกลาง (Mid range, Vocal, เป็นต้น)ของหูฟัง หมายถึงเสียงที่
หูฟังขับออกมาและอยู่ในช่วงความถี่ 250 ถึง 6,000 เฮิรตซ์โดยประมาณ กล่าวคือ เสียงร้อง
ของนักร้องในเพลง หรือเสียงบางช่วงของเครื่องดนตรี เป็นต้น ประการที่สี่คือ เสียงสูง/แหลม
(High frequencies)ของหูฟัง เป็นเสียงที่หูฟังขับออกมาและอยู่ในช่วงความถี่ตั้งแต่ 6,000 ถึง
20,000 เฮิรตซ์ เสียงทีอ่ ยใู่ นชว่ งความถี่นีไ้ ด้แก่ เสียงเคร่อื งเคาะ, นักร้อง, และเคร่ืองดนตรีบาง
ชนิด เป็นต้น ปัจจัยสุดท้ายคือ เวทีเสียง(Sound stage)ของหูฟัง เป็นเวทีเสมือนที่หูฟังสามารถ
ถ่ายทอดให้ผู้ใช้รู้สึกได้ถึงความมีมิติของเสียง เช่น ความกว้าง, ตำแหน่งและระยะห่างของ
เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น, ความเป็นสามมิติ เป็นต้น ปัจจัยที่ส่งผลต่อสิ่งเหล่านี้มีด้วยกันหลาย
ปัจจัย เช่น รูปทรง, ตำแหน่งของตัวขับเสียง, ชนิดของตัวขับเสียง, ขนาดของตัวขับเสียงของหู
ฟัง, และปจั จัยอื่นๆอีกมากมาย

การที่ผู้ฟังจะสามารถแยกแยะปัจจัยทางเสียงต่างๆได้แม่นยำและสามารถอธิบายได้ดี
นั้นต้องใช้ประสบการณ์ในการฟังหูฟังหลายๆคู่และเปรียบเทียบกัน แต่การที่จะแลกเปลี่ยน
ความรู้ในเรื่องเสียงกับผู้อื่นนั้น ควรคิดไว้เสมอว่าทุกอยา่ งล้วนมาจากความคิดเห็นสว่ นบุคคล,
ความชอบของแต่ละบุคคล, และบางอย่างอาจไม่มีผดิ ไม่มีถูก เราจึงควรเปิดใจรับฟังอย่างมีสติ
และไม่ควรตำหนิความชอบหรืองานอดิเรกของคนอื่นๆ ตราบใดที่เขามีความสุขและไม่ทำให้
ใครเดือดรอ้ น

หลกั การทำงานของหูฟัง
ถ้าหากแบ่งตามประเภท Driver ของหูฟังจะสามารถ
แบง่ ได้เป็น 4 ประเภทหลกั ดงั น้ี (ฟิวส์ พาราไดร,์ 2560)
1. DYNAMIC

ภาพที่ 11.118 DYNAMIC
ภาพจาก : https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_4631.html

473

ไดร์เวอร์แบบ DYNAMIC เป็นไดร์เวอร์มีความเป็นมา
ยาวนาน ตั้งแตอ่ ดตี จนถึงปัจจุบันส่วนใหญ่นิยมใช้ไดรเ์ วอรแ์ บบ DYNAMIC อยซู่ ึ่งมีให้พบเห็นได้
ทั่วไป เชน่ หูฟังทีแ่ ถมมาพร้อมมอื ถือ หูฟังแบบเอียรบ์ ัด หูฟังฟลู ไซสท์ ่วั ไปทีพ่ บเห็นได้ในตลาดหู
ฟัง โดยสว่ นประกอบการทำงานหลกั ๆคือ Magnet(แม่เหล็ก), Voice Coil และ Diaphragm

ภาพที่ 11.119 สว่ นประกอบของหฟู ัง
ภาพจาก : https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_4631.html
การทำงานจะเริ่มจากการส่งกระแสไฟไปที่ Voice Coil ผลทำให้ Voice Coil มีสภาพ
กลายแม่เหล็กที่ขั้วตรงข้ามกับ Magnet (แม่เหล็ก) อีกชุดที่ติดอยู่กับ Voice Coil ซึ่งการทำงาน
ในส่วนนี้เองที่ Diaphragm ถูกผลักเข้าออกตามการไหลของสัญญาณไฟ ทำให้เกิดการ
กระเพือ่ มหรอื การสั่นของ Diaphragm

ภาพที่ 11.120 ส่วนประกอบของหูฟัง
ภาพจาก : https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_4631.html
ตามมาด้วยเรื่องของเสียง DYNAMIC DRIVER นั้น DRIVER 1 ตัวจะออกเสียงทุกย่าน
เสียง มีความโดดเดน่ เรื่องเนือ้ เสียงที่เป็นธรรมชาติ ความล่นื ไหลของเสียง ความสุขมุ ลุ่มลึกของ
เบสทีส่ ามารถสมั ผสั ได้ถึงอิมแพคของเสียง

474

2. Balanced Armature

ภาพที่ 11.121 Balanced Armature
ภาพจาก : https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_4631.html

Balanced Armature หรือ BA นั้นเป็นไดร์เวอร์ขนาด
เล็กที่พัฒนามาจากเครื่องช่วยฟัง ในปัจจุบันจะมีให้พบเห็นในหูฟัง IEM ซึ่งไดร์เวอร์ชนิดนี้มี
หลักการในการทำงานใกล้เคียงกันกับไดร์เวอร์แบบ DYNAMIC จุดเด่นที่สำคัญของ BA นั้นคือ
มีขนาดเล็ก สามารถแยกจูนเสียงในแต่ละย่านความถี่ได้ และด้วยขนาดของตัวไดร์เวอร์ที่มี
ขนาดเลก็ จงึ สามารถเพิม่ จำนวนได้ตงั้ แต่ 1 ถึง 10 ตวั เลยทีเดียว อีกท้ังยังใช้กำลังขบั น้อยจึงง่าย
ต่อการขับอีกด้วย จุดเด่นเรื่องเสียงเนือ่ งจากไดรเ์ วอร์แบบ BA มีขนาดเล็กสามารถเพิ่มจำนวน
และแยกจูนเสียงได้ ลดข้อจำกัดของ DYNAMIC DRIVER ที่ต้องออกเสียงทุกย่านเสียงในตัว
เดียว ทำให้สามารถเพิ่มเสียงให้รายเอียดชิ้นดนตรีต่างๆได้อย่างครบถ้วนชัดเจน ยกตัวอย่าง
เช่น หูฟังมี ไดร์เวอร์แบบ BA 3 ตัวถูกจูนย่านเสียงเป็น สูง กลาง และเสียงต่ำ มีการแยกการ
ทำงานอยา่ งชัดเจน ทำให้เสียงที่ถ่ายทอดออกมาน้ันค่อนข้างสมจริง มีเสียงปลายแหลมที่คมใส
เป็น ชดั ในทกุ ยา่ นเสียง แตจ่ ะขาดความล่นื ไหลของเสียง ตา่ งจาก Dynamic Driver ทีม่ คี วามนุ่ม
ลึกของเบสและให้เสียงที่รู้สกึ เป็นธรรมชาติ

3. Plana Magnatic

ภาพที่ 11.122 Plana Magnatic
ภาพจาก : https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_4631.html

475

ไดร์เวอร์ประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าไดร์เวอร์
Dynamic อยู่มากทีเดียว Plana Magnatic มีหลักการทำงานคล้ายกับหูฟัง Dynamic และ
Eletrostatic ตรงที่มีการใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าไหลผ่านเพื่อทำการสั่นของ Diaphragm ในการ
ให้กำเนิดเสียง และในส่วนที่เหมอื นกบั Electrostatic นัน่ ก็คือ Diaphragm ทีอ่ ยู่ในตวั หูฟังนั้นเป็น
แผ่นฟิลม์ (PET film) แผน่ เรียบบางๆและนำไฟฟ้า

ภาพที่ 11.123 การทำงานของหฟู ัง
ภาพจาก : https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_4631.html
ซึ่งจุดเด่นของการทำงานลักษณะนี้คือ จะให้รายละเอียดเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม
มีความผิดเพี้ยนของเสียงที่ต่ำ ในสมัยก่อนข้อเสียของหูฟังที่ใช้ไดร์เวอร์ประเภทนี้ก็คือน้ำหนัก
และขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และส่วนใหญ่ต้องการแอมป์ที่มีกำลังพอสมควรในการที่จะทำให้ไดร์
เวอร์ประเภทนี้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ในปัจจุบันนั้นมีได้การพัฒนาหูฟังไดร์เวอร์
แบบ Plana Magnatic ให้สามารถทำงานในหูฟงั อินเอียร์ได้แลว้

4. Electrostatic

ภาพที่ 11.124 Electrostatic
ภาพจาก : https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_4631.html

476

Electrostatic นั้นเป็นไดร์เวอร์ที่ไม่มีแม่เหล็กมาร่วมใน
การทำงานแต่ เป็นการสร้างสนามแม่เหล็กผ่านการส่งกระแสไฟฟ้า + , - เข้าไปยัง Grid
(Stators) และ Diaphragm เมื่อมีการสั่งกระแสไฟฟ้าสลับขั้ว + , - ก็จะเหนี่ยวนำทำให้เกิดการ
สั่นของแผ่น Diaphragm ในการให้กำเนิดเสียงนั่นเอง ด้วยเหตุที่ต้องใช้กำลังไฟฟ้าสูงในส่ง
กระแสไฟฟ้าจึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันอย่าง Headphone Amp สำหรับหูฟัง
Electrostatic โดยเฉพาะเพื่อทำหน้าที่ในการส่งกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงระบบการทำงานของหูฟัง
นั่นเองครับ และในปัจจุบันเทคโนโลยีของหูฟัง Electrostatic ก็ได้ถูกย่อส่วนลงมาเป็นขนาดพก
ในรปู แบบของ หูฟงั อนิ เอียร์ Electrostatic แล้วเชน่ กนั

- intercom

ภาพที่ 11.125 intercom
ภาพจาก : https://www.secom.co.th/products/intercom/

Intercom มาจาก Inter = ระหว่าง ส่วน com= ย่อมาจาก
communication = การส่อื สาร รวมแลว้ หมายถึง "การสือ่ สารระหวา่ งกัน" เนือ่ งจากภายใน บ้าน
สำนักงาน องค์กร คอนโด การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ จำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ หลากหลาย
แบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ของแต่ล่ะสถานที่ อินเตอรค์ อม (อุปกรณ์สือ่ สาร) หรืออินเตอร์
โฟนเป็นระบบการสือ่ สารด้วยเสียงแบบสแตนด์อโลนสำหรับใช้ภายในอาคารหรืออาคารขนาด
เล็กซึ่งทำงานโดยไม่ขึ้นกับเครือข่ายโทรศัพท์สาธารณะ โดยทั่วไปแล้วอินเตอร์คอมจะติดตั้ง
อย่างถาวรในอาคาร และยานพาหนะ อินเตอร์คอมสามารถรวมการเชื่อมต่อกับระบบลำโพง
เสียงประกาศสาธารณะเครื่องส่งรับวิทยุโทรศัพท์และระบบอินเตอร์คอมอื่น ๆ ระบบ
อินเตอร์คอมบางระบบรวมการควบคุมอุปกรณ์เช่นไฟสัญญาณและสลักประตู มีอินเตอร์คอม
บ้านธรรมดาและอินเตอร์คอมที่พัฒนาขึ้นสำหรับอพาร์ทเมนต์รวม บางตัวติดตั้งวิดีโอและ
สายไฟ (การตดิ ต้ังระบบไฟฟ้า) สามารถเชื่อมต่อกบั ภายนอกได้โดยมีคไู่ ม่กีค่ ู่ (4-6 คู่) ในขณะที่
ควบคุมการตดี ้วยไฟฟ้า รุน่ ทีแ่ ล้วเข้ากันได้กบั คอมพิวเตอรแ์ ละบางรุน่ รวมถึง TCP / IP

477

อินเตอร์คอมจะมี 2 แบบ คือ แบบมีสาย (Wire) และแบบไร้
สาย (Wireless) ซึ่งแบบมีสายนั้นจะใช้สาย 1 เส้น ด้านในสายจะมีสายย่อยอีก 4-6 เส้น ใช้รับ/
ส่ง สัญญาณเสียง รวมไปถึงภาคจ่ายไฟ และสัญญาณไฟคิวอีกด้วย ทั้งหมดจะอยู่ในสายไฟ
เพียงเส้นเดียว ระยะการใช้งานของอินเตอร์คอมแบบมีสายก็แล้วแต่ยี่ห้อและผู้ผลิต ในตลาด
ส่วนมากแล้วจะลากสายได้ประมาณ 80-150 เมตร หรอื สายที่มีคุณภาพหน่อยอาจจะได้ 150-
200 เมตร ข้อดีของอินเตอร์คอมแบบมีสายคือมีราคาถูกเมื่อเทียบกับแบบไร้สาย มีความ
เสถียรสูงเพราะไม่มีคลื่นรบกวน ใช้งานง่ายไม่ต้องจูนคลื่นใดๆ ทนทานกว่าแบบไร้สาย ถัดมา
เป็นอินเตอร์แบบไร้สาย ซึ่งหลักการทำงานจะคล้ายๆอินเตอร์คอมแบบมีสาย ซึ่งจะมีตัวแม่
และตัวลูกเช่นกัน ต่างจากอินเตอร์คอมแบบมีสายเพียงแค่ ไม่มีสายไฟลากระหว่างตัวแม่และ
ตัวลูก ข้อดีของอินเตอรค์ อมไร้สายคือ สามารถใช้งานได้ไกล 200-300 เมตร หรือบางรุ่นอาจ
ใช้งานได้ถึงหลักกิโลเมตร สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ เดินได้ทั่วงาน สะดวกมากที่สุด แต่
ข้อเสียคือ อาจมีคลื่นรบกวน สัญญาณไม่เสถียร มีโอกาสที่ระบบจะล่มได้หากใช้อุปกรณ์ไม่
มาตรฐาน ข้อเสียสุดท้ายคืออนิ เตอรค์ อมไร้สายมรี าคาทีแ่ พงถึงแพงมาก

ระบบของ Intercom
Permanent systems
ระบบอินเตอร์คอมแบบดั้งเดิมและระบบเสียง
ประกาศสาธารณะประกอบด้วยส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์แบบอะนาล็อกทั้งหมด แต่
คุณสมบัติใหม่ ๆ และตัวเลือกการเชื่อมต่อสามารถทำได้ด้วยระบบอินเตอร์คอมใหม่ที่ใช้การ
เชื่อมต่อแบบดิจิทัล สามารถส่งสัญญาณวิดีโอและเสียงได้ สถานีอินเตอร์คอมดิจิทัลสามารถ
เช่อื มต่อได้โดยใช้สายเคเบิล Cat 5 และยังสามารถใช้เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เพื่อเชื่อมต่อ
บคุ คลทีอ่ ยู่ห่างไกลได้ กล้องอินเตอร์คอมสามารถใช้ในสำนกั งานและโรงแรมที่ทันสมยั ปัจจุบัน
โรงเรียนและอาคารสำนักงานหลายแห่งใช้ระบบเสียง / วิดีโอเพื่อระบผุ ู้เข้าชมที่พยายามเข้าถึง
อาคารที่ถูกล็อกและสามารถเชื่อมต่อกับระบบควบคุมการเข้าออกของอาคารได้ นอกจาก
สถานที่ประจำแล้วระบบอินเตอร์คอมยังใช้กับยานพาหนะหลายประเภทรวมถึงรถไฟเรือ
บรรทกุ เครื่องบินเครื่องบินและยานพาหนะตอ่ สู้หุ้มเกราะ
Portable systems
อินเตอร์คอมแบบพกพามักใช้โดยทีมงานผลิต
กิจกรรมพิเศษและทีมกีฬามืออาชีพ สถานที่แสดงศิลปะการแสดงเช่นโรงละครและห้องแสดง
คอนเสิร์ตมักจะมีการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบอินเตอร์คอมแบบติดตั้งถาวรและแบบ

478

พกพา สนามแข่งรถมอเตอร์สปอร์ตมักจะมีทั้งสถานีอินเตอร์คอมแบบพกพาและแบบถาวรติด
ตั้งอยู่ในจดุ วิกฤตรอบสนามม้าเพือ่ ให้เจ้าหนา้ ที่การแขง่ ขนั และช่างเทคนิคการแพทย์ฉกุ เฉินใช้

แนน่ อนว่าการถ่ายโอบีจะต้องใช้คนหลายคน หากตากล้องแต่
ละคนถ่ายตามใจตัวเองนั้นคงไม่ดีแน่ ๆ จะขาดการวางแผนมุมภาพ เช่น โอบีมีกล้องอยู่ 3 ตัว
กำลังถ่ายการแสดงอยู่บนเวที ตากล้องแต่ละคนถ่ายตามใจตัวเอง ตากล้องคนที่1ถ่ายแคบ
(Close up) คนที2่ ก็ถ่ายแคบ คนที่3ก็ถา่ ยแคบเช่นกนั แน่นอนวา่ ภาพที่ออกมาทั้ง3กล้องจะมีแต่
ภาพ Close up ทั้งสิ้น แต่ไม่มีภาพกว้างเลย (Wide) ทำให้วิดีโอนั้นตัดภาพได้ไม่สมบูรณ์ ฉะนั้น
จะต้องมีผู้ควบคุม (Control) หรือคนสวิตภาพ (Switcher) คอยให้คำสั่งว่าจะให้ตากล้องแต่ละ
กล้องถ่ายแบบไหน เอามุมไหม ใครทำอะไร ผู้ควบคุมจะเป็นคนสั่ง ซึ่งการสั่งนี้จะใช้อุปกรณ์ที่
เรียกวา่ Intercom โดยอินเตอรค์ อมจะมีตัวแม่ (Base station) และตวั ลูก (Client) ซึ่งตัวแม่จะติด
ต้ังอย่ใู นชุดโอบี โดยคนสวิตภาพจะเป็นคนใช้

ภาพที่ 11.126 intercom

ภาพจาก : https://www.focus.in.th/index.php/articles/266-intercom-
%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%A7-tally-
%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E

0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3

อินเตอร์คอมตัวแม่ ส่วนอินเตอร์คอมตัวลูกนั้นก็จะให้ตากล้องและผู้ช่วยหรือ
ผู้เกี่ยวข้อง หลักการทำงานจะคล้ายๆการโทรศัพท์แบบประชุม แต่ละคนสามารรถพูดและฟัง
ได้พรอ้ มๆกนั มี 10 คน ก็สามารถพูดและฟังได้พร้อมๆกันทั้งวง (Full Duplex) ซึง่ ไม่เหมือนวิทยุ
สื่อสารที่จะมีผู้พูดได้เพียงคนเดียว ไม่สามารถพูดพร้อมกันหลายๆคนได้ ส่วนคุณภาพของ
สัญญาณเสียงหรือความชัดเจนของเสียงนั้น อินเตอร์คอมจะได้ให้เสียงที่ดีกว่าวิทยุสื่อสารอยู่
พอสมควร เปรียบเสมือนโทรศัพท์ด้วยสัญญาณ 4G แต่ข้อเสียของอินเตอร์คอมคือ มีราคาสูง
ตั้งแต่หลายๆหมื่น ไปจนถึงหลักหลายๆแสน ตามจำนวนตัวลูก แต่หากเป็นวิทยุสื่อสารใช้เงิน

479

หลักพันก็สามารถหาซื้อมาใช้ได้แล้ว เมื่อเปรี่ยบเทียบราคาแล้วจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม
หลายๆทีมโอบียงั ใช้วทิ ยสุ ื่อสารในการสอ่ื สารระหวา่ งคนสวิตและตากล้อง (MAS, 2019)

2.1.5 ไฟ Lighting requirements
เป็นอุปกรณ์ช่วยให้แสงสวา่ งเวลาถา่ ยงานของกล้อง โดยปกติ

แล้วถ้าหากถ่ายวิดีโอในที่โล่งแจ้ง หรือที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอก็อาจจะไม่มีความจำเป็น
แต่อาจจะมีบางสถานที่ ที่ใช้เนื่องจากเหตุผลอื่นๆ ขึ้นอยู่กับเทคนิค และประสบการณ์ในการ
ถ่ายทำของแตล่ ะคน โคมไฟถ่ายวิดีโอ (Camcorder Video Light) น้ัน เปน็ สิง่ จำเป็นอยา่ งยิง่ เม่ือ
ต้องการถา่ ยงานในพื้นที่ทีม่ ีแสงสว่างน้อย และต้องการใหง้ านออกมามีสีสนั สดใส สวยงามเห็น
รายละเอียดได้มากขึ้น เช่นงานถ่ายวิดีโอ ช่วงกลางคนื หรอื ในทีม่ แี สงน้อย โดยมีอปุ กรณ์ที่ช่วย
ให้แสงสว่างดังน้ี

- ไฟ softbox

ภาพที่ 11.127 ซอฟต์บอ็ กซ์
ภาพจาก : https://www.adorama.com/fpssbk.html

ซอฟต์บ็อกซ์ คือ อุปกรณ์ให้แสงสว่างสำหรับถ่ายภาพซึง่ เปน็
หนึ่งในอุปกรณ์ปรับแสงสำหรับถ่ายภาพจำนวนมาก แสงนุ่มนวลทุกประเภทสร้างแสงที่
สม่ำเสมอและกระจาย โดยการส่งแสงผ่านวัสดุที่กระจัดกระจายบางชนิดหรือโดยการสะท้อน
แสงจากพื้นผิวที่สองเพื่อกระจายแสง รูปแบบของแหล่งสะท้อนแสงที่รู้จักกันดีคือแสงจากร่ม
ซึ่งแสงจากหลอดไฟจะ "เด้ง" ออกจากด้านในของร่มที่ทำจากโลหะเพื่อสร้างแสง "อ่อน"
ทางอ้อมกล่องอ่อนคือสิ่งที่แนบมารอบ ๆ หลอดไฟซึ่งประกอบด้วยผนังด้านสะท้อนแสงและ
ด้านหลังและวัสดุกระจายแสงที่ด้านหน้าของหลอดไฟด้านข้างและด้านหลังของกล่องบุด้วย


Click to View FlipBook Version