7. การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและใหข้ ้อมูล แบบทดสอบ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เกีย่ วกับส่วนตา่ ง ๆ ของใบหนา้ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการระบุภาพจากเรอ่ื งท่ีฟงั เรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการปฏบิ ัติตามคาสง่ั แบบฝกึ หัด (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ในชัน้ เรียนและเลน่ เกมทางภาษา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึกหัด พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 ภาพบุคคลที่มชี อ่ื เสยี ง
8.5 อินเทอรเ์ นต็
31
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 Has he got hair on his head?
เวลา 1 ช่วั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ท์เกี่ยวกับสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกายได้
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้
- เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกับตวั การ์ตูนที่ชอบได้
- ปฏบิ ตั ติ ามคาสัง่ และเล่นเกมทางภาษาได้
- วาดภาพและระบายสตี ามคาบอกได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งที่ฟังและอ่านจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมีเหตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟ่ี ังหรอื อ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ข้อความงา่ ย ๆ และบทพูด
เข้าจงั หวะถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพหรอื สญั ลกั ษณ์ หรือเครอื่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความสั้น ๆ ทฟ่ี ังหรอื อ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ
และความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพ่อื ขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพ่อื น และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรือ่ งต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตัวชว้ี ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกบั ตนเองและเร่อื งใกลต้ ัว
สาระท่ี 2 ภาษากับวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใชไ้ ด้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
32
ตวั ชว้ี ัด
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วัย
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธก์ ับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชีว้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรูแ้ ละเขา้ ใจคาศัพทแ์ ละโครงสรา้ งท่ใี ช้ขอและให้ขอ้ มูลที่เกย่ี วข้องกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย
ชว่ ยให้ใช้ภาษาในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Has he got hair on his head? No, he hasn’t. He’s got hair on his arms.
Vocabulary: body, neck, head, legs, feet, arms, toes, hands, fingers
Pronunciation: ออกเสยี งคาทลี่ งท้ายด้วย s และ es
Function: ขอและใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย
2) Language Skills
Listening: วาดภาพและระบายสตี ามคาบอก
Speaking: พูดขอและให้ข้อมลู เกีย่ วกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย
Writing: เขยี นให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับการต์ นู ทชี่ อบ
4. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
33
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งมัน่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ Warm Up
1. ครูพดู ทักทายนกั เรียนในชนั้ เช่น
T: Good morning. How are you?
Ss: I’m fine, thank you. And you?
T: I’m good.
ครูเขยี นคาว่า good บนกระดาน แล้วถามนักเรยี นว่า นอกจาก good แลว้ เราสามารถใช้คาอ่ืนบอกว่า
เราสบายดีไดห้ รอื ไม่ ใหเ้ วลานกั เรียนชว่ ยกนั คิด 1-2 นาที เสรจ็ แล้วครเู ขยี น I’m good/okay/happy.
บนกระดาน ให้นักเรียนพดู ประโยคดังกลา่ วตามครู 2-3 ครัง้ เสรจ็ แลว้ ครสู ุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน
ถามคาถาม How are you? เพอ่ื ให้นกั เรียนตอบ โดยที่หา้ มใช้ I’m fine. และ I’m well.
ตอ่ มาครูใหน้ กั เรยี นถามคาถาม How are you? อีกครั้ง โดยครทู าทา่ ทางไม่สบาย แล้วพดู ตอบว่า I’m
not
well. ครถู ามนกั เรียนตอ่ ว่า หากตอ้ งการตอบวา่ ไม่สบายจะใช้คาอะไรไดอ้ กี บา้ ง ครรู วบรวมคาตอบของ
นักเรยี นเขียนบนกระดาน เช่น I’m not fine/good/well/happy/okay. เสร็จแล้วครใู หน้ กั เรยี นผลัดกนั
พดู
ถาม-ตอบกบั เพ่อื นทนี่ ั่งขา้ ง ๆ อกี 3 คน โดยให้มที ้งั คาตอบท่สี บายดแี ละไม่สบาย
2. ทบทวนโครงสรา้ งทใี่ ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกับส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย โดยครูนาภาพสตั ว์ประหลาดที่
ครูวาดและระบายสไี วม้ าติดบนกระดาน จากนนั้ ครสู ุม่ เรยี กนักเรยี นถามคาถามโดยใช้โครงสรา้ ง
Has he got ...? หากคาตอบเป็น No, he hasn’t. ใหพ้ ดู บอกคาตอบท่ถี กู ต้องดว้ ย เช่น
T: Has he got red ears?
S: Yes, he has. / No, he hasn’t. He’s got yellow ears.
T: Has he got a blue nose?
S: Yes, he has. / No, he hasn’t. He has got a green nose. etc.
จากนัน้ ครเู ปลีย่ นภาพ และส่มุ เรียกนักเรียนให้เป็นผ้ถู ามบา้ ง และใหน้ ักเรยี นคนอนื่ ๆ เป็นคนตอบ
ขั้น Presentation
1. นาเสนอคาศัพท์เกย่ี วกบั สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ได้แก่ neck (คอ), head (หวั ), legs (ขา), feet (เท้า),
34
arms (แขน), toes (นว้ิ เท้า), hands (มือ) และ fingers (นวิ้ มือ) โดยครูเขยี นคาศัพท์บนกระดาน เสร็จ
แล้ว
ครูชีไ้ ปที่อวัยวะแต่ละสว่ นและพดู คาศพั ทใ์ ห้นกั เรยี นฟัง แล้วให้นักเรียนออกเสียงตามพรอ้ มกัน
คาวา่ fingers จะลงเสียงหนกั ที่พยางค์แรกเป็น fingers
2. ครูชี้ไปทีอ่ วยั วะสว่ นต่าง ๆ ในรา่ งกายของครู และถามว่า What is this? เพื่อให้นักเรยี นตอบโดยใช้
โครงสรา้ ง It’s a/an _____. เชน่ It’s a neck. จากน้ันครูถามอีกคร้งั โดยใช้คาถาม What are these?
เพื่อให้นกั เรียนตอบโดยใช้โครงสรา้ ง They are _____. เช่น They are hands.
3. ครูนาเสนอคาศพั ท์อ่นื ๆ ทน่ี ักเรียนควรรู้บนกระดาน เช่น knee (หวั เขา่ ), stomach (ท้อง), nail (เลบ็ ),
forehead (หน้าผาก), shoulder (ไหล)่
4. ให้นกั เรียนเล่นเกม Teacher says เพ่ือทบทวนคาศัพท์เกีย่ วกบั ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย โดยครอู ธบิ ายว่า
เมอื่ ครูพดู วา่ Teacher says … ตามดว้ ยชอ่ื อวยั วะ นกั เรียนตอ้ งเอามือไปแตะทอี่ วยั วะดังกล่าว หากครู
พูด
ชื่ออวัยวะเพยี งอยา่ งเดยี ว ให้นักเรียนเอามือไปแตะท่ีอวยั วะสว่ นอน่ื ๆ แทน เชน่
T: Teacher says, “Touch your knees.”
Ss: (นกั เรยี นเอามอื ไปแตะท่ีเข่า)
T: Touch your forehead.
Ss: (นกั เรียนเอามือไปแตะท่ีอวัยวะอื่นซึ่งไมใ่ ช่หน้าผาก)
5. ครูอธิบายเรื่องคานามพหพู จน์เติม s โดยครูบอกวา่ คานามสว่ นใหญส่ ามารถเปลีย่ นเปน็ พหพู จน์
โดยการเตมิ s ได้เลย จากน้ันครเู ขยี นคานามพหพู จนต์ อ่ ไปนี้บนกระดาน
fingers knees eyes legs hands shoulders
ครูอธิบายวา่ แมค้ าพหูพจน์เหลา่ น้ีจะเตมิ s ทกุ คา แต่ไม่ใชท่ กุ คาท่ีจะออกเสยี งเปน็ เสียง /s/ บางคา
เมอ่ื เตมิ s จะออกเสียงเป็น /z/ เสร็จแล้วครอู ่านออกเสียงและใหน้ กั เรียนระบุว่าเสียงทา้ ยคาเป็นเสียง /s/
หรอื /z/ จากน้นั ครูให้นักเรยี นฝึกออกเสียงตามครแู ละฝกึ ดว้ ยตนเอง
/z/ - fingers, knees, eyes, legs, hands, shoulders
35
การออกเสยี ง /s/, /z/ และ /Iz/ ในคาท่ีลงท้ายด้วย s และ es
ครูยา้ ใหน้ กั เรยี นออกเสยี ง /s/, /z/ และ /Iz/ ทา้ ยคานามรปู พหพู จนใ์ ห้ถูกตอ้ ง เพราะเป็นเสียง
ทา้ ยคาที่ไม่มใี นภาษาไทย ดังนัน้ คนไทยส่วนใหญม่ ักจะละเลยและไม่ออกเสียงดงั กลา่ ว
ทา้ ยคา ทาใหส้ อ่ื สารไดไ้ ม่ถกู ต้องตามหลกั ภาษา ซ่งึ หลักการออกเสียง/s/, /z/ และ /Iz/ ทา้ ยคา
มดี ังน้ี
1. คาท่ีลงทา้ ยด้วยเสียงไม่กอ้ ง ไดแ้ ก่ /p/, /t/, /k/, /f/, /θ/ จะออกเสียง /s/ เช่น lips, pots,
books, laughs, breaths
2. คาที่ลงทา้ ยด้วยเสียงก้อง ไดแ้ ก่ /b/, /d/, /g/, /m/, /n/, /ŋ/, /l/, /r/, /v/ และสระ a, e, i, o,
u
จะออกเสียงเปน็ /z/ เชน่ webs, beds, legs, arms, fans, kings, nails, cars, lives, eyes,
toes
3. คาทีล่ งทา้ ยด้วยเสยี ง /s/, /ʧ/, /ʃ/, /z/, /ʤ/ จะออกเสียงเปน็ /Iz/ เช่น misses, watches,
dishes, roses, changes
ทมี่ า: http://www.pronuncian.com/Lessons/default.aspx?Lesson=129
เสียง /s/ และเสยี ง /z/ เป็นเสียงท่เี กดิ ท่ีปุ่มเหงือก (alveolar) เชน่ กนั แตจ่ ะออกเสียงต่างกัน
โดยเสยี ง /s/ เป็นเสยี งไม่กอ้ ง (voiceless) แตเ่ สียง /z/ เปน็ เสียงก้อง (voiced) โดยนกั เรียน
สามารถสังเกตได้ว่าเสียงใดเป็นเสียงกอ้ งหรอื ไมก่ อ้ งไดจ้ ากการเอามอื ไปแตะทีล่ าคอจะรสู้ ึก
วา่ เส้นเสียงในลาคอสน่ั ถา้ เป็นเสยี งกอ้ ง
ครูอาจเปดิ คลิปวดิ ีโอใหน้ ักเรยี นไปฝกึ การออกเสยี ง -s/-es เพมิ่ เตมิ ได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=BU6FoC9Rzyg
หรอื ใหน้ กั เรยี นไปฝึกด้วยตนเอง โดยครบู อกคาสาคญั s endings หรอื ชือ่ คลิป How to
pronounce words ending in s ให้นักเรียนฝกึ ค้นหาขอ้ มลู ด้วยตนเองท่ี www.youtube.com
เราจะไมอ่ อกเสยี ง /k/ ในคาว่า knee เน่ืองจาก k เป็นเสียงเงยี บ (silent letter)
นอกจาก knee ยงั มคี าอน่ื อกี เชน่ know, knife, knock
36
ขั้น Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 6 Ex. 6 ครูอธบิ ายภาระงาน ใหเ้ วลานกั เรียนจับค่ภู าพส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายกับ
คาศพั ทท์ างดา้ นซา้ ยมอื จากน้นั ครูเฉลยคาตอบโดยเปิด CD ใหฟ้ ังและชว่ ยกันตรวจคาตอบ แลว้ ให้
นักเรียนฝกึ อา่ นออกเสียงตาม CD โดยยา้ ใหน้ กั เรยี นออกเสยี ง s ท้ายคานามพหพู จน์
1 - head 3 - arms 5 - fingers 7 - feet
2 - neck
4 - hands 6 - legs 8 - toes
neck - 2 legs - 6 arms - 3 hands - 4
head - 1 feet - 7 toes - 8 fingers - 5
2. หนงั สอื เรยี น หน้า 6 Ex. 7 ให้นักเรียนปดิ หนังสอื เรยี น ครูวาดภาพสตั วป์ ระหลาดแบบง่าย ๆ ทมี่ ขี น
หรือผมบนแขนบนกระดาน แล้วครชู ี้ไปที่แขนของสัตว์ประหลาดแลว้ ถามว่า Has he got hair on his
head? ครใู หน้ กั เรียนพดู ประโยคคาถามตามครพู รอ้ ม ๆ กัน และเป็นรายบคุ คล จากนน้ั ใหน้ กั เรยี น
ตอบคาถาม ถา้ ตอบ No, he hasn’t. ใหแ้ ก้ไขข้อมลู ให้ถกู ตอ้ งด้วย เช่น No, he hasn’t. He’s got hair
on his arms. ครวู าดภาพสตั ว์ประหลาดใหมอ่ ีกคร้ัง โดยเปลยี่ นขนหรอื ผมให้ไปอยทู่ ่ีขา แขน เทา้ นว้ิ เท้า
และร่างกาย แลว้ ครถู ามคาถามเช่นเดียวกนั ตอ่ มาครพู ูด Open the book on page 6. Look at
exercise 7.
ครชู ที้ ่ีประโยคตวั อย่างในหนังสอื เรียนแลว้ บอกนักเรยี นว่า Read after me. ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนจับคูก่ นั
ฝึกพดู ถาม-ตอบ เสร็จแลว้ ครูสุม่ เรียกนักเรียน 2-3 คู่ พดู ถาม-ตอบอกี ครงั้ ให้เพ่อื นฟัง
hair โดยปกติแล้วจะเป็นคานามนบั ไม่ได้ เพราะเวลาเราพดู ถึงผม เราจะหมายถึงผมท้งั หมด
ที่อยบู่ นศรี ษะ ซงึ่ ไมส่ ามารถนับไดว้ า่ มผี มจานวนกเี่ ส้น เชน่
She has got long hair.
แต่ hair สามารถเป็นคานามนบั ได้ หากเราต้องการพดู ถึงผมเปน็ เส้น ๆ เชน่
There is a hair in my soup. (มเี สน้ ผมอยูใ่ นซุปของฉนั 1 เส้น)
37
2 A: Has he got hair on his head?
B: No, he’s got hair on his legs!
3 A: Has he got hair on his head?
B: No, he’s got hair on his hands!
4 A: Has he got hair on his head?
B: No, he’s got hair on his feet!
5 A: Has he got hair on his head?
B: No, he’s got hair on his toes!
6 A: Has he got hair on his head?
B: No, he’s got hair on his body!
3. ครูเตรียมกระดาษ A4 ใหน้ ักเรยี นคนละ 1 แผ่น จากนน้ั ครพู ูดบรรยายและใหน้ กั เรยี นวาดภาพและ
ระบายสีตามทคี่ รูบอก เช่น
My monster has got short grey hair. He has got big black eyes and a small red nose.
He hasn’t got a mouth. He has got big feet and big hands. etc.
ครแู นะนาเวบ็ ไซตใ์ ห้นกั เรียนเขา้ ไปเรียนรแู้ ละฝึกฝนภาษาอังกฤษเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั การ
บรรยายลักษณะไดท้ ี่
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/make-your-own/make-your-monster
นอกจากน้ีครอู าจเปดิ คลปิ วิดโี อเพลง Monster Song ใหน้ กั เรียนฝึกรอ้ งเพลงและฝึกฝน
คาศัพทเ์ กย่ี วกบั อวัยวะตา่ ง ๆ ของรา่ งกายเพิ่มเตมิ ทเ่ี วบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=6bIWXp_Td6c
ขน้ั Production
1. ครูใหท้ าช้ินงาน My favourite cartoon character โดยเตรยี มกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผ่น ให้
วาดภาพตัวการต์ นู ทีน่ กั เรียนชอบ พรอ้ มตกแตง่ ใหส้ วยงาม จากนนั้ ให้จับคู่กนั แต่งบทสนทนาเกยี่ วกับ
ตัวการต์ นู ของตนเอง เสร็จแล้วครสู มุ่ เรยี กนักเรียน 4-5 คู่ ออกมาสลับกันถาม-ตอบที่หน้าชัน้ เชน่
38
S1: What’s his name?
S2: His name is Olaf.
S1: Has he got big ears?
S2: No, he hasn’t.
2. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม ทาโปสเตอรค์ าศัพท์เก่ยี วกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายที่นักเรยี นเรยี นมาทั้งหมด
รวมทั้งให้ค้นหาคาศัพทเ์ พม่ิ เตมิ อีกกลุ่มละ 10 คา
3. ครูชีใ้ ห้นักเรียนเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อ่ืน โดยถามนกั เรียนว่า นักเรียนชอบส่วนใดของรา่ งกาย มาก
ท่ีสุดและนกั เรียนรู้สกึ อยา่ งไรทเี่ ห็นคนไม่มีแขน/ขา นักเรียนคดิ วา่ คนเหล่าน้ีจะดาเนนิ ชวี ติ ใน
แตล่ ะวนั อยา่ งไร หากนักเรียนเปน็ คนพกิ าร นักเรยี นอยากใหผ้ ูอ้ ื่นปฏิบตั ติ ่อนกั เรยี นอย่างไร
4. ให้นักเรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหดั หนา้ 6 Exs. 5-6 เปน็ การบ้าน
Ex. 5
2 neck 4 hands 6 legs 8 toes
7 feet
3 arms 5 fingers
Ex. 6
(ขึ้นอยกู่ บั ดลุ ยพินจิ ของผู้สอน)
39
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์
ระดับคุณภาพ พอใช้
สงั เกตการปฏิบัตติ ามคาสัง่ และ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เลน่ เกมทางภาษา เรยี นรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ตรวจการวาดภาพตามคาบอก แบบฝึกหัด ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการออกเสยี งคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
เรยี นรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั แบบประเมนิ การพดู รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ พอใช้
สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ชิน้ งานโปสเตอรค์ าศัพท์ แบบประเมินชิ้นงาน
เกย่ี วกับสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย
ประเมนิ ช้นิ งาน My favourite แบบประเมินชน้ิ งาน
cartoon character
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หัด (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบ่งชี้ด้านใฝเ่ รยี นร้แู ละ แบบประเมนิ คุณลักษณะอัน
มงุ่ มนั่ ในการทางาน พึงประสงค์
8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าชิน้ งาน
8.5 อินเทอรเ์ น็ต
40
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 What colour are the monster’s
heads?
เวลา 1 ชวั่ โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ออกเสยี ง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทต์ ามทกี่ าหนดได้
- พดู บรรยายลกั ษณะภายนอกของสัตว์ประหลาดได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกับจานวนและสีได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพดู
เข้าจงั หวะถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพหรือสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และข้อความส้ัน ๆ ทฟ่ี งั หรอื อา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพือ่ ขอและให้ข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพ่ือน และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ ง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ตวั ช้วี ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขึน้ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
41
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรแู้ ละเข้าใจคานามในรปู พหพู จน์ รวมถงึ โครงสร้างทใ่ี ช้ขอและใหข้ ้อมูลเกี่ยวกบั ลกั ษณะภายนอก ชว่ ย
ให้ส่อื สารเกี่ยวกบั ส่ิงใกลต้ วั ไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: What colour are the monster’s heads?
Vocabulary: sheep, teeth, fish, children, feet, men, mice, women
Function: ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกับลกั ษณะภายนอก
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับจานวนและสี
พูดบรรยายลักษณะภายนอกของสตั ว์ประหลาด
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการส่อื สาร
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งมั่นในการทางาน
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ Warm Up
1. ครูกลา่ วคาทกั ทายนกั เรยี น Good morning. How are you today? จากนน้ั สุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คน
ลุกขึน้
พูดถาม-ตอบกบั ครู โดยครูกาหนดว่าคาตอบของนกั เรยี นแต่ละคนต้องไม่ซ้ากนั เมอื่ นกั เรียนพดู ตอบ
เสร็จแล้ว ครบู อกใหน้ กั เรยี นนงั่ ลง
ตวั อย่าง T: Good morning. How are you today?
S1: I’m good. / I’m fine. / I’m not OK.
T: OK. Sit down.
S1: Thank you. etc.
42
2. ทบทวนคาศัพทเ์ กี่ยวกบั สตี า่ ง ๆ เช่น red, green, blue, yellow โดยครชู ้ไี ปทสี่ ่ิงของตา่ ง ๆ ในชนั้ เรียน
และให้นักเรียนพูดบอกสี เช่น What colour is it? It’s blue.
3. ทบทวนคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั สว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย โดยการเล่นเกม Spelling Bee โดยครบู อกนักเรยี นวา่
ครจู ะพดู บอกคาศพั ท์ คาละ 2 ครัง้ ให้นกั เรียนเขียนคาศพั ทล์ งในกระดาษ จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นยก
กระดาษขึ้นให้ครตู รวจวา่ สะกดคาศัพทถ์ กู ต้องหรอื ไม่ ถ้าสะกดผดิ นกั เรียนจะถูกคัดออก เกมดาเนนิ
ไปเรื่อย ๆ จนเหลอื ผชู้ นะเพยี งผู้เดยี ว
4. ทบทวนคานามทว่ั ไปท่เี ปลีย่ นเปน็ พหพู จน์ดว้ ยการเตมิ s หรอื es โดยครนู าภาพสตั วห์ รอื ส่ิงของ
มาแสดงและพูดประโยค เช่น
This is a book. These are books.
This is a pen. These are pens.
This is a pencil. These are pencils.
This is a bag. These are bags.
This is a glass. These are glasses.
ข้นั Presentation
1. ครนู าเสนอคานามเอกพจน์และพหพู จน์โดยใชบ้ ตั รภาพ และให้นักเรียนฝึกออกเสียงคาศพั ท์ตามครู
ตวั อยา่ งบัตรภาพ
This is a man. These are men.
2. ครูนาเสนอบัตรภาพอีกคร้ัง และพดู นาเสนอคาศพั ท์ในรปู ประโยค เชน่ These are men. เมอ่ื แนะนา
บตั รภาพครบทุกคาแลว้ ครสู ลับบตั รภาพทั้งหมด และแสดงบตั รภาพอกี ครง้ั เพอ่ื ให้นกั เรยี นพูดประโยค
T: (บัตรภาพผ้ชู าย 1 คน) What is this?
Ss: It is a man.
T: (บัตรภาพหนหู ลายตวั ) What are these?
Ss: They are mice.
T: (บตั รภาพแกะหลายตวั ) What are these?
Ss: They are sheep.
ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ วา่ คานามเหลา่ นจ้ี ะเปลยี่ นรปู ไปเลยเม่ือเป็นคานามพหพู จน์ นอกจากน้ยี ังมีคานาม
บางคาทีร่ ูปเอกพจนแ์ ละพหูพจนเ์ ป็นรปู เดียวกัน เช่น
43
sheep sheep
fish fish
กจิ กรรมเพิม่ เตมิ
นักเรยี นสามารถเขา้ ไปศึกษาเพมิ่ เติมเก่ียวกบั การเปลยี่ นคานามเอกพจนเ์ ปน็ รปู พหูพจน์
จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=IbyOkex9qtA
หรือครูอาจบอกคาสาคญั เช่น plural nouns หรอื ชอ่ื คลปิ Basic English Grammar 02 --
Singular & plural nouns | English lesson | ESL | Spoken English ใหน้ ักเรยี นไป
คน้ ควา้ ดว้ ยตวั เองทีเ่ ว็บไซต์ www.youtube.com
ครูอาจให้นกั เรยี นไปทาใบงานเพิ่มเติมเก่ียวกับคานามพหูพจน์เพ่ิมเตมิ ทเี่ วบ็ ไซต์ต่อไปนี้
http://www.mes-english.com/worksheets/files/plural_nouns.php
3. ครนู าเสนอโครงสรา้ งประโยค How many ____ have you got? โดยครหู ยบิ ดนิ สอ 3 แทง่ ขนึ้ มา และ
ถามนกั เรียนวา่ How many pencils have I got? เมอื่ นักเรยี นบอกจานวนแลว้ ครเู ขียนคาตอบบน
กระดาน I’ve got three pencils. จากน้ันใหน้ ักเรยี นฝึกพูดตามครู เสรจ็ แล้วใหน้ ักเรยี นฝกึ พูดถาม-ตอบ
โดยครเู ดนิ ไปทโ่ี ตะ๊ ของนักเรียนและถามคาตอบเกี่ยวกับส่ิงของทน่ี กั เรยี นมี เช่น
T: How many books have you got?
S: I’ve got one book. etc.
4. ครูนาบัตรภาพ หนู 2 ตัว แอปเปลิ 2 ผล และกล้วย 2 ผล มาแสดง แลว้ ถามคาถามนักเรียน ดงั นี้
T: What colour are the mice?
Ss: They are brown.
T: What colour are the apples?
Ss: They are red.
T: What colour are the bananas?
Ss: They are yellow.
จากนนั้ ครเู ขียนคาถามบนกระดานและใหน้ กั เรยี นอา่ นคาถามตามครู ครถู ามนักเรียนทาไมจึงใช้ are ใน
ประโยคเหลา่ น้ี เมือ่ ได้คาตอบแลว้ ครยู ้ากบั นักเรยี นว่า are ใชร้ ่วมกับคานามพหพู จน์ สว่ น is ใชก้ บั
คานามเอกพจน์
44
ข้นั Practice
1. หนงั สอื เรยี น หน้า 7 Ex. 8 ครูอธิบายภาระงาน ให้เวลานักเรียนจบั คคู่ านามเอกพจน์กบั คานามพหพู จน์
ให้สัมพนั ธ์กนั จากนน้ั ครเู ปดิ CD ให้นักเรียนฟัง และสมุ่ เรยี กนกั เรยี น 6-7 คน รายงานคาตอบของ
ตนเอง ครเู ขียนคาตอบบนกระดานอกี คร้งั เพอ่ื ใหน้ ักเรียนตรวจคาตอบของตนเอง
1 man - f men 5 mouse - g mice
2 woman - h women 6 sheep - a sheep
3 child - d children 7 foot - e feet
4 fish - c fish 8 tooth - b teeth
2h 4c 6a 8b
3d 5g 7e
เสรจ็ แลว้ ครูใหน้ ักเรียนฝกึ อ่านออกเสียงคาศพั ท์ตาม CD 2-3 ครงั้ สดุ ทา้ ยครสู มุ่ เรยี กนักเรียนอา่ น
ออกเสยี งใหเ้ พอ่ื นฟัง
การออกเสยี งคาทขี่ น้ึ ต้นด้วย ch และ sh
เสียง /tʃ/ และ /ʃ/ เปน็ เสียงเสียดแทรกเหมอื นกัน แตม่ คี วามแตกตา่ งกนั ทเ่ี สียง /tʃ/ เกิด
จากการเอาปลายลนิ้ ยกขนึ้ ไปแตะปุ่มเหงอื ก เสยี งจะส้นั กว่าเสยี ง /ʃ/ แตเ่ สียง /ʃ/ ลิ้นจะ
ไมแ่ ตะปมุ่ เหงือก คลา้ ยกบั เสียงเวลาครบู อกใหน้ กั เรยี นเงียบ Shhhhh!
ตวั อย่างคาศพั ท์
cheap sheep
child shy
chip ship
chop shop
ทมี่ า: http://www.vcharkarn.com/varticle/42427
45
กิจกรรมเพ่มิ เตมิ
นักเรยี นสามารถฝกึ ออกเสียงคาที่ขึ้นต้นด้วย ch และ sh จากเว็บไซตต์ ่อไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=EoxtdD0Taxk
หรอื ครูอาจบอกคาสาคญั เช่น ch sh pronunciation หรือชอ่ื คลปิ Ch กบั Sh ออกเสยี ง
ต่างกันอย่างไร ให้นกั เรียนค้นคว้าดว้ ยตัวเองทีเ่ ว็บไซต์ www.youtube.com
2. หนังสือเรยี น หนา้ 7 Ex. 9 ใหน้ ักเรียนดูตวั อย่างทีใ่ ห้มา ครูอ่านตวั อย่างประโยคและให้นกั เรยี นอ่าน
ตาม โดยครพู ดู วา่ Repeat after me. จากนัน้ ใหเ้ วลานกั เรยี นใช้คาทกี่ าหนดใหใ้ นแต่ละข้อมาแตง่
ประโยคใหส้ มบรู ณ์ เสร็จแล้วครขู ออาสาสมคั รออกมาเขยี นคาตอบบนกระดานและอ่านใหเ้ พื่อนฟัง
2 The baby has got two small teeth. 3 George has got a baby sheep.
4 Ian has got big ears. 5 Mary has got a red dress.
6 I have got a new camera.
3. หนังสอื เรียน หน้า 7 Ex. 10 ให้นกั เรยี นดูภาพสตั ว์ประหลาด จากนน้ั ครอู า่ นตัวอยา่ งบทสนทนาใน
หนงั สอื เรียนใหน้ กั เรียนฟงั ตอ่ มาใหน้ กั เรยี นทางานคู่แตง่ บทสนทนาเกีย่ วกบั สตั วป์ ระหลาด โดยใช้
บทสนทนาตัวอย่างเปน็ ตน้ แบบ
ก่อนทากจิ กรรม Ex. 10 ครูทบทวนการออกเสยี งท้ายคานามท่เี ติม s ก่อน เช่น arms, hands, legs ว่า
อา่ นออกเสียง /s/ หรอื /z/
heads ลงท้ายดว้ ยเสียง /z/ เพราะ head สะกดด้วย d ซึ่งเปน็ เสยี งก้อง (voiced) เมือ่ เติม s
ต่อท้ายเสียงกอ้ งจะออกเสียงเปน็ /z/
A: What colour are the monster’s legs?
B: They’re blue.
A: What colour are the monster’s feet?
B: They’re orange.
A: What colour are the monster’s arms?
B: They’re brown. etc.
46
เสร็จแลว้ ให้นกั เรยี นแตล่ ะค่ฝู กึ พูดสนทนากนั ครเู ดนิ สังเกตขณะนกั เรียนทากิจกรรมเพื่อคอยให้
คาแนะนา
4. หนังสอื เรียน หน้า 7 หัวข้อ Go Green ครอู า่ นข้อความในกรอบให้นกั เรียนฟงั จากนน้ั ให้นกั เรยี นระดม
ความคดิ บอกวิธปี ระหยดั น้า เชน่ Don’t leave the water running when you brush your teeth.
Go green หมายถงึ การทาส่งิ ใดสิง่ หนงึ่ เพือ่ ปกป้องธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม
(to do more to protect nature and the environment)
ข้ัน Production
1. ให้นักเรียนทางานคู่ ทาบัตรภาพคานามพหพู จนใ์ นหนังสอื เรียน หน้า 7 Ex. 8 และระบายสใี หส้ วยงาม
ครยู า้ ให้นักเรียนวาดภาพแต่ละภาพใหม้ จี านวนแตกต่างกัน เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนผลดั กันพูดถาม-ตอบ
เกยี่ วกบั จานวนและสขี องคานามเหลา่ นี้ เช่น
S1: How many teeth have you got?
S2: I’ve got two teeth.
S1: What colour are the teeth?
S2: They are green. etc.
2. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหดั หน้า 7 Exs. 7-8 เปน็ การบา้ น
Ex. 7 4 men 6 women 8 sheep
2 mice 5 teeth 7 children
3 feet
Ex. 8
2 In picture A, there is one fish. In picture B, there are two fish.
3 In picture A, there are two mice. In picture B, there is one mouse.
4 In picture A, there is one dog. In picture B, there are two dogs.
5 In picture A, there is one man. In picture B, there are two men.
6 In picture A, there is one child. In picture B, there are two children.
47
7. การวดั และประเมินผล
วธิ กี ารวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
เรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอและให้ขอ้ มูล แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เกีย่ วกับจานวนและสี ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู บรรยายเกยี่ วกบั แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้
ลักษณะภายนอกของสัตว์ประหลาด ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชน้ิ งานบตั รภาพคานาม แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้
พหูพจน์ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ใฝเ่ รยี นรูแ้ ละมงุ่ ม่นั ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณ์ทาชนิ้ งาน
8.5 บตั รภาพ
8.6 อินเทอร์เนต็
48
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 Welcome to the planet Ziccom!
เวลา 2 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านได้
- อา่ นออกเสยี งเรื่องสั้น ๆ ได้
- พดู แสดงบทบาทสมมตจิ ากเร่อื งที่อ่านได้
- พูดขอรอ้ งงา่ ย ๆ ในชัน้ เรยี นได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งทฟ่ี งั และอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวช้ีวดั
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพดู
เข้าจังหวะถกู ต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนทิ านงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ
และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าส่ัง คาขอร้อง และคาขออนญุ าตงา่ ย ๆ
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายคาศพั ท์ สานวน โครงสรา้ งทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มูล ชว่ ยใหต้ อบคาถามจากการ
อ่านและฟังไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
49
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: planet, fantastic
Function: ฟังเพื่อความเข้าใจ
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พดู ขอรอ้ งง่าย ๆ ในชั้นเรียน
Reading: อา่ นออกเสียงเร่อื งสนั้ ๆ
4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใี่ ช้ในการสอื่ สาร
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ Warm Up
1. ครูเขา้ มาในหอ้ งพรอ้ มกลา่ วทกั ทายนักเรยี นวา่ Hi, everyone. How are you? จากนน้ั ครูเขียน How
are
you doing? บนกระดาน ใหน้ ักเรียนพดู ตามครพู ร้อมกนั ครอู ธิบายวา่ นอกจาก How are you?
เราสามารถใชป้ ระโยคดงั กล่าวพดู ทักทายได้เชน่ กัน ครสู ุ่มเรียกนักเรียน 1-2 คน ลุกข้นึ ยนื สนทนา
กับครู โดยใหน้ ักเรียนเป็นคนถามและครเู ปน็ คนตอบ เชน่
S: How are you doing?
T: I’m fine. And you?
S: I’m OK. etc.
2. ทบทวนคานามพหพู จน์ดว้ ยการแบง่ นกั เรยี นเป็น 2 กลุ่ม โดยครูเป็นคนพูดคานามเอกพจน์ แล้วให้
ตวั แทนนักเรยี นจากกลุ่ม 1 และ 2 (ไม่ซ้ากนั ) ผลดั กนั พูดบอกคานามพหพู จนข์ องคานามทคี่ รบู อก
50
โดยใหพ้ ูดตอบเปน็ ประโยค กลุ่มใดตอบได้ถูกตอ้ งมากท่สี ุดเปน็ กลมุ่ ทชี่ นะ
ตัวอย่าง T: What is the plural of ‘child’?
Group 1: The plural of ‘child’ is ‘children’!
T: What is the plural of ‘woman’?
Group 2: The plural of ‘woman’ is ‘women’! etc.
3. ครูใหน้ กั เรียนทบทวนการขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั สีผม ด้วยการนาภาพคนสผี มต่าง ๆ มาแสดงและ
ถามนักเรยี น เชน่
T: What colour is her hair?
Ss: Her hair is brown.
T: What colour is his hair?
Ss: His hair is blonde. etc.
ขัน้ Presentation
1. ครนู ่ังทโี่ ต๊ะครู และทาหนงั สือตก จากนน้ั ครพู ูดกบั นักเรียนท่ีอยูใ่ กล้ ๆ วา่ Can you help me, please?
เม่อื นกั เรยี นหยบิ หนังสอื ให้ครแู ล้ว ครกู ลา่ วขอบคุณ จากน้นั ครูถามนักเรยี นวา่ Can you help me,
please? หมายความว่าอย่างไร และใชเ้ ม่อื ใด เมอื่ ได้คาตอบจากนักเรียนแล้ว ครูเขยี นสรุปโครงสรา้ ง
ประโยคขอรอ้ งให้นกั เรยี นดูบนกระดาน
Can you + ________, please? Yes, I can. / Sorry, I can’t.
ครูอธบิ ายเพิม่ เตมิ วา่ please ใช้ในการขอรอ้ งและแสดงความสุภาพ เมอื่ ตอ้ งการใหค้ นอ่นื ทาส่ิงใด
สิ่งหน่ึงใหก้ ับเรา และเม่ือมีคนทาสงิ่ นนั้ ใหก้ บั เรา เราควรจะกลา่ วขอบคุณโดยพดู วา่
Thank you (very much). หรอื Thanks. (ไม่เป็นทางการ)
ตอ่ มาครกู าหนดสถานการณ์ใหบ้ นกระดาน เชน่ clean the blackboard, open the window,
close the window, open the door, close the door จากนั้นใหน้ ักเรียนจับคู่ ผลัดกันพดู ถาม-ตอบ
โดยใช้ โครงสรา้ ง Can you …?
ตัวอย่าง S1: Can you open the window, please?
S2: Yes, I can.
S1: Thank you.
2. ครเู ขียน planet บนกระดาน และใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสียงตามครู 2-3 ครง้ั ครถู ามนักเรยี นวา่
What does the word ‘planet’ mean? ถา้ นกั เรยี นไม่รคู้ าตอบ ครอู าจยกตวั อยา่ ง เชน่ Earth,
Jupiter, Mars, Venus are planets. หรอื บอกนิยาม planet (n) a large round object in space
that moves around
51
a star (such as the sun) and receives light from it (ดาวเคราะห์)
จากนน้ั ครูเขียนประโยค Earth is a planet. บนกระดาน และให้นักเรียนอ่านตามครู แล้วเปลีย่ นจาก
Earth เปน็ ดาวเคราะห์ดวงอืน่ ๆ เชน่ Mars (ดาวองั คาร), Mercury (ดาวพุธ), Jupiter (ดาวพฤหัส),
Venus (ดาวศุกร์), Saturn (ดาวเสาร)์ , Uranus (ดาวยูเรนสั ), Neptune (ดาวเนปจูน)
ต่อมาครถู ามนกั เรียนวา่ Who is Extra? จากนนั้ ครูอธิบายวา่ Extra is an ET. Do you know an ET?
ET is an extraterrestrial or a visitor from another planet. He comes from the planet
Ziccom.
Today Extra and his friends will visit Ziccom.
3. ครูนานักเรยี นอ่านประโยคในแตล่ ะกรอบในหนงั สอื เรียน หน้า 8-9 Ex. 11 จากนั้นใหน้ ักเรียน
อา่ นออกเสยี งตามครู ตอ่ มาครเู ปิด CD และหยดุ เปน็ ช่วง ๆ เพอื่ ให้นกั เรียนฟงั และออกเสยี งตาม
พรอ้ มกนั หรือเป็นรายบคุ คล ครูสังเกตการออกเสยี งของนักเรียนและให้คาแนะนา
4. ครถู ามความหมายของคาศัพทใ์ นเนอ้ื เร่อื ง เชน่ fantastic (ยอดเย่ยี ม) เมื่อได้คาตอบแล้ว ครบู อกชนดิ
ของคาว่าเปน็ คาคุณศพั ทแ์ ละให้นักเรียนช่วยกันแต่งประโยค ครยู ้าวา่ เราจะวางคาคณุ ศัพทไ์ วห้ ลงั
verb to be และหนา้ คานามเสมอ
ตวั อยา่ ง The show is fantastic.
It is a fantastic show.
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หนา้ 8 Ex. 11 ให้นกั เรยี นอา่ นประโยคที่ยงั ไมส่ มบรู ณ์และตวั เลอื กทง้ั 2 ขอ้ จากนน้ั ครู
เปิด CD ใหน้ ักเรียนฟงั 1 รอบ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบทีถ่ กู ต้อง เสรจ็ แล้วครเู ปิด CD อกี ครง้ั
เพ่ือใหน้ กั เรยี นตรวจคาตอบพร้อมกัน
a happy
2. หนังสือเรยี น หน้า 9 Ex. 12 ครูอธบิ ายภาระงานและอ่านประโยคขอ้ 1-4 ให้นักเรียนฟงั จากน้ัน
ใหเ้ วลานักเรยี นกลบั ไปอ่านเน้อื เรื่องด้วยตนเองอกี ครั้งและเตมิ ประโยคดงั กล่าวใหส้ มบูรณ์ เสร็จแล้ว ครู
และนกั เรียนเฉลยคาตอบพร้อมกนั
52
1 Ziccom 2 Ziggy 3 blue 4 red
3. ครถู ่ายเอกสาร Story Cutouts จากแบบฝกึ หดั หนา้ 79 และนามาตดั แบ่งเหตุการณ์ออกเป็น 8 สว่ น
จากนั้นครแู บ่งนกั เรยี นออกเปน็ กลมุ่ ครแู จก Story Cutouts ท่ตี ดั ไวแ้ ลว้ ให้แต่ละกลุ่ม ครูอธิบายวิธีการ
ทากิจกรรมวา่ ครพู ดู ประโยคในเร่ืองและใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชูภาพจาก Story Cutouts ให้ถกู ตอ้ ง
ข้นั Production
1. ครแู บง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม ครชู แี้ จงกจิ กรรม คอื ใหน้ ักเรียนทาแผน่ ป้ายประโยคขรอ้ งในช้นั เรียน
แสดงบทบาทสมมติจากเรอื่ งราวในหนังสือเรียน หนา้ 8-9 Ex. 11 เมื่อนกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ งแล้ว
ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ออกมาแสดงบทบาทสมมตหิ น้าช้นั เรียน
2. ใหน้ ักเรียนฝึกอ่านเนอื้ เรอ่ื งในหนังสอื เรยี น หนา้ 8-9 ดว้ ยตนเองทีบ่ า้ น และอ่านให้ครูฟงั นอกเวลาเรยี น
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝกึ หดั หน้า 8 Exs. 9-10 เป็นการบา้ น
Ex. 9 4c
2a 3d
Ex. 10
B
53
7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมนิ ความสามารถ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ในการพดู สื่อสาร ผ่านเกณฑ์
ประเมินการอ่านออกเสียงเรอ่ื งสน้ั แบบประเมนิ การแสดงบทบาท ระดับคณุ ภาพ พอใช้
สมมติ ผ่านเกณฑ์
ประเมินการแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมินการพดู ระดับคุณภาพ พอใช้
จากเรอ่ื งท่ีอา่ น ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพูดขอร้องงา่ ย ๆ แบบประเมนิ ช้นิ งาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ในชน้ั เรียน ผา่ นเกณฑ์
ประเมินช้นิ งานแผน่ ปา้ ยประโยค แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ขอรอ้ งในช้ันเรียน
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
การฟงั ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบ่งชด้ี า้ น
ใฝเ่ รียนรู้และม่งุ มนั่ ในการทางาน
8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ Story Cutouts
54
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 6 Franky, the monster!
เวลา 1 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- เขียนบรรยายลกั ษณะบคุ คลและสตั วป์ ระหลาดได้
- ฟังและตอบคาถามเกี่ยวกับเรือ่ งทฟี่ ังได้
- พดู ขอและให้ข้อมลู เกยี่ วกับลกั ษณะบุคคลและสัตวป์ ระหลาดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทฟ่ี งั และอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพหรอื สญั ลกั ษณ์ หรือเครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยค
ต 1.1 ป.4/4 และข้อความสน้ั ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น
ตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นประโยค บทสนทนา และนทิ านงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สึก
ตวั ชวี้ ัด และความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพ่อื ขอและให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองตา่ ง ๆ
ตัวชี้วัด โดยการพดู และการเขียน
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ข้อมูลเกยี่ วกับตนเองและเรอ่ื งใกลต้ วั
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทัง้ ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
ตัวชวี้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณท์ เ่ี กดิ ข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรแู้ ละเขา้ ใจคาศัพทแ์ ละโครงสรา้ งท่ใี ช้ขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั สว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยใหพ้ ูด
อา่ น เขียนได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
55
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: It’s Franky, the monster! He’s got a very big head and
three big green eyes. What does Alice look like?
Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะรปู ร่าง
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ลกั ษณะบุคคลและสัตวป์ ระหลาด
Writing: เขียนบรรยายลักษณะบุคคลและสตั ว์ประหลาด
4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งม่ันในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูเขา้ มาในห้องและพูดทกั ทายนกั เรียนในชนั้
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ กีย่ วกับส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย เชน่ head, eyes, hands, hair ดว้ ยการเล่นเกม Bingo
โดยให้นกั เรียนวาดตาราง 9 ช่อง และเขยี นคาศพั ท์เกยี่ วกับส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายลงไปในตาราง
จากน้ันครอู ธบิ ายวธิ กี ารเลน่ เกมวา่ ครจู ะพดู คาศพั ทใ์ นตาราง ให้นกั เรยี นวงคาศพั ทท์ นี่ กั เรยี นไดย้ นิ
นกั เรียนคนใดวงครบ 3 ชอ่ งเป็นเส้นตรงในแนวใดกไ็ ดก้ อ่ นคือผชู้ นะ
ขนั้ Presentation
1. นาเสนอประโยคทใ่ี ช้ถามเกยี่ วกบั ลกั ษณะภายนอกโดยแสดงภาพดาราหรอื ศิลปินทม่ี ีชอื่ เสยี ง
จากนั้นครพู ดู วา่ Look at the picture. แล้วถามคาถาม What does she look like? และใหน้ ักเรียน
พดู ตาม
56
ครูพร้อมกนั ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรยี นมาเขยี นบนกระดาน ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมวา่ ประโยค
What does she look like? ใชถ้ ามเกย่ี วกบั ลักษณะภายนอก เช่น รปู รา่ ง สีตา สีผม
ตัวอย่าง T: What does she look like?
Ss: She’s got long brown hair and big brown eyes. etc.
2. ให้นักเรียนฝึกพดู ถาม-ตอบบรรยายลักษณะภายนอกของเพ่ือนทนี่ ัง่ ขา้ ง ๆ เชน่
S1: Weera, what does Manee look like?
S2: She’s got short black hair and small brown eyes. etc.
3. ครนู าเสนอประโยคทน่ี กั เรียนมักจะสบั สน ไดแ้ ก่ What’s she like? กับ What does she like? โดย
What’s she like? จะใช้ถามเกี่ยวกับลกั ษณะนิสยั สว่ น What does she like? ใช้ถามเกย่ี วกบั ส่ิงทชี่ อบ
หรอื งานอดเิ รก
ตัวอย่าง A: What’s she like?
B: She’s friendly and kind.
A: What does she like?
B: She likes reading comic books.
like (v) มคี วามหมายวา่ ชอบ เชน่ I like comic books.
like (prep) มคี วามหมายวา่ ดูเหมือนว่า เชน่ What’s she like?
ขน้ั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 10 Ex. 13 ครบู อกนักเรียนวา่ Look at Tom’s monster. What does he look
like?
และใหน้ ักเรียนช่วยกนั พดู บรรยายลกั ษณะสัตวป์ ระหลาดของทอม จากนนั้ ครูใหน้ กั เรยี นอ่านขอ้ ความ
ในกรอบและเติมคาตอบในช่องว่างแต่ละขอ้ เสรจ็ แล้วครูเปดิ CD เพอื่ ใหน้ กั เรยี นตรวจคาตอบของ
ตนเอง และเปิดอกี คร้ังเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสียงตาม CD
Look at my picture! It’s Franky, the monster! He’s got a very big head and
three big green eyes! He’s got a big red mouth but he hasn’t got any teeth!
He’s got four arms and four hands. He’s got four legs and four big feet.
Franky’s got beautiful pink hair.
57
1 head 3 mouth 5 hands 7 hair
2 eyes 4 teeth 6 feet
ในชนั้ เรยี นเดก็ เก่ง ครอู าจเปดิ CD ให้นกั เรยี นฟัง 2 ครงั้ และวาดภาพพรอ้ มท้ังระบายสี
สัตวป์ ระหลาดตามทไี่ ดย้ นิ
2. หนังสอื เรยี น หน้า 10 Ex. 14 ครชู ไ้ี ปท่ีภาพตวั อยา่ ง พรอ้ มถามคาถาม What does Alice look like?
เพ่อื ให้นักเรียนตอบว่า She’s got black hair and brown eyes. จากนนั้ ให้นกั เรยี นฝึกพูดตามพร้อม
กัน
และทลี ะคน ครูทาเช่นเดยี วกันนีก้ บั ขอ้ ทเี่ หลือ
จากนนั้ ครูให้นักเรยี นจบั คู่ฝกึ พูดบทสนทนาดว้ ยตนเอง เสร็จแล้วครสู มุ่ เรียกนกั เรยี น 3-5 คู่ ออกมา พดู
สนทนาทหี่ นา้ ชนั้ เรียนอกี ครั้ง
2 A: What does Peter look like?
B: He’s got red hair and green eyes.
3 A: What does Lisa look like?
B: She’s got brown hair and brown eyes.
4 A: What does Max look like?
B: He’s got fair hair and blue eyes.
3. หนังสอื เรยี น หน้า 11 Ex. 15 ครชู แ้ี จงกจิ กรรม ให้นกั เรียนดภู าพสตั ว์ประหลาดท้งั 4 ตัว โดยใชค้ าสั่ง
Look at these monsters. พรอ้ มท้ังอา่ นชื่อสตั ว์ประหลาดแตล่ ะตวั ให้นกั เรียนฟงั และออกเสียงตาม
จากน้ันครูชปี้ ระโยคท่อี ยทู่ างดา้ นขวาและเปิด CD ใหน้ ักเรยี นฟงั ให้นกั เรยี นอ่านออกเสยี งตาม
พรอ้ มกนั เสร็จแล้วครสู มุ่ เลือกนกั เรยี นออกมายนื หน้าชนั้ 1 คน โดยใหน้ กั เรียนเลอื กสตั วป์ ระหลาด
ไว้ในใจ จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทเ่ี หลือถามคาถามนักเรียนคนนีจ้ นไดค้ าตอบว่า เป็นสัตว์ประหลาดตัวใด
นกั เรียนท่ีเดาถูกจะเปน็ ผู้เลือกสตั ว์ประหลาดตัวตอ่ ไป
58
a: Has your monster got one eye?
b: No, it hasn’t.
c: Has your monster got green arms?
b: Yes, it has.
c: Is it Zippy?
b: Yes, it’s Zippy!
กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครเู ปิดคลปิ วิดโี อ [Look like] What does she look like? (At the amusement park) - Easy
English Dialogue - for Kids ใหน้ ักเรียนฝกึ พดู ถาม-ตอบโดยใชป้ ระโยค What does she
look like? จากเว็บไซตต์ ่อไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=7eJHndmL0SY
ขน้ั Production
1. หนงั สอื เรียน หน้า 15 หวั ข้อ Portfolio ใหน้ ักเรียนเขยี นบรรยายเกย่ี วกับสตั ว์ประหลาดของตนเอง
พรอ้ มวาดภาพประกอบหรือนารูปมาตดิ จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกมาพดู นาเสนอผลงานของตนเองหนา้
ชน้ั เรียน
(ตวั อยา่ งคาตอบ)
Look at my picture! It’s got one big eye and one big mouth. It’s got four ears,
but it hasn’t got any hair. It’s got three feet. It’s got nine toes.
2. ใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมในแบบฝกึ หัด หน้า 9 Exs. 11-12 เป็นการบา้ น
59
Narrator: Listen and tick (✓).
One
Which one is Mark?
Man: Who’s your best friend, Kelly?
Girl: My best friend is Mark.
Man: What’s Mark like?
Girl: He’s got dark eyes.
Man: Has he got red hair?
Girl: No, he’s got dark eyes and dark hair, too.
Two
Which one is Nelly?
Boy: This is my monster, Nelly. Nelly has got a big head, four
arms and three legs. She’s got a big mouth and beautiful
red hair. Nelly is very funny!
Ex. 11
1a 2c
Ex. 12
2 She’s got long brown hair and dark eyes.
3 Bella. 4 No, she hasn’t.
60
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟงั แบบทดสอบ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี นบรรยาย แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ลักษณะบุคคลและสัตว์ประหลาด
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอและให้ขอ้ มลู แบบประเมินการพดู ระดับคุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
เกย่ี วกบั ลกั ษณะบุคคลและสตั ว์
ประหลาด
ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝกึ หดั (Workbook)
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีด้าน แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง
ใฝเ่ รียนรแู้ ละมงุ่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์
8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอื่ ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อนิ เทอรเ์ น็ต
61
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 7 Let’s sing!
เวลา 1 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objective)
- อ่านออกเสยี ง สะกด และบอกความหมายคาศพั ท์ท่ีมี -ea- ประกอบได้
- ปฏิบตั ติ ามคาส่งั และเล่นเกมทางภาษาได้
- ร้องเพลงทางภาษา และแสดงท่าทางประกอบตามท่กี าหนดได้
- คน้ คว้าข้อมลู เก่ยี วกบั คาศัพทต์ ามทก่ี าหนดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทีฟ่ งั และอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อยา่ งมีเหตผุ ล
ตัวช้วี ัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟ่ี งั หรอื อา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา อา่ นกลุ่มคา ประโยค ข้อความงา่ ย ๆ และบทพูด
เข้าจงั หวะถกู ต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพหรือสัญลกั ษณ์ หรอื เครือ่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความสน้ั ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ
และความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวช้ีวัด
ต 1.2 ป.4/2 ใช้คาส่งั คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชว้ี ัด
ต 2.1 ป.4/3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั
สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พันธก์ ับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครื่องมือพืน้ ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชพี
และการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กับสังคมโลก
ตัวชี้วัด
62
ต 4.2 ป.4/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรูแ้ ละเข้าใจความหมายของคาศัพทเ์ กย่ี วกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ชว่ ยใหฟ้ งั พูด/เขียนสอ่ื สาร
และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: shoulders, knees, toes, weak, read, heat, team, meat
Pronunciation: การออกเสียงคาที่สะกดดว้ ยสระ long e
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื ความเขา้ ใจ
Speaking: พดู ประโยคคาสั่ง
3) Culture: ส่ิงทีค่ วรและไม่ควรปฏิบัติในประเทศไทยท่เี กย่ี วขอ้ งกบั อวยั วะ
ในร่างกาย
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ท่ีใช้ในการสือ่ สาร
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มงุ่ ม่ันในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ัน Warm Up
1. ครูกลา่ วทักทายนักเรียนในชัน้ จากน้ันครสู อนประโยคขออนญุ าต โดยเขยี น May I go out? และ
May I come in? บนกระดาน ใหน้ กั เรียนพดู ตามครูพรอ้ มกัน ครอู ธิบายว่า หากนกั เรยี นต้องการ
63
ขออนญุ าตออกนอกหอ้ งเรยี น เราจะพดู วา่ May I go out? และกลับเข้ามาในห้องจะพูดวา่ May I
come in? นกั เรยี นอาจจะพูด please ตอ่ ทา้ ยดว้ ยเพือ่ ความสภุ าพ เชน่ May I go out, please? เสรจ็
แลว้
ครขู ออาสาสมคั ร 1 คน ออกมาพดู ขออนุญาตกบั ครู โดยครยู า้ วา่ หากนักเรียนไดร้ ับอนุญาตแลว้ ตอ้ ง
กล่าวขอบคุณด้วย เช่น
S: May I go out, please?
T: Yes.
S: Thank you very much. etc.
ในวัฒนธรรมของชาวตะวันตก เมอ่ื เราตอ้ งการขออนญุ าตหรอื ให้ผอู้ ่นื ทาสงิ่ ใดสงิ่ หน่ึง
ใหเ้ รา เราจะใชค้ าว่า please ขนึ้ ต้นหรือต่อทา้ ยประโยค เช่น Can you help me, please?
และเมอื่ คนอ่ืนทาส่ิงใดสง่ิ หนึ่งใหเ้ รา เราต้องพูด Thank you (very much). เสมอ
2. ทบทวนการขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับลักษณะภายนอกและบุคลกิ โดยครชู ไ้ี ปที่นกั เรยี นคนหนึ่ง และ
เรยี กนกั เรียนอีกคนตอบคาถาม What does he/she look like? จากนน้ั ให้นกั เรียนพดู บรรยายลักษณะ
ของ
เพอ่ื น เชน่
T: Araya, what does Manee look like?
S: She’s got long black hair and black eyes.
3. ครูทบทวนการออกเสยี งคาทข่ี ึ้นตน้ ดว้ ย sh ในคาวา่ shoulder โดยเขียนคาศัพท์บนกระดานแลว้ สุ่มเรียก
นักเรียนอา่ นคาศพั ท์ทลี ะคน
4. ครทู บทวนคาทพ่ี ยญั ชนะ k ไมอ่ อกเสยี ง เชน่ knee, know, knife, knock โดยเขยี นคาศัพทบ์ นกระดาน
แล้วชใี้ ห้นกั เรียนอา่ นพรอ้ มกนั ทลี ะคา
ขน้ั Presentation
1. ครทู บทวนและนาเสนอคาศัพทใ์ หมเ่ กี่ยวกบั สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย เช่น shoulder (ไหล)่ , knee
(หัวเข่า), toe (นิ้วเท้า) โดยการพดู บอกความหมายหรือชไ้ี ปทีส่ ่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย จากนัน้ ครูพดู
คาสัง่ โดยใช้คาว่า Point to _____. และให้นักเรยี นปฏบิ ัติตาม เช่น
Point to your toes.
Point to your friend’s toes. etc.
2. ครเู ขยี นคาศัพท์ weak, read, heat, team, meat บนกระดานและแสดงภาพให้นกั เรียนดู จากนั้น
64
ให้นักเรียนชว่ ยกันเดาความหมาย ครชู ไ้ี ปท่ีแต่ละคาและให้นักเรียนพดู ตาม ครอู ธิบายวา่ เสยี งนี้
คอื เสยี ง long e ซึง่ คลา้ ยกับสระ อี ในภาษาไทย ส่งิ ทน่ี กั เรยี นตอ้ งพงึ ระวงั ในการออกเสียง คือ
การออกเสยี ง long e เป็นเสยี ง short e เพราะหากออกเสยี งผดิ จะทาใหค้ วามหมายเปลีย่ นไปได้
กจิ กรรมเพมิ่ เตมิ
ครูเขียนคาศัพทบ์ นกระดานเพ่มิ เตมิ ดงั นี้
tea tin
pea pin
โดยในแต่ละแถวครูอ่านออกเสียงคาศัพท์ 1 คา ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดาวา่ คือคาศพั ทค์ าใด
ครูทากจิ กรรมเช่นนี้อกี 8-10 คา เพื่อให้แน่ใจว่านกั เรยี นสามารถแยกแยะเสียง long e และ
short e ได้
จากนนั้ ครใู หน้ ักเรียนฝึกอ่านประโยคตอ่ ไปนี้ โดยครูอ่านออกเสียงโดยเน้นแตล่ ะคาใหช้ ดั เจน
She leaves the key under the tree near the sea.
เสร็จแลว้ ครูสุ่มนักเรยี น 3-4 คน ยนื ขึ้นอา่ นประโยคบนกระดาน
3. ทบทวนการออกเสียง sh ในคาวา่ shoulder โดยครเู ขยี นคาศพั ท์บนกระดาน จากนน้ั สุ่มเรยี ก
นกั เรยี นอ่านคาศพั ทท์ ลี ะคน
4. ทบทวนคาที่พยญั ชนะ k ไมอ่ อกเสียง โดยครูเขยี นคาศัพทต์ ่อไปนี้บนกระดาน
knee know
knife knock
จากนนั้ ครชู ท้ี ค่ี าศพั ทแ์ ตล่ ะคา แลว้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ทพ์ ร้อมกัน ครชู ้ีทค่ี าศัพทส์ ลับกันไปมา
จนนักเรียนออกเสยี งไดค้ ลอ่ ง
ขัน้ Practice
1. หนังสือเรยี น หนา้ 11 หวั ขอ้ Sound Spot ใหน้ ักเรียนฝึกอา่ นออกเสียงแต่ละคาพร้อมกัน จากน้ันครู
ขอ อาสาสมคั รออกมาอ่านออกเสยี งคาบนกระดาน
-ea- weak read heat team meat
2. หนังสือเรียน หนา้ 12 Ex. 16 ครูเปิด CD ให้นักเรยี นฟังและรอ้ งตาม พรอ้ มกับแสดงท่าทางประกอบ
ด้วย เพื่อใหก้ ิจกรรมสนุกมากย่งิ ขึน้ ครอู าจให้นักเรยี นรอ้ งเพลงพรอ้ มกันทง้ั หอ้ งโดยเพิ่มจงั หวะ
การรอ้ งเพลงใหเ้ รว็ ขน้ึ
65
Head, shoulders, knees and toes,
Knees and toes,
Head, shoulders, knees and toes,
Knees and toes,
And eyes and ears and mouth and nose,
Head, shoulders, knees and toes,
Knees and toes!
3. หนงั สือเรยี น หน้า 12 Ex. 17 ครบู อกวา่ นักเรยี นจะไดเ้ ล่นเกม โดยครูชีไ้ ปทตี่ วั ละครและอ่านข้อความ
ในกรอบคาพดู ใหน้ กั เรยี นฟัง จากน้ันครอู ธบิ ายวา่ เมือ่ ครพู ูดคาศัพทเ์ ก่ียวกบั รา่ งกายคาใด นักเรยี นตอ้ ง
เอาสว่ นนั้นมาแตะกนั เชน่ ถา้ ครพู ดู วา่ Two ears! ใหน้ กั เรยี น 2 คนเอาหมู าแตะกนั
กอ่ นเลน่ เกมครูบอกนกั เรียนว่า Let’s start! Listen carefully. ครใู หเ้ ล่นเกมไปเร่อื ย ๆ โดย
เปลย่ี นเปน็ สว่ นอนื่ ๆ ของรา่ งกาย เม่ือเล่นเกมจบแลว้ ครพู ดู บอกนกั เรยี นว่า Finish. พรอ้ มกลา่ วชมเชย
นักเรยี นทรี่ ่วมกันทากจิ กรรมโดยพูดวา่ Good job!
4. ครูสอนการใช้ประโยคคาสงั่ ดว้ ยการพดู ถึงกฎ กตกิ าในห้องเรียน เชน่ Do your homework.
Do not speak when your teacher is teaching. จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกนั พดู บอกสง่ิ ทค่ี วรทา
และไมค่ วรทาในวฒั นธรรมไทยท่เี กี่ยวข้องกบั อวยั วะในร่างกาย เช่น Do not touch your friend’s
head.
Do not point at things with your feet.
สง่ิ ท่ีควรและไม่ควรปฏบิ ัติในประเทศไทย
วัฒนธรรมไทยจะถอื ว่า ‘ศรี ษะ’ เป็นของสูง เราไม่ควรจับศรี ษะของผูอ้ ืน่ โดยทไ่ี มไ่ ด้
รับอนุญาต และ ‘เทา้ ’ เปน็ ส่ิงทีอ่ ยตู่ า่ เปน็ สง่ิ สกปรก ไม่ควรเอาขึ้นมาไว้เสมอตวั หรือ
วางพาดเกา้ อ้ี แตใ่ นวฒั นธรรมตะวนั ตกถือว่าอวัยวะตา่ ง ๆ ในร่างกายมีความสาคญั
เทา่ กัน ดังนัน้ บ่อยครัง้ ทมี่ กั จะเหน็ ชาวต่างชาติเอามือลบู หวั กนั หรือเอาเทา้ วางบนโตะ๊
ซ่ึงในบรบิ ทตะวันตกนั้นไม่ใชเ่ รื่องเสียหาย ดงั น้นั เมอ่ื เราอยู่ท่ใี ดควรจะคานึงถึงบรบิ ท
ทางสงั คมของประเทศนน้ั ๆ ดว้ ย
ที่มา: http://www.ywamthai.org/office/culture
66
5. ครบู อกวา่ เดก็ ในประเทศอังกฤษและสหรฐั อเมรกิ ากเ็ ล่นเกมเป่ายิงฉุบเหมือนกบั เดก็ ไทย โดยจะ
เรียกว่า Rock, Paper, Scissors ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกันเดาวา่ แตล่ ะคาหมายความว่าอยา่ งไร จากนนั้ ครู
พดู คาศัพท์และแสดงทา่ ทางประกอบ เพือ่ ให้นักเรยี นปฏิบัตติ าม ต่อมาครสู มุ่ เรียกนกั เรยี น 2 คน ให้เลน่ เกม
Rock, Paper, Scissors โดยครนู บั one, two, three, go เมื่อได้ผ้ชู นะแล้ว ครใู หค้ นทีช่ นะพูดประโยค
ต่อไปน้ี
Rock beats scissors. (คอ้ นทบุ กรรไกร) I win. You lose.
Scissors cut paper. (กรรไกรตดั กระดาษ) I win. You lose.
Paper covers rock. (กระดาษหอ่ ค้อน) I win. You lose.
แต่ถ้าไมม่ ีคนชนะ หรือเสมอกนั ใหพ้ ดู วา่ It’s a draw.
จากน้นั ครใู ห้นักเรยี นจบั คูเ่ ลน่ เกมกับเพ่อื นทน่ี ง่ั ข้าง ๆ เมือ่ นกั เรยี นเลน่ เกม Rock, Paper, Scissors
ไดค้ ลอ่ งแล้ว ครูใหน้ กั เรยี นทากิจกรรมเพิ่มเตมิ
กจิ กรรมเพิ่มเตมิ
ครใู หน้ กั เรยี นดูคลิป Rock Paper Scissors | Word Power | PINKFONG Songs for
Children จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=_t9X3ob8Imk
จากนั้นครูแบง่ นกั เรยี นเป็น 2 ทมี ยนื คนละฝ่ังกนั ครนู าบัตรภาพสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายมา
วางบนโตะ๊ ตอ่ กันเปน็ เส้นตรง ให้แตล่ ะทมี พูดประโยคเก่ยี วกบั บัตรภาพทฝ่ี ่ังตนเองได้
เมื่อแตล่ ะทมี ผ่านมาจนถึงภาพใบสดุ ทา้ ยให้แต่ละทมี เป่ายิงฉบุ กนั
ขัน้ Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรยี นทางานกลุ่ม คน้ คว้าข้อมูลในอินเทอรเ์ นต็ เกีย่ วกับคาที่ออกเสยี ง long e
มา 10 คา โดยใหจ้ ดั เรียงลาดับคาตามตวั อักษรใหถ้ ูกต้อง จากนน้ั ทาโปสเตอร์ พรอ้ มตกแตง่ ให้สวยงาม
แล้วให้แตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานของกล่มุ ตนเองท่ีหนา้ ช้นั และอา่ นคาศพั ทใ์ หเ้ พ่อื นฟัง
2. ครูใหน้ ักเรียนทาแผ่นป้ายข้อควรปฏบิ ัติหรอื ไม่ควรปฏิบตั ใิ นประเทศไทยทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั อวยั วะใน
รา่ งกาย เชน่ Do not touch your friend’s head. Do not point at things with your feet.
แลว้ นาผลงานให้ เพอ่ื นดหู น้าชน้ั
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝกึ หัด หนา้ 10 Ex. 13 เป็นการบา้ น
2 toes 4 Head 6 ears 8 nose
3 Knees 5 eyes 7 Mouth
67
7. การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการปฏิบัตติ ามคาสงั่ และ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
เล่นเกมทางภาษา แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการร้องเพลงทางภาษา ระดับคุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานคาศัพท์ทส่ี ะกด แบบประเมินชน้ิ งาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ดว้ ยสระ long e ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
จับคู่ข้อความส้นั ๆ ทอ่ี ่านกับภาพ แบบฝกึ หัด (Workbook)
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีด้านใฝ่ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ
เรยี นรูแ้ ละมุ่งมั่นในการทางาน ประสงค์
8. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณท์ าช้นิ งาน
8.5 บัตรคาศพั ท์
8.6 อินเทอรเ์ นต็
68
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 8 Space heroes! เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- เขยี นแนะนาตัวละครในภาพยนตร์ท่ตี นเองชน่ื ชอบได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งท่ีฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนทิ านง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรอื่ งต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขียน
ตวั ช้วี ัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพดู /อ่านในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึน้ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรแู้ ละเข้าใจคาศพั ทท์ เี่ กีย่ วข้องกับเนอื้ หา ชว่ ยให้อา่ น พดู /เขียนแนะนาเก่ียวกบั ตัวละครทช่ี ืน่ ชอบได้
อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: film, space heroes, grey, strange, duck, wear, neck, character,
silly,
mistake, in the end
69
Function: แนะนาตัวละครท่ชี ่นื ชอบ
2) Language Skills
Speaking: พูดใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั ตัวละครในภาพยนตร์
Writing: เขยี นแนะนาตวั ละครในภาพยนตร์ท่ชี น่ื ชอบ
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ีใช้ในการสอ่ื สาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครนู าเข้าสู่บทเรียนโดยถามคาถามนกั เรยี น เช่น
T: Do you like watching films?
Ss: Yes, I do.
T: What is your favourite film?
Ss: My favourite film is Frozen.
T: Do you know Star Wars?
Ss: Yes, I do. / No, I don’t.
ให้นักเรยี นดภู าพประกอบในหนังสือเรยี น หน้า 13 แล้วถามนกั เรียนวา่ Who are these? Can you tell
their names? หากนักเรียนเคยดู ให้ช่วยกนั พดู ชอ่ื ตัวละครที่รจู้ ัก จากนนั้ ครูเขยี นช่ือตวั ละครบนกระดาน
1) Qui-Gon-Jin 3) Queen Amidala 5) Anakin Skywalker
2) Obi-Wan-Kenobi 4) Jar Jar Binks
ตอ่ มาครูพูดกบั นกั เรียนวา่ Look at the board and listen to me. Which name do you hear?
จากนั้นครู
อา่ นชอ่ื ตวั ละครแตล่ ะตวั และให้นักเรียนบอกหมายเลขของชอื่ ท่ีครอู า่ นใหถ้ ูกตอ้ ง แล้วจงึ ใหน้ กั เรียน
อา่ นออกเสยี งตามครู เสรจ็ แลว้ บอกนกั เรียนว่า วนั นจ้ี ะไดพ้ บกบั Jar Jar Binks
70
ครูทไี่ มเ่ คยดภู าพยนตร์ Star Wars สามารถเขา้ ไปฟังการออกเสยี งชอ่ื ตวั ละครต่าง ๆ ไดท้ ี่
www.pronoucewiki.com
ภาพยนตร์ Star Wars
Star Wars เป็นภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์อวกาศท่ีไดร้ ับความนิยมสูงสดุ อีกเรื่องหนึง่ ใน
ประวัติศาสตรภ์ าพยนตรฮ์ อลลีวูด (Hollywood) อานวยการสรา้ งโดย George Lucas
กาหนดฉายเมอ่ื วันท่ี 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1977 นบั เป็นภาพยนตร์ท่มี ภี าคตอ่ ยาวนานจนมาถึง
ปัจจบุ นั ภาพยนตรช์ ดุ นแี้ บ่งเปน็ 2 ชว่ ง คือ ชว่ งไตรภาคก่อน (ภาค 1-3) จะกล่าวถงึ เหตุการณ์
ทีน่ าไปสสู่ งครามกลางกาแล็กซี การลม่ สลายของสาธารณรฐั และความรุง่ เรืองของฝ่ายจกั รวรรดิ
จากยุทธการนาบรู ะหวา่ งนาบูกับสมาพันธ์การคา้ ไปจนถึงสงครามโคลนท่ีมีต่อฝ่ายแบง่ แยก
ดนิ แดน ส่วนไตรภาคเดมิ (ภาค 4-6) จะเกีย่ วขอ้ งกับสงครามกลางเมอื งกาแลกติกที่มขี ึ้น
ระหว่างพันธมติ รฝา่ ยกบฏกบั ฝ่ายจกั รวรรดิ เป็นการตอ่ ส้รู ะหวา่ งความดกี บั ความชั่ว
Luke Skywalker ตวั ละครหลกั ในเรอ่ื งเป็นเดก็ ชายกาลงั ฝกึ ฝนเพอ่ื การเปน็ อัศวินเจไดคนสุดท้าย
(และคนแรกในเจไดรนุ่ ใหม่) เพื่อต่อสกู้ ับ Darth Vader ลอรด์ มดื แหง่ Sith และจกั รพรรดิ
Darth Sidious อาจารยข์ องเขา
ทม่ี า: https://th.wikipedia.org/wiki/สตาร์_วอร์ส
กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูอาจเปดิ คลิปภาพยนตร์ Star Wars สั้น ๆ ให้นักเรยี นดจู ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=sGbxmsDFVnE
2. ทบทวนการถาม-ตอบลกั ษณะภายนอกโดยนาภาพตัวละครทม่ี ีชือ่ เสียงมาแสดง เช่น Elsa จากเร่อื ง
Frozen, Rapunzel จากเรื่อง Tangled จากนั้นครูถามเกย่ี วกบั ลักษณะภายนอกของตวั ละครเหลา่ นี้
เชน่
T: What does Elsa look like?
Ss: She has got long fair hair. She has got big
blue eyes, small nose and small mouth.
T: What does Rapunzel look like?
Ss: She has got long blonde hair.
She has got big green eyes, small nose
and big mouth.
71
ข้ัน Presentation
1. ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกับบทอ่าน ได้แก่ film (ภาพยนตร)์ , space (อวกาศ), heroes (วีรบุรุษ),
phantom (ส่ิงท่ไี มม่ อี ยู่จรงิ ), menace (ภยั อันตราย), mistakes (ขอ้ ผิดพลาด) และ character (ตวั
ละคร) โดยครูเขียนคาศัพทบ์ นกระดานและบอกคาจากัดความ จากน้นั ครอู า่ นออกเสียงคาศัพท์แต่ละคาให้
นกั เรยี นฟงั และออกเสียงตามพรอ้ มกัน
hero (n.) แปลวา่ วรี บุรษุ เปน็ คาท่ีใชส้ าหรบั เรียกผู้ชาย สว่ นผหู้ ญิงจะใชค้ าวา่ heroine (n.)
ซึ่งมีความหมายวา่ วรี สตรี
2. ครนู าเสนอคาคณุ ศพั ทใ์ นบทอา่ น ไดแ้ ก่ strong (แข็งแรง), silly (โงเ่ ขลา) และ popular (เปน็ ทนี่ ิยม)
โดยเขียนประโยคตวั อยา่ งบนกระดาน เชน่
She is a weightlifter. She is very strong.
He makes a lot of silly mistakes.
Frozen is a popular film. Many children love it.
ขน้ั Practice
1. หนังสอื เรียน หนา้ 13 Ex. 18 ครูอ่านเนื้อหาใหน้ ักเรียนฟังทีละย่อหนา้ และให้นกั เรียนอา่ นตาม เมือ่ ถึง
คาศพั ทท์ เ่ี ป็นตวั หนา ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เลอื กคาตอบที่ถูกตอ้ ง เสร็จแล้วครเู ฉลยคาตอบบนกระดาน
1 long 3 yellow 5 neck
2 ears 4 big
2. ครูถามเก่ยี วกับรายละเอยี ดของเน้อื เรือ่ งโดยใช้ Wh-questions เช่น
T: What is Star Wars about?
Ss: It is about space.
T: Who is Jar Jar Binks?
Ss: He is a space hero.
T: Which film is he from?
Ss: He is from Star Wars.
72
3. ครแู นะนาตวั ละครตา่ ง ๆ ในภาพยนตร์ Star Wars โดยเขียนชอ่ื บนกระดาน จากน้นั ครใู หน้ กั เรยี น
ดภู าพตวั ละครในหนังสือเรยี น และให้นกั เรยี นชว่ ยกนั พดู บรรยายลักษณะของตวั ละครแต่ละตวั
เช่น T: Who is he?
Ss: He is Qui-Gon-Jin.
T: What does Qui-Gon-Jin look like?
Ss: He has got long hair and moustache.
T: Who is he?
Ss: He is Anakin Skywalker.
T: What does Anakin Skywalker look like?
Ss: He has got blonde hair.
ขั้น Production
1. ครอู ธบิ ายภาระงาน ให้นกั เรยี นนาภาพตวั ละครภาพยนตรท์ ีน่ กั เรียนชืน่ ชอบจากอินเทอรเ์ น็ตหรอื
นติ ยสารมาตดิ ใสก่ ระดาษ A4 พรอ้ มกับเขียนบรรยายลักษณะสน้ั ๆ ใตภ้ าพ
(ตัวอยา่ ง)
This is Obi-Wan- Kenobi. He’s got short brown hair and small blue eyes.
He’s got beard. He carries a laser sword. He’s very cool!
เสรจ็ แล้วครูสมุ่ เรยี กนกั เรยี น 4-5 คน ออกมาพดู นาเสนอตัวละครทต่ี นเองชน่ื ชอบ
73
ตวั ละครต่าง ๆ ในภาพยนตร์ Star Wars
Qui-Gon-Jin เป็นอาจารยเ์ จไดท่เี ปน็ ที่เคารพนบั ถอื และเป็นผ้ฝู กึ สอน Obi-Wan
Kenobi ผ้ทู จ่ี ะกลายเปน็ อศั วนิ เจไดทยี่ ง่ิ ใหญ่ในเวลาตอ่ มา
Queen Amidala เป็นราชินอี มิดาลาแหง่ นาบู ตอ่ มาไดส้ มรสกับอศั วินเจไดนามวา่
Anakin Skywalker และเปน็ มารดาของ Luke Skywalker และ Leia Organa
Anakin Skywalker เป็นอัศวินเจไดที่มชี ื่อเสียงในยุคเสือ่ มถอยของนกิ ายเจได
ในระหว่างการฝึกฝนเขาคอ่ ย ๆ หนั เหเขา้ ส่ดู า้ นมดื และในทส่ี ุดไดก้ ลายเปน็ Darth Vader
ไม่นานก่อนทจ่ี ักรวรรดิกาแลกตกิ จะได้รบั การกอ่ ตง้ั ขึ้น
Obi-Wan-Kenobi เปน็ อาจารยเ์ จไดที่มีชื่อเสียง เขาไดร้ บั การฝกึ ฝนจากอาจารย์ Yoda
และ Qui-Gon-Jin และเปน็ ผู้ฝกึ สอนทงั้ Anakin Skywalker และ Luke Skywalker
Jar Jar Binks เป็นชาวกนั แกนคนแรกทีไ่ ดเ้ ปน็ สมาชกิ สภากาแลกตกิ และยงั มีบทบาท
สาคญั ตอ่ ชะตาของสาธารณรฐั กาแลกตกิ ดว้ ย
ท่มี า: https://th.wikipedia.org/wiki/สตาร์_วอร์ส
ครอู าจเตรยี มบตั รภาพตวั ละครทม่ี ีชอ่ื เสียง เชน่ Harry Potter, Superman, RoboCop
มาใหน้ ักเรยี นท่ไี ม่ไดน้ ารปู มา
2. ให้นกั เรยี นทากจิ กรรมในแบบฝึกหัด หน้า 11 Ex. 14 เปน็ การบ้าน
2 mouth 4 ears 6 fingers
3 nose 5 hair 7 toes
74
7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธีการวดั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี นบรรยายตัวละคร แบบประเมินการเขยี น ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ท่ีชนื่ ชอบ
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) ระดับคุณภาพ พอใช้
การอา่ น ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมใฝเ่ รียนรแู้ ละ แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ
มงุ่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์
8. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 บัตรภาพตัวละครตา่ ง ๆ
8.4 อนิ เทอรเ์ น็ต
75
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 Superstars in Southeast Asia
เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั บคุ คลจากเร่ืองที่อ่านได้
- ตอบคาถามจากบทอ่านท่ีอา่ นได้
- เขียนบรรยายส้นั ๆ เก่ียวกบั นกั ร้องท่ีตนเองชื่นชอบได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งท่ีฟงั และอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมเี หตุผล
ตัวชวี้ ดั
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นประโยค บทสนทนา และนทิ านงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก
และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพือ่ น และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตา่ ง ๆ
โดยการพดู และการเขียน
ตวั ชี้วดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
ตัวช้วี ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ทเี่ กดิ ข้นึ ในห้องเรยี นและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเครื่องมอื พื้นฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี
และการแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ บั สังคมโลก
ตัวชวี้ ัด
ต 4.2 ป.4/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ
76
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้เกี่ยวกบั บุคคลท่ีมชี อ่ื เสยี งในภมู ิภาคอาเซียนและคาศพั ที่เกยี่ วขอ้ ง ชว่ ยให้เราเข้าใจวฒั นธรรมใน
ประเทศอาเซยี น
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: famous, actor, Muay Thai boxer, successful, international,
popular
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับบคุ คลจากเรื่องทอี่ า่ น
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Writing: เขียนบรรยายสั้น ๆ เก่ียวกบั นักรอ้ งที่ตนเองชืน่ ชอบ
3) Culture: บคุ คลที่มชี ือ่ เสียงในประเทศอาเซียน
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคดิ ที่ใชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มุง่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ Warm Up
1. ครูทักทายนักเรยี นในช้ัน จากน้นั ทบทวนประโยคที่ใชใ้ นการทักทายและแนะนาตัว โดยสุม่ เรียก
นักเรียน 3-4 คน พดู สนทนากับครู โดยสมมตวิ ่า นกั เรียนมาจากประเทศต่าง ๆ ในภมู ภิ าคอาเซียน เช่น
T: Hello. I’m Nalinee. I’m from Thailand.
S1: Hi. My name is Sabreena. I’m from Malaysia.
S2: Hi. I’m Charlie. I come from Cambodia. etc.
77
2. ครูนาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยการถามนักเรียนเกย่ี วกบั ศลิ ปนิ และดาราทนี่ กั เรียนชนื่ ชอบ เช่น Who’s your
favourite singer? Who’s your favourite actor?
3. ครเู ขียนชอ่ื ประเทศอาเซียนบนกระดาน และใหน้ ักเรียนอ่านออกเสียงช่ือประเทศเหล่าน้ใี ห้ถกู ต้อง เชน่
Myanmar the Philippines Malaysia Indonesia Brunei
Vietnam Thailand Cambodia Singapore
4. ครูบอกนักเรยี นว่า Look at the pictures. Which person do you know? เพื่อถามความรูเ้ ดมิ วา่
นกั เรยี น รูจ้ ักใครในภาพบ้าง
กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครอู าจจะเปดิ คลิปสั้น ๆ ของบคุ คลที่มีช่ือเสยี งในภมู ิภาคอาเซยี นใหน้ กั เรียนดกู ่อนเขา้ สู่บทเรียนได้ท่ี
Japanom - https://www.youtube.com/watch?v=D0jL2vmaxiI
R Zarni - https://www.youtube.com/watch?v=gkl-5gqBFTc
Charice - https://www.youtube.com/watch?v=ju_A-T4ZjUo
Jaa Panom, Panom Yeerum หรือ Tony Jaa เปน็ นกั แสดงชาวไทย เกิดเมอื่ วนั ที่ 5
กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2519 เขาเปน็ ที่รู้จกั จากภาพยนตรเ์ รื่อง องคบ์ าก และ ต้มยากุ้ง ก่อนหน้านี้จา พนม
เคยเป็นนักแสดงตวั แทน (stuntman) ในภาพยนตรแ์ นวตอ่ สหู้ ลายเรือ่ ง เชน่ อนิ ทรยี แ์ ดง,
Mortal Kombat Annihilation ปัจจบุ ันจาพนมเปน็ ที่รู้จกั ทั่วโลกจากบทบาทการต่อสใู้ น
ภาพยนตร์ Hollywood เร่อื ง Furious 7
R Zarni เป็นนักร้องชาวเมยี นมา เกดิ เม่ือวันที่ 6 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2521 เขาเปน็ ที่
รจู้ ักในฐานะนกั ร้อง cover เพลงสากลและ k-pop เขาไดร้ บั รางวลั Most Popular
Male Recording Artist Award จากสถานีวิทยุแหง่ เมอื งยา่ งกุ้ง ปจั จุบัน R Zarni
เปน็ นกั ร้องทมี่ ีชื่อเสยี ง เขาไปแสดงคอนเสิรต์ ในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยดว้ ย
Charice Pempengco เป็นศลิ ปินหญิงชาวฟลิ ปิ ปนิ ส์ เกิดเมือ่ วนั ท่ี 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2535
เธอเปน็ ท่ีรู้จักจากการร้องเพลง cover ใน Youtube จนตอ่ มาเธอกลายเป็นนกั ร้องท่เี ปน็ รจู้ กั
ไปทั่วโลกจากการรอ้ งเพลงในรายการ The Oprah Winfrey Show ซง่ึ เปน็ รายการชอ่ื ดงั ของ
สหรัฐอเมรกิ า จนเธอมีอลั บั้มเป็นของตัวเองและกลายเปน็ ศิลปินหญิงชาวเอเชียคนแรกทม่ี ี
เพลงตดิ อันดับ 1 ใน 10 ของ Billboard Album Chart
ท่มี า: https://en.wikipedia.org/wiki/Tony_Jaa
https://en.wikipedia.org/wiki/R_Zarni
https://en.wikipedia.org/wiki/Charice_Pempengco
78
ขั้น Presentation
1. ครนู าเสนอประโยคคาถามท่ใี ช้ในการพดู ถาม-ตอบเกย่ี วกับข้อมลู สว่ นตัว ไดแ้ ก่ ประเทศ อาชีพ สผี ม
สีตา โดยยกตัวอยา่ งบคุ คลท่ีมชี ่ือเสียงที่นักเรียนรจู้ ัก จากน้ันถามคาถาม เชน่
T: Who is this?
Ss: He is Bird Thongchai.
T: What is his job?
Ss: He is a singer and he is an actor.
T: What does he look like?
Ss: He has got short black hair. He has got black eyes
and white teeth. etc.
2. ครใู หน้ กั เรียนดูภาพบคุ คลในหนังสอื เรยี น หน้า 14 แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกันพดู บรรยายลักษณะของ
บุคคลในภาพจนครบทง้ั 3 คน เช่น
T: Has Charice got black hair?
Ss: No, she hasn’t. She has got brown hair.
T: Has Charice got dark brown eyes?
Ss: Yes, she has. etc.
3. ครนู าเสนอคาศัพทช์ อ่ื เรอ่ื งโดยเขียน Superstars in Southeast Asia บนกระดาน จากน้นั ขดี เสน้ ใต้คาวา่
Superstars แล้วอธิบายว่า Superstar มาจากการรวมกันของ 2 คา คือ super (สดุ ยอด, ยอดเย่ยี ม) กับ
star (ดารา) เชน่ เดียวกบั คาว่า superman (ยอดมนษุ ย)์ , supermodel (นางแบบช้นั นา)
4. ครนู าเสนอคาศัพทท์ เ่ี ก่ียวกับเนอื้ หา ไดแ้ ก่ famous (มีชื่อเสียง), wonderful (ยอดเยีย่ ม), popular
(เป็นทีน่ ิยม), international (ท่เี ป็นสากล), singer (นกั รอ้ ง), actor (นักแสดงชาย), boxer (นักมวย),
successful (ทีป่ ระสบความสาเรจ็ ), nickname (ชอ่ื เล่น) และ surname (นามสกุล) โดยเขยี นคาศัพท์
บน
กระดาน จากนั้นครวู าดแผนผังงา่ ย ๆ บนกระดาน แล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั แยกประเภทของคาศัพท์ ดังนี้
Nouns Vocabulary Adjectives
singer, actor, boxer, famous, wonderful,
nickname, surname popular, international,
successful
79
ขั้น Practice
1. หนังสอื เรียน หน้า 15 Ex. 1 ใหน้ ักเรยี นดตู าราง จากนน้ั ครูอธิบายภาระงาน โดยให้นกั เรยี นอา่ น
เน้ือเรอ่ื งในหนงั สอื เรียนอกี ครง้ั จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นเลอื กคามาเตมิ ในตารางให้สมบรู ณ์ เสรจ็ แลว้
ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเขียนเฉลยคาตอบท่ีถกู ตอ้ งบนกระดานอกี คร้ัง
1) actor 4) Myanmar 7) Charice 10) dark brown
2) black 5) singer 8) the Philippines
3) black 6) brown 9) singer
2. ใหน้ ักเรียนจับคกู่ ัน ฝกึ พดู ถาม-ตอบเกีย่ วกับขอ้ มูลของบคุ คลจากเรอื่ งท่อี า่ น เชน่ ช่ือ ประเทศ อาชีพ
ตัวอยา่ ง
S1: What’s his name?
S2: His name is R Zarni.
S1: Where’s he from?
S2: He’s from Myanmar.
S1: What’s his job?
S2: He’s a singer.
S1: What hair colour has he got?
S2: He has got brown hair.
S1: What eye colour has he got?
S2: He has got brown eyes.
3. ใหน้ ักเรียนดภู าพของบคุ คลทีม่ ชี ่อื เสียงทั้ง 3 คน แลว้ ใหน้ กั เรยี นพูดเปรยี บเทยี บลักษณะหน้าตาของ
คนในประเทศอาเซียนวา่ มีลกั ษณะคล้ายคลึงกนั อย่างไร โดยใชโ้ ครงสรา้ ง Most ASEAN people
have got …
ตวั อย่าง Most ASEAN people have got black eyes.
Most ASEAN people have got black and brown hair.
ข้ัน Production
1. หนงั สือเรียน หนา้ 15 Ex. 2 ใหน้ ักเรยี นคน้ ควา้ หาขอ้ มลู เกยี่ วกบั นกั ร้องท่มี ีชื่อเสยี ง
ท่นี ักเรยี นชน่ื ชอบในประเทศของตนเองจากอินเทอร์เนต็ หรือนิตยสาร จากนนั้ นาขอ้ มลู มาเขยี น
บรรยายสัน้ ๆ เสรจ็ แล้วครูขออาสาสมคั ร 3-4 คน ออกมาพูดนาเสนอที่หนา้ ช้นั
80