แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 5 Is there any food on the fridge?
เวลา 2 ช่วั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นได้
- แสดงบทบาทตามท่กี าหนดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตัวช้วี ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัติตามคาสง่ั คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟี่ งั หรอื อา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพดู
เขา้ จังหวะถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู ึก
และ แสดงความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าส่งั คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าตงา่ ย ๆ
สาระท่ี 2 ภาษากบั วฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชว้ี ดั
ต 2.1 ป.4/1 พดู และทาทา่ ประกอบอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกับเทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชวี ติ ความเป็นอยู่งา่ ย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
131
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
ตวั ชีว้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพดู /อา่ นในสถานการณ์ที่เกดิ ขนึ้ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรแู้ ละเขา้ ใจคาศัพท์เก่ยี วกับอาหาร สานวน และโครงสรา้ งภาษา ชว่ ยใหเ้ ข้าใจเร่อื งที่อา่ นและฟัง
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Are there any eggs? Sorry, no, but there’s some milk. Are you
thirsty?
I like pizza. Are you ready to order? Can we have chicken with
chips and salad, and two pizzas, please?
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟงั
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Speaking: แสดงบทบาทตามทก่ี าหนด
4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใ่ี ช้ในการสอ่ื สาร
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
132
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ Warm Up
1. ทบทวนคาศพั ท์เก่ียวกบั อาหาร เช่น sausage, bread, milk, cake, banana, burger, rice, ice cream,
chicken โดยการเล่นเกม Bingo โดยให้นักเรยี นวาดตาราง 9 ช่องลงในสมุดและเขียนคาศัพทล์ งไปใน
แตล่ ะชอ่ ง ครอู ธิบายวธิ กี ารเลน่ เกมว่า ครูจะพูดคาศพั ท์ ใหน้ กั เรียนวงกลมคาศพั ทท์ ีน่ ักเรียนไดย้ ิน
นกั เรยี นคนใดวงกลมคาศัพท์ครบ 3 ชอ่ งต่อกนั ในแนวใดก็ได้ไดก้ อ่ นเป็นผชู้ นะ
2. ทบทวนคานามนบั ไดแ้ ละนับไมไ่ ด้ โดยครูแบง่ กระดานออกเป็น 2 ฝ่ัง ฝัง่ หนง่ึ เขยี น countable nouns
และอีกฝ่ังเขยี นว่า uncountable nouns จากนน้ั ครูแจกบัตรภาพอาหารใหก้ ับนกั เรียน เมื่อแจกบัตร
ภาพ
ใหน้ กั เรยี นครบทุกคนแลว้ ครใู หน้ กั เรยี นพลกิ ดภู าพของตนเองและเขยี นชื่ออาหารทตี่ นเองไดบ้ น
กระดานในฝ่งั ท่ีถกู ต้อง เสรจ็ แลว้ ครตู รวจความถกู ต้อง และให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศัพทต์ ามครู
ก่อนเร่ิมบทเรียน ครูเตรยี มบัตรภาพใหพ้ อกับจานวนนกั เรียน
ครูสามารถเข้าไปดาวน์โหลดบัตรภาพอาหารพรอ้ มคาศัพท์ได้ทเี่ วบ็ ไซตด์ งั ตอ่ ไปนี้
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Food.htm
3. ทบทวนประโยคคาถาม Is/Are there …? โดยใหน้ ักเรยี นจบั คแู่ ต่งประโยค เสรจ็ แล้วครสู ุ่มเรียก
นักเรยี น 2-3 คู่ อา่ นประโยคของตนเองใหเ้ พื่อนฟัง
ตัวอยา่ ง S1: Are there any apples?
S2: Yes, there are.
S1: Is there any milk?
S2: No, there isn’t. etc.
4. ทบทวนสานวนภาษาทีใ่ ช้ในการสงั่ อาหาร เช่น Are you ready to order? Can I have …? What
would
you like to drink? โดยให้นกั เรยี น 2-3 คู่ ออกมาแสดงบทสนทนาท่คี ู่ของตนเองแต่งเมือ่ คาบเรียนท่แี ลว้
ให้เพ่อื นดู
ตวั อยา่ ง S1: Are you ready to order?
S2: Can I have some rice and chicken, please?
S1: Yes. What would you like to drink?
S2: I’d like a bottle of water, please.
133
S1: OK. etc.
5. นาเข้าสบู่ ทเรยี น โดยใหน้ กั เรียนดูภาพในหนังสือเรียน หนา้ 21 แล้วถามคาถามนกั เรยี น เชน่
T: Look at the pictures. Where are they?
Ss: They are at the restaurant.
T: How many people are there in the story?
Ss: Four.
T: What do they eat?
Ss: They eat chicken, chips, salad and pizza.
ขนั้ Presentation
1. นาเสนอสานวนทีอ่ ย่ใู นเน้อื เร่ือง ได้แก่ Let’s see!, Oh dear!, Oh no!, Yummy!
Oh dear! และ Oh no! เป็นคาอุทานทใ่ี ช้แสดงความโกรธ ความไม่พอใจ หรือความโศกเศรา้
ตวั อยา่ ง Oh dear! I've lost my keys again.
Oh no, I forgot my umbrella again!
Yummy! เปน็ คาคณุ ศัพท์ มคี วามหมายวา่ อร่อยมาก
ตวั อย่าง That chocolate cake is so yummy!
Let’s see! ใชเ้ มื่อเราอยากจะคิดเก่ยี วกับเรอื่ งใดเร่อื งหนึ่งให้ถี่ถว้ นกอ่ น หรือพยายามจะนึกถงึ
อะไรบางอย่าง
ตวั อยา่ ง Let's see if Hannah is free on Friday.
2. นาเสนอสานวน go out โดยครูเขยี นสานวนดังกลา่ วบนกระดานและบอกนกั เรียนวา่ go out มี
ความหมายวา่ ออกไปข้างนอก พรอ้ มยกตวั อยา่ ง เช่น Do you want to go out for lunch?
ตอ่ มาครเู ขยี นประโยค May I go out, please? บนกระดาน และอธิบายวา่ นกั เรียนยังสามารถใช้ go
out
ในประโยคขออนุญาตออกนอกหอ้ งเรียนได้ สว่ นการขออนุญาตเขา้ หอ้ งเรยี น นกั เรยี นสามารถใช้
May I come in, please? ซึ่งแปลวา่ เขา้ มา (ขา้ งใน) ครพู ดู ยา้ ใหน้ ักเรยี นจดจาประโยคทั้งสองน้ี
เพื่อนาไปใชพ้ ดู ขออนุญาตเขา้ -ออกห้องเรยี นทุกคร้ัง
134
ข้ัน Practice
1. หนังสอื เรยี น หนา้ 20 Ex. 9 ครอู ธบิ ายภาระงานและอ่านประโยคทีใ่ หม้ าท้ัง 3 ประโยคใหน้ ักเรยี นฟัง
จากน้ันครูใหน้ กั เรยี นเปดิ หนงั สอื เรียน แล้วเปิด CD ให้นักเรยี นฟงั เมอื่ ฟงั จบแลว้ ให้นกั เรยี นตอบวา่
ประโยคทีใ่ หม้ าถกู ตอ้ งหรอื ไม่ ถ้าถกู ใหต้ อบ yes ถ้าผิดให้ตอบ no เสรจ็ แลว้ ครรู วบรวมคาตอบจาก
นกั เรยี นและเฉลยคาตอบพร้อมกัน
1 yes 2 no 3 no
2. หนังสอื เรียน หนา้ 21 Ex. 10 ใหน้ กั เรียนเปดิ หนงั สอื เรยี น และอ่านคาศพั ท์ท่ีให้มาพร้อม ๆ กัน จากนั้น
ใหน้ ักเรยี นกลับไปอ่านเน้ือเรื่องดว้ ยตนเองอีกครง้ั เพ่ือระบวุ า่ มีคาศัพทค์ าใดอยใู่ นเนือ้ เรื่องบ้าง ให้
นักเรียนผลัดกันยกมือเพอ่ื พูดตอบ ครูเขียนคาตอบของนกั เรียนบนกระดานโดยตรวจความถกู ตอ้ ง
a - chicken, b - eggs, e - milk, g – ice cream, h - pizza
3. ครเู ปิด CD และใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงเนอื้ เร่ืองตาม CD พร้อม ๆ กนั หรือครูอาจสมุ่ เรยี กนักเรยี น อ่าน
เปน็ รายบคุ คล
4. ครใู ห้นกั เรยี นจบั คู่ จากน้ันครเู ขียนวลใี นเน้อื เรอ่ื งใสก่ ระดาษ วลีละ 1 แผน่ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคฝู่ ึกพดู
จนคลอ่ ง จากนั้นครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น 5-6 คู่ ออกมาแสดงบทบาทสมมติหนา้ ชนั้ เรยี น
ตวั อย่าง S1: Are you ready to order?
S2: Can we have chicken with chips and salad, and two pizzas, please?
5. ครแู บ่งนักเรยี นออกเปน็ กลุม่ จากน้ันครแู จก Story Cutouts ท่ีถ่ายเอกสารจากแบบฝึกหัด หน้า 79 ให้
แต่ละกลมุ่ แล้วอธิบายวา่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เรยี งภาพตามเหตุการณท์ ี่ไดย้ นิ ครูเปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟงั 1 รอบ
เมอ่ื นกั เรียนเรยี งลาดับภาพเสรจ็ แลว้ ครูเปดิ CD อีกคร้งั เพือ่ เฉลยคาตอบ
ขน้ั Production
1. ครแู บ่งนกั เรียนออกเปน็ กลุม่ จากนัน้ ครแู จก Story Cutouts ที่ถา่ ยเอกสารจากแบบฝกึ หดั หนา้ 79 ให้
แตล่ ะกล่มุ เพอื่ ฝึกพดู เร่อื งราวในแตล่ ะ Story Cutouts จนคล่อง จากน้นั ให้แตล่ ะกลุ่มออกมาพดู และ
แสดงบทบาทสมมตทิ ห่ี น้าชัน้
2. ครูถามนักเรยี นว่า ถ้านักเรยี นไปรบั ประทานอาหารทร่ี า้ นอาหารกบั ครอบครวั และมีคนส่งเสียงดัง
นักเรียนจะรูส้ กึ อย่างไร ครูให้นักเรยี นพดู อภิปราย จากนน้ั ครถู ามวา่ นักเรยี นเคยทาเสยี งดงั หรอื ไม่
135
เพราะอะไร และนกั เรยี นคิดว่า ผู้ปกครองจะรู้สกึ อย่างไร ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกนั คดิ ว่า ถา้ นกั เรยี น
รบั ประทานอาหารนอกบ้านกบั ครอบครวั อกี นกั เรียนควรปฏิบัตติ วั อยา่ งไร
ครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ บางรา้ นอนญุ าตใหน้ าสตั ว์เลย้ี งเขา้ ไปได้ บางร้านกห็ า้ ม แตถ่ งึ จะอนุญาต
เจ้าของสตั วเ์ ลยี้ งก็ควรจะดแู ลสตั ว์เลย้ี งของตนเองให้ดี
3. ครใู หน้ กั เรยี นทากจิ กรรมในแบบฝกึ หดั หน้า 18 Exs. 9-10 เปน็ การบา้ น
Ex. 9 4F
2T 3T
Ex. 10
2c 3a
7. การวดั และประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์
ระดับคุณภาพ พอใช้
ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมินการแสดงบทบาท ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ในรา้ นอาหาร สมมติ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึง
ใฝเ่ รยี นรู้และมุ่งมน่ั ในการทางาน ประสงค์
8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ Story Cutouts
8.5 อินเทอร์เน็ต
136
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 What’s in the fridge?
เวลา 2 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังและอ่านได้
- เขียนข้อความสั้น ๆ บรรยายเกย่ี วกับอาหารได้
- พดู บรรยายอาหารทีม่ แี ละไม่มีในตูเ้ ย็นของตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งทฟี่ ังและอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้วี ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ัตติ ามคาส่งั คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟี่ ังหรอื อ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา อา่ นกลุม่ คา ประโยค ข้อความงา่ ย ๆ และบทพูด
เข้าจังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณห์ รอื เครือ่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความสัน้ ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขียน
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ข้อมูลเกยี่ วกับตนเองและเรือ่ งใกลต้ ัว
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวัด
ต 2.1 ป.4/3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกับวัย
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ตวั ชว้ี ดั ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพือ่ นามาใชไ้ ดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม
137
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คา กล่มุ คา ประโยค และข้อความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ ับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ตวั ชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณท์ ีเ่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์เก่ียวกับอาหารและโครงสรา้ งภาษา ทาใหเ้ ขา้ ใจเรอ่ื งที่ฟงั และอ่าน และสามารถ
เช่ือมโยงความสัมพันธ์ของสิ่งท่ปี รากฏในเนอ้ื หาทไ่ี ด้ฟงั และอ่านได้ รวมทง้ั พูดและเขียนสือ่ สารไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
และเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: There are some tomatoes, but there aren’t any apples.
Function: บอกสิ่งท่ีมีและไม่มี
2) Language Skills
Speaking: พูดบรรยายส่ิงทมี่ แี ละไมม่ ี
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Writing: เขียนบรรยายอาหารในตเู้ ย็น
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ใี ชใ้ นการส่อื สาร
- ทักษะการใหเ้ หตผุ ล
5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
138
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ัน Warm Up
1. ครพู ดู ทักทายนักเรยี นในชน้ั ตามช่วงเวลาทีเ่ รยี น เพ่ือใหน้ กั เรียนพูดทกั ทายกลับ
2. ทบทวนเน้ือเรื่องในหนังสือเรียน หน้า 20-21 Ex. 9 โดยให้นกั เรียนเลา่ เร่ืองให้ฟัง หรอื ครตู ัง้ คาถาม
ตอ่ ไปน้ี What’s the story about? What do they eat at the restaurant? Who’s Rover?
3. ครวู าดภาพอาหารหรือเขยี นชอื่ อาหารท่นี กั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ บนกระดาน คร้ังละ 3 ภาพ จากนน้ั ครู
บอกนักเรียนวา่ Close your eyes. ครลู บคาหรอื ภาพออก 1 ภาพ ครูบอกนกั เรียนวา่ Open your
eyes.
What’s missing? ให้นักเรยี นทายวา่ คา/ภาพใดหายไป
4. ทบทวนโครงสรา้ ง There is/There are และ There isn’t/There aren’t โดยครูนาตะกรา้ ปิกนกิ เขา้ มา
ใน
ช้นั เรียน และพูดแนะนาคาศัพท์ This is a picnic basket. ครใู ห้นักเรยี นฝึกพดู ตาม 2-3 ครั้ง แล้วครู
เขียน
คาศพั ทบ์ นกระดานและสมุ่ เรียกนกั เรยี นอ่านด้วยตนเอง
ตอ่ มาครนู าบตั รภาพอาหาร 10 ใบ มาแสดงและให้นกั เรยี นพดู คาศพั ทต์ ามบัตรภาพท่ีครูแสดง โดยให้
นกั เรียนลงเสียงหนักในคาศัพทใ์ ห้ถูกต้อง เสร็จแลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ Close your eyes. ครูนาบตั รภาพ
อาหาร 5 ชนดิ ใสต่ ะกร้า อกี 5 ชนดิ ครนู าไปติดบนกระดาน แล้วครบู อกนกั เรยี นว่า Open your eyes.
ครถู ามนักเรียนเกี่ยวกับบตั รภาพท่ีตดิ บนกระดาน ดังน้ี
T: Is there a banana in my basket?
Ss: No, there isn’t.
T: Are there some tomatoes in my basket?
Ss: No, there aren’t.
เม่ือถามอาหารที่ตดิ บนกระดานครบแลว้ ครูถามนกั เรยี นวา่
T: What’s in the basket?
S1: There is some bread.
S2: There are some beans.
S3: There is some salad.
เมื่อนักเรียนบอกช่ืออาหารท่มี ใี นตะกรา้ ครบหมดแลว้ ครอู าจให้นักเรียนทากจิ กรรมเชน่ เดียวกันนอี้ ีก
1-2 ครัง้ โดยเปลี่ยนบตั รภาพทต่ี ดิ อยบู่ นกระดานและในตะกรา้ เพอื่ ใหน้ ักเรยี นพยายามจดคาศพั ท์
ข้นั Presentation
ครเู ขยี นคาศัพทต์ ่อไปนีบ้ นกระดาน
milk eggs
139
bananas bread
ครูชี้ไปที่ milk และ eggs แลว้ พูดวา่ There’s some milk, but there aren’t any eggs. จากน้ันให้
นักเรยี น
พูดตามครพู รอ้ มกัน ต่อมาครูช้ที คี่ าศพั ท์บนกระดานแถวต่อมาและใหน้ ักเรยี นพดู ตอบวา่ There are
some bananas, but there isn’t any bread. เสรจ็ แล้วครูถามนักเรยี นว่า but มคี วามหมายวา่
อย่างไร และ
ใช้อยา่ งไร
but ใช้เชอ่ื มประโยคทมี่ ีลักษณะเปน็ การขัดแย้งหรอื ตรงกนั ข้าม
เชน่ I like oranges, but I don’t like apples.
I can ride a bicycle, but I can’t ride a horse.
ท่มี า: http://www.engisfun.com/หลักการใช้-and-but-or-because-so/
กิจกรรมเพม่ิ เตมิ
ครเู ขียนประโยคตอ่ ไปนี้บนกระดาน
I like salad. I don’t like chips.
They play football. They don’t play basketball.
We want to buy some snacks. We don’t have enough money.
She wants to eat more. She is full.
ครูใหน้ กั เรยี นเขียนประโยคบนกระดานโดยใช้ but
คาตอบ I like salad, but I don’t like chips.
They play football, but they don’t play basketball.
We want to buy some snacks, but we don’t have enough money.
She wants to eat more, but she is full.
จากน้นั ครถู ามนกั เรยี นวา่ ในภาษาไทยมีคาเชอื่ มท่แี สดงความขดั แย้งเช่นนห้ี รอื ไม่ เมื่อได้
คาตอบวา่ แต่ ครใู หน้ ักเรียนสังเกตความเหมอื นและแตกตา่ งระหวา่ งประโยคภาษาไทยกบั
ภาษาอังกฤษ
ขนั้ Practice
1. หนงั สือเรยี น หนา้ 22 Ex. 11 ครเู ปดิ CD ให้นักเรยี นฟงั และช้ีประโยคตามไปดว้ ย จากน้ันครเู ปดิ CD
อกี คร้งั โดยหยุดให้นกั เรยี นอ่านตามทลี ะประโยค ครูใหเ้ วลานกั เรยี นอา่ นขอ้ ความด้วยตนเองในใจ
140
อกี ครั้ง เสรจ็ แลว้ ครถู ามคาถามขอ้ 1-4 ให้นกั เรียนพูดตอบปากเปล่า ครเู ขียนคาตอบที่ถูกตอ้ งบน
กระดานอกี ครัง้
1 Yes, there are. 3 No, there isn’t.
2 No, there aren’t. 4 No, there isn’t.
2. หนังสอื เรียน หนา้ 22 Ex. 12 ครูบอกนักเรียนวา่ สมมตวิ า่ นักเรียนตอ้ งไปจา่ ยตลาดกับครอบครวั
ครถู ามนกั เรยี นวา่ เราควรทาอะไรก่อนจะไปซื้อของ เมอ่ื ได้คาตอบวา่ เขยี นรายการส่งิ ของทจ่ี ะซอ้ื แลว้
ครูบอกวา่ คาน้ใี นภาษาอังกฤษเรยี กว่า shopping list ครถู ามตอ่ วา่ ทาไมเราต้องทา shopping list
กอ่ นท่ี
จะซ้อื ของ ครรู วบรวมคาตอบจากนักเรยี น เช่น ปอ้ งกนั การลืม ทาให้เราสามารถวางแผนรายรบั -รายจา่ ย
ได้ จากนัน้ ครบู อกนกั เรยี นวา่ ใหน้ กั เรียนสารวจตูเ้ ยน็ ของตนเองวา่ มีหรอื ไม่มอี ะไรบา้ ง เพื่อทจี่ ะได้ทา
รายการซื้อของ
What’s in the fridge?
chicken tomatoes
bananas sausages
eggs orange juice
ต่อมาให้นกั เรียนดรู ายการสงิ่ ของท่ีมแี ละไมม่ ใี นตู้เยน็ บนกระดาน โดยครูชไ้ี ปท่ี chicken และ tomatoes
แล้วใหน้ ักเรียนพูดวา่ There’s some chicken, but there aren’t any tomatoes. ครทู ากจิ กรรม
เชน่ เดียวกนั
นก้ี ับคาศัพท์อืน่ ๆ ดว้ ย เมื่อถามครบแลว้ ครถู ามนักเรียนวา่ What do you need to buy? เพื่อให้
นักเรยี น
พดู ตอบวา่ We need to buy some tomatoes, sausages and some orange juice.
เสร็จแล้วใหน้ ักเรยี นเขียนรายการส่ิงของทม่ี ีหรือไม่มใี นต้เู ย็น และใหน้ กั เรียนออกมาอา่ นรายการ
ของตนเองหนา้ ชน้ั
3. หนังสือเรียน หน้า 23 Ex. 13 ครอู ธิบายวธิ ีการเล่นเกม และแบง่ นกั เรยี นออกเป็น 2 กล่มุ ให้นกั เรยี นดู
ภาพอาหารทใ่ี หม้ าในหนังสือเรยี นและจดจาคาศพั ท์ให้ไดม้ ากทส่ี ุด กอ่ นเล่นเกม ครูทบทวนสานวนท่ี
141
ใช้ในการเล่นเกม เช่น Your turn. My turn. จากนั้นครูบอกให้นักเรยี นปิดหนงั สอื เรยี นแล้วให้แตล่ ะ
กลุม่ พดู บอกคาศัพทท์ จี่ าได้ โดยใช้โครงสร้าง There is และ There are
ตัวอยา่ ง Group 1: There’s some milk in the picture! Your turn.
Group 2: There’s a burger in the picture! Your turn. etc.
เพ่ือใหเ้ กมสนุกสนานย่ิงขนึ้ ครูให้แต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนมาเล่นเกม Rock, Paper, Scissors เพอ่ื
ตดั สินวา่ ทมี ใดจะได้เปน็ ผูต้ อบ
4. ครูให้นักเรยี นดูภาพอาหารในหนงั สอื เรยี น หน้า 23 Ex. 13 อกี ครั้ง จากนน้ั ถามนักเรียนวา่ What is
your
favourite food and drinks? ครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรยี นหลาย ๆ คน เช่น I like ice cream, cake
and
orange juice.
(ตัวอยา่ งคาตอบ)
My favourite food and drinks
I like ice cream, cake and orange juice.
5. แบบฝึกหดั หนา้ 19 Ex. 11 ครูอธบิ ายวา่ นกั เรยี นจะไดฟ้ งั บทสนทนาเกย่ี วกบั ตาแหน่งของอาหารใน
ภาพให้นักเรยี นฟงั และลากเส้นจากภาพอาหารไปยังตาแหนง่ ทีไ่ ด้ยิน เชน่ The tomato is under the
table. ให้นกั เรยี นลากเสน้ จากภาพมะเขอื เทศไปยงั ใต้โตะ๊ เปน็ ต้น เสรจ็ แลว้ ครูสุ่มเรยี กนกั เรยี นบอก
ตาแหน่งของอาหารโดยครตู รวจคาตอบของนกั เรยี นอีกคร้ัง
142
Narrator: Listen and draw a line.
One
Man: The tomato is under the table.
Girl: Where?
Man: Under the table. The tomato is under the table.
Girl: OK.
Two
Man: The banana is in the fridge.
Girl: Sorry? Where’s the banana?
Man: The banana is in the fridge.
Girl: In the fridge. Right.
Three
Man: The burger is on the table.
Girl: On the table? The burger?
Man: Yes. The burger is on the table.
Four
Man: The salad is under the chair.
Girl: Where’s the salad?
Man: Under the chair. The salad is under the chair.
Five
Man: The milk is on the fridge.
Girl: Where’s the milk?
Man: On the fridge. The milk is on the fridge.
143
banana – in the fridge
burger – on the table
salad – under the chair
milk – on the fridge
ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 27 หวั ขอ้ Portfolio ครูอธบิ ายภาระงาน ให้นกั เรยี นวาดภาพตูเ้ ยน็ ของตนเองลงใน
กระดาษ A4 จากน้ันวาดอาหารในตเู้ ยน็ หรือนาภาพอาหารจากนิตยสารมาตดิ พร้อมท้ังตกแต่งให้
สวยงาม เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายว่ามแี ละไมม่ อี าหารอะไรในตู้เยน็ ของตนเองบา้ ง ครเู ขียน
โครงสรา้ งบนกระดานเพอ่ื ให้นกั เรยี นใชเ้ ป็นตน้ แบบ ดงั นี้
There are ……………………, but there aren’t ……………………. .
(ตัวอย่างคาตอบ)
My fridge
There are some tomatoes, but there aren’t any apples.
There are some sausages, but there isn’t any chicken.
There is some orange juice, but there isn’t any milk!
2. ให้นักเรียนทากิจกรรมในแบบฝกึ หัด หนา้ 19 Ex. 12 เป็นการบา้ น
2A 4B 6B 8A
3B 5A 7A
144
7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดับคุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานการเขียน แบบฝึกหดั (Workbook)
บรรยายสง่ิ ของทีม่ แี ละไมม่ ใี น แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตู้เย็นของตนเอง ประสงค์ ระดับคุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งชี้ด้านใฝ่
เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทางาน
8. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าช้ินงาน
8.5 อนิ เทอรเ์ นต็
145
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 7 Do you like bananas? เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสยี งคาศพั ท์ทีข่ ึ้นตน้ ดว้ ย cl ได้
- พูดขอและให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับอาหารทชี่ อบได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทฟ่ี งั และอา่ นจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตุผล
ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟ่ี ังหรอื อ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อา่ นกลุ่มคา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรอื สญั ลักษณ์หรอื เครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความสัน้ ๆ ทฟ่ี งั หรอื อา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ
และ แสดงความคิดเหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตัวช้ีวดั
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าตง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรสู้ ึกของตนเองเก่ียวกับเรอื่ งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรม
ต่าง ๆ ตามแบบทีฟ่ ัง
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรือ่ งต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขยี น
ตวั ช้วี ัด
ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพนั ธข์ องสง่ิ ตา่ ง ๆ ใกล้ตวั ตามท่ฟี งั หรืออ่าน
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พันธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตวั ชวี้ ดั
146
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเครอ่ื งมอื พ้ืนฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี
และการแลกเปล่ยี นเรียนรกู้ บั สงั คมโลก
ตวั ชีว้ ดั
ต 4.2 ป.4/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การร้แู ละเข้าใจความหมายของคาศัพท์ โครงสรา้ งการขอและใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั อาหารและความรสู้ กึ ชว่ ย
ให้ใช้ภาษาเพอ่ื การสื่อสารและเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: I love sausages, I love rice, bread and milk are very nice.
Pronunciation: ออกเสียงคาศพั ท์ท่ขี ึ้นตน้ ดว้ ย cl
Function: ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารทชี่ อบ
2) Language Skills
Listening: ฟงั เพอ่ื ความเข้าใจ
Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั อาหารทชี่ อบ
Writing: เขยี นบรรยายผลสารวจอาหารและเครื่องด่มื ทช่ี น่ื ชอบ
4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ที่ใช้ในการสอื่ สาร
- ทักษะการสารวจ
- ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มุง่ ม่นั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
147
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ Warm Up
1. ครูกลา่ วทกั ทายในช้นั เรยี นวา่ How are you today? เมอื่ นกั เรยี นทัง้ ชน้ั ทกั ทายกลับแลว้ ครสู ่มุ ทกั ทาย
นักเรียนเป็นรายบคุ คลอีกครง้ั โดยให้นกั เรยี นพดู ทักทายกลับ โดยทค่ี าตอบต้องไม่ซา้ กนั เช่น I’m good.
I’m OK. I’m not well.
2. ครเู ขยี นประโยค Could you give me the pencil? บนกระดาน แลว้ อา่ นประโยคดงั กลา่ วให้นกั เรยี น
ฟงั
และพดู ตาม จากน้ันครูอธิบายว่า โครงสรา้ ง Could you + กรยิ า? เปน็ ประโยคขอรอ้ งเหมอื นกับ
Can you + กริยา? แตก่ ารใช้ Could จะสภุ าพมากกวา่ เสรจ็ แลว้ ครเู ขยี นประโยคเพิม่ เตมิ บนกระดาน
เช่น
Could you say it again?
Could you give me the pencil?
Could you open the window?
Could you close the door?
3. ใหน้ กั เรียนเล่นเกม Memory Chain โดยให้นักเรียนพูดคาศัพทเ์ ก่ียวกบั อาหารทเี่ รียนมาแล้วตอ่ ๆ กนั
โดยคนที่พดู ตอ่ ตอ้ งพดู คาศพั ทท์ ี่เพอื่ นพูดกอ่ นหน้าน้ันดว้ ย เช่น
S1: milk
S2: milk, egg
S3: milk, egg, banana
4. ทบทวนโครงสรา้ งถาม-ตอบเกี่ยวกับความชอบ โดยถามนกั เรียนว่า Do you like bananas? เมอื่ ได้
คาตอบแล้ว ครูเขยี นคาตอบบนกระดาน Yes, I do./No, I don’t. ครูเขยี นสรุปโครงสรา้ งถาม-ตอบ
อกี คร้ังบนกระดาน จากนั้นครูใหน้ กั เรยี นจบั คู่ ผลัดกนั ถาม-ตอบโดยใชโ้ ครงสรา้ ง Do you like …?
ครเู ดินสังเกตรอบ ๆ ห้องเพื่อใหค้ าแนะนาและความชว่ ยเหลอื ทจี่ าเป็น เสรจ็ แลว้ ครสู ุม่ เรียกนกั เรยี น
3-4 คู่ ออกมาถาม-ตอบที่หนา้ ชน้ั
5. ทบทวนคานามทีใ่ ชบ้ อกปรมิ าณ เช่น a bowl of, a glass of, a cup of, a piece of, a bottle of โดย
ครพู ดู
คาศพั ท์และให้นกั เรยี นแต่งประโยค เช่น
T: a bowl of
S1: a bowl of rice
T: a glass of
S2: a glass of orange juice etc.
6. ให้นักเรียนดภู าพในหนังสอื เรยี น หน้า 24 Ex. 14 จากนนั้ ครสู มุ่ เรยี กนักเรยี นพดู บอกคาศพั ท์
148
ในภาพโดยใช้ There is... และ There are... etc.
ตวั อย่าง S1: There are some sausages.
S2: There is some rice.
S3: There is some fish.
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศัพท์ท่ขี ้ึนต้นดว้ ย cl ไดแ้ ก่ clip, clock, cloth, clap, clean โดยการแสดงบัตรภาพและให้
นกั เรียนชว่ ยกันพดู บอกความหมาย จากนัน้ ครอู า่ นคาศพั ท์ทลี ะคาแลว้ ให้นกั เรียนพูดตามครพู รอ้ มกนั
หรือทีละคน
การออกเสยี งคาทข่ี น้ึ ตน้ ดว้ ย cl
พยัญชนะควบกล้า cl เป็นเสียงทคี่ นไทยค้นุ เคยเป็นอยา่ งดีและคนไทยมักจะไม่มปี ญั หา
ในการออกเสียงพยญั ชนะควบกล้าน้ี เพราะคลา้ ยกับเสยี งในภาษาไทย อยา่ งไรกต็ าม
คนไทยมักจะละเลยการออกเสียง /l/ ท้ังภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซ่งึ อาจทาให้ความ-
หมายของคาเปลยี่ นไป
เชน่ clock (นาฬกิ า) → cock (ไกต่ วั ผู้)
clap (ปรบมอื ) → cap (หมวก)
clean (ทาความสะอาด) → keen (ฉลาด)
กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครอู าจให้นักเรียนไปฝกึ การออกเสียงคาทข่ี นึ้ ต้นดว้ ย cl เพม่ิ เติมท่ีเว็บไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=V1P2Dqtz8uI
หรอื ครอู าจบอกคาสาคญั เชน่ cl pronunciation หรือชือ่ คลปิ cl - Consonant Blends –
clap, clue, include ให้นักเรยี นไปคน้ คว้าด้วยตวั เองที่เว็บไซต์ www.youtube.com
2. ครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
I love pizza. I like chicken. My favourite food is salad.
ครอู ธบิ ายวา่ สานวน I like … . /I love … . /My favourite ….(noun)…. is…… ใชบ้ อกความชอบ
ในท่ีนคี้ ือการบอกอาหารที่ตนเองชอบรับประทาน จากนน้ั ครใู หน้ กั เรียนแต่งประโยคเกี่ยวกับอาหาร ท่ี
ตนเองช่ืนชอบคนละ 1 ประโยค โดยใช้สานวนทเ่ี ขียนบนกระดาน แล้วใหน้ ักเรียนลุกขึน้ อา่ น ประโยคของ
ตนเอง เช่น
S1: I like sausages.
S2: I love fish!
S3: My favourite food is pizza!
149
3. ครูนาเสนอคาศัพทใ์ นเน้อื เพลง ไดแ้ ก่ dish (จาน), kitchen (หอ้ งครวั ), anything (บ้าง, อะไรบา้ ง) โดย
เขียนคาศพั ทบ์ นกระดานและพูดบอกความหมาย จากนั้นครูอธิบายการใช้ anything ให้นักเรียนฟงั
anything เป็นคาสรรพนามไม่ช้เี ฉพาะ (indefinite pronoun) โดยปกตแิ ลว้ จะอยูใ่ นประโยค
คาถามและประโยคปฏเิ สธ มคี วามหมายวา่ บ้าง, อะไรบา้ ง เชน่
Is there anything I can eat? (มอี ะไรใหฉ้ นั รบั ประทานบ้าง)
You cannot eat anything in the sky train. (คณุ ไม่สามารถรับประทานอาหารบน
รถไฟฟ้าได)้
หาก anything อยใู่ นประโยคบอกเล่าจะหมายถึง “ส่ิงไหนกไ็ ด”้ หรือ “อะไรก็ได”้
เชน่ I’m really hungry. I can eat anything. (หวิ มากจนสามารถกินอะไรกไ็ ด้)
ที่มา: http://just2english.blogspot.com/2011/06/any-anything.html
ขน้ั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 23 หัวข้อ Sound Spot ครูอา่ นคาศพั ท์ใหน้ กั เรียนฟงั และให้นกั เรยี นฝึกพูดตาม
พร้อมกันหรอื ทลี ะคน แล้วครูเปิด CD ใหน้ ักเรียนฟงั และให้นักเรยี นฝึกออกเสยี งคาศัพทต์ าม CD
จนคลอ่ ง
clip, cloth, clap, clean, clock
2. หนงั สือเรยี น หน้า 24 Ex. 14 ครูอ่านเน้ือเพลงแต่ละท่อนใหน้ ักเรยี นฟงั และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสยี ง
ตามครพู รอ้ มกนั เสรจ็ แล้วครูเปิด CD ครั้งแรก ใหน้ ักเรยี นฝกึ ฟังและดูเนอ้ื เพลงตามไปดว้ ย ตอ่ มาครเู ปิด
CD คร้ังที่ 2 ให้นักเรียนฝกึ รอ้ งเพลงไปพรอ้ มกับเพลง จากนั้นครูให้นักเรยี นจับกลุ่มกนั เอง 3-4 กลมุ่ ให้
แตล่ ะกลุ่มฝกึ รอ้ งเพลงใหค้ ล่องพร้อมทง้ั คดิ ทา่ ทางประกอบเพลง เสรจ็ แลว้ ครใู ห้แต่ละกลุม่ ออกมาร้อง
เพลงและแสดงท่าทางใหเ้ พ่ือนในชัน้ ดู
3. หนังสอื เรียน หน้า 24 Ex. 15 ครอู ธบิ ายภาระงานว่า ใหน้ กั เรียนจบั คู่แตง่ เพลงเหมอื นอย่าง
ในหนังสือเรยี น เสรจ็ แลว้ ให้แตล่ ะคู่ฝกึ รอ้ งจนคลอ่ งแลว้ ออกมารอ้ งเพลงหนา้ ชน้ั ด้วยกัน
4. ครูแบ่งนักเรยี นเป็นกลุ่ม ตามชอื่ อาหารท่ปี รากฏในเนอ้ื เพลง ไดแ้ ก่ sausages, rice, bread, milk,
pizza,
chicken, salad, fish ครูอาจแบง่ ตามความชอบ เช่น ถามว่า Who likes sausages? Raise your
hand.
เม่อื แบ่งกลุ่มเสร็จแลว้ ครูอธบิ ายวา่ ครจู ะเปดิ เพลงให้ฟงั ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รอ้ งเพลงทอ่ นทีม่ อี าหาร
150
ของกลุ่มตนเอง ส่วนทอ่ นทีไ่ มม่ ี ให้ร้องเพลงพรอ้ ม ๆ กัน จากนน้ั ครูเปดิ เพลงและใหน้ กั เรยี นรอ้ งเพลง
ร่วมกัน 2-3 ครงั้
ข้ัน Production
1. ครูอธบิ ายภาระงานแลว้ แบง่ นักเรียนออกเปน็ กล่มุ ให้แตล่ ะกล่มุ เลอื กหวั หน้าและเลขาของกลุม่
ตนเอง จากนั้นใหห้ ัวหนา้ ถามเกี่ยวกบั อาหารท่ีสมาชิกในกล่มุ ชอบ โดยใชค้ าถาม เช่น What’s your
favourite food? ใหเ้ ลขาเป็นผจู้ ดบันทึก เมอื่ ไดค้ าตอบจากสมาชิกในกลมุ่ แล้ว ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ เขยี น
บรรยายผลการสารวจ โดยใชโ้ ครงสรา้ งดังตอ่ ไปน้ี
There are _____ people in my group.
_____ people like _____.
Only _____ people like _____.
ตวั อย่าง There are ten people in my group. Four people like pizza. Three people like
burger.
Two people like salad. Only one person likes bread.
ตอ่ มา ครูให้แต่ละกลมุ่ ทาแผนภูมิแท่ง แผนภมู ิวงกลม หรอื รูปภาพ เพอ่ื นาเสนอผลการสารวจ
4.5 salad bread burger There are ten people in my group. Four
4 people like pizza. Three people like burger.
Two people like salad. Only one person likes
3.5 bread.
3
2.5
2
1.5
1
0.5
0
pizza
2. ใหน้ ักเรยี นทากจิ กรรมในแบบฝึกหดั หนา้ 20 Ex. 13 เป็นการบ้าน
a8 c5 e6 g3
b1 d4 f 2 h7
151
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ประเมนิ ช้ินงานการสารวจเก่ยี วกับ แบบประเมนิ ชิน้ งาน ผา่ นเกณฑ์
อาหารและเครอื่ งดืม่ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ พอใช้
ท่ชี อบ ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั (Workbook) ผ่านเกณฑ์
สังเกตการอา่ นออกเสยี งคาศัพทท์ ี่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้
ขนึ้ ตน้ ด้วย cl
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีด้านใฝเ่ รยี นรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ
และมุ่งมัน่ ในการทางาน ประสงค์
8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณท์ าชิน้ งาน
8.5 อนิ เทอรเ์ น็ต
152
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8 Breakfast time! เวลา 1 ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ กยี่ วกับอาหารเช้าได้
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- พดู และเขยี นให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารเช้าที่รับประทานได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล
ตวั ชวี้ ัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟี่ งั หรอื อ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลุม่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
เขา้ จังหวะถกู ต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรอื สัญลักษณห์ รือเครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และข้อความสนั้ ๆ ทฟี่ ังหรอื อ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนทิ านง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ
และ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวช้วี ดั
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขยี น
ตัวช้ีวัด
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ ้อมลู เกยี่ วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกล้ตวั
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้วี ดั
153
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ยี วกบั เทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ
ของเจ้าของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพ่อื นามาใชอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
ตวั ชี้วดั
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พันธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ตวั ชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพดู /อา่ นในสถานการณ์ท่เี กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจคาศัพท์และโครงสรา้ งประโยค ชว่ ยใหเ้ ข้าใจเรื่องท่ีอ่าน วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษาและ
เชอื่ มโยงความสัมพันธ์ของสงิ่ ทป่ี รากฏในเนือ้ หาทฟ่ี งั และอา่ นได้ ชว่ ยใหพ้ ูด/เขยี นส่อื สารได้อยา่ งถูกตอ้ งและ
เหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: In the UK, People usually have a bowl of cereal and a cup
of tea in the mornings.
Vocabulary: breakfast, bacon, toast, bowl, cereal, popular, sweet,
waffle, blueberry, cream, muffin, cup, coffee
Pronunciation: ออกเสียงคาทข่ี ้ึนตน้ ด้วย br
2) Language Skills
Speaking: พูดให้ขอ้ มลู เกีย่ วกบั อาหารเชา้ ทต่ี นเองรับประทานหรือตอ้ งการ
รบั ประทาน
Writing: เขียนให้ข้อมูลเกย่ี วกับอาหารเชา้ ทตี่ นเองรบั ประทาน
3) Culture: อาหารเช้าแบบองั กฤษและอเมริกัน
154
4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ีใช้ในการส่อื สาร
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ Warm Up
1. ครูกลา่ วทักทายนักเรยี นและทบทวนประโยคขอรอ้ ง Can you help me? โดยครูยนื ถือหนังสือ
หลาย ๆ เล่มอยูห่ น้าประตู แลว้ ถามนักเรยี นวา่ Can you help me? เมื่อนกั เรียนมาช่วยถอื หนังสือ
ครูกล่าวขอบคณุ นกั เรียน จากนั้นครเู ขียนสรุปบนกระดาน ดงั นี้
A: Can you help me?
B: Sure./Sorry, I can’t.
เสร็จแล้วครูย้ากับนกั เรยี นว่า เมื่อคนอื่นช่วยเหลอื เราแลว้ เราต้องกลา่ วขอบคุณเสมอ
2. ทบทวนเพลงในหนังสือเรียน หนา้ 24 Ex. 14 โดยครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 กลมุ่ ให้แตล่ ะกลุม่
รับผดิ ชอบเนอ้ื เพลงแตล่ ะทอ่ น จากน้ันครูให้แต่ละกลุ่มรอ้ งท่อนทร่ี ับผดิ ชอบ โดยให้นักเรยี นทกุ คน
ช่วยกันปรบมือเปน็ จังหวะเพลง
ขั้น Presentation
1. ครูนาบตั รภาพหรือดาวนโ์ หลดภาพจากอินเทอรเ์ นต็ เกีย่ วกับอาหารเช้ามาแสดงให้นกั เรียนดู ได้แก่
toast (ขนมปงั ป้งิ ), bacon (เบคอน), sausage (ไสก้ รอก), fried egg (ไข่ดาว), bread (ขนมปงั ),
blueberry
jam (แยมบลูเบอร์ร)ี , butter (เนย), waffle (วาฟเฟิลหรอื ขนมปงั รงั ผ้งึ ), pancake (แพนเค้ก), cereal
(ธญั พชื ), muffin (มัฟฟนิ ), sandwich (แซนดว์ ชิ ), milk (นม), orange juice (นา้ สม้ คนั้ ), tea (น้าชา),
coffee (กาแฟ) ครพู ูดคาศัพท์ และให้นกั เรียนฝกึ พูดตามครู 1-2 ครง้ั เพอื่ ฝกึ ลงเสยี งหนกั ใหถ้ กู ต้อง
bacon sausage butter waffle
pancake cereal muffin sandwich
orange juice coffee blueberry
155
ครสู ามารถเข้าไปดาวน์โหลดบตั รภาพเกี่ยวกบั อาหารได้ทเี่ ว็บไซตต์ ่อไปน้ี
http://files.havefunteaching.com/flash-cards/themes/breakfast-flash-cards.pdf
http://esl-kids.com/flashcards/food.html
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-food-
set-1.pdf
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-food-
set-2.pdf
http://www.mes-english.com/flashcards/food.php
หรอื เขา้ ไปทเ่ี ว็บไซต์
http://www.letshavefunwithenglish.com/vocabulary/breakfast/vocabulary.html ซงึ่
สามารถ
กดปุ่มเพ่ือฟงั เสยี งคาศัพท์ไดด้ ว้ ย
2. ครแู สดงภาพอีกครัง้ และถามนักเรียนทีละภาพว่า Do you eat … for breakfast? / Do you drink …
for
breakfast? เม่อื ถามจนครบทุกภาพแลว้ ครูสุ่มถามนักเรียนอีกครัง้ ว่า What do you have for
breakfast?
เพื่อให้นกั เรียนตอบโดยใช้โครงสรา้ ง I have … and … for breakfast. ครอู าจเขยี นโครงสรา้ งประโยค
บนกระดาน เพอื่ ชว่ ยเหลอื นักเรยี นในการตอบ
3. ครูถามนักเรียนวา่ ผู้ปกครองเคยถามนักเรียนหรือไมว่ า่ อยากรบั ประทานอะไรเป็นอาหารเชา้ โดยใน
ภาษาองั กฤษจะใช้คาถามวา่ What would you like for breakfast? ครใู หน้ กั เรยี นพดู ประโยคนต้ี ามครู
2-3 ครงั้ จากนนั้ ครถู ามคาถามนก้ี ับนักเรยี นหลาย ๆ คน โดยครอู าจเขียนโครงสรา้ งในการตอบให้
นักเรยี น I would like …, … and … for breakfast. เชน่ I would like some bread, an egg and
a glass of milk for breakfast.
เมื่อทากิจกรรมเสรจ็ แลว้ ครถู ามนกั เรียนวา่ นกั เรยี นเคยไม่รบั ประทานอาหารเช้า แลว้ ร้สู กึ หิวขณะท่อี ยู่
ในหอ้ งเรียนหรอื ไม่ ขณะท่ีนักเรียนรู้สกึ หวิ นกั เรียนมสี มาธิในการเรียนหรือไม่ เสรจ็ แล้วครพู ดู สรุปให้
นกั เรยี นฟงั ว่า การรบั ประทานอาหารเชา้ มีความสาคัญต่อการเรียนรขู้ องนกั เรยี น ดงั นน้ั นกั เรยี นจึงควร
รับประทานอาหารเชา้ ทกุ วัน
156
การรบั ประทานอาหารเชา้ ทกุ วัน ช่วยเพิม่ ประสทิ ธิภาพการเรยี น ทาให้ระบบความจา ทกั ษะ
การเรียนรู้ และสขุ ภาพจติ ดี การอดอาหารเช้าเป็นประจา อาจทาให้ร่างกายได้รบั สารอาหาร
ไม่เพียงพอ ส่งผลให้รา่ งกายไม่แขง็ แรง เจบ็ ป่วยง่าย การเจริญเติบโตไม่เปน็ ไปตามเกณฑ์และ
ยงั สง่ ผลตอ่ สติปัญญา ทาใหข้ าดสมาธิ สง่ ผลเสยี ในระยะยาวเม่อื อายมุ ากข้ึน
ท่ีมา: http://www.todayhealth.org/daily-health/ประโยชน์ของอาหารเชา้ .html
อาหารเช้าแบบตา่ ง ๆ
อาหารเช้าแบบองั กฤษ (English breakfast) ประกอบด้วยธญั พชื ราดนม ขนมปงั ป้งิ เบคอน
ไข่ดาว และมะเขือเทศย่างพอเกรียม รับประทานกบั ชาหรอื กาแฟ สาหรบั อาหารเชา้ มอื้ ใหญ่
ชาวองั กฤษจะเรียกว่า “big breakfast” หรือ “full English breakfast” ซงึ่ อาหารจะมคี วามหลาก-
หลายมากกวา่ เชน่ มีมะเขือเทศ (tomatoes) เห็ดยา่ ง (grilled mushrooms) ถว่ั อบ (baked
beans)
ไสก้ รอกทที่ าจากเลอื ดหมู (black pudding) เป็นต้น
อาหารเชา้ แบบอเมรกิ ัน (American breakfast) ประกอบดว้ ยไขค่ น (scrambled eggs) หรือ
ไขเ่ จียว (omelet) วาฟเฟิลหรือแพนเคก้ ราดด้วยน้าเชือ่ มหรอื นา้ ผง้ึ หรือทาแยมบลูเบอร์ร่ีและ
ครีม ชาวอเมรกิ นั ยังนิยมรับประทานมัฟฟนิ กับกาแฟเป็นอาหารเช้าอกี ด้วย
นอกจากนี้ยังมีอาหารเชา้ ทเ่ี รยี กวา่ “continental breakfast” หรือ “อาหารเชา้ ภาคพ้นื
ยโุ รป” ประกอบดว้ ยขนมปังกอ้ นกลม (rolls) ขนมปงั รูปพระจันทรเ์ สีย้ วหรอื ครวั ซอง
(croissant) ขนมปงั ปงิ้ (toast) ขนมอบ (pastries) เช่น มัฟฟนิ (muffin) เบเกิล (bagel)
นิยมรับประทานคูก่ บั ชา กาแฟหรอื นา้ ผลไม้
ท่ีมา: http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?id=96193
กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูสามารถเข้าไปดูหรือแนะนาให้นักเรยี นเข้าไปดูคลปิ วดิ ีโอเกีย่ วกบั อาหารเชา้ ของประเทศ
ตา่ ง ๆ รวมทัง้ เพลงทเี่ วบ็ ไซตต์ อ่ ไปนี้
http://genkienglish.net/breakfast.htm
157
การออกเสยี งคาท่ขี นึ้ ตน้ ด้วย br
ครูอ่านออกเสียงคาวา่ breakfast อกี คร้ัง โดยเน้นการออกเสียงพยัญชนะควบกล้า /br/
จากนน้ั ครอู ธบิ ายวา่ คนไทยสว่ นใหญ่มักจะละเลยการออกเสยี ง /r/ ทาใหก้ ารส่อื สารไมเ่ ป็น
ธรรมชาตเิ ทา่ ทค่ี วร ครูควรฝกึ ให้นักเรียนออกเสยี งคาทีข่ น้ึ ตน้ ด้วย br ใหช้ ดั เจน
ตวั อยา่ งคาศพั ท์
breakfast brick brunch
bread brush broom
ท่ีมา: http://nkw05169new.circlecamp.com/index.php?page=07
กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครอู าจเปดิ คลิปวดิ ีโอใหน้ ักเรียนฝึกฟังและออกเสียงคาท่ขี น้ึ ตน้ ดว้ ย br เพม่ิ เติมที่
https://www.youtube.com/watch?v=mfquGEwzStU
หรือให้นักเรียนไปฝึกด้วยตนเอง โดยครบู อกคาสาคญั เช่น br pronunciation หรือช่ือคลิป
br - Consonant Blends - bring, bright, breeze ให้นกั เรยี นเขา้ ไปเปิดดดู ว้ ยตนเองท่ี
www.youtube.com
4. ครูนาเสนอคาศัพท์อนื่ ๆ เก่ยี วกับมอ้ื อาหาร โดยใหน้ ักเรียนช่วยกนั บอก เชน่ lunch (อาหารกลางวนั ),
dinner (อาหารเยน็ ) จากน้ันครูสอนเพ่ิมเติมคาวา่ brunch และ supper
brunch (n) = a meal eaten in the late morning that is a combination of
breakfast and lunch
(อาหารทก่ี นิ ตอนสาย ๆ โดยมกั รวมเอามอ้ื เช้าและกลางวันเข้าด้วยกัน)
ตัวอย่าง I got up late so I had brunch.
ครูอธิบายวา่ คานีเ้ ปน็ การผสมระหว่างคาวา่ breakfast และ lunch
supper (n) = an evening meal, but more informal than dinner and usually
eaten at home. It can also be a late meal or something to eat and drink before going to bed.
(มีได้สองความหมายคอื อาหารม้ือเยน็ ซ่ึงเหมอื นกับ dinner หรืออาหารมือ้ เย็นที่ไมเ่ ป็นทางการ มือ้
เล็ก ๆ มกั จะเป็นอาหารวา่ งก่อนเข้านอน)
ตวั อยา่ ง I'm having beans on toast for supper.
ขัน้ Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 25 Ex. 16 ครูอธบิ ายภาระงาน ครอู า่ นคาถาม What do the British and
Americans
158
eat for breakfast? ให้นักเรียนฟัง จากน้นั ให้เวลานักเรียนอา่ นเนอื้ หาดว้ ยตนเองแล้วตอบคาถามครู
ปากเปล่าพรอ้ มกัน ครูรวบรวมคาตอบของนักเรยี นมาเขียนบนกระดาน โดยเขียนสรปุ ออกมาเปน็
แผนทค่ี วามคดิ (mind mapping)
ตวั อยา่ ง
bacon toast tea waffles with blueberry
jam and cream
the British Breakfast Americans
coffee muffin
eggs cereal tomatoes
The British eat bacon, eggs, tomatoes, toast or cereal with a cup of tea
for breakfast.
Americans eat waffles with blueberry jam and cream or a muffin with a cup
of coffee.
2. หนังสือเรยี น หนา้ 25 Ex. 17 ครอู ธบิ ายภาระงาน ใหเ้ วลานักเรียนอา่ นบทอ่านในหนังสอื เรยี น หน้า 25
Ex. 16 อีกคร้งั จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นนาขอ้ มลู มาเติมลงในช่องวา่ งในภาพใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแล้วครเู ขยี น
เลขขอ้ บนกระดาน แล้วขออาสาสมคั รออกมาเขียนคาตอบ ครตู รวจคาตอบอกี ครั้งวา่ นักเรยี นตอบถูก
หรอื ไม่ เสรจ็ แลว้ ครใู ห้นักเรียนอ่านออกเสยี งพรอ้ ม ๆ กนั
1 bacon 5 tea 9 waffle
2 toast 6 cereal 10 coffee
3 egg 7 blueberry jam 11 muffin
4 tomato 8 cream
3. ให้นกั เรียนจับคู่ ผลัดกันถาม-ตอบเกี่ยวกบั อาหารเช้าที่นักเรยี นอยากรบั ประทาน จากนัน้ ครสู ่มุ เรยี ก
นกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบหน้าช้ัน เชน่
S1: What would you like for breakfast?
159
S2: I’d like some bread, an egg and a glass of orange juice.
ขน้ั Production
1. ครูอธิบายภาระงานวา่ ให้นักเรียนเขยี นบรรยายเกย่ี วกับอาหารเช้าในประเทศของตนเอง พร้อมวาด
ภาพประกอบและตกแตง่ ให้สวยงาม ครูอาจใหน้ ักเรียนนาภาพจากนิตยสารหรืออนิ เทอร์เนต็
มาตดิ ก็ได้ โดยก่อนทา ครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั ระดมสมองบอกอาหารท่ีคนไทยมกั จะรบั ประทานรว่ มกัน
ก่อน และชว่ ยแนะนาวิธกี ารหาคาศัพท์เกย่ี วกับชอ่ื อาหารจากแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ เชน่ อินเทอรเ์ นต็
เสร็จแลว้ ครูให้นักเรียนออกมาอ่านและนาเสนอผลงานหนา้ ชนั้
Breakfast in Thailand (ตัวอยา่ ง)
In Thailand, people like to eat a small breakfast.
They usually have rice congee with minced pork.
2. ใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมในแบบฝึกหดั หนา้ 21 Exs. 14-15 เป็นการบ้าน
Ex. 14 6 MUFFINS
2 COFFEE 7 TOAST
3 BACON 8 WAFFLES
4 EGGS
5 CEREAL
160
Ex. 15
English breakfast
a bowl of cereal, a cup of tea, bacon, eggs, tomatoes and toast
American breakfast
waffles with blueberry jam and cream, muffins, a cup of coffee
7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชิ้นงาน Breakfast in แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
Thailand แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึกหดั เรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการออกเสยี งคาศพั ท์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั ระดบั คุณภาพ พอใช้
ท่ีกาหนด พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ชีด้ า้ นใฝ่เรยี นรู้
และมงุ่ ม่ันในการทางาน
8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 อปุ กรณ์ทาช้นิ งาน
8.4 อินเทอร์เน็ต
161
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 9 Fruits of Southeast Asia
เวลา 2 ชัว่ โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- เขียนให้ข้อมูลเกย่ี วกับผลไม้ในประเทศอาเซยี นได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งทีฟ่ งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพดู เข้า
จังหวะถูกต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณ์หรอื เคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และข้อความสน้ั ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนทิ านงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และ แสดงความคิดเห็นอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ตัวช้วี ดั
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอื่ ขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องตา่ ง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ ้อมลู เก่ยี วกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพ่ือนามาใชอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ตัวชี้วัด
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษากับของไทย
162
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตวั ช้วี ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อา่ นในสถานการณท์ ี่เกดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครอ่ื งมือพื้นฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชพี
และการแลกเปลี่ยนเรียนร้กู บั สงั คมโลก
ตวั ชว้ี ัด
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื ค้นและรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ
2. สาระสาคัญ/ ความคิดรวบยอด
การร้คู าศพั ท์เกี่ยวกับผลไมใ้ นภมู ิภาคอาเซียนและคาศัพท์ท่ีเก่ยี วข้อง ช่วยให้เขา้ ใจเร่อื งทอ่ี ่านและ
เชอ่ื มโยงความสมั พันธข์ องส่ิงท่ปี รากฏในเน้ือหาทีฟ่ งั และอา่ นได้ ทาให้เขา้ ใจความเหมอื น/ความแตกตา่ งของ
ประเทศตา่ ง ๆ ในอาเซยี น
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (nouns) rambutans, durians, mangosteens
(adjectives) bright, thick, juicy, creamy, purple
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พดู ขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับผลไมใ้ นภมู ิภาคอาเซียน
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Writing: เขียนบรรยายส้ัน ๆ เกยี่ วกบั ผลไมใ้ นภมู ภิ าคอาเซียน
3) Culture: ผลไม้ในภูมิภาคอาเซียน
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการสอ่ื สาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
163
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั Warm Up
1. ทบทวนคาศัพท์เก่ียวกบั อาหารเช้าโดยการเลน่ เกม Memory Chain ครูอธบิ ายวธิ ีการเล่นเกมว่า ให้
นักเรยี นพดู คาศพั ทเ์ กี่ยวกับอาหารเช้าทีเ่ รยี นมาแลว้ พูดตอ่ ๆ กัน โดยคนทีพ่ ูดตอ่ ต้องพดู คาศพั ทท์ ี่
เพื่อนพดู กอ่ นหนา้ นน้ั ด้วย เชน่
S1: egg
S2: egg, waffle
S3: egg, waffle, tomato etc.
2. ให้นักเรียนทบทวนคาศัพท์เก่ยี วกับผลไม้ โดยแบง่ นักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม จากน้ันครใู ห้ตัวแทน
แตล่ ะกลมุ่ ผลัดกนั ออกมาเขยี นช่ือผลไม้ใหไ้ ดม้ ากที่สุด กลมุ่ ใดเขยี นได้มากท่สี ดุ เป็นกลุ่มท่ีชนะ
3. ครทู บทวนชือ่ ประเทศตา่ ง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยใหน้ ักเรียนออกมาเขยี นชอ่ื ประเทศบนกระดาน ให้
ครบ จากน้นั ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั พูดบอกคาศพั ทเ์ กี่ยวกับเช้ือชาตขิ องประเทศเหลา่ น้ี
Brunei Darussalam - Bruneian
Cambodia - Cambodian
Indonesia - Indonesian
Laos - Lao
Malaysia - Malaysian
Myanmar - Burmese
the Philippines - Filipino
Singapore - Singaporean
Thailand - Thai
Vietnam - Vietnamese
ครใู หน้ ักเรยี นออกเสียงคาศพั ทเ์ หล่านตี้ ามครู เพอื่ ฝึกลงเสียงหนักในคาศัพทใ์ หถ้ ูกตอ้ ง
164
ครสู อนนักเรยี นลงเสียงหนกั ในชือ่ ประเทศและเชื้อชาตขิ องประเทศตอ่ ไปน้ี
Brunei Darussalam - Bruneian
Cambodia - Cambodian
Indonesia - Indonesian
Malaysia - Malaysian
Myanmar - Burmese
the Philippines - Filipino
Singapore - Singaporean
Thailand - Thai
Vietnam - Vietnamese
ตอ่ มาครใู หน้ ักเรียนจบั คกู่ นั โดยสมมตวิ ่า นักเรยี นเปน็ นกั เรียนแลกเปล่ยี นทม่ี าจากประเทศในภมู ภิ าค
อาเซยี น แล้วผลัดกันพูดถาม-ตอบเกยี่ วกบั ประเทศและเชอ้ื ชาติ เชน่
S1: Where do you come from?
S2: I come from Malaysia. I’m Malaysian. And you?
S1: I come from Myanmar. I’m Burmese. etc.
4. ครนู าเข้าสู่บทเรยี นโดยการถามคาถามนกั เรยี น 2-3 คาถาม เชน่
T: Do you like fruit?
S1: Yes, I do.
T: What’s your favourite fruit?
S1: My favourite fruit is apple. etc.
ขน้ั Presentation
1. นาเสนอคาศัพท์เกีย่ วกับผลไม้ ไดแ้ ก่ rambutans (เงาะ), durians (ทุเรียน), mangosteens (มังคดุ ) โดย
การแสดงบตั รภาพหรือครอู าจนาผลไมจ้ รงิ มาแสดงหนา้ ชัน้
ต่อมาครูสอนนักเรยี นลงเสียงหนักในคาศัพทเ์ หลา่ น้ี
rambutans durians mangosteens
165
ผลไม้ในภมู ภิ าคอาเซียน
เงาะ (rambutans) เปน็ ไมผ้ ลเมอื งร้อน มลี ักษณะโดยทวั่ ไป คอื มเี ปลอื กสีแดงสด
ขนหนา และเนื้อข้างในหวานฉ่า มีถิน่ กาเนดิ ในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และ
ฟิลปิ ปินส์ ในประเทศไทยนิยมปลูกในภาคตะวนั ออกและภาคใต้ มหี ลายสายพันธ์ุ ได้แก่
พนั ธโุ์ รงเรยี น พันธ์ุสที อง พนั ธ์ุสชี มพู (เงาะส)ี
ทเุ รียน (durians) เป็นผลไมข้ นาดใหญ่ มหี ลายสายพันธุ์ เชน่ พันธก์ุ า้ นยาว พันธ์หุ มอนทอง
พันธ์ุชะนี เปลือกมสี ีเขยี วถึงนา้ ตาลและมหี นามแข็งปกคลุมท่วั เปลือก เน้ือในมสี เี หลืองซีด
ถงึ แดง ขนึ้ อยกู่ บั สายพนั ธ์ุ และมีกลน่ิ เฉพาะตวั มถี ่ินกาเนิดในประเทศไทย บรไู น อนิ โด-
นีเซยี และมาเลเซยี
มังคุด (mangosteens) มถี ิ่นกาเนิดอยู่ในประเทศอนิ โดนเี ซียและมาเลเซยี นิยมปลกู อย่าง
แพรห่ ลายในประเทศไทย ผลมีลกั ษณะกลม มสี มี ว่ งเข้ม มกี ลีบสเี ขียวอมเหลืองติดอยู่ทผี่ ล
เน้ือในเป็นสีขาวฉา่ นา้
ทมี่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/เงาะ
https://th.wikipedia.org/wiki/ทุเรียน
https://th.wikipedia.org/wiki/มงั คดุ
2. นาเสนอคาคณุ ศัพทท์ ใี่ ชบ้ รรยายเกี่ยวกับผลไม้ ได้แก่ bright (สวา่ ง), thick (หนา), juicy (ท่ีฉา่ นา้ ),
soft (นุ่ม), creamy (ท่ีมลี กั ษณะเป็นเนอื้ ครีม), strong (รุนแรง), delicious (อรอ่ ย) โดยเขยี นคาศพั ทบ์ น
กระดาน เสรจ็ แล้วครูชีท้ ค่ี าศพั ท์แตล่ ะคาและอา่ นออกเสียงให้นักเรียนพูดตามครูพร้อมกันหรือทลี ะคน
จากนัน้ ครเู ขยี นประโยคตวั อย่างบนกระดานและใหน้ ักเรียนดูและฝึกพดู ตามครพู รอ้ มกนั อกี คร้ัง
ตวั อย่าง Rambutans are bright red.
Mangosteens have got thick skin.
Oranges are juicy.
Bananas are soft fruit.
Mum’s chocolate cake is smooth and creamy.
Durians have a strong smell.
I really like eating cake. It is delicious!
ครูขดี เส้นใตค้ าคณุ ศัพทท์ ีต่ อ้ งการสอน แล้วให้นักเรียนช่วยกันเดาความหมายของคาศัพท์
166
ครใู หน้ กั เรยี นฝกึ ลงเสียงหนกั ในคาที่มีมากกวา่ 1 พยางค์ ดังนี้
juicy creamy delicious
3. นาเสนอคานามบอกตาแหนง่ ได้แก่ inside (ขา้ งใน) และ outside (ขา้ งนอก) โดยครวู าดภาพอยา่ งงา่ ย ๆ
ให้นกั เรยี นดู แลว้ ยกตวั อย่างประโยคให้นกั เรียนฝึกอ่านตามครพู รอ้ ม ๆ กนั
ตัวอย่าง outside The inside of the circle is white.
inside
The outside of the circle is black
จากนัน้ ครูนาภาพทเุ รยี นมาแสดงใหน้ กั เรยี นดู โดยให้เห็นท้งั เปลอื กข้างนอกและเนอ้ื ขา้ งใน ครชู ภ้ี าพ
ทุเรียนแล้วพดู วา่ The outside of durian is green. The inside of durian is yellow. ครวู าดภาพ
ผลไม้อีก
2-3 ชนดิ เช่น เงาะ แตงโม แอปเปิล เพือ่ ใหน้ กั เรียนฝกึ พูดลักษณะภายนอกและภายในของผลไม้ต่าง ๆ
จนคลอ่ ง เสร็จแล้วครใู หน้ กั เรียนทางานคู่ แต่งประโยคเกยี่ วกับผลไม้ โดยใช้ inside และ outside
เช่น The inside of apple is yellow. The outside of apple is red.
ขัน้ Practice
1. หนังสือเรียน หนา้ 27 Ex. 1 ใหเ้ วลานักเรยี นอา่ นบทอา่ น Fruits of Southeast Asia ในหน้า 26 ด้วย
ตนเองอกี ครงั้ และเลอื กคาตอบมาเตมิ ใหถ้ กู ตอ้ ง เสรจ็ แล้วครูเฉลยคาตอบพรอ้ มกนั ในชั้นเรียน
1 creamy
2 Mangosteens
3 Rambutans
2. หนังสอื เรียน หน้า 27 Ex. 2 ครอู า่ นคาสั่งให้นักเรียนฟัง จากน้ันอธิบายภาระงานวา่ ใหน้ กั เรียนจับคู่
คาศพั ทก์ ับคาบรรยายใหถ้ ูกตอ้ ง เสรจ็ แล้วครสู ่มุ เรียกนกั เรยี น 1-3 คน พดู บอกคาตอบของตนเอง ครู
เฉลยคาตอบท่ถี ูกต้องอกี ครงั้
167
1b 2a 3c
3. ครถู ามคาถาม Wh-questions เกี่ยวกับผลไมใ้ นบทอ่านและรวบรวมคาตอบจากนักเรยี น เสร็จแลว้ ครู
เขยี นคาถามบนกระดานและใหน้ กั เรยี นฝกึ พดู ถาม-ตอบกันอีกคร้งั โดยเปลยี่ นเปน็ ผลไมช้ นิดอนื่ เช่น
T: Where can we find durians?
Ss: We can find durians in Thailand, Indonesia and Malaysia.
T: What colour is the inside of durians?
Ss: The inside of durians is yellow.
T: What colour is the outside of durians?
S2: The outside of durians is green. etc.
4. ใหน้ ักเรยี นช่วยกันคดิ วา่ เพราะอะไร อาเซยี นจงึ สามารถเพาะปลูกผลไมท้ ใ่ี กลเ้ คยี งกนั หรือเหมือนกันได้
ครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรียน เสรจ็ แลว้ สรุปใหน้ ักเรียนฟังวา่ เปน็ เพราะอาเซยี นมีภมู ิประเทศและสภาพ
อากาศทใ่ี กลเ้ คยี งกนั
ภูมปิ ระเทศและสภาพอากาศในภูมภิ าคอาเซยี น
ภูมิประเทศและสภาพอากาศในประเทศอาเซยี นค่อนขา้ งคล้ายคลงึ กัน คอื ภมู ปิ ระเทศสว่ นใหญ่
ประกอบด้วยเทอื กเขาและทีร่ าบ มสี ภาพอากาศร้อนชน้ื ทาใหพ้ ชื พันธุ์ในแต่ละประเทศมี
ความคลา้ ยคลึงกัน อาทเิ ชน่ กลว้ ย พบไดท้ ั้งในประเทศไทยและกมั พชู า ทเุ รียนพบได้ทัว่ ภมู ิภาค
อาเซียน เช่น ประเทศไทย มาเลเซยี เวยี ดนาม
ที่มา: http://blog.theholidaze.com/2014/02/amazing-weird-exotic-southeast-asia-
fruit/
5. ให้นักเรยี นชว่ ยกันพดู บอกชอ่ื ผลไม้ในเมอื งหนาวท่นี ักเรยี นรจู้ กั เชน่ strawberry, apple, kiwi,
blueberry เปน็ ตน้ เสรจ็ แลว้ ครรู วบรวมคาตอบของนักเรียนมาเขียนบนกระดาน
ขน้ั Production
1. หนังสือเรียน หนา้ 27 Ex. 3 ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรยี นและอธบิ ายภาระงานวา่ ใหน้ ักเรยี นคน้ ควา้
ขอ้ มลู เกีย่ วกับผลไมใ้ นประเทศอาเซียนมาคนละ 1 ชนดิ จากนั้นใหน้ ักเรยี นเขยี นบรรยายสนั้ ๆ เกย่ี วกับ
168
ผลไมด้ งั กลา่ ว พร้อมกบั หาภาพประกอบมาติด
ก่อนที่นักเรียนจะเขยี นคาบรรยายใต้ภาพ ครแู นะนาให้นกั เรยี นเขยี นรา่ งในสมดุ ก่อน
แล้วนามาใหค้ รตู รวจทานความถกู ต้อง จากน้นั จงึ เขยี นลงในกระดาษ
(ตัวอยา่ งคาตอบ)
Guava
We can find guava in Thailand.
The outside of guava is green.
The inside of guava is white.
It is crunchy and delicious.
2. ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมในแบบฝึกหัด หน้า 22-23 หัวข้อ Modular Revision and Assessment 2
Exs. 1-7 ในคาบเรยี น เสร็จแล้วเฉลยคาตอบพรอ้ มกัน
Narrator: Listen and put a tick or a cross.
Boy: Hi, Mum! What are you doing?
Female: I want to make a cake. Can you help me?
Boy: Sure! What can I get you?
Female: Mmm … let’s see. Are there any eggs in the fridge?
Boy: Eggs? Yes, there are some eggs in the fridge.
Female: Good! Put the eggs on the table.
Boy: OK!
Female: Are there any apples?
Boy: Apples? Let me see. No, there aren’t any apples. Sorry.
Female: That’s OK! Have we got any milk?
Boy: Milk? Oh, yes! There’s some milk.
Female: OK! Have we got any bananas?
Boy: Hmm. Bananas? Sorry, no, but we’ve got some orange juice!
Female: OK! I think we’re ready. Let’s make the cake.
169
Ex. 1
1k 3j 5i 7d 9e
2 c 4 b 6 f 8 g 10 h
Ex. 2 4 No, there isn’t.
1 No, there isn’t. 5 No, there isn’t.
2 Yes, there are.
3 Yes, there are.
Ex. 3 5 some 9 some
1 some 6 some 10 an
2 an 7a
3 some 8 some
4a
Ex. 4 3 some 5 some
1 any 4 any
2 some
Ex. 5 3a
1b 2a
Ex. 6 e
b c d
Ex. 7
1F 2F 3F 4T
170
7. การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมินชิน้ งาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินชิน้ งานผลไม้ในประเทศ แบบฝึกหดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
อาเซยี น แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝกึ หัด ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งชด้ี า้ นใฝ่
เรยี นรูแ้ ละมงุ่ มน่ั ในการทางาน
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ
8.5 อุปกรณ์ทาชิ้นงาน
8.6 อนิ เทอร์เนต็
171
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 10 CLIL 2 Food Groups
เวลา 1 ช่วั โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ท์ทเ่ี ก่ยี วข้องกับอาหารกลุ่มตา่ ง ๆ ได้
- พดู ใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั อาหารและกลุ่มของอาหารได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอื่ งที่ฟงั และอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
ตัวชี้วัด อยา่ งมีเหตุผล
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
ต 1.1 ป.4/3 เข้าจังหวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
เลือก/ระบภุ าพ หรือสญั ลักษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
มาตรฐาน ต 1.3 และข้อความสั้น ๆ ทฟ่ี ังหรอื อ่าน
นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอ่ื งต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขยี น
ตัวชวี้ ัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ ้อมูลเก่ียวกับตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื และเป็น
พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
ตวั ชี้วดั ค้นควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เี่ กีย่ วข้องกบั กลุม่ สาระการเรียนรอู้ นื่ และนาเสนอดว้ ย
ต 3.1 ป.4/1 การพดู /การเขียน
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรยี นและสถานศึกษา
172
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจคาศัพท์ทเี่ ก่ียวข้องกับอาหาร ชว่ ยให้ค้นคว้า รวบรวม และนาเสนอข้อมูลท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั
กลุม่ สาระวิชาอืน่ ไดอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Feathers and Functions
Structure: Which food group are tomatoes? Tomatoes are in vegetables
group.
Vocabulary: grain group, vegetables group, milk group, fat and sweets group,
meat and fish group, fruit group
Function: ให้ข้อมูลเก่ียวกบั อาหารและกลุ่มของอาหาร
2) Language Skills
Speaking: พดู ให้ขอ้ มูลเก่ียวกับอาหารและกลุม่ ของอาหาร
4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ใี ช้ในการสอ่ื สาร
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
- ทักษะการจัดกลมุ่
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ัน Warm Up
1. ครูกล่าวทักทายนกั เรยี นทงั้ ช้นั How are you? เมือ่ นักเรียนพดู ตอบแล้ว ครูสมุ่ เรยี กนกั เรยี น 5-6 คน
พดู ตอบครู โดยที่คาตอบต้องไม่ซ้ากนั เช่น
173
T: Hello. How are you?
S1: I’m good.
T: Hello. How are you?
S2: I’m OK. etc.
2. ทบทวนคาศัพท์เกย่ี วกบั อาหารโดยครตู ดิ บตั รภาพอาหารบนกระดาน จากนั้นใหน้ กั เรียนพูดบอก
คาศพั ทด์ งั กล่าว
3. เข้าสู่บทเรียนโดยถามคาถามนักเรียน 2-3 คาถาม เช่น
T: What is your favourite food?
S1: I like burgers and sausages.
T: What do you have for breakfast?
S1: I have rice and chicken. etc.
ขัน้ Presentation
1. ครูนาเสนอกลุ่มของอาหาร โดยวาดแผนที่ความคดิ (mind map) บนกระดาน ดงั นี้
Grain group Meat and fish group
Food groups
Vegetables group Milk group
Fruit group
ต่อมาครนู าเสนอคาศพั ทเ์ กยี่ วกบั อาหารกลุม่ ตา่ ง ๆ โดยแสดงบัตรภาพเพอ่ื ให้นกั เรยี นเดาความหมาย
ไดแ้ ก่ grain group (กลมุ่ ธัญพืช), vegetables group (กลุ่มผัก), fruit group (กลมุ่ ผลไม)้ , meat and
fish
group (กล่มุ เนอ้ื สตั วแ์ ละปลา), milk group (กลมุ่ นม)
จากนัน้ ครนู าภาพ My Plate ท่ีดาวนโ์ หลดจากเวบ็ ไซตม์ าแสดงใหน้ กั เรยี นดู แลว้ อธิบายว่า อาหารทเ่ี รา
รับประทานในแตล่ ะวนั แบง่ ไดเ้ ปน็ หลาย ๆ กลมุ่ ซึ่งแตล่ ะกลุม่ ก็จะมปี ระโยชนแ์ ตกต่างกันไป สดั สว่ น
การรบั ประทานแต่ละกลมุ่ ก็ไมเ่ หมือนกันด้วย เสร็จแล้วครูถามนกั เรยี นวา่ นักเรยี นควรจะรับประทาน
อาหารกลุม่ ใดมากทีส่ ดุ และควรรบั ประทานกลมุ่ ใดน้อยที่สดุ เพราะอะไร
ครูอธบิ ายเพิม่ เติมวา่ ปกติเราแบ่งอาหารออกเป็น 5 กลุ่ม แต่บางครั้งจะรวมกลมุ่ fat and sweets
group เขา้ ไปดว้ ย ซึง่ เป็นกลุ่มอาหารท่มี ีนา้ ตาลและไขมนั สงู
174
ครูสามารถดาวน์โหลดใบงาน My Plate ไดจ้ ากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://www.nourishinteractive.com/nutrition-education-printables/448-kids-my-plate-
picture-chart-printable-easy-healthy-eating-learning-food-groups
กลมุ่ ของอาหาร (food groups)
กลุม่ ธัญพืช (grain group) คอื อาหารจาพวกแปง้ และธัญพชื ร่างกายเราต้องการอาหารกลมุ่ นี้
มากท่ีสุด เพราะชว่ ยใหพ้ ลังงานและความอบอุ่นแกร่ า่ งกาย ทาให้รา่ งกายมแี รงเคล่อื นไหว
เพ่ือทางานหรือประกอบกจิ กรรมตา่ ง ๆ ได้ อาหารในกลมุ่ น้ี เชน่ ข้าว (rice), bread (ขนมปัง),
potato (มนั ฝรง่ั ), cereal (ธญั พืช)
กลุ่มผกั ตา่ ง ๆ (vegetables group) คอื อาหารจาพวกผักตา่ ง ๆ เปน็ กลุ่มอาหารทีร่ า่ งกาย
ตอ้ งการ
รองลงมาจากกลมุ่ ธญั พชื อาหารในกล่มุ นี้อุดมไปด้วยวติ ามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ช่วยเสริม-
สรา้ ง ควบคมุ การทางาน และช่วยควบคมุ การไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย อาหารใน
กลุ่มน้ี เชน่ carrot (แครอต), broccoli (บรอกโคล)ี , spinach (ผกั โขม)
กลมุ่ ผลไม้ (fruit group) คอื อาหารจาพวกผลไม้ กลุม่ นีอ้ ดุ มไปด้วยวิตามิน เกลอื แร่ และ
ใยอาหาร ชว่ ยให้ระบบขับถา่ ยดี ร่างกายสดชน่ื อาหารในกลุม่ น้ี เชน่ apple (แอปเปิล),
orange (ส้ม), banana (กลว้ ย)
กล่มุ เนอ้ื สัตว์และปลา (meat and fish group) คอื เนอื้ สัตวต์ า่ ง ๆ เชน่ หมู ปลา ไก่
อาหารกลมุ่ น้ใี หโ้ ปรตนี สงู ช่วยในการเจรญิ เติบโต ซ่อมแซมสว่ นที่สึกหรอ สร้างกระดกู
กลา้ มเนอื้ น้าย่อย ฮอรโ์ มน อาหารในกลมุ่ นี้ เชน่ fish (เน้ือปลา), chicken (เนื้อไก่),
beef (เนือ้ ววั )
กลุ่มนม (milk group) คอื อาหารทกุ ประเภทที่ทาจากนม เปน็ กลุ่มทีอ่ ุดมไปด้วยแคลเซยี ม
ช่วยเสริมสรา้ งกระดกู อาหารในกลุ่มนี้ เช่น yogurt (โยเกริ ์ต), cheese (เนยแข็ง), milk (นม)
นอกจากอาหารทง้ั 5 กลุ ม่ แลว้ ยงั มกี ลุ่มไขมนั และอาหารทีม่ นี ้าตาลสงู (fat and sweets group)
ซงึ่ รา่ งกายตอ้ งการในปรมิ าณทนี่ อ้ ยมาก อาหารหมู่นี้ช่วยให้ความอบอุน่ แกร่ า่ งกาย นกั เรยี น
สามารถรบั ประทานได้ แต่ไมค่ วรรับประทานในปรมิ าณมากเกนิ ไป เพราะจะทาให้เป็น
โรคอ้วนหรือมีโรคตา่ ง ๆ ทรี่ า้ ยแรงตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลอื ดสูง อาหาร
ในกลมุ่ นี้ เชน่ chocolate (ชอ็ กโกแลต), sweets (ลูกกวาด)
ทมี่ า: http://nutrition.anamai.moph.go.th/web/desise1.html
175
ครใู หน้ ักเรยี นฝกึ ฟังและสังเกตการออกเสยี งคาวา่ chocolate จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/chocolate
2. นาเสนอคาศัพท์เก่ยี วกับอาหาร ไดแ้ ก่ pasta (พาสตา้ ), sweets (ลกู กวาด), carrots (แครอต), peas
(ถว่ั ),
broccoli (บรอกโคลี), yoghurt (โยเกิร์ต), potato (มนั ฝรั่ง), chocolate (ชอ็ กโกแลต), honey (น้าผ้ึง),
butter (เนย), cherry (เชอรร์ ี), strawberry (สตรอว์เบอร์รี) โดยการชบู ตั รภาพ และให้นกั เรียนอ่าน
ออกเสยี งตามครู โดยลงเสยี งหนกั ในคาใหถ้ กู ตอ้ ง จากน้นั ครแู สดงบัตรภาพอกี คร้งั แลว้ ถามนกั เรียนวา่
What is this? และให้นักเรียนพูดบอก It is _____. ครถู ามนักเรยี นต่อวา่ อาหารแตล่ ะชนิดอยู่ในกลุ่มใด
เชน่
T: Which food group are tomatoes?
Ss: Tomatoes are in vegetables group.
T: Which food group is honey?
Ss: Honey is in fat and sweets group. etc.
การลงเสียงหนักในคา (word stress)
pasta carrots broccoli yoghurt
potato
cherry chocolate honey butter
strawberry
ครูสามารถดาวนโ์ หลดบัตรภาพเกี่ยวกับอาหารจากเวบ็ ไซต์ตอ่ ไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/food-flashcards
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Food_3/page1.htm
176
ข้ัน Practice
1. แบบฝึกหัด หนา้ 66 Ex. 1 ครอู ่านชื่อกลุ่มอาหารท่ใี ห้มาและใหน้ ักเรียนดภู าพอาหารและชว่ ยกนั บอกวา่
มอี าหารอะไรบ้าง เมอ่ื บอกอาหารครบทกุ กลมุ่ แล้ว ครอู อกเสียงคาศพั ท์ใหน้ ักเรยี นออกเสยี งตาม โดย
ครูย้าใหน้ กั เรยี นลงเสียงหนกั ในคาศัพท์ที่มมี ากกว่า 1 พยางค์ใหถ้ ูกต้อง เชน่ spaghetti, lettuce
Grain group: spaghetti, rice, bread, potato, crisps
Vegetables group: carrots, peas, lettuce
Fruit group: grapes, bananas, strawberry, cherry
Meat and fish group: fish, chicken, pork
Milk group: yoghurt, milk, cheese
Fat and sweets group: chocolate, honey, ice cream, sweets, hamburger
ตอ่ มาครูอ่านคาสัง่ และอธิบายคาวา่ the odd one out (สิ่งของท่ีไมเ่ ขา้ พวก) จากน้ันให้เวลานกั เรียน
วงกลมภาพอาหารทไี่ ม่เข้าพวก แล้วครูถามคาถามนกั เรียนเพือ่ รวบรวมคาตอบ เชน่ Look at the grain
group. Which food is not in the grain group? เม่ือได้คาตอบแลว้ ครูทากจิ กรรมเชน่ น้จี นครบทกุ
กล่มุ
อาหาร เสร็จแลว้ ครถู ามคาถามเพอ่ื ตรวจคาตอบของนักเรยี นอีกคร้งั เช่น
T: Look at the grain group. Which food is in the grain group?
Ss: Spaghetti, rice and bread are in the grain group.
T: Look at the vegetables group. Which food is in the vegetables group?
Ss: Carrots, peas and lettuce are in the vegetables group.
Items to be circled: hamburger
Grain Group: sweets
Vegetables Group:
Milk Group: potato
Fat and Sweets Group: grapes
Meat and Fish Group: crisps
Fruit Group: ice cream
2. แบบฝกึ หัด หน้า 67 Ex. 2 ครอู า่ นคาสั่งให้นักเรยี นฟงั และอธบิ ายภาระงานวา่ ใหน้ กั เรยี นดูภาพ แล้ว
เขียนคาตอบว่าอาหารในแตล่ ะขอ้ อย่ใู นกลุ่มใด จากนน้ั ครูอา่ นคาศพั ท์ในขอ้ 1 แลว้ ถามว่า Which food
177
group are potatoes in? จนได้คาตอบวา่ grain group แล้วครทู ากจิ กรรมเช่นเดยี วกันนก้ี ับข้อที่เหลอื
เม่ือนักเรียนตอบคาถามครบทกุ ข้อแล้ว ครูเขยี นเฉลยคาตอบอีกคร้งั บนกระดาน เพอื่ ให้นกั เรยี นตรวจ
คาตอบของตนเอง
1 vegetables group 2 fruit group
3 meat and fish group 4 fat and sweets group
5 milk group 6 meat and fish group
7 milk group 8 grain group
ขัน้ Production
แบบฝึกหดั หนา้ 67 หัวขอ้ Project Time ครแู บ่งนกั เรยี นออกเป็น 2-3 กลมุ่ จากนัน้ ครอู ธิบายภาระ
งาน
วา่ ให้นักเรยี นทาโปสเตอร์ food groups พรอ้ มกบั วาดภาพ ระบายสี และตกแตง่ ให้สวยงาม โดยให้
แต่ละกลุ่มค้นคว้าหาขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ตหรือหนงั สอื เกีย่ วกบั อาหารทอ่ี ย่ใู น food groups มาเพิ่มเตมิ
อกี กลุม่ ละ 5 อยา่ ง
ครสู ามารถเข้าไปศึกษาเกย่ี วกับ food groups เพ่ิมเตมิ จากเวบ็ ไซต์ต่อไปน้ี
www.choosemyplate.gov/MyPlate
http://healthy-kids.com.au/food-nutrition/5-food-groups/
7. การวดั และประเมินผล
วธิ กี ารวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินชิ้นงานโปสเตอร์ Food แบบประเมินชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
groups ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั (Workbook)
สังเกตพฤติกรรมบ่งชด้ี ้านใฝเ่ รยี นรแู้ ละ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง
มุ่งม่ันในการทางาน ประสงค์
178
8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 อุปกรณ์ทาช้ินงาน
8.4 บตั รภาพ
8.5 อินเทอรเ์ นต็
179
3 What’s the Weather Like?
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลาเรียน 12 ช่วั โมง
1 มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทีฟ่ งั และอ่านจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
ตัวชว้ี ัด อย่างมีเหตผุ ล
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัตติ ามคาสง่ั คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟี่ ังหรอื อ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกล่มุ คา ประโยค ข้อความงา่ ย ๆ และบทพดู
เข้าจังหวะถกู ต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์หรอื เคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยค
ต 1.1 ป.4/4 และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรอื อ่าน
ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนทิ านงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ
และ แสดงความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ชีว้ ดั พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป.4/1 ใช้คาสั่ง คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/2
ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขยี นแสดงความต้องการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์
งา่ ยๆ
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน และครอบครวั
ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรสู้ ึกของตนเองเก่ียวกับเรอื่ งต่าง ๆ ใกลต้ วั และกจิ กรรมตา่ ง ๆ
ตามแบบท่ฟี ัง
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองตา่ ง ๆ โดย
ตัวช้วี ัด การพูดและการเขียน
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตัว
180