The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Panudej Somrit, 2022-09-14 07:30:06

อ14101

อ14101

2. ใหน้ ักเรียนทากิจกรรมในแบบฝกึ หัด หน้า 12-13 หัวข้อ Modular Revision and Assessment 1
Exs. 1-6 โดยครใู หน้ ักเรียนทาพร้อมกันในเวลาเรยี น

Narrator: Listen, colour and draw.
Woman: Can you see the dog’s ears? Colour the dog’s ears brown!
Boy: Brown ears? The dog’s got brown ears?
Woman: Yes!
Boy: OK!
Narrator: Can you see the dog’s brown ears? Now, you listen and colour.
One
Woman: Now look at the dog’s head.
Boy: What colour is the head?
Woman: The head is yellow.
Boy: A yellow head! That’s funny.
Two
Woman: Can you see the dog’s body?
Boy: Yes! What colour is it?
Woman: Orange! The dog’s got an orange body!
Boy: An orange body? OK!
Three
Woman: Find the dog’s legs.
Boy: The dog’s legs. Right.
Woman: Colour the legs red.
Boy: That’s easy! Red legs!
Four
Woman: Now, draw a fish under the dog.
Boy: Pardon? Draw what under the dog?
Woman: Draw a fish under the dog and colour it black.
Boy: OK, a black fish under the dog.

81

Ex. 1 3 teeth 5 nose
1 hair 4 mouth
2 eyes

Ex. 2
1f 2b 3d 4e 5c

Ex. 3 2 Bill has got big feet.
1 Have they got dark eyes? 4 Her cat has got green eyes.
3 I haven’t got fair hair.
5 Mary has got five children.

Ex. 4 3a
1a 2b

Ex. 5 legs - red
ears - brown black fish - under the dog
head - yellow
body - orange

Ex. 6
1T 2F 3T 4F 5F

82

7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมนิ การพูด ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพูดขอและให้ขอ้ มูล แบบประเมินชิน้ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้
เกยี่ วกับบคุ คลจากเรือ่ งทอ่ี ่าน ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ชิน้ งานเขยี นบรรยาย แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เกีย่ วกบั นักร้องทชี่ ื่นชอบ แบบฝกึ หัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบทดสอบ
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ชด้ี ้าน
ใฝเ่ รยี นรู้และมงุ่ มน่ั ในการทางาน

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอื่ ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อินเทอรเ์ นต็

83

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 10 CLIL 1 How many legs?

เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกับจานวนขาของสัตวต์ า่ ง ๆ ได้
- เขียนประโยคขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกบั สัตว์ที่ชอบได้
- ปฏิบัตติ ามคาส่ังและเลน่ เกมทางภาษาได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งทฟ่ี ังและอ่านจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตผุ ล
ตัวช้วี ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัติตามคาส่ัง คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟี่ ังหรอื อา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ

และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครวั
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้

ได้อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะกับวัย
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ืน่
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรยี นร้อู ่ืน และเปน็

พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
ตัวชว้ี ดั
ต 3.1 ป.4/1 คน้ คว้า รวบรวมคาศพั ทท์ เี่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ น่ื และนาเสนอดว้ ย

การพูด/การเขียน

84

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรแู้ ละเขา้ ใจคาศัพท์เก่ียวกับสัตว์ โครงสรา้ งถาม-ตอบเกย่ี วกับจานวน ชว่ ยให้พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกับ

สาระการเรียนรอู้ ื่นได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Feathers and Functions

Structure: How many legs does a (cat) have?

Vocabulary: horse, cat, duck, spider, octopus, frog, elephant, dog,

parrot, hippo,

monkey, lion, more than

Function: บอกจานวน

2) Language Skills

Speaking: พดู บอกจานวนขาของสัตวต์ า่ ง ๆ

Writing: เขยี นประโยคขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สตั ว์ทช่ี อบ

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคดิ ท่ใี ช้ในการสอื่ สาร
- ทกั ษะการจัดกลุ่ม
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มงุ่ ม่นั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้น Warm Up
1. ครทู กั ทายนกั เรียนก่อนเข้าสบู่ ทเรียน
2. ทบทวนตวั เลข โดยครสู มุ่ เขียนจานวนนบั บนกระดาน จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นพดู บอกจานวนนับดังกล่าว เปน็
ภาษาอังกฤษ โดยครูบอกนักเรยี นวา่ หากนักเรียนตอ้ งการตอบให้ยกมอื ขึ้น โดยครพู ูดว่า

85

If you know the answer, raise your hand. นักเรยี นคนใดยกมอื ตอบเรว็ ทีส่ ุดจะไดเ้ ปน็ ผู้ตอบกอ่ น
ขัน้ Presentation
1. นาเสนอคาศัพท์ท่ีอยใู่ นบทเรียน ไดแ้ ก่ octopus (ปลาหมึกยกั ษ)์ , chicken (ไก่), butterfly (ผเี สอ้ื ), dog

(สนุ ขั ), duck (เปด็ ), donkey (ลา), crab (ป)ู , frog (กบ), spider (แมงมมุ ), snake (งู) และ elephant
(ชา้ ง) โดยติดบตั รภาพบนกระดาน จากน้ันช้ีที่คาศพั ทท์ ีละคา ให้ฝึกออกเสยี งตามครพู รอ้ มกันและทีละคน

ครูให้นกั เรยี นฝึกลงเสยี งหนกั ในคาทมี่ ี 2 พยางคข์ นึ้ ไป ดังนี้

octopus chicken butterfly

donkey spider elephant

ต่อมาครนู าบตั รภาพสตั วม์ าติดบนกระดาน และพดู คาสงั่ Point to the _____. เพ่ือให้นักเรยี นชี้ภาพ

สตั ว์
ทคี่ รบู อก เช่น

T: Point to the octopus.
Ss: (ชีท้ ปี่ ลาหมกึ )
T: Point to the butterfly.

Ss: (ชที้ ี่ผเี ส้อื )
2. ครเู ขยี นตารางต่อไปนี้บนกระดาน

no legs 2 legs 4 legs 6 legs 8 legs

ครเู ตรยี มบตั รภาพรปู สตั ว์ตา่ ง ๆ 9-10 ชนดิ เช่น แมว สุนัข นก เปน็ ต้น จากน้นั ชบู ัตรภาพข้นึ มาและ
ถามนักเรยี นวา่ How many legs does a cat have? ครูให้นักเรียนพดู ตามครู 1-2 ครง้ั และใหน้ กั เรียน
ตอบ
วา่ แมวมกี ขี่ า เมื่อตอบถูกต้องใหค้ รนู าภาพไปตดิ ไวใ้ นช่องจานวนขาของสัตว์ดังกล่าว เสร็จแลว้ ครแู จก
บัตรภาพที่เหลือใหน้ กั เรยี นเพ่อื นาไปติดในตารางให้ถกู ตอ้ ง
เม่ือตดิ บตั รภาพบนกระดานเสร็จแลว้ ครูถามนักเรียนวา่ Which animals have got no legs? ให้
นกั เรยี นดู
ข้อมูลจากในตารางและพูดตอบ ครทู ากิจกรรมเชน่ น้ไี ปเรือ่ ย ๆ จนถามขอ้ มลู ในตารางครบทกุ ช่อง
ต่อมาครูเขยี นคาถาม How many legs does a ____ have? บนกระดาน และใหน้ ักเรยี นจับคู่กับเพอื่ น
ข้างเคียง ผลัดกันพูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั จานวนขาของสตั วใ์ นตารางอกี ครั้ง
3. ครูสอนคาศพั ทท์ ใ่ี ช้ในการบวกเลขแบบงา่ ย ๆ กบั นกั เรยี น เชน่

86

+ อ่านวา่ plus

- อ่านว่า minus

= อา่ นวา่ equal

ตอ่ มาครูเขยี นโจทย์งา่ ย ๆ บนกระดาน และให้นกั เรยี นฝึกอ่านเปน็ ภาษาอังกฤษ เชน่

1+1 = 2 (one plus one equals two)

6-5 = 1 (six minus five equals one)

ข้ัน Practice
1. แบบฝึกหดั หนา้ 64 Ex. 1 ครูให้เวลานกั เรียนดภู าพและขอ้ ความทใ่ี ห้มา จากน้นั ครูอธบิ ายภาระงานให้

นกั เรยี นฟัง โดยครชู ี้ไปทภ่ี าพแมงมุมและถามนกั เรียนว่า What is this? เมอ่ื นกั เรียนตอบว่า A spider.
ครถู ามตอ่ วา่ How many legs does a spider have? จากน้ันครใู ห้เวลานกั เรียนนับจานวนขาของแมง
มุม
และตอบคาถามว่า A spider has got eight legs. ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเรื่อย ๆ จนครบทุกขอ้

a more than 6 legs d 6 legs
b 2 legs e no legs
c 4 legs

กิจกรรมเพม่ิ เตมิ
สตั ว์ที่มีมากกวา่ 6 ขา ครูอาจจะสอนใหน้ ักเรียนพดู ตอบโดยใช้ more than เชน่ A spider
has got more than six legs.
2. แบบฝกึ หัด หนา้ 64 Ex. 2 ครูอา่ นคาส่งั และอธบิ ายภาระงาน จากนนั้ ชไี้ ปท่ีตัวอย่างและอา่ นใหน้ กั เรยี น
ฟงั ครถู ามคาถาม How many legs does a horse have? เม่อื นักเรยี นตอบว่า Four. ครถู ามตอ่ วา่
How many legs does a cat have? จากนัน้ ครูเขียนคาตอบทง้ั 2 ขอ้ บนกระดาน และใหน้ ักเรยี นบวก
เลข
จานวนขาทงั้ หมด (4 + 4 = 8) ครใู หเ้ วลานักเรียนทาข้อที่เหลือ เสร็จแลว้ ครเู ขียนคาตอบบน
กระดานและให้นักเรยี นสลับกันตรวจคาตอบกับเพ่อื น

2 sixteen 3 twelve 4 eight
5 ten 6 six

87

3. ใหน้ ักเรียนดภู าพสตั วต์ ่าง ๆ อีกครงั้ แล้วจับคู่กันผลัดกันพูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั จานวนขาของสตั วใ์ น ภาพ
S1: How many legs does a horse have?
S2: Four.

4. แบบฝกึ หัด หน้า 65 Ex. 3 ใหน้ ักเรียนจบั ค่เู ลน่ เกม Board Game เพอื่ ทบทวนจานวนขาของสัตวท์ ีไ่ ด้
เรียนมาแล้ว โดยครูอธบิ ายวิธกี ารเลน่ เกมและให้นักเรยี นดภู าพในหนงั สอื เรียนตามไปด้วย จากนัน้ ครู
แนะนาคาศพั ทแ์ ละสานวนทใี่ ชใ้ นการเล่นเกม เชน่ Start. Finish. Miss a turn. Play again. Go back
to start.
วิธีการเล่นเกม
1) นักเรยี นเตรียมอุปกรณใ์ นการเลน่ ได้แก่ ลูกเตา๋ 1 ลกู และตวั เดนิ เท่าจานวนผ้เู ลน่ ซึ่งมสี ีหรือ
ลักษณะแตกต่างกนั
2) นักเรยี นเริ่มเลน่ เกม โดยผ้เู ลน่ คนใดก็ได้เปน็ คนทอดลูกเต๋า แลว้ ใชต้ วั เดินเดินไปตามชอ่ งเท่า
จานวนแต้มที่ได้ ถ้าไปหยดุ ท่ีชอ่ งใดให้บอกจานวนขาของสตั วช์ นดิ นัน้ ผู้ทเี่ ดนิ ไปถงึ ช่อง
Finish ก่อนเปน็ ฝา่ ยชนะ

ครอู าจทาใหเ้ กมสนกุ สนานมากขึน้ ด้วยการใหน้ ักเรยี นเลน่ เกม Rock, Paper, Scissors
เพื่อเสย่ี งทายวา่ ใครจะเป็นผู้ทอดลกู เตา๋

1 octopus: 8 legs (more than 6 legs)
2 chicken: 2 legs
3 Students play again.
4 butterfly: 6 legs
5 dog: 4 legs
6 duck: 2 legs
7 Students miss a turn.
8 donkey: 4 legs
9 crab: 10 legs (more than 6 legs)
10 frog: 4 legs
11 Students go back to start.

88

ขน้ั Production
ใหน้ ักเรยี นทางานคู่ ค้นหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นร้ตู ่าง ๆ เชน่ อนิ เทอรเ์ น็ตหรอื หนังสอื เกีย่ วกับสัตว์
ชนดิ อ่นื ๆ นอกเหนือจากทีเ่ รยี นอีก 5 ชนิด จากน้นั ให้นักเรยี นแตง่ บทพดู ถาม-ตอบเกีย่ วกับจานวนขา
ของสัตว์แต่ละชนิด เสรจ็ แลว้ ใหอ้ อกมาพดู สนทนาที่หนา้ ช้นั
ตัวอยา่ ง S1: How many legs does a giraffe have?
S2: A giraffe has got four legs.

7. การวัดและประเมินผล

วิธกี ารวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมนิ การพดู ขอและให้ข้อมูล แบบประเมินการพูด ผ่านเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ พอใช้
เก่ียวกับจานวนขาของสัตว์ ผา่ นเกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขยี นประโยคขอและ แบบประเมินการเขียน ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั สัตว์ทชี่ อบ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั (Workbook)

สังเกตการปฏิบัติตามคาสัง่ และ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้

เล่นเกมทางภาษา

สงั เกตพฤติกรรมบ่งชดี้ า้ น แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ

ใฝเ่ รียนรแู้ ละม่งุ มัน่ ในการทางาน ประสงค์

8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 บตั รภาพ/บัตรคาศพั ท์

89

2 Something to Eat

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลาเรยี น 13 ชั่วโมง

1 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งที่ฟงั และอา่ นจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

ตวั ชีว้ ดั อย่างมเี หตผุ ล
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟี่ ังหรอื อา่ น

ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
เขา้ จังหวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสัญลักษณห์ รือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
ต 1.1 ป.4/4 และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึก
และ แสดงความคดิ เห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วัด พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สารระหว่างบุคคล
ต 1.2 ป.4/1 ใช้คาสง่ั คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/2

ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขียนแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลือในสถานการณ์
ง่าย ๆ

ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน และครอบครัว

ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรสู้ ึกของตนเองเก่ยี วกับเร่อื งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และกิจกรรมตา่ ง ๆ
ตามแบบท่ฟี ัง

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดย
ตัวชีว้ ดั การพูดและการเขียน

ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว

90

ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของส่งิ ต่าง ๆ ใกลต้ ัวตามท่ีฟงั หรืออา่ น

สาระท่ี 2 ภาษากบั วฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้

ตวั ชว้ี ดั อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ต 2.1 ป.4/1 พดู และทาทา่ ประกอบอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของ

ภาษา
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกีย่ วกบั เทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชีวติ ความเปน็ อย่งู า่ ย ๆ ของ

ต 2.1 ป.4/3 เจ้าของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั
เข้าใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพอื่ นามาใชอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
ตัวชว้ี ัด

ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสยี งตัวอกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และข้อความของ
ต 2.2 ป.4/2 ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจ้าของภาษากับของไทย
สาระที่ 3 ภาษากับความสมั พันธ์กบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน และเป็น

พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
ตัวชว้ี ัด

ต 3.1 ป.4/1 ค้นควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ น่ื และนาเสนอดว้ ย
การพูด/การเขียน

สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพดู /อ่านในสถานการณ์ทเี่ กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเคร่อื งมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสงั คมโลก
ตัวชี้วัด
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมลู ต่าง ๆ

91

2 สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การรแู้ ละเข้าใจเรือ่ งท่ีไดศ้ ึกษา คาศพั ทส์ านวนและโครงสร้างภาษา หลักวธิ กี ารเขยี น ช่วยให้สนทนา
เขียนโต้ตอบ พดู /เขยี นส่ือสารเก่ียวกบั อาหาร และสถานการณ์ทีก่ าหนดไดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม

3 สาระการเรยี นรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Structure: Is there any cake? Yes, there is. Are there any chips? Yes,

there are.

What can I get you? Can I have a pizza and some salad,

please?

Thank you!
Are there any eggs? No, there aren’t. There’s some milk.

There are some tomatoes, but there aren’t any apples.

In the UK, people usually have a bowl of cereal and a cup

of tea in the mornings.

Which food group are tomatoes? Tomatoes are in

vegetables group.

Vocabulary: (food and drinks) chicken, fish, cheese, rice, bread, hot

dog, sausage, pizza, cake, ice cream, chips, salad, bacon, toast, cereal, waffle, cream, muffin,

orange juice, milk, water, coffee, tomatoes, banana, apples, blueberry, rambutans, durians,

mangosteens

(food groups) grain group, vegetable group, milk group, fat

and sweets group, meat and fish group, fruit group

(meals) breakfast, lunch, dinner, brunch, supper

(nouns) bowl, cup

(adjectives) popular, sweet, thirsty, hungry, bright, thick,

juicy, creamy, purple

Pronunciation: ออกเสียง /r/ และ /l/, ออกเสยี งสูง-ตา่ (intonation) ในภาษาองั กฤษ,

ออกเสียง /dʒ/, ออกเสยี ง /ʃ/ และ /tʃ/, ออกเสยี งคาท่ขี ้นึ ต้นดว้ ย cl,
ออกเสียงคาท่ีขึ้นต้นดว้ ย br

92

Functions: ขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั อาหาร, เสนอ ตอบรับและปฏเิ สธอาหาร,

สั่งอาหารในรา้ นอาหาร, ใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั อาหารเชา้ ท่ตี นเอง

รบั ประทานหรอื ต้องการรับประทาน, ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับอาหารและ

กลุ่มของอาหาร

2) Language Skills

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกับอาหาร, พูดเสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธ

เกยี่ วกับอาหาร, พดู สงั่ อาหารง่าย ๆ ในรา้ นอาหาร, พดู บอกสิง่ ทีม่ ี

และไมม่ ี, พูดใหข้ อ้ มูลเก่ยี วกับอาหารเชา้ ท่ตี นเองรับประทานหรือ

ต้องการรับประทาน, พูดขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั ผลไมใ้ นภูมภิ าค

อาเซียน, พูดใหข้ ้อมูลเก่ียวกับอาหารและกลุ่มของอาหาร

Writing: เขียนบรรยายสิง่ ท่ีมีและไมม่ ีในตเู้ ยน็ , เขียนบรรยายสิง่ ของทมี่ ีและ

ไมม่ ีในตูเ้ ย็นของตนเอง, เขียนบรรยายผลสารวจอาหารที่ชนื่ ชอบ,

เขยี นให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารเช้าทตี่ นเองรบั ประทาน, เขียนบรรยาย

สั้น ๆ เกี่ยวกับผลไม้ในประเทศอาเซียน

3) Culture: มารยาทของคนอังกฤษ, อาหารเชา้ แบบองั กฤษและแบบอเมริกนั ,

ผลไมใ้ นประเทศอาเซียน

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- ทักษะการคดิ ท่ีใช้ในการสื่อสาร
- ทักษะการนาความรู้ไปใช้
- ทักษะการจาแนกประเภท
- ทักษะการจดั กลมุ่
- ทกั ษะการใหเ้ หตุผล
- ทกั ษะการสารวจ
- ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

93

5 คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งม่ันในการทางาน

6 ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. การพดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับอาหาร โดยใช้โครงสรา้ ง Are there/Is there …?
2. ชน้ิ งานบัตรภาพและบตั รคาเก่ียวกับอาหาร
3. ชน้ิ งานแผนทคี่ วามคดิ คาศพั ท์คานามนับไดแ้ ละนับไมไ่ ด้
4. การสนทนาเกยี่ วกับอาหารท่มี แี ละไมม่ ใี นตูเ้ ย็น
5. การพดู นาเสนอ ตอบรับ และปฏเิ สธเกย่ี วกบั อาหาร
6. การพูดสนทนางา่ ย ๆ ในร้านอาหาร
7. การพดู แสดงบทบาทสมมตใิ นร้านอาหาร
8. ชิ้นงานการเขียนบรรยายสิ่งของทมี่ ีและไมม่ ใี นตเู้ ย็นของตนเอง
9. ชน้ิ งานการสารวจเกย่ี วกบั อาหารท่ชี น่ื ชอบ
10. ชิน้ งาน Breakfast in Thailand
11. ชน้ิ งานผลไม้ในภมู ิภาคอาเซียน
12. ช้ินงานโปสเตอร์ Food groups

7 การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ทาแบบฝกึ หัดในหนงั สือเรยี น หนา้ 16-27
- ทาแบบฝึกหัดใน Workbook หน้า 14-23
7.2 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินชน้ิ งานในข้อ 6

8 ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอื่ ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บัตรคาศพั ท์
8.5 อุปกรณ์ทาชน้ิ งาน
8.6 อินเทอรเ์ นต็

94

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 Are there any eggs? เวลา 1 ชว่ั โมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ท์เกี่ยวกับอาหารได้
- พดู ขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกับอาหารโดยใชโ้ ครงสรา้ ง Are there/Is there …? ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งที่ฟังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตุผล
ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ัตติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟ่ี งั หรอื อา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกล่มุ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู

เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรอื สญั ลกั ษณ์หรอื เครอื่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ
และ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

ตัวช้วี ดั
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครวั
ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรสู้ ึกของตนเองเกี่ยวกบั เรอ่ื งต่าง ๆ ใกล้ตวั และกิจกรรมตา่ ง ๆ

ตามแบบท่ีฟงั
สาระที่ 2 ภาษากับวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพอ่ื นามาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ตวั ชวี้ ัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

95

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม

ตวั ช้วี ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อ่านในสถานการณท์ ี่เกดิ ขน้ึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจความหมายของคาศัพท์เก่ียวกับอาหาร โครงสรา้ งภาษา ชว่ ยให้สนทนา พดู /เขียนส่ือสาร

ได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: Are there any eggs? No, there aren’t. There’s some milk.

Vocabulary: (food and drinks) rice, bread, burger, hot dog, sausage,

chicken, egg, pizza, banana, cake, orange juice, milk, ice

cream

(adjectives) thirsty, hungry

Pronunciation: ออกเสยี ง /r/ และ /l/, ออกเสยี งสงู -ต่า (intonation) ในภาษา-

องั กฤษ

Function: ขอและใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั อาหาร

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับอาหาร

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใี่ ชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝเ่ รียนรู้

96

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้ัน Warm Up

1. ครทู กั ทายนกั เรยี น How are you today? ให้นกั เรียนพูดตอบพร้อมกัน จากนนั้ ครสู มุ่ เรียกนักเรียน

3-4 คน ยนื เรยี งกัน โดยครูถามคาถามนกั เรียนคนท่ี 1 How are you today? เมอื่ นักเรียนคนที่ 1 ตอบ

แล้วให้นกั เรยี นคนที่ 1 ถามเพ่อื นคนถดั ไป โดยทคี่ าตอบของคนถดั ไปตอ้ งไมซ่ ้ากนั เชน่

T: How are you?

S1: I’m fine.

S1: How are you?

S2: I’m good.

S2: How are you?

S3: I’m OK.

2. ทบทวนคาศพั ทท์ ี่เรยี นไปแลว้ ในบทท่ี 1 เชน่ body, face, hand, ears, eyes, nose, lips โดยการเล่น

เกม

Hangman โดยครูจะขดี เสน้ ใต้บนกระดานสาหรบั ใช้เขียนตัวอักษรทจี่ ะทาย จากนัน้ ครูบอกวา่ ให้

นกั เรียนพูดบอกตัวอกั ษรทีค่ ิดวา่ มใี นคาศัพทด์ งั กล่าว ถา้ ไม่มี ครจู ะวาดสว่ นต่าง ๆ ของหุน่ ไป

เรอ่ื ย ๆ เรม่ิ จากหัว ลาตวั แขน ขา ถา้ หุ่นถูกแขวนคอเมอ่ื ไหร่ ถอื ว่าเกมส้ินสุดทนั ที

3. ครูถามนกั เรียนเกย่ี วกับอาหารทนี่ กั เรยี นช่ืนชอบ เช่น

T: What’s your favourite food?

S1: I like pizza.

S2: I like burger.

S3: I like fried chicken.

ครรู วบรวมคาตอบของนกั เรยี นมาเขียนบนกระดาน

4. ใหน้ กั เรียนทางานคู่ ชว่ ยกนั เขียนคาศพั ท์เกยี่ วกบั อาหารให้ไดม้ ากทสี่ ดุ เสร็จแล้วให้คู่ท่ีเขยี นได้

มากที่สดุ ออกมาอา่ นคาศพั ท์ให้เพื่อนฟงั

5. ครถู ามนักเรยี นเกยี่ วกบั อาหารเชา้ ดังนี้

T: Do you eat breakfast before getting to school?

Ss: Yes, I do. / No, I don’t.

T: What do you eat for breakfast?

S1: I eat rice and chicken.

S2: I eat pork and sticky rice. etc.

97

ขั้น Presentation

1. นาเสนอคาศพั ทเ์ กย่ี วกับอาหาร ได้แก่ rice (ขา้ ว), bread (ขนมปัง), burger (เบอร์เกอร์), hot dog

(ไส้กรอกที่ประกบด้วยขนมปงั ), sausage (ไสก้ รอก), chicken (ไก่), egg (ไข)่ , pizza (พซิ ซา), banana

(กลว้ ย), cake (เคก้ ), orange juice (นา้ สม้ ), milk (นม), ice cream (ไอศกรมี ) โดยการติดบตั รภาพไว้

บน

กระดาน และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกคาศพั ท์และความหมาย จากน้ันครูแสดงบัตรภาพทีละใบ

พร้อมกับอา่ นออกเสยี งและให้นกั เรียนพดู ตามครจู นครบทุกคา

ตอ่ มาครูสอนนักเรียนลงเสยี งหนักในคาทมี่ ีมากกว่า 1 พยางค์ ดงั น้ี

burger hot dog sausage chicken

pizza banana orange juice ice cream

ให้นกั เรยี นฝึกพดู ออกเสยี งตามครูหลาย ๆ คร้งั

ครูสามารถเขา้ ไปดาวน์โหลดบัตรภาพอาหารจากเวบ็ ไซต์ตอ่ ไปน้ี
http://esl-kids.com/flashcards/food.html

2. นาเสนอคาศพั ทเ์ กยี่ วกบั อาหารทน่ี ักเรียนควรรู้เพมิ่ เติม เช่น beans (ถั่ว), lemonade (น้ามะนาว),

soup (ซปุ ), sandwich (แซนด์วิช), coffee (กาแฟ), tea (ชา), vegetable (ผกั ) โดยครูเขียนคาศัพท์

บนกระดานและพูดบอกความหมาย จากนั้นให้นกั เรยี นพดู คาศพั ทแ์ ต่ละคาตามครูพร้อมกนั หรอื

ทลี ะคน โดยครูเนน้ ใหน้ ักเรยี นลงเสยี งหนักในคาทม่ี มี ากกว่า 1 พยางค์ใหถ้ ูกต้อง ดงั นี้

lemonade sandwich

coffee vegetable

กิจกรรมเพ่มิ เตมิ

ครูแนะนาเว็บไซต์ให้นกั เรยี นเข้าไปเล่นเกมฝกึ ฝนคาศัพท์เก่ยี วกบั อาหาร ดงั น้ี

http://www.eslgamesplus.com/food-vocabulary-word-search/

3. นาเสนอคานามนับไดแ้ ละนบั ไมไ่ ด้เกย่ี วกบั อาหาร โดยครูนาอาหารเข้ามาในห้องจรงิ ๆ ซง่ึ มีท้ัง

อาหารทเ่ี ป็นคานามนับได้ เชน่ burgers, sausages, eggs, bananas, oranges และคานามนบั ไม่ได้

เชน่

rice, bread, orange juice, milk, water จากนนั้ ครใู หน้ ักเรยี นนับจานวนสิ่งของท่อี ยู่บนโตะ๊ ครู โดยเริม่

จากเบอร์เกอร์ ไสก้ รอก ไข่ กลว้ ย และส้มท่ีวางอยู่บนโต๊ะครูก่อน ครถู ามคาถาม เชน่ How many

sausages are there on the table? ครอู าจจะช้ีและนบั จานวนไปพรอ้ ม ๆ กับนกั เรียน เชน่ One,

two,

98

three. There are three sausages on the table. ครูอธบิ ายว่า คานามเหลา่ น้ีถ้ามีมากกว่า 1 หรอื ท่ี
เรยี กวา่

คานามพหพู จน์ จะเตมิ s/es หลังคานาม หากเปน็ คานามเอกพจน์เราสามารถใช้ a/an นาหน้าคานามได้
เชน่ a burger, a sausage, an egg, a banana, an orange
ตอ่ มาเมอ่ื ถึงคานามนับไมไ่ ด้ ครูถามนักเรยี นว่า นกั เรยี นสามารถนับจานวนของข้าว ขนมปัง นา้ สม้ นม
และน้าได้หรือไม่ โดยไมน่ บั ภาชนะท่ีใส่ เมื่อรวบรวมคาตอบจากนักเรยี นแล้ว ครใู หน้ กั เรยี น อธิบาย
เหตุผลว่าทาไมจึงนับไม่ได้ เชน่ มีจานวนมากเกินไปจนนบั ไม่ได้ เปน็ ของเหลว เปน็ ตน้ ครูให้
นักเรียนชว่ ยกนั บอกอาหารทมี่ ลี ักษณะน้ีเพมิ่ เตมิ เชน่ sugar, salt, salad แล้วบอกนักเรียนว่า อาหาร
เหล่าน้ีถา้ จะนับจานวนใหน้ ับจากภาชนะที่ใส่ เชน่ a cup of sugar, a bowl of salad

คานามนบั ไดแ้ ละคานามนับไม่ได้ (countable and uncountable nouns)
1. คานามนบั ได้ (countable noun) คือ คานามทเี่ ราสามารถระบุไดว้ ่ามี กช่ี ้ิน กอ่ี ัน กต่ี วั

ก่ีแห่ง ฯ ล ฯ เช่น pencils, rubbers, books
2. คานามนบั ไม่ได้ (uncountable noun) คอื คานามที่เราไม่สามารถระบจุ านวนได้ อาทิ

ของเหลวต่าง ๆ เช่น milk, water, wine, sugar, rice หรือของท่มี ีปริมาณมาก ๆ เชน่
hair ซงึ่ คานามนับไม่ได้เหลา่ นจี้ ะไมส่ ามารถเปลยี่ นรูปไปเป็นพหพู จน์ได้
ทมี่ า: http://www.dailyenglish.in.th/countable-uncountable-noun/

กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครเู ปดิ คลิปวดิ โี อใหน้ ักเรยี นศกึ ษาเพม่ิ เติมเก่ยี วกบั คานามนับไดแ้ ละคานามนบั ไมไ่ ด้จาก
เวบ็ ไซต์ตอ่ ไปนี้
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-videos/how-many-sweets
4. ครเู ขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

There is some bread. There is a banana. There is an apple.
There are some eggs.
จากนัน้ ครูใหน้ กั เรียนปิดหนังสอื เรียน โดยพดู ประโยคคาส่ังวา่ Close the book. และครชู ้ีไปท่ี
กระดาน แล้วใหน้ กั เรยี นอา่ นตาม Look at the board. Repeat after me. เมือ่ นกั เรยี นอา่ นตามครูแลว้
ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันอธบิ ายโครงสรา้ งของ There is/There are เสรจ็ แล้วครอู ธบิ ายว่า There is ใช้กับ
คานามนับไมไ่ ด้ หรือคานามนบั ไดท้ ่ีมคี วามหมายเป็นหนึ่งหรอื เอกพจน์ ส่วน There are ใชก้ บั คานาม
นบั ไดท้ อ่ี ยใู่ นรูปพหพู จนห์ รือมากกวา่ 1 มโี ครงสร้างดงั นี้

There is + คานามเอกพจน์/คานามนบั ไม่ได้.
There are + คานา9ม9พหพู จน์.

เสรจ็ แล้วครใู ห้นกั เรียนแตง่ ประโยค โดยใช้โครงสรา้ ง There is/There are
ครอู าจใหน้ ักเรียนศึกษาข้อมลู เกี่ยวกับการใช้ There is/There are ในหนงั สอื เรยี น หน้า 83
หัวข้อ Grammar Handbook
5. นาเสนอโครงสรา้ ง Are there any ...? No, there aren’t. There is/are ... โดยครูแสดงบตั รภาพ
อาหารแล้ว
ถามคาถาม เช่น

T: (แสดงบตั รภาพ rice) Are there any bananas?
Ss: No, there aren’t. There is some rice.
T: (แสดงบัตรภาพ bananas) Is there any bread?
Ss: No, there isn’t. There are some bananas.
ครทู ากจิ กรรมเช่นนี้ไปเรอื่ ย ๆ จนนกั เรียนสามารถพูดได้คล่อง เสรจ็ แล้วครอู ธบิ ายโครงสร้างของ
ประโยคคาถามและการใช้ some และ any

Is there any + คานามเอกพจน์/คานามนบั ไมไ่ ด้?
Are there any + คานนามพหพู จน์?

การใช้ some และ any
some มักจะใชใ้ นประโยคบอกเล่า สามารถวางไวท้ ั้งหน้าคานามนบั ได้หรือนับไม่ได้ โดย
หากวางไวห้ นา้ คานามนบั ได้ คานามนัน้ ต้องอยใู่ นรูปพหพู จน์
ตวั อย่าง There are some bananas.

There is some chicken in the fridge.
ในบางกรณี เราสามารถใช้ some กับประโยคคาถามได้ ซงึ่ some หมายถงึ บางส่งิ บางอัน
เม่อื ตอ้ งการเสนอหรอื ขอร้อง
ตัวอยา่ ง Do you want some milk?

Can I have some chicken?
any มกั จะใช้ในประโยคปฏิเสธและประโยคคาถาม
ตวั อยา่ ง There isn’t any egg in the fridge.

Are there any eggs in the fridge?
ในบางกรณี เราสามารถใช้ any ในประโยคบอกเล่าได้ ซ่ึงมีความหมายวา่ อันไหนกไ็ ด้
ตัวอย่าง You can call me anytime.
ท่มี า: http://esl.fis.edu/grammar/rules/some.htm

100

6. นาเสนอคาศัพท์ ได้แก่ hungry (รู้สึกหวิ ), thirsty (รู้สึกกระหาย) โดยอธบิ ายวา่ ทง้ั 2 คานีเ้ ปน็
คาคณุ ศพั ท์

(adjective) จากนั้นครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกนั อธิบายวธิ ีการใชค้ าคณุ ศพั ท์ เสรจ็ แลว้ ครสู รปุ ให้นกั เรยี นดู
บนกระดาน ดังนี้

verb to be + คาคุณศพั ท์
คาคณุ ศพั ท์ + คานาม

ตัวอยา่ ง They are hungry.

There are a lot of hungry people.

ครอู าจแนะนาคาคุณศพั ท์เพม่ิ เตมิ ทีน่ กั เรียนควรรู้ เชน่ full (รู้สึกอิม่ ) ในประโยค I’m full.

7. ครูเขยี นคาศัพทต์ อ่ ไปน้ีบนกระดาน

lap rap

lice rice

low row

ครูอา่ นคาศพั ท์ทลี ะแถวและให้นกั เรียนพูดตามครู โดยใช้คาสงั่ Repeat after me. จากนั้นครเู ขยี น

ประโยคต่อไปน้ี

The baby likes to sit on my lap/rap. (lap)

I eat lice/rice every day. (rice)

He has a very low/row voice. (low)

เสร็จแลว้ ครูอา่ นออกเสยี งทลี ะประโยค ให้นกั เรียนฝึกฟงั และเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง จากนัน้ ครูเฉลย

คาตอบพรอ้ มย้าถงึ ความสาคญั ของการออกเสียง /l/ และ /r/ ใหถ้ กู ต้อง เพราะหากออกเสียงผิด

ความหมายกจ็ ะผิดเพีย้ นไป เช่น การออกเสียง /l/ แทนทจี่ ะออกเสยี ง /r/ ในประโยค I eat rice every

day. (ฉันกินขา้ วทกุ วนั ) เป็น I eat lice every day. (ฉนั กนิ เหาทกุ วัน) ครอู าจสุ่มเรยี กนักเรยี น 3-4 คน

อ่านออกเสยี งประโยคให้เพ่ือนในชน้ั ฟงั วา่ นักเรียนอา่ นถูกตอ้ งหรอื ไม่

101

การออกเสยี ง /l/ และ /r/ ในภาษาอังกฤษ

คนไทยสว่ นใหญม่ ักจะมปี ัญหาในการออกเสยี งพยัญชนะทา้ ย /l/ เพราะเป็นเสียงที่ไมม่ ีใน

ภาษาไทย คนไทยมักจะออกเสยี ง /l/ เป็น แม่กน แทน ซง่ึ ไม่ถูกต้องตามหลักการออกเสยี ง

ในการออกเสียง /l/ ท้ายคา เราจะตวดั ล้นิ ขึ้นมาแตะท่เี พดานปากติดกบั ฟนั บน

ตวั อย่างคาศัพท์

pool doll bill apple meal

เสียง /r/ เปน็ อีกเสียงหนึ่งทีค่ นไทยมักจะออกเสยี งไม่ถกู ต้อง เพราะเข้าใจว่าออกเสียงเหมือน

“ร” ในภาษาไทย แตค่ วามจริงแลว้ มคี วามแตกตา่ งกนั เพราะเสยี ง /r/ ในภาษาอังกฤษไมม่ ี

การกระดกล้ิน เสียง /r/ จะมีการห่อล้นิ ขึน้ มาใหอ้ ยู่ตรงกลางช่องปาก

ตัวอยา่ งคาศัพท์

read rice rope ring run

ทีม่ า: http://betterenglishforthai.net/book_pronunciation/chapter5/

กิจกรรมเพม่ิ เตมิ
ครอู าจเปดิ คลิปวิดีโอใหน้ กั เรียนฝกึ การออกเสยี ง /l/ และ /r/ เพิ่มเติมที่
https://www.youtube.com/watch?v=lVQcMQsSNWA
หรือใหน้ ักเรียนไปฝกึ ดว้ ยตนเอง โดยครบู อกคาสาคญั เชน่ /l/, /r/ pronunciation หรอื ช่อื คลปิ
[l] vs. [r] | English Pronunciation Lesson ใหน้ กั เรียนเขา้ ไปเปดิ ดดู ้วยตนเองท่ี
www.youtube.com

ขัน้ Practice
1. หนงั สือเรียน หนา้ 16 Ex. 1 ครพู ดู บอกนกั เรียนวา่ Look at the pictures. What do you see in

the pictures? จากน้นั ครอู ธบิ ายภาระงานใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ครูเปดิ CD ใหน้ ักเรียนฟงั และช้ีภาพตาม
1-2 รอบ เสร็จแล้วครใู หน้ กั เรียนอ่านคาศัพท์ตาม CD พรอ้ มกนั และทีละคน ครูสังเกตวา่ นกั เรยี น
ออกเสียงถกู ต้องหรือไม่

rice, bread, burger, hot dog, sausage, chicken, egg, pizza, banana, cake,
orange juice, milk, ice cream, thirsty, hungry

2. หนังสือเรียน หนา้ 16 Ex. 2 ครอู ธบิ ายภาระงาน โดยให้นกั เรยี นดภู าพในข้อ 1 และถามว่า Are there
any eggs? เม่อื ไดค้ าตอบว่า No, there aren’t. There’s some milk. ครทู ากิจกรรมเชน่ เดยี วกนั น้ีจนครบ
ทกุ ขอ้

102

2 A: Are there any sausages?
B: No, there aren’t. There’s some rice.

3 A: Are there any burgers?
B: No, there aren’t. There’s some chicken.

4 A: Are there any hot dogs?
B: No, there aren’t. There’s some bread.

เสรจ็ แล้วครูใหน้ ักเรียนจบั คู่ ผลัดกนั ถาม-ตอบเกี่ยวกับอาหารทั้งหมดอกี คร้งั เสรจ็ แลว้ ครูสุม่ เรยี ก
นกั เรยี น 3-4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบที่หนา้ ช้นั
3. ครูแบ่งกระดานออกเป็น 2 ฝ่ัง ฝ่งั ซ้ายครูเขยี น hungry และฝั่งขวาเขยี นว่า thirsty จากน้ันครใู ห้นักเรยี น
ผลดั กันออกมาเขียนชอื่ อาหารหรอื เคร่ืองดมื่ บนกระดาน ครอู าจใบ้โดยชไี้ ปทฝี่ ่ัง thirsty แล้วพูดว่า
It’s something you can drink. สว่ น hungry พูดวา่ It’s something you can eat.

ข้ัน Production

1. ใหน้ ักเรียนทางานคู่ ทาบัตรภาพและบัตรคาอาหารทีเ่ รยี นในช่ัวโมงนอ้ี ยา่ งนอ้ ย 4 ชนิด

2. ใหน้ กั เรยี นคู่เดมิ นาบตั รภาพท่ีได้ทาไวม้ าผลดั กันถาม-ตอบ โดยใชโ้ ครงสรา้ ง Are there any ...? และ

Is there …? เสร็จแลว้ ครใู หน้ กั เรยี นออกมาพดู สนทนาหนา้ ชนั้ พรอ้ มท้ังแสดงบตั รภาพอาหารของ

ตนเอง

ตวั อยา่ ง S1: Is there any pizza?

S2: No, there isn’t.

S1: Are there any bananas?

S2: Yes, there are. etc.

3. ใหน้ ักเรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหัด หนา้ 14 Exs. 1-2 เปน็ การบ้าน

Ex. 1

1 banana 2 rice 3 chicken 4 bread
7 burger 8 hot dog
5 cake 6 sausage

Ex. 2

Drinks: milk, orange juice Food: hot dog, eggs, rice

103

7. การวดั และประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ระดับคุณภาพ พอใช้
ประเมินการพดู ขอและใหข้ ้อมูล แบบประเมนิ การพูด ผ่านเกณฑ์

เก่ียวกับอาหาร โดยใช้ Are there/ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
Is there…? ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินช้ินงานบตั รภาพและบัตรคา แบบประเมินชน้ิ งาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
อาหาร ผ่านเกณฑ์

สงั เกตการออกเสียง /r/ และ /l/ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

การเรียนรู้

ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั (Workbook)

สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ดี ้านใฝเ่ รียนรู้และ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอัน

มงุ่ มนั่ ในการทางาน พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ/คาศพั ท์
8.5 อุปกรณท์ าชิ้นงาน
8.6 อนิ เทอรเ์ นต็

104

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 Is there any cake?

เวลา 1 ชัว่ โมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กยี่ วกับอาหารได้
- พูดและเขยี นบรรยายโดยใช้ There is และ There are ไดถ้ ูกตอ้ ง
- พูดขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกับอาหารโดยใช้โครงสรา้ ง Are there/Is there…? ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งทฟ่ี งั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกล่มุ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด

เขา้ จังหวะถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรอื สัญลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และข้อความส้ัน ๆ ทฟ่ี ังหรอื อ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ
และ แสดงความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวช้วี ัด
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง เพ่ือน และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพูดและการเขยี น
ตวั ชี้วัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกับตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว
สาระท่ี 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพ่อื นามาใชอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
ตัวชี้วดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตัวอักษร คา กล่มุ คา ประโยค และข้อความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

105

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม

ตัวชวี้ ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อ่านในสถานการณ์ที่เกดิ ขึ้นในห้องเรยี นและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเครื่องมอื พ้ืนฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี
และการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศัพท์เกยี่ วกบั อาหารและโครงสร้างภาษา ชว่ ยใหส้ นทนา พดู และเขยี นสือ่ สารได้อยา่ ง

ถูกต้องและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: Is there any cake? Yes, there is.

Pronunciation: ออกเสยี ง /dʒ/

Function: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกับอาหาร

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มูลเก่ยี วกับอาหารโดยใช้โครงสรา้ ง Are there/

Is there…?

Writing: เขียนบรรยายสิ่งท่มี แี ละไม่มใี นต้เู ยน็

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ท่ีใชใ้ นการสอ่ื สาร
- ทักษะการจาแนกประเภท
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

106

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้ัน Warm Up

1. ทบทวนคาศัพทเ์ ก่ียวกับอาหารดว้ ยการเลม่ เกม Memory Game โดยครแู บง่ นกั เรียนเป็นกลุม่ แล้วนา

บตั รภาพและบัตรคาเก่ียวกบั อาหารมาแจกนกั เรยี นกลมุ่ ละ 1 ชดุ ครูอธบิ ายวธิ กี ารเลน่ เกมวา่ ให้

แตล่ ะกลมุ่ แบ่งเป็น 2 ทมี จากนั้นให้นักเรยี นแตล่ ะทีมชว่ ยกนั เรยี งบตั รภาพ 1 แถว บตั รคา 1 แถว และ

แต่ละทีมช่วยกนั จดจาตาแหน่งของภาพและคาศพั ท์ให้ไดภ้ ายใน 10 วนิ าที เสรจ็ แล้วให้แต่ละทมี

ชว่ ยกนั หาภาพที่ตรงกับคาศพั ท์ หากไมต่ รงให้นกั เรียนปิดภาพไว้เหมอื นเดมิ ถ้าตรงใหอ้ ่านออกเสยี ง

คาศพั ทแ์ ละบอกความหมาย ทีมทีเ่ ปดิ บตั รภาพและบัตรคาตรงกนั ได้มากทส่ี ดุ เปน็ ทมี ท่ีชนะ

2. ทบทวนการลงเสยี งหนักในคาศพั ท์เกย่ี วกับอาหาร ดังนี้

burger hot dog sausage chicken

pizza banana orange juice ice cream

lemonade sandwich coffee vegetable

โดยครชู ที้ ค่ี าศพั ทแ์ ตล่ ะคา ให้นกั เรยี นอ่านออกเสียงพรอ้ มกัน

3. ทบทวนคานาม โดยครแู สดงบตั รภาพคานามท้ังเอกพจน์ พหพู จน์ และคานามนบั ไมไ่ ด้ ให้นกั เรียนดู

ทีละภาพ ถา้ เป็นคานามเอกพจน์ ให้นักเรยี นพูดบอกคาศพั ท์โดยมี a หรือ an นาหนา้ เช่น an apple,

a banana ถา้ เป็นคานามนบั ไมไ่ ดห้ รือคานามพหพู จน์ ให้ใช้ some เช่น some rice, some apples

T: แสดงภาพแอปเปลิ 1 ผล

Ss: an apple

T: แสดงภาพแอปเปิลหลายผล

Ss: some apples

การใช้ a และ an
a วางหนา้ คานามนับไดท้ ขี่ ึ้นตน้ ดว้ ยพยญั ชนะ เช่น a sausage, a banana, a tomato
ข้อยกเว้น คาทข่ี น้ึ ต้นดว้ ยพยัญชนะบางคาทอ่ี อกเสยี งเป็นสระ ใช้ an นาหน้า เชน่ an hour
an วางหนา้ คานามนบั ไดท้ ีข่ ึน้ ต้นดว้ ยสระ เช่น an apple, an orange, an egg
ข้อยกเวน้ คาทขี่ น้ึ ต้นดว้ ยสระบางคาทีอ่ อกเสยี งเป็นพยัญชนะ ใช้ a นาหนา้ เช่น a university

4. ทบทวนโครงสรา้ ง There is และ There are โดยใช้บตั รภาพชดุ เดียวกับที่ใช้เล่นเกม Memory Game

107

ครูชบู ตั รภาพข้นึ ให้นักเรียนพดู บอกสง่ิ ทเี่ ห็น เชน่ There is an orange. There is some chicken.
There are some sausages. เสร็จแลว้ ครเู ขียนสรุปโครงสรา้ งอีกคร้ังบนกระดาน ดงั นี้

There is some + คานามนบั ไม่ได้.
There is a/an + คานามเอกพจน์.
There are some + คานามพหูพจน์.

5. ทบทวนการใช้ some และ any โดยครูเขยี นประโยคต่อไปนีบ้ นกระดาน

Are there ________ eggs? (any)

There aren’t ________ eggs. (any)

There are ________ bananas. (some)

เสรจ็ แลว้ ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ตอบ จากนัน้ ครูสรปุ อกี ครั้งว่า some ใช้กับประโยคบอกเลา่ สว่ น any

ใชก้ ับประโยคคาถามและปฏิเสธ

กิจกรรมเพ่มิ เตมิ

ครูใหน้ กั เรียนฝกึ การใช้ some และ any เพม่ิ เตมิ ทเี่ ว็บไซต์ต่อไปน้ี

https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-practice/nouns-countable-and-

uncountable

ใหน้ กั เรียนศกึ ษาวิธกี ารใช้ some และ any ในหัวขอ้ Grammar Rule กอ่ น จากน้นั เลือกหวั ขอ้

Game

6. ทบทวนการออกเสียง /l/ และ /r/ โดยเขยี นคาตอ่ ไปนบ้ี นกระดาน

lice rice

low row

law raw

lap rap

จากนัน้ ครเู ลือกอา่ นคาศพั ท์ 1 คาในแตล่ ะแถว ใหน้ ักเรียนฟงั และชว่ ยกนั ตอบวา่ เปน็ คาใด

ขนั้ Presentation
1. นาเสนอโครงสร้าง There isn’t any + คานามนับไม่ได้. และ There aren’t any + คานามพหพู จน.์

โดยการวาดภาพบนกระดานหรอื ใช้บัตรภาพและพูดประโยค เช่น There isn’t any bread. There
aren’t

any apples.
2. นาเสนอโครงสรา้ งถาม-ตอบเกย่ี วกบั อาหารโดยครูเขียนประโยคต่อไปนบี้ นกระดาน

A: Are there any eggs?
B: Yes, there are./No, there aren’t. But there’s some milk.

108

เสรจ็ แล้วครูอา่ นออกเสยี งประโยคให้นกั เรียนพูดตาม จากนนั้ ครอู ธิบายวา่ โครงสร้าง Are there any …?
ใช้ถามว่า ม…ี หรือไม่ หากมเี ราจะตอบวา่ Yes, there are. หากไมม่ ีเราจะพูดวา่ No, there aren’t.
หรือ
No, but there’s some ____.

เสยี งสูง-ตา่ ในภาษาอังกฤษ (intonation)
ภาษาอังกฤษเปน็ ภาษาทม่ี ีเสียงสูง-ต่า (intonation) ดังนนั้ นอกจากการเรยี นรไู้ วยากรณ์

ภาษาอังกฤษแลว้ เรายังตอ้ งเรียนรู้การออกเสียงของเจา้ ของภาษา เพื่อทเ่ี ราจะไดส้ อื่ สาร
ภาษาอังกฤษไดอ้ ย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยในการฟงั ภาษาอังกฤษให้มปี ระสิทธิภาพมากขนึ้
โดยท่ัวไป intonation ในภาษาองั กฤษมี 2 รูปแบบ คอื
1. Falling intonation คือ การลงเสยี งตา่ ใช้กับประโยคทม่ี ใี จความสมบรู ณธ์ รรมดา,

ประโยคคาถามแบบ Wh-question, ประโยคคาสงั่
ตวั อย่าง I want to see him again.

What do you usually eat for lunch?
Sit down.

2. Rising intonation คือ การขึ้นเสยี งสูง ใช้กบั ประโยคคาถามทเ่ี ป็นแบบ yes/no
question
ตวั อยา่ ง Are there any apples?
Do you want some pizza?

ที่มา: http://www.pasaangkit.com/การออกเสียงสงู ต่าในภาษ/

3. ครูวาดภาพโตะ๊ อาหารบนกระดานและวาดอาหารลงบนโต๊ะดังกลา่ วทลี ะอย่าง ใหน้ ักเรยี นฝึกพดู

บรรยายอาหารทมี่ อี ยู่บนโตะ๊ อาหารน้นั

เช่น S1: There are some hot dogs.

S2: There is some tea.

S3: There is an apple. etc.

เพื่อใหเ้ กิดความสนุกสนาน ครูอาจแบ่งนกั เรียนเปน็ 2 ทมี และให้แตล่ ะทมี สง่ ตวั แทนมาเลน่ เกม

Rock, Paper, Scissors ทีมทีช่ นะ จะได้สทิ ธิพ์ ดู บรรยายกอ่ น หากบรรยายไดถ้ ูกต้อง จะไดป้ ระโยคละ

1 คะแนน สุดท้ายทมี ทไ่ี ด้คะแนนมากทสี่ ุดเปน็ ทีมท่ีชนะ

109

การออกเสยี ง /dʒ/

ครูควรย้าใหน้ ักเรียนออกเสยี ง /dʒ/ ให้ถกู ตอ้ ง เพราะเปน็ เสยี งท่ไี มม่ ีในภาษาไทย คนไทย

สว่ นใหญม่ ักจะออกเสยี งเปน็ เสียง “จ” ซ่งึ ริมฝีปากไม่ห่อกลมและเสน้ เสียงไมส่ ัน่ ซ่ึงแตกตา่ ง

จากการออกเสยี ง /dʒ/ ในภาษาอังกฤษซึ่งตอ้ งห่อริมฝปี ากและเส้นเสยี งสั่นเพราะ /dʒ/ เป็น

เสยี งกอ้ ง

ตวั อย่างคาศพั ท์

juice jam vegetable orange

age large soldier sausage

กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครอู าจเปดิ คลิปวิดโี อสนั้ ๆ ให้นักเรียนศกึ ษาเพิ่มเตมิ เกย่ี วกบั การออกเสยี ง /dʒ/ จากเว็บไซต์
ต่อไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=unfuGPc3iXo
หรอื ใหน้ กั เรียนไปฝกึ ด้วยตนเอง โดยครบู อกคาสาคญั เช่น j sound หรอื ชือ่ คลปิ English:
How to Pronounce CH [tʃ] and JJ [ʤ] Sounds: American Accent ใหน้ ักเรียนเข้าไปเปดิ ดู
ดว้ ยตนเองท่ี www.youtube.com

ขั้น Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 3 ครอู ธิบายภาระงาน จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นทาขอ้ 1 รว่ มกันเพ่ือเปน็
ตัวอย่าง

ต่อมาครูใหเ้ วลานกั เรียนเตมิ คาตอบขอ้ ทเี่ หลอื เสร็จแล้วครสู มุ่ เรยี กนกั เรียนอ่านประโยคทีเ่ ตมิ คา
สมบรู ณ์แลว้ ทลี ะคน ครูเขยี นคาตอบทถี่ กู ต้องบนกระดานอกี ครงั้
ครอู าจสอนคาศัพทเ์ พิม่ เตมิ โดยให้นักเรียนดภู าพและถามว่า ผ้าคลุมโตะ๊ ในภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร
เสร็จแล้วครูเขยี นคาตอบใหน้ ักเรยี นดู คอื tablecloth และให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งตามครู โดยครูเนน้
ให้นกั เรยี นลงเสยี งหนกั ในคาใหถ้ กู ตอ้ งเปน็ tablecloth

1 There is 3 There is 5 There is
2 There are 4 There are 6 There is

110

2. หนงั สอื เรียน หน้า 17 Ex. 4 ให้นักเรียนดภู าพตูเ้ ยน็ พร้อมกับสอนคาวา่ fridge จากนนั้ ครูถามคาถาม
นกั เรยี น ดังนี้
T: Look at the fridge. Is there any rice?
Ss: No, there isn’t.
T: Are there any oranges?
Ss: Yes, there are.
เมอื่ ถามเกี่ยวกับอาหารในตู้เย็นจนครบแล้ว ครใู ห้นกั เรียนอา่ นบทสนทนาตามครู และเติมคาท่ขี าด
หายไปในแตล่ ะข้อด้วย some หรือ any เสรจ็ แลว้ ครขู ออาสาสมคั รนกั เรยี นลกุ ขึน้ อา่ นบทสนทนาที่
เติมคาสมบูรณแ์ ลว้ ให้เพอื่ นฟัง

1 any 3 any 5 any 7 some
2 some 4 some 6 some

3. ใหน้ กั เรียนจับคู่ ผลัดกนั พดู บทสนทนาใน Ex. 4 อีกครงั้ ครใู ห้เวลานักเรียนฝึกซ้อม 5 นาที จากนัน้ ครู
สุ่มเรยี กนักเรยี น 2-3 คู่ ออกมาสนทนาที่หนา้ ชัน้

4. หนังสือเรยี น หน้า 17 หวั ขอ้ Let’s play! ใหน้ ักเรยี นดภู าพโตะ๊ อาหารใน Ex. 3 อกี ครง้ั จากนน้ั ให้
นักเรียนจบั คู่ แต่งประโยคถาม-ตอบเก่ียวกับอาหารที่อยู่ในภาพ โดยใชโ้ ครงสร้างถาม-ตอบ Is there
any …? Are there any …? เสรจ็ แลว้ ออกมาพดู สนทนาท่ีหนา้ ช้ัน
ตัวอย่าง S1: Is there any cake?
S2: Yes, there is.
S1: Are there any bananas?
S2: Yes, there are.
S1: Is there any milk?
S2: Yes, there is.
S1: Are there any oranges?
S2: Yes, there are.

ขน้ั Production
1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม ทาแผนทีค่ วามคิด (mind map) สรปุ คานามนบั ได้และคานามนบั ไมไ่ ด้ที่ได้เรียนมา

ท้งั หมด รวมทงั้ ให้คน้ หาคาศัพท์เพิม่ เติมจากอินเทอรเ์ น็ตหรอื ในหนังสอื มาอีกอยา่ งละ 5 คา

111

คานามนบั ได้ คานาม

burger, hot dog, คานามนบั ไม่ได้
sausage, egg, pizza,
banana, cake rice, bread, chicken,
pizza, cake, orange
juice, milk

ice
pizza แcลrะeacmake เปน็ ท้งั คานามนับไม่ได้และคานามนับได้
pizza ถา้ เป็นคานามนบั ไม่ได้จะหมายถึงพซิ ซ่าโดยทั่วไป เช่น I love pizza. แตถ่ า้ เป็น
คานามนบั ไดจ้ ะหมายถงึ พซิ ซ่าท่ีสามารถนบั เป็นชิ้นได้ เชน่ I’d like to have three
sausage pizzas, please.
cake ถ้าเป็นคานามนบั ไมไ่ ด้จะหมายถึงเคก้ โดยทว่ั ไป เช่น I really like chocolate cake.
ถ้าเป็นคานามนบั ไดจ้ ะหมายถึง เค้กทีส่ ามารถนบั เป็นชิ้นได้ เช่น Can I have a cake?

2. ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนวาดภาพตู้เยน็ ของตนเองและวาดอาหารในตเู้ ยน็ 5-6 อยา่ ง จากนน้ั ให้
นกั เรยี นจบั คู่ แต่งบทสนทนาเกยี่ วกับอาหารทม่ี ีหรือไมม่ ีในตู้เยน็ เสรจ็ แลว้ ให้นักเรียนออกมาผลัดกนั
สนทนาถาม-ตอบท่หี นา้ ชนั้ พร้อมกบั แสดงภาพทต่ี นเองวาด
ตัวอย่าง S1: I’m hungry. Is there any pizza?
S2: No, there isn’t. There are some burgers.
S1: Is there some rice?
S2: No, there isn’t. There is some bread.
S1: Is there some milk?
S2: Yes, there is. There is some orange juice too.
S1: Oh, I love orange juice!

3. ให้นักเรียนทากจิ กรรมในแบบฝึกหัด หน้า 15 Exs. 3-4 เป็นการบา้ น

112

Ex. 3

3 There’s some chicken. 4 There aren’t any hot dogs.
There aren’t any eggs.
5 There are some sausages. 6
8 any
Ex. 4

2 any 4 some 6 some

3 some 5 any 7 some

7. การวดั และประเมินผล

วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ประเมินชน้ิ งานแผนท่ีความคิด แบบประเมินชนิ้ งาน ผา่ นเกณฑ์

คาศพั ทค์ านามนับไดแ้ ละ ระดับคุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
นับไมไ่ ด้ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมนิ การสนทนาเกีย่ วกับอาหารที่ แบบประเมินการเขียน ผา่ นเกณฑ์

มีและไม่มีในตเู้ ยน็

ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหัด (Workbook)

สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ดี า้ นใฝเ่ รยี นรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง

และมุ่งม่ันในการทางาน ประสงค์

8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณท์ าช้ินงาน
8.5 บัตรภาพ/คาศพั ท์
8.6 อนิ เทอร์เน็ต

113

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 Are there any chips? เวลา 1 ชวั่ โมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ท์เก่ยี วกับอาหารได้
- พดู เสนอ ตอบรับและปฏเิ สธอาหารได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อยา่ งมเี หตผุ ล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพดู

เขา้ จังหวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณห์ รือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และข้อความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรอื อา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สึก
และ แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวช้วี ัด
ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโต้ตอบในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขียนแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์

ง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรสู้ ึกของตนเองเกยี่ วกับเร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตวั และกจิ กรรมตา่ ง ๆ

ตามแบบทีฟ่ งั
สาระท่ี 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้

อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกยี่ วกบั เทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชวี ิตความเป็นอยูง่ า่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพือ่ นามาใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

114

ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสยี งตัวอักษร คา กลมุ่ คา ประโยค และข้อความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทัง้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

ตัวช้วี ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศัพทเ์ กย่ี วกับอาหารและโครงสร้างภาษา ชว่ ยใหส้ นทนา พดู และเขียนส่อื สารได้อย่าง

ถกู ต้องและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: Are there any chips? Yes, there are. Is there any pizza?

Vocabulary: chips, fish, pizza, apples, cheese, water, tomatoes, salad

Pronunciation: ออกเสยี ง /ʃ/ และ /tʃ/

Function: การเสนอ ตอบรบั และปฏิเสธเกี่ยวกบั อาหาร

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอ่ื ความเข้าใจ

Speaking: พูดเสนอ ตอบรับและปฏเิ สธเกี่ยวกบั อาหาร

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

115

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุง่ ม่นั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ขัน้ Warm Up

1. ครูและนกั เรยี นกล่าวทกั ทายกนั จากน้นั ให้นกั เรยี นทักทายเพอ่ื นที่น่งั ขา้ งหนา้ และขา้ งหลงั ของตนเอง

2. ทบทวนโครงสรา้ งภาษาท่ีเรียนมาแลว้ โดยครวู าดโตะ๊ อาหารบนกระดาน จากน้ันวาดภาพอาหารลง บน

โต๊ะดังกลา่ ว เช่น bananas, cake, milk, burgers, bread, eggs เสรจ็ แลว้ ครูถามคาถามนกั เรยี น เช่น

T: Are there any eggs?

S: Yes, there are.

T: Is there any cake?

S: Yes, there is.

T: Are there any pizzas?

S: No, there aren’t. etc.

ขั้น Presentation

1. นาเสนอคาศัพทเ์ ก่ียวกับอาหาร ไดแ้ ก่ cheese (เนยแขง็ ), fish (ปลา), chips (มนั ฝรง่ั ทอด), water

(น้าเปล่า), tomatoes (มะเขือเทศ), pizza (พซิ ซา่ ), salad (สลดั ), apples (แอปเปลิ ) โดยการแสดง

บตั รภาพหรอื อาจนาของจรงิ มาวางหนา้ ชนั้ จากนน้ั ให้นักเรียนชว่ ยกนั บอกวา่ คานามใดเปน็ คานาม

นบั ได้ คานามใดเป็นคานามนับไมไ่ ด้

คานามนบั ได:้ chips, tomatoes, pizza, apples

คานามนับไม่ได:้ cheese, fish, water, salad

ต่อมาครูชี้ท่ีอาหารแต่ละชนดิ และอ่านออกเสยี งใหน้ ักเรยี นฟงั และพดู ตาม โดยเนน้ ใหน้ ักเรยี นลงเสียง

หนักในคาศพั ท์ทม่ี ี 2 พยางคข์ ้นึ ไป

water tomato pizza

salad apple

116

ครูอธิบายวธิ กี ารออกเสยี ง /ʃ/ และ /tʃ / โดยเขยี นคาต่อไปนี้บนกระดาน
/ʃ/ /tʃ /
sheep cheap
ship chip
shop chop
wash watch
wish witch

จากน้นั ครอู า่ นออกเสยี งคาแตล่ ะคู่ใหน้ กั เรียนฟัง แล้วให้นักเรียนฝึกพดู ตามพรอ้ มกนั หรือ
ทลี ะคน

เสียง /ʃ/ และ /tʃ/ ในภาษาองั กฤษ

คนไทยสว่ นใหญม่ ักจะแยกความแตกตา่ งระหวา่ งเสียง /ʃ/ และ /tʃ/ ไมอ่ อก และเข้าใจว่า

เสยี งเหลา่ นีเ้ ทียบเทา่ กับเสยี ง “ช” ในภาษาไทย อย่างไรกต็ าม ทั้ง 2 เสยี งน้แี ตกตา่ งกัน

หากนกั เรยี นออกเสียงไมถ่ ูกตอ้ ง อาจทาใหค้ วามหมายของคาเปลยี่ นไปเลยก็ได้ ดังน้ัน

ครูตอ้ งยา้ ให้นักเรยี นออกเสยี งใหช้ ดั เจน

เสียง /ʃ/ เป็นเสียงพยัญชนะเสียดแทรก เสยี งไม่ก้อง วธิ ีการออกเสียงทาได้โดยห่อริมฝปี าก

ย่ืนออกไปเหมอื นเวลาทาเสียง Shhhhh ไมใ่ ห้ล้ินแตะเพดานหลังปุ่มเหงือก

ตวั อยา่ งคาศพั ท์

ship flashlight wish

shoes cashier fish

sheer seashells radish

ส่วนการออกเสียง /tʃ/ ซึง่ เป็นเสียงไมก่ อ้ ง ให้นาลิน้ ไปวางอยู่ที่บริเวณหลังปมุ่ เหงือกอยู่ครหู่ นึง่

รมิ ฝีปากจะหอ่ กลมและยืน่ ออกไปข้างหน้าเลก็ น้อย จากนัน้ กระแสลมท่ถี ูกกักไวจ้ ะถูกปล่อยให้

เสียดแทรกออกมา

ตัวอยา่ งคาศพั ท์

chicken butcher lunch

chocolate teacher peach

cherries ketchup sandwich

117

กจิ กรรมเพิ่มเตมิ
ครอู าจเปิดคลิปวดิ โี อใหน้ ักเรยี นฝกึ การออกเสยี ง /ʃ/ และ /tʃ/ เพ่มิ เติมท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=dz7FHvzaItE
หรือให้นกั เรียนไปฝกึ ด้วยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น ch sh sounds หรือช่ือคลปิ
"sh" [ʃ] vs."ch" [tʃ] | English Pronunciation Lesson ให้นกั เรียนเข้าไปเปดิ ดดู ว้ ยตนเองท่ี
www.youtube.com

2. นาเสนอคาศัพทท์ น่ี ักเรยี นควรรู้เพิม่ เตมิ เช่น glass (แกว้ นา้ ), bowl (ชาม), bottle (ขวด), cup (ถ้วย),
piece (ชน้ิ ) ซึ่งใช้บอกปริมาณของคานามนับไมไ่ ด้ จากนัน้ ครูนาสง่ิ ของจรงิ ๆ มาแสดงและพดู คาศพั ท์
เช่น a bottle of orange juice, a glass of water, a cup of tea, a bowl of rice, a piece of

pizza
3. นาเสนอสานวนท่ีใช้ขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สงิ่ ทชี่ อบและไมช่ อบ โดยครแู สดงบตั รภาพแลว้ ถาม

นักเรยี นวา่ Do you like fish? เม่อื ไดค้ าตอบจากนักเรียนแลว้ ครูสรุปโครงสร้างทีใ่ ช้ขอและใหข้ อ้ มลู
เกยี่ วกับสง่ิ ที่ชอบและไม่ชอบบนกระดาน โดยครกู ระตนุ้ ให้นักเรยี นตอบวา่ Yes, I do. หรอื No, I don’t.

A: Do you like + ส่งิ ของ?
B: Yes, I do./No, I don’t.

4. นาเสนอสานวนภาษาท่ใี ชเ้ สนอ ตอบรบั และปฏิเสธอาหาร โดยครอู ธิบายวา่ เมอื่ เราต้องการเสนอสิ่งใด
สิง่ หน่ึงให้คนอ่นื เราใช้โครงสร้าง Would you like …? เช่น Would you like a burger? หากตอบรับ
ข้อเสนอเราจะใช้ Yes, please. หรอื ปฏเิ สธ No, thank you.
ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ เราจะใช้โครงสร้าง I would like… เมื่อเราตอ้ งการสง่ิ ใดส่ิงหนึง่ ซง่ึ จะสุภาพกวา่
โครงสรา้ ง I want … เช่น I would like a bowl of salad. หากต้องการใหส้ ภุ าพมากขึ้นเราจะเติม

please
ไว้หลงั ประโยค เช่น I would like a bowl of salad, please.
จากน้นั ครสู ุ่มถามนักเรยี นโดยใชโ้ ครงสร้าง Would you like ….? เช่น
T: Would you like a bowl of salad?
S: Yes, please.
T: Would you like a piece of cake?
S: No, thank you.

118

ขัน้ Practice
1. หนงั สือเรียน หนา้ 18 Ex. 5 ครอู ธิบายภาระงาน และเปิด CD ใหน้ กั เรยี นฟงั และชต้ี ามไปด้วย จากน้นั

ครูเปดิ CD อกี ครง้ั และหยดุ เปน็ ชว่ ง ๆ ให้นกั เรียนฝึกพูดตาม CD พร้อม ๆ กัน
ต่อมาครใู ห้เวลานักเรยี นจับค่ภู าพกบั คาศพั ท์ใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครรู วบรวมคาตอบจากนักเรยี นและ
เขียนคาตอบทีถ่ กู ต้องบนกระดานอีกคร้ัง สดุ ทา้ ยครเู ปิด CD และใหน้ ักเรียนอ่านออกเสียงตาม
แล้วสุม่ เรียกให้นกั เรยี นอา่ นออกเสียงให้เพ่ือนฟงั โดยครสู งั เกตว่า นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาศพั ท์
ถูกต้องหรอื ไม่ และชี้แนะนักเรยี นให้ออกเสียงถกู ตอ้ ง

chips, fish, pizza, apples, cheese, water, tomatoes, salad

1c 3f 5a 7e
2b 4h 6d 8g
2. หนังสือเรียน หน้า 18 Ex. 6 ครเู ขยี นคาวา่ menu บนกระดาน และใหน้ ักเรยี นช่วยกันบอกความหมาย
จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นฝกึ ออกเสียงคานใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง ตอ่ มาครเู ขียนรายการอาหารง่าย ๆ บนกระดาน เช่น
burgers, pizza, chips, orange juice, lemonade แล้วถามนกั เรียนว่า Are there any burgers?
โดยครกู ระตุ้นใหน้ กั เรยี นตอบว่า Yes, there are. ตอ่ มาครถู ามต่อว่า Are there any hot dogs? จนได้
คาตอบว่า No, there aren’t. ครทู ากิจกรรมเช่นเดียวกันนก้ี ับรายการอาหารอื่น ๆ ด้วย

ครเู นน้ ใหน้ ักเรียนออกเสียงคาวา่ menu วา่ /ˈmen.juː/ เพราะคนไทยสว่ นใหญม่ กั จะออกเสยี ง
คานีผ้ ดิ วา่ เมนู

3. ให้นักเรียนจบั คู่ ผลดั กนั พูดสนทนาเหมือนอยา่ งในหนงั สอื เรียน หน้า 18 Ex. 6 อีกครงั้ จนนักเรยี น
สนทนาได้คล่อง โดยเปลย่ี นอาหารเป็นอย่างอ่ืน จากนั้นครูสุม่ เรยี กนกั เรยี น 5-6 คู่ ออกมาพดู สนทนา
ที่หนา้ ชั้น

4. ให้นักเรยี นแต่งประโยคแสดงความต้องการโดยใชค้ าศพั ทใ์ นการบอกปริมาณทเี่ รยี นมา ไดแ้ ก่ a glass

119

of, a bowl of, a bottle of, a piece of เสรจ็ แลว้ ครสู ุ่มเรียกนกั เรยี น 3-4 คน อา่ นประโยคของตนเอง

ให้

เพอื่ นฟงั

ตัวอยา่ ง S1: I would like a glass of milk

S2: I would like a bottle of water.

S3: I would like a bowl of rice. etc.

5. ใหน้ ักเรยี นจบั คู่แต่งบทสนทนาเกยี่ วกบั การเสนอ ตอบรบั และปฏิเสธอาหาร จากน้ันให้เวลานักเรียน

ฝึกพดู สนทนาจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครสู ุ่มเรียกนกั เรยี น 3-4 คู่ ออกมาพดู สนทนาที่หนา้ ช้นั ครูสังเกตว่า

นกั เรียนออกเสียงถกู ต้องหรือไม่

ตวั อย่าง S1: Would you like a cup of tea?

S2: No, thank you.

S1: Would you like a glass of orange juice?

S2: Yes, please. etc.

6. ให้นกั เรียนทากจิ กรรมใน แบบฝึกหดั หนา้ 16 Ex. 5 ในช้นั เรยี น เสรจ็ แลว้ ครูขออาสมคั รบอกคาตอบ

ครเู ขยี นคาตอบท่ถี ูกตอ้ งบนกระดาน

Ex. 5
Items to be ticked: milk, cake, chips, water, apples, salad

ข้นั Production

1. ครูอธิบายภาระงาน Let’s go for a picnic. วา่ ให้นักเรียนทางานคู่ วาดภาพตะกร้าอาหารปิกนกิ พรอ้ ม

ทัง้ อาหารในตะกรา้ โดยก่อนให้นกั เรียนลงมอื ทา ครอู ธิบายวา่ picnic คือ การนาอาหารออกไปนงั่

รับประทานนอกบ้าน เช่น รมิ แม่นา้ สวนสาธารณะ โดยอาหารที่นาไปรบั ประทานมกั จะเปน็ แซนด์วิช

(sandwich) สลัด (salad) และผลไม้ (fruit) เสรจ็ แลว้ ให้แต่ละคูฝ่ กึ พดู สนทนากนั ว่า ในตะกร้าอาหารของ

คู่ตนเองมอี ะไรบา้ ง พรอ้ มกบั พูดเสนออาหารในตะกร้าให้เพ่อื น โดยใช้โครงสร้าง Would you like …?

เช่น S1: Would you like some salad?

S2: No, thank you.

S1: Would you like some bananas?

S2: Yes, please. etc.

120

ชาวตะวนั ตกนิยมไปปิกนิกในฤดูร้อนเพราะเปน็ ช่วงท่ีอากาศไม่หนาวและมีแสงแดด
อากาศแจ่มใสเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากปกิ นิกแล้ว ชาวตะวันตกยังนิยมนอน
อาบแดดและวา่ ยนา้ ในทะเลดว้ ย
ทม่ี า: https://en.wikipedia.org/wiki/Picnic

2. ใหน้ กั เรยี นทากิจกรรมในแบบฝกึ หัด หน้า 16 Ex. 6 เป็นการบ้าน

3 We haven’t got any cheese. 4 We’ve got some cake.
5 We’ve got some ice cream. 6 We haven’t got any rice.

7. การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมินการพูด ระดับคุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดนาเสนอ ตอบรบั แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
และปฏิเสธเก่ียวกับอาหาร แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝกึ หัด ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ชีด้ ้านใฝ่เรยี นรู้
และมงุ่ มน่ั ในการทางาน

8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ/คาศัพท์
8.5 อนิ เทอรเ์ น็ต

121

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 What can I get you? เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ใช้ a, an และ some ไดถ้ กู ตอ้ ง
- พดู ส่ังอาหารง่าย ๆ ในรา้ นอาหารได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งที่ฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อยา่ งมเี หตุผล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟ่ี งั หรอื อ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกล่มุ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู

เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรอื สญั ลักษณ์หรอื เคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และข้อความส้นั ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สึก
และ แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

ตัวชว้ี ัด
ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าส่ัง คาขอร้อง และคาขออนญุ าตง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์

งา่ ย ๆ
สาระท่ี 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวช้ีวดั
ต 2.1 ป.4/1 พูดและทาทา่ ประกอบอย่างสภุ าพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษา

122

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกยี่ วกับเทศกาล/วันสาคญั /งานฉลอง และชวี ติ ความเป็นอย่งู า่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ

ตวั ชวี้ ัด ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพือ่ นามาใชอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตัวอกั ษร คา กลุม่ คา ประโยค และข้อความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พันธก์ บั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตัวช้วี ดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจคาศัพทเ์ ก่ยี วกบั อาหาร โครงสรา้ งภาษาทใี่ ช้ขอและให้ข้อมลู ในร้านอาหาร ช่วยใหส้ นทนา

พูด/เขียนสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: What can I get you? Can I have a pizza and some salad, please?
Thank you!
Function: สัง่ อาหารในร้านอาหาร
2) Language Skills
Speaking: พูดส่ังอาหารงา่ ย ๆ ในรา้ นอาหาร
3) Culture: มารยาทของคนอังกฤษ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ท่ใี ชใ้ นการสอื่ สาร
- ทกั ษะการนาความรูไ้ ปใช้
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

123

4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มุ่งมัน่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรยี นรู้

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm Up
1. ครูและนักเรียนกล่าวทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศัพทเ์ กี่ยวกบั อาหาร เช่น rice, bread, sausage, chicken, pizza ดว้ ยการเลน่ เกม Spelling
Bee

โดยครพู ดู คาศัพทใ์ หน้ กั เรยี นฟงั คาละ 2 คร้ัง ใหน้ ักเรยี นเขยี นคาศพั ท์ลงบนกระดาษ จากนน้ั ใหน้ กั เรียน
ชูกระดาษขนึ้ ครูตรวจการสะกดคา ถา้ นกั เรียนคนใดสะกดคาผิดจะถูกคดั ออกจนกวา่ จะเหลือ
ผู้ชนะเพยี งผเู้ ดยี ว
3. ทบทวนประโยคขอรอ้ งทใ่ี ช้ในห้องเรียน โดยครเู ดนิ ไปหานักเรยี นแล้วช้ไี ปที่ดนิ สอของนกั เรยี น แลว้
ถามวา่ Can I borrow your pencil? ครถู ามนักเรียนคนอืน่ ๆ ต่อ โดยใชส้ ิ่งของอย่างอ่ืน เชน่ ปากกา
ไม้บรรทดั หนังสอื เรยี น เม่อื นักเรยี นตอบแล้ว ครสู รุปโครงสรา้ งถาม-ตอบบนกระดาน ดงั น้ี

A: Can I + กริยาชอ่ งท่ี 1 …?
B: Yes. / No, you can’t.
เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรยี นจับคู่ ผลดั กันพดู ถาม-ตอบ
4. ทบทวนการใช้ a, an และ some โดยเขยี นประโยคตอ่ ไปนบ้ี นกระดาน
There is _____ banana.
There is _____ apple.
There is _____ bread.
จากนั้นให้นักเรยี นเติม a, an และ some ให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูสรุปว่า a ใชน้ าหนา้ คานามนับไดท้ ี่เปน็
เอกพจนแ์ ละคานามนนั้ ขน้ึ ตน้ ด้วยเสยี งพยัญชนะ เชน่ banana, tomato, potato, burger, pizza,
muffin
ส่วน an ใช้นาหนา้ คานามนบั ได้ทเี่ ป็นเอกพจน์ท่ขี น้ึ ตน้ ดว้ ยเสยี งสระ (a, e, i, o, u) เชน่ apple, egg, ice
cream, orange
โดยคานามทง้ั 2 ประเภทนถี้ า้ อยใู่ นรปู พหพู จน์จะไม่เติม a, an เพราะ a, an มคี วามหมายเท่ากับหนึ่ง
สว่ น some จะใช้เตมิ หนา้ คานามนับไม่ได้ เชน่ bread, water, milk, salad, cheese, chicken, ice
cream

124

นอกจากนเี้ รายังใช้ some กับคานามนบั ได้ทอ่ี ยใู่ นรปู พหพู จน์ เชน่ eggs, muffins, tomatoes,
sausages,

ice creams

chicken และ ice cream สามารถเปน็ ทง้ั คานามนบั ไดแ้ ละนับไม่ได้
โดยคาวา่ chicken ถ้าเป็นคานามนับไดจ้ ะหมายถงึ ไกเ่ ป็นตัว แต่ถ้าเป็นคานามนับไม่ได้จะ
หมายถงึ เนือ้ ไก่
ตัวอย่าง A hen is a female chicken.

I’d like fried chicken, please.
สว่ นคาวา่ ice cream ถา้ เปน็ คานามนบั ไดจ้ ะหมายถงึ ไอศกรีมจานวนหนึง่ แตถ่ ้าเป็นคานามนบั
ไมไ่ ด้จะหมายถึง ไอศกรมี โดยทั่วไป
ตัวอย่าง Let’s eat an ice cream.

I like vanilla ice cream.

4. ทบทวนการออกเสยี งคาที่ขน้ึ ตน้ หรือลงท้ายดว้ ย ch และ sh โดยเขียนคาศัพท์ต่อไปน้ีบนกระดาน

ship chip wish witch

sheep cheap

จากน้นั ครูชไ้ี ปที่คาศัพทแ์ ละอา่ นให้นกั เรียนฟัง 1-2 คร้ัง เสร็จแล้วครสู ่มุ นกั เรยี น 5-6 คน ยืนขนึ้ อ่าน

คาศพั ทใ์ หเ้ พ่อื นในช้ันฟัง ครคู อยสงั เกตวา่ นักเรยี นออกเสยี งถกู ต้องหรอื ไม่

กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยการเปดิ คลปิ วิดีโอชอื่ Mr Bean at a restaurant ให้นกั เรียนดูจากเวบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=p-2isH-SgHA
จากนัน้ ครูถามคาถามเกีย่ วกบั คลปิ วดิ โี อ เช่น

Do you know Mr Bean?
Where is Mr Bean?
What does he eat?
Does he like the food?

จากนนั้ ครูให้นักเรียนสงั เกตการใช้ผา้ เชด็ ปาก (napkin) ของ Mr Bean และลกู ค้าคนอืน่ ๆ แลว้
อธิบายเรือ่ งมารยาทบนโต๊ะอาหารวา่ ในรา้ นอาหารบางแห่งจะจดั เตรียมผา้ เช็ดปากไวบ้ นจานให้

125

ลูกคา้ หรอื ทางด้านซา้ ยถ้าเปน็ งานแบบไม่เปน็ ทางการ เมอ่ื ลูกค้าน่ังลงแลว้ ควรหยิบผ้าเช็ดปากคล่ี
วางบนตกั ทันที
ข้ัน Presentation
1. นาเสนอสานวนท่ใี ช้ในรา้ นอาหารโดยเขยี นบทสนทนาตอ่ ไปนบี้ นกระดาน แล้วให้นกั เรียนทายว่า A และ
B เป็นใครในรา้ นอาหาร

A: What can I get you?
B: Can I have a pizza and some salad, please?
A: Yes, OK.
B: Thank you!
จากน้ันครูอา่ นทลี ะประโยคใหน้ ักเรียนฝึกพดู ตาม โดยครูเนน้ การออกเสยี งสูง-ตา่ (intonation) ใน
ประโยคใหถ้ ูกต้อง
ต่อมาครูอธิบายความหมายของประโยคในบทสนทนา What can I get you? แปลวา่ จะรับอะไร
ดคี รบั /คะ? เป็นประโยคทบ่ี รกิ รใชถ้ ามเมอ่ื จะรบั รายการอาหารจากลูกคา้ นอกจากน้ยี งั สามารถใช้
ประโยคต่อไปนี้ในการถามได้เชน่ กัน
What would you like to have?
May I take your order?
Are you ready to order? (ไม่เปน็ ทางการ)
ตอ่ มาครอู ธิบายประโยค Can I have a pizza and some salad, please? ว่าเป็นประโยคท่ีใชบ้ อก
รายการ
อาหารทตี่ อ้ งการจะส่ัง นอกจากประโยคนแี้ ล้วนกั เรยี นยงั สามารถใช้โครงสรา้ ง ดังนี้
I’d like to have a pizza and some salad, please. (’d = would)
I’ll have a pizza and some salad, please.

ในวฒั นธรรมของคนอังกฤษ คาว่า please, thank you ถอื เปน็ คาพูดติดปากของคนองั กฤษ เมือ่
ขอร้องให้คนอ่ืนทาอย่างใดอยา่ งหนึ่งให้จะพดู คาว่า please ข้ึนตน้ หรือลงท้ายประโยคเสมอ
เพอ่ื แสดงความสภุ าพ เชน่ Please come again. I would like some chicken, please. และเมือ่
คนอนื่
ทาส่ิงใดสงิ่ หน่ึงให้ก็จะกล่าวคาว่า Thank you. เสมอ แมแ้ ต่การเดนิ ทางด้วยรถสาธารณะ เม่อื จะ
ลงจากรถ คนอังกฤษจะหันไปกลา่ วคาขอบคณุ คนขับรถหรอื ในร้านอาหาร เมือ่ พนกั งานนา
อาหารมาเสริ ์ฟกจ็ ะกล่าวขอบคุณเชน่ กนั

126

กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครูอาจเปดิ คลปิ วดิ โี อชื่อ Basic English vocabulary for restaurants เพอื่ ใหน้ กั เรียนไดเ้ รยี นรู้
เกย่ี วกบั การสั่งอาหารและคาศพั ท์ท่นี า่ สนใจที่เว็บไซต์ต่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=_mw9-uk_QFk

คากริยา get นอกจากจะแปลว่า ได้รับ แลว้ ยงั สามารถแปลไดอ้ ีกหลายความหมาย เชน่
What did you get for your birthday? (get = receive)
What can I get for you? (get = to go and bring something back)
How do you get to school? (get = arrive)

2. ครนู าเสนอคาศัพท์ ไดแ้ ก่ lemonade (น้ามะนาว), apple juice (น้าแอปเปิล) โดยการเขียนคาศพั ทบ์ น

กระดาน ใหน้ กั เรยี นพูดบอกความหมาย จากนนั้ ครอู า่ นออกเสียงและใหน้ ักเรยี นพูดตามครพู ร้อมกนั

ครูเน้นการลงเสียงหนกั ในคาให้ถูกต้อง

lemonade apple juice

lemon คือ มะนาวสีเหลือง แต่ lime คอื มะนาวสเี ขียว ดังน้นั เราควรเรยี กมะนาวสเี ขยี วใน
ประเทศไทยว่า lime

ต่อมาครแู นะนาคาศัพทท์ น่ี กั เรยี นควรร้เู พมิ่ เตมิ โดยให้นกั เรียนดภู าพในหนงั สอื เรียน หนา้ 19 Ex. 8

จากน้ันครูเขยี นคาศพั ทท์ น่ี ักเรยี นควรรู้ เชน่ customer (ลกู คา้ ), waiter (บริกรชาย), waitress (บรกิ ร

หญิง), order (สง่ั ) บนกระดาน ครพู ูดบอกคาสั่ง Repeat after me. แลว้ อ่านคาศัพท์ให้นกั เรียนฟงั และ

พดู ตามพรอ้ มกนั โดยครสู งั เกตการลงเสยี งหนักในคาด้วยวา่ ถกู ต้องหรอื ไม่

customer (n) waiter (n) waitress (n) order (v/n)

เสร็จแล้วให้นกั เรยี นดภู าพในหนังสอื เรียน หนา้ 19 Ex. 8 อีกครั้ง แล้วชว่ ยกนั พูดบอกวา่ เหตุการณน์ ี้

เกิดขนึ้ ทใี่ ด และคนในรปู เป็นใครบา้ ง

ตวั อย่าง T: Look at that man. Who is he?

Ss: He is a waiter.

T: Look at that woman. Who is she?

Ss: She is a customer.

T: What does she do?

Ss: She orders food.

127

ข้ัน Practice
1. หนังสือเรยี น หนา้ 19 Ex. 7 ครอู ธบิ ายภาระงานและคาศพั ท์ข้อ 1 ให้นักเรียนฟงั จากนนั้ ให้นกั เรียน

พดู ตอบปากเปลา่ วา่ ตอ้ งใช้ a, an หรือ some หนา้ คาว่า banana เมื่อได้คาตอบวา่ a แลว้ ครทู า
กจิ กรรม

เชน่ เดียวกนั นจ้ี นครบทุกข้อ เสรจ็ แล้วครูใหน้ ักเรยี นแต่งประโยคโดยใช้ There is/There are ลงในสมุด
ของตนเอง ครสู มุ่ เรียกนกั เรียนออกมาเขยี น ถา้ ถกู ต้องครใู ห้นักเรียนทง้ั ชนั้ อา่ นประโยคดงั กลา่ ว
พรอ้ ม ๆ กัน หากไมถ่ กู ตอ้ ง ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกันแกไ้ ขใหถ้ ูกต้อง

1a 4 some 7 some 10 a
2 some 5 some 8 an 11 some
3a 6a 9 an 12 some

2. หนังสือเรยี น หนา้ 19 Ex. 8 ครูทบทวนการออกเสียงคาว่า menu จากนนั้ ใหน้ กั เรียนดูชือ่ รายการ
อาหาร

โดยพูดวา่ Look at the menu. และถามคาถาม What do they have in the menu? Is there a
burger?

Is there some salad? etc. จากน้นั ใหน้ ักเรียนดูท่ีกรอบคาพดู ครเู ปิด CD ใหน้ กั เรียนฟังและฝึกพูดตาม
พรอ้ มกัน 2 รอบ

A: What can I get you?
B: Can I have a pizza and some salad, please?
A: Yes, OK.
B: Thank you!

ต่อมาครูขออาสาสมัครนกั เรยี น 2 คน ออกมาแสดงบทบาทสมมตใิ ห้เพ่อื นในชัน้ ดู โดยใหอ้ กี คนเป็น
บรกิ ร และอีกคนเป็นลูกคา้ เสรจ็ แล้วครูให้นักเรียนจบั คู่แตง่ บทสนทนาโดยใช้รายการอาหารใน
หนงั สอื เรียน เมื่อนกั เรยี นฝึกพูดจนคล่องแล้ว ครสู ุม่ เรยี กนักเรยี น 5-6 คู่ ออกมาแสดงบทสนทนาท่ี
หนา้ ชนั้ ครูคอยสงั เกตวา่ นักเรยี นออกเสยี งถกู ตอ้ งหรือไม่
ตัวอย่าง S1: Good evening, madam. What can I get you?

S2: Can I have a burger and some chips, please?
S1: Yes, OK.

128

S2: Thank you! etc.

ก่อนเร่มิ ต้นบทสนทนา ครูแนะนาว่านักเรียนทแี่ สดงเปน็ บรกิ รควรกลา่ วทกั ทายลูกคา้ กอ่ นดว้ ย
ภาษาเปน็ ทางการ เชน่ Good evening, sir/madam. โดย sir และ madam เปน็ คาท่ีใชเ้ รียกลกู ค้า
อยา่ งสภุ าพ sir มีความหมายว่า คุณผู้ชาย สว่ น madam มคี วามหมายวา่ คุณผ้หู ญิง
หลังจากนั้นบรกิ รจะรบั รายการอาหารจากลูกคา้ โดยถามวา่ What can I get you? และ What
would
you like to drink? สาหรับรับรายการเครอื่ งด่ืม

3. หนังสอื เรยี น หนา้ 19 หัวข้อ Go Green ครใู หน้ กั เรียนดูภาพในกรอบ ให้นกั เรยี นพดู บอกคาศพั ท์
เกี่ยวกบั อาหารทอ่ี ยใู่ นกลอ่ งอาหารวา่ มีอะไรบา้ ง แล้วถามนักเรยี น What do you usually eat/drink

for
lunch? Do you take a lunch box to school? จากนน้ั ครูอ่านขอ้ ความในกรอบแลว้ เล่าเร่อื งเกยี่ วกบั

คน
ญปี่ ่นุ ใหน้ กั เรียนฟงั ว่า นกั เรยี นญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ใชถ้ ุงกระดาษหรอื ถงุ พลาสติกใสอ่ าหารไปโรงเรยี น
แต่จะนาอาหารใสก่ ลอ่ งสแตนเลสหรือกล่องพลาสตกิ แทน เม่ือรับประทานเสรจ็ กเ็ อากล่องกลับมาลา้ ง
ไว้ใส่อาหารในวนั ต่อ ๆ ไป การนากล่องอาหารมาใชซ้ ้าจะช่วยลดการใชถ้ ุงกระดาษและถงุ พลาสติกซึง่
ไมเ่ ปน็ มติ รกับสิง่ แวดลอ้ ม ต่อมาครแู บง่ นกั เรียนออกเปน็ 2-3 กลุม่ ใหน้ ักเรยี นช่วยกันพดู ระดม
ความคดิ ว่า ทาไมเราจงึ ไม่ควรใช้ถุงพลาสตกิ เปน็ ภาชนะใสอ่ าหาร นกั เรยี นสามารถใชอ้ ยา่ งอน่ื แทน
ถุงพลาสติกได้หรือไม่

นกั เรียนตะวนั ตกก็นยิ มนาอาหารไปรบั ประทานทโ่ี รงเรยี นเชน่ กนั อาหารท่นี าไปรับประทาน
จะเรียกวา่ packed lunch ซึ่งมกั จะประกอบไปด้วยแซนดว์ ิช (sandwich) และผลไม้ (fruit)

ข้ัน Production
1. ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผ่น จากน้นั ครกู าหนดสถานการณ์ว่า นักเรยี นกาลังจะเปดิ

รา้ นอาหารของตนเอง ให้นักเรยี นเขียนรายการอาหารในร้าน พร้อมทง้ั ตกแตง่ ให้สวยงาม เสรจ็ แลว้ ให้
นักเรียนทางานคู่ แต่งบทสนทนาเหมือนดงั ตวั อยา่ งที่เขียนบนกระดาน ดงั น้ี
ตัวอยา่ ง S1: Good evening, sir. What can I get you?

S2: Can I have some chicken and a glass of orange juice?

129

S1: Yes, OK. What would you like to drink?
S2: I’d like a glass of orange juice.
S1: OK.
S2: Thank you!
2. ให้นกั เรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหัด หน้า 17 Exs. 7-8 เป็นการบา้ น

Ex. 7 4a 6 some 8 some
2 some 5 an 7 some
3a

Ex. 8 6 There is some
3 There is some 7 There is some
4 There aren’t any 8 There is some
5 There are some

7. การวดั และประเมินผล

วธิ ีการวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดสนทนางา่ ย ๆ ใน แบบประเมนิ การพดู
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
รา้ นอาหาร ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝกึ หดั (Workbook)

สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งชี้ดา้ นใฝ่ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง

เรียนรูแ้ ละมงุ่ มัน่ ในการทางาน ประสงค์

8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/คาศพั ท์
8.5 อินเทอร์เน็ต

130


Click to View FlipBook Version