- ทาแบบฝกึ หัดใน Workbook หน้า 54-61
7.3 การประเมินหลงั เรยี น
- ทาแบบประเมินหลังเรยี น ประจาหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6
7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ ช้นิ งานในข้อ 6
8 สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนังสือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ/บัตรคา
8.5 บตั รภาพ Story Cutouts
8.6 อุปกรณ์ทาโปสเตอร์
8.7 กระดาษ A4, กระดาษแขง็ , ดินสอสี, กาว และกรรไกร
8.8 อินเทอรเ์ น็ต
481
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 Has the rabbit got long ears?
เวลา 1 ชัว่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ ก่ยี วกับส่วนตา่ ง ๆ ของสตั วไ์ ด้
- พดู ขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับลกั ษณะของสัตวไ์ ด้
- พูด/เขยี นทกั ทายในวันอสี เตอร์ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งที่ฟังและอา่ นจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมีเหตุผล
ตัวช้ีวดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสัง่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟี่ งั หรอื อา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยค ข้อความงา่ ย ๆ และบทพดู
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรอื สัญลกั ษณ์หรอื เครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความสัน้ ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก
และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอื่ สารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าตง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพือ่ ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง เพอ่ื น และครอบครวั
สาระที่ 2 ภาษากับวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชี้วัด
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกยี่ วกบั เทศกาล/วันสาคญั /งานฉลอง และชวี ิตความเป็นอยู่งา่ ย ๆ ของ
เจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วัย
482
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชไ้ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง
ตัวชี้วัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พันธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
ตัวช้วี ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพดู /อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรแู้ ละเขา้ ใจความหมายของคาศัพทเ์ ก่ยี วกับส่วนต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละโครงสรา้ งประโยค ชว่ ยใหพ้ ูด
สอ่ื สารในชวี ติ ประจาวนั ได้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม รวมทงั้ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Has the dog got long ears? Yes, it has.
Vocabulary: ears, eye, nose, paws, body, beak, claw, feather, wing, fin,
fang, snout, hoof, jaws, leg, tail, meat, vegetables, parrot, toucan, hornbill
Pronunciation: ออกเสียงคาทล่ี งท้ายดว้ ย /k/ และ /g/
Function: ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ลักษณะของสัตว์
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกับลักษณะของสตั ว์
Writing: เขยี นทกั ทายในวันอสี เตอร์
3) Culture: วนั อีสเตอร์ (Easter Day)
483
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใ่ี ช้ในการสอ่ื สาร
- ทักษะการเปรยี บเทยี บ
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 ม่งุ มัน่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ Warm Up
1. ทบทวนการทกั ทาย โดยครูเตรยี มลกู บอลขนาดเล็ก 1 ลกู จากนน้ั บอกนกั เรยี นว่า ครจู ะสุ่มโยนลกู บอลให้
นกั เรียน 5-6 คน นกั เรียนคนใดท่ีไดร้ ับลูกบอลต้องพดู ทกั ทายครู โดยทค่ี าตอบของนักเรยี นต้อง
ไมซ่ ้ากัน เชน่
T: (โยนลกู บอลให้ Anne) Good morning, Anne.
S1: Good morning.
T: How are you?
S1: I’m good, thank you. And you?
T: I’m OK. etc.
2. ให้นกั เรียนเลน่ เกม Simon Says เพือ่ ทบทวนคาศัพท์เกี่ยวกับอวยั วะตา่ ง ๆ ในรา่ งกายใน Module 1 เชน่
ears, eyes, mouth, nose, face, hands
T: Simon says, “Touch your nose.”
Ss: (นกั เรยี นจบั จมกู ของตวั เอง)
T: Touch your mouth.
Ss: (นกั เรียนแตะสว่ นใดก็ไดท้ ไ่ี มใ่ ชป่ าก) etc.
3. ทบทวนโครงสรา้ งทีใ่ ชข้ อและให้ข้อมูลเก่ยี วกบั ลักษณะภายนอก โดยครูนาภาพบคุ คลทม่ี ชี ่อื เสียง
มาแสดง จากนนั้ ครูช้ไี ปทภี่ าพแล้วถามคาถามโดยใชโ้ ครงสรา้ ง Has he/she got …? เชน่ Has he got
green eyes? Has he got a red mouth? เพือ่ ใหน้ ักเรยี นพูดตอบ Yes, he has. หรือ No, he hasn’t.
4. ทบทวนคาศพั ท์เกยี่ วกบั สัตว์ โดยแสดงภาพสัตว์ 7-8 ชนดิ เชน่ cat, dog, mouse, rabbit, fish, parrot
แล้วถามนักเรยี นว่า What is it? ให้นักเรยี นชว่ ยกันพดู บอกคาศพั ท์ เชน่
484
T: (แสดงบัตรภาพแมว) What is this?
Ss: It is a cat.
จากนัน้ ครสู มมตวิ ่าเป็นสัตวเ์ หลา่ นี้ โดยแสดงทา่ ทางหรอื ทาเสยี งร้องของสตั ว์ หรอื ใช้หนา้ กากรูปสตั ว์
เหลา่ น้ีเขา้ มาชว่ ย และพดู ทกั ทายนกั เรยี น เชน่
T: Hello! I’m a cat. My name is Tom. Nice to meet you.
Ss: Nice to meet you too.
ครูทากจิ กรรมเชน่ เดียวกนั นี้จนครบสตั ว์ทุกชนดิ
5. ครนู าภาพสัตว์ตา่ ง ๆ ไปวางไว้บนโต๊ะครู จากน้นั ครูไปยืนท่ีหลังห้องและเรยี กนกั เรยี น 1 คน ใหช้ ว่ ย
ไปหยิบรปู สัตวท์ ค่ี รูบอกมาให้ครู เชน่
T: Ken, can you bring me the picture of cat? It’s on my table.
Ken: Yes.
เมอื่ ไดร้ ปู จากนักเรียนแลว้ ครูแสดงภาพให้นักเรยี นคนอ่นื ๆ ดูและถามวา่ ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ ครใู ห้ Ken มา
ยืนแทนท่ีครูและเรียกเพื่อนใหไ้ ปหยบิ รูปสัตว์ชนิดอ่ืนบนโตะ๊ ครู เชน่
Ken: Anne, can you bring me the picture of dog? It’s on the teacher’s table.
Anne: Yes.
ครูใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมเชน่ เดียวกนั นีจ้ นนกั เรียนสามารถหยิบบตั รภาพสัตว์บนโต๊ะครูได้ครบ
เสร็จแล้วครเู ขยี นประโยค Can you …? บนกระดาน และอธบิ ายวา่ เราใช้ Can you …? ในการขอร้อง
ให้ผ้อู ืน่ ทาบางสง่ิ บางอยา่ งให้เรา เช่น Can you bring me …? เพือ่ บอกใหค้ นท่ีเราพดู ด้วยนาบางสิ่ง
บางอย่างมาใหผ้ พู้ ดู จากน้ันครพู ูดให้นกั เรียนชว่ ยหยิบสง่ิ ของตา่ ง ๆ ในหอ้ งมาให้ครู เชน่
T: Tik, can you bring me a pen?
Tik: Yes. (นาปากกา 1 ดา้ มมาใหค้ รู)
ครูให้นกั เรยี นช่วยหยบิ ส่งิ ของอน่ื ๆ อกี 3-4 อยา่ ง แล้วจงึ ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั และฝกึ พูดขอรอ้ งให้
เพอื่ นนาบางสงิ่ บางอย่างมาให้ตนเอง
ครูสามารถเข้าไปดาวน์โหลดบัตรภาพสตั วต์ ่าง ๆ จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://esl-kids.com/flashcards/animals.html
ขน้ั Presentation
1. นาเสนอคาคณุ ศัพท์ทใี่ ชบ้ รรยายลักษณะของสัตว์ ได้แก่ long (ยาว), short (สนั้ ), big (ใหญ่), small
(เลก็ )
485
โดยนาสิง่ ของตา่ ง ๆ มาแสดงในชัน้ เรยี น และใหน้ กั เรยี นเปรียบเทยี บเพอ่ื บอกลักษณะ เชน่
The red pencil is short. The blue pencil is long.
The yellow ball is big. The white ball is small.
2. ครูนาบตั รภาพสว่ นต่าง ๆ ของสตั วม์ าแสดง ได้แก่ beak (จงอยปาก), tail (หาง), paws (องุ้ เท้า), claws
(กรงเล็บ), fur (ขน), wings (ปกี ), feather (ขนนก) และใหน้ ักเรียนพูดคาศพั ท์ตามครู จากน้ันครสู ลบั
บัตรภาพ แล้วถามนกั เรยี นว่า คอื ภาพอะไร เช่น
T: What’s this?
Ss: It’s a tail.
T: What’re these?
Ss: They are paws.
กจิ กรรมเพิม่ เตมิ
ครูสอนคาศพั ท์เก่ยี วกบั สว่ นต่าง ๆ ของสตั ว์เพ่ิมเตมิ เชน่ fins (ครีบ), fang (เขยี้ ว), hoof (กีบเทา้ ),
jaws (ขากรรไกร), snout (จมกู และปากของสตั ว)์ , whiskers (หนวด) จากนน้ั ใหน้ กั เรียนเข้าไป
ฝึกฝนคาศัพท์เหล่านี้ดว้ ยตนเองจากเวบ็ ไซต์ตอ่ ไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/word-games/animal-body-parts-1
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/word-games/animal-body-parts-2
ครสู ามารถดาวนโ์ หลดบัตรภาพส่วนตา่ ง ๆ ของสตั วไ์ ดท้ ี่
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/animal-body-parts-flashcards
3. ครนู าบตั รภาพสว่ นตา่ ง ๆ ของสตั ว์วางไวบ้ นโตะ๊ ครู จากนน้ั ครสู มุ่ เรียกนกั เรยี นมาหาครู และหยบิ
บตั รภาพทค่ี รูบอก พรอ้ มกบั แสดงให้เพอื่ นดู โดยกอ่ นใหน้ กั เรยี นทากิจกรรม ครูสาธิตดว้ ยการพูดวา่
pick up และหยบิ บตั รภาพบนโตะ๊ ข้นึ มา เพ่อื ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจความหมายของคาวา่ pick up เมอื่
นกั เรยี นเขา้ ใจแล้ว ครสู มุ่ เรยี กนกั เรียนมาทากจิ กรรม เช่น
T: Ken, come here, please.
Pick up a beak.
Ken: OK. (หยบิ บัตรภาพ)
T: Show it to your friends.
Ken: OK. (แสดงบัตรภาพให้เพอื่ นดู)
486
T: Is it correct?
Class: Yes.
ครูทากจิ กรรมเช่นเดยี วกนั น้อี ีก 2-3 ครัง้ จากนน้ั แบง่ นักเรียนเป็น 2 ทมี ให้แตล่ ะทมี ผลดั กนั ส่งตัวแทน
ออกมาเป็นผู้สั่งคาสัง่ และปฏิบัตติ ามคาส่ังครง้ั ละ 1 คน แลว้ ทากจิ กรรม
4. ครูนาภาพสัตว์ 2 ชนดิ มาแสดง และชี้ท่ีอวยั วะสว่ นตา่ ง ๆ ของสตั ว์ แลว้ พดู บรรยาย เชน่
The rabbit hasn’t got a big beak but the parrot has got a beak.
The rabbit hasn’t got wings but the parrot has got wings.
The rabbit hasn’t got feathers but the parrot has got feathers.
The rabbit has got a short tail but the parrot has got a long tail.
The rabbit has got four paws but the parrot has got two claws.
The rabbit has got a big body but the parrot has got a small body.
จากนัน้ ครูนาบตั รภาพสตั ว์มาแสดงทลี ะภาพ และถามคาถาม เชน่
T: Has the rabbit got a small beak?
Ss: No, it hasn’t.
T: It has got a ….
Ss: big beak.
T: Correct.
ครูทากจิ กรรมเชน่ น้ีไปเรือ่ ย ๆ จนนกั เรยี นสามารถตอบคาถามไดค้ ลอ่ ง
5. ครูเขียนคาวา่ beak และ big บนกระดาน พรอ้ มขีดเสน้ ใต้ k และ g ดว้ ย จากนน้ั ครูอ่านออกเสยี งและให้
นักเรยี นพดู ตามพร้อมกนั เสรจ็ แล้วครูอธิบายความแตกตา่ งของการออกเสยี ง /k/ ในคาว่า beak และ
เสียง /g/ ในคาวา่ big ให้นักเรียนฟัง
487
การออกเสยี งคาทีล่ งทา้ ยดว้ ยเสยี ง /k/ และ /g/
เสียง /k/ และ /g/ เป็นเสยี งทเี่ กิดจากเพดานอ่อน (velar) เหมอื นกนั แตต่ ่างกนั ตรงท่ี
เสียง /k/ เป็นเสียงไม่กอ้ ง (voiceless) แตเ่ สียง /g/ เปน็ เสียงกอ้ ง (voiced) ซึ่งเปน็ เสยี ง
ทไ่ี มม่ ีในภาษาไทย ดงั นน้ั คนไทยส่วนใหญ่จึงออกเสียงเป็นเสียงไมก่ อ้ งแทน เราควรให้
ความสาคญั ในการฝึกฝนเสยี งคนู่ ี้เปน็ อยา่ งมาก
/k/ /g/
beak big
lock log
back bag
lake leg
dock dog
pick pig
ท่มี า: http://betterenglishforthai.net/book_pronunciation/chapter11/
กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครูอาจเปดิ คลิปวิดีโอใหน้ กั เรียนฝึกการออกเสยี งคาท่ีลงทา้ ยด้วยเสียง /k/ และ /g/ เพม่ิ เตมิ
จาก https://www.youtube.com/watch?v=tWpfIbfpMzw หรือให้นกั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง
โดยครบู อกคาสาคญั เช่น /k/, /g/ pronunciation หรอื ชอ่ื คลิป How to Pronounce "K" vs. "G"
Sounds | English Lessons ใหน้ ักเรียนเข้าไปเปิดดูดว้ ยตนเอง ที่ www.youtube.com
ขน้ั Practice
1. หนังสอื เรียน หนา้ 64 Ex. 1 ครอู า่ นคาส่งั Listen, point and repeat. จากนนั้ ครูเปิด CD ใหน้ กั เรียน
ฟงั
1 ครัง้ โดยใหน้ กั เรียนชี้คาศพั ทต์ ามไปด้วย ต่อมาครูเปิด CD อีกคร้งั และหยุดเป็นคา ๆ ให้นักเรียนฝึก
ออกเสยี งตาม CD พร้อมกันหรอื ทลี ะคน ครูเน้นใหน้ กั เรียนลงเสียงหนักในคาวา่ vegetables ให้ถกู ตอ้ ง
เพราะคาน้เี ป็นคาทีค่ นไทยมักออกเสียงผิด
488
ครูให้นักเรียนฝกึ ฟังและออกเสยี งคาวา่ vegetable จากพจนานกุ รมอังกฤษ-อังกฤษออนไลน์
เชน่ Cambridge Dictionary, Longman Dictionary, Oxford Dictionary
ทมี่ า: http://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/vegetable
2. ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั เปล่ยี นคานามต่อไปนีใ้ ห้อยใู่ นรูปพหพู จน์ ear, eye, paw, leg, wing, feather,
body
เมอ่ื ไดค้ าตอบแลว้ ครเู ขียนรูปพหพู จน์บนกระดาน และครูให้นักเรียนฝกึ ออกเสียง s ท้ายคานาม
พหูพจน์ ซง่ึ คาเหล่านจ้ี ะออกเสยี ง s ท้ายคาเป็นเสยี ง /z/
ear - ears
eye - eyes
leg - legs
wing - wings
feather - feathers
body - bodies
489
คาทีล่ งทา้ ยด้วย s สามารถออกเสียงได้ 3 แบบ คอื เสียง /s/, /z/ และ /Iz/ โดยจะออกเสียง /s/
เมอ่ื พยญั ชนะท่ีอยหู่ นา้ s เปน็ เสียงไม่กอ้ ง (voiceless) เช่น sleeps, pets, laughs, cliffs, books
และจะออกเสียง /z/ เมื่อพยญั ชนะหนา้ s เป็นเสียงกอ้ ง (voiced) เชน่ ears, eyes, legs, feathers,
bodies สว่ นคาทล่ี งทา้ ยด้วย es จะออกเสยี งเป็น /Iz/ เชน่ races, buses, boxes, watches,
dishes
ยกเว้นบางคา เช่น clothes, gloves ซึ่งจะออกเสยี ง /z/ ท่ที า้ ยคา
ทม่ี า: http://www.grammar.cl/english/pronunciation-final-s.htm
2. หนงั สือเรียน หนา้ 64 Ex. 2 ครอู ธิบายคาสัง่ ใหน้ กั เรียนจับคู่ ฝึกพูดถาม-ตอบ จากนั้นครูถามวา่ Look
at
picture number 1. Has the dog got long ears? ให้นกั เรียนดูภาพและบอกครู ครทู ากิจกรรมนี้กบั
ขอ้ 2-4 เสรจ็ แลว้ ให้นักเรียนจับคู่ พดู ถาม-ตอบ ครูสุ่มเรยี กนกั เรยี น 2-3 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบท่หี นา้ ชัน้
490
2 A: Has the cat got a short tail?
B: Yes, it has.
3 A: Has the parrot got a big beak?
B: Yes, it has.
4 A: Has the mouse got a small body?
B: Yes, it has.
ครูใหน้ กั เรยี นเขา้ ไปเล่นเกม animal maker ทเ่ี วบ็ ไซต์
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/make-your-own/animal-maker
3. ครใู ห้นักเรียนจบั คู่ ฝึกถาม-ตอบในหนังสอื เรยี น หน้า 64 Ex. 2 จนคล่อง โดยให้นกั เรยี นสลับคู่ 1-2 ครั้ง
เสรจ็ แลว้ ครูสุม่ เรียกนักเรยี น 2-3 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบท่หี นา้ ชั้น
Advanced classes: ครเู ปิดคลิปวิดโี อ The bird king ใหน้ ักเรียนดจู ากเว็บไซตต์ อ่ ไปนี้
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories/the-bird-king
หลังจากดคู ลปิ วดิ ีโอเสร็จแลว้ ครแู นะนาคาศพั ทท์ น่ี ักเรียนควรทราบ ไดแ้ ก่ jungle (ปา่ ), jealous
(อิจฉา), parakeet (นกแกว้ ขนาดเลก็ มหี างยาว), myna (นกขุนทอง), toucan (นกทูแคน นกพ้ืนเมอื งใน
ทวีปอเมริกาใต)้ , macaw (นกแกว้ สสี นั สวยงาม นกพ้ืนเมืองในทวีปอเมรกิ ากลางและใต้), eagle
(นกอินทรี), sparrow (นกกระจอก), squawk (รอ้ งเสยี งดัง) จากน้ันครูถามคาถามเกี่ยวกบั เนอื้ เร่ือง เช่น
T: How many birds are there in the video?
Ss: There are six birds. They are parakeet, myna, toucan, macaw, eagle and
sparrow
T: Why should the parakeet be the king?
Ss: He has got wonderful colours.
T: Why should the myna be the king?
Ss: He can speak and talk to the other animals.
T: Why should the toucan be the king?
Ss: He has got a fantastic beak.
T: Why should the eagle be the king?
Ss: He is the strongest. He can fly the highest.
T: In the end, who is the king?
491
Ss: The sparrow.
4. ครสู ่มุ เรียกนกั เรยี น 1 คน ออกมายนื หนา้ ช้ัน โดยครูใหน้ ักเรียนคนดังกลา่ วเลอื กสตั วม์ า 1 ชนดิ จาก
หนังสือเรยี น หน้า 64 Ex. 2 จากนนั้ ครอู ธิบายวา่ ใหน้ กั เรยี นทเี่ หลอื ถามนกั เรยี นคนดงั กล่าวโดยใช้
คาถามแบบ Yes/No questions และพยายามหาข้อมลู วา่ สตั วท์ ่เี พอ่ื นเลือกไว้คือสัตว์ชนดิ ใด ครูสาธติ
การทากิจกรรมกบั นักเรยี น 1 คน ใหน้ ักเรยี นในชัน้ ดกู ่อนในครง้ั แรก เชน่
ตัวอย่าง T: Has it got a small body?
S1: Yes, it has.
T: Has it got a short tail?
S1: No, it hasn’t.
T: Is it a mouse?
S1: Yes, it is! etc.
เสรจ็ แลว้ ครูอธบิ ายการออกเสียงเช่อื มคาใหน้ ักเรียนฟงั วา่ เจ้าของภาษามกั จะออกเสียงเชือ่ มคาเวลา
พูดคยุ ในชวี ิตประจาวัน การเช่อื มคาจะเกดิ ขน้ึ เม่ือคาทอ่ี ย่ขู า้ งหนา้ สะกดดว้ ยพยญั ชนะและคาทต่ี ามมา
ขน้ึ ต้นดว้ ยสระ เชน่
Has it got a small body?
Is it a mouse?
Yes, it is
กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครูให้นกั เรียนเลน่ เกมหาคาศพั ท์เกย่ี วกับสัตวจ์ ากเวบ็ ไซต์ตอ่ ไปนี้
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/word-games/group-the-
words/animals
โดยกอ่ นเล่น ครอู ธบิ ายคาศพั ทท์ ี่นักเรียนควรรู้ ไดแ้ ก่ pets (สตั ว์เลี้ยง), farm animals
(สัตวเ์ ลยี้ งในฟาร์ม) จากนน้ั ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันยกตวั อยา่ งสตั วท์ ่ีอยใู่ นกล่มุ เหลา่ นี้
5. ครนู าภาพกระตา่ ยกับตะกร้าไขม่ าแสดงให้นกั เรียนดแู ละถามวา่ What holiday do you think of? ครู
รวบรวมคาตอบจากนักเรียน จากนัน้ ครเู ฉลยดว้ ยการเขยี นคาว่า Easter บนกระดาน และใหน้ ักเรยี น
อ่านออกเสยี งตามครู ครใู หน้ ักเรียนช่วยกันบอกขอ้ มลู ทนี่ ักเรยี นรเู้ กย่ี วกบั Easter หรือครูอาจถามคาถาม
เพอ่ื ช่วยกระตุ้นนักเรยี น ถา้ นกั เรียนตอบไม่ได้ครูจงึ ช่วยเฉลยคาตอบ โดยพดู เปน็ ภาษาองั กฤษ และ
อธิบายคาศพั ท์ยากเปน็ ภาษาไทยหรอื วาดภาพประกอบบนกระดาน
T: When is Easter?
Ss: It’s in spring.
T: What month do we celebrate Easter?
492
Ss: March or April.
T: That’s right. Easter isn’t on the same date each year. Easter is usually in March
or April. It is time that Christians remember the death of Christ and his return
to life. It is an important Christian festival. (แสดงบัตรภาพพระเยซู)
T: What do people do on Easter Day? (แสดงบตั รภาพชอ็ กโกแลตและโบสถ)์
Ss: They go to church. They eat chocolate.
T: That’s right. People go to church and they eat chocolate on this day. They
usually wear new clothes to church.
จากน้นั นาภาพกระต่ายในวนั Easter และตะกรา้ ไขม่ าให้ดูอีกคร้ัง เพ่อื สอนคาศัพท์ Easter Bunny และ
Easter basket เช่น
T: What is it?
Ss: It is a rabbit.
T: Yes, but we call it Easter Bunny on Easter Day.
ตอ่ มาครสู อนให้นักเรียนพดู ทกั ทายในวัน Easter โดยสมมตกิ บั นกั เรียนวา่ วันนีค้ ือวนั Easter แลว้ ครู
เขียนคาวา่ Happy Easter! บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนพดู ทักทายครดู ว้ ยประโยคดังกลา่ ว
Ss: Happy Easter!
T: Happy Easter to you too!
ใหฝ้ กึ พูดทกั ทายกนั โดยให้ทกั ทายเพอ่ื นที่ชือ่ จรงิ หรอื ชื่อเลน่ ขึ้นต้นดว้ ยตัวอกั ษรตวั เดยี วกบั ชื่อนักเรียน
S1: Happy Easter!
S2: Happy Easter to you too!
ครเู ปดิ คลปิ วิดีโอเพลง Easter ใหน้ กั เรยี นดูจาก www.youtube.com โดยพิมพช์ ่ือคลปิ
Easter Songs For Children lyrics หรือเขา้ ไปท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=qvd78BKFOf0
จากนน้ั ครูแนะนาใหน้ กั เรียนไปดคู ลปิ วดิ โี อชอ่ื The great egg hunt นอกเวลาเรียนจาก
เวบ็ ไซต์ต่อไปน้ี https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/speak/the-great-egg-hunt
ครใู ห้นักเรียนเล่นเกม Easter egg hunt ครอู ธิบายวา่ เกมนนี้ ิยมเลน่ กันในวัน Easter โดยกอ่ นเล่นเกม
ครวู าดรูปไขแ่ ละระบายสใี ห้สวยงาม ประมาณ 6-8 ฟอง จากนน้ั ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทมี คือ ทมี A
และทมี B โดยใหน้ กั เรียนทีม A 1 คน ปดิ ตา แลว้ ครใู หภ้ าพไข่ Easter ทมี B 3-4 ภาพและไปซ่อนในจุด
ทีก่ าหนดในฝงั่ ของคนทป่ี ดิ ตาและจุดอนื่ ๆ ในหอ้ งตามทรี่ ะบุไว้ในกระดาษทีไ่ ดร้ ับจากครู เช่น
493
Put the Easter egg under the book.
Put the Easter egg in the book.
Put the Easter egg under the chair.
Put the Easter egg at the whiteboard.
เม่อื ซ่อนเสรจ็ แล้ว ครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกม โดยใหน้ ักเรียนที่ปดิ ตาหา Easter eggs ตามจดุ ต่าง ๆ โดยให้
เพือ่ นในทีมช่วยกนั พดู บอกตาแหน่งทลี ะจดุ ดงั นี้
S1: Look under your book.
S2: Look in your book.
S3: Look under your chair.
S4: Look at the whiteboard.
ครสู ามารถเข้าไปดาวน์โหลดบัตรภาพ พรอ้ มบัตรคาเก่ียวกบั Easter ไดท้ ่ีเว็บไซต์ต่อไปนี้
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/easter-flashcards
http://www.mes-english.com/flashcards/files/easter_flash.pdf
http://www.activityvillage.co.uk/sites/default/files/downloads/easter_picture_flashcar
ds.pdf
http://esl-kids.com/pdf/easter/large-easter-words.pdf
ประวตั วิ ันอีสเตอร์ (Easter Day)
วันอสี เตอร์ หรอื วนั ปัสกา เปน็ วนั เฉลิมฉลองพระเยซูครสิ ต์ทรงคืนพระชนมช์ พี จากความตาย
และเป็นวันสุดทา้ ยของเทศกาลมหาพรต โดยตลอด 40 วนั ของเทศกาลน้ี เรมิ่ ตั้งแต่วนั แรก
ชาวครสิ ต์จะต้องต้งั จติ อธษิ ฐานราลึกเหตุการณ์อนั ทรมานของพระเยซูตามพระคัมภีร์ รวม
ไปถงึ สวดภาวนา บรจิ าคสิ่งของ อดอาหาร และไมฟ่ ุ่มเฟอื ย ดาเนินชวี ติ อย่างสมถะทีส่ ุด
ในวนั อสี เตอร์ คริสตศ์ าสนกิ ชนจะแตง่ กายสวยงามมาร่วมพิธกี รรมในโบสถ์ พรอ้ มกับ
รอ้ งเพลงสรรเสริญพระเจ้า นอกจากน้ี บางครอบครวั ตกแตง่ ไข่เป็นลวดลายสีสันตา่ ง ๆ เพือ่
นามามอบให้แกก่ ัน รวมไปถงึ จดั กิจกรรมใหแ้ ตล่ ะครอบครัวเล่นเกมหาไขอ่ ีสเตอร์ ท่ถี กู ซ่อน
เอาไวใ้ นทตี่ า่ ง ๆ เพื่อใหผ้ ูเ้ ฉลิมฉลองได้ชว่ ยกันค้นหา และไดใ้ ชเ้ วลาแหง่ ความสุขใน
วันอสี เตอร์รว่ มกนั
ทีม่ า: http://hilight.kapook.com/view/101005
494
กระตา่ ยอสี เตอร์ (Easter Bunny)
ในพระคัมภรี ์ไบเบลิ ไมไ่ ด้กลา่ วถงึ กระต่ายวา่ มีสว่ นเกยี่ วข้องกบั การสน้ิ พระชนมข์ องพระเยซู
คริสต์แตอ่ ยา่ งใด สัญลกั ษณ์กระตา่ ยในวันอสี เตอร์ มาจากประเพณขี องตะวนั ตกท่ีเช่อื กันวา่
กระต่ายเปน็ สัตว์ท่มี ีลกู ดกและแพร่พนั ธุเ์ รว็ จึงเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหมแ่ ละความหวัง
ครสิ ตศ์ าสนิกชนในประเทศตะวนั ตกจึงนาเอากระต่ายมาใช้เป็นสญั ลกั ษณ์ของชีวิตใหม่แห่ง
การฟื้นคนื พระชนม์ของพระเยซคู ริสต์
ที่มา: http://www.creation-church.com/idea09.php
กิจกรรมเพม่ิ เตมิ
ครถู ามนักเรียนวา่ ในประเทศไทยมวี นั ท่เี กยี่ วข้องกบั ศาสนาหรอื ไม่ ใหน้ กั เรียนช่วยกันพดู ตอบ เชน่
วนั พระใหญ่ วนั วสิ าขาบชู า วนั มาฆบชู า จากน้ันครใู ห้นักเรยี นบอกกิจกรรมทท่ี าในวนั ดงั กลา่ ว เชน่
ตักบาตร ไปวดั เวียนเทียนรอบพระอโุ บสถ เสรจ็ แล้วครูชี้ใหน้ กั เรยี นเห็นว่า ในวันสาคัญทางศาสนา
ชาวคริสต์กจ็ ะไปโบสถ์ ชาวพทุ ธจะไปวัด หากเป็นชาวมุสลิมกจ็ ะไปมสั ยิด
ข้ัน Production
1. ครอู ธบิ ายภาระงาน ใหน้ กั เรยี นวาดภาพหรอื ครอู าจมอบหมาย ใหน้ กั เรยี นหาภาพสัตวม์ าก่อนลว่ งหน้า
4 ชนดิ พร้อมตกแตง่ ใหส้ วยงาม จากน้ันให้นกั เรยี นจบั คู่ฝึกถาม-ตอบเกยี่ วกับสว่ นตา่ ง ๆ ของสตั ว์
เหลา่ น้ี โดยใช้ตวั อยา่ งในหนังสอื เรียน หน้า 64 Ex. 2 เปน็ ตน้ แบบ
2. ครนู าตวั อย่างของ Happy Easter Card มาแสดง และบอกว่า คนองั กฤษและอเมรกิ านิยมให้บัตรอวยพร
เน่อื งในวัน Easter กนั และวันนีน้ กั เรยี นจะได้ทาบตั รอวยพรเนื่องในวัน Easter เพ่อื นาไปใหก้ ับคนใน
ครอบครัวของตนเอง ในการวาดภาพ ครใู หน้ กั เรียนเลือกสัญลกั ษณ์ทส่ี าคญั ของวัน Easter เพ่ือวาดลง
ไปในบตั รอวยพร เชน่ กระต่าย ตระกรา้ ไข่ ช็อกโกแลตรปู ไขห่ รือกระตา่ ย ไขท่ ีต่ กแตง่ สวยงาม เมอื่
นกั เรยี นเลอื กภาพที่จะวาดได้แล้ว ครอู ธิบายวา่ ใหน้ ักเรยี นเขยี นคาอวยพรลงในบตั รดว้ ยวา่ Happy
Easter!
ครสู ามารถดาวน์โหลดตวั อย่างของ Happy Easter Card ไดท้ เ่ี ว็บไซต์ต่อไปน้ี
http://www.supercoloring.com/coloring-pages/holidays/easter/easter-cards
3. ใหน้ ักเรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหัด หน้า 54 Exs. 1-2 เปน็ การบ้าน
495
Ex. 1
1 ears 2 eye 3 nose 4 paws
5 body 6 leg 7 tail
Ex. 2
2c 3a 4b
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและให้ข้อมลู แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้
เกย่ี วกบั สว่ นต่าง ๆ ของสตั ว์ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการเลอื กภาพตรงตาม แบบฝกึ หดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ความหมายของประโยค แบบทดสอบ
ประเมินชิ้นงาน Happy Easter Card แบบประเมนิ ชน้ิ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการอภิปรายเก่ียวกับความ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดับคุณภาพ พอใช้
เหมือนและแตกตา่ งของวันสาคัญทาง เรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์
พทุ ธศาสนากับวนั Easter
สังเกตการปฏบิ ัตติ ามคาสัง่ และพดู แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดับคุณภาพ พอใช้
ขอร้องในช้ันเรยี น เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์
สังเกตการออกเสียง /k/ และ /g/ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้
เรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝกึ หัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตความใฝเ่ รียนรู้และความมุ่งมั่น แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ระดับคุณภาพ พอใช้
ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
496
8. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอื่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ/บัตรคา
8.5 ภาพสตั ว์ตา่ ง ๆ
8.6 ภาพไข่ Easter Egg, Easter basket, Easter Bunny
8.7 อุปกรณท์ าช้ินงาน
8.8 อินเทอร์เน็ต
497
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 A rabbit can walk and run.
เวลา 1 ชัว่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายของคาศัพทเ์ ก่ียวกับสตั วแ์ ละความสามารถของสัตว์ได้
- พูดขอและให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ความสามารถและข้อมลู ทั่วไปของสตั ว์ได้
- พูดและเขยี นให้ข้อมลู เก่ียวกบั ความสามารถของสัตว์ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งที่ฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมีเหตผุ ล
ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ข้อความงา่ ยๆ และบทพดู
เข้าจงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความสัน้ ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ
และแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขยี น
ตัวชีว้ ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ข้อมูลเกีย่ วกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พันธ์ของสิง่ ต่าง ๆ ใกล้ตัวตามท่ฟี งั หรืออา่ น
สาระท่ี 2 ภาษากบั วฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ไดอ้ ย่างถกู ต้อง
498
ตวั ชี้วดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อักษร คา กลุ่มคา ประโยค และข้อความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตัวช้วี ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อ่านในสถานการณ์ทเี่ กดิ ข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศัพทแ์ ละโครงสรา้ งเก่ยี วกบั การบอกความสามารถ ชว่ ยให้ใช้ภาษาองั กฤษในการพดู
เขียนบรรยายเกี่ยวกบั สิ่งใกลต้ วั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: A rabbit can walk and run but it can’t fly or swim. Dogs
eat meat.
Vocabulary: body parts, food, parrot, toucan, hornbill
Function: ขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกับความสามารถของสตั ว์
2) Language Skills
Listening: ฟงั และจับคู่
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกับความสามารถของสัตว์, พดู บรรยาย
ความสามารถของสตั ว์
Writing: เขยี นให้ข้อมูลเก่ียวกบั ความสามารถของสัตว์
4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ีใช้ในการส่อื สาร
- ทักษะการเปรียบเทยี บ
499
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มัน่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ัน Warm Up
1. ครูแบ่งนักเรยี นเป็น 2 ทมี ครูใหแ้ ตล่ ะทมี ผลดั กันสง่ ตัวแทนออกมาเล่นเกมครง้ั ละ 1 คน ครูนาบตั รภาพ
ส่วนตา่ ง ๆ ของสตั ว์ ไปวางไว้ท่เี ก้าอี้ 2 ตวั อยา่ งละ 1 ใบ ทตี่ ้งั อย่หู ่างออกไป เพอื่ ท่นี ักเรียนจะสามารถ
วิ่งแข่งกันไปที่เกา้ อ้ไี ด้
ภาพสัตว์ 1 ภาพสตั ว์ 2
เมอ่ื ครอู า่ นประโยคบรรยายลักษณะของสัตว์ เชน่ It has got a (long) tail. และพดู วา่ Ready! Set! Go!
(เตรียมพร้อม ตง้ั ทา่ ไป) ใหต้ วั แทนแตล่ ะทีมวงิ่ ไปนั่งที่เกา้ อที้ ม่ี ีบัตรภาพตรงกับประโยคที่ครูพดู โดย
ตัวแทนทมี ทีไ่ ปถงึ กอ่ นจะมสี ิทธเิ์ ลอื กวา่ จะนง่ั เกา้ ท่ีตัวใด สว่ นทมี ทไ่ี ปถงึ ทีหลังตอ้ งน่ังลงท่เี ก้าอ้ีตัว
ทเี่ หลือ เสร็จแล้วครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันเฉลยคาตอบว่า ทีมใดท่ีถกู ตอ้ ง แล้วครูแสดงบตั รภาพ และให้
นักเรียนพูดประโยคตามครู ครทู ากิจกรรมเชน่ น้ไี ปเรื่อย ๆ จนได้ทีมท่ชี นะ
2. ทบทวนการออกเสยี งคาที่ลงท้ายดว้ ยเสียง /k/ และ /g/ โดยครเู ขยี นคาศพั ท์ตอ่ ไปนีบ้ นกระดาน
back bag
lock log
fork frog
lake leg
ครอู อกเสยี งคาศพั ท์แตล่ ะคาโดยครูเน้นออกเสียง /k/ และ /g/ ทา้ ยคาให้ชัดเจน เสร็จแล้วใหน้ ักเรยี น
เลอื กว่าคาทไี่ ดย้ ินเป็นคาท่ลี งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ หรอื เสียง /g/
จากนนั้ ครูสุ่มเรียกนักเรยี นยืนขึ้นอา่ นคาศัพทท์ ีละคน เสรจ็ แลว้ ครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน และ
อ่านใหน้ กั เรียนฟังแลว้ ให้นักเรยี นอา่ นพรอ้ ม ๆ กนั
Mike has got a frog, a dog and a big pig.
Look at the back of this book.
This is a big snake.
500
3. ทบทวนการเปลี่ยนรูปคานามพหูพจน์ โดยครเู ขียนคาวา่ cat, dog, mouse, sheep, fish บนกระดาน
จากนน้ั ใหน้ ักเรียนผลดั กนั ออกมาเขยี นคานามในรูปพหพู จน์ใหถ้ กู ตอ้ ง
คาตอบ: cat - cats
dog - dogs
mouse - mice
sheep - sheep
fish - fish
4. ทบทวนการใช้ and และ but ในการเชอื่ มประโยค โดยใหน้ กั เรยี นจบั คู่ แตง่ ประโยคเก่ยี วกบั สตั วท์ ี่
ตนเองชอบและไมช่ อบ จากน้ันครสู มุ่ เรยี กนกั เรยี นแตล่ ะค่อู อกมาเขยี นประโยคที่แตง่ บนกระดาน
ตัวอยา่ ง S1: I like a rabbit, but I don’t like a snake.
S2: I like a dog, but I don’t like a frog.
ข้ัน Presentation
1. นาเสนอการใช้ can โดยครูแสดงบตั รภาพสตั ว์ จากน้นั ครูพดู ประโยคและแสดงท่าทางประกอบ เชน่
A rabbit can jump. A parrot can fly.
A fish can swim. A cat can run.
A dog can walk.
จากนนั้ ครเู ขียนแตล่ ะประโยคบนกระดานและอา่ นออกเสียงใหน้ กั เรยี นฟงั จากน้ันครูอธบิ ายวา่ can
เปน็ กริยาชว่ ย (modal verb) ใชพ้ ูดบอกความสามารถ มีโครงสรา้ งประโยค ดังน้ี
ประธาน + can + กริยารปู base form (ชอ่ งที่ 1).
เสรจ็ แล้วครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั บอกสิง่ ท่ีตนเองสามารถทาไดค้ นละ1 ประโยค ครูยา้ วา่ can ตอ้ งตามดว้ ย
คากริยาเท่าน้ัน
2. ครูพดู เสนอการใช้ can ในรปู ปฏิเสธ โดยแสดงบตั รภาพอกี คร้ัง และพดู สง่ิ ท่สี ตั วเ์ หลา่ น้ีไม่สามารถ
ทาได้ พรอ้ มกบั ส่ายหนา้ หรอื โบกมอื ประกอบ เมื่อนักเรียนเขา้ ใจแล้ว ครเู ขียนประโยคบนกระดานและ
ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งตามครู เชน่
A rabbit can’t swim. A dog can’t fly.
เสรจ็ แลว้ ครูใหน้ กั เรียนบอกสง่ิ ท่ตี นเองไมส่ ามารถทาได้คนละ 1 ประโยค
501
Can ออกเสียงวา่ /kæn/ แต่เจา้ ของภาษามักจะออกเสยี ง can แบบลดรปู (weak form) เป็น /kən/
ในประโยคบอกเลา่ และคาถาม ส่วนประโยคปฏิเสธจะลงเสยี งหนัก (strong form) เป็น /ka:nt/
เชน่ /kæn/ I can sing. ฉันรอ้ งเพลงได้ (เน้นว่าสามารถร้องไดจ้ รงิ ๆ)
/kən/ Can you sing? คณุ รอ้ งเพลงได้หรือไม่
/ka:nt/ No, I can’t. ไม่ ฉันรอ้ งไมไ่ ด้
Can สามารถลงเสียงหนกั ไดใ้ นประโยคบอกเล่าเม่อื ผูพ้ ูดตอ้ งการเนน้ หรือเมอื่ อยทู่ ้ายประโยค เชน่
/kæn/ Yes, I can. ใช่ ฉันรอ้ งได้
คนอังกฤษและอเมรกิ นั ออกเสียงคาว่า can’t ต่างกนั โดยคนองั กฤษจะออกเสยี ง can’t วา่ /ka:nt/
ในขณะทคี่ นเมรกิ นั จะออกเสียงว่า /kænt/
3. ครแู สดงบัตรภาพสตั ว์อกี ครั้ง จากนัน้ ถามคาถามเก่ียวกบั ความสามารถของสตั วเ์ หล่านี้ เชน่
T: Can a parrot fly?
Ss: Yes, it can.
T: Can it swim?
Ss: No, it can’t.
T: Tell me what a parrot can do and can’t do.
Ss: It can fly, but it can’t swim.
ครทู ากจิ กรรมเช่นเดียวกนั นี้กับสัตว์ชนิดอ่นื ๆ เช่น frog, snake, cat, dog
4. นาเสนอการใชค้ าเชือ่ ม or โดยเขียนประโยคตอ่ ไปนบ้ี นกระดาน
A parrot can walk and fly.
A spider can’t fly or swim.
จากนน้ั ให้นกั เรียนชว่ ยกนั บอกความแตกตา่ งระหว่าง and และ or ในประโยคเหลา่ น้ี เมือ่ ได้คาตอบ แลว้
ครอู ธิบายวา่ and มีความหมายว่า “และ” ทาหน้าท่เี ช่ือมข้อความที่คล้อยตามกันในประโยคบอกเลา่
ในขณะที่ or มคี วามหมายวา่ “หรือ” ใชเ้ ช่อื มขอ้ ความในประโยคปฏิเสธ
502
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หนา้ 65 Ex. 3 ครทู าตารางเหมือนอยา่ งในหนงั สือเรียน หนา้ 65 Ex. 3 บนกระดาน
walk run fly swim
rabbit
spider
parrot
จากน้ันครูถามคาถามนกั เรยี นเก่ียวกบั สิ่งทีส่ ตั วแ์ ต่ละชนดิ ในตารางสามารถทาได้ โดยถ้าทาได้ ครทู า
เครอ่ื งหมายถกู (✓) ลงในตาราง ถา้ ทาไมไ่ ด้ ครทู าเครอื่ งหมายกากบาท () ลงในตาราง
เช่น T: Can a rabbit walk?
Ss: Yes, it can!
T: Can a rabbit run?
Ss: Yes, it can!
T: Can a rabbit fly?
Ss: No, it can’t!
T: Can a rabbit swim?
Ss: No, it can’t!
เสร็จแลว้ ครูเขยี นโครงสร้างตอ่ ไปนีบ้ นกระดาน
A rabbit can ____ and _______, but it can’t _________ or _______ .
ครูช้ีไปท่คี าวา่ rabbit ในตาราง ครูพดู คาสั่ง Look and say. แลว้ ให้นักเรียนนาขอ้ มูลจากในตารางมา
พูดตอบครวู า่ A rabbit can walk and run, but it can’t fly or swim. ครูให้นกั เรียนอ่านคาตอบ
พรอ้ ม ๆ
กันอีกครัง้ แล้วจงึ ให้นกั เรียนดตู ารางและบอกขอ้ มลู ของสัตว์ทเ่ี หลอื
คาตอบ: A spider can walk and run, but it can’t fly or swim.
A parrot can walk, run and fly, but it can’t swim.
ครูแนะนาให้นักเรยี นเล่นเกมเพอ่ื ทบทวนการใช้ can และ can’t นอกเวลาเรยี นที่เวบ็ ไซต์ตอ่ ไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-games/modals-can-and-cant
503
2. หนงั สอื เรียน หนา้ 65 Ex. 4 ครูช้ที ีภ่ าพสตั วแ์ ละอาหารในหนงั สือเรยี น และใหน้ ักเรียนพูดบอกอาหาร
ของสตั ว์ เชน่ meat จากน้ันครถู ามนักเรียนว่า What do dogs eat? จนได้คาตอบวา่ Dogs eat meat.
ครู
ทากิจกรรมเชน่ เดียวกันนี้กบั สัตวอ์ นื่ ๆ ด้วย
2 Mice eat cheese.
3 Cats eat fish.
4 Rabbits eat carrots.
เสร็จแล้วครใู หน้ ักเรียนทางานคู่ ผลดั กันพดู ถาม-ตอบเกีย่ วกับสิ่งท่ีสตั ว์เหล่านี้กนิ อีกครง้ั
3. หนงั สอื เรียน หนา้ 65 Ex. 5 ครูอธบิ ายภาระงาน แล้วครูเปดิ CD ใหน้ กั เรยี นฟังและอา่ นตามไปด้วย
จากน้ันครูเปิด CD อกี คร้ัง โดยหยดุ ให้นกั เรยี นฟงั ทลี ะประโยคและออกเสยี งตามพรอ้ มกนั ครู
ตรวจสอบวา่ นกั เรียนออกเสียงถูกต้องหรอื ไม่ โดยครเู น้นใหน้ ักเรยี นออกเสียงรปู ยอ่ ’ve got และเสียง
a ในรูป weak form ใหถ้ ูกต้อง เสร็จแลว้ ครเู ปดิ CD อกี ครง้ั เพื่อให้นกั เรยี นออกเสยี งตาม CD
การออกเสยี งลดรูป (weak form)
เสียงลดรปู (weak form) คอื การทีไ่ ม่ออกเสยี งเน้นพยางค์ในคา เกิดขึ้นเมือ่ เราออกเสียง
ต่อเน่อื งกนั (connected speech) คาทถ่ี ูกลดรปู จะออกเสยี งเป็นเสยี ง /ə/ (schwa) แทน
ซ่งึ คาส่วนใหญ่เปน็ คาที่ทาหน้าทท่ี างไวยากรณ์ (grammatical words) ไม่มีความหมายใน
ตวั เอง เช่น verb to be, verb to have, articles (a, an, the)
ตวั อยา่ ง What do you want to do this evening?
เราจะไม่ออกเสียงลดรูป do คาทสี่ องเพราะมีความหมายในตัวเองซง่ึ หมายความวา่ เย็นนี้
คณุ อยาก “ทา” อะไร? ในขณะท่ีเราจะออกเสยี งลดรูป do คาแรกเพราะทาหน้าทเ่ี ติมเต็ม
ไวยากรณ์เทา่ นั้น ไมม่ คี วามหมายในตวั เอง
ท่ีมา: นนั ทนา รณเกียรติ. สทั ศาสตรเ์ พอ่ื การสอนการออกเสยี งภาษาองั กฤษ.
กรงุ เทพมหานคร: สํานักพมิ พม์ หาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, 2012.
ครอู ธิบายเพ่ิมเติมวา่ เราใช้ he หรอื she กับสตั วเ์ มื่อเรารเู้ พศของสัตวแ์ นน่ อนแล้ว
(สว่ นมากจะทราบจากชอ่ื ของสัตว์เอง เช่น Judy, Sally, Chuck)
504
4. ครูใหน้ ักเรียนจับคู่ ฝึกสนทนาถาม-ตอบตามตัวอยา่ งในหนังสือเรียน หนา้ 65 Ex. 5 จากน้ันครสู ุ่มเรยี ก
นักเรียน 3-4 คู่ ออกมาสนทนาถาม-ตอบหน้าช้ัน
5. ครูบอกว่านักเรียนจะได้เลน่ เกม What am I? โดยครูสมุ่ เลอื กนกั เรียน 1 คน ออกมายืนหน้าชน้ั และบอก
ให้นักเรียนคนดงั กล่าวเลอื กสตั ว์มา 1 ชนิด จากนน้ั ให้นักเรียนคนดงั กลา่ วพูดบรรยายลกั ษณะและบอก
ความสามารถของสตั วช์ นดิ น้ัน เพ่อื ใหน้ กั เรียนทเี่ หลือทายวา่ คอื สัตวช์ นดิ ใด
ตัวอยา่ ง S1: I’ve got long ears and a short tail. I can jump and run. I eat carrots.
What am I?
Class: A rabbit!
ขนั้ Production
1. ครูใหน้ กั เรยี นนาภาพสตั วเ์ ลย้ี งของตนเองมาแสดงให้เพอื่ นดู สาหรับนกั เรยี นท่ีไม่มีสัตวเ์ ล้ยี งครใู ห้
นกั เรยี นนาภาพสัตว์ทต่ี นเองชอบมา และตัง้ ชื่อดว้ ย จากนัน้ ครูแบ่งกลุ่มตามประเภทของสตั วเ์ ลย้ี ง
แล้วใหน้ ักเรยี นจับคู่กัน โดยพยายามใหน้ กั เรยี นจบั คู่กับเพื่อนท่มี ีสตั ว์เล้ยี งต่างกัน เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรยี น
ผลัดกันพูดถาม-ตอบ โดยใช้คาถามในหนงั สือเรยี น หนา้ 65 Ex. 5
กจิ กรรมเพิ่มเตมิ
ครูเพม่ิ คาถาม เชน่ How often do you feed your pet? เพื่อให้นักเรียนตอบ
Once/Twice/Three
times a day.
2. ครูให้นักเรยี นทางานกลมุ่ หาขอ้ มลู เกยี่ วกบั สัตวอ์ น่ื ๆ เพ่มิ เติมอีก 2 ชนดิ และทาตารางบอกสง่ิ ทสี่ ัตว์
เหลา่ น้ที าได้หรือทาไมไ่ ด้ เพอ่ื หาความเหมือนและความแตกต่างของสัตวเ์ หล่าน้ี เช่น
walk run fly swim
elephant
dolphin
An elephant can walk, run and swim, but it can’t fly.
A dolphin can swim, but it can walk, run or fly.
จากน้ันใหน้ กั เรียนนาขอ้ มูลทไ่ี ดม้ าทาแผนภาพของเวนน์ (Venn diagram) พรอ้ มกบั ระบายสแี ละ
ตกแต่งให้สวยงาม
505
แผนภาพของเวนน์ (Venn diagram) คือ แผนผงั เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา่ ง
โดยการเขยี นวงกลม 2 หรอื 3 วง และให้มีการเหลอื่ มกันของวงกลมท้งั 2 หรือ 3 วงน้ี สง่ิ ท่ี
เหมอื นกนั ใหใ้ ส่ในส่วนที่เหล่ือมกนั
ตัวอย่าง Elephants Dolphins
- can walk - can’t walk
- can run - can - can’t run
swim
- can’t fly
3. แบบฝึกหัด หน้า 55 Ex. 4 ครบู อกนกั เรียนวา่ นกั เรียนจะได้ฟังบทสนทนาระหวา่ งครูและ Simon, Pat,
Tom และ Alice เกีย่ วกบั สตั ว์เลี้ยงของพวกเขา ใหน้ ักเรยี นฟังและจับคู่สัตว์กับเจ้าของ จากนั้นครูถาม
นักเรยี นว่า What animal is Simon’s pet? จนได้คาตอบวา่ A rabbit. ครูทากจิ กรรมเชน่ เดียวกนั น้ีกับ
ขอ้ อื่นด้วย ครเู ฉลยคาตอบทถี่ ูกตอ้ งอีกครั้งบนกระดาน
Teacher: Simon, have you got a pet?
Simon: Yes, I have.
Teacher: Have you got a pet dog?
Simon: No, I’ve got a rabbit.
Narrator: Can you see the example? Now, you listen and match.
Teacher: Pat, have you got a pet?
Pat: Yes, I have.
Teacher: Have you got a rabbit too?
Pat: No, I’ve got a parrot. It can talk too!
506
Teacher: Tom, is that your cat?
Tom: Yes, Miss.
Teacher: What’s its name?
Tom: Fluffy.
Teacher: Alice, have you got a cat too?
Alice: No, I’ve got a dog.
Teacher: What’s your dog’s name?
Alice: Rover.
Pat – parrot
Tom – cat
Alice – dog
4. ใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมในแบบฝกึ หัด หนา้ 55 Ex. 3 เปน็ การบา้ น
2 A fish can swim but it can’t walk, run or fly.
3 A parrot can walk, run and fly but it can’t swim.
507
7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู ขอและให้ข้อมูล แบบประเมินช้นิ งาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้
เก่ยี วกับความสามารถของสัตว์เลย้ี ง ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ชนิ้ งานเปรียบเทียบ
ความสามารถของสตั วโ์ ดยใช้แผนภมู ิ แบบฝกึ หดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ของเวนน์ แบบทดสอบ
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึกหัด เรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์
สังเกตการออกเสยี ง แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ นใฝเ่ รียนรู้และ
ความมุ่งมน่ั ในการทางาน
8. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสอื เรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บัตรคาศพั ท์
8.5 อุปกรณท์ าช้นิ งาน
8.6 อนิ เทอร์เน็ต
508
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 Look at the elephant!
เวลา 1 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายของคาศัพท์เกีย่ วกบั สัตว์และคาคณุ ศพั ท์ได้
- พดู และเขียนบรรยายลักษณะของสตั วไ์ ด้
- ใช้คาสัง่ ง่าย ๆ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี งั และอ่านจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และแสดงความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง และคาขออนญุ าตงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งตา่ ง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกับตนเองและเร่อื งใกลต้ ัว
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
ตัวชว้ี ดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสยี งตัวอกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความของ
สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พนั ธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
ตัวช้วี ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
509
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศัพท์ และโครงสรา้ งภาษาทใ่ี ชบ้ รรยายลกั ษณะ ชว่ ยใหส้ นทนา พดู /
เขยี นสือ่ สารในชวี ติ ประจาวนั ในหัวข้อที่เก่ียวขอ้ งกบั สตั ว์ได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Look at the elephant. Oh, yes. It’s very big.
Vocabulary: parts of the body, animals, a tall giraffe, a big elephant, a
funny monkey, a long snake, a slow turtle, a fast lion, a fat hippo, a small mouse
Function: ให้ข้อมูลเกีย่ วกบั ลักษณะของสตั ว์
2) Language Skills
Speaking: พดู ใหข้ ้อมูลเก่ียวกับลักษณะของสตั ว์
Writing: เขียนให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ลักษณะของสัตว์
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งมัน่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ Warm Up
1. ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรยี น Good morning. จากนน้ั ใหน้ กั เรียนกล่าวทักทายครูกลบั
2. ทบทวนประโยคคาสงั่ ทใ่ี ชใ้ นห้องเรยี น เช่น
Look at the picture. Work in pairs.
Work in groups of four. Open your books at page 66.
510
Turn to page 68. Copy this in your book.
Put your book away. Raise your hand.
Get out your book. Put your hand down.
โดยพดู ประโยคและให้นักเรยี นปฏบิ ัตติ าม จากนนั้ ครูให้นักเรียนออกมาเปน็ ผพู้ ดู บา้ ง และใหเ้ พื่อน ๆ
ปฏิบัติตาม
3. ครูให้นักเรยี นเลน่ เกมทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั สตั ว์ โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2-3 กลมุ่ จากน้ันให้
แตล่ ะกลุ่มเขียนคาศัพท์เกย่ี วกบั สตั ว์ลงในกระดาษใหไ้ ด้มากท่สี ดุ ภายในเวลา 1 นาที กลุ่มใดท่ี
เขียนคาศัพทไ์ ดม้ ากทสี่ ดุ และถกู ตอ้ ง เปน็ กลมุ่ ทชี่ นะ
4. ทบทวนการใช้ can และ can’t โดยการเล่นเกมใบ้คา ครเู ลอื กชอ่ื สตั วม์ า 1 ชนดิ และเขียนใส่กระดาษ
แล้วให้นกั เรียนช่วยกนั ถามคาถามเพอื่ หาขอ้ มูลวา่ คอื สัตว์ชนิดใด โดยใชโ้ ครงสรา้ ง Can it…? จนกว่า
จะได้คาตอบ เชน่
S1: Can it run? T: Yes, it can.
S2: Can it swim? T: No, it can’t.
S3: Is it a rabbit? T: Yes, it is.
5. ทบทวนโครงสรา้ งท่ีใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ลักษณะของสัตว์ โดยครูใหน้ ักเรียนดูภาพท่คี รนู ามา
จากน้ันครูถามนกั เรียน เชน่ Has a rabbit got long legs? ให้นักเรียนตอบ เชน่ No, it hasn’t. It has
got short legs. ครูทากจิ กรรมเช่นเดียวกันน้กี บั สัตว์ชนดิ อ่ืน ๆ ทน่ี ักเรยี นเคยไดเ้ รยี นมาแล้ว เช่น
T: Has a horse got short legs?
Ss: No, it hasn’t. It has got long legs.
ขั้น Presentation
1. ครนู าเสนอคาศัพทท์ ีเ่ กีย่ วข้องกบั สตั ว์ ไดแ้ ก่ giraffe (ยรี าฟ), elephant (ชา้ ง), monkey (ลิง), snake
(ง)ู , turtle (เต่า), lion (สงิ โต), hippopotamus (ฮปิ โป) โดยนาบตั รภาพมาแสดง และใหน้ ักเรยี นออกเสยี ง
ตามครู แล้วชว่ ยกันบอกความหมาย
ครอู าจนาเสนอคาศัพทท์ นี่ กั เรยี นควรรู้เพิม่ เติม เช่น kitten (ลกู แมว), puppy (ลูกสนุ ัข), worm (หนอน)
เสรจ็ แลว้ ครูให้นักเรยี นฝกึ ลงเสียงหนกั ในคาศพั ทท์ ีม่ มี ากกว่า 1 พยางค์ ดงั น้ี
giraffe elephant monkey
lion turtle hippopotamus
kitten puppy penguin
2. ครูนาเสนอคาคณุ ศพั ท์ fast (เรว็ ), slow (ชา้ ), long (ยาว), fat (อ้วน), funny (ตลก), serious (จริงจัง)
โดย
511
แสดงบัตรภาพหรอื วาดภาพบนกระดาน แล้วพดู ประโยคบรรยายภาพดังกลา่ ว เพ่อื ใหน้ กั เรยี นเดา
ความหมายของคาคณุ ศพั ท์ เชน่
T: A rabbit is fast. (ครูอาจทาท่าวง่ิ เร็ว ๆ ประกอบดว้ ย)
A turtle is slow. (ครูอาจทาท่าว่งิ ชา้ ๆ ประกอบดว้ ย)
What does the word ‘fast’ mean?
Ss: เร็ว
T: What does the word ‘slow’ mean?
Ss: ชา้
ครูทากจิ กรรมเชน่ เดยี วกนั น้กี บั คาศัพทอ์ ื่น ๆ โดยยกตวั อยา่ งประโยค เชน่
A snake is long. A worm is short.
A clown is funny. This man is serious.
เสร็จแลว้ ครเู ขยี นประโยคท่คี รพู ดู บนกระดาน เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นช่วยกันระบุตาแหน่งของคาคุณศพั ท์ ใน
ประโยค โดยครอู าจชว่ ยขดี เส้นใต้คาคุณศัพท์ เพอื่ ให้นกั เรียนเหน็ ชัดเจนว่าตาแหนง่ ของคาคณุ ศัพท์
จะอยหู่ ลัง verb to be: is, am, are
3. ครูใหน้ ักเรียนอ่านออกเสยี งประโยคบนกระดานตามครู จากน้นั ครูเขียนตวั อยา่ งประโยคเพิ่มเติมบน
กระดาน โดยเปน็ ประโยคทมี่ ีคุณศัพทอ์ ย่หู น้าคานาม เช่น
A rabbit is fast. It is a fast rabbit.
ครูถามนกั เรยี นว่า rabbit เปน็ คาชนิดใด เมอ่ื ไดค้ าตอบว่า คานาม (noun) แลว้ ครอู ธิบายว่า
นอกจาก
คาคณุ ศพั ท์จะอยู่หลงั verb to be: is, am, are แลว้ ยงั สามารถวางไวห้ นา้ คานาม เพอ่ื ขยายคานาม
ดังกลา่ ว
ได้อีกดว้ ย เสร็จแล้วครใู ห้นกั เรียนช่วยกันแตง่ ประโยคทเ่ี หลือบนกระดานใหม่ โดยใหต้ าแหนง่ ของ
คาคณุ ศพั ท์อยูห่ น้าคานามเหมอื นดังตัวอยา่ งทค่ี รเู ขยี นบนกระดาน
A turtle is slow. It is a slow turtle.
A snake is long. It is a long snake.
A worm is short. It is a short worm.
A clown is funny. It is a funny clown.
This man is serious. He is a serious man.
เมื่อเขียนประโยคครบแล้ว ครใู หน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งประโยคตามครู
512
ครเู ปดิ คลปิ วดิ โี อเพลง Big, Big, Big | Adjectives Song for Kids ให้นักเรยี นดแู ละฝึกรอ้ งตาม
ไปดว้ ย โดยเขา้ ไปที่ www.youtube.com และพิมพ์ช่ือคลิป หรือเขา้ ไปที่
https://www.youtube.com/watch?v=3JZi2oDvPs4
หรือครูอาจแนะนาใหน้ กั เรยี นไปเปดิ ดูดว้ ยตนเองท่หี ้องคอมพิวเตอร์นอกเวลาเรยี น
4. ครถู ามนักเรยี นวา่ ในภาษาไทยมีคาลักษณะเดียวกับคาคณุ ศพั ท์ (adjectives) เช่น long, short, fat
หรือไม่
ครอู าจช่วยยกตวั อยา่ งประโยคในภาษาไทย เช่น
กระโปรงตวั นย้ี าว เชือกเสน้ นส้ี นั้ สุนขั ตวั น้ีอ้วน
ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ระบวุ ่า คาใดทีม่ ีลกั ษณะคลา้ ยคาคณุ ศพั ท์ในภาษาองั กฤษ เมอ่ื ได้คาตอบวา่ ยาว
ส้นั อ้วน แลว้ ครูอธิบายวา่ ในภาษาไทยเรยี กคาเหลา่ น้วี า่ คาวเิ ศษณ์
เสร็จแลว้ ครใู ห้นักเรียนแต่งประโยคภาษาองั กฤษท่ใี ชค้ าคุณศพั ท์มา 2 ประโยค และประโยคภาษาไทย
ท่ใี ชว้ ิเศษณม์ า 2 ประโยค
5. ครูนาบัตรภาพหนแู ละมดมาแสดง พร้อมกบั พูดประโยคต่อไปน้ี
This is a mouse. It is small.
This is an ant. It is very small.
จากนน้ั ครเู ขียนประโยคบนกระดาน แล้วใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันเดาความหมายของคาวา่ very เม่อื ได้
คาตอบว่า (อย่าง) มาก แล้วครูถามนักเรียนว่า very ทาหนา้ ทีข่ ยายคาใดในประโยค เม่อื ไดค้ าตอบวา่
small แล้ว ครใู ห้นกั เรียนบอกชนดิ ของคา small จนไดค้ าตอบว่า คาคุณศพั ท์ (adjective)
very เป็นคาวเิ ศษณ์ (adverb) ทบี่ อกจานวนปริมาณ ใช้ขยายคาคุณศพั ทห์ รือขยายคาวิเศษณ์
ด้วยกนั เอง เชน่
It’s very cold in here. ท่นี ี่หนาวมาก
He drives very fast. เขาขบั รถเร็วมาก
513
คาวเิ ศษณ์บอกลกั ษณะ
คาวเิ ศษณบ์ อกลักษณะ (ลกั ษณวเิ ศษณ์) ได้แก่ คาขยายท่บี อกชนิด ขนาด สณั ฐาน สี กล่นิ รส
สมั ผัส อาการ ความรูส้ กึ เชน่ เล็ก ใหญ่ กลม รี แบน ขาว แดง เหมน็ หอม หวาน เปร้ยี ว ออ่ น
แข็ง เรว็ ชา้ คอ่ ย แหบ ดงั เป็นตน้
ตัวอย่าง คนดยี อ่ มมีความกตัญญตู ่อพอ่ แม่
ม้าวงิ่ เรว็
เขาพูดเพราะ
ลมพัดแรง
ทีม่ า: กาํ ชยั ทองหลอ่ .หลักภาษาไทย. กรุงเทพฯ :บาํ รุงสาส์น, 2533.
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 66 Ex. 6 ครอู ธิบายภาระงาน จากน้ันใหเ้ วลานกั เรยี นเติมคาตอบดว้ ยตนเอง
เสร็จแล้วครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรยี น และเขยี นเฉลยบนกระดาน ตอ่ มาครูเปิด CD ใหน้ ักเรยี นฟัง
และช้คี าตอบของตนเองตามไปดว้ ยในรอบแรก ในรอบที่ 2-3 ครูหยุด CD หลังจบแตล่ ะวลีเพื่อให้
นกั เรยี นฝึกพูดตาม CD พรอ้ มกัน สดุ ทา้ ยครูส่มุ เรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน
a tall giraffe a big elephant a funny monkey
a long snake a slow turtle a fast lion
a fat hippo a small mouse
a big elephant a funny monkey
a fast lion a fat hippo
2. หนงั สอื เรียน หน้า 66 Ex. 7 ให้นกั เรยี นดภู าพและถามนกั เรียนวา่ What animals do you see in the
picture? (snake, hippo, monkey, giraffe, lion, turtle, mouse) จากนั้นครูอ่านประโยคทีอ่ ยใู่ น
กรอบคาพดู แลว้ ให้นกั เรยี นพดู ตามครพู รอ้ มกัน
จากนัน้ ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ 2 ฝัง่ ครแู สดงบัตรภาพสัตว์เหล่าน้ีทีละใบ และให้นกั เรียนฝงั่ ซ้ายพดู บอก
514
ให้เพ่ือนดูสัตว์เหลา่ นี้ และฝ่งั ขวาพดู ลักษณะของสตั วด์ งั กลา่ ว เสรจ็ แลว้ สลบั บทบาทกนั
ตอ่ มาครูนาบตั รภาพสตั วไ์ ปวางติดไวท้ ต่ี าแหนง่ ต่าง ๆ ภายในห้องเรียน ครใู ห้นักเรียนสมมติวา่
หอ้ งเรยี นคอื สวนสัตว์ ใหน้ ักเรียนทางานคู่ ผลดั กนั พูดช้ีชวนดสู ตั ว์เหลา่ นี้ ครูเดนิ สงั เกตและให้
คาแนะนาท่ีจาเป็น สุดทา้ ยสมุ่ เรยี กนักเรียนหลาย ๆ คู่ ออกมาพูดอกี ครงั้ ทหี่ นา้ ชั้น
กิจกรรมเพ่ิมเตมิ
ครูแสดงบัตรภาพสตั ว์ชนดิ อืน่ ๆ เช่น whale, frog, horse, panda และถามว่าสตั วเ์ หล่านม้ี ลี ักษณะ
เช่นใด
T: Is it big or small? (แสดงบัตรภาพ whale)
Ss: It is big.
T: Is it big or small? (แสดงบตั รภาพ frog)
Ss: It is small.
ครูสามารถดาวนโ์ หลดบัตรภาพสตั วต์ า่ ง ๆ ได้ท่ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/pets-flashcards
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/wild-animals-flashcards
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-sea-
animals.pdf
Look at the snake. Look at the hippo.
Oh, yes. It’s very long. Oh, yes. It’s very fat.
Look at the monkey. Look at the giraffe.
Oh, yes. It’s very funny. Oh, yes. It’s very tall.
Look at the lion. Look at the turtle.
Oh, yes. It’s very fast. Oh, yes. It’s very slow.
Look at the mouse.
Oh, yes. It’s very small.
515
3. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม จากนนั้ ครูแจกบัตรคาคณุ ศัพท์ เช่น big, small, tall, long,
short, fast, slow, fat, funny ให้แตล่ ะกลมุ่ แล้วอธบิ ายวา่ ให้แต่ละกล่มุ ช่วยกันแต่งประโยคจาก
คาคุณศัพท์ดังกลา่ วแล้วผลดั กันออกมาเขยี นประโยคหน้าชน้ั และประโยคตอ้ งไม่ซา้ กบั อีกกลุ่มหน่ึง
ตัวอยา่ ง A giraffe is tall.
An elephant is big.
A turtle is slow.
A monkey is funny.
กจิ กรรมเพิ่มเตมิ
ครูใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมร้องเพลง We’re going to the zoo เพ่อื จดจาคาศพั ท์เกี่ยวกับ
สตั วต์ า่ ง ๆ ทเี่ ว็บไซต์
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/songs/were-going-the-zoo
หรอื ให้นกั เรยี นไปฝึกดว้ ยตนเอง โดยครบู อกคาสาคัญ เช่น animals in the zoo ให้นักเรียน
เข้าไปเปิดดูด้วยตนเองที่ www.youtube.com
ข้นั Production
1. ครูให้นักเรยี นทาช้นิ งาน My animals โดยใหน้ ักเรยี นวาดภาพปา่ หรอื สวนสัตว์ เหมอื นอยา่ งภาพใน
หนงั สอื เรียน หนา้ 66 Ex. 7 จากน้นั ให้เขยี นบรรยายลกั ษณะของสตั ว์ชนดิ นน้ั สัน้ ๆ เสร็จแลว้ ครูให้
นักเรียนออกมาพดู นาเสนอใหเ้ พือ่ นฟัง
2. ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมในแบบฝึกหดั หนา้ 56 Exs. 5-6 เปน็ การบ้าน
Ex. 5 5 ELEPHANT 8 TURTLE
2 LION 6 MOUSE
3 HIPPO 7 SNAKE
4 GIRAFFE
5 big 8 slow
Ex. 6 6 small
2 fast 7 long
3 fat
4 tall 516
7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินช้ินงาน My animals ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ตรวจการแต่งประโยคภาษาไทย แบบฝึกหัด (Workbook)/
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
และภาษาอังกฤษทีใ่ ช้คาที่ทาหน้าที่ แบบทดสอบ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
คลา้ ยกนั
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั (Workbook)
สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ นใฝเ่ รียนรู้และ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ
ความม่งุ มนั่ ในการทางาน ประสงค์
8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่อื ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 ภาพสัตว์ ไดแ้ ก่ ยีราฟ ชา้ ง ลงิ งู เต่า สงิ โต ฮปิ โปโปเตมัส ลูกแมว ลกู สุนขั
8.6 อุปกรณท์ าช้ินงาน
8.7 อินเทอรเ์ น็ต
517
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 Where do elephants come from?
เวลา 1 ชวั่ โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับสตั ว์
- เขียนบรรยายขอ้ มูลเก่ียวกับสตั วไ์ ด้
- เลือกภาพตรงตามความหมายของประโยคทฟ่ี งั หรืออา่ นได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทีฟ่ งั และอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อยา่ งมีเหตผุ ล
ตวั ชว้ี ัด เลือก/ระบภุ าพ หรอื สญั ลักษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
ต 1.1 ป.4/3
และข้อความสน้ั ๆ ทฟ่ี งั หรอื อ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ
และ แสดงความคิดเหน็ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง เพ่ือน และครอบครัว
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชี้วดั เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะกบั วัย
ต 2.1 ป.4/3
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ่นื
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น และเปน็
ตัวช้ีวัด พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
ต 3.1 ป.4/1 ค้นควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ นื่ และนาเสนอดว้ ย
การพดู /การเขยี น
518
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณท์ เ่ี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครือ่ งมือพืน้ ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป.4/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้นและรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเข้าใจความหมายของคาศัพท์ และโครงสรา้ งภาษา ชว่ ยให้สนทนา พดู เขยี นบรรยายข้อมูล
เกยี่ วกบั สตั ว์ ซึง่ เป็นการใช้ภาษาเพ่ือการสอื่ สารในชวี ิตประจาวัน
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Where do elephants come from? They come from Africa.
Can they fly? No, they can’t, but they can run! Have they
got big eyes? No, they haven’t, but they’ve got big ears!
Vocabulary: parts of the body, parts of animal, animals, a tall giraffe, a
big elephant, a funny monkey, a long snake, a slow turtle, a fast lion, a fat hippo, a small
mouse
Pronunciation: ออกเสยี งเงียบ ‘b’ (silent ‘b’)
Function: ขอและใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั ความสามารถ ลกั ษณะรปู ร่างและขอ้ มูล
ท่ัวไปของสัตว์
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกับความสามารถ ลักษณะรปู รา่ งและ
ข้อมลู ทว่ั ไปของสตั ว์
Reading: อา่ นขอ้ มูลสัน้ ๆ เก่ียวกบั สัตว์
Writing: เขียนขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถ ลักษณะรูปรา่ งและ
ขอ้ มลู ท่วั ไปของสตั ว์
519
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ีใชใ้ นการสือ่ สาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ Warm Up
1. ครกู ลา่ วทักทายนักเรยี น จากนั้นครูใหน้ กั เรียนฝั่งซ้ายลุกขนึ้ ไปพดู ทกั ทายกบั เพือ่ นท่นี ง่ั อยฝู่ ง่ั ขวา
2. ทบทวนการพูดขอและใหข้ ้อมลู สว่ นตวั โดยครสู มุ่ เรยี กนกั เรียน 5-6 คน ตอบคาถามครู ดงั น้ี
T: Hello, what’s your name?
S: Hello. My name is Manee.
T: Where are you from, Manee?
S: I’m from Bangkok.
T: What can you do?
S: I can sing. etc.
3. ทบทวนการใช้ can และ can’t โดยครแู สดงบัตรภาพสตั ว์ตา่ ง ๆ เช่น หมี เสือ นก แล้วถามนกั เรียนว่า
What can it do? แล้วให้นักเรียนพดู บอกความสามารถของสตั วด์ ังกลา่ ว เชน่
T: What can a lion do?
Ss: A lion can run.
T: What can a parrot do?
Ss: A parrot can fly.
4. ทบทวนการพดู บอกสง่ิ ทชี่ อบและไมช่ อบ โดยให้นกั เรยี นพูดบอกสัตวท์ ี่นักเรยี นชอบและไมช่ อบมา
อยา่ งละ 1 ชนดิ พร้อมบอกเหตุผล เช่น
S1: I like parrots because they are colourful. I don’t like tigers because they are
dangerous.
S2: I like dogs because they are funny. I don’t like turtles because they are slow.
5. ทบทวนส่วนตา่ ง ๆ ของสตั ว์ เช่น tail, eyes, ears, body ด้วยการใหน้ ักเรียนวาดภาพสตั วป์ ระหลาด
520
ตามคาบอก โดยครูเปน็ ผู้พูดบรรยาย เช่น
My monster has got a big body. It has a long tail. It has got long arms. It has got short
legs. It has got short green hair. It has got yellow eyes. It has got a red nose and a small
mouth.
ข้ัน Presentation
1. ครูนาบัตรภาพสตั วต์ ่าง ๆ มาแสดงใหน้ กั เรียนดู พรอ้ มกบั อา่ นออกเสียงช่ือสตั ว์ เพอ่ื ให้นักเรยี นอา่ น ออก
เสียงตามครู เชน่ elephant, polar bear, kangaroo, giant panda, penguin, koala, zebra, giraffe,
komodo dragon เสรจ็ แล้วครูสลบั บตั รภาพสัตว์ และนามาแสดงให้นักเรยี นดูอกี ครัง้ พรอ้ มกบั ถาม
คาถามนักเรียน เชน่
T: What is this?
Ss: It is an elephant.
T: That’s right. Where does it come from?
Ss: It comes from Thailand/Africa.
T: Excellent.
ครทู ากจิ กรรมเช่นนีจ้ นครบสัตว์ทกุ ชนดิ โดยสตั วช์ นดิ ใดทีน่ ักเรียนบอกขอ้ มูลไม่ได้ ครชู ว่ ยเฉลย
คาตอบให้กบั นักเรยี น
elephant – Thailand/Africa, polar bear – the Arctic, kangaroo – Australia,
giant panda – China, penguin – Antarctica, koala – Australia, zebra – Africa,
giraffe – Africa, komodo dragon - Indonesia)
ครูให้นักเรียนฝกึ ลงเสียงหนักในคาในคา (word stress) ต่อไปน้ี
elephant polar bear kangaroo
giant panda penguin koala
zebra giraffe komodo dragon
521
ทวีปแอฟรกิ า เปน็ ทวปี ทม่ี ีขนาดใหญท่ ่ีสุดเปน็ อนั ดับ 2 ของโลก รองจากทวปี เอเชยี เปน็ ทวีป
ที่อุดมดว้ ยทรพั ยากร นา้ มนั เพชร ทองคา และสัตวป์ ่า ภมู ปิ ระเทศสว่ นใหญ่เป็นทะเลทราย
อากาศแหง้ แลง้ ประชากรส่วนใหญ่มเี ช้ือสายนิกรอยด์ (Negroid) หรือเรยี กวา่ แอฟรกิ ันนิโกร
นอกจากน้ีทวีปแอฟริกายงั มีประชากรเชื้อสายคอเคซอยด์ ท่ีมาจากคาบสมทุ รอาหรบั และ
ยโุ รปอาศัยอยูบ่ รเิ วณแหลมกู๊ดโฮปและทางตอนเหนอื ของทวีป
ช้าง (elephant) เปน็ สตั วเ์ ลย้ี งลกู ด้วยนา้ นมขนาดใหญ่ สามารถแบ่งออกเป็น 2 สายพันธ์ุ ได้แก่
- ชา้ งแอฟริกา (African elephants) มีขนาดใหญก่ วา่ ชา้ งเอเชยี และมใี บหูขนาดใหญ่ ชา้ ง
แอฟริกาท้งั ตัวผู้และตวั เมยี ลว้ นมงี า ซ่งึ แตกตา่ งจากชา้ งเอเชยี ทมี่ งี าเฉพาะตวั ผู้
- ชา้ งเอเชีย (Asian elephants) มีขนาดเลก็ กวา่ ช้างแอฟรกิ า ใบหเู ลก็ กวา่ และเฉพาะช้างตัวผู้
ที่มงี าเท่านัน้ ตวั เมยี จะไมม่ งี า
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/ทวีปแอฟริกา
https://th.wikipedia.org/wiki/ชา้ ง
http://www.elephant-world.com/types-of-elephants/
2. ครแู สดงบตั รภาพ climb แลว้ ให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกความหมาย จากนน้ั ครเู ขียนคาวา่ climb บน
กระดาน พร้อมกากบาททับตวั อักษร b และอ่านออกเสียงให้นกั เรยี นฟัง จากนัน้ ครูสมุ่ เรยี กนักเรยี น
2-3 คน เสรจ็ แล้วครอู ธบิ ายวา่ เราจะไม่ออกเสียง /b/ ท้ายคา เราเรยี กการออกเสยี งแบบนี้วา่ silent b
ครูส่มุ เรียกนักเรยี นหลาย ๆ คนอ่านออกเสียงคาว่า climb อกี คร้งั และยกตวั อยา่ งคาศพั ท์ท่ีมเี สียง silent
b เพิม่ เตมิ เพ่ือให้นกั เรยี นฝึกออกเสยี ง
เสยี งเงยี บ b (silent b)
ในภาษาองั กฤษ มพี ยญั ชนะทไ่ี ม่ออกเสยี งในคา (silent letters) เน่อื งมาจากเสยี งในภาษา-
องั กฤษมกี ารเปลยี่ นแปลงเรื่อยมา แตร่ ูปคายงั คงเดิม คนไทยสว่ นใหญ่มกั จะอ่านพยัญชนะที่
ไม่ออกเสยี งดว้ ย ซง่ึ ไมถ่ กู ต้อง ดังนนั้ นกั เรยี นควรจดจาใหแ้ มน่ เพ่อื ทจ่ี ะได้สือ่ สารได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
ตัวอย่างคาศพั ท์ climb comb thumb tomb
bomb lamb plumber
ตัวอยา่ งประโยค A baby lamb can’t climb a mountain.
A golden comb is in the tomb.
ทีม่ า: http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/flatmates/episode53/
languagepoint.shtml
522
กิจกรรมเพ่ิมเตมิ
ครอู าจเปิดคลิปวดิ ีโอใหน้ ักเรยี นฝึกการออกเสียง silent b เพิ่มเตมิ ที่
https://www.youtube.com/watch?v=fALivI8GBT0
หรือใหน้ ักเรยี นไปฝกึ ด้วยตนเอง โดยครบู อกคาสาคญั เชน่ silent b หรือชื่อคลิป Step 32
of Phonics With Silent (B) Part 4 of 5 ให้นกั เรยี นเขา้ ไปเปิดดูดว้ ยตนเองที่
www.youtube.com
ครูสามารถดาวน์โหลดบตั รภาพ climb ได้ท่ี
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Verbs_2/page1.htm
4. ครนู าบตั รภาพสตั วต์ า่ ง ๆ มาแสดง และถามนกั เรยี นว่า สตั วเ์ หลา่ นนั้ สามารถปนี ต้นไม้ไดห้ รอื ไม่ เชน่
T: What’s this?
Ss: It’s an elephant.
T: Can it climb trees?
Ss: No, it can’t.
ขนั้ Practice
1. หนังสอื เรียน หนา้ 67 Ex. 8 ครูอา่ นคาส่งั Read and complete. และใหเ้ วลานักเรยี นเตมิ คาตอบ
จากนั้น ครขู ออาสาสมัคร 7 คน อ่านขอ้ ความของตนเองให้เพอ่ื นฟงั คนละ 1 ขอ้ เสร็จแลว้ ครูเขียนคาตอบบน
กระดาน ใหน้ ักเรยี นตรวจคาตอบ เสรจ็ แล้วใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงขอ้ ความทั้งหมดพรอ้ ม ๆ กัน
1 Africa 2 ears 3 bananas
4 meat 5 zoo 6 monkey
2. หนงั สือเรยี น หนา้ 67 Ex. 9 ครใู ห้นักเรียนดภู าพสัตวท์ ใ่ี หม้ า และให้นักเรียนพดู บอกวา่ เปน็ สตั ว์ชนิดใด
โดยครูถามนักเรียน ดังน้ี
T: Look at picture number 1. What is this? Ss: It is a lion.
จากน้ันครบู อกนกั เรียนวา่ นักเรยี นจะได้ยนิ เสยี งของสัตวบ์ างชนดิ ใหน้ กั เรียนระบวุ ่า เป็นเสยี งของสัตว์
ชนดิ ใด เสรจ็ แล้วครูเปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟัง โดยหยุดเป็นช่วง ๆ ใหน้ กั เรียนพูดตอบครู
เสยี งสงิ โต เสียงงู เสียงชา้ งเสียงลิง
523
animals heard: 1, 3, 4, 5
3. หนงั สือเรียน หนา้ 67 Ex. 10 ครเู ปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนา 1-2 ครง้ั และให้นักเรียนอ่านตาม
จากน้ันครูแบ่งนักเรียนเป็น 2 ฝ่งั เป็น A และ B แลว้ ครูเปิด CD ใหน้ กั เรยี นฟังทีละประโยค และอา่ น
ออกเสียงตาม CD เสรจ็ แลว้ ให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งดว้ ยตนเอง ต่อมาครอู า่ นคาสั่ง Now talk with
your friend. ให้นกั เรยี นจับคสู่ นทนาเกยี่ วกบั ฮปิ โปและยีราฟ โดยใช้บทสนทนาใน Ex. 10 เปน็ แบบ เช่น
A: Where do hippos come from?
B: They come from Africa.
A: Can they climb trees?
B: No, they can’t, but they can swim!
A: Have they got big ears?
B: No, they haven’t, but they’ve got a big body!
A: Where do giraffes come from?
B: They come from Africa.
A: Can they fly?
B: No, they can’t, but they can run!
A: Have they got a long tail?
B: No, they haven’t, but they’ve got long legs!
4. ครนู าภาพสตั ว์ทีไ่ ดน้ าเสนอไปมาแสดงใหน้ ักเรยี นดอู ีกครงั้ จากนัน้ ครูถามคาถามเดิม เช่น What is this?
Where does it come from? และเพ่มิ คาถาม เช่น Can it …? Has it got …? จากนัน้ ใหจ้ ับคู่และฝึก
พูดถาม-ตอบเก่ียวกับสัตว์ทีต่ ัวเองสนใจ โดยครจู บั เวลา และให้นกั เรยี นเปลย่ี นคู่ เพ่ือฝึกพดู อกี 1-2 ครง้ั
ขั้น Production
1. ครอู ธบิ ายภาระงาน ให้นักเรยี นทางานคู่ เลอื กสตั ว์มา 1 ชนดิ จากนน้ั แตง่ บทสนทนาโดยใช้ตวั อยา่ งใน
หนังสอื เรียน หน้า 67 Ex. 10 เป็นต้นแบบ ครูใหน้ กั เรยี นฝึกสนทนาจนคล่อง เสร็จแลว้ ครูใหน้ ักเรยี น
ออกมาพดู สนทนาหน้าชนั้ ใหเ้ พ่ือนดูอกี ครั้ง เช่น
S1: Where do giant pandas come from?
S2: They come from China.
S1: Can they fly?
S2: No, they can’t, but they can climb trees!
S1: Have they got big eyes?
524
S2: No, they haven’t, but they have got big paws.
2. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน คน้ หาขอ้ มลู เกี่ยวกับสตั ว์ 1 ชนดิ แล้วนามาทาบัตรข้อมูลโดย
ด้านหนา้ บัตรใหว้ าดภาพสตั ว์ ด้านหลังเขียนบรรยายเก่ยี วกบั สัตวด์ งั กลา่ ว เช่น อาศยั อยู่ที่ใด ลกั ษณะ
รูปร่าง อาหารทกี่ นิ และความสามารถ โดยใชร้ ูปแบบการบรรยายตามตวั อยา่ งในหนังสอื เรียน
หน้า 67 Ex. 8 เสรจ็ แลว้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทน 1-2 คน ออกมาอา่ นบัตรขอ้ มลู ของกลุ่มตนเอง แตห่ า้ ม
บอกว่าเป็นสัตว์ชนดิ ใด เพ่ือให้เพือ่ นทาย เมอ่ื เพอื่ นทายถูกแล้ว ใหห้ ันบัตรข้อมลู ดา้ นทเ่ี ปน็ ภาพให้
เพอื่ นดู เช่น
S1: It has got four legs. It has got yellow stripes. It has got sharp fangs. It runs very
fast. It eats meat.
Ss: Is it a tiger?
S1: That’s right!
3. ใหน้ ักเรยี นทากิจกรรมในแบบฝกึ หัด หนา้ 57 Exs. 7-8 เป็นการบ้าน
Ex. 7 2 I’ve, legs, jump rabbit
1 can, eat spider
3 I’m, can
Ex. 8
1 B: They come from Africa.
2 A: Can they fly?
B: No, they can’t but they can run.
3 A: Have they got long necks?
B: No, they haven’t but they’ve got long tails.
525
7. การวดั และประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เคร่ืองมอื เกณฑ์
ประเมินการพูดขอและให้ข้อมูล แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เก่ียวกบั สัตว์ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานบัตรข้อมูล แบบประเมินชน้ิ งาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
เก่ียวกับสัตว์ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการเลือกภาพตรงตาม แบบฝึกหัด (Workbook)/ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ความหมายของประโยคทีอ่ า่ น แบบทดสอบ
ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ชี้ด้านใฝ่เรียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง ระดับคุณภาพ พอใช้
และมุ่งม่นั ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
8. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บัตรคาศพั ท์
8.5 อปุ กรณ์ทาชิน้ งาน
8.6 อนิ เทอร์เนต็
526
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 Tell the class about your pet.
เวลา 2 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟงั หรืออา่ นได้
- แสดงบทบาทสมมติจากเรือ่ งท่อี ่านได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้วี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทฟี่ งั และอ่านจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
ตัวช้วี ดั อย่างมีเหตุผล
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
ต 1.1 ป.4/4 เขา้ จงั หวะถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนทิ านงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และ แสดงความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชว้ี ดั
ต 1.2 ป.4/2 ใช้คาสัง่ คาขอร้อง และคาขออนญุ าตงา่ ย ๆ
สาระที่ 2 ภาษากับวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ป.4/1 พดู และทาทา่ ประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทีเ่ หมาะกับวัย
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธก์ ับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ บั กล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ื่น และเปน็
พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
527
ตวั ชีว้ ดั
ต 3.1 ป.4/1 คน้ คว้า รวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเกยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่ืน และนาเสนอด้วย
การพดู /การเขยี น
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชว้ี ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ท่ีเกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเข้าใจความหมายของคาศัพท์ สานวน และโครงสรา้ งภาษาทีใ่ ชข้ อและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั สัตว์
ช่วยใหต้ อบคาถามจากการอ่านและฟังได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: OK, Tom. Tell the class about your pet. Snowy’s got a short
tail, but he’s got long ears. Snowy’s favourite vegetables are carrots.
Do wild animals live here? Elephants love water and baths.
Vocabulary: parts of animal body, animals, adjectives, safari, fish tank, cage
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟงั
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Speaking: แสดงบทบาทสมมติ
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใี่ ช้ในการสอื่ สาร
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 ม่งุ ม่ันในการทางาน
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
528
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ัน Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน จากนน้ั ครทู บทวนคาขออนญุ าตที่ใชใ้ นหอ้ งเรียน เช่น
May I go out? Can I sit here?
May I come in? Can I borrow your pencil?
May I open the window? Can I turn off the light?
โดยให้นกั เรยี น 1-2 คนทีค่ รูเตรียมไวอ้ อกมาขออนุญาตทาสง่ิ ตา่ ง ๆ กับครู ครพู ดู ตอบรบั วา่ Sure./
No problem. หรือปฏเิ สธว่า I’m sorry./I’m afraid you can’t. บนกระดาน จากน้ันครูเขยี นประโยค
ดงั กลา่ วบนกระดาน แล้วอา่ นประโยคดงั กลา่ วให้นกั เรยี นฟังและพูดตาม เสร็จแล้วครูบอกนกั เรียนว่า ให้
นกั เรียนพดู ขออนุญาตครทู าสิ่งตา่ ง ๆ โดยครใู ห้นกั เรียนทาสิ่งนนั้ จรงิ ๆ เป็นเวลา 1 นาที เช่น
Can I talk with my friend?
Can I wash my hands?
Can I sing a song?
แลว้ ให้นักเรยี นพูดตอบโดยใชค้ าตอบบนกระดาน
2. ครูทบทวนการออกเสยี ง silent b โดยครูเขียนคาศัพทต์ ่อไปน้บี นกระดาน
climb comb thumb
doubt lamb bomb
จากนั้นครูสุ่มเรียกนักเรยี นอา่ นออกเสียงทลี ะคน โดยครชู ้ีคาศัพทส์ ลบั ไปมาใหน้ กั เรยี นฝึกพูดจนคลอ่ ง
3. ครูทบทวนประโยคทใ่ี ชข้ อและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ลักษณะของสัตวโ์ ดยใช้บตั รภาพ เชน่
T: Has it got two legs? (ภาพสงิ โต)
S: No, it hasn’t. It has got four legs!
T: Has it got a long tail?
S: Yes, it has! etc.
ข้นั Presentation
1. ครนู าภาพสตั วเ์ ล้ียงของตนเองหรอื อาจจะของคนร้จู ักมาแสดงให้นักเรยี นดู จากนน้ั พูดแนะนา เชน่
This is my pet. What is it? เมอ่ื ได้คาตอบว่า It’s a cat. แลว้ ครูพดู บรรยายลกั ษณะใหน้ ักเรียนฟงั
โดยชไี้ ปทส่ี ่วนตา่ ง ๆ ของแมวในภาพ หรอื อาจวาดภาพบนกระดานประกอบขณะทพ่ี ูด โดยครูพดู ช้า ๆ ที
ละประโยค เพอ่ื ให้นกั เรยี นพดู ตาม เชน่
My cat’s name is Kitty.
She’s got orange hair.
529
She’s four years old.
Kitty’s got two big eyes.
She’s got small ears and a long tail.
She eats fish and meat.
She can jump and climb trees.
She’s very cute.
2. ครูแบ่งกระดานเป็น 2 ฝงั่ ฝั่งแรกเขียน pets อกี ฝัง่ หนึ่งเขยี น wild animals จากนนั้ ครแู บง่ นักเรยี นเป็น
2 กลุ่ม กลุ่มแรกใหเ้ ขียนคาศพั ทท์ ่เี ป็นสตั วเ์ ล้ยี งและอกี กลุม่ เขยี นคาศัพทท์ ่เี ปน็ สตั วป์ ่า ใหน้ ักเรยี นแต่ละ
กล่มุ ผลัดกันออกมาเขียนช่อื สตั ว์บนกระดาน เสรจ็ แลว้ ครตู รวจความถกู ตอ้ งดา้ นการสะกดคา และช้ี
คาศัพทท์ ลี ะคา ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสียงพรอ้ มกนั ต่อมาครูถามวา่ Where do pets live? เมือ่ ไดค้ าตอบ
ว่า They live at home. แล้ว ครถู ามตอ่ วา่ Where do wild animals live? เมอ่ื ได้คาตอบวา่ In the
forest. แลว้ ครกู ระตนุ้ ให้นกั เรยี นคดิ เพ่ือให้ไดค้ าตอบวา่ In the zoo/safari park.
3. นาเสนอคาศพั ท์กอ่ นการอ่าน ไดแ้ ก่ cage (กรง), fish tank (ตู้ปลา), safari (การทอ่ งเท่ียวแบบซาฟารี),
safari park (สวนสัตวท์ ีเ่ ปดิ ให้ขับรถเข้าไปชมสตั ว์อยา่ งใกลช้ ดิ ได้ ซึ่งสัตวเ์ หลา่ นีจ้ ะอยอู่ ยา่ งอสิ ระ) และ
bath (อาบน้า)
การทอ่ งเที่ยวแบบซาฟารี (safari) คอื การทอ่ งเท่ยี วชมสัตว์ป่าทีม่ ชี วี ิตอยู่อย่างอิสระตาม
ธรรมชาติ ซงึ่ สัตวเ์ หล่านม้ี กั จะอาศัยอยตู่ ามปา่ โปรง่ ป่าละเมาะ ทงุ่ หญ้าสะวันนา รวมถงึ
ภูมปิ ระเทศกึ่งทะเลทราย โดยแรนเจอร์ (ranger) หรอื ผ้พู ิทกั ษ์ป่าและนักตามรอย (tracker)
จะเป็นผู้ขับรถพาชมสัตวต์ ่าง ๆ รถทีจ่ ดั พานัง่ ชมนนั้ มักจะเป็นรถตู้ หรอื รถจปิ๊ ที่มหี ลังคา
การทอ่ งเท่ยี วลกั ษณะนนี้ ิยมมากในประเทศแถบแอฟริกา เชน่ เคนย่า แอฟริกาใต้ มาดากัสการ์
ซิมบบั เว
ท่ีมา: http://www.abroad-tour.com/south_africa/safari/
4. ให้นกั เรยี นดภู าพในหนงั สือเรียน หน้า 68 ครูถามนักเรียนวา่ Where are they? (In the classroom.)
Why are their pets in the classroom? จากนนั้ ครูเขยี นคาว่า show and tell บนกระดาน และ
อธิบายใหน้ กั เรยี นฟังวา่ เป็นกจิ กรรมในชน้ั ท่ีนักเรยี นจะนาสงิ่ ของตา่ ง ๆ มาแสดงและบรรยายสงิ่ ของนนั้ ๆ
ใหเ้ พอื่ นฟงั
show and tell (n) = an activity for school children in which they bring an object to
school and tell the other children about it
530