แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 Can I help? Yes, make a hole.
เวลา 1 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศัพทเ์ กย่ี วกบั ฤดูกาลได้
- ใช้และปฏบิ ตั ิตามคาส่งั ได้
- พดู ขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับฤดูกาลและเทศกาลตา่ ง ๆ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งทฟี่ งั และอ่านจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟ่ี ังหรอื อา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อา่ นกลุ่มคา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เข้าจังหวะถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรอื สญั ลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความสั้น ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก
และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.2 ป.4/2 ใช้คาสั่ง คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพอื่ ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง เพ่ือน และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขยี น
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของสิ่งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัวตามท่ฟี ังหรืออา่ น
สาระท่ี 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใชไ้ ด้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
381
ตวั ชวี้ ดั
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกีย่ วกับเทศกาล/วันสาคญั /งานฉลอง และชวี ติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ
ของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกับวยั
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธก์ บั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อา่ นในสถานการณ์ท่ีเกดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเข้าใจความหมายของคาศัพทเ์ ก่ียวกับฤดกู าลและการปลูกตน้ ไม้ และประโยคคาสั่งและเสนอ
ความชว่ ยเหลอื ชว่ ยใหเ้ สนอความช่วยเหลือและปฏบิ ัติตามคาสัง่ ได้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Can I help? Yes, make a hole.
Vocabulary: (Months) January, February, March, April, May, June, July,
August, September, October, November, December
(Seasons) spring, summer, autumn, winter
(Nouns) hole, seed, flower
(Verbs) plant, cover, water, grow
Pronunciation: ออกเสยี งคาท่ีประกอบดว้ ย m, ลงเสยี งหนักในคา (word stress)
Function: เสนอความชว่ ยเหลอื และออกคาสัง่
2) Language Skills
Listening: ปฏิบตั ิตามคาสงั่
Speaking: พดู เสนอความชว่ ยเหลือและออกคาสงั่
3) Culture: ฤดูกาลในสหราชอาณาจกั ร
4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
382
- ทักษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการส่อื สาร
- ทักษะคดิ วิเคราะห์
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ัน Warm Up
1. ครูทักทายนกั เรยี นวา่ How are you? เมอ่ื นกั เรียนพดู ตอบแล้ว ครสู ุม่ เรยี กนกั เรียน 4-5 คน พดู ตอบ
เช่น
T: How are you?
S1: I’m great.
T: How are you?
S2: I’m good.
2. ครบู อกนักเรียนว่า กอ่ นเรยี นวันนี้เราจะมาออกกาลังกายกัน โดยให้นกั เรยี นปฏิบตั ิตามคาส่ังท่ีครพู ูด
จากน้ันครพู ดู ออกคาสง่ั และให้นกั เรยี นปฏิบตั ติ าม ดังนี้
T: stand up (ยนื ขึน้ ), sit down (นัง่ ลง), stand up (ยืนขน้ึ ), hands up (ยกมอื ทงั้ สองขน้ึ ),
hands down (เอามือลง), clap your hands (ปรบมือ), turn around (หมุน 1 รอบ),
stamp your feet (กระทบื เท้า)
ก่อนให้นักเรยี นปฏบิ ัติ ครอู าจเปิดคลปิ วดิ โี อ Classroom Commands, English for Children
Good TPR Lesson จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปนี้ให้นกั เรียนดกู อ่ น
https://www.youtube.com/watch?v=fuZktwZKYNE
3. ครูทบทวนคาศพั ท์เกี่ยวกบั ช่อื เดอื นดว้ ยการแบ่งนักเรยี นเปน็ กล่มุ ยอ่ ย จากนัน้ ครูแจกบัตรคาชอ่ื เดอื น
ทงั้ 12 เดอื น ใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม แล้วให้แข่งกันเรยี งชอ่ื เดอื นตามลาดบั ให้ถูกตอ้ ง กลมุ่ ท่ีเรยี งเสร็จเปน็ กลุ่มแรก
ใหอ้ า่ นออกเสียงชื่อเดือนทั้ง 12 เดอื น พรอ้ มกัน และให้เพ่ือนกลุม่ อน่ื ตรวจว่า ถูกต้องหรือไม่ ใหก้ ลุ่มอน่ื
เรยี งลาดบั ชอื่ เดือนของกลุม่ ตวั เองใหเ้ สรจ็ แล้วอา่ นออกเสียงชือ่ เดือนอกี ครัง้
January February March April
383
May June July August
September October November December
ครสู ามารถเขา้ ไปดาวน์โหลดบัตรคาช่อื เดือนไดจ้ ากเว็บไซตต์ ่อไปนี้
http://www.activityvillage.co.uk/month-word-cards
4. ครสู อนคาบุพบท before (ก่อน) และ after (หลงั ) แลว้ ยกตัวอยา่ งใหน้ กั เรยี นดู เชน่
January comes before February. May comes after April.
จากนั้นครูถามคาถามนักเรียนเกย่ี วกับลาดบั ทีข่ องเดือนตา่ ง ๆ ดว้ ยคาถามต่อไปนี้
T: Which month comes before November?
Ss: October.
T: Which month comes after November?
Ss: December?
T: Which month comes before February?
Ss: January.
T: Which month comes after May?
Ss: June.
T: Which month comes after June?
Ss: July.
ขนั้ Presentation
1. ครูบอกนักเรียนวา่ ฤดกู าลของตะวันตกจะตา่ งกับของไทย จากน้นั ครนู าเสนอคาศพั ท์เกี่ยวกบั
ฤดกู าลของทางตะวันตก ไดแ้ ก่ summer (ฤดรู ้อน), autumn (ฤดใู บไม้รว่ ง), spring (ฤดใู บไมผ้ ลิ),
winter (ฤดหู นาว) โดยการแสดงบตั รภาพฤดตู ่าง ๆ บนกระดาน แลว้ ครสู อนนักเรยี นลงเสยี งหนักใน
คาท่ีมมี ากกวา่ 1 พยางค์ ดังนี้
summer autumn winter
384
ฤดูกาลในสหราชอาณาจักร
1. ฤดูใบไม้ผลิ (spring) เริ่มต้ังแต่เดือนมนี าคมถึงเดือนพฤษภาคม ในฤดนู ้จี ะมีฝนตก
พืชพนั ธุเ์ รมิ่ ผลดิ อกออกผล
2. ฤดรู อ้ น (summer) เรมิ่ ตงั้ แตเ่ ดือนมิถุนายนถึงเดอื นสงิ หาคม ชว่ งนเ้ี ปน็ ช่วงที่อบอุ่นทีส่ ุด
ของสหราชอาณาจักร แต่ละวนั จะมีแดดยาวนาน อาจมพี ายบุ า้ ง และบางปีอาจมปี รากฏการณ์
คล่นื ความร้อน (heat wave) ดว้ ย
3. ฤดูใบไม้ร่วง (autumn) เริม่ ตั้งแต่เดอื นกันยายนถงึ เดอื นพฤศจกิ ายน อากาศในฤดนู ี้ค่อนข้าง
อบอ่นุ แหง้ และมลี มพัดแรง อุณหภมู ใิ นฤดูนี้จะลดลง
4. ฤดูหนาว (winter) เร่ิมจากเดือนธันวาคมถึงเดือนกมุ ภาพนั ธ์ เป็นฤดูที่หนาวท่ีสุดในสหราช
อาณาจกั ร มีสภาวะอากาศทหี่ นาวเยน็ มาก อุณหภมู ติ ิดลบและมหี มิ ะตก
ท่มี า: http://www.educationuk.org/global/articles/weather-and-seasons/
ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกนั บอกลักษณะสาคญั ของแต่ละฤดกู าลหรือสิ่งที่นกั เรยี นนึกถึงในแตล่ ะฤดูกาล เช่น
summer - hot, beach, sea, sun
spring - flowers, rain, green leaves
autumn - brown leaves, red leaves
winter - snow, cold, skiing
summer holiday หรอื summer break คอื วนั หยุดช่วงปิดภาคเรยี นของโรงเรยี น
ชาวอเมรกิ นั เรยี กฤดใู บไม้ร่วงวา่ fall ในขณะทีช่ าวอังกฤษเรียกวา่ autumn
ครูเปิดคลปิ วดิ ีโอ Seasons Song ให้นักเรียนฝึกรอ้ ง หรอื แนะนาให้นักเรยี นไปเปดิ ดแู ละฝึกร้อง
ด้วยตนเองทีบ่ ้าน
ชือ่ คลปิ วดิ ีโอ SEASONS SONG ♫ | Learning & Teaching | Kids Songs | Pancake Manor
https://www.youtube.com/watch?v=ksGiLaIx39c
385
ครูสามารถเขา้ ไปดาวน์โหลดภาพฤดกู าลตา่ ง ๆ จากเว็บไซตต์ ่อไปนี้
http://www.kids-
pages.com/folders/flashcards/The_Four_Seasons/FourSeasons_medium.pdf
http://www.activityvillage.co.uk/four-seasons
2. ครถู ามนกั เรียนวา่ รู้หรือไม่วา่ ในแตล่ ะฤดกู าลของประเทศอังกฤษอย่ใู นชว่ งเดือนไหนบ้าง แลว้ ครูเปิด
คลิปช่อื Learning seasons for kids. Four seasons of the year. จาก www.youtube.com ให้
นกั เรยี นดู
หรอื อาจใช้บัตรคาชอื่ ฤดกู าลและเดอื นแทนก็ได้
คลิปชอื่ Learning seasons for kids. Four seasons of the year จาก www.youtube.com หรือ
เขา้ ไปท่ี https://www.youtube.com/watch?v=CmWspJkwt8g
3. ครูแสดงบัตรภาพ winter แล้วถามนักเรียนวา่ What’s the weather like in winter? เพอ่ื ให้นักเรียน
ทบทวนคาคณุ ศพั ท์เก่ียวกับสภาพอากาศท่เี รียนมาในบทก่อนหนา้ นี้ ครทู ากจิ กรรมเช่นเดยี วกันนก้ี บั
บตั รภาพฤดกู าลอื่น ๆ ดว้ ย เชน่
T: (ครูแสดงบตั รภาพฤดูหนาว) What’s the weather like in winter?
Ss: It’s cold.
T: (ครูแสดงบัตรภาพฤดรู อ้ น) What’s the weather like in summer?
Ss: It’s hot.
4. นาเสนอคาศัพท์ที่เก่ียวขอ้ งกบั การปลกู ต้นไม้ ไดแ้ ก่ hole (หลมุ ), seed (เมล็ด), plant (ปลูก), cover
(กลบ), water (รดน้า), grow (ปลูก), flower (ดอกไม)้ โดยวาดภาพและเขยี นคาศัพท์บนกระดาน บางคา
อาจใช้บัตรภาพหรือแสดงท่าทางประกอบ แล้วใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั พูดบอกความหมาย
นอกจากนี้ครอู าจนาเสนอคาศัพท์เกีย่ วกบั อุปกรณท์ าสวนทน่ี ักเรียนควรรเู้ พ่มิ เติม เช่น watering can
(บัวรดน้า) โดยใช้บตั รภาพหรอื เขียนคาศัพทบ์ นกระดาน
386
ครสู ามารถดาวนโ์ หลดบัตรภาพเกย่ี วกับตน้ ไม้จากเวบ็ ไซต์ตอ่ ไปน้ี
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Spring_1/page1.htm
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-
plants.pdf
กจิ กรรมเพิม่ เตมิ
ครเู ปดิ คลิปวดิ โี อเพลง The Planting Song ให้นกั เรียนฟงั จากเว็บไซตต์ ่อไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=a44NFSiIn54&index=5&list=RDdUBIQ1fTRzI
จากนน้ั ครูสอนคาศพั ทส์ าคัญ เช่น ground (พน้ื ดนิ ), pour (รดนา้ ), around (รอบๆ), stem (ลาต้น,
ก้าน), ripe (สุก), pick (หยิบ, เกบ็ ), work (ทางาน), light (แสง), shine (สอ่ งแสง), round (กลม)
หรอื บอกชือ่ คลปิ The Planting Song - Earth Day Song for Children from Mother Goose
Club แล้วใหน้ ักเรยี นไปเปดิ ฟงั ด้วยตนเองนอกเวลาเรียนในหอ้ งคอมพิวเตอรห์ รือทบ่ี ้าน
5. นาเสนอคาเช่ือมท่ใี ช้บอกขนั้ ตอน โดยครูเขยี น first, then, after that, next, finally บนกระดาน พร้อม
ยกตัวอยา่ งประโยค ดังนี้
First, make a hole.
Then, put some seeds in the hole.
After that, cover the seeds.
Next, water the seeds.
Finally, wait for the seeds to grow.
คาเชอ่ื มบอกข้ันตอน
First ใชบ้ อกสงิ่ ท่ีทาเป็นลาดบั แรก จะวางไวห้ นา้ ประโยค
Then ใชบ้ อกลาดบั ต่อมา อาจใช้คาวา่ next หรอื after that แทนกไ็ ด้
Finally ใช้บอกลาดับหรอื ขน้ั ตอนสดุ ท้าย
387
ประโยคคาสงั่ (Imperative clauses)
เราใช้ imperative clauses เมื่อเราตอ้ งการแนะนาหรือส่ังใหผ้ ู้อ่ืนทาสง่ิ ใดส่งิ หน่ึง โดยโครงสร้าง
คอื กรยิ ารูป base form (ชอ่ งที่ 1). ซ่งึ เราสามารถละประธานได้ เชน่
Have fun. Enjoy your meal.
Stop talking and open your books.
หากเป็นการสง่ั ห้ามทา จะใชโ้ ครงสร้าง Do not (Don’t) + กริยารูป base form (ช่องท่ี 1). เช่น
Don’t run. Do not talk while the teacher is teaching.
Don’t be late.
ท่ีมา: http://dictionary.cambridge.org/grammar/british-grammar/infinitives-and-
imperatives/imperative-clauses-be-quiet
6. ครูเขียน Can I help? บนกระดาน จากนัน้ อธบิ ายวา่ ประโยคดงั กลา่ วใชเ้ พอ่ื เสนอความชว่ ยเหลือ
นอกจากโครงสรา้ ง Can I help? แลว้ เรายังสามารถใช้ May I help? ไดใ้ นสถานการณ์ที่เปน็ ทางการ
ส่วนคาตอบเปน็ Yes/Sure/Of course. ถ้าปฏเิ สธจะเป็น I’m sorry I can’t. I’m sorry. หรือ Sorry.
สั้น ๆ กไ็ ด้ เสรจ็ แล้วครูให้นักเรียนจับคู่ พดู โตต้ อบกัน เชน่
S1: Can I help?
S2: Sure!
S3: Can I help?
S4: I’m sorry I can’t.
ขั้น Practice
1. หนงั สอื เรียน หน้า 52 Ex. 1 ครเู ปดิ CD ให้นกั เรยี นฟังและพดู ตาม จากนน้ั ครูเปิด CD อกี คร้ัง โดยหยุด
เป็นคา ๆ เพือ่ ใหน้ ักเรียนฝึกพูดตามพร้อมกนั โดยครูกระตุ้นใหน้ กั เรียนช้ที ค่ี าศัพท์ด้วย เสรจ็ แล้วครอู าจ
สมุ่ เรียกนกั เรยี นยืนขึน้ อ่านคาศพั ทท์ ีละคน
spring: March, April, May
summer: June, July, August
autumn: September, October, November
winter: December, January, February
hole, seed, plant, cover, water, grow, flower
388
ต่อมาครนู ากลอ่ ง 4 กล่อง ซึ่งแต่ละกล่องติดชือ่ ฤดกู าล winter, summer, spring, autumn มาวางไว้ที่
โตะ๊
ครหู น้าหอ้ ง จากนั้นครหู ยบิ กล่องแตล่ ะกล่องข้นึ มาแสดง และถามนักเรียน เชน่
T: (ครูหยิบกลอ่ งท่ีติดปา้ ย summer) What season is this?
Ss: It’s summer.
ครูทากจิ กรรมเชน่ น้ีจนครบทกุ กล่อง
ครหู ยบิ บตั รคาชอื่ เดอื นมาแสดงใหน้ ักเรยี นดทู ีละเดอื น แลว้ ให้นักเรียนอ่านชอ่ื เดอื นตามครู จากนน้ั ครู
สุ่มเรียกนกั เรยี น 12 คน ออกมาทห่ี น้าช้ันทีละคน ครแู จกบตั รคาชอ่ื เดือนใหก้ บั นักเรยี นแตล่ ะคน แล้ว
สั่งนักเรยี นว่า Put the month in the correct season. เมื่อนกั เรียนวางเสร็จแลว้ ครหู ยบิ บตั รคาใน
กลอ่ งที่
นกั เรียนหยิบออกมา และถามนกั เรียนในชัน้ ท่เี หลือวา่ ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ เชน่
T: Is February in winter?
Ss: Yes, it is.
ถา้ ถูกต้อง ครวู างบัตรคาไวท้ ีก่ ลอ่ งเดมิ
T: Is June in winter?
Ss: No, it isn’t. June is in summer.
ถา้ ไมถ่ กู ต้อง ครูนาบัตรคายา้ ยไปไวก้ ล่องที่ถูกตอ้ ง
ครูทากจิ กรรมเชน่ นี้จนครบทกุ เดอื น เสรจ็ แลว้ ครหู ยิบบตั รคาจากกลอ่ งทลี ะกลอ่ งข้นึ มา แล้วให้
นักเรยี นพดู ประโยคตามครู
T: (ครหู ยิบบัตรคาชอื่ เดอื นในกลอ่ ง winter ขึ้นมาแสดงทลี ะใบ)
December, January and February are in winter. Repeat after me.
Ss: December, January and February are in winter.
ครทู ากจิ กรรมเช่นเดยี วกนั นีก้ ับกล่องทเี่ หลอื จนครบทุกกลอ่ ง
ต่อมาครูใหน้ กั เรยี นอา่ นคาศัพทท์ เ่ี ก่ียวข้องกบั การปลูกตน้ ไม้และช่วยกนั บอกความหมาย ครูอาจช่วย
ยกตัวอยา่ งประโยค เชน่
Make a hole.
Take a seed and put it in a hole.
Grow the plant.
Cover the plant.
Water the flower.
The plant grows and has flowers.
389
The flower is in full bloom.
2. หนงั สอื เรยี น หน้า 52 Ex. 2 ครพู ูดกบั นกั เรียน Look at number 1 and read the speech bubble
after me. เพือ่ ใหอ้ ่านขอ้ ความในกรอบคาพดู ตามครู จากน้นั ใหน้ ักเรียนดภู าพในขอ้ 2 แล้วถามนักเรยี น
ว่า
Can I help? ใหน้ กั เรยี นตอบ Yes, put the seeds in the hole. ครทู ากจิ กรรมเชน่ เดยี วกันนก้ี บั ข้อท่ี
เหลอื
2 A: Can I help?
B: Yes, put the seeds in the hole.
3 A: Can I help?
B: Yes, cover the seeds.
4 A: Can I help?
B: Yes, water the seeds.
3. ครูให้นักเรยี นจบั คูฝ่ กึ ถาม-ตอบประโยคในหนังสอื เรียน หนา้ 52 Ex. 2 โดยให้สลบั คู่กับเพ่ือน 1-2 ครง้ั
จนคล่อง จากนนั้ ครูสมุ่ เรยี กนักเรียน 2-3 คู่ พูดถาม-ตอบให้เพือ่ นฟังอกี ครั้ง
4. ครทู บทวนเดือนในฤดูตา่ ง ๆ โดยให้นักเรยี นพดู บอกว่าในแต่ละฤดมู เี ดอื นอะไรบา้ ง เชน่
T: Summer
Ss: March, April, May
จากนัน้ ครวู าดภาพวงกลมบนกระดาน แล้วเขยี นช่อื ฤดูกาลลงในแต่ละชอ่ ง โดยเรยี งจาก spring,
summer, autumn, winter จากน้นั ครถู ามนักเรียนวา่ ในแต่ละฤดูกาลมีเดือนอะไรบา้ ง เชน่ What
months are in spring? There are three months. ครทู ากจิ กรรมเชน่ น้ีไปเรือ่ ย ๆ จนครบทกุ ฤดูกาล เม่ือ
ได้คาตอบ
ว่าแต่ละฤดกู าลมเี ดือนอะไรแล้ว ครถู ามนักเรยี นว่าเทศกาลท่ีมชี ื่อเสยี งของตะวันตกต่อไปนี้อยู่ในฤดูกาล
ใด เช่น
T: When is Christmas Day?
Ss: It’s on the 25th of December.
T: What season is Christmas Day in?
Ss: It’s in winter.
ครทู ากจิ กรรมเชน่ นี้กบั เทศกาลอ่ืน ๆ เช่น
Halloween (31st of October)
390
Easter Day (a Sunday in March or April)
Thanksgiving Day in the United States (the fourth Thursday of November)
Independence Day in the United States (the fourth of July)
เสรจ็ แลว้ ครใู ห้เวลานักเรยี นฝึกพดู ถาม-ตอบกันสน้ั ๆ
กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูใหน้ กั เรียนดคู ลปิ วิดีโอ The lucky seed จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories/the-lucky-seed
เสรจ็ แลว้ ครถู ามคาถามเกย่ี วกบั เรอื่ งที่นกั เรียนไดด้ ู เช่น
T: Why does the lucky seed need some water?
Ss: Because water helps the seed grow.
T: What does the seed become at the end of the video?
Ss: A tree.
หรือดาวนโ์ หลดใบงานจากเวบ็ ไซตด์ ังกล่าวมาแจกใหน้ ักเรยี นทา
5. ครูแบง่ นักเรียนออกเปน็ กลุม่ กลุม่ ละ 4-5 คน และให้สมาชกิ ในแต่ละกลมุ่ บอกข้นั ตอนในการปลกู
ต้นไม้ ครเู ดนิ สงั เกตและใหค้ าแนะนาที่จาเป็น จากนั้นให้แตล่ ะกลมุ่ พูดนาเสนอวธิ กี ารปลกู ตน้ ไม้
พร้อมทัง้ แสดงท่าทางประกอบ เช่น
S1: First, make a hole.
S2: Next, take some seeds and put them in the hole.
S3: Then, cover the seeds.
S4: Water the flower. etc.
ข้ัน Production
1. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ทาโปสเตอรน์ าเสนอคาศพั ทส์ ว่ นตา่ ง ๆ ของพชื โดยครใู ห้คาสาคัญในการคน้ หา เชน่ parts
of plants
2. ให้นกั เรียนกลุ่มเดิมเขยี นขน้ั ตอนการปลกู ต้นไม้จากเมล็ดแบบง่าย ๆ พรอ้ มทงั้ วาดภาพหรือติด
ภาพประกอบ แล้วตกแตง่ ให้สวยงาม
3. ครชู ใ้ี ห้เห็นถึงความสาคญั ของตน้ ไม้ โดยอธบิ ายว่า นอกจากตน้ ไม้จะใหร้ ม่ เงาแก่เราแลว้ ตน้ ไม้ยังเปน็
ท่ีอยอู่ าศยั ของสตั ว์ขนาดเลก็ เช่น นก กระรอก สว่ นต่าง ๆ ของตน้ ไม้ยงั สามารถนามาประกอบอาหาร
ไดด้ ้วย นอกจากนต้ี ้นไมย้ ังทาหนา้ ทกี่ รองอากาศเสียทาใหอ้ ากาศดขี ้ึน ดงั นั้น เราตอ้ งชว่ ยกันรักษาปา่ ไม้
ให้อยกู่ บั เราไปนาน ๆ จากนัน้ ครถู ามนกั เรียนวา่ นอกจากการปลูกต้นไม้ นักเรยี นสามารถ ชว่ ยรักษา
391
ส่ิงแวดล้อมได้อยา่ งไร ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนมาเขยี นบนกระดานในรปู แบบแผนที่ความคิด
(mind map)
4. ครใู ห้นกั เรยี นฝึกร้องเพลง If you know all the seasons จาก www.youtube.com หรอื เขา้ ไปท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=_BkkzF9z4-g
5. ใหน้ ักเรียนทาตาราง 4 ชอ่ ง ลงในกระดาษ A4 และวาดภาพฤดูกาลท้ัง 4 ลงไป พร้อมกับเขียนใหข้ ้อมลู
วา่ แตล่ ะฤดกู าลมีเดอื นอะไรบา้ ง โดยใชโ้ ครงสรา้ ง เช่น Winter is in December, January and
February.
เมื่อทาเสรจ็ แลว้ ให้เขยี นหวั ข้อด้านบนว่า Seasons and Months
6. ให้นกั เรยี นทากจิ กรรมในแบบฝึกหัด หนา้ 44-45 Exs. 1-3 เปน็ การบา้ น
Ex. 1 2 winter 3 summer 4 autumn
1 spring
Ex. 2
Months to be circled: October, May, July, December, March, February,
November, August, June, January, April
Missing month: September
Ex. 3 3 Cover 4 water 5 grow 6 flowers
2 seeds
392
7. การวดั และประเมนิ ผล
วิธีการวดั เครื่องมอื เกณฑ์
ประเมินชน้ิ งานข้นั ตอนการปลกู แบบประเมนิ ชน้ิ งาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ต้นไมง้ ่าย ๆ ผ่านเกณฑ์
ประเมินชน้ิ งานโปสเตอร์นาเสนอ แบบประเมนิ ช้นิ งาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
คาศัพทส์ ว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชิ้นงาน Seasons and แบบประเมนิ ชน้ิ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้
Months ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการพดู และปฏบิ ัติตามคาสง่ั แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการลงเสยี งหนกั -เบาใน แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้
คาศพั ทช์ ื่อเดอื นและฤดกู าล เรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีด้าน แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่นั ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนังสอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณ์ทาโปสเตอร์
8.5 บตั รภาพ/คาศัพท์
8.6 อนิ เทอร์เน็ต
393
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 In spring Zara plants flowers.
เวลา 1 ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- พดู และเขียนให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับกิจกรรมทท่ี าในฤดกู าลตา่ ง ๆ ได้
- ใช้และปฏิบตั ติ ามคาสงั่ ได้
- ตอบคาถามจากการฟังได้
- วาดภาพหรือระบุภาพตรงตามความหมายของประโยคได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทีฟ่ งั และอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้วี ัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัติตามคาส่ัง คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟี่ ังหรอื อา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถกู ต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสญั ลักษณห์ รอื เครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และข้อความสนั้ ๆ ทฟ่ี งั หรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ
และ แสดงความคิดเหน็ อย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสั่ง คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพ่ือขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขียน
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรอื่ งใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของสิง่ ตา่ ง ๆ ใกล้ตวั ตามทฟี่ ังหรอื อา่ น
394
สาระท่ี 2 ภาษากบั วฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชวี้ ัด
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกีย่ วกบั เทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชีวิตความเปน็ อยู่งา่ ย ๆ
ของเจ้าของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท้ังในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ตัวชวี้ ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพดู /อ่านในสถานการณท์ ีเ่ กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศัพท์ โครงสรา้ งประโยคคาสง่ั และหลักการออกเสยี ง ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจในส่งิ ทฟ่ี ัง พดู และ
เขยี นสอ่ื สารเกีย่ วกับเร่อื งใกลต้ วั ได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Tidy your room! Don’t go out! In spring Zara plants
flowers.
Vocabulary: (Nouns) months, seasons, hole, seed, flower
(Verbs) plant, cover, water, grow
Pronunciation: ลงเสียงหนกั ในคา
Function: ขอและใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั กิจกรรมทีท่ าในฤดกู าลตา่ ง ๆ
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับกจิ กรรมทท่ี าในฤดกู าลต่าง ๆ
Writing: เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมท่ที าในฤดูกาลต่าง ๆ
395
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทีใ่ ช้ในการสือ่ สาร
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มงุ่ มัน่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียน Good morning. How are you? เมอ่ื นักเรยี นตอบแล้ว ครทู บทวนโครงสร้าง Can I
help? โดยครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ นอกจากประโยค Can I help? แลว้ เราพดู วา่ Can I help you? ได้
เชน่ กัน
จากนน้ั ครูเขียนคาตอบบนกระดาน ไดแ้ ก่ Yes, please. หรือ No, thanks. No, thank you. เสรจ็ แล้ว
ครู
สุม่ เรียกนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาพดู โตต้ อบกบั ครู โดยทค่ี าตอบไมซ่ า้ กัน เชน่
T: Can I help you?
S1: Yes, please.
T: Can I help you?
S2: No, thank you.
2. ครนู าแผน่ ปา้ ยชอ่ื วนั เดอื น และฤดูกาลมาตดิ บนกระดาน และใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสียงพร้อม ๆ กนั
โดยเน้นให้ลงเสียงหนกั ในคาให้ถกู ตอ้ ง ดังนี้
Days of the week:
Monday Tuesday Wednesday Thursday
Friday Saturday Sunday
Months:
January February March April
May June July August
September October November December
Seasons:
spring summer autumn winter
396
3. ทบทวนคาศัพท์เก่ียวกบั เดอื น ดว้ ยการให้นักเรียนเลน่ เกม Noughts and Crosses หรอื เกม Tic-Tac-
Toe
ซ่ึงมวี ิธีการเล่นเหมือนกับเกม OX ที่นกั เรยี นร้จู กั โดยครูแบ่งนักเรียนออกเปน็ 2 ทมี ให้แต่ละทีมสง่
ตัวแทนมาเล่นเกม Rock, Paper, Scissors หรือเปา่ ยิงฉบุ ตัวแทนที่ชนะ จะไดเ้ ลือกช่องในตาราง 9 ชอ่ ง
บนกระดาน และพดู สะกดคาศพั ทช์ ่ือเดือน ถา้ สะกดได้ถกู ตอ้ งจะมีสทิ ธท์ิ าเครือ่ งหมาย O หรอื X ใน
ชอ่ งดังกล่าว ทีมท่ีสามารถทาเครอื่ งหมายไดค้ รบ 3 ชอ่ งตดิ กันก่อนในแนวใดกไ็ ด้ เป็นทีมที่ชนะ
4. ทบทวนคาศัพท์เก่ยี วกับฤดกู าล โดยครูถามนกั เรยี นวา่ What do you do or see in spring? จากน้ันให้
ช่วยกันบอกกิจกรรมทท่ี าไดใ้ นฤดูใบไมผ้ ลิ เช่น In spring, I plant flowers. เสรจ็ แลว้ ครูถามคาถาม
เชน่ เดยี วกนั น้ีกบั ฤดกู าลอนื่ ๆ ดว้ ย
5. ใหน้ กั เรียนร้องเพลง If you know all the seasons อีกคร้งั และแสดงทา่ ทางประกอบ
ขั้น Presentation
1. ครูสอนวลี clean up (ทาความสะอาด), tidy up (ทาความสะอาด) และ put away (นาไปไวท้ ีอ่ น่ื ) ดว้ ย
การ
นาหนังสอื หลาย ๆ เลม่ มาวางกองบนโตะ๊ ครแู บบไมเ่ ป็นระเบยี บ จากนัน้ ครูพดู บอกนักเรยี น 1 คน
ซง่ึ ครูได้เตรียมนกั เรียนไวแ้ ลว้ ดงั น้ี
T: Tidy (up) the desk, please.
S1: OK./Sure.
จากน้ันครูทาใหโ้ ต๊ะไม่เปน็ ระเบียบเหมอื นเดิม แลว้ สมุ่ เรยี กนักเรียนอีก 2-3 คน ดว้ ยคาสั่งเดยี วกนั
แลว้ ครถู ามนักเรียนว่า คาว่า tidy (up) หมายความวา่ อยา่ งไร เม่อื ได้คาตอบวา่ จดั ให้เปน็ ระเบียบ แลว้
ครูให้นกั เรียนทากจิ กรรมเช่นเดียวกันนี้กับ clean up และ put away ตอ่ มาครูเขยี นประโยคต่อไปนี้
บนกระดานและให้นกั เรยี นออกเสยี งตามครพู ร้อม ๆ กนั
It’s time to clean up
(It’s) time to tidy up.
Put the books away.
เสรจ็ แล้วครเู ปิดคลิปวิดีโอชอื่ Clean Up Song | Tidy Up Song | The Singing Walrus จาก
www.youtube.com หรอื เขา้ ไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=gPq7wzGEjqE แลว้ ให้
นักเรียนร้องเพลงตามทง้ั เพลง หรอื ใหร้ อ้ งเฉพาะประโยคท่ีมี
It’s time to clean up!
Time to tidy up!
Put the … away!
397
2. ครเู ขยี น verb บนกระดาน จากน้นั อธบิ ายวา่ verb คือ คากรยิ า เปน็ คาทแี่ สดงอาการหรือการกระทา
จากนนั้ ครูยกตัวอยา่ ง walk และทาทา่ ทางเดินให้นกั เรยี นดู เสรจ็ แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกันบอกคากรยิ า
ที่นักเรยี นรูจ้ ัก ครเู ขยี นคากรยิ าทน่ี กั เรยี นบอกบนกระดาน ครตู รวจวา่ คากริยาท่ีนกั เรยี นบอกมคี าวา่
tidy, drink, eat, jump, plant, fly, play, swim, forget หรือไม่ ถ้าไมม่ ี ครูกระตุ้นให้นกั เรียนพดู บอก
คากริยาเหล่าน้ี เมอื่ ครมู นั่ ใจว่านกั เรียนเขา้ ใจคากริยาแล้ว ครทู บทวนให้นกั เรยี นฟงั ว่า ประโยคคาสัง่
จะขึ้นตน้ ด้วยคากริยา เช่น Jump. Listen. Stand up. ตอ่ มาครูสอนประโยคคาสั่งรูปปฏิเสธโดยเขยี น
ประโยคต่อไปนี้บนกระดานและใหน้ กั เรยี นอา่ นตาม
Don’t jump. (หา้ มกระโดด)
Don’t eat in the classroom. (ห้ามรบั ประทานอาหารในห้องเรยี น)
Don’t run in the corridor. (ห้ามวง่ิ ตรงระเบยี ง)
Don’t sleep in the classroom. (ห้ามหลับในหอ้ งเรยี น)
Don’t talk while the teacher is teaching. (ห้ามคุยขณะที่ครกู าลงั สอน)
เสรจ็ แล้วครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกนั บอกโครงสรา้ งของประโยคคาส่งั รปู ปฏิเสธ จนไดค้ าตอบว่า
Don’t + คากริยารูป base form (ช่องท่ี 1).
ตอ่ มาครูขออาสาสมคั ร 1 คน มายืนหนา้ ชนั้ แลว้ ครูพดู คาสั่งใหน้ ักเรียนคนดงั กล่าวปฏบิ ตั ติ าม เชน่
T: Ken, walk.
S1: ทาทา่ เดิน
T: Don’t walk.
S1: หยุดเดนิ
ต่อมาครูให้นักเรยี นคนดงั กล่าว เปน็ ผู้ออกคาสงั่ และใหเ้ พือ่ น ๆ ในชัน้ เปน็ ผู้ปฏบิ ตั ติ ามบา้ ง
ขนั้ Practice
1. หนังสือเรยี น หนา้ 53 Ex. 3 ครอู า่ นคาสง่ั Look, read and match. ใหเ้ วลานักเรยี นดภู าพและประโยค
คาสงั่ ที่ให้มา จากนั้นครอู า่ นประโยคคาสั่งในขอ้ 1 แล้วใหน้ ักเรียนระบุวา่ ตรงกับภาพใด เมอื่ นักเรียน
ตอบถกู แล้ว ครอู า่ นประโยคทเี่ หลอื เพื่อใหน้ กั เรียนจับค่ภู าพกับประโยคท่ีสมั พันธ์กนั
1a 3e 5b
2f 4d 6c
2. ครูแบง่ นักเรียนออกเปน็ 2 ทีม ใหแ้ ตล่ ะทมี ผลดั กนั สง่ ตัวแทนออกมาจับฉลากและแสดงท่าทางตามที่
398
จบั ฉลากได้ เช่น run, jump, tidy the classroom, sleep, eat, swim, play football, play
basketball, play
the piano, play the guitar, watch TV, fly a kite ให้เพ่อื นในทีมพดู สง่ั หา้ มใหเ้ พอ่ื นทากิจกรรม
ดงั กล่าว
ถ้าพูดไดถ้ กู ตอ้ งทีมดังกลา่ วจะได้ 1 คะแนน เมื่อหมดเวลา ทมี ทไี่ ดค้ ะแนนมากทส่ี ดุ คือทมี ท่ีชนะ
ตัวอยา่ ง Team A S1: (ทาทา่ เลน่ กีตาร์)
Team A S2: Don’t play the guitar.
Team A S1: OK. (หยดุ เล่นกตี าร์)
Teacher: Team A gets 1 point.
ทบทวนประโยค Imperative โดยใหน้ กั เรยี นยนื เปน็ วงกลมหนา้ ชนั้ จากนน้ั ครบู อกนักเรยี นว่า จะได้เล่น
เกม Simon Says เมื่อครูพดู คาส่ังทม่ี ี Simon Says หน้าประโยคคาส่ัง ให้นกั เรยี นปฏิบตั ติ ามคาส่งั แต่ถ้า
ครไู มไ่ ด้พดู วา่ Simon Says หน้าประโยคคาสั่ง ให้นักเรยี นทาอยา่ งอ่นื ท่ไี มต่ รงกับประโยคท่คี รพู ดู ใคร
ปฏบิ ัตติ ามไม่ถูกต้อง ใหอ้ อกจากวงการแขง่ ขนั ผทู้ ่ีเหลอื คนสดุ ทา้ ยคอื ผู้ชนะ
ตัวอย่าง T: Simon says, stand up!
Ss: (stand up)
T: Jump!
Ss: (ทาทา่ ทางอย่างอนื่ ทไี่ มใ่ ช่การกระโดด) etc.
เมอื่ เลน่ เกมเสร็จแล้ว ครพู ดู สรุปโครงสรา้ ง Imperative อกี ครัง้ วา่ ประโยค Imperative จะขน้ึ ตน้ ด้วย
คากริยาในรูป base form ส่วนประธานจะถกู ละไว้ ตอ่ มาครูสมุ่ เรียกนักเรยี น 5-6 คน ยกตวั อยา่ ง
ประโยค Imperative อกี คร้งั
Advances classes: ครทู บทวนคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั ฤดกู าลทงั้ 4 ฤดู อีกครง้ั จากนั้นใหน้ ักเรียนวาดตาราง
4 ชอ่ ง ลงในกระดาษและในแต่ละช่องใสห่ มายเลข 1-4 ที่หัวมมุ บนดา้ นซ้าย ครอู ธบิ ายวา่ ให้นักเรยี น
วาดภาพตามคาบรรยายของครู ดังน้ี
Picture 1 - Draw a tree. Draw flowers in the tree. Draw a sun and clouds in the sky.
Picture 2 - Draw a tree. Draw lots of leaves in the tree. Draw a big sun in the sky.
Picture 3 - Draw a tree. Draw some leaves in the tree. Draw leaves falling off the
tree. Draw leaves on the ground. Draw clouds in the sky.
Picture 4 - Draw a tree with no leaves. Draw snow on the ground. Draw a cloud in
the sky with snow falling.
ตอ่ มาครูให้นักเรยี นสลบั ผลงานกันตรวจ จากนน้ั ครูพดู ประโยคอีกครง้ั ทลี ะประโยค ใหน้ ักเรียน
ชว่ ยกนั บอกว่า ครวู าดภาพอะไร ครวู าดภาพตามทีน่ ักเรียนบอกบนกระดานเพือ่ เฉลยคาตอบ
เสรจ็ แลว้ ครชู ไี้ ปทภ่ี าพทลี ะภาพ และถามนกั เรยี นว่าตน้ ไม้ในแตล่ ะภาพจะเห็นได้ในฤดกู าลใด เชน่
399
In which season does the tree look like this? จนได้คาตอบ ดงั นี้
Picture 1: spring Picture 2: summer
Picture 3: autumn Picture 4: winter
3. หนังสือเรยี น หน้า 53 Ex. 4 ครูบอกนกั เรียนวา่ ครูจะเปิด CD ใหน้ ักเรียนฟัง ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ ิจกรรม
กบั ฤดูกาลให้ถกู ต้อง จากนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นอ่านกจิ กรรม 1-4 และชว่ ยกนั อธบิ ายความหมาย
plant flowers (ปลกู ดอกไม้) fly my kite (เลน่ วา่ ว)
play in the snow (เล่นหมิ ะ) swim in the pool (วา่ ยนา้ ในสระน้า)
ตอ่ มาครูทบทวนการลงเสียงหนักในช่ือฤดกู าลอีกครงั้ โดยเน้นใหน้ กั เรยี นลงเสยี งหนักในคาใหถ้ กู ต้อง
summer autumn winter
Man: Zara, what do you usually do in spring?
Girl: Oh, in spring I plant flowers in my garden.
Man: What do you usually do in autumn?
Girl: In autumn I fly my kite.
Man: Ah! What do you do in the summer?
Girl: I swim in the pool in the summer. I love summer.
Man: And winter? What do you usually do in the winter?
Girl: In winter? Erm … in winter I play in the snow.
หนา้ ฤดกู าลสามารถใส่ the หรือไม่ใสก่ ็ได้ เชน่ I swim in the pool in (the) summer.
1b 2a 3c 4d
In autumn Zara flies her kite.
In summer Zara swims in the pool.
In winter Zara plays in the snow.
4. หนงั สือเรยี น หนา้ 53 หัวขอ้ Go Green ครใู หน้ กั เรยี นดกู รอบ Go Green หลงั จากนน้ั ครูเขยี น 3R บน
กระดาน แล้วอธิบายให้นักเรยี นฟงั ว่า 3R ประกอบไปดว้ ย reduce, reuse และ recycle โดยให้นักเรยี น
400
สงั เกต re- หน้าคาศัพทแ์ ละแต่ละคา แล้วอธิบายว่า re- เป็น prefix มีความหมายวา่ ทาซา้ แล้วอธิบาย
ความหมายของ reduce, reuse และ recycle ใหน้ กั เรียนฟงั
reduce = less garbage (ลดการใช้)
reuse = use an item more than once (ใช้ซ้า)
recycle = turn an item into another useful item (นาไปแปรรปู เปน็ อย่างอื่น)
ครอู ธิบายเพ่มิ เติมวา่ เราจะไม่ลงเสยี งหนักในคาทเี่ ปน็ prefix ดังนน้ั reduce, reuse และ recycle จะ
ลงเสียงหนักท่ีพยางค์ที่ 2 ดงั น้ี
reduce reuse recycle
ต่อมาครูแบง่ นกั เรียนออกเปน็ กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มอภปิ รายเกีย่ วกับสิง่ ของในบา้ นทสี่ ามารถลดการใช้
(reduce) นากลบั มาใชซ้ ้า (reuse) หรือใชใ้ หม่ (recycle) มอี ะไรบ้าง โดยใหเ้ ขยี นตาราง 3 ชอ่ ง ดงั นี้
reduce reuse recycle
เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นจบั คกู่ ัน พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั สิ่งของท่ีสามารถลดการใช้ นามาใชซ้ า้ หรอื แปรรูป
ได้ เช่น
T: What can you reduce?
S1: I can reduce plastic bags.
T: What can you reuse?
S2: I can reuse my clothes.
หลักการ 3R
Reduce หมายถงึ การลดใชท้ รัพยากรทไ่ี มจ่ าเป็นลง เช่น ก๊าซ นา้ มัน ถา่ นหิน
Reuse หมายถึง การนาสง่ิ ของเครือ่ งใชม้ าใชซ้ า้ ซ่ึงบางอยา่ งอาจใช้ซ้าไดห้ ลาย ๆ ครงั้ เชน่
เสอ้ื ผา้ กระดาษท่ใี ช้ไปแลว้ 1 หน้า แล้วยงั เหลืออีก 1 หน้าท่ียังไมไ่ ด้ใช้ หรือขวดแก้วทนี่ ามา
ดัดแปลงเปน็ แจกนั
Recycle หมายถึง การนาหรอื เลอื กใชท้ รัพยากรท่สี ามารถนากลบั มาใช้ใหม่ในรูปแบบต่าง ๆ
เชน่ การนาแกว้ หรือพลาสตกิ มาหลอมเปน็ ขวด การนาฝากระป๋องนา้ อดั ลมมาทาเป็นขาเทยี ม
สาหรบั ผ้พู กิ าร เปน็ ตน้
ทม่ี า: http://www.dmr.go.th/board/data/1232.html
5. ครใู หเ้ ล่นเกม Simon Says เพ่อื ทบทวนประโยคคาสง่ั
ตัวอยา่ ง T: Simon says, jump.
Ss: (นักเรียนกระโดด)
401
T: Sit down!
Ss: (นักเรยี นทากริยาอยา่ งอนื่ ท่ีไมใ่ ชก่ ารนงั่ ) etc.
6. ใหน้ กั เรยี นฝกึ แต่งประโยคคาสั่งหา้ ม โดยเตรยี มบตั รคากรยิ าท่ีนกั เรยี นไดเ้ รียนมาแลว้ เช่น run, read,
watch TV, drink, eat, sleep, talk, jump แจกใหน้ กั เรยี นคนละ 1 ใบ จากน้ันสุ่มเรยี กนักเรยี นพดู ที่
แตง่
ตวั อยา่ ง S1: (บตั รคา run) Don’t run in the class.
S2: (บตั รคา drink) Don’t drink coffee.
S3: (บตั รคา sleep) Don’t sleep in the library. etc.
เพอ่ื ใหบ้ รรยากาศในหอ้ งเรียนมีความสนกุ สนานมากขึน้ ครูอาจเตรียมลกู บอลขนาดเล็ก 1 ลกู
เม่ือครโู ยนลูกบอลไปทนี่ ักเรียนคนใด ใหน้ กั เรยี นพูดประโยคทแี่ ต่ง จากนัน้ ให้นักเรยี นคนทไ่ี ดร้ บั
ลูกบอลสุ่มโยนลูกบอลให้เพื่อนคนต่อไปเรื่อย ๆ จนครบทุกคน
ขั้น Production
1. ให้ชว่ ยกันระดมสมองบอกกิจกรรมทีม่ ักจะทาในแต่ละฤดขู องตะวันตก โดยครูเขยี นคาตอบบนกระดาน
Spring: plant flowers, have a picnic
Summer: go to the beach, swim in the pool, eat an ice cream
Autumn: play with leaves, collect pine cones
Winter: make a snowman, play in the snow
จากนนั้ ใหน้ กั เรียนจับคู่ ถาม-ตอบเกยี่ วกบั กิจกรรมท่ีตนเองอยากจะทาในแตล่ ะฤดกู าล เชน่
S1: What do you usually do in summer?
S2: I go to the beach.
2. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ ักเรียนแตง่ ประโยคเกย่ี วกบั กิจกรรมทีท่ าในฤดกู าลตา่ ง ๆ จากน้นั ให้
นักเรียนวาดรปู ตนเองขณะทากจิ กรรมต่าง ๆ พร้อมตกแตง่ ให้สวยงาม เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นออกมาพดู
นาเสนอประโยคของตนเองที่หนา้ ชั้นเรียน
ตวั อยา่ ง In summer I eat an ice cream. In spring I ride a bike.
In autumn I make a pumpkin lantern. In winter I go skiing.
3. ให้นกั เรยี นทากจิ กรรมในแบบฝกึ หัด หน้า 45 Ex. 4 เป็นการบ้าน
2 a Water 4 c Don’t eat 6 f Do
3 d Wake 5 e Don’t
402
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมนิ ชนิ้ งานกจิ กรรมทที่ าในฤดู แบบประเมนิ ชนิ้ งาน ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตา่ ง ๆ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอและให้ขอ้ มลู แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
เก่ยี วกบั กิจกรรมท่ีทาในแต่ละ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ฤดกู าล ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการใชแ้ ละปฏิบตั ติ ามคาส่ัง แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ พอใช้
ตรวจการเลือกภาพตรงตาม แบบฝึกหัด (Workbook) ผา่ นเกณฑ์
ความหมายของประโยคทอ่ี า่ น
ตรวจการตอบคาถามจากการฟงั แบบฝึกหดั (Workbook)/
แบบทดสอบ
ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ชีด้ ้านใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ
และมุ่งมัน่ ในการทางาน ประสงค์
8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณ์ทาช้ินงาน
8.5 บตั รคาศพั ท์
8.6 อินเทอร์เนต็
403
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 3 I like spring because I like gardening!
เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ฤดกู าล พร้อมทงั้ บอกเหตผุ ล
- เขยี นขอและให้ข้อมูลเก่ียวกบั ฤดูกาลและกิจกรรมทีช่ อบ พร้อมท้งั บอกเหตผุ ล
- เลือกภาพตรงตามความหมายของประโยค
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งทีฟ่ ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสญั ลักษณ์หรือเคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และข้อความสั้น ๆ ทฟี่ งั หรอื อา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ
และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชว้ี ัด
ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรสู้ กึ ของตนเองเก่ยี วกับเรือ่ งต่าง ๆ ใกลต้ วั และกจิ กรรมตา่ ง ๆ
ตามแบบทฟ่ี ัง
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่อื งต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขยี น
ตัวชว้ี ัด
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พันธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ตามทฟ่ี งั หรอื อ่าน
ต 1.3 ป.4/3 พดู แสดงความคดิ เหน็ ง่าย ๆ เกยี่ วกับเรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชว้ี ดั
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ยี วกบั เทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชวี ติ ความเปน็ อยงู่ ่าย ๆ
ของเจ้าของภาษา
404
ต 2.1 ป.4/3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะกับวยั
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชุมชนและสังคม
ตัวชวี้ ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทเี่ กดิ ขึ้นในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจคาศัพทแ์ ละโครงสรา้ งท่ใี ช้บอกฤดกู าลและกจิ กรรมทีท่ า ชว่ ยให้สนทนา พูด/เขยี นไดอ้ ยา่ ง
ถกู ต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: I like spring because I like gardening! Me too!
Vocabulary: months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water,
grow, catch, gardening, swim, jump, wet, run
Function: ขอและใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกบั ฤดกู าลท่ชี ่นื ชอบ พรอ้ มทั้งบอกเหตุผล
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มูลเกีย่ วกับฤดกู าลท่ีชื่นชอบ พรอ้ มทั้งบอกเหตุผล
Listening: ตอบคาถามจากการฟงั
Writing: เขยี นขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ฤดูกาลท่ีชนื่ ชอบ พร้อมทัง้ บอก
เหตุผล
4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทใี่ ช้ในการสื่อสาร
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล
- ทักษะการสารวจ
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งม่นั ในการทางาน
405
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ Warm Up
1. ให้นักเรียนเลน่ เกม Simon Says เพ่อื ทบทวนประโยคคาส่งั
ตวั อยา่ ง T: Simon says, stand up!
Ss: (นักเรยี นยืนข้ึน)
T: Simon says, clap your hands!
Ss: (นักเรียนปรบมอื ) etc.
2. ครเู ปิดคลิปวิดโี อเพลง Seasons Song จาก www.youtube.com ให้นกั เรียนดแู ละฝึกร้องตามอกี ครง้ั
จาก เวบ็ ไซต์ตอ่ ไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=ksGiLaIx39c โดยคลิปวิดโี อมีชื่อวา่
SEASONS SONG ♫ | Learning & Teaching | Kids Songs | Pancake Manor
3. ทบทวนเก่ยี วกบั เทศกาลและกจิ กรรมในแต่ละเทศกาล โดยครถู ามคาถาม เช่น
T: What season do we celebrate Halloween?
Ss: We celebrate Halloween in autumn.
T: What season do we celebrate New Year?
Ss: We celebrate New Year in winter.
T: What do you usually do in summer?
S1: I swim in the pool.
T: What do you usually do in spring?
S2: I have a picnic at a park.
T: What do you usually do in autumn?
S3: I collect pine cones.
T: What do you usually do in winter?
S4: I make a snowman.
ข้ัน Presentation
1. นาเสนอคาศพั ท์ตอ่ ไปนี้ catch (จับ), gardening (ทาสวน), wet (เปียก) โดยเขียนคาศัพท์บนกระดาน
แล้วยกตวั อยา่ งประโยค
Laura bought a net to catch butterflies.
My mother likes gardening very much. She likes to grow and take care of the plants.
My bike got wet in the rain.
406
นอกจาก wet จะใช้บรรยายสงิ่ ของท่ีเปยี กและแฉะแล้ว ยังสามารถใช้บรรยายสภาพอากาศใน
วนั ทมี่ ีฝนตกได้อกี ดว้ ย (weather or periods of time when rain falls) เช่น
This is the first wet day for two months.
It’s very wet outside.
2. ครถู ามนกั เรยี นว่า ถา้ เราจะถามวา่ ปกติแล้วเรามกั จะทาอะไรในฤดูหนาว เราจะถามวา่ อยา่ งไร ครู
รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเขยี นประโยคทถ่ี ูกตอ้ งบนกระดาน
What do you usually do in winter?
ครูอธบิ ายวา่ usually เปน็ คากรยิ าวเิ ศษณบ์ อกความถ่ี ใชบ้ อกถึงส่งิ ทีเ่ ราทาเปน็ ประจาหรือทาเป็นปกติ
เช่น In winter, I usually make a snowman. ครูใหน้ ักเรยี นฝกึ ออกเสียง usually ตามครหู ลาย ๆ
ครัง้ โดย
ลงเสยี งหนกั ทพ่ี ยางค์แรก
เสรจ็ แลว้ ครใู ห้นักเรยี นอา่ นออกเสยี งประโยคคาถามนีพ้ ร้อม ๆ กัน โดยให้นกั เรียนใช้ falling
intonation ซึ่งจะลงเสียงต่าที่ทา้ ยประโยค เนื่องจากเปน็ ประโยคคาถามแบบ Wh-question ครอู ธิบาย
เพม่ิ เตมิ วา่ ในภาษาองั กฤษ เราจะไม่ลงเสียงหนักทุกคาในประโยค โดยคาทเี่ รามกั จะลงเสียงหนกั ไดแ้ ก่
คานาม คากริยาหลกั คากริยาวเิ ศษณ์ Wh-word ส่วนคาอน่ื ๆ ใหอ้ อกเสยี งรวบและเรว็ เช่น
What do you usually do in winter? ()
ครูใหน้ กั เรยี นฝึกออกเสยี งตามครู พร้อมกับปรบมอื ตามไปดว้ ย โดยให้นกั เรยี นปรบมือดัง ๆ ในพยางค์
ทีล่ งเสยี งหนัก ส่วนคาท่ีไม่ลงเสยี งหนกั ให้ปรบมือค่อย ๆ เมื่อครสู อนคาศพั ทแ์ ละโครงสรา้ งประโยคท่ี
จาเปน็ ในการฟังแลว้ ครูเปดิ CD ให้นกั เรยี นฟัง 1-2 คร้ัง และจบั คกู่ ิจกรรมที่ Zara มกั จะทากับฤดกู าลท่ี
ให้มา สดุ ท้ายครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรียน และเขยี นเฉลยบนบนกระดาน ครูอาจนา Audio Script
มาตดิ บนกระดานและเปดิ CD อกี ครง้ั เพ่อื ให้นักเรยี นเข้าใจในสิ่งทฟ่ี งั มากขนึ้
3. ครูใหน้ ักเรียนจบั คู่กัน และฝึกพดู ถาม-ตอบเกยี่ วกับกิจกรรมท่ี Zara มักจะทาในแตล่ ะฤดูกาล โดยให้
นักเรยี นเก่ง 2 คน ออกมาพูดให้เพอ่ื นดูเปน็ ตัวอย่างกอ่ น เช่น
S1: What does Zara usually do in spring?
S2: In spring she plants flowers in her garden.
S1: What does Zara usually do in autumn?
S2: In autumn she flies her kite.
407
S1: What does Zara usually do in summer?
S2: In summer she swims in the pool.
S1: What does Zara usually do in winter?
S2: In winter she plays in the snow.
ครูย้าใหน้ ักเรยี นออกเสยี ง /s/ หรอื /z/ ท้ายคากริยาทีเ่ ตมิ -s โดยเขียนคากรยิ า ให้นกั เรียนฝึกออกเสียง
/s/ /z/
plants flies
swims plays
ให้นักเรยี นจบั คู่ ฝกึ พูดถาม-ตอบกนั โดยครูอาจให้นกั เรยี นสลบั คูอ่ ีก 1-2 ครงั้ จนนักเรียนพดู ได้คลอ่ ง
4. ครูสนทนากับนักเรียน 1 คน ซึง่ ครเู ตรียมไว้แลว้ ดงั น้ี
T: What season do you like?
S1: I like spring.
T: Why do you like spring?
S1: Because I like planting flowers.
T: Mee too.
จากนั้นครูถามนกั เรยี นคนอ่ืน ๆ ในชัน้ ครอู ธบิ ายวา่ Me too. มีความหมายว่า ฉนั ก็เช่นกัน
ในการบอกความชอบ นอกจากคาวา่ like นกั เรยี นยังสามารถใช้คาอน่ื ๆ ไดอ้ ีก เช่น love
และ enjoy ซ่ึงคาเหลา่ น้ีจะตามหลงั ดว้ ยคากรยิ าเติม -ing หรอื คานามกไ็ ด้
ตัวอย่าง I love cooking Thai food.
I enjoy watching TV.
นอกจาก like จะตามหลังด้วยกรยิ าเติม -ing หรอื คานามแล้ว ยงั สามารถตามหลังดว้ ย to +
คา กรยิ าทีอ่ ยใู่ นรูป base form (ชอ่ งที่ 1) ได้ดว้ ย
ตวั อย่าง I like to play football with my friends.
She likes to visit her grandmother at weekend.
แต่ enjoy จะตามด้วยกริยาเตมิ -ing เท่าน้ัน ไมส่ ามารถตามดว้ ย to + กรยิ าในรูป base form ได้
ขัน้ Practice
1. หนงั สือเรยี น หนา้ 54 Ex. 5 ครอู า่ นคาสั่ง Match. Then listen, point and repeat. และใหเ้ วลา
นักเรยี น
จับคภู่ าพ (1-8) กับคาศพั ท์ (a-h) ทใ่ี ห้มา จากนน้ั ครูรวบรวมคาตอบจากนักเรียนและเฉลยคาตอบ
408
พร้อมกนั บนกระดาน ต่อมาครเู ปดิ CD ให้นักเรียนฟงั ช้ี และอ่านตามพรอ้ มกนั โดยครชู ว่ ยหยดุ CD
เปน็ ระยะ ๆ เสร็จแล้วครสู ุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นคาศัพทเ์ ปน็ รายบคุ คล
spring, summer, gardening, swim, run, jump, wet, catch
1c 3d 5h 7g
2a 4e 6f 8b
2. หนงั สือเรียน หน้า 54 Ex. 6 ครูบอกนักเรยี นวา่ Look at number 1. What is your favourite
season? Why? เพ่อื ใหน้ กั เรียนตอบโดยใชโ้ ครงสรา้ ง I like spring because I like gardening. เม่อื นกั เรยี น
ตอบแล้ว ครพู ูดว่า Me too! ครูทากจิ กรรมเชน่ นไี้ ปเรื่อย ๆ จนครบทุกขอ้ โดยให้นกั เรียนชว่ ยกันตอบ
ปากเปลา่ เสร็จแล้วครใู ห้นักเรียนจับคู่ ผลดั กนั ฝึกพูดอกี ครง้ั ครูเดินสังเกตการทากจิ กรรมของนกั เรยี น
2 A: I like summer because I like swimming.
B: Me too!
3 A: I like autumn because I like making pumpkin lanterns.
B: Me too!
4 A: I like winter because I like playing in the snow.
B: Me too!
กิจกรรมเพม่ิ เตมิ
ครใู ห้นักเรียนเขา้ ไปเล่นเกมฝกึ การใช้ like + ing ท่เี ว็บไซต์ต่อไปนี้
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-games/ing
3. ครูเขยี นคาว่า Thailand บนกระดาน จากนน้ั ถามนักเรียนว่า How many seasons are there in
Thailand? เม่ือไดค้ าตอบว่า 3 แลว้ ครูเขยี นคาศพั ท์บนกระดาน พรอ้ มทง้ั วาดภาพประกอบ เพ่อื ใหน้ กั เรยี น
บอก ความหมาย เชน่
hot season rainy season cold season
409
จากนัน้ ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันบอกวา่ แตล่ ะฤดูกาลของไทย อยู่ในเดอื นใดบ้าง โดยถามคาถามนกั เรยี น
ดงั น้ี
T: How many seasons are there in Thailand?
Ss: Three seasons.
T: What are they?
Ss: Hot season, rainy season and cold season.
T: What months are in hot season?
Ss: February, March, April and May.
T: What months are in rainy season?
Ss: June, July, August and September.
T: What months are in cold season?
Ss: October, November, December and January.
ประเทศไทยโดยทัว่ ๆ ไปสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ฤดกู าล ดังนี้
1. ฤดรู อ้ น (hot season) เร่ิมตน้ ประมาณกลางเดอื นกุมภาพนั ธถ์ งึ กลางเดอื นพฤษภาคม
2. ฤดูฝน (rainy season) เรม่ิ ต้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถงึ กลางเดือนตุลาคม
3. ฤดหู นาว (cold season) เรม่ิ ตน้ ประมาณกลางเดอื นตุลาคมถงึ กลางเดอื นกุมภาพนั ธ์
ท่มี า: https://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=53
เสรจ็ แล้วครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกนั ระดมสมองบอกวา่ โดยปกติ เราทากจิ กรรมอะไรในแตล่ ะฤดกู าล
โดยใช้คาถาม What do you usually do in (ฤดูกาล)? เช่น
T: What do you usually do in cold season?
S1: In cold season, I go to the north/Chieng Mai.
S2: In cold season, I fly a kite.
S3: In cold season, I go camping.
เมื่อรวบรวมกิจกรรมทีท่ าในแตฤ่ ดกู าลไดแ้ ล้ว ครสู ุ่มถามคาถามนกั เรยี นเก่ยี วกบั ฤดกู าลทชี่ อบ
พร้อมทง้ั บอกเหตผุ ลดว้ ย เช่น
T: What is your favourite season?
Ss: I like cold season.
T: Why do you like cold season?
Ss: Because I like going camping.
410
ขนั้ Production
1. ครอู ธบิ ายวา่ ใหน้ กั เรียนทางานกล่มุ กลุ่มละ 5-8 คน สารวจฤดกู าลในประเทศไทยทเี่ พือ่ นในกลุม่ ชอบ
พร้อมท้งั บอกเหตผุ ล โดยกอ่ นเริ่มชั่วโมง ครแู จกกระดาษ A4 ใหแ้ ต่ละกลมุ่ และใหแ้ ต่ละกลุ่มวาดตาราง
ต่อไปน้ี
Name hot season Activity cold season
rainy season
1.
2.
3.
4.
5.
ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มเลอื กหวั หนา้ กลมุ่ และเลขากลุ่ม แลว้ ให้หวั หน้ากลมุ่ สารวจเพอื่ นในกลุม่ วา่
ในแตล่ ะฤดกู าลของไทย นักเรยี นชอบทากจิ กรรมอะไรโดยใชค้ าถาม What is your favorite season?
Why? ใหน้ ักเรยี นท่ีเปน็ เลขาของกล่มุ ทาหนา้ ท่ีจดบันทกึ สุดทา้ ยใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ทาแผนภมู ิเพ่อื แสดง
ผลการสารวจของกลมุ่ ตนเอง เชน่ แผนภูมวิ งกลม แผนภูมิแท่ง หรือแผนภมู ิรูปภาพ
2. ใหน้ ักเรียนทากิจกรรมในแบบฝกึ หดั หนา้ 46 Exs. 5-6 เป็นการบ้าน จากนัน้ นามาเฉลยคาตอบ
Ex. 5 3 playing football 6 cooking
2 going to the cinema 5 horse riding
4 skiing
Ex. 6
(ตัวอยา่ ง)
My favourite season is summer! I like summer because I like swimming.
411
7. การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชิ้นงานการสารวจ แบบฝกึ หดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
กจิ กรรมท่ชี อบทาในแต่ละฤดกู าล แบบทดสอบ
ตรวจการเลอื กภาพตรงตามความหมาย แบบประเมินการเขยี น ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ของประโยค ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการเขียนใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั ฤดกู าลที่
ชอบ พร้อมบอกเหตุผลและวาด แบบประเมินการพดู ระดับคุณภาพ พอใช้
ภาพประกอบ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกบั แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึง ระดับคุณภาพ พอใช้
ฤดูกาลทชี่ ่ืนชอบ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สังเกตความใฝเ่ รยี นรแู้ ละความม่งุ มั่นใน
การทางาน
8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อปุ กรณ์การทาแผนภูมิ
8.6 อนิ เทอร์เน็ต
412
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 Does Oscar like sailing? เวลา 1 ชัว่ โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับกิจกรรมท่ชี อบและไมช่ อบได้
- เลอื กภาพตรงตามความหมายของประโยคได้
- เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมทต่ี นเองชอบและไม่ชอบได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งที่ฟังและอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลุ่มคา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพดู
เข้าจังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณห์ รอื เครือ่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และข้อความสน้ั ๆ ทฟ่ี ังหรอื อ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก
และ แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรสู้ ึกของตนเองเกีย่ วกับเร่อื งต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ
ตามแบบท่ีฟงั
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใชไ้ ด้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ป.4/1 พดู และทาทา่ ประกอบอย่างสภุ าพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วันสาคญั /งานฉลอง และชวี ิตความเป็นอยู่งา่ ย ๆ
ของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั
413
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ได้อยา่ งถูกตอ้ ง
ตัวชว้ี ัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คา กลุม่ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชมุ ชนและสังคม
ตัวชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อา่ นในสถานการณท์ ่เี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรแู้ ละเข้าใจคาศพั ท์และโครงสรา้ งประโยคทีใ่ ช้ขอและให้ขอ้ มลู เก่ยี วกับส่ิงท่ีชอบและส่ิงท่ไี มช่ อบ ช่วย
ใหส้ นทนา พดู /เขียนสอื่ สารในชวี ติ ประจาวันได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Does Oscar like sailing? Yes, he does. No, he doesn’t.
Vocabulary: months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water, grow,
catch, gardening, swim, jump, wet, run, sail
Function: ให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ส่งิ ท่ีชอบและไมช่ อบ
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สง่ิ ทช่ี อบและไมช่ อบ
3) Culture: กีฬาท่ีนยิ มเลน่ ในประเทศอังกฤษ
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ีใช้ในการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
414
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 ม่งุ ม่นั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ัน Warm Up
1. ทบทวนคาศพั ท์เกย่ี วกับกจิ กรรมตา่ ง ๆ เชน่ gardening, sailing, fishing, swimming, skiing, cooking,
playing tennis, listening to music โดยขออาสาสมัครออกมาแสดงทา่ ทางใบ้คา แลว้ ให้นักเรียนท่ี
เหลอื
ถามวา่ Do you like + คากริยาเตมิ -ing? จนกวา่ เพอ่ื นจะตอบว่า Yes, I do.
Weak classes: ครูอาจดาวนโ์ หลดบัตรภาพ แลว้ นาเสนอคาศัพทจ์ ากบัตรภาพก่อน
ครสู ามารถดาวน์โหลดบัตรภาพจากเว็บไซตต์ ่อไปนี้
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/sports-flashcards
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/free-time-activities-flashcards
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/music-flashcards
http://www.mes-english.com/flashcards/hobbies.php
2. นาเข้าสู่บทเรียนด้วยการเปิดคลปิ วดิ ีโอเพลง The leaves on the tree จาก
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/songs/the-leaves-the-tree
แลว้ ให้นักเรยี นฝึกรอ้ งเพลงตามเพ่ือทบทวนเก่ียวกบั เรอ่ื งฤดูกาล
3. ทบทวนเกี่ยวกับการใช้ like + v -ing ดว้ ยการเขยี นโครงสร้างต่อไปนบี้ นกระดาน Why do you like ...
?
Because I like + v -ing. จากนน้ั ครยู กตัวอยา่ ง Why do you like summer? นกั เรยี นอาจจะตอบว่า
Because I like going to the beach. แล้วรวบรวมคาตอบจากนักเรยี นและวาดแผนทค่ี วามคดิ (mind
map)
เสร็จแล้วครูทากจิ กรรมเช่นเดียวกันนี้กับฤดูกาลอนื่ ๆ ดว้ ย
swim in the sea hot season go to the beach
build a sand castle play a kite
415
ข้ัน Presentation
1. นาภาพเดก็ ผชู้ าย 1 คน มาแสดงและพดู แนะนาวา่ This is Ken. จากนั้นครเู ขียน What does Ken like
doing? บนกระดาน และให้นกั เรยี นอา่ นคาถามตามครู ครูเขยี น He likes + v -ing. แลว้ ให้
นกั เรียน 1 คน ทม่ี คี วามสามารถในการวาดรูปออกมาเป็นผู้ช่วยครู ด้วยการวาดภาพตามคาศพั ท์ทคี่ รู
เขยี นในกระดาษแผ่นเล็ก เช่น playing football, gardening, swimming, skiing, cooking, listening to
music, watching TV, dancing, sailing, fishing แลว้ ใหเ้ พือ่ น ๆ ช่วยกนั ทาย ภาพใดที่นกั เรียนทายถกู ต้อง
ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกนั สะกดคาศพั ท์และบอกความหมาย โดยครูเปน็ ผู้เขียนบนกระดาน สดุ ท้ายครถู าม
นักเรียนอกี ครง้ั วา่ What does Ken like doing? เพ่ือใหน้ กั เรียนพดู ตอบครูแบบเตม็ ประโยค ครูเน้นให้
นกั เรยี นออกเสยี ง s ที่ทา้ ยคากรยิ า like เพราะประธานเปน็ เอกพจน์
ตวั อยา่ ง T: What does Ken like doing?
S1: Ken likes playing football.
2. ให้นกั เรียนชว่ ยกนั บอกหลักการเติม -ing หลังคากริยา โดยครูเขียนคากรยิ าและใหน้ ักเรยี นชว่ ยบอก
วธิ กี าร เช่น draw → drawing come → coming
play → playing swim → swimming
ครูเน้นใหน้ ักเรยี นจดจาวา่ คากริยาท่ลี งทา้ ยด้วย -e เชน่ come ต้องตดั e ออกกอ่ นจะเติม -ing และคาท่ี
ลงทา้ ยดว้ ยสระ 1 ตวั พยญั ชนะ 1 ตวั เช่น swim ต้องเพ่มิ ตวั สะกดอกี 1 ตัวกอ่ นเติม (swimming)
3. ครเู ขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
Peter likes watching TV and reading a book.
Peter likes playing football, but he doesn’t like playing basketball.
Anne likes singing and dancing.
Anne likes eating, but she doesn’t like cooking.
ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสยี งประโยคเหล่านต้ี ามครู โดยเน้นให้ออกเสยี ง s หลงั คากรยิ า ครถู ามนกั เรียน
ว่าทาไมคากรยิ าเหล่านตี้ อ้ งเติม s เพือ่ กระตนุ้ ให้นักเรียนตอบวา่ เม่ือกลา่ วถึงเร่ืองทีเ่ กดิ ขึน้ เปน็
ประจานสิ ยั ถา้ ประธานเป็นเอกพจน์ คากริยาตอ้ งเติม -s หรอื -es
จากนั้นครูขีดเส้นใต้ and และ but แลว้ ให้นักเรียนช่วยกันบอกว่า คาใดใชเ้ ช่อื มคาหรือขอ้ ความที่คล้อย
ตามกนั หรอื เปน็ การเพ่ิมขอ้ มลู (and) และคาใดทใี่ ชเ้ ชือ่ มคาหรือข้อความท่แี สดงความขัดแยง้ กัน (but)
เม่อื ไดค้ าตอบแล้ว ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกันแต่งประโยคโดยใช้ and และ but อย่างละ 1 ประโยค ครู
รวบรวมคาตอบจากนักเรียนหลาย ๆ คน เชน่
S1: I like reading a book, but I don’t like swimming.
S2: I like gardening and watching TV.
4. ครขู ยี นข้อมลู และภาพตอ่ ไปนี้บนกระดาน
play the piano
416
swim
จากนัน้ ครถู ามนักเรียนวา่ Do you like playing the piano? ครูชที้ ่ภี าพหนา้ ยิม้ เพ่ือให้นกั เรียนตอบว่า
Yes, I do. ต่อมาครถู ามนักเรยี นวา่ Do you like swimming? ครชู ี้ที่ภาพหนา้ บ้ึงเพ่อื ให้นกั เรียนตอบว่า
No, I don’t. ครูอธบิ ายเรื่องการออกเสยี งสงู -ตา่ (intonation) ในประโยคคาถามแบบ Yes/No
questions
วา่ เราจะลงเสียงสูงที่ทา้ ยประโยค จากนั้นครูถามนักเรียนวา่ ประโยคคาถามในภาษาไทยมีการลงเสยี ง
สูง-ตา่ เหมอื นในภาษาอังกฤษหรอื ไม่ ถ้ามี เราจะลงเสียงสงู หรอื ตา่ ที่ท้ายประโยค ครูอาจเขียนประโยค
ทงั้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษเพ่ือให้นกั เรียนเปรียบเทยี บ เช่น
Do you like swimming? เธอชอบวา่ ยนา้ หรอื ไม่
Does she like playing the piano? เธอชอบเลน่ เปยี โนหรอื ไม่
เสรจ็ แล้วครสู รปุ โครงสรา้ งบนกระดาน
A: Do you like + v -ing?
B: Yes, I do.
No, I don’t. I like + v -ing.
ครถู ามนักเรยี นวา่ ถ้าถามขอ้ มลู ของบคุ คลท่ีเราคยุ ด้วย เราจะใช้ Do you like + v -ing? แตถ่ า้ เราถาม
ข้อมูลของบุคคลที่ 3 เราจะถามอย่างไร ครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรยี น และเขียนโครงสรา้ งคาถามบน
กระดาน ดงั นี้
Does he/she like + v -ing? Yes, he/she does.
No, he/she doesn’t.
Do they like + v -ing? Yes, they do.
No, they don’t.
เสร็จแลว้ ครนู าภาพบคุ คลทม่ี ีช่อื เสียงมาตดิ บนกระดาน และวาดภาพกจิ กรรมตา่ ง ๆ ที่เขาชอบทาและ
ไม่ชอบทาบนกระดาน เชน่
Does he like …?
417
ครูขออาสาสมคั ร คร้งั ละ 2 คน ให้ออกมาพดู ถาม-ตอบ โดยใช้ข้อมลู ในตาราง เชน่
S1: Does he like sailing?
S2: No, he doesn’t.
S1: Does he like football?
S2: Yes, he does.
ครูทากจิ กรรมเช่นนจ้ี นนกั เรียนถาม-ตอบครบทุกภาพ เสรจ็ แล้วครชู ้ที ่ีภาพอกี ครง้ั ทลี ะภาพ แลว้ ให้
418
นักเรียนพดู ถาม-ตอบพรอ้ ม ๆ กนั สุดทา้ ยครูถามนักเรียนว่า What does he like doing? เพ่อื ให้
นกั เรียนพูดตอบวา่ He likes fishing, playing football and skiing. ตอ่ มาครูใหน้ ักเรียนแตง่ ประโยคโดยใช้
but เสรจ็ แลว้ ครสู ุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คน ออกมาอา่ นประโยคท่ตี นเองแตง่ พร้อมแสดงสีหน้าและทา่ ทาง
ประกอบด้วย เชน่
He likes fishing, but he doesn’t like sailing.
ครูถามนักเรยี นวา่ What do British people like doing? แล้วรวบรวมคาตอบจากนักเรียน
จากนั้นครูอธิบายว่า คนองั กฤษช่ืนชอบกีฬาเปน็ อย่างมาก โดยเฉพาะกฬี าฟตุ บอล (football),
รกั บ้ี (rugby) และครกิ เก็ต (cricket) ในเมอื งตา่ ง ๆ ของอังกฤษจะมที มี ฟตุ บอลหรอื ครกิ เกต็
ของตนเอง หากไมไ่ ด้ลงเลน่ กีฬาเองกจ็ ะไปชมการแขง่ ขันทีส่ นามหรือนง่ั ดรู ายการกฬี าทาง
โทรทศั นท์ ีบ่ ้าน
ท่มี า: http://resources.woodlands-junior.kent.sch.uk/customs/questions/sport.html
ครูอาจเปดิ คลปิ วิดโี อเกีย่ วกบั กีฬาฟตุ บอล รักบ้ี และคริกเก็ตให้นกั เรียนดจู ากเวบ็ ไซต์ตอ่ ไปนี้
กีฬาฟุตบอล
https://www.youtube.com/watch?v=dT61vbkOsfE
กฬี ารักบี้
https://www.youtube.com/watch?v=GpwUXtmkSaM&t=1780s
กฬี าครกิ เก็ต
https://www.youtube.com/watch?v=-jxn9oXUN0E
419
กีฬาทน่ี ิยมเล่นในประเทศอังกฤษ
รกั บี้ (rugby) หรอื rugby football มตี น้ กาเนิดจากเมืองรกั บ้ี ประเทศอังกฤษ เป็นกีฬาทเ่ี ลน่
แขง่ กนั 2 ทีม แตล่ ะทีมมผี ูเ้ ล่น 15 คน ก่อนเรม่ิ เกมจะมกี ารเตะเริ่มเล่นซ่ึงจะทาท่จี ดุ กึ่งกลาง
สนาม เม่ือลกู บอลตกลงพ้ืนสนามแล้วกระดอนข้ึนแต่ละทีมตอ้ งแย่งกันเพ่ือท่ีจะนาลกู บอลวง่ิ
ไปยังเขตปลายสุดของสนามหรือสง่ ใหเ้ พอ่ื นในทมี ตอ่ ไป หลงั จากหมดเวลาการแขง่ ขนั ทีมท่ี
ได้คะแนนสูงกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
คริกเกต็ (cricket) เปน็ กีฬาท่แี ข่งขันระหวา่ ง 2 ทมี มีคนเล่นทมี ละ 11 คน กตกิ าการเลน่ คือ
ทีม A จดั ให้คนหนึง่ เป็นผขู้ วา้ งลกู (bowler) ไปยงั ไม้ท่ีตัง้ ไวบ้ นสนามสามอนั เรียกว่า wickets
ทีม B ต้องจดั คนมารักษา (batsman) โดยใช้ไมต้ ไี มใ่ หล้ กู กระทบ wickets ได้ ถา้ ตถี ูกลูกก็วิ่งวน
ไปเพ่ือเอาแตม้ เรยี กวา่ runs จนกวา่ ทีม A ที่อยใู่ นสนาม จะนาลูกกลบั มาได้
ท่มี า: https://en.wikipedia.org/wiki/Rugby_football
http://resources.woodlands-junior.kent.sch.uk/customs/questions/sport.html
ตอ่ มาครถู ามวา่ What do Thai people like doing? ให้นักเรียนช่วยกนั ระดมความคิดพดู บอกว่า คน
ไทยชอบทากจิ กรรมอะไรบา้ ง ครูเขยี นคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน เชน่
Thai people like watching boxing.
Thai people like playing football. etc.
ขัน้ Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 55 Ex. 7 ครอู ธิบายภาระงานวา่ ให้นักเรียนดูตารางและพูดบอกวา่ แต่ละคนชอบ
และ
ไม่ชอบกิจกรรมอะไรบ้าง จากนนั้ ครอู า่ นตวั อยา่ งให้นกั เรยี นฟงั และให้นกั เรียนพดู บอกสิ่งท่ี Oscar,
Tom และ Cindy ชอบและไมช่ อบทา สดุ ทา้ ยครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน และเขียน
คาตอบท่ถี ูกตอ้ งบนกระดาน
Oscar likes swimming and sailing but he doesn’t like gardening.
Tom likes gardening and sailing but he doesn’t like swimming.
Cindy likes swimming and sailing but she doesn’t like gardening.
กจิ กรรมเพมิ่ เตมิ
ครูให้นักเรยี นเล่นเกมเพื่อทบทวนการใช้ like และ don’t like ที่เวบ็ ไซต์
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-games/and-don’t
420
2. หนงั สือเรียน หนา้ 55 Ex. 8 ครูให้นักเรยี นดภู าพ 1-8 และบอกว่าแตล่ ะภาพคอื ภาพกจิ กรรมอะไร เชน่
T: Look at picture no. 1. What activity is it?
Ss: Sailing.
T: Look at picture no. 2. What activity is it?
Ss: Gardening.
T: Look at picture no. 3. What activity is it?
Ss: Playing football.
เมื่อทากิจกรรมครบทกุ ภาพแลว้ ครเู ขียนคาวา่ dislike บนกระดาน และอธบิ ายวา่ dislike หมายความวา่
not like (ไมช่ อบ) โดย dis- นามาไว้ข้างหน้าจะมีความหมายวา่ ไม่ เชน่ disagree (ไม่เห็นดว้ ย),
dishonest (ไมซ่ ่ือสตั ย์) จากนน้ั ครวู าดภาพหนา้ ยมิ้ และหน้าบึ้งบนกระดาน ครถู ามวา่ ภาพใดคือ
dislike และภาพใดคือ like ตอ่ มาครูคาถามนกั เรยี นดังนี้
T: Look at picture no. 1. Does Oscar like sailing?
Ss: Yes, he does.
T: Look at picture no. 2. Does he like gardening?
Ss: No, he doesn’t.
ครขู ออาสาสมคั ร 2 คน ลกุ ขน้ึ ยืน พดู ถาม-ตอบเกย่ี วกับกจิ กรรมที่ Oscar ทาในภาพท่ี 3
S1: Look at picture no. 3. Does Oscar like playing football?
Ss: No, he doesn’t.
เสร็จแล้วครูใหเ้ วลานกั เรยี นจับคูก่ นั ผลัดกันพดู ถาม-ตอบกจิ กรรมในภาพท่ี 4-6 ครเู ดินสังเกตการทา
กจิ กรรมของนกั เรียน สดุ ท้ายส่มุ เรยี กนักเรยี นหลาย ๆ คู่ ลุกขน้ึ ยืนพูดถาม-ตอบกิจกรรมในภาพท่ี 4-6
3 A: Does Oscar like playing football?
B: No, he doesn’t.
4 A: Does he like swimming?
B: No, he doesn’t.
5 A: Does Oscar like horse riding?
B: Yes, he does.
6 A: Does he like skiing?
B: Yes, he does.
3. หนังสอื เรียน หน้า 55 Ex. 9 ครอู า่ นคาสัง่ Read and talk with your friend. และครอู ่านรายชอ่ื
กิจกรรมที่
421
ให้มาและให้นกั เรียนอา่ นตามครู จากน้นั ใหน้ ักเรียนจับคกู่ ับเพือ่ น อา่ นตวั อย่างพรอ้ มกัน แลว้ ผลดั กัน
พดู ถาม-ตอบเหมือนดงั ตวั อย่าง เสรจ็ แลว้ ครูสุม่ เรยี กนกั เรียนหลาย ๆ คู่ พดู ถาม-ตอบให้เพอื่ นฟัง เชน่
S1: Do you like playing tennis?
S2: No, I don’t. Do you?
S1: Yes, I do! Do you like swimming?
S2: Yes, I do! etc.
ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ ตอ่ จากบทสนทนาขา้ งบนว่า Do you? มาจาก Do you like playing
football? ใชเ้ มื่อตอบคาถามกลับที่ถามมากอ่ นหน้าน้ี
ตวั อยา่ ง A: Do you like listening to music?
B: Yes, I do! Do you (like listening to music)?
นอกจากจะใช้ Do you? ในการถามกลับแลว้ นักเรยี นยงั สามารถใชค้ าถาม What about you?
และ How about you? ในการถามกลับคาถามเดมิ กอ่ นหน้าน้นั ได้ มคี วามหมายวา่ “แล้วคณุ ล่ะ”
เม่อื นกั เรียนแต่ละคู่พดู จบแล้ว ครอู าจถามคาถามเพอ่ื ใหน้ กั เรียนช่วยกันพูดสรุปสิ่งท่ีเพ่อื นชอบทา
อกี ครั้ง โดยใชค้ าถาม What does (ช่อื นักเรียน) like doing? เช่น
T: What does Ken like doing?
S1: He likes playing tennis.
T: What does Anne like doing?
S2: She likes swimming.
กจิ กรรมเพิม่ เตมิ
ครูให้นักเรยี นดูคลปิ วิดีโอชอ่ื วา่ Mr Bean - Rollercoster จาก
https://www.youtube.com/watch?v=1k6fbLzMBKc
จากนน้ั ครถู ามคาถามนกั เรยี น เช่น
T: Where is Mr Bean?
Ss: He is at an amusement park.
T: Does he like riding a rollercoaster?
Ss: No, he doesn’t.
4. ครูทบทวนประโยคทใี่ ช้บอกส่งิ ท่ชี อบและไมช่ อบอีกคร้งั โดยใหน้ กั เรียนพดู บอกกิจกรรมที่
นกั เรียนชอบและไม่ชอบมาอยา่ งละ 2 กจิ กรรม เชน่
I like sailing and swimming, but I don’t like cooking and gardening.
422
ครยู า้ นกั เรียนวา่ ถา้ เป็นเครื่องดนตรจี ะมี the นาหนา้ แตถ่ ้าเปน็ กฬี า ไมต่ อ้ งมี the เชน่
I like playing the piano, but I don’t like playing tennis.
ขน้ั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นักเรียนจับคู่กนั และสนทนาเกย่ี วกับสง่ิ ที่ตนเองชอบและไม่ชอบ โดยใช้
บทสนทนาใน Ex. 9 เปน็ ต้นแบบ จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นฝกึ พดู ใหค้ ลอ่ ง โดยสลบั คกู่ ับเพอ่ื นอกี 1-2 ครงั้
เสรจ็ แลว้ ครสู มุ่ เรียกนกั เรียนออกมาพูดที่หน้าชั้นใหเ้ พอ่ื นฟัง เชน่
S1: Do you like playing football?
S2: Yes, I do! Do you?
S1: No, I don’t. Do you like fishing?
S2: No, I don’t. etc.
2. ครแู บง่ นกั เรียนออกเป็นกล่มุ จากนัน้ ให้นกั เรยี นสารวจกิจกรรมทีส่ มาชกิ ในกลมุ่ ชอบทาและ
ไมช่ อบทา โดยครูวาดตารางต่อไปนบ้ี นกระดานและให้นกั เรยี นลอกใส่สมดุ ก่อนเริ่มการสารวจ
Topic don’t like
like
playing football
playing tennis
fishing
cooking
playing the piano
listening to music
swimming
drawing a picture
dancing
total
ต่อมาครบู อกว่า ให้แต่ละกลุ่มเลอื กกิจกรรมในตารางมากล่มุ ละ 5 กจิ กรรม จากน้นั ให้นักเรียนถาม
กจิ กรรมท่ีสมาชกิ ในกลุ่มชอบทาโดยใชโ้ ครงสร้าง Do you like …? หากชอบกิจกรรม ใหท้ า
เครอื่ งหมาย / ลงในชอ่ ง like หากไมช่ อบใหท้ าเครื่องหมาย / ลงในชอ่ ง don’t like แล้วใหแ้ ต่ละกล่มุ
423
รวบรวมคาตอบของสมาชิกมาทาเป็นแผนภูมแิ ทง่ เพ่ือนาเสนอประกอบการรายงานผลการสารวจที่
หน้าชน้ั
5 Wandee Wasin drawing playing
4 Meena cooking football
3 Lalita
2 Malee
1 Surachai listening to
music
swimming
3. แบบฝึกหัด หน้า 47 Ex. 7 ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพและพูดบอกกิจกรรมที่ Extra ชอบทา โดยก่อนทา
กจิ กรรมครทู บทวนโครงสรา้ งทใ่ี ชบ้ อกสิง่ ที่ชอบและไมช่ อบ ไดแ้ ก่ ประธาน + like (s) + กรยิ าเตมิ
-ing. ต่อมาครใู หน้ กั เรยี นดูภาพที่ 1 แล้วถามวา่ What does Extra like doing? เม่ือนกั เรียนตอบว่า
He likes dancing. ครูทากิจกรรมเช่นเดยี วกนั นก้ี บั ภาพ 2-10 ด้วย เสร็จแลว้ ครใู ห้นกั เรียนจับคพู่ ดู ถาม-
ตอบโดยใช้ข้อมลู ในขอ้ 1-10
1 Extra likes dancing.
2 Extra likes visiting friends.
3 Extra likes skiing.
4 Extra likes gardening
5 Extra likes swimming.
6 Extra likes fishing.
7 Extra likes horse riding.
8 Extra likes tidying his room.
9 Extra likes cooking.
10 Extra likes playing football.
4. ให้นักเรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหดั หน้า 47 Ex. 8 เปน็ การบา้ น
424
2 I like visiting friends. / I don’t like visiting friends.
3 I like skiing. / I don’t like skiing.
4 I like gardening. / I don’t like gardening.
5 I like swimming. / I don’t like swimming.
6 I like fishing. / I don’t like fishing.
7 I like horse riding. / I don’t like horse riding.
8 I like tidying my room. / I don’t like tidying my room.
9 I like cooking. / I don’t like cooking.
10 I like playing football. / I don’t like playing football.
7. การวดั และประเมินผล
วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการพดู ขอและใหข้ อ้ มูล แบบประเมินการพูด ผา่ นเกณฑ์
เก่ยี วกบั กจิ กรรมทน่ี ักเรยี นชอบและไม่ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ชอบ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการพดู ประโยคจากภาพ แบบฝึกหดั (Workbook)/ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
แบบทดสอบ
ตรวจการเขยี นประโยคเกยี่ วกับ แบบฝกึ หดั (Workbook)/
กจิ กรรมทต่ี นเองชอบและไมช่ อบ แบบทดสอบ
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ชด้ี า้ นใฝเ่ รียนรูแ้ ละ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั
มุ่งม่นั ในการทางาน พงึ ประสงค์
8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 บตั รภาพ/บัตรคาศพั ท์
8.4 อินเทอรเ์ นต็
425
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 Put some seeds in the hole.
เวลา 2 ชว่ั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- แสดงบทสนทนาจากเร่ืองทีอ่ ่านได้
- อ่านออกเสยี งในบทสนทนาหรอื เรอื่ งส้ันได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งทฟ่ี ังและอา่ นจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยค ขอ้ ความงา่ ยๆ และบทพูด
เขา้ จังหวะถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวช้ีวัด
ต 2.1 ป.4/1 พดู และทาทา่ ประกอบอย่างสภุ าพตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วยั
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธก์ ับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตัวช้ีวดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ท่เี กดิ ขึ้นในห้องเรยี นและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเข้าใจความหมายคาศพั ท์ สานวน และโครงสรา้ งประโยค ทาให้เขา้ ใจเรอื่ งทีอ่ ่านและสามารถ
เช่ือมโยงความสมั พนั ธข์ องสงิ่ ท่ีปรากฏในเนื้อหาทไี่ ดฟ้ ังและอา่ นไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
426
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Make a small hole. Put some seeds in the hole. Then
cover and water the seeds.
Vocabulary: months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water,
grow, catch, gardening, swim, jump, wet, run, sail
2) Language Skills
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Speaking: แสดงบทสนทนา
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทใี่ ชใ้ นการสอ่ื สาร
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มุ่งม่ันในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm Up
1. ให้นักเรยี นเล่นเกม Spelling Bee ทบทวนคาศัพท์ เช่น gardening, sailing, swimming, catch, jump,
wet
โดยแบ่งนักเรยี นเป็น 2 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มผลดั กนั สง่ ตวั แทนมายืนหน้าชน้ั ครูจับฉลากและบอก
คาศพั ท์ ใหต้ วั แทนกล่มุ พดู สะกดคาศพั ท์ให้ถกู ตอ้ ง ครเู ขียนคาศพั ท์ท่นี กั เรียนบอกบนกระดาน
นกั เรียนท่ีสะกดคาศพั ทถ์ ูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน กล่มุ ใดสะกดคาศพั ทไ์ ด้ถกู ตอ้ งมากท่สี ดุ เป็นกลุ่มท่ชี นะ
2. ทบทวนโครงสรา้ งทใี่ ช้ขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีชอบ โดยครูเตรยี มบัตรคาเกย่ี วกบั กจิ กรรม
ตา่ ง ๆ เชน่ play in the snow, ride a bicycle, play the guitar จากนนั้ ครแู จกบตั รคาให้นักเรยี นคน
ละ 1 ใบ แล้วบอกนกั เรยี นวา่ ใหน้ กั เรยี นจับคกู่ บั เพอ่ื น แตง่ ประโยคถาม-ตอบ เสร็จแลว้ ครูสมุ่ เรียกนกั เรยี น
2-3 คู่ ยนื ขนึ้ ผลัดกันพดู ถาม-ตอบให้เพื่อนในช้ันฟัง เชน่
S1: (บัตรคา play the guitar) Do you like playing the guitar?
S2: Yes, I do. Do you?
S1: No, I don’t. I like playing the piano. etc.
427
3. ทบทวนสภาพอากาศแตล่ ะฤดกู าล โดยถามคาถาม เชน่
T: What’s the weather like in spring?
Ss: It’s windy.
T: What’s the weather like in summer?
Ss: It’s hot.
4. ครทู บทวนการพดู บอกกจิ กรรมท่ชี อบและไมช่ อบ โดยครูเขยี นคาตอ่ ไปนบ้ี นกระดาน
She / not like / grow / flowers
I / like / fly / my kite
He / not like / drink coffee
จากนน้ั ครูสุม่ เรยี กนักเรยี นออกมาเขยี นประโยคให้ถูกต้อง โดยใชค้ าที่กาหนดใหบ้ นกระดาน และผนั
คากรยิ าตามประธานใหถ้ ูกต้อง
คาตอบ: She doesn’t like planting flowers.
I like flying my kite.
He doesn’t like drinking coffee.
5. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ ักเรียนดูภาพคร่าว ๆ ในหนังสือเรียน หน้า 56 จากน้ันครถู ามนกั เรียน 2-3
คาถาม เชน่
T: Where are Extra and Wendy?
Ss: They are at the backyard.
T: What season is it?
Ss: It is spring.
T: What are they doing?
Ss: They are planting the seeds.
ข้ัน Presentation
1. ครูแสดงท่าทางตา่ ง ๆ และถามคาถามนกั เรยี น เพ่อื ให้นกั เรียนช่วยกันบอกวา่ ครกู าลงั ทาอะไร เชน่
T: (ครูทาทา่ เดนิ ) What am I doing?
Ss: Walk.
T: I am walking.
T: (ครูทาทา่ เขยี นบนกระดาน) What am I doing?
Ss: You are writing.
จากน้ันครเู ขยี นคาถามตอ่ ไปนบี้ นกระดาน What are you doing?
428
ครูถามนักเรียนว่าคาถามนถี้ ามว่าอะไร เมือ่ ไดค้ าตอบวา่ ถามถงึ ส่งิ ทก่ี าลังทาแลว้ ครูแสดงทา่ ทางเช่นเดิม
อีกครงั้ โดยคร้งั น้ีให้นกั เรยี นเป็นผู้ถามคาถามครู เช่น
T: (ครูทาท่าเดิน)
Ss: What are you doing?
T: I am walking.
T: (ครทู าทา่ เขียนบนกระดาน)
Ss: What are you doing?
T: I’m writing.
เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกโครงสรา้ งประโยคของการพดู บอกสง่ิ ท่ีทา
ประธาน + verb to be (is/am/are) + v -ing
ครใู ห้นกั เรียนพูดทบทวนวา่ is/am/are ใช้กบั ประธานตวั ใดบา้ ง
2. ครเู ขียนประโยคตอ่ ไปนี้บนกระดาน
1) He is planting some flowers.
2) He always plants flowers in spring.
ครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั อธบิ ายความหมายของประโยคทงั้ 2 น้ี จากน้นั ครพู ดู สรุปใหน้ กั เรียนฟงั วา่ ประโยค
ท่ี 1 โครงสรา้ งประโยคคอื verb to be (is/am/are) + v -ing เรยี กวา่ present continuous ใช้
กล่าวถงึ ส่งิ ที่กาลงั กระทาในขณะทพ่ี ดู หรอื ชว่ งเวลาทพี่ ดู
สว่ นประโยคที่ 2 คือ present simple เพราะคากรยิ าเติม -s เมอื่ ประธานเป็นเอกพจน์ โครงสรา้ ง
ประโยคนี้ใช้กล่าวถึงส่งิ ทเี่ กิดข้นึ เป็นประจา หรอื กจิ วตั รประจาวัน
ต่อมาครพู ูดประโยคตอ่ ไปนี้และใหน้ ักเรยี นช่วยกนั บอกวา่ คือ tense อะไร พร้อมทัง้ อธบิ ายความหมาย
ของประโยคทีค่ รูพดู ด้วยภาษาไทย
T: I’m teaching English in the classroom right now.
Ss: Present continuous.
ฉนั กาลงั สอนภาษาอังกฤษอยู่ในหอ้ งเรียนตอนน้ี
ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ now, right now, at the moment เป็นคา/วลบี อกเวลา มคี วามหมายว่า ตอนน้ี
เด๋ียวนี้
T: I usually teach English on Tuesday mornings.
(ครูควรเปล่ยี นช่วงเวลาทีส่ อนตามความเป็นจริง เพ่อื ให้นักเรียนเขา้ ใจงา่ ยข้ึน)
Ss: Present simple.
โดยปกตฉิ ันสอนภาษาอังกฤษทกุ วันองั คารตอนชว่ งเชา้
429
ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมวา่ always (เสมอ), usually (โดยปกติ), often (บ่อย ๆ), sometimes (บางคร้ัง),
never (ไม่เคย) เป็นคากรยิ าวเิ ศษณบ์ อกความถ่ี (adverbs of frequency) มักใชร้ ว่ มกับ Present
simple
ตัวอยา่ ง What are you doing? I’m planting some flowers.
ครอู ธิบายวา่ ประโยคถาม-ตอบนีม้ โี ครงสรา้ งคอื What + v. to be + ประธาน + กริยาเตมิ -ing? ใช้ถาม
ถงึ สิ่งท่ีเรากาลงั ทา ณ ชว่ งเวลาน้นั จากนั้นครูถามคาถามนักเรยี นและให้นักเรยี นตอบสิง่ ท่นี กั เรยี น
กาลงั ทา
3. ครอู ธิบายคาวา่ later ในวลี two hours later ครูอธบิ ายวา่ later เปน็ กรยิ าวเิ ศษณ์ มคี วามหมายว่า
ผ่านไป
หรอื ตอ่ มา เช่น three months later (สามเดอื นผา่ นไป) six hours later (6 ชว่ั โมงตอ่ มา)
ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมวา่ เรายงั ใช้ later ในการกลา่ วอาลาอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ มีความหมายวา่
พบกันคราวหนา้ เชน่ Later, Tom! See you later.
ขัน้ Practice
1. ให้นักเรียนเปดิ หนงั สอื เรียน หนา้ 56 Ex. 10 จากนน้ั ครูบอกให้นกั เรยี นปิดหนังสอื แล้วครูเปิด CD ให้
นกั เรียนฟัง 1 รอบ ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกคาทน่ี กั เรยี นไดย้ ิน ต่อมาครูบอกนกั เรยี น Open your
book. และเปิด CD ให้นกั เรยี นฟงั และอ่านเนือ้ เร่อื งตามไปด้วย เสร็จแลว้ ครใู ห้เวลานักเรียนสั้น ๆ อ่าน
เนื้อเรอ่ื งดว้ ยตนเองและเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ ง ตอ่ มาครูเปดิ CD อกี ครัง้ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นตรวจคาตอบ
1 c) summer
2. หนังสือเรยี น หนา้ 57 Ex. 11 ครูอา่ นคาสงั่ Now read the story and say yes or no. จากนน้ั ครูให้
เวลา
นักเรยี นกลบั ไปอ่านเนอ้ื เรอ่ื งดว้ ยตนเองอีกครงั้ ในเวลาสน้ั ๆ และระบวุ า่ ประโยคทีใ่ ห้มาถูกหรือผดิ
ครูสุ่มเรยี กนกั เรยี นพดู รายงานคาตอบ ครเู ฉลยคาตอบที่ถูกต้องบนกระดาน สุดท้ายครูเปดิ CD ให้
นักเรยี นฟังและฝกึ อา่ นออกเสยี งตาม CD
1 no 2 yes 3 no
ครูเขียนประโยคคาสง่ั จากเนื้อเรื่องบนกระดาน ดงั น้ี
Make a small hole. Put some seeds in the hole.
430