The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Panudej Somrit, 2022-09-14 07:30:06

อ14101

อ14101

Then cover and water the seeds.
ครูอ่านประโยคใหน้ ักเรยี นฟงั และอ่านออกเสียงตามพร้อม ๆ กัน แล้วครถู ามนกั เรียนว่าประโยคเหลา่ นี้
คอื ประโยคอะไร เมื่อไดค้ าตอบวา่ ประโยคคาสั่ง หรอื imperatives แลว้ ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันทบทวน
โครงสรา้ งประโยคอีกครง้ั ดังน้ี

กริยารูป base form (ชอ่ งท่ี 1) + ... .
3. ใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพื่อเปน็ Extra, Wendy และ Oscar แลว้ ครเู ปดิ CD ให้นักเรยี นฟงั

ทลี ะกรอบ และฝกึ อา่ นออกเสียงบทสนทนาจนคล่อง โดยเน้นใหน้ ักเรียนแบง่ วรรคตอนและออกเสียง
ตามระดบั สูง-ตา่ ในประโยค (intonation) ให้เหมือนกับตน้ ฉบบั ท่ไี ดฟ้ งั จาก CD

ข้นั Production
1. ใหน้ ักเรยี นปดิ หนังสือเรียน จากน้นั ครูแจก Story Cutouts ซ่ึงถา่ ยเอกสารมาจากแบบฝกึ หดั หน้า 82

ใหน้ กั เรียนกลุม่ เดมิ ฝึกพดู ประโยคจากภาพใน Story Cutouts จนคลอ่ ง ครูกาหนดเวลาให้นกั เรียนแต่ละ
กลมุ่ ในการฝึกซอ้ ม และเดนิ สงั เกตการทางานของแต่ละกลมุ่ พร้อมท้งั ใหค้ าแนะนาทีจ่ าเปน็ เสรจ็ แลว้
ครูสุม่ เรยี กนกั เรียน 2-3 กลุ่ม ออกมาแสดงที่หนา้ ช้นั ครยู า้ ใหน้ กั เรียนแสดงสหี นา้ ท่าทางใหเ้ หมาะสม
กบั บทบาททไ่ี ดร้ ับดว้ ย เมือ่ แตล่ ะกลุ่มแสดงเสรจ็ ครูให้กลมุ่ ทเี่ ปน็ คนดูบอกขอ้ ดแี ละข้อท่ีควรปรบั ปรุง
ให้กับเพือ่ นทแ่ี สดงอยา่ งละ 1 ข้อ
2. หลงั จากการแสดงแล้ว ครใู หน้ กั เรียนทแี่ สดงเป็น Oscar พดู แสดงความรสู้ กึ ว่า ถ้านักเรยี นเปน็
Oscar นกั เรียนจะรสู้ กึ อย่างไร ถา้ ตกลงไปในบ่อน้าโดยทไ่ี ม่ไดต้ งั้ ใจและตวั เปียก แตเ่ พื่อนกลับหวั เราะ
เช่น อบั อาย ตลกขบขนั จากน้ันครถู ามนกั เรยี นทเ่ี ป็น Extra และ Wendy วา่ เม่ือเหน็ เพ่อื นตกลงไป
ในนา้ แล้วหวั เราะ นักเรยี นคิดว่า Extra และ Wendy หัวเราะด้วยความขบขัน หรือหัวเราะด้วย
ความสะใจหรอื สมน้าหน้าเพ่อื น ครรู วบรวมคาตอบจากนักเรยี น แล้วชีใ้ ห้เหน็ วา่ บางคร้ังเมือ่ เกิด
เหตกุ ารณท์ ี่ไมค่ าดคดิ เกดิ ขนึ้ ทาให้เราแสดงท่าทางที่ไม่เหมาะสมออกไป เช่น หวั เราะ แต่จริง ๆ แล้ว
คนที่หัวเราะ ไม่ได้มีเจตนาทีจ่ ะสมน้าหนา้ หรือรสู้ กึ สะใจ เสรจ็ แลว้ ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกันคิดวา่ Extra
และ Wendy ควรจะทาอย่างไรตอ่ ไป จนไดค้ าตอบวา่ รีบไปชว่ ยดึง Oscar ขึ้นมาจากนา้ และอาจจะ
ขอโทษ Oscar ดว้ ย ถา้ เกิด Oscar มีอาการโกรธ
3. ใหน้ ักเรียนฝกึ อ่านเน้อื เรอ่ื งในหนงั สอื เรยี น หน้า 56-57 ด้วยตนเองทบ่ี ้าน และอ่านให้ครูฟงั นอก
เวลาเรียน
4. กอ่ นหมดชั่วโมงเรยี น ครใู หน้ กั เรียนพูดบอกลาครโู ดยใช้สานวน See you later. หรือ Goodbye.
5. ให้นักเรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหดั หนา้ 48 Exs. 9-10 เปน็ การบา้ น

431

Ex. 9

2 planting flowers 5 because it’s windy

3 Extra 6 summer

4 in summer

Ex. 10

2 March 4 seeds

3 hole 5 water

7. การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบประเมนิ การแสดงบทบาท ระดับคณุ ภาพ พอใช้
สมมติ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การแสดงบทสนทนา แบบประเมนิ ความสามารถ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ในการพดู สอ่ื สาร ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดสื่อสาร แบบฝกึ หัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบทดสอบ
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ดี ้านใฝ่เรยี นรู้
และม่งุ มัน่ ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ Story Cutouts

432

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 Penfriends! เวลา 2 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียงข้อความในจดหมายได้
- ตอบคาถามจากการฟังได้
- เขียนจดหมายถงึ penfriend เล่าเกยี่ วกับกจิ กรรมทชี่ อบได้
- พดู ให้ข้อมูลเก่ยี วกับกจิ กรรมทชี่ อบได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อยา่ งมีเหตผุ ล
ตัวช้ีวดั
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลุ่มคา ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพดู

เข้าจังหวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา และนทิ านง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ
และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช้วี ดั
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสอื่ สารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรสู้ ึกของตนเองเก่ียวกบั เรือ่ งต่าง ๆ ใกล้ตวั และกิจกรรมตา่ ง ๆ

ตามแบบทฟี่ งั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพูดและการเขียน
ตัวชว้ี ัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตวั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชว้ี ดั
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกับวัย

433

สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวช้ีวัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจคาศัพท์และโครงสรา้ งถาม-ตอบเก่ยี วกบั กจิ กรรมทช่ี อบทา ช่วยให้เข้าใจเรอ่ื งท่ีอา่ นและ

เขียนสือ่ สารไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: I like listening to music and dancing. I like horse riding too!

I like dogs very much. Do you like playing basketball? Yes, I

do.

Vocabulary: months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water,

grow, catch, gardening, swim, jump, wet, run, sail, later

Function: บอกกิจกรรมท่ชี อบทา

2) Language Skills

Speaking: พูดบอกกิจกรรมที่ชอบ

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Writing: เขียนจดหมายถึง penfriend

3) Culture: มารยาทในการเขียนจดหมาย

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ทใี่ ช้ในการสอ่ื สาร

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุง่ มน่ั ในการทางาน

434

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm Up
1. ครูเดินเข้ามาในห้องและทักทายนักเรยี น Good morning. How are you? เมอื่ นกั เรียนตอบพรอ้ มกัน
แล้ว

ครสู ุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน พดู ตอบครู เชน่
T: Good morning. How are you?
S1: I’m good. And you?
T: I’m OK.

2. ทบทวนคาศพั ทท์ ีเ่ รียนมาแลว้ เช่น sail, run, catch, swim, jump, dance ด้วยการใหน้ ักเรยี น
เลน่ เกม Invisible Man โดยครวู าดภาพคนบนกระดาน ประกอบดว้ ยหวั ตวั แขนขวา แขนซ้าย ขาขวา
และขาซ้าย จากนน้ั ครูขดี เส้นใต้เทา่ จานวนตวั อกั ษรในคาศพั ท์ ครูอธิบายว่า ให้นกั เรยี นทายพยญั ชนะที่
อยู่ในคาศัพท์ที่กาหนด ถา้ ทายถกู ครจู ะลบอวัยวะออกไปครง้ั ละ 1 สว่ น ครูให้นกั เรยี นทายตวั อักษรไป
เรอื่ ย ๆ จนภาพคนบนกระดานหายไป

3. ทบทวนเน้อื หาจากคาบเรียนทแี่ ลว้ โดยถามนกั เรยี น 2-3 คาถาม เชน่
T: What do Oscar and Wendy do in spring?
Ss: They plant flowers.
T: Does Oscar like spring?
Ss: No, he doesn’t.
T: Why doesn’t Oscar like spring?
Ss: Because it’s windy.

4. ทบทวนการใช้ and และ but โดยใหน้ ักเรยี นแตง่ ประโยค and และ but มาคนละ 1 ประโยค จากนน้ั
ครูสมุ่ เรยี กนกั เรยี น 5-6 คน ยนื ขนึ้ อา่ นประโยคที่ตัวเองแตง่ ใหเ้ พอื่ นฟัง เชน่
S1: I like cooking and gardening.
I like playing basketball, but I don’t like playing football.

5. ครทู บทวนการพดู บอกกจิ กรรมท่ีชอบ โดยครูถามนักเรียนว่า What do you like doing? จากนนั้ ครู
รวบรวมคาตอบจากนกั เรยี นมาเขียนบนกระดานในรูปแผนที่ความคิด (mind map)

435

ข้ัน Presentation

1. หนังสอื เรียน หน้า 58 Ex.12 ครูชท้ี ีจ่ ดหมายและถามนกั เรยี นวา่ What is this? เมื่อได้คาตอบว่า a

letter แลว้ ครบู อกนักเรียนว่า จดหมายฉบับดงั กล่าวเป็นของ Cindy ทีเ่ ขียนถึงเพื่อนทางจดหมายหรือ

penfriend ครใู ห้นกั เรยี นอา่ น 2 บรรทดั แรกของจดหมาย หลงั คาขนึ้ ต้นจดหมาย ครถู ามนกั เรียนวา่

Cindy เขียนจดหมายติดต่อกบั Sabrina นานหรอื ยงั เมื่อไดค้ าตอบวา่ ครงั้ แรก ใหน้ กั เรียนอธบิ ายเหตผุ ล

หลงั จากนนั้ ครเู ปิด CD ใหน้ กั เรยี นฟังและอา่ นจดหมายตามไปดว้ ย ครูเปิด CD อกี คร้งั โดยหยุดเป็น

ช่วง ๆ ใหน้ ักเรียนพูดตามพร้อมกนั และทลี ะคน

ครูชี้ให้นกั เรยี นดภู าพทลี ะภาพในหนังสอื เรยี น และถามคาถามนักเรยี น ดงั น้ี

T: (ครูชี้ที่ภาพ Cindy ฟงั เพลง) What does Cindy like?

Ss: She likes listening to music.

T: (ครชู ที้ ีภ่ าพ Cindy กอดสนุ ัข) What does Cindy like?

Ss: She likes dogs.

T: (ครชู ้ที ภ่ี าพ Cindy ขีม่ ้า) What does Cindy like?

Ss: She likes horse riding.

T: (ครูชี้ท่ภี าพ Cindy รบั ประทานไอศกรีม) What is Cindy doing?

Ss: She likes eating ice cream.

2. ครูใหน้ กั เรียนดจู ดหมายอกี ครัง้ และถามนักเรียนวา่ คาข้ึนต้นจดหมายคือคาว่าอะไร เมอื่ ไดค้ าตอบว่า

Dear ครบู อกว่า เรายงั สามารถใช้ Hi ____, Hello ____, โดยครูอธิบายวา่ คาข้ึนตน้ เหล่าน้ีจะตามด้วย

ชื่อ

บคุ คลทเี่ ราเขียนถงึ ซง่ึ เรารจู้ กั เป็นอย่างดี เช่น เพอื่ นสนทิ สมาชิกในครอบครวั อาจจะเป็นช่ือเล่นหรือ

ช่อื จรงิ กไ็ ด้ ตวั อย่างเชน่

Dear Amy, ถึง เอมี

Hi Mary, สวัสดี แมรี

Hello Dave, (David’s nickname) สวสั ดี เดฟ (ชื่อเลน่ ของเดวิด)

3. ครอู ธิบายวา่ ถา้ เรารจู้ กั ผู้เขยี นอยู่แล้ว เรามักจะขึน้ ต้นจดหมาย เชน่ How are you? Thanks for your

letter. กอ่ นจะเร่ิมตน้ เนื้อหาในจดหมาย เราควรกลา่ วคาทกั ทายหรือขอบคุณคนที่เขียนจดหมายมาหา

ครอู ธิบายเพิม่ เติมเกย่ี วกบั มารยาทในการเขยี นจดหมายว่า นักเรยี นไมค่ วรใชต้ วั พมิ พใ์ หญท่ ้ังหมดใน

การเขยี นจดหมาย เพราะจะเปรียบเสมือนเป็นการตะโกนใสผ่ ู้อา่ น ซ่งึ ไมส่ ภุ าพ

4. ครูเขียนประโยคตอ่ ไปนี้บนกระดาน

Write back soon. (เขียนกลับมาเรว็ ๆ นะ)

Write soon. (เขียนมาเรว็ ๆ นะ)

That’s for now. (ขอจบเพยี งเท่าน้ี)

436

Write and tell me. (เขียนมาและเลา่ ให้ฉันฟังบา้ งนะ)

Hope to see you soon. (หวงั วา่ จะไดพ้ บกันเรว็ ๆ นี้นะ)

จากน้นั ครูอธบิ ายวา่ ประโยคเหล่านใี้ ช้ในการจบเนื้อหาในจดหมายอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการเท่านัน้ โดย จะ

วางไว้กอ่ นคาลงท้าย

5. นาเสนอคาลงทา้ ยจดหมายอยา่ งไม่เป็นทางการ ใหน้ กั เรียนหาคาลงทา้ ยจดหมายท่ี Cindy ใช้ เม่อื ได้

คาตอบว่า Best Wishes (ด้วยความปรารถนาดี) แลว้ ครูเขยี นคาต่อไปนบี้ นกระดานและบอกความหมาย

เชน่

Love. (รกั )

All the best. (ดว้ ยความปรารถนาดี)

Cheers. (ลาก่อน)

ครูอธิบายวา่ เราสามารถใช้คาเหล่านล้ี งทา้ ยจดหมายได้

Penfriend หมายถงึ เพอ่ื นทางจดหมาย แต่ไมเ่ คยพบหน้ากัน
Best wishes และ Best regards เปน็ คาลงท้ายจดหมายในภาษาองั กฤษแบบไม่เป็นทางการ
มีความหมายวา่ ดว้ ยความปรารถนาดี

เราใชเ้ คร่อื งหมาย comma หรอื , วางหลงั คาขนึ้ ตน้ และลงทา้ ยจดหมาย
ตวั อยา่ ง Dear Risa, Hi Rose,

Best wishes, Best regards,
6. ครูชีท้ ่สี ่วนตา่ ง ๆ ของจดหมายที่ Cindy เขยี นอกี คร้ัง และให้นกั เรียนระบุโครงสรา้ งของจดหมายวา่

ต้องประกอบดว้ ยสว่ นต่าง ๆ ดงั นี้
1) ทอี่ ยู่ (address)
2) วนั ที่ (date) เชน่ 10th March
3) คาข้ึนต้น (salutation) เช่น Dear Sabrina,
4) เนือ้ ความ (body) บอกรายละเอียดสง่ิ ท่เี ราตอ้ งการจะเขยี น
5) คาลงท้าย (complimentary closing) เชน่ Best wishes
6) ชื่อผเู้ ขียน (writer’s name)

ขนั้ Practice
1. หนังสอื เรยี น หนา้ 58 Ex. 13 ครอู ่านข้อความในกรอบคาพดู ให้นกั เรียนฟัง ครูถามนกั เรยี นวา่ What do

you like doing? Tell me two things. gardening and tidying my room.ครูสุ่มเลือกนกั เรยี น 1 คน
พูดบอก กจิ กรรมทตี่ นเองชอบ เมอื่ นกั เรียนตอบแลว้ ครูให้นักเรยี นจับคู่กับเพ่ือนและพูดถาม-ตอบกนั เช่น

437

S1: What do you like doing?
S2: I like cooking, dancing.

ครูเปดิ คลปิ วดิ โี อชอ่ื วา่ Phonics Kingdom 7 Perfect Pronunciation - Adding -ing โดยเข้าไปที่
https://www.youtube.com/watch?v=J1UwR97CUYY หรือแนะนาใหน้ กั เรียนไปเปดิ ดูดว้ ย
ตนเอง

ครอู ธบิ ายวา่ คากริยาทเ่ี ติม -ing จะไม่เนน้ เสียงหนกั ท่ี -ing เชน่ singing, writing และให้นกั เรยี น
ลงเสยี งหนกั -เบาในคาใหถ้ กู ต้อง
2. หนังสือเรียน หน้า 59 Ex. 14 ครูพดู บอกวา่ นกั เรยี นจะได้เลน่ เกม โดยครูส่มุ เรยี กนักเรยี น 1 คน ยืนขน้ึ
อ่านรายชอื่ กจิ กรรมทใ่ี หม้ าในกรอบสเี หลอื ง จากนั้นครูเปดิ CD ให้นักเรยี นฟงั และอธิบายกตกิ า
การเล่นเกมวา่ ให้นกั เรียนแตล่ ะคนเขียนกิจกรรมที่ตนเองชอบทาลงในกระดาษแผ่นเล็ก ๆ จากนนั้ ครู
สุ่มเรยี กนักเรียน 1 คน ออกมายนื ทีห่ นา้ ชั้น ให้นกั เรียนทเ่ี หลือถามคาถามเพื่อทายกิจกรรมที่นักเรยี น
คนดงั กลา่ วเขียนไว้ในกระดาษโดยใช้โครงสรา้ ง Do you like …? นกั เรยี นทท่ี ายถกู จะได้ออกมายืน
หน้าชน้ั และทากจิ กรรมตอ่ ไป ครใู ห้นกั เรียนทากจิ กรรมไปเรือ่ ย ๆ จนสงั เกตวา่ นักเรียนทากจิ กรรม
ไดค้ ลอ่ ง

Tom: Do you like gardening?
Oscar: No, I don’t.
Lin: Do you like playing basketball?
Oscar: Yes, I do.

ขน้ั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 63 หวั ข้อ Portfolio ครูถามคาถามเก่ยี วกบั ตัวนกั เรียน เช่น

T: How old are you?
S1: I’m ten years old.
T: Where are you from?
S1: I’m from Bangkok.

438

T: What do you like doing?
S1: I like watching TV and playing tennis.
T: What do you dislike doing?
S1: I don’t like cooking and gardening.
T: Have you got a pet?
S1: Yes, I have. I’ve got a dog.
T: What is its name?
S1: Its name is Charlie.
T: What do you like eating?
S1: I like eating pizza and ice cream.
จากนน้ั ครูอธบิ ายภาระงาน ใหน้ ักเรียนเขียนจดหมายถงึ penfriend บอกเล่าเก่ยี วกบั ส่ิงท่ตี นเองชอบทา
และไมช่ อบทาและสัตว์เล้ียงของตนเอง ครูเขยี นคาถามท่คี รูถามไปบนกระดาน เพอ่ื ให้นกั เรียนใชเ้ ป็น
แนวทางในการเขียน เสรจ็ แลว้ ครใู ห้เวลานกั เรยี นในการเขยี นจดหมาย
Weak classes: ครูและนกั เรยี นเขียนจดหมายร่วมกันบนกระดานกอ่ น แลว้ จงึ ให้นกั เรียนเขยี นดว้ ย
ตนเองท่บี า้ น หรอื ครูอาจเขยี นจดหมาย 1 ฉบับ แต่เวน้ ชอ่ งวา่ งใหน้ ักเรียนเตมิ ขอ้ มลู ดว้ ยตนเอง

(ตวั อย่างคาตอบ)
8, Sukhothai Road
Bangkok, Thailand
16th June 2016
Dear Paul,
My name’s Somchai. I’m ten years old and I’m from Thailand. I like watching TV and
playing tennis. I like animals very much. I’ve got a dog. My dog’s name is Charlie.
I like eating pizza and ice cream but I don’t like cooking or gardening – do you?
Write and tell me what you like doing.
Best wishes,
Somchai

439

ชาวองั กฤษนยิ มเลี้ยงสตั วเ์ ลี้ยงไว้ในบา้ นเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครวั อีกคนหนงึ่
ชาวอังกฤษมกั พาสัตวเ์ ลยี้ งออกไปเดนิ เลน่ เมื่อสัตว์เลี้ยงเจบ็ ป่วยเจา้ ของตอ้ งพาไปหา
สตั วแพทยเ์ หมอื นกบั คน

2. ครใู หเ้ วลานักเรยี นตรวจทานงานเขียนของตนเอง โดยตรวจสอบความถกู ตอ้ งของตวั สะกด ไวยากรณ์ และ
เครื่องหมายวรรคตอน เมอื่ แก้ไขเสร็จแล้ว ให้จบั คู่กับเพื่อนและอา่ นจดหมายให้เพือ่ นฟงั

3. แบบฝกึ หัด หน้า 49 Ex. 11 ครูบอกวา่ นักเรยี นจะได้ฟงั บทสนทนาระหวา่ ง Becky และผูช้ ายคนหนง่ึ
เก่ียวกับสิ่งท่ี Becky ชอบ จากนัน้ ครูทบทวนการลงเสียงหนักในคาศัพทเ์ กยี่ วกับเดือน ฤดูกาล อาหาร
และกิจกรรม ดงั นี้
Months: January, February, March, April, May, June, July, August, September,
October, November, December
Seasons: summer, spring, autumn, winter
Food: chicken, hot dog, sausage, pizza, cake, ice cream, chips, salad, bacon,
toast, cereal, waffle, cream, muffin, orange juice, milk, water, coffee, tomatoes,
banana, apples
Activities: ?

ต่อมาครูทบทวนโครงสรา้ งทีใ่ ช้ขอและให้ขอ้ มูลเกีย่ วกบั ส่ิงทีช่ อบ ดงั นี้

What do you like? I like …

What’s your favourite …? My favourite … is … ./I like … .

Do you like ….? Yes, I do./No, I don’t.

440

Narrator: Listen and circle.
Man: Becky, do you like skiing?
Becky: No, I don’t. I like swimming.
Man: Swimming?
Becky: Yes!
Two
Man: What do you like eating, Becky? Do you like burgers?
Becky: No, I don’t like burgers, but I like chips.
Three
Man: And what’s your favourite season? Winter?
Becky: No. I don’t like winter. I like autumn!
Four
Man: And what’s your favourite month?
Becky: My birthday is in September, but my favourite month is August.

I like August because I go on holiday in August.

1b 2b 3b 4a

4. ครขู ออาสาสมัครนักเรยี นออกมายืนหน้าช้นั 1 คน จากนน้ั ใหน้ กั เรียนแสดงทา่ ทางใบ้กจิ กรรม
ที่ตนเองชอบทา ใหน้ กั เรยี นคนที่เหลอื ชว่ ยกันเดาคาตอบที่ถูกต้อง
ตวั อย่าง S1: (mimes swimming)
Class: You like swimming! etc.

5. ให้นักเรยี นทากจิ กรรมในแบบฝกึ หดั หนา้ 49 Ex. 12 เปน็ การบ้าน

2 no 3 yes 4 yes 5 no 6 no

6. ใหน้ ักเรยี นฝึกอา่ นจดหมายในหนงั สอื เรยี น หนา้ 58 ดว้ ยตนเองทบี่ ้าน และมาอ่านให้ครฟู ัง
นอกเวลาเรยี น

441

7. การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั ประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
ประเมินงานเขียนจดหมายถึง แบบประเมินการพดู ระดับคุณภาพ พอใช้
Penfriend ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดบอกส่ิงทชี่ อบ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจการตอบคาถามจากการฟังและ แบบฝึกหัด (Workbook)/ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
อา่ น แบบทดสอบ

สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ดี า้ นใฝเ่ รยี นรู้ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั

และมุ่งมนั่ ในการทางาน พึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อนิ เทอร์เน็ต

442

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 Let’s sing!

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายของคาศัพท์เกีย่ วกบั ฤดกู าลและกจิ กรรมทท่ี าได้
- เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาได้
- บอกคาคลอ้ งจองของคาศัพทท์ ่กี าหนดได้
- เลอื กภาพตรงตามความหมายของประโยคได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งท่ีฟงั และอ่านจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกล่มุ คา ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพูด

เขา้ จังหวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรอื สญั ลักษณ์หรือเครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยค

และข้อความสัน้ ๆ ทฟี่ งั หรืออ่าน
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้

อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวช้ีวัด
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทีเ่ หมาะกับวัย
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชไ้ ด้อย่างถูกตอ้ ง
ตวั ชวี้ ดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสยี งตัวอักษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเคร่ืองมอื พ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชพี
และการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กบั สงั คมโลก

ตัวชว้ี ดั
ต 4.2 ป.4/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ

443

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรแู้ ละเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ สานวน และโครงสรา้ งถาม-ตอบ ชว่ ยใหเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมทาง

ภาษาและวฒั นธรรมไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: I like coffee., I like tea., I like swimming in the sea!
Vocabulary: rhyming words: tea, sea, cake, lake, May, play, school, pool
Pronunciation: ออกเสียงคาทล่ี งทา้ ยดว้ ยเสยี ง /k/
2) Language Skills
Reading: อา่ นเนอ้ื เพลง

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทใี่ ช้ในการสือ่ สาร
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั Warm Up
1. ครทู ักทายนกั เรียนว่า Hello. How are you? เมอ่ื นักเรยี นพดู ตอบแล้ว ครูให้นกั เรยี นกล่าวทักทาย

เพ่ือนทนี่ ง่ั ข้าง ๆ ท้งั ฝั่งซา้ ยและฝัง่ ขวา
2. ทบทวนคาศพั ท์เก่ยี วกับฤดูกาลและเดอื นในภาษาอังกฤษ โดยให้นักเรยี นเล่นเกม Noughts and
Crosses หรอื Tic-Tac-Toe ซึ่งมวี ธิ กี ารเลน่ เชน่ เดยี วกบั เกม OX ในประเทศไทย โดยให้แตล่ ะทมี ผลดั กนั บอก

ช่ือฤดกู าลและเดือน พรอ้ มทัง้ สะกดคาใหถ้ กู ตอ้ ง ตัวแทนทีมที่บอกไดถ้ กู ต้อง จะมสี ิทธ์ิเลือกชอ่ งและ
ทาเครื่องหมาย O หรอื X ทมี ทีท่ าเครอ่ื งหมายไดค้ รบ 3 ช่อง ตดิ กันในแนวใดก็ได้ก่อนคอื ทีมชนะ
3. ให้นกั เรยี นเล่นเกม Simon Says เพอื่ ทบทวนประโยคคาสั่ง โดยครูเป็นผ้อู อกคาสงั่ ใหน้ ักเรยี น

444

ปฏิบตั ติ าม เช่น
T: Simon says, “Clap your hands.”
Ss: (นกั เรียนปรบมอื )
T: Simon says, “Touch your head.”
Ss: (นกั เรยี นเอามือไปจบั ศีรษะตนเอง)

4. ครูทบทวนประโยคคาสัง่ ทใี่ ช้ในห้องเรยี นและการเชือ่ มเสียง โดยเขยี นประโยคตอ่ ไปนี้บนกระดาน

Look at the picture.

Walk along this road.

Talk about your family.

Stand up.

Repeat after me.

Turn off the light.

Turn on the light.

จากนั้นครูอา่ นทลี ะประโยคและให้นกั เรียนพูดตามพร้อมกันหรือทีละคน แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั พดู
บอกความหมายในภาษาไทย

ขัน้ Presentation

1. นาเสนอคาศัพท์ทล่ี งทา้ ยดว้ ยเสยี ง /k/ โดยครเู ขียนคาต่อไปน้บี นกระดาน

cake (เคก้ ) lake (ทะเลสาบ)

park (สวนสาธารณะ) shark (ปลาฉลาม)

bike (รถจักรยาน) like (ชอบ)

pink (สีชมพ)ู drink (ดม่ื )

rock (กอ้ นหนิ ) sock (ถุงเท้า 1 ข้าง)

book (หนังสอื ) cook (ทาอาหาร)

จากนั้นครชู ้ีแตล่ ะคาและพดู ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสียงตามครู โดยครูเนน้ ออกเสยี ง /k/ ที่ทา้ ยคาใหช้ ัดเจน

เสร็จแล้วครอู ธิบายการออกเสียง /k/ ให้นักเรยี นฟัง

445

หลักการออกเสียงคาทีล่ งท้ายดว้ ยเสยี ง /k/
คนไทยมักจะมปี ญั หาการออกเสยี ง /k/ ทท่ี ้ายพยางค์ โดยจะออกเสียงเพีย้ นเป็นตัวสะกด ก
ในภาษาไทยแทน หรือไม่ออกเสยี ง /k/ เลย ดงั นนั้ ครตู ้องฝกึ ใหน้ ักเรยี นออกเสยี ง /k/ ท้ายคา
ให้ชัดเจน โดยออกเสยี ง เคอะ (k) เลก็ น้อยทที่ า้ ยพยางค์ เพอื่ ท่จี ะได้สือ่ สารกับชาวตา่ งชาตเิ ขา้ ใจ
มากข้ึน
ท่ีมา: http://betterenglishforthai.net/book_pronunciation/chapter11/

ต่อมาครเู ขียนประโยคเหลา่ นบ้ี นกระดาน
A pink book is in the park.
Look at the black bike.
A rock is in the sock.
I eat cake and drink some milk.

เสรจ็ แลว้ ครอู า่ นออกเสยี งประโยคดงั กลา่ วให้นกั เรยี นฟงั 1-2 ครั้ง แล้วใหน้ กั เรยี นพดู ตามจนคลอ่ ง

กจิ กรรมเพ่มิ เตมิ
ครเู ขียนคาศพั ทต์ ่อไปนบี้ นกระดานและใหน้ กั เรยี นลอกลงสมดุ
song sock
cool cook
bag back
pig pink
leg lake
จากนั้นครูอา่ นออกเสียง 3-4 คา ให้นกั เรียนวงกลมคาศพั ทท์ ่นี ักเรยี นได้ยนิ

2. ครสู อนเรอื่ ง rhyming words โดยอธิบายว่า ในภาษาไทยมคี าคลอ้ งจอง ในภาษาองั กฤษก็เช่นกัน โดย
มักจะเห็นในกลอนหรอื ในเพลง จากนน้ั ครเู ขยี นคาว่า wet บนกระดาน และเขยี นคาวา่ hole, pet, sail
บนกระดาน ครูถามนักเรยี นว่า What rhymes with “wet”? ครใู หน้ ักเรียนอ่านออกเสยี งตวั เลือก
พรอ้ มกนั เม่ือไดค้ าตอบวา่ pet แลว้ ครูให้นักเรยี นช่วยกนั คดิ คาศพั ท์อ่นื ทีอ่ อกเสยี งคล้องจองกับคาวา่
wet โดยถามนักเรยี นวา่ Can you think of other rhymes for “wet”?
ตัวอยา่ ง net, set, let, vet, get
เสรจ็ แล้วครใู ห้นักเรียนชว่ ยกนั บอกคาทอี่ อกเสยี งคลอ้ งจองกับคาอื่น ๆ เชน่ sail, cook, draw
ตวั อย่าง sail - nail, bell, fail, mail
cook - book, look, hook, took

446

draw - claw, flaw, jaw, law

ครสู ามารถดาวนโ์ หลดใบงานเร่ือง rhyming words เพือ่ ให้นักเรยี นฝกึ ฝนเพ่ิมเติมไดท้ ี่
https://www.havefunteaching.com/worksheets/english-worksheets/rhyming-
worksheets/
rhyming-worksheet-3/
ครแู นะนาเพลง Phonics (Rhyming Words) ให้นกั เรยี นเปดิ ฟังและฝึกฝนด้วยตนเองที่
www.youtube.com หรือเว็บไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=ggcr7hMInVE&list=PLDm7oIrEgBqB8FQz4YCs
NFAo1fwYhOf2J

ขนั้ Practice
1. หนงั สอื เรียน หนา้ 59 หัวข้อ Sound Spot ครูเขยี นประโยค A pink book is in the park. บน
กระดาน

จากนั้นครอู า่ นออกเสียงและใหน้ ักเรียนอ่านตามพรอ้ มกนั 1 ครง้ั ครสู มุ่ เรียกนกั เรยี น 6-7 คน อ่าน
ประโยคบนกระดาน เสรจ็ แล้วครูเปดิ CD เสยี ง /k/ ให้นกั เรยี นฟังและฝกึ ออกเสียงตามหลาย ๆ ครัง้

A pink book is in the park.

กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ
ครูเปดิ คลปิ วดิ โี อเกย่ี วกบั การออกเสยี งคาท่ีลงทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ เปรยี บเทยี บกับเสียง /g/ ให้
นกั เรียนดูจาก https://www.youtube.com/watch?v=SFxmh5y2y_M
หรือใหน้ กั เรยี นไปฝึกด้วยตนเอง โดยครบู อกคาสาคญั เชน่ /k/ and /g/ pronunciation หรือ
ชือ่ คลปิ English: How to Pronounce G and K consonants: American Accent ให้นกั เรียนเขา้
ไปเปดิ ดูดว้ ยตนเองที่ www.youtube.com

2. ครูให้นักเรยี นอ่านเนือ้ เพลงในหนังสอื เรียน หน้า 60 ครใู ห้นกั เรยี นดเู พลงทอ่ นแรกและถามนักเรียน ว่า
What rhymes with tea? เมื่อไดค้ าตอบวา่ sea แลว้ ครูทากจิ กรรมเชน่ เดยี วกันน้กี บั คาวา่ cake (lake),

May (play), school (pool) และให้นกั เรียนสงั เกตวา่ rhyming words ในเนื้อเพลงนจ้ี ะอยู่ในบรรทัดท่ี
4 ของเน้ือเพลงแตล่ ะทอ่ น
3. หนงั สอื เรยี น หนา้ 60 Ex. 15 ครูเปิด CD ใหน้ กั เรยี นฟังและฝึกรอ้ งตาม จากน้นั ครูแบง่ นักเรยี นเปน็ กล่มุ

447

แลว้ อธบิ ายภาระงานว่า ให้แตล่ ะกลุ่มฝกึ ร้องเพลงจนคล่อง เสร็จแล้วออกมาร้องเพลงให้เพื่อนฟงั
4. หนงั สือเรยี น หน้า 60 Ex. 16 ครูอธิบายภาระงาน แล้วช้ีท่ภี าพคนในเนื้อเพลงทีละภาพและถามนกั เรยี น

วา่ มใี ครบา้ ง เมอ่ื ได้คาตอบว่า Oscar, Tom, Wendy และ Cindy ครูถามคาถาม ดังน้ี
T: What does Oscar like doing?
Ss: He likes drinking milk and tea and swimming.
T: What does Tom like doing?
Ss: He likes eating ice cream and cake and fishing in the lake.
T: What does Wendy like doing?
Ss: She likes going to the park and playing a ball.
T: What does Cindy like doing?
Ss: She likes studying English and swimming in the pool.

ครูให้เวลานักเรียนอ่านเนอ้ื เพลงอีกคร้งั และจับค่ชู อื่ คน 1-4 และกิจกรรมทช่ี อบทา เสรจ็ แลว้ ครเู ฉลย
คาตอบพรอ้ มกันกบั นกั เรียน

1c 2b 3d 4a

5. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กล่มุ จากน้ันครมู อบหมายเน้อื เพลงแตล่ ะทอ่ นใหแ้ ตล่ ะกลุ่มไปฝึกรอ้ ง
จนคลอ่ ง จากนนั้ ครูเปดิ CD โดยก่อนเล่น CD ครบู อกนักเรยี นว่า เมอื่ เพลงถงึ ทอ่ นของกลุ่มใด ให้
นักเรียนกลมุ่ น้ันรอ้ งทอ่ นของกล่มุ ตนเอง

ขั้น Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานกลมุ่ คน้ ควา้ ขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆ เชน่ อินเทอรเ์ นต็

หรอื หนังสือเรียนภาษาองั กฤษเพ่ือหาคาศพั ท์ทีล่ งท้ายด้วยเสียง /k/ มากลมุ่ ละ 10 คา จากน้นั ใหน้ กั เรียน
ทาโปสเตอร์นาเสนอคาศพั ท์ โดยเรยี งลาดบั คาศพั ทต์ ามตวั อกั ษร (alphabetical order) พร้อมวาดภาพ
ประกอบและตกแต่งให้สวยงาม เสรจ็ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานโดยการอา่ นคาศพั ทใ์ ห้
เพื่อนฟัง
2. ครูใหน้ ักเรียนกลุม่ เดิมแตง่ เพลงโดยใช้โครงสรา้ ง I like + กจิ กรรมทีช่ อบ. ซึ่งนกั เรยี นสามารถใช้
ตวั อย่างในหนงั สือเรยี นหน้า 60 Ex. 15 พร้อมวาดภาพตกแตง่ ใหส้ วยงาม ครูยา้ ใหน้ กั เรียนใช้
คาคลอ้ งจองในการแตง่ เพลงดว้ ย
3. ให้นกั เรียนค้นหาคาคล้องจองในภาษาอังกฤษมาคนละ 3 คู่ โดยวาดภาพและเขียนบอกความหมาย
ให้ถูกต้อง พรอ้ มทั้งเขียนตัวอยา่ งประโยค
4. ให้นักเรียนทากิจกรรมในแบบฝกึ หัด หน้า 50 Ex. 13 เปน็ การบ้าน

448

1b 2c 3d 4a

7. การวดั และประเมนิ ผล

วิธีการวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์

ประเมนิ ช้นิ งานโปสเตอรค์ าศัพทท์ ล่ี ง แบบประเมินชิ้นงาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้

ทา้ ยดว้ ยเสยี ง /k/ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ชิน้ งานคาคลอ้ งจอง แบบประเมนิ ชิน้ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้

ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีด้านใฝ่เรียนรแู้ ละ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ระดับคณุ ภาพ พอใช้

มุง่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าโปสเตอร์
8.5 อินเทอรเ์ น็ต

449

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8 Activities for all seasons!

เวลา 1 ชัว่ โมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- พดู /เขียนบอกกจิ กรรมทต่ี ้องการทาในประเทศสหรฐั อเมรกิ าและในประเทศไทยได้
- เลือกภาพตรงตามความหมายของประโยคได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอื่ งท่ีฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรอื สัญลักษณห์ รอื เคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และข้อความสั้น ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนทิ านง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึก
และ แสดงความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ช้วี ดั
ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเองและขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณง์ า่ ย ๆ
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และ

นาไปใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชว้ี ัด
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ยี วกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเปน็ อยู่งา่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้อง

ตวั ชว้ี ดั
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

450

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

ตัวชว้ี ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ที่เกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจคาศัพท์ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั เนือ้ หา ชว่ ยให้อา่ น พดู /เขยี นแนะนาเกย่ี วกบั ชีวิตความเปน็ อยู่ของ

เจา้ ของภาษาได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Winters are cold and snowy. You can go skiing, snowboarding

and ice skating. Summers are fun in Vermont, too! You can go hiking, play golf, or go
mountain biking.

Vocabulary:months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water, grow, catch,
gardening, swim, jump, wet, run, sail, later, skiing, snowboarding, ice skating, go hiking, play
golf, go mountain biking, fishing, canoeing

Function: ใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกับกจิ กรรมทต่ี อ้ งการทา
2) Language Skills

Speaking: พูดใหข้ อ้ มูลเก่ยี วกับกจิ กรรมท่ีต้องการทา
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Writing: เขยี นนาเสนอเกี่ยวกบั กิจกรรมทที่ าในแตล่ ะฤดูกาลของรฐั อื่น ๆ ใน

สหรัฐอเมริกา, เขียนบอกส่ิงที่ต้องทา
3) Culture: กจิ กรรมที่ทาในแตล่ ะฤดใู นรฐั เวอรม์ อนต์ (Vermont) ประเทศ

สหรฐั อเมริกา

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ที่ใช้ในการสอื่ สาร

451

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้ัน Warm Up

1. ครตู ดั ภาพเดก็ ฝรัง่ 1 คน มาจากนิตยสาร แลว้ ครสู มมตวิ ่าเปน็ เด็กคนดังกล่าวและออกมาพดู แนะนา ตวั

กบั นักเรยี นในหอ้ ง เช่น

T: Hello! My name is Alex. I come from Vermont, the USA.

Ss: Nice to meet you, Alex.

T: Nice to meet you too.

จากนนั้ ครใู ห้นักเรยี นจบั คทู่ ักทายกับเพ่ือนที่นง่ั ขา้ ง ๆ โดยสมมตใิ ห้นักเรียน 1 คน มาจากรฐั เวอรม์ อนต์

2. ทบทวนการออกเสียงคาที่ลงทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ โดยครเู ขยี นคาศัพทต์ ่อไปนี้บนกระดาน

cake lake

park shark

bike like

pink drink

rock sock

book cook

เสร็จแล้วครูช้ีไปทคี่ าศัพท์และให้นักเรียนอา่ นออกเสียงพรอ้ มกัน หากนกั เรียนคนใดมปี ญั หาใน

การออกเสยี งน้ี ครูฝึกใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสยี งให้ครูฟงั จนคล่อง หรอื ใหน้ กั เรยี นไปฝกึ อ่านออกเสยี ง

กบั ครูนอกเวลาเรยี น

3. ทบทวนเนอ้ื เพลงในหนงั สอื เรยี น หน้า 60 โดยครใู ห้นกั เรียนรอ้ งเพลงพร้อมกบั ชว่ ยกันปรบมอื

เขา้ จังหวะ

4. นาเข้าสูบ่ ทเรยี นโดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุม่ ให้แต่ละกลุม่ ระดมความคดิ เกี่ยวกับกจิ กรรมทที่ า ใน

ฤดกู าลตา่ ง ๆ แล้วนาเสนอเป็นแผนท่ีความคดิ (mind map) เช่น build a swim in
sandcastle the
go
surfing sea/pool

summer

have a sumbathe
452 picnic
go to
the
beach

go ice go skiing make a
skating winter snowman

read a watch TV
book

drink hot
chocolate

ขั้น Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทท์ ีเ่ กยี่ วกบั กจิ กรรมท่ีเจา้ ของภาษานิยมทาในฤดูกาลตา่ ง ๆ เช่น skiing (สกี),

snowboarding (สโนวบ์ อรด์ ), ice skating (สเกต็ น้าแขง็ ), go hiking (ไปเดนิ ป่า), play golf (เล่น
กอลฟ์ ),

go mountain biking (ปั่นจักรยานภเู ขา), fishing (ตกปลา), canoeing (พายเรือแคนู) โดยใชบ้ ัตรภาพ
หรือ

หาภาพจากอินเทอร์เนต็ มาเปดิ ให้นกั เรยี นดู
จากน้ันครูเขียนตาราง 2 ช่อง บนกระดาน และเขยี นช่อื ฤดกู าล winter และ summer ลงไป ครถู าม
นักเรียนว่า กจิ กรรมแต่ละกจิ กรรมนยิ มเล่นในฤดูกาลใด ครรู วบรวมคาตอบของนักเรยี นมาเขียนใส่ ใน
ตาราง

winter summer

คาตอบ: (winter) skiing, ice skating, snowboarding
(summer) play golf, go mountain biking, fishing, canoeing

2. ทบทวนคาศัพทเ์ ก่ยี วกบั กีฬาประเภทตา่ ง ๆ ดว้ ยการให้นกั เรียนเลน่ เกม What is missing? โดยครแู บง่

453

นักเรียนออกเป็น 2 ทมี ทมี ละเท่า ๆ กัน จากน้ันครใู ห้แต่ละทมี สง่ ตวั แทนออกมายนื หนา้ ช้ัน ครนู า
บัตรภาพกฬี า 4 ใบ มาตดิ เรยี งกันบนกระดาน จากนนั้ ใหเ้ วลาตวั แทนแต่ละทีมจดจาคาศพั ท์ แล้วให้
นกั เรียนหันกลับไปหาเพื่อน ต่อมาครดู งึ บัตรภาพออก 1 ใบ แลว้ ให้นกั เรยี นหนั มาและบอกครูว่า
บตั รภาพใดหายไป ทมี ทต่ี อบถกู จะได้ 1 คะแนน ทมี ทีไ่ ด้คะแนนรวมสูงสุดเปน็ ทีมทช่ี นะ

ครสู ามารถดาวนโ์ หลดบัตรภาพกฬี าตา่ ง ๆ จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://www.mes-english.com/flashcards/sports.php
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/sports-flashcards
3. ครูเขยี นคาวา่ Vermont บนกระดาน พรอ้ มกบั ชอ่ื บทอ่านในหนังสอื เรียน หน้า 61 จากนนั้ ครพู ดู
แนะนารัฐเวอรม์ อนต์ใหน้ ักเรยี นฟงั ส้นั ๆ
T: Vermont is a state in the USA. The name comes from two French words -
‘vert’ meaning green and ‘mont’ meaning mountain. The state’s nickname is the Green
Mountain State. You can do a lot of things there all year round.

ครูดาวนโ์ หลดแผนท่รี ัฐเวอร์มอนต์ ประเทศสหรฐั อเมรกิ ามาให้นกั เรียนดจู ากเว็บไซต์ต่อไปนี้
http://www.mapsofworld.com/usa/states/vermont/vermont-location-map.html
http://www.mapsofworld.com/usa/states/vermont/
หรือเปิดคลปิ วดิ ีโอชอ่ื Vermont from Above (High Definition - HD) จาก
https://www.youtube.com/watch?v=UBwqn9BRWhA
หรือ Vermont Tourist Attractions: 12 Places To Visit จาก
https://www.youtube.com/watch?v=PuJwD9xYYME

454

รฐั เวอรม์ อนต์ (Vermont) ตงั้ อย่ทู างทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือของสหรฐั อเมรกิ า ใกล้ ๆ กบั
รัฐนิวยอรก์ และมชี ายแดนติดกับประเทศแคนาดา มีป่าไมค้ รอบคลุมถงึ 75% ของพืน้ ทร่ี ัฐ
ทั้งหมด เป็นรฐั ท่มี ีอากาศหนาวเย็นเป็นลาดบั ท่ี 7 ในสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในรฐั ที่เรยี กว่า
นิวอิงแลนด์ (New England) เน่อื งจากเปน็ พ้นื ที่ส่วนแรกทชี่ าวองั กฤษอพยพเขา้ มาอยู่อาศยั ใน
ประเทศสหรัฐอเมรกิ า และเป็นรฐั เดียวทไ่ี มม่ ีชายแดนตดิ กบั มหาสมทุ รแอตแลนตกิ รัฐเวอร-์
มอนตย์ ังเปน็ รฐั ทม่ี ขี นาดเล็กทีส่ ดุ เปน็ ลาดบั ที่ 6 มปี ระชากรอาศัยอยู่น้อยทส่ี ดุ เปน็ ลาดบั ที่ 2
รองจากรฐั ไวโอม่ิง (Wyoming)
ทมี่ า: https://en.wikipedia.org/wiki/Vermont

http://www.ldoceonline.com/dictionary/new-england
http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/vermont?q=vermont

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หนา้ 61 Ex. 17 ครูอา่ นชอื่ เร่อื ง และอ่านขอ้ ความทลี ะประโยค โดยหยดุ ให้นักเรยี นฝึก

อ่านตามพรอ้ มกนั ก่อนอา่ น ครยู า้ วา่ ประโยคบอกเลา่ ทลี่ งทา้ ยดว้ ยเครื่องหมายตกใจ (!) ให้นักเรยี นใส่
ความรู้สกึ ลงไปในการอา่ น ตอ่ มาครูสุ่มเรียกนกั เรยี น 1-2 คน ยนื ขน้ึ อา่ นเนือ้ หาท้งั หมดอกี ครงั้
หลังจากน้นั ครใู หเ้ วลานกั เรยี นจับคกู่ จิ กรรม 1-8 กบั ภาพ a-h ครูรวบรวมคาตอบจากนักเรียน เสร็จแลว้
ครเู ฉลยคาตอบบนกระดาน

a1 c4 e6 g2
b5 d8 f7 h3

2. หนังสอื เรียน หนา้ 61 Ex. 18 ครอู ่านคาถาม จากนัน้ ให้เวลานักเรยี นอา่ นบทอ่านอีกครัง้ ในใจอย่าง
รวดเรว็ เพอ่ื ตอบคาถามดงั กล่าว เสรจ็ แล้วครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน และเฉลยคาตอบ
บนกระดาน

1 It is cold and snowy. 2 In summer.
455

3. ครใู ห้นกั เรยี นจับคู่ ผลัดกันถาม-ตอบเกีย่ วกับกิจกรรมทชี่ อบทาในหนังสอื เรียน หน้า 61 โดยใช้
โครงสรา้ ง Do you like + กรยิ าเติม -ing? ครสู นทนากับนกั เรยี น 1-2 คน เพ่ือเป็นตัวอยา่ ง เชน่
T: Do you like skiing?
S1: Yes, I do.
T: Do you like snowboarding?
S2: No, I don’t. I like ice skating.
จากน้ันใหน้ ักเรยี นจับค่กู นั ถาม-ตอบ โดยใหน้ ักเรยี นสลบั คู่อกี 1-2 คร้ัง เมอ่ื นกั เรียนฝึกพูดจนคลอ่ ง
แลว้ ครูส่มุ เรียกนกั เรยี น 3-4 คู่ ออกมาพดู ที่หนา้ ชั้น
กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครสู ่มุ เลือกนกั เรยี นมา 1 คน และใหน้ กั เรยี นคนดงั กลา่ วเลือกกจิ กรรมจากบทเรียนโดยไม่ให้เพ่ือน
ในชนั้ รู้ จากนั้นครูให้นกั เรยี นคนดังกลา่ วทาท่าทางเพอื่ ใบ้กจิ กรรมทหี่ น้าชนั้ โดยให้นกั เรยี นทีเ่ หลือ
ชว่ ยกนั เดาวา่ เปน็ กจิ กรรมใด เชน่
S1: (ทาทา่ ตกปลา)
Class: Fishing!
ต่อมาครูแบง่ นักเรยี นออกเป็น 3 กลุ่ม ใหแ้ ต่ละกล่มุ ผลดั กนั เล่นเกมโดยสง่ ตวั แทนกลุ่มละ 1 คน มายืน
หนา้ ช้ัน โดยห้ามหันหลังไปมองกระดาน จากน้นั ครอู ธิบายกตกิ าว่า ครจู ะเขียนคาศัพท์บนกระดาน ให้

สมาชกิ แตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกนั ใบค้ าศพั ทโ์ ดยหา้ มพดู คาศพั ทบ์ นกระดาน ตวั แทนกลุม่ ใดบอกคาศพั ท์ และสะกดคา
ได้ถูกต้องจะได้คาละ 1 คะแนน กลุ่มทไี่ ดค้ ะแนนมากท่ีสดุ เป็นกล่มุ ที่ชนะ\
4. ครเู ขยี นคาถามต่อไปนบ้ี นกระดาน

What do you want to do in Vermont?
จากน้นั ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นออกเสยี งคาถามนี้ตามครู แล้วครบู อกส่ิงท่คี รตู อ้ งการทา เพอื่ เป็นตัวอยา่ งใหก้ บั
นกั เรยี น เชน่ I want to go canoeing. แล้วครูถามนักเรียนหลาย ๆ คน เกยี่ วกับกิจกรรมทีน่ ักเรยี น
ตอ้ งการทาทร่ี ฐั Vermont เมอ่ื นกั เรียนตอบได้คลอ่ งแล้ว ครใู หน้ ักเรียนจับคู่กนั ฝึกพดู ถาม-ตอบ โดยสลบั
คกู่ ับเพือ่ นอกี 1-2 คร้งั

ขั้น Production
1. ครถู ามนักเรียนว่า What do you want to do in hot season in Thailand? ครใู ห้นักเรียนช่วยกนั พดู
ระดม ความคดิ ครเู ขียนคาตอบของนกั เรยี นบนกระดาน ตอ่ มาครถู ามนกั เรยี นว่า What do you want to
do in cool season in Thailand? ครทู ากิจกรรมเชน่ เดยี วกนั น้ีจนครบทกุ ฤดกู าลของไทย
2. ครแู จกกระดาษ A4 ให้นกั เรียนคนละ 1 แผ่น ครใู ห้นักเรยี นแบง่ กระดาษออกเปน็ 4 สว่ น และเขียน

หวั ข้อในแตล่ ะช่อง ดงั นี้

456

In winter, in Vermont, USA In cold season, in ... Thailand

In summer, in Vermont, USA In hot season, in ... Thailand

โดยในสว่ นของประเทศไทยนน้ั ใหน้ กั เรียนระบจุ ังหวดั ทนี่ กั เรียนอยากไปทากจิ กรรมด้วยตนเอง เช่น
in Phuket, Thailand จากนัน้ ครูอธิบายว่า ใหน้ ักเรยี นวาดภาพสงิ่ ทนี่ ักเรยี นตอ้ งการทาทรี่ ฐั Vermont
และในจังหวดั ท่นี ักเรียนเลอื กในประเทศไทยในหนา้ รอ้ นและหนา้ หนาว แลว้ เขยี นประโยคบอกสิ่งท่ี
ต้องการจะทา โดยใชโ้ ครงสรา้ ง I want to … . เสรจ็ แล้วระบายสใี ห้สวยงาม
ครูย้าใหน้ กั เรยี นเขยี นกจิ กรรมทีน่ ักเรยี นสามารถทาได้ตามความเปน็ จรงิ เชน่ นกั เรียนไมส่ ามารถที่
จะเลน่ snowboarding หรอื skiing ในประเทศไทยได้เพราะฤดหู นาวของประเทศไทยไมม่ หี ิมะ เปน็ ต้น

3. ให้นกั เรียนทากจิ กรรมในแบบฝกึ หดั หน้า 51 Exs. 14-15 เป็นการบ้าน

Ex. 14 6 golf
2 hiking 7 snowboarding
3 canoeing 8 skiing
4 mountain biking
5 fishing

Ex. 15
(ตัวอยา่ งคาตอบ)
Summer activities: hiking, golf, mountain biking
Winter activities: skiing, snowboarding, ice skating

457

7. การวดั และประเมินผล

วธิ ีการวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมนิ ชิน้ งานกจิ กรรมที่ต้องการทา แบบประเมนิ ชน้ิ งาน ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ท่รี ฐั Vermont และในประเทศไทย ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั (Workbook)

สังเกตพฤตกิ รรมบ่งชดี้ า้ นใฝเ่ รยี นรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั

และมุ่งมั่นในการทางาน พึงประสงค์

8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 บัตรภาพ
8.4 อินเทอรเ์ น็ต

458

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 9 Seasons in Vietnam and the

Philippines

เวลา 2 ชว่ั โมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- เขียนให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั กิจกรรมทตี่ นเองทาในฤดกู าลตา่ ง ๆ ในประเทศไทยได้
- พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ฤดตู า่ ง ๆ ในประเทศของตนเองและประเทศองั กฤษได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมีเหตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องตา่ ง ๆ โดย

การพูดและการเขยี น
ตวั ชี้วัด
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับตนเองและเรอื่ งใกลต้ ัว
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อยา่ งถกู ต้อง
ตัวชวี้ ัด
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจ้าของภาษากับของไทย
สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวช้วี ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

459

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสรา้ งภาษา ทาให้เขา้ ใจเรอื่ งที่อ่าน พดู และเขยี นสือ่ สารเก่ียวกบั ฤดกู าล

และกิจกรรมที่ทาในแต่ละฤดูกาลของประเทศในภูมิภาคอาเซยี นและเข้าใจวา่ สภาพอากาศและฤดกู าลของไทย
และเจ้าของภาษามีทัง้ ความเหมอื นและแตกตา่ งกันได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure:In the north of Vietnam, cool season is from November to April.

Vocabulary: months, seasons, activities, climate, trekking, hiking, snorkelling,

puppet show, typhoons

2) Language Skills

Speaking: พูดนาเสนอเกย่ี วกบั กิจกรรมท่ที าในฤดูกาลตา่ ง ๆ ในประเทศ

ของตนเอง

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Writing: เขยี นบรรยายเก่ียวกับกจิ กรรมทท่ี าในฤดูกาลตา่ ง ๆ ในประเทศ

ของตนเอง

3) Culture: กิจกรรมหรือสถานทที่ อ่ งเทย่ี วในประเทศเวียดนามและฟิลปิ ปินสใ์ น

ฤดกู าลตา่ ง ๆ, การทกั ทายของตะวันตกและอาเซยี น

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ที่ใช้ในการสือ่ สาร
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน

460

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm Up
1. ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรยี น จากน้นั ครูสุ่มนกั เรียน 5-6 คนออกมายนื หนา้ ชนั้ ครูให้นกั เรยี นเหล่าน้ีสมมตวิ ่า

ตนเองมาจากประเทศในอาเซยี น ใหน้ ักเรียนพูดแนะนาตนเอง โดยบอกช่ือ อายุ ประเทศ และเช้ือชาติ
เช่น

S1: I’m Surachai. I’m ten years old. I’m from Malaysia. I’m Malaysian.
S2: My name is Warisa. I’m eleven years old. I come from Vietnam. I’m
Vietnamese.

ครูอาจใหน้ ักเรียนกล่าวคาทักทายของประเทศดังกล่าวดว้ ย โดยใหน้ ักเรียนคน้ หาขอ้ มลู มากอ่ น
ล่วงหนา้ เช่น

S1: Selamat pagi! I’m Surachai. I’m ten years old. I’m from Malaysia. I’m
Malaysian.

S2: Xin chào! My name is Warisa. I’m eleven years old. I come from Vietnam.
I’m Vietnamese.

2. ทบทวนคาศัพทเ์ กย่ี วกับสภาพอากาศ เช่น hot, cold, raining/rainy โดยครูวาดสญั ลักษณ์สภาพอากาศ

บนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นบอกสภาพอากาศโดยใช้โครงสร้าง It’s + สภาพอากาศ. เชน่ It’s raining.

It’s hot.

3. ทบทวนความร้ทู ั่วไปเก่ียวกบั ประเทศในภูมิภาคอาเซียน เชน่ ภาษาทใี่ ช้ การแตง่ กาย เมืองหลวงของ

แตล่ ะประเทศ โดยครูแบง่ นักเรียนออกเป็น 2-3 ทมี เพื่อแขง่ ขันกันตอบปัญหา ASEAN quiz ทีมใด

ทราบคาตอบให้ยกมอื ข้นึ กลมุ่ ที่ได้คะแนนมากทส่ี ดุ เป็นกลุ่มทีช่ นะ

ตวั อยา่ ง T: What is the capital city of Malaysia?

Team 1: Kuala Lumpur.

T: That’s right. One point for team 1.

T: What do Vietnamese people usually wear?

Team 2: They wear Ao Dai.

T: That’s right. One point for team 2.

T: What is the official language of Indonesia?

Team 3: Bahasa Indonesia.

T: That’s right. One point for team 3. etc.

4. นาเขา้ สูบ่ ทเรียนโดยครูนาบัตรภาพสถานท่ีตา่ ง ๆ ทส่ี าคัญในประเทศเวียดนามและฟิลปิ ปินส์มาแสดง

461

หน้าชน้ั แลว้ ถามนักเรียนวา่ Where is it?

ครูอาจเปดิ คลปิ วิดีโอเกย่ี วกบั สถานท่ีทอ่ งเท่ยี วในประเทศฟลิ ิปปินส์และเวียดนามใหน้ ักเรยี นดู
จากเว็บไซต์ต่อไปน้ี
Top 10 Tourist Attractions In Philippines of All Time
https://www.youtube.com/watch?v=O8dRroRnbIg
10 Best Places to Visit in Vietnam
https://www.youtube.com/watch?v=0FxHhJMGp7g
Hanoi Water Puppet Show
https://www.youtube.com/watch?v=hMWqvccmR3I

ขอ้ มูลเกยี่ วกับสถานทสี่ าคัญในประเทศเวียดนามและฟิลปิ ปนิ ส์
เวยี ดนาม
อ่าวฮาลอง (Halong Bay) เปน็ อ่าวท่ีมชี ื่อเสยี งมากท่ีสดุ ใน
เวียดนาม ตง้ั อยใู่ นพ้ืนทข่ี องอ่าวตังเกยี๋ ทางตอนเหนอื ของ
ประเทศซง่ึ มีชายแดนติดต่อกบั ประเทศจีน นักทอ่ งเทีย่ ว
นยิ มล่องเรอื ชมความงามของเกาะหินปูนในอ่าวนี้
นอกจากนอี้ า่ วฮาลองยงั ไดร้ บั การข้นึ ทะเบยี นเปน็ มรดก
โลกทางธรรมชาตจิ ากองค์การการศกึ ษา วิทยาศาสตร์ และวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติหรอื
ยูเนสโกเมื่อปี พ.ศ. 2537

การแสดงหนุ่ กระบอกนา้ เมืองฮานอย (Hanoi Water Puppet Show)
การแสดงทมี่ ชี ่อื เสยี งนีม้ ที ีม่ าจากการทีช่ าวเวยี ดนามประสบ
ปญั หานา้ ทว่ มเป็นประจา ทาใหเ้ กดิ แรงบนั ดาลใจในการ
สร้างสรรคค์ วามบันเทงิ รปู แบบนข้ี ้ึนมา ซึ่งนักเชิดหุ่น
กระบอกจะยนื อยู่หลังฉากในน้าทที่ ว่ มถงึ เอว แล้วควบคมุ
การเคลอ่ื นไหวของหุ่นดว้ ยไมไ้ ผล่ ายาว

462

การแสดงห่นุ จะมี 12 องก์ แตล่ ะองกจ์ ะเป็นการเลา่ เร่อื งเทพ ตานานเก่ียวกบั เวียดนาม และ
ประวตั ิศาสตร์ ส่วนเรือ่ งอื่น ๆ จะเล่าเกีย่ วกับชีวติ ความเป็นอยใู่ นชนบท เช่น การเพาะปลูก
การเก่ียวข้าว การประมง การแขง่ เรอื เปน็ ต้น

ฟลิ ิปปินส์
ภูเขาชอ็ กโกแลต (the Chocolate Hills) ต้ังอยู่บนเกาะ
โบฮอล (Bohol) ทางตอนใตข้ องกรุงมะนลิ า เป็นเนนิ เขา
ลูกเลก็ ๆ เรยี งกันเปน็ บริเวณกวา้ ง คาดวา่ มจี านวนมากกวา่
1,500 ลูก ทมี่ าของชือ่ เนินเขาชอ็ กโกแลต มาจากลกั ษณะ
เนนิ เขาที่คล้ายกอ้ นช็อกโกแลตหลาย ๆ ลูกมาอยรู่ วมกนั

เกาะโบราไค (Boracay Island) ตัง้ อยหู่ ่างจากกรุงมะนิลา
เมอื งหลวงของประเทศฟิลิปปนิ สไ์ ปทางทศิ ใต้ 315 กิโลเมตร
เกาะโบราไคมชี อ่ื เสยี งและเป็นที่ร้จู กั อย่างมากในหมนู่ กั -
ทอ่ งเทย่ี ว เพราะมีหาดทรายขาวสะอาดทอดยาวไปตามชายฝ่ัง
ของเกาะ หาดทม่ี ชี ่ือเสยี งมากท่สี ดุ คือ หาดไวท์ บชี
(White Beach) มีลักษณะเปน็ หาดทรายสีขาวละเอยี ด ทอดยาวไปตามชายฝ่ังประมาณ 4 กิโลเมตร
และนอกจากน้ีภายในเกาะยังมถี ้าและปา่ เขตร้อนอนั อุดมสมบรู ณ์ ซึ่งเปน็ แหล่งอาศยั ของสัตว์
ท้องถิ่นเป็นจานวนมาก
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/อา่ วฮะล็อง

http://www.vntoyou.com/waterpuppet.htm
https://en.wikipedia.org/wiki/Cordillera_Central_(Luzon)
https://new46.wordpress.com/1-เกาะโบราเคย์-boracay-island/

ขน้ั Presentation

1. นาเสนอคาศพั ท์ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั เนือ้ หา ไดแ้ ก่ climate (ภูมอิ ากาศ), trekking (การเดินปา่ ), hiking

(การเดินเเท้าระยะไกล), snorkelling (การดานา้ ตืน้ โดยใช้เพยี งหนา้ กาก ตนี กบ ทอ่ หายใจ),

puppet show (การแสดงหุ่นกระบอก), typhoons (พายไุ ตฝ้ ุน่ ), geography (ภูมิศาสตร)์ โดยครู

เขยี นคาศัพท์บนกระดานและพูดบอกความหมาย

ต่อมาครใู หน้ ักเรียนฝึกลงเสยี งหนกั ในคาทมี่ ีมากกวา่ 1 พยางค์ ดังนี้

climate trekking / hiking snorkelling

puppet show typhoons geography

463

trekking คอื การเดินเทา้ ระยะทางไกล สว่ น hiking จะเป็นการเดินทางเทา้ ไปในพืน้ ที่
ห่างไกล โดยเฉพาะในพนื้ ท่ีชนบท

ข้อมลู ท่วั ไปเกยี่ วกับพายหุ มนุ เขตร้อน (Tropical cyclone)
พายหุ มุนเขตร้อน เป็นพายหุ มุนที่เร่มิ ก่อตัวจากหย่อมความกดอากาศตา่ ทเ่ี กดิ ขึ้นบรเิ วณเส้น
ศูนย์สูตร โดยมากมกั เกิดบรเิ วณผวิ นา้ ทะเลและมหาสมุทรทมี่ ีอุณหภูมิของนา้ สงู กว่า 27 องศา
เซลเซยี ส มลี กั ษณะเป็นพายหุ มุนขนาดใหญ่ มีเสน้ ผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 กโิ ลเมตรขึ้นไป
แบง่ ตามความรุนแรงของพายุ ดงั น้ี
1. พายดุ ีเปรสชน่ั (Tropical depression) เกดิ ข้ึนจากพายุโซนรอ้ นทม่ี คี วามเรว็ ลดลง โดยมี

ความเร็วลมสงู สดุ ใกลศ้ นู ยก์ ลางไม่ถึง 63 กโิ ลเมตรตอ่ ชวั่ โมง
2. พายโุ ซนร้อน (Tropical storm) เกดิ ขนึ้ เม่ือพายหุ มุนเขตร้อนขนาดใหญ่อ่อนกาลังลง

ขณะเคล่ือนตวั ในทะเล และความเรว็ ทจ่ี ดุ ศูนย์กลางลดลงเม่อื เคลือ่ นเขา้ หาฝั่ง มคี วามเร็วลม
สงู สุดใกลศ้ ูนย์กลาง 63 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป แต่ไมถ่ งึ 118 กิโลเมตรตอ่ ช่ัวโมง มกี าลงั
แรงพอทจี่ ะทาลายบา้ นเรือนที่มโี ครงสร้างไมแ่ ขง็ แรงได้ รวมทั้งทาให้ก่ิงไมห้ ักโคน่ และ
ทาใหเ้ กิดนา้ ทว่ มได้ ฝนทต่ี กอย่างหนกั ทงั้ วนั ท้ังคนื อาจทาให้เกิดนา้ ปา่ และแผน่ ดนิ ถล่มได้
3. พายุไต้ฝนุ่ (Typhoon) มีความเรว็ ลมสงู สุด โดยจะกอ่ ตัวข้ึนทางดา้ นทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื
ของมหาสมุทรแปซฟิ ิก มีความเรว็ ลมสูงสดุ ใกลศ้ ูนย์กลางตง้ั แต่ 118 กโิ ลเมตรต่อช่ัวโมง
ข้นึ ไป มีระดับความรุนแรงมากท่ีสดุ สามารถทาใหเ้ กิดความเสยี หายแก่บา้ นเรือน ในทะเล
มคี ลน่ื ลมแรงจัดมาก เปน็ อันตรายตอ่ การเดินเรอื โดยเฉพาะเรอื เล็ก พายรุ ะดับนีม้ ักจะเกดิ
“ตาพายุ” ข้นึ ตรงศนู ยก์ ลางพายุ เป็นบรเิ วณทม่ี ีความกดอากาศตา่ มากทสี่ ดุ ลมสงบ ทอ้ งฟา้
โปรง่ อาจมเี มฆและฝนบ้างเลก็ น้อย สว่ นรอบ ๆ จะเปน็ บรเิ วณทีม่ ลี มพัดแรงจัด มีเมฆคร้ึม
มฝี นตก และมพี ายรุ ุนแรง
ที่มา: http://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=58

ขัน้ Practice
1. หนงั สอื เรียน หน้า 63 Ex. 1 ครูอา่ นประโยคที่ใหม้ า ให้นักเรียนฟัง แลว้ ครูอธบิ ายวา่ ใหน้ กั เรยี นใช้

วธิ ีการอา่ นแบบ Scanning และเลอื กวงคาตอบทถี่ กู ตอ้ ง เมือ่ นกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครใู ห้เวลานกั เรียนทา
กิจกรรมตา่ ง ๆ เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบและเฉลยคาตอบบนกระดาน

464

1 Halong Bay 2 November 3 typhoons

การอา่ นแบบ scanning เปน็ วิธกี ารหาขอ้ มูลเฉพาะ เช่น ตวั เลข วันที่ สถานท่ี ช่ือคน เปน็ ตน้
จะเป็นข้อมลู ที่ปรากฏใหผ้ ู้อ่านเห็นไดอ้ ยา่ งชดั เจนในบทอ่าน โดยถ้าในคาถาม ถามถึงสถานที่
ให้กวาดสายตาไล่ดแู ตค่ าทีห่ มายถึงสถานท่ี ซงึ่ สว่ นใหญจ่ ะเป็นสถานทเี่ ฉพาะ เปน็ ชอื่ เฉพาะ
เป็นวิธีที่จะช่วยให้นักเรียนอา่ นเรือ่ งไดร้ วดเรว็ และเขา้ ใจเร่ืองทอี่ า่ นไดท้ ันที
ทมี่ า: http://www.oxbridge.in.th/grammar-tips/scanning-skimming-for-ielts

เมอื งซาปา (Sapa) ต้ังอย่ใู นจงั หวัดหลา่ วกาย ทางตอนเหนือของประเทศเวยี ดนาม ซ่งึ ตดิ กับ
ชายแดนประเทศจีน มภี ูมปิ ระเทศเป็นเทือกเขา อากาศหนาวเยน็ ตลอดทง้ั ปี เมืองซาปามจี ุดเด่น
คอื ภมู ิทศั นน์ าข้ันบันไดทีส่ วยงาม ในอดีตซาปาเปน็ เมอื งตากอากาศของเจา้ นายชั้นสงู
ชาวฝรั่งเศสทเี่ ขา้ มาเมื่อครัง้ ทีเ่ วียดนามตกอยู่ภายใต้อาณานคิ มของฝรัง่ เศส ดงั นัน้ สถาปัตย-
กรรมอาคารบา้ นเรอื นและการวางผังเมืองแบบอาณานิคมฝร่ังเศส (French Colonial) ยงั คงมี
ใหเ้ หน็ อยใู่ นปัจจบุ ัน
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/ซาปา

2. หนังสอื เรียน หน้า 63 Ex. 2 ครอู า่ นคาส่งั Match the pictures with the activities. จากนนั้ ครใู ห้
นกั เรียน

อ่านคาท่ีใหม้ าในขอ้ 1-4 ครถู ามวา่ คาเหลา่ น้ีคือคาชนดิ ใด จากนน้ั ครอู ธบิ ายว่า คาศพั ทเ์ หล่าน้ี คอื
ชือ่ เฉพาะ (proper nouns) ภาษาอังกฤษจะตอ้ งขึ้นต้นด้วยตวั พิมพใ์ หญ่ (capital letters) เสมอ จากนั้น
ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ วา่ ชอื่ เฉพาะมอี ะไรบา้ ง เช่น ชอ่ื บคุ คล ประเทศ เชอื้ ชาติ วัน เดอื น สถานทท่ี าง
ภูมศิ าสตร์ เสร็จแลว้ ครอู ธิบายว่า ใหน้ ักเรยี นอ่านเนือ้ เร่ืองอกี ครง้ั อยา่ งรวดเร็ว โดยใชว้ ิธกี ารอา่ นแบบ
scanning หาชอ่ื เฉพาะทใี่ ห้มา เม่อื พบแล้วให้อ่านข้อความแวดลอ้ มประมาณ 1-2 ประโยคกอ่ นหนา้ นี้
หรอื ถดั ไป เม่ือเขา้ ใจแล้วจงึ จับคู่กับกิจกรรมทใ่ี หม้ า ตอ่ มาครรู วบรวมคาตอบจากนักเรยี น โดยถาม
นักเรียนวา่ What can you do in Sapa? และอ่านตวั เลือก a-d เพื่อใหน้ ักเรียนเลอื กคาตอบ เมื่อได้
คาตอบ วา่ d. cycling แล้ว ครทู ากิจกรรมเช่นเดียวกนั นกี้ ับขอ้ ท่เี หลือ สดุ ท้ายครอู าจถามคาถามเพมิ่ เติม
ว่าแต่ละ สถานที่อยู่ท่ีประเทศใด เช่น

465

T: Where is Sapa?
Ss: It’s in Vietnam.

1–d 2–c 3–a 4–b

3. ครเู ขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

In the north of Vietnam, cool season is from November to April.

จากนนั้ ครูอธบิ ายว่าประโยคนใี้ ช้บอกเดอื นทเี่ รม่ิ ตน้ และเดอื นท่ีส้ินสุดฤดกู าล มโี ครงสรา้ งเปน็

In (ประเทศหรอื เมอื ง), (ฤด)ู is from (เดือนที่เรมิ่ ตน้ ฤดู) to (เดือนทีส่ น้ิ สดุ ฤดู) .

นอกจากน้ียงั สามารถใช้ start แทน is ไดด้ ว้ ย เชน่ In Thailand, hot season starts from March to

May.

เสรจ็ แลว้ ครูให้นกั เรยี นจบั คู่ ผลดั กันฝกึ พดู ถาม-ตอบเก่ยี วกับฤดกู าลและกิจกรรมที่ชอบทา เชน่

S1: When is hot season in Thailand?

S2: Hot season in Thailand starts from March to June.

S1: What do you like doing in hot season?

S2: I like swimming in the sea. etc.

ขน้ั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 63 หวั ข้อ Over to you ครูอธบิ ายภาระงาน ใหน้ ักเรยี นทาโปสเตอร์ My favourite

season นาเสนอฤดูกาลทีน่ ักเรยี นชน่ื ชอบและกจิ กรรมที่นักเรียนมักจะทา โดยให้นกั เรยี นเขียน
คาบรรยายสน้ั ๆ ว่า ฤดกู าลดังกลา่ วในประเทศไทยเรมิ่ และสน้ิ สดุ ในเดอื นใด และนักเรยี นชอบทา
กิจกรรมใดในฤดูกาลนี้ โดยครูให้นักเรยี นใช้เนอื้ หาในหนังสือเรยี น หน้า 62 เปน็ ต้นแบบในการเขียน
พรอ้ มวาดภาพหรอื ติดภาพประกอบ เสร็จแลว้ ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น 3-4 คน ออกมาพดู นาเสนอผลงาน
ของตนเองที่หน้าชัน้ เชน่

Cold season in Thailand starts from November to January. In cold season, I like
visiting Doi Inthanon in Chiangmai.
2. ครถู ามนักเรยี นว่า How many seasons are there in Britain? What are they? เมอื่ ไดค้ าตอบแล้ว
ครูถาม

คาถามเชน่ เดียวกันนเี้ กีย่ วกบั ประเทศไทย จากนน้ั ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ ให้นักเรยี นหาขอ้ มูลเก่ียวกบั
สภาพอากาศในแตล่ ะฤดูกาลของประเทศอังกฤษและไทย และทาโปสเตอรน์ าเสนอข้อมลู ส้ัน ๆ
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝกึ หัด หนา้ 52-53 หัวข้อ Modular Revision and Assessment 5

466

Exs. 1-7 ในคาบเรียน เสรจ็ แล้วเฉลยคาตอบพรอ้ มกัน

แบบฝึกหดั หน้า 53 Ex. 6
Narrator: Listen and answer the questions.
Female: Hello! Is that you in the picture?
Boy: Yes! My name’s Billy.
Female: How do you spell your name?
Boy: B-I-L-L-Y

Narrator: Can you see the answer? Now you listen and answer the
questions.
One
Female: And how old are you, Billy? Eight?
Boy: Eight? No, I’m seven.
Female: Seven?
Boy: Yes!
Two
Female: And when’s your birthday, Billy?
Boy: In March.
Female: My birthday is in March too!
Three
Female: And do you like playing football, Billy?
Boy: Yes! I love playing football! It’s my favourite sport.

467

Ex. 1

Ex. 2 spring 3 autumn
1 summer 2

Ex. 3 2 Don’t come here.
1 Drink this milk. 4 Talk to me.
3 Don’t stand up.
5 Don’t play the drum.

Ex. 4 2 Do 3 are you doing
1 ride 5 don’t like
4 goes

Ex. 5

1a 2e 3c 4 f 5d

Ex. 6 2 March. 3 Football.
1 Seven (7).

Ex. 7 2 London 3 summer
1 nine (9) 5 gardening
4 swimming

468

7. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ กี ารวดั เครื่องมอื เกณฑ์

ประเมินชิ้นงาน My favourite แบบประเมนิ ช้นิ งาน ระดบั คุณภาพ พอใช้

season ผ่านเกณฑ์

ประเมินชิ้นงานโปสเตอรเ์ ปรยี บเทียบ แบบประเมินชนิ้ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้

ฤดูกาลของไทยและอังกฤษ ผ่านเกณฑ์

ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝกึ หดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

แบบทดสอบ

ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมบง่ ชดี้ ้านใฝ่เรียนรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดับคณุ ภาพ พอใช้

และมุ่งม่ันในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอื่ ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าโปสเตอร์
8.5 บัตรภาพ
8.6 อนิ เทอร์เนต็

469

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 CLIL 5 All Year Round!

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- เขยี นนาเสนอการเปล่ียนแปลงของตน้ ไม้ในแต่ละฤดกู าลได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่อื งต่าง ๆ โดย

การพดู และการเขียน
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับตนเองและเร่ืองใกล้ตวั
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พันธข์ องสงิ่ ต่าง ๆ ใกลต้ วั ตามทฟี่ งั หรืออา่ น
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใชไ้ ด้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกย่ี วกับเทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยูง่ ่าย ๆ ของ

เจ้าของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วัย
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธก์ ับกลุ่มสาระการเรียนร้อู นื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชือ่ มโยงความรกู้ ับกล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ื่น และเป็น

พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
ตัวชีว้ ดั
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ยี วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ น่ื และนาเสนอดว้ ย

การพดู /การเขยี น
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม

ตัวชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1ฟงั และพดู /อา่ นในสถานการณ์ท่เี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา

470

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรแู้ ละเข้าใจความหมายของคาศพั ทแ์ ละสานวน ชว่ ยให้เขา้ ใจเรอ่ื งท่ีอา่ นและใช้ภาษาองั กฤษในการ

เช่อื มโยงความรกู้ บั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อน่ื พร้อมทง้ั เขยี นส่อื สารได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Feathers and Functions
Structure: The apple tree is full of blossoms. The apple tree is full of

green leaves. The apple tree is full of apples. The apple tree is empty. There are no leaves
or apples on the tree.

Vocabulary: months, seasons, activities, full, blossoms, leaves, empty
2) Language Skills

Writing: เขยี นให้ข้อมูลเกี่ยวกบั การเปลย่ี นแปลงของต้นซากุระในแตล่ ะฤดู

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทใี่ ช้ในการส่อื สาร
- ทักษะการเช่อื มโยง
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ Warm Up

ครูกลา่ วทักทายนกั เรียน และทบทวนคาศพั ท์เกีย่ วกับฤดกู าลและสภาพอากาศโดยให้นกั เรยี นเล่นเกม
Bingo ครูให้นักเรียนวาดตาราง 9 ชอ่ ง และเขยี นคาศพั ท์เก่ยี วกับฤดกู าลและสภาพอากาศต่าง ๆ ลงไป
จากนั้นครูอธบิ ายวิธกี ารเลน่ เกมวา่ ใหน้ ักเรยี นวงคาศพั ทท์ ีน่ กั เรียนไดย้ นิ ใครวงครบ 3 ช่องติดกันใน
แนวใดก็ได้กอ่ นใหพ้ ูดวา่ Bingo และจะเป็นผ้ชู นะ
ตวั อยา่ งตาราง

471

autumn summer spring
windy winter rainy
snowy hot cold

ขัน้ Presentation
1. ครูเขียนคาว่า all year round บนกระดาน จากนน้ั ครยู กตัวอยา่ งประโยค เพ่อื ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั เดา

ความหมาย
This tree stays green all year round.
Drinking and driving is a problem all year round.

เสร็จแลว้ ครสู รปุ ให้นกั เรียนฟงั อีกครงั้ ว่า all year round หมายถงึ ตลอดท้งั ปี
all year round = If you say something happens all year round or all the year

round, it happens continually throughout the year.
(ทมี่ า: http://www.collinsdictionary.com/dictionary/english/all-year-round)
2. ครูนาแอปเปลิ เข้ามาในชั้นเรยี นหรอื อาจใช้บตั รภาพ และพดู แนะนาว่า This is an apple. ครใู หน้ กั เรยี น
ออกเสยี งตามครู จากนั้นครูถามนักเรยี นว่า Who likes apples? Raise your hand. ครูทาทา่ ยกมอื ให้
นักเรียนดู ครอู าจส่มุ ถามนักเรียนบางคนท่ไี มย่ กมอื วา่ You don’t like apples? และแสดงสหี น้าทา่ ทาง
ประกอบวา่ ไม่ชอบ เพ่อื ตรวจสอบวา่ นักเรียนเขา้ ใจหรอื ไม่ เสรจ็ แล้วครูผา่ ผลแอปเปลิ ใหน้ ักเรียนดู
แลว้ อธิบายว่า Apple trees grow from apple seeds. จากนัน้ ครูวาดภาพต้นแอปเปลิ ท้ัง 4 ฤดกู าล
เหมอื น
อย่างในแบบฝกึ หัด หนา้ 72 บนกระดาน หรือครใู ช้บตั รภาพจากสว่ นทา้ ยของแผนน้ี และถามนักเรียน
แตล่ ะภาพ เชน่
ภาพแรก ภาพต้นแอปเปิลทมี่ ดี อกเต็มต้น ครูถามนกั เรยี นวา่ In which
season does the tree look like this? เม่ือไดค้ าตอบว่า spring แลว้
ครูพดู วา่ The apple tree is full of blossoms in spring. ครูถาม
นักเรียนว่า What does the word ‘blossom’ mean? ถ้านักเรียนยงั
เดาไม่ได้ ครอู าจวาดรูปดอกไม้และพดู วา่ This is an apple blossom.
เพอ่ื กระต้นุ ให้นักเรยี นตอบวา่ คอื ดอกของต้นแอปเปลิ ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมเพ่ือใหน้ กั เรียนเขา้ ใจว่า An
apple blossom is an apple flower.
ครูทากจิ กรรมเช่นน้กี ับภาพอน่ื ๆ เพ่ือนาเสนอคาศัพท์ เชน่ full of (เต็มไปด้วย), green leaves (ใบไม้

472

สเี ขียว), no leaves (ไมม่ ีใบ), empty (วา่ งเปลา่ )
กิจกรรมเพิม่ เตมิ
ใหน้ ักเรยี นดคู ลปิ วิดโี อเกย่ี วกับการเจริญเติบโตของตน้ แอปเปลิ จากเวบ็ ไซต์ต่อไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=0DDDBwk_-bM
หรอื เข้าไปท่ี www.youtube.com แลว้ พิมพช์ ่อื คลิป Life Cycle of An Apple Tree ในชอ่ งคน้ หา

ต้นแอปเปลิ เป็นต้นไม้ผลดั ใบในวงศก์ หุ ลาบ มผี ลรสหวานเรียกว่า ผลแอปเปลิ แอปเปิลนยิ ม
ปลกู ในลกั ษณะของไมผ้ ล แอปเปลิ มีถน่ิ กาเนดิ ในเอเชยี กลาง นยิ มปลูกในหลายประเทศทัว่ โลก
เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ตรุ กี อินเดีย รวมถงึ ทางภาคเหนอื ของประเทศไทยด้วย แอปเปลิ มีหลาย
สายพันธ์ุ เชน่ กาลา่ ฟจู ิ วอชิงตัน
ทมี่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/แอปเปลิ

ขัน้ Practice
1. แบบฝกึ หัด หน้า 72 Ex. 1 ครอู า่ นคาสั่ง Read and write spring, summer, autumn and winter.
Then

colour. และอธิบายภาระงาน จากนัน้ ครอู า่ นขอ้ ความในแต่ละช่องและใหน้ ักเรียนอ่านตามครู ครใู ห้
เวลานกั เรียนทาแบบฝกึ หดั ด้วยตนเอง เสรจ็ แลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรยี น และเขียนเฉลยบน
กระดาน

1 spring 2 summer 3 autumn 4 winter

2. ครูนาภาพต้นแอปเปลิ ในแต่ละฤดกู าลมาแสดงอกี ครัง้ โดยครูแสดงทลี ะภาพและพูดประโยค
ให้นักเรียนเติมคาในประโยค เชน่
T: The apple tree is full of blossoms. (แสดงบตั รภาพ) Repeat after me.
Ss: The apple tree is full of blossoms.
T: The apple tree is full of …
Ss: Blossoms.
T: The apple tree is …
Ss: Full of blossoms.

473

T: Very good.
ครูทากจิ กรรมเชน่ เดยี วกนั นจ้ี นครบทุกภาพ
3. แบบฝึกหัด หน้า 73 Ex. 2 Let’s sing! ครอู ธิบายความหมายของคาวา่ fine (ดี), left (เหลือ), nothing
(ไมม่ ี) ในเนอ้ื เพลง จากนนั้ ครเู ปิด CD ให้นักเรยี นฟงั และอา่ นเน้ือเพลงตามไปดว้ ย จากนน้ั ครูเปดิ CD
อกี คร้งั เพอ่ื ให้นกั เรยี นฝึกรอ้ งตามพร้อมกนั ครอู าจแบ่งนกั เรียนออกเปน็ กลุ่มและให้ผลัดกันรอ้ งเพลง
แตล่ ะทอ่ นก็ได้
4. ครูถามนักเรยี นวา่ What rhymes with ‘sweet’? เมอ่ื ไดค้ าตอบวา่ eat แล้ว ครถู ามวา่ What rhymes
with
‘time’ in line 2? ครูยา้ กับนกั เรียนวา่ คาที่คลอ้ งจองกันในภาษาองั กฤษทเ่ี รยี กวา่ rhyme นัน้ จะต้อง
ลงท้ายด้วยเสียงเดยี วกัน โดยไมจ่ าเปน็ ตอ้ งสะกดเหมือนกัน นักเรียนอาจตอบวา่ time คลอ้ งจองกบั คาว่า
fine ครอู า่ นออกเสยี งคาวา่ time กับ fine ใหน้ ักเรยี นฟังและถามนกั เรยี นวา่ ท้งั สองคาน้อี อกเสียง
เหมือนกันหรอื ไม่ เสรจ็ แลว้ ครูเฉลยว่า ไมม่ คี าที่คล้องจองกบั time ในเพลงน้ี ส่วนคาวา่ fine น้นั เปน็
near rhyme หรือ half rhyme ซึง่ เป็นคาท่ีออกเสียงคลา้ ยกนั แตย่ ังไมใ่ ชค่ าคล้องจองทีส่ มบรู ณ์

near rhyme มีชอื่ เรยี กอกี อยา่ งหน่งึ ว่า slant rhyme หรือ half rhyme โดย near rhyme เป็น
ช่ือเรยี กโดยทวั่ ไป ใชบ้ รรยายคาทม่ี เี สียงคลา้ ยกนั แตไ่ มใ่ ชค่ าพอ้ งเสียง
ท่มี า: http://www.poetry4kids.com/blog/lessons/poetry-dictionary-for-
kids/#sightrhyme

ขน้ั Production
แบบฝึกหดั หนา้ 73 หวั ขอ้ Project Time ครูพดู บอกนกั เรยี น Look at the picture. Is it an apple

tree?
เมื่อได้คาตอบว่า No, it isn’t. It is a cherry tree. แล้ว ครถู ามนักเรยี นตอ่ วา่ Where can you see

cherry
trees? Can you see them in Thailand? จากนัน้ ครูแบง่ นักเรยี นออกเปน็ กล่มุ แล้วอธิบายภาระงาน

วา่
ให้แต่ละกลมุ่ ทาโปสเตอรน์ าเสนอวฏั จักรการเติบโตของต้นซากรุ ะ พร้อมทงั้ ตกแต่งให้สวยงาม

474

ครอู าจปรับกิจกรรมเป็นให้นักเรยี นสังเกตตน้ ไม้ในทอ้ งถ่ินของตนเองวา่ ออกดอกในชว่ งฤดูใด
และออกผลในช่วงฤดูใด แล้วทาโปสเตอร์เพื่อนาเสนอตน้ ไม้ในท้องถน่ิ ของตนเอง ครอู าจ
ช่วยเหลือนักเรียนเรอื่ งช่ือของตน้ ไม้

เทศกาลชมดอกซากรุ ะเมอื งวอชิงตนั ดีซี (National Cherry Blossom Festival) จดั ขน้ึ ในชว่ ง
ฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดอื นมนี าคมถึงเดอื นเมษายนของทกุ ปี ท่ีกรงุ วอชงิ ตนั ดซี ี ประเทศสหรัฐ-
อเมริกา โดยต้นซากรุ ะทปี่ ลูกอยู่ริมอ่างเก็บน้า Tidal Basin ในกรงุ วอชิงตนั ดีซีนี้ เป็นของขวัญ
ท่ญี ่ีปนุ่ มอบให้แกอ่ เมรกิ า ในปี ค.ศ. 1912 นาย Yukio Ozaki นายกเทศมนตรีนครโตเกียวได้
มอบตน้ ซากรุ ะจานวน 3,000 ตน้ ให้แก่เมืองวอชงิ ตัน ดซี ี เพื่อเฉลิมฉลองความสมั พนั ธอ์ นั
แน่นแฟน้ ระหว่างญป่ี นุ่ และสหรัฐอเมรกิ า เทศกาลนีจ้ ัดยาวนานเกอื บ 4 สปั ดาห์ และมนี ักท่อง-
เทย่ี วกว่า 1.5 ลา้ นคนมาเยอื นสถานที่แห่งน้ี
ท่ีมา: http://www.nationalcherryblossomfestival.org/about/history/

7. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์

ประเมินชิ้นงานโปสเตอร์ My cherry แบบประเมินช้นิ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้

tree ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หัด (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

สังเกตพฤติกรรมบง่ ชด้ี ้านใฝเ่ รยี นรู้และ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้

มุ่งมน่ั ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าโปสเตอร์
8.5 บัตรภาพ
8.6 ลูกแอปเปิล
8.7 อินเทอรเ์ นต็

475

6 All About Animals!

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรียน 13 ช่วั โมง

1 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งทฟ่ี ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็

ตัวชว้ี ดั อยา่ งมเี หตผุ ล
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัตติ ามคาสัง่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟ่ี ังหรอื อา่ น

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพูด
เข้าจงั หวะถกู ต้องตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรอื สัญลักษณห์ รือเครือ่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค
ต 1.1 ป.4/4 และข้อความสั้น ๆ ทฟี่ งั หรอื อา่ น
ตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึก
และ แสดงความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

ตวั ช้วี ัด พูด/เขียนโต้ตอบในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป.4/1 ใชค้ าส่ัง คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/2

ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอื่ ขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพ่อื น และครอบครวั
ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรสู้ ึกของตนเองเกย่ี วกับเรอื่ งต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ
ตามแบบทีฟ่ งั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรอ่ื งตา่ ง ๆ โดย
การพูดและการเขียน

ตวั ชีว้ ัด พดู /เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกล้ตัว
ต 1.3 ป.4/1

ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสัมพันธข์ องสงิ่ ต่าง ๆ ใกลต้ ัวตามทีฟ่ งั หรืออา่ น

476

สาระที่ 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชว้ี ดั
ต 2.1 ป.4/1 พูดและทาทา่ ประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของ

ภาษา
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ยี วกบั เทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชวี ติ ความเป็นอยู่ง่าย ๆ

ของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะกับวยั
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ได้อยา่ งถกู ต้อง
ตัวชว้ี ดั
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระที่ 3 ภาษากับความสมั พนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความรกู้ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่ และเปน็

พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน
ตัวชีว้ ัด
ต 3.1 ป.4/1 ค้นคว้า รวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเกยี่ วขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรยี นรอู้ นื่ และนาเสนอด้วย

การพดู /การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

ตัวชีว้ ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อา่ นในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึน้ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเครือ่ งมอื พืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลีย่ นเรยี นร้กู บั สงั คมโลก
ตวั ชี้วดั
ต 4.2 ป.4/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้นและรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ

477

2 สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การร้แู ละเข้าใจเรือ่ งทไ่ี ดศ้ ึกษา คาศพั ทส์ านวนและโครงสร้างภาษา ชว่ ยให้สนทนา เขียนโต้ตอบ พดู /

เขียนส่ือสารเก่ียวกับสัตวช์ นดิ ต่าง ๆ และสถานการณท์ ก่ี าหนดไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3 สาระการเรยี นรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: Has the dog got long ears? Yes, it has.
A rabbit can walk and run but it can’t fly or swim.
Dogs eat meat.
Look at the elephant. Oh, yes. It’s very big.
Where do elephants come from? They come from Africa.
Can they fly? No, they can’t but they can run!
Have they got big eyes? No, they haven’t, but they’ve got

big ears! OK, Tom. Tell the class about your pet. Snowy’s got a short tail but he’s got long
ears. Snowy’s favourite vegetables are carrots.

Do wild animals live here? Elephants love water and baths.
Zebras are fast animals! Dolphins are very clever animals!
Crocodiles have got big mouths and long bodies.
We’re at the zoo, me and you, the lions are here and
the giraffes, too.
In Britain there are a lot of wild animals in the woods.
Some look for food at night! Foxes have got big ears, long
noses and long tails. Owls are big birds.
A parrot has got feathers. It keeps me warm in winter and
cool in summer. It protects me from my enemies. I’ve got fur on my body.
They are 3 metres long and weigh about 135 kilogrammes.
Vocabulary: (Animals) giraffe, monkey, snake, turtle, lion, hippo,
mouse, zebra, dolphin, crocodile, fox, owl, parrot, bear, dog, snail, swan, lizard, pangolins,
komodo dragons, toucan, hornbill, polar bear, kitten, puppy, penguin, worm

478

(Parts of body) ears, eye, nose, paws, body, leg, tail, wing,

beak, claw, fin, fang, snout, hoof, jaws

(Food) meat, vegetables

(Coverings) feathers, fur, shell, scales

(Nouns) woods, hollow, insects, anteater, safari, tank, cage

(Verbs) live, curl up, weigh, climb

(Adjectives) tall, big, funny, long, slow, fast, fat, small,

clever, dark, thick, sharp

Pronunciation: ออกเสียงคาท่ลี งทา้ ยดว้ ย /k/ และ /g/, ออกเสียงเงียบ b (silent b),

ออกเสียงคาทลี่ งท้ายดว้ ยเสียง /l/

Function: ขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของสตั ว์, ขอและใหข้ อ้ มลู

เกยี่ วกับความสามารถของสัตว,์ บรรยายลกั ษณะของสตั ว์, ขอและให้

ข้อมลู เกย่ี วกับความสามารถ ลกั ษณะรูปร่าง และข้อมลู ทัว่ ไปของสัตว์,

บรรยายเก่ยี วกบั สัตวท์ ชี่ นื่ ชอบ, บอกลกั ษณะสิ่งที่ปกคลุมตัวสัตว์

2) Language Skills

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Listening: ฟังและจบั คู่, ตอบคาถามจากการฟัง, ฟงั เพื่อความเข้าใจ

Speaking: พูดขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับสว่ นตา่ ง ๆ ของสัตว์, พูดขอและให้

ขอ้ มลู เกยี่ วกับความสามารถของสตั ว,์ พดู บรรยายความสามารถ

ของสัตว์, พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั ความสามารถ ลกั ษณะรปู รา่ ง

และขอ้ มลู ท่วั ไปของสตั ว,์ พดู แสดงบทบาทสมมต,ิ พูดขอและให้

ข้อมลู เกยี่ วกบั สตั ว,์ พดู บรรยายเกีย่ วกบั สัตว,์ พดู ขอและใหข้ อ้ มูล

สัตวจ์ ากเน้อื เรื่องที่อ่าน,พูดขอและให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับส่งิ ทปี่ กคลมุ

ตัวสตั ว์

Writing: เขยี นบรรยายความสามารถของสตั ว์, เขียนนาเสนอเกี่ยวกบั สตั วท์ ี่หา

กินตอนกลางคืน, เขยี นบรรยายเกยี่ วกับสตั วท์ ่อี าศัยอยู่ในประเทศของ

ตนเอง, เขยี นกฎการเขา้ ชมสวนสตั ว์, เขียนนาเสนอเกย่ี วกับสง่ิ ที่

ปกคลุมตวั สัตว์

3) Culture: วนั อีสเตอร์ (Easter Day), สัตว์ท่ีหากินตอนกลางคืนในประเทศ

สหราชอาณาจกั ร, ตราแผ่นดนิ ของสหราชอาณาจักร, สตั วท์ ่ีอาศัย

อยูใ่ นประเทศอาเซยี น, สัตวป์ ระจาชาติอาเซียน

479

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- ทกั ษะการคดิ ทใี่ ช้ในการส่อื สาร
- ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล
- ทกั ษะการจัดกลุม่
- ทักษะการเปรยี บเทยี บ
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มุ่งม่ันในการทางาน
5.1 ใฝเ่ รียนรู้

6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

1. การสนทนาถาม-ตอบเกยี่ วกับส่วนตา่ ง ๆ ของสัตว์
2. การพูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับความสามารถของสัตว์เลย้ี ง
3. ชิ้นงานเปรียบเทียบความสามารถของสัตวโ์ ดยใชแ้ ผนภมู ขิ องเวนน์
4. ช้นิ งาน My animals และสตั ว์เลย้ี งหรือสตั วท์ ่ีชนื่ ชอบ
5. การพูดขอและให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับสัตว์
6. ชิ้นงานบตั รข้อมูลเก่ียวกบั สัตว์
7. การแสดงบทบาทสมมติ
8. ช้ินงานโปสเตอร์คาศพั ท์ Wild animals, สตั ว์, คาศัพทท์ ลี่ งท้ายดว้ ย /l/,ข้อควรปฏบิ ัตใิ นการไปเท่ยี ว

สวนสตั ว์, สตั วท์ ่หี ากินตอนกลางคืน
9. การอา่ นออกเสยี ง
10. ชนิ้ งานสมุดรวบรวมคาศพั ท์ My book of nocturnal animals
11. ชนิ้ งานโปสเตอร์นาเสนอสัตวท์ พี่ บในประเทศของตนเอง และสงิ่ ทป่ี กคลมุ ตวั สัตว์
7 การวดั และประเมนิ ผล

7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน
- ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน ประจาหน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6

7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

480


Click to View FlipBook Version