ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พันธ์ของส่งิ ตา่ ง ๆ ใกลต้ ัวตามท่ฟี ังหรอื อ่าน
สาระท่ี 2 ภาษากับวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชี้วดั
ต 2.1 ป.4/1 พดู และทาทา่ ประกอบอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษา
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ ของ
เจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกบั วยั
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย เพ่ือนามาใชอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
ตัวช้ีวดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อักษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรยี นร้อู น่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ ับกล่มุ สาระการเรยี นรอู้ น่ื และเปน็
พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
ตวั ชวี้ ดั
ต 3.1 ป.4/1 คน้ คว้า รวบรวมคาศพั ทท์ เี่ ก่ยี วข้องกบั กล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ืน่ และนาเสนอดว้ ย
การพดู /การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธก์ บั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทัง้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตวั ช้วี ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อ่าน/เขยี นในสถานการณต์ ่าง ๆ ท่ีเกดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี นและ สถานศกึ ษา
มาตรฐาน 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเคร่อื งมือพื้นฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี
และการแลกเปล่ยี นเรยี นรูก้ บั สังคมโลก
ตวั ชว้ี ัด
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื ค้นและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ
181
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเข้าใจเร่อื งท่ไี ดศ้ ึกษา คาศัพท์ สานวน และโครงสรา้ งภาษา หลกั วิธีการเขียน ชว่ ยใหส้ นทนา
เขยี นโต้ตอบ พดู /เขียนส่ือสารเกย่ี วกับสภาพอากาศ และสถานการณ์ทีก่ าหนดไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
3 สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Weather) It’s sunny., It’s raining., It’s windy., It’s snowing.,
It’s hot., It’s cold.; (Verbs) watch TV, read, make a snowman,
fish, drink, cook, swim, eat, ride, listen, draw,
throwing water, pay respect; (Phrases), dive, sunbathe, hunters in
the snow, cloudy and stormy weather; (Nouns) summer, warm,
cold, winter, boats, bare trees, rainy day, yellow sun, green trees,
water, hats, beginning, elders, colourful shirts, beach, island, ferry,
sea, the UK, Scotland, Ireland, Wales, England
Structure: What’s the weather like? It’s raining.
Is Lin dancing? No, she isn’t. She’s drawing.
What’s the weather like and what are you doing? It’s sunny
and we are fishing.
Where is Wendy? She’s in the garden.
What is she doing? She is playing.
Are you having fun on the school trip? It’s snowing here.
What’s the weather like at home? Let’s go fishing.
It’s snowing here in Snowdonia. I’m watching Wendy,
Oscar and Tom. They are making a snowman.
We’re fishing at the lake. We’re swimming in the sea.
InScotland today it’s cold and it’s snowing.
Pronunciation: ออกเสยี งคาท่ีมีสระผสม /eI/, ออกเสียงคาที่ลงทา้ ยด้วยเสียง /k/ กับ
ออกเสยี งคาทข่ี ึน้ ต้นด้วยเสยี ง /sk/, ออกเสยี งรูปยอ่ (contractions),
ออกเสียงคาที่ประกอบดว้ ย -ee-
182
Function: ขอและใหข้ ้อมูลเก่ียวกับสภาพอากาศ และกิจกรรมทกี่ าลังทา, ๆ
รายงานสภาพอากาศในแต่ละประเทศ
2) Language Skills
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น, อ่านเพ่อื ความเขา้ ใจ
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง, ฟงั เพอ่ื ความเขา้ ใจ
Speaking: พดู ขอและใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับสภาพอากาศและกิจกรรมทกี่ าลังทา,
พูดบอกสภาพอากาศในภาพวาดทมี่ ชี ื่อเสยี ง, พดู รายงานสภาพอากาศ
ในประเทศของตนเอง, พูดและแสดงบทบาทสมมติ, พดู นาเสนอ
เกยี่ วกบั เทศกาลในประเทศของตนเอง
Writing: เขยี นโปสการด์ บรรยายสภาพอากาศและกิจกรรมทีก่ าลังทา,
เขียนบรรยายสั้น ๆ เกีย่ วกบั เทศกาลในประเทศของตนเอง
3) Culture: วฒั นธรรมการรบั ประทานบาร์บคี ิวของชาวออสเตรเลีย, สหราช-
อาณาจกั ร, สภาพอากาศในสหราชอาณาจกั ร, เทศกาลสงกรานต์,
ครสิ ตม์ าสและวันขอบคุณพระเจา้ , ภาพวาดของศลิ ปนิ ที่มชี ือ่ เสียง
4 สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
4.3 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ท่ีใชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการเชอ่ื มโยง
4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มุง่ ม่นั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
6 ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. การพูดขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกบั สภาพอากาศ
2. ช้ินงาน What’s your family doing?
3. การพดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกับสภาพอากาศและกจิ กรรมที่ทา
4. การพูดขอและใหข้ ้อมูลเก่ยี วกับสถานทแี่ ละกจิ กรรมทกี่ าลงั ทา
183
5. การแสดงบทบาทสมมติ
6. การเขยี นโปสการด์ บรรยายสภาพอากาศและกิจกรรมทีก่ าลงั ทา
7. ช้นิ งานโปสเตอร์คาศพั ทท์ ีป่ ระกอบด้วย -ee-
8. ชิ้นงาน Our beach holiday
9. การพูดรายงานสภาพอากาศในแตล่ ะประเทศ
10. การพูดนาเสนอเทศกาลในประเทศของตนเอง
11. ช้นิ งาน Paint the weather
7 การวดั และประเมินผล
7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
- ทาแบบฝึกหัดในหนงั สอื เรียน หนา้ 28-39
- ทาแบบฝึกหัดใน Workbook หน้า 24-31
7.2 การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินชิ้นงานในข้อ 6
8 สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอื่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณ์ทาช้นิ งาน
8.5 บัตรภาพ/บัตรคา
8.6 บัตรภาพ Story Cutouts
8.7 กระดาษขนาดเทา่ โปสการ์ด
8.8 Worksheet A
8.9 อินเทอร์เนต็
184
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 1 What’s the Weather Like?
เวลา 1 ช่วั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสยี ง สะกดคา และบอกความหมายของคาศัพทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั สภาพอากาศได้
- พูดขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกบั สภาพอากาศได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี งั และอ่านจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตัวช้ีวดั
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ข้อความงา่ ย ๆ และบทพดู
เข้าจงั หวะถกู ต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณห์ รือเครือ่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความสั้น ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ
และ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตัวชว้ี ัด
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองตา่ ง ๆ โดย
การพูดและการเขียน
ตัวชว้ี ัด
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของสิง่ ต่าง ๆ ใกล้ตัวตามที่ฟังหรอื อ่าน
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พันธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทัง้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชวี้ ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อ่านในสถานการณท์ เ่ี กดิ ขึน้ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจความหมายของคาศพั ท์เกี่ยวกับสภาพอากาศ โครงสรา้ งภาษา ชว่ ยให้สนทนา พูด/เขยี น
สอื่ สารในชวี ติ ประจาวนั ได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
185
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: What’s the weather like? It’s raining.
Vocabulary: It’s sunny., It’s raining., It’s windy., It’s snowing., It’s hot., It’s
cold., watch TV, read, make a snowman
Pronunciation: ออกเสยี งคาทีม่ ีสระผสม /eI/, ออกเสยี งเชอ่ื มคาในภาษาอังกฤษ
Function: ขอและให้ขอ้ มูลเก่ยี วกับสภาพอากาศ
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกับสภาพอากาศ
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ท่ใี ชใ้ นการส่ือสาร
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 ม่งุ ม่นั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครกู ลา่ วทักทายนกั เรยี นในชน้ั Good morning. How are you today? เม่อื นักเรียนพดู ตอบแล้วครูถาม
นกั เรียนวา่ นอกจาก Good morning. แลว้ เราสามารถทกั ทายดว้ ยคาอื่นได้หรือไม่ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั
พูดบอก เชน่ Hi. Hello. จากน้นั ครใู ห้นักเรยี นจบั คู่ ผลัดกันพดู ทกั ทาย เช่น
S1: Hello. How are you today?
S2: I’m good. And you?
S1: I’m fine. etc.
2. ครเู ขยี นคาว่า weather บนกระดาน จากนั้นครอู า่ นออกเสียงคาดังกลา่ ว แลว้ บอกนักเรยี นว่า Repeat
after me. เสรจ็ แล้วครใู หน้ ักเรียนคดิ คาศพั ท์เกย่ี วกบั สภาพอากาศท่ีนกั เรยี นร้จู กั แล้วผลดั กนั ออกมาเขยี น
คาศพั ท์บนกระดานให้ไดม้ ากทส่ี ดุ เพ่อื เปน็ การสารวจว่า นกั เรยี นรูค้ าศพั ทม์ ากนอ้ ยเพยี งใด
186
ข้ัน Presentation
1. นาเสนอคาคณุ ศพั ท์ทใ่ี ชบ้ รรยายสภาพอากาศ ไดแ้ ก่ sunny (มแี ดดออก), hot (ร้อน), cold (หนาว),
windy (มีลมพัดแรง), foggy (มีหมอกหนา), stormy (มีพาย)ุ , cloudy (มเี มฆมาก), chilly (เย็น) โดย
การแสดงบัตรภาพ แล้วใหน้ กั เรียนชว่ ยกันบอกความหมาย จากนั้นครูสอนนกั เรยี นลงเสียงหนักในคาท่ี
มีมากกวา่ 1 พยางค์ ดังนี้
sunny windy foggy
stormy cloudy chilly
ต่อมาครูอธิบายวา่ เราจะวางคาคุณศัพทไ์ วห้ ลัง verb to be และหน้าคานาม เช่น
It is sunny. It is a sunny day.
It is stormy. It is a stormy day.
สดุ ทา้ ยครูใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงเชื่อมคาในประโยค ดังน้ี
It is sunny. It is a sunny day.
It is stormy. It is a stormy day.
ครูอธบิ ายการออกเสยี ง a ในประโยค It is a sunny day. เพมิ่ เติมว่า เราจะไม่ออกเสียง เอ (/eɪ/) แตจ่ ะ
ลด
รูปเป็นเสยี ง เออะ (/ə/) แทน
2. นาเสนอการบรรยายสภาพอากาศทกี่ าลงั เกิดข้ึน โดยใช้ Present continuous โดยครูเขียนประโยค
ตัวอย่างบนกระดาน
It is raining. It is snowing.
จากน้นั ครบู อกวา่ โครงสร้าง It is + กรยิ าเตมิ -ing. ใชบ้ อกสภาพอากาศทก่ี าลังเกดิ ขึ้นในขณะท่พี ูด
3. นาเสนอคากรยิ า/วลี watch TV (ดูโทรทศั น)์ , read (อา่ น), make a snowman (ป้ันตุ๊กตาหมิ ะ) โดย
การแสดงบัตรภาพหรือวาดภาพบนกระดาน จากน้นั ครอู า่ นคาศพั ท์ใหน้ กั เรียนฟังและพดู ตาม
พรอ้ มกัน ครยู า้ ใหน้ กั เรียนออกเสยี งเชอื่ มคาในวลี make a snowman
187
เสยี งเชื่อมระหวา่ งคาในภาษาองั กฤษ (linking sound)
ในภาษาอังกฤษ เจ้าของภาษามักจะออกเสยี งเชอ่ื มระหว่างคาเพ่อื ความไหลลนื่ ของ
การสนทนา การเช่ือมเสยี งระหว่างคาจะเกดิ ขึน้ เมือ่ คาถัดไปขึน้ ตน้ ดว้ ยสระ เช่น
It is sunny.
I like it very much.
What is it?
They like to make a snowman.
4. นาเสนอสานวนทใี่ ช้ขอและให้ข้อมลู เกีย่ วกบั สภาพอากาศ โดยครูถามนกั เรยี นว่า What’s the weather
like? พรอ้ มกบั ชไี้ ปท่ีนอกหน้าต่าง เพอื่ ให้นักเรียนพดู บอกครู จากนั้นเขยี นโครงสรา้ งต่อไปน้บี น
กระดาน
A: What’s the weather like?
B: It’s raining./It’s rainy.
เสรจ็ แล้วครอู า่ นประโยคดังกล่าวให้นกั เรยี นฝึกพดู ตาม ครูอธบิ ายวา่ ประโยค What’s the weather
like?
ใช้ถามเกีย่ วกบั สภาพอากาศ เวลาตอบเราจะใชโ้ ครงสรา้ ง It’s + สภาพอากาศ. เช่น
It’s sunny. It’s windy.
ครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ นอกจากประโยค What’s the weather like? แลว้ เรายังสามารถถามเก่ยี วกบั
สภาพอากาศโดยใช้ประโยค How’s the weather? ได้ เชน่
A: How’s the weather?
B: It’s foggy.
ต่อมาครตู ดิ บัตรภาพดวงอาทิตยบ์ นกระดาน แล้วถามนักเรยี นว่า What’s the weather like? เมอื่
นกั เรยี นตอบคาถามแลว้ ครูทากิจกรรมเช่นเดยี วกันนี้กบั บัตรภาพสภาพอากาศอืน่ ๆ ดว้ ย เพอื่ ให้
นักเรยี นฝกึ ถาม-ตอบจนคล่อง เช่น
T: (ชูบตั รภาพดวงอาทิตย)์ What’s the weather like?
Ss: It’s sunny!
188
T: (ชูบัตรภาพก้อนเมฆ) What’s the weather like?
Ss: It’s cloudy. etc.
5. ครเู ขียนคาว่า rain บนกระดาน แลว้ อา่ นคาดังกลา่ วให้นกั เรียนฟัง 1-2 ครัง้ จากน้นั ครอู ธบิ ายการ
ออกเสยี งสระผสม /eI/ ในคาว่า rain ใหน้ กั เรยี นฟงั และยกตวั อยา่ งคาศพั ท์ทส่ี ะกดดว้ ยสระ /e/ และ
สระผสม /eI/ เพมิ่ เตมิ เพอ่ื ให้นักเรยี นเหน็ ความแตกตา่ งของสระเดยี่ วและสระผสม ดงั น้ี
/e/ /eI/
men main
pen pain
ten train
wet wait
ต่อมาครูอ่านออกเสียงคาศัพท์ทลี ะคาและใหน้ ักเรยี นออกเสยี งตามพร้อมกนั โดยให้นกั เรียนสงั เกต
เสยี งสระ /e/ และ /eI/ ในแถวแรกวา่ ตา่ งกนั อยา่ งไร เมอื่ ไดค้ าตอบแลว้ ครอู ธิบายวา่ คนไทยมกั จะเข้าใจ
ผิดวา่ สระผสม /eI/ ในภาษาองั กฤษออกเสยี งคลา้ ยสระเอ ซึง่ เป็นสระเดย่ี วในภาษาไทย สระ /eI/ ใน
ภาษาองั กฤษเป็นสระเสียงยาวที่ประกอบด้วยสระสองตวั ได้แก่ สระเอ และสระอิ ซ่ึงตา่ งจากภาษาไทย
คอื มีเสยี งเอ อย่างเดยี ว สาหรบั การฝกึ ออกเสียงสระผสม /eI/ นน้ั ให้ออกเสยี งเอและเสียงอิ ตอ่ กนั อยา่ ง
รวดเรว็
กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครเู ปิดคลปิ วิดโี อช่อื How to pronounce diphthong EI in British English accent: pain/pen,
tail/tell, main/men เพ่อื ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสยี งสระผสม /eI/ เพม่ิ เติมท่ีเวบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=SC6mMgl4Qn0
หรือครอู าจบอกคาสาคญั เช่น diphthong /eI/ แลว้ ใหน้ กั เรียนไปค้นคว้าดว้ ยตวั เองที่เว็บไซต์
www.youtube.com
ขั้น Practice
1. หนังสอื เรียน หน้า 28 Ex. 1 ครอู า่ นคาสั่ง Listen, point and repeat. แล้วเปดิ CD ใหน้ ักเรียนฟังและ
ช้ตี าม จากนนั้ ครูเปดิ CD อกี ครงั้ โดยหยดุ เปน็ ระยะ ๆ ใหน้ ักเรยี นพดู ตามพรอ้ มกนั หรือเปน็ รายบคุ คล
189
It’s sunny. It’s raining. It’s windy
It’s snowing. It’s hot. It’s cold.
watch TV read
make a snowman
2. หนังสือเรียน หนา้ 28 Ex. 2 ครใู ห้นักเรียนดูภาพข้อ 1 และอา่ นขอ้ ความในกรอบคาพดู ใหน้ ักเรยี นฟงั
จากน้นั ครใู หน้ กั เรยี นดูภาพข้อ 2 แลว้ ถามวา่ Look at Number 2. What’s the weather like? เม่อื
นักเรยี น
ตอบแลว้ ครูทากิจกรรมเช่นเดยี วกันน้ีกบั ข้อทีเ่ หลือด้วย
2 A: What’s the weather like?
B: It’s windy.
3 A: What’s the weather like?
B: It’s snowing.
4 A: What’s the weather like?
B: It’s hot.
5 A: What’s the weather like?
B: It’s cold.
6 A: What’s the weather like?
B: It’s sunny.
3. ครใู หน้ กั เรียนจับคู่กนั ฝกึ ถาม-ตอบประโยคในหนังสอื เรียน หนา้ 28 Ex. 2 จากน้นั ครูสุ่มเรียกนักเรียน
3-4 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบใหเ้ พอื่ นฟงั ทห่ี นา้ ชัน้ เชน่
S1: Number 2. What’s the weather like?
S2: It’s windy.
S3: Number 4. What’s the weather like?
S4: It’s sunny. etc.
190
ครูเปิดคลิป What’s the weather like? | English for Children | English for Kids ใหน้ ักเรยี น
ฝึกฟงั และตอบคาถามจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปนี้
https://www.youtube.com/watch?v=_xMMWHVbjGk
4. ครเู ขยี นช่ือเมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ บนกระดาน และวาดภาพสัญลกั ษณอ์ ากาศลงไปข้าง ๆ
จากนนั้ ครูถามเกย่ี วกับสภาพอากาศของเมืองหลวงในแตล่ ะประเทศ เช่น
T: What’s the weather like in London, England?
Ss: It’s raining.
T: What’s the weather like in Paris, France?
Ss: It’s cold.
Country Weather
London, England
Paris, France
Berlin, Germany
Russia, Moscow
Rome, Italy
Bangkok, Thailand
เสรจ็ แล้วครูให้นกั เรียนทางานคู่ เลอื กเมืองหลวงของประเทศตา่ ง ๆ มา 5 ประเทศ และวาดภาพ
สญั ลักษณ์สภาพอากาศแบบง่าย ๆ ลงไป จากนัน้ ผลดั กันพดู ถาม-ตอบเกยี่ วกับสภาพอากาศของแตล่ ะ
สถานท่ี
191
ครูแนะนาให้นกั เรยี นฝกึ ฝนเก่ียวกับการบรรยายสภาพอากาศเพม่ิ เตมิ โดยพิมพค์ าวา่ What’s the
weather like? Game ในชอ่ งค้นหาใน www.google.com หรอื เข้าไปที่
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/games/whats-the-weather
นักเรยี นจะไดด้ ูคลปิ การรายงานสภาพอากาศในเมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ จากน้ันให้
นกั เรยี นนาภาพสัญลักษณส์ ภาพอากาศไปใส่ในภาพธงชาตขิ องแตล่ ะประเทศใหถ้ ูกต้อง
5. ครเู ขียนวลี watch TV, read a book, make a snowman บนกระดานแลว้ สมุ่ เรียกนกั เรียน 1 คน
พูดถาม-ตอบกับครู ดงั น้ี
T: What do you do when it’s cold?
S1: I make a snowman.
T: Good idea.
จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นจับคู่กนั พูดถาม-ตอบดังตวั อยา่ ง โดยใช้วลที กี่ าหนดใหบ้ นกระดาน
ขั้น Production
1. ครอู ธบิ ายภาระงาน ให้นกั เรยี นทาบตั รภาพสภาพอากาศตา่ ง ๆ ทเี่ รียนมา พรอ้ มตกแต่งใหส้ วยงาม
จากนัน้ ให้นักเรียนจบั คู่ ผลัดกันถาม-ตอบเกีย่ วกบั สภาพอากาศในบัตรภาพของตนเอง เสร็จแล้วครู
สุ่มเรียกนักเรยี นหลาย ๆ คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบท่หี น้าช้นั อกี ครั้ง
ตัวอย่าง S1: (แสดงบัตรภาพของตนเอง)
S2: What’s the weather like?
S1: It’s sunny! etc.
2. ให้นักเรยี นทากจิ กรรมในแบบฝกึ หดั หนา้ 24 Exs. 1-2 เปน็ การบ้าน
Ex. 1 2 It’s windy. 3 It’s sunny.
1 It’s cold. 5 It’s hot. 6 It’s raining.
4 It’s snowing.
Ex. 2 3 SUNNY 4 RAINING
2 SNOWING
192
7. การวดั และประเมินผล
วิธกี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการพดู ขอและให้ข้อมลู แบบประเมนิ การพูด ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
เกยี่ วกบั สภาพอากาศ ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงานบตั รภาพเกย่ี วกบั แบบประเมนิ ชนิ้ งาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
สภาพอากาศ
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั (Workbook)
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ดี ้าน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ
ใฝ่เรยี นรู้และม่งุ ม่ันในการทางาน ประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ/คาศพั ท์
8.5 อนิ เทอรเ์ นต็
193
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 2 Is Lin dancing? เวลา 1 ชว่ั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั สิง่ ทกี่ าลังทาโดยใช้ Present continuous ได้
- เขยี นให้ข้อมลู เกย่ี วกบั สง่ิ ทกี่ าลังทาได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งทฟี่ งั และอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลุม่ คา ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรอื สญั ลักษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความสั้น ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรูส้ กึ
และ แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพื่อขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพ่ือน และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองตา่ ง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
ตัวชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพดู /อา่ นในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจคาศัพทแ์ ละโครงสรา้ งประโยคเกีย่ วกบั การบอกสิ่งทก่ี าลังทา ชว่ ยใหส้ นทนา พดู /เขยี น
สอื่ สารในชวี ิตประจาวันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
194
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Is Lin dancing? No, she isn’t. She’s drawing.
Pronunciation: ลงเสียงหนกั ในคา
Function: ขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สง่ิ ที่กาลังทา
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สง่ิ ทกี่ าลังทา
Writing: เขยี นให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับสง่ิ ที่กาลังทา
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทีใ่ ชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 ม่งุ ม่ันในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ Warm Up
1. ครูเดนิ เขา้ มาในหอ้ งพรอ้ มกับทักทายนกั เรียน Good morning. How are you today? เมื่อได้
คาตอบจาก นกั เรียนแลว้ ครูพดู วา่ Look outside. What’s the weather like? และชีไ้ ปทางหนา้ ต่าง
ให้นกั เรยี นมอง
ออกไปนอกหนา้ ตา่ งเพ่อื ใหน้ กั เรียนบอกสภาพอากาศในวันนั้น
2. ทบทวนการขอและใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกบั สภาพอากาศดว้ ยการใหน้ กั เรยี นเลน่ เกมใบท้ า่ ทาง โดยครบู อกวา่
ครจู ะใบ้ทา่ ทางใหน้ กั เรยี นบอกวา่ เปน็ สภาพอากาศใด ครูอาจใช้อปุ กรณ์ชว่ ย เชน่ ร่ม หมวก ผา้ พนั คอ
ไหมพรม
ตวั อยา่ ง T: (ครทู าท่ารอ้ น ทามอื พดั ไปมา) What’s the weather like?
Ss: It’s hot!
195
T: (ครูทาทา่ หนาวสนั่ ) What’s the weather like?
Ss: It’s cold! etc.
3. ทบทวนคาศัพทเ์ กย่ี วกับสภาพอากาศด้วยการเลน่ เกม Spelling Bee โดยครแู บ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทมี
จากนัน้ ครูบอกนักเรยี นวา่ ครจู ะพดู คาศพั ท์ คาละ 2 ครงั้ ใหแ้ ตล่ ะทีมพูดสะกดคาศพั ท์ให้ถกู ต้อง ทีมที่
สะกดคาไดถ้ ูกต้องมากทส่ี ดุ เป็นทมี ท่ีชนะ
4. ทบทวนคาศัพทท์ ี่มสี ระผสม /eI/ โดยแสดงบัตรคา เชน่ rain, train, pain แล้วใหน้ ักเรียนอ่านคาศพั ท์
พร้อมกนั หรอื ทลี ะคน จากนนั้ ครเู ขยี นประโยคตอ่ ไปนีบ้ นกระดาน
The rain in Spain falls mainly on the plain.
ครูอา่ นประโยคและให้นักเรียนอ่านตามพรอ้ มกนั ครสู ังเกตการออกเสียงของนกั เรยี นว่าถูกต้องหรือไม่
ข้นั Presentation
1. ครูเขียนคาวา่ I am writing. บนกระดาน พรอ้ มกับอ่านออกเสียง จากนน้ั ครพู ดู ประโยคอนื่ ๆ พร้อมกบั
แสดงทา่ ทางประกอบดว้ ย เช่น
I am reading. (ครทู าท่าอ่านหนงั สอื )
I am walking. (ครเู ดนิ ไปมา)
I am sitting. (ครูทาท่านัง่ เกา้ อี้)
I am sleeping. (ครูทาทา่ นอนหลับ)
I am eating. (ครทู าทา่ รับประทานอาหาร)
ตอ่ มาครูให้นกั เรียน 1 คน ออกมาหน้าช้ันเรียน และทาทา่ เดินท่ีหน้าช้นั ครูพูดประโยค Ken is walking.
ครเู ดนิ ไปพรอ้ มกบั นกั เรยี นคนดงั กลา่ ว และพดู วา่ I am walking. We are walking. จากนั้นครูเขียน
โครงสรา้ งประโยคของ Present continuous บนกระดาน ดังน้ี
ประธาน + verb to be (is/am/are) + กรยิ าเตมิ -ing.
ครูถามนักเรียนวา่ โครงสรา้ ง Present continuous ใช้พดู ถึงการกระทาทีเ่ กดิ ขึ้นเมอื่ ใด เม่ือไดค้ าตอบว่า
ในขณะทีพ่ ูดหรือชว่ งเวลาที่พดู แล้ว ครนู าเสนอรปู ยอ่ ของ verb to be ดงั นี้
I am - I’m
He is - He’s
She is - She’s
It is - It’s
We’re - We’re
They’re - They’re
ครูให้นักเรยี นฝกึ อ่านออกเสยี งรูปยอ่ แล้วจึงฝกึ พดู ประโยคตามครู เช่น
196
I’m studying.
He’s studying.
เสรจ็ แลว้ ครูหาภาพที่มีคนทากิจกรรมต่าง ๆ หรือขออาสาสมัครออกมาแสดงทา่ ทางและให้นักเรียนพดู
บรรยาย
2. ครพู ดู ประโยคตอ่ ไปนี้
I am teaching. I am not reading a book.
You are looking at me. You are not looking at Ken.
Ken is listening to me. He is not listening to Anne.
จากนัน้ ครเู ขียนประโยคบนกระดาน ครูอา่ นออกเสยี งประโยคท้ังหมดให้นักเรยี นฟงั แลว้ ใหน้ ักเรยี น
อ่านออกเสยี งตาม แล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั บอกวา่ ประโยคแต่ละคู่บนกระดานแตกตา่ งกันอย่างไร
เมือ่ ไดค้ าตอบวา่ ประโยคท่มี ี not เปน็ ประโยคปฏิเสธแล้ว ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั บอกโครงสรา้ งประโยค
เสรจ็ แลว้ ครูเขียนโครงสรา้ งประโยคให้นักเรยี นดบู นกระดานอกี ครัง้ ดังน้ี
ประธาน + is/am/are + กริยาเติม -ing.
ประธาน + is/am/are + not + กริยาเติม -ing.
ตอ่ มาครูนาเสนอรปู ยอ่ ปฏิเสธของ verb to be
I am not - I’m not
He is not - He isn’t
She is not - She isn’t
It is not - It isn’t
We are not - We aren’t
They are not - They aren’t
ครใู ห้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงรูปยอ่ ปฏิเสธ แลว้ จึงฝึกพดู ประโยคตามครู เช่น
I’m not sleeping.
He isn’t sleeping.
เสร็จแลว้ ครแู บ่งนกั เรียนออกเปน็ 2 ฝัง่ ใหน้ ักเรยี นฝง่ั ซา้ ยชว่ ยกนั พดู ประโยคบอกเล่าในรูป Present
continuous และนกั เรยี นฝ่ังขวาพดู ให้อยใู่ นรปู ประโยคปฏเิ สธ ครูให้นักเรยี นทากจิ กรรมเชน่ น้ีไป
เรือ่ ย ๆ จนพูดไดค้ ล่อง เสร็จแล้วให้นักเรยี นแต่ละฝง่ั สลับบทบาทกนั
3. ครเู ขียนคากรยิ าหลาย ๆ คาบนกระดาน เชน่ run, sit, play, make, do แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอก
วิธีการเตมิ -ing จากนนั้ ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั นาคากรยิ าเหล่าน้ีมาแต่งประโยคโดยใช้ Present
continuous
ตัวอยา่ ง I’m running with my friends.
I’m sitting in the room.
197
I’m playing a toy.
I’m doing homework.
การลงเสยี งหนักคาในประโยค
คาสรรพนาม (pronoun) และ verb to be มกั เป็นคาทไี่ ม่เนน้ เสยี งหนักในประโยค แต่ verb to be
จะออกเสยี งเน้นหนักเม่ืออยู่ในรปู ย่อปฏิเสธ และลงทา้ ยประโยค เชน่
He is walking.
She is reading.
We are talking.
He’s walking.
She’s reading.
We’re talking.
He isn’t walking.
She isn’t reading.
We aren’t talking.
Yes, he is.
Yes, we are.
No, he isn’t.
No, we aren’t.
4. ครใู หน้ ักเรยี น 1 คน ออกมาเป็นผูช้ ่วยครู โดยแสดงทา่ ทางตา่ ง ๆ ตามท่คี รกู ระซบิ บอก ครพู ดู ถาม
นกั เรียนในชน้ั เชน่
T: Is he reading? (ทาท่าวงิ่ )
Ss: No, he isn’t.
T: That’s right. etc.
เสรจ็ แล้วครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันสรุปโครงสรา้ งประโยคคาถามและคาตอบแบบสั้นของ Present
continuous บนกระดานอีกคร้ัง ดังน้ี
A: Is/Am/Are + ประธาน + v. ing?
198
B: Yes, I am. หรอื No, I’m not.
5. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั สรุปโครงสรา้ งประโยค Present continuous ทงั้ รปู บอกเลา่ คาถามและปฏเิ สธ
ดงั นี้
ประโยคบอกเล่า → ประธาน + is/am/are + v. ing.
ประโยคปฏิเสธ → ประธาน + is/am/are + not + v. ing.
ประโยคคาถาม → Is/Am/Are + ประธาน + v. ing?
คาตอบ → Yes, I am.
No, I’m not.
ขนั้ Practice
1. หนงั สือเรยี น หนา้ 29 Ex. 3 ครอู า่ นตัวอยา่ งคาตอบข้อ 1 ให้นกั เรียนฟงั และอธิบายภาระงานวา่ ให้
นกั เรยี นจบั คู่ภาพกับคาศพั ท์ จากนัน้ แต่งประโยคโดยใช้ Present continuous เสรจ็ แล้วใหน้ กั เรยี นพดู
ตอบปากเปล่า ครูเฉลยคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งบนกระดานอกี ครงั้
2 She’s dancing. f
3 He’s cooking. a
4 He’s making a snowman. c
5 He’s watching TV. e
6 She’s running. b
ครใู หน้ ักเรยี นศึกษาไวยากรณ์เพม่ิ เตมิ ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 84 หัวข้อ Grammar Handbook
ด้วยตนเอง
กิจกรรมเพ่มิ เตมิ
ครูใหน้ ักเรียนเข้าไปเล่นเกม Sentence Monkey เพอื่ ฝกึ โครงสรา้ ง Present continuous ทีเ่ วบ็ ไซต์
http://www.eslgamesplus.com/present-progressive-continuous-esl-grammar-fun-game-
online/
2. หนังสอื เรยี น หนา้ 29 Ex. 4 ครใู หน้ ักเรียนดตู วั อยา่ งคาตอบข้อ 1 แลว้ ถามวา่ What is Lin doing?
Is she dancing? เม่อื นักเรียนตอบวา่ No, she isn’t. แล้ว ครทู ากิจกรรมเชน่ เดยี วกันนี้กบั ขอ้ ที่เหลือ
เสร็จแล้วให้เวลานกั เรยี นจบั ค่กู นั และฝกึ พูดถาม-ตอบอกี คร้ัง พรอ้ มท้ังเขียนคาตอบลงในสมดุ ของ
ตนเอง
199
2 A: Is Wendy singing?
B: No, she isn’t. She’s making a snowman.
3 A: Is Oscar eating a hot dog?
B: No, he isn’t. He’s drinking (hot chocolate).
4 A: Is Cindy jumping?
B: No, she isn’t. She’s eating (a hot dog).
5 A: Is Tom drinking hot chocolate?
B: No, he isn’t. He’s reading (a book).
3. ครูแจกบตั รภาพคากรยิ า เชน่ play, eat, walk, sleep, run แกน่ ักเรียน โดยก่อนแจกบัตรคา ครถู าม
คาถาม
นกั เรยี นเพ่ือฝึกใหน้ กั เรยี นแต่งประโยคโดยใช้โครงสรา้ ง Present continuous เชน่
T: What are you doing?
S1: I’m playing football.
T: What are you doing?
S2: I’m sleeping.
จากนนั้ ใหน้ ักเรียนจับคู่กนั แต่งประโยคถาม-ตอบ เสรจ็ แลว้ ครสู ่มุ เรยี กนักเรียน 3-4 คู่ ลกุ ขึน้ พดู ถาม-
ตอบให้เพือ่ นดอู ีกครัง้
4. หนงั สอื เรยี น หน้า 29 หวั ข้อ Go Green ครอู า่ นข้อความในกรอบใหน้ ักเรยี นฟงั และอธิบายคาศัพทท์ ่ี
นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ จากนนั้ ครแู บ่งนักเรยี นเป็น 2 กล่มุ ให้แต่ละกลุ่มชว่ ยกนั อภปิ รายเปน็ ภาษาไทยวา่
เหตุใดการยืมหนังสอื จึงดตี ่อสง่ิ แวดล้อมมากกวา่ การซือ้ หนังสอื เลม่ ใหม่
ขน้ั Production
1. ครอู ธบิ ายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทาชนิ้ งาน What’s your family doing now? โดยให้นักเรียนวาดภาพ
บุคคลในครอบครวั ของตนเองทากจิ กรรมตา่ ง ๆ เหมือนอยา่ งในหนงั สอื เรยี น หนา้ 29 Ex. 3 จากนนั้ ให้
นักเรียนแตง่ ประโยคบรรยายว่าพวกเขากาลังทาอะไร โดยใชโ้ ครงสรา้ ง Present continuous เช่น
My father is reading a book.
My mother is watching TV.
My brother is playing football.
I am doing homework.
200
2. ให้นักเรยี นทากจิ กรรมในแบบฝึกหัด หนา้ 25 Exs. 3-4 เป็นการบา้ น
Ex. 3 6
2 3 4 5
Ex. 4
2 Is the boy drinking hot chocolate?
No, he isn’t. He’s eating chocolate.
3 Is the boy sitting on his bed?
Yes, he is.
4 Is his mum cooking?
No, she isn’t. She’s talking to him.
7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมนิ ชนิ้ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงาน What’s your แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
family doing now? แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึกหัด ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ชดี้ ้านใฝ่เรยี นรู้
และมงุ่ มนั่ ในการทางาน
8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/คาศัพท์
8.5 อปุ กรณท์ าช้ินงาน
8.6 อนิ เทอรเ์ นต็
201
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 What’s the weather like and what are you
doing?
เวลา 1 ชว่ั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ท์เก่ยี วกับสภาพอากาศและกจิ กรรมที่กาลังทาได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั สภาพอากาศและกจิ กรรมทกี่ าลังทาได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งท่ฟี ังและอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้วี ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ติ ามคาส่งั คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟ่ี งั หรอื อ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรอื สญั ลกั ษณ์หรือเคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และข้อความสั้น ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ
และ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวช้วี ดั
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครัว
สาระท่ี 2 ภาษากับวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพ่อื นามาใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
ตัวชี้วดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตัวอกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชุมชนและโลก
202
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ตวั ชว้ี ดั ฟังและพูด/อ่านในสถานการณท์ ีเ่ กดิ ขึน้ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา
ต 4.1 ป.4/1
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเข้าใจคาศพั ท์และโครงสรา้ งภาษาเก่ยี วกบั สภาพอากาศและกิจกรรมทก่ี าลงั ทา ชว่ ยใหส้ นทนา
พดู /เขียนสื่อสารได้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: What’s the weather like and what are you doing? It’s sunny
and we are fishing.
Vocabulary: fish, drink, cook, watch TV, swim, eat, ride, read, listen, draw
Pronunciation: ออกเสยี งคาที่ลงทา้ ยด้วยเสยี ง /k/
Function: ขอและให้ข้อมลู เกีย่ วกับสภาพอากาศและกิจกรรมทกี่ าลงั ทา
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกับสภาพอากาศและกจิ กรรมทกี่ าลังทา
4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ีใชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
203
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ัน Warm Up
1. ครูและนกั เรยี นกล่าวทกั ทายกัน และให้นักเรยี นทบทวนคาศพั ท์เกี่ยวกบั สภาพอากาศและคากริยา
โดยให้นักเรยี นเลน่ เกม Bingo ดว้ ยการให้นักเรียนแตล่ ะคนวาดตาราง 9 ชอ่ ง และเขยี นคาศัพทเ์ ก่ยี วกบั
สภาพอากาศและคากริยาทเี่ คยเรยี นลงไป เชน่ sunny, windy, hot, cold, snowing, watch TV,
read, make a snowman จากน้นั ครอู ธบิ ายการเล่นเกมวา่ ครจู ะพูดคาศพั ท์หรือวลี ให้นักเรยี นวงกลม
คาศัพท์
หรอื วลีที่ได้ยิน นกั เรียนคนใดท่ีวงกลมคาศพั ทค์ รบ 3 ชอ่ งตอ่ กนั ในแนวใดก็ได้ก่อนใหต้ ะโกนว่า บงิ โก
และเป็นผู้ชนะ
2. ทบทวนโครงสรา้ งประโยคถาม-ตอบแบบสนั้ โดยครเู ตรยี มบตั รภาพทม่ี คี นกาลังทากิจกรรมตา่ ง ๆ
จากนั้นครูชูบัตรภาพขึ้นและถามคาถามเพอื่ ให้นักเรยี นตอบ ถา้ ตอบปฏิเสธ ใหน้ กั เรียนตอบดว้ ยวา่
คนในภาพกาลงั ทาอะไร
ตวั อยา่ ง T: Is he running? (ชูภาพคนกาลงั อ่านหนงั สอื )
S: No, he isn’t. He is reading.
ครสู ามารถเข้าไปดาวน์โหลดบตั รภาพหรือบัตรคาได้ท่ีเวบ็ ไซต์ต่อไปนี้
http://www.eslgamesplus.com/members/printables/flashcards/actions1.pdf
http://www.eslgamesplus.com/members/printables/flashcards/actions2.pdf
3. ให้นักเรยี นเล่นเกม Teacher says เพ่อื ทบทวนคากรยิ า โดยครใู หน้ กั เรยี นท้ังหมดออกมายนื เป็นวงกลม
ที่หน้าชน้ั จากนน้ั ครูอธบิ ายกตกิ าการเล่นเกมว่า เมื่อครูพดู Teacher says นักเรยี นตอ้ งปฏิบัตติ ามทคี่ รู
พดู แตห่ ากครูไมพ่ ดู Teacher says ใหน้ ักเรียนทากิจกรรมอื่นทไี่ มต่ รงกบั ที่ครพู ูด ครใู ห้เลน่ เกมไป
เร่ือย ๆ จนเหลือผชู้ นะเพียงคนเดียว
ตัวอยา่ ง T: Teacher says, “jump.”
Ss: (นกั เรียนกระโดด)
T: Read.
Ss: (นกั เรยี นทาท่าอ่ืนทีไ่ มใ่ ชอ่ า่ นหนังสือ) etc.
4. ทบทวนการเติม -ing หลงั คากรยิ า โดยครูเขียนคากริยาตอ่ ไปนบี้ นกระดาน
sing run sit
take jump ski
walk have cook
204
จากนน้ั ครูให้นักเรียนเปล่ยี นคากริยาเหล่านใ้ี ห้อย่ใู นรูป -ing ทถ่ี กู ต้อง ดงั นี้
singing running sitting
taking jumping skiing
walking having cooking
เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรยี นแต่งประโยค Present continuous โดยใช้คากรยิ าบนกระดาน สุดทา้ ยครสู ุ่มเรียก
นกั เรียน 6-7 คน ออกมาเขยี นประโยคท่ีตนเองแต่งบนกระดาน
ขัน้ Presentation
1. นาเสนอคากรยิ าต่อไปน้ี fish (ตกปลา), drink (ดม่ื ), cook (ทาอาหาร), watch (ดู), swim (ว่ายน้า),
eat (กนิ ), ride (ขับรถ), read (อา่ น), listen (ฟัง), draw (วาด) โดยใชบ้ ตั รภาพหรอื แสดงทา่ ทางใบค้ า
เพ่อื ให้นักเรียนบอกความหมาย เม่ือนักเรียนเขา้ ใจความหมายแลว้ ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นออกเสยี งคาศัพท์
เหลา่ นต้ี ามครู โดยครูเนน้ ให้นกั เรียนออกเสยี งพยญั ชนะท้ายคาใหถ้ ูกต้อง ครูยกตวั อยา่ งเสียง /k/ ถ้า
นกั เรียนออกเสยี งผิด ความหมายของคากจ็ ะผดิ ไป เชน่
bag back
dog dock
คาศัพทท์ ี่ลงท้ายด้วยเสยี ง /k/
คนไทยส่วนใหญม่ กั จะมปี ัญหาในการออกเสียง /k/ ท้ายคา เนื่องจากเป็นเสียงท่ไี มม่ ีในภาษาไทย
และคนสว่ นใหญ่มักจะออกเสียง /k/ เปน็ เสยี ง /g/ แทน หรอื ไมอ่ อกเสียง /k/ ที่ทา้ ยคาเลย ครู
จาเปน็ ตอ้ งฝึกให้นกั เรยี นพดู ให้คล่อง เพื่อที่จะไดส้ อ่ื สารกับชาวตา่ งชาติอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
โดยครูเขียนคาศัพทท์ ลี่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ และเสยี ง /g/ จากน้นั ครูออกเสียงแต่ละคาเพ่ือให้
นักเรียนเปรียบเทียบเสียง ดงั น้ี
/k/ /g/
back bag
lock log
wick wig
dock dog
pick pig
ท่มี า: http://betterenglishforthai.net/book_pronunciation/chapter11/
กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครูเปิดคลปิ วดิ ีโอให้นกั เรยี นไปฝกึ ออกเสียง /k/ เพมิ่ เตมิ ทเ่ี วบ็ ไซต์
205
https://www.youtube.com/watch?v=qp4qZ5XbvLA
หรอื ครอู าจบอกคาสาคญั เช่น k letter sound หรอื ช่ือคลิป Letter /k/ Sound - Phonics by
TurtleDiary ให้นกั เรียนไปค้นควา้ ดว้ ยตวั เองท่ีเวบ็ ไซต์ www.youtube.com
2. ครูขออาสาสมคั ร 2 คน มายนื ท่ีหน้ากระดาน ครพู ดู ซักซอ้ มกบั นกั เรยี น จากน้นั ให้นกั เรียน 2 คน แสดง
ทา่ ทางว่ากาลังทากจิ กรรมอย่างใดอยา่ งหนึ่ง โดยไมใ่ หเ้ หมือนกัน จากนัน้ ครูเดนิ ไปถามคาถามนกั เรยี น
ดงั น้ี
T: What are you doing, Ken?
Ken: I’m reading.
T: What are you doing, Anne?
Anne: I’m writing.
ต่อมาครูใหน้ ักเรยี นทัง้ 2 คน แสดงทา่ ทางอกี ครงั้ แตค่ ร้งั นีใ้ หแ้ สดงทา่ ทางเดยี วกนั ครพู ูดถาม
คาถามอีกครง้ั
T: What are you doing?
Ken & Anne: We’re eating.
ครใู ห้เพ่อื น ๆ กลา่ วขอบคณุ นกั เรยี นที่อาสาสมัครออกมาแสดงหนา้ ช้นั จากน้ันครเู ขยี นประโยคคาถาม
และคาตอบบนกระดานดงั น้ี
What are you doing?
I’m reading.
I’m writing.
We’re eating.
ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกนั อธบิ ายว่า ทาไมคาถามถามด้วย you แต่เวลาตอบสามารถตอบไดท้ ้ัง I และ We
ครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรยี น แล้วครสู ุ่มถามนกั เรียน 6-7 คน ในห้องวา่ What are you doing?
ตอ่ มาครถู ามนักเรยี นทั้งชน้ั What are you doing? โดยใชม้ ือชไ้ี ปทีน่ ักเรยี นท้ังห้อง เพื่อใหน้ กั เรยี น
เขา้ ใจวา่ you ในที่น้ีถามถึงนกั เรยี นท้ังหมด ครเู ขียนคาวา่ study บนกระดาน แลว้ ครถู ามนักเรียนว่า
What are you doing? เพือ่ ใหน้ กั เรยี นทัง้ หอ้ งตอบพรอ้ มกันวา่ We’re studying. ตอ่ มาครใู หน้ ักเรียน
ถาม
คาถาม What are you doing? กบั คนท่ีนัง่ ด้านซา้ ยและขวาของตนเองด้วย
สดุ ท้ายครูให้นกั เรียนสงั เกตประโยคบนกระดานอกี ครง้ั จากนนั้ ถามนักเรยี นวา่ ในภาษาไทยมีคาทบ่ี อก
ส่งิ ที่กาลงั ทาหรอื ไม่ เมื่อไดค้ าตอบวา่ “กาลงั ” ครูให้นักเรียนช่วยกนั เปรียบเทยี บโครงสร้างประโยค
ภาษาองั กฤษและภาษาไทย ดงั นี้
206
ภาษาอังกฤษ: ประธาน + is/am/are + กริยาเติม -ing. เช่น I am writing.
ภาษาไทย: ประธาน + กาลัง + กริยา. เชน่ ฉนั กาลังเขยี น
คาถาม What are you doing? สามารถตอบไดท้ ัง้ I และ We หากคู่สนทนามเี พียงคนเดยี ว
คาตอบเป็น I เช่น
A: What are you doing?
B: I’m playing the piano.
เราสามารถตอบ We ได้ หากคนทเ่ี ราสนทนาดว้ ยเปน็ กลุ่มคนหรอื องคก์ รทกี่ าลงั ทากิจกรรม
เดียวกนั เช่น
A: What are you doing?
B: We are cooking.
ขั้น Practice
1. หนังสอื เรียน หนา้ 30 Ex. 5 ครเู ปดิ CD ให้นกั เรยี นฟังพรอ้ มกับช้ีทภี่ าพแต่ละภาพตามไปดว้ ย จากนน้ั
ครูเปดิ CD อีกคร้ัง และหยดุ CD เม่ือจบแต่ละคา เพ่ือใหน้ กั เรียนอ่านออกเสยี งตามพร้อมกันหรอื
ทลี ะคน
fish, drink, cook, watch TV, swim, eat, ride, read, listen, draw
2. หนังสือเรยี น หนา้ 30 Ex. 6 ครพู ดู ว่า Look at the speech bubble. Repeat after me. แล้วครูอ่าน
ข้อความ
ในกรอบคาพดู และใหน้ ักเรียนอ่านตามครูพรอ้ มกนั จากน้นั ครอู ธิบายสถานการณ์วา่ แม่ของ Lin
โทรศพั ท์มาหา Tom กบั Oscar และถามวา่ กาลงั ทาอะไร ให้นกั เรียนดูภาพและตอบคาถาม โดยสมมติ
ว่าตวั เองเป็น Tom กบั Oscar ตอ่ มาครใู ห้นักเรยี นดูขอ้ 1 และถามว่า Look at the picture. What’s
the
weather like and what are you doing? ใหน้ กั เรียนตอบปากเปล่าว่า It’s cold and we’re
drinking tea.
ครทู าเช่นเดียวกันนก้ี บั ข้อท่ีเหลอื
207
1 A: What’s the weather like and what are you doing?
B: It’s cold and we’re drinking tea.
2 A: What’s the weather like and what are you doing?
B: It’s hot and we’re swimming.
3 A: What’s the weather like and what are you doing?
B: It’s raining and we’re watching TV.
4 A: What’s the weather like and what are you doing?
B: It’s snowing and we’re reading a book.
ต่อมาครูให้นักเรียนจับคผู่ ลัดกนั ถาม-ตอบประโยคในหนังสอื เรียน หนา้ 30 Ex. 6
ขัน้ Production
1. ครูอธบิ ายภาระงาน ใหน้ ักเรียนวาดภาพกจิ กรรมท่ีตนเองทาในสภาพอากาศตา่ ง ๆ โดยเลือกกิจกรรม
จากหนงั สอื เรียน หนา้ 30 ครเู ดินสงั เกตการทากจิ กรรมของนกั เรียน เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นจบั คู่กับเพ่อื น
เพ่อื ฝกึ พูดถาม-ตอบกนั เช่น
S1: What’s the weather like and what are you doing?
S2: It’s windy and I’m playing a kite.
2. ให้นักเรยี นทากจิ กรรมในแบบฝกึ หัด หน้า 26 Ex. 5 เป็นการบ้าน
2 Ann is cooking.
3 Lisa is listening to music.
4 John is swimming.
5 Extra is watching TV.
6 Max is drinking milk.
7 Sam is eating.
8 Debbie is drawing.
9 Paul is riding his bike.
208
7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมินการพดู ระดับคุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอและให้ข้อมูล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้
เกย่ี วกับสภาพอากาศและกิจกรรมที่ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ทา แบบฝกึ หัด (Workbook) ผ่านเกณฑ์
สังเกตการออกเสยี งคาทล่ี งทา้ ยด้วย แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เสียง /k/ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่เรียนรู้
และมงุ่ มน่ั ในการทางาน
8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บัตรภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อนิ เทอรเ์ นต็
209
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4 Where is Wendy? เวลา 1 ชว่ั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ยี วกับกิจกรรมทก่ี าลีงทาโดยใช้ Present continuous ได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกับสถานท่แี ละกิจกรรมที่กาลังทาในสถานท่ีนน้ั ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องท่ฟี งั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพดู
เขา้ จังหวะถกู ต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรอื สัญลักษณ์หรือเครอื่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค
และข้อความสัน้ ๆ ทฟ่ี งั หรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึก
และ แสดงความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตัวชวี้ ดั
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าตง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขยี น
ตัวชวี้ ัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ ัว
210
สาระที่ 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหว่างภาษากบั วัฒนธรรมเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วดั
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกย่ี วกบั เทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลอง และชีวติ ความเปน็ อยู่ง่าย ๆ ของ
เจ้าของภาษา
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พันธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
ตวั ชวี้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศัพท์และโครงสรา้ งภาษาเกีย่ วกับสถานท่แี ละกจิ กรรมท่ีกาลังทาในสถานท่ีน้นั
ชว่ ยให้สนทนาในชวี ิตประจาวนั ได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Where is Wendy? She’s in the garden. What is she doing? She’s
playing.
Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สถานทแ่ี ละกิจกรรมทท่ี าในสถานท่ีนนั้
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั สถานท่ีและกิจกรรมทที่ าในสถานทีน่ ั้น
3) Culture: วฒั นธรรมการรบั ประทานบารบ์ ีควิ ของชาวออสเตรเลยี
4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ท่ใี ช้ในการสื่อสาร
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
211
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ัน Warm Up
1. ครูและนักเรยี นกลา่ วทกั ทายกัน จากนั้นทบทวนการทกั ทายโดยครูถามคาถาม How are you?
แล้วใหน้ ักเรยี นพูด ตอ่ มาครทู บทวนประโยคขออนุญาตที่ใชใ้ นห้องเรียน โดยถามนักเรียนว่า หาก
นกั เรยี นจะออกไปขา้ งนอกหรอื กลับเขา้ มาในหอ้ งเรยี นจะพูดวา่ อยา่ งไร
2. ทบทวนคาศัพทเ์ กี่ยวกบั สภาพอากาศและคากริยาทีเ่ ก่ียวขอ้ ง โดยให้นักเรยี นเล่นเกม Memory chain
ด้วยการพดู คาศัพทต์ ่อกนั ไปเรื่อย ๆ โดยคนถัดไปตอ้ งพดู คาศพั ทข์ องเพอ่ื นคนกอ่ นหนา้ นด้ี ้วย เชน่
S1: sunny
S2: sunny, cloudy
S3: sunny, cloudy, rainy etc.
3. ครแู บ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่มแลว้ วาดตาราง 9 ชอ่ ง 2 ตารางบนกระดาน โดยตารางที่ 1 เขยี นประธาน
เชน่ I, You, We, Cindy, Tom ส่วนตารางท่ี 2 เขียนคากริยา เชน่ eat, read, cook, listen, ride ลงไป
ให้แตล่ ะกลมุ่ ผลดั กันส่งตวั แทนออกมาเลือกประธานจากตารางท่ี 1 และคากริยาจากตารางท่ี 2 มาแต่ง
ประโยค Present continuous ถา้ ตวั แทนกลมุ่ ใดแตง่ ประโยคถกู ต้อง กลมุ่ นน้ั จะไดค้ ะแนน เมื่อเล่นเกม
เสร็จแลว้ ครูเดนิ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง กลมุ่ ท่ีแตง่ ประโยคได้ถกู ต้องมากทีส่ ุดเป็นกลุ่มที่ชนะ
4. ทบทวนโครงสรา้ งถาม-ตอบ What + is/am/are + ประธาน + กริยาเตมิ -ing? โดยครแู สดงบัตรภาพ
แลว้ ให้นกั เรียนพูดบอกวา่ บุคคลในภาพกาลังทาอะไร เช่น
T: What is she doing?
Ss: She is swimming.
T: What is he doing?
Ss: He is riding a bike. etc.
5. ทบทวนการออกเสยี งคาที่ลงทา้ ยดว้ ยเสยี ง /k/ โดยครูเขียนคาศพั ท์ท่ีลงทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ และ /g/ บน
กระดาน เพอ่ื ใหน้ ักเรียนเปรยี บเทียบกัน ดังนี้
/k/ /g/
back bag
dock dog
lock log
pick pig
wick wig
จากนนั้ ครูสมุ่ เรียกนกั เรยี นใหอ้ า่ นทีละคน
ขน้ั Presentation
1. นาเสนอวลีและคาศพั ท์ทเี่ กี่ยวขอ้ ง ได้แก่ write a letter (เขียนจดหมาย), ride a bike (ขจี่ กั รยาน),
212
have lunch (รับประทานอาหารกลางวัน), play the piano (เล่นเปียโน), listen to music (ฟงั เพลง),
sing a song (ร้องเพลง), read a book (อ่านหนงั สอื ), play football (เลน่ ฟุตบอล), have a
barbecue
(รับประทานหรอื มปี ารต์ บ้ี ารบ์ ีคิว), sleep (นอน) โดยการเขียนคาศัพท์บนกระดานและใหน้ กั เรยี น
ช่วยกนั พดู บอกความหมาย เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรยี กนักเรียนออกมาแสดงท่าทางเพอื่ ให้เพอ่ื นทาย โดยใช้
โครงสรา้ ง You’re + กรยิ าเตมิ -ing.
2. นาเสนอคาศัพทเ์ กีย่ วกบั สถานท่ี ได้แก่ garden (สวน), kitchen (หอ้ งครวั ), bedroom (ห้องนอน),
living room (ห้องรับแขก), lake (ทะเลสาบ), park (สวนสาธารณะ) โดยการแสดงบตั รภาพ หรอื พดู
บอกความหมาย ครูเขยี นตัวอยา่ งประโยคใหน้ ักเรียนดเู พ่มิ เตมิ บนกระดาน เชน่
Mom is having a barbeque in the garden.
Tom and Oscar are watching TV in the living room.
I’m reading a book in my bedroom.
จากน้นั ครูเขียนคากรยิ ากบั สถานที่บนกระดาน ดงั น้ี
water - garden cook - kitchen
sleep - bedroom play a toy - living room
swim - lake walk - park
เสร็จแล้วครูให้นกั เรยี นเลือกคาศพั ท์บนกระดานมาแตง่ ประโยค Present continuous เชน่
I’m sleeping in my bedroom.
I’m swimming in the lake.
I’m walking in the park.
I’m playing a toy in the living room.
กจิ กรรมเพิม่ เตมิ
ครูทาบตั รคาสถานท่แี ละคากรยิ า อยา่ งละ 8 คา เพอ่ื ให้นกั เรียนเล่นเกม Memory Game โดยครู
แบง่ นกั เรียนออกเป็นกลุม่ ครแู จกชุดบัตรคาใหก้ ลมุ่ ละ 1 ชดุ เรียงบัตรคาควา่ หนา้ บนพ้นื 2 แถว
แถวละ 4 คา แลว้ แต่ละกลุ่มแบง่ ออกเป็น 2 ทมี ครใู หน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ เปิดบัตรคาและพยายาม
จดจาตาแหน่งของคาท่สี มั พันธ์กนั ใหไ้ ดภ้ ายใน 1 นาที เสร็จแล้วคว่าบตั รคาไวท้ ่ีตาแหนง่ เดมิ
แล้วใหแ้ ตล่ ะทีมผลัดกันเปดิ บัตรคาศพั ท์สถานที่และคากรยิ าทสี่ ัมพันธก์ ัน ถ้าเปดิ ไดถ้ ูกตอ้ ง ให้
แตง่ ประโยค เชน่ I’m at the lake. I’m swimming. แตถ่ า้ เปิดไม่ถูก ให้ปดิ บตั รคาไว้ทต่ี าแหน่งเดมิ
ทีมทเี่ ปิดบตั รคาและแตง่ ประโยคได้มากทส่ี ดุ คอื ทมี ทีช่ นะ
213
วัฒนธรรมการทาบาร์บคี ิวของชาวออสเตรเลยี
ในชว่ งฤดูร้อนของประเทศออสเตรเลยี กิจกรรมทผี่ ู้คนนิยมทากนั มาก คือ การปิง้ บาร์บคี วิ
รับประทานกนั นอกบ้านหรอื ชาวออสเตรเลียเรยี กแบบไม่เปน็ ทางการว่า “Barbie” กจิ กรรมน้ี
มักจะจดั ขึ้นท่ีสวนหลังบา้ นหรือท่ีชายหาด ซึง่ แทบทกุ บ้านจะมีเตาปง้ิ บารบ์ ีควิ ติดครวั ไว้ อาหาร
ทน่ี ามาปิง้ มีหลายชนิด เชน่ ไส้กรอก เบคอน เน้ือหมู เป็นตน้
ทมี่ า: http://www.australian-information-stories.com/australian-bbq.html
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 31 Ex. 7 ครอู ่านคาส่งั Read and complete. และอธิบายวา่ ให้นกั เรียนเตมิ
ประโยค
1-6 ใหส้ มบรู ณ์ โดยใช้คาในวงเลบ็ พรอ้ มทงั้ เปล่ียนคาในวงเลบ็ ใหอ้ ยู่ในรูป Present continuous ท่ี
ถกู ต้อง ครูอา่ นตัวอยา่ งในขอ้ 1 และใหน้ ักเรยี นอ่านข้อ 2-6 พร้อมกนั และพูดตอบปากเปลา่ เสรจ็ แล้ว
ครูให้เวลานักเรยี นเขยี นคาตอบในสมุด ครูสุ่มเรียกนกั เรยี นอ่านคาตอบอีกคร้ัง เพื่อตรวจคาตอบของ
นักเรยี น เสร็จแลว้ ครูเขยี นคาตอบทีถ่ ูกต้องบนกระดานอกี ครัง้
2 are not riding 5 are having
3 Is she running 6 Are they making
4 am not swimming
เสร็จแล้วครยู ้าเรอื่ งการใช้เครอื่ งหมาย . (full stop) และ ? (question mark) ว่าเครอื่ งหมาย . (full
stop)
ใส่หลังประโยคบอกเลา่ สว่ นเคร่อื งหมาย ? (question mark) ใสห่ ลงั ประโยคคาถาม
2. หนงั สือเรียน หน้า 31 Ex. 8 ครใู ห้นกั เรยี นอ่านโจทยข์ ้อ 1-4 พร้อมกัน จากนั้นครูอธิบายภาระงานวา่
นักเรยี นจะได้ยินเสยี งคนทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ใหน้ กั เรียนตอบวา่ เป็นเสียงกิจกรรมอะไร ตอ่ มาครูเปิด CD
ใหน้ กั เรียนฟังและเขียนคาตอบ ครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรียน แลว้ จึงเฉลยคาตอบพร้อมกนั
1) เสยี งคนเล่นฟุตบอล 3) เสยี งคนนอนกรน
2) เสยี งดนตรี 4) เสยี งคนเล่นเปยี โน
214
1 b 2 a 3a 4a
การใช้ the กบั เครอ่ื งดนตรี
เราจะใช้ the เม่ือกลา่ วถงึ เครอ่ื งดนตรชี นดิ ตา่ ง ๆ เช่น the piano, the guitar, the drum, the
violin
ตวั อยา่ ง Tony is playing the guitar with his friend.
Mary likes playing the piano, but she doesn’t like playing sports.
3. หนงั สอื เรียน หนา้ 31 Ex. 9 ครใู หน้ กั เรียนดูกรอบคาพดู จากน้ันครูเปดิ CD ใหน้ กั เรยี นฟงั และอา่ นตาม
ไปดว้ ย โดยครูพดู วา่ Look at the speech bubbles. Listen and repeat. ต่อมาครใู หน้ กั เรยี นอ่าน
ประโยค
ด้วยตนเองอกี ครง้ั โดยครูพูดว่า Say it again. เสรจ็ แล้วครใู หน้ กั เรยี นจบั คู่พดู ถาม-ตอบข้อ 2-4 ครูขอ
อาสาสมัคร 3 คู่ ออกมาแสดงบทสนทนาท่ีหนา้ ชัน้ ครสู ังเกตวา่ นกั เรียนลงเสยี งต่า (falling intonation)
เมอื่ จบประโยคบอกเลา่ และคาถามแบบ Wh-questions หรอื ไม่ ครูแนะนาและให้ความชว่ ยเหลือ
นักเรยี น เพอื่ ใหน้ ักเรยี นใชร้ ะดบั เสยี งใหถ้ กู ต้อง
A: Where is Wendy?
B: She’s in the garden.
A: What is she doing?
B: She’s playing.
2 A: Where are Lin and Cindy?
B: They’re in the garden.
A: What are they doing?
B: They’re cooking. / They’re having a barbecue.
3 A: Where are Tom and Oscar?
B: They’re in the living room.
A: What are they doing?
215
B: They’re watching TV.
4 A: Where is Extra?
B: He’s in the bedroom.
A: What is he doing?
B: He’s sleeping.
Falling intonation ในประโยคบอกเล่าและประโยคคาถามแบบ Wh-questions
Falling intonation คือ การลดเสียงลงตา่ เมอ่ื จบประโยค โดยท่ัวไปจะพบในประโยคบอกเลา่
และประโยคคาถามแบบ Wh-questions
ตวั อยา่ งเชน่
She goes to school by bus.
They have lunch at twelve o’clock.
We are watching TV.
What is Lisa doing?
What does he do on Sundays?
ที่มา: http://dictionary.cambridge.org/grammar/british-grammar/intonation
ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลุม่ และใหน้ ักเรยี นดคู ลิปวิดโี อชือ่ [Present progressive] What are you
doing? I’m writing. - Easy Dialogue for Kids จากเว็บไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=KKpmytQ8Qqc
ครงั้ แรกใหน้ กั เรยี นดู ครงั้ ที่ 2 ใหน้ กั เรียนดแู ละอา่ นตาม จากนนั้ ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลุม่
แตง่ บทสนทนาใหมค่ ล้าย ๆ กับในคลิปวดิ โี อ และออกมาแสดงให้เพ่ือนดู
216
ข้ัน Production
1. ครอู ธิบายภาระงาน ใหน้ ักเรยี นวาดภาพตนเองกาลังทากิจกรรมในสถานที่ใดทห่ี น่ึง จากนัน้ ใหน้ ักเรยี น
จับคู่กบั เพ่อื น แตง่ ประโยคถาม-ตอบเก่ยี วกบั ภาพของตนเอง เสร็จแลว้ ให้นกั เรยี นออกมาผลัดกนั พดู
ถาม-ตอบหน้าชน้ั
ตวั อย่าง S1: Where are you?
S2: I’m in the kitchen.
S1: What are you doing?
S2: I’m washing the dishes. etc.
2. ให้นักเรียนทากจิ กรรมในแบบฝึกหัด หนา้ 27 Exs. 6-7 เป็นการบ้าน
Ex. 6
2e 4d 6g 8f
3a 5c 7h
Ex. 7 3 He’s drinking hot chocolate.
2 She’s eating a hot dog. 5 He’s reading a book.
4 She’s making a snowman.
7. การวดั และประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมินการพดู ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอและใหข้ อ้ มูล แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้
เกย่ี วกบั สถานที่และกจิ กรรมที่ ระดับคุณภาพ พอใช้
กาลงั ทา แบบฝกึ หัด (Workbook) ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการขึน้ -ลงเสยี งตา่ ใน แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประโยค ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบ่งชี้ดา้ น
ใฝเ่ รียนรแู้ ละมงุ่ ม่นั ในการทางาน
217
8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บัตรคา
8.5 อินเทอรเ์ น็ต
218
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 Are you having fun on the school trip?
เวลา 2 ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านได้
- พดู แสดงบทบาทสมมตจิ ากเรือ่ งที่อ่านได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ฟี ังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ติ ามคาสั่ง คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟี่ ังหรอื อา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพูด
เข้าจังหวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ
และ แสดงความคิดเห็นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป.4/2 ใช้คาส่งั คาขอรอ้ ง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขียนแสดงความต้องการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์
งา่ ย ๆ
สาระท่ี 2 ภาษากับวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชี้วดั
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะกบั วัย
219
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ตัวชว้ี ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ทเี่ กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การร้แู ละเข้าใจความหมายคาศพั ท์เกีย่ วกบั สภาพอากาศ สานวนและโครงสรา้ งประโยค ชว่ ยใหเ้ ข้าใจเร่ือง
ที่อ่านและฟัง และสามารถเช่ือมโยงความสัมพันธ์ของส่ิงทีป่ รากฏในเนื้อหาท่ีไดฟ้ ังและอ่านได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Are you having fun on the school trip? It’s snowing here.
What’s the weather like at home? Let’s go fishing. What are
you doing? I’m having fun. Are you?
Pronunciation: ออกเสียงคาทีข่ ้นึ ตน้ ด้วย sk
2) Language Skills
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Speaking: แสดงบทบาทตามทก่ี าหนด
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทีใ่ ชใ้ นการส่อื สาร
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 ม่งุ มัน่ ในการทางาน
220
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ Warm Up
1. ครูและนักเรียนทกั ทายกนั จากนั้นครูถามนกั เรยี นวา่ นอกจาก How are you? เราสามารถใช้ประโยคใด
ในการทกั ทายไดอ้ กี จนไดค้ าตอบวา่ Good morning/afternoon/evening. ขึน้ อยู่กับเวลา ณ ขณะน้นั
ครูเปดิ คลิปวดิ ีโอชื่อ Cinderella, Snow White+More Kids Stories | Learn English for Kids |
Collection of Easy Story ให้นักเรยี นดจู ากเว็บไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=GDya4yaF8GQ
ครูอธิบายวา่ คลิปวดิ โี อนเ้ี ป็นบทสนทนาเกี่ยวกบั การทักทาย จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นฝกึ พูดทักทาย
กนั เอง โดยอาจแสดงบทบาทสมมตสิ ้ัน ๆ เหมอื นอย่างคลิปวิดโี อทไ่ี ดด้ ู
2. ครแู บง่ นกั เรยี นออกเปน็ 2 ทีม เพื่อเลน่ เกม โดยครูอธบิ ายวา่ ใหแ้ ตล่ ะทมี สง่ ตวั แทนออกมายืนหนา้ ชั้น
จากนั้นครูใหต้ ัวแทนแตล่ ะทีมดคู าศพั ทแ์ ลว้ แสดงทา่ ทางใบค้ า ใหเ้ พือ่ นในทีมตอบวา่ เปน็ กิจกรรมใด
ทีมใดตอบถกู ก่อนได้ 1 คะแนน ทีมทม่ี ีคะแนนมากที่สุดเปน็ ทีมท่ีชนะ
ตวั อยา่ ง T: What is he doing?
Team 1: He’s drawing a picture. etc.
3. นาเข้าสบู่ ทเรยี นโดยให้นกั เรียนดภู าพในหนงั สอื เรยี น หน้า 32-33 Ex. 10 แลว้ ถามคาถาม เชน่
T: Look at page 32. What’s the weather like in these pictures?
Ss: It’s snowing.
T: That’s right. What about page 33? Is it snowing?
Ss: No, it isn’t. It’s sunny.
ฤดกู าลในประเทศสหราชอาณาจักรแบ่งออกเปน็ 4 ฤดกู าลหลกั คือ ฤดใู บไมผ้ ลิ (spring),
ฤดรู ้อน (summer), ฤดูใบไม้ร่วง (autumn) และฤดหู นาว (winter) ซ่ึงมีฝนตกทุกฤดกู าล
แตจ่ ะตกมากทสี่ ุดในชว่ งเดือนตุลาคมถงึ เดือนมกราคม
ทีม่ า: http://resources.woodlands-junior.kent.sch.uk/customs/questions/weather/
221
ขั้น Presentation
1. นาเสนอการใช้ Let’s เพอื่ เชญิ ชวนคนอน่ื ให้ทากจิ กรรม โดยครเู ขยี น Let’s go fishing! บนกระดาน
จากน้ันครูอธิบายโครงสร้าง Let’s พรอ้ มวธิ กี ารตอบให้นกั เรียนฟัง เสร็จแล้วครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น
หลาย ๆ คน แต่งประโยคโดยใช้ Let’s + คากริยา. เชน่
Let’s walk. Let’s play. Let’s make a snowman.
Let’s ย่อมาจาก Let us มโี ครงสร้างเปน็ Let’s + infinitive without to หรือคากรยิ าในรูป base
form. ใชแ้ นะนาหรอื ชวน ซ่ึงรวมถึงตัวเราดว้ ย
ตัวอยา่ ง Let’s go camping.
Let’s stop here and have lunch together.
นอกจาก Let’s แล้ว เรายังสามารถใช้ Shall we …? เพ่อื เป็นการชวนไดด้ ้วย
ตัวอยา่ ง Shall we go camping?
Shall we go fishing?
หากต้องการตอบตกลงคาเชญิ ชวน เราสามารถพดู ได้ดงั น้ี
- That would be great.
- Okay.
- Why not?
หากต้องการปฏเิ สธคาชวน สามารถพูดได้ดังน้ี
- I’m afraid I can’t.
- I’m sorry I can’t.
- I’m not free.
ทม่ี า: http://kidsnews.bectero.com/andrew-biggs-academy/14187-6-วธิ ีการพดู ชกั ชวน
ชาวตา่ งชาตไิ ปดหู นัง
2. นาเสนอสานวนภาษาทีใ่ ช้ในการขอความชว่ ยเหลอื โดยครหู ยิบหนังสือกองใหญข่ ึ้นมาและเดนิ ไป หา
นกั เรียน 1 คน พรอ้ มกบั พดู วา่ Can you help me, please? เมือ่ นักเรียนตอบรับ ครูสอนให้นักเรยี นพดู
ว่า
Sure, I can. แล้วจึงให้นกั เรยี นช่วยยกหนังสอื ไปวางบนโตะ๊ ครู ครทู ากจิ กรรมเชน่ เดียวกันน้อี ีกครง้ั กับ
นักเรียนอกี 2-3 คน เสรจ็ แลว้ ครเู ขียนประโยคบนกระดาน และใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงพรอ้ มกันและ
ช่วยกันบอกความหมาย
A: Can you help me?
B: Sure, I can.
222
ตอ่ มาครูถามว่า ถา้ มคี นมาขอความชว่ ยเหลอื แตน่ ักเรยี นไม่สามารถชว่ ยได้ นักเรยี นจะตอบวา่ อย่างไร
ครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรยี นและเขียนบนกระดาน ดงั นี้
A: Can you help me?
B: Sorry, I can’t.
ครใู หน้ ักเรียนอา่ นออกเสยี งพรอ้ ม ๆ กัน โดยครูสมมติให้วนั นน้ี กั เรยี นทง้ั ห้องมอี าการเจบ็ แขน จากน้นั
ครเู ดนิ ถอื หนงั สือไปหานักเรยี นและขอความชว่ ยเหลอื อกี คร้งั เพอื่ ใหน้ ักเรยี นพูดตอบวา่ Sorry, I can’t.
ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ วา่ บางครัง้ เรากต็ ้องการความช่วยเหลืออยา่ งกะทนั หันหรอื ฉกุ เฉิน เช่น เจอผูร้ า้ ย
ในการขอความช่วยเหลอื เราก็จะตะโกนสนั้ ๆ วา่ Help! หรอื Help me!
3. นาเสนอคาศัพท์/สานวนที่ควรร้ใู นเรอ่ื ง ได้แก่ have fun (ขอใหส้ นกุ ), school trip (การเดินทางไปทศั น-
ศกึ ษายังทีต่ า่ ง ๆ ซึง่ จัดโดยโรงเรียน) ดว้ ยการยกตวั อยา่ งประโยคหรอื บอกความหมาย เช่น
A: I’m going on school trip with my friends next week.
B: OK. Have fun!
go on school trip มคี วามหมายวา่ เดินทางไปทัศนศึกษา
จากนน้ั ครูเขียนคาวา่ school บนกระดาน พร้อมขีดเส้นใต้ sch ครูอา่ นออกเสยี งใหน้ กั เรียนฟงั 1-2 ครัง้
แล้วใหน้ กั เรยี นพูดตามครพู รอ้ มกนั หรอื ทีละคน เสร็จแล้วครูอธบิ ายการออกเสยี งคาทขี่ ึ้นต้นดว้ ยเสียง
/sk/ ใหน้ กั เรยี นฟัง
การออกเสยี งคาท่ขี ึ้นตน้ ดว้ ยเสยี ง /sk/
เสียง /sk/ เป็นเสียงที่ไม่มีในระบบเสียงภาษาไทย แต่คนไทยส่วนใหญไ่ ม่คอ่ ยมปี ัญหาในการ
ออกเสียงนี้ อย่างไรกต็ ามคนไทยส่วนใหญ่มกั จะเข้าใจผดิ วา่ เสยี ง /sk/ ออกเสียงคล้าย “สค”
เชน่ การออกเสียง school วา่ “สคลู ” ซ่ึงไมถ่ กู ตอ้ ง
เสยี ง /k/ เมอื่ อยู่เด่ยี ว ๆ จะเป็นเสยี งมีลม (aspirated) แต่เมอื่ มาควบกล้ากบั เสียง /s/ จะเปน็ เสยี ง
ไมม่ ลี ม (unaspirated) ดงั นน้ั แทนท่จี ะออกเสียง “สคูล” เรากจ็ ะออกเสียงเปน็ “สกูล” แทน
ตวั อย่างคาศัพท์ school (สกลู ) scheme (สกีม)
sky (สกาย) skip (สกปิ )
scan (สแกน) scout (สเกาท์)
223
กิจกรรมเพ่มิ เตมิ
ครเู ปิดคลปิ วดิ ีโอใหน้ ักเรยี นไปฝกึ ฟงั เสยี ง /sk/ และออกเสยี งตามพรอ้ มกนั ทีเ่ วบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=KBFUtBevgMo
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หนา้ 32 Ex. 10 ครอู ่านคาสง่ั Listen and choose. และอา่ นประโยคท่ียังไมส่ มบูรณ์
พร้อมท้งั ตัวเลือก a และ b ให้นกั เรียนฟงั จากนน้ั ครูให้นกั เรียนปิดหนังสอื เรยี น แลว้ ครูเปิด CD ให้
นักเรียนฟังและเลือกคาตอบทถี่ ูกต้อง ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียนบนกระดาน เสร็จแล้ว ให้
นกั เรยี นเปิดหนงั สือเรยี นและฟัง CD อีกครั้ง เพ่ือตรวจคาตอบ ต่อมาครูเปิด CD อกี คร้งั โดยหยุด
ทลี ะกรอบ เพือ่ ใหน้ กั เรยี นฝึกอา่ นออกเสยี งตาม CD พรอ้ มกัน ครูตรวจสอบวา่ นกั เรียนออกเสียงถูกต้อง
หรอื ไม่ โดยเนน้ การออกเสียงสงู เสียงตา่ ในประโยคใหถ้ กู ต้อง
1a 2b
2. หนงั สอื เรยี น หน้า 33 Ex. 11 ใหเ้ วลานักเรียนอา่ นเนอ้ื เรื่องดว้ ยตนเองอกี ครง้ั จากนั้นครูอา่ นคาถาม
ขอ้ 1-3 แลว้ ใหน้ ักเรียนพูดตอบคาถามปากเปลา่ เสร็จแล้วครูเฉลยคาตอบที่ถกู ตอ้ งบนกระดานอกี ครงั้
1 It’s raining and it’s cold.
2 She’s reading a book.
3 They’re making a snowman.
3. ครูให้นกั เรยี นทางานคู่ ครแู จกบัตรคาทม่ี ปี ระโยคหรอื วลที ี่นามาจากหนงั สือเรียน หน้า 32-33 ใหแ้ ต่ละ
คฝู่ ึกพูดจนคล่อง จากนน้ั ใหแ้ ต่ละคู่ออกมาพดู ประโยคและแสดงท่าทางประกอบด้วย เสรจ็ แลว้
ครเู ปิด CD อีกครัง้ และเมอ่ื นักเรียนได้ยินประโยคของคตู่ นเอง ให้นักเรยี นลุกข้นึ ยืนและแสดงท่าทาง
ประกอบด้วย
ตวั อย่างบัตรคา
Hello, Lin. Are you having fun What’s the weather like at
on the school trip? home?
4. ครูนา StoryfCunutoonuttshจeาsกcแhบoบoฝlึกtหripดั ?หน้า 81 มาถา่ ยเอกสารตามจานวนกลมุ่ ของนกั เรยี น จากน้นั ตดั
224
ออกเป็นชดุ ๆ และแจกนกั เรียนแตล่ ะกลุม่ แล้วให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ เรียงลาดับ Story Cutouts เหล่านี้
ตามลาดบั เหตกุ ารณใ์ นเนอื้ เรอ่ื งให้ถกู ต้อง
ขน้ั Production
1. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม ครูให้นกั เรยี นฝึกซ้อมแสดงบทบาทสมมตเิ น้ือเรื่องในหนังสอื เรยี น
หนา้ 32-33 เมือ่ นักเรียนฝกึ จนคล่องแลว้ ครใู ห้แต่ละกลุม่ ออกมาพูดและแสดงท่าทางประกอบท่ีหนา้ ช้ัน
โดยไม่ให้ดหู นงั สอื เรียน
2. ใหน้ ักเรยี นไปฝกึ อา่ นเนื้อเรื่องในหนงั สือเรียน หน้า 32-33 ด้วยตนเองท่ีบา้ น และมาอา่ นให้ครฟู ัง
นอกเวลาเรยี น หรือครอู าจจัดกจิ กรรมเพือ่ นชว่ ยเพื่อน โดยใหน้ กั เรียนทอ่ี า่ นภาษาองั กฤษคลอ่ งแลว้
ช่วยฝึกเพื่อนท่ียังอ่านไมค่ ลอ่ ง
3. ให้นักเรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหัด หน้า 28 Ex. 8 เป็นการบา้ น
2 having 4 watching 6 making
3 sunny 5 reading
225
7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมนิ การแสดงบทบาท ระดับคณุ ภาพ พอใช้
สมมติ ผ่านเกณฑ์
ประเมินการแสดงบทบาทสมมติ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การอ่านออกเสียง แบบฝกึ หัด (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดับคุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึกหดั ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งชด้ี ้านใฝเ่ รียนรู้
และม่งุ ม่นั ในการทางาน
8. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ Story Cutouts
8.5 อนิ เทอรเ์ นต็
226
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 6 I’m having fun! เวลา 2 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พดู บอกสภาพอากาศและกิจกรรมทีก่ าลังทาได้
- เขยี นโปสการ์ดบอกสภาพอากาศและกิจกรรมทก่ี าลังทาได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาส่งั คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟี่ ังหรอื อา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรอื สัญลกั ษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และข้อความสั้น ๆ ทฟ่ี งั หรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ
และ แสดงความคิดเหน็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวชว้ี ดั
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสงั่ คาขอรอ้ ง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่อื งตา่ ง ๆ โดย
การพูดและการเขยี น
ตัวช้ีวดั
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกล้ตัว
สาระท่ี 2 ภาษากับวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชว้ี ัด
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกบั วัย
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธก์ ับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ตัวชวี้ ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ท่เี กดิ ขึน้ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
227
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรแู้ ละเข้าใจคาศัพท์และโครงสรา้ งภาษาทเี่ กยี่ วข้องกบั สภาพอากาศและกจิ กรรมที่กาลงั ทา ชว่ ยให้
เขา้ ใจเร่ืองท่ีอ่านและฟัง พรอ้ มทง้ั พดู และเขียนสื่อสารในชวี ิตประจาวันได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: It’s snowing here in Snowdonia. I’m watching Wendy, Oscar
and Tom. They’re making a snowman.
Pronunciation: ออกเสียงรูปยอ่ (contractions)
Function: บอกสภาพอากาศและกจิ กรรมทก่ี าลังทา
2) Language Skills
Reading: อา่ นเพือ่ ความเข้าใจ
Speaking: พูดบอกสภาพอากาศและกิจกรรมทก่ี าลงั ทา
Writing: เขยี นโปสการ์ดบรรยายสภาพอากาศและกิจกรรมทีก่ าลังทา
4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ที่ใช้ในการสอ่ื สาร
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุ่งม่ันในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ Warm Up
1. ครูเดินเข้ามาในช้ันเรียน พรอ้ มกับถอื ของเขา้ มาด้วย จากนัน้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยถือของโดยพดู ว่า
Can you help me, please?
2. ครูเขยี นโครงสร้าง Can I + กริยารปู base form (ชอ่ งที่ 1)? ซึง่ ใชใ้ นการขออนญุ าตบนกระดานและ
ให้นักเรยี นช่วยกันยกตวั อยา่ งประโยค เชน่
Can I borrow your eraser? Can I open the window?
Can I sit here?
228
จากน้นั ครเู ขียนตาราง 9 ช่อง บนกระดาน พรอ้ มกับเขียนคากริยาลงไปในแตล่ ะช่อง เสรจ็ แลว้ ครบู อก
นักเรยี นวา่ จะใหน้ ักเรียนเลม่ เกม Bingo โดยครูแบง่ นกั เรียนออกเปน็ 2 ทีม ให้แต่ละทมี สง่ ตวั แทน
ออกมาคร้งั ละ 1 คน ทายเหรียญ Heads or tails? เพอ่ื หาวา่ ทมี ใดจะไดเ้ ปน็ ผูเ้ ลอื กชอ่ งก่อน โดยถ้าทาย
หัว ใหพ้ ดู วา่ Heads ถา้ ทายก้อย ใหพ้ ูดวา่ Tails ตัวแทนทมี ทท่ี ายได้ถูกตอ้ งจะมีสทิ ธไิ ดเ้ ลอื กช่องและ
นาคากรยิ าในชอ่ งน้ันมาแต่งประโยคขออนญุ าต Can I …? ถา้ แต่งได้ถูกตอ้ ง จะได้ 1 คะแนน ทีมที่
สามารถนาคากรยิ าในตารางมาแต่งประโยคได้ 3 ชอ่ งติดกันกอ่ นเปน็ ทมี แรกใหต้ ะโกนวา่ บงิ โก และ
เป็นทีมทีช่ นะ ในการเลน่ เกมน้ัน นอกจากเพ่ือความสนกุ สนานและทบทวนโครงสรา้ งภาษาแลว้ ครู
ควรใชภ้ าษาอังกฤษเพอ่ื ฝกึ ฝนคาศพั ทท์ ่ใี ช้ในการเล่นเกม เช่น toss a coin, heads, tails, your turn,
you get one point, you win
3. แบง่ นักเรยี นเปน็ 2 กลมุ่ แล้วให้นักเรยี นเล่นเกม Hangman ดว้ ยคาศพั ทต์ อ่ ไปนี้ weather, snowman,
snowing, swimming, school trip, watch TV โดยครูเลือกคาศพั ท์มาทลี ะ 1 คา แล้วขีดตามจานวน
ตัวอกั ษรของคาศัพท์แตล่ ะคาน้นั เชน่ คาวา่ weather ครขู ีด 6 ขดี ดังนี้ __ __ __ __ __ __ แลว้ ให้
นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ผลดั กนั ทายตัวอกั ษร ถา้ ทายถกู กร็ อด ถา้ ทายผดิ กจ็ ะถูกแขวนคอ โดยครวู าดภาพ
คนถกู แขวนคอทลี ะส่วน ดังน้ี หัว, ตัว, แขนซา้ ย, แขนขวา, ขาซา้ ย และขาขวา กลมุ่ ท่ีถกู แขวนคอ
กจ็ ะแพ้
4. ทบทวนการออกเสยี งคาท่ีขนึ้ ตน้ ดว้ ยเสยี ง /sk/ โดยครูแสดงบตั รภาพคาศพั ทต์ อ่ ไปนี้ school, sky,
scout,
scooter แลว้ ให้นกั เรียนพูดบอกคาศพั ท์ เสร็จแลว้ ครแู สดงบตั รภาพอีกครงั้ และให้อ่านออกเสยี ง
พร้อม ๆ กัน
ทบทวนการพูดบอกสภาพอากาศโดยเปิดคลิปวดิ โี อจาก www.youtube.com โดยพมิ พ์ช่อื
คลปิ Theme 4. Weather – How’s the weather? It’s sunny. | ESL Song & Story -
Learning
English for Kids ซง่ึ จะมที ้ังละครสัน้ ๆ และเพลงเก่ยี วกบั สภาพอากาศใหน้ ักเรียนฟังและดู
หรอื ครูสามารถเขา้ ไปทเ่ี ว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=P9abGg_gF1s
5. นาเข้าส่บู ทเรยี นโดยให้นักเรียนดภู าพในหนงั สือเรียน หน้า 34 Ex. 12 แลว้ พดู วา่ Look at the first
picture. What’s the weather like? จากน้ันครอู าจถามเพม่ิ เตมิ เชน่ How many people are there
in the picture? What are they doing?
229
ข้นั Presentation
1. ครูนาไปรษณียบตั รมาแสดงให้นกั เรยี นดู และถามนกั เรียนวา่ What is this? เมอื่ ได้คาตอบว่า It is a
postcard. แลว้ ครูสอนสานวนภาษาทคี่ วรร้ใู นการเขียน postcard
คาขน้ึ ตน้ ได้แกค่ าวา่ Dear, Hi, Hello
คาลงท้าย ไดแ้ กค่ าวา่ Love, Love and kisses, Lots of love
คาขน้ึ ตน้ และคาลงทา้ ยดงั กลา่ วจะตามหลงั ดว้ ยเคร่ืองหมาย comma (,) เสมอ
นอกจากน้ี บางครั้งยงั มกี ารใชส้ ญั ลักษณ์ XXX ซงึ่ มีความหมายวา่ kisses หรอื XOXO หมายถึง hugs
and kisses โดยมักจะใชใ้ นการลงทา้ ยจดหมาย อเี มลหรอื การสง่ ขอ้ ความ
2. นาเสนอการใช้คากรยิ า ride และ drive กับยานพาหนะชนดิ ตา่ ง ๆ เช่น ride a bike (ข่จี ักรยาน), drive
a
car (ขบั รถยนต์)
เราใช้คาว่า drive กบั ยานพาหนะทมี่ ี 4 ลอ้ ข้ึนไป เช่น รถยนต์ รถโดยสารประจาทาง รถบรรทกุ
หรอื รถไฟ
ส่วนคาวา่ ride เราใช้กบั ยานพาหนะทีม่ ี 2 ล้อ หรือสิ่งทเ่ี ราสามารถนงั่ อยูบ่ นน้ัน เช่น มา้ จกั รยาน
หรือสกตู๊ เตอร์
ตัวอย่าง I ride a bike to school every day.
My father drives a car to work every day.
ขอ้ ควรจา: เม่อื เราเปน็ ผูโ้ ดยสาร ไมไ่ ด้เปน็ คนขบั เราใช้ ride เช่น She rides the bus to school.
นอกจากโดยสารยานพาหนะแล้ว การเล่นเคร่อื งเลน่ ต่าง ๆ ในสวนสนกุ กส็ ามารถใชค้ าวา่ ride
ได้เช่นกนั เช่น Millions of people ride roller coasters every year.
ข้ัน Practice
1. หนังสือเรียน หนา้ 34 Ex. 12 ครใู หน้ ักเรยี นดรู ูปภาพท่ใี หม้ าและบรรยายภาพดงั กล่าว โดยครพู ดู วา่
Look at the pictures. What are they doing? จากนัน้ ครูอา่ นคาสง่ั และอธบิ ายภาระงานวา่ ให้
นักเรยี น
อา่ นขอ้ ความทใี่ หม้ า ซ่ึงเป็นขอ้ ความในโปสการด์ และเลือกคาตอบท่ีสอดคลอ้ งกบั รปู ภาพ
เมื่อนกั เรียนทาเสรจ็ แล้ว ครูเปิด CD โดยหยุด CD เป็นระยะ ๆ เพอื่ ให้นักเรียนตรวจคาตอบของตนเอง
สุดท้ายครูสุ่มเรียกใหน้ ักเรยี นอา่ นประโยคในโปสการด์ คนละ 1 ประโยค เพ่อื ตรวจคาตอบของ
นักเรยี นอกี คร้ัง ต่อมาครเู ปิด CD เพอ่ื ให้นกั เรียนฝึกอ่านออกเสียงตาม CD พรอ้ มกันและทลี ะคน
230