The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Panudej Somrit, 2022-09-14 07:30:06

อ14101

อ14101

S2: She watches a film.
เสรจ็ แล้วครูสุ่มเรียกนกั เรยี น 3-4 คู่ พดู ใหเ้ พ่ือนฟังอกี ครั้ง
2. นาเสนอวลไี ด้แก่ play the piano (เลน่ เปียโน), go to the theatre (ไปดหู นัง), go to bed (เข้านอน)
โดย
ครูเขยี นวลีบนกระดานแลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกันเดาความหมาย ต่อมาครูสอนนกั เรยี นลงเสียงหนักในคา
ท่มี ีมากกวา่ 1 พยางค์ ดงั นี้

piano theatre

เราจะใช้ the นาหน้าเคร่อื งดนตรี เช่น the guitar, the piano, the violin

favourite อา่ นวา่ /ˈfeɪ.vər.ɪt/ คาน้ีสามารถสะกดได้ 2 แบบ คือ แบบองั กฤษ (favourite) และ
แบบอเมรกิ นั (favorite) ซ่ึงจะตดั u ออกไป

ขั้น Practice
1. หนังสือเรียน หนา้ 46 Ex. 12 ให้นักเรยี นปดิ บทอ่านด้านซ้าย และครอู ธบิ ายวา่ นักเรยี นจะไดฟ้ งั

เร่ืองราวในชวี ติ 1 วนั ของนักรอ้ งทม่ี ชี ่อื เสียงคนหนึง่ ท่มี ีช่อื วา่ Helen Sanders จากนน้ั ครเู ปิด CD ให้
นกั เรียนฟงั และจับคู่นาฬกิ ากบั ประโยคทใ่ี ห้มา ครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรยี นมาเขียนบนกระดาน เสรจ็
แลว้ ใหน้ ักเรียนอา่ นบทอ่านดา้ นซ้ายอยา่ งรวดเรว็ เพอื่ ตรวจคาตอบ ครรู วบรวมคาตอบจากนักเรียนและเฉลย
คาตอบทีถ่ ูกต้องบนกระดาน ครูถามนักเรียนวา่ นกั เรยี นตอบคาถามจากการอา่ นถูกมากกว่าการฟังกี่ขอ้

1c 2a 3e 4b 5d

2. ครูถามคาถามเก่ยี วกบั เวลาที่ Helen ทากิจกรรมต่าง ๆ เชน่
T: What time does Helen Sanders get up?
Ss: She gets up at 7 o’clock.

จากนนั้ ใหน้ ักเรียนจบั คกู่ นั ฝกึ พดู ถาม-ตอบ
3. ครเู ปดิ CD ใหน้ ักเรยี นอา่ นเนื้อเร่ืองตาม CD อีกคร้งั จากน้ันครูสุ่มเรยี กนกั เรยี น 2-3 คน อา่ นเนอื้ เรอ่ื ง

คนละ 2-3 บรรทดั

331

ขนั้ Production
1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 46 Ex. 13 ใหน้ ักเรยี นนาภาพนกั รอ้ งทนี่ ักเรียนชืน่ ชอบทน่ี ักเรียนเตรยี มมาจากบ้าน

มาแสดง จากน้ันครถู ามนกั เรยี นวา่ Who is your favourite singer? ครใู หน้ ักเรียนแสดงภาพและพูด
แนะนานักรอ้ งทีน่ ักเรียนชนื่ ชอบด้วยประโยค My favourite singer is … . ตอ่ มาครอู า่ นประโยคใน
กรอบคาพดู และให้นกั เรยี นอ่านตาม แล้วใหน้ ักเรยี นเขียนบรรยายกิจวตั รประจาวนั ของนักร้องทตี่ นเอง
นามา ครบู อกวา่ ใหน้ ักเรียนสมมตขิ อ้ มูลขน้ึ มากไ็ ด้ เสรจ็ แลว้ ครูให้นักเรยี นตรวจทานความถูกตอ้ ง
ทงั้ เร่ืองตัวสะกด ไวยากรณ์ และเครอื่ งหมายวรรคตอน แลว้ จับคกู่ ับเพ่ือน ผลัดกันพดู บรรยายใหเ้ พ่ือน
ฟัง สดุ ทา้ ยครูขออาสาสมัครออกมาพดู นาเสนอหนา้ ชน้ั กอ่ นพดู ครแู นะนาให้นกั เรียนกล่าวทักทาย
เพ่อื นในชัน้ เช่น Hi. หรอื Hello, everyone.

Advanced Classes:
ครเู ปิดคลปิ วิดีโอชอ่ื This is Britain food จากเวบ็ ไซต์ตอ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=aKbIilKwJwg
จากนัน้ ครูถามคาถามและใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ เช่น What time do they have lunch?
What do they eat? What day do they go to the supermarket?

2. หนงั สือเรียน หน้า 51 หัวขอ้ Portfolio ครูใหน้ กั เรียนดภู าพ แลว้ ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั กิจวัตรประจาวัน
เพื่อเป็นแนวทางในการเขยี นเรยี งความ เชน่
T: What time do you get up?
S1: I get up at 6 o’clock.
T: What time do you have a shower?
S1: I take a shower at 7 o’clock?
T: What time do you have breakfast?
S1: I have breakfast at 7 o’clock.
T: What time do you go to school?
S1: I go to school at 8 o’clock.
ใหน้ ักเรยี นพูดตอบและเขียนข้อมลู ลงในสมุด จากนน้ั ครอู ธบิ ายภาระงานวา่ ให้นักเรยี นเขียนกจิ วตั ร
ประจาวนั ของตนเองโดยใชค้ าตอบที่ตนเองจดไว้ พร้อมทง้ั วาดภาพประกอบให้สวยงาม เสร็จแล้ว
ครูสุ่มเรยี กนกั เรียนออกมารายงานคาตอบใหเ้ พือ่ นฟงั

332

(ตวั อยา่ ง)
I get up at six o’clock. I take a shower and I have breakfast at seven
o’clock. I go to school at eight o’clock. At twelve o’clock I have lunch.
At three o’clock school finishes and I go home. I do my homework at
five o’clock and then I play games on my computer. At eight o’clock
I have dinner. I go to bed at ten o’clock.

3. ใหน้ ักเรยี นไปทากิจกรรมในแบบฝกึ หดั หนา้ 39 Ex. 13 เปน็ การบ้าน

2 3 4  5 6

I watch TV every day.

I talk to my friends on the phone every day.

I play basketball every day.

7. การวดั และประเมินผล

วิธกี ารวดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมนิ การเขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั แบบประเมินการเขียน ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
กจิ วัตรประจาวนั ของตนเอง
ระดับคุณภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝกึ หัด (Workbook)/ ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์

ประเมินการพดู ใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั กิจวตั ร ประเมินการพูด

ประจาวนั ของนักรอ้ งทช่ี นื่ ชอบ

สังเกตพฤตกิ รรมท่บี ง่ ชดี้ า้ น แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั

ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทางาน พึงประสงค์

8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 ภาพนักแสดงหรือศิลปินท่ีมชี ื่อเสียง
8.5 อนิ เทอร์เนต็

333

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 Let’s sing!

เวลา 1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- พดู ขอและให้ข้อมลู เกีย่ วกับกจิ วตั รประจาวันได้
- พูดแสดงความตอ้ งการได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อยา่ งมเี หตุผล
ตวั ช้วี ดั
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกล่มุ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพูด

เข้าจงั หวะถูกต้องตามหลกั การอ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก
และ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์

ง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง เพอื่ น และครอบครัว
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชีว้ ดั
ต 2.1 ป.4/3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะกับวัย
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกตอ้ ง
ตัวชีว้ ัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อักษร คา กล่มุ คา ประโยค และข้อความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

334

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม

ตวั ชว้ี ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเป็นเครือ่ งมอื พื้นฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี
และการแลกเปล่ยี นเรยี นรูก้ ับสังคมโลก
ตวั ชว้ี ัด
ต 4.2 ป.4/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศัพท์ สานวนและโครงสรา้ งท่ีใชใ้ นการขอและให้ข้อมลู เก่ียวกับกจิ วตั ร

ประจาวันและความตอ้ งการ ชว่ ยใหพ้ ูด/เขียนสอื่ สาร เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษา และใช้ภาษาใน
การสบื ค้นและรวบรวมข้อมลู ไดอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure:This is the time I go to school, it’s eight o’clock in the morning.

What do you do on Monday? I play the piano.

Vocabulary: Days of the week, meals, wake up, get up, go to school,

play basketball, o’clock, break, school, bed, favourite,

singer, theatre

Pronunciation: ออกเสยี งคาท่ีมี sh ประกอบ

Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ชีวติ ประจาวันและความตอ้ งการ

2) Language Skills

Speaking: พดู ขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั กจิ กรรมและความตอ้ งการ

Writing: เขียนนาเสนอผลการสารวจ

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ใี ช้ในการส่ือสาร

335

- ทักษะการสารวจค้นหา
- ทักษะการรวบรวมข้อมลู
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ขน้ั Warm Up

1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี น Good morning. How are you doing? จากนน้ั สุ่มเรยี กนกั เรียน 5-6 คน พดู

ตอบ

โดยใช้คาตอบท่ีตา่ งกนั เช่น

T: How are you doing?

S1: I’m great.

T: How are you doing?

S2: I’m not OK. etc.

2. ทบทวนการแนะนาตนเอง โดยครเู ขยี นคาถามต่อไปน้ีบนกระดาน

- What’s your name?

- How old are you?

- Where do you live?

จากนัน้ ครูขออาสาสมคั รออกมายืนหนา้ ช้นั 1 คน เพ่ือตอบคาถามดงั กล่าว เช่น

T: What’s your name?

S1: My name is Somchart Rakthai.

T: How old are you?

S1: I’m nine years old.

T: Where do you live?

S1: I live in Nontaburi.

เสร็จแล้วครใู หน้ ักเรียนแต่งประโยคแนะนาตนเองโดยใช้คาถามบนกระดานเปน็ แนวทาง เมื่อ

นกั เรยี นฝึกพูดจนคล่องแล้ว ครสู ุ่มเรยี กนกั เรียน 5-6 คน ออกมาพูดแนะนาตนเองหน้าช้นั โดยกอ่ น พูด

แนะนาตนเอง ครกู ระตนุ้ ให้นกั เรยี นกลา่ วทักทายเพอื่ นในชน้ั ดว้ ย เช่น

Good afternoon, everyone. My name is Thongchai Rattanabundit. I am ten years old.

I live in Bangkok.

336

3. ทบทวนคาศพั ท์เก่ยี วกับเวลาและกจิ วตั รประจาวนั เชน่ breakfast, lunch, dinner, break, basketball,
singer, theatre ด้วยการเล่นเกม Invisible Man โดยครแู บง่ นกั เรยี นเป็น 2 ทีม ครเู ลือกคาศพั ทม์ าครัง้ ละ
1 คา แล้วขีดเส้นตามจานวนตัวอกั ษรของคาศัพทแ์ ตล่ ะคานน้ั เชน่ คาวา่ breakfast ครูขีด 9 ขดี ดงั น้ี
__ __ __ __ __ __ __ __ __ จากนน้ั ครวู าดภาพคนอยา่ งงา่ ยบนกระดาน 2 ภาพ เพือ่ เปน็ ตวั แทนของ
แตล่ ะทมี โดยประกอบด้วยหัว ตวั แขนซา้ ย แขนขวา ขาซ้ายและขาขวา แล้วใหน้ กั เรยี นแต่ละทีมผลดั กัน
ทายตัวอักษร ถา้ ทายถูกครูจะลบอวัยวะออก 1 สว่ น ทีมใดทคี่ รูลบอวัยวะออกหมดกอ่ นเปน็ ทีมท่ีชนะ

4. ทบทวนโครงสรา้ งที่ใชข้ อและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมทท่ี าในวนั ตา่ ง ๆ ของสปั ดาห์ โดยครูสุ่มเรยี ก
นกั เรียน 1 คน ออกมาตอบคาถามครูทีห่ น้าช้ัน เชน่
T: Ken, what do you do on Sundays?
S1: I watch TV with my brother.
T: What time do you watch TV?
S2: I watch TV at seven o’clock.
เสรจ็ แลว้ ครูให้นกั เรยี นคนทอี่ อกมายืนหนา้ ชนั้ ถามคาถามเพ่ือน เชน่
S1: Anne, what do you do on Saturdays?
S2: I go to the cinema.
S1: What time do you go to the cinema?
S2: I go to the cinema at five o’clock.

5. ทบทวนการใช้ in the morning, in the afternoon, in the evening, at night โดยครพู ดู ถาม-ตอบ
กบั

นักเรียนเกยี่ วกบั กิจกรรมทที่ า เช่น
T: What do you do in the morning?
S1: I have breakfast and have piano lessons.
T: What do you do in the evening?
S1: I have dinner and watch TV.

ขั้น Presentation

1. ครูเขียนคาต่อไปน้ีบนกระดาน

ship sheep shower shark shirt

fish dish wash brush finish

ครูอธิบายวา่ เสียงตวั อักษร sh ในคาเหล่านอ้ี อกเสียงเป็น /ʃ/ โดยครอู อกเสียงให้นักเรียนฟัง แล้วให้

นกั เรียนทาตาม ดว้ ยการห่อรมิ ฝีปากยนื่ ออกไปแลว้ ทาเสียง Shhhhhh เหมือนเวลาที่เราต้องการให้คนอนื่

เงียบ ครูออกเสยี งให้นักเรยี นฟังอกี ครัง้ และใหน้ ักเรยี นฝกึ ออกเสียงดว้ ยตนเองจนคล่อง เสร็จแล้วครู

337

สุม่ เรียกนกั เรยี น 5-6 คน อา่ นออกเสียงคาศพั ทใ์ ห้เพอื่ นในช้ันฟงั ครูถามนกั เรียนว่า เสียงนมี้ ใี น
ภาษาไทยหรอื ไม่ ถา้ นกั เรียนบอกเสียง /ช/ ครอู อกเสียงให้นักเรียนฟงั และสงั เกตริมฝีปากครรู ะหวา่ ง
เสียง /ช/ และ /ʃ/ เช่น

ช้าง ship
เชดิ shirt
2. ครูนาบัตรภาพอาหารทนี่ กั เรยี นเคยเรียนมาแลว้ มาแสดงทีละภาพ เช่น fish, salad, pizza, burger,
chicken, rice, sausage, egg, bread, milk ครอู าจสอนคาศพั ท์เพมิ่ เตมิ เช่น noodles (กว๋ ยเตยี๋ ว) แล้ว
ให้
นกั เรยี นบอกคาศัพท์ จากน้นั ครสู นทนากบั นักเรยี น 1 คน เกี่ยวกบั อาหารท่ีต้องการรับประทานในมอื้
ท่กี าหนด เชน่
T: What do you want for breakfast?
S1: I want milk and bread, please.
T: What do you want for lunch?
S: I want noodles.
T: What do you want for dinner?
S: I want rice and chicken.
ครูถามนกั เรยี นว่า want มคี วามหมายวา่ อยา่ งไร (ตอ้ งการ) จากนนั้ ครสู มุ่ ถามนักเรียนหลาย ๆ คน
พูดบอกอาหารทต่ี อ้ งการรับประทาน เสรจ็ แลว้ ครใู ห้นกั เรียนจับคู่ฝกึ พดู ถาม-ตอบกนั ครูเดินสงั เกต
เพื่อใหค้ าแนะนาทจี่ าเป็น

ครสู ามารถเขา้ ไปดาวนโ์ หลดบัตรภาพอาหารไดท้ ี่
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/food-flashcards

ขั้น Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 47 หวั ข้อ Sound Spot ครเู ขยี นประโยค A big fish is in the dish. บนกระดาน
ครนู า

นักเรียนอ่านประโยคพรอ้ มกัน 1 ครัง้ จากนน้ั ครสู มุ่ เรยี กนกั เรยี น 6-7 คน อา่ นประโยคบนกระดาน
ครสู ังเกตวา่ นกั เรียนออกเสียงคาท่ีประกอบดว้ ย sh ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ แลว้ ครเู ปดิ CD เสยี ง /ʃ/ ให้นักเรยี น
ฟังและฝึกออกเสยี งตามหลาย ๆ คร้งั

338

A big fish is in the dish.

กิจกรรมเพมิ่ เตมิ

ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ ออกเสยี งคาศพั ทท์ ่มี ี sh ประกอบเพม่ิ เติม โดยเขียนประโยคบนกระดาน

She shops for a shirt. She shops for a dish.

She shops for a brush. She shops for sheep.

ครอู ธิบายความหมายของ shop for วา่ หมายถงึ ไปซ้ือของ

กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ

ครูเปดิ คลปิ วดิ ีโอใหน้ ักเรยี นฝกึ ร้องเพลงเก่ยี วกบั คาศัพท์ทม่ี ี sh ประกอบจากเว็บไซต์

https://www.youtube.com/watch?v=HfMtsRVZWfE

หรือให้นกั เรียนฝึกร้องดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น sh sound หรอื ช่ือคลปิ

Digraphs | Let's Learn About the Digraph sh | Phonics Song for Kids | Jack Hartmann

ใหน้ กั เรียนเขา้ ไปเปิดดดู ้วยตนเองที่ www.youtube.com

2. หนังสือเรยี น หน้า 48 Ex. 15 ครูใหน้ ักเรยี นดูภาพประกอบในหนงั สือเรยี น แล้วพดู บอกนกั เรียนวา่

Look at Tom! What does he do at 8 o’clock? จนได้คาตอบวา่ He goes to school. ครูทา

กิจกรรม

เชน่ เดยี วกันนก้ี บั ตัวละครอื่น ๆ ดว้ ย

3. ครูเปดิ CD ให้นักเรยี นฟงั และอา่ นเนื้อเพลงตาม 1 รอบ จากนนั้ ครูเปดิ CD อีกคร้ัง เพอื่ ให้นกั เรยี นฝกึ

รอ้ งตามเปน็ จงั หวะพรอ้ มกัน หรือปรบมือเข้าจังหวะเพื่อความสนุกสนาน

4. หนังสือเรียน หนา้ 48 Ex. 16 ครแู บ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุม่ จากน้ันครอู ธบิ ายภาระงานวา่ ใหน้ ักเรยี น

แตง่ เพลงเกย่ี วกบั กิจกรรมท่ีนักเรียนทาในแต่ละชว่ งเวลา โดยใชเ้ นอ้ื เพลงใน Ex. 15 เปน็ ตัวอยา่ ง

เสรจ็ แล้วครูใหน้ ักเรยี นซ้อมรอ้ งเพลงจนคลอ่ ง แลว้ ออกมายนื ร้องเพลงใหเ้ พื่อนฟงั ท่หี น้าช้นั

5. ครบู อกนกั เรียนทง้ั 4 กลมุ่ เดิมวา่ ครูจะมอบหมายเนือ้ เพลงในหนังสือเรยี น หนา้ 48 Ex. 15 แต่ละทอ่ น

ใหแ้ ต่ละกลุ่มไปฝกึ รอ้ งจนคล่อง จากน้ันครูเปิด CD โดยก่อนเล่น CD ครบู อกนกั เรียนว่า เมื่อเพลงถึง

ท่อนของกลมุ่ ใด ใหน้ กั เรยี นกลุ่มนัน้ รอ้ งทอ่ นของกล่มุ ตนเอง

6. หนงั สือเรยี น หนา้ 47 Ex. 14 ครอู ่านคาสงั่ Listen. Play the game. และอ่านวลใี นกรอบให้นกั เรียน

ฟงั

จากนน้ั ครเู ปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟงั และอ่านตาม แลว้ ครแู บง่ นกั เรยี นเป็น 2 ทีมเพอื่ เลน่ เกมทายกิจวตั ร

ประจาวัน โดยก่อนเริ่มเลน่ เกมครทู บทวนประโยคทีใ่ ชใ้ นการเล่นเกม เช่น Start. It’s your turn.

My turn. จากนนั้ ครอู ธบิ ายกตกิ าการเลน่ เกมวา่ ให้แตล่ ะทมี เลือกวนั มา 1 วัน แล้วให้นกั เรียนถามครู

339

โดยใช้โครงสรา้ ง Do you…? ครเู ขยี นคาตอบไวใ้ นกระดาษ เมอื่ มีนกั เรียนตอบถูก ครแู สดงกระดาษให้

นกั เรยี นดู ทมี ทีท่ ายถูกได้ 1 คะแนน ทมี ทไ่ี ด้คะแนนสูงสดุ เป็นทมี ที่ชนะ

ตัวอย่าง T: Which day do you want?

Team A: Friday.

T: What do I do on Fridays?

Team A: Do you watch TV?

T: No, I don’t.

Team A: Do you go to the cinema?

T: Yes, I do.

Team A: What time do you go to the cinema?

T: At 7 o’clock.

A: What do you do on Monday?
B: I play the piano.
A: What time do you play the piano?
B: At four o’clock.

ครูเขียนคาถาม What do you want to do? บนกระดาน ครูให้นกั เรยี นอ่านออกเสียงตามครู 2-3 ครง้ั
ครถู ามวา่ คาถามนห้ี มายความวา่ อย่างไร (คณุ ตอ้ งการจะทาอะไร) จากนน้ั ครูสุม่ เรยี กนกั เรียนหลาย ๆ
คน พดู ตอบคาถามนี้ โดยใชโ้ ครงสรา้ ง I want to + คากรยิ า. ครแู นะนาให้นกั เรียนใช้วลีในหนงั สือเรียน
หน้า 47 Ex. 14 หรอื วลอี น่ื ๆ ที่นักเรยี นเคยได้เรยี นมา เช่น ride a bike, walk the dog, wash the
dog,
go to the park, eat pizza, listen to music ครยู ้าวา่ หลงั to จะต้องตามดว้ ยคากริยา

T: What do you want to do?
S1: I want to play the piano.
จากน้นั ครใู ห้นกั เรียนจับคฝู่ กึ พดู ถาม-ตอบเก่ยี วกบั ส่งิ ที่ตอ้ งการทา

ขน้ั Production
1. ใหน้ ักเรียนแบ่งกล่มุ กล่มุ ละ 6-8 คน ใหน้ กั เรียนสารวจกจิ กรรมท่สี มาชกิ ในกลมุ่ ต้องการทา โดยถาม

คาถาม What do you want to do? ครใู หเ้ วลาแตล่ ะกล่มุ เลอื กกิจกรรมมากลุ่มละ 6 ชนดิ เพอื่ เปน็
ตัวเลอื ก

ให้สมาชกิ เลอื กตอบ จากน้นั ใหห้ วั หนา้ กลมุ่ ถามคาถามและเลขากลุม่ บันทึกคาตอบ แล้วสมาชกิ ในกลมุ่

340

ช่วยกนั ทาแผนภมู ิแท่ง เพอื่ นาเสนอข้อมูลและเขียนบรรยายผลการสารวจ โดยครูเขียนตวั อยา่ งและ
อธิบายวิธีการทาแผนภูมแิ ท่งแบบง่าย ๆ ให้นักเรียนดู ดังน้ี

5 Kevin Jessica play play basket- go swim-
4 Jay football ball ming
3 Mick go to the
2 Anne cinema (ตัวอยา่ ง)
1 Alex watch TV

ride a bike

5 Kwanjai go to the Sompong Lada go swim-
4 Araya cinema Weerachai ming
3 play
2 Preecha watch TV football Thana
1 Nalinee
play basket-
ride a bike ball

In our group, three people want to play basketball. Two people want to ride a bike.
Two people

want to watch TV. Only one person wants to play football. No one wants to go
swimming and

go to the cinema.
2. ครอู ธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานกลมุ่ ค้นควา้ ขอ้ มลู ในอินเทอรเ์ น็ตเกีย่ วกบั คาทีม่ ี sh ประกอบ มา
กลุ่มละ 10 คา โดยใหน้ กั เรียนจดั เรียงลาดบั คาตามตวั อกั ษร จากนั้นทาโปสเตอร์ พรอ้ มตกแตง่ ให้

สวยงาม เสรจ็ แล้วใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ส่งตวั แทนออกมาพูดนาเสนอคาศพั ทข์ องกลมุ่ ตนเองทีห่ นา้ ชน้ั
3. ให้นักเรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหัด หน้า 40 Ex. 14 เป็นการบ้าน

2a 3d 4b

341

7. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์

ประเมินช้ินงานการสารวจความ แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้

ตอ้ งการ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ชิ้นงานโปสเตอรค์ าศพั ท์ แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดับคุณภาพ พอใช้

ทีม่ ี sh ประกอบ ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝึกหดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

สังเกตการออกเสยี งคาศพั ท์ แบบประเมนิ การออกเสียง ระดับคณุ ภาพ พอใช้

ผ่านเกณฑ์

สังเกตพฤติกรรมบ่งชี้ด้าน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดับคุณภาพ พอใช้

ใฝเ่ รียนรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณ์ทาโปสเตอร์
8.5 อินเทอร์เน็ต

342

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 8 School days!

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- พูดและเขียนให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ชีวติ ในโรงเรยี นของตนเองได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งท่ีฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองตา่ ง ๆ โดย

การพดู และการเขียน
ตัวชวี้ ัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกับตนเองและเรอื่ งใกล้ตวั
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใชไ้ ด้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวช้ีวัด
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วันสาคญั /งานฉลอง และชวี ติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวช้วี ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรแู้ ละเข้าใจคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั ชวี ติ ในโรงเรยี น ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจเรือ่ งท่อี า่ น และสามารถเชือ่ มโยง

ความสัมพันธ์ของสิง่ ท่ีปรากฏในเน้ือหาท่ีได้อา่ น เขา้ ใจชวี ติ ความเปน็ อยูข่ องเจ้าของภาษาและพดู /เขียนสื่อสาร
ในชวี ิตประจาวนั ได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม

343

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: All the pupils at Melissa’s school wear a school uniform.

Melissa has Geography every Tuesday and Thursday.

Vocabulary: Days of the week, meals, daily activities, o’clock, break,

school, bed, favourite, singer, theatre, school uniform, bus, computer lab, school team,

subject, geography

Pronunciation: ออกเสียงคาท่มี ี ch ประกอบ

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกบั ชีวิตในโรงเรียนของตนเองและผู้อื่น

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Writing: เขยี นให้ข้อมลู เกีย่ วกับชีวิตในโรงเรียนของตนเอง

3) Culture: ชวี ติ นกั เรยี นในประเทศองั กฤษ, รถโดยสารสองชั้น (double decker)

ในประเทศองั กฤษ, อาหารกลางวัน, เครอื่ งแบบนักเรียนในประเทศ

องั กฤษ และสหรัฐอเมริกา

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ที่ใชใ้ นการสื่อสาร

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขนั้ Warm Up

1. ทบทวนการออกเสยี งคาท่มี ี sh ประกอบ โดยเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

ship sheep shower shark shirt

fish dish wash brush finish

344

จากนนั้ ครูขออาสาสมคั ร 3 คน ออกมาอา่ นประโยคให้เพื่อนฟัง โดยให้แต่ละคนอา่ นประโยคละ 3 ครัง้
คร้ังที่ 2 และ 3 ใหน้ กั เรียนเพม่ิ ความเรว็ ในการอา่ นขึ้นเรือ่ ย ๆ นักเรยี นคนใดอ่านประโยค ดงั กล่าวได้
ชัดเจนมากท่ีสดุ เป็นผู้ชนะ

She likes sheep but she doesn’t like sharks.
She brushes her teeth and washes her hair every day.
2. ครูเขียน school days บนกระดาน ใหช้ ว่ ยกนั ระดมความคดิ บอกคาศพั ท์เก่ยี วกบั ชวี ิตในโรงเรียน เช่น
uniform, subject, school bus, teacher, student เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบมาเขยี นบนกระดาน
ใน
รปู แบบ mind map เช่น

uniform subject
blackboard

school

canteen school bus

student teacher

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศัพทเ์ กีย่ วกบั วชิ าตา่ ง ๆ ได้แก่ geography (ภมู ิศาสตร)์ , physical education (พลศกึ ษา),

history (ประวัติศาสตร์), Information Technology (เทคโนโลยสี ารสนเทศ), drama (ละคร) และ
French (ภาษาฝรง่ั เศส) โดยเขยี นคาศพั ท์บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกันบอกความหมายของคาศพั ท์

กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ
ครูให้นกั เรยี นเล่นเกมฝกึ ฝนคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั วิชาตา่ ง ๆ ท่ีเวบ็ ไซต์
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/word-games/hangman/school-subjects
2. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สถานท่ี เชน่ computer lab (หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร)์ , computer room
(หอ้ งคอมพวิ เตอร์), canteen (โรงอาหาร), gymnasium (โรงยิม), football field (สนามฟตุ บอล), staff
room (หอ้ งพักครู), library (ห้องสมุด), first aid room (ห้องปฐมพยาบาล), toilet (หอ้ งนา้ ) โดยเขยี น
คาศพั ท์บนกระดานแลว้ พดู บอกความหมาย

345

3. นาเสนอคาศัพท์เกีย่ วกับบุคคลในโรงเรียน ไดแ้ ก่ teacher (ครู), student (นักเรียน), pupil (เด็ก
นกั เรยี น โดยเฉพาะในโรงเรียน), headteacher (ครูใหญ่), caretaker (ภารโรง) โดยบอกชือ่ บุคคลท่ี
นกั เรียนรูจ้ กั ในโรงเรียน เพือ่ ใหน้ ักเรียนเดาความหมาย

ครูอธิบายคาศัพทท์ ่ชี าวองั กฤษและอเมริกันใช้ตา่ งกัน ดังน้ี

BrE AmE

headteacher principal

caretaker janitor

4. นาเสนอคาศัพทอ์ ่ืน ๆ เชน่ uniform (เครื่องแบบ), school team (ทมี โรงเรยี น), subject (วชิ า) โดยครู
เขียนคาศัพทบ์ นกระดานแลว้ พดู บอกความหมาย

5. ทบทวนคาศัพทท์ ไี่ ด้เรยี นไปแล้ว เช่น geography, canteen, gymnasium, teacher, student ดว้ ยการ
แบง่

นกั เรยี นเป็น 2 ทมี เพื่อเล่นเกม Invisible Man โดยครูวาดภาพคน 2 คนบนกระดาน ซึ่งประกอบด้วยหวั
ตัว แขนซา้ ย แขนขวา ขาซา้ ย และขาขวา จากนน้ั ครูเลอื กคาศพั ท์มา 1 คา แลว้ ขดี เส้นใต้เท่าจานวน
ตัวอกั ษรในคา ใหแ้ ต่ละทมี ผลดั กนั พดู ตวั อักษรทค่ี ดิ ว่ามใี นคาศพั ท์ดงั กลา่ ว ถา้ ทมี ใดทายถูกตอ้ ง ครจู ะ
ลบอวัยวะออกครั้งละ 1 สว่ น ทีมใดท่คี รลู บอวยั วะจนหมดเป็นทีมทีช่ นะ
6. นาเสนอโครงสร้างทใี่ ชบ้ รรยายเกี่ยวกบั ชีวิตในโรงเรียน โดยครวู าดตารางบนกระดาน ดงั นี้

9.00-10.00 10.00- 11.00- 12.00- Lunch 14.00-
11.00 12.00 13.00 15.00
Monday English history science P.E. art
Tuesday geography science maths drama music
Wednesday English French history art
Thursday maths English science P.E.
Friday geography maths IT music
IT French
history

จากน้ันครูให้นักเรียนดตู าราง Look at the table. แล้วใหน้ ักเรยี นสังเกตคาว่า geography และพดู วา่
She has geography every Tuesday and Thursday. แล้วให้นักเรยี นพดู ตาม ครชู ี้ไปที่ P.E. แลว้ ให้
บอกครวู ่า She has P.E. every Monday and Thursday. ครทู ากิจกรรมเชน่ เดียวกันนีจ้ นครบทกุ วิชา

346

ต่อมาครูให้นักเรียนดูตารางอีกครั้งแลว้ พดู วา่ Look at the table again. What time does the first
class start? เพอื่ กระตนุ้ ใหน้ ักเรียนตอบวา่ The first class starts at 9 o’clock. ครูถามตอ่ วา่ What time
does the last class finish? เมือ่ ไดค้ าตอบวา่ The last class finishes at 3 o’clock.
7. ครูเขียนประโยคตอ่ ไปนี้บนกระดาน I go to school by bus. จากนน้ั ครูอธิบายวา่ I go to school by
bus. มีความหมายวา่ ฉนั เดินทางไปโรงเรียนดว้ ยรถโดยสารประจาทาง เมอ่ื นกั เรียนต้องการบอกว่า ตนเอง

เดนิ ทางโดยวธิ ใี ดจะใช้โครงสร้าง I go to school by _______. จากนน้ั ครูสุ่มถามนกั เรยี นแต่ละคนว่า
นักเรียนเดนิ ทางมาโรงเรยี นอย่างไร ครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรียนมาเขียนบนกระดานในรปู แบบ
mind map

by bike by on
bicycle foot/walk
by
motorcycle how to by car
get to
school

by bus

6. ครสู มุ่ เรยี กนกั เรียน 3-4 คน ตอบคาถามเก่ียวกบั ชวี ติ ในโรงเรียนตามความเป็นจริง เช่น
T: What time does your school start/finish?
S1: My school starts at 8 o’clock. My school finishes at 3 o’clock.

T: What time does your school finish?
S2: My school finishes at 3 o’clock.

T: What subjects do you have at school?
S2: I have maths, science, English, art, music, history and P.E.
T: What sports do you play at school?
S2: I play basketball and volleyball.

T: Do you wear a school uniform?

347

S3: Yes, I do.
T: What time do you have lunch?
S3: I have lunch at 12 o’clock.
T: How do you get to school?
S3: I get to school by bike.

อาหารกลางวนั ในโรงเรียน ในภาษาอังกฤษเรียกวา่ school meal, school lunch หรอื บางครัง้
เรยี กว่า school dinner เนื่องจาก dinner ในภาษาอังกฤษจะหมายถงึ อาหารมือ้ หลกั ของวนั
โดยจะเปน็ ตอนกลางวนั หรอื ตอนเย็นก็ได้

dinner (n) = the main meal of the day, eaten either in the middle of the day or
in the evening
ท่ีมา: http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/dinner?q=dinner

ตวั อยา่ งเชน่ อาหารตามประเพณีของคนองั กฤษทรี่ ับประทานกันในวันอาทิตยต์ อนกลางวนั ท่ี
เรยี กวา่ Sunday roast บางคร้งั ก็เรยี กวา่ Sunday lunch, Sunday dinner หรือ Sunday
roast dinner โดยมกั จะประกอบไปด้วย เนือ้ ย่าง (roast beef) มนั ฝรั่งยา่ ง (roast potatoes)
ผัก (vegetable) และนา้ เกรวี (gravy)
เน่อื งจากในตอนกลางวนั คนองั กฤษและคนอเมรกิ นั มกั จะรับประทานเพยี งแค่แซนด์วชิ
ม้ือกลางวนั จึงไมใ่ ช่อาหารม้อื หลกั ของพวกเขา หลาย ๆ โรงเรยี นใน
ประเทศ องั กฤษและสหรฐั อเมรกิ ามักจะมีอาหารท่ีทาเสรจ็ แลว้ ให้
นักเรยี นได้รับประทานทโี่ รงเรียน แตน่ กั เรยี นบางคนก็มกั จะนาอาหาร
จากที่บ้านไปรับประทานเองใส่ลงในกล่องพลาสตกิ โดยเรยี กวา่ packed lunch ซ่ึงมักจะ
ประกอบไปด้วยแซนดว์ ชิ และผลไม้
ท่ีมา: http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/dinner?q=dinner

7. ครชู ี้ทภี่ าพทลี ะภาพในหนังสือเรยี น หน้า 49 Ex. 17 และถามคาถามเก่ยี วกบั ภาพ เช่น
T: Look at picture 1. Who is she?
Ss: She is a student/pupil.
T: Look at picture 2. What subject do children have at school?
Ss: They have geography.

348

T: Look at picture 3. What is it?
Ss: It is a bus.
T: Look at picture 4. Where are the children?
Ss: They are at the canteen.
T: Look at picture 5. Where is the girl?
Ss: She is at the computer lab/computer room.
T: Look at picture 6. What sport do they play at school?
Ss: They play football.

รถโดยสาร 2 ชน้ั ในประเทศอังกฤษ (double decker bus)
รถโดยสาร 2 ชนั้ เป็นสัญลักษณ์อย่างหน่งึ ของประเทศองั กฤษ เพราะมสี ีแดงทั้งคัน ประกอบ
ด้วยชั้นลา่ ง (lower deck) และชั้นบน (upper deck) ซึง่ บางรุน่ ดัดแปลงชัน้ 2 ให้เปดิ โลง่ เพือ่ ให้
ผูโ้ ดยสารไดช้ มทวิ ทศั นข์ องเมือง
ทม่ี า: https://en.wikipedia.org/wiki/Double-decker_bus

ขั้น Practice
1. หนังสอื เรยี น หน้า 49 Ex. 17 ครอู ธบิ ายภาระงานวา่ ใหน้ ักเรยี นดภู าพอกี คร้งั และอา่ นข้อความทง้ั หมด

แล้วให้เวลานักเรยี นเตมิ คาตอบในแต่ละข้อให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแล้วครอู ่านขอ้ ความแรกให้นกั เรยี นฟงั ซ่ึงมี
ตัวอยา่ งคาตอบใหแ้ ล้ว จากนน้ั ครูอ่านข้อความท่ี 2 ครรู วบรวมคาตอบจากนกั เรียน ครูทาเชน่ เดยี วกนั น้ี
กบั ข้ออ่นื ดว้ ย เสร็จแล้วครสู ุ่มเรยี กนักเรียนยนื ขน้ึ อ่านขอ้ ความในแต่ละขอ้ อกี ครัง้ เพ่ือตรวจคาตอบ

2 subject 4 lunch 6 school team
3 bus
5 computer lab

ต่อมาครูอาจถามคาถามนกั เรยี นเพอ่ื ทดสอบความเข้าใจนักเรยี น
เชน่ T: What does Melissa wear at school?

Ss: She wears a school uniform!
T: What is Melissa’s favourite subject?
Ss: Geography!
T: How does Melissa go to school?

349

Ss: By bus!

T: What time does Melissa have lunch?

Ss: At one o’clock! etc.

กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครเู ขียนคาว่า interesting (น่าสนใจ), fun (สนกุ ), easy (ง่าย), difficult (ยาก), boring (นา่ เบือ่ )
บนกระดาน และใหน้ กั เรยี นช่วยกันบอกความหมาย จากนน้ั ให้นักเรียนแตล่ ะคนพดู แสดง
ความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั วชิ าทเ่ี รยี นโดยใชค้ าคณุ ศพั ทเ์ หลา่ น้ี เชน่

S1: I think art is fun.
S2: I think geography is difficult.
S3: I think English is interesting.
S4: I think history is boring.
S5: I think maths is easy.

กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูให้นกั เรยี นดคู ลิปวิดีโอชอ่ื Schools in Britain แล้วตอบคาถามจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=OJgMtRlh3wA
ตัวอยา่ งเชน่

T: What’s the first class of the day?
Ss: It’s maths class.
T: How many children are there in a primary school class?
Ss: There are twenty-two children in a primary school class.
T: What language do most British students study?
Ss: Most British students study French.

2. ครูให้นักเรยี นจับคู่กัน ฝกึ พูดถาม-ตอบโดยใชค้ าถามต่อไปน้ี
- Where do you study?
- When does the school start?
- When does the school finish?
- Do you wear a school uniform?
- What do you study at school?
- What is your favourite subject?
- How do you get to school?

350

- What time do you have lunch?
- What do you do after school?
- What sport do you play?
เสรจ็ แลว้ ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น 3-4 คน ออกมารายงานผลการสารวจของตนเองหนา้ ชัน้

เครือ่ งแบบนักเรยี นในประเทศองั กฤษและอเมริกา
นักเรียนสว่ นใหญใ่ นประเทศอังกฤษจะแตง่ กายดว้ ยชุดนักเรียนไปโรงเรยี น ในขณะทีใ่ น
สหรฐั อเมรกิ าจะไม่นิยมแต่งเคร่ืองแบบนกั เรยี นไปโรงเรยี น แตจ่ ะใส่ชดุ ลาลองแบบสภุ าพ
มากกวา่
ที่มา: http://resources.woodlands-junior.kent.sch.uk/customs/questions/education/

uniform.html
http://schooluniforms.com/uniformsusa.html

ขั้น Production
1. แบบฝกึ หัด หน้า 41 Ex. 15 ครูอธบิ ายภาระงาน ใหน้ กั เรยี นเขยี นอีเมลถึงเพอ่ื นเพื่อเล่าเก่ยี วกบั ชวี ติ ใน

โรงเรียนของตนเอง โดยนาคาตอบทน่ี ักเรียนไดถ้ าม-ตอบกับเพ่ือนมาตอบ เสร็จแล้วครใู หเ้ วลานักเรียน
ตรวจทานความถกู ต้อง เช่น การสะกดคา ไวยากรณ์ เสร็จแล้วครสู ่มุ เรียกนักเรยี น 3-4 คน ออกมาอ่านท่ี
หนา้ ชน้ั

Hi Sasikarn,
My name is Weena. I study at Aksorn School. I go to school by bus. School starts
at 8 o’clock and finishes at 3 o’clock. I wear a uniform to school every day.
My favourite subject is science. I love it. I have it every Monday, Wednesday and
Friday. After school, I usually have dance lessons or piano lessons.
Write and tell me about your school.
Weena

351

7. การวดั และประเมนิ ผล

วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์

ประเมินการเขียนบรรยายเก่ยี วกับชีวติ แบบประเมินการเขียน ระดับคณุ ภาพ พอใช้

ในโรงเรยี นของตนเอง ผ่านเกณฑ์

ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝกึ หดั (Workbook)/ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

แบบทดสอบ

สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ดี า้ นใฝ่เรยี นรู้และ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

มงุ่ มัน่ ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

8. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนังสือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 อินเทอรเ์ นต็

352

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 9 Time zones in ASEAN countries

เวลา 2 ช่วั โมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- พดู บอกเวลาในประเทศอาเซียนได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทีฟ่ งั และอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นประโยค บทสนทนา และนทิ านงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู กึ
และ แสดงความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตัวชวี้ ัด
ต 1.2 ป.4/2 ใช้คาส่ัง คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งตา่ ง ๆ โดย

การพูดและการเขียน
ตัวชว้ี ัด
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของสงิ่ ต่าง ๆ ใกลต้ ัวตามท่ีฟงั หรืออ่าน
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ได้อยา่ งถูกต้อง
ตัวชวี้ ัด
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

353

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุม่ สาระการเรียนรู้อื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื และเป็น

พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน
ตัวช้ีวัด
ต 3.1 ป.4/1 คน้ คว้า รวบรวมคาศพั ทท์ เี่ กีย่ วข้องกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื และนาเสนอด้วย

การพดู /การเขยี น
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทัง้ ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม

ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขึน้ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเข้าใจเกี่ยวกบั เสน้ แบง่ เวลาในประเทศอาเซียน และคาศัพท์ท่ีเกย่ี วข้อง ชว่ ยใหเ้ ราเขา้ ใจวิถชี ีวิต

ของคนในภมู ภิ าคอาเซียนมากขึ้น

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: It is 7 o’clock in Thailand, but it is 8 o’clock in Singapore.

Vocabulary: time zone

2) Language Skills

Speaking: พดู บอกเวลาของประเทศต่าง ๆ ในภมู ภิ าคอาเซยี น

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Writing: เขยี นบอกเวลาของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซยี น

3) Culture: เสน้ แบง่ เวลาในภมู ภิ าคอาเซยี น

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ท่ีใชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการเชอ่ื มโยง
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

354

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

5.1 ใฝ่เรียนรู้ 5.2 มุ่งม่นั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขน้ั Warm Up

1. ครทู ักทายนกั เรียน How are you today? เมือ่ ไดค้ าตอบจากนักเรยี นแลว้ ครเู ดินไปท่โี ตะ๊ ของนักเรียน

แล้วพูดวา่ Can I have a pencil, please? จากนั้นครอู ธิบายวา่ เมื่อเราตอ้ งการขอสงิ่ ของจากผอู้ ืน่ เรา

จะใช้

โครงสรา้ ง Can I have ..., please? เม่ือเราไดร้ บั สง่ิ ของมาแล้วต้องกล่าวขอบคุณดว้ ยคาวา่ Thank you.

เสมอ และหากมคี นขอบคณุ เรา เราควรพูดวา่ You’re welcome. (ด้วยความยินดี) เสรจ็ แลว้ ครูสมุ่ เรยี ก

นกั เรยี น 4-5 คน พดู ขอส่งิ ของจากครู เช่น

S1: Can I have a pen, please?

T: Here you are.

S1: Thank you.

T: You’re welcome.

2. ทบทวนการพูดบอกเวลา โดยครูเขยี นตวั เลขต่อไปนี้บนกระดาน

07.00 11.00 08.00

06.00 09.00 10.00

เสรจ็ แลว้ ครชู ี้ที่เวลา 07.00 แล้วถามนกั เรียนว่า What time is it? เพื่อให้นกั เรียนตอบพร้อมกันวา่

It’s seven o’clock. จากน้นั ครูทากจิ กรรมเช่นเดยี วกนั นีก้ ับเวลาอน่ื ๆ จนครบ ครอู าจทบทวนอกี คร้งั

โดยการสุ่มเรียกนกั เรียนตอบทีละคน

ตอ่ มาครูให้นกั เรียนเลน่ เกม Naughts and Crosses หรือ Tic-Tac-Toe ซ่งึ มีวธิ กี ารเล่นเกมเหมือน OX

ของไทย โดยกอ่ นเลน่ เกม ครทู บทวน ประโยคท่ใี ช้ในการเล่นเกม เชน่ Whose turn is it? Your turn.

My turn. จากนั้นครแู บง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทีม แลว้ ครวู าดตาราง 9 ช่องบนกระดานและเขียนเวลาลง

ในแต่ละช่อง ให้แตล่ ะทมี ส่งตัวแทนออกมาเล่นเกม Rock, Paper, Scissors (เป่ายิงฉบุ ) เพ่ือหาว่าทมี ใด

จะได้เป็นผู้เลอื กชอ่ ง เม่ือเลอื กช่องแล้ว ให้นักเรยี นพูดบอกเวลาในชอ่ งดงั กล่าว ถ้าพูดไดถ้ กู ต้อง จะมี

สิทธ์ิทาเคร่ืองหมาย O หรือ X ทที่ ีมตนเองเลือก ทีมท่ีสามารถบอกเวลาได้ 3 ชอ่ งตดิ ตอ่ กันในแนวใด

กไ็ ด้ก่อนเปน็ ทมี ที่ชนะ ครูใหน้ ักเรียนเลน่ เกมอีก 2-3 คร้ัง จนนกั เรยี นสามารถพูดบอกเวลาได้คลอ่ ง

3. ครถู ามนักเรียนว่า รู้หรอื ไมว่ ่า ทาไมที่ประเทศไทยเปน็ ตอนกลางวัน แต่ในประเทศอ่นื บางประเทศ เช่น

สหรัฐอเมริกา แคนาดา และบราซิล เปน็ ตอนกลางคนื วนั น้นี ักเรียนจะไดเ้ รยี นรู้เกย่ี วกบั เรื่องน้ี

ขั้น Presentation

355

1. นาเสนอคาศพั ท์ทใี่ ชบ้ อกเวลา ไดแ้ ก่ half (ครึ่ง), quarter (1 สว่ น 4) โดยวาดภาพนาฬกิ าบนกระดาน

ครชู ้ีที่นาฬกิ าแล้วพูดวา่ It’s half past one. แลว้ อธิบายวา่ half แปลวา่
ครึง่ โดย half past ใช้บอกเวลาที่ผ่านมาแล้วครงึ่ ช่ัวโมง หรอื 30 นาที

ตอ่ มาครวู าดนาฬกิ าอกี 2 เรือน โดยใหเ้ รอื นแรกบอกเวลา 7.15 น. และอีก
เรอื นบอกเวลา 7.45 น. แลว้ บอกนักเรียนวา่ Look at the first clock. It’s
a quarter past seven. ให้นกั เรยี นพดู ตาม จากนนั้ ครูอธบิ ายวา่ a
quarter แปลวา่ 1 ใน 4 หรอื 15 นาที โดย a quarter past ... หมายความ
วา่ เวลาทผี่ ่านมาแล้ว 15 นาที

จากน้นั ครูชน้ี าฬกิ าบอกเวลา 7.45 น. แลว้ พูดว่า It’s a quarter to eight.
โดยครอู ธิบายวา่ หากเหลอื อกี 15 นาที จะครบ 1 ชวั่ โมง เราจะบอกเวลา
โดยใชส้ านวน a quarter to … หมายความว่า อกี 15 นาที จะถงึ เวลา ...

เสรจ็ แล้วครูเขียนเวลาบนกระดาน ดังนี้
8.30 4.30 6.45
10.15 9.45 1.15

จากน้นั ครูชีเ้ วลาและถามนกั เรยี นว่า What time is it? เพอ่ื ให้นักเรียนตอบโดยใช้ half past,
a quarter past, a quarter to เชน่

T: What time is it? (ชที้ เ่ี วลา 8.30)
Ss: It’s half past eight.
T: What time is it? (ชท้ี เี่ วลา 9.45)
Ss: It’s a quarter to ten.
คาตอบ: It’s half past eight., It’s half past four., It’s a quarter to seven.,

It’s a quarter past ten., It’s a quarter to ten., It’s a quarter past one.
2. ให้นักเรยี นอา่ นเรอื่ ง Time zones in ASEAN countries ในหนังสอื เรยี น หน้า 50 เมื่ออ่านจบแล้ว ครู
ถาม What’s time zone? เมือ่ ได้คาตอบวา่ เสน้ แบ่งเวลาแลว้ ครชู ี้ใหน้ ักเรียนดแู ผนที่ Time Zones of the

World และให้นักเรียนสังเกตวา่ เส้นแบง่ เวลาจะมีขนาดเทา่ ๆ กัน จากนน้ั ครูถามวา่ What shape is
the Earth? เมอ่ื ไดค้ าตอบวา่ It’s circle/round. แลว้ ครูอธิบายวา่ เนอื่ งจากโลกหมนุ รอบ

356

ดวงอาทิตย์ โลกจงึ ได้รบั แสงจากดวงอาทติ ยไ์ ม่เท่ากัน เม่อื ดา้ นหนง่ึ ได้รบั แสง อกี ดา้ นจะไมไ่ ด้
รับแสง แลว้ ครูอธิบายว่า
The sun shines on only one part of the Earth at a time. While the sun shines where
you live, it’s nighttime somewhere else. When you’re eating your breakfast cereal,
children in Paris are finishing the school day and children in Moscow are eating
dinner. Children in Bangkok are going to bed and children in Sydney, Australia are
getting up for the next day of school.
(ที่มา: http://easyscienceforkids.com/all-about-the-time-zone/)

ในการอธิบาย ครูนาลกู ปงิ ปอง 2 ลูก สมมติวา่ ลูกหน่ึงเปน็ ดวงอาทิตย์ อีกลกู หน่งึ เปน็ โลก
เพื่อใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจมากยง่ิ ขึ้น
ครูใหน้ กั เรียนนับเสน้ เวลาในแผนท่ใี นหนังสอื เรียน เม่อื ได้คาตอบวา่ 20 เส้นแลว้ ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ วา่
The Earth has different 24 time zones. จากน้ันครูถามนกั เรียนว่า How many time zones
are there in
ASEAN countries? เมอ่ื ได้คาตอบวา่ 4 แล้ว ครูถามนกั เรยี น เช่น
T: If it’s 6.30 in Myanmar, what time is it in Laos?
Ss: It’s 7 o’clock in Laos.
T: If it’s 7 o’clock in Thailand, what time is it in Malaysia?
Ss: It’s 8 o’clock in Malaysia.
T: If it’s 8 o’clock in Singapore, what time is it in Eastern Indonesia?
Ss: It’s 9 o’clock in Eastern Indonesia.

ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศทีม่ พี นื้ ที่มากท่สี ดุ ในภูมภิ าคอาเซยี น โดยสามารถ
แบ่งเป็นฝ่งั ตะวันตกซ่งึ เป็นทตี่ ั้งของเมืองหลวง คือ กรุงจาการต์ าร์ (Jakartar) ตอนกลางมี
เมืองสาคญั ชือ่ ว่า มากัสซาร์ (Makassar) และฝ่งั ตะวนั ออกมเี มอื งสาคญั ชอื่ ว่า มาโนควารี
(Manokwari) ซง่ึ ทั้ง 3 เขตน้ีมเี วลาแตกต่างกนั โดยเวลาของตอนกลางจะเรว็ กวา่ ฝัง่ ตะวันตก
1 ชว่ั โมง และฝ่ังตะวันออกจะเร็วกวา่ ตอนกลาง 1 ชวั่ โมง ดงั นน้ั ฝง่ั ตะวันออกเรว็ กวา่
ฝั่งตะวนั ตก 2 ชว่ั โมง
ทม่ี า:https://www.timeanddate.com/time/zone/indonesia

357

Time zone คอื สงิ่ ทใ่ี ชแ้ บง่ เวลาทวั่ โลก โดยอ้างอิงเวลาจากเวลามาตรฐานกรีนชิ (GMT:
Greenwich Mean Time) จุดอ้างอิงของเวลาสากลเชงิ พิกัดคือท่ลี องจิจดู ที่ 0° ท่ีตดั ผา่ น
Royal Greenwich Observatory ที่เมอื งกรีนิช ประเทศอังกฤษ
ท่มี า: https://th.wikipedia.org/wiki/เวลาสากลเชิงพิกดั

กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครเู ปิดคลปิ “มหศั จรรยแ์ ห่งเส้นแบง่ เวลา” หรอื คลิปวิดีโอชื่อ Time Zones ใหน้ ักเรียนเรยี นรู้
เกย่ี วกบั เสน้ แบง่ เวลาเพม่ิ เติมจากเว็บไซต์
https://www.youtube.com/watch?time_continue=112&v=m4BQGQufP7c
3. ครูนาเสนอโครงสรา้ งในการพูดบอกเวลา โดยครวู าดนาฬกิ า 2 เรอื นบนกระดาน เรอื นแรกบอก
เวลา 8 นาฬิกา และครเู ขยี น Thailand ไว้ใต้ภาพ ภาพท่ีสองบอกเวลา 9 นาฬกิ า และครเู ขยี น
Singapore
ไวใ้ ต้ภาพ จากนนั้ ครใู ห้นกั เรียนดภู าพแลว้ พูดประโยค It’s 8 o’clock in Thailand, but it’s 9 o’clock
in Singapore. และเขียนประโยคดงั กลา่ วบนกระดาน ครทู ากจิ กรรมเช่นเดียวกันนอ้ี ีก 2-3 ครั้งโดย
ยกตัวอยา่ งประเทศอน่ื เช่น Malaysia, Eastern Indonesia
ตวั อย่าง It’s 8 o’clock in Malaysia, but it’s 9 o’clock in Eastern Indonesia.

It’s 9 o’clock in Eastern Indonesia, but it’s 8 o’clock in the Philippines.

ข้ัน Practice
1. หนงั สือเรยี น หนา้ 51 Ex. 1 ครูอา่ นคาส่งั Read and answer the questions. หลงั จากนน้ั ครูถาม
นักเรยี น

ว่า If it’s seven o’clock in Myanmar, what time is it in Vietnam? ครูใหเ้ วลานักเรียนกลบั ไปดู
ภาพ

นาฬิกาในหนังสอื เรยี น หน้า 50 อีกคร้ัง แลว้ ตอบคาถามปากเปลา่ If it’s seven o’clock in
Myanmar,

it’s half past seven o’clock in Vietnam. ครทู าเชน่ เดียวกันนกี้ ับขอ้ ท่ีเหลอื เสร็จแล้วครใู ห้เวลา
นกั เรียน

เขยี นคาตอบลงในสมุดของตนเอง

358

1 It’s half past seven in Vietnam.
2 It’s nine o’clock in Singapore.
3 It’s five o’clock in Malaysia.

2. ใหน้ กั เรยี นจบั ค่กู ัน ผลดั กันถาม-ตอบเก่ียวกับเวลาในประเทศอาเซียน โดยครูเตรียมบตั รภาพธงชาติ

ของประเทศอาเซียนไว้ แลว้ ให้แต่ละคู่ออกมาเลอื กประเทศ โดยครกู ระตนุ้ ให้นักเรียนพูดขอบตั รภาพ

ด้วยประโยค Can we have …, please? เช่น Can we have Singapore and Thailand, please?

เมอ่ื ได้รับบัตรภาพแล้ว ใหแ้ ตล่ ะคแู่ ต่งประโยคถาม-ตอบเกีย่ วกับเวลาในประเทศอาเซยี น และฝึกพูดใหค้ ล่อง

ตวั อยา่ ง S1: If it’s nine o’clock in Singapore, what time is it in Thailand?

S2: It’s eight o’clock.

S1: If it’s nine o’clock in Thailand, what time is it in Singapore?

S2: It’s ten o’clock. etc.

กจิ กรรมเพิ่มเตมิ

ครใู ห้นกั เรยี นดคู ลปิ One moment around the world และตอบคาถามเกีย่ วกบั เวลาในประเทศ
ตา่ ง ๆ ท่ัวโลกทีเ่ ว็บไซต์ http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories/one-moment-
around-the-world

ขั้น Production
1. หนงั สือเรยี น หน้า 51 ข้อ 2 หัวขอ้ Over to you ครใู หน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่ม จากนั้นครอู ธิบายภาระงาน
วา่ ให้แต่ละกลมุ่ ทาโปสเตอร์เวลาในประเทศตา่ ง ๆ ในภมู ภิ าคอาเซยี น โดยสมมติวา่ ขณะน้เี ปน็ เวลา

8 นาฬกิ าในประเทศไทย ให้นกั เรียนวาดนาฬิกาและเขียนบอกเวลาในประเทศอ่ืนอกี 3 ประเทศ ตกแตง่
ให้สวยงาม เสรจ็ แล้วใหต้ ัวแทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาพดู รายงานเวลาในประเทศตา่ ง ๆ ที่นกั เรียนเลือกมา

หากนักเรยี นต้องการรู้เวลาของประเทศอ่นื ๆ นอกจากประเทศในอาเซียน ครูแนะนาเว็บไซต์
ให้นกั เรยี นไปตรวจสอบเวลาดังต่อไปนี้
http://www.timeanddate.com/worldclock/
2. ครูใหน้ กั เรียนกลุ่มเดิมคน้ หาขอ้ มูลจากในอนิ เทอรเ์ นต็ วา่ เวลาในประเทศไทยตา่ งจากประเทศต่อไปนี้

359

กีช่ ่วั โมง โดยระบุวา่ เรว็ กว่าหรอื ช้ากว่า

England Japan The US Australia

ครอู ธบิ ายวา่ บางประเทศมหี ลาย time zone นกั เรยี นอาจต้องระบุชือ่ เมืองด้วย เช่น the US จากนนั้ ครู

บอกคาทใ่ี ชใ้ นการคน้ หาข้อมูล คือ time difference between Thailand and _________. โดยใน

การเขียน

ตอบ ใหน้ ักเรียนใชโ้ ครงสรา้ งตอ่ ไปน้ี (ประเทศ) is (ตวั เลข) hours ahead of (ประเทศ).

ครอู ธบิ ายวา่ ahead มคี วามหมายวา่ ลว่ งหนา้ และให้นกั เรียนวาดภาพนาฬกิ าทง้ั ของไทยและ

ประเทศอน่ื ประกอบดว้ ย

3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝกึ หัด หน้า 42-43 หัวขอ้ Modular Revision and Assessment 4

Exs. 1-7 เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบพร้อมกัน

360

แบบฝกึ หดั หน้า 43 Ex. 6
Narrator: Listen and circle.
What time does Peter get up?
Female: What time do you get up, Peter? At six?
Male: Six? No, I get up at seven o’clock.
Female: Oh, I get up at seven o’clock, too!
Narrator: Can you see the example? Now, you listen and choose the right time.

One
When does Andy go to school?
Female: What time do you go to school, Andy?
Male: At eight o’clock.
Female: At nine o’clock?
Male: No, I go to school at eight o’clock.

Two
What time does Sue eat lunch?
Female: What time do you eat lunch, Sue? Do you eat lunch at three o’clock?
Male: Three o’clock? No, I eat lunch at one o’clock.
Female: At one o’clock?
Male: Yes!

Three
What time does Harry go to the gym?
Female: When do you go to the gym, Harry? Do you go at five o’clock?
Male: No, I don’t. I always go to the gym at seven o’clock.
Female: At seven o’clock?
Male: Yes! That’s right!

361

Ex. 1 3 Tuesday 5 Sunday
1 Monday 4 Thursday
2 Saturday

Ex. 2 2 breakfast 3 school
1 dinner

Ex. 3 5a
1a 2b 3a 4a

Ex. 4
1 Judy tidies her room every afternoon.
2 Tom goes to the cinema on Sundays.
3 Mandy washes the dog on Saturdays.
4 We go to the gym every Thursday.
5 I do my homework every day.

Ex. 5 3a
1a 2b

Ex. 6 3b
1a 2a

Ex. 7
1 no 2 no 3 yes 4 yes 5 no

362

7. การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบฝกึ หัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินชิน้ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้
ตอบคาถามจากการอา่ น ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชิ้นงานโปสเตอรเ์ วลาของ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดบั คุณภาพ รอ้ ยละ 60
ประเทศตา่ ง ๆ ในภมู ิภาคอาเซยี น เรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการคน้ หาขอ้ มูลเก่ยี วกับความ
แตกต่างระหวา่ งเวลาของไทยกับ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดับคุณภาพ พอใช้
ประเทศอื่น ๆ เรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการพูดขอรอ้ งในชน้ั เรียน แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดับคุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝกึ หดั ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ชีก้ ารใฝเ่ รียนรู้
และม่งุ มั่นในการทางาน

8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชดุ EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าโปสเตอร์
8.5 บัตรภาพ
8.6 อนิ เทอรเ์ น็ต

363

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 CLIL 4 Animals – Day and Night

เวลา 1 ชว่ั โมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกับสัตวท์ ่หี ากินตอนกลางวนั และกลางคนื ได้
- เขยี นให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สัตว์ทหี่ ากนิ ในตอนกลางวนั และกลางคนื ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ

และ แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั

ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง เพ่ือน และครอบครวั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งตา่ ง ๆ โดย
การพดู และการเขียน

ตัวชวี้ ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนใหข้ ้อมลู เก่ียวกับตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใชไ้ ด้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตวั ชว้ี ดั ตอบคาถามเก่ยี วกับเทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเปน็ อย่งู า่ ย ๆ
ต 2.1 ป.4/2 ของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป.4/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่เี หมาะกับวยั
สาระท่ี 3 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ ับกลุม่ สาระการเรยี นรู้อน่ื และเป็น

พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน

ตัวช้วี ดั

ต 3.1 ป.4/1 ค้นควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ืน่ และนาเสนอด้วย
การพดู /การเขยี น

364

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม

ตัวชีว้ ัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟงั และพูด/อา่ นในสถานการณท์ ่เี กดิ ขึน้ ในห้องเรยี นและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเป็นเคร่อื งมือพ้ืนฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชพี
และการแลกเปล่ียนเรยี นรู้กบั สงั คมโลก
ตัวชว้ี ัด
ต 4.2 ป.4/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมลู ต่าง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์เก่ยี วกบั สตั ว์ ช่วยใหใ้ ช้ภาษาองั กฤษในการสบื ค้นและเชอ่ื มโยงความรกู้ บั กลมุ่ สาระ

วิชาอืน่ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Feathers and Functions

Structure:We sleep in the daytime. We come out at night to look for food.

We look for food in the daytime. We sleep at night.

Vocabulary: (Daytime animals) giraffe, horse, elephant, canary, deer

(Nighttime animals) bat, koala, owl, hedgehog

Function: ใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั ช่อื สัตวท์ ห่ี ากนิ ตอนกลางวันและกลางคืน

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและใหข้ ้อมลู เกี่ยวกับสัตวท์ หี่ ากินตอนกลางวันและกลางคนื

Writing: เขียนให้ข้อมลู เก่ียวกับสัตว์ประจาชาติ

365

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ที่ใช้ในการสือ่ สาร
- ทกั ษะการสารวจค้นหา
- ทักษะการรวบรวมข้อมลู
- ทกั ษะการจดั กลุ่ม
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มงุ่ ม่นั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั Warm Up
1. ทบทวนคาศัพท์เกีย่ วกบั สตั ว์ตา่ ง ๆ โดยครูเขยี น Animals บนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรยี นระดม

ความคดิ พดู บอกคาศัพทเ์ กยี่ วกับสตั ว์ท่ีนักเรียนรจู้ กั โดยครรู วบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขยี น
เป็นรปู แบบ mind map

lion
fish tiger

bird dog
animals

rabbit cat
sheep mouse

366

2. นาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยการถามนกั เรยี น 2-3 คาถาม เชน่

T: Do you like going to the zoo?

S1: Yes, I do.

T: What’s your favourite animal?

S1: I like tigers. etc.

ครูอาจนาเข้าส่บู ทเรียนด้วยการเปิดคลิปวดิ โี อเกี่ยวกบั ชีวติ ของ foxes หรอื owls ให้
นกั เรยี นดู เพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจจากนักเรยี น โดยเข้าไปที่
http://www.activityvillage.co.uk/foxes หรือ http://www.activityvillage.co.uk/owls

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ท์เกี่ยวกับสตั ว์ ไดแ้ ก่ giraffe (ยีราฟ), horse (ม้า), elephant (ช้าง), canary (นกขม้ิน),

deer (กวาง), bat (ค้างคาว), koala (หมโี คอาลา่ ), owl (นกฮกู ), hedgehog (เม่น), fox (สุนัขจิ้งจอก)
โดยครตู ิดบัตรภาพบนกระดาน จากนน้ั ครชู ีไ้ ปทแี่ ต่ละภาพและออกเสยี งให้นักเรียนฟังและฝกึ ออกเสยี ง
ตาม โดยครเู นน้ ให้นกั เรยี นลงเสยี งหนักในคาทม่ี มี ากกวา่ 1 พยางค์ ดังน้ี

giraffe elephant canary
koala hedgehog

367

นกขมน้ิ (canary) มขี นาดเทา่ นกเอ้ยี ง หางสั้น ลาตัวเปน็ สีเหลือง มบี างชนดิ เป็นสีอื่นบ้าง
จะงอยปากแขง็ แรงและงุ้มลง ปีกยาวแหลม นกตวั ผูม้ ีสีสดใสสวยงามกว่านกตวั เมยี อาหารของ
นกขมิ้น คือ หนอนและแมลงขนาดเลก็
คา้ งคาว (bat) เปน็ สัตวห์ ากนิ ตอนกลางคืนและเป็นสัตวเ์ ล้ียงลกู ดว้ ยนา้ นมเพียงชนดิ เดยี วที่
มปี ีกและสามารถบนิ ได้ มขี นทวั่ ตัว ขาหน้าเปลย่ี นเป็นปีกทมี่ ีแผน่ พังผืดบาง ๆ โยงระหวา่ ง
นวิ้ จากขาหน้าจนถึงขาหลงั ขาหลงั สั้น มีกรงเล็บและฟนั ทแ่ี หลมคม อาหารของค้างคาว คอื
แมลงและพืช
โคอาลา (koala) เป็นสัตวเ์ ลี้ยงลกู ด้วยนา้ นม จาพวกพอสซมั (possum) ตัวเมียจะมีกระเปา๋ หน้าทอ้ ง
สาหรบั ให้ลกู อ่อนอาศัยอยู่ การทโ่ี คอาลามีลักษณะรูปรา่ งหน้าตาคล้ายสตั ว์ในตระกลู หมี
ทาให้คนสว่ นใหญเ่ รียกวา่ "หมีโคอาลา" หรอื "หมีต้นไม"้ อาหารของโคอาลา คอื ต้นยคู าลปิ ตัส
นกฮูก (owl) มรี ปู ใบหนา้ คล้ายแมว ซง่ึ เป็นที่มาของช่อื สามญั คอื นกเคา้ แมว เปน็ สัตว์หากิน
ตอนกลางคนื นกฮูกจะจบั สัตว์เลก็ ๆ กินเปน็ อาหาร เช่น หนู งู นกฮูกมีเลบ็ โค้งแหลมและมี
ปากงุ้มแหลมสาหรับจบั สตั วก์ นิ มดี วงตาโตกวา่ เหย่ยี วและอนิ ทรีมาก ดวงตาอยูด่ า้ นหน้าของ
ใบหนา้ เหมอื นมนุษย์และสัตว์ตระกลู แมว หวั หมนุ ได้เกอื บรอบตัว

เฮดจ์ฮอก (hedgehog) เปน็ สตั วเ์ ล้ียงลูกดว้ ยน้านมขนาดเลก็ มลี กั ษณะคลา้ ยเม่น แต่มีขนาดเล็ก
กวา่ มากและหนามส้ันกวา่ มาก มีสว่ นใบหน้าคล้ายหนู แตม่ จี มกู ทเ่ี รยี วยาวทขี่ มุบขมบิ สาหรบั
ดมกลิ่นอย่ตู ลอดเวลา อาหารของเฮดจฮ์ อก คอื แมลงขนาดเล็ก
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/นกขมนิ้

https://zooacademy.wordpress.com/2011/12/16/คา้ งคาว
https://th.wikipedia.org/wiki/โคอาลา
http://www.mwit.ac.th/~physicslab/content_01/sutut/owl.html
https://th.wikipedia.org/wiki/เฮดจ์ฮอก

2. ครนู าเสนอคาวา่ nighttime (เวลากลางคนื ), nocturnal (กลางคืน), daytime (เวลากลางวนั ),
herbivore (สัตวก์ ินพืช), carnivore (สตั วก์ ินเนอื้ ) โดยเขยี นคาศัพทบ์ นกระดาน เสรจ็ แล้วครูเขยี นตวั อย่าง
ประโยคบนกระดานและใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอกความหมาย

368

Daytime animals are those animals that look for food during the day.
Nighttime animals are those animals that sleep during the day and look for food at
night. (= Nocturnal)
Nocturnal animals are those animals that come out at night to look for food.
Herbivores are animals that eat only plants or plant eaters.
Carnivores are animals that eat meat.

nocturnal animals หรอื nighttime animals สตั วเ์ หลา่ นี้ออกมาหากนิ ตอนกลางคืน ก็เพราะวา่
สัตว์ บางจาพวกตอ้ งการหลกี เลี่ยงจากสตั วท์ ี่จะมาล่าพวกมนั เปน็ อาหาร หรอื สตั ว์บางจาพวกจะมี

สมั ผัสที่พิเศษ เชน่ ในดา้ นการมองเหน็ เพราะมีเซลลร์ ูปแทง่ (rod cell) ทาหน้าทร่ี ับแสงสว่าง
ทีไ่ วมาก สามารถมองเห็นภาพขาว-ดา เซลลร์ ูปแทง่ จะไวเฉพาะต่อแสงทมี่ คี วามเขม้ นอ้ ย
โดยจะไม่สามารถจาแนกสขี องแสงน้ันได้ หรอื สตั ว์บางชนิดมคี วามสามารถในการไดย้ ิน
เป็นพิเศษ เชน่ ค้างคาวใชห้ ฟู งั เสียงสะท้อนจึงทาให้มันร้ตู าแหน่งและลักษณะของเหย่อื
การสังเคราะห์ขอ้ มลู ท่ีไดร้ ับทาให้มนั สามารถหาอาหาร และหลบหลกี ศัตรไู ด้
ที่มา: http://www.buzzle.com/articles/facts-about-nocturnal-animals.html

http://www.seaturtlecamp.com/nocturnal-adaptations/
3. ครเู ขียนตารางตอ่ ไปน้บี นกระดาน

Daytime Animal Nighttime Animal

จากนนั้ ครเู ขียนช่ือสตั ว์ ตอ่ ไปน้ี giraffe, horse, elephant, canary, deer, bat, koala, owl,
hedgehog, fox

ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกนั แยกประเภทสัตว์ที่หากนิ ตอนกลางวันและสัตว์ทีห่ ากินตอนกลางคนื ครูเขียนช่ือ
สัตว์ทีน่ ักเรยี นบอกลงในตาราง เสรจ็ แล้วครตู รวจความถกู ต้องอกี ครงั้
4. ครูเขยี นชื่ออาหารทสี่ ตั วช์ อบรับประทานบนกระดาน ดงั น้ี grass (หญ้า), fruits (ผลไม)้ , meat (เนื้อ),
Eucalyptus trees (ตน้ ยูคาลิปตสั ), insects (แมลงต่าง ๆ) จากนน้ั ครูถามนักเรยี น ดังนี้

T: What do elephants eat?
Ss: They eat grass and fruits.
T: Very good. What do hedgehogs eat?

369

Ss: They eat insects.
ครทู ากจิ กรรมเช่นเดียวกนั น้ีกับสัตว์ประเภทอน่ื ด้วย

ขน้ั Practice
1. ครเู ขียนคาว่า elephants บนกระดาน จากนนั้ ครสู ุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ถามคาถามตอ่ ไปน้ี

T: What do elephants eat?
S1: They eat grass and fruits.
T: When do they sleep?
S2: They sleep at night.
T: When do they look for food?
S3: They look for food in the daytime.
T: What do they look like?
S4: They’ve got a big body, big ears and long nose.
จากนั้นครใู ห้นกั เรียนจบั คู่ พูดถาม-ตอบเกีย่ วกบั สตั วช์ นิดอื่น ต่อมาครูบอกนกั เรยี นวา่ An elephant is
the national animal of Thailand. ครูถามนกั เรียนวา่ national animal หมายความวา่ อยา่ งไร เมื่อได้
คาตอบว่า สัตวป์ ระจาชาตแิ ลว้ ครถู ามเก่ียวกบั สตั วป์ ระจาชาติของประเทศอังกฤษ สิงคโปร์ และ
สหรัฐอเมรกิ า เช่น
T: What is the national animal of England?
Ss: It’s a lion.
T: What is the national animal of Singapore?
Ss: It’s a lion too.
T: What is the national animal of the US?
Ss: It’s an eagle.

370

ช้าง (elephant) เปน็ สัตว์ประจาชาติของประเทศไทย จดั เป็นสตั วเ์ ลี้ยงลกู ด้วยน้านมทม่ี ีขนาด
ใหญ่ทีส่ ดุ ในโลก เปน็ สัตว์กินพืช ผิวหนงั หนา มีใบหขู นาดใหญ่ มงี วงตดิ กบั จมูกและรมิ ฝปี าก
มงี างอกออกมาจากขากรรไกรดา้ นบน
สิงโต (lion) เป็นสัตว์ประจาชาตขิ องประเทศองั กฤษและสงิ คโปร์ มีขนาดลาตวั ใหญเ่ ทา่ กับ
เสือโคร่ง พนื้ ลาตัวสีนา้ ตาล ไม่มลี าย ตวั ผู้เมอื่ โตเต็มวยั จะมขี นแผงคอยาว ซง่ึ ตา่ งกับตวั เมีย
ทไ่ี ม่มีขนแผงคอและมีขนาดลาตัวเล็กกวา่ สิงโตเปน็ สัตว์กินเนื้อ
นกอินทรี (eagle) เปน็ นกล่าเหย่ือขนาดใหญ่ และเป็นสตั วป์ ระจาชาตขิ องประเทศสหรัฐอเมริกา
นกอินทรีจดั เป็นนกทีก่ นิ เนือ้ เป็นอาหาร มโี ครงสรา้ งทางกายภาพทแี่ ข็งแรง มลี กั ษณะสวยงาม
บินเรว็ สายตาเฉยี บคม จดั วา่ เป็นนกที่สายตาดที ส่ี ดุ ในโลก
ทมี่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/ชา้ ง

https://th.wikipedia.org/wiki/สงิ โต
https://th.wikipedia.org/wiki/อนิ ทรี

กจิ กรรมเพ่มิ เตมิ
ครเู ปิดคลปิ ช่ือ The Cat in the Hat - I Love the Nightlife Nocturnal animals จากเว็บไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=aO6ro42ZlWw ใหน้ กั เรยี นดแู ละตอบคาถาม
หรือให้นักเรยี นไปดดู ้วยตนเอง โดยครบู อกคาสาคัญ เช่น nocturnal animals ให้นกั เรียน
เขา้ ไปเปดิ ดูด้วยตนเองท่ี www.youtube.com
2. แบบฝึกหัด หนา้ 70 Ex. 1 ครอู า่ นคาสงั่ ใหน้ ักเรยี นฟงั จากน้ันครูเปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟงั 1 รอบ ให้
นักเรยี นฝึกออกเสียงตามจนคล่อง และเดาความหมายของคาศัพท์จากภาพ

giraffe koala hedgehog canary

horse bat elephant owl

จากนนั้ ครูอา่ นประโยคในกรอบขอ้ ความทลี ะประโยค แล้วให้นักเรียนอ่านตามพรอ้ มกัน ต่อมาครชู ท้ี ่ี

ยีราฟแลว้ ถามนักเรยี น เช่น

T: (ชี้ท่ยี ีราฟ) What is it?

Ss: It is a giraffe.

T: Is it a daytime animal or a nighttime animal?

Ss: It is a daytime animal.

371

ครูทาเชน่ นีจ้ นครบสตั วท์ กุ ตวั แล้วใหเ้ วลานกั เรียนลากเส้นจบั ค่สู ตั ว์ที่หากนิ ตอนกลางวันและตอน
กลางคืนให้ถูกตอ้ ง เสรจ็ แล้วครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขยี นบนกระดานและตรวจความถกู ต้อง

daytime animals: giraffe, canary, horse, elephant
nighttime animals: koala, hedgehog, bat, owl

3. แบบฝึกหัด หนา้ 71 Ex. 2 ครอู า่ นคาสงั่ Colour the daytime animals green. Colour the
nighttime

animals red. แล้วอธิบายภาระงานว่า ให้นกั เรยี นระบายสสี ัตวท์ ีห่ ากินตอนกลางวนั เป็นสเี ขียว และ
ระบายสสี ัตว์ที่หากนิ ตอนกลางคนื เป็นสแี ดง โดยครชู ้ีไปทีน่ กฮูกและถามนกั เรยี นวา่ What is it?
Is it a daytime animal or a nighttime animal? เมอื่ ได้คาตอบแล้ว ใหน้ กั เรียนระบายสีท่ีกาหนด
จากน้ันครใู หเ้ วลานักเรยี นทากิจกรรมดว้ ยตนเอง เสรจ็ แลว้ ครูตรวจคาตอบโดยถามนกั เรยี น ดังนี้

T: How many daytime animals are there?
Ss: There are four daytime animals.
T: What are they?
Ss: They are giraffe, horse, elephant and canary.
T: How many nighttime animals are there?
Ss: There are four nighttime animals.
T: What are they?
Ss: They are bat, koala, owl and hedgehog.
T: Very good!

green: horse, sheep, dog, deer, cat
red: owl, bat, mouse

4. แบบฝึกหดั หน้า 71 Ex. 3 ครูเปดิ CD ให้นกั เรียนฟังและดเู นอ้ื เพลงตามไปดว้ ย จากนั้นครูเปิด CD
อีกคร้ัง เพื่อให้นักเรยี นฟงั และฝกึ ร้องตาม

5. ครูแบง่ กระดานเปน็ 2 ฝง่ั ฝัง่ แรกเขยี น Daytime animals และอกี ฝัง่ เขยี น Nocturnal animals
จากน้นั ครู

แจกบัตรภาพสัตวใ์ ห้นกั เรียนคนละ 1 ใบ แลว้ อธบิ ายวา่ ให้นักเรียนนาบัตรภาพสตั วท์ ่นี กั เรยี นได้ไปติด

372

บนกระดานใหถ้ กู ตอ้ ง etc.
6. ครูให้นกั เรียนจบั คูเ่ พื่อฝกึ พดู ถาม-ตอบเก่ียวกับสตั ว์ในแบบฝึกหัด หน้า 70

ตวั อย่าง S1: What do bats eat?
S2: They eat insects and vegetables.
S1: When do they sleep?
S2: They sleep at day.
S1: When do they look for food?
S2: They look for food in the nighttime.
S1: What do they look like?
S2: They’ve got a small body, small ears and small yellow eyes.

ขนั้ Production
1. ครูให้นักเรยี นทาสมดุ ภาพรวบรวมคาศพั ท์ชอ่ื สตั วท์ ่ีออกหากินตอนกลางวนั และกลางคนื เพ่มิ เติมมา

อย่างละ 5 ชนดิ จากแหล่งการเรียนรตู้ ่าง ๆ เชน่ อินเทอร์เนต็ หรือหนังสือเรียน จากนนั้ ให้นาภาพ
มาตดิ ในกระดาษ A4 พรอ้ มระบายสีใหส้ วยงาม โดยเขยี นหัวขอ้ Daytime Animals และ Nighttime
Animals ให้ชดั เจน
2. ให้นักเรียนทาโปสเตอร์สตั ว์ประจาชาตขิ องไทย องั กฤษ และอเมริกา รวมทั้งประเทศอ่นื ๆ ในภมู ภิ าค
อาเซียน โดยนาภาพมาตดิ และเขยี นประโยคโดยใชโ้ ครงสรา้ ง … is the national animal of …

ครแู นะนาแหลง่ ในการคน้ หาข้อมูลใหก้ บั นกั เรียน เชน่
http://www.kidsplayandcreate.com/amazing-animal-facts-for-kids/
http://www.sciencekids.co.nz/sciencefacts/animals.html

373

7. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ ีการวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์

ประเมนิ ช้ินงานสมุดภาพสัตว์ทีอ่ อกหา แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดับคุณภาพ พอใช้

กนิ ตอนกลางวันและกลางคนื ผา่ นเกณฑ์

ประเมนิ ชิ้นงานโปสเตอรส์ ัตวป์ ระจาชาติ แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้

ผา่ นเกณฑ์

ประเมินการพดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั แบบประเมนิ การพดู ระดับคุณภาพ พอใช้

สตั ว์ ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบฝกึ หดั แบบฝึกหัด (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมบง่ ชด้ี า้ นใฝเ่ รียนร้แู ละ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง ระดับคณุ ภาพ พอใช้

มงุ่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสอื เรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณท์ าสมดุ ภาพ/โปสเตอร์
8.5 บัตรภาพ
8.6 อนิ เทอรเ์ นต็

374

F 5 My Favourite Season

ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลาเรียน 13 ชว่ั โมง

1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งท่ีฟงั และอ่านจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

ตัวชว้ี ัด อยา่ งมีเหตผุ ล
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัตติ ามคาสง่ั คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟี่ ังหรอื อา่ น

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสยี งคา สะกดคา อา่ นกลุม่ คา ประโยค ข้อความงา่ ย ๆ และบทพดู
เขา้ จังหวะถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรอื สัญลักษณ์หรอื เครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยค
ต 1.1 ป.4/4 และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟี่ ังหรอื อา่ น
ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สึก
และ แสดงความคดิ เห็นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

ตัวชว้ี ัด พดู /เขียนโต้ตอบในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป.4/1 ใชค้ าสั่ง คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/2

ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขยี นแสดงความต้องการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์
ต 1.2 ป.4/4 ง่าย ๆ
พูด/เขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง เพ่อื น และครอบครัว

ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรสู้ ึกของตนเองเกยี่ วกบั เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกจิ กรรมตา่ ง ๆ
ตามแบบท่ฟี งั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งตา่ ง ๆ
ตวั ชวี้ ัด โดยการพูดและการเขยี น

ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเองและเร่ืองใกล้ตัว

375

ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสัมพันธข์ องส่ิงต่าง ๆ ใกล้ตัวตามท่ฟี งั หรอื อ่าน

ต 1.3 ป.4/3 พูดแสดงความคดิ เหน็ งา่ ย ๆ เกีย่ วกบั เร่อื งตา่ ง ๆ ใกล้ตัว
สาระท่ี 2 ภาษากบั วัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใชไ้ ด้
ตวั ชวี้ ดั อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ต 2.1 ป.4/1 พดู และทาทา่ ประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกยี่ วกบั เทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่งา่ ย ๆ
ต 2.1 ป.4/3 ของเจา้ ของภาษา
เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วัย

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกตอ้ ง

ตวั ชวี้ ดั บอกความแตกต่างของเสยี งตัวอกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และข้อความของ
ต 2.2 ป.4/1 ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม
ของเจา้ ของภาษากับของไทย

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธก์ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ื่น และเปน็
พืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน

ตัวชว้ี ัด ค้นควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรอู้ น่ื และนาเสนอด้วย
ต 3.1 ป.4/1 การพูด/การเขียน

สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

ตวั ชวี้ ดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟงั พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเครอื่ งมือพ้ืนฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปล่ยี นเรยี นร้กู บั สังคมโลก
ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

376

2 สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การรแู้ ละเข้าใจเรือ่ งท่ไี ดศ้ ึกษา คาศัพทส์ านวนและโครงสร้างภาษา ช่วยใหส้ นทนา เขยี นโต้ตอบ
พูด/เขยี นสื่อสารเกีย่ วกับฤดู และสถานการณ์ทก่ี าหนดไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม

3 สาระการเรยี นรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Structure: Can I help? Yes, make a hole.

Tidy your room! Don’t go out! In spring Zara plants flowers.
I like spring because I like gardening! Me too!
Does Oscar like sailing? Yes, he does. No, he doesn’t.

Make a small hole. Put some seeds in the hole. Then cover

and water the seeds.

I like listening to music and dancing. I like horse riding, too!
I like dogs very much. Do you like playing basketball? Yes, I
do. I like coffee. I like tea. I like swimming in the sea!

Winters are cold and snowy. You can go skiing,
snowboarding and ice skating. Summers are fun in Vermont, too! You can go hiking, play
golf, or go mountain biking.

- In the north of Vietnam, cool season is from November to
April. The apple tree is full of blossoms. The apple tree is full of green leaves. The apple

tree is full of apples. The apple tree is empty. There are no leaves or apples on the tree.

Vocabulary: (Months) January, February, March, April, May, June, July,
August, September, October, November, December
(Seasons) spring, summer, autumn, winter
(Activities) gardening, skiing, snowboarding, ice skating,

fishing, canoeing, trekking, hiking, snorkelling
(Nouns) hole, seed, flower, climate, puppet show,

typhoons, tea, sea, cake, pool, laves, blossoms
(Verbs) plant, cover, water, grow, catch, swim, jump, run, sail

377

(Adjectives) wet, full, empty

(Phrases) go hiking, play golf, go mountain biking

Pronunciation: ออกเสยี งคาท่ีประกอบดว้ ย m, ลงเสียงหนักในคา, ออกเสยี งคาทม่ี ี z

ประกอบ, ออกเสยี งคาทม่ี ี t ประกอบ, ออกเสยี งคาท่ีลงทา้ ยดว้ ยเสยี ง

/k/

Function: เสนอความชว่ ยเหลอื และออกคาสง่ั , บอกกจิ กรรมที่ทาในฤดูกาล

ตา่ ง ๆ, บอกฤดูกาลทีช่ นื่ ชอบและกจิ กรรมทช่ี อบทา, บอกสงิ่ ที่ชอบ

และไมช่ อบ, บอกกิจกรรมที่ชอบทา

2) Language Skills

Listening: ตอบคาถามจากการฟงั

Speaking: พูดเสนอความชว่ ยเหลือและออกคาสั่ง, พูดบอกกิจกรรมทที่ าใน

ฤดูกาลตา่ งๆ, พดู เก่ียวกบั กิจกรรมทชี่ ่ืนชอบและกจิ กรรมทช่ี อบทา,

พูดแสดงบทบาทสมมติ, พูดถาม-ตอบเกี่ยวกับสิ่งท่ีชอบและไม่ชอบ,

พดู บอกกจิ กรรมที่ชอบ, พดู นาเสนอเก่ียวกับกจิ กรรมทีท่ าในฤดูกาล

ต่าง ๆ ในประเทศของตนเอง, พูดขอและให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั กจิ กรรมที่

ชอบทา

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น, อา่ นเน้ือเพลง

Writing: เขยี นจดหมายถงึ Penfriend, เขียนนาเสนอเกีย่ วกับกจิ กรรมท่ที าใน

แต่ละฤดูกาล, เขียนบรรยายเกีว่ กับกิจกรรมทท่ี าในฤดูกาลตา่ ง ๆ ใน

ประเทศของตนเอง, เขยี นนาเสนอการเปลี่ยนแปลงของต้นซากุระใน

แตล่ ะฤดู

3) Culture: ฤดกู าลในสหราชอาณาจกั ร, ประวัตคิ วามเปน็ มาของวันฮาโลวนี ,
กิจกรรมทค่ี นอังกฤษชอบทา, กีฬาที่นิยมเล่นในประเทศองั กฤษ,
มารยาทในการเขียนจดหมาย, กจิ กรรมท่ที าในแต่ละฤดูในรัฐ
เวอรม์ อนต์ (Vermont) ประเทศสหรฐั อเมรกิ า, กจิ กรรมหรือ
สถานท่ีทอ่ งเทยี่ วในประเทศเวียดนามและฟิลิปปนิ สใ์ นฤดูกาล
ตา่ ง ๆ, การทกั ทายและขอบคณุ ของชาวตะวนั ตกและอาเซียน

4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

378

4.3 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ ที่ใชใ้ นการส่ือสาร
- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทักษะการรวบรวมขอ้ มูล
- ทกั ษะการสารวจ

4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5 คุณลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
5.3 มีจติ สาธารณะ

6 ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ชิน้ งานโปสเตอรน์ าเสนอคาศัพทส์ ว่ นต่าง ๆ ของพชื , คาศัพท์ทีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/, กิจกรรมทที่ าใน
ฤดูกาลตา่ ง ๆ ของรัฐอืน่ ๆ ในประเทศสหรฐั อเมรกิ า, My favourite season และ My cheery tree
2. ช้ินงานกิจกรรมทท่ี าในฤดูกาลต่าง ๆ และคาคลอ้ งจอง
3. ชิ้นงานการสารวจกจิ กรรมทีช่ อบทาในแต่ละฤดกู าล
4. การพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั กจิ กรรมท่นี ักเรยี นชอบและไม่ชอบ
5. การแสดงบทบาทสมมติ
6. การเขียนจดหมายถึง Penfriend

7 การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น
- ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน ประจาหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5
7.2 การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
- ทาแบบฝกึ หัดใน Workbook หน้า 44-51
7.3 การประเมนิ หลังเรียน
- ทาแบบประเมนิ หลงั เรียน ประจาหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5
7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินช้นิ งานในขอ้ 6

379

8 สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 กระดาษ A4 ดินสอสี กาว และกรรไกร
8.5 บตั รภาพ/บตั รคา
8.6 บัตรภาพ Story Cutout
8.7 ลกู แอปเปลิ
8.8 อินเทอรเ์ น็ต

380


Click to View FlipBook Version