The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือรวมบทความวิจัยและบทความทางวิชาการ เนื่องในงานประชุมทางวิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ARC Archaeology, 2021-01-04 05:07:44

หนังสือรวมบทความวิจัยและบทความทางวิชาการ เนื่องในงานประชุมทางวิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

หนังสือรวมบทความวิจัยและบทความทางวิชาการ เนื่องในงานประชุมทางวิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

นงั อื รวมบทความวิจยั และบทความทางวชิ าการ เนื่องในงานประชุมวชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

นัง ือร มบทค าม จิ ยั และบทค าม ิชาการ
เนื่องในงานประชุม ิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

นงั อื ชดุ “รวมบทความวิจัยและบทความวิชาการ
เน่อื งในงานประชมุ วชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี
จดั ท�าโดย คณะโบราณคดี ม าวทิ ยาลยั ศลิ ปากร

คณะโบราณคดี ม า ิทยาลยั ิลปากร
นงั อื ร มบทค าม จิ ยั และบทค าม ชิ าการ เนอ่ื งในงานประชมุ ชิ าการ ครบรอบ 65 ปี
คณะโบราณคดี. กรงุ เทพฯ: คณะโบราณคดี ม า ทิ ยาลัย ลิ ปากร, 2563.

568 นา้ .

ISBN : 978-974-641-762-4

1. โบราณคดี ประ ัติ า ตร์ ิลปะ มานุ ย ิทยา ภา าตะ ันออก ภา าตะ ันตก
ประ ัติ า ตรท์ ้องถน่ิ . I. ชอื่ เร่ือง.

พมิ พค์ ร้งั แรก 2563

จัดพมิ พโ์ ดย คณะโบราณคดี ม า ิทยาลยั ลิ ปากร
31 ถนน น้าพระลาน แข งพระบรมม าราช งั
เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200
โทร พั ท์ 02-221-7777

พมิ พ์ท่ี บริ ัท เอ .เอม็ .เซอรค์ ทิ เพร จา� กัด
39/2 มู่ 6 บางปะกอก รา ฎร์บรู ณะ กรงุ เทพฯ 10140
โทร พั ท์ 02-871-1775

นงั อื รวมบทความวิจยั และบทความทางวชิ าการ เนื่องในงานประชุมวชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

คา� นา�

คณะโบราณคดี ม า ิทยาลัย ิลปากร เป็น ถาบันการ ึก าท่ีผลิตบัณฑิตและ
ร้าง รรค์องค์ค ามรู้ ร มถึงงาน ิจัยด้านโบราณคดี ิลป ัฒนธรรมของประเท ิ ัยทั น์
ลักของคณะโบราณคดี คอื “ ่งเ ริม ร้าง รรค์ ืบ าน” องคค์ ามรู้ดา้ นโบราณคดี ภา า
ิลป ัฒนธรรมของชาติ ใ ้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมีพันธกิจ ลัก 2 ประเด็นท่ี
คณะม่งุ เน้นด�าเนินการเพอ่ื ใ บ้ รรลุตาม ิ ยั ทั น์ คือ

1. ผลติ บณั ฑติ ทม่ี คี ามเปน็ เลิ ทางดา้ นโบราณคดี ภา า ลิ ป ฒั นธรรม เนน้ พฒั นา
และถ่ายทอดค ามรู้ทผี่ มผ านระ า่ ง ิลป์และ า ตรใ์ ้มคี ามรูใ้ น ิชาชพี ระดบั ากล

2. ผลติ งาน จิ ยั และจดั บรกิ าร ชิ าการดา้ นโบราณคดี ภา า ลิ ป ฒั นธรรมทมี่ คี ณุ ภาพ
ร้างประโยชนต์ ่อชุมชน งั คม ประเท ชาติ ร มทง้ั ใ ้ขอ้ เ นอแนะทางนโยบายใ แ้ ก่ภาครัฐ
และเอกชนพฒั นาดา้ น ลิ ป ฒั นธรรมใ เ้ กดิ ค ามยงั่ ยืน

ในปี พ. . 2563 นี้ คณะโบราณคดีมี าระครบรอบ 65 ปีของการก่อตั้งคณะ ิชาฯ
ดังน้ันเพื่อเป็นการเผยแพร่งาน ิจัยและการบริการ ิชาการของคณะร มถึง าระครบรอบ
ดังกล่า จึงได้จัดงาน ัมมนา ิชาการ เพ่ือ เผยแพร่ผลงาน ิจัยด้าน ิลป ัฒนธรรมของ
คณะโบราณคดี โดยเป็นผลงาน ิจัยของคณาจารย์ในคณะครบทุกด้าน ได้แก่ โบราณคดี
ประ ัต า ตร์ ิลปะ ภา าและจารึก มานุ ย ิทยา ภา าตะ ันตก ประ ัติ า ตร์ท้องถิ่น
ร มถงึ โครงการ ิจยั ท่บี ูรณาการร่ มกบั น่ ยงานภายนอกด้ ย

การจัดงานดังกล่า จึงน�ามาซึ่งการด�าเนินงานเผยแพร่ผลงาน ิจัยและ ิชาการ
ดา้ น ลิ ป ฒั นธรรมของคณะโบราณคดี ร มถงึ งาน จิ ยั ทบ่ี รู ณาการร่ มกบั น่ ยงานภายนอก
เพ่ือเผยแพร่ใ ้ ามารถน�าใช้ประโยชน์ รือน�าไปต่อยอดในทาง ิชาการได้อย่างแพร่ ลาย
ร มถึงเป็นการขยายเครือข่ายองค์ค ามรู้ด้าน ิลป ัฒนธรรมของคณะฯ ใ ้เป็นท่ีรู้จักและ
ยอมรับใน ง ิชาการ เพื่อบรรลุตาม ิ ัยทั น์ของคณะและ เป็นการ ืบ านองค์ค ามรู้
ดา้ น ฒั นธรรมของชาตไิ ้ บื ไป

ผชู้ ่ ย า ตราจารย์ช ลิต ขา เขยี
คณบดีคณะโบราณคดี ม า ทิ ยาลัย ิลปากร

1 กรกฎาคม 2563

นัง ือรวมบทความวิจยั และบทความทางวชิ าการ เน่ืองในงานประชุมวิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

ารบญั

คา� นา�

คณะกรรมการดา� เนินงานโครงการ
“เผยแพร่ผลงาน จิ ัยด้าน ลิ ป ฒั นธรรมของ คณะโบราณคดี”

1. ถ�้าเขา ล งและ ถานท่เี กย่ี เนอ่ื งกับการพัฒนา ู่การเปน็ แ ล่งเรียนรู้ทางประ ัติ า ตร์
และ ิลป ัฒนธรรม

รอง า ตราจารย์ ดร.รุง่ โรจน์ ธรรมรุ่งเรือง น้า 1
ผู้ช่ ย า ตราจารย์ ดร.อชริ ัชญ์ ไชยพจนพ์ านชิ
ผู้ช่ ย า ตราจารย์ ดร.พั ี ริ ิ เปรมกลุ นันท์

2. าลเจ้าและอตั ลัก ณช์ า จนี ในชมุ ชนทา่ ฉลอม นา้ 19
ผู้ช่ ย า ตราจารย์ ดร.อชริ ชั ญ์ ไชยพจน์พานชิ

3. การต้ังถิ่นฐานของชา จีน และปฏิ ัมพันธ์ระ ่างเครือญาติ กรณี ึก าชุมชนท่าฉลอม
ชุมชนทา่ จีน จงั ดั มุทร าคร

อาจารย์ ธิ ร ิลป์ ฒุ ยา น้า 45

4. ยุคก่อนประ ัติ า ตร์ในอา� เภอไพ าลี: ผลการ ึก าทางโบราณคดี พ. . 2560

อาจารย์ ดร.นฤพล งั ธงชัยเจรญิ นา้ 71
บริ ุทธิ์ บรพิ นธ์

5. การผลติ เ ลก็ ในเขตภาคตะ นั ออกเฉยี งเ นอื ตอนลา่ งของประเท ไทย :
ทบท น ลกั ฐานทางโบราณคดที เ่ี กย่ี ขอ้ งจากมมุ มองทางโบราณโล ะ ทิ ยา

อาจารย์ ดร.ภีร์ เ ณุนนั ทน์ นา้ 91
บริ ทุ ธ์ิ บริพนธ์

6. ค าม ัมพันธ์ระ า่ งชายฝั่งทะเลโบราณกับเมืองโบราณอทู่ อง อ�าเภออูท่ อง
จงั ดั ุพรรณบุรี

ผู้ช่ ย า ตราจารยช์ ลิต ขา เขยี นา้ 111

7. ภูมิลัก ณก์ ารตง้ั ถน่ิ ฐานของชุมชนโบราณในคาบ มุทรมลายตู อนบน

ผูช้ ่ ย า ตราจารยป์ ระอร ลิ าพนั ธุ์ นา้ 129
ผู้ช่ ย า ตราจารยช์ ลิต ขา เขีย
พัชรพร เงินเกิด

8. การประยกุ ตใ์ ชเ้ ครอ่ื งมอื า� ร จธรณฟี ิ กิ ป์ ระเภทการ ยง่ั ค ามลกึ ด้ ย ญั ญาณเรดาร์
(GPR) ในการปฏบิ ตั งิ านภาค นามทางโบราณคดี

ผ้ชู ่ ย า ตราจารย์ช ลติ ขา เขยี นา้ 147
บริ ทุ ธ์ิ บริพนธ์

9. แ ล่งเรยี นรนู้ อก ้องเรียน ณ รา้ นบ�ารงุ ชาติ า นายาไทย

อาจารย์ ดร.ผุ ดี รอดเจริญ นา้ 163

10. บางประเดน็ เกี่ย กบั ทรงผมและ ริ าภรณใ์ น ิลปะเอเชยี อาคเนย์ ภายใตอ้ ทิ ธิพลอินเดีย

รอง า ตราจารย์ ดร.เช ฐ์ ติง ัญชลี น้า 181

11. การก�า นดอายเุ จดยี ์(ธาต)ุ ทรงบั แปดเ ล่ยี มใน ิลปะล้านช้าง
จากการ ึก า ิลปกรรมที่เมอื งโบราณเ ียงคุก จงั ัด นองคาย

รอง า ตราจารย์ ดร.ประภั ร์ ชู เิ ชยี ร นา้ 201

12. ลิ ปกรรมแ ง่ พระบรมราชานุ รณใ์ น มยั รชั กาลท่ี 4-5 ทถี่ า้� เขา ล ง จ. เพชรบรุ ี

ผชู้ ่ ย า ตราจารย์ ดร.พั ี ริ ิ เปรมกลุ นันท์ นา้ 219

นงั ือรวมบทความวจิ ัยและบทความทางวิชาการ เน่อื งในงานประชุมวิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

13. ถาปตั ยกรรมตะ นั ตกของ า้ งรา้ นยโุ รปกบั ค ามเปน็ เมอื ง มยั ใ ม่ ของกรงุ เทพม านคร

ผู้ช่ ย า ตราจารย์ ดร.เอก ุดา งิ ์ลา� พอง น้า 237

14. บทบาทผ้นู �าทาง า นากับการต่อรองทาง ฒั นธรรมของกลุม่ ชาตพิ ันธุ์กะเ รย่ี งโป ์
กรณี กึ า ต. แกน่ มะกรูด อ. บ้านไร่ จ. อุทัยธานี

อาจารย์ธัญธรี า ย้มิ อ�าน ย น้า 261

15. จากผอู้ า โุ ู่ผีพ่อผแี ม่: ค าม มายตอ่ ค ามชราภาพของกลุ่มผู้ ูงอายุไทดา�
ทา่ มกลางการเปล่ียนแปลงทาง ังคม ัฒนธรรม กรณี ึก ากลุ่มชาติพนั ธุไ์ ทด�า
ในพนื้ ทจ่ี งั ัดนครปฐม

อาจารย์ ดร.นฐั ฒุ ิ ิง ์กุล น้า 279

16. การรบั รู้ค าม มาย ญั ลัก ณป์ ู่ฤๅ บี รมครูของกลมุ่ ผู้ รทั ธา
: กรณี กึ า ต�า นักปฤู่ ๅ ีบรมครู ต. คูคต อ. ล�าลกู กา จ. ปทมุ ธานี

ผ้ชู ่ ย า ตราจารยช์ นิ ร ฟ้าดิ ฐี น้า 307

17. คนคนุ้ เคยท่แี ปลก นา้ : ค าม ัมพนั ธท์ ี่แปรเปลย่ี นของผูค้ นในจงั ดั ชายแดนภาคใต้
ระ า่ งค ามรุนแรงก า่ ท รร คร่งึ

ผู้ช่ ย า ตราจารย์ ดร.แพร ิริ ักดด์ า� เกงิ น้า 323

18. การเมอื งแบบบา้ นๆ ของคนบ้านโคกในการจดั การกบั การขาดแคลนนา�้

ผู้ช่ ย า ตราจารย์ ราภรณ์ มนต์ไตรเ ย์ น้า 343

19. ผคู้ น ประ ัติ า ตร์ และ ฒั นธรรมในงาน ิจัยเพ่ือท้องถิ่น จัง ัดแม่ฮอ่ ง อน
พ. . 2543 - 2560

ผูช้ ่ ย า ตราจารยน์ ุชนภางค์ ชุมดี น้า 361

20. ประ ตั ิ า ตรพ์ นื้ ที่ตาบอดยา่ นฝั่งธนฯ : ถิน่ คริ ตชนบาง ะแก

อาจารย์ภูมิ ภูติม าตมะ น้า 383

21. พันทา้ ยนร ิง :์ ค ามทรงจ�า ประ ตั ิ า ตรใ์ นท้องถน่ิ มทุ ร าคร

อาจารย์ ริ ิ รรณ ริ ณิชย์ น้า 401

22. การ กึ าภูมิปญั ญาท้องถน่ิ ของชมุ ชนไทย-รามัญบางขนั มาก จัง ดั ลพบุรี

รอง า ตราจารย์ ดร.ปรมตั ถ์ คา� เอก น้า 423

23. ผา้ ขา มา้ และย่ามในกระบ นการฟ้ืนฟู ัฒนธรรมไทยเบิ้งโคก ลงุ

ผชู้ ่ ย า ตราจารย์ ดร.พร รรค์ ตรพี า ัย นา้ 439

24. ถานภาพการ ิจัยด้านเขมร ึก าในประเท ไทย

รอง า ตราจารย์ประยูร ทรง ิลป์ นา้ 457
อาจารย์ ดร. ริ ิ าร เ มือนโพธิท์ อง

25. บทบาทของพระม าเมาทคลั ยายนะกับพระมาลยั ในคัมภีร์พระพุทธ า นา
: การ กึ าเปรียบเทยี บ

รอง า ตราจารย์ ดร. า� เนียง เล่ือมใ น้า 481

26. คติค ามเชอ่ื ในคมั ภรี ์ ิ ณปุ ุราณะ

ผชู้ ่ ย า ตราจารย์ ดร.ชยั ณรงค์ กลิน่ น้อย นา้ 509
อาจารย์ ดร.อเุ ทน ง ์ ถิต

27. การ ึก าเปรยี บเทยี บพืช มุนไพรในคัมภีร์จรก มั ิตากบั ตา� ราแพทย์แผนไทย

อาจารย์ ดร.อุเทน ง ์ ถติ น้า 533

28. กริยาผันรปู เดยี ในภา าฝร่ังเ : โครง รา้ งและค าม มาย

ผชู้ ่ ย า ตราจารย์ ดร. ุดารตั น์ พทุ ธพง ์ น้า 553

นัง อื รวมบทความวจิ ยั และบทความทางวิชาการ เนอื่ งในงานประชุมวิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

คณะกรรมการดา� เนินงานโครงการ
“เผยแพรผ่ ลงาน จิ ัยดา้ น ลิ ป ัฒนธรรมของคณะโบราณคด”ี

คณบดีคณะโบราณคดี ทปี่ รึก า
อาจารย์ ิธร ลิ ป์ ุฒยา ประธานกรรมการ
ผู้ช่ ย า ตราจารย์ ดร.อชิรชั ญ์ ไชยพจนพ์ านชิ
นาง า ภคมน เ ง่ียมจิตต์ กรรมการ
นาง า ัน ิ าข์ ชนะประเ รฐิ กรรมการ
นาง า ลัยภรณ์ เ งี่ยมจติ ต์ กรรมการ
และเลขานุการ กรรมการ



นงั อื รวมบทความวิจยั และบทความทางวชิ าการ เนื่องในงานประชุมวชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

ถ�ำ้ เขำ ลวงและ ถำนท่ีเกยี่ วเนือ่ งกับกำรพัฒนำ ู่
กำรเป็นแ ลง่ เรียนรู้ทำงประวตั ิศำ ตร์และศลิ ปวฒั นธรรม

The Study for Developing Khao-Iuang Cave and
Its Related Sites as a Historical,

Art and Cultural Learning Source

ดร.รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง1
ดร.อชิรชั ญ์ ไชยพจน์พานชิ 2
และดร.พสั วสี ิริ เปรมกลุ นันท3์

Rungroj Thamrungraeng,
Achirat Chaiyapotpanit,
and Patsaweesiri Preamkulanan

1 รองศา ตราจารย์ประจ�าภาควิชาประวัตศิ า ตรศ์ ลิ ปะ คณะโบราณคดี ม าวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
2 ผู้ช่วยศา ตราจารยป์ ระจ�าภาควิชาประวัติศา ตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี ม าวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
3 ผชู้ ว่ ยศา ตราจารย์ประจา� ภาควชิ าประวตั ิศา ตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี ม าวทิ ยาลยั ศิลปากร

1

นงั อื รวมบทความวจิ ยั และบทความทางวชิ าการ เนื่องในงานประชุมวชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

บทคดั ยอ่

ถ�้าเขา ล งและ ถานที่เก่ีย เนื่องเป็น า น ถาน �าคัญมาแล้ ตั้งแต่ มัยกรุง รีอยุธยา
เมอื่ ล่ งเขา้ ู่ มยั รตั นโก นิ ทรพ์ บ า่ ถานทแี่ ง่ นมี้ คี าม มั พนั ธก์ บั พระม าก ตั รยิ แ์ ละพระราช ง จ์ กั รี
กลา่ คือ พระบาท มเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยู่ ั และพระบาท มเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่ ั ไดเ้ ด็จ
พระราชด�าเนินมาทรงบ�าเพ็ญพระราชกุ ล ทรง ร้าง รือทรงปฏิ ังขรณ์ถา ร ัตถุในถ้�า ลายอย่าง
พระราช ง ์ ลายพระองคไ์ ด้โดยเ ดจ็ พระราชกุ ลในครั้งนนั้ ด้ ย

ถา้� เขา ล งและ ถานทเี่ กย่ี เนอื่ งมคี ามเ มาะ มเปน็ แ ลง่ เรยี นรทู้ างประ ตั ิ า ตรแ์ ละ ลิ ป
ัฒนธรรม ซึ่งในเบื้องต้นเ ็น ่าการผลิต ื่อการเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ จะท�าใ ้เกิดการพัฒนาเป็นแ ล่ง
เรยี นรไู้ ด้ โดยทางคณะผู้ จิ ยั ไดเ้ กบ็ ขอ้ มลู นกั ทอ่ งเทยี่ บคุ คลทั่ ไป และบคุ ลากรจาก น่ ยงาน รอื องคก์ ร
ทเี่ กย่ี ข้อง ในท่ี ดุ จึงผลิต ่ือการเรยี นรู้ท้งั น้ิ 5 ประเภท ได้แก่ 1.แผน่ พับ 2. นัง อื 3. ีดิทั นอ์ อนไลน์
4.อินโฟกราฟิก 5.เพจเฟซบุ๊ก เขา ล งมรดกลา�้ ค่าของเมืองเพชรบรุ ี

เมอ่ื ผลิต อ่ื ประเภทตา่ ง ๆ แล้ เ รจ็ ไดน้ า� ่อื ต่าง ๆ เ ลา่ น้ีเผยแพร่ ู่ าธารณชนผ่านช่องทาง
ต่าง ๆ และมอบใ ้ น่ ยงานท่ีเกย่ี ข้องได้ใชป้ ระโยชน์ อ่ื ทุกประเภทได้รบั การประเมนิ จากผูใ้ ชง้ าน ่า
ท�าใ ้รู้จักและทราบข้อมูลค าม �าคัญของถ�้าเขา ล งและ ถานท่ีเกี่ย ข้องในบริบทประ ัติ า ตร์และ
ลิ ป ฒั นธรรมมากขนึ้ อยากไปเยยี่ มชมถา้� เขา ล งมากขน้ึ และคดิ า่ อื่ การเรยี นรทู้ ผี่ ลติ ขนึ้ นตี้ อบโจทย์
การพฒั นา กู่ ารเปน็ แ ลง่ เรียนรู้ทางประ ัติ า ตรแ์ ละ ิลป ฒั นธรรมอย่างยิง่

กล่า ได้ ่าโครงการ ิจัยน้ีได้ค้นค ้าข้อมูลค าม �าคัญทางประ ัติ า ตร์และ ิลป ัฒนธรรม
ของถ�้าเขา ล งและ ถานทเ่ี กย่ี เนอื่ งอย่างละเอยี ด ผลท่ีได้นไ้ี ดน้ า� ไปผลติ อ่ื การเรยี นรูป้ ระเภทต่าง ๆ
ซ่ึงจากการทดลองใชแ้ ละ ัมภา ณ์ผูเ้ กย่ี ข้อง เ น็ า่ ่อื เ ลา่ นีไ้ ดต้ อบโจทยก์ ารพัฒนา ถานท่นี ใ้ี ก้ ลาย
เป็นแ ล่งเรียนร้ทู างประ ตั ิ า ตร์และ ิลป ฒั นธรรมไดใ้ นท่ี ุด

คา� สา� คญั : ถ้�าเขา ล ง, เพชรบรุ ี, ประ ัติ า ตร์, ิลป ัฒนธรรม

2

Abstract

From the research, it is discovered that Khao-luang and its related nearby sites
have been used as religious places since the Ayutthaya period. In the Rattanakosin period,
it had a close relationship with the kings and some royal members in the Chakri dynasty.
King Mongkut and King Chulalongkorn visited this cave in order to hold merit activities
and had many religious relics of the cave renovated. Some members of the royal family
also joined these activities. It can be said that Khao-luang Cave has many more Buddha
images made by the court than other places. Furthermore, some Thai and foreign
renowned persons travelled here as well.

Due to the aforementioned value and significance, the researching team realized
that Khao-luang Cave and its related sites can be developed as a historical, art and
cultural learning source. In order to accomplish this aim, the team collect various data
from tourists and staffs of related organizations. The data includes their knowledge on
Khao-luang Cave and their ideas on choosing media for publicizing the knowledge.
After integrating and analyzing all data, the team chose five kinds of media, namely
1) brochure 2) handbook 3) online short films 4) infographic and 5) Facebook page.

All chosen media were open to the public through various ways and were
evaluated in the aspect of its usefulness by users. The result of evaluation shows that
all the media helped users more realize the historical and artistic importance of Khao-luang
Cave and its nearby sites. Those media also encouraged the users to visit this cave and
complied with developing this place as a historical, art and cultural learning source.

Keywords: Khao-luang Cave, Petchaburi, History, Art and Culture

3

นงั ือรวมบทความวจิ ัยและบทความทางวิชาการ เนอื่ งในงานประชุมวชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

1. ความเป็นมาของโครงการ

ถ�้าเขา ล งต้ังอยู่ที่ต�าบลธงชัย อ�าเภอเมือง จัง ัดเพชรบุรี ภายใต้การดูแลของ ัดบุญท ี
( ัดถา�้ แกลบ) เป็นถา้� ินปูนขนาดก ้างใ ญ่ เตม็ ไปด้ ย ินงอก ินย้อย มีแ ง ่าง อ่ งถงึ ภายในถ้�าจงึ มี
ธรรมชาตทิ ี่ งดงาม

นอกจากน้ีภายในถ้�าเขา ล งยังเป็นท่ีประดิ ฐานพระพุทธบาท พระเจดีย์ และพระพุทธรูป
นอ้ ยใ ญอ่ กี เปน็ จา� น นมาก รอ่ งรอยทางพทุ ธ า นาเ ลา่ นผี้ น กร มกบั ลกั ฐานลายลกั ณอ์ กั ร ทา� ใ ้
เชอื่ กนั า่ ถา้� เขา ล งไดร้ บั การดดั แปลงใ เ้ ปน็ พทุ ธ ถาน รอื ถานที่ กั ดิ์ ทิ ธม์ิ าแล้ แตค่ รง้ั กรงุ รอี ยธุ ยา
ตอ่ มาใน มัยรตั นโก ินทร์ตอนตน้ ก็ยังคงเปน็ ทรี่ ู้จักกนั ดี ทั้งยังเก่ีย ขอ้ งโดยตรงกับราช �านกั มยั รัชกาล
ที่ 4-5 โดยเป็น ถานทบ่ี �าเพ็ญพระราชกุ ลของรัชกาลท่ี 4 และรชั กาลท่ี 5 ตลอดจนพระราช ง ์ และ
บุคคล �าคัญในราช �านัก เ ็นได้จากจารึกที่พบร่ มกันกับพระพุทธรูป ลายองค์ที่เรียงรายอยู่ภายในถ�้า
ได้ระบุพระนามเจ้านายในราช ง จ์ กั รี ซึ่งล้ นแต่เปน็ พระราชโอร พระราชธิดา และเจา้ จอมมารดาใน
รัชกาลที่ 4 และยงั มีพระพุทธรูปท่มี ีจารกึ พระนาม มเดจ็ พระอคั รมเ ี พระราชโอร พระราชธดิ า และ
เจา้ จอมมารดาในรชั กาลท่ี 5 และรายนามตา� แ น่งบุคคล า� คัญทก่ี �ากับราชการในราช �านัก

เปน็ ทนี่ า่ เ ยี ดายทค่ี าม า� คญั นานาประการของถา�้ เขา ล งทกี่ ลา่ ไปขา้ งตน้ ไมเ่ ปน็ ทรี่ จู้ กั แพร่
ลาย ทา� ใ ้ นา้ ประ ตั ิ า ตร์ า� คญั อยา่ ง นง่ึ ของเมอื งเพชรบรุ คี อ่ ย ๆ ายไปตามกาลเ ลา ไมเ่ น้ กระทงั่
ชา เพชรบุรีเอง ทั้งยังขาดการดูแลรัก า ภาพโดยท่ั ไปของเจดีย ัตถุภายในถ�้าจึงช�ารุดทรุดโทรม
ด้ ยเ ตดุ งั กลา่ นจี้ งึ เกดิ โครงการ จิ ยั นข้ี น้ึ เพอื่ นา� องคค์ ามรทู้ ถ่ี กู ตอ้ ง ไม่ า่ จะเปน็ การคน้ ค า้ ประเดน็ ใ ม่
ต่อยอด รือ รุปผลจากงานท่ีนัก ิชาการท่านต่าง ๆ ได้ท�าไ ้ มา าช่องทางเผยแพร่ ู่ าธารณชนใน
รปู แบบตา่ ง ๆ ตลอดจนจดั กจิ กรรมร่ มกบั น่ ยงานทเี่ กย่ี ขอ้ ง เพอื่ ใ ค้ าม า� คญั ทางดา้ นประ ตั ิ า ตร์
ิลปะ และ ัฒนธรรม ของถ�้าเขา ล งและ ถานท่ีเกี่ย เนื่องใ ้เป็นที่รู้จักแพร่ ลายอีกครั้ง จนพัฒนา
กลายเป็นแ ล่งเรียนร้ทู างประ ัติ า ตรแ์ ละ ิลป ฒั นธรรมท่ี า� คัญค่เู มืองเพชรบรุ ีได้ในท่ี ดุ

2. วตั ถุประสงคข์ องโครงการ

1. เพ่อื ทราบถงึ ค าม �าคัญของถ้�าเขา ล งและ ถานทเ่ี กย่ี เนื่องในบริบทต่าง ๆ โดยเฉพาะ
ในแง่มมุ ค ามเชอ่ื และค าม มั พนั ธ์กับราช า� นัก มัยรชั กาลท่ี 4-5

2. เพ่ือทราบถึงค ามต้องการ ปัญ า อุป รรค และข้อมูลต่าง ๆ ของ น่ ยงานราชการท่ีมี
่ นเกยี่ ข้อง เช่น องคก์ ารบริ าร ่ นตา� บลธงชัย า� นกั โบราณคดที ี่ ๑ ราชบุรี ดั บุญท ี ตลอดจน
บุคคลที่เก่ีย ข้อง และนักท่องเท่ีย เพื่อ างแน ทางในการพัฒนาถ�้าเขา ล งเป็นแ ล่งเรียนรู้
ทางประ ตั ิ า ตรแ์ ละ ิลป ัฒนธรรม

3. เพอ่ื นา� องคค์ ามรแู้ ละแน ทางตา่ ง ๆ ทไ่ี ดไ้ ปผลติ เปน็ เอก ารและ อื่ การเรยี นรปู้ ระเภทตา่ ง ๆ
และจดั กจิ กรรมร่ มกบั น่ ยงานทเ่ี กยี่ ขอ้ ง เพอื่ ใ ถ้ า�้ เขา ล งและ ถานทเ่ี กยี่ เนอ่ื งไดพ้ ฒั นา กู่ ารเปน็
แ ลง่ เรียนรทู้ างประ ตั ิ า ตร์และ ิลป ฒั นธรรมอยา่ งยั่งยนื

4

3. ความ �าคัญของถ้�าเขา ลวงและ ถานที่เกีย่ วเน่อื ง
ถา้� เขา ล งเปน็ ถานท่ี กั ดิ์ ทิ ธมิ์ าแล้ ตงั้ แต่ มยั กรงุ รอี ยธุ ยาตอนตน้ และยงั คงเปน็ ที่ กั การะ

บชู าของชา เมอื งเพชร บื ตอ่ มาตลอด มยั กรงุ รอี ยธุ ยา ปชู นยี ตั ถทุ ี่ า� คญั ในช่ งนไี้ ดแ้ ก่ ล งพอ่ ถา้� ล ง
(ภาพท่ี 1) พระพทุ ธไ ยา น์ พระพทุ ธรูปอ่ทู อง เจดยี แ์ ปดเ ลย่ี มประดบั ล ดลายปนู ปน้ั พระพทุ ธบาท

ภาพที่ 1 ล งพ่อถา�้ ล งและพระพุทธรูปอื่น ๆ ถ�้าเขา ล ง จัง ัดเพชรบรุ ี

เม่ือล่ งเข้า ู่ มัยรัตนโก ินทร์ตอนต้นพบ ่า ถานที่แ ่งน้ียังเป็นท่ี ักการบูชา แต่ ภาพช�ารุด
ทรดุ โทรมมาก ครนั้ ตอ่ มาในรชั กาลพระบาท มเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่ พระองคโ์ ปรดเกลา้ ฯ ใ ป้ ฏิ งั ขรณ์
ถา ร ตั ถุในถ้า� เช่น พระพุทธบาท พระพทุ ธรปู ลายองค์ และ ร้าง ิ่งก่อ ร้างต่าง ๆ เพ่ิมเตมิ เช่น บันได
เจดีย์ทรงระฆัง 3 องค์ พระพุทธรูปจ�าน นมาก พระราช ง ์ ลายพระองค์ได้ร่ ม ร้าง รือปฏิ ังขรณ์
พระพุทธรูป ลายองค์ ต่อมาในรัชกาลพระบาท มเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ ั พระองค์เ ด็จ
พระราชด�าเนินมาบ�าเพ็ญ พระราชกุ ล ทรง ร้าง รือทรงปฏิ ังขรณ์ถา ร ัตถุในถ้�า ลายอย่าง
พระราช ง ์ ลายพระองคไ์ ดร้ ่ ม รา้ ง รอื ปฏิ งั ขรณพ์ ระพทุ ธรปู ลายองคเ์ ชน่ กนั (พั ี ริ ิ เปรมกลุ นนั ท์
2561: 29-114)

นับได้ ่าถ�้าเขา ล งเป็น ถานท่ีประดิ ฐานพระพุทธรูปที่พระม าก ัตริย์และพระราช ง ์
ทรง รา้ ง รอื ทรงปฏิ ังขรณ์ไ ้มากที่ ุดก ่าทใ่ี ดในประเท ไทย ทีฐ่ านของพระพทุ ธรูปแตล่ ะองคป์ รากฏ
พระปรมาภิไธย รือพระนามของพระราช ง ์ กล่า ได้ ่าเป็น ถานที่ที่ปรากฏพระนามพระราช ง ์จักรี
มากท่ี ดุ ในประเท ไทย

5

นัง ือรวมบทความวิจยั และบทความทางวิชาการ เน่ืองในงานประชุมวชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

นอกจากนบี้ คุ คล า� คญั ทง้ั ชา ไทยและตา่ งชาตกิ ไ็ ดเ้ คยเดนิ ทางมาถา้� เขา ล งด้ ย เชน่ นุ ทรภู่
เซอร์จอ น์ เบา ร์ ิง ดกุ๊ โยฮัน อลั เบรกต์

บนเขา ล งยงั มี �าคญั อ่นื ๆ อกี เชน่ ถา้� พุทธโฆ า ถ้�าโบราณ ถ�้าชา้ งเผอื ก ท่ชี า เมอื งเพชรบรุ ี
ในอดีตได้ดัดแปลงใ ้เป็น า น ถาน ากแต่ไม่ใ ญ่โตเท่าถ้�าเขา ล ง นับได้ ่าเป็น ถานที่เกี่ย เน่ือง
ทมี่ คี ณุ ค่า ซงึ่ การใ ค้ าม า� คญั กับถ�้าอื่น ๆ นี้ยังไมม่ งี าน ิจัยใดกล่า ถึงมากอ่ นนกั

จากคณุ คา่ และค าม า� คญั ขา้ งตน้ เ น็ า่ ค รพฒั นาถา�้ เขา ล งและ ถานทเี่ กยี่ เนอ่ื งเปน็ แ ลง่
เรยี นรูท้ างประ ัติ า ตร์และ ิลป ัฒนธรรมตอ่ ไป

4. ถานภาพองค์ความรู้และความตอ้ งการของบคุ คลต่าง ๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ งและนกั ท่องเทย่ี ว

ตามที่ได้กล่า ไ ้แล้ ใน ั ข้อก่อน น้าถึงค าม �าคัญของถ้�าเขา ล งและ ถานที่เกี่ย เนื่อง
า่ มคี ามเ มาะ มทจี่ ะพฒั นาใ เ้ ปน็ แ ลง่ เรยี นรทู้ างประ ตั ิ า ตรแ์ ละ ลิ ป ฒั นธรรมได้ การดา� เนนิ งาน
ข้นั ต่อไป ไดแ้ ก่ การ ัมภา ณแ์ ละ อบถามบคุ คลต่าง ๆ ในประเดน็ ต่าง ๆ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงองคค์ ามรู้
ทางด้านประ ัติ า ตร์และ ิลป ัฒนธรรมของถา�้ เขา ล ง ่ารู้จกั มากนอ้ ยเพียงใด และแน ทางการผลิต
ือ่ การเรียนรปู้ ระเภทตา่ ง ๆ า่ ค รเปน็ อยา่ งไร

กล่มุ บคุ คลท่ีใ ้ข้อมลู ัมภา ณ์แยกออกเป็น 2 กลมุ่
กลุม่ แรก คอื บคุ ลากรของ น่ ยงานตา่ ง ๆ ทเี่ กี่ย ข้อง ไดแ้ ก่ ัดบุญท ี ( ัดถ้�าแกลบ) องคก์ าร
บริ าร ่ นต�าบลธงชัย และ �านกั ิลปากรท่ี 1 ราชบรุ ี
กลมุ่ ท่ี อง คอื นกั ทอ่ งเทยี่ ที่มาเยี่ยมชมถา้� เขา ล ง

4.1 ข้อมูลที่ไดจ้ ากบุคลากรของ น่วยงานท่เี กยี่ วข้อง

จากการ ัมภา ณ์รองเจ้าอา า ัดถ้�าบุญท ี ( ัดถ้�าแกลบ) ซึ่งเป็น น่ ยงานที่ดูแลภายในถ�้า
เขา ล ง นายกองค์การบริ าร ่ นตา� บลธงชัย ผู้ดูแลพน้ื ท่โี ดยรอบ นักโบราณคดขี อง �านัก ลิ ปากรท่ี 1
ราชบุรี ผู้มี น้าที่บูรณปฏิ ังขรณ์และเผยแพร่ค ามรู้ ประธานกลุ่มอนุรัก ์และพัฒนาถ�้าเขา ล งเพื่อ
การทอ่ งเทยี่ และมคั คเุ ท กท์ อ้ งถนิ่ ชา เพชรบรุ ี ซงึ่ มี นา้ ทนี่ า� ชมภายในถา�้ เขา ล ง ได้ข้อมูลดงั น้ี

1. บุคลากรของ น่ ยงานที่เก่ีย ข้องทราบถึงประ ัติท่ี �าคัญของถ�้าเขา ล ง ่ามีอายุเก่าแก่
จนถงึ มยั กรงุ รอี ยธุ ยา พระบาท มเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่ ั พระบาท มเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่ ั
และพระราช ง ์เคยเ ด็จพระราชด�าเนินมา ทั้งยังโปรดเกล้าฯ ใ ้บูรณปฏิ ังขรณ์และ ร้าง ิ่งก่อ ร้าง
ต่าง ๆ ไ ้ นอกจากนี้ยังทราบ ่ามีบุคคล �าคัญท่านต่าง ๆ ท้ังชา ไทยและชา ต่างชาติเคยเดินทางมา
แต่กระนั้นรายละเอียดของเ ตุการณ์ ตลอดจนรายละเอียดค าม �าคัญของพระพุทธรูป รือปูชนีย ัตถุ
ตา่ ง ๆ ภายในถา้� ยังมีไม่มากนัก

6

2. า� รบั ประเดน็ เรอ่ื ง อ่ื การเรยี นรทู้ จี่ ะมี ่ นช่ ยพฒั นาใ ถ้ า้� เขา ล งและ ถานทเ่ี กยี่ เนอื่ ง
เปน็ แ ลง่ เรยี นรทู้ างประ ตั ิ า ตรแ์ ละ ลิ ป ฒั นธรรมนนั้ เ น็ ด้ ยทจี่ ะทา� การเผยแพรใ่ นรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่
ดี ทิ ั น์ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เผยแพรท่ างเ บ็ ไซต์ จดั ทา� เปน็ นู ยข์ อ้ มลู จดั การอบรมค ามรู้ และจดั ทา� นงั อื คมู่ อื

4.2 ขอ้ มูลทไี่ ดจ้ ากนักท่องเที่ยว

จากการเกบ็ ขอ้ มลู นกั ทอ่ งเทยี่ ทเี่ ดอื นทางมาเยย่ี มชมถา�้ ขา ล งเมอ่ื เดอื นตลุ าคม 2560 จา� น น
108 คน โดยใชแ้ บบ อบถาม ประกอบด้ ยค�าถาม 2 ตอน ตอนที่ 1 ข้อมูลผตู้ อบแบบ อบถาม ตอนท่ี 2
เปน็ คา� ถามตา่ ง ๆ เกยี่ กบั ถา้� เขา ล งในดา้ นตา่ ง ๆ เพอ่ื ประเมนิ ภาพค ามรคู้ ามเขา้ ใจของนกั ทอ่ งเทย่ี
ต่อค าม �าคัญทางประ ัติ า ตร์และ ิลป ัฒนธรรมของถ้�าเขา ล ง ค ามเ ็นเกี่ย กับการผลิต ื่อ
การเรียนรู้ และแน ทางการพัฒนาถ้�าเขา ล งและ ถานทเ่ี กี่ย เนอ่ื ง กู่ ารเปน็ แ ล่งเรียนรู้ ามารถ รุป
ไดด้ ังน้ี

1. ช่องทางการรู้จักถ�้าเขา ล งและ ถานท่ีเกี่ย เน่ือง พบ ่าอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางท่ี �าคญั
ท่ี ุด โดยนกั ท่องเท่ยี จา� น นมากถงึ 69 คน รจู้ ักถ้�าเขา ล งผ่านช่องทางนี้

2. เ ตุผลท่ีเลือกมาเท่ีย ถ้�าเขา ล ง นักท่องเท่ีย ่ นใ ญ่เลือกมาเพราะค ามงดงาม
ของธรรมชาติ รือชอบเท่ยี ธรรมชาติ จ�าน น 67 คน ในขณะทก่ี ารเปน็ ถานท่ี กั ดิ์ ทิ ธิ์และเป็น ถาน
ที่ �าคญั ทางประ ตั ิ า ตรอ์ นั เปน็ คุณค่า ลกั ของถา�้ เขา ล งเช่นกนั มีผู้เลือกมาเพราะเ ตุผลนี้ 20 คน
และ 5 คน ตามล�าดับ

3. การรับทราบค าม �าคัญทางด้านประ ัติ า ตร์และ ิลป ัฒนธรรม นักท่องเที่ย ่ นใ ญ่
จา� น นมากถงึ 85 คน ไม่ทราบ า่ ถา�้ เขา ล งและ ถานที่เก่ีย เน่ืองมีค าม �าคัญทางประ ตั ิ า ตรแ์ ละ
ลิ ป ัฒนธรรมอย่างไร ในขณะทีค่ าม ัมพนั ธ์กับรชั กาลที่ 4 และรชั กาลที่ 5 มนี กั ทอ่ งเทย่ี ท่ีรบั ทราบ
เพียง 5 คน ่ นเร่ืองค ามเก่าแก่จนถึง มัยกรุง รีอยุธยาและมีพระพุทธรูปจารึกพระนามพระราช ง ์
ซ่ึงผู้ จิ ยั เ น็ ่าเปน็ คณุ ค่าอนั โดดเด่นของถา�้ เขา ล งกลบั ไมม่ ีนักท่องเท่ยี ทา่ นใดรับทราบมาก่อน

4. ค ามเพยี งพอของข้อมลู ถา�้ เขา ล งใน อื่ ตา่ ง ๆ นกั ท่องเทย่ี จ�าน น 52 คนใ ้ค ามเ น็ า่
าขอ้ มลู ได้พอ มค ร และจา� น น 47 คน ใ ้ค ามเ ็น า่ ขอ้ มลู จ�าน นไม่เพยี งพอ ถอื ได้ า่ อยู่ใน ดั ่ น
ท่ีไมต่ ่างกันนัก

5. ค ามคดิ เ น็ เกยี่ กบั การผลติ อ่ื การเรยี นรู้ ผู้ จิ ยั ได้ อบถามถงึ การผลติ อ่ื การเรยี นรปู้ ระเภท
ต่าง ๆ เช่น คู่มือน�าชม แผ่นพับ ีดิทั น์ ท่านเ ็นด้ ย รือไม่ และใ ้แ ดงค ามเ ็น ่าค รท�าแบบใด
โดยนกั ท่องเทีย่ ทง้ั มดเ น็ ด้ ย ่าค รทา� และมีข้อเ นอแนะเพ่ิมเตมิ ล�าดับจากมากไปน้อยดงั นี้

- น�าเ นอผ่าน อื่ อินเทอรเ์ นต็ จา� น น 36 คน
- ท�าป้ายขอ้ มูลภายในถ�้าใ ้มีรูปแบบนา่ นใจ แ ดงข้อมูลและภาพประกอบ จา� น น 29 คน
- ท�าแผน่ พับนา� เ นอขอ้ มูลค าม า� คัญและมี ลายภา า จ�าน น 25 คน
- ท�า ือ่ ดี ิทั น์ พร้อมทา� คา� บรรยายภา าองั กฤ จ�าน น 18 คน
- นา� เ นอผา่ น อื่ อน่ื ๆ เชน่ นงั อื คมู่ อื นา� ชม โป การด์ ทา� เ ยี งบรรยายภายในถา�้ เ นอขอ้ มลู
ผา่ นการจัดงานท่องเทย่ี ท่ีต่าง ๆ รอื ทา� ขอ้ มลู ผ่าน QR CODE จ�าน น 14 คน
- จดั ใ ม้ ีมคั คเุ ท ก์นา� ชม จา� น น 4 คน
- จัดนิทรร การใ ้ค ามรู้ก่อนลงมาชมถา้� จ�าน น 1 คน

7

นงั ือรวมบทความวิจยั และบทความทางวิชาการ เนอื่ งในงานประชมุ วิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

6. จุดเด่นและจุดด้อยของถ้�าเขา ล งและ ถานท่ีเกยี่ เน่ือง ในด้านจุดเด่นยังเ ็นไดช้ ดั า่
นักท่องเทยี่ เ ็น า่ ภาพตามธรรมชาติของถ้�าเขา ล งเป็น ิง่ ทโี่ ดดเด่นท่ี ดุ รองลงมาคอื มคี าม �าคญั
ทางดา้ นประ ัติ า ตร์

7. ค ามเ น็ อนื่ ๆ เพอื่ พฒั นาถา�้ เขา ล งและ ถานทเ่ี กย่ี เนอ่ื งใ เ้ ปน็ แ ลง่ เรยี นรู้ นกั ทอ่ งเทย่ี
ไดแ้ ดงค ามคดิ เ ็นใน ่ นน้ีอย่าง ลาก ลาย แบ่งไดเ้ ปน็ 3 ประเด็น ลัก ไดแ้ ก่

- แน ทางการพฒั นาพนื้ ที่ โดยใ ค้ ามเ น็ า่ การพฒั นาและปรบั ปรงุ ตอ้ งไมเ่ บยี ดเบยี นธรรมชาติ
- รปู แบบการนา� เ นอขอ้ มลู ค ามรู้ ่ นใ ญใ่ ค้ ามเ น็ า่ ปา้ ยขอ้ มลู ค รนา่ นใจและทนั มยั
มภี า าอน่ื ๆประกอบด้ ย ใ ท้ ง้ั ค ามรเู้ กย่ี กบั ถา้� และคา� แนะนา� การปฏบิ ตั ติ น ค รมเี จา้ นา้ ทค่ี อยแนะนา�
มนี ทิ รร การค ามรจู้ ดั ไ ใ้ ้ กึ า รอื เปดิ เ ยี งบรรยาย ค รนา� เ นอใน อ่ื ออนไลน์ เชน่ เ บ็ ไซต์ เฟซบกุ๊
รอื QR CODE
- การบริ ารจัดการพ้ืนท่ีและการบริการ นักท่องเที่ย เ ็น ่าค รมีการปรับปรุงภูมิทั น์ เช่น
เปลี่ยน ีแ งไฟ ลัก ณะพื้นทางเดินท่ีลื่น บันไดที่ ูง และป้ายเตือนเร่ืองลิง ค รจัดระเบียบ ่ นต่าง ๆ
ใ ้ดขี ึน้ เช่น จุดทใ่ี ้นกั ท่องเที่ย ไ ้พระ จุดใ ค้ ามรู้และค าม า� คญั ของ ถานท่ี

5. แนวทางการผลิตสอ่ื การเรยี นรู้และผลการประเมนิ การใช้ส่ือการเรียนรู้

เปา้ มาย นงึ่ ของงาน จิ ยั นี้ คอื นา� องคค์ ามรจู้ ากการ กึ ามาผลติ เปน็ เอก าร รอื อ่ื ประเภท
ต่าง ๆ เพื่อท่ีจะ ามารถพัฒนาถ�้าเข้า ล งเป็นแ ล่งเรียนรู้ทางประ ัติ า ตร์และ ิลป ัฒนธรรมได้
อย่างแท้จริง ในการผลิต ื่อเพ่ือเผยแพร่ค ามรู้เก่ีย กับถ้�าเขา ล ง คณะผู้ ิจัยประม ลค ามเ ็นจาก
ผู้มี ่ นเก่ีย ข้องในทุกภาค ่ น ได้แก่ องค์การบริ าร ่ นต�าบลธงชัย ัดบุญท ี �านัก ิลปากรท่ี 1
มัคคุเท ก์ท้องถ่ิน และนักท่องเที่ย ท่ีเดินทางมาชมถ�้าเขา ล ง และน�าผลจากการประม ลข้างต้น
มาพิจารณาร่ มกับงบประมาณ ระยะเ ลา และคุณค่าทางประ ัติ า ตร์และ ิลปกรรมของถ้�าแ ่งนี้
ลงั จากผลติ อื่ การเรยี นรู้แตล่ ะประเภทแล้ ได้ใ ้ประชากรกล่มุ ตั อย่างประเมนิ ผลการเรียนร้ทู ีไ่ ดจ้ าก
การใช้ ื่อต่าง ๆ โดยเป้า มาย ลักตอ้ งการทราบ า่ อ่ื ตา่ ง ๆ ทา� ใ ร้ ู้ค าม �าคัญทางประ ตั ิ า ตรแ์ ละ
ิลป ัฒนธรรมของถ�้าเขา ล งและ ถานท่ีเก่ีย เน่ืองเพิ่มขึ้น รือไม่ ่ือต่าง ๆ เ ล่าน้ีมี ่ นช่ ยใ ้เกิด
การพฒั นาพ้นื ท่ี กู่ ารเป็นแ ล่งเรียนรทู้ างประ ตั ิ า ตรแ์ ละ ิลป ัฒนธรรม รอื ไม่

จากการ มั ภา ณบ์ คุ ลากรของ น่ ยงานทเ่ี กยี่ ขอ้ งและการเกบ็ ขอ้ มลู นกั ทอ่ งเทยี่ คณะผู้ จิ ยั
จงึ เลือกผลติ ่อื การเรียนรู้ทง้ั มด 5 ประเภทเพ่ือเผยแพรค่ ามรเู้ กีย่ กบั ถา้� เขา ล ง ได้แก่ 1. แผ่นพับ
2. นัง อื 3. การเผยแพร่ ดี ิทั นอ์ อนไลน์ 4. อินโฟกราฟกิ 5. เพจเฟซบกุ๊ เพื่อเ นอขอ้ มูลค าม �าคญั
ของถา�้ เขา ล งและ ถานทีเ่ ก่ีย เนอ่ื งในด้านประ ัติ า ตรแ์ ละ ลิ ป ัฒนธรรม

8

5.1 แผน่ พบั

แผ่นพับเป็น นึ่งใน ื่อ ิ่งพิมพ์ท่ีคณะผู้ ิจัยเลือกเพื่อเผยแพร่ข้อมูลและก�า นดไ ้ในแผนของ
โครงการเพราะ ่ือประเภทน้ีมีขนาดเล็ก พกพา ะด ก และ ามารถเข้าถึงทุกกลุ่มคน เ มาะกับ
กลุ่มนักท่องเท่ีย ท่ีต้องการรู้ข้อมูลเบ้ืองต้นทางประ ัติ า ตร์และ ิลปกรรมของ ถานที่แ ่งนี้เท่าน้ัน
นอกจากนเ้ี พอ่ื นา� องคค์ ามรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี กบั ถา้� เขา ล งขยายออกไปในระดบั งก า้ งมากขน้ึ ผู้ จิ ยั จงึ ผลติ
แผน่ พบั ออกเป็น 2 แบบ คือ แบบภา าไทย (ภาพท่ี 2-3) และแบบภา าองั กฤ โดยแบบ ลงั จะอ�าน ย
ค าม ะด กใ ้กับนกั ท่องเท่ยี ชา ตา่ งประเท ด้ ย

ภาพท่ี 2 ด้านนอกแผน่ พับภา าไทย

ภาพที่ 3 ดา้ นในแผ่นพบั ภา าไทย

9

นงั อื รวมบทความวิจัยและบทความทางวชิ าการ เนื่องในงานประชมุ วิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

5.2 นัง อื
คณะผู้ จิ ยั เลอื ก นัง ือ “ถา้� เขา ล งมรดกลา้� ค่าของเพชรบุร”ี (ภาพที่ 4) เปน็ ่ือ ่ิงพิมพ์อีก
ประเภท นง่ึ เพอ่ื เผยแพรอ่ งคค์ ามรเู้ กย่ี กบั ถา้� เขา ล ง โดยคณุ ลกั ณะของ นงั อื แตกตา่ งจากแผน่ พบั
คือ มีพนื้ ทีบ่ รรจขุ อ้ มูลไดม้ ากก า่ ซงึ่ จะเ มาะกบั การเผยแพร่องค์ค ามรถู้ ้�าเขา ล งในเชงิ ลกึ ซง่ึ จะมอบ
ใ ้ น่ ยงานท่ีเกย่ี ขอ้ งไดใ้ ชเ้ ป็นคู่มอื �า รบั ค้นค ้า คือ องค์การบริ าร ่ นตา� บลธงชัย �านัก ิลปากร
ท่ี 1 ราชบรุ ี และ ดั บญุ ท ี ( ดั ถา้� แกลบ) ตลอดจน น่ ยงานอนื่ ๆ ทเ่ี กย่ี ขอ้ ง เชน่ อทุ ยานประ ตั ิ า ตร์
พระนครครี ี ทงั้ นใ้ี นบรรดาผทู้ เ่ี ดนิ ทางมายงั ถา้� เขา ล งนนั้ มที ง้ั นกั ทอ่ งเทย่ี และนกั ชิ าการท่ี นใจ กึ า
ประ ัติ า ตร์และงาน ิลปกรรมอย่างลึกซ้ึง ดังน้ัน ื่อ ิ่งพิมพ์ประเภท นัง ือจะ ามารถตอบโจทย์
ค ามตอ้ งการของคนกลมุ่ นดี้ ้ ย คณะผู้ จิ ยั เลอื กขนาด นงั อื A5 ซง่ึ เปน็ ขนาดทพี่ กพา ะด กและ ามารถ
นา� ไปเปน็ คมู่ ือในการ กึ าดงู าน ลิ ปกรรมภายในถา้� ด้ ย

ภาพที่ 4 นา้ ปก นัง อื ถำ้� เขำหลวง มรดกล้�ำคำ่ ของเพชรบรุ ี
ท่ปี ก ลังทา� คิ อารโ์ คด้ ซึง่ เช่ือมโยงกบั ขอ้ มลู บนเพจเฟซบุ๊ก

ทง้ั นอี้ งคค์ ามรเู้ ชงิ ลกึ เกยี่ กบั ถา�้ เขา ล งทปี่ รากฏใน นงั อื นี้ จะ ามารถนา� ไปประยกุ ตใ์ ชเ้ พอื่
ตอ่ ยอดในการพฒั นาถา้� เขา ล ง กู่ ารเปน็ แ ลง่ เรยี นรทู้ างประ ตั ิ า ตรแ์ ละ ลิ ป ฒั นธรรม ร มถงึ ตอ่ ยอด
ในด้านการ จิ ยั เพ่ือพฒั นาองคค์ ามร้ทู างดา้ นน้ตี ่อไป

5.3 วดี ทิ ศั น์ออนไลน์
การน�าองค์ค ามร้ทู ี่ได้จากการ ึก าถา้� เขามจี ดั ทา� เปน็ ดี ทิ ั น์เพื่อเผยแพร่ออนไลน์เปน็ ิธีการ
เผยแพร่ค ามรู้ไป ู่ งก ้างได้อย่างมีประ ิทธิภาพ เพราะมีภาพเคล่ือนไ ท่ี ยงาม เ ียงบรรยาย
ประกอบเร่อื งรา และ ธิ ีการเข้าถึงท่ี ะด กร ดเร็ โดยเผยแพรผ่ า่ นเ บ็ ไซตย์ ูทูป (YOUTUBE)
คณะผู้ จิ ัยไดอ้ อกแบบ ีดทิ ั นอ์ อกเปน็ 2 รปู แบบ โดยจัดแบ่งเนือ้ าต่างกันดงั นี้

10

แบบท่ี 1 ีดิทั น์ขนาดยา เ ลา 30 นาที ตั้งชื่อ ่า “ถ�้าเขา ล ง มรดกล้�าค่าของเพชรบุรี”
มเี นอ้ื ากลา่ ถงึ ดา้ นประ ตั ิ า ตรท์ ปี่ รากฏใน ลกั ฐานเอก ารของชา ไทยและชา ตา่ งชาตติ งั้ แตร่ ชั กาล
ที่ 3-5 และดา้ นงาน ลิ ปกรรม า� คญั ในถา้� ซงึ่ มตี งั้ แต่ มยั อยธุ ยาจนถงึ มยั รชั กาลที่ 5 แ ง่ กรงุ รตั นโก นิ ทร์

ภาพท่ี 5 นา้ เปดิ ของ ีดทิ ั น์ขนาดยา

แบบที่ 2 ชุด ดี ิทั นข์ นาด ้นั ซึ่งมีท้ัง มด 5 ตอน ตอนละ 5-7 นาที คือ
- ถ้า� เขา ล ง เพชรนา้� งามแ ่งเมืองเพชรบรุ ี
- พระพทุ ธรูปทม่ี ีจารกึ พระปรมาภิไธยและตราพระบรมราช ัญลัก ณ์ในถ้�าเขา ล ง
- พระพทุ ธรูปทม่ี จี ารกึ พระนามพระราช ง ์ในถา้� เขา ล ง
- พระพทุ ธรปู ปางขอฝน : ค าม มั พันธร์ ะ ่างราช �านักกบั เมอื งเพชรบรุ ี
- ค าม �าคัญทางประ ตั ิ า ตรข์ องถา�้ เขา ล ง
5.4 อนิ โฟกราฟิก
า� รบั ผคู้ นในยคุ ปจั จบุ นั ทต่ี อ้ งการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ทม่ี จี า� น นมากแตม่ เี ลาจา� กดั อนิ โฟกราฟกิ รอื

การน�าเ นอข้อมูลท่ีกระชับพร้อมภาพและกราฟิกต่าง ๆ จึงเป็น ่ืออีกประเภท น่ึงท่ีมีค ามเ มาะ ม
มากท่ี ดุ ทั้งนผี้ ู้ จิ ัยจึงเลือกประเดน็ เก่ีย กับ ่ิงทโ่ี ดดเด่นที่ ดุ (ค ามล้�าคา่ ) ของถ�้าเขา ล งซง่ึ มีทั้ง มด
5 ประการมาทา� เปน็ อินโฟกราฟกิ จากนั้นนา� ไปเผยแพรใ่ นเพจเขา ล งมรดกล�้าคเู่ มอื งเพชรด้ ย

ข้อมลู ค ามลา้� ค่า 5 ประการของถา�้ เขา ล งในรปู ของอินโฟกราฟกิ มีดังน้ี
- ธรรมชาตงิ ดงาม
- ปูชนีย ตั ถุ กั ด์ิ ทิ ธ์ิ (ภาพท่ี 6)
- เกา่ แก่ถงึ มัยอยุธยา
- ค ามเก่ยี ขอ้ งกับเจ้านายราช ง ์จักรี
- ถานที่ต้อนรบั แขกเมือง

11

นัง อื รวมบทความวจิ ัยและบทความทางวชิ าการ เน่ืองในงานประชมุ วิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

ภาพที่ 6 อินโฟกราฟกิ แ ดงความลา�้ ค่าของถ�า้ เขา ลวง “ปูชนยี วัตถศุ ักดิ์ ิทธ์”ิ

5.5 เพจเฟซบกุ๊
อนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ชอ่ งทางการ อื่ ารทม่ี ปี ระ ทิ ธภิ าพ งู มาก จากการ า� รวจขอ้ มลู นกั ทอ่ งเทยี่ ว
พบวา่ นกั ทอ่ งเทยี่ ว ว่ นใ ญร่ จู้ กั ถา้� เขา ลวงและตดั นิ ใจเทย่ี วถา้� เขา ลวงนนั้ เปน็ ผลมาจากขา่ ว ารขอ้ มลู
ทไ่ี ดจ้ ากอนิ เทอรเ์ นต็ ดงั นนั้ การ อื่ าร รอื ผลติ อื่ ทางอนิ เทอรเ์ นต็ จงึ เปน็ งิ่ ทผี่ วู้ จิ ยั เ น็ วา่ มควรดา� เนนิ การ
โดยเฉพาะผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ดังนั้นคณะผู้วิจัยจึงเลือก ร้างเพจเฟซบุ๊กในนาม เขา ลวงมรดกล�้าค่า
ค่เู มอื งเพชร (ภาพที่ 7)

ภาพที่ 7 นา้ เพจเฟซบกุ๊ เขำหลวงมรดกล้ำ� ค่ำคู่เมอื งเพชร

12

6. ผลการประเมนิ การใช้ อื่ การเรยี นรู้

ภาย ลงั จาก อ่ื การเรยี นรู้ประเภทต่าง ๆ ได้ด�าเนนิ การผลิตจนแลว้ เ ร็จ จงึ ไดน้ �า อ่ื เ ล่าน้นั
เผยแพร่ ู่ าธารณะ จากนั้นได้ประเมินผลว่า ่ือการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ มี ัมฤทธผ์ิ ล รือไม่

การประเมินผลการใช้ ื่อการเรยี นรทู้ ุกประเภทจะใชค้ �าถามแบบเดยี วกนั โดยแบ่งเป็น 3 ตอน
ตอนที่ 1 เป็นข้อมูล ่วนตัวของผู้ตอบแบบ อบถาม ตอนที่ 2 เป็นค�าถามที่เกี่ยวข้องกับการใช้ ื่อ
โดยแต่ละข้อใ ้ผู้ตอบแบบประเมินตอบว่าใช่ รือไม่ใช่ท้ัง ิ้น 5 ข้อ ได้แก่ 1. ท่านเคยรู้จักถ�้าเขา ลวง
มาก่อนใช่ รอื ไม่ 2. ่ือการเรียนรู้น้ีทา� ใ ท้ า่ นรูจ้ ักถา้� เขา ลวงมากขึ้นใช่ รอื ไม่ 3. อ่ื การเรยี นรู้น้ีท�าใ ้
ทา่ นอยากเดินทางไปเยี่ยมชมถ้�าเขา ลวงใช่ รือไม่ 4. ื่อการเรียนรู้น้ีเป็นคู่มือเบ้ืองต้นที่ท�าใ ้ท่าน
ทราบความ �าคัญของถ�้าเขา ลวงใช่ รือไม่ 5. ่ือการเรียนรู้นี้ตอบโจทย์การพัฒนาถ�้าเขา ลวงใ ้เป็น
แ ลง่ เรียนรใู้ ช่ รอื ไม่ ตอนท่ี 3 เป็นขอ้ เ นอแนะอื่น ๆ ท่ผี ้ปู ระเมิน ามารถเขียนค�าแนะน�าต่าง ๆ ได้

ผลการประเมินการมผี ลดังจะกลา่ วถงึ ตอ่ ไป

6.1 ผลการประเมนิ แผ่นพับ

คณะผวู้ จิ ัยได้มอบแผ่นพบั แกก่ ลุ่มตัวอยา่ งจ�านวน 130 คน ได้รับผลการประเมนิ ดงั ตอ่ ไปนี้
1. ท่านเคยรู้จักถ�้าเขา ลวงมาก่อนใช่ รือไม่ ตอบใช่ จ�านวน 81 คน ไม่ใช่ จ�านวน 49 คน
คิดเปน็ ร้อยละ 62.4 และ 37.6 ตามลา� ดบั
2. แผ่นพับท�าใ ้ท่านรู้จักถ้�าเขา ลวงมากข้ึนใช่ รือไม่ ตอบใช่ จ�านวน 126 คน และไม่ใช่
จา� นวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 96.9 และ 3.1 ตามลา� ดบั
3. แผน่ พบั ทา� ใ ้ท่านอยากเดนิ ทางไปเยี่ยมชมถา้� เขา ลวงใช่ รือไม่ ตอบใช่ จ�านวน 119 คน
และไมใ่ ช่ จา� นวน 11 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 91.5 และ 8.5 ตามล�าดับ
4. แผ่นพับเป็นคู่มือเบ้ืองต้นที่ท�าใ ้ท่านทราบความ �าคัญของถ้�าเขา ลวงใช่ รือไม่ ตอบใช่
จา� นวน 128 คน และไม่ใช่ จ�านวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 98.5 และ 1.6 ตามล�าดบั
5. แผน่ พบั เปน็ อ่ื การเรยี นรทู้ ต่ี อบโจทยก์ ารพฒั นาถา้� เขา ลวงเปน็ แ ลง่ เรยี นรใู้ ช่ รอื ไม่ ตอบใช่
จา� นวน 116 คน และไมใ่ ช่ จ�านวน 14 คน คดิ เป็นร้อยละ 89.2 และ 10.8 ตามล�าดับ
จากผลการประเมินข้างต้นเ ็นได้ว่าประชาชนเพียงร้อยละ 62.4 เท่าน้ันท่ีรู้จักถ้�าเขา ลวง
มาก่อน เม่ือไดร้ ับแผน่ พบั แล้วพบวา่ ประชาชนมากกว่ารอ้ ยละ 90 เ ็นว่าแผน่ พบั มี ว่ นช่วยท�าใ ค้ นรูจ้ ัก
ถา้� เขา ลวงมากขน้ึ ทง้ั ยงั ทา� ใ ค้ นอยากไปเยย่ี มชมถา้� เขา ลวง เปน็ คมู่ อื เบอื้ งตน้ ทท่ี า� ใ ท้ ราบความ า� คญั
ของถา�้ เขา ลวง และร้อยละ 89.2 เ ็นว่าตอบโจทยก์ ารพัฒนาถ�้าเขา ลวงใ ้เป็นแ ล่งเรียนรู้

6.2 ผลการประเมิน นัง อื

คณะผูว้ จิ ัยได้มอบ นัง อื ถ�้าเขา ลวง มรดกลา�้ คา่ ของเพชรบรุ ี แกก่ ลุม่ ตัวอยา่ งจ�านวน 78 คน
ไดร้ บั ผลการประเมินดงั ต่อไปน้ี

1. ท่านเคยรู้จักถ้�าเขา ลวงมาก่อนใช่ รือไม่ ตอบใช่ จ�านวน 19 คน ไม่ใช่ จ�านวน 59 คน
คดิ เป็นรอ้ ยละ 24.35 และ 75.65 ตามลา� ดับ

13

นงั อื รวมบทความวิจัยและบทความทางวิชาการ เนอื่ งในงานประชมุ วิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

2. นัง อื ท�าใ ้ท่านรจู้ ักถา้� เขา ลวงมากขน้ึ ใช่ รอื ไม่ ตอบใช่ จา� นวน 78 คน และไมใ่ ช่ จ�านวน
0 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 และ 0 ตามลา� ดบั

3. นงั อื ทา� ใ ท้ า่ นอยากเดนิ ทางไปเยยี่ มชมถา�้ เขา ลวงใช่ รอื ไม่ ตอบใช่ จา� นวน 72 คน และ
ไม่ใช่ จา� นวน 6 คน คดิ เป็นร้อยละ 92.3 และ 7.7 ตามล�าดบั

4. นัง ือเป็นคู่มือเบื้องต้นท่ีท�าใ ้ท่านทราบความ �าคัญของถ้�าเขา ลวงใช่ รือไม่ ตอบใช่
จา� นวน 78 คน และไมใ่ ช่ จ�านวน 0 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 และ 0 ตามล�าดับ

5. แผน่ พบั เปน็ อ่ื การเรยี นรทู้ ตี่ อบโจทยก์ ารพฒั นาถา�้ เขา ลวงเปน็ แ ลง่ เรยี นรใู้ ช่ รอื ไม่ ตอบใช่
จา� นวน 77 คน และไม่ใช่ จ�านวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 98.71 และ 1.29 ตามล�าดบั

จากผลการประเมินข้างต้นเ ็นได้ว่าประชาชนเพียงร้อยละ 24.35 เท่าน้ันท่ีรู้จักถ�้าเขา ลวง
มากอ่ น เมอ่ื ไดร้ บั นงั อื แลว้ พบวา่ ประชาชนรอ้ ยละ 100 เ น็ วา่ นงั อื มี ว่ นชว่ ยทา� ใ ค้ นรจู้ กั ถา้� เขา ลวง
มากขึ้น และเป็นคู่มือเบ้ืองต้นท่ีท�าใ ้ทราบความ �าคัญของถ�้าเขา ลวง ร้อยละ 92.3 ใ ้ความเ ็นว่า
นัง ือท�าใ ้อยากไปเย่ียมชมถ�้าเขา ลวง และร้อยละ 98.71 เ ็นว่าตอบโจทย์การพฒั นาถ้�าเขา ลวง
ใ เ้ ปน็ แ ลง่ เรียนรู้

6.3 ผลการประเมินวีดทิ ัศน์

คณะผ้วู จิ ัยไดใ้ ้กลุ่มตัวอยา่ งจ�านวน 40 คน ผู้ดูวีดทิ ัศน์ ไดร้ บั ผลการประเมนิ ดังตอ่ ไปนี้
1. ท่านเคยรู้จักถ�้าเขา ลวงมาก่อนใช่ รือไม่ ตอบใช่ จ�านวน 31 คน ไม่ใช่ จ�านวน 7 คน
คิดเป็นร้อยละ 82.5 และ 17.5 ตามลา� ดบั
2. วดี ทิ ศั นท์ า� ใ ท้ า่ นรจู้ กั ถา�้ เขา ลวงมากขนึ้ ใช่ รอื ไม่ ตอบใช่ จา� นวน 40 คน และไมใ่ ช่ จา� นวน
0 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 และ 0 ตามลา� ดบั
3. วดี ทิ ศั นท์ า� ใ ท้ า่ นอยากเดนิ ทางไปเยยี่ มชมถา�้ เขา ลวงใช่ รอื ไม่ ตอบใช่ จา� นวน 36 คน และ
ไมใ่ ช่ จา� นวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 90 และ 10 ตามล�าดับ
4. วีดิทัศน์เป็นคู่มือเบ้ืองต้นท่ีท�าใ ้ท่านทราบความ �าคัญของถ้�าเขา ลวงใช่ รือไม่ ตอบใช่
จา� นวน 40 คน และไม่ใช่ จา� นวน 0 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100 และ 0 ตามลา� ดบั
5. วดี ทิ ศั นเ์ ปน็ อ่ื การเรยี นรทู้ ต่ี อบโจทยก์ ารพฒั นาถา�้ เขา ลวงเปน็ แ ลง่ เรยี นรใู้ ช่ รอื ไม่ ตอบใช่
จา� นวน 38 คน และไมใ่ ช่ จ�านวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 95 และ 5 ตามลา� ดับ
จากผลการประเมนิ ขา้ งตน้ เ น็ ไดว้ า่ วดี ทิ ศั นเ์ ปน็ อ่ื การเรยี นรทู้ ที่ า� ใ ป้ ระชาชนมากถงึ รอ้ ยละ 100
ของกลุ่มตัวอย่างรู้จักและทราบความ �าคัญของถ้�าเขา ลวง ร้อยละ 90 ใ ้ความเ ็นว่าวดี ทิ ศั นท์ า� ใ ้
อยากไปเยยี่ มชมถา�้ เขา ลวง และรอ้ ยละ 95 เ น็ วา่ ตอบโจทยก์ ารพฒั นาถา้� เขา ลวงใ เ้ ปน็ แ ลง่ เรยี นรไู้ ด้

6.4 ผลการประเมนิ อนิ โฟกราฟิก

า� รบั อนิ โฟกราฟฟกิ มไิ ดป้ ระเมนิ โดยใชแ้ บบ อบถามเ มอื นการประเมนิ อื่ การเรยี นรแู้ บบอนื่
เพราะถือว่าเป็น ่วน น่ึงของเพจเฟซบุ๊ก ดังน้ันผลการประเมินจึงยึดตามผลการประเมินเพจเฟซบุ๊ก
ซ่งึ จะกล่าวถงึ ใน ัวข้อถัดไป

14

6.5 เพจเฟซบุก๊

คณะผู้วิจัยได้ท�าแบบ อบถามทางเพจเฟซบุ๊ก เขา ลวงมรดกล�้าค่าคู่เมืองเพชร ใ ้ผู้เยี่ยมชม
เพจตอบแบบ อบถามตามความ มคั รใจ มผี ตู้ อบแบบ อบถามทงั้ น้ิ จา� นวน 81 คน ไดร้ บั ผลการประเมนิ
ดงั ตอ่ ไปนี้

1. ท่านเคยรู้จักถ้�าเขา ลวงมาก่อนใช่ รือไม่ ตอบใช่ จ�านวน 41 คน ไม่ใช่ จ�านวน 40 คน
คิดเป็นร้อยละ 50.6 และ 49.4 ตามลา� ดบั

2. เพจเฟซบุ๊กท�าใ ้ท่านรู้จักถ�้าเขา ลวงมากขึ้นใช่ รือไม่ ตอบใช่ จ�านวน 80 คน และไม่ใช่
จา� นวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 98.8 และ 1.2 ตามล�าดบั

3. เพจเฟซบกุ๊ ทา� ใ ท้ ่านอยากเดนิ ทางไปเย่ียมชมถา้� เขา ลวงใช่ รือไม่ ตอบใช่ จ�านวน 77 คน
และไมใ่ ช่ จ�านวน 4 คน คดิ เป็นร้อยละ 95.1 และ 4.9 ตามล�าดบั

4. เพจเฟซบกุ๊ เปน็ ค่มู อื เบ้อื งต้นทที่ า� ใ ท้ ่านทราบความ �าคญั ของถ�้าเขา ลวงใช่ รือไม่ ตอบใช่
จา� นวน 79 คน และไมใ่ ช่ จ�านวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 97.5 และ 2.5 ตามล�าดบั

5. วดี ทิ ศั นเ์ ปน็ อ่ื การเรยี นรทู้ ต่ี อบโจทยก์ ารพฒั นาถา�้ เขา ลวงเปน็ แ ลง่ เรยี นรใู้ ช่ รอื ไม่ ตอบใช่
จา� นวน 79 คน และไมใ่ ช่ จ�านวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 97.5 และ 2.5 ตามล�าดบั

7. ข้อสรุปและเสนอแนะ

ถ�้าเขา ลวงและ ถานที่เกี่ยวเน่ืองมีความโดดเด่นในด้านประวัติศา ตร์ เพราะมีปูชนียวัตถุ
เก่าแก่มากมาย อกี ท้ังยงั เกี่ยวขอ้ งกบั ราชวงศ์จักรีดว้ ย เป็นทีร่ จู้ กั ของนักท่องเทย่ี วในระดบั น่ึง จึงนบั วา่
มพี นื้ ฐานความพรอ้ มเพยี งพอทจี่ ะพฒั นาไป กู่ ารเปน็ แ ลง่ เรยี นรไู้ ด้ ปจั จบุ นั มี นว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ งดแู ล
อยู่ 3 น่วยงาน ได้แก่ อบต.ธงชัย วัดบุญทวี (วัดถ้�าแกลบ) และ �านักศิลปากรท่ี 1 ราชบุรี ถือได้
ว่ามีผู้รับผิดชอบในการก�ากับดูแลแล้ว เ ล่าน้ีถือเป็นความพร้อมของถ้�าเขา ลวงและ ถานที่เก่ียวเนื่อง
ในการพฒั นา กู่ ารเป็นแ ล่งเรียนรู้ทางประวัติศา ตร์และศิลปวัฒนธรรม

บุคลากรของ น่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความรู้ทางวิชาการ รือรู้ข้อมูล �าคัญของถ�้าเขา ลวงและ
ถานทเี่ กย่ี วข้อง ลายอย่าง อย่างไรก็ตาม ยงั มีขอ้ มลู ความ า� คญั อกี ลายอยา่ งท่บี ุคลากรของ น่วยงาน
ท่ีเกี่ยวขอ้ งไมท่ ราบแน่ชัด ซึ่ง ว่ น นงึ่ ได้คน้ พบจากการวจิ ยั ครงั้ นแ้ี ละยังไมเ่ ป็นทแ่ี พร่ ลาย เ น็ ควรท่จี ะ
จดั กจิ กรรมอบรมความรู้ตอ่ ไป ซึ่งน่าจะทา� ใ ้บุคลากรของ น่วยงานทเี่ กีย่ วขอ้ งมีความพร้อมมากขน้ึ

ปญั าและอปุ รรคของการพฒั นา กู่ ารเปน็ แ ลง่ เรยี นรทู้ างประวตั ศิ า ตรแ์ ละศลิ ปวฒั นธรรม
คอื นว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งยงั ประ านงานกนั นอ้ ย จา� เปน็ ตอ้ งมกี ารประชมุ ารอื เพอื่ กา� นดเปา้ มาย รอื
ก�า นดทิศทางดว้ ยกนั

ใน ว่ นของ ื่อการเรียนรู้ประเภทตา่ ง ๆ ทผี่ ลติ ในโครงการวจิ ยั นี้น้นั มปี ระโยชนต์ ่อ าธารณชน
และ นว่ ยงานตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ทา� ใ ข้ อ้ มลู ความ า� คญั ทางประวตั ศิ า ตรแ์ ละศลิ ปวฒั นธรรมของถา้� เขา ลวง
และ ถานทเ่ี กยี่ วเนอื่ งไดเ้ ปน็ ทร่ี บั รู้ และนา่ จะเปน็ พน้ื ฐาน า� คญั ในการพฒั นาเปน็ แ ลง่ เรยี นรคู้ เู่ มอื งเพชรได้

15

นัง อื รวมบทความวจิ ยั และบทความทางวิชาการ เน่อื งในงานประชมุ วชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

นอกจากน้ี จากการ ิจัยคร้ังน้ีท�าใ ้พบจุดเด่นท่ีต้อง นับ นุนและจุดด้อยท่ีต้องปรับปรุงแก้ไข
เพอื่ พฒั นาถา้� เขา ล งและ ถานทเี่ กย่ี เนอ่ื ง กู่ ารเปน็ แ ลง่ เรยี นรทู้ างประ ตั ิ า ตรแ์ ละ ลิ ป ฒั นธรรม
ดงั น้ี

1. ถ�้าเขา ล งเป็น ถานท่ี �าคัญทางประ ัติ า ตร์และ ิลป ัฒนธรรมเป็นอย่างย่ิง มค รมี
นู ยข์ อ้ มลู รือ ูนยจ์ ดั นทิ รร การ ใ ้ค ามร้เู ก่ยี กับถา�้ เขา ล ง

2. ื่อการเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ ท่ีเป็นผลิตผลจากงาน ิจัยครั้งน้ี เช่น แผ่นพับ นัง ือคู่มือ
ามารถใ ้ น่ ยงานท้องถ่ินไปผลิตซ้�าได้ ่ นเพจเฟซบุ๊กค รใ ้เจ้า น้าท่ีจาก น่ ยงานท่ีเก่ีย ข้อง
ร่ มเป็นผจู้ ัดการเพจ

3. ถา้� เขา ล งมี น่ ยงานทม่ี ี นา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบดแู ล ลาย น่ ยงาน ไดแ้ ก่ ดั บญุ ท ี ( ดั ถา�้ แกลบ)
อบต.ธงชยั และ า� นกั ลิ ปากรท่ี 1 ราชบรุ ี เ น็ า่ น่ ยงานตา่ ง ๆ นคี้ รประ านงาน รอื ปรกึ า ารอื ใน
เรอ่ื งต่าง ๆ ใ ม้ ากขน้ึ

4. ค รมีการจัดกิจกรรมเผยแพร่ค ามรู้ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น อบรมบุคลากร
อบรมมัคคุเท ก์ท้องถ่ิน เพ่ือค ามรู้จะได้แพร่กระจาย ู่ งก ้าง และเป็นฐาน �าคัญในการพัฒนา กู่ าร
เป็นแ ล่งเรียนรไู้ ดใ้ นท่ี ดุ

16

บรรณานุกรม
นงั อื
ทิพากร ง ม าโก าธิบดี (ข�า บุนนาค), เจ้าพระยา. (2548). พระราชพง า ดารกรุงรัตนโก ินทร์

รชั กาลท่ี 4. พมิ พ์ครงั้ ที่ 6. กรงุ เทพฯ : อมรนิ ทร์พร้ินต้งิ แอนด์พับลชิ ชงิ่ จ�ากดั (ม าชน).
นันทา รเนติ ง ์ และคนอ่นื ๆ, แปลและเรียบเรยี ง. (2557). ตามรอยฝร่งั เล่าค าม ลงั เมืองพรบิ พรี

(เพชรบุรี). กรงุ เทพฯ : า� นกั รรณกรรมและประ ตั ิ า ตร์ กรม ิลปากร.
พระบาท มเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่ ั กบั เมอื งเพชรบรุ .ี (2542). ม.ป.ท. อนุ รณง์ านพระราชทานเพลงิ พ

อาจารย์ ายพณิ เปย่ี ม ง่า ณ เมรุ ัดม าธาตุ ร ิ าร จัง ดั เพชรบุรี 27 กมุ ภาพนั ธ์ 2542.
พั ี ริ ิ เปรมกลุ นนั ท.์ (2560). ลิ ปกรรมแ ง่ พระบรมราชานุ รณใ์ น มยั รชั กาลที่ 4-5 ทถี่ า้� เขา ล ง

จ.เพชรบุรี. กรุงเทพฯ: ภาค ิชาประ ัติ า ตร์ ลิ ปะ คณะโบราณคดี ม า ทิ ยาลัย ลิ ปากร.
_______. (2561). ถา�้ เขา ล ง มรดกลา้� คา่ ของเพชรบรุ .ี กรงุ เทพฯ: คณะโบราณคดี ม า ทิ ยาลยั ลิ ปากร.
ุนทรภู่. (2496). นิรา เมืองเพชร. กรุงเทพฯ: กรม ิลปากร. พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานฌาปนกิจ พ

นางเจยี น ังข ุนทร ณ เมรุ ัดมกฏุ ก ตั ริยาราม ันที่ 3 มิถนุ ายน พ. .2496.
อ็องรี มูโอต์. (2558). บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ ในราชอาณาจักร ยาม กัมพูชา ลา และ

อนิ โดจนี ตอนกลาง ่ นอน่ื ๆ. แปลโดย กรรณิกา จรรยแ์ ง. กรุงเทพฯ : มติชน.
มั ภา ณ์
กรรณิการ์ เปรมใจ. (2561). นักโบราณคดชี า� นาญการ �านกั ลิ ปากรที่ 1 ราชบุร.ี ัมภา ณ์, 21 ตลุ าคม.
จาตรุ นต์ ยนานนท.์ (2560). ประธานกล่มุ อนุรกั ์และพฒั นาถา้� เขา ล งเพื่อการทอ่ งเท่ยี . ัมภา ณ,์

12 ธนั าคม.
ดุ ติ ทมุ มากรณ์. (2561). ั นา้ กลมุ่ โบราณคดี า� นกั ิลปากรที่ 1 ราชบรุ .ี ัมภา ณ,์ 26 มกราคม.
ประ ยดั แ ง ิรญั . (2560). นายกองคก์ ารบริ าร ่ นตา� บลธงชยั . ัมภา ณ์, 4 ธนั าคม.
ุดยอด นกตอ่ . (2560). ชา เพชรบรุ ผี ู้ดูแลถา้� เขา ล งและมคั คุเท กท์ ้องถ่นิ . มั ภา ณ,์ 14 ตุลาคม.

17

นงั ือรวมบทความวจิ ยั และบทความทางวชิ าการ เนื่องในงานประชุมวชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี
18

ศาลเจ้าและอตั ลกั ษณ์ชาวจนี ในชมุ ชนท่าฉลอม*
Chinese Shrines and Characteristics of

Chinese Immigrants in Tha Chalom

ดร.อชริ ัชญ์ ไชยพจนพ์ านชิ **
Achirat Chaiyapotpanit

* บทความน้ีเป็น ่วน น่ึงของงานวิจัยเรื่อง “โครงการ �ารวจและ ังเคราะ ์ข้อมูลด้านประวัติศา ตร์และ
การทอ่ งเทย่ี วในการพฒั นาเมอื ง มทุ ร าคร,” ไดร้ บั งบประมาณ นบั นนุ จาก า� นกั งานคณะกรรมการ ง่ เ รมิ วทิ ยาศา ตร์
วจิ ัยและนวัตกรรม ( ก ว.) ปี 2562

** ผ้ชู ่วยศา ตราจารย์ประจา� ภาควชิ าประวัตศิ า ตรศ์ ิลปะ คณะโบราณคดี ม าวิทยาลัยศลิ ปากร

19

นัง อื รวมบทความวิจยั และบทความทางวชิ าการ เน่ืองในงานประชมุ วิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

บทคัดยอ่
ชมุ ชนทา่ ฉลอมเปน็ ่ น นงึ่ ของพนื้ ทใี่ นลมุ่ แมน่ า�้ ทา่ จนี และถอื เปน็ พนื้ ท่ี า� คญั แ ง่ นง่ึ ทมี่ ชี า จนี
โพ้นทะเล ลายกลมุ่ ภา าเดนิ ทางเข้ามาต้งั รกราก ท้งั นี้ ลักฐานประเภท นึง่ ท่ีแ ดงถึงการต้ังชุมชนของ
ชา จนี คอื าลเจา้ บทค ามนม้ี งุ่ เนน้ กึ า ลกั ฐาน ลิ ปกรรม และจารกึ ทพ่ี บใน าลเจา้ เพอื่ ทา� ค ามเขา้ ใจ
ค ามเป็นไปและอัตลกั ณ์ของชา จนี ในชมุ ชนทา่ ฉลอม
จากการ ึก าพบข้อมูลน่า นใจอยู่ 2 ประการ ประการท่ี นึ่ง การนับถือเทพเจ้า รูปแบบ
ประติมากรรมและ ถาปัตยกรรมด้ังเดิมท่ียัง ลงเ ลืออยู่แ ดงใ ้เ ็น ่า ชา จีนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานใน
ทา่ ฉลอมมี 2 กล่มุ ภา า ลกั คอื ชา จนี แต้จ๋ิ และชา จีนไ ลา� ซึ่ง อดคลอ้ งกับขอ้ มลู มั ภา ณ์ผคู้ น
ในชุมชน ประการที่ อง ชา จีนกลุ่มใ ญ่กลุ่มแรกที่เข้ามาต้ังรกรากในท่าฉลอม อาจเป็นชา จีนแต้จ๋ิ
โดยพิจารณาจากจารึกภายใน าลเจ้าปุนเถ้ากง ซึ่งเก่าท่ี ุด ่ นกลุ่มชา จีนไ ล�าอาจอพยพเข้ามาใน
ภาย ลงั และในช่ งต้นของการตงั้ ถนิ่ ฐาน นา่ จะมกี ารแบ่งพน้ื ที่ชุมชนกนั คอ่ นข้างชดั เจนด้ ย
คา� สา� คญั : ทา่ ฉลอม, าลเจ้าจีน, ไ ลา� , แต้จ๋ิ , ชา จนี โพน้ ทะเล

20

Abstract

Tha Chalom Community is part of Tha-cheen Basin Area and considered as a
significant area, in which various groups of Chinese immigrants settled down. One of
important evidence relating to their settlement is their shrines. Thus, this article is aimed
to study art works and inscriptions found in those sacred places in order to comprehend
the cultural background and unique characteristics of Chinese immigrants in Tha Chalom.

The results of the study can be concluded into two points. Firstly, the beliefs
and art styles of original sculptures and architectures reflect that there were two groups
of Chinese immigrants, namely Teochew and Hainanese. This discovery is in accordance
with the information gained from the interviews with local people of Tha Chalom
Community. Secondly, the first group of immigrant should have been Teochew, as
evidenced by the oldest Chinese inscription in Tha Chalom which is enshrined in
Ben Tou Gong Shrine of Teochew. The group of Hainanese probably migrated here later.
Moreover, these two groups at first place should have established their communities
separately.

Keywords: Tha Chalom, Chinese Shrine, Hainan, Teochew, Chinese Immigrant

21

นงั อื รวมบทความวิจัยและบทความทางวิชาการ เน่อื งในงานประชมุ วิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

บทน�า

าลเจ้าและอัตลัก ณ์ชา จีนในชุมชนท่าฉลอม ต�าบลท่าฉลอม ต้ังอยู่ในอ�าเภอเมือง จัง ัด
มุทร าคร เน่ืองจากท�าเลท่ีตั้งใกล้กับปากแม่น�้าท่าจีน และยัง ามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ด้ ย
เ ้นทางแม่น�้าล�าคลองอีก ลาย าย จึงท�าใ ้ท่าฉลอมเป็นพ้ืนที่ที่มีผู้คน ลากชาติพันธุ์เข้ามาต้ังถิ่นฐาน
นึง่ ในน้ันคอื ชา จีนโพ้นทะเล

เคยมกี าร กึ าประ ตั คิ ามเปน็ มาร มถงึ อตั ลกั ณช์ า จนี ในทา่ ฉลอม โดยผา่ น ลกั ฐานเอก าร
และการ มั ภา ณ์ ขอ้ มลู เ ลา่ นเี้ ปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งมากเพราะช่ ยใ เ้ ราเ น็ ภาพของชา จนี องกลมุ่ ลกั
คือ ชา จีนแต้จิ๋ และชา จีนไ ล�าในพื้นท่ีดังกล่า (รายงานการ �าร จ ึก าแ ล่ง ิลปกรรมเมือง
มุทร าคร: ท่าฉลอม ท่าจนี ม าชัย, 2561) แต่น่า งั เกต ่า ยังไม่มกี าร ึก าตั ตนของคนจีนทา่ ฉลอม
ผา่ นงาน ลิ ปกรรมทพี่ บใน าลเจา้ เชน่ ประตมิ ากรรม งานประดบั ถาปตั ยกรรม ร มไปถงึ จารกึ ภา าจนี
ทพี่ บใน าลเจา้ บทค ามนจ้ี งึ มจี ดุ มงุ่ มาย กึ างาน ลิ ปกรรม และ ลกั ฐานจารกึ ภายใน าลเจา้ ของทา่ ฉลอม
เพอื่ ท�าค ามเขา้ ใจอัตลัก ณข์ องชา จนี ในพนื้ ที่น้ี

าลเจา้ 5 แ ง่ ในทา่ ฉลอมมเี รอ่ื งเลา่ ซงึ่ เลา่ บื ตอ่ กนั า่ มปี ระ ตั ยิ า นานคกู่ นั กบั ชมุ ชนแ ง่ นคี้ อื
1. าลเจ้าปุนเถ้ากง 2. โรงเจเช็งเฮียงต๊ั 3. าลเจ้าพ่อก นอู 4. าลเจ้าแม่จุ๊ยบ๋ ยเนี้ย (เจ้าแม่ทับทิม)
5. าลเจ้าเฮยี ต๋ีกง จากการ มั ภา ณ์พบ า่ าลเจา้ 3 แ ่งแรกเป็นของชา จีนแตจ้ ิ๋ ในขณะที่ 2 แ ง่
ลังเป็นของชา จีนไ ลา�

ข้อจ�ากัดในการ ึก าครั้งน้ีคือ ตั งาน ิลปกรรมรุ่นเก่าเ ลืออยู่ไม่มากนัก การลงภาค นาม
ในช่ ง พ. . 2561-2562 พบ ่า ถงึ แม้ าลเจา้ ในท่าฉลอมจะมีประ ัตอิ ย่างยา นาน แต่ทั้ง มดมีการร้ือ
และ รา้ งใ ม่เมอ่ื ลาย บิ ปีทผี่ า่ นมา จึงทา� ใ ้ ลกั ฐานงาน ลิ ปกรรมรุ่นเก่า ่ นใ ญ่ ูญ ายไปอยา่ งนา่
เ ียดาย ดังนั้นบทค ามนี้จึงเลือก ึก างาน ิลปกรรมด้ังเดิมท่ียังเ ลืออยู่เป็น ลัก และ ลักฐานจารึก
ภายใน าลเจา้ ทมี่ กี ารระบุ กั ราช นอกจากนขี้ อ้ จา� กดั อกี ประการ นงึ่ คอื เอก ารโบราณทก่ี ลา่ ถงึ ชา จนี
ในท่าฉลอมมีน้อย ดังน้ันจึงใช้ข้อมูลจากการ ัมภา ณ์คนในชุมชนมาช่ ยในการ ึก า ิเคราะ ์ด้ ย
โดยเม่ือน�าข้อมูลแต่ละ ่ นท่ีกล่า มา ิเคราะ ์ร่ มกันจะท�าค ามเข้าใจค ามเป็นมาของชุมชนชา จีนใน
ท่าฉลอมมากยง่ิ ขึน้

22

1. ชาวจีนแต้จิว๋
ในกลุ่มชา จีนอพยพที่ตั้งรกรากในท่าฉลอม ชา จีนแต้จ๋ิ ถือ ่าเป็นกลุ่ม �าคัญ และเป็นกลุ่ม

ใ ญ่ที่ ุด (ชชั าล รตั นพทุ ธา าคร, 2561; พรจติ ร รอ้ ยเพช็ ร, 2562; บญั ญตั ิ ไชย ิทธ,ิ์ 2562) ชา จีน
ทพี่ ดู ภา าจีนแตจ้ ๋ิ มีพ้นื เพอยู่ในจงั ดั เจยี ยัง ซ่นั โถ และเฉาโจ ท้งั 3 จัง ดั อยู่ทางภาคตะ ันออก
เฉยี งเ นอื ของมณฑลก่ งตง (อชริ ชั ญ์ ไชยพจนพ์ านชิ , 2561ข: 12) าลเจา้ ในทา่ ฉลอมทเ่ี ปน็ ของจนี แตจ้ ิ๋
มี 3 แ ่ง คือ าลเจา้ ปนุ เถา้ กง โรงเจเชง็ เฮียงต๊ั และ าลเจ้าก นอู ลกั ฐานทแ่ี ดงถงึ ค าม ัมพนั ธ์กบั
กลุ่มชา จีนแต้จ๋ิ ปรากฏชดั เจนใน าลเจ้าปนุ เถ้ากงและโรงเจเชง็ เฮยี ตั๊ ดงั น้ี

1.1 ความเชอื่ ทส่ี ัมพันธ์กับชาวจีนแต้จ๋วิ : เทพเจา้ ปนุ เถา้ กง
าลเจ้าปุนเถ้ากง มีอีกชื่อ น่ึง ่า าลเจ้ากลาง ท่ีผนัง กัด ลังของอาคารประธานมีแท่น
ประดิ ฐานเทพเจ้าทั้ง มด 3 แท่น (ภาพที่ 1) ที่แท่นกลาง ( มายเลข 2 ในแผนผัง) ประดิ ฐาน
ประตมิ ากรรมรปู บรุ ุ แตง่ กายเครอ่ื งทรงแบบจนี 4 องค์ ทง้ั นใ้ี นกลมุ่ ประตมิ ากรรม 4 องคน์ น้ั ประตมิ ากรรม
เทพบุรุ ท่ีทรงชุดท ารและประทับน่ังบนบัลลังก์น่าจะเป็นองค์ประธาน โดย ังเกตได้จากต�าแ น่งของ
ประติมากรรมองค์น้ีที่อยตู่ รงกลางของแท่นพอดี (ภาพท่ี 2ก และ 2ข) ประตมิ ากรรมประธานของ าลเจ้า
องค์นี้ คอื เทพเจ้าเป่ินโถ กง (ปนุ เถ้ากง) โดยพิจารณาจากนามของ าลเจ้า และกลอนภา าจีนทีป่ ระดบั
อยู่ 2 ข้างของกรอบซมุ้ เ นอื แทน่ ประดิ ฐานเทพเจา้ กลมุ่ น้ปี รากฏคา� ่า เปน่ิ โถ งกง 本頭公

ภาพที่ 1 ผงั แ ดงตา� แ น่งเทพเจ้าภายในอาคาร าลเจา้ ปนุ เถ้ากง ทา่ ฉลอม
ทีม่ า: ณรณั ฐ์ อัครนิธิพิรกลุ , ผู้ าดผงั .

23

นัง ือรวมบทความวิจัยและบทความทางวิชาการ เนือ่ งในงานประชมุ วิชาการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

ภาพท่ี 2ก แทน่ กลางทป่ี ระดิ ฐานเทพเจา้ ภาพที่ 2ข ประติมากรรมที่ประดิ ฐานอยู่บนแทน่ กลาง
าลเจา้ ปุนเถ้ากง ตา� บลท่าฉลอม (ภาพที่ 2ก) ่ นประตมิ ากรรมเทพเจ้าทอี่ ยู่ในกรอบ งกลม

่ นประตมิ ากรรมเทพเจา้ ทอี่ ยู่ในกรอบ งกลม ีดา� คือ ีด�าคือเทพเจ้าประธาน
เทพเจา้ ประธาน

นา่ นใจ ่าการบูชาเทพเจา้ ปุนเถา้ กง รอื เปิน่ โถ กงไมป่ รากฏมาก่อนใน ฒั นธรรมจีน แตก่ ลับ
ปรากฏแพร่ ลายอยา่ งมากในดนิ แดนเอเชียตะ นั ออกเฉียงใต้ ( รุ ทิ ธ์ิ อมร ณิช ักดิ,์ 2556: 19) ค�า า่
“เปนิ่ โถ กง” มาจากคา� ่า

“เปิ่น” แปล ่า เดมิ รอื ดั้งเดิม

“โถ ” มาจาก “โถ มู่” แปล า่ ั นา้ รือผนู้ า�

“กง” แปล ่า ผู้อา โุ รอื ผเู้ ฒา่

เมือ่ ร มกันแล้ จึงแปล า่ “ผูอ้ า ุโ รือ ั น้าทม่ี มี าแต่เดิม” ท้ังนีค้ า� ่า “เป่นิ ” อาจมาจาก
คา� า่ “เปนิ่ ต้”ี รอื “เปิน่ จง้ิ ” ซงึ่ แปล า่ พ้ืนทแี่ ง่ นี้ บรเิ ณน้ี ( รุ ทิ ธ์ิ อมร ณชิ ักด์,ิ 2556: 110-111)
ดงั นั้นค�า า่ “เปิน่ โถ กง” ยงั ามารถ มายถึง “ผ้อู า โุ รือ ั นา้ ของพ้ืนทีแ่ ่งน”ี้

เมอ่ื พจิ ารณาจากคา� ภา าจนี จะเ น็ า่ แน คดิ ของเทพเจา้ เปน่ิ โถ กง มั พนั ธก์ บั แน คดิ เกยี่ กบั
พระภมู เิ จา้ ทอี่ ยา่ งใกลช้ ดิ (อชริ ชั ญ์ ไชยพจนพ์ านชิ , 2561ก: 149) นอกจากนเ้ี ปน่ิ โถ กงมรี ปู แบบทคี่ อ่ นขา้ ง
ลาก ลาย อาจเนื่องมาจากค�า ่าเปิ่นโถ กงเป็นเพียงนามที่มีค าม มายกลาง ๆ ไม่ได้ระบุชัด ่าเป็น
เทพเจ้าองค์ใด ( ุร ิทธ์ิ อมร ณิช ักด์ิ, 2556: 18-27 และ 58) เทพเจ้าเปิ่นโถ กงที่พบใน าลเจ้าจีน
บนดินแดนไทย อาจเป็นเทพเจ้าแบบจีน รือแบบท้องถ่ินนั้นก็ได้ เช่น เทพเจ้าเปิ่นโถ กงในชุดท ารจีน
รือชดุ ค บดจี ีน และเทพเจ้าเป่ินโถ กงในรูปเจ ด็ แบบไทย เป็นต้น ( ุร ิทธ์ิ อมร ณชิ ักด์ิ, 2556: 109)

24

า� รบั าลเจ้าปนุ เถา้ กง ทา่ ฉลอม เทพเจ้าเปิ่นโถ กงอย่ใู นชุดท ารจีน ประทับน่ังบนบลั ลงั ก์ พระ ตั ถ์
นง่ึ ถือดาบ ลกั ณะเช่นนีค้ ลา้ ยกบั เทพเจา้ เป่ินโถ กงในอกี ลาย าลเจา้ เชน่ าลเจ้าตึกดิน ตลาดพลู
กรุงเทพฯ (ภาพที่ 3) และ าลเจา้ พ่อเขางู อา� เภอเมอื ง จงั ดั ราชบรุ ี ( รุ ทิ ธ์ิ อมร ณิช ักดิ,์ 2556: 50)

ภาพท่ี 3 เทพเจ้าเปิน่ โถ กง าลเจ้าตึกดนิ ตลาดพลู กรุงเทพฯ

แน คดิ เกย่ี กบั การบชู าเทพเจา้ องคน์ ใี้ นดนิ แดนไทยมอี ยู่ ลาก ลาย ท่ี า� คญั คอื เทพเจา้ องคน์ ้ี
เป็นเทพเจ้าท่ีชา จีนแต้จิ๋ และจีนแคะโพ้นทะเลนิยมบูชา ( กินเนอร์, 2548: 139) บางท่านเ นอ ่า
การบชู าเทพเจา้ เปน่ิ โถ กงเปน็ ค ามเชอ่ื ร่ มกนั ของชา จนี 5 กลมุ่ ภา า ( รุ ทิ ธ์ิ อมร ณชิ กั ด,์ิ 2556: 1)

อย่างไรก็ดีงาน ิจัยเรื่อง เทพเจ้าใน าลเจ้าจีนกรุงเทพม านคร: รูปแบบ คติการ ร้าง และ
ค าม ัมพันธ์กับชุมชนชา จีน มีการ ึก าเก่ีย กับการบูชาเทพเจ้าเปิ่นโถ กงในกรุงเทพฯ พบ ่า
าลเจ้าบางแ ่งบูชาในฐานะเทพช้ันรอง บางแ ่งบูชาในฐานะเทพประธาน แต่น่า ังเกต ่า าลเจ้า
กลมุ่ แรกเปน็ ของชา จนี กลมุ่ ภา าอน่ื ๆ เชน่ ชา จนี แคะ ชา จนี ฮกเกย้ี น ชา จนี ไ ลา� ในขณะท่ี าลเจา้
กลมุ่ ลังเป็นของชา จนี แต้จ๋ิ ดงั นั้นงาน จิ ยั ดังกล่า จึงเ นอ ่า การบชู าเทพเจ้าเปิน่ โถ กงเปน็ ลกั ณะ
เดน่ ของชา จีนแต้จ๋ิ (อชริ ัชญ์ ไชยพจนพ์ านิช, 2561ก: 133) ข้อ นั นิ ฐานข้างต้น อดคล้องกบั าลเจ้า
ปุนถ้ากงของท่าฉลอมท่ี ร้างโดยชา จีนแต้จิ๋ และพ้องกับ ลักฐานท่ีพบใน าลเจ้าของชา จีนกลุ่ม
ภา าอนื่ ในทา่ ฉลอม กลา่ คอื าลเจา้ จยุ๊ บ๋ ยเนยี้ และ าลเจา้ เฮยี ตกี๋ งของไ ลา� มกี ารบชู าเทพเจา้ เปน่ิ โถ กง
เชน่ กนั แต่ปรากฏในฐานะเทพบริ าร

25

นงั อื รวมบทความวิจยั และบทความทางวิชาการ เนอ่ื งในงานประชมุ วชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

1.2 รปู แบบงานศลิ ปกรรมทส่ี มั พนั ธก์ บั ชาวจนี แตจ้ ว๋ิ : งานประดบั สถาปตั ยกรรมในโรงเจเชง็
เฮยี งตวั๊

ดงั ท่ไี ด้กลา่ ข้างตน้ แล้ า่ ถงึ แม้ าลเจา้ ในท่าฉลอมจะมอี ายุเก่าแก่ แต่ ภาพที่เ น็ ปจั จบุ นั มา
จากการรื้อและ ร้างข้ึนใ ม่เม่ือไม่มีกี่ ิบปีท่ีผ่านมา ในจากการ ัมภา ณ์พบ ่า มีเพียงโรงเจเช็งเฮียงต๊ั
ยงั คงเกบ็ งานประดบั ถาปตั ยกรรมของเดมิ ไ ้ ตั อาคารปจั จบุ นั ของโรงเจเชง็ เฮยี งต๊ั เพง่ิ รา้ งขน้ึ ใ มร่ า
30 ปที ผ่ี า่ นมา แตจ่ ากการ มั ภา ณพ์ บ า่ ผดู้ แู ลโรงเจยงั คงเกบ็ รกั าประตมิ ากรรมประดบั ถาปตั ยกรรม
โดยประดบั ร่ มกับตั อาคารใ ม่ท่ีทา� เป็นคอนกรีตเ รมิ เ ล็กแล้ (ผดู้ แู ลโรงเจเชง็ เฮยี งตั๊ , 2562) ท้งั น้ี
ก่อนท่ีจะกล่า ถึงงานแกะ ลักไม้ประดับ ถาปัตยกรรม จ�าเป็นจะต้องกล่า ถึงโครง ร้างรับน้�า นักของ
ถาปตั ยกรรม กลุ เฉาซนั่ (แต้จ๋ิ ) ซ่ึงเปน็ เอกลัก ณข์ องงาน ถาปัตยกรรมในบา้ นเกดิ ของชา จีนแต้จ๋ิ

โครง รา้ งรบั นา้� นกั ในงาน ถาปตั ยกรรมจนี มที ง้ั มด 3 ระบบ แตล่ ะระบบ มั พนั ธก์ บั ค ามนยิ ม
ของแต่ละพ้ืนท่ีด้ ย ท้ังน้ีโครง ร้างรับน้�า นักท่ีเรียก ่า ชาเ ลียง 插梁 นิยมในแถบบ้านเกิดของ
ชา จีนที่อพยพมาต้ังถ่ินฐานในดินแดนไทย ซ่ึงร มไปถึงบ้านเกิดของชา จีนแต้จิ๋ ลัก ณะเด่นของ
โครง รา้ งรับนา�้ นกั แบบชาเ ลยี ง มีทง้ั มด 4 ประการ (อชริ ชั ญ์ ไชยพจน์พานิช, 2559: 55) (ภาพท่ี
4-5) กลา่ คือ

1. ชุดโครง ร้างรับน�้า นัก (โก เจ้ีย) ประกอบด้ ยเ า 1-3 คู่ โดยเ าคู่ ลัก รือเ าคู่กลาง
(จินจ)ู้ มีระยะ ่างระ า่ งช่ งเ ามากก ่าช่ งเ าอนื่ ๆ (ป้จู ู้) (ภาพท่ี 4)

2. ข่ือท่ีอยู่ระ ่างเ าคู่ ลักแต่ละช้ันรองรับเ า 2 ต้น ยกเ ้นขื่อด้านบน ุดท่ีรองรับเ า
เพยี งต้นเดยี ท้ังน้ี เ าทตี่ ง้ั อยบู่ นขื่อแตล่ ะชัน้ จะมชี ่อื เรยี ก ่า ถ่งจู้ (ภาพท่ี 5)

3. เ ามี นา้ ทรี่ ับแป (ภาพที่ 5)
4. ขอื่ เ ียบเช่อื มระ ่างเ า (ภาพที่ 5)

26

ภาพท่ี 4 ลายเ น้ แ ดงตา� แ น่งเ าจินจู้ และเ าปู้จูใ้ นโครง ร้างแบบชาเ ลียง
ทม่ี า : อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานชิ , 2559, “ ถาปัตยกรรมศาลเจ้าจนี ะทอ้ นภาพชาวจีน

ใน งั คม มยั รัตนโก นิ ทร,์ ” 56.

ภาพท่ี 5 ชุดโครง รา้ งรบั นา้� นักภายในศาลเจ้าเลา่ ป่นุ เถ้ากง
ถนนทรงวาด แขวงจกั รวรรดิ์ เขต มั พนั ธวงศ์ มยั รชั กาลที่ 6 - 8

27

นงั ือรวมบทความวิจยั และบทความทางวชิ าการ เนื่องในงานประชมุ วชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

ถึงแม้โครง ร้างรับน้�า นักแบบชาเ ลียงจะพบในงาน ถาปัตยกรรมของชา จีนกลุ่มภา า
อกี 4 ภา า ทอ่ี พยพเขา้ มาในดนิ แดนไทยเชน่ กนั แตง่ านประดบั โครง รา้ งรบั นา้� นกั ของแตล่ ะกลมุ่ ภา า
มีค ามแตกต่างกันด้ ย โดยใน ่ นของงาน ถาปัตยกรรมที่พบในบ้านเกิดของชา จีนแต้จ๋ิ ซึ่งเรียก ่า
แบบเฉาซ่นั ช่างนยิ มแกะ ลกั ไมเ้ ปน็ รปู คล้ายฟักทอง รปู ตั ์ รือรูปบคุ คลเพอื่ ประดบั ท่ฐี านถ่งจู้ รือ
เ าขนาดเล็กท่ีตั้งอยู่บนข่ือ (ภาพที่ 6) นอกจากนี้ยังมีการแกะ ลักแผ่นไม้เป็นทรงโค้งเพ่ือประดับเช่ือม
ระ า่ งเ าถง่ จซู้ ง่ึ เรยี ก า่ จาเชยี น ด้ ย (ภาพท่ี 6) (อชริ ชั ญ์ ไชยพจนพ์ านชิ , 2559: 104-107) โดยจาเชยี น
จะมีค ามโค้งไม่มากนักเม่ือเทียบกับจาเชียนในงาน ถาปัตยกรรมของชา จีนฮกเกี้ยนที่เรียก ่า
ถาปัตยกรรมแบบ มิ่น นาน

ภาพที่ 6 งานประดับโครง รา้ งไม้ าลเจ้าปนุ เทา่ ก๋ง เขตดุ ิต กรุงเทพฯ ซ่งึ เปน็ งานของชา จนี แต้จิ๋
งั เกตได้ า่ ฐานรองรับเ าประดบั ด้ ยประติมากรรมที่มรี ูปแบบ ลาก ลาย เช่น คน ิงโต
นอกจากนี้ จาเชยี น ทเี่ ชอื่ มระ า่ งเ าถง่ จมู้ ลี กั ณะโคง้ นอ้ ยก า่ งาน ถาปตั ยกรรม มนิ่ นาน
ของชา จีนฮกเก้ียน

เม่ือกลับมาพิจารณาโครง ร้างรับน้�า นักท่ีปรากฏในโรงเจเช็งเฮียงตั๊ จะพบ ่า ถึงแม้งานท่ี
ปรากฏในปัจจุบันเป็นงานคอนกรีตเ ริมเ ล็ก แต่ช่างก็พยายามเลียนแบบโครง ร้างชาเ ลียงที่กล่า ไป
ขา้ งต้นคอื มเี าจินจู้ ปู้จู้ ถง่ จู้ และจาเชียน ทั้งน้ีใน ่ นของฐานถง่ จู้และจาเชียนบางช้นิ เปน็ งานแกะ ลกั
ไมข้ องเดมิ ของ าลเจา้ (ภาพท่ี 7-8ก) โดย ่ นของฐานถง่ จทู้ า� เปน็ รปู ตั ์ เชน่ ปู งิ โตจนี เปน็ ตน้ ลกั ณะ
เ ลา่ นลี้ ้ นเปน็ เอกลกั ณข์ องงานแกะ ลกั องคป์ ระกอบ ถาปตั ยกรรมเฉาซน่ั ของชา แตจ้ ๋ิ ทง้ั นเี้ นอ่ื งด้ ย
งานแกะ ลกั ไมเ้ ชน่ นปี้ รากฏในงาน ลิ ปกรรมแบบ มน่ิ นานของชา จนี ฮกเกย้ี นเชน่ กนั แตง่ านทปี่ รากฏ
ในโรงเจถอื เปน็ งานของชา่ งเฉาซน่ั โดยพจิ ารณาจากผอู้ ปุ ถมั ภท์ เ่ี ปน็ ชา จนี แตจ้ ิ๋ และลกั ณะของจาเชยี น
ทปี่ รากฏในงาน ถาปตั ยกรรม มน่ิ นานมลี กั ณะทแ่ี ตกตา่ งกนั โดยจาเชยี นใน ถาปตั ยกรรม มนิ่ นาน
มีค ามโค้งลาดมากก ่า แต่จะมีค ามเรียบง่ายมากก ่าโดยอาจแกะ ลักล ดลายประดับเพียงเล็กน้อย
(ภาพที่ 8ข)

28

ภาพท่ี 7 ประติมากรรมแกะ ลกั ไม้รปู ปแู ละ งิ โต
ซ่ึงเปน็ งานประดับของฐานถง่ จขู้ องศาลเจา้ ลังเดมิ

ภาพท่ี 8ก ประตมิ ากรรมแกะ ลักไม้รูปฟักทอง เป็นงานประดบั ของฐานถ่งจูข้ องศาลเจ้า ลงั เดมิ
ระ ว่างช่วงเ ามีงานแกะ ลักเป็นแผ่นวงโค้งเรียกว่า “จาเชียน” จะ ังเกตเ ็นว่า
แผ่นจาเชียนไม่โค้งมากเท่ากับจาเชียนในศิลปะ ม่ิน นานของชาวจีนฮกเก้ียน
แต่มีการแกะ ลกั ลวดลายมากกว่า

29

นัง อื รวมบทความวจิ ยั และบทความทางวชิ าการ เน่อื งในงานประชมุ วชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

ภาพที่ 8ข โครง ร้างชาเ ลียงใน ถาปัตยกรรม ม่ิน นานของชา จีนฮกเกยี้ น
าลเจา้ เกยี นอันเกง กรุงเทพ งั เกตได้ า่ แผน่ จาเชียนมีค ามเรยี บงา่ ย
และมคี ามลาดโคง้ ก ่าแผ่นจาเชียนในงาน ถาปัตยกรรม มิ่น นาน
ของชา จนี ฮกเก้ยี น

2. ชาวจนี ไหหลา�
ชา จนี ไ ล�าอพยพมาจากเกาะไ ่ นาน (ออกเ ียงแบบภา าจีนกลาง) รอื ไ ล�า โดยมา

จากจงั ดั เ นิ ชังและไ โข่ ( กนิ เนอร์, 2529: 40) เกาะแ ง่ นแ้ี ตเ่ ดิมเป็น ่ น น่ึงของมณฑลก่ งตง
แต่ต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นมณฑลเรียก ่า มณฑลไ ่ นาน ซึ่งถือเป็นมณฑลที่มีขนาดเล็กที่ ุด
(แ งอรุณ กนกพง ช์ ัย, 2551: 185)

ชา จีนไ ล�าในท่าฉลอมอาจจะอพยพมาจาก 2 จัง ัดน้ีเช่นกัน โดยปรากฏ ลักฐาน
ลายลัก ณ์อกั รบนเก้ยี ของเจ้าแม่ าลเจา้ แมจ่ ๊ยุ บ๋ ยเนยี้ (เจ้าแมท่ บั ทิม) ซ่ึงพบจารึก ที่ ามารถเทียบ
ได้กับ พ. . 2429 ใน มัยรัชกาลที่ 5 (ภาพที่ 9) ท้งั นจ้ี ารกึ ดงั กล่า ระบถุ ึงรายนามผู้บรจิ าคท่ีเป็นชา จีน
่ นใ ญแ่ ซฝ่ ู ่ น นงึ่ เปน็ พอ่ คา้ ทอี่ ยใู่ นทา่ ฉลอม (ทา่ จนี ) ่ นอกี กลมุ่ นง่ึ นน้ั อยใู่ นตา� บลเ นิ อี้ จงั ดั
ฉยงโจ มณฑลก่ งตง (ภาพที่ 10-11)

30

ภาพท่ี 9 เกี้ยวอญั เชญิ เจ้าแม่จยุ๊ บ๋วยเนยี้ ศาลเจา้ แม่จุ๊ยบ๋วยเนยี้ ต�าบลท่าฉลอม

ภาพที่ 10 จารกึ ภาษาจีนทีฝ่ ั่งขวา บนเกี้ยวอัญเชิญเจ้าแม่จยุ๊ บว๋ ยเนีย้
ศาลเจ้าแม่จุ๊ยบ๋วยเน้ีย ต�าบลท่าฉลอม ถอดความได้ว่า
“....พ่อค้าผู้ศรัทธาแห่งหลงจื่อซ่ือก่ัง 龍仔室港

นามว่า ฝูถิงเร่ิน ฝูหงกุ้ย ฝูซู่อิง และเฉินเต๋อฝู และ
เหล่าพ่อค้าร่วมบริจาค” ค�าว่า “หลงจ่ือซื่อกั่ง”
หมายถงึ ท่าฉลอม

31

นัง ือรวมบทความวจิ ยั และบทความทางวชิ าการ เนอื่ งในงานประชมุ วชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

ภาพที่ 11 จารึกภา าจีนที่ฝงั่ ซ้าย บนเกี้ย อัญเชญิ เจ้าแมจ่ ุ๊ยบ๋ ยเนยี้
าลเจ้าแม่จุ๊ยบ๋ ยเนี้ย ต�าบลท่าฉลอม ถอดค ามได้ ่า
“....ใน นั มงคล เดอื นแ ง่ ฤดู นา ปปี ง่ิ ชี แ์ ง่ รชั มยั ก งซ่ี ์
ราช ง ์ชิงที่ย่ิงใ ญ่ ชา บ้านผู้ รัทธาแ ่งต�าบลเ ินอี้
จัง ัดฉยงโจ มณฑลก่ งตง นาม ่าฝู ย่งฝู และ
บุตรชาย ร้างถ าย” ทั้งน้ีปีปิงชี ์แ ่งรัช มัยก งซี่ ์
คือ ปี พ. . 2429

เดิมทีเกาะไ ่ นาน (ไ ล�า) เรียก ่า ฉยงโจ ฝู่ รือแปลเป็นภา าไทยคือ จัง ัดฉยงโจ
เปน็ ่ น นงึ่ ของมณฑลก่ งตง (ฉอื ไ เ่ ปยี นจเี๋ ย่ ย น ยุ้ , 1989: 3183) ตอ่ มา ลงั จาก มยั ราช ง ช์ งิ
ไดร้ บั การยกระดบั เปน็ มณฑล มชี อื่ า่ มณฑลไ ่ นาน ดงั นนั้ จารกึ ทร่ี ะบถุ งึ ฉยงโจ จงึ มายถงึ พนื้ ทท่ี เี่ ปน็
มณฑลไ ่ นานในปัจจุบันนั่นเอง ่ นพื้นที่ของต�าบลเ ินอี้ในปัจจุบันคือ จัง ัดไ โข่ และจัง ัด
เ ินชังของมณฑลไ ่ นานในปจั จบุ ัน (อชิรัชญ์ ไชยพจนพ์ านชิ , 2559: 29)

การทก่ี ลมุ่ ผบู้ รจิ าคโดย ่ นใ ญม่ แี ซเ่ ดยี กนั ทา� ใ พ้ อ นั นิ ฐานค ามเปน็ ไปไดป้ ระการ นงึ่ คอื
คนกลุม่ น้ีมีค าม มั พนั ธใ์ นลกั ณะเครอื ญาติ ากเป็นเช่นนัน้ ันนิ ฐานตอ่ ไปไดอ้ กี า่ พ่อคา้ แซ่ฝทู ีอ่ ยู่
ในทา่ ฉลอมอาจมีบ้านเกดิ ทีต่ า� บลเ นิ อ้ี จัง ดั ฉยงโจ ดงั นน้ั เมือ่ มีการทา� บุญใ ้กบั าลเจ้า จงึ ระลึกถงึ
ญาตพิ น่ี อ้ งทบ่ี า้ นเกดิ ของตนเอง ทง้ั นต้ี ระกลู ฝนู า่ จะเปน็ ชา จนี ไ ลา� ตระกลู า� คญั ตระกลู นงึ่ ในทา่ ฉลอม
เนอ่ื งจากใน าลเจา้ เฮยี ตกี๋ ง ปรากฏปา้ ย ญิ ญาณของปนุ้ เจยี อยภู่ ายใน าลเจา้ (ภาพที่ 12) โดยภา าจนี
บนปา้ ย ิญญาณนน้ั เขยี น า่ “清符諱文昭之位”แปล า่ “ป้ายของผูม้ ีนาม า่ เ ินเจา (บุน้ เจยี ) แซ่ฝู
แ ่ง มัยราช ง ์ชิง” ป้ายดังกล่า ท�าใ ้ทราบ ่า แซ่ของเ ินเจา รือปุ้นเจีย คือ ฝู ดงั นน้ั ามารถตงั้
ขอ้ นั นิ ฐานได้ า่ ตระกลู ฝมู ี ถานะ า� คญั ในทา่ ฉลอม และมบี า้ นเกดิ อยทู่ จ่ี งั ดั เ นิ ชงั มณฑลไ ่ นาน
ในปจั จุบนั

32

ภาพท่ี 12 ป้าย ญิ ญาณของฝูเ ินเจา รอื ป้นุ เจยี ใน าลเจา้ เฮียต๋กี ง ท่าฉลอม

�า รบั าลเจา้ ของชา จนี ไ ลา� ในทา่ ฉลอมนน้ั มี าลเจา้ แมจ่ ุ๊ยบ๋ ยเนย้ี (เจา้ แมท่ บั ทิม) และ
าลเจา้ เฮยี ตก๋ี ง (ชชั าล รตั นพทุ ธา าคร, 2561; พรจติ ร รอ้ ยเพช็ ร, 2562) และเปน็ าลเจา้ เกา่ แกท่ อี่ ยคู่ ู่
กับชมุ ชนแ ่งนี้ แต่เ มอื นกับ าลเจ้าอืน่ ๆ ทไี่ ด้รับการบรู ณะซ่อมแปลงไปเม่ือ ลาย ิบปกี อ่ น ทง้ั น้ีงาน
ิลปกรรมที่แ ดงถงึ เอกลัก ณ์ของชา จีนไ ลา� ทปี่ รากฏใน าลเจ้าทัง้ 2 แ ่ง ปรากฏ ลักฐานดงั นี้

2.1 ความเชอ่ื ที่ ัมพนั ธก์ ับชาวจีนไ ลา�
เทพเจา้ จุ๊ยบ๋วยเน้ยี
ภายใน าลเจ้าจุ๊ยบ๋ ยเน้ีย ประดิ ฐานเทพ ตรีนาม ่า จุ๊ยบ๋ ยเนี้ย เป็นประธาน (ภาพที่ 13
องค์บน) ทั้งนี้นามดังกล่า เป็นการเรียกตาม �าเนียงจีนพื้นถ่ิน �าเนียงจีนกลางคือ ุยเ ่ยเซิ่งเ นียง
(水尾圣娘) เทพองคน์ เี้ ปน็ เทพเจา้ ตรที ชี่ า จนี ไ ลา� นยิ มกราบไ ้ มตี น้ กา� เนดิ ทแี่ ทจ้ รงิ อยทู่ อ่ี า� เภอตงเจยี
จัง ัดเ นิ ชาง มณฑลไ ่ นาน (เ ินซ่ือเ ียง และจูปงิ เ ยียน, 2015) อ�าเภอแ ่งน้มี ี าลเจ้าแ ง่ นงึ่
นาม ่า ุยเ ย่ เซงิ่ เ นียงเมย่ี ร้างในรัช มัยของจักรพรรดิ มงิ อ่จู ง (พ. . 2049–2064) ( งจ้ือเจยี้ น
และเ ยียนเกินฉี, 2013: 148) และถือ ่าเป็น าลเจ้า ุยเ ่ยเซ่ิงเ นียงแ ่งแรก ต่อมาค ามนิยมบูชา
เทพเจ้าองค์ดังกล่า ได้แพร่ไปยังจัง ัดไ โข่ ฉยงไ ่ ในมณฑลไ ่ นานด้ ย (เ ินซื่อเ ียง และ
จูปงิ เ ยยี น, 2015)

33

นงั ือรวมบทความวจิ ยั และบทความทางวชิ าการ เน่อื งในงานประชุมวชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

ภาพที่ 13 เทพเจ้าจ๊ยุ บ๋ ยเน้ีย (บน) และเจ้าแมค่ ลองครุ (ลา่ ง)
าลเจ้าจุ๊ยบ๋ ยเน้ีย ทา่ ฉลอม

า� รบั ตา� นานเกยี่ กบั เทพเจา้ ยุ เ ย่ เซงิ่ เ นยี งนนั้ ปจั จบุ นั ในอา� เภอตงเจยี ยงั บนั ทกึ เรอื่ งรา
ดังกล่า ไ ้ โดยมีรายละเอียดดังน้ี

ชา ประมงในปลาย มยั ราช ง ์ มิงนาม า่ มนิ ล่ีกงเก็บทอ่ นไม้ไดท้ ่อน น่งึ ระ ่างจับปลา
แตไ่ ดโ้ ยนทง้ิ ไป อยา่ งไรกด็ ที อ่ นไมด้ งั กลา่ แ ดงปาฏิ ารยิ ล์ อยกลบั มา า มนิ ลกี่ ง และถงึ แมจ้ ะปาทอ่ นไม้
นี้ออกไป ักก่ีคร้ัง ท่อนไม้จะลอยกลับมาทุกคร้ังไป มิน ลี่กงเ ็นดังน้ันจึงต้ังจิตอธิ ฐาน ่า าก ันนี้
จับปลาไดม้ ากจะนา� ท่อนไมด้ งั กลา่ ไปแกะ ลักเป็นรปู เทพ ตรเี พ่ือบูชา ปรากฏ ่า ันนน้ั ามารถจับปลา
ไดต้ ามคา� อธิ ฐาน มิน ลีก่ งจงึ นา� ท่อนไมก้ ลบั บ้าน ในคนื นนั้ เองเขาไดฝ้ ันถงึ ถานทีแ่ ่ง น่งึ ซงึ่ ภายใน
มี ตรีแตง่ กายงาม งา่ น่ังเปน็ ประธานอยู่ เม่ือตืน่ จากค ามฝนั เขาไดเ้ ล่าใ ้บดิ าฟัง บดิ าจึงแนะน�าใ ้ รา้ ง
าลและแกะ ลักท่อนไม้นั้นเป็นเทพเจ้าข้ึน ซ่ึง มิน ลี่กงก็ปฏิบัติตาม แต่เมื่อต้ัง าลไปได้ ักระยะ น่ึง
กระถางธปู ได้ ายไปจาก าลเจา้ และปรากฏอกี ครง้ั นง่ึ ทเ่ี นนิ เขา เ ตดุ งั กลา่ ทา� ใ ค้ นใน มบู่ า้ นเขา้ ใจ า่
เทพเจ้ามีค ามประ งค์จะใ ้ ร้าง าลเจ้าที่บริเ ณนี้แทนจึงได้ ร้าง าล ุยเ ่ยเซ่ิงเ นียงบนพ้ืนที่
ดังกล่า (อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานิช, 2561ก: 138)

ต�านานเทพเจา้ ุยเ ย่ เซิง่ เ นียงไดร้ ับการถา่ ยทอด ่ชู า จีนไ ลา� โพน้ ทะเลในดนิ แดนตา่ ง ๆ
เชน่ งิ คโปร์ และมาเลเซยี ( ลเี่ ทยี นซ,ี 2009: 68) ร มถงึ ไทย แตร่ ายละเอยี ดของตา� นานอาจเปลยี่ นแปลง
ไปบา้ ง โดยในไทย เลา่ า่

34

มีชา ประมงแซพ่ ั เดนิ เรือจบั ปลา ัน นงึ่ ขณะลากแ พบ า่ แ มีน้�า นักมาก คิด ่าคงได้ปลา
มากมาย แต่ปรากฏ า่ มขี อนไมท้ อ่ น นึ่งมาตดิ แทน เมือ่ โยนท้งิ ไปและ ่านแ อีกครงั้ ขอนไม้ท่อนน้นั ก็
ติดกลับมาเช่นเดิม ชา ประมงคนดังกล่า จึงอธิ ฐานใ ้ตนจับปลาได้จ�าน นมาก าก �าเร็จตามค�าขอ
จะน�าขอนไมไ้ ปแกะ ลกั เปน็ รปู เท ดาเพ่อื บูชา ทงั้ นเี้ มอื่ คา� ขอของเขา มั ฤทธผิ์ ลเขาจงึ น�าขอนไม้ดงั กล่า
กลับบ้าน แต่เม่ือถึงบ้านแล้ กลับท้ิงขอนไม้ใ ้ตากแดดตากฝน ต่อมาจึงย้ายขอนไม้ไปไ ้ น้าเล้า มู
ลงั จากนัน้ จึงเกิดเ ตกุ ารณ์ประ ลาด กล่า คอื มเู ล้านนั้ ตายอยา่ งไม่ทราบ าเ ตุ อีกทง้ั ากใครลบ ลู่
ขอนไม้ล้ นมีอันเป็นไปทั้ง ิ้น ชา ประมงแซ่พั จึงตระ นักได้ถึงค าม ักดิ์ ิทธิ์ของขอนไม้ ดังนั้น
ทา� การขอขมาและนา� มาแกะ ลกั ตามทเ่ี คย ญั ญาไ ้ (เ ลา่ ตง๊ั , 2551: 132-133, อา้ งถงึ ใน ดา� รงพล อนิ ทรจ์ นั ทร,์
บรรณาธกิ าร, 2561: 76-77) จากเรอื่ งเลา่ ดงั กลา่ จะเ น็ ได้ า่ ถงึ แมจ้ ะมรี ายละเอยี ดบางประการทเี่ ปลยี่ นไป
แตย่ ังคงค าม มั พันธร์ ะ า่ งท่อนไม้ เิ กบั เจา้ แม่ ุยเ ย่ เซงิ่ เ นียง

ภาพท่ี 14 ปา้ ย ิญญาณเทพเจ้า 108 พี่นอ้ ง าลเจา้ เฮยี ตกี๋ ง

การบูชาเทพเจ้า 108 พ่ีน้อง มีต้นก�าเนิดที่ต�าบลถานเ มิน จัง ัดฉยงไ ่ มณฑลไ ่ นาน
โดยเชอื่ า่ เทพเจา้ 108 พน่ี อ้ ง คอื พอ่ คา้ ชา ไ ลา� ทเี่ ดนิ ทางไปคา้ ขายยงั อนั นาน (เ ยี ดนาม) ใน พ. . 2394
ระ า่ งเดนิ ทาง ถกู ทางการของเ ยี ดนามฆา่ ตาย ตอ่ มา ญิ ญาณทง้ั 108 ด ง ไดไ้ ปรอ้ งขอค ามเปน็ ธรรม
จากก ัตริยจ์ นทา้ ย ุด า� เรจ็ ผล ต่อมาเม่ือ ญิ ญาณของพอ่ ค้าทั้ง 108 คน ไป รรค์ ได้รบั บัญชาใ ้ดแู ล
ค ามปลอดภยั ใ ก้ บั ผเู้ ดนิ ทางทางทะเล ทง้ั นี้ าลเจา้ ทบี่ ชู าเทพเจา้ ดงั กลา่ เปน็ ประธานในมณฑลไ ่ นาน
เรมิ่ รา้ งครงั้ แรกรา ตน้ พทุ ธ ต รร ท่ี 25 (จงก๋ั ไ ่ ยงั เ นิ ฮ า่ เ ย่ ย นฮยุ่ , 2016: 184) อกี ทง้ั พบ า่
ชมุ ชนชา จีนอพยพชา ไ ล�าในดนิ แดนตา่ ง ๆ เชน่ มาเลเซยี และเ ยี ดนาม มกี ารตง้ั าลเจ้าเพอ่ื บชู า
เทพเจ้า 108 พ่นี อ้ งด้ ย (จงก๋ั ไ ่ ยังเ นิ ฮ า่ เ ่ย ย นฮุ่ย, 2016: 69)

35

นงั อื รวมบทความวิจยั และบทความทางวิชาการ เนือ่ งในงานประชมุ วชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

่ นในไทยนั้น การบูชาเทพเจ้ากลุ่มดังกล่า ปรากฏใน าลเจ้าของชา จีนไ ล�าเช่นกัน อาทิ
าลเจ้าเจยี เองเบ้ีย เขตบางรกั กรงุ เทพฯ และ าลเจา้ พระ 108 109 อ�าเภอปะเ ลยี น จงั ดั ตรัง
เป็นต้น โดยในแต่ละพื้นที่ อาจมีรายละเอียดต�านานแตกต่างกันไป แต่ยัง ัมพันธ์กับชา ไ ล�าจ�าน น
108 ( รอื 109) คน ท่ีเดินทางทางทะเลและเ ียชี ิตลง ดังน้นั การบชู าเทพเจา้ 108 พ่ีนอ้ งของ าลเจ้า
เฮียต๋ีกง จึงถือเป็นร่องรอย นึ่งที่แ ดงใ ้เ ็นค าม ัมพันธ์ระ ่างผู้ ร้าง าลเจ้าแ ่งน้ีและ ัฒนธรรม
ของชา จีนไ ลา� ได้เปน็ อยา่ งดี

2.2 รูปแบบงานศลิ ปกรรมที่ มั พันธ์กับชาวจนี ไ ลา�
รปู แบบประตมิ ากรรมเทพเจา้ ในศาลเจา้ จุ๊ยบว๋ ยเน้ีย
ภายใน าลเจา้ จยุ๊ บ๋ ยเนยี้ ประดิ ฐานเทพเจา้ อยู่ ลายองค์ โดยนอกจากจะประดิ ฐานเทพเจา้
ุยเ ย่ เซ่ิงเ นยี งแล้ ยังประดิ ฐาน เทพเจ้าเป่นิ โถ กง เจ้าแมค่ ลองครุ เทพเจ้าก นอี๋ ์ (ก นอู) และ
บริ าร (ภาพท่ี 13, 15) ท้ังนน้ี ่า งั เกต า่ ประตมิ ากรรมเทพเจา้ มลี กั ณะร่ มกนั ดังน้ี

ภาพท่ี 15 เทพเจา้ ก นอแู ละบริ าร
(โจ ชังและก นผงิ ประทับยืนอยทู่ างด้านข าและซ้ายของเทพเจา้ ก นอ)ู
าลเจา้ จ๊ยุ บ๋ ยเนีย้ ท่าฉลอม

36

ชา่ งไมน่ ยิ ม ลกั ร้ิ ผา้ นงุ่ ของประตมิ ากรรม ากเปน็ ประตมิ ากรรมประทบั ยนื ชายผา้ นงุ่ จะบาน
ผายออกและกินพื้นที่เกือบทั้ง มดของ น้าตัดด้านบนฐาน �า รับกลุ่มที่เป็นประติมากรรมอยู่ในท่านั่ง
บนบลั ลงั กน์ ้ัน ประติมากรรมมีขนาดใ ญ่เตม็ พ้ืนทีบ่ ลั ลังก์ น่งั ้อยพระบาทแบบ มมาตร พระพา าของ
ประติมากรรมค่อนข้าง ั้นและไม่ ม ่ นกับพระ รกาย ประติมากรรมและบัลลังก์มีขนาดใ ญ่เต็มฐาน
ใน ่ นพระพกั ตร์ ชา่ งเลอื กใชก้ ารเขยี น เี พอื่ แ ดง ี นา้ ร มถงึ ลกั ณะของเปลอื กพระเนตร ทา� ใ ใ้ บ นา้
ประตมิ ากรรมคอ่ นขา้ งแบน ลกั ณะทก่ี ลา่ มาขา้ งตน้ นเี้ ปน็ เอกลกั ณข์ องประตมิ ากรรมของชา จนี ไ ลา�
(อชริ ชั ญ์ ไชยพจน์พานชิ , 2561ก: 64-68)

น่า ังเกต ่ามีรูปแบบบางประการท่ีเป็นเอกลัก ณ์ของงานประติมากรรมแบบเฉาซั่นของ
ชา จีนแต้จ๋ิ ด้ ย กล่า คือ ฐานท่ีรองรับประติมากรรมมีพ้ืน ลัง ีด�า และเขียนลายพรรณพฤก าอย่าง
ประณตี ด้ ย ีขา (ภาพท่ี 13, 15) ท้ังนี้ในกลุ่มงานประติมากรรมที่พบในบ้านเกดิ ของชา จนี ไ ล�าน้ัน
นยิ มทา� ฐานทล่ี งพนื้ ลงั ดี า� และเขยี นลายพรรณพฤก าด้ ย ขี า เชน่ กนั แตล่ ายจะไมป่ ระณตี เทา่ กบั กลุ
ช่างเฉาซั่น (ภาพที่ 16) (อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานิช, 2561ก: 64) อย่างไรก็ดี เน่ืองด้ ยเม่ือเ ลาผ่านไป
ประตมิ ากรรมเ ลา่ นช้ี า� รดุ ทรดุ โทรม จงึ ทา� ใ ม้ กี ารซอ่ มแซมประตมิ ากรรม ดงั นนั้ จงึ อาจเปน็ ได้ า่ ในการซอ่ ม
ครง้ั ใดครั้ง นึง่ อาจจา้ งช่างชา แตจ้ ิ๋ มาซ่อมแซมประติมากรรมกเ็ ป็นได้ จึงท�าใ ้ล ดลายท่ฐี านมีลัก ณะ
ทเี่ ปลี่ยนแปลงไป

ภาพท่ี 16 ประติมากรรมเทพเจ้า กุลช่างไ ่ นาน าลเจา้ อ่เู ซิง่ จัง ัดเ ินชงั มณฑลไ ่ นาน
จะ ังเกตได้ ่า ่ นฐานคล้ายกับประติมากรรมเฉาซ่ันคือ ลงพ้ืน ีด�าและเขียนลาย
พนั ธพุ์ ฤก าด้ ย ีขา แต่ลายเ ้นดู ยาบและ นาก ่าแบบเฉาซน่ั

รูปแบบตั อัก รที่ปรากฏใน าลเจ้าเฮียตี๋กงและ าลเจ้าจุ๊ยบ๋ ยเน้ีย มีจารึกภา าจีนกลุ่ม นึ่ง
ภายใน าลเจา้ เฮยี ต๋กี งและ าลเจา้ จุย๊ บ๋ ยเนี้ย ที่มกี ารแกะ ลักตั อัก รจีนในลัก ณะคลา้ ยกนั คอื มที ัง้
เ น้ นาและเ น้ บางอยู่ในตั อกั รเดยี กัน และตั อัก รค่อนขา้ งปอ้ ม ซ่ึงตา่ งจากลกั ณะงานแกะ ลัก
ตั อัก รจนี ใน าลเจ้าอ่ืน ๆ ทั่ ไป ที่นิยมใช้เ น้ ขนาดเดีย กัน และตั อัก รยึด ูงก า่

กลุ่มจารึกที่มีตั อัก รจีนแบบเดีย กันนี้คือ ป้าย ิญญาณเทพเจ้าของ าลเจ้าเฮียต๋ีกง (ภาพที่
14, 17-18) และจารึกท่ีแกะ ลักอยู่บนเก้ีย ามประติมากรรมเทพเจ้า ุยเ ่ยเซ่ิงเ นียงของ าลเจ้า
จยุ๊ บ๋ ยเนี้ย (ภาพที่ 10-11) ทั้งน้ียงั พบจารกึ ภา าจีนที่มตี ั อกั รลกั ณะดงั กลา่ ใน าลเจา้ ของชา จีน
ไ ลา� ของพนื้ ทอี่ น่ื เชน่ ปา้ ย ญิ ญาณขององคเ์ ทพเจา้ ใน าลเจยี เองเบยี้ เขตบางรกั กรงุ เทพฯ (ภาพท่ี 19)

37

นงั อื รวมบทความวิจยั และบทความทางวชิ าการ เนื่องในงานประชมุ วชิ าการ ครบรอบ 65 ปี คณะโบราณคดี

ภาพที่ 17 ปา้ ยวญิ ญาณเทพเจ้าปนุ เถ่ากง ภาพที่ 18 ปา้ ยวญิ ญาณเทพเจ้าไฉ่ซินเอี๊ยะ
ศาลเจ้าเฮยี ตีก๋ ง ศาลเจ้าเฮียตีก๋ ง

ภาพท่ี 19 ตัวอกั ษรบนปา้ ยวิญญาณเทพเจ้า 108 พนี่ อ้ ง
ศาลเจา้ เจยี วเองเบ้ยี ว เขตบางรกั กรงุ เทพฯ

38


Click to View FlipBook Version