232 227
232
หมวด 6
การออกจากราชการ
ข้อ 57 ลูกจา้ งประจาออกจากราชการเมอื่
(1) ตาย
(2) พน้ จากราชการตามระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าด้วยบาเหนจ็ ลูกจ้าง
(3) ลาออกจากราชการ และไดร้ ับอนญุ าตใหล้ าออกหรือการลาออกมผี ลตามข้อ 58
(4) ถูกส่ังใหอ้ อกตามขอ้ 14 ข้อ 21 ขอ้ 55 ขอ้ 59 ข้อ 60 ขอ้ 61 ข้อ 62 หรอื ขอ้ 63 หรือ
(5) ถูกส่ังลงโทษปลดออกหรอื ไล่ออก
วันออกจากราชการตาม (4) และ (5) ให้เป็นไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น
โดยอนโุ ลม
การต่อเวลาราชการให้ลูกจ้างประจาท่ีต้องออกจากราชการตาม (2) รับราชการต่อไป
จะกระทามไิ ด้
ข้อ 58 นอกจากกรณีตามวรรคห้า ลูกจ้างประจาผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการ
ใหย้ ื่นหนงั สอื ขอลาออกจากราชการตอ่ ผบู้ ังคับบัญชา โดยให้ย่ืนล่วงหน้าก่อนวันที่จะขอลาออกจากราชการ
ไม่น้อยกว่าสามสิบวนั เพอื่ ให้ผูม้ ีอานาจสงั่ บรรจุตามขอ้ 13 เป็นผู้พจิ ารณาอนญุ าต
ในกรณีมีเหตุผลความจาเปน็ พิเศษ ผ้บู ังคับบัญชาจะอนญุ าตใหล้ ูกจ้างประจาซง่ึ ประสงค์
จะลาออกจากราชการยื่นหนังสอื ขอลาออกจากราชการล่วงหน้าน้อยกว่าสามสบิ วนั ก็ได้
ในกรณีท่ีผู้มีอานาจสั่งบรรจุตามข้อ 13 พิจารณาเห็นว่าจาเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการ
จะยับย้ังการอนญุ าตให้ลาออกไวเ้ ป็นเวลาไม่เกนิ เก้าสบิ วันนับต้งั แต่วันขอลาออกก็ได้ แต่ตอ้ งแจ้งการยับย้ัง
การอนุญาตให้ลาออก พร้อมท้ังเหตุผลให้ผู้ขอลาออกทราบ และเม่ือครบกาหนดเวลาท่ียับยั้งแล้ว
ใหก้ ารลาออกมีผลตงั้ แตว่ ันถัดจากวันครบกาหนดเวลาทย่ี ับยงั้
ถ้าผูม้ ีอานาจสง่ั บรรจุตามขอ้ 13 ไม่ได้อนุญาตให้ลาออกตามวรรคหน่ึง และไม่ได้ยับย้ัง
การอนญุ าตใหล้ าออกตามวรรคสอง ให้การลาออกนน้ั มผี ลตง้ั แต่วันขอลาออก
ในกรณีท่ีลูกจ้างประจาผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการเพื่อดารงตาแหน่งทางการเมือง
หรือเพื่อสมัครรับเลือกต้ังเป็นสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถ่ิน หรือผู้บริหารท้องถิ่น ให้ยื่นหนังสือ
ขอลาออกต่อผูบ้ งั คับบญั ชาและใหก้ ารลาออกมผี ลต้ังแต่วันท่ีผ้นู น้ั ขอลาออก
หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการเก่ียวกับการลาออก การพิจารณาอนุญาตให้ลาออกและการยบั ย้ัง
การอนุญาตให้ลาออกจากราชการ ให้เป็นไปตามที่กาหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน
โดยอนุโลม
ข้อ 59 เมอ่ื ลกู จา้ งประจาผใู้ ดไปรบั ราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
ให้ผู้มีอานาจส่งั บรรจุตามข้อ 13 ส่งั ใหผ้ นู้ นั้ ออกจากราชการ
233 228 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
ลกู จางประจําผูใดถูกสั่งใหออกจากราชการตามวรรคหนึ่ง และตอมาปรากฏวา ผูน้ันมีกรณี
ทีจ่ ะตอ งถกู สั่งใหออกจากราชการตามขออน่ื อยกู อนไปรับราชการทหาร ก็ใหผูมีอาํ นาจสง่ั บรรจุตามขอ 13
มีอํานาจเปลี่ยนแปลงคาํ สง่ั ใหอ อกจากราชการตามวรรคหน่ึงเปน ใหออกจากราชการตามขออน่ื น้ันได
ขอ 60 ผูมีอํานาจส่ังบรรจุตามขอ 13 มีอํานาจส่ังใหลูกจางประจําออกจากราชการ
เพ่ือรับบําเหน็จตามระเบียบกระทรวงการคลงั วาดวยบําเหน็จลกู จางไดและการส่ังใหออกจากราชการ
เพอ่ื รบั บําเหนจ็ นอกจากใหทําไดใ นกรณีทก่ี ําหนดไวในขออื่นของระเบียบนแ้ี ลว ใหท ําไดใ นกรณใี ดกรณหี น่ึง
ดงั ตอ ไปนี้ดว ยคอื
(1) เม่ือลูกจางประจําผูใดเจ็บปวยไมอาจปฏิบัติหนาท่ีราชการของตนไดโดยสม่ําเสมอ
ถาผมู ีอาํ นาจส่ังบรรจตุ ามขอ 13 เหน็ สมควรใหอ อกจากราชการใหส งั่ ใหผนู ัน้ ออกจากราชการได
(2) เม่ือลูกจางประจําผูใดขาดคุณสมบัติตามขอ 6 (1) (4) (5) (6) (9) หรือ (10)
ใหผมู ีอาํ นาจสงั่ บรรจุตามขอ 13 สัง่ ใหผ นู ้ันออกจากราชการได
(3) เม่ือลูกจางประจําผูใดมีกรณีถูกกลาวหาหรือมีเหตุอันควรสงสัยวาเปนผูขาด
คุณสมบัติทั่วไป ตามขอ 6 (3) และผูมีอํานาจส่ังบรรจุตามขอ 13 เห็นวากรณีมีมูลก็ใหส่ังแตงตั้ง
คณะกรรมการสอบสวนโดยไมชักชาและใหนําขอ 61 มาใชบงั คับโดยอนุโลม ในกรณีที่ผูมอี ํานาจส่ังบรรจุ
ตามขอ 13 เหน็ วาผูน ัน้ เปน ผขู าดคณุ สมบตั ิทว่ั ไปตามขอ 6 (3) ก็ใหสงั่ ใหผ ูน น้ั ออกจากราชการ
(4) เม่ือทางราชการเลิกหรือยุบตําแหนงใด ใหผูมีอํานาจส่ังบรรจุตามขอ 13 สั่งให
ลกู จา งประจําผูดํารงตาํ แหนงนัน้ ออกจากราชการไดต ามหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารท่ีกระทรวงการคลังกําหนด หรือ
(5) เมอื่ ลกู จางประจาํ ผใู ดไมส ามารถปฏิบตั ริ าชการใหมปี ระสทิ ธิภาพและเกิดประสิทธผิ ลใน
ระดับอันเปนท่ีพอใจของทางราชการได ใหผูมีอํานาจสั่งบรรจุตามขอ 13 สั่งใหผูนั้นออกจากราชการ
ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑแ ละวธิ ีการตามท่กี ําหนดไวในกฎหมายวาดวยระเบยี บขา ราชการพลเรอื นโดยอนุโลม
ขอ 61 เมื่อลูกจางประจําผูใดมีกรณีถูกกลาวหา หรือมีเหตุอันควรสงสัยวาหยอน
ความสามารถในอันท่ีจะปฏิบัติหนาที่ของตนบกพรองในหนาที่ราชการหรือประพฤติตนไมเหมาะสมกับ
ตําแหนงหนาท่ีราชการ และผูมีอํานาจส่ังบรรจุตามขอ 13 เห็นวากรณีมีมูล ถาใหผูนั้นปฏิบัติราชการ
ตอไปจะเปนการเสยี หายแกราชการ ก็ใหผูมอี ํานาจส่ังบรรจุตามขอ 13 แตงตั้งคณะกรรมการสอบสวน
โดยไมชักชา ในการสอบสวนน้ีจะตองแจงขอกลาวหาและสรุปพยานหลักฐานท่ีสนับสนุนขอกลาวหา
เทาที่มีใหผูถูกกลาวหาทราบ โดยจะระบุหรือไมระบุชื่อพยานก็ไดและตองใหโอกาสผูถูกกลาวหาชี้แจง
และนําสืบแกขอกลาวหาไดดวย เม่ือไดม กี ารสอบสวนแลวและผมู ีอํานาจส่ังบรรจุตามขอ 13 พิจารณา
เหน็ วาสมควรใหออกจากราชการ กใ็ หส งั่ ใหผ ูน ้นั ออกจากราชการเพ่อื รับบําเหน็จได
หลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการสอบสวนพิจารณา ใหเปนไปตามที่กําหนดไว
ในกฎหมายวา ดว ยระเบยี บขา ราชการพลเรือนโดยอนโุ ลม
ใน ก รณี ที่ เป น ก ร ณี ท่ี ป ร า ก ฏ ชั ด แ จ ง ต า ม ที่ กํ า ห น ด ไวใน ก ฎ ห ม า ย ว า ด ว ย ร ะ เบี ย บ
ขา ราชการพลเรอื น จะดาํ เนนิ การตามวรรคหนงึ่ โดยไมสอบสวนก็ได
ขอ 62 เมื่อลูกจางประจําผูใดมีกรณีถูกแตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามขอ 50
และคณะกรรมการสอบสวนเหน็ วา กรณมี เี หตุอนั ควรสงสยั อยางย่งิ วา ผูน น้ั ไดกระทาํ ผิดวนิ ัยอยางรายแรง
234
234 229
แต่การสอบสวนไม่ได้ความแน่ชัดพอท่ีจะลงโทษได้ตามข้อ 52 วรรคหน่ึง แต่มีมลทินหรือมัวหมอง
ในกรณีท่ีถูกสอบสวนนั้น ซ่ึงถ้าให้ปฏิบัติราชการต่อไปจะเป็นการเสียหายแก่ราชการ ก็ให้ผู้มีอานาจ
ส่งั บรรจุตาม ข้อ 13 สัง่ ให้ผู้นน้ั ออกจากราชการเพือ่ รับบาเหนจ็ ได้
ข้อ 63 เมื่อลูกจ้างประจาผู้ใดต้องรับโทษจาคุกโดยคาส่ังศาล หรือต้องรับโทษจาคุก
โดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกในความผิดท่ีได้กระทาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ซึ่งยังไม่ถึงกับ
จะต้องถูกลงโทษปลดออกหรือไล่ออก ผู้มีอานาจส่ังบรรจุตามข้อ 13 จะส่ังให้ผู้น้ันออกจากราชการ
เพือ่ รบั บาเหนจ็ ก็ได้
หมวด 7
การอทุ ธรณ์
ข้อ 64 ลูกจ้างประจาผู้ใดถูกส่ังลงโทษตามระเบียบน้ี ให้ผู้น้ันมีสิทธิอุทธรณ์ได้
ภายในสามสิบวันนบั แต่วนั ทราบคาสั่งการอุทธรณแ์ ละการพจิ ารณาอทุ ธรณ์ใหเ้ ป็นไปตามหลักเกณฑแ์ ละ
วิธีการที่กระทรวงการคลังกาหนด ในกรณีที่ส่ังให้ผู้อุทธรณ์กลับเข้าปฏิบัติราชการ ให้นาข้อ 55
มาใชบ้ ังคบั โดยอนุโลม
หมวด 8
การร้องทกุ ข์
ข้อ 65 ลูกจา้ งประจาผู้ใดถูกสงั่ ใหอ้ อกจากราชการตามระเบียบนี้ดว้ ยเหตุใด ๆ ให้ผนู้ ั้น
มีสิทธิร้องทกุ ข์ได้ภายในสามสิบวันนบั แต่วนั ทราบคาส่งั
ข้อ 66 ลกู จ้างประจาผู้ใดเหน็ ว่าผ้บู ังคบั บัญชาใชอ้ านาจหน้าทีป่ ฏบิ ตั ิต่อตนโดยไม่ถกู ต้อง
หรอื ไมป่ ฏบิ ัตติ อ่ ตนให้ถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีความคบั ขอ้ งใจอันเกิดจากการปฏิบัตขิ องผู้บังคบั บัญชาตอ่ ตน
ในกรณีตามที่กาหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ผู้นั้นอาจร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชา
เพอื่ ขอใหแ้ ก้ไขหรอื แกค้ วามคับขอ้ งใจได้ ทง้ั น้ี เวน้ แต่กรณีทม่ี ิสทิ ธอิ ทุ ธรณ์ ตามหมวด 7 ซึง่ ตอ้ งใหส้ ิทธอิ ุทธรณ์
ตามทกี่ าหนดไว้ในหมวดนั้น
ข้อ 67 การร้องทุกข์และการพิจารณาเร่ืองร้องทุกข์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และ
วิธกี ารท่ีกระทรวงการคลังกาหนด
235 232 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
บทเฉพาะกาล
___________
ขอ 68 ในระหวางท่ียงั มิไดก ําหนดหลกั เกณฑแ ละวิธีการเพ่ือปฏิบัตกิ ารตามระเบียบนี้
ใหนําหลักเกณฑและวิธีการท่ีกําหนดไวแลว ตามระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยลูกจางประจําของ
สว นราชการ พ.ศ.2525 มาใชบ งั คบั โดยอนุโลม
ขอ 69 ลูกจางประจําผูใดมีกรณีกระทําผิดวินัยหรือกรณีท่ีสมควรใหออกจากราชการ
อยูกอนวันที่ระเบียบนี้ใชบังคับ ใหผูบังคับบัญชาตามระเบียบน้ีมีอํานาจส่ังลงโทษผูน้ันหรือสั่งใหผูน้ัน
ออกจากราชการ ตามระเบยี บกระทรวงการคลงั วาดวยลูกจางประจาํ ของสวนราชการทใี่ ชอ ยใู นขณะนั้น
สวนการสอบสวน การพิจารณา และการดําเนินการเพ่ือลงโทษ หรือใหออกจากราชการ ใหดําเนินการ
ตามระเบยี บนี้ เวนแต
(1) กรณีท่ีผูบังคับบัญชาไดส่ังใหสอบสวนโดยถูกตองตามระเบียบท่ีใชอยูในขณะน้ัน
ไปแลว กอนวนั ท่รี ะเบียบนใ้ี ชบังคับและยงั สอบสวนไมเสรจ็ ใหสอบสวนตามระเบียบน้นั ตอไปจนกวาจะเสรจ็
(2) กรณีท่ีไดมีการสอบสวนหรือพิจารณาโดยถูกตองตามระเบียบที่ใชอยูในขณะน้ัน
เสรจ็ ไปแลว กอ นวันท่รี ะเบยี บน้ใี ชบังคบั ใหการสอบสวนหรอื พิจารณานั้นเปน อนั ใชไ ด
ขอ 70 ลกู จางประจําผูใดถูกสั่งลงโทษ ตามระเบียบกระทรวงการคลงั วาดว ยลูกจา งประจํา
ของสว นราชการ พ.ศ.2525 ใหผูนนั้ มสี ิทธิอทุ ธรณไดตามขอ 64
ขอ 71 ลูกจางประจําผูใดถูกสั่งใหออกจากราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง
วาดวยลูกจางประจําของสวนราชการ พ.ศ.2525 กอนวันที่ระเบียบน้ีใชบ ังคับ ใหผูนั้นมีสิทธิรองทุกข
ไดต ามขอ 65
ประกาศ ณ วันที่ 25 มนี าคม พ.ศ. 2537
ไตรรงค สุวรรณคีรี
(นายไตรรงค สวุ รรณครี )ี
รฐั มนตรชี ว ยวา การฯ
ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีวา การกระทรวงการคลัง
236
237
237 231
7
พนกั งำนรำชกำรศำลยตุ ิธรรม
ลกู จา งและพนกั งกาลนมุ รทา่ีช๓การศาลยตุ ธิ รรม
238
239 234
ระเบยี บคณะกรรมการขา ราชการศาลยตุ ธิ รรม
วา ดว ยพนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรม
พ.ศ. 2550
โดยท่ีเปนการสมควรใหมีการนําระบบพนักงานราชการมาใชในสํานักงานศาลยตุ ิธรรม ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
เพื่อใหระบบการบริหารงานบุคคลของสํานักงานศาลยุติธรรมมีความยืดหยุน คลองตัว สอดคลองและ
รองรับกับยุทธศาสตรศาลยุติธรรม และยุทธศาสตรการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม อันจะทําให
การบริหารจัดการของศาลยุติธรรมและสํานักงานศาลยุติธรรมดําเนินไปอยางมีประสิทธิภาพและ
ประสทิ ธผิ ลยิ่งข้นึ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 21 (4) และ (8) แหงพระราชบัญญัติระเบียบ
บรหิ ารราชการศาลยตุ ธิ รรม พ.ศ. 2543 คณะกรรมการขาราชการศาลยตุ ิธรรมโดยไดรบั ความเห็นชอบ
จากคณะกรรมการบริหารศาลยตุ ิธรรมออกระเบียบไว ดังตอไปน้ี
ขอ 1 ระเบียบนี้เรียกวา “ระเบียบคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม วาดวย
พนักงานราชการศาลยุตธิ รรม พ.ศ. 2550”
ขอ 21 ระเบียบน้ีใหใชบ ังคบั ตัง้ แตวันถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปนตน ไป
ขอ 3 ในระเบียบนี้
“พนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรม” หมายความวา บุคคลซงึ่ สํานักงานศาลยุติธรรมจางตาม
สญั ญาจา งโดยไดรบั คาตอบแทนจากงบประมาณของสาํ นักงานศาลยตุ ธิ รรม เพื่อเปน พนกั งานราชการของ
สาํ นกั งานศาลยุติธรรมในการปฏบิ ัตงิ านใหแกสํานักงานศาลยตุ ธิ รรม
“สญั ญาจาง” หมายความวา สัญญาจางพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรมตามระเบยี บนี้
ขอ 4 บรรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ ขอบังคบั คําสัง่ มติ ก.ศ. หรือมติ ก.บ.ศ.
ท่ีกําหนดใหขาราชการศาลยุติธรรมหรือลูกจางสํานักงานศาลยุติธรรมมีหนาท่ีตองปฏิบัติหรือละเวน
การปฏบิ ัติหรือเปน ขอ หามในเรอ่ื งใดใหถือวา พนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรมมหี นา ทตี่ องปฏบิ ัติหรอื ละเวน
การปฏบิ ตั หิ รอื ตอ งหา มเชนเดยี วกบั ขาราชการศาลยุติธรรมหรือลกู จา งดว ย ท้ังน้ี เวน แตเรอ่ื งใดมีกาํ หนดไวแลว
โดยเฉพาะในระเบียบนี้หรอื ตามเงื่อนไขของสัญญาจาง หรือเปนกรณีท่ีสํานักงานศาลยุตธิ รรมประกาศ
กําหนดใหพนักงานราชการศาลยุติธรรมประเภทใด หรือตําแหนงในกลุมงานลักษณะใด ไดรับยกเวน
ไมตองปฏิบัติเชนเดียวกับขาราชการศาลยุติธรรมหรือลูกจางในบางเรื่อง เพื่อใหเหมาะสมกับสภาพ
การปฏิบัตงิ านของพนกั งานราชการศาลยุตธิ รรม
1 ราชกจิ จานเุ บกษา เลม 124/ตอนท่ี 8 ก/หนา 7/31 มกราคม 2550
240 235
ขอ 5 ใหประธานกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมรักษาการตามระเบียบนี้
ในกรณีท่ีมีปญหาเก่ียวกับการตีความหรือการบังคับใชระเบียบนี้ ใหประธานกรรมการ
ขาราชการศาลยตุ ธิ รรมเปน ผวู นิ ิจฉัย
หมวด 1
พนกั งานราชการศาลยุตธิ รรม
ขอ 6 พนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรมมีสองประเภท ดังตอไปน้ี
(1) พนักงานราชการศาลยุติธรรมทั่วไป ไดแก พนักงานราชการซึ่งปฏิบัติงานใน
ลักษณะเปนงานประจําท่วั ไปของสํานกั งานศาลยตุ ธิ รรม ในดา นงานบรกิ าร งานเทคนิค งานบรหิ ารทั่วไป
งานวชิ าชพี เฉพาะ หรอื งานเชี่ยวชาญเฉพาะ
(2) พนักงานราชการศาลยุติธรรมพิเศษ ไดแก พนักงานราชการซ่ึงปฏิบัติงานใน
ลกั ษณะที่ตองใชความรหู รือความเช่ียวชาญสูงมากเปนพิเศษ เพ่ือปฏิบัติงานในเร่ืองท่มี คี วามสําคัญและ
จําเปนเฉพาะเรอื่ งของสํานักงานศาลยุตธิ รรม หรือมคี วามจาํ เปนตองใชบุคคลในลกั ษณะดงั กลา ว
ขอ 7 ในการกําหนดตําแหนงของพนักงานราชการศาลยุติธรรม ใหกําหนดโดยจําแนก
เปน กลมุ งานตามลกั ษณะงานและผลผลติ ของงาน ดงั ตอไปนี้
(1) กลมุ งานบริการ
(2) กลมุ งานเทคนิค
(3) กลุม งานบรหิ ารท่ัวไป
(4) กลุม งานวิชาชีพเฉพาะ
(5) กลุมงานเช่ียวชาญเฉพาะ
(6) กลุมงานเชีย่ วชาญพเิ ศษ
ในแตละกลุมงานตามวรรคหน่ึง คณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมอาจกําหนด
ใหม กี ลมุ งานยอ ยเพอื่ ใหเ หมาะสมกับลกั ษณะงานของพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมได
การกําหนดใหพนักงานราชการศาลยุติธรรมประเภทใดมีตําแหนงในกลุมงานใด
และการกําหนดลักษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะของกลุมงาน ใหเปนไปตามหลักเกณฑของ
คณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม
สํานักงานศาลยตุ ิธรรมอาจกําหนดชื่อตําแหนงในกลุมงานตามความเหมาะสมกบั หนาท่ี
การปฏบิ ตั ิงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ีจางได
ขอ 8 ผูซ่ึงจะไดรับการจางเปนพนักงานราชการศาลยุติธรรมตองมีคุณสมบัติและ
ไมม ลี กั ษณะตอ งหาม ดังตอ ไปน้ี
(1) มีสญั ชาติไทย
(2) มอี ายไุ มต าํ่ กวา สบิ แปดปบ ริบรู ณ
(3) ไมเปน บุคคลลม ละลาย
241 236 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
(4) ไมเปนผูมีกายทุพพลภาพจนไมสามารถปฏิบัติหนาท่ีได ไรความสามารถ หรือ
จิตฟน เฟอนไมส มประกอบ หรอื เปน โรคตามทีก่ ําหนดไวในกฎหมายวา ดวยระเบียบขาราชการพลเรือน
(5) ไมเปนผูดํารงตําแหนงทางการเมือง กรรมการพรรคการเมือง หรือเจาหนาที่
ในพรรคการเมอื ง
(6) ไมเปนผเู คยตองรบั โทษจาํ คุกโดยคาํ พิพากษาถงึ ทสี่ ุดใหจ ําคุกเพราะกระทําความผิด
ทางอาญา เวน แตเ ปนโทษสําหรบั ความผิดท่ีไดกระทาํ โดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ
(7) ไมเปนผูเคยถูกลงโทษใหออก ปลดออก หรือไลออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจ
หรือหนว ยงานอืน่ ของรัฐ
(8) ไมเปนขาราชการ ลูกจาง หรือพนักงานเจาหนาท่ีของสวนราชการ หรอื หนวยงาน
อนื่ ของรัฐ รัฐวสิ าหกิจ หรือราชการสวนทอ งถิ่น
(9) คุณสมบัติหรือลักษณะตองหามอ่ืนตามที่สํานักงานศาลยุติธรรมกําหนดไว
ในประกาศการสรรหา หรือการเลือกสรรบุคคลเพ่ือจางเปนพนักงานราชการศาลยุติธรรม ทั้งนี้
ตอ งเปนไปเพ่อื ความจําเปน หรอื เหมาะสมกับภารกจิ ของสํานกั งานศาลยตุ ิธรรม
ความใน (1) ไมใ หใชบังคับแกพนักงานราชการชาวตา งประเทศ ซงึ่ สํานักงานศาลยตุ ิธรรม
จําเปนตองจางตามขอผูกพันหรือตามความจําเปนของภารกิจของสํานักงานศาลยุติธรรม โดยไดรับ
ความเห็นชอบจากคณะกรรมการขา ราชการศาลยุติธรรม
ในกรณีเห็นสมควรคณะกรรมการขา ราชการศาลยตุ ิธรรมอาจประกาศกําหนดคุณสมบัติ
หรือลักษณะตองหามเพ่ิมข้ึนหรือกําหนดแนวทางปฏบิ ัติของสํานักงานศาลยุติธรรมในการจางพนักงาน
ราชการศาลยตุ ิธรรม เพ่ือใหส อดคลองกับวตั ถปุ ระสงคของการกําหนดใหมีพนกั งานราชการศาลยุตธิ รรม
ตามระเบียบน้ี
ขอ 9 ใหสํานักงานศาลยุติธรรมจัดทํากรอบอัตรากําลังพนักงานราชการศาลยุติธรรม
เปนระยะส่ีป โดยใหสอดคลองกับเปาหมายของแผนการปฏิบัติราชการและแผนงบประมาณ
ตามยทุ ธศาสตรศ าลยุติธรรม
กรอบอัตรากําลังพนักงานราชการศาลยุติธรรมตามวรรคหนึ่ง ใหเปนไปตามท่ี
คณะกรรมการขาราชการศาลยตุ ิธรรมกาํ หนดโดยความเห็นชอบของประธานศาลฎีกา
ในกรณที ี่มเี หตุผลความจําเปน สํานกั งานศาลยตุ ิธรรมอาจขอใหเปลี่ยนกรอบอัตรากําลัง
พนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรมได โดยไดรับความเห็นชอบจากคณะกรรมการขา ราชการศาลยุตธิ รรม
ขอ 10 การสรรหาและการเลือกสรรบุคคลเพื่อจางเปนพนักงานราชการศาลยุติธรรม
ใหเ ปน ไปตามหลกั เกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขทค่ี ณะกรรมการขา ราชการศาลยตุ ธิ รรมกําหนด
ในกรณีที่สํานักงานศาลยุติธรรมจะขอยกเวนหรือเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการสรรหาหรือ
การเลือกสรรตามที่คณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมกําหนดตามวรรคหน่ึง ใหสามารถกระทําได
เทาที่จําเปนและเพ่ือประโยชนแกราชการศาลยุติธรรม โดยไดรับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ
ขา ราชการศาลยตุ ิธรรมเปนคราว ๆ ไป
242 237
ขอ 11 การจางพนักงานราชการศาลยุติธรรมใหกระทาํ เปนสัญญาจางไมเกินคราวละส่ีป
หรือตามโครงการท่ีมีกําหนดเวลาเรม่ิ ตน และสิ้นสดุ ไว โดยอาจมกี ารตอสัญญาจางได ท้ังน้ี ตามความเหมาะสม
และความจําเปนของสาํ นกั งานศาลยุตธิ รรม
แบบสัญญาจางใหเ ปน ไปตามที่คณะกรรมการขา ราชการศาลยุติธรรมกาํ หนด
การทําสัญญาตามวรรคหนงึ่ ใหเลขาธกิ ารสาํ นักงานศาลยตุ ธิ รรมหรอื ผูซ่งึ ไดรบั มอบหมาย
จากเลขาธิการสาํ นักงานศาลยุติธรรมเปนผูลงนามในสัญญาจางกับผไู ดรับการสรรหาหรือการเลือกสรร
เปน พนักงานราชการศาลยุติธรรม
ขอ 12 การแตงกาย เครือ่ งแบบปกติ และเคร่อื งแบบพิธกี ารของพนักงานราชการศาลยุติธรรม
ใหเปนไปตามทค่ี ณะกรรมการขา ราชการศาลยตุ ธิ รรมกําหนด
ขอ 13 วันเวลาหรือวิธีการทํางานในกรณีท่ีไมตองอยูปฏิบัติงานประจําสวนราชการ
ในสังกัดสํานักงานศาลยุติธรรม ใหเปนไปตามที่สํานักงานศาลยุติธรรมกําหนด ซ่ึงอาจแตกตางกันได
ตามหนาทขี่ องพนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรมในแตล ะตําแหนง โดยคํานงึ ถึงผลสําเรจ็ ของงาน
หมวด 2
คาตอบแทนและสทิ ธิประโยชน
ขอ 14 อัตราคาตอบแทนของพนักงานราชการศาลยุติธรรมใหเปนไปตามหลกั เกณฑ
ท่ีคณะกรรมการขา ราชการศาลยตุ ิธรรมกาํ หนด
ขอ 15 คณะกรรมการขาราชการศาลยตุ ิธรรมอาจกําหนดใหพ นักงานราชการศาลยุติธรรม
ประเภทใดหรือตาํ แหนง ในกลมุ งานใดไดร บั สิทธปิ ระโยชนอยางหน่ึงอยางใด ดังตอ ไปน้ี
(1) สทิ ธเิ ก่ียวกับการลา
(2) สิทธิในการไดรบั คา ตอบแทนระหวา งลา
(3) สิทธิในการไดร ับคา ตอบแทนการปฏิบตั ิงานนอกเวลา
(4) คาใชจา ยในการเดนิ ทาง
(5) คาเบ้ยี ประชุม
(6) สทิ ธใิ นการขอรบั เครอื่ งราชอิสริยาภรณ
(7) การไดรับรถประจาํ ตําแหนง
(8) สิทธิอ่นื ๆ ทค่ี ณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมกาํ หนด
หลักเกณฑการไดรับสิทธิตามวรรคหนึ่ง ใหเปนไปตามท่ีคณะกรรมการขาราชการ
ศาลยุติธรรมกาํ หนด
ขอ 16 ใหคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมพิจารณาทบทวนอัตราคาตอบแทน
และสิทธปิ ระโยชนของพนักงานราชการศาลยุติธรรมตามขอ 14 และขอ 15 เพื่อปรับปรุงใหเหมาะสม
243 238 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
เปนธรรม และมีมาตรฐาน โดยคํานึงถึงคาครองชพี ที่เปลี่ยนแปลง คาตอบแทนของภาครฐั และเอกชน
อัตราเงินเดือนของขาราชการศาลยุติธรรม กรอบเงินงบประมาณท่ีไดรับจัดสรร รวมทั้งปจจัยอ่ืน
ทเ่ี กี่ยวของตามทสี่ ํานักงานศาลยตุ ิธรรมเสนอ
ขอ 17 ใหพนักงานราชการศาลยุติธรรมไดรับสิทธิประโยชนและมีหนาท่ีตองปฏิบัติ
ตามกฎหมายวา ดว ยการประกันสงั คม
ขอ 18 สํานกั งานศาลยุติธรรมอาจกําหนดใหพนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรมประเภทใด
หรือตําแหนงในกลุมงานใดไดรับคาตอบแทนการออกจากงานโดยไมมีความผิดได ตามหลักเกณฑที่
คณะกรรมการขาราชการศาลยุตธิ รรมกําหนด
หมวด 3
การประเมินผลการปฏบิ ัตงิ าน
ขอ 19 ในระหวา งสัญญาจาง ใหส าํ นกั งานศาลยตุ ธิ รรมจดั ใหม กี ารประเมินผลการปฏิบตั งิ าน
ของพนักงานราชการศาลยุตธิ รรม ดงั ตอไปน้ี
(1) การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ัวไป ใหกระทํา
ในกรณดี ังตอไปน้ี
(ก) การประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านประจาํ ป
(ข) การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื ตอ สัญญาจา ง
(2) การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมพิเศษ ใหกระทํา
ในกรณกี ารประเมนิ ผลสําเร็จของงานตามชวงเวลาท่กี ําหนดไวในสัญญาจาง
การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมตามวรรคหน่ึง
ใหเปน ไปตามหลักเกณฑแ ละวิธีการที่คณะกรรมการขา ราชการศาลยุติธรรมกาํ หนด
ขอ 20 พนักงานราชการศาลยุติธรรมผูใดไมผานการประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน ตามขอ 19
ใหถอื วา สญั ญาจา งของพนักงานราชการศาลยุติธรรมผูนั้นสนิ้ สดุ ลง โดยใหส ํานักงานศาลยุตธิ รรมแจงให
พนกั งานราชการศาลยุตธิ รรมทราบภายในเจ็ดวันนบั แตว นั ทีท่ ราบผลการประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านของ
พนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรมผูนัน้
ขอ 21 ใหสํานกั งานศาลยุตธิ รรมรายงานผลการดาํ เนนิ การจางพนกั งานราชการศาลยุติธรรม
รวมทั้งปญหา อุปสรรค หรือขอเสนอแนะตอคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมภายในเดือนธันวาคมของทุกป
244 239
หมวด 4
วินัยและการรกั ษาวนิ ยั
ขอ 22 พนักงานราชการศาลยุติธรรมมีหนา ที่ตองปฏิบตั งิ านตามที่กาํ หนดในระเบยี บนี้
ตามท่ีสํานกั งานศาลยุติธรรมกําหนด และตามเงื่อนไขที่กําหนดไวในสัญญาจาง และมีหนาทต่ี อ งปฏิบัติ
ตามคําสงั่ ของผูบังคบั บญั ชาซึ่งสัง่ ในหนาท่รี าชการโดยชอบดว ยกฎหมายและระเบยี บของทางราชการ
ขอ 23 พนักงานราชการศาลยุติธรรมตองรักษาวินัยโดยเครงครัดตามที่กําหนดไว
เปน ขอ หามและขอปฏบิ ตั ทิ ีส่ าํ นักงานศาลยตุ ิธรรมกําหนด
พนักงานราชการศาลยุติธรรมผใู ดฝาฝนขอหามหรือไมปฏิบัติตามขอปฏบิ ัตติ ามวรรคหนึ่ง
พนักงานราชการศาลยุตธิ รรมผนู ัน้ เปนผกู ระทาํ ผดิ วนิ ัยจะตองไดรบั โทษทางวนิ ัย
ขอ 24 การกระทาํ ความผิดดังตอ ไปนี้ ถือวา เปนความผดิ วนิ ัยอยางรา ยแรง
(1) กระทาํ ความผดิ ฐานทจุ รติ ตอ หนาท่รี าชการ
(2) จงใจไมปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ขอบังคับ หรือเง่ือนไขท่ีทางราชการ
กําหนดใหปฏิบตั ิจนเปนเหตใุ หทางราชการไดรบั ความเสียหายอยางรายแรง
(3) ปฏิบัติหนาที่โดยประมาทเลินเลอจนเปนเหตุใหทางราชการไดรับความเสียหายอยาง
รายแรง
(4) ไมปฏบิ ัติตามเงอื่ นไขทกี่ ําหนดในสญั ญา หรอื ขดั คําสัง่ หรอื หลีกเล่ียงไมปฏิบัติตาม
คาํ สัง่ ของผบู งั คับบญั ชาตามขอ 22 จนเปนเหตใุ หท างราชการไดรับความเสยี หายอยา งรายแรง
(5) ประมาทเลินเลอจนเปนเหตุใหทางราชการไดร บั ความเสียหายอยางรา ยแรง
(6) ละทิ้งหรือทอดท้ิงการทํางานเปนเวลาติดตอกันเกินกวาเจ็ดวัน สําหรับตําแหนงที่
สาํ นกั งานศาลยตุ ธิ รรมกําหนดวันเวลาการมาทํางาน
(7) ละทิ้งหรือทอดทิ้งการทํางานจนทําใหงานไมแลวเสร็จตามระยะเวลาท่ีกําหนด
จนเปนเหตุใหทางราชการไดรับความเสียหายอยางรายแรง สําหรับตําแหนงที่สํานักงานศาลยุติธรรม
กําหนดการทํางานตามเปาหมาย
(8) ประพฤติชั่วอยางรายแรง หรือกระทําความผิดอาญาโดยมีคําพิพากษาถึงท่ีสุด
ใหจําคุก หรอื หนักกวาโทษจําคกุ
(9) การกระทําอนื่ ใดท่สี ํานักงานศาลยตุ ิธรรมกําหนดวาเปน ความผิดวินัยอยางรา ยแรง
ขอ 25 เม่ือมีกรณีที่พนักงานราชการศาลยุติธรรมถูกกลาวหาวากระทําความผิดวินัย
อยางรายแรง ใหเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมจัดใหมีคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดําเนินการ
สอบสวนโดยเร็ว และตองใหโอกาสพนักงานราชการศาลยุติธรรมที่ถูกกลาวหาชี้แจงและแสดง
พยานหลักฐานเพื่อใหเกิดความเปนธรรม ในกรณีที่ผลการสอบสวนปรากฏวาพนักงานราชการ
ศาลยุติธรรมผูนั้นกระทาํ ความผิดวินยั อยา งรายแรง ใหเลขาธิการสํานักงานศาลยตุ ิธรรม มีคําสั่งไลอ อก
แตถ า ไมมีมูลกระทําความผดิ ใหส่งั ยุตเิ รอ่ื ง
245 240 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
หลักเกณฑและวิธีการสอบสวนพนักงานราชการศาลยุติธรรม ใหเปนไปตามที่
คณะกรรมการขาราชการศาลยตุ ิธรรมกําหนด
ขอ 26 ในกรณที ่ีปรากฏวาพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมกระทําความผิดวินยั ไมรายแรง
ใหเลขาธกิ ารสํานกั งานศาลยุติธรรมสั่งลงโทษภาคทัณฑ ตัดเงินคา ตอบแทน หรอื ลดขั้นเงินคาตอบแทน
ตามควรแกกรณใี หเหมาะสมกับความผิด
ในการพิจารณาการกระทําความผดิ ตามวรรคหนึ่ง ใหเลขาธกิ ารสํานักงานศาลยตุ ิธรรม
พจิ ารณาสอบสวนใหไ ดความจรงิ และยตุ ธิ รรมตามวธิ ีการที่เหน็ สมควร
ขอ 26/12การอุทธรณคําส่ังลงโทษทางวินัย ใหนําระเบียบคณะกรรมการขาราชการ
ศาลยตุ ิธรรมวาดว ยการอทุ ธรณแ ละการพจิ ารณาอทุ ธรณ พ.ศ. 2559 มาใชบ งั คับโดยอนุโลม
หมวด 5
การสน้ิ สดุ สญั ญาจา ง
ขอ 27 นอกจากครบกําหนดตามสญั ญาจา ง สัญญาจางน้นั สน้ิ สุดเม่อื
(1) สิ้นปงบประมาณที่พนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ัวไปมีอายุครบ 60 ปบริบูรณ
พนกั งานราชการศาลยุติธรรมพเิ ศษมีอายคุ รบ 65 ปบรบิ รู ณ
(2) พนกั งานราชการศาลยุติธรรมขาดคุณสมบัติหรือมีลกั ษณะตองหามตามระเบียบนี้
หรอื ตามทีส่ าํ นักงานศาลยตุ ธิ รรมกําหนด
(3) พนักงานราชการศาลยุติธรรมตาย
(4) ไมผานการประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานตามขอ 19
(5) พนักงานราชการศาลยุติธรรมถกู ใหออก เพราะกระทําความผดิ วินัยอยางรายแรง
(6) เหตุอ่ืนตามที่กาํ หนดไวในระเบียบนี้หรือตามขอ กําหนดของสํานักงานศาลยตุ ิธรรม
หรือตามสัญญาจา ง
ขอ 28 ในระหวางสัญญาจาง พนักงานราชการศาลยุติธรรมผูใดประสงคจะลาออก
จากการปฏิบัติงาน ใหยื่นหนังสือลาออกตอเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม ตามหลักเกณฑที่
สํานกั งานศาลยุติธรรมกาํ หนด
ขอ 29 สาํ นักงานศาลยตุ ธิ รรมอาจบอกเลกิ สญั ญาจา งกบั พนกั งานราชการศาลยุติธรรม
ผใู ดกอนครบกําหนดตามสญั ญาจางไดโ ดยไมตองบอกกลาวลวงหนา และไมเปนเหตุท่พี นักงานราชการ
2 ขอ 26/1 แกไขเพ่ิมเตมิ โดยระเบียบคณะกรรมการขาราชการศาลยุตธิ รรม วาดว ยพนักงานราชการศาล
ยุติธรรม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2562
246 241
ศาลยุติธรรมจะเรียกรองคาตอบแทนการเลิกจางได เวนแตคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม
จะกําหนดใหใ นกรณีใดไดร บั คาตอบแทนการออกจากงานโดยไมมคี วามผิดไว
ขอ 30 เพ่ือประโยชนแหงทางราชการ สํานักงานศาลยุติธรรมอาจส่ังใหพนักงาน
ราชการศาลยุติธรรมไปปฏิบัตงิ านนอกเหนือจากเง่ือนไขท่ีกําหนดไวในสัญญาจางได โดยไมเปนเหตุให
พนักงานราชการศาลยุติธรรมอางขอเลิกสัญญาจางหรือเรียกรองประโยชนตอบแทนใด ๆ ในการนี้
สาํ นักงานศาลยตุ ธิ รรมอาจกําหนดใหค าลวงเวลาหรอื คาตอบแทนอื่นจากการส่งั ใหปฏบิ ัตงิ านดังกลาวก็ได
ขอ 31 ในกรณีที่บุคคลใดพนจากการเปนพนักงานราชการศาลยุติธรรมแลว
หากในการปฏบิ ัตงิ านของบคุ คลนนั้ ในระหวางท่เี ปนพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมกอใหเกิดความเสยี หาย
แกสํานักงานศาลยตุ ิธรรม ใหบ ุคคลดงั กลา วตองรบั ผดิ ชอบในความเสียหายดงั กลา ว เวนแตความเสียหายนั้น
เกิดจากเหตสุ ดุ วิสยั ในการนส้ี ํานักงานศาลยตุ ธิ รรมอาจหักคา ตอบแทนหรือเงนิ อนื่ ใดที่บุคคลน้ันจะไดร ับ
จากสาํ นักงานศาลยตุ ธิ รรมไวเพื่อชําระคา ความเสยี หายดงั กลาวก็ได
ประกาศ ณ วันท่ี 17 มกราคม พ.ศ. 2550
นายวริ ชั ลิม้ วชิ ัย
รองประธานศาลฎกี า
ประธานกรรมการขาราชการศาลยตุ ธิ รรม
247 242
หลักเกณฑค ณะกรรมการขา ราชการศาลยุตธิ รรม
เร่ือง การกาํ หนดลกั ษณะงานและคณุ สมบัตเิ ฉพาะของกลุมงาน
และแนวทางจดั ทํากรอบอตั รากําลงั พนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรม
เพื่อใหการกําหนดลักษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะของกลุมงานและการจัดทํา ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
กรอบอัตรากําลังพนักงานราชการศาลยุติธรรมเปนระบบและมาตรฐาน สําหรับการดําเนินการ
ในกระบวนการบริหารงานบุคคลอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวของ ไดแก การกําหนดตําแหนง การกําหนดคาตอบแทน
และสิทธิประโยชน การสรรหาและเลือกสรร และการประเมินผลการปฏิบัติงาน รวมท้ังเปนแนวทาง
ปฏิบัติในการกําหนดช่ือตําแหนงใหสอดคลองตามความจําเปนของภารกิจและยุทธศาสตรของ
สาํ นักงานศาลยุตธิ รรม
อาศัยอํานาจตามความในขอ 7 วรรคสาม ขอ 8 วรรคสาม และขอ 9 วรรคสอง
แหงระเบียบคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม วาดวยพนักงานราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2550
จึงกําหนดลักษณะงาน และแนวทางคุณสมบัติเฉพาะของกลุมงาน และการจัดทํากรอบอัตรากําลัง
พนกั งานราชการศาลยุตธิ รรม ไวด งั ตอไปนี้
ขอ 1 หลักเกณฑน้ีเรียกวา “หลักเกณฑคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม
เรื่อง การกําหนดลักษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะของกลุมงานและแนวทางจัดทํากรอบอัตรากําลัง
พนกั งานราชการศาลยุตธิ รรม”
สว นที่ 1
การกาํ หนดลกั ษณะงาน และคณุ สมบัติเฉพาะของกลุม งาน
ขอ 2 การกําหนดตําแหนงพนักงานราชการศาลยุติธรรมใหสํานักงานศาลยุติธรรม
พิจารณากําหนดตามประเภทและลักษณะงานตามกลุมงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรม
ซงึ่ ไมใชเ ปนงานท่สี ามารถจา งเหมาบริการไดตามหนังสือกระทรวงการคลงั ดวนท่สี ุด ท่ี กค 0526.7/ว 62
ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2539 และท่ี กค 0526.7/ว 71 ลงวันที่ 10 กันยายน 2542 โดยคํานึงถึง
อํานาจหนา ท่ี ภารกจิ และงบประมาณของสํานักงานศาลยุติธรรม
ขอ 3 ใหม กี ลมุ งานตามประเภทของพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรม ดงั น้ี
(1) พนักงานราชการศาลยุติธรรมประเภททั่วไป ไดแก พนักงานราชการศาลยุติธรรม
ในกลมุ งานบรกิ าร กลุม งานเทคนคิ กลุมงานบรหิ ารทั่วไป กลมุ งานวชิ าชพี เฉพาะ และกลมุ งานเชี่ยวชาญเฉพาะ
(2) พนักงานราชการศาลยุติธรรมประเภทพิเศษ ไดแ ก พนักงานราชการศาลยุติธรรม
ในกลมุ งานเช่ยี วชาญพเิ ศษ
248 243
ขอ 4 กลุม งานบริการ มีลกั ษณะงานและคณุ สมบัติเฉพาะกลมุ งาน ดังนี้
(๑) ลกั ษณะงานของกลมุ งานบริการ เปน งานท่ีมีลักษณะดงั ตอ ไปน้ี
(ก) เปนงานปฏิบัติงานระดับตนที่ไมสลับซับซอน หรือมีการกําหนดข้ันตอน
การปฏิบัติงานไวชัดเจนและไมตองใชทักษะเฉพาะดาน ไดแก การปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานธุรการและ
งานบริการทวั่ ไป ตลอดจนอํานวยความสะดวกตา ง ๆ ในหนว ยงานในสงั กัดสํานักงานศาลยุติธรรม
(ข) มกี ารใชเครื่องมือเคร่ืองใชต ามลักษณะงาน
(ค) มกี ารแกไขปญ หาและการตดั สนิ ใจในระดับท่ีไมยงุ ยาก
(๒) คณุ สมบตั เิ ฉพาะสาํ หรับกลุมงานบริการ กําหนดคณุ วฒุ ิดงั ตอ ไปนี้
(ก) วุฒิประกาศนียบัตรประโยคมัธยมศึกษาตอนตนสายสามัญ (ม.ศ.3) หรือ
ประกาศนียบัตรมัธยมศกึ ษาตอนตน (ม.3) หรือประกาศนียบัตรมัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.6) หรือเทยี บได
ไมต ํา่ กวาน้ี หรอื
(ข) วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.)
หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) หรือเทียบไดไมต่ํากวานี้ในสาขาวิชาท่ีเหมาะสมกับลักษณะงาน
ที่ปฏิบตั ิ
ขอ 5 กลุมงานเทคนิค มลี กั ษณะงานและคณุ สมบตั ิเฉพาะของกลุม งาน ดงั นี้
(๑) ลักษณะงานของกลุม งานเทคนคิ เปนงานทม่ี ลี ักษณะดงั ตอ ไปน้ี
(ก) เปนการปฏิบัติงานโดยใชความรูความชํานาญทางเทคนิค ซึ่งตองผาน
การศึกษาในระบบการศึกษาในสาขาวิชาท่ีตรงตามลักษณะงานที่จะปฏิบัติ หรือเปนงานปฏิบัติที่ใชทักษะ
เฉพาะบุคคล ซึ่งมิไดผานการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาใดเปนการเฉพาะ ไดแก งานเกี่ยวกับงาน
ดา นธุรการศาลเพ่อื สนบั สนุนและอาํ นวยความสะดวกในการพจิ ารณาพพิ ากษาคดีของศาลและประชาชน
(ข) มกี ารใชเ ครอื่ งมือเครื่องใชตามลักษณะงาน
(ค) มีการแกไขปญหาและการตัดสินใจที่ตองใชความรูทางเทคนิค หรือทักษะ
เฉพาะของบุคคลในสาขาน้นั ๆ
(๒) คุณสมบัติเฉพาะสําหรับกลมุ งานเทคนิค กําหนดคณุ สมบตั ิดังตอไปน้ี
(ก) วฒุ ิประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรอื ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.)
หรอื ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) หรือเทียบไดไมต่าํ กวานี้ในสาขาวิชาที่เหมาะสมกับลักษณะ
งานทป่ี ฏิบตั ิ หรือ
(ข) ในกรณที เ่ี ปน งานท่ีตองใชท กั ษะเฉพาะของบุคคลซ่ึงมไิ ดผานการเรยี นการสอน
ในสถาบันการศึกษาใดเปนการเฉพาะ ผูน้ันตองมีความรู ความสามารถ และทักษะในงานที่จะปฏิบัติ
ไมต ่าํ กวา 5 ป
ขอ 6 ทักษะเฉพาะบุคคลท่ีกําหนดเปนคุณสมบัติเฉพาะในขอ 5 (2) (ข) จะตองสามารถ
พิสูจนใหเห็นถึงความมีทักษะในงานน้ัน ๆ โดยมีหนังสือรบั รองการทํางานจากนายจางหรือหนวยงาน
ซ่ึงระบถุ งึ ลักษณะงานทไี่ ดป ฏบิ ัติ หรือมีการทดสอบทกั ษะเฉพาะบุคคลดว ยการทดลองปฏบิ ตั ิ
249 244 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
ขอ 7 กลุมงานบริหารทวั่ ไป มลี กั ษณะงานและคุณสมบัตเิ ฉพาะของกลมุ งาน ดงั นี้
(๑) ลักษณะงานของกลุมงานบริหารทวั่ ไป เปนงานที่มลี กั ษณะดงั ตอไปนี้
(ก) เปนงานในลักษณะเชนเดียวกับที่ขาราชการศาลยุติธรรมปฏิบัติ ซ่ึงเปนภารกิจ
หลักหรือเปนงานที่มีความจําเปนเรง ดวน โดยมีระยะเวลาเริ่มตนและสิ้นสุดแนนอน ไดแก การปฏิบัติงาน
ที่เก่ียวกบั การบรหิ ารจดั การงานคดี หรืองานอํานวยการ หรอื งานวชิ าการเพ่ือสนบั สนุนการพจิ ารณาพพิ ากษา
คดขี องศาลทีต่ องใชความรูความสามารถคณุ วุฒิ หรอื
(ข) เปนงานท่ีไมใชลักษณะเชนเดียวกับที่ขาราชการศาลยุติธรรมปฏิบัติแตจําเปน
ตอ งใชความรูระดบั ปรญิ ญา
(๒) คุณสมบัติเฉพาะสําหรับกลุมงานบริหารทว่ั ไป กําหนดคณุ วุฒิไมต่ํากวาปริญญาตรี
ในสาขาวชิ าทเี่ หมาะสมกับลกั ษณะงานที่ปฏบิ ตั ิ
ขอ 8 กลุมงานวิชาชพี เฉพาะ มีลักษณะงานและคุณสมบตั ิเฉพาะของกลุมงาน ดังน้ี
(๑) ลกั ษณะงานของกลมุ งานวิชาชพี เฉพาะ เปนงานทมี่ ีลกั ษณะดงั ตอ ไปน้ี
(ก) เปนงานวิชาชีพท่ีตองปฏิบัติโดยผูสําเร็จการศึกษาในระดับปริญญาที่ไมอาจ
มอบหมายใหผูมีคุณวุฒิอยางอื่นปฏิบัติงานแทนได และเปนงานท่ีมีผลกระทบตอชีวิต รางกาย และ
ทรัพยสินของประชาชนอยางเห็นไดชัด โดยมีองคกรตามกฎหมายทําหนาทตี่ รวจสอบ กล่ันกรอง และ
รับรองการประกอบวชิ าชพี รวมทง้ั ลงโทษผกู ระทาํ ผดิ กฎหมายเกยี่ วกบั การประกอบวชิ าชีพดงั กลาว หรอื
(ข) เปนงานวิชาชีพท่ีตองปฏิบัติโดยผูสําเร็จการศึกษาในระดับปริญญาที่ไมอาจ
มอบหมายใหผูมีคุณวุฒิอยางอื่นปฏิบัติงานแทนได และเปนงานท่ีมีผลกระทบตอชีวิต รางกาย และ
ทรพั ยสินของประชาชนอยางเหน็ ไดช ดั อีกทงั้ เปนงานที่ขาดแคลนกาํ ลังคนในภาคราชการ หรือ
(ค) เปนงานวิชาชีพท่ีตองปฏิบัติโดยผูสําเร็จการศึกษาในระดับปริญญาที่ไมอาจ
มอบหมายใหผูมีคุณวุฒิอยางอ่ืนปฏิบัติงานแทนได และเปนงานทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ที่มีลกั ษณะในเชิงวิจยั และพัฒนา และขาดแคลนกําลังคนในภาคราชการ
(๒) คณุ สมบตั ิเฉพาะสําหรบั กลมุ งานวิชาชีพเฉพาะ กําหนดคุณสมบตั ิดงั ตอไปน้ี
(ก) วฒุ ิไมต า่ํ กวา ปรญิ ญาตรีและไดรบั ใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพเฉพาะ หรือ
(ข) วุฒิไมต่ํากวาปริญญาตรีและไดรับประกาศนียบัตรหรือหนังสือรับรองความรู
ในสาขาวชิ าชพี เฉพาะในระดับทส่ี ูงกวาปริญญาตรี หรอื
(ค) วุฒิไมต า่ํ กวา ปริญญาตรี
ขอ 9 กลุมงานเชีย่ วชาญเฉพาะ มลี กั ษณะงานและคุณสมบตั ิเฉพาะของกลมุ งาน ดังนี้
(๑) ลักษณะงานของกลุมเช่ยี วชาญเฉพาะ เปนงานที่มลี กั ษณะดังตอ ไปนี้
(ก) เปนการปฏิบัติงานท่ีอาศัยพ้ืนฐานความรู ประสบการณ การฝกฝน ทฤษฎี
หลักวิชาการที่เกี่ยวของกับงานหรือภูมิปญญาทองถ่ิน หรือเปนงานเชิงพัฒนาระบบ หรือมาตรฐาน
ของงานที่ตองใชความรูความสามารถ และประสบการณเ ช่ยี วชาญเฉพาะดา นนน้ั ๆ
(ข) มกี ารใชเครื่องมือเครือ่ งใชท ีเ่ ก่ียวขอ งในบางลกั ษณะงาน
(๒) คุณสมบตั เิ ฉพาะสําหรับกลุมงานเช่ียวชาญเฉพาะ กําหนดคณุ สมบัติดังตอ ไปน้ี
250 245
(ก) วุฒิไมต่ํากวาปริญญาตรีและมีประสบการณในงานที่จะปฏิบัติเปนเวลา
ไมน อ ยกวา 6 ป สําหรับวฒุ ปิ รญิ ญาตรี 4 ป สาํ หรบั วฒุ ิปริญญาโท และ 2 ป สาํ หรบั วฒุ ปิ ริญญาเอก หรอื
(ข) วฒุ ิไมต่ํากวาปรญิ ญาตรีและไดรบั ประกาศนียบัตรในสาขาที่ตรงกับความจําเปน
ของลักษณะงาน โดยจะตองมีประสบการณในงานที่จะปฏิบัติเปนเวลาไมนอยกวา 6 ป สําหรับ
วฒุ ปิ รญิ ญาตรี 4 ป สาํ หรบั วฒุ ิปริญญาโท และ 2 ป สาํ หรบั วฒุ ิปริญญาเอกหรอื
(ค) มีประสบการณในงานทจ่ี ะปฏิบัติเปน เวลาไมต ่าํ กวา 10 ป และมผี ลงานเปน ที่
ยอมรบั ในวงการน้นั
ขอ 10 ประสบการณที่กําหนดเปนคุณสมบัติเฉพาะในขอ 9 (2) (ก) (ข) และ (ค)
จะตองสามารถพิสูจนใหเห็นถึงความมีประสบการณในงานนั้น ๆ โดยมีหนังสือรับรองการทํางาน
จากนายจางหรือหนวยงานซึ่งระบุถึงลักษณะงานท่ีไดปฏิบัติ หรือมีการทดสอบความชํานาญหรือ
ความเช่ียวชาญในงานที่จะปฏิบตั อิ ยา งนอย 2 ช้นิ ทง้ั นี้ ตามที่สํานกั งานศาลยุตธิ รรมกาํ หนด
ขอ 11 กลุมงานเช่ยี วชาญพิเศษ มีลักษณะงานและคณุ สมบัติเฉพาะของกลุมงาน ดังนี้
(๑) ลกั ษณะงานของกลุมงานเชยี่ วชาญพเิ ศษ เปนงานท่มี ลี ักษณะดงั ตอไปน้ี
(ก) เปนงานท่ีตองปฏิบัติโดยบุคคลท่ีมีความรูความสามารถ ประสบการณ และ
ความเชย่ี วชาญเปนพเิ ศษในสาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ งกบั งานหรอื โครงการ ซ่ึงเปน ทย่ี อมรบั ในวงการดานนั้น ๆ และ
(ข) เปนงานหรอื โครงการทีม่ ีภารกิจหรือเปา หมายชดั เจน และมกี ําหนดระยะเวลา
ส้ินสุดแนนอน โดยไดรับอนุมัติจากเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมใหดําเนินการไดภายในวงเงิน
งบประมาณทีไ่ ดร ับจัดสรร และ
(ค) เปนงานหรือโครงการที่มีความสําคัญ เรงดวน ท่ีตองดําเนินงานใหแลวเสร็จ
โดยเรว็ และ
(ง) เปนงานหรือโครงการทไี่ มอ าจหาผปู ฏบิ ัติที่เหมาะสมในหนว ยงานได
(๒) คุณสมบัติเฉพาะสําหรับกลุมงานเชี่ยวชาญพิเศษ ใหสํานักงานศาลยุติธรรม
พิจารณากําหนดจากคุณวุฒิการศึกษา ประสบการณ และผลงานความเชี่ยวชาญตามระดับของ
ความเชยี่ วชาญพิเศษ ตามความตอ งการของงานหรือโครงการตามรายละเอยี ดทีแ่ นบทายหลักเกณฑนี้
ขอ 12 คณุ สมบตั เิ ฉพาะสําหรบั กลมุ งานทัง้ 6 กลมุ ในสวนทีเ่ กีย่ วของกบั คุณวุฒิการศกึ ษา
ตอ งเปน คณุ วฒุ ทิ ่คี ณะกรรมการขา ราชการศาลยุติธรรมพจิ ารณากาํ หนดแลว
ขอ 13 สําหรับกลุมงานท่ีไมไดกําหนดประสบการณไวเปนคุณสมบัติเฉพาะ
แตสํานักงานศาลยุติธรรมพิจารณาแลวเห็นวา ตําแหนงในกลุมงานนั้นสมควรสรรหาและเลือกสรรจาก
ผูมีประสบการณในงานที่จะปฏิบัติ สํานักงานศาลยุติธรรมอาจกําหนดเปนคุณสมบัติเฉพาะสําหรับ
ตาํ แหนงได ท้ังนี้ จะตองสามารถพิสูจนใหเห็นถงึ ความมปี ระสบการณข องบุคคลนน้ั โดยมีหนังสือรับรอง
การทํางานจากนายจา งหรือหนวยงานซ่งึ ระบุถึงลักษณะงานท่ีไดปฏบิ ัติ หรอื วิธีการอื่นใดที่เหมาะสมกับ
ลกั ษณะงานทีจ่ ะปฏิบัติ
251 246 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
ขอ 14 การกําหนดคุณสมบัติเฉพาะท่ีเก่ียวกับอายุขนั้ สูงของผูสมัครเขารับการสรรหา
และเลือกสรรสําหรับกลุมงานท้ัง 6 กลุม คณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมอาจกําหนดได
ตามความเหมาะสมของลกั ษณะงานและอาจพิจารณาตามแนวทาง ดังนี้
(1) ลักษณะงานท่ีตองใชความพรอมทางสมรรถภาพรางกายหรือท่ีเส่ียงอันตราย
ตรากตราํ หรอื มีผลเสยี ตอสุขภาพ อาจกําหนดใหจ างผทู มี่ ีอายไุ มเกิน 50 ป
(2) ลักษณะงานที่ตองใชความรู ความเชี่ยวชาญ และประสบการณที่สั่งสมมา
เปนเวลานาน ซึ่งไมอาจหาไดโ ดยท่ัวไปหรอื มีความขาดแคลนและเปนท่ตี องการของสํานักงานศาลยตุ ิธรรม
อาจกาํ หนดอายุขัน้ สงู เกินกวา 60 ปได
สว นที่ 2
การจัดทํากรอบอตั รากาํ ลงั พนักงานราชการศาลยุติธรรม
ขอ 15 การกําหนดจํานวนพนักงานราชการศาลยุติธรรมตามกลุมงาน ใหสํานักงาน
ศาลยุติธรรมจัดทําเปนกรอบอัตรากําลัง โดยพิจารณาถึงการใชกําลังคนในภาพรวมของสํานักงาน
ศาลยุติธรรมใหมีความเหมาะสมสอดคลองกับความจําเปนตามภารกิจและยุทธศาสตรของสํานักงาน
ศาลยุติธรรม และใหเสนอคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมกําหนดกรอบอัตรากําลัง
โดยความเหน็ ชอบของประธานศาลฎกี า
ขอ 16 ใหสํานักงานศาลยุติธรรมรายงานผลการดําเนินการบริหารงานพนักงานราชการ
ศาลยตุ ิธรรม ใหคณะกรรมการขา ราชการศาลยตุ ิธรรมทราบภายในเดือนธนั วาคมของทุกป
ประกาศ ณ วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2550
(ลงชื่อ) วริ ชั ลมิ้ วิชยั
(นายวริ ชั ล้ิมวชิ ัย)
รองประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการขา ราชการศาลยตุ ธิ รรม
252
252 245
คุณสมบตั ิเฉพาะสาหรบั กลมุ่ งานเช่ียวชาญพิเศษ
ระดบั เช่ยี วชาญพิเศษ วุฒิการศกึ ษา ประสบการณ์ ผลงานดา้ นทเ่ี กยี่ วข้อง
1. ระดบั สากล สาเรจ็ การศึกษาจาก เป็นทยี่ อมรับในวงการ มีผลงานท่เี กี่ยวข้องกับ
(World Class) สถาบนั การศกึ ษาชนั้ นา วิชาการในระดบั สากล งาน/โครงการในระดับ
ชาวตา่ งประเทศหรอื ของตา่ งประเทศใน ไม่นอ้ ยกวา่ 10 ปี และ สากลอยา่ งน้อย 5 ชนิ้
ชาวไทย สาขาวชิ าทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั มคี วามเชย่ี วชาญรอบรู้
2. ระดบั ประเทศ งาน/โครงการท่ีจะ ในสาขาวชิ าอนื่ ๆ ทเี่ ปน็ มีผลงานที่เก่ียวขอ้ งกับ
ปฏิบตั ิ ประโยชนต์ อ่ งาน งาน/โครงการใน
3. ระดบั ทัว่ ไป สาเร็จการศกึ ษาจาก เปน็ ที่ยอมรับในวงการ ระดบั ประเทศอยา่ งน้อย
สถาบนั การศกึ ษาชน้ั นา วิชาการดา้ นทเี่ กย่ี วข้อง 4 ชน้ิ
ของต่างประเทศใน ในระดับไมน่ ้อยกว่า 10 มผี ลงานที่เกี่ยวขอ้ งกับ
สาขาวชิ าทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั ปี และมคี วามเชย่ี วชาญ งาน/โครงการใน
งาน/โครงการทีจ่ ะ รอบรใู้ นสาขาวชิ าอื่น ๆ ระดบั ประเทศอยา่ งนอ้ ย
ปฏิบตั ิ ทเี่ ป็นประโยชนต์ ่องาน 3 ชิ้น
สาเรจ็ การศกึ ษาจาก เปน็ ที่ยอมรบั ในวงการ
สถาบนั การศกึ ษาชนั้ นา ดา้ นทเี่ กย่ี วข้อง 5-10
ของตา่ งประเทศหรอื ปี
ในประเทศ ในสาขาท่ี
เกยี่ วขอ้ งกบั งาน/
โครงการที่จะปฏบิ ตั ิ
253 248 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
หลักเกณฑคณะกรรมการขา ราชการศาลยตุ ธิ รรม
เรอ่ื ง หลักเกณฑ วิธีการ และเงอื่ นไขการสรรหาและการเลอื กสรร
พนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรม และแบบสญั ญาจา งของพนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรม
เพื่อใหกระบวนการสรรหาและการเลือกสรรบุคคลซ่ึงมีคุณสมบัติเหมาะสมสําหรับ
ท่ีจะเขามาปฏิบัติงานเปนพนักงานราชการศาลยุติธรรมเปนไปอยางมีระบบและเกิดประสิทธิภาพ
แกงานของทางราชการ รวมทั้งการทําสัญญาจางพนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ีมีมาตรฐาน
คณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมจึงเห็นสมควรกําหนดหลักเกณฑ วิธีการและเงื่อนไขการสรรหา
และการเลอื กสรรพนกั งานราชการศาลยุตธิ รรม และแบบสัญญาจางของพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรม
อาศัยอํานาตามความใน ขอ 10 วรรคหนึ่ง และขอ 11 วรรคสอง แหงระเบียบ
คณะกรรมการขา ราชการศาลยตุ ธิ รรม วา ดวยพนักงานราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2550 คณะกรรมการ
ขาราชการศาลยุติธรรมจึงกําหนดหลักเกณฑ วิธีการและเง่ือนไขการสรรหาและการเลือกสรร
พนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรมและแบบสญั ญาจา งของพนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรม ไวดงั ตอ ไปนี้
ขอ 1 หลักเกณฑน้ีเรียกวา “หลักเกณฑคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม
เรื่อง หลักเกณฑ วิธีการและเงื่อนไขการสรรหาและการเลือกสรรพนักงานราชการศาลยุติธรรม
และแบบสญั ญาจา งของพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรม”
ขอ 2 หลกั เกณฑน้ี
“การสรรหา” หมายความวา การเสาะแสวงหาบุคคลที่มีความรู ความสามารถและ
คุณสมบัติอื่น ๆ ท่ีจําเปนตอการปฏิบัติงานในตําแหนงที่สํานักงานศาลยุติธรรมกําหนดจํานวนหน่ึง
เพื่อทําการเลือกสรร
“การเลือกสรร” หมายความวา การพิจารณาบุคคลที่ไดทําการสรรหาทั้งหมดและ
การคัดเลอื กเพอ่ื ใหไดบุคคลทีเ่ หมาะสมท่สี ุด
“พนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ัวไป” หมายความวา พนักงานราชการศาลยุติธรรม
ซึ่งปฏิบัติงานในกลุมงานบริการ กลุมงานเทคนิค กลุมงานบริหารทั่วไป กลุมงานวิชาชีพเฉพาะ หรือ
กลมุ งานเช่ียวชาญเฉพาะ ไดแก ปฏบิ ัติงานในลักษณะเปน งานประเภททัว่ ไปของสาํ นักงานศาลยตุ ิธรรม
“พนักงานราชการศาลยุตธิ รรมพิเศษ” หมายความวา พนักงานราชการศาลยุติธรรมในกลมุ
งานเชี่ยวชาญพิเศษ ไดแก ปฏิบัติงานในลักษณะท่ีตองใชความรูหรือความเชี่ยวชาญสูงมากเปนพิเศษ
เพ่ือปฏิบัติงานในเร่ืองท่ีมีความสําคัญและจําเปนเฉพาะเร่ืองของสํานักงานศาลยุติธรรม หรือมีความจําเปน
ตองใชบ คุ คลลกั ษณะดงั กลา ว
“คณะกรรมการ” หมายความวา คณะกรรมการดาํ เนนิ การสรรหาและเลือกสรร
ขอ 3 ใหสํานักงานศาลยุติธรรมดําเนินการสรรหาและเลือกสรรบุคคลเพื่อเปน
พนักงานราชการศาลยุติธรรม โดยยึดหลักสมรรถนะ ความเทาเทียมในโอกาส และประโยชนของ
254 249
ทางราชการเปนสาํ คัญ ดวยกระบวนการท่ไี ดม าตรฐาน ยุติธรรม และโปรงใส เพื่อรองรบั การตรวจสอบ
ตามแนวทางการบรหิ ารกิจการบานเมอื งทดี่ ี
ขอ 4 การสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ัวไป ใหดําเนินการ
ตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารดังน้ี
(1) ใหสํานักงานศาลยุติธรรมโดยหนวยงานการเจาหนาท่ีรวมกับผูแทนท่ีรับผิดชอบงาน
หรือโครงการของตําแหนงที่จะสรรหาและเลือกสรรจัดทําประกาศรับสมัคร ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับ
ลักษณะงาน กลุมงานตามลักษณะงาน ช่ือตําแหนง ความรับผิดชอบของตําแหนง ระยะเวลาการจาง
คาตอบแทนท่ีจะไดรับ คุณสมบัติของผูมีสิทธิสมัคร หลักเกณฑ และวิธีการสรรหาและเลือกสรร
เกณฑการตัดสินและเง่ือนไขการจางอื่น ๆ ตลอดจนกําหนดวันและเวลาของกจิ กรรมตาง ๆ ที่เกย่ี วของ
และเสนอเลขาธิการสํานกั งานศาลยตุ ิธรรมเพ่ือประกาศใหผมู ีสิทธิสมคั รทราบ
ประกาศรับสมคั รนน้ั ใหป ด ไวใ นที่เปดเผยเปนการทัว่ ไป มรี ะยะเวลาไมน อยกวา 5 วนั ทาํ การ
กอนกําหนดวนั รับสมคั ร
(2) สาํ นักงานศาลยตุ ธิ รรมอาจกําหนดคา สมัครสอบไดตามความจาํ เปน และเหมาะสม
(3) สาํ นักงานศาลยุติธรรมอาจกําหนดระยะเวลาในการรับสมัครไดต ามความเหมาะสม
แตท ัง้ นีต้ องไมน อ ยกวา 7 วนั ทาํ การ
(4) หลักเกณฑการเลือกสรรบุคคลเพ่ือปฏิบัติงานใหยึดหลัก “สมรรถนะ” ท่ีจําเปน
ตอ งใชสาํ หรับการปฏิบตั ิงานในตําแหนงตามทส่ี ํานักงานศาลยตุ ธิ รรมกาํ หนดซ่งึ ประกอบดว ย
(ก) ความรขู องบคุ คลในเรอ่ื งตา ง ๆ ทีจ่ ําเปนตอ การปฏบิ ตั ิงาน
(ข) ความสามารถหรือทักษะเฉพาะของบุคคลในเร่ืองตาง ๆ ท่ีจําเปนตอการ
ปฏบิ ตั ิงาน และ
(ค) คณุ ลักษณะอื่น ๆ ของบคุ คลซ่งึ จําเปน หรือเหมาะสมตอการปฏบิ ตั ิงาน
(5) ใหกําหนดคะแนนเตม็ ของสมรรถนะแตล ะเรือ่ งไดตามความจําเปนและความสอดคลอง
กบั ตําแหนง งาน ทัง้ น้ี สมรรถนะท่ีจําเปนมากท่สี ดุ ควรมนี าํ้ หนักของคะแนนเต็มมากที่สดุ
(6) วิธีการประเมินสมรรถนะแตละเร่ือง ใหสํานักงานศาลยุติธรรมเปนผูกําหนด
โดยสมรรถนะเร่ืองหนึ่งสามารถประเมินไดดว ยวิธีการประเมินหลายวิธกี ารหรือสมรรถนะหลาย ๆ เร่ือง
สามารถประเมนิ ไดด ว ยวธิ ีการประเมินวิธีเดียวกันตามทเี่ ห็นวาเหมาะสม และสอดคลอ งกับการประเมิน
สมรรถนะดังกลาว ไดแก การสอบขอเขียน การทดสอบตัวอยางงาน การสัมภาษณ การทดสอบดวย
สถานการณจําลอง การตรวจสอบกับบคุ คลท่อี า งอิง หรอื อ่นื ๆ
ทัง้ น้ี ไดกําหนดแบบตัวอยา งการกําหนดและการประเมินสมรรถนะดงั เอกสารแนบทาย
หลกั เกณฑนี้
(7) สํานักงานศาลยตุ ิธรรมจะกําหนดใหมีการประเมินสมรรถนะที่มีคะแนนเต็มมากท่ีสุด
และประกาศรายชอ่ื ผูผ า นการประเมินสมรรถนะเฉพาะเรอ่ื งนั้น เพือ่ เขารับการประเมินสมรรถนะในเรอื่ ง
ท่ีเหลืออยูต อไปก็ได
(8) เกณฑการตัดสินสําหรับผูผานการประเมินสมรรถนะ ใหสํานักงานศาลยุติธรรม
กาํ หนดตามความเหมาะสมและสอดคลอ งกบั ตําแหนง งาน
255 250 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
(9) ภายหลังการประกาศรับสมัครแลวใหเลขาธกิ ารสํานักงานศาลยุติธรรมหรือผไู ดรับ
มอบหมายจากเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมแตงต้ังคณะกรรมการดําเนินการสรรหาและเลือกสรร
จาํ นวนไมน อยกวา 3 คน
(ก) เลขาธกิ ารสํานกั งานศาลยุตธิ รรมหรอื ผูไดร บั มอบหมายเปนประธาน
(ข) ผูแทนท่ีรับผิดชอบงานหรือโครงการของตําแหนงท่ีจะสรรหาและเลือกสรร
เปนกรรมการ
(ค) บคุ ลากรจากหนว ยงานการเจา หนาทเ่ี ปน กรรมการและเลขานกุ าร
ในการเลอื กสรรตําแหนง ที่เลขาธิการสํานักงานศาลยตุ ธิ รรมเห็นสมควรใหมผี ูทรงคณุ วุฒิ
หรอื ผูมีประสบการณในงานที่เกี่ยวของกับตําแหนงน้ัน ทั้งจากภายในหรือภายนอกสํานักงานศาลยุติธรรม
รวมเปนคณะกรรมการ ใหเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมแตงตั้งผูทรงคุณวุฒิหรือผูมีประสบการณ
ที่เกยี่ วขอ งกับตาํ แหนง นน้ั เปนคณะกรรมการดวย
คณะกรรมการมีอํานาจหนาที่ในการดาํ เนินการสรรหาและเลือกสรรตามหลักเกณฑแ ละ
วธิ กี ารตามทกี่ ําหนดในประกาศรับสมคั รภายใตหลกั การตามขอ 3
ขอ 51 เม่ือคณะกรรมการไดดําเนินการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการ
ศาลยุติธรรมทั่วไปเสร็จส้ินแลว ใหรายงานผลการดําเนินการตอเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม
เพื่อประกาศบญั ชีรายชือ่ ผผู านการเลือกสรรและดําเนนิ การจดั จา งตอ ไป
ใหสํานกั งานศาลยุติธรรมประกาศบัญชีรายช่ือผูผานการเลือกสรร โดยกําหนดใหบัญชี
มอี ายุตามทเ่ี หน็ สมควร แตท ้งั นตี้ องไมเ กนิ กวา 2 ป
ในกรณีที่มีผูผานการเลือกสรรมากกวาจํานวนอัตราวาง และภายหลังมีอัตราวาง
ในงานลักษณะเดียวกันหรือคลายคลึงกัน ซ่ึงสํานักงานศาลยุติธรรมพิจารณาแลวเห็นวาสามารถใช
บุคคลท่ีมีสมรรถนะในเร่ืองเดียวกันได เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมก็อาจพิจารณาจัดจางผูผาน
การเลือกสรรจากบญั ชีรายชอ่ื ผูผา นการเลือกสรรทย่ี งั ไมห มดอายกุ ไ็ ด
ขอ 6 การสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการศาลยุติธรรมพิเศษ ใหดําเนินการ
ตามหลักเกณฑและวธิ กี าร ดงั นี้
(1) ใหเ ลขาธกิ ารสํานักงานศาลยุติธรรมและผูร ับผิดชอบงานหรอื โครงการของตําแหนง
ท่ีจะสรรหาและเลือกสรรกําหนดขอบขายงานของตําแหนง ชื่อตําแหนง คุณสมบัติของตําแหนง
ระยะเวลาการจาง คา ตอบแทนท่ีจะไดร บั และเงื่อนไขการจางอ่ืน ๆ ที่เกย่ี วขอ ง ตลอดจนแสดงแหลง ขอมูล
ท่ีจะสรรหาและเลือกสรร ไดแก สถาบันการเงิน องคกรระหวางประเทศ สมาคมอาชีพ สถานทูต
ศูนยที่ปรึกษากระทรวงการคลัง สวนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตาง ๆ ที่เคยจางบุคคลในงานประเภทเดียวกัน
หรอื แหลงขอ มูลอืน่ ๆ ตามท่ีเห็นสมควร
1 ขอ 5 แกไขเพมิ่ เตมิ โดยหลักเกณฑค ณะกรรมการขา ราชการศาลยตุ ธิ รรม เร่อื ง หลักเกณฑ วธิ กี ารและ
เงอ่ื นไขการสรรหาและการเลือกสรรพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรมและแบบสญั ญาจาง (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2564
256 251
(2) เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมหรือคณะกรรมการท่ีเลขาธิการสํานักงาน
ศาลยุติธรรมแตงต้ัง และผูรับผิดชอบงานหรือโครงการ ดําเนินการสรรหารายชื่อผูท่ีมีความเหมาะสม
จากแหลงขอมูลท่ีกําหนด และเลอื กสรรพนักงานราชการศาลยุติธรรมพิเศษจากรายช่ือดังกลา วภายใต
หลักการในขอ 3
ขอ 7 เมื่อสํานักงานศาลยุติธรรมไดชื่อผูผานการสรรหาและเลือกสรรเปนพนักงาน
ราชการศาลยุตธิ รรมพิเศษแลว ใหเ ลขาธกิ ารสํานกั งานศาลยตุ ธิ รรมดาํ เนินการจดั จางผูนน้ั ตอไป
ขอ 8 ผูไดรับการสรรหาและเลือกสรรใหเปนพนักงานราชการศาลยุติธรรมจะตองทํา
สญั ญาจางตามแบบท่ีคณะกรรมการขาราชการศาลยุตธิ รรมกําหนดทายหลักเกณฑน ้ี
ขอ 9 เลขาธกิ ารสํานักงานศาลยุติธรรมอาจกําหนดรายละเอียดเพ่ิมเติมไดเทาท่ีไมขัด
หรอื แยงกับหลักเกณฑนี้
ประกาศ ณ วนั ท่ี 22 มีนาคม พ.ศ. 2550
(ลงช่ือ) วิรชั ลิม้ วชิ ยั
(นายวริ ชั ลิม้ วชิ ัย)
รองประธานศาลฎกี า
ประธานกรรรมการขาราชการศาลยตุ ธิ รรม
257
257 250
ตัวอยา่ ง
การกาหนดและการประเมินสมรรถนะ
ลักษณะ
๑. ดาเนินการประชาสัมพันธใ์ นรปู แบบต่าง ๆ เพื่อเผยแพรค่ วามรู้
ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การดาเนนิ โครงการ
ของหนว่ ยงาน
๒. ตดิ ตามขา่ วสารทเ่ี ก่ยี วข้องกบั โครงการ
ของหน่วยงานระยะเวลาการจา้ ง 6 เดือน
กลุ่มงาน กล่มุ งานบรหิ ารทัว่ ไป
ตาแหนง่ เจา้ หนา้ ทป่ี ระชาสมั พนั ธ์
สมรรถนะ คะแนนเตม็ และวิธกี ารประเมินสมรรถนะ
สมรรถนะ คะแนนเตม็ วธิ กี ำรประเมนิ ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
ความรู้
ความรู้เกย่ี วกบั การประชาสมั พนั ธ์ 80 การสอบขอ้ เขยี น/การสอบสัมภาษณ์
ความสามารถหรอื ทกั ษะเฉพาะ
ความสามารถในการใชเ้ ครือ่ งคอมพวิ เตอร์ 60 การทดสอบตัวอยา่ งงาน
ความสามารถในการส่ือสาร 80 การสอบขอ้ เขียนและการสอบสัมภาษณ์
คณุ สมบตั สิ ่วนบุคคลอนื่
การทางานเปน็ ทมี 40 ทดสอบด้านสถานการณจ์ าลอง
มนษุ ย์สัมพนั ธ์ 40 การสอบสัมภาษณ์ การตรวจสอบกบั บคุ คล
การคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ อา้ งอิง/การทดสอบด้วยสถานการณจ์ าลอง
100 การทดสอบตวั อยา่ งงาน/การสอบ
สัมภาษณ์/การทดสอบดว้ ยสถานการณ์
จาลอง
500
258
258 251
สญั ญาเลขที่ /
สัญญำจ้ำงพนักงำนรำชกำรกำรศำลยตุ ธิ รรม
สำนกั งำนศำลยตุ ธิ รรม
เม่อื วนั ที่ สัญญาจ้างพนกั งานราชการศาลยุตธิ รรมฉบบั นี้ ทาขึ้น ณ
ระหว่าง สานักงานศาลยตุ ธิ รรมโดย
ตาแหน่ง ผแู้ ทน/ผูร้ บั มอบอานาจตามคาสั่งสานักงานศาลยุตธิ รรมที่ /
ลงวันท่ี ซึง่ ต่อไปในสัญญานีเ้ รียกว่า “สานกั งานศาลยุติธรรม”ฝ่ายหนึ่ง กบั
นาย/นาง/นางสาว อายุ ปี หมายเลขประจาตัวของผ้ถู ือบตั ร
ประจาตัวประชาชน อยู่บา้ นเลขที่ ถนน ซอย
แขวง/ตาบล เขต/อาเภอ จังหวดั
รหัสไปรษณยี ์ โทรศัพท์ ซึ่งต่อไปในสญั ญานเ้ี รยี กวา่ “พนักงานราชการศาลยตุ ิธรรม”
อีกฝา่ ยหน่งึ ทั้งสองฝ่ายตา่ งไดต้ กลงรว่ มกนั ทาสญั ญาจ้างไว้ตอ่ กัน ดงั ต่อไปน้ี
ขอ้ 1 สานกั งานศาลยุติธรรมตกลงจ้าง และพนักงานราชการศาลยุติธรรมตกลงรับจ้าง
ทางานให้แก่สานักงานศาลยตุ ธิ รรม โดยเป็นพนักงานราชการศาลยุติธรรมดังต่อไปนี้
พนกั งานราชการศาลยุตธิ รรมพิเศษ
ลกั ษณะงาน
พนกั งานราชการศาลยุตธิ รรมทวั่ ไป
กลุ่มงาน
ตาแหนง่
ข้อ 2 พนักงานราชการศาลยุติธรรมมีหน้าที่รับผิดชอบภาระงานตามรายละเอียดท่ี
สานักงานศาลยุติธรรมกาหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายสัญญาจ้างผนวก ก และผนวก ข ท้ังน้ีให้ถือว่า
เอกสารแนบท้ายสัญญาจ้างดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสญั ญาจ้างน้ี ในกรณีที่มีปัญหาว่างานใดเปน็ หน้าที่
การงานตามสัญญาจ้างนี้หรือไม่ หรือกรณีท่ีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อความของสัญญาจ้างหรือข้อความใน
เอกสารแนบท้ายสัญญาจ้าง ให้สานักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้วินิจฉัย และพนักงานราชการศาลยุติธรรม
จะตอ้ งปฏิบตั ิตามคาวินิจฉัยน้นั
ข้อ 3 สานกั งานศาลยตุ ิธรรมตกลงจา้ งพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมมีกาหนด ปี เดอื น
เรม่ิ ตัง้ แต่วนั ที่ เดอื น พ.ศ. และสนิ้ สุดในวันที่ เดอื น พ.ศ.
กาหนดระยะเวลาการมาปฏิบัติงานที่ สานกั งานศาลยตุ ิธรรมให้เป็นไปตามรายละเอียด
แนบท้ายสญั ญาจา้ ง และให้ถอื ว่าเอกสารแนบท้ายสัญญาจ้างดงั กลา่ วเปน็ ส่วนหนึ่งของสัญญาจ้าง
259 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
259 252
ข้อ 4 สานักงานศาลยุติธรรมตกลงจ่าย และพนักงานราชการศาลยุติธรรมตกลงรับ
ค่าตอบแทน ดงั นี้
ทั้งนี้ พนักงานราชการศาลยุติธรรมต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการเสียภาษีเงินได้ โดย
สานักงานศาลยตุ ธิ รรมจะเป็นผหู้ ักไว้ ณ ทจี่ ่าย
ข้อ 5 พนักงานราชการศาลยุติธรรมอาจได้รับสิทธิประโยชน์อ่ืน ตามระเบียบ
คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม ว่าด้วยพนักงานราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2550 หรือตามที่
คณะกรรมการขา้ ราชการศาลยตุ ธิ รรม หรือสานกั งานศาลยตุ ิธรรมกาหนด
ข้อ 6 สานกั งานศาลยุติธรรมจะทาการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนกั งานราชการ
ศาลยตุ ธิ รรมตามหลกั เกณฑ์ และวิธีการท่ี คณะกรรมการขา้ ราชการศาลยุตธิ รรมกาหนด
ผลการประเมนิ ตามวรรคหน่งึ เปน็ ประการใด ให้ถือเปน็ ทสี่ ดุ
ข้อ 7 สญั ญานส้ี ้นิ สุดลงเม่ือเข้ากรณใี ดกรณีหนึง่ ดังต่อไปนี้
(1) เข้ากรณีใดกรณีหนึ่งตามท่ีกาหนดใน ข้อ 27 ของระเบียบคณะกรรมการ
ข้าราชการศาลยตุ ิธรรม วา่ ดว้ ยพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรม พ.ศ.2550
(2) พนักงานราชการศาลยุติธรรมลาออกจากการปฏิบัติงาน ตามข้อ 28 ของระเบียบ
คณะกรรมการขา้ ราชการศาลยุตธิ รรมวา่ ด้วยพนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรม พ.ศ. 2550
(3) มีการเลิกสัญญาจ้างตามข้อ 29 ของระเบียบคณะกรรมการข้าราชการศาลยตุ ิธรรม
ว่าดว้ ยพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรม พ.ศ. 2550
(4) เหตอุ ื่น ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี
(5) เหตอุ น่ื ๆ ตามที่สานกั งานศาลยุตธิ รรมประกาศกาหนด
ข้อ 8 พนักงานราชการศาลยุติธรรมมีหน้าท่ีต้องรักษาวินัย และยอมรับการลงโทษ
ทางวินัยตามที่กาหนดในระเบียบคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม ว่าด้วยพนักงานราชการ
ศาลยุตธิ รรม พ.ศ. 2550 และหรอื ที่สานกั งานศาลยุตธิ รรมประกาศกาหนด
ข้อ 9 ในกรณีพนักงานราชการศาลยุติธรรมละท้ิงงานก่อนครบกาหนดเวลาตามข้อ 1
หรือปฏิบัติงานใด ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่สานักงานศาลยุติธรรมในระหว่างอายุสัญญา
พนักงานราชการศาลยุติธรรมยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับสานักงานศาลยุติธรรมทุกประการภายใน
กาหนดเวลาท่ีสานักงานศาลยุติธรรมเรียกร้องให้ชดใช้และยินยอมให้ สานักงานศาลยุติธรรมหักค่าจ้าง
หรือเงินอื่นใดท่ีพนักงานราชการศาลยุติธรรมมีสิทธิได้รับจากสานักงานศาลยุติธรรมเป็นการชดใช้
ค่าเสยี หายได้ เวน้ แต่ความเสียหายนนั้ เกิดจากเหตุสุดวสิ ยั
260 255
ขอ 10 พนักงานราชการศาลยุติธรรมจะตองปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการ
ขา ราชการศาลยุติธรรมวาดว ยพนักงานราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2550 ประกาศหรอื มติของคณะกรรมการ
ขา ราชการศาลยุตธิ รรม ประกาศหรือคาํ สงั่ ของสํานักงานศาลยุตธิ รรมที่ออกตามระเบียบคณะกรรมการ
ขา ราชการศาลยุติธรรมวาดว ยพนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรม พ.ศ. 2550
ขอ 11 พนักงานราชการศาลยุติธรรมจะตองประพฤติและปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ขอบังคับ และคําสั่งของทางราชการ ทั้งที่ไดออกใชบังคับแกพนักงานราชการศาลยุติธรรม
อยูแลวกอนวันท่ีลงนามในสัญญาจางนี้และที่จะออกใชบังคับตอไปในภายหลัง โดยพนักงานราชการ
ศาลยตุ ิธรรมยินยอมใหถ ือวา กฎหมาย ระเบียบ หรอื คําสั่งตาง ๆ ดงั กลาวเปน สว นหน่ึงของสญั ญาจา งน้ี
ขอ 12 พนักงานราชการศาลยุติธรรมตองปฏิบัติงานใหสํานักงานศาลยุติธรรมตามท่ี
ไดรับมอบหมายดวยความซื่อสัตย สุจริต และต้ังใจปฏิบัติงานอยางเต็มกําลังความสามารถของตน
โดยแสวงหาความรูและทักษะเพ่ิมเติมหรือกระทําการใด ๆ เพ่ือใหผลงานในหนาที่มีคุณภาพดีขึ้น
ท้ังน้ี ตองรักษาผลประโยชนและชื่อเสียงของทางราชการ และไมเปดเผยความลับหรือขอมูลของ
ทางราชการใหผหู น่งึ ผใู ดทราบโดยมิไดรับอนุญาตจากผูรับผิดชอบงานนนั้ ๆ
ขอ 13 ในระหวางอายุสัญญาจางน้ีหากพนักงานราชการศาลยุติธรรมปฏิบัติงาน
ตามสัญญาจางแลวกอใหเกิดผลงานสรางสรรคขึ้นใหม ใหลิขสิทธิ์ของผลงานดังกลาวเปนกรรมสิทธ์ิ
ของสํานกั งานศาลยตุ ธิ รรม
ขอ 14 พนักงานราชการศาลยุติธรรมจะตองรับผิดตอการละเมิดบทบัญญัติแหง
กฎหมายหรือสิทธิใด ๆ ในสิทธิบัตร หรือลิขสิทธ์ิของบุคคลที่สาม ซึ่งพนักงานราชการศาลยุติธรรม
นาํ มาใชใ นการปฏบิ ตั ิตามสญั ญานี้
ขอ 15 สทิ ธิ หนาที่ และความรบั ผิดของพนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรมนอกเหนือจากที่
กาํ หนดไวในสัญญาจา งนี้ ใหเ ปน ไปตามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ บังคับ ที่ทางราชการกําหนดไว
สัญญาน้ีทําข้ึนสองฉบับมีขอความถูกตองตรงกัน คูสัญญาอาน ตรวจสอบ และเขาใจ
ขอความในสัญญาโดยละเอียดแลว จึงลงลายมือช่ือไวเปนหลักฐานตอหนาพยาน ณ วัน เดือน ป
ดังกลา วขา งตน และตา งฝา ยตา งเกบ็ รักษาไวฝ า ยละฉบับ
ลงชอื่ ............................................................
(....................................................................)
เลขาธกิ ารสํานกั งานศาลยตุ ธิ รรม /ผูไดร บั มอบหมาย
ลงช่ือ...........................................................
(..................................................................)
พนกั งานราชการศาลยุติธรรม
ลงช่ือ...........................................................
(..................................................................)
พยาน
261 254
261
เอกสำรแนบทำ้ ยสัญญำจ้ำง
ผนวก ก.
หน้าท่คี วามรบั ผิดชอบของพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรม
๑. พนักงานราชการศาลยุติธรรมพิเศษ (ให้ระบุขอบเขตของลักษณะการปฏิบัติงานระยะเวลา
ผลผลติ หรอื วิธกี ารปฏิบตั งิ านกรณอี ืน่ ทแี่ สดงให้เหน็ ผลสาเรจ็ ของงาน)
๒. พนกั งานราชการศาลยุตธิ รรมท่วั ไป (ใหร้ ะบุหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบหรอื ผลผลิตตามระยะเวลา) ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
หมายเหตุ :1. ในกรณีที่สานักงานศาลยุติธรรมไดก้ าหนดรายละเอียดมาตรฐานท่วั ไปของงานในตาแหน่ง
ใดไว้แล้ว อาจกาหนดหน้าท่ีความรับผิดชอบของพนักงานราชการศาลยุติธรรมให้ปฏิบัติตามที่กรม/
สานักงานศาลยตุ ิธรรมกาหนดไว้ สาหรบั ตาแหนง่ น้ันก็ได้
2. ในกรณีจาเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการสานักงานศาลยุติธรรมอาจมีคาส่ังมอบหมายงาน
ให้พนกั งานราชการศาลยุติธรรมปฏบิ ตั ิเป็นพเิ ศษนอกเหนือจากขอบเขตหน้าท่ีความรบั ผดิ ชอบทก่ี าหนดไว้ได้
โดยไมต่ ้องแกไ้ ขสัญญา และพนกั งานราชการศาลยุตธิ รรมยินยอมปฏบิ ตั ติ ามคาส่งั ของสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม
โดยถอื เปน็ การกาหนดหนา้ ท่คี วามรับผิดชอบตามสัญญาน้ี
262 255
262
เอกสำรแนบท้ำยสัญญำจำ้ ง
ผนวก ข.
กาหนดระยะเวลาการมาปฏิบตั หิ นา้ ท่ี
๑. พนกั งานราชการศาลยุติธรรมพเิ ศษ
ปฏบิ ตั งิ านตามเวลาการปฏบิ ตั ริ าชการปกติ
ปฏิบตั งิ านตามระยะเวลาดังนี้
ปฏบิ ตั ิงานตามผลผลติ ของงานดงั นี้
อื่น ๆ
๒. พนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมทวั่ ไป
ปฏิบัติงานตามเวลาการปฏบิ ัตริ าชการปกติ
ปฏบิ ตั ิงานตามระยะเวลาดงั นี้
ปฏิบตั งิ านตามผลผลติ ของงานดงั นี้
อน่ื ๆ
หมายเหตุ : ในกรณีท่ีมีความจาเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ สานักงานศาลยุติธรรมอาจมีคาส่ัง
เปลี่ยนแปลงระยะเวลาการมาปฏิบัตหิ นา้ ทหี่ รือมีคาสั่งให้ปฏิบตั ิหนา้ ทเี่ ปน็ อยา่ งอ่นื ได้ โดยไม่ต้องแกไ้ ขสัญญา
และพนกั งานราชการศาลยุตธิ รรมยินยอมปฏิบตั ติ ามคาส่งั ของสานักงานศาลยตุ ิธรรม โดยถือเป็นการกาหนด
ระยะเวลาการมาปฏิบตั งิ านตามสญั ญาน้ี
263 256
หลกั เกณฑคณะกรรมการขา ราชการศาลยุตธิ รรม
เร่อื ง คา ตอบแทนและสทิ ธปิ ระโยชนข องพนกั งานราชการศาลยุตธิ รรม
เพ่ือใหการกําหนดคาตอบแทนตามลักษณะงานและผลผลิตของงานและสิทธิประโยชน ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
ของพนักงานราชการศาลยุติธรรมเปน ไปอยา งมีความเหมาะสมสอดคลอ งกับขนาดของงานขดี สมรรถนะ
และการประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านของพนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรม คณะกรรมการขาราชการศาลยตุ ิธรรม
จงึ เหน็ ควรกําหนดคาตอบแทนและสทิ ธิประโยชนข องพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรม
อาศัยอํานาจตามความในขอ 14 และขอ 15 แหงระเบียบคณะกรรมการขาราชการ
ศาลยุติธรรม วา ดวยพนักงานราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2550 จึงกําหนดคาตอบแทนและสิทธปิ ระโยชน
ของพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรมไวด งั ตอ ไปนี้
ขอ 1 หลักเกณฑน้ีเรียกวา “หลักเกณฑคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม
เร่อื ง คาตอบแทนและสิทธิประโยชนของพนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรม”
ขอ 2 ในหลักเกณฑน้ี
“พนักงานราชการ” หมายความวา พนักงานราชการศาลยุติธรรมตามระเบียบ
คณะกรรมการขาราชการศาลยตุ ธิ รรมวา ดวยพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรม พ.ศ. 2550
“คาตอบแทน” หมายความวา เงินเดือนซ่ึงจายใหแกพนักงานราชการศาลยุติธรรม
ในการปฏิบตั งิ านใหแ กสํานักงานศาลยตุ ธิ รรม ตามอัตราทก่ี ําหนดในหลกั เกณฑน้ี
“คาตอบแทนพิเศษ” หมายถึง เงินที่จายเพ่ิมใหแกพนักงานราชการศาลยุติธรรม
เมื่อมีผลการประเมินการปฏบิ ตั งิ าน คุณภาพงานและปรมิ าณงานในระดบั ดเี ดน
ขอ 3 หลกั การกําหนดคา ตอบแทนของพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรม
(๑) หลักคุณภาพ เพื่อใหเกิดบุคลากรท่ีมีความรู ความสามารถ และมีประสบการณ
เขามาปฏิบัตงิ านภายใตร ะบบสญั ญาจาง
(๒) หลักความยุตธิ รรม เพอื่ ใหเกิดความเสมอภาคในโอกาส ไมเหลอ่ื มลาํ้ และไมเ ลือกปฏบิ ัติ
(๓) หลักการจูงใจ การจายคาตอบแทน และสิทธิประโยชนใหเพียงพอ โดยคํานึงถึง
คา ครองชีพที่เปลี่ยนแปลง คาตอบแทนในภาคเอกชน อัตราเงินเดือนขาราชการพลเรือนและฐานะการคลัง
ของประเทศ
(๔) หลักความสามารถ อตั ราคา ตอบแทนจะจายตามความรูความสามารถขดี สมรรถนะ
และผลงานตามการประเมินผลการปฏบิ ัติงาน
ขอ 4 อัตราคาตอบแทนพนักงานราชการศาลยุติธรรมใหเปนไปตามบัญชีแนบทาย
หลักเกณฑน ้ี
264
264 257
ข้อ 5 ให้พนักงานราชการศาลยุติธรรมได้รับอัตราค่าตอบแทนตามบัญชีกลุ่มงาน
ดังต่อไปน้ี
(๑) กลุม่ งานบริการ ให้ใชบ้ ัญชอี ตั ราค่าตอบแทนเป็นแบบขน้ั
(ก) ผู้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรประโยชน์มัธยมศึกษาตอนต้นสายสามัญ (ม.ศ.3)
หรือประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนตน้ (ม.3) หรือประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือ
เทียบไดไ้ ม่ตา่ กว่าน้ี ใหไ้ ด้รับอัตราค่าตอบแทนขัน้ ต่าของบัญชี
(ข) ผู้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทนขั้นที่ 4
ของบัญชี
(ค) ผู้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทน
ขั้นท่ี 6 ของบัญชี
(ง) ผู้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบได้ไม่ต่ากว่าน้ีให้
ได้รับอตั ราคา่ ตอบแทนข้ันท่ี 8 ของบัญชี
(๒) กลมุ่ งานเทคนิค ให้ใช้บัญชอี ตั ราคา่ ตอบแทนเป็นแบบข้นั
(ก) ผู้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือในกรณีที่เป็นงานที่ต้องใช้
ทักษะเฉพาะของบุคคลซึ่งมิได้ผ่านการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาใดเป็นการเฉพาะจะต้องมี
ความรคู้ วามสามารถ และทักษะในงานที่ปฏิบัติไมต่ ่ากวา่ 5 ปี ให้ได้รบั อัตราค่าตอบแทนขัน้ ต่าของบัญชี
(ข) ผู้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรเทคนิค (ปวท.) ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทนข้ันที่ 3
ของบญั ชี
(ค) ผู้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบได้ไม่ต่ากว่านี้
ใหไ้ ด้รับอตั ราค่าตอบแทนขัน้ ที่ 5 ของบัญชี
(๓) กลุม่ งานบริหารทัว่ ไป ใหใ้ ชบ้ ัญชอี ัตราค่าตอบแทนแบบชว่ ง
(ก) ผู้ได้รับวุฒิปริญญาตรีทั่วไปหลักสูตร 4 ปี ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทนอัตรา
ตา่ สุดของบญั ชี
(ข) ผไู้ ด้รับวุฒิปริญญาตรีหลักสูตร 5 ปี ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ
5 ในแต่ละช่วง จานวน 2 ชว่ ง จากอัตราต่าสุดของบญั ชี
(ค) ผู้ได้รับวุฒิปริญญาโทหรือเทียบได้ไม่ต่ากว่าน้ี ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทน
เพ่มิ ขึ้นรอ้ ยละ 5 ในแต่ละชว่ ง จานวน 4 ชว่ ง จากอัตราต่าสดุ ของบญั ชี
(ง) ผู้ได้รับวุฒิปริญญาเอกหรือเทียบได้ไม่ต่ากว่าน้ี ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทน
เพมิ่ ข้นึ ร้อยละ 5 ในแต่ละช่วง จานวน 10 ช่วง จากอตั ราตา่ สุดของบัญชี
(๔) กลุ่มงานวิชาชพี เฉพาะ ใหใ้ ชบ้ ญั ชีอัตราค่าตอบแทนเปน็ แบบชว่ ง
(ก) ผู้ได้รับวุฒิปริญญาตรีหลักสูตรไม่น้อยกว่า 4 ปี ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทน
ข้นั ตา่ ของบัญชี
(ข) ผู้ได้รับวุฒิปริญญาตรีหลักสูตร 5 ปี ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทนเพ่ิมขึ้น
รอ้ ยละ 5 ในแต่ละช่วง จานวน 2 ช่วง จากอตั ราต่าสดุ ของบญั ชี
(ค) ผู้ได้รับวุฒิปริญญาโทหรือเทียบได้ไม่ต่ากว่าน้ี ให้ได้รับอัตราค่าตอบแทน
เพิ่มข้นึ ร้อยละ 5 ในแตล่ ะชว่ ง จานวน 4 ชว่ ง จากอัตราต่าสดุ ของบญั ชี
265 258 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
(ง) ผูไดร ับวุฒิไมต า่ํ กวาปรญิ ญาตรี และไดรับใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ใหไดร บั อัตราคาตอบแทนเพม่ิ ขึ้นรอ ยละ 5 ในแตละชว ง จาํ นวน 5 ชว ง จากอัตราต่ําสดุ ของบัญชี
(จ) ผูท่ีไดร ับวฒุ ิปริญญาเอกหรือเทียบเทาไมต่ํากวาน้ี หรือปริญญาตรี และไดรับ
วุฒบิ ัตรแสดงความรู ความชาํ นาญในการประกอบวิชาชพี เวชกรรม หรอื อนุมตั ิบัตรแสดงความรู ความชํานาญ
ในการประกอบวชิ าชีพเวชกรรมใหไดรับอัตราคาตอบแทนเพิ่มข้ึนรอยละ 5 ในแตละชวงจํานวน 10 ชวง
จากอัตราต่าํ สุดของบญั ชี
(๕) กลมุ งานเชยี่ วชาญเฉพาะใหใ ชบ ญั ชอี ัตราคา ตอบแทนแบบชว ง
(ก) ผูไดรับวุฒิไมต่ํากวาปริญญาตรี และมีประสบการณตรงตามลักษณะงาน
ซ่ึงลักษณะงานดังกลาว จําเปนตองใชผูมีประสบการณไมตํ่ากวา 6 ป สําหรับวุฒิปริญญาตรี 4 ป
สําหรบั วฒุ ปิ รญิ ญาโท 2 ป สาํ หรับวฒุ ิปริญญาเอกตามลาํ ดบั หรือ
(ข) ผูมีประสบการณในงานที่จะปฏิบัติเปนเวลาไมต่ํากวา 10 ป และมีผลงาน
เปนท่ยี อมรบั ในวงการ
ทัง้ นี้ ใหไดร ับอัตราคา ตอบแทนอัตราตํา่ สุดของบญั ชี
(๖) กลุมงานเชี่ยวชาญพิเศษใหไดรับอัตราคาตอบแทน โดยพิจารณาจากคุณวุฒิ
การศึกษาประสบการณ และผลงานความเชี่ยวชาญพิเศษ ตามความตองการของงานหรือโครงการ
ตามอัตราบัญชีแนบทายหลกั เกณฑน้ี
ใน ก ร ณี ท่ี จ ะ ให ได รับ อั ต ร า ค า ต อ บ แ ท น แ ต ก ต า งไ ป จ า ก ท่ี กํ า ห น ด ใน ห ลั ก เก ณ ฑ น้ี
ใหสํานักงานศาลยุติธรรมเสนอคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมพิจารณา
ขอ 6 ผูไดรับการวาจางเปนพนักงานราชการศาลยุติธรรมซึ่งมีประสบการณตรงตาม
ความตองการตามลักษณะงานในตําแหนงที่ไดรับการจาง ใหไ ดรบั การปรบั อตั ราคาตอบแทนเพม่ิ ขึ้น ดังนี้
(๑) กลุมงานบริการและกลมุ เทคนคิ ท่ีมีวฒุ กิ ารศกึ ษา ใหไ ดร ับอัตราคา ตอบแทนเพ่ิมข้ึน
1 ขัน้ ตอทกุ ประสบการณ 2 ป แตใ หไดรับอัตราคาตอบแทนเพ่ิมขึน้ สูงสุดไมเกิน 5 ขนั้
(๒) กลมุ งานบรหิ ารท่ัวไปและกลมุ งานวชิ าชีพเฉพาะ ใหไ ดร บั อตั ราคาตอบแทนเพ่ิมขึ้น
รอยละ 5 ตอป ตอ ทกุ ประสบการณ 2 ป แตใหไ ดรับอัตราคาตอบแทนเพมิ่ ขนึ้ สูงสดุ ไมเกนิ 5 ชว ง
ขอ 71 หลักเกณฑการเล่ือนคาตอบแทนประจําป ใหพนักงานราชการศาลยุติธรรม
ไดร ับการพจิ ารณาเลื่อนคา ตอบแทนตามผลการประเมนิ การปฏิบตั งิ าน ดงั น้ี
(1) ตอ งมรี ะยะเวลาในการปฏบิ ัตงิ านในรอบปง บประมาณทแี่ ลวมาไมนอยกวา 8 เดอื น
เพ่ือจูงใจใหพนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ีปฏิบัติงานของตนไดอยางมีประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลดี
ในวนั ที่ 1 ตลุ าคม ของทกุ ป
(2) พิจารณาเล่ือนคาตอบแทนพนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ีมีผลการปฏิบัติงาน
ไมต ่ํากวาระดบั ดี ไดไ มเ กนิ อัตรารอยละ 6 ของฐานคาตอบแทน ตามผลการปฏบิ ตั ิงาน
1 ขอ 7 แกไขเพิ่มเติมโดยหลักเกณฑคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม เรื่อง คาตอบแทนและสิทธิ
ประโยชนข องพนกั งานราชการศาลยุติธรรม (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2561
266 259
ท้ังนี้ ควบคุมวงเงินงบประมาณการเลื่อนคาตอบแทนในวงเงินไมเกินรอยละ 4 ของ
อตั ราคาตอบแทนพนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรม ณ วนั ที่ 1 กันยายน
ขอ7/12 ใหผูพิพากษาซ่ึงเปนหัวหนาในศาลยุติธรรมหรือเลขาธิการสํานักงาน
ศาลยุติธรรมแลวแตกรณี เปนผูบริหารวงเงินการเล่ือนคาตอบแทนประจําปใหพนักงานราชการ
ศาลยุติธรรมตามหลกั เกณฑในขอ 7
ขอ 8 ในกรณีท่ีมีการคํานวณเพิ่มปรับอัตราคาตอบแทนเล่ือนข้ันคาตอบแทนหรือ
กาํ หนดคา ตอบแทนพเิ ศษ หากคํานวณแลว มเี ศษไมถงึ 10 บาท ใหปรบั เพ่ิมข้ึนเปน 10 บาท
ขอ 9 ใหสํานักงานศาลยุติธรรมจัดทําคําสั่งเล่ือนขั้นคาตอบแทนและการไดรับ
คา ตอบแทนพิเศษของพนกั งานราชการศาลยุติธรรมตามการประเมินผลการปฏิบตั ิงานในขอ 7
ขอ 10 พนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมในกลมุ งานใดผานการประเมินผลการปฏบิ ัติงาน
เพ่ือตอสัญญาจางได ใหพนักงานราชการศาลยุติธรรมผูนั้นไดรับการพิจารณาเลื่อนขั้นคาตอบแทน
ในกลุม งานน้นั ตามผลการประเมินการปฏบิ ตั งิ านตามหลกั การในขอ 7 ได
ขอ 11 ใหพ นกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรมกลมุ งานวิชาชีพเฉพาะและกลุม งานเช่ยี วชาญเฉพาะ
มีสิทธิไดรับคาตอบแทนวิชาชีพ คาตอบแทนสําหรับตําแหนงท่ีมีเหตุพิเศษและคาตอบแทนอื่น ๆ
ท่ีปฏิบัติงานหรือมีลักษณะงานเชนเดียวกับขาราชการพลเรือนท่ีไดรับคาตอบแทนดังกลาว ท้ังนี้
สํานักงานศาลยุติธรรมจะตองแจงใหคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมทราบภายใน 30 วัน
วาพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมตาํ แหนง ใดบา งทีไ่ ดร บั คา ตอบแทน หากคณะกรรมการขาราชการศาลยตุ ิธรรม
มิไดแ จง การแกไ ข ใหสาํ นกั งานศาลยุติธรรมสามารถดาํ เนินการในเร่ืองดงั กลาวไดต อไป
ขอ 12 ใหพนักงานราชการศาลยุติธรรมไดรับสิทธิประโยชนตามระเบียบคณะกรรมการ
ขา ราชการศาลยตุ ิธรรม วาดวยพนักงานราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2550 ตามที่คณะกรรมการขาราชการ
ศาลยุติธรรมกําหนด เวนแตการลาไปศึกษา ฝกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติงานวิจัย การลาไปปฏิบัติงาน
ในองคการระหวา งประเทศ และการลาตดิ ตามคูสมรส
2 ขอ 7/1 แกไขเพิ่มเติมโดยหลกั เกณฑคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม เร่ือง คาตอบแทนและสิทธิ
ประโยชนข องพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรม (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2561
267 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
267 260
ข้อ 133 พนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรมมีสิทธิการลาในประเภทตา่ ง ๆ ดังต่อไปนี้
(1) การลาป่วย มีสิทธิลาป่วยได้เท่าท่ีป่วยจริง การลาป่วยต้ังแต่ 3 วันข้ึนไป ผู้มีอานาจ
อนุญาตอาจส่ังให้มีใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลท่ีทางราชการรับรองประกอบการลาหรือประกอบการ
พิจารณาอนญุ าตก็ได้
(2) การลาคลอดบุตร มีสทิ ธิลาคลอดบตุ รได้ 90 วนั
(3) การลากจิ สว่ นตัว มีสิทธิลากิจสว่ นตัวได้ปลี ะไม่เกนิ 10 วัน
(4) การลาพักผ่อน มีสิทธิลาพักผ่อนปีละ 10 วันทาการ สาหรับในปีแรกท่ีได้รับ
การจ้างเป็นพนักงานราชการศาลยุติธรรมยังไม่ครบ 6 เดือน ไม่มีสิทธิลาพักผ่อน เว้นแต่พนักงานราชการ
ศาลยตุ ิธรรมทมี่ สี ญั ญาจ้างตอ่ เนื่องกันในสว่ นราชการเดิมรวมกันมาแล้วไม่นอ้ ยกว่า 6 เดอื น
พนักงานราชการศาลยุติธรรมผู้ใดท่ีทางานครบ 1 ปีข้ึนไป และในปีที่ผ่านมาพนักงาน
ราชการศาลยุติธรรมผู้น้ันมิได้ลาพักผ่อนประจาปี หรือลาพักผ่อนประจาปีแล้วไม่ครบ 10 วันทาการ
ให้สามารถนาวันลาพักผ่อนที่เหลือซ่ึงยังไม่ได้ลามาสะสมได้ แต่วันลาพักผ่อนที่นามาสะสมต้องไม่เกิน
5 วันทาการ โดยเม่ือรวมกับวันลาพกั ผ่อนในปปี ัจจุบันแลว้ จะต้องไมเ่ กนิ 15 วันทาการ
(5) การลาเพ่ือรับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพ่ือฝึกวิชาทหาร เขา้ รับ
การระดมพล หรือเพือ่ ทดลองความพรงั่ พรอ้ มตามกฎหมายว่าดว้ ยการรับราชการทหาร ท้ังนี้ เมอื่ พน้ จาก
การเขา้ รบั การตรวจเลือกหรือเตรยี มพล ให้รายงานตัวกลับเขา้ ปฏิบัตงิ านภายใน 7 วัน
(6) การลาเพื่อไปอุปสมบท หรือประกอบพิธีฮัจญ์ พนักงานราชการศาลยุติธรรม
ท่ีได้รับการจ้างต่อเน่ืองไม่น้อยกว่า 4 ปี มีสิทธิลาเพื่อไปอุปสมบท หรือประกอบพิธีฮัจญ์ได้จานวน 1 คร้ัง
ตลอดช่วงเวลาของการมีสถานภาพเป็นพนักงานราชการศาลยุติธรรม โดยการลาอุปสมบทมีสิทธิลาได้
ไม่เกิน 120 วัน และการลาไปประกอบพิธีฮัจญ์มีสิทธิลาได้ไม่เกิน 120 วัน ตามระยะเวลาท่ีใช้ในการ
ประกอบศาสนกิจตามหลักการของศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาอนุมัติการลาดังกล่าว
ตามความเหมาะสม เพอื่ ไมใ่ หเ้ กิดความเสยี หายแกร่ าชการ
ขอ้ 144 พนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรมมีสทิ ธิไดร้ บั ค่าตอบแทนระหว่างลา ดงั น้ี
(๑) ลาป่วย ให้ไดร้ บั คา่ ตอบแทนระหว่างลาไดป้ หี นึง่ ไม่เกนิ 30 วัน ส่วนทีเ่ กนิ 30 วัน
มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จากกองทุนประกันสังคม ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
ตามกฎหมายวา่ ด้วยประกนั สงั คม
(๒) การลาคลอดบุตร ให้ได้รับค่าตอบแทนระหว่างลาได้ไม่เกิน 45 วัน และมีสิทธิ
ได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรจากกองทุนประกันสังคม ท้ังน้ี ตามหลักเกณฑ์และ
เงอ่ื นไขตามกฎหมายว่าดว้ ยประกันสงั คม
(๓) ลากจิ ส่วนตัว ให้ไดร้ บั ค่าตอบแทนระหวา่ งลาได้ปีหนึง่ ไมเ่ กนิ 10 วนั
3 ข้อ 13 แก้ไขเพ่ิมเติมโดยหลักเกณฑ์คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม เรื่อง ค่าตอบแทนและสิทธิ
ประโยชนข์ องพนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรม (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2561
4 ข้อ 14 แก้ไขเพ่ิมเติมโดยหลักเกณฑ์คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม เรื่อง ค่าตอบแทนและสิทธิ
ประโยชนข์ องพนกั งานราชการศาลยุติธรรม (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2561
268 263
(๔) การลาพักผอนประจําป ใหไดรับคาตอบแทนระหวางลาไดไมเกินระยะเวลาที่
กําหนดในขอ 13 (4)
(๕) การลาเพือ่ รับราชการทหารในการเรียกพลเพอื่ ตรวจสอบ เพ่อื ฝก วิชาทหาร เขา รับ
การระดมพล หรอื เพ่อื ทดลองความพรงั่ พรอม ใหไดร ับคาตอบแทนระหวา งลาไดปหนึ่งไมเ กนิ 60 วัน
(๖) การลาเพื่อไปอุปสมบท ใหไดรับคาตอบแทนระหวา งลาไดไมเกิน 120 วัน และ
การลาไปประกอบพธิ ีฮจั ญ ใหไ ดร ับคาตอบแทนระหวา งลาไดไมเกนิ 120 วัน
ในกรณีท่ีพนักงานราชการเขาทํางานไมถึง 1 ป ใหทอนสิทธิที่จะไดรับคาตอบแทน
การลากิจสวนตวั และการลาพกั ผอ นลงตามสว นของจํานวนวันท่ีจาง
ขอ 15 ใหพ นักงานราชการศาลยุติธรรมไดรบั สิทธปิ ระโยชนอ ่นื ๆ ดงั น้ี
(1) คาตอบแทนการปฏิบัตงิ านนอกเวลาราชการ
พนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ีไดรับอนุมัติใหอยูปฏิบัติงานนอกเวลาราชการปกติหรือ
อยูปฏิบัติงานในวันหยุดสุดสัปดาห หรือในวันหยุดพิเศษ ใหมีสิทธิไดรับคาตอบแทนการปฏิบัติงาน
นอกเวลาราชการตามท่ีคณะกรรมการบริหารศาลยุตธิ รรมหรอื คณะกรรมการขาราชการศาลยุตธิ รรมกําหนด
(2) คา ใชจายในการเดนิ ทางไปราชการ
พนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ีไดรับคําสั่งจากผูมีอํานาจอนุญาตใหเดินทางไปปฏิบัติ
หนาท่ีราชการมีสิทธิเบิกคาใชจายในการเดินทางไปราชการตามท่ีคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมหรือ
คณะกรรมการขา ราชการศาลยุตธิ รรมกําหนด
(3) คาเบี้ยประชุม
พนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ีไดรับแตงตั้งเปนกรรมการหรืออนุกรรมการหรือ
เลขานกุ ารและผชู วยเลขานุการในคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการแลวแตกรณี มีสิทธิไดร บั คา เบย้ี ประชุม
ตามที่คณะกรรมการบริหารศาลยุตธิ รรมหรอื คณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมกําหนด
(4) คาใชจา ยในการฝกอบรม
กรณที ีส่ ํานักงานศาลยตุ ธิ รรมมีความประสงคทีจ่ ะใหพ นกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรมเขา รบั
การฝกอบรม สัมมนาทางวิชาการ เพ่ือพัฒนาหรือเพ่ิมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในหนาท่ี
ท่ีไดรับมอบหมาย ใหมีสิทธิเบิกคาใชจายในการฝกอบรมตามที่คณะกรรมการบรหิ ารศาลยุติธรรมหรือ
คณะกรรมการขาราชการศาลยุตธิ รรมกําหนด
(5) คาตอบแทนการออกจากราชการโดยไมม ีความผิด
ในกรณที ส่ี าํ นกั งานศาลยตุ ธิ รรมบอกเลกิ สญั ญาจา งกับพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมผใู ด
กอ นครบกาํ หนดเวลาจางโดยมใิ ชความผิดของพนักงานราชการศาลยุติธรรมดงั กลา ว ใหพ นกั งานราชการ
ศาลยุตธิ รรมผนู ั้นไดรบั คาตอบแทนการออกจากราชการโดยไมมีความผดิ ดังน้ี
(ก) พนักงานราชการศาลยุติธรรมที่ปฏิบัติงานติดตอกันครบ 4 เดือน แตไมครบ 1 ป
ใหจ า ยคา ตอบแทนเทากบั อัตราคาตอบแทนทไี่ ดรบั อยูกอ นวนั ออกจากราชการ
(ข) พนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมท่ีปฏบิ ัติงานติดตอกันครบ 1 ป แตไมครบ 3 ป
ใหจา ยคา ตอบแทนจํานวนสามเทาของอตั ราคาตอบแทนทไ่ี ดรบั อยกู อนวนั ออกจากราชการ
(ค) พนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมที่ปฏบิ ัติงานติดตอกันครบ 3 ป แตไมครบ 6 ป
ใหจา ยคา ตอบแทนจํานวนหกเทาของอัตราคา ตอบแทนทีไ่ ดรับอยกู อ นวนั ออกจากราชการ
269 264 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
(ง) พนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ีปฏิบัติงานติดตอกันครบ 6 ป แตไมครบ
10 ป ใหจา ยคา ตอบแทนจาํ นวนแปดเทา ของอตั ราคา ตอบแทนท่ไี ดร ับอยูกอนวนั ออกจากราชการ
(จ) พนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมท่ีปฏิบัติงานติดตอกันครบ 10 ปขึ้นไป ใหจาย
คาตอบแทนจํานวนสิบเทา ของอัตราคาตอบแทนทไี่ ดรบั อยูกอนวนั ออกจากราชการ
ขอ 16 ใหพนักงานราชการศาลยุตธิ รรมไดรับคา ตอบแทนออกจากราชการโดยไมมีความผิดได
ตามหลักเกณฑท ีค่ ณะกรรมการขาราชการศาลยตุ ธิ รรมการกําหนดตามบญั ชแี นบทายหลกั เกณฑน ี้
ขอ 17 5 ใหพ นักงานราชการศาลยตุ ธิ รรมไดร ับเงนิ ชว ยคา ครองชีพพิเศษของพนักงานราชการ
ตามหลักเกณฑที่กระทรวงการคลงั กาํ หนด
ขอ 186 ใหพนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรมทม่ี ีการจางกอนวนั ที่ 1 ตลุ าคม 2550 มีสทิ ธิ
ไดรับเงินชวยคาครองชีพพิเศษของพนักงานราชการตามหลักเกณฑที่กระทรวงการคลังกําหนด ซ่ึงใชบังคับ
ในขณะนน้ั ตง้ั แตวันท่ีมกี ารจา งพนกั งานราชการศาลยุติธรรมผนู น้ั จนถึงวนั ที่ 30 กันยายน 2550
ประกาศ ณ วนั ท่ี 22 มีนาคม พ.ศ. 2550
(ลงชอ่ื ) วริ ัช ลม้ิ วชิ ยั
(นายวริ ชั ลิ้มวชิ ัย)
รองประธานศาลฎีกา
ประธานกรรมการขาราชการศาลยตุ ธิ รรม
5 ขอ 17 แกไ ขเพ่ิมเติมโดยหลักเกณฑคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม เร่ือง คาตอบแทน และสิทธิ
ประโยชนของพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรม (ฉบับที่ 2)
6 ขอ 18 แกไขเพิ่มเติมโดยหลักเกณฑคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม เร่ือง คาตอบแทน และสิทธิ
ประโยชนของพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรม (ฉบับท่ี 2)
270
270 263
บญั ชีอตั ราคา่ ตอบแทนทา้ ยหลกั เกณฑ์คณะกรรมการขา้ ราชการศาลยตุ ธิ รรม
เรอ่ื ง คา่ ตอบแทนและสทิ ธปิ ระโยชนข์ องพนกั งานราชการ (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2561
บัญชกี ลมุ่ งานบรกิ าร
อัตรา บาท/เดอื น
ขั้นสงู 20,210
ขัน้ ตา่ 6,410
บัญชีกลมุ่ งานเทคนิค
อตั รา บาท/เดือน
ก. กลุ่มงานเทคนิคทว่ั ไป
ข้ันสงู 24,930
ข้นั ตา่ 7,370
ข. กลมุ่ งานเทคนคิ พเิ ศษ
ขั้นสูง 59,790
ขน้ั ต่า 12,850
บัญชกี ลมุ่ งานบรหิ ารทั่วไป
อตั รา บาท/เดือน
ขัน้ สูง 34,700
ขนั้ ต่า 10,010
บญั ชีกลมุ่ งานวชิ าชพี เฉพาะ
อตั รา บาท/เดือน
ขั้นสูง 44,550
ขน้ั ต่า 10,850
บัญชกี ลมุ่ งานเชี่ยวชาญเฉพาะ
อตั รา บาท/เดอื น
ขน้ั สงู 68,350
ขัน้ ตา่ 37,680
ประเภททปี่ รกึ ษา บญั ชีกลมุ่ งานเช่ยี วชาญพเิ ศษ บาท/เดือน
1. ระดบั สากล ไมเ่ กนิ 218,400
2. ระดบั ประเทศ ไมเ่ กนิ 163,800
3. ระดบั ทว่ั ไป ไมเ่ กนิ 109,200
271
271 264
บัญชกี าหนดอตั ราค่าตอบแทนของผู้ไดร้ ับปรญิ ญา ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ ท่ี ก.พ. รับรองคุณวฒุ แิ ลว้
หรือผู้มที กั ษะประสบการณข์ องพนกั งานราชการ ท้ายหลกั เกณฑค์ ณะกรรมการข้าราชการศาลยุตธิ รรม
เรื่อง ค่าตอบแทนและสทิ ธปิ ระโยชนข์ องพนกั งานราชการ (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2561
ลาดับ คณุ วฒุ ิที่ ก.พ. รับรองแลว้ อัตราคา่ ตอบแทนแรกบรรจุ
1 ปรญิ ญาเอก หรอื เทยี บเทา่ กลมุ่ งาน บาท
2 ปริญญาเอก หรอื เทียบเทา่ วิชาชีพเฉพาะ 27,300
3 ปรญิ ญาโททม่ี ีหลกั สตู รกาหนดเวลาศกึ ษา บรหิ ารทั่วไป 25,200
ไม่น้อยกว่า 2 ปี ตอ่ จากวฒุ ปิ รญิ ญาตรี วิชาชพี เฉพาะ 24,070
เฉพาะทกี่ าหนดในขอ้ 6
4 ปริญญาโททวั่ ไป หรอื เทยี บเท่า วิชาชพี เฉพาะ 22,750 ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
5 ปริญญาโททวั่ ไป หรือเทียบเท่า บริหารท่ัวไป 21,000
6 ปริญญาตรีทม่ี หี ลักสตู รกาหนดระยะเวลา วชิ าชีพเฉพาะ 20,540
การศกึ ษาไม่นอ้ ยกว่า 5 ปี ต่อจากวุฒิ
ประกาศนยี บตั รมธั ยมศึกษาตอนปลาย วิชาชีพเฉพาะ 19,500
เฉพาะปริญญาท่ี ก.พ. กาหนดใหไ้ ดร้ ับเงินเดือน
ตามหลกั สตู ร 5 ปี บรหิ ารทว่ั ไป 18,000
7 ปริญญาตรีที่มหี ลักสตู รกาหนดระยะเวลา
การศกึ ษาไมน่ ้อยกว่า 4 ปี ตอ่ จากวุฒิ
ประกาศนยี บตั รมธั ยมศึกษาตอนปลาย
หรอื เทียบเทา่
8 ปริญญาตรที ม่ี หี ลักสตู รกาหนดระยะเวลา
การศกึ ษาไมน่ อ้ ยกว่า 4 ปี ตอ่ จากวฒุ ิ
ประกาศนียบตั รมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
หรอื เทยี บเทา่
272 265
272 อตั ราค่าตอบแทนแรกบรรจุ
กลุ่มงาน บาท
ลาดบั คณุ วฒุ ิท่ี ก.พ. รบั รองแลว้ เทคนิคพิเศษ 23,110
9 ไมต่ า่ กวา่ ปรญิ ญาตรี และมปี ระสบการณ์ใน
งานทปี่ ฏบิ ัตมิ าแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 8 ปี หรอื บรกิ าร/เทคนิค 13,800
ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชน้ั สงู (ปวส.) หรอื
อนุปรญิ ญาหลกั สตู ร 3 ปี ตอ่ จาประกาศนยี บตั ร บริการ/เทคนคิ 13,010
ประโยคมธั ยมศึกษาตอนปลายหรอื เทยี บเท่า
และมปี ระสบการณ์ในงานทป่ี ฏิบตั ิมาแลว้
ไม่น้อยกว่า 10 ปี หรือ
ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพเทคนคิ (ปวท.) หรือ
อนปุ รญิ ญาหลักสตู ร 2 ปี ตอ่ จาประกาศนียบตั ร
ประโยคมธั ยมศึกษาตอนปลายหรอื เทยี บเท่า
และมปี ระสบการณ์ในงานทป่ี ฏบิ ัตมิ าแลว้
ไมน่ ้อยกวา่ 11 ปี หรอื
ประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช.) และมี
ประสบการณใ์ นงานท่ปี ฏิบตั มิ าแลว้
ไมน่ อ้ ยกว่า 12 ปี
10 ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชน้ั สงู (ปวส.) หรือ
อนปุ รญิ ญาหรอื ประกาศนียบตั รของสว่ นราชการ
ต่าง ๆ ทม่ี ีหลกั สูตรกาหนดระยะเวลาศกึ ษาไว้
ไม่นอ้ ยกวา่ 3 ปี ต่อจากวฒุ ปิ ระกาศนยี บัตร
มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
11 ประกาศนียบตั รวิชาชีพเทคนคิ (ปวท.)
ประกาศนียบตั รวิชาการศกึ ษาชั้นสงู (ป.กศ.สงู )
และอนปุ รญิ ญา หรอื ประกาศนยี บตั รของ
สว่ นราชการตา่ ง ๆ ทมี่ ีหลกั สูตรกาหนด
ระยะเวลาการศกึ ษาไมน่ ้อยกว่า 2 ปี ตอ่ จากวฒุ ิ
ประกาศนียบตั รมธั ยมศึกษาตอนปลาย หรือ
ไม่น้อยกวา่ 4 ปี ตอ่ จากวฒุ ปิ ระกาศนียบตั ร
มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ หรอื เทยี บเท่า
273 266
273 อตั ราค่าตอบแทนแรกบรรจุ
กลุม่ งาน บาท
ลาดบั คุณวฒุ ิที่ ก.พ. รับรองแลว้ บรกิ าร/เทคนิค 11,280
12 ประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) หรือ
ประกาศนียบตั รทีม่ หี ลักสตู รกาหนดระยะเวลา
ศกึ ษาไมน่ ้อยกวา่ 1 ปี ต่อจากวฒุ ิ
ประกาศนียบตั รมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หรอื
ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 ปี ต่อจากวฒุ ปิ ระกาศนียบตั ร
มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ หรือเทยี บเท่ากรณีกลุ่มงาน
เทคนคิ ที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะของบุคคลซึง่ มิได้
ผา่ นการเรียนการสอนในสถาบันการศกึ ษาใด
เป็นการเฉพาะ จะต้องมคี วามร้คู วามสามารถ
และทกั ษะในงานท่ีจะปฏิบตั ทิ ไี่ มต่ ่ากว่า 5 ปี
ให้ไดร้ ับคา่ ตอบแทน
ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
274 267
274
หลกั เกณฑ์คณะกรรมการขา้ ราชการศาลยตุ ธิ รรม
เรื่อง แนวทางการประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรม
เพ่ือให้การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมมีประสิทธิภาพ
โปรง่ ใส เป็นธรรม และมมี าตรฐานเปน็ ไปในแนวทางเดียวกนั
อาศัยอานาจตามความใน ข้อ 19 วรรคสอง ของระเบียบคณะกรรมการข้าราชการ
ศาลยุติธรรม ว่าด้วยพนักงานราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2550 คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม
จึงเหน็ ควรกาหนดแนวทางการประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านพนกั งานราชการศาลยุติธรรมไวด้ ังต่อไปน้ี
ข้อ 1 หลักเกณฑ์น้ีเรียกว่า “หลักเกณฑ์คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม เรื่อง
แนวทางการประเมนิ ผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุตธิ รรม”
ข้อ 2 การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรม ต้องเป็นไป
เพือ่ ประโยชน์ในการทส่ี านกั งานศาลยุติธรรมจะใช้เป็นเครอ่ื งมือในการบริหารพนักงานราชการศาลยุติธรรม
และนาผลการประเมนิ ไปใช้เปน็ ขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาในเร่ืองต่าง ๆ แล้วแต่กรณีดังนี้
(1) การเล่อื นคา่ ตอบแทน
(2) การเลิกจา้ ง
(3) การต่อสัญญาจ้าง
(4) อน่ื ๆ
ขอ้ 3 การประเมินผลการปฏิบตั ิงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรม มี 2 ประเภท ดงั นี้
(1) การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนกั งานราชการศาลยุตธิ รรมทวั่ ไป
(2) การประเมินผลการปฏบิ ัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมพเิ ศษ
ข้อ 4 ให้สานักงานศาลยุติธรรมกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ภายใต้หลักการท่ีจะประเมินผลการปฏิบัติงานบนพื้นฐานของผลสาเร็จและผลสัมฤทธ์ิของงาน
โดยสานกั งานศาลยตุ ธิ รรมกาหนดตวั ช้ีวดั ผลการปฏบิ ัตงิ านท่มี ีความชดั เจน
ข้อ 51 การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ัวไป ให้ประเมิน
จากผลงานและคุณสมบัติในการปฏิบัติงานดังต่อไปน้ี โดยกาหนดให้มีสัดส่วนของผลงานไม่น้อยกว่า
รอ้ ยละ 70
1 ข้อ 5 แกไ้ ขเพิม่ เติมโดยหลักเกณฑ์คณะกรรมการขา้ ราชการศาลยุติธรรม เรื่อง แนวทางการประเมินผล
การปฏบิ ัติงานของพนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2561
275 270
(ก) การประเมินผลงานใหพ จิ ารณาจากองคประกอบ ดังนี้
๑. ปรมิ าณงาน
๒. คุณภาพงาน
๓. ความรวดเร็วหรอื ความตรงตอเวลา
๔. การใชทรัพยากรอยา งคมุ คา
(ข) การประเมินคุณลักษณะในการปฏิบัติงาน สํานักงานศาลยุติธรรมอาจกําหนด
คุณลักษณะทจี่ ําเปนตอการปฏิบัติงานไดตามความเหมาะสมของลักษณะภารกิจและสภาพการปฏิบัติงาน
ของพนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรมในตาํ แหนงตา ง ๆ
ในแตละรอบการประเมิน ใหหนว ยงานนําผลคะแนนการประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของ
พนักงานราชการศาลยตุ ธิ รรมมาจัดกลุม ตามผลคะแนนเปน 5 ระดับ คือ ดีเดน ดีมาก ดี พอใช ตองปรับปรุง
โดยกาํ หนดชวงคะแนนประเมนิ ของแตล ะระดับผลการประเมนิ ดังน้ี
ดีเดน 90 – 100 คะแนน ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
ดีมาก 80 – 89 คะแนน
ดี 70 – 79 คะแนน
พอใช 60 – 69 คะแนน
ตอ งปรบั ปรุง นอ ยกวา 60 คะแนน
แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านของพนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรมท่วั ไป สํานกั งานศาลยตุ ิธรรม
อาจพจิ ารณาใชต ามแบบแนบทา ยหลักเกณฑน หี้ รือปรับใชต ามความเหมาะสมของลกั ษณะงานกไ็ ด
ขอ 6 ใหผูบังคับบัญชาซงึ่ เปนผปู ระเมินแจงใหผูรับการประเมินทราบถงึ เปาหมายของ
การปฏิบัติงานตามตําแหนงและงานที่รับผิดชอบ ทั้งนี้ ใหสอดคลองกับขอกําหนดการจางที่กําหนด
ในสัญญาจาง
ขอ 7 ใหมีการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมท่ัวไป
ปละ 2 ครง้ั ตามปงบประมาณ คอื
ครง้ั ท่ี 1 ประเมนิ ผลในชว งการปฏิบัตงิ านระหวางวันท่ี 1 ตุลาคม ถึง 31 มนี าคม
คร้งั ท่ี 2 ประเมินผลในชวงการปฏิบตั ิงานระหวางวนั ท่ี 1 เมษายน ถงึ 30 กันยายน
ขอ 82 เพื่อใหมีกลไกสนับสนุนความโปรงใสและเปนธรรมในการประเมินผลการปฏบิ ัตงิ าน
ใหหัวหนา หนวยงานหรือเลขาธิการสาํ นักงานศาลยุติธรรมแลวแตกรณี แตงต้ังคณะกรรมการกลัน่ กรอง
การประเมนิ ผลการปฏิบัติงานของพนกั งานราชการศาลยุติธรรม ทําหนา ทพ่ี ิจารณาเสนอความเห็นเก่ียวกับ
มาตรฐานและความเปนธรรมของการประเมินผลการปฏบิ ัติงานของพนักงานราชการศาลยตุ ิธรรมในสังกัด
โดยใหมีองคประกอบและหนาท่ี ดงั นี้
2 ขอ 8 แกไ ขเพ่ิมเติมโดยหลกั เกณฑคณะกรรมการขา ราชการศาลยุติธรรม เรื่อง แนวทางการประเมินผล
การปฏบิ ัตงิ านของพนักงานราชการศาลยุตธิ รรม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2561
276 269
(๑) คณะกรรมการกล่ันกรองการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ
ศาลยุติธรรมระดับหนวยงาน มีหนาที่เสนอความเห็นเกี่ยวกับผลการประเมินผลการปฏิบัติงานของ
พนกั งานราชการศาลยตุ ิธรรมในหนวยงาน ประกอบดว ยผูอํานวยการและหัวหนาสวนหรือหัวหนากลมุ
อยา งนอ ยสค่ี นเปน กรรมการ
(๒) คณะกรรมการกล่ันกรองการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ
ศาลยุติธรรมระดับสํานักงานศาลยุติธรรม มีหนาที่เสนอความเห็นเกี่ยวกับผลการประเมินผล
การปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมตอเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม ประกอบดวย
รองเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม ผูตรวจราชการสํานักงานศาลยุติธรรม และผูชวยเลขาธิการ
สํานักงานศาลยุติธรรมเปน กรรมการ
ขอ 9 เมื่อเสร็จสน้ิ การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานแตล ะครง้ั ใหผูบังคบั บญั ชาซึ่งเปน ผปู ระเมิน
แจงผลการประเมินใหพนักงานราชการศาลยุติธรรมทั่วไป ผูรบั การประเมินทราบและใหคําปรึกษาแนะนํา
แกพ นกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรมทว่ั ไป เพื่อแกไขปรบั ปรุงการปฏบิ ัตงิ านใหด ีย่งิ ขึ้น
ขอ 10 พนักงานราชการศาลยุติธรรมทั่วไปผูใดซ่ึงผูบังคับบัญชาไดประเมินผลการ
ปฏบิ ตั งิ านแลว มีคา เฉลี่ยของผลการประเมินติดตอกัน 2 คร้งั ตํ่ากวา ระดับดี ใหผูบังคบั บัญชาทําความเห็น
เสนอเลขาธกิ ารสาํ นกั งานศาลยุติธรรมเพอ่ื พจิ ารณาสง่ั เลิกจางตอ ไป
ขอ 11 กรณีที่จะมีการตอสัญญาจาง ใหนําผลการประเมินผลการปฏิบัติงานมา
ประกอบการพิจารณาในการตอสัญญาจาง โดยผูที่ไดรับการพิจารณาใหตอสัญญาจางจะตองมีผล
การประเมินผลการปฏิบัตงิ านเฉล่ียยอนหลงั ไมเกิน 4 ป ไมต่าํ กวาระดับดี ท้งั นี้ ใหผบู ังคับบัญชาทําความเห็น
เสนอเลขาธิการสาํ นักงานศาลยุติธรรมพิจารณาส่งั จา งตอ ไป
ขอ 12 การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมพิเศษ
ใหก ําหนดหลักเกณฑและวธิ กี ารประเมินผลการปฏิบตั งิ านตามแนวทางดงั ตอไปนี้
(๑) ใหเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมและผูรับผดิ ชอบ/โครงการรวมกันประเมินผล
การปฏบิ ัตงิ านของพนกั งานราชการศาลยตุ ธิ รรมพิเศษ
(๒) การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรมพิเศษ
ใหประเมนิ จากผลการปฏบิ ัติงานตามเปาหมายและคุณลกั ษณะการปฏบิ ัติงาน โดยสอดรับกับขอ ตกลง/
เงอื่ นไขในสญั ญาจาง ทง้ั น้ี โดยกําหนดใหมีสัดสวนของผลงานไมนอ ยกวา รอยละ 80
(๓) ใหสํานักงานศาลยุติธรรมกําหนดระยะเวลาในการประเมินผลการปฏิบัติงานของ
พนักงานราชการศาลยุติธรรมพิเศษเปนรายเดือนหรือเปนระยะเม่ืองาน/โครงการไดดําเนินการสําเรจ็ ไปแลว
รอยละ 25 รอยละ 50 รอยละ 75 และรอยละ 100 หรืออ่ืน ๆ โดยเทียบเคียงกับเปาหมายของ
งาน/โครงการ
277
277 270
ข้อ 13 ให้สานักงานศาลยุติธรรมวางระบบการจัดเก็บผลการประเมิน เพื่อนาไปใช้
ตามวตั ถุประสงคท์ ี่กาหนดไว้ในขอ้ 2
ประกาศ ณ วนั ท่ี 22 มนี าคม พ.ศ. 2550
(ลงช่ือ) วิรชั ลมิ้ วิชยั
(นายวริ ชั ลิ้มวชิ ยั )
รองประธานศาลฎกี า
ประธานกรรมการข้าราชการศาลยุตธิ รรม
ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
227788 271
- ตวั อย่าง -
แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านพนกั งานราชการศาลยุติธรรมทวั่ ไป3
ช่อื ผู้รบั การประเมิน วนั เร่มิ – สิ้นสดุ สัญญาจา้ ง
ตาแหน่ง กลุม่ งาน ชือ่ งาน/โครงการ
สงั กัด อัตราคา่ ตอบแทน บาท / เดอื น
ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน
ครั้งที่ 1 ระหวา่ งวันท่ี ถงึ วนั ที่
ครงั้ ท่ี 2 ระหว่างวนั ที่ ถึงวนั ที่
คาแนะนาในการกรอกแบบประเมินผลการปฏบิ ัติงาน
ระดบั คะแนน รายละเอียด
1 ปฏิบตั หิ น้าทไี่ ดต้ ่ากวา่ ทก่ี าหนดมาก
2 ปฏิบตั หิ น้าทไี่ ดต้ ่ากว่าทกี่ าหนด
3 ปฏิบัตหิ นา้ ทไ่ี ดต้ ามกาหนด
4 ปฏิบัตหิ นา้ ทไ่ี ดด้ เี กินกวา่ ทกี่ าหนด
5 ปฏบิ ัตหิ น้าทไี่ ดด้ ีเกินกวา่ ทกี่ าหนดมาก
ส่วนท่ี 1 ผลงาน
หนา้ ท่ีความ เป้าหมาย/ ผลการประเมนิ (ก) นา้ หนกั คะแนน (ค) =
รับผิดชอบ ผลผลติ 1 2 345 (ข) (ก) x (ข)
1. 100
2. รวม
100 (ค) =
คะแนนผลงาน = คะแนน (ค) = x 100 =
5
หมายเหตุ : 5 ซง่ึ เป็นตวั หาร หมายถึง คะแนนเต็มของผลการประเมิน
100 ซึง่ เป็นตัวคูณ หมายถงึ การแปลงคะแนนรวมของผลงานใหเ้ ปน็ คะแนนที่มีฐานคะแนนเต็มเป็น 100 คะแนน
3 แบบประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงานราชการศาลยุติธรรมทั่วไป แก้ไขเพิ่มเติมโดยหลักเกณฑ์
คณะกรรมการขา้ ราชการศาลยุติธรรม เรื่อง แนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการศาลยุติธรรม (ฉบับที่
2) พ.ศ. 2561
279 279 272
สว่ นท่ี 2 คุณลักษณะในการปฏบิ ัตงิ าน
คณุ ลกั ษณะในการปฏิบัติงาน ผลการประเมนิ (ก) คะแนน (ค) =
2 34 (ก) x (ข)
1. 1 5 นา้ หนกั (ข) 100
2.
คะแนนคณุ ลกั ษณะ = รวม = 100 (ค) = ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
ในการปฏบิ ตั ิงาน
คะแนน (ค) x 100 =
5
หมายเหตุ : 5 ซ่ึงเปน็ ตัวหาร หมายถึง คะแนนเตม็ ของผลการประเมนิ
100 ซงึ่ เป็นตัวคูณ หมายถึง การแปลงคะแนนรวมของผลงานให้เป็นคะแนนท่ีมฐี านคะแนนเต็มเป็น 100 คะแนน
280 275
สวนท่ี 3 สรปุ ผลการประเมนิ คะแนน (ก) นํา้ หนกั (ข) รวมคะแนน (ก) X (ข)
องคประกอบการประเมนิ 70 100
30
ผลงาน 100
คณุ ลกั ษณะในการปฏิบตั ิงาน
รวม
ระดบั ผลการประเมิน
ดเี ดน 90 – 100 คะแนน
ดมี าก 80 – 89 คะแนน
ดี 70 – 79 คะแนน
พอใช 60 – 69 คะแนน
ตองปรับปรงุ นอ ยกวา 60 คะแนน
ความเหน็ ของผูประเมนิ เก่ยี วกับผลงานและคณุ ลักษณะในการปฏิบตั ิงานของผูรับการประเมิน
ลงชือ่ )
(
ตําแหนง
วันท่ี
ไดรบั แจง ผลการประเมนิ แลว เมอ่ื วันท่ี
ลงชือ่ (ผูรบั การประเมิน)
( )
ตําแหนง
วันท่ี
281 274
281
ในกรณีผ้รู บั การประเมินไมย่ อมลงนาม ใหผ้ ้แู จง้ บันทึกไว้เป็นหลกั ฐาน
ความเหน็ ของผปู้ ระเมินเหนือข้ึนไป
เหน็ ดว้ ยกับการประเมินขา้ งตน้
มีความเหน็ แตกต่างจากการประเมินข้างตน้ ดงั นี้
ชอื่ )
(
ูลก จางและพ ันกงกา ุลนมร ่ีทาช๓การศาล ุย ิตธรรม
ตาแหน่ง
วนั ท่ี
ความเหน็ ของผ้บู ังคบั บัญชาเหนอื ขึน้ ไปอีกชัน้ หนึ่ง (ถ้ามี)
เหน็ ดว้ ยกบั การประเมนิ ขา้ งตน้
มคี วามเห็นแตกตา่ งจากการประเมนิ ข้างต้น ดังน้ี
ชอื่ )
(
ตาแหน่ง
วันที่