The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by daidomon63, 2021-10-26 22:57:34

รวมระเบียบกศ

รวมระเบียบกศ

134 131

134

หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และขนั้ ตอนการคดั เลอื กข้าราชการศาลยตุ ธิ รรม
ขนึ้ แตง่ ตั้งใหด้ ารงตาแหนง่ ประเภทบรหิ าร ระดบั ต้น

1. ให้เลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรมมีคาส่ังแต่งต้ังคณะกรรมการไมน่ ้อยกวา่ 5 คน
แตไ่ มเ่ กนิ 7 คน เพอ่ื พิจารณาคดั เลอื กขา้ ราชการประเภทบริหาร ระดับต้น ดังน้ี

1.1 ประธาน 1 คน
1.2 กรรมการประกอบดว้ ย

- รองเลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม ที่เลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม
มอบหมาย จานวน 1 คน

- ผูท้ รงคุณวฒุ ิภายนอก 1–3 คน
- ข้าราชการศาลยุติธรรมซ่ึงดารงตาแหน่งในระดับไม่ต่ากว่าตาแหน่งท่ีจะ
แตง่ ตง้ั จานวน 2 คน
ในกรณีท่ี ก.ศ. เห็นควรต้ังกรรมการเกิน 5 คน ให้แต่งต้ังข้าราชการฝ่ายตุลาการ
ศาลยตุ ธิ รรมที่ดารงตาแหน่งในระดับไมต่ ่ากว่าตาแหนง่ ท่ีจะแต่งตงั้ ไดอ้ ีกไม่เกนิ 2 คน
2. เมื่อมีตาแหน่งว่าง ให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบงานการเจ้าหน้าท่ีเสนอข้อมูลต่อ
เลขาธิการสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม เพือ่ เสนอไปยังคณะกรรมการ ดังนี้
- ชื่อและจานวนตาแหน่งว่าง พร้อมทั้งรายละเอียดเก่ียวกับตาแหน่งและความ
ต้องการของตาแหน่ง
- รายชื่อขา้ ราชการท่ีมคี ณุ สมบัติทจี่ ะได้รับการแตง่ ตั้ง พร้อมขอ้ มูลบุคคลพ้ืนฐานอนื่ ๆ
ที่เก่ียวข้องกับข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษา การฝึกอบรม ดูงาน ประสบการณ์ ความสามารถ ผลงาน
สาคญั พเิ ศษ ประวัตทิ างวินัย รวมทั้งผลการปฏิบตั ิงานประจาปี
3. ใหค้ ณะกรรมการดาเนนิ การ ดงั นี้
- กาหนดเกณฑ์การประเมนิ บุคคลให้เหมาะสมกบั ตาแหน่งทีจ่ ะแต่งตั้ง
- ประเมินและคัดเลือกผู้ซึ่งได้รับการเสนอชื่อทุกคน โดยพิจารณาเทียบข้อมูลบุคคล
เช่น คุณสมบัติ ผลงาน บทความแสดงความเห็น ประวัติการรับราชการของแต่ละคน กับหน้าที่
ความรับผดิ ชอบและความตอ้ งการของตาแหน่ง แล้วคัดเลือกให้เหลอื ผู้ซง่ึ เหมาะสมไวต้ าแหน่งละไม่เกิน 3 คน
- ใหค้ ณะกรรมการเสนอรายชอ่ื ผู้ได้รับการคัดเลอื กตอ่ เลขาธิการสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม
พรอ้ มทั้งความเหมาะสมและเหตผุ ลประกอบการพิจารณาดว้ ย
4. ให้เลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรมพิจารณารายชื่อผู้ที่คณะกรรมการเสนอแล้วให้
ดาเนินการตามข้ันตอนการแต่งตง้ั ตอ่ ไป
4.1 มคี ณุ สมบตั ิตรงตามคณุ สมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่ง
4.2 เลือ่ นและแตง่ ตง้ั ตามผลการประเมิน ความเหมาะสมกับตาแหน่ง และศักยภาพ

135 132

135

หลักเกณฑ์ วธิ ีการ และขนั้ ตอนการคดั เลอื กเพื่อเลือ่ นขา้ ราชการศาลยตุ ิธรรม
ขนึ้ แตง่ ต้งั ให้ดารงตาแหนง่ ประเภทบริหาร ระดับสูง1

ก.ศ. ได้กาหนดหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และข้ันตอนการคัดเลือกเพื่อเล่ือนข้าราชการศาลยุติธรรม การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน
ขึน้ แตง่ ตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่งประเภทบรหิ าร ระดบั สูง ไว้ดังต่อไปนี้

การเลื่อนข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง
ใหด้ าเนนิ การดังนี้

1. ให้ ก.ศ. มีคาส่ังแต่งตั้งคณะกรรมการจานวนไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 7 คน
เพ่ือพิจารณาคัดเลือกขา้ ราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ท่ีว่าง
ในสงั กัดสานักงานศาลยุติธรรม ดงั นี้

1.1 ประธาน 1 คน โดยใหท้ ่ีประชุม ก.ศ. เป็นผู้เลือก
1.2 กรรมการประกอบดว้ ย

1.2.1 รองเลขาธกิ ารสานกั งานศาลยตุ ิธรรม 1 คน ทมี่ อี าวุโสสงุ สดุ
1.2.2 ผแู้ ทน ก.ศ. 1 คน
1.2.3 ผทู้ รงคณุ วุฒใิ น ก.ศ. 1 คน
1.2.4 ผูแ้ ทน ก.บ.ศ. 1 คน
ในกรณีท่ี ก.ศ. เห็นสมควรแต่งตั้งคณะกรรมการเกิน 5 คน ให้แต่งต้ังข้าราชการฝ่าย
ตลุ าการศาลยตุ ิธรรมท่ดี ารงตาแหน่งในระดับไมต่ า่ กว่าตาแหน่งที่จะแตง่ ตง้ั ไดอ้ ีกไม่เกนิ 2 คน
1.3 ให้คณะกรรมการแต่งต้ังผู้อานวยการสานักการเจ้าหน้าท่ีเพ่ือทาหน้าที่
เลขานุการ แต่ถ้าเป็นผู้อยู่ในข่ายที่จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกด้วย ก็ให้เลือกผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ
งานการเจ้าหน้าทที่ าหนา้ ทีเ่ ลขานกุ ารแทน
2. เม่ือมีตาแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ว่างลง ให้สานักการเจ้าหน้าท่ีเสนอข้อมูล
ต่อเลขาธิการสานกั งานศาลยุตธิ รรมแลว้ แต่กรณี เพื่อส่งต่อไปยังคณะกรรมการ ดงั นี้
2.1 ชื่อและจานวนตาแหน่งว่างหรือท่ีจะว่าง พร้อมทั้งรายละเอียดเก่ียวกับ
หน้าท่ีความรับผิดชอบและความต้องการของตาแหน่งที่จะแต่งตั้ง เช่น ขอบเขตของงานในหน้าท่ี
ของตาแหน่ง ลักษณะงาน การควบคุมบังคับบัญชา คุณลักษณะของบุคคลที่จะสามารถปฏิบัติงาน
ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ หรอื คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์และจาเป็นต่อการปฏิบตั ิงานในตาแหนง่ เป็นตน้
2.2 รายช่ือข้าราชการศาลยุติธรรมทุกคนท่ีมีคุณสมบัติท่ีจะได้รับการแต่งต้ัง
ให้ดารงตาแหน่งที่ว่าง พร้อมข้อมูลบุคคลพ้ืนฐานอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวกับประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา
การฝึกอบรม ดงู าน ประสบการณ์ ความสามารถ ผลงานสาคัญพเิ ศษ ประวัตทิ างวินยั ในอดตี ของข้าราชการผู้น้ัน

1 แนบทา้ ยหนงั สอื สานกั งานศาลยุติธรรม ที่ ศย 004/ว 192 (ป) ลงวนั ท่ี 28 ธนั วาคม 2561

136

136 133
รวมทั้งเสนอผลการปฏิบัติงานประจาปีของผู้ซ่ึงได้รับการเสนอชื่อและความเห็นของผู้บังคับบัญชา
เกย่ี วกบั ความเหมาะสมและความพร้อมทีจ่ ะเลอื่ นตาแหน่งทสี่ ูงขึน้

ในกรณีที่พิจารณาจากข้าราชการซึ่งดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่าตาแหน่งประเภท
อานวยการ ระดับสูง หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือพนักงานองค์กรของรัฐหรือผู้มีประสบการณ์ทางการ
บริหารในภาคเอกชน ใหข้ อข้อมลู บุคคลจากตน้ สงั กัดหรือหนว่ ยงานเอกชน แล้วแตก่ รณี

3. ให้คณะกรรมการดาเนินการ ดงั นี้
3.1 กาหนดเกณฑ์การประเมินบุคคลให้เหมาะสมกับตาแหน่งที่จะแต่งตั้ง

โดยถือเกณฑ์ตามระเบียบคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของ
สานักงานศาลยุติธรรม พ.ศ. 2544 กล่าวคือ ให้คานึงถึงความรู้ความสามารถ ความประพฤติ และ
ประวัติการรับราชการ ซึ่งจะต้องมีผลงานเป็นท่ีประจักษ์ในความสามารถมาแล้วเป็นหลักและพิจารณา
ถงึ คุณลกั ษณะอ่ืน ๆ ทีจ่ าเปน็ ตอ้ งใชใ้ นการปฏบิ ัติงานในตาแหนง่ และส่วนราชการน้นั

3.2 ประเมินและคัดเลือกผู้ซึ่งได้รับการเสนอชื่อทุกคนโดยพิจารณาเทียบข้อมูลบุคคล
เช่น คุณสมบัติ ผลงาน บทความแสดงความคิดเห็น ประวัติการรับราชการของแต่ละคนกับหน้าท่ี
ความรับผิดชอบ และความต้องการของตาแหน่ง แล้วคัดเลือกให้เหลือผู้ซึ่งเหมาะสมไว้ตาแหน่งละ
ไมเ่ กิน 3 คน

ในกรณีท่ีเป็นการพิจารณาคราวละหลายตาแหน่งในระดับและสายงานเดียวกันและมีผู้
เข้ารับการพิจารณาเป็นจานวนมาก คณะกรรมการอาจคัดเลือกผู้ท่ีเหมาะสมสาหรับตาแหน่งต่าง ๆ ได้
ตามจานวนที่เห็นสมควร แต่จานวนผ้ทู ี่สมควรไดร้ ับคดั เลือกจะต้องมากกวา่ จานวนตาแหน่งท่ีจะแต่งตงั้

3.3 ให้คณะกรรมการเสนอรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกตามข้อ 3.2 ต่อเลขาธิการ
สานกั งานศาลยตุ ิธรรม พร้อมทั้งความเหมาะสมและเหตผุ ลไปประกอบการพิจารณาดว้ ย

4. ให้เลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรมเสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกต่อ ก.บ.ศ.
เพอื่ ฟงั ความเหน็ จากน้ันใหเ้ ลขาธกิ ารสานักงานศาลยุติธรรมเสนอรายชื่อพรอ้ มความเห็นของ ก.บ.ศ. ตอ่ ก.ศ.
เพื่อให้ความเหน็ ชอบ เมือ่ ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ศ. แล้ว ให้ประธานศาลฎกี าเปน็ ผ้มู ีอานาจส่ังบรรจุ
และดาเนนิ การเพอ่ื ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งตัง้ ต่อไป

137

137 134

(สาเนา)

ที่ ศย 004/ว 96 (ป) สานักงานศาลยุตธิ รรม
ถนนรชั ดาภิเษก เขตจตุจกั ร
กทม. 10900
22 สิงหาคม 2554
เร่ือง แนวทางการส่งแบบประเมินบุคคลและผลงาน ระยะเวลาการปรับปรงุ ผลงาน และจานวนผลงาน การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน
ท่ีส่งขอรับการคัดเลือกข้าราชการศาลยุติธรรมเพ่ือเลอ่ื นขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภททวั่ ไป
ระดับชานาญงาน
เรียน หวั หนา้ หนว่ ยงานในสังกดั สานกั งานศาลยตุ ิธรรม
อา้ งถึง 1. หนังสอื สานกั งานศาลยตุ ิธรรม ที่ ศย 004/ว 264 (ป) ลงวนั ท่ี 24 สงิ หาคม 2544
2. หนงั สอื สานกั งานศาลยุติธรรม ที่ ศย 004/ว 34 ลงวนั ท่ี 4 กมุ ภาพันธ์ 2545
3. หนงั สือสานกั งานศาลยตุ ิธรรม ที่ ศย 004/ว 309 ลงวนั ท่ี 11 มถิ นุ ายน 2553
สง่ิ ท่ีสง่ มาดว้ ย แนวทางการส่งแบบประเมินบุคคลและผลงาน ระยะเวลาการปรบั ปรงุ ผลงาน และจานวนผลงาน
ท่ีส่งขอรับการคัดเลือกข้าราชการศาลยุติธรรมเพ่ือเล่ือนขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทท่ัวไป ระดบั ชานาญงาน (สามารถดาวนโ์ หลดไดท้ ี่ www.ojoc.coj.go.th)
ตามหนังสือท่ีอ้างถึงลาดับท่ี 1 สานักงานศาลยุติธรรมได้ส่งคู่มือการกาหนดหลักเกณฑ์
การเลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการศาลยุติธรรมให้ดารงตาแหน่งในระดับที่สูงข้ึนตั้งแต่ระดับ 10 ลงมา
โดยมีสาระสาคัญเก่ียวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ ขั้นตอนการเลื่อนและแต่งต้ังข้าราชการศาลยุติ ธรรม
ในแต่ละระดับ และตามหนังสือท่ีอ้างถึงลาดับท่ี 2 ได้แจ้งหลักเกณฑ์วิธีการคัดเลือกเพื่อเล่ือนข้าราชการ
ศาลยุติธรรมขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งซึ่งมีลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติโดยอาศัยความรู้ ความชานาญ และ
ประสบการณ์เฉพาะตัว (นอกระดับควบของสายงานที่เร่ิมต้นจากระดับ 1 และระดับ 2) และลาดับที่ 3
แนวทางการบริหารงานบคุ คลขา้ ราชการศาลยุตธิ รรมใหม่ ความละเอียดแจง้ แล้ว น้ัน
บัดน้ี สานักงานศาลยุติธรรมได้กาหนดแนวทางการส่งแบบประเมินบุคคลและผลงาน
ระยะเวลาการปรับปรุงผลงาน และจานวนผลงานท่ีส่งขอรับการคัดเลือกข้าราชการศาลยุติธรรม
เพือ่ เลอ่ื นข้ึนแตง่ ตง้ั ให้ดารงตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับชานาญงาน โดยให้นาไปใช้สาหรับการคดั เลือก
ข้าราชการศาลยุตธิ รรมเพื่อเล่ือนขึน้ แต่งตง้ั ให้ดารงตาแหนง่ ประเภททว่ั ไป ระดับชานาญงาน ในตาแหน่งตา่ ง ๆ
ในสังกัดสานักงานศาลยุติธรรม รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ทั้งน้ี สาหรับหลักเกณฑ์และ
วิธีการคัดเลือกข้าราชการศาลยุติธรรมเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส
ยังคงใช้หลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารตามท่กี าหนดไวต้ ามหนังสือทีอ่ า้ งถงึ ลาดับท่ี 1 และลาดบั ท่ี 3
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอได้โปรดแจ้งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องทราบและถือเป็น
แนวปฏิบัติโดยทั่วกัน

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอ่ื ) วิรัช ชนิ วนิ ิจกลุ

(นายวริ ัช ชินวินิจกลุ )
เลขาธิการสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม

138

138 135
แนวทางการสง่ แบบประเมนิ บคุ คลและผลงาน ระยะเวลาการปรับปรงุ ผลงาน
และจานวนผลงานท่ีส่งขอรบั การคดั เลอื กขา้ ราชการศาลยุตธิ รรมเพ่อื เลอ่ื นข้นึ แตง่ ตง้ั

ใหด้ ารงตาแหนง่ ประเภททว่ั ไป ระดับชานาญงาน
(แนบท้ายหนังสือสานักงานศาลยุตธิ รรม ท่ี ศย 004/ว 96 (ป) ลงวนั ที่ 22 สิงหาคม 2554)

สานักงานศาลยุติธรรมโดยคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการศาลยุติธรรมเพ่ือเล่ือนขึ้น
แต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภทท่ัวไป ระดับชานาญงาน ได้กาหนดแนวทางการส่งแบบประเมินบุคคล
และผลงาน ระยะเวลาการปรับปรงุ ผลงาน และจานวนผลงานที่ส่งขอรับการคัดเลือกข้าราชการศาลยุติธรรม
เพ่ือเลอื่ นขนึ้ แตง่ ต้ังให้ดารงตาแหนง่ ประเภททั่วไป ระดบั ชานาญงาน ไวด้ งั ต่อไปน้ี

การแตง่ ตง้ั บคุ คลใหด้ ารงตาแหน่งดงั กล่าว ใหด้ าเนนิ การตามหลักเกณฑ์และวธิ กี าร ดงั ต่อไปน้ี

1. วธิ ีการคดั เลอื ก
การคัดเลือกเพ่ือเล่ือนข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภท

ท่วั ไป ระดบั ชานาญงาน ให้ใช้วิธีการประเมินผลงาน การทดลองปฏบิ ัติงาน และการสมั ภาษณ์ โดยผขู้ อรับการ
ประเมินจะต้องมีคุณสมบัติในการดารงตาแหน่งท่ีจะแต่งต้ังตามหนังสือสานักงานศาลยุติธรรม
ที่ ศย 004/ว 309 ลงวนั ท่ี 11 มิถนุ ายน 2554 ทก่ี าหนดไวโ้ ดยครบถ้วน

2. หลกั เกณฑก์ ารประเมนิ บคุ คลและผลงาน
การประเมนิ บคุ คลใหด้ าเนนิ การ 3 ส่วน คอื ขอ้ มลู เบอื้ งต้นของผู้ขอรบั การประเมนิ
การตรวจสอบคณุ สมบัตขิ องผูข้ อรับการประเมนิ และประเมนิ คุณลักษณะของบคุ คลและผลงาน ดังน้ี
2.1. การพิจารณาคณุ สมบัตขิ องบคุ คล ได้แก่
ตอนที่ 1 ข้อมูลเบือ้ งตน้ ของผ้ขู อรับการประเมิน
- ประวัตสิ ่วนตัว
- ประวัตกิ ารรบั ราชการ
- ระยะเวลาในการดารงตาแหนง่ ในสายงานท่จี ะแตง่ ตัง้
- อตั ราเงนิ เดอื น
- ประวัติการศึกษา คุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะตาแหน่ง
ทจ่ี ะแต่งต้งั ตามท่ี ก.ศ. กาหนดไว้ในมาตรฐานกาหนดตาแหนง่ ถ้ามคี ณุ วฒุ ิไมต่ รงจะตอ้ งไดร้ บั การยกเว้นจาก ก.ศ.
- ระยะเวลาการดารงตาแหน่งและอัตราเงินเดือนตรงตามที่กาหนดไว้ใน
หนังสือสานกั งานศาลยุตธิ รรม ท่ี ศย 004/ว 309 ลงวันท่ี 11 มิถนุ ายน 2553
คณุ วฒุ ิการศึกษา ระดบั ชานาญงาน
ม.3/มศ.3/ม.6 11 ปี
ประกาศนยี บตั ร ม.ปลาย (วช.1) 10 ปี
ประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) 8 ปี
ปวท./อนปุ รญิ ญา 2 ปี 7 ปี
ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชัน้ สงู (ปวส.) 6 ปี

139 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

139 136

ท้งั น้ี ตอ้ งได้รบั เงนิ เดือนข้ันต่าสาหรบั ตาแหน่งที่จะเลอ่ื นและแต่งตั้ง
ตอนท่ี 2 การตรวจคณุ สมบตั ขิ องผ้ขู อรับการประเมิน
(สาหรบั หนว่ ยงานการเจ้าหน้าที)่
ตอนท่ี 3 การประเมินคณุ ลักษณะของบุคคลเพอ่ื เลอ่ื นตาแหน่ง ไดแ้ ก่
- ความประพฤติ
- ความรบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ี
- ความอตุ สาหะ
- ความรบั ผดิ ชอบ
- ความสามารถในการปฏบิ ัตงิ านรว่ มกับเพอื่ นรว่ มงานอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
- คุณลกั ษณะอนื่ ๆ (ตามความจาเป็นของแต่ละตาแหน่ง)

2.2 การพจิ ารณาผลงาน
ผลงานท่ีจะนามาประเมิน ได้แก่ งานที่เกิดจากการปฏิบัติงานตามปกติ

ในตาแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ขอรับการประเมินและ/หรือเป็นงานที่ไดร้ ับมอบหมาย โดยเป็น
ผลงานยอ้ นหลังไม่เกนิ 2 ปี นับถงึ วนั ทผ่ี ู้ขอรับการประเมินย่นื ขอประเมิน เป็นผลงานเด่นที่เสนอจานวน
2 เร่ือง โดยส่งฉบับจริง 1 ชุด สาเนาจานวน 5 ชุด และฝ่ายเลขานุการฯ ดาเนินการจัดส่งผลงาน
ให้คณะกรรมการพิจารณา เมื่อผลงานผ่านการประเมินจะแจ้งให้ผู้รับการประเมินเข้ารับการสัมภาษณ์
กรณีที่ผลงานไม่ผ่านการประเมิน สานักคณะกรรมการข้าราชการศาลยุตธิ รรมจะแจ้งผลการประเมินดังกล่าว
ให้ผูข้ อรับการประเมินทราบวา่ มีสิ่งใดต้องปรบั ปรงุ และการปรับปรงุ ผลงานจะให้ปรับปรุงได้ไมเ่ กิน 3 คร้ัง
หากเกนิ 3 คร้งั ใหเ้ ป็นแก้ไข แล้วกลับไปเรยี งลาดบั ใหม่ สาหรบั การส่งผลงานปรบั ปรงุ จะตอ้ งดาเนินการ
ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน นับต้ังแต่วันท่ีได้รับแจ้ง หากพ้นกาหนด 1 เดือน หากยังไม่ดาเนินการ
ส่งผลงานทีป่ รบั ปรุงเขา้ มาจะนาผลงานนั้นไปตอ่ ลาดับสดุ ทา้ ย หรือเรยี งลาดบั ใหม่

2.3 การสัมภาษณ์ เม่ือผลงานของผู้ขอรับการประเมินผ่านการประเมิน
สานักคณะกรรมการขา้ ราชการศาลยุตธิ รรม จะมีหนังสือแจ้งให้ผู้รบั การประเมินเขา้ รบั การสัมภาษณ์

กรณีมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ขอรับการประเมิน
ในเร่ืองที่เก่ียวกับผลงานที่นามาเสนอขอประเมิน คณะกรรมการจะกาหนดให้ผู้ขอรับการประเมิน
ไปชีแ้ จงรายละเอยี ด วิธกี าร หรือข้ันตอนของผลงานดงั กล่าวเพิม่ เติมก็ได้

สานั กคณ ะกรรมการข้ าราชการศาลยุติธรรมโด ยฝ่ายเลข านุ การ
ในคณะกรรมการจัดทาระบบฐานข้อมูลกลางเพ่ือจัดเก็บผลงานท่ีผ่านการประเมินแล้ว และเป็นผลงาน
ท่ีมีคุณภาพมาตรฐาน สาหรับใช้เป็นตัวอย่างในการจัดทาผลงานให้ผู้ขอรับการประเมิน รายอ่ืน
หรอื ใช้ตรวจสอบในกรณีท่ีมีการลอกเลียนผลงาน
หมายเหตุ สามารถดาวน์โหลดเอกสารแนบทา้ ยไดท้ ่ี www.ojoc.coj.go.th

140

140 137

ท่ี ศย 004/ว 165 (ป) สานักงานศาลยุตธิ รรม
ถนนรัชดาภิเษก เขตจตจุ กั ร
กทม. 10900

18 พฤศจกิ ายน 2561

เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และข้ันตอนการคัดเลือกเพื่อเลื่อนข้าราชการศาลยุติธรรมขึ้นแต่งตั้งให้ดารง
ตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ในตาแหน่งนายช่างโยธา นายช่างศิลป์ และเจ้าพนักงาน
โสตทศั นศกึ ษา

เรียน หวั หน้าหน่วยงานในสังกดั สานกั งานศาลยุตธิ รรม

สิง่ ท่ีส่งมาด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และขน้ั ตอนการคัดเลือกเพ่ือเล่ือนขา้ ราชการศาลยุติธรรมขึ้นแต่งตั้ง
ให้ดารงตาแหน่งประเภทท่ัวไป ระดับอาวุโส ในตาแหนง่ นายช่างโยธา นายชา่ งศิลป์ และ
เจ้าพนกั งานโสตทศั นศกึ ษา

ด้วยคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมได้มีมติในการประชุมครั้งท่ี 12/2561
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2561 เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และขนั้ ตอนการคดั เลือกเพ่ือเลื่อนข้าราชการ
ศาลยุติธรรมขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส สาหรับตาแหน่งนายช่างโยธา
นายชา่ งศลิ ป์ และเจ้าพนักงานโสตทัศนศกึ ษา รายละเอียดปรากฏตามสง่ิ ที่สง่ มาด้วย

จงึ เรียนมาเพอ่ื โปรดทราบและถือปฏิบตั โิ ดยทัว่ กัน

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชือ่ ) สราวุธ เบญจกลุ

(นายสราวุธ เบญจกุล)
เลขาธิการสานกั งานศาลยุตธิ รรม

141 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

141 138
หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และขนั้ ตอนการคดั เลอื ก
เพ่ือเล่ือนขา้ ราชการศาลยตุ ธิ รรมขน้ึ แต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหนง่ ประเภททั่วไป ระดบั อาวุโส
ในตาแหนง่ นายช่างโยธา นายชา่ งศลิ ป์ และเจ้าพนกั งานโสตทศั นศกึ ษา
(แนบทา้ ยหนังสือสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม ที่ ศย 004/ว 165 (ป) ลงวันที่ 18 พฤศจกิ ายน 2561)

คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมได้กาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอน
การคัดเลือกเพ่ือเลื่อนข้าราชการศาลยุติธรรมขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส
ซึ่งมใิ ช่ตาแหนง่ หัวหนา้ ส่วนหรือหวั หน้ากล่มุ งาน เพ่อื ให้สานักงานศาลยตุ ิธรรมสามารถคดั เลอื กเพอ่ื เลอ่ื น
บุคคลให้ดารงตาแหน่งดังกล่าวได้อย่างมีคุณภาพเหมาะสม รวดเร็ว และสอดคล้องกับลักษณะงาน
อาศยั อานาจตามความในขอ้ 4 แห่งประกาศคณะกรรมการขา้ ราชการศาลยุตธิ รรม ท่ี 3/2544 ลงวันที่
11 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 เร่ือง การกาหนดหลักเกณฑ์การเลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการศาลยุติธรรม
ให้ดารงตาแหน่งในระดับทสี่ งู ขน้ึ ตั้งแตร่ ะดบั 10 ลงมา คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมจึงกาหนด
หลักเกณฑ์ วิธีการ และข้ันตอนการคัดเลือกเพ่ือเลื่อนข้าราชการศาลยุติธรรมให้ดารงตาแหน่งที่สูงข้ึน
ไวด้ ังต่อไปนี้

1. ให้ ก.ศ. แต่งต้ังคณะอนุกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม (อ.ก.ศ.) ดาเนินการ
คัดเลือกข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ประกอบด้วย
ข้าราชการฝา่ ยตุลาการศาลยุตธิ รรมหรือบุคคลตามท่ี ก.ศ. กาหนดอยา่ งน้อย 3 คน โดยมวี าระการดารง
ตาแหนง่ คราวละไม่เกิน 2 ปี

1.1 ประธานให้แต่งต้ังจากข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมซ่ึงมีประสบการณ์
หรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานท่ีจะประเมิน หรือสายงานที่เก่ียวข้องตามที่สานักงานศาลยุติธรรม
ได้จัดกลุ่มไว้ ตั้งแต่ประเภทอานวยการระดับสูง หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้าน
ท่ีมคี วามชานาญในสายงานน้ัน ๆ ซ่ึงไม่เคยเป็นข้าราชการมาก่อน

1.2 อนกุ รรมการให้แตง่ ตง้ั จาก
- ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ซ่ึงมีประสบการณ์ในสายงานที่จะ

ประเมินหรือผู้ท่ีเคยเป็นข้าราชการซ่ึงดารงหรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานที่จะประเมินตั้งแต่
ประเภทท่ัวไป ระดับอาวุโส หรอื เทียบเท่าข้ึนไป หรือประเภทอานวยการระดับต้น หรือเทียบเท่าขึ้นไป
ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในความสามารถมาแล้ว หรือผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้านท่ีมีความชานาญ
ในสายงานนั้น ๆ ซึง่ ไม่เคยเป็นข้าราชการมาก่อน จานวนไม่น้อยกว่า 1 คน แตไ่ ม่เกนิ 5 คน

- ผ้แู ทน ก.ศ. 1 คน
1.3 เลขานุการให้แต่งต้ังจากผู้รบั ผิดชอบงานการเจ้าหน้าทห่ี รือผู้ท่ีมปี ระสบการณ์
ด้านงานการเจ้าหน้าที่ซึ่งดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ตามที่เลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม
มอบหมาย

142

142 139
2. ให้ อ.ก.ศ. ทไ่ี ดร้ ับการแตง่ ตัง้ ตามข้อ 1 มหี น้าท่ีความรับผิดชอบ ดังน้ี

2.1 กาหนดวิธีการ วางมาตรฐาน ตลอดจนควบคุมคุณภาพการคัดเลือกบุคคล
ให้เหมาะสมกบั ตาแหน่งและลักษณะหนา้ ท่คี วามรบั ผดิ ชอบ

2.2 วินิจฉัยปัญหาใด ๆ ท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการคัดเลือกและรายงานผลการ
ดาเนนิ การตอ่ ก.ศ.

2.3 ปฏิบตั ิงานอนื่ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การคดั เลอื กตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย
3. ให้ อ.ก.ศ. ท่ีได้รับแต่งต้ัง ดาเนินการคัดเลือกตามวิธกี ารท่ี ก.ศ. กาหนด หรือให้ใช้
วิธใี ดวธิ ีหน่งึ หรอื หลายวิธี ดังนี้

3.1 การประเมินผลงาน
3.2 การสัมภาษณ์
3.3 การใหท้ ดลองปฏิบตั ิงาน
4. ข้าราชการศาลยุติธรรมผู้ซึ่งจะได้รับการเลื่อนข้ึนแต่งตั้งให้ดาร งตาแหน่ง
ประเภทท่วั ไป ระดบั อาวโุ ส จะต้องมคี ุณสมบตั ิดังต่อไปน้ี
4.1 เป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งตามที่กาหนดไว้ใน
มาตรฐานกาหนดตาแหน่งท่จี ะแต่งต้ัง
4.2 เป็นผู้ดารงตาแหนง่ ในสายงานทจ่ี ะเลอ่ื นขนึ้ แตง่ ตงั้ และปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ใี นสายงาน
ท่ีจะแต่งต้ังตามคณุ วฒุ ิของบุคคลติดต่อกนั มาแล้วตามระยะเวลาท่ีกาหนดไวใ้ นข้อ 6
4.3 เปน็ ผ้ผู ่านการคัดเลอื กตามวิธีการที่ ก.ศ. หรอื อ.ก.ศ. กาหนดในข้อ 3
5. การพิจารณาความเหมาะสมเพื่อเลื่อนข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งให้ดารง
ตาแหน่งดังกล่าว ให้คานึงถึงคุณลักษณะเฉพาะบุคคล เช่น ความประพฤติ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่
ความอุตสาหะ ประวัติการรับราชการ และความสามารถในการปฏิบัติงานร่วมกับเพ่ือนร่วมงานอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพด้วย
6. หลกั เกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัตขิ องบคุ คล
แบง่ ออกเปน็ 3 ตอน ดงั น้ี

ตอนที่ 1 ขอ้ มลู เบอ้ื งต้นของผขู้ อรับการประเมิน
- ประวตั สิ ่วนตวั
- ประวัตกิ ารรับราชการ
- ประวัติการศึกษา คุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะตาแหน่งท่ีจะ
แตง่ ตง้ั ตามที่ ก.ศ. กาหนดไวใ้ นมาตรฐานกาหนดตาแหนง่ ถา้ มีคุณวุฒิไมต่ รงจะต้องไดร้ บั การยกเว้นจาก
ก.ศ.
- ระยะเวลาในการดารงตาแหน่งตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง
- ระยะเวลาข้ันต่าในการดารงตาแหน่ง หรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานที่จะ
แตง่ ต้ังตามคณุ วฒุ ขิ องบุคคล ดงั น้ี

143

143 140

คุณวฒุ ิการศึกษา ระดบั อาวโุ ส การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน
ม.3/มศ.3/ม.6 15 ปี
ประกาศนยี บัตร ม.ปลาย (วช.1) 14 ปี
ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) 12 ปี
ประกาศนยี บตั รวิชาชพี เทคนิค (ปวท.)/อนุปริญญา 2 ปี 11 ปี
ประกาศนียบตั รวิชาชีพขัน้ สงู (ปวส.)/อนปุ ริญญา 3 ปี 10 ปี

การเจ้าหนา้ ท)่ี ตอนที่ 2 การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอรับการประเมิน (สาหรับหน่วยงาน
ตอนท่ี 3 การประเมนิ คณุ ลกั ษณะของบคุ คลเพอื่ เลื่อนตาแหนง่ ได้แก่

- ความประพฤติ
- ความรับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่
- ความอตุ สาหะ
- ความสามารถในการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกับเพื่อนรว่ มงานอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
- คณุ ลกั ษณะอ่นื ๆ (ตามความจาเป็นของแตล่ ะตาแหนง่ )

สานกั งานศาลยตุ ธิ รรมดาเนนิ การประเมินคุณลกั ษณะของบุคคล ดงั น้ี
ก) ใหผ้ ูบ้ งั คับบัญชาของผู้ขอรับการประเมิน คือ ผู้บงั คับบญั ชาทีค่ วบคมุ ดแู ล

การปฏิบตั ิงานของผู้ขอรับการประเมินโดยตรง ระดับหนึ่ง (หัวหน้าส่วนหรือเทียบเท่า หรือผู้อานวยการ
กรณีไม่มีหัวหน้าส่วนหรือเทียบเท่า) และผู้อานวยการ อีกระดับหนึ่ง เป็นผู้ประเมินคุณลักษณะ
ของบุคคล โดยกาหนดคุณลักษณะของผู้ท่ีจะรับการประเมินในสายงานน้ัน ๆ เป็นการล่วงหน้า ท้ังน้ี
อาจกาหนดคุณลักษณะท้ังหมดตามแนวทางที่กาหนดในแบบประเมินคุณลักษณะของบุคคล หรือจะ
กาหนดเฉพาะบางคุณลักษณะ หรือจะเพ่ิมเติมคุณลักษณะใด ๆ ที่จาเป็นและสาคัญนอกเหนือจาก
แนวทางท่ีกาหนดไว้ก็ได้ และให้กาหนดคะแนนเต็มความสาคัญของแต่ละคุณลักษณะไว้ด้วย โดย
คะแนนเต็มทีก่ าหนดนัน้ เมอื่ รวมกนั ทกุ รายการประเมินแล้วจะตอ้ งเท่ากับ 100 คะแนน

ข) การประเมินคุณลักษณะของบุคคลแต่ละรายการ ให้ผู้บังคับบัญชา
ตามข้อ ก) พิจารณากาหนดระดับการประเมินเป็น 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช้ และต้องแก้ไข
แลว้ ใหเ้ ปน็ คะแนนโดยใหใ้ ช้เกณฑก์ ารให้คะแนนโดยประมาณดงั นี้

ดมี าก หมายถงึ ไดค้ ะแนน รอ้ ยละ 91-100 ของคะแนนเต็ม
ดี หมายถงึ ได้คะแนน รอ้ ยละ 71-90 ของคะแนนเตม็
พอใช้ หมายถงึ ได้คะแนน รอ้ ยละ 60-70 ของคะแนนเตม็
ต้องแก้ไข หมายถงึ ไดค้ ะแนนน้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ของคะแนนเต็ม

ค) ผู้ขอรับการประเมินจะต้องได้คะแนนรวมท่ีผู้บังคับบัญชา (หัวหน้าส่วน
หรือเทียบเท่า หรือผอู้ านวยการ กรณไี ม่มหี ัวหน้าส่วนหรอื เทยี บเท่า) ประเมนิ ไม่ต่ากว่ารอ้ ยละ 60 และ
ผู้อานวยการ รวมถึงผู้บังคับบัญชาในระดับท่ีเหนือข้ึนไป (หมายถึง ผู้พิพากษาซ่ึงเป็นหัวหน้า
ในศาลยุติธรรม หรือผู้ช่วยเลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม ผู้ตรวจราชการ สานักงานศาลยุติธรรม
รองเลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม หรือเลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม หรือผู้แทน แล้วแต่กรณี)

144

144 141
มคี วามเห็นสอดคล้องวา่ ผา่ น จึงจะถอื ว่าเป็นผู้ท่ีผ่านการประเมินคุณลักษณะของบุคคล แล้วจึงจะเสนอ
ผลงานต่อไปได้ ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับมีความเห็นไม่สอดคล้องกัน ให้เสนอผู้มีอานาจส่ัง
บรรจุและแต่งตงั้ พจิ ารณาตอ่ ไป

ง) กรณีที่ไม่ผ่านการประเมินคุณลักษณะของบุคคล ให้ผู้อานวยการแจ้งผล
การประเมินดังกล่าวให้ผู้ขอรับการประเมินทราบว่ามีสิ่งใดท่ีต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ผู้ขอรับการประเมิน
ปรบั ปรุงพัฒนาตนเอง แล้วจะต้องทาการประเมินใหม่หลงั จาก 1 เดือน นับตง้ั แตว่ ันท่ีไดร้ ับแจง้

7. หลักเกณฑแ์ ละวิธีการคดั เลอื ก
7.1 การประเมนิ ผลงาน ประกอบดว้ ย 2 ส่วน คือ
7.1.1 ผลงานเด่นย้อนหลังไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันท่ีผู้ขอรับการประเมิน

ยน่ื ขอประเมิน จานวนไมน่ ้อยกวา่ 1 เรื่อง ไดแ้ ก่ งานที่เกิดจากการปฏิบัติงานตามปกติในตาแหน่งหนา้ ที่
ความรับผดิ ชอบของผู้ขอรบั การประเมนิ และ/หรือเป็นงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย และ

7.1.2 ข้อเสนอแนวคิดในการปรับปรุงงานหรือพัฒนางานจากประสบการณ์
ในงานที่ผ่านมา จานวน 1 เร่ือง เป็นข้อเสนอแนะหรือแนวคิดที่จะนาไปใช้ในการปรับปรุงหรือ
พัฒนางานที่เก่ียวข้องกับหน้าท่ีความรับผิดชอบของผู้ขอรับการประเมิน อาจเป็นภารกิจหน้าที่
ความรับผิดชอบตามโครงสร้างการแบ่งงานภายในของสานักงานศาลยุติธรรม หรือหน้าท่ีความ
รับผิดชอบตามมาตรฐานกาหนดตาแหนง่ หรือภารกิจตามแผนปฏบิ ัติการ/แผนยทุ ธศาสตร์ศาลยุติธรรม
หรือภารกิจตามนโยบายของผู้บริหารศาลยุติธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรู้ความชานาญของผู้ขอรับ
การประเมินจากการส่ังสมประสบการณ์ในงานท่ีผ่านมา โดยเป็นข้อเสนอหรือแนวคิดในลักษณะใด
ลกั ษณะหนึ่ง ดังน้ี

- ข้อเสนอแนวคิดในการปรับปรุงงาน เป็นแนวคิดท่ีจะนาไปใช้ในการ
ปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติงาน ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีปัญหาและยังไม่สามารถแก้ไขได้ ให้สามารถแก้ไข
ปัญหาอปุ สรรคดังกลา่ วได้ หรือ

- ข้อเสนอแนวคิดในการพัฒนางาน เป็นแนวคิดท่ีจะนาไปใช้
ในการพัฒนาการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น ซึ่งการปฏิบัติงานดังกล่าวในปัจจุบัน
อาจไม่ได้มีปัญ หาแต่อย่างใด แต่นาไปใช้เพิ่มผลสัมฤทธิ์ของงาน ลดขั้นตอนการทางาน
ประหยัดงบประมาณ อานวยความสะดวกในการทางาน ปรับเปลี่ยนสภาพหรือระบบการทางาน เป็นต้น

สาหรับจานวนเล่มของผลงานที่จะส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาให้เป็นไป
ตามที่ อ.ก.ศ. กาหนด

ทั้งนี้ ผลงานท่ีจะนามาประเมินต้องแสดงขอบเขต คุณภาพ ความยุ่งยาก
ซับซ้อนในการดาเนินงาน ประโยชน์ของผลงาน ความรู้ ความชานาญงาน และประสบการณ์ที่จาเป็น
ตอ้ งใช้ในการปฏิบัติงาน โดยมเี ง่อื นไขดังน้ี

1) เปน็ ผลงานทจ่ี ดั ทาขนึ้ ในระหว่างทดี่ ารงตาแหนง่ ในระดบั ที่ต่ากว่า
ระดบั ท่ีขอประเมิน 1 ระดบั เว้นแต่ ก.ศ. จะกาหนดเปน็ อยา่ งอ่ืน

2) ไม่ใช่ผลงานวิจัย หรือวิทยานิพนธ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา
เพอื่ ขอรับปรญิ ญา หรือประกาศนยี บัตร หรือเปน็ ส่วนหน่งึ ของการฝึกอบรม

145 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

145 142
3) กรณีที่เป็นผลงานร่วมกันของบุคคลหลายคนจะต้องแสดงให้เห็น
ว่าผู้ขอรับการประเมิน ได้มีส่วนร่วมในการจัดทาหรือผลิตผลงานในส่วนใด และหรือเป็นสัดส่วนเท่าใด
และมีคารับรองจากผู้มีส่วนรว่ มในผลงานนั้น และจากผบู้ ังคบั บัญชาดว้ ย
4) ผลงานที่ได้นามาใช้ประเมินเพื่อเลื่อนข้ึนแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง
ในระดบั ที่สูงขน้ึ แล้ว จะนามาเสนอให้ประเมินเพ่ือเลอื่ นขึ้นดารงตาแหนง่ ในระดบั ที่สงู ข้นึ อีกไมไ่ ด้
7.1.3 เง่อื นไขในการประเมนิ ผลงาน
1) ให้ผู้ขอรับการประเมินจัดทาแบบประเมินบุคคลและผลงาน
(เอกสารแนบท้ายหมายเลข 1) คารับรองตามมาตรการป้องกันและลอกเลียนผลงานหรือนาผลงานของ
ผู้อ่ืนมาใช้เป็นผลงานของผู้ขอรับการประเมิน (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 2) แบบเสนอผลการปฏิบัติงาน
ยอ้ นหลัง 2 ปี (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 3) พร้อมท้ังผลงานและข้อเสนอแนวคิดในการปรับปรุงงาน
หรือพัฒนางานตามลักษณะและรูปแบบที่ ก.ศ. กาหนด (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 4 และ 5)
แล้วจัดสง่ ไปยังสานกั คณะกรรมการขา้ ราชการศาลยุตธิ รรม
2) ให้เลขานุการของคณะอนุกรรมการ เป็นผู้ตรวจสอบรูปแบบของ
ผลงานท่ีนามาเสนอขอประเมินว่าเป็นไปตามรูปแบบท่ีกาหนดหรือไม่ หากเห็นว่าไม่ตรงตามรูปแบบ
ท่ีกาหนด ให้ประสานกับผู้ขอรับการประเมินเพื่อปรับแก้ให้ถูกต้องตรงตามรูปแบบที่กาหนด หากเป็น
กรณีท่ีไม่สามารถวินิจฉัยได้ให้หารือกับประธานอนุกรรมการในคณะน้ันวินิจฉัยต่อไป โดยให้เลขานุการ
รายงานผลการดาเนินการใหค้ ณะอนุกรรมการทราบดว้ ย
3) กรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณาผลงานของผู้ขอรับการประเมิน
แล้วเห็นว่า จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมผลงานในส่วนที่เป็นสาระสาคัญให้ถือว่าผลงานน้ันเป็นผลงานที่แก้ไข
โดยให้ผู้ขอรับการประเมินแก้ไขผลงานเพ่ือส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน 3 เดือน นับต้ังแต่
วันท่ีได้รับแจ้งจากคณะอนุกรรมการเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าส่งผลงานท่ีแก้ไขล่วงเลยระยะเวลาที่
กาหนด จะต้องยน่ื เรอ่ื งขอประเมนิ คุณสมบัติของบุคคลและประเมินคณุ ลักษณะของบุคคลใหมพ่ ร้อมกับ
ผลงานเรอื่ งเดิมทเี่ คยส่งใหค้ ณะอนุกรรมการพิจารณาแลว้
4) กรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณาผลงานของผู้ขอรับการประเมิน
แลว้ เหน็ ว่าจะตอ้ งแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ รายละเอียดในสว่ นทไ่ี มเ่ ปน็ สาระสาคัญของผลงานให้ถือวา่ ผลงานน้ันเป็น
ผลงานปรับปรุง โดยให้ผู้ขอรับการประเมินปรับปรุงผลงานเพื่อส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน
1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากคณะอนุกรรมการเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าส่งผลงานท่ีทาการ
ปรับปรุงแลว้ ล่วงเลยระยะเวลาท่กี าหนดหรอื หากคณะอนกุ รรมการพจิ ารณาแล้วมีมติวา่ การปรบั ปรงุ น้ัน
เปน็ การปรบั ปรุงรายละเอยี ดของผลงานในประเดน็ เดิมมากกว่า 2 คร้ัง กาหนดให้ผลงานนัน้ เปน็ ผลงาน
ทีแ่ ก้ไข
5) กรณีท่ีคณะอนุกรรมการมีมติเห็นชอบให้แก้ไขผลงาน เพ่ือส่งให้
คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน 3 เดอื น หรอื กรณีคณะอนุกรรมการมีมติให้ปรับปรุงผลงานเพื่อส่งให้
คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน 1 เดือน กาหนดระยะเวลาดังกล่าวให้เร่ิมนับต้ังแต่วันท่ีหน่วยงาน
ต้นสังกัดของผูข้ อรบั การประเมินได้รับแจ้งมตจิ ากคณะอนกุ รรมการเปน็ ลายลักษณ์อกั ษร
6) กาหนดใหม้ ีท่ีปรกึ ษาในคณะอนุกรรมการ โดยให้อนุกรรมการคน
ใดคนหน่ึงทาหนา้ ที่เป็นผู้ให้คาปรึกษาแนะนาแก่ผู้ขอรับการประเมินแต่ละรายเกยี่ วกบั รายละเอียดและ
ขอ้ สงั เกตต่าง ๆ ในการจดั ทาผลงาน

146

146 143

7) กรณีมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ขอรับ
การประเมินในเรื่องท่ีเกี่ยวกับผลงานที่นามาเสนอขอประเมิน คณะอนุกรรมการจะกาหนดให้ผู้ขอรับ
การประเมนิ มาชี้แจงรายละเอยี ด วิธกี าร หรือขั้นตอนของผลงานดงั กล่าวเพ่ิมเติมก็ได้
8) การประเมินผลงานของบุคคลให้เป็นไปตามหลักเกณ ฑ์
(เอกสารแนบท้ายหมายเลข 6) ดังนี้
8.1) องค์ประกอบและคะแนนองค์ประกอบ คะแนนเต็ม 100
คะแนน แบ่งเป็น
(1) ความรู้ ความชานาญ ความเชย่ี วชาญ
และประสบการณ์ (คะแนนเตม็ 30 คะแนน)
(2) ขอ้ เสนอแนวคดิ ในการปรบั ปรงุ งานหรอื พฒั นางานจาก
ประสบการณใ์ นงานทผี่ ่านมา(คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
(3) คุณภาพของผลงาน (คะแนนเตม็ 20 คะแนน)
(4) ประโยชนข์ องผลงาน (คะแนนเต็ม 20 คะแนน)
8.2) เกณฑ์การพิจารณาตัดสิน ผขู้ อรบั การประเมินตอ้ งไดค้ ะแนน
ทกุ องค์ประกอบรวมกันไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60
9) เม่ือคณะอนุกรรมการไดพ้ ิจารณาวา่ ผลงานนั้นผ่านการประเมินแล้ว
ให้เลขานุการคณะอนุกรรมการสรุปผลการพิจารณาคุณสมบัติของบุคคล การประเมินคุณลักษณะของ
บคุ คล และการประเมินผลงาน โดยจัดส่งแบบประเมินบุคคลและผลงาน (เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 1)
แบบเสนอผลการปฏิบัติงานย้อนหลัง 2 ปี (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 3) แบบประเมินผลงาน
(เอกสารแนบท้ายหมายเลข 6) และแบบสรุปการประเมินผลงานเพื่อเลื่อนข้าราชการศาลยุติธรรมขึ้น
แต่งตั้งในระดับท่ีสูงขึ้น (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 7) ไปยังสานักการเจ้าหน้าที่ เพ่ือเสนอผู้มีอานาจ
ส่งั บรรจุและแตง่ ต้ังดาเนินการแต่งตั้งตอ่ ไป
10) กรณีท่ีคณะอนกุ รรมการพิจารณาผลงานของผู้ขอรบั การประเมินแล้ว
มีมตใิ หผ้ ลงานไม่ผา่ นการประเมนิ ใหด้ าเนินการดงั น้ี
- ให้รายงานผลการพิจารณาไปยังสานักคณะกรรมการข้าราชการ
ศาลยุติธรรมเพื่อเสนอผู้มีอานาจส่ังบรรจุและแต่งต้ังทราบโดยแนบแบบแสดงการประเมินผลงาน และ
แบบประเมินผลงานของบุคคลเพื่อเลื่อนข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งในระดับท่ีสูงขึ้น พร้อมท้ัง
แจ้งใหผ้ ู้ขอรับการประเมินทราบ
- หากเป็นตาแหน่งท่ีบุคคลน้ันดารงอยู่ ให้ผขู้ อรับการประเมินจัดทา
ผลงานเรื่องใหม่ภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากคณะอนุกรรมการเป็นลายลักษณ์อักษร
ถ้าส่งผลงานเรื่องใหม่ล่วงเลยระยะเวลาท่ีกาหนด จะต้องย่ืนเรื่องขอประเมินคุณสมบัติของบุคคลและ
ประเมนิ คณุ ลกั ษณะของบคุ คลใหม่ พร้อมกับผลงานเร่ืองใหม่ เพ่อื ขอประเมนิ บุคคลเข้ามาใหม่
- หากเป็นตาแหน่งว่าง ให้สานักงานศาลยุติธรรมพิจารณาคัดเลือก
บุคคลที่จะเข้ารับการประเมินเพ่ือแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภทท่ัวไป ระดับอาวุโส ใหม่ ในอัตรา
1 ราย ต่อ 1 ตาแหน่ง โดยใช้แนวทางตามหนังสือสานักงานศาลยุติธรรม ที่ ศย 004/ว 309
ลงวันท่ี 11 มิถุนายน 2553

147 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

147 144
11) การพิจารณาประเมินผลงานของบคุ คล ให้จัดทารายงานการประชุม
เป็นหลักฐานทุกคร้ัง โดยให้จดรายงานการประชุมเฉพาะประเด็นที่มีมติเท่าน้ัน เพื่อประโยชน์
ในการตรวจสอบและมีความรวดเร็วในการแจ้งผขู้ อรับการประเมินเพอื่ ดาเนินการต่อไป
7.2 การสมั ภาษณ์
ใหด้ าเนินการตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการท่ี อ.ก.ศ. กาหนด
7.3 การให้ทดลองปฏิบตั งิ าน
ใหด้ าเนินการตามหลกั เกณฑ์และวิธีการที่ อ.ก.ศ. กาหนด
ในกรณีท่ีคณะอนุกรรมการเห็นว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการพิจารณาคุณสมบัติ
หรือการดาเนินการคัดเลือก ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ศ. กาหนด ให้ประธานอนุกรรมการส่งเรื่อง
ให้ ก.ศ. เป็นผพู้ ิจารณาวินิจฉัย

148

148 145

ท่ี ศย 004/ว 53 (ป) สานกั งานศาลยตุ ธิ รรม
ถนนรัชดาภเิ ษก เขตจตุจกั ร
กทม. 10900

13 มนี าคม 2563

เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และข้ันตอนการคัดเลือกเพื่อเลื่อนข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งให้ดารง
ตาแหนง่ เจา้ พนกั งานตารวจศาล ระดับชานาญงาน และระดบั อาวุโส

เรียน หัวหนา้ หนว่ ยงานในสังกัดสานกั งานศาลยุติธรรม

สิ่งทสี่ ง่ มาด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และขน้ั ตอนการคดั เลือกเพ่ือเลอื่ นขา้ ราชการศาลยุติธรรมข้ึนแตง่ ตั้ง
ให้ดารงตาแหน่งเจา้ พนักงานตารวจศาล ระดับชานาญงาน และระดบั อาวุโส

ด้วยคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม ในการประชุมคร้ังท่ี 3/2563 เม่ือวันที่
12 มีนาคม 2563 เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และข้ันตอนการคัดเลือกเพ่ือเล่ือนข้าราชการ
ศาลยุติธรรมข้ึนแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานตารวจศาล ระดับชานาญงาน และระดับอาวุโส
รายละเอยี ดปรากฏตามส่งิ ท่ีส่งมาด้วย

สาหรับหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินเพ่ือเลื่อนขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งเจ้าพนักงาน
ตารวจศาล ระดับชานาญการและระดับชานาญการพิเศษ กรณีมิใช่หัวหน้าส่วนหรือกลุ่มงาน เห็นควร
ให้ใช้ตามแนวทางหนังสือสานักงานศาลยุติธรรม ท่ี ศย 004/ว 40 (ป) ลงวันท่ี 15 มีนาคม 2561
หรือตามท่ีสานักงานศาลยุติธรรมกาหนด โดยให้พิจารณาภารกิจ อานาจหน้าท่ี และคุณสมบัติของ
เจา้ พนกั งานตารวจศาลตามพระราชบัญญตั เิ จ้าพนกั งานตารวจศาล พ.ศ. 2562 ระเบียบคณะกรรมการ
ข้าราชการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการแต่งต้ังเจ้าพนักงานตารวจศาล พ.ศ. 2562 ประกอบกับมาตรฐาน
กาหนดตาแหนง่ ที่เหมาะสมกับระดับตาแหน่ง

จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏบิ ตั ติ อ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชื่อ) สราวธุ เบญจกลุ

(นายสราวุธ เบญจกลุ )
เลขาธิการสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม

149 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

149 146
หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และขน้ั ตอนการคดั เลือกเพื่อเล่ือนขา้ ราชการศาลยตุ ธิ รรม
ขึ้นแตง่ ตัง้ ให้ดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานตารวจศาล ระดบั ชานาญงาน และระดบั อาวโุ ส
(แนบทา้ ยหนังสอื สานักงานศาลยุตธิ รรม ที่ ศย 004/ว 53 (ป) ลงวนั ท่ี 13 มนี าคม 2563)

คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมได้กาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และข้ันตอน
การคัดเลือกเพื่อเล่ือนข้าราชการศาลยุติธรรมขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานตารวจศาล ระดับ
ชานาญงาน และระดับอาวุโส ซึ่งมิใช่ตาแหน่งหัวหน้าส่วนหรือหัวหน้ากลุ่มงาน เพ่ือให้สานักงาน
ศาลยุติธรรมสามารถคัดเลือกเพ่ือเลื่อนบุคคลให้ดารงตาแหน่งดังกล่าวได้อย่างมีคุ ณภาพเหมาะสม
รวดเร็ว และสอดคล้องกับลักษณะงาน อาศัยอานาจตามความในข้อ 4 แห่งประกาศคณะกรรมการ
ขา้ ราชการศาลยตุ ิธรรม ท่ี 3/2544 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 เรื่อง การกาหนดหลักเกณฑ์
การเลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการศาลยุติธรรมให้ดารงตาแหน่งในระดับที่สูงข้ึนตั้งแต่ระดับ 10 ลงมา
คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมจึงกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และข้ันตอนการคัดเลือกเพื่อเลื่อน
ขา้ ราชการศาลยตุ ิธรรมใหด้ ารงตาแหน่งทสี่ งู ขน้ึ ไว้ดังตอ่ ไปนี้

1. ให้ ก.ศ. แต่งต้ังคณะอนุกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม (อ.ก.ศ.) ดาเนินการ
คัดเลือกข้าราชการศาลยุติธรรมขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานตารวจศาล ระดับชานาญงาน
และระดับอาวุโส ประกอบด้วยข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมหรือบุคคลตามที่ ก.ศ. กาหนด
อย่างน้อย 3 คน โดยมีวาระการดารงตาแหนง่ คราวละไมเ่ กนิ 2 ปี

1.1 ประธานให้แต่งต้ังจากข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมซึ่งมีประสบการณ์
หรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานที่จะประเมิน หรือสายงานท่ีเก่ียวข้องตามที่สานักงานศาลยุติธรรม
ได้จัดกลุ่มไว้ ตั้งแต่ประเภทอานวยการ ระดับสูง หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้าน
ท่ีมคี วามชานาญในสายงานนนั้ ๆ

1.2 อนุกรรมการให้แตง่ ตงั้ จาก
- ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ซึ่งมีประสบการณ์ในสายงานท่ีจะ

ประเมินหรือผู้ท่ีเคยเป็นข้าราชการซ่ึงดารงหรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานที่จะประเมินต้ังแต่
ประเภททั่วไป ระดับอาวุโส หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือประเภทอานวยการ ระดับต้น หรือเทียบเท่าขึ้นไป
ซ่ึงมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในความสามารถมาแล้ว หรือผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้านที่มีความชานาญ
ในสายงานนัน้ ๆ จานวนไมน่ ้อยกว่า 1 คน แตไ่ มเ่ กิน 5 คน

- ผแู้ ทน ก.ศ. 1 คน
1.3 เลขานุการใหแ้ ต่งต้ังจากผู้รับผิดชอบงานการเจ้าหน้าที่หรือผู้ท่ีมปี ระสบการณ์
ด้านงานการเจ้าหน้าที่ซึ่งดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ตามที่เลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม
มอบหมาย
2. ให้ อ.ก.ศ. ที่ไดร้ บั การแตง่ ต้ังตามขอ้ 1 มีหน้าทค่ี วามรับผิดชอบ ดงั นี้
2.1 กาหนดวิธีการ วางมาตรฐาน ตลอดจนควบคุมคุณภาพการคัดเลือกบุคคล
ใหเ้ หมาะสมกบั ตาแหนง่ และลักษณะหนา้ ที่ความรบั ผิดชอบ

150

150 147
2.2 วินิจฉัยปัญหาใด ๆ ท่ีเกิดขึ้นจากการดาเนินการคัดเลือกและรายงานผลการ
ดาเนนิ การตอ่ ก.ศ.
2.3 ปฏิบัติงานอืน่ ทเี่ กยี่ วข้องกบั การคัดเลอื กตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
3. ให้ อ.ก.ศ. ท่ีได้รับแต่งต้ัง ดาเนินการคัดเลือกตามวิธีการท่ี ก.ศ. หรือสานักงาน
ศาลยุติธรรมกาหนด โดยพิจารณาภารกิจ อานาจหน้าท่ี และคุณสมบัติของเจ้าพนักงานตารวจศาล
ตามพระราชบัญญัติเจ้าพนักงานตารวจศาล และระเบียบคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมว่าด้วย
การแตง่ ต้ังเจ้าพนกั งานตารวจศาล ประกอบกับมาตรฐานกาหนดตาแหน่งท่ีเหมาะสมกับระดับตาแหน่ง
หรอื ให้ใช้วธิ ีใดวธิ หี น่ึง หรอื หลายวิธี ดังน้ี
3.1 การประเมินผลงาน
3.2 การสมั ภาษณ์
3.3 การให้ทดลองปฏิบตั งิ าน
4. ข้าราชการศาลยุติธรรมผู้ซึ่งจะได้รับการเล่ือนขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง
เจา้ พนักงานตารวจศาล ระดบั ชานาญงาน และระดบั อาวโุ ส จะต้องมีคณุ สมบตั ดิ งั ต่อไปน้ี
4.1 เป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งตามท่ีกาหนดไว้ใน
พระราชบัญญตั ิเจา้ พนกั งานตารวจศาลและมาตรฐานกาหนดตาแหนง่ ท่จี ะแตง่ ต้ัง
4.2 เปน็ ผ้ดู ารงตาแหนง่ ในสายงานทจี่ ะเลอื่ นขนึ้ แตง่ ตงั้ และปฏบิ ตั หิ น้าทีใ่ นสายงาน
ทจ่ี ะแต่งตั้งตามคณุ วุฒิของบุคคลตดิ ต่อกนั มาแลว้ ตามระยะเวลาทีก่ าหนดไว้ในขอ้ 6
4.3 เปน็ ผูผ้ ่านการคัดเลอื กตามวธิ ีการที่ ก.ศ. หรอื อ.ก.ศ. กาหนดในข้อ 3
5. การพิจารณาความเหมาะสมเพื่อเล่ือนข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งต้ังให้ดารง
ตาแหน่งดังกล่าว ให้คานึงถึงคุณลักษณะเฉพาะบุคคล เช่น ความประพฤติ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่
ความอุตสาหะ ประวัติการรับราชการ และความสามารถในการปฏิบัติงานร่วมกับเพ่ือนร่วมงานอย่างมี
ประสทิ ธิภาพดว้ ย
6. หลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาคณุ สมบัติของบุคคล แบง่ ออกเปน็ 3 ตอน ดังน้ี
ตอนที่ 1 ข้อมูลเบ้อื งตน้ ของผูข้ อรบั การประเมิน

- ประวัตสิ ว่ นตัว
- ประวัตกิ ารรับราชการ
- ประวัติการศึกษา คุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะตาแหน่งที่จะ
แต่งตง้ั ตามท่ี ก.ศ. กาหนดไวใ้ นมาตรฐานกาหนดตาแหนง่ ถา้ มีคุณวฒุ ไิ มต่ รงจะต้องได้รับการยกเว้นจาก
ก.ศ.
- ระยะเวลาในการดารงตาแหน่งตามมาตรฐานกาหนดตาแหนง่
- ระยะเวลาขั้นต่าในการดารงตาแหน่ง หรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานท่ีจะ
แต่งตง้ั ตามคณุ วฒุ ิของบคุ คล ระดับชานาญงาน และระดับอาวโุ ส ดงั น้ี

151

151 148

คณุ วฒุ ิการศกึ ษา ระดบั ชานาญงาน ระดบั อาวโุ ส การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน
ม.3/มศ.3/ม.6 11 ปี 15 ปี
ประกาศนยี บัตร ม.ปลาย (วช.1) 10 ปี 14 ปี
ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) 8 ปี 12 ปี
ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพเทคนคิ (ปวท.)/อนปุ ริญญา 2 ปี 7 ปี 11 ปี
ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ข้ันสงู (ปวส.)/อนุปริญญา 3 ปี 6 ปี 10 ปี

ตอนท่ี 2 การตรวจคุณสมบตั ขิ องผขู้ อรับการประเมนิ (สาหรบั หน่วยงานการเจ้าหน้าท)่ี
ตอนที่ 3 การประเมินคุณลกั ษณะของบุคคลเพอ่ื เลื่อนตาแหน่ง ไดแ้ ก่

- ความประพฤติ
- ความรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่
- ความอตุ สาหะ
- ความสามารถในการปฏิบตั งิ านรว่ มกับเพอื่ นร่วมงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- คณุ ลักษณะอ่ืน ๆ (ตามความจาเปน็ ของแตล่ ะตาแหนง่ )

7. การประเมนิ คุณลกั ษณะของบุคคล ดาเนินการดงั นี้
7.1 ให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ขอรับการประเมิน คือ ผู้บังคับบัญชาที่ควบคุมดูแล

การปฏิบัติงานของผู้ขอรับการประเมินโดยตรง ระดับหนึ่ง (หัวหน้าส่วน/กลุ่มงานหรือเทียบเท่า หรือ
ผู้อานวยการ กรณีไม่มีหัวหน้าส่วน/กลุ่มงานหรือเทียบเท่า) และผู้อานวยการ อีกระดับหน่ึง
เป็นผู้ประเมินคุณลกั ษณะของบุคคล โดยกาหนดคณุ ลักษณะของผู้ที่จะรับการประเมินในสายงานน้ัน ๆ
เป็นการล่วงหน้า ทั้งน้ี อาจกาหนดคุณลักษณะเฉพาะบางคุณลักษณะ หรือจะเพิ่มเติมคุณลักษณะใด ๆ
ท่ีจาเป็นและสาคัญนอกเหนือจากแนวทางท่ีกาหนดไว้ก็ได้ และให้กาหนดคะแนนเต็มของแต่ละ
คุณลักษณะไว้ด้วย โดยคะแนนเต็มท่ีกาหนดนั้น เมื่อรวมกันทุกรายการประเมินแล้วจะต้องเท่ากับ 100
คะแนน

7.2 การประเมนิ คุณลักษณะของบคุ คลแตล่ ะรายการ ใหผ้ ้บู งั คบั บัญชาตามข้อ 7.1
พจิ ารณากาหนดระดับการประเมินเป็น 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช้ และต้องแก้ไข แล้วให้เป็นคะแนน
โดยใหใ้ ช้เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนโดยประมาณ ดงั น้ี

ดีมาก หมายถึง ไดค้ ะแนน รอ้ ยละ 91-100 ของคะแนนเตม็
ดี หมายถึง ไดค้ ะแนน รอ้ ยละ 71-90 ของคะแนนเต็ม
พอใช้ หมายถงึ ไดค้ ะแนน รอ้ ยละ 60-70 ของคะแนนเตม็
ต้องแก้ไข หมายถงึ ไดค้ ะแนนน้อยกวา่ ร้อยละ 60 ของคะแนนเตม็
7.3 ผูข้ อรับการประเมนิ ตอ้ งได้คะแนนรวมทผ่ี ู้บังคบั บญั ชา (หัวหน้าส่วน/กลุ่มงาน
หรือเทียบเท่า) ประเมินไม่ต่ากว่าร้อยละ 60 และผู้อานวยการ รวมถึงผู้บังคับบัญชาในระดับท่ี
เหนือข้ึนไป (หมายถึง ผู้พิพากษาซึ่งเป็นหัวหน้าในศาลยุติธรรม หรือผู้ช่วยเลขาธิการสานักงาน
ศาลยุติธรรม รองเลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม หรือเลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม หรือผู้แทน
แล้วแต่กรณี) มีความเห็นสอดคล้องว่าผ่าน จึงจะถือว่าเป็นผู้ที่ผ่านการประเมินคุณลักษณะของบุคคล

152

152 149
แล้วจึงจะเสนอผลงานต่อไปได้ ในกรณีท่ีผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับมีความเห็นไม่สอดคล้องกัน ให้เสนอ
ผูม้ อี านาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งพิจารณาต่อไป

7.4 กรณีที่ไม่ผ่านการประเมินคุณลักษณะของบุคคล ให้ผู้อานวยการแจ้งผล
การประเมินดังกล่าวให้ผู้ขอรับการประเมินทราบว่ามีสิ่งใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพ่ือให้ผู้ขอรับ
การประเมินปรับปรุงพัฒนาตนเอง แล้วจะต้องทาการประเมินใหม่หลังจาก 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่
ได้รบั แจ้ง

8. หลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารคัดเลือก
8.1 การประเมนิ ผลงาน
8.1.1 จานวนผลงาน
ก. ระดับชานาญงาน ประกอบด้วย
1) ผลการปฏบิ ตั ิงานย้อนหลงั 2 ปี (ปรมิ าณงาน)
2) ผลงานเด่น จานวนไม่น้อยกว่า 2 เร่ือง ย้อนหลังไม่เกิน 2 ปี

นับถึงวันท่ีผู้ขอรับการประเมินยื่นขอประเมิน เป็นผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติงานตามปกติในตาแหน่ง
หนา้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบของผ้ขู อรบั การประเมินและ/หรอื เปน็ งานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย

ข. ระดับอาวโุ ส ประกอบด้วย
๑) ผลการปฏิบัตงิ านยอ้ นหลัง ๒ ปี (ปริมาณงาน)
2) ผลงานเด่น จานวนไม่น้อยกว่า 1 เรื่อง ย้อนหลังไม่เกิน 2 ปี

นับถึงวันท่ีผู้ขอรับการประเมินย่ืนขอประเมิน เป็นผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติงานตามปกติในตาแหน่ง
หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ขอรับการประเมินและ/หรอื เปน็ งานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย

3) ข้อเสนอแนวคิดในการปรับปรุงงานหรือพัฒนางาน จาก
ประสบการณใ์ นงานท่ีผ่านมา จานวน 1 เรอื่ ง เป็นข้อเสนอแนะหรือแนวคิดท่ีจะนาไปใช้ในการปรับปรุง
หรือพัฒนางานที่เก่ียวข้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ขอรับการประเมิน อาจเป็นภารกิจตาม
แผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม หรือภารกิจตามนโยบายของผู้บริหารศาลยุติธรรม หรือภารกิจหน้าท่ี
ความรับผิดชอบตามโครงสร้างการแบ่งงานภายในของสานักงานศาลยุติธรรม หรือตามพระราชบัญญัติ
เจ้าพนักงานตารวจศาลหรือตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรู้ความชานาญ
ของผู้ขอรับการประเมินจากการสั่งสมประสบการณ์ในงานท่ีผ่านมา โดยเป็นข้อเสนอหรือแนวคิด
ในลักษณะใดลกั ษณะหนึง่ ดังนี้

- ข้อเสนอแนวคิดในการปรับปรุงงาน เป็นแนวคิดที่จะนาไปใช้
ในการปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติงาน ซ่ึงในปัจจุบันพบว่ามีปัญหาหรือข้อบกพร่องและยังไม่สามารถ
แกไ้ ขไดใ้ ห้สามารถแก้ไขปญั หาอปุ สรรคดังกลา่ วได้ หรอื

- ข้อเสนอแนวคิดในการพัฒนางาน เป็นแนวคิดท่ีจะนาไปใช้ใน
การพัฒนาการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการปฏิบัติงานดังกล่าวในปัจจุบันอาจไม่ได้
มีปัญหาแต่อย่างใด แต่นาไปใช้เพิ่มผลสัมฤทธ์ิของงาน ลดขั้นตอนการทางาน ประหยัดงบประมาณ
อานวยความสะดวกในการทางาน ปรับเปลย่ี นสภาพหรอื ระบบการทางาน เปน็ ตน้

สาหรับจานวนเล่มของผลงานท่ีจะส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณา
ใหเ้ ปน็ ไปตามที่ อ.ก.ศ. กาหนด

153 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

153 150
8.1.2 ลักษณะและเงอื่ นไขของผลงาน

ผลงานท่ีจะนามาประเมินต้องมีความถูกต้องเหมาะสมในด้านเทคนิค
และวิธีการ เป็นผลงานท่ีมีคุณภาพและมีประโยชน์ สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นผู้มีความรู้ ความชานาญงาน
และประสบการณ์ของผู้ขอรับการประเมิน ท้ังนี้ อาจมีการประเมินผลงานด้วยวิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น
การสัมภาษณ์ เป็นต้น โดยมีลักษณะและเงือ่ นไขการจดั ทาผลงาน ดังนี้

1) เป็นผลงานท่ีจัดทาขึ้นในระหว่างที่ดารงตาแหน่งในระดับที่
ตา่ กวา่ ระดบั ที่ขอประเมิน 1 ระดบั เวน้ แต่ ก.ศ. จะกาหนดเปน็ อย่างอ่นื

2) ไม่ใช่ผลงานวิจยั หรอื วิทยานิพนธ์ท่ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษา
เพือ่ ขอรบั ปริญญา หรือประกาศนยี บัตร หรือเป็นส่วนหนึ่งของการฝกึ อบรม

3) กรณีที่เป็นผลงานรว่ มกันของบุคคลหลายคนจะต้องแสดงใหเ้ ห็นว่า
ผู้ขอรับการประเมิน ได้มีส่วนร่วมในการจัดทาหรือผลิตผลงานในส่วนใด และหรือเป็นสัดส่วนเท่าใด
และมีคารับรองจากผูม้ ีส่วนร่วมในผลงานน้ัน และจากผูบ้ ังคับบัญชาด้วย

4) ผลงานที่ไดน้ ามาใชป้ ระเมนิ เพอื่ เล่อื นขนึ้ แตง่ ตง้ั ให้ดารงตาแหนง่
ในระดบั ทีส่ งู ขึน้ แล้ว จะนามาเสนอให้ประเมนิ เพื่อเลอ่ื นขึ้นดารงตาแหน่งในระดบั ที่สูงขึ้นอีกไมไ่ ด้

8.1.3 แนวทางในการประเมนิ ผลงาน
1) ให้ผู้ขอรับการประเมินจัดทาแบบประเมินบุคคลและผลงาน

(เอกสารแนบท้ายหมายเลข 1) คารับรองตามมาตรการป้องกันและลอกเลียนผลงานหรอื นาผลงานของ
ผู้อ่ืนมาใช้เป็นผลงานของผู้ขอรับการประเมิน (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 2) แบบเสนอผล
การปฏิบัติงานย้อนหลัง 2 ปี (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 3) พร้อมท้ังผลงาน ตามรูปแบบที่กาหนด
สาหรบั ระดับชานาญงาน (เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 4) หรือระดับอาวโุ ส (เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 5)
และขอ้ เสนอแนวคิดในการปรับปรงุ หรอื พฒั นางาน สาหรับระดับอาวโุ ส (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 6)
แล้วจัดส่งไปยังสานักคณะกรรมการขา้ ราชการศาลยตุ ธิ รรม

2) ให้เลขานุการของคณะอนุกรรมการ เป็นผู้ตรวจสอบรูปแบบ
ของผลงานท่นี ามาเสนอขอประเมินวา่ เปน็ ไปตามรปู แบบทีก่ าหนดหรือไม่ หากเหน็ ว่าไมต่ รงตามรปู แบบ
ท่ีกาหนด ให้ประสานกับผู้ขอรับการประเมินเพ่ือปรับแก้ให้ถูกต้องตรงตามรูปแบบที่กาหนด หากเป็น
กรณีที่ไม่สามารถวินิจฉัยได้ให้หารือกับประธานอนุกรรมการในคณะน้ันวินิจฉัยต่อไป โดยให้เลขานุการ
รายงานผลการดาเนนิ การใหค้ ณะอนุกรรมการทราบด้วย

3) กรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณาผลงานแล้วเห็นว่าจะต้อง
แก้ไขเพ่ิมเติมผลงานในส่วนท่ีเป็นสาระสาคัญให้ถือว่าผลงานน้ันเป็น ผลงานที่แก้ไข ให้ผู้ขอรับ
การประเมินแก้ไขผลงานส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน 3 เดือน นับแต่วันท่ีได้รับแจ้งจาก
คณะอนุกรรมการเป็นลายลักษณ์อักษร กรณีส่งผลงานท่ีแก้ไขล่วงเลยระยะเวลาที่กาหนด จะต้องย่ืน
เรื่องขอประเมินคุณสมบัติและประเมินคุณลักษณะของบุคคลใหม่ พร้อมกับผลงานเรื่องเดิมที่เคยส่งให้
คณะอนุกรรมการพจิ ารณาแลว้

4) กรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณาผลงานแล้วเห็นว่าจะต้อง
ปรับปรุงเพ่ิมเติมรายละเอียดในส่วนท่ีไม่เป็นสาระสาคัญของผลงานให้ถือว่าผลงานน้ันเป็น ผลงาน
ปรับปรุง ให้ผู้ขอรับการประเมินปรับปรุงผลงานเพื่อส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน 1 เดือน
นับแต่วันท่ีได้รับแจ้งจากคณะอนุกรรมการเป็นลายลักษณ์อักษร กรณีส่งผลงานท่ีปรับปรุงแล้วล่วงเลย

154

154 151
ระยะเวลาท่ีกาหนด หรือหากคณะอนุกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการปรับปรุงรายละเอียด
ของผลงานในประเดน็ เดมิ มากกวา่ 2 ครั้ง ให้ผลงานนัน้ เป็นผลงานแกไ้ ข

5) กรณที ค่ี ณะอนกุ รรมการมีมติเห็นชอบใหแ้ กไ้ ขผลงาน เพอ่ื สง่ ให้
คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน 3 เดอื น หรือกรณคี ณะอนุกรรมการมีมติให้ปรับปรุงผลงานเพ่ือส่งให้
คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน 1 เดือน กาหนดระยะเวลาดังกล่าวให้เร่ิมนับต้ังแต่วันที่หน่วยงาน
ตน้ สังกดั ของผขู้ อรบั การประเมนิ ได้รบั แจง้ มตจิ ากคณะอนุกรรมการเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร

6) กาหนดให้มีท่ีปรึกษาในคณะอนุกรรมการ โดยให้อนุกรรมการ
คนใดคนหนึ่งทาหน้าท่ีเป็นผู้ให้คาปรึกษาแนะนาแก่ผู้ขอรับการประเมินแต่ละรายเ ก่ียวกับรายละเอียด
และข้อสังเกตตา่ ง ๆ ในการจัดทาผลงาน

7) กรณีมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ขอรับ
การประเมินในเร่ืองท่ีเกี่ยวกับผลงานท่ีนามาเสนอขอประเมิน คณะอนุกรรมการจะกาหนดให้ผู้ขอรับ
การประเมนิ มาช้แี จงรายละเอียด วิธกี าร หรอื ขัน้ ตอนของผลงานดงั กล่าวเพ่ิมเติมก็ได้

8) การประเมนิ ผลงานของบคุ คลใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ท่กี าหนด
สาหรับระดบั ชานาญงาน (เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 7) และระดบั อาวุโส (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 8)
โดยผู้ขอรับการประเมินตอ้ งไดค้ ะแนนทุกองค์ประกอบรวมกนั ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60

9) เมื่อคณะอนุกรรมการไดพ้ ิจารณาวา่ ผลงานน้ันผา่ นการประเมินแล้ว
ให้เลขานุการคณะอนุกรรมการสรุปผลการพิจารณาคุณสมบัติของบุคคล การประเมินคุณลักษณะของ
บคุ คล และการประเมินผลงาน โดยจัดส่งแบบประเมินบุคคลและผลงาน (เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 1)
แบบเสนอผลการปฏิบัติงานย้อนหลัง 2 ปี (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 3) แบบประเมินผลงาน
(เอกสารแนบท้ายหมายเลข 7 หรือ 8) และแบบสรุปการประเมินผลงานเพ่ือเลื่อนข้าราชการ
ศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งในระดับท่ีสูงข้ึน (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 9) ไปยังสานักการเจ้าหน้าที่
เพอ่ื เสนอผู้มอี านาจส่ังบรรจุและแตง่ ตัง้ ดาเนินการแตง่ ตง้ั ต่อไป

10) กรณีทค่ี ณะอนุกรรมการพิจารณาผลงานของผู้ขอรับการประเมินแล้ว
มีมติใหผ้ ลงานไม่ผ่านการประเมนิ ใหด้ าเนินการดังน้ี

- ให้รายงานผลการพิจารณาไปยังสานักคณะกรรมการ
ข้าราชการศาลยุติธรรมเพื่อเสนอผู้มีอานาจส่ังบรรจุและแต่งต้ังทราบโดยแนบแบบแสดงการประเมิน
ผลงานและแบบประเมินผลงานของบุคคลเพ่ือเล่ือนข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งในระดับที่สูงขึ้น
พรอ้ มทัง้ แจ้งให้ผ้ขู อรับการประเมินทราบ

- หากเป็นตาแหน่งท่ีบุคคลน้ันดารงอยู่ ให้ผู้ขอรับการประเมิน
จดั ทาผลงานเรื่องใหมภ่ ายใน 3 เดอื นนับตง้ั แต่วันทีไ่ ด้รับแจ้งจากคณะอนกุ รรมการเป็นลายลักษณอ์ ักษร
ถ้าส่งผลงานเร่ืองใหม่ล่วงเลยระยะเวลาที่กาหนด จะต้องย่ืนเรื่องขอประเมินคุณสมบัติของบุคคลและ
ประเมนิ คณุ ลักษณะของบคุ คลใหม่ พร้อมกบั ผลงานเร่ืองใหม่ เพือ่ ขอประเมินบคุ คลเขา้ มาใหม่

11) การพิจารณาประเมินผลงานของบุคคล ให้จัดทารายงาน
การประชุมเปน็ หลกั ฐานทกุ ครงั้ โดยใหจ้ ดรายงานการประชุมเฉพาะประเดน็ ทม่ี มี ตเิ ทา่ นนั้ เพอ่ื ประโยชน์
ในการตรวจสอบและมีความรวดเร็วในการแจ้งผู้ขอรบั การประเมินเพ่อื ดาเนินการตอ่ ไป

8.2 การสมั ภาษณ์
ให้ดาเนนิ การตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการที่ อ.ก.ศ. กาหนด

155 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

155 152
8.3 การใหท้ ดลองปฏบิ ตั ิงาน

ใหด้ าเนนิ การตามหลกั เกณฑ์และวิธีการที่ อ.ก.ศ. กาหนด
9. สาหรับแนวทาง หลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินเพ่ือเล่ือนข้ึนแต่งตั้งให้ดารง
ตาแหน่งเจ้าพนักงานตารวจศาล ระดับชานาญการ และระดับชานาญการพิเศษ ให้ใช้ตามหลักเกณฑ์
วิธีการและข้ันตอนการประเมินบุคคลเพ่ือเล่ือนข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง
ประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ และระดับชานาญการพิเศษ หรือตามท่ีสานักงานศาลยุติธรรม
กาหนด
ในกรณีที่คณะอนุกรรมการเห็นว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการพิจารณาคุณสมบัติ
หรือการดาเนินการคัดเลือก ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ศ. กาหนด ให้ประธานอนุกรรมการส่งเรื่อง
ให้ ก.ศ. เปน็ ผู้พจิ ารณาวนิ ิจฉัย

156

156 153

(สาเนา)

ที่ ศย 004/ว 40 (ป) สานกั งานศาลยตุ ธิ รรม
ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจกั ร
กรงุ เทพฯ 10900

15 มีนาคม 2561

เรื่อง การแกไ้ ขเพ่ิมเติมกระบวนการและแนวทางในการพจิ ารณาผลงานของบคุ คลเพอื่ เลือ่ นข้าราชการ
ศาลยุตธิ รรมขนึ้ แต่งตงั้ ในระดับที่สงู ข้ึน

เรยี น หวั หนา้ หนว่ ยงานในสังกัดสานักงานศาลยตุ ิธรรม

อ้างถงึ 1. หนังสือสานักงานศาลยตุ ธิ รรม ท่ี ศย 004/ว 91 (ป) ลงวนั ท่ี 4 สงิ หาคม 2554
2. หนงั สือสานักงานศาลยตุ ธิ รรมท่ี ศย 004/ว 47 (ป) ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2560

สิง่ ที่ส่งมาดว้ ย หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และขนั้ ตอนการประเมนิ บคุ คลเพ่อื เลอื่ นข้าราชการศาลยตุ ธิ รรมขนึ้
แตง่ ต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ และระดบั ชานาญการพเิ ศษ
(สามารถดาวนโ์ หลดได้ทเ่ี วบ็ ไซตส์ านักการเจ้าหนา้ ท่ี www.op.coj.go.th)

ตามหนังสือที่อ้างถึง 1 และ 2 สานักงานศาลยุติธรรมได้ส่งหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
ข้ันตอนการประเมินบุคคลเพ่ือเลอ่ื นข้าราชการศาลยุติธรรมขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ
ระดับชานาญการ และระดับชานาญการพิเศษ ให้หน่วยงานในสังกัดสานักงานศาลยุติธรรมทราบ
และถือปฏบิ ตั ิโดยท่วั กนั ความละเอยี ดแจง้ แล้ว น้ัน

บัดนี้คณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมได้มีมติในการประชุมคร้ังท่ี 3/2561
เมื่อวันท่ี 15 มีนาคม 2561 ให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และข้ันตอนการประเมินบุคคลเพ่ือเลื่อน
ข้าราชการศาลยุติธรรมขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ และระดับ
ชานาญการพิเศษ ตามแนบท้ายหนังสือสานักงานศาลยุติธรรม ที่ ศย 004/ว 91 (ป) ลงวันท่ี
4 สิงหาคม 2554 และตามแนบท้ายหนังสือสานักงานศาลยุติธรรม ที่ ศย 004/ว 47 (ป) ลงวันท่ี
6 กรกฎาคม 2560 โดยให้ยกเลิกหลักเกณฑ์ท่ีเก่ียวข้องกับการจัดทาเค้าโครงผลงาน ทั้งน้ี
ในกรณีที่อยู่ระหว่างพิจารณาเค้าโครงผลงานให้ผู้ขอรับการประเมินจัดส่งผลงานตามรูปแบบที่กาหนด
ใหค้ ณะอนกุ รรมการพจิ ารณาภายใน 3 เดอื น นับแต่วนั ท่ีได้มีการแจ้งเวยี นมตดิ งั กล่าว

สานกั งานศาลยุติธรรมจึงเห็นสมควรยกเลกิ หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และขน้ั ตอนการประเมนิ บคุ คล
เพ่ือเล่ือนข้าราชการศาลยุติธรรมข้ึนแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ และ
ระดับชานาญการพิเศษ ตามหนังสือทอี่ ้างถึง 1 และ 2 และใช้หลกั เกณฑ์ วิธีการ และขนั้ ตอนการประเมินบคุ คล
เพื่อเลื่อนข้าราชการศาลยุติธรรมขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ และ
ระดับชานาญการพิเศษ แนบท้ายหนังสือเวียนฉบับน้ีแทน รายละเอียดปรากฏตามส่ิงท่ีส่งมาด้วย ท้ังนี้
ในกรณที อ่ี ยู่ระหวา่ งพิจารณาเคา้ โครงผลงานให้ผู้ขอรับการประเมนิ จดั ส่งผลงานตามรปู แบบท่กี าหนดให้
คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน 3 เดือน นับแตว่ ันท่ไี ด้มหี นังสือเวียนฉบับน้ี

157 154

157 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถอื ปฏบิ ตั ิโดยทว่ั กัน
ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงชื่อ) สราวธุ เบญจกุล
(นายสราวุธ เบญจกุล)

เลขาธกิ ารสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม

158

158 155
หลักเกณฑว์ ิธกี าร และขน้ั ตอนการประเมนิ บคุ คลเพื่อเลอ่ื นขา้ ราชการศาลยตุ ธิ รรม
ข้ึนแต่งต้ังใหด้ ารงตาแหน่งประเภทวชิ าการ ระดบั ชานาญการ และระดบั ชานาญการพเิ ศษ
(แนบทา้ ยหนังสอื สานกั งานศาลยุตธิ รรม ที่ ศย 004/ว 40 (ป) ลงวนั ที่ 15 มนี าคม 2561)

ก.ศ. ได้กาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนการประเมินบุคคลเพื่อเลื่อนข้าราชการ
ศาลยุติธรรมขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ และระดับชานาญการพิเศษ
ซึ่งมใิ ช่ตาแหนง่ หัวหนา้ กล่มุ หรอื หัวหน้าสว่ น ไวด้ ังตอ่ ไปน้ี

1. การขอประเมนิ บุคคล
1.1 ให้สานักงานศาลยุตธิ รรมขอประเมินเพ่ือแตง่ ต้ังให้ดารงตาแหน่งในระดบั ท่ีสงู กว่า

ระดับตาแหนง่ ท่ีผู้น้ันดารงอยู่ได้ไม่เกิน 1 ระดับ เมื่อมีตาแหน่งว่างหรือเป็นตาแหน่งที่บุคคลนั้นดารงอยู่
โดยผู้ขอรับการประเมินจะต้องมีคุณสมบัติในการดารงตาแหน่งที่จะแต่งตั้งตามที่ ก .ศ. กาหนดไว้
โดยครบถ้วน ในกรณีท่ีผู้ขอรับการประเมินมีคุณสมบัติยังไม่ครบถ้วนในขณะที่ขอรับการประเมิน ก็อาจขอ
ประเมินล่วงหน้าได้ แต่ท้ังนี้ผู้ขอรับการประเมินจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี
นับตั้งแตว่ นั ท่มี ีคาขอประเมนิ

การขอประเมินเพ่ือแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งในขณะท่ียังมีผู้อ่ืนดารงอยู่ให้กระทาได้
ในกรณีดงั ต่อไปน้ี

ก) กรณีที่ผู้ดารงตาแหน่งอยู่เดิมจะต้องพ้นจากราชการไปเพราะเกษียณอายุ
ใหข้ อประเมินล่วงหนา้ ไดไ้ มเ่ กิน 6 เดอื น กอ่ นท่ีผ้ดู ารงตาแหน่งนน้ั จะพ้นจากราชการ

ข) กรณีท่ีผู้ดารงตาแหน่งอยู่เดิมขอลาออกจากราชการ ให้ขอประเมินล่วงหน้าได้
ไม่กอ่ นวนั ทีผ่ ้ทู ม่ี ีอานาจอนุญาตการลาออกไดอ้ นุญาตให้ผูด้ ารงตาแหน่งนัน้ ลาออกจากราชการ

ค) กรณอี ืน่ ท่มี เี หตุผลและความจาเป็นซ่งึ ก.ศ. จะพิจารณาเปน็ ราย ๆ ไป
1.2 การขอประเมินเพ่ือแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งในแต่ละระดับ ให้สานัก
คณะกรรมการข้าราชการศาลยุตธิ รรมส่งเรื่องใหค้ ณะอนกุ รรมการประเมนิ ท่ี ก.ศ. แตง่ ต้ังเพือ่ พิจารณา
2. หลักเกณฑก์ ารประเมินบุคคล
การประเมินบุคคลให้ดาเนินการ 3 ส่วน คือ พิจารณาคุณสมบัติของบุคคล
ประเมินคุณลกั ษณะของบุคคล และประเมินผลงาน ดังน้ี
2.1 การพิจารณาคุณสมบัตขิ องบคุ คล ได้แก่

ก) ขอ้ มลู ท่ัวไป
- ประวตั สิ ่วนตวั
- ประวตั กิ ารรับราชการ
- ประวัตกิ ารฝึกอบรม / ดูงาน
- ประสบการณใ์ นการทางาน
- อตั ราเงินเดือน

ข) คุณสมบัตเิ ฉพาะสาหรบั ตาแหนง่ ประกอบดว้ ย

159

159 156

- คุณวุฒิการศึกษา (ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะตาแหน่งท่ีจะแต่งตั้งตามท่ี การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน
ก.ศ. กาหนดไว้ในมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง ถ้ามีคุณวฒุ ิไมต่ รงจะตอ้ งได้รบั การยกเว้นจาก ก.ศ.)

- คุณสมบัติเพ่ิมเติมตามที่ ก.ศ. กาหนดไว้ในหลักเกณฑ์การประเมินของ
แต่ละสายงาน เช่น ใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพ เปน็ ต้น

- ระยะเวลาการดารงตาแหน่ง และการปฏิบัติงานตามที่ ก.ศ. กาหนด
ไว้ในมาตรฐานกาหนดตาแหนง่

- ระยะเวลาขั้นต่าในการดารงตาแหน่ง หรือเคยดารงตาแหน่ง
ในสายงานท่ีจะแต่งตั้งตามคุณวฒุ ขิ องบุคคลและระดบั ตาแหน่งท่จี ะแตง่ ตง้ั ดงั นี้

ระดบั คณุ วุฒิ ชานาญการ ชานาญการพเิ ศษ
ปรญิ ญาตรีหรือเทียบเท่า 6 ปี 8 ปี
ปริญญาโทหรือเทียบเทา่ 4 ปี 6 ปี
ปรญิ ญาเอกหรือเทียบเท่า 2 ปี 4 ปี

ทั้งน้ี อาจนาระยะเวลาในการดารงตาแหน่ง หรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานอ่ืนที่
เร่ิมต้นจากระดับเดียวกัน ซึ่งมีลักษณะงานเชิงวิชาการ หรือวิชาชีพท่ีเก่ียวข้อง หรือเก้ือกูลมานับรวมเป็น
ระยะเวลาขนั้ ต่าดังกล่าวได้

กรณีที่เป็นคุณวุฒิอื่น ๆ ก.ศ. จะพิจารณากาหนดระยะเวลาขั้นต่าในการดารง
ตาแหนง่ เปน็ สายงาน ๆ ไป

2.2 การประเมนิ คณุ ลกั ษณะของบคุ คล ไดแ้ ก่
-มีความเปน็ ผู้นา
- มมี นษุ ย์สมั พนั ธท์ ด่ี ี
- มีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม
- มีวฒุ ภิ าวะทางอารมณห์ รอื ความม่ันคงทางอารมณ์
- ความรบั ผดิ ชอบ
- ความคดิ ริเริ่ม
- การแก้ไขปญั หาและการตดั สนิ ใจ
- ความประพฤติ
- ความสามารถในการสอื่ ความหมาย
- การพัฒนาตนเอง
- คุณลกั ษณะอนื่ ๆ ( ตามความจาเปน็ ของแต่ละตาแหน่ง )

2.3 การประเมินผลงาน
ก) ผลงานท่ีจะนามาประเมิน ได้แก่ ผลงานและหรือผลสาเร็จของงานท่ีเกิด

จากการปฏิบัติงานตามปกติในตาแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ขอรับการประเมิน โดยเป็นผลงาน
ย้อนหลังไม่เกิน 3 ปี ทั้งนี้ หากผลงานที่นามาประเมินน้ันมีเน้ือหาในส่วนที่เป็นกฎหมาย/ระเบียบ/
ขอ้ บังคับ/ประกาศที่เกีย่ วข้อง ซ่งึ มกี ารแก้ไขเพ่ิมเตมิ หรอื ยกเลกิ แล้ว ใหน้ าเสนอและชแี้ จงถงึ ข้อกฎหมาย
หรือระเบียบฉบับที่แก้ไขเพ่ิมเติมดังกลา่ วดว้ ย

160

160 157
ทั้งนี้ ผลงานท่ีจะนามาประเมินต้องแสดงขอบเขต คุณภาพ ความยุ่งยาก
ซับซ้อนในการดาเนินงาน ประโยชน์ของผลงาน ความรู้ ความชานาญงาน และประสบการณ์
ที่จาเป็นต้องใช้ในการปฏบิ ตั งิ าน โดยมีเงอ่ื นไขดังน้ี
(1) เป็นผลงานท่ีจัดทาขึ้นในระหว่างท่ีดารงตาแหน่งในระดับที่ต่ากว่า
ระดับท่ีขอประเมนิ 1 ระดบั เว้นแต่ ก.ศ. จะกาหนดเป็นอย่างอ่นื
(2) ไม่ใช่ผลงานวิจัย หรือวิทยานิพนธ์ที่เป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาเพื่อ
ขอรบั ปริญญา หรือประกาศนียบตั ร หรือเปน็ สว่ นหนงึ่ ของการฝึกอบรม
(3) กรณีท่ีเป็นผลงานร่วมกันของบุคคลหลายคนจะต้องแสดงให้เห็นว่า
ผู้ขอรับการประเมิน ได้มีส่วนร่วมในการจัดทาหรือผลิตผลงานในส่วนใด และหรือเป็นสัดส่วนเท่าใด
และมคี ารบั รองจากผู้มสี ่วนรว่ มในผลงานนั้น และจากผบู้ ังคบั บญั ชาด้วย
(4) ผลงานที่ได้นามาใช้ประเมินเพ่ือเลื่อนขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง
ในระดับท่ีสูงขึน้ แลว้ จะนามาเสนอใหป้ ระเมินเพอ่ื เลอื่ นขึน้ ดารงตาแหนง่ ในระดบั ทีส่ ูงขนึ้ อีกไมไ่ ด้
ข) แนวทางการประเมินผลงาน ใหพ้ ิจารณาจาก
(1) ผลการปฏิบัติงานและหรือผลสาเร็จของงาน จานวน 1 ชิ้น หรือตามที่ ก.ศ.
กาหนดโดยให้เน้นการนาเสนอในเชงิ วชิ าการ แสดงใหเ้ ห็นถงึ งานในเชงิ พัฒนาและสะทอ้ นถงึ ความยุ่งยาก
ในการดาเนนิ งาน รวมท้ังอาจมีการประเมินผลงานดว้ ยวิธีอ่ืน ๆ ประกอบด้วย เชน่ การสัมภาษณ์ เป็นตน้
(2) คุณภาพของผลงานของตาแหน่งแต่ละระดับ
(3) ความยงุ่ ยาก ซับซ้อนของผลงานของตาแหน่งแต่ละระดับ
(4) ประโยชน์ของผลงานในการนาไปใชข้ องตาแหนง่ แต่ละระดับ
(5) ความรู้ ความชานาญงาน หรือความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ใน
การปฏิบัติงาน เป็นการพิจารณาว่าผลงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้ขอรับประเมินมีความรู้ ความ
ชานาญงาน หรือความเช่ียวชาญ และประสบการณ์ในงานนน้ั ๆ เหมาะสมกบั ระดับตาแหน่งท่จี ะแตง่ ต้ัง
มากน้อยเพียงใด และ
(6) การเผยแพร่ผลงาน (ถา้ ม)ี
ทั้งน้ี ก.ศ. อาจกาหนดแนวทางการประเมินผลงานทีต่ ่างไปจากน้ไี ด้
3. วธิ ีการประเมินบคุ คล ประกอบด้วย 4 ข้นั ตอน ดังนี้
ขนั้ ตอนท่ี 1 ให้สานักงานศาลยุติธรรมพิจารณาคัดเลือกบุคคลท่ีจะเข้ารับการ
ประเมินเพ่ือแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ และระดับชานาญการพิเศษ
ท่ี ก.ศ. กาหนดตาแหน่งไวแ้ ล้ว ในอัตราส่วน 1 รายตอ่ 1 ตาแหนง่ โดยใชแ้ นวทางตามส่งิ ทีส่ ่งมาด้วย
ขัน้ ตอนที่ 2 ให้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
ประวัติการศกึ ษา ประวตั ิการทางาน ตามแบบพจิ ารณาคณุ สมบัตขิ องบคุ คล ตอนท่ี 1 (เอกสารแนบทา้ ย
หมายเลข 1) และให้เลขานุการของคณะอนุกรรมการแต่ละคณะเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติของ
ผขู้ อรับการประเมนิ ตามแบบการตรวจสอบคณุ สมบตั ิของบคุ คล ตอนที่ 2 (เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 1)
ขนั้ ตอนที่ 3 ให้สานกั งานศาลยุตธิ รรมดาเนนิ การประเมนิ คุณลักษณะของบุคคล ดงั น้ี
ก) ให้ ผู้ บั งคั บบั ญ ชาของผู้ ขอรั บการประเมิ น คื อ ผู้ บั งคั บบั ญ ชา
ที่ควบคุมดูแลการปฏบิ ตั งิ านของผขู้ อรบั การประเมินโดยตรง และหรอื ผอู้ านวยการกอง หรือผู้อานวยการ
สานักงาน หรือผู้อานวยการสานักอานวยการ หรือผู้อานวยการสานัก หรือผู้อานวยการสถาบัน

161 158

อีกระดับหน่ึง แลวแตกรณี เปนผูประเมินคุณลักษณะของบุคคล โดยกําหนดคุณลักษณะของ การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน
ผูท่ีจะรับการประเมินในสายงานนนั้ ๆ เปนการลวงหนา ท้ังนี้ อาจกําหนดคุณลักษณะทั้งหมดตามแนวทาง
ที่กําหนดในแบบประเมินคุณลักษณะของบุคคล (เอกสารแนบทายหมายเลข 2) หรือจะกําหนด
เฉพาะบางคุณลักษณะ หรือจะเพ่ิมเติมคุณลักษณะใด ๆ ที่จําเปนและสําคัญนอกเหนือจากแนวทาง
ที่กําหนดไวก็ได และใหกําหนดคะแนนเต็มตามความสําคัญของแตละคุณลักษณะไวดวย โดยคะแนน
เต็มทีก่ ําหนดน้ันเมอ่ื รวมกนั ทกุ รายการประเมินแลวจะตองเทา กับ 100 คะแนน

ข) การประเมินคุณลกั ษณะของบุคคลแตละรายการ ใหผูบงั คับบัญชาตามขอ
ก) พิจารณากําหนดระดับการประเมินเปน 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช และตองแกไข แลวใหเปน
คะแนน โดยใหใชเ กณฑการใหค ะแนนโดยประมาณ ดงั น้ี

ดีมาก หมายถงึ ไดคะแนน รอ ยละ 91-100 ของคะแนนเตม็
ดี หมายถงึ ไดคะแนน รอ ยละ 71-90 ของคะแนนเตม็
พอใช หมายถงึ ไดคะแนน รอ ยละ 60-70 ของคะแนนเตม็
ตอ งแกไ ข หมายถึง ไดค ะแนนนอ ยกวา รอ ยละ 60 ของคะแนนเต็ม

ค) ผูขอรับการประเมินตองไดคะแนนรวมท่ีผูบังคับบัญชาประเมินไมต่ํากวา
รอยละ 60 และผูอํานวยการกอง หรือผูอํานวยการสํานักงาน หรือผูอํานวยการสํานักอํานวยการ หรือ
ผูอํานวยการสํานัก หรือผูอํานวยการสถาบัน แลวแตกรณี หรือผูบังคับบัญชาในระดับท่ีเหนือข้ึนไป
(หมายถึง รองเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม หรือเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม หรือผูแทน
แลวแตกรณี) มีความเห็นสอดคลองวาผาน จึงจะถือวาเปนผูที่ผานการประเมินคุณลักษณะของบุคคล
แลวจึงจะเสนอผลงานตอไปได ในกรณีที่ผูบังคับบัญชาแตละระดับมีความเห็นไมสอดคลองกัน
ใหเสนอผูมีอํานาจสงั่ บรรจุและแตง ต้งั ตอ ไป

ง) กรณีท่ีไมผานการประเมินคุณลักษณะของบุคคล ใหผูอํานวยการกอง
หรือผูอํานวยการสํานักงาน หรือผูอํานวยการสํานักอํานวยการ หรือผูอํานวยการสํานัก หรือผูอํานวยการ
สถาบัน อีกระดับหนึ่ง แลวแตกรณี แจงผลการประเมินดังกลาวใหผูขอรับการประเมินทราบวามีส่ิงใดที่
ตองปรับปรุงแกไข เพ่ือใหผูขอรับการประเมินปรับปรุงพัฒนาตนเอง แลวจะตองทําการประเมินใหม
หลังจาก 1 เดอื น นับต้ังแตว นั ทไ่ี ดร บั แจง

ขนั้ ตอนที่ 4 เม่ือผูรับการประเมินไดผานการประเมินคุณลักษณะของบุคคลแลว
ใหดาํ เนนิ การประเมินผลงานตอ ไปได ดังนค้ี อื

ก) ให ก.ศ. แตงต้ังคณะอนกุ รรมการเพื่อพิจารณาคุณสมบัติและประเมินผลงาน
ของบุคคล จากแบบพิจารณาคุณสมบตั ขิ องบคุ คล ตอนที่ 1 และแบบแสดงรายละเอียดการเสนอผลงาน
(เอกสารแนบทายหมายเลข 1 และ 3 ) พ รอมท้ังเอกสารหรือหลักฐานของผลงานตาง ๆ
คณะอนุกรรมการดังกลาวจะแตงตั้งตามสายงานของตําแหนงท่ีจะประเมินเปนจํานวนหลายคณะก็ได
ตามความเหมาะสมและความจําเปน มวี าระการดํารงตําแหนงคราวละไมเ กนิ 2 ป ดงั น้ี

(1) กรณีการแตงต้ังใหด าํ รงตาํ แหนงประเภทวิชาการ ระดบั ชาํ นาญการ
(ก) ประธานใหแตงต้ังจากขาราชการฝายตุลาการศาลยุติธรรม

ซ่ึงมปี ระสบการณห รือเคยดาํ รงตําแหนงในสายงานท่ีจะประเมิน หรอื สายงานท่ีเกี่ยวของตามท่ีสํานักงาน

162

162 159
ศาลยตุ ธิ รรมไดจ้ ัดกลุม่ ไว้ ต้งั แต่ประเภทวิชาการ ระดบั เชี่ยวชาญขึ้นไป หรือประเภทอานวยการระดบั ต้น
หรอื เทยี บเทา่ ข้ึนไปหรอื ผ้ทู รงคณุ วฒุ เิ ฉพาะดา้ นทม่ี ีความชานาญในสายงานนนั้ ๆ ซง่ึ ไม่เคยเป็นขา้ ราชการมากอ่ น

(ข) อนุกรรมการให้แต่งต้ังจากข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
ซึ่งมีประสบการณ์ในสายงานท่ีจะประเมิน หรือผู้ที่เคยเป็นข้าราชการซึ่งดารงหรือเคยดารงตาแหน่ง
ในสายงานท่ีจะประเมนิ หรอื สายงานท่ีเก่ยี วขอ้ งตามที่สานักงานศาลยตุ ิธรรมได้จดั กลมุ่ ไว้ ตั้งแต่ประเภท
วชิ าการ ระดบั ชานาญการพิเศษ หรือเทียบเท่าข้นึ ไป ซึง่ มีผลงานเป็นท่ีประจักษ์ในความสามารถมาแล้ว
หรือผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้านที่มีความชานาญในสายงานนั้น ๆ ซึ่งไม่เคยเป็นข้าราชการมาก่อน จานวน
ไมน่ อ้ ยกวา่ 1 คน แต่ไมเ่ กนิ 5 คน

(ค) เลขานุการให้แต่งต้ังจากผู้รับผิดชอบงานการเจ้าหน้าที่หรือ
ผู้ท่ีมีประสบการณ์ด้านงานการเจ้าหน้าท่ีซ่ึงดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ตามที่เลขาธิการสานักงาน
ศาลยุตธิ รรมมอบหมาย

(2) กรณีการแต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหนง่ ประเภทวชิ าการ ระดบั ชานาญการพเิ ศษ
(ก) ประธานให้แต่งตั้งจากข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ซ่ึงมี

ประสบการณ์หรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานที่จะประเมิน หรือสายงานที่เกี่ยวข้องตามท่ีสานักงาน
ศาลยุติธรรมได้จัดกลุ่มไว้ ต้ังแต่ประเภทวิชาการ ระดับเช่ียวชาญ หรือเทียบเท่าข้ึนไป หรือประเภท
อานวยการระดับสูง หรือเทียบเท่าข้ึนไป หรือประเภทบริหารระดับต้น หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือ
ผ้ทู รงคุณวฒุ เิ ฉพาะด้านท่ีมีความชานาญในสายงานน้ัน ๆ ซ่ึงไม่เคยเปน็ ข้าราชการมาก่อน

(ข) อนกุ รรมการให้แตง่ ตง้ั จาก
- ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ซึ่งมีประสบการณ์ใน

สายงานท่ีจะประเมิน หรือผู้ที่เคยเป็นข้าราชการซ่ึงดารงหรอื เคยดารงตาแหน่งในสายงานท่ีจะประเมิน
ตั้งแต่ประเภทอานวยการ ระดับต้น หรือเทียบเท่าข้ึนไป ซึ่งมีผลงานเป็นท่ีประจักษ์ในความสามารถ
มาแล้ว หรือผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้านท่ีมีความชานาญในสายงานน้ัน ๆ ซึ่งไม่เคยเป็นข้าราชการมาก่อน
จานวนไมน่ อ้ ยกว่า 1 คน แตไ่ มเ่ กนิ 5 คน

- ผู้แทน ก.ศ. 1 คน
(ค) เลขานุการให้แต่งต้ังจากผู้รับผิดชอบงานการเจ้าหน้าที่หรือผู้ท่ีมี
ประสบการณ์ด้านงานการเจ้าหนา้ ที่ซ่ึงดารงตาแหน่งประเภทวชิ าการ ตามท่ีเลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม
มอบหมาย
ใน ก ร ณี ท่ี อ นุ ก ร ร ม ก า ร เห็ น ว่ า มี ปั ญ ห า ใน ท า ง ป ฏิ บั ติ เก่ี ย ว กั บ
การพิจารณาคุณสมบัติและการประเมินผลงานของบุคคล ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ศ. กาหนด
ให้ประธานอนกุ รรมการ สง่ เรอื่ งให้ ก.ศ. เปน็ ผูพ้ ิจารณาวนิ ิจฉัย
ข) การประเมินผลงานของบุคคลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การประเมินผล
งานท่ี ก.ศ. กาหนดไวด้ ังน้ี
1. องค์ประกอบและคะแนนองค์ประกอบ คะแนนเต็ม 100 คะแนน แบง่ เป็น
1.1 คณุ ภาพของผลงาน (คะแนนเต็ม 35 คะแนน)
1.2 ความยุ่งยากซบั ซอ้ นของผลงาน (คะแนนเต็ม 25 คะแนน)
1.3 ความรู้ ความชานาญงาน ความเชย่ี วชาญ และประสบการณ์

(คะแนนเตม็ 20 คะแนน)

163 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

163 160
1.4 ประโยชนข์ องผลงาน (คะแนนเต็ม 20 คะแนน)
2. เกณฑ์การพิจารณาตดั สนิ
ผู้ขอรับการประเมินต้องได้รับคะแนนในแต่ละองค์ประกอบไม่น้อยกว่า
รอ้ ยละ 60
ค) ให้ผู้ขอรับการประเมินจัดทาผลงานตามรูปแบบของผลงานท่ีจะนามา
ขอรับการประเมินที่ ก.ศ. กาหนดไว้ในแตล่ ะระดบั (เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 4 หรือ 5) โดยใหจ้ ัดทา
ผลงานตามรูปแบบการนาเสนอผลงาน (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 6) พร้อมท้ังรูปแบบของหน้าปก
ผลงาน และบทคัดย่อ (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 7 และ 8) จานวน 1 ชิ้น โดยให้ส่งพร้อมกับ
แบบพิจารณาคุณสมบัติของบุคคล และแบบประเมนิ คุณลักษณะของบคุ คล
ง) ให้เลขานุการของคณะอนุกรรมการแต่ละคณะ เป็นผู้ตรวจสอบรูปแบบ
ของผลงานที่นามาเสนอขอประเมินว่าเป็นไปตามรูปแบบที่กาหนดหรือไม่ หากเห็นว่าไม่ตรง
ตามรปู แบบท่กี าหนด ใหป้ ระสานกับผขู้ อรบั การประเมินเพอ่ื ปรับแก้ให้ถกู ตอ้ งตรงตามรูปแบบทก่ี าหนด
หากเป็นกรณีที่ไม่สามารถวินิจฉัยได้ให้หารือกับประธานอนุกรรมการในคณะน้ันวินิจฉัยต่อไป โดยให้
เลขานุการรายงานผลการดาเนินการใหค้ ณะอนกุ รรมการทราบดว้ ย
จ) กาหนดนยิ ามศพั ท์ เพอ่ื ใช้ในการพิจารณาผลงานของผขู้ อรับการประเมิน ดังนี้
- “การแก้ไขผลงาน” หมายถึง การแก้ไขเพิ่มเติมผลงานในส่วนที่เป็น
สาระสาคัญของผลงานซ่ึงอยู่ภายใต้เนื้อหาผลงานเดิม และให้หมายความรวมถึงการปรับปรุงผลงาน
ทล่ี ว่ งเลยกาหนด 1 เดือน หรือการปรบั ปรุงรายละเอียดของผลงานในประเดน็ เดมิ มากกวา่ 2 ครงั้
- “การปรับปรุงผลงาน” หมายถึง การปรับปรุง หรือแก้ไขเพิ่มเติม
รายละเอียดในสว่ นท่ีไม่เปน็ สาระสาคัญของผลงาน
- “ผลงานไม่ผ่านการประเมิน” หมายถึง ผลงานนั้นไม่ผ่านเกณฑ์
การประเมนิ ผลงานในการให้คะแนนแตล่ ะองค์ประกอบไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60
ฉ) ให้คณะอนุกรรมการพิจารณาผลงานท่ีส่งมาครั้งแรกภายในระยะเวลา
2 เดือน นับแต่วันท่ีได้รับแจ้งจากเลขานุการ เพ่ือพิจารณาว่าจะมีมติให้ผลงานผ่าน ปรับปรุง แก้ไข หรือ
ไมผ่ า่ นการประเมิน เวน้ แตก่ รณีมีเหตุผลความจาเป็นทไ่ี มส่ ามารถพิจารณาผลงานได้ภายในระยะเวลาท่กี าหนด
ให้ขอขยายระยะเวลาตอ่ เลขาธกิ ารสานกั งานศาลยุตธิ รรม
ช) กรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณาผลงานของผู้ขอรับการประเมินแล้ว
มีมติให้แก้ไขผลงาน ให้ผู้ขอรับการประเมินแก้ไขผลงานเพื่อส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน
3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากคณะอนุกรรมการเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าส่งผลงานที่แก้ไข
ล่วงเลยระยะเวลาที่กาหนด จะต้องยื่นเร่ืองขอประเมินคุณสมบัติของบุคคล และประเมินคุณลักษณะ
ของบุคคลใหม่ พร้อมกบั เคา้ โครงผลงานเร่ืองเดมิ ทผ่ี า่ นการพจิ ารณาแลว้
ซ) กรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณาผลงานของผู้ขอรับการประเมินแล้ว
มติให้ปรับปรุงผลงาน ให้ผู้ขอรับการประเมินปรับปรุงผลงานเพื่อส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาภายใน
1 เดือนนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากคณะอนุกรรมการเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าส่งผลงานที่ทาการปรับปรุง
แล้วล่วงเลยระยะเวลาท่ีกาหนด หรือหากคณะอนุกรรมการพิจารณาแล้วมีมติว่าการปรับปรุงน้ันเป็นการ
ปรบั ปรงุ รายละเอียดของผลงานในประเด็นเดิมมากกว่า 2 ครั้ง กาหนดให้ผลงานน้ันเป็นผลงานที่แก้ไข
ซึ่งจะมีผลในการเลือ่ นและแตง่ ตัง้ ใหด้ ารงตาแหนง่ ในกรณีที่ผ่านการประเมนิ แลว้

164 161
ฌ)1 ใหผูขอรับการประเมินจัดสงผลงานท่ีผานการประเมินแลวไปยังสํานัก
การเจาหนาที่ เพอ่ื จดั ทาํ ระบบฐานขอ มูลตามวิธีการท่ีสํานกั งานศาลยุตธิ รรมกําหนด
ญ) กําหนดใหมีที่ปรึกษาในคณะอนกุ รรมการแตล ะคณะ โดยใหอนกุ รรมการ
คนใดคนหนึ่งทําหนาที่เปนผูใหคําปรึกษาแนะนําแกผูขอรับการประเมินแตละรายเกี่ยวกับรายละเอียด
และขอ สงั เกตตาง ๆ ในการจดั ทําผลงาน
ฎ) กรณี มีขอสงสัยหรือตองการสอบถามขอมูลเพ่ิมเติมจากผูขอรับ
การประเมินในเร่ืองที่เกี่ยวกับผลงานที่นํามาเสนอขอประเมิน คณะอนุกรรมการจะกําหนดใหผูขอรับ
การประเมนิ มาชี้แจงรายละเอียด วิธีการ หรือขัน้ ตอนของผลงานดังกลาวเพิ่มเตมิ ก็ได
ฏ) เมื่อคณะอนุกรรมการไดพิจารณาวาผลงานนั้นผานการประเมินแลว
ใหสํานักคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมสรุปผลการพิจารณาท้ัง 3 สวน คือ การพิจารณา
คุณสมบัติของบุคคล การประเมินคุณลักษณะของบุคคล และการประเมินผลงาน พรอมท้ังเหตุผล
ท่ีผานการประเมินโดยแนบแบบแสดงการรับผลงานท่ีสงประเมิน (เอกสารแนบทายหมายเลข 9)
แบบแสดงการประเมินผลงาน (เอกสารแนบทายหมายเลข 10) และแบบประเมินผลงานของบุคคล
เพื่อเลื่อนขาราชการศาลยุติธรรมขึ้นแตงต้ังในระดับท่ีสูงขนึ้ (เอกสารแนบทายหมายเลข 11) เพ่ือเสนอ
ผมู อี าํ นาจสง่ั บรรจุและแตง ต้ังดําเนินการแตง ตั้งตอไป
ฐ) กรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณาผลงานของผูขอรับการประเมินแลวมีมติ
ใหผ ลงานไมผานการประเมิน ใหดาํ เนนิ การ ดังน้ี

- ใหสํานักคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมรายงานใหผูมีอํานาจ
สั่งบรรจุและแตงตั้งทราบโดยแนบแบบแสดงการประเมินผลงานและแบบประเมินผลงานของบุคคล
เพื่อเลื่อนขาราชการศาลยุติธรรมข้ึนแตงตงั้ ในระดับท่ีสูงขึ้น (เอกสารแนบทายหมายเลข 10 และ 11)
พรอ มทงั้ แจงใหผขู อรับการประเมนิ ทราบ

- หากเปนตําแหนงท่ีบุคคลน้ันดํารงอยู ใหผูขอรับการประเมินจัดทํา
ผลงานเร่ืองใหมภายใน 3 เดือน นับต้ังแตวันท่ีไดรับแจงจากคณะอนุกรรมการเปนลายลักษณอักษร
ถาสงผลงานเร่ืองใหมลวงเลยระยะเวลาที่กําหนด จะตองย่ืนเรื่องขอประเมินคุณสมบัติของบุคคลและ
ประเมินคุณลักษณะของบุคคลใหม พรอมกับผลงานเรอ่ื งใหมดังกลาว เพอ่ื ขอประเมินบุคคลเขามาใหม

- หากเปนตําแหนงวาง ใหสํานักงานศาลยุติธรรมพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่
จะเขารับการประเมินเพื่อแตงตั้งใหดํารงตําแหนงประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ และระดับ
ชํานาญการพิเศษ ใหมในอตั รา 1 ราย ตอ 1 ตาํ แหนง โดยใชแ นวทางตามสิ่งที่สงมาดว ย

ฑ) การพิจารณาประเมินผลงานของบุคคล ใหจัดทํารายงานการประชุม
เปนหลักฐานทุกครั้ง โดยใหจดรายงานการประชุมเฉพาะประเด็นที่มีมติเทานั้น เพื่อประโยชนในการ
ตรวจสอบและมคี วามรวดเรว็ ในการแจง ผูขอรับการประเมินเพ่ือดําเนินการตอไป

ฒ) ใหเลขานุการคณะอนุกรรมการ สงแบบรายงานผลการประเมิน
(เอกสารแนบทายหมายเลข 12) ไปยังสํานักคณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรม ภายใน 15 วัน
นบั ตัง้ แตวนั ทีไ่ ดด ําเนินการประเมนิ บคุ คลแลว เสรจ็

1 ขอ 3 วิธีการประเมินบุคคล ขั้นตอนที่ 4 ฌ) แกไขเพิ่มเติมโดยหนังสือสํานักงานศาลยุติธรรม
ที่ ศย 004/ว 191 (ป) ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2561

165 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

165 162
ณ)2 ให้ผู้ขอรับการประเมินจัดส่งผลงานท่ีผ่านการประเมินแล้วไปยังสานัก
การเจ้าหน้าที่ เพอื่ จดั ทาระบบฐานขอ้ มลู ตามวธิ ีการทีส่ านักงานศาลยุตธิ รรมกาหนด
หมายเหตุ สามารถดาวนโ์ หลดเอกสารแนบทา้ ยไดท้ ี่ www.op.coj.go.th

2 ข้อ 3 วิธีการประเมินบุคคล ข้ันตอนที่ 4 ณ) แก้ไขเพ่ิมเติมโดยหนังสือสานักงานศาลยุติธรรม
ที่ ศย 004/ว 191 (ป) ลงวนั ที่ 28 ธันวาคม 2561

166

166 163
หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และขน้ั ตอนการประเมนิ บคุ คลเพอื่ เลอ่ื นขา้ ราชการศาลยตุ ธิ รรม

ข้นึ แตง่ ต้ังใหด้ ารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดบั ชานาญการพิเศษ
(ตาแหนง่ ประเภทวชิ าชีพเฉพาะ (วช.เดิม))1

ก.ศ. ได้กาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และข้ันตอนการประเมินบุคคลเพ่ือเล่ือน
ข้าราชการศาลยุติธรรมขึ้นแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการพิเศษ
(ตาแหนง่ ประเภทวิชาชีพเฉพาะ (วช. เดิม)) ไวด้ ังต่อไปนี้

ลกั ษณะของตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการพิเศษ (ตาแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ
(วช. เดมิ )) เป็นตาแหน่งที่มลี ักษณะงานท่ีต้องปฏิบัติ โดยอาศัยผู้มีความรู้เฉพาะด้านที่ไม่อาจมอบหมาย
ใหผ้ ู้มคี ณุ วุฒิอย่างอน่ื ปฏิบตั ิหน้าที่แทนได้ หรอื เป็นงานท่มี ผี ลกระทบต่อชีวติ และทรพั ย์สนิ ของประชาชน
อย่างเห็นไดช้ ัด ตามท่ี ก.ศ. กาหนด

การแต่งต้ังบคุ คลให้ดารงตาแหน่งดังกล่าวให้ดาเนนิ การประเมินบคุ คลกอ่ น ตามหลักเกณฑ์
และวิธกี าร ดังนี้

1. การขอประเมินบุคคล
1.1 ให้สานักงานศาลยุติธรรมขอประเมินเพื่อแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ

ระดับชานาญการพิเศษ (ตาแหน่งประเภทวชิ าชีพเฉพาะ(วช. เดมิ )) เมอื่ มตี าแหนง่ วา่ งหรือเป็นตาแหน่งท่ี
บคุ คลนน้ั ดารงอยู่ โดยผู้ขอรบั การประเมินจะต้องมคี ุณสมบตั ใิ นการดารงตาแหน่งทจ่ี ะแต่งตัง้ ตามที่ ก.ศ.
กาหนดไว้โดยครบถ้วน ในกรณที ีผ่ ้ขู อรบั การประเมนิ มคี ุณสมบตั ยิ ังไมค่ รบถ้วนในขณะทข่ี อประเมินก็อาจ
ขอประเมินล่วงหน้าได้ แตท่ ้ังน้ีผู้ขอรับการประเมินจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนภายในระยะเวลาไม่เกิน 1
ปี นบั ตงั้ แตว่ นั ท่มี คี าขอประเมนิ

การขอประเมินเพ่ือแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งในขณะที่ยังมีผู้อ่ืนดารงอยู่ให้กระทาได้
ในกรณีดังตอ่ ไปนี้

ก) กรณีที่ผู้ดารงตาแหน่งอยู่เดิมจะต้องพ้นจากราชการไปเพราะเกษียณอายุ
ให้ขอประเมินล่วงหนา้ ไดไ้ มเ่ กนิ 6 เดอื น กอ่ นทผ่ี ้ดู ารงตาแหนง่ นน้ั จะพ้นจากราชการ

ข) กรณีท่ีผู้ดารงตาแหน่งอยู่เดิมขอลาออกจากราชการ ให้ขอประเมิน
ล่วงหน้าได้ไม่ก่อนวันท่ีผู้ที่มีอานาจอนุญาตการลาออก ได้อนุ ญาตให้ผู้ดารงตาแหน่ งน้ั นลาออกจาก
ราชการ

ค) กรณอี น่ื ทีม่ เี หตผุ ลและความจาเป็นซึง่ ก.ศ. จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป

1 แนบท้ายหนังสอื สานักงานศาลยตุ ธิ รรม ที่ ศย 004/ว 192 (ป) ลงวนั ที่ 28 ธันวาคม 2561

167

167 164

1.2 การขอประเมนิ บุคคล ใหด้ าเนินการดงั นี้ การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน
การประเมินเพื่อแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการพิเศษ
(ตาแหนง่ ประเภทวิชาชีพเฉพาะ (วช. เดิม)) ให้เลขาธกิ ารสานักงานศาลยุติธรรมส่งเรื่องให้คณะกรรมการประเมิน
ท่ี ก.ศ. แต่งตง้ั เพ่ือพจิ ารณา
2. หลกั เกณฑก์ ารประเมินบคุ คล
การประเมินบุคคลให้ดาเนินการ 3 ส่วน คือ พิจารณาคุณสมบัติของบุคคล ประเมิน
คุณลกั ษณะของบุคคล และประเมนิ ผลงาน ดังนี้
2.1 การพิจารณาคุณสมบัตขิ องบุคคล ไดแ้ ก่

ก) ข้อมูลทว่ั ไป
- ประวตั ิส่วนตัว
- ประวัติการรบั ราชการ
- ประวตั กิ ารฝกึ อบรม/ดูงาน
- ประสบการณ์การทางาน
- อัตราเงินเดอื น

ข) คุณสมบัติเฉพาะสาหรบั ตาแหนง่
- คุณวุฒิการศึกษา (ตรงตามคณุ สมบัติสาหรับตาแหน่งท่ีจะแต่งต้ังตามท่ี

ก.ศ. กาหนดไวใ้ นมาตรฐานกาหนดตาแหนง่ ถ้ามีคุณวฒุ ิไมต่ รงจะตอ้ งไดร้ บั การยกเว้นจาก ก.ศ.)
- คุณสมบัติเพิ่มเติมตามที่ ก.ศ. กาหนดไว้ในหลักเกณฑ์การประเมิน

ของแตล่ ะสายงาน เช่น ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เปน็ ตน้
- ระยะเวลาการดารงตาแหน่ง และการปฏิบัติงานตามที่ ก.ศ. กาหนดไว้

ในมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง
- ระยะเวลาข้ันต่าในการดารงตาแหน่งหรือเคยดารงตาแหน่งในสายงาน

ทีจ่ ะแตง่ ต้งั ตามคณุ วุฒขิ องบุคคลและระดับตาแหนง่ ทจี่ ะแต่งตั้ง ดังน้ี

ระดบั ชานาญการพิเศษ
คณุ วฒุ ิ (ตาแหนง่ ประเภทวชิ าชพี เฉพาะ (วช. เดิม))
ปริญญาตรี หรอื เทียบเทา่
ปริญญาโท หรอื เทยี บเทา่ 8 ปี
ปรญิ ญาเอก หรือเทียบเทา่ 6 ปี
4 ปี

ทั้งน้ี อาจนาระยะเวลาในการดารงตาแหน่ง หรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานอ่ืน
ท่ีเริ่มต้นจากระดับเดียวกัน ซึ่งมีลักษณะงานเชิงวิชาการ หรือวิชาชีพที่เก่ียวข้อง หรือเก้ือกูลมานับรวม
เป็นระยะเวลาข้นั ตา่ ดังกล่าวได้

กรณีที่เป็นคุณวุฒิอื่น ๆ ก.ศ. จะพิจารณากาหนดระยะเวลาขั้นตา่ ในการดารงตาแหน่ง
เปน็ สายงาน ๆ ไป

168 165
2.2 การประเมินคุณลกั ษณะของบุคคล ไดแก

- มคี วามเปนผูนํา
- มมี นุษยสมั พันธที่ดี
- มคี ุณธรรมและจริยธรรม
- มีวุฒิภาวะทางอารมณห รือความม่ันคงทางอารมณ
- มีความรบั ผิดชอบ
- ความคิดรเิ ริ่ม
- การแกไขปญหาและการตัดสินใจ
- ความประพฤติ
- ความสามารถในการส่ือความหมาย
- การพัฒนาตนเอง
- คุณลักษณะอืน่ ๆ (ตามความจําเปนของแตละตําแหนง)
2.3 การประเมินผลงาน
ก) ผลงานที่จะนํามาประเมิน ไดแก ผลงานและหรือผลสาํ เร็จของงานที่เกิดจาก
การปฏิบัติงานตามปกติในตําแหนงหนาที่ความรับผิดชอบของผูรับการประเมินโดยไมจําเปนตองมี
การจัดทําผลงานขึ้นใหมเพื่อใชในการประเมินโดยเฉพาะ และเปนผลงานท่ีแสดงถึงการใชความรู
ประสบการณและฝกฝนจนมีความชํานาญงาน หรือความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานวิชาชีพเฉพาะ
ในสายงานน้ัน ๆ
ทั้งนี้ ผลงานท่ีจะนํามาประเมินจะตองแสดงขอบเขต คุณภาพ ความยุงยาก
ซบั ซอนในการดําเนินงาน ประโยชนของผลงาน ความรู ความชํานาญงานและประสบการณท่จี าํ เปนตอ ง
ใชในการปฏิบัตงิ าน หรือการผลิตผลงานดังกลา วตามคําอธิบายลกั ษณะของผลงานตามเอกสารแนบทาย
โดยมเี งอ่ื นไขดังนี้

(1) เปน ผลงานทีจ่ ัดทําขึ้นในระหวางทดี่ ํารงตําแหนงในระดบั ชาํ นาญการ
เวน แต ก.ศ. จะกําหนดเปน อยางอ่นื

(2) ไมใชผลงานวิจัย หรือวิทยานิพนธท่ีเปนสวนหนึ่งของการศึกษา
เพื่อขอรบั ปริญญา หรอื ประกาศนยี บตั ร หรอื เปน สว นหนึ่งของการฝก อบรม

(3) กรณีที่เปนผลงานรว มกันของบุคคลหลายคนจะตองแสดงใหเห็นวา
ผูขอรับการประเมินไดมีสวนรวมในการจัดทําหรือผลิตผลงานในสวนใดหรือเปนสัดสวนเทาใด และมี
คํารบั รองจากผมู สี วนรว มในผลงานนน้ั และจากผูบงั คบั บญั ชาดว ย

(4) ผลงานที่ไดนํามาใชประเมินเพื่อเลื่อนข้ึนแตงตั้งใหดํารงตําแหนง
ในระดบั ทส่ี ูงขนึ้ แลว จะนํามาเสนอใหประเมินเพ่ือเลอื่ นข้ึนดํารงตาํ แหนงในระดบั ที่สูงขึ้นอีกไมได

ข) แนวทางการประเมินผลงาน ใหพจิ ารณาจาก
(1) ผลการปฏิบัติงานและหรือผลสําเร็จของงานจํานวนไมเกิน 3 ชิ้น

หรือตามท่ี ก.ศ. กําหนด กรณีท่ไี มอาจกําหนดเปนชิ้นไดก ็อาจกําหนดเปนอยางอ่ืนไดตามความเหมาะสม
รวมทง้ั อาจมีการประเมนิ ผลงานดว ยวิธีอ่ืน ๆ เชน การสมั ภาษณ เปนตน

(2) คุณภาพของผลงาน
(3) ความยุงยากซบั ซอนของผลงาน

169 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

169 166

(4) ประโยชน์ของผลงานในการนาไปใช้ของตาแหนง่ แต่ละระดับ
(5) ความรู้ ความชานาญงาน หรือความเช่ียวชาญและประสบการณ์
ในการปฏิบัติงาน เป็นการพิจารณาว่าผลงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้ขอรับการประเมินมีความรู้
ความชานาญงาน หรือความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในงานนั้น ๆ เหมาะสมกับระดับตาแหน่งที่จะ
แต่งต้ังมากน้อยเพียงใด และ
(6) การเผยแพรผ่ ลงาน (ถา้ มี)
ทั้งน้ี ก.ศ. อาจกาหนดแนวทางการประเมนิ ผลงานที่แตกตา่ งไปจากน้ีได้
3. วิธีการประเมินบุคคล ประกอบดว้ ย 4 ขั้นตอน ดงั น้ี
ขั้นตอนท่ี 1 ให้สานักงานศาลยุติธรรมพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ารับ
การประเมินเพ่ือแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการพิเศษ (ตาแหน่งประเภท
วชิ าชีพเฉพาะ (วช. เดมิ )) ท่ี ก.ศ. กาหนดตาแหน่งไว้แล้ว ในอตั ราสว่ น 1 ราย ต่อ 1 ตาแหนง่ โดยใช้แนวทาง
ตามเอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 1
ข้ันตอนท่ี 2 ให้ผู้ได้รับคัดเลือกกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
เช่น ประวัติการศึกษา ประวัติการทางาน ตามแบบพิจารณาคุณสมบัติของบุคคล ตอนท่ี 1
ตามเอกสารแนบท้ายหมายเลข 2 และให้สานกั การเจา้ หน้าทเ่ี ป็นผตู้ รวจสอบคณุ สมบตั ิของผขู้ อรับการประเมิน
ตามแบบการตรวจสอบคุณสมบัติของบคุ คล ตอนท่ี 2 (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 2)
ขน้ั ตอนที่ 3 ใหส้ านกั งานศาลยตุ ธิ รรมดาเนนิ การประเมินคุณลกั ษณะของบคุ คล ดังน้ี
ก) ให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ขอรับการประเมิน คือ ผู้บังคับบัญชาท่ีควบคุมดูแล
การปฏิบัติงานของผู้ขอรับการประเมินโดยตรงและหรือผู้อานวยการกอง หรือผู้อานวยการสานักงาน
หรือผู้อานวยการสานักอานวยการ หรือผู้อานวยการสานัก หรือผู้อานวยการสถาบัน อีกระดับหน่ึง
แล้วแต่กรณี เป็นผู้ประเมินคุณลักษณะของบุคคล โดยกาหนดคุณลักษณะของผู้ที่จะรับการประเมิน
ในสายงานนน้ั ๆ เปน็ การล่วงหน้า ทัง้ น้ี อาจกาหนดคุณลักษณะทั้งหมดตามแนวทางท่กี าหนดในแบบประเมิน
คุณลักษณะของบุคคล (เอกสารแนบท้ายหมายเลข 3) หรือจะกาหนดเฉพาะบางคุณลักษณะ หรือจะ
เพิ่มเติมคุณลักษณะใด ๆ ท่ีจาเป็นและสาคัญนอกเหนือจากแนวทางที่กาหนดไว้ก็ได้ และให้กาหนด
คะแนนเต็มตามความสาคัญของแต่ละคุณลักษณะไว้ด้วย โดยคะแนนเต็มที่กาหนดน้ันเมื่อรวมกัน
ทุกรายการประเมนิ แล้วจะตอ้ งเท่ากับ 100 คะแนน
ข) การประเมินคุณลักษณะของบุคคลแต่ละรายการ ให้ผู้บังคับบัญชา
ตามข้อ ก) พิจารณากาหนดระดับการประเมินเป็น 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช้ และต้องแก้ไข แล้วให้
เป็นคะแนน โดยให้ใช้หลักเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนโดยประมาณ ดงั นี้
ดมี าก หมายถงึ ไดค้ ะแนน ร้อยละ 91-100 ของคะแนนเตม็
ดี หมายถึง ไดค้ ะแนน ร้อยละ 71-90 ของคะแนนเต็ม
พอใช้ หมายถึง ไดค้ ะแนน ร้อยละ 60-70 ของคะแนนเต็ม
ต้องแกไ้ ข หมายถึง ได้คะแนนนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 ของคะแนนเตม็
ค) ผู้ขอรับการประเมินต้องได้คะแนนรวมที่ผู้บังคับบัญชาประเมินไม่ต่ากว่า
ร้อยละ 60 และผู้อานวยการกอง หรือผู้อานวยการสานักงาน หรือผู้อานวยการสานักอานวยการ
หรือผู้อานวยการสานัก หรือผู้อานวยการสถาบัน แล้วแตก่ รณี หรอื ผู้บังคับบัญชาในระดบั ที่เหนอื ข้ึนไป

170

170 167
(หมายถึง รองเลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม หรือเลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม หรือผู้แทน
แล้วแต่กรณี) มีความเห็นสอดคล้องว่าผ่าน จึงจะถือว่าเป็นผู้ที่ผ่านการประเมินคุณลักษณะของบุคคล
แล้วจึงจะเสนอผลงานต่อไปได้ ในกรณีท่ีผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับมีความเห็นไม่สอดคล้องกัน ให้เสนอ
ผู้มีอานาจสง่ั บรรจุและแตง่ ตั้งเป็นผพู้ จิ ารณาชีข้ าดตอ่ ไป

ง) กรณีท่ไี ม่ผา่ นการประเมินคุณลักษณะของบุคคลให้ผูอ้ านวยการกอง หรือ
ผู้อานวยการสานักงาน หรือผู้อานวยการสานักอานวยการ หรือผู้อานวยการสานัก หรือผู้อานวยการสถาบัน
แล้วแต่กรณี แจ้งผลการประเมินดังกล่าวให้ผู้ขอรับการประเมินทราบว่ามีส่ิงใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข
เพื่อให้ผู้ขอรับการประเมินปรับปรุงพัฒนาตนเองแล้วจะต้องทาการประเมินใหม่หลังจาก 1 เดือน
นบั ตั้งแตว่ ันทไี่ ด้รบั แจง้

ขั้นตอนที่ 4 เมื่อผู้รับการประเมินได้ผ่านการประเมินคุณลักษณะของบุคคลแล้ว
ใหด้ าเนินการประเมนิ ผลงานตอ่ ไปได้ ดังน้ี คือ

ก) ให้ ก.ศ. แต่งตั้งคณะกรรมการเพ่ือพิจารณาคุณสมบัติและประเมินผลงาน
ของบุคคล จากแบบพิจารณาคณุ สมบตั ขิ องบุคคล ตอนที่ 1 และแบบแสดงรายละเอียดการเสนอผลงาน
(เอกสารแนบท้ายหมายเลข 2 และ 4) พรอ้ มทงั้ เอกสารหรอื หลักฐานของผลงานตา่ ง ๆ คณะกรรมการดังกล่าว
จะแต่งต้ังตามสายงานของตาแหน่งที่จะประเมินเป็นจานวนหลายคณะก็ได้ตามความเหมาะสมและ
ความจาเป็น มีวาระการดารงตาแหนง่ คราวละไมเ่ กิน 2 ปี ดังน้ี

(1) ประธานให้แต่งตั้งจากข้าราชการศาลยุติธรรมหรือผู้ท่ีเคยเป็น
ข้าราชการซ่ึงดารงหรือเคยดารงตาแหน่งในสายงานที่จะประเมิน หรือสายงานที่เก่ียวข้องตามที่สานักงาน
ศาลยุติธรรมได้จัดกลมุ่ ไวต้ ้ังแตต่ าแหน่งประเภทอานวยการ ระดบั สงู หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรอื ผทู้ รงคุณวุฒิ
เฉพาะด้านท่มี ีความชานาญในสายงานนน้ั ๆ ซึง่ ไมเ่ คยเป็นข้าราชการมากอ่ น

(2) กรรมการใหแ้ ต่งตั้งจาก
- ข้าราชการศาลยตุ ธิ รรม หรือผทู้ เ่ี คยเปน็ ข้าราชการซึง่ ดารงหรอื เคย

ดารงตาแหน่งในสายงานท่ีจะประเมินตั้งแต่ตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการพิเศษ หรือ
เทียบเท่าข้ึนไป ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในความสามารถมาแล้ว หรือผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้านท่ีมี
ความชานาญในสายงานนน้ั ๆ ซง่ึ ไมเ่ คยเปน็ ขา้ ราชการมากอ่ นจานวนไม่น้อยกวา่ 3 คน แต่ไมเ่ กิน 5 คน

- กรรมการ ก.ศ. 1 คน
ทั้งน้ี โดยมีผู้รับผิดชอบงานการเจ้าหน้าที่ ซึ่งดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่าตาแหน่ง
ประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ เปน็ เลขานกุ าร
ในกรณีที่กรรมการเห็นว่า มีปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการพิจารณาคุณสมบัติ
และการประเมินผลงานของบุคคลตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ศ. กาหนด ให้ประธานกรรมการส่ง
เรือ่ งให้ ก.ศ. เป็นผพู้ ิจารณาวนิ ิจฉยั
ข) การประเมินผลงานของบุคคลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การประเมินผลงาน
ที่ ก.ศ. กาหนดไวใ้ นแต่ละสายงาน
ค) กรณีมีปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับผลงานท่ีส่งประเมินอาจเชิญผู้รับ
การประเมนิ มาซกั ถาม และหรือขอรายละเอยี ดของผลงานดงั กล่าวเพิ่มเติมได้
ง) เม่ือคณะกรรมการได้พิจารณาว่าผลงานนั้นผ่านการประเมินแล้ว
ให้สานักการเจ้าหน้าที่สรุปผลการพิจารณาทั้ง 3 ส่วน คือ การพิจารณาคุณสมบัติของบุคคล

171 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

171 168
การประเมินคุณลักษณะของบุคคล และการประเมินผลงาน พร้อมท้ังเหตุผลที่ผ่านการประเมิน
โดยแนบแบบแสดงการรบั ผลงานทส่ี ง่ ประเมินและแบบแสดงการประเมนิ ผลงาน (เอกสารแนบหมายเลข
5 และ 6) เพือ่ เสนอผู้มอี านาจสง่ั บรรจแุ ละแต่งต้งั ดาเนินการแต่งตงั้ ต่อไป

ใน ก ร ณี ท่ี ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร มี ม ติ ให้ ผ ล ง า น ข อ ง ผู้ ข อ รั บ ก า ร ป ร ะ เมิ น ร า ย ใด
นาผลงานกลับไปปรับปรุงใหม่ จะต้องดาเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จ แล้วส่งผลงานที่ปรับปรุงแล้ว
ให้คณะกรรมการพิจารณาภายใน 1 เดือน นับแต่วันทไ่ี ดร้ ับแจง้ จากคณะกรรมการเปน็ ลายลักษณอ์ กั ษร

ในกรณีผลงานท่ีคณะกรรมการมีมติให้แก้ไขผลงาน จะต้องแก้ไขและส่งให้
คณะกรรมการพจิ ารณาภายใน 3 เดอื น นบั ตงั้ แต่วันที่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการเป็นลายลักษณ์อักษร
หากส่งผลงานท่ีแก้ไขล่วงเลยระยะเวลาที่กาหนด จะต้องยื่นเรื่องขอประเมินผลงานเข้ามาใหม่
เพอื่ ประกอบการพจิ ารณาคณุ สมบัตแิ ละพิจารณากาหนดตาแหนง่ ใหม่

ใน ก ร ณี ท่ี ผ ล ง า น ข อ ง ผู้ ข อ รั บ ก า ร ป ร ะ เมิ น ไม่ ผ่ า น ก า ร ป ร ะ เมิ น ให้ ส า นั ก
การเจ้าหน้าท่ีรายงานให้ผู้มีอานาจสั่งบรรจุและแต่งต้ังทราบ โดยแนบแบบแสดงการประเมินผลงาน
(เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 6) และแจง้ ใหผ้ ขู้ อรับการประเมินทราบ

จ) การพิจารณาประเมินผลงานของบุคคล ให้จัดทารายงานการประชุม
เป็นหลักฐานทกุ ครงั้ เพอ่ื ประโยชน์ในการตรวจสอบ

ฉ) ให้ เลขานุ การคณ ะกรรมการส่งแ บ บ รายงาน ผลการป ระเมิ น
(เอกสารแนบท้ายหมายเลข 7) ไปยังสานักคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมภายใน 15 วัน
นบั ตงั้ แตว่ นั ทไี่ ดด้ าเนนิ การประเมนิ บุคคลแล้วเสร็จ

ช) ให้ผู้ขอรับการประเมินจัดส่งผลงานท่ีผ่านการประเมินแล้ว ไปยัง
สานกั การเจ้าหนา้ ที่เพือ่ จัดทาระบบฐานขอ้ มูลตามวิธกี ารที่สานกั งานศาลยตุ ิธรรมกาหนด

172

172 169
ลักษณะของผลงำนของตำแหน่งประเภทวิชำกำร
ระดับชำนำญกำรพิเศษ (ตำแหน่งประเภทวิชำชพี เฉพำะ (วช. เดิม))1
1. ขอบเขตของผลงำน
ผลการปฏิบัติงานและหรือผลสาเร็จของงานท่ีเกิดจากงานในหน้าท่ีความรับผิดชอบ
ของตาแหน่ง และสนองนโยบายของส่วนราชการ จานวนไม่เกิน 3 ชิ้นงาน หรือตามท่ี ก.ศ. จะกาหนด
ในแต่ละสายงาน และอาจนาผลการปฏิบัติงาน และหรือผลสาเร็จของงานเชิงวิชาชีพนอกเหนือหน้าที่
ความรับผิดชอบของตาแหน่ง หรือผลการปฏิบัติงาน และหรือผลสาเร็จของงานเชิงวิชาชีพด้านอื่น
ท่เี กี่ยวข้อง หรือเกือ้ กูลกับงานของตาแหน่งทีจ่ ะประเมนิ มาประเมนิ ไดต้ ามความเหมาะสม
2. คณุ ภำพของผลงำน
มีคุณภาพของผลงานดี
3. ควำมยุ่งยำกซบั ซ้อนของผลงำน
ใช้หลักวชิ าชีพเฉพาะดา้ นในการปฏิบตั ิงานที่มคี วามยงุ่ ยากมากเปน็ พเิ ศษ
4. ประโยชน์ของผลงำน
เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ หรือประชาชน หรือประเทศชาติ หรือต่อความก้าวหน้า
ในงานอาชพี ในระดับสูงมาก
5. ควำมรู้ควำมชำนำญและประสบกำรณ์
มีความรู้ ความชานาญงาน และประสบการณ์สูงมากเป็นพิเศษ เป็นที่ยอมรับ
ในระดบั กองหรอื สงู กวา่ กอง หรอื วงการวิชาชพี น้นั ๆ

1 แนบทา้ ยหนังสอื สานักงานศาลยุติธรรม ท่ี ศย 004/ว 192 (ป) ลงวนั ที่ 28 ธนั วาคม 2561

173 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

173 170
แนวทำงกำรพิจำรณำคัดเลอื กบคุ คลทีจ่ ะเข้ำรับกำรประเมินเพือ่ แต่งต้งั ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทวชิ ำกำร ระดบั ชำนำญกำรพเิ ศษ (ตำแหน่งประเภทวชิ ำชพี เฉพำะ (วช.เดิม))1

เพื่อให้การพิจารณาคัดเลือกบุคคลท่ีจะเข้ารับการประเมินผลงานในตาแหน่งวิชาชีพเฉพาะ
เป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นธรรมและเหมาะสม โดยคานึงถึงประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ ก.ศ. จึงเห็นควร
กาหนดแนวทางการพิจารณาคัดเลอื กบคุ คลท่ีจะเข้ารับการประเมินผลงานในตาแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ
ดงั น้ี

1. องคป์ ระกอบทีใ่ ช้ในกำรพจิ ำรณำ ควรพิจารณาองคป์ ระกอบ ดังนี้
1.1 ความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน ให้พิจารณา

โดยคานึงถึงคุณวุฒิการศึกษา ความรู้ความสามารถ ทักษะ และความชานาญในการปฏิบัติงานด้านนั้น
ซึ่งอาจพิจารณาจากข้อมูลการประเมินผลการปฏิบัติงานประจาปีของข้าราชการศาลยุติธรรมผู้นั้น
ในระยะเวลาที่ผา่ นมา

1.2 ระยะเวลาการดารงตาแหน่ง ให้พิจารณาโดยคานึงถึงระยะเวลาดารงตาแหน่ง
ในสายงานท่ีจะแต่งต้งั หรือสายงานอื่นท่ีเกีย่ วขอ้ ง หรอื ระยะเวลาที่เคยปฏบิ ตั ิงานท่ีเกี่ยวข้องหรอื เกื้อกูล
กับตาแหนง่ ทจี่ ะแตง่ ต้งั

1.3 การปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ ให้พิจารณาโดยคานึงถึง
ความประพฤติ การรักษาวินยั ความขยันหมัน่ เพียร ความอุตสาหะ การอุทศิ เวลาใหก้ บั ราชการ

1.4 ผลงานหรือผลการปฏิบัติงาน ให้พิจารณาโดยคานึงถึงคุณภาพของผลงาน
หรือผลการปฏิบัติงาน ประโยชน์ของผลงานตอ่ ราชการ วงการวชิ าการ หรอื วิชาชพี

1.5 เกณฑ์อื่น ๆ ตามท่ีส่วนราชการเห็นสมควรกาหนดเพ่ิมเติมเพื่อประโยชน์
ในการพจิ ารณาคัดเลอื ก

2. แนวทำงกำรดำเนนิ กำรคัดเลอื ก
2.1 สานักงานศาลยุติธรรมควรพิจารณากาหนดองค์ประกอบท่ีจะใช้ในการ

พิจารณาคัดเลือกไว้อย่างชัดเจน ซ่ึงอาจแตกต่างไปจากองค์ประกอบที่กาหนดตาม ข้อ 1. ก็ได้ ทั้งน้ี
โดยเน้นผลงานหรือผลการปฏิบัติงานเป็นองคป์ ระกอบหลัก

2.2 สานักงานศาลยุติธรรมดาเนินการให้ข้าราชการในสังกัดได้ทราบเป็นการล่วงหน้า
ตามเกณฑท์ ี่เหน็ สมควร

2.3 ในการดาเนินการคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ารับการประเมินผลงานให้ผู้มีหน้าท่ี
ในการคัดเลือกพจิ ารณาคัดเลอื กตามองคป์ ระกอบทส่ี ่วนราชการน้ันได้กาหนดไว้

1 แนบท้ายหนงั สือสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม ที่ ศย 004/ว 192 (ป) ลงวนั ท่ี 28 ธันวาคม 2561

174

174 171

(สาเนา)

ท่ี ศย 004/ว 494 สานักงานศาลยตุ ธิ รรม
ถนนรชั ดาภเิ ษก เขตจตุจกั ร
กทม. 10900

16 กรกฎาคม 2558

เร่ือง การแต่งตั้งข้าราชการศาลยุติธรรมท่ีมีคุณสมบัติต่างไปจากคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่ง
ตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง

เรียน หวั หน้าหนว่ ยงานในสังกดั สานักงานศาลยตุ ธิ รรม

ด้วยคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม ในการประชุมคร้ังที่ 8/2558 เมื่อวันท่ี
17 มถิ ุนายน 2558 อนุมตั ิให้สานักงานศาลยุตธิ รรมแต่งตั้งข้าราชการศาลยุตธิ รรมที่เคยดารงตาแหน่ง
ระดับ 4 ขึ้นไปของสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 1 หรือระดับ 2 หรือสายงานเจ้าหน้าท่ีบริหารงาน...
ตามพระราชบัญญตั ิระเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535 อยูก่ อ่ นวันที่ 1 ธนั วาคม 2552 แล้วไดร้ ับ
แต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งประเภททั่วไปตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
และตอ่ มาได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวชิ าการ ระดับปฏบิ ัติการ โดยใชผ้ ลการสอบแข่งขัน
หรือการคัดเลือก แล้วแต่กรณี ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติเรื่องระยะเวลาการดารงตาแหน่งต่างไปจาก
คุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง ให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการ
ระดับชานาญการได้ โดยข้าราชการศาลยตุ ธิ รรมผ้นู ้นั ต้องมรี ะยะเวลาการดารงตาแหน่งประเภทวชิ าการ
ระดบั ปฏบิ ัตกิ ารมาแล้วไม่นอ้ ยกว่า 4 ปี (สาหรับผ้ทู ่ีเคยดารงตาแหนง่ ในระดับ 4 หรอื ท่ี ก.ศ. เทียบเท่า)
และไม่น้อยกวา่ 2 ปี (สาหรับผูท้ ีเ่ คยดารงตาแหนง่ ในระดบั 5 หรอื ท่ี ก.ศ. เทยี บเทา่ ) ทง้ั นี้ การแต่งต้ังให้
ดารงตาแหน่งดังกล่าวข้างต้น จะต้องดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ศ. กาหนดไว้สาหรับ
ตาแหนง่ ประเภทและระดับนน้ั ด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอได้แจ้งให้ข้าราชการศาลยุติธรรมในหน่วยงานนี้
ทราบต่อไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงช่อื ) ภัทรศักดิ์ วรรณแสง

(นายภทั รศกั ด์ิ วรรณแสง)
เลขาธกิ ารสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม

175 172

ท่ี ศย 004/ว 126 (สําเนา) สํานกั งานศาลยุตธิ รรม
ถนนรชั ดาภิเษก เขตจตจุ กั ร
กทม. 10900

24 มีนาคม 2548 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

เรอื่ ง การนําระยะเวลาการดาํ รงตําแหนง ในสายงานที่ไมไดเ ริม่ ตนจากระดบั 3 มานับรวมเปน ระยะเวลา
ขน้ั ตํ่าในการดาํ รงตําแหนงที่เกย่ี วของหรอื เก้ือกลู กับการดาํ รงตําแหนงในสายงานทจี่ ะแตง ตั้ง

เรียน หัวหนา หนวยงานในสังกัดสํานักงานศาลยุติธรรม

อา งถึง หนังสือสํานกั งานศาลยตุ ิธรรม ท่ี ศย 004/ว 264 (ป) ลงวันที่ 24 สงิ หาคม 2544

ตามที่ ก.ศ. ไดกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และขั้นตอนการประเมินบุคคลเพ่ือเล่ือน
ขาราชการศาลยุติธรรมข้ึนแตงตั้งใหดํารงตําแหนงสําหรับผูปฏิบัติงานท่ีมีประสบการณ (ตําแหนง
ประเภทท่ัวไป) (ว) โดยกําหนดระยะเวลาขั้นต่ําในการดํารงตําแหนงหรือเคยดํารงตําแหนงในสายงาน
ท่จี ะแตงตัง้ ตามคุณวุฒิของบุคคลและระดับตําแหนงทจี่ ะแตง ต้งั ดังปรากฏตามหนังสอื ท่อี างถึง นน้ั

เพ่ือเปนการสรางขวัญกําลังใจใหขาราชการศาลยุติธรรมท่ีมีการพัฒนาตนเองโดยไดรับ
วุฒิเพิ่มข้ึน และไดปฏิบัติงานในสายงานที่เร่ิมตนจากระดับ 3 คณะกรรมการขาราชการศาลยุติธรรมจึง
มีมติในการประชุม คร้ังที่ 4/2548 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2548 ใหนําระยะเวลาการดํารงตําแหนง
ในสายงานท่ีไมไดเร่ิมตน จากระดับ 3 มานับรวมเปนระยะเวลาข้ันตํ่าในการดํารงตําแหนงท่เี กีย่ วขอ งหรือ
เกอื้ กูลกับการดาํ รงตาํ แหนงในสายงานท่จี ะแตง ต้ัง ตามแนวทางดงั ตอไปนี้

1. กรณกี ารแตงตั้งใหด าํ รงตําแหนง ในระดับทส่ี ูงข้ึน
1.1 ผูขอประเมินตองมีระยะเวลาการดํารงตําแหนงในสายงานหรือไดปฏิบัติหนาที่

ในสายงานท่จี ะแตงตั้งมาแลวไมนอ ยกวา 1 ป
1.2 ใหนับระยะเวลาการดํารงตําแหนงในสายงานอ่ืนที่ไมไดเริ่มตนจากระดับ 3

เปนระยะเวลาปฏิบัติงานที่เก่ียวของหรือเกื้อกูลกับสายงานท่ีจะแตงต้ังไดไมกอนวันที่ผูนั้นไดรับ
วุฒิปริญญาท่ีตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหนงที่จะแตงตั้ง และตองดํารงตําแหนงตั้งแต
ระดบั 3 ขึ้นไป ดงั นี้

1.2.1 กรณเี ปนสายงานเจาหนาทบ่ี ริหารงานท่ีเกี่ยวขอ งหรือเกอื้ กลู กบั สายงาน
ที่จะแตงต้ังใหนบั เปนระยะเวลาปฏิบัติงานท่ีเกีย่ วของหรือเกื้อกูลไดเตม็ เวลา คือ สายงานดังตอ ไปนี้

สายงานเจา หนาทบี่ รหิ ารงานท่ีเกี่ยวขอ งหรือ สายงานทจ่ี ะแตงตั้ง
เกอ้ื กูลกับสายงานทจี่ ะแตงตั้ง นกั วชิ าการเงินและบญั ชี
นกั วชิ าการพสั ดุ
เจาหนา ท่ีบริหารงานการเงนิ และบญั ชี
เจาหนา ท่ีบริหารงานพัสดุ

176

176 173

1.2.2 กรณนี อกเหนอื จากขอ้ 1.2.1 ให้พจิ ารณาตามลกั ษณะงานที่ปฏบิ ตั ิจริง
ของขา้ ราชการแตล่ ะราย โดยพิจารณาจากขอ้ เท็จจรงิ ลกั ษณะงานท่ีปฏิบตั แิ ละประโยชน์ท่ีทางราชการ
จะไดร้ ับ ท้ังน้ี ใหน้ บั ไดไ้ ม่เกนิ ครง่ึ หนึ่งของระยะเวลาการปฏบิ ัตงิ านทงั้ หมด คอื สายงานดังต่อไปน้ี

สายงานทไ่ี ม่ไดเ้ ริม่ ตน้ จากระดับ 3 เกื้อกูล สายงานท่ีจะแตง่ ตั้ง
และเก่ียวขอ้ งกบั สายงานที่จะแตง่ ตั้ง นักวชิ าการเงนิ และบญั ชี
นกั วชิ าการพัสดุ
เจา้ พนักงานการเงินและบญั ชี เจ้าหนา้ ทบ่ี รหิ ารงานทวั่ ไป และ
เจา้ พนักงานพัสดุ เจ้าพนกั งานศาลยตุ ธิ รรม
เจ้าพนกั งานธรุ การ นกั วชิ าการโสตทศั นศกึ ษา
เจ้าหนา้ ที่ศาลยตุ ธิ รรม วศิ วกรโยธา
เจา้ พนกั งานโสตทศั นศกึ ษา บรรณารักษ์
เจ้าหนา้ ที่โสตทัศนศึกษา นกั วชิ าการคอมพวิ เตอร์
นายช่างศลิ ป์ นักวชิ าการคอมพวิ เตอร์ และ
นายชา่ งโยธา เจา้ หนา้ ท่ีบรหิ ารงานท่ัวไป
เจา้ หนา้ ที่ห้องสมดุ เจา้ หนา้ ทบี่ ริหารงานทว่ั ไป
เจ้าหนา้ ทเ่ี ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
เจ้าหนา้ ท่บี นั ทกึ ขอ้ มลู
เจ้าหนา้ ที่ส่อื สาร

2. กรณีการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งในระดับท่ีไม่สูงกว่าเดิม ให้นับระยะเวลาการ
ดารงตาแหน่งในสายงานอ่ืนท่ีไม่ได้เร่ิมต้นจากระดับ 3 เป็นระยะเวลาปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องหรอื เก้ือกูล
กับสายงานท่ีจะแต่งตั้งได้ ตามแนวทางขอ้ 1.2

3. การพิจารณาคุณสมบัติและประเมินผลงานของบุคคลนอกเหนือจากกรณีดังกล่าว
ขา้ งต้น ใหเ้ สนอ ก.ศ. พิจารณาเปน็ ราย ๆ ไป

จงึ เรยี นมาเพ่อื ทราบ และถอื เปน็ แนวทางปฏิบตั ิตอ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงช่อื ) วิทยา ทิพยเ์ นตร

(นายวิทยา ทิพยเ์ นตร)
ผตู้ รวจราชการ ปฏิบตั ิราชการแทน
เลขาธกิ ารสานักงานศาลยตุ ธิ รรม

177

177 174

(สาเนา)

ท่ี ศย 004/ว 146 สานักงานศาลยุติธรรม
ถนนรัชดาภเิ ษก เขตจตุจักร
กทม. 10900

8 พฤษภาคม 2549 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

เรอ่ื ง การนาระยะเวลาการดารงตาแหนง่ ในสายงานทีไ่ มไ่ ดเ้ ริ่มตน้ จากระดบั 3 มานับรวมเปน็ ระยะเวลาขั้นต่า
ในการดารงตาแหน่งที่เกีย่ วข้องหรือเกอ้ื กูลกับการดารงตาแหน่งในสายงานท่จี ะแตง่ ต้ัง (เพมิ่ เตมิ )

เรียน หวั หน้าหนว่ ยงานในสังกัดสานกั งานศาลยุตธิ รรม

อ้างถงึ หนังสอื สานกั งานศาลยุติธรรม ท่ี ศย 004/ว 126 ลงวนั ที่ 24 มีนาคม 2548

ส่งิ ทส่ี ่งมาดว้ ย แบบหนังสือรับรองการปฏิบัติงาน สาหรับผู้ขอรับการประเมินเพ่ือเลื่อนขึ้นแต่งต้ังให้
ดารงตาแหน่งสาหรับผปู้ ฏิบัตงิ านที่มีประสบการณ์ ตาแหน่งประเภทท่วั ไป (ว) ในสายงาน
เจา้ พนกั งานศาลยุติธรรม

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง สานักงานศาลยุติธรรมได้แจ้งมติ ก.ศ. ครั้งท่ี 4/2548 เมื่อวันที่
10 มนี าคม 2548 ให้นาระยะเวลาการดารงตาแหนง่ ในสายงานท่ีไม่ได้เร่ิมตน้ จากระดับ 3 มานับรวม
เป็นระยะเวลาขั้นต่าในการดารงตาแหน่งท่ีเกี่ยวข้องหรือเกื้อกูลกับกา รดารงตาแหน่งในสายงาน
ท่จี ะแต่งตั้ง และแนวทางในการนบั ระยะเวลาดงั กลา่ ว ความละเอียดแจง้ อยูแ่ ลว้ นนั้

บดั น้ี ก.ศ. ได้มีมติในการประชุมคร้ังที่ 3/2549 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2549 เห็นชอบ
ให้ผู้ขอรับการประเมินเพื่อเลื่อนข้ึนแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานศาลยุติธรรม 6ว และ 7ว
สามารถนาระยะเวลาการดารงตาแหนง่ ในสายงานท่ีไม่ได้เรม่ิ ตน้ จากระดับ 3 ไดแ้ ก่ สายงานเจ้าหน้าท่ีธุรการ
เจ้าหนา้ ท่ีบรหิ ารงานธรุ การ เจ้าหน้าที่พิมพ์ดีด และเจ้าหนา้ ที่บันทกึ ข้อมูลท่ีปฏบิ ตั ิงานประจาศาลต่าง ๆ
ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2544 มานับรวมเป็นระยะเวลาขัน้ ต่าในการดารงตาแหน่งที่เก่ียวข้องหรือเก้อื กูล
กับการดารงตาแหน่งในสายงานเจ้าพนักงานศาลยุติธรรมเพิ่มเติมจากที่กาหนดไว้เดิม ตามหนังสือ
สานักงานศาลยุติธรรม ท่ี ศย 004/ว 126 ลงวันท่ี 24 มีนาคม 2548 โดยให้นับได้ไม่เกินคร่ึงหนึ่ง
ของระยะเวลาการปฏิบตั งิ านทั้งหมด ดงั น้ี

สายงานทไ่ี มไ่ ดเ้ รมิ่ ต้นจากระดับ 3 เก้ือกลู สายงานที่จะแตง่ ตัง้
และเกย่ี วขอ้ งกบั สายงานทจี่ ะแตง่ ต้งั

เจ้าหนา้ ทศ่ี าลยตุ ิธรรม เจา้ พนักงานศาลยุตธิ รรม
เจา้ หนา้ ทบ่ี ริหารงานธรุ การ
เจา้ พนกั งานธรุ การ
เจ้าหนา้ ท่ธี รุ การ
เจ้าหนา้ ที่พิมพด์ ดี
เจา้ หนา้ ทบี่ นั ทึกขอ้ มูล

178

178 175

ทั้งน้ี ผู้ขอรับการประเมินที่ประสงค์จะนาระยะเวลาการดารงตาแหน่งในสายงาน
เจ้าหน้าที่พิมพ์ดีดและเจ้าหน้าท่ีบันทึกข้อมูล มานับรวมเป็นระยะเวลาเก้ือกูลในสายงานเจ้าพนักงาน
ศาลยุติธรรม จะต้องทาหนังสือรับรองการปฏิบัติงาน และให้ผู้บังคับบัญชารับรองตามแบบที่ได้แนบมา
พร้อมหนังสือน้ี โดยให้ส่งไปพร้อมกับแบบพิจารณาคุณสมบัติของบุคคล (ว) ในการขอประเมินเพื่อ
เลือ่ นขนึ้ แตง่ ตงั้ ให้ดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานศาลยตุ ิธรรม 6ว และ 7ว

จงึ เรียนมาเพอื่ ทราบและถือปฏบิ ตั ติ ่อไป

ขอแสดงความนับถอื
(ลงชื่อ) วิทยา ทพิ ยเ์ นตร

(นายวิทยา ทิพย์เนตร)
ผตู้ รวจราชการ ปฏิบตั ริ าชการแทน
เลขาธกิ ารสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม

179

179 176

หนังสือรับรองกำรปฏบิ ัติงำน

สาหรบั ผขู้ อรบั การประเมนิ เพ่ือเลือ่ นขน้ึ แต่งตง้ั ใหด้ ารงตาแหนง่ สาหรบั ผูป้ ฏิบตั ิงานทมี่ ีประสบการณ์
ตาแหนง่ ประเภททว่ั ไป (ว) ในสายงานเจ้าพนกั งานศาลยตุ ิธรรม
(เฉพาะกรณีผู้ขอรับการประเมินประสงค์จะขอนาระยะเวลาการดารงตาแหน่งในสายงาน เจ้าหน้าท่ี
พมิ พ์ดีด และเจา้ หน้าที่บนั ทกึ ข้อมูล มานับรวมเป็นระยะเวลาขัน้ ตา่ ในการดารงตาแหน่งที่เกย่ี วข้องหรือ
เกอ้ื กูลกบั การดารงตาแหน่งในสายงานเจา้ พนักงานศาลยตุ ธิ รรม) การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน
๑. ชื่อ – สกลุ
๒. ปจั จบุ ันดำรงตำแหน่ง ระดับ
ตำแหน่งเลขที่ ฝ่ำย/กลุม่ /สว่ น
สังกัด อตั รำเงินเดือน
๓. หน้ำที่ควำมรับผิดชอบและลักษณะงำนในขณะดำรงตำแหน่งเจ้ำหน้ำที่พิมพ์ดีดหรือ
เจ้ำหน้ำที่บันทึกขอ้ มูล
ลาดับ ตาแหนง่ /สงั กดั วนั /เดือน/ปี ระยะเวลา หน้าที่ความรับผิดชอบและลักษณะ
ท่ี งานทป่ี ฏิบัติโดยละเอยี ด
1.
2.
3.
๔. ประวตั ิกำรศึกษำ (เฉพำะคุณวุฒปิ รญิ ญำตรขี น้ึ ไป)
ลาดับ คณุ วฒุ ิและวิชาเอก ปที ่สี าเร็จการศึกษา ชอ่ื สถาบนั
ท่ี
1.
2.
3.
๕. คำรับรองของผ้รู บั กำรประเมิน
ขอรับรองว่าขอ้ ความที่แจง้ ไวใ้ นหนังสอื รบั รองนถ้ี ูกตอ้ งและเป็นจริงทกุ ประการ
(ลงช่ือ)
()
๖. ผูร้ บั รอง
คารบั รองของผ้บู งั คบั บัญชา (หัวหนา้ งาน – ผอู้ านวยการ แล้วแต่กรณี)
ขอรบั รองว่า
ไดป้ ฏิบตั งิ านตามทไ่ี ด้แจ้งไวใ้ นหนงั สอื รบั รองน้ีจริง
(ลงชื่อ)
()
ตาแหนง่
วนั ที่ / /

180

180 177

(สาเนา)

ที่ ศย 004/ว 35 (ป) สานักงานศาลยุตธิ รรม
ถนนรัชดาภิเษก เขตจตจุ กั ร
กรงุ เทพมหานคร10900

30 พฤษภาคม 2560

เรื่อง การนาระยะเวลาการดารงตาแหน่งในสายงานท่ีไม่ได้เร่ิมต้นจากระดับ 3 (ระดับปฏิบัติการ)
มานับรวมเป็นระยะเวลาข้ันต่าในการดารงตาแหน่งท่ีเกี่ยวข้องหรือเกื้อกูลกับการดารงตาแหน่ง
ในสายงานทจ่ี ะแต่งตัง้ (เพิม่ เตมิ )

เรยี น หวั หนา้ หนว่ ยงานในสงั กดั สานกั งานศาลยตุ ธิ รรม

อา้ งถงึ 1. หนังสือสานักงานศาลยุตธิ รรม ที่ ศย 004/ว 126 ลงวันท่ี 24 มนี าคม 2548
2. หนังสอื สานักงานศาลยตุ ธิ รรม ที่ ศย 004/ว 146 ลงวันท่ี 8 พฤษภาคม 2549

สิง่ ท่ีสง่ มาดว้ ย แบบหนังสือรับรองการปฏิบัติงาน สาหรับผู้ขอรับการประเมินเพื่อเล่ือนและแต่งตั้ง
ขา้ ราชการศาลยุติธรรมใหด้ ารงตาแหนง่ ในระดับทสี่ งู ขนึ้ ในสายงานนกั วิชาการพสั ดุ

ตามหนังสือท่ีอ้างถึงลาดับท่ี 1 สานักงานศาลยุติธรรมได้แจ้งมติ ก.ศ. ในการประชุม
คร้ังที่ 4/2548 เมอ่ื วันที่ 10 มีนาคม 2548 เร่ืองให้นาระยะเวลาการดารงตาแหน่งในสายงานที่ไมไ่ ด้
เรม่ิ ตน้ จากระดบั 3 มานับรวมเป็นระยะเวลาขนั้ ตา่ ในการดารงตาแหนง่ ในสายงานที่เกยี่ วขอ้ งหรือเกื้อกลู
กับการดารงตาแหน่งในสายงานทจี่ ะแต่งตั้ง และหนังสือท่ีอ้างถึงลาดับท่ี 2 แจ้งมติ ก.ศ. ในการประชุม
ครั้งท่ี 3/2549 เม่ือวันท่ี 9 มีนาคม 2549 เร่ืองให้นาระยะเวลาการดารงตาแหน่งในสายงานท่ีไม่ได้
เรม่ิ ตน้ จากระดบั 3 มานับรวมเปน็ ระยะเวลาขัน้ ตา่ ในการดารงตาแหนง่ ในสายงานท่เี กี่ยวขอ้ งหรอื เกอ้ื กลู
กับการดารงตาแหน่งในสายงานทีจ่ ะแต่งตงั้ (เพม่ิ เติม) ความละเอียดแจ้งอยู่แล้ว นั้น

บดั นี้ ก.ศ. ในการประชมุ ครัง้ ที่ 5/2560 เม่อื วันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ได้มมี ติเหน็ ชอบ
ให้ตาแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี เป็นสายงานท่ีเก่ียวข้องหรือเก้ือกูลกับนักวิชาการพัสดุ
ระดับชานาญการและระดับชานาญการพิเศษ โดยการนับระยะเวลาเกื้อกูลให้นับเฉพาะระยะเวลา
ท่ีได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานพัสดุ ทั้งน้ี ให้นับได้ไม่เกินคร่ึงหน่ึงของระยะเวลา
การปฏิบตั ิงานท้ังหมด ดังนี้

สายงานทไ่ี ม่ไดเ้ ริม่ ต้นจากระดับ 3 เกอ้ื กูล สายงานทจ่ี ะแต่งตงั้
และเกยี่ วขอ้ งกบั สายงานทีจ่ ะแต่งต้ัง นกั วชิ าการเงนิ และบญั ชี และ
นกั วชิ าการพัสดุ
เจ้าพนักงานการเงนิ และบญั ชี

อน่ึง หากผู้ขอรับการประเมินประสงค์จะนาระยะเวลาการดารงตาแหน่งในสายงาน
เจ้ า พ นั ก ง า น ก า ร เงิ น แ ล ะ บั ญ ชี เป็ น ส า ย ง า น ที่ เกี่ ย ว ข้ อ ง ห รื อ เ กื้ อ กู ล กั บ ส า ย งา น นั ก วิ ช า ก า ร พั ส ดุ
ระดับชานาญการและระดับชานาญการพิเศษ จะต้องจัดทาหนังสือรับรองการปฏิบัติงานและให้
ผู้บังคับบัญชารับรองตามสิ่งที่ส่งมาด้วย โดยให้ส่งไปพร้อมกับแบบพิจารณาคุณสมบัติของบุคคล

181 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

181 178

ตามหลักเกณฑ์และวิธีการเล่ือนและแต่งตั้งข้าราชการศาลยุติธรรม ให้ดารงตาแหน่งในระดับที่สูงข้ึน
(หนงั สอื สานกั งานศาลยุตธิ รรม ที่ ศย 004/ว 91 (ป) ลงวันท่ี 4 สงิ หาคม 2554)

จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดทราบและถือปฏบิ ตั ติ ่อไป
แสดงความนบั ถือ

(ลงชอื่ ) อธคิ ม อนิ ทภุ ตู ิ
(นายอธคิ ม อนิ ทภุ ูต)ิ

เลขาธกิ ารสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม

182

182 179

แบบหนังสอื รับรองกำรปฏบิ ัติงำน

สาหรบั ผ้ขู อรับการประเมินเพือ่ เล่อื นและแตง่ ตั้งข้าราชการศาลยตุ ธิ รรมใหด้ ารงตาแหน่งในระดับทส่ี งู ขน้ึ
ในสายงานนักวิชาการพสั ดุ
(เฉพาะกรณีผู้ขอรับการประเมินจะขอนาระยะเวลาการดารงตาแหน่งในสายงาน เจ้ำพนักงำนกำรเงิน
และบญั ชี ทีไ่ ดร้ ับมอบหมำยให้ปฏบิ ตั ิงำนเกี่ยวกบั งำนพัสดุ มานับรวมเปน็ ระยะเวลาขั้นต่าในการดารง
ตาแหนง่ ท่ีเกี่ยวข้องหรือเกอื้ กูลกับการดารงตาแหน่งในสายงานนักวิชาการพัสดุ ระดับชานาญการ และ
ระดับชานาญการพเิ ศษ)
๑. ชื่อ – สกุล
๒. ปจั จุบนั ดำรงตำแหน่ง ระดบั
ตำแหน่งเลขที่ ฝำ่ ย/กลมุ่ /สว่ น
สังกัด อัตรำเงินเดือน
๓. หน้ำทคี่ วำมรบั ผิดชอบและลกั ษณะงำนในขณะดำรงตำแหน่งเจำ้ พนกั งำนกำรเงินและบญั ชี
ลาดับ ตาแหนง่ /สงั กดั วัน/เดอื น/ปี ระยะเวลา หน้าท่ีความรบั ผิดชอบและลักษณะ
ท่ี งานท่ีปฏิบัติ โดยละเอยี ด
1.
2.
3.
4. ประวตั ิกำรศึกษำ (เฉพำะคณุ วฒุ ปิ รญิ ญำตรขี น้ึ ไป)
ลาดบั คุณวฒุ ิและวิชาเอก ปีที่สาเรจ็ การศกึ ษา ชื่อสถาบนั
ท่ี
1.
2.
3.
5. คำรบั รองของผ้รู ับกำรประเมิน
ขอรบั รองว่าข้อความท่ีแจ้งไวใ้ นหนงั สือรบั รองนถ้ี กู ต้องและเป็นจริงทกุ ประการ
ลงชื่อ
()
6. ผ้รู บั รอง
คารับรองของผ้บู งั คบั บัญชา (หัวหนา้ งาน – ผอู้ านวยการ แล้วแต่กรณี)
ขอรับรองว่า
ได้ปฏบิ ัติงานตามทไี่ ดแ้ จ้งไวใ้ นหนงั สือรับรองน้ีจริง
ลงชื่อ
()
ตาแหน่ง
วันท่ี

183 การเ ่ืลอนระ ัดบ ํตกาุลแมห่ีท นง๒และการประเ ิมน

183 180

5
กำรประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั ริ ำชกำร

ของขำ้ รำชกำรศำลยตุ ธิ รรม


Click to View FlipBook Version