รวมเล่ม-แผนการสอนสังคมศึกษา ม.3

ใบงานท่ี 10.1

เร่ือง การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจมวี ัตถุประสงค์ทส่ี ำคัญอยา่ งไร

2. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจมีความสำคัญอยา่ งไร

3. การจดั ทำข้อตกลงเพ่ือแลกเปลยี่ นสทิ ธพิ ิเศษทางการค้าในการรวมกล่มุ ทางเศรษฐกจิ มีลักษณะสำคญั

4. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ ท่มี ีลกั ษณะเปน็ เขตการค้าเสรีมลี กั ษณะสำคญั อย่างไร

5. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจมลี ักษณะเด่นในการเก็บภาษีศลุ กากรอยา่ งไร

6. ตลาดร่วมของประเทศที่มีการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจมีลกั ษณะอย่างไร

7. การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจท่ีเปน็ สหภาพเหนอื ชาตมิ ีลกั ษณะเดน่ อย่างไร

เฉลย

ใบงานที่ 10.1

เร่ือง การรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ

คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้

1. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ มวี ัตถปุ ระสงคท์ สี่ ำคัญอย่างไร

เพอื่ ประโยชน์ดา้ นการขยายการคา้ ส่งผลใหเ้ กิดการผลติ การจา้ งทำงาน การลดตน้ ทุนการผลติ ทำให้เกดิ ศกั ยภาพ
ในดา้ นการแข่งขัน มกี ารสร้างอำนาจการเจรจากบั ประเทศนอกกลมุ่ มีผลต่อการพฒั นาเศรษฐกิจ

2. การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ มคี วามสำคัญอย่างไร 2) ปจั จัยการผลติ เคลอื่ นยา้ ยได้อย่างเสรมี ากขึ้น
4) เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกจิ
1) ทำใหต้ ลาดขยายตัว
3) ตน้ ทนุ การผลิตสินคา้ ลดลง

3. การจดั ทำข้อตกลงเพื่อแลกเปล่ียนสทิ ธพิ เิ ศษทางการคา้ ในการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจมีลักษณะสำคัญ

มีการทำขอ้ ตกลงรว่ มกันที่จะลดอตั ราภาษศี ลุ กากรใหก้ ับการนำสนิ คา้ เขา้ จากประเทศในกลมุ่ ตามการเจรจาตกลง
หรอื มีการตกลงลดหรอื ยกเลิกขอ้ จำกัดทางการค้าทไ่ี ม่ใช่ภาษีศลุ กากรหรอื อปุ สรรคทางการคา้ ดา้ นอน่ื ๆ

4. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ ทมี่ ีลักษณะเปน็ เขตการค้าเสรมี ลี กั ษณะสำคัญอย่างไร

ยกเลิกมาตรการจำกดั การนำเขา้ ดา้ นการเกบ็ ภาษีศุลกากรจากการนำเขา้ สนิ คา้ ระหวา่ งประเทศในกลมุ่ ยกเลิก
มาตรการท่ไี ม่ใชภ่ าษีอน่ื ๆ และขอ้ จำกัดทางการคา้ ระหวา่ งประเทศสมาชกิ สมาชกิ มีอสิ ระในการกำหนดอัตราภาษี
เรยี กเก็บในระดบั ทแ่ี ตกตา่ งกันจากประเทศนอกกลมุ่

5. การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจมีลักษณะเดน่ ในการเก็บภาษศี ุลกากรอย่างไร

ยกเลกิ การเก็บภาษศี ลุ กากร และมาตรการจำกดั ทางการคา้ อน่ื ระหว่างกนั เอง และมขี ้อตกลงเรื่องการกำหนด
อัตราภาษขี าเขา้ จากประเทศนอกกลุ่มในอตั ราเดยี วกัน

6. ตลาดรว่ มของประเทศท่ีมีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ มลี ักษณะอย่างไร

เหมือนสหภาพศลุ กากร นอกจากสนิ คา้ จะเคลือ่ นทไี่ ดโ้ ดยเสรรี ะหว่างประเทศสมาชิกแล้วยังสามารถเคลอื่ นย้าย
ปจั จยั การผลิตในระหวา่ งประเทศสมาชกิ เช่น ประชาคมเศรษฐกิจยโุ รป หรือตลาดรว่ มยุโรป

7. การรวมกล่มุ ทางเศรษฐกิจทีเ่ ปน็ สหภาพเหนอื ชาติมีลักษณะเดน่ อย่างไร

รัฐบาลของแตล่ ะประเทศยอมสละอำนาจอธปิ ไตยของตน เพ่อื ให้ส่วนรวมสามารถตดั สนิ ใจกำหนดนโยบายต่างๆ
ร่วมกนั ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 10 การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระหว่าง
ประเทศ

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2

กลมุ่ ทางเศรษฐกจิ และองคก์ รระหวา่ งประเทศ เวลา 3 ชัว่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด

1.1 ตัวชีว้ ดั
ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและ
ความจำเป็นของการร่วมมือกนั ทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก
ม. 3/3 อภปิ รายบทบาทความสำคญั ของการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายกลุม่ ทางเศรษฐกจิ และองค์กรระหว่างประเทศได้ (K)
2. จำแนกกล่มุ ทางเศรษฐกิจและองคก์ รระหว่างประเทศได้ (P)
3. เหน็ คุณคา่ ของศึกษาการรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ เพ่ิมมากขน้ึ (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น สาระการเรยี นรูจ้ ากสือ่

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) - กลุม่ ทางเศรษฐกจิ ในภูมภิ าคต่าง ๆ
1) บทบาทความสำคัญของการ

รวมกล่มุ ทางเศรษฐกิจระหวา่ ง
ประเทศ
2) ลกั ษณะของการรวมกลมุ่ ทาง
เศรษฐกจิ
3) กลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมภิ าค
ต่าง ๆ

4. มโนทัศนส์ ำคญั (Key Concept)

- องคก์ รระหวา่ งประเทศมีบทบาทสำคัญต่อการรวมกล่มุ ทางเศรษฐกิจของโลกท่ีสำคญั

5. คำถามหลกั (Big Question)

- กลุ่มทางเศรษฐกิจและองค์กรระหว่างประเทศมีความสำคัญอยา่ งไร

6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการคิด 1. มีวนิ ัย

- ทักษะการรวบรวมข้อมูล 2. ใฝ่เรียนรู้

- ทกั ษะการวิเคราะห์ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

- ทกั ษะการเปรียบเทยี บ

2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 วิธีสอนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบร่วมมอื : เทคนิคคู่คดิ สส่ี หาย

ชวั่ โมงที่ 1

ขัน้ นำ

1. ครูแจ้งใหน้ ักเรียนทราบถึงวธิ ีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมอื : เทคนิคคู่คิดสี่สหาย ชอ่ื เรื่องทจี่ ะ
เรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และผลการเรียนรู้

2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรเู้ ดมิ เก่ยี วกบั การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ
3. ครนู ำสนทนาเกี่ยวกบั กลุ่มทางเศรษฐกิจและองค์กรระหวา่ งประเทศ
4. ครสู รุปการแสดงความคิดเห็นของนกั เรยี น โดยเชือ่ มโยงใหเ้ ขา้ กบั เนอ้ื หาเพ่ือนำเขา้ สู่บทเรยี น

ขั้นสอน

1. ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง ปาน
กลาง

ค่อนข้างอ่อน และออ่ น โดยให้สมาชกิ แต่ละคนเลือกหมายเลขประจำตัว ต้งั แต่หมายเลข 1-4
2. สมาชิกแตล่ ะหมายเลขแยกย้ายไปรวมกลมุ่ ใหม่ และร่วมกนั ศึกษาความรู้ กลมุ่ ทางเศรษฐกจิ และองค์กร

ระหว่างประเทศ ประกอบการใชห้ นงั สอื เรยี นสังคมศึกษาฯ ม.3 หรือจากแหล่งการเรียนรอู้ ื่น ๆ เชน่ หนังสอื
ในห้องสมุด เว็บไซต์ทางอินเทอรเ์ น็ต

ชว่ั โมงท่ี 2

3. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกล่มุ นำเสนอผลการศึกษา โดยเริ่มจาก : กล่มุ สหภาพยโุ รป
4. นักเรียนกลุ่มอ่นื แสดงความคิดเห็นหรือซกั ถามเพิม่ เตมิ ในประเด็น เชน่

- เพราะเหตใุ ด EU จงึ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย

(แนวตอบ EU เปน็ กล่มุ ทางเศรษฐกจิ ท่ีมีความม่นั คง เป็นตลาดการคา้ ท่สี ำคัญของหลายประเทศ รวมถงึ
ไทย)

5. ครใู ห้นักเรียนกลมุ่ : สมาคมการค้าเสรแี ห่งยุโรป นำเสนอผลการศึกษา
6. นักเรยี นกลุ่มอ่ืนแสดงความคดิ เห็นหรอื ซักถามเพมิ่ เติม
7. ครใู ห้นักเรียนกลมุ่ : เขตการค้าเสรอี เมริกาเหนือ นำเสนอผลการศึกษา
8. นักเรยี นกลมุ่ อื่นแสดงความคดิ เหน็ หรือซักถามเพ่ิมเติม ในประเด็น เช่น

- ไทยไดร้ ับประโยชนแ์ ละผลกระทบจากนาฟตาอย่างไรบ้าง
(แนวตอบ ไดร้ ับผลกระทบจากการออกกฎในการกดี กันทางการคา้ เช่น เม็กซโิ ก ที่มีการข้นึ อตั ราภาษี
ศลุ กากรเคร่ืองหนังและรองเท้าจากประเทศนอกกลุม่ ทำให้สนิ คา้ ไทยมีราคาสงู ส่งออกได้น้อยลง)
9. ครใู ห้นกั เรยี นกลมุ่ : กล่มุ ความร่วมมือทางเศรษฐกจิ ในภูมิภาคเอเชยี -แปซิฟกิ นำเสนอผลการศึกษา
10. นกั เรียนกลุ่มอืน่ แสดงความคิดเห็นหรือซกั ถามเพม่ิ เติม ในประเด็น เชน่
- เอเปกมีความสำคญั ต่อเศรษฐกิจโลกและไทยอยา่ งไร
(แนวตอบ เปน็ ตลาดการค้าที่ใหญ่ มกี ำลงั ซื้อมาก มีประเทศสมาชกิ ทม่ี ีการขยายตวั ทางเศรษฐกิจสงู )
11. ครใู ห้นักเรยี นกลุม่ : กลุม่ ประเทศผสู้ ่งออกน้ำมนั นำเสนอผลการศึกษา
12. นกั เรียนกลมุ่ อน่ื แสดงความคิดเหน็ หรือซักถามเพ่ิมเติม ในประเดน็ เช่น
- เพราะเหตใุ ดราคาน้ำมนั ในประเทศไทยจึงไม่อิงราคานำ้ มันจากกลมุ่ โอเปก แต่ต้องอิงราคานำ้ มันจาก
สิงคโปร์
(แนวตอบ เน่ืองจากสิงคโปรเ์ ป็น 1ใน 3 ของตลาดนำ้ มนั ของโลก ราคาน้ำมนั ทนี่ ีจ่ ึงเป็นตวั เลขทผี่ คู้ า้ น้ำมัน
ในเอเชียไปตกลงซ้ือขายผา่ นตลาดสงิ คโปร์)
13. ครใู ห้นักเรียนกลุม่ : กลุ่มประชาคมอาเซยี น นำเสนอผลการศึกษา
14. นักเรียนกลุม่ อืน่ แสดงความคดิ เห็นหรือซักถามเพิ่มเตมิ ในประเดน็ เชน่
- ไทยมีการเตรยี มความพร้อมเพื่อการเปน็ ประชาคมอาเซียนอย่างไร
(แนวตอบ เชน่ ศกึ ษาตลาด รสนิยม ความตอ้ งการในอาเซียน เรียนรู้คแู่ ข่ง รจู้ ุดแขง็ จุดออ่ น สร้างความ
แตกตา่ งของสนิ คา้ ฯลฯ)
15. ครใู ห้นกั เรยี นกล่มุ : กลุ่มประเทศท่ีมกี ารพัฒนาทางเศรษฐกจิ อย่างรวดเรว็ นำเสนอผลการศึกษา
16. นักเรยี นกลุ่มอนื่ แสดงความคิดเห็นหรือซักถามเพ่มิ เติม

ชวั่ โมงที่ 3

17. ครใู ห้นกั เรยี นกลุ่ม : องค์การการค้าโลก นำเสนอผลการศึกษา
18. นกั เรยี นกลุ่มอื่นแสดงความคดิ เห็นหรือซักถามเพิ่มเติม ในประเดน็ เชน่

- องคก์ ารการค้าโลกมีบทบาทสำคญั อย่างไร
(แนวตอบ เป็นเวทเี จรจาการค้าโลก ให้ความช่วยเหลือประเทศตา่ ง ๆ ดา้ นการค้า)
19. ครใู ห้นกั เรียนกลุ่ม : การประชมุ สหประชาชาตวิ ่าด้วยการคา้ และการพฒั นา นำเสนอผลการศึกษา

20. นักเรยี นกลุม่ อน่ื แสดงความคิดเหน็ หรือซักถามเพ่ิมเตมิ ในประเดน็ เชน่
- องั ถดั มบี ทบาทสำคัญอยา่ งไร
(แนวตอบ เป็นองค์การสง่ เสรมิ ทางการคา้ และเจรจาต่อรองทางการค้าแก่ประเทศกำลังพฒั นา)

21. ครใู ห้นกั เรียนกลุ่ม : ธนาคารโลก นำเสนอผลการศึกษา
22. นักเรียนกลุ่มอน่ื แสดงความคดิ เห็นหรือซักถามเพ่ิมเติม ในประเด็น เชน่

- ธนาคารโลกได้รับเงินสนับสนุนมาจากท่ีใด
(แนวตอบ จากสมาชิกและดอกเบ้ียเงนิ กู้)
23. ครใู ห้นกั เรยี นกล่มุ : กองทุนการเงนิ ระหว่างประเทศ นำเสนอผลการศึกษา
24. นักเรียนกล่มุ อื่นแสดงความคดิ เห็นหรือซักถามเพ่ิมเตมิ ในประเด็น เช่น
- IMF มีความสำคัญตอ่ ประเทศกำลงั พัฒนาอย่างไร
(แนวตอบ ใหค้ วามชว่ ยเหลือทางด้านการเงนิ เพ่ือนำไปฟื้นฟูเศรษฐกจิ ของประเทศ)
25. ครใู ห้นกั เรียนกลุม่ : องค์การเพ่อื ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพฒั นา นำเสนอผลการศึกษา
26. นกั เรยี นกลมุ่ อ่ืนแสดงความคิดเหน็ หรือซักถามเพ่ิมเตมิ
27. ครใู ห้นกั เรยี นกลุ่ม : ธนาคารเพื่อการพฒั นาเอเชีย นำเสนอผลการศึกษา
28. นกั เรยี นกล่มุ อ่นื แสดงความคิดเห็นหรือซักถามเพ่ิมเตมิ
29. ครใู ห้นกั เรยี นกลมุ่ : คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรบั เอเชยี และแปซิฟิก นำเสนอผลการศกึ ษา
30. นกั เรยี นกล่มุ อื่นแสดงความคดิ เหน็ หรือซักถามเพ่ิมเติม
31. ครใู หน้ ักเรียนแต่ละหมายเลขกลับไปทกี่ ลุ่มเดมิ และร่วมกนั ทำใบงานท่ี 10.2 เรอ่ื ง กลุม่ ทางเศรษฐกิจและ
องค์กรระหวา่ งประเทศ
32. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้องของใบงาน
33. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกนั เก่ียวกบั กลมุ่ ทางเศรษฐกิจและองค์กรระหว่างประเทศ
34. ครใู ห้นกั เรยี นทำกจิ กรรมที่เกีย่ วกบั กลมุ่ ทางเศรษฐกจิ และองค์กรระหว่างประเทศ ในแบบฝึกสมรรถนะฯ
เศรษฐศาสตร์ ม.3 เพ่อื เป็นการบา้ นส่งครใู นชว่ั โมงถัดไป
35. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การอภปิ ราย เร่ือง บทบาทและความสำคัญของ
การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ
36. ใหน้ กั เรยี นทำแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3 เรื่อง การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ เพื่อทดสอบ
ความรู้ทไี่ ด้ศึกษามา

ขน้ั สรุป

- ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรเู้ กี่ยวกับกลุ่มทางเศรษฐกิจและองค์กรระหว่างประเทศ หรือใช้ PPT สรุป
สาระสำคญั ของเนือ้ หา ตลอดจนความสำคัญต่อการดำเนินชวี ติ ประจำวนั

ขนั้ ประเมิน

1. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยการเรียนร้ทู ี่ 10 เร่อื ง การรวมกล่มุ ทางเศรษฐกจิ และองคก์ ร
ระหวา่ งประเทศ

2. ครปู ระเมนิ ผลโดยสังเกตจากการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำงาน และการนำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน
3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน แบบฝกึ ฯ และแบบวัดฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3

8. การวัดและประเมินผล

รายการวดั วธิ วี ดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน

8.1 การวัดและประเมินผล

ระหว่างการจัดกิจกรรม

การเรยี นรู้

1) อธบิ ายและจำแนกกลุ่ม - ตรวจใบงานที่ 10.2 - ใบงานท่ี 10.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ทางเศรษฐกิจและองค์กร

ระหว่างประเทศได้

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การนำเสนอ - ระดบั คณุ ภาพ 2

ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์

3) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2

การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

4) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2

การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานรายกลมุ่ ผ่านเกณฑ์

5) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมนิ คุณลักษณะ - ระดบั คุณภาพ 2

อันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มัน่ ใน อันพงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

การทำงาน

8.2 การวัดและประเมินผล - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

หลังเรียน หลงั เรยี น

- แบบทดสอบหลงั เรยี น

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 10

เรอ่ื ง การรวมกล่มุ ทาง

เศรษฐกจิ และองค์กร

ระหว่างประเทศ

9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้

9.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี นสังคมศึกษาฯ ม.3
2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
3) แบบวัดฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
4) หนงั สอื คน้ คว้าเพ่ิมเติม
(1) ขจติ จิตตเสวี. 2553. องคก์ ารระหว่างประเทศ. กรุงเทพมหานคร : วญิ ญูชน.
(2) สมบรู ณ์ เสงี่ยมบุตร. 2549. กฎหมายระหว่างประเทศเก่ียวกับการค้าและการลงทนุ .
กรุงเทพมหานคร : บรรณกิจ.
5) ใบงานท่ี 10.2 เร่อื ง กล่มุ ทางเศรษฐกิจและองคก์ รระหวา่ งประเทศ

9.2 แหล่งการเรียนรู้

1) หอ้ งสมุด
2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ

- https://www.mfa.go.th
- https://www.wto.org
- https://web.worldbank.org
- https://www.thairath.co.th
- https://www.khaosod.co.th

ใบงานท่ี 10.2

เรื่อง กลมุ่ ทางเศรษฐกจิ และองคก์ รระหว่างประเทศ

คำช้แี จง
ตอนที่ 1 : ใหน้ กั เรียนอธบิ ายการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจในภมู ภิ าคตา่ งๆ ตามหัวข้อในตาราง

1. สหภาพยุโรป (European Union : EU)

จำนวนสมาชกิ
วัตถุประสงค์หลัก

นโยบายสำคัญ

ผลการดำเนินงาน

2. สมาคมเขตการคา้ เสรยี โุ รป (European Free Trade Association : EFTA)
จำนวนสมาชิก
วัตถุประสงค์หลกั

นโยบายสำคัญ

ผลการดำเนินงาน

3. เขตการคา้ เสรีอเมริกาเหนอื (North America Free Trade Agreement : NAFTA)
จำนวนสมาชิก
วตั ถุประสงค์หลัก

นโยบายสำคญั

ผลการดำเนินงาน
4. กล่มุ ความร่วมมอื ทางเศรษฐกจิ เอเชยี -แปซิฟกิ (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC)

จำนวนสมาชิก
วัตถปุ ระสงค์หลัก

นโยบายสำคญั

ผลการดำเนินงาน

5. กลุ่มประเทศผูส้ ่งออกน้ำมัน (Organization of the Petroleum Exporting Countries : OPEC)
จำนวนสมาชิก
วตั ถปุ ระสงค์หลัก

นโยบายสำคญั

ผลการดำเนินงาน

6. สมาคมประชาชาติเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (Association of South East Asian Nations : ASEAN)
จำนวนสมาชิก
วตั ถปุ ระสงค์หลัก

นโยบายสำคญั

ผลการดำเนนิ งาน

7. กลมุ่ ประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกจิ อย่างรวดเรว็ (BRICS)

จำนวนสมาชิก
วัตถุประสงคห์ ลกั

นโยบายสำคญั

ผลการดำเนินงาน

ตอนที่ 2 : ให้นักเรยี นนำข่าวเกี่ยวกับผลงานขององค์กรระหว่างประเทศ 1 องค์กร มาวเิ คราะห์และตอบคำถาม

ชอื่ ขา่ ว

(สาระ)

ทม่ี า :

คำถาม
1. ข่าวนีเ้ ปน็ ผลงานขององค์กรระหว่างประเทศใด
2. มีการดำเนนิ งานทส่ี ำคญั เป็นไปตามบทบาทหน้าท่ขี ององค์กรอยา่ งไรบ้าง

3. ผลของการดำเนนิ งานเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งไร จงอธิบาย พร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ

เฉลย

ใบงานที่ 10.2

เรอ่ื ง กลมุ่ ทางเศรษฐกิจและองคก์ รระหว่างประเทศ

คำชีแ้ จง
ตอนท่ี 1 : ใหน้ ักเรียนอธิบายการรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ ในภมู ิภาคต่างๆ ตามหวั ข้อในตาราง

จำนวนสมาชิก 1. สหภาพยโุ รป (European Union : EU)
วตั ถุประสงค์หลัก
28 ประเทศ ในทวปี ยโุ รป

1. ป้องกันความขัดแย้ง และการทำสงครามระหว่างประเทศ
2. ร่วมมอื ทางด้านเศรษฐกิจเพ่อื ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน
3. ลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน ขจัดอปุ สรรคทางการค้ากับภายนอก รักษาระดบั ดลุ การค้า

นโยบายสำคัญ 1. นโยบายการค้า ยกเลกิ ภาษศี ลุ กากร มาตรการจำกดั ปรมิ าณและคา่ ธรรมเนียมสนิ คา้
ผลการดำเนินงาน 2. นโยบายการเกษตร มีการค้าสนิ คา้ เกษตรเสรีภายในกลมุ่
3. นโยบายการเงิน สรา้ งหน่วยเงนิ ตรายโุ รปสกุลเดียวกัน คือ ยโู ร (EURO) ยกเว้น

สหราชอาณาจกั ร เดนมารก์ สวีเดน

—

2. สมาคมเขตการคา้ เสรยี โุ รป (European Free Trade Association : EFTA)

จำนวนสมาชกิ 8 ประเทศ ในทวีปยโุ รป

วัตถุประสงค์หลัก 1. เพ่ือให้ประเทศตา่ งๆ ในยุโรปท่ไี มพ่ รอ้ มทจ่ี ะเข้าร่วมในนโยบายเกษตรรว่ มเข้าเปน็ สมาชิก
2. เพื่อประโยชน์รว่ มกนั ในการดำเนนิ การเขตการคา้ เสรรี ะหวา่ งประเทศสมาชกิ โดยเนน้ ดา้ น

การคา้ และสินคา้ อตุ สาหกรรม

นโยบายสำคญั เน้นการดำเนนิ การเขตการค้าเสรดี า้ นการคา้ สินคา้ อุตสาหกรรม

ผลการดำเนนิ งาน ไม่ประสบความสำเรจ็ เทา่ ทีค่ วร

3. เขตการคา้ เสรอี เมริกาเหนือ (North America Free Trade Agreement : NAFTA)

จำนวนสมาชกิ 34 ประเทศ ในทวีปอเมรกิ า

วัตถปุ ระสงคห์ ลกั 1. เพื่อขจัดอปุ สรรคทก่ี ดี กันการคา้ และบรกิ าร

2. ส่งเสรมิ การแขง่ ขันทเี่ ป็นธรรมและขยายโอกาสการลงทนุ

3. กำหนดมาตรฐานคมุ้ ครองทรัพยส์ นิ ทางปัญญา

นโยบายสำคัญ 1. ดา้ นการค้า มกี ารยกเลิกภาษีศลุ กากรระหว่างกัน ยกเวน้ สนิ คา้ การเกษตร
2. ด้านทรพั ย์สนิ ทางปัญญา ใช้มาตรการปกป้องลิขสิทธิ์ สทิ ธิบัตร เคร่ืองหมายการค้า
3. ดา้ นสนิ คา้ เกษตร มกี ารคุม้ ครองสมาชิกเป็นพิเศษ

ผลการดำเนินงาน เปน็ กลุม่ ทางเศรษฐกจิ ท่มี ีอิทธพิ ลตอ่ เศรษฐกจิ ของโลก

4. กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกจิ เอเชยี -แปซิฟกิ (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC)

จำนวนสมาชกิ 12 ประเทศ

วัตถปุ ระสงคห์ ลัก 1. เพอื่ พัฒนาระบบการค้า
2. สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภมู ภิ าคและโลก
3. ลดอปุ สรรคและอำนวยความสะดวกทางการค้า การบริการ การลงทุนระหว่างสมาชกิ
4. ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหม้ ีการไหลเวียนสนิ คา้ บรกิ าร ทนุ และเทคโนโลยีระหว่างกันโดยเสรี

นโยบายสำคญั ส่งเสรมิ ความเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจในภมู ภิ าคเอเชีย-แปซฟิ ิก

ผลการดำเนนิ งาน เป็นเวทีการตอ่ รองเพือ่ ลดอปุ สรรคทางการคา้ และการลงทุนต่อกัน

5. กลุม่ ประเทศผูส้ ่งออกนำ้ มัน (Organization of the Petroleum Exporting Countries : OPEC)
จำนวนสมาชกิ 12 ประเทศ
วัตถุประสงค์หลกั เป็นตัวกลางประสานงานด้านนโยบายน้ำมันระหว่างประเทศผ้ผู ลติ นำ้ มันในการรักษาระดบั ราคา

ใหม้ คี วามเปน็ ธรรม สรา้ งความมนั่ คงให้แกป่ ระเทศผผู้ ลติ น้ำมัน

นโยบายสำคญั รักษาระดับราคานำ้ มนั ใหม้ ีความเป็นธรรม และใหม้ กี ารผลิตอย่างมปี ระสิทธภิ าพและมรี ะดับ
ความสม่ำเสมอในการผลติ

ผลการดำเนินงาน มกี ารผลติ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพเพยี งพอกบั ตลาดโลก มีอทิ ธิพลต่อระบบเศรษฐกจิ โลก

6. สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ (Association of South East Asian Nations : ASEAN)
จำนวนสมาชกิ 10 ประเทศ
วัตถุประสงค์หลกั สง่ เสรมิ ความรว่ มมือชว่ ยเหลือกนั ในดา้ นเศรษฐกจิ สังคม วฒั นธรรม วชิ าการ วิทยาศาสตร์

การบริหาร สันตภิ าพ และเสถียรภาพในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้

นโยบายสำคญั 1. ให้ความช่วยเหลือกนั ระหว่างประเทศในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใตใ้ นดา้ นการคา้
ผลการดำเนนิ งาน อตุ สาหกรรม การลงทนุ การบรกิ าร วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม วฒั นธรรม

2. อำนวยความสะดวกในการขนสง่ สินค้าผ่านแดนของอาเซยี น
3. เช่ือมโยงความรว่ มมือกับกลุ่มเศรษฐกิจในภมู ภิ าคอนื่

มกี ารวางแผนทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วชิ าการ วทิ ยาศาสตรอ์ ย่างเป็นระบบ

จำนวนสมาชกิ 7. กล่มุ ประเทศท่ีมกี ารพฒั นาเศรษฐกิจอยา่ งรวดเร็ว (BRICS)
วัตถุประสงคห์ ลกั
5 ประเทศ
เพ่อื ขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยใชท้ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละผลผลติ ทางการเกษตร

นโยบายสำคัญ เป็นศนู ยก์ ลาง การผลติ ด้านการเกษตร

ผลการดำเนินงาน มีพันธมติ รจากประเทศต่างๆ ซ่ึงมีพื้นทีม่ ากกวา่ หนง่ึ ในส่ีของแผน่ ดนิ โลก

ตอนที่ 2 : ให้นักเรยี นนำขา่ วเกย่ี วกับผลงานขององค์กรระหว่างประเทศ 1 องคก์ ร มาวิเคราะห์และตอบคำถาม

ช่อื ขา่ ว

(สาระ)

ท่ีมา :

คำถาม
1. ขา่ วน้ีเปน็ ผลงานขององคก์ รระหว่างประเทศใด
2. มกี ารดำเนินงานทีส่ ำคัญเป็นไปตามบทบาทหน้าทีข่ ององค์กรอย่างไรบ้าง

3. ผลของการดำเนนิ งานเป็นประโยชนอ์ ยา่ งไร จงอธบิ าย พร้อมยกตัวอย่างประกอบ

(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน)

ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด

กจิ กรรม การอภิปราย เร่อื ง บทบาทและความสำคัญของการรวมกลุม่ ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

คำช้ีแจง : ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ การอภิปราย เร่อื ง บทบาทและความสำคัญของการรวมกล่มุ ทาง
เศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กำหนด

แบบประเมินการอภิปราย เรื่อง บทบาทและความสำคัญของการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ

รายการประเมิน ดมี าก (4) คำอธิบายระดบั คุณภาพ / ระดบั คะแนน ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การอภปิ ราย อภิปรายความสำคญั ของ อภปิ รายความสำคญั ของ อภิปรายความสำคญั ของ อภปิ รายความสำคญั ของ

ความสำคญั ของการ การรวมกลมุ่ ทาง การรวมกลุม่ ทาง การรวมกลมุ่ ทาง การรวมกลุ่มทาง

รวมกลมุ่ ทาง เศรษฐกิจระหว่างประเทศ เศรษฐกิจระหว่างประเทศ เศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศ เศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ

เศรษฐกจิ ระหวา่ ง ได้ถกู ต้อง สมบรู ณ์ ไดถ้ ูกตอ้ ง ค่อนข้าง ไดถ้ กู ต้อง เป็นบางสว่ น ไดถ้ กู ต้อง เปน็ บางส่วน

ประเทศ ชดั เจน สมบรู ณ์ ชดั เจน แตไ่ มช่ ดั เจน

2. การอภิปรายผลงาน อภิปรายผลงานสำคัญ อภิปรายผลงานสำคัญ อภปิ รายผลงานสำคญั อภปิ รายผลงานสำคัญ

สำคัญของกลุ่มทาง ของกลุ่มทางเศรษฐกจิ ของกลุม่ ทางเศรษฐกิจ ของกลุ่มทางเศรษฐกจิ ของกลุ่มทางเศรษฐกจิ

เศรษฐกจิ ระหว่าง ระหวา่ งประเทศได้ถกู ตอ้ ง ระหว่างประเทศได้ถกู ตอ้ ง ระหว่างประเทศได้ถูกต้อง ระหวา่ งประเทศได้ถกู ต้อง

ประเทศ ชัดเจน 3 กลุ่มขนึ้ ไป ชดั เจน 2 กล่มุ ชดั เจน 1 กลุม่ 1 กล่มุ แต่ไมช่ ดั เจน

3. การอภิปรายผลจาก อภิปรายผลจากการ อภิปรายผลจากการ อภิปรายผลจากการ อภปิ รายผลจากการ
รวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจ รวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ รวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ
การรวมกลุม่ ทาง รวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจ ระหวา่ งประเทศได้ ระหวา่ งประเทศได้ ระหวา่ งประเทศได้
ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ถกู ตอ้ ง ชัดเจน ถูกตอ้ ง ชัดเจน
เศรษฐกิจระหวา่ ง ระหว่างประเทศได้
3 ประเด็น 2 ประเดน็ 1 ประเดน็
ประเทศ ถูกต้อง ชัดเจน

4 ประเดน็

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ 11 - 12 9 - 10 6 - 8 ตำ่ กวา่ 6
ชว่ งคะแนน ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
ระดบั คณุ ภาพ

แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนำเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกตอ้ งของเนอื้ หา
2 การลำดบั ขัน้ ตอนของเร่ือง
3 วธิ กี ารนำเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอ
5 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม

รวม

ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
............/................./................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล

คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
321

1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อืน่
3 การทำงานตามหน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
4 ความมีนำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา

รวม

ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../..............

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่

คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่

ตรงกับระดบั คะแนน

การมี

ลำดับท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม
ของนกั เรียน ความ ฟังคนอ่นื ตามท่ีไดร้ บั น้ำใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ปรบั ปรงุ
ผลงานกลุ่ม

321321321321321

เกณฑ์การให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมิน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............../.................../...............
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่

ตรงกับระดบั คะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติ

กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์

ต่อโรงเรยี น

1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏิบัติตามหลักศาสนา

1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี ก่ยี วกบั สถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามท่ีโรงเรยี นจดั ขนึ้

2. ซอ่ื สัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง

2.2 ปฏิบัตใิ นสงิ่ ที่ถูกตอ้ ง

3. มีวินัย รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ

3.2 มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวัน

4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รู้จกั ใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้

4.2 ศกึ ษาค้นคว้าความรู้จากสอื่ และเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งสมำ่ เสมอ

5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใชท้ รัพย์สินและสง่ิ ของของตนเองและส่วนรวมอย่างประหยดั

5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณค่า

5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย

6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็

7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย

7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจติ สาธารณะ 8.1 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม

8.2 เข้ารว่ มกิจกรรม เพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ
พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้งั ............../.................../................
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางครัง้
ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้
 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
 ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
 ด้านความสามารถทางภมู ิศาสตร์
 ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

11. ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงช่ือ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 10

คำช้แี จง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ มคี วามสำคัญอย่างไร 6. องค์การคา้ โลกมบี ทบาทสำคญั ในขอ้ ใด

ก. ตลาดขยายตวั ต้นทนุ การผลติ สินค้าลดลง ก. วางกฎระเบยี บ กตกิ า ด้านการคา้ และการบริการ

ปัจจยั การผลติ เคล่อื นยา้ ยได้เสรมี ากขึ้น ระหวา่ งประเทศสมาชกิ

ข. มีการคา้ ภายในกลมุ่ นอ้ ยกวา่ การคา้ นอกกลมุ่ ข. เปน็ ตัวแทนของกลมุ่ เศรษฐกิจในภมู ิภาคตา่ งๆ

ปัจจัยการผลติ จะอย่ใู นพ้นื ท่กี ารผลิต ในด้านการคา้ ขาย

ค. การผลติ ใช้วัตถดุ ิบนอ้ ยลง มกี ารบริการมากข้ึน ค. ให้ความช่วยเหลอื แกป่ ระเทศสมาชกิ ในด้านการเงนิ

อัตราดอกเบยี้ สูงขึน้ การกเู้ งนิ ซง่ึ มอี ตั ราดอกเบย้ี ต่ำ

ง. การใชท้ รพั ยากรมากขึ้น ต้นทุนการผลติ ลดลง ง. เปน็ องค์กรที่ตดั สินขอ้ พิพาทระหวา่ งกลมุ่ ประเทศ

ตลาดขยายวงกว้างไปยังทกุ ภมู ภิ าคของโลก สมาชิก

อัตราดอกเบย้ี สูง 7. บทบาทสำคัญของการประชุมสหประชาชาติวา่ ดว้ ยการค้า

2. เขตการคา้ เสรีมลี กั ษณะสำคญั อยา่ งไร และการพฒั นา (UNCTAD) คืออะไร

ก. สมาชิกตกลงยกเลิกการเก็บภาษีระหว่างประเทศ ก. บรหิ ารงานและประสานงานกบั องค์กรระหว่าง

ข. สมาชกิ ตกลงกนั ตง้ั อัตราภาษกี ับประเทศนอกกลมุ่ ประเทศ

สมาชิกในราคาทเ่ี ป็นธรรม ข. ใหป้ ระเทศสมาชิกกลมุ่ เศรษฐกจิ ไดก้ ู้เงินไปลงทนุ

ค. ยกเลิกมาตรการจำกดั การนำเขา้ ดา้ นการเกบ็ ภาษี ค. กำหนดอัตราภาษีของประเทศกลมุ่ สมาชกิ

ศลุ กากรจากการนำเข้าสินค้าระหวา่ งประเทศในกลุ่ม ง. ส่งเสรมิ การคา้ ระหว่างประเทศทมี่ รี ะดับการพฒั นา

ง. สมาชกิ ทุกประเทศยินยอมสละอำนาจอธิปไตยเพ่อื ทแี่ ตกต่างกนั

กำหนดนโยบายต่างๆ ร่วมกันอยา่ งมีประสิทธภิ าพ 8. ปญั หาสำคัญของ UNCTAD คืออะไร

3. การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ กล่มุ แรก คือกลุม่ ใด ก. การบรหิ ารจัดการใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ ตกลงเป็นไป

ก. สหภาพยโุ รป อย่างลำบาก

ข. เขตการคา้ เสรีอเมรกิ าเหนือ ข. ประเทศต่างๆ ขาดความรว่ มมอื ในการดำเนนิ งานตาม

ค. กลุ่มสมาคมเขตการคา้ เสรียโุ รป ข้อตกลงท่ีกำหนดไว้

ง. กลุ่มความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ เอเชยี -แปซฟิ ิก ค. การท่ีประเทศในกลมุ่ เศรษฐกจิ หลายกล่มุ มารวมกัน

4. กล่มุ เศรษฐกจิ ที่มอี ำนาจกำหนดราคานำ้ มนั โลก คอื กล่มุ ใด ทำใหข้ อ้ คิดเห็นมีความแตกตา่ งกนั มีความยากลำบาก

ก. กลุ่มโอเปก (OPEC) ข. กลมุ่ เอเปก (APEC) ในการกำหนดระเบยี บรว่ มกนั

ค. กลมุ่ อาฟตา (AFTA) ง. กลมุ่ นาฟตา (NAFTA) ง. ประเทศกำลงั พัฒนาได้ถอื เอาองั ถดั เป็นเวทเี รยี กรอ้ ง

5. สมาคมประชาชาตเิ อเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (ASEAN) สิ่งตา่ งๆ จากประเทศพัฒนาแล้ว

มีวัตถุประสงคใ์ นการก่อตั้งหลายประการ ยกเว้น ข้อใด 9. องคก์ รระหว่างประเทศในข้อใดใหค้ วามช่วยเหลอื ทาง

ก. รว่ มมือกันทางดา้ นการค้า การลงทนุ การเงินกบั ประเทศสมาชิกทปี่ ระสบปญั หาดลุ ชำระเงิน

ข. อำนวยความสะดวกในการขนสง่ สนิ ค้า ก. องค์การการคา้ โลก

ค. รว่ มมือกนั ทางด้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ข. กองทนุ การเงินระหวา่ งประเทศ

ง. ชว่ ยเหลือและร่วมมอื กันทางดา้ นการทหาร การเมอื ง ค. กลุม่ ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกิจเอเชยี -แปซิฟิก

ง. การประชุมสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการคา้ และการ 16. ผู้ท่เี ปน็ แรงงานฝมี อื ควรมกี ารปรับตวั อยา่ งไรเมื่อประเทศมี

พฒั นา การเปิดการค้าเสรี

10. กลุ่มเศรษฐกิจกลมุ่ ใดมีบทบาทสำคญั ทางการค้าและมผี ล ก. ลดช่วั โมงการทำงานต่อวันใหน้ ้อยลง

ตอ่ การคา้ ของประเทศอื่นท่วั โลก ข. เรยี กร้องอัตราคา่ จ้างแรงงานให้สงู ข้นึ

ก. กลุ่มความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ เอเชยี -แปซฟิ ิก ค. ฝึกฝนพัฒนาทกั ษะทางด้านอาชพี ให้ชำนาญ

ข. กล่มุ ประเทศผสู้ ง่ ออกนำ้ มัน สมาคมประชาชาติ เอเชีย ง. เพิ่มรายจา่ ยในชีวติ ประจำวนั เพื่อพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต

ตะวนั ออกเฉียงใต้ 17. WTO เป็นองค์กรทางด้านเศรษฐกิจทกี่ อ่ ต้งั ขนึ้ เพ่ือ

ค. กลุ่มสหภาพยโุ รป กลมุ่ การคา้ เสรอี เมรกิ าเหนอื วัตถปุ ระสงค์ใด

ง. เขตการค้าเสรีอาเซยี น กลมุ่ ประเทศผ้สู ่งออกน้ำมนั ก. การขยายเครอื ขา่ ยทางการค้า

11. เมอื่ เกิดการรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ จะได้รบั ข. แก้ไขปญั หาการกดี กนั ทางการค้า

ผลประโยชน์อย่างไร ค. สร้างพนั ธมติ รเพอื่ การผลติ สินค้า

ก. สินค้าจะขายดีขนึ้ ข. ตน้ ทนุ การผลติ ลดลง ง. แก้ไขการกระจายรายได้ทไ่ี ม่เปน็ ธรรม

ค. เปน็ ผผู้ กู ขาดสินคา้ ง. การลงทุนมคี วามเสย่ี งนอ้ ย 18. องค์การทางเศรษฐกจิ ใดทีม่ ีบทบาทสง่ เสรมิ การคา้ ระหว่าง

12. ประเทศไทยจะไดร้ ับประโยชน์อยา่ งไรเม่อื เขา้ สู่ AEC ประเทศทม่ี รี ะดบั การพัฒนาท่แี ตกต่างกนั

ก. มีช่องทางการคา้ และการลงทนุ มากข้ึน ก. WTO ข. APEC

ข. ชว่ ยลดภาวะการแข่งขนั ระหวา่ งประเทศ ค. ASEAN ง. UNCTAD

ค. เปน็ หลกั ประกนั วา่ สินคา้ จะเปน็ ท่ียอมรบั 19. ธนาคารโลกมบี ทบาทสำคัญทางด้านเศรษฐกิจอยา่ งไร

ง. ประชาชนมฐี านะทางเศรษฐกจิ เท่าเทียมกัน ก. ม่งุ ขจดั ปญั หาการละมดิ ลิขสิทธทิ์ างการคา้

13. ขอ้ ใดคือผลทเ่ี กิดขึน้ จากการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ข. ให้ความชว่ ยเหลือเงนิ บรจิ าคระหว่างประเทศ

ก. เกดิ การผูกขาดทางการค้า ค. ให้สมาชิกกูเ้ งินเพ่อื นำไปพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ข. เกดิ การขยายตัวทางเศรษฐกจิ ง. กำหนดและควบคุมมาตรฐานการผลติ สินค้าใน

ค. แรงงานภายในประเทศไมร่ ่วั ไหล ประเทศ

ง. วตั ถุดิบในการผลติ สินคา้ มรี าคาสงู ขึ้น กำลังพัฒนา

14. การรวมกล่มุ ทางเศรษฐกิจกอ่ ให้เกดิ ผลดอี ยา่ งไร 20. คณะกรรมการ ESCAP ตงั้ ขน้ึ เพือ่ วตั ถุประสงค์ใด

ก. ตน้ ทุนการผลติ นอ้ ยลง ข. คู่แข่งนอ้ ยลง ก. สรา้ งความมั่นคงด้านเศรษฐกิจในทวปี ยโุ รป

ค. การทำธรุ กิจไมเ่ สี่ยง ง. สนิ ค้าไดร้ บั ความนิยม ข. ควบคมุ มาตรการการค้ากบั ประเทศสมาชิก

15. ASEAN เป็นการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจในลักษณะใด ค. สง่ เสริมความรว่ มมอื ทางวิชาการในทวีปเอเชีย

ก. ตลาดรว่ ม ข. เขตการค้าเสรี ง. สง่ เสรมิ และสรา้ งความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ

ค. สหภาพศลุ กากร ง. สหภาพเศรษฐกจิ และสังคมแห่งเอเชียและแปซฟิ ิก

เฉลย

1. ก 2. ค 3. ก 4. ก 5. ง 6. ก 7. ง 8. ง 9. ข 10. ค
11. ข 12. ก 13. ข 14. ก 15. ข 16. ค 17. ข 18. ง 19. ค 20. ง

แบบทดสอบหลงั เรียน

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 10

คำชี้แจง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. คณะกรรมการ ESCAP ตั้งข้นึ เพ่อื วัตถปุ ระสงค์ใด

ก. สรา้ งความมนั่ คงด้านเศรษฐกจิ ในทวปี ยโุ รป 6. กลุ่มเศรษฐกิจท่มี ีอำนาจกำหนดราคานำ้ มนั โลก คือกล่มุ ใด

ข. ควบคุมมาตรการการคา้ กับประเทศสมาชิก ก. กลมุ่ โอเปก (OPEC) ข. กลุ่มเอเปก (APEC)

ค. สง่ เสริมความร่วมมือทางวชิ าการในทวปี เอเชีย ค. กลุม่ อาฟตา (AFTA) ง. กลมุ่ นาฟตา (NAFTA)

ง. สง่ เสริมและสรา้ งความร่วมมอื ในการพัฒนา 7. ผทู้ ่ีเปน็ แรงงานฝมี ือควรมีการปรับตัวอย่างไรเม่อื ประเทศมี

เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ เอเชยี และแปซฟิ กิ การเปิดการค้าเสรี

2. ประเทศไทยจะไดร้ ับประโยชน์อย่างไรเมอื่ เขา้ สู่ AEC ก. ลดชัว่ โมงการทำงานต่อวันใหน้ อ้ ยลง

ก. มชี ่องทางการคา้ และการลงทุนมากข้ึน ข. เรยี กรอ้ งอตั ราคา่ จ้างแรงงานใหส้ ูงขึ้น

ข. ชว่ ยลดภาวะการแขง่ ขนั ระหวา่ งประเทศ ค. ฝกึ ฝนพฒั นาทกั ษะทางด้านอาชีพให้ชำนาญ

ค. เป็นหลกั ประกนั วา่ สินคา้ จะเปน็ ท่ียอมรับ ง. เพิ่มรายจ่ายประจำวันเพอ่ื พัฒนาคุณภาพชวี ิต

ง. ประชาชนมีฐานะทางเศรษฐกจิ เทา่ เทียมกัน 8. สมาคมประชาชาตเิ อเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN)

3. องคก์ รระหวา่ งประเทศในขอ้ ใดใหค้ วามชว่ ยเหลือทาง มีวัตถปุ ระสงค์การกอ่ ตั้งหลายประการ ยกเว้น ข้อใด

การเงนิ กบั ประเทศสมาชิกทีป่ ระสบปัญหา ก. ร่วมมือกันทางด้านการคา้ การลงทนุ

ดลุ ชำระเงนิ ข. อำนวยความสะดวกในการขนส่งสนิ คา้

ก. องคก์ ารการค้าโลก ค. ร่วมมอื กันทางดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี

ข. กองทุนการเงนิ ระหว่างประเทศ ง. ชว่ ยเหลือและร่วมมอื กนั ทางดา้ นการทหาร การเมือง

ค. กล่มุ ความรว่ มมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟกิ 9. ข้อใดคอื ผลทีเ่ กิดข้นึ จากการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจ

ง. การประชมุ สหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการคา้ และการ ก. เกดิ การผกู ขาดทางการค้า

พฒั นา ข. เกดิ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ

4. ธนาคารโลกมีบทบาทสำคัญทางดา้ นเศรษฐกจิ อย่างไร ค. แรงงานภายในประเทศไมร่ ั่วไหล

ก. มงุ่ ขจัดปัญหาการละมดิ ลิขสทิ ธ์ิทางการค้า ง. วัตถดุ ิบในการผลติ สินคา้ มรี าคาสูงข้ึน

ข. ให้ความช่วยเหลอื เงนิ บรจิ าคระหว่างประเทศ 10. บทบาทสำคญั ของการประชมุ สหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการค้า

ค. ใหส้ มาชิกก้เู งนิ เพ่อื นำไปพฒั นาเศรษฐกิจของ และการพฒั นา (UNCTAD) คืออะไร

ประเทศ ก. บริหารงานและประสานงานกบั องคก์ รระหวา่ ง

ง. กำหนดและควบคุมมาตรฐานการผลติ สนิ ค้าใน ประเทศ

ประเทศกำลงั พฒั นา ข. ใหป้ ระเทศสมาชกิ กลมุ่ เศรษฐกจิ ได้กเู้ งนิ ไปลงทุน

5. การรวมกลุม่ ทางเศรษฐกิจกลุม่ แรก คอื กลุม่ ใด ค. กำหนดอัตราภาษขี องประเทศกลมุ่ สมาชิก

ก. สหภาพยโุ รป ง. สง่ เสรมิ การค้าระหว่างประเทศที่มรี ะดับการพฒั นาท่ี

ข. เขตการคา้ เสรอี เมรกิ าเหนอื แตกตา่ งกนั

ค. กล่มุ สมาคมเขตการคา้ เสรยี โุ รป

ง. กลุม่ ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ เอเชยี -แปซิฟกิ

11. การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจมคี วามสำคญั อย่างไร 15. องค์การทางเศรษฐกิจใดทมี่ บี ทบาทส่งเสรมิ การคา้ ระหว่าง

ก. ตลาดขยายตัว ต้นทุนการผลิตสนิ ค้าลดลง ประเทศที่มรี ะดบั การพฒั นาท่แี ตกต่างกัน

ปจั จยั การผลติ เคลอื่ นยา้ ยได้เสรมี ากข้ึน ก. WTO ข. APEC

ข. มีการคา้ ภายในกลมุ่ น้อยกว่าการคา้ นอกกลมุ่ ค. ASEAN ง. UNCTAD

ปจั จัยการผลติ จะอย่ใู นพื้นที่การผลิต 16. บทบาทสำคัญของการประชมุ สหประชาชาติว่าดว้ ยการค้า

ค. การผลิตใช้วตั ถดุ ิบนอ้ ยลง มกี ารบรกิ ารมากขนึ้ และการพฒั นา (UNCTAD) คอื อะไร

อตั ราดอกเบย้ี สูงขึน้ ก. บรหิ ารงานกับองคก์ รต่าง ๆ

ง. การใชท้ รพั ยากรมากข้ึน ตน้ ทุนการผลิตลดลง ข. ใหป้ ระเทศสมาชกิ กลมุ่ เศรษฐกิจกเู้ งิน

ตลาดขยายวงกว้างไปยงั ทุกภมู ภิ าคของโลก ค. กำหนดอตั ราภาษีของประเทศกลมุ่ สมาชิก

อตั ราดอกเบยี้ สงู ง. ส่งเสรมิ การค้าระหวา่ งประเทศที่มรี ะดับการพฒั นาท่ี

12. กลมุ่ เศรษฐกิจกลมุ่ ใดมบี ทบาทสำคัญทางการค้าและมผี ล แตกต่างกัน

ต่อการค้าของประเทศอ่นื ท่ัวโลก 17. องคก์ ารค้าโลกมบี ทบาทสำคญั ในขอ้ ใด

ก. กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชยี -แปซฟิ ิก ก. วางกฎระเบยี บ กตกิ า ด้านการค้าและการบริการ

ข. กลมุ่ ประเทศผ้สู ่งออกนำ้ มัน สมาคมประชาชาติ เอเชยี ระหว่างประเทศสมาชกิ

ตะวนั ออกเฉียงใต้ ข. เป็นตวั แทนของกลุม่ เศรษฐกิจในภมู ิภาคตา่ งๆ

ค. กลมุ่ สหภาพยโุ รป กลมุ่ การคา้ เสรอี เมรกิ าเหนือ ในดา้ นการค้าขาย

ง. เขตการคา้ เสรอี าเซยี น กลุ่มประเทศผ้สู ง่ ออก ค. ให้ความช่วยเหลือแกป่ ระเทศสมาชกิ ในด้านการเงิน

น้ำมัน การก้เู งินซึง่ มอี ัตราดอกเบย้ี ตำ่

13. ASEAN เปน็ การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจในลักษณะใด ง. เปน็ องคก์ รทต่ี ดั สินข้อพพิ าทระหวา่ งกลุ่มประเทศ

ก. ตลาดร่วม ข. เขตการค้าเสรี สมาชิก

ค. สหภาพศลุ กากร ง. สหภาพเศรษฐกจิ 18. เม่อื เกิดการรวมกล่มุ ทางเศรษฐกจิ ผปู้ ระกอบธุรกจิ จะไดร้ บั

14. เขตการค้าเสรมี ลี ักษณะสำคญั อย่างไร ผลประโยชนอ์ ย่างไร

ก. สมาชิกตกลงยกเลกิ การเก็บภาษรี ะหว่างประเทศ ก. สินคา้ จะขายดีข้ึน ข. ตน้ ทนุ การผลติ ลดลง

ข. สมาชิกตกลงกนั ตงั้ อตั ราภาษีกบั ประเทศนอกกลมุ่ ค. เป็นผู้ผูกขาดสนิ คา้ ง. การลงทุนเสีย่ งนอ้ ย

สมาชิกในราคาทเี่ ป็นธรรม 19. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจกอ่ ใหเ้ กิดผลดีอย่างไร

ค. ยกเลกิ มาตรการจำกดั การนำเขา้ ดา้ นการเก็บภาษี ก. ต้นทุนการผลติ นอ้ ยลง ข. ค่แู ข่งน้อยลง

ศุลกากรจากการนำเข้าสนิ คา้ ระหว่างประเทศในกลุม่ ค. การทำธุรกจิ ไม่เสี่ยง ง. สินคา้ ไดร้ บั ความนยิ ม

ง. สมาชกิ ทกุ ประเทศยนิ ยอมสละอำนาจอธิปไตยเพือ่ 20. WTO เป็นองคก์ รทางดา้ นเศรษฐกิจท่ีกอ่ ตั้งข้ึนเพอื่

กำหนดนโยบายต่างๆ รว่ มกันอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ วัตถุประสงคใ์ ด

ก. เพม่ิ เครอื ขา่ ยการค้า ข. แกป้ ญั หากดี กันการคา้

ค. สรา้ งพนั ธมิตรการคา้ ง. แกก้ ารกระจายรายได้

เฉลย

1. ง 2. ก 3. ข 4. ค 5. ก 6. ก 7. ค 8. ง 9. ข 10. ง
11. ก 12. ค 13. ข 14. ค 15. ง 16. ง 17. ก 18. ข 19. ก 20. ข

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 11 ทวปี อเมรกิ าเหนือ

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1

ทำเลที่ตง้ั อาณาเขต และลกั ษณะภมู ิประเทศของทวีปอเมรกิ าเหนอื

เวลา 3 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด

1.1 ตัวชี้วดั
ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพส่งิ ซึ่งมผี ลตอ่ กนั ใช้แผนที่
และเคร่อื งมือทางภูมิศาสตรใ์ นการคน้ หา วเิ คราะห์ และสรปุ ข้อมูลตามกระบวนการทาง
ภมู ศิ าสตร์ ตลอดจนใช้ภมู ิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ม.3/1 วเิ คราะหล์ กั ษณะทางกายภาพของทวีปอเมริกาเหนือและทวปี อเมรกิ าใต้ โดยเลอื กใช้แผน

ที่
เฉพาะเร่อื งและเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์สบื ค้นข้อมลู

2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. วเิ คราะห์ทำเลทต่ี ง้ั ขนาด อาณาเขต และลักษณะภูมปิ ระเทศของทวปี อเมริกาเหนอื ได้ (K)
2. ใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตรส์ ืบคน้ ข้อมลู เกี่ยวกบั ทำเลท่ตี ัง้ ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภูมปิ ระเทศของ

ทวีปอเมรกิ าเหนือได้ (P)
3. เห็นคณุ ค่าของการศกึ ษาเกี่ยวกบั ทำเลท่ีตง้ั ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนอื

เพิม่ มากขนึ้ (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่ สาระการเรียนรูจ้ ากสื่อ
(พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศึกษา) - ลกั ษณะทางกายภาพของ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- ทต่ี ้งั ขนาด และอาณาเขตของ ทวปี อเมรกิ าเหนือ

ทวปี อเมริกาเหนือและทวปี • ทตี่ งั้ ขนาด และอาณาเขต
อเมริกาใต้
- การเลอื กใช้แผนทเี่ ฉพาะเรื่องและ • ลักษณะภูมิประเทศ
เครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ สืบค้น
ข้อมลู ลักษณะทางกายภาพของ
ทวปี อเมรกิ าเหนือและทวีป
อเมรกิ าใต้

4. มโนทศั น์สำคญั (Key Concept)

- เครอ่ื งมอื ทางภูมศิ าสตร์สามารถนำไปใช้ในการสบื คน้ ข้อมูล เพ่ือวิเคราะห์ถงึ ทำเลทีต่ ้ัง ขนาด อาณาเขต และ
ลักษณะภูมิประเทศ ของทวีปอเมรกิ าเหนือ

5. คำถามหลัก (Big Question)

- ทำไมสหรฐั อเมริกาจึงมีอทิ ธิพลตอ่ ประเทศต่าง ๆ ทวั่ โลก มากกวา่ ประเทศอนื่ ๆ ในทวีปอเมริกาเหนือ

6. การรูเ้ ร่ืองภมู ศิ าสตร์ (Geo-Literacy)

ความสามารถทางภมู ศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ทกั ษะทางภมู ิศาสตร์
1. การสังเกต
- การให้เหตผุ ลทางภมู ิศาสตร์ 1. การตั้งคำถามเชิงภมู ิศาสตร์ 2. การแปลความข้อมลู ทางภูมศิ าสตร์
3. การคิดเชิงพื้นท่ี
2. การรวบรวมขอ้ มลู 4. การคิดแบบองค์รวม
5. การใช้เทคโนโลยี
3. การจดั การข้อมูล

4. การวเิ คราะห์ข้อมูล

5. การสรุปเพือ่ ตอบคำถาม

7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. ใฝ่เรยี นรู้

2. ความสามารถในการคิด 2. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

1) ทักษะการสำรวจค้นหา

2) ทักษะการรวบรวมข้อมูล

3) ทกั ษะการวเิ คราะห์

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

8. กจิ กรรมการเรียนรู้

 วธิ ีสอนแบบกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process)

ช่ัวโมงท่ี 1

ขั้นนำ

1. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบถึงวิธีสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) ชื่อ
เรื่อง

ท่จี ะเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้
2. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 12 เร่อื ง ทวปี อเมรกิ าเหนอื
3. ครูจัดกิจกรรมเกม “ที่นี่ทไ่ี หน” เพือ่ กระตนุ้ ความสนใจ/กระตุ้นความคดิ เกีย่ วกับทำเลท่ีต้ัง อาณาเขต และ

ลกั ษณะภูมปิ ระเทศของทวปี อเมริกาเหนือ เพ่อื นำเขา้ สู่การเรียน โดยครนู ำ PPT การใบค้ ำจากรปู ภาพ
ปริศนา มาใหน้ ักเรยี นทายชอื่ ประเทศ สถานท่ี หรือลกั ษณะภมู ปิ ระเทศทอ่ี ยใู่ นทวีปอเมรกิ าเหนือ พรอ้ มทั้ง
ระบตุ ำแหน่งของสถานท่ีดงั กล่าวบนแผนที่ท่ีอยใู่ นหนังสือเรยี นสังคมศึกษาฯ ม.3 ให้ถูกต้อง (เชน่ ภาพสนุ ขั
พันธ์ุแลบราดอร์กำลังคาบสมุด หมายถึงการใบ้คำถึงคาบสมุทรแลบราดอร์, ภาพดอกแค-ทุ่งนา-นักร้องชื่อ
ดา
เอ็นโดฟนิ หมายถึงการใบค้ ำถงึ ประเทศแคนาดา ฯลฯ ภายในระยะเวลาภาพละไมเ่ กนิ 2 นาที ใครตอบได้
ถูกตอ้ งและรวดเรว็ ทีส่ ุดถือเป็นผู้ชนะ
4. ครูใหน้ กั เรียนวิเคราะห์ภาพและคำถาม (Big Question) หน้าหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 12 จากหนังสอื เรยี น
สงั คมศกึ ษาฯ ม.3 แลว้ ร่วมกันอภปิ รายเช่ือมโยงเกย่ี วกับความสมั พนั ธ์ของภาพ คำถาม และกจิ กรรมเกม
“ที่น่ีทีไ่ หน” ดังกลา่ ว

ขั้นสอน

ข้นั ที่ 1 การต้ังคำถามเชงิ ภูมศิ าสตร์
1. ครกู ระตนุ้ ให้นักเรยี นเชอ่ื มโยงความสำคัญของการศึกษาทำเลทตี่ ง้ั ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะ
ภูมปิ ระเทศของทวีปอเมริกาเหนอื จากกจิ กรรม “ท่นี ี่ทไ่ี หน” จากขน้ั นำท่ผี า่ นมา ประกอบการใช้แผนท่ี
แสดงเขตการปกครองของทวปี อเมรกิ าเหนือ จากหนงั สือเรยี นสงั คมศึกษาฯ ม.3 แลว้ ตงั้ ประเดน็ คำถาม
ตอ่ ยอดเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นและเชอ่ื มโยงให้นักเรยี นตัง้ ประเดน็ คำถามทางภูมิศาสตร์เกยี่ วกับทำเลท่ีตงั้
ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภูมปิ ระเทศของทวีปอเมริกาเหนอื เชน่
• แอปเปิลวอชงิ ตันท่รี จู้ ักกนั ในไทยมาจากสหรัฐอเมรกิ า จรงิ หรือไม่

• ปูอะแลสกาเกี่ยวขอ้ งกบั รัฐอะแลสกาหรอื ไม่

2. ให้นักเรียนร่วมกันตง้ั ประเด็นคำถามทางภมู ศิ าสตรเ์ กยี่ วกับลกั ษณะทางกายภาพของทวปี อเมริกาเหนือ
ท่ีเกี่ยวข้องกับทำเลท่ีตั้ง ขนาด อาณาเขต และลักษณะภูมิประเทศ เพื่อค้นหาคำตอบ โดยครูแบ่ง

นักเรียน

ออกเปน็ 6 กลุ่ม กลุม่ ละ 6-8 คน ตามลักษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี อเมรกิ าเหนือ ได้แก่
• เขตกลมุ่ เทอื กเขาดา้ นทิศตะวนั ตก
• บรเิ วณท่ีราบต่ำรอบอ่าวฮัดสนั
• ทร่ี าบเกรตแพลนส์
• บริเวณทีร่ าบต่ำรอบอ่าวฮัดสนั
• บริเวณท่สี ูงและภูเขาดา้ นทิศตะวันออก
• ท่ีราบลมุ่ นำ้ และทีร่ าบชายฝั่งทะเล
• เกาะและหม่เู กาะ

จากนัน้ ครนู ำแผนท่แี สดงลกั ษณะภมู ิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ มาใหแ้ ต่ละกล่มุ นำไปศกึ ษาและ
ร่วมกนั ตงั้ ประเดน็ คำถามจากแผนท่ีทแ่ี ตล่ ะกลุ่มไดร้ บั กล่มุ ละ 1 คำถาม โดยคำถามจะต้องแสดง
ความสัมพันธ์ระหว่างที่ต้ังและลักษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือกับกิจกรรมของประชากรใน
ทวีป
ซง่ึ ครูอาจทำการแนะนำเพิ่มเตมิ เชน่

1) ลกั ษณะภูมปิ ระเทศของทวีปอเมรกิ าเหนือส่งผลต่อกิจกรรมของคนในทวีปอยา่ งไร
2) ปจั จยั ใดท่ที ำใหล้ ักษณะทวั่ ไปของทวีปอเมรกิ าเหนอื แตล่ ะพ้นื ที่แตกตา่ งกัน
3) ทวปี อเมริกาเหนอื มลี ักษณะภูมปิ ระเทศท่ีโดดเด่นแตกตา่ งจากทวปี อื่นอยา่ งไร
4) ทวปี อเมรกิ าเหนือมีลักษณะภูมปิ ระเทศท่ีคลา้ ยคลึงกับประเทศไทยบ้างหรือไม่ อย่างไร

(เชน่ แกรนดแ์ คนยอนในสหรฐั อเมรกิ ากบั ออบหลวงท่ีจังหวัดเชยี งใหม่ มีกระบวนการเกดิ
เหมอื นกนั หรือไม)่

ขั้นท่ี 2 การรวบรวมข้อมูล
1. จากประเด็นคำถามทางภูมิศาสตร์ในขั้นท่ี 1 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นข้อมูลประกอบการ
ใช้
เครอื่ งมือทางภูมศิ าสตร์เกย่ี วกับท่ตี ้งั ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ
ตามเขตภูมิประเทศท่ีกลุ่มรับผิดชอบ จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 หรือแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ
รวมทั้ง
แต่ละกลมุ่ จะตอ้ งศึกษาและตอบประเด็นคำถามทางภูมิศาสตร์จากขนั้ ที่ 1 ดว้ ย
2. ครอู าจแนะนำแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศทน่ี ่าเชื่อถือประกอบการศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเพิ่มเติม

ช่วั โมงที่ 2

ข้นั ท่ี 3 การจดั การข้อมูล
1. สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ นำข้อมูลท่ตี นไดจ้ ากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลย่ี นความรรู้ ะหว่างกัน

2. สมาชิกในกลมุ่ ช่วยกนั คดั เลือกข้อมลู ทถ่ี ูกตอ้ ง น่าเชื่อถือ และจัดการคดั แยกข้อมลู ทไี่ มจ่ ำเปน็ ออก
ขั้นที่ 4 การวิเคราะหแ์ ละแปลผลข้อมลู

1. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ วิเคราะหข์ อ้ มูลรว่ มกนั จากน้ันสมาชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
ของขอ้ มลู

2. ครใู หน้ ักเรียนใชส้ มารท์ โฟนส่องดู QR Code เรอื่ ง ทะเลทรายยปิ ซัมทส่ี วยท่ีสดุ ในโลก จากหนังสอื เรยี น
สงั คมศกึ ษาฯ ม.3 ประกอบการวเิ คราะห์และแปลผลข้อมูลเพ่ิมเตมิ

3. ครใู หแ้ ต่ละกลมุ่ ตงั้ คำถามจากข้อมลู ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศตามประเด็นหัวข้อที่กลุม่ ของตนเองรับผิดชอบ
กลุ่มละ 10 คำถาม

4. ครนู ำจกิ๊ ซอว์แผนท่แี สดงที่ต้ังและอาณาเขตของทวปี อเมริกาเหนอื ท่ีมรี ปู ภาพสถานทีส่ ำคัญของทวีป
อเมริกาเหนือซ่อนอยู่ด้านหลงั มาประกอบการวิเคราะหพ์ รอ้ มทั้งนำเสนอข้อมูลของนักเรยี น ผ่านการทำ
กิจกรรม “บอกใบท้ ายภาพ”

5. ตวั แทนกล่มุ นำเสนอขอ้ มูลหน้าชนั้ เรียนทลี ะกลุม่ โดยครใู หน้ ักเรยี นถามคำถามกลุ่มอ่ืน หากตอบถูกจะ
สามารถเปิดป้ายตามจ๊ิกซอว์แผนทที่ ค่ี รเู ตรียมมาได้ และไดต้ อบคำถามขอ้ ต่อไปเรือ่ ยๆ มีคะแนน
ข้อคำถามละ 1 คะแนน จนสามารถเห็นภาพที่ซ่อนอยู่และทายได้ว่าเป็นภาพอะไร จะได้รับคะแนน

พิเศษเพ่ิมอีกภาพละ 5 คะแนน จากน้ันสมาชิกกลุ่มอ่ืนผลัดกันให้ข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม ตลอดจน
อภิปรายความรรู้ ว่ มกัน

ชว่ั โมงท่ี 3

6. นักเรยี นร่วมกนั วเิ คราะหแ์ ละเช่ือมโยงขอ้ มลู เพ่มิ เติมผา่ นการทำใบงานที่ 12.1 เรอ่ื ง ทำเลทีต่ ้ัง ขนาด
อาณาเขต และลักษณะภมู ิประเทศของทวปี อเมริกาเหนอื และร่วมกันเฉลยคำตอบ โดยครูแนะนำ
เพิม่ เตมิ

7. ครูถามคำถามเพอ่ื ให้นักเรยี นได้วเิ คราะหข์ ้อมูลเพ่ิมเตมิ เพื่อต่อยอดประเด็นความคิด ตลอดจนการนำมา
ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวนั ในประเดน็ เชน่
- จากตำแหน่งทต่ี งั้ และลักษณะภูมปิ ระเทศของทวปี อเมริกาเหนือสง่ ผลตอ่ ลกั ษณะภูมิอากาศของทวปี
อยา่ งไร
(แนวตอบ สง่ ผลให้ทวีปอเมรกิ าเหนอื มพี ืน้ ทอ่ี ยู่ในทุกเขตอากาศ ดังน้ี
• เขตรอ้ น บรเิ วณอเมริกากลางและหมเู่ กาะแคริบเบยี น มลี กั ษณะภูมปิ ระเทศแบบคาบสมุทร
และหมเู่ กาะ ทำให้มลี กั ษณะอากาศแบบร้อนช้ืน ได้รับอิทธิพลจากทะเลเขตร้อน มปี ริมาณฝนชุกตลอดปี
• เขตอบอุ่น ด้วยลักษณะภูมิประเทศท่ีมีเทือกเขาร็อกกีขนาดใหญ่วางตัวในแนวเหนือใต้ ค่อน
ทาง
ตะวันตกของทวีป ทำใหภ้ มู ิอากาศของฝงั่ ตะวันตกและฝัง่ ตะวันออกแตกตา่ งกนั โดยฝ่ังตะวันออกจะมี
ลกั ษณะอากาศแบบอบอุ่นชนื้ เนื่องจากไดร้ บั อิทธิพลจากกระแสน้ำอนุ่ ศูนย์สูตรและดว้ ยลกั ษณะ

ภูมิประเทศที่เป็นท่รี าบกว้างใหญ่ ส่วนฝั่งตะวันตกมีอากาศแห้งแล้งกวา่ เนอ่ื งจากมีกระแสน้ำเยน็
แคลฟิ ลอเนียไหลผา่ น ตอนกลางของทวีปมีอากาศแหง้ แลง้ เนือ่ งจากมีทงั้ เทอื กเขาร็อกกีและเทอื กเขา
แอปพาเลเซยี นปิดกน้ั ทางลมท้ังฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวนั ตก บนเทอื กเขาร็อกกที ี่สูงมากมอี ากาศ
หนาวเยน็ มีน้ำแขง็ ปกคลมุ เป็นแหลง่ ตน้ น้ำท่ีสำคญั ของทวีป

• เขตหนาว บรเิ วณตอนบนของประเทศแคนาดา มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี มีฤดูร้อนเพียง
ช่วงเวลาส้นั ๆ )

ข้ันท่ี 5 การสรุปเพือ่ ตอบคำถาม
1. นกั เรยี นในชน้ั เรยี นร่วมกันสรุปเก่ียวกับทำเลท่ีต้งั ขนาด อาณาเขต และลักษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี
อเมริกาเหนือ
2. ครูให้สมาชกิ ในแตล่ ะกล่มุ ช่วยกันสรปุ สาระสำคัญเพ่ือตอบคำถามเชิงภูมิศาสตร์ โดยครูแนะนำเพมิ่ เตมิ
3. นกั เรยี นทำแบบฝึกสมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร์ ม.3 เร่ือง ทำเลทีต่ ้งั ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะ
ภูมิประเทศของทวปี อเมริกาเหนอื เพอ่ื ทดสอบความรู้ทไี่ ดศ้ ึกษามา

ขนั้ สรปุ

ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปความร้เู กีย่ วกับทำเลทต่ี งั้ ขนาด อาณาเขต และลักษณะภมู ิประเทศของทวีป
อเมริกาเหนือ ตลอดจนความสำคัญท่ีมีอิทธพิ ลต่อการศึกษาและการดำเนินชีวิต หรือใช้ PPT สรปุ สาระสำคัญของ
เน้อื หา

ข้ันประเมิน

1. ครูประเมนิ ผลโดยสังเกตจากการตอบคำถาม การร่วมกนั ทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝึกสมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร์ ม.3

9. การวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ดั เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
รายการวดั ก่อนเรยี น
9.1 การวัดและประเมนิ ผล - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ตรวจใบงานท่ี 11.1 - ใบงานท่ี 11.1
กอ่ นเรยี น - ระดับคุณภาพ 2
- แบบทดสอบก่อนเรยี น - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 12 - ระดบั คุณภาพ 2
เร่ือง ทวีปอเมรกิ าเหนือ ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
9.2 การวดั และประเมินผล - ระดับคุณภาพ 2
ระหวา่ งการจดั กิจกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
การเรยี นรู้ - ระดับคณุ ภาพ 2
1) ใช้เครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
- ระดบั คุณภาพ 2
สบื ค้นและวเิ คราะห์ขอ้ มูล - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์
เกี่ยวกบั ทำเลที่ตั้ง ขนาด
อาณาเขต และลกั ษณะ การทำงานกลุ่ม การทำงานรายกลมุ่
ภูมปิ ระเทศของทวีป
อเมริกาเหนือได้ - สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ - แบบประเมคิ ุณลกั ษณะ
2) การนำเสนอผลงาน
และม่งุ มนั่ ในการทำงาน อันพึงประสงค์
3) พฤตกิ รรม
การทำงานรายบุคคล - ประเมนิ การใช้ - แบบประเมินการใช้

4) พฤตกิ รรม
การทำงานกลุม่

5) คุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์

9.3 การรูเ้ ร่อื งภูมิศาสตร์

เครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร์ เครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์

10. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
10.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนสงั คมศึกษาฯ ม.3
2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.3
3) หนังสอื ค้นควา้ เพ่ิมเติม
โครงการตำราวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์มูลนิธิ สอวน. 2557. ภูมิศาสตร์กายภาพ.
กรุงเทพมหานคร : ดา่ นสทุ ธาการพิมพ์.
คินเดอร์สลยี ์, ดอรล์ งิ ก.์ 2553. แผนทีโ่ ลก ฉบบั สมบรู ณ์และทนั สมัยที่สดุ . แปลโดย นชุ นาฏ
เนตรประเสริฐศร.ี กรุงเทพมหานคร : นานมีบคุ๊ ส์พบั ลเิ คชั่นส์.
ราชบัณฑิตยสถาน. 2549. พจนานกุ รมศัพท์ภูมศิ าสตร์ ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน. พิมพ์ครง้ั ท่ี 4
(แก้ไขเพิ่มเติม). กรงุ เทพมหานคร : ราชบณั ฑิตยสถาน.
สิรพิ ร เกรยี งไกรเพชร และคณะ. 2559. ภมู ศิ าสตรเ์ ทคนคิ . กรงุ เทพมหานคร : ดา่ นสุทธา

การพิมพ์.

สำนกั งานพัฒนาเทคโนโลยอี วกาศและภมู สิ ารสนเทศ (องค์การมหาชน). 2552. ตำราเทคโนโลยี

อวกาศและภูมิสารสนเทศ. กรงุ เทพมหานคร : อัมรนิ ทร์พรินตง้ิ แอนด์พบั ลชิ ชิ่ง.

4) เคร่ืองมือทางภูมศิ าสตร์ ไดแ้ ก่ แผนที่ เข็มทิศ รูปถา่ ยทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม
และเครื่องมอื อนื่ ๆ

5) ใบงานท่ี 12.1 เรอื่ ง ทำเลทต่ี ง้ั ขนาด อาณาเขต และลักษณะภมู ปิ ระเทศของทวีปอเมรกิ าเหนอื
10.2 แหลง่ การเรยี นรู้

1) ห้องสมุด
2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ

- https://www.gistda.or.th
- https://www.rtsd.mi.th/main/language/th/
- https://www.nationalgeographic.org
- https://www.prb.org
- https://repositorio.cepal.org

ใบงานท่ี 11.1

เรอ่ื ง ทำเลทตี่ ง้ั ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวีปอเมรกิ าเหนอื

คำชี้แจง
ตอนท่ี 1 : ระบุทตี่ ้งั ทางภูมิศาสตร์ของสถานที่ท่ีกำหนด โดยนำหมายเลขหนา้ ข้อมาใส่ลงในแผนที่ใหส้ ัมพันธก์ ัน

ตอนท่ี 2 : พจิ ารณาภาพภมู ลิ กั ษณท์ กี่ ำหนดให้แล้วอธบิ ายตามประเด็นที่กำหนด

1. ชือ่ ภาพ : เทือกเขารอ็ กกี
บริเวณท่ีพบ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………
ลักษณะภูมลิ ักษณ์

…………………………………………………………….……………………………………………………………….………

………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………

2. ช่ือภาพ : ทะเลสาบสุพเี รีย
บรเิ วณที่พบ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………
ลักษณะภูมิลักษณ์

…………………………………………………………….……………………………………………………………….………

………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………

3. ช่ือภาพ : ที่ราบเกรตเพลนส์
บริเวณที่พบ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………
ลกั ษณะภมู ลิ กั ษณ์

…………………………………………………………….……………………………………………………………….………

………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………

เฉลย

ใบงานที่ 11.1

เร่ือง ทำเลท่ตี ั้ง ขนาด อาณาเขต และลักษณะภูมปิ ระเทศของทวปี อเมริกาเหนือ

คำชแ้ี จง
ตอนท่ี 1 : ระบทุ ่ีต้ังทางภมู ิศาสตรข์ องสถานที่ท่ีกำหนด โดยนำหมายเลขหนา้ ข้อมาใส่ลงในแผนท่ีให้สัมพนั ธก์ นั

ตอนที่ 2 : พจิ ารณาภาพภมู ลิ ักษณท์ ่กี ำหนดให้แล้วอธิบายตามประเดน็ ท่ีกำหนด (แนวตอบ)

1. ชือ่ ภาพ : เทือกเขาร็อกกี
บรเิ วณทพี่ บ เร่ิมต้ังแต่รัฐอะแลสกาเป็นแนวยาวไปตามชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ถึงประเทศเม็กซิโกและ

………อเ…ม…ริก…า…ก…ลา…ง……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………เป…น็ …เ…ทือ…ก…เ…ขา…ห…ิน…ให…ม…่แ…ล…ะเ…ป…็นต…้น…ก…ำ…เน…ดิ …ข…อง…แ…ม…น่ ้ำ…ห…ล…าย…ส…า…ย…เช…่น……แม..่น…ำ้…อ…าร…์แ…ค…น…ซอ……แ…มน่…้ำ…มิสซรู ี

แลมั น่ ้ำสเนกค มียอดเษขาทส่ี ูงทส่ี ุดณคอื เมาน์เอะลเบริ ์ต ภู มิ ลั ก ษ ณ์
…………………………………………………………….……………………………………………………………….………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………

2. ชอ่ื ภาพ : ทะเลสาบสุพีเรยี
บรเิ วณที่พบ ตั้งอยู่ระหว่างรัฐมินนิโซตา รัฐมิชิแกน และรัฐวิสคอนซินของสหรัฐอเมริกา กับรัฐออนแทรีโอของ

………ปร…ะ…เท…ศ…แ…ค…นา…ด…า………………………………………………………………………………………………………………
เป็นทะเลสาบน้ำจืดท่ีใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ และใหญ่ท่ีสุดในโลก จัดเป็นหน่ึงใน

…ท…ะ…เล…ส…าบ…ท…ีอ่ …ย…ู่ใน…ก…ล…ุ่ม…ทะ…เ…ลส…า…บ…เก…ร…ตเ…ล…กส…์ …………………………………………………………………..………………………………
ลักษณะภมู ิลักษณ์

…………………………………………………………….……………………………………………………………….………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………

3. ชอื่ ภาพ : ทรี่ าบเกรตเพลนส์
บริเวณทพี่ บ มอี าณาเขตต้งั แตเ่ ทือกเขาตะวันตก เขตหนิ ฐานทวีปคะเนเดยี นและเทอื กเขาดา้ นตะวันตก

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
เป็นที่ราบกว้างใหญ่และเป็นที่ราบลูกคลื่น โดยมีที่สูงอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซ่ึงติดต่อกับ

…เ…ท…อื …กเ…ข…าร…อ็ …กก…ี …พ…นื้ …ผิว…ด…นิ …ใน…เ…ขต…น…ม้ี …กี …รว…ด…ท…ร…าย……แ…ละ…ด…ิน…เห…น…ีย…ว…ท…เ่ี ก…ดิ …จ…าก…ก…าร…ก…ร…ะท…ำ…ข…อง…ธ.า.…รน…้ำ…แ…ข็ง……………………
ลักษณะภูมิลกั ษณ์

…………………………………………………………….……………………………………………………………….………

………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 11 ทวปี อเมรกิ าเหนือ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2

ลักษณะภูมอิ ากลาศักแษลณะะพทืชว่ั พไปรรขณองธทรรวมปี ชเอาเตชขิ ียอ(ง1ท)วีปอเมริกาเหนือ

เวลเาวล4าช2วั่ โชม่วั งโมง

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ดั

1.1 ตัวช้ีวัด
ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพนั ธข์ องสรรพสง่ิ ซึ่งมีผลต่อกนั ใชแ้ ผนท่ี
และเครือ่ งมอื ทางภูมศิ าสตร์ในการค้นหา วเิ คราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทาง
ภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภมู ิสารสนเทศอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ม.3/1 วิเคราะหล์ ักษณะทางกายภาพของทวีปอเมริกาเหนอื และทวปี อเมริกาใต้ โดยเลอื กใช้แผน

ทเี่ ฉพาะเร่ืองและเคร่ืองมือทางภูมิศาสตรส์ ืบค้นข้อมลู

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. วเิ คราะห์ลักษณะภมู ิอากาศและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวีปอเมริกาเหนือได้ (K)
2. ใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตรส์ ืบค้นข้อมูลเกีย่ วกบั ลกั ษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวปี

อเมริกาเหนือได้ (P)
3. เห็นคุณคา่ ของการศกึ ษาเก่ยี วกบั ลักษณะภูมิอากาศและพชื พรรณธรรมชาติของทวปี อเมริกาเหนือ

เพม่ิ มากขน้ึ (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น สาระการเรยี นร้จู ากสื่อ
(พจิ ารณาตามหลักสตู ร - ลกั ษณะทางกายภาพของ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- ที่ตง้ั ขนาด และอาณาเขตของ สถานศกึ ษา) ทวปี อเมรกิ าเหนือ
• ลกั ษณะภมู ิอากาศและ
ทวปี อเมริกาเหนือและทวปี
อเมรกิ าใต้ พชื พรรณธรรมชาติ
- การเลือกใช้แผนทีเ่ ฉพาะเร่ืองและ
เครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ สืบคน้ •
ข้อมูลลักษณะทางกายภาพของ
ทวีปอเมรกิ าเหนือและทวีป
อเมรกิ าใต้

4. มโนทศั น์สำคญั (Key Concept)

- เครือ่ งมอื ทางภูมศิ าสตร์สามารถนำไปใชใ้ นการสบื ค้นข้อมูล เพอ่ื วเิ คราะห์ถึงลักษณะภมู ิอากาศและพชื พรรณ
ธรรมชาติของทวปี อเมรกิ าเหนือ

5. คำถามหลัก (Big Question)

- เพราะเหตุใดทวปี อเมริกาเหนือจงึ มีท้งั ทะเลทรายและธารน้ำแข็ง

6. การรู้เรอ่ื งภูมศิ าสตร์ (Geo-Literacy)

ความสามารถทางภูมศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ทักษะทางภูมศิ าสตร์
1. การสังเกต
- การใหเ้ หตุผลทางภมู ิศาสตร์ 1. การตงั้ คำถามเชิงภูมิศาสตร์ 2. การแปลความข้อมูลทางภูมศิ าสตร์
3. การคดิ เชงิ พ้ืนท่ี
2. การรวบรวมข้อมูล 4. การคิดแบบองคร์ วม
5. การใช้เทคโนโลยี
3. การจัดการข้อมูล

4. การวเิ คราะห์ข้อมลู

5. การสรุปเพอื่ ตอบคำถาม

7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. ใฝเ่ รียนรู้

2. ความสามารถในการคิด 2. มุ่งมั่นในการทำงาน

1) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา

2) ทักษะการรวบรวมข้อมูล

3) ทกั ษะการวเิ คราะห์

3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

8. กจิ กรรมการเรียนรู้

 วิธีสอนแบบกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process)

ชัว่ โมงท่ี 1

ขนั้ นำ

1. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบถึงวิธีสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) ช่ือ
เรอ่ื ง

ทจ่ี ะเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ และผลการเรยี นรู้
2. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันทบทวนความรู้เก่ียวกบั ทำเลท่ตี ั้ง ขนาด อาณาเขต และลักษณะภมู ปิ ระเทศของ

ทวปี อเมรกิ าเหนอื ท่ไี ด้ศึกษาเมอ่ื ชวั่ โมงท่ผี ่านมา
3. ครูตั้งประเดน็ คำถามใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายโดยเบ้ืองต้น เพอื่ กระตุ้นความสนใจ/กระตุน้ ความคิด เช่น

- นักเรียนคิดวา่ ปจั จยั ใดบ้างที่มผี ลต่อลกั ษณะภูมิอากาศและพชื พรรณธรรมชาติของทวปี อเมริกาเหนอื
(แนวตอบ ตำแหน่งทีต่ ้งั ตามละติจูด ระยะความสูงของพน้ื ที่ ทศิ ทางของลมประจำ การวางตวั ของเทอื กเขา
พายหุ มนุ ระยะหา่ งจากทะเล กระแสน้ำในมหาสมทุ ร)
4. ครูจดั กจิ กรรมใช้กจิ กรรมเกม “ไปปบุ๊ เจอปบั๊ ” เพอื่ กระต้นุ ความสนใจ/กระตุ้นความคิดเกย่ี วกบั ลักษณะ
ภูมอิ ากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวปี อเมรกิ าเหนือ เพือ่ นำเขา้ สู่การเรียน โดยให้นักเรยี นกลุม่ เดมิ
(จากช่วั โมงทแ่ี ล้ว) จบั คู่บัตรภาพพืชพรรณกับลักษณะภมู ิอากาศ จำนวน 5 ภาพ ภายในระยะเวลา กล่มุ ละ
1 นาที มีคะแนนภาพละ 1 คะแนน โดยเมื่อครบตามกำหนดระยะเวลา ครูทำการบอกคะแนนท่ีแต่ละกลุ่ม
ไดแ้ ตย่ งั ไม่เฉลยคำตอบ จากนนั้ ครสู รปุ ผลกจิ กรรมและเช่อื มโยงเข้าสบู่ ทเรียน

ขน้ั สอน

ขัน้ ท่ี 1 การต้ังคำถามเชงิ ภูมิศาสตร์
1. ครกู ระตุ้นใหน้ ักเรยี นเช่อื มโยงลักษณะภมู ิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีปอเมรกิ าเหนือ จาก
กิจกรรม “ไปปุ๊ปเจอปั๊บ” จากขั้นนำท่ีผ่านมา ประกอบการใช้แผนทแ่ี สดงเขตภมู อิ ากาศของทวปี
อเมรกิ าเหนอื (แบบแคปเปนิ -ไกเกอร์ ปรับปรุง) จากหนงั สอื เรยี นสงั คมศกึ ษาฯ ม.3 แล้วต้ังประเดน็
คำถามตอ่ ยอดเพมิ่ เติมเพอ่ื กระตนุ้ และเชอื่ มโยงให้นักเรยี นต้ังประเด็นคำถามทางภูมิศาสตร์เกี่ยวกับ
ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวปี อเมรกิ าเหนือ เชน่
• หากนักเรยี นมีโอกาสได้ไปเรยี นตอ่ ที่ฮารว์ าร์ดในช่วงเดอื นตุลาคม จะต้องเตรียมตัวอย่างไร
• จากกรณีท่ีสโมสรลิเวอรพ์ ูลจะมุง่ หน้าสอู่ เมริกาโดยเป็นส่วนหน่ึงของปรีซซี ั่น ฤดูกาล 2019-20
ในการเตรียมตวั ชว่ งเดอื นกรกฎาคม โดยจะลงเลน่ 3 เกม ในสนามที่บอสตนั นวิ ยอร์ก และ
อนิ ดีแอนา นักเรียนคิดวา่ นักฟุตบอลจะต้องปรับตัวอยา่ งไรเพ่ือให้พร้อมต่อการแขง่ ขนั ดงั กลา่ ว
2. ให้นักเรียนร่วมกันต้ังประเด็นคำถามทางภูมิศาสตร์เกี่ยวกับลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติ

ของทวีปอเมรกิ าเหนือ เพอ่ื ค้นหาคำตอบ โดยครแู นะนำเพิม่ เตมิ เช่น
1) ทำไมทวีปอเมรกิ าเหนือจงึ มเี ขตภมู อิ ากาศทีห่ ลากหลาย
2) ลักษณะภมู ิอากาศส่งผลตอ่ พชื พรรณในทวีปอยา่ งไร

3) ปัจจัยใดบ้างทท่ี ำใหล้ ักษณะภูมอิ ากาศและพืชพรรณธรรมชาตขิ องทวปี อเมริกาเหนอื แต่ละพน้ื ท่ี
แตกตา่ งกนั

4) ทวีปอเมริกาเหนือมลี ักษณะภูมิอากาศและพชื พรรณทีโ่ ดดเด่นอย่างไร
5) พ้นื ทใี่ ดของทวีปอเมรกิ าเหนอื ที่มีลักษณะภมู ิอากาศหรือพืชพรรณธรรมชาตทิ คี่ ล้ายคลงึ กับ

ประเทศไทย อยา่ งไร
ขัน้ ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู

1. ครูแบ่งกล่มุ โดยใหน้ กั เรยี นจับฉลากเลือกเขตภูมอิ ากาศฯ จากบัตรภาพในกจิ กรรมเกม “ไปป๊บุ เจอป๊บั ”
ใหไ้ ด้จำนวน 5 กลุ่ม ตามเขตภูมิอากาศและพชื พรรณธรรมชาติของทวปี อเมริกาเหนือ ไดแ้ ก่

• ภูมิอากาศเขตรอ้ น

• ภมู อิ ากาศเขตแห้งแล้ง

• ภูมอิ ากาศเขตอบอุ่น

• ภูมิอากาศเขตข้วั โลก

• ภูมอิ ากาศเขตหนาว
จากน้ันให้แต่ละกล่มุ ร่วมกนั สืบคน้ ขอ้ มลู ประกอบ การใช้เคร่อื งมือทางภูมิศาสตร์ และให้สอดคลอ้ งกบั
3 ประเดน็ คือ ปจั จยั ควบคมุ ภมู อิ ากาศ เขตภูมอิ ากาศ พืชพรรณธรรมชาตทิ พี่ บ จากหนงั สือเรียน
สังคมศกึ ษาฯ ม.3 หรือแหลง่ เรยี นรอู้ ืน่ ๆ เช่น หอ้ งสมดุ อินเทอรเ์ น็ต
2. ครอู าจแนะนำแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศที่นา่ เช่ือถือ ประกอบการศึกษาและรวบรวมข้อมลู เพ่ิมเตมิ

ชว่ั โมงท่ี 2

ข้ันที่ 3 การจัดการข้อมูล
1. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ นำข้อมลู ที่ตนไดจ้ ากการรวบรวม มาอธบิ ายแลกเปลยี่ นความรูร้ ะหว่างกัน
2. สมาชกิ ในกลุ่มช่วยกันคดั เลือกข้อมลู ท่ีถูกต้อง น่าเช่อื ถือ และจัดการคดั แยกข้อมลู ที่ไมจ่ ำเปน็ ออก

ข้นั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
1. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มวิเคราะห์และแปลผลข้อมูลรว่ มกัน จากน้ันใหแ้ ตล่ ะกลุ่มนำเสนอข้อมูลประกอบการ

ใช้แผนท่เี ขตภูมอิ ากาศท่ีครูเตรียมมา พร้อมโยงลูกศรแสดงตำแหน่งและขอ้ มูลท่ีพบในบริเวณเขต ภมู อิ ากาศดงั กลา่ ว
จนครบทั้ง 5 เขต

2. สมาชิกกลุม่ อ่ืนผลดั กนั ใหข้ อ้ คดิ เหน็ หรอื ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ตลอดจนอภิปรายความรรู้ ว่ มกนั
3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ทำใบงานที่ 12.2 เรอ่ื ง ลักษณะภมู ิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของ

ทวปี อเมรกิ าเหนือ
4. ครูถามคำถามเพ่ือให้นักเรียนได้วิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมเพ่ือต่อยอดประเด็นความคิด ตลอดจนการ
นำมาประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ในประเด็นเช่น

- พชื พรรณธรรมชาตมิ ีความสมั พันธ์กับลักษณะภูมิประเทศและภูมอิ ากาศอยา่ งไร

แนวตอบ ลกั ษณะพชื พรรณธรรมชาตมิ ีความสมั พนั ธ์กบั ลักษณะภูมิอากาศ โดยขน้ึ อยู่กบั อุณหภูมแิ ละ
ความชน้ื ซง่ึ ลักษณะภูมอิ ากาศขน้ึ อยู่กบั ทำเลท่ีตงั้ และลักษณะภมู ิประเทศ เชน่ ในเขตรอ้ น มอี ณุ หภมู ิ
และความช้ืนสูง ทำใหม้ ลี กั ษณะพืชพรรณธรรมชาติแบบป่าดิบชืน้ แตใ่ นเขตร้อน แถบตะวันตก
ของทวีป มีอุณหภูมิสูงแต่แห้งแล้ง ทำให้พืชพรรณเป็นแบบทะเลทราย ส่วนในเขตอบอุ่น มีอุณหภูมิ
และความช้ืนปานกลาง มีฤดูกาลชัดเจน ทำให้พืชพรรณเแบบป่าไม้ผลัดใบ แต่หากเป็นในเขตหนาว หรือ ภูเขาสูง มี
อุณหภมู ติ ำ่ ความชืน้ ปานกลาง ทำใหม้ ีพชื พรรณข้นึ นอ้ ย จำพวกมอส ไลเคน

ท้ังน้ี อุณหภูมิและความชื้นอาจมีการเปล่ียนแปลงได้จากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ที่ต้ังตามละติจูด ความ
สงู

ต่ำของพ้นื ที่ กลางวัน กลางคนื ฤดกู าล ทิศทางของลมประจำ อิทธพิ ลจากกระแสน้ำ ดงั แสดงได้ตาม
แผนภาพ

แผนภาพแสดงความสมั พันธข์ องลักษณะภมู ิประเทศ ภมู ิอากาศ และพืชพรรณธรรมชาติ

5. ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ สมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร์ ม.3 เรื่อง ลกั ษณะภมู ิอากาศและพืชพรรณ
ธรรมชาตขิ องทวปี อเมริกาเหนือ เพ่อื ทบทวนความรู้ความเขา้ ใจ เปน็ การบา้ นส่งครใู นชัว่ โมงถัดไป

ขัน้ ท่ี 5 การสรุปเพ่ือตอบคำถาม
1. นกั เรยี นในช้นั เรียนรว่ มกนั สรปุ เก่ียวกบั ลักษณะภมู ิอากาศและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวีปอเมรกิ า

เหนอื
2. ครูใหส้ มาชกิ ในแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั สรปุ สาระสำคญั เพ่อื ตอบคำถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ โดยครูแนะนำเพิ่มเตมิ
3. ครูอาจถามคำถามปลายเปิด หรือใหน้ ักเรียนดู PPT ทแ่ี สดงข้อมูลเกย่ี วกบั ลักษณะภมู อิ ากาศและ
พชื พรรณธรรมชาตขิ องทวีปอเมริกาเหนอื เพ่อื เปน็ การสรปุ ความรู้เพ่ิมเตมิ

ขนั้ สรุป

ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปความรู้เกยี่ วกบั ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ
ตลอดจนความสำคัญทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ การดำเนนิ ชวี ติ ประจำวัน หรอื ใช้ PPT สรุปสาระสำคัญของเนื้อหา

ขนั้ ประเมนิ

1. ครปู ระเมนิ ผลโดยสังเกตจากการตอบคำถาม การร่วมกนั ทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน
2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝกึ สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.3

9. การวัดและประเมนิ ผล วิธีวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ

รายการวดั - ตรวจใบงานท่ี 11.2 - ใบงานที่ 11.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
9.1 การวดั และประเมนิ ผล
- ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ 2
ระหว่างการจัดกจิ กรรม
การเรียนรู้ ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
1) ใชเ้ ครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
สืบคน้ และวเิ คราะห์ขอ้ มลู
เกย่ี วกับลักษณะภมู อิ ากาศ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
และพืชพรรณธรรมชาติ
ของทวีปอเมริกาเหนือได้ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2
2) การนำเสนอผลงาน
การทำงานกลุ่ม การทำงานรายกล่มุ ผ่านเกณฑ์
3) พฤตกิ รรม
การทำงานรายบคุ คล - สังเกตความ - แบบประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ 2

4) พฤตกิ รรม ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มัน่ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
การทำงานกลุ่ม
ในการทำงาน อนั พึงประสงค์
5) คุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์ - ประเมนิ การใช้ - แบบประเมนิ การใช้ - ระดบั คณุ ภาพ 2

9.2 การรูเ้ รือ่ งภมู ิศาสตร์

เคร่อื งมือทางภมู ิศาสตร์ เครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์ ผ่านเกณฑ์

10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
10.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสอื เรียนสังคมศึกษาฯ ม.3
2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ ภูมศิ าสตร์ ม.3
3) หนงั สือคน้ ควา้ เพิ่มเติม
โครงการตำราวิทยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตรม์ ลู นธิ ิ สอวน. 2557. ภูมศิ าสตร์กายภาพ.
กรงุ เทพมหานคร : ดา่ นสุทธาการพมิ พ์.
คนิ เดอร์สลีย์, ดอร์ลิงก์. 2553. แผนท่โี ลก ฉบับสมบรู ณแ์ ละทนั สมัยทส่ี ุด. แปลโดย นชุ นาฏ
เนตรประเสริฐศร.ี กรุงเทพมหานคร : นานมีบ๊คุ ส์พบั ลิเคชั่นส.์
ราชบณั ฑิตยสถาน. 2549. พจนานุกรมศัพทภ์ มู ิศาสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน. พิมพ์คร้ังที่ 4
(แก้ไขเพิ่มเติม). กรงุ เทพมหานคร : ราชบณั ฑติ ยสถาน.
สริ พิ ร เกรยี งไกรเพชร และคณะ. 2559. ภูมศิ าสตร์เทคนคิ . กรงุ เทพมหานคร : ดา่ นสทุ ธา

การพิมพ.์

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยอี วกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน). 2552. ตำราเทคโนโลยี

อวกาศและภูมสิ ารสนเทศ. กรุงเทพมหานคร : อัมรินทร์พรินต้งิ แอนด์พับลชิ ช่ิง.

4) เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ ได้แก่ แผนที่ เข็มทิศ รูปถ่ายทางอากาศ และภาพจากดาวเทยี ม
5) ใบงานที่ 12.2 เรื่อง ลักษณะภูมอิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวีปอเมริกาเหนอื
10.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องสมุด
2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ

- https://www.gistda.or.th
- https://www.rtsd.mi.th/main/language/th/
- https://www.nationalgeographic.org
- https://www.prb.org
- https://repositorio.cepal.org

ใบงานที่ 11.2

เรอ่ื ง ลักษณะภูมอิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ

คำชีแ้ จง : อา่ นสถานการณ์ที่กำหนด ระบุลกั ษณะภมู อิ ากาศ แล้วนำหมายเลขหนา้ แผนท่แี สดงเขตภูมิอากาศ และ
รูปภาพแสดงพืชพรรณธรรมชาตมิ าใส่ในแตล่ ะขอ้ ใหส้ มั พนั ธก์ ัน

11

22

3
3

4
4

55

นาธาน ริชารต์ แมนด้า ซารา่ และโจอ้ี เปน็ นักศึกษาท่ีต้องการศกึ ษาเกี่ยวกับพืชพรรณธรรมชาติของ
ทวีปอเมริกาเหนือ ตามเขตภูมิอากาศที่แตกต่างกัน โดยพวกเขาต้องคัดเลือกแผนท่ีและรูปภาพ เพื่อแบ่งกันศึกษา
ลกั ษณะภูมอิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาติ ตามข้อความดงั นี้

นาธาน ศึกษาลักษณะภูมิอากาศท่ีได้รับความชื้นจากอิทธิพลของมวลอากาศภาคพ้ืนสมุทร มีอากาศ
หนาวเยน็ จนทำใหน้ ำ้ ใตด้ ินในระดับต้นื กลายเป็นน้ำแขง็ มพี ชื พรรณธรรมชาติ เช่น มอสส์ ไลเคน และหญ้าบางชนิด
แ ส ด งว่ า น าธ า น ได้ ศึ ก ษ าลั ก ษ ณ ะ ภู มิ อ า ก าศ แ บ บ ……………………………………… เข า จึ งค ว ร ใช้ แ ผ น ที่
หมายเลข……………….. และใช้รูปภาพหมายเลข………………..

ริชาร์ต ศึกษาลักษณะภูมิอากาศท่ีมีปริมาณฝนรายปีต่ำกว่า 250 มิลลิเมตร โดยพบในเขตร้อนใน
ประเทศเม็กซิโกและดินแดนบางส่วนของสหรัฐอเมริกา ซ่ึงมีพืชท่ีสามารถเจริญเติบโตได้น้อย และไม่พบพืชยืนต้น
ขนาดใหญ่ แสดงว่าริชาร์ตได้ศึกษาลักษณะภูมิอากาศแบบ………………………………………….… เขาจึงควรใช้แผนที่
หมายเลข……………….. และใชร้ ูปภาพหมายเลข………………..

แมนด้า ศึกษาลักษณะภูมิอากาศที่มีปริมาณฝนสูง เฉล่ียเกิน 60 มิลลิเมตรต่อเดือน จากฝนที่เกิดจาก
การพาความร้อนและฝนภูเขาจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเป็นเขตท่ีพืชพรรณธรรมชาติสามารถ
เจ ริ ญ เติ บ โ ต ได้ ดี ซ่ึ ง มี ท้ั ง แ บ บ ใบ เขี ย ว แ ล ะ ไม่ ผ ลั ด ใบ แ ส ด ง ว่ า แ ม น ด้ า ได้ ศึ ก ษ า ลั ก ษ ณ ะ
ภู มิ อ าก าศ ……………..………………………….… เธ อ จึ งค ว ร ใช้ แ ผ น ท่ี ห ม าย เล ข ……………….. แ ล ะ ใช้ รู ป ภ า พ
หมายเลข………………..

ซาร่า ศึกษาลักษณะภูมิอากาศที่มีอากาศแห้งในช่วงฤดูร้อน และมีฝนตกหนักในช่วงฤดูหนาว บริเวณ
ชายฝ่ังตะวันตกของรัฐออริกอน และรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา โดยส่วนมากพบพันธ์ุไม้เป็นพืชใบหนาและ
ผิวมัน เช่น ส้ม มะกอก ไม้หนาม แสดงว่าซารา่ ได้ศึกษาลักษณะภูมิอากาศแบบ……………..………………………….… เธอ
จึงควรใช้แผนทหี่ มายเลข……………….. และใชร้ ปู ภาพหมายเลข………………..

โจอี้ ศึกษาลักษณะภูมิอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันมาก และมีอากาศหนาวจัดบนภูเขาสูง
รวมถึงมีหิมะปกคลุม พบพืชพรรณธรรมชาติเป็นไม้ใหญ่ เช่น เมเป้ิล โอ๊ก สปรูซ แสดงว่าโจอ้ีได้ศึกษาลักษณะ
ภูมิอากาศ……………..……………………………….….…….… เขาจึงควรใช้แผนที่หมายเลข……………….. และใช้รูปภาพ
หมายเลข………………..

เฉลย

ใบงานที่ 11.2

เรอ่ื ง ลักษณะภมู ิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวปี อเมริกาเหนือ

คำชี้แจง : อ่านสถานการณ์ที่กำหนด ระบุลกั ษณะภูมิอากาศ แลว้ นำหมายเลขหนา้ แผนท่แี สดงเขตภูมิอากาศ และ
รปู ภาพแสดงพืชพรรณธรรมชาติมาใส่ในแตล่ ะข้อใหส้ ัมพันธ์กัน

11

22

3
3

4
4

55