เฉลย
ใบงานที่ 4.2
สงั คมไทยกบั การพัฒนา
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนอ่านกรณศี กึ ษาแล้วตอบคำถาม
กรณศี ึกษาท่ี 1
ชาวบา้ นป่าหวายไม่พอใจท่บี รษิ ัทดโี ก้จะสรา้ งโรงงานทอผา้ เพอื่ ผลติ เสอ้ื ผา้ สำเรจ็ รูปไปขายยังตา่ งประเทศ กำชยั
ซง่ึ เป็นแกนนำหมู่บา้ นพาชาวบ้านจำนวนหนง่ึ เดนิ ขบวนประทว้ งและปดิ ล้อมบรเิ วณทีก่ ำลังจะกอ่ สรา้ งโรงงาน สมาชิกผู้
เดินขบวนใช้เคร่ืองขยายเสียงประกาศใหช้ าวบ้านทุกคนร้วู ่า การสรา้ งโรงงานจะกอ่ ให้เกดิ มลภาวะเปน็ พิษ อากาศเสยี และ
นำ้ ในคูคลองของหมู่บ้านจะได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำเสียจากโรงงาน นายอาลกั ษณซ์ ่งึ เปน็ เจา้ ของบริษทั จึงขอให้
กำนนั โพธ์ิช่วยนัดเจรจากับตัวแทนชาวบา้ นซง่ึ เป็นแกนนำ เพ่ือหาทางยุตกิ ารต่อตา้ นสรา้ งโรงงาน กำนันโพธ์ผิ ู้เป็นคนกลาง
พยายามเจรจาต่อรองใหท้ ั้งสองฝา่ ยพยายามลดเง่อื นไขและหาทางออกที่ดีท่สี ุดทงั้ สองฝ่าย ในท่สี ดุ ก็สามารถเจรจากนั ได้
สำเรจ็
บรษิ ัทดีโก้ ใหส้ ญั ญาว่าจะทำเคร่อื งกรองอากาศ เครอ่ื งบำบดั น้ำเสยี กอ่ นปลอ่ ยนำ้ เสียลงคลอง จัดทำระบบป้องกันเสียง
ดังของเคร่ืองจกั ร และจะรับคนงานฝ่ายต่างๆ จากชาวบ้านจำนวน 30 % ของคนงานท้ังหมด ชาวบ้านทุกคน
มคี วามพึงพอใจ เม่อื โรงงานสร้างเสรจ็ ดำเนินกจิ การ ท้ังฝา่ ยโรงงานและชาวบ้านตา่ งกม็ สี ัมพันธ์ทด่ี ตี ่อกัน
• ปัญหาความขัดแย้งระหว่างบริษทั ดีโก้กบั ชาวบา้ นป่าหวายสามารถยตุ ิไดน้ น้ั ใช้วธิ ีการแก้ไขปญั หา
อย่างไรบ้าง
1. ใชก้ ารเจรจาต่อรอง มีการพูดคยุ กนั เพ่อื จดั การแกไ้ ขปญั หาร่วมกันทง้ั สองฝา่ ย โดยใชว้ ิธกี ารแกป้ ญั หาทสี่ าเหตุ
เชน่ เมื่อคาดว่าจะเกิดอากาศเปน็ พิษ ก็ให้บรษิ ัททำเครื่องกรองอากาศที่มคี ุณภาพหรอื เมื่อคาดว่านำ้ ในคลอง
อาจจะเนา่ เสยี ก็ใหน้ ำเคร่ืองบำบัดนำ้ เสยี มาชว่ ยบำบัดนำ้ เสียกอ่ นปลอ่ ยออกจากโรงงาน
2. ใช้วิธีการไกล่เกลย่ี โดยมกี ำนันโพธิเ์ ป็นบคุ คลท่ี 3 ในการเจรจา กำนันโพธ์วิ างตนเปน็ คนกลางอยา่ งเหมาะสม
3. ใช้หลักคณุ ธรรมเข้ามาเปน็ แนวทางการเจรจา เช่น การรับคนงานจากชาวบา้ น 30% ของคนงาน แสดงถึงบริษทั
มีนโนบายในดา้ นการเอ้อื เฟือ้ ความมีนำ้ ใจ
กรณีศกึ ษาท่ี 2
หม่บู า้ นอา่ งทองเป็นหมบู่ า้ นเล็กๆ อยทู่ างตอนเหนอื ของประเทศไทย ชาวบา้ นส่วนใหญ่มอี าชีพเกษตรกรรมทำนา
ทำสวนผักและผลไม้ และมีรายไดพ้ เิ ศษจากการเปน็ แหล่งทอ่ งเทยี่ ว เม่ือวา่ งจากอาชพี การทำนา ทำสวน พวกเขาจะ
ผลัดหมนุ เวียนกนั นำเรอื พายพานักทอ่ งเที่ยวไปเที่ยวในถำ้ ซึ่งสวยงามตามธรรมชาติ มหี นิ งอกหนิ ย้อยเปน็ รปู สัตว์ตา่ งๆ
บางคนมีหนา้ ทีฉ่ ายไฟส่องทาง บางคนทำหนา้ ท่พี ายเรอื บางคนทำหน้าที่เป็นมคั คุเทศก์ ให้คำแนะนำแกน่ กั ท่องเท่ยี ว
พวกเขาทำงานด้วยความซ่ือสัตย์ ไม่หลอกลวงนักท่องเท่ียว บางคร้ังนักท่องเที่ยวลืมของมีค่าไว้ก็นำส่งคืน แม่บ้าน
บางคนหารายไดพ้ เิ ศษโดยทำของทีร่ ะลกึ จากวัสดธุ รรมชาติ
ถงึ แมว้ า่ พวกชาวบ้านจะมีรายได้จากอาชีพทำนา ทำสวนไมม่ ากนัก แต่กพ็ อมรี ายไดพ้ เิ ศษกันทุกคน พวกเขา
ชว่ ยกันอนรุ กั ษ์สภาพความงามของธรรมชาติซ่งึ เป็นภเู ขา ถ้ำ ป่าไม้ เพราะพวกเขารู้ว่าจะส่งผลต่ออาชีพและสภาพ
ความเป็นอยทู่ ่ดี ี และความมน่ั คงตอ่ ลกู หลานตอ่ ไป
• ทำไมชาวบา้ นอ่างทองจึงมวี ิถีการดำเนนิ ชวี ิตในการอยรู่ ว่ มกนั อย่างมคี วามสุข
1. เพราะใชห้ ลกั ธรรมในการอยู่รว่ มกนั เช่น มีการเอื้อเฟ้อื เผอื่ แผ่ แบ่งปนั เมื่อมีหนทางหารายไดพ้ เิ ศษจากการ
พานักทอ่ งเที่ยวเทยี่ วชมธรรมชาติ ก็ผลดั หมนุ เวียนกนั ในการตอ้ นรบั นักท่องเท่ยี วและมีการแบ่งหน้าทก่ี ัน
มีความซือ่ สตั ย์ คือ พวกเขาจะไมห่ ลอกลวงหรอื ไม่เอาเปรยี บนักทอ่ งเที่ยว ทำให้คนทั่วไปชืน่ ชมในความซื่อสตั ย์
2. เพราะชาวบา้ นมวี ถิ ชี ีวติ ทพี่ อเพยี ง สอดคล้องกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มคี วามพอประมาณ
ในการประกอบอาชพี มีเหตผุ ลในการประกอบอาชพี หลายอาชพี หมนุ เวยี นกนั ไป และสามารถเตรยี มรบั
สถานการณ์เตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ ม (การมภี มู ิคุม้ กนั ที่ดีในตวั ) เมื่อประกอบอาชพี เพียงอย่างเดยี วย่อมไม่พอกับ
การดำรงชีวติ จงึ ต้องมีอาชีพท่ีเหมาะสมรองรบั เพือ่ รองรับเหตกุ ารณใ์ นอนาคตและร่วมกนั อนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติ
เพ่ือประโยชน์ทยี่ ง่ั ยืน
กรณศี กึ ษาที่ 3
น้อยเป็นนักเรียนที่เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 น้อยเป็นคนเรียนไม่เก่ง อยู่ในครอบครวั ที่ฐานะไม่ค่อยดี แต่น้อยก็มี
ความพยายามต้ังใจเรียนเอาใจใส่ในการเรียน น้อยเป็นคนที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อและชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ดังน้ันเวลาครู
มอบหมายงานใดให้นักเรยี นทำกิจกรรมร่วมกัน เพ่ือนคนอืน่ จะพยายามชวนน้อยให้อยู่กลุ่มเดียวกันน้อยมีความภูมิใจที่เปน็ ที่รัก
ของเพ่ือน น้อยสมคั รเข้าอยู่ชมรมดนตรไี ทย เพราะน้อยคิดวา่ ดนตรีไทยมีความไพเราะและเป็นเอกลักษณ์ของชาติ มเี พ่ือนบาง
คนพดู จาเหนบ็ แนมว่านอ้ ยไม่ทนั สมัย ไมย่ อมรบั ดนตรสี ากล ซึง่ เป็นวัฒนธรรหนงึ่ ทีค่ นสว่ นใหญช่ ืน่ ชม เพื่อนของน้อยบางคนชอบ
ไปเดินซื้ออปุ กรณ์การเรียนตามห้างสรรพสินค้าและคุยอวดน้อยว่า สิ่งของเครื่องใช้ท่ีซื้อจากห้างมีคณุ ภาพดีกว่าซ้ือจากตลาดใน
หมู่บา้ น แต่น้อยกพ็ ูดให้เหตุผลกบั เพื่อนเหล่านั้นว่า ถ้ารู้จักเลือกซ้ือกส็ ามารถได้ส่ิงของที่มคี ุณภาพดีราคาถูก น้อยมคี วามเชอื่ ม่ัน
ในการกระทำท่ีมีเหตุผลของตนเอง ไม่รู้สึกว่าตนมีปมด้อยท่ีเรียนไม่เก่ง ครอบครัวฐานะไม่ดี ชีวิตของน้อยก็มีความสุขและไม่
เดือดร้อน
• ทำไมน้อยจงึ มชี ีวติ ที่มคี วามสุข จงอธบิ ายพร้อมยกตวั อยา่ ง
1. มคี วามภมู ิใจที่เปน็ ทร่ี ักของเพ่ือน นอ้ ยเหน็ คุณค่าของตนเอง ชอบชว่ ยเหลือผ้อู ื่นจึงไมม่ ีปมดอ้ ยทเี่ รยี นไม่เกง่
ฐานะของครอบครัวไม่ดี
2. นอ้ ยมคี วามคดิ หรอื มองโลกในแงด่ แี ละมคี วามภมู ิใจในเอกลักษณข์ องชาติ ไม่มคี วามร้สู กึ ทตี่ ำ่ ต้อยท่ีเขา้ ชมรม
ดนตรไี ทย และใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชนก์ บั การเลน่ ดนตรี
3. นอ้ ยรจู้ กั บรโิ ภคดว้ ยปัญญา ไมฟ่ ุ้งเฟอ้ ทีจ่ ะต้องซื้ออปุ กรณก์ ารเรียนในราคาสงู จากหา้ งสรรพสินค้า เขาสามารถ
เลอื กสนิ คา้ ทม่ี ีคุณภาพดรี าคาถกู ได้
ชิน้ งาน/ภาระงานรวบยอด
กิจกรรม แผน่ พับ เร่ือง สงั คมไทยยุคปจั จบุ นั
คำชี้แจง : ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ทำแผน่ พบั เรื่อง สังคมไทยยุคปจั จุบนั แล้วนำส่งครู โดยใหค้ รอบคลมุ
ประเดน็ ตามทก่ี ำหนด
แบบประเมนิ แผน่ พับ เรื่อง สังคมไทยยุคปัจจุบัน
รายการประเมิน ดมี าก (4) คำอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. การวิเคราะห์ วิเคราะหป์ ัจจัยที่กอ่ ให้ วเิ คราะหป์ ัจจัยที่ก่อให้ วเิ คราะหป์ จั จยั ที่กอ่ ให้ วิเคราะหป์ ัจจยั ท่กี อ่ ให้
ปจั จัยท่ีกอ่ ให้ เกิดปญั หาความขดั แยง้ เกดิ ปัญหาความขดั แยง้ เกิดปญั หาความขัดแยง้ เกิดปัญหาความขัดแยง้
เกดิ ปัญหาความ ในประเทศ ไดถ้ ูกต้อง ในประเทศ ไดถ้ ูกต้อง ในประเทศ ได้ถูกตอ้ ง ในประเทศ ไดถ้ ูกต้อง
ขัดแยง้ ใน สมบูรณ์ 4 ปัญหาขน้ึ ไป สมบูรณ์ 3 ปญั หา สมบูรณ์ 2 ปัญหา สมบูรณ์ 1 ปัญหา
ประเทศ
2. การเสนอแนวคิด เสนอแนวคดิ ในการลด เสนอแนวคิดในการลด เสนอแนวคิดในการลด เสนอแนวคดิ ในการลด
ในการลด ความขดั แย้งใน ความขัดแย้งใน ความขัดแยง้ ใน ความขดั แยง้ ใน
ความขดั แยง้ ใน สังคมไทยอยา่ งมีเหตผุ ล สงั คมไทยอยา่ งมเี หตผุ ล สงั คมไทยอยา่ งมเี หตผุ ล สงั คมไทยอยา่ งมีเหตผุ ล
สงั คมไทย เหมาะสม 4 ประเด็น เหมาะสม 3 ประเด็น เหมาะสม 2 ประเดน็ เหมาะสม 1 ประเด็น
ขนึ้ ไป
3. การวิเคราะห์ วิเคราะหป์ ัญหา วิเคราะหป์ ัญหา วเิ คราะหป์ ัญหา วิเคราะหป์ ญั หา
ปญั หาสงั คมไทย สงั คมไทย พรอ้ มเสนอ สังคมไทย พรอ้ มเสนอ สงั คมไทย พรอ้ มเสนอ สงั คมไทย พร้อมเสนอ
พรอ้ มเสนอ แนวทางแก้ไขปญั หาได้ แนวทางแก้ไขปญั หาได้ แนวทางแก้ไขปัญหาได้ แนวทางแกไ้ ขปัญหาได้
แนวทางแก้ไข อย่างมีเหตผุ ลเหมาะสม อยา่ งมเี หตผุ ลเหมาะสม อยา่ งมีเหตผุ ลเหมาะสม อย่างมเี หตผุ ลเหมาะสม
4 เรอ่ื ง 3 เรื่อง 2 เร่ือง 1 เรอ่ื ง
4. การเสนอแนะ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ
แนวทางการ ดำรงชีวติ อย่างมี ดำรงชวี ิตอยา่ งมี ดำรงชวี ติ อย่างมี ดำรงชีวติ อยา่ งมี
ดำรงชีวิตอย่างมี ความสขุ ในสงั คมไทย ความสขุ ในสังคมไทย ความสุขในสังคมไทย ความสขุ ในสังคมไทย
ความสขุ ใน และสังคมโลกได้อยา่ งมี และสงั คมโลกไดอ้ ยา่ งมี และสังคมโลกได้อยา่ งมี และสงั คมโลกไดอ้ ยา่ ง
สงั คมไทยและ เหตุผลเหมาะสม เหตุผลเหมาะสม เหตผุ ลเหมาะสม มเี หตผุ ลเหมาะสม
สังคมโลก 4 ประเด็นขึน้ ไป 3 ประเด็น 2 ประเดน็ 1 ประเด็น
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ำกวา่ 8
ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนำเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกตอ้ งของเนอื้ หา
2 การลำดบั ขัน้ ตอนของเร่ือง
3 วธิ กี ารนำเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอ
5 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม
รวม
ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
............/................./................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
321
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อืน่
3 การทำงานตามหน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
4 ความมีนำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../..............
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดบั คะแนน
การมี
ลำดับท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม
ของนกั เรียน ความ ฟังคนอ่นื ตามท่ีไดร้ บั น้ำใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ปรบั ปรงุ
ผลงานกลุ่ม
321321321321321
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมิน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............../.................../...............
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง
แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติ
กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์
ต่อโรงเรยี น
1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏิบัติตามหลักศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี ก่ยี วกบั สถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามท่ีโรงเรยี นจดั ขนึ้
2. ซอ่ื สัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง
2.2 ปฏิบัตใิ นสงิ่ ที่ถูกตอ้ ง
3. มีวินัย รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
3.2 มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวัน
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รู้จกั ใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
4.2 ศกึ ษาค้นคว้าความรู้จากสอื่ และเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งสมำ่ เสมอ
5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใชท้ รัพย์สินและสง่ิ ของของตนเองและส่วนรวมอย่างประหยดั
5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณค่า
5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
6. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจติ สาธารณะ 8.1 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม
8.2 เข้ารว่ มกิจกรรม เพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ
พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้งั ............../.................../................
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางครัง้
ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ด้านความสามารถทางภมู ิศาสตร์
ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
11. ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงช่ือ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4
คำช้แี จง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. สงั คมไทยมีลกั ษณะสำคญั หลายประการ ยกเว้น ขอ้ ใด 6. การทป่ี ระชากรเพิม่ จำนวนมากขน้ึ มผี ลกระทบตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม
ก. เป็นสงั คมเกษตร อย่างไร
ข. รักในถน่ิ ฐานบ้านเกดิ ของตน ก. ประชาชนนำทรัพยากรมาใชใ้ นการดำเนนิ ชีวติ มากขนึ้
ค. มคี วามหลากหลายในเชื้อชาติ ข. ที่อยอู่ าศัยไม่เพยี งพอ อยู่กันอยา่ งแออดั มีการตดั ไม้
ง. รักอสิ ระและมเี สรภี าพส่วนบคุ คล ทำลายปา่ ทำให้เกดิ น้ำทว่ ม
2. เพราะเหตใุ ด ประเพณแี ละวัฒนธรรมในภมู ิภาคต่างๆ ค. ประชาชนมจี ำนวนมากตอ้ งไปอาศัยอยู่ในปา่ ต้องตัดไม้
ของไทยจงึ มีความแตกต่างกัน มาสรา้ งบ้าน
ก. มกี ารรบั วฒั นธรรมสากลเขา้ มาใช้ ง. มกี ารสร้างโรงงานอุตสาหกรรม เพือ่ เป็นทหี่ ารายได้ของ
ข. มอี าณาเขตตดิ ต่อกันหลายประเทศ ประชาชน
ค. ประชากรไทยพดู ภาษาถนิ่ แตกตา่ งกัน 7. การกระทำในขอ้ ใดแสดงว่าเป็นผทู้ ส่ี ามารถสร้างทกั ษะทาง
ง. มชี นหลายเผา่ พันธ์ุ สภาพนิเวศและสิ่งแวดล้อมต่างกัน อารมณไ์ ด้
3. สถาบนั ในข้อใดมคี วามผูกพนั กนั มากท่สี ดุ ก. มีสตกิ บั ความคิด เขา้ ใจความคดิ ของตนเอง
ก. สถาบนั ศาสนา สถาบนั การศึกษา ข. มคี วามเชอ่ื ม่นั ในการกระทำของตนเองวา่ ถกู ต้อง
ข. สถาบนั ศาสนา สถาบนั นนั ทนาการ ค. ยอมเปลย่ี นแปลงคณุ ภาพชวี ิตไปตามสภาพแวดลอ้ ม
ค. สถาบันศาสนา สถาบนั ทางเศรษฐกิจ ง. สามารถเปรียบเทียบการกระทำของตนเองกบั ผู้อนื่ ได้
ง. สถาบนั นันทนาการ สถาบนั การเมืองการปกครอง 8. การกระทำในขอ้ ใดจดั ว่าเป็นการแกไ้ ขปัญหาความขดั แย้ง
4. ปัจจยั สำคญั ทที่ ำใหเ้ กิดความขดั แยง้ ทางการเมอื งใน ที่เหมาะสม
สังคมไทย คืออะไร ก. การเจรจาต่อรอง การไกล่เกลย่ี
ก. ความคดิ เหน็ ทแ่ี ตกตา่ งกัน ข. ผูม้ อี ำนาจของคู่กรณดี ำเนนิ การตัดสิน
ข. ความแตกต่างกนั ทางด้านการศึกษา ค. การอภิปรายหรือการโตว้ าทรี ะหวา่ งกลุ่ม
ค. ระบบเศรษฐกจิ แบบนายทนุ มอี ำนาจมาก ง. การแจ้งความต่อตำรวจให้ดำเนนิ คดตี อ่ คกู่ รณี
ง. สภาพความเปน็ อยู่ของคนไทยในสงั คมไทย 9. การดำเนนิ ชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ไม่เท่าเทยี มกนั สอดคล้องกบั ขอ้ ใด
5. ปัญหาใดท่สี ่งผลเสียตอ่ สขุ ภาพและคณุ ภาพชีวติ ของ ก. การมีคุณภาพทางการศกึ ษา
ประชากร ข. การมฐี านะทางเศรษฐกิจมั่นคง
ก. ปัญหาสังคม ค. การยึดถอื คณุ ธรรมและหลักธรรม
ข. ปัญหาการเมือง ง. การดำรงชีวติ บนพืน้ ฐานทางสายกลาง
ค. ปญั หาเศรษฐกิจ
ง. ปัญหายาเสพตดิ
10. นักเรยี นมสี ่วนรว่ มในการปอ้ งกันการทุจริตฉ้อราษฎรบ์ ัง ง. ขาดความนา่ เชือ่ ถือจากนานาประเทศ
หลวงไดอ้ ย่างไร 16. สิ่งใดต่อไปนี้ มิ อาจแก้ไขความขดั แย้งในสังคมได้
ก. หามาตรการลงโทษผกู้ ระทำความผิด
ข. ประกาศใหค้ นท่วั ไปรูถ้ งึ การกระทำของเจา้ หน้าท่รี ัฐ ก. ความมอี คติ
ท่ีคดโกงประชาชน ข. ความสามัคคี
ค. แจ้งความต่อเจ้าหนา้ ทต่ี ำรวจเมือ่ สงสยั การกระทำของ ค. ความม่ันใจในตนเอง
ผ้ทู ่ขี าดความซ่ือสัตย์ ง. ความพอเพียงและมเี หตผุ ล
ง. ร่วมกนั สร้างค่านยิ มและปลูกจติ สำนกึ ในการปฏิบัตติ น 17. แรงงานตา่ งด้าวผดิ กฎหมายอาจก่อให้เกิดปัญหาใดตามมา
ด้วยความซือ่ สัตยส์ จุ รติ ก. ปัญหาเด็กเร่ร่อน
ข. ปัญหาการหยา่ ร้าง
11. ข้อใดเปน็ ลักษณะทเี่ ป็นเอกลกั ษณข์ องสังคมไทย ค. ปัญหาการแพรโ่ รคระบาด
ก. เปน็ สงั คมอุตสาหกรรม ง. ปญั หาการละเมดิ ทรพั ย์สนิ ทางปญั ญา
ข. ไมย่ ึดถือประเพณแี ละพธิ กี รรม 18. หากตอ้ งการใหก้ ารทุจรติ คอรร์ ปั ช่ันหมดไปจากสงั คมไทย
ค. มีพระพทุ ธศาสนาเปน็ ศาสนาหลกั ตอ้ งเร่งปลูกฝงั แนวคดิ ใดแก่คนในประเทศ
ง. มีความสันโดษ รกั ความเปน็ สว่ นตวั ก. การพง่ึ พาผู้อนื่
ข. ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
12. สถานการณใ์ ดตอ่ ไปนี้อาจนำไปสู่ความขัดแยง้ ดา้ น ค. ความเป็นวัตถุนยิ ม
เศรษฐกจิ ง. ความเป็นทนุ นยิ มเสรี
ก. การเพ่ิมกำลงั การผลิต ข. การผกู ขาดทางการคา้ 19. หากนักเรยี นมีความคดิ เหน็ ไม่ตรงกับเพ่ือน นักเรยี นควร
ค. การกระจายอำนาจ ง. การให้ทุนด้านการวิจยั ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร
ก. ไม่แสดงความคดิ เหน็
13. สถาบนั ทางสงั คมใดตอ่ ไปนมี้ บี ทบาทสำคัญในการปอ้ งกนั ข. ต่อวา่ เพือ่ นด้วยถอ้ ยคำรุนแรง
ปัญหายาเสพตดิ ค. รบั ฟงั ความคดิ เหน็ และใชเ้ หตผุ ลพดู คยุ กัน
ก. สถาบนั ครอบครวั ข. สถาบนั การเมือง ง. หลีกเล่ียงการทำกจิ กรรมร่วมกบั เพอ่ื นคนนั้น
ค. สถาบนั เศรษฐกจิ ง. สถาบันสอ่ื สารมวลชน 20. เมอื่ เกดิ ความขัดแยง้ ขึน้ ภายในสังคม เราควรแกไ้ ขความ
ขัดแย้งโดยยดึ หลกั ใด
14. ขอ้ ใดเป็นปจั จยั ท่ีส่งเสรมิ ใหเ้ กิดการทุจรติ ฉอ้ ราษฎรบ์ ัง ก. การใชเ้ หตผุ ล
หลวง ข. การใชค้ วามรนุ แรง
ก. การพง่ึ พาตนเอง ข. ระบบทนุ นยิ ม ค. การใช้อำนาจบารมี
ค. ระบบอปุ ถัมภ์ ง. ความยึดมั่นในศาสนา ง. การใชเ้ งนิ แกไ้ ขปัญหา
15. หากประเทศมกี ารทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั่ สงู จะส่งผลเสียอยา่ งไร
ก. เกิดความลา้ หลังทางวัฒนธรรม
ข. ประชาชนไม่สามารถพ่ึงพาตนเองได้
ค. ค่าเงนิ ของประเทศแข็งค่าขนึ้ ตอ่ เนอ่ื ง
เฉลย
1. ค 2. ง 3. ก 4. ก 5. ง 6. ข 7. ก 8. ก 9. ง 10. ง
11. ค 12. ข 13. ก 14. ค 15. ง 16. ก 17. ค 18. ข 19. ค 20. ก
แบบทดสอบหลงั เรียน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดเปน็ ลกั ษณะท่เี ปน็ เอกลกั ษณ์ของสังคมไทย 6. สถาบันทางสงั คมใดต่อไปนม้ี ีบทบาทสำคัญในการปอ้ งกนั
ก. เป็นสังคมอตุ สาหกรรม ปญั หายาเสพตดิ
ข. ไมย่ ึดถอื ประเพณแี ละพิธีกรรม ก. สถาบนั ครอบครัว ข. สถาบันการเมอื ง
ค. มีพระพุทธศาสนาเปน็ ศาสนาหลกั ค. สถาบันเศรษฐกิจ ง. สถาบนั ส่ือสารมวลชน
ง. มีความสันโดษ รกั ความเป็นสว่ นตวั 7. สังคมไทยมีลกั ษณะสำคญั หลายประการ ยกเว้น ขอ้ ใด
2. ปัญหาใดทส่ี ง่ ผลเสยี ต่อสขุ ภาพและคณุ ภาพชีวติ ของ ก. เปน็ สงั คมเกษตร
ประชากร ข. รักในถิน่ ฐานบา้ นเกิดของตน
ก. ปญั หาสังคม ข. ปญั หาการเมือง ค. มคี วามหลากหลายในเชอื้ ชาติ
ค. ปญั หาเศรษฐกจิ ง. ปญั หายาเสพตดิ ง. รักอิสระและมเี สรภี าพสว่ นบคุ คล
3. นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการป้องกนั การทจุ ริตฉอ้ ราษฎรบ์ งั 8. หากต้องการใหก้ ารทุจรติ คอร์รปั ชน่ั หมดไปจากสงั คมไทย
หลวงไดอ้ ย่างไร ตอ้ งเรง่ ปลูกฝงั แนวคดิ ใดแก่คนในประเทศ
ก. หามาตรการลงโทษผกู้ ระทำความผดิ ก. การพ่งึ พาผู้อน่ื
ข. ประกาศให้คนทั่วไปรูถ้ งึ การกระทำของ ข. ความซือ่ สตั ย์สุจรติ
เจา้ หน้าท่ีรฐั ท่คี ดโกงประชาชน ค. ความเปน็ วตั ถุนยิ ม
ค. แจง้ ความต่อเจา้ หน้าทตี่ ำรวจเมือ่ สงสยั การ ง. ความเปน็ ทนุ นิยมเสรี
กระทำของผู้ทข่ี าดความซือ่ สัตย์ 9. การทป่ี ระชากรเพิ่มจำนวนมากขน้ึ มผี ลกระทบต่อ
ง. รว่ มกนั สร้างค่านิยมและปลกู จติ สำนกึ ในการ ส่งิ แวดล้อมอย่างไร
ปฏิบัตติ นด้วยความซ่ือสัตย์สุจรติ ก. ประชาชนนำทรพั ยากรมาใช้ในการดำเนนิ ชีวิตมากขึน้
4. หากนกั เรยี นมคี วามคดิ เห็นไมต่ รงกบั เพอื่ น นกั เรยี นควร ข. ทอ่ี ยอู่ าศัยไมเ่ พียงพอ อย่กู นั อย่างแออดั มีการตดั ไม้
ปฏิบัตติ นอยา่ งไร ทำให้เกดิ น้ำท่วม
ก. ไมแ่ สดงความคดิ เห็น ค. ประชาชนมจี ำนวนมากต้องไปอาศัยอยูใ่ นปา่ ตอ้ ง
ข. ต่อวา่ เพ่อื นด้วยถอ้ ยคำรุนแรง ตดั ไมม้ าสรา้ งบ้าน
ค. รับฟงั ความคดิ เห็นและใชเ้ หตผุ ลพดู คยุ กัน ง. มกี ารสรา้ งโรงงานอตุ สาหกรรม เพ่ือเป็นท่หี ารายได้
ง. หลกี เลย่ี งการทำกจิ กรรมรว่ มกบั เพื่อนคนนั้น ใหเ้ พยี งพอกับประชาชน
5. การดำเนินชวี ิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 10. ปจั จัยสำคญั ท่ที ำใหเ้ กดิ ความขัดแยง้ ทางการเมอื งใน
สอดคลอ้ งกับข้อใด สังคมไทย คอื อะไร
ก. การมคี ุณภาพทางการศึกษา ก. ความคิดเหน็ ท่ีแตกตา่ งกนั
ข. การมฐี านะทางเศรษฐกิจมนั่ คง ข. ความแตกตา่ งกันทางดา้ นการศกึ ษา
ค. การยึดถอื คุณธรรมและหลกั ธรรม ค. ระบบเศรษฐกจิ แบบนายทุนมีอำนาจมาก
ง. การดำรงชวี ติ บนพ้ืนฐานทางสายกลาง ง. สภาพความเป็นอย่ขู องคนไทยในสงั คมไทย
ไมเ่ ทา่ เทียมกัน
11. เพราะเหตใุ ด ประเพณีและวฒั นธรรมในภมู ภิ าค ค. การใช้อำนาจบารมี ง. การใช้เงินแก้ไขปัญหา
ต่างๆ 16. การกระทำในขอ้ ใดจัดว่าเป็นการแกไ้ ขปญั หาความ
ของไทยจึงมคี วามแตกต่างกัน ขัดแย้งท่เี หมาะสม
ก. มีการรับวัฒนธรรมสากลเขา้ มาใช้ ก. การเจรจาตอ่ รอง การไกล่เกลยี่
ข. มีอาณาเขตตดิ ต่อกันหลายประเทศ ข. ผมู้ อี ำนาจของค่กู รณดี ำเนนิ การตดั สิน
ค. ประชากรไทยพดู ภาษาถิน่ แตกตา่ งกนั ค. การอภิปรายหรอื การโตว้ าทรี ะหวา่ งกลมุ่
ง. มีชนหลายเผ่าพันธ์ุ สภาพนเิ วศและสิง่ แวดลอ้ ม ง. การแจง้ ความต่อตำรวจใหด้ ำเนนิ คดีตอ่ คกู่ รณี
ต่างกัน 17. สถานการณใ์ ดต่อไปนอี้ าจนำไปสคู่ วามขัดแยง้ ดา้ น
12. การกระทำในขอ้ ใดแสดงวา่ เป็นผทู้ ี่สามารถสร้างทักษะ เศรษฐกจิ
ก. การเพม่ิ กำลงั การผลิต
ทางอารมณไ์ ด้ ข. การผูกขาดทางการคา้
ก. มสี ติกับความคิด เข้าใจความคิดของตนเอง ค. การกระจายอำนาจสู่ทอ้ งถน่ิ
ข. มีความเชอื่ มนั่ ในการกระทำของตนเองว่าถูกตอ้ ง ง. การให้ทุนสนบั สนุนดา้ นการวจิ ยั
ค. ยอมเปลี่ยนแปลงคณุ ภาพชวี ติ ตามสภาพแวดล้อม
ง. สามารถเปรียบเทียบการกระทำของตนกบั ผู้อนื่ ได้ 18. สงิ่ ใดตอ่ ไปน้ี มิ อาจแก้ไขความขดั แยง้ ในสงั คมได้
13. สถาบันในข้อใดมีความผกู พนั กันมากทีส่ ุด ก. ความมอี คติ
ก. สถาบนั ศาสนา สถาบนั การศกึ ษา ข. ความสามัคคี
ข. สถาบันศาสนา สถาบันนันทนาการ ค. ความมัน่ ใจในตนเอง
ค. สถาบันศาสนา สถาบันทางเศรษฐกิจ ง. ความพอเพียงและมีเหตผุ ล
ง. สถาบันนนั ทนาการ สถาบันการปกครอง
14. แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอาจกอ่ ให้เกิดปญั หาใด 19. หากประเทศมกี ารทุจริตคอรร์ ัปช่ันสูงจะสง่ ผลเสียอยา่ งไร
ตามมา ก. เกดิ ความลา้ หลงั ทางวฒั นธรรม
ก. ปัญหาเด็กเรร่ อ่ น ข. ประชาชนไมส่ ามารถพ่ึงพาตนเองได้
ข. ปัญหาการหยา่ ร้าง ค. ค่าเงินของประเทศแข็งค่าขน้ึ ตอ่ เนื่อง
ค. ปัญหาการแพรโ่ รคระบาด ง. ขาดความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศ
ง. ปญั หาการละเมิดทรพั ยส์ ินทางปัญญา
15. เมอ่ื เกิดความขดั แย้งขน้ึ ภายในสงั คม เราควรแกไ้ ขความ 20. ข้อใดเป็นปัจจัยท่ีสง่ เสรมิ ใหเ้ กิดการทจุ ริตฉ้อราษฎร์บัง
ขัดแย้งโดยยดึ หลกั ใด หลวง
ก. การใช้เหตผุ ล ข. การใชค้ วามรุนแรง ก. การพึ่งพาตนเอง ข. ระบบทุนนยิ ม
ค. ระบบอุปถัมภ์ ง. ความยดึ มน่ั ในศาสนา
เฉลย
1. ค 2. ง 3. ง 4. ค 5. ง 6. ก 7. ค 8. ข 9. ข 10. ก
11. ง 12. ก 13. ก 14. ค 15. ก 16. ก 17. ข 18. ก 19. ง 20. ค
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 การเมืองการปกครองในปัจจุบัน
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1
รปู แบบการปกครองในปัจจุบนั และการเปรียบเทยี บการปกครองของไทย เวลา 2 ชัว่ โมง
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ดั
1.1 ตัวชีว้ ดั เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจุบนั ยดึ ม่นั ศรัทธา และธำรง
ส 2.2 รักษาไว้ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็
ประมขุ อธิบายระบอบการปกครองแบบตา่ ง ๆ ท่ีใชใ้ นยุคปัจจบุ นั
ม. 3/1 วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บระบอบการปกครองของไทยกบั ประเทศอ่นื ๆ ทมี่ ี
ม. 3/2 การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความหมายและองค์ประกอบสำคัญของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย และการปกครองระบอบ
เผดจ็ การได้ (K)
2. อธิบายลักษณะการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทยได้ (K)
3. เปรียบเทยี บการปกครองของไทยกับประเทศอน่ื ท่ีมีการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยได้ (P)
4. เห็นคุณคา่ ของศึกษารูปแบบการปกครองในปัจจบุ ันเพ่ิมมากข้ึน (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น สาระการเรียนรจู้ ากส่อื
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง (พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา) - รปู แบบการปกครองในยคุ ปัจจุบัน
1) ระบอบการปกครองแบบต่าง ๆ
- เปรียบเทียบการปกครองของไทย
ทใี่ ชใ้ นยุคปัจจุบนั เชน่
การปกครองระบอบเผดจ็ การ กบั ประเทศที่ปกครองแบบ
การปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตย ประชาธิปไตย
2) ความแตกตา่ ง ความคลา้ ยคลงึ
ของการปกครองของไทยกบั
ประเทศอ่นื ๆ ท่ีมกี ารปกครอง
ระบอบประชาธปิ ไตย
4. มโนทัศน์สำคญั (Key Concept)
- การปกครองระบอบเผดจ็ การและระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่ใชอ้ ยู่ในยุคปจั จุบัน โดย
ประเทศไทยมกี ารปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ซ่ึงมีสว่ นทีม่ ีความคลา้ ยคลึงและแตกต่างจากประเทศอนื่ อนั มี
รฐั ธรรมนญู เปน็ กฎหมายสงู สดุ ในการปกครองประเทศ
5. คำถามหลัก (Big Question)
- การปกครองแต่ละรูปแบบมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการคดิ 1. มีวนิ ัย
- ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2. ใฝเ่ รียนรู้
- ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วิธสี อนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมอื : เทคนิคคู่คดิ
ชว่ั โมงที่ 1
ข้นั นำ
1. ครูแจ้งให้นักเรยี นทราบถงึ วธิ สี อนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมอื : เทคนิคคู่คดิ ชอ่ื เรือ่ งทจ่ี ะเรยี นรู้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ และผลการเรยี นรู้
2. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรือ่ ง การเมอื งการปกครองในปัจจุบัน
3. ครนู ำข่าวเกยี่ วกับกจิ กรรมทางการเมืองของประเทศต่าง ๆ มาให้นักเรียนร่วมกนั วิเคราะหว์ า่ ประเทศ
ดังกลา่ วมีการปกครองแบบใด
4. ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพหนา้ หนว่ ย จากน้นั ครตู ง้ั คำถามเพื่อกระตุน้ ความคดิ เช่น
• ภาพนสี้ ะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการปกครองแบบใด เพราะเหตุใด
5. ครยู กตัวอย่างเหตุการณ์ทางการเมืองของต่างประเทศ เช่น การสูร้ บในลเิ บยี เพื่อโค่นอำนาจผนู้ ำเผด็จการ
การประทว้ งในอยี ปิ ต์และประเทศในแถบเอเชียตะวนั ตกเฉยี งใต้ จากนั้นถามคำถาม เชน่
1) เพราะเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์ประท้วงในหลายประเทศทีอ่ ยู่ในบางภมู ภิ าค
(แนวตอบ เพราะกระแสโลกาภิวัตน์กระจายไปท่ัวโลก มีการเข้าถึงข่าวสารและเน้นเรื่องสิทธิมนุษยชน
ดงั นนั้ ในประเทศทีย่ งั คงมกี ารจำกดั สทิ ธิ ประชาชนจึงออกมาเคลอ่ื นไหวให้มกี ารเปดิ กวา้ งเรื่องสทิ ธิมนุษยชน)
2) เพราะเหตุใดเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ จึงลุกลามไปหลายประทศ
(แนวตอบ เพราะมลี กั ษณะการปกครองท่คี ล้ายคลึงกัน และมีชอ่ งทางการตดิ ต่อส่อื สารท่สี ะดวกรวดเร็ว
ทำใหค้ นกล้าแสดงความคดิ เหน็ และรวมตัวกนั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว)
ขน้ั สอน
1. ครนู ำขา่ วเกีย่ วกบั รปู แบบการปกครองในยุคปจั จบุ ัน มาให้นักเรียนร่วมกนั ศึกษา และแสดงความคิดเห็น
จากข่าวดงั กล่าว
2. ครใู ห้นักเรียนจับคู่ คละกันตามความสามารถ โดยให้สมาชกิ แต่ละคนจบั คู่กันภายในกลุม่ และกำหนด
หมายเลขเปน็ คู่ท่ี 1 และคทู่ ่ี 2
3. สมาชิกแตล่ ะคูร่ ่วมกนั ศกึ ษาความรู้เร่ือง รปู แบบการปกครองในปัจจบุ นั และการเปรียบเทยี บการปกครอง
ของไทย จากหนังสอื เรียนสงั คมศึกษาฯ ม.3 หรือจากแหล่งการเรยี นรู้อ่ืน ๆ เชน่ หนังสือในห้องสมุด
เว็บไซตท์ างอินเทอร์เน็ต คลู่ ะ 1 เรอ่ื ง ดังนี้
• คทู่ ี่ 1 ศกึ ษาความรู้เร่ือง รปู แบบการปกครองในยุคปจั จุบนั
• คู่ที่ 2 ศกึ ษาความรูเ้ รื่อง การเปรียบเทียบการปกครองของไทยกับประเทศที่ปกครองแบ
ประชาธปิ ไตย
ชว่ั โมงท่ี 2
4. ครใู ห้นักเรียนจดั การอภิปราย เพอ่ื นำเสนอผลการศึกษา จากนั้นครูตั้งคำถามใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ตอบ เช่น
1) “พระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ กลางทางการเมอื ง” หมายความว่าอยา่ งไร
(แนวตอบ ทรงใช้อำนาจนิติบัญญัติผ่านทางรัฐสภา อำนาจบริหารผ่านทางคณะรัฐมนตรี และอำนาจตุลา
การผา่ นทางศาล)
2) ประธานาธบิ ดีของสหรัฐอเมริกามีทม่ี าและอำนาจอยา่ งไร
(แนวตอบ ประธานาธิบดสี หรัฐอเมริกามาจากการเลอื กต้งั แบบ 2 ข้ันตอน ข้ันแรก คอื popular vote
เป็นการที่ประชาชนเลือกตัวแทนเพ่ือไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ข้ันต่อมาคือ electoral vote ซึ่งเป็น
การเลือกโดยตวั แทนของ ส.ส. ในแตล่ ะรฐั )
3) ในระบบกึง่ ประธานาธิบดีน้ัน ประธานาธบิ ดีและนายกรัฐมนตรมี อี ำนาจหนา้ ที่แตกต่างกันอยา่ งไร
(แนวตอบ ประธานาธบิ ดีเป็นประมขุ ของรัฐ มีอำนาจในการกำหนดนโยบายและบริหารประเทศ
สว่ นนายกรฐั มนตรี มหี น้าที่ในการบริหารประเทศใหเ้ ป็นไปตามนโยบายทป่ี ระธานาธบิ ดีกำหนดไว้)
4) ประเทศท่ีปกครองดว้ ยระบอบเผดจ็ การ ประชาชนจะมีความเปน็ อยูอ่ ยา่ งไร
(แนวตอบ ถกู จำกัดสิทธเิ สรีภาพทางการเมอื ง เศรษฐกจิ ตกต่ำ ความยตุ ิธรรมมีน้อย อำนาจและความมงั่ คั่ง
อยใู่ นมือของคนเพยี งไมก่ กี่ ลุ่ม)
5) เพราะเหตใุ ดฮิตเลอรส์ ามารถครองอำนาจในการบรหิ ารประเทศเยอรมนีได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพในชว่ ง
ค.ศ. 1933-1945
(แนวตอบ เนื่องจากฮิตเลอร์ได้ฟ้ืนฟูประเทศเยอรมนี จากประเทศท่ีประสบปัญหาเศรษฐกิจและประเทศ
แพ้
สงคราม ใหม้ ีความเจริญก้าวหน้าจนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจ และมกี ารปลกู ฝงั เร่อื งค่านิยม)
6) การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยกับการปกครองระบอบเผด็จการแตกต่างกนั อย่างไร
(แนวตอบ การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบ่งแยกการใช้อำนาจการปกครอง ประชาชนมีส่วนร่วมใน
การ
ปกครองประเทศและมีสทิ ธเิ สรีภาพตามกฎหมาย สว่ นการปกครองระบอบเผดจ็ การน้นั อำนาจปกครองอยู่
ท่ี
ผู้นำประเทศ ประชาชนไม่มสี ่วนร่วมในการปกครองและถูกจำกดั สิทธิเสรภี าพ)
7) การปกครองระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยกับประเทศเพอ่ื นบ้านท่มี ีการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย มีความแตกต่างกนั ในประเด็นใด
(แนวตอบ รูปแบบของรัฐ รปู แบบการปกครอง ประมขุ ของรัฐ ประมขุ ฝา่ ยบริหาร)
5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเดิมทำใบงานที่ 5.1 เรื่อง รูปแบบการปกครองในยุคปัจจุบัน และใบงานที่ 5.2
เร่อื ง การปกครองระบอบประชาธิปไตย จากนน้ั นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของใบงาน
6. ครูให้อาสาสมคั รนกั เรียน 2-3 กลมุ่ นำเสนอผลงานในใบงานหน้าชัน้ เรยี น และให้กล่มุ อ่นื ท่มี ผี ลงานที่
แตกตา่ งกันได้นำเสนอเพมิ่ เตมิ
7. ครูใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรมท่ีเกยี่ วกับรปู แบบการปกครองในปจั จุบันและการเปรียบเทียบการปกครองของไทย
ในแบบฝกึ สมรรถนะฯ หน้าทีพ่ ลเมืองฯ ม.3 เพื่อเปน็ การบา้ นส่งครูในช่ัวโมงถดั ไป
ขนั้ สรุป
- ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการปกครองในปัจจุบันและการเปรียบเทียบการปกครอง
ของไทย หรอื ใช้ PPT สรุปสาระสำคัญของเน้ือหา ตลอดจนความสำคัญต่อการดำเนินชีวติ ประจำวนั
ขนั้ ประเมนิ
1. ครูประเมนิ ผลจากการตอบคำถาม การรว่ มกันทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน
2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าท่ีพลเมืองฯ ม.3
8. การวัดและประเมินผล
รายการวดั วิธวี ัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
8.1 การวดั และประเมนิ ผล - ตรวจแบบทดสอบ
- แบบทดสอบก่อนเรียน - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
กอ่ นเรยี น ก่อนเรยี น
- แบบทดสอบกอ่ นเรียน
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5
เร่อื ง การเมืองการปกครอง
ของไทย
8.2 การวัดและประเมินผล
ระหวา่ งการจัดกิจกรรม
การเรยี นรู้
1) อธบิ ายความหมายและ - ตรวจใบงานที่ 5.1 - ใบงานที่ 5.1 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- ใบงานท่ี 5.2
องคป์ ระกอบสำคญั ของ - ตรวจใบงานที่ 5.2
การปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย และการ
ปกครองระบอบเผดจ็ การ
รวมถงึ เปรยี บเทียบการ
ปกครองของไทยกับ
ประเทศอ่นื ทม่ี กี ารปกครอง
ระบอบประชาธปิ ไตยได้
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการนำเสนอ - ระดบั คณุ ภาพ 2
ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล
การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
การทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม
การทำงานรายกลุม่ ผา่ นเกณฑ์
5) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมินคุณลักษณะ - ระดับคุณภาพ 2
อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ ม่นั
ในการทำงาน อนั พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
9.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นสังคมศึกษาฯ ม.3
2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ หนา้ ท่ีพลเมืองฯ ม.3
3) หนงั สือคน้ ควา้ เพ่มิ เติม
(1) เฉลยี ว ฤกษร์ ุจิพมิ ล. 2543. การจดั ระเบยี บสังคม”ในสงั คมวิทยา. กรงุ เทพมหานคร :
มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์.
(2) นนั ทวฒั น์ บรมานันท์. ม.ป.ป. กฎหมายปกครอง. กรงุ เทพมหานคร : วญิ ญชู น.
4) ใบงานที่ 5.1 เร่อื ง รูปแบบการปกครองในยุคปจั จุบนั
5) ใบงานท่ี 5.2 เรือ่ ง การปกครองระบอบประชาธิปไตย
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
- https://web.krisdika.go.th
- https://news.mthai.com
- https://www.thairath.co.th
- https://www.khaosod.co.th
ใบงานที่ 5.1
เรอื่ ง รปู แบบการปกครองในยคุ ปัจจบุ ัน
คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามตามที่กำหนด
1. ประมุขของรัฐในการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตยในระบบรัฐสภาแบบ
พระมหากษัตรยิ ์และแบบประธานาธบิ ดี
มีสว่ นคลา้ ยคลงึ และแตกตา่ งกนั อย่างไร
2. รัฐสภาในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
มคี วามสำคัญอย่างไร
3. หลักการเชื่อมโยงอำนาจในการปกครอง
แบบรฐั สภาโดยมพี ระมหากษัตรยิ ์
เปน็ ประมขุ เป็นอย่างไร
4. หลักดลุ แห่งอำนาจในการปกครองแบบ
รฐั สภาโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
เปน็ อยา่ งไร
5. หลกั การใช้อำนาจในระบบประธานาธิบดี
ยดึ หลกั การใด
6. ประมขุ ของรฐั ในการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตยระบบกึ่งประธานาธิบดี
มีฐานะสำคัญอย่างไร
7. นายกรัฐมนตรใี นรปู แบบการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตยระบบก่ึงประธานาธิบดี
มคี วามสัมพนั ธ์กบั ประธานาธิบดีอย่างไร
8. หลักการใช้อำนาจของการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตยระบบกึง่ ประธานาธบิ ดี
มีลกั ษณะอยา่ งไร
9. ระบอบเผด็จการแบบอำนาจนิยม
มีลกั ษณะสำคัญอย่างไรบา้ ง
10. ระบอบเผด็จการแบบเบด็ เสร็จ
มลี กั ษณะสำคัญอย่างไร
11. ระบอบเผดจ็ การแบบเบ็ดเสรจ็ มีกี่รปู แบบ
อะไรบ้าง
12. ระบอบเผด็จการทุกรูปแบบมีความ
คลา้ ยคลงึ กันอยา่ งไร
เฉลย
ใบงานท่ี 5.1
เรื่อง รปู แบบการปกครองในยคุ ปจั จบุ นั
คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตามที่กำหนด มีสว่ นคลา้ ยคลึงกัน คอื มีฐานะเปน็ ประมุขของรฐั
ไม่ตอ้ งรบั ผิดชอบในทางการเมอื ง เพราะมฝี า่ ยบรหิ าร
1. ประมุขของรัฐในการปกครองระบอบ รับผิดชอบ มคี วามแตกตา่ งกัน คอื พระมหากษตั รยิ ์
ประชาธปิ ไตยในระบบรัฐสภาแบบ มาจากการสบื สันตติวงศ์ แตป่ ระธานาธบิ ดมี าจากการ
พระมหากษัตริย์และแบบประธานาธบิ ดี เลอื กตง้ั
มีสว่ นคลา้ ยคลึงและแตกตา่ งกันอยา่ งไร
2. รัฐสภาในการปกครองระบอบประชาธิปไตย มอี ำนาจนติ ิบญั ญตั แิ ละอำนาจควบคุมฝา่ ยบริหาร
มคี วามสำคัญอยา่ งไร ใหด้ ำเนนิ งานไปตามตัวบทกฎหมาย
3. หลักการเช่ือมโยงอำนาจในการปกครอง เป็นการเช่อื มโยงระหวา่ งอำนาจนติ ิบัญญตั แิ ละ
แบบรฐั สภาโดยมีพระมหากษัตรยิ ์
เปน็ ประมุขเป็นอย่างไร อำนาจบริหาร กลา่ วคอื ฝา่ ยนิติบญั ญตั มิ อี ำนาจ
นิตบิ ัญญตั แิ ละสามารถควบคมุ ฝา่ ยบรหิ าร โดยให้
ความเหน็ ชอบผทู้ จี่ ะดำรงตำแหนง่ นายกรัฐมนตรี
ใหค้ วามเหน็ ชอบนโยบายฝา่ ยบริหารควบคุมการ
ทำงานของฝ่ายบริหาร
4. หลกั ดุลแห่งอำนาจในการปกครองแบบ นายกรฐั มนตรี ซงึ่ เป็นประมุขฝา่ ยบรหิ าร มอี ำนาจ
รัฐสภาโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมขุ ยุบสภา ส่งผลใหส้ ภาตอ้ งส้นิ สุดลง ตวั นายกรฐั มนตรี
เป็นอย่างไร จะรักษาการเพื่อดำเนนิ การไปสูก่ ารเลือกต้ังสมาชิก
สภาผ้แู ทนราษฎรในครั้งต่อไป
5. หลักการใช้อำนาจในระบบประธานาธบิ ดี 1) หลกั การแยกอำนาจระหวา่ งฝา่ ยบริหาร คอื
ยดึ หลักการใด ประธานาธบิ ดีกับฝ่ายนิติบัญญตั ิ คือ รฐั สภา
6. ประมุขของรัฐในการปกครองระบอบ 2) หลกั การยับยง้ั และถว่ งดุลอำนาจ คอื ประธานาธบิ ดี
ประชาธิปไตยระบบกง่ึ ประธานาธิบดี มีอำนาจยับย้ังกฎหมายที่ออกโดยรัฐสภา และสภา
มีฐานะสำคญั อยา่ งไร กม็ ีอำนาจถอดถอนประธานาธบิ ดี
7. นายกรัฐมนตรใี นรูปแบบการปกครอง ร่วมบรหิ ารประเทศกบั คณะรฐั มนตรี เปน็ ประมุข
ระบอบประชาธิปไตยระบบกึ่งประธานาธิบดี ฝ่ายบรหิ ารอีกตำแหนง่
มีความสมั พันธก์ ับประธานาธิบดอี ยา่ งไร
นายกรัฐมนตรีได้รับการแตง่ ตั้งจากประธานาธบิ ดี
8. หลกั การใช้อำนาจของการปกครองระบอบ โดยความเห็นชอบจากรัฐสภา ประธานาธิบดมี ี
ประชาธปิ ไตยระบบก่ึงประธานาธิบดี อำนาจถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรฐั มนตรีเป็น
มีลักษณะอยา่ งไร หวั หนา้ รฐั บาล มอี ำนาจบรหิ ารประเทศอย่างแทจ้ รงิ
และมรี ฐั มนตรีรับผิดชอบต่อรฐั สภา
9. ระบอบเผด็จการแบบอำนาจนิยม
มีลักษณะสำคัญอยา่ งไรบา้ ง 1) หลักการแยกอำนาจระหว่างประธานาธบิ ดใี นฐานะ
ฝ่ายบรหิ ารกบั รฐั สภาในฐานะฝ่ายนติ ิบญั ญตั ิ
2) หลักการเชือ่ มโยงอำนาจนายกรฐั มนตรมี าจากการ
เหน็ ชอบของรฐั สภา และรฐั สภามอี ำนาจควบคมุ
การบรหิ ารงานของคณะรฐั มนตรแี ละทำหนา้ ท่ี
นติ บิ ญั ญตั ิ
ควบคุมกจิ กรรมทางการเมอื งเป็นหลกั ตดั สินใจ
ทางการเมอื งแต่เพยี งผเู้ ดียว ไมม่ นี โยบายควบคมุ
สถาบันทางสังคม ใชอ้ ำนาจรัฐเข้าแทรกแซงหน่วยงาน
หรอื องค์กรต่างๆ และกระบวนการยตุ ธิ รรม ควบคมุ
พฤติกรรมพลเมอื ง
10. ระบอบเผด็จการแบบเบ็ดเสรจ็ ยึดมน่ั ในอดุ มการณข์ องผนู้ ำ ยกยอ่ งผู้นำ มีพรรค
มลี ักษณะสำคัญอย่างไร การเมอื งเพยี งพรรคเดยี ว ผกู ขาดและแทรกแซง
ส่อื มวลชนทกุ ประเภท เสรมิ สรา้ งความแข็งแกร่ง
11. ระบอบเผด็จการแบบเบด็ เสรจ็ มกี ่รี ูปแบบ ของกองทพั ประชาชนไม่มสี ทิ ธเิ สรภี าพ
อะไรบา้ ง
3 รูปแบบ
12. ระบอบเผด็จการทุกรปู แบบมีความ 1) เผดจ็ การฟาสซสิ ต์
คลา้ ยคลงึ กันอย่างไร 2) เผดจ็ การนาซี
3) เผด็จการคอมมิวนิสต์
1) ไม่คำนงึ ถึงหลกั สิทธิมนษุ ยชน
2) จำกัดสทิ ธเิ สรภี าพของบคุ คล
3) ไมม่ กี ารตรวจสอบและถ่วงดลุ อำนาจ ไม่กำหนด
เวลาครองอำนาจ
4) ไม่ตอ้ งการให้ประชาชนมสี ่วนรว่ มในทางการเมือง
ใบงานที่ 5.2
เร่ือง การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนเปรียบเทยี บการปกครองของไทยกบั ประเทศอื่นทป่ี กครองแบบประชาธิปไตย
การปกครอง ไทย มาเลเซีย อนิ เดีย ฟิลปิ ปนิ ส์
รูปแบบของรัฐ
รูปแบบการ
ปกครอง
ประมขุ ของรัฐ
ประมขุ ฝา่ ย
บรหิ าร
รฐั สภา
พรรคการเมือง
เฉลย
ใบงานที่ 5.2
เร่อื ง การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทียบการปกครองของไทยกบั ประเทศอ่นื ทีป่ กครองแบบประชาธิปไตย
การปกครอง ไทย มาเลเซยี อินเดยี ฟิลปิ ปนิ ส์
รปู แบบของรฐั รัฐเดีย่ ว รฐั รวม รฐั รวม สาธารณรฐั
รูปแบบการ ระบบรัฐสภา ระบบรัฐสภา ระบบรฐั สภา ระบอบประธานาธบิ ดี
ปกครอง
ประมขุ ของรฐั พระมหากษตั ริยด์ ้วยการ พระราชาธิบดรี ับเลือก ประธานาธิบดี ประธานาธบิ ดี
สบื สนั ตติวงศ์ จากที่ประชมุ สลุ ตา่ น
ของรฐั
ประมุขฝา่ ย นายกรฐั มนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานาธบิ ดเี ปน็ ประธานาธิบดี
บริหาร ระบบสองสภา หัวหนา้ คณะผบู้ ริหาร
โดยมนี ายกรัฐมนตรเี ปน็
หวั หน้าฝ่ายบรหิ าร
รัฐสภา ระบบสองสภา ระบบสองสภา ระบบสองสภา
พรรคการเมอื ง ระบบหลายพรรค ระบบหลายพรรค ระบบหลายพรรค ระบบหลายพรรค
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 การเมืองการปกครองในปจั จุบัน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2
รัฐธรรมนญู ฉบบั ปจั จบุ นั กับการเลือกตงั้ การมีส่วนรว่ มและการตรวจสอบอำนาจรัฐ
เวลา 2 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ดั
1.1 ตัวชวี้ ดั
ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปจั จุบัน ยดึ ม่ัน ศรทั ธา และธำรง
รกั ษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็
ประมุข
ม. 3/3 วิเคราะหร์ ฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจุบนั ในมาตราต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกบั การเลอื กตง้ั
การมสี ่วนร่วม และการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั
ม. 3/4 วเิ คราะหป์ ระเด็นปัญหาทีเ่ ป็นอปุ สรรคต่อการพัฒนาประชาธปิ ไตยของ
ประเทศไทยและเสนอแนวทางแก้ไข
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. วเิ คราะห์รัฐธรรมนูญเกี่ยวกบั การเลือกตัง้ การมีส่วนรว่ มและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐได้ (K)
2. จำแนกรฐั ธรรมนญู เกี่ยวกับการเลือกตงั้ การมีส่วนรว่ มและการตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั ได้ (P)
3. เห็นคณุ คา่ ของศึกษารฐั ธรรมนญู เก่ยี วกบั การเลือกตั้ง การมสี ว่ นร่วมและการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั
เพม่ิ มากขนึ้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน สาระการเรียนรู้จากสือ่
(พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศึกษา) - รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจั จบุ ันกบั การ
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1) บทบัญญตั ิของรฐั ธรรมนูญใน เลอื กต้งั การมสี ่วนรว่ มของ
ประชาชน และการตรวจสอบ
มาตราต่าง ๆ ท่เี กีย่ วข้องกบั การ อำนาจรฐั
เลือกตัง้ การมสี ว่ นรว่ ม และการ
ตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรัฐ • การเลือกต้งั
2) อำนาจหนา้ ท่ีของรัฐบาล
3) บทบาทสำคัญของรฐั บาลในการ • การมสี ว่ นรว่ มทางการเมือง
บริหารราชการแผน่ ดนิ ของประชาชน
4) ความจำเปน็ ในการมรี ัฐบาลตาม
ระบอบประชาธิปไตย • การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
• บทบัญญตั เิ กยี่ วกบั รฐั บาล
4. มโนทัศน์สำคัญ (Key Concept)
- รัฐธรรมนญู เป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศไทย บทบญั ญัติเกย่ี วกับการเลือกต้งั การมีสว่ นร่วม
และการตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั ต้องเป็นไปตามรฐั ธรรมนูญ
5. คำถามหลัก (Big Question)
- การเลือกตั้ง การมีส่วนรว่ ม และการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั ทไี่ ปตามรัฐธรรมนญู มีความสำคญั ตอ่ การ
ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอย่างไร
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการคิด 1. มวี นิ ยั
- ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้
- ทกั ษะการเปรียบเทยี บ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วิธสี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชว่ั โมงที่ 1
ขน้ั นำ
ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครแู จง้ ให้นกั เรียนทราบถึงวธิ ีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชอ่ื เร่อื ง
ที่
จะเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้
2. ครนู ำขา่ วทางการเมืองมาสนทนา เชน่ การเลอื กตั้ง ประเดน็ ตา่ ง ๆ ทางการเมอื งของฝา่ ยคา้ นและ
ฝา่ ยรฐั บาล ครูใหค้ ำแนะนำนักเรียนอย่างเปน็ กลาง และใหน้ ักเรยี นใชว้ ิจารณญาณอย่างมเี หตุผล
มขี ้อมลู ในการรับฟัง รบั ชมข่าวทางดา้ นการเมือง
3. ครกู ระตนุ้ นกั เรียนด้วยการถามคำถามในประเดน็ เชน่
• ทำไมประชาชนชาวไทยจึงต้องไปใชส้ ิทธิเลือกต้งั
• การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทัง้ ในระดบั ชาติและระดับท้องถน่ิ สามารถทำได้อยา่ งไรบ้าง
ขนั้ สอน
ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ ศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู จากหนงั สือเรยี นสงั คมศึกษาฯ ม.3 หรอื จากแหล่งการ
เรียนรู้อืน่ ๆ เชน่ หนงั สือในห้องสมดุ เว็บไซต์ในอนิ เทอรเ์ นต็ ในประเด็น ดังน้ี
• การเลือกต้งั
• การมีส่วนรว่ มทางการเมืองของประชาชน
• การตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรัฐ
• บทบญั ญตั ิเกี่ยวกับรัฐบาล
2. ครูแนะนำแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศท่ีนา่ เชอื่ ถือให้กับนักเรยี นเพ่มิ เติม
ชว่ั โมงที่ 2
ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
1. สมาชกิ แต่ละคนในกลุม่ นำขอ้ มูลท่ตี นได้จากการรวบรวม มาอธบิ ายแลกเปลีย่ นความรรู้ ะหว่างกนั
2. จากนน้ั สมาชกิ ในกลมุ่ ชว่ ยกนั คดั เลอื กข้อมูลที่นำเสนอเพอื่ ให้ได้ข้อมลู ที่ถูกต้อง
3. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนนำเสนอขอ้ มลู หน้าชั้นเรียนตามประเด็นท่ีศกึ ษา อภิปราย และตอบ
คำถามร่วมกนั
4. ครแู ละนักเรยี นอภปิ รายรว่ มกัน และสุม่ ตัวแทนนกั เรยี นเพอ่ื ตอบคำถาม เช่น
1) การเลอื กตงั้ มีความสำคัญตอ่ คนไทยอย่างไร
(แนวตอบ เป็นการเลอื กตวั แทนเข้าไปทำหนา้ ที่บรหิ ารในระดับตา่ ง ๆ)
2) ถา้ คนไทยไม่ให้ความสำคญั กบั การเลือกตั้ง บา้ นเมอื งจะเป็นอย่างไร
(แนวตอบ ไม่ได้คนดีเข้าไปบริหารบ้านเมือง ทำให้อำนาจตกอยู่กับคนบางกลุ่ม ซึ่งต่อไปอาจ
กลายเปน็ กลุ่มผกู ขาด นำไปส่กู ารปกครองระบอบเผดจ็ การ)
3) นกั เรียนเคยเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางการเมอื งใดบา้ ง
(แนวตอบ เชน่ เขา้ รว่ มกิจกรรมของท้องถนิ่ เพอ่ื รณรงคก์ ารใช้สทิ ธเิ ลอื กตั้ง)
4) เพราะเหตุใดนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง ต้องยน่ื บญั ชแี สดงทรพั ยส์ ิน หนสี นิ ของตน คู่สมรส
และบุตร ต่อสำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ ทุกครงั้ ทเ่ี ข้ารบั
และพ้นจากตำแหน่ง
(แนวตอบ เพือ่ ป้องกันการทุจรติ ในหนา้ ที่)
5) หากรัฐบาลบริหารประเทศโดยขาดความชอบธรรม จะส่งผลต่อประเทศชาติและประชาชนในทาง
ใด
(แนวตอบ ทำให้ประเทศพฒั นาอยา่ งเชอ่ื งช้า สง่ ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน เศรษฐกจิ
ขาดเสถยี รภาพ)
6) เพราะเหตใุ ดประเทศไทยจึงมกี ารยกเลิกและประกาศใช้รฐั ธรรมนญู หลายฉบับ
(แนวตอบ เพราะมีความขดั แยง้ ทางการเมอื ง มกี ารทจุ ริต การแย่งชิงอำนาจ ซงึ่ สง่ิ เหลา่ น้ีนำไปสกู่ าร
รฐั ประหาร และตามมาดว้ ยการยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับเดิม)
ขนั้ สรปุ
ข้ันที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
1. ครใู หน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 5.3 เรื่อง การเลือกต้งั และการมสี ว่ นรว่ มทางการเมือง โดยครูแนะนำ
เพ่ิมเติม
2. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ สมรรถนะฯ หนา้ ที่พลเมืองฯ ม.3 เก่ียวกับเรื่อง วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญา
ไทย
เพอ่ื เปน็ การบ้านสง่ ครูในชั่วโมงถดั ไป
ขน้ั ประเมิน
ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบผลจากการตอบคำถาม การทำใบงาน และการทำแบบฝึกสมรรถนะ
ฯ
หน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ม.3
2. ครูประเมินผลจากการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำงาน และการนำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น
3. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ม.3
8. การวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน
รายการวัด - ตรวจใบงานท่ี 5.3 - ใบงานท่ี 5.3 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
8.1 การวัดและประเมนิ ผล - ตรวจใบงานที่ 2.3 - ใบงานที่ 2.3
ระหวา่ งการจัดกิจกรรม - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การนำเสนอ - ระดบั คุณภาพ 2
การเรียนรู้ ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์
1) วเิ คราะห์แนวทางและมี - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
ส่วนรว่ มในการปกป้อง
คุม้ ครองผอู้ ืน่ ตามหลักสทิ ธิ
มนษุ ยชนได้
2) การนำเสนอผลงาน
3) พฤตกิ รรม
การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
4) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
การทำงานกลุ่ม การทำงานรายกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
การทำงานกลุ่ม - สงั เกตความมวี นิ ัย - แบบประเมนิ คุณลักษณะ - ระดับคณุ ภาพ 2
5) คุณลกั ษณะ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ัน อนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
ในการทำงาน
อนั พึงประสงค์
9. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี นสงั คมศึกษาฯ ม.3
2) แบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
3) หนงั สือค้นคว้าเพ่ิมเติม
(1) เฉลียว ฤกษ์รจุ ิพมิ ล. 2543. การจดั ระเบยี บสังคม”ในสงั คมวิทยา. กรงุ เทพมหานคร :
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
(2) นันทวฒั น์ บรมานันท์. ม.ป.ป. กฎหมายปกครอง. กรุงเทพมหานคร : วิญญชู น.
4) ใบงานท่ี 5.3 เร่อื ง การเลือกตง้ั และการมสี ว่ นรว่ มทางการเมือง
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมุด
2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
- https://web.krisdika.go.th
- https://news.mthai.com
- https://www.thairath.co.th
- https://www.khaosod.co.th
ใบงานท่ี 5.3
เรอ่ื ง การเลือกตง้ั และการมสี ว่ นรว่ มทางการเมือง
คำชีแ้ จง :
ตอนท่ี 1 : ให้นักเรยี นเขียนผงั มโนทัศน์ แสดงลักษณะการเลือกต้ังที่ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
ลกั ษณะการเลือกตงั้ ท่ีส่งเสริม
การปกครองระบอบประชาธิปไตย
ตอนที่ 2 : ให้นกั เรียนเขียนผงั มโนทัศน์ แสดงการส่งเสริมให้ประชาชนมสี ว่ นร่วมทางการเมอื งตามรฐั ธรรมนญู
การส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ทางการเมืองตามรฐั ธรรมนูญ
ตอนท่ี 3 : ใหน้ ักเรยี นเขยี นผังมโนทัศน์ แสดงการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั
การตรวจสอบการใช้อานาจรฐั
ตอนท่ี 4 : ใหน้ กั เรยี นเขียนผงั มโนทัศน์ แสดงบทบัญญัตขิ องรฐั ธรรมนญู เกย่ี วกับอำนาจหน้าทขี่ องรฐั บาล
ในด้านต่างๆ
บทบญั ญตั ิของรฐั ธรรมนูญเกี่ยวกบั
อานาจหน้าที่ของรฐั บาลในด้านต่างๆ
เฉลย
ใบงานที่ 5.3
เร่อื ง การเลอื กตงั้ และการมสี ว่ นรว่ มทางการเมอื ง
คำชี้แจง :
ตอนท่ี 1 : ให้นกั เรยี นเขยี นผงั มโนทัศน์ แสดงลกั ษณะการเลือกตัง้ ทีส่ ่งเสริมการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
(ตวั อยา่ ง)
มคี วามยตุ ธิ รรมตอ่ บุคคล เป็นความลบั ไมเ่ ปิดเผย
ทกุ ฐานะ ใหผ้ อู้ นื่ ทราบ
ใหส้ ทิ ธเิ สรภี าพแกป่ ระชาชนตาม
รฐั ธรรมนูญ
ลกั ษณะการเลือกตงั้ ที่ส่งเสริม
การปกครองระบอบประชาธิปไตย
ประชาสมั พนั ธใ์ หป้ ระชาชน มคี ณะกรรมการเลอื กตงั้ ดาเนินการ
ไปใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตงั้ เป็นไปอย่างบรสิ ุทธิ์
อยา่ งพรอ้ มเพรยี ง ยุตธิ รรม
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
ตอนท่ี 2 : ใหน้ ักเรยี นเขยี นผงั มโนทัศน์ แสดงการส่งเสรมิ ให้ประชาชนมสี ่วนรว่ มทางการเมืองตามรัฐธรรมนญู
(ตวั อยา่ ง)
ใหก้ ารศกึ ษาแกป่ ระชาชน
เกยี่ วกบั การพฒั นาการเมอื งการ
ปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
มสี ่วนร่วมในการกาหนดนโยบาย มสี ่วนรว่ มในการตรวจสอบการใช้
และวางแผนพฒั นาเศรษฐกจิ อานาจรฐั ทุกระดบั ในรปู แบบ
ระดบั ชาตแิ ละทอ้ งถนิ่ องคก์ รวชิ าชพี
การส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ทางการเมืองตามรฐั ธรรมนูญ
สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนมคี วาม การมสี ่วนรว่ มในการ สง่ เสรมิ สนบั สนุน
เขม้ แขง็ ทางการเมอื ง ตดั สนิ ใจทางการเมอื ง
การมสี ่วนรว่ มในการ
จดั ใหม้ กี ฎหมายจดั ตงั้ กองทนุ จดั ทาบรกิ ารสาธารณะ
พฒั นาการเมอื งภาคพลเมอื ง
เพอื่ ชว่ ยเหลอื กจิ กรรมสาธารณะ การมสี ่วนร่วมในการ
วางแผนพฒั นาเศรษฐกจิ
และสงั คม
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)
ตอนที่ 3 : ให้นักเรยี นเขยี นผงั มโนทศั น์ แสดงการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั (ตวั อย่าง)
การตรวจสอบการใช้อานาจรฐั
การตรวจสอบทรพั ยส์ ิน การตรวจสอบทจุ ริต
โดยกระบวนการ
ผดู้ ารงตาแหน่ง ผบู้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ ยตุ ิธรรมทางอาญา
ทางการเมอื ง และสมาชกิ
ผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมอื งตอ้ งไม่
นายกรฐั มนตรี นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ น กระทาการทเี่ ป็นการขดั กบั ผลประโยชน์
รฐั มนตรี จงั หวดั ส.ส. และ ส.ว. ตอ้ งไมก่ ระทา ดงั น้ี
สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร - ไม่ดารงตาแหน่งหรอื หน้าทใี่ ดๆ ในหน่วย
สมาชกิ วฒุ สิ ภา นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วน ราชการ หน่วยงานของรฐั หรอื รฐั วสิ าหกจิ
ตาบล - ไม่ดารงตาแหน่งสมาชกิ สภาทอ้ งถนิ่
ผบู้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ ขา้ ราชการสว่ นทอ้ งถนิ่
นายกเทศมนตรี
ประธานสภาจงั หวดั
ยนื่ บญั ชแี สดงรายการทรพั ยส์ นิ และหน้สี นิ ของตน
คสู่ มรส บุตรทยี่ งั ไม่บรรลนุ ิตภิ าวะต่อคณะกรรมการ
ป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ (ป.ป.ช.)
ทุกครงั้ ทเี่ ขา้ รบั ตาแหน่งหรอื พน้ ตาแหน่ง
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)
ตอนท่ี 4 : ใหน้ กั เรยี นเขยี นผงั มโนทศั น์ แสดงบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเก่ียวกับอำนาจหนา้ ทีข่ องรัฐบาล
ในด้านตา่ ง ๆ
สง่ เสรมิ สมั พนั ธไมตรแี ละ (ตวั อย่าง)
ความร่วมมอื กบั นานาประเทศ
ดาเนินการตามนโยบายดา้ นสงั คม
สาธารณสขุ การศกึ ษา และวฒั นธรรม
ดาเนินการตามนโยบายดา้ น สง่ เสรมิ สนับสนุนใหม้ กี าร
วทิ ยาศาสตร์ ทรพั ยส์ นิ ทาง ดาเนนิ การตามแนวปรชั ญา
ปัญญา และพลงั งาน ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
บทบญั ญตั ิของรฐั ธรรมนูญเก่ียวกบั
อานาจหน้าท่ีของรฐั บาลในด้านต่างๆ
บรหิ ารราชการแผ่นดนิ รกั ษาความมนั ่ คงของรฐั
ดาเนินการตามแนวนโยบายดา้ น ใหค้ วามอุปถมั ภแ์ ละคมุ้ ครอง
กฎหมายและการยตุ ธิ รรม พระพุทธศาสนา
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน)
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 การเมืองการปกครองในปจั จุบัน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3
ปัญหาท่ีเปน็ อุปสรรคต่อการพฒั นาประชาธปิ ไตยของไทย เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
1.1 ตัวชีว้ ัด เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจบุ ัน ยดึ มัน่ ศรัทธา และธำรง
ส 2.2 รักษาไวซ้ ึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็
ประมขุ วิเคราะห์รฐั ธรรมนูญฉบบั ปัจจบุ ันในมาตราตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วข้องกบั การเลือกตั้ง
ม. 3/3 การมีส่วนร่วม และการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั
วิเคราะหป์ ระเด็นปญั หาที่เป็นอุปสรรคตอ่ การพัฒนาประชาธิปไตยของ
ม. 3/4 ประเทศไทยและเสนอแนวทางแกไ้ ข
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. วิเคราะห์ปญั หาทเ่ี ป็นอุปสรรคต่อการพฒั นาประชาธปิ ไตยของไทยได้ (K)
2. จำแนกปัญหาท่ีเปน็ อุปสรรคตอ่ การพฒั นาประชาธิปไตยของไทยได้ (P)
3. เห็นคุณคา่ ของศึกษาปัญหาที่เปน็ อปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธิปไตยของไทยเพ่ิมมากข้นึ (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ สาระการเรียนรจู้ ากสือ่
1) ประเดน็ ปัญหา และผลกระทบ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) - ปญั หาท่ีเป็นอปุ สรรคต่อการ
ท่ี พัฒนาประชาธปิ ไตยของไทย
เปน็ อปุ สรรคตอ่ การพฒั นา
ประชาธิปไตยของประเทศไทย
2) แนวทางการแก้ไขปญั หา
4. มโนทศั นส์ ำคญั (Key Concept)
- ปจั จบุ นั มีปญั หาท่เี ป็นอปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยจงึ ตอ้ งร่วมกนั เสนอแนว
ทางแก้ไข เพื่อการพฒั นาประเทศต่อไปในอนาคต
5. คำถามหลัก (Big Question)
- ปัญหาทเี่ ปน็ อุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธปิ ไตยของประเทศไทยในปัจจบุ นั ไดแ้ ก่ปัญหาใดบา้ ง
6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการคิด 1. มวี ินยั
- ทกั ษะการวิเคราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ ีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ข้ันนำ
ขัน้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครแู จ้งใหน้ กั เรียนทราบถึงวธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่อื เรื่อง
ทจ่ี ะเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ และผลการเรียนรู้
2. ครนู ำขา่ วหรอื เหตุการณ์ท่ีเป็นประเด็นปัญหาทางการเมืองการปกครองของไทย เช่น ขา่ วการทุจรติ
ของนักการเมือง การบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ ของรัฐ รวมถงึ นโยบายทอ่ี าจส่งผลกระทบต่อการพฒั นาประเทศ
3. ครถู ามคำถามเพ่ือเป็นการกระตุน้ ความสนใจของนกั เรยี น เชน่
• นักเรยี นคิดว่าอะไรคอื อุปสรรคทส่ี ำคญั ต่อการพัฒนาการเมอื งการปกครองของไทย
ขนั้ สอน
ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครใู หน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ ศึกษาค้นควา้ เกี่ยวกบั ปญั หาทเ่ี ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธิปไตยของ
ประเทศไทย จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 หรือจากแหล่งการเรียนรูอ้ นื่ ๆ เช่น หนงั สือใน
หอ้ งสมดุ เวบ็ ไซต์ในอนิ เทอรเ์ นต็
2. ครแู นะนำแหล่งข้อมลู สารสนเทศที่น่าเชือ่ ถือให้กบั นักเรยี นเพ่มิ เติม
ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
1. สมาชกิ แต่ละคนในกลมุ่ นำข้อมูลท่ีตนได้จากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรรู้ ะหว่างกนั
2. จากนนั้ สมาชกิ ในกลุ่มชว่ ยกนั คัดเลอื กขอ้ มูลทนี่ ำเสนอเพ่อื ให้ได้ขอ้ มลู ท่ถี ูกตอ้ ง
3. นักเรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนนำเสนอข้อมลู หนา้ ช้นั เรียนตามประเดน็ ท่ีศกึ ษา อภิปราย และตอบ
คำถามร่วมกัน
4. ครูและนักเรยี นอภิปรายร่วมกนั เกี่ยวกับองคก์ รดา้ นสิทธิมนษุ ยชน และสุ่มตวั แทนนกั เรยี นเพ่อื ตอบ
คำถาม เชน่
1) การทจุ ริตของนกั การเมอื งส่งผลกระทบต่อประเทศชาตแิ ละประชาชนอยา่ งไร
(แนวตอบ ทำให้ต้องสูญเสียงบประมาณในการพัฒนาประเทศเป็นจำนวนมาก แทนที่จะนำเงินส่วน
นน้ั มาช่วยเหลือประชาชน)
2) ทำอย่างไรถึงจะลดปัญหาการทจุ ริตได้
(แนวตอบ เลือกคนดีเพื่อไปทำหน้าท่ีในสภา สร้างเครือข่ายเพ่ือช่วยกันสอดส่องดูแล และไม่
สนับสนุนพฤติกรรมทเี่ ปน็ การทจุ รติ ต่อประเทศชาติ)
ขนั้ สรุป
ขั้นที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
1. ครูให้นกั เรียนทำใบงานท่ี 5.4 เร่อื ง ปัญหาทเี่ ปน็ อุปสรรคต่อการพฒั นาประชาธปิ ไตยของไทย โดยครู
แนะนำเพ่ิมเติม
2. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝกึ สมรรถนะฯ หนา้ ที่พลเมอื งฯ ม.3 เก่ยี วกับเรื่อง ปญั หาที่เปน็ อุปสรรคตอ่
การ
พฒั นาประชาธปิ ไตยของไทย เพ่ือเปน็ การบา้ นส่งครูในช่ัวโมงถดั ไป
ขนั้ ประเมิน
ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูและนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบผลจากการตอบคำถาม การทำใบงาน และการทำแบบฝึกสมรรถนะ
ฯ หนา้ ท่พี ลเมืองฯ ม.3
2. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทำชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายงานเรือ่ ง การเมอื งการปกครองในยคุ
ปจั จุบัน
3. ใหน้ ักเรยี นทำแบบวัดฯ หน้าทพ่ี ลเมืองฯ ม.3 เร่อื ง การเมืองการปกครองในปจั จบุ ัน เพื่อทดสอบ
ความรู้ทไี่ ดศ้ กึ ษามา
ประเมินท้ายหน่วย
การประเมินผลท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 การเมอื งการปกครองในปัจจบุ นั
1. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เรอ่ื ง การเมืองการปกครองในปจั จบุ นั
2. ครูประเมินผลโดยสงั เกตจากการตอบคำถาม การร่วมกันทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน
3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน แบบฝึกฯ และแบบวัดฯ หนา้ ทีพ่ ลเมืองฯ ม.3
8. การวดั และประเมนิ ผล
รายการวดั วิธวี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ
8.1 การวัดและประเมินผล
ระหว่างการจัดกิจกรรม
การเรยี นรู้
1) วิเคราะห์และจำแนก - ตรวจใบงานท่ี 5.4 - ใบงานท่ี 5.4 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ปญั หาทเี่ ปน็ อปุ สรรคต่อ
การพัฒนาประชาธปิ ไตย
ของไทยได้
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การนำเสนอ - ระดับคณุ ภาพ 2
ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์
3) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
4) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานรายกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
5) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมินคุณลักษณะ - ระดับคณุ ภาพ 2
อนั พึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่นั ใน อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
การทำงาน
8.2 การวดั และประเมนิ ผล - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หลงั เรยี น หลังเรยี น
- แบบทดสอบหลงั เรียน
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5
เร่ือง การเมืองการปกครอง
ในปจั จุบนั
9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
9.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี นสงั คมศึกษาฯ ม.3
2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ หนา้ ที่พลเมืองฯ ม.3
3) แบบวดั ฯ หนา้ ทพี่ ลเมืองฯ ม.3
4) หนังสือค้นควา้ เพ่มิ เติม
(1) เฉลยี ว ฤกษ์รจุ พิ มิ ล. 2543. การจดั ระเบียบสังคม”ในสงั คมวทิ ยา. กรงุ เทพมหานคร :
มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.
(2) นนั ทวัฒน์ บรมานันท์. ม.ป.ป. กฎหมายปกครอง. กรุงเทพมหานคร : วิญญูชน.
5) ใบงานที่ 5.4 เรือ่ ง ปญั หาทเ่ี ป็นอุปสรรคต่อการพฒั นาประชาธิปไตยของไทย
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
- https://web.krisdika.go.th
- https://news.mthai.com
- https://www.thairath.co.th
- https://www.khaosod.co.th
ใบงานที่ 5.4
เรือ่ ง ปัญหาทเ่ี ปน็ อปุ สรรคต่อการพัฒนาประชาธปิ ไตยของไทย
คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะห์ข่าวแล้วตอบคำถาม
ช่อื ขา่ ว
(สาระสำคญั ของข่าว)
ทมี่ า :
1. ช่ือข่าว
2. ปญั หาท่เี ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธิปไตยของไทย
คอื
3. สาเหตขุ องปัญหาดงั กล่าว คืออะไร
4. นักเรียนมแี นวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร
เฉลย
ใบงานที่ 5.4
เรื่อง ปัญหาที่เปน็ อุปสรรคต่อการพฒั นาประชาธิปไตยของไทย
คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นวิเคราะห์ข่าวแล้วตอบคำถาม
ช่อื ข่าว
(สาระสำคญั ของขา่ ว)
ที่มา :
1. ชอื่ ข่าว
2. ปัญหาทเี่ ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธปิ ไตยของไทย
คอื
3. สาเหตุของปัญหาดังกลา่ ว คืออะไร
4. นักเรียนมแี นวทางแก้ไขปัญหาอยา่ งไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินิจของครผู สู้ อน)
ช้ินงาน/ภาระงานรวบยอด
กิจกรรม รายงานเร่ือง รายงานเร่อื ง การเมืองการปกครองในยุคปจั จุบนั
คำชแ้ี จง : ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ทำรายงานเรือ่ ง การเมืองการปกครองในยุคปัจจุบนั แล้วนำส่งครู
โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามท่กี ำหนด
รายการประเมนิ แบบประเมนิ รายงานเรอื่ ง การเมืองการปกครองในยุคปัจจบุ ัน
คำอธิบายระดับคณุ ภาพ / ระดับคะแนน
1. การอธิบาย
ระบอบการ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ปกครองแบบ
ต่างๆ ท่ใี ชใ้ นยคุ อธบิ ายระบอบการ อธบิ ายระบอบการ อธิบายระบอบการ อธิบายระบอบการ
ปัจจุบัน ปกครองแบบตา่ งๆ ปกครองแบบตา่ งๆ ปกครองแบบตา่ งๆ ปกครองแบบต่างๆ
ทีใ่ ชใ้ นยคุ ปจั จบุ ันได้ ท่ีใช้ในยคุ ปัจจุบนั ได้ ท่ใี ช้ในยคุ ปจั จบุ ันได้ ที่ใชใ้ นยุคปัจจุบนั ได้
2. การเปรยี บเทียบ ถกู ต้อง ชดั เจน ถกู ต้องเป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องเปน็ บางส่วน ถูกตอ้ งเปน็ บางส่วนและ
ระบอบการ ไม่ชัดเจน
ปกครองของไทย
กับประเทศอื่นท่ี เปรียบเทยี บระบอบการ เปรยี บเทยี บระบอบการ เปรยี บเทยี บระบอบการ เปรียบเทยี บระบอบการ
มีการปกครอง ปกครองของไทยกบั ปกครองของไทยกบั ปกครองของไทยกับ ปกครองของไทยกับ
ระบอบ ประเทศอื่นทมี่ ี ประเทศอ่นื ท่มี ี ประเทศอน่ื ที่มี ประเทศอ่ืนทมี่ ี
ประชาธปิ ไตย การปกครองระบอบ การปกครองระบอบ การปกครองระบอบ การปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตยไดถ้ กู ตอ้ ง ประชาธิปไตยได้ถกู ตอ้ ง ประชาธปิ ไตยได้ถกู ต้อง ประชาธปิ ไตยได้ถกู ต้อง
3. การวเิ คราะห์ 4 ประเดน็ 3 ประเด็น 2 ประเดน็ 1 ประเดน็
รัฐธรรมนูญฉบบั
ปัจจุบนั เกี่ยวกบั วเิ คราะหร์ ัฐธรรมนญู วเิ คราะหร์ ัฐธรรมนูญ วเิ คราะหร์ ัฐธรรมนูญ วเิ คราะหร์ ัฐธรรมนญู
การเลอื กตง้ั ฉบับปจั จบุ ันเก่ยี วกับ ฉบบั ปัจจบุ ันเกีย่ วกบั ฉบบั ปจั จุบันเก่ียวกับ ฉบับปจั จบุ ันเกยี่ วกบั
การมีสว่ นร่วม การเลือกต้ัง การมีส่วน การเลือกตั้ง การมีส่วน การเลอื กตง้ั การมีส่วน การเลือกต้ัง การมีส่วน
และการ รว่ ม และการตรวจสอบ ร่วม และการตรวจสอบ รว่ ม และการตรวจสอบ ร่วม และการตรวจสอบ
ตรวจสอบ การใชอ้ ำนาจรฐั ได้ การใช้อำนาจรัฐได้ การใช้อำนาจรฐั ได้ การใชอ้ ำนาจรฐั ได้
การใช้อำนาจรัฐ ถูกต้อง ชัดเจน ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชดั เจน ถกู ต้อง ชดั เจน
4 ประเด็น 3 ประเด็น 2 ประเด็น 1 ประเด็น
รายการประเมนิ คำอธิบายระดบั คุณภาพ / ระดบั คะแนน
4. การวเิ คราะห์ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
ประเดน็ ปัญหาท่ี
เปน็ อุปสรรคต่อ วเิ คราะหป์ ระเดน็ ปญั หา วิเคราะหป์ ระเด็นปญั หา วเิ คราะหป์ ระเดน็ ปญั หา วเิ คราะหป์ ระเดน็ ปญั หา
การพัฒนา ท่ีเปน็ อุปสรรคตอ่ การ ที่เป็นอุปสรรคตอ่ การ ที่เป็นอปุ สรรคต่อการ ทเี่ ปน็ อปุ สรรคตอ่ การ
ประชาธปิ ไตย พฒั นาประชาธปิ ไตย พัฒนาประชาธปิ ไตย พฒั นาประชาธิปไตย พฒั นาประชาธิปไตย
ของประเทศไทย ของประเทศไทยและ ของประเทศไทยและ ของประเทศไทยและ ของประเทศไทยและ
และเสนอ เสนอแนวทางแก้ไขได้ เสนอแนวทางแกไ้ ขได้ เสนอแนวทางแกไ้ ขได้ เสนอแนวทางแกไ้ ขได้
แนวทางแกไ้ ข ถกู ต้อง เหมาะสม ถกู ตอ้ ง เหมาะสม ถกู ต้อง เหมาะสม ถูกต้อง เหมาะสม
4 ขอ้ ขึน้ ไป 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ข้อ
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ำกว่า 8
ชว่ งคะแนน ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
ระดับคุณภาพ
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขดี ✓ลงในช่องท่ี
ตรงกบั ระดบั คะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเนือ้ หา
2 การลำดบั ขัน้ ตอนของเรื่อง
3 วิธีการนำเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยใี นการนำเสนอ
5 การมสี ่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลุม่
รวม
ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ
............/................./................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ต่ำกวา่ 8 ปรับปรุง