แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
321
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อืน่
3 การทำงานตามหน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
4 ความมีนำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../..............
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดบั คะแนน
การมี
ลำดับท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม
ของนกั เรียน ความ ฟังคนอ่นื ตามท่ีไดร้ บั น้ำใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ปรบั ปรงุ
ผลงานกลุ่ม
321321321321321
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมิน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............../.................../...............
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง
แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติ
กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์
ต่อโรงเรยี น
1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏิบัติตามหลักศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี ก่ยี วกบั สถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามท่ีโรงเรยี นจดั ขนึ้
2. ซอ่ื สัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง
2.2 ปฏิบัตใิ นสงิ่ ที่ถูกตอ้ ง
3. มีวินัย รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
3.2 มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวัน
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รู้จกั ใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
4.2 ศกึ ษาค้นคว้าความรู้จากสอื่ และเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งสมำ่ เสมอ
5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใชท้ รัพย์สินและสง่ิ ของของตนเองและส่วนรวมอย่างประหยดั
5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณค่า
5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
6. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจติ สาธารณะ 8.1 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม
8.2 เข้ารว่ มกิจกรรม เพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ
พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้งั ............../.................../................
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางครัง้
ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ด้านความสามารถทางภมู ิศาสตร์
ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
11. ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงช่ือ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5
คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยในระบบรัฐสภา ค. มาเลเซยี อนิ เดยี
ประกอบดว้ ยหลกั การใชอ้ ำนาจในข้อใด ง. เวียดนาม ฟลิ ปิ ปนิ ส์
ก. หลักการแยกอำนาจ หลักดลุ แหง่ อำนาจ 6. ขอ้ ใดจดั เป็นบทบาทสำคัญในการเลอื กตง้ั ของคณะกรรมการ
ข. หลกั การรวมอำนาจ หลกั การถว่ งดลุ อำนาจ การเลอื กตั้ง (กกต.)
ค. หลกั การเช่ือมโยงอำนาจ หลกั ดลุ แหง่ อำนาจ ก. ตรวจสอบและช่วยประชาสัมพนั ธก์ ารเลือกคนดีของ
ง. หลักการเชือ่ มโยงอำนาจ หลักการกระจายอำนาจ พรรคการเมอื งต่างๆ
2. ระบอบเผดจ็ การแบบอำนาจนยิ ม มีลกั ษณะสำคัญ ข. กำหนดใหต้ วั แทนประชาชนเขา้ ไปมสี ่วนร่วมกับการลง
หลายประการ ยกเวน้ ข้อใด คะแนนเสยี งเลอื กตง้ั
ก. กำหนดบทบาทและควบคมุ พฤติกรรมของพลเมอื ง ค. ดำเนินการคดั สรรผู้ท่ีไดร้ บั การคดั เลือกเปน็ สมาชิกสภา
อยา่ งชดั เจน ผูแ้ ทนราษฎรเพื่อประกาศรายชอื่
ข. ใช้อำนาจรฐั ตรวจสอบหน่วยงานทด่ี ำเนินการบ่นั ทอน ง. ตรวจสอบการเลอื กตัง้ ใหด้ ำเนนิ ไปอยา่ งสจุ ริต และมี
ความม่ันคงของรฐั อำนาจในการระงับการเลอื กตงั้ ที่มีการทุจริต
ค. มหี ลกั บรหิ ารและตดั สินใจโดยคณะบุคคลทเ่ี ป็น 7. นายกรัฐมนตรแี ละรัฐมนตรมี ีหน้าทย่ี ่ืนบญั ชีแสดงรายการ
ผบู้ รหิ ารราชการแผ่นดนิ ทรพั ยส์ นิ และหนสี้ ินของตน คู่สมรส และบตุ รที่ยงั ไม่บรรลุ
ง. ประชาชนในประเทศมีหน้าที่ปฏิบตั ติ นตามผู้นำ นติ ภิ าวะต่อหนว่ ยงานใด
และไม่ทำตนเปน็ อปุ สรรคขดั ขวางทางการเมอื ง ก. คณะกรรมการการเลอื กตัง้
3. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั ระบอบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ ข. สำนกั งานตรวจเงินแผน่ ดิน
ก. มีพรรคการเมืองพรรคเดียว เนน้ หลักกำลังอำนาจ ค. ศาลฎกี า ศาลแพ่ง และศาลอาญา
ข. มีการแยกอำนาจระหว่างฝา่ ยบริหารกับฝ่ายนติ ิบัญญัติ ง. คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ค. รฐั สภามบี ทบาทท่ีสุดในการควบคุมอำนาจฝา่ ยบรหิ าร 8. องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั เปน็ องค์กรทม่ี ีอสิ ระในการ
และนติ ิบญั ญตั ิ ดำเนินงานตามกฎหมาย สอดคลอ้ งกับ ข
ง. ผู้นำประเทศมอี ำนาจในการกำหนดนโยบายทางการ ก. รัฐบาลกระจายอำนาจใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่
เมืองในส่วนทส่ี ำคญั ข. การเชอื่ มโยงอำนาจระหว่างสว่ นกลางและสว่ นท้องถ่ิน
4. พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทรงใชอ้ ำนาจอธิปไตยผา่ นองคก์ ร ค. การพัฒนาระบบงานภาครฐั ดว้ ยวธิ กี ารปรบั ปรงุ องค์กร
ในขอ้ ใด ง. การบรหิ ารราชการแผ่นดินแบบกระจายอำนาจสว่ น
ก. อำนาจบริหารทางรัฐสภา ภูมิภาค
ข. อำนาจนติ บิ ญั ญตั ิทางศาล 9. ปญั หาในข้อใดทเ่ี ป็นอุปสรรคสำคญั ตอ่ การพฒั นา
ค. อำนาจตุลาการทางรฐั สภา ประชาธปิ ไตยของไทยมากทส่ี ดุ
ง. อำนาจนิติบญั ญตั ทิ างรฐั สภา ก. การซ้อื สิทธิขายเสยี ง
5. ประเทศใดมรี ปู แบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย ข. ขาดการประชาสัมพันธ์
ในระบบรฐั สภาเชน่ เดียวกบั ประเทศไทย ค. การศกึ ษาทไี่ มเ่ ทา่ เทียมกนั
ก. เมยี นมา ลาว ง. ประชาชนวา่ งงานจำนวนมาก
ข. ฟลิ ิปปนิ ส์ ลาว
10. การกระทำของประชาชนในขอ้ ใดมผี ลดีต่อการพัฒนา ก. การเจรจากนั อยา่ งสนั ติ
ประชาธปิ ไตยของไทยมากทสี่ ดุ ข. การแตง่ ต้งั ประธานนกั เรยี น
ก. อ่านขา่ วหนงั สอื พิมพแ์ ละวิเคราะหก์ ารกระทำของบคุ คล ค. การสง่ ออกและนำเข้าสินค้า
ข. แจง้ ตำรวจจับผรู้ ้ายท่กี ระทำความผิดในโอกาสที่ ง. การแขง่ ขนั ตอบปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม
16. การปฏบิ ัตใิ นขอ้ ใดชว่ ยปลูกฝงั ค่านยิ มประชาธิปไตยให้
เหมาะสม เยาวชน
ค. ศึกษาข้อมูลความรู้เก่ียวกับการเมืองการปกครองระบอบ ก. ท้งิ ขยะใหเ้ ปน็ ท่ี
ประชาธิปไตย ข. บรจิ าคเงินชว่ ยเหลอื น้ำทว่ ม
ง. มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมตา่ งๆ ขององค์กรที่เก่ียวกบั ค. ลงคะแนนเสยี งเลอื กหวั หนา้ หอ้ ง
ประชาธิปไตย และประพฤติตนอยใู่ นกฎระเบยี บ ง. เรยี นพิเศษในชว่ งปดิ ภาคเรยี นฤดรู อ้ น
17. ขอ้ ใดเป็นปญั หาสำคญั ตอ่ การพัฒนาประชาธิปไตยของไทย
11. ระบอบเผดจ็ การให้ความสำคญั กบั ส่ิงใดนอ้ ยทส่ี ดุ ก. การทำประชามติ
ก. ความเป็นชาตนิ ยิ ม ข. การทำรฐั ประหาร
ข. ความมัน่ คงของรัฐ ค. การใชส้ ิทธเิ ลือกตง้ั
ค. ความเป็นเอกภาพของรัฐบาล ง. การรวมกลุ่มจดั ตั้งพรรคการเมอื ง
ง. ความมีมนุษยธรรมและเสรภี าพ 18. ปจั จัยในขอ้ ใดเปน็ พื้นฐานสำคญั ของการสรา้ งสงั คม
ประชาธิปไตยทีด่ ี
12. ขอ้ ใดต่อไปนเ้ี ปน็ ลกั ษณะรว่ มของระบอบเผดจ็ การ ก. รฐั บาลต้องจรงิ จงั ในการพัฒนาแตเ่ พยี งฝ่ายเดียว
ก. ไมม่ กี ารจำกดั สทิ ธเิ สรภี าพของประชาชน ข. ประชาชนเหน็ แก่ประโยชนส์ ว่ นตนมากกว่าส่วนรวม
ข. มกี ารตัง้ สถาบนั ข้ึนมาตรวจสอบและถว่ งดลุ อำนาจ ค. พรรคการเมืองต้องมีเสถียรภาพและความม่ันคงก่อน
ค. เปิดโอกาสให้ประชาชนมสี ่วนร่วมทางการปกครอง ง. ประชาชนรจู้ กั ใช้สิทธิและหน้าที่ของตนตามกฎหมาย
ง. ไมค่ ำนึงถึงหลักสทิ ธมิ นุษยชนและศกั ดศิ์ รีความเป็น 19. เมือ่ เกิดความขัดแย้งขนึ้ ระหวา่ งฝ่ายนิติบญั ญตั แิ ละฝา่ ย
มนุษย์ บริหารตามระบอบประชาธิปไตย ควรปฏิบัตอิ ย่างไร
ก. ส่งเรื่องใหศ้ าลรัฐธรรมนูญวนิ ิจฉยั
13. การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยโดยใชร้ ะบบสภาคู่ ข. ตลุ าการศาลปกครองทำหน้าทไ่ี กลเ่ กลีย่
มขี อ้ ดอี ยา่ งไร ค. เสนอญตั ติให้รฐั สภารว่ มหารอื แก้ไขปญั หา
ก. ทำให้เกิดดลุ แห่งอำนาจในรัฐสภา ง. คนื อำนาจใหแ้ ก่ประชาชนเพือ่ เลือกตง้ั ใหม่
ข. การปฏิบัติหนา้ ท่ีของสภามีความรวดเร็ว 20. การมีระบบพรรคการเมอื งหลายพรรคสะท้อนแนวคิดใน
ค. สนิ้ เปลืองงบประมาณในการพจิ ารณากฎหมาย เร่อื งใด
ง. มสี ภาผูแ้ ทนราษฎรทำหนา้ ท่กี ล่นั กรองกฎหมาย ก. การจำกัดสิทธเิ สรภี าพ
ข. การรวมอำนาจเข้าสศู่ นู ยก์ ลาง
14. บทบาทการมีส่วนรว่ มของประชาชนตามวิธีทาง ค. ความเหลื่อมล้ำทางการปกครอง
ประชาธปิ ไตยขอ้ ใดสำคญั ทีส่ ดุ ง. ความเสมอภาคทางประชาธปิ ไตย
ก. การจบั กลุม่ วพิ ากษว์ ิจารณร์ ฐั บาล
ข. การแสดงความคดิ เห็นของตนผา่ นสอื่ สังคมออนไลน์
ค. การออกไปใชส้ ิทธิทางการเมืองในการเลอื กตง้ั ทกุ ครัง้
ง. การจัดทำแผน่ พับรณรงคต์ อ่ ตา้ นการทจุ ริตคอร์รปั ชัน
15. ขอ้ ใดแสดงถงึ การมีส่วนร่วมตามแนวพหนุ ิยม
เฉลย
1. ค 2. ค 3. ก 4. ง 5. ค 6. ง 7. ง 8. ก 9. ก 10. ง
11. ข 12. ก 13. ข 14. ค 15. ก 16. ข 17. ค 18. ง 19. ง 20. ง
แบบทดสอบหลังเรยี น
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5
คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. การปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยใช้ระบบสภาคู่ ก. ไมม่ ีการจำกดั สิทธิเสรีภาพของประชาชน
มขี อ้ ดีอย่างไร ข. มกี ารตั้งสถาบนั ขึ้นมาตรวจสอบและถ่วงดลุ อำนาจ
ก. ทำใหเ้ กดิ ดุลแหง่ อำนาจในรฐั สภา ค. เปดิ โอกาสให้ประชาชนมสี ่วนรว่ มทางการปกครอง
ข. การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของสภามคี วามรวดเร็ว ง. ไมค่ ำนึงถึงหลกั สทิ ธิมนุษยชนและศกั ดศ์ิ รีความเป็น
ค. ส้ินเปลอื งงบประมาณในการพจิ ารณากฎหมาย มนษุ ย์
ง. มสี ภาผแู้ ทนราษฎรทำหนา้ ที่กลนั่ กรองกฎหมาย 7. การปฏบิ ตั ิในข้อใดชว่ ยปลกู ฝังค่านยิ มประชาธิปไตยให้
2. ข้อใดแสดงถงึ การมสี ว่ นรว่ มตามแนวพหุนยิ ม เยาวชน
ก. การเจรจากันอยา่ งสนั ติ ก. ทง้ิ ขยะใหเ้ ป็นท่ี
ข. การแต่งต้ังประธานนักเรียน ข. บรจิ าคเงินช่วยเหลอื น้ำท่วม
ค. การส่งออกและนำเข้าสนิ คา้ ค. ลงคะแนนเสยี งเลือกหวั หนา้ หอ้ ง
ง. การแขง่ ขันตอบปญั หาส่ิงแวดล้อม ง. เรยี นพเิ ศษในช่วงปดิ ภาคเรยี นฤดรู อ้ น
3. ระบอบเผดจ็ การให้ความสำคัญกบั สง่ิ ใดน้อยทสี่ ุด 8. ระบอบเผดจ็ การแบบอำนาจนิยม มลี กั ษณะสำคัญ
ก. ความเปน็ ชาตนิ ิยม หลายประการ ยกเวน้ ข้อใด
ข. ความมนั่ คงของรฐั ก. กำหนดบทบาทและควบคุมพฤติกรรมของพลเมือง
ค. ความเป็นเอกภาพของรฐั บาล อย่างชดั เจน
ง. ความมีมนษุ ยธรรมและเสรีภาพ ข. ใช้อำนาจรัฐตรวจสอบหนว่ ยงานท่ีดำเนินการบั่นทอน
4. การกระทำของประชาชนในข้อใดมีผลดีต่อการพฒั นา ความมัน่ คงของรฐั
ประชาธปิ ไตยของไทยมากทส่ี ุด ค. มหี ลักบริหารและตดั สนิ ใจโดยคณะบุคคลทเี่ ปน็
ก. อ่านขา่ วหนังสือพิมพ์และวเิ คราะหก์ ารกระทำของบคุ คล ผบู้ รหิ ารราชการแผ่นดิน
ข. แจ้งตำรวจจับผรู้ ้ายทก่ี ระทำความผิดในโอกาสท่ี ง. ประชาชนในประเทศมีหน้าท่ีปฏบิ ัติตนตามผู้นำ
เหมาะสม และไม่ทำตนเปน็ อุปสรรคขดั ขวางทางการเมอื ง
ค. ศกึ ษาขอ้ มูลความรเู้ กี่ยวกบั การเมอื งการปกครองระบอบ 9. ขอ้ ใดจัดเปน็ บทบาทสำคญั ในการเลือกตั้งของคณะกรรมการ
ประชาธิปไตย การเลือกตงั้ (กกต.)
ง. มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมต่างๆ ขององคก์ รที่เก่ียวกับ ก. ตรวจสอบและช่วยประชาสมั พนั ธ์การเลอื กคนดีของ
ประชาธปิ ไตย และประพฤติตนอยูใ่ นกฎระเบยี บ พรรคการเมืองตา่ งๆ
5. การปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ข. กำหนดใหต้ วั แทนประชาชนเข้าไปมสี ่วนร่วมกบั การ
ประกอบดว้ ยหลกั การใชอ้ ำนาจในข้อใด ลงคะแนนเสียงเลอื กต้ัง
ก. หลักการแยกอำนาจ หลกั ดุลแห่งอำนาจ ค. ดำเนินการคดั สรรผทู้ ไี่ ด้รบั การคดั เลอื กเปน็
ข. หลักการรวมอำนาจ หลกั การถว่ งดลุ อำนาจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อประกาศรายชื่อ
ค. หลักการเช่ือมโยงอำนาจ หลกั ดุลแห่งอำนาจ ง. ตรวจสอบการเลือกต้ังให้ดำเนินไปอย่างสจุ รติ และมี
ง. หลกั การเชอ่ื มโยงอำนาจ หลกั การกระจายอำนาจ อำนาจในการระงบั การเลือกตัง้ ท่มี ีการทจุ ริต
6. ข้อใดต่อไปนเ้ี ปน็ ลกั ษณะร่วมของระบอบเผด็จการ
10. ประเทศใดมรี ูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย ข. สำนกั งานตรวจเงนิ แผน่ ดิน ข
ในระบบรฐั สภาเช่นเดียวกับประเทศไทย ค. ศาลฎีกา ศาลแพ่ง และศาลอาญา
ก. เมียนมา ลาว ข. ฟิลิปปินส์ ลาว 16. ปญั หาในข้อใดท่เี ปน็ อปุ สรรคสำคัญต่อการพฒั นา
ค. มาเลเซีย อินเดีย ง. เวียดนาม ฟลิ ปิ ปนิ ส์ ประชาธิปไตยของไทยมากทสี่ ดุ
ก. การซอ้ื สิทธิขายเสียง
11. บทบาทการมสี ่วนร่วมของประชาชนตามวธิ ีทาง ข. ขาดการประชาสัมพนั ธ์
ประชาธปิ ไตยข้อใดสำคญั ทส่ี ดุ ค. การศกึ ษาทไ่ี มเ่ ท่าเทียมกัน
ก. การจับกล่มุ วิพากษว์ จิ ารณร์ ฐั บาล ง. ประชาชนว่างงานจำนวนมาก
ข. การแสดงความคดิ เห็นของตนผา่ นส่อื สงั คมออนไลน์ 17. เมือ่ เกิดความขัดแย้งขนึ้ ระหว่างฝา่ ยนิตบิ ญั ญัติและฝ่าย
ค. การออกไปใช้สิทธทิ างการเมอื งในการเลือกตง้ั ทกุ ครง้ั บริหารตามระบอบประชาธปิ ไตย ควรปฏิบตั อิ ยา่ งไร
ง. การจัดทำแผน่ พับรณรงคต์ ่อตา้ นการทจุ รติ คอรร์ ัปชนั ก. สง่ เรอ่ื งใหศ้ าลรฐั ธรรมนูญวินิจฉยั
ข. ตลุ าการศาลปกครองทำหน้าทไ่ี กลเ่ กลยี่
12. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั ระบอบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ ค. เสนอญตั ติให้รฐั สภาร่วมหารอื แก้ไขปัญหา
ก. มีพรรคการเมอื งพรรคเดยี ว เนน้ หลกั กำลงั อำนาจ ง. คืนอำนาจใหแ้ กป่ ระชาชนเพื่อเลือกตง้ั ใหม่
ข. มกี ารแยกอำนาจระหวา่ งฝา่ ยบรหิ ารกบั ฝา่ ยนติ ิ 18. การมีระบบพรรคการเมืองหลายพรรคสะทอ้ นแนวคิดใน
เรอ่ื งใด
บัญญัติ ก. การจำกัดสิทธเิ สรีภาพ
ค. รฐั สภามบี ทบาทที่สดุ ในการควบคมุ อำนาจฝา่ ยบรหิ าร ข. การรวมอำนาจเข้าสศู่ ูนย์กลาง
และนิติบญั ญัติ ค. ความเหลื่อมลำ้ ทางการปกครอง
ง. ผู้นำประเทศมอี ำนาจในการกำหนดนโยบายทางการ
เมอื งในสว่ นท่สี ำคญั ง. ความเสมอภาคทางประชาธปิ ไตย
19. องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด เป็นองค์กรทม่ี ีอสิ ระในการ
13. ขอ้ ใดเปน็ ปญั หาสำคญั ต่อการพัฒนาประชาธปิ ไตยของไทย
ก. การทำประชามติ ดำเนินงานตามกฎหมาย สอดคล้องกบั
ข. การทำรฐั ประหาร ก. รัฐบาลกระจายอำนาจให้องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ
ค. การใชส้ ิทธิเลอื กตั้ง ข. การเช่อื มโยงอำนาจระหวา่ งสว่ นกลางและสว่ นท้องถน่ิ
ง. การรวมกลมุ่ จดั ต้ังพรรคการเมอื ง ค. การพฒั นาระบบงานภาครัฐ ดว้ ยวิธกี ารปรับปรุงองคก์ ร
ง. การบริหารราชการแผ่นดินแบบกระจายอำนาจสว่ น
14. พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทรงใช้อำนาจอธปิ ไตยผ่านองคก์ ร ภมู ภิ าค
ในข้อใด 20. ปจั จัยในขอ้ ใดเป็นพืน้ ฐานสำคญั ของการสรา้ งสงั คม
ก. อำนาจบริหารทางรัฐสภา ประชาธปิ ไตยทดี่ ี
ข. อำนาจนติ ิบัญญัติทางศาล ก. รฐั บาลต้องจรงิ จังในการพฒั นาแตเ่ พยี งฝา่ ยเดียว
ค. อำนาจตุลาการทางรัฐสภา ข. ประชาชนเหน็ แก่ประโยชนส์ ว่ นตนมากกว่าส่วนรวม
ง. อำนาจนิติบญั ญัติทางรฐั สภา ค. พรรคการเมอื งต้องมีเสถียรภาพและความมัน่ คงกอ่ น
ง. ประชาชนรจู้ กั ใชส้ ทิ ธแิ ละหน้าทขี่ องตนตามกฎหมาย
15. นายกรฐั มนตรีและรัฐมนตรีมหี น้าทย่ี นื่ บัญชีแสดงรายการ
ทรัพยส์ นิ และหนส้ี ินของตน ค่สู มรส และบตุ รที่ยังไม่บรรลุ
นิตภิ าวะต่อหน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการการเลอื กต้ัง
เฉลย
1. ข 2. ก 3. ข 4. ง 5. ค 6. ก 7. ข 8. ค 9. ง 10. ค
11. ค 12. ก 13. ค 14. ง 15. ง 16. ก 17. ง 18. ง 19. ก 20. ง
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6 กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1
ตลาดในระบบเศรษฐกจิ เวลา 1 ช่ัวโมง
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด
1.1 ตัวช้วี ดั
ส 3.1 เข้าใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรัพยากรในการผลติ และการบรโิ ภค การใช้
ทรัพยากรทีม่ ีอยู่จำกดั ได้อย่างมีประสิทธภิ าพและคุ้มค่า รวมทัง้ เข้าใจหลกั การ
ของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่ือการดำรงชวี ิตอย่างมดี ลุ ยภาพ
ม. 3/1 อธบิ ายกลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายความหมายและประเภทของตลาดในระบบเศรษฐกิจได้ (K)
2. จำแนกขอ้ ดีและขอ้ เสยี ของตลาดแต่ละประเภทได้ (P)
3. เหน็ คณุ ค่าของศึกษาตลาดในระบบเศรษฐกจิ เพ่มิ มากขึน้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน สาระการเรียนรู้จากสือ่
(พจิ ารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) - ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1) ความหมายและประเภทของ • ลกั ษณะโดยทั่วไปของตลาด
ตลาด • ตลาดตามลักษณะการ
2) ความหมายและตัวอย่างของ แขง่ ขนั
อปุ สงค์และอปุ ทาน
3) ความหมายและความสำคัญของ
กลไกราคาและการกำหนดราคา
ในระบบเศรษฐกจิ
4) หลักการปรบั และเปลี่ยนแปลง
ราคาสนิ ค้าและบรกิ าร
4. มโนทศั น์สำคญั (Key Concept)
- ตลาดในระบบเศรษฐกจิ แต่ละประเภทมีลักษณะแตกต่างกัน ซงึ่ มที ั้งข้อดแี ละขอ้ เสยี
5. คำถามหลัก (Big Question)
- ตลาดในระบบเศรษฐกจิ แต่ละประเภทมีความแตกตา่ งกันอย่างไร
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวินัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
- ทักษะการสรุปความรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
- ทักษะการวเิ คราะห์
- ทักษะการเปรียบเทยี บ
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ข้นั นำ
ข้ันที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage)
1. ครแู จง้ ใหน้ ักเรยี นทราบถึงวธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชือ่ เรอื่ ง
ทจ่ี ะเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ และผลการเรียนรู้
2. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ
3. ครนู ำแผน่ พบั โฆษณา ใบปลวิ ของหา้ งสรรพสินค้าให้นักเรียนดู แลว้ สุ่มถามนักเรียนวา่ “สนใจจะซื้อ
สนิ คา้ ใด เพราะเหตุใด และจะไปซื้อที่ไหน”
4. ครถู ามคำถามนักเรยี นเพิม่ เติม เช่น
- โดยปกติแลว้ นักเรยี นไปซ้อื ของใช้ สนิ คา้ ต่าง ๆ ท่ไี หน และตลาดท่ไี ปซือ้ สนิ คา้ มีลกั ษณะอย่างไร
(แนวตอบ ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกันบอกลกั ษณะของตลาด เชน่ ตลาดนดั ขายสนิ ค้าหลากหลาย ต้ังแต่
อาหารสด กับข้าว เส้ือผ้า ของใช้ ฯลฯ)
5. ครเู ชอื่ มโยงเขา้ สูบ่ ทเรียน เกี่ยวกบั ลกั ษณะของตลาดในระบบเศรษฐกจิ โดยครซู ักถาม และอธิบาย
ขยายความจากสงิ่ ทนี่ กั เรยี นตอบ จากน้ันอภิปรายความรูร้ ่วมกนั
ขัน้ สอน
ข้ันที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม ศึกษาค้นคว้าเกยี่ วกับตลาดในระบบเศรษฐกิจ จากหนังสอื เรยี น
สงั คมศกึ ษาฯ ม.3 หรอื จากแหลง่ การเรียนร้อู ่นื ๆ เชน่ หนังสือในหอ้ งสมดุ เวบ็ ไซตใ์ นอนิ เทอรเ์ นต็
2. ครแู นะนำแหล่งข้อมลู สารสนเทศท่นี ่าเชือ่ ถือให้กับนักเรียนเพิม่ เติม
ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำขอ้ มูลทต่ี นได้จากการรวบรวม มาอธบิ ายแลกเปลี่ยนความรูร้ ะหว่างกนั
2. จากน้ันสมาชกิ ในกลุ่มชว่ ยกันคดั เลอื กข้อมูลท่ีนำเสนอเพือ่ ให้ได้ข้อมลู ท่ีถูกตอ้ ง
3. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนนำเสนอขอ้ มูลหนา้ ชน้ั เรยี นตามประเดน็ ที่ศึกษา อภปิ ราย และตอบ
คำถามรว่ มกนั
4. ครูและนกั เรยี นอภปิ รายร่วมกนั เกย่ี วกับปัญหาสังคมและแนวทางแกไ้ ข และสมุ่ ตัวแทนนักเรียน
เพอื่ ตอบคำถาม เชน่
1) การทีม่ ีผู้ขายและผซู้ ื้อเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ตลาดมสี ภาพอยา่ งไร
(แนวตอบ ทำใหม้ กี ารแข่งขันกนั สูง ผทู้ มี่ ศี ักยภาพในการแข่งขันต่ำ ต้องเสียเปรยี บและราคาสนิ ค้า
ไม่คงท่ี ผู้ผลติ ไมส่ ามารถกำหนดราคาได้โดยเดด็ ขาด ทำให้กำไรไม่แน่นอน หรอื อาจไมม่ ีกำไร
เพราะมีการแขง่ ขันสูง)
2) นักเรียนมคี วามคดิ เหน็ อย่างไร หากราคาของสินคา้ หรอื บรกิ ารถูกกำหนดโดยผ้ผู ลติ หรอื ผู้บรโิ ภค
เพียงฝ่ายเดียว
(แนวตอบ คำตอบไม่มีถูกหรอื ผดิ แต่เน้นท่ีเหตแุ ละผลที่นำมาสนับสนนุ ตอ้ งมคี วามสอดคล้องถึง
ผลดี-ผลเสยี ท่มี ีต่อผผู้ ลติ หรอื ผู้บริโภค)
5. ครูซักถามข้อสงสัยของนักเรียนเพ่ิมเตมิ
ขนั้ สรปุ
ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
1. ครูใหน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 6.1 เร่อื ง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ โดยครูแนะนำเพ่ิมเติม
2. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝกึ สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3 เกี่ยวกบั เร่อื ง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ
เพื่อเป็นการบ้านส่งครใู นชั่วโมงถดั ไป
ขน้ั ประเมนิ
ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบผลจากการตอบคำถาม การทำใบงาน และการทำแบบฝกึ สมรรถนะ
ฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
2. ครปู ระเมินผลจากการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น
3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝกึ สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
8. การวัดและประเมินผล วธิ ีวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
- ตรวจแบบทดสอบ
รายการวดั กอ่ นเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
8.1 การวดั และประเมนิ ผล
- ตรวจใบงานท่ี 6.1 - ใบงานที่ 6.1 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
กอ่ นเรียน
- แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ การนำเสนอ - ระดบั คณุ ภาพ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ผลงาน
เรื่อง กลไกราคาในระบบ - สังเกตพฤติกรรม ผลงาน ผ่านเกณฑ์
เศรษฐกจิ การทำงานรายบุคคล
8.2 การวดั และประเมินผล - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
ระหวา่ งการจัดกจิ กรรม การทำงานกลุ่ม
การเรยี นรู้ - สังเกตความมวี ินัย การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
1) อธิบายความหมายและ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่นั
ในการทำงาน - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
ประเภทของตลาดในระบบ
เศรษฐกิจ รวมถงึ จำแนก การทำงานรายกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
ขอ้ ดีและข้อเสียของตลาด
แต่ละประเภทได้ - แบบประเมินคุณลักษณะ - ระดับคุณภาพ 2
2) การนำเสนอผลงาน
อันพงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
3) พฤตกิ รรม
การทำงานรายบคุ คล
4) พฤติกรรม
การทำงานกลุ่ม
5) คณุ ลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์
9. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
9.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียนสังคมศึกษาฯ ม.3
2) แบบฝึกสมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
3) หนงั สือคน้ คว้าเพิม่ เติม
(1) บุญยืน ชยั สโุ รจน์. 2533. ระบบเศรษฐกจิ ไทย. กรงุ เทพมหานคร : ต้นอ้อ.
(2) สดิ าภา บวั เกษ. 2553. ตลาดการเงินและสถาบันการเงิน. กรุงเทพมหานคร :
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .
4) ใบงานท่ี 6.1 เรอื่ ง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
- https://businesseast.spu.ac.th
- https://www.thairath.co.th
- https://www.khaosod.co.th
ใบงานที่ 6.1
เรอ่ื ง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
คำชีแ้ จง
ตอนที่ 1 : ใหน้ ักเรยี นนำหมายเลขหนา้ ขอ้ ความด้านล่างใสใ่ นกรอบข้อความด้านบนท่ีมีความสัมพนั ธก์ นั
การแบ่งตลาด
แบ่งตาม แบ่งตามลกั ษณะ แบง่ ตามลักษณะการ แบง่ ตามวตั ถปุ ระสงค์
ชนิดสินคา้ การขายสนิ คา้ แข่งขนั ที่มีอยู่ในตลาด ของการใชส้ นิ คา้
1. ตลาดบริการ
2. ตลาดแขง่ ขนั สมบูรณ์
3. ตลาดสนิ คา้ ผูบ้ ริโภค
4. ตลาดขายส่ง
5. ตลาดแขง่ ขนั ไมส่ มบูรณ์
6. ตลาดสนิ คา้ เกษตร
7. ตลาดสินค้าผูผ้ ลติ หรอื ตลาดปัจจัยการผลิต
8. ตลาดเงินและตลาดทุน
9. ตลาดขายปลกี
10. ตลาดสินคา้ อุตสาหกรรม
ตอนท่ี 2 : ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1. ลักษณะสำคญั ของตลาดแข่งขันสมบูรณ์เป็นอยา่ งไร
2. ขอ้ ดีของตลาดแข่งขันสมบรู ณ์เป็นอยา่ งไร
3. ข้อเสียของตลาดแขง่ ขนั สมบูรณ์เป็นอยา่ งไร
4. ตลาดแข่งขันไมส่ มบูรณ์ ผู้ขายสามารถกำหนดราคาสนิ คา้ ไดอ้ ยา่ งไร
5. ตลาดแข่งขนั ไมส่ มบูรณช์ นดิ ใดท่ีผ้ซู ือ้ มีอทิ ธิพลในการกำหนดราคา
6. ตลาดแขง่ ขันไม่สมบูรณม์ ีข้อดีอย่างไร
7. ตลาดแขง่ ขนั ไม่สมบูรณ์มีข้อเสยี อย่างไร
เฉลย
ใบงานท่ี 6.1
เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ
คำชแ้ี จง
ตอนท่ี 1 : ใหน้ ักเรียนนำหมายเลขหน้าขอ้ ความดา้ นล่างใสใ่ นกรอบข้อความด้านบนที่มีความสัมพนั ธก์ ัน
การแบ่งตลาด
แบง่ ตาม แบ่งตามลักษณะ แบง่ ตามลกั ษณะการ แบ่งตามวตั ถปุ ระสงค์
ชนิดสินค้า การขายสินค้า แขง่ ขันทีม่ ีอยู่ในตลาด ของการใช้สินคา้
1, 6, 10 4, 9 2, 5 3, 7, 8
1. ตลาดบรกิ าร
2. ตลาดแขง่ ขันสมบรู ณ์
3. ตลาดสินค้าผบู้ รโิ ภค
4. ตลาดขายส่ง
5. ตลาดแข่งขันไมส่ มบรู ณ์
6. ตลาดสินคา้ เกษตร
7. ตลาดสินคา้ ผ้ผู ลิตหรอื ตลาดปัจจัยการผลติ
8. ตลาดเงนิ และตลาดทุน
9. ตลาดขายปลีก
10. ตลาดสินคา้ อุตสาหกรรม
ตอนท่ี 2 : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1.ลักษณะสำคัญของตลาดแข่งขันสมบูรณเ์ ป็นอยา่ งไร
1) มผี ซู้ ้ือและผูข้ ายจำนวนมาก
2) สนิ คา้ ทซ่ี อื้ ขายในตลาดมลี กั ษณะเหมอื นกันทุกประการ
3) ผู้ซ้ือและผขู้ ายต่างรู้ถึงสถานการณใ์ นตลาดเป็นอย่างดี
4) การติดต่อซ้ือขายจะต้องกระทำโดยสะดวก
5) หน่วยธุรกจิ สามารถเขา้ หรอื ออกจากธรุ กจิ การค้าโดยเสรี
2. ข้อดีของตลาดแข่งขนั สมบรู ณ์เป็นอยา่ งไร
1) ผู้ผลติ จะทำการผลติ สินคา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพสงู สดุ
2) ผูบ้ รโิ ภคได้รับความพอใจสูงสดุ ในการเลือกซอ้ื สนิ คา้ และบริการในราคาตำ่ สดุ
3) ผ้ผู ลิตไมท่ ำกำไรเกินควร ผบู้ รโิ ภคซ้ือสนิ ค้าในราคาเหมาะสม
3. ขอ้ เสียของตลาดแข่งขนั สมบูรณ์เป็นอยา่ งไร
1) เปน็ ตลาดทีไ่ ม่สามารถเกดิ ข้ึนไดต้ ามความเป็นจรงิ เน่ืองจากผ้ซู ้ือและผขู้ ายบางคนขาดความร้ใู นภาวะการตลาด
2) ใชท้ รัพยากรในการผลติ มาก
3) ผู้ผลิตรายเลก็ ๆ อาจมีปญั หาทำใหเ้ ลกิ กจิ การ จึงไม่มีการแข่งขนั ระหวา่ งผู้ผลติ อย่างแท้จริง
4. ตลาดแข่งขันไมส่ มบูรณ์ ผ้ขู ายสามารถกำหนดราคาสินค้าไดอ้ ย่างไร
ผูข้ ายสามารถกำหนดราคาสินคา้ ได้ตามทตี่ อ้ งการ ถ้าเป็นตลาดทมี่ ผี ขู้ ายเพยี งรายเดยี ว ทำใหผ้ ขู้ ายมอี ทิ ธิพล
เหนือราคา
5. ตลาดแขง่ ขนั ไม่สมบรู ณ์ชนดิ ใดท่ผี ซู้ ื้อมีอิทธิพลในการกำหนดราคา
ตลาดทมี่ ผี ู้ซอ้ื รายเดียว เช่น โรงงานยาสูบ รับซอ้ื ใบยาสูบ
6. ตลาดแข่งขนั ไมส่ มบูรณม์ ีขอ้ ดีอยา่ งไร
1) ควบคุมการบรโิ ภค และการให้สวสั ดกิ ารกับประชาชนเพ่ือบรโิ ภคในราคาต่ำ
2) สามารถควบคมุ สภาพแวดลอ้ ม
3) สินค้าและบริการบางชนิดท่ีใช้ทุนมาก รัฐเขา้ ไปดำเนนิ การ ทำใหป้ ระชาชนบริโภคสนิ ค้าในราคาตำ่
7. ตลาดแขง่ ขันไม่สมบรู ณ์มีขอ้ เสียอยา่ งไร
1) ผ้ผู ลติ เลือกปัจจัยการผลติ ด้วยคณุ ภาพ แต่จำหนา่ ยสนิ คา้ ราคาสูง
2) ผู้บริโภคขาดทางเลอื กสินคา้
3) ผู้บรโิ ภคตอ้ งบรโิ ภคสินค้าราคาสูง
4) มีการจา้ งงานนอ้ ยเนื่องจากผผู้ ลติ มจี ำนวนนอ้ ย มีผลเสยี ตอ่ การขยายตวั ของระบบเศรษฐกิจ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2
กลไกราคา เวลา 1 ชวั่ โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด
1.1 ตัวช้ีวดั เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรพั ยากรในการผลิตและการบรโิ ภค การใช้
ส 3.1 ทรัพยากรทม่ี ีอยู่จำกัดได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเขา้ ใจหลกั การ
ของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่ือการดำรงชีวติ อยา่ งมีดุลยภาพ
ม. 3/1 อธบิ ายกลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายความหมายและความสำคัญของกลไกราคาได้ (K)
2. จำแนกกลไกราคาแต่ละประเภทได้ (P)
3. เหน็ คณุ คา่ ของศึกษากลไกราคาในระบบเศรษฐกิจเพ่ิมมากขึ้น (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน สาระการเรยี นร้จู ากสอ่ื
(พจิ ารณาตามหลักสูตรสถานศกึ ษา) - กลไกราคา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1) ความหมายและประเภทของ • อุปสงค์
• อุปทาน
ตลาด
2) ความหมายและตัวอย่างของ
อุปสงค์และอปุ ทาน
3) ความหมายและความสำคัญของ
กลไกราคาและการกำหนดราคา
ในระบบเศรษฐกจิ
4) หลักการปรบั และเปลยี่ นแปลง
ราคาสนิ คา้ และบรกิ าร
4. มโนทัศนส์ ำคญั (Key Concept)
- กลไกราคามคี วามสำคญั ในระบบเศรษฐกิจ มีสว่ นในการตัดสินใจของผู้บริโภคและผผู้ ลติ
5. คำถามหลัก (Big Question)
- กลไกราคามคี วามสำคัญอย่างไร
6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ัย
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
- ทักษะการวเิ คราะห์ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ขั้นนำ
ข้นั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครแู จ้งให้นกั เรยี นทราบถึงวิธสี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชื่อเรื่อง
ที่
จะเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้
2. ครสู นทนากบั นกั เรยี นว่ามีนกั เรยี นคนใดเคยส่ังซ้ือสินค้าผา่ นทางระบบอนิ เทอร์เนต็ บ้างหรอื ไม่ และมี
วิธกี ารซ้อื สนิ ค้าอยา่ งไร มีปจั จยั ใดทท่ี ำใหน้ ักเรยี นตัดสินใจซื้อสินคา้ รวมถงึ ให้นกั เรยี นบอกชอ่ื
เว็บไซต์
ทีม่ กี ารซอื้ -ขายสินคา้ และบรกิ ารตา่ ง ๆ ทนี่ ักเรยี นร้จู กั มาพอสังเขป
3. ครยู กตวั อยา่ งสนิ คา้ ที่มีราคาแพงข้นึ เชน่ อาหาร อปุ กรณเ์ คร่ืองเขียน ทองคำ และถามนกั เรียนวา่
1) ถา้ ราคาปรับเพิม่ ขึน้ อกี นักเรียนจะซ้อื หรือไม่ เพราะเหตุใด
(แนวตอบ ครูให้นักเรยี นแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย)
2) นกั เรียนคดิ วา่ เพราะเหตุใดราคาสนิ ค้าจงึ ปรับเพิ่มสงู ขึ้น
(แนวตอบ ราคานำ้ มันเพ่ิมสูงข้ึน คา่ แรงเพิ่มขน้ึ ทำใหต้ ้นทุนการผลติ เพ่ิมสูงขึ้น)
4. ครเู ช่ือมโยงเข้าสบู่ ทเรียน เกีย่ วกับความสำคัญของกลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ โดยครซู กั ถาม
และอธบิ ายขยายความจากสง่ิ ท่ีนักเรยี นตอบ จากนัน้ อภิปรายความรรู้ ่วมกัน
ขนั้ สอน
ข้นั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
1. ครใู ห้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ศึกษาค้นควา้ เก่ียวกับกลไกราคา จากหนงั สือเรยี นสังคมศึกษาฯ ม.3 หรอื จาก
แหลง่ การเรยี นรู้อ่ืน ๆ เช่น หนังสือในห้องสมุด เวบ็ ไซต์ในอนิ เทอรเ์ นต็ ในประเด็นดังนี้
• การทำงานของกลไกราคาในตลาด
• ความสัมพนั ธแ์ ละความสำคัญของอปุ สงค์ อุปทาน
2. ครแู นะนำแหล่งข้อมูลสารสนเทศทีน่ า่ เชื่อถอื ให้กบั นกั เรยี นเพ่มิ เติม
ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
1. สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ นำขอ้ มูลที่ตนไดจ้ ากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลย่ี นความรู้ระหวา่ งกัน
2. จากน้นั สมาชิกในกลมุ่ ชว่ ยกันคดั เลอื กขอ้ มูลทน่ี ำเสนอเพื่อใหไ้ ด้ขอ้ มลู ท่ีถูกต้อง
3. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนนำเสนอขอ้ มลู หนา้ ชนั้ เรียนตามประเด็นท่ีศกึ ษา อภิปราย และตอบ
คำถามร่วมกนั
4. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเก่ียวกับกลไกราคา ประกอบการศุกษาตารางและกราฟต่าง ๆ และ
สุ่มตวั แทนนักเรยี นเพื่อตอบคำถาม เชน่
1) ปยิ ะตอ้ งการซ้ือดนิ สอเพมิ่ เม่ือใด
(แนวตอบ เมือ่ ราคาถูกลง)
2) ถา้ ราคาเพิม่ สงู ขน้ึ ความตอ้ งการซอื้ ดินสอของปิยะเป็นอยา่ งไร
(แนวตอบ ลดลง)
3) ปรมิ าณการซือ้ เสือ้ กันหนาวมปี ัจจยั มาจากสงิ่ ใดบา้ ง
(แนวตอบ ฤดูกาล คือ สภาพอากาศที่หนาวลงทำให้ต้องการซ้ือเสื้อกันหนาว ถ้าอากาศร้อนข้ึน
ปรมิ าณการซ้อื กล็ ดลง ถงึ แมร้ าคาจะถูกลงกต็ าม)
4) ถ้าสินคา้ ทซี่ อื้ เป็นประจำขึ้นราคาจะซ้อื อีกหรือไม่ เพราะเหตุใด
(แนวตอบ ครูให้นกั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งหลากหลาย)
5) เม่ือใดท่นี ายสมิงตอ้ งการผลิตรองเท้า
(แนวตอบ เมอื่ ราคาเพิ่มสูงข้นึ )
6) ปจั จัยใดบ้างที่ทำใหร้ าคารองเทา้ เพิม่ สูงขึ้น
(แนวตอบ เชน่ จำนวนผู้ผลิตน้อยลง จำนวนผูบรโิ ภตเพ่มิ ขึ้น ฯลฯ)
5. ครซู ักถามข้อสงสยั ของนกั เรียนเพิม่ เตมิ
ขน้ั สรุป
ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand)
1. ครูใหน้ ักเรียนทำใบงานที่ 6.2 เรื่อง กลไกราคา โดยครูแนะนำเพิม่ เติม
2. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกสมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3 เก่ียวกับเรอื่ ง กลไกราคา
เพ่ือเปน็ การบ้านสง่ ครใู นช่ัวโมงถดั ไป
ขนั้ ประเมิน
ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบผลจากการตอบคำถาม การทำใบงาน และการทำแบบฝึกสมรรถนะ
ฯ
เศรษฐศาสตร์ ม.3
2. ครูประเมนิ ผลจากการตอบคำถาม การร่วมกันทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าช้นั เรยี น
3. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝึกสมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
8. การวดั และประเมนิ ผล วิธีวัด เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน
รายการวดั - ตรวจใบงานที่ 6.2 - ใบงานท่ี 6.2 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
8.1 การวัดและประเมินผล
- ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการนำเสนอ - ระดับคณุ ภาพ 2
ระหวา่ งการจดั กิจกรรม ผลงาน
การเรียนรู้ - สังเกตพฤติกรรม ผลงาน ผ่านเกณฑ์
1) อธิบายความหมายและ การทำงานรายบุคคล
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2
ความสำคัญของกลไกราคา การทำงานกลุ่ม
และจำแนกกลไกราคา - สงั เกตความมวี นิ ยั การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
แตล่ ะประเภทได้ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น
2) การนำเสนอผลงาน ในการทำงาน - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2
3) พฤติกรรม การทำงานรายกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
การทำงานรายบคุ คล
- แบบประเมนิ คุณลักษณะ - ระดับคุณภาพ 2
4) พฤตกิ รรม
การทำงานกล่มุ อันพึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
5) คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
9. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
9.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี นสังคมศึกษาฯ ม.3
2) แบบฝึกสมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
3) หนังสอื ค้นควา้ เพิ่มเติม
(1) บุญยืน ชัยสโุ รจน์. 2533. ระบบเศรษฐกจิ ไทย. กรุงเทพมหานคร : ตน้ ออ้ .
(2) สิดาภา บัวเกษ. 2553. ตลาดการเงนิ และสถาบันการเงิน. กรุงเทพมหานคร :
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย.
4) ใบงานที่ 6.2 เรอื่ ง กลไกราคา
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
- https://businesseast.spu.ac.th
- https://www.thairath.co.th
- https://www.khaosod.co.th
ใบงานที่ 6.2
เรอื่ ง กลไกราคา
คำชี้แจง : ให้นักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1. กลไกราคา (Price mechanism) หมายถึงอะไร
2. อปุ สงค์ (Demand) หมายความว่าอย่างไร
3. เราสามารถอธบิ ายกฎของอุปสงค์ (Law of Demand) ได้อยา่ งไร
4. ปัจจัยในการกำหนดอุปสงค์ ได้แก่อะไรบ้าง
5. การเปล่ียนแปลงของอุปสงค์มีลกั ษณะอยา่ งไร
6. อุปทาน (Supply) หมายถงึ อะไร
7. เราสามารถอธิบายกฎของอุปทาน (Law of Supply) ได้อยา่ งไร
8. ปัจจยั ในการกำหนดอปุ ทาน ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
9. การเปล่ียนแปลงปรมิ าณอปุ ทาน คืออะไร ยกตวั อย่างประกอบ
10. การเปลี่ยนแปลงระดบั ของอุปทาน หมายความวา่ อย่างไร
เฉลย
ใบงานท่ี 6.2
เรอ่ื ง กลไกราคา
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. กลไกราคา (Price mechanism) หมายถึงอะไร
การเปลยี่ นแปลงในระดบั ราคาสนิ ค้า ซง่ึ เกดิ ขึน้ จากแรงผลกั ดันของอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน เมือ่ ผู้ผลติ พยายามทำการ
ปรับปรงุ การผลติ ของตน ใหส้ อดคลอ้ งกับความต้องการของผ้บู รโิ ภคในตลาด เม่อื ใดทีป่ ริมาณสนิ ค้าและบรกิ ารท่ผี ผู้ ลติ
ได้ผลิตข้นึ จำนวนมาก ขณะท่ปี รมิ าณความต้องการของผบู้ รโิ ภคยงั คงมีเทา่ เดมิ ระดบั ราคาสนิ คา้ ชนดิ นั้นจะลดลง
2. อุปสงค์ (Demand) หมายความวา่ อย่างไร
ปรมิ าณสินคา้ และบริการทผี่ บู้ รโิ ภคตอ้ งการและสามารถซ้อื สินคา้ ในระยะเวลาหน่ึง ณ ระดับราคาต่างๆ ของสนิ คา้
และบรกิ ารชนิดน้ัน
3. เราสามารถอธิบายกฎของอุปสงค์ (Law of Demand) ได้อย่างไร
ถ้าราคาสนิ คา้ และบริการใดๆ เพม่ิ ขน้ึ ความต้องการซื้อสนิ คา้ และบรกิ ารน้นั จะลดนอ้ ยลง ตรงกันขา้ ม ถ้าราคา
สนิ ค้าหรอื บรกิ ารใดๆ ลดลง ความตอ้ งการซ้อื สินคา้ และบริการนน้ั จะเพ่มิ ข้นึ
4. ปจั จยั ในการกำหนดอุปสงค์ ได้แก่อะไรบ้าง
1) ราคาสินคา้ ชนดิ นนั้
2) จำนวนประชากร
3) รายได้เฉลีย่ ของครวั เรอื น
4) การเปลยี่ นแปลงของฤดูกาล
5) การศึกษาและการโฆษณา
5. การเปลีย่ นแปลงของอุปสงคม์ ีลกั ษณะอยา่ งไร
1) การเปลยี่ นแปลงปริมาณอุปสงค์ เปน็ การเปลยี่ นแปลงปริมาณการซอื้ ท่ีเกดิ จากการเปลยี่ นแปลงราคา
2) การเปลยี่ นแปลงระดบั อุปสงค์ เปน็ การเปลย่ี นแปลงความตอ้ งการซอื้ ในขณะทร่ี าคาสนิ คา้ และบรกิ ารยังคงเดมิ
แตเ่ ป็นผลมาจากปจั จยั ตา่ งๆ
6. อปุ ทาน (Supply) หมายถงึ อะไร
ปริมาณสินคา้ และบริการทผ่ี ู้ผลิตหรือผู้ขายพรอ้ มทจี่ ะผลติ ออกขาย ณ ระดบั ราคาตา่ งๆ ภายในระยะเวลาทก่ี ำหนด
7. เราสามารถอธิบายกฎของอปุ ทาน (Law of Supply) ไดอ้ ยา่ งไร
ถ้าราคาสินค้าหรือบรกิ ารใดๆ เพ่มิ ข้นึ ผู้ผลติ จะผลติ สนิ คา้ ออกมาจำหน่ายเพิ่มขึน้ ตรงกันข้าม ถา้ ราคาสนิ คา้
หรอื บรกิ ารใดๆ ลดลง ผผู้ ลติ จะผลติ สนิ ค้าออกมาจำหนา่ ยลดลง
8. ปัจจยั ในการกำหนดอปุ ทาน ไดแ้ ก่อะไรบ้าง
1) ราคาสนิ คา้ ท่ผี ลติ
2) เป้าหมายของธรุ กจิ
3) การเปลยี่ นแปลงของเทคนคิ การผลิต
4) ราคาปจั จยั การผลติ
5) จำนวนผู้ผลิตหรือผขู้ าย
6) สภาพดนิ ฟ้าอากาศ
9. การเปลย่ี นแปลงปรมิ าณอุปทาน คอื อะไร ยกตัวอยา่ งประกอบ
เปน็ การเปลยี่ นแปลงปริมาณการผลิตทเ่ี กิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสนิ คา้ เช่น กระเปา๋ ราคา 100 บาท
ผผู้ ลติ จะผลติ ออกจำหน่าย 2,000 ใบ ต่อมาราคากระเป๋าเพิ่มขึ้นเป็น 150 บาท ผู้ผลิตจะผลติ กระเปา๋ ออกมาจำหน่าย
2,500 ใบ
10. การเปลยี่ นแปลงระดับของอุปทาน หมายความวา่ อย่างไร
เป็นการเปลย่ี นแปลงปริมาณการผลิตในขณะทร่ี าคาและบรกิ ารยงั คงเทา่ เดิม คอื เพิ่มข้ึนกบั ลดลง สาเหตมุ าจาก
การเปลย่ี นแปลงปจั จัยอืน่ ทไี่ ม่ใช่ราคาสินคา้ เช่น ดิน ฟา้ อากาศ
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3
การกำหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ เวลา 1 ช่วั โมง
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด
1.1 ตัวชว้ี ัด
ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้
ทรพั ยากรท่ีมีอยู่จำกดั ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทัง้ เขา้ ใจหลักการ
ของเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อการดำรงชีวติ อย่างมดี ลุ ยภาพ
ม. 3/1 อธบิ ายกลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายหลักการกำหนดราคา การปรับและเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการได้ (K)
2. อธิบายการกำหนดราคาในทางปฏบิ ัติได้ (K)
3. จำแนกการกำหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ ได้ (P)
4. เห็นคุณค่าของศึกษาการกำหนดราคาเพมิ่ มากขึ้น (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้ทู ้องถ่ิน สาระการเรียนรู้จากส่อื
(พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา) - การกำหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1) ความหมายและประเภทของ • หลักการกำหนดราคา
ตลาด • การปรบั และเปล่ยี นแปลง
2) ความหมายและตวั อยา่ งของ ราคาสนิ คา้ และบริการ
อปุ สงค์และอุปทาน • การกำหนดราคาในทาง
3) ความหมายและความสำคัญของ ปฏิบตั ิ
กลไกราคาและการกำหนดราคา
ในระบบเศรษฐกจิ
4) หลกั การปรบั และเปลี่ยนแปลง
ราคาสินคา้ และบริการ
4. มโนทศั น์สำคัญ (Key Concept)
- การกำหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ เปน็ ไปตามอุปสงค์ อุปทาน และขน้ึ อยู่กบั วัตถุประสงค์ของผผู้ ลิต
5. คำถามหลัก (Big Question)
- ปจั จัยใดบา้ งทมี่ ผี ลต่อการกำหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ
6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี นและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี ินยั
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้
- ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วิธีสอนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมอื : เทคนิคคู่คิดสี่สหาย
ขน้ั นำ
1. ครแู จ้งใหน้ กั เรยี นทราบถงึ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมือ : เทคนิคคู่คดิ สส่ี หาย ชือ่ เรอ่ื งทีจ่ ะ
เรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้
2. ครใู หน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เดิมเก่ียวกับตลาดในระบบเศรษฐกจิ และกลไกราคา
3. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันยกตัวอยา่ งราคาของใช้ อาหารสำเรจ็ รูป ท่ีวางขายในร้านสะดวกซอื้ หา้ งสรรพสินค้า
แล้วช่วยกันวิเคราะห์ว่าต้นทนุ การผลติ เทา่ ไร และผ้ผู ลิตน่าจะได้กำไรเทา่ ไร
4. ครนู ำข่าวหรือเหตุการณท์ ีส่ ะทอ้ นถึงราคาสินคา้ ในตลาดท่เี พมิ่ สูงข้ึน หรอื ลดต่ำลง
5. ครตู ัง้ ประเดน็ เพื่อให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็นวา่ นกั เรียนคิดวา่ ปจั จยั สำคญั ที่จะชว่ ยในการ
กำหนดราคาสินคา้ มีอะไรบา้ ง
6. ครสู รปุ การแสดงความคดิ เห็นของนักเรียน โดยเช่อื มโยงให้เข้ากบั เน้ือหาเพื่อนำเข้าสบู่ ทเรียน
ขน้ั สอน
1. ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เกง่ ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปาน
กลาง
คอ่ นข้างอ่อน และออ่ น โดยให้สมาชิกแต่ละคนเลอื กหมายเลขประจำตวั ตงั้ แต่หมายเลข 1-4
2. สมาชิกแตล่ ะหมายเลขแยกย้ายไปรวมกลมุ่ ใหม่ และรว่ มกันศึกษาความรู้ เร่ือง การกำหนดราคาในระบบ
เศรษฐกจิ ประกอบการใชห้ นังสอื เรยี นสงั คมศกึ ษาฯ ม.3 หรอื จากแหล่งการเรียนรูอ้ ืน่ ๆ เช่น หนังสอื ใน
ห้องสมุด เว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ต หมายเลขละ 1 เร่ือง ดงั นี้
• หมายเลข 1 หลักการกำหนดราคา
• หมายเลข 2 การปรับและเปลี่ยนแปลงราคาสินคา้ และบรกิ าร
• หมายเลข 3 การกำหนดราคาในทางปฏบิ ตั ิ
• หมายเลข 4 ปัจจัยอ่นื ๆ ที่มผี ลต่อการกำหนดราคา
3. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ นำเสนอผลการศึกษา และอภปิ รายความรู้ร่วมกัน โดยครแู นะนำเพิ่มเติม
4. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละหมายเลขกลับไปทีก่ ลุ่มเดิมและรว่ มกนั ทำใบงานที่ 6.3 เรื่อง การกำหนดราคาในระบบ
เศรษฐกจิ
5. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของใบงาน
6. ครูใหอ้ าสาสมัครนกั เรียน 2-3 กลุ่ม นำเสนอผลงานในใบงานหนา้ ชัน้ เรียน และใหก้ ลมุ่ อืน่ ท่ีมีผลงานท่ี
แตกต่างกันไดน้ ำเสนอเพม่ิ เติม
7. ครใู ห้นกั เรยี นทำกจิ กรรมทีเ่ กีย่ วกบั การกำหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ ในแบบฝึกสมรรถนะฯ
เศรษฐศาสตร์ ม.3 เพ่อื เป็นการบ้านสง่ ครูในชั่วโมงถดั ไป
8. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายงาน เรื่อง กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ
9. ให้นกั เรียนทำแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3 เร่อื ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ เพ่ือทดสอบความรู้
ทไ่ี ดศ้ กึ ษามา
ขนั้ สรปุ
- ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ ความรู้เกีย่ วกับการกำหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ หรือใช้ PPT สรุปสาระสำคัญ
ของเนือ้ หา ตลอดจนความสำคัญตอ่ การดำเนินชวี ิตประจำวนั
ขน้ั ประเมนิ
1. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรื่อง กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ
2. ครปู ระเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคำถาม การรว่ มกันทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน
3. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงาน แบบฝึกฯ และแบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
8. การวัดและประเมินผล วธิ ีวัด เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
รายการวัด - ตรวจใบงานท่ี 6.3 - ใบงานที่ 6.3 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
8.1 การวดั และประเมนิ ผล
- ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการนำเสนอ - ระดับคุณภาพ 2
ระหว่างการจัดกจิ กรรม ผลงาน
การเรียนรู้ - สังเกตพฤติกรรม ผลงาน ผ่านเกณฑ์
1) อธิบายหลกั การกำหนด การทำงานรายบุคคล
- สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
ราคา การปรบั และ การทำงานกลุ่ม
เปลีย่ นแปลงราคาสนิ ค้า - สงั เกตความมีวินยั การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
และบริการ การกำหนด ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มน่ั ใน
ราคาในทางปฏบิ ตั ิและ การทำงาน - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
จำแนกการกำหนดราคา - ตรวจแบบทดสอบ
ในระบบเศรษฐกจิ ได้ หลังเรียน การทำงานรายกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
2) การนำเสนอผลงาน
- แบบประเมินคุณลักษณะ - ระดับคณุ ภาพ 2
3) พฤตกิ รรม
การทำงานรายบุคคล อนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
4) พฤตกิ รรม - แบบทดสอบหลังเรียน - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การทำงานกลุ่ม
5) คณุ ลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์
8.2 การวดั และประเมินผล
หลงั เรียน
- แบบทดสอบหลงั เรยี น
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 6
เรือ่ ง กลไกราคาในระบบ
เศรษฐกจิ
9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
9.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3
2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
3) แบบวดั ฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3
4) หนังสือค้นคว้าเพมิ่ เติม
(1) บญุ ยนื ชยั สโุ รจน์. 2533. ระบบเศรษฐกจิ ไทย. กรุงเทพมหานคร : ต้นอ้อ.
(2) สดิ าภา บัวเกษ. 2553. ตลาดการเงนิ และสถาบันการเงิน. กรงุ เทพมหานคร :
จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
5) ใบงานท่ี 6.3 เร่อื ง การกำหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องสมุด
2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
- https://businesseast.spu.ac.th
- https://www.thairath.co.th
- https://www.khaosod.co.th
ใบงานที่ 6.3
เร่ือง การกำหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ
คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปนี้
1. ราคาดลุ ยภาพ หมายความวา่ อยา่ งไร
2. ถา้ ความต้องการของผู้บรโิ ภคคงทแี่ ละความต้องการผลิตเปล่ยี นแปลงไปมีผลอย่างไร
3. ถา้ ความต้องการของผ้บู ริโภคคงที่และความต้องการผลติ เปลยี่ นแปลงไปในกรณีอุปสงค์คงท่ี และอุปทาน
เปลี่ยนแปลงจะมีผลอย่างไร
4. ปจั จัยทคี่ วรคำนึงถึงในการกำหนดราคาในทางปฏบิ ัตนิ ้ัน มีปจั จัยอะไรบ้าง
5. วธิ กี ารกำหนดราคาในทางปฏิบตั ิ มวี ิธใี ดบ้าง
เฉลย
ใบงานท่ี 6.3
การกำหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1. ราคาดุลยภาพ หมายความวา่ อย่างไร
การปรบั ตัวปริมาณสนิ คา้ และบรกิ ารทผ่ี ูบ้ รโิ ภคต้องการซ้อื และผขู้ ายตอ้ งการขาย และระดับราคาสินค้าและบรกิ าร
เปน็ เหตุให้ปรมิ าณซื้อและปริมาณขายเทา่ กันพอดี คอื ณ ระดับราคาใดราคาหนึ่ง ซ่งึ ณ ระดับราคานนั้ ปริมาณสินคา้
ทผ่ี ูบ้ ริโภคตอ้ งการซอ้ื จะเท่ากบั ปริมาณสินค้าทผี่ ู้ผลติ จะผลิตออกมาขายในขณะเดียวกันพอดี
2. ถ้าความต้องการของผู้บริโภคคงทีแ่ ละความต้องการผลติ เปล่ียนแปลงไปมผี ลอยา่ งไร
ทำให้ราคาและปริมาณสินคา้ ทีซ่ ้อื ขายเปลี่ยนแปลงไปในทางเดยี วกบั ความตอ้ งการบริโภค คือ ถา้ ความตอ้ งการ
บรโิ ภคเพิม่ ขึน้ ราคาและปริมาณสินคา้ ที่ซ้ือขายกนั จะเพิม่ ข้นึ
3. ถ้าความต้องการของผู้บรโิ ภคคงท่แี ละความต้องการผลติ เปลี่ยนแปลงไปในกรณีอุปสงคค์ งที่ และอปุ ทาน
เปลย่ี นแปลงจะมีผลอย่างไร
ปรมิ าณสินคา้ จะเปลย่ี นแปลงไปในทางเดยี วกับอุปทาน แต่ราคาจะเปลย่ี นแปลงไปในทางตรงกนั ข้าม เช่น
ปีนีม้ กี ารผลิตทุเรยี นเพมิ่ ขึน้ ปรมิ าณการซ้อื ขายจะเพม่ิ ขึน้ แตร่ าคาทุเรยี นจะลดลง
4. ปัจจยั ทค่ี วรคำนึงถึงในการกำหนดราคาในทางปฏบิ ตั นิ ้นั มีปจั จัยอะไรบา้ ง
1) สภาวะทางเศรษฐกิจ
2) การแข่งขนั ของตลาด
3) ตน้ ทุนการผลิตและการจำหนา่ ย
4) กลุ่มเปา้ หมาย
5. วิธกี ารกำหนดราคาในทางปฏิบัติ มีวิธใี ดบา้ ง
1) กำหนดราคาโดยกำหนดสว่ นบวกเพมิ่ เข้าไปกบั ต้นทนุ
2) การกำหนดราคาเพื่อใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนจากเงินลงทุนตามเปา้ หมาย
3) การกำหนดราคาขายใหต้ ่างกนั
ชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด
กิจกรรม รายงาน เร่อื ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ
คำชี้แจง : ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจัดทำรายงาน เร่ือง กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ แล้วนำส่งครู โดย
ให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กำหนด
แบบประเมนิ รายงาน เร่อื ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ
รายการประเมนิ ดมี าก (4) คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรุง (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. การอธบิ าย อธิบายความหมาย อธิบายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย
ความหมาย ประเภท ประเภทของตลาด และ ประเภทของตลาด และ ประเภทของตลาด และ ประเภทของตลาด และ
ของตลาดและขอ้ ดี ขอ้ ดีข้อเสียของตลาด แต่ ข้อดีขอ้ เสียของตลาด แต่ ข้อดขี ้อเสยี ของตลาด แต่ ข้อดขี ้อเสียของตลาด แต่
ขอ้ เสียของตลาดแต่ ละประเภทไดถ้ กู ต้อง ละประเภทได้ถูกตอ้ ง เป็น ละประเภทไดถ้ ูกตอ้ ง เปน็ ละประเภทได้ถกู ตอ้ ง เปน็
ละประเภท ครบถ้วน สมบรู ณ์ สว่ นใหญ่ บางสว่ น บางสว่ น แตส่ ำนวน
ค่อนข้างวกวน
2. การอธบิ าย อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย อธิบายความหมาย อธบิ ายความหมาย
ความหมาย ตวั กำหนด และการ ตัวกำหนด และการ ตวั กำหนด และการ ตวั กำหนด และการ
ตัวกำหนด และการ เปล่ียนแปลงอปุ สงค์ และ เปลี่ยนแปลงอุปสงค์ และ เปลย่ี นแปลงอปุ สงค์ และ เปลี่ยนแปลงอุปสงค์ และ
เปล่ยี นแปลงอุปสงค์ อปุ ทานไดถ้ กู ตอ้ ง อุปทานไดถ้ ูกต้อง เป็น อุปทานไดถ้ ูกต้อง เป็น อปุ ทานไดถ้ กู ตอ้ ง เปน็
และอปุ ทาน ครบถ้วน สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ บางส่วน บางสว่ น แตส่ ำนวน
คอ่ นข้างวกวน
3. การอธิบายกลไก อธิบายกลไกราคาและ อธบิ ายกลไกราคาและ อธิบายกลไกราคาและ อธิบายกลไกราคาและ
ราคาและการกำหนด การกำหนดราคาในระบบ การกำหนดราคาในระบบ การกำหนดราคาในระบบ การกำหนดราคาในระบบ
ราคาในระบบ เศรษฐกิจได้ถูกต้อง เศรษฐกิจไดถ้ ูกต้องเปน็ เศรษฐกจิ ไดถ้ ูกต้องเป็น เศรษฐกจิ ไมถ่ กู ตอ้ ง
เศรษฐกิจ ครบถว้ น สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ บางสว่ น
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ 11 - 12 9 - 10 6 - 8 ตำ่ กวา่ 6
ชว่ งคะแนน ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ
ระดบั คณุ ภาพ
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนำเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกตอ้ งของเนอื้ หา
2 การลำดบั ขัน้ ตอนของเร่ือง
3 วธิ กี ารนำเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอ
5 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม
รวม
ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
............/................./................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
321
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อืน่
3 การทำงานตามหน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
4 ความมีนำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../..............
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดบั คะแนน
การมี
ลำดับท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม
ของนกั เรียน ความ ฟังคนอ่นื ตามท่ีไดร้ บั น้ำใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ปรบั ปรงุ
ผลงานกลุ่ม
321321321321321
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมิน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............../.................../...............
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง
แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติ
กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์
ต่อโรงเรยี น
1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏิบัติตามหลักศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี ก่ยี วกบั สถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามท่ีโรงเรยี นจดั ขนึ้
2. ซอ่ื สัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง
2.2 ปฏิบัตใิ นสงิ่ ที่ถูกตอ้ ง
3. มีวินัย รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
3.2 มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวัน
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รู้จกั ใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
4.2 ศกึ ษาค้นคว้าความรู้จากสอื่ และเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งสมำ่ เสมอ
5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใชท้ รัพย์สินและสง่ิ ของของตนเองและส่วนรวมอย่างประหยดั
5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณค่า
5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
6. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจติ สาธารณะ 8.1 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม
8.2 เข้ารว่ มกิจกรรม เพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ
พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้งั ............../.................../................
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางครัง้
ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ด้านความสามารถทางภมู ิศาสตร์
ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
11. ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงช่ือ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
แบบทดสอบก่อนเรยี น
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6
คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. “ตลาดส่ีมุมเมืองจะมสี นิ คา้ จากเกษตรกรนำมาขายจำนวน 6. ขอ้ ความเกีย่ วกับปัจจัยกำหนดอุปทานขอ้ ใดถกู ตอ้ ง
มาก สว่ นตลาดรถยนต์จะมีอยู่ในตวั เมืองของทุกจังหวดั ” ก. ถ้าราคาสินค้าสงู ขึ้น ผผู้ ลติ จะลดจำนวนการผลิตลง
ขอ้ ความดงั กล่าวเป็นการแบง่ ลกั ษณะของตลาดตามข้อใด ข. ถา้ หากสนิ คา้ มรี าคาถกู ลง ผ้ผู ลติ จะไดก้ ำไรน้อยลง ทำ
ก. แบง่ ตามชนดิ ของสนิ ค้า ใหล้ ดการผลติ ลง
ข. แบ่งตามลักษณะการขายสินค้า ค. จำนวนผผู้ ลติ ถ้ามีมากข้ึน ทำให้อุปทานเพม่ิ ขนึ้ ถา้
ค. แบ่งตามวตั ถุประสงค์ของการใชส้ นิ ค้า ผผู้ ลิตลดนอ้ ยลง จะทำให้อุปทานลดลง
ง. แบ่งตามลักษณะการแข่งขันทมี่ ีอยใู่ นตลาด ง. ช่วงภาวะน้ำมันราคาแพง ผผู้ ลติ รถยนตจ์ ะผลติ รถยนต์
2. ข้อความใดสอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะของตลาดแขง่ ขนั สมบรู ณ์ ขนาดใหญ่ทป่ี ระหยดั นำ้ มัน
ก. กอ้ ยซ่งึ เปน็ แม่บา้ นมักจะซื้อผงซักฟอกหลายยี่หอ้ 7. “ถา้ ในตลาดมผี ้ขู ายเพยี งรายเดยี ว อาจกำหนดราคาสนิ คา้ ให้
เปลย่ี นกันไป เพราะคณุ ภาพและราคาใกลเ้ คยี งกนั สูงได้” ขอ้ ความดงั กล่าวสอดคลอ้ งกับปัจจัยการกำหนด
ข. ตลาดนดั กลางของจังหวัดจะมีคนนยิ มไปซื้อของจำนวน ราคาในขอ้ ใด
มาก แต่มสี นิ ค้าจำนวนน้อย ก. กลมุ่ เป้าหมาย ข. สภาวะทางเศรษฐกจิ
ค. บรษิ ัท สหรงุ่ เรอื ง ผลติ เตารีดไฟฟา้ รุ่นใหม่ออกมา ซง่ึ มี ค. การแข่งขนั ของตลาด ง. ตน้ ทนุ การผลิต
ราคาแพงกวา่ เตารดี ของบริษทั อ่นื 8. การกำหนดราคาในทางปฏบิ ตั มิ ีวตั ถปุ ระสงคห์ ลาย
ง. ในวนั ขน้ึ ปีใหมร่ า้ นคา้ ท่เี ก่งเปน็ เจา้ ของ ประกาศลด ประการ ยกเวน้ ขอ้ ใด
ราคาสินค้าถูกกวา่ เดมิ 50 เปอร์เซน็ ต์ ก. เพอ่ื ให้ราคาสินคา้ เท่าเทียมกัน
3. ขอ้ ดีของตลาดแข่งขันสมบรู ณ์ คืออะไร ข. เพอื่ ขยายตลาดให้กวา้ งขวาง
ก. ผู้ผลติ สามารถกำหนดราคาสินค้าได้สงู ค. เพอ่ื สรา้ งยอดขาย
ข. ผบู้ ริโภคและผผู้ ลิตรว่ มมือกันกำหนดราคาสนิ คา้ ง. เพ่อื สรา้ งกำไร
ค. ผบู้ ริโภคมโี อกาสในการเลือกซ้ือสนิ คา้ ราคาท่ีตำ่ สุด 9. ขอ้ เสียของตลาดแข่งขันสมบรู ณ์ คืออะไร
ง. ผ้ผู ลิตสนิ ค้ามีการแข่งขันกนั อย่างเสรเี พอื่ ขายสินค้า ให้ ก. ผู้บริโภคเปน็ ผกู้ ำหนดราคาสนิ ค้า
ไดม้ ากทสี่ ุด ข. ผผู้ ลิตไมม่ กี ารแขง่ ขันกันอยา่ งแทจ้ ริง
4. “ถ้าราคาสนิ คา้ และบรกิ ารใดๆ เพมิ่ ขนึ้ ความตอ้ งการซือ้ ค. ผผู้ ลิตไดก้ ำไรเปน็ อตั ราส่วนทีค่ อ่ นขา้ งมาก
สนิ คา้ และบรกิ ารน้นั จะลดนอ้ ยลง ถ้าราคาสินค้าหรอื ง. ผู้ผลติ สินคา้ พยายามลดต้นทุนทำให้คณุ ภาพสินคา้ ต่ำ
บรกิ ารใดๆ ลดลง ความตอ้ งการซอื้ สนิ คา้ และบริการนั้น จะ 10. ขอ้ ใดคือความหมายของกลไกราคา
เพ่ิมขึ้น” ข้อความดังกล่าวสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด ก. การผลิตทม่ี ีความสมดลุ กบั การบรโิ ภค
ก. กฎของอุปสงค์ ข. กฎของอุปทาน ข. ราคาสินค้าและการผลติ ถกู กำหนดโดยความตอ้ งการ
ค. ตัวกำหนดอุปสงค์ ง. ตวั กำหนดอุปทาน ของผู้บริโภค
5. การปรับตัวท่ที ำใหป้ รมิ าณซอื้ และปรมิ าณขายเทา่ กนั พอดี ค. ปรมิ าณสินคา้ ทผี่ ู้บรโิ ภคและผู้ผลติ มีความตอ้ งการ
ณ ระดบั ราคาใดราคาหน่ึงน้นั สอดคล้องกับขอ้ ความใด เทา่ กัน
ก. อุปทาน ข. อปุ สงค์ ง. การเปลย่ี นแปลงในระดบั ราคาสินค้า ซง่ึ เกดิ จาก
ค. กลไกราคา ง. ราคาดลุ ยภาพ แรงผลกั ของอุปสงค์และอุปทาน
11. ลกั ษณะสำคัญของตลาดแข่งขนั สมบรู ณเ์ ปน็ อยา่ งไร 16. การผูกขาดในตลาดแข่งขันไม่สมบรู ณส์ ่งผลกระทบต่อ
ก. ผซู้ ้ือหรือผู้ขายในธรุ กจิ มีจำนวนนอ้ ย
ข. เปน็ ตลาดทม่ี ีผขู้ ายเพยี งรายเดยี วท่ีผกู ขาดสนิ คา้ ใน ผู้บรโิ ภคอย่างไร
ตลาด
ค. ผซู้ ือ้ หรอื ผขู้ ายมีอทิ ธพิ ลในการกำหนดราคาสนิ คา้ ก. ผบู้ รโิ ภคได้ซื้อสินคา้ ราคาถกู
ในตลาด
ง. สนิ ค้าในตลาดมลี กั ษณะที่เหมือนกนั สามารถใช้ ข. ผ้บู รโิ ภคตอ้ งซือ้ สินค้าราคาแพง
ทดแทนกนั ได้
ค. ผู้บรโิ ภคซื้อสนิ ค้าในราคายตุ ิธรรม
12. ธุรกจิ ในข้อใดจดั อยู่ในตลาดสินคา้ บรกิ าร
ก. สวนสม้ ปลอดสารพิษ ข. โรงงานผลิตเฟอร์นเิ จอร์ ง. ผู้บริโภคตอ้ งซอ้ื สนิ ค้าในปริมาณมาก
ค. โรงแรมระดับ 5 ดาว ง. รา้ นขายอปุ กรณ์
คอมพิวเตอร์ 17. พฤติกรรมของผใู้ ดสอดคล้องกับกฎของอุปสงค์
13. หากนักเรียนเปน็ เจ้าของโรงงานผลติ นำ้ ตาลเพียงแหง่ เดยี ว ก. ปราโมทย์ซือ้ รองเท้าค่ใู หม่เพราะคู่เก่าชำรดุ
ในเขตจงั หวัด สินคา้ น้ำตาลของนักเรยี นถอื ว่าอยูใ่ นตลาด
ประเภทใด ข. นารซี ้ืออาหารมากกั ตุนมากขึ้นในชว่ งเกิดอทุ กภยั
ก. คลาดผกู ขาด
ข. ตลาดแขง่ ขนั สมบรู ณ์ ค. ประภาซ้ือกระเปา๋ ถอื ใบใหมเ่ พราะมรี ูปแบบทันสมยั
ค. ตลาดทม่ี ผี ขู้ ายน้อยราย
ง. ตลาดก่ึงแกง่ ขันก่ึงผกู ขาด ง. ชมดาวซ้อื เสื้อผ้าเพิม่ ข้นึ เพราะลดราคามากกวา่
14. กรณใี ดตอ่ ไปนเี้ ปน็ ไปตามกฎของอุปทาน ครง่ึ หนึ่งของราคาเต็ม
ก. ระยะนมี้ ะนาวพ่งุ สงู จงึ มีผู้บริโภคมะนาวน้อยลง
ข. ภตั ตาคารแหง่ นีม้ ลี ูกคา้ แน่นทกุ วนั เพราะอาหารอรอ่ ย 18. ขอ้ ใด ไมม่ ี ความสอดคล้องกนั ตามกฎของอุปสงค์
ค. ขา้ วมีราคาตกต่ำ ชาวนาจึงเกบ็ ขา้ วไว้รอขายเมอ่ื ราคา
สงู กวา่ น้ี ก. เมื่อฤดูรอ้ น อุปสงค์ของไอศกรมี มมี ากข้นึ
ง. แม้ราคาทองคำจะเพิ่มสงู ข้นึ มาก แตร่ า้ นทองกย็ งั มี
ลูกคา้ สมำ่ เสมอ ข. เมื่อฤดูร้อน อปุ สงค์ของเส้อื กันหนาวมีมากขน้ึ
15. ขอ้ ใดถอื เป็นขอ้ ดขี องตลาดแขง่ ขนั สมบูรณ์ ค. เมอ่ื ฤดูร้อน อปุ สงคส์ ่วนเกนิ ของไอศกรมี มีมากข้นึ
ก. เป็นตลาดทม่ี ีสนิ คา้ หลากหลายชนิด
ข. ราคาสนิ ค้ามหี ลายระดบั ใหเ้ ลอื กซือ้ ง. เมือ่ ฤดูรอ้ น อปุ ทานสว่ นเกนิ ของเส้ือกันหนาวมีมากข้ึน
ค. ผ้บู รโิ ภคได้รับความพอใจสงู สดุ จากการซื้อสนิ ค้า
ง. ผู้ผลติ จะไดก้ ำไรเพ่มิ ข้นึ จากการขายสินคา้ ในระยะยาว 19. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องตามกฎของอุปสงค์
ก. เมอ่ื ราคาสนิ ค้าตำ่ ลง ความต้องการซอ้ื สินคา้ น้อยลง
ข. เม่ือราคาสินค้าต่ำลง ความต้องการซอื้ สินค้าจะมากข้ึน
ค. เม่ือราคาสนิ คา้ สูงขึน้ ความต้องการซือ้ สินคา้ จะมาก
ขึ้น
ง. เมอ่ื ราคาสินคา้ สูงข้ึน ความตอ้ งการเสนอขายสนิ คา้
น้อยลง
20. ถ้าราคาต้นทุนการผลติ สนิ คา้ ทั้งหมดเฉลย่ี หน่วยละ
120 บาท ธุรกิจหรือผูข้ ายต้องการกำไรร้อยละ 25 ดงั นัน้
ธุรกิจหรือผูข้ ายจะต้องกำหนดราคาขายเท่าไร
ก. 150 บาท ข. 155 บาท
ค. 160 บาท ง. 165 บาท
เฉลย
1. ก 2. ก 3. ค 4. ก 5. ง 6. ค 7. ค 8. ก 9. ข 10. ง
11. ง 12. ค 13. ก 14. ค 15. ค 16. ข 17. ง 18. ข 19. ข 20. ก
แบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6
คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งตามกฎของอุปสงค์ 6. “ตลาดสม่ี ุมเมืองจะมสี ินค้าจากเกษตรกรนำมาขายจำนวน
ก. เมื่อราคาสินคา้ ตำ่ ลง ความต้องการซอ้ื สนิ ค้า มาก ส่วนตลาดรถยนตจ์ ะมอี ย่ใู นตวั เมืองของทุกจงั หวัด”
นอ้ ยลง ข้อความดงั กลา่ วเปน็ การแบง่ ลักษณะของตลาดตามขอ้ ใด
ข. เมื่อราคาสินค้าตำ่ ลง ความต้องการซื้อสินคา้ จะ ก. แบง่ ตามชนิดของสนิ ค้า
มากขึน้ ข. แบ่งตามลักษณะการขายสินคา้
ค. เมือ่ ราคาสินคา้ สงู ขน้ึ ความต้องการซื้อสนิ คา้ จะ ค. แบง่ ตามวัตถุประสงค์ของการใช้สนิ คา้
มากขน้ึ ง. แบ่งตามลักษณะการแขง่ ขนั ท่ีมอี ยใู่ นตลาด
ง. เมอื่ ราคาสนิ ค้าสงู ขน้ึ ความตอ้ งการเสนอขาย 7. ขอ้ ใดคือความหมายของกลไกราคา
สินค้านอ้ ยลง ก. การผลิตทมี่ คี วามสมดลุ กบั การบรโิ ภค
2.“ถา้ ราคาสินคา้ และบรกิ ารใดๆ เพม่ิ ข้นึ ความต้องการซอ้ื ข. ราคาสินค้าและการผลติ ถูกกำหนดโดยความตอ้ งการ
สนิ ค้าและบรกิ ารน้ันจะลดนอ้ ยลง ถา้ ราคาสนิ คา้ หรือ ของผบู้ ริโภค
บรกิ ารใดๆ ลดลง ความต้องการซอื้ สินคา้ และบรกิ ารน้นั จะ ค. ปรมิ าณสินคา้ ทผ่ี ู้บรโิ ภคและผผู้ ลติ มคี วามตอ้ งการ
เพ่ิมขน้ึ ” ข้อความดังกลา่ วสอดคลอ้ งกับข้อใด เทา่ กัน
ก. กฎของอุปสงค์ ข. กฎของอุปทาน ง. การเปลย่ี นแปลงในระดับราคาสนิ ค้า ซึ่งเกดิ จาก
ค. ตวั กำหนดอุปสงค์ ง. ตัวกำหนดอปุ ทาน แรงผลักของอปุ สงคแ์ ละอุปทาน
3. “ถา้ ในตลาดมผี ขู้ ายเพยี งรายเดยี ว อาจกำหนดราคาสินค้า 8. ขอ้ ดขี องตลาดแขง่ ขนั สมบรู ณ์ คอื อะไร
ให้สงู ได้” ข้อความดงั กล่าวสอดคลอ้ งกับปัจจัยการกำหนด ก. ผู้ผลิตสามารถกำหนดราคาสนิ คา้ ไดส้ งู
ราคาในข้อใด ข. ผบู้ รโิ ภคและผผู้ ลติ รว่ มมอื กันกำหนดราคาสนิ คา้
ก. กลุ่มเปา้ หมาย ข. สภาวะทางเศรษฐกจิ ค. ผบู้ ริโภคมโี อกาสในการเลือกซือ้ สนิ ค้าราคาทีต่ ่ำสุด
ค. การแขง่ ขนั ของตลาด ง. ต้นทุนการผลติ ง. ผผู้ ลิตสินคา้ มกี ารแขง่ ขนั กนั อย่างเสรเี พือ่ ขายสินค้า ให้
4. พฤตกิ รรมของผใู้ ดสอดคล้องกับกฎของอปุ สงค์ ได้มากทส่ี ุด
ก. ปราโมทย์ซื้อรองเทา้ ใหมเ่ พราะคู่เก่าชำรดุ 9. กรณีใดต่อไปนเี้ ปน็ ไปตามกฎของอุปทาน
ข. นารีซือ้ อาหารมากักตนุ ในชว่ งเกดิ อทุ กภยั ก. ระยะน้มี ะนาวพุ่งสูงจึงมผี ้บู รโิ ภคมะนาวนอ้ ยลง ข.
ค. ประภาซอ้ื กระเปา๋ ถือใหม่เพราะรูปแบบทนั สมยั ภตั ตาคารแหง่ น้มี ลี ูกค้าแน่นทุกวนั เพราะอาหาร
ง. ชมดาวซือ้ เส้อื ผ้าเพราะลดราคามากกวา่ ครง่ึ หน่ึง อรอ่ ย
5. หากนักเรยี นเป็นเจ้าของโรงงานผลติ นำ้ ตาลเพยี งแห่งเดยี ว ค. ขา้ วมีราคาตกตำ่ ชาวนาจงึ เกบ็ ข้าวไวร้ อขายเมอ่ื
ในเขตจังหวัด สนิ ค้าน้ำตาลของนกั เรยี น ราคาสูงกว่าน้ี
ถอื วา่ อย่ใู นตลาดประเภทใด ง. แมร้ าคาทองคำจะเพมิ่ สงู ขนึ้ มาก แต่รา้ นทองก็ยัง
ก. คลาดผูกขาด มลี กู ค้าสม่ำเสมอ
ข. ตลาดแข่งขนั สมบรู ณ์
ค. ตลาดทม่ี ผี ขู้ ายน้อยราย
ง. ตลาดกึ่งแก่งขันก่งึ ผกู ขาด
10. ขอ้ ความใดสอดคลอ้ งกบั ลักษณะของตลาดแขง่ ขนั สมบรู ณ์ 16. การกำหนดราคาในทางปฏบิ ตั ิมวี ัตถุประสงคห์ ลายประการ
ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. กอ้ ยซง่ึ เปน็ แมบ่ ้านมักจะซื้อผงซกั ฟอกหลายยห่ี อ้ ก. เพอื่ ให้ราคาสินคา้ เทา่ เทียมกนั
ข. เพอ่ื ขยายตลาดใหก้ วา้ งขวาง
เปลี่ยนกนั ไป เพราะคุณภาพและราคาใกลเ้ คียงกัน ค. เพ่ือสรา้ งยอดขาย
ง. เพือ่ สร้างกำไร
ข. ตลาดนดั กลางของจงั หวัดจะมคี นนยิ มไปซอื้ ของจำนวน
17. ลักษณะสำคญั ของตลาดแขง่ ขันสมบูรณ์เปน็ อยา่ งไร
มาก แตม่ สี ินค้าจำนวนนอ้ ย ก. ผ้ซู อ้ื หรือผูข้ ายในธรุ กิจมจี ำนวนน้อย
ข. เปน็ ตลาดทม่ี ีผู้ขายเพียงรายเดยี วที่ผูกขาดสินคา้
ค. บริษัท สหร่งุ เรือง ผลติ เตารดี ไฟฟ้ารนุ่ ใหมอ่ อกมา ซง่ึ มี ค. ผ้ซู ื้อหรือผ้ขู ายมีอทิ ธพิ ลในการกำหนดราคาสินค้า
ง. สนิ คา้ ในตลาดมลี กั ษณะทีเ่ หมอื นกัน สามารถใช้
ราคาแพงกวา่ เตารีดของบริษัทอื่น ทดแทนกันได้
ง. ในวนั ขน้ึ ปีใหมร่ ้านคา้ ท่ีเกง่ เปน็ เจา้ ของ ประกาศลด 18. การผูกขาดในตลาดแข่งขนั ไมส่ มบรู ณส์ ง่ ผลกระทบต่อ
ผบู้ ริโภคอยา่ งไร
ราคาสนิ คา้ ถูกกวา่ เดมิ 50 เปอร์เซน็ ต์ ก. ผู้บรโิ ภคไดซ้ ื้อสินคา้ ราคาถกู
ข. ผู้บริโภคต้องซือ้ สินค้าราคาแพง
11. การปรบั ตัวที่ทำใหป้ รมิ าณซ้อื และปรมิ าณขายเทา่ กันพอดี ค. ผู้บริโภคซอ้ื สินคา้ ในราคายตุ ธิ รรม
ง. ผู้บรโิ ภคตอ้ งซ้ือสนิ ค้าในปรมิ าณมาก
ณ ระดบั ราคาใดราคาหนง่ึ นั้น สอดคลอ้ งกบั ขอ้ ความใด
19. ธรุ กจิ ในข้อใดจดั อยใู่ นตลาดสินค้าบรกิ าร
ก. อุปทาน ข. อุปสงค์ ก. สวนปลูกสม้ ข. โรงงานผลติ เฟอร์นเิ จอร์
ค. โรงแรมรมิ ทะเล ง. รา้ นขายอปุ กรณไ์ ฟฟา้
ค. กลไกราคา ง. ราคาดลุ ยภาพ
20. ตลาดแขง่ ขนั สมบูรณม์ ขี อ้ ดอี ยา่ งไร
12. ข้อเสียของตลาดแข่งขนั สมบรู ณ์ คืออะไร ก. มีสนิ คา้ หลายชนิด ข. ราคาสินค้าหลากหลาย
ค. ผ้บู ริโภคพอใจสงู สดุ ง. ผูผ้ ลติ ได้กำไรเพ่ิมข้นึ
ก. ผบู้ ริโภคเป็นผกู้ ำหนดราคาสนิ คา้
ข. ผู้ผลติ ไมม่ ีการแข่งขนั กันอยา่ งแท้จรงิ
ค. ผู้ผลติ ได้กำไรเปน็ อตั ราสว่ นทคี่ อ่ นข้างมาก
ง. ผู้ผลิตสนิ ค้าลดต้นทนุ ทำให้คณุ ภาพสินค้าต่ำ
13. ถ้าราคาต้นทนุ การผลติ สนิ คา้ ท้ังหมดเฉลย่ี หนว่ ยละ
120 บาท ธุรกจิ หรอื ผู้ขายตอ้ งการกำไรร้อยละ 25 ดังน้ัน
ธุรกจิ หรอื ผูข้ ายจะต้องกำหนดราคาขายเท่าไร
ก. 150 บาท ข. 155 บาท
ค. 160 บาท ง. 165 บาท
14. ขอ้ ใด ไม่มี ความสอดคลอ้ งกนั ตามกฎของอุปสงค์
ก. เมื่อฤดูรอ้ น อปุ สงคข์ องไอศกรีมมมี ากขน้ึ
ข. เมือ่ ฤดรู อ้ น อุปสงคข์ องเส้อื กนั หนาวมมี ากขนึ้
ค. เมื่อฤดรู อ้ น อปุ สงคส์ ว่ นเกนิ ของไอศกรีมมากขนึ้
ง. เม่อื ฤดรู อ้ น อุปทานส่วนเกนิ ของเสือ้ กนั หนาวมี
มากขึน้
15. ข้อความเกยี่ วกับปัจจัยกำหนดอปุ ทานข้อใดถกู ตอ้ ง
ก. ถา้ ราคาสินค้าสูงข้นึ ผผู้ ลติ จะลดจำนวนการผลิต
ข. ถา้ หากสินค้ามรี าคาถกู ลง ผ้ผู ลิตจะไดก้ ำไรน้อยลง ทำ
ใหล้ ดการผลติ ลง
ค. จำนวนผผู้ ลิตถ้ามีมากขึน้ ทำใหอ้ ุปทานเพม่ิ ขึน้ ถา้
ผผู้ ลิตลดน้อยลง จะทำให้อปุ ทานลดลง
ง. ช่วงภาวะนำ้ มนั ราคาแพง ผผู้ ลติ รถยนตจ์ ะผลติ รถยนต์
ที่มขี นาดใหญท่ ป่ี ระหยดั นำ้ มนั ไดด้ ี
เฉลย
1. ข 2. ก 3. ค 4. ง 5. ก 6. ก 7. ง 8. ค 9. ค 10. ก
11. ง 12. ข 13. ก 14. ข 15. ค 16. ก 17. ง 18. ข 19. ค 20. ค
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เศรษฐกิจพอเพียงกบั การพัฒนาประเทศ
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1
ปัญหาทอ้ งถิน่ ของไทย แนวทางการแกป้ ญั หาและแนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพียง
กับการพฒั นาประเทศ เวลา 2 ช่วั โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วดั
1.1 ตัวชว้ี ดั
ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้
ทรพั ยากรทม่ี ีอย่จู ำกดั ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและคุ้มคา่ รวมทงั้ เขา้ ใจหลักการ
ของเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อการดำรงชวี ติ อยา่ งมดี ลุ ยภาพ
ม. 3/2 มสี ว่ นรว่ มในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาท้องถิ่นตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายปญั หาท้องถ่นิ ของไทย แนวทางการแกป้ ญั หาและแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพยี งกับการพฒั นาประเทศได้
(K)
2. จำแนกปัญหาท้องถ่นิ ของไทย แนวทางการแก้ปัญหาและแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี งกับการพฒั นาประเทศ
ได้ (P)
3. เห็นคุณค่าของศึกษาปัญหาท้องถิน่ ของไทย แนวทางการแกป้ ญั หาและแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี งกับการ
พัฒนาประเทศเพมิ่ มากข้ึน (A)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ สาระการเรียนรู้จากส่อื
1) สำรวจสภาพปัจจุบนั ปัญหา (พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศึกษา) - ปัญหาท้องถิ่นของไทย
ท้องถ่นิ ทัง้ ทางดา้ นสังคม - แนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนา
เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ท้องถนิ่ ตามปรชั ญาของเศรษฐกิจ
2) วิเคราะหป์ ัญหาของท้องถิ่นโดยใช้ พอเพยี ง
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง - แนวคดิ ของเศรฐกจิ พอเพียงกบั การ
3) แนวทางการแก้ไขและพฒั นา พัฒนาประเทศในระดบั ตา่ ง ๆ
ท้องถน่ิ ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง
4) แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี งกบั
การพฒั นาในระดบั ต่างๆ
4. มโนทัศนส์ ำคญั (Key Concept)
- ปญั หาทอ้ งถ่ินในปจั จุบนั มีทั้งปญั หาทางด้านสังคม เศรษฐกจิ และส่งิ แวดลอ้ ม ซึ่งจำเป็นจะต้องร้จู ักวเิ คราะห์
สาเหตขุ องปัญหา เพ่ือนำไปสู่การแก้ไขอยา่ งถูกต้อง ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
5. คำถามหลัก (Big Question)
- ปัญหาทอ้ งถ่ินในปจั จบุ ันได้แกป่ ัญหาใด และมีแนวทางการแกป้ ัญหาและพัฒนาทอ้ งถ่ินตามปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี งไดอ้ ยา่ งไร
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินยั
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
- ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
- ทกั ษะการแก้ปญั หา
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชวั่ โมงที่ 1
ข้นั นำ
ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครแู จ้งใหน้ ักเรยี นทราบถึงวธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชื่อเรื่อง
ที่
จะเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้
2. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพยี งกับการพัฒนา
ประเทศ
3. ครแู ละนักเรียนสนทนาถึงการใชช้ ีวิตแบบพอเพียงและกระตุ้นด้วยคำถาม เชน่
• นักเรยี นนำหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชอ้ ยา่ งไรบา้ ง
• เศรษฐกจิ พอเพยี งเหมาะสมกับคนไทยอย่างไร
4. ครใู ห้นกั เรยี นสนทนาเกี่ยวกับสภาพความเปน็ อยขู่ องคนในท้องถิ่นและตั้งคำถาม เช่น
• บุคคลในท้องถิน่ มีวิถีชวี ิตความเป็นอยู่อย่างไร
• มปี ัญหาอะไรบ้างทจี่ ะตอ้ งชว่ ยกันรีบเรง่ แก้ไข
• แนวทางการแก้ปัญหาท่ยี ่ังยืนสามารถทำได้อยา่ งไรบ้าง
5. ครูเช่ือมโยงเข้าส่บู ทเรยี น โดยอธบิ ายขยายความจากสงิ่ ท่นี กั เรียนตอบ จากน้นั อภปิ รายร่วมกนั
ขน้ั สอน
ขัน้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ ศกึ ษาคน้ คว้า จากหนงั สอื เรียนสังคมศกึ ษาฯ ม.3 หรอื จากแหล่ง
การเรียนรอู้ น่ื ๆ เชน่ หนงั สอื ในหอ้ งสมดุ เวบ็ ไซตใ์ นอินเทอรเ์ นต็ ในประเดน็ ดังน้ี
• ปญั หาทอ้ งถน่ิ ของไทย
• แนวทางการแกป้ ัญหาและพฒั นาท้องถ่ินตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
• แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งกับการพัฒนาประเทศในระดับต่าง ๆ
2. ครูแนะนำแหล่งข้อมูลสารสนเทศทน่ี ่าเชอ่ื ถอื ให้กับนกั เรยี นเพม่ิ เติม
ชวั่ โมงท่ี 2
ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
1. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ นำขอ้ มูลทตี่ นได้จากการรวบรวม มาอธบิ ายแลกเปล่ียนความรูร้ ะหวา่ งกัน
2. จากน้นั สมาชิกในกลุม่ ช่วยกนั คดั เลอื กขอ้ มูลท่นี ำเสนอเพือ่ ให้ได้ข้อมลู ทถี่ ูกต้อง
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอขอ้ มูลหนา้ ช้ันเรียนตามประเดน็ ที่ศึกษา อภิปราย และตอบ
คำถามรว่ มกัน
4. ครแู ละนักเรียนอภปิ รายรว่ มกนั เกยี่ วกับปญั หาสังคมและแนวทางแก้ไข และสุ่มตวั แทนนกั เรยี น
เพ่ือตอบคำถาม เชน่
1) ปญั หาสงั คมใดทีส่ ังคมไทยต้องตระหนักและร่วมมือป้องกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะเหตใุ ด
(แนวตอบ นกั เรียนสามารถตอบได้หลากหลายขน้ึ อยกู่ ับเหตุผล เช่น ปญั หายาเสพตดิ เพราะมกี าร
แพร่กระจายไปทวั่ ประเทศ ทำให้เด็กและเยาวชนไดร้ บั ผลกระทบจากโทษของยาเสพติดจำนวนมาก)
2) จากข้อ 1 มีวิธีการป้องกนั แกไ้ ขได้อย่างไร
(แนวตอบ บ้าน โรงเรียน ชมุ ชน ต้องช่วยกันดแู ลสอดส่อง ใหค้ วามรัก ความเอาใจใส่กับบคุ คล
ในครอบครัว ฯลฯ)
3) ปัญหาปากทอ้ งของคนไทยปญั หาใดทท่ี กุ ฝา่ ยต้องรว่ มมือแก้ไขอยา่ งเรง่ ด่วน เพราะเหตใุ ด
(แนวตอบ เช่น หนี้สินของครัวเรือน เพราะขณะน้ีคนในชนบทมีหนี้สินมาก ท้ังในระบบและนอก
ระบบ)
4) จากข้อ 3 มวี ธิ กี ารปอ้ งกนั แกไ้ ขไดอ้ ยา่ งไร
(แนวตอบ ให้ความรู้ สรา้ งความตระหนกั เพอ่ื ใหค้ นไทยพง่ึ พาตนเองได้)
5) หากเกิดปญั หาสิง่ แวดลอ้ มขน้ึ ในทอ้ งถ่ิน นกั เรียนจะชว่ ยแก้ปญั หาได้อย่างไร
(แนวตอบ นักเรยี นสามารถตอบได้หลากหลายข้ึนอยู่กับเหตุผล เช่น สร้างความตระหนักให้คนใน
ชมุ ชนเห็นความสำคัญของส่ิงแวดล้อม และช่วยกนั อนุรักษ์)
6) ทอ้ งถนิ่ ควรสง่ เสรมิ การนำภมู ปิ ัญญามาสรา้ งเป็นรายไดเ้ ลยี้ งคนในชุมชนได้อยา่ งไร
(แนวตอบ ควรมีการถ่ายทอดใหค้ นรุ่นใหม่นำวตั ถุดบิ ในท้องถนิ่ มาผลติ เปน็ สนิ คา้ เพือ่ ขายใหก้ บั คนใน
ทอ้ งถนิ่ และชมุ ชนอืน่ รวมถงึ ควรมกี ารบรหิ ารจัดการต้นทุน แรงงาน และเพมิ่ มูลค่าใหก้ ับสนิ คา้ )
7) คนไทยสามารถนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชไ้ ด้อยา่ งไรบ้าง
(แนวตอบ นกั เรียนสามารถตอบได้หลากหลายขึ้นอยู่กบั เหตุผล เช่น ใช้จ่ายอย่างประหยัด ประกอบ
อาชีพสุจริต พ่ึงพาตนเองให้มากทส่ี ดุ ฯลฯ)
8) คนในชุมชนสามารถมสี ่วนร่วมในการพฒั นาชมุ ชนใหเ้ ขม้ แข็งได้อย่างไรบ้าง
(แนวตอบ เช่น สร้างอาชพี ให้กับตนเองและรวมกลุ่มอาชีพ สรา้ งเครือขา่ ยกบั ชมุ ชนอนื่ ฯลฯ)
5. ครูซักถามข้อสงสยั ของนักเรยี นเพิ่มเติม
ขนั้ สรุป
ข้ันท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
1. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานท่ี 7.1 เร่ือง เศรษฐกจิ พอเพียงกับการพัฒนาประเทศ โดยครแู นะนำเพิ่มเตมิ
2. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกสมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3 เกย่ี วกบั เรื่อง ปญั หาทอ้ งถิ่นของไทย
แนวทางการแก้ปัญหาและแนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพียงกับการพฒั นาประเทศ เพ่ือเป็นการบ้านสง่
ครใู นชวั่ โมงถดั ไป
ขน้ั ประเมิน
ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบผลจากการตอบคำถาม การทำใบงาน และการทำแบบฝึกสมรรถนะ
ฯ
เศรษฐศาสตร์ ม.3
2. ครูประเมนิ ผลจากการตอบคำถาม การร่วมกนั ทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝึกสมรรถนะฯ เศรษฐศาสตร์ ม.3