The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ปลาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ปลาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย 2

ปลาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย 2

Keywords: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระปฐม,วิทยาลัย

147

คาอธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ

รหสั วิชา ค30210 รายวิชา คณิตศาสตร์เสริม 4 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องต้น ดีกรีของจุดยอด แนวเดิน วงจร
วิถีวัฏจักร กราฟเช่ือมโยง กราฟออยเลอร์ กราฟต้นไม้ ต้นไมแ้ ผท่ วั่

โดยจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณ์ใหผ้ ู้เรียนได้ศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เพอ่ื พฒั นา
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมทง้ั เขียนกราฟ เม่อื กาหนดจุด และเส้นเช่ือมให้ พรอ้ มท้งั
ระบไุ ดว้ า่ กราฟทีก่ าหนดให้เป็นกราฟออยเลอร์หรือไม่ และนาความรูไ้ ปประยุกต์ใช้

เพ่ือให้เกดิ เจตคติท่ีดีต่อวิชาคณติ ศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใชป้ ฏิบตั ติ นในสงั คม
ได้อยา่ งถกู ต้อง นาไปสู่คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนตามหลกั สูตร

ผลการเรยี นรู้
1. เขยี นกราฟเมื่อกาหนดจดุ (Vertex) และ เสน้ เชอ่ื ม (Edge) ให้ และระบุได้วา่ กราฟท่ี

กาหนดใหเ้ ป็นกราฟออยเลอรห์ รือไม่
2. นาความร้ทู ไี ด้เกยี่ วกับทฤษฎีกราฟไปประยุกตใ์ ชไ้ ด้

รวมทั้งหมด 2 ผลการเรียนรู้

148

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพม่ิ เติม

รหสั วชิ า ค30211 รายวิชา คณติ ศาสตร์เสรมิ 5 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์

ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษาความรู้เกี่ยวกับจานวนจริง สมบัติของจานวนจริง การหารากท่ีสองของจานวนจริง
การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวและสองตัวแปร การแก้อสมการเชงิ เส้นสองตัวแปรและเขยี นกราฟ
คาตอบของอสมการเชิงเสน้ สองตัวแปร

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพ่ือพัฒนา
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังสามารถอธบิ าย สามารถวเิ คราะหป์ ัญหา แก้ปัญหา และ
นาความรู้ทางคณิตศาสตร์ไปประยุกตใ์ ช้

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ย่างถูกต้อง นาไปสู่คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นตามหลักสูตร

ผลการเรยี นรู้
1. ใชส้ มบัติของจานวนจรงิ ในการคานวณและแกโ้ จทย์ปัญหาเกย่ี วกบั จานวนจรงิ ได้
2. หารากที่สองของจานวนจริงโดยการตง้ั หารได้
3. แก้สมการและอสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดยี วและสองตวั แปรได้
4. เขยี นกราฟคาตอบของสมการและอสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรได้

รวมทง้ั หมด 4 ผลการเรยี นรู้

149

คาอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เตมิ

รหสั วชิ า ค30212 รายวชิ า คณติ ศาสตรเ์ สริม 6 กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้เก่ียวกับพหุนาม การแยกตัวประกอบพหุนามดีกรีต่าง ๆ การใช้ทฤษฎี
เศษเหลือในการแยกตวั ประกอบพหุนาม เลขยกกาลงั การแกส้ มการเอ็กซ์โพเนนเชียล

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ให้ผู้เรยี นได้ศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพ่ือพัฒนา
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังสามารถอธิบาย สามารถวเิ คราะหป์ ัญหา แก้ปัญหา และ
นาความร้ทู างคณิตศาสตร์ไปประยุกตใ์ ช้

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง นาไปสคู่ ณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์และสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนตามหลักสตู ร

ผลการเรียนรู้
1. แยกตวั ประกอบพหุนามดีกรีตา่ ง ๆ ได้
2. ใชท้ ฤษฎีเศษเหลือในการแยกตวั ประกอบพหุนามได้
3. ใชค้ วามรเู้ รอื่ งเลขยกกาลังในการหาคา่ จานวนตา่ ง ๆ ได้
4. แก้สมการเอ็กซโ์ พเนนเชยี ลอยา่ งงา่ ยได้

รวมท้ังหมด 4 ผลการเรียนรู้

150

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

รหัสวชิ า ค30291 รายวิชา คณิตศาสตร์ พสวท.1 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้เก่ียวกับ การให้เหตุผล การพิสูจน์แบบต่าง ๆ การพิสูจน์โดยตรงจากเหตุ
การพิสูจน์โดยใช้ข้อความแย้งสลับท่ี การพิสูจน์แบบก็ต่อเมื่อ การพิสูจน์โดยวิธีแจงกรณี การพิสูจน์
โดยหาข้อขดั แยง้ การพิสจู น์โดยยกตัวอย่างคา้ น การพสิ จู นว์ ่ามี(อยา่ งน้อยหนง่ึ ) การพิสจู นโ์ ดยใช้หลัก
อุปนยั เชงิ คณติ ศาสตรแ์ ละการประยกุ ตใ์ ช้

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังมีความเขา้ ใจ พิสูจน์ และนาความรูใ้ นสาระที่เรียนไป
ประยุกต์ใช้

เพื่อให้เกิดเจตคติท่ีดีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง นาไปสู่คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นตามหลกั สูตร

ผลการเรียนรู้
1. มีความคดิ รวบยอดเกีย่ วกับวธิ กี ารพสิ ูจน์
2. พสิ จู นโ์ ดยใช้วธิ ีการตา่ ง ๆ ได้
3. นาวธิ ีการพิสูจน์แบบต่าง ๆ ไปประยุกต์ใชไ้ ด้

รวมทง้ั หมด 3 ผลการเรยี นรู้

151

คาอธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ

รหสั วิชา ค30292 รายวชิ า คณิตศาสตร์ พสวท. 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาความรู้ เกยี่ วกบั หลักอุปนัยเชงิ คณิตศาสตร์ ทฤษฎบี ทการหารลงตวั การหา ห.ร.ม.
โดยวธิ ีของยคุ ลดิ ทฤษฎกี ารหารลงตวั ของจานวนเฉพาะ สมบัติของคอนกรูเอ็นซ์ มอดโุ ล

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ให้ผูเ้ รียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังสามารถพิสูจน์โดยใช้หลักอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์
บอก และนาสมบัติต่างๆของคอนกรูเอ็นซ์ นาไปใชห้ า ห.ร.ม. และหาเศษจากการหารจานวนเต็มและ
จานวนเฉพาะ

เพือ่ ใหเ้ กดิ เจตคติทด่ี ีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใชป้ ฏิบัตติ นในสงั คม
ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง นาไปสูค่ ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และสมรรถนะสาคัญ ของผู้เรยี นตามหลักสูตร

ผลการเรียนรู้
1. นาความรู้เรื่องหลักอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์พิสูจน์ข้อความ p(n) สาหรับทุก n ท่ีเป็น

จานวนนบั ได้
2. นาทฤษฎบี ทการหารลงตัวไปแกป้ ญั หา โจทย์ท่ีกาหนดใหไ้ ด้
3. หา ห.ร.ม. โดยวิธขี องยคุ ลิดได้
4. นาทฤษฎตี า่ ง ๆ ของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ไปใช้ได้
5. นาทฤษฎีเกย่ี วกบั จานวนเฉพาะไปใช้ได้
6. นานิยามและสมบัติของคอนกรูเอ็นซไ์ ปหาเศษจากการหารจานวนเต็ม และแกป้ ญั หาได้

รวมท้งั หมด 6 ผลการเรียนรู้

152

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เติม

รหัสวชิ า ค30298 รายวชิ า โครงงานคณิตศาสตร์ 1 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาความรู้เก่ียวกับประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์ การจัดทาเค้าโครงของโครงงาน
คณิตศาสตร์ และการนาเสนอเค้าโครงของโครงงานคณิตศาสตร์

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ให้ผู้เรยี นได้ศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เพ่ือพัฒนา
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังสามารถอธิบาย นาเสนอแนวคิดและประเด็นปัญหา
ท่จี ดั ทาโครงงานคณิตศาสตร์ และนาความรูท้ างคณติ ศาสตรไ์ ปประยุกต์ใช้

เพื่อให้เกิดเจตคติท่ีดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง นาไปสคู่ ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นตามหลกั สตู ร

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายความหมาย คณุ ค่า และประเภทของโครงงานคณติ ศาสตรไ์ ด้
2. จัดทาเค้าโครงของโครงงานคณติ ศาสตรท์ ่ีจะดาเนินการวจิ ัยด้วยตนเองได้
3. นาเสนอเคา้ โครงโครงงานคณิตศาสตร์ตอ่ หน้าท่ีประชุมได้

รวมทงั้ หมด 3 ผลการเรียนรู้

153

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพม่ิ เติม

รหสั วิชา ค30299 รายวิชา โครงงานคณิตศาสตร์ 2 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษาความรเู้ ก่ียวกบั การจัดทาโครงงานคณติ ศาสตร์เขยี นรายงานโครงงานคณติ ศาสตร์ และ
การนาเสนอโครงงานคณติ ศาสตร์

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังสามารถอธิบาย นาเสนอแนวคิดและประเด็นปัญหา
ท่จี ดั ทาโครงงานคณิตศาสตร์ และนาความรทู้ างคณิตศาสตรไ์ ปประยุกตใ์ ช้

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ได้อยา่ งถูกตอ้ ง นาไปสคู่ ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนตามหลักสตู ร

ผลการเรยี นรู้
1. ดาเนนิ การทาโครงงานคณิตศาสตร์ตามแผนการปฏิบัตงิ านได้
2. เขยี นรายงานโครงงานคณติ ศาสตร์ได้
3. นาเสนอผลงานโครงงานคณติ ศาสตรใ์ นโรงเรยี นหรอื ชุมชนได้

รวมท้ังหมด 3 ผลการเรียนรู้

154

คําอธิบายรายวิชา
กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร

155

โครงสรา้ งรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์

ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย

รายวิชาพื้นฐาน

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4-6

ว30101 ฟิสิกสพ์ ้นื ฐาน 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกติ

ว30102 เคมีพื้นฐาน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกติ

ว30103 ชีววิทยาพ้นื ฐาน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์/ภาค 1.5 หนว่ ยกิต

ว30104 โลกดาราศาสตรพ์ ้นื ฐาน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกติ

ว30105 วทิ ยาการคานวณและเทคโนโลยี 3 ช่ัวโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกิต

รายวชิ าเพมิ่ เติม

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6

ว31201 ฟิสกิ ส์ 1 4 ช่วั โมง/สัปดาห/์ ภาค 2.0 หนว่ ยกิต

ว32202 ฟิสกิ ส์ 2 4 ชัว่ โมง/สัปดาห์/ภาค 2.0 หน่วยกิต

ว32203 ฟสิ กิ ส์ 3 4 ช่วั โมง/สปั ดาห/์ ภาค 2.0 หน่วยกติ

ว33204 ฟสิ ิกส์ 4 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์/ภาค 1.5 หนว่ ยกิต

ว33205 ฟสิ ิกส์ 5 3 ชั่วโมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกติ

ว30211 การโปรแกรมและการประยุกต์ 2 ช่วั โมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกติ

ว30212 การสร้างภาพเคล่ือนไหว 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกติ

ว30213 การใช้โปรแกรมประยกุ ต์ในองค์กรสมยั ใหม่ 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกิต

ว30214 ความร้พู ้ืนฐานห่นุ ยนต์ 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกิต

ว30215 โครงงานทางวศิ วกรรม 3 ชัว่ โมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.5 หนว่ ยกติ

ว30216 พื้นฐานการเขยี นแบบทางวิศวกรรม 3 ช่วั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.5 หนว่ ยกิต

ว30217 ปฏบิ ตั กิ ารวิศวกรรม 3 ชั่วโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.5 หนว่ ยกติ

ว30218 พฤติกรรมองคก์ รเทคโนโลยีสารสนเทศ 3 ชั่วโมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกิต

ว30219 สอื่ สรา้ งสรรค์ด้วยคอมพวิ เตอร์ 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกิต

ว30220 โปรแกรมตารางคานวณ 2 ชั่วโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกิต

ว31221 เคมี 1 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกิต

ว32222 เคมี 2 3 ชัว่ โมง/สัปดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกิต

ว32223 เคมี 3 3 ชั่วโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกิต

ว33224 เคมี 4 3 ช่ัวโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.5 หนว่ ยกติ

ว33225 เคมี 5 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกิต

156

ว30221 เคมีเสรมิ ประสบการณ์ 1 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์/ภาค 0.5 หนว่ ยกติ
ว30222 เคมเี สรมิ ประสบการณ์ 2 1 ช่วั โมง/สปั ดาห/์ ภาค 0.5 หนว่ ยกิต
ว30228 เคมีเพิ่มพูนประสบการณ์ 1 1 ชัว่ โมง/สัปดาห/์ ภาค 0.5 หน่วยกติ
ว30229 เคมเี พิ่มพูนประสบการณ์ 2 1 ช่วั โมง/สัปดาห/์ ภาค 0.5 หน่วยกิต
ว30231 การสร้างเวบ็ ไซตด์ ้วยโปรแกรมประยกุ ต์ 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกติ
ว30232 การสรา้ งแอพพลเิ คชั่นบนระบบปฏิบัติการ 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกิต
ว30233 การตัดต่อภาพยนตร์ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกิต
ว30234 การสร้างเกมดว้ ยคอมพิวเตอร์ 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกติ
ว30235 คอมพิวเตอร์เชงิ พาณิชย์ 2 ชั่วโมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกิต
ว30236 การสร้างเว็บแอพพลเิ คช่ัน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกติ
ว30237 การสรา้ งสอ่ื สิง่ พิมพ์ 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกิต
ว30238 ความรพู้ ื้นฐานการเขยี นโปรแกรม 3 ช่วั โมง/สัปดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกิต
ว30239 พนื้ ฐานแอพพลิเคชัน่ เบือ้ งต้น 3 ช่วั โมง/สปั ดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกติ
ว30240 เครอื ข่ายทางเทคโนโลยี 3 ช่ัวโมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกติ
ว30241 ชีววทิ ยาเสริมประสบการณ์ 1 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาค 0.5 หน่วยกติ
ว30242 ชวี วิทยาเสริมประสบการณ์ 2 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห/์ ภาค 0.5 หน่วยกติ
ว30248 ชีววทิ ยาเพ่ิมพูนประสบการณ์ 1 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห/์ ภาค 0.5 หนว่ ยกติ
ว30249 ชวี วิทยาเพม่ิ พูนประสบการณ์ 2 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์/ภาค 0.5 หน่วยกิต
ว31241 ชีววิทยา 1 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกิต
ว32242 ชีววทิ ยา 2 3 ช่วั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.5 หนว่ ยกติ
ว32243 ชวี วิทยา 3 3 ชัว่ โมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกติ
ว33244 ชวี วทิ ยา 4 3 ช่ัวโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.5 หนว่ ยกติ
ว33245 ชวี วทิ ยา 5 3 ชั่วโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกติ
ว30251 เทคนคิ การออกแบบ 3 ชวั่ โมง/สัปดาห/์ ภาค 1.5 หน่วยกติ
ว30252 พน้ื ฐานการจัดการฐานข้อมูล 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกิต
ว30253 โครงสร้างซอฟต์แวรท์ างวิศวกรรม 3 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกติ
ว30258 การจัดการฐานข้อมูล 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกิต
ว30261 โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 2 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกิต
ว30262 โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 2 2 ชัว่ โมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกติ
ว30263 โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 3 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกิต
ว30264 โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 4 2 ชั่วโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกติ

157

ว30265 โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 5 2 ช่วั โมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกิต
ว30281 เทคนิคปฏบิ ตั ิการพ้นื ฐานทางวิทยาศาสตร์ 1 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกิต
ว30282 เทคนคิ ปฏบิ ตั ิการพืน้ ฐานทางวิทยาศาสตร์ 2 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกิต
ว30285 ระเบยี บวธิ ีวิจัยเบอื้ งตน้ 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.5 หน่วยกิต
ว30290 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกิต
ว30291 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ 2 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกิต
ว30292 วิทยาศาสตร์เพิ่มเตมิ เรียนลว่ งหนา้ 8 ช่วั โมง/สปั ดาห์/ภาค 4.0 หนว่ ยกติ

158

คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

รหัสวิชา ว30101 รายวิชา ฟิสิกสพ์ นื้ ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1/2 เวลา 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาหลกั การของความเร็ว ความเรง่ การหาแรงลพั ธ์ แรงกริ ิยา-แรงปฏิกิริยา การเคลื่อนที่
แนวตรง การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ การเคลื่อนท่ีแบบวงกลม การเคล่ือนท่ีแบบส่ัน แรงโน้มถ่วง
ท่ีสนามแม่เหล็กเน่ืองจากกระแสไฟฟ้า แรงแม่เหล็กท่ีกระทาต่ออนุภาคท่ีมีประจุไฟฟ้าท่ีเคลื่อนที่
ในสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กท่ีกระทาต่อลวดตัวนาที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านในสนามแม่เหล็ก หลักการ
ทางานของมอเตอร์ การเกดิ อีเอ็มเอฟ แรงเข้ม แรงอ่อน พลังงานนิวเคลียร์ ฟิชชัน ฟิวชัน การเปล่ียน
พลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า การสะท้อน การหักเห การเล้ียวเบน การรวมคลื่น
ความถี่ธรรมชาติ สมบัติของคล่ืนเสียง ความเข้มเสียง ระดับเสียง บีตส์ ปรากฎการณ์ดอปเพลอร์
การสั่นพ้องของสียง การมองเห็นแสงสี ความผิดปกติในการมองเห็นสี แผ่นกรองแสงสี
การผสมแสงสี การผสมสารสี คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าและการเปรียบเทียบการส่ือสารด้วยสัญญาณแอนะล็อก
กบั สัญญาณดิจทิ ัล

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ เขียนกราฟ บรรยาย อธิบาย
สร้างแบบจาลอง ออกแบบการทดลอง เขียนแผนภาพ การวัด แก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้น
ข้อมูล

เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีได้เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
และแก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตเห็นคุณค่า
ของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์
กษตั ริย์ มวี ินัยอยูอ่ ย่างพอเพียง ซือ่ สัตย์ สจุ รติ ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มัน่ ในการทางาน และมจี ติ สาธารณะ

รหสั ตวั ชี้วดั
ว 2.2 ม.4-6/1-10
ว 2.3 ม.4-6/1-12

รวมท้ังหมด 22 ตวั ชี้วัด

159

คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหัสวิชา ว30102 รายวชิ า เคมีพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1/2 เวลา 60 ช่ัวโมง จานวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาและระบุว่าสารเป็นธาตุหรือสารประกอบ และอยู่ในรูปอะตอม โมเลกุล หรือไอออน
จากสูตรเคมี เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของแบบจาลองอะตอมของโบร์
กับแบบจาลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก ระบุจานวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของอะตอม
และไอออนท่ีเกิดจากอะตอมเดียว เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุและระบุการเป็นไอโซโทป
ระบุหมู่และคาบของธาตุและระบุว่าธาตุเป็นโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ กลุ่มธาตุเรพรีเซนเททีฟ
หรือกลุ่มธาตุแทรนซิชันจากตารางธาตุ เปรียบเทียบสมบัติการนาไฟฟ้า การให้และรับอิเล็กตรอน
ระหว่างธาตุในกลุ่มโลหะกับอโลหะ สืบค้นข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างประโยชน์และอันตรายท่ีเกิดจาก
ธาตุเรพรีเซนเททีฟและธาตุแทรนซิชัน ระบุว่าพันธะโคเวเลนต์เป็นพันธะเดี่ยว พันธะคู่
หรือพันธะสาม และระบุจานวนคู่อิเล็กตรอนระหว่างอะตอมคู่ร่วมพันธะจากสูตรโครงสร้าง ระบุ
สภาพข้ัวของสารท่ีโมเลกุลประกอบด้วย 2 อะตอม ระบุสารท่ีเกิดพันธะไฮโดรเจนได้จาก
สูตรโครงสร้าง อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างจุดเดือดของสารโคเวเลนต์ระหว่างโมเลกุลตามสภาพข้ัว
หรือการเกิดพันธะไฮโดรเจน เขียนสูตรเคมีของไอออนและสารประกอบไอออนิกระบุว่าสารเกิดการ
ละลายแบบแตกตัวหรือไม่แตกตัวพร้อมให้เหตุผลและระบุว่าสารละลายที่ได้เป็นสารละลายอิเล็กโทร
ไลต์หรือนอนอิเล็กโทรไลต์ ระบุสารประกอบอินทรีย์ประเภทไฮโดรคาร์บอนว่าอ่ิมตัวหรือไม่อิ่มตัว
จากสูตรโครงสร้าง สบื คน้ ข้อมูลและเปรยี บเทยี บสมบตั ทิ างกายภาพระหวา่ งพอลิเมอร์และมอนอเมอร์
ของพอลิเมอร์ชนิดน้ัน ระบุสมบัติความเป็นกรด-เบส จากโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์
อธิบายสมบัติการละลายในตัวทาละลายชนิดต่าง ๆ ของสาร วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์
ระหว่างโครงสร้างกับสมบัติเทอร์มอพลาสติกและเทอร์มอเซตของพอลิเมอร์และการนาพอลิเมอร์ไป
ใช้ประโยชน์ สืบค้นข้อมูลและนาเสนอผลกระทบของการใช้ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ที่มีต่อส่ิงมีชีวิต
และส่ิงแวดล้อมพร้อมแนวทางป้องกันหรือแก้ไข ระบุสูตรเคมีของสารต้ังต้น ผลิตภัณฑ์
และแปลความหมายของสัญลักษณ์ในสมการเคมีปฏิกิริยาเคมี ทดลองและอธิบายผล
ของความเข้มข้น พื้นที่ผิว อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สืบค้น
ข้อมูลและอธิบายปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ประโยชน์ในชีวิตประจาวันหรือ
ในอุตสาหกรรม อธิบายความหมายของปฏิกิริยารีดอกซ์ อธิบายสมบัติของสารกัมมันตรังสี
และคานวณครึ่งชีวิตและปริมาณของสารกัมมันตรังสี สืบค้นข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างประโยชน์
ของสารกัมมันตรงั สแี ละการป้องกนั อนั ตรายเกิดจากกัมมันตภาพรังสี

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบค้นข้อมูลระบุเปรียบเทียบวิเคราะห์บรรยาย
อธิบายทดลองนาเสนอและคานวณเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้
มคี วามสามารถ ในการตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหา และใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลและแกป้ ญั หา

160

เจคติ คุณลักษณะ เพื่อให้เกิดความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีทักษะ
ในการใช้ชีวิตเพ่ือให้สามารถดารงชีวิตในสังคม รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีวินัย
อยูอ่ ยา่ งพอเพียง ซอื่ สัตยส์ ุจริต ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มั่นในการทางาน และมีจิตสาธารณะ

รหสั ตัวชี้วัด
ว 2.1 ม.4-6/1-25

รวมทั้งหมด 25 ตัวช้ีวัด

161

คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน

รหสั วิชา ว30103 รายวชิ า ชีววิทยาพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1/2 เวลา 60 ช่ัวโม จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาโครงสร้างของเยอ่ื หมุ้ เซลล์ การลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ การรักษาดุลยภาพ
ของร่างกายมนุษย์ กลไกการควบคุมดุลยภาพของน้าและสารในร่างกาย กรด-เบสในเลือดและ
อุณหภูมิภายในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ และการดารงชีวิตของพืช สารอินทรีย์
ในพืช ปัจจัยบางประการท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชและการตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า
กระบวนการถ่ายทอดสารพันธุกรรม การแปรผันทางพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน การเกิด
ความหลากหลายทางชีวภาพ ผลของความหลากหลายทางชีวภาพและเทคโนโลยีชีวภาพที่มีต่อมนุษย์
และสิ่งแวดล้อม กระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติและผลของกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ
ต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ดุลยภาพของระบบนิเวศ การเปล่ียนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิต
ทรัพยากรธรรมชาติและการใช้ประโยชนจากทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมและปัญหาส่ิงแวดล้อม
รวมท้ังแนวทางในการแกไขปัญหาส่ิงแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนการอนุรักษ์และ
ส่งิ แวดล้อมและพฒั นาทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งย่ังยนื

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล
การสังเกต การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบายและสรุป เพื่อให้เกิดเจตคติ
คุณลักษณะ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสงิ่ ที่เรียนรู้ มีทักษะในการใช้ชวี ิต

เพ่ือให้สามารถดารงชีวิตในสังคม รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีวินัย อยู่อย่าง
พอเพียง ซ่ือสัตย์ สุจรติ ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มั่นในการทางาน และมจี ิตสาธารณะ

รหสั ตวั ช้ีวัด
ว1.1 ม.4/1, ว1.1 ม.4/2, ว1.1 ม.4/3, ว1.1 ม.4/4
ว1.2 ม.4/1, ว1.2 ม.4/2, ว1.2 ม.4/3, ว1.2 ม.4/4, ว1.2 ม.4/5, ว1.2 ม.4/6, ว1.2 ม.4/7
ว1.2 ม.4/8, ว1.2 ม.4/9, ว1.2 ม.4/10, ว1.2 ม.4/11, ว1.2 ม.4/12
ว1.3 ม.4/1, ว1.3 ม.4/2, ว1.3 ม.4/3, ว1.3 ม.4/4, ว1.3 ม.4/5, ว1.3 ม.4/6

รวมทั้งหมด 22 ตวั ชว้ี ดั

162

คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน

รหัสวิชา ว30104 รายวิชา โลกดาราศาสตร์พน้ื ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1/2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาวิเคราะห์การเกิดและวิวัฒนาการของเอกภพ หลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง
โครงสรา้ งและองคป์ ระกอบของกาแล็กซที างชา้ งเผือก การเกิดดาวฤกษ์ ความส่องสว่างและโชติมาตร
ของดาวฤกษ์ สีและอุณหภูมิผิวของดาวฤกษ์ วิวัฒนาการของดาวฤกษ์ การกาเนิดระบบสุริยะ
ดวงอาทิตย์ เขตของบริวารดวงอาทิตย์ การสารวจอวกาศโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ การใช้ประโยชน์
จากเทคโนโลยอี วกาศ โครงสรา้ งโลก การแบง่ โครงสรา้ งโลก หลักฐานและสมมติฐานการเคล่ือนที่ของ
ทวีป หลักฐานและข้อมูลทางธรณีวิทยาท่ีสนับสนุนการเคลื่อนตัวของทวีป กระบวนการท่ีทาให้เกิด
การเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณี ลักษณะการเคล่ือนที่ของแผ่นธรณี แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ
พลงั งานจากดวงอาทิตย์ การหมุนเวยี นของอากาศ ทศิ ทางการเคล่ือนที่ของอากาศ การหมุนเวียนของ
อากาศตามเขตละติจูด ปัจจัยท่ีทาให้เกิดและผลการหมุนเวียนของน้าผิวหน้าในมหาสมุทร ปัจจัยท่ี
มีผลต่อการเปล่ียนแปลงและภมู ิอากาศของโลก สัญลกั ษณ์ลมฟ้าอากาศทส่ี าคัญจากแผนที่อากาศ

โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสังเกต
การสืบคน้ ข้อมูล วิเคราะห์ ระบุ ยกตัวอยา่ งและนาเสนอ

เพ่ือให้เกิดความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีทักษะในการใช้ชีวิตเพื่อให้
สามารถดารงชีวิตในสังคม รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีวินัย อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสัตย์
สุจรติ ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มั่นในการทางานและมจี ิตสาธารณะ

รหสั ตัวชี้วดั
ว 3.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4, ม.6/5, ม.6/6, ม.6/7, ม.6/8, ม.6/9, ม.6/10
ว 3.2 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4, ม.6/5, ม.6/6, ม.6/7, ม.6/8, ม.6/9, ม.6/10,
ม.6/11,ม.6/12,ม.6/13,ม.6/14

รวมท้ังหมด 24 ตัวชว้ี ดั

163

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

รหัสวิชา ว30105 รายวิชา วทิ ยาการคานวณและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรยี นที่ 1/2 เวลา 60 ช่วั โมง จานวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยีและแนวคิดเชิงคานวณวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงและ
ผลกระทบของเทคโนโลยีท่ีเกิดข้ึนและความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืนๆ การระบุปัญหา
การรวบรวม การวิเคราะห์และการสังเคราะห์ข้อมูล การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้ซอฟแวร์
ช่วยในการออกแบบ การทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไขและนาเสนอ
ผลการแก้ปัญหา การเลือกวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี
ทซ่ี บั ซ้อนในการแกป้ ญั หา และการประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการพัฒนาโครงงาน

โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยีและแนวคิดเชิงคานวณ และ
การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยีท่ีเกิดข้ึน ปฏิบัติการเลือกปัญหา รวบรวมข้อมูล
ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม ทดสอบเครื่องมือและปรับปรุงแก้ไข
และนาเสนอผา่ นการทาโครงงาน

เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจและทักษะในการวิเคราะห์งาน สร้างงาน และนาเสนอผลงาน
ด้านคอมพิวเตอร์โดยนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชิ้น งานท่ีตนเองสร้างข้ึน
อย่างมีความรับผิดชอบปลูกฝังความมีวินัยความเพียรเพ่ือฝึกนิสัยรักการทางานและปฏิบัติ
ไดด้ ว้ ยตนเอง

รหัสตัวชี้วัด
ว 4.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.5/1
ว.4.2 ม.4/1, ม.5/1, ม.6/1

รวมทง้ั หมด 9 ตัวชี้วดั

164

คาอธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เติม

รหสั วิชา ว31201 รายวิชา ฟิสิกส์ 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1/2 เวลา 80 ช่ัวโมง จานวน 2.0 หน่วยกติ

ศึกษาประวตั คิ วามเป็นมาทางฟสิ ิกส์ การเคลื่อนท่ี ตาแหน่ง ระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว
ความเร็ว ความเรง่ การเคล่ือนที่แนวตรง แรงและกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล
แรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุ สัมประสิทธ์ิความเสียดทาน การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์
การเคล่ือนที่แบบวงกลม การโคจรของดาวเทียม หลักการของกลศาสตร์ในเร่ืองงานและพลังงาน
ความสัมพันธ์ระหว่างงานและพลังงานจลน์ กฎการอนุรักษ์พลังงาน กาลัง เครื่องกลอย่างง่าย
และประสทิ ธภิ าพของเครื่องกล

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ เขียนกราฟ บรรยาย อธิบาย
สร้างแบบจาลอง ออกแบบการทดลอง เขียนแผนภาพ การวัด แก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้น
ขอ้ มูล

เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่ได้เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
และแก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตเห็นคุณค่า
ของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์
กษตั ริย์ มวี ินัยอยอู่ ย่างพอเพยี ง ซ่อื สตั ย์ สุจรติ ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มัน่ ในการทางาน และมีจิตสาธารณะ

ผลการเรยี นรู้
1. สืบค้น และอธิบายการค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมท้ังพัฒนาการ

ของหลักการและแนวคิดทาง ฟิสิกส์ท่ีมีผลต่อการแสวงหาความรู้ใหม่และการพัฒนาเทคโนโลยี
2. วัด และรายงานผลการวัดปริมาณทางฟิสิ กส์ ได้ถูกต้องเหมาะสม โดยนา

ความคลาดเคล่ือน ในการวดั มาพจิ ารณาในการนาเสนอผล รวมท้ังแสดงผลการดลองในรูปของกราฟ
วิเคราะหแ์ ละแปลความหมายจากกราฟเสน้ ตรง

3. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตาแหน่ง การกระจัด ความเร็ว ความเร่ง
ของการเคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงท่ีมีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลอง
หาคา่ ความเร่งโนม้ ถ่วงของโลก และ คานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ ง

4. ทดลอง และอธิบายการหาแรงลพั ธ์ของแรงสองแรงที่ทามุมต่อกนั
5. เขียนแผนภาพของแรงท่ีกระทาต่อวัตถุอิสระ ทดลอง และอธิบายกฎการเคลื่อนที่
ของนิวตันและการใช้กฎการเคล่ือนท่ีของนิวตันกับสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ รวมทั้งคานวณ
ปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง

165

6. อธิบายกฎความโน้มถ่วงสากลและผลของสนามโน้มถ่วงที่ทาให้วัตถุมีน้าหนัก
รวมทัง้ คานวณ ปรมิ าณต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง

7. วิเคราะห์ อธบิ าย และคานวณแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หนึ่ง ๆ ในกรณี
ที่วตั ถุหยุดน่ิงและเคลือ่ นท่ี รวมท้ังทดลองหาสมั ประสิทธิ์

8. อธิบาย วิเคราะห์ และคานวณหาปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคล่ือนที่แบบโพรเจกไทล์
และทดลองการเคล่อื นทีแ่ บบโพรเจกไทล์

9. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการเคลื่อนที่
อัตราเร็วเชิงเส้น อัตราเร็วเชิงมุม และมวลของวัตถุ ในการเคลื่อนท่ีแบบวงกลมในระนาบระดับ
รวมทั้งคานวณปริมาณต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องและประยุกต์ใช้ความรู้การเคล่ือนที่แบบวงกลม
ในการอธบิ ายการโคจรของดาวเทยี ม

10. วิเคราะห์และคานวณงานของแรงคงตัว จากสมการและพื้นท่ีใต้กราฟความสัมพันธ์
ระหวา่ งแรงกับตาแหน่ง รวมทัง้ อธบิ ายและคานวณกาลงั เฉล่ยี

11. อธิบายและคานวณพลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพันธ์
ระหวา่ งงานกับพลงั งานจลน์ ความสมั พันธร์ ะหว่างงานกับพลังงานศักย์โน้มถ่วง ความสัมพันธ์ระหว่าง
ขนาดของแรงที่ใช้ดึงสปริงกับระยะที่สปริงยืดออก และความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น
ร ว ม ทั้ ง อ ธิ บ า ย ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ร ะ ห ว่ า ง ง า น ข อ ง แ ร ง ลั พ ธ์ แ ล ะ พ ลั ง ง า น จ ล น์ แ ล ะ ค า น ว ณ ง า น
ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากแรงลัพธ์

12. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกลรวมท้ังวิเคราะห์และคาน วณปริมาณต่าง ๆ
ท่ีเกีย่ วขอ้ งกับการเคลอ่ื นทขี่ องวตั ถุในสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยใช้กฎการอนรุ ักษพ์ ลังงานกล

13.อธิบายการทางาน ประสิทธิภาพ และการได้เปรียบเชิงกลอย่างง่ายบางชนิด โดยใช้
ความรเู้ ร่อื งงานและสมดลุ กล รวมท้ังคานวณประสิทธภิ าพ และการได้เปรยี บเชิงกล

รวมท้งั หมด 13 ผลการเรยี นรู้

166

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม

รหัสวิชา ว32202 รายวิชา ฟิสิกส์ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 ภาคเรยี นที่ 1/2 เวลา 80 ชว่ั โมง จานวน 2.0 หนว่ ยกติ

ศึกษาหลักการเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย ความถ่ีธรรมชาติ การส่ันพ้อง
ปรากฏการณ์ที่เก่ียวกับคลื่น ชนิดของคล่ืน ส่วนประกอบของคลื่น สมการคลื่น หลักการ
ของฮอยเกนส์ หลักการซ้อนทับ สมบัติของคลื่น ได้แก่ การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด
การเลี้ยวเบน ปรากฏการณ์ที่เก่ียวกับคล่ืนเสียง อัตราเร็วของเสียง ความเข้มเสียง ระดับเสียง
การได้ยิน คุณภาพเสียงและมลพิษทางเสียง การเกิดการส่ันพ้อง การเกิดบีตส์และคล่ืนน่ิง
ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คลื่นกระแทก แสงเชิงฟิสิกส์ ธรรมชาติของแสง การแทรกสอดและ
การเล้ียวเบนของแสงผ่านสลิตและเกรตติง การสะท้อนของแสงโดยกระจกราบและกระจกโค้ง
การหักเหของแสงผ่านเลนส์บางและการสะท้อนกลับหมด ลึกจริงและลึกปรากฏ ปรากฏการณ์
ธรรมชาตทิ ี่เก่ยี วกบั แสง การมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ เขียนกราฟ บรรยาย อธิบาย
สร้างแบบจาลอง ออกแบบการทดลอง เขียนแผนภาพ การวัด แก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้น
ข้อมลู

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่ได้เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
และแก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตเห็นคุณค่า
ของการนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์
กษัตริย์ มวี ินัยอยอู่ ย่างพอเพยี ง ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน และมจี ิตสาธารณะ

ผลการเรียนรู้
1. ทดลองและอธิบายการเคล่ือนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของวัตถุติดปลายสปริงและ

ลกู ตุ้มอย่างงา่ ย รวมทั้งคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
2. อธิบายความถ่ีธรรมชาติของวัตถแุ ละการเกดิ การส่นั พ้อง
3. อธิบายปรากฏการณ์คลื่น ชนิดของคลื่นส่วนประกอบของคลื่น การแผ่ของหน้าคล่ืน

ด้วยหลักการของฮอยเกนส์ และการรวมกันของคลื่นตามหลักการซ้อนทับ พร้อมท้ังคานวณอัตราเร็ว
ความถ่ี และความยาวคลืน่

4. สังเกตและอธิบายการสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเลี้ยวเบน
ของคลน่ื ผวิ นา้ รวมทงั้ คานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง

5. อธิบายการเกิดเสียง การเคลื่อนที่ของเสียงความสัมพันธ์ระหว่างคลื่น การกระจัดของอนุภาค
กับคลื่นความดัน ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็วของเสียงในอากาศที่ข้ึนกับอุณหภูมิในหน่วยองศาเซลเซียส

167

สมบัตขิ องคล่ืนเสียง ไดแ้ ก่ การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด การเลี้ยวเบน รวมท้ังคานวณปริมาณต่าง ๆ
ทเี่ กยี่ วข้อง

6. อธิบายความเขม้ เสยี ง ระดับเสียง องคป์ ระกอบของการได้ยิน คุณภาพเสียง และมลพิษ
ทางเสยี ง รวมท้งั คานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ ง

7. ทดลอง และอธิบายการเกิดการส่ันพ้องของอากาศในท่อปลายเปิดหนึ่งด้าน รวมท้ัง
สังเกตและอธิบายการเกิดบีตส์ คล่ืนนิ่ง ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คลื่นกระแทกของเสียง คานวณ
ปรมิ าณต่าง ๆ ทเี่ กีย่ วข้อง และนาความร้เู รือ่ งเสยี งไปใช้ในชวี ิตประจาวัน

8. ทดลอง และอธิบายการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่และเกรตติง การเล้ียวเบนและ
การแทรกสอดของแสงผ่าน สลติ เดย่ี วรวมทั้งคานวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ ง

9. ทดลอง และอธิบายการสะท้อนของแสงท่ีผิววัตถุตามกฎการสะท้อน เขียนรังสีของแสง
และคานวณตาแหนง่ และขนาดภาพของวัตถุ เมอ่ื แสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลม
รวมทง้ั อธิบายการนาความร้เู ร่อื งการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบ และกระจกเงาทรงกลมไปใช้
ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน

10. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนีหักเห มุมตกกระทบ และมุมหักเห
รวมท้ังอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความลึกจริงและความลึกปรากฏ มุมวิกฤตและการสะท้อนกลับ
หมดของแสง และคานวณปรมิ าณต่างๆ ทเ่ี ก่ียวข้อง

11. ทดลองและเขียนรังสีของแสงเพ่ือแสดงภาพที่เกิดจากเลนส์บาง หาตาแหน่ง ขนาด ชนิดของ
ภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างระยะวัตถุระยะภาพและความยาวโฟกัส รวมท้ังคานวณปริมาณต่าง ๆ
ทเ่ี กี่ยวข้อง และอธบิ ายการนาความรูเ้ รอื่ งการหักเหของแสงผ่านเลนส์บางไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน

12. อธบิ ายปรากฏการณ์ธรรมชาตทิ เ่ี ก่ียวกับแสง เช่น รุ้ง การทรงกลด มิราจ และการเห็น
ท้องฟา้ เป็นสตี า่ งๆ ในชว่ งเวลาต่างกัน

13. สังเกต และอธิบายการมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี
รวมท้งั อธิบายสาเหตุของการบอดสี

รวมทั้งหมด 13 ผลการเรยี นรู้

168

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เติม

รหัสวชิ า ว32203 รายวิชา ฟสิ ิกส์ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 ภาคเรียนที่ 1/2 เวลา 80 ช่วั โมง จานวน 2.0 หน่วยกิต

ศึกษาหลักการของโมเมนตัมของวัตถุและการดล การชนกันในหนึ่งมิติแบบยืดหยุ่น
และแบบไมย่ ืดหยุน่ สมดลุ กลของวตั ถุ โมเมนตแ์ ละแรงคู่ควบ การเกิดประจุไฟฟ้าของวัตถุที่เป็นกลาง
ทางไฟฟ้าโดยการขัดสีกันและการเหนี่ยวนาไฟฟ้าสถิต กฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า แรงไฟฟ้า
ท่ีกระทากับอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าในสนามไฟฟ้า พลังงานศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความต่างศักย์
ระหว่างสองตาแหน่ง ตัวเก็บประจุ ความจุและพลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ หลักการทางาน
ของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าและปรากฏการณ์ในชีวิตประจาวันท่ีเกี่ยวกับไฟฟ้าสถิ ตการเคล่ือนท่ี
ของอิเล็กตรอนอิสระ กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนา ความเร็วลอยเลื่อนของอิเล็กตรอนอิสระ
ความหนาแน่นของอิเล็กตรอน กฎของโอห์ม ความต้านทานและสภาพต้านทานของตัวนาโลหะที่
อุณหภูมิคงตัว ตัวต้านทาน ความต้านทานสมมูล ต่อตัวต้านทานแบบอนุกรม แบบขนาน แบบผสม
อีเอ็มเอฟของแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้า กาลังไฟฟ้า การต่อแบตเตอรีแบบอนุกรม
และแบบขนาน การเปล่ยี นพลังงานทดแทนเปน็ พลงั งานไฟฟ้าและนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ เขียนกราฟ บรรยาย อธิบาย
สร้างแบบจาลอง ออกแบบการทดลอง เขียนแผนภาพ การวัด แก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้น
ขอ้ มลู

เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่ได้เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
และแก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตเห็นคุณค่า
ของการนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์
กษตั รยิ ์ มวี ินัยอยู่อยา่ งพอเพยี ง ซ่อื สตั ย์ สจุ ริต ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มัน่ ในการทางาน และมจี ิตสาธารณะ

ผลการเรียนรู้
1. อธิบายและคานวณโมเมนตัมของวัตถุ และการดลจากสมการและพื้นที่ใต้กราฟ

ความสัมพันธร์ ะหว่างแรงดลกบั โมเมนตมั
2. ทดลอง อธิบายและคานวณปริมาณต่าง ๆท่ีเกี่ยวกับการชนของวัตถุในหนึ่งมิติ

ทงั้ แบบยดื หยุ่น ไม่ยดื หยุ่น และการดดี ตวั แยกจากกันในหน่ึงมิติ ซ่งึ เปน็ ไปตามกฎการอนุรักษ์
3. อธิบายสมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์ และผลรวมของโมเมนต์ที่มีต่อการหมุน แรงคู่ควบ

และผลของแรงคู่ควบท่ีมีต่อสมดุลของวัตถุ เขียนแผนภาพของแรงที่กระทาต่อวัตถุอิสระเม่ือวัตถุ
อยู่ในสมดลุ กลและคานวณหาปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง รวมทง้ั ทดลองและอธบิ ายสมดุลของแรงสามแรง

169

4. สังเกตและอธิบายสภาพการเคล่ือนที่ของวัตถุเม่ือแรงท่ีกระทาต่อวัตถุผ่านศูนย์กลาง
มวลของวตั ถุ ผลของศนู ยถ์ ว่ งท่มี ตี อ่ เสถียรภาพของวัตถุ

5. ทดลองและอธิบายการทาวัตถุท่ีเป็นกลางทางไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขัดสีกัน
และการเหน่ียวนาไฟฟา้ สถติ

6. อธิบายและคานวณแรงไฟฟา้ ตามกฎของคลู อมบ์
7. อธิบายและคานวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าที่กระทากับอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า
ท่อี ย่ใู นสนามไฟฟ้า รวมท้ังหาสนามไฟฟ้าลพั ธเ์ นื่องจากระบบจดุ ประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์
8. อธิบายและคานวณพลังงานศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้าและความต่างศักย์ระหว่าง
สองตาแหน่งใด ๆ
9. อธิบายส่วนประกอบของตัวเก็บประจุความสัมพันธ์ระหว่างประจุไฟฟ้า ความต่างศักย์
และความจุของตัวเก็บประจุและอภิปรายพลังงานสะสมในตัวเก็บประจุและความจุสมมูล รวมทั้ง
คานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วข้อง
10. นาความรู้เร่ืองไฟฟ้าสถิตไปอภิปรายหลักการทางานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าบางชนิด
และปรากฏการณ์ในชีวติ ประจาวนั
11. อธิบายการเคลื่อนท่ีของอิเล็กตรอนอิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนา ความสัมพันธ์
ระหว่างกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนากับความเร็วลอยเล่ือนของอิเล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่น
ของอิเล็กตรอนในลวดตวั นาและพน้ื ท่หี นา้ ตดั ของลวดตวั นา และคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้อง
12. ทดลอง และอธิบายกฎของโอห์ม อภิปรายความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทาน
กับความยาว พื้นท่ีหน้าตัด และสภาพต้านทานของตัวนาโลหะท่ีอุณหภูมิคงตัว และคานวณปริมาณ
ต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง รวมท้ังอภิปรายและคานวณความต้านทานสมมูล เม่ือนาตัวต้านทานมาต่อกัน
แบบอนุกรมและแบบขนาน
13. ทดลอง อธิบาย และคานวณอีเอ็มเอฟของแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง
รวมท้งั อภปิ รายและคานวณพลังงานไฟฟา้ และกาลังไฟฟา้
14. ทดลองและคานวณอีเอ็มเอฟสมมูลจากการต่อแบตเตอร่ีแบบอนุกรมและแบบขนาน
รวมท้ังคานวณปริมาณต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงซึ่งประกอบด้วยแบตเตอรี
และตวั ต้านทาน
15. อธิบายการเปล่ียนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า รวมท้ังสืบค้นและอภิปราย
เก่ียวกับเทคโนโลยีที่นามาแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางด้านพลังงานไฟฟ้า โดยเน้น
ด้านประสทิ ธิภาพและ ความคุ้มคา่ ด้านคา่ ใชจ้ า่ ย

รวมท้ังหมด 15 ผลการเรียนรู้

170

คาอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม

รหสั วชิ า ว33204 รายวิชา ฟสิ ิกส์ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1/2 เวลา 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาหลักการของเส้นสนามแม่เหล็ก ฟลักซ์แม่เหล็กในบริเวณท่ีกาหนด สนามแม่เหล็ก
ที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนาเส้นตรงและโซเลนอยด์ แรงแม่เหล็กที่กระทาต่ออนุภาคท่ีมีประจุ
ไฟฟ้าเคล่ือนที่ในสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กท่ีกระทาต่อเส้นลวดท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่านและวางใน
สนามแม่เหล็ก รัศมีความโค้งของการเคล่ือนท่ีเมื่อประจุเคลื่อนที่ตั้งฉากกับสนามแม่เหล็ก
แรงระหวา่ งเสน้ ลวดตัวนาคูข่ นานที่มกี ระแสไฟฟา้ ผา่ น หลกั การทางานของแกลแวนอมิเตอร์ มอเตอร์
ไฟฟ้ากระแสตรง การเกิดอีเอ็มเอฟเหน่ียวนา กฎการเหน่ียวนาของฟาราเดย์ ความต่างศักย์อาร์เอ็ม
เอส กระแสไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส ประโยชน์ของเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส การแปลงอีเอ็ม
เอฟของหม้อแปลง การเกิดและลักษณะเฉพาะของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า แสงไม่โพลาไรส์ แสงโพลาไรส์
เชิงเส้น แผ่นโพลารอยด์ การสื่อสารโดยอาศัยคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศ
เปรียบเทียบการส่ือสารด้วยสัญญาณแอนะล็อกกับสัญญาณดิจิทัล ความดันเกจ ความดันสัมบูรณ์
ความดันบรรยากาศ หลักการทางานของแมนอมิเตอร์ บารอมิเตอร์ เคร่ืองอัดไฮดรอลิก แรงพยุงจาก
ของไหล ความตงึ ผิวของของเหลว แรงหนืดของของเหลว

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ เขียนกราฟ บรรยาย อธิบาย
สร้างแบบจาลอง ออกแบบการทดลอง เขียนแผนภาพ การวัด แก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยี
ในการสืบค้นข้อมลู

เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่ได้เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
และแก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เห็นคุณค่า
ของการนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์
กษัตริย์ มวี ินัยอยอู่ ย่างพอเพยี ง ซ่ือสัตย์ สุจริต ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน และมีจติ สาธารณะ

ผลการเรียนรู้
1. สังเกตและอธิบายเส้นสนามแม่เหล็ก อธิบายและคานวณฟลักซ์แม่เหล็กในบริเวณ

ท่ีกาหนด รวมทั้งสังเกตและอธิบายสนามแม่เหล็กที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนาเส้นตรง
และ โซเลนอยด์

2. อธิบายและคานวณแรงแม่เหล็กที่กระทาต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคล่ือนท่ี
ในสนามแม่เหลก็ แรงแมเ่ หล็กทก่ี ระทาตอ่ เสน้ ลวดทีม่ กี ระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหล็ก รัศมี
ความโค้งของการเคลื่อนที่เมื่อประจุเคลื่อนที่ตั้งฉากกับสนามแม่เหล็ก รวมท้ังอธิบายแรงระหว่าง
เสน้ ลวดตวั นาคขู่ นานทีม่ ีกระแสไฟฟา้ ผา่ น

171

3. อธบิ ายหลกั การทางานของแกลแวนอมิเตอร์และมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง รวมท้ังคานวณ
ปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง

4. สังเกตและอธิบายการเกิดอีเอ็มเอฟเหน่ียวนา กฎการเหน่ียวนาของฟาราเดย์ และ
คานวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง รวมท้ังนาความรู้เร่ืองอีเอ็มเอฟเหน่ียวนาไปอธิบายการทางาน
ของเครอ่ื งใช้ไฟฟา้

5. อธิบายและคานวณความต่างศกั ย์อาร์เอม็ เอสและกระแสไฟฟ้าอารเ์ อ็มเอส
6. อธิบายหลักการทางานและประโยชน์ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส
การแปลงอเี อม็ เอฟของหม้อแปลง และคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง
7. อธิบายการเกดิ และลักษณะเฉพาะของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า แสงไม่โพลาไรส์ แสงโพลาไรส์
เชิงเส้นและแผ่นโพลารอยด์ รวมทั้งอธิบายการนาคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความถี่ต่าง ๆ ไป
ประยกุ ต์ใชแ้ ละหลกั การทางานของอปุ กรณท์ ่ีเก่ียวข้อง
8. สืบค้นและอธิบายการสื่อสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศ และ
เปรยี บเทียบการสือ่ สารด้วยสัญญาณแอนะล็อกกับสัญญาณดิจิทัล
9. อธิบายและคานวณความดันเกจ ความดันสัมบูรณ์ และความดันบรรยากาศ รวมทั้ง
อธิบายหลักการทางานของแมนอมิเตอร์ บารอมเิ ตอร์และเคร่ืองอัดไฮดรอลิก
10. ทดลอง อธบิ ายและคานวณขนาดแรงพยุงจากของไหล
11. ทดลอง อธบิ ายและคานวณความตงึ ผิวของของเหลว รวมทั้งสังเกตและอธิบายแรงหนืด
ของของเหลว
12. อธิบายสมบัติของของไหลอุดมคติ สมการความต่อเน่ือง และสมการแบร์นูลลี รวมท้ัง
คานวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้องและนาความรู้เก่ียวกับสมการความต่อเน่ืองและสมการแบร์นูลลีไป
อธิบายหลกั การทางานของอุปกรณต์ า่ ง ๆ

รวมท้ังหมด 12 ผลการเรยี นรู้

172

คาอธิบายรายวิชาเพม่ิ เติม

รหสั วิชา ว33205 รายวชิ า ฟิสิกส์ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1/2 เวลา 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาหลักการของความร้อนที่ทาให้สสารเปล่ียนอุณหภูมิ ความร้อนท่ีทาให้สสาร
เปล่ียนสถานะ ความร้อนที่เกิดจากการถ่ายโอนตามกฎการอนุรักษ์พลังงานและสภาพยืดหยุ่น
ลักษณะการยืดและหดตัวของวัสดุที่เป็นแท่งเมื่อถูกกระทาด้วยแรงค่าต่างๆ ความเค้นตามยาว
ความเครียดตามยาว มอดูลัสของยัง แบบจาลองของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส อัตราเร็ว
อาร์เอ็มเอสของโมเลกุลของแก๊ส งานที่ทาโดยแก๊สในภาชนะปิดโดยความดันคงตัว ความสัมพันธ์
ระหว่างความร้อน พลังงานภายในระบบและงาน สมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์
การเกิดเส้นสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก พลังงานโฟตอน พลังงานจลน์
ของโฟโตอิเล็กตรอน ฟังก์ชันงานของโลหะ ทวิภาวะของคล่ืนและอนุภาค ความยาวคลื่นเดอบรอยล์
กัมมันตภาพรังสีความแตกต่างของรังสีแอลฟาบีตาและแกมมา กัมมันตภาพของนิวเคลียส กัมมันตรังสี
จานวนนิวเคลียสกัมมันตภาพรังสีท่ีเหลือจากการสลาย ครึ่งชีวิต แรงนิวเคลียร์ เสถียรภาพของ
นิวเคลียส พลังงานยึดเหน่ียว ปฏิกิริยานิวเคลียร์ ฟิชชัน ฟิวชัน พลังงานนิวเคลียร์
รังสี อันตรายและการป้องกันรังสีในด้านต่าง ๆ และการค้นคว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาคแบบจาลอง
มาตรฐาน

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์ เขียนกราฟ บรรยาย อธิบาย
สร้างแบบจาลอง ออกแบบการทดลอง เขียนแผนภาพ การวัด แก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยี
ในการสบื คน้ ข้อมูล

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่ได้เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
และแก้ปัญหา มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เห็นคุณค่า
ของการนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์
กษตั รยิ ์ มวี นิ ยั อย่อู ย่างพอเพยี ง ซือ่ สัตย์ สุจรติ ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มัน่ ในการทางาน และมจี ิตสาธารณะ

ผลการเรียนรู้
1. อธิบายและคานวณความร้อนท่ีทาให้สสารเปลยี่ นอุณหภูมิ ความร้อนท่ีทาให้สสารเปลี่ยน

สถานะ และความร้อนทีเ่ กิดจากการถ่ายโอนตามกฎการอนรุ ักษ์พลงั งาน
2. อธิบายสภาพยืดหยุ่น ลักษณะการยืดหดตัวของวัสดุที่เป็นแท่งเม่ือถูกกระทาด้วยแรง

ค่าต่าง ๆ รวมทั้ง ทดลอง อธิบายและคานวณความเค้นตามยาว ความเครียดตามยาว และมอดุลัส
ของยัง และนาความรู้เรื่องสภาพยืดหยุน่ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั

173

3. อธิบายแบบจาลองของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส และอัตราเร็วอาร์เอ็มเอส
ของโมเลกลุ ของแก๊ส รวมทั้งคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่เี กีย่ วข้อง

4. อธิบายและคานวณงานที่ทาโดยแก๊สในภาชนะปิดโดยความดันคงตัว และอธิบาย
ความสัมพันธ์ระหว่างความร้อน พลังงานภายในระบบ และงาน รวมทั้งคานวณปริมาณต่าง ๆ
ที่ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง แ ล ะ น า ค ว า ม รู้ เ รื่ อ ง พ ลั ง ง า น ภ า ย ใ น ร ะ บ บ ไ ป อ ธิ บ า ย ห ลั ก ก า ร ท า ง า น ข อ ง เ ค รื่ อ ง ใ ช้
ในชีวิตประจาวัน

5. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกิดเส้นสเปกตรัมของ
อะตอมไฮโดรเจน รวมท้ังคานวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง

6. อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกและคานวณพลังงานโฟตอน พลังงานจลน์ของ
โฟโตอิเล็กตรอนและฟังก์ชันงานของโลหะ

7. อธิบายทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค รวมทั้งอธิบายและคานวณความยาวคลื่น
เดอบรอยล์

8. อธบิ ายกัมมันตภาพรังสแี ละความแตกตา่ งของรังสแี อลฟา บีตาและแกมมา
9. อธิบายและคานวณ กัมมันตภาพของนิวเคลียสกัมมันตรังสี รวมทั้ง ทดลอง อธิบาย
และคานวณจานวนนวิ เคลยี สกัมมันตภาพรงั สที ีเ่ หลอื จากการสลาย และครงึ่ ชวี ิต
10. อธิบายแรงนิวเคลียร์ เสถียรภาพของนิวเคลียสและพลังงานยึดเหน่ียว รวมทั้งคานวณ
ปรมิ าณต่าง ๆ ทเี่ ก่ียวข้อง
11. อธิบายปฏิกิริยานิวเคลยี ร์ ฟิชชัน และฟิวชนั รวมทั้งคานวณพลังงานนิวเคลียร์
12. อธิบายประโยชน์ของพลังงานนิวเคลียร์ และรังสี รวมทั้งอันตรายและการป้องกันรังสี
ในดา้ นตา่ ง ๆ
13. อธิบายการค้นคว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาคแบบจาลองมาตรฐานและการใช้ประโยชน์
จากการค้นคว้าวิจยั ดา้ นฟิสกิ สอ์ นภุ าคในดา้ นต่าง ๆ

รวมทัง้ หมด 13 ผลการเรยี นรู้

174

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม

รหสั วชิ า ว30211 รายวชิ า การโปรแกรมและการประยุกต์ กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1/2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษาเก่ยี วกบั โครงสรา้ งพ้ืนฐานของโปรแกรมภาษาซคี าส่ังรบั และแสดงผลตวั แปรชนดิ
ข้อมูลและนิพจน์ ตวั ดาเนินการค่าคงตวั ค่าคงทีโ่ ครงสรา้ งควบคมุ การทางานของการโปรแกรมแถว
ลาดบั สายอักขระและตวั ช้ีฟังกช์ ่ันการสรา้ งชนิดข้อมลู แฟม้ ตวั ประกอบประมวลผลก่อน

โดยให้ปฏิบัติการเขียนโปรแกรม โดยการทดสอบหลักการเบ้ืองต้นในการเขียนโปรแกรม
คาสัง่ แสดงผลและรบั ผลตวั แปรแสดงผลตัวดาเนินการเลอื กการทางานคาสัง่ ทาซา้

เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการเขียนโปรแกรม และสามารถใช้คอมพิวเตอร์
สร้างชิ้นงานอยา่ งสรา้ งสรรค์มจี ติ สานกึ และความรับผิดชอบ

ผลการเรียนรู้
1. อธิบายโครงสรา้ งพ้ืนฐานของโปรแกรม
2. อธบิ ายข้นั ตอนและเขยี นโปรแกรมสงั่ งานคอมพิวเตอร์
3. ใชค้ าสั่งรบั และแสดงผลข้อมลู
4. กาหนดใช้งานตวั แปร
5. ใช้งานคคงตวั และค่าคงท่ี
6. ใช้คาสัง่ โครงสรา้ งควบคมุ ในการเขยี นโปรแกรม
7. กาหนดและเรียกใช้งานแถวลาดับสายอกั ขระและตวั ชี้
8. สร้างและเรยี กใชฟ้ ังก์ชัน
9. สรา้ งและเรยี กใช้ชนดิ ขอ้ มูลแบบโครงสรา้ ง
10. ใชค้ าสั่งอา่ นเขียนเปดิ และปิดแฟ้ม
11. ใช้งานคาส่ัง #include และ #define

รวมท้ังหมด 11 ผลการเรยี นรู

175

คาอธิบายรายวิชาเพม่ิ เติม

รหัสวชิ า ว30212 รายวิชา การสรา้ งภาพเคลือ่ นไหว กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรียนท่ี 1/2 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษาโปรแกรม Flash เบ้ืองตน้ การสร้างภาพเคลอ่ื นไหว การโต้ตอบกับผู้ใช้ และการแปลง
ไฟล์ไปใชง้ าน รวมทัง้ ความรู้การใช้เทคนิคในการสร้างลูกเล่นแบบต่าง ๆ เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถนาไป
ประยกุ ตใ์ ชแ้ ละร้จู ักวธิ ีการนาไปใชก้ ับส่ือชนิดอ่ืน เช่น รูปแบบการนาเสนอ Flash บนเว็บเพจ เพื่อให้
นกั เรยี นมคี วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรู้

โดยปฏบิ ัติการฝกึ ทกั ษะพน้ื ฐานการใช้งานโปรแกรม เพื่อนาไปสร้างภาพเคล่ือนไหวเบื้องต้น
และเข้าใจแนวคิดอันเป็นพื้นฐานในการใช้โปรแกรมประยุกต์ชั้นสูงโดยเฉพาะอย่างย่ิงโปรแกรม
ท่ีเกี่ยวข้องกับงานศิลปะและการออกแบบ โดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศและ
ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการฝึกปฏิบัติ กระบวนการออกแบบ
กระบวนการจัดการ กระบวนการแกป้ ญั หา และกระบวนคดิ วิเคราะห์

เพอื่ ให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และมีทักษะการใช้โปรแกรม Flash เบื้องต้น วิเคราะห์ข้อมูล
ในการสร้างเสริมจินตนาการและใช้คอมพิวเตอร์ในทางสร้างสรรค์ สามารถนาทักษะไปใช้
ในชีวิตประจาวัน มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบ
ตรงเวลา มีวินัยในการทางาน รักการทางาน รักการค้นคว้า ทางานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
มสี มาธิในการทางาน และมีเจตคตทิ ่ีดีต่องานและอาชีพท่ีสจุ รติ

ผลการเรียนรู้
1. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั โปรแกรม Flash เบื้องต้น
2. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การสรา้ งภาพเคลื่อนไหว
3. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับการสรา้ งลูกเล่นแบบตา่ ง ๆ
4. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสี
5. มีทักษะในการสรา้ งผลงานทเี่ กิดจากการจนิ ตนาการ
6. มที กั ษะในการนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั

รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้

176

คาอธิบายรายวิชาเพิม่ เติม

รหัสวิชา ว30213 รายวิชา การใช้โปรแกรมประยุกตใ์ นองค์กรสมยั ใหม่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ภาคเรยี นที่ 1/2 เวลา 60 ช่ัวโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาความรู้พื้นฐานเก่ียวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้นการใช้งานโปรแกรมสานักงานสาเร็จรูป
อินเทอรเ์ นต็ การสอ่ื สารสงั คมออนไลน์ และการรักษาความปลอดภยั ของขอ้ มูล

โดยมีทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น สามารถใช้งานโปรแกรมสานักงานสาเร็จรูปได้
ใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตได้ สามารถส่อื สารสังคมออนไลน์ได้ มที กั ษะรกั ษาความปลอดภยั ของข้อมูลได้

เพ่ือให้ มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะเก่ียวกับการสร้างเว็บไซต์เพื่อนาเสนองานต่าง ๆ
และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างมีจิตสานึก มีคุณธรรม และใช้ทรัพยากร
อย่างประหยดั คุ้มคา่

ผลการเรียนรู้
1. มคี วามร้พู ื้นฐานเกยี่ วกบั การใชค้ อมพิวเตอร์เบ้ืองต้น
2. สามารถใช้งานโปรแกรมสานกั งานสาเรจ็ รปู ได้
3. สามารถใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ได้
4. สามารถสอ่ื สารสังคมออนไลน์ได้
5. สามารถรักษาความปลอดภยั ของข้อมูลได้

รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้

177

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

รหัสวิชา ว30214 รายวิชา ความรพู้ ื้นฐานหนุ่ ยนต์ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1/2 เวลา 60 ชัว่ โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาความรู้ในการออกแบบและพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ท้ังในส่วนของฮาร์ดแวร์และ
ซอฟต์แวร์ บนแนวคิดของทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructionism) โดยให้ผู้เรียน
ลงมอื ประกอบกิจกรรมการเรียนรดู้ ว้ ยตนเองและให้เห็นความสาคญั ของการเรียนรู้รว่ มกัน

โดยการปฏิบตั ิการออกแบบและพฒั นาระบบคอมพวิ เตอรท์ ั้งในส่วนฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวร์
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในการออกแบบและพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ทั้งในส่วนของ
ฮารด์ แวร์และซอฟแวร์ และเตรียมพร้อมในการทางานรว่ มกบั ผอู้ ่ืนได้อย่างมีประสิทธภิ าพ

ผลการเรยี นรู้
1. มีความรู้พน้ื ฐานเกีย่ วกบั หนุ่ ยนต์
2. มคี วามรู้ในการออกแบบและพฒั นาระบบคอมพวิ เตอร์
3. สามารถลงมือประกอบกจิ กรรมการเรยี นรดู้ ้วยตนเองและเห็นความสาคญั ของการ

เรียนรูร้ ว่ มกนั
4. สามารถออกแบบและพฒั นาระบบคอมพวิ เตอร์ท้ังในสว่ นฮารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวรไ์ ด้

รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้

178

คาอธิบายรายวชิ าเพิม่ เติม

รหัสวชิ า ว30215 รายวิชา โครงงานทางวศิ วกรรม กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1/2 เวลา 60 ชวั่ โมง จานวน 1.5 หน่วยกิต

ศึกษาความรู้เก่ียวกับการบูรณาการความรู้ ทักษะทางด้านวิศวกรรมและเพิ่มประสบการณ์
เพ่ือวางแผนพัฒนางานวิศวกรรม ออกแบบช้ินงานด้วยกระบวนการทดลอง สารวจ ประดิษฐ์คิดค้น
หรือการปฏิบัติงานเชิงระบบ การเลือกหัวข้อโครงงาน การศึกษาค้นคว้าข้อมูล และเอกสารอ้างอิง
การเขียนโครงงาน การดาเนินโครงงาน การเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และแปลผล การสรุปผล
การดาเนินงาน และจัดทารายงานการนาเสนอผลงาน การใช้สื่อโสตทัศน์ ประกอบการนาเสนอ
ผลงานโครงงาน

โดยการปฏิบตั ิการจัดทาโครงงาน และจัดทารายงานการนาเสนอผลงาน การใช้ส่ือโสตทัศน์
ประกอบการนาเสนอผลงานโครงงาน

เพ่ือเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ทางด้านวิศวกรรม นาทักษะและกระบวนการในการคิด
วเิ คราะห์ต่างๆ ไปใชแ้ ก้ไขปัญหาในชีวิตประจาวัน

ผลการเรยี นรู้
1. มคี วามรเู้ บ้ืองต้นเกีย่ วกับทักษะทางด้านวิศวกรรม
2. สามารถวางแผนพฒั นางานวิศวกรรมได้
3. สามารถออกแบบช้ินงานโครงงานได้
4. สามารถปฏิบตั งิ านเชิงระบบในการทาโครงงานทางวิศวกรรมได้

รวมท้ังหมด 4 ผลการเรียนรู้

179

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม

รหัสวิชา ว30216 รายวิชา พื้นฐานการเขยี นแบบทางวิศวกรรม กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1/2 เวลา 60 ชว่ั โมง จานวน 1.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การเขยี นแบบเบ้ืองตน้ การใช้และการบารุงรักษาเครอ่ื งมอื เขียน
แบบ มาตรฐานงานเขยี นแบบชา่ งเทคนิค เสน้ ตวั เลข ตัวอักษร การสร้างรปู เรขาคณิต การกาหนด
ขนาดของมิติ มาตราส่วนหลกั การฉายภาพมุมท่ี 1 และมุมที่ 3 ภาพสามมติ ิ ภาพตัดและสญั ลกั ษณ์
เบื้องต้น

ปฏิบตั กิ ารเขียนแบบเบอื้ งต้น การใช้และบารุงรกั ษาเครื่องมือเขียนแบบมาตรฐานงานเขียน
แบบช่างเทคนิค

เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั หลกั การเขยี นแบบเบอ้ื งตน้ การใช้และบารุงรักษา
เครอ่ื งมือเขยี นแบบมาตรฐานงานเขยี นแบบช่างเทคนิคได้อย่างมีประสิทธภิ าพ

ผลการเรยี นรู้
1. มคี วามรู้เกี่ยวกับหลักการเขยี นแบบเบ้ืองต้น
2. มีความรูใ้ นการใช้และการบารุงรกั ษาเครื่องมือเขียนแบบมาตรฐานงานเขียนแบบ

ช่างเทคนิค
3. สามารถเขียนแบบเบ้ืองตน้ ได้
4. สามารถใชแ้ ละบารงุ รกั ษาเคร่ืองมือเขยี นแบบมาตรฐานงานเขยี นช่างเทคนิคได้

รวมท้ังหมด 4 ผลการเรียนรู้

180

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

รหัสวิชา ว30217 รายวิชา ปฏิบตั กิ ารวิศวกรรม กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1/2 เวลา 60 ชวั่ โมง จานวน 1.5 หน่วยกิต

ศึกษาความรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิดวิเคราะห์โดยอาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ศึกษาพ้ืนฐานท่ีเกี่ยวข้องกับรายวิชาวิศวกรรมศาสตร์ การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์
ทางวศิ วกรรม พน้ื ฐานการวดั , วธิ ีการบนั ทกึ และอ่านคา่ ของของอปุ กรณต์ ่าง ๆ

ปฏิบัติและฝึกทักษะการใช้งานอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีใช้ในงาน
วศิ วกรรม ฝึกทกั ษะการรวบรวมข้อมลู การจดบันทกึ ข้อมูลและการนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ยกราฟ

เพ่ือเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้พื้นฐานทางวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อสามารถนาทักษะ
และกระบวนการในการคดิ วเิ คราะหต์ ่างๆ ไปใช้เพื่อแก้ไขปญั หาในชีวติ ประจาวนั ได้

ผลการเรียนรู้
1. มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิดวิเคราะห์โดยอาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยี
2. มคี วามรู้พน้ื ฐานเก่ียวกบั รายวชิ าวศิ วกรรมศาสตร์
3. สามารถใชง้ านอปุ กรณท์ างวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีที่ใช้ในงานวิศวกรรมได้
4. มีทักษะในการรวบรวมขอ้ มูล การจัดบันทกึ และการนาเสนอข้อมลู ด้วยกราฟ

รวมทง้ั หมด 4 ผลการเรียนรู้

181

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

รหัสวิชา ว30218 รายวิชา พฤติกรรมองค์กรเทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ภาคเรยี นที่ 1/2 เวลา 60 ชวั่ โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาความร้เู กย่ี วกับรูปแบบขององค์กรทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อดีข้อเสีย บทบาท
และความรบั ผดิ ชอบขององคก์ รแตล่ ะประเภท การสรา้ งรปู แบบองค์กรสมัยใหม่ พฤติกรรมของบุคคล
ในองคก์ รเทคโนโลยสี ารสนเทศ

โดยการศึกษาข้อมูลรูปแบบขององค์กรทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อดีข้อเสีย บทบาท
และความรบั ผดิ ชอบขององคก์ รแตล่ ะประเภท การสร้างรปู แบบองค์กรสมัยใหม่ พฤติกรรมของบุคคล
ในองค์กรเทคโนโลยีสารสนเทศ

เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจเบื้องต้นเก่ียวกับพฤติกรรมองค์กรเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพ่อื เตรียมความพร้อมในการทางานในองคก์ รอย่างมีประสทิ ธภิ าพ

ผลการเรียนรู้
1. มีความรเู้ ก่ียวกับรปู แบบขององค์กรทางด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. มีความรเู้ กยี่ วกับข้อดีข้อเสีย บทบาทและความรับผดิ ชอบขององค์กรแตล่ ะประเภท
3. มีความร้เู ก่ียวกับการสรา้ งรูปแบบองคก์ รสมัยใหม่
4. มีความร้เู กีย่ วกับพฤติกรรมของบุคคลในองคก์ รเทคโนโลยสี ารสนเทศ

รวมท้ังหมด 4 ผลการเรยี นรู้

182

คาอธิบายรายวิชาเพม่ิ เติม

รหสั วิชา ว30219 รายวชิ า ส่ือสร้างสรรคด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6 ภาคเรยี นที่ 1/2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาความหมาย ความสาคัญ บทบาท ประเภทของสื่อคอมพิวเตอร์ ขอบข่าย ประโยชน์
ของส่ือคอมพิวเตอร์ ทักษะ เทคนิคในการผลิตส่ือ และเลือกใช้ซอฟต์แวร์ในการผลิตส่ือ
การทาโครงงาน โปรแกรมหรือสร้างชุดสาธิต และการนาเสนอโครงงาน

โดยใช้กระบวนการอธิบาย บอก ฝึกทักษะ เลือกใช้ วิเคราะห์ พัฒนา สร้างชุดสาธิต
และนาเสนอ กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวันอย่าง
สรา้ งสรรค์

เพ่ือให้นักเรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดทักษะและสามารถนาไปปฏิบัติตนในสังคมได้
อย่างถกู ตอ้ ง อนั นาไปสู่คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะผเู้ รยี นตามหลกั สตู ร

ผลการเรียนรู้
1. บอกความหมาย ความสาคัญ บทบาท และประเภทของสื่อ ส่อื คอมพิวเตอร์
2. บอกขอบขา่ ย ประโยชนข์ องสือ่ คอมพิวเตอร์
3. เรียนรู้ ทักษะ เทคนิคในการผลิตสื่อ และเลือกใช้ซอฟต์แวร์ในการผลิตส่ือ ได้อย่าง

เหมาะสม
4. วเิ คราะหข์ อ้ มลู นาข้อมูลมาเลอื กหวั ขอ้ ในการทาโครงงาน ผลิตสอื่ ได้
5. พัฒนาสื่อดว้ ยโปรแกรม หรอื สร้างชดุ สร้างสาธติ ได้
6. นาเสนอสอื่ ทผ่ี ลติ ตอ่ ผู้อ่นื ได้

รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้

183

คาอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เติม

รหสั วิชา ว30220 รายวิชา โปรแกรมตารางคานวณ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1/2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษาหลักการทางานของตารางคานวณ การจัดการกับแผ่นงานประเภทของข้อมูล
การกาหนดรูปแบบข้อมูล การจัดรูปแบบข้อมูล รูปภาพและตาราง จัดการข้อมูลในรูปแบบแผนภูมิ
และกราฟ การคานวณและใช้งานฟังกช์ ัน การจัดเรียงฐานข้อมูลและสรุปข้อมูล การใช้คาส่ังวิเคราะห์
ข้อมลู การสร้างแมโครและประยุกตก์ ารทางาน และพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์

โดยใช้กระบวนการอธิบาย จดั การ กาหนดรปู แบบ จัดรูปแบบ จัดการขอ้ มูล จัดเรียง
วิเคราะหส์ ร้าง ประยุกต์ และพฒั นาในรปู ของโครงงาน

เพ่ือใหน้ กั เรียนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ เกดิ ทักษะและสามารถนาไปปฏิบัตติ นในสงั คมได้
อยา่ งถูกต้อง อันนาไปสคู่ ุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะผเู้ รยี นตามหลักสตู ร

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายหลักการทางานของตารางคานวณได้
2. จดั การกับแผน่ งานได้
3. อธิบายประเภทของข้อมูลและการกาหนดรปู แบบขอ้ มูลได้
4. จดั รปู แบบข้อมลู รปู ภาพ และตารางได้
5. จัดการข้อมลู ในรปู แบบแผนภูมิและกราฟไดอ้ ย่างเหมาะสม
6. คานวณและใช้งานฟงั กช์ ่ันตา่ งๆ ได้
7. จัดเรยี งฐานขอ้ มูลและสรปุ ข้อมูลในรปู แบบต่าง ๆ ได้
8. วิเคราะหข์ ้อมูลดว้ ยคาสง่ั ต่าง ๆ ได้
9. สร้างแมโครและประยกุ ต์การทางานทเ่ี ป็นประโยชน์
10. พัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์อย่างมจี ติ สานกึ และความรับผิดชอบ

รวมทั้งหมด 10 ผลการเรียนรู้

184

คาอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เติม

รหสั วิชา ว31221 รายวิชา เคมี 1 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 ภาคเรียนที่ 1/2 เวลา 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาเกี่ยวกับสัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตรายของสารเคมีในระบบ GHS และ NFPA
ข้อควรปฏิบัติในการทาปฏิบัติการเคมี ทั้งก่อนทาปฏิบัติการ ขณะทาปฏิบัติการ และหลัง
ทาปฏิบัติการ การกาจัดสารเคมี และการปฐมพยาบาลเม่ือได้รับอุบัติเหตุจากสารเคมี ศึกษา
การพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้จากการวัดจากความเที่ยงและความแม่น อุปกรณ์
วัดปรมิ าตรและวัดมวล เลขนัยสาคัญ หน่วยวัดในระบบเอสไอ แฟกเตอร์เปลี่ยนหน่วย รวมทั้งวิธีการ
ทางวิทยาศาสตร์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิตวิทยาศาสตร์ ศึกษาแบบจาลองอะตอม
ของดอลตัน ทอมสัน รัทเทอร์ฟอร์ด โบร์ และแบบกลุ่มหมอก เขียนและแปลความหมายสัญลักษณ์
นวิ เคลยี รข์ องธาตุ เลขอะตอม เลขมวล ไอโซโทป เขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอม ศึกษา
ความหมายของระดับพลังงานของอิเล็กตรอน ออร์บิทัล เวเลนซ์อิเล็กตรอน วิวัฒนาการ
ของการสร้างตารางธาตุและตารางธาตุในปัจจุบัน แนวโน้มสมบัติบางประการของธาตุในตารางธาตุ
ตามหม่แู ละคาบเกี่ยวกับขนาดอะตอม ขนาดไอออน พลังงานไอออไนเซชัน สัมพรรคภาพอิเล็กตรอน
อิเล็กโตรเนกาติวิตี ศึกษาสมบัติของธาตุแทรนซิชัน ธาตุกัมมันตรังสี การเกิดกัมมันตภาพรังสี
การสลายตัวและอันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสี คานวณครึ่งชีวิตของธาตุกัมมันตรังสี ศึกษา
ปฏิกิริยานิวเคลียร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ รวมทั้งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต
และส่งิ แวดลอ้ ม ศึกษาพนั ธะเคมี สัญลักษณแ์ บบจุดของลิวอิสและกฎออกเตด การเกิดพันธะไอออนิก
สูตรเคมีและช่ือของสารประกอบไอออนิก พลังงานกับการเกิดสารประกอบไอออนิก สมบัติ
ของสารประกอบไอออนิก สมการไอออนิกและสมการไอออนิกสุทธิ การเกิดพันธะโคเวเลนต์
โครงสร้างลิวอิส สูตรโมเลกุลและช่ือสารโคเวเลนต์ ความยาวและพลังงานพันธะ เรโซแนนซ์
การคานวณพลังงานพันธะและพลังงานของปฏิกิริยา รูปร่างและสภาพข้ัวของโมเลกุลโคเวเลนต์
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลและสมบัติของสารโคเวเลนต์ สารโคเวเลนต์ร่างตาข่าย การเกิด
พันธะโลหะ และสมบัติของโลหะ และการนาสารประกอบชนิดตา่ ง ๆ ไปใช้ประโยชน์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธิบายและสรุป

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม

185

ผลการเรยี นรู้
1. บอก และอธิบายข้อปฏิบัติเบ้ืองต้น และปฏิบัติตนท่ีแสดงถึงความตระหนักใน

การทาปฏิบัติการเคมีเพ่ือให้มีความปลอดภัยทั้งต่อตนเอง ผู้อ่ืนและสิ่งแวดล้อม และเสนอ
แนวทางแกไ้ ขเมอ่ื เกดิ อุบัตเิ หตุ

2. เลือก และใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือในการทาปฏิบัติการ และวัดปริมาณต่าง ๆ ได้อย่าง
เหมาะสม

3. นาเสนอแผนการทดลอง ทดลองและเขยี นรายงานการทดลอง
4. ระบุหน่วยวัดปริมาณต่าง ๆ ของสาร และเปลี่ยนหน่วยวัดให้เป็นหน่วยในระบบเอสไอ
ดว้ ยการใชแ้ ฟกเตอรเ์ ปลยี่ นหนว่ ย
5. สืบค้นข้อมูลสมมติฐาน การทดลอง หรือผลการทดลองท่ีเป็นประจักษ์พยาน
ในการเสนอแบบจาลองอะตอมของนกั วิทยาศาสตร์ และอธิบายววิ ัฒนาการของแบบจาลองอะตอม
6. เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ และระบุจานวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน
ของอะตอมจากสญั ลกั ษณ์นิวเคลยี ร์ รวมทง้ั บอกความหมายของไอโซโทป
7. อธบิ าย และเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอน ในระดับพลังงานหลักและระดับพลังงานย่อย
เมือ่ ทราบเลขอะตอมของธาตุ
8. ระบุหมู่ คาบ ความเป็นโลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ ของธาตุเรพรีเซนเททีฟและ
ธาตแุ ทรนซิชันในตารางธาตุ
9. วิเคราะห์ และบอกแนวโนม้ สมบตั ิของธาตเุ รพรีเซนเททฟี ตามหมแู่ ละตามคาบ
10.บอกสมบัติของธาตุโลหะแทรนซิชัน และเปรียบเทียบสมบัติกับธาตุโลหะในกลุ่ม
ธาตุเรพรีเซนเททฟี
11.อธิบายสมบตั ิ และคานวณครึ่งชีวติ ของไอโซโทปกัมมันตรังสี
12.สืบค้นข้อมูล และยกตัวอย่างการนาธาตุ มาใช้ประโยชน์ รวมทั้งผลกระทบต่อส่ิงมีชีวิต
และสงิ่ แวดล้อม
13.อธิบายการเกิดไอออนและการเกิดพันธะไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรือสัญลักษณ์แบบ
จดุ ของลวิ อสิ
14.เขียนสูตร และเรียกชอื่ สารประกอบไอออนิก
15.คานวณพลังงานที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาการเกิดสารประกอบไอออนิกจากวัฏจักร
บอรน์ ฮาเบอร์
16.อธิบายสมบตั ิของสารประกอบไอออนกิ
17.เขียนสมการไอออนกิ และสมการไอออนิกสทุ ธขิ องปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก
18.อธบิ ายการเกดิ พันธะโคเวเลนตแ์ บบพันธะเดี่ยว พันธะคู่ และพันธะสาม ด้วยโครงสร้าง
ลวิ อสิ
19.เขยี นสตู ร และเรยี กชอื่ สารโคเวเลนต์
20.วิเคราะห์ และเปรียบเทียบความยาวพันธะและพลังงานพันธะในสารโคเวเลนต์
รวมทง้ั คานวณพลงั งานท่เี กีย่ วขอ้ งกับปฏิกริ ิยาของสารโคเวเลนตจ์ ากพลังงานพนั ธะ

186

21.คาดคะเนรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ โดยใช้ทฤษฎีการผลักระหว่างคู่อิเล็กตรอน
ในวงเวเลนซ์ และระบสุ ภาพขว้ั ของโมเลกุลโคเวเลนต์

22.ระบุชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และเปรียบเทียบจุดหลอมเหลว
จดุ เดือด และการละลายน้าของสารโคเวเลนต์

23.สืบคน้ ขอ้ มลู และอธบิ ายสมบตั ขิ องสารโคเวเลนต์โครงรา่ งตาขา่ ยชนดิ ตา่ ง ๆ
24.อธิบายการเกดิ พนั ธะโลหะและสมบัติของโลหะ
25.เปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ
สบื คน้ ข้อมลู และนาเสนอตวั อยา่ งการใช้ประโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

รวมทง้ั หมด 25 ผลการเรียนรู้

187

คาอธิบายรายวชิ าเพิม่ เติม

รหัสวชิ า ว32222 รายวชิ า เคมี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1/2 เวลา 60 ชัว่ โมง จานวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาและคานวณเก่ียวกับมวลอะตอมของธาตุ มวลของธาตุ 1 อะตอม มวลอะตอมเฉลี่ย
ของธาตุ มวลโมเลกุลของสาร ความสัมพันธ์ระหว่างจานวนโมล อนุภาค มวลและปริมาตรของแก๊ส
ท่ี STP ศึกษาหน่วย และการคานวณความเขม้ ข้นของสารละลาย ศึกษาและทดลองเตรียมสารละลาย
ศึกษาและทดลองและเปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารละลาย
ศึกษาความหมายและเขียนสูตรโมเลกุล สูตรเอมพิริคัลหรือสูตรอย่างง่าย และสูตรโครงสร้าง
การคานวณหามวลเป็นร้อยละจากสูตร การคานวณหาสูตรเอมพิริคัลและสูตรโมเลกุลของสาร
ศึกษาการเขียนและดุลสมการเคมี ทดลองและคานวณหาอัตราส่วนจานวนโมลของสารต้ังต้น
ท่ีทาปฏิกิริยาพอดีกัน ศึกษาสมบัติของระบบปิดและระบบเปิด ศึกษาและฝึกคานวณปริมาณสาร
ในปฏิกิริยาเคมีที่เป็นไปตามกฎทรงมวล กฎสัดส่วนคงที่ ศึกษาทดลองและคานวณปริมาตรของแก๊ส
ในปฏกิ ิรยิ าเคมีตามกฎของเกย์-ลูสแซก และกฎของอาโวกาโดร ศึกษาและฝึกคานวณหาความสัมพันธ์
ระหว่างปริมาณของสารในสมการเคมีน้ัน ๆ และสมการเคมีที่เก่ียวข้องมากกว่าหน่ึงสมการ
สารกาหนดปรมิ าณ ผลไดร้ อ้ ยละ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ อธบิ ายและสรปุ

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ และคานวณมวลอะตอมเฉล่ียของธาตุ

มวลโมเลกลุ และมวลสตู ร
2. อธิบาย และคานวณปริมาณใดปริมาณหน่ึงจากความสัมพันธ์ของโมล จานวนอนุภาค

มวล และปรมิ าตรของแกส๊ ที่ STP
3. คานวณอัตราสว่ นโดยมวลของธาตอุ งคป์ ระกอบของสารประกอบตามกฎสัดส่วนคงที่
4. คานวณสูตรอยา่ งง่ายและสูตรโมเลกลุ ของสาร
5. คานวณความเขม้ ข้นของสารละลายในหน่วยต่าง ๆ

188

6. อธิบายวิธีการและเตรียมสารละลายให้มีความเข้มข้นในหน่วยโมลาริตี และปริมาตร
สารละลายตามทก่ี าหนด

7. เปรียบเทียบจุดเดือดและจุดเยือกแข็งของสารละลายกับสารบริสุทธ์ิ รวมท้ังคานวณ
จดุ เดอื ดและจุดเยอื กแขง็ ของสารละลาย

8. แปลความหมายสัญลักษณ์ในสมการเคมีเขียนและดุลสมการเคมีของปฏิกิริยาเคมี
บางชนดิ

9. คานวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิรยิ าเคมีท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั มวลสาร
10. คานวณปรมิ าณของสารในปฏิกิริยาทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ความเข้มข้นของสารละลาย
11. คานวณปรมิ าณของสารในปฏิกริ ยิ าเคมที ีเ่ กี่ยวข้องกบั ปรมิ าตรแกส๊
12. คานวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ริ ิยาเคมีหลายข้ันตอน
13. ระบุสารกาหนดปริมาณ และคานวณปรมิ าณสารตา่ ง ๆ ในปฏกิ ริ ยิ าเคมี
14. คานวณผลได้รอ้ ยละของผลิตภณั ฑใ์ นปฏกิ ิรยิ าเคมี

รวมท้ังหมด 14 ผลการเรยี นรู้

189

คาอธิบายรายวิชาเพ่มิ เติม

รหัสวชิ า ว32223 รายวชิ า เคมี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์

ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1/2 เวลา 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หน่วยกิต

ศึกษาและทดลองเก่ียวกับความสัมพันธ์ของความดันอุณหภูมิและปริมาตรของแก๊ส และ
คานวณหาปริมาตร ความดัน และอุณหภูมิของแก๊สโดยใช้กฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์–
ลูสแซก กฎรวมแก๊ส ศึกษาและคานวณความดัน ปริมาตร จานวนโมล มวล และอุณหภูมิของแก๊ส
จากความสัมพันธ์ตามกฎของอาโวกาโดร และกฎแก๊สอุดมคติ คานวณความดันย่อยหรือจานวน
โมลของแก๊สในแก๊สผสม โดยใช้กฎความดันย่อยของดอลตัน ศึกษาทดลองการแพร่และอัตราการ
แพร่ของแกส๊ การคานวณเก่ียวกับกฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม อธิบายการแพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎี
จลน์ของแก๊ส คานวณและเปรียบเทียบอัตราการแพร่ของแก๊ส โดยใช้กฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม
ศึกษาความหมายของอตั ราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี ศึกษาและทดลองหาอัตราเร็วในการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี ศึกษาพลังงานกับการดาเนินไปของปฏิกิริยาเคมี ศึกษา
และทดลองผลของความเข้มข้น พ้ืนที่ผิว อุณหภูมิ ตัวเร่งและตัวหน่วงต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงท่ีผันกลับได้ การเปล่ียนแปลงท่ีทาให้เกิดภาวะสมดุล ศึกษาความสัมพันธ์
ระหว่างความเข้มข้นของสารต่าง ๆ ณ ภาวะสมดุล ศึกษาค่าคงท่ีสมดุลกับสมการเคมี คานวณ
ค่าคงที่สมดุลหรือความเข้มข้นของปฏิกิริยาหลายขั้นตอน ศึกษาและทดลองปัจจัยที่มีผลต่อภาวะ
สมดุล อุณหภูมิ ความเข้มข้น ความดัน ศึกษาหลักของเลอชาเตอลิเอและการนาไปใช้อธิบาย
การเปลย่ี นแปลงภาวะสมดุล ศกึ ษาสมดุลเคมใี นส่งิ มีชวี ิตและสง่ิ แวดลอ้ ม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธบิ ายและสรุป

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม

ผลการเรียนรู้

1. อธบิ ายความสัมพันธ์และคานวณปริมาตรความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะต่าง ๆ
ตามกฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์–ลสู แซก

2. คานวณปริมาตร ความดนั หรืออุณหภูมขิ องแก๊สทีภ่ าวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแกส๊
3. คานวณปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ จานวนโมล หรือมวลของแก๊ส จากความสัมพันธ์
ตามกฎของอาโวกาโดร และกฎแก๊สอดุ มคติ

190

4. คานวณความดันย่อยหรือจานวนโมลของแก๊สในแก๊สผสม โดยใช้กฎความดันย่อย
ของดอลตัน

5. อธิบายการแพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คานวณและเปรียบเทียบอัตรา
การแพร่ของแก๊สโดยใช้กฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม

6. สืบค้นข้อมูล นาเสนอตัวอย่าง และอธิบายการประยุกต์ใช้ความรู้เก่ียวกับสมบัติ
และกฎต่าง ๆ ของแก๊สในการอธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจาวันและ
ในอุตสาหกรรม

7. ทดลอง และเขยี นกราฟการเพมิ่ ข้ึนหรอื ลดลงของสารทีท่ าการวดั ในปฏิกิรยิ า
8. คานวณอตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี และเขียนกราฟการลดลงหรือเพ่ิมขึ้นของสารท่ีไม่ได้
วดั ในปฏกิ ิรยิ า
9. เขียนแผนภาพ และอธิบายทิศทางการชนกันของอนุภาคและพลังงานท่ีส่งผลต่ออัตรา
การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี
10. ทดลอง และอธิบายผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภูมิ
และตัวเร่งปฏกิ ริ ยิ าทม่ี ตี ่ออตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
11. เปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาเม่ือมีการเปล่ียนแปลงความเข้มข้น พ้ืนท่ีผิวของสารตั้งต้น
อณุ หภูมิ และตัวเร่งปฏกิ ิรยิ า
12. ยกตัวอย่าง และอธิบายปัจจัยท่ีมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจาวัน
หรอื อตุ สาหกรรม
13. ทดสอบ และอธิบายความหมายของปฏกิ ริ ยิ าผันกลับได้และภาวะสมดลุ
14. อธิบายการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสาร อัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า
และอัตราการเกิดปฏิกิรยิ าย้อนกลบั เมื่อเรมิ่ ปฏิกิรยิ าจนกระทัง่ ระบบอยู่ในภาวะสมดุล
15. คานวณคา่ คงท่ีสมดุลของปฏกิ ิรยิ า
16. คานวณความเขม้ ข้นของสารทีภ่ าวะสมดลุ
17. คานวณค่าคงท่สี มดลุ หรือความเข้มขน้ ของปฏกิ ริ ยิ าหลายขน้ั ตอน
18. ระบุปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลและค่าคงท่ีสมดุลของระบบ รวมทั้งคาดคะเน
การเปลย่ี นแปลงทเี่ กดิ ขน้ึ เมอื่ ภาวะสมดุลของระบบถูกรบกวน โดยใช้หลกั ของเลอชาเตอลิเอ
19. ยกตัวอย่าง และอธิบายสมดุลเคมีของกระบวนการท่ีเกิดข้ึนในสิ่งมีชีวิต ปรากฏการณ์
ในธรรมชาติและกระบวนการในอตุ สาหกรรม

รวมทั้งหมด 19 ผลการเรียนรู้

191

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

รหัสวิชา ว33224 รายวิชา เคมี 4 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์

ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 ภาคเรียนที่ 1/2 เวลา 60 ชว่ั โมง จานวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาและทดลองชนิดและสมบัติบางประการของสารอิเล็กโทรไลต์ ไอออนในสารละลาย
กรด – เบส ทฤษฎีกรด – เบส คู่กรด – เบส การแตกตัวของกรด – เบส การแตกตัวของน้าบริสุทธิ์
การคานวณการแตกตัวของกรด – เบส pH ของสารละลาย สารละลายกรด – เบส ในชีวิตประจาวัน
และในส่ิงแวดล้อม ปฏิกิริยาระหว่างสารละลายกรดกับสารละลายเบส การคานวณหาความเข้มข้น
ของสารละลายกรด – เบส โดยการไทเทรต การเลือกใช้อินดิเคเตอร์สาหรับไทเทรตสารละลาย
องค์ประกอบและทดสอบสมบตั ิของสารละลายบัฟเฟอร์ ศึกษาปฏิกิริยาออกซิเดชัน ปฏิกิริยารีดักชัน
ปฏิกิริยารีดอกซ์ ตัวรีดิวซ์ ตัวออกซิไดซ์ การเขียนและดุลสมการรีดอกซ์โดยใช้เลขออกซิเดชัน
และคร่ึงปฏิกิริยา ศึกษาเซลล์เคมีไฟฟ้า ศึกษาและทดลองเก่ียวกับหลักการของเซลล์กัลวานิก ศึกษา
การเขียนแผนภาพของเซลล์กัลวานิก การหาค่าศักย์ไฟฟ้าของเซลล์และศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของ
คร่ึงเซลล์ ปฏิกิริยาในเซลล์กัลป์วานิก ประเภทเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ทุติยภูมิบางชนิด ทดลอง
เพ่ือศึกษาหลักการสร้างและการทางานของเซลล์สะสมไฟฟ้าแบบตะกั่ว ศึกษาหลักการของเซลล์
อิเล็กโทรไลติกและทดลองการแยกสารละลายด้วยไฟฟ้าตามหลักการของเซลล์อิเล็กโทรไลติก
การแยกสารที่หลอมเหลวด้วยไฟฟ้า ศึกษาและทดลองชุบโลหะด้วยกระแสไฟฟ้า ศึกษาวิธีการทาให้
โลหะบรสิ ุทธ์ิ การถลงุ แร่ ศกึ ษาและทดลองเกย่ี วกบั การกัดรอ่ นและการป้องกันการกัดกร่อนของโลหะ
ศกึ ษาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยที ่ีเกย่ี วขอ้ งกบั เซลลไ์ ฟฟ้าเคมี

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธบิ ายและสรุป

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. ระบุ และอธิบายว่าสารเป็นกรดหรือเบสโดยใช้ทฤษฎีกรด–เบสของอาร์เรเนียส

เบรนิ สเตด-ลาวรี และลิวอิส
2. ระบคุ ู่กรด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี
3. คานวณ และเปรียบเทียบความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของกรดและเบส

192

4. คานวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออน
ของสารละลายกรดและเบส

5. เขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิริยาสะเทิน และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลาย
หลังการสะเทิน

6. เขียนปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลซิ ิสของเกลอื และระบคุ วามเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลือ
7. ทดลอง และอธิบายหลักการการไทเทรตและเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมสาหรับ
การไทเทรตกรด-เบส
8. คานวณปรมิ าณสารหรือความเขม้ ข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต
9. อธิบายสมบัติ องคป์ ระกอบ และประโยชนข์ องสารละลายบัฟเฟอร์
10. สืบค้นข้อมูล และนาเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์และการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ
กรด–เบส
11. คานวณเลขออกซิเดชัน และระบุปฏกิ ิริยาท่เี ป็นปฏิกิรยิ ารดี อกซ์
12. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันและระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์ รวมท้ัง
เขียนครึ่งปฏิกิรยิ าออกซเิ ดชนั และครง่ึ ปฏิกิริยารีดกั ชันของปฏิกิริยารีดอกซ์
13. ทดลอง และเปรยี บเทยี บความสามารถในการเปน็ ตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์ และเขียน
แสดงปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์
14. ดลุ สมการรดี อกซด์ ว้ ยการใชเ้ ลขออกซเิ ดชนั และวธิ คี รง่ึ ปฏิกิริยา
15. ระบุองค์ประกอบของเซลล์เคมีไฟฟ้า และเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาที่แอโนดและ
แคโทด ปฏกิ ริ ิยารวมและแผนภาพเซลล์
16. คานวณคา่ ศกั ย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ข้ัวไฟฟ้า
และปฏกิ ริ ยิ าเคมีท่เี กิดข้นึ
17. อธิบายหลักการทางาน และเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาของเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์
ทุตยิ ภูมิ
18. ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้า
ที่ใช้ในการชุบโลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะให้บริสุทธิ์ และการป้องกัน
การกัดกรอ่ นของโลหะ
19. สืบค้นข้อมูล และนาเสนอตัวอย่างความก้าว หน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
กับเซลลเ์ คมีไฟฟา้ ในชีวติ ประจาวนั

รวมท้ังหมด 19 ผลการเรยี นรู้

193

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เติม

รหัสวิชา ว33225 รายวชิ า เคมี 5 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 ภาคเรียนที่ 1/2 เวลา 60 ช่ัวโมง จานวน 1.5 หน่วยกิต

กาหนดปัญหา สืบค้นข้อมูล และนาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้น
แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความรู้ทางเคมีร่วมกับสาขาวิชาอ่ืน รวมทั้งทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม คิดวิเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์
หรือประเด็นที่สนใจอย่างสร้างสรรค์ นาเสนอผลงานหรือช้ินงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์
ในงานนิทรรศการ ศึกษา วิเคราะห์ เปรียบเทียบ สืบค้นข้อมูล สารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเดี่ยว
พันธะคู่ หรือพันธะสาม ที่พบในชีวิตประจาวัน สูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ
และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบอินทรีย์ โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์
สูตรโครงสร้างและเรยี กชอื่ สารประกอบอินทรยี ป์ ระเภทตา่ ง ๆ ท่ีมีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน 1 หมู่ ตามระบบ
IUPAC ไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ จุดเดือดและการละลายในน้า
ของสารประกอบอินทรีย์ที่มีหมู่ฟังก์ชัน ขนาดโมเลกุล หรือโครงสร้างต่างกัน ประเภท
ของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยากับโบรมีน หรือปฏิกิริยา
กับโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต การเกิดปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาการสังเคราะห์เอไมด์
ปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลิซิสและปฏกิ ริ ิยาสะปอนนฟิ เิ คชัน ตัวอย่างการนาสารประกอบอินทรยี ์ไปใช้ประโยชน์
ในชีวิตประจาวันและอุตสาหกรรม ประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ โครงสร้างและสมบัติ
ของพอลิเมอร์ประเภทของพลาสติกและผลิตภัณฑ์ยางและการนาไปใช้ประโยชน์ การปรับเปล่ียน
โครงสร้าง และการสังเคราะห์พอลิเมอร์ท่ีมีต่อสมบัติของพอลิเมอร์ ผลกระทบจากการใช้
และการกาจดั ผลิตภัณฑ์พอลเิ มอรแ์ ละแนวทางแก้ไข

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ อธบิ ายและสรุป

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. กาหนดปญั หาและนาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์

ท่เี กิดขน้ึ ในชีวติ ประจาวัน การประกอบอาชีพ หรืออุตสาหกรรม

194

2. แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความรู้ทางเคมีร่วมกับสาขาวิชาอ่ืน รวมท้ังทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคิดวิเคราะห์
การแก้ปญั หาและความคดิ สร้างสรรค์ เพือ่ แกป้ ญั หาในสถานการณห์ รือประเด็นที่สนใจ

3. นาเสนอผลงานหรือชิ้นงานที่ได้จากการแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจ
โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

4. แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดง
ผลงานส่งิ ประดษิ ฐใ์ นงานนทิ รรศการ

5. สืบค้นข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเดี่ยว พันธะคู่
หรือพันธะสาม ท่ีพบในชีวติ ประจาวนั

6. เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ และสูตรโครงสร้างแบบเส้น
ของสารประกอบอินทรีย์

7. วิเคราะห์โครงสรา้ งและระบปุ ระเภทของสารประกอบอินทรยี จ์ ากหมู่ฟังก์ชัน
8. เขียนสูตรโครงสร้างและเรียกช่ือสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ท่ีมีหมู่ฟังก์ชัน
ไม่เกนิ 1 หมูต่ ามระบบ IUPAC
9. เขียนไอโซเมอร์โครงสรา้ งของสารประกอบอินทรยี ์ประเภทตา่ ง ๆ
10. วิเคราะห์และเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในน้าของสารประกอบอินทรีย์ท่ีมี
หมู่ฟงั ก์ชนั ขนาดโมเลกุล หรือโครงสรา้ งตา่ งกัน
11. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาการ
เผาไหม้ ปฏกิ ริ ิยากับโบรมีน หรือปฏกิ ริ ิยากับโพแทสเซียมเปอรแ์ มงกาเนต
12. เขียนสมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาการสังเคราะห์
เอไมด์ ปฏิกิรยิ าไฮโดรลซิ ิสและปฏิกิรยิ าสะปอนนฟิ เิ คชัน
13. ทดสอบปฏกิ ริ ิยาเอสเทอรฟิ ิเคชัน ปฏกิ ิริยาไฮโดรลซิ ิส และปฏิกิรยิ าสะปอนนิฟเิ คชัน
14. สืบค้นข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างการนาสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์
ในชวี ติ ประจาวันและอุตสาหกรรม
15. ระบุประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์ หรือ
พอลเิ มอร์
16. วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์
รวมทง้ั การนาไปใช้ประโยชน์
17. ทดสอบและระบปุ ระเภทของพลาสติกและผลิตภัณฑย์ าง รวมทั้งการนาไปใช้ประโยชน์
18. อธิบายผลของการปรับเปล่ียนโครงสร้าง และการสังเคราะห์พอลิเมอร์ที่มีต่อสมบัติ
ของพอลเิ มอร์
19. สืบค้นข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกาจัดผลิตภัณฑ์
พอลเิ มอรแ์ ละแนวทางแก้ไข

รวมทง้ั หมด 19 ผลการเรยี นรู้

195

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม

รหัสวิชา ว30221 รายวิชา เคมเี สรมิ ประสบการณ์ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1/2 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

ศึกษาเกี่ยวกับการทดลองในห้องปฏิบัติการเคมี ความแม่นยา ศึกษาการละลายน้า
ของสารประกอบไอออนิก ปฏกิ ิรยิ าการรวมตัวของไอออนหรือการตกตะกอนของสารละลายไอออนิก
ปริมาณสารสัมพันธ์ สารกาหนดปริมาณ และผลได้ร้อยละของปฏิกิริยา สมบัติของแก๊ส เปรียบเทียบ
แกส๊ จรงิ และแก๊สอดุ มคติ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธบิ ายและสรปุ

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. ฝึกทักษะการชัง่ มวล การวัด การตวงปริมาตรดว้ ยอุปกรณ์ตา่ ง ๆ
2. เปรียบเทียบความแมน่ (Accuracy) ของผลการทดลองจากการใช้อุปกรณ์ตวง

วัดปริมาตรต่าง ๆ
3. ศกึ ษาสารประกอบไอออนิกชนดิ ต่างๆ โดยอาศัยสมบัติการละลาย
4. ศึกษาปฏิกริ ยิ าการรวมตวั ของไอออนหรือการตกตะกอนของสารละลายไอออนิก

ชนิดต่าง ๆ
5. ปรมิ าณสารสมั พันธ์ สารกาหนดปรมิ าณ และผลได้รอ้ ยละของปฏกิ ริ ยิ า
6. หาค่าคงท่ีของแกส๊ (R) โดยอาศยั ความสมั พนั ธข์ อง ความดัน ปรมิ าตร อุณหภูมิ

และจานวนโมล ตามสมการสภาวะของแกส๊ อุดมคติ และของแกส๊ จริง

รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้

196

คาอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม

รหสั วชิ า ว30222 รายวิชา เคมเี สรมิ ประสบการณ์ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรียนที่ 1/2 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาเก่ียวกับค่าคงท่ีผลคูณการละลาย จลนศาสตร์ของปฏิกิริยาเคมี ปัจจัยท่ีมีผล
ต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี อันดับและค่าคงท่ีของปฏิกิริยาเพ่ือหาพลังงานกระตุ้นของปฏิกิริยา
สมบตั ิคอลลเิ กตีฟ การไทเทรตแบบย้อนกลบั หรอื การไทเทรตทางอ้อม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ อธิบายและสรปุ

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด
และแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง
มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. ศกึ ษาการหาค่าคงท่ีผลคูณการละลายของโพแทสเซียมไฮโดรเจนทารเ์ ทรต
2. ศกึ ษาอันดบั และคา่ คงท่ีของปฏิกริ ยิ าเพ่ือหาพลงั งานกระตนุ้ ของปฏิกริ ิยา
3. ศึกษาสมบตั คิ อลลิเกตีฟบางประการของสารละลาย
4. การวเิ คราะห์ปริมาณแอสไพรินด้วยเทคนคิ การไทเทรตแบบย้อนกลบั
รวมท้ังหมด 4 ผลการเรยี นรู้


Click to View FlipBook Version