The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ปลาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ปลาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย 2

ปลาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย 2

Keywords: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระปฐม,วิทยาลัย

97

คาํ อธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน

รหสั วชิ า ท31101 รายวชิ า ภาษาไทย 1 กลุมสาระการเรยี นรภู าษาไทย
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4
ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จาํ นวน 1.0 หนวยกติ

ศึกษาการอานออกเสียงบทรอยแกว บทรอยกรองไดอยางถูกตองเหมาะกับเร่ืองท่ีอาน
อานงานเขียนประเภทตางๆสรุปเร่ืองท่ีอาน ตีความ แปลความ และขยายความ วิเคราะห วิจารณ
ประเมินคาอยางมีเหตุผล แสดงความคิดเห็นโตแยง นําเสนอแนวคิดใหม สังเคราะหความรู ความคิด
จากการอานมาประยุกตใชในชีวิตจริง มีมารยาทในการอานรักการอาน ใชกระบวนการเขียน เขียน
ส่ือความในรูปแบบตาง ๆ เรียงความ ยอความ บันทึก รายงานการคนควาใชขอมูลสารสนเทศอางอิง
เขียนสื่อสารไดอยางมีประสิทธิภาพ มีมารยาทในการเขียน ทักษะการฟง ดู มีวิจารณญาณ
ในการเลือกฟง ดู วิเคราะห วิจารณ แสดงความคิดเห็นโตแยง นําเสนอแนวคิดใหม ประเมินคา
มาประยุกตใชในชีวิตจริง ทักษะการพูด พูดในโอกาสตาง ๆ ท้ังที่เปนทางการและไมเปนทางการ
พดู อภิปรายแสดงความคิดเห็น เสนอแนวคิด โดยใชภาษาถูกตองเหมาะสมมีมารยาทในการฟง ดู พูด
เขาใจธรรมชาติของภาษา พลังของภาษา ลักษณะภาษาไทย หลักภาษาไทย ความรูเร่ืองการออกเสียง
การสะกดคํา แตงบทรอยกรองประเภทตาง ๆ กลอน โคลง ฉันท ไดถูกตอง วิเคราะหและประเมิน
การใชภาษาจากสื่อสิ่งพิมพและส่ืออิเล็กทรอนิกส เห็นคุณคาของภาษาไทย รักษาภาษาไทยไวเปน
สมบัติของชาติ รูและเขาใจวรรณคดีและวรรณกรรมไทย วิเคราะห วิจารณ เช่ือมโยงเหตุการณทาง
ประวัติศาสตรและวิถีชีวิตสังคมไทยในอดีต ประเมินคา สังเคราะหขอคิดมาประยุกตในชีวิตจริง
เห็นคุณคาของวรรณคดีและวรรณกรรมไทยเปนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ รวบรวมวรรณกรรม
พ้ืนบานและอธิบายภูมิปญญาทางภาษา พรอมทั้งทองจําบทอาขยายและบทรอยกรองท่ีมีคุณคา
นาํ ไปใชอ า งอิง

โดยกระบวนการคิดวิเคราะห สังเคราะห กระบวนการกลุม การฝกปฏิบัติ การสืบคนขอมูล
การอภิปราย เพอื่ ใหเกิดความรู ความคิด ความเขาใจ เห็นคุณคา การนาํ ความรูไปปรบั ใชในชีวิตประจําวนั

เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เกิดการพัฒนาสมรรถภาพในการเรียนรู การศึกษาคนควา
เกิดทักษะทางภาษา นําความคิดไปใชในการตัดสินใจ แกไขปญหา เขาใจและเห็นคุณคาในวรรณคดี
และวรรณกรรมไทย สามารถนํามาประยุกตใชในชีวิตจริงได มีมารยาทในการอาน การเขียน การฟง การดู
และการพูด มีนิสัยรักการอาน การเขียนและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค สมรรถนะผูเรียนตาม
หลกั สูตร

98

รหสั ตัวช้ีวัด
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/7, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6

รวมท้ังหมด 27 ตัวชีว้ ดั

99

คาํ อธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน

รหัสวิชา ท31102 รายวิชา ภาษาไทย 2 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาไทย

ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จาํ นวน 1.0 หนว ยกติ

ศึกษาการอานออกเสียงบทรอยแกว บทรอยกรองเปนทํานองเสนาะ อา นงานเขียนประเภท
ตาง ๆ สรุปเรื่องท่ีอานวิเคราะห วิจารณ ประเมินคา คาดคะเนอยางมีเหตุผล แสดงความคิดเห็น
โตแยง นําเสนอแนวคิดใหม สังเคราะหความรู อานเรื่องตาง ๆ แลวเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด
บันทึกยอความและรายงานความคิดจากการอานมาประยุกตใชในชีวิตจริง มีมารยาทในการอาน
รักการอาน ใชกระบวนการเขียนเขียนส่ือความในรูปแบบตาง ๆ เขียนจดหมาย เรียงความ บันทึก
รายงานการคนควาใชขอมูลสารสนเทศอางอิง เขียนสื่อสารไดอยางมีประสิทธิภาพ มีมารยาทใน
การเขียน ทักษะการฟง ดู มีวิจารณญาณในการเลือกฟง ดู วิเคราะห วิจารณ แสดงความคิดเห็น
โตแยง นําเสนอแนวคิดใหม ประเมินคามาประยุกตใชในชีวิตจริง ทักษะการพูด พูดในโอกาสตาง ๆ
ทั้งท่ีเปนทางการและไมเปน ทางการ พูดตอที่ประชมุ ชน พูดอภิปรายแสดงความคิดเห็น เสนอแนวคิด
โดยใชภาษาถูกตองเหมาะสม มีมารยาทในการฟงดู พูด มีความรูเรื่องการใชคําและกลุมคํา
สรางประโยคส่ือสารไดตรงตามวัตถุประสงค มีความรูเรื่องการเพ่ิมคํา สรางคํา แตงบทรอยกรอง
ประเภทตาง ๆ กลอน ฉันท ไดถูกตอง วิเคราะหอิทธิพลของภาษาตางประเทศและภาษาถ่ิน รวมทั้ง
วิเคราะหและประเมินการใชภาษาจากสื่ออิเล็กทรอนิกสและส่ือส่ิงพิมพ เห็นคุณคาของภาษาไทย
รักษาภาษาไทยไวเปนสมบัติของชาติ รูและเขาใจวรรณคดีและวรรณกรรมไทย วิเคราะห วิจารณ
เชื่อมโยงเหตุการณทางประวัติศาสตรและวิถีชีวิตสังคมไทยในอดีต ประเมินคา สังเคราะหขอคิดมา
ประยุกตในชีวิตจริง เห็นคุณคาของวรรณคดีและวรรณกรรมไทยและรวบรวมวรรณกรรมพื้นบาน
ภูมิปญญาทางภาษาทเี่ ปน มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ ทองจําบทอาขยายและบทรอยกรองท่มี ีคุณคา
นาํ ไปใชอางองิ

โดยใชกระบวนการคิดวิเคราะห สังเคราะห กระบวนการกลุม การฝกปฏิบัติ การสืบคน
ขอมูล การอภิปรายเพื่อใหเกิดความรู ความคิด ความเขาใจ เพื่อใหมีความสามารถในการคิด
การส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรูมีความสามารถในการอาน การเขียน การฟงการดูและการพูด ตลอดจนเห็น
คณุ คาการนําความรูไปปรบั ใชใ นชวี ติ ประจาํ วนั

เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดการพัฒนาสมรรถภาพการเรียนรู การศึกษา
คนควา เกิดทักษะทางภาษา นําความคิดไปใชในการตัดสินใจ แกไขปญหา เขาใจและเห็นคุณคาใน

100

วรรณคดี และวรรณกรรมไทย สามารถนํามาประยุกตใชในชีวติ จริงได มีมารยาทในการอา น การเขียน
การฟง การดูและ การพูด มีนิสัยรักการอาน การเขียน และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค สมรรถนะ
ผูเรียนตามหลกั สตู ร

รหัสตัวชว้ี ัด
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/7, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/5 ,ม.4-6/6, ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6

รวมทั้งหมด 28 ตวั ชีว้ ัด

101

คาํ อธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน

รหสั วิชา ท32101 รายวิชา ภาษาไทย 3 กลุมสาระการเรียนรู ภาษาไทย

ชัน้ มัธยมศึกษาปท ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จาํ นวน 1.0 หนว ยกิต

การอานออกเสียงบทรอยแกวและบทรอยกรอง วิเคราะหและวิจารณเรื่องท่ีอาน ตอบ
คําถามจากการอานงานเขียนประเภทตาง ๆ เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ยอความ และ
รายงานจากเรื่องที่อาน มมี ารยาทในการอาน เขียนสื่อสารในรูปแบบตา ง ๆ เขียนเรียงความ เขียนยอ
ความจากส่ือตาง ๆ มีมารยาทในการเขียน วเิ คราะหแนวคิด การใชภาษา และความนาเช่ือถือจากเรอ่ื งที่ฟง และ
ดู ประเมินเรอ่ื ง ท่ีฟง และดูแลว กาํ หนดแนวทางนาํ ไปประยุกตใชในการดําเนินชวี ติ พูดในโอกาสตาง ๆ
พูดแสดงทรรศนะ โตแยง โนมนาวใจและเสนอแนวคิดใหม มีมารยาทในการฟง การดู และ
การพูด วิเคราะหและวจิ ารณวรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณเบ้ืองตน วิเคราะหลกั ษณะ
เดนของวรรณคดีเช่ือมโยงกับการเรียนรูทางประวัติศาสตร และวิถีชีวิตของสังคมในอดีต รวบรวม
วรรณกรรมพ้ืนบาน และอธิบายภูมิปญญาทางภาษา ทองจาํ และบอกคุณคาบทอาขยานตามท่ีกําหนด
และบทรอยกรองทมี่ ีคุณคา ตามความสนใจและนาํ ไปใชอางองิ

โดยใชกระบวนการอาน การเขียน การพูด การคิดวิเคราะห วิจารณ รวบรวม อธิบาย การฝก
ภาคปฏบิ ัติ ทองจาํ บทอาขยานและสบื คนขอ มลู

เพื่อใหน ักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดทักษะและสามารถนําไปใชปฏิบัติตนในสังคมได
อยางถกู ตอ งนําไปสคู ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค สมรรถนะผเู รียนตามหลกั สตู ร

รหสั ตัวช้ีวดั
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/5, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/2, ม.4-6/5
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/5, ม.4-6/6

รวมทั้งหมด 19 ตัวช้ีวัด

102

คาํ อธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

รหสั วชิ า ท32102 รายวิชา ภาษาไทย 4 กลมุ สาระการเรยี นรู ภาษาไทย

ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จาํ นวน 1.0 หนวยกิต

การอานออกเสียงรอ ยแกวประเภทบทความ ความเรยี งและเร่ืองส้ัน อานรอยกรองประเภท
ลลิ ิตและฉันท อา นจับใจความจากส่ือตาง ๆ มีมารยาทและนิสัยรักการอาน เขียนรายงานเชิงวิชาการ
เขียนบันทึกความรูจากแหลงการเรียนรูท่ีหลากหลาย เขียนอางอิงขอมูลสารสนเทศ มีมารยาทและ
นิสยั รักการเขียน พูดสรุปแนวคิดและการแสดงความคิดเห็นจากการฟงและดู การเลอื กเรอื่ งทฟี่ งและ
ดูอยางมีวิจารณญาณ มีมารยาทในการฟง การดู และการพูด คําและสํานวน การเรียบเรียงประโยค
การเพิ่มคํา การใชค ํา การเขยี นสะกดคํา แตงบทประพันธประเภทโคลง หลักการสรา งคําในภาษาไทย
การวิเคราะหและประเมินคาวรรณคดีและวรรณกรรมเก่ียวกับเหตุการณประวัติศาสตร และวิถีชีวิต
ของสังคมในอดีต วรรณกรรมพ้ืนบานท่ีแสดงถึงภาษากับวัฒนธรรมภาษาถ่ิน ทองบทอาขยานและ
บทรอ ยกรองที่มคี ุณคา

โดยใชกระบวนการกลุม การอาน การเขียน การคิดวิเคราะห การฝกภาคปฏิบัติการสืบคน
ขอ มูล และการอภปิ ราย

เพื่อใหเกิดความสามรถในการส่ือสารความคิด การแกปญหา การใชเทคโนโลยีตลอดจน
เห็นคุณคาการนําความรูไปปรับใชในชีวิตประจําวัน มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย ซ่ือสัตย
สุจริต มีวนิ ัย รักความเปน ไทย ใฝค วามรูแ ละมจี ิตสาธารณะ

รหสั ตวั ช้ีวดั
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/6
ท 5.1 ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6

รวมทั้งหมด 23 ตัวช้ีวดั

103

คาํ อธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหสั วชิ า ท33101 รายวชิ า ภาษาไทย 5 กลุม สาระการเรียนรู ภาษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จํานวน 1.0 หนวยกิต

ศึกษาอานออกเสียงรอยแกวประเภทบทความ นวนิยายและความเรียง อานรอยกรอง
ประเภทกาพย กลอน อานจับใจความจากส่ือตาง ๆ มีมารยาทและนิสัยรักการอาน เขียนเรียงความ
เขียนแสดงทรรศนะ โตแยง โนมนาวใจ เขียนอางอิงขอมูลสารสนเทศ ประเมินคุณคางานเขียนใน
ดานตาง ๆ มีมารยาทและนิสัยรักการเขียน วิเคราะห แนวคิด การใชภาษา และความนาเชื่อถือจาก
เร่ืองท่ีฟงและดู ประเมินเร่ืองที่ฟงและดูเพ่ือกําหนดแนวทางนําไปประยุกตใช พูดแสดงทรรศนะ
พดู โนมนา วใจ พดู ในโอกาสตาง ๆ มีมารยาทในการฟง การดู การพูด เขาใจธรรมชาติของภาษา พลัง
ของภาษาและลักษณะของภาษาไทย ใชภาษาเหมาะสมแกโอกาส กาลเทศะและบุคคล รวมท้ัง
คําราชาศัพท วิเคราะหและประเมินการใชภาษาจากส่ือส่ิงพิมพและส่ืออิเล็กทรอนิกส หลักการ
วิเคราะห วิจารณวรรณคดีเบื้องตน วิเคราะหลักษณะเดนของวรรณคดีและวรรณกรรมเกี่ยวกับ
เหตกุ ารณป ระวตั ศิ าสตรแ ละวิถชี วี ิตของสังคมในอดีต ทอ งจาํ บทอาขยานและบทรอยกรองที่มีคณุ คา

โดยใชกระบวนการกลุม การฝกปฏิบัติ การสืบคนขอมูล การอภิปรายเพ่ือใหเกิดความรู
ความคิด ความเขาใจ สามารถในการคิด การสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรูมีความสามารถในการอาน การเขียน
การพูด การแสดงออกซึ่งการแกปญหา สามารถใชเทคโนโลยี ตลอดจนเห็นคุณคาการนําความรู
ไปปรบั ใชใ นชวี ิตประจาํ วัน

เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ ความคิดรวบยอด ใฝรูใฝเรียน มีระเบียบวินัยมุงมั่นใน
การทํางานอยางมีระบบ ประหยัด ซื่อสัตย มีวิจารณญาณ รูจักนําความรูไปประยุกตใชใน
การดํารงชีวิตได อยางพอเพียง มีเจตคติท่ีดีตอภาษาไทย มีคุณลักษณะอันพึงประสงคและสมรรถนะ
ผูเรยี นตามหลักสตู ร

รหัสตัวช้ีวัด
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/8

ท 3.1 ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6

104

ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/6

รวมท้ังหมด 20 ตวั ช้ีวดั

105

คาํ อธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน

รหสั วิชา ท33102 รายวชิ า ภาษาไทย 6 กลุมสาระการเรียนรู ภาษาไทย
ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 6
ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จาํ นวน 1.0 หนว ยกติ

ศึกษาอานออกเสียงรอยแกวประเภทบทความ นวนิยายและความเรียง อานรอยกรอง
ประเภทฉันท อานจับใจความจากสื่อตาง ๆ มีมารยาทและนิสัยรักการอาน เขียนอธิบาย เขียน
บรรยาย เขียนพรรณนา เขียนบันเทงิ ค พูดสรุปแนวคิดและการแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองที่ฟง และดู
เลอื กเรือ่ งที่ฟงและดูอยางมีวิจารณญาณ มีมารยาทในการฟง การดู การพูด ประเมินการใชภ าษาจาก
ส่ือส่ิงพิมพและสื่ออิเล็กทรอนิกส การแตงคําประพันธประเภท กาพย และฉันท การวิเคราะหและ
ประเมนิ คุณคา วรรณคดี และวรรณกรรม การสังเคราะหว รรณคดีและวรรณกรรม

โดยใชกระบวนการกลุม การฝกปฏิบัติ การสืบคนขอมูล การอภิปรายเพ่ือใหเกิดความรู
ความคิด ความเขาใจ

เพ่ือใหเกิดความรูความเขาใจ ความคิดรวบยอด ใฝรูใฝเรียน มีระเบียบวินัยมุงม่ันใน
การทํางานอยางมีระบบ ประหยัด ซื่อสัตย มีวิจารณญาณ รูจักนําความรูไปประยุกตใชใน
การดํารงชีวิตได อยางพอเพียง มีเจตคติที่ดีตอภาษาไทย มีคุณลักษณะอันพึงประสงคและสมรรถนะ
ผูเ รยี นตามหลักสตู ร

รหสั ตวั ชี้วัด
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/7, ม.4-6/8, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/4, ม.4-6/7, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6

รวมทั้งหมด 19 ตวั ช้ีวัด

106

คาํ อธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เติม

รหสั วิชา ท30201 รายวิชา การเขยี น 1 กลมุ สาระการเรยี นรู ภาษาไทย

ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จํานวน 1.0 หนวยกติ

ศึกษาและฝกปฏิบัติการเขียนรูปแบบตาง ๆ เก่ียวกับหลักเกณฑการผูกประโยค ไปใชใน
การเขียนสื่อสารไดถูกตอง เขียนยอหนา เขียนขอความหลายยอหนา เขียนขอความหลายยอหนา
เขียนบันทึก เขียนประกาศ เขียนจดหมาย เขียนรายงาน เขียนเรียงความ เขียนยอความ โดยใช
กระบวนการเขียน พัฒนางานเขียนอยางมีคุณธรรม มีมารยาทในการเขียน มีนิสัยรักการเขียน
การศกึ ษาคน ควาเพ่ือพัฒนางานเขียน และประเมินคณุ คางานเขยี นตามหลักการประเมนิ

โดยใชกระบวนการอาน การเขียน การฟง การดูและการพูด การคิดวิเคราะห สังเคราะห
กระบวนการกลุม การฝกปฏิบัติ การสืบคนขอมูล การอภิปราย เพ่ือใหเกิดความรู ความคิด ความเขาใจ
เหน็ คณุ คาการนําความรไู ปปรบั ใชใ นชีวติ ประจาํ วนั

เพ่ือใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดการพัฒนาสมรรถภาพในการเรียนรู การศึกษา
คนควา เกิดทักษะทางภาษา นําความคิดไปใชในการตัดสินใจ แกไขปญหา เขาใจและเห็นคุณคาใน
วรรณคดี และวรรณกรรมไทย สามารถนํามาประยุกตใชใ นชีวิตจรงิ ได มมี ารยาทในการอาน การเขียน
การฟง การดูและการพูด มีนิสัยรักการอาน การเขียนและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค สมรรถนะ
ผเู รียนตามหลักสตู ร

ผลการเรียนรู
1. อธิบายเกย่ี วกับหลกั เกณฑการผูกประโยค
2. ผูกประโยคการส่ือสารดว ยการเขยี นไดถ ูกตอง
3. เขยี นเกี่ยวกบั ลกั ษณะของยอหนาและสามารถเขยี นยอ หนารปู แบบตางๆไดอยางถูกตอ ง
4. เขียนขอ ความหลายยอ หนาและสามารถนําไปใชไ ด
5. อธิบายความหมาย ประเภท หลักการเขยี นบันทกึ และสามารถเขียนบันทึกไดถูกตองตาม

รูปแบบ
6. เขียนประกาศรูปแบบตา ง ๆ และสามารถเขียนประกาศได
7. เขียนจดหมายไดอยางถกู ตองตามรูปแบบการเขียนจดหมาย

107

8. เขยี นรายงานตามหลักเกณฑไดอยางถูกตอง
9. เขยี นเรียงความตามหลกั เกณฑ และสามารถเขยี นเรยี งความไดอ ยางมปี ระสทิ ธิภาพ
10. อธบิ ายเก่ียวกับรปู แบบของการยอความ และเขียนยอความไดใ จความครบถว น

รวมทั้งหมด 10 ผลการเรยี นรู

108

คําอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เติม

รหสั วชิ า ท30202 รายวิชา การเขียน 2 กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4-6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จาํ นวน 1.0 หนวยกติ

ศึกษาเกี่ยวกับหลักการเขียน ลักษณะลีลาหรือโวหารของงานเขียน ลีลาหรือโวหาร
ในการเรยี บเรยี ง การเขียนบรรยาย การเขียนอธิบาย การเขียนพรรณนา การเขียนคํากลาวในโอกาส
ตางๆ การเขียนบทความ การเขียนบทสนทนา การเขียนบันเทิงคดี และการแตงคําประพันธ โดยใช
กระบวนการเขียน มาผลติ งานเขยี นสื่อสารในรูปแบบตาง ๆ ทมี่ ีเนอ้ื หาสาระถูกตอง ครบถว น เลือกใช
ถอยคําสํานวนโวหารอยางสละสลวยกอใหเกิดความเพลิดเพลิน นาอาน รวมกับการใชทักษะ
กระบวนการเรียนรู กระบวนการคิด กระบวนการกลุม กระบวนการเขียน มาฝกฝนปฏิบัติใหเกิด
ทักษะความชํานาญในงานเขียนส่ือสารตามโอกาสตางๆ ดวยรูปแบบท่ีเหมาะสม ทั้งเน้ือหา
จดุ มงุ หมาย มนี ิสยั รกั การเขียนและมมี ารยาทในการเขียน

โดยใชกระบวนการกลุม การฝกปฏิบัติ การสืบคนขอมูล การอภิปรายเพื่อใหเกิดความรู
ความคิด ความเขาใจ เพ่ือใหมีความสามารถในการคิด การสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรูมีความสามารถใน
การอาน การเขียน การพูด ตลอดจนเห็นคุณคาการนําความรูไปปรับใชในชีวิตประจําวัน มีความรัก
ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ  มีวนิ ยั ใฝเรยี นรู มงุ ม่นั ในการทํางานและรักความเปนไทย

เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดการพัฒนาสมรรถภาพในการเรียนรู การศึกษา
คนควา เกิดทักษะทางภาษา นําความคิดไปใชในการตัดสินใจ แกไขปญหา เขาใจและเห็นคุณคา
ในวรรณคดี และวรรณกรรมไทย สามารถนํามาประยุกตใชในชีวิตจริงได มีมารยาทในการอาน การ
เขียน การฟง การดูและการพูด มีนิสัยรักการอาน การเขียนและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค
สมรรถนะผูเรียนตามหลกั สูตร

ผลการเรยี นรู
1. อธบิ ายลกั ษณะลลี าหรอื โวหารของงานเขยี น

2. อธบิ ายลกั ษณะ ประเภท และหลกั การเขียนบรรยายและพรรณนา
3. อธบิ ายการเขยี นเรียบเรียงงานเขยี นไดต รงตามจดุ มุงหมาย

109

4. อธิบายหลักการเขียนบันทึก เขียนบันทึกรูปแบบตาง ๆ แลวนําไปปรับใชใชวี ิตประจําวัน
ได

5. อธิบายและเขยี นเกย่ี วกบั หลกั การเขยี นคาํ กลาวในโอกาสตาง ๆ
6. อธบิ ายหลกั การเขียนบทความและเขียนบทความประเภทตา ง ๆ ไดถกู ตอ งตามรูปแบบ
7. อธิบายหลักการเขียนบทสนทนา เขียนบทสนทนารูปแบบตาง ๆ และนําไปปรับใชใน
ชวี ติ ประจําวนั
8. อธบิ ายหลักการเขียนการเขียนบันเทิงคดีและงานเขียนบันเทิงคดีประเภทตา ง ๆ ไดอยาง
มีประสทิ ธิภาพ
9. อธิบายหลักการแตงคาํ ประพันธป ระเภทตา ง ๆ ไดอยา งมีประสทิ ธภิ าพ

รวมท้ังหมด 9 ผลการเรียนรู

110

คาํ อธิบายรายวิชาเพิม่ เติม

รหสั วชิ า ท30203 รายวิชา การพดู ในท่ชี ุมชน กลุมสาระการเรยี นรภู าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 4-6 ภาคเรยี นที่ 1-2 เวลา 40 ชัว่ โมง จํานวน 1.0 หนวยกติ

ศึกษาความหมายและความสําคัญของการพูด มารยาทในการพูด คุณสมบัติที่ดีของผูพูด
ศกึ ษาหลักและศิลปะของการพูดประเภทตาง ๆ เชน การพดู บรรยาย การพูดพรรณนา การพูดชกั ชวน
การพูดอภิปราย การโตวาที การสัมภาษณ การพูดพิธีกร รวมถึงการเตรียมขอมูลในการพูดประเภท
ตาง ๆ

โดยใชกระบวนการอาน การฟง การเขียน กระบวนการกลุม กระบวนการคิด กระบวนการทาง
ภาษา การปฏิบัติจริง การศึกษาคนควา การใชเทคโนโลยีและการใชแหลงเรียนรูตาง ๆ เพ่ือนํามา
ประกอบการพูด การนําเสนอความคิดดวยการพูด การใชสื่อเพ่ือชวยในการนําเสนอประเด็น รวมท้ัง
การฝก ฝนและพัฒนาการพดู ตามวัตถุประสงคแ ละโอกาสท่แี ตกตางกัน

เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดทักษะ และสามารถนําไปปฏิบัติตนในสังคมไดอยาง
ถกู ตอง อนั นาํ ไปสคู ณุ ลักษณะอนั พึงประสงคแ ละสมรรถนะผเู รียน

ผลการเรยี นรู
1. มีความรูความเขาใจเกีย่ วกบั การพดู บรรยายและสามารถพดู บรรยายได
2. มีความรคู วามเขาใจเกี่ยวกับการพูดพรรณนาและสามารถพดู พรรณนาได
3. รูและเขาใจความหมาย จุดประสงค หลักการพูดชักชวนและสามารถพดู ชักชวนได
4. มีความรูความเขา ใจเกยี่ วกับการอภิปรายและสามารถจัดการอภปิ รายได
5. อธบิ ายความหมาย จดุ ประสงค สว นประกอบของการโตวาทีและสามารถจัดการโตว าทไี ด
6. มีความรูท ัว่ ไปในการสัมภาษณและสามารถสมั ภาษณต ามสถานการณท ี่กาํ หนดใหไ ด
7. เขาใจความหมาย หนาท่ีและคุณสมบัติของพิธีกรตลอดจนสามารถแสดงบทบาทสมมุติ

การทําหนา ทพี่ ธิ กี รได
8. สามารถพูดในโอกาสตา ง ๆ ตามท่ีกําหนดใหได

รวมทง้ั หมด 8 ผลการเรยี นรู

111

คําอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม

รหสั วชิ า ท30204 รายวิชา วรรณกรรมทอ งถิน่ กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาไทย

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 40 ชวั่ โมง จาํ นวน 1.0 หนว ยกิต

ศึกษาความหมาย ประวัติความเปนมา ลักษณะ รูปแบบ ประเภทและจุดมุงหมายของ
วรรณกรรมทองถ่ินได บอกคุณคา ความสําคัญของวรรณกรรมทองถิ่นท่ีมีตอสังคมไทย อธิบาย
ความหมาย สวนประกอบ ประเภท วิธีการเลนปริศนาคําทาย วิเคราะหคุณคาอันเกิดจากการเลน
ปริศนาคําทาย อธิบายเก่ียวกับเพลงพื้นบานของภาคตางๆประวัติความเปนมาและเนื้อหาสาระของ
เพลงพนื้ บาน วิเคราะหคุณคาของเพลงพ้ืนบานในดา นสังคม อธบิ ายความหมาย ลักษณะและประเภท
ของวรรณกรรมทองถิ่นภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใตและภาคอีสาน วิเคราะหคุณคาทางดาน
วรรณศิลปและคุณคาทางดานสังคมของวรรณกรรมทองถิ่น บอกแนวทางในการอนุรักษและสืบทอด
วัฒนธรรมทองถ่ินเพอื่ ใหเหน็ คุณคา ตระหนักและเกิดความรักหวงแหนในวรรณกรรมทองถ่ินของชาติ
อนั ถือเปน เอกลกั ษณและวัฒนธรรมทางภาษาท่ีดีงามควรคาแกการอนุรกั ษและสืบทอดในฐานะทีเ่ ปน
ภมู ปิ ญ ญาทอ งถิ่นภมู ปิ ญ ญาไทยใหคงอยสู ืบไป

โดยใชกระบวนการอาน การเขียน การฟง การดูและการพูด การคิดวิเคราะห สังเคราะห
กระบวนการเรียนรูแบบบูรณาการ การฝกปฏิบัติ การสืบคนขอมูล การอภิปราย เพื่อใหเกิดความรู
ความคดิ ความเขาใจ และการนาํ ความรูไปประยุกตใ ชในชีวิตประจําวัน

เพ่ือใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดการพัฒนาสมรรถภาพในการเรียนรู การศึกษา
คนควา เกิดทักษะทางภาษา นําความคิดไปใชในการตัดสินใจ แกไขปญหา เขาใจและเห็นคุณคา
ในวรรณคดี และวรรณกรรมไทย สามารถนํามาประยุกตใชในชีวิตจริงได และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค
สมรรถนะผูเ รยี นตามหลกั สตู ร

ผลการเรียนรู
1. อธิบายความหมาย ประวัติความเปนมา ลักษณะ รูปแบบ ประเภทและจุดมุงหมายของ

วรรณกรรมทอ งถน่ิ ได
2. บอกคุณคาและความสาํ คัญของวรรณกรรมทองถิ่นทม่ี ตี อสงั คมไทย

3. อธิบายความหมาย สวนประกอบ ประเภท วธิ กี ารเลน ปริศนาคําทาย

112

4. วเิ คราะหค ุณคา อนั เกิดจากการเลน ปรศิ นาคําทาย
5. อธิบายเก่ียวกับเพลงพนื้ บานของภาคตา งๆประวัติความเปนมาและเน้ือหาสาระของเพลง
พ้นื บา น
6. วเิ คราะหค ณุ คาของเพลงพื้นบานในดานสงั คม
7. อธิบายความหมาย ลักษณะและประเภทของวรรณกรรมทองถน่ิ ภาคเหนอื ภาคกลาง
ภาคใตแ ละภาคอีสาน
8. วเิ คราะหค ณุ คาทางดานวรรณศลิ ปและคุณคาทางดานสงั คมของวรรณกรรมทองถน่ิ
9. บอกแนวทางในการอนรุ กั ษแ ละสืบทอดวัฒนธรรมทองถน่ิ

รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู

113

คาํ อธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เติม

รหัสวิชา ท30205 รายวชิ า หลกั การใชภาษาไทย กลุมสาระการเรียนรภู าษาไทย

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 40 ชว่ั โมง จํานวน 1.0 หนวยกติ

ศกึ ษาหลักการใชภาษาไทยเรื่องธรรมชาติของภาษา กําเนดิ ของภาษา ลกั ษณะของภาษาไทย
และศึกษาเรื่องเสียงในภาษาไทย ไตรยางศ อักษรควบ อกั ษรนํา คําเปน คําตาย เปรียบเทียบลักษณะ
ของคําไทยแทกับคําภาษาในกลุมอาเซียน วิเคราะหอทิ ธพิ ลของภาษาตา งประเทศและภาษาถิ่นทีม่ ีตอ
ภาษาไทย วิเคราะหลักษณะการสรางคําในภาษาไทย วิเคราะหชนิดและหนาที่ของคํา สามารถ
เลือกใชคํา กลุมคํา มาแตงประโยคความเดียว ความรวม และความซอนไดอยางถูกตองและ
สรา งสรรค เพ่อื ประโยชนในการสอื่ สาร และนําไปใชใ นชีวิตประจาํ วัน

โดยใชกระบวนการเรียนการคิด กระบวนการสรางความรู กระบวนการสรางความตระหนัก
กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเรียนรูของตนเอง กระบวนการกลุม

เพ่ือใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดทักษะ และสามารถนําไปปฏิบัติตนในสังคมไดอยาง
ถกู ตอ ง อันนาํ ไปสูคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคและสมรรถนะผเู รยี น

ผลการเรยี นรู
1. อธบิ ายและวิเคราะหธรรมชาติของภาษา พลงั ของภาษา และลักษณะของภาษา
2. มคี วามรคู วามเขาใจเสียงในภาษาไทยและไตรยางศไดอยางถกู ตอง
3. มีความรูความเขา ใจและสามารถวเิ คราะหอ ักษรควบ อกั ษรนาํ คาํ เปน คาํ ตายได
4. ศึกษาและวเิ คราะหลกั ษณะของภาษาตา งประเทศและภาษาในกลุมอาเซยี นได
5. ศกึ ษาและวเิ คราะหอ ทิ ธิพลของภาษาตางประเทศและภาษาถนิ่ ที่มตี อ ภาษาไทยได
6. ศึกษาและวิเคราะหการสรางคําขน้ึ ใชในภาษาไทยได
7. ศึกษาและวเิ คราะหชนิดและหนาทข่ี องคําชนดิ ตาง ๆ ได
8. มีความรูความเขา ใจในการวิเคราะห และเลือกใชคาํ ไดอยา งเหมาะสม
9. มีความรคู วามเขาใจกลมุ คําและเลือกใชกลุมคาํ ไดอ ยางถูกตอง
10. ศกึ ษาและวเิ คราะหป ระโยคชนิดตา ง ๆ และสามารถแตงประโยคชนดิ ตา ง ๆ ได

รวมท้ังหมด 10 ผลการเรียนรู

114

คาํ อธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เติม

รหสั วชิ า ท30206 รายวิชา การเขยี นในชีวติ ประจาํ วัน กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาไทย

ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 40 ช่วั โมง จํานวน 1.0 หนว ยกิต

ศึกษาการเขียนขอความโดยใชถอยคําไดถูกตอง เขียนสื่อสารในชีวิตประจําวันในรูปแบบตาง ๆ
ไดต ามวตั ถปุ ระสงค โดยใชภ าษาเรียบเรยี งถกู ตอง มขี อมลู และสาระสาํ คญั ชัดเจน เขียนเพอ่ื การศึกษา
เขียนบันทึกความรู เขียนรายงาน เขียนโครงการอยางมีประสิทธิภาพ บอกแนวทางการเขียนส่ือ
อิเล็กทรอนิกส โดยใชภาษาที่ถูกตอง เขียนสื่อสารผานทางสื่ออิเล็กทรอนิกสใชระดับภาษาเหมาะสม
กาลเทศะอยางมีมารยาท และเขียนแสดงความคิดเห็นบนพ้ืนที่สาธารณะ โดยใชภาษาสุภาพ
สละสลวย

โดยใชก ระบวนการเขียน ส่ือสาร และแสดงความคดิ เหน็

เพื่อใหนักเรียนเกิดความรูความใจ เกิดทักษะและสามารถนําไปปฏิบัติตนในสังคมอยาง
ถกู ตอง อนั นําไปสูคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค สมรรถนะผเู รียนตามหลกั สตู ร

ผลการเรยี นรู
1. เขยี นขอ ความโดยใชถอ ยคําไดถ กู ตอง
2. เขียนสื่อสารในชีวิตประจําวันในรูปแบบตาง ๆ ไดตามวัตถุประสงค โดยใชภาษาเรียบเรียง

ถกู ตอง มีขอ มลู และสาระสาํ คัญชัดเจน
3. เขยี นเพอ่ื การศึกษา เขียนบันทึกความรู เขียนรายงาน เขียนโครงการอยางมีประสทิ ธภิ าพ
4. บอกแนวทางการเขียนสื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส โดยใชภาษาที่ถูกตอง
5. เขียนสื่อสารผานทางส่ืออิเล็กทรอนิกสใชระดับภาษาเหมาะสมกับกาลเทศะ และ

มมี ารยาทในการเขยี น
6. เขยี นแสดงความคิดเหน็ บนพ้นื ทส่ี าธารณะ โดยใชภาษาสภุ าพสละสลวย

รวมทงั้ หมด 6 ผลการเรียนรู

115

คาํ อธิบายรายวชิ าเพิม่ เติม

รหสั วชิ า ท30207 รายวชิ า การอา นและพจิ ารณาวรรณกรรม กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 40 ชวั่ โมง จาํ นวน 1.0 หนว ยกิต

ศึกษาหลักการ วิธีการ วิเคราะหการอาน ฝกอานขอเขียน และวรรณกรรมรูปแบบตาง ๆ
ท้ังบันเทิงคดี และสารคดีที่เปนรอยแกวและรอยกรอง วิเคราะหแยกเนื้อหาท่ีแสดงอารมณ แสดง
ขอเท็จจริงและความคิดเห็น แยกองคประกอบของวรรณกรรม พิจารณาการใชคํา ขอความ สํานวน
โวหาร แนวคิด ขอ คดิ ประเดน็ สาํ คัญของเร่อื ง วจิ ารณแ ละประเมินคา เรื่องอาน

โดยใช กระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสรางความรูความเขาใจ
กระบวนการกลุม กระบวนการคดิ อยางมีวจิ ารณญาณ และกระบวนการสรางความตระหนกั

เพือ่ ใหเกดิ การพัฒนาสมรรถภาพการเรยี นรู พัฒนาความคดิ เพิม่ พูนทักษะการอา นสามารถ
แสดงความคิดเห็นเชิงวิจารณในเรื่องท่ีอาน เขาใจสารของผูแตง เห็นคุณคาของวรรณกรรมที่อาน
มมี ารยาท และมีนิสยั รักการอาน

ผลการเรยี นรู
1. มคี วามรคู วามเขาใจเก่ยี วกับพืน้ ฐานของการอาน
2. อานจับใจความสําคัญ สรปุ ประเด็น สรปุ แนวคดิ เขียนผงั ความคดิ จากเร่ืองทอี่ านได
3. แยกประเภทและบอกองคประกอบของวรรณกรรมแตล ะประเภทได
4. อานวเิ คราะหขาว ประกาศ และโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ
5. วิเคราะห วจิ ารณ และประเมนิ คาบทความท่ีอา นได
6. วเิ คราะห วิจารณ และประเมนิ คา สารคดีทีอ่ านได
7. วเิ คราะห วจิ ารณ และประเมินคา เรื่องส้นั ท่ีอานได
8. วเิ คราะห วิจารณ และประเมนิ คา นวนิยายที่อานได
9. วเิ คราะห วิจารณ และประเมินคา บทละครท่ีอา นได
10. วเิ คราะห วิจารณ และประเมินคาบทรอยกรองที่อานได
11. เลือกอานและแนะนําวรรณกรรมที่มีคุณคาได
12. มีมารยาทในการอาน

รวมทั้งหมด 12 ผลการเรียนรู

116

คาํ อธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เติม

รหัสวิชา ท30208 รายวชิ า การเขียนเชิงสรางสรรค กลุมสาระการเรียนรูภ าษาไทย

ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 40 ช่ัวโมง จํานวน 1.0 หนว ยกติ

ศกึ ษาพื้นฐานการเขยี นเรียงความ และการเขียนเรียงความจากจินตนาการอยางสรางสรรค
การเขียนและการคิดวิเคราะหสํานวนโวหารตาง ๆ รวมท้ังการศึกษาพ้ืนฐาน ความเปนมา และ
ความหมายของนิทานและสํานวนไทยในลักษณะตาง ๆ การเขียนนิทานจากสํานวนไทย และมารยาท
ในการเขียนท่ดี ี

โดยใชกระบวนการสรางความตระหนัก กระบวนการสรางความรูความเขาใจ กระบวนการ
เรยี นภาษา กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการส่อื สาร และกระบวนการกลมุ

เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดทักษะและสามารถนําไปใชปฏิบัติตนในสังคม
ไดอยางถูกตอ งนาํ ไปสูคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค และสมรรถนะผูเรียนตามหลักสตู ร

ผลการเรยี นรู
1. เขียนเรยี งความจากจนิ ตนาการได
2. เขียนส่ือสารโดยใชส ํานวนโวหารไดไ พเราะและถูกตอง
3. เขียนส่อื สารโดยใชถอ ยคาํ ถูกตอง ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย
4. แตงนิทานจากสํานวนไทยไดอยา งถูกตอง
5. มีมารยาทในการเขียน

รวมท้ังหมด 5 ผลการเรยี นรู

117

คําอธิบายรายวชิ าเพิม่ เติม

รหัสวชิ า ท30209 รายวิชา การแตง คาํ ประพันธ กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 4-6 ภาคเรยี นที่ 1-2 เวลา 40 ชั่วโมง จํานวน 1.0 หนว ยกิต

ศึกษาวิเคราะหและฝกทักษะเกี่ยวกับขอบังคับของคําประพันธประเภทตาง ๆ ฝกแตง
คํ าประพั นธประเภทโคลง ฉั นท กาพย กลอน รายโดยคํ านึ งถึ งฉั นทลั กษณ สั มผั สบั งคั บ
ความไพเราะ เน้อื หาสาระ ความคิดสรางสรรค

โดยใชกระบวนการเรียนภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสรางความตระหนัก
กระบวนการกลุม กระบวนการสรา งความรูความเขาใจเปนสวนหนงึ่ ในการเรียนการสอน

เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดทักษะ และสามารถนําไปใชปฏิบัติตนในสังคมได
อยางถกู ตอ ง นาํ ไปสคู ุณลักษณะอนั พงึ ประสงค สมรรถนะผเู รียนตามหลักสูตร

ผลการเรียนรู
1. อธบิ ายความหมายของรอยกรองได
2. อธิบายความรูเก่ียวกับประเภทของบทรอยกรองและลักษณะบังคับของบทรอยกรอง

ประเภทตา ง ๆ ได
3. อธบิ ายและประเมนิ คาบทรอยกรองในดา นความงามจากตัวอยา งที่กาํ หนดใหไ ด
4. อธบิ ายขอบังคับกลอนแตละประเภท และสามารถแตง กลอนประเภทตาง ๆ ได
5. อธิบายลักษณะ ขอบังคับของโคลง และสามารถแตงโคลงตามท่ตี นถนัดได
6. อธบิ ายขอบังคับของกาพยแตละประเภท และสามารถแตงกาพยตามหวั ขอท่ีถนดั ได
7. อธิบายขอบงั คบั ของรา ย และสามารถแตง รา ยที่ตนถนัดได
8. มีความรูความเขาใจเก่ียวกับคําประพันธประเภทฉันท และสามารถแตงฉันทตาม

หัวขอ ทก่ี ําหนดและตามทีต่ นถนดั ได

รวมทั้งหมด 8 ผลการเรียนรู

118

คําอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม

รหัสวิชา ท30210 รายวิชา ภาษากบั วฒั นธรรม กลมุ สาระการเรยี นรูภ าษาไทย
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4-6 ภาคเรยี นที่ 1-2 เวลา 40 ช่ัวโมง จํานวน 1.0 หนว ยกติ

ศึกษาเรื่องความหมายของภาษากับวัฒนธรรม ลักษณะของวัฒนธรรมไทย ความสัมพันธ
ระหวางวัฒนธรรมไทยกับภาษาไทย ความหมายของคําวาประเพณี ลักษณะของประเพณีไทย
ความสําคัญของภาษาไทยท่ีมีตอประเพณีไทย ภาษาและสํานวนไทยท่ีไดจากประเพณีไทยศิลปกรรม
ไทยแขนงตาง ๆ ลักษณะเดนอันแสดงเอกลักษณของศิลปกรรมไทย ความสัมพันธระหวางภาษาไทย
กับศิลปกรรมไทย คุณคาของศิลปกรรมไทยแขนงตาง ๆ ศึกษาความหมายของคําวาคติชาวบาน
ความสัมพันธระหวางภาษาไทยกับคติชาวบาน ความหมายและความไพเราะของภาษาจาก
คติชาวบาน ความสําคัญของภาษาไทยในดานการสืบทอดวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมตางชาติที่
สังคมไทยยอมรับและการเปล่ียนแปลงของภาษาไทยซ่ึงเกิดจากการรับวัฒนธรรมตางชาติ ศึกษา
บทบาทของภาษาไทยตอ การสืบทอดและสงเสรมิ วฒั นธรรมอนั เปนเอกลกั ษณข องชาตไิ ทย

โดยใชกระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสรางความรูความเขาใจ
กระบวนการกลมุ กระบวนการคิดอยางมีวจิ ารณญาณ และกระบวนการสรางความตระหนกั

เพ่ือใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดทักษะ และสามารถนําไปใชปฏิบัติตนในสังคมได
อยางถกู ตอง นาํ ไปสคู ุณลกั ษณะอันพึงประสงค สมรรถนะผูเรยี นตามหลักสูตร

ผลการเรียนรู
1. อธิบายความหมายของภาษาและวัฒนธรรมได
2. จาํ แนกประเภทวฒั นธรรมได
3. อธิบายความสัมพนั ธร ะหวางวัฒนธรรมไทยกับภาษาไทยได
4. จาํ แนกประเภทของประเพณีได
5. อธบิ ายลกั ษณะเดน อนั แสดงเอกลักษณของศิลปกรรมไทยได
6. อธิบายความหมายของคําวา คติชาวบานได
7. อธบิ ายความสัมพันธระหวา งภาษาไทยกับคติชาวบา นได

119

8. อธิบายความสาํ คัญของภาษาไทยในดานการสืบทอดวัฒนธรรมได
9. อธบิ ายวฒั นธรรมตางชาติทส่ี งั คมไทยยอมรบั และการเปลยี่ นแปลงของภาษาไทยซึ่งเกิด
จากการรับวัฒนธรรมตา งชาติได
10. อธบิ ายบทบาทของภาษาไทยตอการสบื ทอดและสง เสริมวัฒนธรรมอันเปนเอกลกั ษณ
ของชาติไทยได

รวมท้ังหมด 10 ผลการเรยี นรู

120

คําอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม

รหสั วชิ า ท30211 รายวิชา ภาษาไทยเพอื่ กิจกรรมการแสดง กลุมสาระการเรยี นรภู าษาไทย
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 4-6 ภาคเรยี นที่ 1-2 เวลา 40 ช่ัวโมง จาํ นวน 1.0 หนวยกติ

ศึกษาการใชภาษาไทย การเลานิทาน การเลาเรื่องขบขัน การเลาเร่ืองต่ืนเตน ฝกการพูด
บรรยายหรือแนะนําการแสดง การทําหนาที่พิธีกรหรือโฆษก การละเลนพ้ืนบานของทองถิ่นและ
การแสดงละคร และการแสดงบทบาทสมมตุ ิ

โดยใชกระบวนการเรียนรูแบบบูรณาการ กระบวนการทางภาษา กระบวนการสรางความรู
ความเขาใจ กระบวนการกลุม กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ กระบวนการสรางความตระหนัก
กระบวนการเผชิญสถานการณแ ละแกป ญหา

เพ่ือใหมีความรูความเขาใจการใชภาษาไทยในกิจกรรม การแสดง และเปนเคร่ืองมือสราง
ความบันเทิง มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย มีวินัย ใฝเรียนรู มุงมั่นในการทํางาน รักความเปนไทย
และนาํ ความรไู ปใชใ นชีวติ ประจําวัน

ผลการเรียนรู
1. มีความรูความเขา ใจเร่ืองความสาํ คัญของการใชภ าษาไทยเพอ่ื กจิ กรรมการแสดง
2. มคี วามรูความเขาใจเรื่องปจจยั สําคญั ทใ่ี ชใ นกิจกรรมการแสดง
3. แตงเร่ืองเลา ประเภทตาง ๆ ได
4. เขยี นบทละครและแสดงละครได
5. เขยี นบทพิธีกรหรือโฆษกได
6. เขยี นบทบาทสมมุติและแสดงบทบาทสมมุติได
7. เลาเรอ่ื งประเภทตา ง ๆ ได
8. พดู แบบพิธีกรหรอื โฆษกได
9. แสดงการละเลน พืน้ บาน

รวมทั้งหมด 9 ผลการเรยี นรู

121

คาํ อธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

รหสั วชิ า ท30212 รายวิชา...วรรณคดมี รดก.... กลุม สาระการเรยี นรูภาษาไทย

ชน้ั มัธยมศึกษาปท .ี่ .4-6. ภาคเรียนที่.1-2 เวลา....40. .ชั่วโมง จํานวน 1.0 หนวยกติ

ศึกษาลักษณะเฉพาะของวรรณคดีมรดก แนวทางการอานวรรณคดีมรดก ความสําคัญ
และความเปนมาของวรรณคดีมรดก อานบทกวีนิพนธประเภทกลอนและบทละคร อันไดแก
รามเกียรติ์ ฉบับรัชกาลท่ี 1 ขุนชาง-ขุนแผน อิเหนา พระอภัยมณีใหรูเรื่องตลอดโดยสังเขป
อานเฉพาะตอนท่ีสําคัญในเชิงวรรณศิลป ตอนที่ทําใหเห็นสภาพชีวิตในสมัยของบรรพบุรุษ ตอนที่
ทําใหเขาใจธรรมชาติของมนุษยและตอนท่ีเกี่ยวกับศิลปะสาขาตาง ๆ เพ่ือใหสามารถวิเคราะหและ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวละครท่ีสําคัญ แนวคิดในเนื้อเร่ืองโดยเปรยี บเทียบกับเหตุการณในชีวิต
ปจ จบุ นั ทองจาํ บทรอยกรองทป่ี ระทบั ใจในศลิ ปะการประพนั ธ สามารถนาํ ไปกลาวอางได

โดยใชกระบวนการอาน กระบวนการสรางความรูความเขาใจ กระบวนการวิเคราะห
กระบวนการสังเคราะห กระบวนการเรียนรูแบบบูรณาการ กระบวนการเขียนและอานอยางมี
วิจารณญาณ ประเมินคาวรรณคดีมรดกเพ่ือใหเกิดความรู ความเขาใจ ความซาบซึ้ง ตระหนักใน
คณุ คาและรกั ษาวรรณคดมี รดกไวใ นฐานะมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ

เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจ เกิดทักษะ และสามารถนําไปใชปฏิบัติตนในสังคมได
อยา งถูกตอ ง นําไปสคู ุณลักษณะอนั พึงประสงค สมรรถนะผูเ รยี นตามหลักสูตร

ผลการเรียนรู
1. อธบิ ายลักษณะเฉพาะของวรรณคดีมรดก และแนวทางการอา นวรรณคดมี รดก
2. อธบิ ายความสาํ คญั และความเปนมาของวรรณคดีมรดกเรอ่ื งที่กําหนดใหอาน
3. วิเคราะหตัวละครสําคัญในวรรณคดี และเปรียบเทียบกับบุคคล เหตุการณ และ

การดําเนนิ ชีวิตในปจ จบุ ัน
4. วเิ คราะหแนวคดิ สําคญั ของเรอื่ ง และนาํ แนวคดิ ไปใชในชีวติ ประจําวัน
5. วเิ คราะห วจิ ารณคณุ คา ของวรรณคดี
6. ทองจําและบอกคุณคา บทอาขยาน และบทรอ ยกรองที่ประทบั ใจและนาํ ไปใชอ างอิง

รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู

122

คาํ อธิบายรายวิชา
กลมุ สาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร

123

โครงสร้างรายวชิ ากลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

รายวชิ าพน้ื ฐาน

ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4

ค31101 คณิตศาสตร์ 1 2 ชั่วโมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกติ

ค31102 คณติ ศาสตร์ 2 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกิต

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5

ค32101 คณิตศาสตร์ 3 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกติ

ค32102 คณิตศาสตร์ 4 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกติ

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

ค33101 คณิตศาสตร์ 5 2 ชั่วโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกติ

ค33102 คณิตศาสตร์ 6 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกติ

รายวิชาเพ่ิมเติม

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

ค31201 คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ 1 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาค 2.0 หนว่ ยกิต

ค31202 คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมเติม 2 4 ชัว่ โมง/สัปดาห์/ภาค 2.0 หน่วยกิต

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5

ค32201 คณิตศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ 3 4 ช่ัวโมง/สปั ดาห/์ ภาค 2.0 หน่วยกิต

ค32202 คณิตศาสตร์เพ่มิ เตมิ 4 4 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค 2.0 หน่วยกิต

ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6

ค33201 คณติ ศาสตร์เพิม่ เตมิ 5 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์/ภาค 2.0 หนว่ ยกิต

ค33202 คณติ ศาสตร์เพิ่มเติม 6 4 ชัว่ โมง/สัปดาห/์ ภาค 2.0 หน่วยกิต

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4-6

ค30201 คณิตเสรมิ ประสบการณ์ 1 2 ชว่ั โมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกิต

ค30202 คณิตเสรมิ ประสบการณ์ 2 2 ชั่วโมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกติ

ค30203 คณิตเสริมประสบการณ์ 3 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกติ

ค30204 คณิตเสริมประสบการณ์ 4 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกติ

ค30205 คณิตเสริมประสบการณ์ 5 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกติ

ค30206 คณิตเสรมิ ประสบการณ์ 6 2 ชั่วโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกติ

ค30207 คณิตศาสตรเ์ สริม 1 2 ชั่วโมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกิต

ค30208 คณิตศาสตร์เสรมิ 2 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกติ

ค30209 คณิตศาสตร์เสรมิ 3 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกติ

ค30210 คณิตศาสตรเ์ สรมิ 4 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์/ภาค 1.0 หน่วยกิต

ค30211 คณติ ศาสตรเ์ สรมิ 5 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกิต

ค30212 คณิตศาสตรเ์ สรมิ 6 2 ชัว่ โมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หนว่ ยกติ

ค30291คณิตศาสตร์ พสวท. 1 1 ชัว่ โมง/สัปดาห/์ ภาค 0.5 หน่วยกิต

ค30292 คณิตศาสตร์ พสวท. 2 124
ค30298 โครงงานคณิตศาสตร์ 1
1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์/ภาค 0.5 หน่วยกติ
ค30299 โครงงานคณติ ศาสตร์ 2 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์/ภาค 1.0 หนว่ ยกติ
2 ชัว่ โมง/สัปดาห/์ ภาค 1.0 หน่วยกติ

125

คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน

รหัสวชิ า ค31101 รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

ศกึ ษาความรู้เกี่ยวกับ ความรู้เบ้ืองต้นและสัญลักษณ์พื้นฐานเกี่ยวกับเซต ยูเนียน อินเตอร์
เซกชัน คอมพลีเมนต์ และผลต่างระหว่างเซต การแกป้ ัญหาโดยใช้เซต ประพจนแ์ ละตัวเชื่อม (นิเสธ
และ หรอื ถ้า...แลว้ ... ก็ตอ่ เม่ือ)

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรยี นได้ศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เพ่ือพัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมทั้งมีความเข้าใจ และนาความรู้ในสาระที่เรียนไป
ประยุกตใ์ ช้

เพ่ือให้เกิดเจตคติที่ดีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใชป้ ฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง นาไปสคู่ ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนตามหลกั สูตร

รหสั ตัวชี้วดั
ค 1.1 ม.4/1

รวมทัง้ หมด 1 ตัวช้ีวัด

126

คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รหสั วชิ า ค31102 รายวิชา คณิตศาสตร์ 2 กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้เก่ียวกับ หลักการนับเบื้องต้น หลักการบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ียน
เชงิ เส้นกรณที ่ีส่ิงของแตกต่างกันทั้งหมด การจัดหมู่กรณีส่ิงของแตกตา่ งกันทั้งหมด ความน่าจะเป็น
การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ความนา่ จะเป็นของเหตุการณ์

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรยี นได้ศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังมีความเข้าใจ และนาความรู้ในสาระท่ีเรียนไป
ประยุกต์ใช้

เพื่อให้เกิดเจตคติท่ีดีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ได้อย่างถกู ต้อง นาไปสคู่ ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนตามหลักสตู ร

รหัสตวั ช้ีวดั
ค 3.2 ม.4/1
ค 3.2 ม.4/2

รวมทง้ั หมด 2 ตัวชีว้ ดั

127

คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน

รหัสวิชา ค32101 รายวชิ า คณิตศาสตร์ 3 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษาความรู้เกี่ยวกบั เลขยกกาลัง รากท่ี n ของจานวนจริง เมื่อ n เปน็ จานวนนบั ทีม่ ากกว่า
1 เลขยกกาลังท่ีมีเลขช้ีกาลังเป็นจานวนตรรกยะ ฟังก์ชัน และกราฟของฟังก์ชัน ฟังก์ชันเชิงเส้น
ฟงั ก์ชันกาลังสอง ฟงั กช์ ันขน้ั บันได และฟงั กช์ นั เอกซ์โพเนนเชียล

โดยจัดประสบการณ์ หรอื สร้างสถานการณใ์ ห้ผูเ้ รียนได้ศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง เพื่อพฒั นา
ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ รวมทงั้ สามารถใช้สมบัติเกี่ยวกบั เลขยกกาลงั และ ใชฟ้ ังกช์ ัน
ไปอธบิ ายสถานการณท์ ี่กาหนด

เพอ่ื ให้เกิดเจตคติท่ีดตี ่อวิชาคณติ ศาสตร์ เกดิ ทักษะและสามารถนาไปใชป้ ฏิบตั ิตนในสังคม
ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง นาไปสู่คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นตามหลักสูตร

รหัสตัวช้ีวดั
ค 1.1 ม.5/1
ค 1.2 ม.5/1

รวมทั้งหมด 2 ตัวชวี้ ัด

128

คาอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน

รหัสวิชา ค32102 รายวิชา คณิตศาสตร์ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

ศกึ ษาความรู้เก่ียวกับเรื่องลาดับเลขคณิต ลาดับเรขาคณิต อนุกรมเลขคณิต และอนุกรม
เรขาคณิต

โดยจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ให้ผเู้ รยี นไดศ้ ึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังสามารถเข้าใจ วิเคราะห์แบบรูปและนาความรู้
เก่ยี วกับลาดบั และอนุกรมไปใช้

เพื่อให้เกิดเจตคติท่ีดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง นาไปส่คู ุณลกั ษณะที่อนั พึงประสงค์ และสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียนตามหลักสูตร

รหสั ตวั ชี้วัด
ค 1.2 ม.5/2

รวมท้งั หมด 1 ตัวชวี้ ดั

129

คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน

รหสั วชิ า ค33101 รายวิชา คณติ ศาสตร์ 5 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษาความรูเ้ กย่ี วกับดอกเบีย้ และมูลคา่ ของเงิน (ดอกเบยี้ มลู ค่าของเงนิ คา่ รายงวด)

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะ และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังมีความเข้าใจและใช้ความรู้เกี่ยวกับดอกเบี้ยและ
มูลค่าของเงินในการแก้ปญั หา

เพ่ือให้เกิดเจตคติท่ีดีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ได้อย่างถูกต้อง นาไปสูค่ ุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นตามหลกั สูตร

รหัสตวั ช้ีวัด
ค 1.3 ม.6/1

รวมทั้งหมด 1 ตวั ช้ีวดั

130

คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน

รหสั วิชา ค33102 รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 6 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาความรเู้ กี่ยวกบั เรอ่ื งสถติ ิ ข้อมูล ตาแหน่งที่ของขอ้ มลู ค่ากลาง (ฐานนิยม มัธยฐาน
ค่าเฉล่ียเลขคณิต) คา่ การกระจาย (พิสัย สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน) การนาเสนอ
ข้อมลู เชงิ คุณภาพ และ เชิงปรมิ าณ การแปลความหมายของค่าสถิติ

โดยจดั ประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ใหผ้ ู้เรียนได้ศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง เพือ่ พัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ รวมทง้ั มคี วามเข้าใจ และใชค้ วามรทู้ างสถติ ิในการนาเสนอ
ข้อมูล และแปลความหมายของค่าสถติ ิ

เพอื่ ให้เกดิ เจตคติทดี่ ตี อ่ วิชาคณติ ศาสตร์ เกดิ ทักษะและสามารถนาไปใชป้ ฏิบตั ิตนในสงั คม
ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง นาไปสคู่ ุณลักษณะที่พึงประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียนตามหลักสูตร

รหัสตวั ช้ีวดั
ค 3.1 ม.6/1

รวมทั้งหมด 1 ตัวช้วี ดั

131

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รหัสวิชา ค31201 รายวชิ า คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ 1 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 80 ชัว่ โมง จานวน 2.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเมทริกซ์ การบวกเมทริกซ์ การคูณเมทริกซ์กับจานวนจริง การคูณ
ระหว่างเมทริกซ์ เมทริกซ์สลับเปล่ียน ดีเทอร์มิแนนต์ของเมทริกซ์ เมทริกซ์ผกผัน การแก้ระบบ
สมการเชงิ เส้นโดยใช้เมทริกซ์และการดาเนนิ การตามแถว จานวนจริง การนาสมบตั ิของจานวนจริง
ไปใช้ การแก้สมการและอสมการพหุนามตัวแปรเดียวดีกรีไม่เกินสี่ การแก้สมการและอสมการ
เศษส่วนของพหุนามตัวแปรเดียว การแก้สมการและอสมการค่าสัมบูรณ์ของพหุนามตัวแปรเดียว
และศึกษาเก่ียวกับตรรกศาสตร์เบื้องต้นในการสื่อสารและส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และอ้าง
เหตุผล

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพ่ือ
พัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังมคี วามเขา้ ใจ และนาความร้ใู นสาระที่เรียนไป
ประยกุ ต์ใชใ้ นการแก้ปญั หา

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใชป้ ฏิบัติตนในสังคม
ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง นาไปสูค่ ณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ และสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นตามหลักสูตร

ผลการเรยี นรู้
1. เข้าใจความหมาย หาผลลัพธ์ของการบวกเมทริกซ์ การคูณเมทริกซ์กับจานวนจริง

การคณู ระหว่างเมทริกซ์ หาเมทริกซ์สลบั เปลย่ี น และหาดีเทอร์มิแนนต์ของเมทริกซ์ nn เม่ือ n เป็น
จานวนนับท่ไี มเ่ กนิ สาม

2. หาเมทรกิ ซ์ผกผันของเมทริกซ์ 22
3. แก้ระบบสมการเชงิ เสน้ โดยใช้เมทรกิ ซผ์ กผนั และการดาเนินการตามแถว
4. เข้าใจจานวนจรงิ และใชส้ มบตั ขิ องจานวนจรงิ ในการแกป้ ัญหา
5. แกส้ มการและอสมการพหนุ ามตัวแปรเดียว ดีกรไี มเ่ กินส่ี และนาไปใชใ้ นการแก้ปญั หา
6. แกส้ มการและอสมการเศษสว่ นของพหุนามตวั แปรเดียว และนาไปใช้ในการแก้ปญั หา
7. แกส้ มการและอสมการค่าสัมบรู ณข์ องพหุนามตัวแปรเดยี ว และนาไปใช้ในการแกป้ ัญหา

132

8. เขา้ ใจและใช้ความรเู้ กี่ยวกบั ตรรกศาสตร์เบอื้ งต้น ในการสอื่ สารและสื่อความหมายทาง
คณติ ศาสตร์ และอา้ งเหตุผล

รวมทง้ั หมด 8 ผลการเรียนรู้

133

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม

รหสั วชิ า ค31202 รายวชิ า คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 80 ช่วั โมง จานวน 2.0 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้เก่ียวกับ การบวก การลบ การคูณ การหารฟังก์ชัน ฟังก์ชันประกอบ และ
ฟงั กช์ นั ผกผนั เรขาคณิตวิเคราะห์ จดุ และเสน้ ตรง วงกลม พาราโบลา วงรี และไฮเพอร์โบลา

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
เพ่ือพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมทั้งมีความเข้าใจ และนาความรู้ในสาระ
ที่เรยี นไปประยุกต์ใชใ้ นการแกป้ ัญหา

เพื่อให้เกิดเจตคติท่ีดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใชป้ ฏิบัติตนในสังคม
ได้อยา่ งถูกตอ้ ง นาไปสคู่ ณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นตามหลักสูตร

ผลการเรยี นรู้
1. หาผลลพั ธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหารฟงั กช์ ัน หาฟงั ก์ชันประกอบและฟังก์ชัน

ผกผนั
2. ใช้สมบัติของฟังกช์ นั ในการแก้ปัญหา
3. เข้าใจและใชค้ วามรเู้ ก่ียวกับเรขาคณติ วิเคราะห์ในการแก้ปัญหา

รวมทัง้ หมด 3 ผลการเรียนรู้

134

คาอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม

รหสั วิชา ค32201 รายวชิ า คณิตศาสตรเ์ พ่มิ เติม 3 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 80 ชัว่ โมง จานวน 2.0 หน่วยกิต

ศึกษาความรู้ เก่ียวกับฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล ฟังก์ชันลอการิทึม การหาค่าลอการิทึม
การเปลี่ยนฐานลอการิทึม สมการเอกซ์โพเนเชียล และสมการลอการิทึม การประยุกต์ของ
ฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนเชียล และ ฟังก์ชันลอการิทึม ฟังก์ชันไซน์ และโคไซน์ ค่าของฟังก์ชันไซน์และ
โคไซน์ ฟังก์ชันตรีโกณมิตอิ ื่นๆ ฟังก์ชันตรีโกณมิติของมมุ การใชต้ ารางหาค่าฟังกช์ ันตรีโกณมิติกราฟ
ของฟังกช์ นั ตรีโกณมิติฟังก์ชนั ตรโี กณมติ ขิ องผลบวกและผลต่างของจานวนจริงหรอื มมุ ตัวผกผนั ของ
ฟังก์ชันตรีโกณมิติ เอกลักษณ์และสมการตรีโกณมิติ กฎของไซน์และโคไซน์ การหาระยะทางและ
ความสูง เวกเตอร์ในสามมิติ เวกเตอร์ นิเสธของเวกเตอร์ การบวก การลบเวกเตอร์ การคูณ
เวกเตอรด์ ว้ ยสเกลาร์ ผลคูณเชิงสเกลาร์ ผลคณู เชิงเวกเตอร์

โดยจัดประสบการณห์ รือสรา้ งสถานการณ์ให้ผเู้ รียนไดศ้ ึกษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมทั้งมีความเข้าใจเก่ียวกับฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล
ฟังก์ชันลอการิทึม ฟังก์ชันตรีโกณมิติ และเวกเตอร์สามมิติ นาทักษะความรู้ ไปใช้ แก้ปัญหา และ
หาผลลพั ธข์ องเวกเตอร์

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัตติ นในสังคม
ได้อย่างถูกต้อง นาไปสคู่ ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนตามหลักสูตร

ผลการเรียนรู้
1. เข้าใจลักษณะกราฟของฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึมและนาไปใช้ใน

การแกป้ ัญหา
2. แก้สมการเอกซโ์ พเนนเชยี ลและสมการลอการิทมึ และนาไปใช้ในการแกป้ ญั หา
3. เข้าใจฟังก์ชันตรีโกณมิติ และลกั ษณะกราฟของฟังกช์ นั ตรีโกณมติ ิและนาไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา
4. แกส้ มการตรโี กณมติ ิ และลกั ษณะการนาไปใช้ในการแกป้ ัญหา
5. ใชก้ ฎของโคไซนแ์ ละกฎของไซน์ในการแก้ปัญหา
6. หาผลลัพธ์ของการบวก การลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ หาผลคูณเชิง

สเกลาร์ และผลคณู เชงิ เวกเตอร์
7. นาความรู้เกี่ยวกับเวกเตอรใ์ นสามมติ ไิ ปใช้ในการแกป้ ญั หา

รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้

135

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ

รหัสวชิ า ค32202 รายวิชา คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ 4 กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 80 ชวั่ โมง จานวน 2.0 หน่วยกิต

ศกึ ษาความรู้ เกี่ยวกับจานวนเชิงซอ้ นและสมบัติของจานวนเชิงซ้อน จานวนเชงิ ซ้อนในรูป
เชิงขัว้ จานวนเชิงซอ้ นในรูปเชิงขัว้ รากท่ี n ของจานวนเชงิ ซอ้ น เมื่อ n เป็นจานวนนับท่ีมากกว่า 1
สมการพหุนามตัวแปรเดียว หลักการนับเบ้ืองต้น หลักการบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ียน
การเรียงสับเปลี่ยนเชิงเส้น การเรียงสับเปล่ียนเชิงวงกลม กรณีท่ีสิ่งของแตกต่างกันทั้งหมด การจัด
หมูก่ รณีทส่ี ง่ิ ของแตกต่างกันทั้งหมด และทฤษฎบี ททวินาม

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ให้ผ้เู รียนได้ศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง เพ่ือพัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมทั้งมคี วามเข้าใจ หารากที่ n แก้สมการพหุนามตัวแปร
เดียวดกี รีไม่เกนิ สี่ นาไปใช้ หาความน่าจะเปน็ และ แกป้ ญั หา

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทกั ษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัตติ นในสังคม
ไดอ้ ย่างถกู ต้อง นาไปสคู่ ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียนตามหลกั สูตร

ผลการเรียนรู้
1. เขา้ ใจจานวนเชงิ ซ้อนและใชส้ มบัตขิ องจานวนเชิงซ้อนในการแกป้ ญั หา
2. หารากท่ี n ของจานวนเชิงซอ้ น เมอ่ื n เปน็ จานวนนับที่มากกวา่ 1
3. แก้สมการพหุนามตัวแปรเดียว ดีกรีไม่เกินสี่ ท่ีมีสมั ประสิทธ์ิเป็นจานวนเต็มและนาไปใช้

แก้ปัญหา
4. เขา้ ใจและใช้หลักการบวกและการคณู การเรียงสับเปลย่ี น และการจัดหมู่ในการแก้ปญั หา
5. หาความนา่ จะเป็นและนาความรเู้ กยี่ วกบั ความนา่ จะเป็นไปใช้

รวมทัง้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้

136

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เตมิ

รหัสวิชา ค33201 รายวิชา คณติ ศาสตร์เพ่มิ เติม 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 80 ชั่วโมง จานวน 2.0 หนว่ ยกติ

ศึกษาความรู้เกี่ยวกับลาดับจากัดและลาดับอนันต์ ลาดับเลขคณิตและลาดับเรขาคณิต
ลิมิตของลาดับอนันต์ อนุกรมจากัดและอนุกรมอนันต์ อนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเรขาคณิต
ผลบวกของอนุกรมอนันต์ การนาความรเู้ กี่ยวกับลาดับและอนุกรมไปใช้ในการแก้ปัญหามูลค่าของ
เงินและค่ารายงวด ลิมิตและความต่อเน่ืองของฟังก์ชัน อนุพันธ์ของฟังก์ชันพีชคณิต ปริพันธ์ของ
ฟงั ก์ชนั พชี คณิต

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมทง้ั สามารถระบุ หาผลบวก หาอนพุ นั ธ์ หาปริพนั ธ์ ตรวจสอบ
และนาความรู้ในสาระท่ีเรียนไปประยุกตใ์ ช้

เพื่อให้เกิดเจตคติท่ีดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง นาไปส่คู ุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นตามหลักสูตร

ผลการเรยี นรู้
1. ระบไุ ด้ว่าลาดบั ทีก่ าหนดให้เป็นลาดบั ล่เู ขา้ หรือลู่ออก
2. หาผลบวก n พจนแ์ รกของอนุกรมเลขคณิตและอนกุ รมเรขาคณิต
3. หาผลบวกของอนกุ รมอนันต์
4. เขา้ ใจและนาความรู้เก่ียวกับลาดับและอนุกรมไปใช้
5. ตรวจสอบความต่อเนือ่ งของฟังก์ชันท่ีกาหนดให้
6. หาอนพุ ันธ์ของฟงั ก์ชนั พีชคณิตทก่ี าหนดให้และนาไปใช้แก้ปัญหา
7. หาปริพันธ์ไม่จากัดเขตและจากัดเขตของฟังก์ชันพีชคณิตท่ีกาหนดให้และนาไปใช้

แกป้ ญั หา

รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรียนรู้

137

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รหสั วิชา ค33202 รายวชิ า คณิตศาสตร์เพ่ิมเติม 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 80 ชวั่ โมง จานวน 2.0 หน่วยกิต

ศึกษาความรู้เก่ียวกับการแจกแจงความน่าจะเป็นเบ้ืองต้น การแจกแจงเอกรูป การแจก
แจงทวินาม การแจกแจงปกติ

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ รวมทัง้ สามารถหาความน่าจะเปน็ จากเหตกุ ารณ์ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

เพื่อให้เกิดเจตคติท่ีดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง นาไปสู่คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์และสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี นตามหลักสตู ร

ผลการเรียนรู้
1. หาความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณท์ เ่ี กิดจากตวั แปรสุม่ ทม่ี ีการแจกแจงเอกรปู การแจกแจง

ทวนิ าม และการแจกแจงปกติ และนาไปใช้ในการแกป้ ัญหา

รวมท้ังหมด 1 ผลการเรียนรู้

138

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

รหัสวิชา ค30201 รายวิชา คณิตศาสตรเ์ สริมประสบการณ์ 1 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

ศกึ ษาความรพู้ ้ืนฐานเบ้อื งตน้ ฝึกทักษะการคดิ คานวณ การให้เหตุผล และฝกึ การแก้ปัญหา
ในเร่ืองการนาความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีบทปีทาโกรัส สามเหล่ียมคล้าย อัตราส่วนตรีโกณมิติไปใช้
แกป้ ัญหาและการนาความรเู้ กี่ยวกบั พน้ื ท่ขี องรปู สามเหลี่ยม มมุ ของรูปสามเหล่ียมไปใชแ้ ก้ปญั หา

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
เพ่ือพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมทั้งมีความเข้าใจ และนาความรู้ในสาระ
ทีเ่ รียนไปประยุกต์ใชใ้ นการแกป้ ญั หา

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ได้อย่างถูกตอ้ ง นาไปส่คู ณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียนตามหลกั สูตร

ผลการเรียนรู้
1. นาความรู้เก่ียวกับทฤษฎีบทปีทาโกรัส สามเหลี่ยมคล้าย อัตราส่วนตรีโกณมิติไปใช้

แก้ปัญหาได้
2. นาความรเู้ ก่ียวกับพน้ื ท่ขี องรูปสามเหล่ยี ม มมุ ของรูปสามเหลย่ี มไปใชแ้ กป้ ญั หาได้

รวมทั้งหมด 2 ผลการเรียนรู้

139

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

รหสั วชิ า ค30202 รายวิชา คณิตศาสตร์เสรมิ ประสบการณ์ 2 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้พ้ืนฐานเบ้ืองต้น ฝึกทักษะการคิดคานวณ การใหเ้ หตุผล และฝกึ การแกป้ ญั หา
ในเรื่องการแกส้ มการพหนุ ามกาลงั มากกว่าสองและเอกลกั ษณ์พีชคณติ

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
เพ่ือพัฒนาทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ รวมทั้งมีความคิดรวบยอด และนาความร้ใู นสาระ
ท่ีเรียนไปประยุกต์ใช้ในการแกป้ ัญหา

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง นาไปสคู่ ณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนตามหลักสูตร

ผลการเรียนรู้
1. บอกความสมั พนั ธ์ของรากกับสมั ประสทิ ธ์ิของพหนุ ามได้
2. แก้สมการพหุนามกาลังมากกวา่ สองได้
3. มีความคดิ รวบยอดเก่ียวกบั เอกลักษณพ์ ีชคณิต
4. พสิ ูจน์เอกลักษณ์พีชคณิตได้

รวมท้งั หมด 4 ผลการเรียนรู้

140

คาอธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เตมิ

รหัสวชิ า ค30203 รายวิชา คณิตศาสตร์เสริมประสบการณ์ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาความรู้ เกี่ยวกับการใชฟ้ ังก์ชนั เอกซโ์ พเนนเชยี ล และฟงั กช์ นั ลอการิทึม ไปประยกุ ต์
หาอายุวตั ถโุ บราณ , Richter scale , เดซิเบล และ ศกึ ษา เร่อื ง หลักรงั นกพิราบ (Pigeonhole
principle)

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผูเ้ รียนได้ศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เพ่ือพัฒนา
ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังมีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล
ฟังกช์ ันลอการิทึม และหลกั รงั นกพิราบ และสามารถนาความรไู้ ปใชแ้ ก้ปญั หา

เพือ่ ใหเ้ กดิ เจตคติทีด่ ตี ่อวิชาคณติ ศาสตร์ เกดิ ทักษะ และสามารถนาไปใช้ปฏิบตั ิตนในสงั คม
ไดอ้ ย่างถูกต้อง นาไปส่คู ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นตามหลักสตู ร

ผลการเรียนรู้
1. มีความคิดรวบยอดเกย่ี วกบั ฟงั กช์ ันเอกซ์โพเนนเชียล ฟังก์ชนั ลอการทิ มึ และสามารถ

นาความรูไ้ ปใช้ในการหาอายุวัตถุโบราณ และอ่ืนๆได้
2. มคี วามคดิ รวบยอดเก่ยี วกับหลักรังนกพิราบ
3. นาความรู้ เรือ่ ง หลักรังนกพริ าบ ไปใชแ้ กป้ ัญหาได้

รวมทง้ั หมด 3 ผลการเรียนรู้

141

คาอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ

รหสั วชิ า ค30204 รายวิชา คณิตศาสตร์เสรมิ ประสบการณ์ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาความรู้ เก่ยี วกบั ความความคลาดเคล่ือนแบบท่ี 1 และ แบบที่ 2 (Type I and type
II errors) และ ความสัมพันธ์เวยี นเกิด

โดยจัดประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ให้ผูเ้ รียนไดศ้ ึกษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะเก่ียวกบั ความความคลาดเคลอ่ื นแบบท่ี 1 และ แบบท่ี 2 (Type I and type II errors) และ
ความสมั พนั ธเ์ วียนเกดิ และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมทง้ั มีความคดิ รวบยอด และนาความรู้
ไปใชแ้ กป้ ัญหา

เพื่อใหเ้ กดิ เจตคติทด่ี ตี ่อวิชาคณติ ศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใชป้ ฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ย่างถกู ต้อง นาไปสูค่ ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนตามหลกั สูตร

ผลการเรียนรู้
1. มีความคิดรวบยอดเก่ียวกบั ความคลาดเคล่อื นแบบที่ 1 และ แบบท่ี 2
2. นาความร้ทู ่ไี ดร้ ับเกย่ี วกบั ความคลาดเคลอ่ื นแบบท่ี 1 และ แบบที่ 2 ไปใช้แก้ปญั หาได้
3. มีความคิดรวบยอดเก่ยี วกับ ความสัมพันธเ์ วยี นเกดิ และนาความรไู้ ปใชแ้ กป้ ญั หาได้

รวมทง้ั หมด 3 ผลการเรียนรู้

142

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ

รหัสวชิ า ค30205 รายวิชา คณิตศาสตรเ์ สริมประสบการณ์ 5 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

ศกึ ษาความรเู้ กยี่ วกับลาดับของจานวนเชิงรูปเรขาคณิต ลาดับของจานวนเชิงรูปสามเหลี่ยม
และจานวนเชิงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ลาดับของจานวนเชิงพีระมิดฐานรูปสามเหล่ียมด้านเท่าและ
รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ความสัมพันธ์ระหว่างจานวนเชิงรูปเรขาคณิต การปัญหาทางคณิตศาสตร์
กระบวนการแก้ปัญหา การสรา้ งสรรค์ปัญหา ปัญหาท้าทายปัญญา วิเคราะห์ปัญหาได้อยา่ งมีเหตผุ ล
อย่างมีมิติสัมพันธ์ มีมุมมองปัญหาได้หลากลายแง่มุม หาผลเฉลยของบางปัญหาได้มากกว่าหนึ่ง
ผลเฉลย

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรยี นได้ศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เพ่ือพัฒนา
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังสามารถอธิบาย สามารถวเิ คราะห์ปัญหา แก้ปัญหา และ
นาความรู้ทางคณิตศาสตร์ไปประยกุ ต์ใช้

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง นาไปสูค่ ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์และสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นตามหลักสูตร

ผลการเรยี นรู้
1. สามารถแกป้ ัญหาเก่ียวกับลาดับของจานวนเชิงรปู เรขาคณิตได้
2. สามารถวเิ คราะหป์ ญั หา และหาวิธีการแก้ปัญหาท่ีหลากหลายได้
3. สามารถนาการให้เหตผุ ลไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้

รวมท้งั หมด 3 ผลการเรยี นรู้

143

คาอธิบายรายวิชาเพิม่ เติม

รหสั วชิ า ค30206 รายวิชา คณิตศาสตรเ์ สริมประสบการณ์ 6 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาความรูเ้ กี่ยวกบั การแกป้ ญั หา การแกป้ ัญหาโดยการแทนค่า แก้ปัญหาโดยใช้วธิ ีอปุ นัย
แก้ปัญหาโดยวิธีวิเคราะห์ แก้ปัญหาโดยวิธีสังเคราะห์ ระเบียบวิธีพิสูจน์ เพ่ือเพิ่มทักษะใน
การวิเคราะห์และสังเคราะห์โจทย์ปัญหาต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นเนื้อหาความรู้และกระบวนการ การนา
บทนิยามไปใช้ในการพิสูจน์สมบัติต่าง ๆ และทฤษฎีบททางคณิตศาสตร์ วิเคราะห์แบบรูป
ที่กาหนดใหไ้ ด้ นาการวิเคราะหไ์ ปใชแ้ ก้ปญั หาได้ แกป้ ัญหาหลายรปู แบบ

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เพ่ือพัฒนา
ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังสามารถอธิบาย สามารถวิเคราะห์ปัญหา แก้ปัญหา และ
นาความรทู้ างคณิตศาสตร์ไปประยกุ ตใ์ ช้

เพื่อให้เกิดเจตคติท่ีดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ได้อย่างถูกต้อง นาไปสู่คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์และสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนตามหลักสตู ร

ผลการเรียนรู้
1. สามารถแก้ปัญหาด้วยวธิ ีการต่าง ๆ ได้
2. สามารถพิสูจน์ทฤษฎีบททางคณติ ศาสตรอ์ ย่างง่ายได้
3. สามารถวิเคราะห์แบบรปู และนาผลการวิเคราะหไ์ ปใชแ้ กป้ ญั หาได้

รวมทัง้ หมด 3 ผลการเรียนรู้

144

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รหสั วิชา ค30207 รายวิชาคณติ ศาสตร์เสริม 1 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาความรู้เก่ียวกับ การแก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ กระบวนการแกป้ ัญหา การสร้างสรรค์
ปัญหาอสมการท่ีเก่ียวกบั พชี คณิต อสมการค่าสมั บูรณ์

โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ให้ผู้เรยี นได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพ่ือพัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้งั มคี วามเขา้ ใจ วเิ คราะห์ แกป้ ัญหา แก้สมการ และนา
ความรใู้ นสาระทีเ่ รียนไปประยุกตใ์ ช้

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใชป้ ฏิบัติตนในสังคม
ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง นาไปสู่คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียนตามหลักสูตร

ผลการเรียนรู้
1. สามารถวเิ คราะห์ปญั หา และหาวิธกี ารแกป้ ัญหาท่ีหลากหลายได้
2. สามารถแก้ปัญหาดว้ ยวิธตี ่าง ๆ ได้
3. แก้อสมการเกย่ี วกับพชี คณิตได้

รวมทั้งหมด 3 ผลการเรียนรู้

145

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

รหสั วชิ า ค30208 รายวิชา คณิตศาสตรเ์ สริม 2 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาความรเู้ ก่ยี วกับ สมการกาลังสอง สมการเศษส่วนย่อย ระบบสมการและโจทยส์ มการ
เชิงเส้น 3 ตัวแปรระบบสมการเชงิ เสน้

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ รวมท้ังมีความเข้าใจ วิเคราะห์และหาคาตอบ แก้ระบบ
สมการ และนาความรใู้ นสาระทเ่ี รียนไปประยุกตใ์ ช้

เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสังคม
ได้อย่างถกู ต้อง นาไปสคู่ ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียนตามหลกั สูตร

ผลการเรยี นรู้
1. แก้ระบบสมการกาลังสองและเศษส่วนยอ่ ยได้
2. แกร้ ะบบสมการ และโจทย์สมการเชงิ เสน้ 3 ตัวแปรได้
3. วิเคราะห์และหาคาตอบของระบบสมการเชงิ เสน้ ได้

รวมท้งั หมด 3 ผลการเรยี นรู้

146

คาอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ

รหัสวชิ า ค30209 รายวชิ า คณิตศาสตรเ์ สรมิ 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาความรู้ เกยี่ วกับเรื่องกาหนดการเชิงเสน้ กราฟของอสมการเชงิ เสน้ สมการจุดประสงค์
อสมการขอ้ จากัด กราฟของระบบอสมการเชิงเส้น และการแกป้ ญั หากาหนดการเชงิ เส้นโดยวธิ ีใช้
กราฟ

โดยจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ให้ผเู้ รียนได้ศึกษาคน้ คว้าด้วยตนเอง เพื่อพัฒนา
ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ รวมทง้ั แก้ปญั หาโดยสรา้ งแบบจาลอง และนาไปประยกุ ตใ์ ช้

เพ่อื ให้เกิดเจตคติท่ดี ีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์ เกิดทักษะและสามารถนาไปใช้ปฏิบัติตนในสงั คม
ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง นาไปสคู่ ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นตามหลักสูตร

ผลการเรยี นรู้
1. แก้ปัญหาโดยสรา้ งแบบจาลองทางคณติ ศาสตรแ์ ละใชว้ ิธกี าหนดการเชงิ เสน้ ทใี่ ชก้ ราฟของ

สมการ และอสมการท่มี ีสองตวั แปรได้
2. ประยกุ ต์ใชแ้ บบจาลองทางคณติ ศาสตร์โดยใช้กราฟได้

รวมทั้งหมด 2 ผลการเรียนรู้


Click to View FlipBook Version