The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:42:24

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 Let’s sing!

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียงคาศพั ทท์ ี่ลงทา้ ยดว้ ยเสียง /l/ ได้
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สตั วไ์ ด้
- ร้องเพลงภาษาองั กฤษได้
- บอกความแตกต่างของคาทลี่ งทา้ ยดว้ ย l และ ล ในภาษาองั กฤษและภาษาไทยได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วดั

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด

เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ัด

ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพือ่ ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครวั

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชีว้ ดั

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถกู ต้อง

ตัวชี้วัด

ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

546

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณท์ ีเ่ กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมอื พน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ และโครงสร้างประโยค ช่วยให้พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั เรื่องใกลต้ วั และ

เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: We’re at the zoo, me and you, the lions are here and

the giraffes too.

Vocabulary: parts of animal body, animals, adjectives, verbs

Pronunciation: ออกเสียงคาทล่ี งทา้ ยดว้ ยเสียง /l/

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอื่ ความเขา้ ใจ

Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สัตว์

Writing: แตง่ บทสนทนาส้นั ๆ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ท่ใี ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้ 547

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั จากน้นั ทบทวนคาคณุ ศพั ทท์ ี่ใชบ้ รรยายความรู้สึก ไดแ้ ก่ happy และ

sad โดยครูสุ่มถามนกั เรียน How are you? ใหน้ กั เรียนพูดตอบครูโดยใชค้ าคุณศพั ทด์ งั กล่าว เช่น
T: How are you?
S1: I’m happy.
S2: I’m sad.

ให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปตาแหน่งของคาคณุ ศพั ทว์ า่ วางไวห้ นา้ คานาม และวางไวห้ ลงั verb to be
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สตั ว์ โดยให้นกั เรียนเล่นเกม Beginning with โดยครูเลือกตวั อกั ษรมา 1 ตวั

จากน้นั ให้นกั เรียนพดู บอกชื่อสัตวท์ ่ขี ้ึนตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรน้ี เช่น
T: Can you tell me an animal beginning with E?
Ss: Elephant.
T: Good. Can you tell me an animal beginning with S?
Ss: Snake.

3. ทบทวนเก่ียวกบั ประเภทของสัตว์ โดยนาบตั รภาพมาแสดงและถามคาถามนกั เรียน ดงั น้ี
T: Look at the picture. What animal is it?
Ss: It is a crocodile.
T: Can it swim?
Ss: Yes, it can.
T: Can it walk?
Ss: Yes, it can.
T: What type of animal is it?
Ss: It is a reptile.
T: What does it eat?
Ss: It eats meat.

ข้นั Presentation turtle reptile
1. ครูนาเสนอคาศพั ทท์ ่ลี งทา้ ยดว้ ย l โดยเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน

small tall doll tail animal
school pool mammals crocodile

548

ครูช้ีทคี่ าศพั ท์ อา่ นออกเสียงและให้นกั เรียนพดู ตาม เสร็จแลว้ ครูอธิบายการออกเสียง /l/ ทา้ ยคา แลว้ ครู

เขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านออกเสียงตาม ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาขีดเสน้ ใต้

คาทล่ี งทา้ ยดว้ ยเสียง /l/ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนฝึกอ่านดว้ ยตนเอง ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นให้เพอ่ื นฟัง

A bull is a male cow.

A snail is very small. It moves very slowly.

Don’t sit on the wall. You might fall.

Paul goes to school before the bell rings.

Look, there is a turtle, a snail, a whale and a crocodile in the pool.

2. ครูเขยี นคาในภาษาไทยท่ีสะกดดว้ ย ล บนกระดาน เช่น

กล พล ตาล ศาล ตาบล

ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียง จากน้นั ครูถามว่า คาเหลา่ น้ีอ่านเหมือนคาในภาษาองั กฤษทใ่ี ชต้ วั l สะกด

หรือไม่ เมื่อไดค้ าตอบวา่ ไม่ แลว้ ครูอธิบายว่า คาในภาษาไทยท่สี ะกดดว้ ย ล จะอ่านออกเสียงเหมือน

มี น เป็นตวั สะกด ตา่ งจากภาษาองั กฤษ

ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงคาภาษาองั กฤษและภาษาไทยบนกระดาน ดงั น้ี

ball บอล doll ดล

small สกลุ pool พล

การออกเสียง /l/ ท้ายคา
เสียง /l/ ทา้ ยคาเป็นเสียงที่คนไทยไมค่ ุน้ เคย เพราะเป็นเสียงทีไ่ มม่ ใี นภาษาไทย คนไทย
ส่วนใหญ่มกั ออกเสียง /l/ ทีท่ า้ ยคาเป็นตวั สะกด แมก่ น หรือ แม่เกอว แทน ซ่ึงไม่ถกู ตอ้ งตาม
หลกั การออกเสียงภาษาองั กฤษ นกั เรียนตอ้ งให้ความสาคญั หมนั่ ฝึกฝนเป็นอยา่ งมาก
สาหรบั การออกเสียง /l/ ทีท่ า้ ยคาน้นั คลา้ ยกบั การออกเสียงทต่ี น้ คา โดยเอาลนิ้ กระดก
แตะโคนฟันบน คลา้ ยกบั การออกเสียง เลอะ
ตวั อยา่ งคาศพั ท์

small ball doll call
bell sail cool well
ทม่ี า: http://betterenglishforthai.net/book_pronunciation/chapter5/

3. ครูวาดภาพสัตวท์ น่ี กั เรียนเคยไดเ้ รียนมาแลว้ บนกระดาน ต้งั แต่ 2-20 จากน้นั ถามจานวนของสัตว์ เช่น
T: How many elephants are there?
Ss: There are 3 elephants.

549

T: How many zebras are there?

Ss: There are 5 zebras.

ครูย้าว่า there are มคี วามหมายว่า มี เหมอื นกบั have (got) ใช้เมอ่ื ไมต่ อ้ งการระบวุ า่ ใครเป็นเจา้ ของ เช่น

There is a book on the table. มหี นงั สืออยบู่ นโตะ๊ 1 เล่ม

I have got a book. ฉันมหี นงั สือ 1 เล่ม

ต่อมาให้นกั เรียนวาดภาพสัตว์ 4-5 ชนิด ให้จานวนต่างกนั แลว้ ผลดั กนั พูดถาม-ตอบ เช่น

S1: How many dolphins are there?

S2: There are 10 dolphins.

เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพดู ถาม-ตอบ

ครูเปิ ดคลิปวดิ ีโอช่ือ [Counting] How many bears? Three bears. (In the zoo) - Easy Dialogue -
English video for Kids. ให้นกั เรียนดจู าก www.youtube.com หรือเขา้ ไปท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=4xsRmYL_7LI หรือดาวนโ์ หลดบตั รภาพไดท้ ่ี
http://www.guruparents.com/support-files/number-flashcards-1-10.pdf

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 71 หัวข้อ Sound Spot ครูเขยี นประโยค A small ball and a doll are in my bedroom.

บนกระดาน จากน้นั ครูนานกั เรียนอา่ นประโยคพร้อมกนั 1 คร้ัง แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน อา่ น
ประโยคดงั กลา่ วให้เพอ่ื นฟัง ครูคอยสงั เกตว่า นักเรียนออกเสียงคาที่ลงทา้ ยดว้ ย l ถกู ตอ้ งหรือไม่

A small ball and a doll are in my bedroom.

2. ครูเขยี นคาวา่ zoo บนกระดาน และบอกว่า ครูจะเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังอยา่ งต้งั ใจ โดยใชค้ าว่า Listen
carefully. จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและถามว่า What animals are in the zoo? เมือ่ นกั เรียนตอบ
แลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาเขียนบนกระดานวา่ มสี ัตวอ์ ะไรบา้ ง

3. หนังสือเรยี น หน้า 72 Ex. 16 ครูบอกวา่ Look at the picture. What animals do you see in the picture?
เมือ่ ไดค้ าตอบแลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและดเู น้ือเพลงตามไปดว้ ย จากน้นั ครูเปิ ด CD อกี คร้ัง
เพือ่ ใหน้ กั เรียนฝึกร้องตามพร้อมกนั ครูอาจให้นกั เรียนคิดท่าทางเลยี นแบบสัตวใ์ นเน้ือเพลงดว้ ย หรือ
อาจให้นกั เรียนช่วยกนั ปรบมือเขา้ จงั หวะเพลงเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน
ตอ่ มาครูให้นกั เรียนดูภาพประกอบเน้ือเพลงแลว้ ถามคาถาม เช่น

550

T: How many giraffes are there in the picture?

Ss: There are two giraffes in the picture.

T: How many zebras are there in the picture?

Ss: There are two zebras in the picture.

เสร็จครูเขยี นคาว่า zoo, happy, clever, school บนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนทางานคู่ หาคาท่ีคลอ้ งจอง

กบั คาดงั กล่าวมาใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุด แลว้ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน

4. หนงั สือเรยี น หน้า 72 Ex. 17 ครูอ่านตวั อยา่ งให้นกั เรียนฟังและอธิบายภาระงาน จากน้นั ขออาสาสมคั ร

นกั เรียนออกมายืนหนา้ ช้นั 1 คน โดยให้นกั เรียนคนดงั กล่าวเลอื กสตั วจ์ ากในเน้ือเพลงมา 1 ชนิด แลว้

ใหน้ กั เรียนบรรยายลกั ษณะของสตั วช์ นิดน้นั ให้เพ่ือนทายวา่ เป็นสตั วอ์ ะไร

ตวั อยา่ ง S1: It eats meat and fish. It’s got short legs and a long body. It can swim and it can

walk. What is it?

Ss: It’s a crocodile! etc.

5. ครูใหน้ กั เรียนเลือกสัตวใ์ นเน้ือเพลงมาคนละ 1 ชนิด จากน้นั ใหว้ าดภาพสัตวแ์ ละตดิ ใส่กระดาษแขง็

เมอ่ื นกั เรียนทาบตั รภาพเสร็จเรียบร้อยแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังอกี คร้ัง โดยในคร้ังน้ีเม่อื เน้ือเพลง

ร้องถึงสัตวช์ นิดใด ใหน้ กั เรียนท่ถี อื บตั รภาพชนิดน้นั ชูบตั รข้นึ

กจิ กรรมเพิ่มเติม

ครูเปิ ดคลิปวิดีโอ “Cricket at the Zoo” ให้นกั เรียนดูจากเวบ็ ไซต์

Cricket at the Zoo: Learn English UK with subtitles. Story for Children BookBox.com

https://www.youtube.com/watch?v=UxZDnqnf5FQ

หรือครูบอกชื่อคลิปและใหน้ กั เรียนไปคน้ หาดว้ ยตนเองที่ www.youtube.com

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานกลมุ่ คน้ ควา้ ขอ้ มูลจากอินเทอร์เนต็ เก่ียวกบั คาทลี่ งทา้ ยดว้ ย เสียง

/l/ มากลมุ่ ละ 10 คา จากน้นั ให้นกั เรียนทาโปสเตอร์นาเสนอคาศพั ท์ พร้อมความหมาย โดยเรียงลาดบั
คาศพั ทต์ ามตวั อกั ษร (alphabetical order) พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม เสร็จแลว้ ให้แตล่ ะกล่มุ
ออกมานาเสนอผลงานโดยการอา่ นคาศพั ทใ์ ห้เพือ่ นฟัง
2. ครูนาบทสนทนาตวั อยา่ งมาตดิ บนกระดาน

A: Look at the giraffes over there.
B: Oh, yes. They’re very tall.
A: How many giraffes are there?
B: There are 5 giraffes.

551

3. ให้นกั เรียนอ่านบทสนทนาตามครู ครูอธิบายคาวา่ over there ดว้ ยการช้ีให้นกั เรียนดูสิ่งของท่อี ยู่
อกี ดา้ นหน่ึงของห้อง แลว้ ใหช้ ่วยกนั บอกความหมาย (ตรงน้นั ) จากน้นั ให้นกั เรียนทางานคู่ ช่วยกนั วาด
ภาพสตั วใ์ นสวนสตั วอ์ ยา่ งนอ้ ย 2-3 ชนิด แลว้ ให้เวลาแต่ละคู่ แต่งบนสนทนาของคู่ตนเอง และฝึก
สนทนากนั เก่ียวกบั สัตวใ์ นสวนสัตวข์ องตนเอง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาสนทนาที่หนา้ ช้นั

4. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 60 Ex. 13 เป็นการบา้ น

1 lions 2 giraffes 3 hippos 4 crocodiles
5 monkey 6 elephants 7 zebras 8 dolphins

7. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์

ประเมินช้ินงานโปสเตอร์คาศพั ทท์ ่ี แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้

ลงทา้ ยดว้ ยเสียง /l/ ผา่ นเกณฑ์

ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มูล แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

เก่ียวกบั สตั ว์ ผา่ นเกณฑ์

สังเกตการออกเสียงคาศพั ทท์ ล่ี งทา้ ย แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ดว้ ย /l/ เปรียบเทียบกบั ล ใน เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์

ภาษาไทย

ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

แบบทดสอบ

สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

และความมงุ่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อินเทอร์เน็ต

552

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 Nighttime animals!

เวลา 1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สตั วไ์ ด้
- เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั สัตวท์ หี่ ากินตอนกลางคนื ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น และครอบครัว

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพดู และการเขยี น

ตวั ชี้วัด

ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชี้วัด

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น

พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

553

ตวั ชีว้ ดั

ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื และนาเสนอดว้ ย

การพดู /การเขยี น

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณท์ เ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก

ตัวชีว้ ัด

ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สัตวท์ ่หี ากินตอนกลางคืน ช่วยใหอ้ ่าน พดู /เขยี น

ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สัตวไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: In Britain there are a lot of wild animals in the woods.
Some look for food at night! Foxes have got big ears,
long noses and long tails. Owls are big birds.
Vocabulary: parts of animal body, animals, woods, fox, live, dark, owl, look for
2) Language Skills
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Writing: เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั สตั วท์ ่หี ากินตอนกลางคืน
3) Culture: สัตวท์ ่ีหากินตอนกลางคนื ในสหราชอาณาจกั ร, ตราแผ่นดินของสหราช
อาณาจกั ร

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 554

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียนดว้ ยประโยค How are you doing? และอธิบายวา่ ประโยคน้ีกเ็ หมือนกบั How are

you? จากน้นั ครูทกั ทายนกั เรียนอีกคร้ังเป็นรายบุคคล โดยไมใ่ หน้ กั เรียนตอบว่า I’m fine. ครูรวบรวม
คาตอบจากนกั เรียน เช่น I’m OK/good/great.
2. ทบทวนเน้ือเพลงในหนงั สือเรียน หนา้ 72 Ex. 16 โดยให้นกั เรียนร้องเพลง พร้อมปรบมือเขา้
จงั หวะพร้อมกนั หรือครูอาจให้นกั เรียนแสดงท่าทางประกอบดว้ ย
3. ทบทวนส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ โดยครูแสดงบตั รภาพและถามนกั เรียน เช่น

T: (แสดงบตั รภาพปี ก) What are these?
Ss: They are wings.
4. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตวต์ ่าง ๆ โดยการเลน่ เกม Noughts and Crosses โดยครูเขียนช่ือสัตวล์ งใน
ตาราง 9 ช่องบนกระดาน เช่น mouse, monkey, giraffe, parrot, dolphin, zebra, crocodile, snake, turtle
แลว้ แบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม ผลดั กนั พดู บรรยายลกั ษณะหรือความสามารถของสัตว์ เช่น A mouse is
small. A monkey can climb trees. ถา้ ถูกตอ้ ง จะมสี ิทธ์ิทาเครื่องหมาย O หรือ X ในช่องสัตวด์ งั กล่าว
ทมี ใดทาเครื่องหมายไดค้ รบ 3 ช่องตดิ ต่อกนั ในแนวใดก็ไดก้ ่อนเป็นทีมทชี่ นะ
5. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยเขยี นคาว่า Nighttime animals บนกระดาน ครูอธิบายความหมายในภาษาองั กฤษ
ของคาวา่ nighttime แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมายเป็นภาษาไทย
Nighttime animals are animals that hunt during the night and sleep during the day.
ครูอาจยกตวั อยา่ ง เช่น bats, mice and owls are nighttime animals.

nighttime animals หมายถึง สตั วท์ ่ีนอนตอนกลางวนั และออกหากินตอนกลางคนื เช่น
คา้ งคาว หนู นกฮกู

ข้นั Presentation

1. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สัตวท์ ห่ี ากินตอนกลางคนื ไดแ้ ก่ fox (สุนขั จิง้ จอก), owl (นกฮูก), skunk (ตวั

สกงั ก)์ , leopard (เสือดาว), tiger (เสือ), raccoon (แร็คคูน), bat (คา้ งคาว), hedgehog (เฮดจฮ์ ็อก) โดยใช้

บตั รภาพ จากน้นั ครูช้ีทคี่ าศพั ทแ์ ละใหน้ กั เรียนฝึกพดู ตามครูพร้อมกนั โดยเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั

ในคาใหช้ ดั เจน ดงั น้ี leopard tiger raccoon hedgehog

555

ครูย้าใหน้ กั เรียนออกเสียงคาว่า leopard ให้ถกู ตอ้ ง โดยให้นกั เรียนฝึกฟังและออกเสียงคา
ดงั กลา่ วจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี http://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/leopard

ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ ห้นกั เรียนฝึกฝนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั nighttime animals หรือ nocturnal animals
ท่เี วบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี http://www.sheppardsoftware.com/content/animals/kidscorner/
seekandfind/seekandfindnocturnal.htm

ครูเปิ ดคลิปวิดีโอเก่ียวกบั nocturnal animals ให้นกั เรียนดูจาก www.youtube.com โดยพิมพ์
ชื่อคลปิ Night Animals | Kids animals | Zoo animals (for preschool and kindergarten kids)
หรือเขา้ ไปทเี่ วบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=yfNiIF3NWCM

2. ครูนาบตั รภาพสตั วห์ ากินตอนกลางคนื มาแสดงอกี คร้ัง และถามนกั เรียนวา่ คอื สัตวอ์ ะไร โดยใชค้ าถาม

What’s this? แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบโดยใชโ้ ครงสร้าง It’s a/an _________. เช่น

T: What’s this? (แสดงบตั รภาพคา้ งคาว) Ss: It’s a bat.

T: What’s this? (แสดงบตั รภาพนกฮูก) Ss: It’s an owl.

3. ครูเขยี นวลตี ่อไปน้ีบนกระดาน at night, during the day บนกระดาน จากน้นั ครูอธิบายว่า Bats are

nighttime animals. They are active at night and sleep during the day. แลว้ ครูใหน้ กั เรียนอธิบาย

ความหมายของ active at night (ทากิจกรรม เช่น ออกหากนิ ในตอนกลางคืน) กบั sleep during the day

(นอนระหวา่ งวนั ) เม่อื นกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูแสดงบตั รภาพสัตวอ์ กี คร้งั และถามคาถามนกั เรียน ดงั น้ี

T: Do bats sleep during the day?

Ss: Yes, they do.

T: Do owls sleep at night?

Ss: No, they don’t. They sleep during the day.

4. นาเสนอคาศพั ทก์ ่อนอา่ น ไดแ้ ก่ large (ใหญ่), wood (ป่ าไม)้ , dark (มืด), look for (มองหา) ดว้ ยการ

ยกตวั อยา่ งประโยค เช่น

556

A wood is a small forest. There are a lot of trees and animals live here.

It was too dark. I can’t see anything. Please turn on the light.

I can’t find my book. Please help me look for it.

The T-shirt comes in Small, Medium and Large.

5. ครูนาภาพ fox (สุนขั จิง้ จอก) และ owl (นกฮกู ) มาแสดง และช้ีท่ีส่วนต่าง ๆ ของสัตวท์ ้งั สองชนิดน้ี

เพื่อให้นกั เรียนบอกคาศพั ท์ เช่น

T: What’s this? (ช้ีทีจ่ งอยปากนกฮกู ) Ss: It’s a beak.

T: What’re these? (ช้ีที่กรงเลบ็ นกฮกู ) Ss: They are claws.

ครูสามารถดาวน์โหลดบตั รภาพไดท้ ่ี http://kizclub.com/animalcards.htm

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 73 Ex. 18 ครูอ่านคาสง่ั ใหน้ กั เรียนฟัง Read and choose. Use F for foxes or O for

owls. จากน้นั ครูนานกั เรียนอ่านประโยค 1-5 ทใ่ี ห้มา แลว้ ใหเ้ วลานกั เรียนส้ัน ๆ อา่ นเน้ือหาอยา่ งรวดเร็ว
เพ่อื หาคาตอบ เสร็จแลว้ รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนวา่ ประโยคดงั กล่าวหมายถงึ สัตวช์ นิดใด ระหว่าง
fox กบั owl สุดทา้ ยเขียนคาตอบทีถ่ กู ตอ้ งบนกระดานอกี คร้งั

1F 2 F 3O 4O 5F

2. ครูให้นกั เรียนอา่ นบทอา่ นอีกคร้ังในใจ แลว้ ครูถามคาถามเก่ียวกบั ลกั ษณะรูปร่าง อาหาร และ
ความสามารถของสุนขั จิ้งจอก เช่น
T: What do foxes look like?
Ss: They have big ears, long noses, and long tails.
T: Where do they live?
Ss: They live in woods.
T: What do they eat?
Ss: They eat mice, rabbits, eggs, fruit and birds.
T: What can they do?
Ss: They can see and hear very well in the dark.
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนทางานคู่ ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั นกฮกู
557

3. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม โดยครูเตรียมบตั รภาพสตั วต์ า่ ง ๆ ท้งั ทห่ี ากินตอนกลางคืนและหากินตอน
กลางวนั แจกใหน้ กั เรียนคนละ 1 ใบ จากน้นั ครูแบ่งกระดานเป็น 2 ฝ่ัง ฝั่งแรกเขียน Daytime animals
อีกฝ่ังเขยี น Nighttime animals ให้นกั เรียนนาบตั รภาพที่ไดไ้ ปติดท่ีกระดานใหถ้ กู ฝั่ง เสร็จแลว้ ครูตรวจ
ความถูกตอ้ งอีกคร้ัง

4. ครูนาภาพตราแผ่นดินของประเทศสหราชอาณาจกั รมาแสดงและถามวา่ What animals can you see?
เมือ่ ไดค้ าตอบวา่ lion และ unicorn แลว้ ครูให้ขอ้ มูลส้ัน ๆ เกี่ยวกบั สตั วท์ ่ีเห็นในตราแผ่นดินดงั กล่าว

Royal coat of arms of the United Kingdom หรือตราแผน่ ดินของสหราชอาณาจกั ร มลี กั ษณะ
ดงั น้ี
1. เคร่ืองยอด (crest) เป็นสิงโตยืนหันหนา้ สวมมงกฎุ อิมพีเรียลสเตทบนหัวและยนื บน

สัญลกั ษณ์ของมงกุฎเดียวกนั
2. โล่ (shield) ซ่ึงแบง่ เป็น 4 ช่อง ช่องบนซา้ ยและช่องล่างขวาเป็นตราสิงโตสามตวั ท่เี ป็น

สญั ลกั ษณข์ ององั กฤษ ในช่องบนขวาเป็นสิงโตยืนในกรอบลอ้ มดว้ ยสัญลกั ษณด์ อกลิลลี่
ซ่ึงเป็นสญั ลกั ษณข์ องประเทศสกอตแลนด์ และในช่องลา่ งซา้ ยเป็นฮาร์พเกลลิค (Clàrsach)
ซ่ึงเป็นสญั ลกั ษณ์ของประเทศไอร์แลนดเ์ หนือ

3. ประคองข้าง (supporters) ประกอบดว้ ยสิงโตสีทอง
ซ่ึงเป็นสัตวป์ ระจาชาติของประเทศองั กฤษและมา้
ยนู ิคอร์นสีเงินซ่ึงเป็นสัตวป์ ระจาชาติของประเทศ
สกอตแลนด์

4. ฐานรองข้าง (compartment) ประกอบดว้ ยดอก
กุหลาบทวิ ดอร์ (Tudor rose) ซ่ึงเป็นดอกไมป้ ระจาชาติ

ของประเทศองั กฤษ, ดอกแชมร็อค (Shamrock) ซ่ึงเป็นดอกไมป้ ระจาชาตขิ อง
ประเทศไอร์แลนด์ และดอกซิสเซิล (Thistle) ซ่ึงเป็นดอกไมป้ ระจาชาติของประเทศ
สกอตแลนด์
5. คาขวัญ (Motto) ประดบั ลอ้ มรอบโล่ ซ่ึงเขยี นวา่ Dieu et mon droit (พระเจา้ และสิทธิ
แห่งขา้ )
ทมี่ า: https://en.wikipedia.org/wiki/Royal_Arms_of_England

จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่า What’s the national animal of Thailand? เมอ่ื ไดค้ าตอบว่า It’s an elephant.
ครูถามนกั เรียนเพ่ิมเติมเก่ียวกบั สตั วป์ ระจาชาติของประเทศอ่นื ๆ เช่น

558

T: What’s the national animal of England?
Ss: It’s a lion.
T: What’s the national animal of New Zealand?
Ss: It’s a kiwi.
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ถาม-ตอบเก่ียวกบั สตั วป์ ระจาชาติของประเทศตา่ ง ๆ แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
2-3 คู่ ออกมาถาม-ตอบท่หี นา้ ช้นั

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 6-8 คน คน้ ควา้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวท์ หี่ ากิน

ตอนกลางคืนจากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ เช่น อินเทอร์เนต็ หนงั สือเรียน หรือสารานุกรมมากล่มุ ละ
6-8 ชนิด โดยถา้ คน้ หาจากอินเทอร์เนต็ ครูแนะใหน้ กั เรียนใชค้ าสาคญั เช่น nocturnal animals ในการ
คน้ หา จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายส้นั ๆ เกี่ยวกบั สัตวด์ งั กล่าว เช่น ประเภทของสัตว์ ลกั ษณะ
ภายนอก ความสามารถ และอาหารที่กิน เป็นตน้ พร้อมวาดภาพหรือตดิ ภาพประกอบลงในกระดาษ A4
แลว้ รวบรวมทาเป็นสมุด ครูบอกนกั เรียนว่า สามารถใชข้ อ้ ความในหนงั สือเรียน หนา้ 73 Ex. 18 เป็น
ตน้ แบบในการเขยี นได้ เมื่อรวมเลม่ แลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ ออกแบบหนา้ ปกและเขียนชื่อวา่ Nighttime
Animals

ขอ้ มูลเพิม่ เตมิ สาหรบั ครูและนกั เรียนเกี่ยวกบั สัตวท์ ี่หากินตอนกลางคืน
http://www.communication4all.co.uk/Early Years Themes 3/Nocturnalanimal 20 fact pack.pdf
http://www.ictgames.com/topic/nocturnal/
https://www.primarytreasurechest.com/topics/animals/nocturnal.html
สัตวใ์ นประเทศองั กฤษ
http://resources.woodlands-junior.kent.sch.uk/customs/questions/animals.html

2. ให้นกั เรียนทางานเด่ียว วาดภาพสิงโตและชา้ ง จากน้นั เขียนประโยคส้ัน ๆ เพื่อบอกว่าสัตวด์ งั กล่าวเป็น
สตั วป์ ระจาชาติของประเทศใด โดยใชโ้ ครงสร้าง It’s the national animal of ________.

559

3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 61 Ex. 14 เป็นการบา้ น

1 Fox.
2 It has got big ears, a long nose and a long tail.
3 It lives in the woods.
4 It eats mice, rabbits, eggs, fruit and birds.
5 A fox can see and hear very well in the dark.

7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงานสตั วป์ ระจาชาติ แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานสมุด Nighttime แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
animals แบบทดสอบ
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมงุ่ มนั่ ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 กระดาษ A4
8.4 อุปกรณ์ทาช้ินงาน
8.5 บตั รภาพสตั วท์ ี่หากินตอนกลางคนื
8.6 ภาพสุนขั จิ้งจอกและนกฮกู
8.7 อนิ เทอร์เน็ต

560

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 Animals of Southeast Asia

เวลา 2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สตั วท์ ่อี าศยั อยใู่ นประเทศของตนเองได้
- พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สตั วป์ ระจาชาตใิ นภูมภิ าคอาเซียนได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมีเหตุผล

ตัวชี้วัด

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพดู และการเขียน

ตัวชีว้ ัด

ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น

พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

ตวั ชี้วดั

ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เี่ ก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน และนาเสนอดว้ ย

การพูด/การเขยี น

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสังคมโลก

561

ตัวชีว้ ัด ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ
ต 4.2 ป.4/1

2. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตว์ ช่วยใหเ้ ขา้ ใจเรื่องท่ีอา่ น และสามารถเชื่อมโยง

ความสมั พนั ธข์ องส่ิงท่ปี รากฏในเน้ือหาที่อา่ นได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: They are 3 metres long and weigh about 135 kilogrammes

Vocabulary: parts of animal body, animals, adjectives, verbs, pangolins, hollow,

thick scales, sharp, curl up, insects, anteater, weigh, climb

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สัตวป์ ระจาชาตใิ นภูมภิ าคอาเซียน

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Writing: เขยี นบรรยายเก่ียวกบั สัตวท์ ่อี าศยั อยใู่ นทอ้ งถนิ่ หรือประเทศ

ของตนเอง

3) Culture: สัตวท์ ่ีอาศยั อยใู่ นภมู ิภาคอาเซียน, สตั วป์ ระจาชาติในภูมภิ าคอาเซียน

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ส่วนต่าง ๆ ของสัตวโ์ ดยใชบ้ ตั รภาพ

562

ครูสามารถเขา้ ไปดาวนโ์ หลดบตั รภาพเกี่ยวกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของสตั วไ์ ดท้ ี่เวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-
animal-body-parts.pdf
http://bogglesworldesl.com/animal_body_parts.htm

2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อวยั วะต่าง ๆ ดว้ ยการเล่นเกม Simon Says โดยครูบอกว่า ครูจะพูดว่า Simon
says… ตามดว้ ยช่ืออวยั วะ ให้นกั เรียนเอามอื จบั อวยั วะดงั กล่าว หากครูพดู เพียงชื่ออวยั วะ ไม่มีคาวา่
Simon says…ใหน้ กั เรียนเอามือไปจบั ท่ีอวยั วะอน่ื ๆ ทีไ่ ม่ใช่อวยั วะน้นั เช่น
T: Simon says, “Touch your ears.”
Ss: (นกั เรียนจบั หูตวั เอง)
T: Touch your nose.
Ss: (นกั เรียนจบั อวยั วะอืน่ ท่ีไม่ใช่จมูก)

3. ทบทวนการออกเสียงคาทลี่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /l/ โดยเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
Crocodiles and turtles are not mammals. They are reptiles.
Foxes are nighttime animals. They have got long tails and can hear very well.
There is a turtle, a snail, a whale and a crocodiles in the pool.

จากน้นั ครูให้นกั เรียนอ่านประโยคเหลา่ น้ีพร้อมกนั จนคลอ่ ง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน อา่ น
ประโยคให้เพอ่ื นฟัง
4. ทบทวนคาศพั ทท์ ม่ี ีเสียงเงยี บ b (silent b) เช่น comb, tomb, thumb, climb โดยใชบ้ ตั รคา ครูชูบตั รคาข้ึน
แลว้ ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงพร้อมกนั และทีละคน
5. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยการแสดงภาพ pangolin และ Komodo dragon แลว้ ถามคาถาม เช่น

T: Do you know komodo dragons?
Ss: Yes, I do.
T: Are they dangerous animals?
Ss: Yes, they are.
T: Do you know pangolins?
Ss: No, I don’t.
T: They are called “ตวั น่ิม” in Thai. Do you think they are dangerous animals?
Ss: No, they aren’t.

563

กิจกรรมเพ่ิมเติม
ครูอาจเปิ ดคลิปวดิ ีโอส้นั ๆ เก่ียวกบั pangolin และ Komodo dragon ให้นกั เรียนชมกอ่ นเขา้ สู่
บทเรียนที่เวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
World's Weirdest - Pangolin
https://www.youtube.com/watch?v=gz4HXyxcess
World's Weirdest - Toxic Dragon
https://www.youtube.com/watch?v=NmxMirUlmNk

ข้นั Presentation
1. ครูเขียนคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน

scale swim dragon tree claw
จากน้นั ครูนานกั เรียนอา่ นทลี ะคาพร้อมกนั และใหช้ ่วยกนั บอกความหมาย ให้นกั เรียนสังเกตตวั อกั ษรท่ี
ขดี เส้นใตแ้ ละอธิบายวา่ เป็นพยญั ชนะควบกล้า เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน อา่ นคาศพั ทอ์ กี คร้ัง

พยัญชนะควบกลา้ (consonant clusters)
โครงสร้างภาษาองั กฤษน้นั มีเสียงพยญั ชนะควบกล้าตน้ พยางค์ 3 เสียง และในตาแหน่งทา้ ย
พยางคถ์ งึ 4 เสียง ในขณะทีใ่ นภาษาไทยมเี พยี ง 2 เสียง และไม่มีพยญั ชนะควบกล้าทา้ ยพยางค์
ดงั น้นั คนไทยจึงค่อนขา้ งมปี ัญหาในการออกเสียงควบกล้าในภาษาองั กฤษ โดยคาควบกล้า
ตน้ พยางคแ์ บ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั น้ี

1. เสียง /s/ ตามด้วยเสียงใดเสียงหนึ่งในกล่มุ เสียง /p, t, k, f, m, n, l, w, j/ ตวั อยา่ ง เช่น
s + /p/ : speak, spy, spoon
/t/ : star, stop, store
/k/ : sky, scar, school
/f/ : sphere, sphinx
/m/ : small, smile, smoke
/n/ : snow, snack, sneak
/l/ : slow, slim, slip
/w/ : sweet, swim, switch
/j/ : sue, suit, assume
วธิ ีแกไ้ ขการออกเสียงกลมุ่ น้ี คอื พยายามออกเสียงพยญั ชนะแรกคอื เสียง /s/ ให้ยาวไป
ถึงเวลาเคลือ่ นอวยั วะไปออกเสียงพยญั ชนะท่สี อง

564

2. เสียงใดเสียงหนงึ่ ในกล่มุ เสียง /p, t, k, b, d, g, m, n, l, f, v, θ, ʃ, h/ ตามด้วยเสียงใด
เสียงหนง่ึ ในกล่มุ เสียง /l, r, w, j/ ตวั อยา่ ง เช่น
p + l, r, j : please, pray, pure
f + r, w : fry, fjord
k + l, r, j : clean, crab, cure
b + l, r, j : blue, brush, beauty
d + r, j : draw, due
g + l, r, j : glow, greet, argue
m + j : music
n + j : new
l + j : million
f + l, r, j : fly, fruit, few
v + j : view
θ + r, j, w : throw, thews, thwart
ʃ + r : shrimp
h + j : huge
วธิ ีแกไ้ ขการออกเสียงประเภทน้ี คือ พยายามออกเสียงพยญั ชนะท่สี องในขณะทก่ี าลงั
ออกเสียงพยญั ชนะแรกดว้ ย

ทม่ี า: นนั ทนา รณเกียรติ. สัทศาสตร์เพ่ือการสอนการออกเสียงภาษาองั กฤษ.
กรุงเทพฯ: สํานกั พิมพ์มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, 2555.

2. ครูนาภาพของตวั นิ่มและมงั กรโคโมโดมาแสดงใหน้ กั เรียนดู และกระตุน้ ให้บอกลกั ษณะของสัตวท์ ้งั 2
จากน้นั ครูสอนคาศพั ทท์ ีจ่ ะนามาใชบ้ รรยายลกั ษณะของตวั นิ่มและมงั กรโคโมโด โดยช้ีที่ส่วนต่าง ๆ
ของสตั วใ์ นภาพ และพดู นาเสนอคาศพั ท์ เช่น scales (เกลด็ ) และ claw (กรงเล็บ) และยกตวั อยา่ ง
ประโยค เช่น Scales are the small flat pieces that cover the bodies of fish, snake and etc.
Our cat likes to sharpen her claws on the trees.

3. ครูถามคาถาม เพอื่ ให้นกั เรียนช่วยกนั บรรยายลกั ษณะของตวั นิ่มและมงั กรโคโมโด เช่น
T: Has a pangolin got long legs?
Ss: No, it hasn’t.
T: Has it got thick scales?
Ss: Yes, it has.

565

T: Has it got a long tail?

Ss: Yes, it has.

T: Has a komodo dragon got sharp claws?

Ss: Yes, it has.

T: Has it got short tail?

Ss: No, it hasn’t.

T: Has it got a big mouth?

Ss: Yes, it has. etc.

4. นาเสนอคาศพั ทก์ อ่ นอ่าน ไดแ้ ก่ hollow (เป็นโพรง), curl up (มว้ นตวั ), weigh (หนกั ) โดยยกตวั อยา่ ง

ประโยค หรืออาจวาดภาพประกอบเพ่อื ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย เช่น

A rabbit lives in a hollow tree. Dictionaries are thick and heavy.

A cat likes to curl up into a ball when it is cold.

An elephant weighs up to 2,700 kilogrammes.

เมื่อนกั เรียนเขา้ ใจความหมาย ให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมายของวลี thick scales (เกลด็ หนา) และ

sharp claws (กรงเลบ็ คม)

ตัวลิ่นหรือตัวนิ่ม (pangolin) เป็นสตั วเ์ ล้ยี งลูกดว้ ยน้านม พบในทวปี เอเชียและแอฟริกา
มีส่วนหนา้ ที่ยาว มีปากขนาดเลก็ มลี กั ษณะเป็นรูเลก็ ไม่มีฟัน มีเล็บทีแ่ หลมคมและยืน่ ยาว
ใชส้ าหรับขดุ พ้ืนดินหาอาหาร และขุดโพรงเพื่อเป็นทอ่ี ยอู่ าศยั และพกั ผ่อน ลาตวั ปกคลมุ ดว้ ย
เกล็ดเป็นชิ้น ๆ เหมอื นสตั วเ์ ล้ือยคลาน ซ่ึงเกล็ดน้ีทาหนา้ ท่ีในการป้องกนั ตวั เม่ือถกู รุกราน
ลิ่นจะขดลาตวั เป็นกอ้ นกลม และจะกินอาหารโดยการใชล้ ิ้นท่ยี ่นื ยาวออกมาและน้าลายท่ี
เหนียวตวดั กินแมลงตามพ้นื ดิน นอกจากน้ีลน่ิ ยงั สามารถปี นตน้ ไมไ้ ดด้ ว้ ย
มังกรโคโมโด (komodo dragon) มถี ิน่ อาศยั อยบู่ นเกาะโคโมโด ในประเทศอนิ โดนีเซีย
เป็นสัตวเ์ ล้ือยคลานทใ่ี หญท่ ่สี ุดในโลก ตวั โตเตม็ วยั มขี นาดความยาวโดยเฉลย่ี 3 เมตร มีน้าหนกั
ประมาณ 135 กิโลกรมั ลกั ษณะทวั่ ไปเหมอื นตวั เงินตวั ทอง แต่มลี าตวั ใหญ่ และยาวกว่ามาก
มีอุปนิสยั ดุร้าย ชอบอยเู่ ป็นฝงู มงั กรโคโมโดเป็นสัตวท์ กี่ ินเน้ือเป็นอาหาร จะลา่ เหย่ือดว้ ยการซุ่ม
จ่โู จมกดั เหย่อื ดว้ ยฟันท่ีคม น้าลายของมงั กรโคโมโดมีเช้ือแบคทีเรียอยมู่ ากกวา่ ถึง 50 ชนิด
เหยื่อทีถ่ กู กดั จะเกิดอาการโลหิตเป็นพิษ และจะเสียชีวติ ในเวลาไม่เกิน 3 วนั
ท่มี า: https://th.wikipedia.org/wiki/อันดบั ล่ิน

https://th.wikipedia.org/wiki/มงั กรโคโมโด

566

เราไมอ่ อกเสียง /s/ ในคาว่า island ถา้ ออกเสียง /s/ จะหมายถงึ ประเทศ Iceland
คาว่า island ออกเสียงดงั น้ี

ท่ีมา: http://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/island
คาว่า Iceland ออกเสียงดงั น้ี

ทม่ี า: http://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/iceland
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 75 Ex. 1 ครูอธิบายวา่ ใหน้ กั เรียนอา่ นประโยค 1-5 แลว้ ตอบวา่ ประโยคดงั กลา่ ว

เป็นจริงหรือเทจ็ โดยครูใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคขอ้ 1-5 พร้อมกนั พร้อมขดี เส้นใตค้ าสาคญั จากน้นั ครู
ให้นกั เรียนยอ้ นกลบั ไปอ่านบทความอยา่ งรวดเร็ว เพื่อดวู า่ ประโยคดงั กลา่ วเก่ียวกบั เน้ือเรื่องส่วนใด
เมื่อพบแลว้ ใหอ้ ่านเฉพาะประโยคหรือขอ้ ความท่ีประโยคน้นั พาดพิงไปถึง เมอ่ื นกั เรียนตอบคาถาม
ครบทกุ ขอ้ แลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบบนกระดาน

1T 2F 3F 4T 5F
2. หนงั สือเรียน หน้า 75 Ex. 2 ครูอา่ นคาส่ัง Read and complete. และให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายวา่

นกั เรียนตอ้ งทาอะไร จากน้นั ครูอธิบายหัวขอ้ ที่นกั เรียนจะตอ้ งเตมิ ขอ้ มูล ไดแ้ ก่ place (สถานท่)ี ,
weight (น้าหนกั ), appearance (ลกั ษณะ), ability (ความสามารถ), food (อาหาร) แลว้ ใหน้ กั เรียน
กลบั ไปอ่านบทอา่ นดว้ ยตนเองอกี คร้ัง และเตมิ ขอ้ มลู ในกรอบใหส้ มบูรณ์ เสร็จแลว้ ใหช้ ่วยกนั เฉลย

T: Are pangolins active at night or during the day?
Ss: During the day.
T: Where do they live?
Ss: They live in Malaysia.

567

T: What do they eat?
Ss: They eat ants and other insects.

T: Are Komodo dragons active at night or during the day?
Ss: During the day.
T: Where do they live?
Ss: They live in Indonesia.
T: What can they do?
Ss: They can swim, climb trees and run very fast.
เมื่อนกั เรียนตอบแลว้ ครูเขียนคาตอบท่ถี ูกตอ้ งบนกระดานอกี คร้ัง

Pangolin Komodo dragon
- Nighttime - Daytime
Place: Malaysia Place: Indonesia
Weight: 18 kg Weight: 135 kg
Appearance: thick scales, short legs, Appearance: long tail, big eyes,

sharp claws big mouth, sharp teeth
Ability: swim, curl up into a ball Ability: swim, climb trees, run

Food: ants and insects very fast
Food: meat

3. ครูให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ฝึกพดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั pangolin และ Komodo dragon จนคลอ่ ง
เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาสนทนาท่หี นา้ ช้นั เช่น
S1: Have Komodo dragons got a small mouth?
S2: No, they haven’t. They have got a big mouth.
S1: Can they fly?
S2: No, they can’t but they can climb trees.
S1: What do they eat?
S2: They eat meat.

568

4. ครูนาภาพสตั วป์ ระจาชาตใิ นประเทศอาเซียนมาแสดงทีละภาพ ไดแ้ ก่ elephant (ชา้ ง), komodo dragon
(มงั กรโคโมโด), tiger (เสือ), lion (สิงโต), water buffalo (กระบอื น้า), kouprey (กปู รี), white-bellied
sea eagle (นกอินทรีทอ้ งขาว) และพูดแนะนา เช่น
T: What is this?
Ss: It is a tiger.
T: That’s right. A tiger is the national animal of Malaysia.
จากน้นั ครูติดภาพเสือค่กู บั ภาพธงชาติของมาเลเซีย และเขยี นโครงสร้างตอ่ ไปน้ี เพ่ือใหน้ กั เรียนฝึกพดู
ประโยค ... is the national animal of … .
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั สัตวป์ ระจาชาตขิ องประเทศอื่น ๆ

water buffalo ในประเทศฟิลปิ ปิ นส์ เรียกว่า carabao

5. ครูถามนกั เรียนเกี่ยวกบั สัตวป์ ระจาชาติในอาเซียนอีกคร้งั เช่น
T: What is the national animal of Thailand?
Ss: An elephant.
T: What is the national animal of Singapore?
Ss: A lion.
T: What is the national animal of Indonesia?
Ss: A komodo dragon.

ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเรื่อย ๆ จนครบทุกประเทศในภุมิภาคอาเซียน เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ฝึกพูด
ถาม-ตอบเกี่ยวกบั สตั วป์ ระจาชาติในภมู ภิ าคอาเซียน เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพดู
ถาม-ตอบทหี่ นา้ ช้นั

สัตว์ประจาชาติของประเทศในภูมภิ าคอาเซียน
ไทย - ชา้ ง (Thai elephant)
อนิ โดนีเซีย - มงั กรโคโมโด (komodo dragon)
ฟิลิปปิ นส์ - กระบอื (carabao)
มาเลเซีย - เสือมลายู (Malayan tiger)
กมั พชู า - กูปรี (kouprey)

569

ลาว - ชา้ งอนิ เดีย (Indian elephant)
สิงคโปร์ - สิงโต (lion)
พม่า - เสือ (tiger)
เวียดนาม - กระบอื น้า (water buffalo)
บรูไน - เสือโคร่ง (Bengal tiger)
ทม่ี า: http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000110082

ข้นั Production
1. หนังสือเรยี น หน้า 75 หวั ข้อ Over to you ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากอนิ เทอร์เนต็

เก่ียวกบั สัตวท์ อี่ าศยั อยู่ในทอ้ งถิน่ หรือประเทศของตนเองมาคนละ 1 ชนิด จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขียน
บรรยายลกั ษณะและขอ้ มลู ส้นั ๆ เกี่ยวกบั สตั วด์ งั กลา่ ว พร้อมท้งั วาดภาพหรือตดิ ภาพประกอบ โดย
นกั เรียนสามารถใชบ้ ทอา่ นใน Ex. 1 เป็นตน้ แบบในการเขยี นได้
2. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 62-63 หัวข้อ Modular Revision and Assessment 6
Exs. 1-6 เสร็จแลว้ ครูและนกั เรียนเฉลยคาตอบพร้อมกนั

แบบฝึ กหัด หน้า 63 Ex. 5
One
Boy: This animal is grey. It’s a fat animal. It’s got a short tail and it likes

the water. It’s got big head. What is it?

Two
Girl: This animal has got a long body. It’s got small eyes. This animal can’t

walk. What is it?

Three
Boy: This animal lives in Africa. It can run fast. It’s got small ears. It’s a

very tall animal. What is it?

570

Ex. 1 5 giraffe
1 snake 6 elephant
2 lion 7 hippo
3 turtle
4 mouse

Ex. 2 4 it has.
1 it can’t. 5 they can.
2 they haven’t.
3 they don’t.

Ex. 3
1 Crocodiles eat meat and fish.
2 Dogs and cats have got paws.
3 Monkeys are very funny animals.
4 Lions can run very fast.

Ex. 4 3e 4c
1a 2d

Ex. 5
animals ticked: hippo, snake, giraffe

Ex. 6 3 run 5 climb
1 tail 4 long 6 jump
2 paws

7 Yes, they are. 9 Yes, they are.
8 Yes, they can. 10 Yes, they have.

571

7. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมินชิ้นงานการเขยี นบรรยาย แบบประเมินชิ้นงาน ผา่ นเกณฑ์

ลกั ษณะสตั วท์ พ่ี บในทอ้ งถน่ิ หรือ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ประเทศของตนเอง ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝึกหดั (Workbook)/ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
แบบทดสอบ

สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้

สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ
ใฝ่ เรียนรู้และความมงุ่ มนั่ ประสงค์
ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ
8.5 อุปกรณ์ทาช้ินงาน
8.6 อินเทอร์เน็ต

572

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 CLIL 6 On My Body เวลา 1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- เขียนนาเสนอเก่ียวกบั สิ่งทปี่ กคลุมตวั สตั วไ์ ด้
- ร้องเพลงภาษาองั กฤษได้
- คน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั สตั วท์ ่ีมสี ่ิงปกคลุมร่างกายท่ีกาหนดได้
- วาดภาพจากคาบรรยายที่ฟังได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพดู และการเขียน

ตัวชีว้ ดั พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พนั ธ์ของส่ิงตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ตามทีฟ่ ังหรืออา่ น
ต 1.3 ป.4/2

สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น

พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตวั ชีว้ ัด

ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่ และนาเสนอดว้ ย

การพูด/การเขยี น

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณท์ ี่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสังคมโลก

ตัวชี้วัด

ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

573

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สิ่งทปี่ กคลุมตวั สตั วแ์ ละโครงสร้างประโยค ช่วยให้ใช้

ภาษาองั กฤษในการสืบคน้ และเช่ือมโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระวิชาอน่ื ๆ และเขียนสื่อสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและ
เหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Feathers and Functions
Structure: A parrot has got feathers. It keeps me warm in winter and cool in
summer. It protects me from my enemies. I’ve got fur on my body.
Vocabulary: feathers, fur, shell, scales, parrot, bear, dog, turtle, snail, crocodile,
swan, lizard
Function: ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั สิ่งทปี่ กคลมุ ตวั สัตว์
2) Language Skills
Listening: วาดภาพจากคาบรรยายทฟ่ี ัง
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สิ่งทปี่ กคลุมตวั สตั ว์
Writing: เขียนนาเสนอเก่ียวกบั สิ่งทปี่ กคลุมตวั สตั ว์

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน - ทกั ษะการจดั กลมุ่
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดท่ใี ชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกลา่ วคาทกั ทายนกั เรียนในช้นั โดยใชป้ ระโยค How are you doing today? จากน้นั ให้นกั เรียนท่ีนง่ั

หลงั ห้องเดินมาทกั ทายกบั เพอื่ นทีน่ ง่ั ฝั่งหนา้ หอ้ ง

574

2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตวโ์ ดยแสดงบตั รภาพทมี่ ีศพั ทอ์ ยดู่ า้ นหลงั โดยครูชูบตั รภาพข้นึ มาและให้
นกั เรียนบอกคาศพั ท์ พร้อมท้งั สะกดคาดว้ ย หากนกั เรียนยงั สะกดคาไม่ถูกตอ้ ง ครูพลิกบตั รคาดา้ นหลงั
ให้นกั เรียนดคู าศพั ท์

3. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยถามนกั เรียนวา่ Why do we wear a sweater/ a raincoat/ boots? ครูรวบรวมคาตอบ
จากนกั เรียนมาเขียนบนกระดาน เช่น It makes us warm. It makes us dry. จากน้นั ครูบอกนกั เรียนวา่
เรามเี ครื่องนุ่งห่มเพ่ือป้องกนั ตวั เราจากสภาพอากาศตา่ ง ๆ สัตวก์ ็มเี ช่นกนั

ข้นั Presentation
1. ทบทวนและนาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตวท์ ้งั ทีม่ ีขน เกลด็ และเปลอื กแขง็ เช่น parrot (นกแกว้ ), bear

(หมี), dog (สุนขั ), turtle (เตา่ ), snail (หอยทาก), crocodile (จระเข)้ , swan (หงส์), lizard (สัตวเ์ ล้อื ย-
คลานจาพวกจิง้ จกหรือตุ๊กแก) โดยการเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดานหรือใชบ้ ตั รภาพ จากน้นั พดู คาศพั ทใ์ ห้
นกั เรียนฟังทลี ะคา แลว้ ให้นกั เรียนฝึกพดู ตามพร้อมกนั ครูใหน้ กั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคา ดงั น้ี

parrot turtle crocodile lizard
ต่อมาครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ประเภทของสัตวไ์ ดแ้ ก่ mammal, reptile, birds, fish, insect, amphibian
แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกว่าสัตวแ์ ตล่ ะชนิดทีค่ รูถามเป็นสัตวป์ ระเภทใด เช่น

T: What type of animal are dogs?
Ss: They are mammals.
T: What type of animal are parrots?
Ss: They are birds.
T: What type of animal are bears?
Ss: They are mammals.
T: What type of animal are lizards?
Ss: They are reptiles.
T: What type of animal are crocodiles?
Ss: They are reptiles.
T: What type of animal are swans?
Ss: They are birds.
T: What type of animal are turtles?
Ss: They are reptiles.

575

snail ไม่ไดจ้ ดั อยใู่ นประเภท mammal, reptile, birds, fish, insect หรือ amphibian เพราะอยใู่ น
ประเภทgastropod หรือ gastropoda ซ่ึงเป็นประเภทสตั วไ์ ม่มีกระดกู สนั หลงั มลี าตวั ออ่ นนุ่ม
และเคลอื่ นทีโ่ ดยใชล้ าตวั มกั อาศยั อยใู่ นเปลอื กหอย

gastropod (n) = a type of animal with no spine, a soft body with a flat base used
for moving, and often a shell, for example a snail or a slug

2. ครูนาเสนอคาศพั ทต์ ่อไปน้ี feathers (ขนนก), fur (ขน), shells (เปลอื ก), scales (เกลด็ ) โดยนาภาพของ
สัตวท์ ่ีมลี กั ษณะเหลา่ น้ีมาแสดงและพูดแนะนา เช่น Look at the picture. The parrot has got feathers.
What does the word ‘feather’ mean? ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ภาพ cat, snail และ crocodile ดว้ ย
จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดว่า ทาไมสตั วแ์ ต่ละชนิดจึงมีลกั ษณะตา่ งกนั ทาไมสตั วบ์ างตวั มขี น
สัตวบ์ างตวั มีเกลด็ ครูอาจช่วยยกตวั อยา่ ง เช่น ขนนกทาให้ร่างกายนกอบอนุ่ ช่วยในการบิน และยงั
สามารถกนั ฝนไดด้ ว้ ย ต่อมาครูแสดงบตั รภาพแมวและเตา่ แลว้ ให้นกั เรียนตอบคาถามเช่นเดียวกนั น้ี

ขนสัตว์ (fur) ทาหนา้ ทีป่ กคลมุ ลาตวั และใหค้ วามอบอนุ่ แกร่ ่างกาย นอกจากน้ียงั ช่วยป้องกนั

เช้ือโรคเขา้ สู่ผิวหนงั ไดอ้ กี ดว้ ย

เปลือก (shell) เป็นเคร่ืองอาพรางอนั ตรายจากสัตวอ์ น่ื ๆ ท้งั ยงั ช่วยควบคุมอุณหภูมภิ ายใน

เมือ่ มีการเปลย่ี นแปลงของสภาพอากาศภายนอก

เกล็ด (scale) ช่วยป้องกนั อนั ตรายจากสัตวอ์ นื่ ๆ ท้งั ยงั ช่วยในการเคลือ่ นท่ีดว้ ย

ขนนก (feather) ช่วยปกคลุมลาตวั เพ่อื ป้องกนั อนั ตรายจากสิ่งมีคมและความร้อนจากแสง

อาทิตย์ รวมท้งั ช่วยรักษาความร้อนในร่างกาย ขนนกยงั ช่วยใหล้ อยตวั กลางอากาศไดด้ ีอีกดว้ ย

ที่มา: http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/nakhonsithamrat/sukanya_

p/animal/sec02p05.html

3. ครูนาบตั รภาพสตั วต์ ่าง ๆ มาแสดง และถามนกั เรียนวา่ สัตวเ์ หลา่ น้ีมี fur, scales, shell หรือ feather เช่น

T: Has a turtle got fur?

Ss: No, it hasn’t. It has got a shell.

ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเรื่อย ๆ จนนกั เรียนสามารถบอกลกั ษณะของสตั วไ์ ดค้ ลอ่ ง

4. นาเสนอคาว่า protect (ป้องกนั ), keep (เกบ็ ) โดยเขียนตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน

A shell protects a turtle from danger. Fur keeps a bear warm.

จากน้นั ใหแ้ ต่งประโยคโดยใชค้ าศพั ทบ์ นกระดาน เสร็จแลว้ ให้ผลดั กนั ออกมาอ่านประโยคท่แี ต่ง

576

ข้นั Practice

1. แบบฝึ กหดั หน้า 74 Ex. 1 ครูอ่านคาสงั่ Match. Then listen and check. จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูภาพหมี
แลว้ ถามว่า What’s on its body? เพอื่ กระตนุ้ ใหน้ ักเรียนตอบ Fur. หลงั จากน้นั ครูให้เวลานกั เรียนดูภาพ
ทเี่ หลอื และโยงเสน้ คาตอบใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเพอ่ื ตรวจคาตอบ

A parrot has got feathers.
A bear has got fur.
A dog has got fur.
A turtle has got a shell.
A snail has got a shell.
A crocodile has got scales.
A swan has got feathers.
A lizard has got scales.

bear – fur crocodile – scales
dog – fur swan – feathers
turtle – shell lizard – scales
snail – shell

ต่อมาครูใหน้ กั เรียนดภู าพหมี แลว้ พูดวา่ The bear has got fur. แลว้ ให้นกั เรียนพดู ตาม จากน้นั ครูสุ่ม
เรียกนกั เรียนพดู ประโยคจากภาพทเี่ หลอื ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียนบนกระดาน

hair คือ ขนท่ีข้นึ ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มกั จะใชก้ บั คน แตส่ ัตวบ์ างชนิดก็มีขน (hair)
เช่นกนั เช่น ชา้ ง มา้
ตวั อยา่ ง She has got long hair.
fur คอื ขนทีข่ ้ึนปกคลมุ ผิวหนงั อกี ช้นั หน่ึง มกั จะใชก้ บั สตั ว์ เช่น แมว หมี แกะ
ตวั อยา่ ง A lamb has got thick fur.
ท่ีมา: https://en.wikipedia.org/wiki/Hair

https://en.wikipedia.org/wiki/Fur

577

2. แบบฝึ กหัด หน้า 75 Ex. 2 ครูอา่ นคาส่ังและอธิบายภาระงาน โดยครูอ่านประโยคให้นกั เรียนฟังและ
อธิบายศพั ทท์ น่ี กั เรียนไม่รู้ จากน้นั ให้เวลานกั เรียนอา่ นประโยคและเติมคาตอบดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้
ครูเฉลยคาตอบบนกระดาน

1 feathers 3 scales
2 fur 4 shell

3. แบบฝึ กหดั หน้า 75 Ex. 3 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและดูเน้ือเพลงตามไปดว้ ย จากน้นั ครูเปิ ด CD
อีกคร้งั เพอื่ ให้นกั เรียนร้องตาม ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ เป็น 4 กลุม่ (อาจแบง่ ตามแถวที่นง่ั กไ็ ด)้
เสร็จแลว้ ครูมอบหมายใหแ้ ต่ละกลุม่ ร้องเพลงแต่ละทอ่ น ดงั น้ี
ทุกคน Fur, feathers, scales or a shell,
They all protect us very well!
กลุ่ม 1 Fur keeps us warm,
กลุ่ม 2 A shell keeps us dry,
กลุ่ม 3 Scales keep us safe
กล่มุ 4 And feathers help us fly!
ทกุ คน Fur, feathers, scales or a shell,
They all protect us very well!
เมอื่ แบง่ ท่อนเสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร้องตามจนคล่อง ครูอาจให้แต่ละกลมุ่ คดิ
ท่าทางประกอบหรือช่วยกนั ปรบมือเขา้ จงั หวะดว้ ยกไ็ ด้

4. ครูเตรียมสลากใส่กลอ่ งกระดาษหรือหมวก โดยในสลากจะมคี าศพั ทเ์ กี่ยวกบั สิ่งทีป่ กคลมุ ร่างกาย
สตั วอ์ ยู่ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจบั สลากทีละคน ให้นกั เรียนแตง่ ประโยคจากคาศพั ทท์ ี่นกั เรียนจบั ได้
เช่น fur – A cat has got fur.
feathers – A duck has got feathers.

5. ให้นกั เรียน 1 คู่ ท่คี รูเตรียมไวแ้ ลว้ ถาม-ตอบเก่ียวกบั ส่ิงทปี่ กคลุมร่างกายของสัตว์ และประโยชน์หรือ
เหตุผลทีม่ ี เช่น
S1: Has a parrot got scales?

S2: No, it hasn’t. It has got feathers.
S1: Why has it got feathers?

S2: Because feathers help it fly.

578

จากน้นั ครูให้นกั เรียนทางานคู่ ฝึกพูดถาม-ตอบกนั ครูใหน้ กั เรียนเปลีย่ นคอู่ กี 1-2 คร้งั เสร็จแลว้ สุ่มเรียก
นกั เรียนออกมาพูดที่หนา้ ช้นั

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทางานกลมุ่ คน้ ควา้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เน็ตเก่ียวกบั สตั วท์ ี่มีส่ิงทปี่ กคลมุ

ร่างกาย ไดแ้ ก่ fur, feather, scale, shell มาอยา่ งละ 3-5 ชนิด จากน้นั ให้นกั เรียนทาโปสเตอร์นาเสนอ
พร้อมกบั ตกแต่งใหส้ วยงาม เสร็จแลว้ ครูใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั
2. ใหน้ กั เรียนวาดภาพสัตว์ 4 ชนิดท่ีมสี ิ่งปกคลมุ ร่างกายแตกตา่ งกนั ไดแ้ ก่ fur, feather, scale, shell
จากน้นั วาดภาพสัตวด์ งั กล่าวและเขยี นบรรยายว่า สตั วแ์ ต่ละชนิดมีสิ่งปกคลมุ ร่างกายคืออะไร
และมีประโยชนอ์ ยา่ งไร ครูอาจยกตวั อยา่ ง เช่น An owl has got feathers. Feathers help it fly.
3. ครูบรรยายสตั ว์ 1-2 ชนิด และใหน้ กั เรียนวาดภาพตามคาบอก เช่น

It has got a small body. It has got short four legs. It has got long ears.
It has got a round nose. It has two big teeth in the mouth. It has got
a short tail. It has got fluffy grey fur.

4. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 76-77 หวั ข้อ ASEAN Review และ Board Game
หน้า 78-81 เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบพร้อมกนั บนกระดาน

ASEAN Review 7 weather 13 nighttime
8 snorkelling 14 tail
Ex. 1 9 trekking 15 climb
1 singer 10 puppet 16 activity
2 actor 11 meat 17 cycling
3 mangosteen 12 claw 18 climate
4 rambutan
5 delicious
6 festival

579

Ex. 2 5 Myanmar
1 Thailand 6 the Philippines
2 Indonesia 7 Vietnam
3 Vietnam 8 Thailand
4 Malaysia

Board Game (หน้า 78-81)
There is some orange juice.
Can I have some cheese please?
There’re some apples on the table.
There are some burgers and sausages.
My mum’s got long brown hair and brow eyes.

Tom’s dad works at night.
I like cooking. Do you?
What’s James like?
He’s listening to music.
Billy goes to the gym in the afternoon.
Tonia plays tennis on Mondays.

7. การวดั และประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์

ประเมินชิ้นงานนาเสนอส่ิงท่ี แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้

ปกคลุมตวั สัตวแ์ ละประโยชน์ ผ่านเกณฑ์

ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

แบบทดสอบ

ตรวจการวาดภาพสตั วต์ ามคาบอก แบบฝึกหัด ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้

ใฝ่เรียนรู้และม่งุ มน่ั ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

580

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณท์ าชิ้นงาน
8.5 บตั รภาพ
8.6 อนิ เทอร์เน็ต

581

บนั ทึกหลงั แผนการจัดการเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
ด้านคุณลักษณะ (A)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...

ปญั หาและอปุ สรรค/แนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………………………………….
( นายแดนอังเจลโล่ บญุ หลง )
ตำแหน่ง ครู

ความเห็นของผู้บรหิ าร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ............................................................
(………………..……………………….)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียน

ภาคผนวก

582

Track list Class Audio CD EXTRA and Friends 4

Track กจิ กรรม
1 Credits
2 Module 1 The Way We Look! Exercise 1 Page 4 Listen, point and repeat.
Then match.
3 Exercise 3 Page 5 Listen and choose.
4 Exercise 6 Page 6 Read and number. Then listen, point and repeat.
5 Exercise 8 Page 7 Read and match. Then listen and repeat.
6 Exercise 11 Page 8 Listen and choose.
7 Exercise 13 Page 10 Read and complete. Then listen and check.
8 Exercise 15 Page 11 Listen. Play the game.
9 Sound Spot Page 11 Listen and say.
10 Exercise 16 Page 12 Let’s sing.
11 Module 2 Something to Eat Exercise 1 Page 16 Listen, point and repeat.
12 Exercise 5 Page 18 Listen, point and repeat. Then match.
13 Exercise 8 Page 19 Listen and repeat. Then talk with your friend.
14 Exercise 9 Page 20 Listen and say yes or no.
15 Exercise 11 Page 22 Listen, read and answer the question.
16 Exercise 13 Page 23 Listen. Play the game.
17 Sound Spot Page 23 Listen and say.
18 Exercise 14 Page 24 Let’s sing.
19 Module 3 What’s the Weather Like? Exercise 1 Page 28 Listen, point
and repeat.
20 Exercise 5 Page 30 Listen, point and repeat.
21 Exercise 8 Page 31 Listen and choose.
22 Exercise 9 Page 31 Listen and repeat. Then talk with your friend.
23 Exercise 10 Page 32 Listen and choose.
24 Exercise 12 Page 34 Read and choose. Then listen and check.
25 Exercise 14 Page 35 Listen. Play the game.
26 Sound Spot Page 35 Listen and say.

583

Track กจิ กรรม
27 Exercise 15 Page 36 Let’s sing.
28 Module 4 Hooray, It’s Saturday! Exercise 1 Page 40 Listen, point and
repeat.
29 Exercise 5 Page 42 What’s the time? Complete. Then listen, point and
repeat.
30 Exercise 9 Page 43 Listen and complete.
31 Exercise 10 Page 44 Listen and choose.
32 Exercise 12 Page 46 Listen, read and match.
33 Exercise 14 Page 47 Listen. Play the game.
34 Sound Spot Page 47 Listen and say.
35 Exercise 15 Page 48 Let’s sing.
36 Module 5 My Favourite Season Exercise 1 Page 52 Listen, point and
repeat.
37 Exercise 4 Page 53 Listen and match. Then tell the class.
38 Exercise 5 Page 54 Match. Then listen, point and repeat.
39 Exercise 10 Page 56 Listen and choose.
40 Exercise 12 Page 58 Listen and read.
41 Exercise 14 Page 59 Listen. Play the game.
42 Sound Spot Page 59 Listen and say.
43 Exercise 15 Page 60 Let’s sing.
44 Module 6 All About Animals Exercise 1 Page 64 Listen, point and repeat.
45 Exercise 5 Page 65 Listen and repeat. Then talk with your friend.
46 Exercise 6 Page 66 Complete. Then listen, point and repeat.
47 Exercise 9 Page 67 Listen and choose the animals you hear.
48 Exercise 10 Page 67 Listen and repeat.
49 Exercise 11 Page 68 Listen and answer.
50 Exercise 13 Page 70 Listen, read and match.
51 Exercise 15 Page 71 Listen. Play the game.
52 Sound Spot Page 71 Listen and say.

584

Track กจิ กรรม
53 Exercise 16 Page 72 Let’s sing.
54 Credits
55 Module 1 The Way We Look! Exercise 11 Page 9 Listen and tick ().
56 Exercise 5 Page 13 Listen and colour and draw.
57 Module 2 Something to Eat Exercise 11 Page 19 Listen and match.
58 Exercise 6 Page 23 Listen and put a tick () or a cross ().
59 Module 3 What’s the Weather Like? Exercise 9 Page 29 Listen and tick
() the correct box.
60 Exercise 5 Page 33 Listen and tick () the box.
61 Module 4 Hooray, It’s Saturday! Exercise 9 Page 37 Listen and draw the
times.
62 Exercise 6 Page 43 Listen and circle.
63 Module 5 My Favourite Season Exercise 11 Page 49 Listen and circle.
64 Exercise 6 Page 53 Listen and answer the questions.
65 Module 6 All About Animals Exercise 4 Page 55 Listen and match.
66 Exercise 5 Page 63 Listen and tick () the animals they are talking about.
67 Going for CLIL 4 Exercise 1 Page 70 Listen, point and repeat. Then match.
68 Exercise 3 Page 71 Let’s sing.
69 Going for CLIL 5 Exercise 2 Page 73 Let’s sing.
70 Going for CLIL 6 Exercise 1 Page 74 Match. Then listen and circle.
71 Exercise 3 Page 75 Let’s sing.
72 Listening Test 1
73 Listening Test2
74 Listening Test 3
75 Listening Test 4
76 Listening Test 5
77 Listening Test 6

585

เกณฑ์การประเมนิ การพูด

ระดบั 4 เกณฑ์การให้คะแนน น้าหนัก คะแนน
คะแนน 32 1 ความสาคัญ รวม
ออกเสียง
ประเดน็ คาศพั ท์ ออกเสียง ออกเสียง ออกเสียง 4 16
การประเมนิ ประโยค
1. ความถกู ตอ้ ง ไดถ้ กู ตอ้ ง คาศพั ท์ คาศพั ท์ คาศพั ท์ 3 12
ตามหลกั การ 2 8
2. ความ ออกเสียง ประโยค ประโยค ประโยค 9 36
คลอ่ งแคลว่ เนน้ หนกั คา/
ประโยคได้ ไดถ้ กู ตอ้ ง ไดถ้ กู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง
3. การแสดง สมบูรณ์
ทา่ ทาง พดู ตอ่ เนื่อง ตามหลกั การ ตามหลกั การ ทาใหส้ ่ือสาร
น้าเสียง ไม่ตดิ ขดั
ประกอบ พูดชดั เจน ออกเสียง ออกเสียง ไมไ่ ด้
การพูด ทาให้สื่อสาร
ไดด้ ี เนน้ หนกั คา/ แต่ส่วนใหญ่
แสดงท่าทาง
และพูดดว้ ย ประโยค ขาดการออก-
น้าเสียง
เหมาะสมกบั เป็นส่วนใหญ่ เสียงเนน้ หนกั
สถานการณ์
พูดตะกกุ ตะกกั พูดเป็นคา ๆ พดู ไดบ้ างคา

บา้ ง แตย่ งั พอ หยดุ เป็น ทาใหส้ ื่อ

ส่ือสารได้ ช่วง ๆ ทาให้ ความหมาย

สื่อสารได้ ไมไ่ ด้

ไม่ชดั เจน

พูดดว้ ยน้าเสียง พดู เหมือน พูดได้
เหมาะสมกบั อา่ นไม่เป็น นอ้ ยมาก

สถานการณ์ ธรรมชาติ

แตไ่ มม่ ีทา่ ทาง ขาดความ

ประกอบ น่าสนใจ

รวม

ท่มี า: แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เพ่อื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำนกั วิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน้ พนื้ ฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร

586

เกณฑ์การประเมนิ ความสามารถในการพูดส่ือสาร

ระดบั คะแนน 4 3 2 1
ประเดน็
การประเมิน ออกเสียงคาศพั ท์ ออกเสียงคาศพั ท์ ออกเสียงคาศพั ท์ ออกเสียงคาศพั ท์
1. ความถกู ตอ้ ง ประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง ประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง ประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง ประโยค
ตามหลกั การ ตามหลกั การ ตามหลกั การ ไมถ่ กู ตอ้ ง
2. ความคลอ่ งแคลว่ ออกเสียง เนน้ หนกั ออกเสียง ออกเสียง ทาให้ส่ือสาร
คา/ประโยคได้ เนน้ หนกั คา/ แตส่ ่วนใหญ่ ไมไ่ ด้
3. การแสดงทา่ ทาง สมบูรณ์ ประโยค ขาดการออกเสียง
น้าเสียง เป็ นส่วนใหญ่ เนน้ หนกั พดู ไดบ้ างคา
ประกอบการพดู พดู ตอ่ เน่ือง พูดตะกุกตะกกั พดู เป็นคา ๆ ทาใหส้ ่ือ
ไมต่ ิดขดั บา้ ง แต่ยงั พอ หยดุ เป็นช่วง ๆ ความหมายไมไ่ ด้
พดู ชดั เจน ทาให้ สื่อสารได้ ทาใหส้ ื่อสารได้
ส่ือสารไดด้ ี ไมช่ ดั เจน พูดไดน้ อ้ ยมาก
แสดงทา่ ทาง พูดดว้ ยน้าเสียง พูดเหมือนอ่าน
และพดู ดว้ ย เหมาะสมกบั ไม่เป็ นธรรมชาติ
น้าเสียง สถานการณ์ ขาดความน่าสนใจ
เหมาะสมกบั แต่ไมม่ ที ่าทาง
สถานการณ์ ประกอบ

ท่ีมา: แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพือ่ พฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำนกั วิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร

587

เกณฑ์การประเมนิ การเขยี น

ระดบั คะแนน

ประเดน็ 4321

การประเมิน

1. การเลือกใช้ ใชค้ าศพั ท์ ใชค้ าศพั ท์ ใชค้ าศพั ท์ ใชค้ าศพั ท์

คาศพั ท์ ส่ือความหมาย สื่อความหมาย สื่อความหมาย ส่ือความหมาย

ตรงกบั เน้ือหา ไมต่ รงกบั เน้ือหา ไมต่ รงกบั เน้ือหา ไม่ตรงกบั เน้ือหา

1-2 คา 3-4 คา มากกวา่ 5 คา

ข้ึนไป

2. การใชภ้ าษา ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ

ไวยากรณม์ ีความ ไวยากรณ์มีผิด ไวยากรณ์มผี ิด ไวยากรณม์ ีผดิ

ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ 1-2 จดุ 3-4 จดุ มากกว่า 5 จดุ

อ่านเขา้ ใจง่าย

3. เน้ือหา เขียนอธิบายเน้ือหา เขยี นอธิบายเน้ือหา เขยี นอธิบายเน้ือหา เขียนอธิบายเน้ือหา

ไดค้ รบถว้ น และ ไดค้ รบถว้ น และ ไมค่ รบถว้ น ไมค่ รบถว้ นและ

ตรงประเดน็ ตรงประเดน็ แต่ตรงประเดน็ ไมต่ รงประเด็น

เป็ นส่วนใหญ่

ดัดแปลงจาก: แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพ่อื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับมัธยมศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำนกั วชิ ำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พนื้ ฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร

588

เกณฑ์การประเมนิ ชิน้ งาน

ระดบั เกณฑ์การให้คะแนน

คะแนน น้าหนัก คะแนน
ความสาคัญ รวม
ประเดน็ 4 32 1
การประเมิน 3 12
ช้ินงานมี
1. ความสมบรู ณ์ ช้ินงานมี ชิ้นงานมี ชิ้นงานมี รายละเอียด 28
รายละเอยี ด รายละเอยี ด ครอบคลมุ
ของชิ้นงาน รายละเอยี ด ครอบคลุม ครอบคลมุ วงคาศพั ท์ 5 20
วงคาศพั ท์ วงคาศพั ท์ ท่เี รียนนอ้ ย
ครอบคลมุ ทเี่ รียน ทีเ่ รียน
เป็ นส่วนใหญ่ พอสมควร เป็ นช้ินงาน
วงคาศพั ทท์ ่ี เป็ นช้ินงาน ที่เหมือนกบั
ท่แี ปลกใหม่ เป็ นช้ินงาน ตวั อยา่ ง
เรียนสมบรู ณ์ แต่มีบางส่วน ที่ปรับปรุง
คลา้ ยกบั ดดั แปลง
2. ความคิด เป็ นชิ้นงาน ตวั อยา่ ง เล็กนอ้ ยจาก
สร้างสรรค์ ที่แปลกใหม่ ตวั อยา่ ง
คดิ ข้ึนเอง รวม
ไม่เหมือน
ตวั อยา่ ง

589

เกณฑ์ประเมินการแสดงละคร/บทบาทสมมติ

รายการ ระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน นา้ หนกั คะแนน
รวม
การประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ความสาคัญ 8

1. การมีส่วนร่วม เตม็ ใจและสนใจ เตม็ ใจและสนใจ เตม็ ใจและสนใจ เตม็ ใจและสนใจ 2 8

ในการเตรียมตวั ในการทางาน ในการทางาน ในการทางาน ในการทางาน 8

และการนาเสนอ กลุ่มและในการ กลมุ่ และในการ กลุ่มและในการ กลุ่มและในการ

นาเสนอเสมอ นาเสนอ นาเสนอ นาเสนอนอ้ ยมาก

เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางเวลา

2. การแสดง สื่อสารความรูส้ ึก ส่ือสารความรูส้ ึก สื่อสารความรู้สึก ส่ือสารความรู้สึก 2
บทบาท สถานการณ์ และ
แรงจงู ใจของ สถานการณ์ และ สถานการณ์ และ สถานการณ์ และ
3. ความถูกตอ้ ง ตวั ละครได้
ของเน้ือหา อย่างน่าเชื่อถือ แรงจูงใจของ แรงจูงใจของ แรงจูงใจของ
สาระ ความรู้ เน้ือหาสาระ
ถกู ตอ้ งครบถว้ น ตวั ละครไดด้ ี ตวั ละครไดพ้ อใช้ ตวั ละครไดน้ อ้ ย

เน้ือหาสาระ เน้ือหาสาระ เน้ือหาสาระ 2
ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ งพอใช้ ถกู ตอ้ ง
เป็ นส่วนมาก เป็นส่วนนอ้ ย

4. การใชอ้ วจั น มีการใช้ มีการใช้ มกี ารใช้ มีการใช้ 2 8
ภาษา (น้าเสียง อวจั นภาษา อวจั นภาษา 1 4
ท่าทาง สายตา หลากหลาย หลากหลาย อวจั นภาษา อวจั นภาษา 9 36
อปุ กรณ์ น่าประทบั ใจใน อยู่ในเกณฑท์ ่ีดี
ประกอบฉาก เกณฑท์ น่ี ่ายกย่อง หลากหลายพอใช้ ไม่หลากหลาย
เคร่ืองแตง่ กาย)
อยู่ในเกณฑ์ อยใู่ นเกณฑ์
5. จนิ ตนาการ
และความคดิ ที่ยอมรบั ได้ ที่ตอ้ งปรับปรุง
สร้างสรรค์
เป็ นผลงานท่ี เป็นผลงานท่ี เป็นผลงานท่ี เป็ นผลงานท่ี
ดึงดดู ความสนใจ ดงึ ดดู ความสนใจ ปรบั ปรุงเลก็ นอ้ ย เหมอื นตวั อยา่ ง
แปลกใหม่ และ แปลกใหม่ จากตวั อย่าง
คิดข้นึ เอง สอดคลอ้ งกบั
สอดคลอ้ งกบั เร่ืองที่กาหนด
เรื่องท่กี าหนด แต่บางส่วน
เหมอื นตวั อย่าง

รวม

590

แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้

ท่ี ชื่อ-สกุล คะแนนรวม หมายเหตุ

คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน

1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

591

ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8 ด้าน

สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียน ในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในช่องว่างใหต้ รงกบั ระดบั คะแนน
และตามความเป็นจริง โดยมเี กณฑก์ ารให้คะแนน ดงั น้ี

4 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิชดั เจนมาก และบอ่ ยคร้งั สม่าเสมอ
3 = พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิชดั เจนและสมา่ เสมอ
2 = พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ชิ ดั เจนและบ่อยคร้งั
1 = พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั บิ างคร้ัง

คุณลกั ษณะอนั พงึ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
ประสงคด์ า้ น 4 321

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรัก และภูมใิ จในความเป็นชาติ

กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ธรรมของศาสนา

1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษตั ริย์

2. ซื่อสัตย์สุจริต 2.1 ปฏิบตั ิตามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบา้ น

2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ตนเอง

2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ผอู้ นื่

3. มวี นิ ัย 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา

3.2 แต่งกายเรียบรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ

3.3 ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง

4. ใฝ่ เรียนรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ

4.2 มีการจดบนั ทกึ ความรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรูไ้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล

5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและสิ่งของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั

5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และรูค้ ุณคา่

5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน

6. ม่งุ ม่นั ในการทางาน 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทางานท่ีไดร้ ับ

มอบหมาย

6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรค เพือ่ ใหง้ านสาเร็จ

7. รักความเป็ นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย

8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รูจ้ กั การให้เพอ่ื ส่วนรวม และเพอ่ื ผอู้ ่ืน

8.2 แสดงออกถงึ การมีน้าใจหรือการใหค้ วามช่วยเหลือผูอ้ ่ืน

8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ตนเพ่ือส่วนรวมเมอ่ื มีโอกาส

592

โรงเรยี นบา้ นโนนสวา่ ง

กลมุ่ เครอื ข่ายสถานศึกษาที่ 4

สานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาอุบลราชธานี เขต 3


Click to View FlipBook Version