แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 A rabbit can walk and run.
เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สัตวแ์ ละความสามารถของสัตวไ์ ด้
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ความสามารถและขอ้ มูลทว่ั ไปของสัตวไ์ ด้
- พดู และเขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ความสามารถของสตั วไ์ ด้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล
ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ยๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรือสญั ลกั ษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขยี น
ตัวชี้วัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของส่ิงต่าง ๆ ใกลต้ วั ตามที่ฟังหรืออา่ น
สาระที่ 2 ภาษากับวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถกู ต้อง
496
ตวั ชี้วดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลุม่ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างเก่ียวกบั การบอกความสามารถ ช่วยให้ใชภ้ าษาองั กฤษในการพูด
เขียนบรรยายเก่ียวกบั สิ่งใกลต้ วั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: A rabbit can walk and run but it can’t fly or swim. Dogs eat meat.
Vocabulary: body parts, food, parrot, toucan, hornbill
Function: ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ความสามารถของสตั ว์
2) Language Skills
Listening: ฟังและจบั คู่
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถของสตั ว,์ พดู บรรยาย
ความสามารถของสตั ว์
Writing: เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถของสัตว์
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการเปรียบเทยี บ
497
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มุง่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม ครูให้แตล่ ะทีมผลดั กนั ส่งตวั แทนออกมาเล่นเกมคร้ังละ 1 คน ครูนาบตั รภาพ
ส่วนต่าง ๆ ของสตั ว์ ไปวางไวท้ เ่ี กา้ อ้ี 2 ตวั อยา่ งละ 1 ใบ ทีต่ ้งั อยหู่ ่างออกไป เพอื่ ทีน่ กั เรียนจะสามารถ
วิง่ แขง่ กนั ไปท่ีเกา้ อ้ีได้
ภาพสัตว์ 1 ภาพสัตว์ 2
เม่ือครูอา่ นประโยคบรรยายลกั ษณะของสตั ว์ เช่น It has got a (long) tail. และพดู วา่ Ready! Set! Go!
(เตรียมพร้อม ต้งั ทา่ ไป) ให้ตวั แทนแต่ละทมี ว่งิ ไปนง่ั ท่ีเกา้ อ้ที ีม่ ีบตั รภาพตรงกบั ประโยคท่คี รูพดู โดย
ตวั แทนทีมท่ีไปถึงกอ่ นจะมสี ิทธ์ิเลอื กวา่ จะนงั่ เกา้ ทีต่ วั ใด ส่วนทีมทไี่ ปถึงทหี ลงั ตอ้ งนง่ั ลงท่เี กา้ อ้ตี วั
ที่เหลือ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบว่า ทีมใดท่ถี กู ตอ้ ง แลว้ ครูแสดงบตั รภาพ และให้
นกั เรียนพูดประโยคตามครู ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเรื่อย ๆ จนไดท้ มี ทีช่ นะ
2. ทบทวนการออกเสียงคาท่ีลงทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ และ /g/ โดยครูเขียนคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ีบนกระดาน
back bag
lock log
fork frog
lake leg
ครูออกเสียงคาศพั ทแ์ ตล่ ะคาโดยครูเนน้ ออกเสียง /k/ และ /g/ ทา้ ยคาใหช้ ดั เจน เสร็จแลว้ ให้นกั เรียน
เลอื กว่าคาทไี่ ดย้ นิ เป็นคาท่ลี งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ หรือเสียง /g/
จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนยืนข้ึนอา่ นคาศพั ทท์ ลี ะคน เสร็จแลว้ ครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
และอา่ นใหน้ กั เรียนฟังแลว้ ให้นกั เรียนอา่ นพร้อม ๆ กนั
Mike has got a frog, a dog and a big pig.
Look at the back of this book.
This is a big snake.
498
3. ทบทวนการเปลยี่ นรูปคานามพหูพจน์ โดยครูเขียนคาวา่ cat, dog, mouse, sheep, fish บนกระดาน
จากน้นั ให้นกั เรียนผลดั กนั ออกมาเขยี นคานามในรูปพหูพจน์ใหถ้ กู ตอ้ ง
คาตอบ: cat - cats
dog - dogs
mouse - mice
sheep - sheep
fish - fish
4. ทบทวนการใช้ and และ but ในการเช่ือมประโยค โดยให้นกั เรียนจบั คู่ แตง่ ประโยคเก่ียวกบั สตั วท์ ี่
ตนเองชอบและไมช่ อบ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนแต่ละคอู่ อกมาเขยี นประโยคทแี่ ตง่ บนกระดาน
ตวั อยา่ ง S1: I like a rabbit, but I don’t like a snake.
S2: I like a dog, but I don’t like a frog.
ข้นั Presentation
1. นาเสนอการใช้ can โดยครูแสดงบตั รภาพสัตว์ จากน้นั ครูพดู ประโยคและแสดงท่าทางประกอบ เช่น
A rabbit can jump. A parrot can fly.
A fish can swim. A cat can run.
A dog can walk.
จากน้นั ครูเขียนแตล่ ะประโยคบนกระดานและอ่านออกเสียงใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั ครูอธิบายว่า can
เป็นกริยาช่วย (modal verb) ใชพ้ ดู บอกความสามารถ มีโครงสร้างประโยค ดงั น้ี
ประธาน + can + กริยารูป base form (ช่องที่ 1).
เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกส่ิงท่ีตนเองสามารถทาไดค้ นละ1 ประโยค ครูย้าว่า can ตอ้ งตามดว้ ย
คากริยาเท่าน้นั
2. ครูพดู เสนอการใช้ can ในรูปปฏิเสธ โดยแสดงบตั รภาพอกี คร้ัง และพูดส่ิงทีส่ ัตวเ์ หล่าน้ีไมส่ ามารถ
ทาได้ พร้อมกบั ส่ายหนา้ หรือโบกมอื ประกอบ เมอื่ นกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูเขียนประโยคบนกระดานและ
ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตามครู เช่น
A rabbit can’t swim. A dog can’t fly.
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนบอกส่ิงที่ตนเองไม่สามารถทาไดค้ นละ 1 ประโยค
499
Can ออกเสียงว่า /kæn/ แต่เจา้ ของภาษามกั จะออกเสียง can แบบลดรูป (weak form) เป็น /kən/
ในประโยคบอกเล่าและคาถาม ส่วนประโยคปฏิเสธจะลงเสียงหนกั (strong form) เป็น /ka:nt/
เช่น /kæn/ I can sing. ฉันร้องเพลงได้ (เนน้ ว่าสามารถร้องไดจ้ ริง ๆ)
/kən/ Can you sing? คุณร้องเพลงไดห้ รือไม่
/ka:nt/ No, I can’t. ไม่ ฉนั ร้องไมไ่ ด้
Can สามารถลงเสียงหนกั ไดใ้ นประโยคบอกเล่าเมอื่ ผพู้ ูดตอ้ งการเนน้ หรือเมอื่ อยทู่ า้ ยประโยค เช่น
/kæn/ Yes, I can. ใช่ ฉันร้องได้
คนองั กฤษและอเมริกนั ออกเสียงคาวา่ can’t ตา่ งกนั โดยคนองั กฤษจะออกเสียง can’t วา่ /ka:nt/
ในขณะที่คนเมริกนั จะออกเสียงวา่ /kænt/
3. ครูแสดงบตั รภาพสตั วอ์ ีกคร้ัง จากน้นั ถามคาถามเกี่ยวกบั ความสามารถของสตั วเ์ หล่าน้ี เช่น
T: Can a parrot fly?
Ss: Yes, it can.
T: Can it swim?
Ss: No, it can’t.
T: Tell me what a parrot can do and can’t do.
Ss: It can fly, but it can’t swim.
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั สตั วช์ นิดอื่น ๆ เช่น frog, snake, cat, dog
4. นาเสนอการใชค้ าเช่ือม or โดยเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
A parrot can walk and fly.
A spider can’t fly or swim.
จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความแตกต่างระหวา่ ง and และ or ในประโยคเหล่าน้ี เม่ือไดค้ าตอบ
แลว้ ครูอธิบายว่า and มีความหมายวา่ “และ” ทาหนา้ ทเี่ ชื่อมขอ้ ความทค่ี ลอ้ ยตามกนั ในประโยคบอกเล่า
ในขณะท่ี or มีความหมายวา่ “หรือ” ใชเ้ ชื่อมขอ้ ความในประโยคปฏเิ สธ
500
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 65 Ex. 3 ครูทาตารางเหมอื นอยา่ งในหนงั สือเรียน หนา้ 65 Ex. 3 บนกระดาน
walk run fly swim
rabbit
spider
parrot
จากน้นั ครูถามคาถามนกั เรียนเกี่ยวกบั ส่ิงทีส่ ตั วแ์ ต่ละชนิดในตารางสามารถทาได้ โดยถา้ ทาได้ ครูทา
เคร่ืองหมายถูก (✓) ลงในตาราง ถา้ ทาไม่ได้ ครูทาเคร่ืองหมายกากบาท () ลงในตาราง
เช่น T: Can a rabbit walk?
Ss: Yes, it can!
T: Can a rabbit run?
Ss: Yes, it can!
T: Can a rabbit fly?
Ss: No, it can’t!
T: Can a rabbit swim?
Ss: No, it can’t!
เสร็จแลว้ ครูเขียนโครงสร้างต่อไปน้ีบนกระดาน
A rabbit can ____ and _______, but it can’t _________ or _______ .
ครูช้ีไปทค่ี าว่า rabbit ในตาราง ครูพดู คาส่งั Look and say. แลว้ ใหน้ กั เรียนนาขอ้ มลู จากในตารางมา
พดู ตอบครูว่า A rabbit can walk and run, but it can’t fly or swim. ครูให้นกั เรียนอ่านคาตอบพร้อม ๆ
กนั อกี คร้ัง แลว้ จึงใหน้ กั เรียนดตู ารางและบอกขอ้ มูลของสตั วท์ เ่ี หลือ
คาตอบ: A spider can walk and run, but it can’t fly or swim.
A parrot can walk, run and fly, but it can’t swim.
ครูแนะนาใหน้ กั เรียนเลน่ เกมเพอ่ื ทบทวนการใช้ can และ can’t นอกเวลาเรียนท่เี วบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-games/modals-can-and-cant
501
2. หนังสือเรยี น หน้า 65 Ex. 4 ครูช้ีท่ีภาพสตั วแ์ ละอาหารในหนงั สือเรียน และให้นกั เรียนพดู บอกอาหาร
ของสัตว์ เช่น meat จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ What do dogs eat? จนไดค้ าตอบว่า Dogs eat meat. ครู
ทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั สตั วอ์ ื่น ๆ ดว้ ย
2 Mice eat cheese.
3 Cats eat fish.
4 Rabbits eat carrots.
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนทางานคู่ ผลดั กนั พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั ส่ิงท่ีสตั วเ์ หล่าน้ีกินอกี คร้งั
3. หนังสือเรยี น หน้า 65 Ex. 5 ครูอธิบายภาระงาน แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านตามไปดว้ ย
จากน้นั ครูเปิ ด CD อกี คร้งั โดยหยดุ ให้นกั เรียนฟังทีละประโยคและออกเสียงตามพร้อมกนั ครู
ตรวจสอบวา่ นกั เรียนออกเสียงถูกตอ้ งหรือไม่ โดยครูเนน้ ให้นกั เรียนออกเสียงรูปยอ่ ’ve got และเสียง
a ในรูป weak form ให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD อกี คร้งั เพ่ือให้นกั เรียนออกเสียงตาม CD
การออกเสียงลดรูป (weak form)
เสียงลดรูป (weak form) คอื การทไี่ มอ่ อกเสียงเนน้ พยางคใ์ นคา เกิดข้ึนเมอื่ เราออกเสียง
ตอ่ เน่ืองกนั (connected speech) คาทถี่ กู ลดรูปจะออกเสียงเป็นเสียง /ə/ (schwa) แทน
ซ่ึงคาส่วนใหญ่เป็นคาทท่ี าหนา้ ท่ีทางไวยากรณ์ (grammatical words) ไม่มคี วามหมายใน
ตวั เอง เช่น verb to be, verb to have, articles (a, an, the)
ตวั อยา่ ง What do you want to do this evening?
เราจะไม่ออกเสียงลดรูป do คาที่สองเพราะมคี วามหมายในตวั เองซ่ึงหมายความว่า เยน็ น้ี
คณุ อยาก “ทา” อะไร? ในขณะทีเ่ ราจะออกเสียงลดรูป do คาแรกเพราะทาหนา้ ท่เี ติมเต็ม
ไวยากรณเ์ ทา่ น้นั ไมม่ คี วามหมายในตวั เอง
ทม่ี า: นันทนา รณเกยี รติ. สัทศาสตร์เพื่อการสอนการออกเสียงภาษาอังกฤษ.
กรุงเทพมหานคร: สาํ นักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2012.
ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ ว่า เราใช้ he หรือ she กบั สตั วเ์ มอื่ เรารู้เพศของสตั วแ์ น่นอนแลว้
(ส่วนมากจะทราบจากช่ือของสตั วเ์ อง เช่น Judy, Sally, Chuck)
502
4. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ฝึกสนทนาถาม-ตอบตามตวั อยา่ งในหนงั สือเรียน หนา้ 65 Ex. 5 จากน้นั ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาสนทนาถาม-ตอบหนา้ ช้นั
5. ครูบอกว่านกั เรียนจะไดเ้ ล่นเกม What am I? โดยครูสุ่มเลือกนกั เรียน 1 คน ออกมายืนหนา้ ช้นั และบอก
ใหน้ กั เรียนคนดงั กล่าวเลอื กสัตวม์ า 1 ชนิด จากน้นั ใหน้ กั เรียนคนดงั กล่าวพดู บรรยายลกั ษณะและบอก
ความสามารถของสตั วช์ นิดน้นั เพ่อื ให้นกั เรียนทเี่ หลือทายวา่ คือสัตวช์ นิดใด
ตวั อยา่ ง S1: I’ve got long ears and a short tail. I can jump and run. I eat carrots.
What am I?
Class: A rabbit!
ข้นั Production
1. ครูใหน้ กั เรียนนาภาพสัตวเ์ ล้ยี งของตนเองมาแสดงให้เพ่ือนดู สาหรับนกั เรียนทีไ่ ม่มีสัตวเ์ ล้ียงครูให้
นกั เรียนนาภาพสตั วท์ ี่ตนเองชอบมา และต้งั ชื่อดว้ ย จากน้นั ครูแบ่งกลมุ่ ตามประเภทของสตั วเ์ ล้ียง
แลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั โดยพยายามให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพอ่ื นท่มี สี ัตวเ์ ล้ยี งต่างกนั เสร็จแลว้ ให้นกั เรียน
ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบ โดยใชค้ าถามในหนงั สือเรียน หนา้ 65 Ex. 5
กิจกรรมเพิม่ เตมิ
ครูเพิ่มคาถาม เช่น How often do you feed your pet? เพ่ือให้นกั เรียนตอบ Once/Twice/Three
times a day.
2. ครูให้นกั เรียนทางานกลุม่ หาขอ้ มูลเก่ียวกบั สัตวอ์ ่นื ๆ เพม่ิ เตมิ อกี 2 ชนิด และทาตารางบอกส่ิงทสี่ ัตว์
เหล่าน้ีทาไดห้ รือทาไมไ่ ด้ เพือ่ หาความเหมอื นและความแตกตา่ งของสัตวเ์ หลา่ น้ี เช่น
walk run fly swim
elephant
dolphin
An elephant can walk, run and swim, but it can’t fly.
A dolphin can swim, but it can walk, run or fly.
จากน้นั ใหน้ กั เรียนนาขอ้ มลู ทไ่ี ดม้ าทาแผนภาพของเวนน์ (Venn diagram) พร้อมกบั ระบายสีและ
ตกแตง่ ใหส้ วยงาม
503
แผนภาพของเวนน์ (Venn diagram) คอื แผนผงั เปรียบเทียบความเหมอื นและความแตกตา่ ง
โดยการเขียนวงกลม 2 หรือ 3 วง และให้มกี ารเหล่อื มกนั ของวงกลมท้งั 2 หรือ 3 วงน้ี ส่ิงที่
เหมอื นกนั ใหใ้ ส่ในส่วนท่ีเหลือ่ มกนั
ตวั อยา่ ง Elephants Dolphins
- can walk - can’t walk
- can’t run
- can run - can
swim
- can’t fly
3. แบบฝึ กหัด หน้า 55 Ex. 4 ครูบอกนกั เรียนว่า นกั เรียนจะไดฟ้ ังบทสนทนาระหวา่ งครูและ Simon, Pat,
Tom และ Alice เก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ียงของพวกเขา ใหน้ กั เรียนฟังและจบั คู่สตั วก์ บั เจา้ ของ จากน้นั ครูถาม
นกั เรียนว่า What animal is Simon’s pet? จนไดค้ าตอบวา่ A rabbit. ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั
ขอ้ อื่นดว้ ย ครูเฉลยคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งอกี คร้งั บนกระดาน
Teacher: Simon, have you got a pet?
Simon: Yes, I have.
Teacher: Have you got a pet dog?
Simon: No, I’ve got a rabbit.
Narrator: Can you see the example? Now, you listen and match.
Teacher: Pat, have you got a pet?
Pat: Yes, I have.
Teacher: Have you got a rabbit too?
Pat: No, I’ve got a parrot. It can talk too!
504
Teacher: Tom, is that your cat?
Tom: Yes, Miss.
Teacher: What’s its name?
Tom: Fluffy.
Teacher: Alice, have you got a cat too?
Alice: No, I’ve got a dog.
Teacher: What’s your dog’s name?
Alice: Rover.
Pat – parrot
Tom – cat
Alice – dog
4. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 55 Ex. 3 เป็นการบา้ น
2 A fish can swim but it can’t walk, run or fly.
3 A parrot can walk, run and fly but it can’t swim.
505
7. การวัดและประเมินผล
วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอและให้ขอ้ มูล แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้
เก่ียวกบั ความสามารถของสัตวเ์ ล้ยี ง ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงานเปรียบเทียบ แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ความสามารถของสตั วโ์ ดยใชแ้ ผนภูมิ ผา่ นเกณฑ์
ของเวนน์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบทดสอบ
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้
เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมดา้ นใฝ่เรียนรู้และ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ความมุง่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อุปกรณท์ าช้ินงาน
8.6 อินเทอร์เนต็
506
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 Look at the elephant!
เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สัตวแ์ ละคาคุณศพั ทไ์ ด้
- พูดและเขียนบรรยายลกั ษณะของสัตวไ์ ด้
- ใชค้ าส่ังงา่ ย ๆ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกต้อง
ตัวชี้วัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กล่มุ คา ประโยค และขอ้ ความของ
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
507
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ และโครงสร้างภาษาท่ีใชบ้ รรยายลกั ษณะ ช่วยให้สนทนา พดู /
เขยี นส่ือสารในชีวิตประจาวนั ในหัวขอ้ ที่เก่ียวขอ้ งกบั สัตวไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Look at the elephant. Oh, yes. It’s very big.
Vocabulary: parts of the body, animals, a tall giraffe, a big elephant, a funny
monkey, a long snake, a slow turtle, a fast lion, a fat hippo,
a small mouse
Function: ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ลกั ษณะของสัตว์
2) Language Skills
Speaking: พูดให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ลกั ษณะของสัตว์
Writing: เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะของสตั ว์
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ทใี่ ชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน Good morning. จากน้นั ใหน้ กั เรียนกล่าวทกั ทายครูกลบั
2. ทบทวนประโยคคาส่งั ท่ใี ชใ้ นหอ้ งเรียน เช่น
508
Look at the picture. Work in pairs.
Work in groups of four. Open your books at page 66.
Turn to page 68. Copy this in your book.
Put your book away. Raise your hand.
Get out your book. Put your hand down.
โดยพดู ประโยคและให้นกั เรียนปฏบิ ตั ติ าม จากน้ันครูให้นกั เรียนออกมาเป็นผพู้ ูดบา้ ง และให้เพ่อื น ๆ
ปฏิบตั ติ าม
3. ครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกมทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สัตว์ โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2-3 กลุม่ จากน้นั ให้
แตล่ ะกลมุ่ เขยี นคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สัตวล์ งในกระดาษใหไ้ ดม้ ากท่ีสุด ภายในเวลา 1 นาที กลุ่มใดท่ี
เขยี นคาศพั ทไ์ ดม้ ากทีส่ ุดและถกู ตอ้ ง เป็นกลุ่มทช่ี นะ
4. ทบทวนการใช้ can และ can’t โดยการเลน่ เกมใบค้ า ครูเลือกชื่อสัตวม์ า 1 ชนิดและเขยี นใส่กระดาษ
แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ถามคาถามเพื่อหาขอ้ มลู วา่ คอื สตั วช์ นิดใด โดยใช้โครงสร้าง Can it…? จนกวา่
จะไดค้ าตอบ เช่น
S1: Can it run? T: Yes, it can.
S2: Can it swim? T: No, it can’t.
S3: Is it a rabbit? T: Yes, it is.
5. ทบทวนโครงสร้างที่ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ลกั ษณะของสตั ว์ โดยครูใหน้ กั เรียนดภู าพท่คี รูนามา
จากน้นั ครูถามนกั เรียน เช่น Has a rabbit got long legs? ใหน้ กั เรียนตอบ เช่น No, it hasn’t. It has got
short legs. ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั สัตวช์ นิดอ่นื ๆ ท่ีนกั เรียนเคยไดเ้ รียนมาแลว้ เช่น
T: Has a horse got short legs?
Ss: No, it hasn’t. It has got long legs.
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั สตั ว์ ไดแ้ ก่ giraffe (ยรี าฟ), elephant (ชา้ ง), monkey (ลงิ ), snake (ง)ู ,
turtle (เต่า), lion (สิงโต), hippopotamus (ฮิปโป) โดยนาบตั รภาพมาแสดง และใหน้ กั เรียนออกเสียง
ตามครู แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย
ครูอาจนาเสนอคาศพั ทท์ น่ี กั เรียนควรรู้เพมิ่ เติม เช่น kitten (ลกู แมว), puppy (ลกู สุนขั ), worm (หนอน)
เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคาศพั ทท์ ่มี ีมากกว่า 1 พยางค์ ดงั น้ี
giraffe elephant monkey
lion turtle hippopotamus
kitten puppy penguin
509
2. ครูนาเสนอคาคณุ ศพั ท์ fast (เร็ว), slow (ชา้ ), long (ยาว), fat (อว้ น), funny (ตลก), serious (จริงจงั ) โดย
แสดงบตั รภาพหรือวาดภาพบนกระดาน แลว้ พดู ประโยคบรรยายภาพดงั กลา่ ว เพอื่ ใหน้ กั เรียนเดา
ความหมายของคาคณุ ศพั ท์ เช่น
T: A rabbit is fast. (ครูอาจทาทา่ วิ่งเร็ว ๆ ประกอบดว้ ย)
A turtle is slow. (ครูอาจทาทา่ วงิ่ ชา้ ๆ ประกอบดว้ ย)
What does the word ‘fast’ mean?
Ss: เร็ว
T: What does the word ‘slow’ mean?
Ss: ชา้
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั คาศพั ทอ์ ื่น ๆ โดยยกตวั อยา่ งประโยค เช่น
A snake is long. A worm is short.
A clown is funny. This man is serious.
เสร็จแลว้ ครูเขยี นประโยคทคี่ รูพูดบนกระดาน เพ่ือให้นกั เรียนช่วยกนั ระบุตาแหน่งของคาคณุ ศพั ท์ ใน
ประโยค โดยครูอาจช่วยขีดเสน้ ใตค้ าคณุ ศพั ท์ เพื่อใหน้ กั เรียนเห็นชดั เจนวา่ ตาแหน่งของคาคุณศพั ท์
จะอยหู่ ลงั verb to be: is, am, are
3. ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงประโยคบนกระดานตามครู จากน้นั ครูเขยี นตวั อยา่ งประโยคเพิม่ เติมบน
กระดาน โดยเป็นประโยคทีม่ ีคุณศพั ทอ์ ยหู่ นา้ คานาม เช่น
A rabbit is fast. It is a fast rabbit.
ครูถามนกั เรียนวา่ rabbit เป็นคาชนิดใด เมือ่ ไดค้ าตอบวา่ คานาม (noun) แลว้ ครูอธิบายวา่ นอกจาก
คาคณุ ศพั ทจ์ ะอยหู่ ลงั verb to be: is, am, are แลว้ ยงั สามารถวางไวห้ นา้ คานาม เพอ่ื ขยายคานามดงั กลา่ ว
ไดอ้ กี ดว้ ย เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั แตง่ ประโยคที่เหลอื บนกระดานใหม่ โดยให้ตาแหน่งของ
คาคณุ ศพั ทอ์ ยหู่ นา้ คานามเหมือนดงั ตวั อยา่ งทีค่ รูเขียนบนกระดาน
A turtle is slow. It is a slow turtle.
A snake is long. It is a long snake.
A worm is short. It is a short worm.
A clown is funny. It is a funny clown.
This man is serious. He is a serious man.
เมอ่ื เขยี นประโยคครบแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงประโยคตามครู
510
ครูเปิ ดคลปิ วดิ ีโอเพลง Big, Big, Big | Adjectives Song for Kids ให้นกั เรียนดแู ละฝึกร้องตาม
ไปดว้ ย โดยเขา้ ไปที่ www.youtube.com และพมิ พช์ ่ือคลิป หรือเขา้ ไปท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=3JZi2oDvPs4
หรือครูอาจแนะนาให้นกั เรียนไปเปิ ดดดู ว้ ยตนเองทีห่ อ้ งคอมพวิ เตอร์นอกเวลาเรียน
4. ครูถามนกั เรียนวา่ ในภาษาไทยมคี าลกั ษณะเดียวกบั คาคณุ ศพั ท์ (adjectives) เช่น long, short, fat หรือไม่
ครูอาจช่วยยกตวั อยา่ งประโยคในภาษาไทย เช่น
กระโปรงตวั น้ียาว เชือกเส้นน้ีส้ัน สุนขั ตวั น้ีอว้ น
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระบุว่า คาใดทมี่ ลี กั ษณะคลา้ ยคาคุณศพั ทใ์ นภาษาองั กฤษ เมือ่ ไดค้ าตอบวา่ ยาว
ส้ัน อว้ น แลว้ ครูอธิบายวา่ ในภาษาไทยเรียกคาเหลา่ น้ีวา่ คาวิเศษณ์
เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนแตง่ ประโยคภาษาองั กฤษท่ใี ชค้ าคณุ ศพั ทม์ า 2 ประโยค และประโยคภาษาไทย
ทีใ่ ชว้ ิเศษณม์ า 2 ประโยค
5. ครูนาบตั รภาพหนูและมดมาแสดง พร้อมกบั พดู ประโยคต่อไปน้ี
This is a mouse. It is small.
This is an ant. It is very small.
จากน้นั ครูเขยี นประโยคบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดาความหมายของคาว่า very เมอื่ ได้
คาตอบว่า (อยา่ ง) มาก แลว้ ครูถามนกั เรียนวา่ very ทาหนา้ ทขี่ ยายคาใดในประโยค เมื่อไดค้ าตอบว่า
small แลว้ ครูให้นกั เรียนบอกชนิดของคา small จนไดค้ าตอบว่า คาคณุ ศพั ท์ (adjective)
very เป็นคาวิเศษณ์ (adverb) ท่ีบอกจานวนปริมาณ ใชข้ ยายคาคุณศพั ทห์ รือขยายคาวิเศษณ์
ดว้ ยกนั เอง เช่น
It’s very cold in here. ทน่ี ี่หนาวมาก
He drives very fast. เขาขบั รถเร็วมาก
511
คาวิเศษณ์บอกลกั ษณะ
คาวเิ ศษณบ์ อกลกั ษณะ (ลกั ษณวเิ ศษณ)์ ไดแ้ ก่ คาขยายที่บอกชนิด ขนาด สัณฐาน สี กล่ิน รส
สัมผสั อาการ ความรู้สึก เช่น เล็ก ใหญ่ กลม รี แบน ขาว แดง เหมน็ หอม หวาน เปร้ียว อ่อน
แข็ง เร็ว ชา้ ค่อย แหบ ดงั เป็นตน้
ตวั อยา่ ง คนดียอ่ มมคี วามกตญั ญูตอ่ พอ่ แม่
มา้ ว่งิ เร็ว
เขาพูดเพราะ
ลมพดั แรง
ที่มา: กาํ ชัย ทองหล่อ.หลักภาษาไทย. กรุงเทพฯ :บาํ รุงสาส์น, 2533.
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 66 Ex. 6 ครูอธิบายภาระงาน จากน้นั ให้เวลานกั เรียนเติมคาตอบดว้ ยตนเอง
เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน และเขยี นเฉลยบนกระดาน ตอ่ มาครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง
และช้ีคาตอบของตนเองตามไปดว้ ยในรอบแรก ในรอบท่ี 2-3 ครูหยดุ CD หลงั จบแต่ละวลเี พ่ือให้
นกั เรียนฝึกพดู ตาม CD พร้อมกนั สุดทา้ ยครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน
a tall giraffe a big elephant a funny monkey
a long snake a slow turtle a fast lion
a fat hippo a small mouse
a big elephant a funny monkey
a fast lion a fat hippo
2. หนังสือเรียน หน้า 66 Ex. 7 ให้นกั เรียนดภู าพและถามนกั เรียนวา่ What animals do you see in the
picture? (snake, hippo, monkey, giraffe, lion, turtle, mouse) จากน้นั ครูอ่านประโยคท่ีอยใู่ นกรอบ
คาพดู แลว้ ใหน้ กั เรียนพูดตามครูพร้อมกนั
512
จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ฝั่ง ครูแสดงบตั รภาพสัตวเ์ หล่าน้ีทลี ะใบ และใหน้ กั เรียนฝ่ังซา้ ยพดู บอก
ใหเ้ พ่ือนดูสัตวเ์ หลา่ น้ี และฝ่ังขวาพูดลกั ษณะของสตั วด์ งั กลา่ ว เสร็จแลว้ สลบั บทบาทกนั
ตอ่ มาครูนาบตั รภาพสัตวไ์ ปวางติดไวท้ ี่ตาแหน่งต่าง ๆ ภายในห้องเรียน ครูให้นกั เรียนสมมติว่า
ห้องเรียนคือสวนสตั ว์ ให้นกั เรียนทางานคู่ ผลดั กนั พูดช้ีชวนดสู ตั วเ์ หลา่ น้ี ครูเดินสังเกตและให้
คาแนะนาท่ีจาเป็น สุดทา้ ยสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่ ออกมาพดู อีกคร้ังทห่ี นา้ ช้นั
กิจกรรมเพิ่มเติม
ครูแสดงบตั รภาพสตั วช์ นิดอนื่ ๆ เช่น whale, frog, horse, panda และถามว่าสัตวเ์ หล่าน้ีมลี กั ษณะเช่นใด
T: Is it big or small? (แสดงบตั รภาพ whale)
Ss: It is big.
T: Is it big or small? (แสดงบตั รภาพ frog)
Ss: It is small.
ครูสามารถดาวนโ์ หลดบตั รภาพสัตวต์ า่ ง ๆ ไดท้ ี่
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/pets-flashcards
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/wild-animals-flashcards
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-sea-animals.pdf
Look at the snake. Look at the hippo.
Oh, yes. It’s very long. Oh, yes. It’s very fat.
Look at the monkey. Look at the giraffe.
Oh, yes. It’s very funny. Oh, yes. It’s very tall.
Look at the lion. Look at the turtle.
Oh, yes. It’s very fast. Oh, yes. It’s very slow.
Look at the mouse.
Oh, yes. It’s very small.
513
3. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลมุ่ จากน้นั ครูแจกบตั รคาคณุ ศพั ท์ เช่น big, small, tall, long, short, fast,
slow, fat, funny ให้แตล่ ะกลมุ่ แลว้ อธิบายวา่ ให้แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั แตง่ ประโยคจากคาคุณศพั ทด์ งั กล่าว
แลว้ ผลดั กนั ออกมาเขียนประโยคหนา้ ช้นั และประโยคตอ้ งไม่ซ้ากบั อกี กลมุ่ หน่ึง
ตวั อยา่ ง A giraffe is tall.
An elephant is big.
A turtle is slow.
A monkey is funny.
กจิ กรรมเพิ่มเติม
ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมร้องเพลง We’re going to the zoo เพอื่ จดจาคาศพั ท์เกี่ยวกบั
สตั วต์ ่าง ๆ ที่เวบ็ ไซต์
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/songs/were-going-the-zoo
หรือให้นกั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น animals in the zoo ให้นกั เรียน
เขา้ ไปเปิ ดดดู ว้ ยตนเองที่ www.youtube.com
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนทาช้ินงาน My animals โดยใหน้ กั เรียนวาดภาพป่ าหรือสวนสัตว์ เหมอื นอยา่ งภาพใน
หนงั สือเรียน หนา้ 66 Ex. 7 จากน้นั ใหเ้ ขยี นบรรยายลกั ษณะของสัตวช์ นิดน้นั ส้นั ๆ เสร็จแลว้ ครูให้
นกั เรียนออกมาพูดนาเสนอใหเ้ พ่อื นฟัง
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 56 Exs. 5-6 เป็นการบา้ น
Ex. 5 5 ELEPHANT 8 TURTLE
2 LION 6 MOUSE 8 slow
3 HIPPO 7 SNAKE
4 GIRAFFE
5 big
Ex. 6 6 small
2 fast 7 long
3 fat
4 tall 514
7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงาน My animals แบบฝึกหัด (Workbook)/ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์
ตรวจการแต่งประโยคภาษาไทย
และภาษาองั กฤษที่ใชค้ าทท่ี า แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หนา้ ท่คี ลา้ ยกนั แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหัด ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมดา้ นใฝ่เรียนรู้
และความมงุ่ มนั่ ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 ภาพสตั ว์ ไดแ้ ก่ ยีราฟ ชา้ ง ลิง งู เตา่ สิงโต ฮิปโปโปเตมสั ลูกแมว ลูกสุนขั
8.6 อปุ กรณท์ าช้ินงาน
8.7 อนิ เทอร์เน็ต
515
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 Where do elephants come from?
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตว์
- เขียนบรรยายขอ้ มลู เก่ียวกบั สตั วไ์ ด้
- เลอื กภาพตรงตามความหมายของประโยคทฟี่ ังหรืออ่านได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ฟี ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน และครอบครัว
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั
สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื และเป็ น
พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตัวชีว้ ัด
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และนาเสนอดว้ ย
การพูด/การเขยี น
516
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณท์ ีเ่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลีย่ นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชี้วัด
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ และโครงสร้างภาษา ช่วยใหส้ นทนา พดู เขียนบรรยายขอ้ มูล
เกี่ยวกบั สัตว์ ซ่ึงเป็นการใชภ้ าษาเพ่ือการส่ือสารในชีวิตประจาวนั
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Where do elephants come from? They come from Africa.
Can they fly? No, they can’t, but they can run! Have they
got big eyes? No, they haven’t, but they’ve got big ears!
Vocabulary: parts of the body, parts of animal, animals, a tall giraffe, a big
elephant, a funny monkey, a long snake, a slow turtle, a fast lion,
a fat hippo, a small mouse
Pronunciation: ออกเสียงเงียบ ‘b’ (silent ‘b’)
Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ความสามารถ ลกั ษณะรูปร่างและขอ้ มลู
ทว่ั ไปของสตั ว์
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถ ลกั ษณะรูปร่างและ
ขอ้ มลู ทวั่ ไปของสตั ว์
Reading: อา่ นขอ้ มูลส้นั ๆ เก่ียวกบั สตั ว์
Writing: เขียนขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความสามารถ ลกั ษณะรูปร่างและ
ขอ้ มลู ทว่ั ไปของสตั ว์
517
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ที่ใชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนฝ่ังซ้ายลกุ ข้ึนไปพดู ทกั ทายกบั เพอ่ื นท่ีนงั่ อยฝู่ ั่งขวา
2. ทบทวนการพดู ขอและใหข้ อ้ มลู ส่วนตวั โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ตอบคาถามครู ดงั น้ี
T: Hello, what’s your name?
S: Hello. My name is Manee.
T: Where are you from, Manee?
S: I’m from Bangkok.
T: What can you do?
S: I can sing. etc.
3. ทบทวนการใช้ can และ can’t โดยครูแสดงบตั รภาพสัตวต์ ่าง ๆ เช่น หมี เสือ นก แลว้ ถามนกั เรียนวา่
What can it do? แลว้ ใหน้ กั เรียนพูดบอกความสามารถของสัตวด์ งั กลา่ ว เช่น
T: What can a lion do?
Ss: A lion can run.
T: What can a parrot do?
Ss: A parrot can fly.
4. ทบทวนการพูดบอกส่ิงทช่ี อบและไม่ชอบ โดยให้นกั เรียนพูดบอกสตั วท์ นี่ กั เรียนชอบและไม่ชอบมา
อยา่ งละ 1 ชนิด พร้อมบอกเหตผุ ล เช่น
S1: I like parrots because they are colourful. I don’t like tigers because they are dangerous.
S2: I like dogs because they are funny. I don’t like turtles because they are slow.
5. ทบทวนส่วนต่าง ๆ ของสตั ว์ เช่น tail, eyes, ears, body ดว้ ยการใหน้ กั เรียนวาดภาพสตั วป์ ระหลาด
ตามคาบอก โดยครูเป็นผพู้ ดู บรรยาย เช่น
518
My monster has got a big body. It has a long tail. It has got long arms. It has got short legs.
It has got short green hair. It has got yellow eyes. It has got a red nose and a small mouth.
ข้นั Presentation
1. ครูนาบตั รภาพสตั วต์ า่ ง ๆ มาแสดงใหน้ กั เรียนดู พร้อมกบั อ่านออกเสียงช่ือสตั ว์ เพือ่ ให้นกั เรียนอ่าน
ออกเสียงตามครู เช่น elephant, polar bear, kangaroo, giant panda, penguin, koala, zebra, giraffe,
komodo dragon เสร็จแลว้ ครูสลบั บตั รภาพสัตว์ และนามาแสดงให้นกั เรียนดูอีกคร้ัง พร้อมกบั ถาม
คาถามนกั เรียน เช่น
T: What is this?
Ss: It is an elephant.
T: That’s right. Where does it come from?
Ss: It comes from Thailand/Africa.
T: Excellent.
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีจนครบสตั วท์ ุกชนิด โดยสตั วช์ นิดใดทน่ี กั เรียนบอกขอ้ มลู ไม่ได้ ครูช่วยเฉลย
คาตอบให้กบั นกั เรียน
elephant – Thailand/Africa, polar bear – the Arctic, kangaroo – Australia,
giant panda – China, penguin – Antarctica, koala – Australia, zebra – Africa,
giraffe – Africa, komodo dragon - Indonesia)
ครูใหน้ กั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคาในคา (word stress) ตอ่ ไปน้ี
elephant polar bear kangaroo
giant panda penguin koala
zebra giraffe komodo dragon
519
ทวีปแอฟริกา เป็นทวปี ทีม่ ขี นาดใหญท่ สี่ ุดเป็นอนั ดบั 2 ของโลก รองจากทวีปเอเชีย เป็นทวีป
ที่อดุ มดว้ ยทรพั ยากร น้ามนั เพชร ทองคา และสัตวป์ ่ า ภูมปิ ระเทศส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย
อากาศแหง้ แลง้ ประชากรส่วนใหญม่ เี ช้ือสายนิกรอยด์ (Negroid) หรือเรียกว่า แอฟริกนั นิโกร
นอกจากน้ีทวปี แอฟริกายงั มปี ระชากรเช้ือสายคอเคซอยด์ ทมี่ าจากคาบสมุทรอาหรบั และ
ยโุ รปอาศยั อยบู่ ริเวณแหลมกู๊ดโฮปและทางตอนเหนือของทวปี
ช้าง (elephant) เป็นสตั วเ์ ล้ียงลูกดว้ ยน้านมขนาดใหญ่ สามารถแบง่ ออกเป็น 2 สายพนั ธุ์ ไดแ้ ก่
- ชา้ งแอฟริกา (African elephants) มขี นาดใหญก่ วา่ ชา้ งเอเชีย และมใี บหูขนาดใหญ่ ชา้ ง
แอฟริกาท้งั ตวั ผแู้ ละตวั เมียลว้ นมงี า ซ่ึงแตกต่างจากชา้ งเอเชียท่ีมงี าเฉพาะตวั ผู้
- ชา้ งเอเชีย (Asian elephants) มขี นาดเลก็ กว่าชา้ งแอฟริกา ใบหูเลก็ กว่า และเฉพาะชา้ งตวั ผู้
ทมี่ ีงาเท่าน้นั ตวั เมยี จะไมม่ ีงา
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/ทวีปแอฟริกา
https://th.wikipedia.org/wiki/ช้าง
http://www.elephant-world.com/types-of-elephants/
2. ครูแสดงบตั รภาพ climb แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย จากน้นั ครูเขียนคาว่า climb บน
กระดาน พร้อมกากบาททบั ตวั อกั ษร b และอา่ นออกเสียงใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
2-3 คน เสร็จแลว้ ครูอธิบายว่า เราจะไมอ่ อกเสียง /b/ ทา้ ยคา เราเรียกการออกเสียงแบบน้ีวา่ silent b
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนอ่านออกเสียงคาว่า climb อกี คร้ัง และยกตวั อยา่ งคาศพั ทท์ มี่ ีเสียง silent
b เพิม่ เติม เพ่ือใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียง
เสียงเงียบ b (silent b)
ในภาษาองั กฤษ มีพยญั ชนะทไ่ี มอ่ อกเสียงในคา (silent letters) เน่ืองมาจากเสียงในภาษา-
องั กฤษมกี ารเปล่ียนแปลงเรื่อยมา แตร่ ูปคายงั คงเดิม คนไทยส่วนใหญม่ กั จะอา่ นพยญั ชนะท่ี
ไมอ่ อกเสียงดว้ ย ซ่ึงไมถ่ กู ตอ้ ง ดงั น้นั นกั เรียนควรจดจาใหแ้ มน่ เพอ่ื ที่จะไดส้ ่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
ตวั อยา่ งคาศพั ท์ climb comb thumb tomb
bomb lamb plumber
ตวั อยา่ งประโยค
A golden comb is in the tomb. A baby lamb can’t climb a mountain.
ท่ีมา: http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/flatmates/episode53/
languagepoint.shtml
520
กจิ กรรมเพมิ่ เตมิ
ครูอาจเปิ ดคลปิ วิดีโอให้นกั เรียนฝึกการออกเสียง silent b เพ่มิ เตมิ ท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=fALivI8GBT0
หรือให้นกั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น silent b หรือชื่อคลปิ Step 32
of Phonics With Silent (B) Part 4 of 5 ใหน้ กั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดูดว้ ยตนเองท่ี www.youtube.com
ครูสามารถดาวนโ์ หลดบตั รภาพ climb ไดท้ ่ี
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Verbs_2/page1.htm
4. ครูนาบตั รภาพสตั วต์ ่าง ๆ มาแสดง และถามนกั เรียนว่า สตั วเ์ หลา่ น้นั สามารถปี นตน้ ไมไ้ ดห้ รือไม่ เช่น
T: What’s this?
Ss: It’s an elephant.
T: Can it climb trees?
Ss: No, it can’t.
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 67 Ex. 8 ครูอ่านคาสง่ั Read and complete. และให้เวลานกั เรียนเติมคาตอบ จากน้นั
ครูขออาสาสมคั ร 7 คน อา่ นขอ้ ความของตนเองให้เพื่อนฟัง คนละ 1 ขอ้ เสร็จแลว้ ครูเขยี นคาตอบบน
กระดาน ให้นกั เรียนตรวจคาตอบ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงขอ้ ความท้งั หมดพร้อม ๆ กนั
1 Africa 2 ears 3 bananas
4 meat 5 zoo 6 monkey
2. หนงั สือเรียน หน้า 67 Ex. 9 ครูให้นกั เรียนดภู าพสัตวท์ ใ่ี หม้ า และให้นกั เรียนพูดบอกว่าเป็นสัตวช์ นิดใด
โดยครูถามนกั เรียน ดงั น้ี
T: Look at picture number 1. What is this? Ss: It is a lion.
จากน้นั ครูบอกนกั เรียนว่า นกั เรียนจะไดย้ นิ เสียงของสัตวบ์ างชนิด ให้นกั เรียนระบวุ ่า เป็นเสียงของสตั ว์
ชนิดใด เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง โดยหยดุ เป็นช่วง ๆ ใหน้ กั เรียนพดู ตอบครู
เสียงสิงโต เสียงงู เสียงชา้ ง เสียงลิง
521
animals heard: 1, 3, 4, 5
3. หนังสือเรียน หน้า 67 Ex. 10 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังบทสนทนา 1-2 คร้ัง และใหน้ กั เรียนอา่ นตาม
จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ฝั่ง เป็น A และ B แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังทลี ะประโยค และอ่าน
ออกเสียงตาม CD เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงดว้ ยตนเอง ตอ่ มาครูอ่านคาส่ัง Now talk with your
friend. ใหน้ กั เรียนจบั คู่สนทนาเก่ียวกบั ฮิปโปและยีราฟ โดยใชบ้ ทสนทนาใน Ex. 10 เป็นแบบ เช่น
A: Where do hippos come from?
B: They come from Africa.
A: Can they climb trees?
B: No, they can’t, but they can swim!
A: Have they got big ears?
B: No, they haven’t, but they’ve got a big body!
A: Where do giraffes come from?
B: They come from Africa.
A: Can they fly?
B: No, they can’t, but they can run!
A: Have they got a long tail?
B: No, they haven’t, but they’ve got long legs!
4. ครูนาภาพสตั วท์ ไี่ ดน้ าเสนอไปมาแสดงใหน้ กั เรียนดูอกี คร้ัง จากน้นั ครูถามคาถามเดิม เช่น What is this?
Where does it come from? และเพ่ิมคาถาม เช่น Can it …? Has it got …? จากน้นั ให้จบั คู่และฝึกพูด
ถาม-ตอบเกี่ยวกบั สัตวท์ ตี่ วั เองสนใจ โดยครูจบั เวลา และให้นกั เรียนเปลี่ยนคู่ เพ่อื ฝึกพูดอกี 1-2 คร้ัง
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทางานคู่ เลอื กสัตวม์ า 1 ชนิด จากน้นั แตง่ บทสนทนาโดยใชต้ วั อยา่ งใน
หนงั สือเรียน หนา้ 67 Ex. 10 เป็นตน้ แบบ ครูให้นกั เรียนฝึกสนทนาจนคล่อง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียน
ออกมาพดู สนทนาหนา้ ช้นั ใหเ้ พ่ือนดอู ีกคร้ัง เช่น
S1: Where do giant pandas come from?
S2: They come from China.
S1: Can they fly?
S2: No, they can’t, but they can climb trees!
522
S1: Have they got big eyes?
S2: No, they haven’t, but they have got big paws.
2. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน คน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตว์ 1 ชนิด แลว้ นามาทาบตั รขอ้ มลู โดย
ดา้ นหนา้ บตั รใหว้ าดภาพสัตว์ ดา้ นหลงั เขยี นบรรยายเก่ียวกบั สัตวด์ งั กลา่ ว เช่น อาศยั อยทู่ ี่ใด ลกั ษณะ
รูปร่าง อาหารทก่ี ิน และความสามารถ โดยใชร้ ูปแบบการบรรยายตามตวั อยา่ งในหนงั สือเรียน
หนา้ 67 Ex. 8 เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ส่งตวั แทน 1-2 คน ออกมาอ่านบตั รขอ้ มลู ของกลุ่มตนเอง แต่ห้าม
บอกว่าเป็นสตั วช์ นิดใด เพอ่ื ใหเ้ พือ่ นทาย เมอื่ เพอ่ื นทายถูกแลว้ ใหห้ นั บตั รขอ้ มลู ดา้ นท่เี ป็นภาพให้
เพือ่ นดู เช่น
S1: It has got four legs. It has got yellow stripes. It has got sharp fangs. It runs very fast.
It eats meat.
Ss: Is it a tiger?
S1: That’s right!
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 57 Exs. 7-8 เป็นการบา้ น
Ex. 7 2 I’ve, legs, jump rabbit
1 can, eat spider
3 I’m, can
Ex. 8
1 B: They come from Africa.
2 A: Can they fly?
B: No, they can’t but they can run.
3 A: Have they got long necks?
B: No, they haven’t but they’ve got long tails.
523
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มลู แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เกี่ยวกบั สัตว์ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงานบตั รขอ้ มลู แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เก่ียวกบั สัตว์ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการเลอื กภาพตรงตาม แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ความหมายของประโยคทอี่ า่ น แบบทดสอบ
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้
เรียนรู้และมงุ่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อปุ กรณ์ทาชิ้นงาน
8.6 อนิ เทอร์เน็ต
524
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 Tell the class about your pet. เวลา 2 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังหรืออา่ นได้
- แสดงบทบาทสมมตจิ ากเรื่องที่อ่านได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชี้วดั อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
ต 1.1 ป.4/2 เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
ต 1.1 ป.4/4 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
มาตรฐาน ต 1.2
แสดงความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสงั่ คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
สาระท่ี 2 ภาษากบั วฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชีว้ ดั พดู และทาทา่ ประกอบอยา่ งสุภาพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ต 2.1 ป.4/1
ภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น
พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
525
ตวั ชี้วัด
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื และนาเสนอดว้ ย
การพดู /การเขียน
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษาทใี่ ชข้ อและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั สตั ว์
ช่วยใหต้ อบคาถามจากการอ่านและฟังไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: OK, Tom. Tell the class about your pet. Snowy’s got a short tail, but
he’s got long ears. Snowy’s favourite vegetables are carrots.
Do wild animals live here? Elephants love water and baths.
Vocabulary: parts of animal body, animals, adjectives, safari, fish tank, cage
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Speaking: แสดงบทบาทสมมติ
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดที่ใชใ้ นการส่ือสาร
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มุง่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้ 526
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ครูทบทวนคาขออนุญาตที่ใชใ้ นหอ้ งเรียน เช่น
May I go out? Can I sit here?
May I come in? Can I borrow your pencil?
May I open the window? Can I turn off the light?
โดยให้นกั เรียน 1-2 คนทคี่ รูเตรียมไวอ้ อกมาขออนุญาตทาส่ิงตา่ ง ๆ กบั ครู ครูพูดตอบรับวา่ Sure./
No problem. หรือปฏิเสธวา่ I’m sorry./I’m afraid you can’t. บนกระดาน จากน้นั ครูเขียนประโยค
ดงั กลา่ ว
บนกระดาน แลว้ อา่ นประโยคดงั กล่าวใหน้ กั เรียนฟังและพดู ตาม เสร็จแลว้ ครูบอกนกั เรียนว่า ให้
นกั เรียนพูดขออนุญาตครูทาส่ิงต่าง ๆ โดยครูให้นกั เรียนทาสิ่งน้นั จริง ๆ เป็นเวลา 1 นาที เช่น
Can I talk with my friend?
Can I wash my hands?
Can I sing a song?
แลว้ ให้นกั เรียนพดู ตอบโดยใชค้ าตอบบนกระดาน
2. ครูทบทวนการออกเสียง silent b โดยครูเขียนคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน
climb comb thumb
doubt lamb bomb
จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นออกเสียงทีละคน โดยครูช้ีคาศพั ทส์ ลบั ไปมาให้นกั เรียนฝึกพูดจนคลอ่ ง
3. ครูทบทวนประโยคทใี่ ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะของสตั วโ์ ดยใชบ้ ตั รภาพ เช่น
T: Has it got two legs? (ภาพสิงโต)
S: No, it hasn’t. It has got four legs!
T: Has it got a long tail?
S: Yes, it has! etc.
ข้นั Presentation
1. ครูนาภาพสตั วเ์ ล้ยี งของตนเองหรืออาจจะของคนรู้จกั มาแสดงให้นกั เรียนดู จากน้นั พดู แนะนา เช่น
This is my pet. What is it? เม่อื ไดค้ าตอบวา่ It’s a cat. แลว้ ครูพดู บรรยายลกั ษณะใหน้ กั เรียนฟัง โดยช้ี
ไปท่ีส่วนต่าง ๆ ของแมวในภาพ หรืออาจวาดภาพบนกระดานประกอบขณะทีพ่ ดู โดยครูพดู ชา้ ๆ ทีละ
ประโยค เพ่อื ให้นกั เรียนพูดตาม เช่น
527
My cat’s name is Kitty.
She’s got orange hair.
She’s four years old.
Kitty’s got two big eyes.
She’s got small ears and a long tail.
She eats fish and meat.
She can jump and climb trees.
She’s very cute.
2. ครูแบ่งกระดานเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งแรกเขียน pets อกี ฝั่งหน่ึงเขียน wild animals จากน้นั ครูแบ่งนกั เรียนเป็น
2 กลุ่ม กลมุ่ แรกให้เขียนคาศพั ทท์ ี่เป็นสตั วเ์ ล้ียงและอกี กลมุ่ เขยี นคาศพั ทท์ ่เี ป็นสัตวป์ ่ า ใหน้ กั เรียนแตล่ ะ
กลุ่มผลดั กนั ออกมาเขยี นช่ือสตั วบ์ นกระดาน เสร็จแลว้ ครูตรวจความถูกตอ้ งดา้ นการสะกดคา และช้ี
คาศพั ทท์ ลี ะคา ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงพร้อมกนั ต่อมาครูถามวา่ Where do pets live? เมอื่ ไดค้ าตอบ
วา่ They live at home. แลว้ ครูถามต่อว่า Where do wild animals live? เม่ือไดค้ าตอบว่า In the forest.
แลว้ ครูกระตนุ้ ให้นกั เรียนคิด เพอ่ื ให้ไดค้ าตอบว่า In the zoo/safari park.
3. นาเสนอคาศพั ทก์ อ่ นการอ่าน ไดแ้ ก่ cage (กรง), fish tank (ตปู้ ลา), safari (การทอ่ งเที่ยวแบบซาฟารี),
safari park (สวนสตั วท์ ีเ่ ปิ ดให้ขบั รถเขา้ ไปชมสตั วอ์ ยา่ งใกลช้ ิดได้ ซ่ึงสัตวเ์ หล่าน้ีจะอยอู่ ยา่ งอิสระ) และ
bath (อาบน้า)
การท่องเท่ียวแบบซาฟารี (safari) คือ การทอ่ งเทยี่ วชมสตั วป์ ่ าท่มี ชี ีวิตอยอู่ ยา่ งอสิ ระตาม
ธรรมชาติ ซ่ึงสตั วเ์ หล่าน้ีมกั จะอาศยั อยตู่ ามป่ าโปร่ง ป่ าละเมาะ ทงุ่ หญา้ สะวนั นา รวมถงึ
ภูมปิ ระเทศก่ึงทะเลทราย โดยแรนเจอร์ (ranger) หรือผพู้ ิทกั ษป์ ่ าและนกั ตามรอย (tracker)
จะเป็นผขู้ บั รถพาชมสัตวต์ า่ ง ๆ รถท่ีจดั พานงั่ ชมน้นั มกั จะเป็นรถตู้ หรือรถจิ๊ปทมี่ หี ลงั คา
การทอ่ งเท่ยี วลกั ษณะน้ีนิยมมากในประเทศแถบแอฟริกา เช่น เคนยา่ แอฟริกาใต้ มาดากสั การ์
ซิมบบั เว
ทมี่ า: http://www.abroad-tour.com/south_africa/safari/
4. ให้นกั เรียนดภู าพในหนงั สือเรียน หนา้ 68 ครูถามนกั เรียนว่า Where are they? (In the classroom.)
Why are their pets in the classroom? จากน้นั ครูเขยี นคาว่า show and tell บนกระดาน และอธิบายให้
นกั เรียนฟังว่า เป็นกิจกรรมในช้นั ท่นี กั เรียนจะนาส่ิงของตา่ ง ๆ มาแสดงและบรรยายส่ิงของน้นั ๆ
ใหเ้ พ่อื นฟัง
528
show and tell (n) = an activity for school children in which they bring an object to school and tell
the other children about it
จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 68 อีกคร้ัง และตอบคาถามว่า ใครมีสตั วเ์ ล้ียงอะไร เช่น
T: Who has got a pet parrot?
Ss: Oscar.
T: Who has got a pet rabbit?
Ss: Tom.
T: Who has got a pet fish?
Ss: Cindy.
เสร็จแลว้ ครูอธิบายวา่ pet เป็นคานามทมี่ คี วามหมายวา่ สตั วเ์ ล้ียง สามารถนามาขยายหนา้ สตั ว์ เพื่อบอก
ว่าเรามีสตั วช์ นิดดงั กล่าวเป็นสตั วเ์ ล้ียงได้ เช่น
A: Do you have any pets? B: Yes, I have a pet dog/cat/parrot.
ในกรณีท่เี ราจะบอกวา่ สัตวช์ นิดน้นั เป็นสัตวป์ ่ า เราก็สามารถใชค้ าวา่ wild มาขยายหนา้ สตั วช์ นิด
ดงั กลา่ วได้ เช่น a wild dog/pig/horse.
ชาวองั กฤษและอเมริกนั มากกวา่ คร่ึงมีสตั วเ์ ล้ียงเป็นของตนเอง โดยถือวา่ สัตวเ์ ล้ยี งเป็นสมาชิก
คนหน่ึงในครอบครวั ซ่ึงจะไดร้ บั การเล้ียงดอู ยา่ งดี เช่น มอี าหารพิเศษ ของเล่น เส้ือผา้ ชามขา้ ว
และท่นี อนเป็นของตนเอง ครอบครวั ท่มี ีเดก็ มีแนวโนม้ ทีจ่ ะเล้ียงสตั วเ์ ล้ยี งมากทสี่ ุด โดยมอบ
หนา้ ทีใ่ ห้เด็ก ๆ เป็นผดู้ ูแลสัตวข์ องตนเอง นอกจากน้นั ผสู้ ูงอายยุ งั เล้ียงสตั วไ์ วเ้ ป็นเพ่อื นดว้ ย
สตั วเ์ ล้ียงที่นิยมมากทสี่ ุด ไดแ้ ก่ สุนขั แมว นก กระต่าย หนูตะเภา หนูแฮมสเตอร์ และหนูขนาด
เล็ก ซ่ึงสามารถไปซ้ือทีร่ ้านขายสัตวเ์ ล้ียง ฟาร์มเพาะพนั ธุ์ หรือจากศูนยช์ ่วยเหลอื สตั วจ์ รจดั กไ็ ด้
ในสหรฐั อเมริกา เจา้ ของสุนขั ตอ้ งมใี บอนุญาตเล้ยี งสุนขั และสุนขั ทกุ ตวั ตอ้ งใส่บงั เหียน มี
ปลอกคอบอกช่ือและทอ่ี ยู่ นอกจากน้ีเจา้ ของสุนขั จะตอ้ งระวงั ไม่ให้สุนขั ขบั ถา่ ยลงบนพ้ืนที่
สาธารณะ มฉิ ะน้นั จะโดนปรับ ดงั น้นั เจา้ ของตอ้ งฝึกใหส้ ัตวเ์ ล้ยี งขบั ถา่ ยในสถานทที่ ่จี ดั ให้
การเล้ียงสัตวใ์ นองั กฤษและสหรฐั อเมริกามีคา่ ใชจ้ ่ายคอ่ นขา้ งสูง เช่น เมอื่ เจา้ ของไปเที่ยวจะ
ตอ้ งนาสัตวเ์ ล้ยี งไปฝากไวท้ ่ีโรงแรมสัตวเ์ ล้ียง (pet motel) หลายคนทาประกนั สุขภาพใหส้ ตั วเ์ ล้ยี ง
ดว้ ย และหากสตั วเ์ ล้ยี งมีปัญหาดา้ นอารมณจ์ ะไดร้ บั การรักษาโดยจิตแพทยส์ ัตวเ์ ล้ียง
สุดทา้ ย เมอ่ื สตั วเ์ ล้ียงตายมกั จะถกู ฝังไวใ้ นสวน บางส่วนจะนาไปฝังไวท้ ่ีสุสานสตั วเ์ ล้ยี ง
ทม่ี า: http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/pet_1?q=pet
529
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 68 Ex. 11 ครูบอกให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือโดยพูดว่า Close your book. จากน้นั ครูเปิ ด
CD ใหน้ กั เรียนฟัง 1 คร้ัง และตอบคาถามทีใ่ ห้มา ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน แลว้ บอกใหน้ กั เรียน
เปิ ดหนงั สือเรียนก่อน ครูเปิ ด CD อีกคร้งั เพื่อให้นกั เรียนฟัง CD และตอบคาถามตามไปดว้ ย เสร็จแลว้
ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนอีกคร้งั ครูเฉลยคาตอบโดยการสุ่มเรียกนกั เรียนพูดตอบปากเปล่า
โดยครูเขียนคาตอบทถี่ กู ตอ้ งบนกระดาน เพอื่ ใหน้ กั เรียนตรวจคาตอบ แลว้ จึงอ่านและตอบคาถามตาม
อกี คร้ัง
1 He’s three years old. 2 Rabbits eat carrots.
2. หนงั สือเรียน หน้า 69 Ex. 12 ครูอา่ นคาสัง่ Now read the story and say yes or no. แลว้ ใหน้ กั เรียน
กลบั ไปอ่านเน้ือเรื่องดว้ ยตนเองอกี คร้งั เพ่ือระบุวา่ ประโยค 1-4 ท่ีใหม้ า ถูกตอ้ งตามเน้ือเร่ืองทอ่ี ่าน
หรือไม่ ครูกาหนดเวลาใหน้ กั เรียนส้นั ๆ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนยืนข้นึ อ่านประโยค 1-4 ทใี่ ห้มา
พร้อมกบั บอกคาตอบของตนเอง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบบนกระดาน
1 no 2 yes 3 yes 4 yes
3. ครูเปิ ด CD ประกอบกิจกรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 68 Ex. 11 อกี คร้ัง โดยครูหยดุ CD เมอ่ื จบเน้ือเรื่อง
ในแตล่ ะกรอบ เพื่อใหน้ กั เรียนฝึกอ่านออกเสียงตาม CD ครูย้าให้นกั เรียนออกเสียงสูง-ต่าตามตน้ แบบ
ทไ่ี ดย้ ิน
4. ครูใหน้ กั เรียนฝึกทกั ษะการฟัง โดยแจกเอกสารบทสนทนาจากหนงั สือเรียน หนา้ 68-69 ทล่ี บคาศพั ท์
บางคาในบทสนทนาออกไป จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังอกี คร้งั เพ่อื ให้นกั เรียนเตมิ คาศพั ท์ใน
ช่องวา่ งให้ถูกตอ้ ง หลงั จากน้นั ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ
5. ครูใหน้ กั เรียนทางานคู่ ครูแจกบตั รประโยคจากเน้ือเรื่องให้แตล่ ะค่ไู ปฝึกพดู จนคลอ่ ง จากน้นั ใหแ้ ต่ละคู่
ออกมาพดู ประโยคและแสดงท่าทางประกอบดว้ ย โดยครูให้นกั เรียนดูบตั รประโยคได้ แตห่ ้ามอา่ น
เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD อีกคร้งั และเมอ่ื นกั เรียนไดย้ ินประโยคทค่ี ู่ของตนเองได้ ใหน้ กั เรียนแสดงท่าทาง
ประกอบดว้ ย
6. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุม่ จากน้นั ครูแจก Story Cutouts ทถี่ า่ ยเอกสารมาจากแบบฝึกหดั หนา้ 83
ให้แต่ละกลุ่ม เพือ่ เรียงลาดบั เหตกุ ารณ์ตามเน้ือเร่ืองทอี่ า่ น เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบดว้ ยการพูดประโยค
และให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ แสดงภาพจาก Story Cutouts ให้ถกู ตอ้ ง
530
7. ครูทบทวนโครงสร้างภาษาทใ่ี ช้ในการออกคาสงั่ หรือกฎระเบียบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดว่า
ถา้ ไปเท่ยี วซาฟารี ควรปฏบิ ตั ิเช่นไร ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเขยี นคาตอบทถี่ ูกตอ้ งและ
เหมาะสมบนกระดาน เช่น
Don’t wear perfume. (ห้ามฉีดน้าหอม)
Listen to your guide. (เชื่อฟังมคั คเุ ทศก์ของคณุ )
Don’t feed the animals. (หา้ มให้อาหารสตั ว)์
Don’t touch the animals. (ห้ามสมั ผสั ตวั สัตว)์
ตอ่ มาครูถามนกั เรียนวา่ Do you like going to the zoo?
Do you like going to the zafari park?
ข้นั Production
1. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกล่มุ กลุม่ ละ 6 คน ครูให้นกั เรียนในแต่ละกลมุ่ แบ่งบทบาทกนั เป็นตวั ละครใน
เน้ือเรื่อง หนา้ 68-69 จากน้นั ครูแจก Story Cutouts ซ่ึงนามาจากแบบฝึกหดั หนา้ 83 ให้แตล่ ะกลมุ่ ฝึกพูด
ประโยคจากภาพใน Story Cutouts จนคล่อง เมื่อนกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ งแลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มออกมาแสดง
ทหี่ นา้ ช้นั ครูย้าใหน้ กั เรียนแสดงท่าทางในการสนทนาใหเ้ หมาะสมกบั ความรู้สึกของตวั ละคร
2. ให้นกั เรียนทาโปสเตอร์ในหวั ขอ้ Wild animals เพื่อรวบรวมคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สัตวป์ ่ าท่ีไดเ้ รียนมา
ท้งั หมดและสัตวป์ ่ าอ่ืนๆ เพ่ิมเตมิ อีก 5 ชนิด พร้อมท้งั เขียนความหมายและวาดภาพประกอบดว้ ย
3. ใหน้ กั เรียนไปฝึกอ่านเน้ือเร่ืองในหนงั สือเรียน หนา้ 68-69 ดว้ ยตนเองทบ่ี า้ น และมาอ่านให้ครูฟัง
นอกเวลาเรียน หรือครูอาจจดั กิจกรรมเพอ่ื นช่วยเพื่อน โดยใหน้ กั เรียนท่ยี งั อา่ นไมค่ ล่องไปฝึกอา่ นกบั
เพ่อื นทอ่ี ่านคล่องแลว้
4. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 58 Exs. 9-10 เป็นการบา้ น
Ex. 9 2 carrots – a jump
1 long, nose – c 4 elephant – b
3 hippo, monkey – d
Ex. 10 brown long, small
vegetables
531
7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมนิ การแสดงบทบาท ระดบั คุณภาพ พอใช้
สมมติ ผ่านเกณฑ์
ประเมินการแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานโปสเตอร์คาศพั ท์ แบบประเมินการอ่านออกเสียง ระดบั คุณภาพ พอใช้
Wild animals ผ่านเกณฑ์
ประเมินการอ่านออกเสียง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการใชค้ าขอร้อง แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบฝึกหัด (Workbook)/ ระดบั คุณภาพ พอใช้
การอ่าน แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ
เรียนรู้และมงุ่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ Story Cutouts
8.5 อุปกรณ์ทาชิ้นงาน
8.6 อนิ เทอร์เน็ต
532
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 The animal world เวลา 2 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สตั วไ์ ด้
- พูดและเขยี นนาเสนอเกี่ยวกบั สตั วไ์ ด้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสัง่ คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขยี น
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชีว้ ัด
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั
533
สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และเป็ น
พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ชีว้ ดั
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื และนาเสนอดว้ ย
การพดู /การเขียน
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชีว้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทเ่ี กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลย่ี นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตวั ชี้วดั
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ และโครงสร้างภาษาทใี่ ช้ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สตั ว์ ช่วยให้เขา้ ใจเร่ืองท่ีอา่ น
พูดและเขยี นส่ือสารเกี่ยวกบั สิ่งใกลต้ วั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม และเป็นพ้ืนฐานในการเชื่อมโยงความรู้
กบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อ่ืนและแสวงหาความรู้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Zebras are fast animals! Dolphins are very clever animals!
Crocodiles have got big mouths and long bodies.
Vocabulary: parts of the body, animals, adjectives, zebra, dolphin, crocodile
Function: ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั สัตวท์ ชี่ ื่นชอบ
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวท์ ี่ช่ืนชอบ
534
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Writing: เขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สัตวท์ ี่ชื่นชอบ
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ท่ใี ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน Hello, everyone. How are you today? จากน้นั ใหน้ กั เรียนทกั ทายครูพร้อมกนั
2. ครูพดู ประโยคคาส่ังหลาย ๆ ประโยค และปฏิบตั ิตามคาสัง่ ใหน้ กั เรียนดู เช่น
Turn off the light. (ครูปิ ดไฟในหอ้ งเรียน)
Turn on the light. (ครูเปิ ดไฟในหอ้ งเรียน)
Clean the blackboard. (ครูลบกระดาน)
Close the window. (ครูปิ ดหนา้ ต่าง)
Open the window. (ครูเปิ ดหนา้ ตา่ ง)
จากน้นั ครูพดู สั่งและใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตาม
3. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ทบทวนโครงสร้าง Can you …? ในการขอร้อง โดยครูพดู ขอร้องให้
นกั เรียนทาบางส่ิงบางอยา่ งใหค้ รู เช่น เปิ ดไฟ ปิ ดพดั ลม เปิ ดหนา้ ต่าง จากน้นั ครูให้นกั เรียนจบั คู่กนั
ผลดั กนั พูดขอร้องให้เพ่ือนทาบางสิ่งบางอยา่ ง
S1: Can you turn on the light?
S2: Yes.
S3: Can you open the window?
S4: Sorry, I can’t.
535
4. ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลุ่ม จากน้นั ครูบอกวา่ นกั เรียนจะไดเ้ ล่นเกม Beginning with โดยใหน้ กั เรียน
ผลดั กนั บอกช่ือสตั วท์ ่ีข้นึ ตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรทคี่ รูกาหนด ครูใหน้ กั เรียนทดลองเล่นก่อน 1 คร้ัง โดย
ไมน่ บั คะแนน เม่ือนกั เรียนเขา้ ใจวิธีการเล่นแลว้ จึงใหน้ กั เรียนเล่นเกม โดยทมี ทต่ี อบไดถ้ กู ตอ้ งมาก
ที่สุดคือทมี ท่ชี นะ เช่น
T: Can you tell me an animal beginning with ‘F’?
Team A: Frogs.
T: Correct. Team A gets 1 point.
T: Can you tell me an animal beginning with ‘L’?
Team B: Lions.
T: Correct. Team B gets 1 point.
A - ant (มด), ass (ลา) N - nightingale (นกไนตงิ เกล)
B - bird (นก), bear (หมี), bat (คา้ งคาว), O - owl (นกฮกู ), ox (ววั ตวั ผู)้ ,
bee (ผ้ึง), butterfly (ผเี ส้ือ), oyster (หอยนางรม),
buffalo (ควาย) ostrich (นกกระจอกเทศ)
P - pig (หมู), panda (หมีแพนดา้ ),
C - cat (แมว), crab (ปู), crocodile (จระเข)้ , parrot (นกแกว้ )
chicken (ไก)่ Q - quail (นกกระทา)
R - rat (หนู), rabbit (กระต่าย),
D - duck (เป็ด), dog (สุนขั ), donkey (ลา), rhino (แรด)
dolphin (โลมา), deer (กวาง) S - sheep (แกะ), snake (งู),
spider (แมงมุม), shark (ปลาฉลาม),
E - elephant (ชา้ ง), eagle (นกอนิ ทรี) skunk (ตวั สกงั๊ ค)์ , seal (แมวน้า),
F - fish (ปลา), frog (กบ), fox (หมาป่ า) seahorse (มา้ น้า)
G - giraffe (ยรี าฟ), goat (แพะ), T - toad (คางคก), tortoise (เต่า),
tiger (เสือ), turkey (ไก่งวง)
gorilla (ลงิ กอริลล่า), goose (ห่าน) U - unicorn (มา้ มเี ขาในเทพนิยาย)
H - hippopotamus (ฮิปโป), hen (แมไ่ ก่),
hamster (หนูแฮมสเตอร์), horse (มา้ )
I - insect (แมลง), iguana (อกิ วั น่า)
536
J - jaguar (เสือจากวั ร์), jellyfish (แมงกะพรุน) V - vulture (แร้ง)
K - koala (หมโี คล่า), kangaroo (จิงโจ)้ W - whale (วาฬ), wolf (หมาป่ า),
L - lion (สิงโต), lamb (แกะ), worm (หนอน)
lobster (กงุ้ มงั กร) Y - yak (ตวั จามรี)
M - mouse (หนู), monkey (ลงิ ), mosquito (ยงุ ) Z - zebra (มา้ ลาย)
ครูดาวน์โหลดบตั รภาพสัตวต์ ่าง ๆ จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://www.mes-english.com/flashcards/animals.php
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ี bee (ผ้ึง), goldfish (ปลาทอง), owl (นกฮกู ), parrot (นกแกว้ ), ladybug (เต่าทอง),
dolphin (โลมา), crocodile (จระเข)้ , zebra (มา้ ลาย), frog (กบ), toad (คางคก), lizard (สตั วเ์ ล้ือยคลาน),
eagle (นกอินทรี), ant (มด), kangaroo (จิงโจ)้ โดยแสดงบตั รภาพและบตั รคา ให้นกั เรียนอ่านออกเสียง
คาศพั ทต์ ามครู ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนลงเสียงหนกั ในคาทม่ี ีมากกว่า 1 พยางคใ์ หถ้ ูกตอ้ ง
ครูใหน้ กั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคา (word stress) ต่อไปน้ี
goldfish parrot ladybug
dolphin crocodile zebra
lizard eagle kangaroo
2. ครูสอนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ประเภทของสัตว์ ไดแ้ ก่ mammal (สัตวเ์ ล้ยี งลูกดว้ ยน้านม), reptile (สตั วเ์ ล้ือย-
คลาน), amphibian (สตั วค์ ร่ึงบกคร่ึงน้า), bird (นก), fish (ปลา), insect (แมลง) โดยเขียนคาศพั ทบ์ น
กระดานและใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตามครู ครูเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาใหถ้ กู ตอ้ ง ดงั น้ี
mammal reptile amphibian insect
จากน้นั ครูสอนคาศพั ทเ์ พิม่ เตมิ lay eggs (ออกไข)่ , warm-blooded (ทมี่ เี ลอื ดอุน่ ), cold-blooded
(ท่มี ีเลือดเยน็ ) ดว้ ยการยกตวั อยา่ งประโยคหรือวาดภาพประกอบ เพ่อื ให้นกั เรียนเดาความหมาย เช่น
Chickens lay eggs.
Mammals are warm-blooded animals. They don’t lay eggs.
Reptiles are cold-blooded animals. They lay eggs.
537
ในความเป็นจริงแลว้ แมลง (insect) ไมถ่ ือว่าเป็นประเภทของสัตว์ แต่เป็นกลมุ่ ยอ่ ยของกลมุ่ ใหญ่
ทช่ี ื่อวา่ arthropod อกี ที ซ่ึงจะรวมถงึ แมงมมุ ปู และมดดว้ ย
สตั วแ์ บง่ ออกเป็น 5 ประเภทหลกั ๆ ดว้ ยกนั ไดแ้ ก่
1. สตั วเ์ ล้ยี งลกู ดว้ ยน้านม (mammal) เป็นสตั วเ์ ลอื ดอนุ่ เช่น ชา้ ง ลิง โลมา สิงโต หมีแพนดา้
2. สัตวเ์ ล้ือยคลาน (reptile) เป็นสัตวเ์ ลือดเยน็ เช่น งู เตา่ จระเข้ จิ้งจก ตุ๊กแก อกิ วั น่า
3. สัตวค์ ร่ึงบกคร่ึงน้า (amphibian) คือสตั วท์ ่ีใชช้ ีวิตคร่ึงหน่ึงอยใู่ นน้าและอีกคร่ึงหน่ึง
บนบก เช่น กบ คางคก อ่งึ อ่าง
4. สัตวข์ าปลอ้ ง (arthropod) คือสตั วไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลงั ลาตวั แบ่งเป็น 3 ส่วน เช่น
ส่วนหัว ส่วนกลาง และส่วนทา้ ย มเี ปลือกแข็งหุม้ ลาตวั เช่น ปู แมงมุม มด ผ้ึง
5. สัตวป์ ี ก (bird) เป็นสตั วเ์ ลือดอุ่น มปี ี กขา้ งลาตวั และออกลกู เป็นไข่ เช่น นกแกว้
นกกระจอก นกอินทรี เป็ด ไก่
ที่มา: http://kids.sandiegozoo.org/animals
ข้นั Practice
1. ครูทาตาราง 6 คอลมั น์บนกระดาน และแถวแรกเขยี นประเภทของสตั วล์ งไป แลว้ ครูยกตวั อยา่ งสัตวใ์ น
แตล่ ะประเภทใหน้ กั เรียนดู ดว้ ยการนาภาพสัตวไ์ ปตดิ บนกระดานภายใตห้ วั ขอ้ ท่ีกาหนดให้ถกู ตอ้ ง
พร้อมกบั พูดประโยค ดงั น้ี
Elephants are mammals because they don’t lay eggs. They are warm-blooded.
Snakes are reptiles because they lay eggs. They are cold-blooded.
Frogs are amphibians because they can live both on land and in water. They are cold-blooded.
Parrots are birds because they have got feathers and wings. They are warm-blooded.
Sharks are fish because they live in water. They are cold-blooded and lay eggs.
Ants are insects because they have got six legs and their bodies have got three parts.
538
mammal reptile amphibian bird shark insect
เสร็จแลว้ ครูนาบตั รภาพสตั วท์ ไี่ ดน้ าเสนอไปแลว้ มาแสดง 4-5 ภาพ เช่น zebra, dolphin, crocodile, toad,
bee และถามขอ้ มลู นกั เรียนเก่ียวกบั สัตวเ์ หลา่ น้ี เพ่ือให้นกั เรียนสรุปวา่ เป็นสัตวช์ นิดใด เม่อื ไดค้ าตอบ
แลว้ ครูนาภาพไปติดบนกระดานภายใตห้ ัวขอ้ ท่ีถูกตอ้ ง
T: What animal is it?
Ss: It is a zebra.
T: Can it swim?
Ss: No, it can’t.
T: Can it fly?
Ss: No, it can’t.
T: Can it lay eggs?
Ss: No, it can’t.
T: What type of animal is a zebra?
Ss: It is a mammal.
T: That’s correct. A zebra is a mammal. Repeat after me.
สุดทา้ ยครูถามนกั เรียนว่า What type of animal are you? ถา้ นกั เรียนตอบไม่ถูก ครูอาจช่วยดว้ ยการถาม
คาถามนกั เรียน เช่น
539
T: Do you lay eggs?
Ss: No, we don’t.
T: Are you warm-blooded?
Ss: Yes, we are.
T: Can you fly?
Ss: No, we can’t.
T: You don’t lay eggs. You are warm-blooded. You cannot fly.
What type of animal are you?
Ss: We’re mammals.
T: That’s right. People are mammals.
(mammal) elephant, monkey, kangaroo, lion, hippopotamus, giraffe, rabbit, dolphin,
zebra, kangaroo; (reptile) snake, crocodile, lizard; (insect) ant, spider, dragonfly,
grasshopper, ladybug; (amphibian) frog, toad
โลมาไมใ่ ช่ปลา แตเ่ ป็นสตั วเ์ ล้ียงลกู ดว้ ยน้านม
โลมา ปลา
โลมามีหวั ใจ 4 หอ้ ง ปลามหี วั ใจ 2 หอ้ ง
โลมาหายใจดว้ ยปอด (lungs) ปลาส่วนใหญห่ ายใจดว้ ยเหงือก (gills)
โลมาเป็นสตั วเ์ ลือดอนุ่ (warm- ปลาเป็นสัตวเ์ ลอื ดเยน็ (cold-blooded)
blooded
โลมาออกลกู เป็นตวั ปลาออกลกู เป็นไข่ (lay eggs)
โลมาเป็นสัตวเ์ ล้ยี งลกู ดว้ ยน้านม ปลาตวั อ่อนจะกินไข่แดงจากไข่เป็น
อาหาร
โลมาไม่มีเกลด็ ไมม่ เี มือก ปลาส่วนใหญ่มีเกลด็ และมเี มอื ก
โลมาหางจะโบกข้นึ โบกลงในการ ปลาหางจะโบกซา้ ยและขวา
วา่ ยน้า
ที่มา: http://www.oasisseaworld.net/aboutdolphins.html
540
2. ครูนาบตั รภาพ zebra, crocodile และ dolphin มาแสดง และใหน้ กั เรียนบอกว่าคอื สัตวอ์ ะไร
T: What is this? (แสดงบตั รภาพจระเข)้
Ss: It’s a crocodile.
T: What type of animal is it?
Ss: It is a reptile.
T: That’s correct. Crocodiles are reptiles because they lay their eggs on land, not in water.
T: What is this? (แสดงบตั รภาพมา้ ลาย)
Ss: It’s a zebra.
T: What type of animal is it?
Ss: It’s a mammal.
T: What’s this? (แสดงบตั รภาพโลมา)
Ss: It’s a dolphin.
T: What type of animal is it?
Ss: It’s a fish.
T: No, that’s not true. Dolphins are not fish. They don’t lay eggs and they are warm-
blooded. What type of animals are they?
Ss: They are mammals.
T: That’s correct!
ต่อมาครูอธิบายเพ่มิ เตมิ ว่า Dolphins are very clever because they have got a big brain. ครูวาดภาพ
สมอง และช้ีประกอบการพดู ดว้ ย จากน้นั ครูขดี เสน้ ใตค้ าวา่ clever และถามนกั เรียนวา่ What does it
mean? จนไดค้ าตอบวา่ ฉลาด ครูอาจสอนคาทีม่ คี วามหมายคลา้ ยกนั เช่น smart, bright, intelligent
3. หนงั สือเรยี น หน้า 70 Ex. 13 ครูอา่ นคาส่ัง Listen, read and match. แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและ
อ่านตาม จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียนส้นั ๆ อา่ นขอ้ ความ A, B และ C และจบั คภู่ าพ 1-3 ให้ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้
ครูเฉลยคาตอบบนกระดาน
1C 2A 3B
ครูถามคาถามเพิ่มเติมเกี่ยวกบั สตั วแ์ ตล่ ะชนิด เช่น Where do zebras live? Can you find them in
Thailand? Can crocodiles swim? Can dolphins swim? ต่อมาครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังอกี 1-2 คร้ัง
โดยเปิ ด CD และหยดุ เป็นช่วง ๆ เพือ่ ให้นกั เรียนอ่านตาม
541
4. หนังสือเรียน หน้า 70 Ex. 14 ครูอ่านขอ้ ความในกรอบคาพูดและให้นกั เรียนอา่ นตามครู เสร็จแลว้ ให้
นกั เรียนทางานคู่นาภาพสัตวท์ ่ชี ่ืนชอบท่ีครูให้นกั เรียนเตรียมมา ออกมาแสดงใหเ้ พื่อนดู พร้อมกบั พดู
บรรยายสตั วท์ ี่ตนเองช่ืนชอบ ครูสงั เกตการทากิจกรรมของนกั เรียน เพื่อใหค้ าแนะนาและความช่วยเหลอื
ที่จาเป็น เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คน ออกมาพดู บรรยายสตั วท์ ่ีตนเองช่ืนชอบหนา้ ช้นั อีกคร้ัง
5. หนังสือเรียน หน้า 71 Ex. 15 ครูบอกว่า นกั เรียนจะไดเ้ ล่นเกม โดยใหน้ กั เรียนดูภาพสัตวใ์ นกรอบ
จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอา่ นขอ้ ความตาม แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ออกมายืนหนา้ ช้นั
ให้นกั เรียนคดิ ช่ือสตั วม์ า 1 ชนิด แลว้ เขยี นใส่เศษกระดาษใหค้ รู จากน้นั ให้เพื่อนถามคาถามจนกวา่
จะไดค้ าตอบวา่ เป็นสัตวช์ นิดใด นกั เรียนที่เดาถูกจะไดเ้ ป็นคนเลอื กช่ือสัตวค์ นตอ่ ไป เช่น
S1: (เลือกสตั ว์ 1 ชนิด)
S2: Can it run?
S1: Yes, it can.
S3: Has it got four legs?
S1: Yes, it has.
S4: Is it big?
S1: Yes, it is.
S5: Does it eat meat?
S1: No, it doesn’t.
S6: Is it an elephant?
S1: Yes, it is!
A: Can it run fast?
B: No, it can’t.
A: Can it fly?
B: No, it can’t.
A: Has it got legs?
B: No, it hasn’t.
A: Does it eat fish?
B: Yes, it does.
A: Is it a dolphin?
B: Clever! Yes, it is!
542
6. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ ให้แตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั เล่นเกม โดยให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนมาท่ี
หนา้ ช้นั 1 คน และใหต้ วั แทนยนื หนั หลงั ใหก้ ระดาน ครูเขยี นสัตว์ 1 ชนิด บนกระดาน ให้สมาชิก
ในกลมุ่ พดู บรรยายสตั วช์ นิดน้นั ถา้ ตวั แทนกล่มุ ตอบถกู จะได้ 1 คะแนน ให้แต่ละกลุ่มผลดั กนั
เปลยี่ นตวั แทนในแต่ละรอบ
Advanced classes:
ครูเปิ ดคลิปวิดีโอ The great race ที่เก่ียวกบั ปี นกั ษตั ร (zodiac) จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories/the-great-race
จากน้นั ครูให้นกั เรียนตอบถามคาถามจากวิดีโอคลิป เช่น
T: Where is the race?
Ss: It is in China.
T: What animals do you see the video?
Ss: Rat, cat, tiger, rabbit, dragon, horse, snake, goat, monkey, rooster, dog and pig.
ข้นั Production
1. Portfolio หน้า 75 ครูอ่านคาสง่ั Write about your pet or favourite animal. จากน้นั ให้นกั เรียนดภู าพและ
ตอบคาถาม เช่น
T: Have you got a pet?
S1: Yes, I have. I’ve got a dog. Her name is Lulu.
T: What does she look like?
S1: She has got white fur and a long tail.
T: Is your pet clever?
S1: Yes, she is.
เม่อื นกั เรียนตอบคาถามเสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยาย
เกี่ยวกบั สตั วเ์ ล้ยี งของตนเองหรือสตั วท์ นี่ กั เรียนช่ืนชอบ พร้อมวาดภาพหรือหาภาพมาติดประกอบดว้ ย
สุดทา้ ยครูให้นกั เรียนออกมารายงานท่หี นา้ ช้นั โดยกอ่ นนาเสนอครูแนะนาให้นกั เรียนกลา่ วคาทกั ทาย
เพื่อนในช้นั เช่น Good morning. Hi. Hello.
(ตวั อยา่ ง)
This is my pet. It is a fish. It’s red. It has got a small body
and a short tail. It can swim. It eats fish food.
543
ตอ่ มาครูพูดแนะนามารยาทในการฟังเพ่อื นพูดรายงาน เช่น Listen. Don’t talk. Don’t play with your
friend.
2. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ จากน้นั ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ เลือกว่า จะทาโปสเตอร์เกี่ยวกบั สัตวช์ นิดใด
ไดแ้ ก่ mammal, reptile, amphibian, bird, fish และ arthropod โดยให้นกั เรียนหาขอ้ มูลเกี่ยวกบั ลกั ษณะ
ของสัตวแ์ ตล่ ะประเภทและเขียนสรุปส้ัน ๆ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งของสัตวใ์ นแต่ละประเภทมาอยา่ งละ
5 ชนิด และขอ้ มลู ของสตั วเ์ หล่าน้ีส้นั ๆ เช่น อาหาร ทอ่ี ยอู่ าศยั
ครูแนะนาแหล่งในการคน้ หาขอ้ มลู ใหก้ บั นกั เรียน เช่น
http://kids.sandiegozoo.org/animals
http://kids.nationalgeographic.com/animals/hubs/mammals/
http://www.sheppardsoftware.com/content/animals/kidscorner/classification/kc_
class_again.htm
3. ให้นกั เรียนไปทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 59 Exs. 11-12 เป็นการบา้ น
Ex. 11 5b 7a
1a 3a 6a 8b
2b 4a
Ex. 12
2 No, they aren’t. Her ears are big.
3 Yes, she can.
4 Yes, she does.
544
7. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั
แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมินช้ินงานเก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ียง
หรือสตั วท์ ่ชี ่ืนชอบ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงานโปสเตอร์เก่ียวกบั
สตั ว์ แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน
ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการปฏิบตั ิตามคาสง่ั และใช้
คาขอร้องในช้นั เรียน แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมงุ่ มนั่ ในการทางาน แบบทดสอบ
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้
เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณ์ทาชิ้นงาน
8.5 บตั รภาพ
8.6 ภาพสัตวเ์ ล้ยี ง/สัตวท์ ่ีชอบ
8.7 อินเทอร์เน็ต
545