กิจกรรมเพ่มิ เติม
นกั เรียนสามารถฝึกออกเสียงคาที่ข้นึ ตน้ ดว้ ย ch และ sh จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=EoxtdD0Taxk
หรือครูอาจบอกคาสาคญั เช่น ch sh pronunciation หรือช่ือคลปิ Ch กบั Sh ออกเสียง
ต่างกนั อยา่ งไร ให้นกั เรียนคน้ ควา้ ดว้ ยตวั เองทเ่ี วบ็ ไซต์ www.youtube.com
2. หนังสือเรียน หน้า 7 Ex. 9 ให้นกั เรียนดูตวั อยา่ งทีใ่ ห้มา ครูอา่ นตวั อยา่ งประโยคและให้นกั เรียนอ่าน
ตาม โดยครูพูดวา่ Repeat after me. จากน้นั ให้เวลานกั เรียนใชค้ าทกี่ าหนดให้ในแตล่ ะขอ้ มาแตง่
ประโยคให้สมบรู ณ์ เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาเขียนคาตอบบนกระดานและอ่านใหเ้ พื่อนฟัง
2 The baby has got two small teeth. 3 George has got a baby sheep.
4 Ian has got big ears. 5 Mary has got a red dress.
6 I have got a new camera.
3. หนงั สือเรียน หน้า 7 Ex. 10 ให้นกั เรียนดภู าพสตั วป์ ระหลาด จากน้นั ครูอ่านตวั อยา่ งบทสนทนาใน
หนงั สือเรียนใหน้ กั เรียนฟัง ตอ่ มาให้นกั เรียนทางานค่แู ตง่ บทสนทนาเก่ียวกบั สัตวป์ ระหลาด โดยใช้
บทสนทนาตวั อยา่ งเป็นตน้ แบบ
กอ่ นทากิจกรรม Ex. 10 ครูทบทวนการออกเสียงทา้ ยคานามท่ีเติม s กอ่ น เช่น arms, hands, legs ว่า
อ่านออกเสียง /s/ หรือ /z/
heads ลงทา้ ยดว้ ยเสียง /z/ เพราะ head สะกดดว้ ย d ซ่ึงเป็นเสียงกอ้ ง (voiced) เมือ่ เตมิ s
ตอ่ ทา้ ยเสียงกอ้ งจะออกเสียงเป็น /z/
A: What colour are the monster’s legs?
B: They’re blue.
A: What colour are the monster’s feet?
B: They’re orange.
A: What colour are the monster’s arms?
B: They’re brown. etc.
46
เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนแต่ละคฝู่ ึกพดู สนทนากนั ครูเดินสงั เกตขณะนกั เรียนทากิจกรรมเพือ่ คอยให้
คาแนะนา
4. หนังสือเรยี น หน้า 7 หวั ข้อ Go Green ครูอา่ นขอ้ ความในกรอบใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนระดม
ความคิดบอกวธิ ีประหยดั น้า เช่น Don’t leave the water running when you brush your teeth.
Go green หมายถงึ การทาส่ิงใดส่ิงหน่ึงเพือ่ ปกป้องธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม
(to do more to protect nature and the environment)
ข้นั Production
1. ใหน้ กั เรียนทางานคู่ ทาบตั รภาพคานามพหูพจน์ในหนงั สือเรียน หน้า 7 Ex. 8 และระบายสีใหส้ วยงาม
ครูย้าให้นกั เรียนวาดภาพแต่ละภาพใหม้ จี านวนแตกตา่ งกนั เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนผลดั กนั พูดถาม-ตอบ
เกี่ยวกบั จานวนและสีของคานามเหล่าน้ี เช่น
S1: How many teeth have you got?
S2: I’ve got two teeth.
S1: What colour are the teeth?
S2: They are green. etc.
2. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 7 Exs. 7-8 เป็นการบา้ น
Ex. 7 4 men 6 women 8 sheep
2 mice 5 teeth 7 children
3 feet
Ex. 8
2 In picture A, there is one fish. In picture B, there are two fish.
3 In picture A, there are two mice. In picture B, there is one mouse.
4 In picture A, there is one dog. In picture B, there are two dogs.
5 In picture A, there is one man. In picture B, there are two men.
6 In picture A, there is one child. In picture B, there are two children.
47
7. การวดั และประเมินผล
วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้
เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอและใหข้ อ้ มูล แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เก่ียวกบั จานวนและสี ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูดบรรยายเกี่ยวกบั แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ลกั ษณะภายนอกของสัตวป์ ระหลาด ผ่านเกณฑ์
ประเมินช้ินงานบตั รภาพคานาม แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
พหูพจน์ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้
ใฝ่ เรียนรู้และมงุ่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าช้ินงาน
8.5 บตั รภาพ
8.6 อินเทอร์เน็ต
48
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 Welcome to the planet Ziccom!
เวลา 2 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นได้
- อ่านออกเสียงเรื่องส้ัน ๆ ได้
- พดู แสดงบทบาทสมมตจิ ากเร่ืองทีอ่ า่ นได้
- พูดขอร้องง่าย ๆ ในช้นั เรียนได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าส่งั คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ทเี่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายคาศพั ท์ สานวน โครงสร้างที่ใชข้ อและให้ขอ้ มลู ช่วยใหต้ อบคาถามจากการ
อา่ นและฟังไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
49
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: planet, fantastic
Function: ฟังเพ่ือความเขา้ ใจ
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พดู ขอร้องงา่ ย ๆ ในช้นั เรียน
Reading: อา่ นออกเสียงเร่ืองส้ัน ๆ
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทใี่ ชใ้ นการส่ือสาร
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูเขา้ มาในห้องพร้อมกลา่ วทกั ทายนกั เรียนวา่ Hi, everyone. How are you? จากน้นั ครูเขยี น How are
you doing? บนกระดาน ใหน้ กั เรียนพดู ตามครูพร้อมกนั ครูอธิบายวา่ นอกจาก How are you?
เราสามารถใชป้ ระโยคดงั กล่าวพดู ทกั ทายไดเ้ ช่นกนั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1-2 คน ลุกข้นึ ยืนสนทนา
กบั ครู โดยให้นกั เรียนเป็นคนถามและครูเป็นคนตอบ เช่น
S: How are you doing?
T: I’m fine. And you?
S: I’m OK. etc.
2. ทบทวนคานามพหูพจนด์ ว้ ยการแบ่งนกั เรียนเป็น 2 กลุ่ม โดยครูเป็นคนพดู คานามเอกพจน์ แลว้ ให้
ตวั แทนนกั เรียนจากกลมุ่ 1 และ 2 (ไม่ซ้ากนั ) ผลดั กนั พดู บอกคานามพหูพจนข์ องคานามทค่ี รูบอก
โดยให้พดู ตอบเป็นประโยค กล่มุ ใดตอบไดถ้ กู ตอ้ งมากทส่ี ุดเป็นกลุ่มท่ีชนะ
50
ตวั อยา่ ง T: What is the plural of ‘child’?
Group 1: The plural of ‘child’ is ‘children’!
T: What is the plural of ‘woman’?
Group 2: The plural of ‘woman’ is ‘women’! etc.
3. ครูใหน้ กั เรียนทบทวนการขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สีผม ดว้ ยการนาภาพคนสีผมต่าง ๆ มาแสดงและ
ถามนกั เรียน เช่น
T: What colour is her hair?
Ss: Her hair is brown.
T: What colour is his hair?
Ss: His hair is blonde. etc.
ข้นั Presentation
1. ครูนง่ั ทีโ่ ตะ๊ ครู และทาหนงั สือตก จากน้นั ครูพดู กบั นกั เรียนท่อี ยใู่ กล้ ๆ ว่า Can you help me, please?
เม่อื นกั เรียนหยบิ หนงั สือให้ครูแลว้ ครูกล่าวขอบคุณ จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่า Can you help me,
please? หมายความว่าอยา่ งไร และใชเ้ มือ่ ใด เมอ่ื ไดค้ าตอบจากนกั เรียนแลว้ ครูเขียนสรุปโครงสร้าง
ประโยคขอร้องให้นกั เรียนดบู นกระดาน
Can you + ________, please? Yes, I can. / Sorry, I can’t.
ครูอธิบายเพิม่ เตมิ ว่า please ใชใ้ นการขอร้องและแสดงความสุภาพ เมอ่ื ตอ้ งการใหค้ นอน่ื ทาสิ่งใด
ส่ิงหน่ึงให้กบั เรา และเมือ่ มีคนทาสิ่งน้นั ให้กบั เรา เราควรจะกลา่ วขอบคณุ โดยพดู วา่
Thank you (very much). หรือ Thanks. (ไม่เป็นทางการ)
ตอ่ มาครูกาหนดสถานการณ์ให้บนกระดาน เช่น clean the blackboard, open the window,
close the window, open the door, close the door จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พูดถาม-ตอบโดยใช้
โครงสร้าง Can you …?
ตวั อยา่ ง S1: Can you open the window, please?
S2: Yes, I can.
S1: Thank you.
2. ครูเขียน planet บนกระดาน และใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงตามครู 2-3 คร้งั ครูถามนกั เรียนว่า
What does the word ‘planet’ mean? ถา้ นกั เรียนไม่รู้คาตอบ ครูอาจยกตวั อยา่ ง เช่น Earth, Jupiter,
Mars, Venus are planets. หรือบอกนิยาม planet (n) a large round object in space that moves around
a star (such as the sun) and receives light from it (ดาวเคราะห์)
51
จากน้นั ครูเขยี นประโยค Earth is a planet. บนกระดาน และใหน้ กั เรียนอา่ นตามครู แลว้ เปล่ยี นจาก
Earth เป็นดาวเคราะห์ดวงอืน่ ๆ เช่น Mars (ดาวองั คาร), Mercury (ดาวพุธ), Jupiter (ดาวพฤหัส),
Venus (ดาวศุกร์), Saturn (ดาวเสาร์), Uranus (ดาวยเู รนสั ), Neptune (ดาวเนปจนู )
ต่อมาครูถามนกั เรียนว่า Who is Extra? จากน้นั ครูอธิบายวา่ Extra is an ET. Do you know an ET?
ET is an extraterrestrial or a visitor from another planet. He comes from the planet Ziccom.
Today Extra and his friends will visit Ziccom.
3. ครูนานกั เรียนอา่ นประโยคในแต่ละกรอบในหนงั สือเรียน หนา้ 8-9 Ex. 11 จากน้นั ให้นกั เรียน
อา่ นออกเสียงตามครู ตอ่ มาครูเปิ ด CD และหยดุ เป็นช่วง ๆ เพอื่ ให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม
พร้อมกนั หรือเป็นรายบุคคล ครูสังเกตการออกเสียงของนกั เรียนและให้คาแนะนา
4. ครูถามความหมายของคาศพั ทใ์ นเน้ือเร่ือง เช่น fantastic (ยอดเย่ียม) เมอื่ ไดค้ าตอบแลว้ ครูบอกชนิด
ของคาว่าเป็นคาคณุ ศพั ทแ์ ละใหน้ กั เรียนช่วยกนั แตง่ ประโยค ครูย้าว่าเราจะวางคาคุณศพั ทไ์ วห้ ลงั
verb to be และหนา้ คานามเสมอ
ตวั อยา่ ง The show is fantastic.
It is a fantastic show.
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 8 Ex. 11 ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคที่ยงั ไมส่ มบรู ณ์และตวั เลือกท้งั 2 ขอ้ จากน้นั ครู
เปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 1 รอบ เพ่ือใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบทีถ่ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD อกี คร้งั
เพ่ือให้นกั เรียนตรวจคาตอบพร้อมกนั
a happy
2. หนงั สือเรียน หน้า 9 Ex. 12 ครูอธิบายภาระงานและอา่ นประโยคขอ้ 1-4 ใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั
ใหเ้ วลานกั เรียนกลบั ไปอา่ นเน้ือเร่ืองดว้ ยตนเองอีกคร้ังและเตมิ ประโยคดงั กลา่ วใหส้ มบูรณ์ เสร็จแลว้
ครูและนกั เรียนเฉลยคาตอบพร้อมกนั
1 Ziccom 2 Ziggy 3 blue 4 red
52
3. ครูถ่ายเอกสาร Story Cutouts จากแบบฝึกหดั หนา้ 79 และนามาตดั แบ่งเหตุการณ์ออกเป็น 8 ส่วน
จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ ครูแจก Story Cutouts ท่ีตดั ไวแ้ ลว้ ใหแ้ ต่ละกลุม่ ครูอธิบายวธิ ีการ
ทากิจกรรมวา่ ครูพูดประโยคในเรื่องและให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ชูภาพจาก Story Cutouts ให้ถูกตอ้ ง
ข้นั Production
1. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุม่ ครูช้ีแจงกิจกรรม คือ ใหน้ กั เรียนทาแผน่ ป้ายประโยคขร้องในช้นั เรียน
แสดงบทบาทสมมตจิ ากเร่ืองราวในหนงั สือเรียน หนา้ 8-9 Ex. 11 เมอื่ นกั เรียนฝึกพูดจนคล่องแลว้
ให้แต่ละกลุม่ ออกมาแสดงบทบาทสมมติหนา้ ช้นั เรียน
2. ให้นกั เรียนฝึกอ่านเน้ือเร่ืองในหนงั สือเรียน หนา้ 8-9 ดว้ ยตนเองท่ีบา้ น และอา่ นใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 8 Exs. 9-10 เป็นการบา้ น
Ex. 9 4c
2a 3d
Ex. 10
B
7. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการอ่านออกเสียงเรื่องส้นั แบบประเมินความสามารถ ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ในการพูดสื่อสาร ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมนิ การแสดงบทบาท ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
จากเรื่องทอี่ ่าน สมมติ ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอร้องง่าย ๆ แบบประเมินการพดู
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ในช้นั เรียน ผา่ นเกณฑ์
ประเมินช้ินงานแผน่ ป้ายประโยค แบบประเมินชิ้นงาน
ขอร้องในช้นั เรียน
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบฝึกหัด (Workbook)
การฟัง
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง
ใฝ่เรียนรู้และม่งุ มนั่ ในการทางาน ประสงค์
53
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ Story Cutouts
54
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 Franky, the monster!
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- เขยี นบรรยายลกั ษณะบคุ คลและสตั วป์ ระหลาดได้
- ฟังและตอบคาถามเก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะบุคคลและสตั วป์ ระหลาดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพหรือสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพ่ือขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ทเี่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
55
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างท่ีใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยให้
พดู อา่ น เขียนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: It’s Franky, the monster! He’s got a very big head and
three big green eyes. What does Alice look like?
Function: ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะรูปร่าง
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ลกั ษณะบคุ คลและสัตวป์ ระหลาด
Writing: เขียนบรรยายลกั ษณะบคุ คลและสัตวป์ ระหลาด
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการสื่อสาร
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูเขา้ มาในหอ้ งและพูดทกั ทายนกั เรียนในช้นั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น head, eyes, hands, hair ดว้ ยการเลน่ เกม Bingo
โดยให้นกั เรียนวาดตาราง 9 ช่อง และเขยี นคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายลงไปในตาราง
จากน้นั ครูอธิบายวิธีการเล่นเกมว่า ครูจะพูดคาศพั ทใ์ นตาราง ใหน้ กั เรียนวงคาศพั ทท์ ่นี กั เรียนไดย้ ิน
นกั เรียนคนใดวงครบ 3 ช่องเป็นเส้นตรงในแนวใดก็ไดก้ ่อนคอื ผูช้ นะ
56
ข้นั Presentation
1. นาเสนอประโยคท่ใี ชถ้ ามเกี่ยวกบั ลกั ษณะภายนอกโดยแสดงภาพดาราหรือศลิ ปิ นที่มีช่ือเสียง
จากน้นั ครูพูดว่า Look at the picture. แลว้ ถามคาถาม What does she look like? และใหน้ กั เรียนพูดตาม
ครูพร้อมกนั ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขยี นบนกระดาน ครูอธิบายเพิม่ เตมิ วา่ ประโยค
What does she look like? ใชถ้ ามเกี่ยวกบั ลกั ษณะภายนอก เช่น รูปร่าง สีตา สีผม
ตวั อยา่ ง T: What does she look like?
Ss: She’s got long brown hair and big brown eyes. etc.
2. ใหน้ กั เรียนฝึกพูดถาม-ตอบบรรยายลกั ษณะภายนอกของเพอ่ื นท่นี งั่ ขา้ ง ๆ เช่น
S1: Weera, what does Manee look like?
S2: She’s got short black hair and small brown eyes. etc.
3. ครูนาเสนอประโยคทีน่ กั เรียนมกั จะสบั สน ไดแ้ ก่ What’s she like? กบั What does she like? โดย
What’s she like? จะใชถ้ ามเกี่ยวกบั ลกั ษณะนิสยั ส่วน What does she like? ใชถ้ ามเก่ียวกบั ส่ิงที่ชอบ
หรืองานอดิเรก
ตวั อยา่ ง A: What’s she like?
B: She’s friendly and kind.
A: What does she like?
B: She likes reading comic books.
like (v) มีความหมายวา่ ชอบ เช่น I like comic books.
like (prep) มคี วามหมายวา่ ดเู หมอื นว่า เช่น What’s she like?
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 10 Ex. 13 ครูบอกนกั เรียนว่า Look at Tom’s monster. What does he look like?
และให้นกั เรียนช่วยกนั พูดบรรยายลกั ษณะสตั วป์ ระหลาดของทอม จากน้นั ครูให้นกั เรียนอ่านขอ้ ความ
ในกรอบและเติมคาตอบในช่องวา่ งแตล่ ะขอ้ เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD เพื่อให้นกั เรียนตรวจคาตอบของ
ตนเอง และเปิ ดอีกคร้งั เพ่ือใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตาม CD
57
Look at my picture! It’s Franky, the monster! He’s got a very big head and
three big green eyes! He’s got a big red mouth but he hasn’t got any teeth!
He’s got four arms and four hands. He’s got four legs and four big feet.
Franky’s got beautiful pink hair.
1 head 3 mouth 5 hands 7 hair
2 eyes 4 teeth 6 feet
ในช้นั เรียนเด็กเก่ง ครูอาจเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 2 คร้ัง และวาดภาพพร้อมท้งั ระบายสี
สตั วป์ ระหลาดตามท่ไี ดย้ นิ
2. หนังสือเรยี น หน้า 10 Ex. 14 ครูช้ีไปท่ีภาพตวั อยา่ ง พร้อมถามคาถาม What does Alice look like?
เพอื่ ให้นกั เรียนตอบวา่ She’s got black hair and brown eyes. จากน้นั ใหน้ กั เรียนฝึกพดู ตามพร้อมกนั
และทลี ะคน ครูทาเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ ทเี่ หลือ
จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ฝึกพูดบทสนทนาดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-5 คู่ ออกมาพดู
สนทนาทหี่ นา้ ช้นั เรียนอีกคร้งั
2 A: What does Peter look like?
B: He’s got red hair and green eyes.
3 A: What does Lisa look like?
B: She’s got brown hair and brown eyes.
4 A: What does Max look like?
B: He’s got fair hair and blue eyes.
3. หนงั สือเรียน หน้า 11 Ex. 15 ครูช้ีแจงกิจกรรม ให้นกั เรียนดภู าพสตั วป์ ระหลาดท้งั 4 ตวั โดยใชค้ าสั่ง
Look at these monsters. พร้อมท้งั อ่านช่ือสัตวป์ ระหลาดแต่ละตวั ให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม
จากน้นั ครูช้ีประโยคที่อยทู่ างดา้ นขวาและเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงตาม
พร้อมกนั เสร็จแลว้ ครูสุ่มเลือกนกั เรียนออกมายนื หนา้ ช้นั 1 คน โดยให้นกั เรียนเลอื กสัตวป์ ระหลาด
58
ไวใ้ นใจ จากน้นั ใหน้ กั เรียนท่ีเหลอื ถามคาถามนกั เรียนคนน้ีจนไดค้ าตอบวา่ เป็นสัตวป์ ระหลาดตวั ใด
นกั เรียนที่เดาถูกจะเป็นผเู้ ลอื กสัตวป์ ระหลาดตวั ตอ่ ไป
a: Has your monster got one eye?
b: No, it hasn’t.
c: Has your monster got green arms?
b: Yes, it has.
c: Is it Zippy?
b: Yes, it’s Zippy!
กจิ กรรมเพิม่ เติม
ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอ [Look like] What does she look like? (At the amusement park) - Easy
English Dialogue - for Kids ให้นกั เรียนฝึกพดู ถาม-ตอบโดยใชป้ ระโยค What does she
look like? จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=7eJHndmL0SY
ข้นั Production
1. หนังสือเรยี น หน้า 15 หวั ข้อ Portfolio ให้นกั เรียนเขียนบรรยายเกี่ยวกบั สตั วป์ ระหลาดของตนเอง
พร้อมวาดภาพประกอบหรือนารูปมาตดิ จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกมาพูดนาเสนอผลงานของตนเองหนา้
ช้นั เรียน
(ตวั อยา่ งคาตอบ)
Look at my picture! It’s got one big eye and one big mouth. It’s got four ears,
but it hasn’t got any hair. It’s got three feet. It’s got nine toes.
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 9 Exs. 11-12 เป็นการบา้ น
59
Narrator: Listen and tick (✓).
One
Which one is Mark?
Man: Who’s your best friend, Kelly?
Girl: My best friend is Mark.
Man: What’s Mark like?
Girl: He’s got dark eyes.
Man: Has he got red hair?
Girl: No, he’s got dark eyes and dark hair, too.
Two
Which one is Nelly?
Boy: This is my monster, Nelly. Nelly has got a big head, four
arms and three legs. She’s got a big mouth and beautiful
red hair. Nelly is very funny!
Ex. 11 4 No, she hasn’t.
1a 2c
Ex. 12
2 She’s got long brown hair and dark eyes.
3 Bella.
60
7. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบทดสอบ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขียนบรรยาย แบบประเมนิ การเขยี น
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ลกั ษณะบุคคลและสตั ว์ ผา่ นเกณฑ์
ประหลาด ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการพูดขอและใหข้ อ้ มลู แบบประเมนิ การพูด ผ่านเกณฑ์
เกี่ยวกบั ลกั ษณะบคุ คลและสตั ว์
ประหลาด
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook)
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ
ใฝ่ เรียนรู้และมงุ่ มนั่ ในการ ประสงค์
ทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อนิ เทอร์เน็ต
61
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 Let’s sing!
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objective)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายคาศพั ทท์ ม่ี ี -ea- ประกอบได้
- ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ และเลน่ เกมทางภาษาได้
- ร้องเพลงทางภาษา และแสดงท่าทางประกอบตามท่ีกาหนดได้
- คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั คาศพั ทต์ ามทกี่ าหนดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ที่ฟังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพหรือสญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าส่ัง คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชีว้ ัด
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลย่ี นเรียนรู้กบั สังคมโลก
62
ตัวชีว้ ัด ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ
ต 4.2 ป.4/1
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย ช่วยใหฟ้ ัง พดู /เขียนสื่อสาร
และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: shoulders, knees, toes, weak, read, heat, team, meat
Pronunciation: การออกเสียงคาทสี่ ะกดดว้ ยสระ long e
2) Language Skills
Listening: ฟังเพื่อความเขา้ ใจ
Speaking: พูดประโยคคาสง่ั
3) Culture: ส่ิงทค่ี วรและไม่ควรปฏิบตั ิในประเทศไทยทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั อวยั วะ
ในร่างกาย
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทีใ่ ชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
63
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนในช้นั จากน้นั ครูสอนประโยคขออนุญาต โดยเขยี น May I go out? และ
May I come in? บนกระดาน ใหน้ กั เรียนพูดตามครูพร้อมกนั ครูอธิบายวา่ หากนกั เรียนตอ้ งการ
ขออนญุ าตออกนอกห้องเรียน เราจะพดู วา่ May I go out? และกลบั เขา้ มาในห้องจะพดู ว่า May I
come in? นกั เรียนอาจจะพูด please ต่อทา้ ยดว้ ยเพือ่ ความสุภาพ เช่น May I go out, please? เสร็จแลว้
ครูขออาสาสมคั ร 1 คน ออกมาพูดขออนุญาตกบั ครู โดยครูย้าวา่ หากนกั เรียนไดร้ ับอนุญาตแลว้ ตอ้ ง
กล่าวขอบคณุ ดว้ ย เช่น
S: May I go out, please?
T: Yes.
S: Thank you very much. etc.
ในวฒั นธรรมของชาวตะวนั ตก เม่ือเราตอ้ งการขออนุญาตหรือให้ผูอ้ ่ืนทาส่ิงใดสิ่งหน่ึง
ให้เรา เราจะใชค้ าว่า please ข้นึ ตน้ หรือต่อทา้ ยประโยค เช่น Can you help me, please?
และเม่อื คนอื่นทาสิ่งใดสิ่งหน่ึงให้เรา เราตอ้ งพดู Thank you (very much). เสมอ
2. ทบทวนการขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะภายนอกและบุคลิก โดยครูช้ีไปทีน่ กั เรียนคนหน่ึง และ
เรียกนกั เรียนอีกคนตอบคาถาม What does he/she look like? จากน้นั ให้นกั เรียนพูดบรรยายลกั ษณะของ
เพ่ือน เช่น
T: Araya, what does Manee look like?
S: She’s got long black hair and black eyes.
3. ครูทบทวนการออกเสียงคาที่ข้นึ ตน้ ดว้ ย sh ในคาว่า shoulder โดยเขียนคาศพั ทบ์ นกระดานแลว้ สุ่มเรียก
นกั เรียนอา่ นคาศพั ทท์ ีละคน
4. ครูทบทวนคาท่ีพยญั ชนะ k ไม่ออกเสียง เช่น knee, know, knife, knock โดยเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน
แลว้ ช้ีให้นกั เรียนอา่ นพร้อมกนั ทีละคา
ข้นั Presentation
1. ครูทบทวนและนาเสนอคาศพั ทใ์ หม่เก่ียวกบั ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น shoulder (ไหล่), knee
(หวั เขา่ ), toe (นิ้วเทา้ ) โดยการพดู บอกความหมายหรือช้ีไปทส่ี ่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย จากน้นั ครูพดู
คาสงั่ โดยใชค้ าวา่ Point to _____. และให้นกั เรียนปฏิบตั ิตาม เช่น
64
Point to your toes.
Point to your friend’s toes. etc.
2. ครูเขียนคาศพั ท์ weak, read, heat, team, meat บนกระดานและแสดงภาพให้นกั เรียนดู จากน้นั
ให้นกั เรียนช่วยกนั เดาความหมาย ครูช้ีไปทแ่ี ต่ละคาและใหน้ กั เรียนพูดตาม ครูอธิบายว่าเสียงน้ี
คอื เสียง long e ซ่ึงคลา้ ยกบั สระ อี ในภาษาไทย สิ่งทน่ี กั เรียนตอ้ งพงึ ระวงั ในการออกเสียง คือ
การออกเสียง long e เป็นเสียง short e เพราะหากออกเสียงผดิ จะทาใหค้ วามหมายเปลยี่ นไปได้
กิจกรรมเพิม่ เตมิ
ครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดานเพิม่ เตมิ ดงั น้ี
tea tin
pea pin
โดยในแตล่ ะแถวครูอา่ นออกเสียงคาศพั ท์ 1 คา ให้นกั เรียนช่วยกนั เดาวา่ คอื คาศพั ทค์ าใด
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีอีก 8-10 คา เพ่ือใหแ้ น่ใจวา่ นกั เรียนสามารถแยกแยะเสียง long e และ
short e ได้
จากน้นั ครูให้นกั เรียนฝึกอ่านประโยคต่อไปน้ี โดยครูอา่ นออกเสียงโดยเนน้ แตล่ ะคาใหช้ ดั เจน
She leaves the key under the tree near the sea.
เสร็จแลว้ ครูสุ่มนกั เรียน 3-4 คน ยนื ข้นึ อ่านประโยคบนกระดาน
3. ทบทวนการออกเสียง sh ในคาว่า shoulder โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน จากน้นั สุ่มเรียก
นกั เรียนอ่านคาศพั ทท์ ลี ะคน
4. ทบทวนคาที่พยญั ชนะ k ไม่ออกเสียง โดยครูเขียนคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน
knee know
knife knock
จากน้นั ครูช้ีทค่ี าศพั ทแ์ ตล่ ะคา แลว้ ให้นกั เรียนออกเสียงคาศพั ทพ์ ร้อมกนั ครูช้ีท่ีคาศพั ทส์ ลบั กนั ไปมา
จนนกั เรียนออกเสียงไดค้ ลอ่ ง
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 11 หัวข้อ Sound Spot ใหน้ กั เรียนฝึกอา่ นออกเสียงแตล่ ะคาพร้อมกนั จากน้นั ครูขอ
อาสาสมคั รออกมาอ่านออกเสียงคาบนกระดาน
-ea- weak read heat team meat
65
2. หนงั สือเรยี น หน้า 12 Ex. 16 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและร้องตาม พร้อมกบั แสดงท่าทางประกอบ
ดว้ ย เพ่อื ใหก้ ิจกรรมสนุกมากยง่ิ ข้นึ ครูอาจให้นกั เรียนร้องเพลงพร้อมกนั ท้งั ห้องโดยเพ่ิมจงั หวะ
การร้องเพลงให้เร็วข้นึ
Head, shoulders, knees and toes,
Knees and toes,
Head, shoulders, knees and toes,
Knees and toes,
And eyes and ears and mouth and nose,
Head, shoulders, knees and toes,
Knees and toes!
3. หนังสือเรยี น หน้า 12 Ex. 17 ครูบอกว่า นกั เรียนจะไดเ้ ล่นเกม โดยครูช้ีไปทตี่ วั ละครและอา่ นขอ้ ความ
ในกรอบคาพูดให้นกั เรียนฟัง จากน้นั ครูอธิบายว่า เม่อื ครูพดู คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ร่างกายคาใด นกั เรียนตอ้ ง
เอาส่วนน้นั มาแตะกนั เช่น ถา้ ครูพูดว่า Two ears! ใหน้ กั เรียน 2 คนเอาหูมาแตะกนั
กอ่ นเลน่ เกมครูบอกนกั เรียนว่า Let’s start! Listen carefully. ครูให้เลน่ เกมไปเร่ือย ๆ โดย
เปล่ียนเป็นส่วนอน่ื ๆ ของร่างกาย เม่อื เลน่ เกมจบแลว้ ครูพดู บอกนกั เรียนว่า Finish. พร้อมกล่าวชมเชย
นกั เรียนที่ร่วมกนั ทากิจกรรมโดยพดู วา่ Good job!
4. ครูสอนการใชป้ ระโยคคาสัง่ ดว้ ยการพูดถงึ กฎ กตกิ าในหอ้ งเรียน เช่น Do your homework.
Do not speak when your teacher is teaching. จากน้นั ครูให้นกั เรียนช่วยกนั พูดบอกส่ิงทีค่ วรทา
และไมค่ วรทาในวฒั นธรรมไทยทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั อวยั วะในร่างกาย เช่น Do not touch your friend’s head.
Do not point at things with your feet.
66
สิ่งท่คี วรและไม่ควรปฏบิ ตั ิในประเทศไทย
วฒั นธรรมไทยจะถอื วา่ ‘ศีรษะ’ เป็นของสูง เราไม่ควรจบั ศรี ษะของผอู้ ืน่ โดยท่ไี ม่ได้
รบั อนุญาต และ ‘เทา้ ’ เป็นส่ิงทอ่ี ยตู่ ่า เป็นสิ่งสกปรก ไม่ควรเอาข้นึ มาไวเ้ สมอตวั หรือ
วางพาดเกา้ อ้ี แตใ่ นวฒั นธรรมตะวนั ตกถือว่าอวยั วะตา่ ง ๆ ในร่างกายมีความสาคญั
เท่ากนั ดงั น้นั บ่อยคร้งั ท่ีมกั จะเห็นชาวต่างชาติเอามือลบู หวั กนั หรือเอาเทา้ วางบนโตะ๊
ซ่ึงในบริบทตะวนั ตกน้นั ไมใ่ ช่เรื่องเสียหาย ดงั น้นั เมื่อเราอยทู่ ใี่ ดควรจะคานึงถึงบริบท
ทางสังคมของประเทศน้นั ๆ ดว้ ย
ท่ีมา: http://www.ywamthai.org/office/culture
5. ครูบอกวา่ เดก็ ในประเทศองั กฤษและสหรัฐอเมริกาก็เลน่ เกมเป่ ายิงฉุบเหมือนกบั เดก็ ไทย โดยจะ
เรียกวา่ Rock, Paper, Scissors ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดาวา่ แตล่ ะคาหมายความวา่ อยา่ งไร จากน้นั ครูพดู
คาศพั ทแ์ ละแสดงทา่ ทางประกอบ เพอื่ ใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ิตาม ตอ่ มาครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน ให้เล่น
เกม Rock, Paper, Scissors โดยครูนบั one, two, three, go เมอื่ ไดผ้ ชู้ นะแลว้ ครูให้คนทช่ี นะพูดประโยค
ต่อไปน้ี
Rock beats scissors. (คอ้ นทุบกรรไกร) I win. You lose.
Scissors cut paper. (กรรไกรตดั กระดาษ) I win. You lose.
Paper covers rock. (กระดาษห่อคอ้ น) I win. You lose.
แต่ถา้ ไมม่ คี นชนะ หรือเสมอกนั ให้พูดวา่ It’s a draw.
จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่เล่นเกมกบั เพื่อนทน่ี ง่ั ขา้ ง ๆ เมอ่ื นกั เรียนเล่นเกม Rock, Paper, Scissors
ไดค้ ลอ่ งแลว้ ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมเพมิ่ เตมิ
กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ
ครูใหน้ กั เรียนดคู ลิป Rock Paper Scissors | Word Power | PINKFONG Songs for
Children จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=_t9X3ob8Imk
จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทมี ยนื คนละฝั่งกนั ครูนาบตั รภาพส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายมา
วางบนโตะ๊ ตอ่ กนั เป็นเส้นตรง ใหแ้ ต่ละทีมพดู ประโยคเกี่ยวกบั บตั รภาพที่ฝ่ังตนเองได้
เมื่อแตล่ ะทมี ผ่านมาจนถึงภาพใบสุดทา้ ยให้แต่ละทีมเป่ ายิงฉุบกนั
67
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานกลุม่ คน้ ควา้ ขอ้ มลู ในอินเทอร์เนต็ เก่ียวกบั คาทอี่ อกเสียง long e
มา 10 คา โดยใหจ้ ดั เรียงลาดบั คาตามตวั อกั ษรใหถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ทาโปสเตอร์ พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม
แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานของกลมุ่ ตนเองทหี่ นา้ ช้นั และอา่ นคาศพั ทใ์ หเ้ พอื่ นฟัง
2. ครูใหน้ กั เรียนทาแผ่นป้ายขอ้ ควรปฏิบตั หิ รือไมค่ วรปฏบิ ตั ใิ นประเทศไทยทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั อวยั วะใน
ร่างกาย เช่น Do not touch your friend’s head. Do not point at things with your feet. แลว้ นาผลงานให้
เพอื่ นดหู นา้ ช้นั
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 10 Ex. 13 เป็นการบา้ น
2 toes 4 Head 6 ears 8 nose
3 Knees 5 eyes 7 Mouth
7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการปฏบิ ตั ิตามคาส่งั และ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
เล่นเกมทางภาษา แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
สังเกตการร้องเพลงทางภาษา ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมินชิ้นงานคาศพั ทท์ ีส่ ะกด แบบประเมินชิ้นงาน
ดว้ ยสระ long e ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
จบั ค่ขู อ้ ความส้ัน ๆ ที่อ่านกบั แบบฝึกหดั (Workbook) ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ภาพ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook)
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง
เรียนรู้และมุง่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์
68
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณ์ทาช้ินงาน
8.5 บตั รคาศพั ท์
8.6 อนิ เทอร์เน็ต
69
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 Space heroes! เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- เขียนแนะนาตวั ละครในภาพยนตร์ท่ีตนเองช่ืนชอบได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ท่เี กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั เน้ือหา ช่วยให้อ่าน พูด/เขยี นแนะนาเกี่ยวกบั ตวั ละครทช่ี ่ืนชอบได้
อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: film, space heroes, grey, strange, duck, wear, neck, character, silly,
mistake, in the end
70
Function: แนะนาตวั ละครทีช่ ื่นชอบ
2) Language Skills
Speaking: พูดให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตวั ละครในภาพยนตร์
Writing: เขียนแนะนาตวั ละครในภาพยนตร์ที่ช่ืนชอบ
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทีใ่ ชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยถามคาถามนกั เรียน เช่น
T: Do you like watching films?
Ss: Yes, I do.
T: What is your favourite film?
Ss: My favourite film is Frozen.
T: Do you know Star Wars?
Ss: Yes, I do. / No, I don’t.
ให้นกั เรียนดูภาพประกอบในหนงั สือเรียน หนา้ 13 แลว้ ถามนกั เรียนว่า Who are these? Can you tell
their names? หากนกั เรียนเคยดู ให้ช่วยกนั พูดช่ือตวั ละครที่รู้จกั จากน้นั ครูเขียนช่ือตวั ละครบนกระดาน
1) Qui-Gon-Jin 3) Queen Amidala 5) Anakin Skywalker
2) Obi-Wan-Kenobi 4) Jar Jar Binks
ต่อมาครูพูดกบั นกั เรียนวา่ Look at the board and listen to me. Which name do you hear? จากน้นั ครู
อา่ นชื่อตวั ละครแต่ละตวั และใหน้ กั เรียนบอกหมายเลขของชื่อทค่ี รูอา่ นให้ถูกตอ้ ง แลว้ จึงใหน้ กั เรียน
อ่านออกเสียงตามครู เสร็จแลว้ บอกนกั เรียนวา่ วนั น้ีจะไดพ้ บกบั Jar Jar Binks
71
ครูท่ีไม่เคยดูภาพยนตร์ Star Wars สามารถเขา้ ไปฟังการออกเสียงช่ือตวั ละครต่าง ๆ ไดท้ ี่
www.pronoucewiki.com
ภาพยนตร์ Star Wars
Star Wars เป็นภาพยนตร์แนววทิ ยาศาสตร์อวกาศท่ไี ดร้ บั ความนิยมสูงสุดอีกเรื่องหน่ึงใน
ประวตั ศิ าสตร์ภาพยนตร์ฮอลลวี ูด (Hollywood) อานวยการสร้างโดย George Lucas
กาหนดฉายเมอ่ื วนั ที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1977 นับเป็นภาพยนตร์ทมี่ ีภาคตอ่ ยาวนานจนมาถงึ
ปัจจบุ นั ภาพยนตร์ชุดน้ีแบง่ เป็น 2 ช่วง คอื ช่วงไตรภาคก่อน (ภาค 1-3) จะกล่าวถึงเหตกุ ารณ์
ทน่ี าไปสู่สงครามกลางกาแลก็ ซี การลม่ สลายของสาธารณรฐั และความรุ่งเรืองของฝ่ายจกั รวรรดิ
จากยทุ ธการนาบรู ะหว่างนาบูกบั สมาพนั ธ์การคา้ ไปจนถึงสงครามโคลนทีม่ ตี อ่ ฝ่ายแบ่งแยก
ดินแดน ส่วนไตรภาคเดิม (ภาค 4-6) จะเก่ียวขอ้ งกบั สงครามกลางเมอื งกาแลกตกิ ทม่ี ขี ้ึน
ระหว่างพนั ธมิตรฝ่ายกบฏกบั ฝ่ายจกั รวรรดิ เป็นการต่อสูร้ ะหวา่ งความดีกบั ความชว่ั
Luke Skywalker ตวั ละครหลกั ในเรื่องเป็นเดก็ ชายกาลงั ฝึกฝนเพื่อการเป็นอศั วินเจไดคนสุดทา้ ย
(และคนแรกในเจไดรุ่นใหม)่ เพือ่ ตอ่ สู้กบั Darth Vader ลอร์ดมดื แห่ง Sith และจกั รพรรดิ
Darth Sidious อาจารยข์ องเขา
ทม่ี า: https://th.wikipedia.org/wiki/สตาร์_วอร์ส
กจิ กรรมเพิม่ เติม
ครูอาจเปิ ดคลิปภาพยนตร์ Star Wars ส้ัน ๆ ให้นกั เรียนดจู ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=sGbxmsDFVnE
2. ทบทวนการถาม-ตอบลกั ษณะภายนอกโดยนาภาพตวั ละครทีม่ ีชื่อเสียงมาแสดง เช่น Elsa จากเรื่อง
Frozen, Rapunzel จากเร่ือง Tangled จากน้นั ครูถามเกี่ยวกบั ลกั ษณะภายนอกของตวั ละครเหล่าน้ี เช่น
T: What does Elsa look like?
Ss: She has got long fair hair. She has got big
blue eyes, small nose and small mouth.
T: What does Rapunzel look like?
Ss: She has got long blonde hair.
She has got big green eyes, small nose
and big mouth.
72
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั บทอา่ น ไดแ้ ก่ film (ภาพยนตร์), space (อวกาศ), heroes (วีรบรุ ุษ),
phantom (สิ่งทไ่ี มม่ ีอยจู่ ริง), menace (ภยั อนั ตราย), mistakes (ขอ้ ผดิ พลาด) และ character (ตวั ละคร)
โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดานและบอกคาจากดั ความ จากน้นั ครูอา่ นออกเสียงคาศพั ทแ์ ตล่ ะคาให้
นกั เรียนฟังและออกเสียงตามพร้อมกนั
hero (n.) แปลว่า วีรบรุ ุษ เป็นคาที่ใชส้ าหรับเรียกผชู้ าย ส่วนผหู้ ญงิ จะใชค้ าวา่ heroine (n.)
ซ่ึงมีความหมายวา่ วรี สตรี
2. ครูนาเสนอคาคณุ ศพั ทใ์ นบทอ่าน ไดแ้ ก่ strong (แข็งแรง), silly (โง่เขลา) และ popular (เป็นทีน่ ิยม)
โดยเขียนประโยคตวั อยา่ งบนกระดาน เช่น
She is a weightlifter. She is very strong.
He makes a lot of silly mistakes.
Frozen is a popular film. Many children love it.
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 18 ครูอา่ นเน้ือหาใหน้ ักเรียนฟังทลี ะยอ่ หนา้ และใหน้ กั เรียนอา่ นตาม เม่อื ถงึ
คาศพั ทท์ ่เี ป็นตวั หนา ให้นกั เรียนช่วยกนั เลอื กคาตอบทีถ่ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบบนกระดาน
1 long 3 yellow 5 neck
2 ears 4 big
2. ครูถามเกี่ยวกบั รายละเอียดของเน้ือเร่ืองโดยใช้ Wh-questions เช่น
T: What is Star Wars about?
Ss: It is about space.
T: Who is Jar Jar Binks?
Ss: He is a space hero.
T: Which film is he from?
Ss: He is from Star Wars.
73
3. ครูแนะนาตวั ละครต่าง ๆ ในภาพยนตร์ Star Wars โดยเขียนช่ือบนกระดาน จากน้นั ครูใหน้ กั เรียน
ดภู าพตวั ละครในหนงั สือเรียน และใหน้ กั เรียนช่วยกนั พดู บรรยายลกั ษณะของตวั ละครแต่ละตวั
เช่น T: Who is he?
Ss: He is Qui-Gon-Jin.
T: What does Qui-Gon-Jin look like?
Ss: He has got long hair and moustache.
T: Who is he?
Ss: He is Anakin Skywalker.
T: What does Anakin Skywalker look like?
Ss: He has got blonde hair.
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนนาภาพตวั ละครภาพยนตร์ทนี่ กั เรียนชื่นชอบจากอนิ เทอร์เน็ตหรือ
นิตยสารมาตดิ ใส่กระดาษ A4 พร้อมกบั เขียนบรรยายลกั ษณะส้ัน ๆ ใตภ้ าพ
(ตวั อยา่ ง)
This is Obi-Wan- Kenobi. He’s got short brown hair and small blue eyes.
He’s got beard. He carries a laser sword. He’s very cool!
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คน ออกมาพดู นาเสนอตวั ละครท่ีตนเองชื่นชอบ
74
ตวั ละครต่าง ๆ ในภาพยนตร์ Star Wars
Qui-Gon-Jin เป็นอาจารยเ์ จไดทเ่ี ป็นทีเ่ คารพนบั ถือ และเป็นผฝู้ ึกสอน Obi-Wan
Kenobi ผทู้ ่ีจะกลายเป็นอศั วนิ เจไดทีย่ ่ิงใหญ่ในเวลาต่อมา
Queen Amidala เป็นราชินีอมดิ าลาแห่งนาบู ตอ่ มาไดส้ มรสกบั อศั วินเจไดนามวา่
Anakin Skywalker และเป็นมารดาของ Luke Skywalker และ Leia Organa
Anakin Skywalker เป็นอศั วนิ เจไดท่ีมีช่ือเสียงในยคุ เส่ือมถอยของนิกายเจได
ในระหว่างการฝึกฝนเขาคอ่ ย ๆ หันเหเขา้ สู่ดา้ นมดื และในทส่ี ุดไดก้ ลายเป็น Darth Vader
ไม่นานกอ่ นทจ่ี กั รวรรดิกาแลกติกจะไดร้ บั การกอ่ ต้งั ข้ึน
Obi-Wan-Kenobi เป็นอาจารยเ์ จไดทม่ี ชี ื่อเสียง เขาไดร้ ับการฝึกฝนจากอาจารย์ Yoda
และ Qui-Gon-Jin และเป็นผูฝ้ ึกสอนท้งั Anakin Skywalker และ Luke Skywalker
Jar Jar Binks เป็นชาวกนั แกนคนแรกท่ีไดเ้ ป็นสมาชิกสภากาแลกตกิ และยงั มีบทบาท
สาคญั ตอ่ ชะตาของสาธารณรัฐกาแลกติกดว้ ย
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/สตาร์_วอร์ส
ครูอาจเตรียมบตั รภาพตวั ละครทีม่ ชี ื่อเสียง เช่น Harry Potter, Superman, RoboCop
มาให้นกั เรียนทไ่ี มไ่ ดน้ ารูปมา
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 11 Ex. 14 เป็นการบา้ น
2 mouth 4 ears 6 fingers
3 nose 5 hair 7 toes
75
7. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี นบรรยายตวั ละคร แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ที่ช่ืนชอบ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การอ่าน
สงั เกตพฤตกิ รรมใฝ่ เรียนรู้และ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ม่งุ มนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 บตั รภาพตวั ละครตา่ ง ๆ
8.4 อนิ เทอร์เนต็
76
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 Superstars in Southeast Asia
เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั บุคคลจากเรื่องทอี่ า่ นได้
- ตอบคาถามจากบทอา่ นท่ีอา่ นได้
- เขียนบรรยายส้นั ๆ เก่ียวกบั นกั ร้องทตี่ นเองช่ืนชอบได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตัวชี้วัด
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชีว้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมอื พนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลีย่ นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตวั ชี้วดั
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ
77
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้เก่ียวกบั บุคคลท่มี ีช่ือเสียงในภูมภิ าคอาเซียนและคาศพั ที่เกี่ยวขอ้ ง ช่วยใหเ้ ราเขา้ ใจวฒั นธรรมใน
ประเทศอาเซียน
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: famous, actor, Muay Thai boxer, successful, international, popular
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั บคุ คลจากเรื่องที่อา่ น
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Writing: เขยี นบรรยายส้ัน ๆ เก่ียวกบั นกั ร้องที่ตนเองช่ืนชอบ
3) Culture: บุคคลทีม่ ชี ื่อเสียงในประเทศอาเซียน
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ที่ใชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียนในช้นั จากน้นั ทบทวนประโยคท่ใี ชใ้ นการทกั ทายและแนะนาตวั โดยสุ่มเรียก
นกั เรียน 3-4 คน พดู สนทนากบั ครู โดยสมมติว่า นกั เรียนมาจากประเทศต่าง ๆ ในภมู ภิ าคอาเซียน เช่น
T: Hello. I’m Nalinee. I’m from Thailand.
S1: Hi. My name is Sabreena. I’m from Malaysia.
S2: Hi. I’m Charlie. I come from Cambodia. etc.
78
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยการถามนกั เรียนเกี่ยวกบั ศิลปิ นและดาราที่นกั เรียนชื่นชอบ เช่น Who’s your
favourite singer? Who’s your favourite actor?
3. ครูเขียนช่ือประเทศอาเซียนบนกระดาน และใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงช่ือประเทศเหลา่ น้ีใหถ้ กู ตอ้ ง เช่น
Myanmar the Philippines Malaysia Indonesia Brunei
Vietnam Thailand Cambodia Singapore
4. ครูบอกนกั เรียนวา่ Look at the pictures. Which person do you know? เพื่อถามความรู้เดิมวา่ นกั เรียน
รู้จกั ใครในภาพบา้ ง
กจิ กรรมเพมิ่ เตมิ
ครูอาจจะเปิ ดคลปิ ส้นั ๆ ของบุคคลทม่ี ชี ่ือเสียงในภมู ิภาคอาเซียนใหน้ กั เรียนดูกอ่ นเขา้ สู่บทเรียนไดท้ ี่
Japanom - https://www.youtube.com/watch?v=D0jL2vmaxiI
R Zarni - https://www.youtube.com/watch?v=gkl-5gqBFTc
Charice - https://www.youtube.com/watch?v=ju_A-T4ZjUo
Jaa Panom, Panom Yeerum หรือ Tony Jaa เป็นนกั แสดงชาวไทย เกิดเมื่อวนั ที่ 5 กุมภาพนั ธ์
พ.ศ. 2519 เขาเป็นที่รู้จกั จากภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก และ ต้มยาก้งุ กอ่ นหนา้ น้ีจา พนม
เคยเป็นนกั แสดงตวั แทน (stuntman) ในภาพยนตร์แนวตอ่ สู้หลายเร่ือง เช่น อินทรีย์แดง,
Mortal Kombat Annihilation ปัจจบุ นั จาพนมเป็นทรี่ ู้จกั ทวั่ โลกจากบทบาทการต่อสูใ้ น
ภาพยนตร์ Hollywood เรื่อง Furious 7
R Zarni เป็นนกั ร้องชาวเมียนมา เกิดเม่ือวนั ที่ 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2521 เขาเป็นที่
รู้จกั ในฐานะนกั ร้อง cover เพลงสากลและ k-pop เขาไดร้ บั รางวลั Most Popular
Male Recording Artist Award จากสถานีวทิ ยแุ ห่งเมอื งยา่ งกงุ้ ปัจจบุ นั R Zarni
เป็นนกั ร้องท่มี ีช่ือเสียง เขาไปแสดงคอนเสิร์ตในหลาย ๆ ประเทศ รวมถงึ ประเทศไทยดว้ ย
Charice Pempengco เป็นศิลปิ นหญิงชาวฟิลปิ ปิ นส์ เกิดเม่อื วนั ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2535
เธอเป็นที่รู้จกั จากการร้องเพลง cover ใน Youtube จนตอ่ มาเธอกลายเป็นนกั ร้องท่เี ป็นรู้จกั
ไปทว่ั โลกจากการร้องเพลงในรายการ The Oprah Winfrey Show ซ่ึงเป็นรายการชื่อดงั ของ
สหรฐั อเมริกา จนเธอมอี ลั บ้มั เป็นของตวั เองและกลายเป็นศิลปิ นหญงิ ชาวเอเชียคนแรกทมี่ ี
เพลงติดอนั ดบั 1 ใน 10 ของ Billboard Album Chart
ทีม่ า: https://en.wikipedia.org/wiki/Tony_Jaa
https://en.wikipedia.org/wiki/R_Zarni
https://en.wikipedia.org/wiki/Charice_Pempengco
79
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอประโยคคาถามท่ใี ชใ้ นการพูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั ขอ้ มลู ส่วนตวั ไดแ้ ก่ ประเทศ อาชีพ สีผม
สีตา โดยยกตวั อยา่ งบคุ คลทมี่ ีชื่อเสียงท่นี กั เรียนรู้จกั จากน้นั ถามคาถาม เช่น
T: Who is this?
Ss: He is Bird Thongchai.
T: What is his job?
Ss: He is a singer and he is an actor.
T: What does he look like?
Ss: He has got short black hair. He has got black eyes
and white teeth. etc.
2. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพบคุ คลในหนงั สือเรียน หนา้ 14 แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั พดู บรรยายลกั ษณะของ
บุคคลในภาพจนครบท้งั 3 คน เช่น
T: Has Charice got black hair?
Ss: No, she hasn’t. She has got brown hair.
T: Has Charice got dark brown eyes?
Ss: Yes, she has. etc.
3. ครูนาเสนอคาศพั ทช์ ่ือเรื่องโดยเขียน Superstars in Southeast Asia บนกระดาน จากน้นั ขีดเสน้ ใตค้ าวา่
Superstars แลว้ อธิบายว่า Superstar มาจากการรวมกนั ของ 2 คา คือ super (สุดยอด, ยอดเย่ียม) กบั
star (ดารา) เช่นเดียวกบั คาวา่ superman (ยอดมนุษย)์ , supermodel (นางแบบช้นั นา)
4. ครูนาเสนอคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวกบั เน้ือหา ไดแ้ ก่ famous (มีชื่อเสียง), wonderful (ยอดเย่ียม), popular
(เป็นทน่ี ิยม), international (ท่ีเป็นสากล), singer (นกั ร้อง), actor (นกั แสดงชาย), boxer (นกั มวย),
successful (ที่ประสบความสาเร็จ), nickname (ชื่อเลน่ ) และ surname (นามสกุล) โดยเขียนคาศพั ทบ์ น
กระดาน จากน้นั ครูวาดแผนผงั งา่ ย ๆ บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั แยกประเภทของคาศพั ท์ ดงั น้ี
Nouns Vocabulary Adjectives
singer, actor, boxer, famous, wonderful,
nickname, surname popular, international,
successful
80
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 1 ให้นกั เรียนดูตาราง จากน้นั ครูอธิบายภาระงาน โดยใหน้ กั เรียนอ่าน
เน้ือเรื่องในหนงั สือเรียนอกี คร้ัง จากน้นั ให้นกั เรียนเลอื กคามาเตมิ ในตารางใหส้ มบูรณ์ เสร็จแลว้
ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเขยี นเฉลยคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งบนกระดานอีกคร้งั
1) actor 4) Myanmar 7) Charice 10) dark brown
2) black 5) singer 8) the Philippines
3) black 6) brown 9) singer
2. ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั ฝึกพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ขอ้ มลู ของบคุ คลจากเร่ืองท่ีอา่ น เช่น ชื่อ ประเทศ อาชีพ
ตวั อยา่ ง
S1: What’s his name?
S2: His name is R Zarni.
S1: Where’s he from?
S2: He’s from Myanmar.
S1: What’s his job?
S2: He’s a singer.
S1: What hair colour has he got?
S2: He has got brown hair.
S1: What eye colour has he got?
S2: He has got brown eyes.
3. ใหน้ กั เรียนดูภาพของบคุ คลทมี่ ชี ่ือเสียงท้งั 3 คน แลว้ ใหน้ กั เรียนพูดเปรียบเทียบลกั ษณะหนา้ ตาของ
คนในประเทศอาเซียนว่ามลี กั ษณะคลา้ ยคลึงกนั อยา่ งไร โดยใชโ้ ครงสร้าง Most ASEAN people
have got …
ตวั อยา่ ง Most ASEAN people have got black eyes.
Most ASEAN people have got black and brown hair.
ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 2 ให้นกั เรียนคน้ ควา้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั นกั ร้องท่ีมีชื่อเสียง
ที่นกั เรียนช่ืนชอบในประเทศของตนเองจากอินเทอร์เน็ตหรือนิตยสาร จากน้นั นาขอ้ มูลมาเขยี น
บรรยายส้นั ๆ เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั ร 3-4 คน ออกมาพดู นาเสนอทหี่ นา้ ช้นั
81
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 12-13 หัวข้อ Modular Revision and Assessment 1
Exs. 1-6 โดยครูให้นกั เรียนทาพร้อมกนั ในเวลาเรียน
Narrator: Listen, colour and draw.
Woman: Can you see the dog’s ears? Colour the dog’s ears brown!
Boy: Brown ears? The dog’s got brown ears?
Woman: Yes!
Boy: OK!
Narrator: Can you see the dog’s brown ears? Now, you listen and colour.
One
Woman: Now look at the dog’s head.
Boy: What colour is the head?
Woman: The head is yellow.
Boy: A yellow head! That’s funny.
Two
Woman: Can you see the dog’s body?
Boy: Yes! What colour is it?
Woman: Orange! The dog’s got an orange body!
Boy: An orange body? OK!
Three
Woman: Find the dog’s legs.
Boy: The dog’s legs. Right.
Woman: Colour the legs red.
Boy: That’s easy! Red legs!
Four
Woman: Now, draw a fish under the dog.
Boy: Pardon? Draw what under the dog?
Woman: Draw a fish under the dog and colour it black.
Boy: OK, a black fish under the dog.
82
Ex. 1 3 teeth 5 nose
1 hair 4 mouth
2 eyes
Ex. 2
1f 2b 3d 4e 5c
Ex. 3 2 Bill has got big feet.
1 Have they got dark eyes? 4 Her cat has got green eyes.
3 I haven’t got fair hair.
5 Mary has got five children.
Ex. 4 3a
1a 2b
Ex. 5 legs - red
ears - brown black fish - under the dog
head - yellow
body - orange
Ex. 6
1T 2F 3T 4F 5F
83
7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูดขอและให้ขอ้ มลู แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เก่ียวกบั บคุ คลจากเรื่องท่ีอา่ น ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานเขียนบรรยาย แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เก่ียวกบั นกั ร้องที่ชื่นชอบ แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน แบบทดสอบ
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่ เรียนรู้และมุ่งมน่ั ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อนิ เทอร์เน็ต
84
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 CLIL 1 How many legs?
เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั จานวนขาของสัตวต์ า่ ง ๆ ได้
- เขียนประโยคขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวท์ ่ชี อบได้
- ปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ และเล่นเกมทางภาษาได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื น และครอบครวั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชี้วัด
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็ น
พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตัวชี้วัด
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ และนาเสนอดว้ ย
การพูด/การเขยี น
85
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั ว์ โครงสร้างถาม-ตอบเก่ียวกบั จานวน ช่วยให้พดู ขอและใหข้ อ้ มูล
เก่ียวกบั สาระการเรียนรู้อื่นได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Feathers and Functions
Structure: How many legs does a (cat) have?
Vocabulary: horse, cat, duck, spider, octopus, frog, elephant, dog, parrot, hippo,
monkey, lion, more than
Function: บอกจานวน
2) Language Skills
Speaking: พดู บอกจานวนขาของสัตวต์ ่าง ๆ
Writing: เขียนประโยคขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สตั วท์ ช่ี อบ
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดที่ใชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการจดั กลมุ่
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียนก่อนเขา้ สู่บทเรียน
2. ทบทวนตวั เลข โดยครูสุ่มเขยี นจานวนนบั บนกระดาน จากน้นั ให้นกั เรียนพูดบอกจานวนนบั ดงั กลา่ ว
เป็นภาษาองั กฤษ โดยครูบอกนกั เรียนว่า หากนกั เรียนตอ้ งการตอบให้ยกมือข้นึ โดยครูพูดวา่
If you know the answer, raise your hand. นกั เรียนคนใดยกมอื ตอบเร็วที่สุดจะไดเ้ ป็นผตู้ อบก่อน
86
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทท์ ี่อยใู่ นบทเรียน ไดแ้ ก่ octopus (ปลาหมกึ ยกั ษ)์ , chicken (ไก่), butterfly (ผีเส้ือ), dog
(สุนขั ), duck (เป็ด), donkey (ลา), crab (ป)ู , frog (กบ), spider (แมงมมุ ), snake (ง)ู และ elephant (ชา้ ง)
โดยติดบตั รภาพบนกระดาน จากน้นั ช้ีทคี่ าศพั ทท์ ลี ะคา ให้ฝึกออกเสียงตามครูพร้อมกนั และทีละคน
ครูให้นกั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคาท่มี ี 2 พยางค์ข้ึนไป ดงั น้ี
octopus chicken butterfly
donkey spider elephant
ต่อมาครูนาบตั รภาพสตั วม์ าติดบนกระดาน และพดู คาส่ัง Point to the _____. เพ่อื ใหน้ กั เรียนช้ีภาพสัตว์
ท่คี รูบอก เช่น
T: Point to the octopus.
Ss: (ช้ีทป่ี ลาหมึก)
T: Point to the butterfly.
Ss: (ช้ีท่ีผีเส้ือ)
2. ครูเขียนตารางต่อไปน้ีบนกระดาน
no legs 2 legs 4 legs 6 legs 8 legs
ครูเตรียมบตั รภาพรูปสตั วต์ า่ ง ๆ 9-10 ชนิด เช่น แมว สุนขั นก เป็นตน้ จากน้นั ชูบตั รภาพข้นึ มาและ
ถามนกั เรียนวา่ How many legs does a cat have? ครูใหน้ กั เรียนพูดตามครู 1-2 คร้งั และใหน้ กั เรียนตอบ
วา่ แมวมีกี่ขา เมอื่ ตอบถกู ตอ้ งให้ครูนาภาพไปติดไวใ้ นช่องจานวนขาของสตั วด์ งั กล่าว เสร็จแลว้ ครูแจก
บตั รภาพทีเ่ หลือให้นกั เรียนเพ่อื นาไปตดิ ในตารางใหถ้ กู ตอ้ ง
เมื่อตดิ บตั รภาพบนกระดานเสร็จแลว้ ครูถามนกั เรียนวา่ Which animals have got no legs? ให้นกั เรียนดู
ขอ้ มูลจากในตารางและพูดตอบ ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเร่ือย ๆ จนถามขอ้ มลู ในตารางครบทกุ ช่อง
ตอ่ มาครูเขยี นคาถาม How many legs does a ____ have? บนกระดาน และใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพอื่ น
ขา้ งเคยี ง ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั จานวนขาของสัตวใ์ นตารางอีกคร้งั
3. ครูสอนคาศพั ทท์ ่ีใชใ้ นการบวกเลขแบบง่าย ๆ กบั นกั เรียน เช่น
+ อา่ นวา่ plus
- อา่ นวา่ minus
= อา่ นวา่ equal
87
ต่อมาครูเขยี นโจทยง์ า่ ย ๆ บนกระดาน และใหน้ กั เรียนฝึกอ่านเป็นภาษาองั กฤษ เช่น
1+1 = 2 (one plus one equals two)
6-5 = 1 (six minus five equals one)
ข้นั Practice
1. แบบฝึ กหัด หน้า 64 Ex. 1 ครูให้เวลานกั เรียนดูภาพและขอ้ ความที่ให้มา จากน้นั ครูอธิบายภาระงานให้
นกั เรียนฟัง โดยครูช้ีไปท่ภี าพแมงมมุ และถามนกั เรียนวา่ What is this? เม่อื นกั เรียนตอบว่า A spider.
ครูถามต่อว่า How many legs does a spider have? จากน้นั ครูให้เวลานกั เรียนนบั จานวนขาของแมงมมุ
และตอบคาถามวา่ A spider has got eight legs. ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเรื่อย ๆ จนครบทกุ ขอ้
a more than 6 legs d 6 legs
b 2 legs e no legs
c 4 legs
กจิ กรรมเพิม่ เติม
สัตวท์ ีม่ ีมากกว่า 6 ขา ครูอาจจะสอนให้นกั เรียนพูดตอบโดยใช้ more than เช่น A spider
has got more than six legs.
2. แบบฝึ กหดั หน้า 64 Ex. 2 ครูอ่านคาสั่งและอธิบายภาระงาน จากน้นั ช้ีไปทต่ี วั อยา่ งและอา่ นใหน้ กั เรียน
ฟัง ครูถามคาถาม How many legs does a horse have? เม่ือนกั เรียนตอบวา่ Four. ครูถามตอ่ วา่
How many legs does a cat have? จากน้นั ครูเขยี นคาตอบท้งั 2 ขอ้ บนกระดาน และให้นกั เรียนบวกเลข
จานวนขาท้งั หมด (4 + 4 = 8) ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ ท่ีเหลอื เสร็จแลว้ ครูเขียนคาตอบบน
กระดานและให้นกั เรียนสลบั กนั ตรวจคาตอบกบั เพ่ือน
2 sixteen 3 twelve 4 eight
5 ten 6 six
3. ใหน้ กั เรียนดูภาพสัตวต์ ่าง ๆ อีกคร้งั แลว้ จบั คูก่ นั ผลดั กนั พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั จานวนขาของสัตวใ์ น
ภาพ
S1: How many legs does a horse have?
S2: Four.
88
4. แบบฝึ กหดั หน้า 65 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนจบั คู่เลน่ เกม Board Game เพ่อื ทบทวนจานวนขาของสตั วท์ ี่ได้
เรียนมาแลว้ โดยครูอธิบายวิธีการเล่นเกมและให้นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียนตามไปดว้ ย จากน้ันครู
แนะนาคาศพั ทแ์ ละสานวนทใ่ี ชใ้ นการเลน่ เกม เช่น Start. Finish. Miss a turn. Play again. Go back
to start.
วิธีการเลน่ เกม
1) นกั เรียนเตรียมอุปกรณ์ในการเล่น ไดแ้ ก่ ลูกเต๋า 1 ลูก และตวั เดินเท่าจานวนผเู้ ล่นซ่ึงมีสีหรือ
ลกั ษณะแตกตา่ งกนั
2) นกั เรียนเริ่มเล่นเกม โดยผเู้ ลน่ คนใดก็ไดเ้ ป็นคนทอดลกู เต๋า แลว้ ใชต้ วั เดินเดินไปตามช่องเทา่
จานวนแตม้ ทไ่ี ด้ ถา้ ไปหยดุ ทช่ี ่องใดให้บอกจานวนขาของสัตวช์ นิดน้นั ผทู้ ่ีเดินไปถงึ ช่อง
Finish กอ่ นเป็นฝ่ายชนะ
ครูอาจทาใหเ้ กมสนุกสนานมากข้ึนดว้ ยการให้นกั เรียนเล่นเกม Rock, Paper, Scissors
เพือ่ เสี่ยงทายว่าใครจะเป็นผทู้ อดลูกเต๋า
1 octopus: 8 legs (more than 6 legs)
2 chicken: 2 legs
3 Students play again.
4 butterfly: 6 legs
5 dog: 4 legs
6 duck: 2 legs
7 Students miss a turn.
8 donkey: 4 legs
9 crab: 10 legs (more than 6 legs)
10 frog: 4 legs
11 Students go back to start.
89
ข้นั Production
ให้นกั เรียนทางานคู่ คน้ หาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ตหรือหนงั สือเก่ียวกบั สัตว์
ชนิดอ่ืน ๆ นอกเหนือจากทีเ่ รียนอกี 5 ชนิด จากน้นั ให้นกั เรียนแต่งบทพูดถาม-ตอบเก่ียวกบั จานวนขา
ของสัตวแ์ ตล่ ะชนิด เสร็จแลว้ ให้ออกมาพดู สนทนาทหี่ นา้ ช้นั
ตวั อยา่ ง S1: How many legs does a giraffe have?
S2: A giraffe has got four legs.
7. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ การพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้
วธิ กี ารวดั ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มูล แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เก่ียวกบั จานวนขาของสตั ว์ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขียนประโยคขอ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
และใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั สตั วท์ ช่ี อบ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหดั ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการปฏิบตั ติ ามคาสัง่ และ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้
เล่นเกมทางภาษา ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมน่ั ในการ
ทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
90
2 Something to Eat
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง
1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ท่ีฟังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าส่งั คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความช่วยเหลอื ในสถานการณ์
ง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน และครอบครวั
ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ
ตามแบบท่ีฟัง
91
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขยี น
ตัวชีว้ ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของสิ่งต่าง ๆ ใกลต้ วั ตามทฟี่ ังหรืออ่าน
สาระท่ี 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชี้วดั
ต 2.1 ป.4/1 พูดและทาทา่ ประกอบอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ ของ
เจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพอื่ นามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชี้วัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตัวชี้วัด
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ และนาเสนอดว้ ย
การพดู /การเขียน
92
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลย่ี นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตวั ชี้วดั
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเร่ืองทีไ่ ดศ้ ึกษา คาศพั ทส์ านวนและโครงสร้างภาษา หลกั วธิ ีการเขียน ช่วยใหส้ นทนา
เขยี นโตต้ อบ พูด/เขยี นส่ือสารเก่ียวกบั อาหาร และสถานการณ์ท่ีกาหนดไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Is there any cake? Yes, there is. Are there any chips? Yes, there are.
Vocabulary: What can I get you? Can I have a pizza and some salad, please?
Thank you!
Are there any eggs? No, there aren’t. There’s some milk.
There are some tomatoes, but there aren’t any apples.
In the UK, people usually have a bowl of cereal and a cup of tea in
the mornings.
Which food group are tomatoes? Tomatoes are in vegetables group.
(food and drinks) chicken, fish, cheese, rice, bread, hot dog,
sausage, pizza, cake, ice cream, chips, salad, bacon, toast, cereal,
waffle, cream, muffin, orange juice, milk, water, coffee, tomatoes,
banana, apples, blueberry, rambutans, durians, mangosteens
(food groups) grain group, vegetable group, milk group, fat and
sweets group, meat and fish group, fruit group
93
(meals) breakfast, lunch, dinner, brunch, supper
(nouns) bowl, cup
(adjectives) popular, sweet, thirsty, hungry, bright, thick, juicy,
creamy, purple
Pronunciation: ออกเสียง /r/ และ /l/, ออกเสียงสูง-ต่า (intonation) ในภาษาองั กฤษ,
ออกเสียง /dʒ/, ออกเสียง /ʃ/ และ /tʃ/, ออกเสียงคาทขี่ ้ึนตน้ ดว้ ย cl,
ออกเสียงคาท่ีข้ึนตน้ ดว้ ย br
Functions: ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาหาร, เสนอ ตอบรบั และปฏิเสธอาหาร,
สง่ั อาหารในร้านอาหาร, ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อาหารเชา้ ทต่ี นเอง
รบั ประทานหรือตอ้ งการรบั ประทาน, ใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาหารและ
กลมุ่ ของอาหาร
2) Language Skills
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาหาร, พดู เสนอ ตอบรับ และปฏิเสธ
เกี่ยวกบั อาหาร, พูดส่ังอาหารง่าย ๆ ในร้านอาหาร, พดู บอกส่ิงท่มี ี
และไมม่ ี, พดู ใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั อาหารเชา้ ทต่ี นเองรบั ประทานหรือ
ตอ้ งการรบั ประทาน, พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ผลไมใ้ นภูมิภาค
อาเซียน, พดู ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั อาหารและกลุม่ ของอาหาร
Writing: เขยี นบรรยายส่ิงทมี่ ีและไม่มีในตูเ้ ยน็ , เขียนบรรยายสิ่งของที่มีและ
ไมม่ ีในตเู้ ยน็ ของตนเอง, เขียนบรรยายผลสารวจอาหารท่ชี ่ืนชอบ,
เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาหารเชา้ ทตี่ นเองรบั ประทาน, เขยี นบรรยาย
ส้ัน ๆ เกี่ยวกบั ผลไมใ้ นประเทศอาเซียน
3) Culture: มารยาทของคนองั กฤษ, อาหารเชา้ แบบองั กฤษและแบบอเมริกนั ,
ผลไมใ้ นประเทศอาเซียน
4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทีใ่ ชใ้ นการสื่อสาร
94
- ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
- ทกั ษะการจดั กลมุ่
- ทกั ษะการให้เหตผุ ล
- ทกั ษะการสารวจ
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
5 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. การพูดขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั อาหาร โดยใชโ้ ครงสร้าง Are there/Is there …?
2. ช้ินงานบตั รภาพและบตั รคาเกี่ยวกบั อาหาร
3. ช้ินงานแผนท่คี วามคดิ คาศพั ทค์ านามนบั ไดแ้ ละนบั ไมไ่ ด้
4. การสนทนาเก่ียวกบั อาหารทม่ี ีและไมม่ ีในตูเ้ ยน็
5. การพูดนาเสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธเก่ียวกบั อาหาร
6. การพดู สนทนางา่ ย ๆ ในร้านอาหาร
7. การพดู แสดงบทบาทสมมติในร้านอาหาร
8. ช้ินงานการเขยี นบรรยายสิ่งของท่ีมแี ละไมม่ ีในตูเ้ ยน็ ของตนเอง
9. ชิ้นงานการสารวจเก่ียวกบั อาหารทช่ี ่ืนชอบ
10. ช้ินงาน Breakfast in Thailand
11. ชิ้นงานผลไมใ้ นภูมิภาคอาเซียน
12. ช้ินงานโปสเตอร์ Food groups
95