The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:42:24

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบเก่ียวกบั กิจกรรมทเี่ พ่ือนทาเป็นประจา ครูให้เวลา

นกั เรียนฝึกพูดจนคลอ่ ง จากน้นั ครูให้นกั เรียนออกมาพดู ถาม-ตอบทหี่ นา้ ช้นั
ตวั อยา่ ง S1: Do you play football on Mondays?

S2: Yes, I do. /No, I don’t. I watch TV. etc.
2. ให้นกั เรียนทางานคู่ เลอื กตวั การ์ตนู ที่นกั เรียนชื่นชอบมา 3 ตวั จากน้นั ให้นกั เรียนถามคาถามเกี่ยวกบั

กิจวตั รประจาวนั ของตวั การ์ตนู ดงั กล่าว พร้อมท้งั เขียนตอบดว้ ย โดยใชก้ ิจกรรมใน Ex. 3 เป็นตน้ แบบ
เมื่อเขียนเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนฝึกพดู ถาม-ตอบกนั เกี่ยวกบั ขอ้ มลู ของตวั การ์ตนู ทน่ี กั เรียนทาไวด้ ว้ ย
โดยอาจจบั ค่กู บั นกั เรียนอกี คหู่ น่ึงกไ็ ด้

(ตวั อยา่ ง)

Does Conan play basketball on Mondays?
No, he doesn’t. He plays football.

Does Elsa have a guitar lesson on Fridays?
No, she doesn’t. She has a piano lesson.

Does Naruto tidy his room on Sundays?
No, he doesn’t. He goes to the cinema.

3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 35 Exs. 3-4 เป็นการบา้ น

Ex. 3

a2 b3

2 visits 3 play

Ex. 4

2 Does Lin watch TV in the evening?

No, she doesn’t. She goes to bed.

3 Does Fiona visit her grandmother on Fridays?

No, she doesn’t. She has a dance lesson on Fridays.

4 Does Phil tidy his room every afternoon?

No, he doesn’t. He watches TV.

296

7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้
วธิ กี ารวดั แบบประเมินการเขยี น ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและให้ขอ้ มูล ระดบั คุณภาพ พอใช้
เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของผอู้ ่นื แบบประเมินช้ินงาน ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี นขอและใหข้ อ้ มลู
เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ของตวั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
การ์ตนู ท่ีชอบ ผ่านเกณฑ์
ประเมินแผ่นป้ายประกาศ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจการเขียนประโยคตรงตาม แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ความหมายของภาพ แบบทดสอบ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ
และมุง่ มน่ั ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.4 อปุ กรณ์ทาช้ินงาน
8.5 อินเทอร์เนต็

297

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 It’s one o’clock. It’s time for lunch!

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กิจกรรมทที่ าเป็นประจาได้
- สนทนาเก่ียวกบั เวลาและกิจกรรมท่ที าเป็นประจาได้
- เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของตนเองได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด

เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณห์ รือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ีฟังหรืออา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ัด

ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น และครอบครวั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดย

การพดู และการเขียน

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชี้วัด

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั

298

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ทเี่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างท่ใี ชข้ อและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั เวลาและกิจกรรมท่ีทาเป็นประจา ช่วย

ให้สนทนา พูด/เขยี นส่ือสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Structure: What time is it? it’s one o’clock. It’s time for lunch!

Vocabulary: Days of the week, wake up, get up, go to school, play basketball,

o’clock, breakfast, lunch, dinner, break, school, bed

Pronunciation: ลงเสียงหนกั ในคา (word stress)

Function: ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เวลาและกิจกรรมทท่ี าเป็นประจา

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั เวลาและกิจกรรมที่ทาเป็นประจา

3) Culture: การบอกเวลา

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดที่ใชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

299

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียนในช้นั โดยพูดว่า Hello. How are you today? ให้นกั เรียนพูดทกั ทายกลบั
2. ทบทวนตวั เลข 1-20 โดยให้นกั เรียนนบั เลข 1-20 เป็นภาษาองั กฤษพร้อมกนั หรือครูอาจให้นกั เรียน

ทน่ี ง่ั อยแู่ ถวหนา้ เป็นผูเ้ ร่ิมนบั 1 ก่อน จากน้นั ให้นกั เรียนคนถดั ไปนบั เลขไปเรื่อย ๆ จนถึงคนที่ 20
คนที่ 21 จะเร่ิมนบั 1 ใหม่
3. ทบทวนคาศพั ทท์ ีข่ ้ึนตน้ และลงทา้ ยดว้ ยเสียง /f/ ดว้ ยบตั รคา โดยครูชูบตั รคาข้ึนมา แลว้ ให้นกั เรียน
ช่วยกนั อา่ นออกเสียงพร้อมกนั เช่น farmer, farm, fight, fall, food, fruit, feed, family

ข้นั Presentation
1. นาเสนอเร่ืองการบอกเวลาโดยครูเปิ ดคลิปวดิ ีโอหรือเพลงเก่ียวกบั เรื่องเวลาให้นกั เรียนดูจากเวบ็ ไซต์

www.youtube.com

ครูสามารถเปิ ดคลปิ วิดีโอบทสนทนาส้นั ๆ หรือเพลงเก่ียวกบั เร่ืองเวลาจาก www.youtube.com
ดงั น้ี
ชื่อคลปิ : [Time] What time is it? Time for breakfast. - Easy Dialogue - English video for Kids
หรือเขา้ ไปท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=J9_Uknk4avE&list=PLii5rkhsE0Ld3xCgxG6j5fw7RlG2S
5czO&index=34
ชื่อคลิป: What time is it now? It's ten o'clock. (Time song) - Education English song for Kids -
Sing a song หรือเขา้ ไปที่
https://www.youtube.com/watch?v=f6r1K8jAt2k&index=41&list=PLii5rkhsE0LfdEA-
fCg3qii9hI3LlgGTO

2. ครูนานาฬิกาจาลองมาแสดงใหน้ กั เรียนดู และถามว่า What is this? เม่อื ไดค้ าตอบวา่ It’s a clock. แลว้
ครูอธิบายวา่ การบอกเวลาเป็นชว่ั โมงให้ดูทเ่ี ขม็ ส้นั ส่วนนาทีใหด้ ูที่เขม็ ยาว จากน้นั ครูหมนุ เข็มยาวไปที่
เลข 12 และเข็มส้ันของนาฬกิ าไปท่เี ลข 1
ครูถามเวลานกั เรียนดงั น้ี
T: What time is it?
S1: It’s one o’clock.

300

ครูเขียนประโยคถาม-ตอบบนกระดาน และอธิบายวา่ ในการถามเวลา เรามกั จะใชค้ าตอบว่า What time
is it? หรือ What is the time? ก็ได้ ส่วนในการบอกเวลา ถา้ เป็นเวลาตรงท่ไี มม่ ีเศษนาที เราจะใชค้ าวา่
o’clock ครูใหน้ กั เรียนออกเสียง o’clock ตามครูหลาย ๆ คร้งั โดยให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาว่า
clock ส่วน o ใหอ้ อกเสียงรูป weak form ซ่ึงจะออกเสียงเป็น /ə/

o’clock ออกเสียงเป็น /əˈklɒk/
จากน้นั ครูเปลี่ยนตาแหน่งของเขม็ ส้นั ของนาฬิกาจากเลข 1 ไปเป็นเลข 2-12 ตามลาดบั แลว้ ครูพูดถาม
เวลา นกั เรียน เช่น

T: What time is it?
S1: It’s two o’clock.
ต่อมาครูเปลย่ี นตาแหน่งของเขม็ ส้ันนาฬิกา โดยไม่เรียงตามลาดบั เวลา แลว้ สุ่มเรียกให้นกั เรียนพูดบอก
เวลา ครูสังเกตการพูดบอกเวลาของนกั เรียน โดยถา้ มีนกั เรียนที่พดู บอกเวลาไม่คลอ่ ง ใหน้ กั เรียนฝึกพดู
กบั ครูนอกเวลาเรียน เพ่ือหาสาเหตุ เพราะนกั เรียนอาจจะพดู บอกเวลาไมไ่ ด้ อนั เน่ืองมาจากหลายสาเหตุ
เช่น ดนู าฬกิ าไม่เป็น หรือจดจาวิธีบอกเลขในภาษาองั กฤษไมไ่ ด้ เป็นตน้
ครูนานาฬกิ าจาลองมาแสดงอีกคร้ัง จากน้นั หมุนเขม็ นาฬิกาไปทเ่ี วลา 07:00 น.

ครูถามเวลานกั เรียน และใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกเวลาว่าเรามกั จะทาอะไรในเวลาดงั กลา่ ว โดยครูแสดง
ทา่ ทางประกอบ เช่น

T: Look at the clock. What time is it?
Ss: It’s 7 o’clock.
T: What do you do at 7 o’clock? (ครูทาทา่ ทาง กาลงั กินขา้ ว)
Ss: We have breakfast.
T: Correct. It’s 7 o’clock. It’s time for breakfast. Repeat after me.
Ss: It’s 7 o’clock. It’s time for breakfast.
ครูเขียนประโยค It’s time for breakfast. บนกระดาน และอธิบายว่า เราสามารถเขียนประโยคไดอ้ กี
รูปแบบหน่ึง คือ It’s time to have breakfast. โดยใหน้ กั เรียนจดจาไวว้ า่
For + คานาม
To + คากริยา

301

ตอ่ มาครูเปลีย่ นตาแหน่งเข็มส้ันของนาฬกิ าไปที่เวลา 10:00, 12:00, 06:00 และ 09:00 ตามลาดบั เพ่อื ให้
นกั เรียนฝึกพดู บอกเวลา และโครงสร้าง It’s time for + คานาม./to +คากริยา เช่น

It’s 3 o’clock. It’s time for break./It’s time to have break.
It’s 12 o’clock. It’s time for lunch./It’s time to have lunch.
It’s 6 o’clock. It’s time for dinner./It’s time to have dinner.
It’s 9 o’clock. It’s time for bed./It’s time to go to bed.
ครูอธิบายเพิ่มเตมิ ว่า ในภาษาพดู เช่น เพ่ือนพดู กบั เพ่ือนหรือ พดู กบั คนในครอบครวั เราสามารถละ It’s
ได้ เช่น Time for breakfast/break/lunch/dinner/bed.
3. นาเสนอคาศพั ทท์ เี่ ก่ียวขอ้ งกบั ชีวติ ประจาวนั ไดแ้ ก่ breakfast (ม้ือเชา้ ), lunch (ม้ือกลางวนั ), dinner
(ม้อื เยน็ ), break (ช่วงพกั ), school (โรงเรียน), bed (เตยี งนอน) โดยครูเขยี นตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน
I have breakfast at 7 o’clock.
I have lunch at 12 o’clock.
We have break between lessons at school. We usually have break at 10 o’clock in the morning and
3 o’clock in the afternoon.
I go to school at 6 o’clock.
I go to bed at 9 o’clock.
ครูอธิบายว่า go to bed มคี วามหมายวา่ เขา้ นอน จากน้นั ครูออกเสียงใหน้ กั เรียนฟังและพูดตามพร้อมกนั
หรือทลี ะคน ครูย้าใหน้ กั เรียนสงั เกต ขณะครูออกเสียง breakfast และ dinner วา่ เนน้ หนกั ทพี่ ยางคใ์ ด

การลงเสียงหนกั ในคา (word stress)

คนไทยมกั จะนาเอาหลกั การออกเสียงภาษาไทยไปใชใ้ นภาษาองั กฤษซ่ึงไมถ่ ูกตอ้ งนกั

เพราะภาษาไทยจดั ว่าเป็น syllable-timed language ซ่ึงเป็นภาษาที่มกี ารเนน้ หนกั ทพี่ ยางค์

ทุกคาในประโยค ในขณะท่ภี าษาองั กฤษเป็น stress-timed language ซ่ึงเป็นภาษาท่ี

เนน้ หนกั เฉพาะพยางคบ์ างคา (word stress) หรือคาทต่ี อ้ งการเนน้ ในประโยค (sentence

stress) ส่วนคาหรือพยางคท์ ่ีไมล่ งเสียงหนกั กจ็ ะมกี ารลดเสียงสระและพดู รวบเหมอื นพดู อยู่

ในลาคอ ตวั อยา่ งการลงเสียงหนกั ในคา เช่น

breakfast dinner cinema

lesson basketball favourite

doctor teacher grandfather

ทมี่ า: http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?id=96915

302

4. ครูเขียนตารางกิจวตั รประจาวนั ของเด็กชาย Peter บนกระดาน จากน้นั ครูพดู ถามเวลาและใหน้ กั เรียน
พดู บอกเวลาและกิจกรรมที่ Peter ทาในเวลาตา่ ง ๆ โดยใชโ้ ครงสร้าง It’s time to … . ตวั อยา่ งเช่น

07:00 have breakfast
08:00 go to school
10:00 take a break
12:00 have lunch
04:00 go home
07:00 have dinner
09:00 go to bed

T: (ช้ีไปท่เี วลา 7 นาฬิกา) What time is it?
Ss: It’s seven o’clock. It’s time to have breakfast.

T: (ช้ีไปท่เี วลา 8 นาฬกิ า) What time is it?
Ss: It’s eight o’clock. It’s time to go to school.

T: (ช้ีไปที่เวลา 10 นาฬกิ า) What time is it?
Ss: It’s ten o’clock. It’s time to have break.
5. ครูลบคากริยาในตารางบนกระดาน ใหเ้ หลอื แตค่ านาม ดงั น้ี

07:00 breakfast
08:00 school
10:00 break
12:00 lunch
04:00 home
07:00 dinner
09:00 bed

จากน้นั ครูพดู ถามเวลา และใหน้ กั เรียนพดู บอกเวลาและกิจกรรมอกี คร้ัง โดยใช้โครงสร้าง It’s time
for … . เช่น

T: (ช้ีไปที่เวลา 7 นาฬิกา) What time is it?
Ss: It’s seven o’clock. It’s time for breakfast.

303

T: (ช้ีไปทเี่ วลา 8 นาฬกิ า) What time is it?
Ss: It’s eight o’clock. It’s time for school.

T: (ช้ีไปที่เวลา 10 นาฬกิ า) What time is it?
Ss: It’s ten o’clock. It’s time for a break.

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 42 Ex. 5 ครูอ่านคาสัง่ What’s the time? Complete. Then listen, point and repeat.

จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 2-3 คร้ัง เพือ่ ใหน้ กั เรียนเตมิ คาตอบใหถ้ ูกตอ้ ง เมอ่ื จบ CD แตล่ ะคร้งั
ครูใหเ้ วลานกั เรียนเขียนคาตอบดว้ ย โดยระหว่างทท่ี าน้นั ครูเดินสงั เกตการทางานของนกั เรียน

It’s one o’clock. It’s two o’clock.

It’s three o’clock. It’s four o’clock.

It’s five o’clock. It’s six o’clock.

It’s seven o’clock. It’s eight o’clock.

It’s nine o’clock. It’s ten o’clock.

It’s eleven o’clock. It’s twelve o’clock.

breakfast, lunch, dinner, break, school, bed

2 - It’s two o’clock. 8 - It’s eight o’clock.
3 - It’s three o’clock. 9 - It’s nine o’clock.
4 - It’s four o’clock. 10 - It’s ten o’clock.
5 - It’s five o’clock. 11 - It’s eleven o’clock.
6 - It’s six o’clock. 12 - It’s twelve o’clock.
7 - It’s seven o’clock.

เมื่อนกั เรียนส่วนใหญ่เขียนคาตอบเสร็จแลว้ ครูวาดภาพนาฬกิ าบนกระดาน เหมือนอยา่ งในหนงั สือ-
เรียน และสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขยี นคาตอบ ครูให้นกั เรียนท่เี หลือช่วยกนั ตรวจคาตอบ เสร็จแลว้
ครูเปิ ด CD อีกคร้งั ช้ีทีค่ าตอบแตล่ ะขอ้ และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตามพร้อม ๆ กนั และทีละคน

304

กจิ กรรมเพิม่ เตมิ

ครูใชน้ าฬกิ าจาลอง โดยหมนุ เขม็ นาฬกิ าไปทเ่ี วลาตา่ ง ๆ แลว้ ใหน้ กั เรียนในห้องพูดถามเวลา

พร้อม ๆ กนั วา่ What time is it? แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน พดู บอกเวลา ครูทากิจกรรม

เช่นน้ีไปเรื่อย ๆ จนนกั เรียนสามารถพูดถามและบอกเวลาไดค้ ล่อง

2. หนังสือเรยี น หน้า 42 Ex. 6 ครูให้นกั เรียนอ่านคาศพั ทท์ ใ่ี ห้มาตามครู แลว้ ใหน้ กั เรียน 2 คนอ่านตวั อยา่ ง

คาถามและคาตอบที่ให้มา จากน้นั ครูให้นกั เรียนเขียนเวลาท่ีนกั เรียนทากิจกรรมทีก่ าหนดให้ และให้

นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ ฝึกพดู ถาม-ตอบ

ตวั อยา่ ง S1: What time is it?

S2: It’s nine o’clock. It’s time for school.

S1: What time is it?

S2: It’s twelve o’clock. It’s time for lunch. etc.

การบอกเวลาแบบไทยและองั กฤษมคี วามแตกตา่ งกนั ในประเทศไทยจะเร่ิมต้งั แต่เวลา
00.00-24.00 น. แตอ่ งั กฤษจะใชร้ ะบบเลข 1-12 แลว้ ตามดว้ ย am หรือ pm แทน
• am คือ เวลาต้งั แต่หลงั เทย่ี งคนื ถึงกอ่ นเทย่ี งวนั (00.00 am - 11.59 am)
• pm คอื เวลาต้งั แตห่ ลงั เที่ยงวนั ถงึ กอ่ นเทยี่ งคืน (12.00 pm - 11.59 pm)
หากเป็นเวลาเท่ยี งตรงชาวองั กฤษจะใชค้ าวา่ noon และเวลาเที่ยงคืนใหใ้ ชค้ าวา่ midnight แทน
ตวั อยา่ ง I have breakfast at 6 am. (ฉนั รบั ประทานอาหารเชา้ เวลา 06.00 น.)

She goes to bed at 9 pm. (เธอเขา้ นอนเวลา 21.00 น.)
ทีม่ า: http://www.dailyenglish.in.th/whats-the-time/

กิจกรรมเพิม่ เตมิ
ครูเตรียมนาฬิกา 3 เรือน จากน้นั แบง่ นกั เรียนออกเป็น 3 กล่มุ ครูแจกนาฬกิ าใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ กล่มุ ละ 1
เรือน ต่อมาครูอธิบายวา่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมายนื ถอื นาฬกิ าทคี่ รูแจกให้ เมอื่ ครูพดู บอกเวลา
เช่น It’s three o’clock. ให้ตวั แทนแต่ละกลุ่มหมนุ เข็มนาฬิกาตามเวลาทคี่ รูบอกและพดู บอกกิจกรรมท่ี
ตนเองทา ณ ช่วงเวลาน้ี เช่น It’s three o’clock. It’s time to go home. กลมุ่ ทีพ่ ูดบอกเวลาและกิจกรรมท่ี
ทาไดถ้ ูกตอ้ งมากท่สี ุดเป็นกลุ่มทีช่ นะ

305

โดยปกตแิ ลว้ เราจะลงเสียงต่า (falling intonation) เมอ่ื ตอ้ งการจบประโยค เช่น I go to school

at 7 o’clock. Anne likes cake. นอกจากน้ีเรายงั ลงเสียงต่าในประโยคคาถามแบบ Wh-questions

ดว้ ย

ตวั อยา่ ง What time is it? What do you do on Mondays?

When does the bus arrive?

ครูแนะนาคลปิ วดิ ีโอเพลงเกี่ยวกบั เรื่องการบอกเวลา ให้นกั เรียนไปเปิ ดฟังและฝึกฝนดว้ ย
ตนเองนอกเวลาจากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=0Yq_rztquuU
หรือเขา้ ไปท่ี www.youtube.com และพิมพช์ ่ือคลิป What time is it? Song for kids (By Dream
English Kids)

ครูให้นกั เรียนที่ยงั พูดบอกเวลาไม่คล่อง ทากิจกรรมที่เวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/games/whats-the-time
หรือครูอาจดาวนโ์ หลดใบงานง่าย ๆ เกี่ยวกบั การบอกเวลาจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.superteacherworksheets.com/time.html

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนเขยี นบนั ทกึ ประจาวนั ของตนเอง (My diary) โดยเขียนบรรยายกิจกรรม

ท่ที า ณ เวลาต่าง ๆ ใน 1 วนั พร้อมวาดภาพประกอบดว้ ย เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนออกมาอ่านบนั ทกึ
ประจาวนั ของตนเองให้เพ่อื นฟังหนา้ ช้นั
ตวั อยา่ ง It’s seven o’clock. It’s time to go to school.

It’s eleven o’clock. It’s time for break.
It’s one o’clock. It’s time for lunch
It’s four o’clock. It’s time to play football.
It’s five o’clock. It’s time to wash the dog. etc.

306

2. ครูถามนกั เรียนวา่ รู้จกั เรื่อง Cinderella หรือไม่ แลว้ ให้นกั เรียนที่รู้จกั เล่าเร่ืองคร่าว ๆ ใหเ้ พอ่ื นฟัง
จากน้นั ครูอธิบายวา่ ครูจะเปิ ดคลิปวิดีโอเร่ือง Cinderella - What time is it? (จาก www.youtube.com)
ให้นกั เรียนดู ซ่ึงเป็นการ์ตูนส้นั ๆ ท่ีปรบั มาจากเร่ือง Cinderella แต่จะเนน้ เร่ืองการบอกเวลา เมอ่ื
นกั เรียนดูจบแลว้ ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน ซ่ึงจะมตี วั ละครไดแ้ ก่ stepmom (แม่เล้ยี ง),
stepsister 1 (พ่ีสาว/นอ้ งสาวตา่ งมารดา), stepsister 2 (พสี่ าว/นอ้ งสาวตา่ งมารดา), Cinderella (ซินเดอ-
เรลลา), fairy (นางฟ้า), prince (เจา้ ชาย) เมอื่ นกั เรียนแบ่งบทบาทกนั เสร็จแลว้ ครูนาบทสนทนาจาก
เรื่องดงั กล่าวมาแจกใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ซ่ึงครูควรเปลีย่ นเวลาในบทสนทนาให้เป็น o’clock ท้งั หมด สุดทา้ ย
ครูใหเ้ วลานกั เรียนปรึกษาและฝึกซอ้ มกนั ส้ัน ๆ และให้นกั เรียนไปฝึกซอ้ มตอ่ นอกเวลาเรียน
แลว้ นดั หมายเวลาเพื่อมาแสดงใหค้ รูดู
Cinderella - What time is it?
Stepmom: What time is it?
Stepsister 1: It’s 12 o’clock.
Stepsister 2: Time for lunch.
Stepmom: Cinderella, lunch time.
Cinderella: Okay. Coming!
Stepsister 1: What time is it?
Stepsister 2: It’s 5:30.
Stepmom: It’s party time.
Stepsister 1: Let’s go.
Cinderella: Please wait for me.
Fairy: Cinderella, close your eyes.
Fairy: Open your eyes, please.
Cinderella: Wow! Thanks.
Fairy: You’re welcome. Party time, Cinderella.
Prince: Time for dancing.
Cinderella: What time is it?
Prince: It’s 11 o’clock
Cinderella: Oh, no! It’s late. Good night!
Prince: Please wait for me.
ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=BBRtA5vQfWg

307

3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 36 Exs. 5-6 เป็นการบา้ น

Ex. 5

1 It’s seven o’clock. 2 It’s three o’clock.
4 It’s twelve o’clock.
3 It’s five o’clock.
6 walks
Ex. 6

2 visits 4 goes to bed

3 does 5 has breakfast

7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่าน
วธิ กี ารวดั เกณฑ์
ประเมินการเขียนบนั ทึกประจาวนั แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่าน
ของตนเอง (My diary) เกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มูล แบบประเมินการแสดงบทบาท ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ น
เก่ียวกบั เวลาและกิจกรรมที่ทา สมมติ เกณฑ์
ประเมินการแสดงบทสนทนาเร่ือง แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
Cinderella - What time is it? แบบทดสอบ
ตรวจการเลือกคาศพั ทต์ รงตาม แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่าน
ความหมายของภาพ ประสงค์ เกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมุง่ มน่ั ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อินเทอร์เนต็

308

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 What does Jack Michaels do at six o’clock?

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ฟังและเติมคาได้
- พูดและเขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ได้
- พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั และเวลาได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

ตัวชีว้ ัด อย่างมเี หตผุ ล
ต 1.1 ป.4/2
อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพดู
ต 1.1 ป.4/4 เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น และครอบครัว

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดย

การพูดและการเขยี น

ตัวชีว้ ดั

ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชีว้ ัด

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกบั วยั

309

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างภาษาและสานวนท่ีใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั และ

เวลา ช่วยให้สนทนา และพดู /เขยี นส่ือสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: What does Jack Michaels do at six o’clock? He gets up.
Vocabulary: Days of the week, meals, wake up, get up, go to school, play basketball,
o’clock, break, school, bed
Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั และเวลา
2) Language Skills
Listening: ฟังและเตมิ คาได้
Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั และเวลา

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทใ่ี ชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน

310

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน How are you today? จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน พูดตอบครูโดยท่ี

คาตอบของนกั เรียนแต่ละคนตอ้ งไมซ่ ้ากนั เช่น

T: How are you today?

S1: I’m OK.

T: How are you today?

S2: I’m not fine. etc.

2. ทบทวนการลงเสียงหนกั ในคา (word stress) โดยครูเขยี นคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน

breakfast dinner cinema

lesson basketball favourite

doctor teacher grandfather

จากน้นั ครูช้ีทีค่ าศพั ทแ์ ต่ละคาและใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตามครู โดยใชค้ าสั่งวา่ Repeat after me.

จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นคาศพั ทแ์ ต่ละคา ครูพดู ย้าใหน้ กั เรียนฝึกฝนการลงเสียงหนกั ในคาทมี่ ี

มากกวา่ 1 พยางคใ์ หถ้ ูกตอ้ ง โดยใชพ้ จนานุกรมออนไลน์ เช่น Cambridge, Oxford, Longman

3. ทบทวนการเตมิ -s และ -es หลงั คากริยาที่มปี ระธานเป็นเอกพจน์ โดยเขยี นคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน

swim watch play draw wash listen

จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั พดู บอกว่าคาใดเตมิ -s และคาใดเติม -es ดงั น้ี

swims watches plays draws washes listens

ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงคาละ 2-3 คร้ัง แลว้ ครูใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยค Present simple โดยใชค้ าศพั ท์

บนกระดาน เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาเขยี นประโยคทต่ี นเองแต่งบนกระดาน เช่น

He plays basketball every Saturday. She listens to music on Mondays.

ครูอธิบายว่า คากริยาท่เี ตมิ -s และ -es สามารถออกเสียงได้ 3 แบบ คอื /s/, /z/ และ /Iz/ ดงั น้ี

/s/ /z/ /Iz/

eats swims watches

sleeps plays catches

walks draws washes

likes listens pushes

311

4. ให้เลน่ เกม Bingo เก่ียวกบั เวลา โดยครูแจกตารางบิงโกให้นกั เรียนคนละ 1 ใบ (ดใู บงานทา้ ยแผน) ให้
นกั เรียนผลดั กนั จบั ฉลากและพูดบอกเวลาที่จบั ได้ ใครมเี วลาดงั กล่าวในตารางบิงโกของตนเองให้
กากบาททบั ช่องดงั กลา่ ว คนที่กากบาททบั ได้ 3 ช่อง ตดิ ต่อกนั ก่อนในแนวใดก็ได้ ให้ตะโกนว่า บิงโก

ข้นั Presentation

1. ครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

I get up at 6 o’clock. I don’t get up at 6 o’clock.

He plays football at 4 o’clock. He doesn’t play football at 4 o’clock.

จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านทลี ะประโยคพร้อมกนั แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปโครงสร้างประโยคบอกเล่า

และปฏิเสธบนกระดาน ดงั น้ี

ประธาน + กริยาช่องท่ี 1 (-s, -es).

ประธาน + doesn’t/don’t + กริยารูป base form (ช่องที่ 1).

ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ ว่า เราจะใช้ doesn’t เมอ่ื ประธานเป็นเอกพจน์ เช่น He, She, It ส่วนประธานพหูพจน์

รวมท้งั I และ You เราจะใช้ don’t

ตอ่ มาครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

What time do you get up? I get up at 6 o’clock.

What time does he get up? He gets up at 6 o’clock.

จากน้นั ครูอ่านประโยคดงั กลา่ วใหน้ กั เรียนอ่านตาม ครูอธิบายว่า ประโยคคาถามเหล่าน้ีใชถ้ ามถึงเวลา

ทเ่ี ราทากิจกรรมต่าง ๆ มีโครงสร้างดงั น้ี

What time does + ประธานเอกพจน์ + กริยารูป base form (ช่องที่ 1)?

What time do + ประธานพหูพจน์รวมท้งั I และ You + กริยารูป base form (ช่องท่ี 1)?

ส่วนการตอบเราจะใช้โครงสร้าง ประธาน + กริยา (-s, -es) + at + เวลา. ครูย้าว่าเราจะใชค้ าบุทบท at

ในการบอกเวลาทีแ่ น่นอน เช่น I get up at 6 o’clock. แตถ่ า้ เป็นช่วงเวลา เช่น ช่วงเชา้ ช่วงบา่ ย ช่วงเยน็

เราจะใช้ in เช่น in the morning, in the afternoon, in the evening ยกเวน้ ช่วงกลางคืน เราจะใช้ at night

ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ งประโยค แลว้ ครูเขียนบนกระดาน เช่น

We have breakfast in the morning.

We play football in the afternoon.

We gave dinner in the evening.

We sleep at night.

312

ครูวงคากริยาช่วย do และ does ในประโยคคาถาม และอธิบายว่า เราใช้ does กบั ประธาน

เอกพจน์ เช่น He, She, It ส่วน do ใชป้ ระธานพหูพจน์ เช่น They, We รวมท้งั I และ You

คากริยาทอ่ี ยหู่ ลงั ประธานจะกลบั ไปอยใู่ นรูป base form เสมอ เมอื่ มคี ากริยาช่วย does เช่น

What time does she get up? She gets up at 6 o’clock.

What time does he watch TV? He watches TV at 7 o’clock.

What time do you go to bed? I go to bed at 9 o’clock.

2. ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

What do you do on Saturdays?

ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงตามครูพร้อม ๆ กนั และทีละคน จากน้นั ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน

T: What do you do on Saturdays?

Anne: I tidy my room.

ครูเขยี นคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงพร้อม ๆ กนั

Anne tidies her room on Saturdays.

ตอ่ มาครูถามนกั เรียนอกี คร้ังว่า Anne ทาอะไรในวนั เสาร์ เพื่อใหน้ กั เรียนฝึกใชป้ ระธานเอกพจน์ ใน

ประโยค Present simple และใชค้ าบพุ บท on ร่วมกบั วนั

T: What does Anne do on Saturdays?

Ss: She tidies her room on Saturdays.

ครูถามคาถามเช่นเดียวกนั น้ีกบั นกั เรียนอีกหลาย ๆ คน

เสร็จแลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ on เป็นคาบพุ บท (preposition) ทใี่ ช้ร่วมกบั วนั เช่น Monday, Tuesday และ

วนั ที่ เช่น My birthday is on 20 July. ครูอาจถามคาถามนกั เรียนเพ่มิ เตมิ เช่น When is your birthday?

3. ครูเขยี นคา/วลบี ่งบอกเวลาและตารางตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

January afternoon night August

5th December Sunday evening six o’clock

12 o’clock morning Wednesday Tuesdays

IN ON AT

313

ครูใหเ้ วลานกั เรียนส้ัน ๆ เติมขอ้ มลู ลงในตารางใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน
และเขยี นเฉลยลงในตารางบนกระดาน
คาตอบ: IN - January, afternoon, August, evening, morning

ON - 5th December, Sunday, Wednesday, Tuesdays
AT - night, six o’clock, 12 o’clock

คาบุพบทบอกเวลา (prepositions of time)
1. in ใชก้ บั เดือน ปี ฤดู และช่วงเวลา

ตวั อยา่ ง I will visit my grandmother in May.
My birthday is in June.
They plant flowers in spring.
I play football in the afternoon.

2. on ใชก้ บั วนั ในสปั ดาห์ วนั ท่ี หรือวนั เฉพาะในเทศกาลต่าง ๆ
ตวั อยา่ ง He washes the dog on Mondays.
My birthday is on 14th July.

3. at ใชบ้ อกเวลาตามเขม็ นาฬิกา
ตวั อยา่ ง He gets up at 7 o’clock.
I have a piano lesson at 3 o’clock.

นอกจากน้ียงั ใชก้ บั สานวน at noon, at night, at midday, at midnight, at lunchtime,
at sunrise, at sunset, at present, at the moment, at the same time
ตวั อยา่ ง See you at lunchtime.

I don’t play football at night.
ทีม่ า: http://www.pasaangkit.com/การใช้บพุ บท-in-on-at-บอกเวลาใน/

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 43 Ex. 7 ครูอ่านคาส่งั Read and correct. และอา่ นตวั อยา่ งให้นกั เรียนฟัง จากน้นั

ครูถามนกั เรียนว่า ทาไม don’t ถึงเป็นคาตอบทีไ่ มถ่ ูกตอ้ ง เพอื่ กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนตอบวา่ เพราะประธาน
เป็นเอกพจน์ กริยาช่วยตอ้ งเป็น doesn’t ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ ท่ีเหลือ เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบ
จากนกั เรียนมาเขยี นบนกระดาน เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบพร้อมกนั

314

2 drinks 4 do 6 like
3 play 5 don’t

2. หนงั สือเรียน หน้า 43 Ex. 8 ครูพูดวา่ Look at exercise 8. ใหน้ กั เรียนเติมคาบุพบทบอกเวลา in, on หรือ
at ลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ครูอ่านประโยคแต่ละขอ้ ใหน้ กั เรียนพูดตอบปากเปลา่ โดยครูเขยี น
คาตอบทถ่ี กู ตอ้ งบนกระดาน เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นประโยคทีเ่ ติมคาตอบสมบรู ณ์

2 in 3 on 4 at 5 at 6 on

3. หนังสือเรียน หน้า 43 Ex. 9 ใหน้ กั เรียนดภู าพท่ีใหม้ า และระบวุ ่าคือกีฬาชนิดใด เม่ือไดค้ าตอบวา่

basketball แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นขอ้ มลู ท่ีให้มา ครูช้ีให้เห็นว่า มีบางคาท่ีนกั เรียนออกเสียงไมถ่ ูกตอ้ ง

ซ่ึงส่งผลต่อการฟังของนกั เรียน จากน้นั ครูเขยี นคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน ให้นกั เรียนฝึกออกเสียง

o’clock ออกเสียง /əˈklɒk/

seven ออกเสียง /ˈsevn/

morning ออกเสียง /ˈmɔːnɪŋ/

evening ออกเสียง /ˈiːvnɪŋ/

breakfast ออกเสียง /ˈbrekfəst/

basketball ออกเสียง /ˈbɑːskɪtbɔːl/

นอกจากน้ียงั มีคาบางคาในประโยค เวลาออกเสียงจะมีเสียงเช่ือมระหว่างคา เช่น

get up gets up

swim in swims in

ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงเชื่อมระหวา่ งคา จากน้นั ครูอธิบายภาระงานว่า นกั เรียนจะไดฟ้ ังบทสนทนา

ระหว่างคน 2 คน โดยมีผชู้ ายคนหน่ึงพดู ถามคาถาม Jack Michaels ซ่ึงคือบุคคลทน่ี กั เรียนเห็นในภาพ

ในหนงั สือเรียนเกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ของเขา เมือ่ นกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง

1-2 คร้งั และเตมิ ขอ้ มลู ลงในช่องว่าง โดยเขยี นคาตอบลงในสมุด เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจาก

นกั เรียนมาเขียนบนกระดาน แลว้ เฉลยคาตอบ หรือครูอาจเปิ ด CD อกี คร้ัง โดยหยดุ CD หลงั จบแตล่ ะ

ขอ้ เพอื่ ให้นกั เรียนตรวจคาตอบ

Weak classes: ครูนา Audio Script ของ Ex. 9 มาตดิ บนกระดาน และเปิ ด CD อีกคร้งั ให้นกั เรียนฟัง

เพ่ือใหน้ กั เรียนรู้สึกว่าเขา้ ใจในส่ิงท่ีตนเองฟังมากข้ึน

315

Man: What time do you get up, Jack?
Jack: I get up at six o’clock. Then, at seven o’clock, I swim in the pool.
Man: At seven o’clock?
Jack: Yes. At seven.
Man: Do you have breakfast?
Jack: Oh yes, I have breakfast at eight o’clock.
Man: Mmm ... And what do you do in the morning?
Jack: Oh, I go to the gym.
Man: To the gym?
Jack: Yes. I go to the gym or visit my friends.
Man: And in the evening?
Jack: Evening? I play basketball, of course!

1 pool 28 3 gym 4 plays

4. ครูเขยี นคาถามทอี่ ยใู่ น Audio Script บนกระดาน จากน้นั ครูถามคาถามเกี่ยวกบั ส่ิงที่ Jack Michaels

ทาในเวลาตา่ ง ๆ เช่น

T: What does Jack Michaels do at 6 o’clock?

Ss: He gets up.

T: What does he do at 7 o’clock?

Ss: He swims in the pool.

T: What does he do at 8 o’clock?

Ss: He has breakfast.

T: What does he do in the morning?

Ss: He goes to the gym. /He visits his friends.

T: What does he do in the evening?

Ss: He plays basketball. etc.

ครูย้าให้นกั เรียนออกเสียงเชื่อมระหวา่ งคา และลงเสียงหนกั ในคาและ intonation ให้ถกู ตอ้ ง

316

กิจกรรมเพม่ิ เติม

หลงั จากทบทวนการออกเสียงสูง-ต่า (intonation) ในประโยคบอกเลา่ และประโยคคาถาม

Wh-questions แลว้ ครูถามนกั เรียนวา่ ในภาษาไทยมกี ารออกเสียงสูง-ต่าในประโยคเหลา่ น้ี

หรือไม่ ครูออกเสียงใหน้ กั เรียนเห็นความแตกต่าง

I go to school at 8 o’clock. ฉันไปโรงเรียนเวลา 8 นาฬิกา

Mary likes eating pizza. แมรีชอบรบั ประทานพซิ ซ่า

What do you have for breakfast? เธอรับประทานอะไรเป็นอาหารเชา้

Why does he go to school late? ทาไมเขาจึงไปโรงเรียนสาย

Where do you live? เธออาศยั อยทู่ ไี่ หน

ข้นั Production

1. หนงั สือเรยี น หน้า 43 หวั ข้อ Now ask and answer. ให้นกั เรียนจบั คู่ ฝึกพดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั กิจวตั ร

ประจาวนั ของ Jack Michaels แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบให้เพื่อนฟังอกี คร้งั เช่น

S1: What does Jack do at 7 o’clock?

S2: He swims in the pool.

S1: What does Jack do at 8 o’clock?

S2: He has breakfast.

S1: What does Jack do in the morning?

S2: He goes to the gym or visits his friends.

S1: What does Jack do in the evening?

S2: He plays basketball.

2. ครูอธิบายว่า ให้จบั คู่กนั สนทนาเก่ียวกบั ชีวิตประจาวนั ของตนเอง ครูอาจกาหนดเวลาให้นกั เรียน เช่น

- 7 o’clock - 3 o’clock

- at night - in the morning

- 1 o’clock - on Saturdays

ใหน้ กั เรียนใช้รูปแบบใน Now ask and answer. หนา้ 43 เป็นตน้ แบบในการสนทนา

ตวั อยา่ ง S1: What do you do at seven o’clock?

S2: I have breakfast.

S1: What do you do at eleven o’clock?

S2: I have a dance lesson. etc.

317

เสร็จแลว้ ขออาสาสมคั ร 4-5 คู่ ออกมาพูดหนา้ ช้นั หลงั จากนกั เรียนพูดจบ 1 คู่ ครูถามเก่ียวกบั กิจกรรมที่
เพื่อนทา เช่น

T: What does Anne do at 7 o’clock?
S: She has breakfast.
ครูย้าให้นกั เรียนเห็นความสาคญั ของการเป็นผฟู้ ังท่ดี ี โดยถามวา่ ขณะท่ีพดู ถา้ คนฟังไมต่ ้งั ใจฟัง จะรู้สึก
อยา่ งไร เราควรจะทาอยา่ งไร เพื่อให้ผูพ้ ดู รู้ว่าเราต้งั ใจฟัง เช่น พยกั หนา้ ตอบรบั ส้นั ๆ การถามกลบั
กจิ กรรมเพิม่ เติม
แบง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ และถามว่า What should students do every day? ครูอธิบายคาวา่ should
แปลวา่ ควรทา จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระดมสมองบอกส่ิงทีค่ วรทาเป็นประจาทุกวนั เช่น
You should read books every day. You should wear a uniform to school. เสร็จแลว้ ให้กลมุ่ ที่เขียน
ไดม้ ากท่สี ุด ส่งตวั แทนออกมาอา่ นให้เพือ่ นฟัง ครูถามกลมุ่ อนื่ วา่ มปี ระโยคใดที่เพอ่ื นยงั ไมไ่ ดพ้ ดู
ให้ตวั แทนกลุม่ ดงั กล่าวออกมาอ่านใหเ้ พ่ือนฟัง
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 37 Exs. 7-9 เป็นการบา้ น

แบบฝึ กหัด หน้า 37 Ex. 9
Narrator: Listen and draw the times.
One
Woman: What time do you have breakfast, Alex?
Boy: Breakfast? I have breakfast at eight o’clock.
Woman: Eight o’clock?
Boy: Yes.
Two
Woman: What time do you do your homework?
Boy: Oh, I do my homework at six o’clock.
Woman: You do your homework at six o’clock?
Boy: Yes.
Three
Woman: What time do you go to bed?
Boy: I go to bed at nine o’clock.
Woman: At nine o’clock?
Boy: Yes, that’s right!

318

Ex. 7
2 What do you do on Sundays?

(I play basketball with my friends.)
3 Do you wear a uniform at school?

(No, I don’t.)
4 Do you tidy your room every day?

(Yes, I do.)

Ex. 8
2 at 4 at 6 in
3 on 5 on

Ex. 9 2 6 o’clock 3 9 o’clock
1 8 o’clock

7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์

วิธกี ารวดั แบบฝึ กหดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง
ประเมินการพูดขอและให้ขอ้ มูล แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้
เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของตนเอง
ตรวจแบบฝึ กหัด ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และม่งุ มนั่ ในการทางาน แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้

ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อนิ เทอร์เนต็

319

Bingo Time
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

320

Bingo Time
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

321

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 Does the bus come on Saturdays?

เวลา 2 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังและอ่านได้
- แสดงบทสนทนาจากเร่ืองทอี่ า่ นได้
- อา่ นออกเสียงไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
- เลือกภาพตรงตามความหมายของประโยคทอี่ ่านได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมีเหตุผล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพดู

เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ีฟังหรืออา่ น

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ดั

ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขียนแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์

ง่าย ๆ

สาระท่ี 2 ภาษากบั วฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชีว้ ัด

ต 2.1 ป.4/1 พูดและทาท่าประกอบอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ

ภาษา

322

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ทเ่ี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั ชีวติ ประจาวนั สานวนภาษาและโครงสร้างภาษา

ช่วยให้ตอบคาถามจากการอ่านและฟัง รวมท้งั ใช้พดู ส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Does the bus come on Saturdays? He doesn’t go to school on Saturdays.
I get up at six o’clock every morning. I swim in the pool and I have
a shower. Then I have breakfast.
Vocabulary: Days of the week, meals, wake up, get up, go to school, play basketball,
o’clock, break, school, bed
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: แสดงบทสนทนา
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
3) Culture: คานาหนา้ ชื่อ Mr, Miss, Ms และ Mrs

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดท่ใี ชใ้ นการสื่อสาร

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้ 323

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูทกั ทายนกั เรียนตามช่วงเวลา เช่น Good morning/Good afternoon. และให้นกั เรียนทกั ทายกลบั

จากน้นั ครูพูดบอกเวลาต่าง ๆ และให้นกั เรียนทกั ทายอกี คร้ัง เช่น

T: It’s five o’clock in the evening.

Ss: Good evening. etc.

2. ทบทวนประโยคท่ีใชข้ อความช่วยเหลอื โดยจาลองสถานการณว์ ่า ครูทาหนงั สือหลน่ จากโต๊ะ ตอ้ งการ

ให้นกั เรียนช่วยเกบ็ โดยพูดวา่ Can you help me, please? เมอ่ื นกั เรียนช่วยครูเกบ็ หนงั สือแลว้ ครูอธิบาย

วา่ ในการตอบรบั นกั เรียนสามารถตอบว่า Yes. หรือ Sure. ก็ได้ ส่วนถา้ ปฏิเสธให้นกั เรียนตอบว่า

Sorry, I can’t. จากน้นั ครูสุ่มขอความช่วยเหลือนกั เรียน 3-4 คน เช่น

T: Can you help me, please?

S: Yes.

T: Can you help me, please?

S: Sorry, I can’t. etc.

3. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั เช่น eat, sleep, study, breakfast, lunch, dinner โดยให้

นกั เรียนเลน่ เกม Spelling Bee โดยครูอธิบายกตกิ าการเล่นเกมวา่ ครูจะเป็นพูดคาศพั ท์ 2-3 คร้ัง ให้

นกั เรียนสะกดคาศพั ทล์ งในกระดาษแลว้ ยกข้ึนให้ครูตรวจความถกู ตอ้ ง ถา้ นกั เรียนสะกดคาผิดจะถกู

คดั ออกไปเรื่อย ๆ จนเหลือผชู้ นะเพียงคนเดียว

4. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหาร เช่น sausage, egg, pizza, bread, salad, chicken, fish, milk, cake, orange,

banana ดว้ ยการเลน่ เกม Bingo โดยให้นกั เรียนทาตาราง 9 ช่อง แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนชื่ออาหารทเ่ี รียน

มาแลว้ ลงไปในแตล่ ะช่อง จากน้นั ครูพูดช่ืออาหาร ใครทมี่ ีช่ืออาหารดงั กล่าวในตารางบงิ โกของตนเอง

ใหก้ ากบาททบั ช่องดงั กล่าว นกั เรียนท่กี ากบาททบั ได้ 3 ช่องติดตอ่ กนั ในแนวใดกไ็ ด้ ให้ตะโกนวา่

บิงโก

5. ให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ทเี่ พือ่ นทาในแตล่ ะวนั เช่น

S1: What do you do on Saturdays?

S2: I watch TV. etc.

6. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นกั เรียนเปิ ดดูภาพประกอบในหนงั สือเรียน หนา้ 44 แลว้ พดู วา่ Look at

the pictures. Who are they? (Oscar, Oscar’s mum, Oscar’s sister and Tom) Where are they? (They are

at home.)

324

ข้นั Presentation
1. ครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน Do you want pizza? จากน้นั อา่ นออกเสียงและใหน้ กั เรียนอา่ น

ออกเสียงตามพร้อมกนั ใหน้ กั เรียน 1 คน พดู ตอบคาถาม เช่น
T: Do you want pizza? (ครูแสดงบตั รภาพหนา้ ยมิ้ )
Anne: Yes, please.
T: Do you want burgers? (ครูแสดงบตั รภาพหนา้ บ้ึง)
Anne: No, thank you.

ครูเขยี นประโยคน้ีบนกระดาน ใหน้ กั เรียนฝึกอา่ นตาม Anne wants pizza, but she doesn’t want burgers.
ต่อมาครูถามนกั เรียนเก่ียวกบั ส่ิงท่ี Anne ตอ้ งการอกี คร้ัง

T: Does Anne want pizza?
Ss: Yes, she does.
T: Does Anne want burgers?
Ss: No, she doesn’t.
ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายการใช้ do และ does ในประโยคคาถามและปฏเิ สธของ Present simple
กิจกรรมเพม่ิ เติม
ครูเปิ ดคลิปชื่อ What Do You Want? - Simple Skits จาก
https://www.youtube.com/watch?v=_ISGxmJYliU
ใหน้ กั เรียนดแู ละฝึกพูดตาม โดยครูสามารถกดป่มุ เพ่อื แสดง subtitles ได้ ซ่ึงอยดู่ า้ นซ้ายของป่ มุ
setting หรือป่ ุมแสดง script ของคลิปน้ีไดใ้ นป่ ุมหัวขอ้ More และเลอื กหวั ขอ้ Transcript ครูอาจให้
นกั เรียนฝึกฝนดว้ ยตนเองเพ่มิ เตมิ ทบ่ี า้ น
2. ครูอธิบายวิธีการตอบรบั และปฏเิ สธอยา่ งสุภาพ เมื่อมีคนเสนอสิ่งใดสิ่งหน่ึงใหเ้ รา หากเราตอบรบั
จะพูดวา่ Yes, please. หากปฏเิ สธเราจะพดู วา่ No, thank you. หรือ No, thanks. แทน เช่น
A: Do you want chicken?
B: Yes, please.
A: Do you want ice cream?
B: No, thank you.
A: Do you want something to eat?
B: Yes, please. I want salad and some pizza.
ครูย้าความสาคญั ของ Thank you. ว่าเป็นประโยคทแ่ี สดงความสุภาพและถือเป็นมารยาททีน่ กั เรียน
ควรทาเป็ นนิสยั

325

3. ครูอธิบายคาศพั ทใ์ นเน้ือเร่ือง ไดแ้ ก่ point (แตม้ /คะแนน), late (สาย), wake up (ตน่ื ไดแ้ ลว้ ) จากน้นั ครู
ทบทวนความหมายของสานวน wake up ว่าหมายถึง ลมื ตาตื่นนอน ตอ่ มาครูอธิบายวา่ late เป็นไดท้ ้งั
คาคณุ ศพั ทแ์ ละคากริยาวิเศษณ์ จากน้นั ครูช่วยยกตวั อยา่ งประโยค
late (adj) = after the planned, expected, usual, or necessary time
ตวั อยา่ ง This train is always late.
late (adv) = after the arranged or expected time
ตวั อยา่ ง Ellen has to work late tonight.

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 44 Ex. 10 ครูสั่งนกั เรียนวา่ Close your book. แลว้ อา่ นคาถาม What day is it? แลว้

เขียนตวั เลอื กท้งั 3 ขอ้ บนกระดาน จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและเลือกคาตอบให้ถูกตอ้ ง
เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียนและอา่ นเน้ือเร่ืองอยา่ งรวดเร็วเพ่อื หาคาตอบ ครูรวบรวม
คาตอบจากนกั เรียนแลว้ เปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอา่ นเน้ือเร่ืองตามไปดว้ ยในใจ เพอ่ื ตรวจคาตอบ
ครูเฉลยคาตอบท่ีถูกตอ้ งอกี คร้งั บนกระดาน

c) Saturday

Well done ใชก้ ล่าวช่ืนชมเมือ่ คนอน่ื ทาอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงไดด้ ีมาก เช่น
A: I passed the test.
B: Well done!

นอกจากน้ี Well done ยงั เป็นสานวน มีความหมายวา่ สุกทว่ั ท้งั หมด เราใชส้ านวนน้ีใน
การสง่ั สเตก็ ซ่ึงมีระดบั ความสุกแตกตา่ งกนั ไป ไดแ้ ก่ Well done (สุกทวั่ ท้งั หมด), medium
(สุกปานกลาง) และ rare (ก่ึงสุกก่ึงดิบ) เมอื่ เราสง่ั สเตก็ พนกั งานมกั จะถามวา่ How do you
like your steak to be cooked? ซ่ึงหมายความวา่ จะใหเ้ น้ือสุกระดบั ใด
Here สามารถนามาใชข้ ้ึนตน้ ประโยคได้ โดยประธานและกริยาจะสลบั ตาแหน่งกนั เช่น
Here’s Extra. ในโครงสร้างประโยคน้ี Extra เป็นประธานของประโยค (Extra is here.)

2. หนังสือเรยี น หน้า 45 Ex. 11 ครูอา่ นคาสัง่ ใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนกลบั ไปอา่ นเน้ือเรื่อง
อีกคร้ัง โดยครูกาหนดเวลาส้นั ๆ เพ่อื ให้นกั เรียนฝึกอ่านเน้ือเรื่องอยา่ งรวดเร็วเพือ่ หาคาตอบ เสร็จแลว้
ครูถามวา่ คาพดู ในแตล่ ะขอ้ ปรากฏอยใู่ นภาพใดบา้ ง ใหน้ กั เรียนยกมือตอบ ครูเขียนคาตอบบนกระดาน
326

1 picture 1 2 picture 4 3 picture 7 4 picture 2

3. ครูเขียน Mr, Mrs, Miss และ Ms บนกระดาน จากน้นั ครูอธิบายว่า คาเหล่าน้ีเป็นคานาหนา้ ชื่อเพื่อบอก

เพศ หรือสถานะสมรส ดงั น้ี

Mr = นาย Miss = นางสาว

Mrs = นาง (ผหู้ ญงิ ที่แตง่ งานแลว้ )

Ms = ใชน้ าหนา้ ชื่อผูห้ ญงิ ทว่ั ไปทีเ่ ราไมแ่ น่ใจว่าเป็นสาวโสดหรือแตง่ งานแลว้

โดยคานาหนา้ ชื่อเหล่าน้ีจะอยหู่ นา้ ชื่อและนามสกุล เช่น Mr Ryan Reynolds, Miss Miley Cyrus ถา้ หาก

เป็นคนที่เราเพ่งิ รู้จกั อาทิ พ่อแม่เพื่อนท่ีเราเพงิ่ รู้จกั เราจะใชค้ านาหนา้ ช่ือกบั นามสกุลอยา่ งเดียว เช่น

Mr Atkinson, Mrs Spears, Miss Watson

4. ครูเปิ ด CD อกี คร้งั และหยดุ CD เมอ่ื จบเน้ือเรื่องในแตล่ ะภาพ เพ่อื ให้นกั เรียนฝึกอ่านออกเสียงตาม CD

ครูย้าให้นกั เรียนออกเสียงสูง-ต่าตามตน้ แบบท่ีไดฟ้ ัง

5. ครูให้นกั เรียนทางานคู่ โดยครูถา่ ยเอกสารเน้ือเรื่องในหนงั สือเรียน หนา้ 44-45 และตดั ออกตามกรอบ

แลว้ แจกใหน้ กั เรียนค่ลู ะ 1 กรอบ ครูให้แตล่ ะคู่ไปฝึกพูดจนคลอ่ ง โดยห้ามดบู ท

ตวั อยา่ ง S1: Wake up, Oscar! It’s time to get up!

S2: Oh, no! I’m late!

ครูเปิ ด CD อกี คร้ัง และหยดุ CD ให้นกั เรียนฟังหลงั จบแตล่ ะกรอบ ใหน้ กั เรียนท่ไี ดข้ อ้ ความในกรอบ

ฝึกอ่านออกเสียงตาม CD พร้อมกนั เสร็จแลว้ ให้เวลาแตล่ ะคูฝ่ ึกซอ้ มดว้ ยตนเอง ครูย้าให้แสดงสีหนา้

และท่าทางประกอบการพูดของตนเองดว้ ย

ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคทู่ ่ีไดเ้ น้ือหาเรียงตอ่ กนั ออกมาแสดงทลี ะกลุม่
2. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน จากน้นั ครูแจก Story Cutouts ซ่ึงถา่ ยเอกสารมาจาก

แบบฝึกหดั หนา้ 81 ใหแ้ ต่ละกลุ่มแบ่งบทบาทกนั เป็นตวั ละครในเรื่องน้ี และฝึกพดู ประโยคจากภาพ
ใน Story Cutouts จนคล่อง เม่อื นกั เรียนฝึกพูดจนคล่องแลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ออกมาพดู และแสดงท่าทาง
ประกอบที่หนา้ ช้นั โดยทีไ่ ม่ดูขอ้ ความในหนงั สือเรียน
Weak classes: ระหวา่ งทนี่ กั เรียนพูดบทพูดของตนเอง นกั เรียนคนอน่ื อาจช่วยบอกบทได้
3. ให้นกั เรียนฝึกอ่านเน้ือเร่ืองในหนงั สือเรียน หนา้ 44-45 ดว้ ยตนเอง และอ่านใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน
4. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 38 Exs. 10-12 เป็นการบา้ น

327

Ex. 10 2 Basketball. 3 Six o’clock.
1 Eight o’clock. 2
4 Basketball.
Ex. 11
2a 3b
Ex. 12

1

7. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบทดสอบ
ตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบทดสอบ
ตรวจการจบั คูป่ ระโยคกบั รูปภาพ แบบประเมนิ การแสดงบท ระดบั คุณภาพ พอใช้
สนทนา ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การแสดงบทสนทนา แบบประเมินความสามารถ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ในการพูดสื่อสาร ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดส่ือสาร แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และม่งุ มนั่ ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รคาศพั ท์
8.5 บตั รภาพ Story Cutouts
8.6 อินเทอร์เนต็

328

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 My day!

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังหรืออ่านได้
- พดู บรรยายกิจวตั รประจาวนั ของนกั ร้องทชี่ ่ืนชอบได้
- เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ของตนเองได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตุผล

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชีว้ ดั

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณท์ ี่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างทใี่ ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั เวลาและกิจวตั รประจาวนั ช่วยให้เขา้ ใจ

เร่ืองทอี่ า่ น และพูด/เขยี นสื่อสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Structure: She gets up at seven o’clock every morning. She has breakfast at

eight o’clock. At four o’clock she plays the piano and she sings.

329

Vocabulary: Days of the week, meals, wake up, get up, go to school, play
basketball, o’clock, break, school, bed, favourite, singer, theatre
Function: ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั
2) Language Skills
พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของนกั ร้องท่ชี ่ืนชอบ
Speaking: ตอบคาถามจากการฟัง
Listening: ตอบคาถามจากการอ่าน
Reading: เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ของตนเอง
Writing:

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดท่ีใชใ้ นการส่ือสาร

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warn Up
1. ครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกม Bingo เพื่อทบทวนการบอกเวลา โดยครูใหน้ กั เรียนวาดตาราง 9 ช่อง ลงในสมดุ

จากน้นั วาดนาฬกิ าเวลาต่าง ๆ ลงในแตล่ ะช่อง ครูอธิบายวธิ ีการเลน่ เกมวา่ ครูจะพูดบอกเวลา ให้
นกั เรียนวงนาฬิกาทน่ี กั เรียนไดย้ ิน คนท่วี งไดค้ รบ 3 ช่องตดิ กนั ในแนวใดกไ็ ดก้ ่อน ให้พดู ว่า บิงโก
และเป็นผชู้ นะ
2. ทบทวนการอ่านออกเสียงคากริยาท่ีเตมิ s โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอ่านออกเสียง
พร้อม ๆ กนั

ข้นั Presentation
1. ครูนารูปนกั แสดงหรือนกั ร้องที่มีชื่อเสียงมาติดบนกระดาน จากน้นั ครูเขยี นตารางกิจวตั รประจาวนั ของ

บุคคลดงั กลา่ วบนกระดาน เช่น

330

07:00 get up
08:00 have breakfast
09:00 walk the dog
10:00 have singing lessons
12.00 have lunch
01:00 have dance lessons
03:00 go home
05:00 watch TV
06:00 have dinner
07:00 take a shower
08:00 watch a film
10:00 go to bed

จากน้นั ครูพูดถามเวลาที่นกั แสดงหรือนกั ร้องคนดงั กลา่ วทากิจกรรมในเวลาน้นั เช่น
What does she do at 7 o’clock? She gets up.

ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปจนครบทกุ กิจกรรมในตารางบนกระดาน เสร็จแลว้ ครูเปลย่ี นเป็นการถามเวลา
บา้ ง เช่น

What time does she get up? She gets up at 7 o’clock.
เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่กนั พดู ถาม-ตอบโดยใชข้ อ้ มูลจากตารางบนกระดาน ครูกาหนดให้นกั เรียน
ถามเกี่ยวกบั เวลา 3 คาถามและถามเกี่ยวกบั กิจกรรมทที่ าในเวลาน้นั อีก 3 คาถาม เช่น

S1: What time does she have breakfast?
S2: She has breakfast at 8 o’clock.

S1: What time does she have singing lessons?
S2: She has singing lessons at 10 o’clock.

S1: What time does she watch TV?
S2: She watches TV at 5 o’clock.
S1: What does she do at 9 o’clock?
S2: She walks the dog.
S1: What does she do at 7 o’clock?
S2: She takes a shower.

331

S1: What does she do at 8 o’clock?
S2: She watches a film.
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ พดู ใหเ้ พือ่ นฟังอีกคร้งั
2. นาเสนอวลไี ดแ้ ก่ play the piano (เล่นเปี ยโน), go to the theatre (ไปดหู นงั ), go to bed (เขา้ นอน) โดย
ครูเขยี นวลีบนกระดานแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดาความหมาย ตอ่ มาครูสอนนกั เรียนลงเสียงหนกั ในคา
ท่มี ีมากกว่า 1 พยางค์ ดงั น้ี
piano theatre

เราจะใช้ the นาหนา้ เคร่ืองดนตรี เช่น the guitar, the piano, the violin

favourite อา่ นว่า /ˈfeɪ.vər.ɪt/ คาน้ีสามารถสะกดได้ 2 แบบ คอื แบบองั กฤษ (favourite) และ
แบบอเมริกนั (favorite) ซ่ึงจะตดั u ออกไป

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 46 Ex. 12 ใหน้ กั เรียนปิ ดบทอ่านดา้ นซ้าย และครูอธิบายว่า นกั เรียนจะไดฟ้ ัง

เร่ืองราวในชีวติ 1 วนั ของนกั ร้องทมี่ ชี ่ือเสียงคนหน่ึงทมี่ ีช่ือวา่ Helen Sanders จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟังและจบั คู่นาฬกิ ากบั ประโยคทใี่ ห้มา ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนมาเขียนบนกระดาน
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านบทอา่ นดา้ นซา้ ยอยา่ งรวดเร็วเพื่อตรวจคาตอบ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน
และเฉลยคาตอบที่ถกู ตอ้ งบนกระดาน ครูถามนกั เรียนว่า นกั เรียนตอบคาถามจากการอ่านถกู มากกวา่
การฟังก่ีขอ้

1c 2a 3e 4b 5d

2. ครูถามคาถามเก่ียวกบั เวลาที่ Helen ทากิจกรรมต่าง ๆ เช่น
T: What time does Helen Sanders get up?
Ss: She gets up at 7 o’clock.

จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ฝึกพดู ถาม-ตอบ
332

3. ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนอา่ นเน้ือเร่ืองตาม CD อีกคร้ัง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน อ่านเน้ือเร่ือง
คนละ 2-3 บรรทดั

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 46 Ex. 13 ให้นกั เรียนนาภาพนกั ร้องท่นี กั เรียนช่ืนชอบทน่ี กั เรียนเตรียมมาจากบา้ น

มาแสดง จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ Who is your favourite singer? ครูให้นกั เรียนแสดงภาพและพดู
แนะนานกั ร้องทีน่ กั เรียนช่ืนชอบดว้ ยประโยค My favourite singer is … . ต่อมาครูอา่ นประโยคใน
กรอบคาพูดและให้นกั เรียนอา่ นตาม แลว้ ใหน้ กั เรียนเขยี นบรรยายกิจวตั รประจาวนั ของนกั ร้องทีต่ นเอง
นามา ครูบอกว่า ให้นกั เรียนสมมติขอ้ มลู ข้นึ มากไ็ ด้ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนตรวจทานความถูกตอ้ ง
ท้งั เรื่องตวั สะกด ไวยากรณ์ และเคร่ืองหมายวรรคตอน แลว้ จบั คกู่ บั เพอื่ น ผลดั กนั พูดบรรยายให้เพอ่ื น
ฟัง สุดทา้ ยครูขออาสาสมคั รออกมาพูดนาเสนอหนา้ ช้นั ก่อนพดู ครูแนะนาให้นกั เรียนกล่าวทกั ทาย
เพือ่ นในช้นั เช่น Hi. หรือ Hello, everyone.

Advanced Classes:
ครูเปิ ดคลิปวดิ ีโอช่ือ This is Britain food จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=aKbIilKwJwg
จากน้นั ครูถามคาถามและให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ เช่น What time do they have lunch?
What do they eat? What day do they go to the supermarket?

2. หนงั สือเรยี น หน้า 51 หวั ข้อ Portfolio ครูใหน้ กั เรียนดูภาพ แลว้ ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั
เพื่อเป็นแนวทางในการเขยี นเรียงความ เช่น
T: What time do you get up?
S1: I get up at 6 o’clock.
T: What time do you have a shower?
S1: I take a shower at 7 o’clock?
T: What time do you have breakfast?
S1: I have breakfast at 7 o’clock.
T: What time do you go to school?
S1: I go to school at 8 o’clock.

333

ใหน้ กั เรียนพดู ตอบและเขยี นขอ้ มูลลงในสมุด จากน้นั ครูอธิบายภาระงานวา่ ใหน้ กั เรียนเขียนกิจวตั ร
ประจาวนั ของตนเองโดยใชค้ าตอบทตี่ นเองจดไว้ พร้อมท้งั วาดภาพประกอบใหส้ วยงาม เสร็จแลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมารายงานคาตอบใหเ้ พ่ือนฟัง

(ตวั อยา่ ง)
I get up at six o’clock. I take a shower and I have breakfast at seven
o’clock. I go to school at eight o’clock. At twelve o’clock I have lunch.
At three o’clock school finishes and I go home. I do my homework at
five o’clock and then I play games on my computer. At eight o’clock
I have dinner. I go to bed at ten o’clock.

3. ให้นกั เรียนไปทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 39 Ex. 13 เป็นการบา้ น

2 3 4  5 6
I watch TV every day.
I talk to my friends on the phone every day.
I play basketball every day.

7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
กิจวตั รประจาวนั ของตนเอง แบบทดสอบ
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน ประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั ระดบั คุณภาพ พอใช้
กิจวตั รประจาวนั ของนกั ร้องทช่ี ื่นชอบ พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมทบ่ี ง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่ เรียนรู้และมงุ่ มน่ั ในการทางาน

334

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 ภาพนกั แสดงหรือศลิ ปิ นท่ีมชี ื่อเสียง
8.5 อินเทอร์เน็ต

335

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 Let’s sing!

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ได้
- พดู แสดงความตอ้ งการได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมเี หตุผล

ตัวชีว้ ดั

ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด

เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วัด

ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความช่วยเหลอื ในสถานการณ์

งา่ ย ๆ

ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น และครอบครวั

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชีว้ ดั

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกต้อง

ตวั ชี้วดั

ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กล่มุ คา ประโยค และขอ้ ความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

336

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมอื พื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปลย่ี นเรียนรู้กับสังคมโลก

ตวั ชี้วัด

ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ สานวนและโครงสร้างท่ใี ชใ้ นการขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั

กิจวตั รประจาวนั และความตอ้ งการ ช่วยให้พูด/เขยี นสื่อสาร เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา และใชภ้ าษาใน
การสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Structure: This is the time I go to school, it’s eight o’clock in the morning.

What do you do on Monday? I play the piano.

Vocabulary: Days of the week, meals, wake up, get up, go to school,

play basketball, o’clock, break, school, bed, favourite, singer,

theatre

Pronunciation: ออกเสียงคาท่ีมี sh ประกอบ

Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ชีวิตประจาวนั และความตอ้ งการ

2) Language Skills

Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมและความตอ้ งการ

Writing: เขยี นนาเสนอผลการสารวจ

337

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดท่ีใชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการสารวจคน้ หา
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน Good morning. How are you doing? จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน พูดตอบ

โดยใชค้ าตอบทต่ี า่ งกนั เช่น

T: How are you doing?

S1: I’m great.

T: How are you doing?

S2: I’m not OK. etc.

2. ทบทวนการแนะนาตนเอง โดยครูเขยี นคาถามต่อไปน้ีบนกระดาน

- What’s your name?

- How old are you?

- Where do you live?

จากน้นั ครูขออาสาสมคั รออกมายืนหนา้ ช้นั 1 คน เพ่ือตอบคาถามดงั กลา่ ว เช่น

T: What’s your name?

S1: My name is Somchart Rakthai.

T: How old are you?

S1: I’m nine years old.

T: Where do you live?
S1: I live in Nontaburi.

338

เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแต่งประโยคแนะนาตนเองโดยใชค้ าถามบนกระดานเป็นแนวทาง เมอ่ื
นกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ งแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมาพดู แนะนาตนเองหนา้ ช้นั โดยก่อน
พูดแนะนาตนเอง ครูกระตุน้ ใหน้ กั เรียนกล่าวทกั ทายเพือ่ นในช้นั ดว้ ย เช่น

Good afternoon, everyone. My name is Thongchai Rattanabundit. I am ten years old.
I live in Bangkok.
3. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เวลาและกิจวตั รประจาวนั เช่น breakfast, lunch, dinner, break, basketball,
singer, theatre ดว้ ยการเล่นเกม Invisible Man โดยครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทมี ครูเลือกคาศพั ทม์ าคร้งั ละ
1 คา แลว้ ขดี เส้นตามจานวนตวั อกั ษรของคาศพั ทแ์ ตล่ ะคาน้นั เช่น คาวา่ breakfast ครูขดี 9 ขดี ดงั น้ี
__ __ __ __ __ __ __ __ __ จากน้นั ครูวาดภาพคนอยา่ งง่ายบนกระดาน 2 ภาพ เพอื่ เป็นตวั แทนของ
แตล่ ะทมี โดยประกอบดว้ ยหวั ตวั แขนซ้าย แขนขวา ขาซา้ ยและขาขวา แลว้ ให้นกั เรียนแต่ละทีมผลดั กนั
ทายตวั อกั ษร ถา้ ทายถกู ครูจะลบอวยั วะออก 1 ส่วน ทีมใดที่ครูลบอวยั วะออกหมดกอ่ นเป็นทีมทช่ี นะ
4. ทบทวนโครงสร้างท่ีใชข้ อและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กิจกรรมทีท่ าในวนั ต่าง ๆ ของสัปดาห์ โดยครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 1 คน ออกมาตอบคาถามครูที่หนา้ ช้นั เช่น
T: Ken, what do you do on Sundays?
S1: I watch TV with my brother.
T: What time do you watch TV?
S2: I watch TV at seven o’clock.
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนคนที่ออกมายืนหนา้ ช้นั ถามคาถามเพื่อน เช่น
S1: Anne, what do you do on Saturdays?
S2: I go to the cinema.
S1: What time do you go to the cinema?
S2: I go to the cinema at five o’clock.
5. ทบทวนการใช้ in the morning, in the afternoon, in the evening, at night โดยครูพดู ถาม-ตอบกบั
นกั เรียนเกี่ยวกบั กิจกรรมท่ที า เช่น
T: What do you do in the morning?
S1: I have breakfast and have piano lessons.
T: What do you do in the evening?
S1: I have dinner and watch TV.

339

ข้นั Presentation
1. ครูเขียนคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

ship sheep shower shark shirt
fish dish wash brush finish
ครูอธิบายวา่ เสียงตวั อกั ษร sh ในคาเหลา่ น้ีออกเสียงเป็น /ʃ/ โดยครูออกเสียงให้นกั เรียนฟัง แลว้ ให้
นกั เรียนทาตาม ดว้ ยการห่อริมฝีปากยนื่ ออกไปแลว้ ทาเสียง Shhhhhh เหมือนเวลาที่เราตอ้ งการให้คนอนื่
เงียบ ครูออกเสียงใหน้ กั เรียนฟังอกี คร้ังและใหน้ ักเรียนฝึกออกเสียงดว้ ยตนเองจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน อา่ นออกเสียงคาศพั ทใ์ ห้เพ่อื นในช้นั ฟัง ครูถามนกั เรียนว่า เสียงน้ีมใี น
ภาษาไทยหรือไม่ ถา้ นกั เรียนบอกเสียง /ช/ ครูออกเสียงให้นกั เรียนฟังและสังเกตริมฝีปากครูระหว่าง
เสียง /ช/ และ /ʃ/ เช่น
ชา้ ง ship
เชิด shirt
2. ครูนาบตั รภาพอาหารท่นี กั เรียนเคยเรียนมาแลว้ มาแสดงทลี ะภาพ เช่น fish, salad, pizza, burger,
chicken, rice, sausage, egg, bread, milk ครูอาจสอนคาศพั ทเ์ พ่ิมเตมิ เช่น noodles (ก๋วยเต๋ียว) แลว้ ให้
นกั เรียนบอกคาศพั ท์ จากน้นั ครูสนทนากบั นกั เรียน 1 คน เกี่ยวกบั อาหารท่ีตอ้ งการรับประทานในม้อื
ทก่ี าหนด เช่น
T: What do you want for breakfast?
S1: I want milk and bread, please.
T: What do you want for lunch?
S: I want noodles.
T: What do you want for dinner?
S: I want rice and chicken.
ครูถามนกั เรียนวา่ want มคี วามหมายวา่ อยา่ งไร (ตอ้ งการ) จากน้นั ครูสุ่มถามนกั เรียนหลาย ๆ คน
พูดบอกอาหารท่ตี อ้ งการรับประทาน เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนจบั คฝู่ ึกพดู ถาม-ตอบกนั ครูเดินสังเกต
เพอ่ื ใหค้ าแนะนาที่จาเป็น

ครูสามารถเขา้ ไปดาวนโ์ หลดบตั รภาพอาหารไดท้ ่ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/food-flashcards

340

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 47 หัวข้อ Sound Spot ครูเขียนประโยค A big fish is in the dish. บนกระดาน ครูนา

นกั เรียนอา่ นประโยคพร้อมกนั 1 คร้ัง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6-7 คน อ่านประโยคบนกระดาน
ครูสังเกตวา่ นกั เรียนออกเสียงคาท่ปี ระกอบดว้ ย sh ถูกตอ้ งหรือไม่ แลว้ ครูเปิ ด CD เสียง /ʃ/ ให้นกั เรียน
ฟังและฝึกออกเสียงตามหลาย ๆ คร้ัง

A big fish is in the dish.

กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ

ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทท์ ่มี ี sh ประกอบเพิ่มเตมิ โดยเขยี นประโยคบนกระดาน

She shops for a shirt. She shops for a dish.

She shops for a brush. She shops for sheep.

ครูอธิบายความหมายของ shop for ว่าหมายถงึ ไปซ้ือของ

กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ

ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอให้นกั เรียนฝึกร้องเพลงเก่ียวกบั คาศพั ทท์ มี่ ี sh ประกอบจากเวบ็ ไซต์

https://www.youtube.com/watch?v=HfMtsRVZWfE

หรือใหน้ กั เรียนฝึกร้องดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น sh sound หรือช่ือคลิป

Digraphs | Let's Learn About the Digraph sh | Phonics Song for Kids | Jack Hartmann

ให้นกั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดูดว้ ยตนเองที่ www.youtube.com

2. หนงั สือเรยี น หน้า 48 Ex. 15 ครูใหน้ กั เรียนดภู าพประกอบในหนงั สือเรียน แลว้ พดู บอกนกั เรียนวา่

Look at Tom! What does he do at 8 o’clock? จนไดค้ าตอบว่า He goes to school. ครูทากิจกรรม

เช่นเดียวกนั น้ีกบั ตวั ละครอ่ืน ๆ ดว้ ย
3. ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นเน้ือเพลงตาม 1 รอบ จากน้นั ครูเปิ ด CD อีกคร้ัง เพ่อื ใหน้ กั เรียนฝึก

ร้องตามเป็นจงั หวะพร้อมกนั หรือปรบมือเขา้ จงั หวะเพื่อความสนุกสนาน

4. หนังสือเรียน หน้า 48 Ex. 16 ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 4 กลมุ่ จากน้นั ครูอธิบายภาระงานว่า ให้นกั เรียน
แตง่ เพลงเก่ียวกบั กิจกรรมทนี่ กั เรียนทาในแตล่ ะช่วงเวลา โดยใชเ้ น้ือเพลงใน Ex. 15 เป็นตวั อยา่ ง

เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนซ้อมร้องเพลงจนคล่อง แลว้ ออกมายืนร้องเพลงใหเ้ พื่อนฟังท่หี นา้ ช้นั
5. ครูบอกนกั เรียนท้งั 4 กล่มุ เดิมว่า ครูจะมอบหมายเน้ือเพลงในหนงั สือเรียน หนา้ 48 Ex. 15 แตล่ ะท่อน

ให้แตล่ ะกลุ่มไปฝึกร้องจนคลอ่ ง จากน้นั ครูเปิ ด CD โดยก่อนเล่น CD ครูบอกนกั เรียนว่า เม่อื เพลงถงึ
ทอ่ นของกลมุ่ ใด ให้นกั เรียนกล่มุ น้นั ร้องทอ่ นของกลมุ่ ตนเอง

341

6. หนังสือเรียน หน้า 47 Ex. 14 ครูอ่านคาสั่ง Listen. Play the game. และอ่านวลใี นกรอบให้นกั เรียนฟัง

จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านตาม แลว้ ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทีมเพ่อื เล่นเกมทายกิจวตั ร

ประจาวนั โดยกอ่ นเร่ิมเล่นเกมครูทบทวนประโยคทีใ่ ชใ้ นการเล่นเกม เช่น Start. It’s your turn.

My turn. จากน้นั ครูอธิบายกตกิ าการเล่นเกมวา่ ให้แตล่ ะทมี เลือกวนั มา 1 วนั แลว้ ให้นกั เรียนถามครู

โดยใชโ้ ครงสร้าง Do you…? ครูเขียนคาตอบไวใ้ นกระดาษ เม่ือมีนกั เรียนตอบถกู ครูแสดงกระดาษให้

นกั เรียนดู ทีมที่ทายถูกได้ 1 คะแนน ทมี ท่ีไดค้ ะแนนสูงสุดเป็นทีมที่ชนะ

ตวั อยา่ ง T: Which day do you want?

Team A: Friday.

T: What do I do on Fridays?

Team A: Do you watch TV?

T: No, I don’t.

Team A: Do you go to the cinema?

T: Yes, I do.

Team A: What time do you go to the cinema?

T: At 7 o’clock.

A: What do you do on Monday?
B: I play the piano.
A: What time do you play the piano?
B: At four o’clock.

ครูเขียนคาถาม What do you want to do? บนกระดาน ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตามครู 2-3 คร้ัง
ครูถามวา่ คาถามน้ีหมายความว่าอยา่ งไร (คุณตอ้ งการจะทาอะไร) จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ
คน พดู ตอบคาถามน้ี โดยใชโ้ ครงสร้าง I want to + คากริยา. ครูแนะนาใหน้ กั เรียนใชว้ ลใี นหนงั สือเรียน
หนา้ 47 Ex. 14 หรือวลีอ่นื ๆ ท่นี กั เรียนเคยไดเ้ รียนมา เช่น ride a bike, walk the dog, wash the dog,
go to the park, eat pizza, listen to music ครูย้าว่า หลงั to จะตอ้ งตามดว้ ยคากริยา

T: What do you want to do?
S1: I want to play the piano.
จากน้นั ครูให้นกั เรียนจบั คู่ฝึกพดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั ส่ิงทีต่ อ้ งการทา

342

ข้นั Production
1. ให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 6-8 คน ใหน้ กั เรียนสารวจกิจกรรมทส่ี มาชิกในกลุ่มตอ้ งการทา โดยถาม

คาถาม What do you want to do? ครูให้เวลาแตล่ ะกล่มุ เลอื กกิจกรรมมากลุม่ ละ 6 ชนิด เพอ่ื เป็นตวั เลอื ก
ให้สมาชิกเลอื กตอบ จากน้นั ให้หัวหนา้ กลุม่ ถามคาถามและเลขากลุม่ บนั ทกึ คาตอบ แลว้ สมาชิกในกลุ่ม
ช่วยกนั ทาแผนภมู แิ ทง่ เพอื่ นาเสนอขอ้ มลู และเขยี นบรรยายผลการสารวจ โดยครูเขียนตวั อยา่ งและ
อธิบายวิธีการทาแผนภูมแิ ท่งแบบง่าย ๆ ให้นกั เรียนดู ดงั น้ี

5 Kevin Jessica play football play basket- go swim-
Jay ball ming
4 Mick go to the (ตวั อยา่ ง)
cinema
3 watch TV
2 Anne
1 Alex

ride a bike

5 Kwanjai go to the Sompong Lada go swim-
Araya cinema play football Weerachai ming
4
watch TV Thana
3
2 Preecha play basket-
1 Nalinee ball

ride a bike

In our group, three people want to play basketball. Two people want to ride a bike. Two people
want to watch TV. Only one person wants to play football. No one wants to go swimming and
go to the cinema.
2. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานกล่มุ คน้ ควา้ ขอ้ มลู ในอินเทอร์เนต็ เก่ียวกบั คาทม่ี ี sh ประกอบ
มากลมุ่ ละ 10 คา โดยใหน้ กั เรียนจดั เรียงลาดบั คาตามตวั อกั ษร จากน้นั ทาโปสเตอร์ พร้อมตกแตง่ ให้
สวยงาม เสร็จแลว้ ให้แต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมาพดู นาเสนอคาศพั ทข์ องกลุ่มตนเองที่หนา้ ช้นั

343

3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 40 Ex. 14 เป็นการบา้ น

2a 3d 4b

7. การวดั และประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์

ประเมนิ ชิ้นงานการสารวจความ แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ตอ้ งการ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ช้ินงานโปสเตอร์ แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

คาศพั ทท์ ี่มี sh ประกอบ ผ่านเกณฑ์

ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบประเมนิ การออกเสียง ระดบั คุณภาพ พอใช้

ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้

ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมน่ั ในการ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

ทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณท์ าโปสเตอร์
8.5 อินเทอร์เน็ต

344

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8 School days!

เวลา 1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- พดู และเขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ชีวิตในโรงเรียนของตนเองได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตผุ ล

ตวั ชี้วดั

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพูดและการเขยี น

ตัวชีว้ ดั

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตวั ชี้วดั

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณท์ เ่ี กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

345


Click to View FlipBook Version