The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:42:24

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

3. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เดือน ดว้ ยการให้นกั เรียนเล่นเกม Noughts and Crosses หรือเกม Tic-Tac-Toe
ซ่ึงมีวธิ ีการเล่นเหมอื นกบั เกม OX ทนี่ กั เรียนรู้จกั โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทมี ให้แต่ละทีมส่ง
ตวั แทนมาเล่นเกม Rock, Paper, Scissors หรือเป่ ายิงฉุบ ตวั แทนท่ีชนะ จะไดเ้ ลอื กช่องในตาราง 9 ช่อง
บนกระดาน และพูดสะกดคาศพั ทช์ ่ือเดือน ถา้ สะกดไดถ้ กู ตอ้ งจะมีสิทธ์ิทาเคร่ืองหมาย O หรือ X ใน
ช่องดงั กล่าว ทมี ท่สี ามารถทาเคร่ืองหมายไดค้ รบ 3 ช่องตดิ กนั ก่อนในแนวใดกไ็ ด้ เป็นทีมท่ชี นะ

4. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ฤดกู าล โดยครูถามนกั เรียนว่า What do you do or see in spring? จากน้นั ให้
ช่วยกนั บอกกิจกรรมท่ที าไดใ้ นฤดูใบไมผ้ ลิ เช่น In spring, I plant flowers. เสร็จแลว้ ครูถามคาถาม
เช่นเดียวกนั น้ีกบั ฤดูกาลอน่ื ๆ ดว้ ย

5. ให้นกั เรียนร้องเพลง If you know all the seasons อกี คร้ัง และแสดงทา่ ทางประกอบ

ข้นั Presentation
1. ครูสอนวลี clean up (ทาความสะอาด), tidy up (ทาความสะอาด) และ put away (นาไปไวท้ อ่ี ่นื ) ดว้ ยการ

นาหนงั สือหลาย ๆ เล่ม มาวางกองบนโต๊ะครูแบบไม่เป็นระเบียบ จากน้นั ครูพดู บอกนกั เรียน 1 คน
ซ่ึงครูไดเ้ ตรียมนกั เรียนไวแ้ ลว้ ดงั น้ี

T: Tidy (up) the desk, please.
S1: OK./Sure.
จากน้นั ครูทาให้โตะ๊ ไม่เป็นระเบียบเหมอื นเดิม แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนอีก 2-3 คน ดว้ ยคาสง่ั เดียวกนั
แลว้ ครูถามนกั เรียนว่า คาวา่ tidy (up) หมายความว่าอยา่ งไร เมื่อไดค้ าตอบว่า จดั ให้เป็นระเบียบ แลว้
ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั clean up และ put away ต่อมาครูเขียนประโยคต่อไปน้ี
บนกระดานและใหน้ กั เรียนออกเสียงตามครูพร้อม ๆ กนั
It’s time to clean up
(It’s) time to tidy up.
Put the books away.
เสร็จแลว้ ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอชื่อ Clean Up Song | Tidy Up Song | The Singing Walrus จาก
www.youtube.com หรือเขา้ ไปท่ี https://www.youtube.com/watch?v=gPq7wzGEjqE แลว้ ใหน้ กั เรียน
ร้องเพลงตามท้งั เพลง หรือใหร้ ้องเฉพาะประโยคที่มี
It’s time to clean up!
Time to tidy up!
Put the … away!

396

2. ครูเขยี น verb บนกระดาน จากน้นั อธิบายวา่ verb คือ คากริยา เป็นคาทแี่ สดงอาการหรือการกระทา

จากน้นั ครูยกตวั อยา่ ง walk และทาทา่ ทางเดินให้นกั เรียนดู เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคากริยา

ทน่ี กั เรียนรู้จกั ครูเขยี นคากริยาท่ีนกั เรียนบอกบนกระดาน ครูตรวจวา่ คากริยาทีน่ กั เรียนบอกมีคาวา่

tidy, drink, eat, jump, plant, fly, play, swim, forget หรือไม่ ถา้ ไมม่ ี ครูกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนพูดบอก

คากริยาเหลา่ น้ี เม่อื ครูมนั่ ใจว่านกั เรียนเขา้ ใจคากริยาแลว้ ครูทบทวนให้นกั เรียนฟังวา่ ประโยคคาสง่ั

จะข้นึ ตน้ ดว้ ยคากริยา เช่น Jump. Listen. Stand up. ตอ่ มาครูสอนประโยคคาสั่งรูปปฏเิ สธโดยเขียน

ประโยคต่อไปน้ีบนกระดานและใหน้ กั เรียนอ่านตาม

Don’t jump. (ห้ามกระโดด)

Don’t eat in the classroom. (หา้ มรับประทานอาหารในหอ้ งเรียน)

Don’t run in the corridor. (หา้ มวงิ่ ตรงระเบียง)

Don’t sleep in the classroom. (ห้ามหลบั ในห้องเรียน)

Don’t talk while the teacher is teaching. (ห้ามคุยขณะที่ครูกาลงั สอน)

เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้างของประโยคคาส่ังรูปปฏิเสธ จนไดค้ าตอบว่า

Don’t + คากริยารูป base form (ช่องท่ี 1).

ตอ่ มาครูขออาสาสมคั ร 1 คน มายนื หนา้ ช้นั แลว้ ครูพูดคาสัง่ ให้นกั เรียนคนดงั กลา่ วปฏิบตั ิตาม เช่น

T: Ken, walk.

S1: ทาทา่ เดิน

T: Don’t walk.

S1: หยดุ เดิน

ต่อมาครูใหน้ กั เรียนคนดงั กล่าว เป็นผอู้ อกคาสงั่ และใหเ้ พ่ือน ๆ ในช้นั เป็นผูป้ ฏบิ ตั ิตามบา้ ง

ข้นั Practice

1. หนงั สือเรียน หน้า 53 Ex. 3 ครูอา่ นคาส่งั Look, read and match. ให้เวลานกั เรียนดภู าพและประโยค
คาสัง่ ที่ให้มา จากน้นั ครูอ่านประโยคคาส่ังในขอ้ 1 แลว้ ให้นกั เรียนระบุวา่ ตรงกบั ภาพใด เมือ่ นกั เรียน
ตอบถูกแลว้ ครูอา่ นประโยคท่ีเหลือ เพือ่ ใหน้ กั เรียนจบั คภู่ าพกบั ประโยคท่ีสมั พนั ธ์กนั

1a 3e 5b
2f 4d 6c

397

2. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี ให้แตล่ ะทีมผลดั กนั ส่งตวั แทนออกมาจบั ฉลากและแสดงท่าทางตามที่

จบั ฉลากได้ เช่น run, jump, tidy the classroom, sleep, eat, swim, play football, play basketball, play

the piano, play the guitar, watch TV, fly a kite ใหเ้ พือ่ นในทมี พดู สงั่ ห้ามให้เพอื่ นทากิจกรรมดงั กล่าว

ถา้ พูดไดถ้ กู ตอ้ งทมี ดงั กล่าวจะได้ 1 คะแนน เมอื่ หมดเวลา ทมี ท่ีไดค้ ะแนนมากทสี่ ุดคอื ทมี ที่ชนะ

ตวั อยา่ ง Team A S1: (ทาทา่ เล่นกีตาร์)

Team A S2: Don’t play the guitar.

Team A S1: OK. (หยดุ เลน่ กีตาร์)

Teacher: Team A gets 1 point.

ทบทวนประโยค Imperative โดยใหน้ กั เรียนยนื เป็นวงกลมหนา้ ช้นั จากน้นั ครูบอกนกั เรียนวา่ จะไดเ้ ล่น

เกม Simon Says เม่อื ครูพูดคาสั่งทมี่ ี Simon Says หนา้ ประโยคคาสัง่ ให้นกั เรียนปฏิบตั ติ ามคาส่งั แต่ถา้

ครูไม่ไดพ้ ดู วา่ Simon Says หนา้ ประโยคคาสง่ั ให้นกั เรียนทาอยา่ งอืน่ ท่ีไม่ตรงกบั ประโยคทค่ี รูพูด

ใครปฏิบตั ติ ามไม่ถกู ตอ้ ง ให้ออกจากวงการแข่งขนั ผทู้ ี่เหลือคนสุดทา้ ยคือ ผชู้ นะ

ตวั อยา่ ง T: Simon says, stand up!

Ss: (stand up)

T: Jump!

Ss: (ทาท่าทางอยา่ งอนื่ ทไี่ มใ่ ช่การกระโดด) etc.

เมอ่ื เล่นเกมเสร็จแลว้ ครูพดู สรุปโครงสร้าง Imperative อีกคร้งั วา่ ประโยค Imperative จะข้ึนตน้ ดว้ ย

คากริยาในรูป base form ส่วนประธานจะถูกละไว้ ตอ่ มาครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ยกตวั อยา่ ง

ประโยค Imperative อกี คร้ัง

Advances classes: ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ฤดกู าลท้งั 4 ฤดู อีกคร้งั จากน้นั ใหน้ กั เรียนวาดตาราง

4 ช่อง ลงในกระดาษและในแตล่ ะช่องใส่หมายเลข 1-4 ท่ีหัวมมุ บนดา้ นซ้าย ครูอธิบายวา่ ให้นกั เรียน

วาดภาพตามคาบรรยายของครู ดงั น้ี

Picture 1 - Draw a tree. Draw flowers in the tree. Draw a sun and clouds in the sky.

Picture 2 - Draw a tree. Draw lots of leaves in the tree. Draw a big sun in the sky.

Picture 3 - Draw a tree. Draw some leaves in the tree. Draw leaves falling off the tree.

Draw leaves on the ground. Draw clouds in the sky.

Picture 4 - Draw a tree with no leaves. Draw snow on the ground. Draw a cloud in the sky

with snow falling.

ตอ่ มาครูให้นกั เรียนสลบั ผลงานกนั ตรวจ จากน้นั ครูพดู ประโยคอีกคร้งั ทีละประโยค ให้นกั เรียน

ช่วยกนั บอกวา่ ครูวาดภาพอะไร ครูวาดภาพตามท่นี กั เรียนบอกบนกระดานเพือ่ เฉลยคาตอบ

398

เสร็จแลว้ ครูช้ีไปท่ภี าพทีละภาพ และถามนกั เรียนวา่ ตน้ ไมใ้ นแต่ละภาพจะเห็นไดใ้ นฤดกู าลใด เช่น

In which season does the tree look like this? จนไดค้ าตอบ ดงั น้ี

Picture 1: spring Picture 2: summer

Picture 3: autumn Picture 4: winter

3. หนังสือเรยี น หน้า 53 Ex. 4 ครูบอกนกั เรียนว่า ครูจะเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง ให้นกั เรียนจบั คู่กิจกรรม

กบั ฤดกู าลใหถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนอา่ นกิจกรรม 1-4 และช่วยกนั อธิบายความหมาย

plant flowers (ปลกู ดอกไม)้ fly my kite (เลน่ วา่ ว)

play in the snow (เลน่ หิมะ) swim in the pool (วา่ ยน้าในสระน้า)

ต่อมาครูทบทวนการลงเสียงหนกั ในช่ือฤดูกาลอกี คร้งั โดยเนน้ ใหน้ กั เรียนลงเสียงหนกั ในคาให้ถูกตอ้ ง

summer autumn winter

Man: Zara, what do you usually do in spring?
Girl: Oh, in spring I plant flowers in my garden.
Man: What do you usually do in autumn?
Girl: In autumn I fly my kite.
Man: Ah! What do you do in the summer?
Girl: I swim in the pool in the summer. I love summer.
Man: And winter? What do you usually do in the winter?
Girl: In winter? Erm … in winter I play in the snow.

หนา้ ฤดูกาลสามารถใส่ the หรือไม่ใส่ก็ได้ เช่น I swim in the pool in (the) summer.

1b 2a 3c 4d

In autumn Zara flies her kite.

In summer Zara swims in the pool.

In winter Zara plays in the snow.

399

4. หนังสือเรยี น หน้า 53 หัวข้อ Go Green ครูให้นกั เรียนดกู รอบ Go Green หลงั จากน้นั ครูเขยี น 3R บน

กระดาน แลว้ อธิบายให้นกั เรียนฟังว่า 3R ประกอบไปดว้ ย reduce, reuse และ recycle โดยให้นกั เรียน

สงั เกต re- หนา้ คาศพั ทแ์ ละแต่ละคา แลว้ อธิบายว่า re- เป็น prefix มีความหมายวา่ ทาซ้า แลว้ อธิบาย

ความหมายของ reduce, reuse และ recycle ใหน้ กั เรียนฟัง

reduce = less garbage (ลดการใช)้

reuse = use an item more than once (ใชซ้ ้า)

recycle = turn an item into another useful item (นาไปแปรรูปเป็นอยา่ งอืน่ )

ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ เราจะไม่ลงเสียงหนกั ในคาทเี่ ป็น prefix ดงั น้นั reduce, reuse และ recycle จะ

ลงเสียงหนกั ท่พี ยางคท์ ี่ 2 ดงั น้ี

reduce reuse recycle

ต่อมาครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกล่มุ ให้แต่ละกลมุ่ อภิปรายเกี่ยวกบั สิ่งของในบา้ นท่สี ามารถลดการใช้

(reduce) นากลบั มาใชซ้ ้า (reuse) หรือใชใ้ หม่ (recycle) มีอะไรบา้ ง โดยให้เขียนตาราง 3 ช่อง ดงั น้ี

reduce reuse recycle

เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนจบั คูก่ นั พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั สิ่งของทีส่ ามารถลดการใช้ นามาใชซ้ ้า หรือแปรรูป
ได้ เช่น

T: What can you reduce?
S1: I can reduce plastic bags.
T: What can you reuse?
S2: I can reuse my clothes.

หลกั การ 3R
Reduce หมายถงึ การลดใชท้ รพั ยากรทไ่ี ม่จาเป็นลง เช่น กา๊ ซ น้ามนั ถ่านหิน
Reuse หมายถงึ การนาสิ่งของเคร่ืองใชม้ าใชซ้ ้า ซ่ึงบางอยา่ งอาจใชซ้ ้าไดห้ ลาย ๆ คร้งั เช่น
เส้ือผา้ กระดาษทใี่ ชไ้ ปแลว้ 1 หนา้ แลว้ ยงั เหลอื อกี 1 หนา้ ทีย่ งั ไมไ่ ดใ้ ช้ หรือขวดแกว้ ทนี่ ามา
ดดั แปลงเป็นแจกนั
Recycle หมายถึง การนาหรือเลอื กใชท้ รพั ยากรท่สี ามารถนากลบั มาใชใ้ หม่ในรูปแบบต่าง ๆ
เช่น การนาแกว้ หรือพลาสตกิ มาหลอมเป็นขวด การนาฝากระป๋ องน้าอดั ลมมาทาเป็นขาเทยี ม
สาหรบั ผพู้ กิ าร เป็นตน้
ทมี่ า: http://www.dmr.go.th/board/data/1232.html

400

5. ครูใหเ้ ล่นเกม Simon Says เพ่ือทบทวนประโยคคาสง่ั

ตวั อยา่ ง T: Simon says, jump.

Ss: (นกั เรียนกระโดด)

T: Sit down!

Ss: (นกั เรียนทากริยาอยา่ งอ่นื ทไ่ี มใ่ ช่การนงั่ ) etc.

6. ให้นกั เรียนฝึกแต่งประโยคคาสงั่ หา้ ม โดยเตรียมบตั รคากริยาที่นกั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ เช่น run, read,

watch TV, drink, eat, sleep, talk, jump แจกใหน้ กั เรียนคนละ 1 ใบ จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียนพูดที่แต่ง

ตวั อยา่ ง S1: (บตั รคา run) Don’t run in the class.

S2: (บตั รคา drink) Don’t drink coffee.

S3: (บตั รคา sleep) Don’t sleep in the library. etc.

เพอ่ื ให้บรรยากาศในหอ้ งเรียนมคี วามสนุกสนานมากข้นึ ครูอาจเตรียมลกู บอลขนาดเลก็ 1 ลูก
เมื่อครูโยนลูกบอลไปท่ีนกั เรียนคนใด ให้นกั เรียนพูดประโยคท่ีแตง่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนคนที่ไดร้ บั
ลูกบอลสุ่มโยนลกู บอลใหเ้ พ่ือนคนต่อไปเร่ือย ๆ จนครบทุกคน

ข้นั Production

1. ให้ช่วยกนั ระดมสมองบอกกิจกรรมทมี่ กั จะทาในแต่ละฤดูของตะวนั ตก โดยครูเขียนคาตอบบนกระดาน

Spring: plant flowers, have a picnic

Summer: go to the beach, swim in the pool, eat an ice cream

Autumn: play with leaves, collect pine cones

Winter: make a snowman, play in the snow

จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ถาม-ตอบเก่ียวกบั กิจกรรมท่ตี นเองอยากจะทาในแตล่ ะฤดกู าล เช่น

S1: What do you usually do in summer?

S2: I go to the beach.

2. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยคเก่ียวกบั กิจกรรมที่ทาในฤดูกาลต่าง ๆ จากน้นั ให้

นกั เรียนวาดรูปตนเองขณะทากิจกรรมตา่ ง ๆ พร้อมตกแต่งให้สวยงาม เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนออกมาพูด

นาเสนอประโยคของตนเองทหี่ นา้ ช้นั เรียน

ตวั อยา่ ง In summer I eat an ice cream. In spring I ride a bike.

In autumn I make a pumpkin lantern. In winter I go skiing.

401

3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 45 Ex. 4 เป็นการบา้ น

2 a Water 4 c Don’t eat 6 f Do
3 d Wake 5 e Don’t

7. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์

ประเมนิ ช้ินงานกิจกรรมท่ีทาใน แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้

ฤดูต่าง ๆ ผา่ นเกณฑ์

ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มลู แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

เก่ียวกบั กิจกรรมที่ทาในแตล่ ะ ผา่ นเกณฑ์

ฤดกู าล

สงั เกตการใชแ้ ละปฏบิ ตั ติ ามคาสง่ั แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้

ผา่ นเกณฑ์

ตรวจการเลือกภาพตรงตาม แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ความหมายของประโยคทีอ่ า่ น

ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

แบบทดสอบ

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้

เรียนรู้และมงุ่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าช้ินงาน
8.5 บตั รคาศพั ท์
8.6 อินเทอร์เน็ต

402

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 I like spring because I like gardening!

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ฤดูกาล พร้อมท้งั บอกเหตผุ ล
- เขยี นขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ฤดกู าลและกิจกรรมท่ชี อบ พร้อมท้งั บอกเหตผุ ล
- เลอื กภาพตรงตามความหมายของประโยค

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด

ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ

ตามแบบท่ฟี ัง

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพูดและการเขียน

ตัวชีว้ ัด

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของสิ่งต่าง ๆ ใกลต้ วั ตามทฟี่ ังหรืออ่าน

ต 1.3 ป.4/3 พดู แสดงความคดิ เห็นง่าย ๆ เก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

403

ตัวชีว้ ดั

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ ่าย ๆ

ของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วยั

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชนและสังคม

ตัวชีว้ ดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างที่ใชบ้ อกฤดูกาลและกิจกรรมท่ีทา ช่วยใหส้ นทนา พูด/เขียนได้

อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Structure: I like spring because I like gardening! Me too!

Vocabulary: months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water, grow,

catch, gardening, swim, jump, wet, run

Function: ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ฤดูกาลท่ีชื่นชอบ พร้อมท้งั บอกเหตุผล

2) Language Skills

Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ฤดกู าลทชี่ ื่นชอบ พร้อมท้งั บอกเหตผุ ล

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Writing: เขียนขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ฤดกู าลท่ชี ่ืนชอบ พร้อมท้งั บอก

เหตผุ ล

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ที่ใชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู
- ทกั ษะการสารวจ

404

5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 ม่งุ มนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ใหน้ กั เรียนเลน่ เกม Simon Says เพื่อทบทวนประโยคคาส่ัง

ตวั อยา่ ง T: Simon says, stand up!

Ss: (นกั เรียนยืนข้นึ )

T: Simon says, clap your hands!

Ss: (นกั เรียนปรบมอื ) etc.

2. ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอเพลง Seasons Song จาก www.youtube.com ใหน้ กั เรียนดูและฝึกร้องตามอีกคร้งั จาก

เวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=ksGiLaIx39c โดยคลปิ วิดีโอมชี ่ือว่า

SEASONS SONG ♫ | Learning & Teaching | Kids Songs | Pancake Manor

3. ทบทวนเกี่ยวกบั เทศกาลและกิจกรรมในแต่ละเทศกาล โดยครูถามคาถาม เช่น

T: What season do we celebrate Halloween?

Ss: We celebrate Halloween in autumn.

T: What season do we celebrate New Year?

Ss: We celebrate New Year in winter.

T: What do you usually do in summer?

S1: I swim in the pool.

T: What do you usually do in spring?
S2: I have a picnic at a park.
T: What do you usually do in autumn?
S3: I collect pine cones.
T: What do you usually do in winter?
S4: I make a snowman.

405

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ี catch (จบั ), gardening (ทาสวน), wet (เปี ยก) โดยเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน

แลว้ ยกตวั อยา่ งประโยค
Laura bought a net to catch butterflies.
My mother likes gardening very much. She likes to grow and take care of the plants.
My bike got wet in the rain.

นอกจาก wet จะใชบ้ รรยายส่ิงของทเี่ ปี ยกและแฉะแลว้ ยงั สามารถใชบ้ รรยายสภาพอากาศใน
วนั ท่ีมีฝนตกไดอ้ กี ดว้ ย (weather or periods of time when rain falls) เช่น

This is the first wet day for two months.
It’s very wet outside.

2. ครูถามนกั เรียนว่า ถา้ เราจะถามวา่ ปกติแลว้ เรามกั จะทาอะไรในฤดหู นาว เราจะถามวา่ อยา่ งไร ครู
รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเขียนประโยคที่ถูกตอ้ งบนกระดาน
What do you usually do in winter?
ครูอธิบายวา่ usually เป็นคากริยาวิเศษณ์บอกความถ่ี ใชบ้ อกถึงสิ่งท่ีเราทาเป็นประจาหรือทาเป็นปกติ
เช่น In winter, I usually make a snowman. ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียง usually ตามครูหลาย ๆ คร้ัง โดย
ลงเสียงหนกั ท่ีพยางคแ์ รก
เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงประโยคคาถามน้ีพร้อม ๆ กนั โดยใหน้ กั เรียนใช้ falling
intonation ซ่ึงจะลงเสียงต่าท่ีทา้ ยประโยค เนื่องจากเป็นประโยคคาถามแบบ Wh-question ครูอธิบาย
เพิ่มเตมิ ว่า ในภาษาองั กฤษ เราจะไม่ลงเสียงหนกั ทุกคาในประโยค โดยคาที่เรามกั จะลงเสียงหนกั ไดแ้ ก่
คานาม คากริยาหลกั คากริยาวเิ ศษณ์ Wh-word ส่วนคาอ่ืน ๆ ให้ออกเสียงรวบและเร็ว เช่น
What do you usually do in winter? ()
     
ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงตามครู พร้อมกบั ปรบมอื ตามไปดว้ ย โดยใหน้ กั เรียนปรบมือดงั ๆ ในพยางค์
ทล่ี งเสียงหนกั ส่วนคาทไ่ี ม่ลงเสียงหนกั ใหป้ รบมือคอ่ ย ๆ เมือ่ ครูสอนคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยคที่
จาเป็นในการฟังแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 1-2 คร้ัง และจบั ค่กู ิจกรรมที่ Zara มกั จะทากบั ฤดกู าลที่
ให้มา สุดทา้ ยครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน และเขยี นเฉลยบนบนกระดาน ครูอาจนา Audio Script
มาตดิ บนกระดานและเปิ ด CD อีกคร้ัง เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจในสิ่งที่ฟังมากข้ึน

406

3. ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั และฝึกพดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั กิจกรรมท่ี Zara มกั จะทาในแต่ละฤดูกาล โดยให้
นกั เรียนเกง่ 2 คน ออกมาพดู ให้เพอ่ื นดเู ป็นตวั อยา่ งก่อน เช่น
S1: What does Zara usually do in spring?
S2: In spring she plants flowers in her garden.
S1: What does Zara usually do in autumn?
S2: In autumn she flies her kite.
S1: What does Zara usually do in summer?
S2: In summer she swims in the pool.
S1: What does Zara usually do in winter?
S2: In winter she plays in the snow.
ครูย้าให้นกั เรียนออกเสียง /s/ หรือ /z/ ทา้ ยคากริยาท่ีเตมิ -s โดยเขยี นคากริยา ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียง
/s/ /z/
plants flies
swims plays
ให้นกั เรียนจบั คู่ ฝึกพูดถาม-ตอบกนั โดยครูอาจให้นกั เรียนสลบั ค่อู กี 1-2 คร้ัง จนนกั เรียนพดู ไดค้ ล่อง

4. ครูสนทนากบั นกั เรียน 1 คน ซ่ึงครูเตรียมไวแ้ ลว้ ดงั น้ี
T: What season do you like?
S1: I like spring.
T: Why do you like spring?
S1: Because I like planting flowers.
T: Mee too.

จากน้นั ครูถามนกั เรียนคนอืน่ ๆ ในช้นั ครูอธิบายว่า Me too. มคี วามหมายวา่ ฉันก็เช่นกนั

ในการบอกความชอบ นอกจากคาวา่ like นกั เรียนยงั สามารถใชค้ าอื่น ๆ ไดอ้ กี เช่น love

และ enjoy ซ่ึงคาเหล่าน้ีจะตามหลงั ดว้ ยคากริยาเตมิ -ing หรือคานามกไ็ ด้

ตวั อยา่ ง I love cooking Thai food.

I enjoy watching TV.

นอกจาก like จะตามหลงั ดว้ ยกริยาเติม -ing หรือคานามแลว้ ยงั สามารถตามหลงั ดว้ ย to +

คา กริยาทอี่ ยใู่ นรูป base form (ช่องที่ 1) ไดด้ ว้ ย

407

ตวั อยา่ ง I like to play football with my friends.
She likes to visit her grandmother at weekend.

แต่ enjoy จะตามดว้ ยกริยาเตมิ -ing เทา่ น้นั ไม่สามารถตามดว้ ย to + กริยาในรูป base form ได้
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 54 Ex. 5 ครูอา่ นคาสั่ง Match. Then listen, point and repeat. และใหเ้ วลานกั เรียน

จบั คภู่ าพ (1-8) กบั คาศพั ท์ (a-h) ทใ่ี ห้มา จากน้นั ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบ
พร้อมกนั บนกระดาน ต่อมาครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง ช้ี และอา่ นตามพร้อมกนั โดยครูช่วยหยดุ CD
เป็นระยะ ๆ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นคาศพั ทเ์ ป็นรายบุคคล

spring, summer, gardening, swim, run, jump, wet, catch

1c 3d 5h 7g
2a 4e 6f 8b
2. หนังสือเรียน หน้า 54 Ex. 6 ครูบอกนกั เรียนว่า Look at number 1. What is your favourite season?
Why? เพื่อใหน้ กั เรียนตอบโดยใชโ้ ครงสร้าง I like spring because I like gardening. เม่อื นกั เรียนตอบ
แลว้ ครูพดู วา่ Me too! ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเร่ือย ๆ จนครบทกุ ขอ้ โดยให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ
ปากเปลา่ เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ฝึกพูดอีกคร้ัง ครูเดินสังเกตการทากิจกรรมของนกั เรียน

2 A: I like summer because I like swimming.
B: Me too!

3 A: I like autumn because I like making pumpkin lanterns.
B: Me too!

4 A: I like winter because I like playing in the snow.
B: Me too!

408

กจิ กรรมเพิ่มเตมิ
ครูให้นกั เรียนเขา้ ไปเล่นเกมฝึกการใช้ like + ing ทเี่ วบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-games/ing
3. ครูเขียนคาวา่ Thailand บนกระดาน จากน้นั ถามนกั เรียนวา่ How many seasons are there in Thailand?
เม่อื ไดค้ าตอบวา่ 3 แลว้ ครูเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน พร้อมท้งั วาดภาพประกอบ เพ่ือให้นกั เรียนบอก
ความหมาย เช่น

hot season rainy season cold season

จากน้นั ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกว่า แตล่ ะฤดูกาลของไทย อยใู่ นเดือนใดบา้ ง โดยถามคาถามนกั เรียน

ดงั น้ี

T: How many seasons are there in Thailand?
Ss: Three seasons.
T: What are they?

Ss: Hot season, rainy season and cold season.
T: What months are in hot season?
Ss: February, March, April and May.
T: What months are in rainy season?
Ss: June, July, August and September.
T: What months are in cold season?
Ss: October, November, December and January.

ประเทศไทยโดยทว่ั ๆ ไปสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ฤดูกาล ดงั น้ี
1. ฤดรู ้อน (hot season) เริ่มตน้ ประมาณกลางเดือนกุมภาพนั ธ์ถงึ กลางเดือนพฤษภาคม
2. ฤดูฝน (rainy season) เริ่มตน้ ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถงึ กลางเดือนตลุ าคม
3. ฤดูหนาว (cold season) เร่ิมตน้ ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกมุ ภาพนั ธ์
ที่มา: https://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=53

409

เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ระดมสมองบอกวา่ โดยปกติ เราทากิจกรรมอะไรในแตล่ ะฤดกู าล
โดยใชค้ าถาม What do you usually do in (ฤดกู าล)? เช่น

T: What do you usually do in cold season?
S1: In cold season, I go to the north/Chieng Mai.
S2: In cold season, I fly a kite.
S3: In cold season, I go camping.
เมื่อรวบรวมกิจกรรมทที่ าในแตฤ่ ดกู าลไดแ้ ลว้ ครูสุ่มถามคาถามนกั เรียนเกี่ยวกบั ฤดูกาลทีช่ อบ
พร้อมท้งั บอกเหตุผลดว้ ย เช่น
T: What is your favourite season?
Ss: I like cold season.
T: Why do you like cold season?
Ss: Because I like going camping.

ข้นั Production
1. ครูอธิบายว่า ให้นกั เรียนทางานกลุ่ม กลมุ่ ละ 5-8 คน สารวจฤดูกาลในประเทศไทยทเ่ี พ่ือนในกล่มุ ชอบ

พร้อมท้งั บอกเหตุผล โดยกอ่ นเร่ิมชวั่ โมง ครูแจกกระดาษ A4 ใหแ้ ต่ละกลุ่มและให้แต่ละกลมุ่ วาดตาราง
ต่อไปน้ี

Name hot season Activity cold season
rainy season
1.
2.
3.
4.
5.

ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มเลอื กหวั หนา้ กลุ่มและเลขากลุ่ม แลว้ ใหห้ ัวหนา้ กลุ่มสารวจเพอื่ นในกลุ่มวา่
ในแตล่ ะฤดกู าลของไทย นกั เรียนชอบทากิจกรรมอะไรโดยใชค้ าถาม What is your favorite season?
Why? ใหน้ กั เรียนที่เป็นเลขาของกลมุ่ ทาหนา้ ท่ีจดบนั ทกึ สุดทา้ ยให้แต่ละกลุม่ ทาแผนภมู ิเพื่อแสดง
ผลการสารวจของกล่มุ ตนเอง เช่น แผนภูมวิ งกลม แผนภูมแิ ทง่ หรือแผนภูมริ ูปภาพ

410

2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 46 Exs. 5-6 เป็นการบา้ น จากน้นั นามาเฉลยคาตอบ

Ex. 5 3 playing football 6 cooking
2 going to the cinema 5 horse riding
4 skiing

Ex. 6 I like summer because I like swimming.
(ตวั อยา่ ง)
My favourite season is summer!

7. การวัดและประเมินผล

วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์

ประเมินช้ินงานการสารวจ แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

กิจกรรมทชี่ อบทาในแตล่ ะฤดูกาล ผา่ นเกณฑ์

ตรวจการเลอื กภาพตรงตามความหมาย แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ของประโยค แบบทดสอบ

ตรวจการเขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ฤดกู าลที่ แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ชอบ พร้อมบอกเหตผุ ลและวาด ผา่ นเกณฑ์

ภาพประกอบ

ประเมนิ การพดู ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ฤดูกาลท่ีชื่นชอบ ผ่านเกณฑ์

สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั ใน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้

การทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อุปกรณ์การทาแผนภมู ิ
8.6 อินเทอร์เนต็
411

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 Does Oscar like sailing? เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมทชี่ อบและไม่ชอบได้
- เลอื กภาพตรงตามความหมายของประโยคได้
- เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ตี นเองชอบและไม่ชอบได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพูด

เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณห์ รือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วัด

ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ

ตามแบบทฟ่ี ัง

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตวั ชี้วดั

ต 2.1 ป.4/1 พดู และทาท่าประกอบอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ

ภาษา

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา

412

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกต้อง

ตัวชี้วัด

ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความของ

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชนและสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณท์ ี่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยคที่ใชข้ อและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ส่ิงทชี่ อบและส่ิงท่ไี มช่ อบ

ช่วยใหส้ นทนา พดู /เขียนส่ือสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Does Oscar like sailing? Yes, he does. No, he doesn’t.
Vocabulary: months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water, grow, catch,
gardening, swim, jump, wet, run, sail
Function: ใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ส่ิงทชี่ อบและไม่ชอบ
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ส่ิงท่ีชอบและไมช่ อบ
3) Culture: กีฬาท่ีนิยมเลน่ ในประเทศองั กฤษ

413

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดท่ีใชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กิจกรรมตา่ ง ๆ เช่น gardening, sailing, fishing, swimming, skiing, cooking,

playing tennis, listening to music โดยขออาสาสมคั รออกมาแสดงทา่ ทางใบค้ า แลว้ ใหน้ กั เรียนท่ีเหลือ
ถามวา่ Do you like + คากริยาเตมิ -ing? จนกว่าเพ่อื นจะตอบวา่ Yes, I do.
Weak classes: ครูอาจดาวน์โหลดบตั รภาพ แลว้ นาเสนอคาศพั ทจ์ ากบตั รภาพก่อน

ครูสามารถดาวน์โหลดบตั รภาพจากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/sports-flashcards
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/free-time-activities-flashcards
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/music-flashcards
http://www.mes-english.com/flashcards/hobbies.php

2. นาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการเปิ ดคลปิ วิดีโอเพลง The leaves on the tree จาก
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/songs/the-leaves-the-tree
แลว้ ให้นกั เรียนฝึกร้องเพลงตามเพื่อทบทวนเก่ียวกบั เร่ืองฤดกู าล

3. ทบทวนเกี่ยวกบั การใช้ like + v -ing ดว้ ยการเขียนโครงสร้างต่อไปน้ีบนกระดาน Why do you like ... ?
Because I like + v -ing. จากน้นั ครูยกตวั อยา่ ง Why do you like summer? นกั เรียนอาจจะตอบว่า
Because I like going to the beach. แลว้ รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและวาดแผนทค่ี วามคดิ (mind map)
เสร็จแลว้ ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ฤดูกาลอน่ื ๆ ดว้ ย

414

swim in the sea hot season go to the beach
build a sand castle play a kite

ข้นั Presentation

1. นาภาพเดก็ ผชู้ าย 1 คน มาแสดงและพูดแนะนาวา่ This is Ken. จากน้นั ครูเขยี น What does Ken like

doing? บนกระดาน และใหน้ กั เรียนอา่ นคาถามตามครู ครูเขยี น He likes + v -ing. แลว้ ให้ นกั เรียน

1 คน ทมี่ ีความสามารถในการวาดรูปออกมาเป็นผูช้ ่วยครู ดว้ ยการวาดภาพตามคาศพั ทท์ คี่ รูเขียนใน

กระดาษแผน่ เลก็ เช่น playing football, gardening, swimming, skiing, cooking, listening to music,

watching TV, dancing, sailing, fishing แลว้ ให้เพอื่ น ๆ ช่วยกนั ทาย ภาพใดที่นกั เรียนทายถูกตอ้ ง ครูให้

นกั เรียนช่วยกนั สะกดคาศพั ทแ์ ละบอกความหมาย โดยครูเป็นผูเ้ ขยี นบนกระดาน สุดทา้ ยครูถาม

นกั เรียนอกี คร้งั วา่ What does Ken like doing? เพ่อื ใหน้ กั เรียนพูดตอบครูแบบเตม็ ประโยค ครูเนน้ ให้

นกั เรียนออกเสียง s ท่ีทา้ ยคากริยา like เพราะประธานเป็นเอกพจน์

ตวั อยา่ ง T: What does Ken like doing?

S1: Ken likes playing football.

2. ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกหลกั การเติม -ing หลงั คากริยา โดยครูเขยี นคากริยาและใหน้ กั เรียนช่วยบอก

วิธีการ เช่น draw → drawing come → coming

play → playing swim → swimming

ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนจดจาวา่ คากริยาทลี่ งทา้ ยดว้ ย -e เช่น come ตอ้ งตดั e ออกก่อนจะเตมิ -ing และคาที่

ลงทา้ ยดว้ ยสระ 1 ตวั พยญั ชนะ 1 ตวั เช่น swim ตอ้ งเพ่มิ ตวั สะกดอกี 1 ตวั กอ่ นเตมิ (swimming)

3. ครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

Peter likes watching TV and reading a book.

Peter likes playing football, but he doesn’t like playing basketball.

Anne likes singing and dancing.

Anne likes eating, but she doesn’t like cooking.

ครูใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงประโยคเหล่าน้ีตามครู โดยเนน้ ใหอ้ อกเสียง s หลงั คากริยา ครูถามนกั เรียน

ว่าทาไมคากริยาเหล่าน้ีตอ้ งเติม s เพือ่ กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนตอบวา่ เม่ือกล่าวถึงเร่ืองทเี่ กิดข้นึ เป็น

ประจานิสัย ถา้ ประธานเป็นเอกพจน์ คากริยาตอ้ งเติม -s หรือ -es

415

จากน้นั ครูขดี เส้นใต้ and และ but แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกวา่ คาใดใชเ้ ช่ือมคาหรือขอ้ ความทค่ี ลอ้ ย

ตามกนั หรือเป็นการเพิ่มขอ้ มูล (and) และคาใดทใี่ ชเ้ ชื่อมคาหรือขอ้ ความท่แี สดงความขดั แยง้ กนั (but)

เม่อื ไดค้ าตอบแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั แต่งประโยคโดยใช้ and และ but อยา่ งละ 1 ประโยค ครู

รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน เช่น

S1: I like reading a book, but I don’t like swimming.

S2: I like gardening and watching TV.

4. ครูขยี นขอ้ มูลและภาพต่อไปน้ีบนกระดาน

play the piano

swim

จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่า Do you like playing the piano? ครูช้ีท่ภี าพหนา้ ยิม้ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนตอบว่า

Yes, I do. ต่อมาครูถามนกั เรียนวา่ Do you like swimming? ครูช้ีทภ่ี าพหนา้ บ้งึ เพ่ือใหน้ กั เรียนตอบว่า

No, I don’t. ครูอธิบายเร่ืองการออกเสียงสูง-ต่า (intonation) ในประโยคคาถามแบบ Yes/No questions

วา่ เราจะลงเสียงสูงทท่ี า้ ยประโยค จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่า ประโยคคาถามในภาษาไทยมีการลงเสียง

สูง-ต่าเหมอื นในภาษาองั กฤษหรือไม่ ถา้ มี เราจะลงเสียงสูงหรือต่าทีท่ า้ ยประโยค ครูอาจเขียนประโยค

ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษเพอื่ ให้นกั เรียนเปรียบเทยี บ เช่น

Do you like swimming? เธอชอบวา่ ยน้าหรือไม่

Does she like playing the piano? เธอชอบเลน่ เปี ยโนหรือไม่

เสร็จแลว้ ครูสรุปโครงสร้างบนกระดาน

A: Do you like + v -ing?

B: Yes, I do.

No, I don’t. I like + v -ing.

ครูถามนกั เรียนว่า ถา้ ถามขอ้ มูลของบคุ คลท่เี ราคยุ ดว้ ย เราจะใช้ Do you like + v -ing? แตถ่ า้ เราถาม

ขอ้ มลู ของบคุ คลที่ 3 เราจะถามอยา่ งไร ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน และเขียนโครงสร้างคาถามบน

กระดาน ดงั น้ี

Does he/she like + v -ing? Yes, he/she does.

No, he/she doesn’t.

Do they like + v -ing? Yes, they do.

No, they don’t.

เสร็จแลว้ ครูนาภาพบคุ คลทม่ี ชี ื่อเสียงมาติดบนกระดาน และวาดภาพกิจกรรมต่าง ๆ ท่เี ขาชอบทาและ

ไมช่ อบทาบนกระดาน เช่น

416

Does he like …?

ครูขออาสาสมคั ร คร้งั ละ 2 คน ให้ออกมาพดู ถาม-ตอบ โดยใชข้ อ้ มลู ในตาราง เช่น
S1: Does he like sailing?
S2: No, he doesn’t.
S1: Does he like football?
S2: Yes, he does.
417

ครูทากิจกรรมเช่นน้ีจนนกั เรียนถาม-ตอบครบทุกภาพ เสร็จแลว้ ครูช้ีท่ีภาพอีกคร้งั ทีละภาพ แลว้ ให้
นกั เรียนพูดถาม-ตอบพร้อม ๆ กนั สุดทา้ ยครูถามนกั เรียนวา่ What does he like doing? เพือ่ ใหน้ กั เรียน
พดู ตอบวา่ He likes fishing, playing football and skiing. ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนแต่งประโยคโดยใช้ but
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ออกมาอ่านประโยคท่ตี นเองแตง่ พร้อมแสดงสีหนา้ และทา่ ทาง
ประกอบดว้ ย เช่น

He likes fishing, but he doesn’t like sailing.

ครูถามนกั เรียนวา่ What do British people like doing? แลว้ รวบรวมคาตอบจากนกั เรียน
จากน้นั ครูอธิบายว่า คนองั กฤษช่ืนชอบกีฬาเป็นอยา่ งมาก โดยเฉพาะกีฬาฟตุ บอล (football),
รกั บ้ี (rugby) และคริกเก็ต (cricket) ในเมอื งต่าง ๆ ขององั กฤษจะมีทมี ฟุตบอลหรือคริกเกต็
ของตนเอง หากไมไ่ ดล้ งเล่นกีฬาเองกจ็ ะไปชมการแข่งขนั ท่สี นามหรือนง่ั ดูรายการกีฬาทาง
โทรทศั น์ที่บา้ น
ทม่ี า: http://resources.woodlands-junior.kent.sch.uk/customs/questions/sport.html

ครูอาจเปิ ดคลิปวดิ ีโอเก่ียวกบั กีฬาฟุตบอล รักบ้ี และคริกเกต็ ใหน้ กั เรียนดจู ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
กีฬาฟตุ บอล
https://www.youtube.com/watch?v=dT61vbkOsfE
กีฬารักบ้ี
https://www.youtube.com/watch?v=GpwUXtmkSaM&t=1780s
กีฬาคริกเกต็
https://www.youtube.com/watch?v=-jxn9oXUN0E

กีฬาทน่ี ิยมเล่นในประเทศองั กฤษ
รักบี้ (rugby) หรือ rugby football มตี น้ กาเนิดจากเมืองรักบ้ี ประเทศองั กฤษ เป็นกีฬาท่เี ล่น
แข่งกนั 2 ทีม แตล่ ะทมี มีผเู้ ลน่ 15 คน กอ่ นเริ่มเกมจะมกี ารเตะเร่ิมเล่นซ่ึงจะทาที่จุดก่ึงกลาง
สนาม เม่อื ลกู บอลตกลงพ้นื สนามแลว้ กระดอนข้นึ แตล่ ะทีมตอ้ งแยง่ กนั เพ่อื ที่จะนาลูกบอลว่งิ
ไปยงั เขตปลายสุดของสนามหรือส่งให้เพอื่ นในทีมตอ่ ไป หลงั จากหมดเวลาการแข่งขนั ทมี ท่ี
ไดค้ ะแนนสูงกวา่ จะเป็นฝ่ายชนะ

418

คริกเก็ต (cricket) เป็นกีฬาที่แขง่ ขนั ระหว่าง 2 ทีม มคี นเลน่ ทมี ละ 11 คน กติกาการเล่น คือ
ทมี A จดั ให้คนหน่ึงเป็นผขู้ วา้ งลกู (bowler) ไปยงั ไมท้ ่ตี ้งั ไวบ้ นสนามสามอนั เรียกวา่ wickets
ทมี B ตอ้ งจดั คนมารักษา (batsman) โดยใชไ้ มต้ ีไมใ่ ห้ลกู กระทบ wickets ได้ ถา้ ตถี กู ลกู ก็วงิ่ วน
ไปเพือ่ เอาแตม้ เรียกว่า runs จนกวา่ ทีม A ท่ีอยใู่ นสนาม จะนาลกู กลบั มาได้
ทมี่ า: https://en.wikipedia.org/wiki/Rugby_football

http://resources.woodlands-junior.kent.sch.uk/customs/questions/sport.html
ตอ่ มาครูถามว่า What do Thai people like doing? ให้นกั เรียนช่วยกนั ระดมความคิดพูดบอกวา่ คนไทย
ชอบทากิจกรรมอะไรบา้ ง ครูเขยี นคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน เช่น

Thai people like watching boxing.
Thai people like playing football. etc.

ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 55 Ex. 7 ครูอธิบายภาระงานว่า ใหน้ กั เรียนดตู ารางและพดู บอกวา่ แตล่ ะคนชอบและ

ไมช่ อบกิจกรรมอะไรบา้ ง จากน้นั ครูอา่ นตวั อยา่ งใหน้ กั เรียนฟัง และให้นกั เรียนพดู บอกส่ิงที่ Oscar,
Tom และ Cindy ชอบและไม่ชอบทา สุดทา้ ยครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน และเขียน
คาตอบทีถ่ กู ตอ้ งบนกระดาน

Oscar likes swimming and sailing but he doesn’t like gardening.
Tom likes gardening and sailing but he doesn’t like swimming.
Cindy likes swimming and sailing but she doesn’t like gardening.

กจิ กรรมเพมิ่ เตมิ
ครูให้นกั เรียนเล่นเกมเพอ่ื ทบทวนการใช้ like และ don’t like ท่เี วบ็ ไซต์
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-games/and-don’t
2. หนังสือเรยี น หน้า 55 Ex. 8 ครูให้นกั เรียนดูภาพ 1-8 และบอกว่าแตล่ ะภาพคอื ภาพกิจกรรมอะไร เช่น
T: Look at picture no. 1. What activity is it?
Ss: Sailing.
T: Look at picture no. 2. What activity is it?
Ss: Gardening.
T: Look at picture no. 3. What activity is it?
Ss: Playing football.

419

เมอ่ื ทากิจกรรมครบทุกภาพแลว้ ครูเขยี นคาว่า dislike บนกระดาน และอธิบายว่า dislike หมายความว่า
not like (ไมช่ อบ) โดย dis- นามาไวข้ า้ งหนา้ จะมคี วามหมายวา่ ไม่ เช่น disagree (ไมเ่ ห็นดว้ ย),
dishonest (ไม่ซ่ือสัตย)์ จากน้นั ครูวาดภาพหนา้ ยิม้ และหนา้ บ้งึ บนกระดาน ครูถามว่า ภาพใดคือ
dislike และภาพใดคอื like ต่อมาครูคาถามนกั เรียนดงั น้ี

T: Look at picture no. 1. Does Oscar like sailing?
Ss: Yes, he does.
T: Look at picture no. 2. Does he like gardening?
Ss: No, he doesn’t.
ครูขออาสาสมคั ร 2 คน ลุกข้นึ ยืน พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั กิจกรรมท่ี Oscar ทาในภาพท่ี 3
S1: Look at picture no. 3. Does Oscar like playing football?
Ss: No, he doesn’t.
เสร็จแลว้ ครูใหเ้ วลานกั เรียนจบั คู่กนั ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบกิจกรรมในภาพท่ี 4-6 ครูเดินสังเกตการทา
กิจกรรมของนกั เรียน สุดทา้ ยสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่ ลุกข้ึนยนื พูดถาม-ตอบกิจกรรมในภาพท่ี 4-6

3 A: Does Oscar like playing football?
B: No, he doesn’t.

4 A: Does he like swimming?
B: No, he doesn’t.

5 A: Does Oscar like horse riding?
B: Yes, he does.

6 A: Does he like skiing?
B: Yes, he does.

3. หนังสือเรยี น หน้า 55 Ex. 9 ครูอา่ นคาส่งั Read and talk with your friend. และครูอา่ นรายช่ือกิจกรรมที่

ให้มาและให้นกั เรียนอ่านตามครู จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คูก่ บั เพ่ือน อ่านตวั อยา่ งพร้อมกนั แลว้ ผลดั กนั

พูดถาม-ตอบเหมอื นดงั ตวั อยา่ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่ พูดถาม-ตอบให้เพ่อื นฟัง เช่น

S1: Do you like playing tennis?

S2: No, I don’t. Do you?

S1: Yes, I do! Do you like swimming?

S2: Yes, I do! etc.

420

ครูอธิบายเพิม่ เติมต่อจากบทสนทนาขา้ งบนว่า Do you? มาจาก Do you like playing
football? ใชเ้ มื่อตอบคาถามกลบั ทถี่ ามมากอ่ นหนา้ น้ี
ตวั อยา่ ง A: Do you like listening to music?

B: Yes, I do! Do you (like listening to music)?
นอกจากจะใช้ Do you? ในการถามกลบั แลว้ นกั เรียนยงั สามารถใชค้ าถาม What about you?
และ How about you? ในการถามกลบั คาถามเดิมก่อนหนา้ น้นั ได้ มีความหมายว่า “แลว้ คุณละ่ ”

เม่อื นกั เรียนแตล่ ะคพู่ ดู จบแลว้ ครูอาจถามคาถามเพอื่ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พดู สรุปสิ่งท่ีเพ่อื นชอบทา
อกี คร้งั โดยใชค้ าถาม What does (ช่ือนกั เรียน) like doing? เช่น

T: What does Ken like doing?
S1: He likes playing tennis.
T: What does Anne like doing?
S2: She likes swimming.
กิจกรรมเพม่ิ เตมิ
ครูใหน้ กั เรียนดูคลิปวิดีโอชื่อวา่ Mr Bean - Rollercoster จาก
https://www.youtube.com/watch?v=1k6fbLzMBKc
จากน้นั ครูถามคาถามนกั เรียน เช่น

T: Where is Mr Bean?
Ss: He is at an amusement park.
T: Does he like riding a rollercoaster?
Ss: No, he doesn’t.
4. ครูทบทวนประโยคทใี่ ชบ้ อกส่ิงท่ีชอบและไมช่ อบอกี คร้ัง โดยให้นกั เรียนพูดบอกกิจกรรมท่ี
นกั เรียนชอบและไม่ชอบมาอยา่ งละ 2 กิจกรรม เช่น
I like sailing and swimming, but I don’t like cooking and gardening.

ครูย้านกั เรียนว่า ถา้ เป็นเครื่องดนตรีจะมี the นาหนา้ แตถ่ า้ เป็นกีฬา ไมต่ อ้ งมี the เช่น
I like playing the piano, but I don’t like playing tennis.

421

ข้นั Production

1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนจบั คู่กนั และสนทนาเกี่ยวกบั สิ่งทีต่ นเองชอบและไม่ชอบ โดยใช้

บทสนทนาใน Ex. 9 เป็นตน้ แบบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนฝึกพูดใหค้ ลอ่ ง โดยสลบั คู่กบั เพอื่ นอกี 1-2 คร้งั

เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาพดู ท่ีหนา้ ช้นั ใหเ้ พอื่ นฟัง เช่น

S1: Do you like playing football?

S2: Yes, I do! Do you?

S1: No, I don’t. Do you like fishing?

S2: No, I don’t. etc.

2. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลุ่ม จากน้นั ให้นกั เรียนสารวจกิจกรรมทส่ี มาชิกในกลุ่มชอบทาและ

ไม่ชอบทา โดยครูวาดตารางตอ่ ไปน้ีบนกระดานและให้นกั เรียนลอกใส่สมดุ กอ่ นเร่ิมการสารวจ

Topic don’t like
like

playing football
playing tennis
fishing
cooking
playing the piano
listening to music
swimming
drawing a picture
dancing

total

ต่อมาครูบอกว่า ใหแ้ ต่ละกลุม่ เลอื กกิจกรรมในตารางมากลมุ่ ละ 5 กิจกรรม จากน้นั ให้นกั เรียนถาม
กิจกรรมที่สมาชิกในกลุม่ ชอบทาโดยใชโ้ ครงสร้าง Do you like …? หากชอบกิจกรรม ใหท้ า
เครื่องหมาย / ลงในช่อง like หากไมช่ อบใหท้ าเครื่องหมาย / ลงในช่อง don’t like แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่
รวบรวมคาตอบของสมาชิกมาทาเป็นแผนภมู ิแทง่ เพอื่ นาเสนอประกอบการรายงานผลการสารวจที่
หนา้ ช้นั

422

5 Wandee Wasin drawing playing football
Meena cooking
4 Lalita

3 listening to
2 Malee music
1 Surachai

swimming

3. แบบฝึ กหดั หน้า 47 Ex. 7 ครูให้นกั เรียนดภู าพและพดู บอกกิจกรรมที่ Extra ชอบทา โดยก่อนทา
กิจกรรมครูทบทวนโครงสร้างทใ่ี ชบ้ อกส่ิงทช่ี อบและไม่ชอบ ไดแ้ ก่ ประธาน + like (s) + กริยาเตมิ
-ing. ตอ่ มาครูให้นกั เรียนดภู าพท่ี 1 แลว้ ถามว่า What does Extra like doing? เมอื่ นกั เรียนตอบวา่
He likes dancing. ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ภาพ 2-10 ดว้ ย เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่พดู ถาม-
ตอบโดยใชข้ อ้ มลู ในขอ้ 1-10

1 Extra likes dancing.
2 Extra likes visiting friends.
3 Extra likes skiing.
4 Extra likes gardening
5 Extra likes swimming.
6 Extra likes fishing.
7 Extra likes horse riding.
8 Extra likes tidying his room.
9 Extra likes cooking.
10 Extra likes playing football.

4. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 47 Ex. 8 เป็นการบา้ น

423

2 I like visiting friends. / I don’t like visiting friends.
3 I like skiing. / I don’t like skiing.
4 I like gardening. / I don’t like gardening.
5 I like swimming. / I don’t like swimming.
6 I like fishing. / I don’t like fishing.
7 I like horse riding. / I don’t like horse riding.
8 I like tidying my room. / I don’t like tidying my room.
9 I like cooking. / I don’t like cooking.
10 I like playing football. / I don’t like playing football.

7. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและให้ขอ้ มูล
เก่ียวกบั กิจกรรมทีน่ กั เรียนชอบและ แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ไม่ชอบ แบบทดสอบ
ตรวจการพูดประโยคจากภาพ แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบทดสอบ
ตรวจการเขียนประโยคเก่ียวกบั แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
กิจกรรมที่ตนเองชอบและไม่ชอบ พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมงุ่ มนั่ ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.4 อินเทอร์เน็ต

424

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 Put some seeds in the hole.

เวลา 2 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- แสดงบทสนทนาจากเร่ืองท่ีอ่านได้
- อ่านออกเสียงในบทสนทนาหรือเรื่องส้นั ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วดั

ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่ายๆ และบทพูด

เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชี้วัด

ต 2.1 ป.4/1 พูดและทาท่าประกอบอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ

ภาษา

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายคาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างประโยค ทาให้เขา้ ใจเร่ืองท่ีอา่ นและสามารถ

เช่ือมโยงความสมั พนั ธข์ องส่ิงท่ปี รากฏในเน้ือหาท่ไี ดฟ้ ังและอา่ นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
425

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: Make a small hole. Put some seeds in the hole. Then cover and

water the seeds.

Vocabulary: months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water, grow,

catch, gardening, swim, jump, wet, run, sail

2) Language Skills

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น

Speaking: แสดงบทสนทนา

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ใี ชใ้ นการส่ือสาร

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ให้นกั เรียนเล่นเกม Spelling Bee ทบทวนคาศพั ท์ เช่น gardening, sailing, swimming, catch, jump, wet

โดยแบ่งนกั เรียนเป็น 2 กลมุ่ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มผลดั กนั ส่งตวั แทนมายืนหนา้ ช้นั ครูจบั ฉลากและบอก
คาศพั ท์ ให้ตวั แทนกล่มุ พดู สะกดคาศพั ทใ์ ห้ถกู ตอ้ ง ครูเขยี นคาศพั ทท์ ีน่ กั เรียนบอกบนกระดาน
นกั เรียนทส่ี ะกดคาศพั ทถ์ กู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน กลุ่มใดสะกดคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ งมากท่ีสุดเป็นกลมุ่ ท่ีชนะ
2. ทบทวนโครงสร้างที่ใชข้ อและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมที่ชอบ โดยครูเตรียมบตั รคาเกี่ยวกบั กิจกรรม
ตา่ ง ๆ เช่น play in the snow, ride a bicycle, play the guitar จากน้นั ครูแจกบตั รคาให้นกั เรียนคนละ 1
ใบ แลว้ บอกนกั เรียนวา่ ให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพอื่ น แต่งประโยคถาม-ตอบ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
2-3 คู่ ยืนข้ึน ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบให้เพื่อนในช้ันฟัง เช่น

S1: (บตั รคา play the guitar) Do you like playing the guitar?
S2: Yes, I do. Do you?
S1: No, I don’t. I like playing the piano. etc.

426

3. ทบทวนสภาพอากาศแต่ละฤดูกาล โดยถามคาถาม เช่น
T: What’s the weather like in spring?
Ss: It’s windy.
T: What’s the weather like in summer?
Ss: It’s hot.

4. ครูทบทวนการพดู บอกกิจกรรมท่ชี อบและไม่ชอบ โดยครูเขยี นคาต่อไปน้ีบนกระดาน
She / not like / grow / flowers
I / like / fly / my kite
He / not like / drink coffee

จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง โดยใชค้ าทก่ี าหนดให้บนกระดาน และผนั
คากริยาตามประธานใหถ้ ูกตอ้ ง
คาตอบ: She doesn’t like planting flowers.

I like flying my kite.
He doesn’t like drinking coffee.
5. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนดูภาพคร่าว ๆ ในหนงั สือเรียน หนา้ 56 จากน้นั ครูถามนกั เรียน 2-3
คาถาม เช่น
T: Where are Extra and Wendy?
Ss: They are at the backyard.
T: What season is it?
Ss: It is spring.
T: What are they doing?
Ss: They are planting the seeds.

ข้นั Presentation
1. ครูแสดงท่าทางต่าง ๆ และถามคาถามนกั เรียน เพื่อให้นกั เรียนช่วยกนั บอกวา่ ครูกาลงั ทาอะไร เช่น

T: (ครูทาทา่ เดิน) What am I doing?
Ss: Walk.
T: I am walking.
T: (ครูทาท่าเขยี นบนกระดาน) What am I doing?
Ss: You are writing.

427

จากน้นั ครูเขียนคาถามตอ่ ไปน้ีบนกระดาน What are you doing?
ครูถามนกั เรียนว่าคาถามน้ีถามวา่ อะไร เม่อื ไดค้ าตอบวา่ ถามถึงสิ่งท่ีกาลงั ทาแลว้ ครูแสดงทา่ ทาง
เช่นเดิมอกี คร้ัง โดยคร้ังน้ีใหน้ กั เรียนเป็นผูถ้ ามคาถามครู เช่น

T: (ครูทาท่าเดิน)
Ss: What are you doing?
T: I am walking.
T: (ครูทาทา่ เขียนบนกระดาน)
Ss: What are you doing?
T: I’m writing.
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้างประโยคของการพูดบอกส่ิงทีท่ า
ประธาน + verb to be (is/am/are) + v -ing
ครูใหน้ กั เรียนพดู ทบทวนว่า is/am/are ใชก้ บั ประธานตวั ใดบา้ ง
2. ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
1) He is planting some flowers.
2) He always plants flowers in spring.
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมายของประโยคท้งั 2 น้ี จากน้นั ครูพดู สรุปให้นกั เรียนฟังว่า
ประโยคที่ 1 โครงสร้างประโยคคอื verb to be (is/am/are) + v -ing เรียกว่า present continuous ใช้
กล่าวถงึ สิ่งท่ีกาลงั กระทาในขณะทีพ่ ดู หรือช่วงเวลาที่พูด
ส่วนประโยคท่ี 2 คือ present simple เพราะคากริยาเติม -s เมอื่ ประธานเป็นเอกพจน์ โครงสร้างประโยค
น้ีใชก้ ลา่ วถงึ สิ่งทเ่ี กิดข้ึนเป็นประจา หรือกิจวตั รประจาวนั
ตอ่ มาครูพูดประโยคตอ่ ไปน้ีและใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวา่ คอื tense อะไร พร้อมท้งั อธิบายความหมาย
ของประโยคทีค่ รูพดู ดว้ ยภาษาไทย
T: I’m teaching English in the classroom right now.
Ss: Present continuous.

ฉันกาลงั สอนภาษาองั กฤษอยใู่ นหอ้ งเรียนตอนน้ี
ครูอธิบายเพิ่มเตมิ วา่ now, right now, at the moment เป็นคา/วลีบอกเวลา มคี วามหมายวา่ ตอนน้ี เด๋ียวน้ี

T: I usually teach English on Tuesday mornings.
(ครูควรเปลี่ยนช่วงเวลาท่สี อนตามความเป็นจริง เพอื่ ให้นกั เรียนเขา้ ใจงา่ ยข้นึ )

Ss: Present simple.
โดยปกตฉิ นั สอนภาษาองั กฤษทกุ วนั องั คารตอนช่วงเชา้

428

ครูอธิบายเพิ่มเติมวา่ always (เสมอ), usually (โดยปกติ), often (บอ่ ย ๆ), sometimes (บางคร้ัง), never
(ไม่เคย) เป็นคากริยาวเิ ศษณ์บอกความถี่ (adverbs of frequency) มกั ใชร้ ่วมกบั Present simple
ตวั อยา่ ง What are you doing? I’m planting some flowers.
ครูอธิบายวา่ ประโยคถาม-ตอบน้ีมโี ครงสร้างคอื What + v. to be + ประธาน + กริยาเติม -ing? ใช้ถาม
ถงึ สิ่งทเี่ รากาลงั ทา ณ ช่วงเวลาน้นั จากน้นั ครูถามคาถามนกั เรียนและให้นกั เรียนตอบสิ่งทีน่ กั เรียน
กาลงั ทา
3. ครูอธิบายคาวา่ later ในวลี two hours later ครูอธิบายวา่ later เป็นกริยาวิเศษณ์ มคี วามหมายวา่ ผ่านไป
หรือตอ่ มา เช่น three months later (สามเดือนผา่ นไป) six hours later (6 ชวั่ โมงตอ่ มา)

ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า เรายงั ใช้ later ในการกลา่ วอาลาอยา่ งไม่เป็นทางการ มคี วามหมายว่า

พบกนั คราวหนา้ เช่น Later, Tom! See you later.

ข้นั Practice

1. ให้นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 56 Ex. 10 จากน้นั ครูบอกให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือ แลว้ ครูเปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟัง 1 รอบ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาท่นี กั เรียนไดย้ นิ ต่อมาครูบอกนกั เรียน Open your
book. และเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอา่ นเน้ือเร่ืองตามไปดว้ ย เสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียนส้นั ๆ อา่ น
เน้ือเร่ืองดว้ ยตนเองและเลอื กคาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง ตอ่ มาครูเปิ ด CD อกี คร้งั เพอ่ื ให้นกั เรียนตรวจคาตอบ

1 c) summer

2. หนังสือเรยี น หน้า 57 Ex. 11 ครูอ่านคาส่ัง Now read the story and say yes or no. จากน้นั ครูให้เวลา
นกั เรียนกลบั ไปอา่ นเน้ือเรื่องดว้ ยตนเองอกี คร้งั ในเวลาส้นั ๆ และระบวุ ่า ประโยคท่ีใหม้ าถูกหรือผิด
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนพดู รายงานคาตอบ ครูเฉลยคาตอบท่ีถูกตอ้ งบนกระดาน สุดทา้ ยครูเปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟังและฝึกอ่านออกเสียงตาม CD

1 no 2 yes 3 no

ครูเขยี นประโยคคาส่งั จากเน้ือเรื่องบนกระดาน ดงั น้ี

Make a small hole. Put some seeds in the hole.

Then cover and water the seeds.

429

ครูอ่านประโยคใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นออกเสียงตามพร้อม ๆ กนั แลว้ ครูถามนกั เรียนว่าประโยคเหลา่ น้ี
คอื ประโยคอะไร เม่อื ไดค้ าตอบวา่ ประโยคคาส่งั หรือ imperatives แลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทบทวน
โครงสร้างประโยคอกี คร้งั ดงั น้ี

กริยารูป base form (ช่องที่ 1) + ... .
3. ให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน เพื่อเป็น Extra, Wendy และ Oscar แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง

ทลี ะกรอบ และฝึกอา่ นออกเสียงบทสนทนาจนคล่อง โดยเนน้ ใหน้ กั เรียนแบ่งวรรคตอนและออกเสียง
ตามระดบั สูง-ต่าในประโยค (intonation) ให้เหมือนกบั ตน้ ฉบบั ท่ไี ดฟ้ ังจาก CD

ข้นั Production
1. ให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน จากน้นั ครูแจก Story Cutouts ซ่ึงถ่ายเอกสารมาจากแบบฝึกหดั หนา้ 82

ใหน้ กั เรียนกลุม่ เดิมฝึกพดู ประโยคจากภาพใน Story Cutouts จนคลอ่ ง ครูกาหนดเวลาใหน้ กั เรียนแตล่ ะ
กล่มุ ในการฝึกซอ้ ม และเดินสังเกตการทางานของแต่ละกลุ่ม พร้อมท้งั ให้คาแนะนาท่ีจาเป็น เสร็จแลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 กลมุ่ ออกมาแสดงทห่ี นา้ ช้นั ครูย้าให้นกั เรียนแสดงสีหนา้ ท่าทางให้เหมาะสม
กบั บทบาททีไ่ ดร้ บั ดว้ ย เม่อื แต่ละกลมุ่ แสดงเสร็จ ครูใหก้ ลุ่มทเี่ ป็นคนดูบอกขอ้ ดีและขอ้ ทคี่ วรปรับปรุง
ให้กบั เพ่ือนทแี่ สดงอยา่ งละ 1 ขอ้
2. หลงั จากการแสดงแลว้ ครูใหน้ กั เรียนทแ่ี สดงเป็น Oscar พูดแสดงความรู้สึกวา่ ถา้ นกั เรียนเป็น
Oscar นกั เรียนจะรู้สึกอยา่ งไร ถา้ ตกลงไปในบ่อน้าโดยท่ไี มไ่ ดต้ ้งั ใจและตวั เปี ยก แต่เพอื่ นกลบั หวั เราะ
เช่น อบั อาย ตลกขบขนั จากน้นั ครูถามนกั เรียนท่ีเป็น Extra และ Wendy วา่ เม่อื เห็นเพอ่ื นตกลงไป
ในน้า แลว้ หวั เราะ นกั เรียนคิดวา่ Extra และ Wendy หวั เราะดว้ ยความขบขนั หรือหัวเราะดว้ ย
ความสะใจหรือสมน้าหนา้ เพอื่ น ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน แลว้ ช้ีให้เห็นว่า บางคร้ังเมอื่ เกิด
เหตุการณ์ท่ีไม่คาดคิดเกิดข้นึ ทาใหเ้ ราแสดงท่าทางทไ่ี มเ่ หมาะสมออกไป เช่น หวั เราะ แต่จริง ๆ แลว้
คนทีห่ วั เราะ ไม่ไดม้ เี จตนาทจ่ี ะสมน้าหนา้ หรือรู้สึกสะใจ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คดิ ว่า Extra
และ Wendy ควรจะทาอยา่ งไรต่อไป จนไดค้ าตอบว่า รีบไปช่วยดึง Oscar ข้นึ มาจากน้าและอาจจะ
ขอโทษ Oscar ดว้ ย ถา้ เกิด Oscar มอี าการโกรธ
3. ใหน้ กั เรียนฝึกอา่ นเน้ือเรื่องในหนงั สือเรียน หนา้ 56-57 ดว้ ยตนเองทบ่ี า้ น และอ่านใหค้ รูฟังนอก
เวลาเรียน
4. กอ่ นหมดชวั่ โมงเรียน ครูใหน้ กั เรียนพูดบอกลาครูโดยใชส้ านวน See you later. หรือ Goodbye.
5. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 48 Exs. 9-10 เป็นการบา้ น

430

Ex. 9

2 planting flowers 5 because it’s windy

3 Extra 6 summer

4 in summer

Ex. 10

2 March 4 seeds

3 hole 5 water

7. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมินการแสดงบทบาท ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สมมติ ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการแสดงบทสนทนา แบบประเมินความสามารถ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ในการพดู สื่อสาร ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดส่ือสาร แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบทดสอบ
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมงุ่ มน่ั ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ Story Cutouts

431

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 Penfriends! เวลา 2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียงขอ้ ความในจดหมายได้
- ตอบคาถามจากการฟังได้
- เขียนจดหมายถึง penfriend เล่าเก่ียวกบั กิจกรรมท่ีชอบได้
- พดู ให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมทช่ี อบได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมเี หตุผล

ตวั ชี้วัด

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพดู

เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วดั

ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ

ตามแบบท่ีฟัง

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพดู และการเขยี น

ตวั ชี้วดั

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

432

ตวั ชีว้ ัด

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ที่เกิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจกรรมที่ชอบทา ช่วยให้เขา้ ใจเร่ืองท่ีอ่านและ

เขยี นสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: I like listening to music and dancing. I like horse riding too!

I like dogs very much. Do you like playing basketball? Yes, I do.

Vocabulary: months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water, grow, catch,

gardening, swim, jump, wet, run, sail, later

Function: บอกกิจกรรมท่ชี อบทา

2) Language Skills

Speaking: พูดบอกกิจกรรมท่ชี อบ

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Writing: เขยี นจดหมายถงึ penfriend

3) Culture: มารยาทในการเขียนจดหมาย

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดทใี่ ชใ้ นการส่ือสาร

433

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูเดินเขา้ มาในห้องและทกั ทายนกั เรียน Good morning. How are you? เมอื่ นกั เรียนตอบพร้อมกนั แลว้

ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน พดู ตอบครู เช่น
T: Good morning. How are you?
S1: I’m good. And you?
T: I’m OK.

2. ทบทวนคาศพั ทท์ ่เี รียนมาแลว้ เช่น sail, run, catch, swim, jump, dance ดว้ ยการใหน้ กั เรียน
เลน่ เกม Invisible Man โดยครูวาดภาพคนบนกระดาน ประกอบดว้ ยหวั ตวั แขนขวา แขนซ้าย ขาขวา
และขาซ้าย จากน้นั ครูขดี เสน้ ใตเ้ ทา่ จานวนตวั อกั ษรในคาศพั ท์ ครูอธิบายว่า ใหน้ กั เรียนทายพยญั ชนะท่ี
อยใู่ นคาศพั ทท์ ก่ี าหนด ถา้ ทายถูกครูจะลบอวยั วะออกไปคร้งั ละ 1 ส่วน ครูให้นกั เรียนทายตวั อกั ษรไป
เร่ือย ๆ จนภาพคนบนกระดานหายไป

3. ทบทวนเน้ือหาจากคาบเรียนทแ่ี ลว้ โดยถามนกั เรียน 2-3 คาถาม เช่น
T: What do Oscar and Wendy do in spring?
Ss: They plant flowers.
T: Does Oscar like spring?
Ss: No, he doesn’t.
T: Why doesn’t Oscar like spring?
Ss: Because it’s windy.

4. ทบทวนการใช้ and และ but โดยใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยค and และ but มาคนละ 1 ประโยค จากน้นั
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ยนื ข้ึนอา่ นประโยคทีต่ วั เองแตง่ ให้เพอ่ื นฟัง เช่น
S1: I like cooking and gardening.
I like playing basketball, but I don’t like playing football.

5. ครูทบทวนการพดู บอกกิจกรรมท่ชี อบ โดยครูถามนกั เรียนว่า What do you like doing? จากน้นั ครู
รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนมาเขยี นบนกระดานในรูปแผนท่ีความคดิ (mind map)

434

ข้นั Presentation
1. หนังสือเรียน หน้า 58 Ex.12 ครูช้ีที่จดหมายและถามนกั เรียนว่า What is this? เม่ือไดค้ าตอบว่า a letter

แลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ จดหมายฉบบั ดงั กล่าวเป็นของ Cindy ท่ีเขียนถงึ เพือ่ นทางจดหมายหรือ
penfriend ครูให้นกั เรียนอ่าน 2 บรรทดั แรกของจดหมาย หลงั คาข้นึ ตน้ จดหมาย ครูถามนกั เรียนว่า
Cindy เขียนจดหมายติดตอ่ กบั Sabrina นานหรือยงั เมื่อไดค้ าตอบวา่ คร้ังแรก ให้นกั เรียนอธิบายเหตผุ ล
หลงั จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านจดหมายตามไปดว้ ย ครูเปิ ด CD อกี คร้งั โดยหยดุ เป็น
ช่วง ๆ ให้นกั เรียนพูดตามพร้อมกนั และทลี ะคน
ครูช้ีให้นกั เรียนดภู าพทลี ะภาพในหนงั สือเรียน และถามคาถามนกั เรียน ดงั น้ี

T: (ครูช้ีทภ่ี าพ Cindy ฟังเพลง) What does Cindy like?
Ss: She likes listening to music.
T: (ครูช้ีที่ภาพ Cindy กอดสุนขั ) What does Cindy like?
Ss: She likes dogs.
T: (ครูช้ีท่ีภาพ Cindy ขมี่ า้ ) What does Cindy like?
Ss: She likes horse riding.
T: (ครูช้ีที่ภาพ Cindy รับประทานไอศกรีม) What is Cindy doing?
Ss: She likes eating ice cream.
2. ครูให้นกั เรียนดูจดหมายอีกคร้ัง และถามนกั เรียนวา่ คาข้ึนตน้ จดหมายคอื คาวา่ อะไร เมอื่ ไดค้ าตอบว่า
Dear ครูบอกว่า เรายงั สามารถใช้ Hi ____, Hello ____, โดยครูอธิบายว่า คาข้ึนตน้ เหล่าน้ีจะตามดว้ ยช่ือ
บุคคลทเ่ี ราเขียนถึงซ่ึงเรารู้จกั เป็นอยา่ งดี เช่น เพื่อนสนิท สมาชิกในครอบครัว อาจจะเป็นช่ือเล่นหรือ
ชื่อจริงกไ็ ด้ ตวั อยา่ งเช่น

435

Dear Amy, ถงึ เอมี

Hi Mary, สวสั ดี แมรี

Hello Dave, (David’s nickname) สวสั ดี เดฟ (ชื่อเล่นของเดวดิ )

3. ครูอธิบายวา่ ถา้ เรารู้จกั ผูเ้ ขียนอยแู่ ลว้ เรามกั จะข้นึ ตน้ จดหมาย เช่น How are you? Thanks for your

letter. ก่อนจะเริ่มตน้ เน้ือหาในจดหมาย เราควรกล่าวคาทกั ทายหรือขอบคณุ คนทเ่ี ขียนจดหมายมาหา

ครูอธิบายเพิม่ เติมเกี่ยวกบั มารยาทในการเขียนจดหมายว่า นกั เรียนไม่ควรใชต้ วั พมิ พใ์ หญ่ท้งั หมดใน

การเขียนจดหมาย เพราะจะเปรียบเสมอื นเป็นการตะโกนใส่ผอู้ ่าน ซ่ึงไมส่ ุภาพ

4. ครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

Write back soon. (เขยี นกลบั มาเร็ว ๆ นะ)

Write soon. (เขยี นมาเร็ว ๆ นะ)

That’s for now. (ขอจบเพียงเทา่ น้ี)

Write and tell me. (เขยี นมาและเล่าให้ฉันฟังบา้ งนะ)

Hope to see you soon. (หวงั ว่าจะไดพ้ บกนั เร็ว ๆ น้ีนะ)

จากน้นั ครูอธิบายว่า ประโยคเหล่าน้ีใชใ้ นการจบเน้ือหาในจดหมายอยา่ งไม่เป็นทางการเท่าน้นั โดย

จะวางไวก้ ่อนคาลงทา้ ย

5. นาเสนอคาลงทา้ ยจดหมายอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ ให้นกั เรียนหาคาลงทา้ ยจดหมายท่ี Cindy ใช้ เมอื่ ได้

คาตอบว่า Best Wishes (ดว้ ยความปรารถนาดี) แลว้ ครูเขียนคาต่อไปน้ีบนกระดานและบอกความหมาย

เช่น

Love. (รัก)

All the best. (ดว้ ยความปรารถนาดี)

Cheers. (ลากอ่ น)

ครูอธิบายว่า เราสามารถใชค้ าเหลา่ น้ีลงทา้ ยจดหมายได้

Penfriend หมายถึง เพ่ือนทางจดหมาย แตไ่ มเ่ คยพบหนา้ กนั
Best wishes และ Best regards เป็นคาลงทา้ ยจดหมายในภาษาองั กฤษแบบไมเ่ ป็นทางการ
มคี วามหมายว่า ดว้ ยความปรารถนาดี

เราใชเ้ คร่ืองหมาย comma หรือ , วางหลงั คาข้นึ ตน้ และลงทา้ ยจดหมาย
ตวั อยา่ ง Dear Risa, Hi Rose,

Best wishes, Best regards,

436

6. ครูช้ีท่ีส่วนต่าง ๆ ของจดหมายที่ Cindy เขียนอีกคร้งั และใหน้ กั เรียนระบุโครงสร้างของจดหมายวา่
ตอ้ งประกอบดว้ ยส่วนต่าง ๆ ดงั น้ี
1) ทอ่ี ยู่ (address)
2) วนั ที่ (date) เช่น 10th March
3) คาข้ึนตน้ (salutation) เช่น Dear Sabrina,
4) เน้ือความ (body) บอกรายละเอยี ดส่ิงทเี่ ราตอ้ งการจะเขยี น
5) คาลงทา้ ย (complimentary closing) เช่น Best wishes
6) ชื่อผเู้ ขยี น (writer’s name)

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 58 Ex. 13 ครูอ่านขอ้ ความในกรอบคาพดู ให้นกั เรียนฟัง ครูถามนกั เรียนว่า What do

you like doing? Tell me two things. gardening and tidying my room.ครูสุ่มเลอื กนกั เรียน 1 คน พูดบอก
กิจกรรมทตี่ นเองชอบ เมอื่ นกั เรียนตอบแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั ค่กู บั เพื่อนและพูดถาม-ตอบกนั เช่น

S1: What do you like doing?
S2: I like cooking, dancing.

ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอช่ือวา่ Phonics Kingdom 7 Perfect Pronunciation - Adding -ing โดยเขา้ ไปที่
https://www.youtube.com/watch?v=J1UwR97CUYY หรือแนะนาให้นกั เรียนไปเปิ ดดูดว้ ย
ตนเอง

ครูอธิบายว่า คากริยาท่ีเติม -ing จะไม่เนน้ เสียงหนกั ท่ี -ing เช่น singing, writing และใหน้ กั เรียน
ลงเสียงหนกั -เบาในคาใหถ้ กู ตอ้ ง
2. หนงั สือเรยี น หน้า 59 Ex. 14 ครูพดู บอกว่านกั เรียนจะไดเ้ ลน่ เกม โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ยืนข้ึน
อา่ นรายช่ือกิจกรรมทีใ่ ห้มาในกรอบสีเหลือง จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอธิบายกตกิ า
การเล่นเกมวา่ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนเขยี นกิจกรรมทีต่ นเองชอบทาลงในกระดาษแผ่นเลก็ ๆ จากน้นั ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ออกมายนื ทหี่ นา้ ช้นั ให้นกั เรียนที่เหลอื ถามคาถามเพอื่ ทายกิจกรรมทน่ี กั เรียน
คนดงั กลา่ วเขยี นไวใ้ นกระดาษโดยใชโ้ ครงสร้าง Do you like …? นกั เรียนทท่ี ายถูกจะไดอ้ อกมายนื
หนา้ ช้นั และทากิจกรรมต่อไป ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมไปเรื่อย ๆ จนสังเกตว่า นกั เรียนทากิจกรรม
ไดค้ ลอ่ ง

437

Tom: Do you like gardening?
Oscar: No, I don’t.
Lin: Do you like playing basketball?
Oscar: Yes, I do.

ข้นั Production
1. หนงั สือเรยี น หน้า 63 หวั ข้อ Portfolio ครูถามคาถามเก่ียวกบั ตวั นกั เรียน เช่น

T: How old are you?
S1: I’m ten years old.
T: Where are you from?
S1: I’m from Bangkok.
T: What do you like doing?
S1: I like watching TV and playing tennis.
T: What do you dislike doing?
S1: I don’t like cooking and gardening.
T: Have you got a pet?
S1: Yes, I have. I’ve got a dog.
T: What is its name?
S1: Its name is Charlie.
T: What do you like eating?
S1: I like eating pizza and ice cream.
จากน้นั ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนเขียนจดหมายถึง penfriend บอกเลา่ เก่ียวกบั สิ่งท่ตี นเองชอบทา
และไมช่ อบทาและสตั วเ์ ล้ยี งของตนเอง ครูเขยี นคาถามทค่ี รูถามไปบนกระดาน เพอ่ื ใหน้ กั เรียนใชเ้ ป็น
แนวทางในการเขียน เสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียนในการเขียนจดหมาย
Weak classes: ครูและนกั เรียนเขยี นจดหมายร่วมกนั บนกระดานกอ่ น แลว้ จึงใหน้ กั เรียนเขียนดว้ ย
ตนเองท่ีบา้ น หรือครูอาจเขยี นจดหมาย 1 ฉบบั แต่เวน้ ช่องวา่ งใหน้ กั เรียนเติมขอ้ มูลดว้ ยตนเอง

438

(ตวั อยา่ งคาตอบ)
8, Sukhothai Road
Bangkok, Thailand
16th June 2016
Dear Paul,
My name’s Somchai. I’m ten years old and I’m from Thailand. I like watching TV and
playing tennis. I like animals very much. I’ve got a dog. My dog’s name is Charlie.
I like eating pizza and ice cream but I don’t like cooking or gardening – do you?
Write and tell me what you like doing.
Best wishes,
Somchai

ชาวองั กฤษนิยมเล้ียงสัตวเ์ ล้ยี งไวใ้ นบา้ นเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวอกี คนหน่ึง
ชาวองั กฤษมกั พาสตั วเ์ ล้ยี งออกไปเดินเลน่ เมอ่ื สตั วเ์ ล้ยี งเจ็บป่ วยเจา้ ของตอ้ งพาไปหา
สตั วแพทยเ์ หมอื นกบั คน

2. ครูใหเ้ วลานกั เรียนตรวจทานงานเขียนของตนเอง โดยตรวจสอบความถูกตอ้ งของตวั สะกด ไวยากรณ์
และเคร่ืองหมายวรรคตอน เม่อื แกไ้ ขเสร็จแลว้ ใหจ้ บั คกู่ บั เพ่อื นและอา่ นจดหมายใหเ้ พ่อื นฟัง

3. แบบฝึ กหดั หน้า 49 Ex. 11 ครูบอกว่า นกั เรียนจะไดฟ้ ังบทสนทนาระหว่าง Becky และผชู้ ายคนหน่ึง
เก่ียวกบั สิ่งที่ Becky ชอบ จากน้นั ครูทบทวนการลงเสียงหนกั ในคาศพั ท์เกี่ยวกบั เดือน ฤดูกาล อาหาร
และกิจกรรม ดงั น้ี
Months: January, February, March, April, May, June, July, August, September, October,
November, December
Seasons: summer, spring, autumn, winter
Food: chicken, hot dog, sausage, pizza, cake, ice cream, chips, salad, bacon, toast,
cereal, waffle, cream, muffin, orange juice, milk, water, coffee, tomatoes,
banana, apples
Activities: ?

439

ตอ่ มาครูทบทวนโครงสร้างทใี่ ชข้ อและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ส่ิงทช่ี อบ ดงั น้ี

What do you like? I like …

What’s your favourite …? My favourite … is … ./I like … .

Do you like ….? Yes, I do./No, I don’t.

Narrator: Listen and circle.
Man: Becky, do you like skiing?
Becky: No, I don’t. I like swimming.
Man: Swimming?
Becky: Yes!
Two
Man: What do you like eating, Becky? Do you like burgers?
Becky: No, I don’t like burgers, but I like chips.
Three
Man: And what’s your favourite season? Winter?
Becky: No. I don’t like winter. I like autumn!
Four
Man: And what’s your favourite month?
Becky: My birthday is in September, but my favourite month is August.
I like August because I go on holiday in August.

1b 2b 3b 4a

4. ครูขออาสาสมคั รนกั เรียนออกมายนื หนา้ ช้นั 1 คน จากน้นั ให้นกั เรียนแสดงท่าทางใบก้ ิจกรรม

ทตี่ นเองชอบทา ให้นกั เรียนคนทเ่ี หลือช่วยกนั เดาคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง

ตวั อยา่ ง S1: (mimes swimming)

Class: You like swimming! etc.

440

5. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 49 Ex. 12 เป็นการบา้ น

2 no 3 yes 4 yes 5 no 6 no

6. ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านจดหมายในหนงั สือเรียน หนา้ 58 ดว้ ยตนเองทบี่ า้ น และมาอ่านใหค้ รูฟัง
นอกเวลาเรียน

7. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
ประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ 2
วิธกี ารวดั ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ งานเขยี นจดหมายถงึ แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
Penfriend ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดบอกสิ่งที่ชอบ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจการตอบคาถามจากการฟังและ แบบฝึกหดั (Workbook)/ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
อา่ น แบบทดสอบ

สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั

และมุง่ มน่ั ในการทางาน พึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อินเทอร์เน็ต

441

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 Let’s sing!

เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ฤดกู าลและกิจกรรมท่ีทาได้
- เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้
- บอกคาคลอ้ งจองของคาศพั ทท์ ่ีกาหนดได้
- เลอื กภาพตรงตามความหมายของประโยคได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชี้วดั

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด

เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชีว้ ัด

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกบั วยั

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกต้อง

ตัวชี้วดั

ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความของ

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสังคมโลก

442

ตวั ชีว้ ัด ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ
ต 4.2 ป.4/1

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างถาม-ตอบ ช่วยใหเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมทาง

ภาษาและวฒั นธรรมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: I like coffee., I like tea., I like swimming in the sea!

Vocabulary: rhyming words: tea, sea, cake, lake, May, play, school, pool

Pronunciation: ออกเสียงคาท่ลี งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/

2) Language Skills

Reading: อ่านเน้ือเพลง

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียนว่า Hello. How are you? เมอื่ นกั เรียนพูดตอบแลว้ ครูให้นกั เรียนกล่าวทกั ทาย

เพอ่ื นท่นี ง่ั ขา้ ง ๆ ท้งั ฝ่ังซา้ ยและฝ่ังขวา

443

2. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ฤดูกาลและเดือนในภาษาองั กฤษ โดยใหน้ กั เรียนเล่นเกม Noughts and Crosses
หรือ Tic-Tac-Toe ซ่ึงมีวิธีการเล่นเช่นเดียวกบั เกม OX ในประเทศไทย โดยให้แต่ละทมี ผลดั กนั บอก
ช่ือฤดูกาลและเดือน พร้อมท้งั สะกดคาใหถ้ ูกตอ้ ง ตวั แทนทีมทบี่ อกไดถ้ ูกตอ้ ง จะมีสิทธ์ิเลอื กช่องและ
ทาเครื่องหมาย O หรือ X ทมี ทที่ าเคร่ืองหมายไดค้ รบ 3 ช่อง ติดกนั ในแนวใดก็ไดก้ ่อนคอื ทีมชนะ

3. ให้นกั เรียนเลน่ เกม Simon Says เพ่ือทบทวนประโยคคาส่ัง โดยครูเป็นผอู้ อกคาสั่งให้นกั เรียน
ปฏิบตั ติ าม เช่น
T: Simon says, “Clap your hands.”
Ss: (นกั เรียนปรบมอื )
T: Simon says, “Touch your head.”
Ss: (นกั เรียนเอามอื ไปจบั ศีรษะตนเอง)

4. ครูทบทวนประโยคคาส่งั ท่ใี ชใ้ นหอ้ งเรียนและการเช่ือมเสียง โดยเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

Look at the picture.

Walk along this road.

Talk about your family.

Stand up.

Repeat after me.

Turn off the light.

Turn on the light.

จากน้นั ครูอ่านทลี ะประโยคและให้นกั เรียนพดู ตามพร้อมกนั หรือทีละคน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พดู
บอกความหมายในภาษาไทย

ข้นั Presentation

1. นาเสนอคาศพั ทท์ ีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ โดยครูเขียนคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

cake (เคก้ ) lake (ทะเลสาบ)

park (สวนสาธารณะ) shark (ปลาฉลาม)

bike (รถจกั รยาน) like (ชอบ)

444

pink (สีชมพ)ู drink (ด่ืม)

rock (กอ้ นหิน) sock (ถุงเทา้ 1 ขา้ ง)

book (หนงั สือ) cook (ทาอาหาร)

จากน้นั ครูช้ีแต่ละคาและพูดให้นกั เรียนอ่านออกเสียงตามครู โดยครูเนน้ ออกเสียง /k/ ท่ที า้ ยคาให้ชดั เจน

เสร็จแลว้ ครูอธิบายการออกเสียง /k/ ให้นกั เรียนฟัง

หลักการออกเสียงคาทลี่ งท้ายด้วยเสียง /k/
คนไทยมกั จะมีปัญหาการออกเสียง /k/ ท่ีทา้ ยพยางค์ โดยจะออกเสียงเพ้ยี นเป็นตวั สะกด ก
ในภาษาไทยแทน หรือไม่ออกเสียง /k/ เลย ดงั น้นั ครูตอ้ งฝึกใหน้ กั เรียนออกเสียง /k/ ทา้ ยคา
ใหช้ ดั เจน โดยออกเสียง เคอะ (k) เลก็ นอ้ ยท่ีทา้ ยพยางค์ เพือ่ ทจ่ี ะไดส้ ่ือสารกบั ชาวตา่ งชาตเิ ขา้ ใจ
มากข้นึ
ที่มา: http://betterenglishforthai.net/book_pronunciation/chapter11/

ตอ่ มาครูเขียนประโยคเหล่าน้ีบนกระดาน
A pink book is in the park.
Look at the black bike.
A rock is in the sock.
I eat cake and drink some milk.

เสร็จแลว้ ครูอา่ นออกเสียงประโยคดงั กล่าวให้นกั เรียนฟัง 1-2 คร้ัง แลว้ ใหน้ กั เรียนพูดตามจนคลอ่ ง

กจิ กรรมเพมิ่ เติม
ครูเขยี นคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดานและใหน้ กั เรียนลอกลงสมดุ
song sock
cool cook
bag back
pig pink
leg lake
จากน้นั ครูอ่านออกเสียง 3-4 คา ใหน้ กั เรียนวงกลมคาศพั ทท์ ี่นกั เรียนไดย้ ิน

2. ครูสอนเรื่อง rhyming words โดยอธิบายวา่ ในภาษาไทยมีคาคลอ้ งจอง ในภาษาองั กฤษก็เช่นกนั โดย
มกั จะเห็นในกลอนหรือในเพลง จากน้นั ครูเขยี นคาว่า wet บนกระดาน และเขียนคาวา่ hole, pet, sail
บนกระดาน ครูถามนกั เรียนวา่ What rhymes with “wet”? ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงตวั เลอื ก

445


Click to View FlipBook Version