The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:42:24

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 Weather in the UK เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากเรื่องท่อี ่านได้
- พดู รายงานสภาพอากาศได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ฟี ังหรืออ่าน

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด

ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล

ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอื่ ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครวั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดย

การพดู และการเขยี น

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พนั ธ์ของส่ิงต่าง ๆ ใกลต้ วั ตามทฟี่ ังหรืออ่าน

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

246

ตวั ชีว้ ัด

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสังคมโลก

ตัวชีว้ ดั

ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ช่วยให้เขา้ ใจเร่ืองที่อา่ น รวมท้งั เป็นพ้นื ฐานในการสืบคน้

รวบรวมขอ้ มูล และช่วยใหพ้ ดู /เขียนส่ือสารเก่ียวกบั วิถชี ีวติ ของเจา้ ของภาษาได้

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: In Scotland today it’s cold and it’s snowing.
Vocabulary: the UK, Scotland, Ireland, Wales, England
Function: ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศของประเทศต่าง ๆ
2) Language Skills
Speaking: ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศของประเทศต่าง ๆ ใน
สหราชอาณาจกั ร
Reading: อา่ นเพอื่ ความเขา้ ใจ
3) Culture: สภาพอากาศในสหราชอาณาจกั ร

247

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ที่ใชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนทกั ทายกนั จากน้นั ครูสมมตวิ ่า มนี กั เรียนแลกเปลีย่ นชาวองั กฤษจะมาเรียนร่วมกบั

นกั เรียนในวนั น้ี ครูขออาสาสมคั ร 1 คน มาแสดงเป็นนกั เรียนแลกเปลยี่ น และพดู แนะนาตนเอง เช่น
Hello. My name is John. Nice to meet you. และกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนพูดตอบกลบั วา่ Hello, John.
Nice to meet you too. เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พูดแนะนาตวั พร้อมกบั จบั มอื ทกั ทายดว้ ย
เสร็จแลว้ ครูสุ่มนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดทกั ทายทหี่ นา้ ช้นั เรียน

ครูเปิ ดคลิปวดิ ีโอเพลง How's the Weather? - Weather Song - Nursery Rhymes - Educational
Kids Songs - ESL/EFL Music จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=r8h0TaaWKG4
และให้นกั เรียนฝึกร้องเพลงตาม เพื่อทบทวนโครงสร้างภาษาในการบอกสภาพอากาศ

2. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยบอกนกั เรียนวา่ We will fly to the UK today! จากน้นั ครูนาลกู โลกมาวางไวท้ หี่ นา้
ช้นั เรียนหรือติดแผนที่โลกบนกระดาน เสร็จแลว้ ครูถามนกั เรียนว่า Where is the UK? ใหน้ กั เรียน
ช่วยกนั ช้ีบอกครู เม่อื ไดค้ าตอบแลว้ ครูถามเพม่ิ เตมิ เก่ียวกบั ตาแหน่งของประเทศตอ่ ไปน้ี England,
Scotland, Wales, Northern Ireland โดยขออาสาสมคั รออกมาช้ีทีแ่ ผนท่ี

248

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทช์ ื่อประเทศ ไดแ้ ก่ England (องั กฤษ), Scotland (สกอตแลนด)์ , Ireland (ไอร์แลนด)์ ,

Wales (เวลส์) โดยครูวาดแผนที่สหราชอาณาจกั รอยา่ งง่ายบนกระดาน หลงั จากน้นั ให้นกั เรียนลอง
เดาว่า ส่วนใดที่เรียกวา่ Britain และส่วนใดท่ีเรียกว่า the UK เสร็จแลว้ ครูอธิบายความแตกต่างระหวา่ ง
Britain และ the United Kingdom ใหน้ กั เรียนฟัง

Britain ประกอบดว้ ย 3 ประเทศ คือ องั กฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์
the United Kingdom หรือ the UK ประกอบดว้ ย 4 ประเทศ
คือ องั กฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนดเ์ หนือ
England หรือประเทศองั กฤษ มีเมอื งหลวงคอื
กรุงลอนดอน (London)
Scotland ต้งั อยบู่ นเกาะบริเทน เป็นส่วนหน่ึงของสหราช
อาณาจกั ร (the United Kingdom) มเี มืองหลวงคือ กรุงเอดินบะระ
(Edinburgh)
North Ireland หรือประเทศไอร์แลนดเ์ หนือ เมืองหลวงคอื
กรุงเบลฟาสต์ (Belfast)
Wales เป็นประเทศทมี่ ีขนาดเลก็ เป็นส่วนหน่ึงของสหราชอาณาจกั ร มีเมอื งหลวงคือ
กรุงคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff)

กิจกรรมเพมิ่ เตมิ

ครูแสดงภาพธงชาติสหราชอาณาจกั รใหน้ กั เรียนดู แลว้ อธิบายให้นกั เรียนฟังวา่ ใน

ธงชาติสหราชอาณาจกั ร ที่เรียกว่า ยเู นียน แจค๊ (Union Jack) ประกอบดว้ ยธงชาตขิ อง

องั กฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนดเ์ หนือวางซ้อนกนั อยู่ เสร็จแลว้ ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอ

ชื่อ History of the Union Jack เกี่ยวกบั ธงชาติของสหราชอาณาจกั รให้นกั เรียนดจู าก

เวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี

https://www.youtube.com/watch?v=WVZQapdkwLo

2. ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เช้ือชาตหิ รือคนในประเทศสหราชอาณาจกั ร ดงั น้ี

Country Nationality

England English

Scotland Scottish

249

Wales Welsh

Ireland Irish

จากน้นั ครูอา่ นคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟังและออกเสียงตามพร้อมกนั หรือเป็นรายบคุ คลจนคลอ่ ง ครูเนน้ ให้

นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาทีม่ มี ากกว่า 1 พยางคใ์ ห้ถกู ตอ้ ง ดงั น้ี

Britain British

Scotland Scottish

Ireland Irish

ตอ่ มาครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ออกมาสาธิตการพดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ประเทศและเช้ือชาตกิ บั ครู

ตวั อยา่ ง T: Where do you come from?

S1: I come from England.

T: Are you English?

S1: Yes, I am.

คนท่ีมาจาก Britain/Great Britiain หรือ the UK เรียกวา่ the British แต่ถา้ มาจาก England จะ
เรียกวา่ the English

the British (n) - the people of the United Kingdom/Britain
the English (n) - the people of England

คาศพั ทบ์ อกเช้ือชาติส่วนใหญ่ เป็นไดท้ ้งั คานามและคาคณุ ศพั ท์ เช่น British ถา้ เป็นคานาม
หมายถงึ คนในประเทศสหราชอาณาจกั ร ถา้ เป็นคาคุณศพั ทห์ มายถึง ซ่ึงเกี่ยวขอ้ งกบั ประเทศ
สหราชอาณาจกั รและคนในประเทศสหราชอาณาจกั ร ซ่ึงอยใู่ นรูปพหูพจน์เท่าน้นั ยกเวน้
Scottish ซ่ึงทาหนา้ ที่เป็นคาคณุ ศพั ทเ์ พยี งอยา่ งเดียว เราใชค้ าวา่ Scot แทน ซ่ึงหมายถึงคนใน
ประเทศสกอตแลนด์ โดยถา้ เป็นพหูพจนจ์ ะเติม s
ตวั อยา่ ง Daniel is from Scotland. He is a Scot.

Jane is from the UK. She is British.
The British are the people of the UK.

250

3. ครูเขยี น capital city บนกระดานและใหน้ กั เรียนพูดบอกความหมายของคาศพั ท์ จากน้นั ครูถามชื่อ
เมอื งหลวงของประเทศตา่ ง ๆ ในสหราชอาณาจกั ร โดยใชโ้ ครงสร้าง What is the capital city of _____?
โดยใหต้ วั แทนนกั เรียน 4 คน ออกมาหาช่ือเมืองหลวงของแต่ละประเทศในแผนท่ี เมื่อไดค้ าตอบแลว้
ครูถามชื่อเมืองหลวงของแต่ละประเทศอกี คร้งั และใหน้ กั เรียนท้งั ช้นั พูดตามพร้อมกนั เช่น
T: What is the capital city of England?
Class: London!
T: What is the capital city of Scotland?
Class: Edinburgh!
T: What is the capital city of Wales?
Class: Cardiff!
T: What is the capital city of Northern Ireland?
Class: Belfast!

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 37 Ex. 17 ครูอธิบายภาระงาน จากน้นั ครูอ่านขอ้ ความใหน้ กั เรียนฟัง โดยหยดุ อา่ น

เป็นระยะ ๆ โดยเมือ่ ถงึ ช่องวา่ งทใี่ ห้เตมิ คา ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน โดยใหน้ กั เรียนดูสัญลกั ษณ์
สภาพอากาศในแผนทดี่ า้ นลา่ งของหนงั สือเรียน เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านขอ้ ความท้งั หมด
อีกคร้งั เพอื่ ตรวจคาตอบของนกั เรียน ครูเขียนคาตอบทีถ่ กู ตอ้ งบนกระดานอีกคร้งั

1 snowing 3 raining
2 sunny 4 windy

2. ครูถามนกั เรียนเกี่ยวกบั สภาพอากาศของประเทศตา่ ง ๆ ในสหราชอาณาจกั ร โดยให้นกั เรียนดูจาก
บทอ่านเพือ่ ใชใ้ นการตอบ เช่น
T: What’s the weather like in Scotland today?
Ss: It’s cold and snowing.
T: What’s the weather like in England today?
Ss: It’s windy.
T: What’s the weather like in Wales today?
Ss: It’s raining.
251

T: What’s the weather like in Northern Ireland today?
Ss: It’s sunny.
จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คูก่ นั ฝึกพดู ถาม-ตอบอีกคร้งั
3. ใหน้ กั เรียนพดู สนทนากนั โดยสมมตวิ า่ มาจากประเทศใดประเทศหน่ึงในสหราชอาณาจกั ร แลว้ พูด
แนะนาตวั ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ประเทศ เช้ือชาติ และสภาพอากาศท่นี นั่ ครูสนทนากบั นกั เรียน
1 คน เพ่อื เป็นตวั อยา่ ง เช่น
T: Hello. I’m Jane. Nice to meet you.
S1: Hello. I’m Mandy. Nice to meet you too.
T: Where are you from, Jane?
S1: I’m from England. I’m English.
T: What’s the weather like in England?
S1: It’s cold.
4. นาเสนอประโยค tongue twister เพ่ือให้นกั เรียนฝึกออกเสียงเก่ียวกบั สภาพอากาศ โดยครูเขียนประโยค
ต่อไปน้ีบนกระดาน
Whether the weather is warm,
whether the weather is hot,
we have to put up with the weather,
whether we like it or not.
จากน้นั ครูอา่ นทลี ะบรรทดั ชา้ ๆ แลว้ ให้นกั เรียนพดู ตามครูพร้อมกนั เมอ่ื นกั เรียนอ่านจนคลอ่ งแลว้
ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลุม่ ใหเ้ วลาแตล่ ะกลมุ่ ฝึกอ่านประโยคดงั กลา่ ว เสร็จแลว้ ครูใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่ง
ตวั แทนออกมาพดู ประโยค ตวั แทนกลุม่ ใดท่ีพดู ไดค้ ลอ่ งและถกู ตอ้ งที่สุด กลมุ่ น้นั เป็นกลุ่มทชี่ นะ

tongue twister หมายถึง ประโยคท่ีมคี าทอ่ี อกเสียงคลา้ ย ๆ กนั เมอื่ เร่งจงั หวะการอา่ นใหเ้ ร็วข้นึ
จะทาใหล้ ้ินพนั กนั

ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ หน้ กั เรียนไปฝึกออกเสียงเพิ่มเตมิ ที่
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/tongue-twisters/whether-the-weather

252

ข้นั Production
1. ให้นกั เรียนทางานกลมุ่ คน้ ควา้ หาขอ้ มลู จากแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ตหรือหอ้ งสมดุ เก่ียวกบั

สภาพอากาศในประเทศตา่ ง ๆ มา 5 ประเทศ เม่ือหาขอ้ มูลเรียบร้อยแลว้ ให้นกั เรียนวาดแผนทแ่ี ละ
เขียนสญั ลกั ษณ์สภาพอากาศในแตล่ ะประเทศดว้ ย จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกมาพดู รายงานสภาพ
อากาศหนา้ ช้นั ใหเ้ พือ่ นฟัง โดยก่อนพดู รายงานสภาพอากาศ ครูแนะนาให้นกั เรียนกลา่ วคาทกั ทาย
เพ่ือนในช้นั ก่อน เช่น Good morning, everyone. Good afternoon. Welcome to weather forecast.

กอ่ นนกั เรียนออกมาพดู รายงานสภาพอากาศหนา้ ช้นั ครูอาจเปิ ดคลปิ วิดีโอเกี่ยวกบั การรายงาน
สภาพอากาศช่ือ The World Weather Forecast จากเวบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=x2ZAYPGz7bs
เพือ่ ให้นกั เรียนดูเป็นตวั อยา่ งในการพูดนาเสนอของตนเอง

ครูอาจแนะนาเวบ็ ไซตใ์ นการคน้ หาขอ้ มูลเกี่ยวกบั สภาพอากาศใหก้ บั นกั เรียน เช่น
http://worldweather.wmo.int/en/home.html
www.weather-forecast.com/
www.bbc.com/weather/
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 31 Ex. 12 เป็นการบา้ น

(ข้นึ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)

253

7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วธิ ีการวดั ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูดรายงานสภาพอากาศ แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ในแตล่ ะประเทศ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหัด พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมงุ่ มน่ั ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 อปุ กรณท์ าแผนท่ีรายงานสภาพอากาศ
8.4 อนิ เทอร์เนต็

254

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 Songkran Festival!

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ียวขอ้ งกบั เทศกาลสงกรานตไ์ ด้
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั เทศกาลในประเทศของตนเองได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วัด

ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรือสญั ลกั ษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดย

การพูดและการเขียน

ตัวชีว้ ัด

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชี้วัด

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ ่าย ๆ
ของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพอื่ นามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม

ตวั ชีว้ ดั

ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

255

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทเ่ี กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปล่ียนเรียนรู้กับสังคมโลก

ตัวชี้วดั

ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ

2. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ ช่วยใหเ้ ขา้ ใจเรื่องที่อ่าน และเขา้ ใจความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาล

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย และช่วยให้ใชภ้ าษาองั กฤษในการสืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ภมู ิภาคอาเซียน

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: throwing water, beginning, pay respect, elders, colourful shirts
Function: ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั เทศกาลในประเทศของตนเอง
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั เทศกาลในประเทศของตนเอง
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Writing: เขียนใหข้ อ้ มูลส้ัน ๆ เก่ียวกบั เทศกาลในประเทศของตนเอง
3) Culture: เทศกาลสงกรานต์ วนั คริสตม์ าส และวนั ขอบคณุ พระเจา้

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

256

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน

6 กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ให้นกั เรียนเลอื กประเทศในภูมิภาคอาเซียนมาคนละ 1 ประเทศ จากน้นั สมมติวา่ นกั เรียนเป็นนกั เรียน

แลกเปลี่ยนจากประเทศน้ี ให้นกั เรียนออกมาพูดแนะนาชื่อตนเองและประเทศ และทกั ทายเพื่อน ๆ เช่น
S1: Good morning, everyone. My name is Kathy. I come from Singapore. Nice to meet you.
S2: Hello. My name is Sukanya. I come from Cambodia. Nice to meet you.

2. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นกั เรียนบอกชื่อประเพณีหรือเทศกาลที่นกั เรียนรู้จกั ท้งั ในประเทศไทยและ
ต่างประเทศ เช่น Halloween, Christmas, New Year, Songkran

3. นาภาพเกี่ยวกบั ประเพณีสงกรานตม์ าติดบนกระดาน จากน้นั ครูพดู บอกว่า Look at the picture.
What festival is it?

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทท์ ่เี กี่ยวขอ้ งกบั เน้ือหา ไดแ้ ก่ throw water (สาดน้า), beginning (จดุ เริ่มตน้ ), pay respect

(ทาความเคารพ), elders (ผอู้ าวโุ ส), colourful shirts (เส้ือทม่ี สี ีสนั ) โดยการเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน
แลว้ พดู บอกความหมาย หรือยกตวั อยา่ งประโยค หรือบอกคาท่ีมคี วามหมายเหมอื นกนั เช่น

People throw water during Songkran Festival.
You should pay respect to elders and listen to their advice.
She wears a colorful blue and yellow dress to the party.
13th April is the beginning of Songkran Festival.

ประเพณสี งกรานต์
ประเพณีสงกรานต์ เป็นประเพณีการเฉลิมฉลองวนั ข้นึ ปี ใหมข่ องไทยทยี่ ดึ ถือปฏิบตั ิกนั มา
ต้งั แตโ่ บราณ จดั ข้นึ ในวนั ท่ี 13-15 เมษายนของทกุ ปี กิจกรรมในวนั สงกรานต์ มดี งั น้ี
1. ทาบุญตกั บาตร เพ่ืออุทศิ ส่วนกศุ ลให้กบั ญาติและบรรพบรุ ุษทล่ี ว่ งลบั และเป็นการ

เสริมสิริมงคลใหก้ บั ตวั เอง

257

2. ปลอ่ ยนกปลอ่ ยปลา คนไทยมคี วามเช่ือวา่ การปลอ่ ยนกปล่อยปลาเป็นการอโหสิกรรมและ
ไถบ่ าปในส่วนทต่ี นเป็นผูก้ ่อ อกี ท้งั ทาใหเ้ คราะห์ร้ายทีจ่ ะเกิดข้ึนหมดไป

3. ใหท้ านแก่ผยู้ ากไร้ เช่น คนชรา เด็กพิการ เด็กกาพร้า เป็นตน้
4. สรงน้าพระพทุ ธรูปและสรงน้าพระภกิ ษสุ ามเณร
5. รดน้าขอพรผูใ้ หญ่ ไดแ้ ก่ บดิ า มารดา ญาตผิ ูใ้ หญ่ และบุคคลทม่ี ีพระคณุ เพื่อขอพรและ

ขอขมาส่ิงทไ่ี ดล้ ว่ งเกินไป
6. การละเลน่ สาดน้า น้าทีใ่ ชส้ าดกนั น้นั จะใส่น้าอบ น้าหอม แตใ่ นปัจจบุ นั การละเล่นสาดน้า

มีความหลากหลายมากข้นึ สงั เกตจากการนาอปุ กรณต์ า่ งๆ เขา้ มาใชใ้ นการละเลน่ สาดน้า
มากข้นึ
ทีม่ า: http://www.vcharkarn.com/varticle/36247

ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 38 Ex. 1 ครูอา่ นคาสงั่ Read and choose the correct answer. จากน้นั ครู

ให้เวลานกั เรียนอา่ นเน้ือเร่ืองดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครูอ่านคาถามและให้นกั เรียนช่วยกนั พดู ตอบ
ปากเปลา่ ครูเขียนคาตอบท่ถี ูกตอ้ งบนกระดานอกี คร้ัง

1 a) Throw water on each other.
2 b) April

2. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ และใหเ้ วลาแตล่ ะกลุม่ อา่ นบทอ่านและช่วยกนั สรุปเน้ือเร่ืองภายใน 5 นาที
จากน้นั ให้แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนไปสรุปเน้ือเร่ืองทีอ่ ่านใหก้ ลุ่มอ่นื ฟังเพือ่ แบง่ ปันความเขา้ ใจของกลุ่ม
ตนเอง โดยกลมุ่ ท่ี 1 สรุปใหก้ ลมุ่ ที่ 2 ฟัง กลมุ่ ที่ 2 สรุปใหก้ ลุ่มท่ี 3 และกลุ่มที่ 3 สรุปให้กลุม่ ท่ี 1 ฟัง
ให้นกั เรียนทากิจกรรมไปเร่ือย ๆ เสร็จแลว้ ครูสรุปเน้ือเรื่องให้นกั เรียนฟังอกี คร้งั หน่ึง

3. หนังสือเรียน หน้า 39 Ex. 2 ครูอธิบายภาระงาน โดยครูพดู บอกว่า Look at picture a. What are they
doing? ให้นกั เรียนตอบปากเปล่า จากน้นั ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ภาพ b และภาพ c ดว้ ย
เสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียนจบั คู่ประโยค 1-3 กบั ภาพ a - c ลงในสมดุ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน
และเฉลยคาตอบท่ีถูกตอ้ งอกี คร้ัง

258

1 People are throwing water on each other - b
a
2 People are wearing colourful shirts - c

3 People are paying respect to their elders -

4. ครูใหน้ กั เรียนอ่านบทอ่านดว้ ยตนเองอีกคร้ัง จากน้นั ครูถามคาถามเกี่ยวกบั เน้ือเรื่อง เช่น
T: Where does the Songkran Festival happen?
Ss: Songkran Festival happens in Thailand.
T: When is the Songkran Festival?
Ss: It is on 13th-15th of April.
T: What do people wear during the festival?
Ss: They wear colourful shirts.

ครูเขียนประโยคคาถามบนกระดานและใหน้ กั เรียนจบั คู่ พดู ถาม-ตอบอกี คร้งั

ครูอธิบายเพิม่ เตมิ ว่า นอกจากประเทศไทยแลว้ ประเทศอืน่ ก็มีเทศกาลสงกรานตเ์ ช่นกนั
เช่น ลาว กมั พชู า แควน้ สิบสองปันนาในจีน โดยจดั ในวนั และเวลาใกลเ้ คียงกนั กบั ของไทย
กิจกรรมก็คลา้ ยกบั ของไทยคอื มกี ารทาบุญตกั บาตร สรงน้าพระ รดน้าดาหัวผูใ้ หญ่ กอ่ เจดีย์
ทราย และสาดน้าใส่กนั
ที่มา: https://www.wonderfulpackage.com/article/v/574/

ครูถามนกั เรียนวา่ สภาพอากาศมผี ลตอ่ วฒั นธรรมหรือวิถีชีวิตหรือไม่ ครูอาจถามคาถามเพ่ือกระตนุ้

ให้นกั เรียนคดิ เช่น คนในประเทศองั กฤษจะเลน่ สงกรานตเ์ หมือนคนไทยหรือไม่ เพราะอะไร

5. ใหน้ กั เรียนระดมความคดิ พูดบอกกิจกรรมท่ที าในเทศกาลสงกรานต์ โดยถามวา่ What do we do during

the Songkran Festival? ให้นกั เรียนช่วยกนั พูดคาตอบ จากน้นั ครูรวบรวมคาตอบมาเขียนบนกระดาน

6. ใหน้ กั เรียนจบั คู่ สลบั กนั พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั เทศกาลที่นกั เรียนชื่นชอบและกิจกรรมท่ีนกั เรียนทาใน

เทศกาลน้นั เมอ่ื นกั เรียนฝึกพดู จนคล่องแลว้ ครูขออาสาสมคั ร 2-3 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบทหี่ นา้ ช้นั

ตวั อยา่ ง S1: What is your favourite festival?

S2: My favourite festival is Halloween.

S1: What do people do during the Halloween Festival?

S2: They wear ghost costumes. etc.

259

ข้นั Production
1. หนังสือเรยี น หน้า 39 หัวข้อ Over to you ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนคน้ ควา้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เทศกาล

ที่น่าสนใจในประเทศของตนเองจากอินเทอร์เน็ตมาคนละ 1 เทศกาล จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขียนให้ขอ้ มูล
เกี่ยวกบั เทศกาลดงั กล่าว โดยครูเขียนคาถามสาคญั บนกระดานเพ่อื กาหนดขอบเขตในการหาขอ้ มลู
ดงั น้ี

- What’s the name of the festival?
- When is the festival?
- Where does the festival happen?
- What do people do in this festival?

(ตวั อยา่ งคาตอบ)

Rocket Festival

Rocket Festival happens in the northeast of Thailand. It happens in May every year.
During the festival, people make colourful rockets and then fire them into the sky.

ครูช่วยนกั เรียนเขียนช่ือเทศกาลเป็นภาษาองั กฤษ เพื่อช่วยในการคน้ หาขอ้ มูล เช่น
Loy Kratong Festival, Phi Ta Khon Festival, Lopburi Monkey Festival

2. ครูช้ีให้เห็นถึงความสาคญั ของเทศกาลสงกรานต์ นอกจากจะเป็นช่วงเวลาให้เราไดส้ าดน้าใส่กนั อยา่ ง
สนุกสนานแลว้ ยงั เป็นช่วงเวลาของครอบครวั ใหเ้ ราไดก้ ลบั บา้ นไปพบญาตพิ ีน่ อ้ ง ไดท้ าบญุ ร่วมกนั
สรงน้าพระ รดน้าดาหวั ผูใ้ หญ่ท่ีเราเคารพเพื่อขอพรให้ชีวิตเรามแี ต่ความสุข ซ่ึงเป็นประเพณีท่ีเรา
ปฏบิ ตั ิน้ีมีส่วนช่วยให้วฒั นธรรมของเรายงั คงอยู่สืบไป เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ ว่า เจา้ ของภาษา
มเี ทศกาลท่ีใหค้ นกลบั มารวมตวั พบปะกนั เช่นเดียวกบั เทศกาลของไทยและอาเซียนหรือไม่ ครู
รวบรวมคาตอบและอธิบายเกี่ยวกบั กบั เทศกาลขอบคุณพระเจา้ และวนั คริสตม์ าสให้นกั เรียนฟัง

วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) ตรงกบั วนั พฤหสั ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน ในวนั น้ี
สมาชิกในครอบครวั จะไดพ้ บปะสังสรรคแ์ ละร่วมรบั ประทานอาหารเยน็ ร่วมกนั
วนั คริสต์มาส (Christmas Day) ตรงกบั วนั ที่ 25 ธนั วาคมของทกุ ปี เป็นวนั ท่ีสมาชิกใน
ครอบครวั และเพื่อนมารวมตวั กนั เพ่ือใหข้ องขวญั แกก่ นั

260

3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 32-33 หวั ข้อ Modular Revision and Assessment 3
Exs. 1-6 ในคาบเรียน เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบพร้อมกนั

แบบฝึ กหัด หน้า 33 Ex. 5
Narrator: Listen and tick (✓) the box. What is Sandra doing?
Female: Is Sandra in the kitchen?
Male: No, she’s in her bedroom.
Female: Is she sleeping?
Male: No, she isn’t. She’s reading a book.
Narrator: Can you see the tick? This is an example. Now you listen and tick the box.

One
What’s the weather like?
Male: What’s the weather like today? Is it raining?
Female: No, it isn’t.
Male: Is it sunny?
Female: No, it isn’t. It’s very windy.

Two
Where’s Steve?
Male: Where is Steve? Is he in the living room?
Female: No, he isn’t. He’s in the garden.
Male: What’s he doing? Is he riding his bike?
Female: No. He’s playing basketball.

Three
Where are Mum and Dad?
Male: Where are Mum and Dad? Are they running in the park?
Female: No, they’re at the lake.
Male: Are they fishing?
Female: No, they’re swimming.

261

Ex. 1

1 drink 2 watch TV 3 eat 4 cook 5 fish
4 are 5 is
Ex. 2
4 yes 5 no
1 are 2 are 3 is

Ex. 3

1 aren’t watching 4 Are you having

2 am playing 5 is playing

3 aren’t running

Ex. 4

1 sunny 2 snowing 3 raining

Ex. 5

1c 2b 3a

Ex. 6

1 no 2 no 3 no

7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้
วิธกี ารวดั ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี นให้ขอ้ มูล แบบฝึกหดั (Workbook)
เกี่ยวกบั เทศกาลในประเทศของ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตนเอง ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหดั ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่ เรียนรู้และม่งุ มนั่ ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 บตั รภาพเกี่ยวกบั เทศกาลสงกรานต์
8.4 อินเทอร์เน็ต

262

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 CLIL 3 Paint the Weather! เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เร่ืองทีอ่ ่านได้
- พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั สภาพอากาศจากภาพวาดทม่ี ชี ่ือเสียงได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชี้วดั

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู

เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ดั

ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น และครอบครวั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพูดและการเขยี น

ตวั ชี้วัด

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของสิ่งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ตามทีฟ่ ังหรืออ่าน

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชีว้ ัด

263

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ ของ

เจา้ ของภาษา

สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และเป็ น

พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

ตวั ชี้วดั

ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อ่นื และนาเสนอดว้ ย

การพดู /การเขยี น

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สภาพอากาศ ช่วยให้เชื่อมโยงความสมั พนั ธ์ของภาพกบั คา/กลมุ่ คาและ

พดู สื่อสารได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Feathers and Functions

Structure: What’s the weather like? It’s (sunny).

Vocabulary: hunters in the snow, rainy day, yellow sun, cloudy and stormy

weather, summer, warm, cold, winter, boats, bare trees, green

trees, water, hats

Function: ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สภาพอากาศจากภาพวาดทีม่ ชี ื่อเสียง

2) Language Skills

Speaking: พดู ใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศจากภาพวาดทม่ี ีชื่อเสียง

3) Culture: ภาพวาดทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั สภาพอากาศของศิลปิ นทมี่ ีช่ือเสียง

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดที่ใชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการคิดวิเคราะห์
- ทกั ษะการเชื่อมโยง

264

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สีตา่ ง ๆ โดยใชส้ ่ิงของรอบ ๆ ตวั

ตวั อยา่ ง T: What colour is this bag? (ครูช้ีทกี่ ระเป๋ าสีดา)

Ss: It is black.

T: (ครูช้ีทเ่ี ส้ือของตวั เอง) What colour is my shirt?

Ss: It is pink. etc.

2. ทบทวนโครงสร้าง Present continuous โดยใหน้ ักเรียนเลน่ เกมใบค้ า ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ออกมา

ยนื ทหี่ นา้ ช้นั ครูเตรียมสลากโดยเขียนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กิจกรรมต่าง ๆ เช่น read, watch TV, cook, fish,

listen to music, swim แลว้ ใหน้ กั เรียนคนดงั กลา่ วจบั ข้ึนมา 1 ใบ นกั เรียนท่ีเหลอื ตอ้ งทายว่านกั เรียน

คนดงั กล่าวไดก้ ิจกรรมใด โดยใช้โครงสร้าง Are you + กริยาเติม -ing? เช่น

S1: Are you listening to music?

S2: No, I’m not.

S3: Are you cooking?

S2: No, I’m not.

S4: Are you swimming?

S2: Yes, I am. etc.

3. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นกั เรียนสังเกตสภาพอากาศภายนอก แลว้ พดู ว่า Look at the sky. What’s the

weather like today? เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียน

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาคณุ ศพั ทท์ ี่บรรยายสภาพอากาศ ไดแ้ ก่ rainy (มฝี นตก), cloudy (มีเมฆมาก), stormy (มพี าย)ุ ,

sunny (แดดออก), snowy (หิมะตก) โดยแสดงบตั รภาพ จากน้นั ครูอา่ นคาศพั ท์ ให้นกั เรียนฝึกพูดตาม
พร้อมกนั หรือเป็นรายบคุ คล ต่อมาครูให้นกั เรียนช่วยกนั แตง่ ประโยคโดยใชค้ าคณุ ศพั ทเ์ หลา่ น้ี เช่น
It is rainy. It is a rainy day. เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกตาแหน่งของคาคุณศพั ท์ ครูรวบรวม
คาตอบจากนกั เรียนและสรุปให้นกั เรียนฟังวา่ คาคุณศพั ทจ์ ะวางไวห้ ลงั verb to be หรือหนา้ คานาม

265

ตอ่ มาครูสอนนกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาท่ีมมี ากกวา่ 1 พยางค์ ดงั น้ี
rainy cloudy stormy
sunny snowy

2. ครูถามนกั เรียนวา่ นกั เรียนรู้จกั จิตรกรท่านใดบา้ ง จากน้นั ครูนาเสนอภาพวาดของศิลปิ นทม่ี ีช่ือเสียง
โดยนาภาพมาตดิ บนกระดานและอธิบายความสาคญั ของแต่ละภาพ พร้อมบอกประวตั ิของศิลปิ นท่ี
วาดภาพดงั กล่าว

ปี เตอร์ บรูเอเกลิ (Pieter Bruegel) เป็นจิตรกรและนกั ประดิษฐ์ลายพิมพ์ เขาเกิดในปี ค.ศ. 1525
ส่วนสถานทเ่ี กิดน้นั ไม่เป็นทีแ่ น่ชดั วา่ เป็นที่ประเทศเนเธอแลนดห์ รือเบลเย่ียม ในปี ค.ศ. 1565
เขาไดว้ าดภาพชุดซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นถงึ ฤดูตา่ ง ๆ ซ่ึงภาพชุดน้ียงั คงหลงเหลือมาถงึ ปัจจุบนั เพยี ง
5 ชิ้น ภาพวาดที่มีช่ือเสียง ไดแ้ ก่ The Hunters in the Snow (ภาพนายพรานกาลงั ลา่ สตั วท์ ่ามกลาง
หิมะ), Landscape with the Fall of Icarus (ภาพทิวทศั น์ขณะท่ีอคิ ารุสตกลงไปในทะเล)
จอร์จ ปี แอร์ ซูรา (Georges-Pierre Seurat) เกิดวนั ท่ี 2 ธนั วาคม ค.ศ. 1959 ท่กี รุงปารีส
ประเทศฝรง่ั เศส เขาเป็นจิตรกรแนว Post-Impressionism และช่างเขยี นแบบ และเป็นผคู้ ดิ คน้
เทคนิคการวาดภาพแบบวภิ าคนิยม (chromoluminarism) และแบบผสานจดุ สี (pointillism)
ภาพวาดที่มชี ื่อเสียงของเขา ไดแ้ ก่ A Sunday Afternoon on the Island of La Grande Jatte
(ภาพวาดผคู้ นพกั ผอ่ นท่ีเกาะลากรองดฌ์ ตั ) และภาพวาด Bathers at Asnières (ภาพวาดผคู้ นมา
พกั ผอ่ นเลน่ น้าทอ่ี สั นิแยร์ ซ่ึงอยรู่ ิมฝ่ังแมน่ ้าแซน)
พอล โกแกน (Paul Gauguin) เกิดเมื่อวนั ที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1848 เป็นจิตรกร ประตมิ ากร
ช่างพมิ พ์ ช่างป้ัน และนกั เขยี น อกี ท้งั ยงั เป็นผคู้ ดิ คน้ เทคนิคการวาดภาพแบบสังเคราะหน์ ิยม
(Synthetism) ภาพวาดท่ีมชี ื่อเสียง ไดแ้ ก่ Winter Landscape (ภาพวาดฤดหู นาวทม่ี ีหิมะปกคลมุ ),
Manau Tupapau (ภาพวาดหญิงสาวตาฮิตินอนราบบนเตียงและมหี ญงิ แกน่ งั่ อยขู่ า้ งๆ)
วินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent Van Gogh) เกิดในปี ค.ศ. 1853 ที่ประเทศฮอลแลนดห์ รือ
เนเธอร์แลนดใ์ นปัจจบุ นั ภาพวาดของแวน โกะ๊ มลี กั ษณะที่โดดเด่น คอื ใชส้ ีสันฉูดฉาด
มีชีวติ ชีวา นอกจากน้ีผลงานของแวน โก๊ะ ยงั มีการใชพ้ ู่กนั ตวดั ไปมาซ่ึงส่ือให้เห็นถึงอารมณ์
ของเขาขณะท่วี าดภาพน้นั ภาพวาดของเขามกั จะเก่ียวกบั คนและสิ่งของ ภาพวาดทมี่ ีชื่อเสียง
เช่น The Starry Night (ภาพวาดหมู่ดาวระยบิ ระยบั บนทอ้ งฟ้า), Cypresses (ภาพวาดตน้ ไซปรัส
ท่คี ลา้ ยกบั เปลวไฟ), Olive Trees (ภาพวาดทิวทศั นส์ วนมะกอกในฤดรู ้อน)

266

กุสต๊าฟ ไคย์บอตต์ (Gustave Caillebotte) เกิดเมอ่ื วนั ท่ี 19 สิงหาคม ค.ศ. 1848 เป็นจิตรกร
ชาวฝรัง่ เศสแนว Neo-Impressionism ซ่ึงภาพวาดของเขาจะมคี วามเสมือนจริงมากกว่าศิลปิ น
ทา่ นอื่น ๆ ในยคุ เดียวกนั ภาพวาดทม่ี ีช่ือเสียง ไดแ้ ก่ Rainy Day (ภาพวาดผคู้ นเดินกางร่มทา่ ม
กลางฝนตกในกรุงปารีส), The Floor Scrapers (ภาพวาดคนถพู ้ืน)
ทม่ี า: http://www.pieter-bruegel-the-elder.org/

http://www.georgesseurat.org/
http://www.biography.com/people/paul-gauguin-9307741#early-life
http://www.vangoghgallery.com/misc/biography.html#
http://www.gustavcaillebotte.org/

กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอจาก www.youtube.com แลว้ นาเสนอภาพวาดที่มีชื่อเสียงของศิลปิ นต่าง ๆ
โดยพิมพค์ าสาคญั ในช่องคน้ หา เช่น world’s most famous paintings, the greatest
paintings หรือ classic paintings
3. ครูนาเสนอคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั เรื่องทนี่ กั เรียนจะไดอ้ า่ น ไดแ้ ก่ village (หม่บู า้ น), bather (คนเลน่ น้า),
hunter (นายพราน), olive tree (ตน้ มะกอก), landscape (ทศั นียภาพ), wheat field (ไร่ขา้ วสาล)ี , cypress
(ตน้ ไซปรสั ) โดยการเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน จากน้นั ครูช้ีทีค่ าศพั ทแ์ ตล่ ะคาและอา่ นออกเสียงให้
นกั เรียนฟังและอา่ นตามพร้อมกนั เสร็จแลว้ ครูเปิ ดภาพจากอินเทอร์เน็ต หรือใหน้ กั เรียนที่วาดรูปเก่ง
ออกมาเป็นผชู้ ่วยครูในการวาดภาพบนกระดานและใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดาความหมาย

ครูสอนนกั เรียนลงเสียงหนกั (stress) ในคาต่อไปน้ี
village bather hunter
olive landscape cypress

ครูสงั เกตการออกเสียงคาวา่ village ของนกั เรียน แลว้ เขยี นคาว่า village บนกระดาน แลว้ สอนนกั เรียน
อ่านออกเสียง /v/ ให้ถูกตอ้ ง

267

หลักการออกคาศัพท์ท่ีขนึ้ ต้นด้วยเสียง /v/
เสียง /v/ เป็นเสียงที่ไม่มีในภาษาไทย ดงั น้นั คนไทยส่วนใหญ่มกั มปี ัญหาในการออกเสียงน้ี
โดยออกเสียงเหมือน “ว” หรือ “ฟ” แทน
/v/ เป็นเสียงเสียดแทรก (fricative) วธิ ีการออกเสียงคือ ให้ใชฟ้ ันหนา้ บนกบั ริมฝีปากลา่ ง
แตะกนั โดยมว้ นริมฝีปากเขา้ พร้อมกบั ใหก้ ระแสลมจากปอดเสียดแทรกผา่ นช่องแคบ ๆ
ระหวา่ งริมฝีปากลา่ งกบั ฟันบนออกมา

ตาแหน่งต้นคา ตาแหน่งกลางคา ตาแหน่งท้ายคา
voice over dive
view heavy move
van seven live
vain every have

ทมี่ า: http://betterenglishforthai.net/book_pronunciation/chapter6/

กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูอาจเปิ ดคลปิ วดิ ีโอให้นกั เรียนฝึกการออกเสียง /v/ เพิ่มเตมิ ที่
https://www.youtube.com/watch?v=tGBCbXNQ8k0
หรือใหน้ กั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น v sound หรือช่ือคลปิ “/v/
pronunciation” ให้นกั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดูดว้ ยตนเองที่ www.youtube.com

ข้นั Practice

1. แบบฝึ กหดั หน้า 68 Ex. 1 ครูอธิบายภาระงาน โดยให้นกั เรียนดภู าพท่ี 1 ครูพูดว่า Look at picture
number 1. What’s the weather like? และกระตนุ้ ให้นกั เรียนพูด เช่น It’s snowing. ครูอาจถามคาถาม
เพ่ิมเตมิ เช่น What season is it? What are the people doing? ครูทาเช่นเดียวกนั น้ีกบั ภาพท่ี 2-4 จากน้นั
ครูอา่ นชื่อภาพแตล่ ะภาพ พร้อมท้งั ชื่อผวู้ าดภาพ แลว้ ให้นกั เรียนอ่านหวั ขอ้ ทก่ี าหนดให้ ครูให้เวลา
นกั เรียนจบั คูห่ วั ขอ้ เหล่าน้ีกบั ภาพ 1- 4 ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน เสร็จแลว้ ครูเขยี นคาตอบที่
ถูกตอ้ งบนกระดานอกี คร้ัง เพ่อื ใหน้ กั เรียนตรวจคาตอบ

268

1 in the snow 3 rainy day
2 yellow sun 4 cloudy and stormy weather

2. แบบฝึ กหัด หน้า 69 Ex. 2 ครูอ่านคาศพั ท์ 1-8 ที่ให้มา และให้นกั เรียนอ่านตามครู จากน้นั ครูอา่ นคาสั่ง
Look and write A or B. แลว้ จึงให้เวลานกั เรียนจบั คู่ภาพ A และ B กบั คาศพั ท์ 1-8 ที่ให้มา เสร็จแลว้ ครู
รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งบนกระดานอีกคร้งั

2B 4A 6B 8B
3A 5A 7B

อสั นแิ ยร์ (Asnières) คือชุมชนทีต่ ้งั อยรู่ ิมฝ่ังแมน่ ้าแซน (Seine) ทางทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนือของ
กรุงปารีส ประเทศฝรงั่ เศส ชุมชนแห่งน้ีปรากฏในภาพวาดของจอร์จ ปี แอร์ ซูรา ท่ีชื่อว่า
Bathers at Asnières
ทีม่ า: https://en.wikipedia.org/wiki/Asni%C3%A8res-sur-Seine

3. ใหน้ กั เรียนดภู าพวาดในแบบฝึกหดั หนา้ 68 Ex. 1 อกี คร้งั จากน้นั ครูช้ีทีภ่ าพทีละภาพ แลว้ ถามว่า

What do you think of this painting? เพอื่ ให้นกั เรียนพูดแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ภาพเหลา่ น้ี เช่น

T: Look at picture 1. What do you think of this painting?

S1: I think it is beautiful/fantastic/amazing/great.

4. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะคเู่ ลือกภาพวาดมา 1 ภาพ จากแบบฝึกหดั หนา้ 68-69 Ex. 1 หรือ Ex. 2 จากน้นั ให้

นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบเก่ียวกบั สภาพอากาศและส่ิงทบ่ี ุคคลในภาพกาลงั ทา เสร็จแลว้ ครู

สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบหนา้ ช้นั

ตวั อยา่ ง S1: Look at picture 1. What season is it?

S2: It’s winter.

S1: What’s the weather like?

S2: It’s snowing.

S1: What are the people doing?

S2: They are sitting near the river. etc.

269

ข้นั Production
1. แบบฝึ กหดั หน้า 69 หัวข้อ Project Time ครูอา่ นคาสงั่ Paint the weather. และใหน้ กั เรียนช่วยกนั

อธิบายสิ่งท่ีตนเองตอ้ งทา โดยครูช่วยอธิบายเสริม จากน้นั ให้นกั เรียนดภู าพวาด Wheat Field with
Cypresses ของแวน โก๊ะ แลว้ ใหน้ กั เรียนระบายสีภาพที่อยทู่ างขวามอื ให้สวยงาม
โดยกอ่ นเร่ิมชว่ั โมงเรียน ครูนาภาพจาก Worksheet A ซ่ึงครูถ่ายเอกสารจากส่วนทา้ ยของแผนน้ี และ
ขยายขนาดเทา่ A4 ให้เพียงพอต่อจานวนนกั เรียน เพอ่ื ให้นกั เรียนนาไประบายสี

ภาพวาด A Wheat Field with Cypresses (หรือบางคร้ังเรียกวา่ A Corn Field with Cypresses)
เป็นผลงาน 1 ใน 3 ของภาพวาดสีน้ามนั ชุดเดียวกนั กบั ทีแ่ วน โกะ๊ วาดในปี ค.ศ. 1889 ระหวา่ ง
เขา้ รบั การบาบดั อาการป่ วยทางจิตท่ีแซงตป์ อล เดอ โมโซล (Saint-Paul-de-Mausole) ในหมบู่ า้ น
แซงต-์ เรมี (Saint-Rémy) ใกลก้ บั เมอื งอาร์ล (Arles) ทางตอนใตข้ องฝร่งั เศส ระหวา่ งที่อยทู่ ่ีนน่ั
เขาไดร้ ับแรงบนั ดาลใจมาจากทวิ ทศั นจ์ ากหนา้ ต่างในสถานบาบดั ที่แสดงให้เห็นเทือกเขาอลั ปี ย์
(Alpilles) ที่ทอดยาวสวยงาม และทุง่ ขา้ วสาลที เ่ี หลืองอร่าม
ท่ีมา: https://en.wikipedia.org/wiki/Wheat_Field_with_Cypresses

กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูใหน้ กั เรียนทาช้ินงาน My painting โดยวาดรูปภมู ปิ ระเทศแห่งหน่ึงให้เห็นสภาพอากาศที่
ชดั เจนและส่ิงท่คี นในภาพน้นั กาลงั ทา จากน้นั ให้ระบายสีและตกแตง่ ให้สวยงามพร้อมกบั
ต้งั ช่ือภาพของตนเอง เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รนกั เรียนออกมาพดู นาเสนอผลงานของ
ตนเองหนา้ ช้นั

270

Worksheet A
Name: _____________________________ Class: __________

Paint the Weather!

271

7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชิ้นงาน Paint the weather แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหัด ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมงุ่ มนั่ ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 กระดาษ A4 และดินสอสี
8.4 บตั รภาพ
8.5 Worksheet A
8.6 อนิ เทอร์เน็ต

272

4 Hooray, It’s Saturday!

ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 เวลาเรียน 12 ช่ัวโมง
1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

ตวั ชี้วัด อย่างมเี หตผุ ล
ต 1.1 ป.4/1
ต 1.1 ป.4/2 ปฏิบตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น
อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
ต 1.1 ป.4/3 เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
เลือก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
ต 1.1 ป.4/4 และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ฟี ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
ตวั ชี้วดั แสดงความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ต 1.2 ป.4/1
ต 1.2 ป.4/2 พดู /เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบุคคล
ต 1.2 ป.4/3 ใชค้ าสัง่ คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์
ต 1.2 ป.4/4 งา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 พูด/เขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น และครอบครัว
นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย
ตัวชีว้ ดั การพดู และการเขยี น
ต 1.3 ป.4/1
พูด/เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของส่ิงตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ตามท่ีฟังหรืออ่าน

273

สาระที่ 2 ภาษากับวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตวั ชีว้ ัด

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วยั

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกต้อง

ตัวชีว้ ดั

ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น

พืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตัวชีว้ ดั

ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่เี ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ และนาเสนอดว้ ย

การพูด/การเขยี น

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทเ่ี กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสังคมโลก

ตวั ชี้วดั

ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ

274

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การรู้และเขา้ ใจเรื่องทไ่ี ดศ้ กึ ษา คาศพั ทส์ านวนและโครงสร้างภาษา ช่วยให้สนทนา เขียนโตต้ อบ พดู /
เขียนสื่อสารเก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั และสถานการณ์ท่ีกาหนดไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: What does Oscar do on Mondays? He visits his grandfather.
Vocabulary: Does Oscar play football on Tuesdays? No, he doesn’t.
He tidies his room on Tuesdays!
What time is it? It’s one o’clock. It’s time for lunch!
What does Jack Michaels do at six o’clock? He gets up.
Does the bus come on Saturdays? He doesn’t go to school on
Saturdays. I get up at six o’clock every morning. I swim in the pool
and I have a shower. Then I have breakfast. At four o’clock she
plays the paino and she sings.
This is the time I go to school, it’s eight o’clock in the
morning.
All the pupils at Melissa’s school wear a school uniform.
Melissa has Geography every Tuesday and Thursday.
It is 7 o’clock in Thailand, but it is 8 o’clock in Singapore.
We sleep in the daytime. We come out at night to look for food.
We look for food in the daytime. We sleep at night.
(Days of the week) Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday,
Friday, Saturday, Sunday
(Nouns) o’clock, breakfast, lunch, dinner, break, school, bed,
singer, theatre, school uniform, bus, computer lab, school team,
subject, geography, time zone
(Adjective) favourite
(Phrasal verbs) wake up, get up

275

(Phrases) go to school, play basketball, make sure

(Animals) giraffe, horse, elephant, canary, deer, bat, koala, owl,

hedgehog

Pronunciation: ออกเสียงเช่ือมระหวา่ งคา, ลงเสียงหนกั ในคา, ออกเสียงคาท่ีมี sh

ประกอบ, ออกเสียงคาทมี่ ี ch ประกอบ

Function: ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั , ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั

เวลาและกิจกรรมที่ทาเป็นประจา, ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั ร

ประจาวนั , ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั และความ

ตอ้ งการกิจวตั รประจาวนั , บอกเวลาของประเทศต่าง ๆ ในภมู ิภาค

อาเซียน, ให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวท์ ห่ี ากินตอนกลางวนั และกลางคนื

2) Language Skills

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง, ฟังและเติมคาได้

Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั , พูดขอและใหข้ อ้ มลู

เกี่ยวกบั เวลาและกิจกรรมที่ทาเป็นประจา, พดู ขอและให้ขอ้ มลู

เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั และเวลา, แสดงบทสนทนา, พูดขอและให้

ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั และความตอ้ งการ, พูดขอและให้

ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ชีวติ ในโรงเรียนของตนเองและผอู้ ืน่ , พดู บอกเวลาของ

ประเทศตา่ ง ๆ ในภูมภิ าคอาเซียน, พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวท์ ี่

หากินตอนกลางวนั และกลางคนื

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น

Writing: เขยี นขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ชีวิตประจาวนั ของตนเอง,

เขียนบอกเวลาของประเทศตา่ ง ๆ ในภมู ภิ าคอาเซียน, เขียนบรรยาย

ชีวติ ในโรงเรียนของตนเอง

3) Culture: การบอกเวลา, คานาหนา้ ชื่อ Mr, Miss, Ms และ Mrs, รถโดยสาร

สองช้นั (double decker), อาหารกลางวนั , เครื่องแบบนกั เรียนใน

ประเทศองั กฤษและสหรัฐอเมริกา, เส้นแบ่งเวลาในภมู ภิ าคอาเซียน,

การจบั มือทกั ทาย (handshake), ชีวติ นกั เรียนในประเทศองั กฤษ

276

4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดทใี่ ชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู
- ทกั ษะการสารวจ
- ทกั ษะการเฃอื่ มโยง
- ทกั ษะการจดั กลมุ่
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

5 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

1. การพดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของเพ่อื น
2. การเลือกภาพตรงตามความหมายของประโยคและขอ้ ความทอ่ี ่าน
3. การเขียนขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของตวั การ์ตนู ท่ีช่ืนชอบ
4. ช้ินงานแผ่นป้ายประกาศ
5. การเขียนประโยคตรงตามความหมายของภาพ
6. การพดู ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของผอู้ ื่น
7. การเขยี นบนั ทกึ ประจาวนั ของตนเอง (My diary)
8. การพดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั เวลาและกิจกรรมทีท่ า
9. การแสดงบทบาทสมมติ Cinderella - What time is it?
10. การพูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของตนเอง
11. การจบั ค่ปู ระโยคกบั รูปภาพ
12. ช้ินงานโปสเตอร์คาศพั ทท์ ่ีมี sh ประกอบ
13. การแสดงบทสนทนา
14. การอ่านออกเสียง
15. ช้ินงานสารวจความตอ้ งการ

277

16. การเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ชีวติ ในโรงเรียนของตนเอง
17. ช้ินงานโปสเตอร์เวลาของประเทศต่าง ๆ ในภมู ิภาคอาเซียน
18. การคน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั ความแตกตา่ งระหว่างเวลาของไทยกบั ประเทศอ่นื ๆ
19. การพูดขอร้องในช้นั เรียน
20. ช้ินงานสมดุ ภาพคาศพั ทช์ ื่อสตั วท์ อี่ อกหากินตอนกลางวนั และกลางคนื
21. ช้ินงานโปสเตอร์สัตวป์ ระจาชาติ
22. การพูดขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สตั ว์

7 การวัดและประเมินผล
7.1 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ทาแบบฝึกหัดใน Workbook หนา้ 34-41
7.2 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินชิ้นงานในขอ้ 6

8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CDประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อุปกรณท์ าชิ้นงาน/โปสเตอร์
8.6 บตั รภาพ Story Cutout
8.7 อนิ เทอร์เนต็

278

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 What does Oscar do on Mondays?

เวลา 1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพดู

เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ีฟังหรืออา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วดั

ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครวั

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั และโครงสร้างภาษา ช่วยใหพ้ ดู /เขยี น

ส่ือสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

279

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: What does Oscar do on Mondays? He visits his grandfather.

Vocabulary: wake up, get up, go to school, play basketball, days of the week,

Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday, Friday, Saturday, Sunday

Pronunciation: ออกเสียงเชื่อมระหวา่ งคา (linking sounds)

Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั

2) Language Skills

Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการสื่อสาร

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียนในช้นั วา่ How are you? จากน้นั ครูเขียน How are you doing? บนกระดาน

แลว้ อธิบายว่า นอกจากเราจะใช้ How are you? เพ่ือถามว่าสบายดีหรือไม่ เราสามารถใช้ How are you

doing? ไดเ้ ช่นกนั คาตอบจะเหมือนกบั How are you? เช่น I’m fine. I’m great. Not bad. เสร็จแลว้ ครู

เดินไปรอบ ๆ หอ้ งเรียน แลว้ สุ่มถามนกั เรียน 4-5 คน ใหน้ กั เรียนพดู ตอบครู โดยทแ่ี ตล่ ะคนตอ้ งตอบ

ไมซ่ ้ากนั เช่น

T: How are you doing?

S1: I’m great.

T: How are you doing?

S2: Not bad. etc.

280

2. ทบทวนประโยคขออนุญาตท่ใี ชใ้ นหอ้ งเรียน โดยครูสร้างสถานการณ์ เช่น ถา้ นกั เรียนตอ้ งการยืมดินสอ

ของเพอ่ื น จะตอ้ งพูดว่าอยา่ งไร เมอื่ ไดค้ าตอบวา่ Can I borrow your pencil? ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน

พูดขออนุญาต โดยท่คี รูบอกสถานการณเ์ ป็นภาษาไทย ใหน้ กั เรียนพดู เป็นภาษาองั กฤษ เช่น

T: ตอ้ งการยืมหนงั สือ

S1: Can I borrow your book?

T: ตอ้ งการเขา้ ห้องน้า

S2: May I go to the toilet, please? etc.

3. ทบทวนคาศพั ทว์ นั ท้งั 7 โดยครูเขียนวนั ท้งั 7 บนกระดานเป็นภาษาไทย จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั บอก

คาศพั ทเ์ ป็นภาษาองั กฤษพร้อมกบั สะกดคาให้ครูเขียนดว้ ย

ตวั อยา่ ง T: วนั ศุกร์

S: Friday.

T: How do you spell this word?

S: F-R-I-D-A-Y. etc.

4. ทบทวนการใชค้ าคุณศพั ทแ์ สดงความเป็นเจา้ ของ (possessive determiners) โดยครูเขยี น I, you, we,

they, he, she, it บนกระดาน จากน้นั ใหช้ ่วยกนั บอกวา่ คาใดเป็นสรรพนามเอกพจน์หรือพหูพจน์ เมอ่ื ได้

คาตอบแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาเขียนคาคุณศพั ทแ์ สดงความเป็นเจา้ ของบนกระดาน ดงั น้ี

I → my you → your

they → their we → our

he → his she → her

it → its

ต่อมาครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

1) _____ is Katy. I’m from England.

2) This is _____ shirt. I like to wear it every Sunday.

3) Bob has a van. _____ van is very old.

4) They brush _____ teeth before they go to bed.

5) I have got a cat. _____ name is Luna.

6) We love to go to school. _____ school is fantastic.

7) Do you open _____ eyes under water?

ใหน้ กั เรียนผลดั กนั ออกมาเติมคาตอบ เม่ือเติมคาตอบเสร็จแลว้ ครูตรวจความถกู ตอ้ งอกี คร้งั

คาตอบ: My, my, His, their, Its (Her), Our, your

281

ครูอาจปรบั กิจกรรมน้ีดว้ ยการทาบตั รคา her, my, his, their, its, our, your และนาไปซ่อนใน
ทตี่ า่ ง ๆ ในห้อง จากน้นั ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 7 กลุม่ และแจกบตั รประโยคให้แต่ละกลุ่ม
กลุ่มละ 1 ประโยค เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ แข่งกนั หาบตั รคาท่ีนามาเตมิ ลงในประโยค
ของกลมุ่ ตนเองใหส้ มบรู ณ์ ครูให้เวลานกั เรียนหาจนพบคาตอบทกุ กลุ่ม เสร็จแลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่
ออกมาเฉลยคาตอบ ครูให้เพือ่ น ๆ ปรบมอื ให้กบั กล่มุ ทพี่ บคาตอบเป็นกลมุ่ แรก

กจิ กรรมเพ่มิ เตมิ
ครูสอนคาศพั ทเ์ พ่ิมเติม เช่น wash face (ลา้ งหนา้ ), brush teeth (แปรงฟัน), get dressed
(ใส่เส้ือผา้ ) โดยแสดงท่าทางใบค้ า เพือ่ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย
จากน้นั ครูเปิ ดเพลง This is the way ให้นกั เรียนฟังและฝึกร้องตามจาก www.youtube.com
โดยพิมพช์ ่ือคลปิ This Is the Way | Song for Kids by Little Fox หรือเขา้ ไปที่เวบ็ ไซต์
ตอ่ ไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=ijV8hEde1YI

ข้นั Presentation
1. นาเสนอวลตี อ่ ไปน้ี wake up (ตนื่ นอน), get up (ลกุ จากทนี่ อน), go to school (ไปโรงเรียน), play

basketball (เล่นบาสเกตบอล), tidy the room (ทาความสะอาดหอ้ ง), do homework (ทาการบา้ น),
ride a bike (ขี่จกั รยาน), watch TV (ดโู ทรทศั น)์ ดว้ ยการให้นกั เรียน 1 คน ออกมาแสดงท่าทาง แลว้ ครู
พูดนาเสนอคาศพั ท์ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย เมือ่ บอกความหมายไดถ้ กู ตอ้ งแลว้ ครูแสดง
บตั รคา และให้นกั เรียนอ่านออกเสียงตามครูอีก 1-2 คร้ัง ครูย้าให้นกั เรียนเขา้ ใจความแตกตา่ งระหว่าง
คาว่า wake up และ get up

wake up มคี วามหมายว่า ลืมตาตนื่ ข้ึนมาแตย่ งั นอนอยบู่ นเตยี ง ส่วน get up มีความหมายวา่

ลุกจากที่นอน

ตอ่ มาครูเขยี นสานวน wake (sb) up บนกระดาน จากน้นั อธิบายวา่ สานวนดงั กล่าวมีความหมาย

วา่ ปลกุ ใหต้ น่ื เช่น

Come on, wake up - breakfast is ready. (ตื่นเถอะ อาหารเชา้ พร้อมแลว้ )

I wake up at 7 o’clock, but I don't get up until 7:30. (ฉันต่นื นอนเวลา 7.00 น. แต่ฉัน

จะไมล่ กุ จากทีน่ อนจนกวา่ จะถงึ

เวลา 7.30 น.)

282

ครูสอนคาศพั ทเ์ พมิ่ เตมิ คอื visit grandparents (เย่ียมป่ ูและยา่ /ตาและยาย) และ go to the cinema
(ไปดภู าพยนตร์) ต่อมาครูอ่านออกเสียงแต่ละวลใี หน้ กั เรียนฟัง แลว้ ให้นกั เรียนฝึกพดู ตาม โดยใช้คาสงั่
Repeat after me. จากน้นั ครูอ่านออกเสียงวลี wake up และ get up ให้นกั เรียนฟังอีกคร้ัง และให้นกั เรียน
สังเกตเสียงเชื่อมในวลีดงั กล่าว แลว้ ครูอธิบายเพิ่มเตมิ เร่ืองการออกเสียงเช่ือมระหวา่ งคา (linking sound

การออกเสียงเช่ือมระหว่างคา (linking sound)

ในภาษาองั กฤษจะมกี ารออกเสียงเชื่อมระหว่างคา หากคาแรกลงทา้ ยดว้ ยเสียงพยญั ชนะ

และคาหลงั ข้นึ ตน้ ดว้ ยเสียงสระ เสียง 2 เสียงน้ีกจ็ ะเช่ือมกนั

ตวั อยา่ ง get up come in

get out wake up

stop it look at

this afternoon
ทีม่ า: http://www.rdpscc.com/English.htm

2. ครูแสดงภาพนกั แสดงเด็กทีม่ ีช่ือเสียง 1 คน เช่น อนั ดา (ละครเร่ือง พรพรหมอลเวง) แม็กหรือยอร์ช

(ละครเรื่อง ทองเนือ้ เก้า) แลว้ ครูถามนกั เรียนว่า Do you know her/him? Her/His name is ______.

You can see her/him on TV. Today we will talk about her/his daily routine. จากน้นั ครูนา

ตารางขอ้ มลู กิจวตั รประจาวนั ของนกั แสดงเด็กคนดงั กล่าวมาติดแสดง

Monday ride a bike

Tuesday watch TV

Wednesday tidy the room

Thursday play basketball

Friday go to the cinema

Saturday do homework

Sunday visit grandparents

ครูใหน้ กั เรียน 1 คน ที่ไดฝ้ ึกซอ้ มพดู กบั ครูมาแลว้ มาเป็นผตู้ อบคาถามครู เช่น
T: What does Unda/Mac do on Monday?
S1: She/He rides her/his bike.

283

ครูถามจนครบกิจกรรมที่ทาเป็นประจาในแต่ละวนั จากน้นั เขยี นตวั อยา่ งประโยคคาถามและคาตอบบน
กระดาน ดงั น้ี

T: What does Unda/Mac do on Monday?
S1: She/He rides her/his bike.
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั วิเคราะห์โครงสร้างของประโยคคาถามและคาตอบ เสร็จแลว้ ครูสรุปโครงสร้าง
ให้นกั เรียนดูบนกระดาน
โครงสร้างประโยคคาถาม คือ ...........................
โครงสร้างประโยคบอกเลา่ คอื ................
สุดทา้ ยครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหต้ อบคาถามเกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั จากตารางขอ้ มูลบนกระดาน ครูย้า
ใหน้ กั เรียนออกเสียง -s/-es ทา้ ยคากริยารูปเอกพจน์ใหช้ ดั เจน แลว้ ใหน้ กั เรียนทเ่ี หลอื พดู ประโยคที่
ถูกตอ้ งตาม 1-2 คร้งั

กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูอาจเปิ ดคลิปวิดีโอให้นกั เรียนฝึกการออกเสียงคาเชื่อมเพิ่มเติมที่
https://www.youtube.com/watch?v=gAHUTKm_1n0
หรือใหน้ กั เรียนฝึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น linking sound หรือช่ือคลิป
Connected Speech & Linking | American English Pronunciation ให้นกั เรียนเขา้ ไป
เปิ ดดดู ว้ ยตนเองที่ www.youtube.com
3. ครูเขยี นตวั อยา่ งประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
I get up at 6 o’clock every day.
I visit my grandfather every Sunday.
I watch TV every day.
I play basketball on Tuesdays.
I go to the cinema on Fridays.
I ride a bike every day.
I do my homework every day.

การเติม s หลงั ช่ือวนั หมายถึง ทุก ๆ วนั น้นั เช่น Sundays (ทุกวนั อาทิตย)์ , Mondays
(ทกุ วนั จนั ทร์) จะมีความหมายคลา้ ยกบั การใช้ every + ชื่อวนั เช่น every Sunday, every
Monday แต่ถา้ ใช้ every ช่ือวนั จะไมเ่ ตมิ s

284

จากน้นั ครูเรียกนกั เรียนชาย 1 คน ออกมายืนหนา้ กระดาน แลว้ พูดวา่ He gets up at 6 o’clock. และให้

นกั เรียนพูดตาม ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ประโยคอ่ืนดว้ ย โดยเปล่ยี นสรรพนามจาก I เป็น He

และครูเขยี นประโยคบนกระดาน พร้อมท้งั ขีดเส้นใตค้ ากริยาท่ีเติม -s/-es ครูย้ากบั นกั เรียนว่า ถา้

ประธานเป็นเอกพจน์ คากริยาจะตอ้ งเตมิ -s/-es เสมอ เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนจบั กล่มุ กลุ่มละ 3 คน

ผลดั กนั แต่งประโยคเช่นเดียวกนั น้ีโดยใชข้ อ้ มลู ของเพอ่ื นในกลุม่ เช่น

He gets up at 7 o’clock every day. He plays basketball every Friday.

ข้นั Practice

1. หนงั สือเรียน หน้า 40 Ex. 1 ครูพดู บอกนกั เรียน Look at exercise 1. Listen, point and repeat. และเปิ ด
CD ให้นกั เรียนฟัง 2 คร้งั คร้ังแรกให้นกั เรียนฟังและช้ีตามไปดว้ ย คร้งั ท่ี 2 ครูหยดุ CD เป็นระยะ ให้
นกั เรียนพดู ตามพร้อมกนั เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนทีละคน อา่ นออกเสียงใหเ้ พือ่ นฟัง ครูย้าให้
นกั เรียนออกเสียงเชื่อมระหว่างคาในคาวา่ wake up และ get up ดว้ ย

wake up, get up, go to school, play basketball
Days of the week
Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday, Friday, Saturday, Sunday

2. หนังสือเรยี น หน้า 40 Ex. 2 ครูพูดประโยคคาส่ัง Close your book. แลว้ วาดตารางในกิจกรรมน้ีบน

กระดาน จากน้นั ครูช้ีไปที่ Monday แลว้ ถามนกั เรียนว่า What does Oscar do on Mondays? และให้

นกั เรียนพดู ตอบ เช่น He visits his grandfather.

ต่อมาครูเขยี นคากริยารูปเอกพจน์ ดงั น้ี

visits tidies does rides

watches plays goes

ครูอธิบายการเตมิ -s/-es หลงั คากริยาที่ประธานเป็นเอกพจน์ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนฝึกออกเสียงตาม

การเตมิ s และ es หลงั คากริยาในประโยค present simple
1. คากริยาทว่ั ไป (regular verbs) สามารถเติม s ขา้ งหลงั คากริยาน้นั ไดเ้ ลย

เช่น work → works
visit → visits

285

2. คากริยาทลี่ งทา้ ยดว้ ย s, sh, ch, x, z ตอ้ งเติม es
เช่น kiss → kisses
wash → washes
watch → watches

3. คากริยาที่ลงทา้ ยดว้ ย y ให้เปลย่ี น y เป็น i แลว้ เติม es
เช่น fly → flies
study → studies

ทมี่ า: ภาษาองั กฤษออนไลน์.com/การเติม-s-es-ทคี่ ากริยา-present-simple-tense/

การออกเสียง s, es ท้ายคากริยา
เสียง s, es ทา้ ยคากริยาสามารถออกเสียงได้ 3 แบบ คือ /s/, /z/ และ /Iz/
1. ออกเสียงเป็น /s/ เมื่อคาน้นั สะกดดว้ ยเสียงไมก่ อ้ ง (voiceless) ไดแ้ ก่ /p/, /t/, /k/, /f/, /θ/

เช่น sleeps, eats, drinks, laughs, breaths
2. ออกเสียงเป็น /z/ เม่อื คาน้นั สะกดดว้ ยเสียงกอ้ ง (voiced) ไดแ้ ก่ /b/, /d/, /g/, /v/, /l/, /m/,

/n/, /w/, /ŋ/, /ð/ เช่น grabs, reads, digs, lives, kills, swims, listens, draws, brings,
breathes
3. ออกเสียงเป็น /Iz/ เม่อื คาน้นั สะกดลงทา้ ยดว้ ย s, z, sh, ch, ge เช่น misses, sneezes,
washes, watches, changes
ท่ีมา: http://english-madmonster.blogspot.com/2009/08/pronunciation-in-plural

-words.html

ตอ่ มาครูให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบกิจกรรมที่ Oscar ทาในวนั องั คารถึงวนั อาทิตย์ ครูเดิน
รอบห้องเพือ่ สงั เกตการทากิจกรรมของนกั เรียน เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบดว้ ยการสุ่มเรียกนกั เรียน
พดู ถาม-ตอบใหเ้ พ่ือนดอู กี คร้งั
ตวั อยา่ ง S1: What does Oscar do on Tuesdays?

S2: He tidies his room.
S1: What does Oscar do on Wednesdays?
S2: He does his homework.
S1: What does Oscar do on Thursdays?
S2: He rides his bike.

286

S1: What does Oscar do on Fridays?

S2: He watches TV.

S1: What does Oscar do on Saturdays?

S2: He plays basketball.

S1: What does Oscar do on Sundays?

S2: He goes to the cinema.

ครูเขียนคาถามบนกระดาน เช่น What does Oscar do on Mondays? และขดี เสน้ ใตค้ าวา่ does และ do

ครูอธิบายว่า ประโยคคาถามที่มีกริยาช่วย does กริยาทต่ี ามหลงั จะคงรูป base form หรือช่องที่ 1 ไว้

เหมอื นเดิม

3. ครูเตรียมบตั รคาวนั ท้งั 7 จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทีม แลว้ บอกว่า นกั เรียนจะไดเ้ ลน่ เกมความจา

โดยครูให้เวลาแตล่ ะทีมจดจาวา่ ในแตล่ ะวนั Oscar ทาอะไร ครูพูดบอกนกั เรียน Close your book.

จากน้นั ใหแ้ ต่ละทีมส่งตวั แทนมายนื ท่ีหนา้ ช้นั แลว้ ครูหยบิ บตั รคา Monday ข้นึ มา แลว้ ถามว่า

What does Oscar do on Mondays? ทีมใดตอบก่อนและถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทีมทไี่ ดค้ ะแนน

มากทส่ี ุดเป็นทีมท่ชี นะ

ตวั อยา่ ง T: (แสดงบตั รคา Monday) What does Oscar do on Mondays?

Team 1: He visits his grandfather on Mondays!

T: That’s right. One point for Group 1!

ข้นั Production

1. ครูใหน้ กั เรียนทาตารางกิจวตั รประจาวนั ของเพอื่ น 1 คน ต้งั แตว่ นั จนั ทร์ถึงวนั ศกุ ร์ จากน้นั ให้นกั เรียน

จบั คกู่ บั เพอื่ นอีก 1 คน และผลดั กนั พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ของบุคคลอน่ื ครูเดินสงั เกต

และใหค้ าแนะนากบั นกั เรียนในภาพรวมในประเด็นทค่ี วรปรบั ปรุงแกไ้ ข จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั

เพ่ือนคนใหม่ และพดู ถาม-ตอบอกี คร้ัง ครูเดินสังเกตเพื่อประเมินการพดู ของนกั เรียน เช่น

S1: What does Pat do on Saturdays?

S2: She goes to the cinema.

S1: What does Pat do on Sundays?

S2: She visits her grandmother. etc.

287

2. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 34 Exs. 1-2 เป็นการบา้ น

Ex. 1 Tuesday - 2 Saturday - 6
Thursday - 4 Sunday - 7 Wednesday - 3
Friday - 5
3 Thursday 4 Friday
Ex. 2 6 Tuesday 7 Saturday
2 Sunday
5 Wednesday

7. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วธิ กี ารวดั ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ขอและใหข้ อ้ มลู แบบฝึ กหัด
เก่ียวกบั กิจกรรมประจาวนั ของ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เพอื่ น
ตรวจการเลือกภาพตรงตาม แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ความหมายของประโยคและ
ขอ้ ความทอ่ี า่ น แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหัด
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้

ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อนิ เทอร์เน็ต

288

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 Does Oscar play football on Tuesdays?

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดและเขียนขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของผอู้ ่ืนได้
- ใชค้ าสงั่ ง่าย ๆ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วัด

ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วดั

ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ

ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น และครอบครัว

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณท์ ี่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั โครงสร้างภาษา ช่วยให้สนทนา พูด/เขียนส่ือสารใน

ชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

289

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Structure: Does Oscar play football on Tuesdays? No, he doesn’t.

He tidies his room on Tuesdays!

Vocabulary: Days of the week, wake up, get up, go to school, play basketball

Function: ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั

2) Language Skills

Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั

Writing: เขียนขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดท่ใี ชใ้ นการส่ือสาร

5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูทบทวนโครงสร้างประโยคบอกเล่าของ Present simple โดยครูเตรียมบตั รคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กิจกรรมท่ี

ทาเป็นประจา เช่น get up, wake up, play basketball, do homework, ride a bike, read a book จากน้นั ครู

แจกบตั รคาให้นกั เรียนคนละ 1 แผน่ เมือ่ แจกบตั รคาเสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนดบู ตั รคาของตนเอง แลว้

แตง่ ประโยค Present simple โดยใชค้ าศพั ทท์ ี่นกั เรียนไดไ้ ป ครูใหเ้ วลานกั เรียนแตง่ ประโยคประมาณ

1 นาที เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน

ตวั อยา่ ง S1: (บตั รคา get up) I get up at 7 o’clock.

S2: (บตั รคา ride a bike) I ride a bike to school every day.

S3: (บตั รคา read a book) I read a book on Sunday. etc.

290

จากน้นั ครูทบทวนการอ่านออกเสียงเชื่อมคา (linking sounds) โดยครูเขยี นวลีต่อไปน้ีบนกระดาน

get up come in get out wake up

stop it look at this afternoon

ครูช้ีไปทวี่ ลีแลว้ ให้นกั เรียนออกเสียงพร้อมกนั

2. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ทาแผนที่ความคดิ (mind map) กิจกรรมท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ชีวติ ประจาวนั โดยเขียน

หวั ขอ้ ว่า Daily routine บนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกกิจกรรมที่ทาเป็นประจา เช่น

do homework, take a shower, go to school, watch TV

3. ทบทวนการใช้ has/have โดยใหน้ กั เรียนบอกประธานทีใ่ ชก้ บั has เช่น He, She, It และประธานที่ใชก้ บั

have เช่น I, You, We, They จากน้นั ครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

1) I ______ breakfast at 7 o’clock. 2) She ______ a new computer.

3) My cat ______ a long tail. 4) They ______ five dogs.

ให้นกั เรียนผลดั กนั ออกมาเตมิ คาในประโยคดงั กลา่ ว โดยใช้ has หรือ have แลว้ ครูตรวจความถกู ตอ้ ง

คาตอบ: have, has, has, have

ข้นั Presentation

1. นาเสนอวลีต่อไปน้ี wash the dog (อาบน้าสุนขั ), walk the dog (พาสุนขั ไปเดินเล่น), have a piano

lesson (เรียนเปี ยโน), have a guitar lesson (เรียนกีตาร์), play football (เลน่ ฟุตบอล) โดยครูสุ่มเรียก

นกั เรียน 1 คน มาแสดงทา่ ทางใบค้ า ครูพูดวลี แลว้ ให้นกั เรียนพูดตาม พร้อมกบั ช่วยกนั อธิบาย

ความหมายของวลดี งั กลา่ ว ใหน้ กั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคาศพั ทท์ มี่ ีมากกวา่ 1 พยางค์ ดว้ ย

piano lesson guitar lesson football

2. ครูทบทวนประโยคบอกเล่าของ Present simple ดว้ ยการเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

I play football on Saturdays.

ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงประโยคน้ีตามครูพร้อม ๆ กนั และทีละคน จากน้นั ครูขีดเส้นใตค้ ากริยา play

I play football on Saturdays.

ครูอธิบายว่า This is the present simple tense. We use the present simple tense to talk about things we

do every day (routines).

ต่อมาครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

He plays football on Saturdays.

ครูอธิบายว่า ถา้ ประธานเป็นเอกพจน์ เช่น He, She, It คากริยาจะเตมิ -s แต่มีคากริยาบางคาทล่ี งทา้ ยดว้ ย

sh, ch, o จะเตมิ -es จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เปลยี่ นวลที ี่ครูพดู ใหม่ โดยให้เปล่ียนประธานเป็น

He และเปลี่ยนคากริยาให้สอดคลอ้ งกนั เช่น

291

T: I wash the dog.

Ss: He washes his dog every week.

T: I watch TV every day.

Ss: He watches TV every day.

T: I go to school every day.

Ss: He goes to school every day.

ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสียง -s/-es ให้ชดั เจน

ตอ่ มาครูถามนกั เรียนวา่ ถา้ คากริยาลงทา้ ยดว้ ย y จะทาอยา่ งไร ให้นกั เรียนช่วยกนั บอก

T: I play basketball on Fridays.

Ss: He plays basketball on Fridays.

T: I tidy my room on Sundays.

Ss: He tidies his room on Sundays.

ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวา่ ทาไมคากริยาท่ลี งทา้ ยดว้ ย y เหมอื นกนั แตบ่ างคาเตมิ -s บางคาตอ้ ง

เปลยี่ น y เป็น i กอ่ น แลว้ จึงเตมิ -es ถา้ นกั เรียนไมส่ ามารถตอบได้ ครูช่วยบอกใบเ้ พม่ิ เตมิ ดว้ ยการให้

นกั เรียนสงั เกตตวั อกั ษรหนา้ y และเขยี นคาต่อไปน้ี

stay - stays cry - cries

pay - pays carry - carries

say - says study - studies

buy - buys fly - flies

ครูช้ีใหน้ กั เรียนสงั เกตจนไดข้ อ้ สรุปวา่ ถา้ หนา้ y เป็นสระ ไดแ้ ก่ a, e, i, o, u จะสามารถเตมิ -s ไดเ้ ลย

แตถ่ า้ หนา้ y เป็นพยญั ชนะ จะตอ้ งเปลย่ี น y เป็น i ก่อน แลว้ จึงเติม -es เช่น studies, flies

3. ครูนาภาพเดก็ ผหู้ ญงิ 1 คน มาติดบนกระดาน ครูพดู แนะนาช่ือ This is Mary. จากน้นั ครูเขยี นตาราง

กิจวตั รประจาวนั ของ Mary บนกระดาน

Monday have a piano lesson
Tuesday walk the dog
Wednesday have a guitar lesson

Thursday wash the dog
Mary Friday play basketball
go to the cinema
Saturday

Sunday watch TV

292

ครูสนทนากบั นกั เรียน 1 คน เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ของ Mary ดงั น้ี

T: Does Mary have a piano lesson on Mondays?

S1: Yes, she does.

T: Does she have a guitar lesson on Tuesdays?

S1: No, she doesn’t. She walks the dog on Tuesdays.

T: Does she go to the cinema on Sundays?

S1: No, she doesn’t. She watches TV on Sundays.

เมอ่ื สนทนาครบทกุ วนั แลว้ ครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

Do you play football?

Yes, I do.

No, I don’t.

ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายโครงสร้าง จนไดข้ อ้ สรุปวา่ Do จะใชก้ บั ประธาน I, You และประธาน

พหูพจน์ คากริยาในประโยคจะอยใู่ นรูป base form หรือช่องท่ี 1

ตอ่ มาครูเขยี นประโยคคาถามท่ปี ระธานเป็นเอกพจน์บนกระดาน และให้นกั เรียนช่วยกนั พดู ตอบ เช่น

Does he play football?

Yes, he does.

No, he doesn’t.

ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายโครงสร้าง จนไดข้ อ้ สรุปวา่ Does จะใชก้ บั ประธานเอกพจน์ คากริยาใน

ประโยคจะกลบั มาอยใู่ นรูป base form หรือช่องที่ 1 เหมือนเดิม โดยครูอาจเขียนประโยคบอกเลา่ บน

กระดานและเปลยี่ นใหอ้ ยใู่ นรูปประโยคคาถาม เพอ่ื ให้นกั เรียนเห็นการเปลีย่ นแปลงของคากริยา

He plays football. → Does he play football?

He has a guitar lesson. → Does he have a guitar lesson?

4. ครูใหน้ กั เรียนฝึกเปลย่ี นประโยคบอกเล่าเป็นประโยคคาถาม 7-8 ประโยค โดยใชค้ าศพั ทท์ ี่เรียน

5. ครูให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพ่ือนที่นง่ั ดา้ นซ้ายของตนเอง และผลดั กนั พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั

ของ Mary ครูสงั เกตการทากิจกรรมของนกั เรียน และให้ feedback เก่ียวกบั ประเด็นท่ีผดิ พลาดบอ่ ย แลว้

ใหน้ กั เรียนจบั ค่กู บั เพื่อนใหม่ และฝึกสนทนาอีกคร้งั

กิจกรรมเพิม่ เติม

ครูให้นกั เรียนเล่มเกมเพื่อฝึกการใชป้ ระโยค Present simple จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี

http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-games/present-simple-and-

present-continuous

293

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 41 Ex. 3 ครูอา่ นคาส่ัง Read and complete. จากน้นั ครูขออาสาสมคั รยนื ข้นึ และ

อ่านตวั อยา่ งใหเ้ พือ่ นในหอ้ งฟัง ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนดขู อ้ 2 แลว้ ถามคาถามนกั เรียน เช่น
T: Does Tom go to the cinema on Fridays?
Ss: No, he doesn’t. He washes the dog on Fridays.

ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ ที่เหลอื เสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียนเขยี นคาตอบลงในสมุด

2 ... he doesn’t. He washes the dog on Fridays.
3 ... she doesn’t. She goes to the cinema on Saturdays.

ต่อมาครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ฝึกถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจกรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 41 Ex. 3 อกี คร้ังจนคล่อง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ลกุ ข้นึ ยนื พดู ถาม-ตอบให้เพื่อนในห้องฟัง

ชาวองั กฤษเรียกโรงภาพยนตร์วา่ cinema ในขณะทชี่ าวอเมริกนั จะเรียกวา่ movie theater
2. หนังสือเรียน หน้า 41 Ex. 4 ครูอา่ นคาสงั่ ให้นกั เรียนฟัง จากน้นั ครูอธิบายภาระงานว่า ใหน้ กั เรียน

เรียงลาดบั คาให้เป็นประโยค Present simple ที่ถูกตอ้ ง ครูใหเ้ วลานกั เรียนทางาน เสร็จแลว้ ครูขอ
อาสาสมคั รออกมาเขยี นคาตอบของตนเองบนกระดาน ครูตรวจคาตอบของนกั เรียนบนกระดานอกี คร้งั
วา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ เมอ่ื แกไ้ ขถูกตอ้ งแลว้ ครูให้นกั เรียนอ่านประโยคที่ถกู ตอ้ งพร้อม ๆ กนั

2 Tom drinks milk every morning.
3 Lin dances every afternoon.
4 Oscar has a guitar lesson every Tuesday.

3. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลุม่ จากน้นั ครูแจกประโยค ซ่ึงตดั เป็นคา ๆ ไว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกล่มุ แขง่ กนั
เรียงประโยค กลมุ่ ใดท่เี รียงประโยคเสร็จก่อนและถูกตอ้ งเป็นกล่มุ ทชี่ นะ
ตวั อยา่ ง walks the dog Sundays on She
She walks the dog on Sundays.
football play Friday I every
I play football every Friday.
294

4. ครูทบทวนประโยคคาส่ังแบบปฏิเสธ โดยเขียนประโยคตอ่ ไปน้ี และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตาม

Don’t smoke. Don’t forget your bag.

Don’t run in the corridor. Don’t eat in the classroom.

ครูวาดภาพประกอบและให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมาย

ตอ่ มาครูอธิบายความหมายของคาว่า waste ว่าหมายถึง ทาใหส้ ิ้นเปลอื งหรือหมดไปโดยเปลา่ ประโยชน์

ครูให้นกั เรียนช่วยกนั คิดวา่ มสี ่ิงของอะไรในโลก นอกจากกระดาษท่ีเราไมค่ วรจะใชโ้ ดยสิ้นเปลอื ง

ครูเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน เช่น water (น้า), energy (พลงั งาน), electricity (ไฟฟ้า) และ trees (ตน้ ไม)้

ให้นกั เรียนช่วยกนั แต่งประโยค เช่น

Don’t waste water. Don’t waste energy.

Don’t waste electricity. Don’t waste trees.

เสร็จแลว้ ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกล่มุ ใหเ้ ลือกประโยคมาคนละ 1 ประโยค แลว้ ทาแผ่นป้ายประกาศ Don’t

waste … . พร้อมท้งั วาดภาพประกอบและระบายสีใหส้ วยงาม

5. หนังสือเรยี น หน้า 41 หัวข้อ Go Green ครูพดู วา่ Look at the picture. What do you see in the picture?

เพ่อื ให้นกั เรียนพดู บอกสิ่งท่ีนกั เรียนเห็นในภาพ ตอ่ มาครูถามนกั เรียนว่า กระดาษทามาจากอะไร ให้

นกั เรียนระดมสมองช่วยกนั บอกคาตอบ จากน้นั ครูอ่านขอ้ ความใหน้ กั เรียนฟังและใหน้ กั เรียนช่วยกนั

อภปิ รายถึงความสาคญั ของการนากระดาษกลบั มาใชใ้ หม่ เมือ่ อภปิ รายเสร็จแลว้ ครูแบ่งนกั เรียน

ออกเป็น 3 กล่มุ ให้แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั ระดมความคดิ เก่ียวกบั วิธีประหยดั กระดาษ เสร็จแลว้ ให้แต่ละ

กลุ่มส่งตวั แทนออกมาพดู นาเสนอวธิ ีประหยดั กระดาษใหเ้ พื่อนในช้นั ฟัง

ครูสอนใหน้ กั เรียนรู้จกั ใชพ้ จนานุกรมในการหาความหมายของคาศพั ท์ เช่น ในกรอบ
Go Green ครูใหน้ กั เรียนแขง่ กนั คน้ หาความหมายของคาวา่ tonne (หน่วยชัง่ น้าหนกั เป็น ตนั
ซ่ึง 1 ตนั มคี ่าเท่ากบั 1,000 กิโลกรมั )

กิจกรรมเพิม่ เตมิ
ครูอาจเปิ ดคลิปวิดีโอ Sesame Street: Where Does Paper Come From? ให้นกั เรียนดูจากเวบ็ ไซต์
ตอ่ ไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=uA56TLfEE9k
หรือครูอาจให้นกั เรียนไปดดู ว้ ยตนเองนอกเวลาเรียน โดยครูบอกคาสาคญั “How paper is
made” หรือชื่อวิดีโอ เพื่อใหน้ กั เรียนไปคน้ หาคลิปดว้ ยตนเองใน www.youtube.com

295


Click to View FlipBook Version