The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:42:24

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4
หนังสือ Extra and Friends

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.4

พร้อมกนั เมื่อไดค้ าตอบวา่ pet แลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คดิ คาศพั ทอ์ ืน่ ที่ออกเสียงคลอ้ งจองกบั คาว่า
wet โดยถามนกั เรียนว่า Can you think of other rhymes for “wet”?
ตวั อยา่ ง net, set, let, vet, get
เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาทีอ่ อกเสียงคลอ้ งจองกบั คาอืน่ ๆ เช่น sail, cook, draw
ตวั อยา่ ง sail - nail, bell, fail, mail

cook - book, look, hook, took
draw - claw, flaw, jaw, law

ครูสามารถดาวน์โหลดใบงานเร่ือง rhyming words เพ่อื ใหน้ กั เรียนฝึกฝนเพมิ่ เตมิ ไดท้ ี่
https://www.havefunteaching.com/worksheets/english-worksheets/rhyming- worksheets/
rhyming-worksheet-3/
ครูแนะนาเพลง Phonics (Rhyming Words) ใหน้ ักเรียนเปิ ดฟังและฝึกฝนดว้ ยตนเองที่
www.youtube.com หรือเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=ggcr7hMInVE&list=PLDm7oIrEgBqB8FQz4YCs
NFAo1fwYhOf2J

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 59 หัวข้อ Sound Spot ครูเขียนประโยค A pink book is in the park. บนกระดาน

จากน้นั ครูอา่ นออกเสียงและใหน้ กั เรียนอา่ นตามพร้อมกนั 1 คร้งั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6-7 คน อา่ น
ประโยคบนกระดาน เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD เสียง /k/ ใหน้ กั เรียนฟังและฝึกออกเสียงตามหลาย ๆ คร้ัง

A pink book is in the park.

กจิ กรรมเพิม่ เตมิ
ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอเกี่ยวกบั การออกเสียงคาท่ีลงทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ เปรียบเทียบกบั เสียง /g/ ให้
นกั เรียนดจู าก https://www.youtube.com/watch?v=SFxmh5y2y_M
หรือใหน้ กั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น /k/ and /g/ pronunciation หรือ
ช่ือคลิป English: How to Pronounce G and K consonants: American Accent ให้นกั เรียนเขา้ ไป
เปิ ดดูดว้ ยตนเองท่ี www.youtube.com

446

2. ครูให้นกั เรียนอา่ นเน้ือเพลงในหนงั สือเรียน หนา้ 60 ครูใหน้ กั เรียนดูเพลงทอ่ นแรกและถามนกั เรียน
ว่า What rhymes with tea? เมื่อไดค้ าตอบวา่ sea แลว้ ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั คาวา่ cake (lake),
May (play), school (pool) และให้นกั เรียนสังเกตวา่ rhyming words ในเน้ือเพลงน้ีจะอยใู่ นบรรทดั ท่ี 4
ของเน้ือเพลงแต่ละทอ่ น

3. หนังสือเรียน หน้า 60 Ex. 15 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและฝึกร้องตาม จากน้นั ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม
แลว้ อธิบายภาระงานวา่ ให้แตล่ ะกลุม่ ฝึกร้องเพลงจนคล่อง เสร็จแลว้ ออกมาร้องเพลงให้เพื่อนฟัง

4. หนงั สือเรียน หน้า 60 Ex. 16 ครูอธิบายภาระงาน แลว้ ช้ีท่ีภาพคนในเน้ือเพลงทีละภาพและถามนกั เรียน
ว่ามีใครบา้ ง เมื่อไดค้ าตอบว่า Oscar, Tom, Wendy และ Cindy ครูถามคาถาม ดงั น้ี
T: What does Oscar like doing?
Ss: He likes drinking milk and tea and swimming.
T: What does Tom like doing?
Ss: He likes eating ice cream and cake and fishing in the lake.
T: What does Wendy like doing?
Ss: She likes going to the park and playing a ball.
T: What does Cindy like doing?
Ss: She likes studying English and swimming in the pool.
ครูให้เวลานกั เรียนอา่ นเน้ือเพลงอกี คร้ังและจบั คชู่ ่ือคน 1-4 และกิจกรรมทช่ี อบทา เสร็จแลว้ ครูเฉลย
คาตอบพร้อมกนั กบั นกั เรียน

1c 2b 3d 4a

5. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม จากน้นั ครูมอบหมายเน้ือเพลงแต่ละท่อนใหแ้ ต่ละกลุม่ ไปฝึกร้อง
จนคลอ่ ง จากน้นั ครูเปิ ด CD โดยกอ่ นเล่น CD ครูบอกนกั เรียนวา่ เมอ่ื เพลงถงึ ทอ่ นของกลมุ่ ใด ให้
นกั เรียนกลุ่มน้นั ร้องท่อนของกลุ่มตนเอง

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานกลมุ่ คน้ ควา้ ขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เนต็

หรือหนงั สือเรียนภาษาองั กฤษเพื่อหาคาศพั ทท์ ลี่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ มากลมุ่ ละ 10 คา จากน้นั ให้นกั เรียน
ทาโปสเตอร์นาเสนอคาศพั ท์ โดยเรียงลาดบั คาศพั ทต์ ามตวั อกั ษร (alphabetical order) พร้อมวาดภาพ
ประกอบและตกแต่งให้สวยงาม เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานโดยการอ่านคาศพั ทใ์ ห้
เพอื่ นฟัง

447

2. ครูใหน้ กั เรียนกลมุ่ เดิมแตง่ เพลงโดยใชโ้ ครงสร้าง I like + กิจกรรมทีช่ อบ. ซ่ึงนกั เรียนสามารถใช้
ตวั อยา่ งในหนงั สือเรียนหนา้ 60 Ex. 15 พร้อมวาดภาพตกแตง่ ใหส้ วยงาม ครูย้าให้นกั เรียนใช้
คาคลอ้ งจองในการแต่งเพลงดว้ ย

3. ใหน้ กั เรียนคน้ หาคาคลอ้ งจองในภาษาองั กฤษมาคนละ 3 คู่ โดยวาดภาพและเขียนบอกความหมาย
ใหถ้ ูกตอ้ ง พร้อมท้งั เขยี นตวั อยา่ งประโยค

4. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 50 Ex. 13 เป็นการบา้ น

1b 2c 3d 4a

7. การวดั และประเมินผล

วิธีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์

ประเมนิ ช้ินงานโปสเตอร์คาศพั ทท์ ่ลี ง แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้

ทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ ผ่านเกณฑ์

ประเมินชิ้นงานคาคลอ้ งจอง แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้

ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้

และมุง่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณท์ าโปสเตอร์
8.5 อินเทอร์เนต็

448

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8 Activities for all seasons!

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- พดู /เขยี นบอกกิจกรรมที่ตอ้ งการทาในประเทศสหรฐั อเมริกาและในประเทศไทยได้
- เลือกภาพตรงตามความหมายของประโยคได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วดั

ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออ่าน

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ัด

ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขียนแสดงความตอ้ งการของตนเองและขอความช่วยเหลอื ในสถานการณง์ า่ ย ๆ

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และ

นาไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชี้วัด

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ ่าย ๆ

ของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้อง

449

ตวั ชีว้ ัด

ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั เน้ือหา ช่วยใหอ้ า่ น พูด/เขยี นแนะนาเก่ียวกบั ชีวติ ความเป็นอยขู่ อง

เจา้ ของภาษาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions
Structure: Winters are cold and snowy. You can go skiing, snowboarding and ice
skating. Summers are fun in Vermont, too! You can go hiking, play golf,
or go mountain biking.
Vocabulary: months, seasons, hole, seed, flower, plant, cover, water, grow, catch,
gardening, swim, jump, wet, run, sail, later, skiing, snowboarding,
ice skating, go hiking, play golf, go mountain biking, fishing, canoeing
Function: ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมทีต่ อ้ งการทา

2) Language Skills
Speaking: พดู ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีตอ้ งการทา
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Writing: เขียนนาเสนอเก่ียวกบั กิจกรรมท่ีทาในแต่ละฤดกู าลของรัฐอ่ืน ๆ ใน
สหรัฐอเมริกา, เขียนบอกส่ิงทต่ี อ้ งทา

3) Culture: กิจกรรมทีท่ าในแตล่ ะฤดใู นรัฐเวอร์มอนต์ (Vermont) ประเทศ
สหรฐั อเมริกา

450

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ที่ใชใ้ นการสื่อสาร

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูตดั ภาพเดก็ ฝรง่ั 1 คน มาจากนิตยสาร แลว้ ครูสมมติวา่ เป็นเดก็ คนดงั กล่าวและออกมาพูดแนะนาตวั

กบั นกั เรียนในหอ้ ง เช่น
T: Hello! My name is Alex. I come from Vermont, the USA.
Ss: Nice to meet you, Alex.
T: Nice to meet you too.

จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ทกั ทายกบั เพือ่ นท่นี ง่ั ขา้ ง ๆ โดยสมมตใิ ห้นกั เรียน 1 คน มาจากรฐั เวอร์มอนต์
2. ทบทวนการออกเสียงคาทีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ โดยครูเขียนคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ีบนกระดาน

cake lake
park shark
bike like
pink drink
rock sock
book cook
เสร็จแลว้ ครูช้ีไปทีค่ าศพั ทแ์ ละใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงพร้อมกนั หากนกั เรียนคนใดมปี ัญหาใน
การออกเสียงน้ี ครูฝึกใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงใหค้ รูฟังจนคล่อง หรือให้นกั เรียนไปฝึกอา่ นออกเสียง
กบั ครูนอกเวลาเรียน
3. ทบทวนเน้ือเพลงในหนงั สือเรียน หนา้ 60 โดยครูให้นกั เรียนร้องเพลงพร้อมกบั ช่วยกนั ปรบมอื
เขา้ จงั หวะ

451

4. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยแบ่งนกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ให้แต่ละกลมุ่ ระดมความคดิ เก่ียวกบั กิจกรรมทที่ า
ในฤดูกาลต่าง ๆ แลว้ นาเสนอเป็นแผนทค่ี วามคดิ (mind map) เช่น

go surfing build a swim in
sandcastle the
have a
picnic summer sea/pool

go to the sumbathe
beach

go skiing

go ice make a
skating snowman

winter

read a watch TV
book

drink hot
chocolate

452

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวกบั กิจกรรมทเ่ี จา้ ของภาษานิยมทาในฤดกู าลตา่ ง ๆ เช่น skiing (สกี),

snowboarding (สโนวบ์ อร์ด), ice skating (สเก็ตน้าแข็ง), go hiking (ไปเดินป่ า), play golf (เลน่ กอลฟ์ ),
go mountain biking (ป่ันจกั รยานภเู ขา), fishing (ตกปลา), canoeing (พายเรือแคนู) โดยใชบ้ ตั รภาพหรือ
หาภาพจากอนิ เทอร์เน็ตมาเปิ ดใหน้ กั เรียนดู
จากน้นั ครูเขยี นตาราง 2 ช่อง บนกระดาน และเขยี นชื่อฤดูกาล winter และ summer ลงไป ครูถาม
นกั เรียนว่า กิจกรรมแตล่ ะกิจกรรมนิยมเลน่ ในฤดกู าลใด ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขยี นใส่
ในตาราง

winter summer

คาตอบ: (winter) skiing, ice skating, snowboarding
(summer) play golf, go mountain biking, fishing, canoeing

2. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กีฬาประเภทต่าง ๆ ดว้ ยการใหน้ กั เรียนเลน่ เกม What is missing? โดยครูแบ่ง
นกั เรียนออกเป็น 2 ทีม ทีมละเท่า ๆ กนั จากน้นั ครูให้แต่ละทีมส่งตวั แทนออกมายืนหนา้ ช้นั ครูนา
บตั รภาพกีฬา 4 ใบ มาติดเรียงกนั บนกระดาน จากน้นั ให้เวลาตวั แทนแตล่ ะทมี จดจาคาศพั ท์ แลว้ ให้
นกั เรียนหันกลบั ไปหาเพอ่ื น ต่อมาครูดึงบตั รภาพออก 1 ใบ แลว้ ใหน้ กั เรียนหันมาและบอกครูวา่
บตั รภาพใดหายไป ทมี ทตี่ อบถกู จะได้ 1 คะแนน ทมี ทไี่ ดค้ ะแนนรวมสูงสุดเป็นทมี ที่ชนะ

ครูสามารถดาวน์โหลดบตั รภาพกีฬาต่าง ๆ จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://www.mes-english.com/flashcards/sports.php
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/sports-flashcards

3. ครูเขยี นคาวา่ Vermont บนกระดาน พร้อมกบั ช่ือบทอา่ นในหนงั สือเรียน หนา้ 61 จากน้นั ครูพูด
แนะนารัฐเวอร์มอนตใ์ หน้ กั เรียนฟังส้ัน ๆ
T: Vermont is a state in the USA. The name comes from two French words - ‘vert’ meaning
green and ‘mont’ meaning mountain. The state’s nickname is the Green Mountain State.
You can do a lot of things there all year round.
453

ครูดาวนโ์ หลดแผนท่ีรฐั เวอร์มอนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกามาให้นกั เรียนดูจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://www.mapsofworld.com/usa/states/vermont/vermont-location-map.html
http://www.mapsofworld.com/usa/states/vermont/
หรือเปิ ดคลปิ วดิ ีโอชื่อ Vermont from Above (High Definition - HD) จาก
https://www.youtube.com/watch?v=UBwqn9BRWhA
หรือ Vermont Tourist Attractions: 12 Places To Visit จาก
https://www.youtube.com/watch?v=PuJwD9xYYME

รัฐเวอร์มอนต์ (Vermont) ต้งั อยทู่ างทศิ ตะวนั ออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ใกล้ ๆ กบั
รฐั นิวยอร์กและมีชายแดนติดกบั ประเทศแคนาดา มีป่ าไมค้ รอบคลมุ ถงึ 75% ของพ้นื ทร่ี ฐั
ท้งั หมด เป็นรัฐทม่ี อี ากาศหนาวเยน็ เป็นลาดบั ที่ 7 ในสหรัฐอเมริกา เป็นหน่ึงในรัฐท่เี รียกวา่
นิวองิ แลนด์ (New England) เนื่องจากเป็นพ้ืนท่ีส่วนแรกทช่ี าวองั กฤษอพยพเขา้ มาอยอู่ าศยั ใน
ประเทศสหรฐั อเมริกา และเป็นรฐั เดียวท่ีไม่มีชายแดนตดิ กบั มหาสมุทรแอตแลนติก รัฐเวอร์-
มอนตย์ งั เป็นรฐั ที่มขี นาดเล็กทสี่ ุดเป็นลาดบั ท่ี 6 มีประชากรอาศยั อยนู่ อ้ ยทสี่ ุดเป็นลาดบั ท่ี 2
รองจากรฐั ไวโอม่งิ (Wyoming)
ทีม่ า: https://en.wikipedia.org/wiki/Vermont

http://www.ldoceonline.com/dictionary/new-england
http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/vermont?q=vermont

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 61 Ex. 17 ครูอา่ นช่ือเร่ือง และอา่ นขอ้ ความทลี ะประโยค โดยหยดุ ให้นกั เรียนฝึก

อ่านตามพร้อมกนั กอ่ นอา่ น ครูย้าวา่ ประโยคบอกเลา่ ท่ีลงทา้ ยดว้ ยเครื่องหมายตกใจ (!) ใหน้ กั เรียนใส่
ความรู้สึกลงไปในการอา่ น ต่อมาครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1-2 คน ยนื ข้ึนอา่ นเน้ือหาท้งั หมดอกี คร้งั
หลงั จากน้นั ครูใหเ้ วลานกั เรียนจบั คู่กิจกรรม 1-8 กบั ภาพ a-h ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน เสร็จแลว้
ครูเฉลยคาตอบบนกระดาน

454

a1 c4 e6 g2
b5 d8 f7 h3

2. หนังสือเรยี น หน้า 61 Ex. 18 ครูอา่ นคาถาม จากน้นั ให้เวลานกั เรียนอา่ นบทอา่ นอกี คร้งั ในใจอยา่ ง
รวดเร็วเพ่อื ตอบคาถามดงั กลา่ ว เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน และเฉลยคาตอบ
บนกระดาน

1 It is cold and snowy. 2 In summer.

3. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจกรรมทช่ี อบทาในหนงั สือเรียน หนา้ 61 โดยใช้
โครงสร้าง Do you like + กริยาเตมิ -ing? ครูสนทนากบั นกั เรียน 1-2 คน เพือ่ เป็นตวั อยา่ ง เช่น
T: Do you like skiing?
S1: Yes, I do.
T: Do you like snowboarding?
S2: No, I don’t. I like ice skating.
จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ถาม-ตอบ โดยใหน้ กั เรียนสลบั คอู่ กี 1-2 คร้งั เม่อื นกั เรียนฝึกพูดจนคล่อง
แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพดู ทหี่ นา้ ช้นั
กิจกรรมเพ่มิ เติม
ครูสุ่มเลือกนกั เรียนมา 1 คน และให้นกั เรียนคนดงั กล่าวเลือกกิจกรรมจากบทเรียนโดยไมใ่ หเ้ พื่อน
ในช้นั รู้ จากน้นั ครูให้นกั เรียนคนดงั กลา่ วทาท่าทางเพ่ือใบก้ ิจกรรมทหี่ นา้ ช้นั โดยใหน้ กั เรียนท่ีเหลือ
ช่วยกนั เดาวา่ เป็นกิจกรรมใด เช่น
S1: (ทาท่าตกปลา)
Class: Fishing!
ต่อมาครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 3 กลมุ่ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มผลดั กนั เลน่ เกมโดยส่งตวั แทนกลมุ่ ละ 1 คน มายนื
หนา้ ช้นั โดยหา้ มหนั หลงั ไปมองกระดาน จากน้นั ครูอธิบายกตกิ าวา่ ครูจะเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน
ให้สมาชิกแต่ละกล่มุ ช่วยกนั ใบค้ าศพั ทโ์ ดยหา้ มพูดคาศพั ทบ์ นกระดาน ตวั แทนกลุม่ ใดบอกคาศพั ท์
และสะกดคาไดถ้ กู ตอ้ งจะไดค้ าละ 1 คะแนน กลมุ่ ทไ่ี ดค้ ะแนนมากทส่ี ุดเป็นกลุ่มท่ชี นะ\

455

4. ครูเขียนคาถามตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
What do you want to do in Vermont?

จากน้นั ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาถามน้ีตามครู แลว้ ครูบอกสิ่งที่ครูตอ้ งการทา เพื่อเป็นตวั อย่าง
ให้กบั นกั เรียน เช่น I want to go canoeing. แลว้ ครูถามนกั เรียนหลาย ๆ คน เก่ียวกบั กิจกรรมทนี่ กั เรียน
ตอ้ งการทาท่ีรฐั Vermont เม่ือนกั เรียนตอบไดค้ ลอ่ งแลว้ ครูให้นกั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพดู ถาม-ตอบ โดย
สลบั คกู่ บั เพ่อื นอกี 1-2 คร้งั

ข้นั Production

1. ครูถามนกั เรียนว่า What do you want to do in hot season in Thailand? ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั พูดระดม

ความคดิ ครูเขียนคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน ตอ่ มาครูถามนกั เรียนว่า What do you want to do in

cool season in Thailand? ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีจนครบทุกฤดูกาลของไทย

2. ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผ่น ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กระดาษออกเป็น 4 ส่วน และเขียน

หัวขอ้ ในแต่ละช่อง ดงั น้ี

In winter, in Vermont, USA In cold season, in ... Thailand

In summer, in Vermont, USA In hot season, in ... Thailand

โดยในส่วนของประเทศไทยน้นั ให้นกั เรียนระบุจงั หวดั ท่ีนกั เรียนอยากไปทากิจกรรมดว้ ยตนเอง เช่น
in Phuket, Thailand จากน้นั ครูอธิบายว่า ให้นกั เรียนวาดภาพสิ่งทีน่ กั เรียนตอ้ งการทาท่ีรฐั Vermont
และในจงั หวดั ทนี่ กั เรียนเลือกในประเทศไทยในหนา้ ร้อนและหนา้ หนาว แลว้ เขียนประโยคบอกสิ่งที่
ตอ้ งการจะทา โดยใช้โครงสร้าง I want to … . เสร็จแลว้ ระบายสีให้สวยงาม
ครูย้าใหน้ กั เรียนเขียนกิจกรรมทน่ี กั เรียนสามารถทาไดต้ ามความเป็นจริง เช่น นกั เรียนไมส่ ามารถที่
จะเล่น snowboarding หรือ skiing ในประเทศไทยไดเ้ พราะฤดูหนาวของประเทศไทยไม่มหี ิมะ เป็นตน้

456

3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 51 Exs. 14-15 เป็นการบา้ น

Ex. 14 6 golf
2 hiking 7 snowboarding
3 canoeing 8 skiing
4 mountain biking
5 fishing

Ex. 15
(ตวั อยา่ งคาตอบ)
Summer activities: hiking, golf, mountain biking
Winter activities: skiing, snowboarding, ice skating

7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วิธกี ารวดั ผา่ นเกณฑ์
ประเมินช้ินงานกิจกรรมที่ตอ้ งการ แบบฝึกหดั (Workbook)
ทาทร่ี ฐั Vermont และในประเทศ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ไทย พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหดั ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมุ่งมนั่ ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 บตั รภาพ
8.4 อนิ เทอร์เน็ต

457

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 Seasons in Vietnam and the Philippines

เวลา 2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั กิจกรรมท่ตี นเองทาในฤดูกาลต่าง ๆ ในประเทศไทยได้
- พูด/เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ฤดตู า่ ง ๆ ในประเทศของตนเองและประเทศองั กฤษได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมเี หตุผล

ตวั ชี้วัด

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดย

การพูดและการเขยี น

ตัวชีว้ ดั

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกต้อง

ตวั ชี้วดั

ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

458

2. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ทาใหเ้ ขา้ ใจเร่ืองทอ่ี า่ น พูดและเขียนสื่อสารเก่ียวกบั ฤดกู าล

และกิจกรรมที่ทาในแตล่ ะฤดกู าลของประเทศในภูมิภาคอาเซียนและเขา้ ใจว่า สภาพอากาศและฤดกู าลของ
ไทยและเจา้ ของภาษามที ้งั ความเหมอื นและแตกต่างกนั ได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Structure: In the north of Vietnam, cool season is from November to April.

Vocabulary: months, seasons, activities, climate, trekking, hiking, snorkelling,

puppet show, typhoons

2) Language Skills

Speaking: พดู นาเสนอเก่ียวกบั กิจกรรมทที่ าในฤดูกาลตา่ ง ๆ ในประเทศ

ของตนเอง

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Writing: เขียนบรรยายเก่ียวกบั กิจกรรมท่ที าในฤดูกาลตา่ ง ๆ ในประเทศ

ของตนเอง

3) Culture: กิจกรรมหรือสถานที่ทอ่ งเท่ียวในประเทศเวียดนามและฟิลปิ ปินส์ใน

ฤดูกาลต่าง ๆ, การทกั ทายของตะวนั ตกและอาเซียน

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดทใ่ี ชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 ม่งุ มนั่ ในการทางาน

459

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ครูสุ่มนกั เรียน 5-6 คนออกมายนื หนา้ ช้นั ครูให้นกั เรียนเหลา่ น้ีสมมตวิ ่า

ตนเองมาจากประเทศในอาเซียน ให้นกั เรียนพูดแนะนาตนเอง โดยบอกชื่อ อายุ ประเทศ และเช้ือชาติ
เช่น

S1: I’m Surachai. I’m ten years old. I’m from Malaysia. I’m Malaysian.
S2: My name is Warisa. I’m eleven years old. I come from Vietnam. I’m Vietnamese.

ครูอาจใหน้ กั เรียนกลา่ วคาทกั ทายของประเทศดงั กล่าวดว้ ย โดยให้นกั เรียนคน้ หาขอ้ มูลมากอ่ น
ลว่ งหนา้ เช่น

S1: Selamat pagi! I’m Surachai. I’m ten years old. I’m from Malaysia. I’m
Malaysian.

S2: Xin chào! My name is Warisa. I’m eleven years old. I come from Vietnam.
I’m Vietnamese.

2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศ เช่น hot, cold, raining/rainy โดยครูวาดสัญลกั ษณ์สภาพอากาศ

บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกสภาพอากาศโดยใชโ้ ครงสร้าง It’s + สภาพอากาศ. เช่น It’s raining.

It’s hot.

3. ทบทวนความรู้ทวั่ ไปเก่ียวกบั ประเทศในภูมภิ าคอาเซียน เช่น ภาษาท่ีใช้ การแต่งกาย เมืองหลวงของ

แต่ละประเทศ โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2-3 ทมี เพื่อแขง่ ขนั กนั ตอบปัญหา ASEAN quiz ทีมใด

ทราบคาตอบใหย้ กมือข้ึน กลมุ่ ทไี่ ดค้ ะแนนมากท่สี ุดเป็นกลุ่มทีช่ นะ

ตวั อยา่ ง T: What is the capital city of Malaysia?

Team 1: Kuala Lumpur.

T: That’s right. One point for team 1.

T: What do Vietnamese people usually wear?

Team 2: They wear Ao Dai.

T: That’s right. One point for team 2.

T: What is the official language of Indonesia?

Team 3: Bahasa Indonesia.

T: That’s right. One point for team 3. etc.

460

4. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยครูนาบตั รภาพสถานที่ตา่ ง ๆ ทสี่ าคญั ในประเทศเวียดนามและฟิลปิ ปิ นส์มาแสดง
หนา้ ช้นั แลว้ ถามนกั เรียนวา่ Where is it?

ครูอาจเปิ ดคลิปวดิ ีโอเกี่ยวกบั สถานท่ที อ่ งเทยี่ วในประเทศฟิลปิ ปิ นส์และเวียดนามใหน้ กั เรียนดู
จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
Top 10 Tourist Attractions In Philippines of All Time
https://www.youtube.com/watch?v=O8dRroRnbIg
10 Best Places to Visit in Vietnam
https://www.youtube.com/watch?v=0FxHhJMGp7g
Hanoi Water Puppet Show
https://www.youtube.com/watch?v=hMWqvccmR3I

ข้อมลู เกยี่ วกับสถานทีส่ าคัญในประเทศเวยี ดนามและฟิ ลิปปิ นส์
เวยี ดนาม
อ่าวฮาลอง (Halong Bay) เป็นอา่ วทมี่ ชี ่ือเสียงมากทส่ี ุดใน
เวียดนาม ต้งั อยใู่ นพ้ืนท่ขี องอ่าวตงั เกี๋ย ทางตอนเหนือของ
ประเทศซ่ึงมีชายแดนตดิ ตอ่ กบั ประเทศจีน นกั ทอ่ งเทย่ี ว
นิยมล่องเรือชมความงามของเกาะหินปนู ในอ่าวน้ี
นอกจากน้ีอ่าวฮาลองยงั ไดร้ ับการข้นึ ทะเบยี นเป็นมรดก
โลกทางธรรมชาติจากองคก์ ารการศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรมแห่งสหประชาชาติหรือ
ยเู นสโกเมื่อปี พ.ศ. 2537

การแสดงหุ่นกระบอกนา้ เมืองฮานอย (Hanoi Water Puppet Show)
การแสดงทมี่ ชี ่ือเสียงน้ีมที ่ีมาจากการที่ชาวเวยี ดนามประสบ
ปัญหาน้าทว่ มเป็นประจา ทาใหเ้ กิดแรงบนั ดาลใจในการ
สร้างสรรคค์ วามบนั เทงิ รูปแบบน้ีข้นึ มา ซ่ึงนกั เชิดหุ่น
กระบอกจะยนื อยหู่ ลงั ฉากในน้าทีท่ ว่ มถึงเอว แลว้ ควบคมุ
การเคล่ือนไหวของหุ่นดว้ ยไมไ้ ผ่ลายาว

461

การแสดงหุ่นจะมี 12 องก์ แตล่ ะองก์จะเป็นการเลา่ เรื่องเทพ ตานานเก่ียวกบั เวียดนาม และ
ประวตั ศิ าสตร์ ส่วนเรื่องอ่นื ๆ จะเล่าเกี่ยวกบั ชีวิตความเป็นอยใู่ นชนบท เช่น การเพาะปลกู
การเก่ียวขา้ ว การประมง การแขง่ เรือ เป็นตน้

ฟิ ลปิ ปิ นส์
ภเู ขาช็อกโกแลต (the Chocolate Hills) ต้งั อยบู่ นเกาะ
โบฮอล (Bohol) ทางตอนใตข้ องกรุงมะนิลา เป็นเนินเขา
ลกู เล็ก ๆ เรียงกนั เป็นบริเวณกวา้ ง คาดว่ามีจานวนมากกวา่
1,500 ลกู ที่มาของชื่อ เนินเขาชอ็ กโกแลต มาจากลกั ษณะ
เนินเขาที่คลา้ ยกอ้ นช็อกโกแลตหลาย ๆ ลูกมาอยรู่ วมกนั

เกาะโบราไค (Boracay Island) ต้งั อยหู่ ่างจากกรุงมะนิลา
เมอื งหลวงของประเทศฟิลิปปิ นส์ไปทางทิศใต้ 315 กิโลเมตร
เกาะโบราไคมีชื่อเสียงและเป็นทีร่ ู้จกั อยา่ งมากในหมนู่ กั -
ทอ่ งเท่ยี ว เพราะมหี าดทรายขาวสะอาดทอดยาวไปตามชายฝ่ัง
ของเกาะ หาดท่ีมชี ่ือเสียงมากท่สี ุด คอื หาดไวท์ บชี
(White Beach) มลี กั ษณะเป็นหาดทรายสีขาวละเอยี ด ทอดยาวไปตามชายฝ่ังประมาณ 4 กิโลเมตร
และนอกจากน้ีภายในเกาะยงั มีถ้าและป่ าเขตร้อนอนั อุดมสมบรู ณ์ ซ่ึงเป็นแหลง่ อาศยั ของสตั ว์
ทอ้ งถิ่นเป็นจานวนมาก
ทมี่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/อ่าวฮะลอ็ ง

http://www.vntoyou.com/waterpuppet.htm
https://en.wikipedia.org/wiki/Cordillera_Central_(Luzon)
https://new46.wordpress.com/1-เกาะโบราเคย์-boracay-island/

ข้นั Presentation

1. นาเสนอคาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั เน้ือหา ไดแ้ ก่ climate (ภมู อิ ากาศ), trekking (การเดินป่ า), hiking

(การเดินเเทา้ ระยะไกล), snorkelling (การดาน้าต้นื โดยใชเ้ พียงหนา้ กาก ตีนกบ ทอ่ หายใจ),

puppet show (การแสดงหุ่นกระบอก), typhoons (พายไุ ตฝ้ ่นุ ), geography (ภูมศิ าสตร์) โดยครู

เขียนคาศพั ทบ์ นกระดานและพูดบอกความหมาย

ต่อมาครูใหน้ กั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคาท่มี มี ากกวา่ 1 พยางค์ ดงั น้ี

climate trekking / hiking snorkelling

puppet show typhoons geography

462

trekking คือ การเดินเทา้ ระยะทางไกล ส่วน hiking จะเป็นการเดินทางเทา้ ไปในพ้นื ท่ี
ห่างไกล โดยเฉพาะในพ้ืนทีช่ นบท

ข้อมูลทว่ั ไปเก่ยี วกับพายุหมนุ เขตร้อน (Tropical cyclone)
พายหุ มนุ เขตร้อน เป็นพายหุ มนุ ทเี่ ริ่มก่อตวั จากหยอ่ มความกดอากาศต่าทเ่ี กิดข้นึ บริเวณเส้น
ศูนยส์ ูตร โดยมากมกั เกิดบริเวณผวิ น้าทะเลและมหาสมทุ รทม่ี ีอุณหภมู ิของน้าสูงกวา่ 27 องศา
เซลเซียส มลี กั ษณะเป็นพายหุ มุนขนาดใหญ่ มีเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางประมาณ 100 กิโลเมตรข้นึ ไป
แบง่ ตามความรุนแรงของพายุ ดงั น้ี
1. พายดุ เี ปรสชั่น (Tropical depression) เกิดข้ึนจากพายโุ ซนร้อนท่มี คี วามเร็วลดลง โดยมี

ความเร็วลมสูงสุดใกลศ้ นู ยก์ ลางไมถ่ ึง 63 กิโลเมตรต่อชว่ั โมง
2. พายุโซนร้อน (Tropical storm) เกิดข้ึนเม่ือพายหุ มุนเขตร้อนขนาดใหญอ่ ่อนกาลงั ลง

ขณะเคลื่อนตวั ในทะเล และความเร็วทีจ่ ดุ ศนู ยก์ ลางลดลงเม่อื เคล่อื นเขา้ หาฝ่ัง มีความเร็วลม
สูงสุดใกลศ้ นู ยก์ ลาง 63 กิโลเมตรต่อชั่วโมงข้นึ ไป แตไ่ มถ่ งึ 118 กิโลเมตรตอ่ ชว่ั โมง มีกาลงั
แรงพอทีจ่ ะทาลายบา้ นเรือนท่ีมโี ครงสร้างไม่แขง็ แรงได้ รวมท้งั ทาใหก้ ิ่งไมห้ ักโคน่ และ
ทาใหเ้ กิดน้าทว่ มได้ ฝนท่ีตกอยา่ งหนกั ท้งั วนั ท้งั คนื อาจทาใหเ้ กิดน้าป่ าและแผ่นดินถล่มได้
3. พายุไต้ฝ่ ุน (Typhoon) มีความเร็วลมสูงสุด โดยจะกอ่ ตวั ข้ึนทางดา้ นทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนือ
ของมหาสมทุ รแปซิฟิ ก มคี วามเร็วลมสูงสุดใกลศ้ ูนยก์ ลางต้งั แต่ 118 กิโลเมตรต่อชว่ั โมง
ข้นึ ไป มีระดบั ความรุนแรงมากท่สี ุด สามารถทาให้เกิดความเสียหายแก่บา้ นเรือน ในทะเล
มคี ลื่นลมแรงจดั มาก เป็นอนั ตรายตอ่ การเดินเรือ โดยเฉพาะเรือเล็ก พายรุ ะดบั น้ีมกั จะเกิด
“ตาพาย”ุ ข้ึนตรงศนู ยก์ ลางพายุ เป็นบริเวณท่มี ีความกดอากาศต่ามากที่สุด ลมสงบ ทอ้ งฟ้า
โปร่ง อาจมเี มฆและฝนบา้ งเลก็ นอ้ ย ส่วนรอบ ๆ จะเป็นบริเวณท่มี ีลมพดั แรงจดั มเี มฆคร้ึม
มฝี นตก และมีพายรุ ุนแรง
ที่มา: http://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=58

ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 63 Ex. 1 ครูอ่านประโยคที่ให้มา ใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ครูอธิบายวา่ ใหน้ กั เรียนใช้

วธิ ีการอา่ นแบบ Scanning และเลอื กวงคาตอบทถี่ กู ตอ้ ง เมื่อนกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูใหเ้ วลานกั เรียนทา
กิจกรรมตา่ ง ๆ เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบและเฉลยคาตอบบนกระดาน

463

1 Halong Bay 2 November 3 typhoons

การอ่านแบบ scanning เป็นวิธีการหาขอ้ มูลเฉพาะ เช่น ตวั เลข วนั ที่ สถานที่ ชื่อคน เป็นตน้
จะเป็นขอ้ มูลที่ปรากฏใหผ้ อู้ า่ นเห็นไดอ้ ยา่ งชดั เจนในบทอา่ น โดยถา้ ในคาถาม ถามถึงสถานท่ี
ใหก้ วาดสายตาไล่ดูแตค่ าทีห่ มายถึงสถานที่ ซ่ึงส่วนใหญ่จะเป็นสถานทเ่ี ฉพาะ เป็นชื่อเฉพาะ
เป็นวิธีทีจ่ ะช่วยให้นกั เรียนอา่ นเร่ืองไดร้ วดเร็วและเขา้ ใจเรื่องทอ่ี า่ นไดท้ นั ที
ทม่ี า: http://www.oxbridge.in.th/grammar-tips/scanning-skimming-for-ielts

เมืองซาปา (Sapa) ต้งั อยใู่ นจงั หวดั หล่าวกาย ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ซ่ึงตดิ กบั
ชายแดนประเทศจีน มีภมู ิประเทศเป็นเทอื กเขา อากาศหนาวเยน็ ตลอดท้งั ปี เมืองซาปามจี ุดเด่น
คือ ภูมิทศั นน์ าข้นั บนั ไดท่ีสวยงาม ในอดีตซาปาเป็นเมอื งตากอากาศของเจา้ นายช้นั สูง
ชาวฝรง่ั เศสที่เขา้ มาเม่อื คร้ังทเ่ี วยี ดนามตกอยภู่ ายใตอ้ าณานิคมของฝร่ังเศส ดงั น้นั สถาปัตย-
กรรมอาคารบา้ นเรือนและการวางผงั เมอื งแบบอาณานิคมฝร่ังเศส (French Colonial) ยงั คงมี
ใหเ้ ห็นอยใู่ นปัจจุบนั
ทีม่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/ซาปา

2. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 2 ครูอา่ นคาสง่ั Match the pictures with the activities. จากน้นั ครูใหน้ กั เรียน
อ่านคาทใี่ หม้ าในขอ้ 1-4 ครูถามว่า คาเหลา่ น้ีคือคาชนิดใด จากน้นั ครูอธิบายวา่ คาศพั ทเ์ หล่าน้ี คือ
ชื่อเฉพาะ (proper nouns) ภาษาองั กฤษจะตอ้ งข้ึนตน้ ดว้ ยตวั พิมพใ์ หญ่ (capital letters) เสมอ จากน้นั ครู
อธิบายเพิ่มเติมว่า ชื่อเฉพาะมอี ะไรบา้ ง เช่น ชื่อบคุ คล ประเทศ เช้ือชาติ วนั เดือน สถานท่ีทาง
ภูมศิ าสตร์ เสร็จแลว้ ครูอธิบายวา่ ให้นกั เรียนอ่านเน้ือเร่ืองอีกคร้ังอยา่ งรวดเร็ว โดยใชว้ ธิ ีการอา่ นแบบ
scanning หาชื่อเฉพาะท่ใี หม้ า เมอ่ื พบแลว้ ใหอ้ า่ นขอ้ ความแวดลอ้ มประมาณ 1-2 ประโยคกอ่ นหนา้ น้ี
หรือถดั ไป เมือ่ เขา้ ใจแลว้ จึงจบั คกู่ บั กิจกรรมท่ีให้มา ตอ่ มาครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน โดยถาม
นกั เรียนว่า What can you do in Sapa? และอ่านตวั เลือก a-d เพอ่ื ให้นกั เรียนเลอื กคาตอบ เมื่อไดค้ าตอบ
วา่ d. cycling แลว้ ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ ทเ่ี หลือ สุดทา้ ยครูอาจถามคาถามเพ่ิมเตมิ วา่ แต่ละ
สถานทีอ่ ยทู่ ่ีประเทศใด เช่น

464

T: Where is Sapa?
Ss: It’s in Vietnam.

1–d 2–c 3–a 4–b

3. ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

In the north of Vietnam, cool season is from November to April.

จากน้นั ครูอธิบายวา่ ประโยคน้ีใชบ้ อกเดือนที่เริ่มตน้ และเดือนทส่ี ิ้นสุดฤดกู าล มโี ครงสร้างเป็น

In (ประเทศหรือเมือง), (ฤดู) is from (เดือนท่เี ร่ิมตน้ ฤด)ู to (เดือนท่สี ิ้นสุดฤด)ู .

นอกจากน้ียงั สามารถใช้ start แทน is ไดด้ ว้ ย เช่น In Thailand, hot season starts from March to May.

เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ฝึกพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ฤดูกาลและกิจกรรมที่ชอบทา เช่น

S1: When is hot season in Thailand?

S2: Hot season in Thailand starts from March to June.

S1: What do you like doing in hot season?

S2: I like swimming in the sea. etc.

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 63 หวั ข้อ Over to you ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทาโปสเตอร์ My favourite

season นาเสนอฤดูกาลที่นกั เรียนช่ืนชอบและกิจกรรมที่นกั เรียนมกั จะทา โดยให้นกั เรียนเขียน
คาบรรยายส้นั ๆ วา่ ฤดูกาลดงั กลา่ วในประเทศไทยเริ่มและสิ้นสุดในเดือนใด และนกั เรียนชอบทา
กิจกรรมใดในฤดูกาลน้ี โดยครูใหน้ กั เรียนใชเ้ น้ือหาในหนงั สือเรียน หนา้ 62 เป็นตน้ แบบในการเขยี น
พร้อมวาดภาพหรือตดิ ภาพประกอบ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ออกมาพดู นาเสนอผลงาน
ของตนเองทหี่ นา้ ช้นั เช่น

Cold season in Thailand starts from November to January. In cold season, I like visiting
Doi Inthanon in Chiangmai.
2. ครูถามนกั เรียนว่า How many seasons are there in Britain? What are they? เมอ่ื ไดค้ าตอบแลว้ ครูถาม
คาถามเช่นเดียวกนั น้ีเก่ียวกบั ประเทศไทย จากน้ันครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ ให้นกั เรียนหาขอ้ มูลเกี่ยวกบั
สภาพอากาศในแต่ละฤดกู าลของประเทศองั กฤษและไทย และทาโปสเตอร์นาเสนอขอ้ มูลส้ัน ๆ
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 52-53 หัวข้อ Modular Revision and Assessment 5
Exs. 1-7 ในคาบเรียน เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบพร้อมกนั

465

แบบฝึ กหัด หน้า 53 Ex. 6
Narrator: Listen and answer the questions.
Female: Hello! Is that you in the picture?
Boy: Yes! My name’s Billy.
Female: How do you spell your name?
Boy: B-I-L-L-Y

Narrator: Can you see the answer? Now you listen and answer the
questions.
One
Female: And how old are you, Billy? Eight?
Boy: Eight? No, I’m seven.
Female: Seven?
Boy: Yes!
Two
Female: And when’s your birthday, Billy?
Boy: In March.
Female: My birthday is in March too!
Three
Female: And do you like playing football, Billy?
Boy: Yes! I love playing football! It’s my favourite sport.

466

Ex. 1

Ex. 2 2 spring 3 autumn
1 summer

Ex. 3 2 Don’t come here.
1 Drink this milk. 4 Talk to me.
3 Don’t stand up.
5 Don’t play the drum.

Ex. 4 2 Do 3 are you doing
1 ride 5 don’t like
4 goes

Ex. 5 3c 4f 5d
1a 2e

Ex. 6 2 March. 3 Football.
1 Seven (7).

Ex. 7 2 London 3 summer
1 nine (9) 5 gardening 467
4 swimming

7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินช้ินงาน My favourite แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
season ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชิ้นงานโปสเตอร์
เปรียบเทียบฤดกู าลของไทยและ แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
องั กฤษ
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบทดสอบ

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และม่งุ มน่ั ในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าโปสเตอร์
8.5 บตั รภาพ
8.6 อินเทอร์เนต็

468

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 CLIL 5 All Year Round!

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- เขียนนาเสนอการเปลีย่ นแปลงของตน้ ไมใ้ นแตล่ ะฤดูกาลได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย

การพูดและการเขยี น

ตวั ชี้วัด

ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของสิ่งต่าง ๆ ใกลต้ วั ตามท่ฟี ังหรืออา่ น

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชีว้ ัด

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ ่าย ๆ ของ

เจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั

สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็ น

พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตวั ชีว้ ัด

ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่เี ก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื และนาเสนอดว้ ย

การพดู /การเขียน

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

469

ตัวชีว้ ัด ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณท์ ่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
ต 4.1 ป.4/1

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทแ์ ละสานวน ช่วยให้เขา้ ใจเรื่องทีอ่ ่านและใชภ้ าษาองั กฤษในการ

เช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื พร้อมท้งั เขยี นส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Feathers and Functions
Structure: The apple tree is full of blossoms. The apple tree is full of green
leaves. The apple tree is full of apples. The apple tree is empty.
There are no leaves or apples on the tree.
Vocabulary: months, seasons, activities, full, blossoms, leaves, empty
2) Language Skills
Writing: เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั การเปลยี่ นแปลงของตน้ ซากุระในแต่ละฤดู

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดที่ใชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการเช่ือมโยง
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน

470

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน และทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ฤดกู าลและสภาพอากาศโดยให้นกั เรียนเล่นเกม
Bingo ครูใหน้ กั เรียนวาดตาราง 9 ช่อง และเขยี นคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ฤดูกาลและสภาพอากาศตา่ ง ๆ ลงไป
จากน้นั ครูอธิบายวิธีการเล่นเกมวา่ ใหน้ กั เรียนวงคาศพั ทท์ ่ีนกั เรียนไดย้ นิ ใครวงครบ 3 ช่องตดิ กนั ใน
แนวใดกไ็ ดก้ ่อนให้พูดว่า Bingo และจะเป็นผชู้ นะ
ตวั อยา่ งตาราง

autumn summer spring

windy winter rainy

snowy hot cold

ข้นั Presentation
1. ครูเขียนคาวา่ all year round บนกระดาน จากน้นั ครูยกตวั อยา่ งประโยค เพื่อให้นกั เรียนช่วยกนั เดา

ความหมาย
This tree stays green all year round.
Drinking and driving is a problem all year round.

เสร็จแลว้ ครูสรุปให้นกั เรียนฟังอกี คร้ังว่า all year round หมายถึง ตลอดท้งั ปี
all year round = If you say something happens all year round or all the year round,
it happens continually throughout the year.

(ท่ีมา: http://www.collinsdictionary.com/dictionary/english/all-year-round)
2. ครูนาแอปเปิ ลเขา้ มาในช้นั เรียนหรืออาจใชบ้ ตั รภาพ และพูดแนะนาว่า This is an apple. ครูให้นกั เรียน

ออกเสียงตามครู จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่า Who likes apples? Raise your hand. ครูทาทา่ ยกมอื ให้
นกั เรียนดู ครูอาจสุ่มถามนกั เรียนบางคนที่ไม่ยกมือวา่ You don’t like apples? และแสดงสีหนา้ ท่าทาง
ประกอบว่าไมช่ อบ เพือ่ ตรวจสอบว่านกั เรียนเขา้ ใจหรือไม่ เสร็จแลว้ ครูผา่ ผลแอปเปิ ลใหน้ กั เรียนดู
แลว้ อธิบายว่า Apple trees grow from apple seeds. จากน้นั ครูวาดภาพตน้ แอปเปิ ลท้งั 4 ฤดกู าลเหมือน
อยา่ งในแบบฝึกหัด หนา้ 72 บนกระดาน หรือครูใชบ้ ตั รภาพจากส่วนทา้ ยของแผนน้ี และถามนกั เรียน
แตล่ ะภาพ เช่น

471

ภาพแรก ภาพตน้ แอปเปิ ลที่มดี อกเต็มตน้ ครูถามนกั เรียนว่า In which
season does the tree look like this? เม่ือไดค้ าตอบว่า spring แลว้ ครู
พูดว่า The apple tree is full of blossoms in spring. ครูถามนกั เรียนว่า
What does the word ‘blossom’ mean? ถา้ นกั เรียนยงั เดาไมไ่ ด้ ครูอาจ
วาดรูปดอกไมแ้ ละพูดว่า This is an apple blossom. เพ่อื กระตนุ้ ให้
นกั เรียนตอบวา่ คือ ดอกของตน้ แอปเปิ ล ครูอธิบายเพม่ิ เติมเพอ่ื ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจว่า An apple blossom
is an apple flower.
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีกบั ภาพอื่น ๆ เพอ่ื นาเสนอคาศพั ท์ เช่น full of (เตม็ ไปดว้ ย), green leaves (ใบไม้
สีเขยี ว), no leaves (ไม่มีใบ), empty (วา่ งเปล่า)

กจิ กรรมเพิม่ เตมิ
ให้นกั เรียนดูคลิปวดิ ีโอเกี่ยวกบั การเจริญเติบโตของตน้ แอปเปิ ลจากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=0DDDBwk_-bM
หรือเขา้ ไปท่ี www.youtube.com แลว้ พิมพช์ ื่อคลปิ Life Cycle of An Apple Tree ในช่องคน้ หา

ตน้ แอปเปิ ล เป็นตน้ ไมผ้ ลดั ใบในวงศก์ ุหลาบ มีผลรสหวานเรียกวา่ ผลแอปเปิ ล แอปเปิ ลนิยม
ปลูกในลกั ษณะของไมผ้ ล แอปเปิ ลมถี น่ิ กาเนิดในเอเชียกลาง นิยมปลกู ในหลายประเทศทว่ั โลก
เช่น สหรฐั อเมริกา จีน ตรุ กี อนิ เดีย รวมถงึ ทางภาคเหนือของประเทศไทยดว้ ย แอปเปิ ลมีหลาย
สายพนั ธุ์ เช่น กาล่า ฟจู ิ วอชิงตนั
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/แอปเปิ ล

ข้นั Practice
1. แบบฝึ กหดั หน้า 72 Ex. 1 ครูอา่ นคาสง่ั Read and write spring, summer, autumn and winter. Then

colour. และอธิบายภาระงาน จากน้นั ครูอา่ นขอ้ ความในแตล่ ะช่องและให้นกั เรียนอ่านตามครู ครูให้
เวลานกั เรียนทาแบบฝึกหดั ดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน และเขียนเฉลยบน
กระดาน

1 spring 2 summer 3 autumn 4 winter
472

2. ครูนาภาพตน้ แอปเปิ ลในแตล่ ะฤดกู าลมาแสดงอกี คร้งั โดยครูแสดงทลี ะภาพและพดู ประโยค
ให้นกั เรียนเติมคาในประโยค เช่น
T: The apple tree is full of blossoms. (แสดงบตั รภาพ) Repeat after me.
Ss: The apple tree is full of blossoms.
T: The apple tree is full of …
Ss: Blossoms.
T: The apple tree is …
Ss: Full of blossoms.
T: Very good.
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีจนครบทุกภาพ

3. แบบฝึ กหัด หน้า 73 Ex. 2 Let’s sing! ครูอธิบายความหมายของคาว่า fine (ดี), left (เหลอื ), nothing
(ไมม่ ี) ในเน้ือเพลง จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอา่ นเน้ือเพลงตามไปดว้ ย จากน้นั ครูเปิ ด CD
อกี คร้งั เพ่อื ใหน้ กั เรียนฝึกร้องตามพร้อมกนั ครูอาจแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่มและให้ผลดั กนั ร้องเพลง
แตล่ ะทอ่ นกไ็ ด้

4. ครูถามนกั เรียนวา่ What rhymes with ‘sweet’? เมื่อไดค้ าตอบว่า eat แลว้ ครูถามว่า What rhymes with
‘time’ in line 2? ครูย้ากบั นกั เรียนวา่ คาท่ีคลอ้ งจองกนั ในภาษาองั กฤษที่เรียกว่า rhyme น้นั จะตอ้ ง
ลงทา้ ยดว้ ยเสียงเดียวกนั โดยไมจ่ าเป็นตอ้ งสะกดเหมือนกนั นกั เรียนอาจตอบว่า time คลอ้ งจองกบั คาว่า
fine ครูอา่ นออกเสียงคาวา่ time กบั fine ให้นกั เรียนฟังและถามนกั เรียนว่า ท้งั สองคาน้ีออกเสียง
เหมือนกนั หรือไม่ เสร็จแลว้ ครูเฉลยว่า ไม่มีคาท่ีคลอ้ งจองกบั time ในเพลงน้ี ส่วนคาวา่ fine น้นั เป็น
near rhyme หรือ half rhyme ซ่ึงเป็นคาที่ออกเสียงคลา้ ยกนั แตย่ งั ไมใ่ ช่คาคลอ้ งจองทีส่ มบรู ณ์

near rhyme มชี ื่อเรียกอกี อยา่ งหน่ึงวา่ slant rhyme หรือ half rhyme โดย near rhyme เป็น
ชื่อเรียกโดยทวั่ ไป ใชบ้ รรยายคาท่มี ีเสียงคลา้ ยกนั แต่ไม่ใช่คาพอ้ งเสียง
ท่มี า: http://www.poetry4kids.com/blog/lessons/poetry-dictionary-for-kids/#sightrhyme

ข้นั Production
แบบฝึ กหัด หน้า 73 หัวข้อ Project Time ครูพดู บอกนกั เรียน Look at the picture. Is it an apple tree?
เม่อื ไดค้ าตอบวา่ No, it isn’t. It is a cherry tree. แลว้ ครูถามนกั เรียนตอ่ ว่า Where can you see cherry
trees? Can you see them in Thailand? จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ แลว้ อธิบายภาระงานวา่
ให้แต่ละกลุม่ ทาโปสเตอร์นาเสนอวฏั จกั รการเติบโตของตน้ ซากุระ พร้อมท้งั ตกแตง่ ให้สวยงาม
473

ครูอาจปรับกิจกรรมเป็นให้นกั เรียนสงั เกตตน้ ไมใ้ นทอ้ งถิน่ ของตนเองว่า ออกดอกในช่วงฤดูใด
และออกผลในช่วงฤดใู ด แลว้ ทาโปสเตอร์เพ่ือนาเสนอตน้ ไมใ้ นทอ้ งถนิ่ ของตนเอง ครูอาจ
ช่วยเหลือนกั เรียนเรื่องชื่อของตน้ ไม้

เทศกาลชมดอกซากรุ ะเมืองวอชิงตัน ดีซี (National Cherry Blossom Festival) จดั ข้ึนในช่วง
ฤดูใบไมผ้ ลิ ระหว่างเดือนมีนาคมถงึ เดือนเมษายนของทกุ ปี ท่ีกรุงวอชิงตนั ดีซี ประเทศสหรฐั -
อเมริกา โดยตน้ ซากรุ ะท่ปี ลกู อยรู่ ิมอา่ งเก็บน้า Tidal Basin ในกรุงวอชิงตนั ดีซีน้ี เป็นของขวญั
ที่ญปี่ ่ นุ มอบให้แก่อเมริกา ในปี ค.ศ. 1912 นาย Yukio Ozaki นายกเทศมนตรีนครโตเกียวได้
มอบตน้ ซากรุ ะจานวน 3,000 ตน้ ใหแ้ ก่เมืองวอชิงตนั ดีซี เพ่อื เฉลมิ ฉลองความสมั พนั ธอ์ นั
แน่นแฟ้นระหว่างญ่ปี ่ ุนและสหรฐั อเมริกา เทศกาลน้ีจดั ยาวนานเกือบ 4 สัปดาห์ และมนี กั ท่อง-
เทยี่ วกว่า 1.5 ลา้ นคนมาเยอื นสถานท่แี ห่งน้ี
ที่มา: http://www.nationalcherryblossomfestival.org/about/history/

7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์

วิธกี ารวดั แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมนิ ชิ้นงานโปสเตอร์ My cherry
tree ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
และมงุ่ มนั่ ในการทางาน
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้

ประสงค์ ผ่านเกณฑ์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าโปสเตอร์
8.5 บตั รภาพ
8.6 ลกู แอปเปิ ล
8.7 อนิ เทอร์เนต็

474

6 All About Animals!

ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง

1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมเี หตุผล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ที่ฟังหรืออ่าน

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด

เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณห์ รือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน

ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด

ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบุคคล

ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสั่ง คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ

ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครัว

ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ

ตามแบบที่ฟัง

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดย

การพดู และการเขยี น

ตัวชี้วัด

ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

475

ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พนั ธข์ องสิ่งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ตามทฟี่ ังหรืออ่าน

สาระที่ 2 ภาษากับวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชี้วัด

ต 2.1 ป.4/1 พูดและทาท่าประกอบอยา่ งสุภาพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ

ภาษา

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ

ของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกบั วยั

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกต้อง

ตัวชีว้ ดั

ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น

พ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตวั ชีว้ ัด

ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื และนาเสนอดว้ ย

การพูด/การเขยี น

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ดั

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทเ่ี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสังคมโลก

ตัวชีว้ ดั

ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ

476

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเร่ืองที่ไดศ้ ึกษา คาศพั ทส์ านวนและโครงสร้างภาษา ช่วยให้สนทนา เขียนโตต้ อบ พูด/

เขียนสื่อสารเก่ียวกบั สัตวช์ นิดต่าง ๆ และสถานการณท์ ีก่ าหนดไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: Has the dog got long ears? Yes, it has.
Vocabulary: A rabbit can walk and run but it can’t fly or swim.
Dogs eat meat.
Look at the elephant. Oh, yes. It’s very big.
Where do elephants come from? They come from Africa.
Can they fly? No, they can’t but they can run!
Have they got big eyes? No, they haven’t, but they’ve got big ears!
OK, Tom. Tell the class about your pet. Snowy’s got a short tail but
he’s got long ears. Snowy’s favourite vegetables are carrots.
Do wild animals live here? Elephants love water and baths.
Zebras are fast animals! Dolphins are very clever animals!
Crocodiles have got big mouths and long bodies.
We’re at the zoo, me and you, the lions are here and
the giraffes, too.
In Britain there are a lot of wild animals in the woods.
Some look for food at night! Foxes have got big ears, long noses
and long tails. Owls are big birds.
A parrot has got feathers. It keeps me warm in winter and cool in
summer. It protects me from my enemies. I’ve got fur on my body.
They are 3 metres long and weigh about 135 kilogrammes.
(Animals) giraffe, monkey, snake, turtle, lion, hippo, mouse, zebra,
dolphin, crocodile, fox, owl, parrot, bear, dog, snail, swan, lizard,
pangolins, komodo dragons, toucan, hornbill, polar bear, kitten,

477

puppy, penguin, worm

(Parts of body) ears, eye, nose, paws, body, leg, tail, wing, beak,

claw, fin, fang, snout, hoof, jaws

(Food) meat, vegetables

(Coverings) feathers, fur, shell, scales

(Nouns) woods, hollow, insects, anteater, safari, tank, cage

(Verbs) live, curl up, weigh, climb

(Adjectives) tall, big, funny, long, slow, fast, fat, small, clever,

dark, thick, sharp

Pronunciation: ออกเสียงคาท่ลี งทา้ ยดว้ ย /k/ และ /g/, ออกเสียงเงียบ b (silent b),

ออกเสียงคาทล่ี งทา้ ยดว้ ยเสียง /l/

Function: ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ส่วนต่าง ๆ ของสตั ว,์ ขอและให้ขอ้ มลู

เก่ียวกบั ความสามารถของสัตว,์ บรรยายลกั ษณะของสัตว,์ ขอและให้

ขอ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถ ลกั ษณะรูปร่าง และขอ้ มลู ทวั่ ไปของสัตว,์

บรรยายเก่ียวกบั สตั วท์ ่ีช่ืนชอบ, บอกลกั ษณะส่ิงที่ปกคลมุ ตวั สัตว์

2) Language Skills

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น

Listening: ฟังและจบั คู่, ตอบคาถามจากการฟัง, ฟังเพ่อื ความเขา้ ใจ

Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของสตั ว,์ พูดขอและให้

ขอ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถของสัตว,์ พดู บรรยายความสามารถ

ของสัตว,์ พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ความสามารถ ลกั ษณะรูปร่าง

และขอ้ มูลทวั่ ไปของสัตว,์ พดู แสดงบทบาทสมมติ, พูดขอและให้

ขอ้ มูลเก่ียวกบั สัตว,์ พูดบรรยายเก่ียวกบั สัตว,์ พดู ขอและให้ขอ้ มลู

สตั วจ์ ากเน้ือเรื่องท่อี ่าน,พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ส่ิงท่ปี กคลุม

ตวั สัตว์

Writing: เขียนบรรยายความสามารถของสตั ว,์ เขยี นนาเสนอเกี่ยวกบั สตั วท์ ห่ี า

กินตอนกลางคืน, เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั สัตวท์ ีอ่ าศยั อยใู่ นประเทศของ

ตนเอง, เขียนกฎการเขา้ ชมสวนสัตว,์ เขียนนาเสนอเก่ียวกบั สิ่งที่

ปกคลมุ ตวั สัตว์

478

3) Culture: วนั อสี เตอร์ (Easter Day), สตั วท์ ห่ี ากินตอนกลางคนื ในประเทศ
สหราชอาณาจกั ร, ตราแผ่นดินของสหราชอาณาจกั ร, สตั วท์ ่ีอาศยั
อยใู่ นประเทศอาเซียน, สตั วป์ ระจาชาติอาเซียน

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- ทกั ษะการคิดท่ีใชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล
- ทกั ษะการจดั กลมุ่
- ทกั ษะการเปรียบเทยี บ
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

1. การสนทนาถาม-ตอบเกี่ยวกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของสัตว์
2. การพดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถของสัตวเ์ ล้ยี ง
3. ช้ินงานเปรียบเทียบความสามารถของสัตวโ์ ดยใชแ้ ผนภูมขิ องเวนน์
4. ช้ินงาน My animals และสัตวเ์ ล้ียงหรือสัตวท์ ี่ช่ืนชอบ
5. การพดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สัตว์
6. ช้ินงานบตั รขอ้ มูลเก่ียวกบั สัตว์
7. การแสดงบทบาทสมมติ
8. ชิ้นงานโปสเตอร์คาศพั ท์ Wild animals, สัตว,์ คาศพั ทท์ ลี่ งทา้ ยดว้ ย /l/,ขอ้ ควรปฏิบตั ใิ นการไปเทย่ี ว

สวนสตั ว,์ สัตวท์ ี่หากินตอนกลางคนื
9. การอ่านออกเสียง
10. ช้ินงานสมุดรวบรวมคาศพั ท์ My book of nocturnal animals
11. ช้ินงานโปสเตอร์นาเสนอสตั วท์ พ่ี บในประเทศของตนเอง และสิ่งท่ปี กคลมุ ตวั สตั ว์

479

7 การวัดและประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน
- ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน ประจาหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ทาแบบฝึกหัดใน Workbook หนา้ 54-61
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
- ทาแบบประเมนิ หลงั เรียน ประจาหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6
7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินช้ินงานในขอ้ 6

8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคา
8.5 บตั รภาพ Story Cutouts
8.6 อุปกรณท์ าโปสเตอร์
8.7 กระดาษ A4, กระดาษแขง็ , ดินสอสี, กาว และกรรไกร
8.8 อนิ เทอร์เน็ต

480

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 Has the rabbit got long ears?

เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ส่วนต่าง ๆ ของสัตวไ์ ด้
- พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะของสัตวไ์ ด้
- พูด/เขยี นทกั ทายในวนั อสี เตอร์ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น

ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพูด

เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรือสญั ลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ

แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด

ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล

ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสั่ง คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ

ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพ่ือขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน และครอบครัว

สาระท่ี 2 ภาษากับวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชี้วดั

ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ ของ

เจา้ ของภาษา

481

ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกต้อง

ตวั ชีว้ ดั

ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ท่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ส่วนต่าง ๆ ของสัตวแ์ ละโครงสร้างประโยค ช่วยให้พดู

สื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม รวมท้งั เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: Has the dog got long ears? Yes, it has.

Vocabulary: ears, eye, nose, paws, body, beak, claw, feather, wing, fin, fang,

snout, hoof, jaws, leg, tail, meat, vegetables, parrot, toucan, hornbill

Pronunciation: ออกเสียงคาท่ีลงทา้ ยดว้ ย /k/ และ /g/

Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะของสัตว์

2) Language Skills

Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะของสตั ว์

Writing: เขยี นทกั ทายในวนั อสี เตอร์

3) Culture: วนั อีสเตอร์ (Easter Day)

482

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการเปรียบเทยี บ

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ทบทวนการทกั ทาย โดยครูเตรียมลกู บอลขนาดเล็ก 1 ลกู จากน้นั บอกนกั เรียนวา่ ครูจะสุ่มโยนลูกบอล

ใหน้ กั เรียน 5-6 คน นกั เรียนคนใดทไี่ ดร้ ับลกู บอลตอ้ งพูดทกั ทายครู โดยทค่ี าตอบของนกั เรียนตอ้ ง

ไมซ่ ้ากนั เช่น

T: (โยนลกู บอลให้ Anne) Good morning, Anne.

S1: Good morning.

T: How are you?

S1: I’m good, thank you. And you?

T: I’m OK. etc.

2. ใหน้ กั เรียนเลน่ เกม Simon Says เพื่อทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อวยั วะตา่ ง ๆ ในร่างกายใน Module 1 เช่น

ears, eyes, mouth, nose, face, hands

T: Simon says, “Touch your nose.”

Ss: (นกั เรียนจบั จมกู ของตวั เอง)

T: Touch your mouth.

Ss: (นกั เรียนแตะส่วนใดก็ไดท้ ไี่ ม่ใช่ปาก) etc.

3. ทบทวนโครงสร้างที่ใชข้ อและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ลกั ษณะภายนอก โดยครูนาภาพบคุ คลท่มี ชี ื่อเสียง

มาแสดง จากน้นั ครูช้ีไปทภี่ าพแลว้ ถามคาถามโดยใช้โครงสร้าง Has he/she got …? เช่น Has he got

green eyes? Has he got a red mouth? เพอ่ื ให้นกั เรียนพดู ตอบ Yes, he has. หรือ No, he hasn’t.

483

4. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สตั ว์ โดยแสดงภาพสัตว์ 7-8 ชนิด เช่น cat, dog, mouse, rabbit, fish, parrot แลว้
ถามนกั เรียนวา่ What is it? ให้นกั เรียนช่วยกนั พูดบอกคาศพั ท์ เช่น
T: (แสดงบตั รภาพแมว) What is this?
Ss: It is a cat.
จากน้นั ครูสมมติว่าเป็นสัตวเ์ หล่าน้ี โดยแสดงท่าทางหรือทาเสียงร้องของสัตว์ หรือใชห้ นา้ กากรูปสตั ว์
เหล่าน้ีเขา้ มาช่วย และพูดทกั ทายนกั เรียน เช่น
T: Hello! I’m a cat. My name is Tom. Nice to meet you.
Ss: Nice to meet you too.
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีจนครบสตั วท์ ุกชนิด

5. ครูนาภาพสตั วต์ า่ ง ๆ ไปวางไวบ้ นโต๊ะครู จากน้นั ครูไปยืนท่หี ลงั หอ้ งและเรียกนกั เรียน 1 คน ให้ช่วย
ไปหยบิ รูปสตั วท์ ี่ครูบอกมาใหค้ รู เช่น
T: Ken, can you bring me the picture of cat? It’s on my table.
Ken: Yes.
เม่ือไดร้ ูปจากนกั เรียนแลว้ ครูแสดงภาพใหน้ กั เรียนคนอนื่ ๆ ดูและถามว่าถกู ตอ้ งหรือไม่ ครูให้ Ken มา
ยนื แทนท่ีครูและเรียกเพือ่ นใหไ้ ปหยิบรูปสัตวช์ นิดอ่นื บนโต๊ะครู เช่น
Ken: Anne, can you bring me the picture of dog? It’s on the teacher’s table.
Anne: Yes.
ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีจนนกั เรียนสามารถหยิบบตั รภาพสตั วบ์ นโตะ๊ ครูไดค้ รบ
เสร็จแลว้ ครูเขียนประโยค Can you …? บนกระดาน และอธิบายวา่ เราใช้ Can you …? ในการขอร้อง
ให้ผูอ้ ื่นทาบางสิ่งบางอยา่ งให้เรา เช่น Can you bring me …? เพ่อื บอกใหค้ นทเี่ ราพูดดว้ ยนาบางส่ิง
บางอยา่ งมาใหผ้ พู้ ดู จากน้นั ครูพูดให้นกั เรียนช่วยหยิบสิ่งของตา่ ง ๆ ในหอ้ งมาใหค้ รู เช่น
T: Tik, can you bring me a pen?
Tik: Yes. (นาปากกา 1 ดา้ มมาให้ครู)
ครูให้นกั เรียนช่วยหยบิ สิ่งของอน่ื ๆ อกี 3-4 อยา่ ง แลว้ จึงใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั และฝึกพดู ขอร้องให้
เพื่อนนาบางสิ่งบางอยา่ งมาใหต้ นเอง

ครูสามารถเขา้ ไปดาวนโ์ หลดบตั รภาพสตั วต์ า่ ง ๆ จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://esl-kids.com/flashcards/animals.html

484

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาคุณศพั ทท์ ใี่ ชบ้ รรยายลกั ษณะของสตั ว์ ไดแ้ ก่ long (ยาว), short (ส้ัน), big (ใหญ)่ , small (เลก็ )

โดยนาสิ่งของต่าง ๆ มาแสดงในช้นั เรียน และให้นกั เรียนเปรียบเทียบเพ่ือบอกลกั ษณะ เช่น
The red pencil is short. The blue pencil is long.
The yellow ball is big. The white ball is small.

2. ครูนาบตั รภาพส่วนต่าง ๆ ของสตั วม์ าแสดง ไดแ้ ก่ beak (จงอยปาก), tail (หาง), paws (องุ้ เทา้ ), claws
(กรงเล็บ), fur (ขน), wings (ปี ก), feather (ขนนก) และให้นกั เรียนพูดคาศพั ทต์ ามครู จากน้นั ครูสลบั
บตั รภาพ แลว้ ถามนกั เรียนว่า คอื ภาพอะไร เช่น
T: What’s this?
Ss: It’s a tail.
T: What’re these?
Ss: They are paws.

กิจกรรมเพิ่มเติม
ครูสอนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของสตั วเ์ พ่มิ เติม เช่น fins (ครีบ), fang (เข้ยี ว), hoof (กีบเทา้ ),
jaws (ขากรรไกร), snout (จมูกและปากของสัตว)์ , whiskers (หนวด) จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขา้ ไป
ฝึกฝนคาศพั ทเ์ หล่าน้ีดว้ ยตนเองจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/word-games/animal-body-parts-1
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/word-games/animal-body-parts-2

ครูสามารถดาวนโ์ หลดบตั รภาพส่วนต่าง ๆ ของสตั วไ์ ดท้ ่ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/animal-body-parts-flashcards

3. ครูนาบตั รภาพส่วนตา่ ง ๆ ของสัตวว์ างไวบ้ นโต๊ะครู จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนมาหาครู และหยิบ
บตั รภาพทค่ี รูบอก พร้อมกบั แสดงให้เพ่อื นดู โดยก่อนใหน้ กั เรียนทากิจกรรม ครูสาธิตดว้ ยการพูดวา่
pick up และหยิบบตั รภาพบนโตะ๊ ข้นึ มา เพื่อให้นกั เรียนเขา้ ใจความหมายของคาว่า pick up เมอ่ื
นกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนมาทากิจกรรม เช่น
T: Ken, come here, please.
Pick up a beak.
Ken: OK. (หยบิ บตั รภาพ)

485

T: Show it to your friends.
Ken: OK. (แสดงบตั รภาพให้เพ่อื นดู)
T: Is it correct?
Class: Yes.
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีอีก 2-3 คร้ัง จากน้นั แบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทมี ให้แตล่ ะทีมผลดั กนั ส่งตวั แทน
ออกมาเป็นผูส้ งั่ คาส่ังและปฏบิ ตั ิตามคาส่ังคร้งั ละ 1 คน แลว้ ทากิจกรรม
4. ครูนาภาพสตั ว์ 2 ชนิด มาแสดง และช้ีทอี่ วยั วะส่วนต่าง ๆ ของสตั ว์ แลว้ พูดบรรยาย เช่น
The rabbit hasn’t got a big beak but the parrot has got a beak.
The rabbit hasn’t got wings but the parrot has got wings.
The rabbit hasn’t got feathers but the parrot has got feathers.
The rabbit has got a short tail but the parrot has got a long tail.
The rabbit has got four paws but the parrot has got two claws.
The rabbit has got a big body but the parrot has got a small body.
จากน้นั ครูนาบตั รภาพสตั วม์ าแสดงทีละภาพ และถามคาถาม เช่น
T: Has the rabbit got a small beak?
Ss: No, it hasn’t.
T: It has got a ….
Ss: big beak.
T: Correct.
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเรื่อย ๆ จนนกั เรียนสามารถตอบคาถามไดค้ ลอ่ ง
5. ครูเขียนคาว่า beak และ big บนกระดาน พร้อมขดี เสน้ ใต้ k และ g ดว้ ย จากน้นั ครูอ่านออกเสียงและให้
นกั เรียนพดู ตามพร้อมกนั เสร็จแลว้ ครูอธิบายความแตกตา่ งของการออกเสียง /k/ ในคาว่า beak และ
เสียง /g/ ในคาวา่ big ให้นกั เรียนฟัง

การออกเสียงคาท่ลี งท้ายด้วยเสียง /k/ และ /g/
เสียง /k/ และ /g/ เป็นเสียงท่ีเกิดจากเพดานอ่อน (velar) เหมือนกนั แตต่ า่ งกนั ตรงท่ี
เสียง /k/ เป็นเสียงไมก่ อ้ ง (voiceless) แต่เสียง /g/ เป็นเสียงกอ้ ง (voiced) ซ่ึงเป็นเสียง
ทไี่ ม่มีในภาษาไทย ดงั น้นั คนไทยส่วนใหญ่จึงออกเสียงเป็นเสียงไม่กอ้ งแทน เราควรให้
ความสาคญั ในการฝึกฝนเสียงคู่น้ีเป็นอยา่ งมาก

486

/k/ /g/
beak big
lock log
back bag
lake leg
dock dog
pick pig
ท่มี า: http://betterenglishforthai.net/book_pronunciation/chapter11/

กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูอาจเปิ ดคลิปวดิ ีโอให้นกั เรียนฝึกการออกเสียงคาทีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ และ /g/ เพม่ิ เติม
จาก https://www.youtube.com/watch?v=tWpfIbfpMzw หรือให้นกั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง
โดยครูบอกคาสาคญั เช่น /k/, /g/ pronunciation หรือชื่อคลิป How to Pronounce "K" vs. "G"
Sounds | English Lessons ใหน้ กั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดูดว้ ยตนเองที่ www.youtube.com

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 64 Ex. 1 ครูอา่ นคาส่งั Listen, point and repeat. จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง

1 คร้งั โดยใหน้ กั เรียนช้ีคาศพั ทต์ ามไปดว้ ย ต่อมาครูเปิ ด CD อกี คร้ังและหยดุ เป็นคา ๆ ให้นกั เรียนฝึก
ออกเสียงตาม CD พร้อมกนั หรือทลี ะคน ครูเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาวา่ vegetables ให้ถูกตอ้ ง
เพราะคาน้ีเป็นคาท่คี นไทยมกั ออกเสียงผดิ

ครูใหน้ กั เรียนฝึกฟังและออกเสียงคาว่า vegetable จากพจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษออนไลน์
เช่น Cambridge Dictionary, Longman Dictionary, Oxford Dictionary

ทม่ี า: http://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/vegetable
2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เปลี่ยนคานามต่อไปน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปพหูพจน์ ear, eye, paw, leg, wing, feather, body

เมอ่ื ไดค้ าตอบแลว้ ครูเขยี นรูปพหูพจนบ์ นกระดาน และครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียง s ทา้ ยคานาม
พหูพจน์ ซ่ึงคาเหลา่ น้ีจะออกเสียง s ทา้ ยคาเป็นเสียง /z/

487

ear - ears
eye - eyes
leg - legs
wing - wings
feather - feathers
body - bodies

คาท่ีลงทา้ ยดว้ ย s สามารถออกเสียงได้ 3 แบบ คือ เสียง /s/, /z/ และ /Iz/ โดยจะออกเสียง /s/
เมอ่ื พยญั ชนะทอ่ี ยหู่ นา้ s เป็นเสียงไม่กอ้ ง (voiceless) เช่น sleeps, pets, laughs, cliffs, books
และจะออกเสียง /z/ เม่ือพยญั ชนะหนา้ s เป็นเสียงกอ้ ง (voiced) เช่น ears, eyes, legs, feathers,
bodies ส่วนคาที่ลงทา้ ยดว้ ย es จะออกเสียงเป็น /Iz/ เช่น races, buses, boxes, watches, dishes
ยกเวน้ บางคา เช่น clothes, gloves ซ่ึงจะออกเสียง /z/ ท่ีทา้ ยคา

ท่ีมา: http://www.grammar.cl/english/pronunciation-final-s.htm

2. หนงั สือเรียน หน้า 64 Ex. 2 ครูอธิบายคาสั่ง ให้นกั เรียนจบั คู่ ฝึกพูดถาม-ตอบ จากน้นั ครูถามว่า Look at
picture number 1. Has the dog got long ears? ให้นกั เรียนดภู าพและบอกครู ครูทากิจกรรมน้ีกบั ขอ้ 2-4
เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่ พูดถาม-ตอบ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบท่ีหนา้ ช้นั
488

2 A: Has the cat got a short tail?
B: Yes, it has.

3 A: Has the parrot got a big beak?
B: Yes, it has.

4 A: Has the mouse got a small body?
B: Yes, it has.

ครูให้นกั เรียนเขา้ ไปเลน่ เกม animal maker ทเี่ วบ็ ไซต์
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/make-your-own/animal-maker

3. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ฝึกถาม-ตอบในหนงั สือเรียน หนา้ 64 Ex. 2 จนคลอ่ ง โดยใหน้ กั เรียนสลบั คู่ 1-2 คร้งั
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบที่หนา้ ช้นั
Advanced classes: ครูเปิ ดคลิปวิดีโอ The bird king ให้นกั เรียนดจู ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories/the-bird-king
หลงั จากดคู ลปิ วดิ ีโอเสร็จแลว้ ครูแนะนาคาศพั ทท์ ่นี กั เรียนควรทราบ ไดแ้ ก่ jungle (ป่ า), jealous
(อจิ ฉา), parakeet (นกแกว้ ขนาดเล็กมหี างยาว), myna (นกขุนทอง), toucan (นกทูแคน นกพ้นื เมอื งใน
ทวปี อเมริกาใต)้ , macaw (นกแกว้ สีสันสวยงาม นกพ้นื เมืองในทวปี อเมริกากลางและใต)้ , eagle
(นกอนิ ทรี), sparrow (นกกระจอก), squawk (ร้องเสียงดงั ) จากน้นั ครูถามคาถามเกี่ยวกบั เน้ือเร่ือง เช่น
T: How many birds are there in the video?
Ss: There are six birds. They are parakeet, myna, toucan, macaw, eagle and sparrow
T: Why should the parakeet be the king?
Ss: He has got wonderful colours.
T: Why should the myna be the king?
Ss: He can speak and talk to the other animals.
T: Why should the toucan be the king?
Ss: He has got a fantastic beak.
T: Why should the eagle be the king?
Ss: He is the strongest. He can fly the highest.
T: In the end, who is the king?
Ss: The sparrow.
489

4. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ออกมายนื หนา้ ช้นั โดยครูให้นกั เรียนคนดงั กล่าวเลือกสตั วม์ า 1 ชนิดจาก

หนงั สือเรียน หนา้ 64 Ex. 2 จากน้นั ครูอธิบายว่า ให้นกั เรียนทเี่ หลอื ถามนกั เรียนคนดงั กลา่ วโดยใช้

คาถามแบบ Yes/No questions และพยายามหาขอ้ มลู วา่ สตั วท์ เ่ี พื่อนเลือกไวค้ ือสัตวช์ นิดใด ครูสาธิต

การทากิจกรรมกบั นกั เรียน 1 คน ใหน้ กั เรียนในช้นั ดูกอ่ นในคร้ังแรก เช่น

ตวั อยา่ ง T: Has it got a small body?

S1: Yes, it has.

T: Has it got a short tail?

S1: No, it hasn’t.

T: Is it a mouse?

S1: Yes, it is! etc.

เสร็จแลว้ ครูอธิบายการออกเสียงเชื่อมคาใหน้ กั เรียนฟังวา่ เจา้ ของภาษามกั จะออกเสียงเช่ือมคาเวลา

พดู คยุ ในชีวิตประจาวนั การเช่ือมคาจะเกิดข้นึ เมอื่ คาที่อยขู่ า้ งหนา้ สะกดดว้ ยพยญั ชนะและคาที่ตามมา

ข้นึ ตน้ ดว้ ยสระ เช่น

Has it got a small body?

Is it a mouse?

Yes, it is

กิจกรรมเพ่มิ เตมิ
ครูให้นกั เรียนเลน่ เกมหาคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สัตวจ์ ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี

http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/word-games/group-the-words/animals

โดยก่อนเล่น ครูอธิบายคาศพั ทท์ ่นี กั เรียนควรรู้ ไดแ้ ก่ pets (สัตวเ์ ล้ยี ง), farm animals
(สัตวเ์ ล้ียงในฟาร์ม) จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ งสัตวท์ ีอ่ ยใู่ นกลุม่ เหลา่ น้ี
5. ครูนาภาพกระต่ายกบั ตะกร้าไขม่ าแสดงใหน้ กั เรียนดูและถามว่า What holiday do you think of? ครู
รวบรวมคาตอบจากนกั เรียน จากน้นั ครูเฉลยดว้ ยการเขียนคาวา่ Easter บนกระดาน และให้นกั เรียน
อา่ นออกเสียงตามครู ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกขอ้ มลู ทน่ี กั เรียนรู้เก่ียวกบั Easter หรือครูอาจถามคาถาม
เพื่อช่วยกระตนุ้ นกั เรียน ถา้ นกั เรียนตอบไมไ่ ดค้ รูจึงช่วยเฉลยคาตอบ โดยพูดเป็น ภาษาองั กฤษ และ
อธิบายคาศพั ทย์ ากเป็นภาษาไทยหรือวาดภาพประกอบบนกระดาน
T: When is Easter?
Ss: It’s in spring.
T: What month do we celebrate Easter?
Ss: March or April.

490

T: That’s right. Easter isn’t on the same date each year. Easter is usually in March or April.
It is time that Christians remember the death of Christ and his return to life. It is an
important Christian festival. (แสดงบตั รภาพพระเยซู)

T: What do people do on Easter Day? (แสดงบตั รภาพช็อกโกแลตและโบสถ)์
Ss: They go to church. They eat chocolate.
T: That’s right. People go to church and they eat chocolate on this day. They usually wear

new clothes to church.
จากน้นั นาภาพกระต่ายในวนั Easter และตะกร้าไข่มาให้ดูอีกคร้งั เพ่ือสอนคาศพั ท์ Easter Bunny และ
Easter basket เช่น

T: What is it?
Ss: It is a rabbit.
T: Yes, but we call it Easter Bunny on Easter Day.
ต่อมาครูสอนให้นกั เรียนพูดทกั ทายในวนั Easter โดยสมมติกบั นกั เรียนว่า วนั น้ีคอื วนั Easter แลว้ ครู
เขยี นคาว่า Happy Easter! บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนพูดทกั ทายครูดว้ ยประโยคดงั กลา่ ว
Ss: Happy Easter!
T: Happy Easter to you too!
ให้ฝึกพูดทกั ทายกนั โดยให้ทกั ทายเพื่อนที่ช่ือจริงหรือชื่อเล่นข้นึ ตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรตวั เดียวกบั ช่ือนกั เรียน
S1: Happy Easter!
S2: Happy Easter to you too!

ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอเพลง Easter ใหน้ กั เรียนดูจาก www.youtube.com โดยพมิ พช์ ื่อคลปิ
Easter Songs For Children lyrics หรือเขา้ ไปท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=qvd78BKFOf0
จากน้นั ครูแนะนาให้นกั เรียนไปดูคลปิ วดิ ีโอช่ือ The great egg hunt นอกเวลาเรียนจาก
เวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/speak/the-great-egg-hunt

ครูให้นกั เรียนเล่นเกม Easter egg hunt ครูอธิบายว่า เกมน้ีนิยมเลน่ กนั ในวนั Easter โดยก่อนเลน่ เกม
ครูวาดรูปไขแ่ ละระบายสีให้สวยงาม ประมาณ 6-8 ฟอง จากน้นั ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทมี คือ ทมี A
และทีม B โดยใหน้ กั เรียนทมี A 1 คน ปิ ดตา แลว้ ครูใหภ้ าพไข่ Easter ทมี B 3-4 ภาพและไปซ่อนในจุด
ท่กี าหนดในฝ่ังของคนท่ีปิ ดตาและจุดอื่น ๆ ในหอ้ งตามท่รี ะบไุ วใ้ นกระดาษท่ไี ดร้ ับจากครู เช่น

491

Put the Easter egg under the book.
Put the Easter egg in the book.
Put the Easter egg under the chair.
Put the Easter egg at the whiteboard.
เมือ่ ซ่อนเสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนเล่นเกม โดยให้นกั เรียนที่ปิ ดตาหา Easter eggs ตามจดุ ตา่ ง ๆ โดยให้
เพอ่ื นในทีมช่วยกนั พดู บอกตาแหน่งทีละจุด ดงั น้ี
S1: Look under your book.
S2: Look in your book.
S3: Look under your chair.
S4: Look at the whiteboard.

ครูสามารถเขา้ ไปดาวนโ์ หลดบตั รภาพ พร้อมบตั รคาเกี่ยวกบั Easter ไดท้ ี่เวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/easter-flashcards
http://www.mes-english.com/flashcards/files/easter_flash.pdf
http://www.activityvillage.co.uk/sites/default/files/downloads/easter_picture_flashcards.pdf
http://esl-kids.com/pdf/easter/large-easter-words.pdf

ประวัติวนั อสี เตอร์ (Easter Day)
วนั อสี เตอร์ หรือ วนั ปัสกา เป็นวนั เฉลิมฉลองพระเยซูคริสตท์ รงคืนพระชนมช์ ีพจากความตาย
และเป็นวนั สุดทา้ ยของเทศกาลมหาพรต โดยตลอด 40 วนั ของเทศกาลน้ี เริ่มต้งั แตว่ นั แรก
ชาวคริสตจ์ ะตอ้ งต้งั จิตอธิษฐานราลึกเหตกุ ารณอ์ นั ทรมานของพระเยซูตามพระคมั ภีร์ รวม
ไปถึงสวดภาวนา บริจาคสิ่งของ อดอาหาร และไม่ฟ่ มุ เฟื อย ดาเนินชีวติ อยา่ งสมถะทส่ี ุด
ในวนั อีสเตอร์ คริสตศ์ าสนิกชนจะแตง่ กายสวยงามมาร่วมพิธีกรรมในโบสถ์ พร้อมกบั
ร้องเพลงสรรเสริญพระเจา้ นอกจากน้ี บางครอบครวั ตกแตง่ ไข่เป็นลวดลายสีสันตา่ ง ๆ เพ่อื
นามามอบใหแ้ ก่กนั รวมไปถึงจดั กิจกรรมให้แต่ละครอบครวั เลน่ เกมหาไขอ่ ีสเตอร์ ทถี่ กู ซ่อน
เอาไวใ้ นท่ีต่าง ๆ เพ่อื ให้ผเู้ ฉลิมฉลองไดช้ ่วยกนั คน้ หา และไดใ้ ชเ้ วลาแห่งความสุขใน
วนั อีสเตอร์ร่วมกนั
ทีม่ า: http://hilight.kapook.com/view/101005

492

กระต่ายอีสเตอร์ (Easter Bunny)
ในพระคมั ภรี ์ไบเบลิ ไมไ่ ดก้ ลา่ วถงึ กระต่ายว่ามสี ่วนเก่ียวขอ้ งกบั การสิ้นพระชนมข์ องพระเยซู
คริสตแ์ ต่อยา่ งใด สัญลกั ษณก์ ระต่ายในวนั อสี เตอร์ มาจากประเพณีของตะวนั ตกทเี่ ช่ือกนั วา่
กระต่ายเป็นสัตวท์ มี่ ีลกู ดกและแพร่พนั ธุ์เร็ว จึงเป็นสญั ลกั ษณ์ของชีวิตใหมแ่ ละความหวงั
คริสตศ์ าสนิกชนในประเทศตะวนั ตกจึงนาเอากระต่ายมาใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณ์ของชีวติ ใหมแ่ ห่ง
การฟ้ืนคนื พระชนมข์ องพระเยซูคริสต์
ท่ีมา: http://www.creation-church.com/idea09.php

กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครูถามนกั เรียนวา่ ในประเทศไทยมวี นั ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั ศาสนาหรือไม่ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พูดตอบ เช่น
วนั พระใหญ่ วนั วิสาขาบูชา วนั มาฆบชู า จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนบอกกิจกรรมท่ที าในวนั ดงั กล่าว เช่น
ตกั บาตร ไปวดั เวียนเทียนรอบพระอโุ บสถ เสร็จแลว้ ครูช้ีใหน้ กั เรียนเห็นวา่ ในวนั สาคญั ทางศาสนา
ชาวคริสตก์ ็จะไปโบสถ์ ชาวพทุ ธจะไปวดั หากเป็นชาวมสุ ลมิ กจ็ ะไปมสั ยิด

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนวาดภาพหรือครูอาจมอบหมาย ให้นกั เรียนหาภาพสัตวม์ ากอ่ นลว่ งหนา้

4 ชนิด พร้อมตกแต่งให้สวยงาม จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ฝึกถาม-ตอบเก่ียวกบั ส่วนต่าง ๆ ของสตั ว์
เหล่าน้ี โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน หนา้ 64 Ex. 2 เป็นตน้ แบบ
2. ครูนาตวั อยา่ งของ Happy Easter Card มาแสดง และบอกว่า คนองั กฤษและอเมริกานิยมให้บตั รอวยพร
เนื่องในวนั Easter กนั และวนั น้ีนกั เรียนจะไดท้ าบตั รอวยพรเนื่องในวนั Easter เพอ่ื นาไปให้กบั คนใน
ครอบครวั ของตนเอง ในการวาดภาพ ครูใหน้ กั เรียนเลอื กสญั ลกั ษณ์ทสี่ าคญั ของวนั Easter เพื่อวาดลง
ไปในบตั รอวยพร เช่น กระต่าย ตระกร้าไข่ ช็อกโกแลตรูปไขห่ รือกระตา่ ย ไข่ท่ีตกแตง่ สวยงาม เม่ือ
นกั เรียนเลือกภาพท่จี ะวาดไดแ้ ลว้ ครูอธิบายว่า ให้นกั เรียนเขียนคาอวยพรลงในบตั รดว้ ยว่า Happy
Easter!

ครูสามารถดาวน์โหลดตวั อยา่ งของ Happy Easter Card ไดท้ เี่ วบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://www.supercoloring.com/coloring-pages/holidays/easter/easter-cards

493

3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 54 Exs. 1-2 เป็นการบา้ น

Ex. 1
1 ears 2 eye 3 nose 4 paws
5 body 6 leg 7 tail
Ex. 2
2c 3a 4b

7. การวัดและประเมนิ ผล

วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์

ประเมินการพดู ขอและให้ขอ้ มลู แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

เก่ียวกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของสัตว์ ผา่ นเกณฑ์

ตรวจการเลือกภาพตรงตาม แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ความหมายของประโยค แบบทดสอบ

ประเมนิ ช้ินงาน Happy Easter Card แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ผา่ นเกณฑ์

สังเกตการอภปิ รายเก่ียวกบั ความ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้

เหมือนและแตกตา่ งของวนั สาคญั ทาง เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์

พทุ ธศาสนากบั วนั Easter

สังเกตการปฏิบตั ติ ามคาสัง่ และพดู แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ขอร้องในช้นั เรียน เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์

สงั เกตการออกเสียง /k/ และ /g/ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมนั่ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้

ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

494

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคา
8.5 ภาพสตั วต์ ่าง ๆ
8.6 ภาพไข่ Easter Egg, Easter basket, Easter Bunny
8.7 อุปกรณท์ าช้ินงาน
8.8 อนิ เทอร์เน็ต

495


Click to View FlipBook Version