7 การวัดและประเมินผล
7.1 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ทาแบบฝึกหัดในหนงั สือเรียน หนา้ 16-27
- ทาแบบฝึกหัดใน Workbook หนา้ 14-23
7.2 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินชิ้นงานในขอ้ 6
8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อปุ กรณท์ าช้ินงาน
8.6 อนิ เทอร์เนต็
96
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 Are there any eggs? เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาหารโดยใชโ้ ครงสร้าง Are there/Is there …? ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาสัง่ คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ฟี ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน และครอบครวั
ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ
ตามแบบทฟ่ี ัง
สาระท่ี 2 ภาษากับวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย เพอ่ื นามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชีว้ ดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
97
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทเี่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหาร โครงสร้างภาษา ช่วยให้สนทนา พดู /เขียนสื่อสาร
ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Are there any eggs? No, there aren’t. There’s some milk.
Vocabulary: (food and drinks) rice, bread, burger, hot dog, sausage,
chicken, egg, pizza, banana, cake, orange juice, milk, ice cream
(adjectives) thirsty, hungry
Pronunciation: ออกเสียง /r/ และ /l/, ออกเสียงสูง-ต่า (intonation) ในภาษา-
องั กฤษ
Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาหาร
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั อาหาร
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดทใี่ ชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้ 98
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียน How are you today? ใหน้ กั เรียนพดู ตอบพร้อมกนั จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
3-4 คน ยนื เรียงกนั โดยครูถามคาถามนกั เรียนคนท่ี 1 How are you today? เมอื่ นกั เรียนคนท่ี 1 ตอบ
แลว้ ให้นกั เรียนคนที่ 1 ถามเพื่อนคนถดั ไป โดยทีค่ าตอบของคนถดั ไปตอ้ งไมซ่ ้ากนั เช่น
T: How are you?
S1: I’m fine.
S1: How are you?
S2: I’m good.
S2: How are you?
S3: I’m OK.
2. ทบทวนคาศพั ทท์ ่ีเรียนไปแลว้ ในบทท่ี 1 เช่น body, face, hand, ears, eyes, nose, lips โดยการเล่นเกม
Hangman โดยครูจะขีดเส้นใตบ้ นกระดานสาหรับใชเ้ ขียนตวั อกั ษรทีจ่ ะทาย จากน้นั ครูบอกวา่ ให้
นกั เรียนพดู บอกตวั อกั ษรทีค่ ดิ วา่ มีในคาศพั ทด์ งั กลา่ ว ถา้ ไมม่ ี ครูจะวาดส่วนต่าง ๆ ของหุ่นไป
เร่ือย ๆ เริ่มจากหวั ลาตวั แขน ขา ถา้ หุ่นถูกแขวนคอเมอ่ื ไหร่ ถอื วา่ เกมสิ้นสุดทนั ที
3. ครูถามนกั เรียนเก่ียวกบั อาหารทน่ี กั เรียนช่ืนชอบ เช่น
T: What’s your favourite food?
S1: I like pizza.
S2: I like burger.
S3: I like fried chicken.
ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียนบนกระดาน
4. ใหน้ กั เรียนทางานคู่ ช่วยกนั เขียนคาศพั ท์เก่ียวกบั อาหารใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุด เสร็จแลว้ ใหค้ ู่ทีเ่ ขียนได้
มากทส่ี ุด ออกมาอา่ นคาศพั ทใ์ หเ้ พือ่ นฟัง
5. ครูถามนกั เรียนเกี่ยวกบั อาหารเชา้ ดงั น้ี
T: Do you eat breakfast before getting to school?
Ss: Yes, I do. / No, I don’t.
T: What do you eat for breakfast?
S1: I eat rice and chicken.
S2: I eat pork and sticky rice. etc.
99
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหาร ไดแ้ ก่ rice (ขา้ ว), bread (ขนมปัง), burger (เบอร์เกอร์), hot dog
(ไสก้ รอกท่ีประกบดว้ ยขนมปัง), sausage (ไสก้ รอก), chicken (ไก)่ , egg (ไข)่ , pizza (พิซซา), banana
(กลว้ ย), cake (เคก้ ), orange juice (น้าสม้ ), milk (นม), ice cream (ไอศกรีม) โดยการตดิ บตั รภาพไวบ้ น
กระดาน และให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทแ์ ละความหมาย จากน้นั ครูแสดงบตั รภาพทีละใบ
พร้อมกบั อ่านออกเสียงและให้นกั เรียนพดู ตามครูจนครบทกุ คา
ตอ่ มาครูสอนนกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาที่มีมากกวา่ 1 พยางค์ ดงั น้ี
burger hot dog sausage chicken
pizza banana orange juice ice cream
ให้นกั เรียนฝึกพูดออกเสียงตามครูหลาย ๆ คร้งั
ครูสามารถเขา้ ไปดาวน์โหลดบตั รภาพอาหารจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://esl-kids.com/flashcards/food.html
2. นาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารท่ีนกั เรียนควรรู้เพ่ิมเตมิ เช่น beans (ถว่ั ), lemonade (น้ามะนาว),
soup (ซุป), sandwich (แซนดว์ ิช), coffee (กาแฟ), tea (ชา), vegetable (ผกั ) โดยครูเขยี นคาศพั ท์
บนกระดานและพูดบอกความหมาย จากน้นั ให้นกั เรียนพดู คาศพั ทแ์ ต่ละคาตามครูพร้อมกนั หรือ
ทลี ะคน โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรียนลงเสียงหนกั ในคาที่มมี ากกว่า 1 พยางคใ์ หถ้ ูกตอ้ ง ดงั น้ี
lemonade sandwich
coffee vegetable
กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ หน้ กั เรียนเขา้ ไปเล่นเกมฝึกฝนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหาร ดงั น้ี
http://www.eslgamesplus.com/food-vocabulary-word-search/
3. นาเสนอคานามนบั ไดแ้ ละนบั ไมไ่ ดเ้ ก่ียวกบั อาหาร โดยครูนาอาหารเขา้ มาในห้องจริง ๆ ซ่ึงมีท้งั
อาหารท่ีเป็นคานามนบั ได้ เช่น burgers, sausages, eggs, bananas, oranges และคานามนบั ไมไ่ ด้ เช่น
rice, bread, orange juice, milk, water จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนนบั จานวนส่ิงของท่ีอยบู่ นโตะ๊ ครู โดยเริ่ม
จากเบอร์เกอร์ ไสก้ รอก ไข่ กลว้ ย และส้มท่วี างอยบู่ นโตะ๊ ครูกอ่ น ครูถามคาถาม เช่น How many
sausages are there on the table? ครูอาจจะช้ีและนบั จานวนไปพร้อม ๆ กบั นกั เรียน เช่น One, two,
three. There are three sausages on the table. ครูอธิบายวา่ คานามเหลา่ น้ีถา้ มมี ากกว่า 1 หรือที่เรียกว่า
คานามพหูพจน์ จะเตมิ s/es หลงั คานาม หากเป็นคานามเอกพจน์เราสามารถใช้ a/an นาหนา้ คานามได้
100
เช่น a burger, a sausage, an egg, a banana, an orange
ต่อมาเมื่อถึงคานามนบั ไม่ได้ ครูถามนกั เรียนว่า นกั เรียนสามารถนบั จานวนของขา้ ว ขนมปัง น้าสม้
นม และน้าไดห้ รือไม่ โดยไม่นบั ภาชนะท่ีใส่ เมอ่ื รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนแลว้ ครูให้นกั เรียน
อธิบายเหตุผลวา่ ทาไมจึงนบั ไม่ได้ เช่น มีจานวนมากเกินไปจนนบั ไมไ่ ด้ เป็นของเหลว เป็นตน้ ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั บอกอาหารทมี่ ลี กั ษณะน้ีเพ่ิมเตมิ เช่น sugar, salt, salad แลว้ บอกนกั เรียนวา่ อาหาร
เหลา่ น้ีถา้ จะนบั จานวนใหน้ บั จากภาชนะทใี่ ส่ เช่น a cup of sugar, a bowl of salad
คานามนับได้และคานามนับไม่ได้ (countable and uncountable nouns)
1. คานามนบั ได้ (countable noun) คือ คานามทเ่ี ราสามารถระบไุ ดว้ า่ มี กี่ชิ้น ก่ีอนั ก่ีตวั
ก่ีแห่ง ฯ ล ฯ เช่น pencils, rubbers, books
2. คานามนบั ไมไ่ ด้ (uncountable noun) คอื คานามทเ่ี ราไม่สามารถระบจุ านวนได้ อาทิ
ของเหลวตา่ ง ๆ เช่น milk, water, wine, sugar, rice หรือของท่มี ีปริมาณมาก ๆ เช่น
hair ซ่ึงคานามนบั ไม่ไดเ้ หลา่ น้ีจะไมส่ ามารถเปลย่ี นรูปไปเป็นพหูพจน์ได้
ทม่ี า: http://www.dailyenglish.in.th/countable-uncountable-noun/
กิจกรรมเพม่ิ เติม
ครูเปิ ดคลิปวิดีโอใหน้ กั เรียนศึกษาเพิ่มเติมเก่ียวกบั คานามนบั ไดแ้ ละคานามนบั ไมไ่ ดจ้ าก
เวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-videos/how-many-sweets
4. ครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
There is some bread. There is a banana. There is an apple.
There are some eggs.
จากน้นั ครูให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน โดยพดู ประโยคคาสง่ั วา่ Close the book. และครูช้ีไปท่ี
กระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นตาม Look at the board. Repeat after me. เมื่อนกั เรียนอา่ นตามครูแลว้
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายโครงสร้างของ There is/There are เสร็จแลว้ ครูอธิบายวา่ There is ใช้กบั
คานามนบั ไมไ่ ด้ หรือคานามนบั ไดท้ ม่ี ีความหมายเป็นหน่ึงหรือเอกพจน์ ส่วน There are ใชก้ บั คานาม
นบั ไดท้ ่ีอยใู่ นรูปพหูพจน์หรือมากกวา่ 1 มีโครงสร้างดงั น้ี
There is + คานามเอกพจน/์ คานามนบั ไมไ่ ด.้
There are + คานามพหูพจน.์
101
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแต่งประโยค โดยใชโ้ ครงสร้าง There is/There are
ครูอาจให้นกั เรียนศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั การใช้ There is/There are ในหนังสือเรียน หน้า 83
หวั ข้อ Grammar Handbook
5. นาเสนอโครงสร้าง Are there any ...? No, there aren’t. There is/are ... โดยครูแสดงบตั รภาพอาหารแลว้
ถามคาถาม เช่น
T: (แสดงบตั รภาพ rice) Are there any bananas?
Ss: No, there aren’t. There is some rice.
T: (แสดงบตั รภาพ bananas) Is there any bread?
Ss: No, there isn’t. There are some bananas.
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเร่ือย ๆ จนนกั เรียนสามารถพูดไดค้ ลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูอธิบายโครงสร้างของ
ประโยคคาถามและการใช้ some และ any
Is there any + คานามเอกพจน/์ คานามนบั ไมไ่ ด?้
Are there any + คานนามพหูพจน์?
การใช้ some และ any
some มกั จะใชใ้ นประโยคบอกเล่า สามารถวางไวท้ ้งั หนา้ คานามนบั ไดห้ รือนบั ไมไ่ ด้ โดย
หากวางไวห้ นา้ คานามนบั ได้ คานามน้นั ตอ้ งอยใู่ นรูปพหูพจน์
ตวั อยา่ ง There are some bananas.
There is some chicken in the fridge.
ในบางกรณี เราสามารถใช้ some กบั ประโยคคาถามได้ ซ่ึง some หมายถึง บางส่ิง บางอนั
เมื่อตอ้ งการเสนอหรือขอร้อง
ตวั อยา่ ง Do you want some milk?
Can I have some chicken?
any มกั จะใชใ้ นประโยคปฏเิ สธและประโยคคาถาม
ตวั อยา่ ง There isn’t any egg in the fridge.
Are there any eggs in the fridge?
ในบางกรณี เราสามารถใช้ any ในประโยคบอกเลา่ ได้ ซ่ึงมคี วามหมายวา่ อนั ไหนกไ็ ด้
ตวั อยา่ ง You can call me anytime.
ทมี่ า: http://esl.fis.edu/grammar/rules/some.htm
102
6. นาเสนอคาศพั ท์ ไดแ้ ก่ hungry (รู้สึกหิว), thirsty (รู้สึกกระหาย) โดยอธิบายว่า ท้งั 2 คาน้ีเป็นคาคุณศพั ท์
(adjective) จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายวิธีการใชค้ าคณุ ศพั ท์ เสร็จแลว้ ครูสรุปให้นกั เรียนดู
บนกระดาน ดงั น้ี
verb to be + คาคณุ ศพั ท์
คาคณุ ศพั ท์ + คานาม
ตวั อยา่ ง They are hungry.
There are a lot of hungry people.
ครูอาจแนะนาคาคณุ ศพั ทเ์ พมิ่ เติมที่นกั เรียนควรรู้ เช่น full (รู้สึกอม่ิ ) ในประโยค I’m full.
7. ครูเขยี นคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ีบนกระดาน
lap rap
lice rice
low row
ครูอ่านคาศพั ทท์ ลี ะแถวและให้นกั เรียนพูดตามครู โดยใชค้ าส่ัง Repeat after me. จากน้นั ครูเขยี น
ประโยคตอ่ ไปน้ี
The baby likes to sit on my lap/rap. (lap)
I eat lice/rice every day. (rice)
He has a very low/row voice. (low)
เสร็จแลว้ ครูอ่านออกเสียงทลี ะประโยค ใหน้ กั เรียนฝึกฟังและเลอื กคาตอบทีถ่ ูกตอ้ ง จากน้นั ครูเฉลย
คาตอบพร้อมย้าถึงความสาคญั ของการออกเสียง /l/ และ /r/ ใหถ้ กู ตอ้ ง เพราะหากออกเสียงผิด
ความหมายก็จะผิดเพ้ียนไป เช่น การออกเสียง /l/ แทนทีจ่ ะออกเสียง /r/ ในประโยค I eat rice every
day. (ฉนั กินขา้ วทุกวนั ) เป็น I eat lice every day. (ฉันกินเหาทกุ วนั ) ครูอาจสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน
อ่านออกเสียงประโยคให้เพ่อื นในช้นั ฟัง วา่ นกั เรียนอ่านถกู ตอ้ งหรือไม่
103
การออกเสียง /l/ และ /r/ ในภาษาองั กฤษ
คนไทยส่วนใหญ่มกั จะมีปัญหาในการออกเสียงพยญั ชนะทา้ ย /l/ เพราะเป็นเสียงทไ่ี มม่ ีใน
ภาษาไทย คนไทยมกั จะออกเสียง /l/ เป็น แม่กน แทน ซ่ึงไม่ถกู ตอ้ งตามหลกั การออกเสียง
ในการออกเสียง /l/ ทา้ ยคา เราจะตวดั ล้ินข้ึนมาแตะทเ่ี พดานปากตดิ กบั ฟันบน
ตวั อยา่ งคาศพั ท์
pool doll bill apple meal
เสียง /r/ เป็นอีกเสียงหน่ึงที่คนไทยมกั จะออกเสียงไมถ่ กู ตอ้ ง เพราะเขา้ ใจว่าออกเสียงเหมือน
“ร” ในภาษาไทย แต่ความจริงแลว้ มคี วามแตกต่างกนั เพราะเสียง /r/ ในภาษาองั กฤษไม่มี
การกระดกลิ้น เสียง /r/ จะมกี ารห่อลิน้ ข้ึนมาให้อยตู่ รงกลางช่องปาก
ตวั อยา่ งคาศพั ท์
read rice rope ring run
ทมี่ า: http://betterenglishforthai.net/book_pronunciation/chapter5/
กจิ กรรมเพม่ิ เติม
ครูอาจเปิ ดคลปิ วดิ ีโอใหน้ กั เรียนฝึกการออกเสียง /l/ และ /r/ เพมิ่ เตมิ ที่
https://www.youtube.com/watch?v=lVQcMQsSNWA
หรือใหน้ กั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น /l/, /r/ pronunciation หรือช่ือคลิป
[l] vs. [r] | English Pronunciation Lesson ให้นกั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดดู ว้ ยตนเองท่ี
www.youtube.com
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 16 Ex. 1 ครูพดู บอกนกั เรียนว่า Look at the pictures. What do you see in
the pictures? จากน้นั ครูอธิบายภาระงานใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและช้ีภาพตาม
1-2 รอบ เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนอ่านคาศพั ทต์ าม CD พร้อมกนั และทลี ะคน ครูสงั เกตวา่ นกั เรียน
ออกเสียงถกู ตอ้ งหรือไม่
rice, bread, burger, hot dog, sausage, chicken, egg, pizza, banana, cake,
orange juice, milk, ice cream, thirsty, hungry
2. หนงั สือเรยี น หน้า 16 Ex. 2 ครูอธิบายภาระงาน โดยใหน้ กั เรียนดภู าพในขอ้ 1 และถามวา่ Are there any
eggs? เมือ่ ไดค้ าตอบว่า No, there aren’t. There’s some milk. ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีจนครบทุกขอ้
104
2 A: Are there any sausages?
B: No, there aren’t. There’s some rice.
3 A: Are there any burgers?
B: No, there aren’t. There’s some chicken.
4 A: Are there any hot dogs?
B: No, there aren’t. There’s some bread.
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบเกย่ี วกบั อาหารท้งั หมดอกี คร้ัง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบทหี่ นา้ ช้นั
3. ครูแบง่ กระดานออกเป็น 2 ฝ่ัง ฝั่งซ้ายครูเขียน hungry และฝั่งขวาเขียนวา่ thirsty จากน้นั ครูให้นกั เรียน
ผลดั กนั ออกมาเขียนช่ืออาหารหรือเคร่ืองด่ืมบนกระดาน ครูอาจใบโ้ ดยช้ีไปท่ฝี ั่ง thirsty แลว้ พดู ว่า
It’s something you can drink. ส่วน hungry พูดว่า It’s something you can eat.
ข้นั Production
1. ใหน้ กั เรียนทางานคู่ ทาบตั รภาพและบตั รคาอาหารทเ่ี รียนในชว่ั โมงน้ีอยา่ งนอ้ ย 4 ชนิด
2. ให้นกั เรียนคู่เดิมนาบตั รภาพที่ไดท้ าไวม้ าผลดั กนั ถาม-ตอบ โดยใชโ้ ครงสร้าง Are there any ...? และ
Is there …? เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนออกมาพูดสนทนาหนา้ ช้นั พร้อมท้งั แสดงบตั รภาพอาหารของ
ตนเอง
ตวั อยา่ ง S1: Is there any pizza?
S2: No, there isn’t.
S1: Are there any bananas?
S2: Yes, there are. etc.
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 14 Exs. 1-2 เป็นการบา้ น
Ex. 1
1 banana 2 rice 3 chicken 4 bread
7 burger 8 hot dog
5 cake 6 sausage
Ex. 2
Drinks: milk, orange juice Food: hot dog, eggs, rice
105
7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู ขอและให้ขอ้ มูล แบบประเมินชิ้นงาน
เก่ียวกบั อาหาร โดยใช้ Are there/ ระดบั คุณภาพ พอใช้
Is there…? แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์
ประเมินช้ินงานบตั รภาพและบตั รคา การเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
อาหาร แบบฝึกหดั (Workbook) ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียง /r/ และ /l/ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหัด ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมุ่งมนั่ ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/คาศพั ท์
8.5 อุปกรณท์ าช้ินงาน
8.6 อินเทอร์เนต็
106
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 Is there any cake?
เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารได้
- พูดและเขียนบรรยายโดยใช้ There is และ There are ไดถ้ กู ตอ้ ง
- พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาหารโดยใช้โครงสร้าง Are there/Is there…? ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ฟี ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วดั
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขยี น
ตัวชีว้ ดั
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
สาระท่ี 2 ภาษากับวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย เพอ่ื นามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชี้วัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
107
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ท่เี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลยี่ นเรียนรู้กบั สังคมโลก
ตัวชี้วัด
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารและโครงสร้างภาษา ช่วยให้สนทนา พดู และเขยี นส่ือสารไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Is there any cake? Yes, there is.
Pronunciation: ออกเสียง /dʒ/
Function: พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาหาร
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาหารโดยใช้โครงสร้าง Are there/
Is there…?
Writing: เขียนบรรยายสิ่งท่ีมีและไม่มีในตูเ้ ยน็
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทีใ่ ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
108
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารดว้ ยการเล่มเกม Memory Game โดยครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ แลว้ นา
บตั รภาพและบตั รคาเกี่ยวกบั อาหารมาแจกนกั เรียนกลุม่ ละ 1 ชุด ครูอธิบายวธิ ีการเลน่ เกมว่า ให้
แตล่ ะกลมุ่ แบ่งเป็น 2 ทีม จากน้นั ให้นกั เรียนแตล่ ะทีมช่วยกนั เรียงบตั รภาพ 1 แถว บตั รคา 1 แถว และ
แต่ละทมี ช่วยกนั จดจาตาแหน่งของภาพและคาศพั ทใ์ ห้ไดภ้ ายใน 10 วินาที เสร็จแลว้ ใหแ้ ตล่ ะทีม
ช่วยกนั หาภาพท่ีตรงกบั คาศพั ท์ หากไม่ตรงใหน้ กั เรียนปิ ดภาพไวเ้ หมือนเดิม ถา้ ตรงใหอ้ ่านออกเสียง
คาศพั ทแ์ ละบอกความหมาย ทมี ทเ่ี ปิ ดบตั รภาพและบตั รคาตรงกนั ไดม้ ากท่สี ุดเป็นทีมทชี่ นะ
2. ทบทวนการลงเสียงหนกั ในคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหาร ดงั น้ี
burger hot dog sausage chicken
pizza banana orange juice ice cream
lemonade sandwich coffee vegetable
โดยครูช้ีที่คาศพั ทแ์ ตล่ ะคา ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงพร้อมกนั
3. ทบทวนคานาม โดยครูแสดงบตั รภาพคานามท้งั เอกพจน์ พหูพจน์ และคานามนบั ไมไ่ ด้ ให้นกั เรียนดู
ทลี ะภาพ ถา้ เป็นคานามเอกพจน์ ให้นกั เรียนพูดบอกคาศพั ทโ์ ดยมี a หรือ an นาหนา้ เช่น an apple,
a banana ถา้ เป็นคานามนบั ไมไ่ ดห้ รือคานามพหูพจน์ ให้ใช้ some เช่น some rice, some apples
T: แสดงภาพแอปเปิ ล 1 ผล
Ss: an apple
T: แสดงภาพแอปเปิ ลหลายผล
Ss: some apples
การใช้ a และ an
a วางหนา้ คานามนบั ไดท้ ข่ี ้ึนตน้ ดว้ ยพยญั ชนะ เช่น a sausage, a banana, a tomato
ขอ้ ยกเวน้ คาทีข่ ้นึ ตน้ ดว้ ยพยญั ชนะบางคาที่ออกเสียงเป็นสระ ใช้ an นาหนา้ เช่น an hour
an วางหนา้ คานามนบั ไดท้ ขี่ ้นึ ตน้ ดว้ ยสระ เช่น an apple, an orange, an egg
ขอ้ ยกเวน้ คาท่ขี ้นึ ตน้ ดว้ ยสระบางคาท่ีออกเสียงเป็นพยญั ชนะ ใช้ a นาหนา้ เช่น a university
109
4. ทบทวนโครงสร้าง There is และ There are โดยใชบ้ ตั รภาพชุดเดียวกบั ท่ีใชเ้ ลน่ เกม Memory Game
ครูชูบตั รภาพข้ึน ใหน้ กั เรียนพดู บอกส่ิงท่ีเห็น เช่น There is an orange. There is some chicken.
There are some sausages. เสร็จแลว้ ครูเขยี นสรุปโครงสร้างอกี คร้งั บนกระดาน ดงั น้ี
There is some + คานามนบั ไมไ่ ด.้
There is a/an + คานามเอกพจน์.
There are some + คานามพหูพจน.์
5. ทบทวนการใช้ some และ any โดยครูเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
Are there ________ eggs? (any)
There aren’t ________ eggs. (any)
There are ________ bananas. (some)
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ จากน้นั ครูสรุปอีกคร้ังวา่ some ใชก้ บั ประโยคบอกเลา่ ส่วน any
ใชก้ บั ประโยคคาถามและปฏิเสธ
กจิ กรรมเพมิ่ เติม
ครูใหน้ กั เรียนฝึกการใช้ some และ any เพ่ิมเติมท่ีเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-practice/nouns-countable-and-
uncountable
ใหน้ กั เรียนศกึ ษาวธิ ีการใช้ some และ any ในหัวขอ้ Grammar Rule กอ่ น จากน้นั เลือกหัวขอ้ Game
6. ทบทวนการออกเสียง /l/ และ /r/ โดยเขยี นคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
lice rice
low row
law raw
lap rap
จากน้นั ครูเลอื กอา่ นคาศพั ท์ 1 คาในแตล่ ะแถว ให้นกั เรียนฟังและช่วยกนั ตอบว่าเป็นคาใด
ข้นั Presentation
1. นาเสนอโครงสร้าง There isn’t any + คานามนบั ไมไ่ ด.้ และ There aren’t any + คานามพหูพจน์.
โดยการวาดภาพบนกระดานหรือใชบ้ ตั รภาพและพูดประโยค เช่น There isn’t any bread. There aren’t
any apples.
2. นาเสนอโครงสร้างถาม-ตอบเกี่ยวกบั อาหารโดยครูเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
A: Are there any eggs?
B: Yes, there are./No, there aren’t. But there’s some milk.
110
เสร็จแลว้ ครูอ่านออกเสียงประโยคใหน้ กั เรียนพูดตาม จากน้นั ครูอธิบายวา่ โครงสร้าง Are there any …?
ใชถ้ ามว่า ม…ี หรือไม่ หากมีเราจะตอบว่า Yes, there are. หากไมม่ เี ราจะพดู ว่า No, there aren’t. หรือ
No, but there’s some ____.
เสียงสูง-ต่าในภาษาองั กฤษ (intonation)
ภาษาองั กฤษเป็นภาษาทมี่ เี สียงสูง-ต่า (intonation) ดงั น้นั นอกจากการเรียนรู้ไวยากรณ์
ภาษาองั กฤษแลว้ เรายงั ตอ้ งเรียนรู้การออกเสียงของเจา้ ของภาษา เพื่อทีเ่ ราจะไดส้ ื่อสาร
ภาษาองั กฤษไดอ้ ยา่ งเป็นธรรมชาติ และช่วยในการฟังภาษาองั กฤษใหม้ ปี ระสิทธิภาพมากข้ึน
โดยทวั่ ไป intonation ในภาษาองั กฤษมี 2 รูปแบบ คอื
1. Falling intonation คอื การลงเสียงต่า ใชก้ บั ประโยคทีม่ ใี จความสมบูรณธ์ รรมดา,
ประโยคคาถามแบบ Wh-question, ประโยคคาสั่ง
ตวั อยา่ ง I want to see him again.
What do you usually eat for lunch?
Sit down.
2. Rising intonation คือ การข้ึนเสียงสูง ใชก้ บั ประโยคคาถามทเ่ี ป็นแบบ yes/no
question
ตวั อยา่ ง Are there any apples?
Do you want some pizza?
ทมี่ า: http://www.pasaangkit.com/การออกเสียงสูงตา่ ในภาษ/
3. ครูวาดภาพโต๊ะอาหารบนกระดานและวาดอาหารลงบนโตะ๊ ดงั กล่าวทีละอยา่ ง ใหน้ กั เรียนฝึกพูด
บรรยายอาหารที่มอี ยบู่ นโตะ๊ อาหารน้นั
เช่น S1: There are some hot dogs.
S2: There is some tea.
S3: There is an apple. etc.
เพอ่ื ใหเ้ กิดความสนุกสนาน ครูอาจแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทีม และใหแ้ ตล่ ะทมี ส่งตวั แทนมาเล่นเกม
Rock, Paper, Scissors ทมี ท่ชี นะ จะไดส้ ิทธ์ิพดู บรรยายกอ่ น หากบรรยายไดถ้ กู ตอ้ ง จะไดป้ ระโยคละ
1 คะแนน สุดทา้ ยทีมที่ไดค้ ะแนนมากทส่ี ุดเป็นทมี ที่ชนะ
111
การออกเสียง /dʒ/
ครูควรย้าใหน้ กั เรียนออกเสียง /dʒ/ ใหถ้ กู ตอ้ ง เพราะเป็นเสียงท่ไี ม่มใี นภาษาไทย คนไทย
ส่วนใหญม่ กั จะออกเสียงเป็นเสียง “จ” ซ่ึงริมฝีปากไมห่ ่อกลมและเสน้ เสียงไม่ส่นั ซ่ึงแตกตา่ ง
จากการออกเสียง /dʒ/ ในภาษาองั กฤษซ่ึงตอ้ งห่อริมฝีปากและเส้นเสียงสน่ั เพราะ /dʒ/ เป็น
เสียงกอ้ ง
ตวั อยา่ งคาศพั ท์
juice jam vegetable orange
age large soldier sausage
กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครูอาจเปิ ดคลปิ วดิ ีโอส้ัน ๆ ใหน้ กั เรียนศกึ ษาเพม่ิ เติมเก่ียวกบั การออกเสียง /dʒ/ จากเวบ็ ไซต์
ต่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=unfuGPc3iXo
หรือให้นกั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น j sound หรือช่ือคลิป English:
How to Pronounce CH [tʃ] and JJ [ʤ] Sounds: American Accent ให้นกั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดู
ดว้ ยตนเองที่ www.youtube.com
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 17 Ex. 3 ครูอธิบายภาระงาน จากน้นั ครูและนกั เรียนทาขอ้ 1 ร่วมกนั เพื่อเป็นตวั อยา่ ง
ตอ่ มาครูให้เวลานกั เรียนเติมคาตอบขอ้ ท่ีเหลอื เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยคทเ่ี ตมิ คา
สมบรู ณแ์ ลว้ ทลี ะคน ครูเขยี นคาตอบทถี่ กู ตอ้ งบนกระดานอกี คร้งั
ครูอาจสอนคาศพั ทเ์ พิ่มเติม โดยให้นกั เรียนดภู าพและถามวา่ ผา้ คลมุ โตะ๊ ในภาษาองั กฤษเรียกวา่ อะไร
เสร็จแลว้ ครูเขียนคาตอบใหน้ กั เรียนดู คือ tablecloth และใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงตามครู โดยครูเนน้
ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาให้ถูกตอ้ งเป็น tablecloth
1 There is 3 There is 5 There is
2 There are 4 There are 6 There is
112
2. หนงั สือเรียน หน้า 17 Ex. 4 ให้นกั เรียนดูภาพตูเ้ ยน็ พร้อมกบั สอนคาวา่ fridge จากน้นั ครูถามคาถาม
นกั เรียน ดงั น้ี
T: Look at the fridge. Is there any rice?
Ss: No, there isn’t.
T: Are there any oranges?
Ss: Yes, there are.
เมื่อถามเกี่ยวกบั อาหารในตูเ้ ยน็ จนครบแลว้ ครูให้นกั เรียนอ่านบทสนทนาตามครู และเตมิ คาทข่ี าด
หายไปในแตล่ ะขอ้ ดว้ ย some หรือ any เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รนกั เรียนลุกข้ึนอ่านบทสนทนาที่
เตมิ คาสมบรู ณ์แลว้ ใหเ้ พอื่ นฟัง
1 any 3 any 5 any 7 some
2 some 4 some 6 some
3. ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พดู บทสนทนาใน Ex. 4 อกี คร้ัง ครูให้เวลานกั เรียนฝึกซอ้ ม 5 นาที จากน้นั ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาสนทนาทหี่ นา้ ช้นั
4. หนังสือเรียน หน้า 17 หัวข้อ Let’s play! ใหน้ กั เรียนดภู าพโตะ๊ อาหารใน Ex. 3 อีกคร้ัง จากน้นั ให้
นกั เรียนจบั คู่ แตง่ ประโยคถาม-ตอบเกี่ยวกบั อาหารทีอ่ ยใู่ นภาพ โดยใช้โครงสร้างถาม-ตอบ Is there
any …? Are there any …? เสร็จแลว้ ออกมาพูดสนทนาทหี่ นา้ ช้นั
ตวั อยา่ ง S1: Is there any cake?
S2: Yes, there is.
S1: Are there any bananas?
S2: Yes, there are.
S1: Is there any milk?
S2: Yes, there is.
S1: Are there any oranges?
S2: Yes, there are.
ข้นั Production
1. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุม่ ทาแผนท่คี วามคดิ (mind map) สรุปคานามนบั ไดแ้ ละคานามนบั ไม่ไดท้ ี่ไดเ้ รียนมา
ท้งั หมด รวมท้งั ให้คน้ หาคาศพั ทเ์ พิ่มเตมิ จากอินเทอร์เน็ตหรือในหนงั สือมาอีกอยา่ งละ 5 คา
113
คานามนบั ได้ คานาม
คานามนบั ไมไ่ ด้
burger, hot dog, rice, bread, chicken,
sausage, egg, pizza, pizza, cake, orange
banana, cake juice, milk
ice
pizza แcลrะeacmake เป็นท้งั คานามนบั ไมไ่ ดแ้ ละคานามนบั ได้
pizza ถา้ เป็นคานามนบั ไมไ่ ดจ้ ะหมายถงึ พิซซ่าโดยทวั่ ไป เช่น I love pizza. แต่ถา้ เป็น
คานามนบั ไดจ้ ะหมายถงึ พิซซ่าทีส่ ามารถนบั เป็นชิ้นได้ เช่น I’d like to have three
sausage pizzas, please.
cake ถา้ เป็นคานามนบั ไมไ่ ดจ้ ะหมายถงึ เคก้ โดยทว่ั ไป เช่น I really like chocolate cake.
ถา้ เป็นคานามนบั ไดจ้ ะหมายถงึ เคก้ ทสี่ ามารถนบั เป็นช้ินได้ เช่น Can I have a cake?
2. ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนวาดภาพตเู้ ยน็ ของตนเองและวาดอาหารในตเู้ ยน็ 5-6 อยา่ ง จากน้นั ให้
นกั เรียนจบั คู่ แตง่ บทสนทนาเก่ียวกบั อาหารทม่ี ีหรือไม่มีในตเู้ ยน็ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนออกมาผลดั กนั
สนทนาถาม-ตอบท่ีหนา้ ช้นั พร้อมกบั แสดงภาพทีต่ นเองวาด
ตวั อยา่ ง S1: I’m hungry. Is there any pizza?
S2: No, there isn’t. There are some burgers.
S1: Is there some rice?
S2: No, there isn’t. There is some bread.
S1: Is there some milk?
S2: Yes, there is. There is some orange juice too.
S1: Oh, I love orange juice!
114
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 15 Exs. 3-4 เป็นการบา้ น
Ex. 3 4 There aren’t any hot dogs.
3 There’s some chicken. 6 There aren’t any eggs.
5 There are some sausages.
6 some 8 any
Ex. 4 7 some
2 any 4 some
3 some 5 any
7. การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมินช้ินงานแผนท่ีความคดิ แบบประเมนิ ชิ้นงาน ผา่ นเกณฑ์
คาศพั ทค์ านามนบั ไดแ้ ละ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
นบั ไมไ่ ด้ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมนิ การสนทนาเก่ียวกบั อาหาร แบบประเมนิ การเขียน ผา่ นเกณฑ์
ทม่ี ีและไม่มีในตเู้ ยน็
ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook)
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ
และมงุ่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณ์ทาชิ้นงาน
8.5 บตั รภาพ/คาศพั ท์
8.6 อนิ เทอร์เนต็
115
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 Are there any chips? เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารได้
- พดู เสนอ ตอบรับและปฏเิ สธอาหารได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรือสญั ลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขียนแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์
ง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ
ตามแบบท่ฟี ัง
สาระท่ี 2 ภาษากับวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชี้วดั
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ ่าย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
116
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย เพอื่ นามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารและโครงสร้างภาษา ช่วยให้สนทนา พูดและเขยี นส่ือสารไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Are there any chips? Yes, there are. Is there any pizza?
Vocabulary: chips, fish, pizza, apples, cheese, water, tomatoes, salad
Pronunciation: ออกเสียง /ʃ/ และ /tʃ/
Function: การเสนอ ตอบรบั และปฏิเสธเก่ียวกบั อาหาร
2) Language Skills
Listening: ฟังเพื่อความเขา้ ใจ
Speaking: พูดเสนอ ตอบรับและปฏเิ สธเกี่ยวกบั อาหาร
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ใี ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
117
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั จากน้นั ใหน้ กั เรียนทกั ทายเพือ่ นท่นี ง่ั ขา้ งหนา้ และขา้ งหลงั ของตนเอง
2. ทบทวนโครงสร้างภาษาทเี่ รียนมาแลว้ โดยครูวาดโต๊ะอาหารบนกระดาน จากน้นั วาดภาพอาหารลง
บนโตะ๊ ดงั กลา่ ว เช่น bananas, cake, milk, burgers, bread, eggs เสร็จแลว้ ครูถามคาถามนกั เรียน เช่น
T: Are there any eggs?
S: Yes, there are.
T: Is there any cake?
S: Yes, there is.
T: Are there any pizzas?
S: No, there aren’t. etc.
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหาร ไดแ้ ก่ cheese (เนยแข็ง), fish (ปลา), chips (มนั ฝรง่ั ทอด), water
(น้าเปลา่ ), tomatoes (มะเขอื เทศ), pizza (พซิ ซ่า), salad (สลดั ), apples (แอปเปิ ล) โดยการแสดง
บตั รภาพหรืออาจนาของจริงมาวางหนา้ ช้นั จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวา่ คานามใดเป็นคานาม
นบั ได้ คานามใดเป็นคานามนบั ไมไ่ ด้
คานามนับได้: chips, tomatoes, pizza, apples
คานามนบั ไม่ได้: cheese, fish, water, salad
ตอ่ มาครูช้ีทอี่ าหารแต่ละชนิดและอา่ นออกเสียงให้นกั เรียนฟังและพดู ตาม โดยเนน้ ใหน้ กั เรียนลงเสียง
หนกั ในคาศพั ทท์ ่ีมี 2 พยางคข์ ้นึ ไป
water tomato pizza
salad apple
118
ครูอธิบายวธิ ีการออกเสียง /ʃ/ และ /tʃ / โดยเขยี นคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
/ʃ/ /tʃ /
sheep cheap
ship chip
shop chop
wash watch
wish witch
จากน้นั ครูอา่ นออกเสียงคาแตล่ ะคู่ใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ใหน้ กั เรียนฝึกพูดตามพร้อมกนั หรือ
ทีละคน
เสียง /ʃ/ และ /tʃ/ ในภาษาอังกฤษ
คนไทยส่วนใหญ่มกั จะแยกความแตกตา่ งระหว่างเสียง /ʃ/ และ /tʃ/ ไมอ่ อก และเขา้ ใจวา่
เสียงเหลา่ น้ีเทยี บเทา่ กบั เสียง “ช” ในภาษาไทย อยา่ งไรกต็ าม ท้งั 2 เสียงน้ีแตกตา่ งกนั
หากนกั เรียนออกเสียงไมถ่ ูกตอ้ ง อาจทาใหค้ วามหมายของคาเปลีย่ นไปเลยก็ได้ ดงั น้นั
ครูตอ้ งย้าใหน้ กั เรียนออกเสียงให้ชดั เจน
เสียง /ʃ/ เป็นเสียงพยญั ชนะเสียดแทรก เสียงไม่กอ้ ง วิธีการออกเสียงทาไดโ้ ดยห่อริมฝีปาก
ยน่ื ออกไปเหมอื นเวลาทาเสียง Shhhhh ไมใ่ ห้ลน้ิ แตะเพดานหลงั ป่ มุ เหงอื ก
ตวั อยา่ งคาศพั ท์
ship flashlight wish
shoes cashier fish
sheer seashells radish
ส่วนการออกเสียง /tʃ/ ซ่ึงเป็นเสียงไม่กอ้ ง ให้นาลิ้นไปวางอยทู่ ่บี ริเวณหลงั ป่ ุมเหงอื กอยคู่ รู่หน่ึง
ริมฝีปากจะห่อกลมและยน่ื ออกไปขา้ งหนา้ เลก็ นอ้ ย จากน้นั กระแสลมทถ่ี กู กกั ไวจ้ ะถูกปลอ่ ยให้
เสียดแทรกออกมา
ตวั อยา่ งคาศพั ท์
chicken butcher lunch
chocolate teacher peach
cherries ketchup sandwich
119
กิจกรรมเพม่ิ เตมิ
ครูอาจเปิ ดคลิปวดิ ีโอให้นกั เรียนฝึกการออกเสียง /ʃ/ และ /tʃ/ เพม่ิ เติมท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=dz7FHvzaItE
หรือใหน้ กั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น ch sh sounds หรือชื่อคลปิ
"sh" [ʃ] vs."ch" [tʃ] | English Pronunciation Lesson ให้นกั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดดู ว้ ยตนเองท่ี
www.youtube.com
2. นาเสนอคาศพั ทท์ ีน่ กั เรียนควรรู้เพ่มิ เติม เช่น glass (แกว้ น้า), bowl (ชาม), bottle (ขวด), cup (ถว้ ย),
piece (ชิ้น) ซ่ึงใชบ้ อกปริมาณของคานามนบั ไม่ได้ จากน้นั ครูนาสิ่งของจริง ๆ มาแสดงและพูดคาศพั ท์
เช่น a bottle of orange juice, a glass of water, a cup of tea, a bowl of rice, a piece of pizza
3. นาเสนอสานวนทใี่ ชข้ อและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สิ่งทชี่ อบและไม่ชอบ โดยครูแสดงบตั รภาพแลว้ ถาม
นกั เรียนวา่ Do you like fish? เม่อื ไดค้ าตอบจากนกั เรียนแลว้ ครูสรุปโครงสร้างทีใ่ ชข้ อและให้ขอ้ มูล
เก่ียวกบั ส่ิงท่ีชอบและไมช่ อบบนกระดาน โดยครูกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนตอบวา่ Yes, I do. หรือ No, I don’t.
A: Do you like + ส่ิงของ?
B: Yes, I do./No, I don’t.
4. นาเสนอสานวนภาษาทใ่ี ชเ้ สนอ ตอบรับและปฏเิ สธอาหาร โดยครูอธิบายว่า เมือ่ เราตอ้ งการเสนอส่ิงใด
สิ่งหน่ึงให้คนอ่ืนเราใชโ้ ครงสร้าง Would you like …? เช่น Would you like a burger? หากตอบรับ
ขอ้ เสนอเราจะใช้ Yes, please. หรือปฏิเสธ No, thank you.
ครูอธิบายเพิม่ เติมว่า เราจะใช้โครงสร้าง I would like… เมอ่ื เราตอ้ งการส่ิงใดสิ่งหน่ึง ซ่ึงจะสุภาพกวา่
โครงสร้าง I want … เช่น I would like a bowl of salad. หากตอ้ งการให้สุภาพมากข้นึ เราจะเตมิ please
ไวห้ ลงั ประโยค เช่น I would like a bowl of salad, please.
จากน้นั ครูสุ่มถามนกั เรียนโดยใชโ้ ครงสร้าง Would you like ….? เช่น
T: Would you like a bowl of salad?
S: Yes, please.
T: Would you like a piece of cake?
S: No, thank you.
120
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 18 Ex. 5 ครูอธิบายภาระงาน และเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและช้ีตามไปดว้ ย จากน้นั
ครูเปิ ด CD อกี คร้งั และหยดุ เป็นช่วง ๆ ให้นกั เรียนฝึกพูดตาม CD พร้อม ๆ กนั
ต่อมาครูใหเ้ วลานกั เรียนจบั ค่ภู าพกบั คาศพั ทใ์ ห้ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและ
เขยี นคาตอบท่ถี กู ตอ้ งบนกระดานอีกคร้งั สุดทา้ ยครูเปิ ด CD และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตาม
แลว้ สุ่มเรียกใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงให้เพอื่ นฟัง โดยครูสงั เกตว่า นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาศพั ท์
ถูกตอ้ งหรือไม่ และช้ีแนะนกั เรียนให้ออกเสียงถูกตอ้ ง
chips, fish, pizza, apples, cheese, water, tomatoes, salad
1c 3f 5a 7e
2b 4h 6d 8g
2. หนังสือเรียน หน้า 18 Ex. 6 ครูเขียนคาว่า menu บนกระดาน และใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย
จากน้นั ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงคาน้ีให้ถูกตอ้ ง ต่อมาครูเขยี นรายการอาหารงา่ ย ๆ บนกระดาน เช่น
burgers, pizza, chips, orange juice, lemonade แลว้ ถามนกั เรียนวา่ Are there any burgers?
โดยครูกระตนุ้ ให้นกั เรียนตอบว่า Yes, there are. ตอ่ มาครูถามต่อว่า Are there any hot dogs? จนได้
คาตอบวา่ No, there aren’t. ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั รายการอาหารอ่นื ๆ ดว้ ย
ครูเนน้ ให้นกั เรียนออกเสียงคาว่า menu ว่า /ˈmen.juː/ เพราะคนไทยส่วนใหญ่มกั จะออกเสียง
คาน้ีผดิ วา่ เมนู
3. ให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พดู สนทนาเหมอื นอยา่ งในหนงั สือเรียน หนา้ 18 Ex. 6 อกี คร้งั จนนกั เรียน
สนทนาไดค้ ลอ่ ง โดยเปลย่ี นอาหารเป็นอยา่ งอื่น จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คู่ ออกมาพดู สนทนา
ทหี่ นา้ ช้นั
121
4. ใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยคแสดงความตอ้ งการโดยใชค้ าศพั ทใ์ นการบอกปริมาณที่เรียนมา ไดแ้ ก่ a glass
of, a bowl of, a bottle of, a piece of เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน อา่ นประโยคของตนเองให้
เพอื่ นฟัง
ตวั อยา่ ง S1: I would like a glass of milk
S2: I would like a bottle of water.
S3: I would like a bowl of rice. etc.
5. ให้นกั เรียนจบั ค่แู ตง่ บทสนทนาเก่ียวกบั การเสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธอาหาร จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียน
ฝึกพดู สนทนาจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดสนทนาทหี่ นา้ ช้นั ครูสงั เกตว่า
นกั เรียนออกเสียงถูกตอ้ งหรือไม่
ตวั อยา่ ง S1: Would you like a cup of tea?
S2: No, thank you.
S1: Would you like a glass of orange juice?
S2: Yes, please. etc.
6. ให้นกั เรียนทากิจกรรมใน แบบฝึ กหัด หน้า 16 Ex. 5 ในช้นั เรียน เสร็จแลว้ ครูขออาสมคั รบอกคาตอบ
ครูเขียนคาตอบที่ถกู ตอ้ งบนกระดาน
Ex. 5
Items to be ticked: milk, cake, chips, water, apples, salad
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน Let’s go for a picnic. วา่ ให้นกั เรียนทางานคู่ วาดภาพตะกร้าอาหารปิ กนิก พร้อมท้งั
อาหารในตะกร้า โดยกอ่ นให้นกั เรียนลงมือทา ครูอธิบายวา่ picnic คือ การนาอาหารออกไปนง่ั
รับประทานนอกบา้ น เช่น ริมแมน่ ้า สวนสาธารณะ โดยอาหารทน่ี าไปรับประทานมกั จะเป็นแซนดว์ ิช
(sandwich) สลดั (salad) และผลไม้ (fruit) เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละคฝู่ ึกพดู สนทนากนั วา่ ในตะกร้าอาหารของ
คู่ตนเองมอี ะไรบา้ ง พร้อมกบั พูดเสนออาหารในตะกร้าให้เพือ่ น โดยใช้โครงสร้าง Would you like …?
เช่น S1: Would you like some salad?
S2: No, thank you.
S1: Would you like some bananas?
S2: Yes, please. etc.
122
ชาวตะวนั ตกนิยมไปปิ กนิกในฤดูร้อนเพราะเป็นช่วงที่อากาศไม่หนาวและมแี สงแดด
อากาศแจม่ ใสเหมาะกบั กิจกรรมกลางแจง้ นอกจากปิ กนิกแลว้ ชาวตะวนั ตกยงั นิยมนอน
อาบแดดและว่ายน้าในทะเลดว้ ย
ทม่ี า: https://en.wikipedia.org/wiki/Picnic
2. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 16 Ex. 6 เป็นการบา้ น
3 We haven’t got any cheese. 4 We’ve got some cake.
5 We’ve got some ice cream. 6 We haven’t got any rice.
7. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการพดู นาเสนอ ตอบรับ
และปฏเิ สธเกี่ยวกบั อาหาร ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
และมุ่งมนั่ ในการทางาน
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/คาศพั ท์
8.5 อินเทอร์เนต็
123
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 What can I get you? เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ใช้ a, an และ some ไดถ้ ูกตอ้ ง
- พดู ส่ังอาหารง่าย ๆ ในร้านอาหารได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาส่งั คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ฟี ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าส่งั คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์
ง่าย ๆ
สาระที่ 2 ภาษากับวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชี้วัด
ต 2.1 ป.4/1 พดู และทาทา่ ประกอบอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา
124
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ ่าย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย เพอ่ื นามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กล่มุ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหาร โครงสร้างภาษาทใี่ ชข้ อและใหข้ อ้ มูลในร้านอาหาร ช่วยให้
สนทนา พูด/เขยี นส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: What can I get you? Can I have a pizza and some salad, please?
Thank you!
Function: สัง่ อาหารในร้านอาหาร
2) Language Skills
Speaking: พูดสั่งอาหารงา่ ย ๆ ในร้านอาหาร
3) Culture: มารยาทของคนองั กฤษ
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดท่ีใชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้
125
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.2 ม่งุ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหาร เช่น rice, bread, sausage, chicken, pizza ดว้ ยการเลน่ เกม Spelling Bee
โดยครูพูดคาศพั ท์ใหน้ กั เรียนฟังคาละ 2 คร้ัง ให้นกั เรียนเขยี นคาศพั ทล์ งบนกระดาษ จากน้นั ใหน้ ักเรียน
ชูกระดาษข้นึ ครูตรวจการสะกดคา ถา้ นกั เรียนคนใดสะกดคาผิดจะถูกคดั ออกจนกว่าจะเหลอื
ผชู้ นะเพียงผเู้ ดียว
3. ทบทวนประโยคขอร้องท่ใี ช้ในห้องเรียน โดยครูเดินไปหานกั เรียนแลว้ ช้ีไปท่ีดินสอของนกั เรียน แลว้
ถามว่า Can I borrow your pencil? ครูถามนกั เรียนคนอื่น ๆ ต่อ โดยใชส้ ่ิงของอยา่ งอืน่ เช่น ปากกา
ไมบ้ รรทดั หนงั สือเรียน เมอื่ นกั เรียนตอบแลว้ ครูสรุปโครงสร้างถาม-ตอบบนกระดาน ดงั น้ี
A: Can I + กริยาช่องที่ 1 …?
B: Yes. / No, you can’t.
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พูดถาม-ตอบ
4. ทบทวนการใช้ a, an และ some โดยเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
There is _____ banana.
There is _____ apple.
There is _____ bread.
จากน้นั ให้นกั เรียนเติม a, an และ some ให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูสรุปวา่ a ใชน้ าหนา้ คานามนบั ไดท้ เ่ี ป็น
เอกพจน์และคานามน้นั ข้นึ ตน้ ดว้ ยเสียงพยญั ชนะ เช่น banana, tomato, potato, burger, pizza, muffin
ส่วน an ใชน้ าหนา้ คานามนบั ไดท้ ่เี ป็นเอกพจนท์ ขี่ ้นึ ตน้ ดว้ ยเสียงสระ (a, e, i, o, u) เช่น apple, egg, ice
cream, orange
โดยคานามท้งั 2 ประเภทน้ีถา้ อยใู่ นรูปพหูพจน์จะไมเ่ ตมิ a, an เพราะ a, an มคี วามหมายเท่ากบั หน่ึง
ส่วน some จะใชเ้ ตมิ หนา้ คานามนบั ไมไ่ ด้ เช่น bread, water, milk, salad, cheese, chicken, ice cream
นอกจากน้ีเรายงั ใช้ some กบั คานามนบั ไดท้ ีอ่ ยใู่ นรูปพหูพจน์ เช่น eggs, muffins, tomatoes, sausages,
ice creams
126
chicken และ ice cream สามารถเป็นท้งั คานามนบั ไดแ้ ละนบั ไมไ่ ด้
โดยคาว่า chicken ถา้ เป็นคานามนบั ไดจ้ ะหมายถงึ ไก่เป็นตวั แต่ถา้ เป็นคานามนบั ไมไ่ ดจ้ ะ
หมายถึง เน้ือไก่
ตวั อยา่ ง A hen is a female chicken.
I’d like fried chicken, please.
ส่วนคาวา่ ice cream ถา้ เป็นคานามนบั ไดจ้ ะหมายถงึ ไอศกรีมจานวนหน่ึง แตถ่ า้ เป็นคานามนบั
ไมไ่ ดจ้ ะหมายถงึ ไอศกรีมโดยทว่ั ไป
ตวั อยา่ ง Let’s eat an ice cream.
I like vanilla ice cream.
4. ทบทวนการออกเสียงคาท่ีข้ึนตน้ หรือลงทา้ ยดว้ ย ch และ sh โดยเขยี นคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน
ship chip wish witch
sheep cheap
จากน้นั ครูช้ีไปที่คาศพั ทแ์ ละอ่านใหน้ กั เรียนฟัง 1-2 คร้ัง เสร็จแลว้ ครูสุ่มนกั เรียน 5-6 คน ยืนข้ึนอา่ น
คาศพั ทใ์ ห้เพ่อื นในช้นั ฟัง ครูคอยสังเกตวา่ นกั เรียนออกเสียงถกู ตอ้ งหรือไม่
กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยการเปิ ดคลปิ วดิ ีโอช่ือ Mr Bean at a restaurant ใหน้ กั เรียนดูจากเวบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=p-2isH-SgHA
จากน้นั ครูถามคาถามเก่ียวกบั คลิปวิดีโอ เช่น
Do you know Mr Bean?
Where is Mr Bean?
What does he eat?
Does he like the food?
จากน้นั ครูให้นกั เรียนสงั เกตการใชผ้ า้ เชด็ ปาก (napkin) ของ Mr Bean และลูกคา้ คนอ่นื ๆ แลว้
อธิบายเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารวา่ ในร้านอาหารบางแห่งจะจดั เตรียมผา้ เช็ดปากไวบ้ นจานให้
ลูกคา้ หรือทางดา้ นซา้ ยถา้ เป็นงานแบบไมเ่ ป็นทางการ เมือ่ ลกู คา้ นงั่ ลงแลว้ ควรหยบิ ผา้ เช็ดปากคลี่
วางบนตกั ทนั ที
127
ข้นั Presentation
1. นาเสนอสานวนท่ีใชใ้ นร้านอาหารโดยเขยี นบทสนทนาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนทายว่า A
และ B เป็นใครในร้านอาหาร
A: What can I get you?
B: Can I have a pizza and some salad, please?
A: Yes, OK.
B: Thank you!
จากน้นั ครูอ่านทลี ะประโยคให้นกั เรียนฝึกพดู ตาม โดยครูเนน้ การออกเสียงสูง-ต่า (intonation) ใน
ประโยคใหถ้ กู ตอ้ ง
ตอ่ มาครูอธิบายความหมายของประโยคในบทสนทนา What can I get you? แปลว่า จะรับอะไร
ดีครบั /คะ? เป็นประโยคที่บริกรใชถ้ ามเมื่อจะรับรายการอาหารจากลกู คา้ นอกจากน้ียงั สามารถใช้
ประโยคต่อไปน้ีในการถามไดเ้ ช่นกนั
What would you like to have?
May I take your order?
Are you ready to order? (ไมเ่ ป็นทางการ)
ตอ่ มาครูอธิบายประโยค Can I have a pizza and some salad, please? วา่ เป็นประโยคท่ีใชบ้ อกรายการ
อาหารทตี่ อ้ งการจะสั่ง นอกจากประโยคน้ีแลว้ นกั เรียนยงั สามารถใชโ้ ครงสร้าง ดงั น้ี
I’d like to have a pizza and some salad, please. (’d = would)
I’ll have a pizza and some salad, please.
ในวฒั นธรรมของคนองั กฤษ คาว่า please, thank you ถือเป็นคาพูดติดปากของคนองั กฤษ เมือ่
ขอร้องให้คนอน่ื ทาอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงใหจ้ ะพูดคาว่า please ข้ึนตน้ หรือลงทา้ ยประโยคเสมอ
เพอ่ื แสดงความสุภาพ เช่น Please come again. I would like some chicken, please. และเม่ือคนอนื่
ทาสิ่งใดส่ิงหน่ึงให้ก็จะกลา่ วคาว่า Thank you. เสมอ แมแ้ ตก่ ารเดินทางดว้ ยรถสาธารณะ เม่อื จะ
ลงจากรถ คนองั กฤษจะหันไปกลา่ วคาขอบคณุ คนขบั รถหรือในร้านอาหาร เมื่อพนกั งานนา
อาหารมาเสิร์ฟก็จะกล่าวขอบคณุ เช่นกนั
128
กิจกรรมเพ่ิมเตมิ
ครูอาจเปิ ดคลิปวดิ ีโอช่ือ Basic English vocabulary for restaurants เพ่อื ใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนรู้
เก่ียวกบั การส่ังอาหารและคาศพั ทท์ ่ีน่าสนใจท่ีเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=_mw9-uk_QFk
คากริยา get นอกจากจะแปลวา่ ไดร้ บั แลว้ ยงั สามารถแปลไดอ้ ีกหลายความหมาย เช่น
What did you get for your birthday? (get = receive)
What can I get for you? (get = to go and bring something back)
How do you get to school? (get = arrive)
2. ครูนาเสนอคาศพั ท์ ไดแ้ ก่ lemonade (น้ามะนาว), apple juice (น้าแอปเปิ ล) โดยการเขยี นคาศพั ทบ์ น
กระดาน ใหน้ กั เรียนพูดบอกความหมาย จากน้นั ครูอ่านออกเสียงและให้นกั เรียนพูดตามครูพร้อมกนั
ครูเนน้ การลงเสียงหนกั ในคาให้ถูกตอ้ ง
lemonade apple juice
lemon คือ มะนาวสีเหลือง แต่ lime คือ มะนาวสีเขียว ดงั น้นั เราควรเรียกมะนาวสีเขยี วใน
ประเทศไทยว่า lime
ต่อมาครูแนะนาคาศพั ทท์ ่ีนกั เรียนควรรู้เพ่มิ เตมิ โดยให้นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 19 Ex. 8
จากน้นั ครูเขยี นคาศพั ทท์ น่ี กั เรียนควรรู้ เช่น customer (ลูกคา้ ), waiter (บริกรชาย), waitress (บริกร
หญิง), order (สัง่ ) บนกระดาน ครูพดู บอกคาส่งั Repeat after me. แลว้ อา่ นคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟังและ
พดู ตามพร้อมกนั โดยครูสังเกตการลงเสียงหนกั ในคาดว้ ยว่าถูกตอ้ งหรือไม่
customer (n) waiter (n) waitress (n) order (v/n)
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนดภู าพในหนงั สือเรียน หนา้ 19 Ex. 8 อกี คร้ัง แลว้ ช่วยกนั พูดบอกว่าเหตุการณ์น้ี
เกิดข้นึ ท่ีใด และคนในรูปเป็นใครบา้ ง
ตวั อยา่ ง T: Look at that man. Who is he?
Ss: He is a waiter.
T: Look at that woman. Who is she?
Ss: She is a customer.
129
T: What does she do?
Ss: She orders food.
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 19 Ex. 7 ครูอธิบายภาระงานและคาศพั ทข์ อ้ 1 ใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั ให้นกั เรียน
พดู ตอบปากเปล่าวา่ ตอ้ งใช้ a, an หรือ some หนา้ คาวา่ banana เม่ือไดค้ าตอบว่า a แลว้ ครูทากิจกรรม
เช่นเดียวกนั น้ีจนครบทุกขอ้ เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนแตง่ ประโยคโดยใช้ There is/There are ลงในสมดุ
ของตนเอง ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียน ถา้ ถกู ตอ้ งครูใหน้ กั เรียนท้งั ช้นั อ่านประโยคดงั กล่าว
พร้อม ๆ กนั หากไมถ่ ูกตอ้ ง ครูให้นกั เรียนช่วยกนั แกไ้ ขให้ถูกตอ้ ง
1a 4 some 7 some 10 a
2 some 5 some 8 an 11 some
3a 6a 9 an 12 some
2. หนังสือเรยี น หน้า 19 Ex. 8 ครูทบทวนการออกเสียงคาว่า menu จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูช่ือรายการอาหาร
โดยพูดว่า Look at the menu. และถามคาถาม What do they have in the menu? Is there a burger?
Is there some salad? etc. จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูท่กี รอบคาพูด ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและฝึกพูดตาม
พร้อมกนั 2 รอบ
A: What can I get you?
B: Can I have a pizza and some salad, please?
A: Yes, OK.
B: Thank you!
ตอ่ มาครูขออาสาสมคั รนกั เรียน 2 คน ออกมาแสดงบทบาทสมมตใิ ห้เพ่อื นในช้นั ดู โดยให้อกี คนเป็น
บริกร และอีกคนเป็นลกู คา้ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คแู่ ตง่ บทสนทนาโดยใชร้ ายการอาหารใน
หนงั สือเรียน เมอื่ นกั เรียนฝึกพูดจนคล่องแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คู่ ออกมาแสดงบทสนทนาที่
หนา้ ช้นั ครูคอยสังเกตว่านกั เรียนออกเสียงถกู ตอ้ งหรือไม่
ตวั อยา่ ง S1: Good evening, madam. What can I get you?
S2: Can I have a burger and some chips, please?
130
S1: Yes, OK. etc.
S2: Thank you!
ก่อนเริ่มตน้ บทสนทนา ครูแนะนาว่านกั เรียนที่แสดงเป็นบริกรควรกลา่ วทกั ทายลูกคา้ กอ่ นดว้ ย
ภาษาเป็นทางการ เช่น Good evening, sir/madam. โดย sir และ madam เป็นคาทีใ่ ชเ้ รียกลูกคา้
อยา่ งสุภาพ sir มคี วามหมายว่า คณุ ผชู้ าย ส่วน madam มีความหมายว่า คุณผหู้ ญงิ
หลงั จากน้นั บริกรจะรบั รายการอาหารจากลกู คา้ โดยถามว่า What can I get you? และ What would
you like to drink? สาหรบั รบั รายการเครื่องดื่ม
3. หนังสือเรียน หน้า 19 หัวข้อ Go Green ครูให้นกั เรียนดูภาพในกรอบ ใหน้ กั เรียนพูดบอกคาศพั ท์
เกี่ยวกบั อาหารที่อยใู่ นกล่องอาหารวา่ มีอะไรบา้ ง แลว้ ถามนกั เรียน What do you usually eat/drink for
lunch? Do you take a lunch box to school? จากน้นั ครูอ่านขอ้ ความในกรอบแลว้ เลา่ เร่ืองเกี่ยวกบั คน
ญ่ีป่ นุ ให้นกั เรียนฟังวา่ นกั เรียนญีป่ ่ นุ ส่วนใหญไ่ ม่ใชถ้ ุงกระดาษหรือถงุ พลาสติกใส่อาหารไปโรงเรียน
แตจ่ ะนาอาหารใส่กลอ่ งสแตนเลสหรือกลอ่ งพลาสตกิ แทน เมือ่ รับประทานเสร็จกเ็ อากลอ่ งกลบั มาลา้ ง
ไวใ้ ส่อาหารในวนั ตอ่ ๆ ไป การนากล่องอาหารมาใชซ้ ้าจะช่วยลดการใชถ้ งุ กระดาษและถงุ พลาสตกิ ซ่ึง
ไม่เป็นมติ รกบั ส่ิงแวดลอ้ ม ตอ่ มาครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2-3 กล่มุ ให้นกั เรียนช่วยกนั พดู ระดม
ความคิดว่า ทาไมเราจึงไม่ควรใชถ้ ุงพลาสติกเป็นภาชนะใส่อาหาร นกั เรียนสามารถใชอ้ ยา่ งอืน่ แทน
ถงุ พลาสตกิ ไดห้ รือไม่
นกั เรียนตะวนั ตกกน็ ิยมนาอาหารไปรบั ประทานท่โี รงเรียนเช่นกนั อาหารทีน่ าไปรับประทาน
จะเรียกว่า packed lunch ซ่ึงมกั จะประกอบไปดว้ ยแซนดว์ ชิ (sandwich) และผลไม้ (fruit)
ข้นั Production
1. ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ จากน้นั ครูกาหนดสถานการณ์วา่ นกั เรียนกาลงั จะเปิ ด
ร้านอาหารของตนเอง ให้นกั เรียนเขียนรายการอาหารในร้าน พร้อมท้งั ตกแตง่ ใหส้ วยงาม เสร็จแลว้ ให้
นกั เรียนทางานคู่ แตง่ บทสนทนาเหมอื นดงั ตวั อยา่ งทีเ่ ขียนบนกระดาน ดงั น้ี
ตวั อยา่ ง S1: Good evening, sir. What can I get you?
S2: Can I have some chicken and a glass of orange juice?
131
S1: Yes, OK. What would you like to drink?
S2: I’d like a glass of orange juice.
S1: OK.
S2: Thank you!
2. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 17 Exs. 7-8 เป็นการบา้ น
Ex. 7 4a 6 some 8 some
2 some 5 an 7 some
3a
Ex. 8 6 There is some
3 There is some 7 There is some
4 There aren’t any 8 There is some
5 There are some
7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั
ประเมนิ การพูดสนทนางา่ ย ๆ แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ในร้านอาหาร แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั ประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่
เรียนรู้และม่งุ มน่ั ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/คาศพั ท์
8.5 อนิ เทอร์เน็ต
132
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 Is there any food on the fridge?
เวลา 2 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นได้
- แสดงบทบาทตามทก่ี าหนดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสง่ั คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบุคคล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
สาระที่ 2 ภาษากับวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชีว้ ดั
ต 2.1 ป.4/1 พูดและทาทา่ ประกอบอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ ่าย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
133
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทเี่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหาร สานวน และโครงสร้างภาษา ช่วยให้เขา้ ใจเรื่องท่อี ่านและฟัง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Are there any eggs? Sorry, no, but there’s some milk. Are you thirsty?
I like pizza. Are you ready to order? Can we have chicken with chips
and salad, and two pizzas, please?
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Speaking: แสดงบทบาทตามท่กี าหนด
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
134
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหาร เช่น sausage, bread, milk, cake, banana, burger, rice, ice cream,
chicken โดยการเล่นเกม Bingo โดยให้นกั เรียนวาดตาราง 9 ช่องลงในสมดุ และเขยี นคาศพั ทล์ งไปใน
แตล่ ะช่อง ครูอธิบายวธิ ีการเล่นเกมว่า ครูจะพดู คาศพั ท์ ใหน้ กั เรียนวงกลมคาศพั ทท์ น่ี กั เรียนไดย้ นิ
นกั เรียนคนใดวงกลมคาศพั ทค์ รบ 3 ช่องตอ่ กนั ในแนวใดก็ไดไ้ ดก้ อ่ นเป็นผูช้ นะ
2. ทบทวนคานามนบั ไดแ้ ละนบั ไมไ่ ด้ โดยครูแบง่ กระดานออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหน่ึงเขียน countable nouns
และอกี ฝั่งเขียนวา่ uncountable nouns จากน้นั ครูแจกบตั รภาพอาหารให้กบั นกั เรียน เมอ่ื แจกบตั รภาพ
ให้นกั เรียนครบทกุ คนแลว้ ครูใหน้ กั เรียนพลกิ ดูภาพของตนเองและเขียนช่ืออาหารทตี่ นเองไดบ้ น
กระดานในฝั่งที่ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูตรวจความถูกตอ้ ง และให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทต์ ามครู
ก่อนเริ่มบทเรียน ครูเตรียมบตั รภาพใหพ้ อกบั จานวนนกั เรียน
ครูสามารถเขา้ ไปดาวน์โหลดบตั รภาพอาหารพร้อมคาศพั ทไ์ ดท้ ่เี วบ็ ไซตด์ งั ต่อไปน้ี
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Food.htm
3. ทบทวนประโยคคาถาม Is/Are there …? โดยให้นกั เรียนจบั ค่แู ตง่ ประโยค เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 2-3 คู่ อ่านประโยคของตนเองใหเ้ พือ่ นฟัง
ตวั อยา่ ง S1: Are there any apples?
S2: Yes, there are.
S1: Is there any milk?
S2: No, there isn’t. etc.
4. ทบทวนสานวนภาษาทีใ่ ชใ้ นการสั่งอาหาร เช่น Are you ready to order? Can I have …? What would
you like to drink? โดยให้นกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาแสดงบทสนทนาทค่ี ูข่ องตนเองแตง่ เม่ือคาบเรียนท่แี ลว้
ใหเ้ พ่อื นดู
ตวั อยา่ ง S1: Are you ready to order?
S2: Can I have some rice and chicken, please?
S1: Yes. What would you like to drink?
S2: I’d like a bottle of water, please.
S1: OK. etc.
135
5. นาเขา้ สู่บทเรียน โดยให้นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 21 แลว้ ถามคาถามนกั เรียน เช่น
T: Look at the pictures. Where are they?
Ss: They are at the restaurant.
T: How many people are there in the story?
Ss: Four.
T: What do they eat?
Ss: They eat chicken, chips, salad and pizza.
ข้นั Presentation
1. นาเสนอสานวนท่อี ยใู่ นเน้ือเรื่อง ไดแ้ ก่ Let’s see!, Oh dear!, Oh no!, Yummy!
Oh dear! และ Oh no! เป็นคาอุทานทใี่ ชแ้ สดงความโกรธ ความไมพ่ อใจ หรือความโศกเศร้า
ตวั อยา่ ง Oh dear! I've lost my keys again.
Oh no, I forgot my umbrella again!
Yummy! เป็นคาคณุ ศพั ท์ มีความหมายว่า อร่อยมาก
ตวั อยา่ ง That chocolate cake is so yummy!
Let’s see! ใชเ้ มือ่ เราอยากจะคิดเกี่ยวกบั เร่ืองใดเรื่องหน่ึงใหถ้ ถ่ี ว้ นกอ่ น หรือพยายามจะนึกถึง
อะไรบางอยา่ ง
ตวั อยา่ ง Let's see if Hannah is free on Friday.
2. นาเสนอสานวน go out โดยครูเขยี นสานวนดงั กล่าวบนกระดานและบอกนกั เรียนวา่ go out มี
ความหมายว่า ออกไปขา้ งนอก พร้อมยกตวั อยา่ ง เช่น Do you want to go out for lunch?
ตอ่ มาครูเขยี นประโยค May I go out, please? บนกระดาน และอธิบายวา่ นกั เรียนยงั สามารถใช้ go out
ในประโยคขออนุญาตออกนอกหอ้ งเรียนได้ ส่วนการขออนุญาตเขา้ หอ้ งเรียน นกั เรียนสามารถใช้
May I come in, please? ซ่ึงแปลว่า เขา้ มา (ขา้ งใน) ครูพูดย้าใหน้ กั เรียนจดจาประโยคท้งั สองน้ี
เพอื่ นาไปใชพ้ ดู ขออนุญาตเขา้ -ออกหอ้ งเรียนทกุ คร้งั
136
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 20 Ex. 9 ครูอธิบายภาระงานและอา่ นประโยคท่ีใหม้ าท้งั 3 ประโยคให้นกั เรียนฟัง
จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ เปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง เมอ่ื ฟังจบแลว้ ให้นกั เรียนตอบวา่
ประโยคที่ให้มาถกู ตอ้ งหรือไม่ ถา้ ถูกใหต้ อบ yes ถา้ ผิดใหต้ อบ no เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจาก
นกั เรียนและเฉลยคาตอบพร้อมกนั
1 yes 2 no 3 no
2. หนงั สือเรยี น หน้า 21 Ex. 10 ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน และอา่ นคาศพั ทท์ ใี่ ห้มาพร้อม ๆ กนั จากน้นั
ให้นกั เรียนกลบั ไปอา่ นเน้ือเร่ืองดว้ ยตนเองอีกคร้ัง เพอ่ื ระบวุ า่ มีคาศพั ทค์ าใดอยใู่ นเน้ือเรื่องบา้ ง ให้
นกั เรียนผลดั กนั ยกมอื เพอื่ พดู ตอบ ครูเขียนคาตอบของนกั เรียนบนกระดานโดยตรวจความถกู ตอ้ ง
a - chicken, b - eggs, e - milk, g – ice cream, h - pizza
3. ครูเปิ ด CD และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงเน้ือเร่ืองตาม CD พร้อม ๆ กนั หรือครูอาจสุ่มเรียกนกั เรียน
อา่ นเป็นรายบคุ คล
4. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ จากน้นั ครูเขยี นวลีในเน้ือเรื่องใส่กระดาษ วลีละ 1 แผ่น แลว้ ใหแ้ ต่ละคู่ฝึกพดู
จนคล่อง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คู่ ออกมาแสดงบทบาทสมมติหนา้ ช้นั เรียน
ตวั อยา่ ง S1: Are you ready to order?
S2: Can we have chicken with chips and salad, and two pizzas, please?
5. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ จากน้นั ครูแจก Story Cutouts ทถี่ า่ ยเอกสารจากแบบฝึกหัด หนา้ 79 ให้
แต่ละกลมุ่ แลว้ อธิบายว่า ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ เรียงภาพตามเหตกุ ารณท์ ี่ไดย้ นิ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง 1 รอบ
เมือ่ นกั เรียนเรียงลาดบั ภาพเสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD อีกคร้ังเพือ่ เฉลยคาตอบ
ข้นั Production
1. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ จากน้นั ครูแจก Story Cutouts ทถี่ ่ายเอกสารจากแบบฝึกหัด หนา้ 79 ให้
แต่ละกลมุ่ เพือ่ ฝึกพูดเรื่องราวในแต่ละ Story Cutouts จนคลอ่ ง จากน้นั ให้แต่ละกลมุ่ ออกมาพูดและ
แสดงบทบาทสมมติทีห่ นา้ ช้นั
137
2. ครูถามนกั เรียนว่า ถา้ นกั เรียนไปรับประทานอาหารท่รี ้านอาหารกบั ครอบครวั และมีคนส่งเสียงดงั
นกั เรียนจะรู้สึกอยา่ งไร ครูให้นกั เรียนพดู อภปิ ราย จากน้นั ครูถามว่า นกั เรียนเคยทาเสียงดงั หรือไม่
เพราะอะไร และนกั เรียนคดิ วา่ ผปู้ กครองจะรู้สึกอยา่ งไร ครูให้นกั เรียนช่วยกนั คิดว่า ถา้ นกั เรียน
รับประทานอาหารนอกบา้ นกบั ครอบครวั อกี นกั เรียนควรปฏิบตั ติ วั อยา่ งไร
ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า บางร้านอนุญาตใหน้ าสัตวเ์ ล้ยี งเขา้ ไปได้ บางร้านกห็ า้ ม แตถ่ งึ จะอนุญาต
เจา้ ของสตั วเ์ ล้ียงก็ควรจะดูแลสัตวเ์ ล้ียงของตนเองใหด้ ี
3. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 18 Exs. 9-10 เป็นการบา้ น
Ex. 9 4F
2T 3T
Ex. 10
2c 3a
7. การวดั และประเมินผล
วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมนิ การแสดงบทบาท ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ในร้านอาหาร สมมติ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook)
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง
ใฝ่ เรียนรู้และมุ่งมน่ั ในการ ประสงค์
ทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ Story Cutouts
8.5 อินเทอร์เน็ต
138
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 What’s in the fridge?
เวลา 2 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นได้
- เขยี นขอ้ ความส้นั ๆ บรรยายเก่ียวกบั อาหารได้
- พดู บรรยายอาหารทม่ี แี ละไม่มีในตเู้ ยน็ ของตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาส่งั คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทีฟ่ ังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
ตัวชีว้ ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วยั
139
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย เพอ่ื นามาใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารและโครงสร้างภาษา ทาให้เขา้ ใจเรื่องท่ีฟังและอา่ น และสามารถ
เช่ือมโยงความสมั พนั ธข์ องสิ่งทปี่ รากฏในเน้ือหาทไ่ี ดฟ้ ังและอา่ นได้ รวมท้งั พดู และเขียนสื่อสารไดอ้ ยา่ ง
ถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: There are some tomatoes, but there aren’t any apples.
Function: บอกส่ิงที่มีและไมม่ ี
2) Language Skills
Speaking: พูดบรรยายส่ิงทีม่ ีและไม่มี
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Writing: เขยี นบรรยายอาหารในตูเ้ ยน็
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทีใ่ ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการใหเ้ หตุผล
140
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูพดู ทกั ทายนกั เรียนในช้นั ตามช่วงเวลาท่เี รียน เพอื่ ใหน้ กั เรียนพูดทกั ทายกลบั
2. ทบทวนเน้ือเรื่องในหนงั สือเรียน หนา้ 20-21 Ex. 9 โดยให้นกั เรียนเลา่ เรื่องใหฟ้ ัง หรือครูต้งั คาถาม
ต่อไปน้ี What’s the story about? What do they eat at the restaurant? Who’s Rover?
3. ครูวาดภาพอาหารหรือเขยี นช่ืออาหารทีน่ กั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ บนกระดาน คร้งั ละ 3 ภาพ จากน้นั ครู
บอกนกั เรียนว่า Close your eyes. ครูลบคาหรือภาพออก 1 ภาพ ครูบอกนกั เรียนวา่ Open your eyes.
What’s missing? ใหน้ กั เรียนทายวา่ คา/ภาพใดหายไป
4. ทบทวนโครงสร้าง There is/There are และ There isn’t/There aren’t โดยครูนาตะกร้าปิ กนิกเขา้ มาใน
ช้นั เรียน และพูดแนะนาคาศพั ท์ This is a picnic basket. ครูใหน้ กั เรียนฝึกพดู ตาม 2-3 คร้ัง แลว้ ครูเขยี น
คาศพั ทบ์ นกระดานและสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นดว้ ยตนเอง
ตอ่ มาครูนาบตั รภาพอาหาร 10 ใบ มาแสดงและใหน้ กั เรียนพูดคาศพั ทต์ ามบตั รภาพท่คี รูแสดง โดยให้
นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาศพั ทใ์ หถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูบอกนกั เรียนว่า Close your eyes. ครูนาบตั รภาพ
อาหาร 5 ชนิดใส่ตะกร้า อกี 5 ชนิดครูนาไปตดิ บนกระดาน แลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ Open your eyes.
ครูถามนกั เรียนเกี่ยวกบั บตั รภาพที่ตดิ บนกระดาน ดงั น้ี
T: Is there a banana in my basket?
Ss: No, there isn’t.
T: Are there some tomatoes in my basket?
Ss: No, there aren’t.
เม่ือถามอาหารทต่ี ิดบนกระดานครบแลว้ ครูถามนกั เรียนว่า
T: What’s in the basket?
S1: There is some bread.
S2: There are some beans.
S3: There is some salad.
เมอ่ื นกั เรียนบอกชื่ออาหารท่มี ใี นตะกร้าครบหมดแลว้ ครูอาจใหน้ กั เรียนทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีอีก
1-2 คร้ัง โดยเปล่ยี นบตั รภาพท่ตี ดิ อยบู่ นกระดานและในตะกร้า เพ่อื ใหน้ กั เรียนพยายามจดคาศพั ท์
141
ข้นั Presentation
ครูเขียนคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน
milk eggs
bananas bread
ครูช้ีไปที่ milk และ eggs แลว้ พดู วา่ There’s some milk, but there aren’t any eggs. จากน้นั ใหน้ กั เรียน
พูดตามครูพร้อมกนั ต่อมาครูช้ีที่คาศพั ทบ์ นกระดานแถวตอ่ มาและให้นกั เรียนพูดตอบว่า There are
some bananas, but there isn’t any bread. เสร็จแลว้ ครูถามนกั เรียนว่า but มีความหมายว่าอยา่ งไร และ
ใชอ้ ยา่ งไร
but ใชเ้ ชื่อมประโยคท่ีมลี กั ษณะเป็นการขดั แยง้ หรือตรงกนั ขา้ ม
เช่น I like oranges, but I don’t like apples.
I can ride a bicycle, but I can’t ride a horse.
ทีม่ า: http://www.engisfun.com/หลักการใช้-and-but-or-because-so/
กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ
ครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
I like salad. I don’t like chips.
They play football. They don’t play basketball.
We want to buy some snacks. We don’t have enough money.
She wants to eat more. She is full.
ครูให้นกั เรียนเขยี นประโยคบนกระดานโดยใช้ but
คาตอบ I like salad, but I don’t like chips.
They play football, but they don’t play basketball.
We want to buy some snacks, but we don’t have enough money.
She wants to eat more, but she is full.
จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ ในภาษาไทยมีคาเช่ือมทแ่ี สดงความขดั แยง้ เช่นน้ีหรือไม่ เมือ่ ได้
คาตอบวา่ แต่ ครูให้นกั เรียนสังเกตความเหมือนและแตกต่างระหวา่ งประโยคภาษาไทยกบั
ภาษาองั กฤษ
142
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 22 Ex. 11 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและช้ีประโยคตามไปดว้ ย จากน้นั ครูเปิ ด CD
อีกคร้ัง โดยหยดุ ใหน้ กั เรียนอา่ นตามทีละประโยค ครูให้เวลานกั เรียนอา่ นขอ้ ความดว้ ยตนเองในใจ
อกี คร้งั เสร็จแลว้ ครูถามคาถามขอ้ 1-4 ใหน้ กั เรียนพูดตอบปากเปลา่ ครูเขียนคาตอบท่ีถกู ตอ้ งบน
กระดานอกี คร้ัง
1 Yes, there are. 3 No, there isn’t.
2 No, there aren’t. 4 No, there isn’t.
2. หนงั สือเรียน หน้า 22 Ex. 12 ครูบอกนกั เรียนวา่ สมมติว่านกั เรียนตอ้ งไปจ่ายตลาดกบั ครอบครวั
ครูถามนกั เรียนวา่ เราควรทาอะไรก่อนจะไปซ้ือของ เม่ือไดค้ าตอบว่าเขยี นรายการส่ิงของท่จี ะซ้ือแลว้
ครูบอกวา่ คาน้ีในภาษาองั กฤษเรียกว่า shopping list ครูถามตอ่ วา่ ทาไมเราตอ้ งทา shopping list กอ่ นท่ี
จะซ้ือของ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน เช่น ป้องกนั การลมื ทาให้เราสามารถวางแผนรายรบั -รายจา่ ย
ได้ จากน้นั ครูบอกนกั เรียนว่า ให้นกั เรียนสารวจตเู้ ยน็ ของตนเองวา่ มหี รือไมม่ ีอะไรบา้ ง เพือ่ ท่จี ะไดท้ า
รายการซ้ือของ
What’s in the fridge?
chicken tomatoes
bananas sausages
eggs orange juice
ตอ่ มาให้นกั เรียนดรู ายการส่ิงของทมี่ แี ละไมม่ ีในตูเ้ ยน็ บนกระดาน โดยครูช้ีไปท่ี chicken และ tomatoes
แลว้ ให้นกั เรียนพูดว่า There’s some chicken, but there aren’t any tomatoes. ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั
น้ีกบั คาศพั ทอ์ ื่น ๆ ดว้ ย เมอื่ ถามครบแลว้ ครูถามนกั เรียนว่า What do you need to buy? เพื่อให้นกั เรียน
พูดตอบวา่ We need to buy some tomatoes, sausages and some orange juice.
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนรายการสิ่งของทมี่ หี รือไม่มีในตูเ้ ยน็ และให้นกั เรียนออกมาอ่านรายการ
ของตนเองหนา้ ช้นั
143
3. หนงั สือเรยี น หน้า 23 Ex. 13 ครูอธิบายวธิ ีการเล่นเกม และแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ให้นกั เรียนดู
ภาพอาหารทใี่ ห้มาในหนงั สือเรียนและจดจาคาศพั ท์ใหไ้ ดม้ ากทีส่ ุด กอ่ นเล่นเกม ครูทบทวนสานวนท่ี
ใชใ้ นการเลน่ เกม เช่น Your turn. My turn. จากน้นั ครูบอกให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียนแลว้ ใหแ้ ต่ละ
กลุม่ พูดบอกคาศพั ทท์ ี่จาได้ โดยใชโ้ ครงสร้าง There is และ There are
ตวั อยา่ ง Group 1: There’s some milk in the picture! Your turn.
Group 2: There’s a burger in the picture! Your turn. etc.
เพื่อใหเ้ กมสนุกสนานยงิ่ ข้ึน ครูให้แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนมาเล่นเกม Rock, Paper, Scissors เพ่ือ
ตดั สินว่าทมี ใดจะไดเ้ ป็นผตู้ อบ
4. ครูให้นกั เรียนดูภาพอาหารในหนงั สือเรียน หนา้ 23 Ex. 13 อกี คร้ัง จากน้นั ถามนกั เรียนว่า What is your
favourite food and drinks? ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน เช่น I like ice cream, cake and
orange juice.
(ตวั อยา่ งคาตอบ)
My favourite food and drinks
I like ice cream, cake and orange juice.
5. แบบฝึ กหดั หน้า 19 Ex. 11 ครูอธิบายว่า นกั เรียนจะไดฟ้ ังบทสนทนาเก่ียวกบั ตาแหน่งของอาหารใน
ภาพให้นกั เรียนฟังและลากเสน้ จากภาพอาหารไปยงั ตาแหน่งท่ไี ดย้ ิน เช่น The tomato is under the
table. ใหน้ กั เรียนลากเสน้ จากภาพมะเขอื เทศไปยงั ใตโ้ ต๊ะ เป็นตน้ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอก
ตาแหน่งของอาหารโดยครูตรวจคาตอบของนกั เรียนอกี คร้ัง
144
Narrator: Listen and draw a line.
One
Man: The tomato is under the table.
Girl: Where?
Man: Under the table. The tomato is under the table.
Girl: OK.
Two
Man: The banana is in the fridge.
Girl: Sorry? Where’s the banana?
Man: The banana is in the fridge.
Girl: In the fridge. Right.
Three
Man: The burger is on the table.
Girl: On the table? The burger?
Man: Yes. The burger is on the table.
Four
Man: The salad is under the chair.
Girl: Where’s the salad?
Man: Under the chair. The salad is under the chair.
Five
Man: The milk is on the fridge.
Girl: Where’s the milk?
Man: On the fridge. The milk is on the fridge.
145