banana – in the fridge
burger – on the table
salad – under the chair
milk – on the fridge
ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 27 หัวข้อ Portfolio ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนวาดภาพตเู้ ยน็ ของตนเองลงใน
กระดาษ A4 จากน้นั วาดอาหารในตูเ้ ยน็ หรือนาภาพอาหารจากนิตยสารมาติด พร้อมท้งั ตกแต่งให้
สวยงาม เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายวา่ มแี ละไมม่ อี าหารอะไรในตเู้ ยน็ ของตนเองบา้ ง ครูเขียน
โครงสร้างบนกระดานเพื่อใหน้ กั เรียนใชเ้ ป็นตน้ แบบ ดงั น้ี
There are ……………………, but there aren’t ……………………. .
(ตวั อยา่ งคาตอบ)
My fridge
There are some tomatoes, but there aren’t any apples.
There are some sausages, but there isn’t any chicken.
There is some orange juice, but there isn’t any milk!
2. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 19 Ex. 12 เป็นการบา้ น
2A 4B 6B 8A
3B 5A 7A
146
7. การวดั และประเมินผล
วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมนิ ชิ้นงานการเขียน แบบประเมนิ ชิ้นงาน ผา่ นเกณฑ์
บรรยายส่ิงของท่มี แี ละไมม่ ีใน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตเู้ ยน็ ของตนเอง ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ
เรียนรู้และมุง่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณท์ าชิ้นงาน
8.5 อนิ เทอร์เน็ต
147
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 Do you like bananas? เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียงคาศพั ทท์ ่ีข้นึ ตน้ ดว้ ย cl ได้
- พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั อาหารท่ชี อบได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ท่ีฟังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรม
ต่าง ๆ ตามแบบท่ฟี ัง
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขียน
ตัวชีว้ ดั
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พนั ธ์ของสิ่งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ตามทฟี่ ังหรืออ่าน
148
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมอื พ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลยี่ นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตวั ชี้วัด
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ โครงสร้างการขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาหารและความรู้สึก
ช่วยใหใ้ ชภ้ าษาเพื่อการส่ือสารและเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: I love sausages, I love rice, bread and milk are very nice.
Pronunciation: ออกเสียงคาศพั ทท์ ีข่ ้นึ ตน้ ดว้ ย cl
Function: ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั อาหารทช่ี อบ
2) Language Skills
Listening: ฟังเพื่อความเขา้ ใจ
Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาหารทช่ี อบ
Writing: เขียนบรรยายผลสารวจอาหารและเครื่องดื่มที่ช่ืนชอบ
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ท่ีใชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการสารวจ
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล
149
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายในช้นั เรียนว่า How are you today? เมื่อนกั เรียนท้งั ช้นั ทกั ทายกลบั แลว้ ครูสุ่มทกั ทาย
นกั เรียนเป็นรายบคุ คลอีกคร้งั โดยให้นกั เรียนพูดทกั ทายกลบั โดยทีค่ าตอบตอ้ งไม่ซ้ากนั เช่น I’m good.
I’m OK. I’m not well.
2. ครูเขยี นประโยค Could you give me the pencil? บนกระดาน แลว้ อา่ นประโยคดงั กลา่ วให้นกั เรียนฟัง
และพดู ตาม จากน้นั ครูอธิบายว่า โครงสร้าง Could you + กริยา? เป็นประโยคขอร้องเหมอื นกบั
Can you + กริยา? แตก่ ารใช้ Could จะสุภาพมากกว่า เสร็จแลว้ ครูเขียนประโยคเพิ่มเติมบนกระดาน เช่น
Could you say it again?
Could you give me the pencil?
Could you open the window?
Could you close the door?
3. ใหน้ กั เรียนเล่นเกม Memory Chain โดยให้นกั เรียนพูดคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารท่ีเรียนมาแลว้ ตอ่ ๆ กนั
โดยคนท่ีพดู ตอ่ ตอ้ งพดู คาศพั ทท์ ี่เพอ่ื นพดู กอ่ นหนา้ น้นั ดว้ ย เช่น
S1: milk
S2: milk, egg
S3: milk, egg, banana
4. ทบทวนโครงสร้างถาม-ตอบเกี่ยวกบั ความชอบ โดยถามนกั เรียนว่า Do you like bananas? เมื่อได้
คาตอบแลว้ ครูเขยี นคาตอบบนกระดาน Yes, I do./No, I don’t. ครูเขยี นสรุปโครงสร้างถาม-ตอบ
อกี คร้งั บนกระดาน จากน้นั ครูให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบโดยใชโ้ ครงสร้าง Do you like …?
ครูเดินสังเกตรอบ ๆ หอ้ งเพือ่ ให้คาแนะนาและความช่วยเหลือท่ีจาเป็น เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
3-4 คู่ ออกมาถาม-ตอบทีห่ นา้ ช้นั
5. ทบทวนคานามท่ีใชบ้ อกปริมาณ เช่น a bowl of, a glass of, a cup of, a piece of, a bottle of โดยครูพูด
คาศพั ทแ์ ละใหน้ กั เรียนแต่งประโยค เช่น
T: a bowl of
S1: a bowl of rice
T: a glass of
S2: a glass of orange juice etc.
150
6. ใหน้ กั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 24 Ex. 14 จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนพูดบอกคาศพั ท์
ในภาพโดยใช้ There is... และ There are...
ตวั อยา่ ง S1: There are some sausages.
S2: There is some rice.
S3: There is some fish. etc.
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทท์ ่ีข้นึ ตน้ ดว้ ย cl ไดแ้ ก่ clip, clock, cloth, clap, clean โดยการแสดงบตั รภาพและให้
นกั เรียนช่วยกนั พดู บอกความหมาย จากน้นั ครูอา่ นคาศพั ทท์ ีละคาแลว้ ให้นกั เรียนพดู ตามครูพร้อมกนั
หรือทลี ะคน
การออกเสียงคาทขี่ นึ้ ต้นด้วย cl
พยญั ชนะควบกล้า cl เป็นเสียงทค่ี นไทยคุน้ เคยเป็นอยา่ งดีและคนไทยมกั จะไมม่ ปี ัญหา
ในการออกเสียงพยญั ชนะควบกล้าน้ี เพราะคลา้ ยกบั เสียงในภาษาไทย อยา่ งไรก็ตาม
คนไทยมกั จะละเลยการออกเสียง /l/ ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ซ่ึงอาจทาใหค้ วาม-
หมายของคาเปล่ียนไป
เช่น clock (นาฬกิ า) → cock (ไก่ตวั ผู)้
clap (ปรบมือ) → cap (หมวก)
clean (ทาความสะอาด) → keen (ฉลาด)
กจิ กรรมเพิ่มเติม
ครูอาจใหน้ กั เรียนไปฝึกการออกเสียงคาท่ขี ้นึ ตน้ ดว้ ย cl เพม่ิ เตมิ ท่เี วบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=V1P2Dqtz8uI
หรือครูอาจบอกคาสาคญั เช่น cl pronunciation หรือชื่อคลปิ cl - Consonant Blends –
clap, clue, include ให้นกั เรียนไปคน้ ควา้ ดว้ ยตวั เองท่เี วบ็ ไซต์ www.youtube.com
2. ครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
I love pizza. I like chicken. My favourite food is salad.
ครูอธิบายวา่ สานวน I like … . /I love … . /My favourite ….(noun)…. is…… ใชบ้ อกความชอบ
ในทีน่ ้ีคอื การบอกอาหารทีต่ นเองชอบรับประทาน จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยคเกี่ยวกบั อาหาร
ท่ีตนเองชื่นชอบคนละ 1 ประโยค โดยใช้สานวนที่เขียนบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนลุกข้ึนอ่าน
ประโยคของตนเอง เช่น
151
S1: I like sausages.
S2: I love fish!
S3: My favourite food is pizza!
3. ครูนาเสนอคาศพั ทใ์ นเน้ือเพลง ไดแ้ ก่ dish (จาน), kitchen (หอ้ งครัว), anything (บา้ ง, อะไรบา้ ง) โดย
เขียนคาศพั ทบ์ นกระดานและพดู บอกความหมาย จากน้นั ครูอธิบายการใช้ anything ใหน้ กั เรียนฟัง
anything เป็นคาสรรพนามไมช่ ้ีเฉพาะ (indefinite pronoun) โดยปกติแลว้ จะอยใู่ นประโยค
คาถามและประโยคปฏิเสธ มีความหมายวา่ บา้ ง, อะไรบา้ ง เช่น
Is there anything I can eat? (มีอะไรให้ฉันรับประทานบา้ ง)
You cannot eat anything in the sky train. (คณุ ไมส่ ามารถรบั ประทานอาหารบน
รถไฟฟ้าได)้
หาก anything อยใู่ นประโยคบอกเล่าจะหมายถึง “สิ่งไหนกไ็ ด”้ หรือ “อะไรกไ็ ด”้
เช่น I’m really hungry. I can eat anything. (หิวมากจนสามารถกินอะไรกไ็ ด)้
ทีม่ า: http://just2english.blogspot.com/2011/06/any-anything.html
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 23 หัวข้อ Sound Spot ครูอา่ นคาศพั ทใ์ ห้นกั เรียนฟังและให้นกั เรียนฝึกพดู ตาม
พร้อมกนั หรือทลี ะคน แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง และใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทต์ าม CD
จนคลอ่ ง
clip, cloth, clap, clean, clock
2. หนังสือเรียน หน้า 24 Ex. 14 ครูอา่ นเน้ือเพลงแต่ละท่อนใหน้ กั เรียนฟัง และให้นกั เรียนอา่ นออกเสียง
ตามครูพร้อมกนั เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD คร้ังแรก ใหน้ กั เรียนฝึกฟังและดเู น้ือเพลงตามไปดว้ ย ต่อมาครู
เปิ ด CD คร้ังท่ี 2 ใหน้ กั เรียนฝึกร้องเพลงไปพร้อมกบั เพลง จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจบั กล่มุ กนั เอง 3-4
กลมุ่ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ฝึกร้องเพลงใหค้ ลอ่ งพร้อมท้งั คิดทา่ ทางประกอบเพลง เสร็จแลว้ ครูให้แต่ละกลมุ่
ออกมาร้องเพลงและแสดงทา่ ทางให้เพ่ือนในช้นั ดู
3. หนงั สือเรียน หน้า 24 Ex. 15 ครูอธิบายภาระงานว่า ให้นกั เรียนจบั คูแ่ ต่งเพลงเหมอื นอยา่ ง
ในหนงั สือเรียน เสร็จแลว้ ให้แต่ละค่ฝู ึกร้องจนคล่องแลว้ ออกมารอ้ งเพลงหนา้ ช้นั ดว้ ยกนั
152
4. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลุม่ ตามช่ืออาหารทป่ี รากฏในเน้ือเพลง ไดแ้ ก่ sausages, rice, bread, milk, pizza,
chicken, salad, fish ครูอาจแบง่ ตามความชอบ เช่น ถามว่า Who likes sausages? Raise your hand.
เมื่อแบ่งกลุ่มเสร็จแลว้ ครูอธิบายวา่ ครูจะเปิ ดเพลงใหฟ้ ัง ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร้องเพลงทอ่ นทมี่ อี าหาร
ของกลมุ่ ตนเอง ส่วนท่อนทีไ่ มม่ ี ใหร้ ้องเพลงพร้อม ๆ กนั จากน้นั ครูเปิ ดเพลงและให้นกั เรียนร้องเพลง
ร่วมกนั 2-3 คร้ัง
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงานแลว้ แบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เลือกหวั หนา้ และเลขาของกลมุ่
ตนเอง จากน้นั ใหห้ วั หนา้ ถามเกี่ยวกบั อาหารท่ีสมาชิกในกลมุ่ ชอบ โดยใชค้ าถาม เช่น What’s your
favourite food? ให้เลขาเป็นผจู้ ดบนั ทึก เมือ่ ไดค้ าตอบจากสมาชิกในกลุ่มแลว้ ให้แตล่ ะกล่มุ เขียน
บรรยายผลการสารวจ โดยใชโ้ ครงสร้างดงั ตอ่ ไปน้ี
There are _____ people in my group.
_____ people like _____.
Only _____ people like _____.
ตวั อยา่ ง There are ten people in my group. Four people like pizza. Three people like burger.
Two people like salad. Only one person likes bread.
ต่อมา ครูให้แต่ละกลุม่ ทาแผนภมู ิแท่ง แผนภมู วิ งกลม หรือรูปภาพ เพือ่ นาเสนอผลการสารวจ
4.5 There are ten people in my group. Four people like
4 pizza. Three people like burger. Two people like
salad. Only one person likes bread.
3.5
3 salad bread burger
2.5
2
1.5
1
0.5
0
pizza
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 20 Ex. 13 เป็นการบา้ น
a8 c5 e6 g3
b1 d4 f 2 h7
153
7. การวัดและประเมินผล
วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ประเมินช้ินงานการสารวจเกี่ยวกบั แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
อาหารและเคร่ืองดื่ม ผ่านเกณฑ์
ทชี่ อบ
ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการอา่ นออกเสียงคาศพั ทท์ ี่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ข้นึ ตน้ ดว้ ย cl ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้
เรียนรู้และมุ่งมน่ั ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณ์ทาชิ้นงาน
8.5 อนิ เทอร์เนต็
154
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 Breakfast time! เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารเชา้ ได้
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- พดู และเขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั อาหารเชา้ ทีร่ ับประทานได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ท่ีฟังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรือสญั ลกั ษณห์ รือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขยี น
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
155
ตัวชีว้ ัด
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย เพอื่ นามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วัด
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยค ช่วยให้เขา้ ใจเรื่องท่ีอา่ น วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
และเชื่อมโยงความสัมพนั ธข์ องสิ่งทีป่ รากฏในเน้ือหาทฟี่ ังและอ่านได้ ช่วยใหพ้ ูด/เขียนสื่อสารไดอ้ ยา่ ง
ถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: In the UK, People usually have a bowl of cereal and a cup of tea in
the mornings.
Vocabulary: breakfast, bacon, toast, bowl, cereal, popular, sweet, waffle,
blueberry, cream, muffin, cup, coffee
Pronunciation: ออกเสียงคาทข่ี ้นึ ตน้ ดว้ ย br
2) Language Skills
Speaking: พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั อาหารเชา้ ท่ีตนเองรบั ประทานหรือตอ้ งการ
รบั ประทาน
Writing: เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั อาหารเชา้ ทีต่ นเองรบั ประทาน
3) Culture: อาหารเชา้ แบบองั กฤษและอเมริกนั
156
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดที่ใชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนและทบทวนประโยคขอร้อง Can you help me? โดยครูยืนถือหนงั สือ
หลาย ๆ เลม่ อยหู่ นา้ ประตู แลว้ ถามนกั เรียนวา่ Can you help me? เมือ่ นกั เรียนมาช่วยถือหนงั สือ
ครูกลา่ วขอบคณุ นกั เรียน จากน้นั ครูเขียนสรุปบนกระดาน ดงั น้ี
A: Can you help me?
B: Sure./Sorry, I can’t.
เสร็จแลว้ ครูย้ากบั นกั เรียนวา่ เมือ่ คนอน่ื ช่วยเหลอื เราแลว้ เราตอ้ งกล่าวขอบคุณเสมอ
2. ทบทวนเพลงในหนงั สือเรียน หนา้ 24 Ex. 14 โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม ให้แต่ละกลุม่
รับผิดชอบเน้ือเพลงแต่ละท่อน จากน้นั ครูใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร้องทอ่ นทีร่ บั ผดิ ชอบ โดยให้นกั เรียนทกุ คน
ช่วยกนั ปรบมอื เป็นจงั หวะเพลง
ข้นั Presentation
1. ครูนาบตั รภาพหรือดาวน์โหลดภาพจากอนิ เทอร์เนต็ เกี่ยวกบั อาหารเชา้ มาแสดงใหน้ กั เรียนดู ไดแ้ ก่
toast (ขนมปังปิ้ง), bacon (เบคอน), sausage (ไสก้ รอก), fried egg (ไขด่ าว), bread (ขนมปัง), blueberry
jam (แยมบลูเบอร์รี), butter (เนย), waffle (วาฟเฟิ ลหรือขนมปังรงั ผ้ึง), pancake (แพนเคก้ ), cereal
(ธญั พืช), muffin (มฟั ฟิน), sandwich (แซนดว์ ิช), milk (นม), orange juice (น้าสม้ ค้นั ), tea (น้าชา),
coffee (กาแฟ) ครูพูดคาศพั ท์ และให้นกั เรียนฝึกพดู ตามครู 1-2 คร้งั เพ่อื ฝึกลงเสียงหนกั ให้ถูกตอ้ ง
bacon sausage butter waffle
pancake cereal muffin sandwich
orange juice coffee blueberry
157
ครูสามารถเขา้ ไปดาวนโ์ หลดบตั รภาพเกี่ยวกบั อาหารไดท้ ีเ่ วบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://files.havefunteaching.com/flash-cards/themes/breakfast-flash-cards.pdf
http://esl-kids.com/flashcards/food.html
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-food-
set-1.pdf
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-food-
set-2.pdf
http://www.mes-english.com/flashcards/food.php
หรือเขา้ ไปที่เวบ็ ไซต์
http://www.letshavefunwithenglish.com/vocabulary/breakfast/vocabulary.html ซ่ึงสามารถ
กดป่ มุ เพื่อฟังเสียงคาศพั ทไ์ ดด้ ว้ ย
2. ครูแสดงภาพอกี คร้งั และถามนกั เรียนทลี ะภาพว่า Do you eat … for breakfast? / Do you drink … for
breakfast? เมอ่ื ถามจนครบทกุ ภาพแลว้ ครูสุ่มถามนกั เรียนอกี คร้ังว่า What do you have for breakfast?
เพือ่ ใหน้ กั เรียนตอบโดยใชโ้ ครงสร้าง I have … and … for breakfast. ครูอาจเขียนโครงสร้างประโยค
บนกระดาน เพ่อื ช่วยเหลอื นกั เรียนในการตอบ
3. ครูถามนกั เรียนว่า ผปู้ กครองเคยถามนกั เรียนหรือไม่ว่า อยากรบั ประทานอะไรเป็นอาหารเชา้ โดยใน
ภาษาองั กฤษจะใชค้ าถามว่า What would you like for breakfast? ครูใหน้ กั เรียนพดู ประโยคน้ีตามครู
2-3 คร้งั จากน้นั ครูถามคาถามน้ีกบั นกั เรียนหลาย ๆ คน โดยครูอาจเขยี นโครงสร้างในการตอบให้
นกั เรียน I would like …, … and … for breakfast. เช่น I would like some bread, an egg and
a glass of milk for breakfast.
เม่ือทากิจกรรมเสร็จแลว้ ครูถามนกั เรียนว่า นกั เรียนเคยไมร่ บั ประทานอาหารเชา้ แลว้ รู้สึกหิวขณะที่อยู่
ในห้องเรียนหรือไม่ ขณะที่นกั เรียนรู้สึกหิว นกั เรียนมีสมาธิในการเรียนหรือไม่ เสร็จแลว้ ครูพูดสรุปให้
นกั เรียนฟังว่า การรับประทานอาหารเชา้ มีความสาคญั ตอ่ การเรียนรู้ของนกั เรียน ดงั น้นั นกั เรียนจึงควร
รบั ประทานอาหารเชา้ ทุกวนั
158
การรบั ประทานอาหารเชา้ ทุกวนั ช่วยเพม่ิ ประสิทธิภาพการเรียน ทาให้ระบบความจา ทกั ษะ
การเรียนรู้ และสุขภาพจิตดี การอดอาหารเชา้ เป็ นประจา อาจทาใหร้ ่างกายไดร้ บั สารอาหาร
ไม่เพยี งพอ ส่งผลให้ร่างกายไมแ่ ข็งแรง เจบ็ ป่ วยงา่ ย การเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามเกณฑแ์ ละ
ยงั ส่งผลต่อสติปัญญา ทาใหข้ าดสมาธิ ส่งผลเสียในระยะยาวเมอ่ื อายมุ ากข้นึ
ที่มา: http://www.todayhealth.org/daily-health/ประโยชน์ของอาหารเช้า.html
อาหารเช้าแบบต่าง ๆ
อาหารเช้าแบบองั กฤษ (English breakfast) ประกอบดว้ ยธญั พชื ราดนม ขนมปังปิ้ ง เบคอน
ไข่ดาว และมะเขือเทศยา่ งพอเกรียม รบั ประทานกบั ชาหรือกาแฟ สาหรบั อาหารเชา้ ม้ือใหญ่
ชาวองั กฤษจะเรียกวา่ “big breakfast” หรือ “full English breakfast” ซ่ึงอาหารจะมีความหลาก-
หลายมากกว่า เช่น มมี ะเขอื เทศ (tomatoes) เห็ดยา่ ง (grilled mushrooms) ถว่ั อบ (baked beans)
ไสก้ รอกทีท่ าจากเลอื ดหมู (black pudding) เป็นตน้
อาหารเช้าแบบอเมริกัน (American breakfast) ประกอบดว้ ยไขค่ น (scrambled eggs) หรือ
ไข่เจียว (omelet) วาฟเฟิลหรือแพนเคก้ ราดดว้ ยน้าเชื่อมหรือน้าผ้ึง หรือทาแยมบลูเบอร์รี่และ
ครีม ชาวอเมริกนั ยงั นิยมรบั ประทานมฟั ฟินกบั กาแฟเป็นอาหารเชา้ อกี ดว้ ย
นอกจากน้ียงั มอี าหารเชา้ ท่เี รียกว่า “continental breakfast” หรือ “อาหารเช้าภาคพน้ื
ยโุ รป” ประกอบดว้ ยขนมปังกอ้ นกลม (rolls) ขนมปังรูปพระจนั ทร์เส้ียวหรือครัวซอง
(croissant) ขนมปังปิ้ง (toast) ขนมอบ (pastries) เช่น มฟั ฟิน (muffin) เบเกิล (bagel)
นิยมรับประทานคกู่ บั ชา กาแฟหรือน้าผลไม้
ทม่ี า: http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?id=96193
กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครูสามารถเขา้ ไปดูหรือแนะนาใหน้ กั เรียนเขา้ ไปดคู ลปิ วดิ ีโอเก่ียวกบั อาหารเชา้ ของประเทศ
ต่าง ๆ รวมท้งั เพลงทเ่ี วบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://genkienglish.net/breakfast.htm
159
การออกเสียงคาท่ีขนึ้ ต้นด้วย br
ครูอา่ นออกเสียงคาวา่ breakfast อีกคร้ัง โดยเนน้ การออกเสียงพยญั ชนะควบกล้า /br/
จากน้นั ครูอธิบายวา่ คนไทยส่วนใหญม่ กั จะละเลยการออกเสียง /r/ ทาให้การสื่อสารไมเ่ ป็น
ธรรมชาตเิ ท่าท่ีควร ครูควรฝึกใหน้ กั เรียนออกเสียงคาทขี่ ้นึ ตน้ ดว้ ย br ให้ชดั เจน
ตวั อยา่ งคาศพั ท์
breakfast brick brunch
bread brush broom
ท่ีมา: http://nkw05169new.circlecamp.com/index.php?page=07
กิจกรรมเพม่ิ เตมิ
ครูอาจเปิ ดคลปิ วดิ ีโอใหน้ กั เรียนฝึกฟังและออกเสียงคาทขี่ ้ึนตน้ ดว้ ย br เพิม่ เตมิ ท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=mfquGEwzStU
หรือใหน้ กั เรียนไปฝึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น br pronunciation หรือช่ือคลปิ
br - Consonant Blends - bring, bright, breeze ให้นกั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดดู ว้ ยตนเองท่ี
www.youtube.com
4. ครูนาเสนอคาศพั ทอ์ ่ืน ๆ เกี่ยวกบั ม้ืออาหาร โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอก เช่น lunch (อาหารกลางวนั ),
dinner (อาหารเยน็ ) จากน้นั ครูสอนเพิ่มเติมคาว่า brunch และ supper
brunch (n) = a meal eaten in the late morning that is a combination of breakfast and
lunch
(อาหารที่กินตอนสาย ๆ โดยมกั รวมเอาม้อื เชา้ และกลางวนั เขา้ ดว้ ยกนั )
ตวั อยา่ ง I got up late so I had brunch.
ครูอธิบายว่า คาน้ีเป็นการผสมระหว่างคาว่า breakfast และ lunch
supper (n) = an evening meal, but more informal than dinner and usually eaten at
home. It can also be a late meal or something to eat and drink before
going to bed.
(มีไดส้ องความหมายคือ อาหารม้ือเยน็ ซ่ึงเหมอื นกบั dinner หรืออาหาร
ม้ือเยน็ ทไ่ี ม่เป็นทางการ ม้อื เลก็ ๆ มกั จะเป็นอาหารวา่ งกอ่ นเขา้ นอน)
ตวั อยา่ ง I'm having beans on toast for supper.
160
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 25 Ex. 16 ครูอธิบายภาระงาน ครูอา่ นคาถาม What do the British and Americans
eat for breakfast? ให้นกั เรียนฟัง จากน้นั ให้เวลานกั เรียนอ่านเน้ือหาดว้ ยตนเองแลว้ ตอบคาถามครู
ปากเปลา่ พร้อมกนั ครูรวบรวมคาตอบของนักเรียนมาเขียนบนกระดาน โดยเขียนสรุปออกมาเป็น
แผนท่คี วามคดิ (mind mapping)
ตวั อยา่ ง
bacon toast tea waffles with blueberry
jam and cream
the British Breakfast Americans
coffee muffin
eggs cereal tomatoes
The British eat bacon, eggs, tomatoes, toast or cereal with a cup of tea
for breakfast.
Americans eat waffles with blueberry jam and cream or a muffin with a cup
of coffee.
2. หนงั สือเรยี น หน้า 25 Ex. 17 ครูอธิบายภาระงาน ใหเ้ วลานกั เรียนอา่ นบทอา่ นในหนงั สือเรียน หน้า 25
Ex. 16 อีกคร้ัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนนาขอ้ มูลมาเติมลงในช่องวา่ งในภาพให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเขียน
เลขขอ้ บนกระดาน แลว้ ขออาสาสมคั รออกมาเขียนคาตอบ ครูตรวจคาตอบอีกคร้ังวา่ นกั เรียนตอบถกู
หรือไม่ เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงพร้อม ๆ กนั
1 bacon 5 tea 9 waffle
2 toast 6 cereal 10 coffee
3 egg 7 blueberry jam 11 muffin
4 tomato 8 cream
161
3. ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบเก่ียวกบั อาหารเชา้ ที่นกั เรียนอยากรับประทาน จากน้นั ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบหนา้ ช้นั เช่น
S1: What would you like for breakfast?
S2: I’d like some bread, an egg and a glass of orange juice.
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงานว่า ให้นกั เรียนเขยี นบรรยายเก่ียวกบั อาหารเชา้ ในประเทศของตนเอง พร้อมวาด
ภาพประกอบและตกแตง่ ใหส้ วยงาม ครูอาจให้นักเรียนนาภาพจากนิตยสารหรืออินเทอร์เน็ต
มาติดกไ็ ด้ โดยก่อนทา ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ระดมสมองบอกอาหารที่คนไทยมกั จะรบั ประทานร่วมกนั
กอ่ น และช่วยแนะนาวธิ ีการหาคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ช่ืออาหารจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อนิ เทอร์เนต็
เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนออกมาอา่ นและนาเสนอผลงานหนา้ ช้นั
Breakfast in Thailand (ตวั อยา่ ง)
In Thailand, people like to eat a small breakfast.
They usually have rice congee with minced pork.
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 21 Exs. 14-15 เป็นการบา้ น
Ex. 14 6 MUFFINS
2 COFFEE 7 TOAST
3 BACON 8 WAFFLES
4 EGGS
5 CEREAL 162
Ex. 15
English breakfast
a bowl of cereal, a cup of tea, bacon, eggs, tomatoes and toast
American breakfast
waffles with blueberry jam and cream, muffins, a cup of coffee
7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วธิ กี ารวดั ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงาน Breakfast in แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
Thailand แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหัด เรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั ระดบั คุณภาพ พอใช้
ที่กาหนด พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และม่งุ มน่ั ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 อุปกรณ์ทาชิ้นงาน
8.4 อนิ เทอร์เน็ต
163
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 Fruits of Southeast Asia
เวลา 2 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ผลไมใ้ นประเทศอาเซียนได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวชี้วัด อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพูดเขา้
ต 1.1 ป.4/2 จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
เลอื ก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณห์ รือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
ต 1.1 ป.4/3 และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น
ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
ต 1.1 ป.4/4
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพ่ือขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
ตวั ชี้วัด พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/1
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย เพอ่ื นามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชีว้ ดั บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ต 2.2 ป.4/2 ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
164
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณท์ ่เี กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชีว้ ัด
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ
2. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด
การรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ผลไมใ้ นภมู ิภาคอาเซียนและคาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ ง ช่วยให้เขา้ ใจเรื่องที่อา่ นและ
เชื่อมโยงความสมั พนั ธข์ องส่ิงทป่ี รากฏในเน้ือหาท่ฟี ังและอา่ นได้ ทาให้เขา้ ใจความเหมือน/ความแตกตา่ ง
ของประเทศตา่ ง ๆ ในอาเซียน
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (nouns) rambutans, durians, mangosteens
(adjectives) bright, thick, juicy, creamy, purple
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ผลไมใ้ นภูมภิ าคอาเซียน
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Writing: เขียนบรรยายส้ัน ๆ เกี่ยวกบั ผลไมใ้ นภูมภิ าคอาเซียน
3) Culture: ผลไมใ้ นภมู ิภาคอาเซียน
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดทใ่ี ชใ้ นการสื่อสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
165
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุง่ มน่ั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารเชา้ โดยการเลน่ เกม Memory Chain ครูอธิบายวิธีการเลน่ เกมว่า ให้
นกั เรียนพูดคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารเชา้ ท่ีเรียนมาแลว้ พดู ตอ่ ๆ กนั โดยคนทพี่ ดู ตอ่ ตอ้ งพูดคาศพั ทท์ ี่
เพอ่ื นพูดกอ่ นหนา้ น้นั ดว้ ย เช่น
S1: egg
S2: egg, waffle
S3: egg, waffle, tomato etc.
2. ใหน้ กั เรียนทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ผลไม้ โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กล่มุ จากน้นั ครูให้ตวั แทน
แต่ละกลมุ่ ผลดั กนั ออกมาเขียนช่ือผลไมใ้ หไ้ ดม้ ากที่สุด กลุม่ ใดเขยี นไดม้ ากทส่ี ุดเป็นกล่มุ ทีช่ นะ
3. ครูทบทวนช่ือประเทศตา่ ง ๆ ในภูมภิ าคอาเซียน โดยใหน้ กั เรียนออกมาเขียนชื่อประเทศบนกระดาน
ให้ครบ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั พดู บอกคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เช้ือชาติของประเทศเหลา่ น้ี
Brunei Darussalam - Bruneian
Cambodia - Cambodian
Indonesia - Indonesian
Laos - Lao
Malaysia - Malaysian
Myanmar - Burmese
the Philippines - Filipino
Singapore - Singaporean
Thailand - Thai
Vietnam - Vietnamese
ครูให้นกั เรียนออกเสียงคาศพั ทเ์ หล่าน้ีตามครู เพื่อฝึกลงเสียงหนกั ในคาศพั ทใ์ หถ้ ูกตอ้ ง
166
ครูสอนนกั เรียนลงเสียงหนกั ในช่ือประเทศและเช้ือชาตขิ องประเทศต่อไปน้ี
Brunei Darussalam - Bruneian
Cambodia - Cambodian
Indonesia - Indonesian
Malaysia - Malaysian
Myanmar - Burmese
the Philippines - Filipino
Singapore - Singaporean
Thailand - Thai
Vietnam - Vietnamese
ตอ่ มาครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั โดยสมมตวิ ่า นกั เรียนเป็นนกั เรียนแลกเปลยี่ นท่ีมาจากประเทศในภูมภิ าค
อาเซียน แลว้ ผลดั กนั พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั ประเทศและเช้ือชาติ เช่น
S1: Where do you come from?
S2: I come from Malaysia. I’m Malaysian. And you?
S1: I come from Myanmar. I’m Burmese. etc.
4. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยการถามคาถามนกั เรียน 2-3 คาถาม เช่น
T: Do you like fruit?
S1: Yes, I do.
T: What’s your favourite fruit?
S1: My favourite fruit is apple. etc.
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ผลไม้ ไดแ้ ก่ rambutans (เงาะ), durians (ทุเรียน), mangosteens (มงั คดุ ) โดย
การแสดงบตั รภาพหรือครูอาจนาผลไมจ้ ริงมาแสดงหนา้ ช้นั
ตอ่ มาครูสอนนกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาศพั ทเ์ หล่าน้ี
rambutans durians mangosteens
167
ผลไม้ในภูมภิ าคอาเซียน
เงาะ (rambutans) เป็นไมผ้ ลเมืองร้อน มีลกั ษณะโดยทวั่ ไป คือ มเี ปลือกสีแดงสด
ขนหนา และเน้ือขา้ งในหวานฉ่า มถี นิ่ กาเนิดในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และ
ฟิ ลปิ ปิ นส์ ในประเทศไทยนิยมปลกู ในภาคตะวนั ออกและภาคใต้ มหี ลายสายพนั ธุ์ ไดแ้ ก่
พนั ธุ์โรงเรียน พนั ธุส์ ีทอง พนั ธุส์ ีชมพู (เงาะสี)
ทเุ รียน (durians) เป็นผลไมข้ นาดใหญ่ มหี ลายสายพนั ธุ์ เช่น พนั ธุก์ า้ นยาว พนั ธุ์หมอนทอง
พนั ธุ์ชะนี เปลือกมีสีเขียวถงึ น้าตาลและมีหนามแข็งปกคลุมทวั่ เปลอื ก เน้ือในมีสีเหลอื งซีด
ถึงแดง ข้ึนอยกู่ บั สายพนั ธุ์ และมกี ลน่ิ เฉพาะตวั มถี นิ่ กาเนิดในประเทศไทย บรูไน อินโด-
นีเซีย และมาเลเซีย
มังคดุ (mangosteens) มถี น่ิ กาเนิดอยใู่ นประเทศอนิ โดนีเซียและมาเลเซีย นิยมปลกู อยา่ ง
แพร่หลายในประเทศไทย ผลมลี กั ษณะกลม มีสีม่วงเขม้ มกี ลบี สีเขียวอมเหลอื งตดิ อยทู่ ีผ่ ล
เน้ือในเป็ นสีขาวฉ่าน้ า
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/เงาะ
https://th.wikipedia.org/wiki/ทเุ รียน
https://th.wikipedia.org/wiki/มังคดุ
2. นาเสนอคาคณุ ศพั ทท์ ี่ใชบ้ รรยายเก่ียวกบั ผลไม้ ไดแ้ ก่ bright (สวา่ ง), thick (หนา), juicy (ทฉี่ ่าน้า),
soft (นมุ่ ), creamy (ท่มี ีลกั ษณะเป็นเน้ือครีม), strong (รุนแรง), delicious (อร่อย) โดยเขยี นคาศพั ทบ์ น
กระดาน เสร็จแลว้ ครูช้ีที่คาศพั ทแ์ ตล่ ะคาและอ่านออกเสียงให้นกั เรียนพดู ตามครูพร้อมกนั หรือทลี ะคน
จากน้นั ครูเขยี นประโยคตวั อยา่ งบนกระดานและใหน้ กั เรียนดูและฝึกพูดตามครูพร้อมกนั อีกคร้ัง
ตวั อยา่ ง Rambutans are bright red.
Mangosteens have got thick skin.
Oranges are juicy.
Bananas are soft fruit.
Mum’s chocolate cake is smooth and creamy.
Durians have a strong smell.
I really like eating cake. It is delicious!
ครูขีดเสน้ ใตค้ าคณุ ศพั ทท์ ่ีตอ้ งการสอน แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั เดาความหมายของคาศพั ท์
168
ครูใหน้ กั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคาที่มีมากกวา่ 1 พยางค์ ดงั น้ี
juicy creamy delicious
3. นาเสนอคานามบอกตาแหน่ง ไดแ้ ก่ inside (ขา้ งใน) และ outside (ขา้ งนอก) โดยครูวาดภาพอยา่ งง่าย ๆ
ให้นกั เรียนดู แลว้ ยกตวั อยา่ งประโยคใหน้ กั เรียนฝึกอ่านตามครูพร้อม ๆ กนั
ตวั อยา่ ง outside The inside of the circle is white.
The outside of the circle is black
inside
จากน้นั ครูนาภาพทเุ รียนมาแสดงให้นกั เรียนดู โดยให้เห็นท้งั เปลอื กขา้ งนอกและเน้ือขา้ งใน ครูช้ีภาพ
ทุเรียนแลว้ พูดวา่ The outside of durian is green. The inside of durian is yellow. ครูวาดภาพผลไมอ้ ีก
2-3 ชนิด เช่น เงาะ แตงโม แอปเปิ ล เพอ่ื ให้นกั เรียนฝึกพูดลกั ษณะภายนอกและภายในของผลไมต้ า่ ง ๆ
จนคล่อง เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนทางานคู่ แตง่ ประโยคเกี่ยวกบั ผลไม้ โดยใช้ inside และ outside
เช่น The inside of apple is yellow. The outside of apple is red.
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 27 Ex. 1 ใหเ้ วลานกั เรียนอ่านบทอ่าน Fruits of Southeast Asia ในหนา้ 26 ดว้ ย
ตนเองอกี คร้ัง และเลอื กคาตอบมาเตมิ ให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบพร้อมกนั ในช้นั เรียน
1 creamy
2 Mangosteens
3 Rambutans
2. หนังสือเรียน หน้า 27 Ex. 2 ครูอา่ นคาสง่ั ใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั อธิบายภาระงานวา่ ให้นกั เรียนจบั คู่
คาศพั ทก์ บั คาบรรยายให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1-3 คน พูดบอกคาตอบของตนเอง ครู
เฉลยคาตอบทีถ่ ูกตอ้ งอกี คร้ัง
169
1b 2a 3c
3. ครูถามคาถาม Wh-questions เกี่ยวกบั ผลไมใ้ นบทอา่ นและรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน เสร็จแลว้ ครู
เขยี นคาถามบนกระดานและใหน้ กั เรียนฝึกพูดถาม-ตอบกนั อกี คร้งั โดยเปลี่ยนเป็นผลไมช้ นิดอนื่ เช่น
T: Where can we find durians?
Ss: We can find durians in Thailand, Indonesia and Malaysia.
T: What colour is the inside of durians?
Ss: The inside of durians is yellow.
T: What colour is the outside of durians?
S2: The outside of durians is green. etc.
4. ให้นกั เรียนช่วยกนั คิดวา่ เพราะอะไร อาเซียนจึงสามารถเพาะปลูกผลไมท้ ี่ใกลเ้ คียงกนั หรือเหมอื นกนั
ได้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน เสร็จแลว้ สรุปใหน้ กั เรียนฟังวา่ เป็นเพราะอาเซียนมีภูมิประเทศและ
สภาพอากาศท่ใี กลเ้ คยี งกนั
ภูมิประเทศและสภาพอากาศในภมู ภิ าคอาเซียน
ภูมปิ ระเทศและสภาพอากาศในประเทศอาเซียนค่อนขา้ งคลา้ ยคลงึ กนั คอื ภมู ปิ ระเทศส่วนใหญ่
ประกอบดว้ ยเทือกเขาและทร่ี าบ มสี ภาพอากาศร้อนช้ืน ทาให้พืชพนั ธุ์ในแต่ละประเทศมี
ความคลา้ ยคลงึ กนั อาทเิ ช่น กลว้ ย พบไดท้ ้งั ในประเทศไทยและกมั พชู า ทุเรียนพบไดท้ วั่ ภมู ิภาค
อาเซียน เช่น ประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม
ทีม่ า: http://blog.theholidaze.com/2014/02/amazing-weird-exotic-southeast-asia-fruit/
5. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พูดบอกช่ือผลไมใ้ นเมืองหนาวทีน่ กั เรียนรู้จกั เช่น strawberry, apple, kiwi,
blueberry เป็นตน้ เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียนบนกระดาน
ข้นั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 27 Ex. 3 ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนและอธิบายภาระงานวา่ ใหน้ กั เรียนคน้ ควา้
ขอ้ มูลเก่ียวกบั ผลไมใ้ นประเทศอาเซียนมาคนละ 1 ชนิด จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายส้ัน ๆ เก่ียวกบั
ผลไมด้ งั กลา่ ว พร้อมกบั หาภาพประกอบมาติด
170
กอ่ นท่ีนกั เรียนจะเขียนคาบรรยายใตภ้ าพ ครูแนะนาให้นกั เรียนเขียนร่างในสมดุ กอ่ น
แลว้ นามาให้ครูตรวจทานความถกู ตอ้ ง จากน้นั จึงเขยี นลงในกระดาษ
(ตวั อยา่ งคาตอบ)
Guava
We can find guava in Thailand.
The outside of guava is green.
The inside of guava is white.
It is crunchy and delicious.
2. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 22-23 หัวข้อ Modular Revision and Assessment 2
Exs. 1-7 ในคาบเรียน เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบพร้อมกนั
Narrator: Listen and put a tick or a cross.
Boy: Hi, Mum! What are you doing?
Female: I want to make a cake. Can you help me?
Boy: Sure! What can I get you?
Female: Mmm … let’s see. Are there any eggs in the fridge?
Boy: Eggs? Yes, there are some eggs in the fridge.
Female: Good! Put the eggs on the table.
Boy: OK!
Female: Are there any apples?
Boy: Apples? Let me see. No, there aren’t any apples. Sorry.
Female: That’s OK! Have we got any milk?
Boy: Milk? Oh, yes! There’s some milk.
Female: OK! Have we got any bananas?
Boy: Hmm. Bananas? Sorry, no, but we’ve got some orange juice!
Female: OK! I think we’re ready. Let’s make the cake.
171
Ex. 1
1k 3j 5i 7d 9e
2 c 4 b 6 f 8 g 10 h
Ex. 2 4 No, there isn’t.
1 No, there isn’t. 5 No, there isn’t.
2 Yes, there are.
3 Yes, there are.
Ex. 3 5 some 9 some
1 some 6 some 10 an
2 an 7a
3 some 8 some
4a
Ex. 4 3 some 5 some
1 any 4 any
2 some
Ex. 5 3a
1b 2a
Ex. 6 e
b c d
Ex. 7
1F 2F 3F 4T
172
7. การวดั และประเมินผล
วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินช้ินงานผลไมใ้ นประเทศ แบบประเมินช้ินงาน ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
อาเซียน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook)
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง
เรียนรู้และมุง่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ
8.5 อุปกรณ์ทาชิ้นงาน
8.6 อินเทอร์เน็ต
173
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 CLIL 2 Food Groups
เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั อาหารกลมุ่ ต่าง ๆ ได้
- พูดให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั อาหารและกลมุ่ ของอาหารได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ฟี ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขยี น
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื และเป็ น
พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ชีว้ ัด
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื และนาเสนอดว้ ย
การพูด/การเขยี น
174
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั อาหาร ช่วยใหค้ น้ ควา้ รวบรวม และนาเสนอขอ้ มลู ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั
กลุม่ สาระวิชาอืน่ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Feathers and Functions
Structure: Which food group are tomatoes? Tomatoes are in vegetables group.
Vocabulary: grain group, vegetables group, milk group, fat and sweets group, meat
and fish group, fruit group
Function: ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อาหารและกลมุ่ ของอาหาร
2) Language Skills
Speaking: พดู ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั อาหารและกลมุ่ ของอาหาร
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดท่ีใชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
- ทกั ษะการจดั กลมุ่
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
175
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนท้งั ช้นั How are you? เม่ือนกั เรียนพูดตอบแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน
พดู ตอบครู โดยท่ีคาตอบตอ้ งไมซ่ ้ากนั เช่น
T: Hello. How are you?
S1: I’m good.
T: Hello. How are you?
S2: I’m OK. etc.
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารโดยครูตดิ บตั รภาพอาหารบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนพูดบอก
คาศพั ทด์ งั กลา่ ว
3. เขา้ สู่บทเรียนโดยถามคาถามนกั เรียน 2-3 คาถาม เช่น
T: What is your favourite food?
S1: I like burgers and sausages.
T: What do you have for breakfast?
S1: I have rice and chicken. etc.
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอกลมุ่ ของอาหาร โดยวาดแผนทคี่ วามคดิ (mind map) บนกระดาน ดงั น้ี
Grain group Meat and fish group
Vegetables group Food groups Milk group
Fruit group
176
ตอ่ มาครูนาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารกล่มุ ตา่ ง ๆ โดยแสดงบตั รภาพเพ่ือให้นกั เรียนเดาความหมาย
ไดแ้ ก่ grain group (กลุ่มธญั พืช), vegetables group (กลุม่ ผกั ), fruit group (กลมุ่ ผลไม)้ , meat and fish
group (กลมุ่ เน้ือสตั วแ์ ละปลา), milk group (กลุ่มนม)
จากน้นั ครูนาภาพ My Plate ที่ดาวน์โหลดจากเว็บไซตม์ าแสดงใหน้ กั เรียนดู แลว้ อธิบายวา่ อาหารทเี่ รา
รับประทานในแตล่ ะวนั แบ่งไดเ้ ป็นหลาย ๆ กลุ่ม ซ่ึงแต่ละกลุ่มกจ็ ะมปี ระโยชน์แตกตา่ งกนั ไป สัดส่วน
การรับประทานแตล่ ะกลมุ่ กไ็ ม่เหมือนกนั ดว้ ย เสร็จแลว้ ครูถามนกั เรียนว่า นกั เรียนควรจะรบั ประทาน
อาหารกล่มุ ใดมากทส่ี ุด และควรรับประทานกลมุ่ ใดนอ้ ยทสี่ ุด เพราะอะไร
ครูอธิบายเพิม่ เตมิ วา่ ปกตเิ ราแบ่งอาหารออกเป็น 5 กลมุ่ แตบ่ างคร้งั จะรวมกลมุ่ fat and sweets group
เขา้ ไปดว้ ย ซ่ึงเป็นกลุ่มอาหารทม่ี ีน้าตาลและไขมนั สูง
ครูสามารถดาวน์โหลดใบงาน My Plate ไดจ้ ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://www.nourishinteractive.com/nutrition-education-printables/448-kids-my-plate-
picture-chart-printable-easy-healthy-eating-learning-food-groups
กล่มุ ของอาหาร (food groups)
กล่มุ ธญั พืช (grain group) คอื อาหารจาพวกแป้งและธญั พชื ร่างกายเราตอ้ งการอาหารกลุ่มน้ี
มากทสี่ ุด เพราะช่วยใหพ้ ลงั งานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย ทาใหร้ ่างกายมแี รงเคลอื่ นไหว
เพอื่ ทางานหรือประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ได้ อาหารในกลุม่ น้ี เช่น ขา้ ว (rice), bread (ขนมปัง),
potato (มนั ฝรั่ง), cereal (ธญั พชื )
กล่มุ ผักต่าง ๆ (vegetables group) คอื อาหารจาพวกผกั ต่าง ๆ เป็นกลุ่มอาหารที่ร่างกายตอ้ งการ
รองลงมาจากกลุม่ ธญั พชื อาหารในกลมุ่ น้ีอดุ มไปดว้ ยวิตามนิ แร่ธาตุ และใยอาหาร ช่วยเสริม-
สร้าง ควบคุมการทางาน และช่วยควบคุมการไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย อาหารใน
กล่มุ น้ี เช่น carrot (แครอต), broccoli (บรอกโคลี), spinach (ผกั โขม)
กล่มุ ผลไม้ (fruit group) คืออาหารจาพวกผลไม้ กลุ่มน้ีอดุ มไปดว้ ยวิตามนิ เกลอื แร่ และ
ใยอาหาร ช่วยให้ระบบขบั ถา่ ยดี ร่างกายสดชื่น อาหารในกลุ่มน้ี เช่น apple (แอปเปิ ล),
orange (ส้ม), banana (กลว้ ย)
177
กล่มุ เนือ้ สัตว์และปลา (meat and fish group) คือ เน้ือสัตวต์ ่าง ๆ เช่น หมู ปลา ไก่
อาหารกลุ่มน้ีให้โปรตีนสูง ช่วยในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอ สร้างกระดูก
กลา้ มเน้ือ น้ายอ่ ย ฮอร์โมน อาหารในกลมุ่ น้ี เช่น fish (เน้ือปลา), chicken (เน้ือไก)่ ,
beef (เน้ือววั )
กล่มุ นม (milk group) คอื อาหารทุกประเภททท่ี าจากนม เป็นกลมุ่ ทีอ่ ุดมไปดว้ ยแคลเซียม
ช่วยเสริมสร้างกระดูก อาหารในกลุ่มน้ี เช่น yogurt (โยเกิร์ต), cheese (เนยแข็ง), milk (นม)
นอกจากอาหารท้งั 5 กลุ ่มแลว้ ยงั มีกล่มุ ไขมันและอาหารทีม่ นี ้าตาลสูง (fat and sweets group)
ซ่ึงร่างกายตอ้ งการในปริมาณทีน่ อ้ ยมาก อาหารหมู่น้ีช่วยใหค้ วามอบอุ่นแกร่ ่างกาย นกั เรียน
สามารถรบั ประทานได้ แต่ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเกินไป เพราะจะทาใหเ้ ป็น
โรคอว้ นหรือมโี รคตา่ ง ๆ ทร่ี ้ายแรงตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคไขมนั ในเลือดสูง อาหาร
ในกลุ่มน้ี เช่น chocolate (ชอ็ กโกแลต), sweets (ลูกกวาด)
ทมี่ า: http://nutrition.anamai.moph.go.th/web/desise1.html
ครูให้นกั เรียนฝึกฟังและสังเกตการออกเสียงคาว่า chocolate จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/chocolate
2. นาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหาร ไดแ้ ก่ pasta (พาสตา้ ), sweets (ลกู กวาด), carrots (แครอต), peas (ถว่ั ),
broccoli (บรอกโคลี), yoghurt (โยเกิร์ต), potato (มนั ฝร่งั ), chocolate (ชอ็ กโกแลต), honey (น้าผ้ึง),
butter (เนย), cherry (เชอร์รี), strawberry (สตรอวเ์ บอร์รี) โดยการชูบตั รภาพ และให้นกั เรียนอ่าน
ออกเสียงตามครู โดยลงเสียงหนกั ในคาใหถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ครูแสดงบตั รภาพอีกคร้งั แลว้ ถามนกั เรียนวา่
What is this? และให้นกั เรียนพดู บอก It is _____. ครูถามนกั เรียนต่อว่า อาหารแตล่ ะชนิดอยใู่ นกลมุ่ ใด
เช่น
T: Which food group are tomatoes?
Ss: Tomatoes are in vegetables group.
T: Which food group is honey?
Ss: Honey is in fat and sweets group. etc.
178
การลงเสียงหนกั ในคา (word stress)
pasta carrots broccoli yoghurt
potato chocolate honey butter
cherry strawberry
ครูสามารถดาวน์โหลดบตั รภาพเกี่ยวกบั อาหารจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/food-flashcards
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Food_3/page1.htm
ข้นั Practice
1. แบบฝึ กหดั หน้า 66 Ex. 1 ครูอา่ นช่ือกล่มุ อาหารที่ให้มาและใหน้ กั เรียนดูภาพอาหารและช่วยกนั บอกว่า
มีอาหารอะไรบา้ ง เม่อื บอกอาหารครบทกุ กลมุ่ แลว้ ครูออกเสียงคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนออกเสียงตาม โดย
ครูย้าใหน้ กั เรียนลงเสียงหนกั ในคาศพั ทท์ ่ีมมี ากกวา่ 1 พยางค์ให้ถูกตอ้ ง เช่น spaghetti, lettuce
Grain group: spaghetti, rice, bread, potato, crisps
Vegetables group: carrots, peas, lettuce
Fruit group: grapes, bananas, strawberry, cherry
Meat and fish group: fish, chicken, pork
Milk group: yoghurt, milk, cheese
Fat and sweets group: chocolate, honey, ice cream, sweets, hamburger
ตอ่ มาครูอา่ นคาสั่งและอธิบายคาวา่ the odd one out (สิ่งของทีไ่ ม่เขา้ พวก) จากน้นั ให้เวลานกั เรียน
วงกลมภาพอาหารทีไ่ มเ่ ขา้ พวก แลว้ ครูถามคาถามนกั เรียนเพอื่ รวบรวมคาตอบ เช่น Look at the grain
group. Which food is not in the grain group? เม่ือไดค้ าตอบแลว้ ครูทากิจกรรมเช่นน้ีจนครบทุกกลมุ่
อาหาร เสร็จแลว้ ครูถามคาถามเพือ่ ตรวจคาตอบของนกั เรียนอีกคร้ัง เช่น
T: Look at the grain group. Which food is in the grain group?
Ss: Spaghetti, rice and bread are in the grain group.
T: Look at the vegetables group. Which food is in the vegetables group?
Ss: Carrots, peas and lettuce are in the vegetables group.
179
Items to be circled: hamburger
Grain Group: sweets
Vegetables Group: potato
Milk Group: grapes
Fat and Sweets Group: crisps
Meat and Fish Group: ice cream
Fruit Group:
2. แบบฝึ กหัด หน้า 67 Ex. 2 ครูอา่ นคาสงั่ ใหน้ กั เรียนฟังและอธิบายภาระงานว่า ใหน้ กั เรียนดภู าพ แลว้
เขียนคาตอบว่าอาหารในแต่ละขอ้ อยใู่ นกล่มุ ใด จากน้นั ครูอา่ นคาศพั ทใ์ นขอ้ 1 แลว้ ถามว่า Which food
group are potatoes in? จนไดค้ าตอบว่า grain group แลว้ ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ ท่เี หลือ
เม่ือนกั เรียนตอบคาถามครบทกุ ขอ้ แลว้ ครูเขยี นเฉลยคาตอบอกี คร้ังบนกระดาน เพอ่ื ให้นกั เรียนตรวจ
คาตอบของตนเอง
1 vegetables group 2 fruit group
3 meat and fish group 4 fat and sweets group
5 milk group 6 meat and fish group
7 milk group 8 grain group
ข้นั Production
แบบฝึ กหัด หน้า 67 หวั ข้อ Project Time ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2-3 กลมุ่ จากน้นั ครูอธิบายภาระงาน
วา่ ให้นกั เรียนทาโปสเตอร์ food groups พร้อมกบั วาดภาพ ระบายสี และตกแตง่ ให้สวยงาม โดยให้
แต่ละกลมุ่ คน้ ควา้ หาขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ตหรือหนงั สือเกี่ยวกบั อาหารท่อี ยใู่ น food groups มาเพ่ิมเติม
อีกกลมุ่ ละ 5 อยา่ ง
ครูสามารถเขา้ ไปศกึ ษาเก่ียวกบั food groups เพิ่มเติม จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
www.choosemyplate.gov/MyPlate
http://healthy-kids.com.au/food-nutrition/5-food-groups/
180
7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วธิ กี ารวดั ผา่ นเกณฑ์
ประเมินช้ินงานโปสเตอร์ Food แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
groups แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหดั ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมุง่ มน่ั ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 อปุ กรณท์ าชิ้นงาน
8.4 บตั รภาพ
8.5 อนิ เทอร์เนต็
181
3 What’s the Weather Like?
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 เวลาเรียน 12 ช่ัวโมง
1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสญั ลกั ษณห์ รือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ
ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความช่วยเหลอื ในสถานการณ์
งา่ ยๆ
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น และครอบครวั
ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ
ตามแบบท่ฟี ัง
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
182
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พนั ธข์ องส่ิงต่าง ๆ ใกลต้ วั ตามท่ฟี ังหรืออ่าน
สาระที่ 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชีว้ ดั
ต 2.1 ป.4/1 พูดและทาทา่ ประกอบอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ ของ
เจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกบั วยั
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย เพอื่ นามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตัวชีว้ ดั
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คา กลุม่ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น
พืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ชี้วัด
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื และนาเสนอดว้ ย
การพูด/การเขียน
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่าน/เขียนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเี่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
183
มาตรฐาน 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปล่ียนเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชีว้ ัด
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเร่ืองที่ไดศ้ ึกษา คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา หลกั วธิ ีการเขียน ช่วยใหส้ นทนา
เขียนโตต้ อบ พดู /เขยี นส่ือสารเก่ียวกบั สภาพอากาศ และสถานการณ์ทีก่ าหนดไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Weather) It’s sunny., It’s raining., It’s windy., It’s snowing.,
Structure: It’s hot., It’s cold.; (Verbs) watch TV, read, make a snowman,
fish, drink, cook, swim, eat, ride, listen, draw,
throwing water, pay respect; (Phrases), dive, sunbathe, hunters in
the snow, cloudy and stormy weather; (Nouns) summer, warm,
cold, winter, boats, bare trees, rainy day, yellow sun, green trees,
water, hats, beginning, elders, colourful shirts, beach, island, ferry,
sea, the UK, Scotland, Ireland, Wales, England
What’s the weather like? It’s raining.
Is Lin dancing? No, she isn’t. She’s drawing.
What’s the weather like and what are you doing? It’s sunny
and we are fishing.
Where is Wendy? She’s in the garden.
What is she doing? She is playing.
Are you having fun on the school trip? It’s snowing here.
What’s the weather like at home? Let’s go fishing.
It’s snowing here in Snowdonia. I’m watching Wendy,
Oscar and Tom. They are making a snowman.
184
We’re fishing at the lake. We’re swimming in the sea.
InScotland today it’s cold and it’s snowing.
Pronunciation: ออกเสียงคาที่มีสระผสม /eI/, ออกเสียงคาท่ีลงทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ กบั
ออกเสียงคาทข่ี ้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /sk/, ออกเสียงรูปย่อ (contractions),
ออกเสียงคาท่ีประกอบดว้ ย -ee-
Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศ และกิจกรรมที่กาลงั ทา, ๆ
รายงานสภาพอากาศในแต่ละประเทศ
2) Language Skills
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน, อ่านเพื่อความเขา้ ใจ
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง, ฟังเพ่ือความเขา้ ใจ
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สภาพอากาศและกิจกรรมที่กาลงั ทา,
พูดบอกสภาพอากาศในภาพวาดท่ีมีชื่อเสียง, พูดรายงานสภาพอากาศ
ในประเทศของตนเอง, พูดและแสดงบทบาทสมมติ, พดู นาเสนอ
เกี่ยวกบั เทศกาลในประเทศของตนเอง
Writing: เขยี นโปสการ์ดบรรยายสภาพอากาศและกิจกรรมทีก่ าลงั ทา,
เขยี นบรรยายส้นั ๆ เก่ียวกบั เทศกาลในประเทศของตนเอง
3) Culture: วฒั นธรรมการรับประทานบาร์บีคิวของชาวออสเตรเลยี , สหราช-
อาณาจกั ร, สภาพอากาศในสหราชอาณาจกั ร, เทศกาลสงกรานต,์
คริสตม์ าสและวนั ขอบคณุ พระเจา้ , ภาพวาดของศิลปิ นท่ีมีช่ือเสียง
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
4.3 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ที่ใชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการเชื่อมโยง
4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้ 185
6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. การพดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศ
2. ชิ้นงาน What’s your family doing?
3. การพดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศและกิจกรรมท่ที า
4. การพดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สถานทีแ่ ละกิจกรรมที่กาลงั ทา
5. การแสดงบทบาทสมมติ
6. การเขียนโปสการ์ดบรรยายสภาพอากาศและกิจกรรมที่กาลงั ทา
7. ชิ้นงานโปสเตอร์คาศพั ทท์ ปี่ ระกอบดว้ ย -ee-
8. ช้ินงาน Our beach holiday
9. การพูดรายงานสภาพอากาศในแต่ละประเทศ
10. การพดู นาเสนอเทศกาลในประเทศของตนเอง
11. ช้ินงาน Paint the weather
7 การวัดและประเมินผล
7.1 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ทาแบบฝึกหดั ในหนงั สือเรียน หนา้ 28-39
- ทาแบบฝึกหัดใน Workbook หนา้ 24-31
7.2 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ ช้ินงานในขอ้ 6
8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าชิ้นงาน
8.5 บตั รภาพ/บตั รคา
8.6 บตั รภาพ Story Cutouts
8.7 กระดาษขนาดเท่าโปสการ์ด
8.8 Worksheet A
8.9 อินเทอร์เน็ต
186
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 What’s the Weather Like?
เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั สภาพอากาศได้
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ท่ฟี ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครวั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสมั พนั ธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ตามที่ฟังหรืออ่าน
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณท์ ีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
187
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศ โครงสร้างภาษา ช่วยใหส้ นทนา พดู /เขียน
ส่ือสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: What’s the weather like? It’s raining.
Vocabulary: It’s sunny., It’s raining., It’s windy., It’s snowing., It’s hot., It’s cold.,
watch TV, read, make a snowman
Pronunciation: ออกเสียงคาที่มีสระผสม /eI/, ออกเสียงเช่ือมคาในภาษาองั กฤษ
Function: ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศ
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศ
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทใ่ี ชใ้ นการส่ือสาร
5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียนในช้นั Good morning. How are you today? เมอ่ื นกั เรียนพดู ตอบแลว้ ครูถาม
นกั เรียนว่า นอกจาก Good morning. แลว้ เราสามารถทกั ทายดว้ ยคาอ่นื ไดห้ รือไม่ ให้นกั เรียนช่วยกนั
พดู บอก เช่น Hi. Hello. จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พูดทกั ทาย เช่น
188
S1: Hello. How are you today?
S2: I’m good. And you?
S1: I’m fine. etc.
2. ครูเขียนคาวา่ weather บนกระดาน จากน้นั ครูอ่านออกเสียงคาดงั กล่าว แลว้ บอกนกั เรียนว่า Repeat after
me. เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนคิดคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สภาพอากาศที่นกั เรียนรู้จกั แลว้ ผลดั กนั ออกมาเขียน
คาศพั ทบ์ นกระดานให้ไดม้ ากทสี่ ุด เพื่อเป็นการสารวจวา่ นกั เรียนรู้คาศพั ทม์ ากนอ้ ยเพยี งใด
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาคณุ ศพั ทท์ ใี่ ชบ้ รรยายสภาพอากาศ ไดแ้ ก่ sunny (มแี ดดออก), hot (ร้อน), cold (หนาว),
windy (มีลมพดั แรง), foggy (มหี มอกหนา), stormy (มีพาย)ุ , cloudy (มเี มฆมาก), chilly (เยน็ ) โดย
การแสดงบตั รภาพ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย จากน้นั ครูสอนนกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาท่ี
มีมากกว่า 1 พยางค์ ดงั น้ี
sunny windy foggy
stormy cloudy chilly
ต่อมาครูอธิบายว่า เราจะวางคาคุณศพั ทไ์ วห้ ลงั verb to be และหนา้ คานาม เช่น
It is sunny. It is a sunny day.
It is stormy. It is a stormy day.
สุดทา้ ยครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงเชื่อมคาในประโยค ดงั น้ี
It is sunny. It is a sunny day.
It is stormy. It is a stormy day.
ครูอธิบายการออกเสียง a ในประโยค It is a sunny day. เพิม่ เตมิ วา่ เราจะไม่ออกเสียง เอ (/eɪ/) แต่จะลด
รูปเป็นเสียง เออะ (/ə/) แทน
2. นาเสนอการบรรยายสภาพอากาศทก่ี าลงั เกิดข้นึ โดยใช้ Present continuous โดยครูเขยี นประโยค
ตวั อยา่ งบนกระดาน
It is raining. It is snowing.
จากน้นั ครูบอกวา่ โครงสร้าง It is + กริยาเติม -ing. ใชบ้ อกสภาพอากาศท่ีกาลงั เกิดข้นึ ในขณะท่พี ดู
3. นาเสนอคากริยา/วลี watch TV (ดูโทรทศั น)์ , read (อา่ น), make a snowman (ป้ันตกุ๊ ตาหิมะ) โดย
การแสดงบตั รภาพหรือวาดภาพบนกระดาน จากน้นั ครูอ่านคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟังและพูดตาม
พร้อมกนั ครูย้าให้นกั เรียนออกเสียงเชื่อมคาในวลี make a snowman
189
เสียงเชื่อมระหว่างคาในภาษาองั กฤษ (linking sound)
ในภาษาองั กฤษ เจา้ ของภาษามกั จะออกเสียงเชื่อมระหวา่ งคาเพ่อื ความไหลลน่ื ของ
การสนทนา การเชื่อมเสียงระหวา่ งคาจะเกิดข้นึ เมอื่ คาถดั ไปข้นึ ตน้ ดว้ ยสระ เช่น
It is sunny.
I like it very much.
What is it?
They like to make a snowman.
4. นาเสนอสานวนท่ใี ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สภาพอากาศ โดยครูถามนกั เรียนว่า What’s the weather
like? พร้อมกบั ช้ีไปท่นี อกหนา้ ต่าง เพ่อื ใหน้ กั เรียนพูดบอกครู จากน้นั เขียนโครงสร้างตอ่ ไปน้ีบน
กระดาน
A: What’s the weather like?
B: It’s raining./It’s rainy.
เสร็จแลว้ ครูอา่ นประโยคดงั กล่าวใหน้ กั เรียนฝึกพูดตาม ครูอธิบายว่า ประโยค What’s the weather like?
ใชถ้ ามเกี่ยวกบั สภาพอากาศ เวลาตอบเราจะใชโ้ ครงสร้าง It’s + สภาพอากาศ. เช่น
It’s sunny. It’s windy.
ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ ว่า นอกจากประโยค What’s the weather like? แลว้ เรายงั สามารถถามเก่ียวกบั
สภาพอากาศโดยใชป้ ระโยค How’s the weather? ได้ เช่น
A: How’s the weather?
B: It’s foggy.
ตอ่ มาครูตดิ บตั รภาพดวงอาทิตยบ์ นกระดาน แลว้ ถามนกั เรียนว่า What’s the weather like? เมอ่ื
นกั เรียนตอบคาถามแลว้ ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั บตั รภาพสภาพอากาศอื่น ๆ ดว้ ย เพือ่ ให้
นกั เรียนฝึกถาม-ตอบจนคล่อง เช่น
T: (ชูบตั รภาพดวงอาทิตย)์ What’s the weather like?
Ss: It’s sunny!
190
T: (ชูบตั รภาพกอ้ นเมฆ) What’s the weather like?
Ss: It’s cloudy. etc.
5. ครูเขียนคาวา่ rain บนกระดาน แลว้ อา่ นคาดงั กลา่ วให้นกั เรียนฟัง 1-2 คร้งั จากน้นั ครูอธิบายการ
ออกเสียงสระผสม /eI/ ในคาว่า rain ใหน้ กั เรียนฟังและยกตวั อยา่ งคาศพั ทท์ ส่ี ะกดดว้ ยสระ /e/ และ
สระผสม /eI/ เพิ่มเติมเพ่ือใหน้ กั เรียนเห็นความแตกตา่ งของสระเด่ียวและสระผสม ดงั น้ี
/e/ /eI/
men main
pen pain
ten train
wet wait
ตอ่ มาครูอา่ นออกเสียงคาศพั ทท์ ีละคาและใหน้ กั เรียนออกเสียงตามพร้อมกนั โดยให้นกั เรียนสงั เกต
เสียงสระ /e/ และ /eI/ ในแถวแรกว่าตา่ งกนั อยา่ งไร เม่อื ไดค้ าตอบแลว้ ครูอธิบายวา่ คนไทยมกั จะเขา้ ใจ
ผิดว่าสระผสม /eI/ ในภาษาองั กฤษออกเสียงคลา้ ยสระเอ ซ่ึงเป็นสระเด่ียวในภาษาไทย สระ /eI/ ใน
ภาษาองั กฤษเป็นสระเสียงยาวทปี่ ระกอบดว้ ยสระสองตวั ไดแ้ ก่ สระเอ และสระอิ ซ่ึงตา่ งจากภาษาไทย
คอื มีเสียงเอ อยา่ งเดียว สาหรบั การฝึกออกเสียงสระผสม /eI/ น้นั ให้ออกเสียงเอและเสียงอิ ต่อกนั อยา่ ง
รวดเร็ว
กจิ กรรมเพิ่มเตมิ
ครูเปิ ดคลปิ วดิ ีโอช่ือ How to pronounce diphthong EI in British English accent: pain/pen, tail/tell,
main/men เพอื่ ให้นกั เรียนฝึกออกเสียงสระผสม /eI/ เพ่มิ เติมท่ีเวบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=SC6mMgl4Qn0
หรือครูอาจบอกคาสาคญั เช่น diphthong /eI/ แลว้ ใหน้ กั เรียนไปคน้ ควา้ ดว้ ยตวั เองท่ีเวบ็ ไซต์
www.youtube.com
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 28 Ex. 1 ครูอา่ นคาสัง่ Listen, point and repeat. แลว้ เปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและ
ช้ีตาม จากน้นั ครูเปิ ด CD อีกคร้ัง โดยหยดุ เป็นระยะ ๆ ให้นกั เรียนพดู ตามพร้อมกนั หรือเป็นรายบุคคล
191
It’s sunny. It’s raining. It’s windy
It’s snowing. It’s hot. It’s cold.
watch TV read make a snowman
2. หนงั สือเรยี น หน้า 28 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนดภู าพขอ้ 1 และอ่านขอ้ ความในกรอบคาพดู ใหน้ กั เรียนฟัง
จากน้นั ครูให้นกั เรียนดภู าพขอ้ 2 แลว้ ถามว่า Look at Number 2. What’s the weather like? เมื่อนกั เรียน
ตอบแลว้ ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ ที่เหลือดว้ ย
2 A: What’s the weather like?
B: It’s windy.
3 A: What’s the weather like?
B: It’s snowing.
4 A: What’s the weather like?
B: It’s hot.
5 A: What’s the weather like?
B: It’s cold.
6 A: What’s the weather like?
B: It’s sunny.
3. ครูให้นกั เรียนจบั คูก่ นั ฝึกถาม-ตอบประโยคในหนงั สือเรียน หนา้ 28 Ex. 2 จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
3-4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบใหเ้ พอ่ื นฟังทหี่ นา้ ช้นั เช่น
S1: Number 2. What’s the weather like?
S2: It’s windy.
S3: Number 4. What’s the weather like?
S4: It’s sunny. etc.
192
ครูเปิ ดคลปิ What’s the weather like? | English for Children | English for Kids ให้นกั เรียน
ฝึกฟังและตอบคาถามจากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=_xMMWHVbjGk
4. ครูเขียนชื่อเมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ บนกระดาน และวาดภาพสญั ลกั ษณอ์ ากาศลงไปขา้ ง ๆ
จากน้นั ครูถามเกี่ยวกบั สภาพอากาศของเมอื งหลวงในแต่ละประเทศ เช่น
T: What’s the weather like in London, England?
Ss: It’s raining.
T: What’s the weather like in Paris, France?
Ss: It’s cold.
Country Weather
London, England
Paris, France
Berlin, Germany
Russia, Moscow Weather
Country
Rome, Italy
Bangkok, Thailand
เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนทางานคู่ เลอื กเมอื งหลวงของประเทศต่าง ๆ มา 5 ประเทศ และวาดภาพ
สญั ลกั ษณส์ ภาพอากาศแบบงา่ ย ๆ ลงไป จากน้นั ผลดั กนั พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั สภาพอากาศของแต่ละ
สถานท่ี
193
ครูแนะนาใหน้ กั เรียนฝึกฝนเกี่ยวกบั การบรรยายสภาพอากาศเพ่มิ เตมิ โดยพมิ พค์ าว่า What’s the
weather like? Game ในช่องคน้ หาใน www.google.com หรือเขา้ ไปที่
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/games/whats-the-weather
นกั เรียนจะไดด้ ูคลิปการรายงานสภาพอากาศในเมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ จากน้นั ให้
นกั เรียนนาภาพสญั ลกั ษณ์สภาพอากาศไปใส่ในภาพธงชาติของแต่ละประเทศให้ถกู ตอ้ ง
5. ครูเขยี นวลี watch TV, read a book, make a snowman บนกระดานแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน
พูดถาม-ตอบกบั ครู ดงั น้ี
T: What do you do when it’s cold?
S1: I make a snowman.
T: Good idea.
จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั พดู ถาม-ตอบดงั ตวั อยา่ ง โดยใชว้ ลที ีก่ าหนดใหบ้ นกระดาน
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทาบตั รภาพสภาพอากาศต่าง ๆ ทีเ่ รียนมา พร้อมตกแต่งให้สวยงาม
จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบเกี่ยวกบั สภาพอากาศในบตั รภาพของตนเอง เสร็จแลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบที่หนา้ ช้นั อีกคร้งั
ตวั อยา่ ง S1: (แสดงบตั รภาพของตนเอง)
S2: What’s the weather like?
S1: It’s sunny! etc.
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 24 Exs. 1-2 เป็นการบา้ น
Ex. 1 2 It’s windy. 3 It’s sunny.
1 It’s cold. 5 It’s hot. 6 It’s raining.
4 It’s snowing.
Ex. 2 3 SUNNY 4 RAINING
2 SNOWING 194
7. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมนิ การพดู ขอและใหข้ อ้ มลู แบบประเมินการพูด ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เก่ียวกบั สภาพอากาศ ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินช้ินงานบตั รภาพเกี่ยวกบั แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ผ่านเกณฑ์
สภาพอากาศ
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook)
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ
ใฝ่ เรียนรู้และมงุ่ มน่ั ในการ ประสงค์
ทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 บตั รภาพ/คาศพั ท์
8.5 อินเทอร์เน็ต
195