2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ชีวิตในโรงเรียน ช่วยใหเ้ ขา้ ใจเร่ืองทอี่ ่าน และสามารถเชื่อมโยง
ความสัมพนั ธ์ของสิ่งทป่ี รากฏในเน้ือหาท่ีไดอ้ า่ น เขา้ ใจชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษาและพูด/เขียน
ส่ือสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: All the pupils at Melissa’s school wear a school uniform.
Melissa has Geography every Tuesday and Thursday.
Vocabulary: Days of the week, meals, daily activities, o’clock, break, school, bed,
favourite, singer, theatre, school uniform, bus, computer lab, school
team, subject, geography
Pronunciation: ออกเสียงคาที่มี ch ประกอบ
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ชีวิตในโรงเรียนของตนเองและผอู้ ื่น
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Writing: เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ชีวติ ในโรงเรียนของตนเอง
3) Culture: ชีวิตนกั เรียนในประเทศองั กฤษ, รถโดยสารสองช้นั (double decker)
ในประเทศองั กฤษ, อาหารกลางวนั , เคร่ืองแบบนกั เรียนในประเทศ
องั กฤษ และสหรัฐอเมริกา
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
346
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ทบทวนการออกเสียงคาที่มี sh ประกอบ โดยเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
ship sheep shower shark shirt
fish dish wash brush finish
จากน้นั ครูขออาสาสมคั ร 3 คน ออกมาอา่ นประโยคให้เพอ่ื นฟัง โดยใหแ้ ตล่ ะคนอา่ นประโยคละ 3 คร้ัง
คร้งั ที่ 2 และ 3 ใหน้ กั เรียนเพ่มิ ความเร็วในการอา่ นข้ึนเร่ือย ๆ นกั เรียนคนใดอ่านประโยค ดงั กลา่ วได้
ชดั เจนมากทสี่ ุดเป็นผชู้ นะ
She likes sheep but she doesn’t like sharks.
She brushes her teeth and washes her hair every day.
2. ครูเขียน school days บนกระดาน ใหช้ ่วยกนั ระดมความคดิ บอกคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ชีวิตในโรงเรียน เช่น
uniform, subject, school bus, teacher, student เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบมาเขยี นบนกระดานใน
รูปแบบ mind map เช่น
uniform subject
blackboard
canteen school school
bus
student teacher
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั วิชาตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ geography (ภมู ศิ าสตร์), physical education (พลศกึ ษา),
history (ประวตั ิศาสตร์), Information Technology (เทคโนโลยสี ารสนเทศ), drama (ละคร) และ French
(ภาษาฝร่งั เศส) โดยเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของคาศพั ท์
กิจกรรมเพิ่มเติม
ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมฝึกฝนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั วิชาตา่ ง ๆ ท่ีเวบ็ ไซต์
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/word-games/hangman/school-subjects
347
2. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สถานท่ี เช่น computer lab (หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์), computer room
(ห้องคอมพวิ เตอร์), canteen (โรงอาหาร), gymnasium (โรงยมิ ), football field (สนามฟุตบอล), staff
room (ห้องพกั ครู), library (หอ้ งสมุด), first aid room (ห้องปฐมพยาบาล), toilet (หอ้ งน้า) โดยเขยี น
คาศพั ทบ์ นกระดานแลว้ พดู บอกความหมาย
3. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั บคุ คลในโรงเรียน ไดแ้ ก่ teacher (ครู), student (นกั เรียน), pupil (เดก็
นกั เรียน โดยเฉพาะในโรงเรียน), headteacher (ครูใหญ่), caretaker (ภารโรง) โดยบอกชื่อบคุ คลที่
นกั เรียนรู้จกั ในโรงเรียน เพ่ือให้นกั เรียนเดาความหมาย
ครูอธิบายคาศพั ทท์ ่ีชาวองั กฤษและอเมริกนั ใชต้ า่ งกนั ดงั น้ี
BrE AmE
headteacher principal
caretaker janitor
4. นาเสนอคาศพั ทอ์ น่ื ๆ เช่น uniform (เครื่องแบบ), school team (ทีมโรงเรียน), subject (วิชา) โดยครู
เขียนคาศพั ทบ์ นกระดานแลว้ พูดบอกความหมาย
5. ทบทวนคาศพั ทท์ ไี่ ดเ้ รียนไปแลว้ เช่น geography, canteen, gymnasium, teacher, student ดว้ ยการแบ่ง
นกั เรียนเป็น 2 ทีมเพอื่ เล่นเกม Invisible Man โดยครูวาดภาพคน 2 คนบนกระดาน ซ่ึงประกอบดว้ ยหัว
ตวั แขนซา้ ย แขนขวา ขาซา้ ย และขาขวา จากน้นั ครูเลือกคาศพั ทม์ า 1 คา แลว้ ขดี เส้นใตเ้ ทา่ จานวน
ตวั อกั ษรในคา ให้แต่ละทมี ผลดั กนั พดู ตวั อกั ษรท่ีคิดว่ามีในคาศพั ทด์ งั กลา่ ว ถา้ ทมี ใดทายถกู ตอ้ ง ครูจะ
ลบอวยั วะออกคร้ังละ 1 ส่วน ทมี ใดทค่ี รูลบอวยั วะจนหมดเป็นทมี ทีช่ นะ
6. นาเสนอโครงสร้างท่ใี ชบ้ รรยายเกี่ยวกบั ชีวิตในโรงเรียน โดยครูวาดตารางบนกระดาน ดงั น้ี
Monday 9.00-10.00 10.00- 11.00- 12.00- Lunch 14.00-
Tuesday 11.00 12.00 13.00 15.00
Wednesday English history science P.E. art
Thursday geography science maths drama music
Friday English French history art
maths English science IT P.E.
geography maths IT French music
history
348
จากน้นั ครูให้นกั เรียนดตู าราง Look at the table. แลว้ ใหน้ กั เรียนสงั เกตคาว่า geography และพดู ว่า
She has geography every Tuesday and Thursday. แลว้ ให้นกั เรียนพูดตาม ครูช้ีไปท่ี P.E. แลว้ ให้บอก
ครูว่า She has P.E. every Monday and Thursday. ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีจนครบทกุ วิชา
ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนดูตารางอกี คร้งั แลว้ พดู วา่ Look at the table again. What time does the first class
start? เพ่อื กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนตอบวา่ The first class starts at 9 o’clock. ครูถามตอ่ ว่า What time does
the last class finish? เมอ่ื ไดค้ าตอบว่า The last class finishes at 3 o’clock.
7. ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน I go to school by bus. จากน้นั ครูอธิบายวา่ I go to school by bus.
มคี วามหมายวา่ ฉันเดินทางไปโรงเรียนดว้ ยรถโดยสารประจาทาง เมื่อนกั เรียนตอ้ งการบอกว่า ตนเอง
เดินทางโดยวิธีใดจะใชโ้ ครงสร้าง I go to school by _______. จากน้นั ครูสุ่มถามนกั เรียนแตล่ ะคนว่า
นกั เรียนเดินทางมาโรงเรียนอยา่ งไร ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนมาเขียนบนกระดานในรูปแบบ
mind map
by bike by
bicycle
by
motorcycle on foot/walk
how to
get to
school
by car
by bus
6. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ตอบคาถามเกี่ยวกบั ชีวิตในโรงเรียนตามความเป็นจริง เช่น
T: What time does your school start/finish?
S1: My school starts at 8 o’clock. My school finishes at 3 o’clock.
T: What time does your school finish?
S2: My school finishes at 3 o’clock.
T: What subjects do you have at school?
S2: I have maths, science, English, art, music, history and P.E.
349
T: What sports do you play at school?
S2: I play basketball and volleyball.
T: Do you wear a school uniform?
S3: Yes, I do.
T: What time do you have lunch?
S3: I have lunch at 12 o’clock.
T: How do you get to school?
S3: I get to school by bike.
อาหารกลางวนั ในโรงเรียน ในภาษาองั กฤษเรียกวา่ school meal, school lunch หรือบางคร้ัง
เรียกว่า school dinner เนื่องจาก dinner ในภาษาองั กฤษจะหมายถงึ อาหารม้ือหลกั ของวนั
โดยจะเป็นตอนกลางวนั หรือตอนเยน็ ก็ได้
dinner (n) = the main meal of the day, eaten either in the middle of the day or
in the evening
ท่ีมา: http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/dinner?q=dinner
ตวั อยา่ งเช่น อาหารตามประเพณีของคนองั กฤษท่รี ับประทานกนั ในวนั อาทติ ยต์ อนกลางวนั ท่ี
เรียกวา่ Sunday roast บางคร้งั กเ็ รียกวา่ Sunday lunch, Sunday dinner หรือ Sunday
roast dinner โดยมกั จะประกอบไปดว้ ย เน้ือยา่ ง (roast beef) มนั ฝรัง่ ยา่ ง (roast potatoes)
ผกั (vegetable) และน้าเกรวี (gravy)
เน่ืองจากในตอนกลางวนั คนองั กฤษและคนอเมริกนั มกั จะรับประทานเพยี งแคแ่ ซนดว์ ิช
ม้อื กลางวนั จึงไม่ใช่อาหารม้อื หลกั ของพวกเขา หลาย ๆ โรงเรียนใน
ประเทศองั กฤษและสหรัฐอเมริกามกั จะมอี าหารท่ที าเสร็จแลว้ ให้
นกั เรียนไดร้ ับประทานที่โรงเรียน แต่นกั เรียนบางคนกม็ กั จะนาอาหาร
จากทบ่ี า้ นไปรบั ประทานเองใส่ลงในกล่องพลาสตกิ โดยเรียกวา่ packed lunch ซ่ึงมกั จะ
ประกอบไปดว้ ยแซนดว์ ิชและผลไม้
ทม่ี า: http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/dinner?q=dinner
350
7. ครูช้ีทีภ่ าพทลี ะภาพในหนงั สือเรียน หน้า 49 Ex. 17 และถามคาถามเก่ียวกบั ภาพ เช่น
T: Look at picture 1. Who is she?
Ss: She is a student/pupil.
T: Look at picture 2. What subject do children have at school?
Ss: They have geography.
T: Look at picture 3. What is it?
Ss: It is a bus.
T: Look at picture 4. Where are the children?
Ss: They are at the canteen.
T: Look at picture 5. Where is the girl?
Ss: She is at the computer lab/computer room.
T: Look at picture 6. What sport do they play at school?
Ss: They play football.
รถโดยสาร 2 ช้ันในประเทศอังกฤษ (double decker bus)
รถโดยสาร 2 ช้นั เป็นสัญลกั ษณอ์ ยา่ งหน่ึงของประเทศองั กฤษ เพราะมสี ีแดงท้งั คนั ประกอบ
ดว้ ยช้นั ล่าง (lower deck) และช้นั บน (upper deck) ซ่ึงบางรุ่นดดั แปลงช้นั 2 ใหเ้ ปิ ดโลง่ เพื่อให้
ผโู้ ดยสารไดช้ มทวิ ทศั นข์ องเมือง
ที่มา: https://en.wikipedia.org/wiki/Double-decker_bus
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 49 Ex. 17 ครูอธิบายภาระงานวา่ ให้นกั เรียนดภู าพอกี คร้งั และอา่ นขอ้ ความท้งั หมด
แลว้ ใหเ้ วลานกั เรียนเตมิ คาตอบในแตล่ ะขอ้ ให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูอา่ นขอ้ ความแรกให้นกั เรียนฟังซ่ึงมี
ตวั อยา่ งคาตอบให้แลว้ จากน้นั ครูอา่ นขอ้ ความที่ 2 ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน ครูทาเช่นเดียวกนั น้ี
กบั ขอ้ อนื่ ดว้ ย เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนยืนข้ึนอ่านขอ้ ความในแต่ละขอ้ อกี คร้ัง เพอ่ื ตรวจคาตอบ
2 subject 4 lunch 6 school team
3 bus 5 computer lab
351
ตอ่ มาครูอาจถามคาถามนกั เรียนเพือ่ ทดสอบความเขา้ ใจนกั เรียน
เช่น T: What does Melissa wear at school?
Ss: She wears a school uniform!
T: What is Melissa’s favourite subject?
Ss: Geography!
T: How does Melissa go to school?
Ss: By bus!
T: What time does Melissa have lunch?
Ss: At one o’clock! etc.
กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูเขียนคาว่า interesting (น่าสนใจ), fun (สนุก), easy (ง่าย), difficult (ยาก), boring (น่าเบอ่ื )
บนกระดาน และใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย จากน้นั ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนพูดแสดง
ความคดิ เห็นเก่ียวกบั วชิ าทเ่ี รียนโดยใชค้ าคณุ ศพั ทเ์ หล่าน้ี เช่น
S1: I think art is fun.
S2: I think geography is difficult.
S3: I think English is interesting.
S4: I think history is boring.
S5: I think maths is easy.
กจิ กรรมเพิ่มเตมิ
ครูให้นกั เรียนดคู ลปิ วดิ ีโอชื่อ Schools in Britain แลว้ ตอบคาถามจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=OJgMtRlh3wA
ตวั อยา่ งเช่น
T: What’s the first class of the day?
Ss: It’s maths class.
T: How many children are there in a primary school class?
Ss: There are twenty-two children in a primary school class.
T: What language do most British students study?
Ss: Most British students study French.
352
2. ครูให้นกั เรียนจบั คูก่ นั ฝึกพดู ถาม-ตอบโดยใชค้ าถามต่อไปน้ี
- Where do you study?
- When does the school start?
- When does the school finish?
- Do you wear a school uniform?
- What do you study at school?
- What is your favourite subject?
- How do you get to school?
- What time do you have lunch?
- What do you do after school?
- What sport do you play?
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ออกมารายงานผลการสารวจของตนเองหนา้ ช้นั
เคร่ืองแบบนกั เรียนในประเทศองั กฤษและอเมริกา
นกั เรียนส่วนใหญใ่ นประเทศองั กฤษจะแตง่ กายดว้ ยชุดนกั เรียนไปโรงเรียน ในขณะที่ใน
สหรัฐอเมริกาจะไม่นิยมแตง่ เครื่องแบบนกั เรียนไปโรงเรียน แตจ่ ะใส่ชุดลาลองแบบสุภาพ
มากกวา่
ที่มา: http://resources.woodlands-junior.kent.sch.uk/customs/questions/education/
uniform.html
http://schooluniforms.com/uniformsusa.html
ข้นั Production
1. แบบฝึ กหัด หน้า 41 Ex. 15 ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนเขียนอีเมลถึงเพอ่ื นเพอื่ เลา่ เก่ียวกบั ชีวิตใน
โรงเรียนของตนเอง โดยนาคาตอบท่นี กั เรียนไดถ้ าม-ตอบกบั เพอ่ื นมาตอบ เสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียน
ตรวจทานความถูกตอ้ ง เช่น การสะกดคา ไวยากรณ์ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ออกมาอา่ นที่
หนา้ ช้นั
353
Hi Sasikarn,
My name is Weena. I study at Aksorn School. I go to school by bus. School starts
at 8 o’clock and finishes at 3 o’clock. I wear a uniform to school every day.
My favourite subject is science. I love it. I have it every Monday, Wednesday and
Friday. After school, I usually have dance lessons or piano lessons.
Write and tell me about your school.
Weena
7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั
แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั
ชีวิตในโรงเรียนของตนเอง ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน
แบบฝึกหดั (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และม่งุ มน่ั ในการทางาน แบบทดสอบ
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 อินเทอร์เนต็
354
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 Time zones in ASEAN countries
เวลา 2 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- พดู บอกเวลาในประเทศอาเซียนได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสัง่ คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
ตัวชีว้ ดั
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพนั ธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ตามที่ฟังหรืออ่าน
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถูกต้อง
ตัวชี้วดั
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น
พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
355
ตวั ชี้วดั
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่น และนาเสนอดว้ ย
การพูด/การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั เส้นแบ่งเวลาในประเทศอาเซียน และคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ ง ช่วยให้เราเขา้ ใจวถิ ชี ีวิต
ของคนในภมู ิภาคอาเซียนมากข้ึน
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: It is 7 o’clock in Thailand, but it is 8 o’clock in Singapore.
Vocabulary: time zone
2) Language Skills
Speaking: พูดบอกเวลาของประเทศต่าง ๆ ในภูมภิ าคอาเซียน
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
Writing: เขยี นบอกเวลาของประเทศตา่ ง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน
3) Culture: เสน้ แบง่ เวลาในภมู ภิ าคอาเซียน
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดท่ใี ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการเช่ือมโยง
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้ 356
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียน How are you today? เมื่อไดค้ าตอบจากนกั เรียนแลว้ ครูเดินไปที่โต๊ะของนกั เรียน
แลว้ พูดวา่ Can I have a pencil, please? จากน้นั ครูอธิบายว่า เมอื่ เราตอ้ งการขอส่ิงของจากผอู้ ่นื เราจะใช้
โครงสร้าง Can I have ..., please? เมือ่ เราไดร้ บั สิ่งของมาแลว้ ตอ้ งกล่าวขอบคณุ ดว้ ยคาวา่ Thank you.
เสมอ และหากมคี นขอบคณุ เรา เราควรพูดว่า You’re welcome. (ดว้ ยความยนิ ดี) เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 4-5 คน พูดขอสิ่งของจากครู เช่น
S1: Can I have a pen, please?
T: Here you are.
S1: Thank you.
T: You’re welcome.
2. ทบทวนการพูดบอกเวลา โดยครูเขียนตวั เลขต่อไปน้ีบนกระดาน
07.00 11.00 08.00
06.00 09.00 10.00
เสร็จแลว้ ครูช้ีที่เวลา 07.00 แลว้ ถามนกั เรียนวา่ What time is it? เพ่อื ให้นกั เรียนตอบพร้อมกนั วา่
It’s seven o’clock. จากน้นั ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั เวลาอนื่ ๆ จนครบ ครูอาจทบทวนอกี คร้งั
โดยการสุ่มเรียกนกั เรียนตอบทลี ะคน
ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกม Naughts and Crosses หรือ Tic-Tac-Toe ซ่ึงมวี ธิ ีการเลน่ เกมเหมือน OX
ของไทย โดยก่อนเล่นเกม ครูทบทวนประโยคทีใ่ ชใ้ นการเล่นเกม เช่น Whose turn is it? Your turn.
My turn. จากน้นั ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทีม แลว้ ครูวาดตาราง 9 ช่องบนกระดานและเขียนเวลาลง
ในแตล่ ะช่อง ให้แต่ละทมี ส่งตวั แทนออกมาเลน่ เกม Rock, Paper, Scissors (เป่ ายิงฉุบ) เพอ่ื หาวา่ ทีมใด
จะไดเ้ ป็นผเู้ ลือกช่อง เม่อื เลือกช่องแลว้ ใหน้ กั เรียนพดู บอกเวลาในช่องดงั กลา่ ว ถา้ พดู ไดถ้ ูกตอ้ ง จะมี
สิทธ์ิทาเครื่องหมาย O หรือ X ท่ีทมี ตนเองเลอื ก ทีมท่สี ามารถบอกเวลาได้ 3 ช่องติดต่อกนั ในแนวใด
ก็ไดก้ อ่ นเป็นทีมท่ีชนะ ครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกมอกี 2-3 คร้ัง จนนกั เรียนสามารถพูดบอกเวลาไดค้ ลอ่ ง
3. ครูถามนกั เรียนวา่ รู้หรือไม่วา่ ทาไมทปี่ ระเทศไทยเป็นตอนกลางวนั แตใ่ นประเทศอื่นบางประเทศ เช่น
สหรฐั อเมริกา แคนาดา และบราซิล เป็นตอนกลางคนื วนั น้ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั เร่ืองน้ี
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทท์ ีใ่ ชบ้ อกเวลา ไดแ้ ก่ half (คร่ึง), quarter (1 ส่วน 4) โดยวาดภาพนาฬิกาบนกระดาน
357
ครูช้ีทน่ี าฬิกาแลว้ พูดวา่ It’s half past one. แลว้ อธิบายว่า half แปลวา่ คร่ึง
โดย half past ใชบ้ อกเวลาที่ผา่ นมาแลว้ คร่ึงชวั่ โมง หรือ 30 นาที
ต่อมาครูวาดนาฬกิ าอกี 2 เรือน โดยให้เรือนแรกบอกเวลา 7.15 น. และอกี
เรือนบอกเวลา 7.45 น. แลว้ บอกนกั เรียนว่า Look at the first clock. It’s a
quarter past seven. ใหน้ กั เรียนพดู ตาม จากน้นั ครูอธิบายวา่ a quarter
แปลว่า 1 ใน 4 หรือ 15 นาที โดย a quarter past ... หมายความวา่ เวลาที่
ผา่ นมาแลว้ 15 นาที
จากน้นั ครูช้ีนาฬกิ าบอกเวลา 7.45 น. แลว้ พูดว่า It’s a quarter to eight. โดย
ครูอธิบายว่า หากเหลืออกี 15 นาที จะครบ 1 ชว่ั โมง เราจะบอกเวลาโดยใช้
สานวน a quarter to … หมายความวา่ อกี 15 นาที จะถงึ เวลา ...
เสร็จแลว้ ครูเขยี นเวลาบนกระดาน ดงั น้ี
8.30 4.30 6.45
10.15 9.45 1.15
จากน้นั ครูช้ีเวลาและถามนกั เรียนว่า What time is it? เพือ่ ใหน้ กั เรียนตอบโดยใช้ half past,
a quarter past, a quarter to เช่น
T: What time is it? (ช้ีท่เี วลา 8.30)
Ss: It’s half past eight.
T: What time is it? (ช้ีท่ีเวลา 9.45)
Ss: It’s a quarter to ten.
คาตอบ: It’s half past eight., It’s half past four., It’s a quarter to seven.,
It’s a quarter past ten., It’s a quarter to ten., It’s a quarter past one.
2. ให้นกั เรียนอ่านเรื่อง Time zones in ASEAN countries ในหนงั สือเรียน หนา้ 50 เมือ่ อา่ นจบแลว้ ครูถาม
What’s time zone? เม่อื ไดค้ าตอบวา่ เสน้ แบ่งเวลาแลว้ ครูช้ีให้นกั เรียนดูแผนที่ Time Zones of the
World และให้นกั เรียนสังเกตว่า เสน้ แบ่งเวลาจะมีขนาดเท่า ๆ กนั จากน้นั ครูถามวา่ What shape is the
Earth? เมือ่ ไดค้ าตอบวา่ It’s circle/round. แลว้ ครูอธิบายว่า เนื่องจากโลกหมนุ รอบดวงอาทติ ย์ โลกจึง
ไดร้ บั แสงจากดวงอาทิตยไ์ มเ่ ทา่ กนั เมอ่ื ดา้ นหน่ึงไดร้ บั แสง อีกดา้ นจะไมไ่ ดร้ บั แสง แลว้ ครูอธิบายว่า
358
The sun shines on only one part of the Earth at a time. While the sun shines where
you live, it’s nighttime somewhere else. When you’re eating your breakfast cereal,
children in Paris are finishing the school day and children in Moscow are eating
dinner. Children in Bangkok are going to bed and children in Sydney, Australia are
getting up for the next day of school.
(ทีม่ า: http://easyscienceforkids.com/all-about-the-time-zone/)
ในการอธิบาย ครูนาลูกปิ งปอง 2 ลกู สมมติวา่ ลกู หน่ึงเป็นดวงอาทติ ย์ อกี ลกู หน่ึงเป็นโลก
เพื่อให้นกั เรียนเขา้ ใจมากย่ิงข้ึน
ครูใหน้ กั เรียนนบั เสน้ เวลาในแผนท่ีในหนงั สือเรียน เมอื่ ไดค้ าตอบวา่ 20 เสน้ แลว้ ครูอธิบายเพิม่ เตมิ ว่า
The Earth has different 24 time zones. จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ How many time zones are there in
ASEAN countries? เมือ่ ไดค้ าตอบว่า 4 แลว้ ครูถามนกั เรียน เช่น
T: If it’s 6.30 in Myanmar, what time is it in Laos?
Ss: It’s 7 o’clock in Laos.
T: If it’s 7 o’clock in Thailand, what time is it in Malaysia?
Ss: It’s 8 o’clock in Malaysia.
T: If it’s 8 o’clock in Singapore, what time is it in Eastern Indonesia?
Ss: It’s 9 o’clock in Eastern Indonesia.
ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศท่ีมพี ้ืนท่ีมากทีส่ ุดในภมู ภิ าคอาเซียน โดยสามารถ
แบง่ เป็นฝั่งตะวนั ตกซ่ึงเป็นท่ีต้งั ของเมอื งหลวง คอื กรุงจาการ์ตาร์ (Jakartar) ตอนกลางมี
เมอื งสาคญั ช่ือว่า มากสั ซาร์ (Makassar) และฝ่ังตะวนั ออกมีเมืองสาคญั ช่ือวา่ มาโนควารี
(Manokwari) ซ่ึงท้งั 3 เขตน้ีมีเวลาแตกต่างกนั โดยเวลาของตอนกลางจะเร็วกวา่ ฝ่ังตะวนั ตก
1 ชวั่ โมง และฝั่งตะวนั ออกจะเร็วกว่าตอนกลาง 1 ชว่ั โมง ดงั น้นั ฝ่ังตะวนั ออกเร็วกวา่
ฝ่ังตะวนั ตก 2 ชว่ั โมง
ท่มี า: https://www.timeanddate.com/time/zone/indonesia
359
Time zone คือ ส่ิงที่ใชแ้ บ่งเวลาทว่ั โลก โดยอา้ งอิงเวลาจากเวลามาตรฐานกรีนิช (GMT:
Greenwich Mean Time) จุดอา้ งอิงของเวลาสากลเชิงพกิ ดั คอื ทล่ี องจิจดู ท่ี 0° ที่ตดั ผ่าน
Royal Greenwich Observatory ที่เมืองกรีนิช ประเทศองั กฤษ
ทีม่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/เวลาสากลเชิงพิกดั
กจิ กรรมเพิ่มเติม
ครูเปิ ดคลิป “มหศั จรรยแ์ ห่งเสน้ แบง่ เวลา” หรือคลิปวดิ ีโอชื่อ Time Zones ใหน้ กั เรียนเรียนรู้
เก่ียวกบั เสน้ แบ่งเวลาเพ่มิ เตมิ จากเวบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?time_continue=112&v=m4BQGQufP7c
3. ครูนาเสนอโครงสร้างในการพดู บอกเวลา โดยครูวาดนาฬกิ า 2 เรือนบนกระดาน เรือนแรกบอก
เวลา 8 นาฬกิ า และครูเขียน Thailand ไวใ้ ตภ้ าพ ภาพที่สองบอกเวลา 9 นาฬิกา และครูเขียน Singapore
ไวใ้ ตภ้ าพ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนดูภาพแลว้ พูดประโยค It’s 8 o’clock in Thailand, but it’s 9 o’clock
in Singapore. และเขยี นประโยคดงั กล่าวบนกระดาน ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีอีก 2-3 คร้งั โดย
ยกตวั อยา่ งประเทศอ่นื เช่น Malaysia, Eastern Indonesia
ตวั อยา่ ง It’s 8 o’clock in Malaysia, but it’s 9 o’clock in Eastern Indonesia.
It’s 9 o’clock in Eastern Indonesia, but it’s 8 o’clock in the Philippines.
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 51 Ex. 1 ครูอ่านคาสงั่ Read and answer the questions. หลงั จากน้นั ครูถามนกั เรียน
วา่ If it’s seven o’clock in Myanmar, what time is it in Vietnam? ครูให้เวลานกั เรียนกลบั ไปดูภาพ
นาฬกิ าในหนงั สือเรียน หนา้ 50 อีกคร้ัง แลว้ ตอบคาถามปากเปลา่ If it’s seven o’clock in Myanmar,
it’s half past seven o’clock in Vietnam. ครูทาเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ ทเี่ หลือ เสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียน
เขยี นคาตอบลงในสมดุ ของตนเอง
1 It’s half past seven in Vietnam.
2 It’s nine o’clock in Singapore.
3 It’s five o’clock in Malaysia.
360
2. ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ผลดั กนั ถาม-ตอบเก่ียวกบั เวลาในประเทศอาเซียน โดยครูเตรียมบตั รภาพธงชาติ
ของประเทศอาเซียนไว้ แลว้ ใหแ้ ต่ละคู่ออกมาเลอื กประเทศ โดยครูกระตนุ้ ให้นกั เรียนพดู ขอบตั รภาพ
ดว้ ยประโยค Can we have …, please? เช่น Can we have Singapore and Thailand, please? เม่อื ไดร้ ับ
บตั รภาพแลว้ ให้แต่ละค่แู ต่งประโยคถาม-ตอบเกี่ยวกบั เวลาในประเทศอาเซียน และฝึกพดู ใหค้ ล่อง
ตวั อยา่ ง S1: If it’s nine o’clock in Singapore, what time is it in Thailand?
S2: It’s eight o’clock.
S1: If it’s nine o’clock in Thailand, what time is it in Singapore?
S2: It’s ten o’clock. etc.
กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครูใหน้ กั เรียนดูคลิป One moment around the world และตอบคาถามเก่ียวกบั เวลาในประเทศต่าง ๆ
ทว่ั โลกที่เวบ็ ไซต์ http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories/one-moment-around-
the-world
ข้นั Production
1. หนังสือเรยี น หน้า 51 ข้อ 2 หวั ข้อ Over to you ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ จากน้นั ครูอธิบายภาระงานว่า
ให้แตล่ ะกลมุ่ ทาโปสเตอร์เวลาในประเทศตา่ ง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยสมมติว่า ขณะน้ีเป็นเวลา
8 นาฬิกาในประเทศไทย ให้นกั เรียนวาดนาฬกิ าและเขยี นบอกเวลาในประเทศอืน่ อกี 3 ประเทศ ตกแต่ง
ให้สวยงาม เสร็จแลว้ ให้ตวั แทนแตล่ ะกลุ่มออกมาพดู รายงานเวลาในประเทศตา่ ง ๆ ทีน่ กั เรียนเลอื กมา
หากนกั เรียนตอ้ งการรู้เวลาของประเทศอนื่ ๆ นอกจากประเทศในอาเซียน ครูแนะนาเวบ็ ไซต์
ให้นกั เรียนไปตรวจสอบเวลาดงั ต่อไปน้ี
http://www.timeanddate.com/worldclock/
2. ครูให้นกั เรียนกลุม่ เดิมคน้ หาขอ้ มลู จากในอินเทอร์เน็ตวา่ เวลาในประเทศไทยต่างจากประเทศตอ่ ไปน้ี
ก่ีชวั่ โมง โดยระบุว่า เร็วกวา่ หรือชา้ กวา่
England Japan The US Australia
ครูอธิบายว่า บางประเทศมหี ลาย time zone นกั เรียนอาจตอ้ งระบุช่ือเมืองดว้ ย เช่น the US จากน้นั ครู
บอกคาที่ใชใ้ นการคน้ หาขอ้ มลู คอื time difference between Thailand and _________. โดยในการเขยี น
ตอบ ให้นกั เรียนใชโ้ ครงสร้างต่อไปน้ี (ประเทศ) is (ตวั เลข) hours ahead of (ประเทศ).
ครูอธิบายว่า ahead มีความหมายว่า ลว่ งหนา้ และให้นกั เรียนวาดภาพนาฬกิ าท้งั ของไทยและ
ประเทศอื่นประกอบดว้ ย
361
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 42-43 หวั ข้อ Modular Revision and Assessment 4
Exs. 1-7 เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบพร้อมกนั
แบบฝึ กหดั หน้า 43 Ex. 6
Narrator: Listen and circle.
What time does Peter get up?
Female: What time do you get up, Peter? At six?
Male: Six? No, I get up at seven o’clock.
Female: Oh, I get up at seven o’clock, too!
Narrator: Can you see the example? Now, you listen and choose the right time.
One
When does Andy go to school?
Female: What time do you go to school, Andy?
Male: At eight o’clock.
Female: At nine o’clock?
Male: No, I go to school at eight o’clock.
Two
What time does Sue eat lunch?
Female: What time do you eat lunch, Sue? Do you eat lunch at three o’clock?
Male: Three o’clock? No, I eat lunch at one o’clock.
Female: At one o’clock?
Male: Yes!
Three
What time does Harry go to the gym?
Female: When do you go to the gym, Harry? Do you go at five o’clock?
Male: No, I don’t. I always go to the gym at seven o’clock.
Female: At seven o’clock?
Male: Yes! That’s right!
362
Ex. 1 3 Tuesday 5 Sunday
1 Monday 4 Thursday
2 Saturday
Ex. 2 2 breakfast 3 school
1 dinner
Ex. 3 5a
1a 2b 3a 4a
Ex. 4
1 Judy tidies her room every afternoon.
2 Tom goes to the cinema on Sundays.
3 Mandy washes the dog on Saturdays.
4 We go to the gym every Thursday.
5 I do my homework every day.
Ex. 5 3a
1a 2b
Ex. 6 3b
1a 2a
Ex. 7
1 no 2 no 3 yes 4 yes 5 no
363
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมินช้ินงานโปสเตอร์เวลาของ แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ผ่านเกณฑ์
ตรวจการคน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั ความ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ ร้อยละ 60
แตกต่างระหว่างเวลาของไทยกบั เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์
ประเทศอนื่ ๆ
สังเกตการพูดขอร้องในช้นั เรียน แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้
เรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีการใฝ่เรียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
และมงุ่ มนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณ์ทาโปสเตอร์
8.5 บตั รภาพ
8.6 อนิ เทอร์เนต็
364
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 CLIL 4 Animals – Day and Night
เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวท์ หี่ ากินตอนกลางวนั และกลางคนื ได้
- เขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สตั วท์ ่ีหากินในตอนกลางวนั และกลางคนื ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพอื่ ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพูดและการเขยี น
ตวั ชี้วดั
ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วดั
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกบั วยั
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ชีว้ ดั
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และนาเสนอดว้ ย
การพดู /การเขียน
365
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณท์ ่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตวั ชี้วดั
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั ว์ ช่วยให้ใชภ้ าษาองั กฤษในการสืบคน้ และเช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่ม
สาระวิชาอื่นไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Feathers and Functions
Structure: We sleep in the daytime. We come out at night to look for food.
We look for food in the daytime. We sleep at night.
Vocabulary: (Daytime animals) giraffe, horse, elephant, canary, deer
(Nighttime animals) bat, koala, owl, hedgehog
Function: ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ช่ือสตั วท์ ีห่ ากินตอนกลางวนั และกลางคนื
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สตั วท์ หี่ ากินตอนกลางวนั และกลางคนื
Writing: เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั สัตวป์ ระจาชาติ
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ีใชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการสารวจคน้ หา
366
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล
- ทกั ษะการจดั กลมุ่
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั วต์ ่าง ๆ โดยครูเขียน Animals บนกระดาน จากน้นั ให้นกั เรียนระดม
ความคิดพดู บอกคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สตั วท์ ่นี กั เรียนรู้จกั โดยครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียน
เป็นรูปแบบ mind map
lion
fish tiger
bird dog
animals
rabbit cat
sheep mouse
2. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยการถามนกั เรียน 2-3 คาถาม เช่น
T: Do you like going to the zoo?
S1: Yes, I do.
T: What’s your favourite animal?
S1: I like tigers. etc.
367
ครูอาจนาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการเปิ ดคลิปวดิ ีโอเกี่ยวกบั ชีวิตของ foxes หรือ owls ให้
นกั เรียนดู เพ่อื กระตนุ้ ความสนใจจากนกั เรียน โดยเขา้ ไปท่ี
http://www.activityvillage.co.uk/foxes หรือ http://www.activityvillage.co.uk/owls
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สัตว์ ไดแ้ ก่ giraffe (ยีราฟ), horse (มา้ ), elephant (ชา้ ง), canary (นกขมนิ้ ),
deer (กวาง), bat (คา้ งคาว), koala (หมโี คอาลา่ ), owl (นกฮกู ), hedgehog (เมน่ ), fox (สุนขั จิง้ จอก)
โดยครูติดบตั รภาพบนกระดาน จากน้นั ครูช้ีไปทแี่ ตล่ ะภาพและออกเสียงให้นกั เรียนฟังและฝึกออกเสียง
ตาม โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรียนลงเสียงหนกั ในคาท่มี มี ากกว่า 1 พยางค์ ดงั น้ี
giraffe elephant canary
koala hedgehog
นกขมนิ้ (canary) มขี นาดเท่านกเอ้ยี ง หางส้นั ลาตวั เป็นสีเหลือง มบี างชนิดเป็นสีอน่ื บา้ ง
จะงอยปากแขง็ แรงและงมุ้ ลง ปี กยาวแหลม นกตวั ผมู้ สี ีสดใสสวยงามกว่านกตวั เมีย อาหารของ
นกขมิ้น คอื หนอนและแมลงขนาดเล็ก
ค้างคาว (bat) เป็นสัตวห์ ากินตอนกลางคนื และเป็นสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยน้านมเพยี งชนิดเดียวที่
มีปี กและสามารถบนิ ได้ มีขนทว่ั ตวั ขาหนา้ เปลีย่ นเป็นปี กทมี่ แี ผ่นพงั ผืดบาง ๆ โยงระหวา่ ง
นิ้ว จากขาหนา้ จนถึงขาหลงั ขาหลงั ส้ัน มกี รงเลบ็ และฟันที่แหลมคม อาหารของคา้ งคาว คอื
แมลงและพืช
โคอาลา (koala) เป็นสตั วเ์ ล้ียงลูกดว้ ยน้านม จาพวกพอสซมั (possum) ตวั เมียจะมกี ระเป๋ าหนา้ ทอ้ ง
สาหรบั ให้ลกู อ่อนอาศยั อยู่ การท่โี คอาลามีลกั ษณะรูปร่างหนา้ ตาคลา้ ยสัตวใ์ นตระกลู หมี
ทาใหค้ นส่วนใหญ่เรียกวา่ "หมีโคอาลา" หรือ "หมีตน้ ไม"้ อาหารของโคอาลา คอื ตน้ ยคู าลิปตสั
นกฮูก (owl) มรี ูปใบหนา้ คลา้ ยแมว ซ่ึงเป็นทมี่ าของช่ือสามญั คอื นกเคา้ แมว เป็นสัตวห์ ากิน
ตอนกลางคนื นกฮกู จะจบั สัตวเ์ ลก็ ๆ กินเป็นอาหาร เช่น หนู งู นกฮูกมีเล็บโคง้ แหลมและมี
ปากงมุ้ แหลมสาหรบั จบั สัตวก์ ิน มีดวงตาโตกวา่ เหย่ยี วและอนิ ทรีมาก ดวงตาอยดู่ า้ นหนา้ ของ
ใบหนา้ เหมอื นมนุษยแ์ ละสัตวต์ ระกลู แมว หวั หมนุ ไดเ้ กือบรอบตวั
368
เฮดจ์ฮอก (hedgehog) เป็นสตั วเ์ ล้ยี งลูกดว้ ยน้านมขนาดเล็ก มลี กั ษณะคลา้ ยเม่น แต่มีขนาดเล็ก
กว่ามากและหนามส้นั กว่ามาก มสี ่วนใบหนา้ คลา้ ยหนู แต่มจี มูกท่เี รียวยาวท่ขี มบุ ขมบิ สาหรับ
ดมกลิน่ อยตู่ ลอดเวลา อาหารของเฮดจฮ์ อก คอื แมลงขนาดเลก็
ท่มี า: https://th.wikipedia.org/wiki/นกขมิน้
https://zooacademy.wordpress.com/2011/12/16/ค้างคาว
https://th.wikipedia.org/wiki/โคอาลา
http://www.mwit.ac.th/~physicslab/content_01/sutut/owl.html
https://th.wikipedia.org/wiki/เฮดจ์ฮอก
2. ครูนาเสนอคาว่า nighttime (เวลากลางคนื ), nocturnal (กลางคืน), daytime (เวลากลางวนั ), herbivore
(สัตวก์ ินพชื ), carnivore (สตั วก์ ินเน้ือ) โดยเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน เสร็จแลว้ ครูเขียนตวั อยา่ งประโยค
บนกระดานและให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย
Daytime animals are those animals that look for food during the day.
Nighttime animals are those animals that sleep during the day and look for food at night.
(= Nocturnal)
Nocturnal animals are those animals that come out at night to look for food.
Herbivores are animals that eat only plants or plant eaters.
Carnivores are animals that eat meat.
nocturnal animals หรือ nighttime animals สตั วเ์ หล่าน้ีออกมาหากินตอนกลางคนื กเ็ พราะวา่ สัตว์
บางจาพวกตอ้ งการหลีกเลี่ยงจากสัตวท์ ี่จะมาลา่ พวกมนั เป็นอาหาร หรือสัตวบ์ างจาพวกจะมี
สมั ผสั ทพี่ เิ ศษ เช่น ในดา้ นการมองเห็น เพราะมเี ซลลร์ ูปแท่ง (rod cell) ทาหนา้ ท่ีรบั แสงสว่าง
ที่ไวมาก สามารถมองเห็นภาพขาว-ดา เซลลร์ ูปแทง่ จะไวเฉพาะตอ่ แสงท่มี คี วามเขม้ นอ้ ย
โดยจะไม่สามารถจาแนกสีของแสงน้นั ได้ หรือสตั วบ์ างชนิดมีความสามารถในการไดย้ ิน
เป็นพิเศษ เช่น คา้ งคาวใชห้ ูฟังเสียงสะทอ้ นจึงทาใหม้ นั รู้ตาแหน่งและลกั ษณะของเหยื่อ
การสังเคราะหข์ อ้ มูลที่ไดร้ ับทาให้มนั สามารถหาอาหาร และหลบหลีกศตั รูได้
ทม่ี า: http://www.buzzle.com/articles/facts-about-nocturnal-animals.html
http://www.seaturtlecamp.com/nocturnal-adaptations/
369
3. ครูเขยี นตารางตอ่ ไปน้ีบนกระดาน Nighttime Animal
Daytime Animal
จากน้นั ครูเขียนชื่อสัตว์ ตอ่ ไปน้ี giraffe, horse, elephant, canary, deer, bat, koala, owl, hedgehog, fox
ครูให้นกั เรียนช่วยกนั แยกประเภทสัตวท์ ห่ี ากินตอนกลางวนั และสัตวท์ ีห่ ากินตอนกลางคืน ครูเขียนช่ือ
สัตวท์ ่ีนกั เรียนบอกลงในตาราง เสร็จแลว้ ครูตรวจความถูกตอ้ งอกี คร้ัง
4. ครูเขียนช่ืออาหารท่สี ัตวช์ อบรับประทานบนกระดาน ดงั น้ี grass (หญา้ ), fruits (ผลไม)้ , meat (เน้ือ),
Eucalyptus trees (ตน้ ยคู าลิปตสั ), insects (แมลงตา่ ง ๆ) จากน้นั ครูถามนกั เรียน ดงั น้ี
T: What do elephants eat?
Ss: They eat grass and fruits.
T: Very good. What do hedgehogs eat?
Ss: They eat insects.
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั สตั วป์ ระเภทอืน่ ดว้ ย
ข้นั Practice
1. ครูเขียนคาวา่ elephants บนกระดาน จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ถามคาถามตอ่ ไปน้ี
T: What do elephants eat?
S1: They eat grass and fruits.
T: When do they sleep?
S2: They sleep at night.
T: When do they look for food?
S3: They look for food in the daytime.
T: What do they look like?
S4: They’ve got a big body, big ears and long nose.
จากน้นั ครูให้นกั เรียนจบั คู่ พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั สตั วช์ นิดอน่ื ต่อมาครูบอกนกั เรียนว่า An elephant is
the national animal of Thailand. ครูถามนกั เรียนวา่ national animal หมายความว่าอยา่ งไร เม่ือได้
คาตอบว่า สัตวป์ ระจาชาติแลว้ ครูถามเก่ียวกบั สัตวป์ ระจาชาติของประเทศองั กฤษ สิงคโปร์ และ
สหรฐั อเมริกา เช่น
370
T: What is the national animal of England?
Ss: It’s a lion.
T: What is the national animal of Singapore?
Ss: It’s a lion too.
T: What is the national animal of the US?
Ss: It’s an eagle.
ช้าง (elephant) เป็นสตั วป์ ระจาชาติของประเทศไทย จดั เป็นสัตวเ์ ล้ียงลกู ดว้ ยน้านมทมี่ ีขนาด
ใหญท่ ี่สุดในโลก เป็นสัตวก์ ินพชื ผิวหนงั หนา มีใบหูขนาดใหญ่ มงี วงติดกบั จมูกและริมฝีปาก
มีงางอกออกมาจากขากรรไกรดา้ นบน
สิงโต (lion) เป็นสตั วป์ ระจาชาตขิ องประเทศองั กฤษและสิงคโปร์ มขี นาดลาตวั ใหญเ่ ท่ากบั
เสือโคร่ง พ้ืนลาตวั สีน้าตาล ไมม่ ลี าย ตวั ผูเ้ มือ่ โตเตม็ วยั จะมีขนแผงคอยาว ซ่ึงต่างกบั ตวั เมยี
ทีไ่ ม่มีขนแผงคอและมขี นาดลาตวั เลก็ กว่า สิงโตเป็นสัตวก์ ินเน้ือ
นกอินทรี (eagle) เป็นนกลา่ เหย่ือขนาดใหญ่ และเป็นสตั วป์ ระจาชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา
นกอนิ ทรีจดั เป็นนกท่ีกินเน้ือเป็นอาหาร มีโครงสร้างทางกายภาพท่แี ข็งแรง มีลกั ษณะสวยงาม
บินเร็ว สายตาเฉียบคม จดั ว่าเป็นนกท่สี ายตาดีท่ีสุดในโลก
ทม่ี า: https://th.wikipedia.org/wiki/ช้าง
https://th.wikipedia.org/wiki/สิงโต
https://th.wikipedia.org/wiki/อินทรี
กิจกรรมเพิม่ เตมิ
ครูเปิ ดคลปิ ชื่อ The Cat in the Hat - I Love the Nightlife Nocturnal animals จากเวบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=aO6ro42ZlWw ให้นกั เรียนดูและตอบคาถาม
หรือให้นกั เรียนไปดดู ว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั เช่น nocturnal animals ใหน้ กั เรียน
เขา้ ไปเปิ ดดูดว้ ยตนเองท่ี www.youtube.com
2. แบบฝึ กหดั หน้า 70 Ex. 1 ครูอา่ นคาส่ังให้นกั เรียนฟัง จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง 1 รอบ ให้
นกั เรียนฝึกออกเสียงตามจนคลอ่ ง และเดาความหมายของคาศพั ทจ์ ากภาพ
giraffe koala hedgehog canary
horse bat elephant owl
371
จากน้นั ครูอ่านประโยคในกรอบขอ้ ความทีละประโยค แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นตามพร้อมกนั ตอ่ มาครูช้ีท่ี
ยีราฟแลว้ ถามนกั เรียน เช่น
T: (ช้ีทยี่ ีราฟ) What is it?
Ss: It is a giraffe.
T: Is it a daytime animal or a nighttime animal?
Ss: It is a daytime animal.
ครูทาเช่นน้ีจนครบสัตวท์ ุกตวั แลว้ ให้เวลานกั เรียนลากเสน้ จบั คู่สัตวท์ ห่ี ากินตอนกลางวนั และตอน
กลางคนื ให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียนบนกระดานและตรวจความถกู ตอ้ ง
daytime animals: giraffe, canary, horse, elephant
nighttime animals: koala, hedgehog, bat, owl
3. แบบฝึ กหัด หน้า 71 Ex. 2 ครูอา่ นคาสั่ง Colour the daytime animals green. Colour the nighttime
animals red. แลว้ อธิบายภาระงานว่า ให้นกั เรียนระบายสีสตั วท์ หี่ ากินตอนกลางวนั เป็นสีเขยี ว และ
ระบายสีสัตวท์ ห่ี ากินตอนกลางคนื เป็นสีแดง โดยครูช้ีไปที่นกฮกู และถามนกั เรียนวา่ What is it?
Is it a daytime animal or a nighttime animal? เม่ือไดค้ าตอบแลว้ ใหน้ กั เรียนระบายสีทก่ี าหนด
จากน้นั ครูใหเ้ วลานกั เรียนทากิจกรรมดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบโดยถามนกั เรียน ดงั น้ี
T: How many daytime animals are there?
Ss: There are four daytime animals.
T: What are they?
Ss: They are giraffe, horse, elephant and canary.
T: How many nighttime animals are there?
Ss: There are four nighttime animals.
T: What are they?
Ss: They are bat, koala, owl and hedgehog.
T: Very good!
green: horse, sheep, dog, deer, cat
red: owl, bat, mouse
372
4. แบบฝึ กหัด หน้า 71 Ex. 3 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและดเู น้ือเพลงตามไปดว้ ย จากน้นั ครูเปิ ด CD
อีกคร้ัง เพอ่ื ใหน้ กั เรียนฟังและฝึกร้องตาม
5. ครูแบง่ กระดานเป็น 2 ฝั่ง ฝ่ังแรกเขยี น Daytime animals และอีกฝั่งเขยี น Nocturnal animals จากน้นั ครู
แจกบตั รภาพสตั วใ์ หน้ กั เรียนคนละ 1 ใบ แลว้ อธิบายว่า ใหน้ กั เรียนนาบตั รภาพสตั วท์ ี่นกั เรียนไดไ้ ปตดิ
บนกระดานให้ถูกตอ้ ง
6. ครูให้นกั เรียนจบั คู่เพือ่ ฝึกพูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั สตั วใ์ นแบบฝึกหดั หนา้ 70
ตวั อยา่ ง S1: What do bats eat?
S2: They eat insects and vegetables.
S1: When do they sleep?
S2: They sleep at day.
S1: When do they look for food?
S2: They look for food in the nighttime.
S1: What do they look like?
S2: They’ve got a small body, small ears and small yellow eyes. etc.
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนทาสมุดภาพรวบรวมคาศพั ทช์ ื่อสตั วท์ ี่ออกหากินตอนกลางวนั และกลางคนื เพมิ่ เตมิ มา
อยา่ งละ 5 ชนิด จากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ เช่น อนิ เทอร์เน็ตหรือหนงั สือเรียน จากน้นั ให้นาภาพ
มาตดิ ในกระดาษ A4 พร้อมระบายสีใหส้ วยงาม โดยเขียนหวั ขอ้ Daytime Animals และ Nighttime
Animals ให้ชดั เจน
2. ให้นกั เรียนทาโปสเตอร์สตั วป์ ระจาชาติของไทย องั กฤษ และอเมริกา รวมท้งั ประเทศอืน่ ๆ ในภูมภิ าค
อาเซียน โดยนาภาพมาตดิ และเขยี นประโยคโดยใชโ้ ครงสร้าง … is the national animal of …
ครูแนะนาแหลง่ ในการคน้ หาขอ้ มลู ให้กบั นกั เรียน เช่น
http://www.kidsplayandcreate.com/amazing-animal-facts-for-kids/
http://www.sciencekids.co.nz/sciencefacts/animals.html
373
7. การวัดและประเมินผล
วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงานสมดุ ภาพสัตวท์ อ่ี อกหา แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
กินตอนกลางวนั และกลางคนื ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชิ้นงานโปสเตอร์สตั วป์ ระจา แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ชาติ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและให้ขอ้ มูล แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้
เก่ียวกบั สตั ว์ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้และ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
มุ่งมนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อุปกรณท์ าสมุดภาพ/โปสเตอร์
8.5 บตั รภาพ
8.6 อนิ เทอร์เน็ต
374
F 5 My Favourite Season
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง
1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ติ ามคาสัง่ คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทีฟ่ ังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูด
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรือสัญลกั ษณห์ รือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสัง่ คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์
งา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน และครอบครัว
ต 1.2 ป.4/5 พดู แสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ
ตามแบบที่ฟัง
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
375
ตัวชี้วัด พูด/เขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/1
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสัมพนั ธข์ องสิ่งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ตามทีฟ่ ังหรืออ่าน
ต 1.3 ป.4/3 พูดแสดงความคดิ เห็นง่าย ๆ เก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั
สาระที่ 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.1 ป.4/1 พูดและทาท่าประกอบอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถกู ต้อง
ตัวชีว้ ัด
ต 2.2 ป.4/1 บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ต 2.2 ป.4/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น
พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ชีว้ ัด
ต 3.1 ป.4/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เี่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื และนาเสนอดว้ ย
การพูด/การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท่เี กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
376
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลย่ี นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชีว้ ัด
ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเรื่องทไ่ี ดศ้ ึกษา คาศพั ทส์ านวนและโครงสร้างภาษา ช่วยใหส้ นทนา เขียนโตต้ อบ
พูด/เขียนส่ือสารเกี่ยวกบั ฤดู และสถานการณ์ที่กาหนดไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Can I help? Yes, make a hole.
Tidy your room! Don’t go out! In spring Zara plants flowers.
I like spring because I like gardening! Me too!
Does Oscar like sailing? Yes, he does. No, he doesn’t.
Make a small hole. Put some seeds in the hole. Then cover and
water the seeds.
I like listening to music and dancing. I like horse riding, too!
I like dogs very much. Do you like playing basketball? Yes, I do.
I like coffee. I like tea. I like swimming in the sea!
Winters are cold and snowy. You can go skiing, snowboarding and
ice skating. Summers are fun in Vermont, too! You can go hiking,
play golf, or go mountain biking.
- In the north of Vietnam, cool season is from November to April.
The apple tree is full of blossoms. The apple tree is full of green
leaves. The apple tree is full of apples. The apple tree
is empty. There are no leaves or apples on the tree.
377
Vocabulary: (Months) January, February, March, April, May, June, July,
August, September, October, November, December
(Seasons) spring, summer, autumn, winter
(Activities) gardening, skiing, snowboarding, ice skating, fishing,
canoeing, trekking, hiking, snorkelling
(Nouns) hole, seed, flower, climate, puppet show, typhoons, tea,
sea, cake, pool, laves, blossoms
(Verbs) plant, cover, water, grow, catch, swim, jump, run, sail
(Adjectives) wet, full, empty
(Phrases) go hiking, play golf, go mountain biking
Pronunciation: ออกเสียงคาท่ีประกอบดว้ ย m, ลงเสียงหนกั ในคา, ออกเสียงคาท่มี ี z
ประกอบ, ออกเสียงคาท่ีมี t ประกอบ, ออกเสียงคาที่ลงทา้ ยดว้ ยเสียง
/k/
Function: เสนอความช่วยเหลือและออกคาสง่ั , บอกกิจกรรมทีท่ าในฤดกู าล
ตา่ ง ๆ, บอกฤดกู าลทช่ี ื่นชอบและกิจกรรมท่ชี อบทา, บอกส่ิงทชี่ อบ
และไม่ชอบ, บอกกิจกรรมทีช่ อบทา
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พูดเสนอความช่วยเหลอื และออกคาส่งั , พดู บอกกิจกรรมท่ีทาใน
ฤดกู าลต่างๆ, พูดเก่ียวกบั กิจกรรมท่ชี ่ืนชอบและกิจกรรมทีช่ อบทา,
พูดแสดงบทบาทสมมติ, พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั ส่ิงทีช่ อบและไมช่ อบ,
พูดบอกกิจกรรมท่ีชอบ, พดู นาเสนอเกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีทาในฤดูกาล
ต่าง ๆ ในประเทศของตนเอง, พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมที่
ชอบทา
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน, อ่านเน้ือเพลง
Writing: เขยี นจดหมายถึง Penfriend, เขียนนาเสนอเก่ียวกบั กิจกรรมทท่ี าใน
แตล่ ะฤดกู าล, เขียนบรรยายเกี่วกบั กิจกรรมทท่ี าในฤดกู าลตา่ ง ๆ ใน
ประเทศของตนเอง, เขยี นนาเสนอการเปลี่ยนแปลงของตน้ ซากรุ ะใน
แต่ละฤดู
378
3) Culture: ฤดูกาลในสหราชอาณาจกั ร, ประวตั ิความเป็นมาของวนั ฮาโลวนี ,
กิจกรรมท่ีคนองั กฤษชอบทา, กีฬาทีน่ ิยมเลน่ ในประเทศองั กฤษ,
มารยาทในการเขยี นจดหมาย, กิจกรรมท่ที าในแต่ละฤดใู นรฐั
เวอร์มอนต์ (Vermont) ประเทศสหรัฐอเมริกา, กิจกรรมหรือ
สถานท่ีท่องเทยี่ วในประเทศเวยี ดนามและฟิลปิ ปิ นส์ในฤดูกาล
ต่าง ๆ, การทกั ทายและขอบคุณของชาวตะวนั ตกและอาเซียน
4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
4.3 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดทีใ่ ชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู
- ทกั ษะการสารวจ
4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.3 มจี ิตสาธารณะ
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ชิ้นงานโปสเตอร์นาเสนอคาศพั ทส์ ่วนต่าง ๆ ของพชื , คาศพั ทท์ ีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/, กิจกรรมทท่ี าใน
ฤดูกาลต่าง ๆ ของรฐั อ่นื ๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา, My favourite season และ My cheery tree
2. ชิ้นงานกิจกรรมทที่ าในฤดูกาลตา่ ง ๆ และคาคลอ้ งจอง
3. ชิ้นงานการสารวจกิจกรรมทชี่ อบทาในแตล่ ะฤดูกาล
4. การพูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจกรรมท่นี กั เรียนชอบและไม่ชอบ
5. การแสดงบทบาทสมมติ
6. การเขียนจดหมายถึง Penfriend
379
7 การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน
- ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน ประจาหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5
7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ทาแบบฝึกหดั ใน Workbook หนา้ 44-51
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
- ทาแบบประเมินหลงั เรียน ประจาหน่วยการเรียนรู้ที่ 5
7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ ชิ้นงานในขอ้ 6
8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 กระดาษ A4 ดินสอสี กาว และกรรไกร
8.5 บตั รภาพ/บตั รคา
8.6 บตั รภาพ Story Cutout
8.7 ลูกแอปเปิ ล
8.8 อนิ เทอร์เน็ต
380
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 Can I help? Yes, make a hole. เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ฤดกู าลได้
- ใชแ้ ละปฏบิ ตั ติ ามคาสง่ั ได้
- พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ฤดูกาลและเทศกาลตา่ ง ๆ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
ตวั ชีว้ ัด อย่างมีเหตุผล
ต 1.1 ป.4/1
ต 1.1 ป.4/2 ปฏิบตั ติ ามคาส่งั คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) งา่ ย ๆ ที่ฟังหรืออา่ น
อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
ต 1.1 ป.4/3 เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
มาตรฐาน ต 1.2 และขอ้ ความส้ัน ๆ ทีฟ่ ังหรืออ่าน
มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
ตวั ชีว้ ัด แสดงความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ต 1.2 ป.4/2
ต 1.2 ป.4/4 ใชค้ าส่งั คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
พดู /เขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขียน
ตัวชีว้ ดั
ต 1.3 ป.4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของสิ่งต่าง ๆ ใกลต้ วั ตามทฟี่ ังหรืออ่าน
สาระท่ี 2 ภาษากับวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
381
ตวั ชีว้ ดั
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ ่าย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป.4/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกบั วยั
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชีว้ ดั
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณท์ ี่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ฤดกู าลและการปลูกตน้ ไม้ และประโยคคาสั่งและเสนอ
ความช่วยเหลือ ช่วยให้เสนอความช่วยเหลือและปฏิบตั ิตามคาส่ังไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Can I help? Yes, make a hole.
Vocabulary: (Months) January, February, March, April, May, June, July,
August, September, October, November, December
(Seasons) spring, summer, autumn, winter
(Nouns) hole, seed, flower
(Verbs) plant, cover, water, grow
Pronunciation: ออกเสียงคาท่ีประกอบดว้ ย m, ลงเสียงหนกั ในคา (word stress)
Function: เสนอความช่วยเหลอื และออกคาสั่ง
2) Language Skills
Listening: ปฏิบตั ติ ามคาส่ัง
Speaking: พูดเสนอความช่วยเหลอื และออกคาสั่ง
3) Culture: ฤดูกาลในสหราชอาณาจกั ร
382
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ท่ใี ชใ้ นการส่ือสาร
- ทกั ษะคดิ วเิ คราะห์
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียนวา่ How are you? เมือ่ นกั เรียนพดู ตอบแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คน พดู ตอบ เช่น
T: How are you?
S1: I’m great.
T: How are you?
S2: I’m good.
2. ครูบอกนกั เรียนว่า กอ่ นเรียนวนั น้ีเราจะมาออกกาลงั กายกนั โดยให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิตามคาส่ังที่ครูพูด
จากน้นั ครูพูดออกคาสง่ั และใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตาม ดงั น้ี
T: stand up (ยืนข้ึน), sit down (นงั่ ลง), stand up (ยืนข้ึน), hands up (ยกมอื ท้งั สองข้ึน),
hands down (เอามือลง), clap your hands (ปรบมอื ), turn around (หมนุ 1 รอบ),
stamp your feet (กระทืบเทา้ )
กอ่ นให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิ ครูอาจเปิ ดคลิปวิดีโอ Classroom Commands, English for Children
Good TPR Lesson จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ีใหน้ กั เรียนดกู อ่ น
https://www.youtube.com/watch?v=fuZktwZKYNE
383
3. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ช่ือเดือนดว้ ยการแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ ยอ่ ย จากน้นั ครูแจกบตั รคาชื่อเดือน
ท้งั 12 เดือน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ แลว้ ใหแ้ ขง่ กนั เรียงชื่อเดือนตามลาดบั ให้ถูกตอ้ ง กลมุ่ ที่เรียงเสร็จเป็นกลุ่ม
แรก ใหอ้ า่ นออกเสียงชื่อเดือนท้งั 12 เดือน พร้อมกนั และใหเ้ พื่อนกลมุ่ อืน่ ตรวจว่า ถกู ตอ้ งหรือไม่
ให้กลมุ่ อ่ืนเรียงลาดบั ช่ือเดือนของกลมุ่ ตวั เองใหเ้ สร็จ แลว้ อา่ นออกเสียงช่ือเดือนอกี คร้ัง
January February March April
May June July August
September October November December
ครูสามารถเขา้ ไปดาวน์โหลดบตั รคาชื่อเดือนไดจ้ ากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://www.activityvillage.co.uk/month-word-cards
4. ครูสอนคาบุพบท before (ก่อน) และ after (หลงั ) แลว้ ยกตวั อยา่ งให้นกั เรียนดู เช่น
January comes before February. May comes after April.
จากน้นั ครูถามคาถามนกั เรียนเก่ียวกบั ลาดบั ท่ขี องเดือนต่าง ๆ ดว้ ยคาถามต่อไปน้ี
T: Which month comes before November?
Ss: October.
T: Which month comes after November?
Ss: December?
T: Which month comes before February?
Ss: January.
T: Which month comes after May?
Ss: June.
T: Which month comes after June?
Ss: July.
ข้นั Presentation
1. ครูบอกนกั เรียนวา่ ฤดกู าลของตะวนั ตกจะตา่ งกบั ของไทย จากน้นั ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั
ฤดูกาลของทางตะวนั ตก ไดแ้ ก่ summer (ฤดูร้อน), autumn (ฤดูใบไมร้ ่วง), spring (ฤดูใบไมผ้ ล)ิ ,
winter (ฤดูหนาว) โดยการแสดงบตั รภาพฤดูต่าง ๆ บนกระดาน แลว้ ครูสอนนกั เรียนลงเสียงหนกั ใน
คาทม่ี ีมากกวา่ 1 พยางค์ ดงั น้ี
summer autumn winter
384
ฤดูกาลในสหราชอาณาจกั ร
1. ฤดูใบไม้ผลิ (spring) เริ่มต้งั แตเ่ ดือนมนี าคมถึงเดอื นพฤษภาคม ในฤดูน้ีจะมฝี นตก
พืชพนั ธุ์เร่ิมผลิดอกออกผล
2. ฤดูร้อน (summer) เริ่มต้งั แต่เดือนมถิ ุนายนถงึ เดอื นสิงหาคม ช่วงน้ีเป็นช่วงทอ่ี บอนุ่ ทสี่ ุด
ของสหราชอาณาจกั ร แตล่ ะวนั จะมีแดดยาวนาน อาจมีพายบุ า้ ง และบางปี อาจมีปรากฏการณ์
คลน่ื ความร้อน (heat wave) ดว้ ย
3. ฤดูใบไม้ร่วง (autumn) เริ่มต้งั แตเ่ ดือนกนั ยายนถึงเดือนพฤศจิกายน อากาศในฤดนู ้ีคอ่ นขา้ ง
อบอุ่น แห้ง และมีลมพดั แรง อุณหภูมิในฤดูน้ีจะลดลง
4. ฤดูหนาว (winter) เร่ิมจากเดือนธนั วาคมถงึ เดือนกุมภาพนั ธ์ เป็นฤดทู ่หี นาวทส่ี ุดในสหราช
อาณาจกั ร มีสภาวะอากาศทห่ี นาวเยน็ มาก อุณหภูมิติดลบและมหี ิมะตก
ท่มี า: http://www.educationuk.org/global/articles/weather-and-seasons/
ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกลกั ษณะสาคญั ของแต่ละฤดกู าลหรือส่ิงท่นี กั เรียนนึกถงึ ในแตล่ ะฤดกู าล เช่น
summer - hot, beach, sea, sun
spring - flowers, rain, green leaves
autumn - brown leaves, red leaves
winter - snow, cold, skiing
summer holiday หรือ summer break คอื วนั หยดุ ช่วงปิ ดภาคเรียนของโรงเรียน
ชาวอเมริกนั เรียกฤดูใบไมร้ ่วงวา่ fall ในขณะที่ชาวองั กฤษเรียกวา่ autumn
ครูเปิ ดคลปิ วดิ ีโอ Seasons Song ให้นกั เรียนฝึกร้อง หรือแนะนาให้นกั เรียนไปเปิ ดดแู ละฝึกร้อง
ดว้ ยตนเองท่ีบา้ น
ชื่อคลิปวดิ ีโอ SEASONS SONG ♫ | Learning & Teaching | Kids Songs | Pancake Manor
https://www.youtube.com/watch?v=ksGiLaIx39c
385
ครูสามารถเขา้ ไปดาวน์โหลดภาพฤดกู าลต่าง ๆ จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/The_Four_Seasons/FourSeasons_medium.pdf
http://www.activityvillage.co.uk/four-seasons
2. ครูถามนกั เรียนว่า รู้หรือไมว่ ่า ในแตล่ ะฤดูกาลของประเทศองั กฤษอยใู่ นช่วงเดือนไหนบา้ ง แลว้ ครูเปิ ด
คลปิ ชื่อ Learning seasons for kids. Four seasons of the year. จาก www.youtube.com ใหน้ กั เรียนดู
หรืออาจใชบ้ ตั รคาช่ือฤดูกาลและเดือนแทนก็ได้
คลิปช่ือ Learning seasons for kids. Four seasons of the year จาก www.youtube.com หรือ
เขา้ ไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=CmWspJkwt8g
3. ครูแสดงบตั รภาพ winter แลว้ ถามนกั เรียนวา่ What’s the weather like in winter? เพ่ือให้นกั เรียน
ทบทวนคาคณุ ศพั ทเ์ กี่ยวกบั สภาพอากาศที่เรียนมาในบทกอ่ นหนา้ น้ี ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั
บตั รภาพฤดูกาลอนื่ ๆ ดว้ ย เช่น
T: (ครูแสดงบตั รภาพฤดหู นาว) What’s the weather like in winter?
Ss: It’s cold.
T: (ครูแสดงบตั รภาพฤดรู ้อน) What’s the weather like in summer?
Ss: It’s hot.
4. นาเสนอคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั การปลูกตน้ ไม้ ไดแ้ ก่ hole (หลมุ ), seed (เมล็ด), plant (ปลกู ), cover
(กลบ), water (รดน้า), grow (ปลูก), flower (ดอกไม)้ โดยวาดภาพและเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน บางคา
อาจใชบ้ ตั รภาพหรือแสดงท่าทางประกอบ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั พูดบอกความหมาย
นอกจากน้ีครูอาจนาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อปุ กรณ์ทาสวนท่ีนกั เรียนควรรู้เพิม่ เตมิ เช่น watering can
(บวั รดน้า) โดยใชบ้ ตั รภาพหรือเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน
ครูสามารถดาวนโ์ หลดบตั รภาพเกี่ยวกบั ตน้ ไมจ้ ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Spring_1/page1.htm
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-plants.pdf
386
กิจกรรมเพมิ่ เตมิ
ครูเปิ ดคลิปวดิ ีโอเพลง The Planting Song ใหน้ กั เรียนฟังจากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=a44NFSiIn54&index=5&list=RDdUBIQ1fTRzI
จากน้นั ครูสอนคาศพั ทส์ าคญั เช่น ground (พ้ืนดิน), pour (รดน้า), around (รอบๆ), stem (ลาตน้ ,
กา้ น), ripe (สุก), pick (หยิบ, เก็บ), work (ทางาน), light (แสง), shine (ส่องแสง), round (กลม)
หรือบอกชื่อคลปิ The Planting Song - Earth Day Song for Children from Mother Goose Club
แลว้ ใหน้ กั เรียนไปเปิ ดฟังดว้ ยตนเองนอกเวลาเรียนในหอ้ งคอมพวิ เตอร์หรือทบี่ า้ น
5. นาเสนอคาเช่ือมทใี่ ชบ้ อกข้นั ตอน โดยครูเขียน first, then, after that, next, finally บนกระดาน พร้อม
ยกตวั อยา่ งประโยค ดงั น้ี
First, make a hole.
Then, put some seeds in the hole.
After that, cover the seeds.
Next, water the seeds.
Finally, wait for the seeds to grow.
คาเช่ือมบอกข้นั ตอน
First ใชบ้ อกสิ่งทีท่ าเป็นลาดบั แรก จะวางไวห้ นา้ ประโยค
Then ใชบ้ อกลาดบั ตอ่ มา อาจใชค้ าว่า next หรือ after that แทนกไ็ ด้
Finally ใชบ้ อกลาดบั หรือข้นั ตอนสุดทา้ ย
ประโยคคาส่ัง (Imperative clauses)
เราใช้ imperative clauses เมอื่ เราตอ้ งการแนะนาหรือส่ังให้ผูอ้ น่ื ทาสิ่งใดสิ่งหน่ึง โดยโครงสร้าง
คอื กริยารูป base form (ช่องที่ 1). ซ่ึงเราสามารถละประธานได้ เช่น
Have fun. Enjoy your meal.
Stop talking and open your books.
หากเป็นการส่ังห้ามทา จะใชโ้ ครงสร้าง Do not (Don’t) + กริยารูป base form (ช่องท่ี 1). เช่น
Don’t run. Do not talk while the teacher is teaching.
Don’t be late.
ที่มา: http://dictionary.cambridge.org/grammar/british-grammar/infinitives-and-
imperatives/imperative-clauses-be-quiet
387
6. ครูเขียน Can I help? บนกระดาน จากน้นั อธิบายว่า ประโยคดงั กลา่ วใช้เพอ่ื เสนอความช่วยเหลือ
นอกจากโครงสร้าง Can I help? แลว้ เรายงั สามารถใช้ May I help? ไดใ้ นสถานการณท์ ่เี ป็นทางการ
ส่วนคาตอบเป็น Yes/Sure/Of course. ถา้ ปฏเิ สธจะเป็น I’m sorry I can’t. I’m sorry. หรือ Sorry. ส้นั ๆ
ก็ได้ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ พดู โตต้ อบกนั เช่น
S1: Can I help?
S2: Sure!
S3: Can I help?
S4: I’m sorry I can’t.
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 52 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและพูดตาม จากน้นั ครูเปิ ด CD อีกคร้งั โดยหยดุ
เป็นคา ๆ เพอ่ื ให้นกั เรียนฝึกพดู ตามพร้อมกนั โดยครูกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนช้ีทค่ี าศพั ทด์ ว้ ย เสร็จแลว้ ครูอาจ
สุ่มเรียกนกั เรียนยืนข้ึนอ่านคาศพั ทท์ ลี ะคน
spring: March, April, May
summer: June, July, August
autumn: September, October, November
winter: December, January, February
hole, seed, plant, cover, water, grow, flower
ต่อมาครูนากล่อง 4 กลอ่ ง ซ่ึงแตล่ ะกลอ่ งตดิ ชื่อฤดกู าล winter, summer, spring, autumn มาวางไวท้ ่โี ต๊ะ
ครูหนา้ หอ้ ง จากน้นั ครูหยบิ กลอ่ งแตล่ ะกลอ่ งข้นึ มาแสดง และถามนกั เรียน เช่น
T: (ครูหยบิ กลอ่ งทต่ี ดิ ป้าย summer) What season is this?
Ss: It’s summer.
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีจนครบทกุ กล่อง
ครูหยบิ บตั รคาช่ือเดือนมาแสดงใหน้ กั เรียนดูทีละเดือน แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นช่ือเดือนตามครู จากน้นั ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 12 คน ออกมาท่ีหนา้ ช้นั ทีละคน ครูแจกบตั รคาชื่อเดือนใหก้ บั นกั เรียนแตล่ ะคน แลว้
ส่งั นกั เรียนว่า Put the month in the correct season. เมอ่ื นกั เรียนวางเสร็จแลว้ ครูหยิบบตั รคาในกล่องที่
นกั เรียนหยิบออกมา และถามนกั เรียนในช้นั ท่เี หลอื วา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ เช่น
T: Is February in winter?
Ss: Yes, it is.
388
ถา้ ถูกตอ้ ง ครูวางบตั รคาไวท้ ่ีกลอ่ งเดิม
T: Is June in winter?
Ss: No, it isn’t. June is in summer.
ถา้ ไมถ่ ูกตอ้ ง ครูนาบตั รคายา้ ยไปไวก้ ล่องทีถ่ กู ตอ้ ง
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีจนครบทกุ เดือน เสร็จแลว้ ครูหยิบบตั รคาจากกลอ่ งทีละกลอ่ งข้ึนมา แลว้ ให้
นกั เรียนพดู ประโยคตามครู
T: (ครูหยิบบตั รคาช่ือเดือนในกลอ่ ง winter ข้นึ มาแสดงทลี ะใบ)
December, January and February are in winter. Repeat after me.
Ss: December, January and February are in winter.
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั กลอ่ งท่ีเหลอื จนครบทุกกลอ่ ง
ต่อมาครูใหน้ กั เรียนอ่านคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั การปลกู ตน้ ไมแ้ ละช่วยกนั บอกความหมาย ครูอาจช่วย
ยกตวั อยา่ งประโยค เช่น
Make a hole.
Take a seed and put it in a hole.
Grow the plant.
Cover the plant.
Water the flower.
The plant grows and has flowers.
The flower is in full bloom.
2. หนังสือเรยี น หน้า 52 Ex. 2 ครูพูดกบั นกั เรียน Look at number 1 and read the speech bubble after me.
เพื่อให้อา่ นขอ้ ความในกรอบคาพดู ตามครู จากน้นั ให้นกั เรียนดูภาพในขอ้ 2 แลว้ ถามนกั เรียนวา่
Can I help? ใหน้ กั เรียนตอบ Yes, put the seeds in the hole. ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ ทเ่ี หลือ
2 A: Can I help?
B: Yes, put the seeds in the hole.
3 A: Can I help?
B: Yes, cover the seeds.
4 A: Can I help?
B: Yes, water the seeds.
389
3. ครูให้นกั เรียนจบั คู่ฝึกถาม-ตอบประโยคในหนงั สือเรียน หนา้ 52 Ex. 2 โดยให้สลบั คู่กบั เพ่อื น 1-2 คร้งั
จนคลอ่ ง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ พูดถาม-ตอบให้เพ่อื นฟังอีกคร้ัง
4. ครูทบทวนเดือนในฤดูตา่ ง ๆ โดยให้นกั เรียนพูดบอกว่าในแตล่ ะฤดมู ีเดือนอะไรบา้ ง เช่น
T: Summer
Ss: March, April, May
จากน้นั ครูวาดภาพวงกลมบนกระดาน แลว้ เขียนชื่อฤดูกาลลงในแตล่ ะช่อง โดยเรียงจาก spring,
summer, autumn, winter จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ ในแตล่ ะฤดกู าลมีเดือนอะไรบา้ ง เช่น What months
are in spring? There are three months. ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเร่ือย ๆ จนครบทุกฤดกู าล เมือ่ ไดค้ าตอบ
ว่าแตล่ ะฤดูกาลมเี ดือนอะไรแลว้ ครูถามนกั เรียนว่าเทศกาลทมี่ ชี ่ือเสียงของตะวนั ตกต่อไปน้ีอยใู่ น
ฤดกู าลใด เช่น
T: When is Christmas Day?
Ss: It’s on the 25th of December.
T: What season is Christmas Day in?
Ss: It’s in winter.
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีกบั เทศกาลอ่นื ๆ เช่น
Halloween (31st of October)
Easter Day (a Sunday in March or April)
Thanksgiving Day in the United States (the fourth Thursday of November)
Independence Day in the United States (the fourth of July)
เสร็จแลว้ ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพูดถาม-ตอบกนั ส้นั ๆ
กจิ กรรมเพิม่ เติม
ครูใหน้ กั เรียนดูคลิปวดิ ีโอ The lucky seed จากเว็บไซตต์ ่อไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories/the-lucky-seed
เสร็จแลว้ ครูถามคาถามเก่ียวกบั เร่ืองท่นี กั เรียนไดด้ ู เช่น
T: Why does the lucky seed need some water?
Ss: Because water helps the seed grow.
T: What does the seed become at the end of the video?
Ss: A tree.
หรือดาวนโ์ หลดใบงานจากเวบ็ ไซตด์ งั กลา่ วมาแจกให้นกั เรียนทา
390
5. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 4-5 คน และใหส้ มาชิกในแตล่ ะกลุม่ บอกข้นั ตอนในการปลกู
ตน้ ไม้ ครูเดินสังเกตและให้คาแนะนาท่ีจาเป็น จากน้นั ให้แตล่ ะกลมุ่ พูดนาเสนอวิธีการปลกู ตน้ ไม้
พร้อมท้งั แสดงท่าทางประกอบ เช่น
S1: First, make a hole.
S2: Next, take some seeds and put them in the hole.
S3: Then, cover the seeds.
S4: Water the flower. etc.
ข้นั Production
1. ให้แตล่ ะกลุ่มทาโปสเตอร์นาเสนอคาศพั ทส์ ่วนต่าง ๆ ของพืช โดยครูใหค้ าสาคญั ในการคน้ หา เช่น
parts of plants
2. ให้นกั เรียนกลุม่ เดิมเขียนข้นั ตอนการปลกู ตน้ ไมจ้ ากเมล็ดแบบงา่ ย ๆ พร้อมท้งั วาดภาพหรือติด
ภาพประกอบ แลว้ ตกแต่งใหส้ วยงาม
3. ครูช้ีให้เห็นถึงความสาคญั ของตน้ ไม้ โดยอธิบายว่า นอกจากตน้ ไมจ้ ะให้ร่มเงาแกเ่ ราแลว้ ตน้ ไมย้ งั เป็น
ทอี่ ยอู่ าศยั ของสตั วข์ นาดเลก็ เช่น นก กระรอก ส่วนตา่ ง ๆ ของตน้ ไมย้ งั สามารถนามาประกอบอาหาร
ไดด้ ว้ ย นอกจากน้ีตน้ ไมย้ งั ทาหนา้ ทกี่ รองอากาศเสียทาให้อากาศดีข้ึน ดงั น้นั เราตอ้ งช่วยกนั รกั ษาป่ าไม้
ให้อยกู่ บั เราไปนาน ๆ จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ นอกจากการปลกู ตน้ ไม้ นกั เรียนสามารถช่วยรกั ษา
ส่ิงแวดลอ้ มไดอ้ ยา่ งไร ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนมาเขยี นบนกระดานในรูปแบบแผนที่ความคดิ
(mind map)
4. ครูใหน้ กั เรียนฝึกร้องเพลง If you know all the seasons จาก www.youtube.com หรือเขา้ ไปท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=_BkkzF9z4-g
5. ให้นกั เรียนทาตาราง 4 ช่อง ลงในกระดาษ A4 และวาดภาพฤดูกาลท้งั 4 ลงไป พร้อมกบั เขยี นให้ขอ้ มลู
ว่า แต่ละฤดกู าลมเี ดือนอะไรบา้ ง โดยใชโ้ ครงสร้าง เช่น Winter is in December, January and February.
เม่ือทาเสร็จแลว้ ใหเ้ ขียนหวั ขอ้ ดา้ นบนวา่ Seasons and Months
6. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 44-45 Exs. 1-3 เป็นการบา้ น
Ex. 1 2 winter 3 summer 4 autumn
1 spring
391
Ex. 2 October, May, July, December, March, February, November,
Months to be circled: August, June, January, April
September
Missing month:
Ex. 3 3 Cover 4 water 5 grow 6 flowers
2 seeds
7. การวัดและประเมินผล
วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ประเมินชิ้นงานข้นั ตอนการปลกู แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตน้ ไมง้ ่าย ๆ ผ่านเกณฑ์
ประเมินช้ินงานโปสเตอร์นาเสนอ แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
คาศพั ทส์ ่วนตา่ ง ๆ ของพชื ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงาน Seasons and แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
Months ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการพดู และปฏิบตั ติ ามคาสั่ง แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการลงเสียงหนกั -เบาใน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
คาศพั ทช์ ื่อเดือนและฤดกู าล เรียนรู้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้
ใฝ่ เรียนรู้และมุ่งมนั่ ในการทางาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 4 ป. 4
8.4 อปุ กรณท์ าโปสเตอร์
8.5 บตั รภาพ/คาศพั ท์
8.6 อินเทอร์เนต็
392
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 In spring Zara plants flowers. เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พดู และเขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีทาในฤดูกาลต่าง ๆ ได้
- ใชแ้ ละปฏิบตั ติ ามคาส่ังได้
- ตอบคาถามจากการฟังได้
- วาดภาพหรือระบภุ าพตรงตามความหมายของประโยคได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions) ง่าย ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความง่าย ๆ และบทพดู
เขา้ จงั หวะถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสญั ลกั ษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ที่ฟังหรืออา่ น
ต 1.1 ป.4/4 ตอบคาถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
แสดงความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.2 ป.4/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ
ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขยี น
ตัวชี้วัด
ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
ต 1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของส่ิงต่าง ๆ ใกลต้ วั ตามที่ฟังหรืออา่ น
393
สาระที่ 2 ภาษากบั วัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชี้วดั
ต 2.1 ป.4/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยงู่ ่าย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วัด
ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อ่านในสถานการณท์ ี่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างประโยคคาสั่ง และหลกั การออกเสียง ช่วยให้เขา้ ใจในสิ่งท่ฟี ัง พูด
และเขยี นส่ือสารเกี่ยวกบั เร่ืองใกลต้ วั ได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Structure: Tidy your room! Don’t go out! In spring Zara plants flowers.
Vocabulary: (Nouns) months, seasons, hole, seed, flower
(Verbs) plant, cover, water, grow
Pronunciation: ลงเสียงหนกั ในคา
Function: ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมท่ีทาในฤดกู าลตา่ ง ๆ
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมที่ทาในฤดูกาลตา่ ง ๆ
Writing: เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กิจกรรมทท่ี าในฤดูกาลต่าง ๆ
394
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียน Good morning. How are you? เม่อื นกั เรียนตอบแลว้ ครูทบทวนโครงสร้าง Can I
help? โดยครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า นอกจากประโยค Can I help? แลว้ เราพดู วา่ Can I help you? ไดเ้ ช่นกนั
จากน้นั ครูเขยี นคาตอบบนกระดาน ไดแ้ ก่ Yes, please. หรือ No, thanks. No, thank you. เสร็จแลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ออกมาพดู โตต้ อบกบั ครู โดยทคี่ าตอบไม่ซ้ากนั เช่น
T: Can I help you?
S1: Yes, please.
T: Can I help you?
S2: No, thank you.
2. ครูนาแผ่นป้ายชื่อวนั เดือน และฤดูกาลมาติดบนกระดาน และใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงพร้อม ๆ กนั
โดยเนน้ ใหล้ งเสียงหนกั ในคาให้ถกู ตอ้ ง ดงั น้ี
Days of the week:
Monday Tuesday Wednesday Thursday
Friday Saturday Sunday
Months:
January February March April
May June July August
September October November December
Seasons:
spring summer autumn winter
395