The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3
หนังสือ Spark

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:02:12

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3
หนังสือ Spark

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3

7. ครูทบทวนการออกเสียง s หรือ es ทา้ ยคานาม จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคานามทลี่ งทา้ ยดว้ ย
s หรือ es ที่ยกตวั อยา่ งใหใ้ นกรอบ โดยเนน้ ใหน้ ักเรียนออกเสียง s หรือ es ทา้ ยคาใหถ้ กู ตอ้ ง

/s/ /z/ /Iz/
outskirts, atheletics, clothes, customs, earnings, glasses
gymnastics, darts, maths, goods, news, billiards,
physics, economics, measles, binoculars, jeans,
politics, shorts, tights pyjamas, scissors, trousers

ทีม่ า: http://www.grammar.cl/english/pronunciation-final-s.htm

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 12 Ex. 2 นกั เรียนอา่ นประโยค แลว้ เปลี่ยนคากริยาในวงเล็บให้อยใู่ นรูป Present

simple หรือ Present continuous เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ พร้อมท้งั อธิบายเหตผุ ล
ประกอบในการเลอื กใช้ tense

44

1 work (Present simple for habits/routines)

2 is doing (Present continuous for action happening now/around the time

of speaking)

3 Do you like (Present simple used for verbs that describe a state)

4 are going (Present continuous for a future arrangement)

5 arrives (Present simple for timetables)

6 wants (Present simple for verbs that describe a state)

7 Are you flying (Present continuous for a future arrangement)

2. หนงั สือเรยี น หน้า 12 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนอ่านอเี มล แลว้ เปล่ียนคากริยาในวงเล็บให้อยใู่ นรูป
Present simple หรือ Present continuous โดยสงั เกตคา/วลีบง่ บอกเวลา เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั ร
บอกคาตอบ และนกั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจคาตอบ

1 am/’m 4 am/’m making 7 doesn’t like
2 is/’s having 5 wants 8 is/’s making
3 is/’s tidying 6 needs 9 Do you want

3. หนงั สือเรยี น หน้า 12 Ex. 4 นกั เรียนสังเกตประธานของประโยค แลว้ เลือกคากริยาใหส้ อดคลอ้ งกบั
ประธาน เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบโดยสุ่มถามนกั เรียนว่า ประธานของประโยคเป็นเอกพจนห์ รือ
พหูพจน์ และตอ้ งใชค้ ากริยาคาใด

1 are 3 is 5 is 7 is 9 is
2 is 4 are 6 are 8 are 10 are

45

ข้นั Production
1. ครูอธิบายให้นกั เรียนเขยี นอเี มลถึงเพ่อื นเพ่อื เล่ากิจวตั รประจาวนั ของตนเองและส่ิงท่ีบคุ คลใน

ครอบครัวกาลงั ทาอยขู่ ณะท่ีนกั เรียนเขยี นอเี มล กอ่ นเขยี นครูถามนกั เรียนวา่ การบอกกิจวตั ร
ประจาวนั ตอ้ งใช้ tense ใด (Present simple) และการบอกส่ิงที่บคุ คลกาลงั ทาอยตู่ อ้ งใช้ tense ใด
(Present continuous) จากน้นั ให้เวลานกั เรียนทางาน
2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 6 Exs. 1-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ชั่วโมงที่ 2

ข้นั Warm up
ครูทบทวนการใช้ Present continuous เพ่อื บอกแผนการท่ีวางไวแ้ ลว้ โดยใหน้ กั เรียนพดู ประโยค
บอกส่ิงทีต่ นเองจะทาในวนั พรุ่งน้ี

ข้นั Presentation
1. ครูทบทวน comparatives และ superlatives โดยขออาสาสมคั ร 3 คน ท่มี สี ่วนสูงแตกตา่ งกนั ออกมา

ยนื หนา้ ช้นั จากน้นั ครูพดู เปรียบเทยี บส่วนสูงของท้งั 3 คน เช่น
Anne is tall.
Som is taller than Anne.
Wit is the tallest of all.

2. ครูอธิบายวา่ เราสามารถนา very/extremely มาวางไวห้ นา้ adjective ได้ เม่อื ตอ้ งการเนน้ adjective
คาน้นั

3. ครูอธิบายวา่ ถา้ ตอ้ งการเนน้ วา่ ส่ิงที่นามาเปรียบเทยี บมคี วามแตกต่างกนั มาก สามารถใช้ much มา
วางไวห้ นา้ comparatives ได้ แลว้ ครูยกตวั อยา่ งโดยใหน้ กั เรียนทส่ี ูงท่ีสุดในช้นั และสูงนอ้ ยท่ีสุดใน
ช้นั ออกมายืนหนา้ ช้นั แลว้ ครูพดู ประโยค เช่น
New is very/extremely tall.
New is much taller than Nicha.

46

4. ครูอธิบายว่า ถา้ ตอ้ งการเปรียบเทียบ 2 ส่ิงท่เี ท่ากนั สามารถใช้ as + adjective + as ได้ เช่น Nan is as
tall as Anne. แตถ่ า้ ตอ้ งการบอกวา่ 2 ส่ิงทีน่ ามาเปรียบเทียบไม่เท่ากนั ให้ใช้ not + as + adjective +
as เช่น Wit isn’t as tall as New.

5. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 5 ให้นกั เรียนเติม comparatives และ superlatives ท่ีขาดหายไป แลว้ ครูขอ
อาสาสมคั รออกมาเขยี นคาตอบบนกระดาน

1 longer 2 fatter 3 the happiest

ครูใหน้ กั เรียนสงั เกตการเปลย่ี นรูปของ adjective เป็น comparative และ superlative แลว้ ช่วยกนั
สรุปวิธีการสร้าง comparative และ superlative โดยครูคอยช่วยเสริม

With single-syllable adjectives and two-syllable adjectives, we form the
comparative by adding -er and the superlative by adding -est. With adjectives with
three or more syllables, we form the comparative with more and the superlative
with most. With some two-syllable adjectives (e.g. clever, narrow, gentle, friendly)
we form the comparative and the superlative with either -er/-est or with more/most.

ครูช้ีให้นกั เรียนสงั เกต adjective บางคาท่มี ีการเปลยี่ นรูปไปเลยเมือ่ เปลี่ยนเป็น comparative และ
superlative โดยครูย้าใหน้ กั เรียนจดจา adjective เหลา่ น้ี
จากน้นั ครูใหเ้ วลานกั เรียน 2 นาที อา่ นบทอ่าน หนา้ 10 เพือ่ หา comparative และ superlative จากน้นั
พูดบอกครู

superlative: the strangest, the most important

6. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คน พูดประโยคเปรียบเทียบโดยใช้ comparative จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
อกี 4-5 คน พูดประโยคเปรียบเทียบโดยใช้ superlative

47

7. ครูยกตวั อยา่ งประโยคที่ใช้ too และ enough บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนสังเกตตาแหน่งของ too
และ enough แลว้ ครูถามว่า too อยหู่ นา้ หรือหลงั adjective (หนา้ adjective) และถามต่อวา่ enough
อยหู่ นา้ หรือหลงั adjective (หลงั adjective)
The table is too heavy to lift.
The box is light enough to lift.
ครูเดินไปจบั โตะ๊ ทาท่ายก แลว้ พูดว่า The table is too heavy to lift. จากน้นั ครูยกกล่องข้ึนมา แลว้ พูด
ว่า The box is light enough to lift.
ครูถามนกั เรียนวา่ too มีความหมายในเชิงบวกหรือลบ (ลบ) แลว้ ถามตอ่ วา่ enough มีความหมายใน
เชิงบวกหรือลบ (บวก) จากน้นั ครูอธิบายว่า too มีความหมายว่า “มากเกินไป” ใชเ้ พือ่ แสดงวา่ มบี าง
สิ่งมากเกินตอ้ งการ แลว้ ครูอธิบายว่า enough มีความหมายว่า “พอ, พอดี” ใชเ้ พ่ือแสดงว่ามบี างส่ิง
พอเท่าที่ตอ้ งการ

8. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 9 ครูให้นกั เรียนอา่ นการใช้ too และ enough เพือ่ ทบทวนความเขา้ ใจ

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 13 Ex. 6 นกั เรียนฝึกใช้ comparatives โดยเปลี่ยน adjective ในวงเล็บใหอ้ ย่ใู นรูป

comparatives เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านคาตอบ

1 nicer 3 hotter 5 worse
2 more beautiful 4 cheaper

2. หนงั สือเรยี น หน้า 13 Ex. 7 นกั เรียนฝึกใช้ superlatives โดยเปลย่ี น adjective ในวงเล็บใหอ้ ยใู่ นรูป
superlatives เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านคาตอบ

1 the tallest, the biggest 3 the shortest
2 the longest 4 the healthiest

จากน้นั ครูบอกนกั เรียนวา่ ในขอ้ ความน้ีมีเรื่องเก่ียวกบั ประเทศไทย โดยกล่าวถึงผหู้ ญิงชนเผา่ หน่ึง
ท่ีมคี อยาวที่สุดในโลก ครูถามนกั เรียนวา่ รู้หรือไม่วา่ คอื ชนเผ่าอะไร (กะเหร่ียงคอยาว)

48

3. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 8 นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ พูดเปรียบเทียบโดยใชข้ อ้ มลู จากตารางร่วมกบั
adjective ท่ีกาหนดให้ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่ พดู รายงานคาตอบ แลว้ ครูเขียนคาตอบ
ท่ถี กู ตอ้ งบนกระดาน

Paul is older than Tracy. Sofia is much older than Tracy.
Paul isn’t as old as Sofia. Sofia is the oldest of all.

Tracy is taller than Sofia. Paul is much taller than Sofia.
Tracy isn’t as tall as Paul. Paul is the tallest of all.

Sofia is more active than Paul. Tracy is much more active than Paul.
Sofia isn’t as active as Tracy. Tracy is the most active of all.

Paul is more sociable than Tracy. Sofia is much more sociable than Tracy.
Paul isn’t as sociable as Sofia. Sofia is the most sociable of all.

4. หนังสือเรยี น หน้า 13 Ex. 10 นกั เรียนอา่ นประโยค แลว้ เลอื กเตมิ too หรือ enough ร่วมกบั adjective
ในวงเลบ็ ใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รอา่ นประโยค แลว้ ครูตรวจความถูกตอ้ ง

1 clever enough 3 old enough 5 too lazy
2 too small 4 too expensive

5. หนังสือเรยี น หน้า 13 Ex. 11 ครูให้เวลานกั เรียน 3 นาที ทบทวนโครงสร้างภาษาที่เรียนในบทน้ี
แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนพูดสรุปเก่ียวกบั Present simple, Present continuous, comparatives,
superlatives, singular/plural nouns, too, enough จากน้นั ให้นกั เรียนแต่งประโยคโดยใชโ้ ครงสร้าง
ภาษาทเ่ี รียนมา โครงสร้างละ 2 ประโยค แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นประโยคท่ีแต่งให้เพื่อนฟัง

49

Water freezes at 0°C. The film starts at 8 pm.
Mum’s cooking dinner at the moment. We’re going on holiday next week.
My clothes are always clean. Gymnastics is difficult.
Sam is taller than Billy. Billy is more friendly/friendlier than Sam.
It’s too cold to play in the garden. It’s warm enough to swim in the sea.

ข้นั Production
1. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน ให้นกั เรียนทาตารางเหมือนใน Ex. 8 แลว้ เขยี นขอ้ มูลของ

สมาชิกในกลมุ่ ลงในตาราง เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนพูดเปรียบเทยี บสมาชิกในกลุ่มของตนเองให้อีก
กลมุ่ หน่ึงฟัง
2. ครูใหน้ กั เรียนกล่มุ เดิมคน้ ควา้ ขอ้ มูลทางดา้ นภูมศิ าสตร์ของประเทศไทย เพือ่ หาสิ่งทเ่ี ป็นท่สี ุดในดา้ น
ตา่ ง ๆ แลว้ นาขอ้ มูลมาทาโปสเตอร์ โดยตดิ ภาพประกอบและตกแต่งใหน้ ่าสนใจ

Doi Inthanon is the highest mountain in Thailand. It is in Chom Thong District,
Chiang Mai Province
Bangkok is the capital city of Thailand. Its full name is listed in Guinness World
Records as the world’s longest place name, at 168 letters.
Phuket is one of the southern provinces of Thailand. It is the largest island in
Thailand.
The Thi Lo Su Waterfall is the largest waterfall in Thailand. It’s nearly 450
metres wide.
The Chi River is the longest river in Thailand.

50

7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้
วธิ ีการวดั
ประเมนิ การเขียนอีเมลเลา่ กิจวตั ร แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประจาวนั ของตนเองและสิ่งทบี่ ุคคล ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน
ในครอบครัวกาลงั ทา แบบประเมินคุณลกั ษณะ
ประเมินช้ินงานโปสเตอร์สิ่งที่เป็ น อนั พึงประสงค์
ทส่ี ุดในประเทศไทย
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และมุง่ มน่ั ใน
การทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อินเทอร์เนต็

51

3 Skills 1c

2 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- บอกรายละเอยี ดของเรื่องทฟ่ี ังได้
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ลกั ษณะรูปร่างและบคุ ลกิ ลกั ษณะของบคุ คลในครอบครวั ได้
- เขียนบรรยายลกั ษณะรูปร่างของบุคคลอื่นได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/3 ระบแุ ละเขยี นสื่อท่ไี มใ่ ช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ใหส้ ัมพนั ธ์กบั ประโยคและ
ขอ้ ความที่ฟังหรืออา่ น
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เรื่องที่ฟังและอา่ นจากส่ือประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว
เรื่องทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม และส่ือสารอยา่ งตอ่ เนื่องและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์/เรื่อง/ประเดน็
ตา่ ง ๆ ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม

52

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ทแ์ ละประโยคที่ใช้ในการบรรยาย ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ลกั ษณะรูปร่างและ

บคุ ลกิ ลกั ษณะ ช่วยให้สามารถพดู /เขยี นสื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Physical appearance (plump, fair, old, short, of medium height,

moustache, in her late twenties, beard, well-built, slim, spiky, wavy, long,

curly, round, straight, oval, fat, small, in his early thirties, skinny, dark,

thin, teenager, overweight, in his mid forties, middle-aged, freckles, tall,

wrinkles)

Character adjectives (easy-going, honest, fair, sensitive, reserved, rude,

shy, outgoing, patient, polite, cheerful, selfish, generous, popular,

talkative, bossy, energetic, honest, impatient)

Functions: Describing people

She’s quite tall and slim. She has short blonde hair and blue eyes.

He’s energetic. He does a lot of things.

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ

Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะรูปร่างและบคุ ลกิ ลกั ษณะของบุคคล

ในครอบครวั

Writing: เขียนบรรยายลกั ษณะรูปร่างของเพือ่ น

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน

53

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดพจนานุกรมของตนเอง แลว้ ครูถามวา่ เมอ่ื นกั เรียนคน้ หาคาศพั ทน์ อกจากจะพบ

ความหมายแลว้ ยงั พบอะไรอีก ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ เช่น คาอ่าน คาทม่ี คี วามหมายเหมือน
(synonym) คาตรงขา้ ม (antonym) ตวั อยา่ งประโยค จากน้นั ครูบอกนกั เรียนว่าการใชพ้ จนานุกรมเพ่ือ
หาคาศพั ทจ์ ะทาใหน้ กั เรียนไดข้ ยายวงคาศพั ทข์ องตนเอง
2. ครูให้นกั เรียนจบั คู่แข่งขนั กนั หาคาศพั ทต์ ามที่ครูบอกในพจนานุกรม
3. ครูถามนกั เรียนวา่ ในภาษาองั กฤษเม่อื ตอ้ งการบรรยายวา่ สิ่งของหรือบุคคลมีลกั ษณะอยา่ งไร จะใช้
คาประเภทใด ครูกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนตอบวา่ adjective จากน้นั ครูยกตวั อยา่ งการใช้ adjective ใน
ประโยค เช่น I am a tall woman with long hair. แลว้ ช้ีให้นกั เรียนดูการใช้ adjective เพอ่ื ขยายคานาม
ในทนี่ ้ีคอื คาว่า tall woman กบั long hair

ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอ adjective บรรยายลกั ษณะรูปร่าง (appearance) ไดแ้ ก่ plump, fair, old, short, of medium

height, moustache, in her late twenties, beard, well-built, slim, spiky, wavy, long, curly, round,
straight, oval, fat, small, in his early thirties, skinny, dark, thin, teenager, overweight, in his mid
forties, middle-aged, freckles, tall, wrinkles โดยใชบ้ ตั รภาพหรือวาดภาพงา่ ย ๆ บนกระดาน แลว้
ออกเสียงคาศพั ท์ ใหน้ กั เรียนออกเสียงตามและเดาความหมาย

ครูสามารถดาวนโ์ หลดบตั รภาพ adjective บรรยายลกั ษณะรูปร่าง ไดจ้ าก
http://www.mes-english.com/flashcards/has.php

2. ครูนาเสนอ adjective บรรยายบคุ ลกิ ลกั ษณะ (character) ไดแ้ ก่ easy-going, honest, fair, sensitive,

reserved, rude, shy, outgoing, patient, polite, cheerful, selfish, generous, popular, talkative, bossy,

energetic, honest, impatient โดยเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน ให้นกั เรียนอา่ นตามครู 1-2 คร้งั โดยลง

เสียงหนกั ทพี่ ยางคแ์ รก ยกเวน้ คาว่า energetic และ impatient ดงั น้ี

energetic impatient

54

แลว้ ใหน้ กั เรียนเปิ ดพจนานุกรมหาความหมาย
3. หนงั สือเรยี น หน้า 14 Ex. 1 ครูเขียนหวั ขอ้ ต่อไปน้ีบนกระดาน Face, Hair, Special features, Height,

Build, Age, Character และอธิบายความหมายของ Special features (ลกั ษณะพิเศษ) จากน้นั ครูแบง่
นกั เรียนเป็นกลุม่ กลุ่มละ 4-5 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั แยกประเภทของ adjective ที่ใหม้ าตามหวั ขอ้
บนกระดาน ภายในเวลา 5-7 นาที ครูอนุญาตให้นกั เรียนใช้พจนานุกรมได้
4. ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนมาเขียนบนกระดาน และให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจคาตอบอกี คร้งั

Face: round, oval, small, freckles
Hair: fair, short, spiky, wavy, long, curly, straight, dark
Special features: wrinkles, moustache, beard, freckles
Height: short, of medium height, tall
Build: plump, well built, slim, fat, skinny, thin, overweight
Age: old, in her late twenties, in his early thirties, teenager, in his mid forties,
middle-aged
Character: easy-going, honest, sensitive, reserved, rude, shy, outgoing, patient,
polite, fair

5. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทต์ ามครู โดยเนน้ ลงเสียงหนกั ในคาให้ถูกตอ้ ง ครูอธิบายวา่ คานามและ

adjective ที่มี 2 พยางค์ มกั จะลงเสียงหนกั ท่พี ยางคแ์ รก โดย adjective ใน Ex. 1 ท้งั หมด ใหน้ กั เรียน

ลงเสียงหนกั ทีพ่ ยางคแ์ รก ยกเวน้ คาต่อไปน้ี

reserved easy-going

well built overweight

polite middle-aged

ครูสุ่มเรียกให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ท์ทลี ะคน

6. ครูนาเสนอการบรรยายลกั ษณะร่างกายทลี ะส่วน ดว้ ยการพูดประโยคทีละประโยค แลว้ สุ่มเรียก

นกั เรียนออกมาวาดภาพตามประโยคทคี่ รูบอก โดยเร่ิมจากการบรรยายใบหนา้ เช่น

T: He has got a round face.

S1: นกั เรียนวาดภาพผชู้ ายหนา้ กลม

T: She has got an oval face.

S2: นกั เรียนวาดภาพผหู้ ญิงหนา้ รูปไข่/วงรี

55

เมอ่ื ครูพดู บรรยายรูปทรงของใบหนา้ ครบแลว้ ครูช้ีท่ภี าพทีละภาพ ให้นกั เรียนพูดบรรยาย เสร็จแลว้

ให้นกั เรียนสรุปโครงสร้างประโยคทีใ่ ชใ้ นการบรรยายใบหน้า has/have got + a/an + adjective +

face

ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั การบรรยายผม (hair), ลกั ษณะพเิ ศษ (special features), ความสูง

(height), รูปร่าง (build), อายุ (age), ลกั ษณะนิสัย (character)

หนา้ /ผม/ลกั ษณะพเิ ศษ has/have got + a/an + adjective + face/hair

ความสูง verb to be + short, of medium height, tall

รูปร่าง verb to be + plump, well built, slim, fat, skinny, thin,

overweight

อายุ verb to be + old, in her early/mid/late +

twenties/thirties/forties, middle aged

adjective บรรยายลกั ษณะรูปร่างบางคา ถอื ว่าไมส่ ุภาพ เช่น fat, skinny, thin ดงั น้นั
นกั เรียนควรหลกี เล่ียงการใช้เพ่ือบรรยายลกั ษณะของบุคคลอ่ืน

7. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพบุคคลท้งั สามในหนงั สือเรียน หนา้ 14 แลว้ ช่วยกนั พูดบรรยายลกั ษณะรูปร่าง

Mary is young and slim with long straight dark hair, brown eyes, a big nose and
full lips.
James is tall and thin and in his twenties. He’s got pale skin, spiky hair and blue
eyes.
Kelly is a young slim teenager. She’s got long fair wavy hair.

8. ครูพูดบรรยายลกั ษณะนิสัยของตนเอง แลว้ เขียนประโยคบนกระดาน เช่น I’m easy-going and
sensitive. แลว้ ยกตวั อยา่ งเพิ่มเติมอีก 2-3 ประโยค เพอ่ื ให้นกั เรียนดูโครงสร้างประโยค จากน้นั ครูให้
นกั เรียนร่วมกนั สรุปโครงสร้าง verb to be + adjective (easy-going, honest, sensitive, reserved,
rude, shy, outgoing, patient, polite, fair)

9. หนงั สือเรียน หน้า 14 Ex. 2 นกั เรียนจบั คู่ adjectives กบั เหตผุ ลท่ีสัมพนั ธ์กนั เสร็จแลว้ ครูรวบรวม
คาตอบจากนกั เรียน และเฉลยคาตอบ

56

B6 D1 F 2 H7
C5 E3 G4 I 8

จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนนาคาตอบจาก Ex. 2 มาแตง่ ประโยคเหมือนดงั ตวั อยา่ ง

He’s bossy. He tells people what to do.
He’s talkative. He talks a lot.
He’s cheerful. He smiles a lot.
He’s generous. He likes giving people things.
He’s selfish. He only cares about himself.
He’s popular. Lots of people like him.
He’s energetic. He does a lot of things.
He’s honest. He always tells the truth.

10. ครูนาเสนอคาถามที่ใชถ้ ามลกั ษณะรูปร่างดว้ ยการยกตวั อยา่ งบนกระดาน
What does she look like?
She’s of medium height and slim with fair hair.
What does your dad look like?
He’s tall and plump. He has got a moustache.

ครูให้นกั เรียนอา่ นประโยคพร้อมกนั แลว้ บอกโครงสร้างคาถาม จากน้นั ครูสรุปให้ฟังว่า What does
… look like? ใชถ้ ามลกั ษณะรูปร่าง
11. ครูนาเสนอคาถามที่ใชถ้ ามบคุ ลกิ ลกั ษณะ ดว้ ยการยกตวั อยา่ งบนกระดาน

What is your brother like?
He’s cheerful and easy-going. Sometimes he’s talkative.
What is she like?
She’s outgoing and popular.
ครูใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคพร้อมกนั แลว้ บอกโครงสร้างคาถาม จากน้นั ครูสรุปใหฟ้ ังว่า What is …
like? ใชถ้ ามบุคลกิ ลกั ษณะ

57

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 14 Ex. 3 ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ฝ่ัง เพอื่ ฝึกอ่านตวั อยา่ งบทสนทนา โดยฝ่ังหน่ึง

อ่านประโยคของ A อกี ฝั่งหน่ึงอ่านประโยคของ B จากน้นั ให้สลบั กนั
2. ครูให้นกั เรียนจบั คู่กนั พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ลกั ษณะรูปร่างและบุคลกิ ลกั ษณะของบุคคลใน

ครอบครัว ใหน้ กั เรียนฝึกเป็นท้งั ผถู้ ามและผูต้ อบ ครูเดินสังเกตขณะนกั เรียนทากิจกรรม

A: What does your uncle look like?
B: He’s short and plump with curly hair.
A: Has he got a beard?
B: No, he hasn’t, but he’s got a moustache.
A: What is he like?
B: Well, he’s generous. He likes giving people things.

3. ครูให้นกั เรียนจบั คูใ่ หม่ และเปล่ยี นบุคคลในครอบครัวใหม่ดว้ ย เม่อื นกั เรียนฝึกพูดไดค้ ล่องแลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพดู สนทนาทีห่ นา้ ช้นั

ข้นั Production
1. ครูใหน้ กั เรียนทาช้ินงาน โดยตดิ ภาพประกอบหรือวาดภาพบคุ คลในครอบครวั ของตนเอง แลว้ เขยี น

บรรยายลกั ษณะ
2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 8 Exs. 1-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ชั่วโมงที่ 2

ข้นั Warm up
ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทมี เพือ่ เลน่ เกม 20 คาถาม โดยครูนึกถงึ นกั แสดงท่มี ชี ่ือเสียง 2-3 คน แลว้ ให้
นกั เรียนถามคาถาม Yes/No questions เพอื่ หาวา่ คอื ใคร
T: He’s a man.
Team A S1: Is he of medium height? etc.

58

ข้นั Pre-listening
1. ครูทบทวน adjective ที่ใชบ้ รรยายลกั ษณะรูปร่าง โดยใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียง adjectives ใน

หนงั สือเรียน หนา้ 14 Ex. 1 ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงโดยเนน้ เสียงหนกั ให้ถูกตอ้ ง
2. ครูทบทวนโครงสร้างภาษาที่ใช้ในการบรรยายลกั ษณะรูปร่าง โดยนาภาพนกั แสดงมาใหน้ กั เรียนฝึก

พดู บรรยาย
3. ครูอธิบายว่านกั เรียนจะไดฟ้ ังคาบรรยายลกั ษณะรูปร่างของบคุ คลท่ีตารวจกาลงั ตามหา ให้นกั เรียน

ต้งั ใจฟังวา่ บุคคลดงั กล่าวมลี กั ษณะรูปร่างอยา่ งไร ครูแนะนาวา่ นกั เรียนไม่จาเป็นตอ้ งฟังออกทกุ คา
ให้เนน้ ฟังที่ adjectives บรรยายลกั ษณะ

ข้นั Listening
หนงั สือเรยี น หน้า 14 Ex. 4 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง และจดบนั ทึกขอ้ มูลที่ตอ้ งการ เมอ่ื ฟังจบครู
ถามนกั เรียนว่าฟังทนั หรือไม่ ถา้ นกั เรียนส่วนใหญ่ฟังไมท่ นั ครูอาจจะเปิ ด CD อีก 1-2 คร้งั จากน้ัน
ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน แลว้ จึงเฉลยคาตอบ

He is of medium height with short brown hair and brown eyes.
He is in his mid twenties. He has got a beard and a moustache and he wears glasses.

ข้นั Post-listening
1. หนังสือเรยี น หน้า 14 Ex. 5 ครูอธิบายสถานการณ์วา่ สมมตเิ พือ่ นร่วมช้นั ของนกั เรียนหายไป 2 คน

ใหน้ กั เรียนเขียนคาบรรยายลกั ษณะรูปร่างของเพ่ือนท้งั สองคนตามรายละเอยี ดท่กี าหนด จากน้นั ครู
ให้เวลานกั เรียนเขยี น เมื่อเขียนเสร็จเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน อา่ นคาบรรยายให้เพื่อนฟัง
และทายว่าคอื ใคร

Sarah is thirteen. She’s quite tall and slim. She has short blonde hair and blue eyes.
She’s wearing jeans and a purple top. Alan is fifteen. He’s of medium height and
quite plump.
He has short brown hair and blue eyes. He’s wearing trainers, black jeans and a
T-shirt.

59

2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 9 Ex. 7 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ จบั คู่บุคคลกบั อาชีพให้ถูกตอ้ ง
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 9 Ex. 8 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เตมิ คาลงในช่องว่าง
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 9 Ex. 6 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวดั และการประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหดั (Workbook) ระดบั คุณภาพ พอใช้

ประเมนิ การเขียนบรรยายลกั ษณะ แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้

รูปร่างของบุคคลในครอบครวั ระดบั คุณภาพ ผา่ น

ประเมินการเขียนบรรยายลกั ษณะ แบบประเมนิ การเขยี น

รูปร่างของเพื่อน

สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ

ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหัด SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) บตั รภาพลกั ษณะรูปร่าง
7) ภาพนกั แสดง

60

4 Everyday English 1d

2 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกใจความสาคญั และรายละเอยี ดของบทสนทนาทอ่ี า่ นได้
- แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ที่กาหนดได้
- พดู สนทนาชื่นชมเครื่องแต่งกายได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก และความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ ง
เหมาะสม
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

61

ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/1 เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 3/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งชีวติ ความเป็นอยแู่ ละ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย และนาไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 3/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน

สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั ประโยคและสานวนต่าง ๆ ในการซ้ือขายตว๋ั รถไฟ ช่วยให้สามารถ

พดู /เขียนสื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ตลอดจนมคี วามเขา้ ใจในมารยาทและวฒั นธรรมของ
เจา้ ของภาษา

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Clothes (polo-neck jumper, tight-fitting jeans, short-sleeved T-shirt,
sunglasses, flared skirt, loose-fitting top, tartan skirt, trainers, polka-dot
dress, flat shoes)
Complimenting verbs (go with, fit, suit, match)
Sentences (Can I help you? Single or return? What time would you like
to leave? Which platform does the train leave from? You’re welcome.)
Functions: Talking about clothes (complimenting)
You look great in that tartan skirt. It matches your top.
Thanks.

62

2) Language Skills

Listening: ฟังเพ่ือจบั ใจความสาคญั , ฟังการออกเสียงประโยค

Speaking: พดู สนทนาชื่นชมเคร่ืองแตง่ กาย

Reading: อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนด

3) Culture การตอบรบั คาชื่นชม

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เส้ือผา้ เช่น jumper, sweater, T-shirt, top, skirt, trousers, trainers,
dress โดยการเลน่ เกม Bingo

ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอคาศพั ทท์ ี่ใชบ้ รรยายลกั ษณะเส้ือผา้ ไดแ้ ก่ polo-neck, tight-fitting, loose-fitting, short-

sleeved, long-sleeved, flared, tartan, checked, polka-dot, flat, high-heeled โดยใชภ้ าพหรือพดู บอก
ความหมาย

polo-neck (adj) = (a sweater) with a high neck that folds over (AmE = turtleneck)
(ทปี่ ิ ดคอ)

loose-fitting (adj) = (of clothes) not fitting the body tightly (ไมร่ ดั รูป, หลวม ๆ)
tight-fitting (adj) = (of clothes) that fits very tightly or closely (รดั รูป)

63

sleeved (adj) = having the length of sleeves mentioned (ที่มแี ขนเส้ือ)

flared (adj) = becoming wider at one end (ที่บานออก)

tartan (adj) = having a pattern of squares and lines of different colours and widths

that cross each other at an angle of 90°, used especially on cloth,

and originally from Scotland (ทมี่ ลี ายตารางหมากรุก)

checked (adj) = having a pattern of squares, usually of two colours (ทมี่ ีลายตาราง

หมากรุก)

polka-dot (adj) = having a large number of small, round spots (ลายจดุ วงกลมขนาด

ใหญ่)

flat (adj) = (shoes) with no heels or very low ones (ไมม่ สี ้น)

high-heeled (adj) = having very high heels (ส้นสูง)

2. ครูใหน้ กั เรียนดภู าพเคร่ืองแต่งกายในหนงั สือเรียน หนา้ 15 อา่ นออกเสียงคาคาศพั ทพ์ ร้อมกนั แลว้

ช่วยกนั อธิบายความหมาย

3. ครูนาเสนอคากริยา go with, fit, suit, match สาหรบั ชื่นชมเครื่องแต่งกาย ดว้ ยการเขียนตวั อยา่ ง

ประโยค แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั เดาความหมาย และบอกวธิ ีการใชค้ ากริยาเหล่าน้ี

go with something (phr v) = to combine well with something (= go together, match)

(เขา้ กนั กบั )

ตวั อยา่ ง This tie goes with your shirt.

fit (v) = to be the right shape and size for somebody/something (พอดี)

ตวั อยา่ ง This shoes fit well.

suit somebody (especially of clothes, colours etc.) = to make you look attractive

(เหมาะกบั )

ตวั อยา่ ง I think this coat really suits you.

match something (v) = If two colours, designs, or objects match, they are similar or

look attractive together (เขา้ กบั )

ตวั อยา่ ง These jeans match these trousers.

ข้นั Practice

1. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 1 นกั เรียนฟัง CD โดยต้งั ใจฟังพยางคท์ เ่ี นน้ เสียงหนกั แลว้ ครูเปิ ด CD
อกี 1-2 คร้ัง ใหน้ กั เรียนออกเสียงประโยคตาม จากน้นั ช่วยกนั ระบุพยางคท์ ีเ่ นน้ เสียงหนกั ในแต่ละ
ประโยค

64

You look great in that polo-neck.
It matches the colour of your eyes.
They fit you perfectly!
Your dress really suits you.

2. Complimenting หน้า 15 ครูให้นกั เรียนอ่านประโยค แลว้ เตมิ คา/วลีลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง
เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบพร้อมกนั

1 matches 2 fit 3 go with 4 suit

3. หนงั สือเรียน หน้า 15 Ex. 2 ครูอธิบายวา่ ประโยคใน Ex. 1 มาจากบทสนทนาของเพ่ือน 2 คน ให้
นกั เรียนเดาว่าบทสนทนาน่าจะเกี่ยวกบั เร่ืองอะไร แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนาเพื่อจบั
ใจความสาคญั

The dialogue is about clothes. Mary and Sally are complimenting each other on
their clothes.

4. ครูบอกนกั เรียนวา่ จะให้อ่านบทสนทนาใน Ex. 2 เพ่อื หาคาตอบวา่ ใครซ้ือของขวญั ให้ Sally และ
ทาไมถงึ ซ้ือให้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านบทสนทนา เมื่ออ่านจบครูขออาสาสมคั รบอกคาตอบ

Sally’s aunt bought her the clothes. They were a birthday present.

5. หนงั สือเรียน หน้า 15 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นประโยค 1-4 พร้อมกนั แลว้ หาประโยคในบทสนทนาที่มี
ความหมายเหมือนกบั ประโยคเหลา่ น้ี เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ

65

1 That polo-neck looks good on you. – You look great in that polo-neck.
2 They are the right size for you. – They fit you perfectly!
3 It really looks nice on you. – It really suits you.
4 Your aunt knows what clothes to buy. – Your aunt has got great taste in clothes.

6. หนังสือเรยี น หน้า 15 Ex. 4 นกั เรียนอา่ นประโยคใน Ex. 1 อกี คร้ัง แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย
เป็ นภาษาไทย

7. นกั เรียนฝึกอา่ นออกเสียงบทสนทนาใน Ex. 2 ตาม CD แลว้ ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลุ่ม ให้กลมุ่ ที่ 1
อา่ นบทของ Mary และกลมุ่ ท่ี 2 อา่ นบทของ Sally จากน้นั สลบั กนั

8. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ อ่านบทสนทนาให้ครูและเพ่อื นฟัง

ข้นั Production
1. หนงั สือเรยี น หน้า 15 Ex. 5 นกั เรียนจบั คูฝ่ ึกสนทนาตามบทสนทนา โดยแสดงสีหนา้ ท่าทาง และใช้

น้าเสียงให้เขา้ กบั สถานการณ์ ครูเดินสังเกตนกั เรียนแต่ละคู่ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ แสดง
บทบาทสมมติเป็น Mary และ Sally
2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 10 Exs. 1-2, 4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ชั่วโมงที่ 2

ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เคร่ืองแต่งกายทเี่ รียนไปเมอื่ ชว่ั โมงท่แี ลว้ โดยครูแสดงภาพแลว้ ให้
นกั เรียนบอกคาศพั ท์ พร้อมท้งั สะกดคา

ข้นั Presentation
1. หนังสือเรยี น หน้า 15 Ex. 6a ครูเขียนหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ีบนกระดาน CLOTHES, ACCESSORIES,

SHOES แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่ช่วยกนั เขยี นคาศพั ทภ์ ายใตห้ ัวขอ้ เหลา่ น้ีใหไ้ ดม้ ากท่ีสุดภายในเวลา
1 นาที เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดานคลู่ ะ 1 หัวขอ้ จากน้นั ให้
นกั เรียนในช้นั ช่วยเพมิ่ เติมคาศพั ทท์ ต่ี นเองคดิ ออกและไม่มบี นกระดาน

66

Clothes: dress, skirt, shirt, trousers, suit, socks, T-shirt, jacket, shorts, blouse, jeans
Accessories: tie, belt, bag, scarf, gloves, hat, cap
Shoes: boots, slippers, sandals, high-heeled shoes, flat shoes, trainers

2. ครูทบทวนคากริยา go with, fit, suit, match สาหรบั ชื่นชมเครื่องแตง่ กาย โดยแจกกระดาษทมี่ ี
ประโยคให้นกั เรียนทุกคน จากน้นั ใหน้ กั เรียนเติมคากริยาลงในประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ให้
แลกเปล่ียนกนั ตรวจ

1) That dress really Tina. (suits)
2) This jacket your skirt. (goes with)
3) The shoes you very well. (fit)
4) Pink you. (suits)
5) Your purse your dress. (matches)
6) The skirt her perfectly. It’s the right size. (fits)

3. ครูใหน้ กั เรียนอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 15 แลว้ ช่วยกนั บอกประโยคท่ีแสดงความช่ืนชม
เคร่ืองแต่งกาย จากน้นั ให้นกั เรียนบอกประโยคตอบรบั คาพูดชื่นชม แลว้ ครูเขียนบนกระดาน ไดแ้ ก่
Thank you. That’s nice of you. You look good too. Thanks!

4. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คดิ วา่ ในสงั คมไทยมกั จะพดู ตอบรับคาช่ืนชมว่าอยา่ งไรบา้ ง เช่น ขอบคณุ
เธอกด็ ดู ีเหมือนกนั

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 15 Ex. 6b ครูใหน้ กั เรียนทางานคู่ ช่วยกนั แต่งบทสนทนา โดยกาหนด

สถานการณว์ า่ ป้าซ้ือเส้ือผา้ ให้ในวนั เกิด และเพอ่ื นพดู ชมเก่ียวกบั เส้ือผา้ ดงั กล่าว ครูแนะนาว่า
นกั เรียนสามารถดูบทสนทนาใน Ex. 2 เป็นตน้ แบบได้

67

A: You look great in that tartan skirt. It matches your top.
B: Thanks.
A: It really suits you. Is it new?
B: Yes, it is. It’s a gift from my mum. She also got me this T-shirt.
A: It fits you perfectly. Your mum has got great taste in clothes.
B: That’s nice of you. You look good, too. Those jeans really suit you.
A: Really? Thanks!

2. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคฝู่ ึกสนทนากนั ครูเดินสังเกตการสนทนาของนกั เรียนและคอยให้คาแนะนา

ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนแต่ละคอู่ อกมาพูดสนทนาที่หนา้ ช้นั เรียน โดยใชน้ ้าเสียงและแสดงท่าทางให้เหมาะสม

กบั สถานการณ์
2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 10 Ex. 5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ พอใช้
วิธกี ารวดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
ประเมินการอา่ นออกเสียงบทสนทนา
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้
บทสนทนา
ประเมนิ การแตง่ บทสนทนาตาม แบบประเมนิ การแสดงบทสนทนา/ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สถานการณ์ท่กี าหนด บทบาทสมมติ
ประเมนิ การพูดสนทนาตาม แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
สถานการณ์ที่กาหนด อนั พึงประสงค์
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมุง่ มนั่
ในการทางาน

68

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหัด SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) ภาพเคร่ืองแตง่ กาย ไดแ้ ก่ เส้ือแขนยาวคอเต่า กางเกงยนี ส์รดั รูป เส้ือยืดแขนส้ัน กระโปรงไมม่ ลี าย
ชุดเดรสลายจดุ รองเทน้ ส้นเต้ีย

69

5 Across the curriculum 1e

2 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- บอกความสาคญั และและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั self-respect ได้
- คน้ ควา้ ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ เก่ียวกบั self-respect และพดู นาเสนอได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/1 ปฏิบตั ิตามคาขอรอ้ ง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายทีฟ่ ังและอ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/5 พดู และเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ ง
เหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หัวขอ้ เรื่องท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะห์เร่ือง/
ข่าว/เหตกุ ารณ์/สถานการณ์ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

70

ตวั ช้ีวดั คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื
ต 3.1 ม. 3/1 จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั self-respect ช่วยให้สามารถพูดและแสดงความคิดเห็นในเรื่องน้ีได้

นอกจากน้ียงั ช่วยให้มองเห็นคุณคา่ ในตนเองและอยรู่ ่วมกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (affect, increase, admit, tease)

Nouns (belief, opinion, winner, loser)

Adjectives (cheerful, confident)

Phrases (put right)

Functions: Talking about self-respect

Self-respect is the feeling of confidence we have when we feel we have

value.

2) Language Skills

Speaking: พูดนาเสนอและแสดงความคิดเห็นเร่ือง self-respect

Reading: อ่านเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: จดบนั ทึกส้นั ๆ เกี่ยวกบั ประเด็นท่จี ะนาเสนอ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

71

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
ครูเขยี นคาวา่ self-respect บนกระดาน แลว้ อธิบายความหมายของ self และ respect จากน้นั ให้
นกั เรียนช่วยกนั เดาความหมายของ self-respect
self- (prefix) = by yourself
respect (n) = admiration felt or shown for someone or something that you believe has
good ideas or qualities

ข้นั Presentation
1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาจากดั ความของ self-respect ในหนงั สือเรียน หนา้ 16 เพอ่ื ตรวจว่านกั เรียนเดา

ความหมายถกู ตอ้ งหรือไม่
2. หนังสือเรียน หน้า 16 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ ทาไมการนบั ถอื ตนเอง

(self-respect) จึงเป็นสิ่งสาคญั โดยให้แสดงความคิดเห็นในแงม่ มุ ของความสมั พนั ธ์ การทางานใน
โรงเรียน และอารมณห์ รือความรู้สึกของนกั เรียน

I think it’s important to have self-respect in relationships because no one will show
you respect when you don’t respect yourself.
You need self-respect in your schoolwork because you want to do the best you can.
Your self-respect affects your mood. A lack of self-respect will make you feel sad
and it will affect other areas of your life.

3. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้
ในนกั เรียนเปิ ดพจนานุกรม เช่น

72

affect (v) = to produce a change in somebody/something (กระทบ)

confident (adj) = feeling sure about your own ability to do things and be successful

(ที่มนั่ ใจ)

increase (v) = to become or to make something greater in amount, number, value

etc. (เพมิ่ ข้ึน)

put right (phr v) = to make a situation better, especially after someone has made a

mistake or behaved badly (ทาใหร้ ู้สึกดีข้ึน)

tease (v) = to laugh at somebody and make jokes about them, either in a

friendly way or in order to annoy or embarrass them (หยอกลอ้ )

ข้นั Practice

1. หนงั สือเรยี น หน้า 16 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนอา่ นคาเกริ่นนาของ quiz เพอื่ ให้เขา้ ใจความสาคญั ของ
self-respect

2. นกั เรียนอ่านคาถามใน quiz แลว้ ครูตรวจสอบวา่ ทุกคนเขา้ ใจคาถาม จากน้นั ให้นกั เรียนทา quiz
เสร็จแลว้ ให้เปรียบเทยี บกบั เพ่อื น แลว้ ครูสารวจว่านกั เรียนส่วนใหญต่ อบขอ้ ใดมากท่ีสุด

3. ครูให้นกั เรียนอ่านผลลพั ธ์ของ quiz แลว้ ครูสรุปให้นกั เรียนฟัง

ข้นั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 16 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ สมมตวิ า่

ตนเองเป็นนกั สงั คมสงเคราะหเ์ ดก็ ซ่ึงตอ้ งไปพดู ให้วยั รุ่นฟังในหัวขอ้ เร่ือง self-respect ครูให้
นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ระดมสมองคดิ เกี่ยวกบั ประเดน็ ทจ่ี ะตอ้ งพดู คอื what self-respect is, why it’s
important, ways to respect yourself และจดบนั ทกึ ส้ัน ๆ ในแต่ละประเดน็

what self-respect is: a feeling of confidence, pride in your own self-worth.
why it’s important: can lead to better friendships, better marks at school.
ways to respect yourself: don’t be afraid to say no, admit your mistakes, respect
others, don’t compare yourself with others.

73

2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ไปคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพิม่ เตมิ จากอินเทอร์เน็ตเก่ียวกบั แตล่ ะประเดน็
เพื่อเตรียมพดู นาเสนอในชวั่ โมงหนา้

3. นกั เรียนทา Language Review 1e & Prepositions Exs. 4-5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 105 ร่วมกนั ในช้ัน
4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 10 Ex. 3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ชั่วโมงที่ 2

ข้นั Warm up
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ งพฤตกิ รรมท่ีแสดงถงึ การมี self-respect แลว้ ครูเขยี นบนกระดาน
เช่น ไมย่ อมแพต้ ่อสิ่งยาก ๆ ไม่เปรียบเทยี บรูปร่างของตนเองกบั ผูอ้ ่นื

ข้นั Pre-speaking
1. ครูให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ เตรียมตวั พดู นาเสนอ โดยครูแนะนาข้นั ตอนการนาเสนอ ดงั น้ี

- พดู ทกั ทายผฟู้ ังก่อนนาเสนอ เช่น Hello, everyone., Good morning. Good afternoon.
- พูดบอกหวั ขอ้ หรือเรื่องที่จะนาเสนอ เช่น I would like to talk about …
- พดู นาเสนอขอ้ มลู ในแต่ละประเด็นอยา่ งชดั เจน
- พูดขอบคณุ ผฟู้ ังเมื่อจบการนาเสนอ เช่น Thank you for listening. Thank you for your

attenstion.
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายว่ามารยาทผฟู้ ังท่ีดีควรปฏิบตั อิ ยา่ งไร เช่น ต้งั ใจฟัง ไม่คุยรบกวนการ

นาเสนอ สบตาผพู้ ดู ยกมือเมอ่ื มีคาถามหรือตอ้ งการขดั จงั หวะ ปรบมือเม่ือจบการนาเสนอ จากน้นั
ครูบอกนกั เรียนวา่ ในขณะทฟี่ ังเพ่อื นนาเสนอ นกั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามมารยาทของผฟู้ ังท่ีดี
3. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกล่มุ ทบทวนขอ้ มูลท่ีจะนาเสนอ และเตรียมตวั พูด โดยครูแนะนาวา่ นกั เรียนควร
เวน้ จงั หวะในการพูด และสบตาผฟู้ ังดว้ ย

ข้นั Speaking
ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาพูดนาเสนอในหวั ขอ้ เรื่อง self-respect โดยปฏบิ ตั ิตามข้นั ตอนทค่ี รู
แนะนา

74

Good morning. I would like to talk to you about self-respect.
Self-respect is the feeling of confidence we have when we feel we have value. It
is also a feeling of pride in what we do.
Self-respect affects every area of our life. When we don’t respect ourselves, it is
more difficult to respect others. Also, other people will respect you more when
you respect yourself.
There are many ways to develop self-respect. Think of yourself as a winner not
a loser. Don’t give up easily and don’t do anything you don’t agree with just to
be popular. Don’t compare yourself with others and always respect other
people’s property, opinions and beliefs. We are all special so make the effort
and respect yourself!
Thank you for listening.

ข้นั Post-speaking
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปวา่ self-respect คอื อะไร และร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั
ขอ้ ดีของการมี self-respect

7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
สมดุ นกั เรียน -
วธิ ีการวดั
ตรวจการจดบนั ทึกส้นั ๆ เกี่ยวกบั แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเด็นท่จี ะนาเสนอ
ประเมนิ การพูดนาเสนอเรื่อง self- แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
respect อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุง่ มน่ั
ในการทางาน

75

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
3) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
4) พจนานุกรมออนไลน์
5) อนิ เทอร์เนต็

76

6 Writing 1f

2 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- บอกใจความสาคญั และรายละเอยี ดของบทสนทนาท่อี า่ นได้
- แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนดได้
- พดู สนทนาชื่นชมเครื่องแตง่ กายได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เกี่ยวกบั เรื่องท่ีฟังและอา่ นจากส่ือประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเดน็
ต่าง ๆ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกบั topic sentence และการใช้ linkers ช่วยให้เขา้ ใจและสามารถจบั ใจความหลกั

ของงานเขียนทีม่ หี ลายยอ่ หนา้ ได้ รวมถึงสามารถเขียนบทความไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

77

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Physical appearance (plump, easy-going, honest, fair, old, short,

sensitive, reserved, of medium height, moustache, rude, shy, in her late

twenties, outgoing, patient, beard, well-built, slim, spiky, wavy, long,

curly, round, straight, oval, polite, fat, small, in his early thirties, skinny

dark, thin, teenager, overweight, in his mid forties, middle-aged, freckles,

tall, wrinkles,)

Character adjectives (cheerful, selfish, generous, popular, talkative,

bossy, energetic, honest, impatient)

Grammar: linkers (and, also, as well, too, but, however, on the other hand)

Functions: Describing people

She is tall with long dark hair and blue eyes.

She is very lively and loves talking.

2) Language Skills

Reading: อา่ นเพ่อื หา topic sentences

Writing: เขียนบทความเกี่ยวกบั เพ่อื นสนิท

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน

78

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทท์ ีใ่ ชบ้ รรยายลกั ษณะรูปร่าง (appearance) และบคุ ลิกลกั ษณะ (character) ดว้ ยการ
ให้นกั เรียนเลน่ เกม เช่น Hangman

ข้นั Pre-reading
ครูเขียนคาว่า topic sentence บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอา่ น Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 17
และช่วยกนั อธิบายวา่ คอื อะไร จากน้นั ครูสรุปให้ฟังวา่ topic sentence คือ ประโยคทแี่ สดงความคิด
หลกั (main idea) ของยอ่ หนา้ โดยทว่ั ไปมกั จะอยตู่ น้ ยอ่ หนา้

Topic sentence คือ ประโยคทแี่ สดงความคดิ หลกั (main idea) ของยอ่ หนา้ อาจจะวาง
อยตู่ น้ กลาง หรือทา้ ยยอ่ หนา้ โดยทวั่ ไปมกั จะอยตู่ น้ ยอ่ หนา้ ส่วนประโยคที่ตามมาจะ
เป็นประโยคทข่ี ยายความความคิดหลกั
การเขยี นยอ่ หนา้ ควรมี topic sentence และมโี ครงสร้างที่ชดั เจน จะทาให้ผอู้ า่ นตดิ ตาม
ไดง้ ่าย ไมค่ วรเขยี นขอ้ ความท่ไี ม่เกี่ยวขอ้ งกบั topic sentence ในยอ่ หนา้ น้นั ๆ
ที่มา: http://graduate.east.spu.ac.th/KM/AcademicWriting(F)/unit3/U3_3/02.html

ข้นั Reading
1. ครูแจก worksheet 1 (ทา้ ยแผน Writing 1f) ให้นักเรียนอ่านและหา topic sentence เสร็จแลว้ ครูขอ

อาสาสมคั รบอกคาตอบ แลว้ ครูเฉลยคาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง

1C 2B 3C 4B 5D

2. หนงั สือเรยี น หน้า 17 Ex. 1 นกั เรียนอ่าน topic sentence (A-C) แลว้ อ่านบทความเพอ่ื หาวา่ แต่ละ
ยอ่ หนา้ กลา่ วถึงเรื่องอะไร แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่ topic sentence ให้สมั พนั ธก์ บั ยอ่ หนา้ ซ่ึงจะมี topic
sentence เกินมา 1 หัวขอ้ เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ

79

1C 2A

3. นกั เรียนอา่ นบทความท่ีสมบูรณ์แลว้ พร้อม ๆ กนั แลว้ ครูใหน้ กั เรียนดูภาพเดก็ ผูห้ ญงิ 2 คน ครูถามวา่
เดก็ ผหู้ ญิงทีก่ ล่าวถงึ ในบทความคือคนใด

Lindsay is the girl on the right in the picture.

4. หนังสือเรยี น หน้า 17 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นบทความใน Ex. 1 อีกคร้งั เพ่ือหา adjective ทผี่ เู้ ขียน
ใชบ้ รรยายบคุ ลิกลกั ษณะของ Lindsay พร้อมท้งั หาเหตุผลท่ีผูเ้ ขยี นใชป้ ระกอบความคดิ เห็นของ
ตนเอง

popular, kind, polite, tolerant (never says a bad word about anyone),
great sense of humour (makes me laugh a lot), a bit sensitive

ข้นั Post-reading
1. ครูถามนกั เรียนว่าจากบทอ่านผเู้ ขียนรู้ขอ้ มลู อะไรบา้ งของ Lindsay แลว้ ใหน้ กั เรียนแสดงความ

คดิ เห็นว่านกั เรียนควรรู้ขอ้ มูลอะไรบา้ งเกี่ยวกบั เพ่อื นสนิทของตนเอง
2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 11 Exs. 1-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงที่ 2
ข้นั Warm up

ครูทบทวน adjective บรรยายลกั ษณะรูปร่างและบุคคลกิ ลกั ษณะ โดยแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม
จากน้นั ครูนึกคาศพั ท์ 1 คา แลว้ เขยี นตวั อกั ษรตวั แรก และขดี เส้นเทา่ จานวนตวั อกั ษรทเ่ี หลอื ของคา
น้นั เช่น คาวา่ popular p _ _ _ _ _ _ ให้ท้งั 2 ทีม แขง่ กนั ทายคาศพั ท์

80

ข้นั Pre-writing
1. ครูนาเสนอการใช้ linkers ในการเชื่อมประโยค ดว้ ยการยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน

He is a smart and diligent employee.
He is smart and he is a diligent employee as well/too.
He is smart and he is also a diligent employee.
It was raining but they went on a picnic.
It was raining. However, they went on a picnic.
In the UK the hottest month of the year is usually July. On the other hand, in
southern Europe the hottest period is usually in August.
ครูให้นกั เรียนระบุวา่ ประโยคใดแสดงความคลอ้ ยตามกนั ประโยคใดแสดงขดั แยง้ กนั จากน้นั ให้
นกั เรียนระบวุ ่าประโยคทคี่ ลอ้ ยตามกนั ใช้ linkers คาใดบา้ ง และประโยคทขี่ ดั แยง้ กนั ใช้ linkers คา
ใดบา้ ง แลว้ ครูสรุปให้ฟัง
2. ครูให้นกั เรียนอ่าน Study Skills หนงั สือเรียน หนา้ 17 เก่ียวกบั การใช้ linkers เพื่อทบทวนความ
เขา้ ใจ
3. หนงั สือเรยี น หน้า 17 Ex. 3 นกั เรียนฝึกใช้ linkers โดยเขียนประโยคท่ีให้มาโดยใช้ linkers ใน
วงเลบ็ ครูย้ากบั นกั เรียนวา่ however กบั on the other hand มกั จะใชข้ ้ึนตน้ ประโยค และมี comma
ตาม เมื่อเขียนเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนประโยคบนกระดาน และให้นกั เรียนในช้ัน
ช่วยกนั ตรวจความถกู ตอ้ ง

2 She’s tall. She’s very thin as well.
3 He’s cheerful. He’s also outgoing.
4 She’s clever. However, she can be bossy at times.
5 They are usually generous but they can be selfish at times.

4. หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 4 นกั เรียนอา่ นประโยคคาถามพร้อมกนั แลว้ ครูตรวจสอบว่าทกุ คนเขา้ ใจ
คาถาม จากน้นั ให้นกั เรียนตอบคาถามโดยใชข้ อ้ มลู ของเพอื่ นสนิท แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน
อา่ นคาตอบให้ครูและเพอ่ื นฟัง

81

1 Sophie is 13 years old.
2 She’s tall with long dark hair and blue eyes.
3 She is very lively and loves talking. She calls me almost every night. She is

also very patient and always listens to me when I talk about my problems.
4 All in all, I think Sophie is an interesting and exciting person. We always have

a great time together and tell each other everything. I’m very happy that she is
my best friend!

5. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 17 Ex. 5 วา่ นกั เรียนจะไดเ้ ขยี นบทความเกี่ยวกบั เพอื่ น
สนิท โดยใชค้ าตอบจาก Ex. 4 แลว้ ให้นกั เรียนดูโครงร่างการเขียน และบอกครูวา่ แต่ละยอ่ หนา้
จะตอ้ งเขยี นเก่ียวกบั อะไร

ข้นั Writing
หนังสือเรยี น หน้า 17 Ex. 5 ครูใหน้ กั เรียนเขียนบทความเก่ียวกบั เพือ่ นสนิท โดยเขียนตามโครงร่าง
ทก่ี าหนด

My best friend is Sophie. We first met at a party when we were 12.
Sophie is pretty with a great personality. She is tall with long dark hair and blue
eyes. She is very lively and loves talking. She calls me almost every night and
sometimes we chat for hours! She is also very patient and always listens to me
when I talk about my problems.
Sophie likes writing. Last year, she won first prize in a short story competition.
I was not surprised because she is imaginative and very good at writing stories.
She plays the piano and the guitar as well.
All in all, I think Sophie is an interesting and exciting person. We always have a
great time together and tell each other everything. I’m very happy that she is my
best friend!

82

ข้นั Post-writing
1. ครูให้นกั เรียนตรวจทานงานเขียนของตนเอง โดยดเู ร่ืองไวยากรณ์ (grammar) การสะกด (spelling)

เคร่ืองหมายวรรคตอน (punctuation) การใชอ้ กั ษรตวั ใหญ่ (capitalisation) การใชค้ ายอ่
(abbreviation) และการใชค้ าเชื่อม (linkers) ครูอาจยกตวั อยา่ งขอ้ ผิดพลาดเหลา่ น้ีใหน้ กั เรียนดูบน
กระดาน
2. นกั เรียนทา Self-Check 1 ในหนงั สือเรียน หนา้ 113
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 11 Exs. 5-6 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
วธิ กี ารวดั แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น
ประเมินการเขียนบทความเกี่ยวกบั แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
เพอ่ื นสนิท อนั พึงประสงค์
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) Worksheet 1

83

Worksheet 1

Find the topic sentence.

1.
All insects have three main body parts: the head, the thorax, and the abdomen. The head has
a pair of antennae, and a pair of compound eyes. The thorax is the middle region of the
body, and it bears the legs and wings. The abdomen contains many body organs, such as the
heart, respiratory system, digestive system and reproductive system. Even though there are
many different sizes, shapes, and colors of insects, they all have the same body.

A The thorax is the middle region of the body.
B The abdomen contains many body organs.
C All insects have three main body parts, the head, the thorax, and the abdomen.
D The head has a pair of antennae, and a pair of compound eyes.

2.
I had a wonderful summer this year. I went to visit my aunt and my cousins in San Diego.
My aunt is a ballet instructor. I took Ballet lessons from her. I went to see the famous San
Diego Zoo with my cousins. We went to the beach almost every day. We stayed up late
watching TV and playing card games. I wished my summer would never end!

A I wished my summer would never end. B I had a wonderful summer this year.
C We went to the beach almost every day. D My aunt is a Ballet instructor.

3.
Kitty Hawk was made famous on December 17, 1903, when the Wright brothers made the
first airplane flights. The exact location where they flew their first airplane is known as the
Kill Devil Hills. It is a small coastal area in Kitty Hawk town in Dare County, North
Carolina, United State of America. The town was established in 1700s.

84

A The town was established in 1700s.
B It is a small coastal area in Kitty Hawk town in Dare County, North Carolina, United State of

America.
C Kitty Hawk was made famous on December 17, 1903, when the Wright brothers made the

first airplane flights.
D. The exact location where they flew their first airplane is known as the Kill Devil Hills

4.
Niagara Falls is a set of massive waterfalls located on the Niagara River. The falls are
located between the twin cities of Niagara Falls, New York. The distance of the falls from
Buffalo, New York is approximately 27 km. It is also about 120 km south-southeast of
Toronto, Ontario. Thousands of tourists go to visit the falls every year. My uncle visited it
last year. I would like to go there some day as well.

A My uncle visited it last year.
B Niagara Falls is a set of massive waterfalls located on the Niagara River.
C It is also about 120 km south-southeast of Toronto, Ontario.
D Thousands of tourists go to visit the falls every year.

5.
Alicia was very upset today. She lost her favorite toy that she got on her birthday. This was
not an ordinary present; it was a present from her best friend. Her friend’s name is Amy.
She is of her age. They play together after school everyday. Their favorite pastime is to
dress up dolls. Alicia’s dad told her that he would buy her a new toy. But that did not make
her happy.

A Their favorite pastime is to dress up dolls. B They play together after school everyday.

C But that did not make her happy. D Alicia was very upset today.

ที่มา: http://www.mytestbook.com/worksheet.aspx?test_id=617

85

7 ASEAN corner 1

1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- บอกรายละเอียดของเร่ืองทอ่ี า่ นได้
- พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การเคารพซ่ึงกนั และกนั ได้
- เขียนเกี่ยวกบั วฒั นธรรม ภาษา อาหาร และประเพณีของประเทศสมาชิกกลุ่มประชาคมอาเซียนได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบุหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขยี นสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หัวขอ้ เร่ืองท่ไี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่ือง/
ข่าว/เหตกุ ารณ์/สถานการณ์ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 3/3 พดู และเขยี นแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์ พร้อม
ท้งั ให้เหตผุ ลประกอบ
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น
พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

86

ตวั ช้ีวดั คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน
ต 3.1 ม. 3/1 จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู และการเขียน

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเขา้ ใจในความแตกตา่ ง ท้งั ดา้ นศาสนา วฒั นธรรม เช้ือชาติในประเทศกล่มุ ประชาคมอาเซียน

ช่วยใหเ้ คารพความแตกตา่ งซ่ึงกนั และกนั กอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์ในดา้ นเศรษฐกิจ และสามารถอยรู่ ่วมกนั ได้
อยา่ งสนั ติ

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (respect, lead)

Nouns (the Holocaust, genocide, race, difference, belief, diversity,

strength, conflict, region, economy)

Adjectives (religious, ethnic, cultural, economic)

Functions: Talking about respecting other people

I respect others by joining the queue.

I respect others by listening to their opinions with opened-mindedness.

2) Language Skills

Speaking: พดู แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั วิธีแสดงออกถึงการเคารพผอู้ ่ืน

Reading: อ่านเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียนตารางเปรียบเทียบวฒั นธรรม ภาษา อาหาร และประเพณีของประเทศ

สมาชิกกลมุ่ ประชาคมอาเซียนกบั ประเทศไทย

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 2) ความสามารถในการคิด
1) ความสามารถในการสื่อสาร
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 2) มุ่งมน่ั ในการทางาน
1) ใฝ่เรียนรู้ 87

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั การนบั ถอื ศาสนาในประเทศไทยและประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซียน
จากน้นั ครูให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งสถานทซ่ี ่ึงแสดงถงึ ความแตกตา่ งดา้ นศาสนา เช่น วดั สุเหร่า โบสถ์

ข้นั Pre-reading
1. ครูใหน้ กั เรียนดภู าพและอ่านช่ือเรื่อง Respecting Differences: A Strong ASEAN ในหนงั สือเรียน

หนา้ 18 แลว้ ใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การเคารพความแตกต่าง
2. ครูให้นกั เรียนอ่านบทอ่านยอ่ หนา้ ที่ 2 แลว้ บอก topic sentences (A special feature of Southeast

Asia is its cultural diversity.)
3. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ให้แตล่ ะกลมุ่ อา่ นเร่ือง Respecting Differences: A Strong

ASEAN และขดี เสน้ ใตค้ าศพั ทย์ าก ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหอ้ ่านคาศพั ทท์ ขี่ ดี เส้นใตก้ ลุม่ ละ 1 ยอ่ หนา้
คาใดท่ีนกั เรียนอา่ นไมถ่ ูกตอ้ ง ใหอ้ า่ นตามครูพร้อมกนั จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดาความหมาย
ของคาศพั ท์ ถา้ คาใดนกั เรียนไมร่ ู้ให้หาความหมายจากพจนานุกรม เช่น

race (n) = one of the main groups that humans can be divided into according to
the colour of their skin and other physical features (เช้ือชาต)ิ

diversity (n) = the fact of including many different types of people or things
(ความหลากหลาย)

ethnic (adj) = relating to a particular race, nation, or tribe and their customs
and traditions

ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 18 Ex. 1 ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยคกลุม่ ละ 1 ขอ้ พร้อมท้งั บอก Key words
ในแตล่ ะประโยค จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลมุ่ อา่ นเรื่อง Respecting Differences: A Strong ASEAN และ
ตอบคาถาม เสร็จแลว้ ครูขอตวั แทนกลุม่ บอกคาตอบ

1F 2T 3F 4T 5T

88

ข้นั Post-reading
1. หนงั สือเรยี น หน้า 18 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พูดบอกวธิ ีแสดงออกถึงการเคารพผอู้ ื่น โดย

ใชว้ ลีทก่ี าหนด ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน
2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั วธิ ีแสดงออกถงึ การเคารพผอู้ ่นื นอกเหนือจากใน

Ex. 2 ให้นกั เรียนช่วยกนั คิดและบอกครู แลว้ ครูเขียนบนกระดาน
3. หนังสือเรยี น หน้า 18 Ex. 3 ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ให้แต่ละกลุ่มคน้ ควา้ ขอ้ มลู

เก่ียวกบั วฒั นธรรม ภาษา อาหาร และประเพณีของประเทศสมาชิกกลุม่ ประชาคมอาเซียนทแี่ ตกต่าง
จากประเทศไทยมา 3 ประเทศ แลว้ เขียนเป็นตารางเปรียบเทียบขอ้ มูล

7. การวดั และการประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากเรื่องทอี่ า่ น สมดุ นกั เรียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สังเกตการแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้
ระดบั คุณภาพ ผ่าน
วิธีแสดงออกถงึ การเคารพผอู้ น่ื

ประเมินการเขียนตารางเปรียบเทยี บ แบบประเมินการเขียน

วฒั นธรรม ภาษา อาหาร และประเพณี

ของประเทศสมาชิกกล่มุ ประชาคม

อาเซียนกบั ประเทศไทย

สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมนั่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ

ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
3) พจนานุกรมออนไลน์
4) อนิ เทอร์เน็ต

89

8 O-NET practice & Fun time 1

1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ท่เี รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
- เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาทเี่ รียนมาแลว้ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลือกหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟ่ี ังและอ่าน พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ช่วยใหพ้ ูด/เขยี นส่ือสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา

ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

90

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ที่ 1

Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขยี น quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาทีเ่ รียนมาแลว้

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ม่งุ มนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm up
นกั เรียนดหู นงั สือเรียน หนา้ 19-20 แลว้ บอกครูวา่ กิจกรรมที่นกั เรียนคิดวา่ จะไดท้ าในชวั่ โมงน้ีมี
อะไรบา้ ง

ข้นั Presentation
1. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ ่ีเรียนในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
2. ครูทบทวนไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ดว้ ยการใหน้ กั เรียนระดมสมองพดู บอกไวยากรณ์ท่ี

เรียนรู้ในหน่วยน้ี ครูเขียนตามที่นกั เรียนบอกบนกระดานในรูปของ mind map จากน้นั ให้นกั เรียน
ช่วยกนั พูดบอกหลกั การใชแ้ ละโครงสร้างประโยค

91

Present
simple

too - Present

enough ไวยากรณ์ continuous

หน่วยการ

เรียนรู้ท่ี 1

comparatives singular/
- superlatives plural nouns

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 20 Ex. 1 นกั เรียนจบั คู่กนั อ่านคาใบท้ ใี่ หม้ า แลว้ เติมคาลงในอกั ษรไขว้ เสร็จแลว้

ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ

Down Across
1 surgeon 3 stuntman
2 increase 4 wages
3 shifts 5 creative

2. หนังสือเรยี น หน้า 20 GAME ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทีม เพอ่ื เล่นเกม What’s the job? โดยให้แต่ละ
ทีมนึกถงึ อาชีพจากหนงั สือเรียน หนา้ 9-11 แลว้ ส่งตวั แทนออกมากระซิบบอกครู จากน้นั ให้สมาชิก
อกี ทมี หน่ึงผลดั กนั ถามคาถาม Yes/No questions เพ่อื ทายวา่ คอื อาชีพอะไร โดยสามารถถามคาถาม
ไดแ้ ค่ 5 คาถามเท่าน้นั
Team A S1: Do you work outdoors?
Leader: No, I don’t
Team A S2: Do you work with a computer?
Leader: Yes, I do.

92

3. หนังสือเรียน หน้า 20 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนคู่เดิมช่วยกนั ทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดเู น้ือหา เสร็จแลว้ ให้
นกั เรียนเปรียบเทียบคาตอบกบั เพ่อื น จากน้นั ครูจึงเฉลยคาตอบ

1T
2 F (A living statue covers her skin with body paint.)
3T
4 F (The Pygmies are the shortest people in the world.)

4. หนงั สือเรยี น หน้า 20 Ex. 4 นกั เรียนดภู าพบุคคลในเน้ือเพลง ครูถามนกั เรียนว่ารู้จกั บคุ คลใดบา้ ง ให้
นกั เรียนช่วยกนั บอกชื่อ (e.g. Queen Cleopatra VII, King Ramses II, Marie Curie, George
Washington)
ตอ่ มาให้นกั เรียนอ่านคา/วลีทกี่ าหนดให้ ครูอธิบายว่าคาเหล่าน้ีปรากฏอยใู่ นเน้ือเพลง ใหน้ กั เรียนเดา
วา่ เพลงน้ีน่าจะมีเน้ือหาเกี่ยวกบั อะไร จากน้นั ครูเปิ ดเพลงให้นกั เรียนฟังเพ่ือหาคาตอบ

The song is about leaders of countries and how they help their people.
The song is also about how we can be great leaders in our daily lives.

5. หนังสือเรียน หน้า 20 Ex. 5 หลงั จากฟังเพลงจบ ครูถามนกั เรียนว่าเห็นดว้ ยกบั นกั ร้องหรือไม่ ครูให้
เวลานกั เรียนเขียนแสดงความคดิ เห็น พร้อมท้งั อธิบายเหตุผลประกอบ จากใหน้ กั เรียนอภปิ ราย
ร่วมกนั

I think great leaders need to listen to their people and make decisions based on
what is best for the people. On the other hand, leaders sometimes have to make
decisions that people don't like. When they do this, they must be strong and daring.

6. หนังสือเรยี น หน้า 19 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไม่เขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพ่มิ เติม

93


Click to View FlipBook Version