4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มน่ั ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
1. ครูทบทวนการออกเสียง /æ/ และ /e/ โดยแสดงบตั รคา bad, dad, test, neck, sand, pat, gas, mad, bed,
pet, met, past แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียง
2. ครูถามคาถามเกี่ยวกบั รายการโทรทศั นใ์ นปัจจุบนั เพ่ือกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียน เช่น นกั เรียน
ชอบดรู ายการโทรทศั น์รายการใด เพราะเหตุใดจึงชอบดู นกั เรียนดูรายการดงั กลา่ วบอ่ ยหรือไม่
ข้นั Presentation
1. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั รายการโทรทศั น์ โดยแสดงบตั รคา ให้นกั เรียนอ่านคาศพั ทพ์ ร้อมกนั
จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนทลี ะคนใหอ้ ่านคาศพั ทต์ ามบตั รคาทคี่ รูแสดง
2. ครูทบทวน adjectives ที่ใชบ้ รรยายเกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์ โดยใหน้ กั เรียนอา่ น adjectives ใน
หนงั สือเรียน หนา้ 81 พร้อมท้งั บอกความหมาย
ต่อมาครูสอน adjectives เพมิ่ เตมิ โดยเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน ไดแ้ กค่ าว่า
scary interesting sad realistic
enthralling stimulating thought-provoking
ให้นกั เรียนอ่านคาศพั ทต์ ามครูพร้อมกนั 2 คร้งั จากน้นั ช่วยกนั บอกความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้ ให้
นกั เรียนเปิ ดหาความหมายในพจนานุกรม เช่น
realistic (adj) = seeming to exist or be happening in fact (ดูสมจริง)
enthralling (adj) = keeping someone's interest and attention completely (ทาให้
ติดตรึงใจ)
492
stimulating (adj) = making you feel enthusiastic and full of ideas (เร้าใจ)
thought-provoking (adj) = making you think a lot about a subject (กระตนุ้ ความคดิ หรือ
สิ่งทสี่ นใจ)
3. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 พูดแสดงความคดิ เห็นหรือความรู้สึกเกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์ เช่น
S1: I think soap operas are boring.
S2: I like comedies. They’re funny.
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 87 Ex. 1 ครูเปิ ด CD โดยหยดุ ทีละประโยค ให้นกั เรียนฟังประโยคทเี่ ก่ียวกบั
รายการโทรทศั น์และออกเสียงตาม โดยครูเปิ ด CD 2 คร้งั จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นประโยคดว้ ยตนเอง
พร้อมกนั
2. หนงั สือเรยี น หน้า 87 Ex. 2 ครูอธิบายวา่ ประโยคใน Ex. 1 มาจากบทสนทนาระหว่างเพ่ือน 2 คน
ใหน้ กั เรียนฟัง CD และอา่ นบทสนทนาตาม เพอื่ หาวา่ พวกเขาเลอื กดรู ายการประเภทใด จากน้นั ครู
รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน และเฉลยคาตอบ
They choose to watch a wildlife programme about sharks.
3. หนงั สือเรยี น หน้า 87 Ex. 3 นกั เรียนอ่านประโยค 1-4 แลว้ อ่านบทสนทนาอกี คร้งั เพ่อื หาประโยคทม่ี ี
ความหมายเหมือนกบั ประโยคเหล่าน้ี จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ แลว้ ให้นกั เรียนในช้นั
ตรวจความถูกตอ้ ง
1 Do you feel like watching it? – Do you fancy watching it?
2 That’s OK with me. – That sounds great.
3 When does it start? – What time is it on?
4 I can’t stand social dramas. – I just hate social dramas.
4. ครูใหน้ กั เรียนอ่านบทสนทนาใน Ex. 2 โดยนาประโยคใน Ex. 3 ไปแทนท่ปี ระโยคที่มีความหมาย
เหมือนกนั
493
5. หนังสือเรยี น หน้า 87 Ex. 4 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฝึกอา่ นบทสนทนา แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพูด
สนทนาโดยใชน้ ้าเสียงให้เหมาะสมกบั สถานการณ์ จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นประโยคใน Ex. 1 อีกคร้งั
แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย
ข้นั Production
หนังสือเรยี น หน้า 87 Ex. 5 นกั เรียนทางานคู่ แต่งบทสนทนาเก่ียวกบั การเลือกดรู ายการโทรทศั น์
จากแผนผงั แนะนารายการโทรทศั น์ทใ่ี ห้มา โดยนกั เรียนสามารถใชส้ านวนภาษาใน Ex. 1 และดู
บทสนทนาใน Ex. 2 เป็นตน้ แบบได้
เมอ่ื นกั เรียนแต่งบทสนทนาเสร็จแลว้ ส่งใหค้ รูตรวจ หลงั จากไดร้ บั บทสนทนาคืนแลว้ ใหน้ กั เรียนไป
ฝึกซอ้ มนอกเวลาเรียนเพ่อื พดู สนทนาในชว่ั โมงหนา้
A: There’s a quiz show on TV. Do you fancy watching it?
B: Not really. Quiz shows are boring. What else is on?
A: Well, there’s a wildlife programme on about elephants.
B: That sounds great. What channel is it on?
A: Channel 1.
B: What time is it on?
A: 6:30.
B: Let’s watch that. There’s a soap opera on after that.
A: Oh no, not that. I just hate soap operas.
494
ชั่วโมงที่ 2
ข้นั Warm up
ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทีม เพื่อเลน่ เกม What is missing? ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั รายการ
โทรทศั น์และ adjectives โดยครูตดิ บตั รคาบนกระดานคร้ังละ 4 ใบ ให้เวลานกั เรียนดูบตั รคา 5 วนิ าที
จากน้นั นกั เรียนหลบั หา ครูเปลีย่ นบตั รคา 1 ใบ แลว้ ให้นกั เรียนลมื ตา ทีมใดรู้ว่าบตั รคาใบใดหายไป
ใหย้ กมอื ข้ึนและบอกคาศพั ท์ ถา้ บอกคาศพั ทถ์ กู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทีมใดไดค้ ะแนนมากกวา่ จะเป็น
ผชู้ นะ
ข้นั Pre-speaking
1. ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 87 Ex. 2 แลว้ อ่านตามพร้อมกนั จากน้นั
ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลมุ่ ให้กลุ่มหน่ึงอา่ นบทของ Steve และอกี กลมุ่ หน่ึงอา่ นบทของ Anna โดย
ให้นกั เรียนใชน้ ้าเสียงให้เหมาะสมในการแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก
2. ครูใหเ้ วลานกั เรียนแต่ละคทู่ บทวนบทสนทนาที่ตนเองแตง่ เพ่อื เตรียมความพร้อมกอ่ นออกมาพูด
สนทนาหนา้ ช้นั เรียน
ข้นั Speaking
1. กอ่ นเริ่มพดู สนทนา ครูให้นกั เรียนทกั ทายเพอ่ื นและแนะนาตนเองดว้ ย เช่น Hi, everyone. I’m
Sunisa. Hello, my friends.
2. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคู่ออกมาพูดสนทนาหนา้ ช้นั เรียน โดยครูอาจเรียกตามลาดบั เลขทหี่ รือเรียกตาม
แถวท่ีนง่ั ขณะทนี่ กั เรียนพดู สนทนาครูคอยสังเกตและจดบนั ทึก
ข้นั Post-speaking
1. ครูใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั (feedback) เร่ืองการใชภ้ าษาของนกั เรียน เช่น ไวยากรณ์ การออกเสียง น้าเสียง
กิริยาท่าทาง เพ่อื ใหน้ กั เรียนนาไปปรับปรุงแกไ้ ขในคร้งั ต่อไป
2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละคไู่ ปฝึกอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 87 ใหค้ ล่อง แลว้ มาอา่ น
บทสนทนาใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 58 Exs. 3-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
495
7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบประเมินการอ่านออกเสียง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วธิ กี ารวดั แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมินการอา่ นออกเสียงบทสนทนา
ประเมินการแตง่ บทสนทนาตาม แบบประเมินการแสดงบทสนทนา/ ระดบั คุณภาพ พอใช้
สถานการณท์ ี่กาหนด บทบาทสมมติ
ประเมนิ การพูดสนทนาตาม แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
สถานการณ์ทก่ี าหนด อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มนั่
ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) บตั รคาเสียง /æ/ และ /e/
7) บตั รคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั รายการโทรทศั นแ์ ละ adjectives
496
5 Across cultures 7e
2 ช่ัวโมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอยี ดของเร่ืองทอ่ี า่ นได้
- พดู เก่ียวกบั เครื่องดนตรีทอ่ี ยากเลน่ ได้
- เปรียบเทยี บเครื่องดนตรีของไทยกบั เครื่องดนตรีของประเทศทางตะวนั ตกได้
- คน้ ควา้ เคร่ืองดนตรีพ้ืนเมืองของไทยและพูดนาเสนอได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกบั เรื่องทฟี่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/3 พดู และเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วามช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธ
การใหค้ วามช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกบั เรื่องทฟี่ ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรื่องที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์เรื่อง/
ข่าว/เหตกุ ารณ์/สถานการณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม
497
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 3/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยแู่ ละ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย และนาไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูดและการเขียน
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การอ่านและเรียนรู้คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เคร่ืองดนตรี จะช่วยให้เขา้ ใจและสามารถพูด/เขียนให้ขอ้ มลู
เกี่ยวกบั เรื่องทอี่ ่าน และคน้ ควา้ ความรู้เพม่ิ เติมจากแหล่งการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (made from, feature)
Nouns (string instruments, wind instruments, percussion instruments,
royal courts, band, brass, tube, mouthpiece, beggar)
Adjective (oval)
Functions: Talking about musical instruments
I would like to play the piano because I like how it sounds.
2) Language Skills
Speaking: พดู เก่ียวกบั เครื่องดนตรีทต่ี อ้ งการเล่น,
พดู นาเสนอเคร่ืองดนตรีพ้ืนเมอื งของไทย
Reading: อา่ นเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ
Writing: เขยี นใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั เรื่องทอี่ า่ น
498
3) Cultures เครื่องดนตรี
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั Warm up
ครูถามคาถามเพอ่ื ดึงความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่บทเรียน
Do you like listening to music?
Can you play musical instrument? Which one can you play?
What musical instrument do you want to play? Why?
ข้นั Pre-reading
1. ครูทบทวนเร่ือง passive โดยเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระบุว่าประโยคใด
เป็นประโยค passive และประโยคใดเป็นประโยค active
I play the guitar. (Active)
The guitar was played by me. (Passive)
ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกหลกั การเปลี่ยนประโยค active เป็นประโยค passive แลว้ ครูช่วยสรุป
ดงั น้ี
นากรรมของประโยค active ไปเป็นประธานของประโยค passive
เปล่ียนคากริยาของประโยค active ใหอ้ ยใู่ นรูป passive คือ verb to be + past participle
(กริยาช่องที่ 3)
499
ยา้ ยประธานของประโยค active ไปเป็นผกู้ ระทาในประโยค passive โดยมี preposition
“by” นาหนา้
จากน้นั ครูเขียนประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนเปลี่ยนให้อยใู่ นรูป passive เช่น
Tom painted that picture last week. (That picture was painted by Tom last week.)
Mum cleans the house every day. (The house is cleaned by mum every day.)
I gave him a wallet for his birthday. (He was given a wallet for his birthday by me.)
2. หนงั สือเรียน หน้า 88 Ex. 1 นกั เรียนฟังเสียงดนตรีจาก CD และจบั คู่กบั ชนชาติทเี่ ป็นตน้ กาเนิด ครู
รวบรวมคาตอบจากนกั เรียน แลว้ เฉลยคาตอบ พร้อมท้งั เปิ ด CD ให้ฟังตามไปดว้ ย
a6 b3 c7 d4 e8
f 1 g5 h2 i 9
3. ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ประเภทของเคร่ืองดนตรี โดยเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน wind instrument,
string instrument, percussion instrument ให้นกั เรียนอา่ นพร้อมกนั แลว้ ลองเดาความหมาย จากน้นั
ครูอธิบายความหมายที่ถกู ตอ้ ง
wind instrument (n) = a musical instrument in which sound is produced by the
vibration of air, typically by the player blowing into the
instrument (เครื่องเป่ า)
string instrument (n) = a musical instrument with a set of strings that vibrate to
produce sound when they are pulled, hit, or rubbed with a
bow (เคร่ืองดีด)
percussion instrument (n) = a musical instrument that is sounded by being struck or
scraped by a beater (including attached or enclosed beaters
or rattles); struck, scraped or rubbed by hand; or struck
against another similar instrument (เครื่องตหี รือเคาะ)
4. หนงั สือเรียน หน้า 88 Ex. 2a นกั เรียนเขยี นหัวขอ้ ประเภทของเครื่องดนตรีท้งั 3 ประเภทลงในสมุด
แลว้ เขยี นช่ือเครื่องดนตรีโดยแยกตามประเภทให้ถูกตอ้ ง จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกชื่อเคร่ือง
ดนตรีแต่ละประเภท ครูเขยี นบนกระดาน โดยช่วยเหลือเร่ืองคาศพั ทท์ ่ีนกั เรียนไมร่ ู้
500
wind: flute, trumpet, trombone, saxophone, recorder, clarinet
string: guitar, violin, double bass, cello
percussion: xylophone, drum, tambourine, cymbals
5. นกั เรียนอ่านคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 88 ซ่ึงเป็นคาศพั ทท์ จ่ี ะไดพ้ บใน
บทอา่ น แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย ถา้ คาใดทีไ่ มร่ ู้สามารถเปิ ดพจนานุกรมได้
oval (adj) = shaped like a circle that is flattened so that it is like an egg
(ซ่ึงเป็ นรูปไข่)
string (n) = a thin wire that is stretched across a musical instrument and is used
to produce a range of notes depending on its thickness, length and
tightness (สาย, เชือก, เสน้ )
band (n) = a group of musicians who play modern music together (วงดนตรี)
royal courts (n) = the official home of a queen or king (ราชสานกั )
feature(v) = to include someone or something as an important part (ทาใหเ้ ด่น)
made from (v) = to create or produce somehing from (ทาจาก)
brass (n) = a bright yellow metal made from copper and zinc (ทองเหลือง)
tube (n) = a long hollow pipe made of metal, plastic, rubber etc., through
which liquids or gases move from one place to another (ท่อ)
mouthpiece (n) = the part of a musical instrument that you place between your lips
(ส่วนที่ใชป้ ากเป่ าหรือคาบ)
beggar (n) = a poor person who lives by asking others for money or food
(ขอทาน)
6. หนงั สือเรยี น หน้า 88 Ex. 2b นกั เรียนดูภาพและเดาว่าเครื่องดนตรีชิ้นใดเป็นเครื่องเป่ า (wind
instrument) ช้ินใดเป็นเคร่ืองดีด (string instrument) เคร่ืองดนตรีเหล่าน้ีมีตน้ กาเนิดจากทใ่ี ด และ
ปัจจุบนั น้ียงั มีคนเล่นอยหู่ รือไม่
ข้นั Reading
นกั เรียนอ่านบทอ่านเรื่อง Musical Instruments Around The World ในหนงั สือเรียน หนา้ 88 เพอ่ื หา
คาตอบของคาถามใน Ex. 2b
501
Background information
วง The Beatles ประกอบดว้ ยสมาชิกในวง คอื John Lennon, Paul McCartney,
George Harrison และ Ringo Starr วง The Beatles เป็นวงดนตรีท่ีประสบ
ความสาเร็จมากทีส่ ุดในประวตั ิศาสตร์เพลงป๊ อป มยี อดขายทว่ั โลกมากกว่า
พนั ลา้ นแผ่น
George Harrison เป็นมือกีตาร์ นกั แตง่ เพลง และโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์
เขาเป็นหน่ึงในสมาชิกของวง The Beatles เสียชีวิตในปี ค.ศ. 2001
Titanic เป็นภาพยนตร์ที่ James Cameron เป็นผกู้ ากบั เขียนบท และร่วมผลิต
ภาพยนตร์เรื่องน้ีมีเน้ือหาเกี่ยวกบั เรือเดินสมทุ ร RMS Titanic ที่จมลงระหว่างทาง
ในปี ค.ศ. 1912 เหตกุ ารณ์คร้งั น้ีมผี โู้ ดยสารเสียชีวิตมากกวา่ 1,500 คน
ข้นั Post-reading
1. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบใน Ex. 2b จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ
The tin whistle is a wind instrument.
The sitar is a string instrument.
The tin whistle is from Ireland and the sitar is from South Asia.
They are still played nowadays.
2. หนังสือเรียน หน้า 88 Ex. 3 นกั เรียนหาประโยค passive ในบทอ่าน เมือ่ พบแลว้ ให้ขดี เสน้ ใตแ้ ละ
บอกครูว่ามีประโยคใดบา้ ง ครูให้นกั เรียนเขียนประโยคใหม่ให้อยใู่ นรูป active จากน้นั สุ่มเรียก
นกั เรียนออกมาเขยี นประโยคบนกระดาน
Passive: It is believed that the Indian sitar was invented in the 13th century and
it was often played at royal courts.
Active: People believe that they invented the Indian sitar in the 13th century
and they often played it at royal courts.
502
Passive: In the 1950s, the sitar was used by western jazz bands and became
popular in Europe and America.
Active: In the 1950s, Western jazz bands used the sitar and became popular in
Europe and America.
Passive: Today, the electric sitar is played by many different musicians around
the world.
Active: Today, different musicians play the electric sitar around the world.
Passive: It is made from a long, narrow, brass tube with six holes and a plastic
mouthpiece.
Active: People make it from a long, narrow, brass tube with six holes and a
plastic mouthpiece.
Passive: It is also called the penny whistle because in the past many beggars
used to play it in the streets for money.
Active: They also call it the penny whistle because in the past many beggars
used to play it in the streets for money.
Passive: Today, it is played by many musicians and in many styles of music.
Active: Today, Many musicians play it and in many styles of music.
3. หนังสือเรียน หน้า 88 Ex. 4a นกั เรียนทางานคู่ เขียนส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้จากบทอา่ นน้ีมา 4 อยา่ ง แลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ อ่านใหเ้ พ่อื นฟัง
The tin whistle is a wind instrument from Ireland.
The sitar is a string instrument from India.
The theme tune from the film ‘Titanic’ had a tin whistle in it.
George Harrison from the Beatles played a sitar.
จากน้นั ให้แตล่ ะคู่เลอื กเขยี นบรรยายเคร่ืองดนตรีในบทอา่ นมา 1 ชนิด แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่
(ไม่ซ้ากบั คู่ทเ่ี รียกไปแลว้ ) อ่านให้เพื่อนฟัง
503
A tin whistle is a wind instrument that looks like a small flute. It is made from
brass with a plastic mouthpiece.
A sitar is a string instrument that has got an oval body and a long neck with metal
strings.
4. ครูมอบหมายให้นกั เรียนคู่เดิมไปคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกีย่ วกบั เคร่ืองดนตรีพ้ืนเมอื งของไทยจากอนิ เทอร์เนต็
สารานุกรม หรือหนงั สืออา้ งองิ อืน่ ๆ ตามรายละเอียด ดงั น้ี name, type, description, how/play, other
facts พร้อมท้งั หาภาพประกอบ ถา้ นกั เรียนมคี วามพร้อมดา้ นอุปกรณ์ครูแนะนาให้นกั เรียนหาเสียง
ของเคร่ืองดนตรีดงั กล่าวมาดว้ ย
5. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 58 Exs. 1-2 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
ชั่วโมงที่ 2
ข้นั Warm up
ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอจากเวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=17V-bP1XEao ใหน้ กั เรียนดแู ละ
ออกเสียงตาม จากน้นั ครูถามวา่ มีเครื่องดนตรีชนิดใดบา้ งในคลิปวิดีโอทน่ี กั เรียนไมร่ ู้จกั
ข้นั Presentation
1. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ประเภทของเครื่องดนตรี wind instrument, string instrument, percussion
instrument โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายลกั ษณะของเครื่องดนตรีแต่ละประเภท
2. ครูทบทวนเกี่ยวกบั เคร่ืองดนตรี 2 ชนิด ทไ่ี ดเ้ รียนรู้จากบทอา่ น โดยสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ให้พูด
บรรยายลกั ษณะของเคร่ืองดนตรีใหค้ รูและเพอ่ื นฟัง
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 88 Ex. 4b นกั เรียนจบั คู่กบั เพื่อน แลว้ ให้แต่ละคนคดิ วา่ เครื่องดนตรีชนิดใดที่
ตอ้ งการเลน่ เพราะเหตใุ ด จากน้นั ให้นกั เรียนพูดให้คขู่ องตนเองฟัง ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน
แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน พูดใหเ้ พ่ือนในช้นั ฟัง
504
A: I would like to play the piano because I like how it sounds and I think it
would be a good skill to have.
B: I’d like to play the guitar and then one day I can be in a rock band.
2. หนังสือเรียน หน้า 88 Ex. 5 นกั เรียนแตล่ ะคู่รวบรวมขอ้ มูลทค่ี น้ ควา้ มาได้ และสรุปขอ้ มูลตามหวั ขอ้
name, type, description, how/play, other facts จากน้นั ให้แตล่ ะคเู่ ขียนบรรยายเกี่ยวกบั เคร่ืองดนตรี
พ้นื เมืองของไทย เมื่อเขียนเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนแบง่ หนา้ ทกี่ นั เพื่อฝึกพูดนาเสนอ
Name bouzouki
Type traditional Greek string instrument
Description pear-shaped body with a round hole in it and a long neck,
comes in two different types (6 strings or 8 strings)
How/play with a plectrum
Other facts a similar instrument dates back to 4th century BC but the
modern bouzouki comes from 19th century Asia Minor,
played in Greek music, and cabaret clubs called ‘Bouzoukia’
The bouzouki
The bouzouki is a traditional Greek string instrument. It has got a pear-shaped
body with a round hole in it and a long neck. It comes in two different types;
either with six strings or with eight. It is played with a plectrum. It dates back to
the 4th century BC but the modern bouzouki comes from 19th century Asia
Minor. It is played in bouzouki music and at cabaret clubs called ‘Bouzoukia’.
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคูอ่ อกมาพดู นาเสนอเคร่ืองดนตรีพ้นื เมืองของไทย พร้อมท้งั แสดงภาพประกอบ
ให้เพ่ือนดู ถา้ นกั เรียนและช้นั เรียนมีความพร้อมดา้ นอปุ กรณ์ครูให้นกั เรียนเปิ ดเสียงของเครื่องดนตรี
ดงั กล่าวใหเ้ พอื่ นฟังดว้ ย
505
2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดและเปรียบเทียบว่ามีเคร่ืองดนตรีของไทยท่มี ีคลา้ ยคลงึ กบั เคร่ืองดนตรีของ
ประเทศทางตะวนั ตกหรือไม่ ถา้ มี ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบความเหมือน/ความต่างในเรื่องประเภท
เครื่องดนตรี ลกั ษณะของเครื่องดนตรี วสั ดขุ องเคร่ืองดนตรี เช่น ขลุ่ยกบั ฟรุต ระนาดกบั ไซโลโฟน
3. นกั เรียนทา Language Review 7e & Prepositions Exs. 3-4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 111
4. นกั เรียนทา Vocabulary Bank 7 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 120-124
7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
สมดุ นกั เรียน -
วิธกี ารวดั แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการเขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เคร่ืองดนตรีท่เี รียนรู้จากเรื่องท่ีอา่ น แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สงั เกตการพดู เก่ียวกบั เครื่องดนตรีที่
ตอ้ งการเล่น แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน
ประเมินการคน้ ควา้ เคร่ืองดนตรี อนั พงึ ประสงค์
พ้ืนเมอื งของไทยและพดู นาเสนอ
สงั เกตการเปรียบเทียบเครื่องดนตรีของ
ไทยกบั เครื่องดนตรีของประเทศทาง
ตะวนั ตก
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั
ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหัด SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อินเทอร์เน็ต สารานุกรม หรือหนงั สืออา้ งอิงอน่ื ๆ
7) คลิปวิดีโอ
506
6 Writing 7f
2 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอียดของเร่ืองท่อี า่ นได้
- เขยี นสรุปขอ้ มูลของอเี มลท่อี ่านได้
- เขียนอีเมลเก่ียวกบั ละครโทรทศั นท์ ชี่ ื่นชอบได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี ังและอา่ นจากส่ือประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเดน็
ต่าง ๆ ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์
พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบ
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั ละครโทรทศั น์ จะช่วยให้พูด/เขียนส่ือสาร แสดงความคดิ เห็นและ
ความรู้สึกเก่ียวกบั ละครโทรทศั น์ ซ่ึงเป็นเร่ืองใกลต้ วั และอยใู่ นความสนใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
507
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (appeal, can’t wait)
Nouns (cast, storyline)
Adjective (up-to-date)
Functions: Describing about favourite TV series
My favourite TV series is Grey’s Anatomy It’s a hospital drama.
2) Language Skills
Reading: อ่านเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ
Writing: เขยี นสรุปขอ้ มูลของอเี มลท่อี า่ น,
เขยี นอีเมลเก่ียวกบั ละครโทรทศั น์ทีช่ ่ืนชอบ
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
1. ครูเขียนคาว่า series บนกระดาน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมาย
series (n) = a set of television or radio broadcasts on the same subject or using the
same characters but in different situations (ละครที่ออกอากาศหลาย ๆ
ตอนโดยใชช้ ื่อและตวั ละครเหมือนเดิม)
508
series เป็นคานามนบั ได้ มีรูปเดียวเท่าน้นั คอื series (ไมม่ ี serie) เช่น
The first episode of the new series is on Saturday.
2. ครูถามนกั เรียนวา่ รู้จกั หรือเคยดูซีรียข์ องอเมริกาหรือขององั กฤษเรื่องอะไรบา้ ง ครูอาจจะเปิ ดคลิป
วิดีโอใหน้ กั เรียนดูเพื่อดึงความสนใจของนกั เรียน
ข้นั Presentation
1. นกั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 89 ครูให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบาย
ความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้ ให้นกั เรียนเปิ ดหาในพจนานุกรม
cast (n) = the actors in a film, play or show (ผูร้ ่วมแสดงภาพยนตร์หรือละคร)
storyline (n) = the plot (= the series of events that happen in it) (โครงเร่ือง)
up-to-date (adj) = modern, recent or containing the latest information (ทนั สมยั )
appeal (v) = to interest or attract someone (ดึงดดู ความสนใจ)
can’t wait (v) = to be very excited about something and eager to do or experience it
(รู้สึกตนื่ เตน้ ในการทาบางส่ิงบางอยา่ ง, อดใจรอไม่ไหว)
2. นกั เรียนอ่านวลีในหนงั สือเรียน หนา้ 89 Ex. 1a ตามครู แลว้ ช่วยกนั เดาความหมายของวลี
a really great series = เป็นละครทเ่ี ยี่ยมจริง ๆ
appeals to everyone = เป็นท่นี ่าสนใจกบั ทุก ๆ คน
can’t wait = อดใจรอไมไ่ หว
are always up-to-date = ทนั สมยั เสมอ
never miss an episode = ไมเ่ คยพลาดแมแ้ ต่ตอนเดียว
3. ครูนาเสนอประโยคทีน่ ่าสนใจที่ใชบ้ รรยายเกี่ยวกบั ละครโทรทศั น์ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบาย
ความหมายของประโยคเหล่าน้ี
Positive:
That series keeps me on the edge of my seat. (ละครเร่ืองน้ีทาฉันนงั่ ไม่ติดเกา้ อ้เี ลย =
น่าลนุ้ , น่าตดิ ตาม)
I can’t bear to miss an episode of ... (ฉันทาใจไมไ่ ดท้ ตี่ อ้ งพลาดตอน ...)
This is a really great series. (ละครเรื่องน้ีดีมาก ๆ)
I can’t wait … (อดใจรอดู ... ไม่ไหว)
509
I’m looking forward to watching … (ฉันต้งั หนา้ ต้งั ตารอดู ...)
This series appeals to everyone. (ละครเรื่องน้ีเป็นทน่ี ่าสนใจกบั ทุกคน)
Up-to-date series. (เป็นละครทท่ี นั สมยั )
I never miss an episode. (ฉันไมเ่ คยพลาดแมแ้ ต่ตอนเดียว)
Negative:
Most drama series send me to sleep. (ละครส่วนใหญท่ าใหฉ้ ันง่วง หรือ ละครเร่ืองน้ี
น่าเบอ่ื มาก ดูแลว้ งว่ ง)
I think this series is boring. (ละครเร่ืองน้ีน่าเบ่อื )
I find … really depressing. (ฉันคดิ วา่ ... น่าหดหู่)
Poor cast. (นกั แสดงแยม่ าก)
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 89 Ex. 1a ครูบอกนกั เรียนว่า วลี A-E ปรากฏอยใู่ นอเี มลดา้ นลา่ ง ให้นกั เรียนเดา
วา่ ผเู้ ขยี นอีเมลรู้สึกอยา่ งไรกบั ซีรีย์
The writer likes the series very much.
2. หนงั สือเรียน หน้า 89 Ex. 1b นกั เรียนอา่ นอีเมลและเติมวลี A-E จาก Ex. 1a ลงในช่องวา่ ง เสร็จแลว้
สุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ และครูตรวจคาตอบ จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านอีเมลทีเ่ ตมิ คาสมบรู ณ์แลว้
พร้อมกนั
1 A a really great series 2 E never miss an episode
3 D are always up-to-date 4 C appeals to everyone
5 B can’t wait
3. ครูถามคาถามเพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน เช่น
What is Beth’s favourite TV series?
When is it on?
What is it about?
510
ข้นั Production
1. ครูพิมพอ์ เี มลดา้ นลา่ งน้ีแจกนกั เรียน จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นและสรุปขอ้ มลู ตามหวั ขอ้ ดงั น้ี series’
name, what channel, what time/when, what it about, writer’s feel/opinion
Hi Jeff,
My favourite TV series is “Gossip Girls”. It’s on channel 3 at 9.30 every evening
from Monday to Wednesday. It’s a really great series about teenagers who have
high status in the society.
They are high school students. It’s the best teen series and I never miss an
episode. The cast is great, storylines are always up-to-date and there are lots of
interesting moments
I think it has something that appeals to everyone. Do they show it in your
country? I’m going to watch it tonight. I just can’t wait. Well, I have to go now.
Lee
Series’ name: Gossip Girls
What channel: channel 3
What time/When: 9:30 pm on Monday to Wednesday
What it about: teenagers who have high status in the society
Writer’s feel/opinion: best teen series, the cast is great, storylines are always
up-to-date, appeals to everyone
2. นกั เรียนทา Exs. 5-6 (Collocations & Phrasal verbs) ใน Language Review 7 หนงั สือเรียน หนา้ 111
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 59 Exs. 1-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
511
ช่ัวโมงที่ 2
ข้นั Warm up
ครูใหน้ กั เรียนบอกชื่อละครทน่ี กั เรียนประทบั ใจ อาจเป็นละครในอดีตหรือปัจจบุ นั ก็ได้ พร้อมท้งั
บอกเหตุผลทีท่ าให้นกั เรียนประทบั ใจ
ข้นั Pre-writing
1. นกั เรียนอ่าน Study Skillsในหนงั สือเรียน หนา้ 89 และช่วยกนั สรุป
2. หนงั สือเรียน หน้า 89 Ex. 2 นกั เรียนอ่านขอ้ ความในกรอบสีเขยี วโดยเฉพาะคาที่ขีดเสน้ ใต้ แลว้ ตอบ
คาถามทกี่ าหนดให้ เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบ
1 my English penfriend, an email in reply to hers/his
2 about my favourite TV series
3 50-60 words
3. หนังสือเรียน หน้า 89 Ex. 3 ให้นกั เรียนนึกถึงละครโทรทศั น์ที่ตนเองช่ืนชอบ และตอบคาถามโดย
เขยี นคาตอบลงในสมุด เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพอื่ นผลดั กนั พูดถาม-ตอบ
1 Grey’s Anatomy
2 a hospital drama
3 every Wednesday at 7 pm
4 a group of young doctors and medical students
5 the storylines are interesting, the acting is very good and it can be sad one
moment and funny the next.
6 Yes, it’s the best hospital drama ever.
4. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 89 Ex. 4 วา่ นกั เรียนจะไดใ้ ชค้ าตอบจาก Ex. 3 มาเขยี น
อีเมลเก่ียวกบั ละครโทรทศั น์ทช่ี ่ืนชอบตามโครงร่างที่กาหนดให้ ความยาว 50-60 คา
512
5. นกั เรียนดูโครงร่างการเขียนอเี มลใน Ex. 4 แลว้ บอกวา่ มีกี่ยอ่ หนา้ (3 ยอ่ หนา้ ) ให้นกั เรียนช่วยกนั ระบุ
ว่าแต่ละยอ่ หนา้ ตอ้ งเขยี นอะไร
ยอ่ หนา้ ที่ 1 ทกั ทาย บอกชื่อละครท่ีช่ืนชอบ บอกช่อง วนั และเวลาออกอากาศ บอก
เน้ือเร่ืองของละครวา่ เก่ียวกบั อะไร
ยอ่ หนา้ ที่ 2 ให้ความคิดเห็นเก่ียวกบั โครงเรื่อง นกั แสดง และอ่นื ๆ
ยอ่ หนา้ ที่ 3 บอกความรู้สึกท่มี ีตอ่ ละคร เขียนปิ ดทา้ ยอเี มล
ข้นั Writing
หนังสือเรยี น หน้า 89 Ex. 4 ครูให้นกั เรียนเขียนร่างอเี มลตามโครงร่างท่ีกาหนดให้
Dear Sally,
My favourite TV series is ‘Grey’s Anatomy’. It’s on Channel 11 at 7 pm every
Wednesday evening. It’s a really great series about a group of young doctors and
medical students.
The storylines are interesting and the acting is very good. It can be sad one
moment and funny the next.
It’s the best hospital drama ever! Do they show it in your country? Well, I have to
go now.
Love,
Patricia
ข้นั Post-writing
1. ครูใหน้ กั เรียนตรวจทานร่างงานเขยี นของตนเอง โดยดไู วยากรณ์ การสะกดคา ยอ่ หนา้ และการใช้
ภาษา แลว้ แลกเปลีย่ นกนั ตรวจกบั เพือ่ น จากน้นั ให้นกั เรียนแกไ้ ขร่างงานเขยี นของตนเองให้ถูกตอ้ ง
แลว้ เขียนอเี มลส่งครูตามร่างงานเขียนทแี่ กไ้ ขแลว้
2. นกั เรียนทา Self-Check 7 ในหนงั สือเรียน หนา้ 119
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 59 Exs. 6-7 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
513
7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
วธิ ีการวดั สมดุ นกั เรียน -
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน
ตรวจการเขียนสรุปขอ้ มลู ของอีเมล แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ท่อี า่ น
ประเมินการเขียนอเี มลเกี่ยวกบั ละคร แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
โทรทศั นท์ ีช่ ่ืนชอบ อนั พงึ ประสงค์
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มนั่
ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) คลปิ วิดีโอ
514
7 ASEAN corner 7
1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- บอกรายละเอยี ดของเรื่องทีอ่ า่ นได้
- เลา่ เร่ืองวรรณคดีไทยได้
- พดู แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั งานวรรณกรรมได้
- คน้ ควา้ และนาเสนองานวรรณกรรมได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/3 ระบุและเขียนสื่อท่ีไมใ่ ช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ให้สัมพนั ธ์กบั ประโยคและ
ขอ้ ความที่ฟังหรืออา่ น
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เร่ืองท่ฟี ังและอา่ นจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรื่องทไ่ี ดจ้ ากการวิเคราะห์เรื่อง/
ขา่ ว/เหตุการณ์/สถานการณ์ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์
พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบ
515
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้งานวรรณกรรม ช่วยให้รู้วิถีชีวิต ความเช่ือ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของชาติต่าง ๆ
รวมถึงเขา้ ใจความสมั พนั ธใ์ นอดีตระหว่างประเทศตา่ ง ๆ ผ่านงานวรรณกรรมทม่ี ีเคา้ โครงเร่ืองคลา้ ยคลึง
กนั ตลอดจนตระหนกั ถึงความสาคญั และเห็นคณุ คา่ ของงานวรรณกรรม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verb (abduct)
Nouns (morality, folktale, deed, obstacle, gratitude, compassion)
Functions: Talking about literature
What is your famous story/literature?
It’s Phra Apaimanee.
2) Language Skills
Speaking: เลา่ เร่ืองวรรณคดีไทย, พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั คณุ ค่าของ
งานวรรณกรรม, เลา่ เรื่องประกอบภาพ
Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน
3) อนุรักษค์ วามเป็นไทย
516
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกช่ือวรรณคดีไทยที่นกั เรียนรู้จกั เช่น รามเกียรต์ิ อิเหนา พระอภยั มณี แลว้
ครูเลือกมา 1 เรื่อง ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เล่าเร่ืองยอ่
2. ครูให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นว่าประเทศอื่น ๆ ในภมู ิภาคอาเซียนมงี านเขยี นดา้ นวรรณกรรม
หรือไม่ ถา้ มี นกั เรียนคิดวา่ จะมีวรรณกรรมที่มีโครงเร่ืองคลา้ ยกบั วรรณคดีไทยหรือไม่
ข้นั Pre-reading
1. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นชื่อเรื่อง Sinxay ในหนงั สือเรียน หนา้ 90 แลว้ แสดงความคดิ เห็นว่าชื่อน้ีน่าจะเป็น
ช่ือของอะไร (e.g. literature, character, town)
2. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ให้แตล่ ะกลุ่มอ่านเรื่อง Sinxay ในหนงั สือเรียน หนา้ 90 อยา่ ง
รวดเร็วเพือ่ หาคาศพั ทย์ าก ครูให้นกั เรียนบอกคาศพั ท์ โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ให้
นกั เรียนอา่ นคาศพั ทต์ ามครูพร้อมกนั จากน้นั ช่วยกนั บอกความหมายของคาศพั ท์ ถา้ คาใดไมร่ ู้ให้หา
ความหมายจากพจนานุกรม เช่น
morality (n) = principles concerning right and wrong or good and bad behaviour
(ความมศี ีลธรรม)
folktale (n) = a very old traditional story from a particular place that was
originally passed on to people in a spoken form (นิทานพ้นื บา้ น)
abduct (v) = to take somebody away illegally, especially using force (ลกั พาตวั )
obstacle (n) = a situation, an event etc. that makes it difficult for you to do or
achieve something (อปุ สรรค)
deed (n) = a thing that somebody does that is usually very good or very bad
(การกระทา)
gratitude (n) = the feeling of being grateful and wanting to express your thanks
(การรู้คณุ , ความกตญั ญ)ู
compassion (n) = a strong feeling of sympathy for people who are suffering and a
desire to help them (ความเมตตากรุณา)
517
ข้นั Reading
หนังสือเรยี น หน้า 90 Ex. 1 นกั เรียนอา่ นประโยคทก่ี าหนดให้และขดี เส้นใตค้ าสาคญั แลว้ อา่ น
บทอา่ นโดยมองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาท่มี คี วามหมายตรงกนั ขา้ ม (opposite) หรือ
กล่มุ คา/วลีที่มีความหมายเหมือนกนั หรือตา่ งกนั กบั คาสาคญั ท่ีขดี เสน้ ใตไ้ ว้ เมอ่ื พบแลว้ อา่ นให้เขา้ ใจ
แลว้ จึงตอบว่าประโยคถกู หรือผดิ จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ
1T 2F 3T 4F
ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 90 Ex. 2 ให้นกั เรียนนึกถึงวรรณคดีไทย 1 เรื่อง แลว้ ตอบคาถามทกี่ าหนดให้
ลงในสมดุ จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คผู่ ลดั กนั เลา่ เร่ืองให้เพื่อนฟัง โดยครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน
A: What is your famous story/literature?
B: It’s Phra Apaimanee.
A: Who is your favourite character?
B: It’s Sudsakorn. He is a boy who goes on a journey to find his father,
Phra Apaimanee. He receives a gift from his teacher which is a flying
horse-like creature called Mar Nin Mang Korn.
A: Did the main character meet any obstacles?
B: Yes, he did. He had overcome many obstacles. He had to fight with
ghosts, a naked man who wanted to steal his creature and giants who
wanted to kill him before he met his father.
A: What did you learn from this story?
B: We should be brave and determined.
2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั คณุ ค่าของงานวรรณกรรม เช่น ไดเ้ รียนรู้วิถีชีวิต
ความคดิ ความเชื่อของคนในอดีต ไดเ้ รียนรู้ขนบธรรมเนียม ประเพณีโบราณ
518
3. หนังสือเรียน หน้า 90 Ex. 3 นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน ครูใหแ้ ต่ละกลมุ่ คน้ ควา้ รวบรวม
ขอ้ มูลเก่ียวกบั วรรณกรรมทีม่ ชี ่ือเสียงในประเทศกลุม่ ประชาคมอาเซียนมา 1 เรื่อง แลว้ มาเลา่ เรื่อง
ประกอบภาพให้เพือ่ นฟัง หรือจะทาเป็น storyboard ก็ได้
7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
สมุดนกั เรียน ร้อยละ 60
วิธีการวดั แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากเร่ืองท่อี ่าน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สงั เกตการเล่าเร่ืองวรรณคดีไทย
สงั เกตการพดู แสดงความคดิ เห็น แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เกี่ยวกบั คณุ คา่ ของงานวรรณกรรม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ประเมินชิ้นงานเรื่องเล่าประกอบภาพ อนั พงึ ประสงค์
สังเกตความใฝ่เรียนรู้ ความมุ่งมนั่ ใน
การทางาน และการอนุรักษค์ วามเป็น
ไทย
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
3) พจนานุกรมออนไลน์
4) อินเทอร์เน็ต
519
8 O-NET practice & Fun time 7
1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ทเี่ รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 7
- เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาทเ่ี รียนมาแลว้ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ช่วยใหพ้ ูด/เขียนสื่อสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
520
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ที่ 7
Grammar: ไวยากรณใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7
2) Language Skills
Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มลู เฉพาะ
Writing: เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาทเ่ี รียนมาแลว้
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
- มงุ่ มน่ั ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทมี เพ่ือเล่นเกม Hangman ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั รายการโทรทศั น์
ข้นั Presentation
1. ครูทบทวนไวยากรณใ์ นหน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ดว้ ยการใหน้ กั เรียนระดมสมองพดู บอกไวยากรณท์ ี่
เรียนรู้ในหน่วยน้ี ครูเขียนตามที่นกั เรียนบอกบนกระดานในรูปของ mind map จากน้นั ใหน้ กั เรียน
ช่วยกนั พูดบอกโครงสร้างประโยคและหลกั การใช้
521
a/an - the The The
passive causative
(have sth
ไวยากรณ์ done)
หน่วยการ
เรียนรู้ท่ี 7
Reflexive/
Emphatic
pronouns
2. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุม่ ให้แต่ละกลุ่มผลดั กนั ส่งตวั แทน 1 คน ออกมาหนา้ ช้นั เพ่ือเขียนประโยค
active 1 ประโยคบนกระดาน ใหก้ ลมุ่ อืน่ ๆ เปลย่ี นเป็นรูป passive กลมุ่ ทเี่ ขียนประโยคถกู ตอ้ งจะได้
1 คะแนน กลมุ่ ใดมคี ะแนนมากท่สี ุดจะเป็นผชู้ นะ
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 92 Ex. 1 นกั เรียนรวมกลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน แขง่ ขนั กนั ทาอกั ษรไขว้ เสร็จแลว้ ให้
ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ บอกคาตอบ ครูเขียนคาตอบบนกระดาน เพอื่ หาคาศพั ทท์ ี่อยใู่ นแถบสีมว่ ง
1 musician 2 stadium 3 percussion
4 cinema 5 band 6 programme
Hidden words: string
2. หนังสือเรียน หน้า 92 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนทา quiz โดยห้ามเปิ ดดูเน้ือหา เสร็จแลว้ ให้นกั เรียน
เปรียบเทียบคาตอบกบั เพ่อื น จากน้นั ครูจึงเฉลยคาตอบ
522
1T 2T
3T 4 F (It is a string instrument)
5 F (Andrew Stanton did) 6T
3. หนังสือเรยี น หน้า 92 GAME ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทีม เพื่อเล่นเกม ใหแ้ ต่ละทีมส่งตวั แทนออกมา
เลน่ เกมคร้ังละ 1 คน โดยให้ตวั แทนทีมหน่ึงพูดคากริยา 1 คา ในรูป active และตวั แทนอีกทมี หน่ึง
ตอ้ งแตง่ ประโยค passive จากคากริยาดงั กลา่ ว ถา้ แต่งประโยคถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทีมใดมี
คะแนนมากกว่าจะเป็นผชู้ นะ เช่น
Team A S1: played
Team B S1: The sitar was played by the royal courts.
4. หนังสือเรยี น หน้า 92 Ex. 4 นกั เรียนอา่ นคา/วลีทใี่ หม้ า และเดาวา่ คา/วลีเหลา่ น้ีเกี่ยวขอ้ งกบั ดนตรี
อยา่ งไร จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นเน้ือเพลงตามไปดว้ ยเพอ่ื หาคาตอบ
They can all be used to make music.
5. หนงั สือเรียน หน้า 91 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไม่เขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพิ่มเตมิ
Ex. 1 1 d 2b
Ex. 2 1 a 2 b 3 b 4 a 5 d
ข้นั Production
หนงั สือเรียน หน้า 68 Ex. 3 นกั เรียนจบั คู่กนั ครูแจกกระดาษให้คลู่ ะ 1 แผน่ ให้แตล่ ะคคู่ ิดคาถาม
quiz 5-6 ขอ้ เกี่ยวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 โดยเขยี นคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ ครูช่วย
ยกตวั อยา่ ง เช่น James Cameron stars in Terminator 2. (F) จากน้นั ใหน้ กั เรียนทางานโดยสามารถ
เปิ ดดูเน้ือหาได้ เม่ือทุกคูค่ ดิ คาถามเสร็จแลว้ ใหแ้ ลกกนั ทา quiz กบั คอู่ ื่น
523
1 Arnold Schwarzenegger stars in Terminator 2. (T)
2 The Dark Knight is a film about Batman. (T)
3 The Magic Flute was composed by Giuseppe Verdi. (F)
4 Pablo Picasso painted The Mona Lisa. (F)
5 The tin whistle is made of tin. (F)
6 The sitar has metal strings. (T)
7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
- ร้อยละ 60
วิธีการวดั
ตรวจการเขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 7 อนั พงึ ประสงค์
สังเกตความมุ่งมน่ั ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
524
8 Places & Lifestyles
ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง
1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ข่าว
เรื่องทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม และส่ือสารอยา่ งตอ่ เน่ืองและเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/3 พดู และเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏิเสธ
การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พดู และเขยี นเพอื่ ขอและให้ขอ้ มลู อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็น
เกี่ยวกบั เรื่องทฟ่ี ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/เรื่อง/ประเด็น
ต่าง ๆ ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม
525
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เร่ืองที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์เรื่อง/
ขา่ ว/เหตุการณ์/สถานการณ์ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์
พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลประกอบ
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/1 เลอื กใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 3/2 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยแู่ ละ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย และนาไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม
สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจริงท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 3/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองทเ่ี กิดข้นึ ในห้องเรียน
สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
526
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยใหเ้ ขา้ ใจ บอกรายละเอยี ด แสดงความ
คิดเห็นเกี่ยวกบั ร่ืองทอี่ ่านและฟังได้ สามารถนาส่ิงทเี่ รียนรู้ไปใช้ในการพดู และเขยี นสื่อสารเกี่ยวกบั
สถานท่ตี า่ ง ๆ บา้ นของตนเองและผอู้ น่ื วนั หยดุ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม นอกจากน้ียงั สามารถใชค้ าศพั ทค์ น้ ควา้
ความรู้เพิ่มเติมจากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ รวมถึงมีความเขา้ ใจในมารยาทและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: City life – country life (field, woods, cinema, museum, skyscraper,
factory, car park, shops, river, block of flats, motorway, harbour, park,
mountain, path, farm, shopping mall, square, department store)
Geography (airport, public, coast, population, nightlife, industrial,
located, famous, cosmopolitan, destination, beach, seaside, attractions,
peaceful, clean)
Compass points (north, north-east, east, south-east, south, south-west,
west, north-west)
Home (garden, swimming pool, fireplace, parking space, garage, utility
room, balcony)
Amenities (bus stop, school, shops, park, the underground)
Adjectives (cosy, cramped, crowded, lovely, comfortable, ugly,
expensive, modern, traditional, quiet, old)
Sentences (How was your holiday?, So tell me everything!, Where did
you stay?, It must be a lovely place!, That’s nice. That’s too bad.)
Verbs (flood, store, burn down, made from, feature, chat, damage,
distract, neglect, preserve)
Nouns (basic conditions, structure, civilisation, well, oven, engineer,
runway, spacecraft, string instruments, wind instruments, percussion
instruments, royal courts, band, brass, tube, mouthpiece, beggar, tool,
topic, screen, dominant, trade, evident, diversity, heritage)
Adjectives (intelligent, alien, harmful, oval)
527
Adverb (sensibly)
Grammar: relatives (who/which/where/whose)
modals (must/have to – don’t have to/should, may/might, can/could/be
able to/may, must/can’t)
-ing form/to-infinitive/infinitive without to
had better/would rather
linkers of contrast
question tags
Functions: Talking about the place you live
I live in Thessaloniki. It’s a lively city.
Describing your house
I live in a house on a quiet street. There is a garden, a fireplace, a
garage and a utility room in my house.
Talking about holidays
How was your holiday? You went to Spain, didn’t you?
No, we didn’t.
Talking about advantages and disadvantages of the Internet
We use the Internet to find information.
The internet can damage your eyes if you spend too many hours.
Talking about yourself
What’s your favourite music?
I like pop music.
Pronunciation: /ᴧ/: enough, tough, rough
/ɔ:/: caught, daughter, haughty
/əʊ/: though, although, dough
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังการออกเสียงคาศพั ทแ์ ละประโยค
Speaking: พดู สนทนาเกี่ยวกบั สถานท่ีท่ีตนเองอาศยั อย,ู่ พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั
บา้ นของตนเองและผอู้ ื่น, พดู สนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนด, พูด
เกี่ยวกบั ความตอ้ งการในการใชช้ ีวิตในช่วงอียิปต์โบราณ, พดู นาเสนอ
528
Reading: ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อียปิ ตโ์ บราณ, พดู ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง, พดู
Writing: นาเสนอเกี่ยวกบั ความหลากหลายทางดา้ นวฒั นธรรมในประเทศไทย
อ่านเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ
3) Cultures เขียนให้ขอ้ มลู และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองที่อา่ น, เขยี นเก่ียวกบั
ท่ตี ้งั ของสถานที่หรือจงั หวดั ตา่ ง ๆ ในประเทศไทย, เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั
สถานทที่ ตี่ นเองอาศยั อย,ู่ เขียนประโยคตามโครงสร้างทีเ่ รียน, เขยี น
บรรยายเกี่ยวกบั บา้ นของตนเอง, แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี าหนด,
เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เรื่องทีอ่ ่าน, เขยี นเรียงความแสดงขอ้ ดีและขอ้ เสีย
ตามหัวขอ้ ทีก่ าหนด
วิถีชีวติ ความเป็นอยู่
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สถานทที่ ต่ี นเองอาศยั อยู่
2) เขียนบรรยายเกี่ยวกบั บา้ นของตนเอง
3) อ่านออกเสียงบทสนทนา
4) แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ท่กี าหนด
5) พูดสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนด
6) คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อยี ปิ ตโ์ บราณและพูดนาเสนอ
7) เขยี นเรียงความเกี่ยวกบั สถานท่ีทตี่ นเองอาศยั
8) คน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั ความหลากหลายทางดา้ นวฒั นธรรมในประเทศไทยและพดู นาเสนอ
529
7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน
7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมินหลงั เรียน
7.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
530
1 Reading 8a & Vocabulary 8a
2 ชั่วโมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอียด เขยี นให้ขอ้ มูล และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทอี่ า่ นและฟังได้
- พูดสนทนาเก่ียวกบั สถานทท่ี ตี่ นเองอาศยั อยู่ได้
- เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ทีต่ ้งั ของสถานที่หรือจงั หวดั ตา่ ง ๆ ในประเทศไทยและสถานทีท่ ่ตี นเอง
อาศยั อยไู่ ด้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว
เร่ืองท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม และส่ือสารอยา่ งตอ่ เนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขยี นเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ/์ เร่ือง/ประเดน็
ต่าง ๆ ท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม
531
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์เก่ียวกบั สถานท่ใี นเมืองและในชนบท คาศพั ทท์ เี่ ก่ียวขอ้ งกบั ภูมิศาสตร์และ
ทศิ ทาง จะช่วยให้เขา้ ใจ สามารถบอกรายละเอยี ด และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องทอ่ี ่านและฟังได้
รวมถึงสามารถนาความรูไ้ ปใชใ้ นการพูดและเขยี นเกี่ยวกบั สถานที่ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: City life – country life (field, woods, cinema, museum, skyscraper,
factory, car park, shops, river, block of flats, motorway, harbour, park,
mountain, path, farm, shopping mall, square, department store)
Geography (airport, public, coast, population, nightlife, industrial,
located, famous, cosmopolitan, destination, beach, seaside, attractions,
peaceful, clean)
Compass points (north, north-east, east, south-east, south, south-west,
west, north-west)
Verbs (flood, store, burn down)
Nouns (basic conditions, structure, civilisation, well, oven, engineer,
runway, spacecraft)
Adjectives (intelligent, alien)
Functions: Talking about the place you live
I live in Thessaloniki. It’s a lively city.
2) Language Skills
Listening: ฟังเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ
Speaking: พูดสนทนาเกี่ยวกบั สถานทีท่ ต่ี นเองอาศยั อยู่
Reading: อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ
Writing: เขยี นให้ขอ้ มูลและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องทีอ่ า่ น,
เขยี นเกี่ยวกบั ทตี่ ้งั ของสถานท่ีหรือจงั หวดั ตา่ ง ๆ ในประเทศไทย,
เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สถานทที่ ตี่ นเองอาศยั อยู่
532
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
1. นกั เรียนอ่านช่ือหน่วยการเรียนรู้ (Places & Lifestyles) ในหนงั สือเรียน หนา้ 93 แลว้ แสดงความ
คดิ เห็นวา่ หน่วยการเรียนรู้น้ีน่าจะเก่ียวกบั เร่ืองอะไร (e.g. where and how people live)
2. Find the page numbers for หน้า 93 นกั เรียนอา่ นคาศพั ทท์ ีใ่ ห้มา จากน้นั หาวา่ ภาพท่เี กี่ยวขอ้ งกบั
ท้งั 3 คาน้ีอยใู่ นหนงั สือเรียนหนา้ ใด เม่ือหาพบแลว้ ครูถามคาถามเพ่ือดึงความสนใจของนกั เรียน
เขา้ สู่บทเรียน
a mind map (p. 98)
Do you use mind maps to help you remember new vocabulary?
Do you think they are useful? Why (not)?
an ancient town (p. 94)
Have you ever visited an ancient town? Where?
a compass (p. 95)
Have you ever seen this instrument? What is it used for?
533
ข้นั Pre-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 93 Ex. 1 ครูเปิ ด CD 2 คร้ัง ใหน้ กั เรียนฟังคาศพั ท์เกี่ยวกบั สถานที่ท่ีมีในเมืองและ
ในชนบท และออกเสียงตาม แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงดว้ ยตนเองพร้อมกนั จากน้นั นกั เรียน
ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใดไม่รู้ครูช่วยอธิบาย เช่น
skyscraper (n) = a very tall building in a city (ตึกสูง, ตึกระฟ้า)
block of flats (n) = a large building that is divided into apartments (อาคารทีเ่ ป็น
ห้องชุด)
motorway (n) = a wide road, with at least two lanes in each direction, where
traffic can travel fast for long distances between large towns
(ทางด่วน)
harbour (n) = an area of water on the coast, protected from the open sea by
strong walls, where ships can shelter (ท่าเรือ)
path (n) = a way or track for walking (ทางเทา้ )
square (n) = an open area in a town, usually with four sides, surrounded by
buildings (ลานกวา้ งทีถ่ ูกลอ้ มรอบดว้ ยอาคารท้งั 4 ดา้ น)
2. หนังสือเรียน หน้า 93 Ex. 2 นกั เรียนดูภาพ A-F แลว้ ช่วยกนั ระบคุ าศพั ทจ์ าก Ex. 1 ทตี่ รงกบั ภาพ
A - factory B - skyscraper C - harbour
D - field E - path F - shopping mall
3. หนงั สือเรยี น หน้า 93 Ex. 3 นกั เรียนทางานคู่ ใช้คาศพั ทจ์ าก Ex. 1 พดู บรรยายสถานที่ทนี่ กั เรียน
อาศยั อยใู่ หค้ ูของตนเองฟัง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน พูดบรรยายให้ครูและเพอ่ื นฟัง
I live in a city. There are skyscrapers, car parks and shops but there aren’t any
fields, woods or farms.
I live in a town. There are shops, squares, parks and blocks of flats but there
aren’t any factories or skyscrapers.
I live in the country. There are fields, woods and a river, but there aren’t any
shopping malls or skyscrapers.
534
4. หนงั สือเรยี น หน้า 94 Ex. 1 นกั เรียนดูภาพประกอบ และอา่ นช่ือเรื่องและคา/วลีสาคญั ทใี่ หม้ า แลว้
คิดว่าช่ือเร่ืองและคา/วลสี าคญั เหลา่ น้ีบอกอะไรเกี่ยวกบั สถานท่ใี นภาพ ครูรวบรวมคาตอบจาก
นกั เรียน จากน้นั เปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านบทอา่ นตามเพ่ือตรวจคาตอบ
The place in the pictures is Arkaim. It is an ancient town in Russia. There was
an ancient civilisation here that was very advanced and intelligent.
5. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 94 แลว้ ช่วยกนั อธิบาย
ความหมาย ถา้ คาใดนกั เรียนไม่รู้ให้เปิ ดพจนานุกรม
basic conditions (n) = simple and not complicated conditions (สภาวะทีเ่ รียบงา่ ย
ไม่ซบั ซอ้ น)
flood (v) = to cause to fill or become covered with water, especially in a
way that causes problems (ทาใหท้ ่วม)
structure (n) = something that has been made or built from parts, especially a
large building (โครงสร้าง)
civilisation (n) = human society with its well developed social organisations or the
culture and way of life of a society or country at a particular
period in time (อารยธรรม)
intelligent (adj) = showing intelligence or able to learn and understand things
easily (ฉลาด)
well (n) = a deep hole in the ground from which you can get water, oil or
gas (บอ่ น้า)
oven (n) = the part of a cooker with a door, used to bake or roast food (เตา
อบ)
store (v) = to put or keep things in a special place for use in the future
(กกั ตุน, เกบ็ รักษา)
engineer (n) = a person whose job is to design or build machines, engines or
electrical equipment, or things such as roads, railways or bridges,
using scientific principles (วศิ วกร)
535
runway (n) = a long, level piece of ground with a specially prepared smooth,
hard surface on which aircraft take off and land (ทางข้นึ ลงของ
alien (n) เครื่องบิน)
spacecraft (n)
burn down (phr v) = a creature from a different planet (มนุษยต์ ่างดาว)
= a vehicle used for travel in space (ยานอวกาศ)
= to destroy something, especially a building, by fire, or to be
destroyed by fire (เผาไฟ)
ข้นั Reading
หนังสือเรยี น หน้า 94 Ex. 2 นกั เรียนอ่านประโยคขอ้ 1-6 ในหนา้ 95 และขีดเส้นใตค้ าสาคญั ในแต่ละ
ประโยค จากน้นั อ่านบทอา่ นเพือ่ มองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาทม่ี ีความหมายตรงกนั ขา้ ม
(opposite) หรือกลมุ่ คา/วลที ม่ี คี วามหมายเหมอื นกนั หรือต่างกนั กบั คาสาคญั ทข่ี ีดเสน้ ใตไ้ ว้ แลว้ ระบุ
ว่าประโยคถูกตอ้ ง หรือไมถ่ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบ โดยให้
นกั เรียนช่วยกนั แกไ้ ขประโยคทีไ่ มถ่ กู ตอ้ งใหถ้ กู ตอ้ งดว้ ย
1 F (The people of Arkaim were very advanced.)
2 F (Arkaim was built inside two circles.)
3T
4T
5 F (The people burnt the town down and left.)
6 F (Archaeologists have solved some of the mysteries of Arkaim, but there
are many questions they would like to know the answers to.)
ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 95 Ex. 3 ให้นกั เรียนใชค้ า/วลจี าก Ex. 1 แต่งประโยคเก่ียวกบั เมอื ง Arkaim
เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รนกั เรียน 3-4 คน อา่ นประโยคทีต่ นเองแต่ง
536
Scientists discovered it as they were planning to flood the area.
As they were flying over the area, they could see a structure.
They noticed huge circles with a structure in the middle.
Archaeologists believe that the people (of this ancient civilisation) were very
intelligent.
They had canals to bring water to the fields.
They studied the stars.
Some people believe the huge circles were used as runways for alien spacecraft.
No one knows why they burnt the town down.
The people left everything behind.
2. THINK! หนงั สือเรียน หน้า 95 ให้นกั เรียนคดิ ว่าการดารงชีวติ ในเมอื ง Arkaim จะเป็นอยา่ งไร แลว้
เขยี นแสดงความคดิ เห็นของตนเอง จากน้นั อ่านให้เพอ่ื นขา้ ง ๆ ฟัง แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน
อ่านให้เพอ่ื นในช้นั ฟัง
I think it would be quite nice to live there and have access to very modern
technologies. It would be a privileged lifestyle for those times.
3. นกั เรียนทา Language Review 8a Ex. 1 ในหนงั สือเรียน หนา้ 112 ร่วมกนั ในช้นั
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 60 Ex. 1 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
537
ชั่วโมงที่ 2
ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สถานท่ีในเมอื งและในชนบท โดยเขียนหวั ขอ้ City และ Country บน
กระดาน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ออกมาเขยี นคาศพั ทใ์ ห้ถูกตอ้ งตามหวั ขอ้
ข้นั Presentation
1. หนงั สือเรยี น หน้า 95 Ex. 4 นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทท์ เ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ภูมศิ าสตร์ท่ีกาหนดให้ แลว้
ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้ครูช่วยอธิบาย หรือให้นกั เรียนเปิ ดพจนานุกรมหาความหมาย
เช่น
population (n) = all the inhabitants of a particular town, area or country
(จานวนประชากร)
nightlife (n) = social activities or entertainment available at night in a town or
city (กิจกรรมความบนั เทิงยามค่าคนื )
industrial (adj) = relating to or characterised by industry (เก่ียวขอ้ งกบั
อุตสาหกรรม)
locate (v) = situate in a particular place (ต้งั อย)ู่
cosmopolitan (adj) = showing the influence of many different countries and cultures
(ซ่ึงประกอบหลายประเทศและหลายวฒั นธรรม)
destination (n) = the place to which someone or something is going or being sent
(จดุ หมายปลายทาง)
seaside (n) = a place by the sea, especially a beach area or vacation resort
(ชายทะเล)
peaceful (adj) = free from disturbance; tranquil (เงยี บสงบ)
จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นขอ้ ความและเตมิ คาท่กี าหนดให้ลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูขอ
อาสาสมคั รบอกคาตอบ และครูตรวจคาตอบ
538
A 1 coast 2 population 3 public
4 airport
2 industrial 3 famous
B 1 located 5 cosmopolitan
4 nightlife 2 beach 3 attractions
5 peaceful 6 clean
C 1 seaside
4 destination
2. ครูวาดภาพเข็มทิศบนกระดาน แลว้ นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ทิศทางทีละคา จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่าน
ออกเสียงคาศพั ทแ์ ละบอกความหมาย
north
north-west north-east
west east
south-west south-east
south
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 95 Ex. 5 ครูอธิบายว่านกั เรียนจะไดฟ้ ัง Debbie พูดเก่ียวกบั สถานที่ทเี่ ธออาศยั อยู่
ให้นกั เรียนฟังว่า Debbie อาศยั อยทู่ ใ่ี ด สถานทน่ี ้นั ต้งั อยทู่ ี่ใดและมีสภาพแวดลอ้ มเป็นอยา่ งไร
จากน้นั เปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและจดบนั ทึกคาตอบ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบ
1 In a peaceful village.
2 On the coast in the south of England.
3 It’s beautiful but a bit boring. There’s no nightlife.
539
2. หนงั สือเรียน หน้า 95 Ex. 6 ให้นกั เรียนนึกถงึ สถานท่ีหรือจงั หวดั ตา่ ง ๆ ในประเทศไทย แลว้ เขยี น
ประโยคบอกตาแหน่งท่ตี ้งั โดยใชค้ าศพั ท์เก่ียวกบั ทิศทาง จากน้นั ครูให้นกั เรียนอา่ นประโยคทต่ี นเอง
แต่งคนละ 1 ประโยค
Zagoria is in the north of Greece.
Samos is in the east of Greece.
Rhodes is in the south-east of Greece.
Crete is in the south of Greece.
Kithira is in the south-west of Greece.
Kefallonia is in the west of Greece.
Corfu is in the north-west of Greece.
3. หนังสือเรียน หน้า 95 Ex. 7 นกั เรียนอา่ นคาถามที่กาหนดให้ ครูตรวจสอบวา่ ทุกคนเขา้ ใจคาถาม
แลว้ ให้นกั เรียนตอบคาถามลงในสมดุ จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ผลดั กนั พูดถาม-ตอบ ครูเดินสังเกต
รอบ ๆ ช้นั เรียน
1 I live in Thessaloniki.
2 It is in the north-east of Greece.
3 It has a lot of attractions and shops I can visit.
4 It is clean, safe and very crowded.
5 The nightlife is exciting with a lot of restaurants and nightclubs.
6 It is a great place to live and to visit.
ข้นั Production
1. หนงั สือเรยี น หน้า 95 Ex. 8 ให้นกั เรียนนาคาตอบจาก Ex. 7 มาเขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สถานท่ี
ท่ีตนเองอาศยั อยู่
540
I live in Thessaloniki. It’s a lively city. It’s located in the north-east of Greece.
There are lots of attractions and shops I can visit, but there aren’t many parks.
It is a clean and safe place to live.
2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 60-61 Exs. 2-9 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
วธิ ีการวดั -
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นและ สมุดนกั เรียน -
การฟัง -
ตรวจการเขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เรื่อง สมดุ นกั เรียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ที่อา่ น ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการเขียนแสดงความคิดเห็น สมุดนกั เรียน ระดบั คุณภาพ ผ่าน
เกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอา่ น
ตรวจการเขียนเกี่ยวกบั ทต่ี ้งั ของสถานที่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้
หรือจงั หวดั ตา่ ง ๆ ในประเทศไทย
สงั เกตการพดู สนทนาเกี่ยวกบั สถานที่ แบบประเมินการเขียน
ที่ตนเองอาศยั อยู่
ประเมนิ การเขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั แบบประเมินคุณลกั ษณะ
สถานทท่ี ี่ตนเองอาศยั อยู่ อนั พงึ ประสงค์
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั
ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
541