The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3
หนังสือ Spark

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:02:12

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3
หนังสือ Spark

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
ครูเตรียมบตั รคาและบตั รภาพทอี่ ยใู่ นบตั รเดียวกนั แต่คนละดา้ น (ดา้ นหนา้ -หลงั ) ของคาศพั ทจ์ าก
บทอา่ นเมื่อชวั่ โมงแลว้ ไดแ้ ก่ thunderstorm, meteorologist, electrical, lightning, moonlight, raining
cats and dogs แลว้ ครูแสดงบตั รภาพ ให้นกั เรียนพดู คาศพั ท์ จากน้นั ครูพลกิ บตั รให้นกั เรียนดวู า่ บอก
คาศพั ทถ์ ูกตอ้ งหรือไม่ แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู คาศพั ทพ์ ร้อมกนั อกี คร้งั

ตวั อยา่ ง บตั รภาพดา้ นหลงั
บตั รคาดา้ นหนา้

Thunderstorm

ข้นั Pre-writing
1. หนงั สือเรียน หน้า 62 Ex. 4a นกั เรียนทางานคู่ โดยสมมตวิ ่านกั เรียนไดส้ มั ภาษณพ์ ยานที่เห็น

ปรากฏการณอ์ ยา่ งใดอยา่ งหน่ึงใน บทอ่าน ให้เขียนบทสัมภาษณ์ดงั กลา่ ว ครูกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนช่วย
คิดคาถามทจี่ ะใชใ้ นการสัมภาษณ์ เช่น What did you see? What do you think it was? โดยครูอาจจะ
เขียนบทสมั ภาษณ์เป็นตวั อยา่ งให้ดูบนกระดาน จากน้นั ให้นกั เรียนทางาน เสร็จแลว้ ให้แต่ละคู่
ออกมาพดู สนทนาท่ีหนา้ ช้นั

A: What did you see?
B: I saw a mysterious glowing ball gliding through the air.
A: What do you think it was?
B: I don’t know. It was the size of a football and when it hit the electrical

power line, it disappeared.

342

2. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 62 Ex. 4b ว่า สมมตินกั เรียนอยทู่ ่ีเมอื ง Trowbridge ในปี
ค.ศ. 1939 ซ่ึงเกิดปรากฏการณ์ฝนตกลงมาเป็นกบ ให้นกั เรียนเขียนไดอารีเลา่ ปรากฏการณ์ดงั กล่าว
ตามประเด็น ดงั น้ี where you were/what you were doing, what happened, who was there, what you
did, how you felt

ข้นั Writing
หนังสือเรยี น หน้า 62 Ex. 4b ครูให้นกั เรียนเขียนร่างไดอารีเล่าปรากฏการณ์ฝนตกลงมาเป็นกบ

I was walking to the shops when suddenly it started to rain. I felt something hit
me on the head and then on my back. I heard a few people scream. Everyone
around me started to run. I looked down and saw frogs on the ground. I couldn’t
believe it! It was raining frogs. I was amazed!
ข้นั Post-writing
1. ครูให้นกั เรียนตรวจทานร่างงานเขยี นของตนเอง โดยดูการสะกดคา ไวยากรณ์ การใชเ้ ครื่องหมาย
วรรคตอน และปรับแกร้ ่างงานเขียนใหถ้ กู ตอ้ ง จากน้นั เขียนไดอารีตามร่างงานเขยี นท่แี กไ้ ขแลว้ เพอ่ื
นาส่งครู
2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 41 Ex. 5 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เลือกคาตอบที่ถูกตอ้ ง
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 41 Ex. 6 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เติมคาลงในช่องวา่ ง

343

7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
วธิ กี ารวดั
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นและ สมดุ นกั เรียน -
การฟัง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการเขียนส่ิงท่ีตนเองประทบั ใจ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้
จากเร่ืองท่ีอ่าน ระดบั คุณภาพ พอใช้
สังเกตการพดู สมั ภาษณ์พยานท่เี ห็น แบบประเมนิ การเขียน
ปรากฏการณ์แปลกประหลาด ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ประเมินการเขียนไดอารีเลา่ แบบประเมินคุณลกั ษณะ
ปรากฏการณ์แปลกประหลาด อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุง่ มนั่
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหัด SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) บตั รคาและบตั รภาพคาศพั ทท์ ่ีเรียน

344

4 Everyday English 5d

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้
- อา่ นออกเสียงบทสนทนาถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ นได้
- บอกรายละเอียดของบทสนทนาทอี่ า่ นและฟังได้
- เปรียบเทียบเสียงพยญั ชนะของภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทยได้
- แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ท่กี าหนดได้
- พูดสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนดได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เก่ียวกบั เรื่องที่ฟังและอา่ นจากส่ือประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว
เร่ืองทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม และสื่อสารอยา่ งต่อเนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/2 ใชค้ าขอร้อง ให้คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายอยา่ งเหมาะสม
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

345

ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/1 เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาสตามมารยาทสังคม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยค

ชนิดตา่ ง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 3/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียน
สถานศึกษา และชุมชน

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้สานวนภาษาในการให้คาแนะนา ตอบรบั และปฏิเสธคาแนะนา จะช่วยให้สามารถพดู

ส่ือสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Making suggestions (Why don’t we … ?, How about …?, Is it OK if we
…?, Do you think we can …?, Is … OK with you?)
Accepting (That sounds like fun., That sounds great., Sure. Why not?,
That’s OK with me.)
Refusing (I’m afraid I can’t., I’m sorry, but I can’t., I’m really sorry, but
I have to …)
Sentences (Look at this!, Why don’t we join in?, It sounds like fun., I’m
afraid I can’t., Never mind., How about meeting at 9:30?, Great!)

346

Functions: Making suggestions

The school is having a clean-up day at the River Lea. Why don’t we join

in?

Sure. It sounds like fun.

Pronunciation: /s/: face, police, nice

/z/: phase, please, nose

2) Language Skills

Listening: ฟังการออกเสียงคาศพั ทแ์ ละประโยค

Speaking: พดู สนทนาตามสถานการณท์ ี่กาหนด

Reading: อ่านเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ท่กี าหนด

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ข้นั Warm up
1. ครูถามนกั เรียนวา่ ใครเคยเขา้ ร่วมกิจกรรมอาสาบา้ ง เช่น ปลกู ป่ า เก็บขยะ ถา้ มนี กั เรียนที่เคยเขา้ ร่วม

ครูให้เล่าประสบการณใ์ ห้เพอ่ื นฟัง แตถ่ า้ ไมม่ ี ครูนาภาพเก่ียวกบั กิจกรรมอาสาตา่ ง ๆ จากเวบ็ ไซต์
http://www.volunteerspirit.org/ มาแสดงใหน้ กั เรียนดู
2. ครูบอกนกั เรียนว่า บทเรียนน้ีนกั เรียนจะไดอ้ า่ นและพูดสนทนาเก่ียวกบั การแนะนาเพ่อื นใหเ้ ขา้ ร่วม
กิจกรรมอาสา

347

ข้นั Presentation

1. ครูเขยี นคาต่อไปน้ีบนกระดาน

juice choose

horse lose

niece because

ครูออกเสียงคาศพั ทใ์ ห้นกั เรียนฟังทลี ะคู่ โดยเน้นออกเสียง /s/ และ /z/ ให้ชดั เจน แลว้ ให้นกั เรียน

ระบุวา่ คาใดลงทา้ ยดว้ ยเสียง /s/ และคาใดลงทา้ ยดว้ ยเสียง /z/

ครูใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม 1 คร้งั และถามนกั เรียนวา่ เสียงใดออกเสียงง่ายกวา่ เมือ่ นกั เรียนตอบวา่

เสียง /s/ ครูอธิบายว่า เสียง /s/ เป็นเสียงทม่ี ใี นภาษาไทยนกั เรียนจึงสามารถออกเสียงได้ แลว้ ให้

นกั เรียนคิดว่า เสียง /s/ ออกเสียงเหมือนกบั พยญั ชนะตวั ใดในภาษาไทย (“ซ” “ส” “ษ” “ศ”)

ตอ่ มาครูให้นกั เรียนเปรียบเทียบความแตกตา่ งของเสียง /s/ และเสียง /z/ ดว้ ยการให้นกั เรียนออกเสียง

และใชม้ ือแตะทีบ่ ริเวณลกู กระเดือก ครูถามนกั เรียนวา่ รู้สึกถึงการสน่ั ของเสน้ เสียงหรือไม่ เสียงใดท่ี

เส้นเสียงส่นั ขณะออกเสียง ครูให้นกั เรียนออกเสียงหลาย ๆ คร้ัง จนกระทง่ั ตอบไดว้ า่ เสียง /z/

จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ทบ์ นกระดานพร้อมกนั แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงเป็น

รายบุคคล

2. ครูเขยี นบทสนทนาส้ัน ๆ ตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

A: I’m bored. What shall we do today?

B: Why don’t we go to the cinema?

ครูอธิบายวา่ บทสนทนาน้ีเป็นการให้คาแนะนา ให้นกั เรียนระบุว่าประโยคใดเป็นการใหค้ าแนะนา

(Why don’t we go to the cinema?)

ครูถามนกั เรียนวา่ Why don’t we ตามดว้ ยคาชนิดใด จนไดค้ าตอบว่า กริยาช่องที่ 1 แลว้ ครูเขยี น

โครงสร้าง Why don’t we + infinitive …? บนกระดาน

ครูอธิบายวา่ Why don’t we … เป็นสานวนที่ใชใ้ นการใหค้ าแนะนา นอกจากสานวนน้ีแลว้ ยงั มี

สานวนอนื่ อกี ครูช่วยยกตวั อยา่ งประโยค ใหน้ กั เรียนบอกโครงสร้าง เช่น

How about + v-ing … How about going to the cinema?

What about + v-ing … What about going to the cinema?

Let’s + infinitive … Let’s go to the cinema!

I think we should I + infinitive … I think we should go to the cinema.

Is it OK if we + infinitive … Is it OK if we go to the cinema?

348

จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนพดู ให้คาแนะนาเพอื่ ทากิจกรรมตามท่คี รูกาหนด เช่น
T: play football
S1: Why don’t we play football?
S2: How about playing football?
S3: Let’s + play football.

3. ครูให้นกั เรียนดตู ารางโครงสร้างสานวนภาษาทีใ่ ชใ้ นการให้คาแนะนา พร้อมท้งั การตอบรับและ
ปฏิเสธคาแนะนาในหนงั สือเรียน หนา้ 63 แลว้ ครูช่วยเพม่ิ เตมิ สานวนท่มี กั จะพบเห็นบอ่ ย ๆสาหรับ
ตอบรบั และปฏิเสธคาแนะนา โดยครูเขยี นตวั อยา่ งบทสนทนาบนกระดาน ให้นกั เรียนอ่านพร้อมกนั
A: What shall we do next Sunday?
B: Why don’t we have a barbecue party?
A: That’s a good idea./Good idea./That’s interesting./I’d love to.

A: What shall we do next Sunday?
B: How about going to the cinema?
A: I’d rather not./I don’t feel like it.
จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คู่ พดู สนทนาใหค้ าแนะนาในการทากิจกรรม โดยให้ 1 คู่ตอบรับ
คาแนะนา และอกี 1 คู่ปฏิเสธคาแนะนา

ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 63 Ex. 1 นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ ครูเปิ ด CD โดยหยดุ ทีละประโยค ให้

นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม โดยครูเปิ ด CD 2 คร้ัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียนและอา่ น
ประโยคดว้ ยตนเองพร้อมกนั
2. หนงั สือเรยี น หน้า 63 Ex. 2 ครูอธิบายวา่ ประโยคใน Ex. 1 มาจากบทสนทนาระหวา่ งเพื่อน 2 คน
ให้นกั เรียนเดาวา่ พวกเขาตดั สินใจจะทาอะไร ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน จากน้นั ให้
นกั เรียนฟัง CD และอ่านบทสนทนาเพ่ือหาคาตอบ

They decide to help the school build a greenhouse.

349

3. หนงั สือเรียน หน้า 63 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นประโยค 1-5 แลว้ อา่ นบทสนทนาอีกคร้งั เพอื่ หาประโยคทมี่ ี
ความหมายเหมือนกบั ประโยคเหลา่ น้ี จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ แลว้ ใหน้ กั เรียนในช้นั
ตรวจความถูกตอ้ ง

1 Take a look at this. – Look at this!
2 Why don’t we take part? – Why don’t we join in?
3 That’s OK with me. – Sure.
4 I have something to do. – I’m afraid I can’t.
5 Is 9:30 OK with you? – How about meeting at 9:30?

4. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นบทสนทนาใน Ex. 2 โดยนาประโยคใน Ex. 3 ไปแทนทปี่ ระโยคท่ีมีความหมาย
เหมอื นกนั

5. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 4 ครูให้นกั เรียนอ่านประโยคใน Ex. 1 พร้อมกนั อีกคร้ัง แลว้ ช่วยกนั
อธิบายความหมาย

6. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 6 นกั เรียนลอกตารางลงในสมุด แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังคาศพั ท์
เสียง /s/, /z/ และขดี  ลงในตารางตามเสียงท่ไี ดย้ ิน เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ใหฟ้ ังเพ่ือตรวจคาตอบ
จากน้นั ครูเปิ ด CD อกี คร้งั โดยหยดุ ทีละคา เพ่ือให้นกั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ท์ แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน
ให้ออกเสียงทลี ะคน

face phase police please nice nose
/s/   
/z/   

จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ คาศพั ทค์ าอืน่ ทีอ่ อกเสียง /s/ และเสียง /z/ โดยนกั เรียนสามารถดูการ
ออกเสียงจากพนานุกรม

/s/: peace, pace, case, voice
/z/: surprise, cheese

350

ข้นั Production
หนังสือเรยี น หน้า 63 Ex. 5 นกั เรียนทางานคู่ อา่ นโปสเตอร์ทีใ่ ห้มา แลว้ แต่งบทสนทนาแนะนาให้
เพือ่ นไปร่วมทากิจกรรมทร่ี ะบุในโปสเตอร์ โดยนกั เรียนสามารถใชส้ านวนภาษาใน Ex. 1 และดู
บทสนทนาใน Ex. 2 เป็นตน้ แบบได้
เมอื่ นกั เรียนแตง่ บทสนทนาเสร็จแลว้ ส่งให้ครูตรวจ หลงั จากไดร้ บั บทสนทนาคืนแลว้ ใหน้ กั เรียนไป
ฝึกซอ้ มนอกเวลาเรียนเพ่อื พูดสนทนาในชวั่ โมงหนา้

A: Look at this! The school is having a clean-up day at the River Lea.
Why don’t we join in?

B: Sure. It sounds like fun. When is it?
A: It’s on Saturday 7th June from 11 am to 4 pm.
B: I’m afraid I can’t. I’m visiting my uncle.
A: Never mind. I’ll go by myself.
B: No. I’ll go see my uncle on the 8th. How about meeting at 10:30?
A: Great!

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
ครูทบทวนการออกเสียง /s/ และเสียง /z/ โดยให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทใ์ นหนงั สือเรียน
หนา้ 63 Ex. 6 พร้อมกนั จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงทลี ะคน ให้นกั เรียนในช้นั ฟังวา่ เพ่ือน
ออกเสียงถกู ตอ้ งหรือไม่

ข้นั Pre-speaking
1. ครูทบทวนสานวนภาษาท่ีใช้ในการใหค้ าแนะนา ตอบรับและปฏิเสธคาแนะนา โดยสุ่มเรียกนกั เรียน

3-4 คู่ พูดสนทนากนั
2. ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 63 Ex. 2 แลว้ อ่านตามพร้อมกนั จากน้นั

ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 กลุ่ม ให้กลุม่ หน่ึงอา่ นบทของ Ann และอกี กลมุ่ หน่ึงอา่ นบทของ Bob

351

3. ครูใหเ้ วลานกั เรียนแต่ละคูท่ บทวนบทสนทนาทตี่ นเองแต่ง เพอื่ เตรียมความพร้อมก่อนออกมาพูด
สนทนาหนา้ ช้นั เรียน

ข้นั Speaking
1. ก่อนเริ่มพูดสนทนา ครูใหน้ กั เรียนทกั ทายเพ่ือนและแนะนาตนเองดว้ ย เช่น Hi, everyone. I’m

Sunisa. Hello, my friends.
2. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคู่ออกมาพดู สนทนาหนา้ ช้นั เรียน โดยครูอาจเรียกตามลาดบั เลขทีห่ รือเรียกตาม

แถวทีน่ งั่ ขณะท่ีนกั เรียนพดู สนทนาครูคอยสงั เกตและจดบนั ทกึ

ข้นั Post-speaking
1. ครูใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั (feedback) เรื่องการใชภ้ าษาของนกั เรียน เช่น ไวยากรณ์ การออกเสียง น้าเสียง

กิริยาทา่ ทาง เพอ่ื ให้นกั เรียนนาไปปรับปรุงแกไ้ ขในคร้งั ต่อไป
2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละคู่ไปฝึกอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 63 ให้คลอ่ ง แลว้ มาอา่ น

บทสนทนาใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 42 Exs. 4-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วธิ ีการวดั แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมินการอา่ นออกเสียงบทสนทนา
สังเกตการเปรียบเทียบเสียงพยญั ชนะ แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้
ของภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทย
ประเมินการแต่งบทสนทนาตาม แบบประเมนิ การแสดงบทสนทนา/ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สถานการณ์ท่ีกาหนด บทบาทสมมติ
ประเมนิ การพดู สนทนาตาม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
สถานการณ์ท่กี าหนด อนั พึงประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมน่ั
ในการทางาน

352

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) ภาพกิจกรรมอาสาตา่ ง ๆ

353

5 Across cultures 5e

2 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอียด แสดงความคิดเห็น และสรุปขอ้ มูลของเร่ืองทอี่ า่ นได้
- พูดแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ความสาคญั ของสตั วป์ ่ าได้
- คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สัตวท์ ีใ่ กลส้ ูญพนั ธุ์และเขยี นสรุปได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/3 ระบแุ ละเขียนส่ือทไี่ มใ่ ช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ใหส้ มั พนั ธ์กบั ประโยคและ
ขอ้ ความท่ีฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เกี่ยวกบั เรื่องที่ฟังและอา่ นจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เร่ืองที่ฟังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เร่ืองทีไ่ ดจ้ ากการวเิ คราะห์เรื่อง/
ข่าว/เหตกุ ารณ์/สถานการณท์ อี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม

354

ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์
พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบ

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื และเป็ น

พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่

จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การอา่ นและเรียนรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เร่ืองท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม จะช่วยให้สามารถแสดง

ความคดิ เห็น และคน้ ควา้ ความรู้เพิ่มเติมจากแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (face extinction, threaten, reflect)

Nouns (endangered species, mammal, fishing village, overfishing,

survival, overhunting)

Adjectives (unique, native)

Functions: Talking about endangered species

There are only a few thousand of the aye-aye lemur because of

deforestation and hunting.

2) Language Skills

Speaking: พดู แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ความสาคญั ของสตั วป์ ่ า

Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขยี นแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทีอ่ า่ น,

เขยี น mind map สรุปขอ้ มูลจากเร่ืองทอี่ า่ น,

เขยี นสรุปขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตวท์ ใี่ กลส้ ูญพนั ธุ์

3) Cultures สัตวท์ ่ีใกลส้ ูญพนั ธุ์

355

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. ครูเขยี นคาวา่ endangered species บนกระดาน และให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมาย

endangered species (n) = animals or plants that may soon not exist because there are
very few now alive (สตั วห์ รือพชื ที่ใกลส้ ูญพนั ธุ์)

2. ครูนาภาพสัตวท์ ่ใี กลส้ ูญพนั ธุ์ เช่น giant panda, snow leopard, Bengal tiger, Asian elephant, blue
whale, chimpanzee, orangutan, sea lion มาแสดง และใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกช่ือ

ข้นั Pre-reading
1. นกั เรียนดภู าพสัตวใ์ นหนงั สือเรียน หนา้ 64 แลว้ ครูอา่ นช่ือสัตวท์ ลี ะภาพ และถามนกั เรียนว่าเคย

ไดย้ นิ ช่ือสตั วเ์ หล่าน้ีหรือไม่ จากน้นั ครูให้นกั เรียนคดิ วา่ สตั วเ์ หล่าน้ีเกี่ยวขอ้ งกบั ช่ือเร่ืองอยา่ งไร
(These animals are endangered species.)
2. นกั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 64 ซ่ึงเป็นคาศพั ทท์ ่จี ะไดพ้ บใน
บทอา่ น แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย ถา้ คาใดท่ไี ม่รู้สามารถเปิ ดพจนานุกรมได้

endangered (adj) = being put in a situation in which it is likely to be harmed, damaged
or destroyed (ทใี่ กลส้ ูญพนั ธุ์)

extinction (n) = a situation in which something no longer exists (การสูญพนั ธุ์)
overfishing (n) = catching too many fish in an area of the sea so that there are not

many fish left there (ประมงเกินขีดจากดั )

356

threaten(v) = to be likely to cause harm or damage to something or someone

(คุกคาม)

unique (adj) = being the only existing one of its type or, more generally, unusual

or special in some way (ทม่ี ีลกั ษณะเฉพาะ)

reflect (v) = to show, express, or be a sign of something (แสดงให้เห็น)

native (adj) = used to refer to plants and animals that grow naturally in a place,

and have not been brought there from somewhere else (ตาม

ธรรมชาติ)

3. หนังสือเรียน หน้า 64 Ex. 1 ให้นกั เรียนเขียนเหตุผล 1 ขอ้ วา่ ทาไมสัตวแ์ ตล่ ะชนิดในภาพจึงใกล้

สูญพนั ธุ์ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน จากน้นั เปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นบทอา่ นตามไปดว้ ย

เพ่อื ตรวจวา่ คาตอบของนกั เรียนถูกตอ้ งหรือไม่

deforestation, overfishing and overhunting

ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 64 Ex. 2 นกั เรียนอา่ นประโยคทีก่ าหนดให้ และขดี เสน้ ใตค้ าสาคญั ในแต่ละ
ประโยค จากน้นั อ่านบทอ่านเพ่อื มองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาท่มี ีความหมายตรงกนั ขา้ ม
(opposite) หรือกลมุ่ คา/วลีทม่ี คี วามหมายเหมอื นกนั หรือต่างกนั กบั คาสาคญั ทข่ี ีดเส้นใตไ้ ว้ แลว้ ระบุ
วา่ ประโยคท่กี าหนดให้ถูกตอ้ ง หรือไมถ่ ูกตอ้ ง หรือไมไ่ ดก้ ลา่ วถงึ ในบทอ่าน เสร็จแลว้ ครูรวบรวม
คาตอบจากนกั เรียน และเฉลยคาตอบ

1 F 2 DS 3 DS 4 T 5 DS

ข้นั Post-reading
1. THINK! หนงั สือเรยี น หน้า 64 ให้นกั เรียนเขียน 3 ส่ิงที่คดิ วา่ น่าสนใจจากเร่ืองที่ไดอ้ ่าน เสร็จแลว้ ครู

สุ่มเรียกนกั เรียนรายงานคาตอบใหเ้ พอื่ นฟัง

357

I think it is interesting that the Baiji dolphin is one of the world’s rarest mammals.
I think it is interesting that the people of Madagascar think the aye-aye lemur is a
symbol of death.
I think it is interesting that the bridled nail-tailed wallaby lives only in Taunton
National Park, Queensland.

2. ครูให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน ทาช้ินงาน My mapping สรุปขอ้ มูลของสัตวจ์ ากเรื่องท่อี า่ น
แลว้ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั

3. นกั เรียนทา Language Review 5e & Prepositions Exs. 4-5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 109 ร่วมกนั ในช้นั
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 42 Exs. 1-3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
ครูเปิ ดคลิปวิดีโอช่วง 1 นาทีแรก จากเวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=VZF9U4_Tpdc
ให้นกั เรียนดแู ละช่วยกนั บอกช่ือสตั วท์ ีเ่ ห็นภาพ เช่น นกเงอื ก ชะนี ชา้ ง เต่า นกฮกู กบ ปลาสิงโต

ข้นั Presentation
1. นกั เรียนอ่านขอ้ มลู ในกรอบ Famous quotation หนงั สือเรียน หนา้ 64 ครูอธิบายความหมายคาวา่

quotation และ caterpillar
quotation (n) = a group of words or a short piece of writing taken from a book, play,
speech etc. and repeated because it is interesting or useful (คาคม)
caterpillar (n) = a small creature like a worm with legs, that develops into
a butterfly or moth (หนอนผเี ส้ือ)

จากน้นั ให้นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกบั ความหมายของคากลา่ วน้ี
Teaching a child not to step on a caterpillar is as valuable to the child as it is to the caterpillar.
(e.g. I think the quote means that we teach children not to harm animals.)

358

2. ครูทบทวนคาศพั ทท์ ่ีใชบ้ รรยายลกั ษณะสัตว์ โดยให้นกั เรียนระดมสมองบอกคาศพั ท์ แลว้ ครูเขียน

บนกระดาน จากน้นั นกั เรียนอ่านคาศพั ท์ พร้อมท้งั บอกความหมาย เช่น

fur (ขน) claws (กงเลบ็ )

stripe (ลายทาง) beak จงอยปากนก

horn (เขา) mane (แผงขนบนคอสัตว)์

trunk (งวง) tusk (งาชา้ ง)

ข้นั Practice
1. นกั เรียนระดมสมองบอกชื่อสัตวป์ ่ าท่มี ีในประเทศไทย แลว้ ครูเขียนบนกระดาน เช่น ชา้ ง เสือ ชะนี

กระทงิ จากน้นั ใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นว่า สัตวป์ ่ าเหลา่ น้ีมคี วามสาคญั อยา่ งไร ถา้ หากสัตวป์ ่ า
เหล่าน้ีสูญพนั ธ์จะเกิดผลกระทบอยา่ งไร
2. นกั เรียนเลือกสตั วป์ ่ าบนกระดานมา 1 ชนิด แลว้ ช่วยกนั บอกขอ้ มลู ของสัตวด์ งั กลา่ วเก่ียวกบั what it
looks like, where it lives, what it eats โดยครูเขยี นขอ้ มลู ท่ีนกั เรียนบอกในรูป mind map
ตวั อยา่ งเช่น

what it eats deer

what it looks like wild boar
big cat Tiger fish

four legs brown fur where it lives Malaysia
with black
stripes Thailand
Myanmar

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 64 Ex. 3 ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 4-5 คน ใหแ้ ต่ละกลุม่ คน้ ควา้

ขอ้ มูลจากอินเทอร์เนต็ หรือแหล่งการเรียนรู้อนื่ เช่น สารานุกรม เก่ียวกบั สัตวท์ ี่ใกลส้ ูญพนั ธุ์ใน
ประเทศไทยหรือประเทศอ่ืนตามประเดน็ ดงั น้ี name, where it lives, what it looks like, why it is
endangered แลว้ เขยี นสรุปขอ้ มลู

359

name: polar bear
where it lives: around the Arctic Ocean
what it looks like: large bear, white fur, sharp claws
why it is endangered: global warming, melting ice, pollution and hunting

The polar bear is a large bear with white fur and sharp claws that lives in and
around the Arctic Ocean. It is endangered because of global warming, pollution
and hunting. Sea ice is melting and breaking up and this means the polar bears
can’t hunt enough and they starve. Many bears also drown because they get too
tired from swimming long distances looking for food.

2. นกั เรียนทา Vocabulary Bank 5 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 114-116

7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
สมดุ นกั เรียน -
วิธกี ารวดั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการเขียนแสดงความคดิ เห็น แบบประเมนิ ช้ินงาน
เกี่ยวกบั เรื่องทอ่ี ่าน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินชิ้นงาน My mapping สรุป แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ขอ้ มลู จากเรื่องท่อี ่าน
สังเกตการพูดแสดงความคิดเห็น แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
เก่ียวกบั ความสาคญั ของสตั วป์ ่ า ขอ้ มูล
ประเมนิ การคน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั สัตว์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ
ท่ใี กลส้ ูญพนั ธุ์และเขยี นสรุป อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมนั่
ในการทางาน

360

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
7) อนิ เทอร์เนต็ และหอ้ งสมดุ
8) ภาพสตั วท์ ่ใี กลส้ ูญพนั ธุ์
9) คลปิ วิดีโอ

361

6 Writing 5f

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้
- บอกรายละเอียดของเร่ืองทอี่ ่านและฟังได้
- พูดแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั มลภาวะทางอากาศและแนวทางการแกป้ ัญหาได้
- เขยี นเรียงความเสนอแนะวธิ ีแกป้ ัญหาได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เรื่องทีฟ่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์/เร่ือง/ประเด็น
ตา่ ง ๆ ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์
พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบ

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การอา่ นและเขียนเรียงความเก่ียวกบั ปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม ซ่ึงเป็นเรื่องใกลต้ วั จะช่วยให้เขา้ ใจและรู้

แนวทางการแกป้ ัญหา สามารถนาความรู้ไปพดู /เขียนสื่อสารกบั คนใกลต้ วั และชุมชน เพอื่ ช่วยกนั
แกป้ ัญหาสิ่งแวดลอ้ มไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

362

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (increase, poison, reduce)

Nouns (smog, vehicle, fumes)

Functions: Talking about solutions to a problem

We should use buses and trains to reduce air pollution.

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ

Speaking: พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ปัจจยั ทท่ี าให้เกิดมลภาวะทางอากาศและ

แนวทางการแกป้ ัญหา

Reading: อ่านเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขยี นเรียงความเสนอแนะวิธีแกป้ ัญหา

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการแกไ้ ขปัญหา

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอจากเวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=ppAsAA_J720 ให้นกั เรียนดู แลว้

บอกความรู้สึกของตนเอง

363

2. นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 65 แลว้ บอกว่าเห็นอะไรในภาพ (The factory releases smoke.)
จากน้นั ครูให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นว่า ควนั จากโรงงานอุตสาหรรมทาให้เกิดมลภาวะไดอ้ ยา่ งไร

ข้นั Pre-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 65 Ex. 1 นกั เรียนอา่ นชื่อเร่ือง Smog in the city แลว้ เดาว่าบทอ่านเร่ืองน้ีน่าจะ

เก่ียวกบั อะไร จากน้นั ครูใหเ้ วลานกั เรียน 2 นาที อา่ นบทอา่ นอยา่ งรวดเร็วเพ่อื ตรวจคาตอบของ
ตนเอง

The text is about the problem of smog in the city and what we can do to solve it.

ความแตกต่างระหว่าง town และ city
town (n) a place where people live and work, containing many houses, shops,

places of work, places of entertainment etc., and usually larger than a
village but smaller than a city
city (n) a place where many people live, with many houses, stores, businesses
etc., and which is bigger than a town

2. ครูถามนกั เรียนวา่ คาว่า smog เกิดจากการประสมของคาศพั ทค์ าใดบา้ ง ใหน้ กั เรียนเดาคาตอบ
จากน้นั ครูให้นกั เรียนอ่านกรอบ Did you know? ในหนงั สือเรียน หนา้ 65 เพือ่ ตรวจวา่ นกั เรียนเดา
ถกู ตอ้ งหรือไม่

3. นกั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 65 แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย
ถา้ คาใดไมร่ ู้ ครูช่วยอธิบาย
smog (n) = a mixture of smoke, gases and chemicals, especially incities, that
makes the atmosphere to difficult breathe and harmful for health
(หมอกควนั พิษ)
vehicle (n) = a thing that is used for transporting people or goods from one place to
another, such as a car or lorry/truck (ยานพาหนะ)

364

increase (v) = to become or to make something greater in amount, number, value
etc. (เพ่ิม)

fumes (n) = smoke, gas or something similar that smells strongly or is dangerous
to breathe in (ควนั )

poison (v) = to have a bad effect on something (ทาให้เป็นมลพิษ)
reduce (v) = to make something less or smaller in size, quantity, price etc. (ทาให้

นอ้ ยลง, ลดลง)

ข้นั Reading
หนังสือเรียน หน้า 65 Ex. 2 นกั เรียนลอกตารางลงในสมุด แลว้ อา่ นหวั ขอ้ ในตาราง พร้อมท้งั อธิบาย
ความหมาย จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านบทอา่ นเพื่อหาขอ้ มลู มาเตมิ ลงในตาราง เสร็จแลว้ ครูรวบรวม
คาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน และเขียนตารางเฉลยคาตอบบนกระดาน

Problem Effects
number of vehicles/factories increasing, air is getting dirtier, poisoned air makes
air in cities becoming more polluted people ill

Solutions Results
use buses and trains, stop cars from reduce air pollution, enjoy a healthier
driving in the centre, move factories, life
put filters in chimneys

ข้นั Post-reading
1. ครูให้นกั เรียนระดมสมองคดิ วา่ นอกจากควนั จากโรงงานและยานพาหนะตา่ ง ๆ แลว้ ส่ิงทท่ี าให้เกิด

มลภาวะทางอากาศยงั มีปัจจยั อะไรอกี บา้ ง เช่น การเผาไร่นาเพอ่ื ทาการเกษตร ไฟป่ า ภเู ขาไฟระเบิด
ก๊าซทเี่ กิดจากขยะ ครูเขียนความคดิ เห็นของนกั เรียนบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอก
แนวทางแกป้ ัญหาท่ีพอจะเป็นไปได้
2. นกั เรียนทา Exs. 6-7 (Collocations & Phrasal verbs) ใน Language Review 5 หนงั สือเรียน หนา้ 109
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 43 Exs. 1-3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

365

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
ครูเปิ ดคลิปวดิ ีโอจากเวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=Kr_DGf77OhM ใหน้ กั เรียนดู
แลว้ ครูถามคาถาม ดงั น้ี
 What is the environmental problem?
 What can we do to reduce the rubbish?

ข้นั Pre-writing
1. หนังสือเรียน หน้า 65 Ex. 3 ครูอธิบายนกั เรียนวา่ กาลงั จะไดฟ้ ังบคุ คลหน่ึงพดู เก่ียวกบั ปัญหาขยะใน

เมือง แลว้ ให้นกั เรียนอ่านคาถามที่กาหนดให้ เพื่อให้รู้วา่ จะตอ้ งฟังเพอื่ จบั ขอ้ มูลอะไรบา้ ง
จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง และจดบนั ทกึ คาตอบระหว่างฟัง เม่อื ฟังจบครูถามนกั เรียนว่าฟัง
เขา้ ใจหรือไม่ โดยครูอาจจะเปิ ดบทสนทนาอีกคร้ัง จากน้นั ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลย
คาตอบ

1 We are running out of places to put our rubbish.
2 It makes our lives unpleasant when there is rubbish on the streets, in the parks

and in the rivers.
3 We can start recycling programmes and organise clean-up days.

2. นกั เรียนอา่ น Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 65 เพ่ือศกึ ษาวธิ ีการเขยี นเรียงความเสนอแนะวธิ ี
แกป้ ัญหา จากน้นั นกั เรียนดูโครงร่างการเขียนเรียงความใน Ex. 4 แลว้ บอกว่ามกี ่ียอ่ หนา้ (4 ยอ่ หนา้ )
ให้นกั เรียนช่วยกนั ระบวุ ่าแตล่ ะยอ่ หนา้ ตอ้ งเขยี นอะไร
ยอ่ หนา้ ท่ี 1 กลา่ วถงึ ที่มาและสภาพของปัญหา
ยอ่ หนา้ ท่ี 2 ผลกระทบของปัญหา
ยอ่ หนา้ ที่ 3 วธิ ีการแกป้ ัญหาและผลลพั ธ์ที่คาดหวงั
ยอ่ หนา้ ท่ี 4 สรุปสิ่งท่ไี ดก้ ล่าวมาในยอ่ หนา้ ขา้ งตน้ ซ่ึงให้เหตุผลสนบั สนุนวา่ ทาไมผอู้ า่ น
ควรนาวิธีแกป้ ัญหาไปใช้

366

3. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 65 Ex. 4 วา่ นกั เรียนจะไดเ้ ขียนเรียงความเสนอแนะวิธี
แกป้ ัญหาขยะในเมืองตามโครงร่างท่กี าหนดให้ โดยสามารถใชข้ อ้ มูลจาก Ex. 3 ในการเขยี นได้

ข้นั Writing
หนังสือเรียน หน้า 65 Ex. 4 ครูให้นกั เรียนเขียนร่างเรียงความตามโครงร่างท่กี าหนดให้

Towns and cities have a problem with rubbish. There are not enough places to put
it. We must do something soon or there will be no clean places left in the cities or
in the countryside.
The problem with rubbish is that there is so much of it and we don’t try to make
less of it. Also, it can make our streets, parks and rivers dirty. This makes life in
the cities very unpleasant.
We can start recycling programmes in our neighbourhoods and organise clean-up
days. In these ways we can reduce the amount of rubbish.
To conclude, we can all help reduce the amount of rubbish if we try. Then we can
enjoy cleaner towns and cities.

ข้นั Post-writing
1. ครูให้นกั เรียนตรวจทานร่างงานเขียนของตนเอง โดยดไู วยากรณ์ การสะกดคา ยอ่ หนา้ และการใช้

ภาษา แลว้ แลกเปลีย่ นกนั ตรวจกบั เพื่อน จากน้นั ให้นกั เรียนแกไ้ ขร่างงานเขยี นของตนเองใหถ้ ูกตอ้ ง
แลว้ เขยี นเรียงความส่งครูตามร่างงานเขียนทแี่ กไ้ ขแลว้
2. นกั เรียนทา Self-Check 5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 117
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 43 Exs. 4-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

367

7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
วิธีการวดั ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่านและ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้
การฟัง ระดบั คุณภาพ พอใช้
สังเกตการพูดแสดงความคิดเห็น แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน
เกี่ยวกบั ปัจจยั ทท่ี าให้เกิดมลภาวะทาง
อากาศและแนวทางการแกป้ ัญหา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ
ประเมนิ การเขียนเรียงความเสนอแนะ อนั พงึ ประสงค์
วิธีแกป้ ัญหา
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมน่ั
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) คลปิ วิดีโอ

368

7 ASEAN corner 5

1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- บอกรายละเอยี ดของเรื่องทอี่ า่ นได้
- พดู แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั พลงั งานทดแทนได้
- คน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู ตามหัวขอ้ ทก่ี าหนดได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขยี นสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หัวขอ้ เร่ืองที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์เร่ือง/
ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/สถานการณ์ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/3 พดู และเขยี นแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์
พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลประกอบ

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเขา้ ใจและตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของพลงั งาน จะช่วยให้รู้จกั ประหยดั พลงั งานและใช้

พลงั งานอยา่ งรู้คณุ คา่

369

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (last, replace)

Nouns (source, consumption, domestic consumption, demand,

conservation)

Adjective (efficient)

Functions: Talking about renewable energy

Renewable energy helps save energy and is an eco-friendly source.

2) Language Skills

Speaking: พูดแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั พลงั งานทดแทน

Reading: อ่านเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขียนนาเสนอขอ้ มูลเก่ียวกบั APAEC

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm up
1. ครูถามนกั เรียนว่ารู้จกั พลงั งานจากธรรมชาตหิ รือไม่ ให้นกั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ ง เช่น พลงั งานลม

แสงแดด ก๊าซธรรมชาติ
2. ครูถามนกั เรียนวา่ ประเทศใดในภมู ิภาคอาเซียนท่ีมีน้ามนั มาก ประเทศใดมกี ารนากา๊ ซธรรมชาติ

มาใช้
3. นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 66 แลว้ คดิ ว่าเป็นการใชพ้ ลงั งานธรรมชาติจากแหลง่ ใด (ลมและ

แสงแดด)

370

4. ครูเขยี นภมู ภิ าคต่าง ๆ ของไทย 6 ภมู ิภาค บนกระดาน ไดแ้ ก่ ภาคเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวนั ออก และภาคตะวนั ตก แลว้ แบ่งนกั เรียนออกเป็น 6 กลมุ่ มอบหมายให้
กลุม่ ละภูมิภาค ให้แต่ละกลมุ่ ระดมสมองคดิ ว่าในภมู ิภาคทกี่ ลมุ่ ตนไดร้ ับมีทรัพยากรธรรมชาติ
อะไรบา้ ง เพื่อตรวจสอบความรู้พ้ืนฐานของนกั เรียน

ข้นั Pre-reading

1. ครูเขียนคาว่า renewable energy หรือพลงั งานทดแทนบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย

เก่ียวกบั คุณสมบตั ิของพลงั งานรูปแบบน้ี พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ ง

2. ครูให้นกั เรียนอ่านชื่อเรื่อง Energy Security in ASEAN ในหนงั สือเรียน หนา้ 66 แลว้ แสดงความ

คิดเห็นว่าบทอ่านน้ีน่าจะเก่ียวกบั เร่ืองอะไร

3. ครูเขียนคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน source, consumption, domestic consumption, demand, last, replace,

efficient, conservation ให้นกั เรียนอา่ นตามครู จากน้นั ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใดไม่รู้ ให้เปิ ด

พจนานุกรมได้

source (n) = a place, person or thing that you get something from

(แหล่งกาเนิด)

consumption (n) = the act of using, eating, or drinking something (การบริโภค)

domestic consumption (n) = products and services that are bought and used in the

country that makes or offers them (การบริโภคในประเทศ)

demand (n) = a very firm request for something; something that

somebody needs (ความตอ้ งการ)

last (v) = to continue to exist (คงอย,ู่ มีต่อไป)

replace (v) = to be used instead of something/somebody else (แทนที่)

efficient (adj) = doing something well and thoroughly with no waste of

time, money or energy (มปี ระสิทธิภาพ)

conservation (n) = the protection of the natural environment (การอนุรักษ)์

ข้นั Reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 66 Ex. 1 นกั เรียนอา่ นประโยคทก่ี าหนดให้และขดี เสน้ ใตค้ าสาคญั แลว้ อ่าน

บทอา่ นโดยมองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาทม่ี คี วามหมายตรงกนั ขา้ ม (opposite) หรือ
กลุ่มคา/วลีทีม่ คี วามหมายเหมอื นกนั หรือต่างกนั กบั คาสาคญั ทข่ี ดี เสน้ ใตไ้ ว้ เม่ือพบแลว้ อ่านให้เขา้ ใจ
แลว้ จึงตอบว่าประโยคถกู หรือผดิ จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ

371

1T 2F 3F 4T 5T

2. หนงั สือเรียน หน้า 66 Ex. 2 นกั เรียนอ่าน topic ในตาราง และอา่ นบทอ่านอีกคร้งั เพือ่ หาขอ้ มลู มา
เติมลงในตาราง เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาตอบ

Topic Vietnam Brunei Darussalam
Important energy
natural oil and gas crude oil, petroleum and
Problem
natural gas
Policies/Solutions
doesn’t have enough energy doesn’t have enough energy

for the future for the future

encourage people to use reduce the use of oil and gas

other energy sources such as and invent cutting-edge

wind and solar cells technologies to help produce

cleaner energy

ข้นั Post-reading
1. ครูให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชนข์ องพลงั งานทดแทน และการนาพลงั งาน

ทดแทนมาใชแ้ ทนพลงั งานธรรมชาตทิ ่ใี ชแ้ ลว้ หมดไป
2. หนงั สือเรียน หน้า 66 Ex. 3 นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คน ครูใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ คน้ ควา้ รวบรวม

ขอ้ มูลเก่ียวกบั ASEAN Plan of Action for Energy Cooperation (APAEC) แลว้ จดั ทาเป็นโปสเตอร์
โดยให้แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ออกแบบและตกแต่งโปสเตอร์ให้น่าสนใจ

372

7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
สมดุ นกั เรียน ร้อยละ 60
วิธกี ารวดั แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากเรื่องทอี่ ่าน
สงั เกตการพูดแสดงความคดิ เห็น แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
เก่ียวกบั พลงั งานทดแทน
ประเมนิ ช้ินงานโปสเตอร์นาเสนอ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ขอ้ มูลเก่ียวกบั APAEC อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั
ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
3) พจนานุกรมออนไลน์

373

8 O-NET practice & Fun time 5

1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ทเี่ รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 5
- เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาทเ่ี รียนมาแลว้ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ช่วยใหพ้ ูด/เขียนสื่อสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา

ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

374

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ที่ 5

Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5

2) Language Skills

Listening: ฟังเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาที่เรียนมาแลว้

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั ปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม โดยแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทมี ให้แต่ละทีมเลอื ก
ตวั แทน 1 คน ทีว่ าดภาพเกง่ ออกมาวาดภาพบนกระดานตามคาศพั ทท์ ี่ครูกระซิบบอก ถา้ ทมี ใดรู้
คาศพั ทใ์ ห้ยกมือข้นึ และพูดคาศพั ท์ ถา้ บอกคาศพั ทถ์ กู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน แตถ่ า้ บอกไมถ่ กู ตอ้ ง
อีกทมี หน่ึงจะไดบ้ อกคาศพั ทแ์ ทน สุดทา้ ยทมี ทม่ี คี ะแนนมากท่สี ุดจะเป็นผชู้ นะ

ข้นั Presentation
1. ครูทบทวนไวยากรณใ์ นหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ดว้ ยการให้นกั เรียนระดมสมองพูดบอกไวยากรณ์ท่ี

เรียนรู้ในหน่วยน้ี ครูเขียนตามทนี่ กั เรียนบอกบนกระดานในรูปของ mind map จากน้นั ให้นกั เรียน
ช่วยกนั พูดบอกโครงสร้างประโยคและหลกั การใช้

375

will

wishes ไวยากรณ์ be going
Conditionals หน่วยการ to
เรียนรู้ท่ี 5
type 0-3 Present
Future continuous
continuous
(future
meaning)

2. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม ใหแ้ ต่ละกลุม่ ส่งตวั แทน 1 คน ออกมาหนา้ ช้นั เพ่อื เขียนประโยค 1 ประโยค
โดยใชโ้ ครงสร้างภาษาทเ่ี รียน แต่สลบั ตาแหน่งของคาในประโยค จากน้นั ใหก้ ลมุ่ อืน่ ทายว่าประโยค
ที่ถูกตอ้ งเขียนอยา่ งไร กลมุ่ ใดทายถูกตอ้ งกอ่ นจะได้ 1 คะแนน กลุ่มทมี่ ีคะแนนมากทีส่ ุดจะเป็น
ผชู้ นะ

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 68 Ex. 1 ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 5 กลุ่ม ให้แขง่ ขนั กนั จบั คคู่ าศพั ทใ์ นวงกลม A

กบั B ให้เป็นวลีที่ถกู ตอ้ ง แลว้ นาวลเี หล่าน้ีมาแตง่ ประโยค ถา้ แตง่ ประโยคถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน
กลุ่มทไ่ี ดค้ ะแนนมากท่สี ุดจะเป็นผูช้ นะ

I once saw a volcanic eruption on TV. It was amazing.
The Baiji dolphin may face extinction very soon.
Global warming is a danger to all of us.
Humid weather can damage monuments.
Turning off lights when we don’t need them reduces energy waste.
Traffic fumes cause air pollution.
We should all help preserve our cultural sites.
The Polar bear is an endangered species.

376

2. หนงั สือเรียน หน้า 68 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดเู น้ือหา เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียน
เปรียบเทยี บคาตอบกบั เพอ่ื น จากน้นั ครูจึงเฉลยคาตอบ

1F 2T 3 T 4T 5T
6F 7T 8T

3. หนังสือเรยี น หน้า 68 GAME นกั เรียนช่วยกนั แตง่ เร่ืองเลา่ เกี่ยวกบั ประสบการณท์ ่ีเลวร้าย โดยครู
เร่ิมตน้ ดว้ ยประโยค If John had woken up early, … จากน้นั ให้นกั เรียนผลดั กนั แต่งเร่ืองต่อคนละ
1 ประโยค โดยใชป้ ระโยคเง่ือนไขแบบท่ี 3

4. หนังสือเรยี น หน้า 68 Ex. 4 นกั เรียนอา่ นช่ือเพลงและคา/วลที ใี่ ห้มา แลว้ เดาว่าเพลงน้ีมีเน้ือหา
เกี่ยวกบั เร่ืองอะไร จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านเน้ือเพลงตามไปดว้ ย เพือ่ ตรวจคาตอบ
ที่เดาไว้

The song is about what we can do to protect the environment.

5. หนงั สือเรยี น หน้า 68 Ex. 5 ครูให้เวลานกั เรียนเขยี นประโยคอยา่ งนอ้ ย 3 ประโยค เก่ียวกบั ส่ิงทเ่ี รา
สามารถทาไดเ้ พ่ือช่วยโลกของเรา เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน อ่านให้เพื่อนฟัง

We can clean up rivers, lakes and seas. We can pick up litter. We can plant trees.
We can recycle our rubbish. We can stop polluting the water, land and air.

6. หนงั สือเรียน หน้า 67 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพ่มิ เติม

Ex. 1 1 A b, B d 2 A c, B b 3 A b, B d 5c
Ex. 2 1 a 2 b 3 c 4 d

377

ข้นั Production
หนังสือเรยี น หน้า 68 Ex. 3 นกั เรียนจบั ค่กู นั ครูแจกกระดาษใหค้ ลู่ ะ 1 แผ่น ใหแ้ ตล่ ะคคู่ ิดคาถาม
quiz 6-8 ขอ้ เก่ียวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 โดยเขยี นคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ ครูช่วย
ยกตวั อยา่ ง เช่น Deforestation is when people cut down trees. (T) จากน้นั ใหน้ กั เรียนทางานโดย
สามารถเปิ ดดเู น้ือหาได้ เม่อื ทุกคคู่ ดิ คาถามเสร็จแลว้ ให้แลกกนั ทา quiz กบั คูอ่ น่ื

1 Angkor Wat is a temple. (T)
2 Stonehenge dates from the 12th century. (F)
3 Ball lightning is electrical. (T)
4 It rained frogs in 1939 in England. (T)
5 Dust causes a blue moon. (T)
6 Smog is water pollution. (F)
7 Aye-aye lemurs come from China. (F)
8 Caddy is from the USA. (F)

7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
- ร้อยละ 60
วธิ ีการวดั
ตรวจการเขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 อนั พึงประสงค์
สังเกตความมุ่งมนั่ ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3

378

6 Technology & Communication

ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/1 ปฏิบตั ติ ามคาขอรอ้ ง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายทีฟ่ ังและอ่าน
ต 1.1 ม. 3/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 3/3 ระบแุ ละเขียนสื่อทไี่ มใ่ ช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ ใหส้ ัมพนั ธก์ บั ประโยคและ

ขอ้ ความทีฟ่ ังหรืออ่าน
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกบั เร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ

ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว

เร่ืองทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม และส่ือสารอยา่ งตอ่ เน่ืองและเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/2 ใชค้ าขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พดู และเขียนเพ่ือขอและให้ขอ้ มลู อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี ังหรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก และความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องตา่ ง ๆ

กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ ง
เหมาะสม

379

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น

ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเดน็

ต่าง ๆ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เร่ืองท่ีไดจ้ ากการวิเคราะหเ์ ร่ือง/

ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 3/3 พดู และเขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์

พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/1 เลอื กใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 3/2 อธิบายเกี่ยวกบั ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยค

ชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น
พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

380

ตวั ช้ีวดั ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองทเี่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
ต 4.1 ม. 3/1 สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจ บอกรายละเอียด แสดงความ
คิดเห็นเกี่ยวกบั รื่องทอี่ า่ นและฟังได้ สามารถนาสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในการพูดและเขียนใหค้ าแนะนาเก่ียวกบั
การใชค้ อมพิวเตอร์และอินเทอร์เนต็ พูดอธิบายลาดบั หรือข้นั ตอนในการทาส่ิงต่าง ๆ ได้ เขยี นเรียงความ
แสดงขอ้ ดีและขอ้ เสีย ตลอดจนตระหนกั ถึงความสาคญั เร่ืองความเหลือ่ มล้าในการเขา้ ถงึ สารสนเทศ
รวมถงึ มีความเขา้ ใจในมารยาทและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Means of communication (telephone, fax machine, pager, mobile phone,
Internet, letter, satellite)
Space (space exploration, time capsule, desert island, solar system)
Computers (webcam, speakers, screen, keyboard, CD/DVD drive, mouse,
printer, scanner, print documents, listen to music, see people through the
Internet, see files, type, move around the screen, read CDs/DVDs, make
a copy of a photo)
Body language (bow, hug, kiss on the cheek, shake hands, make the OK
gesture)
Sentences (Can you help me?, First, insert the stick into the slot in the
tower., Now go to your files in ‘My Documents’., Got it! What’s next?,
Click on ‘copy this file’., Then what?, Is that all?)
Verbs (launch, transmit, represent, greet); Nouns (human race, space
exploration, spacecraft, mission, inhabitant, time capsule, whale, desert
island, solar system, messenger, slip, chat, cross, chat, damage, distract,
neglect, access)
Phrasal verb (mess up)

381

Functions: Nouns (compartment, insult, cheek, tool, topic, screen, remote area, gap,
urban, rural area, indicator, aspect)
Grammar: Adjectives (golden, fluent, harmful, harmful)
Functions: Adverb (sensibly)
Expressing opinion about what to put in a time capsule
I think that we should put in a recording of our language. In my opinion
this is important so they can hear how we speak.
Yes, I agree the language we speak is a very important part of our
nationality.
Reported statements
said - told
Reported questions, commands/requests
Talking about computer
We use speakers to listen to music.
A lot of teens use the Net for playing games and downloading music.
Giving advice
You should use an antivirus program on your computer.
You should have a password on your computer.
Giving instructions
I don’t know how to copy my history project onto this memory stick. Can
you help me?
Sure. First, insert the stick into the slot in the tower.
Talking about body language
In Thailand, you shouldn’t touch anyone’s head.
Talking about advantages and disadvantages of the Internet
We use the Internet to find information.
The internet can damage your eyes if you spend too many hours.
Talking about using the Internet
How often do you use the Internet?
I use it every day to listen to music and do homework.

382

Pronunciation: /s/: saw, Sally, sale, say
2) Language Skills /ʃ/: show, shine, shake, share

Listening: ฟังเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังการออกเสียงคาศพั ทแ์ ละประโยค
Speaking: พูดส่ิงทปี่ ระทบั ใจจากเรื่องทอี่ ่าน, แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ประโยชน์
ของการพฒั นาเทคโนโลยอี วกาศ, อภปิ รายแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การ
Reading: เลือกส่ิงของใส่ลงในแคบซูลเวลา, พูดรายงานคาพดู ของผอู้ ื่น, พูดถาม-
Writing: ตอบเก่ียวกบั การใชค้ อมพิวเตอร์, พดู ใหค้ าแนะนาวธิ ีการใชอ้ ินเทอร์เน็ต
อยา่ งปลอดภยั , พูดสนทนาตามสถานการณ์ท่กี าหนด, พดู อภิปรายเหตผุ ลท่ี
3) Cultures ตอ้ งเรียนรู้วฒั นธรรมของสถานท่ีท่ไี ปเท่ยี วหรือไปอยอู่ าศยั , พดู ขอและให้
ขอ้ มลู เก่ียวกบั การใชอ้ นิ เทอร์เนต็
อ่านเพอื่ หาขอ้ มูลเฉพาะ
เขียนบรรยายเหตกุ ารณ์การพบปะกบั สิ่งมชี ิวิตท่มี าจากนอกโลก, เขียน
ประโยครายงานคาพูดของผอู้ ืน่ , วาดแผนภมู แิ ท่งและเขยี นประโยคอธิบาย
การใชค้ อมพิวเตอร์ของเพอ่ื นร่วมช้นั , แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ่ี
กาหนด, เขียนส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้จากเรื่องทอี่ ่าน, เขยี นเกี่ยวกบั ภาษาท่าทางที่
นกั ทอ่ งเท่ยี วไม่ควรใชเ้ มอ่ื อยใู่ นประเทศไทย, เขียนเรียงความแสดงขอ้ ดี
และขอ้ เสียตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนด, เขยี นนาเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกบั ประโยชนใ์ น
การเขา้ ถึงอนิ เทอร์เนต็
ภาษาท่าทาง

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มนั่ ในการทางาน

383

6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขยี นบรรยายเหตุการณก์ ารพบปะกบั สิ่งมีชิวิตทม่ี าจากนอกโลก
2) วาดแผนภูมิแทง่ และเขยี นอธิบายการใชค้ อมพิวเตอร์ของเพอ่ื นร่วมช้นั
3) พดู ให้คาแนะนาวิธีการใชอ้ ินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั
4) อ่านออกเสียงบทสนทนา
5) แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนด
6) พูดสนทนาตามสถานการณท์ ่กี าหนด
7) ช้ินงานโปสเตอร์ภาษาท่าทางที่ไม่ควรไชเ้ มือ่ ไปเยอื นประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซียน
8) เขียนเรียงความแสดงขอ้ ดีและขอ้ เสียตามหัวขอ้ ทีก่ าหนด
9) ช้ินงานโปสเตอร์นาเสนอประโยชน์ของการเขา้ ถงึ อนิ เทอร์เนต็

7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน
7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

384

1 Reading 6a & Vocabulary 6a

2 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอยี ดและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องทอี่ า่ นและฟังได้
- พดู แสดงความคิดเห็นตามประเดน็ ทีก่ าหนดได้
- แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี าหนดได้
- เขยี นบรรยายเหตุการณ์ตามสถานการณ์ทกี่ าหนดได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ข่าว
เร่ืองท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม และสื่อสารอยา่ งตอ่ เนื่องและเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พดู และเขียนเพ่ือขอและให้ขอ้ มลู อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/5 พดู และเขยี นบรรยายความรู้สึก และความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลประกอบอยา่ ง
เหมาะสม

385

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเด็น
ต่าง ๆ ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/3 พดู และเขยี นแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์
พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลประกอบ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์เกี่ยวกบั ช่องทางการตดิ ต่อสื่อสาร และคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั อวกาศ ช่วยให้

เขา้ ใจ สามารถบอกรายละเอยี ด และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่อี า่ นและฟังได้ รวมถงึ ยงั สามารถ
พูดและเขยี นใหข้ อ้ มลู แสดงความคิดเห็นตามประเดน็ ที่กาหนดไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions
Vocabulary: Means of communication (telephone, fax machine, pager, mobile phone,
Internet, letter, satellite)
Space (space exploration, time capsule, desert island, solar system)
Verbs (launch, transmit, represent, greet); Nouns (human race, space
exploration, spacecraft, mission, inhabitant, time capsule, whale, desert
island, solar system, messenger)
Adjective (golden)
Functions: Expressing opinion about what to put in a time capsule
I think that we should put in a recording of our language. In my opinion
this is important so they can hear how we speak.
Yes, I agree the language we speak is a very important part of our
nationality.

2) Language Skills
Listening: ฟังเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ

386

Speaking: พดู สิ่งที่ประทบั ใจจากเรื่องท่ีอา่ น,
แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ประโยชน์ของการพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศ,
Reading: อภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การเลือกส่ิงของใส่ลงในแคบซูลเวลา
Writing: อา่ นเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ
แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ท่ีกาหนด,
เขียนบรรยายเหตกุ ารณก์ ารพบปะกบั ส่ิงมีชิวติ ทีม่ าจากนอกโลก

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ข้นั Warm up
1. นกั เรียนอ่านช่ือหน่วยการเรียนรู้ (Technology & Communication) ในหนงั สือเรียน หนา้ 69 แลว้

ช่วยกนั อธิบายความหมาย
2. Find the page numbers for หน้า 69 ครูอ่านออกเสียงคาวา่ extraterrestrial ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม

2 คร้ัง แลว้ ครูอธิบายความหมายของคาน้ี
extraterrestrial (n) = a creature that comes from another planet; a creature that may
exist on another planet (ส่ิงมชี ีวติ ทม่ี าจากนอกโลก)

จากน้นั ใหน้ กั เรียนหาว่าภาพที่เก่ียวขอ้ งกบั ท้งั 3 คาน้ีอยใู่ นหนงั สือเรียนหนา้ ใด เมือ่ หาพบแลว้ ครู
ถามคาถามเพ่ือดึงความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่บทเรียน

387

an extraterrestrial (p. 70)
What do you think an extraterrestrial might look like?
In what ways might one be similar/different to a human?
a bar graph (p. 74)
What is a bar graph? Do you use them in school? What are they used for?
a blog (p. 76)
Do you write a blog? Do you often read people’s blogs?
Do you like them? Why (not)? What can a blog be about?

ข้นั Pre-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 69 Ex. 1 นกั เรียนฟังคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ช่องทางการส่ือสารและออกเสียงตาม CD

2 คร้ัง แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงดว้ ยตนเองพร้อมกนั จากน้นั นกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมาย
โดยเดาจากภาพ
ต่อมาครูให้นกั เรียนอ่านวลีท่ีกาหนดให้ แลว้ ใช้วลีเหลา่ น้ีแตง่ ประโยคเพอ่ื บอกว่านกั เรียนใช้ช่องทาง
การสื่อสารในภาพทาสิ่งตา่ ง ๆ บ่อยแคไ่ หน ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน พดู ให้เพอื่ นฟัง

I’ve never used a fax machine to send a fax (to someone).
I’ve never used a pager to send a message (to someone).
I often use a mobile phone to call friends, send/receive an MMS and send/receive
an SMS.
I often use the Internet to send/receive an email and find information.
I sometimes use a letter to send/receive news.

2. หนงั สือเรยี น หน้า 70 Ex. 1a นกั เรียนดภู าพส่ิงมีชีวติ ที่มมุ ซา้ ยลา่ ง แลว้ คดิ ว่าใช่เอเลี่ยนหรือไม่
สิ่งมีชีวติ น้ีดูอนั ตรายหรือดูเป็นมิตร นกั เรียนสามารถบอกขอ้ มลู อะไรบา้ งเก่ียวกบั ส่ิงมชี ีวิตน้ี และ
นกั เรียนคดิ วา่ มีสิ่งมชี ีวติ บนดาวเคราะห์ดวงอ่นื ที่ไมใ่ ช่โลกหรือไม่

388

The creature isn’t an alien. It is E.T. from the science-fiction film E.T. the Extra-
Terrestrial by Steven Spielberg. It is a creature from another planet who comes to
Earth and gets left behind by accident. He is friendly and he makes friends with a
young boy who helps him get back home.
I think there is life on other planets.

3. หนงั สือเรียน หน้า 70 Ex. 1b นกั เรียนอ่านช่ือเร่ืองของบทอา่ น และประโยคแรกของแต่ละยอ่ หนา้
แลว้ เดาว่าบทอ่านน้ีน่าจะเกี่ยวกบั เรื่องอะไร ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน แลว้ เปิ ด CD ให้นกั เรียน
ฟังและอา่ นบทอา่ นตามเพ่ือตรวจคาตอบ

The text is about space exploration and the Voyager missions.

4. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 70 แลว้ ช่วยกนั อธิบาย

ความหมาย ถา้ คาใดนกั เรียนไม่รู้ใหเ้ ปิ ดพจนานุกรม

human race (n) = all the people in the world, considered as a group (มนุษยชาติ)

space exploration (n) = the activity of searching and finding out about the empty area

outside the Earth’s atmosphere (การสารวจอวกาศ)

launch (v) = to send something out, such as a new ship into the water or a

spacecraft into space (ปล่อย (จรวด/ขปี นาวธุ /ดาวเทยี ม))

spacecraft (n) = a vehicle used for travel in space (ยานอวกาศ)

mission (n) = an important job, especially a military one, that someone is sent

somewhere to do (ภารกิจ)

transmit (v) = to broadcast something or to send out or carry signals using

radio, television etc. (ถ่ายทอดสัญญาณ)

inhabitant (n) = a person or animal that lives in a particular place (ผอู้ าศยั )

golden (adj) = made of gold (ทาดว้ ยทอง)

389

time capsule (n) = a container that is filled with objects considered to be typical of
the present period in history and then buried, so that it can be
represent (v) dug up and studied much later (แคบซูลเวลา)
whale (n)
desert island (n) = to show or describe something or someone (แสดง)
solar system (n) = a very large sea mammal that breathes air through a hole at the
greet (v)
messenger (n) top of its head (วาฬ)
= an island, especially in a warm region, where no people live

(เกาะร้าง)
= the sun and the group of planets that move around it (ระบบ

สุริยะ)
= to welcome someone with particular words or a particular

action, or to react to something in the stated way (ทกั ทาย)
= someone who takes a message or documents from one person

to another (คนส่งข่าว, ผสู้ ่งสาร)

ข้นั Reading
หนังสือเรียน หน้า 70 Ex. 2a นกั เรียนอา่ นคาถามและตวั เลอื กที่กาหนดให้ แลว้ อา่ นบทอา่ นเพอ่ื หา
เน้ือเร่ืองส่วนทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั คาถาม จากน้นั เลอื กคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั
เฉลยคาตอบ

1B 2B 3A 4B

Background information
องคก์ ารบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space
Administration) หรือนาซา (NASA) ก่อต้งั ข้นึ เมอื่ วนั ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2501
เป็นหน่วยงานส่วนราชการ รับผดิ ชอบในโครงการอวกาศและงานวจิ ยั ห้วงอากาศ
อวกาศของสหรัฐอเมริกา คาขวญั ขององคก์ ารนาซา คอื For the benefit of all

390

ในเดือนกุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2549 นาซาไดป้ ระกาศภารกิจหลกั คอื การบกุ เบกิ อนาคต
แห่งการสารวจอวกาศ การคน้ พบทางวิทยาศาสตร์ และงานวิจยั ทางการบินและ
อวกาศ โครงการในระยะแรกของนาซาเป็นการวจิ ยั โดยมเี ป้าหมายส่งมนุษยข์ ้ึนไป
กบั ยานอวกาศ
วนั ท่ี 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 นกั บินอวกาศ อลนั บี. เชเพริ ์ด จเู นียร์ เป็นชาวอเมริกนั
คนแรกในอวกาศ เมือ่ เขาเดินทางไปกบั ยานฟรีดอม 7 ในภารกิจนาน 15 นาที แบบ
ไม่เต็มวงโคจร หลงั จากน้นั จอหน์ เกลน็ น์ กลายเป็นชาวอเมริกนั คนแรกทโ่ี คจร
รอบโลกเมอื่ วนั ที่ 20 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2505 ในการข้ึนบนิ นาน 5 ชว่ั โมงกบั ยาน
เฟรนดช์ ิป 7
ท่ีมา: https://www.nstda.or.th/jaxa-thailand/องค์การบริหารการบินและ/

ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 70 Ex. 2b นกั เรียนทางานคู่ โดยจินตนาการวา่ ไดเ้ จอกบั E.T. ให้นกั เรียนช่วยกนั

แตง่ บทสนทนาท่ีคิดวา่ จะพดู คุยกบั E.T. เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนหลาย ๆ คู่ ออกมาอา่ นบทสนทนา
ให้เพือ่ นฟัง

A: Are you an alien?
B: Yes, I am. I am from a planet across the galaxy.
A: Are you going to hurt me?
B: No, I come in peace.
A: What do you want?
B: I want to learn about life on Earth.
A: OK. I’ll tell you about life on Earth if you tell me about life on your planet.
B: Yes. That’s a good idea.

2. THINK! หนงั สือเรยี น หน้า 71 ใหน้ กั เรียนนึกถึง 4 ส่ิงทป่ี ระทบั ใจจากเร่ืองทอ่ี า่ น แลว้ ผลดั กนั พูด
ใหเ้ พือ่ นท่ีนง่ั ขา้ ง ๆ ฟัง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน พดู ให้เพอื่ นในช้นั ฟัง

391


Click to View FlipBook Version