The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3
หนังสือ Spark

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:02:12

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3
หนังสือ Spark

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3

7. การวัดและการประเมนิ ผล

วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากเรื่องทอี่ า่ น สมุดนกั เรียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

สงั เกตการพูดขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

การใชอ้ นิ เทอร์เน็ต ระดบั คุณภาพ ผ่าน

ประเมนิ ชิ้นงานโปสเตอร์นาเสนอ แบบประเมินช้ินงาน

ประโยชน์ของการเขา้ ถึงอนิ เทอร์เน็ต

สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมน่ั แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ

ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
3) พจนานุกรมออนไลน์

442

8 O-NET practice & Fun time 6

1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ทเี่ รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 6
- เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาทเ่ี รียนมาแลว้ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ช่วยใหพ้ ูด/เขียนส่ือสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา

ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

443

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6

Grammar: ไวยากรณใ์ นหน่วยการเรียนรู้ที่ 6

2) Language Skills

Listening: ฟังเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาทเ่ี รียนมาแลว้

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทท์ เี่ รียนในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 โดยให้นกั เรียนเล่นเกม Odd word out ครูเขียน
คาศพั ทค์ ร้งั ละ 4 คา บนกระดาน ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทท์ ีค่ รูเขียน จากน้นั ระบุคาศพั ทท์ ี่
ไมเ่ ขา้ พวก

ข้นั Presentation
1. ครูทบทวนไวยากรณใ์ นหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 ดว้ ยการให้นกั เรียนระดมสมองพูดบอกไวยากรณท์ ี่

เรียนรู้ในหน่วยน้ี ครูเขียนตามทนี่ กั เรียนบอกบนกระดานในรูปของ mind map จากน้นั ให้นกั เรียน
ช่วยกนั พดู บอกโครงสร้างประโยคและหลกั การใช้

444

Reported
statements

Reported ไวยากรณ์
questions, หน่วยการ
commands/ เรียนรู้ท่ี 6
requests
said - told

2. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม ใหแ้ ต่ละกล่มุ ผลดั กนั ส่งตวั แทน 1 คน ออกมาหนา้ ช้นั เพอ่ื เขียนประโยค
1 ประโยคบนกระดาน จากน้นั ให้แตล่ ะกลมุ่ พูดรายงานประโยคดงั กลา่ วให้ถกู ตอ้ ง กลุม่ ใดพดู
ประโยคถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน กลมุ่ ที่มีคะแนนมากท่สี ุดจะเป็นผชู้ นะ

ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 80 Ex. 1 นกั เรียนจบั คู่ แข่งขนั กนั ทาอกั ษรไขว้ เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ แลว้ ให้

นกั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ อ่ี ยใู่ นแถบสีเหลือง

1 fax machine 2 keyboard 3 webcam
6 speakers
4 printer 5 letters 9 mouse

7 pager 8 telephone

10 screen 11 Internet

Hidden words: mobile phone

2. หนังสือเรียน หน้า 80 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดเู น้ือหา เสร็จแลว้ ให้นกั เรียน
เปรียบเทยี บคาตอบกบั เพ่ือน จากน้นั ครูจึงเฉลยคาตอบ

445

1 F (Russia sent a dog into space.)
2T
3 F (Apollo 11 was a spacecraft.)
4 F (You can see people on the Internet with a webcam.)
5T
6 F (Body language is different all over the world.)

3. หนงั สือเรียน หน้า 80 GAME ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีมเพอ่ื เล่นเกม Whisper game โดยใหท้ ีม A ส่ง
ตวั แทน 1 คน ออกมากระซิบประโยคให้ตวั แทนของทีม B ฟัง ตวั แทนทีม B กลบั เขา้ ทมี และพดู
รายงานประโยคท่ไี ดย้ ินมาให้สมาชิกในทีมฟัง เช่น
Team A S1: (กระซิบประโยคให้ตวั แทนทีม B ฟัง)
How often do you use your computer?
Team B: What did he say?
Team B S1: He asked how often I used my computer.

4. หนังสือเรยี น หน้า 80 Ex. 4 นกั เรียนอ่านเน้ือเพลงและเติมคาทกี่ าหนดให้ลงในช่องวา่ ง จากน้นั ครู
เปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเพลงเพ่อื ตรวจคาตอบ

1 phone 2 text 3 online 4 away

5 know 6 too 7 diary 8 play

5. หนังสือเรียน หน้า 80 Ex. 5 ครูถามนกั เรียนว่า ทาไมโทรศพั ทม์ อื ถอื จึงมคี วามสาคญั ตอ่ นกั รอ้ ง
ใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือเพลงเพ่อื หาคาตอบ

The singer’s mobile phone makes her not feel alone. She can use it to connect to
the Internet, to call friends, play music, take a photo or check her diary.

446

6. THINK! หนงั สือเรยี น หน้า 80 ให้นกั เรียนคดิ วา่ โทรศพั ทม์ ือถอื มีความสาคญั ต่อตวั นกั เรียนหรือไม่
เพราะเหตุใด ครูให้นกั เรียนเขยี นแสดงความคิดเห็น จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน บอกความ
คิดเห็นของตนเองให้เพื่อนฟัง

Yes, I feel the same. I like to use my mobile phone for lots of different things and
knowing I can call someone whenever I want makes me feel secure when I am out.

7. หนงั สือเรียน หน้า 79 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพ่มิ เตมิ

Ex. 1 1 A b, B c 2 A d, B b
Ex. 2 1 d 2 c 3 b 4 a 5 b

ข้นั Production
หนังสือเรยี น หน้า 68 Ex. 3 นกั เรียนจบั คูก่ นั ครูแจกกระดาษใหค้ ลู่ ะ 1 แผ่น ให้แต่ละคูค่ ิดคาถาม
quiz 5-6 ขอ้ เก่ียวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 โดยเขียนคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ ครูช่วย
ยกตวั อยา่ ง เช่น Fire fighters wear similar clothes to astronauts. (T) จากน้นั ให้นกั เรียนทางานโดย
สามารถเปิ ดดเู น้ือหาได้ เม่ือทกุ คู่คดิ คาถามเสร็จแลว้ ใหแ้ ลกกนั ทา quiz กบั ค่อู นื่

1 You can use a pager to send an MMS. (F)
2 Too much time on a mobile phone can damage your eyes. (F)
3 You should always cross your legs when you sit in Thailand. (F)
4 The Death Worm lives in the Sahara Desert. (F)
5 E.T. is an alien. (T)

447

7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
- ร้อยละ 60
วธิ กี ารวดั
ตรวจการเขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 อนั พึงประสงค์
สงั เกตความมุ่งมน่ั ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3

448

7 Entertainment

ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3 เวลาเรียน 14 ชั่วโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 3/3 ระบแุ ละเขยี นส่ือทไ่ี ม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ให้สัมพนั ธก์ บั ประโยคและ

ขอ้ ความทฟ่ี ังหรืออ่าน
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบุหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น

เก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ

ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ข่าว

เร่ืองท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม และส่ือสารอยา่ งตอ่ เน่ืองและเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/3 พูดและเขยี นแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธ

การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็น

เก่ียวกบั เร่ืองท่ีฟังหรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/5 พูดและเขยี นบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ

กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ ง
เหมาะสม

449

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน

ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/เรื่อง/ประเด็น

ต่าง ๆ ท่อี ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 3/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เร่ืองทีไ่ ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รื่อง/

ขา่ ว/เหตุการณ์/สถานการณ์ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์

พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/1 เลอื กใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยค

ชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย
ต 2.2 ม. 3/2 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งชีวติ ความเป็นอยแู่ ละ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย และนาไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น

450

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 3/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองทีเ่ กิดข้นึ ในห้องเรียน

สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจ บอกรายละเอียด แสดงความ

คิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องท่อี ่านและฟังได้ สามารถนาสิ่งท่เี รียนรู้ไปใช้ในการพูดและเขียนสื่อสาร แสดงความ
คิดเห็น ใหค้ าแนะนาเกี่ยวกบั รายการโทรทศั นแ์ ละภาพยนตร์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม นอกจากน้ียงั สามารถใช้
คาศพั ทค์ น้ ควา้ ความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ตลอดจนตระหนกั ถึงความสาคญั และเห็นคุณคา่
ของงานวรรณกรรม รวมถึงมีความเขา้ ใจในมารยาทและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: TV programmes (documentary, soap opera, drama show, the news &
weather, quiz show, cartoon, fashion show, chat show, sports
programme, comedy show, sitcom, play, film, children’s programme,
music programme, police drama, awards ceremony, nature programme)
Adjectives describing TV programme (good, great, OK, silly, childish,
interesting, awful, boring, educational, fantastic, terrible, not bad,
amusing, funny)
Films (sound effects, gripping plot, special effects, excellent cast,
computer-animated, blockbuster)
Places (art gallery, cinema, concert hall, exhibition centre, museum,
opera house, stadium, circus, theatre)
Forms of entertainment (ballet, concert, film, play, exhibition, dinner,
opera, football)
Verbs (direct, race back, terminate, program, experience, fancy, be on,
made from, feature, appeal, can’t wait, abduct)

451

Grammar: Nouns (solution, universe, saviour, human emotions, channel, social
Functions: drama, string instruments, wind instruments, percussion instruments,
royal courts, band, brass, tube, mouthpiece, beggar, cast, storyline,
morality, folktale, deed, obstacle, gratitude, compassion)
Adjectives (alone, action-packed, ordinary, touching, oval, up-to-date)
Sentences (Do you fancy watching it?, What else is on?, Quiz shows are
boring., What channel is it on?, That sounds great., I just hate social
dramas., Oh no, not that.)
The passive
The causative (have sth done)
Reflexive/Emphatic pronouns
a/an - the
Talking about TV programmes
What do you like to watch?
I like quiz shows. I find them interesting.
Recommending a film
Have you seen Slumdog Millionaire?
Yes, I saw it last Saturday.
Did you like it?
Yes, it was great. It’s a must-see!
Describing an experience
Last Saturday night, I went to a pop music concert. I went with my two
best friends Sophia and Anna.
Choosing TV programmes
There’s a quiz show on TV. Do you fancy watching it?
Not really. Quiz shows are boring. What else is on?
Talking about musical instruments
I would like to play the piano because I like how it sounds.
Describing about favourite TV series
My favourite TV series is Grey’s Anatomy. It’s a hospital drama.

452

Talking about literature

What is your famous story/literature?

It’s Phra Apaimanee.

Pronunciation: /e/: bed, met, pet

/æ/: bad, mad, cat

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ, ฟังการออกเสียงประโยค

Speaking: พดู สนทนาใหค้ าแนะนาเก่ียวกบั ภาพยนตร์, พูดถาม-ตอบขอ้ มลู โดยใช้

โครงสร้างที่เรียน, พดู เล่าประสบการณ์การทากิจกรรมในช่วงเยน็ , พดู

สนทนาตามสถานการณท์ ีก่ าหนด, พดู เก่ียวกบั เครื่องดนตรีที่ตอ้ งการเล่น,

พูดนาเสนอเคร่ืองดนตรีพ้ืนเมอื งของไทย, เล่าเรื่องวรรณคดีไทย, พูดแสดง

ความคดิ เห็นเก่ียวกบั คณุ ค่าของงานวรรณกรรม, เล่าเร่ืองประกอบภาพ

Reading: อา่ นเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอ่าน, เขียนอเี มลเลา่ เกี่ยวกบั ภาพยนตร์ที่ช่ืน

ชอบ, เขยี นประโยคตามโครงสร้างที่เรียน, เขยี นเล่าประสบการณ์การทา

กิจกรรมในช่วงเยน็ , แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ีก่ าหนด, เขยี นสรุป

ขอ้ มูลของอีเมลท่อี ่าน, เขียนอเี มลเก่ียวกบั ละครโทรทศั น์ท่ชี ื่นชอบ

3) Cultures เคร่ืองดนตรี

4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น

1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน
3) อนุรกั ษค์ วามเป็นไทย

453

6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขยี นอีเมลเลา่ เกี่ยวกบั ภาพยนตร์ท่ีช่ืนชอบ
2) เขยี นอเี มลเลา่ เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีทาในช่วงเยน็
3) อา่ นออกเสียงบทสนทนา
4) แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี าหนด
5) พูดสนทนาตามสถานการณ์ท่กี าหนด
6) คน้ ควา้ เคร่ืองดนตรีพ้ืนเมืองของไทยและพดู นาเสนอ
7) เขียนอีเมลเกี่ยวกบั ละครโทรทศั น์ท่ีช่ืนชอบ
8) ชิ้นงานเร่ืองเลา่ ประกอบภาพ

7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน
7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

454

1 Reading 7a & Vocabulary 7a

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้
- บอกรายละเอยี ดและเขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั เร่ืองทีอ่ ่านและฟังได้
- พดู ให้คาแนะนาเกี่ยวกบั ภาพยนตร์ได้
- เขยี นเกี่ยวกบั ภาพยนตร์ท่ชี ื่นชอบได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เกี่ยวกบั เร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/5 พดู และเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ ง
เหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน

455

ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ/์ เรื่อง/ประเดน็

ต่าง ๆ ท่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/1 เลอื กใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 3/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรียน

สถานศกึ ษา และชุมชน

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์เกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์ คาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ภาพยนตร์ และสานวนภาษาทใ่ี ช้

ให้คาแนะนาเก่ียวกบั ภาพยนตร์ จะช่วยให้เขา้ ใจและสามารถบอกรายละเอยี ดของเร่ืองทอี่ า่ นและฟังได้
รวมถงึ สามารถนาความรู้ไปใชใ้ นการพูดแสดงความคดิ เห็นและใหค้ าแนะนาเกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์
และภาพยนตร์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: TV programmes (documentary, soap opera, drama show, the news &
weather, quiz show, cartoon, fashion show, chat show, sports
programme, comedy show, sitcom, play, film, children’s programme,
music programme, police drama, awards ceremony, nature programme)
Adjectives describing TV programme (good, great, OK, silly, childish,
interesting, awful, boring, educational, fantastic, terrible, not bad,
amusing, funny)

456

Films (sound effects, gripping plot, special effects, excellent cast,

computer-animated, blockbuster)

Verbs (direct, race back, terminate, program, experience)

Nouns (solution, universe, saviour, human emotions)

Adjectives (alone, action-packed, ordinary, touching)

Functions: Talking about TV programmes

What do you like to watch?

I like quiz shows. I find them interesting.

Recommending a film

Have you seen Slumdog Millionaire?

Yes, I saw it last Saturday.

Did you like it?

Yes, it was great. It’s a must-see!

2) Language Skills

Listening: ฟังเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ

Speaking: พดู สนทนาใหค้ าแนะนาเกี่ยวกบั ภาพยนตร์

Reading: อ่านเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขยี นใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั เรื่องท่ีอ่าน,

เขยี นอเี มลเล่าเก่ียวกบั ภาพยนตร์ทช่ี ื่นชอบ

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มนั่ ในการทางาน

457

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. นกั เรียนอ่านช่ือหน่วยการเรียนรู้ (Entertainment) ในหนงั สือเรียน หนา้ 81 แลว้ แสดงความคดิ เห็นวา่

หน่วยการเรียนรู้น้ีน่าจะเกี่ยวกบั เร่ืองอะไร (e.g. The module is about cinema, film and music.)
2. Find the page numbers for หน้า 81 นกั เรียนอ่านคาศพั ทท์ ี่ให้มา แลว้ เดาความหมายของคาว่า a TV

guide
a TV guide (n) = a chart that provides television programmes (แผนผงั แนะนารายการ
โทรทศั น์)

จากน้นั ใหน้ กั เรียนหาวา่ ภาพที่เกี่ยวขอ้ งกบั ท้งั 3 คาน้ีอยใู่ นหนงั สือเรียนหนา้ ใด เม่อื หาพบแลว้ ครูถาม
คาถามเพื่อดึงความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่บทเรียน

a TV guide (p. 87)
What information does it contain? Where can we see it?
traditional musical instruments (p. 88)
Have you heard of these instruments?
What is a traditional musical instrument from your country?
robots (p. 82)
What do you know about the robots in the pictures?
Do you like science-fiction films? Do you think robots will ever be part of our lives?
Why (not)? What sort of things do you think they will be able to do?

ข้นั Pre-reading
1. หนงั สือเรยี น หน้า 81 Ex. 1 ครูเปิ ด CD 2 คร้ัง ให้นกั เรียนฟังคาศพั ท์เกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์และ

ออกเสียงตาม แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงดว้ ยตนเองพร้อมกนั จากน้นั นกั เรียนช่วยกนั อธิบาย
ความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้ครูช่วยอธิบาย

documentary (n) = a television program that gives facts and information about
something (สารคดี)

458

soap opera (n) = a story about the lives and problems of a group of people which

is broadcast every day or several times a week on television

(ละครท่ีออกอากาศเป็นตอน ๆ ตอ่ เน่ืองกนั เป็นประจา)

drama show (n) = a television production with characteristics (such as conflict) of

a serious play (ละคร)

quiz show (n) = an entertainment programme (as on radio or television) in

which contestants answer questions

chat show (n) = an informal television or radio programme on which famous

people are asked questions about themselves and their work

(รายการที่มแี ขกรบั เชิญมานงั่ พดู คุย)

sitcom (n) = an amusing television drama series about a set of characters

(ซิทคอม)

play (n) = a piece of writing which is performed in a theatre, on the radio

or on television (ละครเวท)ี

police drama (n) = a mystery novel, film or television drama that deals realistically

with police work

awards ceremony (n) = a formal occasion at which prizes are given to honor

achievement in a particular field

nature programme (n) = a documentary whose subject is wild animals in their natural

habitat or undomesticated fauna and flora generally (รายการ

สารคดีเกี่ยวกบั สัตวแ์ ละพืช)

หลงั จากน้นั ครูสุ่มถามนกั เรียนหลาย ๆ คน เกี่ยวกบั ประเภทรายการโทรทศั น์ที่นกั เรียนชอบดู เช่น

T: Which of following do you enjoy watching on TV?

S1: I enjoy watching comedy show.

S2: I enjoy watching sitcom.

2. หนังสือเรียน หน้า 81 Ex. 2 นกั เรียนดภู าพ 1-6 แลว้ ช่วยกนั ระบุวา่ เป็นรายการโทรทศั น์ประเภทใด

459

Picture 2 shows an awards ceremony.
Picture 3 shows a documentary or a nature programme.
Picture 4 shows a sports programme.
Picture 5 shows the news & weather.
Picture 6 shows a music programme.

3. หนังสือเรียน หน้า 81 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นออกเสียง adjectives ที่ใชบ้ รรยายเกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์

ตามครู แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้ให้เปิ ดหาความหมาย ในพจนานุกรม เช่น

silly (adj) = showing a lack of thought, understanding or judgement (ไร้สาระ)

childish (adj) = typical of a child (เก่ียวกบั เด็ก)

awful (adj) = extremely bad or unpleasant (แยม่ าก, ไมน่ ่าพอใจ)

educational (adj) = providing education or relating to education (ทเี่ กี่ยวกบั การศึกษา)

terrible (adj) = very unpleasant or serious or of low quality (แยม่ าก)

amusing (adj) = entertaining (น่าขนั , น่าสนุก)

จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์ใน Ex. 1 โดยใช้

adjectives เหลา่ น้ี

A: What do you think of soap operas?
B: I find them silly. I prefer dramas.
A: What do you like to watch?
B: I like quiz shows. I find them interesting.

A: What do you think of dramas?
B: I find them boring. I prefer the news.
A: What do you like to watch?
B: I like cartoons. I find them amusing.

460

A: What do you think of quiz shows?
B: I find them terrible. I prefer sports programmes.
A: What do you like to watch?
B: I like sitcoms. I find them funny. etc.

4. หนงั สือเรยี น หน้า 82 Ex. 1a ครูถามนกั เรียนว่า เคยดูภาพยนตร์ทม่ี ีเน้ือเร่ืองเก่ียวกบั หุ่นยนตห์ รือไม่
ถา้ นกั เรียนเคยดู ครูให้นกั เรียนเลา่ เรื่องยอ่ ของภาพยนตท์ ี่เคยดูให้เพอ่ื นในช้นั ฟัง

Rodney Copperbottom is a robot in a world of robots in the film ‘Robots’. He is
an inventor and he goes to Robot City to meet the famous inventor and his hero
Bigweld. He makes lots of friends and helps to make the robot world a better
place.

5. หนังสือเรียน หน้า 82 Ex. 1b ให้นกั เรียนเดาว่าหุ่นยนตใ์ นภาพปรากฎอยใู่ นภาพยนตร์เร่ืองอะไร
และหุ่นยนตเ์ หลา่ น้ีเป็นท่ีรู้จกั ในเร่ืองใด จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอา่ นบทอ่านตามเพอ่ื
ตรวจคาตอบ

Wall-E is from the film Wall-E. He doesn’t realise that he has the solution to
the planet’s problems.
The T-800 robot is from the film Terminator 2: Judgment Day. He protects a
10-year-old boy who will save the human race in the future.
Andrew is the robot from the film Bicentennial Man. He begins to experience
human emotions.

6. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 82 แลว้ ช่วยกนั อธิบาย

ความหมาย ถา้ คาใดนกั เรียนไม่รู้ใหเ้ ปิ ดพจนานุกรม

direct (v) = to be in charge of a film or play and tell the actors how to play

their parts (กากบั )

alone (adj/adv) = without other people (อยา่ งโดดเดี่ยว)

461

solution (n) = the answer to a problem (วธิ ีแกป้ ัญหา)

race back (phr v) = to move or go fast (รีบไปอยา่ งรวดเร็ว)

universe (n) = everything that exists, especially all physical matter, including

all the stars, planets, galaxies, etc. in space (จกั รวาล)

saviour (n) = a person who saves someone from danger or harm (ผกู้ อบกู,้

ผชู้ ่วยชีวิต)

terminate (v) = to cause something to end or stop (ทาให้สิ้นสุด)

action-packed (adj) = full of exciting events (เต็มไปดว้ ยเหตุการณ์ทน่ี ่าตืน่ เตน้ )

programme (n) = a broadcast on television or radio (รายการโทรทศั นห์ รือวิทย)ุ

ordinary (adj) = not different or special or unexpected in any way; usual

(ธรรมดา, สามญั )

experience human emotions (v) = to feel human emotions (รู้สึกถงึ ความเป็นมนุษย)์

touching (adj) = making you feel sadness, sympathy etc. (ซาบซ้ึง, กินใจ)

ข้นั Reading
หนังสือเรยี น หน้า 82 Ex. 2 นกั เรียนอา่ นประโยคขอ้ 1-8 ในหนา้ 83 และขีดเสน้ ใตค้ าสาคญั ในแตล่ ะ
ประโยค จากน้นั อ่านบทอา่ นเพ่ือมองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาทม่ี ีความหมายตรงกนั ขา้ ม
(opposite) หรือกลมุ่ คา/วลที มี่ คี วามหมายเหมอื นกนั หรือตา่ งกนั กบั คาสาคญั ทข่ี ดี เสน้ ใตไ้ ว้ แลว้ ระบุ
ว่าประโยคถกู ตอ้ ง หรือไมถ่ กู ตอ้ ง หรือไม่ไดก้ ลา่ วถึงในบทอา่ น เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจาก
นกั เรียนและเฉลยคาตอบ โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั แกไ้ ขประโยคที่ไมถ่ กู ตอ้ งให้ถูกตอ้ งดว้ ย

1T
2 DS
3T
4 F (It appears in Terminator 2: Judgment Day.)
5 F (Its mission is to protect a 10-year-boy.)
6 DS
7 F (It is a science-fiction drama.)
8 DS

462

ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 83 Ex. 3 นกั เรียนทางานคู่ ลอกตารางลงในสมดุ และเติมขอ้ มลู จากบทอ่านลงใน

ตาราง ครูอาจให้นกั เรียนอ่านบทอ่านอีกคร้งั เม่อื นกั เรียนเติมขอ้ มลู ในตารางเสร็จแลว้ ครูขอ
อาสาสมคั รบอกคาตอบ

Name Type Direction Plot
Terminator 2: science-fiction James Cameron 2 robots from future sent to LA,
Judgment Day T-800 to protect boy (saviour of
science-fiction Chris Columbus human race), T-1000 to
Becentennial drama terminate T-800 and boy
Man Martin family robot, Andrew,
begins to feel human emotions

จากน้นั ใหน้ กั เรียนใชข้ อ้ มูลจากตารางเขียนเกี่ยวกบั ภาพยนตร์แต่ละเรื่อง และเขียนอธิบายวา่ เรื่องราว
ของหุ่นยนตใ์ นภาพยนตร์ท้งั 3 เรื่องน้ีคลา้ ยกนั อยา่ งไร

… He meets a search robot called Eve and they go on a fantastic journey together.
Terminator 2: Judgment Day is a science-fiction film. It is directed by James
Cameron. T-800 is one of two robots sent from the future to LA. He is
programmed to protect a 10-year-old boy who is going to be the future saviour of
the human race. The other robot, the T-1000, is sent to terminate the T-800 and
the boy.
Bicentennial Man is a science-fiction drama. It is directed by Chris Columbus.
The Martin family buys a robot, Andrew, to do the housework. He is no ordinary
robot though and soon he begins to experience human emotions.

The stories are similar because they each show the robots to have human
characteristics either in looks or personality.

463

2. THINK! หนังสือเรียน หน้า 83 ใหน้ กั เรียนจินตนาการวา่ ตนเองเป็น Wall-E และเขยี นแนะนาวธิ ี
แกป้ ัญหาเพ่ือช่วยโลกใบน้ี จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านใหเ้ พื่อนขา้ ง ๆ ฟัง แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4
คน อ่านใหเ้ พ่ือนในช้นั ฟัง

If I were Wall-E, I’d plant trees. I’d also recycle all the rubbish that I’d collected.
I’d build solar energy panels too. Then I’d clean all the lakes and rivers.

3. นกั เรียนทา Language Review 7a Ex. 1 ในหนงั สือเรียน หนา้ 111 ร่วมกนั ในช้นั
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 52-53 Exs. 1-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั รายการโทรทศั น์ดว้ ยการเล่นเกม Bingo ครูให้นกั เรียนเขยี นตาราง 9 ช่อง
ลงในสมุด แลว้ เขียนคาศพั ทล์ งในตารางช่องละ 1 คา จากน้นั ครูพูดคาศพั ทท์ ีละคา ในตารางของใคร
มีคาศพั ทต์ ามที่ครูพูดให้กา  ทบั คาน้นั คนทก่ี า  ได้ 3 ช่องติดกนั กอ่ นในแนวใดกไ็ ด้ ใหต้ ะโกน
วา่ Bingo

ข้นั Presentation

1. หนงั สือเรียน หน้า 83 Ex. 4 ครูอ่านออกเสียงคาศพั ทท์ ่เี ก่ียวขอ้ งกบั ภาพยนตร์ท่กี าหนดให้ และให้

นกั เรียนอ่านตาม จากน้นั ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใดไม่รู้ครูช่วยอธิบาย หรือใหน้ กั เรียนเปิ ด

พจนานุกรมหาความหมาย

sound effects (n) = a sound that is made artificially, for example the sound of

the wind or a battle, and used in a film/movie, play,

computer game etc. to make it more realistic

(เสียงประกอบ)

gripping plot (n) = the exciting or interesting story of a book, film, play etc.

(เคา้ โครงเร่ืองท่ีน่าสนใจ)

464

special effects (n) = unusual or exciting pieces of action in films or television

programmes, that are created by computers or clever

photography to show things that do not normally exist or

happen (เทคนิคพิเศษ)

excellent cast (n) = the extremely good actors (นกั แสดงทีย่ อดเย่ยี ม)

computer-animated (adj) = connected with using computers to make the

characters look as if they are moving (เกี่ยวกบั การใช้

คอมพวิ เตอร์สร้างตวั ละครให้เคลื่อนไหว)

blockbuster (n) = a film that is very successful (ภาพยนตร์ทมี่ ีคนดเู ป็นจานวน

มากและทารายไดส้ ูง)

จากน้นั ใหน้ กั เรียนเติมคาทีก่ าหนดใหล้ งในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รบอก

คาตอบ และครูตรวจคาตอบ

1 Special effects 2 gripping plot 3 computer-animated
4 blockbuster 5 sound effects 6 excellent cast

2. หนงั สือเรียน หน้า 83 Ex. 5 นกั เรียนออกเสียงคากริยาเก่ียวกบั ภาพยนตร์ทกี่ าหนดให้ แลว้ ช่วยกนั
อธิบายความหมาย
win (v) = to achieve first position and/or get a prize in a competition, election,
fight etc. (ชนะ)
star (v) = to have one of the main parts in a film/movie, play etc. (แสดง)
direct (v) = to be in charge of a film or play and tell the actors how to play their
parts (กากบั )
release (v) = to allow the film to be shown in cinemas, or makes the musical
recording available for the public to buy (ออกวางตลาด, ออกวาง
จาหน่าย)
compose (v) = to produce music, poetry or formal writing (เรียบเรียง, แต่งข้ึน)
play (v) = to perform an entertainment or a particular character in a play, film etc.
(แสดง, รบั บทเป็น)

465

ครูสอนคาศพั ทเ์ พิ่มเตมิ ไดแ้ ก่ critic, cameo, sequel, the silver screen ดว้ ยการเขียนคาศพั ทบ์ น

กระดาน ให้นกั เรียนอ่านตาม แลว้ ครูช่วยอธิบายความหมาย

critic (n) = someone whose job is to give their opinion about something,

especially films, books, music etc. (นกั วจิ ารณ์)

cameo (n) = a small but noticeable part in a film or play, performed by a

famous actor (ดารารบั เชิญ)

sequel (n) = a book, film or play that continues the story of a previous book

etc. (หนงั สือ ภาพยนตร์ หรือละครทม่ี ีภาคตอ่ เนื่อง)

the silver screen (n) = the film industry (อุตสาหกรรมภาพยนตร์)

จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านขอ้ ความและเติมคากริยาลงในช่องวา่ งโดยเปล่ยี นเป็น tense ทีถ่ กู ตอ้ ง

เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนคาตอบบนกระดาน ให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจคาตอบ

1 directed 2 stars 3 played
4 composed 5 released 6 won

3. ครูนาเสนอสานวนภาษาท่ใี ชแ้ นะนาภาพยนตร์ โดยเขียนบทสนทนาส้ัน ๆ บนกระดาน
A: Have you seen Zootopia?
B: Yes, I saw it last week.
A: Did you like it?
B: It was fantastic. The plot was interesting. It’s a must-see.

ใหน้ กั เรียนอ่านบทสนทนาพร้อมกนั แลว้ ครูถามวา่ บทสนทนาน้ีแนะนาว่าควรไปดูภาพยนตร์
หรือไม่ เมอื่ ไดค้ าตอบว่า ควรไปดู ครูอธิบายวา่ นอกจากสานวน It’s a must-see. แลว้ สามารถใช้
สานวน You should see it. และ Don’t miss it. ไดด้ ว้ ย
ต่อมาครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ สาหรับการแนะนาวา่ ไม่ควรไปดู เราสามารถใชส้ านวน It was too
long/boring. It’s a waste of time.

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 83 Ex. 6 นกั เรียนทางานคู่ พูดสนทนาให้คาแนะนาเกี่ยวกบั ภาพยนตร์ ครูแนะนา

ให้นกั เรียนใช้ adjective และคาศพั ทท์ ีเ่ รียนไปแลว้ ในการพดู สนทนา ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน
จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คอู่ อกมาพดู สนทนาทีห่ นา้ ช้นั

466

A: Have you seen Slumdog Millionaire?
B: Yes, I saw it last Saturday.
A: Did you like it?
B: Yes, it was great. It’s a must-see!

A: Have you seen Australia?
B: Yes, I saw it last week.
A: Did you like it?
B: Not really. It was too long.

2. หนงั สือเรยี น หน้า 83 Ex. 7a ครูอธิบายวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ัง Jane, Steve และ Susan พูดเกี่ยวกบั
ภาพยนตร์ท่ชี อบ ใหน้ กั เรียนฟังว่าแตล่ ะคนชอบและไมช่ อบภาพยนตร์ประเภทใด เพราะเหตใุ ด
จากน้นั เปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง เมอื่ ฟังจบครูถามว่าจดคาตอบทนั หรือไม่ โดยครูอาจจะเปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟังอีกคร้งั จากน้นั ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบ

Jane likes comedies. They make her relax and laugh. She doesn’t like fantasies
because she thinks they aren’t realistic.
Steve likes science-fiction films because he likes the special effects. He doesn’t
like dramas because he thinks they’re too slow.
Susan likes computer-animated films because she thinks they are funny and
clever. She doesn’t like science-fiction films or westerns because she thinks
they’re boring.

3. หนังสือเรยี น หน้า 83 Ex. 7b ใหน้ กั เรียนนึกถงึ ภาพยนตร์ที่ตนเองช่ืนชอบ ว่าเป็นภาพยนตร์ประเภท
ใด ใครเป็นผูก้ ากบั ใครคือนกั แสดง และมเี น้ือเร่ืองเกี่ยวกบั อะไร แลว้ จดบนั ทกึ ส้นั ๆ จากน้นั ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน พูดให้เพ่ือนฟัง

467

Favourite film: The Dark Knight
Type: action adventure film
Who directed it: Christopher Nolan
Who stars in it: Christian Bale as Batman, Heath Ledger as the Joker and

Aaron Eckhart as Harvey Dent
What it about: Batman has to fight a very dangerous criminal called the Joker

ข้นั Production
1. หนังสือเรยี น หน้า 83 Ex. 8 นกั เรียนเขยี นอีเมลถงึ เพ่ือนเล่าเก่ียวกบั ภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ โดยใช้

โครงร่างที่ใหม้ าเป็นแนวทางในการเขียน ครูแนะนาวา่ นกั เรียนสามารถใชข้ อ้ มูลจากบนั ทกึ ยอ่
ใน Ex. 7 มาเขยี นได้

Dear John,
My favourite film is The Dark Knight. It is a brilliant action adventure film. It
was directed by Christopher Nolan. It stars Christian Bale as Batman, Heath
Ledger as the Joker and Aaron Eckhart as Harvey Dent. The film is about Batman
who has to fight a very dangerous criminal called the Joker. This film is a very
exciting film and it has great action scenes, brilliant special effects and fantastic
acting. Don’t miss it!
Rico

2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 53 Exs. 6-8 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

468

7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
วิธีการวดั
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นและ สมุดนกั เรียน -
การฟัง
ตรวจการเขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั เร่ือง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ทอ่ี า่ น
สงั เกตการพดู สนทนาใหค้ าแนะนา แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เกี่ยวกบั ภาพยนตร์
ประเมินการเขียนอีเมลเลา่ เกี่ยวกบั แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
ภาพยนตร์ท่ชี ื่นชอบ อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั
ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

469

2 Grammar 7b

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ โดยใช้ passive ได้
- เขยี นประโยคโดยใช้ causative และ reflexive pronouns ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว
เร่ืองทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม และส่ือสารอยา่ งต่อเน่ืองและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเด็น
ต่าง ๆ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจโครงสร้างภาษา (the passive, the causative, reflexive/emphatic pronouns,

a/an - the) ช่วยให้สามารถพูดและเขียนส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Grammar: The passive

470

The causative (have sth done)

Reflexive/Emphatic pronouns

a/an - the

2) Language Skills

Speaking: พูดถาม-ตอบขอ้ มูลโดยใชโ้ ครงสร้างที่เรียน

Writing: เขยี นประโยคตามโครงสร้างทีเ่ รียน

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ข้นั Warm up
ครูทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียนเกี่ยวกบั ประโยค active และประโยค passive โดยเขียนตวั อยา่ ง
ประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนระบุว่าประโยคใดเป็นประโยค active และประโยคใดเป็นประโยค
passive เช่น
I have breakfast at 7.
The Eiffel Tower was designed by Gustave Eiffel.
The bank was robbed yesterday.

ข้นั Presentation
1. กอ่ นนาเสนอประโยค passive ครูทบทวนโครงสร้างประโยค active ของ Present simple, Past

simple, Present perfect, Future, Modals ดว้ ยการยกตวั อยา่ งบนกระดาน และให้นกั เรียนบอก
โครงสร้าง

471

Active Passive

May cooks dinner. Dinner is cooked by May.

May cooked dinner. Dinner was cooked by May.

May has cooked dinner. Dinner has been cooked by May.

May will cook dinner. Dinner will be cooked by May.

May should cook dinner. Dinner should be cooked by May.

ต่อมาครูเขียนประโยค passive ต่อจากประโยค active โดยขดี เส้นใตค้ ากริยา เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสังเกต

และบอกโครงสร้างของ passive (verb to be + past participle)

จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูประโยคตวั อยา่ งบนกระดาน และครูอธิบายหลกั การเปลยี่ นประโยค active เป็น

ประโยค passive ดงั น้ี

 นากรรมของประโยค active ไปเป็นประธานของประโยค passive

 เปลี่ยนคากริยาของประโยค active ให้อยใู่ นรูป passive คือ verb to be + past participle

 ยา้ ยประธานของประโยค active ไปเป็นผกู้ ระทาในประโยค passive โดยมี preposition

“by” นาหนา้

 ถา้ ประธานของประโยค active ไมไ่ ดร้ ะบแุ น่ชดั วา่ เป็นใครสามารถละได้

แลว้ ครูยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เปลย่ี นเป็นประโยค passive เช่น

Mark will send a letter to London.

A lot of tourists visited the museum.

They have built this building for 2 years.

ครูอธิบายเพิ่มเตมิ วา่ มคี ากริยาบางคาทไี่ ม่สามารถใชก้ บั รูป passive ได้ ไดแ้ ก่คาวา่ resemble, look

like, equal, agree, mean, contain, hold, comprise, lack, suit, fit, become ซ่ึงนกั เรียนตอ้ งจดจาไว้

2. หนงั สือเรียน หน้า 84 Ex. 1 นกั เรียนอ่านทบทวนหลกั การเปลย่ี นประโยค active เป็นประโยค

passive แลว้ อธิบายความหมายของตวั อยา่ งประโยคสีฟ้าเป็นภาษาไทย จากน้นั ให้หาตวั อยา่ ง

ประโยค passive ในบทอา่ น หนา้ 82

Wall-E: was designed and built by, is polluted, is left
Terminator 2: was directed by, is sent back, will be terminated
Bicentenial Man: was directed by, is programmed, is highly recommended

472

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 84 Ex. 2 นกั เรียนเตมิ is, are, was หรือ were ลงในประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้

ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน และเฉลยคาตอบ

1 are 2 is 3 was
4 are 5 was

Background information
Jim Carrey เป็นนกั แสดงตลกทีโ่ ดง่ ดงั จากภาพยนตร์หลายเร่ือง เช่น The Mask,
Liar Liar, Bruce Almighty และ Yes Man
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (The Cannes Film Festival) เป็นเทศกาลภาพยนตร์
ท่เี กา่ แก่และมชี ่ือเสียงมากอกี แห่งหน่ึงของโลก เทศกาลน้ีจดั ข้นึ ในเดือนพฤษภาคม
ที่ the Palais des Festivals et des Congrès ในเมอื งคานส์ ประเทศฝร่งั เศส
Pixar Animation Studios เป็นบริษทั ผลติ ส่ือแอนิเมชน่ั ในเมอื ง Emeryville รัฐ
แคลิฟอร์เนีย บริษทั น้ีมชี ่ือเสียงจากการผลิตภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น Toy Story,
Monsters, Inc., Finding Nemo, Cars และ Wall-E

2. หนงั สือเรียน หน้า 84 Ex. 3 นกั เรียนทางานคู่ ใช้คาทก่ี าหนดให้แตง่ ประโยคในรูป passive ให้
ถูกตอ้ งตามขอ้ เท็จจริง เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน และเฉลยคาตอบ

Hamlet was written by William Shakespeare.
Aida was composed by Giuseppe Verdi.
The Pietà was sculptured by Michelangelo.
Blue Suede Shoes was sung by Elvis Presley.
The Mona Lisa was painted by Leonardo da Vinci
The telephone was invented by Alexander Graham Bell.

473

Background information
Giuseppe Verdi เป็นนกั ประพนั ธ์ผทู้ รงอทิ ธิพลคนหน่ึงในช่วงศตวรรษที่ 19
ผลงานทมี่ ชี ่ือเสียง เช่น Othello, Ave Maria, Aida และ Falstaff
Alexander Graham Bell เป็นนกั วิทยาศาสตร์ชาวสกอตแลนด์ และเป็นผคู้ ดิ คน้
โทรศพั ทเ์ คร่ืองแรกของโลก
Michelangelo (Buonarroti) เป็นจิตรกร ประตมิ ากร สถาปนิก และกวีในยคุ
เรเนซองส์ ผลงานท่มี ชี ่ือเสียงของเขาคือรูปสลกั หิน David (ค.ศ. 1504)
Elvis Presley เป็นนกั ร้องที่มชี ื่อเสียงระดบั โลก ผคู้ นตา่ งเรียกว่าเขาว่า ‘เดอะ คิง’
เขาออกอลั บ้มั มาแลว้ 76 อลั บ้มั และมีเพลงท้งั หมด 137 เพลง
Christopher Columbus เป็นนกั เดินทาง นกั ลา่ อาณานิคม และนกั สารวจ
พระราชินีอิซาเบลลา่ แห่งสเปนเป็นผสู้ นบั สนุนค่าใชจ้ ่ายท้งั หมดให้เขาเดินทางขา้ ม
มหาสมุทรแอตแลนตกิ ซ่ึงนาไปสู่การคน้ พบทวีปอเมริกา
Leonardo de Vinci เป็นจิตรกร ประติมากร สถาปนิก และนกั คิดคน้ ชาวอติ าเลยี น
เขาเป็นผวู้ าดภาพ Mona Lisa

3. หนงั สือเรยี น หน้า 84 Ex. 4 นกั เรียนเขียนประโยคที่กาหนดให้อยใู่ นรูป passive เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนอา่ นประโยค และเฉลยคาตอบ

2 The Lord of the Rings was filmed in New Zealand.
3 The film may be released next month.
4 Twilight was directed by Catherine Hardwicke.
5 The film has been nominated for ten Academy Awards.
6 The sequel will be filmed in Chicago.

474

Background information
William Shakespeare เป็นกวีและนกั เขียนบทละครชาวองั กฤษซ่ึงมชี ีวิตอยใู่ นช่วง
ศตวรรษที่ 16 และไดร้ บั ยกยอ่ งว่าเป็นนกั เขยี นท่ีย่งิ ใหญ่ทส่ี ุดในดา้ นวรรณกรรม
องั กฤษ
Macbeth เป็นบทละครโศกนาฏกรรม ซ่ึงมีฉากอยใู่ นสกอตแลนด์
Catherine Hardwicke เป็นนกั ออกแบบฉากและผกู้ ากบั ภาพยนตร์ ผลงาน
ภาพยนตร์ของเธอมีมากมาย เช่น Thirteen, The Nativity Story และ Twilight
Twilight เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกแฟนตาซีเกี่ยวกบั แวมไพร์ท่ีมเี คา้ โครง
มาจากนวนิยายช่ือดงั ของ Stephanie Meyer ภาพยนตร์เร่ืองน้ีนาแสดงโดย
Kristen Stewart และ Robert Pattinson

4. หนงั สือเรียน หน้า 84 Ex. 5 นกั เรียนทางานคู่ อา่ นบทวิจารณภ์ าพยนตร์ แลว้ เขียนประโยคคาถามให้
สัมพนั ธ์กบั คาตอบที่พมิ พต์ วั หนา พร้อมท้งั ระบวุ า่ คาถามขอ้ ใดท่อี ยใู่ นรูป passive เสร็จแลว้ ครู
รวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบ

2 Who wrote the novel that it is based on? (passive)
3 Who are the leading actors?
4 When was the film released? (passive)
5 Which award was the film nominated for? (passive)
6 Who was the film’s music composed by? (passive)
7 Which company was the film released by? (passive)
8 How many people has the film been watched by? (passive)

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 85 Ex. 6 ครูให้นกั เรียนระดมสมองจบั คคู่ าท่ีกาหนดให้ถูกตอ้ งตามขอ้ เท็จจริง

แลว้ ช่วยกนั แตง่ เป็นประโยค passive ให้ถกู ตอ้ ง โดยครูเขียนประโยคบนกระดาน

475

1 Penicillin was discovered by Alexander Fleming.
2 Blue jeans were invented by Levi Strauss.
3 Wuthering Heights was written by Emily Brontë.
4 The Magic Flute was composed by Mozart.
5 Guernica was painted by Pablo Picasso.

จากน้นั ให้นกั เรียนทางานคู่ พูดถาม-ตอบโดยใชร้ ูป passive ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียนเพ่ือ
ตรวจสอบว่านกั เรียนใชโ้ ครงสร้างถกู ตอ้ ง แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ยนื ข้นึ พูด-ถามให้เพอื่ นฟัง

A: Who were blue jeans invented by?
B: They were invented by Levi Strauss.
A: Who was Wuthering Heights written by?
B: It was written by Emily Brontë.
A: Who was The Magic Flute composed by?
B: It was composed by Mozart.
A: Who was Guernica painted by?
B: It was painted by Pablo Picasso.

2. นกั เรียนทา Grammar Bank 7 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 93 Exs. 2-4 ร่วมกนั ในช้นั
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 54 Exs. 1-3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

476

ชั่วโมงที่ 2

ข้นั Warm up
ครูทบทวน passive โดยให้นกั เรียนบอกโครงสร้างและช่วยกนั ยกตวั อยา่ งประโยค

ข้นั Presentation
1. ครูยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนคิดว่า 2 ประโยคน้ีแตกต่างกนั อยา่ งไร

Tony is fixing his car.
Tony is having his car fixed.
ครูอธิบายว่าประโยค Tony is fixing his car. แสดงวา่ Tony ซ่อมรถยนตด์ ว้ ยตนเอง ส่วนประโยค
Tony is having his car fixed. แสดงว่า Tony ใหผ้ ูอ้ ่ืนซ่อมรถยนตใ์ ห้ ซ่ึงประโยคน้ีใชโ้ ครงสร้าง
causative
2. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ causative เป็นประโยคทีแ่ สดงให้เห็นวา่ ผพู้ ูดไมไ่ ดก้ ระทาส่ิงใดสิ่งหน่ึงดว้ ย
ตนเอง แต่ให้ผอู้ นื่ ทาให้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1) ให้ผอู้ ่ืนทาบางสิ่งให้ แตไ่ มไ่ ดบ้ อกว่าบุคคลน้นั คอื ใคร (have something done)

มีโครงสร้าง คอื Subject + have + object + past participle
เช่น Joe is having his car cleaned. (Joe กาลงั ใหบ้ ุคคลอื่นลา้ งรถให)้

David has his bike fixed. (David ให้บุคคลอนื่ ซ่อมจกั รยานให้)
2) ให้ผอู้ ่ืนทาบางสิ่งให้ โดยระบวุ า่ บุคคลน้นั คอื ใคร (have someone do something)

มีโครงสร้าง คือ Subject + have + person + infinitive + object
เช่น Joe is having his brother clean his car. (Joe กาลงั ให้นอ้ งชายลา้ งรถให)้

David has his father fix his bike. (David ให้พ่อของเขาซ่อมจกั รยานให้)
3. ครูนาเสนอ reflexive pronouns โดยยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน และขีดเส้นใต้ reflexive

pronouns
She looked at herself in the mirror. (เธอมองดตู วั เองในกระจก)
I cut myself. (ฉันทามดี บาดตวั เอง)

ครูอธิบายว่า herself และ myself คอื reflexive pronoun ซ่ึงหมายถงึ ประธานของประโยคเป็น
ผูก้ ระทาเหตกุ ารณ์น้นั ดว้ ยตนเอง คาสรรพนามน้ีถา้ เป็นเอกพจนจ์ ะลงทา้ ยดว้ ย -self แต่ถา้ เป็น
พหูพจน์จะลงทา้ ยดว้ ย -selves แลว้ ครูเขียนตารางให้นกั เรียนดบู นกระดาน

477

พจน์ Subject pronouns Reflexive pronouns
เอกพจน์บุรุษท่ี 1
เอกพจนบ์ รุ ุษที่ 2 I myself
เอกพจน์บุรุษที่ 3 You yourself
He himself
พหูพจนบ์ รุ ุษที่ 1 She herself
พหูพจนบ์ รุ ุษท่ี 2 It itself
พหูพจน์บรุ ุษที่ 3
We ourselves
You yourselves
They themselves

จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั แต่งประโยคโดยใช้ reflexive pronouns จากคากริยาทค่ี รูกาหนดให้ เช่น
sent - John sent himself a postcard.
hurt - My sister hurt herself.

4. นกั เรียนอา่ นวลใี นหนงั สือเรียน หนา้ 85 กรอบ Reflexive/Emphatic pronouns ตรง Note แลว้ ช่วยกนั
อธิบายความหมาย
Behave yourself = behave well (ประพฤตติ วั ดี)
Be by myself = be on my own (เป็นตวั ของตวั เอง)
Enjoy yourself = have a nice time (ขอให้สนุก)
Make yourself at home = be comfortable (ทาตวั ตามสบาย)

5. ครูทบทวนการใช้ article: a/an - the โดยเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
• This is _____ pink book on the table. (a)
• My friend likes to be _____ actor. (an)
• Nicole is learning to play _____ piano. (the)

ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เตมิ article ในประโยค เสร็จแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกหลกั การใช้ article
แลว้ ครูสรุปให้นกั เรียนฟัง

478

การใช้ a, an
1) ใช้ an นาหนา้ คาที่ข้ึนตน้ ดว้ ยเสียงสระ เช่น an elephant, an hour, an umbrella, an

apple
2) ใช้ a, an นาหนา้ คานามเอกพจนน์ บั ได้ เช่น a dog, an orange
3) ใช้ a, an นาหนา้ คาทีบ่ อกอาชีพ เช่น a student, a teacher
4) ใช้ a กบั การเจ็บไขไ้ ดป้ ่ วย เช่น a stomachache, a headache, a fever
การใช้ the
1) ใชก้ บั คานามนบั ไดเ้ อกพจนแ์ ละพหูพจนท์ ี่เป็นการช้ีเฉพาะเจาะจงว่าคนไหน

อนั ไหน สิ่งไหน
2) ใช้ the นาหนา้ คานามท่ีมีส่ิงเดียวในโลก เช่น the sun, the moon, the sky
3) ใช้ the นาหนา้ ช่ือครอบครวั เช่น the Browns, the Lees, the Simsons
4) ตามปกติเราใช้ the นาหนา้ ช่ือหนงั สือพมิ พ์ เช่น the Nation, the Times, the Sun
5) ใช้ the กบั ชื่อ สถานท่ี เช่น ทะเล the Pacific; เทือกเขา the Himalayas; แม่น้า the

Mississippi; ทะเลทราย the Sahara; โรงแรม the Plaza Hotel; โรงหนงั โรงละคร
the Playhouse; พพิ ธิ ภณั ฑ์ the National Museum; ช่ือประเทศท่มี คี าว่า Republic,
Kingdom, State เช่น the Czech Republic, the United Kingdom, the United States
of America
6) ใช้ the นาหนา้ เครื่องดนตรี เช่น the piano , the guitar
7) ใช้ the + คาคุณศพั ท์ เมื่อกลา่ วถึงกลมุ่ บคุ คลเป็นพเิ ศษ เช่น the rich, the sick,
the poor
8) ใช้ the กบั คานามทีเ่ ราไดก้ ลา่ วมาแลว้ ท้งั ผพู้ ูดและผูฟ้ ังรู้ว่ากาลงั กลา่ วถงึ ส่ิงใด

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 85 Ex. 7 นกั เรียนอา่ นประโยคในภาพท่ี 1 และ 2 แลว้ บอกว่าประโยคใดแสดงวา่

บางคนทาบางสิ่งดว้ ยตนเอง (ประโยคในภาพที่ 1) ประโยคใดแสดงว่าบางคนใหผ้ อู้ น่ื ทาบางสิ่งให้
(ประโยคในภาพที่ 2)
จากน้นั ให้นกั เรียนเขียนประโยคใหม่ใหอ้ ยูในรูป causative เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน
และเฉลยคาตอบ

479

1 is having her flat decorated
2 has his car serviced once a year
3 will have Lucy buy him tickets for the play
4 is going to have her hair cut
5 had his watch repaired

2. หนังสือเรยี น หน้า 85 Ex. 8 นกั เรียนเติม reflexive pronoun ลงในประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครู
เฉลยคาตอบ

1 myself 2 themselves 3 ourselves
4 yourself 5 yourselves

3. หนังสือเรยี น หน้า 85 Ex. 9 ให้นกั เรียนระบุว่า article แต่ละคาใชส้ าหรบั อะไร เสร็จแลว้ เฉลย
คาตอบพร้อมกนั

We use a/an to say what someone is.
We don’t use an article with proper names.
We use the to refer to sth mentioned before.
We use the before nouns that are unique.
We don’t use an article before the names of countries except for the UK, the USA
and the Netherlands.
We use the with mountain ranges.
We don’t use an article with cities or continents.
We use the with nationalities, rivers and musical instruments.
We don’t use an article with meals or sports.
We use the with the names of families.

480

4. หนังสือเรยี น หน้า 85 Ex. 10 นกั เรียนอ่านประโยคและเตมิ a, an, the ลงในประโยคเฉพาะจดุ ท่ี
จาเป็น เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบ

1 The, –, – 2 The, – 3 The, –, – 4 –, the, –
5 The, – 6 a, a 7 –, the

ข้นั Production
1. ใหน้ กั เรียนแต่งประโยคโดยใชโ้ ครงสร้าง causative และ reflexive pronouns มาอยา่ งละ 3 ประโยค

จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน อ่านประโยคให้เพ่อื นฟังโครงสร้างละ 1 ประโยค
2. นกั เรียนทา Grammar Bank 7 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 93 Ex. 1, หนา้ 94-95 Exs. 5-9

ร่วมกนั ในช้นั
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 55 Exs. 4-8 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวัดและการประเมนิ ผล

วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน

สังเกตการพดู ถาม-ตอบขอ้ มลู โดยใช้ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

โครงสร้างที่เรียน

ตรวจการเขียนประโยคตามโครงสร้าง สมดุ นกั เรียน -

ท่ีเรียน

สังเกตความใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน

อนั พงึ ประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3

481

3 Skills 7c

2 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอยี ดของเรื่องท่ีฟังได้
- เปรียบเทยี บเสียงสระในภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทยได้
- พดู และเขียนเล่าประสบการณ์การทากิจกรรมได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เกี่ยวกบั เร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเดน็
ตา่ ง ๆ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยค
ชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย

482

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์เก่ียวกบั สถานที่และกิจกรรม จะช่วยใหเ้ ขา้ ใจและบอกรายละเอียดเก่ียวกบั เร่ือง

ทฟี่ ัง รวมถึงยงั สามารถนาความรู้ไปใชใ้ นการพูดและเขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ประสบการณ์ไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Places (art gallery, cinema, concert hall, exhibition centre, museum,

opera house, stadium, circus, theatre)

Forms of entertainment (ballet, concert, film, play, exhibition, dinner,

opera, football)

Functions: Describing an experience

Last Saturday night, I went to a pop music concert. I went with my two

best friends Sophia and Anna.

Pronunciation: /e/: bed, met, pet

/æ/: bad, mad, cat

2) Language Skills

Listening: ฟังเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ

Speaking: พูดเล่าประสบการณ์การทากิจกรรมในช่วงเยน็

Writing: เขียนเลา่ ประสบการณ์การทากิจกรรมในช่วงเยน็

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน

483

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
ครูถามนกั เรียนว่า ใครเคยไปพพิ ิธภณั ฑ์ ดูนิทรรศการ ดูคอนเสิร์ต หรือดงู านแสดงศลิ ปะบา้ ง ถา้ มี
นกั เรียนทเ่ี คยไป ครูให้เลา่ ประสบการณ์และความรู้สึกให้เพ่ือนฟัง แตถ่ า้ นกั เรียนไมเ่ คยไป ครูให้
ช่วยกนั คดิ ว่าจะไดเ้ ห็นอะไรบา้ งท่สี ถานทีน่ ้นั

ข้นั Pre-listening

1. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สถานท่ดี ว้ ยการแสดงภาพ พร้อมท้งั ออกเสียงคาศพั ท์ ใหน้ กั เรียน

ออกเสียงตาม จากน้นั ครูแสดงภาพทีละภาพ ให้นกั เรียนบอกคาศพั ท์ และอธิบายความหมาย

art gallery (หอ้ งแสดงงานศลิ ปะ) cinema (โรงภาพยนตร์)

concert hall (ห้องแสดงคอนเสิร์ต) exhibition centre (ศูนยแ์ สดงนิทรรศการ)

museum (พิพิธภณั ฑ)์ opera house (โรงละครโอเปร่า)

stadium (สนามกีฬา) circus (โรงละครสตั ว)์

theatre (โรงละคร)

2. หนงั สือเรยี น หน้า 86 Ex. 1 นกั เรียนดูภาพและเดาว่าพวกเขาประกอบอาชีพอะไร (clowns) และ

ทางานทีไ่ หน (circus) จากน้นั ช่วยกนั บอกเก่ียวกบั ส่ิงทีส่ ามารถทาไดห้ รือพบเห็นไดใ้ นสถานท่ีที่

กาหนดให้

We can see paintings/works of art in an art gallery.
We can watch a film at the cinema.
We can watch/listen to a concert/music performance in a concert hall.
We can see an exhibition like a science fair in an exhibition centre.
We can see artefacts/works of art from the past in a museum.
We can see a play/a concert/a performance in an opera house.
We can watch a sporting event like a football match in a stadium.
We can see performers/animals doing tricks at a circus.
We can watch a play or other theatrical performance at a theatre.

484

3. ครูอธิบายวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ังบทสนทนาระหวา่ งเพือ่ น 2 คน ซ่ึงสนทนากนั เก่ียวกบั กิจกรรมของ
เพ่ือนคนอ่นื ๆ ทอ่ี อกไปทาในตอนเยน็ จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นช่ือบุคคลและกิจกรรมในหนงั สือเรียน
หนา้ 86 Ex. 3 เพ่อื ให้นกั เรียนคนุ้ เคยกบั ช่ือบคุ คลและกิจกรรมท่ีกาลงั จะไดฟ้ ัง

4. ครูบอกนกั เรียนว่า ไมจ่ าเป็นตอ้ งฟังออกทกุ คา เนน้ ที่จุดประสงคห์ ลกั ของการฟังคือ ฟังเพื่อหาวา่
แตล่ ะคนทากิจกรรมอะไร

ข้นั Listening
หนังสือเรียน หน้า 86 Ex. 2 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังบทสนทนา ครูคอยสงั เกตว่านกั เรียนฟังเขา้ ใจ
หรือไม่ โดยอาจจะสังเกตจากสีหนา้ หรือการจดบนั ทึกระหว่างฟัง เมื่อฟังจบครูอาจจะสอบถาม
นกั เรียนวา่ ฟังเขา้ ใจและจบั คู่ไดห้ รือไม่ โดยครูอาจจะเปิ ดบทสนทนาให้ฟังอกี คร้ัง

ข้นั Post-listening
1. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาตอบ แลว้ ครูเฉลยคาตอบ

1h 2e 3f 4a 5c

2. ใหน้ กั เรียนนาคาตอบจาก Ex. 2 มาเขยี นเป็นประโยค โดยครูพูดประโยคเป็นตวั อยา่ ง เช่น Tony went
to see football in a stadium. จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค

Joyce went to see art exhibition in an exhibition centre.
Laura went to have dinner in a restaurant.
Claire went to see ballet in a theater.
Dennis went to see a film in a cinema.

3. นกั เรียนทา Language Review 7c Ex. 2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 111 ร่วมกนั ในช้นั
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 56-57 Exs. 1-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

485

ช่ัวโมงที่ 2

ข้นั Warm up
ครูเตรียมสลากคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สถานท่ี แลว้ แบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทมี ใหแ้ ต่ละทีมส่งตวั แทน 1 คน
ออกมาจบั สลาก และพยายามพูดคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั สถานทใี่ นสลากท่จี บั ได้ เพ่อื ใหเ้ พอื่ นในทีม
ทายวา่ คือสถานทีใ่ ด ซ่ึงตวั แทนแต่ละทมี สามารถบอกใบค้ าศพั ทไ์ มเ่ กิน 3 คา ทมี ใดตอบถกู ต้งั แต่
คาใบแ้ รกจะได้ 3 คะแนน และลดลาดบั คะแนนลงมาเรื่อย ๆ สุดทา้ ยทีมที่มีคะแนนมากท่ีสุดจะเป็น
ผชู้ นะ เช่น
Team A S1: (จบั ไดค้ าว่า concert hall)
Singer
Team A: It’s a concert hall.
Team A S1: That’s correct.
T: Team A gets 3 points.

ข้นั Presentation
ครูเขยี นคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ีบนกระดาน
great cap
prey bag
day tap
ครูอ่านออกเสียงให้นกั เรียนฟังทีละคู่ ใหน้ กั เรียนออกสียงตาม แลว้ ถามนกั เรียนว่า คาในแถวใด
ออกเสียง /e/ (แถวแรก) คาในแถวใดออกเสียง /æ/ (แถวหลงั )
ต่อมาครูถามนกั เรียนวา่ เสียง /e/ ออกเสียงคลา้ ยกนั สระอะไรในภาษาไทย เม่อื ไดค้ าตอบวา่ สระ “เ-”
แลว้ ครูอธิบายวา่ เสียง /e/ จะคลา้ ยกบั เสียงสระ “เ-” ในภาษาไทย แต่ตา่ งกนั ท่ี เสียง /e/ จะเล่ือนลิ้น
สูงข้ึนเล็กนอ้ ย และลากเสียงให้ยาวข้นึ แลว้ ครูให้นกั เรียนลองออกเสียงเปรียบเทยี บ เช่นคาว่า เปล
หลงั จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ เสียง /æ/ ออกเสียงคลา้ ยกนั สระอะไรในภาษาไทย เมือ่ ไดค้ าตอบว่า
สระ “แ-” หรือ “แ-ะ” แลว้ ครูอธิบายว่าเสียง /æ/ ออกเสียงเหมอื นสระ “แ-” หรือ “แ-ะ” ใน
ภาษาไทย โดยจะออกเสียงเหมอื นสระ “แ-ะ” เมื่อตามดว้ ยพยญั ชนะเสียงไมก่ อ้ ง เช่น เสียง /t/ ในคา
bat และจะออกเสียงคลา้ ยเสียงสระ “แ-” เมือ่ ตามดว้ ยพยญั ชนะเสียงกอ้ ง เช่น เสียง /d/ ในคา bad

486

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 86 Ex. 4 นกั เรียนลอกตารางลงในสมดุ แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและขีด 

ลงในตารางตามเสียงทไี่ ดย้ ิน เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ

/e/ /æ/ /e/ /æ/ /e/ /æ/

bad  met  cat 

bed  mad  pet 

ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้ัง โดยหยดุ ทีละคา เพื่อให้นกั เรียนฝึกออกเสียงตาม แลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนออกเสียงทีละคน จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดคาศพั ทค์ าอื่นทอ่ี อกเสียง /e/ และ /æ/ โดยดู
การออกเสียงจากพจนานุกรม

/e/: grey, break, make
/æ/: hat, back, fat

2. หนงั สือเรียน หน้า 86 Ex. 3 นกั เรียนนึกถึงคร้งั สุดทา้ ยท่ีออกไปทากิจกรรมในช่วงเยน็ และมีช่วงเวลา
ดี ๆ โดยครูอาจยกตวั อยา่ งกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ดภู าพยนตร์ ชมละครเวที ชมคอนเสิร์ต หรือเยี่ยม
ชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ แลว้ เขียนบนั ทกึ ยอ่ ตามรายละเอยี ดทกี่ าหนด จากน้นั ใหน้ กั เรียนรวมกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5
คน เพ่อื เล่าประสบการณใ์ หเ้ พ่ือนในกลมุ่ ฟัง โดยครูเดินสงั เกตการทากิจกรรมของแตล่ ะกลุ่ม

Topic: An evening out last Saturday night, a concert, stadium
When/Where you went two best friends Sophia and Anna
Who you went with danced and sang along to our favourite songs,
What exactly happened felt really excited and happy, fantastic
(what you did, what it was
like, how you felt etc.)

487

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 86 Ex. 5 นกั เรียนใชค้ าตอบจาก Ex. 3 มาเขยี นอเี มลถงึ เพ่ือนเพ่อื เล่าเกี่ยวกบั

กิจกรรมทีท่ าในช่วงเยน็ ตามโครงร่างท่ีใหม้ า เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนตรวจทานงานเขยี นของตนเอง
โดยดูการสะกดคา ไวยากรณ์ การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และปรบั แกใ้ ห้ถกู ตอ้ ง จากน้นั ครู
สุ่มเลอื กนกั เรียน 2-3 คนอ่านใหเ้ พอื่ นฟัง

Hi Sue,
Last Saturday night, I went to a pop music concert. I went with my two best
friends Sophia and Anna. We danced and sang along to all our favourite
songs. I felt really excited and happy! It was fantastic. I had a really great
time. Have to go now.
Talk to you later.
Sofia

2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 57 Ex. 5 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เลือกคาตอบท่ถี ูกตอ้ ง
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 57 Ex. 6 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เติมคาลงในช่องว่าง

7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
วิธกี ารวดั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่านและ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
การฟัง ระดบั คุณภาพ พอใช้
สังเกตการเปรียบเทียบเสียงสระใน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้
ภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทย ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สงั เกตการพดู เล่าประสบการณ์การทา แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ ผ่าน
กิจกรรมในช่วงเยน็
ประเมินการเขยี นอเี มลเล่าเกี่ยวกบั แบบประเมินคุณลกั ษณะ
กิจกรรมท่ีทาในช่วงเยน็ อนั พงึ ประสงค์
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั
ในการทางาน

488

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) สลากคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สถานท่ี

489

4 Everyday English 7d

2 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- อา่ นออกเสียงบทสนทนาถูกตอ้ งตามหลกั การอ่านได้
- บอกรายละเอียดของบทสนทนาทอ่ี ่านและฟังได้
- แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ทกี่ าหนดได้
- พูดสนทนาตามสถานการณ์ท่ีกาหนดได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็น
เก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากส่ือประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ข่าว
เร่ืองท่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม และส่ือสารอยา่ งต่อเน่ืองและเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/5 พูดและเขยี นบรรยายความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องต่าง ๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ ง
เหมาะสม
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

490

ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/1 เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 3/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรียน
สถานศึกษา และชุมชน

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้สานวนภาษาในการเลอื กดรู ายการโทรทศั น์ จะช่วยใหส้ ามารถพดู ส่ือสารในชีวติ ประจาวนั

ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Sentences (Do you fancy watching it?, What else is on?, Quiz shows are

boring., What channel is it on?, That sounds great., I just hate social

dramas., Oh no, not that.)

Verbs (fancy, be on)

Nouns (channel, social drama)

Functions: Choosing TV programmes

There’s a quiz show on TV. Do you fancy watching it?

Not really. Quiz shows are boring. What else is on?

2) Language Skills

Listening: ฟังการออกเสียงประโยค

Speaking: พูดสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี าหนด

Reading: อ่านเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี าหนด

491


Click to View FlipBook Version