The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3
หนังสือ Spark

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:02:12

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3
หนังสือ Spark

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.3

3. หนงั สือเรียน หน้า 28 Ex. 2b นกั เรียนอา่ นความหมาย 1-4 แลว้ จบั ค่คู วามหมายกบั สุภาษิตใน Ex. 2a
ทสี่ มั พนั ธก์ นั เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบโดยการอา่ นความหมาย และใหน้ กั เรียนบอกสุภาษิต

1A 2C 3B 4D

จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั คดิ ว่า มสี ุภาษติ ไทยที่มคี วามหมายคลา้ ยกบั สุภาษติ ใน Ex. 2a หรือไม่ เช่น

A bird in the hand is worth two in the bush. กาข้ีดีกว่ากาตด, หวงั น้าบอ่ หนา้

Many hands make light work. คนเดียวหัวหาย สองคนเพอื่ นตาย

ข้นั Production
1. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน

ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ไปคน้ ควา้ สุภาษิตไทยและสุภาษติ ของประเทศทางตะวนั ตกทมี่ คี วามหมายคลา้ ยกนั
แลว้ เขยี นนาเสนอดว้ ยตารางเปรียบเทียบ

Sayings สุภาษิตไทย ความหมาย
When in Rome, do as the
Romans. เขา้ เมืองตาหลิว่ ตอ้ งหล่ิวตาตาม ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั สิ่งแวดลอ้ ม
Walls have ears.
หนา้ ต่างมหี ู ประตมู ีช่อง พดู สิ่งใดระวงั คนอื่นไดย้ นิ

2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนคน้ ควา้ สุภาษติ ไทยท่เี ก่ียวขอ้ งกบั อวยั วะส่วนตา่ ง ๆ ในร่างกายมาคนละ 2
สุภาษิต จากอนิ เทอร์เนต็ หรือแหลง่ การเรียนรู้อ่ืน เช่น หนงั สืออา้ งองิ พจนานุกรม
พร้อมท้งั ความหมายภาษาไทยและภาษาองั กฤษ และภาพประกอบ เพอ่ื ใชท้ ากิจกรรมในชวั่ โมงหนา้

3. แบบฝึกหดั (Workbook ) หนา้ 18 Ex. 3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงท่ี 2

144

ข้นั Warm up
ครูทบทวนสุภาษติ ของประเทศทางตะวนั ตกทเี่ รียนไปแลว้ โดยใหน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 4-5 คน
เพ่อื เลน่ เกม ครูแจกบตั รสุภาษิตใหก้ ลมุ่ ละ 1 ชุด จากน้นั ครูพดู ความหมายของสุภาษิต
ให้แต่ละกลุม่ แสดงบตั รสุภาษติ ทีส่ ัมพนั ธก์ นั กลมุ่ ใดแสดงบตั รสุภาษติ ไดถ้ ูกตอ้ งเป็นกลมุ่ แรกจะได้
1 คะแนน เม่ือเล่นเกมจบกลมุ่ ท่มี คี ะแนนมากทีส่ ุดจะเป็นผชู้ นะ

ข้นั Presentation
1. ครูเขยี นคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ีเป็นคู่ ๆ บนกระดาน

meat meet
flower flour
sea see
our hour
night knight
ครูออกเสียงคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟังทีละคู่ และถามนกั เรียนวา่ คาคาศพั ทแ์ ต่ละคมู่ ลี กั ษณะเช่นใด
เมือ่ ไดค้ าตอบวา่ ออกเสียงเหมือนกนั แลว้ ครูเขยี นคาว่า Homophones บนกระดาน
2. ใหน้ กั เรียนอา่ น Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 28 และบอกลกั ษณะของ Homophones
สุดทา้ ยครูสรุปให้ฟังว่าคาท่สี ะกดต่างกนั มีความหมายต่างกนั แต่ออกเสียงเหมอื นกนั เรียกวา่
Homophones หรือคาพอ้ งเสียง
3. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม OX (Noughts and Crosses หรือ Tic-Tac-Toe) คาพอ้ งเสียง
โดยครูเขียนคาศพั ทต์ ่อไปน้ี one, two, where, their, right, pear, no, sail, tail ลงในตาราง 9
ช่องบนกระดาน จากน้นั แบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทมี
ให้แตล่ ะทีมผลดั กนั บอกคาพอ้ งเสียงของคาศพั ทใ์ นแต่ละช่อง พร้อมท้งั สะกดคา
ถา้ ทมี ใดบอกคาพอ้ งเสียงถกู ตอ้ ง ครูเขียนสญั ลกั ษณข์ องทมี น้นั (O หรือ X)
ลงไปในช่องคาศพั ทด์ งั กลา่ ว ทีมใดทาสัญลกั ษณไ์ ด้ 3 ช่องตดิ กนั กอ่ นในแนวใดกไ็ ด้ เป็นทมี ที่ชนะ
(Possible answers: won, too/to, wear, there, write, pair, know, sale, tale)

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 28 Ex. 4 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและระบุคาศพั ทท์ ีอ่ อกเสียงไมเ่ หมอื นคาอน่ื

เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบพร้อมกนั

145

 itch  hair  saw  eat  high  soon

2. ให้นกั เรียนฟัง CD อีก 2 คร้ัง แลว้ ฝึกออกเสียงตามพร้อมกนั จากน้นั ครูให้นกั เรียนรวมกลมุ่ กลมุ่ ละ 3
คน เพอ่ื ฝึกออกเสียง โดยให้นกั เรียนช่วยเหลอื กนั ภายในกลมุ่ เมือ่ นกั เรียนออกเสียงไดค้ ล่องแลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงทีละคน

ข้นั Production
1. หนังสือเรยี น หน้า 28 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 5-6 คน

ใหส้ มาชิกในแตล่ ะกลุ่มรวบรวมสุภาษติ ท่สี มาชิกคน้ ควา้ มาแลว้ ทาช้ินงานสมดุ ภาพสุภาษติ ไทย
อยา่ งนอ้ ยกลุ่มละ 5 สุภาษิตซ่ึงสมดุ ภาพดงั กล่าวจะตอ้ งมีสุภาษิต ความหมายไทยและภาษาองั กฤษ
และภาพประกอบ เมอ่ื ทาเสร็จแลว้ ใหอ้ อกมาพดู นาเสนอทหี่ นา้ ช้นั เช่น

จบั ปลาสองมอื to have the advantages of something without its disadvantages; to have
both things that are available

ฟังหูไวห้ ู you should not always completely believe what a particular person says
2. นกั เรียนทา Ex. 4 (Prepositions) ใน Language Review 2 หนงั สือเรียน หนา้ 106
3. นกั เรียนทา Vocabulary Bank 2 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 104-106

7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วิธีการวดั
ประเมินการเขยี นเปรียบเทียบสุภาษติ ไ แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ทยกบั ของเจา้ ของภาษา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
ประเมินช้ินงานสมุดภาพสุภาษติ ไทย อนั พึงประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มนั่ ใ
นการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3

146

2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อนิ เทอร์เน็ต หนงั สืออา้ งองิ
7) บตั รสุภาษิต

Writing 2f 6

147 2 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- เรียงลาดบั เหตกุ ารณ์และสรุปเรื่องท่ีอา่ นและฟังได้
- เขียนตอนจบของเรื่องทีอ่ า่ นใหแ้ ตกตา่ งจากเดิมได้
- เขียนเร่ืองส้นั ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ
และแสดงความคดิ เห็นอย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/3 ระบแุ ละเขยี นสื่อทไ่ี ม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ
ให้สมั พนั ธก์ บั ประโยคและขอ้ ความที่ฟังหรืออา่ น
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน
และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องที่ฟังและอา่ นจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ
พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร
แสดงความรู้สึกและความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู อธิบาย เปรียบเทียบ
และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองทีฟ่ ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ
หัวขอ้ เร่ืองท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะห์เร่ือง/ขา่ ว/เหตุการณ/์ สถานการณท์ ี่อยใู่ นความสนใจ
ของสงั คม
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

148

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ตวั ช้ีวดั
ต 4.2 ม. 3/2 เผยแพร่/ประชาสมั พนั ธ์ขอ้ มูลขา่ วสารของโรงเรียน ชุมชน

และทอ้ งถน่ิ เป็นภาษาต่างประเทศ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้โครงสร้างงานเขียน ท้งั การบรรยายฉากและการลาดบั เหตุการณ์

ช่วยใหส้ ามารถเขา้ ใจเร่ืองทีอ่ ่านและฟัง และเขยี นเรื่องส้นั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (set off, look forward to, get stuck, wrap, run out, survive)

Nouns (shortcut, note, snowmobile, injury, patience, survival skills)

Adjective (lonely)

2) Language Skills

Listening: ฟังและลาดบั เหตกุ ารณ์ของเรื่อง

Reading: อ่านและลาดบั เหตกุ ารณข์ องเรื่อง

Writing: เขียนสรุปเรื่องที่อ่าน, เขียนตอนจบของเร่ือง, เขียนเรื่องส้นั

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

149

ชั่วโมงที่ 1

ข้นั Warm up
ครูถามนกั เรียนว่า ใครชอบอา่ นเร่ืองส้นั หรือนิยายบา้ ง
ครูบอกนกั เรียนว่าก่อนเขา้ สู่เน้ือเร่ืองจะมกี ารบรรยายฉากของเหตกุ ารณ์ เช่น แนะนาตวั ละคร
บรรยายสถานที่ เป็นตน้ แลว้ ครูนาการบรรยายฉากของนิทานมาอ่านใหน้ กั เรียนฟัง

Once upon a time there was an old mother pig who had three little pigs and not enough
food to feed them. So when they were old enough, she sent them out into the world to
seek their fortunes.
ท่ีมา: https://americanliterature.com/childrens-stories/the-three-little-pigs

ข้นั Pre-reading

1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 29

แลว้ หาคาศพั ทเ์ หล่าน้ีในเน้ือเรื่อง และช่วยกนั บอกความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้

ครูช่วยอธิบายหรือให้นกั เรียนเปิ ดพจนานุกรม

set off (phr v) = to start a journey (ออกเดินทาง)

look forward to (phr v) = to feel pleased and excited about something that is going to

happen (ต้งั หนา้ ต้งั ตารอ)

shortcut (n) = a route that leads from one place to another and is quicker

and more direct than the usual route (ทางลดั )

(get) stuck (adj) = unable to move, or fixed in a particular position, place or

way of thinking (ติดอย,ู่ ขยบั ไมไ่ ด)้

wrap (v) = to cover or surround something with paper, cloth or other

material (ห่อ, พนั รอบ)

run out (phr v) = to finish, use or sell all of something, so that there is none

left (ใชห้ มด)

lonely (adj) = unhappy because you are not with other people (โดดเด่ียว)

note (n) = a short piece of writing (ขอ้ ความส้ัน ๆ)

150

snowmobile (n) = a small motor vehicle for travelling on snow and ice

(รถสาหรับเคลื่อนบนหิมะ)

survive (v) = to continue to live or exist, especially after coming close to

dying or being destroyed or after being in a difficult or

threatening situation (รอดชีวิต)

injury (n) = physical harm or damage to someone's body caused by an

accident or an attack (อาการบาดเจ็บ)

patience (n) = the ability to wait or to continue doing something despite

difficulties (ความอดทน)

survival kits (n) = small boxes containing things that you need in order to stay

alive if you are in a difficult or dangerous situation in which

you are unable to get help

(ชุดอปุ กรณจ์ าเป็นในการดารงชีพเมือ่ เกิดเหตกุ ารณท์ ค่ี าดไม่

ถึง)

2. ครูอาจหาภาพ snowmobile จากอินเทอร์เนต็ มาแสดงใหน้ กั เรียนดู

ภาพจาก: https://pixabay.com/th/photos/snowmobile/
3. จากคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words

ครูใหน้ กั เรียนเดาว่าสภาพอากาศในเน้ือเรื่องน่าจะเป็นอยา่ งไร (e.g. I think it was snowing heavily.)

ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 29 Ex. 1 นกั เรียนอ่านเร่ืองและเตมิ คาบุพบท (preposition)
ลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านเร่ืองตามไปดว้ ย
เพ่อื ตรวจคาตอบ สุดทา้ ยครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาตอบท่ีถกู ตอ้ งอกี คร้งั
และอ่านเร่ืองทีเ่ ตมิ คาสมบรู ณแ์ ลว้ พร้อมกนั

151

สาหรับช้นั เรียนเด็กอ่อน ครูเขียนคาบุพบท to (×2), with (×3), in (×3), for, of
บนกระดาน ให้นกั เรียนเลือกนามาเติมลงในช่องว่าง

1 to 2 with 3 with 4 in 5 in
6 with 7 for 8 of 9 in 10 to

ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 29 Ex. 2 ครูอธิบายวา่ ประโยค A-I คอื เหตกุ ารณจ์ ากเน้ือเรื่องใน Ex. 1

แลว้ ใหน้ กั เรียนเรียงลาดบั เหตุการณใ์ หถ้ ูกตอ้ ง
เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบ

A2 B 5 C 3 D7 E 8
F9 G1 H6 I 4

ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนนาเหตกุ ารณ์ท่เี รียงลาดบั ถกู ตอ้ งแลว้ มาเขยี นสรุปเรื่อง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1-2 คน อ่านใหเ้ พือ่ นฟัง

Daryl set off to Mount Adams to spend the weekend skiing with his friends. He
took a shortcut through a country road and the tyres got stuck in the snow. It
started snowing heavily and he wrapped himself in his sleeping bag. After a few
days he ran out of food and water. He was lonely and scared and he started
writing goodbye notes to his family and friends. Then one morning he heard a
snowmobile and he knew he was safe.

152

2. ครูช้ีใหน้ กั เรียนดยู อ่ หนา้ สุดทา้ ยของเร่ืองใน Ex. 1 และอธิบายวา่ ยอ่ หนา้ น้ีคอื ตอนจบของเร่ือง
จากน้นั ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 4-5 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ช่วยกนั เขยี นตอนจบของเร่ืองใหม่
เสร็จแลว้ ครูให้ตวั แทนของแต่ละกลุม่ ออกมาอ่านตอนจบทเี่ ขียนใหม่น้ีให้เพอื่ นฟัง

Then one morning he heard a helicopter. He stood on the roof of his jeep and
waved, but they didn’t see him. He felt desperate. Then, he saw the helicopter
turning around for one more look. He quickly grabbed his bright red sleeping bag
from the car and started waving it over his head. Luckily, the helicopter saw him
and rescued him. His quick thinking saved him in the end.

3. ครูให้เวลานกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั ต้งั ชื่อเร่ืองของเรื่องน้ี แลว้ นาเสนอ
ครูเขียนช่ือเรื่องของแตล่ ะกล่มุ บนกระดาน
จากน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตดั สินเลอื กช่ือเร่ืองทเี่ หมาะสมและน่าสนใจท่สี ุด

4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 19 Exs. 1-2 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
1. ครูทบทวนเรื่องท่ีนกั เรียนอา่ นเม่อื ชว่ั โมงท่แี ลว้ ดว้ ยการใหน้ กั เรียนช่วยกนั เลา่ เรื่องแบบสรุปยอ่
2. ครูบอกนกั เรียนวา่ ชว่ั โมงน้ีนกั เรียนจะไดเ้ ขียนเรื่อง

ข้นั Pre-writing

1. ครูเขียนคาวา่ set the scene บนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั เดาความหมาย โดยครูช่วยอธิบาย

คาวา่ scene

scene (n) = a part of a film/movie, play or book in which the action happens

in one place or is of one particular type (ฉาก)

set the scene (phr v) = to describe a situation where something is about to happen

153

e.g. First, let’s set the scene - it was a dark, wet night with a
strong wind blowing. (บรรยายฉากเหตกุ ารณ์)
2. นกั เรียนอา่ น Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 29 เก่ียวกบั บรรยายฉากเหตุการณ์
แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั สรุป
3. ครูอาจยกตวั อยา่ งการบรรยายฉากเพ่มิ เตมิ
ดว้ ยการอา่ นคาบรรยายฉากในวรรณกรรมเยาวชนท่ีมีชื่อเสียง เช่น Harry Potter, the Lord of the
Rings

การกาหนดฉากทอ้ งเร่ือง (setting the scene)
1. ลงรายละเอยี ด แตไ่ ม่ควรลงรายละเอยี ดมากเกินไป เพราะจะทาให้ผอู้ า่ นรู้สึกเบ่ือ

ควรบรรยายฉากให้เห็นภาพเพยี งพอ พยายามใช้การอปุ มาอปุ ไมย บคุ ลาธิษฐาน
เม่ือเราตอ้ งการกาหนดฉากน้นั ๆ
2. ใช้ประสาทสัมผสั ท้งั 5 พยายามบรรยายฉากโดยใชป้ ระสาทสัมผสั มากกวา่ 1 ทาง
เช่น การสมั ผสั การมองเห็น การรับกลิ่น เป็นตน้
นกั เขยี นหลายคนมกั จะใชก้ ารมองเห็นเท่าน้นั และนน่ั เป็นขอ้ ผิดพลาด
เพราะจะทาใหง้ านเขียนไมม่ มี ิตเิ ท่าทีค่ วร
3. ไม่ควรบรรยายสิ่งที่ไม่สาคญั เช่น สีใบไมข้ องตน้ ไมท้ อี่ ยถู่ ดั จากตวั เรา
พยายามบรรยายสิ่งท่ีสาคญั ในเรื่องใหม้ ากที่สุด
4. ข้อควรจา: ฉากคือเวลาและสถานท่ี สถานทอี่ าจจะมีความสาคญั มากกวา่ เวลา
แตต่ อ้ งบรรยายท้งั สอง 2 อยา่ งให้ชดั เจน
5. แสดงให้เหน็ ภาพและเล่าเร่ือง แทนท่ีจะเขยี นว่า “He is angry.”
เราอาจเขียนบรรยายถงึ อากปั กิริยาอาการโกรธ “Sitting at his desk, his jaw
tightened. His eyes flashed heat waves at me”.
เขียนแสดงใหเ้ ห็นภาพเป็นส่วนใหญ่ แต่ควรมกี ารเลา่ เร่ืองอยดู่ ว้ ย
เพราะหากเราใชเ้ วลาเขียนแสดงใหเ้ ห็นภาพมากเกินไปอาจจะทาให้ผอู้ า่ นรู้สึกเบ่ือไ
ด้
6. ไม่ควรเขียนไปเร่ือยเปื่ อยไม่มจี ดุ หมาย
ควรเขา้ ประเดน็ สาคญั โดยไม่ตอ้ งเขียนรายละเอียดท่ไี ม่จาเป็ นให้ยืดยาว
ทม่ี า: http://www.wikihow.com/Describe-the-Setting-in-a-Story

154

4. หนังสือเรยี น หน้า 29 Ex. 3 นกั เรียนดภู าพ A-C และช่วยกนั พูดบรรยายภาพ (e.g. A - One boy hurts
his leg and other tries to help him.; B - The boy sees a helicopter and waves for help.; C - Two
boys are skiing.) แลว้ ครูอธิบายวา่ ท้งั 3 ภาพน้ีเป็ นเหตุการณใ์ นบทสนทนาท่จี ะไดฟ้ ัง
ซ่ึงนกั เรียนตอ้ งเรียงลาดบั ภาพตามเหตุการณ์ให้ถูกตอ้ ง จากน้นั ครูเปิ ด CD
ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนาและเรียงภาพตามลาดบั เหตุการณ์ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน
บอกคาตอบ แลว้ ครูเฉลยคาตอบ

A2 B3 C1

5. ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังบทสนทนาอกี คร้ัง ขณะฟังใหน้ กั เรียนจดบนั ทกึ ขอ้ มลู เก่ียวกบั when the
story happened, where the story happened, events in the order happened, what happened in the
end, characters’ feelings

6. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 29 Ex. 4 ว่า ใหน้ กั เรียนใชข้ อ้ มลู ที่จดบนั ทึกไวจ้ าก
บทสนทนาทฟี่ ังใน Ex. 3 และคากริยาที่กาหนดใหเ้ ขยี นเร่ืองส้นั ความยาว 80-100 คา ตามโครงร่าง
ท่กี าหนด สาหรบั ลงในวารสารภาษาองั กฤษของโรงเรียน

ข้นั Writing
หนังสือเรียน หน้า 29 Ex. 4 ครูให้นกั เรียนเขียนร่างของเร่ืองส้ันตามโครงร่างท่กี าหนด ความยาว
80-100 คา

It was a bright sunny day last winter and my friend Bob and I were having a
wonderful time on holiday. We were skiing in the French Alps.
Suddenly we heard a terrible sound coming from behind us. We looked around
and saw a huge avalanche. It was heading down the mountain towards us. We
skied as fast as we could but it hit us quite hard. I wasn’t hurt, but Bob broke his
leg. I tried to keep Bob warm and made sure he didn’t move his leg.

155

We had no choice now but to wait for someone to rescue us. Then, I heard a
helicopter. I started waving to attract their attention and luckily they saw us and
lifted us to safety. We were very happy and relieved.

ข้นั Post-writing
1. ครูให้นกั เรียนตรวจทานร่างงานเขียนของตนเอง โดยดเู รื่องไวยากรณ์ การสะกดคา

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการเรียงลาดบั เหตุการณ์ แลว้ แกไ้ ขให้ถูกตอ้ ง
จากน้นั ให้นกั เรียนเขียนเร่ืองส้ันตามร่างงานเขียนทแ่ี กไ้ ขแลว้ พร้อมท้งั ต้งั ช่ือเร่ือง
เสร็จแลว้ ส่งให้ครูตรวจ
2. นกั เรียนทา Self-Check 2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 114
3. นกั เรียนทา Ex. 3 และ Exs. 5-6 (Collocations & Phrasal verbs) ใน Language Review 2 หนงั สือเรียน
หนา้ 106
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 19 Exs. 3-6 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวดั และการประเมนิ ผล

วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการเรียงลาดบั เหตุการณข์ องเรื่อง แบบฝึกหดั (Workbook)
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ท่ีอา่ นและฟัง
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการเขยี นตอนจบของเรื่อง แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ ผ่าน

ทอี่ ่านให้แตกต่างจากเดิม

ประเมนิ การเขยี นเร่ืองส้นั แบบประเมินการเขยี น

สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมนั่ ใ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ

นการทางาน อนั พงึ ประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหัด SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

156

7ASEAN corner 2 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกรายละเอยี ดของเรื่องที่อ่านได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ครอบครวั และชุมชนได้
- พูดอภปิ รายเก่ียวกบั ปัจจยั ท่ีช่วยทาใหเ้ ป็นชุมชนยงั่ ยนื ได้
- วาดแผนทีแ่ สดงแหลง่ ทรพั ยากรของชุมชนได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ
และแสดงความคดิ เห็นอย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/3 ระบุและเขยี นสื่อท่ไี ม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ
ใหส้ ัมพนั ธก์ บั ประโยคและขอ้ ความท่ฟี ังหรืออ่าน

157

ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน
และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองที่ฟังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ
ตวั ช้ีวดั มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
ต 1.2 ม. 3/1 และความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ต 1.2 ม. 3/5
สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว
เรื่องท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม และสื่อสารอยา่ งตอ่ เน่ืองและเหมาะสม
พูดและเขยี นบรรยายความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์
พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเขา้ ใจและตระหนกั ถงึ ความสาคญั ในการทาใหช้ ุมชนกลายเป็นชุมชนทย่ี ง่ั ยนื

ซ่ึงก่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดลอ้ ม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (resist, record, expense, solve)

Phrasal verb (deal with)

Nouns (aspect, economy, debt, income, access)

Adjective (well-being)

Functions: Talking about sustainable community

People are important sources of community.

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ครอบครัวและชุมชน,

พดู อภิปรายเก่ียวกบั ปัจจยั ท่ีช่วยทาให้เป็นชุมชนยง่ั ยนื

Reading: อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

158

1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm up
ครูให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ ชุมชนของนกั เรียนมปี ัญหาดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม
ประชาชนไม่มีอาชีพทมี่ นั่ คงหรือไม่

ข้นั Pre-reading

1. ครูให้นกั เรียนอา่ นช่ือเรื่อง Sustainable Community ในหนงั สือเรียน หนา้ 30 แลว้ ครูอธิบายคาวา่

sustainable จากน้นั ใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็นว่าชุมชนท่ยี ง่ั ยืนมีลกั ษณะอยา่ งไร

sustainable (adj) = able to continue over a period of time (ยง่ั ยนื , ถาวร)

2. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 3 คน ให้แต่ละกลมุ่ อ่านเร่ือง Sustainable Community และขดี

เส้นใตค้ าศพั ทย์ าก ครูสุ่มเรียกนกั เรียนให้อ่านคาศพั ทท์ ่ีขดี เส้นใตก้ ลุ่มละ 1 ยอ่ หนา้

คาใดทนี่ กั เรียนอ่านไมถ่ กู ตอ้ ง ให้อ่านตามครูพร้อมกนั

จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดาความหมายของคาศพั ท์

ถา้ คาใดนกั เรียนไมร่ ู้ใหห้ าความหมายจากพจนานุกรม เช่น

aspect (n) = a part of something to be thought about (แง่มมุ )

economy (n) = the relationship between production, trade and the supply of

money in a particular country or region (เศรษฐกิจ)

well-being (n) = general health and happiness (สวสั ดิภาพ, ความอยดู่ ีมสี ุข)

159

resist (v) = to refuse to accept something and try to stop it from happening

(ตอ่ ตา้ น)

debt (n) = a sum of money that somebody owes (หน้ีสิน)

record (v) = to keep a permanent account of facts or events by writing them

down (บนั ทกึ )

income (n) = the money that a person, a region, a country etc. earns from

work, from investing money, from business etc. (รายได)้

expense (v) = the money that you spend on something (ค่าใชจ้ ่าย)

solve (v) = to find a way of dealing with a problem or difficult situation

(แกป้ ัญหา)

deal with (phr v) = to solve a problem, perform a task etc. (รบั มอื กบั , จดั การกบั )

access (n) = the opportunity or right to use something or to

see (สิทธ์ิหรือโอกาสในการใช)้

ข้นั Reading
หนังสือเรียน หน้า 30 Ex. 1 นกั เรียนอ่านคาถามและขดี เส้นใตค้ าสาคญั
จากน้นั อ่านบทอ่านเพอ่ื หาเน้ือเร่ืองส่วนท่ีเก่ียวขอ้ งกบั คาทีข่ ีดเสน้ ใต้
เม่อื เขา้ ใจแลว้ จึงตอบคาถามที่กาหนดให้ เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ

1 We have to think of three things: the economy, environment and society.
That is, we need a strong economy and the well-being of the people in the
community, but not destroying the natural environment on which we all
depend.

2 These resources are tradition, different roles, saving resources, mechanisms
for helping each other in times of need etc.

3 It was 20 million baht.
4 The community started a saving group (credit union).
5 It was built to help Lao people solve their own problems in ways that are

economically, socially and environmentally sustainable.

160

ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 30 Ex. 2 นกั เรียนอา่ นคาถามพร้อมกนั ครูช่วยอธิบายคาวา่ get on with (= to have

a friendly relationship with somebody (เป็นมติ รกบั )) และตรวจสอบว่าทกุ คนเขา้ ใจคาถาม
จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คูก่ บั เพ่ือนพูดถาม-ตอบคาถามดงั กลา่ ว ครูเดินสงั เกตรอบ ๆ ช้นั เรียน
แลว้ สุ่มถามคาถามนกั เรียนบางคน
2. หนงั สือเรียน หน้า 30 Ex. 3 ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 4-5 คน
ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ระดมสมองคดิ แหล่งทรัพยากรของชุมชน เช่น คน สถานที่ การคมนาคม การบริการ
แลว้ ร่วมกนั อภปิ รายเกี่ยวกบั ส่ิงทีช่ ่วยใหช้ ุมชนของนกั เรียนกลายเป็นชุมชนท่ยี งั่ ยนื
เม่อื อภิปรายเสร็จแลว้ ให้แต่ละกลมุ่ ทาแผนทแ่ี สดงแหลง่ ทรพั ยากรของชุมชน

7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
สมุดนกั เรียน ร้อยละ 60
วิธกี ารวดั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอา่ น
สังเกตการพดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกั แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
บครอบครัวและชุมชน
ประเมินชิ้นงานแผนท่แี สดงแหล่งทรั แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
พยากรของชุมชน อนั พึงประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
3) พจนานุกรมออนไลน์

161

8O-NET practice & Fun time 2 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณท์ ีเ่ รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
- เขยี น quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาท่เี รียนมาแลว้ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ
และแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั

162

ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน
และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทฟี่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ
พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

และนาไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ช่วยให้พดู /เขยี นส่ือสาร

และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2

Grammar: ไวยากรณใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2

2) Language Skills

Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขยี น quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาทเ่ี รียนมาแลว้

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
- มงุ่ มนั่ ในการทางาน

163

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 โดยการให้นกั เรียนเล่นเกม Hangman
เพอ่ื ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ภยั พิบตั ิทางธรรมชาติ

ข้นั Presentation
1. ครูทบทวนไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 2

ดว้ ยการใหน้ กั เรียนระดมสมองพดู บอกไวยากรณ์ทเ่ี รียนรู้ในหน่วยน้ี
ครูเขียนตามที่นกั เรียนบอกบนกระดานในรูปของ mind map
จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั พดู บอกโครงสร้างประโยคและวธิ ีการใช้

Past simple

used to/ ไวยากรณ์ Past
would/ หน่วยการเรี continuous
be used to
ยนรู้ที่ 2

2. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม ให้แต่ละกลุม่ ส่งตวั แทน 1 คน ออกมาหนา้ ช้นั เพ่ือเขียนประโยค 1 ประโยค
โดยใชโ้ ครงสร้างภาษาท่เี รียน แต่สลบั ตาแหน่งของคาในประโยค
จากน้นั ใหก้ ล่มุ อนื่ ทายว่าประโยคท่ีถกู ตอ้ งเขียนอยา่ งไร กลุม่ ใดทายถูกตอ้ งก่อนจะได้ 1 คะแนน
กลมุ่ ทม่ี ีคะแนนมากท่ีสุดจะเป็น ผูช้ นะ

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 32 Ex. 1 นกั เรียนแขง่ ขนั กนั เติมคาศพั ทใ์ นตารางปริศนา ใครทาเสร็จก่อนให้

ยกมอื ข้ึน จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนท่ที าเสร็จก่อน 8 คนแรก พดู เฉลยบอกคาศพั ท์

164

natural phenomena illnesses
1 tsunami 1 temperature
2 tornado 2 cold
3 earthquake 3 sore throat
4 hurricane 4 headache
5 cough

2. หนงั สือเรยี น หน้า 32 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดูเน้ือหา
เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนเปรียบเทียบคาตอบกบั เพือ่ น จากน้นั ครูจึงเฉลยคาตอบ

1F 2F 3T 4T 5F

3. หนงั สือเรียน หน้า 32 GAME ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 3 ทีม เพ่อื เลน่ เกม Chain story
ให้แตล่ ะทมี ช่วยกนั แตง่ เร่ือง โดยให้เริ่มตน้ เน้ือเร่ืองดว้ ยประโยค It was a hot summer day. Peter …
เช่น
S1: … decided to go to the beach.

4. หนังสือเรียน หน้า 32 Ex. 4 ครูเขียนคาวา่ optimistic และ pessimistic บนกระดาน
ใหน้ กั เรียนเดาความหมาย
optimistic (adj) = expecting good things to happen or something to be successful
(ซ่ึงมองโลกในแง่ดี)
pessimistic (adj) = expecting bad things to happen or something not to be successful
(ซ่ึงมองโลกในแง่ร้าย)
ครูบอกนกั เรียนว่าจะให้ฟังเพลง เพ่ือหาคาตอบว่านกั ร้องเป็นคนมองโลกในแง่ดีหรือมองโลกใน
แงร่ ้าย พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นเน้ือเพลงตามไปดว้ ย
แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน บอกคาตอบ

165

The singer is optimistic because he/she emphasises positive actions to negative
circumstances e.g. ‘even in the bad times you will never see me frown’.

5. หนงั สือเรียน หน้า 32 Ex. 5
ครูให้เวลานกั เรียนเขยี นประโยคเก่ียวกบั ตนเองโดยใชค้ าข้ึนตน้ ทีก่ าหนดให้
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน อ่านให้เพ่อื นฟัง

1 Problems don’t scare me.
2 In the bad times I do my best not to give up.
3 I’m glad that I have my family and friends to love.

6. หนังสือเรียน หน้า 31 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ให้ครูอธิบายเพิ่มเตมิ

Ex. 1 1 A d, B d 2 A c, B b
Ex. 2 1 c 2 d 3 a 4 b 5 b

ข้นั Production
หนังสือเรยี น หน้า 32 Ex. 3 นกั เรียนจบั ค่กู นั ครูแจกกระดาษใหค้ ลู่ ะ 1 แผน่ ใหแ้ ตล่ ะคคู่ ิดคาถาม
quiz 5-6 ขอ้ เกี่ยวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 โดยเขียนคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ
ครูช่วยยกตวั อยา่ ง เช่น Avalanches involve snow. (T)
จากน้นั ใหน้ กั เรียนทางานโดยสามารถเปิ ดดเู น้ือหาได้ เมอ่ื ทุกค่คู ดิ คาถามเสร็จแลว้ ใหแ้ ลกกนั ทา quiz
กบั คอู่ ื่น

1 Roy Sullivan was struck by lightning six times. (F)
2 You should have an x-ray for a broken leg. (T)
3 Hayden Adcock was lost in the jungle for two weeks. (F)
4 An earthquake is a natural phenomenon. (T)

166

5 We usually put some cream on a burn. (T)

7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
- ร้อยละ 60
วธิ ีการวดั
ตรวจการเขียน quiz แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
เก่ียวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี อนั พงึ ประสงค์
2
สังเกตความมุง่ มน่ั ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3

167

3 Experiences

ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/1 ปฏิบตั ติ ามคาขอรอ้ ง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายท่ฟี ังและอา่ น
ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น

เก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ

ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว

เรื่องท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม และสื่อสารอยา่ งต่อเน่ืองและเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/2 ใชค้ าขอร้อง ให้คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกบั เร่ืองทฟ่ี ังหรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด

และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเด็น

ต่าง ๆ ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรื่องที่ไดจ้ ากการวเิ คราะห์เร่ือง/

ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม

166

ต 1.3 ม. 3/3 พดู และเขยี นแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์
พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลประกอบ

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 3/1 เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น

พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื

จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 3/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองที่เกิดข้ึนในห้องเรียน

สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม

2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจ สามารถบอกรายละเอยี ด เลา่

เหตกุ ารณ์ แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และสรุปเรื่องทีอ่ ่านและฟังได้ นอกจากน้ียงั สามารถนาสิ่งท่ี
เรียนรู้ไปใชใ้ นการพดู และเขียนส่ือสารเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์ รวมถึงสามารถกล่าว
ขอโทษและตอบรับคาขอโทษไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ใช้คาศพั ทใ์ นการคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพิม่ เติม ตลอดจนมคี วามรู้
ความเขา้ ใจเก่ียวกบั อนุสาวรียส์ าคญั ของประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซียน รวมถงึ มีความเขา้ ใจในมารยาท
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

167

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Sports (bungee jumping, hang-gliding, snowboarding, white-water
rafting, rock climbing, snorkelling, skateboarding, motocross, skydiving,
mountain biking, canoeing, white-water kayaking, squash, cricket)
Sport equipment (goggles, flippers, gloves, racquet, bat, mask, pads,
snowboard, paddle)
Apologising (I’m really/terribly/so sorry., I don’t realise.)
Accepting apologies (That’s all right., That’s OK., Don’t worry about it.,
Never mind., It doesn’t matter.)
Verbs (rank, strike, rush, fit, win, board a flight, declare, preserve,
release, charge, break the law, import, miss flight, lose luggage, store,
repair, )
Phrasal verbs (break down, consist of)
Nouns (shark attack, terror, victim, blood, handle, story, customs officer,
specimen, liquid, reptile, poison, scorpion, airline, contents, endangered
species, nutrient, carbohydrates, muscle, fuel, protein, sugary drink}
monument, ancestor, statue, obelisk, gratitude, injustice, colonisation,
occupation, sculpture, courage, sacrifice)
Adjectives (thrilling, dangerous, exciting, tiring, expensive, challenging,
dehydrated, joyful, tragic)
Phrases (lose arm, look bright, catch a wave, sharp pain, escape death,
enter a competition, overcome obstacles, in good shape, take care, see
you, the weather is awful, greetings from, I’ve met lots of, we’ve been
here)
Sentences (Fancy seeing you here., My flight has been delayed., Where
are you off to?, Have you been waiting long?, I’d better go and check my
flight too!, I think you’ve taken my bag., Oh, did I?, You’re right!, I’m
terribly sorry about that., Oh, don’t worry about it., Have a good trip.)

168

Grammar: Present perfect
Functions: Present perfect vs Past simple
Present perfect continuous
Pronunciation: so + adjective/adverb
such (a/an) + (adjective) + noun
subject/object pronouns
possessive determiners
Talking about sports
I like snorkelling.
So do I. It’s exciting./I don’t. It’s tiring.
Making suggestions
Why don’t we go snowboarding?
That’s a great idea!
Talking about experiences
Have you ever met a famous actor?
Yes, I have.
Narrating a past experience
What’s wrong?
Someone has just stolen my wallet! I put it down for a moment to look in
my bag and the next thing I knew it was gone.
Apologising – Accepting an apology
I’m so sorry for stepping on your foot!
Don’t worry about it. It’s very crowded on this train.
Talking about food for sport
When you play a sport regularly, it’s important to drink plenty of water
and eat enough carbohydrates to keep you going.
/tʃ/: chance, change, champion
/ʤ/: jet, juice, jar
/j/: yet, yes

169

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังการออกเสียงคาศพั ทแ์ ละประโยค

Speaking: พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ีอา่ น, พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั

ประสบการณแ์ ละระยะเวลาในการทากิจกรรม, พดู อภิปรายแสดงความ

คิดเห็นเกี่ยวกบั การกล่าวคาขอโทษและอาหารทจ่ี าเป็นสาหรับนกั กีฬาหรือ

คนที่ออกกาลงั กาย, แสดงบทสนทนา, พูดนาเสนอเกี่ยวกบั โภชนาการ

อาหารกบั การเลน่ กีฬาและอนุสาวรียท์ ่ีมีช่ือเสียงในประเทศสมาชิกกล่มุ

ประชาคมอาเซียน

Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขียนบรรยายเหตุการณ์ของเร่ืองท่ีอ่าน, เขียนสรุปเร่ืองท่ีอา่ น, เขียนให้

ขอ้ มลู บรรรยายเหตุการณ์ และแสดงความรู้สึกเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟัง, เขียนให้

ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและบคุ คลในครอบครัว, แต่งบทสนทนาส้ัน ๆ

เกี่ยวกบั การขอโทษและตอบรบั คาขอโทษ, เขยี นประโยคตามโครงสร้างที่

เรียน, เขยี นอีเมลเล่าเก่ียวกบั การไปเทีย่ ว, เขยี นขอ้ ความเก่ียวกบั Victory

Monument

3) Culture การกลา่ วคาขอโทษ

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
4) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทางาน

6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

1) เขยี นสรุปเรื่องทอ่ี ่าน
2) เขียนเล่าเหตกุ ารณจ์ ากเรื่องทฟ่ี ัง
3) แสดงบทสนทนา

170

4) พดู นาเสนอเกี่ยวกบั โภชนาการอาหารกบั การเล่นกีฬา
5) เขียนอีเมลเล่าเกี่ยวกบั การไปเทีย่ ว
6) พูดนาเสนอเกี่ยวกบั อนุสาวรียท์ ี่มชี ื่อเสียงในประเทศสมาชิกกลุ่มประชาคมอาเซียน
7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินกอ่ นเรียน
7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

171

1 Reading 3a & Vocabulary 3a

2 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกรายละเอียด แสดงความคิดเห็น และสรุปเรื่องทอี่ ่านและฟังได้
- เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กีฬาทีต่ นเองและผอู้ ื่นชื่นชอบได้
- พูดให้คาแนะนาเก่ียวกบั การเลน่ กีฬาได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบุหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/2 ใชค้ าขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขยี นเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกบั เร่ืองทฟ่ี ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/เรื่อง/ประเด็น
ต่าง ๆ ท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

172

ตวั ช้ีวดั ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองทเ่ี กิดข้นึ ในห้องเรียน
ต 4.1 ม. 3/1 สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์เกี่ยวกบั กีฬาและอปุ กรณ์การเลน่ กีฬา รวมถงึ สานวนภาษาทใ่ี ชใ้ นการให้คาแนะนา

ช่วยให้เขา้ ใจ บอกรายละเอยี ด แสดงความคิดเห็น และสรุปเรื่องทอี่ ่านและฟังได้ นอกจากน้ียงั ช่วยให้
สามารถนาสิ่งทเ่ี รียนรู้ไปใชใ้ นการพูดและเขียนสื่อสารไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions
Vocabulary: Sports (bungee jumping, hang-gliding, snowboarding, white-water
rafting, rock climbing, snorkelling, skateboarding, motocross, skydiving,
mountain biking, canoeing, white-water kayaking, squash, cricket)
Sport equipment (goggles, flippers, gloves, racquet, bat, mask, pads,
snowboard, paddle)
Verbs (rank, strike, rush, fit, win)
Nouns (shark attack, terror, victim, blood, handle)
Adjectives (thrilling, dangerous, exciting, tiring, expensive, challenging)
Phrases (lose arm, look bright, catch a wave, sharp pain, escape death,
enter a competition, overcome obstacles)
Functions: Talking about sports
I like snorkelling.
So do I. It’s exciting./I don’t. It’s tiring.
Making suggestions
Why don’t we go snowboarding?
That’s a great idea!
Get your snowboard, goggles and gloves and I’ll see you back here in an
hour.

173

2) Language Skills

Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มลู เฉพาะ

Speaking: พูดแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่อี ่าน

Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขยี นบรรยายเหตกุ ารณ์ของเร่ืองทอี่ ่าน, เขยี นสรุปเร่ืองท่อี า่ น,

เขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เรื่องทีฟ่ ัง

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการเขียนชื่อหน่วยการเรียนรู้ Experiences บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่าน

ออกเสียงพร้อมกนั และบอกความหมาย
experiences (n) = events or activities that affect you in some way (ประสบการณ์)

2. Find the page numbers for หน้า 33 นกั เรียนอา่ นหัวขอ้ ทีใ่ หม้ า แลว้ หาวา่ ภาพท่เี กี่ยวขอ้ งกบั หัวขอ้
เหล่าน้ีอยใู่ นหนงั สือเรียนหนา้ ใด เมอื่ หาพบแลว้ ครูถามคาถามเกี่ยวกบั หวั ขอ้ ดงั กลา่ ว เพอื่ กระตนุ้
ความสนใจของนกั เรียน

snakes (p. 38)
Do you like snakes? Why (not)?
What snakes come from your country? Are any of them poisonous?

174

a shark (p. 34)
Have you ever seen a shark in real life? When? Where?
Are you scared of sharks? Why (not)?
food & drinks (p. 40)
What is your favourite food/drink?
Do you eat healthily? Why (not)?

ข้นั Pre-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 33 Ex. 1 นกั เรียนดูภาพกีฬา (1-12) และอ่านชื่อกีฬา (a-l) จากน้นั จบั คู่ภาพกบั

ชื่อกีฬา เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเพื่อตรวจคาตอบ

1d 2a 3k 4b 5h 6e
7 i 8 f 9 l 10 c 11 g 12 j

ครูเปิ ด CD อีกคร้งั ใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ทต์ าม แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงเป็นรายบคุ คล

เมอื่ นกั เรียนออกเสียงไดค้ ล่องแลว้ ให้ช่วยกนั บอกช่ือกีฬาเหล่าน้ีเป็นภาษาไทย

bungee jumping (กีฬาบนั จ้ีจมั พ)์ skateboarding (กีฬาสเกตบอร์ด)

hang-gliding (กีฬาปี กร่อน) motocross (กีฬาจกั รยานยนตว์ บิ าก)

snowboarding (กีฬาสโนวบ์ อร์ด) skydiving (กีฬากระโดดร่ม)

white-water rafting (กีฬาล่องแกง่ ) mountain biking (กีฬาป่ันจกั รยานภูเขา)

rock climbing (กีฬาปี นเขา) canoeing (กีฬาพายเรือแคนู)

snorkelling (กีฬาดาน้าต้นื ) white-water kayaking (กีฬาพายเรือคายกั )

2. หนังสือเรียน หน้า 33 Ex. 2 ครูเขียนหวั ขอ้ water, air, land บนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนแบ่ง

ประเภทของกีฬาใน Ex. 1 ตามหัวขอ้ เหล่าน้ี เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเขยี นบน

กระดาน

Water: white-water rafting, canoeing, white-water kayaking, snorkelling
Air: bungee jumping, hang-gliding, skydiving
Land: motocross, rock climbing, snowboarding, mountain biking, skateboarding

175

3. นกั เรียนอา่ นออกเสียง adjectives แสดงความรู้สึกในหนงั สือเรียน หนา้ 33 และช่วยกนั บอก
ความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้ครูช่วยอธิบาย หรือใหน้ กั เรียนเปิ ดหาความหมายในพจนานุกรม
thrilling (adj) = extremely exciting (ตื่นเตน้ เร้าใจ, โลดโผน)
dangerous (adj) = able or likely to cause harm or injury (ซ่ึงเป็นอนั ตราย, ไม่ปลอดภยั )
exciting (adj) = causing great interest or excitement (ทีน่ ่าต่ืนเตน้ )
tiring (adj) = causing one to need rest or sleep; fatiguing (น่าเหนด็ เหน่ือย)
expensive (adj) = costing a lot of money (แพง)
challenging (adj) = testing one's abilities; demanding (ที่ทา้ ทายความสามารถ)

4. หนงั สือเรยี น หน้า 33 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นตวั อยา่ งบทสนทนา แลว้ ครูอธิบายวา่ So do I. (ฉนั ก็ ...
เหมือนกนั ) ใชแ้ สดงการเห็นดว้ ยกบั ประโยคบอกเลา่ ส่วน Neither do I. (ฉันก็ไม่ ... เหมอื นกนั ) ใช้
แสดงการเห็นดว้ ยกบั ประโยคปฏิเสธ จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คูก่ นั พดู แสดงความรู้สึกเก่ียวกบั กีฬาใน
Ex. 1 โดยใช้ adjectives ที่กาหนดให้ แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ พดู สนทนาให้เพื่อนฟัง

A: I like snorkelling.
B: So do I. It’s exciting./I don’t. It’s tiring.
A: I don’t like canoeing.
B: Neither do I. It’s very tiring./I do. It’s challenging.
A: I like mountain biking.
B: So do I. It’s challenging./I don’t. It’s expensive.
A: I don’t like motocross.
B: Neither do I. It’s very dangerous./I do. It’s thrilling.

5. หนงั สือเรยี น หน้า 34 Ex. 1a ครูขออาสาสมคั รนกั เรียนออกมาเล่าประสบการณท์ ี่เลวร้ายหรือ
ไม่น่ายินดีของตนเองใหเ้ พ่อื นฟัง

6. หนงั สือเรียน หน้า 34 Ex. 1b ครูใหน้ กั เรียนดภู าพและอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words แลว้
เดาว่าบทอ่านเรื่องน้ีน่าจะเก่ียวกบั อะไร จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นบทอ่านตามเพ่ือ
ตรวจวา่ นกั เรียนคาดเดาถูกตอ้ งหรือไม่

I think the girl in the picture was attacked by a shark, but she has continued surfing.

176

7. ครูให้นกั เรียนดบู ทอ่านในหนงั สือเรียน หนา้ 34 อยา่ งรวดเร็ว เพื่อมองหาคาศพั ทใ์ นกรอบ Check

these words และช่วยกนั บอกความหมายของคาศพั ทจ์ ากบริบท

lose arm (phr) = to have arm taken away from you as a result of an accident

etc. (สูญเสียแขน)

shark attack (n) = a violent act from shark intended to hurt or damage

someone (การถกู ฉลามทาร้าย)

rank (v) = to have a position higher or lower than others, or to be

considered to have such a position (จดั อนั ดบั )

look bright (phr) = to appear or seem to be full of hope for success or

happiness (เหมือนจะเต็มไปดว้ ยความหวงั หรือความสาเร็จ)

(terror) strike (v) = to cause someone to have a feeling or idea about something

(ความหวาดกลวั เขา้ จูโ่ จม)

sharp pain (phr) = a quick, strong pain that makes you feel like you have been

cut (แผลลึก)

victim (n) = someone that has been hurt, damaged or killed or has

suffered, either because of the actions of someone or

something else, or because of illness or chance (เหย่ือ)

rush (v) = to (cause to) go or do something very quickly (รีบเร่ง)

blood (n) = the red liquid that is sent around the body by the heart, and

carries oxygen and important substances to organs and

tissue, and removes waste products (เลอื ด)

escape death (phr) = to get free from death or to avoid death (รอดพน้ จาก

ความตาย)

fit (v) = to provide something and put it in the correct position (ตดิ ต้งั )

handle (n) = a part of an object designed for holding, moving or carrying

the object easily (ที่จบั )

enter a competition (phr) = to be included in a competition or race (เขา้ ร่วมการแข่งขนั )

win (v) = to achieve first position and/or get a prize in a competition,

election, fight etc. (ชนะ)

overcome obstacles (phr) = to defeat or succeed in controlling or dealing with difficult

situations or events (เอาชนะอปุ สรรค)

177

ข้นั Reading
หนังสือเรยี น หน้า 34 Ex. 2 นกั เรียนอา่ นคาถามทใ่ี ห้มา และขดี เสน้ ใตค้ าสาคญั จากน้นั อา่ นบทอา่ น
เพอ่ื มองหาเน้ือเร่ืองส่วนที่เก่ียวขอ้ งกบั คาที่ขดี เสน้ ใต้ เมอ่ื พบแลว้ อ่านให้เขา้ ใจ แลว้ จึงตอบคาถาม

1 When Bethany was 13, she went surfing with her friends at Tunnels Beach.
A shark attacked her and bit off her left arm.

2 Bethany managed to surf again by finding a way to pull herself up onto her
surfboard.

3 Bethany’s father helped her by fitting a special handle on her surfboards.

ข้นั Post-reading
1. THINK! หนงั สือเรียน หน้า 34 นกั เรียนอ่านคาถามทใ่ี ห้มา ครูตรวจสอบทุกคนเขา้ ใจคาถาม แลว้

แบ่งนกั เรียนเป็นกลุม่ กล่มุ ละ 4-5 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายคาถามเหล่าน้ี จากน้นั ครูให้
นกั เรียนรายงานคาตอบจากการอภิปรายทีละกลมุ่

1 I think that Bethany hasn’t gone back to Tunnels Beach because there are a lot
of bad memories for her there.

2 Bethany is a determined person because she is still surfing even though she
only has one arm. Also, she hasn’t let a horrifying experience put her off
doing something she loves.

3 Bethany’s determination teaches us that we can overcome any obstacles if we
try hard enough.

2. หนังสือเรยี น หน้า 35 Ex. 3 นกั เรียนฝึกฝนคาศพั ทท์ ไ่ี ดเ้ รียนรู้จากบทอ่าน โดยอา่ นประโยคที่ให้มา
และเลอื กคาทถ่ี กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ

1 attacked 2 lost 3 catch 4 escape
5 promised 6 entered 7 won 8 overcame

178

3. หนงั สือเรยี น หน้า 35 Ex. 4 ครูให้นกั เรียนสมมติว่าตนเองเป็นเพ่อื นที่เห็นเหตกุ ารณ์ Bethany ถกู
ฉลามทาร้าย ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายเหตุการณแ์ ละความรู้สึกของตนเอง ครูช่วยดว้ ยการให้นกั เรียน
คดิ ว่าตนเองอยทู่ ไี่ หนตอนเกิดเหตกุ ารณ์ ทาไมจึงไปอยทู่ ่นี น่ั เกิดเหตกุ ารณ์อะไรข้นึ บา้ ง และนกั เรียน
รู้สึกอยา่ งไร จากน้นั ครูใหเ้ วลานกั เรียนเขียน แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน อา่ นใหเ้ พื่อนฟัง

It was a beautiful day in 2003 and I was surfing at Tunnels Beach with my
friends. I was in the water when, suddenly, I heard my friend Bethany shouting
for help. I looked to see what the matter was and saw that she was covered in
blood. The water was red all around her too.
I couldn’t believe what I was seeing. Her arm was missing. I was very shocked
and scared but I got over to her as quickly as I could to help her. She was the
victim of a shark attack. We carried her out of the water and called an ambulance
to take her to hospital. The doctors said she was very lucky to be alive.

4. นกั เรียนอา่ นขอ้ มลู ในกรอบ Did you know? หนงั สือเรียน หนา้ 34 แลว้ ครูถามนกั เรียนว่า ใครเคยดู
ภาพยนตร์เรื่อง Heart of a Soul Surfer บา้ ง ครูอาจหาภาพหรือคลปิ ตวั อยา่ งภาพยนตร์จาก
อินเทอร์เนต็ มาเปิ ดให้นกั เรียนดู

Background information
Bethany Hamilton เกิดวนั ท่ี 8 กมุ ภาพนั ธ์ ค.ศ. 1990 ทีม่ ลรฐั ฮาวาย ประเทศ
สหรฐั อเมริกา เธอเร่ิมเล่นกีฬาโตค้ ลนื่ ต้งั แตเ่ ด็ก และเมอ่ื เธอเป็นวยั รุ่นเธอชนะ
การแขง่ ขนั มากมาย ปัจจุบนั เธอเป็นแชมป์ ระดบั ชาติ ประธานมลู นิธิเด็ก Beating
the Odds และยงั เป็นนกั เขียนอีกดว้ ย

หาด Tunnels ในมลรฐั ฮาวาย สหรัฐอเมริกา อยู่ทางตอนเหนือของเกาะ Kauai ผคู้ น
มกั จะมาทน่ี ี่เพ่ือว่ายน้า ดาน้า ซ่ึงมีท้งั แบบธรรมดาและสกบู า และโตค้ ล่ืน หาดน้ี
เต็มไปดว้ ยดว้ ยทรายสีขาวสะอาด และในทะเลยงั เตม็ ไปดว้ ยสัตวท์ ะเลนานาพนั ธุ์

5. นกั เรียนศึกษาวิธีการสรุปเรื่อง (summarising a text) ใน Study Skills หนงั สือเรียน หนา้ 35 แลว้
อธิบายให้ครูฟัง เพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน

179

6. หนังสือเรยี น หน้า 35 Ex. 8 ครูให้นกั เรียนเขียนสรุปบทอ่านเร่ือง Shark attack ในหนา้ 34 โดยทา
ตามวิธีการสรุปเรื่องใน Study Skills เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1-2 คน อา่ นสรุปให้เพื่อนฟัง

A girl called Bethany Hamilton lost her arm in a shark attack in 2003. The attack
happened when Bethany was surfing at Tunnels Beach in Hawaii with her friends.
Bethany did not see the shark that bit her. Bethany’s friends rescued her and took
her to hospital. Bethany lost a lot of blood and doctors told her she was lucky to be
alive. Only a few weeks after the attack, Bethany started surfing again. Her father
fitted a special handle on her board. At first, it was very difficult, but she amazed
everyone. Bethany managed to win a surfing competition after the attack. Bethany
says nothing will stop her from doing what she loves the most.
7. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 20-21 Exs. 1-4 ให้นกั เรียนเป็นการบา้ น

ชั่วโมงที่ 2
ข้นั Warm up

ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กีฬาทีเ่ รียนไปเมือ่ ชวั่ โมงทแี่ ลว้ โดยแสดงภาพกีฬาให้นกั เรียนดแู ละบอก
คาศพั ท์

ภาพจาก: https://pixabay.com/th/photos/?pagi=1&q=extreme+sport&order=popular
180

ข้นั Pre-listening
1. หนังสือเรยี น หน้า 35 Ex. 5a นกั เรียนดภู าพและบอกว่าคือกีฬาชนิดใดบา้ ง (squash, snowboarding,

cricket, white-water kayaking, snorkelling)
ต่อมาใหน้ กั เรียนอ่านคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อุปกรณ์การเล่นกีฬาตามครู แลว้ ครูพูดหมายเลข 1-9 เช่น
Number one, Number two เพือ่ ให้นกั เรียนระบวุ ่าคอื อุปกรณ์อะไร ครูเขียนคาตอบของนกั เรียนบน
กระดาน จากน้นั เปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเพือ่ ตรวจคาตอบ ครูอาจเปิ ด CD อีกคร้งั ให้นกั เรียนอ่าน
ออกเสียงตาม

1 racquet 2 snowboard 3 goggles
4 gloves 5 bat 6 pads
7 paddle 8 mask 9 flippers

หลงั จากตรวจคาตอบเสร็จแลว้ ครูอ่านคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อุปกรณ์การเล่นกีฬาอกี คร้งั ให้นกั เรียน

ช่วยกนั บอกช่ืออุปกรณ์การเลน่ กีฬาเหล่าน้ีเป็นภาษาไทย

goggles (แวน่ กนั ลม/น้า) mask (หนา้ กาก)

flippers (ตีนกบ) snowboard (กระดานโตห้ ิมะหรือสโนวบ์ อร์ด)

gloves (ถงุ มอื ) pads (สนบั เขา่ /ศอก)

racquet (ไมต้ เี ทนนิส) paddle (ไมพ้ าย)

bat (ไมต้ ีลกู เบสบอลหรือลูกคริกเกต็ )

2. หนงั สือเรียน หน้า 35 Ex. 5b ครูเขียนตารางบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทก์ ีฬา

และอปุ กรณใ์ น Ex. 5a ที่สัมพนั ธ์กนั ครูเขียนคาศพั ทล์ งในตาราง จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยค

เหมือนดงั ตวั อยา่ งท่ใี หม้ า

Sport Equipment
snowboarding snowboard, goggles, gloves
cricket bat, pads
white-water kayaking paddle
snorkelling mask, flippers

181

To go snowboarding, you need a snowboard, goggles and gloves.
To play cricket, you need a bat and pads.
To go white-water kayaking, you need a paddle.
To go snorkelling, you need a mask and flippers.

3. THINK! หนังสือเรยี น หน้า 35 ครูใหเ้ วลานกั เรียนเขยี นประโยคเกี่ยวกบั กีฬาทชี่ อบ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้
เล่น และเหตุผลท่ีชอบกีฬาดงั กลา่ วตามโครงร่างท่ใี ห้มา เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน
อ่านให้เพือ่ นฟัง

My favourite sport is football. You need a ball to do it. I like football a lot
because it’s fun.

4. ครูทบทวนสานวนภาษาที่ใชใ้ นการให้คาแนะนาและตอบรับคาแนะนา โดยใหน้ กั เรียนอา่ นตวั อยา่ ง
บทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 35 Ex. 6 แลว้ ครูถามว่าประโยคใดเป็นการใหค้ าแนะนา (Why
don’t we play squash?) จากน้นั ครูเขยี นโครงสร้างประโยค Why don’t we …? บนกระดาน แลว้ ถาม
นกั เรียนว่า จะพูดตอบรับคาแนะนาไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ครูเขยี นสานวนภาษาทีใ่ ชต้ อบรบั คาแนะนาบน
กระดาน เช่น That’s a good idea., Certainly., That sounds good.

5. หนงั สือเรียน หน้า 35 Ex. 6 นกั เรียนทางานคู่ โดยสมมติว่าเพอื่ นของนกั เรียนตอ้ งการจะเล่นกีฬา
ให้นกั เรียนพดู แนะนากีฬาใน Ex. 5a ครูเดินสังเกตขณะนกั เรียนทากิจกรรม แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน
3-4 คู่ ออกมาพูดสนทนาท่ีหนา้ ช้นั

A: Why don’t we go snowboarding?
B: That’s a great idea!
A: Get your snowboard, goggles and gloves and I’ll see you back here in an hour.

A: Why don’t we play cricket after school today?
B: That’s a good idea!
A: Get your bat and pads and I’ll meet you at the school gates after school.

182

6. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 35 Ex. 7 ว่า นกั เรียนจะไดฟ้ ังบคุ คล 3 คน คือ John, Sally,
Peter พดู เกี่ยวกบั กีฬาทช่ี อบ โดยให้นกั เรียนฟังและจดบนั ทกึ วา่ แตล่ ะคนพูดถึงกีฬาชนิดใด ใช้
อุปกรณ์อะไรบา้ ง และเหตุผลที่ชอบกีฬาชนิดน้นั

ข้นั Listening
หนงั สือเรยี น หน้า 35 Ex. 7 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง John, Sally, Peter พดู เกี่ยวกบั กีฬาท่ชี อบ และ
จดบนั ทึกวา่ แตล่ ะคนพดู ถงึ กีฬาชนิดใด ใชอ้ ุปกรณ์อะไรบา้ ง และเหตผุ ลที่ชอบกีฬาชนิดน้นั เมอื่ ฟัง
CD จบ ครูถามนกั เรียนวา่ จดบนั ทกึ ขอ้ มลู ทนั หรือไม่ ถา้ นกั เรียนจดบนั ทึกไม่ทนั ครูเปิ ด CD ใหฟ้ ัง
อีกคร้ัง โดยก่อนเปิ ด CD ครูย้าขอ้ มูลท่ีนกั เรียนตอ้ งฟังเพือ่ จดบนั ทึก

John: snowboarding – board, goggles, gloves
it’s challenging

Sally: snorkelling – mask, snorkel, flippers
it’s so exciting to swim around with fish

Peter: cricket – bat, batting pads
he’s good at it and he wants to play for the national team someday

ข้นั Post-listening
1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบของคาถามในหนงั สือเรียน หนา้ 35 Ex. 7 จากน้นั ครูให้นกั เรียน

ใชข้ อ้ มูลท่ีจดบนั ทกึ เขียนประโยคเก่ียวกบั กีฬาท่ี John, Sally, Peter ชอบ อปุ กรณท์ ่จี าเป็นตอ้ งใช้
และเหตผุ ลที่ชอบกีฬาชนิดน้นั

John’s favourite sport is snowboarding. He needs a board, goggles and gloves to do
it. He likes it because it’s challenging.
Sally’s favourite sport is snorkelling. She needs a mask, a snorkel and flippers to do
it. She likes it because it’s so exciting to swim around with fish.
Peter’s favourite sport is cricket. He needs a bat and batting pads to do it. He likes
it because he’s good at it and he wants to play for the national team someday.

183

2. นกั เรียนทา Language Review 3a Exs. 1-2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 107 ร่วมกนั ในช้นั
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 21 Exs. 5-6 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
วิธกี ารวดั
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นและ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
การฟัง
สังเกตการแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั สมดุ นกั เรียน -
เรื่องท่ีอา่ น
ตรวจการเขียนบรรยายเหตุการณ์ของ แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เร่ืองทอ่ี ่านโดยสมมติว่าตนเองอยใู่ น สมดุ นกั เรียน -
เหตกุ ารณ์
ประเมินการเขียนสรุปเรื่องท่ีอ่าน แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ตรวจการเขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั เร่ือง อนั พงึ ประสงค์
ท่ฟี ัง
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุง่ มนั่
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3
3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) ภาพกีฬา

184

2 Grammar 3b

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ประสบการณแ์ ละระยะเวลาในการทากิจกรรมได้
- เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและบุคคลในครอบครวั ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว
เรื่องทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม และส่ือสารอยา่ งตอ่ เนื่องและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/เรื่อง/ประเด็น
ตา่ ง ๆ ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้โครงสร้างภาษา (Present perfect, Past simple, Present perfect continuous) ช่วยให้

สามารถพดู /เขยี นสื่อสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

185

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Grammar: Present perfect

Present perfect vs Past simple

Present perfect continuous

Functions: Talking about experiences

Have you ever met a famous actor?

Yes, I have.

When did you meet him?

I met Brad Pitt last year.

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ประสบการณ์และระยะเวลาในการทากิจกรรม

Writing: เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและบคุ คลในครอบครัว

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กีฬา โดยครูเตรียมสลากคาบรรยายเกี่ยวกบั กีฬาชนิดตา่ ง ๆ แลว้ สุ่มเรียก
นกั เรียนออกมาจบั สลาก และอา่ นคาบรรยายให้เพือ่ นฟัง ให้นกั เรียนในช้นั ทายว่าคอื กีฬาชนิดใด

186

bungee jumping the sport of leaping from a height while secured by a long nylon-cased
rubber band from the ankles
snowboarding the sport of sliding downhill on a snowboard
white-water rafting the activity of being moved quickly in raft (= small boat is filled with air)
along rivers where the current is very strong
rock climbing the sport or pastime of climbing rock faces
snorkeling the practice of swimming on or through a body of water while equipped
with a diving mask, a shaped breathing tube
skateboarding the sport or pastime of riding on a skateboard
motocross cross-country racing on motorcycles
skydiving the sport of jumping from an aircraft and performing acrobatic maneuvers
in the air during free fall before landing by parachute
mountain biking the sport of riding bicycles off-road, often over rough ground
canoeing the sport or activity of paddling a light, narrow boat

ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอ Present perfect โดยเขียนประโยค I have worked hard today. บนกระดาน ครูขีดเสน้ ใต้

have worked และอธิบายวา่ กริยาน้ีอยใู่ นรูป Present perfect คอื has/have + past participle (กริยา
ช่องท่ี 3) แลว้ ครูอธิบายหลกั การใช้ Present perfect ดงั น้ี

- ใชก้ ล่าวถึงการกระทาท่ีเริ่มตน้ ในอดีตและดาเนินตอ่ เนื่องมาจนถึงปัจจบุ นั
- ใชก้ ล่าวถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา
- ใชก้ ล่าวถึงการกระทาทีเ่ กิดข้ึนในอดีตแต่ไม่ระบเุ วลาท่แี น่ชดั

ต่อมาครูเขยี นประโยค I haven’t worked hard today. She hasn’t worked hard today. บนกระดาน ให้
นกั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้างของประโยคปฏิเสธ (has/have + not + past participle)
แลว้ ครูเขยี นประโยค Have you worked hard today? Yes, I have. / No, I haven’t. เพ่ือให้นกั เรียน
บอกโครงสร้างของประโยคคาถามและการตอบแบบส้ัน (Question: Has/Have + subject + past
participle; Short answer: Yes, + subject + has/have. / No, + subject + hasn’t/haven’t.)

187

2. หนังสือเรียน หน้า 36 Ex. 1 ครูให้นกั เรียนดูโครงสร้างประโยคและหลกั การใช้ Present prefect เพ่อื
ทบทวนความเขา้ ใจ แลว้ บอกความหมายของตวั อยา่ งประโยคสีฟ้าเป็นภาษาไทย จากน้นั ใหน้ กั เรียน
หาตวั อยา่ ง Present perfect ในบทอา่ นหนา้ 34

hasn’t changed, has been, has promised, hasn’t returned

3. ครูนาเสนอคาแสดงเวลาทีใ่ ชก้ บั Present perfect ไดแ้ ก่ just, yet, already, since, for พร้อมท้งั
ยกตวั อยา่ งให้นกั เรียนดูบนกระดาน ดงั น้ี
- just = เพง่ิ มกั จะวางไวข้ า้ งหนา้ คากริยาหลกั เช่น
We have just had lunch.
- yet = ยงั มกั จะใชก้ บั ประโยคคาถามหรือปฏเิ สธ โดยจะวางไวท้ า้ ยประโยค เช่น
Have you had breakfast yet?
Ann hasn’t finished her homework yet.
- already = แลว้ มกั จะใชก้ บั ประโยคบอกเล่า โดยจะวางไวข้ า้ งหนา้ คากริยาหลกั เช่น
She has already cleaned her bedroom.
- since = ต้งั แต่ ใช้เพอ่ื บอกจุดเริ่มตน้ ของเหตุการณ์ เช่น
I haven’t seen Tom since last month.
She has lived here since she was 10.
- for = เป็นเวลา ใช้เพอ่ื บอกว่าเหตกุ ารณ์น้นั ๆ เกิดข้ึนมาเป็นระยะเวลาเท่าใดแลว้ เช่น
I’ve worked here for 6 months.
He has done exercise for 1 hour.

4. ครูอธิบายความแตกต่างของการใช้ have been และ have gone โดยยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน
I have been to Phuket with my parents.
I have gone to Phuket with my parents.

ครูให้นกั เรียนอา่ นประโยคพร้อมกนั แลว้ ครูอธิบายว่า ท้งั 2 ประโยคน้ีมีความหมายวา่ ไปภูเกต็
แต่ประโยคท่ีใช้ have been หมายถึง การเดินทางเสร็จสิ้นแลว้ กลบั มาจากการเดินทางน้นั แลว้
เป็นการบอกเลา่ ประสบการณ์ ส่วนประโยคท่ใี ช้ have gone หมายถงึ การเดินทางยงั ไมเ่ สร็จสิ้น
ขณะทีพ่ ูดยงั ไมไ่ ดก้ ลบั มาจากทีน่ ้นั

188

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 36 Ex. 2 นกั เรียนอ่านประโยค และเลือกคากริยาท่ีกาหนดใหเ้ ติมลงในช่องวา่ ง

โดยเปลี่ยนใหอ้ ยใู่ นรูป Present perfect เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ และครูตรวจ
คาตอบ

1 have visited 2 has flown 3 has learnt/learned 4 have taken
5 has won 6 have tried 7 have gone

2. หนงั สือเรียน หน้า 36 Ex. 3a นกั เรียนฝึกฝน Present perfect ดว้ ยการดูตารางขอ้ มูลทีใ่ ห้มา แลว้ เติม
ประโยคให้สมบรู ณ์ เสร็จแลว้ ครูสุ่มนกั เรียน 5 คน ออกมาเขยี นคาตอบบนกระดาน

2 hasn’t gone 3 have run 4 haven’t tried
5 hasn’t run 6 have slept

3. หนงั สือเรียน หน้า 36 Ex. 3b นกั เรียนจบั คู่กบั เพื่อน ผลดั กนั พูดบอกกิจกรรมในตาราง Ex. 3a ที่
นกั เรียนเคยทาและไมเ่ คยทา จากน้นั ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน และเขยี นบน
กระดาน เพอื่ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจว่าใชโ้ ครงสร้าง Present perfect ถกู ตอ้ งหรือไม่

I’ve gone bungee jumping./I’ve never gone bungee jumping.
I’ve run a marathon./I’ve never run a marathon.
I’ve tried Indian food./I’ve never tried Indian food.

4. หนังสือเรยี น หน้า 36 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนบอกความหมายของ just, yet, already, since, for แลว้ อา่ น
ตวั อยา่ งประโยคที่ให้มาพร้อมกนั จากน้นั อธิบายความหมายของประโยคเป็นภาษาไทย

5. หนังสือเรยี น หน้า 36 Ex. 5 นกั เรียนฝึกใช้ already, yet ในประโยค Present perfect โดยใชค้ าที่
กาหนดให้แต่งประโยคใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาเขียนประโยคบนกระดาน และ
ใหน้ กั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจคาตอบ

189

2 John hasn’t collected his train ticket yet.
3 John has already found his boots.
4 John hasn’t bought a new jacket yet.
5 John has already checked the weather forecast.
6 John hasn’t booked a hotel room yet.

6. หนังสือเรยี น หน้า 36 Ex. 6 นกั เรียนฝึกใช้ just ในประโยค Present perfect ดว้ ยการแตง่ ประโยค
โดยใชว้ ลที ่ีกาหนดให้ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนประโยคบนกระดาน และให้
นกั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจคาตอบ

2 He has just received some bad news.
3 He has just won the competition.
4 They have just run a marathon.
5 We have just lost our passports.

7. หนังสือเรียน หน้า 37 Ex. 7 นกั เรียนฝึกใช้ have been, have gone โดยอ่านประโยคตวั อยา่ งพร้อมกนั
และอธิบายความหมายเป็นภาษาไทย จากน้นั ใหน้ กั เรียนเตมิ ประโยคดว้ ย have/has been หรือ
have/has gone เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน และเฉลยคาตอบ

1 has gone 2 have been 3 has gone
4 have been 5 has gone

ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนเขยี นประโยคเกี่ยวกบั บุคคลในครอบครวั โดยใช้ Present perfect มา 10 ประโยค ครูย้า

ให้นกั เรียนใชค้ าแสดงเวลาและ have been/have gone ดว้ ย
2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 22 Exs. 1, 3-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

190

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
ครูทบทวน Past simple โดยถามเกี่ยวกบั กิจกรรมที่นกั เรียนทาเมอ่ื วานตอนเยน็ ดว้ ยคาถามWhat did
you do yesterday evening? จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้างประโยค Past simple และ
หลกั การใช้

ข้นั Presentation
1. ครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

He went to Canada last summer.
I have been to Canada twice.
I started work here in 1989.
I’ve worked here since 1987.
ครูให้นกั เรียนอธิบายความหมายของแตล่ ะประโยค และระบวุ ่าแต่ละประโยคอยใู่ นรูป tense ใด
2. หนังสือเรียน หน้า 37 Ex. 8 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นหลกั การใช้ Past simple และ Present perfect เพอ่ื
ทบทวนความเขา้ ใจ จากน้นั ใหน้ กั เรียนหาตวั อยา่ ง Past simple ในบทอ่าน หนา้ 34

ranked, looked, was, went, felt, saw, realised, carried, rushed, lost, managed,
had to, helped,fitted, entered, surprised, won, happened

3. ครูทบทวนประโยคท่ีใชถ้ ามประสบการณ์ โดยถามนกั เรียนว่า ถา้ ตอ้ งการถามประสบการณ์จะใช้
tense อะไร (Present perfect) จากน้นั ครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
Have you ever eaten fried insect?
Have you ever seen lions?
ครูใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคพร้อมกนั และอธิบายความหมาย จากน้นั ครูสุ่มถามคาถามบนกระดาน
กบั นกั เรียน 2-3 คน แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน ใหถ้ ามประสบการณข์ องเพอื่ นโดยใชโ้ ครงสร้าง
Have you ever + past participle

191


Click to View FlipBook Version