The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Narin Nonthamand, 2021-05-04 13:51:58

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 1

เอกสารประกอบการสอน_161429 เล่มที่ 1

เอก สารประก อบก ารสอน

ปฏบิตัิก ารใชเครื่องมือเทคโนโลยกีารศกึษา

Educational Technology Equipment Operation

รหัสวิชา161429 3(1-4-4) บทท่ี1-6

ดร.นรนิธนนนทมาลย

สาขาเทคโนโลยทีางก ารศกึษาวิทยาลยัก ารศึก ษามหาวิทยาลัยพะเยา

เอกสารประกอบการสอน

161429 ปฏิบตั ิการใช้เคร่อื งมือเทคโนโลยกี ารศึกษา 3(1-4-4)
Educational Technology Equipment Operation
บทที่ 1-6

ดร.นรนิ ธน์ นนทมาลย์

กศ.บ. (เทคโนโลยีทางการศึกษา) เกียรตนิ ิยมอนั ดับ 2
ค.ม. (เทคโนโลยีและส่อื สารการศกึ ษา)
ค.ด. (เทคโนโลยีและส่อื สารการศกึ ษา)

สาขาเทคโนโลยีทางการศกึ ษา
วิทยาลัยการศกึ ษา มหาวิทยาลยั พะเยา

2564



คำนำ

เอกสารประกอบการสอน รายวิชา ปฏิบัติการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา
(Educational Technology Equipment Operation) รหัสวิชา 161429 เรียบเรียงขึ้นโดยมี
วัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้เป็นสื่อการสอนประกอบการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตร
ปริญญาตรี มหาวทิ ยาลยั พะเยา

เอกสารประกอบการสอนได้รวบรวมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ เครื่องมือเทคโนโลยี
การศึกษา เครื่องเสียง เครื่องฉาย การพิมพ์ และ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การผลิตวิดีโอ
การสอนร การออกแบบการสอน เพื่อประยุกต์ใช้ในจัดการเรียนการสอน โดยมีรายละเอียดทั้ง
ส่วนทีเ่ ปน็ ทฤษฎีและขนั้ ตอนในการปฏิบตั ิ เหมาะสำหรบั ที่ผู้ประกอบวิชาชีพครู ผสู้ อน อาจารย์
หรือบุคลากรทางการศึกษา หรือผู้ที่สนใจ เพื่อเป็นประโยชน์ในงานของตนเอง ภายในเล่มแบ่ง
เนื้อหาในการเรียนการสอน 12 บท แบ่งออกเป็น 2 เล่ม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสาร
ประกอบการสอนเล่มนี้ คงอำนวยความสะดวกต่อการเรียนการสอนตามสมควร และมี
ประโยชน์แก่นิสติ และผทู้ ีส่ นใจ

ขอกราบขอบพระคุณบิดา มารดา ครู อาจารย์ทุกท่าน ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชา
ความรู้ และเจ้าของผลงานทุกเรื่องที่ได้นำมาอ้างอิง ทำให้เอกสารประกอบการสอนเล่มนี้
สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และขอบคุณกำลังใจจากครอบครัวอันที่เป็นที่รัก หากมีข้อผิดพลาด
ประการใด ผรู้ วบรวมยินดีรับฟังข้อเสนอแนะเพือ่ นำไปปรบั ปรุงในโอกาสตอ่ ไป

นรนิ ธน์ นนทมาลย์
สาขาวิชาเทคโนโลยีทางการศกึ ษา
วิทยาลยั การศกึ ษา มหาวิทยาลัยพะเยา

เมษายน 2564



สารบัญ

คำนำ หน้า
สารบญั ก
สารบัญรปู ภาพ ค
แผนการสอนประจำบทท่ี 1 ช
บทท่ี 1 เครือ่ งมือเทคโนโลยีการศึกษา 1
5
ความหมายของเคร่อื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา 5
ความสำคญั ของเครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา 7
ประเภทของเครอ่ื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา 12
ข้อดแี ละข้อจำกัดของเครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา 71
สรปุ ท้ายบท 90
คำถามท้ายบท 90
เอกสารอ้างอิง 91
แผนการสอนประจำบทท่ี 2 97
บทท่ี 2 ความรู้พ้ืนฐานไฟฟา้ อิเล็กทรอนิกสก์ ับเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา 101
ความหมายของไฟฟ้า 101
ความหมายของศัพทท์ างไฟฟ้า 103
ความเป็นมาของไฟฟ้า 107
ต้นกำเนิดของไฟฟ้า 113
ประเภทของไฟฟ้า 120
อปุ กรณ์ไฟฟ้าทีค่ วรทราบ 123
วงจรไฟฟ้าเบือ้ งต้น 150
วิธีคํานวณ วงจรไฟฟ้า 156
สถาบันทดสอบมาตรฐานผลิตภณั ฑไ์ ฟฟ้า 159
การตรวจสอบเคร่อื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษากอ่ นใช้ไฟฟ้า 161
การใช้เครือ่ งมือเทคโนโลยีทางการศึกษาอยา่ งปลอดภัย 161
การปฐมพยาบาลผถู้ ูกไฟฟ้าดดู 163
สรุปท้ายบท 164

ง หน้า
165
คำถามท้ายบท 167
บรรณานุกรม 171
แผนการสอนประจำบทท่ี 3 177
บทท่ี 3 เครื่องฉาย
ประวตั ิความเปน็ มาของเครื่องฉาย 177
ความหมายของเครอ่ื งฉาย 183
ความสำคญั ของเครือ่ งฉาย 186
องค์ประกอบของการฉาย 186
ประเภทของจอ 198
การพิจารณาเลือกจอฉาย 213
ตำแหนง่ จอกบั เครื่องฉาย 214
การเกบ็ บำรุงรกั ษาจอ 223
สภาพของการฉายทีด่ ี 224
ประเภทของระบบการฉาย 225
ประเภทของเครอ่ื งฉาย 229
เครือ่ งฉายในอดีต 242
มาตรฐานการวัดความสว่าง (ANSI Lumens) 247
ศพั ท์พืน้ ฐานกอ่ นเลือกโปรเจคเตอร์ 248
ข้อควรคำนึงในการใชเ้ ครื่องฉาย 250
การบำรงุ รกั ษา และการใช้งานเครือ่ งฉายโปรเจคเตอร์ 251
สรปุ ท้ายบท 254
คำถามท้ายบท 254
บรรณานุกรม 255
แผนการสอนประจำบทท่ี 4 259
บทท่ี 4 เครือ่ งเสียง 263
ประวตั ิความเป็นมาของเครื่องเสียง 264
ความหมายของเสียง 270
แหลง่ กำเนิดเสียง 276
การรับเสียงจากหู และ การได้ยิน 279

จ หน้า
285
ความหมายของระดับของเสียง 286
การกำทอนของเสียง 290
การสะท้อนของคลน่ื เสียง 292
การแทรกสอดของเสียง 299
การเคลือ่ นทีข่ องเสียง 302
การหกั เหของเสียง 304
การเลีย้ วเบนของเสียง 305
เสียงรบกวน 307
ความดังของเสียง 311
ระบบการขยายเสียง 312
ระบบเครื่องเสียง 317
สรปุ ท้ายบท 317
คำถามท้ายบท 319
บรรณานุกรม 323
แผนการสอนประจำบทท่ี 5
บทท่ี 5 ภาคนำสญั ญาณเขา้ 327
ภาคนำสญั ญาณเข้า 327
ไมโครโฟน 327
หลักการทำงานของไมโครโฟน 328
ประเภทของไมโครโฟน 329
สายกบั ขั้วต่อไมโครโฟน 382
ปลัก๊ แจก็ และหัวต่อทีใ่ ช้กับไมโครโฟน 388
อุปกรณ์ที่ใชก้ ับไมโครโฟน 393
การเลือกไมโครโฟนเพื่อการใชง้ าน 404
การใชง้ าน และการรกั ษาไมโครโฟน 406
สรปุ ท้ายบท 416
คำถามท้ายบท 416
บรรณานุกรม 417
แผนการสอนประจำบทท่ี 6 421

ฉ หน้า
425
บทท่ี 6 ภาคขยายสัญญาณ
ความหมายของเครอ่ื งขยายเสียง 425
สว่ นประกอบของเครือ่ งขยายเสียง 425
ประเภทของเครอ่ื งขยายเสียง 430
ลกั ษณะของเครือ่ งขยายเสียง 435
จุดเด่นของแอมป์ทีด่ ี 489
ลกั ษณะของเครื่องขยายเสียงที่ดี 490
การเลือกเครอ่ื งขยายเสียงเพื่อใช้งาน 490
การใชง้ านเครือ่ งขยายเสียง 494
การบำรุงรักษาเครือ่ งขยายเสียง 496
ข้อควรระวังในการใชเ้ ครื่องขยายเสียง 497
สรุปท้ายบท 497
คำถามท้ายบท 497
บรรณานกุ รม 499



สารบญั รูปภาพ

ภาพที่ หน้า
1.1 Diigo เคร่อื งมอื บุก๊ มาร์กทางสงั คม
1.2 Flipgrid เครือ่ งมอื สร้างและแบ่งปนั วิดีโอ 27
1.3 VideoAnt เครื่องมือที่ชว่ ยในการใส่คำอธิบายประกอบวิดีโอ 27
1.4 Padlet เครือ่ งมือการทำงานร่วมกนั ของกลุ่มหลายรูปแบบ 27
1.5 Google Drive เคร่อืงมอืในการแบ่งปนั เอกสารและทำงานเอกสารรว่ มกนั 28
1.6 Dropbox บริการฝากและแบง่ ปันไฟลอ์ อนไลน์ 28
1.7 Box บริการฝากและแบ่งปันไฟลอ์ อนไลน์ 29
1.8 ADrive บริการฝากและแบ่งปันไฟล์ออนไลน์ 29
1.9 OneDrive บริการฝากและแบง่ ปนั ไฟลอ์ อนไลน์ 30
1.10 Mega บริการฝากและแบง่ ปันไฟล์ออนไลน์ 30
1.11 Thunkable เครือ่ งมอื ในการสรา้ งแอปพลิเคชัน 31
1.12 Roblox เครือ่ งมอื ในการสร้างเกม 32
1.13 Thinglink เครื่องมอื ในการแสดงความคิดเห็นออนไลน์ร่วมกัน 32
1.14 MindMeister เครื่องมือในการสร้าง Mind Map ออนไลน์ 33
1.15 Bonus - BSD Online เครื่องมอื ในการเรียนออนไลน์ 33
1.16 EVE-NG เครื่องมือจำลองสภาพแวดล้อมเครอื ขา่ ย 34
1.17 CISCO Packet Tracer เครือ่ งมือในการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรกู้ าร 35
1.18 GNS3 เครือ่ งมอื ในการจำลองเครือข่าย 35
1.19 VIRL เครือ่ งมอื จำลองเครือข่ายเสมอื น 36
1.20 Boson NetSim โปรแกรมจำลองเครือข่าย 36
1.21 . PuTTy โปรแกรมจำลองคอื การเชือ่ มต่อคอมพิวเตอร์ 37
1.22 WhatsUp Gold เครือ่ งมือจดั การโครงสรา้ งพ้ืนฐานและกิจกรรมเครือข่าย 37
1.23 EventSentry เครือ่ งมือตรวจสอบความปลอดภัยของเครือข่าย 38
38

ซ หน้า

ภาพที่ 39
1.24 iDrive เครือ่ งมอื เก็บข้อมูลออนไลน์ 40
1.25 pCloud เครือ่ งมอื เก็บข้อมูลออนไลน์ 40
1.26 iCloud เครื่องมอื เก็บข้อมลู ออนไลน์ 41
1.27 NextCloud เครือ่ งมอื เก็บข้อมูลออนไลน์ 41
1.28 SpiderOak เครื่องมือเก็บข้อมูลออนไลน์ 42
1.29 Dacast เครือ่ งมือในการสร้างโฮสตว์ ิดโี อ 43
1.30 Panopto เครื่องมือในการสตรมี วิดโี อ 43
1.31 Vimeo โฮสติ้งวิดีโอ 44
1.32 Kaltura แพลตฟอร์มใหบ้ ริการวิดโี อออนไลน์ 44
1.33 Youtube แพลตฟอร์มใหบ้ ริการวิดโี อออนไลน์ 45
1.34 tiktok แอปพิเคชันให้บริการวิดโี อออนไลน์ 47
1.35 monday.com แพลตฟอรม์ ตดิ ตามกระบวนการภายในทีม 47
1.36 TeamGantt แพลตฟอร์มตดิ ตามกระบวนการภายในทีม 48
1.37 ProWorkflow แพลตฟอรม์ จดั การโครงการและการสอื่ สารภายในทีม 49
1.38 Teamwork แพลตฟอร์มจัดการโครงการและการสื่อสาร ภายในทีม 49
1.39 Nutcache เครื่องมอื จัดการโครงการ การสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน 50
1.40 ZOOM เครื่องมือที่ใชใ้ นการประชุมทางไกล 50
1.41 Google Meet เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการประชุมทางไกล 51
1.42 LINE เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการตดิ ตอ่ สื่อสาร 51
1.43 Telegram เครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการตดิ ต่อสื่อสาร 52
1.44 Microsoft Teams เครื่องมอื ทีใ่ ชใ้ นการติดตอ่ สือ่ สาร 53
1.45 Edublogs Campus เครอ่ื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการจดั การเนื้อหาออนไลน์ 53
1.46 Audacity เครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการพอ็ ดคาสทแ์ ละตัดต่อเสียง 54
1.47 Elgg เครือ่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการจดั การเนือ้ หาออนไลน์

ฌ หน้า

ภาพที่ 55
1.48 GoToMeeting เครือ่ งมือทีใ่ ชใ้ นการตดิ ต่อสือ่ สาร 55
1.49 Google Collaboration Tools เครื่องมอื ในการทำงานรว่ มกนั ออรนไลน์ 56
1.50 Facebook เครื่องมอื บริการเครือข่ายสงั คมออนไลน์ 56
1.51 Edmodo เครื่องมือบริการเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ 57
1.52 WordPress เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการจดั การเน้ือหาออนไลน์ 57
1.53 LinkedIn เครือ่ งมอื บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ 58
1.54 YouTube แพลตฟอรม์ ให้บริการวิดโี อออนไลน์ 59
1.55 Bit.ai เครื่องมอื การทำงานรว่ มกนั ของเอกสารและการจดั การเน้ือหาบน
คลาวด์ 59
1.56 Jumpshare เครื่องมือในการแบง่ ปนั ไฟลแ์ ละการทำงานร่วมกนั 60
1.57 Microsoft OneDrive เครื่องมอื ในการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ 60
1.58 Amazon Drive เครื่องมอื ในการจดั เก็บข้อมลู บนคลาวด์ 61
1.59 Hightail เครื่องมอื ในการจดั เกบ็ ข้อมลู บนคลาวด์ 61
1.60 Kahoot! เครอ่ื งมอื การเรียนรู้ผา่ นเกม 62
1.61 Class Dojo เครื่องมือในการจัดการเรียนการสอน 62
1.62 Clickers เครือ่ งมอื ในการจัดการเรียนการสอน 63
1.63 Edvoice เครื่องมือในการจดั การเรียนการสอน 63
1.64 Prezi เครื่องมอื ในการสร้างงานนำเสนอออนไลน์ 64
1.65 Mentimeter เครื่องมือในการกระตนุ้ ให้เกิดการมสี ่วนรว่ มในชนั้ เรียน 64
1.66 Sildo เครื่องมอื ในการกระตนุ้ ให้เกิดการมีส่วนรว่ มในชนั้ เรียน 65
1.67 Quizizz เครื่องมอื ในการสร้างแบบทดสอบออนไลน์ 65
1.68 Nearpod เครื่องมือในการบริหารจัดการสอ่ื การเรียนการสอน 66
1.69 Padlet เครือ่ งมอื ในการแสดงความคิดเห็นออนไลน์ 67
1.70 Coogle เครือ่ งมอื ในการสร้าง mind map ออนไลน์รว่ มกนั

ญ หน้า

ภาพที่ 68
1.71 Evernote เครือ่ งมือในการจดั บันทึก 68
1.72 OneNote เครือ่ งมอื ในการจัดบันทึก 69
1.73 Notion เครื่องมอื ในการจดั บันทึก 70
1.74 Apple Notes เครื่องมือในการจดั บนั ทึก 70
1.75 Slite เครื่องมอื ในการจัดบันทึก 113
2.1 แหลง่ กำเนิดไฟฟ้า 114
2.2 ไฟฟ้าเกิดจากการเสียดสี 114
2.3 ไฟฟ้าเกิดจากการทาปฏิกิรยิ าทางเคมี 115
2.4 แหล่งกำเนิดไฟฟ้าเซลล์ปฐมภูมิ (Primary Cell) 116
2.5 ไฟฟ้าเกิดจากความรอ้ น 116
2.6 แท่งโลหะ 117
2.7 ไฟฟ้าเกิดจากแสงสว่าง 118
2.8 ไฟฟ้าเกิดจากแรงกดดัน 119
2.9 หลักการขดลวดตัดผ่านสนามแม่เหลก็ 119
2.10 เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง 119
2.11 เครือ่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั 120
2.12 โครงสรา้ งของเครือ่ งกำเนิดไฟฟ้า 120
2.13 ประจบุ วกและประจลุ บ 121
2.14 หลกั การไฟฟ้ากระแสตรง 121
2.15 โครงสรา้ งแบตเตอรี่รถยนต์ 122
2.16 การกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 122
2.17 หลกั การไฟฟ้ากระแสสลับ 123
2.18 สายไฟแรงสงู 124
2.19 สายทนความร้อน

ฎ หน้า

ภาพที่ 125
2.20 สายคู่ ใชเ้ ดินในอาคารบ้านเรือน 125
2.21 สายคู่ มลี กั ษณะอ่อน 126
2.22 สายเดี่ยว 126
2.23 เต้ารบั หรือปลก๊ั ตัวเมีย และ เต้าเสียบหรอื ปล๊ักตัวผู้ 127
2.24 เต้าเสียบหรอื ปลั๊กตวั ผแู้ บบแบน 127
2.25 เต้าเสียบหรอื ปลก๊ั ตัวผแู้ บบกลม 128
2.26 เต้าเสียบหรอื ปลก๊ั ตัวผู้ 3 ขา 128
2.27 เต้ารับ หรอื ปลัก๊ ตวั เมีย 130
2.28 ฟิวส์ชนดิ อย่ใู นหลอดแก้ว 130
2.29 ฟิวส์ชนดิ ก้ามปู 131
2.30 ฟิวส์ชนิดเส้น 131
2.31 ฟิวส์ชนดิ กระเบื้อง 131
2.32 ฟิวส์อัตโนมัติ 132
2.33 หมอ้ แปลงไฟฟ้า 141
2.34 สวิตช์ไฟฟ้า 142
2.35 ลักษณะการต่อวงจรไฟฟ้า 143
2.36 สวิตช์แบบเลือ่ น 143
2.37 สวิตช์แบบเลือ่ น 144
2.38 สวิตชแ์ บบกระดก 144
2.39 สวิตช์แบบก้านยาว 144
2.40 สวิตช์แบบหมุน 145
2.41 สวิตช์แบบไมโคร 145
2.42 สวิตชแ์ บบดิพ 146
2.43 สายดิน

ฏ หน้า

ภาพที่ 150
2.44 การไหลของกระแสไฟฟ้า และ การไหลของอิเลก็ ตรอน 151
2.45 สว่ นประกอบของวงจรไฟฟ้า 151
2.46 วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม 152
2.47 วงจรไฟฟ้าแบบขนาน 153
2.48 วงจรไฟฟ้าแบบผสม 154
2.49 สญั ลกั ษณใ์ นวงจรอิเลก็ ทรอิกส์ 155
2.50 การต่อวงจรแบบอนกุ รม 155
2.51 การตอ่ วงจรแบบขนาน 156
2.52 เปรียบเทียบการต่อแบบอนุกรมและแบบขนาน 156
2.53 สมการกฎของโอหม์ 157
2.54 วงจรอนกุ รม 157
2.55 วงจรขนาน 158
2.56 วงจรแบ่งแรงดันไฟฟ้าขณะไมม่ ีโหลด 158
2.57 วงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟ้าขณะมโี หลด 159
2.58 วงจรแบ่งแรงดันไฟฟ้าขณะมโี หลด 160
2.59 เครื่องหมาย มอก. 181
3.1 โปสเตอรภ์ าพยนตร์การ์ตูน เร่ือง First Aiders 185
3.2 เครื่องฉายวสั ดุทึบแสง (opaque projector) 188
3.3 หลอดฉาย 189
3.4 หลอดอินแคนเดสเซนต์ 189
3.5 หลอดฮาโลเจน 190
3.6 หลอดภาพคว๊อด-ไอโอดีน 190
3.7 เลนส์ควบแสง 191
3.8 เลนสค์ วบแสงที่บีบลำแสงให้ส่องผา่ นแผน่ สไลดท์ ั้งหมด

ฐ หน้า

ภาพที่ 191
3.9 เลนสค์ วบแสงตัวที่ 2 ทำหน้าที่บีบแสงให้ผ่านเลนส์ฉายทั้งหมด 192
3.10 Projection Lenses 194
3.11 จอแก้ว 194
3.12 จอผิวเรียบหรือผวิ เกลี้ยง 195
3.13 จอเงนิ 195
3.14 จอเลนติคลู ่า 196
3.15 จอเอ็ดตาไลท์ 197
3.16 ชนิดฉายสะท้อนกระจกเงา 197
3.17 ชนิดฉายภาพผ่านจอโดยตรง 198
3.18 มมุ ในการสะท้อนภาพระหว่างเครือ่ งฉายกบั จอรบั ภาพ 198
3.19 จอฉายหนา้ 199
3.20 จอฉายหลงั (Rear Projection Screen) 200
3.21 จอฉายหลัง (Transparent Screen) 200
3.22 จอฉายสองด้าน 201
3.23 จอฉายขนาด Square Format (1:1) 201
3.24 จอฉาย Video Format (4:3/1.33) 202
3.25 จอฉาย HDTV format (16:9/1.78) 203
3.26 จอโปรเจคเตอรแ์ บบมือดึง 203
3.27 จอโปรเจคเตอร์แบบมอเตอร์ไฟฟ้า 204
3.28 จอโปรเจคเตอร์แบบมอเตอร์ไฟฟ้าขงึ ตึง 204
3.29 จอโปรเจคเตอร์แบบขาตั้ง 205
3.30 จอโปรเจคเตอร์แบบต้ังพื้น 205
3.31 จอโปรเจคเตอร์แบบตั้งพืน้ 206
3.32 จอโปรเจคเตอรส์ ำหรับดูหนัง



ภาพที่ หน้า
3.33 จอเกลีย้ งหรอื จอเรียบ
3.34 จอแก้ว หรือ จอพื้นทรายแก้ว 207
3.35 จอแสดงภาพแบบ Rear 208
3.36 จอแสดงภาพแบบ High Definition 209
3.37 จอแลนตคิ ูล่า 209
3.38 จอเงิน 210
3.39 จอเงนิ จอกลางวนั (Daylight Screen) หรือ จอทรานสลเู ซนต์ (Translucent) 211
3.40 จอแบบเอคตาไลท์ 211
3.41 Keystone Effect สีเ่ หลี่ยมคางหมูฐานกว้างด้านซ้าย 212
3.42 Keystone Effect สีเ่ หลี่ยมคางหมฐู านกว้างด้านขวา 214
3.43 Keystone Effect สีเ่ หลีย่ มคางหมูฐานกว้างด้านบน 214
3.44 Keystone Effect สีเ่ หลี่ยมคางหมฐู านกว้างด้านล่าง 215
3.45 ระยะในการตงั้ เครื่องฉายที่เหมาะสม 215
3.46 กฎ 2 x 6 ในการคำนวณระยะในการตงั้ เครื่องฉาย 216
3.47 ระยะในการตงั้ จอภาพ 217
3.48 การเลือกเลือกโปรเจคเตอร์ตามขนาดของห้อง 217
3.49 การพิจารณาจากตำแหน่งการติดตง้ั โปรเจคเตอร์ 218
3.50 การพิจารณาจากปริมาณแสงรบกวนในพืน้ ที่ฉาย 218
3.51 ขนาดของจอภาพและระยะทีต่ ้องการในการฉาย 219
3.52 ขนาดของจอภาพและระยะทีต่ ้องการในการฉาย 220
3.53 ขนาดของจอภาพและระยะที่ต้องการในการฉาย 221
3.54 ความสัมพันธ์ระหว่างผชู้ มกับจอรบั ภาพ 222
3.55 ระบบฉายตรง 224
3.56 ระบบฉายอ้อม 226
227

ฒ หน้า

ภาพที่ 228
3.57 ระบบฉายสะท้อน 229
3.58 CRT PROJECTOR 230
3.59 LCD PROJECTOR 231
3.60 LCD PROJECTOR 231
3.61 LCD PROJECTOR 232
3.62 DLP PROJECTOR 233
3.63 DLP PROJECTOR 234
3.64 โรงภาพยนตร์ 234
3.65 Single DMD-chip 235
3.66 DLP Projector 235
3.67 จอรบั ภาพ 236
3.68 Chip DLP Projector 237
3.69 LCOS PROJECTOR 237
3.70 LCOS PROJECTOR 239
3.71 LASER PROJECTOR 239
3.72 LASER PROJECTOR 240
3.73 LASER PROJECTOR 241
3.74 ตารางเปรียบเทียบคณุ สมบตั ิของ LCD, DLP, LCOS, LASER Projector 241
3.75 Mini Projector 242
3.76 Mini Projector 243
3.77 เครื่องฉายสไลด์ 244
3.78 เครือ่ งฉายฟิล์มสตริป 244
3.79 เครื่องฉายภาพยนตร์ 245
3.80 เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ หรอื โอเวอรเ์ ฮด

ณ หน้า

ภาพที่ 247
3.81 เครือ่ งฉายภาพทึบแสงหรอื เคร่อืงโอเป๊บ (Opaque Projector) 274
4.1 คลื่นเสียง 274
4.2 ทิศทางเคลือ่ นทีข่ องเสียง 275
4.3 ความถีเ่ สียง 275
4.4 ความถีเ่ สียง 277
4.5 การสั่นสะเทือนของสอ้ มเสียง 279
4.6 หูและการได้ยิน 281
4.7 เซลลข์ นรับคลื่นเสียง (ขยายประมาณ 600 เท่า) 283
4.8 ลำดับข้ันตอนในการได้ยินเสียง 284
4.9 องค์ประกอบของการได้ยิน 284
4.10 แหล่งกำเนิดเสียงที่เกิดการสะเทือน 285
4.11 อตั ราเรว็ ของเสียง 287
4.12 มาตราของเสียงดนตรี 288
4.13 การเกิดคลื่นนิ่งในท่อปลายเปิดท้ังสองข้าง ยาว L 289
4.14 การเกิดคลืน่ นิง่ ในทอ่ ปลายปิด ยาว L 290
4.15 การสะท้อนของคล่นื เสียง 293
4.16 การแทรกสอดแบบหักล้าง 293
4.17 การแทรกสอดของคล่ืน 2 ขบวน 293
4.18 ลวดลายการแทรกสอด 294
4.19 การดดู ซบั เสียง 295
4.20 การดดู ซับเสียง 295
4.21 ค่าดูดซบั เสียงของวัตถุ 296
4.22 การสะท้อนกลับไปกลบั มา 297
4.23 การป้องกนั เสียง และการดูดซับเสียง

ด หน้า

ภาพที่ 297
4.24 วสั ดุรพู รุน 299
4.25 การเคลื่อนที่ของเสียง 300
4.26 คลื่นตามยาวในลวดสปริง 300
4.27 สว่ นอัดและส่วนขยายเมื่อใหค้ ลื่นเสียงผ่านอนุภาคของอากาศ 301
4.28 คลื่นเสียงผ่านอนุภาคของอากาศ 303
4.29 การหกั เหของเสียงในธรรมชาติ 304
4.30 การหักเหของเสียงในธรรมชาติ 304
4.31 การเลีย้ วเบนของเสียง 305
4.32 การเลีย้ วเบนของเสียง 306
4.33 เสียงรบกวนจากอุปกรณร์ ะบบปรบั อากาศ 306
4.34 เสียงรบกวนจากอปุ กรณ์ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง 308
4.35 ลักษณะของคลื่นเสียง ความยาวคลื่น แอมพลิจดู 310
4.36 ความดังเสียง 312
4.37 การขยายเสียงด้วยอุปกรณไ์ ฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 312
4.38 ระบบการขยายเสียงแบบโมโน 312
4.39 ระบบการขยายเสียงแบบสเตอริโอ 314
4.40 ระบบเสียง 5.1 Surround sound 315
4.41 ระบบเสียง 7.1 (front wide) 315
4.42 ระบบเสียง 7.1 (surround back) 316
4.43 ระบบเสียง 9.1 Surround sound 327
5.1 ไมโครโฟน 329
5.2 ไมโครโฟนแบบคารบ์ อน 329
5.3 ไมโครโฟนแบบคาร์บอน 330
5.4 ไดอะแฟรมกับผงคาร์บอนในไมโครโฟนแบบคาร์บอน

ต หน้า

ภาพที่ 330
5.5 ไดอะแฟรมกบั ผงคาร์บอนในไมโครโฟนแบบคาร์บอน 331
5.6 หลักการทำงาน 332
5.7 ไมโครโฟนแบบคริสตัลหรือเซรามิค 333
5.8 ไมโครโฟนแบบไดนามิค 334
5.9 หลักการทำงานของไมโครโฟนแบบไดนามิค 335
5.10 หลกั การทำงานของไมโครโฟนแบบไดนามิค 335
5.11 ไมโครโฟนแบบแมกเนติก 336
5.12 ไมโครโฟนแบบริบบ้อน หรือ เวโลซิต้ี 337
5.13 ไมโครโฟนแบบริบบ้อน หรอื เวโลซิต้ี 337
5.14 ไมโครโฟนแบบริบบ้อน หรอื เวโลซิต้ี 338
5.15 Passive Ribbon Microphone 338
5.16 Active Ribbon Microphone 339
5.13 การใชP้ hantom Power 339
5.14 Passive Ribbon Microphone 339
5.15 หลักการทำงาน Ribbon Microphone 341
5.16 ไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ 342
5.17 หลกั การทำงานของไมคค์ อนเดนเซอร์ 342
5.18 หลักการทำงานของไมค์คอนเดนเซอร์ 344
5.19 ไมโครโฟนแบบรับเสียงได้รอบทิศทางหรือโอมนิไดเร็คชั่นแนลไมโครโฟน 344
5.20 ไมโครโฟนแบบรบั เสียงได้รอบทิศทางหรือโอมนิไดเรค็ ช่ันแนลไมโครโฟน 345
5.21 การรับเสียงของไมโครโฟนแบบรับเสียงได้รอบทิศทาง 345
5.22 ไมโครโฟนแบบรบั เสียงได้สองทิศทาง หรอื ไบไดเรค็ ชัน่ แนลไมโครโฟน 345
5.23 ไมโครโฟนแบบรับเสียงได้สองทิศทาง หรอื ไบไดเรค็ ชัน่ แนลไมโครโฟน 346
5.24 ไมโครโฟนแบบรับเสียงด้านเดียว

ถ หน้า

ภาพที่ 347
5.25 ทิศทางการรับเสียงจากไมโครโฟนแบบรับเสียงด้านเดียว 348
5.26 ไมโครโฟนทิศทางเดียวชนดิ คารด์ อิอด 348
5.27 ไมโครโฟนทิศทางเดียวชนดิ คารด์ อิอด 348
5.28 ไมโครโฟนทิศทางเดียวชนดิ ซปุ เปอรค์ าร์ดิออด 348
5.29 ไมโครโฟนทิศทางเดียวชนดิ ซปุ เปอร์คาร์ดิออด 349
5.30 ไมโครโฟนทิศทางเดียวชนดิ ไฮเปอรค์ าร์ดิออด 349
5.31 ไมโครโฟนทิศทางเดียวชนดิ ไฮเปอรค์ าร์ดิออด 350
5.32 ไมโครโฟนทิศทางเดียวรปู แบบการรับเสียงแบบ Short Gun 350
5.33 ไมโครโฟนทิศทางเดียวรปู แบบการรับเสียงแบบ Short Gun 351
5.34 ทิศทางการรบั เสียงของไมโครโฟน 352
5.35 ไมโครโฟนชนดิ ความไวต่ำ หรือ ไมโครโฟนริมปาก 352
5.36 ไมโครโฟนชนดิ ความไวตำ่ หรือ ไมโครโฟนริมปาก 353
5.37 ไมโครโฟนชนิดความไวปานกลาง 353
5.39 ไมโครโฟนชนดิ ความไวปานกลาง 353
5.40 ไมโครโฟนชนิดความไวสูง 354
5.41 ไมโครโฟนชนิดความไวสงู มาก 354
5.42 ไมโครโฟนชนิดปรบั ความไวได้หรือเลือกความไวได้ 355
5.43 ไมโครโฟนริมปาก 355
5.44 ไมโครโฟนริมปาก 356
5.45 ไมโครโฟนห้อยคอ (neck Microphone or Lavalier Microphone) 356
5.46 ไมโครโฟนห้อยคอ (neck Microphone or Lavalier Microphone) 357
5.47 ไมโครโฟนไม่มีสายหรือแบบไร้สาย 358
5.48 กฎระเบียบเกีย่ วกับไมโครโฟนไร้สาย 360
5.49 ไมโครโฟนปืน

ท หน้า

ภาพที่ 361
5.50 ทิศทางการรับเสียงของไมโครโฟนปืน 362
5.51 โครงสร้างไมโครโฟนปืน 362
5.52 Electret Condensor 363
5.53 DC-Bias Condenser 364
5.54 การทำงานคือแผน่ ไดอะแฟรมของ DC-Bias Condenser 365
5.55 RF-Bias Condensor 366
5.56 ไมโครโฟนจาน 367
5.57 การตอบสนองคลื่นความถี่ไมโครโฟนจาน 368
5.58 ทิศทางการรับเสียงของไมโครโฟนจาน 369
5.59 ไมโครโฟนแบบบมู 370
5.60 ไมโครโฟนแบบมอถื ือ 371
5.61 ไมโครโฟนแบบตั้งโต๊ะ 371
5.62 ไมโครโฟนชุดประชุมชนิดตง้ั โต๊ะ 372
5.63 ไมโครโฟนชดุ ประชุมชนิดฝงั โต๊ะ 373
5.64 ไมโครโฟนยืนพดู 373
5.65 ไมโครโฟนแบบซูม 374
5.66 ไมโครโฟนแบบสเตอริโอ 374
5.67 ไมโครโฟนแบบสเตอริโอ 375
5.68 ไมโครโฟนแบบครอบศรษี ะ 376
5.69 ไมโครโฟนแบบยูเอสบี 376
5.71 ไมโครโฟนแบบยูเอสบี 377
5.73 ไมค์โครโฟนหัว micro usb กบั Lighting 377
5.74 ไมค์โครโฟนหัว micro usb กับ Lighting 378
5.75 ไมโครโฟน

ธ หน้า

ภาพที่ 379
5.76 รายละเอียดของไมคโ์ ครโฟน 380
5.77 ไมโครโฟนทีม่ ีอิมพีแดนซเ์ อาต์พตุ ต่ำ 150 Ω 380
5.78 ไมโครโฟน ที่มีอิมพีแดนซเ์ อาตพ์ ุตกลาง 600 Ω 381
5.78 ไมโครโฟน ทีม่ ีอิมพีแดนซ์เอาต์พตุ กลาง 10,000 Ω 381
5.78 ไมโครโฟน ชนิดอิมพีแดนซค์ ู่ 382
5.79 สายกบั ข้ัวต่อไมโครโฟน 383
5.80 สว่ นประกอบของสายสญั ญาณ 384
5.81 ขนาดของสายสัญญาณ 385
5.82 สาย Balance (บาลานซ์) 385
5.83 ลักษณะของสาย Balance 386
5.84 หัวแจ็คที่ใช้กับสายสัญญาณแบบบาล๊านซ์ 386
5.85 สาย Unbalance 387
5.86 ลักษณะของสาย Unalance 387
5.87 หวั แจค็ ทีใ่ ช้กับสายสัญญาณแบบอลั บาลานซ์ 388
5.88 หัว XLR หรอื Canon 388
5.89 การเดินสายหวั หวั XLR หรอื Canon 389
5.90 หวั แบบ PHONE 6.3 MM TRS/TS 389
5.91 ขั้วตอ่ หวั แบบ PHONE 6.3 MM TRS/TS 390
5.92 ปล๊กั แจค็ แบบ RCA 391
5.93 TS Phone 6.3mm. หรือ โฟนโมโน 391
5.94 ขว้ั ตอ่ หัวแบบ TS Phone 6.3mm. หรอื โฟนโมโน 392
5.95 ปล๊กั แจ็คในแบบ MINI JACK 3.5 MM. TS/TRS 392
5.96 ปลัก๊ แจค็ ในแบบ MINI JACK 3.5 MM. TS/TRS 393
5.97 สายไมโครโฟนที่ตอ่ สาย Balanced และ สาย Unbalanced

น หน้า

ภาพที่ 394
5.98 ขาตั้งขาตั้งไมโครโฟนแบบมาตรฐาน 394
5.99 ขาตั้งบูม 395
5.100 ขาต้ังไมโครโฟนแบบโตะ๊ ทำงาน 396
5.101 ขาตั้งไมโครโฟนแบบยืนเหนือศรษี ะ 396
5.102 ขาตั้งไมคพ์ ิเศษ 397
5.103 ขาต้ังไมโครโฟนแบบยืนรายละเอียดต่ำ 397
5.104 ขาตั้งไมโครโฟนแบบสตดู ิโอบมู 398
5.105 ขาตั้งไมโครโฟนแบบแขนบูมโตะ๊ ปรับระดบั ได้ 400
5.106 คอจบั ไมค์ 400
5.107 คอจบั ไมคแ์ บบหนีบ 400
5.108 Microphone Windscreens 401
5.109 Windjammers 401
5.110 โฟม 402
5.111 Baskets / Blimps 402
5.112 Pop Filters 403
5.113 Pop filter 426
6.1 ภาคขยายสญั ญาณ (Amplifier) 428
6.2 ลักษณะการทำงานของเครือ่ งขยายเสียงที่มีทกุ ภาคอยใู่ นเครื่องเดียวกัน 429
6.3 สว่ นประกอบของเครือ่ งขยายเสียง 430
6.4 วงจรเครือ่ งขยายเสียงแบบโมโน 431
6.5 วงจรเคร่ืองขยายเสียงแบบสเตอริโอ 431
6.6 เครื่องขยายเสียงประเภทหลอดสุญญากาศ 432
6.7 วงจรเครือ่ งขยายเสียงประเภทหลอดสญุ ญากาศ 433
6.8 เครือ่ งขยายเสียงประเภทใช้ทรานซิสเตอร์

บ หน้า

ภาพที่ 434
6.9 เครื่องขยายเสียงประเภทใช้ไอซี 435
6.10 ระบบการขยายเสียง 436
6.11 ปรีแมนแอมป์ 436
6.12 ปรีแมนแอมป์ 437
6.13 รีซีฟเวอร์ 437
6.14 คารซ์ ีฟเวอร์ 438
6.15 มิวสคิ เซนเตอร์ 438
6.16 ปรีแอมป์ 439
6.17 ปรีแอมป์ 440
6.18 ปรีแอมป์ 440
6.19 ปรีแอมป์ 441
6.20 ปรีคาราโอเกะ 441
6.21 ปรีฟังเพลง 441
6.22 ปรีสำหรับภาพยนตร์ 442
6.23 คอนโทรลแอมป์ 443
6.24 โทนคอนโทรลแอมป์ 444
6.25 วงจรโทนคอนโทรลแอมป์ 445
6.26 เมนแอมป์หรือเพาเวอร์แอมป์ 446
6.27 input output ของสญั ญาณเสียง 447
6.28 เฮดแอมป์ 448
6.29 เครื่องขยายเสียงระบบคลาสเอ 449
6.30 สัญญาณเข้าและออกวงจรขยายคลาสเอ 449
6.31 วงจรขยายคลาสเอ 450
6.32 ภาคขยายของเครือ่ งขยายเสียงระบบคลาสเอ



ภาพที่ หน้า
6.33 เครือ่ งขยายเสียงระบบคลาสบี
6.34 ภาคขยายของเครื่องขยายเสียงระบบคลาสบี 451
6.35 กราฟแสดงเส้นโหลดของวงจรขยายคลาสบี 452
6.36 การผดิ เพีย้ นของสญั ญาณในวงจรขยายคลาสบี 453
6.37 คลื่นเสียงเข้าและออกผา่ นภาคขยายของเครื่องขยายเสียงระบบคลาสบี 454
6.38 เครือ่ งขยายเสียงระบบคลาสเอบี 454
6.39 ภาคขยายของเครื่องขยายเสียงระบบคลาสเอบี 455
6.40 จดุ ทำงานของคลาสเอบี 456
6.41 คลืน่ เสียงเข้าและออกผา่ นภาคขยายของเครื่องขยายเสียงระบบคลาสเอบี 457
6.42 การทำงานเบือ้ งต้นของ วงจรคลาสซี 458
6.43 คลืน่ เสียงเข้าและออกผ่านภาคขยายของเครือ่ งขยายเสียงระบบคลาสซี 459
6.44 เครื่องขยายเสียงระบบคลาสดี 459
6.45 วงจรเครื่องขยายเสียงระบบคลาสดี 460
6.46 การทำงานวงจรขยายคลาสดี 460
6.47 เครื่องขยายเสียงระบบคลาสจี 462
6.48 ภาคขยายของเครือ่ งขยายเสียงระบบคลาสจี 463
6.49 เครือ่ งขยายเสียงระบบคลาสจี 464
6.50 เครื่องขยายเสียงระบบคลาสเอช 464
6.51 ภาคขยายของเครือ่ งขยายเสียงระบบคลาสเอช 465
6.52 เครื่องขยายเสียงระบบคลาสที 466
6.53 ตารางเปรียบเทียบข้อดขี ้อเสีย ของแต่ล่ะรุ่น 467
6.54 เครือ่ งขยายเสียงประเภทพีเอ 469
6.55 XLR (EXTRA LOW RESISTANCE) 470
6.56 TRS (TIP RING SHEEVE) 472
472

ผ หน้า

ภาพที่ 473
6.57 เครื่องขยายเสียงประเภทใช้ในบ้าน 473
6.58 เครือ่ งขยายเสียงประเภทสะพายไหล่/มือถือ 475
6.59 โทรโขง่ 476
6.60 เครื่องขยายเสียงประเภทติดรถยนต์ 476
6.61 เครือ่ งขยายเสียงประเภทติดผนัง 478
6.62 DAC 479
6.63 External DAC 479
6.64 สายสัญญาณต่อ DAC 480
6.65 Portable USB DAC 481
6.66 Portable DAC 482
6.67 Desktop USB DAC 483
6.68 การใช้งาน DAC AMP 484
6.69 หูฟงั 484
6.70 AMP แบบพกพา 484
6.71 AMP แบบต้ังโต๊ะ 485
6.72 AMP ทีเ่ ปน็ อุปกรณเ์ สริมให้กับเครื่องเลน่ 485
6.73 การเชื่อมตอ่ ที่มี DAC กบั AMP แยกกัน 486
6.74 การเชอ่ื มตอ่ ทีม่ ีDAC/AMP ที่ร่วมกนั 486
6.75 การใช้งาน DAC AMP 486
6.76 สายสญั ญาณกบั เครื่องเล่นสำหรบั DAC AMP 486
6.77 สายสัญญาณกบั เครือ่ งเล่นสำหรับ DAC AMP 487
6.78 เครื่องขยายเสียง 491
6.79 รายละเอียดเครื่องขยายเสียง 492
6.80 ตู้ลำโพง

ฝ หน้า

ภาพที่ 492
6.81 รายละเอียด เครื่องขยายเสียงแบรนด์ EV รุ่น Q66 II 494
6.82 การเช่อื มต่อ และ การใชง้ านเครื่องขยายเสียง 494
6.83 การใช้งานเครื่องขยายเสียง 495
6.84 การเชื่อต่อ และ การใช้งานเครื่องขยายเสียง

แผนการสอนประจำบทท่ี 1

เครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา

เนื้อหา
1. ความหมายของเครอ่ื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา
2. ความสำคัญของเครือ่ งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา
3. ประเภทของเคร่อื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา
4. ข้อดแี ละข้อจำกัดของเครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา

วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
หลังจากจบการเรียนการสอนบทนีแ้ ล้ว นิสติ มคี วามสามารถดังนี้
1. นิสติ สามารถบอกความหมายของเครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาได้ถกู ต้อง
2. นิสติ สามารถบอกความสำคัญของเครอ่ื งมือเทคโนโลยีการศกึ ษาได้ถูกต้อง
3. นิสติ สามารถบอกความแตกต่างของประเภทเครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาได้
ถกู ต้อง
4. นิสติ สามารถบอกข้อดีและข้อจำกัดของเครือ่ งมือเทคโนโลยีการศกึ ษาได้ถูกต้อง

กิจกรรมการเรยี นการสอน
กอ่ นเขา้ ชน้ั เรยี น
1. ผู้สอนติดต่อนิสิตให้เข้าระบบการจดั การเรยี นการสอน
2. ให้นิสิตศึกษาวิดีโอปฐมนิเทศ และเอกสารคำอธิบายรายวิชา
3. ให้นิสิตเข้าร่วมกิจกรรม “ทำความรู้จักกันก่อนเรียน” โดยจะให้ผู้เรียนตั้งกระทู้

แนะนำตนเอง เกีย่ วกบั
3.1 ชือ่ นามสกลุ ชือ่ เลน่
3.2 ประวตั ิโดยยอ่
3.3 เหตุผลในการเรียนสาขาการศึกษา / สิ่งทีค่ าดหวงั ในการเรียนวิชานี้
3.4 สิ่งทีจ่ ะฝากถึงอาจารยป์ ระจำวิชา
3.5 ให้ผเู้ รียนแนบไฟล์ภาพ (รูปภาพ) ของนิสิต แล้วต้ังกระทู้

2

4. ให้นิสิตเปลี่ยนรูป Profile ที่ใช้ในระบบการจัดการเรียนการสอน และ
ทำแบบสอบถามการเรียนในรายวิชา

5. ก่อนเริ่มเรียนให้นิสิตบอกความหมายของคำว่า “เครื่องมือเทคโนโลยี
การศกึ ษา” โดยพิมพล์ งในกระดานแสดงความคดิ เห็นออนไลน์

6. ให้นิสติ ทำแบบทดสอบแบบ 4 ตัวเลือก เรื่อง เครื่องมือเทคโนโลยีการศกึ ษา
7. ให้นิสติ ศกึ ษาวิดีโอการสอน เรื่อง เครือ่ งมือเทคโนโลยีการศกึ ษา
8. ให้นิสติ ศกึ ษาเนือ้ หาจากเอกสารประกอบการสอน

ในชั้นเรยี น
9. ผู้สอนบรรยายแบบมีปฏิสัมพันธ์ (มีสรุปเนื้อหาเรื่องเครื่องมือเทคโนโลยี

การศึกษา พร้อมยกตัวอย่างเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา โดยใช้คำถามที่มีอยู่ในสไลด์
บรรยายดงั น้ี

- เครื่องมือเทคโนโลยีการศกึ ษา คืออะไร
- เครื่องมือเทคโนโลยีการศกึ ษา มีความสำคญั อย่างไร
- ประเภทของเครอ่ื งมอื เทคโนโลยี มีอะไรบ้าง
- ความแตกต่างของเครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาแต่ละประเภท คืออะไร
- ข้อดขี องเครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา มีอะไรบ้าง
10. ผู้สอนมอบหมายให้นิสิตทำแผนผังความคิดออนไลน์ร่วมกัน โดยที่ผู้สอน
ชนี้ ำ เสนอแนะให้นสิ ิตรร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยกำหนดให้นิสติ แต่ละคนเขียนแสดงความ
คิดเหน็ เกี่ยวกบั เครือ่ งมือเทคโนโลยีทางการศกึ ษา ดงั น้ี
- ความหมายของเครือ่ งมือเทคโนโลยีทางการศกึ ษา
- ความสำคญั ของเคร่อื งมอื เทคโนโลยีทางการศกึ ษา
- ประเภทของเครอ่ื งมอื เทคโนโลยีทางการศกึ ษา
- ข้อดขี ้อเสียของเครือ่ งมอื เทคโนโลยีทางการศกึ ษา
- ยกตัวอยา่ งเคร่อื งมอื เทคโนโลยีทางการศกึ ษา
11. ผสู้ อนสรุปความคิดเหน็ ของนิสติ ที่แสดงความคิดเหน็ ร่วมกนั
12. ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั การเรียนในเน้ือหา
13. ผู้สอนพูดคุยกับนิสิตในเนื้อหาที่จะเรียนในครั้งต่อไป และนัดหมายเวลา
เรียนในคร้ังตอ่ ไป

3

หลงั จากชัน้ เรียน
14. มอบหมายให้นิสิต ให้นิสิตถ่ายรูปโดยใช้ smartphone หรือ กล้องถ่ายรูป

ของนิสิตเอง จะต้องเป็นรูปที่ถ่ายด้วยตนเองเป็นไฟล์อยู่ในโทรศัพท์ หรือกล้องถ่ายรูป
(ไม่ใช่รูปที่นิสิตถ่ายแล้ว upload ไว้ใน Facebook, Instagram แล้ว download มา) จำนวน 5 รูป
ต้องเป็นรูปถ่ายไม่เห็นหน้าคน ไม่เห็น LOGO สินค้า ลิขสิทธ์ ต่างๆ โดยอาจจะถ่าย อาหาร
ท้องฟ้า ต้นไม้ใบหญา วิว ทิวทัศน์ สตั วเ์ ลยี้ ง พระอาทิตย์ตกดิน หรอื ในช่วงนี้ หน้ากากอนามัย
ไม่ติด LOGO หรอื ชว่ งนน้ี ิสติ อยู่บ้านอาจจะหาอะไรในบ้าน หรอื ถา่ ยสิง่ ของรอบๆตัวตามเงือนไข
ที่อาจารย์บอกว่า "ไม่เห็นหน้าคน ไม่เห็น LOGO สินค้า ลิขสิทธ์ ต่างๆ" ต้องเป็นภาพต้นฉบับที่
นสิ ิตถา่ ยมา แล้วนดั หมายวันทีใ่ ชภ้ าพดำเนินกิจกรรม

15. แนะนำให้นิสติ สมัครใช้งาน Padlet หลงั จากทีไ่ ด้ลองใชง้ านในกิจกรรม
16. อาจารย์มอบหมายให้นิสิตศึกษาวิดีโอการสอน เรื่อง ความรู้พื้นฐานไฟฟ้า
กบั เครือ่ งมือเทคโนโลยีการศกึ ษา ตอนที่ 1

สือ่ การเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอนบทที่ 1 เรื่อง เครือ่ งมอื ทางเทคโนโลยีทางการศึกษา
2. กระดานแสดงความคิดเห็นออนไลน์ (Padlet)
3. วิดีโอการสอนเรือ่ งเครื่องมือเทคโนโลยีการศกึ ษา
4. PowerPoint เรื่องเครื่องมือทางเทคโนโลยีทางการศกึ ษา
5. แบบทดสอบ 4 ตัวเลือก เรื่อง เครือ่ งมือเทคโนโลยีการศกึ ษา
6. ระบบการจัดการเรียนการสอน (https://lms.up.ac.th)
7. วิดีโอการสอน เรื่อง ความรู้พื้นฐานไฟฟ้ากับเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา
ตอนที่ 1

การวัดและประเมินผล
1. การร่วมอภิปรายและตอบคำถามในชนั้ เรียน
2. การสังเกตจากคำตอบของนิสิตที่บอกความแตกต่าง และข้อดีข้อเสีย ของ
เครือ่ งมือเทคโนโลยีการศกึ ษาแตล่ ะประเภท ระหว่างการเรยี นการสอน
3. การเขียนความหมายของเครื่องมือทางเทคโนโลยีทางการศึกษาที่นิสิตได้เขียนใน
Padlet
4. การตอบคำถามจากแบบทดสอบ 4 ตัวเลือก เรือ่ ง เครื่องมือเทคโนโลยีการศกึ ษา

4
5. ความสนใจและความรบั ผดิ ชอบในการเรียน

5

บทท่ี 1

เครือ่ งมือเทคโนโลยีการศึกษา

ปจั จุบนั เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในชีวติ ประจำวันเป็นอย่างยิ่ง จนส่งผลให้สังคมใน
ปัจจุบันก้าวสู่ยุคใหม่เป็นยุคที่มีเทคโนโลยี มีความสำคัญ และเนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลง
ทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ระบบการสื่อสารโทรคมนาคม มีผลกระทบสำคัญต่อระบบ
การศึกษา และการเรียนรู้ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ที่ผู้เรียนแต่ละบุคคลมีส่วนร่วมในการ
เรียนมีบทบาททั้งในโลกจริง และในโลกดิจิทัล ผู้เรียนจึงจำเป็นต้องอาศัยข้อมูล ที่มีอยู่ใน
สภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้แบบดิจิทัล นับเป็นการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ในสังคมไทยให้มี
คุณภาพทันยุคสมัย ซึ่งในการเรียนรู้ในปัจจุบันนี้ จึงได้มีเครื่องมือเทคโนโลยีเข้าช่วยทาง
การศกึ ษามากขึ้น
1. ความหมายของเครอ่ื งมือเทคโนโลยีการศึกษา

เครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการศึกษา โดยการนํา
สื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม และการจัดแหล่งทรัพยากร การเรียนรู้มา
ใช้เพื่อจัดให้การศึกษาที่สามารถผสมผสานระหว่าง การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ
และการศึกษาตาม อัธยาศัย เอื้ออํานวยให้ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้าได้ตามความ ต้องการ
เพื่อให้การเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกิดขึ้นได้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตทั้งด้าน
การศึกษาสาระความรู้ทางวิชาการ ทางศาสนา และศิลปะ วัฒนธรรม (ทบวงมหาวิทยาลัย,
2546) ซึ่งได้นำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อการออกแบบ และส่งเสริมระบบ
การเรียนการสอน โดยเน้นที่วัตถุประสงค์ทางการศึกษาที่สามารถวัดได้อย่างถูกต้องแน่นอน
มีการยึดหลกั ผเู้ รียนเปน็ ศูนย์กลางการเรียนมากกว่ายึดเนื้อหาวิชามีการใช้การศึกษาเชิงปฏิบัติ
โดยผ่านการวิเคราะห์และการใช้โสตทัศนูปกรณ์รวมถึงเทคนิ คการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์อื่น ๆ (Good C.,1973) เป็นวิธีปฏิบัติอย่างมีระบบเพื่อแก้ปัญหาการศึกษา และ
สนบั สนนุ การเรียนรู้ของมนุษยใ์ ห้ดำเนินไปอย่างมี ประสิทธิภาพด้วยการใช้ทรัพยากรการเรียน
และการจัดการที่เหมาะสมเทคโนโลยีการศึกษามิได้ หมายถึง เฉพาะของการใช้เครื่องมือ
(Hardware) และวัสดุ (Software) เท่านั้น แต่ยังหมายความรวมไปถึงวิธีการผสมผสาน
องค์ประกอบตา่ ง ๆ ท้ังหลายที่จะเกือ้ หนุนให้ผู้เรยี น เกิดการเรยี นรู้อยา่ งมีประสิทธิภาพ

ดังนนั้ ขอบขา่ ยโครงสรา้ ง และองคป์ ระกอบของเครื่องมือเทคโนโลยีการศกึ ษา จงึ กล่าว
ได้ว่าครอบคลุมการจัดดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษาทั้งหมด (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2533)
อีกทั้งกระบวนการบูรณาการที่เกี่ยวกับมนุษย์ วิธีดำเนินการ แนวคิด เครื่องมือ และอุปกรณ์

6

เพื่อการวิเคราะห์ปัญหา การคิดวิธีการนำไปใช้ และการจัดแนวทางการแก้ปัญหาในส่วนที่
เกี่ยวกับการเรียนรู้ทั้งมวลของมนุษย์ (AECT, 1977) เครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา จึงถือเป็น
รูปแบบทางการศึกษาที่เป็นวัตถุ สิ่งของ หรือกิจกรรมเข้าเป็นรูปสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ทางการ
ศึกษาที่ดีได้ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ต เพื่อถ่ายทอดข้อมูลทางการศึกษาผ่านสื่อ
เหล่านี้เข้าไปยังห้องเรียน หรือที่อยู่อาศัยของผู้เรียนที่ห่างไกลในรูปของบทเรียนสำเร็จรูป
บทเรียนออนไลน์ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และการเรียนผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ต
(Pea, 2000) ซึ่งความหมายของเทคโนโลยีการศกึ ษามีการเปลี่ยนแปลงตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ในฐานะกระบวนการเรียนรู้เป็นกรอบแนวคิดทฤษฎี และการปฏิบัติ และล่าสุดเป็นการศึกษา
และแนวปฏิบัติทางจริยธรรมในการจัดการกับกระบวนการทางเทคโนโลยี และทรัพยากร
เทคโนโลยีการศึกษาในปัจจุบัน หรือ EdTech สามารถนิยามได้ว่าเป็นทฤษฎี และแนวปฏิบัติใน
การออกแบบการพัฒนาการใช้ประโยชน์การจัดการ และการประเมินกระบวนการและ
ทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ตาม Seels & Richey (David, 2020) ที่สำคัญประการหนึ่งของ
เทคโนโลยีการศึกษามุ่งเน้นไปที่ "เครื่องมือและสื่อทางเทคโนโลยีที่ช่วยในการสื่อสารความรู้
และการพัฒนาและการแลกเปลี่ยน" ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มความเป็นจริง และความจริง
เสมือน Daniel Newman ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีได้เขียนเกี่ยวกับ “แนวโน้มการ
เปลี่ยนแปลงทางดจิ ทิ ัล 6 อันดบั แรกในการศึกษา” ใน Forbes.com

ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีกล่าวถึงการใช้ AR และ VR เพื่อ “ปรับปรุงการ
สอนของผู้สอนในขณะเดียวกันก็สร้างบทเรียนที่น่าสนใจซึ่งสนุก และมีส่วนร่วมสำหรับผู้เรียน
ด้วย” เขาเชิญชวนให้เราจินตนาการถึงการใช้ความจริงเสมือนเพื่อส่งผู้เรียนไปยังกรีกโบราณ
Gamification ผสมผสานระหว่างการเล่นและการเรียนรู้โดยใช้การเล่นเกมเป็นเครื่องมือในการ
เรียนการสอนตามที่ Newman อธิบายวา่ การผสมผสานเทคโนโลยีการเล่นเกมเข้ากับห้องเรียน
“สามารถทำให้การเรียนรู้เนื้อหาที่ยากน่าตื่นเต้น และโต้ตอบได้มากขึ้น” เป็นต้น อีกประการ
หนึ่งของเทคโนโลยีการศึกษามุ่งเน้นไปที่ทฤษฎี และการปฏิบัติในการใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อ
พัฒนาและใช้แนวทางการศึกษาที่เป็นนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ของผู้เรียน เบื้องหลังเครื่องมือไฮเทคทั้งหมด คือผู้สอนที่มีทักษะ และแรงบันดาลใจในการใช้
เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้เพื่อขยายจักรวาลทางการศึกษาของผู้เรียน ซึ่งประโยชน์สำหรับผู้เรียน
ได้แก่ โอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเรียนรู้ส่วนบุคคลห้องเรียนทีท่ ำงานร่วมกันได้มากขึ้นและกล
ยุทธใ์ หม่ ๆ เชน่ ส่งิ ทีเ่ รียกว่า "การเรียนรู้แบบ flipped learning" ซึ่งผเู้ รียนจะได้รับการแนะนำให้
รู้จักกับเนื้อหาวิชานอกห้องเรียน (มักจะเป็นออนไลน์) โดยใช้เวลาในห้องเรียน ทำความเข้าใจ
ให้ลึกซึง้ ยิง่ ขนึ้ ผา่ นการสนทนาและกิจกรรมแก้ปญั หากับเพื่อนรว่ มงาน (Joseph, 2020)

7

จงึ สามารถสรุปได้ว่าเครอ่ื งมอื เทคโนโลยีการศึกษา เป็นกระบวนการที่ดำเนินการ โดย
วิธีระบบมาจัดการเกี่ยวกับ วัสดุ เครื่องมือ รวมทั้งเทคนิควิธีการ และแนวคิดต่าง ๆ เพื่อ
นำมาใช้ในการแก้ปัญหาในระบบการเรียนการสอน และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบคุ คล
2. ความสำคัญของเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา

ความสำคัญของเทคโนโลยีในการศึกษาคือ ความสามารถในการเข้าถึงผู้เรียนจำนวน
มากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ท้ายที่สุดเทคโนโลยีอยู่รอบตัวเราและ
ยังคงขยายตัวในการใช้งานมากมายแม้ว่าหลายคนจะชอบพึ่งพาวิธีการสอนแบบเดิม ๆ แต่
ความเป็นไปได้ที่จะเปิดขึ้นเมื่อมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาในห้องเรียนนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ประการ
แรกการเข้าถึงการศกึ ษาได้รับการขยายวงกว้างอย่างมีนยั สำคัญซึ่งรวมถึงรูปแบบการเรียนรู้ที่
หลากหลายและตวั เลือกระดับปริญญา แมว้ า่ จะไม่ใช่ผเู้ รียน หรอื ผเู้ ช่ียวชาญด้านการศึกษา แต่
สิง่ สำคญั คือตอ้ งสังเกตถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในการศกึ ษา

ในการใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างแท้จริงผู้สอนควรถามตัวเองว่าทำไมผู้เรียนถึงต้องการ
เทคโนโลยีในห้องเรียน ไม่ใช่แค่เหตุผลที่พวกเขาต้องการ สามารถช่วยผู้เชี่ยวชาญด้าน
การศึกษาในการติดตามพัฒนาการของแต่ละบุคคลและการวางแผนบทเรียนเชิงนวัตกรรมได้
อย่างแน่นอน แต่ผู้เรียนที่เรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีสามารถสร้างชุดทักษะที่จะช่วยพวกเขาตลอด
อาชีพในอนาคตของพวกเขา

การนำเอาเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษามาใช้นั้น ส่วนใหญ่นำมาใช้ในการแก้ปัญหา
ในด้านการศึกษาก็เช่นเดียวกัน เพราะปัญหาทางด้านการศึกษามากมาย นอกจากนั้นการนำ
เครือ่ งมือเทคโนโลยีการศกึ ษา มาใช้ในการเรียนการสอน กเ็ พื่อเพิม่ ประสทิ ธิภาพทางการเรียน
การสอนและเพิ่มประสิทธิผลทางการศึกษาอีก โดยเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา มีบทบาท
สำคัญในการช่วยให้การจัดการศึกษา บรรลุอุดมการณ์การศึกษาตลอดชีวิตสำหรับทุกคนได้
อย่างแท้จริง (University of the People, 2020)

การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา มาช่วยในการ “เสริม” การเรียนการสอนในชั้น
เรียน เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น ปัญหาความแตกต่างของผู้เรียน ด้านพื้นฐานความรู้ ความ
แตกต่างด้านความเร็วในการเรียน และความแตกต่างของแบบการเรียน (Learning Style)
ตัวอย่าง เช่น ในการเรียนการสอนหลักที่เป็นแบบชั้นเรียน ผู้เรียนจำนวนมาก มีความแตกต่าง
ด้านพื้นฐานความรู้ทำให้ผู้เรียนส่วนหนึ่งตามไม่ทันขณะที่ผู้สอนเองก็มี ปัญหาในการปรับ
ความเร็ว ในการสอนให้สอดคล้องกบระดับความเร็วในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันของผู้เรียน

8

ดังนั้นผู้สอน สามารถเตรียมสื่อการเรียนรู้ในระบบอีเลิร์นนิง ให้ผู้เรียนไปเรียนที่ทบทวนด้วย
ตนเองนอกเวลาเรยี นได้ โดยสามรถสรุปความสำคัญของเคร่อื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาได้ดงั นี้

1. ช่วยนำประสบการณ์เข้ามาจัดการศึกษามวลประสบการณ์ที่เราจะจัดการศึกษานั้น
มีอยู่มากมายและหลากหลาย ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลตัว ผู้เรียน ถูกจำกัดด้วยระยะทางและ
กาลเวลา เทคโนโลยีการศึกษาก็ช่วยให้เราสามารถนำประสบการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้มาใน
โรงเรียนใหผ้ เู้ รียนได้ศกึ ษาโดยสะดวกรวดเรว็

2. ช่วยขยายแหล่งวิทยากรมนุษย์ ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด ให้สามารถใช้ได้อย่างกว้างขวาง
แหล่งวิทยากรมนุษย์ที่จะใช้ประโยชน์ในทางการศึกษานั้นมีอยู่จำกัด จึงต้องหาเครื่องมือที่
จะต้องขยายการใช้แหล่งวิทยากรมนุษย์ให้สามารถใช้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เทคโนโลยี
การศกึ ษาสามารถจะขยายการใชแ้ หล่งวิทยากรมนษุ ย์ใหก้ ว้างขวาง

3. ชว่ ยจดั สภาวะการเรียนได้อย่างหลากหลายความคิดใหม่ในด้านการเรียนรู้ของคน
น้ัน เราถือว่าคนเรียนได้ดีด้วยการกระทำแก้ปัญหา

ด้วยการเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ เรียนเป็นกลุ่มเล็ก และเรียนเป็นรายบุคคล สิ่งที่จะทำให้
สามารถจัดสภาวะการเรียนเชน่ น้ีได้ คือเทคโนโลยีการศกึ ษา

4. ทำให้คุณภาพของสถานศึกษาเท่าเทียมกันรัฐบาลมีนโยบาย ที่จะทำให้สถานศึกษา
ทุกหนทุกแห่งมีคุณภาพเท่าเทียมกัน เทคโนโลยีการศกึ ษา จะเปน็ วิธีหน่งึ ที่ดี ทีจ่ ะทำให้คุณภาพ
ของสถานศึกษามีความเท่าเทียมกนั

5. ทำให้เกิดผลการเรียนรู้หลายด้านความคิดในด้านการเรียนรู้อีกประการหนึ่ง การ
เรียนรู้คอื การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งการเรียนรู้ทีม่ ีการเปลี่ยนแปลงได้นั้น จะต้องมีผลการ
เรียนรู้ที่เกิดขึ้นทั้งพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัยเทคโนโลยีการศึกษาจะช่วยให้เกิดผลการ
เรียนรู้ดงั กล่าวได้เปน็ อยา่ งดี

6. ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เรียน ได้ลงมือกระทำด้วยตนเองจนเกิดการเรียนรู้
ความคิดเร่อื งบทบาทของผสู้ อนในการสอนน้ัน ปัจจุบันเหน็ วา่ การสอนน้ันมิใชก่ ารบอกกล่าวแต่
อย่างเดียว แต่การสอนนั้นเป็นการจัดอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เรียน เพื่อผู้เรียนได้ลงมือ
กระทำด้วยตนเองจนเกิดการเรียนรู้ ความคิดเช่นนี้ย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องนำเทคโนโลยี
การศกึ ษาเข้ามาในโรงเรยี น

7. ช่วยทำให้เกิดเหตุการณ์สอนที่สำคัญ ที่ทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพการสอนที่
เป็นระบบน้ัน ยอ่ มประกอบด้วยเหตุการณ์ตา่ ง ๆ อาทิเช่น

1) ดงึ ความต้ังใจ
2) ให้ผู้เรยี นทราบจดุ มุ่งหมาย

9

3) กระตุ้นผเู้ รียนให้ระลึกถึงสิง่ ที่เรียนมาแล้ว ซึง่ เปน็ สิ่งที่จำเปน็ แก่การเรียน
ใหม่

4) เสนอวสั ดสุ ิง่ เร้าเพื่อการเรียนรู้
5) จัดแนะแนวการเรียนรู้
6) กอ่ ใหเ้ กิดการประกอบกิจโดยผเู้ รียน
7) จดั ข้อมลู ป้อนกลับให้แก่การกระทำที่ถกู ต้อง
8) ตรวจสอบประเมินการประกอบกิจ
9) สนบั สนุนสง่ เสริมให้มคี วามคงทนในการจำ และการถา่ ยโยงการเรียนรู้นี่คือ
ระบบเหตุการณ์ของการสอน ซึ่งระบบนีเ้ ป็นเทคโนโลยีการศกึ ษา
8. ช่วยทำให้เกิดภาวะเบื้องต้น ที่จำเป็นสำหรับการเรียนการสอนนักจิตวิยาการศึกษา
ยอมรับกนั วา่ ภาวะเบื้องต้น อนั สำคญั ต่อการเรียนรู้ทุกประเภทน้ัน ได้แก่
1) การเกิดข้ึนไลเ่ ลี่ยกันของส่งิ เร้าและการตอบสนอง
2) การปฏิบตั ิ
3) การเสริมแรง
4) การได้ข้อสรุป
5) การจำแนกแยกแยะ
Anchal Malik (2017) ยังได้กล่าวถึง ความสำคัญของเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษาไว้
วา่ ในขณะที่โลกกำลังเปลีย่ นเปน็ ดิจิทัลการมเี ทคโนโลยีทีท่ ันสมัยในการศกึ ษาจึงมีความสำคัญ
เท่าเทียมกันเพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญบางประการที่แสดงความสำคัญ
ของเทคโนโลยีการศกึ ษาไว้ที่น่ี
1. ความต้องการของผเู้ รียน และผสู้ อน
การศึกษาในโลกดิจิทัลนี้ต้องการเทคโนโลยีจากทั้งผู้เรียนและผู้สอน ผู้สอนรู้ดีว่า
เทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างไรกับการศึกษา ในทำนองเดียวกันผู้เรียนต้องการเทคโนโลยี
เนื่องจากชีวิตของพวกเขาหมุนรอบสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ตัวอย่างเช่นด้วยโปรเจ็กเตอร์ใน
หอ้ งเรียนผู้สอนสามารถทำให้ผเู้ รียนเข้าใจหัวข้อได้อย่างง่ายดายด้วยวิดีโอและภาพเคลื่อนไหว
เพียงไม่กีภ่ าพ
2. เทคโนโลยีชว่ ยเพิม่ ประสบการณ์การเรยี นรู้
ทำไมเทคโนโลยีจึงดีต่อการศึกษา? คำถามนี้จะเกิดขึ้นในใจของคุณ คำตอบที่ง่ายและ
ตรงประเด็นที่สุดคือเทคโนโลยีให้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ตามรายงาน และการ
วิเคราะห์ของ Standford พวกเขาพบว่าเมื่อผู้สอนใช้เทคโนโลยีในวิธีที่เหมาะสมจะเป็นสัดส่วน

10

โดยตรงกับประสบการณก์ ารเรียนรทู้ ี่ดีของผเู้ รียนซึ่งจะนำไปสกู่ ารศกึ ษาที่มีคุณภาพสูงสำหรับ
ผเู้ รียน

3. การทดสอบสามารถทำได้ทางออนไลน์
การทำแบบทดสอบออนไลน์มีประโยชน์มากมาย ประการแรกผู้สอนสามารถกำจัด
โอกาสทีผ่ เู้ รียนจะโกงข้อสอบได้อยา่ งสมบูรณ์ ในขณะทีเ่ ทคโนโลยียึดมัน่ ในการทดสอบ สำหรับ
ผู้สอนการติดตามผลการเรียนของผู้เรียนจะเป็นเรื่องง่าย ด้วยเหตุนี้ผู้เรียนจะได้รับคะแนนการ
ทดสอบแบบเรียลไทม์ ด้วยการทดสอบออนไลน์ผู้สอนสามารถช่วยผู้เรียนจัดการกับการ
ทดสอบมาตรฐานในอนาคต
4. การปรบั ปรงุ ผลการเรียนของผเู้ รียน
การเรียนรู้แบบผสมผสานในการศึกษาเป็นแนวโน้มใหญ่ในเทคโนโลยีการศึกษา เมื่อมี
การนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้กับผู้เรียนจะทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้เรียน
สามารถสรุปชั้นเรียนได้ตลอดเวลาที่ต้องการเช่นกัน โดยรวมแล้วจะทำให้ผลการเรียนดีขึ้น
ในทางหนึง่ จะทำให้ผเู้ รียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ
5. เรียนรู้ได้ทุกทีท่ ุกเวลา
การมอี ะไรที่มากกว่าหนังสือเรียนทำให้ผเู้ รียนได้เรียนรู้แนวคิดต่างๆมากมาย และสิ่งที่
ดีที่สุดคือผเู้ รียนสามารถเรียนรู้แนวคิดใดก็ได้ทุกเวลาทีต่ อ้ งการเชน่ กัน ไม่มีขอ้ จำกัด เม่ือเข้าใจ
ถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในการศึกษา ผู้คนต่างก็คิดหาแอพเพื่อการศึกษาชั้นนำบางตัวที่
ทำให้การเรยี นรู้มปี ฏิสมั พันธส์ ำหรับผเู้ รียน
อีกทั้งเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษายังมีความสำคัญสูงสุดเช่น ช่วยให้ผู้เรียนพร้อม
สำหรับอาชีพในอนาคตซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้เทคโนโลยีการบูรณาการเทคโนโลยีนำเสนอวิธีการ
เรียนรู้ที่หลากหลายให้กับผู้เรียน เทคโนโลยีเปิดโอกาสให้ผู้เรียนทำงานร่วมกันเพื่อทำความ
เข้าใจแนวคิดอย่างลึกซึ้ง ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้และรับความรู้ในรูปแบบการเรียนรู้ที่น่าตื่นเต้น
ยิ่งขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีทำให้ (1) ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่อัปเดตได้ พวกเขาสามารถ
ค้นหาสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย และรวดเร็วมากขึ้น (2) ผู้เรียนสามารถค้นหาความหมายของแต่ละคำ
ได้โดยใช้ภาษาเดียวออนไลน์และพจนานุกรมสองภาษาในคู่ภาษาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว (3)
ผเู้ รียนสามารถอ่านหนังสือออนไลนไ์ ด้โดยไมเ่ สียค่าใช้จ่ายแทนที่จะซือ้ หนังสือในราคาสูง พวก
เขาสามารถสำรวจงานวิจยั ก่อนหน้านี้ และทำการศกึ ษาใหมใ่ นสาขาของตน (4) ผเู้ รียนสามารถ
โต้ตอบกับนักวิชาการทั่วโลกผ่านเว็บ (5) ผู้เรียนจากประเทศต่างๆสามารถโต้ตอบกันเพื่อ
แบง่ ปนั ความรู้และประสบการณข์ องพวกเขา

11

ในขณะนี้ระยะทางทางภูมิศาสตร์ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาอีกต่อไปเนื่องจาก
เทคโนโลยีเป็นโซลูชันสำหรับการศึกษาทางไกล มีหลักสูตรออนไลน์ที่แตกต่างกันบนเว็บและ
ผู้เรียนที่เข้าร่วมหลักสูตรออนไลน์เหล่านี้จะได้รับปริญญาหรืออนุปริญญาเพิ่มเติม กิจกรรม
ติดตามผลที่แตกต่างกันสามารถออกแบบมาเพื่อประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียน การใช้
ฐานขอ้ มลู ต่าง ๆ ที่สามารถติดตามความคืบหน้ายังมีประโยชน์ในการตรวจสอบการเติบโตของ
ผู้เรียน ผู้เรียนสามารถเก็บบันทึกหรือแหล่งข้อมูลที่มีค่าของตนไว้อย่างปลอดภัยเป็นระยะ
เวลานานผสู้ อนยงั สามารถบันทึกความก้าวหน้าของผเู้ รียนและเปรียบเทียบบันทึกในอนาคตกับ
บนั ทึกที่มคี ่าโดยไม่มีข้อผิดพลาด โดยทัว่ ไปเทคโนโลยีมีจุดศูนย์กลางในทุกด้านของชีวิต แต่มัน
ทำให้การศึกษามีความหมายใหม่ ขณะนี้ระบบการศึกษาของเราก้าวหน้าขึ้นเนื่องจากการใช้
เทคโนโลยี ด้วยเทคโนโลยีประสิทธิผลและประสิทธิผลสามารถคาดหวังได้จากทั้งผู้สอนและ
ผู้เรียน เป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของการ
ปฏิบัติการสอน เป็นการปูทางใหม่สำหรับผู้เรียนในการเรียนรู้ตลอดชีวิตและทำให้พวกเขา
ประสบความสำเร็จในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ การศกึ ษาจงึ ควรมีวิธีการทางเทคโนโลยี
ที่แตกต่างกันที่ใช้ในระบบการศึกษาเป็นไปในเชิงบวกมาก พวกเขามีความสร้างสรรค์ตาม
ธรรมชาติของพวกเขาอย่างมากเน่ืองจากพวกเขาให้วธิ ีการเรียนรู้ทีส่ ร้างสรรคแ์ ก่ผเู้ รียน ในโลก
นี้ผู้เรียนต้องการความแข็งแกร่งในการเชื่อมต่อกับผู้คนและร่วมมือกับพวกเขาเพื่อสื่อสาร
ข้อมลู และเทคโนโลยีช่วยใหผ้ เู้ รียนมีวธิ ีต่าง ๆ ในการสอ่ื สารกับผอู้ ื่น

นอกจากนี้เทคโนโลยียังมีประโยชน์ต่อการมีบทบาทในงานธุรการในสถาบันการศึกษา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังของเทคโนโลยีให้บริการกระบวนการเรียนรู้และทำให้ชีวิตของ ผู้เรียน
และผู้สอนสะดวกสบายและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น ภาคการศึกษามีความจำเป็นสำหรับทุกคน
เนื่องจากมีส่วนสำคัญในการเติบโตของโลก ข่าวสารเทคโนโลยีสารสนเทศเปน็ แหล่งที่ดีที่สุดที่
จะทราบเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่คิดค้นขึ้นซึ่งมีประโยชน์ในภาคการศึกษา (Techloner,
2019)

ดังนั้นการรวมเครื่องมือเข้ากับห้องเรียนจะช่วยให้กระบวนการเรียนรู้ง่ายขึ้นมาก
เทคโนโลยีจะช่วยลดความยุ่งยากในการทำงานของผู้สอนซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการ
สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้สอน และผู้เรียน ด้วยการใช้แท็บเล็ตที่เพิ่มขึ้นในห้องเรียนผู้เรียน
สามารถถามคำถาม และรับคำตอบจากผู้สอนได้ทันที พวกเขาจะทำความคุ้นเคยกบั เครื่องมือ
ทางเทคโนโลยีซึ่งเป็นทักษะที่น่าประทับใจสำหรับนายจ้างในอนาคต เครื่องมือการศึกษาฟรีที่
หาได้ทั่วไปทางออนไลน์ช่วยเพิ่มการเข้าถึงการศึกษาทั่วโลก นอกเหนือจากการเข้าถึงข้อมูล
แล้วเทคโนโลยีใหม่ ๆ ยังสามารถกระตุ้น และเพิ่มศักยภาพใหก้ ับผเู้ รียนได้ เนื่องจากเดก็ จำนวน

12

มากคุ้นเคยกับแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนอยู่แล้วการเรียนรู้ผ่านบทเรียนทางเทคโนโลยีจึงน่าจะ
เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากกว่าที่จะกลัว ผู้สอนที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้อาจเห็นว่าการมีส่วนร่วม
และการมสี ่วนรว่ มในหอ้ งเรียนเพิ่มข้ึน (University of the People, 2020)

ทั้งนี้เนื่องจากในโลกมีการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ความก้าวหน้าทั้งด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ การศึกษาจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนา
เปลีย่ นแปลงจากระบบการศึกษาที่มีอยู่เดิม เพือ่ ให้ทันสมัยตอ่ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
และสภาพสงั คมทีเ่ ปลี่ยนแปลงไป อีกท้ังเพื่อแก้ไขปญั หาทางด้านศกึ ษาบางอย่างที่เกิดขึ้นอย่าง
มีประสิทธิภาพ เชน่ เดียวกนั การเปลี่ยนแปลงทางด้านการศกึ ษาจึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเกี่ยว
กับนวัตกรรมการศึกษาที่จะนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาทางการศึกษาในบางเรื่อง เช่น ปัญหาที่
เกี่ยวเนื่องกัน จำนวนผู้เรียนที่มากขึ้น การพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย การผลิตและพัฒนาสื่อ
ใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อตอบสนองการเรียนรู้ของมนุษย์ให้เพิ่มมากขึ้นด้วยระยะเวลาที่สั้นลง การใช้
นวัตกรรมมาประยุกต์ในระบบการบริหารจัดการด้านการศึกษาก็มีส่วนช่วยให้การ
ใช้ทรัพยากรการเรียนรู้เปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธิภาพ
3. ประเภทของเคร่อื งมือเทคโนโลยีการศึกษา

เทคโนโลยีการศึกษา เป็นการนำความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ทั้งวัสดุ
อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องจักรกลไก และเทคนิควิธีการต่างๆ มาใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการ
เรียนการสอน เพื่อมุ่งหวัง ให้การเรียนการสอนเกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อผู้เรียน ผู้ศึกษา ตาม
จุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของหลักสูตรนั้นๆ ซึ่งเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา จะช่วยให้
การศกึ ษา และการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพดียิง่ ขึน้ ผเู้ รียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่าง
รวดเร็วมีประสิทธิผลสงู กว่าเดิม เกิดแรงจงู ใจในการเรียนด้วยเทคโนโลยีเหล่านั้น และประหยัด
เวลาในการเรียนได้อีกด้วย ในปัจจุบันมีการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา มากมายหลาย
อย่างซึ่งมีทั้งเทคโนโลยี ที่ใช้กันแพร่หลาย และที่กำลังแพร่หลาย ซึ่งได้มีนักวิชาการหลายท่าน
ได้ จำแนกประเภทของเครอ่ื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษา ไว้ดงั นี้

Gerlach และ Ely (อ้างถึงใน นภิศพร, 2541) ได้จัดแบ่งเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา
ดงั น้ี คือ

1. วสั ดุอปุ กรณป์ ระเภทเสียง
2. ภาพยนตร์ และวิดีโอ เป็นภาพที่มีลักษณะแสดงการเคลื่อนไหวมีทั้งที่เปน็ สี
และ ขาวดำ ผลิตขึ้นจากการแสดงสี หรืออาจใช้เทคนิคทางกราฟิกก็ได้วัตถุสิ่งของหรือ
เหตุการณ์อาจจะ ถ่ายทำให้เห็นลักษณะอาการปกติ หรือช้ากว่าปกติ หรือวิธีไทม์แลพส์ หรือ

13

การหยุดภาพ อาจใช้การตัดต่อเพื่อให้เข้าใจเรือ่ งราวได้แจ่มชัดหรือทำให้เรื่องนาสนใจขึ้น จะมี
เสียงหรอื ไม่มีเสียงประกอบ ก็ได้ ท้ังในแง่เสียงธรรมชาติ หรอื เสียงประดิษฐ์ประกอบกไ็ ด้

3. โทรทัศน์ ภาพ และเสียง ซึ่งปรากฏบนเครื่องรับ โทรทัศน์ภาพจะเป็น
รายการสดจากสถานีหรือจากการบันทึกภาพวิดีโอ หรือจากภาพยนตร์ก็ได้ จะส่งเป็นแบบ
โทรทัศน์วงจรปิดหรือออกอากาศ หรือผ่านสัญญาณดาวเทียม โดยมีเครื่องรบั โทรทัศน์เปิดชม
รายการ

4. บทเรียนแบบโปรแกรม คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือบทเรียนมัลติมีเดีย
แบบเรียนแบบโปรแกรมจะเน้นเกี่ยวกับทักษะการสื่อความหมายของผู้เรียน เพื่อให้ประสบ
ผลสำเร็จในการเรียน โดยอาศัยหลัก ความสัมพันธ์ของสิ่งเร้ากับการตอบสนองที่มี
ประสิทธิภาพ โดยสร้างบทเรียนที่เร้าความสนใจ แก่ผู้เรียนเป็นอื่น ๆ โดยที่ผู้เรียนจะทราบ
คำตอบว่าถูก หรือผู้ได้ทันที่แบบเรียนมีชนิดบทเรียน เพื่อการซ่อมเสริมแบบโปรแกรมมีหลาย
แบบ สามารถใช้สอ่ื ตา่ ง ๆ ประกอบเสนอเน้ือหาสาระ ข้อสนเทศต่าง ๆ

Robert E. De Kieffer ได้จดั แบ่งเคร่อื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดงั นี้ ออกเปน็ 3 ประเภท
(จรยิ า เหนียนเฉลีย่ ., ม.ป.ป.) คือ

1. ส่อื ประเภททีไ่ ม่ต้องใช้เคร่อื งฉายประกอบ ( nonprojected materials )
2. ส่อื ประเภทที่ตอ้ งใชเ้ ครือ่ งฉายประกอบ ( projected materials )
3. วัสดุและอุปกรณ์ประเภทเสียง
Edgar Dale อ้างถึงใน (กิดานันท มลิทอง, 2543) ได้จดั แบ่งเคร่อื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดงั น้ี
1. สือ่ ประเภทวัสดุ ( Software ) หมายถึง สื่อทีเ่ กบ็ ความรอู้ ยู่ในตัวเองซึง่ จำแนกย่อยได้
2 ลักษณะ

1.1 วัสดุประเภทที่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้อง
อาศัย อปุ กรณอ์ ืน่ ช่วย

1.2 วัสดุประเภทที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตัวเอง จำเป็นจะต้อง
อาศยั อปุ กรณ์อื่น ช่วย เช่น ซีดี ดวี ีดี บลเู รย์ ทัมบ์ไดรฟ์ ฮาร์ดดสิ

2. ส่อื ประเภทอปุ กรณ์ ( Hardware ) หมายถึงสิง่ ที่เป็นตวั กลางหรอื ตวั ผ่านทำให้ขอ้ มูล
หรือความรู้ที่บันทึกในวัสดุสามารถถ่ายทอดออกมาให้เห็น หรือได้ยิน เช่น เครื่องฉาย
ภาพยนตร์ เครื่องเล่นแผ่นซีดี เป็นต้น สื่อประเภทเทคนิค และวิธีการ ( Techniques and
methods ) หมายถึงสื่อที่มีลักษณะเป็น แนวความคิดหรือรูปแบบขั้นตอนในการเรียนการสอน
โดยสามารถนำส่ือวสั ดแุ ละอปุ กรณ์มา

14

Ashutosh Chauhan (2018) ได้จดั แบง่ เคร่อื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดังน้ี
1. Edmodo เปน็ เครือ่ งมอื ทางการศกึ ษาที่เชื่อมโยงผสู้ อน และผเู้ รียนและหลอมรวมเข้า
กับเครือข่ายทางสังคม ในกลุ่มนี้ผู้สอนสามารถสร้างกลุ่มการทำงานรว่ มกันออนไลนด์ ูแล และ
จัดหาสื่อการเรียนวัดผลการเรียนของผู้เรียนและสื่อสารกับผู้ปกครองรวมถึงหน้าที่อื่น ๆ
Edmodo มีผู้ใช้มากกว่า 34 ล้านคนที่เชื่อมต่อเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่มีคุณค่ามากขึ้น
เป็นสว่ นตัวและสอดคล้องกับโอกาสทีม่ าจากเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมดิจิทลั
2. Socrative ออกแบบโดยกลุ่มผู้ประกอบการ และวิศวกรที่หลงใหลในการศึกษา
Socrative เป็นระบบที่ช่วยให้ผู้สอนสร้างแบบฝึกหัดหรือเกมการศึกษาที่ผู้เรียนสามารถ
แก้ปัญหาได้โดยใช้อุปกรณ์พกพาไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนแล็ปท็อป หรือแท็บเล็ต ผู้สอน
สามารถดูผลลัพธ์ของกิจกรรมและปรับเปลี่ยนบทเรียนที่ตามมาเพื่อใหเ้ ป็นแบบส่วนตัวมากขึ้น
ท้ังนขี้ ึน้ อยู่กับสิ่งเหลา่ น้ี
3. Projeqt เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้สอนสร้างงานนำเสนอแบบมัลติมีเดียโดยมีสไลด์
แบบไดนามิกที่ สามารถฝังแผนที่แบบโต้ตอบลิงก์แบบทดสอบออนไลน์ไทม์ไลน์ของ Twitter
และวิดีโอได้ ระหว่างช่วงชั้นเรียนผู้สอนสามารถแบ่งปันการนำเสนอทางวิชาการกับผู้เรียนซึ่ง
ปรับใหเ้ ข้ากบั อุปกรณต์ า่ งๆได้
4. Thinglink ช่วยให้นักการศึกษาสร้างภาพเชิงโต้ตอบพร้อมเพลงเสียงข้อความ และ
ภาพถ่าย สิ่งเหล่านี้สามารถแชร์บนเว็บไซต์อื่น ๆ หรือบนเครือข่ายสังคมเช่น Twitter และ
Facebook Thinglink เสนอความเป็นไปได้สำหรับผู้สอนในการสร้างวิธีการเรียนรู้ที่ปลุกความ
อยากรู้อยากเหน็ ของผเู้ รียนผา่ นเนือ้ หาแบบโต้ตอบที่สามารถเพิม่ พนู ความรขู้ องพวกเขา
5 TED-Ed เป็นแพลตฟอร์มการศึกษาที่ช่วยให้สามารถสร้างบทเรียนการศึกษาโดย
อาศัยความร่วมมือของผู้สอนผู้เรียนแอนิเมเตอร์ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้ที่ต้องการขยายความรู้และ
แนวคิดดีๆ เว็บไซต์นี้ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเป็นประชาธิปไตยทั้งสำหรับผู้สอน
และผเู้ รียน ที่น่ผี คู้ นสามารถมีส่วนรว่ มอยา่ งแข็งขนั ในกระบวนการเรียนรู้ของผู้อ่ืน
6. cK-12 เป็นเว็บไซต์ที่พยายามลดต้นทุนของหนังสือวิชาการสำหรับตลาด K12 ใน
สหรัฐอเมริกาและทั่วโลก เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์แพลตฟอร์มนี้มีอินเทอร์เฟซแบบโอเพน
ซอร์สทีอ่ นญุ าตให้สร้างและเผยแพรส่ ื่อการเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ตซึ่งสามารถแก้ไขและมีวิดีโอ
ไฟลเ์ สียงและแบบฝกึ หัดเชิงโต้ตอบได้ นอกจากนยี้ งั สามารถพิมพแ์ ละปฏิบัติตามมาตรฐานด้าน
บรรณาธิการที่จำเป็นในแต่ละภูมิภาค หนังสือที่สร้างใน cK-12 สามารถปรับให้เข้ากับความ
ต้องการของผสู้ อนหรอื ผเู้ รียนได้

15

7. ClassDojo เปน็ เครื่องมอื ในการปรับปรุงพฤติกรรมของผเู้ รียน: ผสู้ อนให้ข้อเสนอแนะ
แก่ผู้เรียนทันทีเพื่อให้การจัดการที่ดีในชั้นเรียนได้รบั คะแนนและผู้เรียนมีทัศนคติที่เปิดกว้างตอ่
กระบวนการเรียนรู้มากขึ้น ClassDojo ให้การแจง้ เตอื นแบบเรียลไทมแ์ ก่ผู้เรียน เช่น 'Well Done
David!' และ สำหรบั การทำงานรว่ มกนั ข้อมลู ที่รวบรวมเกี่ยวกับพฤติกรรมของผเู้ รียนสามารถ
แชรก์ ับผปู้ กครองและผู้ดูแลระบบได้ในภายหลงั ผ่านทางเวบ็

8. eduClipper แพลตฟอร์มนี้ชว่ ยให้ผู้สอนและผเู้ รียนสามารถแบง่ ปนั และสำรวจข้อมูล
อ้างอิง และสื่อการเรียนรู้ ใน eduClipper คุณสามารถรวบรวมข้อมูลที่พบบนอินเทอร์เน็ตแล้ว
แบ่งปันกับสมาชิกของกลุ่มที่สร้างขึ้นก่อนหน้านี้ซึ่งมีความเป็นไป ได้ในการจัดการเนื้อหาทาง
วิชาการที่พบทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นปรับปรุงเทคนิคการวิจัยและมีบันทึก
ดิจิทัลของสิ่งที่ผู้เรียนประสบความสำเร็จ ระหว่างหลักสูตร ในทำนองเดียวกันเปิดโอกาสให้
ผู้สอนจัดชั้นเรียนเสมือนจริงกับผู้เรียนและสร้างแฟ้มสะสมผลงานที่จัดเก็บงานทั้งหมดที่
ดำเนนิ การไว้

9. Storybird มีวัตถุประสงค์เพือ่ ส่งเสริมทักษะการเขียนและการอ่านในผู้เรียนผ่านการ
เล่านิทาน ในเครื่องมือนี้ผู้สอนสามารถสร้างหนังสือเชิงโต้ตอบและศิลปะออนไลน์ผ่าน
อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย เรื่องราวที่สร้างขึ้นสามารถฝังอยู่ในบล็อกส่งทางอีเมล
และพิมพ์รวมถึงตัวเลือกอื่น ๆ ใน Storybird ผู้สอนยังสามารถสร้างโครงการร่วมกับผู้เรียนให้
ข้อเสนอแนะตลอดเวลาและจดั ระเบียบชั้นเรยี นและเกรด

10. Animoto เป็นเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยให้คุณสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้ในเวลาอันสั้น
และจากอปุ กรณ์พกพาใด ๆ สร้างแรงบนั ดาลใจให้ผเู้ รียนและชว่ ยปรบั ปรุงบทเรียนทางวิชาการ
อินเทอร์เฟซ Animoto เป็นมิตรและใช้งานได้จริงช่วยให้ผู้สอนสร้างเนื้อหาภาพและเสียงที่ปรับ
ให้เข้ากับความตอ้ งการทางการศกึ ษา

11. Kahoot! เป็นแพลตฟอร์มการศึกษาที่มีพื้นฐานมาจากเกมและคำถาม ด้วย
เครื่องมือนี้ผู้สอนสามารถสร้างแบบสอบถามการอภิปรายหรือแบบสำรวจที่ช่วยเสริมบทเรียน
ทางวิชาการ มีการฉายเนื้อหาในห้องเรียนและผู้เรียนจะตอบคำถามขณะเล่นและเรียนรู้ไป
พร้อม ๆ กัน Kahoot! ส่งเสริมการเรียนรู้โดยใช้เกมซึ่งเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้เรียนและสร้าง
สภาพแวดล้อมทางการศกึ ษาทีม่ พี ลวตั สังคมและสนุกสนาน

Modern Consumers (2020) ได้จัดแบ่งเครือ่ งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดังน้ี
1. กระดานไวท์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ กระดานไวท์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ มีประสิทธิภาพ
มากสำหรับคำแนะนำกลุ่ม ใช้สำหรับการนำเสนอกลุ่มซึ่งช่วยเพิ่มการเรียนรู้และผู้เรียนพบว่า
น่าสนใจยิ่งขึ้น นักการศึกษาสามารถใช้กระดานไวท์บอร์ดเพื่อสอนภาษาสังคมศึกษา

16

วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ กระดานไวท์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์เป็นแบบโต้ตอบซึ่งผู้สอน
สามารถฉายแผนภาพจากแล็ปท็อปลงบนกระดานและวาดลงบนกระดานเพื่อช่วยให้ ผู้เรียน
เข้าใจได้อยา่ งรวดเรว็

2. Flipped Learning เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในห้องเรียน ด้วย
เทคโนโลยีนี้ผู้เรียนสามารถใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรืออุปกรณ์พกพาเพื่อรับชมการ
บรรยายทีโ่ ฮสตบ์ นเซิร์ฟเวอรข์ องโรงเรียน หลังจากนั้นพวกเขาสามารถอภปิ รายในช้ันเรียนตาม
วิดีโอ ผู้สอนสามารถโต้ตอบกับผู้เรียนแบบตัวต่อตัวผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวและเพิ่มประสิทธิภาพ
การเรียนรู้

3. Desktops and Laptops ช่วยในการจัดการและจดั เก็บบนั ทึกของผเู้ รียน คอมพิวเตอร์
มีส่วนช่วยในการยกเลิกความต้องการสารานุกรมและพจนานุกรมขนาดใหญ่เนื่องจาก ผู้เรียน
สามารถค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว ซอฟต์แวร์ตรวจสอบสามารถช่วยในการ
วัดระดับความเข้าใจของผู้เรียนโดย; ตรวจสอบการเรียกคืนข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์การ
ทดสอบความเข้าใจในหนังสือหรือโดยการจัดเตรียมห้องปฏิบัติการแบบโต้ตอบที่มีการผ่า
เสมือนจริง

4. Projectors โปรเจ็กเตอร์เข้ามาโปรเจ็กเตอร์เชื่อมต่อกับแล็ปท็อปและฉายหน้าจอไป
ยังไวท์บอร์ดขนาดใหญ่ที่หน้าห้องเรียน ช่วยให้ผู้เรียนแม้กระทั่งผู้ที่อยู่ด้านหลังสามารถดู
หนา้ จอแล็ปทอ็ ปรนุ่ ใหญ่ได้

5. Videoconferencing Classroom Technologies ผู้สอน สามารถตั้งค่าการประชุมทาง
วิดีโอบน Skype หรอื Google Hangouts และ Guest Speakers สามารถพูดคุยกบั ผเู้ รียนได้อย่าง
ง่าย การประชุมทางวิดีโอสามารถช่วยลดต้นทุนการเดินทางและเวลาที่ต้องใช้ในการกล่าว
สุนทรพจน์ในสถานที่ต่างๆ

6. โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์เคลื่อนที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้ห้องเรียนได้ทุกที่ มีแอ
ปการศกึ ษาเพิม่ เติมที่ผู้เรียนและผู้สอนสามารถใช้ได้ การใชอ้ ปุ กรณ์พกพาไอแพดแท็บเล็ตหรือ
อุปกรณอ์ ื่น ๆ นกั การศกึ ษาและผเู้ รียนสามารถรักษาประสบการณ์ในช้ันเรียนที่เชือ่ มต่อกนั ได้

7. โทรทัศน์ โทรทัศน์สามารถแสดงเหตุการณ์ปัจจุบันในประเทศเช่นข่าวธุรกิจการ
เลือกตั้งประธานาธิบดี ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการเล่นดีวีดีหรือวิดีโอเพื่อการศึกษา
และการเรียนการสอนเกี่ยวกบั ประวัติศาสตร์ของชุมชนหน่ึง ๆ

8. ระบบ Computer Networking การสรา้ งเครือข่ายคอมพิวเตอรใ์ นห้องเรียนเป็นวิธีที่มี
ประสิทธิภาพในการใชเ้ ทคโนโลยี ผสู้ อนสามารถตรวจสอบสิ่งที่ผเู้ รียนกำลังทำบนคอมพิวเตอร์
ส่วนบุคคลได้จากส่วนกลาง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้เรียนจะไม่เบี่ยงเบนไป

17

จากสิ่งที่พวกเขาได้รับคำสั่งให้ทำ สัญญาณเตือนดังขึ้นบนคอมพิวเตอร์ตรวจสอบส่วนกลาง
ทันทีทีผ่ เู้ รียนเบีย่ งเบนไปจากชุดคำส่งั การสรา้ งเครือข่ายเปน็ เพียงการเชอ่ื มตอ่ เทคโนโลยีต่างๆ
ในห้องเรยี นเพือ่ ให้สามารถใช้ทรพั ยากรร่วมกนั ได้

9. การเรียนทางไกล โรงเรียนและสถาบันฝึกอบรมได้พัฒนาพอร์ทัลเพื่ออำนวยความ
สะดวกในการเรียนทางไกล ผู้เรียนที่พบว่ายากในการเข้าชั้นเรียนหรือไม่สามารถเดินทางได้
เนื่องจากสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์สามารถเข้าร่วมห้องเรียนได้โดยใช้เทคโนโลยีวิดีโอและ
ทรพั ยากรคอมพิวเตอร์ทีใ่ ชร้ ว่ มกัน

10. Virtual Field Trips ระบบคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตช่วยให้ผู้เรียนสามารถ
เดินทางไปทุกที่ที่เว็บสามารถนำติดตัวไปได้ Google classroom เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวย
ความสะดวกในการทัศนศึกษาไปยังสถานที่ต่างๆทั่วโลกหรือแม้แต่นอกโลก เทคโนโลยีความ
จรงิ เสริมและความจริงเสมอื นแบบใหม่ยังช่วยให้ผเู้ รียนมีโอกาสได้เห็นสถานที่หรือเหตุการณ์ที่
ปกติจะไมไ่ ด้สมั ผัส

11. Word processing applications คอมพิวเตอร์สว่ นใหญ่ติดตั้งโปรแกรมประมวลผลคำ
ตัวอย่างเช่น Microsoft Office มีแอปพลิเคชันที่จำเป็นทั้งหมดที่จำเป็นในการเขียนและจัด
ระเบียบข้อมูล ผู้เรียนสามารถใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้เพื่อเขียนบันทึกตรวจสอบการสะกดคำ
ขณะที่พวกเขาเขียน - ด้วยคุณสมบตั ิตรวจสอบการสะกดอัตโนมัติและบนั ทึกโน้ตเพื่อเรียกค้น
อยา่ งรวดเรว็ ในภายหลงั แอปพลิเคชันประมวลผลคำช่วยให้ผเู้ รียนค้นพบคำศัพท์ใหม่ ๆ ผู้สอน
สามารถสอนผเู้ รียนให้ใชเ้ ทคโนโลยีในชนั้ เรียนเหล่าน้ใี นระหว่างชว่ งการเรียนรู้

12. การพิมพ์ 3 มิติ ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติผเู้ รียนและผู้สอนสามารถออกแบบโมเดล 3
มิติที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาหรือเพื่อความสนุกสนาน หากผู้สอนสามารถแสดงและ
พูดคุยเกี่ยวกับแนวคิดทางทฤษฎีโดยใช้แบบจำลองสำหรับภาพแทนสิ่งที่อยู่ในตำราเรียนก็จะ
สามารถปรับปรุงการเรียนรู้ได้ ด้วยการพิมพ์ 3 มิติคุณสามารถสร้างและออกแบบว่าต้องการ
ให้ต้นแบบของคุณมีลักษณะอย่างไรด้วยซอฟต์แวร์ออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย นี่คือ
เทคโนโลยีในหอ้ งเรียนทีม่ ีต้นทุนต่ำและสามารถเปน็ ประโยชนต์ ่อท้ังผเู้ รียนและผสู้ อน

DAVID DAOUD (2020) ได้จดั แบ่งเครอ่ื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดังนี้
1. Synchronous and Asynchronous เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ตัวอย่างเช่นการเรียนรู้ที่นำ
โดยผู้สอน การเรียนรู้แบบซิงโครนัสการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลระหว่างผู้เรียน
เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การเรียนการสอนแบบตัวต่อตัวห้องสนทนาการ
สัมมนาผา่ นเวบ็ ฯลฯ ที่ผู้เรยี นทำงานรว่ มกนั และมีการเรียนรู้แบบซิงโครไนซ์

18

2. Linear Learning การเรียนรู้เชิงเส้นคือการให้ข้อมูลในลักษณะเชิงเส้นและคงที่เช่น
การอ่านหนังสือหรือการฝึกอบรมโดยใช้คอมพิวเตอร์ ( CBT) CBT สามารถรวมวิดีโอ
ภาพเคลื่อนไหว และคลิปเสียงเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ โดยทั่วไปจะมีการประเมินใน
ตอนท้ายของหลักสูตรเพื่อช่วยตัดสินความเข้าใจของผู้เรียนเกี่ยวกับหัวข้อที่สนทนา การ
ประเมินคอื การประเมินที่คอมพิวเตอร์สามารถรบั รู้และใหค้ ะแนนได้ทันทีเช่นคำถามปรนัยหรือ
คำถามจรงิ หรอื เท็จ

3. Collaborative Learning การเรียนรู้ร่วมกันที่สนับสนุนโดยคอมพิวเตอร์ (CSCL) ใช้
วิธีการสอนที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นหรือต้องการให้ผู้เรียนทำงานร่วมกันในงานการเรียนรู้
เครื่องมือทางสังคม Web 2.0 ในห้องเรียนช่วยให้ผู้เรียนและผู้สอนทำงานร่วมกันอภิปราย
แนวคิดและแบ่งปันข้อมูล

Clear Touch (2020) ได้จัดแบ่งเครอ่ื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดงั น้ี
1. กระดานไวท์บอรด์ และจอแบนแบบโต้ตอบเช่น Clear Touch หรอื Promethean
2. เดสกท์ ็อปแลป็ ทอ็ ป และแท็บเลต็ เพือ่ การเข้าถึงแอพและอนิ เทอร์เน็ตอยา่ งรวดเรว็
3. โปรเจ็กเตอรส์ ำหรับการอภปิ รายและการสาธิตในช้ันเรียน
4. โทรทัศน์ เปน็ มาตรฐานเดิมแม้วา่ จะสูญเสียพืน้ ทีส่ ำหรบั ผทู้ ี่มคี วามสามารถในการ
สตรีมมิ่ง
5. การพิมพ์ 3 มิติ เพือ่ สร้างสรรคไ์ อเดีย
6. ซอฟต์แวร์ และแอพพลิเคชน่ั เพือ่ เปิดใชง้ านการเรียนการสอนในรูปแบบต่างๆและ
ระบบอตั โนมตั ิและสนับสนุนและเสริมการเรยี นรู้ในรูปแบบตา่ งๆ
F.Learning Studio (2020) ได้จัดแบง่ เครอ่ื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดงั น้ี
1. eLearning คือการศึกษาหรือการฝึกอบรมที่จัดส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ อาจเป็น
กิจกรรมออนไลน์แบบสไลด์หรืออาจเป็นหลักสูตรออนไลน์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถฝึกทักษะที่
จำเปน็ ให้กับพนักงานได้อกี ด้วยการเรียนรเู้ ทคโนโลยีการศกึ ษาล่าสุด
2. วิดีโอช่วยการเรียนรู้ ในช่วงไม่กี่ปีทีผ่ ่านมาวิดีโอช่วยการเรียนรู้ได้รับความนิยมมาก
ขึน้ เรื่อย ๆ เมือ่ แสดงในห้องเรียน ตอนน้ี "วิดีโอวัน" ไมใ่ ชโ่ ทรทัศนบ์ นรถเขน็ ที่ถูกเข็นเข้ามาในชั้น
เรียน ด้วยอินเทอรเ์ นต็ และอปุ กรณด์ ิจิทลั
3. Blockchain technology เทคโนโลยี Distributed Ledger (DLT) จาก blockchain นำ
ประโยชน์มากมายมาสู่การศึกษาโดยเฉพาะการจัดเกบ็ ข้อมูล ทุกครั้งที่มีการเพิม่ ข้อมูลใหมจ่ ะ
เพิ่ม "บล็อก" อื่นเข้าไปในระบบดังนั้นการจัดเก็บข้อมูลจึงไร้ขีด จำกัด ในทางเทคนิค ใน
ขณะเดียวกนั ข้อมลู จะถูกเข้ารหสั และกระจายไปยงั คอมพิวเตอร์หลายเครื่องในระบบ

19

4. Big data will get bigger การเรียนรทู้ างออนไลน์ทีเ่ ฟื่องฟขู ณะน้เี รามีข้อมูลที่มากขึ้น
กว่าเดิม นักออกแบบการเรียนการสอนมขี ้อมูลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้เรียนเพื่อ
ปรับแต่งและนำเสนอหลักสูตรในรูปแบบที่เหมาะสม ข้อมูลบางอย่างที่คุณควรค้นหาคือหัวข้อ
ของผู้เรียนที่ลงทะเบียนเรียน ประสิทธิภาพของผู้เรียน (เวลาต่อหลักสูตรการสำเร็จผลการ
ทดสอบ) และความคิดเห็นของผู้เรียน (การให้คะแนนแบบสำรวจ)

5. ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถทำให้กิจกรรมพื้นฐานด้านการศึกษาเป็นไปโดย
อัตโนมัติเช่นการให้คะแนน ขณะนี้ผู้สอนสามารถให้คะแนนคำถามแบบปรนัยและแบบกรอก
ข้อมูลในช่องว่างได้โดยอตั โนมตั ิ ดังนนั้ การให้คะแนนการเขียนของผเู้ รียนโดยอัตโนมัติอาจไม่ได้
อยเู่ บอื้ งหลัง

6. การเรียนรู้การวิเคราะห์ ภูมิทัศน์ของการวิเคราะห์การเรียนรู้ในปัจจุบันได้ขยายตัว
อย่างมากโดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษาการวิเคราะห์การเรียนรู้เป็นเทรนด์ใหม่ของการสอน
ด้วยเทคโนโลยีการวิเคราะห์การเรียนรู้ช่วยให้นักการศึกษาสามารถวัดผลและรายงานกา ร
เรียนรู้ของผู้เรียนได้จากเว็บ จากนั้นจึงเป็นไปได้ที่พวกเขาจะเข้าใจและเพิ่มประสิทธิภาพการ
เรียนรู้ได้ดีข้ึน

7. Gamification วิธีที่จะเปลี่ยนการเรียนรู้ให้กลายเป็นกระบวนการที่สนุก และมีส่วน
ร่วมมากขึ้นเกมมิฟิเคชัน่ เป็นเป็นเทคโนโลยีการศกึ ษาทีเ่ หมาะสมที่สดุ ไม่มีเหตผุ ลที่ผู้เรียนจะไม่
เข้ารว่ มเกมในชั้นเรียนอย่างจริงจัง ผเู้ รียนสามารถเรียนรู้และฝกึ ฝนขณะเข้าร่วมกิจกรรมเกมที่
น่าตื่นเต้น การใช้ gamification เป็นที่นิยมมากที่สุดในภาคการศึกษา เป็นเพราะเด็ก ๆ มีส่วน
ร่วมอย่างรวดเร็วในวิดีโอเกมหรือได้รับคะแนนสูงกว่าในเกม อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความวา่
การศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือการฝึกอบรมขององค์กรไม่จำเป็นต้องมีองค์ประกอบที่
สนกุ สนานเพือ่ ปรบั ปรุงระดบั การมสี ว่ นร่วมของผู้เรยี น

8. การเรียนรู้ที่สมจริงด้วย Virtual Reality (VR) และ Augmented reality (AR)
การเรียนรู้ด้วย VR และ AR กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบันประสบการณ์การเรียนรู้ในชั้น
เรียนได้รับการเปลีย่ นแปลงอยา่ งมากนับต้ังแต่ความเปน็ จริงเสมือน (VR) และความเป็นจรงิ ยิ่ง
(AR) เข้ามาสู่การศึกษา การเพิ่มขึ้นของความต้องการการเรียนรู้จากประสบการณ์ทำให้เกิด
การพัฒนาการเรียนรดู้ ้วย VR และ AR

9. STEAM วิธีการสอนแบบใหม่สำหรับการประถมศึกษาโปรแกรมที่ใช้ STEAM เป็น
การปรับปรุง EdTech ใหม่ในโปรแกรม STEM เทรนด์ใหม่ของ EdTech นี้ใช้เนื้อหาวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีวิศวกรรมศิลปะ (องค์ประกอบใหม่) และคณิตศาสตร์ที่มีความหมายเพื่อแก้ปัญหา

20

ในโลกแห่งความเป็นจริงผ่านกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริงและการออกแบบเชิง
สร้างสรรค์

10. Social Media in learning แนวคิดในการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อการเรียนการสอน
เกิดข้ึนได้อย่างไร สถาบนั การศึกษาหลายแห่งเริ่มใช้โซเชียลมีเดียเปน็ เคร่ืองมือสื่อสารที่ผู้เรียน
สามารถโต้ตอบกับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย ผู้เรียนสามารถแบ่งปันเอกสารประกอบการเรียน
พูดคุยกับผู้อื่นในกลุ่มหรือแสดงความคิดเห็นในโพสต์ของผู้อื่นได้อย่างง่าย แม้แต่วิดีโอการ
เรียนรู้แบบแอนเิ มชั่นก็สามารถแพรร่ ะบาดบนโซเชยี ลมีเดียได้ และ TedEd คือตวั อย่างท่ัวไป

ชยั ยงค์ พรมวงศ์ (2544) ได้จดั แบง่ เครือ่ งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดังน้ี
1. จัดรปู แบบตามประเภท
1.1 แบง่ ตามลักษณะการฉาย แบ่งออกเป็น
1.1.1 วตั ถฉุ ายได้ เช่น Presentation ภาพยนตร์ วีดิทศั น์
1.1.2 วัสดุฉายไม่ได้ เชน่ รปู ภาพ โปสเตอร์แผนภมู ติ ่าง ๆ
1.2 แบ่งตามลกั ษณะการให้เสียง แบง่ ออกเป็น
1.2.1 การบนั ทึกเสียง
1.2.2 วีดิทศั น์ โทรทศั น์ ซึ่งได้เหน็ ภาพด้วย
1.3 แบ่งตามความคงทนและความส้ินเปลือง แบ่งออกเป็น วสั ดุ ได้แก่
1.3.1 ส่อื ประเภท สิน้ เปลืองซึง่ ใช้แล้วหมดไปหมดไป
1.3.2 อปุ กรณไ์ ด้ แก่ เครือ่ งมอื ต่าง ๆ ทั้ง เครื่องฉาย และ
เครื่องเสียง ซึ่งไม่ผุพังสิน้ เปลืองง่าย
1.4 แบง่ ตามจำนวนสื่อทีใ่ ช้ แบง่ เป็น
1.4.1 สอ่ื เดี๋ยว คือใช้สอ่ื แต่ละอยา่ งเพียงอย่างเดียว
1.4.2 สือ่ ประสม คอื การใช้สื่อตง้ั แต่ 2 อยา่ งข้นึ ไป
1.5 แบง่ ตามลกั ษณะการจัดสือ่ เปน็ ชุด แบ่งได้เป็น
1.5.1 ชดุ อุปกรณ์ คอื ชุดสือ่ การสอนที่ใช้สอนได้หลายเครื่อง
1.5.2 ชดุ การสอน คอื ชดุ สื่อการสอนที่จดั ขึ้นมีวตั ถุประสงค์

เดียว

21

2. จัดรปู แบบตามกิจกรรม แบ่งเป็น
2.1 ส่อื ช่วยผสู้ อนสอน หมายถึง สอ่ื ที่ผสู้ อนเปน็ ผใู้ ช้ ที่ผู้สอนเปน็ ผู้

หยิบถือได้แต่ผู้เดียว
2.2 สือ่ ช่วยผเู้ รียนเรียน หมายถึง สื่อที่เตรียมไว้ให้เดก็ เปน็ ผู้หยิบผใู้ ช้

เช่น สือ่ สำหรบั กิจกรรมกลุ่มหรอื สื่อการสอนตามอัตภาพ
2.3 ส่อื ทีช่ ่วยให้ผเู้ รียน และผสู้ อนช่วยกัน หมายถึง สอ่ื ทีท่ ำให้ผสู้ อน

และผเู้ รียนได้ช่วยกัน ประกอบกิจกรรมการเรียน
3. จดั รปู แบบตามประสบการณ์ แบ่งเปน็
3.1 ส่อื ประสบการณน์ ามธรรม หมายถึง ส่ือทีใ่ ห้ประสบการณ์

ทางออ้ มทีเ่ รียนรู้ให้เข้าใจได้น้อย เช่น สื่อบันทึกเสียง รายการวิทยุ ฯลฯ
3.2 สอ่ื ประสบการณ์รปู ธรรม หมายถึง ส่ือการเรียนการสอนที่ให้

ผเู้ รียนได้ประสบการณต์ รง ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เรยี นได้ฟังได้เห็น และได้ลงมอื ทำด้วยตนเอง
ดงั นนั้ การจัดรปู แบบสือ่ การเรียนการสอนทำได้หลายแนว แตส่ ามารถสรปุ สื่อการเรียนการ
สอนได้เปน็ 3 รูปแบบ คือ

3.2.1 ส่อื การเรียนการสอน ประเภท วัสดุ
3.2.2 สื่อการเรยี นการสอน ประเภท อุปกรณ์
3.2.3 สอ่ื การเรียนการสอน ประเภท วิธีการ
กรมวิชาการ (2545) ได้จดั แบง่ เครื่องมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดงั น้ี
1. สื่อสิ่งพิมพ์ หมายถึง สื่อที่ทำหน้าที่เก็บความรู้ในลักษณะของภาพและ
ตัวอักษรใน รูปแบบต่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน หนังสือค้นคว้า คู่มือพจนานุกรม สารานุกรม
ตำราเรียน ภาพพลิก รปู ภาพ แผนภูมิ แผนทีป่ ้ายนิเทศ แผ่นพบั โปสเตอร์ฯลฯ
2. สื่อเทคโนโลยี หมายถึง สื่อการเรียนรู้ที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ควบคู่กับเครื่องมือ
โสตทัศนวัสดุ หรือ เครื่องมือที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ สื่อประเภทนี้ได้แก่ โทรทัศน์ เครื่อง
บันทึกเสียง วิดที ัศน์ สอ่ื คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน อินเทอรเ์ น็ต ฯลฯ
มหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช ได้จัดแบ่งเครอ่ื งมอื เทคโนโลยีการศกึ ษาดังน้ี
1. จำแนกประเภทตามขอบข่ายเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา จำแนกอย่างๆกว้างๆ
เปน็ อปุ กรณท์ างเทคโนโลยีการศกึ ษาและอปุ กรณ์ทางสอ่ื สารการศกึ ษา
1.1 อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีการศึกษา หมายถึงอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการ
สื่อสารโดยตรง ได้แก่ อุปกรณ์ในการจัดระบบ อุปกรณ์เสริมและกำกับพฤติกรรมผู้สอนและ

22

ผู้เรียน อุปกรณ์ประกอบวิธีการ อุปกรณ์จัดสภาพแวดล้อม อุปกรณ์สำหรับการจัดการ และ
อปุ กรณ์การวัดและการประเมนิ

1.1.1 อปุ กรณใ์ นการจัดระบบ คือ อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นแตล่ ะขน้ั ตอนของการ
จดั ระบบ หรอื ออกแบบระบบ เชน่ แมแ่ บบสำหรบั เขียนภาพ โต๊ะออกแบบเครื่องคอมพวิ เตอร์

1.1.2 อุปกรณ์เสริมและกำกับพฤติกรรมผู้สอนและ ผู้เรียน คือ
อปุ กรณ์ที่ทำให้ผู้สอน สอนได้ดขี ึน้ เช่นเครื่องขยายเสียงพดู ให้ดังชดั เจน ฯลฯ

1.1.3 อุปกรณ์ประกอบวิธีการ คือเครื่องมือที่ต้องใช้สำหรับแต่ละ
วิธีการที่ได้ออกแบบไว้ เช่น การสอนแบบสาธิต ฯลฯ

1.1.4 อุปกรณ์จัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน คือ เครื่องมือที่ใช้ทำให้
หอ้ งเรียนมบี รรยากาศน่าอยู่

1.1.5 อุปกรณ์สำหรับการจัดการ คือเครื่องมือที่ผู้สอนใช้ในการ
วางแผน กำกับ ควบคุม ฯลฯ เช่น คอมพิวเตอรเ์ ก็บระเบียบผเู้ รียนเปน็ ต้น

1.1.6 อุปกรณก์ ารวัดและการประเมิน คือ เคร่อื งมอื ที่ใช้ในการวัดและ
ประเมินผลการเรียน เชน่ เครื่องคำนวณคอมพิวเตอร์

1.2 อุปกรณ์การสื่อสารการศึกษา หมายถึง เครื่องมือที่ใช้ในขั้นตอนต่าง ๆ
ของการสอ่ื สาร ครอบคลมุ อปุ กรณ์สำหรับการส่งสาร การปรุงแต่งเนือ้ หา ชอ่ งทาง และการรับ
สาร

1.2.1 อุปกรณ์สำหรับการส่งสาร เช่น เครื่องขยายเสียง เครื่อง
บนั ทึกเสียง เครือ่ งบนั ทึกภาพ

1.2.2 อุปกรณ์สำหรับปรุงแต่งเน้ือหา เช่น เครือ่ งถ่ายเอกสาร
1.2.3 อุปกรณ์สำหรับเป็นช่องทาง เช่น สถานีวิทยุ / โทรทัศน์
โทรศัพทม์ ือถือ หรอื โปรแกรมนำเสนอ
1.2.4 อุปกรณ์สำหรับการรับสาร เช่น เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเล่น
เทปบันทึกภาพ เครือ่ งเล่นบันทึกเสียง
2. การจำแนกประเภทตามจุดมุงหมาย
การจำแนกประเภทตามจดุ มุ่งหมาย ครอบคลมุ อปุ กรณ์การผลิต และอุปกรณก์ ารใช้
2.1 อปุ กรณ์การผลิต เช่น ไมโครโฟน กล้องถ่ายภาพ กล้องโทรทศั น์ เครื่อง
บนั ทึกเสียง เครื่องบนั ทึกวิดีโอ เครือ่ งตดั ต่อ เครื่องทำกราฟิก ฯลฯ
2.2 อุปกรณก์ ารใช้ เช่น เคร่ืองฉาย เครอ่ื งเสียง เครือ่ งคอมพิวเตอร์ ฯลฯ

23

3. การจำแนกประเภทตามเทคโนโลยีที่ใช้พัฒนาอุปกรณ์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยี
ธรรมดา (Low Tech Equipment) และ อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีชั้นสูง (High Tech Equipment)

3.1 อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีธรรมดา คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกส์
ธรรมดาที่ไม่มีคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบสำคัญ เช่น เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องรับ
โทรทัศน์ และ อุปกรณพ์ ืน้ ฐาน

3.2 อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เป็นอุปกรณ์ที่มีคอมพิวเตอร์เป็นตัว
ขับเคลื่อน เช่น อปุ กรณ์ประชุมทางไกล

4. การจำแนกตามประเภทของสื่อการศึกษา แบ่งเป็น สื่อพิมพ์ อุปกรณ์สื่อโสตทัศน์
อปุ กรณ์สือ่ สารมวลชน และอุปกรณค์ อมพิวเตอรแ์ ละโทรคมนาคม

4.1 อุปกรณ์สื่อพิมพ์ ได้แก่ เครื่องถ่ายเอกสาร กล้องถ่ายรูป เครื่องพิมพ์จาก
คอมพิวเตอร์ แท่นพิมพ์ ฯลฯ

4.2 อุปกรณ์สื่อโสตทัศน์ ได้แก่ อุปกรณ์ที่ให้รับสารได้ด้วยการฟังและการดู
ได้แก่ อุปกรณ์เครือ่ งฉาย อปุ กรณ์เครือ่ งเสียง ฯลฯ

4.3 อุปกรณ์สื่อสารมวลชน ได้แก่ เครื่องมือการวางแผน การเตรียมการ การ
ผลติ และการนำเสนอรายการ ฯลฯ

4.4 อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม ได้แก่ เครื่องมือสื่อสารและ
สารสนเทศ เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณก์ ารประชุมทางไกล ฯลฯ

สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร (2559) ได้จัดแบ่งเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา
ดังน้ี

การจำแนกเครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา ตามทรัพยากรการเรียนรู้ (Learning
Resources) โดยการ แบ่งเทคโนโลยีการศึกษา การเรียนรู้ที่ออกแบบขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายทาง
การศกึ ษา และสือ่ ทว่ั ไปนำมาประยกุ ต์ใช้สร้างประสทิ ธิภาพในการเรียนรู้ ดังน้ี

1. สอ่ื สิ่งพิมพ์ : หนังสือพมิ พ์ รายงาน นิตยสาร หนังสือเรยี น การ์ตนู เอกสารประกอบ
การสอนบทเรียนตา่ ง ๆ

2. สื่อเทคโนโลยี : สื่อการเรียนรู้ที่ได้ผลิตขึ้นเพื่อใช้ควบคู่กับเครื่องมือ โสตทัศนวัสดุ
หรือเครื่องมือที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ สื่อการเรียนรู้ดังกล่าว เช่น แถบบันทึกภาพ พร้อมเสียง
(วีดิทัศน์ แถบบันทึกเสียงสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน นอกจากนี้สื่อเทคโนโลยียังรวมถึง
กระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน เช่น การใช้
อินเทอร์เน็ต เพื่อการเรียนการสอน การศกึ ษาผ่านดาวเทียม การสอ่ื สารทางไกล


Click to View FlipBook Version