รวมระเบียบคาํ สั่ง
กรมทีด่ ิน
ประจาํ ป ๒๕๕๖
กองแผนงาน กรมทีด่ ิน
สารบัญ
หนวยงาน หนา
๑. กองการเจาหนาที่ ๑
๒. กองคลัง ๓๙
๓. กองพสั ดุ ๘๑
๔. สาํ นักกฎหมาย ๙๑
๕. สํานกั งานคณะกรรมการชางรังวดั เอกชน ๑๗๕
๖. สํานกั จดั การทีด่ ินของรฐั ๑๙๙
๗. สาํ นกั มาตรฐานและสงเสริมการรังวัด ๒๐๗
๘. สาํ นกั มาตรฐานการทะเบียนทีด่ ิน ๓๑๑
๙. สํานกั มาตรฐานการออกหนงั สือสําคัญ ๕๑๗
๑๐. สาํ นกั สงเสริมธรุ กิจอสังหาริมทรัพย ๕๖๗
๑๑. สาํ นกั เทคโนโลยีสารสนเทศ ๕๘๗
๑๒. สาํ นกั งานเลขานกุ ารกรม ๕๙๕
บัญชีรายช่ือหนงั สือเวยี น ระเบยี บ และคําสง่ั ตา งๆ
กองการเจา หนา ที่
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๖
๑. เลขที่หนงั สอื เวยี น ชอ่ื เรือ่ ง หนา
ลําดบั ท่ี ระเบียบ คําสง่ั ๓
๒. ลงวนั เดอื น ป
๑. ดวนท่สี ดุ
ที่ มท ๐๕๐๒.๓ / ว ๓๑๖๒ แตงตงั้ ขา ราชการ
ลว. ๕ ก.พ. ๕๖
๒. ดวนท่สี ุด ๔
ท่ี มท ๐๕๐๒.๓ / ว ๓๔๖๙ การกําหนดอัตราเงนิ เดือนสาํ หรับคุณวุฒิ
ลว. ๗ ก.พ. ๕๖ ที่ ก.พ. รับรอง
๓. ท่ี นร ๑๐๑๒ / ว ๔ กฎ ก.พ. วาดวยการสงั่ ใหขาราชการพลเรือน ๖
ลว. ๒๒ ก.พ. ๕๖ สามญั ออกจากราชการกรณเี จ็บปว ยไมอ าจ
ปฏิบตั ิหนา ทรี่ าชการของตนไดโดยสม่ําเสมอ
พ.ศ. ๒๕๕๖
๔. ที่ มท ๐๒๐๒.๔ / ว ๑๒๒๘ การซอ มความเขาใจเกีย่ วกบั การเสนอ ๑๐
ลว. ๑๘ มี.ค. ๕๖ ขอรับสิทธิ ตามระเบยี บ บ.ท.ช.
๕. ที่ นร ๑๐๐๘.๑ / ว ๗ กฎ ก.พ. วา ดว ยการเลอ่ื นเงนิ เดือน (ฉบับท่ี ๒) ๑๓
ลว. ๕ เม.ย. ๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๖
๖. ที่ มท ๐๕๐๒.๒ / ว ๑๐๐๖๒ การเรงรัดใหสงคนื เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ ๑๗
๗. ที่ มท ๐๒๐๒.๓ / ว ๑๗๓๕ ซกั ซอมความเขาใจกรณีเจา หนาทีข่ องรฐั ๒๐
ลว. ๒๓ เม.ย. ๕๖ ถกู กลาวหารองเรยี นตอคณะกรรมการ ป.ป.ช.
๘. ที่ นร ๑๐๐๘.๑/ว ๙ ระเบียบ ก.พ. วา ดวยเงนิ เพ่ิมสําหรบั ตาํ แหนง ๒๒
ลว. ๓๑ พ.ค. ๕๖ ทีม่ เี หตพุ เิ ศษของขาราชการพลเรอื น
(ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖
๑
บญั ชีรายชอ่ื หนังสอื เวยี น ระเบียบ และคําสงั่ ตางๆ
กองการเจาหนาที่
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๖
๑. เลขทหี่ นังสือเวยี น ช่อื เร่อื ง หนา
ลาํ ดบั ท่ี ระเบยี บ คาํ ส่งั
๒. ลงวัน เดือน ป
๙. ที่ นร ๑๐๑๑ / ว ๑๐ กฎ ก.พ. วาดว ยการสัง่ ใหขา ราชการพลเรือน ๒๔
ลว. ๒๘ มิ.ย. ๕๖ สามญั ออกจากราชการ กรณขี าดคุณสมบตั ิ
ทว่ั ไปหรอื มลี ักษณะตอ งหา ม กรณี
หยอนความสามารถ บกพรอ งในหนาท่ี
หรือประพฤติตนไมเหมาะสม กรณมี มี ลทนิ
หรือมัวหมอง และกรณตี อ งรบั โทษจาํ คกุ
ในความผิดทีไ่ ดก ระทําโดยประมาทหรอื
ความผิดลหุโทษ หรือตองรับโทษจาํ คุก
โดยคําสง่ั ของศาล พ.ศ. ๒๕๕๖
๑๐. ท่ี มท ๐๕๐๒.๒ / ว ๑๙๓๙๑ แนวทางปฏิบตั เิ ก่ยี วกับเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ ๒๘
ลว. ๒๙ ก.ค. ๕๖ และเหรยี ญจักรพรรดิมาลา
๑๑. ท่ี นร ๑๐๑๑/ว ๑๒ การกาํ ชบั ใหผ ูบงั คบั บญั ชารักษาวินัย ๓๘
ลว. ๒๑ ส.ค. ๕๖ ของผูอยูใตบงั คบั บัญชา
๒
ดว นที่สดุ (สําเนา)
ท่ี มท ๐๕๐๒.๓ / ว ๓๑๖๒ กรมทีด่ นิ
ศูนยราชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๕ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๖
เร่ือง แตงตงั้ ขาราชการ
เรียน ผวู าราชการจังหวดั ทุกจงั หวดั
อา งถึง หนงั สอื กรมท่ีดนิ ท่ี มท ๐๕๐๒.๓ / ว ๗๙๑๓ ลงวันท่ี ๔ มนี าคม ๒๕๕๓
ตามหนังสือที่อางถึง กรมที่ดินไดแจงแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการส่ังให
ขา ราชการในสงั กดั เดนิ ทางไปปฏบิ ตั งิ านตามคาํ สง่ั ภายในกาํ หนดเวลา โดยหากผไู ดร บั การแตง ตง้ั
ใหด าํ รงตําแหนงรายใดไมเดินทางไปปฏิบตั หิ นา ที่ภายในกาํ หนด จะถอื วาขา ราชการผนู ัน้ ละทง้ิ
หรือทอดทง้ิ หนา ทีร่ าชการ และหากเกดิ ความเสียหายผูทีร่ ับผดิ ชอบในการไมสง ตัวขา ราชการให
เดินทางไปปฏิบตั งิ านตามตาํ แหนงอาจตองรับผิดชอบทุกกรณี รวมท้ังกรมทีด่ ินจะไดพ ิจารณาถงึ
ความดอยในสมรรถนะ และอาจพิจารณาดาํ เนนิ การทางวนิ ยั แกเจาพนกั งานที่ดินจังหวดั หรอื
หัวหนาหนวยงานที่ฝาฝนตามควรแลวแตกรณีมาเพ่ือแจงใหเจาพนักงานที่ดินจังหวัดทราบและ
ถือปฏบิ ัตโิ ดยเครง ครดั น้นั
จากการตรวจสอบปรากฏวา ขณะนย้ี งั มขี า ราชการจาํ นวนหลายรายทไ่ี มถ อื ปฏบิ ตั ิ
ตามนัยหนังสือกรมท่ีดินขางตน ซึ่งสงผลกระทบกอใหเกิดความเสียหายตอทางราชการและ
การบรกิ ารประชาชนในภาพรวมของกรมท่ดี นิ ดงั นนั้ จงึ ขอไดโปรดกําชับใหเ จาพนกั งานท่ดี นิ
จังหวัดดําเนินการตามหนงั สอื ท่ีอา งถงึ อยา งเครง ครัด และหากมกี ารฝาฝนกรมท่ีดนิ จะดาํ เนนิ การ
ทางวินยั โดยเฉียบขาดทกุ ราย
อน่ึง สําหรับจังหวัดใดที่มีผูยายไปดํารงตําแหนงทางสวนราชการอ่ืนแลว
แตกรมที่ดินยังมิไดแตงตั้งผูใดไปดํารงตําแหนงแทนในทันที ขอใหจังหวัดพิจารณาเกล่ียอัตรา
กาํ ลังภายในจงั หวดั ตามความเหมาะสมในเบื้องตน ไปกอ น ท้งั นี้ กรมทด่ี นิ จะเรงพิจารณาแตง ตั้ง
ขา ราชการเพื่อทดแทนอตั รากําลังในสวนทีข่ าดโดยดว นตอไป
จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถอื
(ลงชอื่ ) บญุ เชดิ คิดเหน็
(นายบุญเชดิ คดิ เห็น)
อธิบดีกรมท่ีดิน
กองการเจาหนาท่ี
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๒๙ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๘๐
๓
ดวนท่สี ดุ (สาํ เนา)
ท่ี มท ๐๕๐๒.๓ / ว ๓๔๖๙ กรมทด่ี นิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๗ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๖
เรื่อง การกําหนดอัตราเงินเดอื นสาํ หรบั คณุ วฒุ ทิ ่ี ก.พ. รับรอง
เรยี น ผูวา ราชการจังหวัด ทกุ จังหวดั
อา งถงึ หนงั สือสาํ นักงาน ก.พ. ดวนทส่ี ดุ ท่ี นร ๑๐๐๘.๑ / ว ๓ ลงวนั ท่ี ๒๑ มนี าคม ๒๕๕๕
สิง่ ที่สง มาดว ย ๑. หนังสือสํานกั งาน ก.พ. ท่ี นร ๑๐๐๘.๑ / ว ๑๙ ลงวันท่ี ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๕
๒. หนงั สอื สํานักงาน ก.พ. ท่ี นร ๑๐๐๘.๑ / ว ๒๐ ลงวนั ท่ี ๒๗ ธนั วาคม ๒๕๕๕
๓. คาํ สงั่ กรมทีด่ ิน ที่ ๖๑๘/๒๕๕๖ ลงวนั ที่ ๗ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๖ เร่อื ง
ใหขา ราชการไดร ับเงินเดือนตามคณุ วุฒิ
๔. คาํ ส่ังกรมทดี่ นิ ท่ี ๖๑๙/๒๕๕๖ ลงวนั ที่ ๗ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๖ เรือ่ ง
ใหขาราชการไดรบั เงนิ เดอื นตามคุณวฒุ ิ
(เอกสารทั้งหมดสามารถดาวนโ หลดไดที่ www.dol.go.th/personnel)
ตามหนงั สอื ทีอ่ างถงึ สาํ นกั งาน ก.พ. ไดกาํ หนดหลกั เกณฑและวธิ ีการกาํ หนด
อตั ราเงนิ เดอื นสาํ หรบั คณุ วฒุ ทิ ่ี ก.พ. รบั รองเพอ่ื การบรรจแุ ละแตง ตง้ั เปน ขา ราชการพลเรอื นสามญั
โดยปรับอัตราเงินเดือนใหสูงขึ้น รวมท้ังกําหนดอัตราเงินเดือนสําหรับผูท่ีไดรับการบรรจุและ
แตง ต้งั เปน ขา ราชการพลเรือนสามัญกอ นวันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๖ น้ัน
บัดน้ี สํานักงาน ก.พ. ไดก ําหนดหลกั เกณฑ และวธิ ีการกําหนดอัตราเงนิ เดอื น
สาํ หรบั คณุ วุฒทิ ี่ ก.พ. รับรองเพมิ่ เติม รวมทง้ั ปรบั ปรงุ อัตราเงินเดอื นสาํ หรับคุณวฒุ ิที่ ก.พ.
รับรอง รายละเอยี ดปรากฏตามส่ิงท่สี งมาดวย ๑ และ ๒ ซึง่ กรมทดี่ นิ ไดด ําเนินการตามนยั หนงั สอื
สํานกั งาน ก.พ. ตามส่งิ ที่สง มาดว ย ๑ แลว รายละเอียดปรากฏตามคาํ ส่งั ใหขาราชการไดร ับ
เงินเดือนตามคณุ วฒุ ิ สาํ หรับขา ราชการทไี่ ดรับการบรรจุและแตง ตงั้ ต้ังแตว ันที่ ๑ เมษายน
๒๕๕๔ ถงึ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕ (ส่ิงที่สงมาดว ย ๓ และ ๔) ดังนั้น เพ่ือใหการปรบั เงินเดือน
แรกบรรจตุ ามคุณวฒุ กิ ารศึกษา และการปรบั เงินเดือนชดเชยอตั ราเงนิ เดอื นขาราชการทไ่ี ดรับ
การบรรจแุ ละแตง ต้งั เปน ขา ราชการพลเรือนสามญั กอนวนั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ เปนไปอยาง
๔
ถูกตองและรวดเร็ว จงึ ขอใหจ ังหวัดพจิ ารณาดาํ เนินการจดั ทาํ คาํ สง่ั ใหแกขาราชการในสงั กดั
กรมท่ีดิน ทม่ี ีคณุ สมบตั แิ ละอยใู นหลักเกณฑท่จี ะไดรบั การปรบั อัตราเงินเดอื น ตามหลกั เกณฑ
และวธิ กี ารที่ ก.พ. กําหนด โดยใหม ีผลตัง้ แตวันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๖ เปน ตน ไป ท้งั น้ี สามารถ
ดาวนโหลดตวั อยางคาํ ส่งั วธิ ีดําเนินการ และรายละเอยี ดการใหขาราชการไดร บั เงินเดือนตาม
คณุ วฒุ ิ ไดที่ เว็บไซตกองการเจา หนาที่ กรมที่ดนิ (www.dol.go.th/personnel)
จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบ และดาํ เนนิ การโดยดวน ท้งั น้ี หากดําเนินการเสร็จแลว
ขอไดส งคําส่งั ใหส าํ นกั งาน ก.พ. จํานวน ๑ ชุด และกรมที่ดนิ จาํ นวน ๑๐ ชุด ตอไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) บญุ เชิด คดิ เห็น
(นายบุญเชิด คดิ เห็น)
อธิบดกี รมทดี่ นิ
กองการเจา หนา ท่ี
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๒๙
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๘๑
๕
(สาํ เนา)
ท่ี นร ๑๐๑๒ / ว ๔ สาํ นกั งาน ก.พ.
ถนนติวานนท จงั หวดั นนทบรุ ี ๑๑๐๐๐
๒๒ กุมภาพันธ ๒๕๕๖
เรอื่ ง กฎ ก.พ. วาดว ยการสั่งใหขาราชการพลเรอื นสามญั ออกจากราชการกรณเี จบ็ ปวยไมอาจ
ปฏิบตั หิ นา ที่ราชการของตนไดโ ดยสมํา่ เสมอ พ.ศ. ๒๕๕๖
เรียน อธิบดีกรมท่ดี นิ
สิ่งทีส่ งมาดว ย กฎ ก.พ. วาดวยการสั่งใหขาราชการพลเรือนสามญั ออกจากราชการกรณเี จ็บปวย
ไมอาจปฏบิ ัตหิ นา ท่รี าชการของตนไดโ ดยสม่าํ เสมอ พ.ศ. ๒๕๕๖
ดวย ก.พ. ไดออกกฎ ก.พ. วาดว ยการสั่งใหขาราชการพลเรือนสามัญออกจาก
ราชการกรณีเจ็บปวยไมอาจปฏิบัติหนาที่ราชการของตนไดโดยสม่ําเสมอ พ.ศ. ๒๕๕๖ และ
ไดป ระกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั กฤษฎกี า เลม ๑๓๐ ตอนที่ ๑๗ ก วนั ท่ี ๑๕ กมุ ภาพันธ
๒๕๕๖ แลว รายละเอียดปรากฏตามสง่ิ ท่ีสง มาดว ย
จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบและถือปฏิบัติตอไป ท้งั นี้ ไดแ จงใหกรมและจงั หวัด
ทราบดว ยแลว
ขอแสดงความนับถอื
(ลงชื่อ) นนทิกร กาญจนะจติ รา
(นายนนทิกร กาญจนะจิตรา)
เลขาธกิ าร ก.พ.
สํานกั วจิ ยั และพฒั นาระบบงานบคุ คล
โทร. ๐ ๒๕๔๗ ๑๘๔๐ ๐ ๒๕๔๗ ๑๘๗๓
โทรสาร ๐ ๒๕๔๗ ๑๘๖๘
๖
(สําเนา)
กฎ ก.พ.
วาดวยการสงั่ ใหข าราชการพลเรอื นสามัญออกจากราชการกรณีเจ็บปว ย
ไมอ าจปฏบิ ัติหนาท่รี าชการของตนไดโดยสมาํ่ เสมอ
พ.ศ. ๒๕๕๖
––––––––––––––––
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๕) และมาตรา ๑๑๐ วรรคหนึง่ (๑) และ
วรรคสอง แหงพระราชบญั ญัตริ ะเบยี บขาราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ อนั เปน กฎหมายทม่ี ี
บทบัญญตั บิ างประการเก่ียวกับการจํากดั สทิ ธแิ ละเสรีภาพของบคุ คล ซ่งึ มาตรา ๒๙ ประกอบ
กับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๓ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๖๔ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญัตใิ หก ระทําได โดยอาศัยอาํ นาจตามบทบญั ญตั ิแหงกฎหมาย ก.พ. โดยอนมุ ตั ิคณะรฐั มนตรี
จงึ ออก กฎ ก.พ. ไว ดงั ตอ ไปน้ี
ขอ ๑ กฎ ก.พ. น้ีใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปน ตน ไป
ขอ ๒ การสั่งใหขาราชการพลเรือนสามัญผูใดออกจากราชการเพื่อรับบําเหน็จ
บํานาญเหตทุ ดแทน กรณีเจ็บปวยไมอ าจปฏบิ ตั หิ นา ท่ีราชการของตนไดโดยสม่ําเสมอตามมาตรา
๑๑๐ วรรคหนงึ่ (๑) ใหผ บู ังคับบญั ชาซึง่ มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๕๗ พิจารณาดาํ เนินการ
ตามทก่ี าํ หนดในกฎ ก.พ. น้ี
ขอ ๓ ผูบังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจส่ังบรรจุตามมาตรา ๕๗ มีอํานาจพิจารณา
ดําเนินการใหขาราชการพลเรือนสามัญออกจากราชการเพ่ือรับบําเหน็จบํานาญเหตุทดแทนกรณี
เจ็บปว ยไมอาจปฏิบัติหนาทีร่ าชการของตนไดโ ดยสมํา่ เสมอ เมื่อปรากฏวาผูนัน้ มกี รณอี ยา งใด
อยางหนึ่ง ดงั ตอ ไปนี้
(๑) มีวันลาปวยรวมกันในหน่ึงปงบประมาณเกินหน่ึงรอยยี่สิบวันทําการ หรือมี
วันลาปวยรวมกันเกินหกสิบวันทําการในแตละปงบประมาณติดตอกันสองปงบประมาณ ทั้งนี้
ไมรวมกรณีเจ็บปวยเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหนาที่หรือถูกประทุษรายเพราะเหตุกระทําการ
ตามหนาที่
(๒) ตองเขารับการบําบัดรักษาในฐานะผูปวยในตามกฎหมายวาดวยสุขภาพจิตใน
สถานบําบดั รกั ษาทางสุขภาพจติ หรือสถานท่อี ื่นทค่ี ณะกรรมการสถานบาํ บัดรกั ษาตามกฎหมาย
วาดวยสขุ ภาพจิตกาํ หนด ทง้ั นี้ โดยมรี ะยะเวลารวมกันเกนิ หนึ่งรอยยี่สบิ วนั
ขอ ๔ ขา ราชการพลเรอื นสามัญผูใ ดมวี ันลาปว ยตามขอ ๓ (๑) ใหผ ูบังคับบัญชา
ซึ่งมีอํานาจส่ังบรรจุตามมาตรา ๕๗ สงตัวผูน้ันไปรับการตรวจจากสถานพยาบาลของรัฐเพื่อ
ประกอบการพจิ ารณา
๗
ขอ ๕ เมื่อไดร ับผลการตรวจตามขอ ๔ แลว ผูบงั คบั บญั ชาซ่งึ มีอาํ นาจส่งั บรรจุ
ตามมาตรา ๕๗ ตอ งนาํ ผลการตรวจ รายละเอยี ดเกีย่ วกับโรค หรือความเจ็บปวยของผูน้นั ระยะ
เวลาในการรักษาตวั และความเห็นของแพทยม าประกอบการพจิ ารณา แลวดาํ เนินการอยางใด
อยางหนึ่ง ดังตอไปนี้
(๑) ถา เหน็ วา ผนู น้ั ตอ งลาปว ยตอ ไปอกี เปน เวลานานจนไมอ าจปฏบิ ตั หิ นา ทร่ี าชการ
ไดโ ดยสมาํ่ เสมอ ใหส ั่งใหผ ูนน้ั ออกจากราชการเพอื่ รบั บําเหน็จบํานาญเหตุทดแทน
(๒) ถา เหน็ ควรใหโ อกาสผนู น้ั มเี วลาในการพกั รกั ษาตวั ตอ ไปอกี ระยะหนง่ึ ใหก าํ หนด
ระยะเวลาใหผ นู นั้ ลาปว ยอีกครั้งหน่งึ เพือ่ พักรักษาตัวตอ ไปไดต ามท่ีเหน็ สมควร แตตองไมเ กนิ
หกสิบวนั ทําการ และเมื่อครบกาํ หนดเวลาดงั กลา วแลว ใหส ง่ั ใหผนู ั้นไปรับการตรวจจากสถาน
พยาบาลของรัฐตามขอ ๔ อกี ครั้งหนึ่ง ถาผลการตรวจของแพทยเห็นวา ผนู ้ันยงั คงตอ งพักรกั ษาตัว
ตอไปอกี ใหสง่ั ใหผูนัน้ ออกจากราชการเพอ่ื รบั บาํ เหน็จบํานาญเหตทุ ดแทน
ในกรณีที่ผบู ังคับบญั ชาซ่งึ มีอาํ นาจสงั่ บรรจตุ ามมาตรา ๕๗ ใหโ อกาสผูนัน้ พักรกั ษา
ตวั ตอไปตาม (๒) ถาผนู ัน้ ประสงคทีจ่ ะออกจากราชการ ใหสัง่ ใหผ นู ้ันออกจากราชการเพ่ือรับ
บําเหน็จบาํ นาญเหตทุ ดแทน
ขอ ๖ ในกรณีท่ีขาราชการพลเรือนสามัญผูใดแสดงความผิดปกติทางจิตตาม
กฎหมายวาดวยสุขภาพจิตโดยมีพฤติกรรมท่ีแสดงออกโดยประการท่ีนาจะกอใหเกิดอันตราย
รา ยแรงตอชีวติ รางกายหรอื ทรพั ยสินของตนเองหรอื ผูอน่ื ใหผบู ังคับบัญชาซง่ึ มีอาํ นาจสง่ั บรรจุ
ตามมาตรา ๕๗ สง ตัวผูน้ันไปยงั สถานพยาบาลของรัฐ เพอ่ื เขารบั การตรวจวินิจฉยั และประเมิน
อาการ
ในกรณที ส่ี ถานพยาบาลของรฐั เหน็ วา ผนู น้ั ตอ งเขา รบั การบาํ บดั รกั ษาทางสขุ ภาพจติ
ในฐานะผูปวยในตามกฎหมายวาดวยสุขภาพจิตในสถานบําบัดรักษาทางสุขภาพจิต หรือ
สถานท่ีอ่ืนทีค่ ณะกรรมการสถานบาํ บัดรักษาตามกฎหมายวา ดวยสขุ ภาพจติ กําหนด และผูนั้น
เขารับการบําบดั รักษา โดยมีระยะเวลารวมกนั เกนิ หน่ึงรอ ยยสี่ บิ วนั ตามขอ ๓ (๒) ใหผูบงั คับ
บญั ชาซ่งึ มอี ํานาจสง่ั บรรจตุ ามมาตรา ๕๗ ส่ังใหผ ูน ้นั ออกจากราชการเพอื่ รบั บําเหนจ็ บาํ นาญ
เหตทุ ดแทน
ขอ ๗ ในกรณีท่ีขาราชการพลเรือนสามัญผูใดเปนผูปวยในตามกฎหมาย
วาดวยสุขภาพจิต และเขารบั การรักษาในสถานบาํ บดั รักษาทางสขุ ภาพจิตหรือสถานที่อื่นตามท่ี
กฎหมายวาดว ยสขุ ภาพจิตกําหนดรวมกันเกนิ หน่งึ รอยยีส่ ิบวนั ตามขอ ๓ (๒) ใหผ ูบ ังคบั บัญชาซึง่
มอี าํ นาจสัง่ บรรจตุ ามมาตรา ๕๗ ส่งั ใหผ ูนัน้ ออกจากราชการเพอื่ รับบําเหน็จบาํ นาญเหตทุ ดแทน
ใหไ ว ณ วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงศเ ทพ เทพกาญจนา
รองนายกรัฐมนตรี
ประธาน ก.พ.
๘
หมายเหตุ :– เหตุผลในการประกาศใชก ฎ ก.พ. ฉบบั นี้ คือ โดยที่มาตรา ๑๑๐ วรรคหนงึ่ (๑)
แหง พระราชบัญญัติระเบียบขา ราชการพลเรือน พ.ศ.๒๕๕๑ บัญญตั ิใหผบู งั คับบญั ชาซง่ึ มีอํานาจ
สัง่ บรรจตุ ามมาตรา ๕๗ มีอาํ นาจสง่ั ใหข า ราชการพลเรอื นสามัญออกจากราชการเพอ่ื รับบาํ เหน็จ
บาํ นาญเหตทุ ดแทนตามกฎหมายวา ดว ยบาํ เหนจ็ บํานาญขา ราชการ กรณเี มื่อขาราชการพลเรือน
สามัญผใู ดเจ็บปวยไมอาจปฏิบตั หิ นา ท่ีราชการของตนไดโดยสมํา่ เสมอ และวรรคสอง บญั ญัติให
การส่งั ใหอ อกจากราชการในกรณีดงั กลา วใหเ ปน ไปตามที่กาํ หนดในกฎ ก.พ. จงึ จําเปน ตองออก
กฎ ก.พ. น้ี
๙
(สาํ เนา)
สว นราชการ กระทรวงมหาดไทย สาํ นกั งานปลดั กระทรวง กองการเจา หนา ท่ี โทร. ๐ ๒๒๒๓ ๙๓๕๓, ๕๐๓๗๙
ท่ี มท ๐๒๐๒.๔ / ว ๑๒๒๘ วนั ท่ี ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖
เรอ่ื ง การซอ มความเขาใจเกย่ี วกบั การเสนอขอรับสิทธิ ตามระเบยี บ บ.ท.ช.
เรยี น อธิบดีและรฐั วิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
ดวยสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีโดยคณะกรรมการพิจารณาบําเหน็จ
ความชอบ คา ทดแทน และการชว ยเหลอื (ก.บ.ท.ช.) แจง วา ในการประชุมคร้งั ที่ ๑/๒๕๕๖
เม่ือวันท่ี ๘ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๖ ไดพ จิ ารณาแลวเห็นวา เพ่ือใหการพจิ ารณาสิทธติ ามระเบียบ
บ.ท.ช. เปน ไปดวยความรอบคอบและถกู ตองตามหลักการสมกบั เจตนารมณของระเบียบ บ.ท.ช.
เปน สาํ คัญ จึงมีมติใหสว นราชการตางๆ ไดต ระหนักและมสี ว นรว มในการพิจารณาสทิ ธใิ หก บั
ขา ราชการในสังกดั โดยขอใหก ําชับ ควบคมุ กาํ กับ ดูแล เจา หนาทผ่ี ูมหี นา ทร่ี ับผดิ ชอบดําเนนิ การ
ในการเสนอขอรับสิทธิและหากพิจารณาเห็นวาพฤติกรรมของผูขอรับสิทธิรายใดไมเขาเกณฑที่
สมควรจะเสนอขอรับสทิ ธแิ ลว ก็ไมจ ําตอ งสง เร่ืองและเอกสารใหคณะกรรมการพิจารณาตาม
รายละเอยี ดสาํ เนาหนังสอื สาํ นักงานปลัดสาํ นกั นายกรัฐมนตรที แี่ นบมาพรอ มน้ี
จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดทราบ และถือเปน แนวทางปฏิบัตโิ ดยเครง ครดั ตอไปดว ย
(ลงชอ่ื ) จรินทร จักกะพาก
(นายจรนิ ทร จกั กะพาก)
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบตั ิราชการแทน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย
(เวียนตามหนังสือ ที่ มท ๐๕๐๒.๒/ว ๓๙๕๗ ลงวนั ที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๖)
๑๐
(สําเนา)
ท่ี นร ๑๐๑๒ / ว ๑๕๔๘ สํานกั งานปลดั สํานกั นายกรัฐมนตรี
ทาํ เนยี บรฐั บาล กทม. ๑๐๓๐๐
๑ มีนาคม ๒๕๕๖
เรอื่ ง การซอมความเขา ใจเกยี่ วกับการเสนอขอรบั สทิ ธิ ตามระเบียบ บ.ท.ช.
เรยี น ปลดั กระทรวงมหาดไทย
อา งถงึ หนังสือสาํ นักงานปลัดสาํ นักนายกรฐั มนตรี ท่ี นร ๑๓๐๒/ว ๘๗๓๓ ลงวนั ท่ี ๑๓ กนั ยายน
๒๕๔๓
ตามหนังสือท่ีอางถึง สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีโดยคณะกรรมการ
พจิ ารณาบาํ เหน็จความชอบ คาทดแทนและการชว ยเหลือ (ก.บ.ท.ช.) ในการประชมุ ครงั้ ที่
๒ / ๒๕๔๓ เม่ือวนั ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๓ ไดแจงใหส วนราชการตา งๆ กาํ ชับ ติดตามเรงรดั
เจาหนาท่ีผูรับผิดชอบในการดําเนินการเสนอขอรับสิทธิดังกลาวใหเปนไปโดยถูกตองและ
รวดเร็ว เพื่อเปนการเสริมสรางขวัญกําลังใจและผูที่ปฏิบัติหนาท่ีหรือชวยเหลือราชการในการ
ปอ งกนั อธิปไตยและรักษาความสงบเรยี บรอยของประเทศ และเปนขวญั กาํ ลังใจแกท ายาทและ
ครอบครัวของผูท ่ีปฏิบัตหิ นา ทร่ี าชการหรือชว ยเหลือราชการดงั กลา ว ความละเอยี ดแจงแลว น้นั
โดยท่ีระเบียบฯ กําหนดการใหสิทธิประโยชนตอบแทนแกขาราชการซ่ึงถึงแก
ความตาย ทุพพลภาพ หรือพิการไมสามารถรบั ราชการตอไปได หรอื ไดรับอนั ตรายเพราะเหตจุ าก
การปฏบิ ตั ิหนาท่ีราชการ เพื่อเปน ขวัญกาํ ลงั ใจแกข าราชการผปู ฏิบัติหนา ทร่ี วมตลอดถงึ ทายาท
ของขาราชการผนู นั้ ดว ย โดยถือเปนหนาท่ขี องผบู งั คับบัญชาทต่ี อ งตระหนักถงึ ความสําคญั และ
เจตนารมณของระเบียบฯ ในการเสนอเรื่องขอรับสทิ ธเิ ปน สาํ คญั โดยขอใหดําเนนิ การกล่ันกรอง
ตรวจสอบเร่ืองหรือกรณีท่ีเกิดขึ้นวาอยูในเกณฑที่สมควรจะไดรับการพิจารณาสิทธิตามระเบียบฯ
หรอื ไม และเพอ่ื มใิ หเ ปน การสรา งภาระผกู พนั ทางการเงนิ การคลงั ใหก บั ทางราชการโดยไมช อบธรรม
อีกทางหนง่ึ ดว ย ซึ่งในปจ จุบันปรากฏวา การเสนอขอรบั สิทธติ ามระเบยี บ บ.ท.ช. ของสว นราชการ
ตา งๆ ปรากฏวามเี อกสารหลักฐานไมถ กู ตองครบถว นและชัดเจน และยังปรากฏวาขอ เทจ็ จรงิ
เอกสารหลักฐานตางๆ ตลอดจนถอยคาํ ของบคุ คลทีเ่ ก่ยี วขอ งไมสมเหตสุ มผลและมคี วามขัดแยง
ไมต รงกบั สถานการณ ซง่ึ ทําใหเกิดความลา ชา ในการพจิ ารณาสิทธิ
สาํ นกั งานปลดั สาํ นกั นายกรฐั มนตรโี ดยคณะกรรมการพจิ ารณาบาํ เหนจ็ ความชอบ
คา ทดแทน และการชว ยเหลือ (ก.บ.ท.ช.) ในการประชมุ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ เม่อื วันที่ ๘ กุมภาพนั ธ
๒๕๕๖ ไดพิจารณาแลว เห็นวา เพ่ือใหการพิจารณาสิทธิตามระเบียบ บ.ท.ช. เปนไปดวย
๑๑
ความรอบคอบและถูกตองตามหลักการสมกับเจตนารมณของระเบียบฯ เปนสําคัญ จึงมีมติ
ใหสวนราชการตางๆ ไดตระหนักและมีสวนรวมในการพิจารณาสิทธิใหกับขาราชการในสังกัด
โดยขอใหกําชบั ควบคุม กาํ กบั ดูแล เจา หนาทผี่ ูมหี นา ท่ีรบั ผิดชอบดาํ เนนิ การในการเสนอขอรบั
สิทธิและหากพิจารณาเห็นวาพฤติกรรมของผูขอรับสิทธิรายใดไมเขาเกณฑท่ีสมควรจะเสนอ
ขอรับสิทธิแลว กไ็ มจ าํ ตองสง เร่ืองและเอกสารใหค ณะกรรมการพจิ ารณา
จึงเรยี นมาเพื่อโปรดทราบ และกรณุ าแจง ใหห นวยงานในสงั กัดทราบและถือเปน
แนวทางปฏบิ ตั ิโดยเครงครัดตอไปดว ย
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชื่อ) กมล สขุ สมบูรณ
(นายกมล สุขสมบรู ณ)
รองปลัดสํานกั นายกรัฐมนตรี ปฏิบตั ิราชการแทน
ปลัดสํานกั นายกรฐั มนตรี
ประธาน ก.บ.ท.ช.
กองการเจาหนา ที่
โทร. ๐ ๒๒๘๒ ๒๗๐๐
โทรสาร ๐ ๒๒๘๑ ๐๕๑๒
๑๒
ที่ นร ๑๐๐๘.๑ / ว ๗ (สําเนา)
สาํ นักงาน ก.พ.
ถนนติวานนท จังหวัดนนทบรุ ี ๑๑๐๐๐
๕ เมษายน ๒๕๕๖
เร่อื ง กฎ ก.พ. วา ดวยการเลื่อนเงนิ เดือน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖
เรียน อธบิ ดีกรมท่ีดนิ
ส่งิ ท่สี งมาดว ย กฎ ก.พ. วาดวยการเลื่อนเงินเดือน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖
ดวย ก.พ. ไดออกกฎ ก.พ. วา ดว ยการเลื่อนเงินเดอื น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖
ตามสงิ่ ทส่ี งมาดวย ๑ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา ฉบับกฤษฎกี า เลม ๑๓๐ ตอนที่ ๓๑ ก
เมือ่ วนั ที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๖ โดยมีผลใชบังคบั ตง้ั แตว ันที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๕ เปนตนไป
เน่อื งจากขอ ๑๑ ของกฎ ก.พ. วา ดว ยการเล่ือนเงินเดอื น พ.ศ.๒๕๕๒ แกไ ข
เพ่ิมเติมโดยกฎ ก.พ. วาดวยการเล่อื นเงินเดือน (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๖ กําหนดวา “ขา ราชการ
พลเรอื นสามญั ผูใดไดรบั อนุญาตใหลาไปปฏบิ ัตงิ านในองคก ารระหวา งประเทศ หรือถกู สงั่ ให
ไปทาํ การใดซงึ่ ใหน บั เวลาระหวา งนัน้ เหมือนเต็มเวลาราชการ หรือไดรับอนุญาตใหลาไปฟน ฟู
สมรรถภาพดานอาชีพเนื่องจากไดรับอันตรายหรือการปวยเจ็บเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหนาท่ี
หรือถูกประทุษรายเพราะเหตุกระทําการตามหนาที่ จนทําใหตกเปนผูทุพพลภาพหรือพิการ
เมอ่ื ขาราชการพลเรอื นสามัญผนู ้ันกลบั มาปฏิบตั ิราชการ ใหผบู งั คบั บญั ชาผมู อี าํ นาจสัง่ เล่ือน
เงินเดือนพิจารณาส่ังใหมีการคํานวณเพื่อหาอัตราเงินเดือนที่ขาราชการผูน้ันจะไดรับเมื่อกลับ
มาปฏบิ ัตริ าชการ ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑแ ละเงื่อนไขท่ี ก.พ. กําหนด” ก.พ. จึงกาํ หนดหลกั เกณฑ
และเง่ือนไขการพิจารณาส่ังใหมีการคํานวณหาอัตราเงินเดือนของขาราชการผูซึ่งกลับมาปฏิบัติ
ราชการ ตามขอ ๑๑ ของกฎ ก.พ. ดังกลาวไวด งั ตอไปน้ี
๑) ขา ราชการผไู ดร บั อนญุ าตใหล าไปปฏิบตั ิงานในองคการระหวางประเทศ หรือ
ถูกสั่งใหไ ปทาํ การใดซ่งึ ใหนบั เวลาระหวา งนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ เมือ่ ขาราชการผนู ั้นกลบั
มาปฏิบัติราชการใหผูบังคับบัญชาผูมีอํานาจสั่งเล่ือนเงินเดือนพิจารณาส่ังใหมีการคํานวณหา
อตั ราเงินเดอื นทีจ่ ะไดร บั ในอตั ราไมเกินรอยละ ๓ ของฐานเงนิ เดอื นขาราชการผนู น้ั ในแตละรอบ
การประเมนิ สาํ หรบั ชว งเวลาทไ่ี ดร บั อนญุ าตใหล าไปปฏบิ ตั งิ านหรอื ชว งเวลาทถ่ี กู สง่ั ใหไ ปทาํ การนน้ั
๒) ขาราชการผูไดรับอนุญาตใหลาไปฟนฟูสมรรถภาพดานอาชีพเน่ืองจาก
ไดรับอันตรายหรือการปวยเจ็บเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหนาที่หรือถูกประทุษรายเพราะเหตุ
กระทําการตามหนาท่จี นทาํ ใหตกเปนผทู พุ พลภาพหรือพิการ เม่ือขา ราชการผูนน้ั กลบั มาปฏบิ ัติ
๑๓
ราชการ หากการลานั้นครอบคลุมทั้งรอบการประเมิน ใหผูบังคับบัญชาผูมีอํานาจสั่งเลื่อน
เงินเดือนพิจารณาสั่งใหมีการคํานวณหาอัตราเงินเดือนที่จะไดรับในอัตราไมเกินรอยละ ๓
ของฐานเงินเดือนขาราชการผูนั้นในแตละรอบการประเมินสําหรับชวงเวลาท่ีไดรับอนุญาตใหลา
ไปฟน ฟสู มรรถภาพดานอาชีพ โดยใหใ ชผลการเขา รับการฟน ฟูสมรรถภาพดานอาชีพประกอบ
การพจิ ารณาดว ย
อน่ึง หลักเกณฑการเล่อื นเงินเดอื นตามกฎ ก.พ. วา ดวยการเล่อื นเงนิ เดือน
(ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ มีผลใชบงั คับตง้ั แตรอบการประเมนิ ผลการปฏิบตั ริ าชการครง่ึ ปแรก
ของปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ (ระหวางวนั ที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๕ ถึงวนั ท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖)
เปนตน ไป
จึงเรียนมาเพ่อื โปรดทราบและถือปฏิบัติตอ ไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอ่ื ) นนทิกร กาญจนะจติ รา
(นายนนทกิ ร กาญจนะจิตรา)
เลขาธิการ ก.พ.
โครงการปรบั ระบบคาตอบแทนฯ
โทร. ๐ ๒๕๔๗ ๑๔๐๒ ๐ ๒๕๔๗ ๑๓๘๔
๐ ๒๕๔๗ ๑๔๒๘
โทรสาร ๐ ๒๕๔๗ ๑๓๖๒
๑๔
(สาํ เนา)
กฎ ก.พ.
วา ดว ยการเลอื่ นเงินเดือน (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๖
––––––––––––––––
อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๕) และมาตรา ๗๔ แหง พระราชบัญญัติ
ระเบยี บขาราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ อันเปน กฎหมายทีม่ ีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกบั
การจํากดั สทิ ธิและเสรีภาพของบุคคล ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๓
มาตรา ๔๓ และมาตรา ๖๔ ของรฐั ธรรมนญู แหง ราชอาณาจกั รไทย บญั ญตั ใิ หก ระทําได
โดยอาศยั อํานาจตามบทบัญญตั ิแหงกฎหมาย ก.พ. โดยอนุมตั ิคณะรฐั มนตรีจงึ ออกกฎ ก.พ. ไว
ดงั ตอไปนี้
ขอ ๑ กฎ ก.พ. น้ใี หใชบ งั คับตัง้ แตวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ เปน ตนไป
ขอ ๒ ใหเพิม่ ความตอ ไปนี้เปน (ซ) และ (ฌ) ของขอ ๘ (๙) แหง กฎ ก.พ. วาดว ย
การเล่ือนเงนิ เดอื น พ.ศ. ๒๕๕๒
“(ซ) ลาไปชว ยเหลอื ภรยิ าทค่ี ลอดบตุ ร เฉพาะวนั ลาทม่ี สี ทิ ธไิ ดร บั เงนิ เดอื นระหวา งลา
ตามกฎหมาย
(ฌ) ลาไปฟน ฟสู มรรถภาพดานอาชีพ”
ขอ ๓ ใหย กเลิกความในขอ ๑๑ แหง กฎ ก.พ. วา ดว ยการเลอ่ื นเงินเดือน
พ.ศ. ๒๕๕๒ และใหใ ชค วามตอไปนี้แทน
“ขอ ๑๑ ขา ราชการพลเรือนสามัญผูใดไดร บั อนุญาตใหล าไปปฏบิ ตั งิ านในองคก าร
ระหวางประเทศ หรอื ถกู ส่ังใหไ ปทําการใดซงึ่ ใหน ับเวลาระหวา งนน้ั เหมอื นเตม็ เวลาราชการ หรอื
ไดรับอนุญาตใหลาไปฟนฟูสมรรถภาพดานอาชีพเนื่องจากไดรับอันตรายหรือการเจ็บปวยเพราะ
เหตุปฏิบัติราชการในหนา ทีห่ รือถูกประทษุ รา ยเพราะเหตุกระทาํ การตามหนาท่ี จนทาํ ใหต กเปน
ผูทพุ พลภาพหรอื พิการ เม่อื ขา ราชการพลเรอื นสามัญผนู ัน้ กลับมาปฏิบัตริ าชการ ใหผบู งั คับ
บัญชาผูมีอํานาจส่ังเลื่อนเงินเดือนพิจารณาสั่งใหมีการคํานวณเพ่ือหาอัตราเงินเดือนที่ขาราชการ
ผูนั้นจะไดรับเมือ่ กลบั มาปฏิบตั ริ าชการ ท้ังน้ี ตามหลกั เกณฑและเงือ่ นไขที่ ก.พ. กําหนด”
ใหไว ณ วนั ท่ี ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงศเ ทพ เทพกาญจนา
รองนายกรัฐมนตรี
ประธาน ก.พ.
๑๕
หมายเหตุ :– เหตุผลในการประกาศใชก ฎ ก.พ. ฉบบั น้ี คือ โดยที่ระเบียบสํานกั นายกรัฐมนตรี
วา ดว ยการลาของขา ราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ไดกําหนดประเภทการลาขน้ึ ใหม ๒ ประเภท คอื
การลาไปชว ยเหลอื ภริยาท่คี ลอดบตุ ร และการลาไปฟนฟสู มรรถภาพดา นอาชีพ จึงเหน็ ควร
แกไขเพิ่มเติมหลักเกณฑการเลื่อนเงินเดือนใหครอบคลุมถึงขาราชการที่ใชสิทธิการลาดังกลาว
ใหไ ดรบั การพิจารณาเลื่อนเงนิ เดอื นตามหลักเกณฑแ ละเงอ่ื นไขที่ ก.พ. กําหนด จงึ จาํ เปน ตอง
ออกกฎ ก.พ. นี้
๑๖
(สําเนา)
ที่ มท ๐๕๐๒.๒ / ว ๑๐๐๖๒
ถงึ จังหวดั ทกุ จงั หวดั
ดว ยสาํ นักงานปลดั กระทรวงมหาดไทยไดมหี นังสือ ท่ี มท ๐๒๐๒.๕/ว ๑๐๖๘
ลงวนั ท่ี ๘ มีนาคม ๒๕๕๖ สงสําเนาหนังสอื สํานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๕๐๘/ว ๔๒
ลงวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๖ เร่อื ง การเรงรดั ใหสง คืนเครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณช้ันรอง ซ่งึ คณะรัฐมนตรี
ไดมมี ติในคราวประชุม เมื่อวนั ท่ี ๒๗ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๖ ใหห ัวหนาสวนราชการระดับกรมและ
กระทรวงพิจารณาเรง รัดการสงคนื เคร่ืองราชอสิ ริยาภรณช ้ันรองตามทก่ี ฎหมายกําหนด และให
นําเรื่องการสงคืนเคร่ืองราชอิสริยาภรณประกอบการพิจารณาเสนอขอพระราชทานเครื่องราช
อิสรยิ าภรณใ นกรณเี ล่ือนชน้ั ตราสงู ขนึ้ ดวย รายละเอียดดูไดจ ากเว็บไซตก รมท่ดี นิ www.dol.go.th
อนิ ทราเน็ต ขาวกองการเจา หนาที่ ขาวทะเบยี นประวัติ
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและแจง ใหข า ราชการสงั กดั กรมทด่ี นิ ทราบโดยทว่ั กนั ดว ย
จกั ขอบคุณยิ่ง
กรมทด่ี นิ
๑๙ มนี าคม ๒๕๕๖
กองการเจา หนา ท่ี
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๕๕
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๘๕
๑๗
(สําเนา)
ท่ี มท ๐๒๐๒.๕ / ว ๑๐๖๘
ถงึ สวนราชการระดบั กรม หนวยงานรฐั วิสาหกจิ ในสังกดั กระทรวงมหาดไทย จังหวัดทกุ จังหวดั
สว นราชการและหนวยงานในสงั กดั สํานกั งานปลัดกระทรวงมหาดไทย
พรอมนี้ ขอสง สาํ เนาหนังสอื สาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ที่ นร ๐๕๐๘/ว ๔๒
ลงวนั ท่ี ๕ มนี าคม ๒๕๕๖ เร่ือง การเรง รดั ใหสง คนื เครื่องราชอสิ รยิ าภรณ ซง่ึ คณะรัฐมนตรีไดม มี ติ
ในคราวประชุม เมือ่ วันที่ ๒๗ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๖ ใหห วั หนา สว นราชการระดับกรมและกระทรวง
พจิ ารณาเรงรดั การสงคืนเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณชน้ั รองตามที่กฎหมายกาํ หนด และใหนาํ เรือ่ งการ
สงคืนเครื่องราชอิสริยาภรณประกอบการพิจารณาเสนอขอพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณใน
กรณเี ลื่อนช้ันตราสูงขน้ึ ดวย
กระทรวงมหาดไทย
๘ มนี าคม ๒๕๕๖
สาํ นกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย
กองการเจา หนา ท่ี
โทร./โทรสาร ๐–๒๒๒๓–๐๕๖๕, ๕๐๓๗๑ (มท.)
๑๘
ที่ นร ๐๕๐๘ / ว ๔๒ (สําเนา) สํานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี
ทําเนยี บรฐั บาล กทม. ๑๐๓๐๐
๕ มนี าคม ๒๕๕๖
เรอ่ื ง การเรง รดั ใหส งคนื เคร่อื งราชอิสริยาภรณชนั้ รอง
เรียน ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ดวยสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไดพิจารณาเห็นวา ตามที่พระราชบัญญัติ
เครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณอ ันเปนท่ีเชิดชยู ิง่ ชางเผอื ก พุทธศักราช ๒๔๘๔ และพระราชบญั ญตั ิ
เครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณอันมเี กยี รติยศย่งิ มงกุฎไทย พุทธศักราช ๒๔๘๔ บัญญัติใหเ มอื่ ผไู ดรบั
พระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณไดรับพระราชทานช้ันสูงขึ้นตองสงคืนเคร่ืองราชอิสริยาภรณ
ชัน้ รองในตระกูลเดียวกัน นั้น ในระยะเวลาท่ีผา นมา จาํ นวนการสง คืนเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ
ชน้ั รองตามทีก่ ฎหมายบัญญตั ิยงั ไมครบถว นและมีแนวโนม ทจี่ ะลดลง สภาพการณดังกลา วสง
ผลใหเครื่องราชอิสริยาภรณที่จะนํามาซอมปรับปรุงใหมีสภาพใหมและใชหมุนเวียนสําหรับการ
พระราชทานในปตอ ๆ ไปมจี าํ นวนลดลง ประกอบกับในปจจุบันมีผไู ดรับการเสนอขอพระราชทาน
เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณเพม่ิ ข้นึ มาก ทาํ ใหเ ปน ภาระอยา งยง่ิ ในดานงบประมาณของแผน ดนิ ที่ตอง
นํามาใชจัดสรางเคร่ืองราชอิสริยาภรณทดแทนจํานวนท่ียังไมไดรับคืนเพ่ือใหพรอมที่จะนําข้ึน
ทูลเกลา ฯ ถวายสาํ หรบั พระราชทานแกผ ทู ี่ไดรับพระราชทาน ดงั นน้ั เพ่ือใหม กี ารปฏิบตั ิตาม
บทบัญญตั ขิ องกฎหมาย รวมท้ังลดภาระดา นงบประมาณในการจัดสรา งเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ
ข้นึ ใหม สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรจี งึ ไดเ สนอคณะรัฐมนตรีพจิ ารณาเหน็ ชอบใหห วั หนาสวน
ราชการระดับกรม และกระทรวงพิจารณาเรงรัดการสงคืนเครื่องราชอิสริยาภรณชั้นรองตามท่ี
กฎหมายกําหนด และใหนําเร่อื งการสง คนื เครื่องราชอสิ ริยาภรณประกอบการพจิ ารณาเสนอขอ
พระราชทานเครอื่ งราชอิสริยาภรณในกรณเี ลื่อนช้นั ตราสูงขึ้นดว ย
คณะรัฐมนตรไี ดประชุมปรกึ ษาเมอื่ วนั ที่ ๒๗ กุมภาพันธ ๒๕๕๖ ลงมตเิ หน็ ชอบ
ตามท่ีสาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรเี สนอ
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและขอไดโปรดแจงใหสว นราชการ รัฐวิสาหกจิ และ
หนว ยงานอื่นของรฐั ในกาํ กับดแู ลทราบและถือปฏิบตั ิตอ ไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงชอื่ ) อาํ พน กติ ติอาํ พน
(นายอําพน กิตตอิ าํ พน)
เลขาธิการคณะรฐั มนตรี
สาํ นักอาลักษณและเคร่ืองราชอิสริยาภรณ
โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๐๐ ตอ ๔๒๓, ๔๒๔ โทรสาร ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๗๑
www.cabinet.thaigov.go.th
๑๙
(สาํ เนา)
ท่ี มท ๐๒๐๒.๓ / ว ๑๗๓๕
ถึง สวนราชการระดบั กรม หนวยงานรัฐวสิ าหกิจ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย สํานกั งานรฐั มนตรี
กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และจังหวัดทุกจังหวดั
ดวยสาํ นกั งาน ป.ป.ช. ไดม ีหนงั สอื ที่ ปช ๐๐๒๖/ว ๐๐๐๑ ลงวนั ท่ี ๕ เมษายน
๒๕๕๖ แจง วา ไดเ วียนซักซอมความเขา ใจกรณที เี่ จาหนา ทีข่ องรัฐมีเรือ่ งถกู กลาวหารองเรียน
และอยูในระหวางการไตสวนขอเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไมวาจะอยูในขั้นตอนใด
หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังมิไดพิจารณามีมติวินิจฉัยวามีมูลความผิด ยอมถือไมไดวา
เจา หนาที่ของรัฐผนู น้ั มคี วามผดิ ในเรือ่ งทถ่ี กู กลาวหารอ งเรียน ผูบ ังคบั บัญชาไมค วรนําเหตนุ ้ี
ไปเปน เหตุผลในการพิจารณาปรบั ยาย การเลื่อนเงนิ เดือน การเลือ่ นระดบั หรอื ตาํ แหนง หรอื
การใหส ิทธปิ ระโยชนอ ่ืนๆ ในทางทเ่ี ปนโทษแกเจา หนา ทขี่ องรฐั ผูถูกกลาวหาไปแลวนน้ั โดยท่ี
ปรากฏขอเทจ็ จริงวา ยังมผี ูบงั คบั บัญชาบางรายไดน ําเอาเหตทุ ่ีเจาหนาท่ขี องรัฐมีเรือ่ งถกู กลา วหา
รองเรียนตอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปเปน เหตผุ ลในการพจิ ารณาเล่ือนตําแหนง ทาํ ใหเ จา หนา ท่ี
ของรฐั ผูถกู กลาวหาไมไ ดร บั ความเปน ธรรม สาํ นักงาน ป.ป.ช. จงึ ไดเ วยี นซักซอมความเขาใจ
ในเรื่องน้ี มาเพื่อโปรดทราบอกี คร้ังหนึ่ง ทัง้ นี้ สามารถดาวนโ หลดสําเนาเอกสารไดท ี่ http:/www.
personnel.moi.go.th
กระทรวงมหาดไทย
๒๓ เมษายน ๒๕๕๖
สาํ นกั งานปลดั กระทรวง
กองการเจา หนา ท่ี
โทร. ๐ ๒๒๒๑ ๗๐๙๗
(เวยี นตามหนงั สอื ท่ี มท ๐๕๐๒.๕ / ว ๒๔๘๘๕ ลงวนั ท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖)
๒๐
ที่ ปช ๐๐๒๖ / ว ๐๐๐๑ (สาํ เนา)
สํานกั งาน ป.ป.ช.
ถนนนนทบุรี อําเภอเมือง
จังหวัดนนทบรุ ี ๑๑๐๐๐
๕ เมษายน ๒๕๕๖
เร่อื ง ซักซอมความเขาใจกรณีเจา หนา ทขี่ องรฐั ถกู กลาวหารองเรียนตอ คณะกรรมการ ป.ป.ช.
เรยี น ปลดั กระทรวงมหาดไทย
อางถึง หนงั สอื สํานกั งาน ป.ป.ช. ท่ี ปช ๐๐๑๙/ว ๐๐๑ ลงวันท่ี ๑๐ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๓
ตามหนงั สือทีอ่ างถงึ สํานักงาน ป.ป.ช. ไดเวยี นซกั ซอ มความเขาใจวา กรณที ่ี
เจาหนาท่ีของรัฐมีเรื่องถูกกลาวหารองเรียนและอยูในระหวางการไตสวนขอเท็จจริงของ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไมว าจะอยูในข้นั ตอนใด หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยงั มิไดพิจารณามี
มติวินจิ ฉัยวามีมลู ความผิด ยอมถือไมไ ดวาเจาหนาทข่ี องรัฐผนู ้นั มีความผดิ ในเรอื่ งทีถ่ กู กลาวหา
รอ งเรยี น ผูบังคับบญั ชาไมควรนาํ เหตนุ ไ้ี ปเปน เหตผุ ลในการพิจารณาปรับยาย การเลอ่ื นเงินเดือน
การเลอื่ นระดับ หรือตาํ แหนง หรอื การใหสิทธิประโยชนอนื่ ๆ ในทางทเ่ี ปน โทษแกเจาหนา ทข่ี องรัฐ
ผถู ูกกลาวหานัน้ ความละเอียดแจง แลว นนั้
โดยทป่ี รากฏขอเท็จจรงิ วา ยังมีผบู งั คับบัญชาบางรายไดน าํ เอาเหตุที่เจา หนาที่
ของรฐั มเี รอ่ื งถกู กลา วหารอ งเรยี นตอ คณะกรรม ป.ป.ช. ไปเปน เหตผุ ลในการพจิ ารณาเลอ่ื นตาํ แหนง
ทาํ ใหเจา หนา ท่ีของรฐั ผถู ูกกลา วหาไมไดร บั ความเปน ธรรม สํานกั งาน ป.ป.ช. จงึ เห็นควรเรยี น
ซักซอ มความเขาใจในเรื่องนี้มาเพอ่ื โปรดทราบอีกคร้ังหนึง่
จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ และโปรดแจงใหสว นราชการ หนว ยงานของรฐั และ
รฐั วสิ าหกิจในสังกัดไดทราบตอ ไปดว ย จักขอบคุณย่ิง
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่อื ) ณรงค รฐั อมฤต
(นายณรงค รัฐอมฤต)
เลขาธกิ ารคณะกรรมการ ป.ป.ช.
สํานักอํานวยการคณะกรรมการ
โทร. ๐ ๒๕๒๘ ๔๙๐๔ โทรสาร ๐ ๒๕๒๘ ๔๙๐๔
๒๑
(สาํ เนา)
ท่ี นร ๑๐๐๘.๑ / ว ๙ สํานกั งาน ก.พ.
ถนนตวิ านนท จังหวดั นนทบรุ ี ๑๑๐๐๐
๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
เรอื่ ง ระเบยี บ ก.พ. วาดว ยเงนิ เพ่ิมสาํ หรับตาํ แหนง ทมี่ ีเหตพุ เิ ศษของขาราชการพลเรือน
(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖
เรยี น อธบิ ดีกรมทดี่ นิ
ส่ิงท่สี งมาดวย ระเบยี บ ก.พ. วาดวยเงินเพิ่มสาํ หรับตําแหนงท่ีมีเหตุพเิ ศษของขาราชการพลเรอื น
(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖
ดว ย ก.พ. ไดอ อกระเบียบ ก.พ. วาดว ยเงนิ เพมิ่ สําหรบั ตาํ แหนง ท่ีมเี หตพุ เิ ศษของ
ขาราชการพลเรือน (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ และไดประกาศในราชกิจจานเุ บกษา ฉบบั ประกาศ
และงานทั่วไป เลม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๖๒ ง วันท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ แลว รายละเอียดปรากฏ
ตามสิง่ ท่สี ง มาดว ย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถอื ปฏิบตั ิตอ ไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอ่ื ) นนทกิ ร กาญจนะจิตรา
(นายนนทกิ ร กาญจนะจิตรา)
เลขาธกิ าร ก.พ.
โครงการปรบั ระบบคา ตอบแทนฯ
โทร. ๐ ๒๕๔๗ ๑๔๐๒ ๐ ๒๕๔๗ ๑๓๘๔
๐ ๒๕๔๗ ๑๔๒๘
โทรสาร ๐ ๒๕๔๗ ๑๓๖๒
๒๒
(สําเนา)
ระเบยี บ ก.พ.
วาดว ยเงินเพิม่ สําหรับตาํ แหนง ทม่ี เี หตพุ ิเศษของขาราชการพลเรือน
(ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๖
––––––––––––––––
โดยท่เี ปน การสมควรแกไ ขเพ่ิมเติมระเบียบ ก.พ. วา ดว ยเงินเพม่ิ สาํ หรบั ตําแหนง
ที่มีเหตุพเิ ศษของขา ราชการพลเรือน เพือ่ ใหครอบคลุมการลาประเภทตา งๆ ตามระเบียบและ
สอดคลอ งกับมตคิ ณะรัฐมนตรี
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๕) และมาตรา ๓๘ แหง พระราชบญั ญตั ิ
ระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ก.พ. โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังจึงออก
ระเบียบไว ดงั ตอไปนี้
ขอ ๑ ระเบียบนีเ้ รียกวา “ระเบียบ ก.พ. วาดวยเงินเพม่ิ สําหรบั ตาํ แหนง ที่มีเหตุ
พิเศษของขาราชการพลเรอื น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖”
ขอ ๒ ระเบียบน้ีใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปน ตนไป
ขอ ๓ ใหเ พิ่มความตอ ไปนเ้ี ปน (๘) (๙) และ (๑๐) ของขอ ๖ แหง ระเบียบ ก.พ.
วาดวยเงนิ เพมิ่ สําหรับตําแหนง ทม่ี ีเหตุพเิ ศษของขาราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๒
“(๘) กรณีการอุปสมบทในพระพุทธศาสนาท่ีคณะรัฐมนตรีมีมติเปนกรณีพิเศษ
โดยไมใ หถ อื เปนวนั ลาของขา ราชการ ใหไ ดร บั เงินเพม่ิ ระหวางเวลาดงั กลาวไดไ มเ กินหกสบิ วัน
(๙) กรณกี ารลาไปชวยเหลือภริยาท่ีคลอดบุตร ใหไดรับเงินเพ่มิ ระหวา งลาเฉพาะ
วนั ลาทม่ี สี ิทธิไดรบั เงินเดือนระหวา งลาตามกฎหมาย
(๑๐) กรณีการลาไปฟนฟูสมรรถภาพดานอาชีพ ใหไดรับเงินเพิ่มระหวางลาได
ไมเ กนิ หกสิบวัน”
ขอ ๔ ขาราชการซ่ึงลาไปชวยเหลือภริยาท่ีคลอดบุตรหรือลาไปฟนฟูสมรรถภาพ
ดานอาชพี ตงั้ แตว ันทีร่ ะเบียบสํานักนายกรัฐมนตรวี าดว ยการลาของขาราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕
ใชบงั คับ ใหไ ดร ับเงนิ เพิ่มระหวา งลาไดตามท่กี ําหนดในขอ ๖ (๙) หรือ (๑๐) แหงระเบยี บ ก.พ.
วาดว ยเงินเพิม่ สาํ หรบั ตําแหนงทีม่ เี หตุพิเศษของขาราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึง่ แกไ ขเพ่มิ เตมิ
โดยระเบยี บน้ี แลวแตก รณี
ใหไ ว ณ วันท่ี ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงศเทพ เทพกาญจนา
รองนายกรฐั มนตรี
ประธาน ก.พ.
๒๓
(สาํ เนา)
ที่ นร ๑๐๑๑ / ว ๑๐ สํานกั งาน ก.พ.
ถนนตวิ านนท จงั หวัดนนทบรุ ี ๑๑๐๐๐
๒๘ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖
เรอื่ ง กฎ ก.พ. วาดว ยการสั่งใหขา ราชการพลเรอื นสามญั ออกจากราชการ กรณีขาดคณุ สมบัติ
ทั่วไปหรือมีลักษณะตองหาม กรณีหยอ นความสามารถ บกพรองในหนาที่ หรือประพฤตติ น
ไมเหมาะสม กรณีมมี ลทนิ หรือมวั หมอง และกรณตี องรบั โทษจาํ คุกในความผิดท่ไี ดก ระทํา
โดยประมาทหรอื ความผดิ ลหุโทษ หรือตอ งรบั โทษจาํ คกุ โดยคําส่ังของศาล พ.ศ. ๒๕๕๖
เรียน อธิบดีกรมทีด่ ิน
สิง่ ทีส่ งมาดวย กฎ ก.พ. วา ดว ยการสง่ั ใหข าราชการพลเรือนสามญั ออกจากราชการ กรณีขาด
คณุ สมบัติทั่วไป หรอื มลี ักษณะตองหา ม กรณหี ยอนความสามารถ บกพรอง
ในหนา ท่ี หรอื ประพฤตติ นไมเ หมาะสม กรณมี ีมลทนิ หรือมวั หมอง และกรณี
ตอ งรับโทษจําคกุ ในความผดิ ทีไ่ ดก ระทําโดยประมาท หรือความผิดลหโุ ทษ หรือ
ตองรบั โทษจําคุกโดยคาํ สงั่ ของศาล พ.ศ. ๒๕๕๖
ดวย ก.พ. ไดออกกฎ ก.พ. วา ดวยการสง่ั ใหขาราชการพลเรือนสามญั ออกจาก
ราชการกรณขี าดคณุ สมบัตทิ ่วั ไป หรอื มลี กั ษณะตองหาม กรณหี ยอ นความสามารถ บกพรองใน
หนา ท่ี หรอื ประพฤติตนไมเ หมาะสม กรณมี มี ลทนิ หรอื มวั หมอง และกรณตี องรับโทษจาํ คุกใน
ความผิดท่ีไดกระทาํ โดยประมาท หรอื ความผิดลหุโทษ หรือตองรบั โทษจาํ คุกโดยคําสง่ั ของศาล
พ.ศ.๒๕๕๖ และไดประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ฉบบั กฤษฎีกา เลม ๑๓๐ ตอนท่ี ๔๙ ก วันที่ ๗
มิถนุ ายน ๒๕๕๖ แลว รายละเอียดปรากฏตามสงิ่ ทส่ี งมาดว ย
จึงเรยี นมาเพือ่ โปรดทราบและถือปฏิบตั ิตอ ไป ทั้งน้ี ไดแ จง ใหกรมและจังหวัด
ทราบดวยแลว
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอื่ ) นนทกิ ร กาญจนะจติ รา
(นายนนทิกร กาญจนะจติ รา)
เลขาธิการ ก.พ.
สาํ นกั มาตรฐานวนิ ัย
โทร. ๐ ๒๕๔๗ ๑๖๒๘ โทรสาร ๐ ๒๕๔๗ ๑๖๒๕
๒๔
(สาํ เนา)
กฎ ก.พ.
วาดว ยการสั่งใหข า ราชการพลเรือนสามัญออกจากราชการ กรณขี าดคณุ สมบัตทิ ว่ั ไป
หรือมลี ักษณะตองหา ม กรณีหยอ นความสามารถ บกพรอ งในหนา ท่ี หรอื ประพฤตติ น
ไมเ หมาะสม กรณมี ีมลทินหรอื มวั หมอง และกรณตี องรับโทษจําคกุ ในความผิด
ทไ่ี ดกระทาํ โดยประมาทหรอื ความผิดลหโุ ทษ หรือตองรับโทษจาํ คกุ โดยคาํ สง่ั ของศาล
พ.ศ. ๒๕๕๖
––––––––––––––––
อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๕) และมาตรา ๑๑๐ วรรคสอง แหงพระราช
บญั ญตั ริ ะเบยี บขา ราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ อันเปนกฎหมายทีม่ บี ทบัญญัตบิ างประการ
เก่ยี วกับการจาํ กัดสิทธิและเสรีภาพของบคุ คล ซ่งึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๓
มาตรา ๔๓ และมาตรา ๖๔ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจกั รไทย บญั ญัตใิ หก ระทาํ ได
โดยอาศัยอาํ นาจตามบทบัญญตั แิ หงกฎหมาย ก.พ. โดยอนมุ ตั คิ ณะรฐั มนตรีจึงออก กฎ ก.พ. ไว
ดังตอ ไปนี้
ขอ ๑ กฎ ก.พ. นี้ใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปน ตน ไป
ขอ ๒ เมื่อมีกรณีที่จะตองส่ังใหขาราชการพลเรือนสามัญผูใดออกจากราชการ
เพ่ือรับบําเหน็จบํานาญเหตุทดแทนตามกฎหมายวาดวยบําเหน็จบํานาญขาราชการเพราะเหตุ
ดังตอไปนี้ ผูบ งั คบั บัญชาซึง่ มอี ํานาจสงั่ บรรจุตามมาตรา ๕๗ ตอ งใหผนู น้ั มโี อกาสไดทราบ
ขอ เทจ็ จรงิ อยางเพียงพอ และมโี อกาสไดโ ตแ ยงและแสดงพยานหลักฐานของตน
(๑) ขาดคุณสมบตั ทิ ัว่ ไปเน่ืองจากไมม สี ัญชาติไทยตามมาตรา ๓๖ ก. (๑)
(๒) มลี ักษณะตอ งหามเนอ่ื งจากดํารงตาํ แหนง ทางการเมอื งตามมาตรา ๓๖ ข. (๑)
(๓) เปน บุคคลลม ละลายตามมาตรา ๓๖ ข. (๖)
(๔) ตองรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดใหจําคุกในความผิดท่ีไดกระทํา
โดยประมาทหรอื ความผิดลหโุ ทษ หรอื ตอ งรับโทษจําคกุ โดยคาํ สงั่ ของศาลซ่ึงยงั ไมถ งึ กับจะตอ ง
ถกู ลงโทษปลดออกหรือไลออก
หากผูบังคับบัญชาซึ่งมีอํานาจส่ังบรรจุตามมาตรา ๕๗ พิจารณาหลักฐานตางๆ
ทีเ่ กย่ี วขอ งแลว เห็นวามเี หตุตามวรรคหนึง่ ใหส ั่งใหผ นู ้นั ออกจากราชการตามมาตรา ๑๑๐ (๓)
หรือ (๘) เพราะเหตดุ งั กลา ว แลว แตก รณี
ขอ ๓ เม่ือมีกรณีท่ีจะตองสั่งใหขาราชการพลเรืิอนสามัญผูใดออกจากราชการ
เพ่ือรับบําเหน็จบํานาญเหตุทดแทนตามกฎหมายวาดวยบําเหน็จบํานาญขาราชการ เพราะ
๒๕
เหตุดงั ตอ ไปนี้ ใหผ บู งั คับบญั ชาซง่ึ มีอาํ นาจสง่ั บรรจุตามมาตรา ๕๗ สง่ั แตง ตงั้ คณะกรรมการ
ขนึ้ คณะหน่ึงเพ่อื ทาํ การสอบสวนโดยไมช กั ชา
(๑) ขาดคุณสมบัติทั่วไปเนื่องจากไมเลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมพี ระมหากษัตริยทรงเปนประมขุ ตามมาตรา ๓๖ ก. (๓)
(๒) หยอ นความสามารถในอันท่ีจะปฏิบตั หิ นาทรี่ าชการ บกพรอ งในหนาทรี่ าชการ
หรอื ประพฤตติ นไมเหมาะสมกบั ตําแหนงหนาที่ราชการตามมาตรา ๑๑๐ (๖)
การสอบสวนตามวรรคหนง่ึ และการสง่ั ใหอ อกจากราชการ ใหน าํ ความในมาตรา ๙๕
วรรคหนง่ึ และมาตรา ๙๗ วรรคสอง มาใชบงั คับโดยอนุโลม
ขอ ๔ เมื่อมีกรณีที่จะตองส่ังใหขาราชการพลเริือนสามัญผูใดออกจากราชการเพ่ือ
รบั บําเหน็จบาํ นาญเหตุทดแทนตามกฎหมายวาดวยบําเหนจ็ บํานาญขา ราชการ เพราะเหตุที่มี
กรณีถูกสอบสวนวากระทําผิดวินัยอยางรายแรงตามมาตรา ๙๓ และผลการสอบสวนไมได
ความแนช ัดพอทจ่ี ะฟงลงโทษตามมาตรา ๙๗ วรรคหนง่ึ หากผบู งั คับบญั ชาซึง่ มอี าํ นาจส่ัง
บรรจตุ ามมาตรา ๕๗ เหน็ วา มีมลทนิ หรอื มวั หมองในกรณีทถ่ี ูกสอบสวน ถา ใหรบั ราชการตอไป
จะเปน การเสยี หายแกร าชการ ใหสั่งใหผูนน้ั ออกจากราชการตามมาตรา ๑๑๐ (๗) โดยใหน าํ
มาตรา ๙๗ วรรคสอง มาใชบงั คับโดยอนุโลม
ขอ ๕ การสง่ั ใหข า ราชการพลเรอิื นสามญั ออกจากราชการตามกฎ ก.พ. น้ี ใหท าํ เปน
คําสัง่ ระบุเหตแุ หงการสง่ั ใหอ อกจากราชการ ระบุวนั ทีจ่ ะใหอ อกจากราชการซงึ่ ตอ งเปนไปตาม
ระเบยี บ ก.พ. วา ดวยวันออกจากราชการของขาราชการพลเริือนสามญั รวมทั้งตอ งแจง สทิ ธแิ ละ
ระยะเวลาในการอทุ ธรณไวในคําสัง่ นั้นดว ย
เม่ือไดมีคําสั่งตามวรรคหน่ึงแลวใหแจงใหผูถูกส่ังใหออกจากราชการทราบภายใน
เจด็ วัน นับแตวันทม่ี คี าํ สั่งใหออกจากราชการ และใหรายงาน อ.ก.พ.กระทรวง หรือ ก.พ. แลวแต
กรณี ภายในสบิ หาวันนับแตว ันทีม่ คี ําสัง่ ใหอ อกจากราชการ
ขอ ๖ ในกรณที ม่ี กี ารดาํ เนนิ การเพอ่ื สง่ั ใหข า ราชการพลเรอิื นสามญั ออกจากราชการ
เพื่อรบั บาํ เหน็จบํานาญเหตุทดแทนตามกฎหมายวา ดว ยบําเหนจ็ บํานาญขาราชการ เพราะเหตุ
ตามทกี่ าํ หนดไวในกฎ ก.พ. นี้ กอนวันทก่ี ฎ ก.พ. นีใ้ ชบ ังคับ แตยงั ไมแลว เสร็จ ใหคงดําเนินการ
ตอไปตามหลักเกณฑและวธิ ีการท่ใี ชบงั คบั อยใู นขณะนน้ั และเมื่อไดม ีคําสั่งใหผ ูนัน้ ออกจาก
ราชการแลวใหด ําเนนิ การตามมาตรา ๑๑๐ วรรคสาม ตอไป
ใหไ ว ณ วันท่ี ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงศเ ทพ เทพกาญจนา
รองนายกรัฐมนตรี
ประธาน ก.พ.
๒๖
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชกฎ ก.พ. ฉบับนี้ คอื โดยทมี่ าตรา ๑๑๐ วรรคสอง
แหงพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ บัญญัติใหการสั่งใหขาราชการ
พลเริือนสามัญออกจากราชการเพื่อรับบําเหน็จบํานาญเหตุทดแทนตามกฎหมายวาดวยบําเหน็จ
บํานาญขา ราชการ ตามมาตรา ๑๑๐ (๓) กรณีขาดคณุ สมบตั ิทวั่ ไป หรือมีลกั ษณะตอ งหา ม
มาตรา ๑๑๐ (๖) กรณีหยอนความสามารถบกพรองในหนาท่ีหรือประพฤติตนไมเหมาะสม
มาตรา ๑๑๐ (๗) กรณีมมี ลทินหรือมัวหมอง และมาตรา ๑๑๐ (๘) กรณีตอ งรบั โทษจาํ คกุ
ในความผดิ ทไ่ี ดก ระทาํ โดยประมาท หรอื ความผดิ ลหโุ ทษ หรอื ตอ งรบั โทษจาํ คกุ โดยคาํ สง่ั ของศาล
ซ่ึงยังไมถึงกับจะตองถูกลงโทษปลดออกหรือไลออก ใหเปนไปตามท่ีกําหนดในกฎ ก.พ.
ดงั นน้ั เพ่อื ใหการดําเนนิ การ ดังกลาวเปนไปดว ยความยุติธรรมและปราศจากอคติ โดยคาํ นงึ ถงึ
ผลสมั ฤทธิ์และประสิทธภิ าพของทางราชการ และเปนหลักประกันความเปนธรรมแกขา ราชการ
พลเรอื นสามญั สมควรกาํ หนดหลกั เกณฑและวธิ ีการในการดําเนินการดังกลาว จึงจําเปนตอ ง
ออกกฎ ก.พ. น้ี
๒๗
(สาํ เนา)
ที่ มท ๐๕๐๒.๒ / ว ๑๙๓๙๑
ถึง จังหวดั ทุกจังหวดั
ดวยกระทรวงมหาดไทยไดสงสําเนาหนังสือสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
จาํ นวน ๔ ฉบบั ใหกรมท่ดี ินทราบและถอื ปฏิบัติ ดงั นี้
๑. หนงั สอื ท่ี นร ๐๕๐๘/ว(ท) ๔๕๖๐ ลงวันที่ ๑๑ มิถนุ ายน ๒๕๕๖ เรอ่ื ง
การขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ เคร่อื งอสิ รยิ าภรณ เหรยี ญ
หรอื ตราตางประเทศ
๒. หนงั สอื ท่ี นร ๐๕๐๘/ว(ท) ๔๕๗๘ ลงวนั ท่ี ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๖ เรื่อง การขอ
สรางเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณท ดแทนที่สูญหาย
๓. หนังสือท่ี นร ๐๕๐๘/ว(ท) ๕๓๘๗ ลงวนั ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เรอื่ ง
การเสนอขอพระราชทานเคร่ืองราชอิสรยิ าภรณใ หแ กผ ตู อ งคําพิพากษาใหจําคกุ
๔. หนงั สือ ที่ นร ๐๕๐๘/ว(ท) ๕๔๘๐ ลงวนั ที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เรอ่ื ง
คณุ สมบัติของผทู ไี่ ดร บั การเสนอขอพระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา
รายละเอยี ดดไู ดท เ่ี วบ็ ไซตก รมทด่ี นิ www.dol.go.th หวั ขอ “ขา วกองการเจา หนา ท”่ี
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและขอไดแจงใหขาราชการและลูกจางประจําในสังกัด
ทราบและถือปฏบิ ตั ิโดยทัว่ กัน
กรมทีด่ ิน
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖
กองการเจาหนา ที่
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๙๕๕
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๘๕
๒๘
(สําเนา)
ท่ี มท ๐๒๐๒.๕ / ว ๒๔๓๒
ถงึ สวนราชการระดบั กรม หนว ยงานรฐั วสิ าหกิจในสงั กัดกระทรวงมหาดไทย จงั หวัดทุกจงั หวัด
สว นราชการและหนวยงานในสงั กดั สาํ นักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
พรอ มน้ี ขอสง สาํ เนาหนงั สอื สาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ท่ี นร ๐๕๐๘/ว ๔๕๖๐
ลงวนั ที่ ๑๑ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖ เรอ่ื ง การขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเคร่ืองราช
อิสริยาภรณ เคร่ืองอิสรยิ าภรณ เหรยี ญหรือตราตา งประเทศ ตามทมี่ สี ว นราชการไดขอหารือ
แนวทางปฏิบัติการดําเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเคร่ืองราชอิสริยาภรณ
เคร่ืองอสิ ริยาภรณ เหรียญหรอื ตราตางประเทศ ซง่ึ สํานักเลขาธิการคณะรฐั มนตรพี จิ ารณาแลว
เห็นวาสมควรรอไวดําเนินการเมื่อไดรับประกาศนียบัตรหรือใบกํากับเคร่ืองราชอิสริยาภรณ
เครอ่ื งอิสริยาภรณ เหรียญหรือตราตางประเทศแลว กรณมี คี วามจาํ เปนเรง ดว นที่จะตอ งประดบั
เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ เครื่องอสิ ริยาภรณ เหรยี ญหรอื ตราตา งประเทศน้ันๆ ในภารกิจหรือโอกาส
สาํ คญั อาจดําเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประดบั ได โดยระบุภารกิจหรอื โอกาส
ที่จะใชประดับและเหตุผลความจําเปนเพื่อประกอบการพิจารณาดําเนินการของสํานักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี มาเพอ่ื ทราบและปฏิบตั ิตอ ไป
กระทรวงมหาดไทย
๑๔ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖
สาํ นักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย
กองการเจาหนาท่ี
โทร./โทรสาร ๐–๒๒๒๑–๐๕๖๕, ๕๐๓๗๑ (มท.)
๒๙
ที่ นร ๐๕๐๘ / ว (ท) ๔๕๖๐ (สําเนา) สํานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี
ทําเนยี บรฐั บาล กทม. ๑๐๓๐๐
๑๑ มถิ ุนายน ๒๕๕๖
เร่ือง การขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าตประดบั เครอื่ งราชอิสรยิ าภรณ เคร่อื งอสิ ริยาภรณ
เหรยี ญหรอื ตราตา งประเทศ
เรียน ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ดวยไดมีสวนราชการขอหารือแนวทางปฏิบัติในการดําเนินการขอพระราชทาน
พระบรมราชานญุ าตประดบั เครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ เครอ่ื งอสิ รยิ าภรณ เหรยี ญหรอื ตราตา งประเทศ
กรณีที่ไดรับความเห็นชอบใหรับและไดรับเครื่องราชอิสริยาภรณ เครื่องอิสริยาภรณ เหรียญ
หรือตราตางประเทศแลว แตยังไมไดรับประกาศนียบัตรหรือใบกํากับเครื่องราชอิสริยาภรณ
เคร่อื งอสิ ริยาภรณ เหรยี ญหรอื ตราตา งประเทศ ซึง่ สาํ นกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรีไดพิจารณาแลว
เหน็ สมควรซักซอ มแนวทางปฏบิ ัตใิ นเรอื่ งดงั กลา ว ดังน้ี
๑. การดําเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเคร่ืองราช
อสิ รยิ าภรณ เครือ่ งอิสรยิ าภรณ เหรยี ญหรอื ตราตางประเทศ สมควรรอไวดําเนินการเมอื่ ได
รบั ประกาศนียบตั ร หรือใบกาํ กับเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณ เคร่ืองอิสรยิ าภรณ เหรียญหรือตรา
ตา งประเทศแลว ทง้ั น้ี เพอ่ื ใหก ารนาํ ความกราบบงั คบั ทลู พระกรณุ าขอพระราชทานพระบรมราชา-
นญุ าตมเี อกสารหลกั ฐานทส่ี มบรู ณค รบถว น และสาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรสี ามารถตรวจสอบ
ชอ่ื และชนั้ ตราของเครอื่ งราชอิสริยาภรณ เครอ่ื งอิสรยิ าภรณ เหรียญหรอื ตราตา งประเทศนั้นๆ
จากเอกสารดังกลาวไดอ กี ครงั้ หนึ่ง
๒. กรณีท่ียังไมไดรับประกาศนียบัตรหรือใบกํากับเคร่ืองราชอิสริยาภรณ
เคร่ืองอิสริยาภรณ เหรียญหรือตราตา งประเทศ แตม คี วามจาํ เปน เรง ดวนท่จี ะตองประดบั
เครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ เครือ่ งอิสรยิ าภรณ เหรียญหรือตราตางประเทศน้ันๆ ในภารกิจหรอื โอกาส
สําคัญ อาจดาํ เนนิ การขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประดบั ได โดยระบภุ ารกิจหรือโอกาส
ที่จะใชประดับและเหตุผลความจําเปนเพื่อประกอบการพิจารณาดําเนินการของสํานักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรตี อ ไป
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจงใหสวนราชการและหนวยงานในสังกัดทราบ
และถือปฏบิ ัติตอ ไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอ่ื ) สมชาย พฤฒิกลั ป
(นายสมชาย พฤฒกิ ลั ป)
รองเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ปฏิบัตริ าชการแทน
เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี
สาํ นกั อาลกั ษณและเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ
โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๐๐ ตอ ๔๒๓, ๔๒๔ โทรสาร ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๗๑
๓๐
(สําเนา)
ท่ี มท ๐๒๐๒.๕ / ว ๒๔๔๐
ถงึ สวนราชการระดบั กรม หนว ยงานรฐั วสิ าหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จังหวัดทุกจงั หวดั
สว นราชการและหนว ยงานในสงั กัดสาํ นักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
พรอ มน้ี ขอสง สาํ เนาหนงั สอื สาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ท่ี นร ๐๕๐๘/ว(ท) ๔๕๗๘
ลงวันที่ ๑๒ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖ เรอ่ื ง การขอสรางเครือ่ งราชอสิ ริยาภรณทดแทนทสี่ ญู หาย ซง่ึ สํานัก
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีไดแจงหลักเกณฑในการขอสรางเครื่องราชอิสริยาภรณทดแทนที่สูญหาย
เพ่ือใหมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและเปนไปตามเจตนารมณและบทบัญญัติของกฎหมายท่ี
บญั ญัตใิ หกรณีทส่ี ง คนื เครอื่ งราชอิสริยาภรณไมไ ดตองชดใชร าคาเครอื่ งราชอิสรยิ าภรณ มาเพอ่ื
ทราบและปฏิบตั ติ อ ไป รายละเอียดตามเอกสารทีแ่ นบ
กระทรวงมหาดไทย
๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖
สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
กองการเจา หนา ท่ี
โทร./โทรสาร ๐–๒๒๒๑–๐๕๖๕, ๕๐๓๗๑ (มท.)
๓๑
ที่ นร ๐๕๐๘ / ว (ท) ๔๕๗๘ (สําเนา)
สํานกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี
ทาํ เนยี บรฐั บาล กทม. ๑๐๓๐๐
๑๒ มิถนุ ายน ๒๕๕๖
เร่อื ง การขอสรา งเครื่องราชอสิ ริยาภรณท ดแทนท่ีสูญหาย
เรียน ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ตามทีพ่ ระราชบัญญตั เิ ครอื่ งราชอิสรยิ าภรณจ ุลจอมเกลา พทุ ธศักราช ๒๔๘๔
พระราชบัญญตั เิ ครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณอันเปน ทีเ่ ชดิ ชยู ง่ิ ชางเผือก พทุ ธศักราช ๒๔๘๔ พระราช
บญั ญัตเิ คร่อื งราชอสิ ริยาภรณอ ันมีเกยี รติยศย่ิงมงกฎุ ไทย พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๔ และพระราช
บัญญตั เิ คร่อื งราชอิสรยิ าภรณอ นั เปน ท่ีสรรเสริญยิง่ ดเิ รกคณุ าภรณ พ.ศ.๒๕๓๔ บญั ญตั ิใหผ ูไดรับ
พระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณชั้นสูงข้ึนตองสงคืนเคร่ืองราชอิสริยาภรณชั้นรอง ถาสงคืน
ไมไ ดด ว ยประการใดๆ ตองใชร าคาเครอื่ งราชอิสริยาภรณ และกรณีผูไดรบั พระราชทานวายชนม
ทายาทหรือผูรับมรดกตองสงคืนเครื่องราชอิสริยาภรณภายในสามสิบวัน ถาสงคืนไมไดดวย
ประการใดๆ ตอ งใชร าคาเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ ยกเวน เครอ่ื งราชอิสริยาภรณอ ันเปน ทีส่ รรเสริญ
ย่ิงดิเรกคุณาภรณซ ่ึงกฎหมายไมไ ดบ ญั ญตั ใิ หตอ งสง คืนช้ันสูงสุด นัน้
เนื่องจากมีผูไดรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณหรือทายาทของผูไดรับ
พระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณแ จง ความประสงคข อใหส าํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรจี ดั สรา ง
เคร่ืองราชอิสริยาภรณทดแทนทสี่ ญู หายเพ่อื ใชป ระดับหรอื สงคนื ตามทีก่ ฎหมายบัญญัติ โดยผไู ด
รบั พระราชทานหรอื ทายาทจะเปนผอู อกคา ใชจ า ย ซึง่ สํานกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรพี ิจารณาแลว
เห็นวา เพือ่ ใหม แี นวทางปฏบิ ตั ิทช่ี ัดเจนและเปน ไปตามเจตนารมณและบทบัญญตั ขิ องกฎหมาย
ท่ีบญั ญตั ิใหกรณีที่สงคนื เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณไมไ ดต อ งใชราคาเครือ่ งราชอิสริยาภรณ จงึ เหน็
สมควรกําหนดหลักเกณฑในการขอสรางเครื่องราชอิสรยิ าภรณท ดแทนที่สูญหาย ดังน้ี
๑. เคร่ืองราชอิสริยาภรณช นั้ สูงสุดท่ีไดร ับพระราชทานในแตละตระกลู
๑.๑ กรณผี ไู ดรับพระราชทานยงั มีชวี ิตอยู ขอสรางทดแทนได เพ่ือใชป ระดับ
ในโอกาสอันควร
๑.๒ กรณผี ไู ดร ับพระราชทานวายชนมแลว ไมส ามารถขอสรา งทดแทน
๒. เครอื่ งราชอิสรยิ าภรณช ้ันรองท่ไี ดรับพระราชทานในแตละตระกลู
๒.๑ กรณเี ปนเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณช ั้นทีม่ ที ง้ั ดวงตราและดารา
(๑) หากสญู หายเฉพาะดวงตราหรือดารา ขอสรา งทดแทนไดเฉพาะ
สวนทีส่ ญู หายเทา นน้ั
๓๒
(๒) หากสูญหายท้ังดวงตราและดารา ไมสามารถขอสรา งทดแทน
๒.๒ กรณีเปนเคร่ืองราชอิสริยาภรณช้ันท่ีมีเฉพาะดวงตราหรือชั้นเหรียญ
หากดวงตราหรือเหรยี ญสูญหาย ไมสามารถขอสรางทดแทน
จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ และขอไดโ ปรดแจงใหสวนราชการและหนวยงานใน
สังกดั ทราบและถือปฏบิ ัติตอไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่อื ) สมชาย พฤฒกิ ลั ป
(นายสมชาย พฤฒิกลั ป)
รองเลขาธิการคณะรฐั มนตรี ปฏบิ ตั ิราชการแทน
เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี
สํานกั อาลกั ษณและเครอื่ งราชอิสรยิ าภรณ
โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๐๐ ตอ ๔๒๓, ๔๒๔
โทรสาร ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๗๑
www.cabinet.thaigov.go.th
๓๓
(สําเนา)
ที่ มท ๐๒๐๒.๕ / ว ๑๐๑
ถงึ สว นราชการระดบั กรม และหนวยงานรฐั วิสาหกจิ ในสังกดั กระทรวงมหาดไทย
พรอ มน้ี ขอสง สาํ เนาหนงั สอื สาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ท่ี นร ๐๕๐๘/ว(ท) ๕๓๘๗
ลงวันท่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เรื่อง การเสนอขอพระราชทานเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณใ หแ กผตู อ ง
คําพิพากษาใหจําคุก จาํ นวน ๑ ฉบบั มาเพอื่ ทราบและปฏิบตั ติ อ ไป
กระทรวงมหาดไทย
๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
สาํ นักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
กองการเจาหนา ที่
โทร./โทรสาร ๐–๒๒๒๑–๐๕๖๕, ๕๐๓๗๑ (มท.)
๓๔
(สาํ เนา)
ท่ี นร ๐๕๐๘ / ว (ท) ๕๓๘๗ สาํ นักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี
ทาํ เนยี บรัฐบาล กทม. ๑๐๓๐๐
๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
เรื่อง การเสนอขอพระราชทานเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณใ หแกผูตองคาํ พิพากษาใหจาํ คกุ
เรยี น ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ตามที่พระราชกฤษฎีกาวาดวยการขอพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ
อนั เปนที่สรรเสริญยิ่งดเิ รกคณุ าภรณ พ.ศ.๒๕๓๘ มาตรา ๗ (๒) และระเบยี บสํานกั นายกรฐั มนตรี
วาดวยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณอันเปนท่ีเชิดชูยิ่งชางเผือกและเคร่ืองราช
อสิ ริยาภรณอนั มเี กยี รติยศย่งิ มงกุฎไทย พ.ศ. ๒๕๓๖ ขอ ๑๐ (๓) กําหนดใหบุคคลที่พงึ ไดร บั
การพิจารณาเสนอขอพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณตองมีคุณสมบัติเปนผูไมเคยตองรับโทษ
จาํ คกุ โดยคาํ พิพากษาถึงท่ีสดุ ใหจาํ คกุ เวน แตเปนโทษสาํ หรับความผดิ ที่ไดกระทําโดยประมาท
หรือความผดิ ลหโุ ทษ นนั้
เนอ่ื งจากไดม สี ว นราชการขอหารอื วา กรณเี ปน ผตู อ งคาํ พพิ ากษาถงึ ทส่ี ดุ ใหจ าํ คกุ
แตใหรอการลงโทษไว จะเปน กรณขี าดคุณสมบัตทิ ่จี ะไดรับการพิจารณาเสนอขอพระราชทาน
เคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณห รอื ไม ซ่ึงสาํ นักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรีไดพ ิจารณาแลว เหน็ วา โดยท่กี าร
รอการลงโทษไมใชก ารรบั โทษ และคาํ วา “ตอ งรับโทษจําคกุ ” ตามทก่ี ําหนดไวใ นพระราชกฤษฎีกา
และระเบยี บดงั กลา วขางตน หมายถงึ รับโทษจาํ คุกจรงิ ดังน้ัน กรณเี ปน ผตู อ งคาํ พิพากษาถึงท่สี ุด
ใหจําคุก แตใหรอการลงโทษไวจึงมิไดเปนกรณีขาดคุณสมบัติท่ีจะไดรับการพิจารณาเสนอ
ขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ อยางไรก็ตามบุคคลท่ีพึงไดรับการพิจารณาเสนอ
ขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณตองเปนผูประพฤติดีและมีคุณสมบัติอื่นครบถวนตามที่
กาํ หนดไวใ นพระราชกฤษฎีกาและระเบยี บดังกลาวดวย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและขอไดโปรดแจงใหสวนราชการและหนวยงาน
ในสงั กดั ทราบตอ ไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชือ่ ) สมชาย พฤฒิกัลป
(นายสมชาย พฤฒกิ ลั ป)
รองเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ปฏบิ ตั ริ าชการแทน
เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี
สาํ นกั อาลักษณแ ละเครื่องราชอสิ ริยาภรณ
โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๐๐ ตอ ๔๒๓, ๔๒๔
โทรสาร ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๗๑
๓๕
(สําเนา)
ที่ มท ๐๒๐๒.๕ / ว ๒๙๒๙
ถงึ สวนราชการระดับกรมในสังกดั กระทรวงมหาดไทย จงั หวัดทกุ จังหวัด และ
หนวยงานในสังกัดสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
พรอ มน้ี ขอสง สาํ เนาหนงั สอื สาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ท่ี นร ๐๕๐๘/ว(ท) ๕๔๘๐
ลงวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เร่อื ง คณุ สมบัตขิ องผทู ่ีไดรับการเสนอขอพระราชทานเหรียญ
จักรพรรดมิ าลา จาํ นวน ๑ ฉบับ มาเพ่อื ทราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ ไป
กระทรวงมหาดไทย
๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖
สาํ นักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย
กองการเจาหนา ที่
โทร./โทรสาร ๐–๒๒๒๑–๐๕๖๕, ๕๐๓๗๑ (มท.)
๓๖
(สําเนา)
ท่ี นร ๐๕๐๘ / ว (ท) ๕๔๘๐ สํานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี
ทาํ เนียบรัฐบาล กทม. ๑๐๓๐๐
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖
เรอ่ื ง คุณสมบตั ขิ องผทู ไ่ี ดร ับการเสนอขอพระราชทานเหรยี ญจกั รพรรดิมาลา
เรยี น ปลดั กระทรวงมหาดไทย
ดวยไดมีสวนราชการขอหารือวา กรณีขาราชการฝายพลเรือนท่ีรับราชการมา
โดยไมเ คยกระทําผิดวนิ ัยเปนเวลาไมน อยกวา ๒๕ ป แตเ คยไมไ ดรบั การเล่ือนเงนิ เดอื น เนื่องจาก
ผลการประเมินการปฏิบัติราชการต่ํากวาเกณฑ ลาปวย ลากิจและมาสายเกินจะเสนอขอ
พระราชทานเหรยี ญจักรพรรดมิ าลาไดหรือไม
สาํ นกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรีไดพ ิจารณาแลวขอเรยี นวา ตามพระราชบญั ญตั ิ
เหรยี ญจกั รมาลาและเหรียญจักรพรรดมิ าลา พทุ ธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา ๘ ซึ่งบญั ญัติใหเหรียญ
จักรพรรดิมาลาสําหรับพระราชทานขาราชการฝายพลเรือนท่ีรับราชการมาดวยความเรียบรอย
เปน เวลาไมนอยกวา ๒๕ ป หมายถึงขาราชการทไ่ี ดป ฏิบตั หิ นา ท่ีเปน ไปตามกฎหมายและระเบียบ
แบบแผนของทางราชการ และปฏิบัติหนาที่ใหเ กิดผลดหี รอื ความกา วหนาแกราชการดวยความ
อุตสาหะ เอกใจใส ไมละท้ิงหรอื ทอดทง้ิ ราชการ ดังนัน้ กรณขี าราชการไมไดรับการเล่อื นเงิน
เดอื นเนอื่ งจากผลการประเมนิ การปฏิบัติราชการตา่ํ กวา เกณฑ ลาปวย ลากจิ และมาสายเกนิ ซึ่ง
ไมอาจถือไดวารับราชการมาดว ยความเรียบรอย จงึ ไมอยูในเกณฑเ สนอขอพระราชทานเหรียญ
จักรพรรดิมาลา
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและขอไดโปรดแจงใหสวนราชการในสังกัดทราบและ
ถอื ปฏบิ ตั ิตอ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่อื ) สมชาย พฤฒิกัลป
(นายสมชาย พฤฒิกลั ป)
รองเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ปฏบิ ัตริ าชการแทน
เลขาธิการคณะรฐั มนตรี
สาํ นกั อาลักษณแ ละเครื่องราชอสิ ริยาภรณ
โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๐๐ ตอ ๔๒๓, ๔๒๔
โทรสาร ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๗๑
๓๗
ท่ี นร ๑๐๑๑ / ว ๑๒ (สาํ เนา)
สํานกั งาน ก.พ.
ถนนติวานนท จงั หวัดนนทบรุ ี ๑๑๐๐๐
๒๑ สงิ หาคม ๒๕๕๖
เรอื่ ง การกาํ ชบั ใหผูบังคบั บัญชารักษาวินยั ของผูอยใู ตบังคับบัญชา
เรยี น อธิบดีกรมทด่ี นิ
ตามท่ีพระราชบัญญตั ิระเบยี บขาราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๘๗
บญั ญตั ิวา ใหผูบังคบั บัญชามหี นา ทเี่ สริมสรางและพัฒนาใหผ อู ยใู ตบงั คบั บญั ชามวี นิ ยั และ
ปอ งกนั มิใหผ ูอยใู ตบังคบั บัญชากระทาํ ผิดวินัย ท้ังน้ี ตามหลกั เกณฑและวิธีการท่ี ก.พ. กาํ หนด
และ ก.พ. ไดกาํ หนดหลักเกณฑและวธิ กี ารในเรอ่ื งดังกลา วแลว ตามหนงั สอื สํานกั งาน ก.พ.
ที่ นร ๑๐๑๑/ว ๔๓ ลงวนั ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ และมาตรา ๙๐ บญั ญัตวิ า เมื่อมีการกลา วหา
หรอื มกี รณเี ปน ทส่ี งสยั วา ขา ราชการพลเรอื นสามญั ผใู ดกระทาํ ผดิ วนิ ยั ใหผ บู งั คบั บญั ชามหี นา ทต่ี อ ง
รายงานใหผบู ังคับบัญชาซ่ึงมีอํานาจสัง่ บรรจตุ ามมาตรา ๕๗ ทราบโดยเรว็ และใหผูบ ังคับบัญชา
ซง่ึ มีอาํ นาจส่ังบรรจุตามมาตรา ๕๗ ดาํ เนินการตามพระราชบัญญัตินีโ้ ดยเร็วดวยความยุตธิ รรม
และโดยปราศจากอคติ ผูบ ังคบั บัญชาหรอื ผบู งั คบั บัญชาซง่ึ มอี ํานาจส่ังบรรจุตามมาตรา ๕๗
ผใู ดละเลยไมป ฏบิ ตั หิ นา ทต่ี ามวรรคหนง่ึ หรอื ปฏบิ ตั หิ นา ทโ่ี ดยไมส จุ รติ ใหถ อื วา ผนู น้ั กระทาํ ผดิ วนิ ยั
ก.พ. พจิ ารณาเหน็ วา ผูบงั คบั บัญชามีหนาท่แี ละความรบั ผิดชอบตามกฎหมาย
ในการรักษาวินัยของผูใตบ งั คับบญั ชา โดยตอ งเสรมิ สราง พัฒนาใหผูอยูใตบ ังคบั บญั ชามีวินยั
ปอ งกนั มใิ หผ อู ยูใตบงั คับบญั ชากระทาํ ผิดวนิ ัย และดาํ เนินการทางวินยั แกผ ูก ระทําผดิ วินยั การที่
ผูบังคับบัญชาละเลยการปฏิบัติหนาที่ดังกลาวมิไดทําใหการรักษาวินัยของราชการดีข้ึนตาม
นโยบายของรัฐบาล จงึ มมี ติใหนาํ เร่อื งเสนอคณะรฐั มนตรี เพ่ือมีมติกาํ ชบั ใหผ บู งั คบั บัญชาปฏิบัติ
หนาที่ในการรักษาวนิ ัยของผอู ยใู ตบ ังคบั บัญชาตามกฎหมายโดยเครง ครดั และใหถอื วาการที่
การรักษาวินัยของขา ราชการมิไดด ีขน้ึ ผบู งั คับบัญชามสี ว นรบั ผิดชอบ เพราะมิไดเสริมสรา งและ
พัฒนาใหผูอยูใตบังคับบัญชามีวินัย และมิไดปองกันมิใหผูอยูใตบังคับบัญชากระทําผิดวินัย
ซ่งึ ผูบงั คบั บญั ชาอาจตอ งรับผิดทางวินัยดว ย
คณะรฐั มนตรไี ดม ีมติเมอ่ื วันท่ี ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖ เห็นชอบตามมติ ก.พ.
ดงั กลา ว และใหแ จงกระทรวง กรม และจงั หวดั ทราบ
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและถอื ปฏิบตั ิตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเครงครดั ตอ ไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงชื่อ) นนทกิ ร กาญจนะจิตรา
(นายนนทกิ ร กาญจนะจติ รา)
เลขาธิการ ก.พ.
สํานักมาตรฐานวินัย โทร. ๐ ๒๕๔๗ ๑๖๒๘ โทรสาร ๐ ๒๕๔๗ ๑๖๒๕
๓๘
บญั ชีรายชื่อหนงั สือเวียน ระเบยี บ และคําสั่งตางๆ
กองคลัง
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๖
๑. เลขท่หี นงั สอื เวียน ช่ือเรอ่ื ง หนา
ลาํ ดบั ท่ี ระเบยี บ คาํ สงั่
เพ่ิมเติมหลักเกณฑและวธิ กี ารคืนเงนิ ชวยเหลือ ๔๓
๒. ลงวัน เดอื น ป ผูซ ึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรงุ
๑. ดว นทส่ี ุด อตั รากาํ ลังของสว นราชการ
ท่ี กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๑๔๔ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กําหนด ๔๕
ลว. ๑๒ ธ.ค. ๕๕ รายช่ือคณะกรรมการและคณะอนกุ รรมการ
๒. ดวนทีส่ ุด ท่มี ีสทิ ธิไดรบั เบยี้ ประชุมเปน รายเดอื น และ
ที่ กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๑๔๕ อัตราเบี้ยประชุมเปน รายเดือนและเปน
ลว. ๑๓ ธ.ค. ๕๕ รายครงั้ สําหรบั กรรมการ อนกุ รรมการ
เลขานกุ าร และผูช วยเลขานุการ (ฉบับที่ ๔)
๓. ดว นท่สี ดุ พ.ศ. ๒๕๕๕
ท่ี กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๑๔๙
ลว. ๒๔ ธ.ค. ๕๕ การเบกิ คา ยากลูโคซามนี ซลั เฟต ๕๑
๔. ดวนทส่ี ดุ
ท่ี กค ๐๔๐๙.๓ / ว ๔๘๓ แนวปฏิบัตกิ ารขอเบกิ เงินกรณีโอนสทิ ธิ ๕๒
ลว. ๒๔ ธ.ค. ๕๕ การรับเงนิ ผาน GFMIS Web Online
๕. ดว นทีส่ ุด มาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรบั อัตรา ๕๓
ท่ี กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๕ คาจางข้นั ตํา่ ป ๒๕๕๖
ลว. ๑๔ ม.ค. ๕๖
๓๙
บญั ชรี ายชื่อหนงั สือเวียน ระเบยี บ และคาํ สงั่ ตางๆ
กองคลัง
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๖
๑. เลขท่หี นังสอื เวียน ชอื่ เรอ่ื ง หนา
ลาํ ดับที่ ระเบียบ คําส่งั มติคณะรฐั มนตรีท่ีเก่ียวขอ งกับกระทรวง ๕๕
มหาดไทยและจงั หวดั
๒. ลงวัน เดอื น ป
๖. ดว นทส่ี ดุ
ท่ี มท ๐๒๑๑.๒ / ว ๕๓๕
ลว. ๕ ก.พ. ๕๖
๗. ดว นทส่ี ดุ การสง เรอื่ งขอรบั บําเหน็จ บาํ นาญ ๕๗
ท่ี กค ๐๔๒๐.๗ / ว ๗๔ บาํ เหนจ็ ลูกจา ง สาํ หรับผทู พี่ นจากราชการ
ลว. ๒๑ ก.พ. ๕๖ เพราะเกษยี ณอายุ
๘. ที่ กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๗๖ การกาํ หนดใหสถาบนั พัฒนาการเด็กภาค- ๕๙
ลว. ๒๒ ก.พ. ๕๖ ตะวันออกเฉยี งเหนอื เปน สถานพยาบาล
ของทางราชการ
๙. ที่ รง ๐๖๒๓ / ว ๑๑๒ การลดอตั ราเงินสมทบกองทุนประกันสงั คม ๖๐
ลว. ๑๒ ม.ี ค. ๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๖
๑๐. ดว นทีส่ ุด เพ่มิ เตมิ หลกั เกณฑและวธิ ีปฏบิ ตั ิในการขอรับ ๖๑
ที่ กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๑๖๒ และการออกหนงั สือรบั รองสทิ ธิในบาํ เหนจ็
ลว. ๑ พ.ค. ๕๖ ตกทอดเพือ่ ใชเ ปน หลกั ทรัพยประกนั การกูเงิน
และการหักเงนิ บาํ นาญเพ่อื ชาํ ระคนื เงนิ กู
๑๑. ดวนท่สี ดุ ใหแ กสถาบันการเงนิ
ท่ี กค ๐๔๒๗ / ว ๒๑๐
ลว. ๒๙ พ.ค. ๕๖ ซอ มความเขาใจแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการจัดตั้ง ๖๕
ทนุ หมนุ เวียน
๔๐
บัญชรี ายชือ่ หนังสอื เวียน ระเบียบ และคําส่งั ตา งๆ
กองคลงั
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๖
๑. เลขที่หนงั สอื เวยี น ชือ่ เรอ่ื ง หนา
ลาํ ดบั ที่ ระเบียบ คําสั่ง
๒. ลงวัน เดือน ป
๑๒. ที่ กบข. ๖๐๒๐/๓๕๕๖/๓๘/๒๕๕๖ ซักซอมความเขา ใจเรอ่ื งหลกั เกณฑและ ๖๖
ลว. ๑๕ ก.ค. ๕๖ วิธีการคืนเงนิ ขา ราชการท่ีกลับเขามา
รบั ราชการใหม
๑๓. ที่ มท ๐๕๐๓.๓ / ว ๒๑๐๕๓ การตรวจสอบพบเจาหนา ทป่ี ฏิบตั ิงาน ๗๓
ลว. ๑๔ ส.ค. ๕๖ ดา นการเงนิ และบญั ชยี กั ยอกเงิน
งบประมาณ
๑๔. ดว นทีส่ ุด หลกั เกณฑก ารเบกิ จา ยเงนิ สวสั ดิการ ๗๔
ที่ กค ๐๔๒๒.๒ / ว ๒๘๔ เก่ยี วกับการรักษาพยาบาลผปู วยโรคไต
ลว. ๑๖ ส.ค. ๕๖ เร้ือรังดวยวิธกี ารฟอกเลือดดว ยเครอ่ื ง
ไตเทยี ม
๑๕. ที่ กค ๐๔๒๐.๑ / ว ๐๐๔๐๐ วิธปี ฏบิ ัตใิ นการตรวจสอบขอ มลู บุคคล ๘๐
ลว. ๓๐ ต.ค. ๕๖ ทีศ่ าลมีคําสงั่ พทิ ักษท รัพยและพพิ ากษา
ลมละลาย ในระบบบําเหนจ็ บํานาญ
(e–Pension) และระบบบําเหนจ็
คํา้ ประกนั
๔๑
๔๒
ดว นท่ีสดุ (สาํ เนา)
ที่ กค ๐๔๐๖.๕ / ว ๑๔๔
กระทรวงการคลงั
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐
๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕
เรื่อง เพิม่ เตมิ หลกั เกณฑและวิธีการคืนเงนิ ชว ยเหลอื ผซู ึ่งออกจากราชการตามมาตรการ
ปรบั ปรงุ อัตรากําลังของสว นราชการ
เรยี น อธิบดกี รมที่ดนิ
อางถึง หนังสอื กระทรวงการคลงั ดวนที่สุด ท่ี กค ๐๔๐๖.๕/ว ๑๐๒ ลงวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๑
ตามที่กระทรวงการคลังไดแกไขพระราชกฤษฎีกาเงินชวยเหลือผูซ่ึงออกจาก
ราชการตามมาตรการปรบั ปรุงอัตรากาํ ลงั ของสว นราชการ พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยพระราชกฤษฎีกา
เงนิ ชว ยเหลือผซู งึ่ ออกจากราชการตามมาตรการปรบั ปรงุ อตั รากาํ ลงั ของสวนราชการ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ.๒๕๕๓ และพระราชกฤษฎีกาเงินชว ยเหลอื ผซู ่งึ ออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอตั รา
กาํ ลงั ของสว นราชการ (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๕ ซงึ่ ไดบ ัญญัตเิ พิม่ เติมใหผซู ่ึงเขา รวมโครงการให
เงินชว ยเหลือผซู ่งึ ออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอตั รากาํ ลังของสวนราชการ หากไดร บั
การบรรจุเขาเปนพนักงานในสถาบันอุดมศึกษาหรือขาราชการประจําในสวนราชการสังกัดรัฐสภา
ตองสงคืนเงินชวยเหลือที่ไดรับทั้งหมดพรอมดอกเบี้ย แตโดยที่หลักเกณฑและวิธีการคืินเงิน
ชวยเหลือผูซ ง่ึ ออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากาํ ลงั ของสวนราชการ ตามหนงั สอื
กระทรวงการคลัง ดวนท่ีสุด ที่ กค ๐๔๐๖.๕/ว ๑๐๒ ลงวนั ที่ ๑๙ กนั ยายน ๒๕๕๑ ซงึ่ กระทรวง
การคลังไดกําหนดไวเดิมยังไมครอบคลุมถึงขาราชการที่กลับเขาเปนพนักงานในสถาบัน
อดุ มศกึ ษาหรือขาราชการประจําในสวนราชการสังกดั รัฐสภา จงึ เหน็ สมควรแกไ ขหลักเกณฑแ ละ
วิธีการดังกลา วใหครอบคลมุ ดว ย นั้น
กระทรวงการคลงั ขอเรยี นวา เพ่ือใหขา ราชการทเ่ี ขา รว มโครงการฯ ซึง่ บรรจุกลับ
เปนพนักงานในสถาบันอุดมศึกษาหรือกลับเขาเปนขาราชการประจําในสวนราชการสังกัดรัฐสภา
จะตองสง คืนเงนิ ชว ยเหลอื ทไี่ ดร ับไวท ้ังหมดพรอ มดอกเบี้ย กระทรวงการคลัง จงึ ขอกาํ หนด
หลักเกณฑและวิธีการคืนเงินชวยเหลือผูซ่ึงออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากําลัง
ของสวนราชการเพ่มิ เตมิ โดยกําหนดใหขาราชการผเู ขา รวมโครงการฯ ท่ไี ดร บั เงินชว ยเหลือแลว
แตไดกลับเขาเปนขาราชการประจําในสวนราชการท่ีอยูในบังคับบัญชาหรือกํากับของฝาย
บริหารหรือสว นราชการสงั กดั รฐั สภา หรือไดร บั การบรรจเุ ปน พนกั งานราชการหรอื พนกั งานใน
๔๓
สถาบันอดุ มศกึ ษาที่สัญญาจางมีระยะเวลาเกนิ หนึง่ ป ตอ งสงคนื เงนิ ชว ยเหลือทีไ่ ดร บั ไวทง้ั หมด
พรอมดอกเบี้ย โดยปฏิบตั ติ ามหลกั เกณฑและวธิ กี าร ตามท่กี ระทรวงการคลงั กําหนดในหนงั สอื
กระทรวงการคลงั ดว นท่สี ดุ ท่ี กค ๐๔๐๖.๕/ว ๑๐๒ ลงวันที่ ๑๙ กนั ยายน ๒๕๕๑
จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดทราบและแจง ใหผูทเ่ี กย่ี วของทราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอ่ื ) สภุ า ปยะจติ ติ
(นางสาวสุภา ปยะจติ ต)ิ
รองปลดั กระทรวงการคลัง
หัวหนากลุมภารกจิ ดานรายจายและหนี้สนิ
ปฏิบตั ิราชการแทน ปลัดกระทรวงการคลงั
กรมบญั ชกี ลาง
สํานักกฎหมาย
กลุมงานกฎหมายและระเบยี บดานเงนิ เดอื น คาจาง บาํ เหน็จบาํ นาญ
โทรศัพท ๐-๒๑๒๗-๗๒๖๔
๔๔
ดว นที่สดุ (สําเนา)
ท่ี กค ๐๔๐๖.๔ / ว ๑๔๕
กระทรวงการคลัง
ถนนพระราม ๖ กทม. ๑๐๔๐๐
๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๕
เร่อื ง ประกาศกระทรวงการคลงั เร่อื ง กําหนดรายชอื่ คณะกรรมการและคณะอนกุ รรมการท่ีมี
สิทธิไดร บั เบ้ยี ประชุมเปน รายเดอื น และอตั ราเบ้ยี ประชุมเปนรายเดือนและเปน รายครั้ง
สําหรบั กรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการและผชู ว ยเลขานุการ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕
เรยี น อธิบดกี รมที่ดิน
สิง่ ที่สงมาดว ย สาํ เนาประกาศกระทรวงการคลัง เร่อื ง กาํ หนดรายช่ือคณะกรรมการและ
คณะอนกุ รรมการทีม่ สี ทิ ธไิ ดร บั เบ้ียประชุมเปนรายเดือน และอัตราเบ้ียประชมุ
เปน รายเดอื นและเปน รายครง้ั สาํ หรับกรรมการ อนกุ รรมการ เลขานุการและ
ผชู วยเลขานุการ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕
ตามท่ีกระทรวงการคลังไดประกาศกําหนดรายช่ือคณะกรรมการและ
คณะอนุกรรมการ ท่ีมีสิทธิไดรับเบ้ียประชุมเปนรายเดือน และอัตราเบ้ียประชุมเปนรายเดือน
และเปน รายครง้ั น้ัน
กระทรวงการคลงั พจิ ารณาแลว เหน็ สมควรประกาศกาํ หนดรายชอ่ื คณะอนกุ รรมการ
ทม่ี สี ทิ ธไิ ดร บั เบย้ี ประชมุ เปน รายเดอื นเพม่ิ เตมิ และยกเลกิ รายชอ่ื คณะกรรมการและคณะอนกุ รรมการ
ทม่ี ีสิทธไิ ดรับเบี้ยประชมุ เปน รายเดือน ปรากฏตามสง่ิ ทสี่ งมาดวย
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจงเจาหนาท่ีที่เกี่ยวของเพื่อทราบและถือปฏิบัติ
ตอ ไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชื่อ) สภุ า ปย ะจติ ติ
(นางสาวสภุ า ปยะจิตต)ิ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหนากลุมภารกจิ ดานรายจายและหนี้สิน
ปฏิบตั ริ าชการแทน ปลดั กระทรวงการคลัง
กรมบัญชีกลาง สํานักกฎหมาย
กลมุ งานกฎหมายและระเบียบดานคาใชจา ยในการบริหาร
โทร. ๐-๒๑๒๗-๗๒๖๒
๔๕
(สาํ เนา)
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรอ่ื ง กาํ หนดรายชอ่ื คณะกรรมการและคณะอนกุ รรมการที่มสี ิทธไิ ดร บั เบย้ี ประชมุ
เปน รายเดอื น และอตั ราเบีย้ ประชมุ เปน รายเดอื นและเปน รายครัง้
สําหรบั กรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการและผูชว ยเลขานกุ าร
(ฉ_บ__ับ_ท_ี่_๔_)_พ__.ศ__. ๒__๕_๕_๕
ตามท่ีกระทรวงการคลังไดประกาศกําหนดรายช่ือคณะกรรมการและคณะ
อนุกรรมการท่ีมีสทิ ธไิ ดร บั เบีย้ ประชุมเปน รายเดือน และอัตราเบี้ยประชุมเปน รายเดอื นและเปน
รายคร้งั สําหรับกรรมการ อนกุ รรมการ เลขานกุ ารและผูชว ยเลขานกุ าร ตามประกาศกระทรวง
การคลงั ฉบับลงวนั ที่ ๒๓ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๓ วนั ที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๔ และวันท่ี ๑๓ กันยายน
๒๕๕๔ รวม ๓ ฉบบั น้นั
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๖ มาตรา ๗ และมาตรา ๑๕ แหงพระราช
กฤษฎีกาเบ้ยี ประชมุ กรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ รัฐมนตรวี า การกระทรวงการคลังพิจารณาแลว
เห็นชอบใหประกาศกําหนด ดังนี้
๑. กําหนดรายชื่อคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการการแขงขันทางการคาใหมี
สิทธไิ ดรับเบ้ียประชมุ เปน รายเดือนเพ่มิ เตมิ ตามบญั ชหี มายเลข ๒ แนบทายประกาศน้ี
๒. ยกเลิกรายช่ือคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่มีสิทธิไดรับเบี้ยประชุม
เปนรายเดอื นตามหนังสือกระทรวงการคลัง ดว นท่สี ุด ท่ี กค ๐๔๐๖.๔/ว ๒๑ ลงวนั ท่ี ๒๓ กุมภาพันธ
๒๕๕๓ เรอ่ื ง ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กําหนดรายชอื่ คณะกรรมการและคณะอนกุ รรมการ
ทมี่ ีสทิ ธไิ ดร บั เบี้ยประชมุ เปนรายเดือน และอตั ราเบ้ียประชมุ เปนรายเดือนและเปน รายครงั้ สําหรับ
กรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการและผูช ว ยเลขานุการ พ.ศ.๒๕๕๓ ดังนี้
(๑) ลาํ ดับท่ี ๕ คณะกรรมการขา ราชการฝา ยรัฐสภา ตามบัญชีหมายเลข ๑
(๒) ลาํ ดบั ที่ ๑ – ๕ คณะอนกุ รรมการขาราชการฝา ยรัฐสภา ไดแก ๑) อ.ก.ร.
กฎหมายและระเบียบ ๒) อ.ก.ร. สรรหาพัฒนาและสง เสรมิ สมรรถภาพขา ราชการ ๓) อ.ก.ร. ระบบ
งานและอตั รากําลงั ๔) อ.ก.ร. ประเมนิ ประสทิ ธิภาพและประสิทธผิ ลของงานราชการของรฐั สภา
๕) อ.ก.ร. เฉพาะกจิ ตามบัญชหี มายเลข ๒
ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชอ่ื ) กิตตริ ัตน ณ ระนอง
(นายกิตติรัตน ณ ระนอง)
รฐั มนตรวี าการกระทรวงการคลัง
๔๖