ชํารุด หรอื สูญหาย และขอ ๑๗ (๓) (๔) (๕) และ (๖) กําหนดใหบคุ คลตามที่กฎหมายกําหนดเปน
ผมู สี ทิ ธยิ น่ื คาํ ขอออกใบแทนโฉนดทด่ี นิ เพอ่ื ใหบ คุ คลดงั กลา วดาํ เนนิ การเปลย่ี นแปลงสทิ ธเิ กย่ี วกบั
ท่ดี ินตอไป ไดแ ก ผูมสี ิทธจิ ดทะเบียนตามคาํ สง่ั หรอื คาํ พิพากษาของศาล เจาพนักงานผูมีอาํ นาจ
ในการยดึ และขายทอดตลาดท่ดี นิ อธบิ ดกี รมท่ดี ินหรือผวู าราชการจังหวดั กรณีท่ไี มไ ดโฉนดทีด่ ิน
มาจากเจา ของทีด่ นิ เดิมหรอื โฉนดทด่ี นิ เดมิ เปนอนั ตราย ชาํ รุด หรอื สูญหาย จะเหน็ ไดวา เพ่ือให
บุคคลตามท่ีกฎหมายกําหนดซ่ึงมิใชเจาของท่ีดินมีสิทธิยื่นคําขอออกใบแทนโฉนดท่ีดินไดดวย
อนั เปนกรณีท่ีรฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทยใชอาํ นาจตามมาตรา ๑๕ แหง พระราชบัญญตั ิ
ใหใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ออกกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗)ฯ ข้ึน
เพื่อแกไขปญหาใหเจาพนักงานท่ีดินสามารถปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดินในเร่ือง
การออกใบแทนโฉนดที่ดินได
ดวยเหตผุ ลดงั กลาวขางตน การทข่ี อ ๑๗ (๓) แหง กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗)ฯ กําหนดใหผูมีสิทธิจดทะเบียนตามคําพิพากษาของศาลมีสิทธิย่ืนคําขอออก
ใบแทนโฉนดท่ดี นิ ได แสดงใหเ หน็ วากฎหมายยอมรับใหผ ูม ีสทิ ธิจดทะเบยี นตามคําพิพากษาของ
ศาลซ่ึงเปน บุคคลทีศ่ าลรบั รองใหไ ดรับสิทธิจดทะเบยี นเก่ยี วกบั โฉนดท่ดี นิ แตไ มไ ดโฉนดทด่ี นิ มา
หรอื โฉนดท่ดี ินเดมิ เปนอันตราย ชํารุด หรือสญู หายดวยประการใดๆ มีสทิ ธิยนื่ คําขอออกใบแทน
โฉนดทีด่ นิ เพอ่ื ใหบุคคลดงั กลา วมีหลกั ฐานเปนหนงั สือในการไดร ับสทิ ธจิ ดทะเบียนเกยี่ วกับที่ดนิ
รวมท้ังสามารถใชหลักฐานดังกลาวยกข้ึนเปนขอตอสูกับเจาของที่ดินและบุคคลภายนอกไดตาม
มาตรา ๑๒๙๙ แหง ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย อนั เปน การแกไ ขปญ หาใหเ จา พนกั งานทด่ี นิ
สามารถปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายทด่ี ินได ทัง้ น้ี เนือ่ งจากเจาของโฉนดท่ดี นิ เดิมมัก
ไมยอมใหโ ฉนดท่ีดินแกผูไดส ทิ ธติ ามคาํ พิพากษาของศาล และพนกั งานเจาหนาที่กไ็ มส ามารถ
ออกใบแทนใหไ ด เพราะไมถ อื วา เปน กรณที โ่ี ฉนดทด่ี นิ ชาํ รดุ หรอื สญู หาย ดงั นน้ั ผมู สี ทิ ธจิ ดทะเบยี น
ตามคําพพิ ากษาของศาล ตามขอ ๑๗ (๓) แหง กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตาม
ความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ จงึ หมายความรวมถึงผมู ีสิทธิ
จดทะเบียนตามคําพิพากษาของศาลซึ่งมิใชเจาของท่ีดินดวย รายละเอียดปรากฏตามสําเนา
หนังสือสาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ นร ๐๙๐๑/๐๒๙๑ ลงวนั ที่ ๑๒ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๖
เรอ่ื ง หารือกรณีผมู สี ทิ ธจิ ดทะเบยี นภาระจาํ ยอมตามคําพิพากษาขอออกใบแทน ซง่ึ สงมาพรอมน้ี
เพื่อใหก ารปฏบิ ัติงานของเจาหนาท่เี ปนไปในแนวทางเดยี วกัน กรมทดี่ นิ จงึ ขอ
ซอมความเขาใจและวางทางปฏิบัติในกรณีออกใบแทนหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินเพื่อจดทะเบียน
ตามคําพิพากษาหรือคาํ สัง่ ถงึ ทสี่ ดุ ของศาลเพ่ิมเติม ดังนี้
๑. เมอ่ื มผี นู าํ คาํ พพิ ากษาหรอื คาํ สง่ั ถงึ ทส่ี ดุ ของศาลโดยระบใุ หถ อื เอาคาํ พพิ ากษา
แทนการแสดงเจตนาของจําเลย มาย่ืนคําขอจดทะเบียนตามคําพิพากษาหรือคําส่ังถึงที่สุด
ของศาล และไมส ามารถนาํ หนังสือแสดงสทิ ธิในท่ีดินมาจดทะเบียนตอ พนักงานเจาหนา ท่ี ใหผูขอ
๕๔๗
ยน่ื คาํ ขอออกใบแทน และใหพ นกั งานเจา หนา ทด่ี าํ เนนิ การออกใบแทนตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใชป ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑๗ (๓) โดยกอ นออกใบแทน ใหพ นักงานเจา หนา ทมี่ หี นังสอื แจงตอ ผมู ีชือ่ ในหนังสอื แสดงสทิ ธิ
ในที่ดินทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลําเนาหรือสถานที่ที่ผูนั้นไดใหไวแกพนักงาน
เจา หนา ทใ่ี นเอกสารสารบบทด่ี นิ ทราบวา “นาย/นาง..........................ไดนาํ คาํ พิพากษาหรอื คาํ สง่ั
ถงึ ทสี่ ดุ ของศาล.............................................ซง่ึ พพิ ากษาใหจ ดทะเบยี น...................................
ในหนังสือแสดงสิทธใิ นทดี่ นิ .......(โฉนดทด่ี นิ หรอื หนังสือรบั รองการทาํ ประโชน)......เลขท.่ี ............
ตาํ บล.....................................อาํ เภอ..................................จังหวดั .................................ไปขอ
จดทะเบียนตอ พนกั งานเจา หนาที่ แตเน่ืองจากผขู อไมไดนาํ ผูมชี ่อื ในหนงั สอื แสดงสิทธใิ นท่ีดนิ
และ....(โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน).....ฉบับเจาของที่ดินไปขอจดทะเบียนดวย
โดยแจง วา ผมู ชี อ่ื ในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ ไมย นิ ยอมไปจดทะเบยี นและไมส ง มอบ....(โฉนดทด่ี นิ
หรอื หนังสอื รบั รองการทําประโยชน).....ให พนกั งานเจา หนา ท่ีจงึ จะดาํ เนินการออกใบแทนตาม
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใชป ระมวลกฎหมาย
ท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓) เพื่อจดทะเบยี นตามคาํ พพิ ากษาหรือคําสง่ั ถงึ ทส่ี ดุ ของศาลใหแก
ผขู อตอ ไป”
๒. เมื่อพนักงานเจาหนาทไ่ี ดแจกใบแทนใหแกผขู อแลว ใหถ อื วา หนงั สือแสดง
สิทธใิ นทีด่ นิ เดิมเปน อนั ยกเลกิ ตามมาตรา ๖๓ วรรคสอง แหงประมวลกฎหมายท่ดี นิ
๓. เมื่อพนักงานเจาหนาท่ีไดดําเนินการจดทะเบียนใหเปนไปตามคําพิพากษา
หรือคําสัง่ ถงึ ทีส่ ุดของศาลแลว กรณผี ูมสี ทิ ธจิ ดทะเบียนตามคาํ พพิ ากษาหรือคาํ สั่งถงึ ที่สดุ ของ
ศาลมิใชผูจะไดมาซึ่งกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินตามคําพิพากษา
หรอื คาํ ส่ังของศาล แตเปน สทิ ธอิ ยางอ่นื เชน ภาระจาํ ยอม ฯลฯ ใหพ นักงานเจา หนา ทีแ่ จง ผูมชี อื่ ใน
หนังสอื แสดงสทิ ธใิ นท่ดี ินทราบถงึ การออกใบแทนการยกเลกิ หนงั สือแสดงสิทธิในท่ีดินเดมิ และ
การจดทะเบยี นตามคําพพิ ากษาหรอื คําสั่งถึงที่สุดของศาล โดยใหพ นกั งานเจา หนาที่มีหนังสอื
แจงตอผูมีชื่อในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลําเนาหรือ
สถานทที่ ผ่ี ูน ั้นไดใ หไวแ กพ นักงานเจา หนา ทีใ่ นเอกสารสารบบทด่ี ินทราบวา “นาย/นาง.................
ไดนําคาํ พพิ ากษาหรอื คาํ สัง่ ถึงที่สุดของศาล.....................ซ่งึ พิพากษาใหจดทะเบยี น..................
ในหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ .......(โฉนดที่ดนิ หรือหนังสอื รบั รองการทาํ ประโชน)......เลขท.่ี ............
ตาํ บล.....................................อาํ เภอ..................................จงั หวัด.................................ไปขอ
จดทะเบยี นตอ พนักงานเจาหนา ที่ แตเ น่อื งจากผูขอไมไ ดน ําผมู ชี ่ือในหนังสอื แสดงสิทธิในทด่ี นิ
และ....(โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน).....ฉบับเจาของที่ดินไปขอจดทะเบียนดวย
โดยแจง วา ผมู ชี อ่ื ในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ ไมย นิ ยอมไปจดทะเบยี นและไมส ง มอบ....(โฉนดทด่ี นิ
หรอื หนงั สอื รับรองการทาํ ประโยชน).....ให พนักงานเจาหนาทจ่ี งึ ไดออกใบแทน....(โฉนดทด่ี นิ หรอื
๕๔๘
หรอื หนังสือรบั รองการทําประโยชน) .....ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตาม
ความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓) และจดทะเบียน
ตามคําพิพากษาหรือคําส่ังถึงท่ีสุดของศาลใหแกผูขอแลว จึงเปนผลให.........(โฉนดท่ดี ินหรือ
หนงั สอื รับรองการทาํ ประโยชน) ........ฉบับเจา ของท่ีดิน (ฉบับเดิม) เปนอันยกเลิกตามมาตรา ๖๓
วรรคสอง แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ฉะนั้น หากผูมีชื่อในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินจะขอ
จดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม หรือทาํ ธรุ กรรมเกยี่ วกบั ทีด่ ินตอ ไป ในการดําเนินการยืน่ คาํ ขอ ผูมชี ่อื
ในหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นที่ดนิ ตองใชใบแทน.....(โฉนดที่ดินหรือหนังสอื รบั รองการทําประโยชน) ......
ฉบับเจาของท่ีดินซ่ึงพนักงานเจาหนาที่ไดออกใหดังกลาวเปนเอกสารประกอบการยื่นคําขอดวย
จงึ ขอใหผมู ีชือ่ ในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นที่ดนิ ไปรบั ใบแทนดงั กลาว ณ สํานกั งานทดี่ นิ ...................
ภายใน ๑๕ วนั นับแตว ันไดร บั แจงหรอื ถือวา ไดร ับแจง”
๔. ถา ผมู ชี อ่ื ในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ ไมม ารบั ใบแทนฉบบั เจา ของทด่ี นิ ภายใน
กาํ หนดเวลาดงั กลา ว ใหพนักงานเจา หนา ทจ่ี ดั เก็บใบแทนฉบบั เจาของทด่ี ินไวในตูเก็บหนงั สือ
แสดงสทิ ธิในทีด่ นิ โดยจัดเกบ็ แยกจากหนงั สือแสดงสิทธใิ นท่ีดินฉบบั สาํ นกั งานที่ดินใหช ดั เจน
และใหติดกลัดใบแจงเรือ่ งระหวา งดาํ เนินการ (ท.ด. ๗๔) ท่ีดานหนา ของหนังสอื แสดงสทิ ธิในที่ดนิ
และทส่ี ารบบของทดี่ ินแปลงนน้ั วา “หนงั สอื แสดงสิทธใิ นที่ดิน.....(โฉนดที่ดินหรอื หนงั สือรบั รอง
การทาํ ประโยชน).....ฉบับเจาของท่ดี ิน เลขท.่ี ............ตําบล.........................อาํ เภอ....................
จังหวดั ....................ไดถกู ยกเลิกและออกใบแทนเพื่อจดทะเบยี น...............ตามคาํ พพิ ากษาหรือ
คําสง่ั ถึงทส่ี ดุ ของศาล.........................แลว แตผมู ชี ่ือในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินยังไมไ ดม ารับ
ใบแทน หากผมู ชี อ่ื ในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ จะขอจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม หรอื ทาํ ธรุ กรรม
เกย่ี วกบั ท่ีดิน ใหพ นักงานเจา หนาท่ีเรยี กเกบ็ หนังสือแสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ เดิมและสงมอบใบแทน
ฉบบั เจา ของท่ดี นิ ใหแกผ ูม ชี ่อื ในหนังสอื แสดงสทิ ธใิ นที่ดินรบั ไป”
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจงใหเจาหนาที่ในสังกัดกรมท่ีดินทราบและ
ถือปฏิบัตติ อ ไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงช่ือ) บญุ เชิด คดิ เหน็
(นายบุญเชิด คิดเหน็ )
อธิบดกี รมทีด่ นิ
สํานกั มาตรฐานการออกหนังสือสําคัญ
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๘๑๒
โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๓๙๘
๕๔๙
(สาํ เนา)
ที่ นร ๐๙๐๑ / ๐๒๙๑ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑ ถนนพระอาทิตย เขตพระนคร
กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐
๑๒ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๖
เรื่อง หารอื กรณีผูมีสิทธจิ ดทะเบียนภาระจํายอมตามคาํ พิพากษาขอออกใบแทน
เรียน อธิบดกี รมทด่ี ิน
อางถงึ หนงั สือสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดวนทส่ี ดุ ท่ี นร ๐๙๐๑.๑๗ / ป ๐๒๐
ลงวันท่ี ๑๘ มกราคม ๒๕๕๖
สง่ิ ทีส่ งมาดวย บันทกึ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า เร่ือง การขอออกใบแทนโฉนดที่ดนิ ของ
ผมู สี ทิ ธิจดทะเบยี นตามคาํ พิพากษาของศาล
ตามทก่ี ระทรวงมหาดไทยไดข อหารอื ปญ หาขอ กฎหมายเกย่ี วกบั การขอออกใบแทน
โฉนดทด่ี นิ ของผมู สี ทิ ธจิ ดทะเบยี นตามคาํ พพิ ากษาของศาล และสาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ไดขอใหกระทรวงมหาดไทย (สํานักงานปลัดกระทรวงและกรมท่ีดิน) แตงต้ังผูแทนไปช้ีแจง
ขอเท็จจริง นั้น
บัดน้ี คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๗) ไดพิจารณาขอหารอื ดังกลาว และมี
ความเหน็ ปรากฏตามบนั ทกึ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี าที่ไดส ง มาดวยนี้ อน่ึง สาํ นกั งาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาไดแจงผลการพิจารณาไปยังสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบตาม
ระเบียบดวยแลว
จงึ เรียนมาเพอื่ โปรดทราบ
ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่อื ) อัชพร จารจุ นิ ดา
(นายอัชพร จารุจินดา)
เลขาธกิ ารคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั อํานวยการ ฝา ยกฎหมายการเกษตร
โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๗๙๐๐–๑๓ ตอ ๒๓๐๙ (นางสาวฤทยั ฯ)
โทรสาร ๐ ๒๒๘๑ ๐๒๘๗
www.krisdika.go.th www.lawreform.go.th
๕๕๐
เรอ่ื งเสร็จท่ี ๑๘๐ / ๒๕๕๖
บนั ทกึ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เรื่อง การขอออกใบแทนโฉนดท__ีด่ _นิ _ข_อ__งผ__มู _สี _ทิ _ธ__จิ _ด_ท_ะเบยี นตามคาํ พิพากษาของศาล
กระทรวงมหาดไทยไดม หี นังสอื ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/๑๓๔ ลงวันท่ี ๗ มกราคม ๒๕๕๖
ถึงสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สรุปความไดว า จังหวดั สงขลาไดมีหนังสอื หารอื กรมทด่ี ิน
กรณีนายเต้ยี น ศรีจุรี ไดนําคําพพิ ากษาอนั ถงึ ทส่ี ดุ ของศาลอทุ ธรณภาค ๙ คดหี มายเลขแดงที่
๒๒๕๗/๒๕๕๑ ลงวนั ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๑ ไปยื่นคําขอออกใบแทนโฉนดที่ดนิ เลขที่ ๑๓๑๗๙๘
ตาํ บลน้าํ นอย อาํ เภอหาดใหญ จงั หวัดสงขลา ซงึ่ มีชอื่ นางปนุ พทุ ธนุกูล เปน ผูถอื กรรมสิทธ์ิ
เพ่ือจดทะเบียนภาระจํายอมโดยถือเอาคําพิพากษาแทนการแสดงเจตนา เน่ืองจากนางปุนฯ
ไมไ ปดําเนนิ การ ซง่ึ จงั หวัดเหน็ วา แมผ ขู อจะไมใ ชเ จาของที่ดนิ แตก ็เปน ผูมีสทิ ธิจดทะเบียนตาม
คาํ พิพากษา มีสทิ ธิยนื่ คาํ ขอออกใบแทนไดตามมาตรา ๖๓ แหงประมวลกฎหมายทดี่ นิ และ
ขอ ๑๗ (๓) แหงกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ ช
ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ.๒๔๙๗ ความเหน็ ดังกลา วชอบดว ยระเบียบกฎหมายหรือไม อยางไร
กรมทด่ี นิ ไดน าํ เรอ่ื งนเ้ี ขา สกู ารพจิ ารณาของคณะกรรมการพจิ ารณาปญ หาขอ กฎหมาย
ของกรมทด่ี ิน ในคราวประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมอื่ วันท่ี ๒๒ กุมภาพันธ ๒๕๕๔ แลวมมี ติวา
เม่ือความเห็นยังขัดแยง กนั วา “ผมู สี ิทธิจดทะเบียนตามคาํ พพิ ากษาของศาล” ท่มี สี ิทธิย่นื คําขอ
ออกใบแทนโฉนดที่ดินตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราช
บญั ญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓) จะหมายความรวมถึง “ผูมสี ิทธิ
จดทะเบยี นภาระจาํ ยอมตามคําพิพากษาของศาล” ดว ยหรอื ไม และกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑๗ (๓) จะขดั กับมาตรา ๖๓ แหงประมวลกฎหมายทด่ี ินหรือไม อยา งไร กรมทดี่ นิ จึงไดส ง
เร่ืองน้ใี หกระทรวงมหาดไทยพจิ ารณาในประเด็น ดังนี้
๑. คาํ วา “ผมู สี ทิ ธจิ ดทะเบยี นตามคาํ พพิ ากษาของศาล” ตามกฎกระทรวงฉบบั ท่ี ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑๗ (๓) หมายความเฉพาะสิทธิในความเปนเจาของที่ดินเพียงประการเดียวเทานั้นหรือ
หมายความรวมถึงสทิ ธอิ ่นื ๆ ตามคําพิพากษาโดยไมตอ งเปนเจาของท่ีดนิ ดว ย ซึ่งกรมทด่ี นิ เหน็ วา
หมายความเฉพาะสิทธิความเปน เจา ของทด่ี ินเพียงประการเดยี วเทานัน้
–––––––––––––––––––––––––––––––––––
สง พรอมหนงั สอื ท่ี น/ร ๐๙๐๑/๐๒๘๙ ลงวันท่ี ๑๒ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๖ ซึ่งสํานักงาน
คณะกรรมการกฤษฎกี ามีถึงสํานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี
๕๕๑
๒. การท่ีนายเตี้ยน ศรีจุรี ไดนําคําพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลอุทธรณภาค ๙
คดหี มายเลขแดงท่ี ๒๒๕๗/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๒๙ สงิ หาคม ๒๕๕๑ ไปยนื่ คําขอออกใบแทนโฉนด
ท่ดี ิน เลขที่ ๑๓๑๗๙๘ ตําบลน้ํานอย อาํ เภอหาดใหญ จงั หวัดสงขลา เพอ่ื จดทะเบยี นภาระจาํ ยอม
โดยถอื เอาคาํ พพิ ากษาแทนการแสดงเจตนา เนอ่ื งจากผถู อื กรรมสทิ ธใ์ิ นโฉนดทด่ี นิ ไมไ ปดาํ เนนิ การ
จดทะเบียนภาระจํายอมตามคําพิพากษาดังกลาว จะถือวาเปน “ผูมีสิทธิจดทะเบียนตาม
คําพิพากษาของศาล” มีสิทธิยื่นคําขอออกใบแทนโฉนดที่ดินตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑๗ (๓) หรอื ไม ซ่ึงกรมที่ดนิ เห็นวา นายเต้ียนฯ เปน ผูม ีสทิ ธจิ ดทะเบยี นตามคําพิพากษา
ของศาล แตไ มมสี ิทธยิ น่ื คาํ ขอออกใบแทนโฉนดที่ดนิ ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ.๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓) เนือ่ งจาก
นายเตย้ี นฯ เปน เพยี งผูมสี ทิ ธจิ ดทะเบียนภาระจาํ ยอม ซึ่งเปน เพยี งทรพั ยสทิ ธไิ มไดม สี ิทธใิ นความ
เปนเจา ของทด่ี นิ
๓. การตคี วาม คาํ วา “ผมู สี ทิ ธจิ ดทะเบยี น” ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓)
หากหมายความรวมถึงผทู ไี่ มไดเปน เจา ของท่ดี นิ ดว ยจะขดั กับมาตรา ๖๓ แหง ประมวลกฎหมาย
ท่ดี ินท่บี ญั ญัติใหเจาของมาขอรบั ใบแทนโฉนดที่ดินหรือไม อยางไร ซึ่งกรมที่ดนิ เหน็ วา หาก
ตีความคาํ วา “ผูมีสทิ ธิจดทะเบยี น” ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความใน
พระราชบญั ญัตใิ หใชประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓) หมายความรวมถึงผทู ไี่ มได
เปน เจา ของทีด่ นิ ดว ย ยอ มขดั กับมาตรา ๖๓ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
๔. ใบแทนโฉนดทีด่ ินจะมผี ลเปน อนั ยกเลิกโฉนดที่ดินเดมิ เม่ือใด การแจกใบแทน
ใหแ กผ ทู ไี่ มไดเ ปน “เจา ของ” เชน เปน เพยี งผมู สี ทิ ธิจดทะเบียนภาระจํายอมตามคาํ พิพากษา
ของศาล จะถอื วาใบแทนนน้ั มผี ลสมบรู ณแ ละยกเลกิ โฉนดทด่ี นิ เดิมแลวหรือไม และจะสามารถ
จดทะเบยี นภาระจํายอมในใบแทนโฉนดทีด่ ินแปลงภารยทรัพยนนั้ ตอ ไปไดห รือไม ซ่ึงกรมท่ดี ิน
เหน็ วา ใบแทนโฉนดที่ดินจะมีผลเปนอนั ยกเลิกโฉนดทดี่ ินเดิม เมอื่ สงมอบใหแ กผขู อซ่งึ เปน ผูมี
สทิ ธใิ นความเปนเจา ของท่ดี นิ รบั ไปตามคาํ พพิ ากษาศาลฎกี าที่ ๑๙๗/๒๕๐๙ การแจกใบแทนให
แกผทู ไ่ี มไดเปน “เจา ของ” ยอ มไมมีผลเปน การยกเลิกโฉนดทดี่ นิ เดมิ และไมสามารถจดทะเบียน
ภาระจาํ ยอมซง่ึ เปนทรัพยสทิ ธใิ นใบแทนโฉนดท่ีดนิ แปลงภารยทรัพยได
กระทรวงมหาดไทยไดนําเร่ืองน้ีเขาสูการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาราง
กฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ ๑ ในคราวประชมุ คร้ังท่ี ๑/๒๕๕๕ เมอ่ื วนั ที่ ๔ มกราคม
๒๕๕๕ แลว มมี ตวิ า ตามขอ ๑๗ (๓) ของกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความ
ในพระราชบัญญตั ิใหใชประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ กาํ หนดวา ในการออกใบแทน
โฉนดที่ดินใหดําเนินการในกรณีศาลมีคําส่ังหรือคําพิพากษาอันถึงท่ีสุดเก่ียวกับโฉนดที่ดินหรือ
๕๕๒
ผใู ดมีสทิ ธจิ ดทะเบยี นตามคาํ พพิ ากษาของศาล แตไมไ ดโ ฉนดทดี่ นิ มาหรอื โฉนดทดี่ นิ เดมิ เปน
อันตราย ชาํ รุด หรือสูญหายดวยประการใด ใหผ ูมีสทิ ธิจดทะเบียนย่นื คําขอใบแทนแลว ให
ดําเนินการตามทก่ี าํ หนดไวใ น (๑) หรือ (๒) แลวแตกรณี และตามขอ ๑๗ วรรคสอง กําหนดวา
ในกรณที ไี่ มไ ดโ ฉนดท่ดี นิ มาตาม (๓) ใหถือวา โฉนดทีด่ ินสญู หาย ดงั นน้ั เมือ่ นายเต้ียนฯ เปน
ผมู ีสทิ ธิจดทะเบียนตามคําพิพากษาของศาลโดยคดถี ึงทสี่ ดุ แลว ปรากฏวา ผถู ือกรรมสทิ ธ์ิใน
โฉนดทดี่ นิ ไมไ ดไปดาํ เนนิ การจดทะเบยี นภาระจาํ ยอมใหน ายเตยี้ นฯ ตามคาํ พิพากษาดงั กลา ว
นายเตย้ี นฯ จึงสามารถนําคําพิพากษาดังกลาวมายื่นขอออกใบแทนไดตามขอ ๑๗ (๓) ของ
กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมาย
ที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ เมื่อไดออกใบแทนแลว โฉนดที่ดินเดิมเปนอันยกเลิกตามมาตรา ๖๓
วรรคสอง แหงประมวลกฎหมายที่ดนิ และเพอ่ื ใหผูครอบครองโฉนดท่ดี ินฉบับเดมิ ทราบถงึ
การออกใบแทนโดยมผี ลยกเลิกโฉนดที่ดินฉบับเดิม กรมที่ดินควรจะตองแจงใหผูครอบครอง
โฉนดที่ดินฉบับเดิมทราบ เพื่อมารับใบแทนดงั กลาวตอไป
อนึง่ ตามมาตรา ๖๓ วรรคสอง แหงประมวลกฎหมายทด่ี นิ ที่กาํ หนดวา โฉนดทีด่ นิ
ของผูใดเปน อนั ตราย ชํารุด สญู หายดวยประการใด ใหเ จา ของมาขอรับใบแทนโฉนดทีด่ นิ
นนั้ ได นัน้ เหน็ วา คาํ วา “เจา ของ” ตามความในมาตรานน้ี าจะมเี จตนารมณใ หหมายความรวมถึง
ผทู ่ีครอบครองโฉนดที่ดินดวย เชน กรณีมกี ารนําโฉนดทด่ี นิ ไปจํานองกับธนาคาร และธนาคาร
ไดม ีการยึดถือโฉนดทีด่ นิ ไวแ ละตอมาหากโฉนดทด่ี ินที่ธนาคารครอบครองเกดิ อันตราย ชาํ รุด หรอื
สญู หาย ธนาคารทค่ี รอบครองเทานัน้ จึงจะทราบถงึ เหตดุ ังกลาว ดงั นัน้ ธนาคารนา จะสามารถมา
ดําเนินการตามมาตรานี้ได
สว นประเดน็ ตามคําพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี ๑๙๗/๒๕๐๙ ท่วี นิ จิ ฉยั วา “โฉนดท่ีดนิ
ทเี่ จา พนักงานไดทาํ เสร็จเรียบรอยและประกาศแจกโฉนดที่ดนิ แลว ผขู อมาขอรบั เซ็นชือ่ รับ และ
เสียคา ธรรมเนียมตอ พนกั งานเจา หนา ท่ีแลว แตยงั ไมไ ดมอบโฉนดทดี่ ินใหผขู อรับไป ถือไมไ ดวา
ทีด่ นิ รายน้ไี ดอ อกโฉนดทด่ี นิ แลว” ซง่ึ กรณตี ามคําพิพากษาศาลฎีกาเปน กรณีทผี่ ูมีสิทธคิ รอบครอง
ทด่ี นิ มาดาํ เนนิ การขอออกโฉนดทด่ี นิ ใหมเ ปน ครง้ั แรก และผคู รอบครองทด่ี นิ ยงั ไมร บั มอบโฉนดทด่ี นิ
จากพนกั งานเจาหนาที่ สวนกรณตี ามขอหารอื น้ีเปน กรณที ี่ผถู อื กรรมสิทธ์ใิ นที่ดนิ ไดค รอบครอง
โฉนดท่ีดนิ ไวแ ลว แตไมไ ปดาํ เนินการจดทะเบยี นภาระจํายอมตามคาํ พพิ ากษา แนวคําพิพากษา
ของศาลฎกี าดังกลาวจึงไมอ าจมาใชเ ทียบเคยี งไดก บั ประเดน็ ตามขอ หารือนี้
กระทรวงมหาดไทยใหกรมท่ีดินรับความเห็นของคณะกรรมการรางกฎหมายของ
กระทรวงมหาดไทย คณะท่ี ๑ ดงั กลา วไปพจิ ารณาดาํ เนนิ การในสว นทเ่ี กย่ี วขอ งตอ ไป ซง่ึ กรมทด่ี นิ
ไดน าํ ความเห็นของคณะกรรมการรา งกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ ๑ ตอบขอ หารือ
และวางแนวทางปฏิบัติภายหลังการออกใบแทนโฉนดที่ดินใหจังหวัดสงขลาทราบตามหนังสือ
กรมที่ดิน ท่ี มท ๐๕๐๖.๕/๑๘๕๖๘ ลงวนั ท่ี ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เรอ่ื ง หารอื กรณีผมู สี ิทธิ
จดทะเบียนภาระจาํ ยอมตามคําพพิ ากษาขอออกใบแทน
๕๕๓
ตอมาในการประชุมคณะกรรมการพจิ ารณาปญ หาขอกฎหมายของกรมทด่ี นิ ครง้ั ท่ี
๒ / ๒๕๕๕ เม่ือวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๕ คณะกรรมการฯ ไดหยิบยกประเด็นปญ หาเร่ือง
“หาริือ กรณผี ูมีสิทธิจดทะเบียนภาระจาํ ยอมตามคาํ พพิ ากษาขอออกใบแทน” มาพิจารณาใหข อ
สังเกตอีกครั้งหนึง่ สรุปไดว า แมว า คณะกรรมการพจิ ารณารา งกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย
คณะท่ี ๑ จะพจิ ารณาและมมี ติทปี่ ระชุมใหเ จาของทดี่ นิ แปลงสามยทรพั ยส ามารถนําคําพิพากษา
มาย่ืนขอออกใบแทนไดต ามขอ ๑๗ (๓) ของกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความ
ในพระราชบญั ญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ แตโดยทปี่ ระเด็นปญหาดงั กลาวเปน
ประเดน็ ปญ หาทีส่ ําคญั อันนาํ ไปสูแ นวทางปฏบิ ตั ิของพนักงานเจา หนา ท่ี อกี ท้งั การดําเนินการ
ออกใบแทนโฉนดที่ดินใหแกผูท่ีไมใชผูถือกรรมสิทธิ์ในท่ีดิน อาจเปนการขัดตอบทบัญญัติ
รัฐธรรมนญู แหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๔๑ กลาวคอื สทิ ธิของบคุ คลใน
ทรัพยสนิ ยอ มไดร ับความคุมครอง เนอื่ งจากจะเปน การกระทบสทิ ธิในทรพั ยส ินของผมู ชี ่ือเปน
ผูถอื กรรมสิทธ์ิในทดี่ ิน กรมทด่ี ินพจิ ารณาแลวเห็นวา กรณีหารอื นไี้ ดม ีการปรกึ ษากนั ระหวาง
สว นราชการทม่ี หี นา ทร่ี บั ผดิ ชอบแลว ยงั มคี วามเหน็ แยง กบั ความเหน็ ของคณะกรรมการรา งกฎหมาย
ของกระทรวงมหาดไทยคณะที่ ๑ เพือ่ ใหการพิจารณาประเดน็ ปญ หาเปน ท่ยี ตุ แิ ละเปนแนวปฏบิ ัติ
ทถี่ กู ตอ งและชัดเจนตอ ไป เหน็ ควรหารือไปยังสาํ นักงานคณะกรรมการกฏษฎกี า
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแลวเห็นวา เพ่ือใหการพิจารณาในประเด็นปญหา
ขอ กฎหมายกรณหี ารอื น้ีเปนท่ียตุ ิและเปนแนวทางปฏบิ ัตแิ กส ํานกั งานที่ดินท่ัวประเทศ จึงหารือ
คณะกรรมการกฤษฎกี าในประเดน็ ดงั น้ี
๑. คาํ วา “ผมู สี ทิ ธจิ ดทะเบยี นตามคาํ พพิ ากษาของศาล” ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑๗ (๓) หมายความเฉพาะสทิ ธิในความเปนเจา ของทดี่ นิ เพยี งประการเดยี วเทาน้นั หรอื
หมายรวมถึง สทิ ธิอ่ืนๆ ตามคําพิพากษาโดยไมต องเปนเจาของที่ดินดวย ซ่ึงกรมทีด่ นิ เหน็ วา
หมายความเฉพาะสทิ ธคิ วามเปน เจาของทดี่ นิ เพยี งประการเดยี วเทา นน้ั
๒. การทนี่ ายเต้ยี น ศรีจุรี ไดนาํ คาํ พิพากษาอันถึงที่สดุ ของศาลอทุ ธรณภาค ๙
คดหี มายเลขแดงที่ ๒๒๕๗/๒๕๕๑ ลงวนั ท่ี ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๑ ไปยน่ื คาํ ขอออกใบแทน
โฉนดที่ดนิ เลขท่ี ๑๓๑๗๙๘ ตาํ บลนํ้านอย อาํ เภอหาดใหญ จงั หวดั สงขลา เพ่อื จดทะเบียน
ภาระจํายอม โดยถอื เอาคาํ พิพากษาแทนการแสดงเจตนา เน่อื งจากผูถอื กรรมสิทธิใ์ นโฉนดท่ีดิน
ไมไ ปดาํ เนนิ การจดทะเบยี นภาระจาํ ยอมตามคาํ พพิ ากษาดงั กลา ว จะถอื วา เปน “ผมู สี ทิ ธจิ ดทะเบยี น
ตามคําพพิ ากษาของศาล” มสี ิทธิย่นื คําขอออกใบแทนโฉนดท่ีดนิ ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ ชประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑๗ (๓) หรือไม ซึ่งกรมท่ีดนิ เห็นวา นายเต้ยี นฯ เปนผมู ีสิทธิจดทะเบยี นตามคาํ พพิ ากษา
ของศาล แตไมม สี ทิ ธิยนื่ คาํ ขอออกใบแทนโฉนดทีด่ นิ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
๕๕๔
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓) เน่อื งจาก
นายเตี้ยนฯ เปนเพยี งผมู สี ิทธิจดทะเบียนภาระจาํ ยอม ซงึ่ เปนเพยี งทรัพยสทิ ธิไมไ ดม ีสทิ ธใิ นความ
เปน เจาของท่ดี ิน
๓. การตีความ คําวา “ผูมีสิทธิจดทะเบียน” ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑๗ (๓) หากหมายความรวมถึงผูทไี่ มไดเ ปนเจา ของทดี่ ินดว ยจะขดั กับมาตรา ๖๓ แหง ประมวล
กฎหมายทดี่ ินทีบ่ ัญญัติใหเจา ของมาขอรบั ใบแทนโฉนดท่ดี ินหรือไม อยา งไร ซง่ึ กรมทีด่ ินเห็นวา
หากตีความคําวา “ผูมสีิ ทิ ธจิ ดทะเบียน” ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตาม
ความในพระราชบัญญัติใหใชป ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓) หมายความรวมถงึ
ผทู ี่ไมไ ดเ ปนเจา ของทด่ี นิ ดว ย ยอมขัดกบั มาตรา ๖๓ แหงประมวลกฎหมายทด่ี ิน
๔. ใบแทนโฉนดทดี่ ินจะมผี ลเปน อันยกเลิกโฉนดทดี่ นิ เดิมเมอื่ ใด การแจกใบแทน
ใหแกผทู ่ีไมไ ดเ ปน “เจาของ” เชน เปนเพียงผูมีสิทธจิ ดทะเบยี นภาระจํายอมตามคาํ พพิ ากษา
ของศาล จะถอื วา ใบแทนนน้ั มีผลสมบรู ณและยกเลิกโฉนดทด่ี นิ เดมิ แลวหรือไม และจะสามารถ
จดทะเบียนภาระจํายอมในใบแทนโฉนดทีด่ นิ แปลงภารยทรพั ยน นั้ ตอ ไปไดห รือไม ซ่งึ กรมทด่ี นิ
เหน็ วา ใบแทนโฉนดทด่ี นิ จะมผี ลเปน อนั ยกเลกิ โฉนดทด่ี นิ เดมิ เมอ่ื สง มอบใหแ กผ ขู อซง่ึ เปน ผมู สี ทิ ธิ
ในความเปนเจาของท่ดี ินรับไปตามคําพิพากษาศาลฎีกาท่ี ๑๙๗/๒๕๐๙ การแจกใบแทนใหแก
ผทู ี่ไมไ ดเปน “เจาของ” ยอมไมม ผี ลเปนการยกเลิกโฉนดท่ีดินเดมิ และไมสามารถจดทะเบียน
ภาระจํายอมซึง่ เปน ทรัพยสิทธใิ นใบแทนโฉนดทีด่ นิ แปลงภารยทรัพยไ ด
๕. การดําเนินการออกใบแทนโฉนดท่ีดินใหแกผูที่ไมใชผูถือกรรมสิทธิ์ในท่ีดิน
อาจเปน การขัดตอ บทบัญญตั ริ ัฐธรรมนญู แหงราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๔๑
กลาวคอื สทิ ธิของบคุ คลในทรพั ยสินยอมไดร ับความคุมครอง เนือ่ งจากจะเปน การกระทบสทิ ธิ
ในทรัพยส ินของผูม ีช่ือเปนผูถือกรรมสิทธใ์ิ นท่ดี ิน หรอื ไม ซ่งึ กรมที่ดินเห็นวา อาจเปน การกระทบ
สิทธิในทรัพยสินของผูมีชื่อเปนผูถือกรรมสิทธ์ิในท่ีดินตามรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ มาตรา ๔๑
คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๗) ไดพ จิ ารณาขอ หารอื ของกระทรวงมหาดไทย
โดยมผี แู ทนกระทรวงมหาดไทย (สาํ นกั งานปลดั กระทรวงและกรมทด่ี นิ ) เปน ผชู แ้ี จงขอ เทจ็ จรงิ แลว
เห็นวา ขอ หารือท้งั หา ประเด็นดังกลาวมีประเดน็ ทีจ่ ะตองพิจารณาเพยี งประเด็นเดียววา “ผมู ีสทิ ธิ
จดทะเบียนตามคาํ พิพากษาของศาล” ตามขอ ๑๗ (๓) แหงกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ หมายความเฉพาะผมู ี
สิทธิในความเปน เจา ของท่ดี ินเทา นัน้ หรอื หมายความรวมถงึ ผมู ีสทิ ธอิ ่นื ตามคําพิพากษาดวย
คณะกรรมการกฤษฎกี า (คณะที่ ๗) ไดพิจารณาแลว เห็นวา คณะกรรมการวินิจฉัย
รองทกุ ข ไดเ คยวินิจฉยั ในคาํ วนิ ิจฉยั ของคณะกรรมการวนิ ิจฉยั รอ งทกุ ข ที่ ๔๘/๒๕๒๙ วา ในกรณี
๕๕๕
ทีผ่ รู อ งทกุ ขไดนาํ คําพิพากษาของศาล พรอมทงั้ ใบสาํ คัญคดีถึงท่สี ุดไปแสดงตอพนักงานทด่ี ินเพ่ือ
ใหจดทะเบยี นโอนกรรมสทิ ธ์ิ โดยใหถอื เอาคําพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจําเลย เนือ่ งจาก
ไมส ามารถนาํ โฉนดทดี่ นิ ของจําเลยมาโอนกรรมสทิ ธไิ์ ด เพราะจาํ เลยไดห ลบหนีไป ใหถ ือวา เปน
กรณีโฉนดที่ดินสูญหาย เม่ือผูรองทุกขไปย่ืนคําขอออกใบแทนโฉนดที่ดินตอเจาพนักงานที่ดิน
เจาพนักงานที่ดินตองออกใบแทนโฉนดที่ดินดังกลาวแกผูขอ๑ และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
กําหนดขึ้นโดยมีเจตนารมณประการหน่ึงในการปรับปรุงแบบ หลักเกณฑ และวิธีการออก
โฉนดทด่ี นิ รวมทั้งใบแทนโฉนดที่ดิน เพอ่ื ใหเจา พนักงานทด่ี ินสามารถปฏิบัตกิ ารตามประมวล
กฎหมายท่ีดินได๒ เม่ือพิจารณาประกอบกับบทบัญญัติในเร่ืองการออกใบแทนโฉนดท่ีดิน
_____________๑_ค__ณ__ะ_ก_ร_ร_ม_ก__า_ร_ว_ิน_ิจ_ฉ__ัยรองทุกข ไดใหความเห็นเก่ียวกับปญหาและแนวทางแกไขปญหา
เกี่ยวกับการออกใบแทนโฉนดที่ดินไววา หลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายที่ดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗ มิไดกลาวถงึ การจดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรมท่ไี ดม าตามคาํ พพิ ากษาหรือคาํ สัง่ ของศาล ในกรณี
ท่ีผยู นื่ คาํ ขอไมมีโฉนดท่ีดนิ ไปแสดงตอพนกั งานเจา หนาท่ี จึงทาํ ใหเ กดิ ปญ หาในการตีความถอ ยคําในกฎหมาย
วา กรมท่ีดนิ จะออกใบแทนโฉนดทด่ี ินตามขอ ๑๑ (๓) แหง กฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗)ฯ ไดห รือไม
ดังนน้ั เพ่ือความสมบูรณแ ละชัดเจน สมควรทีก่ รมที่ดินจะไดพิจารณาแกไ ขเพิ่มเตมิ กฎกระทรวง ระเบียบ หรอื
คําส่ังที่เกี่ยวของในเรื่องดังกลาวทํานองเดียวกับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมท่ีไดมาตามประมวลกฎหมาย
แพงและพาณิช๒ยหมมาาตยรเาห๑ตุ๓:–๘เ๒หตดผุวลยใ(นคกาํ าวรินปิจรฉะยั กขาอศงใคชณก ฎะกกรระรมทกรวางรฉวบินับิจฉนัย้ี ครออื งเทนกุ ่อื ขงจทา่ี ๔กไ๘ด/ม๒ปี ๕ร๒ะ๙กา)ศกระทรวง
มหาดไทย ตามมาตรา ๑๙ แหงพระราชบัญญตั แิ กไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายทดี่ ิน ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
ยกเลกิ อํานาจหนาทข่ี องนายอําเภอเกี่ยวกับการปฏิบตั ิการตามประมวลกฎหมายที่ดินในบางทองที่แลว สมควร
ปรบั ปรุงแบบ หลกั เกณฑ และวิธกี ารออกหนังสอื รับรองการทําประโยชน รวมท้งั ใบแทนของหนังสอื แสดง
สทิ ธใิ นท่ดี ินดังกลา ว เพอ่ื ใหเ จาพนกั งานทด่ี นิ สามารถปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายทด่ี ินได นอกจากนี้
หลักเกณฑการออกหนังสือรับรองการทําประโยชนและโฉนดที่ดินไดใชบังคับมาเปนเวลานานแลว สมควร
ปรบั ปรุงใหเ หมาะสมกับสภาวการณในปจ จุบัน โดยเฉพาะการขอออกหนงั สือรับรองการทาํ ประโยชนในพืน้ ที่
ปาสงวนแหงชาติ อุทยานแหงชาติ เขตรกั ษาพนั ธุสัตวปา เขตหามลาสตั วป า และเขตท่ีไดจ าํ แนกใหเ ปน เขตปา
ไมถาวรตามมตคิ ณะรัฐมนตรี ยงั ไมม มี าตรการทร่ี ัดกุมเหมาะสม จงึ สมควรกําหนดใหมีการตรวจสอบรับรอง
จากกรมปา ไมและกรมพฒั นาที่ดินกอนออกหนงั สือรบั รองการทาํ ประโยชนด ว ย และพรอมกนั น้ี สมควรกําหนด
หลักเกณฑการออกโฉนดที่ดินสําหรับที่เกาะ เพ่ือปองกันการบุกรุกของราษฎรกับเพ่ืออนุรักษทรัพยากร
ธรรมชาติ จงึ จาํ เปนตองออกกฎกระทรวงนี้ (กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราช
บัญญัตหิ ใชป ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗)
๕๕๖
ทีก่ าํ หนดไวในขอ ๑๗๓ แหง กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗)ฯ โดยขอ ๑๗ (๑) และ (๒)
กําหนดใหเ จาของท่ดี นิ เปนผมู สี ทิ ธยิ ื่นคาํ ขอออกใบแทนโฉนดท่ดี ิน กรณีทีโ่ ฉนดท่ดี ินเปนอนั ตราย
ชํารดุ หรือสญู หาย และขอ ๑๗ (๓) (๔) (๕) และ (๖) กาํ หนดให บคุ คลตามที่กฎหมายกําหนดเปน
ผมู สี ทิ ธยิ น่ื คาํ ขอออกใบแทนโฉนดทด่ี นิ เพอ่ื ใหบ คุ คลดงั กลา วดาํ เนนิ การเปลย่ี นแปลงสทิ ธเิ กย่ี วกบั
ท่ีดนิ ตอไป ไดแ ก ผมู สี ิทธจิ ดทะเบยี นตามคําส่งั หรอื คาํ พพิ ากษาของศาล เจาพนักงานผูมีอํานาจ
ในการยึดและขายทอดตลาดทด่ี ิน อธบิ ดกี รมทด่ี นิ หรอื ผูว าราชการจงั หวัด กรณีท่ีไมไ ดโ ฉนดท่ดี ิน
มาจากเจา ของที่ดินเดมิ หรือโฉนดที่ดนิ เดมิ เปน อนั ตราย ชํารดุ หรือสญู หาย จะเห็นไดว า เพ่ือให
_บอ_นัุค_เ_คป_ล_น_ตก_า_รม_ณ_ท_ที ี่ก_๓่ีร_ฎฐั_ข_หมอ_นม_๑_ตา๗_ยร_ใวีก_นา_ํากก_หา_าร_นรอ_กด_อ_รซก_ะใึ่ง_ทบม_แริใวทชงนเมจโฉหานขาดดอทไงด่ีททินย่ีดใใหินชดมอาํ ีสาํเนนิทินาธกจิยาต่ืนรดาคงัมํานมขี้ าอตอรอาก๑ใบ๕แ๔ทแนหโงฉพนรดะทรี่าดชินบไัญดดญวตัยิ
(๑) ในกรณีโฉนดท่ดี ินเปน อันตรายหรือสญู หาย ใหเจาของทดี่ นิ ยืน่ คําขอและปฏญิ าณตน
ตอ เจา พนักงานท่ดี นิ โดยใหนําพยานหลักฐานมาใหเ จา พนกั งานท่ีดนิ ทาํ การสอบสวนจนเปนทีเ่ ชอื่ ถอื ได และให
เจา พนกั งานทด่ี นิ ประกาศใหท ราบมกี าํ หนดสามสบิ วนั ประกาศนน้ั ใหป ด ไวใ นทเ่ี ปด เผย ณ สาํ นกั งานทด่ี นิ ทอ งที่
สาํ นักงานเขตหรอื ท่วี าการอําเภอหรือทีว่ าการกิง่ อาํ เภอทองที่ ทที่ าํ การแขวงหรอื ท่ีทําการกาํ นนั ทอ งที่ และใน
บริเวณทด่ี ินนัน้ แหง ละหนึ่งฉบบั ในเขตเทศบาลใหปด ไว ณ สํานกั งานเทศบาล อกี หนึ่งฉบับ ถามีผคู ัดคา น
ภายในเวลาทีก่ าํ หนดและนําพยานหลกั ฐานมาแสดง ใหเจา พนักงานท่ีดินสอบสวนแลวสงั่ การไปตามควรแก
กรณี ถา ไมมีผูใดคดั คา นภายในเวลาท่ีกาํ หนด ใหอ อกใบแทน ใหไปตามคําขอ
(๒) ในกรณโี ฉนดทด่ี ินชาํ รดุ ถาเจา ของท่ีดนิ นาํ โฉนดทด่ี นิ ที่ชํารดุ น้นั มามอบและโฉนดท่ดี ินท่ี
ชํารดุ นน้ั ยงั มีตําแหนงท่ีดิน เลขท่โี ฉนดท่ดี นิ ชอ่ื และตราประจําตําแหนง ของผูวา ราชการจังหวดั และหรือชอ่ื และ
ตราประจาํ ตําแหนงของเจาพนกั งานท่ีดินตามแบบโฉนดทด่ี ินปรากฏอยูซ ง่ึ สามารถตรวจสอบได ใหอ อกใบแทน
ใหไ ปได ถาขาดขอความสําคัญดังกลาวใหนาํ ความใน (๑) มาใชบ งั คบั
(๓) ในกรณีศาลมีคําส่ังหรือมีคําพิพากษาอันถึงที่สุดเกี่ยวกับโฉนดท่ีดินหรือผูใดมีสิทธิ
จดทะเบียนตามคาํ พพิ ากษาของศาล แตไมไดโฉนดทีด่ ินมาหรอื โฉนดท่ีดินเดมิ เปนอนั ตรายชํารดุ หรือสูญหาย
ดว ยประการใด ใหผูม สี ทิ ธจิ ดทะเบยี นย่ืนคาํ ขอใบแทนแลวใหดาํ เนินการตามทก่ี าํ หนดไวใ น (๑) หรือ (๒)
แลว แตก รณี
(๔) ในกรณีเจาพนักงานผูมีอํานาจในการยึดและขายทอดตลาดท่ีดินของผูที่คางชําระภาษี
อากรหรอื เงนิ คางจายใดๆ ตามท่กี ฎหมายบญั ญัตไิ ว ขอใหอ อกใบแทนโฉนดท่ดี ินสําหรบั ท่ีดนิ ดงั กลา วซึง่
เจา พนกั งานผูม ีอํานาจไดยดึ มาขายทอดตลาดแลว แตไมไ ดโ ฉนดท่ดี ินมาหรอื โฉนดทด่ี ินเดิมเปนอันตราย ชํารุด
หรอื สญู หายดว ยประการใด ใหถอื หนังสอื ของเจาพนกั งานดังกลา วเปน คําขอและดาํ เนินการทํานองเดยี วกบั ที่
กาํ หนดไวใ น (๓) แตไมต อ งสอบสวน
(๕) ในกรณีอธบิ ดจี ะใชอาํ นาจจาํ หนา ยทด่ี ินตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ แตไมไดโฉนดทีด่ นิ
มาหรือโฉนดท่ีดินเดมิ เปน อันตราย ชํารดุ หรือสูญหายดวยประการใด ใหดาํ เนนิ การทํานองเดยี วกบั ทกี่ าํ หนดไว
ใน (๔) แตไ มต องสอบสวน
(๖) ในกรณีอธิบดีหรือผูวาราชการจังหวัดใชอํานาจเพิกถอนหรือแกไขโฉนดที่ดินเพิกถอน
หรอื แกไขรายการจดทะเบยี นตามมาตรา ๖๑ แหง ประมวลกฎหมายทดี่ ินซ่งึ แกไขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิ
แกไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๒๘ แตไ มไ ดโฉนดท่ดี นิ มาหรอื โฉนดทดี่ นิ เปน อันตราย
ชํารดุ หรือสูญหายดว ยประการใด ใหด ําเนินการทํานองเดียวกบั ทกี่ ําหนดไวใ น (๔) แตไมตองสอบสวน
ในกรณีท่ไี มไ ดโ ฉนดทด่ี นิ มาตาม (๓) (๔) (๕) และ (๖) ใหถ ือวาโฉนดทีด่ นิ สูญหาย
๔ มาตรา ๑๕ ใหร ัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญตั ิน้ี และตาม
ประมวลกฎหมายท่ีดิน และใหมีอํานาจแตงต้ังเจาพนักงานท่ีดินและพนักงานเจาหนาที่กับออกกฎกระทรวง
เพือ่ ปฏิบัตกิ ารใหเ ปนไปตามพระราชบญั ญัติน้ีและประมวลกฎหมายทด่ี ิน
กฎกระทรวงน้ัน เม่อื ไดประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาแลว ใหใ ชบังคบั ได
๕๕๗
ใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ออกกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗)ฯ ขน้ึ
เพื่อแกไขปญหาใหเจาพนักงานท่ีดินสามารถปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดินในเร่ือง
การออกใบแทนโฉนดทีด่ นิ ได
ดวยเหตุผลดงั กลาวขางตน การท่ขี อ ๑๗ (๓)๕ แหง กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗)ฯ กาํ หนดให ผมู สี ทิ ธจิ ดทะเบยี นตามคาํ พพิ ากษาของศาลมสี ทิ ธยิ น่ื คาํ ขอออก
ใบแทนโฉนดที่ดินได แสดงใหเหน็ วา กฎหมายยอมรับใหผ ูม สี ิทธจิ ดทะเบยี นตามคาํ พิพากษา
ของศาล ซ่งึ เปน บคุ คลทศ่ี าลรบั รองใหไดร บั สทิ ธจิ ดทะเบยี นเกีย่ วกับโฉนดทด่ี นิ แตไ มไดโ ฉนด
ท่ดี ินมาหรือโฉนดท่ีดินเดิมเปนอนั ตราย ชาํ รุด หรือสูญหายดวยประการใดๆ มสี ทิ ธิยื่นคําขอ
ออกใบแทนโฉนดที่ดนิ เพือ่ ใหบคุ คลดังกลา วมหี ลกั ฐานเปน หนังสอื ในการไดร บั สทิ ธจิ ดทะเบยี น
เก่ยี วกบั ทด่ี ิน รวมท้งั สามารถใชหลกั ฐานดงั กลา วยกขน้ึ เปน ขอ ตอสกู ับเจาของทดี่ นิ และบุคคล
ภายนอกไดต ามมาตรา ๑๒๙๙๖ แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย อนั เปนการแกไข
ปญ หาใหเจา พนักงาน ทด่ี นิ สามารถปฏบิ ตั กิ ารตามประมวลกฎหมายท่ดี นิ ได ทงั้ น้ี เน่อื งจาก
เจาของโฉนดทีด่ ินเดิมมกั ไมย อมใหโฉนดทด่ี ินแกผ ไู ดส ทิ ธิตามคําพิพากษาของศาล และพนกั งาน
เจา หนาที่กไ็ มส ามารถออกใบแทนใหได เพราะไมถือวาเปนกรณีที่โฉนดที่ดินชํารุดหรือสูญหาย
ดังนั้น ผูมีสิทธิจดทะเบียนตามคําพิพากษาของศาล ตามขอ ๑๗ (๓) แหงกฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗ จงึ หมายความรวมถึงผูมสี ิทธิจดทะเบียนตามคําพิพากษาของศาลซึง่ ไมใชเจาของ
ท่ีดินดวย
(ลงชือ่ ) อชั พร จารจุ นิ ดา
(นายอัชพร จารุจนิ ดา)
เลขาธกิ ารคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
กุมภาพนั ธ ๒๕๕๖
___________๕๖__โม_ปา_รต_ด_รด_าเู_ช_๑ิง_อ๒_ร_๙ร_ถ๙__ท_ี่_ภ๓_า,_ยข_ใ_า นงบตนังคับแหงบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นทานวา
การไดมาโดยนิติกรรมซ่ึงอสังหาริมทรัพยหรือทรัพยสิทธิอันเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยน้ันไมบริบูรณ เวนแต
นติ กิ รรมจะไดทําเปน หนังสือและไดจ ดทะเบียนการไดม ากับพนกั งานเจา หนาที่
ถามีผูไดมาซึ่งอสังหาริมทรัพยหรือทรัพยสิทธิอันเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยโดยทางอื่นนอกจาก
นิติกรรม สทิ ธิของผไู ดมาน้ัน ถายังมไิ ดจ ดทะเบยี นไซร ทานวาจะมีการเปล่ยี นแปลงทางทะเบยี นไมไ ด และสทิ ธิ
อันยังมิไดจดทะเบยี นนน้ั มิใหย กขึน้ เปน ขอ ตอสูบคุ คลภายนอกผไู ดสิทธมิ าโดยเสยี คาตอบแทนและโดยสจุ ริต
และไดจ ดทะเบยี นสิทธิโดยสุจรติ แลว
๕๕๘
ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๑๘๘๘๕ (สาํ เนา)
กรมที่ดนิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖
เรือ่ ง หารือกรณกี ารขอออกโฉนดท่ีดนิ ในเขตนคิ มสหกรณโ คกขาม
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวัดทกุ จงั หวัด
สง่ิ ทส่ี งมาดวย สําเนาหนงั สือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๖.๒ (๑)/๑๕๒๒๗ ลงวนั ที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๖
ดวยปรากฏวา ในการดําเนินการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินในเขตนิคม
สหกรณ ซงึ่ อยูในเขตปาชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรเี มอ่ื วนั ที่ ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๓๐ สาํ นกั งาน
ท่ีดินบางแหงยังถือปฏิบัติโดยไมถูกตองและไมเปนไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งในเรื่องการ
ออกโฉนดท่ีดินในเขตนิคมสหกรณ ซ่ึงอยูในเขตปาชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕
ธันวาคม ๒๕๓๐ กรมที่ดินไดเคยวางแนวทางปฏิบัติไวแลว ตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท
๐๕๑๖.๒ (๑)/๑๕๒๒๗ ลงวันท่ี ๑๒ มิถนุ ายน ๒๕๕๖ ตอบขอ หารอื จังหวัดสมทุ รสาคร เร่อื ง
หารือกรณีการขอออกโฉนดที่ดินในเขตนิคมสหกรณโคกขาม รายละเอียดปรากฏตามสําเนา
หนังสอื ที่ไดสง มาพรอมน้ี
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงใหเจาหนาที่ในสังกัดกรมที่ดินทราบและ
ถอื เปนแนวทางปฏบิ ตั ติ อ ไป
สํานักมาตรฐานการออกหนังสอื สําคญั ขอแสดงความนบั ถอื
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๘๑๒ (ลงชือ่ ) บญุ เชดิ คดิ เห็น
โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๓๙๘
(นายบญุ เชดิ คิดเหน็ )
อธิบดีกรมทด่ี ิน
๕๕๙
ท่ี มท ๐๕๑๖.๒ (๑) / ๑๕๒๒๗ (สําเนา)
กรมท่ดี ิน
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๒ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖
เรือ่ ง หารอื กรณีการขอออกโฉนดทด่ี นิ ในเขตนคิ มสหกรณโคกขาม
เรียน ผวู าราชการจังหวดั สมุทรสาคร
อางถึง หนงั สือจงั หวดั สมทุ รสาคร ที่ สค ๐๐๒๐.๒/๘๖๘ ลงวันท่ี ๒๒ มกราคม ๒๕๕๖
ตามที่จงั หวัดไดหารอื แนวทางปฏบิ ัติตามหนังสอื กรมท่ีดนิ ที่ มท ๐๕๑๖.๒(๑)/
๓๒๘๖๔ ลงวันท่ี ๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ กรณีทส่ี มาชกิ นคิ มสหกรณน ําหลกั ฐานหนังสือแสดงการ
ทําประโยชน (ก.ส.น.๕) ซง่ึ ออกภายหลงั วนั ที่ ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๓๐ และอยใู นเขตปาชายเลนตาม
มติคณะรฐั มนตรีเม่ือวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ มายืน่ คําขอออกโฉนดท่ดี ินวา จากการตรวจสอบ
เรื่องราวการขอรงั วัดออกโฉนดท่ดี นิ ทยี่ งั คา งพิจารณาอยูจ ํานวน ๖๒ ราย ยงั มีบางประเด็นท่เี ปน
ปญ หาวา จะสามารถออกโฉนดทด่ี นิ ไดหรือไม จึงไดหารอื แนวทางปฏิบัติ ความละเอยี ดแจงแลว
น้นั
กรมทด่ี นิ ไดตรวจสอบการออกหนงั สอื แสดงการทาํ ประโยชน (ก.ส.น.๕) ตาม
ประเด็นที่จังหวัดสมุทรสาครหารือแลวปรากฏขอเท็จจริงวา หลังจากที่ไดมีพระราชกฤษฎีกา
จดั ต้งั นคิ มกสกิ รรมและนคิ มเกลอื ในรูปสหกรณในจงั หวัดสมทุ รสาคร จังหวัดธนบุรี และจังหวดั
สมุทรปราการ พ.ศ.๒๕๐๐ แลว แตกอ นท่ีคณะรัฐมนตรีจะมีมตเิ มอ่ื วนั ที่ ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๓๐
ใหนาํ พน้ื ที่บางสวนไปกําหนดใหเปน พ้ืนที่ปาชายเลน ไดมีราษฎรเขาครอบครองและทาํ ประโยชน
ในที่ดนิ ดงั กลา วอยูกอ น จงึ มีประเดน็ ทจ่ี ะตอ งพิจารณาตามขอ หารอื ดังนี้
๑. กรณีพื้นที่บางสวนซึ่งถูกกําหนดใหเปนพ้ืนท่ีปาชายเลนและมีการอนุมัติ
แผนผงั แบงแปลงแลว มปี ระเด็นทจ่ี ะตอ งพจิ ารณาอกี ๒ ประการ
ประการท่ีหน่ึง กรณีมีการคดั เลอื กบุคคลใหเ ขาเปน สมาชิกนคิ มกอนท่ีคณะ
รฐั มนตรจี ะมีมตเิ มือ่ วนั ท่ี ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๓๐ ใหเ ปนพ้นื ทีป่ า ชายเลน แตห นังสอื แสดงการทาํ
ประโยชน (ก.ส.น.๕) ซ่งึ ออกใหกับสมาชิกดงั กลาวในภายหลงั สมาชิกผูนัน้ จะนําหนังสอื แสดง
การทําประโยชน (ก.ส.น.๕) ไปประกอบการขอออกโฉนดทด่ี ินไดหรอื ไม
๕๖๐
ประการท่สี อง กรณมี ีการคดั เลอื กบุคคลใหเขา เปนสมาชิกนคิ มภายหลังจาก
ทค่ี ณะรฐั มนตรจี ะมีมตเิ มอ่ื วนั ท่ี ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๓๐ ใหพืน้ ทดี่ งั กลา วเปนปาชายเลนแลว และ
หนังสือแสดงการทาํ ประโยชน (ก.ส.น.๕) ซึ่งออกใหก ับสมาชกิ ในภายหลังนั้น สมาชกิ ผนู ัน้ จะนาํ
หนงั สอื แสดงการทาํ ประโยชน (ก.ส.น.๕) ไปประกอบการขอออกโฉนดทดี่ ินไดหรือไม
๒. กรณีพื้นท่ีบางสวนซ่ึงถูกกําหนดใหเปนพื้นท่ีปาชายเลน มีราษฎรเขา
ครอบครองและทาํ ประโยชนอยูกอนคณะรฐั มนตรีมีมตเิ มอ่ื วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ ทดี่ นิ มี
ลกั ษณะเปน ท่ีหวั ไรปลายนา ซึง่ มิไดอ ยใู นแผนผังแบง แปลงท่ีดนิ กรณหี นึ่ง และอกี กรณีหนึง่
พื้นที่น้ีเคยมีการอนุมัติแผนผังแบงแปลงที่ดิน กําหนดใหเปนแนวคลองสงนํ้า มีราษฎรเขา
ครอบครองทําประโยชนโดยยังไมมีการขุดคลองสงนํ้า และกรมสงเสริมสหกรณเห็นวายังไมมี
ความจําเปน จงึ ยกเลกิ และนาํ พืน้ ทีบ่ างสว นน้ีไปจดั สรรใหก บั สมาชกิ ทงั้ นี้ ทัง้ สองกรณดี ังกลาว
สมาชิกไดร บั หนังสือแสดงการทําประโยชน (ก.ส.น.๕) ภายหลังคณะรฐั มนตรีมมี ติกําหนดใหเปน
พื้นที่ปาชายเลนแลว จะนําหนงั สือแสดงการทาํ ประโยชน (ก.ส.น.๕) ไปประกอบการขอออก
โฉนดท่ีดินไดหรือไม
กรมทดี่ ินพิจารณาแลว เหน็ วา การนําหนังสือแสดงการทาํ ประโยชน (ก.ส.น.๕)
ท่ีออกในพ้ืนท่ีท่ีคณะรัฐมนตรีมีมติกําหนดพื้นที่ใหเปนปาชายเลนมาขอออกโฉนดท่ีดินตามท่ี
จงั หวดั หารอื จะออกโฉนดทด่ี นิ ไดห รอื ไม จงั หวดั จะตอ งนาํ หลกั เกณฑต ามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๓
(พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑๔ (๕) มาประกอบการพิจารณาตามมติคณะกรรมการพิจารณาปญหาขอ กฎหมายของ
กรมที่ดิน ครัง้ ที่ ๔/๒๕๕๓ เมือ่ วันท่ี ๑๔ ธนั วาคม ๒๕๕๓ และคร้งั ที่ ๓/๒๕๕๔ เม่ือวันที่ ๑๔
กันยายน ๒๕๕๔ และหนังสือกรมทดี่ ิน ท่ี มท ๐๕๑๖.๒(๑)/๓๒๘๖๔ ลงวนั ท่ี ๙ ธนั วาคม ๒๕๕๔
ซงึ่ ไดแจง ใหจ ังหวัดสมุทรสาครถือเปน แนวทางปฏบิ ัตไิ วแลว โดยใหถ ือวาราษฎรหรอื สมาชิกมี
สิทธิในที่ดนิ โดยชอบดวยกฎหมายตั้งแตว ันทีไ่ ดร ับการจดั ใหเขา อยอู าศยั หรือทําประโยชน สําหรบั
กรณตี ามขอหารอื เม่อื ไดพ จิ ารณาตามมาตรา ๓๔ แหง พระราชบญั ญัติจดั ท่ดี นิ เพอ่ื การครองชีพ
พ.ศ. ๒๕๑๑ ทบ่ี ญั ญัตวิ า “เม่อื ไดม พี ระราชกฤษฎกี าจัดต้งั นิคมสหกรณแลวใหม คี ณะกรรมการ
คณะหนง่ึ ประกอบดว ยประธานกรรมการและกรรมการอน่ื อกี ไมน อ ยกวา สองคนแตไ มเ กนิ แปดคน
ซ่งึ รัฐมนตรีแตง ตง้ั มหี นาทพ่ี ิจารณาคดั เลอื กผมู คี ุณสมบตั ิตามมาตรา ๓๕ ตามหลกั เกณฑแ ละ
วิธกี ารทร่ี ฐั มนตรกี าํ หนดเขาเปนสมาชิกนิคมสหกรณ และใหคณะกรรมการดําเนินการใหม กี าร
กอตัง้ เปน สหกรณตามกฎหมายวา ดว ยสหกรณ” และในมาตรา ๓๖ แหง พระราชบัญญัตฉิ บบั
เดยี วกันบัญญัติวา “ผูที่ไดร ับการคัดเลอื กเขาเปน สมาชกิ นิคมสหกรณจ ะเขา ทําประโยชนในทด่ี ิน
ไดตอเมื่อไดรับอนุญาตจากอธิบดีกรมสหกรณท่ีดินและรวมกันเขาเปนสหกรณจดทะเบียนตาม
วตั ถปุ ระสคเพ่อื ประโยชนด ังกลา วตามกฎหมายวา ดวยสหกรณแ ลว ” รวมท้งั ในมาตรา ๓๗ ยัง
บัญญตั ติ อไปดว ยวา “ใหอ ธิบดีกรมสหกรณท ีด่ นิ ดําเนินการทาํ แผนผังจัดแบง ท่ดี นิ และอนุญาต
๕๖๑
ใหส มาชกิ นิคมเขาทําประโยชนในท่ีดนิ ที่มอบหมายใหตามทเ่ี หน็ สมควร และแสดงเขตท่ีดินทจี่ ัด
แบง ใหแกสมาชกิ นคิ มสหกรณไ วในแผนผังของนคิ มสหกรณ กนั ทาํ ประกาศติดไว ณ ท่ีทาํ การ
นิคมสหกรณ” จากบทบญั ญตั ิดงั กลาวจะเหน็ ไดว าการเขาครอบครองทดี่ ินของรัฐในเขตพระราช
กฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ จะเขา ครอบครองที่ดินไดต อเมื่อไดร บั การคดั เลอื กใหเขา เปน สมาชิก
และไดร บั อนญุ าตจากอธบิ ดีกรมสงเสริมสหกรณและรวมเขากันเปนสหกรณตามนยั มาตรา ๓๖
แลว ดังน้ัน การท่ีบุคคลเขาครอบครองท่ีดินในเขตนิคมสหกรณโดยพลการจึงเปนการเขา
ครอบครองที่ดินของรัฐโดยไมชอบดวยกฎหมาย ไมอาจยกเอาการครอบครองของราษฎรที่
ครอบครองอยูกอนแลวข้ึนตอสูกับรัฐได หากตอมาไดมีการกําหนดใหที่ดินสวนนี้เปนพ้ืนท่ีปา
ชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรเี มอ่ื วนั ท่ี ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ พืน้ ทีด่ งั กลา วจะตกเปน พืน้ ที่ตอ ง
หามมิใหออกโฉนดท่ีดิน ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความในพระราช
บญั ญตั ิใหใ ชประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๔ (๕) การทส่ี มาชกิ นําหนงั สือแสดงการ
ทําประโยชน (ก.ส.น.๕) ซง่ึ ออกในภายหลัง จงึ ไมส ามารถนาํ มาประกอบการออกโฉนดทีด่ ินได
(เทยี บเคียงความเหน็ คณะกรรมการกฤษฎกี า เรอ่ื งเสร็จ ที่ ๖๘๑/๒๕๓๕ เรอ่ื ง การออกโฉนดทด่ี นิ
หรือหนงั สือแสดงการทําประโยชนต ามมาตรา ๕๙ ทวิ แหง ประมวลกฎหมายท่ดี นิ ในเขตปาไม)
แตอ ยา งไรกต็ าม ในการพจิ ารณาวา ราษฎรหรอื สมาชกิ รายใดจะมสี ทิ ธคิ รอบครอง
ที่ดนิ โดยชอบดวยกฎหมายอยกู อนวันที่มตคิ ณะรัฐมนตรเี มื่อวันท่ี ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๓๐ หรือไม
นอกจากจะตองพจิ ารณาตามนัยดังกลาวขา งตน แลว จะตองพิจารณาถงึ สภาพพ้นื ทีท่ ข่ี อออก
โฉนดทด่ี นิ ประกอบดวยวาที่ดินมสี ภาพเปน ปาชายเลนตั้งแตเมอื่ ใด กอนทีค่ ณะรัฐมนตรจี ะมมี ติ
พน้ื ท่สี วนน้ันมีสภาพเปน ปาชายเลนอยูก อ นแลว หรอื ไม ท้งั น้ตี ามนัยคาํ พิพากษาศาลปกครอง
สูงสุด คดีหมายเลขแดงท่ี อ.๓๕๙/๒๕๕๐ ลงวนั ท่ี ๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐ และในคําพิพากษา
ศาลปกครองสงู สดุ คดีหมายเลขแดงท่ี อ. ๑๙๓/๒๕๕๓ ลงวนั ท่ี ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๕๓ ซ่ึงได
วางหลกั เกณฑการวนิ ิจฉยั กรณีดงั กลาวไวเ ปน บรรทดั ฐานแลว ดงั น้ัน ประเด็นตามขอ หารอื ของ
จงั หวดั ในขอ ๑. และ ๒. จะพจิ ารณาออกโฉนดทด่ี ินใหก บั สมาชิกนิคมไดหรอื ไมน ัน้ จงึ เปน
ขอ เทจ็ จรงิ ทจ่ี งั หวดั จะตอ งตรวจสอบและสอบสวนแลว ปรบั ใหเ ขา กบั หลกั เกณฑต ามทก่ี ลา วมาแลว
ตอ ไป
จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและพจิ ารณาดําเนนิ การ
ขอแสดงความนับถือ
สํานักมาตรฐานการออกหนงั สอื สําคญั (ลงช่อื ) สมคิด ศริ
โทร./โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐ (นายสมคดิ ศริ)
ที่ปรกึ ษาดานประสิทธิภาพ ปฏบิ ัตริ าชการแทน
อธิบดีกรมท่ีดิน
๕๖๒
ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๒๒๓๔๐ (สาํ เนา)
กรมท่ีดิน
ศูนยราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖
เรอ่ื ง ซอมความเขา ใจแนวทางปฏบิ ัตกิ ารดําเนินการของคณะกรรมการตรวจพิสูจนท ี่ดนิ
ตามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ ช
ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
เรียน ผูวา ราชการจังหวดั ทุกจังหวัด
อา งถงึ หนงั สอื กรมท่ดี ิน ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/ว ๑๖๓๙๘ ลงวันที่ ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๕๕
ตามหนังสือที่อางถึง กรมท่ีดินไดวางแนวทางปฏิบัติในการดําเนินการของ
คณะกรรมการตรวจพิสจู นท ี่ดนิ ตามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ใิ หใชป ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ใหถอื ปฏบิ ตั ิไปในแนวทางเดยี วกนั และ
เพอ่ื เปน กรอบในการดําเนนิ การใหเ กดิ ความรวดเรว็ นั้น
โดยทป่ี รากฏวา การใชถ อ ยคาํ ในแนวทางปฏบิ ตั กิ ารดาํ เนนิ การของคณะกรรมการ
ตรวจพิสูจนท ดี่ ินตามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ
ใหใ ชประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ตามขอ ๒ วรรคทาย กรณที ีผ่ วู าราชการจังหวดั ไดม ี
คาํ สงั่ ต้งั คณะกรรมการตรวจพิสจู นท ีด่ ินตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตาม
ความในพระราชบัญญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ไวเ ปนการประจาํ แลว ยงั ใช
ถอยคําทไี่ มช ัดเจน เปนเหตุใหสาํ นักงานทีด่ นิ บางแหงมคี วามเขาใจที่คลาดเคลอ่ื นและอาจสง
ผลกระทบตอการปฏิบตั งิ าน ดงั นั้น เพอ่ื ใหเ กิดความชดั เจนและพนักงานเจา หนา ที่ถือปฏบิ ตั เิ ปน
แนวทางเดยี วกนั จงึ ขอซอมความเขาใจแนวทางปฏิบตั ิ ดังนี้
๑. กรณคี าํ ขอทีเ่ กดิ ในสํานกั งานท่ีดินจังหวัด ใหสํานกั งานทด่ี ินจังหวัด (โดยฝา ย
ทะเบยี น) สงคําสัง่ ดังกลา วใหค ณะกรรมการฯ ทราบ ภายใน ๓ วนั นับแตว ันรับเร่อื งจากฝายรังวดั
เพ่ือใหคณะกรรมการฯ ดาํ เนนิ การตามคาํ ส่ังตอ ไป
๒. กรณีคาํ ขอทเี่ กดิ ในสํานักงานท่ีดินจงั หวดั สาขา/สว นแยก ใหสํานกั งานทดี่ นิ
นั้นๆ (โดยฝา ยทะเบียน) แลวแตกรณี สง คําสัง่ ดงั กลาวใหคณะกรรมการฯ ทราบ ภายใน ๓ วนั
นับแตวนั รับเรือ่ งจากฝายรงั วัด เพอื่ ใหค ณะกรรมการฯ ดําเนินการตามคาํ สง่ั โดยไมตองสงเรอื่ ง
ผา นสาํ นักงานที่ดินจังหวดั เพ่อื ใหส ํานกั งานทด่ี นิ จังหวดั แจงคณะกรรมการฯ ทราบ
๕๖๓
๓. กรณีคาํ ขอเกิดในสํานกั งานทดี่ นิ อําเภอ ใหสาํ นกั งานทดี่ ินอําเภอ สง คาํ ส่งั
ดังกลาวใหคณะกรรมการฯ ทราบ ภายใน ๓ วัน นับแตดําเนินการรังวัดเสร็จ เพ่ือให
คณะกรรมการฯ ดําเนินการตามคําสั่งโดยไมตองสงเร่ืองผานสํานักงานท่ีดินจังหวัดเพ่ือให
สาํ นักงานทีด่ นิ จงั หวดั แจง คณะกรรมการฯ ทราบ
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงใหเจาหนาท่ีในสังกัดกรมท่ีดินทราบและ
ถอื เปนแนวทางปฏิบัตติ อ ไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงชอื่ ) บุญเชดิ คิดเหน็
(นายบญุ เชิด คดิ เห็น)
อธิบดีกรมทีด่ นิ
สํานกั มาตรฐานการออกหนังสือสําคัญ
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๘๑๒
โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๓๙๘
๕๖๔
ท่ี มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๒๖๐๓๒ (สาํ เนา)
กรมทดี่ นิ
ศนู ยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทุง สองหอ ง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๗ ตลุ าคม ๒๕๕๖
เรอ่ื ง โครงการเรง รัดการออกโฉนดทดี่ นิ หรอื หนังสือรบั รองการทาํ ประโยชนจ ากหลักฐาน ส.ค.๑
สาํ หรับคาํ ขอทอี่ ยูระหวา งดาํ เนนิ การ ทสี่ าํ รวจ ณ วันที่ ๘ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๓ ปง บประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๔ – พ.ศ. ๒๕๕๖
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวัดทุกจงั หวดั
อา งถงึ ๑. หนังสอื กรมทีด่ ิน ดว นทส่ี ดุ ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/ว ๓๒๖๕๐ ลงวนั ที่ ๘ ธนั วาคม ๒๕๕๔
๒. หนงั สือกรมท่ีดิน ดวนทีส่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๖.๕/ว ๑๕๕๔๕ ลงวนั ท่ี ๕ มถิ นุ ายน ๒๕๕๕
๓. หนงั สอื กรมท่ีดิน ที่ มท ๐๕๑๖.๕/ว ๑๙๘๑๕ ลงวันท่ี ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕
๔. หนงั สือกรมทดี่ ิน ที่ มท ๐๕๑๖.๕/ว ๒๒๙๙๓ ลงวันที่ ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๕๕
๕. หนงั สอื กรมทดี่ ิน ดวนทส่ี ุด ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/ว ๔๗๙๘ ลงวันท่ี ๒๐ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๖
สิง่ ทสี่ ง มาดว ย รายชื่อจังหวดั ท่ยี งั ไมแจงผลการดาํ เนินการตามโครงการฯ
ตามท่ีกรมที่ดินไดจัดทําโครงการเรงรัดการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชนจ ากหลกั ฐาน ส.ค.๑ สาํ หรับคําขอที่อยรู ะหวางดาํ เนนิ การ ท่สี ํารวจ ณ วนั ท่ี ๘
กุมภาพันธ ๒๕๕๓ ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ – พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามขอ ส่งั การของกระทรวง
มหาดไทย และไดเวียนโครงการฯ พรอ มแนวทางปฏบิ ตั ิใหจ งั หวดั ทราบตามหนังสือทอี่ างถงึ ๑,
๒ และมหี นังสือแจงเตอื นใหจ ังหวดั รายงานผลการดําเนนิ การตามหนังสือท่อี า งถงึ ๓, ๔ และ ๕
ความละเอียดแจง แลว นั้น
กรมทด่ี ินพิจารณาแลวเหน็ วา การดําเนินการตามโครงการฯ ทผ่ี านมายงั ไดรบั
ขอมูลไมครบถวน เนื่องจากมีบางจังหวัดยังไมไดรายงานผลการดําเนินการใหกรมที่ดินทราบ
ทาํ ใหใ นแตล ะปง บประมาณไมส ามารถสรปุ ผลการดาํ เนนิ การได และเนอ่ื งจากโครงการฯ ดงั กลา ว
กําหนดเวลาสิน้ สุดเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ดงั น้ัน ขอใหจังหวัดทยี่ ังไมแ จง ผลการ
ดําเนินการในแตล ะปงบประมาณตามส่งิ ทสี่ งมาดวย แจง ผลการดาํ เนนิ การใหก รมที่ดนิ ทราบ
๕๖๕
พรอมทัง้ แจง ผลการดําเนินการในปง บประมาณ พ.ศ.๒๕๕๖ ใหก รมท่ดี ินทราบภายในวนั ท่ี ๑๘
ตุลาคม ๒๕๕๖ เพอ่ื กรมทีด่ นิ จะไดนําขอ มูล ไปสรุปรายงานกระทรวงมหาดไทยตอไป
จึงเรียนมาเพือ่ โปรดทราบและสงั่ การใหเจาหนาท่ถี อื ปฏบิ ัติตอ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชอ่ื ) พนิ ิจ หาญพาณิชย
(นายพินิจ หาญพาณิชย)
อธิบดีกรมทีด่ ิน
สํานกั มาตรฐานการออกหนงั สือสาํ คัญ
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๘๑๒
โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๓๙๘
๕๖๖
บญั ชรี ายชื่อหนังสือเวียน ระเบียบ และคาํ สงั่ ตางๆ
สํานกั สงเสรมิ ธรุ กจิ อสังหารมิ ทรพั ย
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๖
๑. เลขท่หี นังสอื เวียน ชอื่ เรือ่ ง หนา
ลาํ ดบั ที่ ระเบียบ คําสั่ง ๕๖๙
๒. ลงวัน เดือน ป
๑. ท่ี มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๑๑๘๕๘ คาํ พพิ ากษาศาลฎีกาและศาลปกครอง
ลว. ๘ พ.ค. ๕๖ ทเี่ กย่ี วของกบั การจัดสรรทีด่ ิน
๒. ท่ี มท ๐๕๑๗.๓ / ว ๑๕๒๕๙ การแกไ ขหรอื เพ่มิ เติมขอบงั คับนติ ิบคุ คล ๕๗๒
ลว. ๑๓ มิ.ย. ๕๖ อาคารชุดใหเ ปน ไปตามพระราชบญั ญัติ
อาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒
๓. ท่ี มท ๐๕๑๗.๓ / ว ๒๙๔๕๔ การดาํ เนนิ การตามพระราชบญั ญตั กิ ารดูแล ๕๗๔
ลว. ๑๕ พ.ย. ๕๖ ผลประโยชนข องคูส ญั ญา พ.ศ. ๒๕๕๑
(กรณหี องชดุ )
๔. ท่ี มท ๐๕๑๗.๓ / ว ๒๙๘๓๘ ซอ มความเขาใจเร่อื ง รายงานขอมูล ๕๗๖
ลว. ๒๐ พ.ย. ๕๖ ธรุ กิจอสงั หารมิ ทรพั ย
๕. ดว นที่สดุ ๕๘๑
ที่ มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๓๒๔๙๔ โครงการจดั สรรทีด่ ินขนาดเล็ก (พิเศษ)
ลว. ๒๗ ธ.ค. ๕๖
๕๖๗
๕๖๘
ท่ี มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๑๑๘๕๘ (สําเนา)
กรมทดี่ นิ
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทุงสองหอ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖
เรื่อง คําพพิ ากษาศาลฎีกาและศาลปกครองทีเ่ ก่ียวของกบั การจัดสรรทด่ี ิน
เรยี น ผูวา ราชการจังหวดั ทุกจังหวดั
สง่ิ ที่สง มาดว ย ๑. สาํ เนาคาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๕๘๗๖/๒๕๕๑
๒. สาํ เนาคําพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี ๗๘๐๐/๒๕๕๒
๓. สําเนาคาํ พพิ ากษาศาลปกครองสงู สุด คดหี มายเลขแดงท่ี อ.๓๖/๒๕๕๒
๔. สาํ เนาคาํ พิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดหี มายเลขแดงท่ี อ.๔๙๒/๒๕๕๕
๕. สําเนาคําพพิ ากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงท่ี อ.๖๙๓/๒๕๕๕
๖. สําเนาคําพพิ ากษาศาลปกครองสูงสุด คดหี มายเลขแดงท่ี อ.๙๓๑/๒๕๕๕
ดวยในการปฏิบัติหนาที่เก่ียวกับการจัดสรรที่ดินตามพระราชบัญญัติการจัดสรร
ท่ีดนิ พ.ศ. ๒๕๔๓ กรมท่ีดนิ คณะกรรมการจดั สรรท่ีดินกรงุ เทพมหานคร และคณะกรรมการ
จัดสรรที่ดนิ กลาง ไดม กี ารพิจารณาวนิ ิจฉัยปญหาเก่ยี วกบั การจดั สรรท่ีดนิ ตามคาํ ขอ คาํ รอ ง
คําอุทธรณของผูจัดสรรทีด่ ินและของบคุ คลทั่วไปหลายกรณี ปรากฏวา บางกรณีไดมีการนาํ เขา สู
กระบวนการพิจารณาของศาล และไดมีคําพพิ ากษาถึงที่สดุ สาํ หรบั คดีดงั กลา วแลว ซึง่ ประเดน็
ดังกลาวถือวาเปน ปญ หาสําคัญท่ีพบเปน ประจาํ เกี่ยวกบั การจดั สรรทีด่ นิ
กรมทด่ี นิ พิจารณาแลวจึงไดจ ดั รวบรวมคาํ พพิ ากษาท่นี าสนใจ เพ่อื ใหพ นกั งาน
เจาหนาท่ีสามารถนําไปเปนแนวทางประกอบการพิจารณาแกไขปญหาเร่ืองเก่ียวกับการจัดสรร
ทีด่ ิน ดงั นี้
๑. คาํ พพิ ากษาศาลฎีกา ท่ี ๕๘๗๖/๒๕๕๑ ระหวาง นางอนงค สวรรควฒั นกลุ
โจทก บรษิ ัท พาราไดซ ปาลม จาํ กดั จาํ เลย วนิ ิจฉยั วา โจทกไ มมสี ทิ ธยิ ดึ ทดี่ นิ สว นทเ่ี ปน
สาธารณูปโภคออกขายทอดตลาดได เน่ืองจากไมปรากฏวาการยึดท่ีดินออกขายทอดตลาด
ดังกลาวไดรับความยินยอมเปนหนังสือจากคณะกรรมการจัดสรรท่ีดิน การยึดท่ีดินพิพาทออก
ขายทอดตลาดจงึ ตองหามตามพระราชบัญญัตกิ ารจัดสรรท่ีดิน พ.ศ.๒๕๔๓ มาตรา ๓๐ วรรคสอง
และมาตรา ๓๓ วรรคหนึง่
๕๖๙
๒. คาํ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี ๗๘๐๐/๒๕๕๒ ระหวาง นางสาวทศั นีย ศรกี ลั ยา
กบั พวก โจทก บรษิ ทั แปซฟิ ค เรียลเอสเตท จาํ กัด จําเลย วินจิ ฉยั วา รว้ั และทางเปน สว นหน่ึงของ
สาธารณูปโภคที่ผจู ัดสรรจัดใหมขี ึน้ เพอื่ ประโยชนแกท ีด่ นิ จัดสรร ผใู ดกไ็ มส ามารถเปลีย่ นแปลง
หรอื กอใหเพม่ิ ภาระผูกพนั โดยมิไดรบั อนญุ าตตามกฎหมาย โจทกทง้ั สองจงึ ไมมสี ิทธริ ื้อรั้วและใช
ถนนในหมบู านเพ่อื ประโยชนของที่ดนิ โจทกท ้ังสองท่ีอยนู อกหมบู านจัดสรรได
๓. คําพิพากษาศาลปกครองสงู สดุ คดีหมายเลขแดงที่ อ.๓๖/๒๕๕๒ ลงวันที่
๑๙ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๒ ระหวาง บริษทั ธนบุรกี ารเดน จาํ กัด ผูฟองคดี คณะกรรมการจัดสรรทด่ี ิน
กรงุ เทพมหานคร ผูถ ูกฟองคดี วินิจฉัยวา ถงึ แมว าในการขออนุญาตจัดสรรท่ีดิน ผจู ัดสรรท่ีดินจะ
มไิ ดม ีการโฆษณาวาจดั ใหม รี ้วั ของหมูบาน แตเมอื่ รว้ั ดังกลา วมีมากอ นการขออนุญาตจดั สรรท่ดี ิน
จงึ ถือวาผูจดั สรรท่ีดนิ ไดจัดใหม รี วั้ ดังกลาวขึน้ เพ่ือการจดั สรรทีด่ ิน ซง่ึ ถอื ไดวา เปน สาธารณูปโภค
ทีต่ กอยูในภาระจาํ ยอมเพ่ือประโยชนแ กที่ดนิ จัดสรร ตามขอ ๓๐ วรรคหน่งึ แหง ประกาศของ
คณะปฏิวตั ิ ฉบบั ท่ี ๒๘๖ (พ.ศ. ๒๕๑๕) และโดยท่ีรวั้ ของหมูบานท่ีสรา งบนโฉนดท่ีดินเปน รั้ว
อฐิ บล็อก โดยสภาพแหง ทรัพยย อมเปน สาระสาํ คญั ของที่ดินนัน้ และไมอ าจแยกจากกันได รัว้ ของ
หมบู า นจงึ เปน สว นควบของทด่ี นิ และเจา ของทด่ี นิ ยอ มเปน เจา ของกรรมสทิ ธใ์ิ นรว้ั ของหมบู า นดว ย
ผูรบั โอนกรรมสทิ ธ์ใิ นทีด่ นิ และรัว้ ของหมูบา น จึงมีหนาทใ่ี นการบํารงุ รกั ษารวั้ ของหมูบา นตอไป
ตามนัยมาตรา ๗๐ วรรคสาม ประกอบกบั มาตรา ๔๔ แหงพระราชบญั ญัติการจัดสรรท่ดี นิ
พ.ศ. ๒๕๔๓
๔. คําพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงท่ี อ.๔๙๒ / ๒๕๕๕
ลงวนั ที่ ๖ กนั ยายน ๒๕๕๕ ระหวาง นางสาวเปรมฤดี ดาวเรอื ง ท่ี ๑ กับพวกรวม ๑๑ คน
ผฟู อ งคดี กรุงเทพมหานคร ท่ี ๑ กบั พวกรวม ๓ คน ผูถกู ฟองคดี วนิ จิ ฉยั วา ทรัพยป ระธาน
ในกรณีนคี้ อื ที่ดนิ ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๔๑๗๑ ซ่งึ มีสภาพเปน ถนนทตี่ กอยภู ายใตภาระจํายอม
ใหเปนสาธารณปู โภคของหมูบา นเคหะวิตต กาํ แพงอฐิ บลอ็ กทายซอยแยกที่ ๒ แมโ ดยสภาพจะ
ไมไดเปนสาระสําคัญของท่ีดินหรือถนนแตกําแพงเปนสาธารณูปโภคของที่ดินจัดสรร ซ่ึงโดย
จารตี ประเพณีแหง ทองถ่ินเกี่ยวกบั ท่ีดินจัดสรร สาธารณูปโภคของโครงการยอมเปนสาระสําคญั
ของที่ดินจดั สรร เจาของท่ีดินจดั สรรจึงไมส ามารถแยกสาธารณูปโภคออกจากทด่ี นิ ดงั กลา วได
และกําแพงอิฐบลอ็ กที่ถกู ทาํ ลายไปเปนสวนควบของทด่ี ินตามโฉนดท่ดี ินเลขท่ี ๒๔๑๗๑ เมือ่ ท่ดี นิ
ดงั กลาวถกู ยกใหเปน ทางสาธารณะ กาํ แพงอฐิ บลอ็ กซง่ึ เปน สว นควบของทด่ี นิ ดังกลา วยอมตก
เปน ของสาธารณะดวย
๕. คําพพิ ากษาศาลปกครองสงู สุด คดหี มายเลขแดงที่ อ.๖๙๓/๒๕๕๕ ลงวันท่ี
๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ระหวา ง บริษัท สแปนโฮมส จํากดั ผูฟองคดี คณะกรรมการจัดสรรที่ดนิ จังหวดั
นนทบรุ ี ท่ี ๑ กบั พวกรวม ๓ คน ผถู ูกฟอ งคดี วินิจฉยั วา แมแ ผนผงั และโครงการของผูฟอ งคดี
ตามคาํ ขออนุญาตทําการจดั สรรทด่ี ินระบุวาสโมสรและทะเลสาบในโครงการมีเนื้อท่ี ๔๐ ไร ๖๐
๕๗๐
ตารางวา โดยไมป รากฏการระบุวาเปนสาธารณปู โภค แตต อมาผูถูกฟอ งคดที ่ี ๑ ไดมีเงอ่ื นไขให
ผูฟองคดียืนยันเปนลายลักษณอักษรวาท่ีดินแปลงท่ีแบงไวเปนสโมสรจะใหเปนสาธารณูปโภค
ทีม่ ีการเรียกเก็บคาบรกิ าร ซง่ึ ตวั แทนของผูฟองคดีไดร บั ทราบเรอื่ งการยืนยนั ตามเงอื่ นไขของ
ผถู ูกฟอ งคดีที่ ๑ และผฟู องคดีไดดําเนนิ การใหท่ดี นิ แปลงดังกลา วเปนสโมสรและทะเลสาบท่ีมี
การเรยี กเก็บคาบรกิ ารจากผซู อื้ ที่ดนิ จัดสรรในโครงการมาโดยตลอด ดงั น้นั ท่ีดนิ แปลงนจี้ ึงเปน
สาธารณูปโภคของโครงการจัดสรรที่ดินและตกอยูในภาระจํายอมเพื่อประโยชนแกท่ีดินจัดสรร
การท่ีผฟู องคดีย่นื คําขอแกไ ขแผนผังโครงการ โดยขอนาํ ทดี่ ินแปลงดังกลา วมาแบง เปน แปลงยอ ย
โดยกาํ หนดใหเปน แปลงจาํ หนาย จํานวน ๕ แปลง ยอ มมผี ลทาํ ใหทีด่ ินสว นทเ่ี ปนสาธารณปู โภค
มีพนื้ ทีล่ ดไปจากเดมิ อนั เปน เหตใุ หป ระโยชนแหง ภาระจาํ ยอมลดไปหรือเสือ่ มความสะดวก คําขอ
แกไ ขแผนผงั โครงการดงั กลา วจึงไมอ าจกระทําได
๖. คําพิพากษาศาลปกครองสงู สุด คดหี มายเลขแดงท่ี อ.๙๓๑/๒๕๕๕ ลงวันที่
๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ ระหวาง บริษัท พารค วิลเลจ จาํ กัด ผูฟอ งคดี คณะกรรมการจัดสรรที่ดนิ
กรุงเทพมหานครท่ี ๑ กบั พวกรวม ๒ คน ผูถกู ฟองคดี วินจิ ฉยั วา การที่ผถู ูกฟองคดที ัง้ สองมมี ติ
ไมอ นุญาต ใหนําที่ดินพิพาทท่อี ยภู ายใตแ นวเขตสายสง ไฟฟา แรงสูง มาจัดทําสวนสาธารณะ
ของโครงการจัดสรรท่ีดินหรือจําหนายท่ีดินจัดสรรที่ต้ังอยูบริเวณภายใตแนวเขตเสาไฟฟาแรงสูง
ถือไดวาเปนการใชดุลพินิจในการดําเนินการตามอํานาจหนาที่โดยชอบตามความในมาตรา ๘
และมาตรา ๑๔ แหงพระราชบญั ญตั ิการจัดสรรทด่ี ิน พ.ศ. ๒๕๔๓ เพื่อใหเ ปน ไปตามเจตนารมณ
หรือความมุงหมายของกฎหมายดังกลาวในการคุมครองผูบริโภคในโครงการจัดสรรท่ีดินใหไดรับ
ความปลอดภัย มตขิ องผถู กู ฟอ งคดีท้งั สองทไี่ มอนญุ าตใหผูฟอ งคดนี าํ ทด่ี ินท่อี ยูภ ายใตแนวเขต
เสาสง ไฟฟา แรงสูง จดั ทําสวนสาธารณะของโครงการจดั สรรที่ดินหรือจําหนายเปนท่ีดินจดั สรร
จงึ เปนการใชดุลพนิ ิจโดยชอบดวยกฎหมาย
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงใหเจาหนาท่ีในสังกัดกรมท่ีดินทราบดวย
ทั้งน้ีสามารถดาวนโหลดคําพิพากษาตามส่ิงที่สงมาดวยไดจากเวบไซต สํานักสงเสริมธุรกิจ
อสงั หาริมทรพั ย www.dol.go.th/estate/หวั ขอ “หนงั สือเวียน”
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) บญุ เชิด คดิ เหน็
(นายบุญเชิด คดิ เห็น)
อธิบดีกรมท่ดี นิ
สํานักสงเสรมิ ธุรกิจอสงั หารมิ ทรัพย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๐๕ (ดวงรัตน) โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๕๓
๕๗๑
ที่ มท ๐๕๑๗.๓ / ว ๑๕๒๕๙ (สําเนา)
กรมทีด่ ิน
ศนู ยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทุง สองหอง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖
เร่อื ง การแกไขหรอื เพมิ่ เตมิ ขอ บังคบั นติ บิ ุคคลอาคารชุดใหเ ปน ไปตามพระราชบญั ญัตอิ าคารชดุ
พ.ศ. ๒๕๒๒
เรียน ผวู า ราชการจังหวดั ทุกจงั หวดั
อา งถงึ หนังสอื กรมท่ดี นิ ที่ มท ๐๕๑๗.๓/๒๓๑๒๘ ลงวนั ที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๑
ตามทไี่ ดมกี ารประกาศใชพ ระราชบญั ญัติอาคารชุด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
มีผลบังคบั ตง้ั แตวนั ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๑ เปนตน มา โดยมาตรา ๓๓ กําหนดวา “ใหข อบังคับ
ท่ีใชบังคับอยูในวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใชบังคับยังคงใชบังคับตอไปเทาท่ีไมขัดหรือแยงกับ
พระราชบัญญัตินี้และใหนิติบุคคลอาคารชุดดําเนินการแกไขหรือเพ่ิมเติมใหสอดคลองกับ
พระราชบัญญตั ิน้ีภายในสามรอ ยหกสิบวันนบั แตวนั ท่พี ระราชบญั ญตั นิ ีใ้ ชบงั คับ” ประกอบกบั
กรมทีด่ นิ ไดมีหนังสือ ท่ี มท ๐๕๑๗.๓/ว ๒๓๑๒๘ ลงวนั ท่ี ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๑ แจง วา
“ขอ บงั คบั นติ บิ คุ คลอาคารชดุ ทใ่ี ชบ งั คบั อยใู นวนั ทพ่ี ระราชบญั ญตั อิ าคารชดุ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
ใชบงั คับยงั คงใชบ ังคบั ตอ ไปเทา ที่ไมขดั หรือแยง กบั พระราชบญั ญตั ิน้ี โดยนิติบคุ คลอาคารชุด
จะตองดําเนินการแกไขหรือเพ่ิมเติมใหสอดคลองกับพระราชบัญญัตินี้ภายในสามรอยหกสิบวัน
นับแตว ันท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ใี ชบ งั คับ” ซึง่ ปจจุบันระยะเวลาทบ่ี งั คบั ใชไ ดผ านมานานถึง ๕ ป
แตยังปรากฏขอ รองเรียนอยเู ปนเนืองๆ จากเจาของรว มวา การบรหิ ารจดั การของนิติบคุ คล
อาคารชุด ไมเ ปนไปตามกฎหมาย จากการตรวจสอบพบวาปญหาสว นใหญเกิดจากนิตบิ คุ คล
อาคารชุด ไมไดแกไขหรือเพิ่มเติมขอบังคับใหสอดคลองกับบทบัญญัติท่ีไดแกไขเพ่ิมเติมใน
พระราชบัญญัติอาคารชุด (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑ ทําใหเจา ของรว มเขา ใจผดิ ในขอ กฎหมายและ
เกิดความสับสนในการบริหารจัดการของนิติบุคคลอาคารชุด ปรากฏเปนขอขัดแยงถึงข้ันตอง
ฟอ งรองเปน คดีความกนั เปน จํานวนมาก
ดงั นั้น เพอื่ ใหเ ปน ไปตามมาตรา ๓๓ แหงพระราชบญั ญตั ิอาคารชดุ (ฉบบั ที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๕๑ จงึ ขอใหจ งั หวดั แจงสาํ นักงานท่ีดนิ จงั หวดั /สาขา มีหนังสือแจงใหน ิตบิ ุคคลอาคารชดุ
ทุกแหง ที่ต้ังอยใู นทอ งที่ หากนติ บิ คุ คลอาคารชุดใด ยงั ไมไ ดด าํ เนินการแกไ ขหรือเพิ่มเตมิ ขอบงั คับ
๕๗๒
ใหส อดคลอ งกบั บทบญั ญตั ทิ ไ่ี ดแ กไ ขเพม่ิ เตมิ ในพระราชบญั ญตั อิ าคารชดุ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
ก็ขอใหดาํ เนินการแกไ ขหรือเพมิ่ เตมิ ขอบังคับใหเปน ไปตามกฎหมาย ทง้ั น้ี ขอใหแจง นติ ิบคุ คล
อาคารชุดทราบดวยวา การแกไขหรือเพ่ิมเติมขอบังคับดังกลาวตองไดรับมติของเจาของรวม
โดยตองไดร ับคะแนนเสยี งตามท่กี ฎหมายกําหนดแลวแตกรณี
จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดทราบและดาํ เนินการตอไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่ือ) บุญเชดิ คดิ เห็น
(นายบุญเชิด คดิ เห็น)
อธิบดีกรมท่ดี ิน
สาํ นักสง เสรมิ ธรุ กิจอสงั หาริมทรพั ย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๐๓ – ๔
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๕๒
๕๗๓
ท่ี มท ๐๕๑๗.๓ / ว ๒๙๔๕๔ (สําเนา)
กรมท่ดี ิน
ศูนยราชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
เรอื่ ง การดําเนินการตามพระราชบญั ญตั ิการดแู ลผลประโยชนข องคูสัญญา พ.ศ. ๒๕๕๑
(กรณีหอ งชุด)
เรยี น ผวู าราชการจงั หวัดทุกจังหวัด
อางถึง หนังสือกรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๓๕๘๖๐ ลงวันที่ ๒๙ ธนั วาคม ๒๕๕๑ เรื่อง
การดําเนินการตามพระราชบญั ญตั กิ ารดแู ลผลประโยชนของคูสัญญา พ.ศ. ๒๕๕๑
ตามที่กรมท่ีดินไดวางแนวทางการดําเนินการตามพระราชบัญญัติการดูแล
ผลประโยชนข องคสู ัญญา พ.ศ. ๒๕๕๑ กรณีทผี่ ไู ดรับอนุญาตใหประกอบกิจการดแู ลผลประโยชน
มีหนังสือแจงใหพนักงานเจาหนาที่ตามประมวลกฎหมายท่ีดินทราบวาที่ดินตามโฉนดที่ดินหรือ
หนังสอื รับรองการทําประโยชนทแี่ จงมาอยูภายใตบังคบั แหง สญั ญาดูแลผลประโยชน เพอ่ื ใหเปน
ไปตามนัยมาตรา ๑๗ วรรคสาม ท่กี ําหนดวา “ในกรณีทีท่ รพั ยสินท่ีคูสญั ญาตองสงมอบหรอื โอน
สทิ ธเิ ปน อสงั หารมิ ทรพั ยท ม่ี หี นงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ ใหผ ดู แู ลผลประโยชนข องคสู ญั ญามหี นงั สอื
แจงใหพนักงานเจาหนาท่ีตามประมวลกฎหมายท่ีดินทราบและใหพนักงานเจาหนาที่ดังกลาว
บันทกึ เปน หลกั ฐานไววาอสงั หารมิ ทรพั ยน้นั อยูภายใตบงั คับแหง สญั ญาดูแลผลประโยชน และ
หามจดทะเบียนโอนสิทธิในทรัพยสินนั้นจนกวาจะไดรับแจงเปนหนังสือจากผูดูแลผลประโยชน
ของคูส ญั ญา” ความละเอยี ดแจง แลว นัน้
กรมท่ีดินไดรับแจงจากคณะกรรมการประกอบกิจการดูแลผลประโยชนของ
คสู ญั ญา กระทรวงการคลังวา เพื่อใหเ ปน ไปตามเจตนารมณในการใชพ ระราชบญั ญัตกิ ารดแู ล
ผลประโยชนของคสู ญั ญา พ.ศ. ๒๕๕๑ ขอใหปรบั แนวทางในกรณีหองชุดเพ่ือใหม ีการจดแจง
ในหนังสอื กรรมสิทธหิ์ องชุดเชน เดยี วกบั การจดแจงหนงั สอื แสดงสิทธิในที่ดิน เน่ืองจากเจาของ
หองชุดมีกรรมสิทธิ์ในทรัพยสวนกลางท่ีเปนท่ีดินที่มีโฉนดที่ดิน จึงมีความเช่ือมโยงในการที่
สามารถนาํ ความตามมาตรา ๑๗ วรรคสาม พระราชบัญญตั กิ ารดูแลผลประโยชนของคสู ัญญา
พ.ศ. ๒๕๕๑ มาบงั คับใชร วมถงึ กรณีหองชดุ ได ดงั นนั้ เมือ่ พนักงานเจา หนาทไี่ ดรับแจง จาก
สถาบันการเงินตามนิยามในมาตรา ๓ หรือนิติบุคคลอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวงในฐานะ
๕๗๔
เปนผูดูแลผลประโยชนของคูสัญญามีหนังสือแจงใหพนักงานเจาหนาที่ทราบวาหนังสือกรรมสิทธิ์
หอ งชดุ ท่ีแจงมาอยูภ ายใตบังคบั แหงสญั ญาดูแลผลประโยชน ขอใหพนกั งานเจา หนาทถ่ี อื ปฏิบตั ิ
โดยอนุโลมตาม กรณโี ฉนดท่ีดนิ หรือหนังสอื รบั รองทําประโยชนตามนัยหนังสือที่อางถงึ โดยให
บนั ทึกไวใ นสารบัญจดทะเบียนของหนังสือกรรมสิทธห์ิ อ งชดุ (อ.ช.๒) ดังกลา ววา “หามโอนสทิ ธิ
ในหนังสือกรรมสิทธ์ิหองชุดหองน้ีตามมาตรา ๑๗ แหงพระราชบัญญัติการดูแลผลประโยชน
ของคูสัญญา พ.ศ. ๒๕๕๑ เวน แตไ ดรบั แจงเปน หนงั สอื จากผดู แู ลผลประโยชน (ระบุชอ่ื ผูดแู ล
ผลประโยชนที่แจงมาไวด ว ย) ที่...........ลงวันท.่ี .........เดือน..................พ.ศ. ..........” แลวให
พนกั งานเจาหนาที่ ลงนามพรอ มวนั เดอื น ป กํากับไว พรอ มทั้งลงบญั ชีอายัดดวยขอความทาํ นอง
เดียวกัน และเขียนคําสั่งหามโอน (ท.ด. ๓๗) ปดปะปดไวดานหนาหนังสือกรรมสิทธิ์หองชุด
ฉบับสํานักงานท่ีดินและสารบบของหองชุดดังกลาวโดยอนุโลม ตามคําส่ังกระทรวงมหาดไทย
ท่ี ๖๓๕/๒๕๔๗ เรอ่ื ง อายัดที่ดนิ ลงวนั ที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๔๗ และใหถ อื ปฏิบัติตามรายละเอียด
ทีก่ ําหนดในหนังสือกรมทดี่ ิน ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๓๕๘๖๐ ลงวันที่ ๒๙ ธนั วาคม ๒๕๕๑ เรอ่ื ง
การดาํ เนนิ การตามพระราชบญั ญตั ิการดูแลผลประโยชนของคสู ัญญา พ.ศ. ๒๕๕๑ ทอี่ า งถงึ
จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบและแจงใหเ จาหนา ทที่ ราบและถอื ปฏบิ ัตติ อ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชอ่ื ) พนิ จิ หาญพาณชิ ย
(นายพินิจ หาญพาณชิ ย)
อธบิ ดกี รมที่ดนิ
สาํ นกั สงเสริมธรุ กิจอสงั หาริมทรัพย
โทร. ๐–๒๑๔๑–๕๘๐๓ – ๔
โทรสาร ๐–๒๑๔๓–๙๐๕๒
๕๗๕
ท่ี มท ๐๕๑๗.๓ / ว ๒๙๘๓๘ (สาํ เนา)
กรมท่ดี ิน
ศนู ยร าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทุง สองหอง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖
เร่อื ง ซอมความเขาใจเรื่อง รายงานขอ มลู ธรุ กจิ อสงั หาริมทรัพย
เรยี น ผูวาราชการจงั หวัดทุกจงั หวดั
อางถงึ หนงั สอื กรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๕๑๗.๓/ว ๒๖๐๑๖ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๔
ส่งิ ท่ีสง มาดวย ๑. แบบรายงานการจัดสรรท่ีดิน
๒. แบบรายงานการจดทะเบียนอาคารชุด
๓. แบบรายงานขอมูลนติ ิบคุ คลอาคารชุดทไี่ ดจ ดทะเบียนแลว
ตามหนังสือท่ีอางถึงแจงใหจังหวัดดําเนินการเกี่ยวกับการรายงานขอมูลการ
จัดสรรทีด่ นิ การจดทะเบยี นอาคาชดุ และขอ มูลนิตบิ คุ คลอาคารชุดทีไ่ ดจดทะเบียนแลวภายใน
๗ วัน นบั แตวันออกใบอนญุ าตจดั สรรที่ดิน ขอมลู การจดทะเบียนอาคารชุด และเมอ่ื มีการ
เปล่ยี นแปลงผูจดั การหรือกรรมการนิตบิ คุ คลอาคารชดุ แลวแตก รณี หากจังหวดั ใดไมม กี ารดําเนิน
การ ตอ งรายงานใหทราบภายในวันที่ ๕ ของเดอื นเปน ประจําทกุ เดอื น นน้ั
บัดน้ี ปรากฏวาการปฏิบัติงานของเจาหนาท่ีสํานักงานที่ดินจังหวัดบางแหง
ยงั มีการรายงานขอมลู ธุรกิจอสังหาริมทรัพยล าชา และไมค รบถวน ดังนัน้ เพือ่ ใหการจดั เก็บ
ขอมูลธุรกิจอสังหาริมทรัพยในฐานขอมูลกรมที่ดินเปนไปอยางมีประสิทธิภาพ ครบถวนและ
เปนปจ จบุ ัน สามารถนําไปใชป ระโยชนเ พอ่ื ตอบสนองความตอ งการของประชาชนในฐานะของ
ผบู รโิ ภค ผปู ระกอบการ และเพอ่ื ใหการวเิ คราะหสถานการณอสงั หาริมทรัพยข องประเทศโดย
ศูนยขอมูลอสังหาริมทรัพยเปนไปดวยความรวดเร็วและเปนไปตามเงื่อนไขตามบันทึกขอตกลง
วา ดวยการขอใชขอมูลอสงั หาริมทรพั ยใ นระบบสารสนเทศทดี่ ินระหวางกรมท่ดี ิน กับ ธนาคาร
อาคารสงเคราะห ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๗ – พ.ศ. ๒๕๕๘) จงึ เรยี นมาเพ่ือซักซอ มแนวทางในการ
ปฏิบตั ิงานของเจา หนา ท่ใี นเรื่องรายงานขอ มลู ธุรกิจอสังหารมิ ทรพั ย ดังตอไปน้ี
๑. การรายงานขอมูลการจัดสรรทดี่ นิ ใหจัดทํารายงานตามแบบท่กี ําหนดและ
สง ใหก รมท่ดี ินภายใน ๗ วัน นบั แตว นั ออกใบอนญุ าตจดั สรรที่ดนิ (ตามสิ่งท่ีสงมาดว ย ๑)
๕๗๖
๒. การรายงานขอมูลอาคารชุด ใหจดั ทาํ รายงานการจดทะเบียนอาคารชดุ ตาม
แบบท่ีกําหนดสง กรมทด่ี ินภายใน ๗ วนั นบั แตว นั จดทะเบยี นอาคารชุดโดยจัดสง พรอ มกบั สําเนา
ประกาศการจดทะเบยี นอาคารชุด (อ.ช.๑๑) และสําเนาหนงั สอื สาํ คญั การจดทะเบียนอาคารชุด
(อ.ช.๑๐) (ตามสง่ิ ที่สง มาดวย ๒)
๓. ขอมลู นติ บิ ุคคลอาคารชดุ ทีจ่ ดทะเบยี นไวแลว ใหจัดทาํ รายงานตามแบบท่ี
กําหนดสงกรมทด่ี นิ ภายใน ๗ วนั นับแตว ันจดทะเบียนนติ ิบคุ คลอาคารชดุ จดทะเบียนแตงตั้ง
เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการนิตบิ ุคคลอาคารชุด หรอื จดทะเบยี นเปลี่ยนแปลงผจู ดั การนติ ิบุคคล
อาคารชดุ (ตามสิ่งทส่ี งมาดว ย ๓)
๔. จังหวัดใดไมมีการดําเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาตจัดสรรท่ีดินและ
การจดทะเบยี นอาคารชุดตอ งรายงานใหทราบภายในวนั ท่ี ๕ ของเดือนเปนประจาํ ทุกเดอื น
ทั้งนี้ กรมท่ีดินจะดําเนินการตรวจสอบเปรียบเทียบขอมูลการออกใบอนุญาต
จัดสรรท่ีดินและการขอจดทะเบียนอาคารชุดจากรายงานผลการปฏิบัติงานประจําเดือนของ
สํานักงานที่ดิน (บ.ท.ด.๗๒) ของแตละจังหวดั เปน ประจําทกุ เดอื นและเพือ่ ความสะดวกรวดเร็ว
ในการประสานขอมลู ฯ ขอใหจ ังหวัดแตง ตงั้ เจา หนาทผี่ ูร บั ผดิ ชอบรวบรวมรายงานขอมลู ฯ ของ
สํานกั งานท่ดี ินจงั หวัดและสาขา จํานวน ๑ คน โดยแจงชอื่ ตาํ แหนง และ เบอรโ ทรศัพททส่ี ามารถ
ตดิ ตอไดสะดวกแกกรมที่ดนิ ทราบภายในวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๗ หากมกี ารเปลยี่ นแปลง
เจาหนา ท่ผี รู บั ผดิ ชอบขอใหแ จง ใหทราบทกุ คร้งั ดว ย
อน่ึง เน่ืองจากการรายงานขอมูลอสังหาริมทรัพยมีความสําคัญเพราะธนาคาร
อาคารสงเคราะห โดยศูนยข อมูลอสงั หารมิ ทรัพยต องนําขอมูลท่ถี ูกตอ ง ครบถว นและเปน ปจ จุบนั
ไปใชในการวิเคราะหขอมูล เพ่ือประเมินสถานการณและแนวโนมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย
ซึ่งจะเปนเคร่ืองชี้วดั เศรษฐกจิ ระดบั ประเทศตอไป ดงั นนั้ จงึ ขอใหเ จา พนกั งานทดี่ นิ จังหวัดได
กํากับดูแลการปฏิบัติงานและกํากับใหเจาหนาที่ผูรับผิดชอบปฏิบัติตามแนวทางท่ีวางไวอยาง
เครงครัด หากยังพบวามีการละเวนหรือไมปฏิบัติตามแนวทางดังกลาวและกอใหเกิดความ
เสียหาย เจาหนาทีผ่ ูเกีย่ วขอ งและเจา พนกั งานท่ดี ินจงั หวัดจะตองรับผดิ ชอบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจงใหเจาหนาที่ที่เกี่ยวของทราบและถือปฏิบัติ
โดยเครงครดั
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชื่อ) พนิ จิ หาญพาณิชย
(นายพนิ จิ หาญพาณชิ ย)
อธิบดกี รมทด่ี นิ
สํานักสงเสริมธรุ กจิ อสงั หารมิ ทรพั ย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๕๑๘ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๕๒
๕๗๗
แบบรายงานการจดั สรรที่ดนิ
สาํ นักงานทดี่ ินจงั หวัด................................. การแบงสว นโครงการ.........................สว น การค้ําประกนั การจดั ใหม สี าธารณูปโภคฯ
สาขา : ................................................... ออกใบอนุญาตแลว ..........................สวน
สถาบันการเงนิ .................................................
๕๗๘ ชอ่ื ผจู ดั สรรที่ดนิ ■ สวนที่...... ■ แกไ ขแผนผงั ฯ ครง้ั ท่ี..... ■ ทัง้ โครงการ สัญญาเลขที่ ........................................
ใบอนุญาตเลขท่ี.......ลงวนั ท่ี......เดอื น..........พ.ศ. ...... สญั ญาลงวนั ท่ี ........................................
ทีต่ ง้ั สํานกั งานของผูจดั สรรทด่ี นิ จาํ นวนเงิน ........................................ บาท
แปลงจาํ หนา ย ............................ แปลง
ช่อื โครงการ บานเดย่ี ว ............................ แปลง ภาระหนจ้ี ํานอง
บา นแฝด ............................ แปลง
ท่ตี ง้ั โครงการโฉนดเลขที่ : บา นแถว ............................ แปลง สถาบันการเงนิ .................................................
อาคารพาณชิ ย ............................ แปลง จาํ นวนเงิน ........................................ บาท
ตาํ บล/แขวง ............................................. ทด่ี นิ เปลา ............................ แปลง
อาํ เภอ/เขต .............................................. อ่ืนๆ ............................ แปลง ■ ปลอดภาระหน้ีจาํ นอง ■ เฉล่ียภาระหนี้
จังหวดั ...................................................
จํานวน ...........................................แปลง ราคาประเมินแปลงจําหนา ย การคา้ํ ประกนั การบาํ รงุ รักษาสาธารณูปโภค
เน้อื ทีร่ วม..........ไร..........งาน..........ตารางวา
ราคาตา่ํ สดุ ............................ บาท สถาบนั การเงิน .................................................
จํานวนเงิน...............................บาท เวลา................ป
ราคาสูงสดุ ............................ บาท
นติ บิ คุ คลหมูบานจัดสรร
แปลงสาธารณูปโภค .................... แปลง
■ ไมจ ดทะเบยี น ■ จดทะเบียนวันท่ี....เดือน.......พ.ศ. ....
เนอื้ ที่ ...................................... ไร
ชื่อ
■ สโมสร, สระวายนํา้ ■ สวนสาธารณะ
ประเด็นหารอื /รองเรยี น..................................
■ โรงเรยี นอนุบาล ■ สนามเด็กเลน
■ สนามกฬี า
แบบรายงานการจดทะเบยี นอาคารชุด
ชอ่ื อาคารชดุ ช่ือนติ บิ ุคคลอาคารชุด
ชือ่ ผูประกอบการ ช่อื ผูจดั การนติ ิบคุ คลอาคารชดุ /หมายเลขบัตรประชาชน ๑๓ หลกั
ทีต่ ัง้ โครงการ ท่ีตั้งสํานักงานนิติบคุ คลอาคารชุด
๕๗๙ โฉนดทีด่ ินเลขที่............................................................... ทรพั ยส วนกลาง
ถนน.............................................................................
ตาํ บล/แขวง................................................................... ■ สระวายน้ํา ■ สนามเทนนิส
อาํ เภอ/เขต....................................................................
จังหวดั ......................................................................... ■ สโมสร ■ ท่ีจอดรถ
● จาํ นวน...............................................................แปลง ■ อสงั หารมิ ทรัพยทีไ่ ดม าหลงั จดทะเบยี นอาคารชุด
● เน้อื ทีร่ วม................ไร. ..................งาน................. ตารางวา
จํานวนอาคาร ............................................................... หลงั ___________________________________
จาํ นวนหองชุด .............................................................. หอง
เนื้อทีห่ อ งชดุ สูงสุด ......................................................... ตาราเมตร ราคาประเมนิ หองชดุ ตา่ํ สดุ ............................................... บาท
เนอ้ื ที่หอ งชดุ ต่าํ สุด ......................................................... ตารางเมตร ราคาประเมนิ หองชุดสูงสุด ............................................... บาท
● จดทะเบียนอาคารชุดเมืีอ่ วันท.่ี .......เดอื น.............พ.ศ. ............
หมายเหตุ :
ทะเบียนอาคารชดุ เลขท.่ี ......./.............
– จดทะเบียนนติ ิบุคคลอาคารชุดเม่ือวันท.ี่ ......เดอื น...............พ.ศ. .....
– ทะเบยี นนิตบิ คุ คลอาคารชุดเลขท่ี........../..................
แบบรายงานขอมลู นติ บิ คุ คลอาคารชุดที่ไดจ ดทะเบียนแลว
จงั หวัด......................................
ลําดับ ชือ่ นติ บิ คุ คลอาคารชดุ ท่ีตง้ั สํานักงานนติ บิ คุ คล ทะเบียนนติ บิ คุ คล ชือ่ ผูจัดการนิติบุคคลอาคารชุด/ ชอ่ื กรรมการนติ บิ คุ คลอาคารชดุ /
ที่ อาคารชุด อาคารชุด เลขท่/ี วนั ท่ี หมายเลข ๑๓ หลกั หมายเลข ๑๓ หลัก
๕๘๐
หมายเหตุ ๑. ในชอ งชื่อผจู ัดการนติ ิบุคคลอาคารชุดและกรรมการนิตบิ ุคคลอาคารชดุ ใหร ะบุชอ่ื พรอ มหมายเลขประชาชน ๑๓ หลัก
๒. ในกรณที ่ีผูจดั การนติ ิบุคคลอาคารชุดเปน นิติบคุ คล ใหระบชุ อื่ ผจู ดั การซึ่งเปน ผดู ําเนินการแทนนิติบุคคล พรอมดวยหมายเลขประชาชน ๑๓ หลกั
ดว นทีส่ ดุ (สาํ เนา)
ที่ มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๓๒๔๙๔ กรมทดี่ นิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๖
เรอ่ื ง โครงการจัดสรรท่ีดินขนาดเล็ก (พิเศษ)
เรียน ผวู าราชการจังหวดั ทกุ จังหวัด
อา งถงึ หนังสือกรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๕๑๗.๒/ว ๑๔๙๕๓ ลงวันท่ี ๒ มถิ ุนายน ๒๕๕๔
สิ่งทส่ี ง มาดว ย ๑. ประกาศคณะกรรมการจัดสรรท่ีดนิ กลาง เร่อื ง กาํ หนดนโยบายการจดั สรรท่ีดิน
เพือ่ ท่อี ยอู าศัยและพาณชิ ยกรรม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๖
๒. ประกาศคณะกรรมการจดั สรรที่ดนิ กลาง เรอื่ ง กําหนดนโยบายการจดั พ้ืนที่
ใหเปน ทต่ี ้ังสาํ นกั งานของนิตบิ ุคคลหมูบ า นจดั สรร หรอื นติ บิ ุคคลตามกฎหมายอน่ื
ในการจดั สรรทดี่ นิ เพ่อื ทอี่ ยูอาศยั และพาณชิ ยกรรม การจดั สรรท่ีดนิ เพื่อ
เกษตรกรรม และการจัดสรรทีด่ ินเพ่ือการอตุ สาหกรรม (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖
ตามหนังสือที่อางถึง ไดสงประกาศคณะกรรมการจัดสรรท่ีดินกลาง เร่ือง
กาํ หนดนโยบายการจัดสรรทด่ี นิ เพอ่ื ท่ีอยูอาศัยและพาณชิ ยกรรม ฉบบั ที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๕๔) และ
ประกาศคณะกรรมการจัดสรรทด่ี นิ กลาง เรอ่ื ง กาํ หนดนโยบายการจดั พื้นที่ใหเปน ท่ีตง้ั สาํ นกั งาน
ของนิติบคุ คลหมบู านจดั สรร หรือนิติบคุ คลตามกฎหมายอน่ื ในการจัดสรรทด่ี ินเพื่อทีอ่ ยอู าศัย
และพาณิชยกรรม การจดั สรรท่ีดินเพอื่ เกษตรกรรม และการจดั สรรทีด่ ินเพ่ือการอตุ สาหกรรม
ฉบบั ท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๔) เพอื่ ใชเ ปน เกณฑใ นการพจิ ารณาคาํ ขอทาํ การจดั สรร นนั้
บดั น้ี คณะกรรมการจดั สรรทดี่ ินกลางไดพิจารณาใหใ ชป ระกาศคณะกรรมการ
จดั สรรท่ดี นิ กลางฉบับใหมแลว รายละเอียดปรากฏตามส่ิงทสี่ งมาดว ย
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจงใหคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดและ
เจาหนา ที่ทเ่ี กย่ี วขอ งทราบเพอ่ื ใชเปนแนวทางในการปฏิบตั ิงานตอไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชื่อ) พินิจ หาญพาณชิ ย
(นายพนิ จิ หาญพาณชิ ย)
อธิบดกี รมทด่ี ิน
สว นมาตรฐานการจัดสรรที่ดนิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๐๕ – ๑๖ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๕๓
๕๘๑
(สาํ เนา)
ประกาศคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง
เร่อื ง กําหนดนโยบายการจัดสรรที่ดินเพ่ือทอี่ ยูอ าศัยและพาณชิ ยกรรม
(_ฉ_บ_ับ_ท__่ี ๘__)_พ_._ศ_._๒_๕__๕_๖
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๑) แหงพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน
พ.ศ.๒๕๔๓ และเพอ่ื ใหส อดคลอ งกบั มาตรา ๑๖ แหง พระราชบญั ญตั กิ ารจดั สรรทด่ี นิ พ.ศ.๒๕๔๓
อันเปนกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
คณะกรรมการจัดสรรที่ดนิ กลางจึงกาํ หนดนโยบายการจัดสรรทด่ี นิ เพอ่ื ใหค ณะกรรมการจัดสรร
ที่ดินกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดใชเปนเกณฑในการพิจารณา
เก่ยี วกับคําขออนญุ าตทําการจดั สรรทด่ี นิ ดังน้ี
ขอ ๑ ใหเพม่ิ ความตอ ไปนีเ้ ปนขอ ๘ ของประกาศคณะกรรมการจัดสรรท่ีดินกลาง
เรือ่ ง กําหนดนโยบายการจดั สรรท่ีดนิ เพื่อที่อยอู าศยั และพาณชิ ยกรรม ลงวันท่ี ๒๕ มกราคม
พ.ศ.๒๕๔๔
“ขอ ๘ โครงการจัดสรรทด่ี ินทีต่ งั้ อยใู นพ้นื ท่ี
๘.๑ ในเขตกรุงเทพมหานคร เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาล
ตําบล หรอื เมอื งพทั ยา ทมี่ จี าํ นวนแปลงยอยไมเ กิน ๓๒ แปลง และเนือ้ ทเ่ี พอ่ื การจาํ หนายไมเ กิน
๒ ไร เวน แตเ ปนการจัดสรรทดี่ นิ เพอ่ื การจาํ หนา ยพรอมอาคารประเภทอาคารพาณชิ ยใ หมีจํานวน
แปลงยอยไมเกิน ๒๐ แปลง และเน้ือท่เี พอ่ื การจาํ หนายไมเกนิ ๒ ไร
๘.๒ ในเขตองคก ารบรหิ ารสวนตาํ บล ทีม่ จี ํานวนแปลงยอ ยไมเกิน
๔๐ แปลง และเนือ้ ท่ีเพ่ือการจําหนายไมเกนิ ๔ ไร
ใหโ ครงการจัดสรรที่ดนิ ดังกลาวทําการจดั สรรที่ดินไดโ ดย
(๑) ไมตองกันพ้ืนที่ไวเพ่ือจัดทําสาธารณูปโภคประเภทสวน
สนามเด็กเลน หรอื สนามกีฬา
(๒) ขนาดของถนนทใี่ ชเปนทางเขา ออกสูทดี่ นิ แปลงยอย ใหม ี
ความกวา งของเขตทางไมต าํ่ กวา ๘.๐๐ เมตร โดยมคี วามกวา งของผวิ จราจรไมตํ่ากวา ๖.๐๐
เมตร
(๓) ในกรณีที่ดินจัดสรรต้ังอยูในบริเวณที่การประปานครหลวง
การประปาสวนภูมิภาค หรือการประปาสวนทองถ่ินแลวแตกรณี ไมสามารถใหบริการได
ใหผจู ัดสรรทีด่ นิ ใชร ะบบประปาอนื่ ไดโ ดยใหอ ยใู นดุลพนิ ิจของคณะกรรมการจัดสรรทด่ี นิ
๕๘๒
ทั้งนี้ โครงการจัดสรรท่ีดินดังกลาวตองไมใชโครงการตอเนื่องเปน
หลายโครงการ ซ่งึ เมอื่ รวมกนั แลว มจี าํ นวนแปลงหรอื เนื้อทเี่ กนิ กวา ที่กําหนดไว
อน่ึง ในกรณีที่ขอกําหนดเก่ียวกับการจัดสรรท่ีดินของจังหวัด
ไดก ําหนดมาตรฐานของสาธารณูปโภคตางๆ ไวสงู กวาท่คี ณะกรรมการจดั สรรท่ดี ินกลางประกาศ
หากคณะกรรมการจดั สรรทด่ี นิ พจิ ารณาแลว เหน็ วา การจดั ทาํ สาธารณปู โภคดงั กลา วแมจ ะไมเ ปน
ไปตามขอกําหนด แตไ มต ํา่ กวา เกณฑม าตรฐานตามประกาศของคณะกรรมการจัดสรรท่ดี นิ กลาง
หากไมเกิดความเสียหาย คณะกรรมการจัดสรรท่ีดินควรพิจารณาผอนผันการปฏิบัติตาม
ขอ กําหนดเพ่อื เปนการสนบั สนนุ นโยบายดงั กลาวขางตน ”
ขอ ๒ ประกาศน้ใี หใ ชบงั คับตั้งแตวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๗ จนถึงวนั ท่ี
๓๑ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๙
ประกาศ ณ วันท่ี ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
(ลงชอ่ื ) ประภาศ บญุ ยินดี
(นายประภาศ บญุ ยนิ ดี)
รองปลดั กระทรวงมหาดไทย
หัวหนา กลุม ภารกิจดา นกจิ การความม่ันคงภายใน
ประธานกรรมการจดั สรรทดี่ นิ กลาง
๕๘๓
(สาํ เนา)
ประกาศคณะกรรมการจัดสรรท่ดี ินกลาง
เรอื่ ง กําหนดนโยบายการจัดพ้ืนที่ใหเปนท่ีตั้งสาํ นกั งานของนิติบุคคลหมูบานจัดสรร
หรอื นติ บิ คุ คลตามกฎหมายอน่ื ในการจดั สรรทด่ี นิ เพอ่ื ทอ่ี ยอู าศยั และพาณชิ ยกรรม
การจัดสรรทีด่ นิ เพ่ือเกษตรกรรม และการจดั สรรที่ดนิ เพ่อื การอตุ สาหกรรม
(_ฉ_บ_บั __ท_่ี ๔__)_พ_._ศ_._๒_๕_๕__๖
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๑) แหงพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน
พ.ศ.๒๕๔๓ และเพอ่ื ใหส อดคลอ งกบั มาตรา ๑๖ แหง พระราชบญั ญตั กิ ารจดั สรรทด่ี นิ พ.ศ.๒๕๔๓
อันเปนกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
คณะกรรมการจดั สรรท่ีดนิ กลางจงึ กําหนดนโยบายการจัดสรรทด่ี ิน เพ่อื ใหคณะกรรมการจัดสรร
ที่ดินกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดใชเปนเกณฑในการพิจารณา
เกยี่ วกบั คาํ ขออนญุ าตทําการจดั สรรท่ีดนิ ดงั นี้
ขอ ๑ ใหเพิ่มความตอ ไปนเ้ี ปนขอ ๓ ของประกาศคณะกรรมการจัดสรรทด่ี นิ กลาง
เรื่อง กําหนดนโยบายการจัดพ้ืนที่ใหเปนที่ต้ังสํานักงานของนิติบุคคลหมูบานจัดสรร หรือ
นิติบคุ คลตามกฎหมายอ่นื ในการจัดสรรที่ดินเพ่ือท่อี ยอู าศัยและพาณิชยกรรม การจดั สรรท่ีดิน
เพ่ือเกษตรกรรม และการจัดสรรที่ดนิ เพอ่ื การอุตสาหกรรม ลงวันท่ี ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๘
“ขอ ๓ โครงการจดั สรรทีด่ นิ เพื่อที่อยอู าศยั และพาณิชยกรรมขนาดเล็กทีต่ ั้ง
อยใู นพนื้ ที่
(๑) ในเขตกรงุ เทพมหานคร เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาล
ตาํ บล หรอื เมอื งพัทยา ที่มจี ํานวนแปลงยอ ยไมเกิน ๓๒ แปลง และเน้ือที่เพือ่ การจําหนายไมเ กนิ
๒ ไร เวนแตเ ปนการจัดสรรทดี่ ินเพอื่ การจําหนายพรอ มอาคารประเภทอาคารพาณชิ ยใ หมจี าํ นวน
แปลงยอ ยไมเ กิน ๒๐ แปลง และเนอื้ ท่ีเพือ่ การจําหนายไมเกิน ๒ ไร
(๒) ในเขตองคการบรหิ ารสวนตําบล ที่มีจาํ นวนแปลงยอยไมเ กิน
๔๐ แปลง และเนอ้ื ทเ่ี พ่ือการจําหนายไมเ กนิ ๔ ไร
ใหโครงการจดั สรรทด่ี ินดงั กลาว ผูขออนญุ าตทําการจัดสรรทดี่ นิ ไม
ตอ งจัดพน้ื ท่ใี หเ ปนที่ต้ังสํานกั งานของนติ ิบุคคลหมูบ านจดั สรร หรือนิติบุคคลตามกฎหมายอนื่
ทั้งน้ี โครงการจดั สรรทดี่ นิ เพื่อท่ีอยูอ าศยั และพาณชิ ยกรรมดงั กลาว
ตอ งไมใ ชโครงการตอ เนือ่ งเปนหลายโครงการ ซึ่งเม่ือรวมกนั แลวมีจํานวนแปลงหรอื เน้ือท่เี กนิ กวา
ท่กี ําหนดไว”
๕๘๔
ขอ ๒ ประกาศนี้ใหใ ชบังคับตงั้ แตว ันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๗ จนถงึ วนั ท่ี ๓๑
ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๙
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
(ลงชื่อ) ประภาศ บุญยนิ ดี
(นายประภาศ บญุ ยินด)ี
รองปลดั กระทรวงมหาดไทย
หวั หนา กลมุ ภารกิจดา นกิจการความม่นั คงภายใน
ประธานกรรมการจัดสรรทีด่ ินกลาง
๕๘๕
๕๘๖
บัญชรี ายชื่อหนังสือเวียน ระเบยี บ และคําสัง่ ตา งๆ
สาํ นกั เทคโนโลยีสารสนเทศ
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๕
๑. เลขที่หนังสอื เวยี น ชือ่ เรื่อง หนา
ลาํ ดับที่ ระเบยี บ คําส่ัง ๕๘๙
๒. ลงวัน เดือน ป
๑. ที่ มท ๐๕๑๓.๒ / ว ๑๒๑ นโยบายและแนวทางปฏิบตั ิในการรกั ษา
ลว. ๑๐ ม.ค. ๕๖ ความมน่ั คงปลอดภัยดา นสารสนเทศ
กรมท่ีดิน
๕๘๗
๕๘๘
(สาํ เนา)
สวนราชการ สํานักเทคโนโลยสี ารสนเทศ โทรศัพท ๐–๒๙๘๔–๐๘๑๙ โทรสาร ๐–๒๕๐๓–๓๖๗๙
ท่ี มท ๐๕๑๓.๒ / ว ๑๒๑ วนั ที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๖
เร่ือง นโยบายและแนวปฏิบัตใิ นการรักษาความมนั่ คงปลอดภยั ดานสารสนเทศ กรมที่ดิน
เรยี น หวั หนากลุมงานคุมครองจรยิ ธรรมกรมท่ดี นิ ผตู รวจราชการกรม ผูอาํ นวยการสํานัก
เจา พนักงานที่ดินกรงุ เทพมหานคร เลขานุการกรม ผูอ ํานวยการกอง ผอู าํ นวยการสํานักงาน
ผอู ํานวยการกลมุ และผูอ ํานวยการศูนย
สํานักเทคโนโลยีสารสนเทศไดจัดทํานโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความ
ม่นั คงปลอดภัยดา นสารสนเทศ เพือ่ ใหเ กิดความเช่ือมั่น และมีความม่ันคงปลอดภยั ในการบรหิ าร
จดั การความมน่ั คงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ซ่งึ เปน ไปตามพระราช
บัญญตั ิวา ดว ยการกระทาํ ความผดิ เกี่ยวกับคอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ พระราชบัญญตั วิ า ดวย
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส
(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชกฤษฎกี า กาํ หนดหลักเกณฑและวิธกี ารในการทําธรุ กรรม
ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๔๙
สํานักเทคโนโลยีสารสนเทศจึงขอสงประกาศกรมท่ีดิน เร่ืองนโยบายและ
แนวปฏบิ ตั ิในการรักษาความม่ันคงปลอดภยั ดานสารสนเทศ กรมท่ดี นิ พรอ มคําแนะนาํ และรหสั
ผูใชงานในการ Login เขา สรู ะบบสําหรบั ดาวนโ หลดไฟลเอกสาร ตามท่แี นบมาพรอมนี้ เพื่อให
พนักงานเจาหนาท่ีนํานโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดานสารสนเทศ
กรมทดี่ นิ ไปใชใ นการปฏิบัติงานของกรมท่ีดิน และถอื ปฏิบตั ิอยางเครง ครดั
จึงเรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ และแจง ใหพนักงานเจา หนาท่ี ทราบและถอื ปฏบิ ัติ
ตอ ไป
(ลงชอ่ื ) สมพร พรหมพันธุ
(นายสมพร พรหมพนั ธุ)
ผอู ํานวยการสํานักเทคโนโลยีสารสนเทศ
๕๘๙
(สําเนา)
ประกาศกรมทีด่ นิ
เรือ่ ง นโยบายและแนวปฏบิ ตั ิในการรักษาความมนั่ คงปลอดภัยดา นสารสนเทศ กรมท่ีดิน
––––––––––––––––––––
ดวยพระราชบญั ญัติวา ดว ยการกระทาํ ความผิดเกีย่ วกบั คอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐
พระราชบัญญัติวา ดว ยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชบัญญัติวา ดว ยธุรกรรม
ทางอเิ ล็กทรอนิกส (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชกฤษฎีกา กําหนดหลกั เกณฑแ ละวธิ ีการ
ในการทาํ ธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส พ.ศ. ๒๕๔๙ (มาตรา ๕ หนวยงานของรัฐตอ งจดั ทํานโยบาย
และแนวปฏบิ ัติในการรกั ษาความม่นั คงปลอดภยั ดา นสารสนเทศ เพอื่ ใหการดาํ เนนิ การใดๆ ดวย
วธิ ีการทางอิเลก็ ทรอนิกสกบั หนวยงานของรัฐมีความม่ันคงปลอดภัยและเชอ่ื ถือได) กําหนดให
กรมท่ดี ิน ตองจดั ทาํ นโยบายและแนวปฏิบัตใิ นการรกั ษาความม่ันคงปลอดภัยดานสารสนเทศ
เพ่ือเปนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกลาว กรมท่ีดินไดจัดทํานโยบายและ
แนวปฏบิ ตั ิในการรกั ษาความม่นั คงปลอดภยั ดา นสารสนเทศ กรมทดี่ นิ เพ่ือใหเ กิดความเชอ่ื มนั่
และมีความม่ันคงปลอดภัยในการบริหารจัดการความม่ันคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการส่ือสาร โดยอางองิ ตามมาตรฐาน ISO/IEC หรอื มาตรฐานสากลที่เกีย่ วขอ ง ทงั้ น้ไี ด
กําหนดมาตรฐาน/แนวทาง และระเบยี บปฏบิ ตั ิ ใหผูบริหาร เจา หนาท่ผี ดู ูแลระบบ และผใู ชงาน
ระบบ ใชเ ปน แนวทางในการดาํ เนนิ งานและปฏิบัตติ ามอยางเครงครัด โดยใหผบู ริหารเทคโนโลยี
สารสนเทศระดบั สงู (CIO) เปน ผูควบคุม ดแู ล และรบั ผดิ ชอบตอ ความเสี่ยง ความเสยี หาย
หรืออนั ตรายท่อี าจเกิดขึ้นในกรณรี ะบบคอมพวิ เตอรหรือขอ มลู สารสนเทศเกิดความเสียหาย หรอื
อันตรายใดๆ แกก รมทด่ี นิ หรือผหู นึ่งผูใ ด อันเนอ่ื งมาจากความบกพรอ ง ละเลย หรอื ฝาฝน
การปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความม่ันคงปลอดภัยดานสารสนเทศ
กรมท่ดี ิน และใหผ อู ํานวยการสํานกั เทคโนโลยสี ารสนเทศเปน ผูร ับผิดชอบในการควบคุม ดแู ล
ใหการปฏิบัติงานเปนไปตามโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความม่ันคงปลอดภัยดาน
สารสนเทศ กรมทีด่ ิน และใหม กี ารทบทวนปรบั ปรุงนโยบายและแนวปฏบิ ัตใิ นการรักษาความ
ม่ันคงปลอดภยั ดานสารสนเทศ กรมทด่ี ิน ใหเปน ปจจบุ ันอยูเ สมอ
ดังน้ัน เพื่อใหนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความม่ันคงปลอดภัยดาน
สารสนเทศ กรมท่ีดนิ ตามเอกสารแนบทา ย บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค ตามทีก่ าํ หนดไว จึงใหส วนราชการ
ในสังกดั กรมท่ดี ิน นาํ นโยบายและแนวปฏบิ ัติในการรักษาความมน่ั คงปลอดภัยดานสารสนเทศ
กรมที่ดิน ไปใชในการปฏิบตั ิงานของกรมที่ดนิ และถือปฏิบตั ิอยา งเครงครดั ตอไป
จึงประกาศใหท ราบโดยทัว่ กนั
ประกาศ ณ วนั ที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
(ลงชือ่ ) บญุ เชดิ คดิ เห็น
(นายบุญเชิด คิดเหน็ )
อธบิ ดกี รมท่ีดนิ
๕๙๐
คําแนะนําและรหัสผใู ชงานในการ Login เขาสูระบบ สําหรับดาวนโหลดไฟลเ อกสาร
นโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมน่ั คงปลอดภัยดา นสารสนเทศ กรมทด่ี ิน
สํานักเทคโนโลยีสารสนเทศไดนําไฟลเอกสารนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษา
ความมัน่ คงปลอดภัยดานสารสนเทศ กรมท่ดี ิน เผยแพรใ หพ นกั งานเจา หนา ทก่ี รมทด่ี ินไดทาํ การ
ศกึ ษาและยึดถอื ปฏิบัติบนเวบ็ ไซตมาตรการการรักษาความม่ันคงปลอดภัยดา นสารสนเทศ และ
เนื่องจากเนอ้ื หาในนโยบายและแนวปฏิบตั ิฯ บางสว นเปนความลับเฉพาะภายในองคกร มิอาจ
เปดเผยตอ สาธารณะได ดังนั้นสาํ นักเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงไดก าํ หนดสิทธใิ นการเขา ถึงขอ มูล
ไดเฉพาะพนักงานเจาหนา ที่ของกรมท่ีดนิ โดยไดทําการกําหนดรหัสผูใชง านในการ Login เขาสู
ระบบ เพ่อื ใหสิทธิพิเศษมากกวา ผูใชง านทว่ั ไปในการเปด อา นไฟลนโยบายและแนวปฏบิ ตั ใิ นการ
รักษาความม่นั คงปลอดภยั ดา นสารสนเทศ กรมที่ดนิ มขี น้ั ตอน ดังน้ี
๑.๑ ดบั เบิลคลิกเลอื ก Web Browser ใดๆ ในท่ีนี้สมมตุ เิ ปน Internet Explorer
(IE) ระบุท่ีอยขู องเว็บไซต (URL) กรมที่ดนิ http://www.dol.go.th และทตี่ าํ แหนง Address Bar
ใหค ลิกเลือกแบนเนอรฝ งขวาเหนือ “มาตรการการรกั ษาความมัน่ คงปลอดภยั ระบบสารสนเทศ”
หรือระบทุ อ่ี ยขู องเว็บไซตโ ดยตรงคือ http://dolwms.dol.go.th:8081/dolsurvey/dolsecure
๑.๒ จะปรากฏเว็บไซต
๑.๓ ทาํ การ Login เขาสรู ะบบ โดยพนกั งานเจา หนา ทข่ี องสํานกั งานท่ีดินจงั หวัด/
สาขา/สวนแยก/อาํ เภอ ทําการระบชุ ่อื ผูใช “uregion” และรหสั ผาน “dolregion” จากนน้ั คลกิ ทีป่ มุ
เขาสรู ะบบ (อน่ึงรหสั ผใู ชงานและรหสั ผานเปน เอกสารลับเฉพาะพนักงานเจาหนาทีข่ องกรมทดี่ ิน)
๑.๔ ท่ีเมนหู ลักเลอื ก “นโยบายและแนวปฏบิ ัต”ิ
๑.๕ ระบบจะแสดงรายการเมนยู อยในหมวดนโยบายและแนวปฏบิ ัติใหเ ลือก
๕๙๑
(สําเนา)
สวนราชการ สํานักเทคโนโลยสี ารสนเทศ โทรศัพท ๐–๒๙๘๔–๐๘๑๙ โทรสาร ๐–๒๕๐๓–๓๖๗๙
ที่ มท ๐๕๑๓.๒ / ๓๘ วันท่ี ๔ มกราคม ๒๕๕๖
เร่อื ง นโยบายและแนวปฏิบัตใิ นการรกั ษาความมนั่ คงปลอดภัยดา นสารสนเทศ กรมท่ดี นิ
เรยี น อธบิ ดี
๑. เรอ่ื งเดิม
กรมทีด่ นิ ไดจ ัดสง รางประกาศกรมทด่ี นิ เรื่องนโยบายและแนวปฏบิ ตั ใิ นการ
รกั ษาความมั่นคงปลอดภยั ดา นสารสนเทศ กรมทดี่ ิน และแบบประเมนิ ประกอบการพิจารณาการ
ดาํ เนนิ งานตามแนวนโยบายฯ พรอ มทง้ั นโยบายและแนวปฏบิ ตั ใิ นการรกั ษาความมน่ั คงปลอดภยั
ดานสารสนเทศ กรมทด่ี ิน ทไี่ ดปรับปรุงแกไขตามขอเสนอแนะของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสอื่ สาร สําหรบั นาํ เสนอตอคณะอนุกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส เพอื่ พิจารณาให
ความเหน็ ชอบ ตามหนงั สือ ท่ี มท ๐๕๑๓.๒/๓๑๖๕๒ ลงวนั ท่ี ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ (เอกสาร
หมายเลข ๑)
๒. ขอ เทจ็ จรงิ
๒.๑ กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารมีหนงั สือ ที่ ทก ๐๒๐๙.๔/
๑๒๖๔๐ ลงวนั ท่ี ๖ ธันวาคม ๒๕๕๕ ไดแ จงผลการพิจารณาเก่ยี วกับนโยบายและแนวปฏิบัติ
ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดานสารสนเทศ กรมที่ดิน วาคณะกรรมการธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกสไดมีมติในการประชุมเห็นชอบตอนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความม่ันคง
ปลอดภัยดานสารสนเทศของกรมท่ดี นิ (เอกสารหมายเลข ๒)
๒.๒ นโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดาน
สารสนเทศ กรมทดี่ นิ (เอกสารหมายเลข ๓) เปนเพียงมาตรการขั้นตํ่าท่ีชว ยลดความเสี่ยงตอ ภัย
คุกคามของระบบสารสนเทศ เพ่ือใหเกิดความเชอื่ ม่นั ในการทาํ ธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส ซ่ึง
กรมท่ดี นิ ตอ งใหความสําคญั และจัดใหมกี ารตรวจสอบและประเมินความเส่ียงอยางสมํา่ เสมอ
เพอ่ื ใหร ะบบสารสนเทศมคี วามมัน่ คงปลอดภยั ในทางปฏบิ ตั ิ รวมท้งั ปรบั ปรงุ มาตรการเพอ่ื รักษา
ความมัน่ คงปลอดภัย ตามความเหมาะสม
๓. ขอ พจิ ารณา
สํานักเทคโนโลยีสารสนเทศพิจารณาแลวเห็นวา เพื่อใหนโยบายและแนว
ปฏิบัติในการรักษาความม่ันคงปลอดภัยดานสารสนเทศ กรมที่ดิน บรรลุวัตถุประสงคตามที่
กําหนดไว จึงเหน็ ควรแจงใหสวนราชการในสงั กัดกรมทด่ี นิ นํานโยบายและแนวปฏบิ ัติในการ
รักษาความม่ันคงปลอดภยั ดา นสารสนเทศ กรมท่ดี ิน ไปใชในการปฏิบตั งิ านของกรมทีด่ นิ และถือ
ปฏบิ ตั ิอยางเครง ครัด
๕๙๒
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดพิจารณา หากเห็นชอบขอไดโปรดลงนามในประกาศ
กรมทด่ี นิ เรอ่ื งนโยบายและแนวปฏบิ ตั ใิ นการรกั ษาความมน่ั คงปลอดภยั ดา นสารสนเทศ กรมทด่ี นิ
และหนงั สือถึงผูวาราชการจงั หวัด ทน่ี ําเรียนมาพรอ มนี้
(ลงชอื่ ) สมพร พรหมพันธุ
(นายสมพร พรหมพนั ธุ)
ผอู ํานวยการสํานกั เทคโนโลยีสารสนเทศ
๕๙๓
ที่ มท ๐๕๑๓.๒ / ว ๕๗๘ (สําเนา)
กรมทีด่ นิ
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๙ มกราคม ๒๕๕๖
เรอ่ื ง นโยบายและแนวปฏิบตั ิในการรักษาความม่นั คงปลอดภัยดานสารสนเทศ กรมท่ีดิน
เรียน ผูวาราชการจงั หวัดทุกจังหวัด
ส่ิงทีส่ ง มาดว ย ๑. ประกาศกรมท่ดี ิน เรื่อง นโยบายและแนวปฏบิ ัตใิ นการรกั ษาความมน่ั คง
ปลอดภัยดา นสารสนเทศ กรมที่ดิน
๒. คาํ แนะนาํ และรหสั ผใู ชง านในการ Login เขาสูระบบสาํ หรบั ดาวนโหลดไฟล
เอกสารนโยบายและแนวปฏิบัตใิ นการรกั ษาความม่นั คงปลอดภยั ดา น
สารสนเทศ กรมที่ดิน
กรมท่ีดินไดจัดทํานโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดาน
สารสนเทศ เพ่อื ใหเ กดิ ความเช่อื มั่น และมีความมั่นคงปลอดภยั ในการบริหารจดั การความมนั่ คง
ปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเปนไปตามพระราชบัญญัติวาดวย
การกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ พระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ.๒๕๕๑ และพระราชกฤษฎีกา กําหนดหลักเกณฑและวิธีการในการทําธุรกรรมทาง
อิเลก็ ทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๙
กรมทด่ี นิ จงึ ขอสงประกาศกรมท่ดี ิน เร่อื ง นโยบายและแนวปฏิบตั ใิ นการรกั ษา
ความม่ันคงปลอดภัยดานสารสนเทศ กรมท่ดี ิน พรอ มคําแนะนาํ และรหัสผใู ชง านในการ Login
เขา สูร ะบบสําหรับดาวนโหลดไฟลเอกสาร (ตามสง่ิ ที่สงมาดว ย) เพ่อื ใหห นว ยงานในสงั กัดนาํ
นโยบายและแนวปฏบิ ัตใิ นการรกั ษาความม่นั คงปลอดภัยดา นสารสนเทศ กรมทีด่ ิน ไปใชในการ
ปฏบิ ัติงานของกรมท่ดี นิ และถือปฏบิ ัติอยา งเครงครัด
จึงเรยี นมาเพือ่ โปรดทราบ และแจง สาํ นกั งานที่ดินจงั หวดั /สาขา/สว นแยก/อําเภอ
ทราบและถือปฏบิ ตั ติ อ ไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอ่ื ) บญุ เชิด คิดเหน็
(นายบุญเชิด คิดเหน็ )
อธบิ ดกี รมทีด่ ิน
สํานกั เทคโนโลยสี ารสนเทศ
โทรศัพท/โทรสาร ๐–๒๙๘๔๐๘๑๙ / ๐–๒๕๐๓๓๖๗๙
๕๙๔
บัญชีรายช่ือหนังสอื เวียน ระเบยี บ และคําสัง่ ตา งๆ
สาํ นกั งานเลขานกุ ารกรม
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๕
๑. เลขทหี่ นงั สอื เวยี น ชอื่ เรอ่ื ง หนา
ลาํ ดบั ท่ี ระเบยี บ คาํ สงั่
๒. ลงวนั เดือน ป
๑. ท่ี มท ๐๕๐๑.๑ / ว ๑๔๐ การปรบั ปรงุ ภาคผนวก ๑ ทายระเบียบ ๕๙๗
ลว. ๓ ม.ค. ๕๖ สาํ นักนายกรัฐมนตรวี าดว ยงานสารบรรณ
พ.ศ. ๒๕๒๖
๒. ที่ มท ๐๕๐๑.๑ / ว ๑๐๘๑๑ การซักซอมความเขา ใจเก่ียวกับการทําลาย ๕๙๘
ลว. ๒๖ เม.ย. ๕๖ เอกสาร
๕๙๕
๕๙๖