รวมระเบียบคำสั่ง กรมที่ดิน ประจำปี 2556 (ปี 2556)

ท่ี มท ๐๕๐๙ / ว ๑๑๓๑ (สําเนา)
สาํ นักงานคณะกรรมการชางรังวดั เอกชน กรมทีด่ ิน
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๙ สิงหาคม ๒๕๕๖

เรอื่ ง การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการรังวัดเอกชน
เรียน ผูไ ดร ับใบอนุญาตจัดตงั้ สาํ นกั งานชางรงั วดั เอกชน

ดวยกรมท่ีดินไดจัดทําโครงการอบรมสัมมนาผูไดรับใบอนุญาตจัดตั้งสํานักงาน
ชา งรงั วัดเอกชน และชางรงั วัดเอกชน ประจาํ ปง บประมาณ พ.ศ.๒๕๕๖ โดยมีวตั ถปุ ระสงคเ พือ่
พัฒนาประสิทธิภาพการทํางานการรังวัดเอกชน รับทราบปญหาในทางปฏิบัติเพื่อนํามาแกไข
และพจิ ารณาหาแนวทางสง เสริมเพอื่ พัฒนางานรังวัดเอกชน ตลอดจนเพื่อเปน การประสานความ
เขา ใจอนั ดีตอกันระหวางรัฐกบั เอกชน

กรมที่ดินไดรวบรวมแนวทางการพิจารณาตามประเด็นปญหาซ่ึงสรุปไดจาก
สมั มนาตามโครงการดังกลาว เพอื่ ใชในการปฏบิ ตั ิงานใหเ ปน แนวทางเดียวกัน ดงั ตอไปนี้

๑. การรับคาํ ขอรังวดั
กรณที ผ่ี ขู อไดย น่ื คาํ ขอใหเ จา พนกั งานทด่ี นิ ดาํ เนนิ การไวแ ลว ภายหลงั ประสงค

จะใหสํานักงานชางรังวัดเอกชนเปนผูดําเนินการแทนใหแจงเจาหนาที่ทราบเมื่อนําสัญญารับจาง
ทําการรังวัดมาแสดงตอเจาพนักงานที่ดินและใหเจาพนักงานที่ดินดําเนินการตอไป ทั้งน้ีให
เจาหนา ท่ีหมายเหตุไวใ นคาํ ขอเดมิ ดว ย และใหถือวาคาํ ขอเดิมเปนคําขอทใ่ี หดําเนินการรังวดั โดย
สํานักงานชา งรงั วดั เอกชน

๒. การทาํ สัญญารับจา งทาํ การรงั วัดที่ดิน
ผูจัดการสํานักงานชางรังวัดเอกชนหรือผูทําการแทนมีอํานาจหนาท่ีในการทํา

สัญญารับจางทําการรงั วัด ในการท่ผี จู ดั การสํานักงานชา งรังวัดเอกชนไดม อบใหผูใดทําการแทน
ตอ งมีหลักฐานเปนหนงั สอื

๓. การคดิ คา คดั สาํ เนาหรือถา ยเอกสาร และคารับรองสาํ เนาเอกสาร
เมื่อผูแทนสํานักงานชางรังวัดเอกชนไดนําสัญญารับจางทําการรังวัดที่ดินมา

แสดงตอเจาพนกั งานท่ดี นิ พรอมกับหนังสอื แจงกําหนดวนั เดอื น ป ทท่ี ําการรงั วัด เพือ่ จะขอรบั
เรอื่ งรงั วดั ไปดาํ เนนิ การ ใหฝายรงั วัดออกใบส่งั คาธรรมเนยี มคัดสําเนาหรอื ถา ยเอกสาร หนา ละ
๕ บาท และคารบั รองสําเนาเอกสารชุดละ ๑๐ บาท

๑๙๗

๔. การซอื้ หลักเขตท่ีดนิ
สํานักงานชางรังวัดเอกชนสามารถซื้อหลักเขตที่ดินจากสํานักงานที่ดินได

ในวนั ทีไ่ ปรบั เรอ่ื งรงั วัด โดยใหฝา ยรงั วดั ออกใบส่งั คาหลักเขตทดี่ ินใหสาํ นกั งานชางรังวัดเอกชน
ไปชาํ ระแลว นาํ สําเนาใบเสร็จรับเงนิ ตดิ ไวดานหลังคําขอทีเ่ ปน ตน ฉบบั และเก็บไวเ ปนหลกั ฐาน
หน่ึงฉบับ หลักเขตที่ดินท่ีรับไปในการรังวัดหากใชไมหมดชางรังวัดเอกชนตองนํามาเก็บรักษา
ณ สาํ นกั งานชา งรงั วดั เอกชน เพื่อใชในการรงั วัดทดี่ ินรายอ่นื ทอ่ี ยูในจังหวดั เดียวกนั ตอ ไปได

๕. การตรวจเรอื่ งรงั วัดและการสงเรื่องรังวดั
เมื่อชางรังวัดเอกชนไดดําเนินการเร่ืองรังวัดเสร็จและผูจัดการสํานักงานชาง

รังวัดเอกชนไดตรวจสอบและลงช่ือรับรองผลการรังวัด หรือกรณีผูจัดการสํานักงานชางรังวัด
เอกชนเปนผูทําการรังวัด ใหชางรังวัดเอกชนท่ีอยูในสังกัดตรวจสอบและลงช่ือรับรองผลการ
รังวัด แลว ใหนาํ เรือ่ งรังวัดและเอกสารท่ีเก่ียวของทัง้ หมดสงเจาพนักงานทีด่ ิน ณ สาํ นกั งานทดี่ ิน
จงั หวัดหรือสาํ นักงานท่ีดนิ จงั หวัดสาขาทไี่ ดร ับเรือ่ งรังวดั นนั้ มา โดยใหจ ัดทําบัญชจี าํ นวนเอกสาร
ทีส่ ง ตามแบบ สชอ.๗ โดยการสงเรอ่ื งดังกลาว ใหนําสงตอ ฝา ยอํานวยการเพ่อื ลงรบั หนังสือตาม
ระเบียบงานสารบรรณ แลวใหฝ ายรังวัดดาํ เนนิ การตอ ไป

๖. การเซ็นรบั รองการแจง หมาย
ใหฝ า ยรงั วดั มอบเอกสารหนงั สอื แจง เจา ของทด่ี นิ ขา งเคยี งซง่ึ เจา พนกั งานทด่ี นิ

ไดรับรองแลวใหแกผูมารับเร่ืองตามช่ือท่ีปรากฏในหนังสือแจงของสํานักงานชางรังวัดเอกชน
หากไมมีการรบั รอง และปรากฏภายหลังวาเอกสารไมค รบหรอื สญู หาย จะทาํ ใหเ กดิ ขอ ขดั ของใน
การปฏิบัตงิ านได

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจง ใหผจู ดั การสาํ นกั งานชางรังวัดเอกชน และ
ชา งรังวดั เอกชนในสังกดั ไดทราบและถือปฏบิ ตั โิ ดยเครงครดั ตอ ไปดว ย

ขอแสดงความนับถอื
(ลงชอ่ื ) วริ ชั ภูมพิ ิทักษก ลุ

(นายวริ ชั ภมู ิพทิ ักษก ุล)
ผอู าํ นวยการสํานกั งานคณะกรรมการชางรังวัดเอกชน

ฝา ยสง เสรมิ การรงั วัดเอกชน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๔๖
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๑๘

๑๙๘

บัญชีรายชอื่ หนงั สือเวียน ระเบียบ และคําส่ังตางๆ
สาํ นกั จดั การท่ดี ินของรัฐ
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๖

๑. เลขท่หี นงั สือเวียน ชอื่ เรอ่ื ง หนา
ลาํ ดับท่ี ระเบียบ คาํ สง่ั ๒๐๑

๒. ลงวนั เดือน ป

๑. ดวนที่สดุ
ท่ี มท ๐๕๑๑.๔ / ว ๓๕๙๔๕ โครงการบรหิ ารจดั การการใชประโยชน
ลว. ๒๔ ธ.ค. ๕๕ ในท่ีดนิ สาธารณประโยชนท ี่มีการบุกรกุ
เพ่ือขจัดความยากจนและพัฒนาชนบท
(โครงการจดั ทด่ี นิ ของรัฐ ขจดั ความยากจน)
ปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖

๒. ดวนทส่ี ุด
ท่ี มท ๐๕๑๑.๔ / ว ๔๕๘๕ การสํารวจแปลงทดี่ ินสาธารณประโยชน ๒๐๔
ลว. ๑๙ ก.พ. ๕๖ ทม่ี กี ารบุกรุก

๑๙๙

๒๐๐

ดว นทีส่ ุด (สําเนา)
ที่ มท ๐๕๑๑.๔ / ว ๓๕๙๔๕
กรมที่ดิน
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั ส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๕

เร่ือง โครงการบริหารจดั การการใชประโยชนใ นท่ีดินสาธารณประโยชนท ่มี กี ารบกุ รกุ
เพ่ือขจัดความยากจนและพัฒนาชนบท (โครงการจดั ท่ดี นิ ของรัฐ ขจดั ความยากจน)
ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖

เรยี น ผวู า ราชการจังหวัดทุกจงั หวัด
อา งถงึ หนังสือกระทรวงมหาดไทย ดวนที่สุด ท่ี มท ๐๕๑๑.๔/ว ๓๘๔๕ ลงวันท่ี ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๕
ส่งิ ท่ีสง มาดวย รายงานผลการจัดท่ดี นิ ตามโครงการ จํานวน ๑ ฉบบั

ตามหนงั สอื ทอ่ี า งถงึ กระทรวงมหาดไทยไดแ จง เวยี นใหจ งั หวดั คดั เลอื กแปลงทด่ี นิ
สาธารณประโยชนท่ีอยูในหลักเกณฑมาดําเนินการจัดทําโครงการจัดที่ดินของรัฐ ขจัดความ
ยากจน ซงึ่ หากโครงการใดมีความจําเปนตอ งดาํ เนินการจัดทําสาธารณูปโภคขนั้ พ้นื ฐานในการ
กอสรางถนนผวิ จราจรลูกรงั เกรดบดอัด หรือขุดสระนา้ํ ใหพ จิ ารณาเสนอไปพรอ มโครงการพรอ ม
จัดสงเอกสารท่เี กย่ี วขอ งใหก รมทีด่ ินภายในวันที่ ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๕๕ เพือ่ พจิ ารณาจดั สรร
งบประมาณในการดาํ เนนิ งานใหจงั หวดั นนั้

กรมท่ดี นิ พจิ ารณาแลว เนือ่ งจากในปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ กระทรวง
มหาดไทยไดก ําหนดใหก ารดาํ เนินการจดั ที่ดินทาํ กนิ และที่อยูอ าศยั ใหแกประชาชนท่ยี ากจน ซง่ึ มี
กรมที่ดินเปนเจาภาพรับผิดชอบเปนตัวชี้วัดตามนโยบายสําคัญเรงดวนของรัฐบาลในภารกิจ
ของกระทรวงมหาดไทย โดยกาํ หนดเปาหมายตวั ชว้ี ัด “จาํ นวนประชาชนทีย่ ากจนไดรับ
การจดั ท่ีดินทาํ กนิ และทอี่ ยูอ าศัย” จํานวน ๑๑,๐๐๐ ครวั เรอื น และรัฐบาลมนี โยบายใน
การแกไ ขปญ หาภยั แลง เน่อื งจากปจ จุบนั มพี ื้นทีห่ ลายจังหวดั ประสบปญหาภัยแลง ซง่ึ ใน
ปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ กรมทดี่ ินไดรับการสนบั สนุนงบประมาณในการขดุ สระนาํ้ ในแปลง
ทดี่ นิ สาธารณประโยชนท่ีไดนาํ มาดําเนินการจัดทด่ี ินใหแ กร าษฏร ดงั นั้น เพื่อใหก ารดําเนนิ การ
เปนไปตามนโยบายของรัฐบาล และบรรลุตามเปาหมายที่กระทรวงมหาดไทยกําหนดไว จงึ ขอให
ดาํ เนินการ ดังน้ี

๒๐๑

๑. ใหความสําคัญตอการดําเนินการตามโครงการจัดท่ีดินของรัฐ ขจัดความ
ยากจน โดยแจงใหห นวยงานทเ่ี กย่ี วขอ งคัดเลอื กแปลงท่ดี ินสาธารณประโยชนที่อยูในหลกั เกณฑ
มาดาํ เนินการจดั ทําโครงการฯ และจดั สงโครงการใหกรมท่ดี นิ เพื่อพจิ ารณาจัดสรรงบประมาณให
จงั หวดั เสรจ็ แลว ใหรายงานผลการจัดที่ดินวา แตล ะโครงการสามารถดําเนนิ การจดั ทีด่ นิ
ใหแกร าษฎรไดจ ํานวนก่แี ปลง/ครัวเรือน/คน ตามส่งิ ทสี่ ง มาดวย ใหกรมทด่ี นิ ภายในวันท่ี ๒๐
ของทุกเดอื น เพื่อรายงานกระทรวงมหาดไทยทราบตอไป (ครัวเรอื น หมายถงึ บุคคลธรรมดา
ทบ่ี รรลนุ ิตภิ าวะหรือหวั หนาครอบครวั อาจเปนบคุ คลเดียวหรอื หลายคนอาศัยอยูบาน
เรอื นเดียวกนั ซ่ึงไดรับการจัดท่ดี นิ ตามทคี่ รอบครองเพอ่ื เปน ทอี่ ยอู าศยั และ/หรือทาํ มา
หาเลยี้ งชพี ดว ยตนเอง)

๒. ประชาสัมพนั ธโครงการจัดทดี่ นิ ของรฐั ขจดั ความยากจน พรอ มสาํ รวจแปลง
ทีด่ นิ สาธารณประโยชนทส่ี ามารถดาํ เนนิ การขุดสระนํา้ เพื่อเปน การแกไขปญหาภัยแลง ภายใน
จงั หวดั โดยมหี ลกั เกณฑ ดงั นี้

๒.๑ ดําเนินการขุดสระนํ้าในพ้ืนท่ีสวนกลางในท่ีดินสาธารณประโยชนท่ี
ประชาชนเลกิ ใชป ระโยชนร วมกนั แลว ซึง่ ไดน าํ มาดาํ เนนิ การจัดทีด่ ินใหแกราษฎรแลว หรืออยู
ระหวางดําเนินการ หรือคาดวาจะนํามาดําเนนิ การจัดทีด่ ินตามโครงการในปตอๆ ไป

๒.๒ การขุดสระน้ํามีวัตถุประสงคเพ่ือใหความชวยเหลือข้ันพ้ืนฐานแก
ราษฎรในพน้ื ทท่ี ี่อยใู นโครงการตามความเหมาะสมกบั สภาพพน้ื ที่ โดยสระน้าํ ดังกลาวจะตอง
สามารถกักเก็บน้ํา เพอื่ ใหราษฎรใชใ นการอปุ โภค บรโิ ภค หรอื ทาํ การเกษตรไดอยางถาวร

๒.๓ การขดุ สระนา้ํ มใิ ชเ ปน การขดุ ลอกหนองนา้ํ หรอื ลาํ คลองสาธารณประโยชน
ท่ีมอี ยูเดมิ

๒.๔ ใหจัดสงโครงการพรอมแบบแปลนการขุดสระนํ้าที่สอดคลองตรงกับ
สภาพพื้นที่ที่ขุดสระน้ําจริง รูปแผนท่ีของท่ีดินสาธารณประโยชนท่ีแสดงตําแหนงบริเวณท่ีขุด
สระน้าํ และแบบสรุปผลการประมาณราคาคา วัสดุ และคาแรงงานกอ สรา ง (แบบ ปร. ๔ , ปร. ๕)
ทีค่ าํ นวณราคากลางงานกอ สรา งตามมตคิ ณะรัฐมนตรี เมอ่ื วนั ท่ี ๖ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๐

๒.๕ ใหส ํานักงานทด่ี นิ จงั หวัดเปน ผดู ําเนนิ การจดั ซื้อจดั จา ง แตถ าสาํ นกั งาน
ท่ีดินจงั หวัดใดไมม ีความพรอ มทจี่ ะดําเนินการได ใหท่ีทาํ การปกครองจงั หวัดเปน หนว ยดาํ เนิน
การแทน และแจงกรมทีด่ นิ เพอ่ื ประสานงานกรมการปกครองรับเปนหนว ยเบกิ จา ยแทนกรมทีด่ นิ
โดยดาํ เนินการตามระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรี วา ดวยการพสั ดุ พ.ศ.๒๕๓๕ และทีแ่ แกไข
เพิม่ เติม รวมทง้ั ระเบยี บและคําสงั่ ตางๆ ท่ีเก่ยี วขอ งอยางเครง ครดั

จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและพิจารณาดาํ เนินการตอ ไป

ขอแสดงความนับถอื
(ลงชอื่ ) ธรรมศกั ดิ์ ชนะ

(นายธรรมศักดิ์ ชนะ)
รองอธบิ ดี ปฏบิ ัตริ าชการแทน

อธิบดีกรมทดี่ ิน
สาํ นักจัดการท่ดี ินของรฐั
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๕๐–๕๑ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๐๘

๒๐๒

แบบรายงานผลการจดั ที่ดิน ตามโครงการบรหิ ารจัดการการใชป ระโยชนในทีด่ ินสาธารณประโยชนทีม่ กี ารบุกรกุ เพือ่ ขจัดความยากจนและพฒั นาชนบท
ปงบประมาณ ๒๕๕๖

แปลง........................................นสล. เลขท่.ี ......................ตาํ บล.....................................อําเภอ.....................................จังหวัด.....................................

ลําดับท่ี ชื่อ–สกลุ เลขประจําตัว เขา ทาํ ประโยชน จาํ นวนเนื้อท่ี สภาพการทาํ เลขที่ ส.ย.๑ การทาํ ประชาคม หนงั สอื อนญุ าต
ประชาชน ไร– งาน–วา ประโยชน ลงวนั ที่ (ผา น/ไมผ า น) เลขท่/ี ลงวันท่ี
จาํ นวนแปลง แปลง วนั เร่ิมทาํ หมายเหตุ
หมายเลข ประโยชน

๒๐๓

รวมท้ังส้นิ จํานวนทไ่ี ดรบั การจัดท่ดี ิน...................................แปลง จํานวน....................................ครวั เรือน จาํ นวนคนทไ่ี ดร บั ประโยชน. .................................คน
หมายเหตุ ครัวเรอื น หมายถงึ บุคคลธรรมดาทีบ่ รรลุนิตภิ าวะหรือหัวหนา ครอบครัวอาจเปน บุคคลคนเดยี วหรือหลายคน อาศัยอยูบา นเรอื นเดียวกัน ซึง่ ไดร บั การจดั ที่ดนิ

ตามท่คี รอบครองเพอ่ื เปน ท่ีอยอู าศัยและ/หรือทํามาหาเลยี้ งชพี ดว ยตนเอง

ดวนท่สี ดุ (สําเนา)
ที่ มท ๐๕๑๑.๔ / ว ๔๕๘๕ กรมที่ดิน
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทุงสองหอ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๙ กุมภาพันธ ๒๕๕๖

เรือ่ ง การสาํ รวจแปลงท่ดี ินสาธารณประโยชนท ม่ี ีการบกุ รกุ
เรียน ผวู าราชการจงั หวดั ทุกจงั หวัด
อา งถึง หนงั สือกระทรวงมหาดไทย ดว นท่สี ุด ที่ มท ๐๕๑๑.๔/ว ๓๙๖๘ ลงวันที่ ๒๔ สงิ หาคม ๒๕๕๕
สง่ิ ที่สง มาดวย แบบฟอรม บญั ชีรายชอื่ ท่ีสาธารณประโยชนที่มีการบุกรกุ

ตามหนังสือทอ่ี างถงึ กระทรวงมหาดไทยไดแ จง ใหจังหวดั รายงานผลการสาํ รวจ
แปลงที่ดินสาธารณประโยชนที่มีการบุกรุกตามที่อําเภอและองคกรปกครองสวนทองถิ่นไดดําเนิน
การไว จดั สงใหก รมที่ดนิ ภายในวันที่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๕๕ เพ่อื ใชเ ปน ขอมลู ในการบรหิ ารจดั การ
ทด่ี ินสาธารณประโยชนทมี่ ีการบกุ รกุ เพอ่ื ขจัดความยากจนและพฒั นาชนบท (โครงการจัดท่ดี นิ
ของรฐั ขจดั ความยากจน) เพือ่ แกไ ขปญ หาเรอ่ื งท่ดี นิ ทํากินใหประชาชนตอไป นน้ั

กรมทดี่ นิ ขอเรยี นวา การดาํ เนนิ การตามโครงการจดั ท่ีดินของรัฐ ขจัดความ
ยากจน เปน การดาํ เนนิ การตามแผนปฏิบตั ิราชการ ๔ ป (พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๕๘) กรมทด่ี ิน ซึ่ง
เปน ภารกิจหลกั และเปน ตวั ช้วี ดั ของกระทรวงมหาดไทย และกรมทีด่ ิน ปจ จยั สําคัญประการหนึ่ง
ทส่ี ามารถนําทดี่ ินสาธารณประโยชนท ี่มกี ารบุกรุกมาดําเนนิ การตามโครงการได คอื ฐานขอ มลู
ที่ดินสาธารณประโยชนที่มีการบุกรุกที่ครบถวนถูกตอง แตจากการตรวจสอบขอมูลที่จังหวัด
รายงานมา ปรากฏวา ขอมลู สาํ รวจท่สี าธารณประโยชนไมเปนไปในแนวทางเดยี วกนั บางจงั หวัด
ยังไมรายงานและบางจังหวดั รายงานไมครบถวนทกุ อาํ เภอ อีกทัง้ ยังขาดขอ มูลบางสว นท่ีจาํ เปน
ดงั น้นั เพอื่ ประโยชนในการวางแผนบรหิ ารจดั การท่ดี นิ ของรัฐใหเปนไปอยางมปี ระสทิ ธภิ าพและ
ประสิทธผิ ล จึงขอใหจังหวดั กําชับเจา หนาท่ีใหความสําคญั ในการสาํ รวจขอมูล โดยส่งั เจา หนา ที่
ดําเนนิ การ กรอกขอ มลู ที่ไดจ ากการสาํ รวจฯ ลงในแบบฟอรมบญั ชรี ายชื่อสาธารณประโยชน
ที่มีการบุกรุกที่แนบมาพรอมนี้ และจัดสงขอมูลในรูป File Excel ทาง E–Mail address :
[email protected] ใหก รมที่ดนิ ภายในวนั ท่ี ๒๘ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๖ หากไมส ามารถจดั สงขอ มูล
ภายในกําหนดระยะเวลาดงั กลา ว ใหจ ังหวดั แจง ใหก รมทดี่ นิ ทราบในคราวเดียวกนั

จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดพจิ ารณาดาํ เนินการตอ ไป
ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงชื่อ) วานติ ย อินทรักษ
(นายวานิตย อินทรกั ษ)

รองอธบิ ดี ปฏบิ ัตริ าชการแทน
อธบิ ดกี รมที่ดนิ

สํานกั จดั การทดี่ นิ ของรัฐ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๕๐–๕๑ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๐๘

๒๐๔

บญั ชีรายช่อื ท่ีสาธารณประโยชนท่ีมีการบกุ รกุ อาํ เภอ.....................................จังหวัด.....................................

ลาํ ดับ ที่ตง้ั จํานวนเน้ือท่ที ง้ั แปลง จาํ นวน จาํ นวนเนอ้ื ท่ที บี่ กุ รกุ อยใู นเขต การจดั ทาํ โครงการจดั ทดี่ นิ ฯ
ที่ ชื่อท่สี าธารณะฯ นสล.เลขท่ี หมทู ี่ ตาํ บล ผบู ุกรุก หมายเหตุ
อาํ เภอ ไร งาน ตรว. (ราย) ไร งาน ตรว. สปก. ปาไม จัดแลว จดั บางสวน ยงั ไมจ ดั

๒๐๕

๒๐๖

บัญชีรายชื่อหนงั สอื เวียน ระเบยี บ และคําส่ังตางๆ
สํานกั มาตรฐานและสงเสรมิ การรังวัด
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๖

๑. เลขท่ีหนังสอื เวียน ช่อื เร่อื ง หนา
ลําดับท่ี ระเบียบ คาํ ส่ัง

๒. ลงวนั เดอื น ป

๑. ท่ี มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๔๓ ขอสง พระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตปฏิรปู ท่ดี นิ ๒๑๑
ลว. ๗ ม.ค. ๕๖ ในทอ งที่จงั หวัดขอนแกน เชยี งราย พัทลุง
และจังหวดั นครสวรรค จาํ นวน ๔ ฉบบั

๒. ที่ มท ๐๕๑๔.๓ / ว ๒๗๕๙ ซอ มความเขา ใจ การเรียกคา ใชจาย ๒๒๑
ลว. ๓๑ ม.ค. ๕๖ ในการรังวัดเกีย่ วกับโฉนดทดี่ ิน หรอื พสิ จู น
สอบสวน หรอื ตรวจสอบเน้อื ท่เี กีย่ วกบั หนังสือ
รับรองการทาํ ประโยชน

๓. ท่ี มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๖๗๙ ขอสงพระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตปฏริ ปู ทีด่ นิ ๒๒๓
ลว. ๑๓ มี.ค. ๕๖ ในทองทจ่ี ังหวัดแมฮองสอน จาํ นวน ๒ ฉบับ

๔. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๗๐๐ ขอสง สําเนาพระราชกฤษฎีกากําหนดเขต ๒๒๘
ลว. ๑๘ มี.ค. ๕๖ โครงการจัดรูปทดี่ ิน ตามพระราชบัญญัติ
จัดรปู ทดี่ นิ เพือ่ เกษตรกรรม

๕. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๗๐๑ ขอสงสําเนาพระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขต ๒๓๒
ลว. ๑๘ ม.ี ค. ๕๖ โครงการจัดรปู ท่ีดิน ตามพระราชบญั ญตั ิ
จัดรปู ท่ดี ินเพ่ือเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗

๖. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๗๕๓ ขอสงสาํ เนาพระราชกฤษฎกี ากําหนดเขต ๒๔๒
ลว. ๒๗ มี.ค. ๕๖ โครงการจัดรูปที่ดิน ตามพระราชบัญญัติ
จัดรปู ท่ีดินเพือ่ เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗

๒๐๗

บญั ชีรายชอ่ื หนงั สือเวยี น ระเบยี บ และคําสั่งตางๆ
สํานักมาตรฐานและสง เสรมิ การรงั วดั
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๖

๑. เลขท่หี นังสอื เวยี น ช่ือเร่ือง หนา
ลําดับท่ี ระเบยี บ คําส่งั

๒. ลงวนั เดือน ป

๗. ท่ี มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๑๗๗๖ ขอสงพระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตปฏิรปู ทด่ี ิน ๒๔๖
ลว. ๒๙ ม.ี ค. ๕๖ ในทอ งทตี่ ําบลหนองผือ อาํ เภอเขมราฐ
ตําบลโนนสวาง อาํ เภอกดุ ขา วปนุ
จังหวัดอุบลราชธานี และตําบลคําโพน
อาํ เภอปทมุ ราชวงศา จงั หวดั อํานาจเจรญิ
จํานวน ๑ ฉบบั

๘. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๙๒๗ ขอสงสําเนาพระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขต ๒๕๑
ลว. ๑๗ เม.ย. ๕๖ โครงการจัดรูปที่ดนิ ตามพระราชบัญญตั ิ
จดั รปู ทดี่ ินเพ่ือเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗

๙. ท่ี มท ๐๕๑๔.๓ / ว ๑๐๕๕๙ การบริหารจดั การระยะเวลาการนัดรงั วัด ๒๕๕
ลว. ๒๔ เม.ย. ๕๖ ภายในจงั หวดั

๑๐. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๑๐๔๑ ขอสง สําเนาพระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขต ๒๕๗
ลว. ๓ พ.ค. ๕๖ โครงการจัดรปู ทดี่ นิ ตามพระราชบัญญัติ
จัดรูปที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗

๑๑. ที่ มท ๐๕๑๔.๓ / ว ๑๓๖๔๗ ซอมความเขาใจการรายงานผลการปฏิบัติงาน ๒๖๑
ลว. ๒๘ พ.ค. ๕๖ และการจัดการงานคา งของสํานกั งานท่ีดนิ

๑๒. ท่ี มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๑๓๕๓ ขอสง พระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตปฏิรปู ทดี่ ิน ๒๖๓
ลว. ๑๑ มิ.ย. ๕๖ ในทองทตี่ าํ บลหนองหลวง อาํ เภอทาตะโก
และอาํ เภออดุ มธัญญา ตาํ บลพุนกยงู ตาํ บล
สขุ สาํ ราญ ตาํ บลลําพยนต อําเภอตากฟา
จงั หวัดนครสวรรค จํานวน ๑ ฉบบั

๒๐๘

บญั ชรี ายชือ่ หนังสือเวียน ระเบียบ และคาํ สัง่ ตา งๆ
สาํ นักมาตรฐานและสงเสรมิ การรังวัด
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๖

๑. เลขทห่ี นังสอื เวียน ช่อื เร่ือง หนา
ลําดบั ท่ี ระเบียบ คาํ สั่ง

๒. ลงวนั เดือน ป

๑๓. ท่ี มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๑๕๙๗ ขอสง พระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตปฏิรูปทีด่ นิ ๒๖๘
ลว. ๑๐ ก.ค. ๕๖ ในทองที่ตําบลปางหมู ตาํ บลจองคํา และ
ตาํ บลผาบอ ง อาํ เภอเมืองแมฮ องสอน
จังหวดั แมฮ อ งสอน จํานวน ๑ ฉบับ

๑๔. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๑๖๘๑ ขอสง สาํ เนาประกาศกระทรวงเกษตรและ ๒๗๔
ลว. ๒๖ ก.ค. ๕๖ สหกรณ และกระทรวงมหาดไทย

๑๕. ท่ี มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๑๖๘๒ ขอสง สําเนาพระราชกฤษฎกี ากําหนดเขต ๒๗๗
ลว. ๒๖ ก.ค. ๕๖ โครงการจดั รูปท่ีดิน ตามพระราชบัญญัติ
จัดรูปทด่ี ินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗

๑๖. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๑๘๒๘ ขอสง สาํ เนาพระราชกฤษฎีกากําหนดเขต ๒๘๑
ลว. ๑๕ ส.ค. ๕๖ โครงการจัดรูปทด่ี นิ ตามพระราชบญั ญตั ิ
จดั รปู ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗

๑๗. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๑๘๕๕ ขอสง พระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตปฏิรูปทีด่ ิน ๒๘๕
ลว. ๒๐ ส.ค. ๕๖ ในทอ งที่ตาํ บลโพธิต์ าก ตําบลบา นผึ้ง
ตาํ บลกุรคุ ุ ตาํ บลหนองญาติ และตาํ บลคาํ เตย
อําเภอเมอื งนครพนม จังหวัดนครพนม
จาํ นวน ๑ ฉบบั

๑๘. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๒๐๘๑ ขอสงพระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตปฏิรปู ทีด่ ิน ๒๙๐
ลว. ๑๙ ก.ย. ๕๖ ในทองท่ตี าํ บลวังเพลิง อําเภอโคกสาํ โรง
จงั หวัดลพบรุ ี จาํ นวน ๑ ฉบับ

๒๐๙

บัญชีรายชื่อหนงั สอื เวยี น ระเบยี บ และคาํ สั่งตางๆ
สํานกั มาตรฐานและสง เสรมิ การรังวัด
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๖

๑. เลขทห่ี นงั สอื เวียน ช่อื เรื่อง หนา
ลาํ ดบั ที่ ระเบียบ คาํ สั่ง

๒. ลงวนั เดือน ป

๑๙. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๒๐๘๐ ขอสงพระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตปฏิรปู ท่ีดนิ ๒๙๔
ลว. ๑๙ ก.ย. ๕๖ ในทอ งทจ่ี ังหวดั ยโสธร จาํ นวน ๒ ฉบับ

๒๐. ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๒๒๓๔ ขอสงพระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตปฏริ ปู ทีด่ นิ ๓๐๐
ลว. ๑๐ ต.ค. ๕๖ ในทองท่ีจังหวดั หนองคาย และจงั หวดั
นครพนม จํานวน ๒ ฉบบั

๒๑. ท่ี มท ๐๕๑๔.๓ / ว ๓๐๑๐๙ การใชโปรแกรมการคํานวณ และลงที่หมาย ๓๐๘
ลว. ๒๒ พ.ย. ๕๖ แผนท่ีงานรงั วดั เฉพาะรายในสาํ นกั งานทด่ี ิน

๒๑๐

(สาํ เนา)

สวนราชการ สํานกั มาตรฐานและสงเสรมิ การรงั วดั สว นสงเสรมิ การรงั วัด โทร ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๗๖ (๑๕๘๗๖)

ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๔๓ วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๖

เร่ือง ขอสงพระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตปฏริ ูปที่ดิน ในทอ งท่จี งั หวัดขอนแกน เชยี งราย พัทลงุ
และจงั หวดั นครสวรรค จํานวน ๔ ฉบับ

เรียน หวั หนากลุมงานคุมครองจริยธรรมกรมท่ีดนิ ผตู รวจราชการกรม ผูอาํ นวยการสาํ นกั
เจา พนักงานทีด่ นิ กรุงเทพมหานคร ผูอํานวยการกอง ผอู าํ นวยการสํานักงาน
ผอู ํานวยการกลมุ และผูอํานวยการศูนย

สํานักมาตรฐานและสงเสรมิ การรงั วัด ขอสงพระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตปฏิรูป
ที่ดิน ในทอ งท่ีจงั หวดั ขอนแกน เชียงราย พทั ลงุ และจงั หวัดนครสวรรค จํานวน ๔ ฉบับ
ตามประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั กฤษฎีกา เลมท่ี ๑๒๙ ตอนที่ ๑๑๙ ก วันท่ี ๑๔ ธันวาคม
๒๕๕๕ มาเพื่อโปรดทราบ

(ลงชอ่ื ) สมศักดิ์ มหี กวงศ
(นายสมศกั ด์ิ มีหกวงศ)

นายชา งรังวดั อาวุโส ปฏบิ ัติราชการแทน
ผูอาํ นวยการสาํ นักมาตรฐานและสงเสริมการรงั วัด

๒๑๑

ที่ กษ ๑๒๐๕ / ๑๐๓๑๖ (สาํ เนา)
สํานกั งานการปฏริ ปู ทดี่ ินเพ่อื เกษตรกรรม
ถนนราชดาํ เนินนอก กรงุ เทพฯ ๑๐๒๐๐

๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕

เรอื่ ง ประกาศใชบ ังคบั พระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตทดี่ ิน ในทองท่จี ังหวดั ขอนแกน จังหวดั
เชียงราย จังหวดั พัทลงุ และจงั หวัดนครสวรรค ใหเ ปน เขตปฏิรปู ทีด่ นิ พ.ศ. ๒๕๕๕
จาํ นวน ๔ ฉบบั

เรยี น อธิบดีกรมทดี่ นิ
สง่ิ ที่สงมาดวย ๑. สําเนาพระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตทด่ี ิน ในทอ งท่ีจังหวดั ขอนแกน จงั หวดั

เชยี งราย จงั หวัดพัทลงุ และจังหวดั นครสวรรค ใหเ ปนเขตปฏริ ปู ท่ดี ิน
พ.ศ. ๒๕๕๕ จํานวน ๔ ฉบับๆ ละ ๑๐ ชุด
๒. สาํ เนาระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปทีด่ ินเพ่ือเกษตรกรรม วาดวยหลักเกณฑ
และวธิ กี ารในการขออนญุ าต ตามมาตรา ๒๘ จาํ นวน ๑ ชุด

ดวยสํานักงานการปฏิรปู ท่ีดนิ เพ่ือเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไดรับแจง จากสาํ นัก
เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรวี า พระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตทดี่ นิ ในทอ งท่ีจงั หวดั ขอนแกน จงั หวดั
เชียงราย จงั หวัดพทั ลงุ และจังหวดั นครสวรรค ใหเ ปนเขตปฏริ ปู ทดี่ ิน พ.ศ. ๒๕๕๕ จํานวน ๔ ฉบับ
ไดประกาศในราชกิจจานเุ บกษา ฉบับกฤษฎีกา เลม ๑๒๙ ตอนที่ ๑๑๙ ก วันท่ี ๑๔ ธันวาคม
๒๕๕๕ รายละเอียดตามส่ิงที่สงมาดว ย ๑

พระราชกฤษฎีกาดังกลาวจึงมีผลใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเปน ตนไป ท้ังนี้ คณะกรรมการปฏิรปู ทดี่ นิ เพื่อเกษตรกรรมไดออกระเบียบ
ตามสง่ิ ที่สงมาดวย ๒ ขอ ๕ กําหนดอนุญาตเปน การทว่ั ไปใหจ ดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมสําหรับ
ทดี่ ินในเขตปฏิรปู ท่ีดนิ ไดโดยไมตองย่ืนคําขออนญุ าต ฉะน้ัน การจดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรม
ใดๆ สาํ หรับทด่ี นิ ในทอ งทท่ี ไ่ี ดป ระกาศเขตปฏริ ปู ทด่ี นิ ดงั กลา ว ในขณะนส้ี ามารถกระทาํ ไดต าม
ปกติ โดยมติ อ งยนื่ คําขออนญุ าตตอ พนักงานเจา หนาที่

ทงั้ นี้ ไดแ จงใหจ ังหวัดประสานแจงใหส วนราชการทเี่ กี่ยวของทราบแลว
จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบ

ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่ือ) สรุ ศักดิ์ แสงอรา ม

(นายสรุ ศักดิ์ แสงอรา ม)
รองเลขาธกิ าร ปฏิบตั ริ าชการแทน
เลขาธิการสาํ นักงานการปฏิรูปทีด่ นิ เพ่อื เกษตรกรรม

๒๑๒

(สาํ เนา)
พระราชกฤษฎีกา
กาํ หนดเขตที่ดนิ ในทองทตี่ าํ บลปา มะนาว อาํ เภอบา นฝาง ตาํ บลคําแคน ตําบลทาศาลา
ตําบลโพนเพก็ ตาํ บลนาขา ตาํ บลนางาม ตาํ บลหนองแปน อาํ เภอมัญจาคีรี
และตําบลพระยืน อาํ เภอพระยืน จงั หวดั ขอนแกน
ใหเ ปนเขตปฏริ ปู ทีด่ ิน
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วันที่ ๓ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เปนปท่ี ๖๗ ในรชั กาลปจจุบัน

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา

โดยที่เปนการสมควรกําหนดเขตท่ดี นิ ในทอ งท่ีตาํ บลปามะนาว อําเภอบานฝาง
ตาํ บลคาํ แคน ตําบลทา ศาลา ตาํ บลโพนเพก็ ตําบลนาขา ตาํ บลนางาม ตาํ บลหนองแปน อําเภอ
มัญจาครี ี และตําบลพระยนื อาํ เภอพระยืน จังหวดั ขอนแกน ใหเ ปน เขตปฏิรูปทดี่ นิ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๕ วรรคหน่ึง แหงพระราชบัญญัติการปฏริ ูปทดี่ นิ เพือ่ เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘
อันเปนกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหต ราพระราชกฤษฎกี าขึ้นไว ดังตอ ไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกี านเ้ี รยี กวา “พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตท่ดี นิ ในทองท่ี
ตําบลปา มะนาว อาํ เภอบานฝาง ตําบลคาํ แคน ตาํ บลทาศาลา ตําบลโพนเพก็ ตําบลนาขา ตําบล
นางาม ตาํ บลหนองแปน อําเภอมัญจาครี ี และตาํ บลพระยนื อาํ เภอพระยืน จังหวัดขอนแกน
ใหเ ปนเขตปฏริ ปู ท่ดี ิน พ.ศ. ๒๕๕๕”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาเปน ตนไป

มาตรา ๓ ใหทด่ี นิ ในทองทีต่ าํ บลปา มะนาว อาํ เภอบานฝาง ตาํ บลคาํ แคน ตําบล
ทา ศาลา ตาํ บลโพนเพ็ก ตําบลนาขา ตําบลนางาม ตําบลหนองแปน อําเภอมัญจาครี ี และ
ตาํ บลพระยืน อําเภอพระยนื จงั หวดั ขอนแกน ภายในแนวเขตตามแผนทที่ ายพระราชกฤษฎีกาน้ี
เปนเขตปฏิรูปท่ีดิน

๒๑๓

มาตรา ๔ ใหร ัฐมนตรวี า การกระทรวงการคลงั รัฐมนตรวี าการกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ และรฐั มนตรวี าการกระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี
ผูรบั สนองพระบรมราชโองการ

ยงิ่ ลักษณ ชินวัตร
นายกรฐั มนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎกี าฉบบั น้ี คือ เน่ืองจากในทอ งท่ตี าํ บล
ปา มะนาว อําเภอบา นฝาง ตําบลคาํ แคน ตําบลทาศาลา ตาํ บลโพนเพก็ ตาํ บลนาขา ตําบลนางาม
ตําบลหนองแปน อาํ เภอมัญจาครี ี และตําบลพระยนื อําเภอพระยืน จังหวัดขอนแกน มีเกษตรกร
ผูไมม ีท่ดี ินประกอบเกษตรกรรมเปนของตนเอง หรือมที ่ีดินเลก็ นอ ยไมเ พยี งพอแกก ารครองชีพ
หรอื ตองเชาท่ีดินของผูอ ืน่ ประกอบเกษตรกรรมอยเู ปน จาํ นวนมาก และโดยทค่ี ณะรัฐมนตรมี มี ติ
ใหดาํ เนนิ การปฏิรปู ทีด่ ินเพอื่ เกษตรกรรมในท่ีดนิ เขตปาสงวนแหง ชาติ ปา โคกหลวง ในสวนท่ีมี
สภาพเปนปาเสื่อมโทรมแลว สมควรกําหนดเขตที่ดินในทองที่ดังกลาวใหเปนเขตปฏิรูปที่ดิน
จึงจาํ เปนตองตราพระราชกฤษฎกี านี้

๒๑๔

(สาํ เนา)
พระราชกฤษฎกี า
กาํ หนดเขตทีด่ ิน ในทอ งที่ตาํ บลเวียง ตาํ บลบา นโปง ตาํ บลปางิว้
และตาํ บลแมเจดียใ หม อําเภอเวียงปาเปา จังหวัดเชียงราย
ใหเ ปน เขตปฏริ ปู ที่ดิน
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___
ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วนั ที่ ๒๘ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕
เปน ปท ี่ ๖๗ ในรัชกาลปจจบุ นั

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา

โดยทเ่ี ปน การสมควรกาํ หนดเขตท่ดี ิน ในทองทตี่ ําบลเวียง ตาํ บลบานโปง ตําบล
ปาง้ิว และตาํ บลแมเ จดียใหม อําเภอเวยี งปา เปา จังหวัดเชียงราย ใหเ ปน เขตปฏริ ูปทีด่ นิ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๕ วรรคหนง่ึ แหง พระราชบญั ญัติการปฏริ ูปทดี่ นิ เพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘
อันเปนกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหต ราพระราชกฤษฎกี าขึน้ ไว ดังตอ ไปน้ี

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรยี กวา “พระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตที่ดนิ ในทองท่ี
ตาํ บลเวียง ตาํ บลบานโปง ตําบลปา งว้ิ และตําบลแมเ จดยี ใ หม อําเภอเวยี งปา เปา จังหวัด
เชยี งราย ใหเปน เขตปฏิรูปท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๕๕”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเปน ตน ไป

มาตรา ๓ ใหที่ดินในทองท่ีตาํ บลเวยี ง ตาํ บลบา นโปง ตาํ บลปา งว้ิ และตําบล
แมเจดียใหม อําเภอเวียงปาเปา จังหวัดเชียงราย ภายในแนวเขตตามแผนที่ทายพระราช
กฤษฎกี าน้ี เปนเขตปฏิรปู ท่ดี นิ

มาตรา ๔ ใหรฐั มนตรวี า การกระทรวงการคลงั รฐั มนตรีวาการกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ และรัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามพระราชกฤษฎกี าน้ี

ผูรับสนองพระบรมราชโองการ
ยงิ่ ลกั ษณ ชินวัตร
นายกรฐั มนตรี

๒๑๕

หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชพระราชกฤษฎกี าฉบบั นี้ คอื เน่อื งจากในทอ งทต่ี ําบลเวียง
ตาํ บลบา นโปง ตําบลปางิ้ว และตําบลแมเ จดียใหม อาํ เภอเวียงปาเปา จังหวัดเชยี งราย
มีเกษตรกรผูไมม ที ี่ดนิ ประกอบเกษตรกรรมเปนของตนเอง หรือมที ด่ี นิ เล็กนอ ยไมเ พยี งพอแกก าร
ครองชพี หรอื ตอ งเชา ทด่ี นิ ของผอู น่ื ประกอบเกษตรกรรมอยเู ปน จาํ นวนมาก และโดยทค่ี ณะรฐั มนตรี
มีมติใหด ําเนนิ การปฏริ ูปทด่ี ินเพือ่ เกษตรกรรมในท่ีดนิ เขตปา สงวนแหงชาติ ปา แมล าวฝง ขวา
ในสวนท่มี สี ภาพเปนปาเสื่อมโทรมแลว สมควรกําหนดเขตที่ดินในทองที่ดังกลาวใหเปนเขต
ปฏิรูปที่ดิน จงึ จาํ เปน ตอ งตราพระราชกฤษฎกี าน้ี

๒๑๖

(สาํ เนา)
พระราชกฤษฎีกา
กําหนดเขตที่ดิน ในทอ งทตี่ ําบลชยั บรุ ี และตําบลลาํ ปา อาํ เภอเมอื งพทั ลงุ จังหวัดพัทลุง
ใหเปนเขตปฏิรูปท่ดี นิ
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___
ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วันที่ ๒๘ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕
เปน ปท ่ี ๖๗ ในรชั กาลปจ จบุ ัน
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา
โดยทีเ่ ปน การสมควรกําหนดเขตท่ีดิน ในทองที่ตาํ บลชยั บรุ ี และตําบลลาํ ปา อาํ เภอ
เมืองพัทลุง จังหวดั พทั ลุง ใหเ ปนเขตปฏริ ูปทีด่ นิ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๕ วรรคหนงึ่ แหงพระราชบัญญัตกิ ารปฏริ ูปที่ดนิ เพ่อื เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘
อันเปนกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหต ราพระราชกฤษฎีกาข้นึ ไว ดงั ตอ ไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรยี กวา “พระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตทดี่ ิน ในทอ งท่ี
ตาํ บลชยั บรุ ี และตําบลลําปา อําเภอเมอื งพัทลุง จงั หวดั พัทลุง ใหเปน เขตปฏิรปู ทดี่ ิน พ.ศ. ๒๕๕๕”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเปน ตนไป
มาตรา ๓ ใหทีด่ ินในทองทต่ี าํ บลชยั บรุ ี และตําบลลาํ ปา อาํ เภอเมอื งพัทลุง จังหวดั
พทั ลุง ภายในแนวเขตตามแผนทีท่ า ยพระราชกฤษฎีกานี้ เปน เขตปฏริ ปู ท่ดี ิน
มาตรา ๔ ใหร ัฐมนตรวี าการกระทรวงการคลงั รัฐมนตรีวา การกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ และรัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี

ผูรบั สนองพระบรมราชโองการ
ยิ่งลักษณ ชินวัตร
นายกรฐั มนตรี

๒๑๗

หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชพระราชกฤษฎกี าฉบบั นี้ คอื เนื่องจากในทองทตี่ ําบลชัยบรุ ี
และตาํ บลลาํ ปา อาํ เภอเมอื งพัทลงุ จงั หวัดพทั ลุง มเี กษตรกรผไู มมีท่ีดนิ ประกอบเกษตรกรรม
เปน ของตนเอง หรือมที ่ีดนิ เล็กนอยไมเ พียงพอแกก ารครองชีพ หรอื ตอ งเชา ทด่ี ินของผอู ่นื ประกอบ
เกษตรกรรมอยูเปน จาํ นวนมาก และโดยที่ทด่ี ินสาธารณประโยชนควนทาสาํ เภา ในทองทต่ี าํ บล
ชยั บรุ ี และตําบลลาํ ปา อําเภอเมอื งพัทลงุ จงั หวัดพทั ลุง ซง่ึ ทางราชการไดประกาศเปนทดี่ ิน
สาธารณประโยชน สําหรบั พลเมืองใชไ มใ นตาํ บล เม่ือวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ เน้อื ท่ี
ทง้ั หมดประมาณ ๒,๑๕๖ ไร ๑ งาน แตเ มอื่ ทาํ การสํารวจรังวดั ใหมป รากฏวา มเี นอื้ ท่ที ง้ั หมด
ประมาณ ๔,๑๒๘ ไร ๑ งาน ๓๖ ตารางวา ปจจบุ ันปรากฏวา ไดเ ปลยี่ นสภาพจากการเปนทีด่ ิน
สาํ หรบั พลเมอื งใชร ว มกนั แลว บางสว น คงเหลอื ทด่ี นิ สาธารณประโยชนท จ่ี ะนาํ มาดาํ เนนิ การปฏริ ปู
ที่ดนิ เน้ือทีป่ ระมาณ ๑,๗๐๐ ไร สมควรกาํ หนดเขตท่ดี นิ ในทองท่ดี งั กลา วใหเ ปนเขตปฏิรปู ที่ดนิ
จึงจาํ เปน ตองตราพระราชกฤษฎีกานี้

๒๑๘

(สําเนา)
พระราชกฤษฎีกา
กาํ หนดเขตทีด่ ิน ในทอ งทต่ี ําบลวังใหญ ตาํ บลสายลําโพง ตําบลพนมเศษ
ตําบลพนมรอก ตาํ บลดอนคา ตาํ บลวังมหากร ตาํ บลทาตะโก ตําบลหัวถนน
และตําบลทํานบ อาํ เภอทา ตะโก จงั หวัดนครสวรรค
ใหเปนเขตปฏริ ปู ที่ดิน
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___
ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วันที่ ๒๘ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕
เปนปท ่ี ๖๗ ในรัชกาลปจจุบนั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา
โดยทเ่ี ปน การสมควรปรบั ปรงุ พระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตทด่ี นิ ในทอ งทต่ี าํ บลวงั ใหญ
ตาํ บลสายลาํ โพง ตําบลพนมเศษ ตาํ บลดอนคา ตาํ บลพนมรอก ตําบลทาตะโก ตําบลหวั ถนน
และตาํ บลทาํ นบ อําเภอทา ตะโก จังหวดั นครสวรรค ใหเ ปนเขตปฏิรปู ทีด่ นิ พ.ศ. ๒๕๔๓
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๕ วรรคหนงึ่ แหง พระราชบัญญัตกิ ารปฏริ ูปท่ดี ินเพอื่ เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘
อันเปนกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนญู แหง
ราชอาณาจกั รไทย บญั ญัติใหกระทาํ ไดโ ดยอาศยั อํานาจตามบทบญั ญตั แิ หงกฎหมาย จึงทรง
พระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกาข้นึ ไว ดังตอ ไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกวา “พระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตทดี่ นิ ในทอ งท่ี
ตาํ บลวงั ใหญ ตําบลสายลาํ โพง ตาํ บลพนมเศษ ตําบลพนมรอก ตาํ บลดอนคา ตําบลวงั มหากร
ตาํ บลทาตะโก ตาํ บลหวั ถนน และตาํ บลทาํ นบ อําเภอทาตะโก จังหวัดนครสวรรค ใหเปนเขต
ปฏิรปู ทด่ี ิน พ.ศ. ๒๕๕๕”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเปนตนไป
มาตรา ๓ ใหยกเลกิ พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตทดี่ ิน ในทอ งทต่ี าํ บลวงั ใหญ ตาํ บล
สายลาํ โพง ตาํ บลพนมเศษ ตาํ บลดอนคา ตาํ บลพนมรอก ตําบลทาตะโก ตําบลหัวถนน และ
ตาํ บลทํานบ อาํ เภอทาตะโก จงั หวดั นครสวรรค ใหเ ปน เขตปฏิรปู ท่ดี ิน พ.ศ. ๒๕๔๓

๒๑๙

มาตรา ๔ ใหที่ดนิ ในทอ งทต่ี าํ บลวงั ใหญ ตาํ บลสายลาํ โพง ตําบลพนมเศษ ตําบล
พนมรอก ตาํ บลดอนคา ตําบลวงั มหากร ตาํ บลทา ตะโก ตาํ บลหัวถนน และตําบลทํานบ อําเภอ
ทาตะโก จังหวดั นครสวรรค ภายในแนวเขตตามแผนทที่ า ยพระราชกฤษฎกี าน้ี เปน เขตปฏิรปู ท่ีดิน

มาตรา ๕ ใหร ฐั มนตรวี า การกระทรวงการคลัง รฐั มนตรวี า การกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ และรัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี
ผูร บั สนองพระบรมราชโองการ

ยิง่ ลกั ษณ ชนิ วตั ร
นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ ระราชกฤษฎกี าฉบบั น้ี คอื โดยท่ีพระราชกฤษฎกี า
กาํ หนดเขตทด่ี นิ ในทอ งทต่ี าํ บลวงั ใหญ ตาํ บลสายลาํ โพง ตําบลพนมเศษ ตําบลดอนคา ตาํ บล
พนมรอก ตําบลทาตะโก ตาํ บลหวั ถนน และตําบลทํานบ อาํ เภอทาตะโก จงั หวัดนครสวรรค
ใหเ ปน เขตปฏริ ปู ทด่ี นิ พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดก าํ หนดใหย กเลกิ พระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตทด่ี นิ ในทอ งท่ี
อาํ เภอทาตะโก จังหวดั นครสวรรค ใหเ ปน เขตปฏิรปู ทดี่ ิน พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยกันพน้ื ทท่ี ี่ไมสมควร
กําหนดเปน เขตปฏริ ปู ทด่ี ินออก แตย ังคงมีเขตปฏริ ูปทดี่ ินครอบคลุมพน้ื ที่ท่ไี มมีโครงการ เพือ่
ดาํ เนนิ การปฏิรปู ทดี่ ินเพ่ือเกษตรกรรมดว ย ตอมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แหงพระราชบัญญตั ิ
การปฏิรูปท่ดี ินเพอื่ เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซ่ึงแกไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั กิ ารปฏริ ปู ท่ดี ิน
เพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กําหนดใหการกําหนดเขตปฏริ ปู ที่ดินใหก ําหนดเฉพาะ
ทด่ี ินท่จี ะดําเนนิ การปฏิรูปท่ดี นิ เพ่ือเกษตรกรรม เวนแตในกรณีทจี่ ําเปน จะถือเขตของตาํ บลหรอื
อําเภอเปนหลกั แลว สมควรปรับปรงุ พระราชกฤษฎกี าดงั กลา ว เพื่อใหก ารกาํ หนดเขตปฏิรปู ท่ีดนิ
สอดคลองกบั ขอเท็จจริง โดยกําหนดเขตปฏริ ปู ที่ดนิ เฉพาะท่ดี นิ ทม่ี ีการดาํ เนินการปฏิรปู ท่ีดนิ เพือ่
เกษตรกรรมเทานั้น จงึ จาํ เปน ตอ งตราพระราชกฤษฎกี านี้

๒๒๐

ที่ มท ๐๕๑๔.๓ / ว ๒๗๕๙ (สาํ เนา)
กรมทีด่ นิ
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลักส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๓๑ มกราคม ๒๕๕๖

เร่ือง ซอ มความเขาใจ การเรยี กคา ใชจา ยในการรงั วดั เก่ียวกับโฉนดทดี่ นิ หรอื พสิ ูจนสอบสวน
หรือตรวจสอบเนื้อทเ่ี กยี่ วกบั หนังสอื รับรองการทําประโยชน

เรยี น ผูวาราชการจงั หวัดทกุ จังหวดั
อา งถึง ๑. ระเบียบกรมท่ดี ิน วา ดวยการรบั คาํ ขอรงั วดั การนัดรงั วัด และการเรียกคาใชจ าย

ในการรังวดั เฉพาะราย พ.ศ. ๒๕๔๗
๒. หนังสอื กรมท่ดี ิน ท่ี มท ๐๖๐๖/ว ๓๑๗๓๖ ลงวันท่ี ๓ ธันวาคม ๒๕๓๙

ตามหนังสือที่อางถึง กรมที่ดนิ ไดวางแนวทางปฏิบตั เิ ก่ยี วกับการเรยี กคาใชจ าย
ในการรงั วดั ใหเรยี กในลกั ษณะเหมาจา ย โดยใหพิจารณาจากอตั ราประกาศจังหวัดภายใตอ ัตรา
ในบญั ชคี า ใชจ า ยตามระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา ดว ยคา ใชจ า ยในการรงั วดั เกย่ี วกบั โฉนดทด่ี นิ
หรอื พสิ ูจนสอบสวน หรอื ตรวจสอบเนื้อท่เี กย่ี วกับหนงั สือรับรองการทําประโยชน พ.ศ. ๒๕๔๒
และหามมิใหเ จาหนา ท่ีเรียกหรือเรยี กรบั ผลประโยชน จากประชาชนผูมาติดตอทาํ ธุระเกย่ี วกบั
ทีด่ ิน ไมว าจะเปนการรังวัดในกรณใี ด จะถือวาเจา หนาที่ผนู ้นั ทจุ ริตตอ หนาท่ี และกรมที่ดนิ ไดมี
หนงั สอื ส่งั การตลอดจนซักซอมความเขาใจไปแลว น้นั

โดยท่ปี รากฏวา เจา หนา ทีข่ องสาํ นกั งานท่ีดินบางแหง เรยี กเก็บคาใชจ ายคาํ ขอ
รังวัดบางรายไวสูงกวาอัตราประกาศจังหวัด โดยเฉพาะอยางยิ่งคําขอรังวัดแบงแยกเพื่อการ
จดั สรรท่ีดินมีการเรยี กเกบ็ คา ใชจาย (เงนิ มดั จํารังวัด) ไวสูงกวาความเปน จรงิ และเกนิ เกณฑ
ที่กําหนดเปนเงินจํานวนมากหลายเทาตัว และเม่ือทําการรังวัดเสร็จไดรายงานการรังวัดและ
ขออนมุ ัติถอนจายเงินมดั จาํ รังวัดทเี่ รยี กเก็บไวเ กนิ ทั้งหมด หรือมกี ารขออนุมัตถิ อนจายเงนิ มัดจํา
รังวัดใหอยูใ นเกณฑอตั ราบัญชีคา ใชจายทก่ี าํ หนดไว เปน ผลใหม ีเงนิ เหลอื คนื ผขู อเปน เงินจาํ นวน
มาก และเปนชอ งทางทีเ่ จา หนาท่ีสามารถเขาไปเกี่ยวขอ งและแสวงหาผลประโยชนจ ากจาํ นวน
เงนิ ทีเ่ หลือคนื ในทาํ นองบงั คับ หรอื ใหผ ูม าตดิ ตอสมัครใจมอบเงนิ ดังกลาวแกเจาหนา ที่ ทําให
ผูมาติดตอและเจาของที่ดินไดรับความเดือดรอน และไมเปนไปตามหลักเกณฑการคํานวณ
ในบัญชีอัตราคาใชจายในการรังวัดลักษณะเหมาจายตามระเบียบฯ โดยไมมีเหตุผลสมควร

๒๒๑

และไมส ามารถชี้แจงไดว ามคี วามจาํ เปน อยางไรทีจ่ ะตอ งเรยี กเกบ็ คาใชจ า ยเชนน้ัน ทง้ั ท่ีกรมท่ีดนิ
ไดว างแนวทางปฏบิ ัติไวช ดั เจนแลวกต็ าม

การกระทําดังกลาวอาจสอไปในทางใหเจาหนาท่ีทุจริต เปนเหตุใหเกิดการ
รองเรียนกลาวหาเจาหนาที่ และมีกรณีอยูในการดําเนินการของคณะกรรมการปองกันและ
ปราบปรามการทุจรติ แหงชาติ (ป.ป.ช.) สงผลกระทบตอภาพลักษณข องกรมท่ดี นิ

กรมทดี่ นิ พิจารณาแลวเหน็ วา เพ่อื เปนการปองปรามพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงาน
ของเจา หนา ท่ีที่เก่ยี วขอ งดงั กลา ว รวมทง้ั เสริมสรา งใหเ กดิ ความโปรงใส เปนธรรม กอใหเกิด
ภาพลกั ษณท่ีดี และศรัทธาจากประชาชนผูใชบรกิ าร จงึ ซอ มความเขาใจสํานักงานท่ีดนิ จังหวัด /
สาขา / สว นแยก และสาํ นักงานทด่ี ินอาํ เภอใหถ อื ปฏบิ ัติตามนัยหนงั สือที่อา งถงึ อยา งเครง ครดั
ทั้งน้ี หากพบวา มีกรณที ี่เจาหนาทีผ่ หู นึ่งผูใ ดละเวน หรือฝาฝน ไมดําเนนิ การตามแนวทางดังกลา ว
กรมทีด่ ินจะพจิ ารณาดาํ เนนิ การทางวนิ ัยแกผเู กี่ยวขอ งอยา งเฉยี บขาดทุกราย

จงึ เรียนมาเพอ่ื ขอไดโปรดส่ังใหเ จา หนาทที่ ี่ดินทราบและถอื ปฏบิ ตั ิตอไป
ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงชือ่ ) บุญเชดิ คดิ เห็น
(นายบุญเชดิ คิดเห็น)
อธบิ ดีกรมท่ีดนิ

สาํ นักมาตรฐานและสง เสริมการรงั วัด
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๘๒ (๑๕๘๘๒)
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๙๓
ไปรษณียอิเลก็ ทรอนกิ ส [email protected]

๒๒๒

(สาํ เนา)

สว นราชการ สาํ นักมาตรฐานและสง เสรมิ การรงั วดั สวนสง เสริมการรงั วดั โทร ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๗๖ (๑๕๘๗๖)

ท่ี มท ๐๕๑๔.๒ / ๖๗๙ วันท่ี ๑๓ มนี าคม ๒๕๕๖

เรอ่ื ง ขอสง พระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตปฏริ ปู ท่ดี นิ ในทองทีจ่ งั หวัดแมฮองสอน จาํ นวน ๒ ฉบบั

เรียน หวั หนา กลมุ งานคุมครองจรยิ ธรรมกรมท่ีดิน ผูตรวจราชการกรม ผูอํานวยการสํานัก
เจา พนกั งานท่ีดนิ กรงุ เทพมหานคร ผอู ํานวยการกอง ผูอ าํ นวยการสํานักงาน
ผูอาํ นวยการกลมุ และผอู าํ นวยการศนู ย

สํานักมาตรฐานและสง เสริมการรงั วดั ขอสงพระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตปฏริ ูป
ที่ดนิ ในทอ งท่ีจังหวดั แมฮอ งสอน จาํ นวน ๒ ฉบับ ตามประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ฉบบั
กฤษฎีกา เลม ๑๓๐ ตอนที่ ๑๙ ก วนั ที่ ๒๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๖ มาเพ่อื โปรดทราบ

(ลงชอ่ื ) ยงยทุ ธ กาญจนานรุ กั ษ
(นายยงยุทธ กาญจนานุรกั ษ)

ผูอํานวยการสว นมาตรฐานการรังวัดเฉพาะราย
ปฏบิ ัติราชการแทน

ผูอํานวยการสํานกั มาตรฐานและสงเสริมการรังวดั

๒๒๓

ที่ กษ ๑๒๐๕ / ๒๑๘๗ (สําเนา)
สาํ นกั งานการปฏิรูปทด่ี นิ เพ่อื เกษตรกรรม
ถนนราชดําเนนิ นอก กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐

๗ มีนาคม ๒๕๕๖

เรือ่ ง ประกาศใชบังคบั พระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในทอ งทจี่ ังหวดั แมฮองสอน
จํานวน ๒ ฉบับ

เรยี น อธิบดกี รมทดี่ นิ
สิง่ ทสี่ ง มาดวย ๑. สําเนาพระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตปฏริ ปู ที่ดิน ในทองทจี่ งั หวัดแมฮอ งสอน

จํานวน ๒ ฉบบั ๆ ละ ๑๐ ชดุ
๒. สําเนาระเบียบคณะกรรมการปฏริ ูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม วาดวยหลักเกณฑ

และวิธีการในการขออนญุ าต ตามมาตรา ๒๘ จํานวน ๑ ชดุ

ดวยสาํ นักงานการปฏิรปู ท่ีดินเพ่อื เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไดรับแจงจากสํานัก
เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรวี า พระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตปฏิรปู ทด่ี ิน ในทอ งที่จังหวัดแมฮ อ งสอน
จํานวน ๒ ฉบบั ไดประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎกี า เลม ๑๓๐ ตอนที่ ๑๙ ก วนั ที่ ๒๘
กมุ ภาพันธ ๒๕๕๖ รายละเอยี ดตามส่งิ ทส่ี งมาดว ย ๑

พระราชกฤษฎีกาดังกลาวจึงมีผลใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเปนตน ไป ท้ังน้ี คณะกรรมการปฏริ ปู ทดี่ นิ เพอื่ เกษตรกรรมไดออกระเบยี บ
ตามสิ่งท่ีสง มาดว ย ๒ ขอ ๕ กําหนดอนุญาตเปน การทว่ั ไปใหจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมสําหรับ
ท่ดี นิ ในเขตปฏิรปู ทด่ี ินไดโดยไมต อ งยน่ื คําขออนญุ าต ฉะนั้น การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม
ใดๆ สาํ หรับทด่ี นิ ในทอ งทท่ี ไ่ี ดป ระกาศเขตปฏริ ปู ทด่ี นิ ดงั กลา ว ในขณะนส้ี ามารถกระทาํ ไดต าม
ปกติ โดยมติ อ งย่นื คําขออนุญาตตอ พนกั งานเจาหนา ท่ี

ทั้งน้ี ไดแ จง ใหจงั หวัดประสานแจงใหส วนราชการทเี่ กย่ี วขอ งทราบแลว
จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอื่ ) วรี ะชัย นาควิบูลยว งศ

(นายวรี ะชัย นาควบิ ูลยวงศ)
เลขาธกิ ารสํานกั งานการปฏิรูปทดี่ นิ เพอื่ เกษตรกรรม

๒๒๔

(สาํ เนา)
พระราชกฤษฎีกา
กําหนดเขตทดี่ ิน ในทองทต่ี าํ บลแมลานอย อําเภอแมลานอย จังหวดั แมฮอ งสอน
ใหเปนเขตปฏิรูปที่ดนิ
___พ_._ศ_._๒_๕_๕__๖___
ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วนั ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖
เปนปท่ี ๖๘ ในรัชกาลปจ จุบนั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา
โดยทเ่ี ปน การสมควรกําหนดเขตที่ดิน ในทองที่ตาํ บลแมลานอ ย อําเภอแมล านอ ย
จังหวัดแมฮ อ งสอน ใหเปน เขตปฏิรูปทดี่ ิน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๕ วรรคหนงึ่ แหงพระราชบัญญัติการปฏิรูปทด่ี นิ เพ่ือเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘
อันเปนกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว ดงั ตอ ไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานเี้ รยี กวา “พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตทด่ี นิ ในทอ งท่ี
ตาํ บลแมลานอ ย อาํ เภอแมลานอย จงั หวดั แมฮ อ งสอน ใหเปนเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๖”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเปน ตน ไป
มาตรา ๓ ใหท่ีดนิ ในทองทีต่ ําบลแมลานอย อาํ เภอแมล านอย จงั หวัดแมฮ อ งสอน
ภายในแนวเขตตามแผนทท่ี ายพระราชกฤษฎีกานี้ เปน เขตปฏริ ปู ทีด่ ิน
มาตรา ๔ ใหร ฐั มนตรีวาการกระทรวงการคลงั รัฐมนตรวี าการกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ และรฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผูร ับสนองพระบรมราชโองการ
ยิ่งลกั ษณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี

๒๒๕

หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบับน้ี คือ เนอ่ื งจากในทองท่ีตาํ บล
แมลานอย อําเภอแมลานอย จงั หวัดแมฮ อ งสอน มเี กษตรกรผูไมม ที ่ีดินประกอบเกษตรกรรม
เปนของตนเอง หรอื มที ี่ดนิ เลก็ นอ ยไมเ พียงพอแกการครองชพี หรอื ตอ งเชา ทด่ี นิ ของผอู น่ื ประกอบ
เกษตรกรรมอยเู ปน จาํ นวนมาก สมควรกําหนดเขตที่ดินในทองที่ดังกลาวใหเปนเขตปฏิรูปที่ดิน
จงึ จําเปน ตอ งตราพระราชกฤษฎกี านี้

๒๒๖

๒๒๗

(สาํ เนา)

สวนราชการ สาํ นกั มาตรฐานและสง เสริมการรังวดั สวนสงเสรมิ การรงั วัด โทร ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๗๗ (๑๕๘๗๗)

ท่ี มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๗๐๐ วนั ที่ ๑๘ มนี าคม ๒๕๕๖

เรอื่ ง ขอสง สําเนาพระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตโครงการจดั รปู ที่ดนิ ตามพระราชบัญญัตจิ ัดรปู ที่ดิน
เพอ่ื เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗

เรียน หัวหนากลมุ งานคมุ ครองจรยิ ธรรมกรมท่ดี นิ ผตู รวจราชการกรม ผอู ํานวยการสํานกั
เจาพนกั งานทด่ี นิ กรุงเทพมหานคร ผูอาํ นวยการกอง ผูอาํ นวยการสํานักงาน
ผูอ ํานวยการกลมุ และผูอาํ นวยการศูนย

สํานักมาตรฐานและสงเสริมการรังวัด ขอสงสําเนาพระราชกฤษฎีกากําหนด
เขตทดี่ ิน ในทองที่ตาํ บลหนองโดน อําเภอหนองโดน และตาํ บลสรา งโศก ตาํ บลตลาดนอย
อําเภอบา นหมอ จงั หวดั สระบุรี ใหเปนเขตโครงการจดั รปู ทดี่ ิน พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา ฉบบั กฤษฎีกา เลม ๑๒๙ ตอนที่ ๑๑๐ ก วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
มาเพอื่ โปรดทราบ

(ลงชื่อ) ยงยทุ ธ กาญจนานรุ กั ษ
(นายยงยทุ ธ กาญจนานรุ กั ษ)

นายชา งรงั วัดอาวุโส ปฏิบัตริ าชการแทน
ผูอํานวยการสํานักมาตรฐานและสง เสรมิ การรงั วัด

๒๒๘

(สาํ เนา)

พระราชกฤษฎีกา
กําหนดเขตทดี่ ิน ในทอ งที่ตําบลหนองโดน อําเภอหนองโดน
และตําบลสรางโศก ตําบลตลาดนอย อาํ เภอบา นหมอ จังหวดั สระบุรี

ใหเ ปนเขตโครงการจดั รปู ทด่ี ิน
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วันท่ี ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

เปน ปท่ี ๖๗ ในรัชกาลปจ จุบนั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา
โดยทีเ่ ปนการสมควรกําหนดเขตทีด่ ิน ในทองทตี่ าํ บลหนองโดน อําเภอหนองโดน
และตาํ บลสรางโศก ตําบลตลาดนอ ย อําเภอบานหมอ จงั หวดั สระบรุ ี ใหเ ปนเขตโครงการจัดรูป
ทด่ี ิน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๔ วรรคหนึง่ แหงพระราชบญั ญัติจัดรปู ท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗ อันเปน
กฎหมายที่มีบทบัญญตั ิบางประการเก่ียวกบั การจาํ กดั สิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙
ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎกี าขนึ้ ไว ดงั ตอไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกวา “พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตที่ดิน ในทอ งที่
ตาํ บลหนองโดน อาํ เภอหนองโดน และตาํ บลสรางโศก ตําบลตลาดนอ ย อาํ เภอบานหมอ จังหวดั
สระบุรี ใหเ ปนเขตโครงการจดั รปู ทดี่ นิ พ.ศ. ๒๕๕๕”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาเปน ตนไป
มาตรา ๓ ใหท ด่ี นิ ในเขตทอ งทต่ี าํ บลหนองโดน อาํ เภอหนองโดน และตาํ บลสรา งโศก
ตาํ บลตลาดนอย อําเภอบา นหมอ จังหวดั สระบุรี ภายในแนวเขตตามแผนที่ทายพระราช
กฤษฎกี าน้ี ซง่ึ ปรากฏรายชอ่ื เจา ของหรือผคู รอบครองท่ีดินโดยชอบดวยกฎหมายตามบญั ชีทา ย
พระราชกฤษฎีกาน้ี เปน เขตโครงการจดั รูปทีด่ นิ
มาตรา ๔ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ และรัฐมนตรีวาการ
กระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผรู ับสนองพระบรมราชโองการ
ยิง่ ลกั ษณ ชินวตั ร
นายกรัฐมนตรี

๒๒๙

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎกี าฉบบั นี้ คอื เนอ่ื งจากทางราชการได
ดําเนนิ การสํารวจทด่ี ินเพอื่ จัดรปู ที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม ในทอ งท่ีตาํ บลหนองโดน อาํ เภอหนองโดน
และตําบลสรางโศก ตาํ บลตลาดนอ ย อําเภอบา นหมอ จงั หวดั สระบรุ ี และไดสอบถามความ
สมัครใจจากเจาของท่ีดินแลว เจา ของท่ีดินมีจาํ นวนเกนิ ก่ึงหนง่ึ ของบรรดาเจาของท่ีดนิ ท้งั หมด
ไดยินยอมใหทางราชการดําเนินการจัดรูปที่ดินได สมควรกําหนดเขตท่ีดินในทองท่ีดังกลาว
ใหเปน เขตโครงการจดั รปู ทีด่ ิน จึงจาํ เปนตอ งตราพระราชกฤษฎกี าน้ี

๒๓๐

๒๓๑

(สาํ เนา)

สวนราชการ สาํ นกั มาตรฐานและสง เสรมิ การรังวดั สว นสงเสรมิ การรังวดั โทร ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๗๗ (๑๕๘๗๗)

ท่ี มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๗๐๑ วันท่ี ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖

เรือ่ ง ขอสง สาํ เนาพระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตโครงการจดั รูปท่ดี นิ ตามพระราชบัญญตั ิจดั รปู
ทด่ี ินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗

เรยี น หวั หนากลุมงานคมุ ครองจรยิ ธรรมกรมท่ีดนิ ผตู รวจราชการกรม ผอู ํานวยการสํานกั
เจาพนกั งานทีด่ นิ กรุงเทพมหานคร ผอู ํานวยการกอง ผูอํานวยการสํานักงาน
ผอู าํ นวยการกลมุ และผูอ ํานวยการศูนย

สํานักมาตรฐานและสงเสริมการรังวดั ขอสงสําเนาพระราชกฤษฎกี ากําหนดเขต
ท่ีดนิ ในทองท่ดี งั ตอไปนี้

๑. ตําบลดอนตรอ และตําบลเชียรเขา อําเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัด
นครศรธี รรมราช

๒. ตําบลเชียรเขา ตําบลสวนหลวง อําเภอเฉลิมพระเกียรติ และตําบล
ทองลาํ เจียก อําเภอเชยี รใหญ จังหวัดนครศรธี รรมราช

๓. ตาํ บลชะเมา อาํ เภอปากพนังและตําบลดอนตรอ ตาํ บลเชียรเขา อาํ เภอ
เฉลิมพระเกียรติ จงั หวดั นครศรธี รรมราช

ใหเ ปนเขตโครงการจัดรปู ที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ฉบับกฤษฎีกา เลม ๑๒๙ ตอนที่ ๑๑๙ ก วันที่ ๑๔ ธนั วาคม ๒๕๕๕ มาเพือ่ โปรดทราบ

(ลงช่อื ) ยงยุทธ กาญจนานุรักษ
(นายยงยทุ ธ กาญจนานุรักษ)

นายชา งรังวดั อาวโุ ส ปฏบิ ตั ิราชการแทน
ผอู ํานวยการสํานักมาตรฐานและสง เสริมการรงั วดั

๒๓๒

(สําเนา)

พระราชกฤษฎีกา
กาํ หนดเขตทีด่ นิ ในทอ งท่ีตาํ บลชะเมา อาํ เภอปากพนงั
และตาํ บลดอนตรอ ตําบลเชยี รเขา อาํ เภอเฉลมิ พระเกียรติ จงั หวดั นครศรีธรรมราช

ใหเปนเขตโครงการจัดรปู ทดี่ นิ
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___

ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วนั ที่ ๓ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เปนปท ่ี ๖๗ ในรชั กาลปจ จุบัน
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา
โดยท่เี ปน การสมควรกาํ หนดเขตทด่ี นิ ในทอ งที่ตาํ บลชะเมา อาํ เภอปากพนัง และ
ตําบลดอนตรอ ตาํ บลเชยี รเขา อาํ เภอเฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ใหเปน เขตโครงการ
จัดรปู ทีด่ ิน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๔ วรรคหนง่ึ แหง พระราชบญั ญัตจิ ัดรูปที่ดนิ เพ่อื เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗ อนั เปน
กฎหมายท่ีมบี ทบญั ญตั บิ างประการเกยี่ วกบั การจาํ กดั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบุคคล ซง่ึ มาตรา ๒๙
ประกอบกบั มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนญู
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหต ราพระราชกฤษฎีกาขนึ้ ไว ดงั ตอไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกี านเี้ รียกวา “พระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตทดี่ ิน ในทอ งที่
ตาํ บลชะเมา อาํ เภอปากพนงั และตําบลดอนตรอ ตาํ บลเชียรเขา อาํ เภอเฉลิมพระเกยี รติ จงั หวดั
นครศรธี รรมราช ใหเปนเขตโครงการจัดรูปทด่ี นิ พ.ศ. ๒๕๕๕”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาเปน ตน ไป
มาตรา ๓ ใหท ด่ี นิ ในเขตทอ งที่ตาํ บลชะเมา อาํ เภอปากพนัง และตาํ บลดอนตรอ
ตาํ บลเชยี รเขา อําเภอเฉลมิ พระเกยี รติ จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในแนวเขตตามแผนท่ที า ย
พระราชกฤษฎีกาน้ี ซ่ึงปรากฏรายช่ือเจาของหรือผูครอบครองท่ีดินโดยชอบดวยกฎหมาย
ตามบญั ชที า ยพระราชกฤษฎกี านี้ เปนเขตโครงการจัดรปู ทด่ี ิน
มาตรา ๔ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ และรัฐมนตรีวาการ
กระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎกี าน้ี

ผูรบั สนองพระบรมราชโองการ ๒๓๓
ย่งิ ลกั ษณ ชนิ วัตร
นายกรฐั มนตรี

๒๓๔

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบบั นี้ คอื เนื่องจากทางราชการ
ไดดาํ เนินการสํารวจที่ดินเพอื่ จัดรูปทดี่ นิ เพือ่ เกษตรกรรม ในทองทตี่ าํ บลชะเมา อําเภอปากพนงั
และตาํ บลดอนตรอ ตาํ บลเชยี รเขา อําเภอเฉลิมพระเกยี รติ จังหวดั นครศรีธรรมราช และได
สอบถามความสมัครใจจากเจา ของที่ดนิ แลว เจา ของทดี่ ินมีจํานวนเกนิ กึ่งหน่งึ ของบรรดาเจา ของ
ทด่ี นิ ทงั้ หมดไดย ินยอมใหทางราชการดําเนินการจดั รปู ทด่ี ินได สมควรกําหนดเขตทีด่ นิ ในทองท่ี
ดังกลา วใหเ ปนเขตโครงการจัดรูปท่ีดนิ จงึ จําเปนตอ งตราพระราชกฤษฎีกานี้

๒๓๕

(สําเนา)

พระราชกฤษฎกี า
กําหนดเขตทดี่ นิ ในทอ งที่ตาํ บลดอนตรอ และตําบลเชยี รเขา

อาํ เภอเฉลมิ พระเกียรติ จังหวัดนครศรธี รรมราช
ใหเ ปนเขตโครงการจดั รปู ทด่ี ิน
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___
ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ป.ร.

ใหไว ณ วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เปน ปท ี่ ๖๗ ในรัชกาลปจ จบุ ัน

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา

โดยท่ีเปนการสมควรกําหนดเขตที่ดิน ในทองท่ีตําบลดอนตรอ ตําบลเชียรเขา
อาํ เภอเฉลิมพระเกียรติ จงั หวัดนครศรีธรรมราช ใหเปน เขตโครงการจดั รูปที่ดิน

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๔ วรรคหน่งึ แหง พระราชบญั ญตั ิจดั รูปทดี่ นิ เพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗ อันเปน
กฎหมายที่มบี ทบัญญตั บิ างประการเก่ยี วกับการจาํ กัดสิทธิและเสรภี าพของบคุ คล ซ่งึ มาตรา ๒๙
ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนญู
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชกฤษฎกี าขึน้ ไว ดงั ตอไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรยี กวา “พระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตทีด่ ิน ในทองท่ี
ตําบลดอนตรอ ตําบลเชยี รเขา อาํ เภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวดั นครศรีธรรมราช ใหเปน เขตโครงการ
จัดรูปท่ีดนิ พ.ศ. ๒๕๕๕”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเปน ตนไป

มาตรา ๓ ใหท ด่ี นิ ในเขตทอ งทตี่ าํ บลดอนตรอตําบลเชยี รเขาอําเภอเฉลิมพระเกยี รติ
จงั หวัดนครศรธี รรมราช ภายในแนวเขตตามแผนทีท่ า ยพระราชกฤษฎกี านี้ ซึง่ ปรากฏรายช่อื
เจาของหรือผคู รอบครองทด่ี นิ โดยชอบดว ยกฎหมายตามบญั ชที ายพระราชกฤษฎกี านี้ เปนเขต
โครงการจัดรูปทดี่ ิน

มาตรา ๔ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ และรัฐมนตรีวาการ
กระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผรู ับสนองพระบรมราชโองการ
ยิ่งลกั ษณ ชนิ วัตร
นายกรฐั มนตรี

๒๓๖

หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบับน้ี คือ เนือ่ งจากทางราชการ
ไดด ําเนนิ การสํารวจทดี่ นิ เพื่อจัดรูปท่ดี ินเพ่ือเกษตรกรรม ในทองทต่ี าํ บลดอนตรอ และตาํ บล
เชยี รเขา อาํ เภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวดั นครศรีธรรมราช และไดสอบถามความสมคั รใจจาก
เจา ของที่ดนิ แลว เจาของท่ดี นิ มีจาํ นวนเกนิ กง่ึ หนงึ่ ของบรรดาเจา ของท่ีดนิ ทง้ั หมดไดย นิ ยอมให
ทางราชการดาํ เนนิ การจัดรูปท่ดี ินได สมควรกําหนดเขตทด่ี ินในทอ งท่ดี งั กลาวใหเปน เขตโครงการ
จัดรูปที่ดิน จึงจาํ เปนตอ งตราพระราชกฤษฎกี านี้

๒๓๗

๒๓๘

(สาํ เนา)

พระราชกฤษฎกี า
กาํ หนดเขตทีด่ ิน ในทอ งที่ตําบลเชยี รเขา ตําบลสวนหลวง อาํ เภอเฉลมิ พระเกยี รติ

และตําบลทองลําเจยี ก อําเภอเชยี รใหญ จังหวดั นครศรีธรรมราช
ใหเปนเขตโครงการจัดรูปที่ดนิ
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___
ภมู ิพลอดุลยเดช ป.ร.

ใหไว ณ วนั ท่ี ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เปนปที่ ๖๗ ในรัชกาลปจจุบนั

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา

โดยที่เปนการสมควรกําหนดเขตที่ดิน ในทองที่ตําบลเชียรเขา ตําบลสวนหลวง
อาํ เภอเฉลมิ พระเกียรติ และตําบลทอ งลําเจียก อาํ เภอเชียรใหญ จังหวัดนครศรธี รรมราช ใหเ ปน
เขตโครงการจดั รปู ทด่ี นิ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๔ วรรคหน่ึง แหง พระราชบัญญตั จิ ัดรูปท่ดี ินเพ่ือเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗ อันเปน
กฎหมายทมี่ ีบทบญั ญัตบิ างประการเกี่ยวกับการจาํ กดั สทิ ธิและเสรีภาพของบคุ คล ซึ่งมาตรา ๒๙
ประกอบกบั มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหต ราพระราชกฤษฎีกาขึน้ ไว ดงั ตอไปน้ี

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกี านเ้ี รียกวา “พระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตท่ดี นิ ในทอ งท่ี
ตําบลเชียรเขา ตําบลสวนหลวง อําเภอเฉลมิ พระเกยี รติ และตําบลทอ งลําเจยี ก อําเภอเชยี รใหญ
จงั หวัดนครศรธี รรมราช ใหเ ปนเขตโครงการจัดรปู ที่ดนิ พ.ศ. ๒๕๕๕”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาเปนตน ไป

มาตรา ๓ ใหท่ีดินในเขตทองที่ตําบลเชียรเขา ตําบลสวนหลวง อําเภอ
เฉลิมพระเกยี รติ และตําบลทองลําเจยี ก อาํ เภอเชียรใหญ จังหวัดนครศรธี รรมราช ภายในแนวเขต
ตามแผนที่ทายพระราชกฤษฎีกาน้ี ซ่งึ ปรากฏรายชอื่ เจาของหรอื ผคู รอบครองที่ดนิ โดยชอบดว ย
กฎหมายตามบญั ชีทา ยพระราชกฤษฎกี านี้ เปนเขตโครงการจัดรูปที่ดิน

มาตรา ๔ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ และรัฐมนตรีวาการ
กระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี

ผรู บั สนองพระบรมราชโองการ ๒๓๙
ย่งิ ลกั ษณ ชนิ วตั ร
นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เน่ืองจากทางราชการ
ไดดาํ เนินการสํารวจทดี่ นิ เพอ่ื จัดรูปท่ีดนิ เพอ่ื เกษตรกรรม ในทอ งท่ตี าํ บลเชียรเขา ตาํ บลสวนหลวง
อําเภอเฉลิมพระเกียรติ และตาํ บลทอ งลําเจยี ก อาํ เภอเชยี รใหญ จังหวัดนครศรธี รรมราช และ
ไดสอบถามความสมัครใจจากเจาของที่ดินแลว เจาของท่ีดินมีจํานวนเกินก่ึงหน่ึงของบรรดา
เจาของที่ดินท้ังหมดไดยนิ ยอมใหทางราชการดําเนินการจดั รปู ที่ดินได สมควรกําหนดเขตที่ดนิ ใน
ทอ งท่ดี ังกลาวใหเปน เขตโครงการจัดรปู ท่ดี ิน จงึ จาํ เปน ตองตราพระราชกฤษฎีกานี้

๒๔๐

๒๔๑

(สาํ เนา)

สวนราชการ สาํ นักมาตรฐานและสงเสริมการรังวดั สวนสงเสรมิ การรังวัด โทร ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๗๗ (๑๕๘๗๗)

ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๗๕๓ วนั ท่ี ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖

เร่ือง ขอสงสําเนาพระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตโครงการจดั รปู ที่ดนิ ตามพระราชบัญญตั จิ ัดรปู
ท่ีดินเพอื่ เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗

เรยี น หวั หนากลุม งานคมุ ครองจรยิ ธรรมกรมทดี่ นิ ผูต รวจราชการกรม ผอู ํานวยการสํานัก
เจา พนักงานทดี่ นิ กรงุ เทพมหานคร ผูอํานวยการกอง ผูอํานวยการสาํ นักงาน
ผอู ํานวยการกลุม และผูอ าํ นวยการศนู ย

สํานักมาตรฐานและสงเสริมการรังวัด ขอสงสําเนาพระราชกฤษฎีกากําหนด
เขตทด่ี ิน ในทองท่ตี ําบลพระธาตุบังพวน อําเภอเมอื งหนองคาย และตาํ บลหนองนาง อําเภอทาบอ
จังหวัดหนองคาย ใหเ ปน เขตโครงการจัดรูปท่ดี นิ พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา
ฉบบั กฤษฎีกา เลมท่ี ๑๒๙ ตอนที่ ๑๑๐ ก วันท่ี ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ มาเพื่อโปรดทราบ

(ลงชอื่ ) สมศกั ดิ์ มหี กวงศ
(นายสมศกั ด์ิ มหี กวงศ)

นายชา งรังวดั อาวุโส รักษาราชการแทน
ผูอ าํ นวยการสํานักมาตรฐานและสงเสรมิ การรังวดั

๒๔๒

(สําเนา)
พระราชกฤษฎกี า
กาํ หนดเขตท่ีดนิ ในทองที่ตาํ บลพระธาตบุ ังพวน อําเภอเมอื งหนองคาย
และตําบลหนองนาง อําเภอทาบอ จังหวัดหนองคาย
ใหเ ปน เขตโครงการจดั รปู ท่ดี ิน
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___
ภมู พิ ลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วนั ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
เปนปท ่ี ๖๗ ในรัชกาลปจจบุ นั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา
โดยท่เี ปนการสมควรกาํ หนดเขตท่ีดนิ ในทองทต่ี าํ บลพระธาตุบังพวน อาํ เภอเมือง
หนองคาย และตําบลหนองนาง อาํ เภอทา บอ จังหวัดหนองคาย ใหเปน เขตโครงการจดั รปู ทดี่ นิ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๒๔ วรรคหนึ่ง แหงพระราชบญั ญตั จิ ดั รปู ทดี่ ินเพ่อื เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗ อันเปน
กฎหมายทีม่ ีบทบัญญัตบิ างประการเก่ยี วกับการจํากัดสิทธแิ ละเสรภี าพของบคุ คล ซึ่งมาตรา ๒๙
ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกาขนึ้ ไว ดงั ตอ ไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกวา “พระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตทด่ี นิ ในทองท่ี
ตําบลพระธาตบุ งั พวน อาํ เภอเมืองหนองคาย และตําบลหนองนาง อาํ เภอทาบอ จังหวัดหนองคาย
ใหเปนเขตโครงการจัดรปู ทีด่ ิน พ.ศ. ๒๕๕๕”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเปนตน ไป
มาตรา ๓ ใหท่ีดินในเขตทองท่ีตําบลพระธาตุบังพวน อําเภอเมืองหนองคาย
และตาํ บลหนองนาง อําเภอทาบอ จงั หวดั หนองคาย ภายในแนวเขตตามแผนทท่ี ายพระราช
กฤษฎีกาน้ี ซ่ึงปรากฏรายชอ่ื เจา ของหรือผคู รอบครองท่ดี นิ โดยชอบดวยกฎหมายตามบัญชีทา ย
พระราชกฤษฎกี านี้ เปนเขตโครงการจัดรปู ทด่ี นิ
มาตรา ๔ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ และรัฐมนตรีวาการ
กระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามพระราชกฤษฎกี านี้

ผูร บั สนองพระบรมราชโองการ ๒๔๓
ยงิ่ ลักษณ ชินวตั ร
นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎกี าฉบับนี้ คือ เน่อื งจากทางราชการได
ดาํ เนินการสํารวจท่ีดนิ เพ่อื จัดรปู ทดี่ นิ เพ่ือเกษตรกรรม ในทอ งท่ีตําบลพระธาตบุ ังพวน อาํ เภอเมือง
หนองคาย และตําบลหนองนาง อาํ เภอทาบอ จงั หวัดหนองคาย และไดสอบถามความสมคั รใจ
จากเจา ของทดี่ นิ แลว เจาของที่ดินมจี าํ นวนเกนิ ก่งึ หนง่ึ ของบรรดาเจาของท่ีดนิ ทงั้ หมดไดย นิ ยอม
ใหทางราชการดําเนินการจัดรูปที่ดินได สมควรกําหนดเขตที่ดินในทองที่ดังกลาวใหเปนเขต
โครงการจัดรูปที่ดิน จงึ จําเปน ตองตราพระราชกฤษฎีกาน้ี

๒๔๔

๒๔๕

(สาํ เนา)

สวนราชการ สาํ นกั มาตรฐานและสงเสริมการรังวัด สว นสงเสริมการรังวัด โทร ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๗๖ (๑๕๘๗๖)

ที่ มท ๐๕๑๔.๒ / ว ๗๗๖ วันท่ี ๒๙ มนี าคม ๒๕๕๖

เร่อื ง ขอสงพระราชกฤษฎกี ากําหนดเขตปฏิรูปทดี่ ิน ในทอ งท่ตี ําบลหนองผอื อําเภอเขมราฐ
ตาํ บลโนนสวาง อําเภอกุดขาวปนุ จังหวดั อุบลราชธานี และตาํ บลคําโพน อําเภอ
ปทุมราชวงศา จังหวัดอํานาจเจรญิ จาํ นวน ๑ ฉบับ

เรยี น หัวหนากลุม งานคุม ครองจริยธรรมกรมท่ดี นิ ผูตรวจราชการกรม ผอู าํ นวยการสํานกั
เจาพนักงานทด่ี นิ กรงุ เทพมหานคร ผูอํานวยการกอง ผูอ ํานวยการสาํ นกั งาน
ผูอาํ นวยการกลมุ และผูอํานวยการศูนย

สาํ นกั มาตรฐานและสงเสรมิ การรังวัด ขอสง พระราชกฤษฎีกากาํ หนดเขตปฏริ ปู
ท่ีดิน ในทอ งที่ตาํ บลหนองผอื อําเภอเขมราฐ ตาํ บลโนนสวาง อําเภอกุดขาวปนุ จังหวัด
อบุ ลราชธานี และตาํ บลคาํ โพน อาํ เภอปทุมราชวงศา จงั หวัดอํานาจเจรญิ จํานวน ๑ ฉบบั
ตามประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบับกฤษฎกี า เลม ๑๓๐ ตอนท่ี ๒๓ ก วันท่ี ๑๓ มีนาคม
๒๕๕๖ มาเพ่ือโปรดทราบ

(ลงช่อื ) สมศักดิ์ มีหกวงศ
(นายสมศกั ดิ์ มหี กวงศ)

นายชางรงั วดั อาวโุ ส ปฏบิ ัติราชการแทน
ผอู าํ นวยการสาํ นักมาตรฐานและสงเสรมิ การรังวัด

๒๔๖