“กฎหมายเกีย่ วกบั ส่ิงแวดลอม” หมายความวา กฎหมายเกี่ยวกับการสง เสริมและ
รักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมตามท่ีคณะกรรมการวาดวยการประสานงานเพ่ือบังคับใชกฎหมาย
เกย่ี วกบั ส่ิงแวดลอ มประกาศกาํ หนด
“องคกรเอกชน” หมายความวา องคก รเอกชนดา นการคมุ ครองส่งิ แวดลอมและ
อนุรักษธ รรมชาติตามกฎหมายวา ดวยการสง เสริมและรักษาคุณภาพสงิ่ แวดลอมแหง ชาติ หรอื
องคกรเอกชนท่ีมีวัตถุประสงคในการคุมครองสิ่งแวดลอมหรืออนุรักษธรรมชาติที่ไดจดทะเบียน
เปน องคก รเอกชนตามกฎหมายอ่ืน
“สํานกั งานคมุ ครองสทิ ธิ” หมายความวา สาํ นักงานคมุ ครองสิทธิและชว ยเหลือทาง
กฎหมายแกประชาชน สํานกั งานอยั การสูงสดุ
“หนวยงานของรัฐ” หมายความวา กระทรวง ทบวง กรม หรือสว นราชการทเี่ รยี กช่อื
อยางอ่นื และมฐี านะเปนกรม ราชการสวนภมู ิภาค องคกรปกครองสวนทองถ่ิน รัฐวสิ าหกิจท่ีตงั้ ข้นึ
โดยพระราชบัญญตั ิหรอื พระราชกฤษฎกี า องคการมหาชนท่ตี ้ังขึ้นตามกฎหมายวาดว ยองคการ
มหาชนและหนว ยงานอนื่ ของรัฐ
“ผูกอใหเกิดความเสยี หาย” หมายความวา
(๑) เจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนิดมลพิษที่กอใหเกิดหรือเปนแหลงกําเนิด
การรั่วไหลหรือแพรกระจายของมลพิษอันเปนเหตุใหผูอ่ืนไดรับอันตรายแกชีวิต รางกายหรือ
สขุ ภาพ อนามัย หรอื เปน เหตใุ หท รพั ยส ินของผูอ น่ื เสียหาย
(๒) ผทู กี่ อใหเ กดิ การรว่ั ไหล แพรกระจายของมลพษิ หรอื กอ ใหเ กิดภาวะมลพิษหรอื
โดยประการอื่นอันเปน เหตใุ หเ กดิ ความเสียหายตอชีวติ รา งกาย สุขภาพอนามยั หรือทรัพยส ิน ของ
ผอู นื่ ท้ังน้ี ไมวาความเสยี หายน้ันจะเกิดจากการกระทําโดยจงใจหรอื ประมาทเลนิ เลอของผูกอ ให
เกิดความเสยี หายหรือไมก็ตาม
(๓) ผูที่กระทําหรือละเวนการกระทําดวยประการใดโดยมิชอบดวยกฎหมาย
อันเปน การทาํ ลาย ทาํ ใหส ูญหาย หรอื เสียหาย แกท รพั ยากรธรรมชาติซ่ึงเปน ของรฐั หรอื เปน
สาธารณสมบตั ิของแผนดนิ
“ผเู สียหาย” หมายความวา ผูไดรบั ความเสยี หายไมว า โดยทางตรงหรอื ทางออ มจาก
การกระทาํ ความผิดตามกฎหมายเก่ียวกบั สิง่ แวดลอ ม และใหหมายความรวมถึงผูทีไ่ ดรับความ
เสียหายทเี่ กิดขนึ้ ตอชวี ติ รา งกาย สขุ ภาพ หรืออนามยั โดยผลของสารทสี่ ะสมอยใู นรา งกายซึ่ง
ตองใชเ วลาในการแสดงอาการ และความเสยี หายน้ันสามารถพิสูจนไ ดต ามหลกั วิชาการ
๑๔๗
หมวด ๒
คณะกรรมการวา ดวยการประสา_น_ง_า_น_เ_พ_ือ่__บ_ัง_ค_บั _ใชก ฎหมายเก่ียวกบั สง่ิ แวดลอ ม
ขอ ๕ ใหม คี ณะกรรมการคณะหนง่ึ เรยี กวา “คณะกรรมการวา ดว ยการประสานงาน
เพอื่ บังคบั ใชก ฎหมายเก่ียวกบั ส่ิงแวดลอม” เรียกโดยยอวา “กป.วล.” ประกอบดว ย
(๑) รองอัยการสูงสุดซ่งึ ไดร บั
มอบหมายจากอยั การสงู สดุ เปน ประธานกรรมการ
(๒) อธิบดอี ยั การฝายชว ยเหลอื ทางกฎหมาย เปนรองประธานกรรมการ
(๓) ผูแทนกรมการขนสง ทางนา้ํ และพาณชิ ยนาวี เปนกรรมการ
(๔) ผแู ทนกรมการปกครอง เปนกรรมการ
(๕) ผแู ทนกรมชลประทาน เปน กรรมการ
(๖) ผแู ทนกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปนกรรมการ
(๗) ผูแทนกรมอนามยั เปน กรรมการ
(๘) ผแู ทนกรมอุทยานแหง ชาติ สัตวป า และพันธพุ ิชื เปน กรรมการ
(๙) ผแู ทนกรุงเทพมหานคร เปน กรรมการ
(๑๐) ผแู ทนสํานกั งานตาํ รวจแหงชาติ เปนกรรมการ
(๑๑) ผูแทนสาํ นกั งานนโยบายและแผน
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ ม เปน กรรมการ
(๑๒) ผูท รงคณุ วฒุ ิซึ่งรฐั มนตรวี า การกระทรวง
ทรัพยาธรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ ม
แตง ตง้ั จาํ นวนสองคน เปนกรรมการ
(๑๓) ผแู ทนองคกรเอกชนซ่งึ รัฐมนตรวี า การกระทรวง
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ ม
แตงตง้ั จํานวนสองคน เปน กรรมการ
(๑๔) ผแู ทนกรมควบคุมมลพิษซึ่งไดรบั มอบหมาย
จากอธบิ ดกี รมควบคุมมลพษิ เปน กรรมการและเลขานกุ าร
(๑๕) ผแู ทนกรมควบคุมมลพิษซ่ึงไดร ับมอบหมาย
จากอธบิ ดีกรมควบคุมมลพษิ จํานวนสองคน เปนกรรมการและผชู วย
เลขานุการ
ขอ ๖ กรรมการผแู ทนสว นราชการตามขอ ๕ (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐)
และ (๑๑) จะตอ งมตี ําแหนงไมต า่ํ กวา ผอู าํ นวยการกองหรอื เทียบเทา
ขอ ๗ กรรมการผทู รงคณุ วฒุ ิตามขอ ๕ (๑๒) และกรรมการผแู ทนองคก รเอกชน
๑๔๘
ตามขอ ๕ (๑๓) จะตองมคี วามรูค วามสามารถเปน ที่ประจักษและมปี ระสบการณท่ีเกย่ี วขอ งกบั
การคุม ครอง สง เสริม และรกั ษาคณุ ภาพสิ่งแวดลอม
กรรมการผทู รงคุณวฒุ แิ ละกรรมการผแู ทนองคก รเอกชน มีวาระการดาํ รงตําแหนง
คราวละสองป กรรมการซึง่ พน จากตําแหนงอาจไดรับแตง ต้งั อกี ได แตต อ งไมเ กนิ สองวาระ
ตดิ ตอ กัน
ในกรณีที่กรรมการผูทรงคุณวุฒิหรือผูแทนองคกรเอกชนพนจากตําแหนงกอนครบ
วาระใหแตงตั้งผูอ่ืนเปนกรรมการแทนได และใหผูที่ไดรับแตงต้ังใหดํารงตําแหนงแทนอยูใน
ตําแหนง เทา กบั วาระทเี่ หลอื อยขู องผซู ่งึ ตนแทน เวน แตวาระการดาํ รงตาํ แหนง ของกรรมการ
ผทู รงคุณวุฒิ หรอื กรรมการผแู ทนองคก รเอกชน แลว แตก รณี เหลือไมถ งึ เกาสิบวันจะไมแตง ตั้ง
กรรมการแทนกไ็ ด
ขอ ๘ การประชุมของ กป.วล. ตอ งมกี รรมการมาประชุมอยา งนอยกึง่ หน่งึ ของ
จํานวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเปนองคป ระชมุ
ในการประชุมของ กป.วล. ถาประธานกรรมการไมอยใู นท่ปี ระชมุ หรือไมอ าจปฏิบตั ิ
หนา ท่ไี ด ใหรองประธานกรรมการปฏิบัติหนาท่แี ทน ในกรณีท่ไี มม รี องประธานกรรมการหรอื มแี ต
ไมอาจปฏบิ ตั หิ นาทีไ่ ด ใหกรรมการทีม่ าประชุมเลอื กกรรมการคนหนึง่ ขนึ้ ทาํ หนา ท่ปี ระธานในที่
ประชุม
การวินิจฉัยช้ีขาดใหถือเสียงขางมาก กรรมการคนหน่ึงใหมีเสียงหน่ึงในการลง
คะแนน ถา มคี ะแนนเสียงเทา กนั ใหประธานในท่ีประชุมออกเสยี งเพ่ิมข้ึนอกี เสียงหน่งึ เปน เสียง
ช้ีขาด
ขอ ๙ กป.วล. มอี าํ นาจหนาท่ี ดังตอไปน้ี
(๑) ประสานงานระหวางภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อแกไขเร่ืองรองทุกขท่ีเกี่ยวกับ
ส่งิ แวดลอม
(๒) ประสานงานกับหนวยงานของรัฐที่เก่ียวของเพ่ือเรงรัดการบังคับใชกฎหมาย
เก่ียวกบั สง่ิ แวดลอม ทงั้ ในสว นทีเ่ ก่ียวกบั การดาํ เนนิ คดแี พง คดีอาญา และคดปี กครอง
(๓) สนับสนุนสํานักงานคุมครองสิทธิ ในการตรวจสอบเรื่องรองทุกขเกี่ยวกับ
สิ่งแวดลอมและสนับสนุนองคก รเอกชนในการดําเนินงานตามขอ ๑๔
(๔) เสนอแนะใหหนวยงานของรฐั ออกกฎกระทรวง ขอ บังคับ ขอบญั ญัติทองถิ่น
ระเบยี บหรอื ประกาศ ท่ีเกีย่ วขอ งกับการสง เสริมและรักษาคณุ ภาพส่งิ แวดลอม
(๕) เรงรัดใหสวนราชการท่ีเกี่ยวของปฏิบัติตามคําพิพากษาของศาลท่ีเก่ียวของกับ
คดสี ่ิงแวดลอม
๑๔๙
(๖) พิจารณาและกําหนดมาตรการเพื่อใหมีการปฏิบัติตามกฎหมาย ขอบังคับ
ขอบัญญัตทิ องถิ่น ระเบียบหรือประกาศทเี่ ก่ยี วขอ งกับการสงเสริมและรกั ษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอม
และติดตามใหมีการปฏบิ ัตติ ามมาตรการดังกลา ว
(๗) ใหการสนับสนุนการวิเคราะหและประเมินความเสียหายในทางวิชาการเพื่อ
กาํ หนดมลู คา ความเสียหาย
(๘) แตงตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทํางานเพื่อดําเนินการตามที่ กป.วล.
มอบหมาย
(๙) เรียกใหหนวยงานของรฐั หรือขอใหองคก รเอกชน สง เอกสารหรอื ขอมลู หรอื
ขอใหเจาหนาท่ีจากหนวยงานหรือองคกรดังกลาวมาใหขอคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองรองทุกขท่ีเก่ียวกับ
ส่ิงแวดลอ ม
(๑๐) ปฏิบัติการอื่นใดเพ่ือใหเปนไปตามระเบียบน้ี หรือตามท่ีคณะรัฐมนตรีหรือ
นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ขอ ๑๐ ใหม ศี นู ยขอมลู เปนหนวยงานภายในกรมควบคมุ มลพิษ ทําหนาทีเ่ ปน
สาํ นกั งานเลขานุการของ กป.วล. และใหม ีอาํ นาจหนาที่ ดังตอไปน้ี
(๑) รับผดิ ชอบในงานธรุ การ งานวิชาการ งานการประชมุ และงานเลขานุการของ
กป.วล. คณะอนุกรรมการและคณะทาํ งาน
(๒) รวบรวมขอมูลและขอเท็จจริงเก่ียวกับการรองทุกขเก่ียวกับส่ิงแวดลอมจาก
หนวยงานของรฐั องคก รเอกชน ประชาชน หรือส่ือมวลชนแขนงตางๆ
(๓) วิเคราะหและประเมินผลการแกไขปญหาเร่ืองราวรองทุกขเก่ียวกับ
ส่ิงแวดลอม
(๔) ประสานงานกับหนว ยงานของรฐั และองคก รเอกชน เพ่อื รวบรวมและใหบริการ
ขอ มูลทุกชนิดทีเ่ กี่ยวขอ งกบั การรอ งทกุ ขเกีย่ วกบั สงิ่ แวดลอ ม
(๕) ติดตามเรงรัดการปฏิบัติการของหนวยงานของรัฐท่ีไดแจงหรือรายงานตอศูนย
ขอ มูลตามระเบียบนี้ แลว รายงาน กป.วล. เพื่อทราบหรอื พจิ ารณาตอไป
(๖) ติดตามเรงรัดการปฏิบัติการของหนวยงานของรัฐท่ีตองปฏิบัติตามคําวินิจฉัย
หรือคาํ สัง่ ที่ไดออกโดยอาศัยอาํ นาจตามระเบียบน้ี แลว รายงาน กป.วล. เพื่อทราบหรือพิจารณา
ตอไป
(๗) ปฏบิ ัตหิ นาท่อี ื่นตามทไี่ ดร บั มอบหมาย
๑๕๐
หมวด ๓
การประสานงานกับ_ห_น_ว_ย__ง_า_น_ข_อ_ง_ร_ฐั และองคก รเอกชน
สว นที่ ๑
การประสานงานเพอ่ื แก_ไ_ข_ค_ว__าม__เส__ีย_ห_า_ยทีเ่ กดิ ข้ึนแกส าธารณะ
ขอ ๑๑ ในกรณีหนวยงานของรัฐที่เกี่ยวของพบเห็นการกระทําความผิดกฎหมาย
เกี่ยวกับสิ่งแวดลอม หรือไดรับแจงจากองคกรเอกชนหรือบุคคลใดวามีการกระทําความผิด
กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดลอม เปนเหตุใหเกิดภยันตรายตอสาธารณชนอันเนื่องมาจากภาวะ
มลพิษทเี่ กิดจากการแพรกระจายของมลพษิ ใหหนว ยงานของรฐั ทเ่ี กย่ี วขอ งพจิ ารณาออกคําสั่ง
ทางปกครองเพือ่ ระงบั เหตุแหงความเสียหายตามอาํ นาจหนา ท่โี ดยทันที เชน การสัง่ ปด หรอื พัก
ใชห รือเพิกถอนใบอนญุ าต หรอื การส่ังใหห ยดุ ใช หรือทาํ ประโยชนด วยประการใดๆ เพอ่ื ระงับเหตุ
แหง ความเสยี หายน้นั และหากมคี วามจําเปนจะตองดําเนนิ คดีกบั ผูกระทาํ ความผดิ ใหหนว ยงาน
ของรฐั ทเ่ี กย่ี วขอ งดาํ เนนิ การเกบ็ รวบรวมพยานหลกั ฐานและใหแ จง ใหศ นู ยข อ มลู ทราบโดยไมช า ชา
กรณีท่อี งคกรเอกชนหรอื บุคคลใด พบวา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหน่ึงจะกอให
เกิดความเสยี หายตอสงิ่ แวดลอมเพ่ิมข้ึน ใหแ จงศนู ยขอมลู ทราบเพอื่ พจิ ารณาหามาตรการในการ
ระงบั เหตแุ หง ความเสยี หายเพ่มิ เตมิ
ในกรณีที่ศูนยข อ มูลเหน็ วา มาตรการทใ่ี ชเ พอ่ื การระงับเหตแุ หง ความเสยี หายของ
หนว ยงานของรฐั ทเ่ี กยี่ วของตามวรรคหนงึ่ ไมเ พยี งพอ ใหศนู ยขอมลู เสนอมาตรการใหหนวยงาน
ของรฐั ทเ่ี ก่ียวขอ งดาํ เนนิ การเพ่มิ เตมิ ไดต ามทีเ่ ห็นสมควร หากหนว ยงานท่ีเกย่ี วของไมดาํ เนินการ
ตามทศี่ นู ยขอมลู เสนอ ใหศูนยขอมูลรายงานใหรัฐมนตรีผูกํากบั ดูแลหนว ยงานของรฐั ทีเ่ ก่ยี วของ
และ กป.วล. ทราบโดยไมช กั ชา
ขอ ๑๒ ในกรณที ่เี กิดเหตุฉุกเฉกิ หรือภยนั ตรายตอ สาธารณชน อันเนื่องมาจากภาวะ
มลพิษท่เี กดิ จากการแพรกระจายของมลพิษในเขตกรงุ เทพมหานคร ราชการสวนภูมิภาค หรอื
ราชการสว นทอ งถน่ิ เมอ่ื นายกรฐั มนตรไี ดส ง่ั การหรอื ไดม อบอาํ นาจใหผ วู า ราชการกรงุ เทพมหานคร
หรอื ผวู าราชการจังหวัด แลวแตก รณี ปฏิบตั ิหนา ท่ีแทนนายกรัฐมนตรีในการสั่งการภายในเขต
จงั หวดั ตามมาตรา ๙ แหงพระราชบัญญัติสง เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ มแหงชาติ
พ.ศ. ๒๕๓๕ แลว ใหผวู าราชการกรงุ เทพมหานครหรอื ผูว า ราชการจงั หวัดแลวแตก รณี ตดิ ตาม
ดูแลใหบุคคลที่เกี่ยวของปฏิบัติตามคําสั่งของนายกรัฐมนตรีหรือผูท่ีไดรับมอบอํานาจจากนายก
รัฐมนตรโี ดยเครง ครดั และรายงานใหศ นู ยข อ มูลทราบโดยไมช กั ชา
ในกรณีที่เหตุฉุกเฉินหรือภยันตรายดังกลาวเกิดขึ้นในหลายจังหวัดคาบเก่ียวกัน
ให กป.วล. รายงานใหน ายกรฐั มนตรที ราบเพื่อใหพ จิ ารณาสงั่ การตามที่เหน็ สมควรตอ ไป
๑๕๑
ใหศูนยขอมูลมีหนาที่ติดตามและรายงานผลการปฏิบัติตามคําส่ังนายกรัฐมนตรี
หรอื ผทู ีไ่ ดร ับมอบอาํ นาจจากนายกรัฐมนตรีท่สี ั่งการตามวรรคหนง่ึ ให กป.วล. ทราบ
ขอ ๑๓ ในกรณีบุคคลที่เก่ียวของฝาฝนไมปฏิบัติตามคําสั่งของนายกรัฐมนตรี
หรอื ผูไดร บั มอบอํานาจจากนายกรฐั มนตรตี ามขอ ๑๒ ในเขตกรุงเทพมหานคร ใหผูวา ราชการ
กรงุ เทพมหานคร ประสานงานกบั ผูบญั ชาการตํารวจแหง ชาตหิ รือผบู ัญชาการตาํ รวจนครบาล
แลวแตก รณี ในเขตจงั หวดั อน่ื ใหผูวา ราชการจงั หวัดประสานงานกบั ผูบงั คบั การตาํ รวจภูธร
ประจาํ จังหวดั เพ่ือดาํ เนินคดกี บั บคุ คลซึ่งฝาฝน คาํ สั่งนนั้ และรายงานใหศ ูนยข อมลู ทราบโดยไม
ชักชา และใหศูนยข อ มูลรายงานผลการดาํ เนนิ คดใี ห กป.วล. ทราบทกุ ระยะ
ขอ ๑๔ เพื่อประโยชนในการคุมครองและรักษาสิ่งแวดลอม หนวยงานของรัฐที่
เก่ยี วของอาจขอความรว มมือจากผูเสยี หาย องคกรเอกชน หรอื บคุ คลใดเพ่ือ
(๑) สืบเสาะหาขอเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทําความผิดอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับ
สิง่ แวดลอ ม
(๒) คนหาขอ เทจ็ จริงและรวบรวมพยานหลกั ฐานในการดําเนนิ คดแี พงหรือคดีอื่นๆ
ขอ ๑๕ ใหโรงพยาบาลที่เปนหนวยงานของรัฐหรือสถานพยาบาลตามกฎหมาย
วาดวยสถานพยาบาล รักษาพยาบาลประชาชนท่ีไดรับอันตรายจากภาวะมลพิษท่ีเกิดขึ้นโดยเร็ว
โดยมีมาตรฐานในการบริการไมต่ํากวาทกี่ ําหนดไวใ นกฎหมายวา ดวยสถานพยาบาล
สว นที่ ๒
การ_ป_ร_ะ_น__อ_ม_ข__อ_พ_ิพ_าท
ขอ ๑๖ หากคูกรณีท่ีเก่ียวของประสงคจะตกลงระงับขอพิพาทท่ีเกิดข้ึนดวยวิธี
ประนอมขอ พิพาท ใหปฏบิ ัติตามระเบยี บสาํ นักงานอยั การสูงสุดวาดวยการประนอมขอพพิ าท
หมวด ๔
กา_ร_ป__ร_ะ_ส_า_น_ง_า_น_ค_ดี
สว นท่ี ๑
การประ_ส_า_น_ง_า_น_ใ_น__ช_้ัน_ส_อบสวน
ขอ ๑๗ เพื่อประโยชนในการเรงรัดติดตามการดําเนินคดีในช้ันสอบสวนคดีอาญาให
เปนไปโดยรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยง่ิ ขึ้น เมอื่ มีการกระทาํ ผิดกฎหมายเกีย่ วกบั สิ่งแวดลอมขึ้น
ใหดาํ เนินการดงั ตอไปนี้
๑๕๒
(๑) ในกรณีท่ีปรากฏวามกี ารกระทําความผิดกฎหมายเกี่ยวกบั ส่ิงแวดลอม และ
ไมปรากฏผรู องทุกขหรอื กลา วโทษตามกฎหมายภายในเจด็ วนั ใหกรมควบคุมมลพิษดําเนนิ การ
กลาวโทษตามกฎหมายโดยไมช าชา
(๒) เพ่อื ประโยชนใ นการดําเนินคดีอาญาตามกฎหมายเกย่ี วกบั ส่งิ แวดลอ ม หรอื
เพ่อื สนบั สนุนการปฏบิ ตั ิหนา ที่ของพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนอาจขอคําแนะนาํ หรอื
คาํ ปรกึ ษาขอรบั ทราบขอ มูลขา วสาร หรอื ขอใหจ ดั สงสิง่ อืน่ ใดท่ีอาจใชเ ปนพยานหลักฐานใน
สํานวนคดีจากหนวยงานของรฐั องคก รเอกชน ผทู รงคณุ วุฒิ หรอื บุคคลอื่นใดได
ในกรณจี ําเปน พนักงานสอบสวนจะขอคําปรึกษาจากพนกั งานอัยการ เพอ่ื ให
ความเหน็ หรือคําแนะนําตามทเ่ี หน็ สมควรได
(๓) เมือ่ พนักงานสอบสวนไดรับคํารองทกุ ขหรอื คํากลาวโทษแลว ใหหนว ยงาน
ของรฐั ที่เกยี่ วขอ งซึง่ เปนผรู อ งทุกขห รือกลาวโทษ รายงานขอ เท็จจรงิ ใหศ นู ยขอ มูลทราบเปน
ลายลักษณอ กั ษรโดยไมชักชา เวน แตข อ เท็จจริงอันเปนพยานหลกั ฐานแหง คดีในสาํ นวนทอ่ี าจ
ใชเปน พยานหลักฐานในชั้นศาล หรอื ขอ เทจ็ จรงิ ที่หากเปดเผยแลว อาจทําใหเส่ือมประสทิ ธภิ าพ
ในการบงั คับใชก ฎหมาย
ในกรณีท่ีองคกรเอกชนหรือบุคคลใดเปนผูรองทุกขหรือกลาวโทษ ใหพนักงาน
สอบสวนผรู บั ผิดชอบรายงานใหศูนยข อ มูลทราบเปนลายลกั ษณอักษรโดยไมช ักชา
(๔) ใหศูนยขอมูลติดตามผลการดําเนินคดีอาญาในช้ันสอบสวนอยางใกลชิดหาก
ปรากฏวา พนักงานสอบสวนผรู บั ผดิ ชอบไมดาํ เนินการในเวลาอนั วคร ใหศูนยขอมูลรายงานตอ
กป.วล. เพือ่ ติดตามผลตอไป
ขอ ๑๘ เพ่ือประโยชนในการดําเนินคดีในกรณีที่ไมปรากฏแนชัดวาหนวยงาน
ใดของรัฐในจงั หวัดมหี นา ที่ตองประสานงานกบั พนกั งานสอบสวน ใหผวู า ราชการจังหวัดเปน
ผวู นิ ิจฉัยชี้ขาดและคําวินิจฉยั ชี้ขาดน้นั ใหเปน ทีส่ ดุ
หากการวินิจฉัยชี้ขาดตามวรรคหน่ึงไมสามารถกระทําได เพราะเหตุที่ไมอยูใน
อาํ นาจของผวู า ราชการจงั หวดั หรอื ผวู า ราชการจงั หวดั ไมช ี้ขาดภายในระยะเวลาอนั สมควรหรือ
เพระเหตอุ นื่ ใด ใหหนวยงานของรฐั ที่เกี่ยวของแจงใหศ ูนยข อ มลู ทราบ เพ่ือให กป.วส. วินิจฉยั
ชี้ขาดโดยไมชักชา และคาํ วินจิ ฉยั ชีข้ าดนั้นใหเ ปนทส่ี ดุ
สวนที่ ๒
การประสานงา_น_ค__ด_อี _า_ญ__า_ช_นั้ _พ_นักงานอยั การ
ขอ ๑๙ ในการดําเนินคดีอาญาตามกฎหมายเก่ียวกับสิ่งแวดลอม เม่ือพนักงาน
อัยการไดรับความเห็นและสํานวนจากพนักงานสอบสวนแลว หากพนักงานอัยการมีคําส่ังให
๑๕๓
พนกั งานสอบสวนดําเนนิ การสอบสวนเพิม่ เติม หรอื สงพยานคนใดมาใหซกั ถามตามมาตรา ๑๔๓
แหง ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา ใหพ นกั งานสอบสวนดําเนนิ การโดยไมช ักชา ทั้งน้ี
ใหพนกั งานสอบสวนประสานงานกบั พนกั งานอัยการอยางใกลช ดิ
ขอ ๒๐ ในกรณีที่พนักงานอัยการเห็นควรสั่งฟองผูตองหาที่ยังเรียกหรือจับตัวไมได
ตามมาตรา ๑๔๑ วรรคสี่ แหง ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา และไดแ จง ให
ผบู ญั ชาการตาํ รวจแหง ชาติ หรอื ผวู า ราชการจงั หวดั เพอ่ื จดั การใหไ ดต วั ผตู อ งหามาภายในกาํ หนด
อายคุ วามแลว ใหพนักงานสอบสวนเรงรดั ดําเนินการใหไ ดตัวผูต อ งหามาดาํ เนนิ คดตี อไปโดยเร็ว
ขอ ๒๑ ในกรณีท่ีพนักงานอัยการผูพิจารณาสํานวนมีคําส่ังใหพนักงานสอบสวน
ดําเนินการสอบสวนผูตองหาในขอหาอื่นท่ีเกี่ยวของโดยตรงกับความผิดอาญาตามกฎหมาย
เกยี่ วกับสิ่งแวดลอ มเพ่ิมเตมิ หรือแนะนาํ ใหพ นักงานสอบสวนดําเนินคดีกับบุคคลอ่นื ทีเ่ ก่ยี วของ
ในคดีดังกลาวเพิ่มเติม ใหพนักงานสอบสวนเรงรัดดําเนินคดีตามคําสั่งของพนักงานอัยการ
โดยเรว็
ขอ ๒๒ ใหพนักงานอยั การประสานงาน ใหความรู ใหคําปรึกษา แนะนาํ ช้ีแจง
ขอบกพรอง วธิ ปี อ งกันแกไข ตลอดจนใหบรกิ ารดานกฎหมายเกีย่ วกับการดาํ เนนิ คดเี กีย่ วกบั
สง่ิ แวดลอมแกพนักงานสอบสวน หนวยงานของรัฐ เจาพนกั งานทองถิ่น องคก รเอกชน และ
ประชาชนในจังหวดั
ขอ ๒๓ กรณีมีการเดินเผชิญสืบในการดําเนินคดีอาญาตามกฎหมายเก่ียวกับ
ส่ิงแวดลอม ใหพ นักงานสอบสวนประสานกับผูเสียหายหรือหนวยงานทีเ่ ก่ยี วของในการอาํ นวย
ความสะดวกแกพนักงานอัยการ และศาลในการเดินเผชญิ สืบ
ขอ ๒๔ ในกรณีทผ่ี ูเสยี หาย ผูแทนโดยชอบธรรม ผบู พุ การี ผสู บื สนั ดาน สามหี รอื
ภริยาของผูเสียหาย หนวยงานของรัฐ เจา พนักงานทองถน่ิ องคก รเอกชน หรอื บุคคลทีเ่ กี่ยวของ
ขอทราบผลการดําเนินคดีในศาลอันถึงท่ีสุดหรือคําส่ังเด็ดขาดไมฟองคดีพรอมดวยเหตุผลของ
คาํ ส่งั ดงั กลา วจากพนักงานอัยการ ใหพ นักงานอัยการดาํ เนนิ การใหตามระเบียบของสํานกั งาน
อยั การสงู สุดโดยมิชกั ชา
ในกรณีท่ีการดําเนินคดีในศาลยังไมถึงที่สุดหรืออยูระหวางการพิจารณาส่ังคดีของ
พนักงานอยั การ ใหพนกั งานอัยการเปดเผยรายละเอียดหรือขอ มูลเทา ที่เหน็ วา ไมเ ปนการเสียหาย
แกการดาํ เนนิ คดีในอํานาจหนา ทขี่ องพนกั งานอัยการ
ขอ ๒๕ ในการดําเนินคดีอาญาตามกฎหมายเกย่ี วกับสง่ิ แวดลอม เมอ่ื คดีถึงทส่ี ุด
ใหพนักงานอัยการแจงผลคดีแกศูนยขอมูลโดยเร็ว และใหศูนยขอมูลแจงหนวยงานของรัฐที่
เกยี่ วขอ งและผมู สี ว นเกี่ยวของในคดีทราบตอไป
๑๕๔
สวนท่ี ๓
การประสานงาน_ค_ด_แี _พ__ง _ร_ะ_ห_ว_า _ง_หนวยงานของรฐั
ขอ ๒๖ เพื่อประโยชนในการดําเนินคดีแพงตามกฎหมายเก่ียวกับสิ่งแวดลอมให
หนวยงานของรฐั ซง่ึ มอี ํานาจหนา ท่คี มุ ครอง สง เสริม อนรุ ักษแ ละรกั ษาส่งิ แวดลอ มตามกฎหมาย
ทีไ่ ดรับความเสยี หาย รวบรวมขอมูลทเ่ี กย่ี วขอ งกบั ผกู อใหเกิดความเสยี หาย ขอ เทจ็ จรงิ และพยาน
หลักฐานทเ่ี กีย่ วกับคา เสียหาย จํานวนผูเ สียหายและพยานหลกั ฐานอืน่ ภายในสามสิบวันนับแต
วนั ท่ีทราบถงึ ความเสียหาย
ถาหนวยงานของรัฐที่ไดรับความเสียหายไมสามารถดําเนินการใหแลวเสร็จภายใน
เวลาทก่ี ําหนดตามวรรคหน่ึง ใหย นื่ เร่ืองตอ กป.วล. ผา นศูนยข อ มูลเพอ่ื ขอขยายเวลา ทง้ั น้ี กป.วล.
จะขยายเวลาใหค ร้งั ละไมเ กนิ สามสิบวัน
ขอ ๒๗ การรวบรวมขอ เทจ็ จรงิ และพยานหลกั ฐานดงั กลา วตามขอ ๒๖ ใหห นว ยงาน
ของรัฐที่ไดรับความเสียหายเชิญผูทรงคุณวุฒิหรือผูแทนหนวยงานของรัฐที่เกี่ยวของรวมพิสูจน
คนหาขอ เท็จจรงิ และรวบรวมพยานหลกั ฐานเก่ยี วกับคา เสยี หาย จํานวนผเู สยี หาย มูลคา ความ
เสียหายทเี่ กิดข้ึน และพยานหลักฐานอ่นื ๆ ท่ีเก่ียวของ รวมทงั้ ประสานงานกบั สาํ นกั งานอยั การ
สงู สุดในการวางรปู คดี
ขอ ๒๘ การพิสูจนค วามเสยี หายตามขอ ๒๗ ตองดําเนนิ การโดยมชิ กั ชา ในกรณี
ท่ีความเสียหายหรือผลกระทบใดไมสามารถพิสูจนทราบไดโดยแนชัด ใหดําเนินการพิสูจน
ความเสียหาย โดยอางองิ การพิสูจนท างวชิ าการ หรอื รับฟงความคิดเห็นจากผทู รงคณุ วฒุ ดิ า น
สิง่ แวดลอ ม
ขอ ๒๙ ในการรวบรวมขอ เทจ็ จรงิ ตามขอ ๒๖ หากมกี รณจี าํ เปน ใหเชิญผกู อใหเกิด
ความเสียหายหรอื ประชาชนผูไดรับความเสยี หายเขา ช้แี จงหรอื ใหข อมลู ดวย
ขอ ๓๐ ใหห นว ยงานของรัฐตามขอ ๒๖ แจง ผลใหศูนยขอ มลู ทราบภายในสบิ วัน
นับแตวันทรี่ วบรวมขอเท็จจรงิ คา เสียหายและพยานหลกั ฐานแลวเสรจ็ และใหศ นู ยขอมูลตดิ ตาม
ผลการดําเนนิ คดอี ันเก่ยี วกบั เร่อื งดงั กลาวเพอ่ื รายงานตอ กป.วล. ทุกระยะดว ย
ขอ ๓๑ กรณที กี่ ารพิสูจนคาเสียหายมคี า ใชจ า ย ใหเบิกจายจากงบประมาณของ
หนวยงานของรฐั ตามขอ ๒๖ หากเงนิ งบประมาณของหนวยงานของรฐั ดังกลา วไมเพยี งพอ ใหใ ช
เงนิ จากกองทนุ สง่ิ แวดลอ มตามกฎหมายวา ดว ยการสง เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ มแหง ชาติ
หรือเงินบริจาคจากองคกรการกุศล
ขอ ๓๒ ในกรณที ม่ี หี นว ยงานของรฐั ไดร บั ความเสยี หายหลายหนว ยงานในเขตทอ งท่ี
เดยี วกนั หรือในหลายทองที่ ใหทุกหนว ยงานของรัฐท่ไี ดรับความเสยี หายสงเร่อื งไปยังสํานักงาน
อยั การสูงสดุ เพอ่ื พิจารณาตามระเบียบของสาํ นกั งานอัยการสูงสุดโดยไมช กั ชา
๑๕๕
ในกรณที ไ่ี มม ีหนวยงานของรัฐหนวยงานใดรับเปนตัวความ ใหศูนยขอมลู นาํ เร่ือง
เสนอ กป.วล. เพอื่ พิจารณาตามอํานาจหนา ที่โดยไมชักชา
ขอ ๓๓ เม่ือหาตัวผูรับผิดทางแพงและจํานวนมูลคาความเสียหายหรือคาสินไหม
ทดแทนไดแลว ใหหนว ยงานของรัฐทไ่ี ดรับความเสียหายรบี สง เรอื่ งไปยงั พนกั งานอยั การเพื่อ
พจิ ารณาโดยไมชกั ชา
สว นที่ ๔
การดาํ เ_น_ิน_ค_ด__แี _ล_ะ_ก_า_ร_บ_งั คับคดี
ขอ ๓๔ ในกรณีท่ีหนวยงานของรัฐท่ีไดรับความเสียหายฟองคดีแพงเพ่ือเรียก
คา เสยี หาย นอกจากจะเรยี กรอ งคา สินไหมทดแทนเพ่ือการละเมิดตามทกี่ ําหนดไวในประมวล
กฎหมายแพง และพาณชิ ยห รอื คา เสยี หายอนั จะเรยี กรอ งไดต ามกฎหมายเฉพาะแลว ใหห นว ยงาน
ของรฐั ดังกลา วดาํ เนนิ การพสิ ูจนถึงคา เสียหายดงั ตอ ไปนป้ี ระกอบดวย คอื
(๑) คา เสียหายที่รัฐพึงไดร บั จากส่ิงแวดลอมทีเ่ สยี หาย
(๒) คาเสียหายที่เกิดจากการใชงบประมาณของรัฐหรือจากแหลงเงินทุนอื่นเพ่ือใช
ในการบาํ บัดฟนฟูและบูรณะความเสยี หายของส่ิงแวดลอ มใหคืนกลับสูสภาพเดมิ
(๓) คาเสียโอกาสในการนํางบประมาณหรือเงินทุนท่ีใชตาม (๒) ไปลงทุนใน
โครงการอ่นื ของรฐั เพอ่ื สังคมโดยรวม
(๔) คาเสยี หายทรี่ ฐั ตอ งมีภาระเพมิ่ ขน้ึ ในการดูแลสขุ ภาพ รางกายและอนามัยของ
ประชาชนอนั อาจเกดิ ข้ึนในอนาคต
(๕) คาเสียหายตอเน่ืองอื่นๆ อนั พงึ จะเกิดในอนาคต
ขอ ๓๕ ในการดําเนินคดี หากหนวยงานของรัฐท่เี ปน ตวั ความพจิ ารณาเหน็ วา มเี หตุ
จําเปนเพื่อบรรเทาความเดือดรอนเสียหายหรือเพื่อคุมครองประโยชนหรือสิทธิของผูไดรับความ
เสยี หาย หรือมีเหตจุ าํ เปนอ่ืน ใหหนวยงานของรัฐดงั กลาวรีบแจงพนกั งานอยั การเพือ่ พจิ ารณาใช
วิธีการคุมครองประโยชนในระหวางการพิจารณาหรือเพ่ือบังคับตามคําพิพากษาหรือคําสั่งตาม
ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความแพง
ขอ ๓๖ เมือ่ คดีถึงทสี่ ุดแลว ใหห นวยงานของรฐั ผูเปนตวั ความรายงานผลคดไี ปยงั
ศูนยขอมูลโดยเร็วและเรงรัดติดตามบังคับคดีแกลูกหนี้ตามคําพิพากษาใหถึงที่สุด และให
รายงานผลการบังคับคดีไปยังคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพงที่ไดรับแตงต้ังจาก
กระทรวงการคลงั และรายงานสาํ นักงานอยั การสงู สุดทราบเปน ระยะ
ในกรณีที่หนวยงานของรัฐผูเปนตัวความดําเนินการติดตามบังคับคดีแกลูกหน้ีตาม
คําพพิ ากษาลา ชา เกนิ สมควร ใหศ ูนยขอ มูลรายงาน กป.วล. เพื่อพจิ ารณาตอ ไป
๑๕๖
ขอ ๓๗ เพื่อประโยชนในการบังคับคดีตามคําพิพากษาของศาล สําหรับในเขต
กรงุ เทพมหานคร ใหห นว ยงานของรฐั ซึ่งเปน ตัวความขอความรวมมอื จากผูอํานวยการเขตหรอื
หัวหนา สาํ นักงานเขตสาขา ในเขตจังหวัดอนื่ นอกจากกรงุ เทพมหานคร ใหขอความรว มมือจาก
นายอาํ เภอหรอื ปลดั อาํ เภอผเู ปน หัวหนาประจาํ ก่ิงอาํ เภอ เพอื่ สืบเสาะหาทรพั ยสินของผูกอ ใหเ กดิ
ความเสยี หาย แลว แจง พนักงานอยั การเพือ่ ดาํ เนินการบังคบั คดตี ามคาํ พพิ ากษาตามระเบยี บของ
สาํ นกั งายอยั การสงู สดุ ตอ ไป
ขอ ๓๘ ใหหนวยงานของรัฐที่เกี่ยวของวางระเบียบหรือออกคําส่ังของหนวยงานหรือ
ดําเนินการอ่ืนใดเพอื่ ปฏิบัติการตามระเบียบน้ี
ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ กุมภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๕๐
พลเอก สรุ ยทุ ธ จุลานนท
นายกรฐั มนตรี
๑๕๗
(สาํ เนา)
คําสง่ั กรมควบคมุ มลพษิ
ท่ี ๑๘๗ / ๒๕๕๕
เรอ่ื ง จัดตั้งศูนยข อมลู ประสา_น_ง_า_น_เ_พ_่ือ__บ_งั _ค_ับ__ใช_ก ฎหมายเกยี่ วกบั ส่ิงแวดลอ ม
ตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการประสานงานเพื่อบังคับใชกฎหมาย
เก่ยี วกับสง่ิ แวดลอ ม พ.ศ.๒๕๕๐ กําหนดใหม ศี นู ยข อมลู เปน หนวยงานภายในกรมควบคุมมลพษิ
ทําหนาท่ีเปนสํานักงานเลขานุการของ คณะกรรมการวาดวยการประสานงานเพ่ือบังคับใช
กฎหมายเกี่ยวกบั สง่ิ แวดลอม เรียกโดยยอ วา กป.วล. นน้ั
เพือ่ ใหเ ปนไปตามระเบยี บดงั กลา ว อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๓๒ แหง
พระราชบญั ญัตริ ะเบียบบรหิ ารราชการแผน ดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ อธิบดีกรมควบคมุ มลพษิ จึงมี
คําส่ังไว ดงั ตอไปนี้
๑. ใหจัดต้ังศูนยขอมูลประสานงานเพื่อบังคับใชกฎหมายเก่ียวกับส่ิงแวดลอม
เปน หนวยงานภายใน ขน้ึ ตรงตออธิบดกี รมควบคมุ มลพิษ หรือรองอธิบดกี รมควบคมุ มลพษิ ท่ีได
รบั มอบหมาย ทําหนาท่ีเปนศูนยขอมลู และเปนหนวยงานประสานการดําเนินการใหเ ปนไปตาม
ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการประสานงานเพ่ือบังคับใชกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดลอม
พ.ศ.๒๕๕๐ โดยมอี าํ นาจหนา ทดี่ ังตอไปน้ี
(๑) รบั ผิดชอบในงานธรุ การ งานวชิ าการ งานการประชุม และงานเลขานุการ
ของ กป.วล. คณะอนุกรรมการและคณะทาํ งาน
(๒) รวบรวมขอมูลและขอเท็จจริงเก่ียวกับการรองทุกขเก่ียวกับส่ิงแวดลอมจาก
หนว ยงานของรัฐ องคก รเอกชน ประชาชน หรือสอ่ื มวลชนแขนงตา งๆ
(๓) วิเคราะหและประเมินผลการแกไขปญหาเร่ืองราวรองทุกขเกี่ยวกับ
สิง่ แวดลอม
(๔) ประสานงานกับหนวยงานของรัฐและองคกรเอกชน เพ่ือรวบรวมและให
บริการขอ มูลทุกชนดิ ท่เี กย่ี วของกบั การรอ งทกุ ขเกย่ี วกับส่งิ แวดลอ ม
(๕) ติดตามเรงรัดการปฏิบัติการของหนวยงานของรัฐท่ีไดแจงหรือรายงานตอ
ศูนยขอ มลู ตามระเบียบนี้ แลว รายงาน กป.วล. เพอ่ื ทราบหรอื พิจารณาตอ ไป
(๖) ติดตามเรงรัดการปฏิบัติการของหนวยงานของรัฐที่ตองปฏิบัติตาม
คําวินิจฉยั หรอื คําส่งั ที่ไดอ อกโดยอาศัยอาํ นาจตามระเบยี บน้ี แลวรายงาน กป.วล. เพื่อทราบหรือ
พจิ ารณาตอ ไป
(๗) ปฏิบตั หิ นา ทอ่ี ืน่ ตามทีไ่ ดรับมอบหมาย
๑๕๘
๒. ใหมีผูอํานวยการศูนยขอมูลประสานงานเพ่ือบังคับใชกฎหมายเก่ียวกับ
สงิ่ แวดลอ ม เปน ผบู งั คับบญั ชาขา ราชการ พนกั งานราชการ และลูกจา งทีป่ ฏบิ ัตงิ านในศนู ย
ในฐานะผูอํานวยการสํานัก และรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั ิราชการของศูนย
๓. ใหมีหนวยงานภายในศูนยขอมูลประสานงานเพ่ือบังคับใชกฎหมายเกี่ยวกับ
สิ่งแวดลอม ดังตอ ไปน้ี
(๑) สว นบริหารงานท่ัวไป
(๒) สวนประสานงานดานคดแี ละขอกฎหมาย
(๓) สว นประสานบังคบั ใชก ฎหมายสงิ่ แวดลอม
(๔) สวนงานเลขานุการ กป.วล.
๔. ใหหนว ยงานภายในศนู ยมอี ํานาจหนาที่ ดงั ตอ ไปนี้
(๑) สว นบริหารงานท่วั ไป มอี ํานาจหนา ที่ ดงั นี้
ดําเนินการเกย่ี วกับงานธรุ การ งานสารบรรณ งานงบประมาณ งานพัสดุ
งานบุคคล และงานบรหิ ารทวั่ ไปของศนู ยประสานงานเพือ่ บังคับใชกฎหมายเก่ยี วกับสงิ่ แวดลอ ม
และปฏิบตั หิ นาท่อี ืน่ ตามท่ีไดร ับมอบหมาย
(๒) สว นประสานงานดานคดีและขอกฎหมาย มีอาํ นาจหนาท่ี ดังนี้
๑) กลาวโทษตามกฎหมายเมื่อพบวามีการกระทําผิดกฎหมายเก่ียวกับ
สิ่งแวดลอ ม ภายในเจด็ วนั หากไมปรากฏผรู อ งทกุ ข
๒) ติดตามผลการดาํ เนนิ คดอี าญา รายงาน กป.วล. และประสานแจง ผูวา
ราชการจงั หวัดในพื้นทเ่ี ขตนน้ั ๆ
๓) พิจารณาการขอขยายเวลาในการเรียกรองคาเสียหายภายในสามสิบวัน
คร้งั ละไมเกินสามสบิ วัน
๔) พิสูจนความเสียหาย ตรวจสอบขอมูลความเสียหายจากหนวยงาน
ที่เก่ยี วขอ ง
๕) ติดตาม เรงรดั การปฏิบตั ิตามคาํ พิพากษาของศาล การบังคบั คดี
เกีย่ วขอ งกบั กฎหมายเก่ียวกับสิง่ แวดลอม
๖) ประสานงาน ติดตาม เรง รดั การปฏิบตั ิการของหนวยงานของรฐั ที่
ตองปฏิบตั ติ ามคาํ วนิ จิ ฉยั หรือคําสง่ั ทไี่ ดอ อกโดยอาศัยอํานาจตามระเบียบสํานกั นายกรัฐมนตรี
วา ดวยการประสานงานเพอื่ บงั คับใชก ฎหมายเกี่ยวกบั สิ่งแวดลอ มท่เี ก่ยี วของกบั เรอ่ื งการเรยี กรอ ง
คา เสียหาย คดีความและการบงั คับคดี กบั หนว ยงานของรฐั และองคกรเอกชน
๗) ปฏบิ ัติหนา ท่ีอ่ืนตามท่ไี ดร ับมอบหมาย
(๓) สวนประสานบงั คับใชกฎหมายส่ิงแวดลอ ม
๑๕๙
๑) เสนอความเห็นเพ่ือเสนอตอ กป.วล. ใหหนวยงานของรัฐออก
กฎกระทรวงขอ บังคบั ขอบัญญัติทองถิน่ ระเบียบ หรือประกาศท่เี กย่ี วขอ งกับการสง เสรมิ และ
รกั ษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอม
๒) เสนอแนะมาตรการเพ่ือใหมีการปฏิบัติตามกฎหมาย ขอบังคับ
ขอ บัญญตั ทิ อ งถนิ่ ระเบียบ หรอื ประกาศที่เกย่ี วขอ งกบั การสงเสริมและรกั ษาคณุ ภาพส่งิ แวดลอม
และตดิ ตามการดําเนนิ การตามมาตรการ รายงานตอ กป.วล.
๓) วิเคราะหและประเมินผลการแกไขปญหาเรื่องราวรองทุกขเก่ียวกับ
สิ่งแวดลอม
๔) รับแจงเหตุ รวบรวมขอ มูลและขอ เทจ็ จริงเกี่ยวกับการรอ งทกุ ข หรือ
การพบเหน็ การกระทาํ ความผดิ กฎหมายเก่ียวกับสิง่ แวดลอ มจากหนว ยงานของรัฐ องคก รเอกชน
ประชาชน หรือส่ือมวลชนแขนงตางๆ
๕) ประสานงานกรณีเกดิ เหตฉุ ุกเฉิน และดาํ เนนิ การตามทร่ี ะเบียบสํานัก
นายกรัฐมนตรวี าดวยการประสานเพ่อื บังคับใชกฎหมายเกยี่ วกบั ส่งิ แวดลอ มกําหนด
๖) ประสานงาน ตดิ ตาม เรงรดั การปฏิบัตกิ ารของหนว ยงานของรฐั ท่ตี อ ง
ปฏิบัติตามคําวินิจฉัย หรือคําส่ังที่ไดออกโดยอาศัยอํานาจตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี
วาดวยการการประสานงานเพ่ือบังคับใชกฎหมายเก่ียวกับส่ิงแวดลอมที่เกี่ยวของกับเรื่องรองทุกข
รองเรียน กบั หนวยงานของรฐั และองคก รเอกชน และใหบ ริการขอมลู ทุกชนิดท่เี ก่ยี วของกบั การ
รอ งทุกขเกีย่ วกบั สงิ่ แวดลอม
๗) สนับสนุนในการตรวจสอบเร่ืองรองทุกขเก่ียวกับส่ิงแวดลอม
การวิเคราะหและประเมินความเสียหายในทางวชิ าการเพื่อกําหนดมลู คา ความเสยี หาย
๘) ปฏิบตั หิ นา ท่ีอน่ื ตามท่ไี ดรับมอบหมาย
(๔) สว นงานเลขานกุ าร กป.วล.
๑) ประสานงานการจัดประชุมคณะกรรมการวาดวยการประสานงาน
เพ่ือบังคบั ใชก ฎหมายเก่ียวกับส่งิ แวดลอ ม คณะอนุกรรมการฯ และคณะทํางานฯ ตามท่ี
คณะกรรมการฯ แตงตั้ง
๒) รวบรวม ประมวลผล กล่ันกรอง ตดิ ตาม จดั ทําแผนการดําเนนิ การ
ประจาํ ป และเสนอเร่ืองตอ กป.วล.
๓) ประสานงาน เผยแพร ประชาสมั พนั ธระเบยี บสาํ นกั นายกรัฐมนตรี
วา ดวยการประสานงานเพอ่ื บงั คับใชกฎหมายเก่ียวกับส่ิงแวดลอม และขอปฏบิ ตั ิตามคาํ วนิ จิ ฉยั
หรือคําสั่งที่ไดออกโดยอาศัยอํานาจตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการประสานงานเพื่อ
บังคบั ใชก ฎหมายเกีย่ วกบั ส่ิงแวดลอ ม ใหผูทเ่ี กย่ี วขอ งทราบ
๔) ปฏิบัติหนาทอ่ี นื่ ตามทไ่ี ดรับมอบหมาย
๑๖๐
โดยใหหนวยงานดังกลา วใชอกั ษรยอ วา ศปวล. และใชร หัสประจาํ หนวยงานคอื
ทส. ๐๓๑๐
ทงั้ น้ี ตั้งแตบ ัดน้ี เปนตน ไป
สัง่ ณ วันท่ี ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชือ่ ) วเิ ชียร จงุ รงุ เรือง
(นายวเิ ชยี ร จงุ รงุ เรอื ง)
อธิบดกี รมควบคุมมลพิษ
๑๖๑
(สําเนา)
รา งประกาศคณะกรรมการวา ดว ยการประสานงานเพอ่ื บงั คบั ใชก ฎหมายเกย่ี วกบั สง่ิ แวดลอ ม
เร่อื ง กําหนดกฎหมายเก่ยี ว_ก_บั__ก_า_ร_ส_ง _เส__ร_มิ _แ_ล_ะรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอม
ดวยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการประสานงานเพ่ือบังคับใชกฎหมาย
เกยี่ วกบั สงิ่ แวดลอม พ.ศ. ๒๕๕๐ ขอ ๔ วรรค ๔ กําหนดใหก ฎหมายเกยี่ วกับสิง่ แวดลอม
หมายความวา กฎหมายเก่ยี วกบั การสง เสริมและรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอมตามท่คี ณะกรรมการ
วาดว ยการประสานงานเพ่ือบงั คับใชกฎหมายเกีย่ วกับสิง่ แวดลอ มประกาศกาํ หนด
อาศัยอาํ นาจตามความในขอ ๔ วรรค ๔ และขอ ๙ (๑๐) แหง ระเบียบสํานัก
นายกรัฐมนตรีวาดวยการประสานงานเพื่อบังคับใชกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดลอม พ.ศ. ๒๕๕๐
คณะกรรมการวาดวยการประสานงานเพื่อบังคับใชกฎหมายเก่ียวกับสิ่งแวดลอม กําหนด
กฎหมายเกี่ยวกบั การสงเสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ ม ดังน้ี
(๑) พระราชบญั ญัติสง เสรมิ และรกั ษาคุณภาพส่งิ แวดลอ มแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
(๒) พระราชบญั ญตั โิ รงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
(๓) พระราชบญั ญัติวัตถอุ นั ตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
(๔) พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแหง ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒
(๕) พระราชบญั ญตั ิการสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๓๕
(๖) พระราชบัญญัตกิ ารจดั สรรทีด่ นิ พ.ศ. ๒๕๔๓
ประกาศนี้มีผลบังคบั ใชต ้งั แต............................................
ประกาศ ณ วันท่ี กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
๑๖๒
ดว นทสี่ ุด (สําเนา)
ท่ี มท ๐๕๐๕.๔ / ว ๒๙๘๑๔ กรมทีด่ ิน
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖
เรอ่ื ง รา งพระราชบญั ญัตแิ กไขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. .... (กําหนด
หลักเกณฑการจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรมเกย่ี วกับอสงั หาริมทรพั ยในเรอื่ งไถถ อนและ
มรดกฯ)
เรยี น ผูว าราชการจังหวัดทกุ จังหวดั
ส่ิงที่สงมาดว ย ๑. รางพระราชบญั ญตั ิแกไ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. ....
๒. สรปุ สาระสําคัญ
ดวยสภาผูแทนราษฎรไดพิจารณาเห็นชอบรางพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติม
ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... (กําหนดหลักเกณฑก ารจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรม
เก่ียวกับอสังหาริมทรัพยในเร่ืองไถถอนและมรดกฯ) ตามท่ีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา
รางพระราชบญั ญตั แิ กไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. .... วฒุ สิ ภา ไดปรบั ปรงุ
แกไขเพมิ่ เติมรางพระราชบัญญัตแิ กไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แลว
ขณะนอ้ี ยรู ะหวา งการดําเนนิ การเพ่ือประกาศใชบงั คบั เปน กฎหมาย
กรมท่ีดินพิจารณาแลวเห็นวารางพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวล
กฎหมายทดี่ ิน (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... (กําหนดหลกั เกณฑก ารจดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมเกี่ยวกับ
อสงั หาริมทรพั ยใ นเรือ่ งไถถอนและมรดกฯ) เกีย่ วขอ งโดยตรงกบั การปฏบิ ัตหิ นาท่ขี องพนกั งาน
เจาหนาท่ีของกรมท่ีดินเก่ียวกับการขอใชประโยชนหรือการขอข้ึนทะเบียนท่ีสาธารณสมบัติของ
แผนดินหรอื ทรพั ยสินของแผนดินของทบวงการเมอื ง การจดทะเบยี นไถถ อนจากจํานอง ไถถอน
จากการขายฝาก การจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยซึ่งไดมาโดยทางมรดก และ
การจดทะเบียนลงช่ือผูจัดการมรดกในหนงั สือแสดงสิทธใิ นท่ดี ิน หรืออสงั หาริมทรพั ยอน่ื นอกจาก
ทีด่ ิน ประกอบกับรา งพระราชบัญญัตแิ กไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. ....
จะมผี ลใชบังคับเมือ่ พน กําหนดเกาสบิ วันนับแตว ันประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ดังนน้ั จึงขอสง
รา งพระราชบัญญตั ิแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กําหนดหลกั เกณฑ
๑๖๓
การจดทะเบยี นสิทธิและนิตกิ รรมเกี่ยวกบั อสงั หาริมทรพั ยในเร่ืองไถถ อนและมรดกฯ) พรอ มสรุป
สาระสําคัญมาเพ่ือใหพนักงานเจาหนาท่ีศึกษาทําความเขาใจและเตรียมความพรอมสําหรับ
การดาํ เนนิ การทเ่ี กี่ยวขอ งไวเปนการลว งหนา หากรา งพระราชบัญญัตฉิ บบั น้ปี ระกาศในราชกจิ จา
นเุ บกษา มผี ลใชบ ังคับเม่ือใดจะแจง ใหท ราบอีกครัง้ หน่ึง
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและดาํ เนนิ การตอ ไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่อื ) พินจิ หาญพาณิชย
(นายพนิ ิจ หาญพาณิชย)
อธิบดกี รมท่ีดนิ
สาํ นกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๘๗
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๒
๑๖๔
สรปุ สาระสําคัญ
รา งพระราชบญั ญัติแกไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. ....
(กาํ หนดหลักเกณฑการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมเก่ียวกบั อสงั หารมิ ทรัพยใ นเร่อื งไถถ อน
___แ__ล_ะ_ม_ร_ด_ก_ฯ_)___
หลกั การ
แกไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ ดงั ตอไปน้ี
(๑) แกไ ขเพมิ่ เติมบทนิยามคาํ วา “ทบวงการเมือง” (แกไ ขเพ่ิมเติมมาตรา ๑)
(๒) แกไขเพ่ิมเติมหลักเกณฑการจดทะเบียนไถถอนจากจํานอง ไถถอนจากการ
ขายฝาก การจดทะเบยี นสิทธเิ ก่ียวกับอสังหารมิ ทรพั ยซ งึ่ ไดมาโดยทางมรดก และการจดทะเบยี น
ลงชอ่ื ผจู ดั การมรดกในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ โดยใหร วมถงึ อสงั หารมิ ทรพั ยอ น่ื นอกจากทด่ี นิ ดว ย
(แกไขเพม่ิ เติมมาตรา ๘๐ มาตรา ๘๑ วรรคหน่ึงและวรรคสอง และมาตรา ๘๒)
เหตุผล
โดยที่ในปจจุบันไดมีการจัดตั้งหนวยงานของรัฐซึ่งมิใชราชการสวนกลาง ราชการ
สว นภมู ภิ าค หรอื ราชการสว นทอ งถน่ิ เพอ่ื รองรบั การจดั ทาํ บรกิ ารสาธารณะ แตเ นอ่ื งจากบทนยิ าม
คาํ วา ทบวงการเมอื งตามประมวลกฎหมายท่ีดนิ ท่ีกาํ หนดไวน ัน้ ยังมไิ ดค รอบคลุมถงึ หนวยงาน
ของรฐั ดงั กลา วดว ย มผี ลทาํ ใหห นว ยงานของรฐั ดงั กลา วไมส ามารถขอใชป ระโยชนต ามบทบญั ญตั ิ
แหงประมวลกฎหมายท่ีดินได ประกอบกับหลักเกณฑในการจดทะเบียนไถถอนจากจํานอง
ไถถอนจากการขายฝาก การจดทะเบยี นสิทธเิ ก่ยี วกบั อสังหาริมทรัพยซ ึง่ ไดมาโดยทางมรดก และ
การจดทะเบยี นลงชอื่ ผจู ดั การมรดกในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน มไิ ดร วมถึงอสังหาริมทรพั ยอืน่
นอกจากทด่ี ินดว ย สมควรปรับปรงุ บทบัญญัตดิ งั กลาวเพื่อใหสอดคลองกบั สภาวการณป จจุบัน
และเกดิ ความชัดเจนยิ่งขึน้ จึงจาํ เปน ตองตราพระราชบญั ญตั ิน้ี
สาระสาํ คัญ
๑. กําหนดใหพระราชบัญญัติน้ีใชบังคับเม่ือพนกําหนดเกาสิบวันนับแตวันประกาศ
ในราชกิจจานเุ บกษาเปนตน ไป (รางมาตรา ๒)
๒. กาํ หนดนยิ ามคําวา “ทบวงการเมอื ง” ใหมโ ดยใหหมายความวา
(๑) ราชการสวนกลาง ราชการสว นภมู ภิ าค หรอื ราชการสว นทองถิ่น
(๒) หนวยงานอน่ื ของรฐั ท่ไี มใ ชร ฐั วสิ าหกิจ (รา งมาตรา ๓)
๓. กําหนดหลักเกณฑการจดทะเบยี นไถถ อนจากจํานอง ไถถอนจากการขายฝาก
ซงึ่ ท่ีดนิ ทีม่ หี นังสอื แสดงสทิ ธิในทดี่ ินหรืออสงั หาริมทรพั ยอน่ื เม่อื ผูร บั จํานองหรือผรู บั ซือ้ ฝากไดทาํ
หลักฐานเปน หนงั สือวาไดมีการไถถอนแลว ใหผ มู สี ิทธไิ ถถ อนหรือผมู สี ทิ ธใิ นอสังหารมิ ทรัพยนํา
หลกั ฐานทแี่ สดงวา ไดมกี ารไถถ อนแลว มาขอจดทะเบยี นไถถ อนตอพนักงานเจา หนา ท่ไี ด
๑๖๕
เม่ือพนักงานเจาหนาทตี่ รวจเปน การถูกตอ ง ใหจดทะเบียนในหนังสอื แสดงสทิ ธิ
ในทีด่ ิน หรอื ในทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมเกี่ยวกบั อสังหาริมทรัพยใ หปรากฏการไถถอน
(รางมาตรา ๔ (แกไขเพิม่ เตมิ มาตรา ๘๐)
๔. กําหนดใหการขอจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยซึ่งไดมาโดยทางมรดก
ใหผูรับมรดกนําหลักฐานสําหรับท่ีดินหรือหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินหรือหลักฐานเกี่ยวกับ
อสงั หารมิ ทรัพยอ ่นื พรอ มดว ยหลักฐานในการไดรบั มรดกมาย่ืนคาํ ขอตอ พนักงานเจาหนา ท่ีตาม
มาตรา ๗๑ ถาหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินอยูกับบุคคลอ่ืน ใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจเรียก
หนงั สือแสดงสิทธิในที่ดนิ น้นั ได
(รา งมาตรา ๕ (แกไ ขเพ่ิมเตมิ มาตรา ๘๑ วรรคหน่งึ ))
กําหนดใหเมื่อพนักงานเจาหนาท่ีสอบสวนพยานหลักฐานและเช่ือไดวาผูขอเปน
ทายาทแลว ใหประกาศโดยทาํ เปน หนังสือปดไวในทเ่ี ปด เผยมีกาํ หนดสามสิบวนั ณ สํานกั งาน
ทดี่ นิ สาํ นกั งานเขต หรือท่ีวา การอาํ เภอหรือก่งิ อําเภอ สํานกั งานเทศบาล ทที่ าํ การองคการบริหาร
สวนตาํ บล ทีท่ าํ การแขวงหรือที่ทาํ การกํานนั ทท่ี าํ การผใู หญบ า น แหง ทอ งท่ซี ึ่งอสังหาริมทรพั ย
ตั้งอยู และบริเวณอสังหารมิ ทรัพยนนั้ แหงละหน่ึงฉบบั และใหพนักงานเจาหนา ท่ีมีหนงั สอื สง
ประกาศดังกลาวใหบคุ คลที่ผขู อแจง วาเปนทายาท และมไิ ดม าดวยในวันย่ืนคาํ ขอทราบเทาทจี่ ะ
ทาํ ได หากไมมที ายาทซงึ่ มสี ทิ ธไิ ดร ับมรดกโตแยง ภายในกําหนดเวลาท่ปี ระกาศและมีหลกั ฐาน
เปนที่เช่ือไดวาผูขอมีสิทธิไดรับมรดกแลวใหพนักงานเจาหนาที่ดําเนินการจดทะเบียนใหตามท่ี
ผขู อแสดงหลกั ฐานการมสี ทิ ธติ ามกฎหมาย ตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารที่กําหนดในกฎกระทรวง
(รางมาตรา ๕ (แกไขเพิ่มเติมมาตรา ๘๑ วรรคสอง)
๕. กําหนดใหการจดทะเบียนลงช่ือผูจัดการมรดกในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
หรือประสงคจะขอจดทะเบียนใหปรากฏชื่อผูจัดการมรดกในทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับ
อสังหาริมทรัพย ใหย่ืนคําขอพรอมดวยนําหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินหรือหลักฐานเก่ียวกับ
อสังหาริมทรัพยอ่ืนน้ัน และหลักฐานการเปนผูจัดการมรดกมาแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ีตาม
มาตรา ๗๑ ถาเปน ผจู ดั การมรดกโดยคาํ สง่ั ศาล ใหพ นักงานเจา หนา ท่ดี ําเนนิ การจดทะเบยี นให
ตามคาํ ขอ แตถ าเปน ผจู ัดการมรดกในกรณีอน่ื ใหพนกั งานเจาหนาทีส่ อบสวนและตรวจสอบ
หลักฐาน และใหน าํ ความในมาตรา ๘๑ วรรคสอง มาใชบ ังคับโดยอนโุ ลม เม่ือไมมผี ใู ดโตแยง
ใหพนักงานเจาหนาที่จดทะเบียนลงช่ือผูจัดการมรดกในหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินนั้น หรือใน
ทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรพั ยได แตถามผี โู ตแ ยง ก็ใหร อเร่ืองไวและแจง ให
คูกรณีไปฟองตอศาล เมื่อศาลมีคําพิพากษาหรือคําสั่งถึงที่สุดประการใดแลวใหดําเนินการไป
ตามคําพพิ ากษาหรอื คาํ สั่งศาลนั้น
ในกรณที ผ่ี จู ดั การมรดกซง่ึ ไดม ชี อ่ื ในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ แลว ขอจดทะเบยี น
สิทธิในที่ดินหรือจดทะเบียนสิทธิในท่ีดินพรอมกับอสังหาริมทรัพยอื่นรวมกับที่ดินดังกลาวใหแก
๑๖๖
ทายาท หรอื ผจู ัดการมรดกซงึ่ ปรากฏชือ่ ในทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมเกย่ี วกับอสังหาริมทรพั ยแลว
ขอจดทะเบยี นสทิ ธใิ นอสงั หารมิ ทรพั ยอ น่ื ใหแ กท ายาท ใหพ นกั งานเจา หนา ทด่ี าํ เนนิ การจดทะเบยี น
ใหต ามคาํ ขอโดยไมตอ งประกาศตามมาตรา ๘๑
ในกรณที รสั ตขี องทรสั ตซ ง่ึ ไดก อ ตง้ั ขน้ึ โดยชอบดว ยกฎหมายไวแ ลว ขอจดทะเบยี น
ในฐานะเปนทรัสตี เม่ือพนักงานเจา หนา ทส่ี อบสวนพยานหลักฐานแลว ใหดําเนนิ การจดทะเบียน
ได (รา งมาตรา ๖ (แกไขเพมิ่ เติมมาตรา ๘๒))
สาํ นกั กฎหมาย
พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖
๑๖๗
รา งฯ ที่รัฐสภาเห็นชอบแลว
รา ง
พระราชบญั ญัติ
แกไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบบั ที่ ..)
_____พ_._ศ_._.._.._____
...........................................
...........................................
...........................................
.........................................................................................................................
.............................................................................
โดยทเ่ี ปน การสมควรแกไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายท่ีดนิ
พระราชบัญญัติน้ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของ
บุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ ของรฐั ธรรมนญู แหงราชอาณาจักรไทย บญั ญัติให
กระทาํ ไดโดยอาศัยอาํ นาจตามบทบญั ญัตแิ หงกฎหมาย
.........................................................................................................................
.............................................................................
มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกวา “พระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวล
กฎหมายทีด่ นิ (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. ....”
มาตรา ๒ พระราชบญั ญตั นิ ใ้ี หใ ชบ งั คบั เมอื่ พน กาํ หนดเกา สบิ วนั นบั แตว นั ประกาศ
ในราชกิจจานเุ บกษาเปนตนไป
มาตรา ๓ ใหย กเลิกความในบทนิยามคาํ วา “ทบวงการเมอื ง” ในมาตรา ๑ แหง
ประมวลกฎหมายที่ดนิ ซง่ึ แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดิน
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๒๑ และใหใชความตอ ไปนแี้ ทน
“ทบวงการเมือง” หมายความวา
(๑) ราชการสว นกลาง ราชการสว นภูมิภาค หรอื ราชการสวนทองถิ่น
(๒) หนว ยงานอ่ืนของรัฐทีไ่ มใ ชรฐั วิสาหกจิ ”
มาตรา ๔ ใหย กเลิกความในมาตรา ๘๐ แหง ประมวลกฎหมายทดี่ ิน ซึ่งแกไ ข
เพิม่ เตมิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๓๓๔ ลงวันที่ ๑๓ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๑๕ และใหใ ช
ความตอไปนี้แทน
“มาตรา ๘๐ ในกรณีไถถ อนจากจาํ นอง หรือไถถอนจากการขายฝากซ่ึงที่ดนิ ทม่ี ี
หนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นท่ดี นิ หรอื อสังหารมิ ทรพั ยอ ่นื เมื่อผรู บั จํานองหรือผรู บั ซอ้ื ฝากไดท ําหลกั ฐาน
๑๖๘
เปน หนงั สือวาไดม ีการไถถอนแลว ใหผ ูมสี ิทธไิ ถถ อนหรือผูมสี ทิ ธใิ นอสงั หารมิ ทรพั ยน ําหลกั ฐาน
ทแี่ สดงวา ไดมกี ารไถถอนแลว มาขอจดทะเบยี นไถถ อนตอพนกั งานเจา หนาทีไ่ ด
เม่อื พนักงานเจา หนาทต่ี รวจเปนการถูกตอ ง ใหจ ดทะเบียนในหนงั สือแสดงสิทธิใน
ท่ีดนิ หรือในทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมเก่ยี วกบั อสงั หาริมทรพั ยใหป รากฏการไถถ อนนนั้ ”
มาตรา ๕ ใหยกเลกิ ความในวรรคหน่งึ และวรรคสองของมาตรา ๘๑ แหงประมวล
กฎหมายทด่ี นิ ซงึ่ แกไ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบบั
ท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใชค วามตอ ไปนี้แทน
“มาตรา ๘๑ การขอจดทะเบยี นสทิ ธิเก่ยี วกบั อสังหารมิ ทรพั ยซ่ึงไดม าโดยทางมรดก
ใหผูไดรับมรดกนําหลักฐานสําหรับท่ีดินหรือหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินหรือหลักฐานเก่ียวกับ
อสังหาริมทรัพยอ น่ื พรอมดว ยหลักฐานในการไดรบั มรดกมายืน่ คําขอตอพนักงานเจาหนา ทีต่ าม
มาตรา ๗๑ ถา หนังสอื แสดงสิทธใิ นทีด่ ินอยกู บั บุคคลอ่นื ใหพนกั งานเจาหนาทีม่ ีอาํ นาจเรยี ก
หนงั สือแสดงสทิ ธิในทดี่ นิ ดังกลา วน้นั ได
เมื่อพนักงานเจาหนาที่สอบสวนพยานหลักฐานและเชื่อไดวาผูขอเปนทายาทแลว
ใหประกาศโดยทําเปนหนังสือปดไวในที่เปดเผยมีกําหนดสามสิบวัน ณ สํานักงานที่ดิน
สํานักงานเขต หรอื ทีว่ าการอําเภอหรอื กงิ่ อาํ เภอ สาํ นกั งานเทศบาล ที่ทําการองคการบริหาร
สวนตําบล ท่ีทาํ การแขวง หรอื ท่ที าํ การกาํ นนั ท่ที ําการผูใหญบานแหงทองทีซ่ ง่ึ อสังหารมิ ทรัพย
ตง้ั อยู และบริเวณอสงั หารมิ ทรพั ยน ้ัน แหง ละหนึง่ ฉบับ และใหพนักงานเจา หนาท่ีมีหนงั สอื สง
ประกาศดงั กลาวใหบุคคลท่ผี ขู อแจงวา เปนทายาท และมิไดมาดวยในวันยน่ื คาํ ขอทราบเทา ที่จะ
ทาํ ได หากไมมที ายาทซง่ึ มีสิทธิไดรบั มรดกโตแ ยง ภายในกาํ หนดเวลาทป่ี ระกาศและมหี ลักฐาน
เปนท่ีเชื่อไดวา ผขู อมีสทิ ธิไดรบั มรดกแลว ใหพ นกั งานเจา หนาท่ดี ําเนนิ การจดทะเบียนใหตามท่ี
ผขู อแสดงหลกั ฐานการมีสทิ ธติ ามกฎหมาย ตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารทีก่ าํ หนดในกฎกระทรวง“
มาตรา ๖ ใหย กเลิกความในมาตรา ๘๒ แหง ประมวลกฎหมายทด่ี ิน ซ่ึงแกไ ข
เพม่ิ เตมิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๓๓๔ ลงวนั ที่ ๑๓ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ และใหใช
ความตอไปนแ้ี ทน
“มาตรา ๘๒ ผูใดประสงคจะขอจดทะเบยี นลงชื่อผจู ดั การมรดกในหนงั สือแสดงสิทธิ
ในที่ดินหรือประสงคจะขอจดทะเบียนใหปรากฏชื่อผูจัดการมรดกในทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เกยี่ วกับอสงั หาริมทรพั ย ใหย ื่นคําขอพรอมดว ยนาํ หนงั สือแสดงสิทธิในทด่ี ินหรือหลกั ฐานเก่ยี วกับ
อสังหารมิ ทรพั ยอ่ืนน้นั และหลกั ฐานการเปนผจู ัดการมรดกมาแสดงตอพนักงานเจา หนาทีต่ าม
มาตรา ๗๑ ถา เปนผูจ ัดการมรดกโดยคําสง่ั ศาล ใหพนักงานเจา หนาทด่ี าํ เนินการจดทะเบยี นให
ตามคาํ ขอ แตถาเปน ผูจัดการมรดกในกรณีอนื่ ใหพ นกั งานเจา หนา ที่สอบสวนและตรวจสอบ
หลักฐาน และใหนาํ ความในมาตรา ๘๑ วรรคสอง มาใชบงั คบั โดยอนุโลม เม่อื ไมมผี ูใดโตแยง
ใหพนักงานเจาหนาที่จดทะเบียนลงชื่อผูจัดการมรดกในหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินนั้น หรือใน
๑๖๙
ทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมเก่ียวกบั อสงั หารมิ ทรพั ยไ ด แตถามีผโู ตแยงกใ็ หรอเรือ่ งไว และแจงให
คูกรณไี ปฟองตอ ศาล เม่ือศาลมคี ําพพิ ากษาหรือคาํ สง่ั ถงึ ท่ีสดุ ประการใดแลว ใหดาํ เนนิ การไป
ตามคาํ พิพากษาหรอื คําส่งั ศาลนัน้
ในกรณีทผี่ ูจัดการมรดกซ่งึ ไดมชี ่อื ในหนงั สือแสดงสทิ ธิในท่ีดนิ แลว ขอจดทะเบียน
สิทธิในที่ดินหรือจดทะเบียนสิทธิในที่ดินพรอมกับอสังหาริมทรัพยอื่นรวมกับที่ดินดังกลาวใหแก
ทายาท หรือผูจัดการมรดกซง่ึ ปรากฏช่อื ในทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรมเกย่ี วกบั อสงั หาริมทรพั ยแลว
ขอจดทะเบยี นสทิ ธใิ นอสงั หารมิ ทรพั ยอ น่ื ใหแ กท ายาท ใหพ นกั งานเจา หนา ทด่ี าํ เนนิ การจดทะเบยี น
ใหต ามคาํ ขอโดยไมตองประกาศตามมาตรา ๘๑
ในกรณที ท่ี รสั ตขี องทรสั ตซ ง่ึ ไดก อ ตง้ั ขน้ึ โดยชอบดว ยกฎหมายไวแ ลว ขอจดทะเบยี นใน
ฐานะเปนทรัสตี เมือ่ พนกั งานเจาหนา ท่ีสอบสวนพยานหลักฐานแลว ใหด าํ เนินการจดทะเบยี นได”
...........................................
.................................................
ถูกตองตามมติของรฐั สภา
(ลงชื่อ) บุษกร อมั พรประภา
(นางบุษกร อมั พรประภา)
ผูอาํ นวยการสาํ นักการประชมุ
สํานกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู ทนราษฎร
๑๗๐
(สาํ เนา)
ที่ มท ๐๕๐๕.๔ / ว ๓๒๐๘๐
ถงึ สาํ นกั งานท่ดี ินจงั หวัดทกุ จังหวดั
กรมที่ดินขอสงพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ ิน (ฉบบั ท่ี ๑๓)
พ.ศ.๒๕๕๖ (กาํ หนดหลกั เกณฑก ารจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมเก่ยี วกับอสงั หารมิ ทรัพยใ นเร่อื ง
ไถถอนและมรดกฯ) ทไี่ ดประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เลม ๑๓๐ ตอนที่ ๑๒๐ ก
วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ แลว และจะมผี ลใชบ งั คบั ในวนั ท่ี ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗ เปนตน ไป
มาเพอ่ื โปรดทราบและแจง ใหพ นักงานเจาหนาท่ที ราบและถือปฏบิ ตั ติ อไป
กรมทดี่ ิน
๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๖
สาํ นักกฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๘๗
โทรสาร. ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๒
๑๗๑
(สําเนา)
พระราชบัญญตั ิ
แกไ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายทีด่ นิ (ฉบบั ท่ี ๑๓)
___พ__.ศ__. ๒__๕_๕_๖____
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วนั ที่ ๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
เปน ปท่ี ๖๘ ในรชั กาลปจ จุบัน
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา
โดยที่เปนการสมควรแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของ
บคุ คล ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจกั รไทย บญั ญตั ใิ ห
กระทาํ ไดโ ดยอาศยั อํานาจตามบทบญั ญัตแิ หงกฎหมาย
จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหต ราพระราชบญั ญตั ขิ น้ึ ไวโ ดยคาํ แนะนาํ และยนิ ยอม
ของรฐั สภา ดงั ตอไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกวา “พระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวล
กฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๖”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับเมื่อพนกําหนดเกาสิบวันนับแตวัน
ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน ตน ไป
มาตรา ๓ ใหย กเลกิ ความในบทนิยามคําวา “ทบวงการเมือง” ในมาตรา ๑ แหง
ประมวลกฎหมายท่ดี ิน ซึง่ แกไ ขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายทีด่ ิน
(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๒๑ และใหใ ชค วามตอ ไปนีแ้ ทน
“ “ทบวงการเมอื ง” หมายความวา
(๑) ราชการสวนกลาง ราชการสวนภมู ิภาค หรือราชการสว นทองถนิ่
(๒) หนว ยงานอ่นื ของรฐั ท่ไี มใชรัฐวิสาหกิจ”
มาตรา ๔ ใหย กเลิกความในมาตรา ๘๐ แหงประมวลกฎหมายทีด่ นิ ซงึ่ แกไ ข
เพมิ่ เตมิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ที่ ๓๓๔ ลงวนั ท่ี ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ และใหใ ช
ความตอไปน้แี ทน
“มาตรา ๘๐ ในกรณไี ถถอนจากจํานอง หรอื ไถถ อนจากการขายฝากซึง่ ทด่ี นิ ท่มี ี
หนังสอื แสดงสทิ ธใิ นที่ดนิ หรอื อสงั หาริมทรพั ยอ่นื เม่อื ผรู บั จํานองหรอื ผรู ับซอื้ ฝากไดทําหลักฐาน
๑๗๒
เปน หนงั สอื วา ไดม ีการไถถ อนแลว ใหผมู สี ทิ ธิไถถ อนหรอื ผมู สี ทิ ธใิ นอสงั หาริมทรัพยน ําหลักฐานท่ี
แสดงวา ไดม ีการไถถอนแลวมาขอจดทะเบียนไถถอนตอ พนักงานเจาหนา ที่ได
เม่อื พนกั งานเจาหนา ท่ีตรวจเปน การถูกตอ ง ใหจ ดทะเบียนในหนงั สือแสดงสทิ ธิใน
ที่ดินหรอื ในทะเบยี นสิทธแิ ละนติ ิกรรมเกย่ี วกับอสงั หาริมทรพั ยใหป รากฏการไถถ อนนนั้ ”
มาตรา ๕ ใหยกเลิกความในวรรคหนึ่งและวรรคสองของมาตรา ๘๑ แหง
ประมวลกฎหมายทีด่ ิน ซึ่งแกไขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญัตแิ กไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ดี นิ
(ฉบบั ท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใชค วามตอ ไปนี้แทน
“มาตรา ๘๑ การขอจดทะเบียนสทิ ธเิ กีย่ วกับอสงั หาริมทรพั ยซึง่ ไดม าโดยทางมรดก
ใหผูไดรับมรดกนําหลักฐานสําหรับท่ีดินหรือหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินหรือหลักฐานเก่ียวกับ
อสังหาริมทรัพยอื่นพรอมดวยหลักฐานในการไดรับมรดกมายื่นคําขอตอพนักงานเจาหนาที่ตาม
มาตรา ๗๑ ถา หนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี ินอยูก บั บคุ คลอน่ื ใหพนักงานเจา หนาที่มอี ํานาจเรียก
หนงั สอื แสดงสิทธใิ นทด่ี ินดงั กลาวน้ันได
เมื่อพนักงานเจาหนาที่สอบสวนพยานหลักฐานและเชื่อไดวาผูขอเปนทายาทแลว
ใหประกาศโดยทําเปนหนังสือปดไวในที่เปดเผยมีกําหนดสามสิบวัน ณ สํานักงานที่ดิน
สํานักงานเขตหรือท่วี าการอาํ เภอ หรอื กง่ิ อาํ เภอ สํานักงานเทศบาล ทที่ ําการองคการบริหาร
สว นตาํ บล ทที่ ําการแขวงหรือท่ีทําการกาํ นนั ท่ที าํ การผูใหญบ านแหงทอ งท่ีซึง่ อสังหาริมทรัพย
ตงั้ อยู และบริเวณอสังหาริมทรัพยน้ันแหงละหนึ่งฉบบั และใหพนักงานเจา หนา ท่ีมหี นังสอื สง
ประกาศดังกลาวใหบุคคลที่ผูขอแจงวาเปนทายาทและมิไดมาดวยในวันย่ืนคําขอทราบเทาที่จะ
ทาํ ได หากไมมที ายาทซึ่งมีสิทธไิ ดร ับมรดกโตแยงภายในกําหนดเวลาทป่ี ระกาศ และมหี ลกั ฐาน
เปน ทีเ่ ชื่อไดว าผูขอมสี ิทธไิ ดร ับมรดกแลว ใหพนกั งานเจาหนาท่ดี ําเนินการจดทะเบียนใหตามท่ี
ผูขอแสดงหลกั ฐานการมสี ทิ ธิตามกฎหมาย ตามหลักเกณฑแ ละวิธีการทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง”
มาตรา ๖ ใหยกเลกิ ความในมาตรา ๘๒ แหงประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซ่ึงแกไ ข
เพิม่ เตมิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๓๓๔ ลงวันที่ ๑๓ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๑๕ และใหใ ช
ความตอไปนี้แทน
“มาตรา ๘๒ ผูใดประสงคจะขอจดทะเบียนลงชื่อผูจัดการมรดกในหนังสือแสดง
สิทธิในท่ีดิน หรือประสงคจะขอจดทะเบียนใหปรากฏช่ือผูจัดการมรดกในทะเบียนสิทธิ
และนติ ิกรรมเกยี่ วกับอสงั หาริมทรัพย ใหย่นื คําขอพรอมดว ยนําหนังสือแสดงสทิ ธใิ นท่ีดินหรอื
หลักฐานเก่ียวกับอสงั หารมิ ทรพั ยอ่นื นน้ั และหลักฐานการเปนผจู ัดการมรดกมาแสดงตอพนักงาน
เจา หนาท่ตี ามมาตรา ๗๑ ถาเปน ผูจดั การมรดกโดยคําสงั่ ศาล ใหพนักงานเจา หนาทีด่ ําเนนิ การ
จดทะเบยี นใหตามคําขอ แตถ าเปนผจู ดั การมรดกในกรณีอืน่ ใหพนกั งานเจาหนาที่สอบสวนและ
ตรวจสอบหลักฐาน และใหนาํ ความในมาตรา ๘๑ วรรคสอง มาใชบังคบั โดยอนุโลม เมื่อไมมีผใู ด
โตแยง ใหพนกั งานเจาหนาท่จี ดทะเบียนลงชอ่ื ผจู ดั การมรดกในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นท่ดี นิ น้นั หรอื
๑๗๓
ในทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรมเก่ยี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ยไ ด แตถามผี ูโตแ ยง ก็ใหร อเร่อื งไวและแจง
ใหค ูกรณีไปฟอ งตอ ศาล เมอื่ ศาลมคี าํ พิพากษาหรอื คาํ สั่งถึงทีส่ ดุ ประการใดแลว ใหดาํ เนนิ การไป
ตามคาํ พพิ ากษาหรอื คําสัง่ ศาลนั้น
ในกรณีท่ผี จู ดั การมรดกซึง่ ไดม ชี ื่อในหนงั สือแสดงสิทธใิ นทดี่ ินแลว ขอจดทะเบยี น
สทิ ธใิ นทด่ี ิน หรือจดทะเบียนสทิ ธิในท่ดี ินพรอมกับอสังหารมิ ทรัพยอ น่ื รวมกบั ท่ดี นิ ดังกลาวใหแก
ทายาท หรอื ผจู ดั การมรดก ซง่ึ ปรากฏชอ่ื ในทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมเกย่ี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ยแ ลว
ขอจดทะเบยี นสทิ ธใิ นอสงั หารมิ ทรพั ยอ น่ื ใหแ กท ายาท ใหพ นกั งานเจา หนา ทด่ี าํ เนนิ การจดทะเบยี น
ใหต ามคาํ ขอโดยไมต องประกาศตามมาตรา ๘๑
ในกรณีท่ีทรัสตีของทรัสตซึ่งไดกอตั้งข้ึนโดยชอบดวยกฎหมายไวแลวขอจดทะเบียน
ในฐานะเปนทรสั ตี เมือ่ พนกั งานเจา หนาที่สอบสวนพยานหลักฐานแลว ใหดําเนนิ การจดทะเบยี น
ได”
ผูร บั สนองพระบรมราชโองการ
ยง่ิ ลกั ษณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :– เหตผุ ลในการประกาศใชพ ระราชบัญญตั ิฉบับนี้ คือ โดยทีใ่ นปจ จบุ นั ไดม ีการ
จัดตง้ั หนว ยงานของรัฐ ซึง่ มิใชราชการสวนกลาง ราชการสว นภูมิภาค หรือราชการสว นทองถิ่น
เพอื่ รองรบั การจดั ทาํ บริการสาธารณะ แตเ นอ่ื งจากบทนิยามคาํ วา ทบวงการเมือง ตามประมวล
กฎหมายที่ดินที่กําหนดไวนั้นยังมิไดครอบคลุมถึงหนวยงานของรัฐดังกลาวดวย มีผลทําให
หนว ยงานของรฐั ดงั กลาวไมสามารถขอใชประโยชนต ามบทบัญญัติแหงประมวลกฎหมายทดี่ ินได
ประกอบกับหลักเกณฑในการจดทะเบยี นไถถ อนจากจํานอง ไถถอนจากการขายฝาก การจด
ทะเบียนสิทธิเก่ยี วกับอสังหารมิ ทรพั ยซ ่งึ ไดมาโดยทางมรดก และการจดทะเบยี นลงช่ือผจู ดั การ
มรดกในหนงั สอื แสดงสทิ ธิในท่ดี นิ มิไดรวมถงึ อสงั หาริมทรพั ยอ ืน่ นอกจากทดี่ นิ ดว ย สมควร
ปรับปรุงบทบัญญัตดิ ังกลาว เพื่อใหสอดคลองกบั สภาวการณปจจุบนั และเกดิ ความชัดเจนย่ิงขึน้
จงึ จําเปน ตอ งตราพระราชบญั ญตั นิ ี้
๑๗๔
บัญชีรายชอื่ หนังสือเวียน ระเบียบ และคําสงั่ ตางๆ
สาํ นักงานคณะกรรมการชา งรงั วัดเอกชน
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๖
๑. เลขที่หนังสือเวียน ชือ่ เรอ่ื ง หนา
ลาํ ดบั ที่ ระเบียบ คาํ ส่ัง ๑๗๗
๒. ลงวัน เดือน ป
๑. ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๓๐๖๗ บตั รประจําตวั ชา งรงั วัดเอกชน
ลว. ๔ ก.พ. ๕๖
๒. ท่ี มท ๐๕๐๙ / ว ๑๘๙ บัตรประจาํ ตัวชา งรังวัดเอกชน ๑๗๘
ลว. ๕ ก.พ. ๕๖
๓. ท่ี มท ๐๕๐๙ / ว ๕๒๙๘ การเรง รดั งานคา งสํานักงานชา งรงั วัดเอกชน ๑๗๙
ลว. ๒๗ ก.พ. ๕๖
๔. ท่ี มท ๐๕๐๙ / ว ๓๒๔ แบบพิมพก ารรายงานการรงั วดั ทด่ี ิน ๑๘๒
ลว. ๑ มี.ค. ๕๖ สํานกั งานชา งรงั วดั เอกชน
๕. ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๑๕๒๕๔ ซอ มความเขาใจในการปฏิบัตริ าชการเกี่ยวกบั ๑๙๑
ลว. ๑๓ มิ.ย. ๕๖ งานรงั วัดเอกชน
๖. ท่ี มท ๐๕๐๙ / ว ๘๘๗ ซอมความเขาใจในการปฏบิ ตั ริ าชการเกย่ี วกบั ๑๙๓
ลว. ๒๗ มิ.ย. ๕๖ งานรังวัดเอกชน
๗. ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๒๐๓๙๘ การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการรังวดั เอกชน ๑๙๕
ลว. ๖ ส.ค. ๕๖
๘. ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๑๑๓๑ การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการรังวัดเอกชน ๑๙๗
ลว. ๙ ส.ค. ๕๖
๑๗๕
๑๗๖
ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๓๐๖๗ (สาํ เนา)
กรมทดี่ นิ
ศนู ยราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๔ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๖
เรอื่ ง บตั รประจาํ ตวั ชางรงั วดั เอกชน
เรียน ผวู า ราชการจังหวัดทุกจงั หวัด
ดวยปรากฏวายังมีปญหาในทางปฏิบัติเก่ียวกับการใชบัตรประจําตัวชางรังวัด
เอกชนประกอบเรอื่ งรงั วดั ของสาํ นกั งานชางรังวดั เอกชน โดยมีการใชบตั รประจาํ ตัวชา งรงั วัด
เอกชนซ่งึ หมดอายเุ พ่ือดาํ เนินการรังวัด หรือสง เรือ่ งรังวัดท่ีดาํ เนินการเสรจ็ ใหส ํานกั งานที่ดนิ
กรมทด่ี ินพิจารณาแลวเห็นวา ชางรังวัดเอกชนเม่อื ดาํ เนินการรงั วดั และสง เรอ่ื ง
พรอ มเอกสารใหฝ ายรงั วดั ตรวจสอบ จะตอ งยนื่ เอกสารเกย่ี วกับใบอนุญาตเปนชา งรงั วัดเอกชน
และบตั รประจาํ ตัวชา งรังวดั เอกชน เพื่อใชป ระกอบการตรวจสอบเรอ่ื งรังวัด หากบตั รประจําตวั
ชา งรังวดั เอกชนหมดอายุ ชางรังวดั เอกชนจะตอ งยื่นคาํ ขอออกบัตรประจาํ ตวั ชางรงั วดั เอกชนใหม
จงึ ขอใหจ ังหวัดแจงใหสาํ นักงานทดี่ ินจังหวัด สาขา และสวนแยก ตรวจบัตรประจําตัวชางรงั วัด
เอกชนผทู ําการรังวดั หากพบวา บตั รประจําตวั ชา งรงั วัดเอกชนหมดอายใุ หแ จง ชา งรังวดั เอกชนไป
ดําเนินการย่นื คาํ ขอตอ บตั รประจาํ ตวั ชางรงั วัดใหมต อนายทะเบียน ณ สาํ นกั งานคณะกรรมการ
ชางรงั วัดเอกชน หากปรากฏวามีการใชบัตรประจําตวั ชางรังวดั เอกชนหมดอายุดําเนนิ กระบวน
งานรังวดั หรอื สงเรือ่ งรงั วัดรายใด เจาหนา ทผ่ี ูรับผิดชอบไมตรวจสอบ หรือปลอ ยปละละเลย และ
กอ ใหเกิดความเสียหายแกทางราชการ กรมท่ดี ินจะพิจารณาดาํ เนินการตามสมควรแกก รณตี อไป
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ และสง่ั เจา หนา ทผ่ี เู กย่ี วขอ งถอื ปฏบิ ตั โิ ดยเครง ครดั ดว ย
ขอแสดงความนับถอื
(ลงชอื่ ) บญุ เชิด คิดเห็น
(นายบญุ เชิด คดิ เห็น)
อธิบดีกรมทีด่ ิน
สํานักงานคณะกรรมการชางรงั วดั เอกชน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๔๖
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๑๘
๑๗๗
ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๑๘๙ (สําเนา)
สาํ นักงานคณะกรรมการชา งรงั วดั เอกชน กรมทีด่ นิ
ศนู ยร าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั ส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๕ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๖
เร่ือง บัตรประจาํ ตวั ชางรังวดั เอกชน
เรยี น ผูจัดการสาํ นกั งานชา งรงั วดั เอกชน
ดวยปรากฏวายังมีปญหาในทางปฏิบัติเก่ียวกับการใชบัตรประจําตัวชางรังวัด
เอกชนประกอบเร่ืองรงั วัดของสาํ นักงานชางรังวัดเอกชน โดยมีการใชบัตรประจาํ ตวั ชางรังวดั ซง่ึ
หมดอายเุ พ่อื ดําเนนิ การรังวดั หรือสง เรอื่ งรังวดั ทีด่ ําเนินการเสรจ็ ใหสาํ นกั งานทดี่ ิน
สํานักงานคณะกรรมการชา งรงั วดั เอกชน พจิ ารณาแลว เห็นวาชางรงั วดั เอกชน
เม่ือดําเนินการรังวัดและสงเรื่องพรอมเอกสารใหฝายรังวัดสํานักงานท่ีดินตรวจสอบ จะตอง
ยื่นเอกสารเกี่ยวกับใบอนุญาตเปนชางรังวัดเอกชนและบัตรประจําตัวชางรังวัดเอกชน เพื่อใช
ประกอบการตรวจสอบเรือ่ งรังวัด หากบตั รประจําตัวชางรังวดั เอกชนหมดอายุ ชางรังวัดเอกชน
จะตอ งยนื่ คําขอออกบตั รประจําตัวชา งรงั วดั เอกชนใหม จึงขอใหท า นแจง ชา งรังวัดเอกชนในสังกัด
ของทานซ่ึงบัตรประจําตัวหมดอายุดําเนินการยื่นคําขอตอบัตรประจําตัวชางรังวัดเอกชนใหมตอ
นายทะเบยี น ณ สํานกั งานคณะกรรมการชางรงั วัดเอกชน หากบัตรประจําตัวชา งรงั วัดเอกชน
หมดอายุ ทาํ ใหไ มส ามารถสงงานรังวดั ได และอาจเปน เหตุใหเ กดิ ความเสียหายแกสาํ นักงาน
ชา งรังวดั เอกชนและผูใ ชบ รกิ ารได
จงึ เรยี นมาเพอ่ื ทราบ และดาํ เนนิ การตอ ไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงช่อื ) วริ ชั ภมู ิพิทกั ษกลุ
(นายวริ ชั ภูมิพิทักษก ลุ )
ผอู าํ นวยการสํานกั งานคณะกรรมการชา งรังวดั เอกชน
ฝายสง เสริมการรังวัดเอกชน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๔๖
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๑๘
๑๗๘
ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๕๒๙๘ (สาํ เนา)
กรมทีด่ นิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทุงสองหอ ง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๗ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๖
เร่ือง การเรง รดั งานคา งสํานกั งานชางรังวัดเอกชน
เรยี น ผวู าราชการจังหวดั ทุกจงั หวดั
สง่ิ ทีส่ ง มาดว ย ตวั อยา งหนงั สือเตอื นสํานักงานชา งรงั วัดเอกชน จาํ นวน ๒ ฉบับ
ดวยกรมที่ดินไดรับรายงานจากสํานักงานคณะกรรมการชางรังวัดเอกชนวา
คําขอรังวัดที่ดําเนินการโดยสํานักงานชางรังวัดเอกชน ไมดําเนินการตามสัญญารับจางทําการ
รงั วดั ท่ดี ินใหแ ลว เสรจ็ ภายในเวลาอนั ควร ทาํ ใหมงี านรงั วัดของสํานักงานชางรังวดั เอกชนลา ชา
ซง่ึ ไมต รงตามเจตนารมณข องพระราชบญั ญัติชา งรังวัดเอกชน พ.ศ.๒๕๓๕ ทใี่ หชา งรงั วัดเอกชน
รบั ทาํ การรังวดั เพื่อความสะดวกรวดเรว็ แกประชาชน
กรมทดี่ ิน พิจารณาแลว เห็นวา ตามพระราชบัญญัติชางรงั วัดเอกชน พ.ศ.๒๕๓๕
มาตรา ๔๓ (๕) คณะกรรมการชา งรังวัดเอกชน มอี าํ นาจเพิกถอนใบอนญุ าตจดั ตั้งสํานกั งาน
ชางรังวัดเอกชน กรณีสํานักงานชางรังวัดเอกชนไมดําเนินการตามสัญญารับจางทําการรังวัดให
แลวเสร็จภายในเวลาอันควร โดยไดรบั คาํ เตอื นเปน หนังสือจากเจา พนกั งานที่ดนิ แลว ดงั นน้ั เพื่อ
ใหการแจงหนังสือเตือนปฏิบัติเปนไปในแนวทางเดียวกันและเปนหลักฐานประกอบการเพิกถอน
ใบอนญุ าต จึงขอใหจ ังหวดั แจงใหสํานกั งานทดี่ ินจงั หวดั / สาขา / สวนแยก ดาํ เนินการ กรณี
สํานักงานชา งรงั วัดเอกชนไมดําเนินการตามสัญญารบั จา งใหแลวเสร็จภายในเวลาอันควร โดย
ใหสํานักงานท่ีดนิ จงั หวัด / สาขา / สว นแยก มหี นงั สอื เตอื น ครัง้ ท่ี ๑ ใหส ํานกั งานชางรังวัดเอกชน
สงเร่อื งรังวัดภายใน ๓๐ วนั นับแตวนั ทีไ่ ดร ับแจง เม่ือครบกําหนด ๓๐ วันแลวยงั ไมดําเนินการ
ใหเ ตอื นครงั้ ท่ี ๒ โดยกําหนดใหส งเร่อื งรงั วัดภายใน ๑๕ วัน นับแตไ ดรับแจง หากไมด าํ เนนิ การ
ใหร ายงานกรมทด่ี ินเพื่อดาํ เนินการตอ ไป
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ และสง่ั เจา หนา ทผ่ี เู กย่ี วขอ งถอื ปฏบิ ตั โิ ดยเครง ครดั ดว ย
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชอ่ื ) บุญเชดิ คดิ เห็น
(นายบุญเชิด คดิ เห็น)
อธบิ ดีกรมทีด่ ิน
สาํ นกั งานคณะกรรมการชา งรังวดั เอกชน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๔๔ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๑๘
๑๗๙
(ตัวอยาง)
หนงั สือเตอื นสาํ นกั งานชางรังวดั เอกชน คร้ังที่ ๑
ท.ี่ .............../................... สาํ นกั งานทดี่ นิ ...............................
ท่ีตง้ั ..............................................
....................................................
วันที.่ .............................................
เรือ่ ง ขอใหส งเรือ่ งรงั วัดราย..................................................................
เรียน บุคคล / นิติบคุ คล
(ผไู ดร บั ใบอนญุ าตจดั ตงั้ สาํ นกั งานชา งรงั วดั เอกชน เลขที.่ ..............)
อางถึง คาํ ขอเรอ่ื ง..........................................ฉบับลงวนั ท.่ี ........เดอื น......................พ.ศ. ..............
ตามคําขอเร่ือง.................................................ฉบบั ลงวันท่.ี ........................................
ขอใหสํานักงานชางรังวัดเอกชนของทานดําเนินการรังวัดตามสัญญารับจางทําการรังวัดที่ดินระหวาง
..........................................(ผูว าจาง) กบั .......................................(ผูรบั จาง) ลงวันที.่ .......................
ผูจ ัดการ...............................................................(ใบอนุญาตเปน ชา งรังวดั เอกชน เลขที่...................)
ผทู าํ การแทน........................................................(ใบอนญุ าตเปน ชา งรงั วัดเอกชน เลขที.่ ..................)
ไดทําสญั ญารับจา งทาํ การรังวดั ท่ดี นิ โฉนดท่ีดนิ เลขที.่ .................ระวาง................เลขที่ดนิ .................
หนา สํารวจ....................ตําบล.........................อําเภอ.........................จังหวดั ...................เพ่ือทําการ
รังวดั เรอื่ ง.....................................................โดยตกลงจะทาํ การรังวดั ใหแลว เสร็จ พรอ มทั้งสง เอกสาร
และหลักฐานที่ไดจ ดั ทาํ ขน้ึ ทไ่ี ดร บั เก่ยี วกับการรงั วดั ท่ีดินตอ เจาพนกั งานท่ดี ิน นนั้
บดั น้ี ปรากฏวา ทา นไมไ ดต ดิ ตอ หรอื นาํ เรอ่ื งรงั วดั พรอ มหลกั ฐานแผนทส่ี ง ใหส าํ นกั งานทด่ี นิ
ตรวจสอบตามระเบียบขอบังคับเก่ียวกับการปฏิบัติงานของชางรังวัดเอกชนและสํานักงานของเอกชน
จึงขอใหทานดําเนินการใหแลวเสร็จ และสงเรื่องรังวัดพรอมหลักฐานแผนท่ีใหฝายรังวัดตรวจสอบ
ภายใน ๓๐ วนั นับแตวันไดรบั หนงั สอื นี้
จงึ เรียนมาเพอื่ ทราบและดําเนินการตอไป
ขอแสดงความนบั ถือ
ฝาย................................ ลงชื่อ .....................................
โทร................................. (...................................)
โทรสาร...........................
ตาํ แหนง ......................................
หมายเหตุ ผูลงนามจะตองเปนเจาพนักงานท่ีดินจงั หวดั เจา พนกั งานทีด่ นิ จังหวดั / สาขา เจา พนักงาน
ทด่ี ินหัวหนาสว นแยก เวนแตผ ดู ํารงตาํ แหนงดังกลา วไมอ ยหู รอื อยแู ตไ มอาจปฏบิ ัตริ าชการได กใ็ ห
ผรู ักษาราชการแทน หรือผรู กั ษาการในตําแหนงแลวแตก รณี เปน ผูล งนามแทน
๑๘๐
(ตวั อยาง)
หนังสอื เตอื นสํานักงานชา งรังวัดเอกชน คร้ังที่ ๒
ท.ี่ .............../................... สาํ นกั งานทดี่ นิ ...............................
ทตี่ ัง้ ..............................................
....................................................
วนั ท่ี..............................................
เรื่อง ขอสง เรื่องรังวัดราย......................................................................
เรียน บคุ คล / นิตบิ คุ คล
(ผไู ดรบั ใบอนญุ าตจัดตั้งสํานกั งานชา งรงั วดั เอกชน เลขที่...............)
อา งถงึ หนงั สอื สาํ นักงานทด่ี ินจงั หวดั ท.่ี ................/.................ลงวันท.่ี ................................
ตามที่ไดม ีหนงั สือแจง ใหท านดําเนนิ การตามสญั ญารับจางทําการรงั วัดโฉนดท่ีดินเลขท่.ี ..
..........................เลขที่ดิน..........................หนาสํารวจ..........................ตําบล............................
อําเภอ.................................จังหวัด..........................โดยใหทานทําการใหแลวเสร็จภายใน ๓๐ วัน
นับแตวันไดรับหนังสือแจง นั้น
บดั น้ี ปรากฏวา ทา นไมไ ดต ดิ ตอ หรอื นาํ เรอ่ื งรงั วดั พรอ มหลกั ฐานแผนทส่ี ง ใหส าํ นกั งานทด่ี นิ
ตรวจสอบ จึงขอใหทา นนาํ เร่อื งรังวัดและเอกสารท่ีเก่ยี วของทเี่ สร็จแลว ทั้งหมด สง สํานักงานที่ดินภายใน
๑๕ วนั นบั แตวันไดรับหนังสือนี้ หากไมด ําเนินการภายในกาํ หนด สาํ นกั งานทดี่ ินตองสงเรอื่ งของทานให
กรมท่ีดนิ พิจารณาเพกิ ถอนใบอนุญาตจดั ต้ังสํานักงานชางรังวัดเอกชน
จึงเรียนมาเพ่ือทราบและดําเนนิ การตอไป
ขอแสดงความนบั ถอื
ลงช่ือ .....................................
(...................................)
ตําแหนง......................................
ฝา ย................................
โทร.................................
โทรสาร...........................
หมายเหตุ ผูลงนามจะตองเปน เจา พนกั งานทด่ี ินจังหวดั เจาพนกั งานที่ดนิ จงั หวดั สาขา เจาพนักงาน
ทด่ี นิ หัวหนา สว นแยก เวนแตผ ูด ํารงตาํ แหนง ดงั กลาวไมอ ยหู รอื อยแู ตไ มอ าจปฏิบัตริ าชการได ก็ให
ผูรักษาราชการแทน หรือผูร ักษาการในตาํ แหนงแลวแตกรณี เปน ผลู งนามแทน
๑๘๑
ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๓๒๔ (สาํ เนา)
สาํ นักงานคณะกรรมการชางรังวัดเอกชน กรมที่ดนิ
ศนู ยราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๑ มีนาคม ๒๕๕๖
เรือ่ ง แบบพมิ พก ารรายงานการรังวดั ทด่ี นิ สํานกั งานชางรงั วัดเอกชน
เรียน ผูจัดการสาํ นกั งานชา งรงั วัดเอกชน
สงิ่ ที่สง มาดว ย ๑. แบบฟอรมรายงานการรังวดั สํานกั งานชา งรังวดั เอกชน จาํ นวน ๑ ฉบับ
๒. ตัวอยางการเขยี นรายงานการรงั วดั สํานกั งานชางรังวดั เอกชน จํานวน ๑ ฉบบั
ดวยสาํ นกั งานคณะกรรมการชา งรังวดั เอกชน ไดด ําเนินการออกตรวจแนะนาํ
สาํ นักงานชางรงั วดั เอกชน ในปง บประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ น้ัน ผลปรากฏวา การเขยี นรายงานรังวดั
ของสาํ นักงานชา งรังวัดเอกชนแตล ะสาํ นกั งานมีความแตกตางกัน
สาํ นกั งานคณะกรรมการชา งรังวัดเอกชน จงึ ไดดาํ เนนิ การจัดทาํ แนวทางการ
เขียนรายงานการรังวดั ที่ดนิ โดยสาํ นักงานชางรงั วัดเอกชน ซึ่งปรากฏขอ ความสาระสําคญั ในแบบ
รายงานการรงั วดั ตามสิ่งท่ีสงมาดว ย ดังนัน้ เพอ่ื ใชเ ปนหลักในการปฏิบตั ิงานใหเ ปน ไปในแนวทาง
เดยี วกนั และสอดคลอ งกบั ระเบยี บคณะกรรมการชา งรงั วดั เอกชนวา ดว ยการควบคมุ การปฏบิ ตั งิ าน
ของชา งรงั วัดเอกชน และสํานักงานชางรงั วัดเอกชน พ.ศ.๒๕๓๕ จงึ ขอใหส าํ นกั งานชางรงั วัด
เอกชนดําเนินการตามตัวอยางแบบรายงานการรังวัดสํานักงานชางรังวัดเอกชน และถือปฏิบัติ
ตอ ไป
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงช่อื ) วริ ัช ภูมิพทิ ักษก ลุ
(นายวิรชั ภมู ิพทิ ักษก ลุ )
ผอู าํ นวยการสํานักงานคณะกรรมการชา งรังวัดเอกชน
ฝายสงเสริมการรังวัดเอกชน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๔๔ – ๔๘
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๑๘
๑๘๒
แบบฟอรม
รายงานการรงั วดั สํานักงานชา งรงั วัดเอกชน
สํานักงาน......................................................................เลขที่ใบอนุญาต..........................................
วนั ที.่ ...............................................................................................................................................
เร่ือง รายงานการรังวดั
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
เรยี น เจา พนกั งานทด่ี ินจังหวดั ...............................สาขา..........................สวนแยก..........................
ตามสัญญารับจางทาํ การรงั วัดท่ีดิน ระหวาง............................................................
กบั ......................................................ลงวนั ที่............................................มีกาํ หนด...................วนั
คาํ ขอรงั วดั ทด่ี นิ ประเภท....................................................................................................................
ตามคาํ ขอของ..............................................ฉบับท.ี่ ............ลงวันท่.ี ......เดือน..................พ.ศ. ..........
ท่ีดนิ โฉนดเลขท.ี่ ........................ตําบล.........................อําเภอ........................จงั หวัด........................
ขาพเจา............................................ชางรังวัดเอกชนใบอนุญาตเปน ชา งรงั วัดเอกชน
เลขที่......................สังกัดสํานักงานชา งรงั วดั เอกชนชือ่ .............................................ใบอนุญาตจัดตั้ง
สาํ นกั งานชา งรังวดั เอกชนเลขที.่ ..........................ไดทาํ การรังวัดทีด่ นิ ขางตนต้งั แตว ันท.่ี .......................
จนแลว เสร็จเม่ือวันท่.ี .......................................รวม..................วัน ขอรายงานผลการรงั วัดดังน้ี
๑. คา ธรรมเนยี มการรงั วัดทดี่ นิ
๑. คารังวดั ทาํ แผนท่ปี ระเภท......................แปลง เงิน................................บาท
๒. คารงั วัดทาํ แผนทปี่ ระเภท......................วนั เงิน................................บาท
๓. คา คํานวณเน้ือทหี่ รือสอบแส..................แปลง เงิน................................บาท
รวมเปน เงินคาธรรมเนยี มการรังวดั .........................................................บาท
๒. ที่ดนิ ที่ขอรังวดั รปู แผนทีใ่ นโฉนดทด่ี ินเดมิ เปน..............................................
และ................................................................................................................................................
เนอ่ื งจาก..........................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
– สภาพที่ดนิ .................................................................................................
.................................................................................................
๑๘๓
–๒–
รายงานการรังวัดสํานักงานชา งรังวดั เอกชน
สาํ นักงาน......................................................................เลขท่ใี บอนุญาต..........................................
ตามคาํ ขอของ.......................................ฉบับที่...............ลงวันที.่ .........เดือน....................พ.ศ. ..........
ทด่ี ินโฉนดเลขที่.........................ตําบล.........................อําเภอ........................จังหวดั ........................
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
๓. คาํ ขอ..................................................................ดงั นี้
ผูขอไดข อทําการรังวดั ไว. ....................แปลง แตขอแบงเพม่ิ /ลด.................แปลง
รวมเปน ....................................แปลง ตามบันทึก ท.ด.๑๖ ลว..........................................................
๔. การสงหนงั สือแจง เจา ของท่ดี ินขางเคียง ปรากฏวา
.......................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
๕. เจาของทีด่ นิ ขา งเคียงไดม าระวังแนวเขต
.......................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
๖. ผลการรงั วดั ปรากฏวา ไดรูปแผนท่ีและเน้อื ท่ี
.......................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
๑๘๔
–๓–
รายงานการรงั วดั สาํ นักงานชางรังวัดเอกชน
สํานักงาน......................................................................เลขท่ใี บอนญุ าต..........................................
ตามคาํ ขอของ.......................................ฉบบั ท.ี่ ..............ลงวนั ที.่ .........เดือน....................พ.ศ. ..........
ท่ีดนิ โฉนดเลขที่.........................ตาํ บล.........................อาํ เภอ........................จงั หวดั ........................
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
๗. หลักเขตท่ีดนิ
......................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
๘. การรงั วัดครั้งนไ้ี ดใชเครอื่ งมอื รงั วดั ..............................................................
หมายเลข...............................................ตามหนังสือรบั รองเลขท่.ี .....................................................
และไดแ นบสาํ เนาหนงั สอื รับรองมาดว ยแลว
๙. ควรดาํ เนินการ
.....................................................................................................................
เพราะ............................................................................................................
......................................................................................................................................................
๑๐. ไดสงเอกสารและหลกั ฐานแผนที่ จาํ นวน.....................ฉบับ ปรากฏตามบญั ชี
เอกสารที่แนบมานี้
๑๑. อ่นื ๆ .............................................................................................................
......................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ผูทาํ การรังวดั
( ......................................... )
ชางรังวดั เอกชน
ใบอนญุ าตฯ เลขท่ี...............
๑๘๕
–๔–
รายงานการรังวดั สาํ นกั งานชางรังวัดเอกชน
สาํ นักงาน......................................................................เลขทใ่ี บอนญุ าต..........................................
ตามคําขอของ.......................................ฉบบั ท่.ี ..............ลงวันท.ี่ .........เดอื น....................พ.ศ. ..........
ท่ดี นิ โฉนดเลขท.ี่ ........................ตาํ บล.........................อาํ เภอ........................จังหวดั ........................
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
รบั รองผลการรังวดั
ขาพเจา ............................................ใบอนญุ าตเปน ชา งรงั วัดเอกชนเลขท.ี่ ...............
เปน..........................................................สํานกั งานชางรังวดั เอกชนชอื่ ............................................
ใบอนุญาตจดั ต้ังสํานักงานชา งรงั วดั เอกชนเลขท่ี......................ไดต รวจสอบผลการรังวดั ที่ดินรายนีแ้ ลว
......................................................................................................................................................
จงึ ลงนามรับรองผลการรังวัดเปนสาํ คัญ
ลงช่อื ........................................ผูตรวจสอบและรับรอง
( ........................................)
เรียน เจา พนกั งานที่ดินจังหวดั (ผานหัวหนาฝา ยรังวดั )
..........................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
........................................
( ........................................)
(ตําแหนง) .........................................
เรียน เจา พนกั งานทด่ี ิน
..........................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
........................................
( ........................................)
(ตําแหนง) .........................................
คําสง่ั เจาพนักงานท่ีดนิ
..........................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
........................................
( ........................................)
(ตาํ แหนง ).........................................
๑๘๖
ตวั อยาง
รายงานการรังวดั สาํ นกั งานชา งรังวัดเอกชน
สํานกั งาน.............(.ช..ื่อ..ส..าํ .น..ัก..ง..า..น..ช..า.ง..ร.ัง..ว..ดั ..เ.อ..ก..ช..น..)..................เลขทีใ่ บอนุญาต..........................................
วันท่ี................................................................................................................................................
เร่ือง รายงานการรังวดั
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
เรยี น เจาพนกั งานทดี่ นิ จังหวัด...............................สาขา..........................สว นแยก..........................
ตามสญั ญารบั จา งทาํ การรังวัดท่ีดนิ ระหวา ง.......(.ผ..ูว..า.จ..า..ง..).........................................
กบั ..........(.ผ..ูร..ับ..จ..า..ง.)................................ลงวนั ที่............................................มกี ําหนด...................วนั
คาํ ขอรงั วดั ทดี่ นิ ประเภท.......(.ป..ร..ะ..เ.ภ..ท..ก..า..ร.ร..งั..ว.ัด..).....................................................................................
ตามคาํ ขอของ.....(.ช.ือ่..ผ..ูข..อ..)...............................ฉบับท่ี.............ลงวันท.่ี ......เดอื น..................พ.ศ. ..........
ท่ดี นิ โฉนดเลขท่ี.........................ตําบล.........................อําเภอ........................จังหวัด........................
ขาพเจา..(.ช..ื่อ..ช..า..ง.ร..ัง.ว..ดั..เ.อ..ก..ช..น..)................ชางรงั วดั เอกชนใบอนญุ าตเปน ชางรงั วัดเอกชน
เลขท.่ี .....................สังกัดสํานกั งานชา งรังวดั เอกชนชื่อ.............................................ใบอนุญาตจัดตัง้
สาํ นกั งานชา งรังวดั เอกชนเลขที.่ ..........................ไดทําการรงั วัดทด่ี ินขางตน ต้ังแตว นั ที.่ .......................
จนแลว เสรจ็ เมือ่ วนั ท่.ี .......................................รวม..................วนั ขอรายงานผลการรงั วัดดงั น้ี
๑. คาธรรมเนียมการรงั วดั ที่ดิน
๑. คารังวดั ทําแผนท่ีประเภท......................แปลง เงิน................................บาท
๒. คารังวดั ทาํ แผนที่ประเภท......................วนั เงิน................................บาท
๓. คา คาํ นวณเน้ือที่หรือสอบแส..................แปลง เงนิ ................................บาท
รวมเปน เงนิ คา ธรรมเนยี มการรงั วดั .........................................................บาท
๒. ทีด่ ินที่ขอรงั วดั รูปแผนทีใ่ นโฉนดที่ดินเดมิ เปน ...ร.ูป..แ..ผ..น..ท..ี่................................
และ..ไ.ด..น..าํ..ห..ล..กั ..ฐ..า.น..ก..า..ร..ร..ัง.ว..ัด..ไ.ป..ป..ร..ะ..ก..อ..บ..ก..า.ร..ร..ัง.ว..ดั..ด..ว..ย...ห..ร..ิือ...ไ.ม..ไ..ด..น..าํ .ห...ล..ัก..ฐ.า..น..ไ.ป..ป...ร.ะ..ก..อ..บ..ก..า..ร..ร.ัง..ว.ดั..ด...ว.ย.................
เนอ่ื งจาก.....ใ.น..ว..นั ..ท..ํา..ก..า.ร..ร..งั .ว..ัด..ไ.ด..จ..าํ..ล..อ..ง.ร..ะ..ว.า..ง..แ.ผ...น..ท..ี่ .ร.ปู...แ.ผ..น..ท...ี่ .ห..ล..ัง.โ..ฉ..น..ด..เ.ด..ิม..แ..ล..ะ.ร..า..ย..ก..า.ร...
ร..งั..ว.ดั..แ..ป..ล..ง..ข..า..ง.เ.ค..ีย..ง..ไ.ป..ป..ร..ะ.ก..อ..บ...ก..า.ร..ร..ัง.ว..ัด...ต..ร..ว.จ..ส..อ..บ...แ.ล..ว..ห..ล..ัก..เ.ข..ต..เ.ก..า..ห..า..ย...............ห..ล..กั ...ผ..ูข..อ..แ..ล..ะ.ข..า..ง.เ.ค..ีย..ง..ไ.ด..ร..ว..ม..ก..นั ..
ป...ก ..ห..ล..กั ..เ.ข..ต..ใ.ห..ม...ต..า..ม..เ.ข..ต..ก..า.ร..ค..ร..อ..บ..ค..ร..อ..ง..โ..ด..ย..ม..ี .....เ.ป..น..แ..น..ว..เ.ข..ต...(.ถ..า.ไ.ด...ห..ล..กั ..ฐ..า.น..เ.ด..ิม..ไ..ป..ป..ร..ะ.ก..อ..บ..ก..า..ร..ร.งั..ว..ดั ..ใ.ห..ร..า.ย..ง..า..น..ว.า
ต...ร.ว..จ..ส..อ..บ..แ..ล..ว..ถ..กู ..ต..อ..ง.ต..า..ม..ห..ล..กั..ฐ..า..น..ก..า.ร..ร..งั .ว..ดั ..เ.ด..ิม..)..ไ.ด..ท..าํ..ก..า..ร.ร..งั..ว.ัด..ด..ว..ย..ว..ิธ..ีแ.ผ..น..ท...ี่ช.ั้น...๑....ห..ร..ือ..แ.ผ..น...ท..ี่ช.ั้น....๒...ด..ว..ย..ก..ล..อ..ง.ฯ....
–...ข..า..ง.เ.ค..ีย..ง..เ.ป..ล..ี่ย..น..แ..ป..ล..ง.เ.น..ือ่..ง..จ..า.ก...................................................................................
................................–..ท..ี่ด..ิน..แ..ป..ล...ง.น..ี้เ.ด..ิม..อ..ย..ูเ.ข..ต..ต..าํ ..บ..ล...................อ..ํา.เ.ภ..อ................ป..จ..จ.ุบ...ัน..ไ.ด..เ.ป..ล..ี่ย..น..แ..ป..ล..ง..เ.ข.ต..ก..า..ร.....
ป...ก..ค..ร.อ..ง..เ.ป..น ...เ.ข..ต..ต..าํ ..บ..ล..............อ..าํ ..เ.ภ..อ..............ต..า..ม..บ..นั ..ท..ึก...ท...ด...๑...๖...ล..ว...............................................................
– สภาพที่ดนิ ..เ.ป..น..ท..ี่อ..ย..ูอ..า..ศ..ยั ...ห..ร..ือ...เ.ป..น ..ท..ี่ส..ว..น...ท..ีน่..า..................................................
..(.ร..า.ย..ง..า.น..ต..า..ม..ค..ว..า..ม..เ.ป..น..จ..ร.ิง..)............................................................
๑๘๗
–๒–
รายงานการรงั วดั สาํ นกั งานชางรังวัดเอกชน
สาํ นักงาน..............(.ช..ื่อ..ส..าํ .น..กั..ง..า..น..ช.า..ง..ร.งั..ว..ดั ..เ.อ..ก..ช.น..)..................เลขท่ใี บอนญุ าต..........................................
ตามคาํ ขอของ..............(.ช..ือ่ ..ผ..ูข.อ..)...............ฉบบั ท.ี่ ..............ลงวันที่..........เดือน....................พ.ศ. ..........
ที่ดนิ โฉนดเลขท.่ี ........................ตําบล.........................อําเภอ........................จังหวดั ........................
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
๓. คาํ ขอ....ค..ง..เ.ด..ิม...ห..ร..ือ...เ.ป..ล..ี่ย..น..แ..ป..ล..ง..............................ดงั น้ี
ผูข อไดขอทําการรงั วดั ไว.....................แปลง แตข อแบง เพ่ิม/ลด.................แปลง
รวมเปน....................................แปลง ตามบันทกึ ท.ด.๑๖ ลว..........................................................
๔. การสงหนงั สือแจงเจา ของทดี่ นิ ขางเคียง ปรากฏวา
ส...ง.ไ.ด..ค..ร..บ..ถ..ว..น...ห..ร..ือ...ส..ง.ไ..ม..ค..ร..บ..ถ..ว.น...ค...ือ..ด..า.น...ก..ร..ณ...ีส..ง..ห..น..ัง.ส..ือ..แ..จ..ง..ข.า..ง..เ.ค..ีย..ง.ไ.ม...ถ..ึง.ผ..ูร..บั ..............
ใ..ห..ร..า.ย..ง..า.น..ด..ัง..น..ี้.เ.จ..า..ข.อ..ง..ท..ี่ด..ิน..ข..า..ง.เ.ค..ีย..ง..ร.ับ...ร.อ..ง..แ..น..ว.เ.ข..ต..ไ.ม...ค..ร.บ....ข.า..ด.............ร..า..ย...ค..ือ...เ.ล..ข..ท..ีด่ ..ิน..............ไ.ด..ส..ง..ห..น..ัง..ส..ือ..แ..จ.ง..
ข..า..ง..เ.ค..ีย..ง.ท..า..ง.ไ..ป..ร.ษ...ณ...ีย.ล...ง.ท..ะ..เ.บ..ีย..น..ต..อ..บ..ร..ับ..แ..ล..ว...ต..า.ม..ห...น..งั .ส..ือ..ล..ง..ท..ะ..เ.บ..ีย..น..ท..ี่ .........ล..ง.ว..ัน..ท..ี.่............ป..ร..า..ก..ฏ..ว..า....................
(.ต..า..ม..ห..ล..กั..ฐ..า..น..ก..า.ร..แ..จ..ง .ข..อ..ง.ไ..ป..ร.ษ...ณ..ยี..)..ไ.ด..ส..อ..บ...ถ..า.ม..ท..อ่ี..ย..จู..า..ก..น..า.ย..ท..ะ..เ.บ..ยี..น..อ..าํ..เ.ภ..อ...(.ห..ร.อื..ฐ..า..น..ข.อ. .ม...ลู ..ท..า.ง..ท..ะ..เ.บ..ยี ..น..ร.า..ษ..ฎ..ร..) ..แ.ล. ว
แ..ล..ะ..ไ.ด..ป..ฏ...ิบ..ัต..ิต..า.ม..ก...ฎ..ก..ร.ะ..ท..ร..ว..ง.ฉ..บ..ับ..ท...ี่ .๓..๑...(.พ...ศ...๒...๕..๒...๑..)..ล..ง.ว..นั..ท..ี่.๒...๑...ม..ิถ..นุ..า..ย..น...๒..๕...๒..๑...ข..อ...๒....แ..ล..ว..แ..ต..ว..นั..ท..ี.่ ..............
ส...ว.น..ด..า..น..อ..ืน่..ๆ...ร..บั ..ร..อ..ง.เ.ข..ต..แ..ล..ว.................................................................................................................
๕. เจา ของที่ดนิ ขา งเคียงไดมาระวงั แนวเขต
.ค..ร..บ..ท..กุ ..ด..า..น...ห..ร.ื.อ...ไ.ม..ค..ร..บ..ท..ุก..ด..า..น...ห..ร.ือ....ค..ดั ..ค..า.น..แ..น..ว..เ.ข..ต.................................................
...........–...ก..ร..ณ...ีร..บั ..ห..น..ัง..ส..ือ..แ..จ.ง..ข..า.ง..เ.ค..ีย..ง..แ.ล..ว...แ..ต..ไ.ม..ม..า..น..ํา..ช..ี้แ..น..ว.เ.ข..ต...ห..ร..ือ..ม..า..แ..ต..ไ.ม..ล..ง..ช.ื่อ..ร..ับ..ร..อ..ง.แ..น..ว..เ.ข..ต...ใ.ห..ร..า..ย.ง..า..น..ด..ัง.น..ี้
เ.จ..า..ข..อ..ง.ท...ี่ด..ิน..แ.ป...ล..ง.ข..า..ง.เ.ค..ีย..ง..ร.ับ...ร.อ..ง..แ..น..ว.เ.ข..ต..ไ.ม...ค..ร.บ....ข.า..ด............ร..า..ย..................................................................
..............ค..ื.อ...เ.ล..ข.ท...ี่ด..ิน............ร..บั ..ห..ม..า..ย..แ..ล..ว..ต..้ัง..แ..ต..ว..ัน..ท..ี่ .........ไ..ด..ป..ฏ..ิบ..ตั..ิต..า..ม..ก..ฎ..ก..ร..ะ.ท..ร..ว..ง..ฉ...บ..ับ..ท..ี่ .๓..๑....(.พ...ศ...๒..๕...๒..๑..)...
ล...ง.ว..ัน..ท..ี่.๒..๑....ม..ิถ..นุ ..า..ย..น...๒..๕..๒...๑...แ..ล..ว..แ..ต..ว.นั..ท...ี่ .................................................................................................
....................เ.ล..ข.ท...ี่ด..ิน............ร..บั ..ห..ม..า..ย..แ..ล..ว..ต...ั้ง.แ..ต..ว..นั ..ท..ี่ .........ไ..ด..ป..ฏ..ิบ..ัต..ิต..า..ม..ก..ฎ..ก..ร..ะ.ท...ร.ว..ง...ฉ..บ..บั ..ท..ี่.๓...๑...(.พ....ศ...๒..๕...๒..๑..)...
ล...ง.ว..นั ..ท..ี่.๒..๑....ม..ิถ..ุน..า..ย..น...๒..๕..๒...๑...แ..ล..ว..แ..ต..ว.ัน..ท...ี่ .................................................................................................
...........–...ก..ร..ณ...ีม..ีก..า..ร..ค..ัด..ค..า.น..แ..น..ว..เ.ข..ต...ใ.ห..ร..า..ย..ง.า..น..ด..ัง.น..ี้..ข.า..ง..เ.ค..ีย..ง.ด..า..น..ท..ิศ...........เ.ล..ข..ท..ี่ด..ิน.........ค..ดั ..ค..า..น..แ..น..ว.เ.ข..ต...ต..า..ม..บ..นั..ท..ึก
ท...ด...๑...๖...ล..ว........ต..า..ม..ร.ูป...แ.ผ..น...ท..ีด่ ..ัง.แ..ส..ด..ง..ใ.น..ต..น..ร..า.ง..แ..ผ..น..ท..ี่.ร...ว..๙....(.ก..ร.ะ..ด..า..ษ..บ..า..ง.)..ไ.ด..เ.ส..น..อ..ม..า..พ..ร..อ..ม..น..ี้...........................
...........–...ก..ร..ณ...ีร..ับ..ร..อ..ง.แ..น..ว..เ.ข..ต..ไ.ม..ค..ร..บ...(.ร.ปู...แ.ผ..น...ท..ี่แ.ล...ะ.เ.น..ื้อ..ท..ี่เ.ท...า.เ.ด..ิม..)..ป..ฏ...ิบ..ตั ..ิต..า.ม...ห..น..ัง.ส..ือ...ท...ี่ .ม..ท...๐..๖..๐..๖.../ว...๐..๕...๒..๕..๖.......
ล...ง.ว..นั ..ท..ี่.๒..๕....ก..มุ ..ภ..า..พ..ัน..ธ.. .๒..๕...๓..๖...ข..อ...๑....ห..ร.ือ...ข..อ...๒....(.แ.จ..ง...ท....ด...๓..๘....ค..)...............................................................
๖. ผลการรงั วดั ปรากฏวาไดรปู แผนท่แี ละเน้อื ที่
ค...ง.เ.ด..ิม...ห..ร..ือ...แ..ต..ก..ต..า..ง.จ..า..ก..เ.ด..ิม...เ.น..ือ่..ง..จ..า.ก...ก..า..ร..ค..ร.อ..บ...ค..ร.อ..ง..ไ.ม..ต..ร..ง.ก..บั...ร.ูป..แ..ผ..น..ท..ี่ห..ล...งั .โ.ฉ..น..ด..เ.ด..ิม.....
แ..ล..ะ..ค..าํ..น..ว..ณ...เน...ื้อ..ท..ีต่ ..า.ง..ว..ิธ..ีก..ัน...เ.น..ื้อ..ท..ีเ่ .ด..ิม....................ไ.ร...ร..ัง.ว..ัด..ใ.ห..ม..ไ..ด..เ.น..ื้อ..ท..ี่ ...................ไ.ร.. .ม..า..ก..ห..ร.ือ..น..อ..ย..ก..ว..า..เ.ด..ิม................ไ.ร.....
ไ..ด..ส..อ..บ..ส..ว..น..ผ..ูข..อ..แ.ล..ะ..ข..า..ง.เ.ค..ีย..ง..แ.ล...ว..ไ..ม..ม..ีก..า.ร..ส..ม..ย..อ..ม..แ..น..ว..เ.ข..ต..ก..นั ..เ.พ..ือ่..ห..ล..ีก..เ.ล..ีย่..ง..ก..ฎ..ห..ม..า..ย..แ.ต...อ..ย.า..ง..ใ.ด...ต..า..ม..บ..ัน..ท..ึก...ท....ด....๑..๖.
ล...ว..........ไ.ด...ล..ง.ท..ีห่ ..ม..า..ย..ใ.น..ต..น..ร..า..ง.แ..ผ..น..ท..ีใ่..ห..ม..ด..ว..ย.ม...า.ต..ร..า..ส..ว.น.............ร..ูป..แ..ผ..น..ท..ีใ่ .บ...ต..อ..ม..า.ต..ร..า..ส..ว.น............ร..ปู ..แ..ผ..น..ท..ี่ล..ง..ร..ะ.ว..า..ง.........
๑๘๘
–๓–
รายงานการรงั วัดสํานกั งานชา งรงั วัดเอกชน
สํานักงาน..............(.ช..ื่อ..ส..ํา..น..ัก..ง.า..น..ช..า.ง..ร..งั .ว..ัด..เ.อ..ก..ช..น..).................เลขทใ่ี บอนุญาต..........................................
ตามคาํ ขอของ..............(.ช..ือ่ ..ผ..ูข..อ..)..............ฉบับท.ี่ ..............ลงวันที่..........เดือน....................พ.ศ. ..........
ทีด่ ินโฉนดเลขที.่ ........................ตําบล.........................อําเภอ........................จงั หวัด........................
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
๗. หลกั เขตทด่ี ิน
ช..ือ่..ใ..ห..ม.. .โ.ด..ย..ไ.ด..ป..ก..ห..ล..กั...ค..อ..น..ก..ร.ีต..ไ..ว.............ห..ล..ัก...ค..ง..เ.ห..ล..ือ.............ห..ล..ัก...ค..ือ..ห..ม...า.ย..เ.ล..ข...............
ห...ร.ือ...ห..ล...ัก..เ.ข.ต..ท...ีด่ ..ิน..เ.ห..ล..ือ..จ..า.ก..ก..า..ร..ใ.ช..ร.า..ย..อ..ืน่...โ.ด..ย..ใ..ช.ป...ก..ห..ล..ัก..ค..อ..น..ก..ร..ีต...จ..ํา.น..ว..น.......................ห..ล..ัก...เ.ห...ล..ือ..ม..า.จ..า..ก..ใ.บ..เ.ส..ร..็จ...
ร..ับ..เ.ง..ิน..ห..ล..กั..เ.ข..ต..ท..ีด่..ิน..เ.ล..ข..ท..ี.่............เ.ล..ม..ท...ี่ ............ล..ง..ว.นั..ท..ี่...................พ..ร..อ..ม..น..ี้ไ.ด..แ..น..บ..ส..ํา..เ.น..า..ใ.บ..เ.ส..ร..จ็ ..ด..ัง.ก..ล..า..ว..ม..า..ด..ว.ย..แ..ล..ว.
๘. การรงั วัดครั้งนไี้ ดใชเ ครอื่ งมือรังวัด..............................................................
หมายเลข...............................................ตามหนังสอื รับรองเลขท.่ี .....................................................
และไดแนบสําเนาหนังสือรบั รองมาดวยแลว
๙. ควรดาํ เนนิ การ
ค...ว.ร..ด..ํา..เ.น..ิน..ก..า.ร..ใ.ห..ผ..ูข..อ..ต..อ..ไ.ป....ห..ร.ือ....แ.ก..ไ..ข.ต..า..ม...ม...๖..๑....ห..ร.ือ...แ..ก..ไ..ข.ต..า..ม...ม...๖..๙....ท..ว.ิ..................
เพราะ...ก..า..ร.ค..ร..อ..บ..ค..ร..อ..ง.ไ..ม..ต..ร.ง..ร..ปู ..แ..ผ..น..ท..ีห่ ..ล..ัง.โ..ฉ..น..ด..ท..ีด่ ..ิน..เ.ด..ิม...ก..า..ร..ร.ัง..ว.ดั..ต...า.ง..ว.ิธ..ี.ห..ล...กั ..เ.ก..า.ห..า..ย..
จ..าํ..น..ว..น.............ห..ล..ัก...ผ..ูข..อ..แ..ล..ะ..ข..า.ง..เ.ค..ีย..ง.ไ..ด..น..าํ .ท..ํา..ก..า..ร..ร.งั..ว.ดั...ป..ก ..ห..ล..กั ..เ.ข..ต..ใ.ห..ม..แ..ท..น..ห..ล..กั..เ.ข..ต..เ.ก..า..ท..ี่ห..า..ย...ค..ือ...ห..ม..า..ย..เ.ล..ข..........
๑๐. ไดส ง เอกสารและหลักฐานแผนที่ จาํ นวน.....................ฉบับ ปรากฏตามบัญชี
เอกสารทีแ่ นบมาน้ี
๑๑. อ่นื ๆ .............................................................................................................
......................................................................................................................................................
ลงชือ่ ผทู ําการรงั วดั
( ......................................... )
ชางรงั วัดเอกชน
ใบอนญุ าตฯ เลขท.่ี ..............
๑๘๙
–๔–
รายงานการรังวดั สาํ นกั งานชา งรังวดั เอกชน
สาํ นกั งาน.............(ช..ื่อ..ส..าํ..น..กั..ง..า.น..ช..า..ง.ร..งั..ว.ดั..เ.อ..ก..ช..น..)...................เลขทีใ่ บอนญุ าต..........................................
ตามคาํ ขอของ.............(ช..ื่อ..ผ..ูข..อ..)................ฉบบั ท่ี...............ลงวันท.่ี .........เดอื น....................พ.ศ. ..........
ท่ดี ินโฉนดเลขที.่ ........................ตาํ บล.........................อําเภอ........................จงั หวดั ........................
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
รับรองผลการรังวัด
ขาพเจา............................................ใบอนญุ าตเปน ชา งรงั วดั เอกชนเลขท.ี่ ...............
เปน......ผ..ูจ..ัด..ก..า..ร...ห..ร.ือ...ผ..ูท...าํ .ก..า..ร..แ.ท...น.................สาํ นักงานชางรังวัดเอกชนชอื่ ............................................
ใบอนญุ าตจัดตั้งสาํ นักงานชางรงั วดั เอกชนเลขที่......................ไดต รวจสอบผลการรังวัดที่ดนิ รายน้ีแลว
ป...ร.า..ก..ฏ..ว..า.ผ..ล...ก..า.ร..ร..งั .ว..ัด..ถ..กู ..ต..อ..ง...ต..ร.ง..ต..า..ม..ร.ะ..เ.บ..ีย..บ...ค..ํา..ส..ั่ง...แ.ล...ะ.ห..ล..ัก..เ.ก..ณ...ฑ...ท..ุก..ป..ร..ะ.ก..า..ร.............................................
จงึ ลงนามรบั รองผลการรังวดั เปนสาํ คญั
ลงชื่อ ........................................ผูต รวจสอบและรับรอง
( ........................................)
เรยี น เจาพนกั งานทดี่ นิ จงั หวัด (ผา นหวั หนา ฝายรังวัด)
..........................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
........................................
( ........................................)
(ตาํ แหนง).........................................
เรียน เจาพนักงานทีด่ ิน
..........................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
........................................
( ........................................)
(ตําแหนง ).........................................
คาํ สงั่ เจา พนกั งานทด่ี นิ
..........................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
........................................
( ........................................)
(ตําแหนง) .........................................
๑๙๐
ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๑๕๒๕๔ (สําเนา)
กรมท่ดี ิน
ศูนยราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๓ มิถนุ ายน ๒๕๕๖
เร่ือง ซอมความเขา ใจในการปฏิบัตริ าชการเกย่ี วกบั งานรังวัดเอกชน
เรียน ผูวา ราชการจังหวัดทุกจงั หวดั
อา งถงึ ๑. หนังสือกรมทด่ี ิน ท่ี มท ๐๗๒๑/ว ๖๙๕๒ ลงวนั ท่ี ๒๗ กมุ ภาพันธ ๒๕๔๕
๒. หนังสอื กรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๕๐๙/ว ๑๘๓๘๕ ลงวนั ท่ี ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๙
๓. หนงั สือกรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๕๐๙/ว ๓๐๓๙ ลงวันท่ี ๔ กุมภาพันธ ๒๕๕๔
ตามที่กรมท่ีดินไดแจงจังหวัดขอใหเจาหนาที่ท่ีเกี่ยวของใหความอนุเคราะหใน
การตดิ ปา ยแนะนาํ ตวั ของสาํ นกั งานชา งรงั วดั เอกชนตามทป่ี ด ประกาศหรอื บรเิ วณอน่ื ใดทเ่ี หมาะสม
ในสํานกั งานทีด่ นิ จงั หวัด สาขา และสวนแยก และสง่ั ใหส ํานักงานที่ดนิ ดังกลา วดําเนนิ การตาม
นยั มตขิ องคณะกรรมการชางรงั วัดเอกชน ในการแตง ต้งั เจา หนาทีผ่ รู ับผิดชอบเก่ยี วกับงานรงั วดั
ของสํานกั งานชา งรังวัดเอกชนปฏิบตั งิ านใหเ ปนไปตามกฎหมาย ระเบยี บ คําส่ังท่เี กยี่ วกบั งาน
รงั วดั เอกชนโดยเครงครัด และใหด าํ เนินการตามข้ันตอนการรงั วดั โดยสํานักงานชางรังวดั เอกชน
และกาํ ชบั เจาหนาทท่ี เ่ี ก่ยี วของใหถ ือปฏบิ ัตติ ามกาํ หนดระยะเวลา นนั้
ในขณะนี้ปรากฏวาการปฏิบัติงานของชางรังวัดเอกชนในสํานักงานชางรังวัด
เอกชนยงั จะตอ งไดร บั การปรบั ปรงุ ประสทิ ธภิ าพการทาํ งานใหไ ดม าตรฐานการรงั วดั ตามทก่ี รมทด่ี นิ
กําหนด เพื่อใหไดรับความเชื่อถือจากประชาชน หากสํานักงานชางรังวัดเอกชนมีบริการที่ดี
มีชื่อเสียงจะทําใหประชาชนพอใจที่จะใชบริการ และตัดสินใจเลือกการใชบริการรังวัดกับ
สาํ นกั งานชา งรงั วดั เอกชนนน้ั ๆ กรมทด่ี นิ จะไปประชาสมั พนั ธใ หป ระชาชนใชบ รกิ ารชา งรงั วดั เอกชน
โดยตรงไมได โดยทาํ หนา ทอ่ี าํ นวยความสะดวกตามข้ันตอนและระยะเวลาท่ีกาํ หนด แตป จ จุบนั
สาํ นกั งานชางรังวัดเอกชนสรางความไมนา เชอ่ื ถือ เมื่อรงั วดั เสรจ็ แลวมกี ารทิง้ งาน และคาใชจ า ย
ในการรังวดั สงู รวมท้ังมกี ารตั้งสํานักงานชางรังวดั เอกชนในสํานักงานทีด่ นิ โดยใหเ จาหนา ท่ขี อง
สํานักงานชางรังวดั เอกชนมาประจําอยู ณ สาํ นักงานทด่ี นิ และมกี ารเชิญชวนใหป ระชาชนท่ี
ตอ งการใชบริการงานรังวดั เรว็ ไปใชบริการของสํานักงานชา งรังวดั เอกชน กรมทด่ี นิ จงึ ขอซอม
ความเขา ใจเร่อื งการประชาสัมพันธสาํ นกั งานชา งรงั วดั เอกชน และการปฏบิ ตั ิงานของสํานักงาน
ชา งรังวัดเอกชน โดยใหปฏบิ ตั ิ ดังนี้
๑๙๑
๑. หามมิใหบุคคลใดมาน่ังประจําหรือตั้งโตะในสํานักงานท่ีดินเพ่ือ
ประชาสัมพนั ธแ ละเชิญชวนใหประชาชนไปใชบรกิ ารของชา งรงั วดั เอกชน
๒. การประชาสัมพันธสํานักงานชางรังวัดเอกชนสามารถทําไดเพียงแสดงชื่อ
คุณวฒุ ิ ตําแหนง ที่อยหู รือสํานักงานของตน ตามแบบการแนะนาํ สํานกั งานชา งรงั วัดเอกชนที่
กรมทีด่ ินไดวางแนวทางการปฏบิ ตั ิไวในหนงั สือกรมท่ดี ิน ท่ี มท ๐๗๒๑/ว ๖๙๕๒ ลงวันท่ี ๒๗
กุมภาพันธ ๒๕๔๕ และใหส าํ นักงานทด่ี ินจังหวดั สาขา และสวนแยก อาํ นวยความสะดวกในการ
แสดงแบบการแนะนาํ ดงั กลา วไวใ นทที่ ี่เหมาะสม
๓. เม่ือชางรังวัดเอกชนรับเร่ืองรังวัดไปดําเนินการและสงเรื่องตอเจาพนักงาน
ทด่ี นิ แลว ใหดาํ เนนิ การตามข้นั ตอน ไมใหเกบ็ เรื่องไวจ นทําใหเกิดปญ หารอ งเรียนขึ้น ทงั้ นี้ ใหถ ือ
ปฏบิ ตั ติ ามหนงั สือกรมทด่ี ิน ท่ี มท ๐๕๐๙/ว ๓๐๓๙ ลงวนั ท่ี ๔ กุมภาพันธ ๒๕๕๔
ฉะนั้น จึงขอใหเจา พนักงานทด่ี ินจังหวัด/สาขา/สว นแยก ไดกํากับดูแลการปฏบิ ตั ิ
งานและกําชับใหเจาหนาที่ผูใตบังคับบัญชาทุกระดับใหถือปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมาย
อยา งเครงครดั หากยังพบวามกี ารละเวนหรือฝาฝนไมปฏบิ ัติตาม เจาหนา ท่ผี ูรับผดิ ชอบทกุ ระดับ
เจา พนกั งานท่ดี ินจงั หวดั /สาขา/สวนแยก จะถูกพจิ ารณาโทษตามความเหมาะสมตอ ไป
จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจงใหเ จา หนา ทีไ่ ดถอื ปฏิบตั โิ ดยเครงครัดดว ย
ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่อื ) บญุ เชิด คดิ เห็น
(นายบุญเชิด คดิ เหน็ )
อธบิ ดีกรมทด่ี นิ
สาํ นักงานคณะกรรมการชางรงั วดั เอกชน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๔๖
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๑๘
๑๙๒
ท่ี มท ๐๕๐๙ / ว ๘๘๗ (สําเนา)
สาํ นกั งานคณะกรรมการชางรังวดั เอกชน กรมท่ีดนิ
ศนู ยราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๗ มิถนุ ายน ๒๕๕๖
เรอ่ื ง ซอมความเขา ใจในการปฏิบัติราชการเกยี่ วกบั งานรังวดั เอกชน
เรียน ผูไดรบั ใบอนญุ าตจัดตง้ั สํานักงานชา งรังวดั เอกชน
อา งถงึ ๑. หนังสือสํานักงานคณะกรรมการชางรังวดั เอกชน ที่ มท ๐๗๒๑/ว ๑๕๒ ลงวันท่ี ๒๗
กุมภาพนั ธ ๒๕๔๕
๒. หนังสอื กรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๕๐๙/ว ๓๐๓๙ ลงวันที่ ๔ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๔
สิง่ ทส่ี ง มาดวย หนงั สอื กรมทีด่ นิ ท่ี มท ๐๕๐๙/ว ๑๕๒๕๔ ลงวันที่ ๑๓ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖
ตามที่สํานักงานคณะกรรมการชางรังวัดเอกชนไดแจงใหสํานักงานชางรังวัด
เอกชนทราบวาสํานักงานชางรังวัดเอกชนสามารถท่ีจะแนะนําตัวเองไดตามรูปแบบการแนะนํา
บริษัทรงั วดั เอกชนทสี่ ง ไปใหโดยขอความทแ่ี นะนาํ จะตอ งไมข ัดกบั กฎกระทรวงฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ.
๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติชา งรงั วดั เอกชน พ.ศ.๒๕๓๕ ขอ ๒ (๔) วา ดว ยเรอื่ ง
มรรยาทชา งรังวัดเอกชน และใหส ํานกั งานชางรังวัดเอกชนดําเนนิ การตามขน้ั ตอนการรงั วดั โดย
สํานักงานชา งรังวัดเอกชนใหเ ปนไปตามระเบียบกฎหมาย ตามนัยหนังสอื กรมทดี่ ิน ท่ี มท ๐๕๐๙/
ว ๓๐๓๙ ลงวันที่ ๔ กุมภาพันธ ๒๕๕๔ น้ัน
ในขณะน้ีปรากฏวาการปฏิบัติงานของชางรังวัดเอกชนในสํานักงานชางรังวัด
เอกชนยงั จะตอ งไดร บั การปรบั ปรงุ ประสทิ ธภิ าพการทาํ งานใหไ ดม าตรฐานการรงั วดั ตามทก่ี รมทด่ี นิ
กําหนด เพื่อใหไดรับความเชื่อถือจากประชาชน หากสํานักงานชางรังวัดเอกชนมีบริการที่ดี
มีช่ือเสียงจะทําใหประชาชนพอใจท่ีจะใชบริการและตัดสินใจเลือกการใชบริการรังวัดกับ
สํานักงานชางรงั วัดเอกชนน้ันๆ กรมท่ดี ินจะไปประชาสมั พันธใ หประชาชนใชบ รกิ ารชา งรังวดั
เอกชนโดยตรงไมได แตปจจุบันสาํ นกั งานชางรังวดั เอกชนบางแหง สรา งความไมนาเช่ือถือ เมือ่
รังวดั เสร็จมกี ารปลอยปละละเลยในการดาํ เนินงานใหแลว เสรจ็ ตามสัญญา รวมทั้งใหเจา หนา ท่ี
ของสํานักงานชางรังวดั เอกชนมาประจําอยู ณ สาํ นักงานทีด่ นิ โดยมกี ารเชิญชวนใหประชาชนท่ี
ตอ งการใชบรกิ ารงานรังวดั เร็วไปใชบรกิ ารของสํานกั งานชางรังวดั เอกชน ซึ่งกรมท่ดี ินไดมหี นังสอื
เวยี นส่ังการในกรณีดงั กลา วใหเ จาหนา ที่สํานกั งานท่ดี นิ ถอื ปฏบิ ตั ิแลว ตามนยั หนังสือกรมทีด่ นิ
๑๙๓
ท่ี มท ๐๕๐๙/ว ๑๕๒๕๔ ลงวันที่ ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๕๖ ดงั นนั้ เพื่อใหการปฏิบัตงิ านเกี่ยวกับงาน
รังวัดเอกชนเปน ไปตามพระราชบัญญัติชา งรงั วดั เอกชน พ.ศ.๒๕๓๕ สาํ นกั งานคณะกรรมการ
ชา งรงั วดั เอกชนจึงขอซอมความเขาใจในเรอ่ื งการประชาสมั พนั ธส าํ นักงานชางรงั วัดเอกชน และ
การปฏิบัตงิ านของสาํ นกั งานชางรังวัดเอกชน โดยใหป ฏิบตั ิดงั นี้
๑. หามมิใหบุคคลใดมานั่งประจําหรือต้ังโตะในสํานักงานท่ีดินเพื่อประชา
สมั พนั ธแ ละเชญิ ชวนใหประชาชนไปใชบ รกิ ารงานรังวัดของสาํ นกั งานชางรงั วัดเอกชน
๒. การประชาสัมพันธสํานักงานชางรังวัดเอกชนสามารถทําไดเพียงแสดงช่ือ
คุณวุฒิ ตาํ แหนง ท่ีอยูห รือสํานักงานของตน ตามแบบการแนะนําสํานักงานชางรังวดั เอกชนท่ี
กรมที่ดินไดว างแนวทางการปฏิบตั ไิ วในหนงั สือสาํ นักงานคณะกรรมการชา งรงั วดั เอกชน ท่ี มท
๐๗๒๑/ว ๑๕๒ ลงวันที่ ๒๗ กุมภาพนั ธ ๒๕๔๕ และขอใหส าํ นกั งานท่ดี นิ จงั หวดั สาขา และ
สวนแยก แสดงแบบตัวอยา งการแนะนําดงั กลาว
๓. สํานักงานชางรังวัดเอกชนตองปรับปรุงมาตรฐานการรังวัดใหมีประสิทธิภาพ
มากยง่ิ ขน้ึ ไมทิ้งงาน สามารถดาํ เนนิ การใหแลว เสร็จภายในระยะเวลาท่กี าํ หนดในสญั ญา เพ่อื ให
ประชาชนเกดิ ความพงึ พอใจในการเขารบั บริการ สรางความนาเช่ือถอื ใหแกป ระชาชน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจงใหผูจัดการสํานักงานชางรังวัดเอกชน
ชา งรังวดั เอกชนในสงั กดั ไดทราบและถอื ปฏิบตั โิ ดยเครง ครัดตอ ไปดว ย
ขอแสดงความนับถอื
(ลงชื่อ) วริ ชั ภมู ิพิทักษกุล
(นายวิรชั ภูมพิ ทิ ักษกลุ )
ผูอํานวยการสํานกั งานคณะกรรมการชางรงั วัดเอกชน
ฝายสง เสรมิ การรังวดั เอกชน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๔๖
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๑๘
๑๙๔
ที่ มท ๐๕๐๙ / ว ๒๐๓๙๘ (สําเนา)
กรมท่ดี นิ
ศูนยราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๖ สิงหาคม ๒๕๕๖
เรอ่ื ง การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการรงั วดั เอกชน
เรียน ผวู า ราชการจังหวดั ทกุ จังหวดั
ดวยกรมท่ีดินไดจัดทําโครงการอบรมสัมมนาผูไดรับใบอนุญาตจัดตั้งสํานักงาน
ชา งรงั วดั เอกชน และชา งรงั วดั เอกชน ประจําปง บประมาณ พ.ศ.๒๕๕๖ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเพ่อื
พัฒนาประสิทธิภาพการทาํ งานการรังวดั เอกชน รับทราบปญ หาในทางปฏิบตั ิเพอ่ื นํามาแกไข
และพิจารณาหาแนวทางสง เสรมิ เพอื่ พัฒนางานรงั วดั เอกชน ตลอดจนเพื่อเปนการประสานความ
เขาใจอนั ดตี อกนั ระหวา งรฐั กบั เอกชน
กรมท่ีดินไดรวบรวมแนวทางการพิจารณาตามประเด็นปญหาซ่ึงสรุปไดจาก
สัมมนาตามโครงการดงั กลาว เพอื่ ใชในการปฏบิ ัตงิ านใหเ ปน แนวทางเดียวกนั ดงั ตอ ไปนี้
๑. การรบั คําขอรังวัด
กรณที ผ่ี ขู อไดย น่ื คาํ ขอใหเ จา พนกั งานทด่ี นิ ดาํ เนนิ การไวแ ลว ภายหลงั ประสงค
จะใหสํานักงานชางรังวัดเอกชนเปนผูดําเนินการแทนใหแจงเจาหนาที่ทราบเม่ือนําสัญญารับจาง
ทําการรังวัดมาแสดงตอเจาพนักงานที่ดินและใหเจาพนักงานท่ีดินดําเนินการตอไป ทั้งนี้ให
เจา หนาทห่ี มายเหตุไวในคําขอเดมิ ดว ย และใหถ อื วา คาํ ขอเดิมเปน คาํ ขอทใ่ี หด าํ เนินการรงั วดั โดย
สาํ นักงานชา งรังวดั เอกชน
๒. การทาํ สัญญารับจา งทาํ การรังวดั ทด่ี นิ
ผูจัดการสํานักงานชางรังวัดเอกชนหรือผูทําการแทนมีอํานาจหนาที่ในการทํา
สัญญารบั จา งทาํ การรังวัด ในการทผ่ี จู ัดการสาํ นกั งานชางรังวดั เอกชนไดมอบใหผใู ดทําการแทน
ตองมหี ลกั ฐานเปน หนงั สอื
๓. การคิดคาคัดสาํ เนาหรือถายเอกสาร และคา รบั รองสําเนาเอกสาร
เม่ือผูแทนสํานักงานชางรังวัดเอกชนไดนําสัญญารับจางทําการรังวัดท่ีดินมา
แสดงตอเจา พนักงานที่ดิน พรอ มกบั หนงั สือแจงกําหนดวนั เดือน ป ทีท่ ําการรงั วดั เพือ่ จะขอรบั
เร่ืองรังวดั ไปดําเนินการใหฝา ยรงั วัดออกใบส่งั คาธรรมเนยี มคัดสําเนาหรือถา ยเอกสาร หนา ละ
๕ บาท และคารับรองสําเนาเอกสารชุดละ ๑๐ บาท
๑๙๕
๔. การซอ้ื หลักเขตท่ีดิน
สํานักงานชางรังวัดเอกชนสามารถซื้อหลักเขตท่ีดินจากสํานักงานที่ดินได
ในวันทไี่ ปรบั เรื่องรงั วัด โดยใหฝา ยรงั วดั ออกใบส่ังคา หลักเขตทด่ี นิ ใหส ํานักงานชา งรังวดั เอกชน
ไปชาํ ระแลวนาํ สําเนาใบเสร็จรบั เงนิ ตดิ ไวด า นหลังคาํ ขอทเี่ ปน ตนฉบับ และเก็บไวเ ปน หลกั ฐาน
หนึ่งฉบับ หลักเขตที่ดินท่ีรับไปในการรังวัดหากใชไมหมดชางรังวัดเอกชนตองนํามาเก็บรักษา
ณ สาํ นกั งานชา งรังวัดเอกชน เพือ่ ใชใ นการรงั วดั ที่ดนิ รายอนื่ ทอ่ี ยูในจังหวัดเดยี วกันตอ ไปได
๕. การตรวจเรอื่ งรงั วัดและการสงเรื่องรงั วดั
เม่ือชางรังวัดเอกชนไดดําเนินการเร่ืองรังวัดเสร็จและผูจัดการสํานักงานชาง
รังวัดเอกชนไดตรวจสอบและลงชื่อรับรองผลการรังวัด หรือกรณีผูจัดการสํานักงานชางรังวัด
เอกชนเปนผูทําการรังวัด ใหชางรังวัดเอกชนที่อยูในสังกัดตรวจสอบและลงช่ือรับรองผลการ
รงั วัด แลวใหน ําเรือ่ งรังวัดและเอกสารทเ่ี กี่ยวของทง้ั หมดสง เจาพนกั งานทด่ี นิ ณ สาํ นกั งานที่ดนิ
จงั หวัดหรือสํานกั งานที่ดินจงั หวดั สาขาทไ่ี ดร ับเรอื่ งรังวดั นน้ั มา โดยใหจ ดั ทาํ บัญชีจาํ นวนเอกสาร
ที่สง ตามแบบ สชอ.๗ โดยการสง เรื่องดงั กลา ว ใหนําสงตอฝายอํานวยการเพือ่ ลงรับหนงั สือตาม
ระเบยี บงานสารบรรณ แลว ใหฝายรังวดั ดาํ เนินการตอ ไป
๖. การเซน็ รับรองการแจง หมาย
ใหฝ า ยรงั วดั มอบเอกสารหนงั สอื แจง เจา ของทด่ี นิ ขา งเคยี งซง่ึ เจา พนกั งานทด่ี นิ
ไดรับรองแลวใหแกผูมารับเร่ืองตามชื่อท่ีปรากฏในหนังสือแจงของสํานักงานชางรังวัดเอกชน
หากไมม ีการรบั รอง และปรากฏภายหลังวา เอกสารไมค รบหรือสญู หาย จะทําใหเ กดิ ขอ ขัดขอ งใน
การปฏบิ ัติงานได
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจงใหพนักงานเจาหนาที่ทราบและถือปฏิบัติ
โดยเครง ครัดตอไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงช่ือ) บุญเชดิ คดิ เห็น
(นายบญุ เชดิ คดิ เหน็ )
อธบิ ดีกรมท่ีดนิ
สํานกั งานคณะกรรมการชางรังวัดเอกชน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๔๖
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๑๘
๑๙๖