The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมระเบียบคำสั่ง กรมที่ดิน ประจำปี 2556 (ปี 2556)

กองแผนงาน

Keywords: ด้านทั่วไป

สําหรบั พนักงานเจา หนา ท่ี
สรุปหลักเกณฑ
การขอหนงั สือรับรองรา_ค_า_ป_ร_ะ_เ_ม_ิน__ท_ุน_ท__ร_พั _ย_ที่ดนิ พรอมสง่ิ ปลกู สรา ง
การขอหนงั สือรบั รองราคาประเมินทุนทรพั ยท ่ดี นิ พรอมส่งิ ปลกู สราง ตามระเบียบ
กรมที่ดินวาดวยการประเมินราคาทุนทรัพยเพ่ือเรียกเก็บคาธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิ
และนิตกิ รรม และการขอหนงั สือรบั รองราคาประเมนิ ทุนทรัพยที่ดินและอสงั หาริมทรัพยอยางอ่ืน
พ.ศ. ๒๕๕๖ มหี ลักเกณฑก ารดาํ เนินการของพนักงานเจา หนา ท่ี สรุปไดด ังนี้
๑. การขอหนังสือรับรองราคาประเมินทุนทรัพยเฉพาะสิ่งปลูกสรางเพียง
อยา งเดียว ไมส ามารถดําเนนิ การได จะตอ งเปน การขอหนงั สือรับรองราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ย
ท่ีดินพรอมสิ่งปลูกสรางซึ่งผูขอเปนเจาของที่ดินและส่ิงปลูกสรางทั้งสองอยางเทานั้น โดยสิ่งปลูก
สรางนั้น ตง้ั อยบู นท่ีดินแปลงทขี่ อหนงั สอื รับรองราคาประเมินทุนทรพั ย
๒. กรณีที่ดินและสิ่งปลูกสรางท่ีขอหนังสือรับรองราคาประเมินทุนทรัพย ไดมา
พรอมกนั ตองมีหลักฐานการไดม าซึง่ กรรมสทิ ธ์ิในทดี่ นิ และสิง่ ปลกู สรา งน้นั โดยการจดทะเบยี น
ตอพนักงานเจาหนา ท่ี (เชน หลักฐานสญั ญาขายทด่ี นิ พรอ มสิ่งปลกู สราง เปนตน) หรอื
๓. กรณีที่ดินและส่ิงปลูกสรางท่ีขอหนังสือรับรองราคาประเมินทุนทรัพย ไดมา
ไมพรอมกัน
๓.๑ ตองมหี ลักฐานแสดงวาผูขอเปนเจา ของส่ิงปลูกสรา งนน้ั โดยจดทะเบียน
ตอพนกั งานเจาหนา ที่ และสง่ิ ปลกู สรางนัน้ ตั้งอยูบนทีด่ ินของผขู อแปลงที่ขอหนังสือรับรองราคา
ประเมนิ ทนุ ทรพั ย หรือ
๓.๒ กรณสี ง่ิ ปลกู สรา งทปี่ ลกู สรา งขึน้ ภายหลงั ตองปรากฏหลกั ฐานวา ผขู อเปน
ผูขออนญุ าตปลูกสรา งบนทด่ี นิ ท่ซี ่ึงมชี ื่อผขู อเปนเจาของท่ีดนิ
๔. สิ่งปลูกสรางตองเปนประเภทท่ีกําหนดไวในบัญชีกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย
โรงเรอื น สงิ่ ปลกู สรางในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรพั ย ท่ีสามารถ
นําไปใชในการคํานวณทุนทรัพยได และตองมีหมายเลขประจําบาน หรือหมายเลขที่ของ
สง่ิ ปลกู สรา ง พรอ มท้งั รายละเอียดประเภทสง่ิ ปลกู สรา ง จํานวนเน้ือที่ ปท ี่ปลูกสรา ง หรอื ปลกู สรา ง
มาแลวเปน เวลากีป่  โดยใหผูขอรบั รองรายละเอยี ดเกย่ี วกับสงิ่ ปลกู สรา งท่ีใหไวว าเปน ความจริง
ตามท่ีใหถ อ ยคาํ ทุกประการ
๕. การออกหนังสือรับรองราคาประเมินทุนทรัพยท่ีดินพรอมสิ่งปลูกสราง ใหแยก
ราคาประเมินทุนทรัพยท่ีดินและสิ่งปลูกสรางเปนสองราคาแยกจากกัน เพื่อความสะดวกแก
หนว ยงานท่ีไดรับหนงั สือรบั รองราคาประเมินทุนทรัพยท ่จี ะพจิ ารณาใชข อมูลดังกลาว

๔๙๗

๖. กรณีมีเหตุสงสัยวาสิ่งปลูกสรางที่ขอออกหนังสือรับรองราคาประเมินทุนทรัพย
พรอ มทด่ี นิ นน้ั เปนสิง่ ปลกู สรางประเภทใด หรือมีขนาดเนอื้ ที่เทา ใด หรือมขี อสงสัยประการอื่นใด
เกี่ยวกับท่ีดินหรือสิ่งปลูกสรางนั้น พนักงานเจาหนาท่ีสามารถออกไปตรวจสอบขอเท็จจริงได
โดยใหผขู อเปนผูนาํ ตรวจและเสยี คา พาหนะในการออกไปตรวจสอบ

๗. ในการออกหนังสือรบั รองราคาประเมนิ ทุนทรพั ยท ดี่ นิ พรอมสิ่งปลกู สราง ใหม ีผล
ใชไดภ ายในป พ.ศ. ท่อี อกหนังสือรบั รองเทา นนั้ เนอ่ื งจากราคาประเมนิ ทนุ ทรัพยส ิ่งปลูกสรางอาจ
มกี ารเปลย่ี นแปลง ซ่ึงเกดิ จากการคํานวณราคาประเมินทนุ ทรพั ยส งิ่ ปลูกสรางท่มี กี ารหักคาเส่อื ม
ราคาตามอตั ราทก่ี าํ หนดไวเปนรายป

๘. กรณสี ิ่งปลูกสรา งอื่นๆ ที่ไมม หี ลักฐานแสดงหมายเลขประจําบานหรือหมายเลขที่
หรือรายละเอยี ดของส่งิ ปลูกสรา ง และไมป รากฏหลักฐานการจดทะเบยี นตอ พนกั งานเจา หนา ที่
ใหอ อกหนงั สือรับรองราคาประเมินทนุ ทรพั ยเฉพาะทด่ี นิ เทา น้ันใหแกผขู อ และใหผ ูข อคัดสาํ เนา
บัญชีกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยโรงเรือนส่ิงปลูกสรางในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เกีย่ วกับอสังหารมิ ทรพั ยท ่ีใชในพนื้ ที่นนั้ ๆ ไปแสดงตอ หนวยงานทผ่ี ขู อตดิ ตอ โดยผูขอเปนผใู ห
ถอ ยคาํ รบั รองตอ หนว ยงานนั้นเองวา เปนสิง่ ปลกู สรางประเภทใด และมรี าคาประเมนิ เทา ใด ตาม
บัญชีกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยโรงเรือนส่ิงปลูกสรางในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เก่ยี วกบั อสงั หาริมทรพั ย

๙. การขอหนงั สอื รับรองราคาประเมนิ ทุนทรพั ยทีด่ นิ พรอมสงิ่ ปลกู สรา ง สามารถยนื่
คําขอตา งสํานักงานทีด่ นิ ได

๑๐. คา ธรรมเนียมการขอหนงั สอื รบั รองราคาประเมนิ ทุนทรัพย
๑๐.๑ โฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน ใหเ รยี กเกบ็ คา ธรรมเนยี ม

คําขอ แปลงละ ๕ บาท และคาธรรมเนยี มหนังสอื รับรองราคาประเมินทุนทรพั ย ฉบบั ละ ๑๐ บาท
(ตามกฎกระทรวงซงึ่ ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ.๒๔๙๗)

๑๐.๒ หองชดุ ใหเรยี กเก็บคา ธรรมเนยี มคาํ ขอ หองชดุ ละ ๒๐ บาท และ
คา ธรรมเนียมหนงั สอื รบั รองราคาประเมินทนุ ทรพั ย ฉบบั ละ ๑๐ บาท
(ตามกฎกระทรวงกาํ หนดคา ธรรมเนียมและคาใชจา ยเกย่ี วกับอาคารชดุ )
หมายเหตุ

ในกรณีที่ผูขอยืนยันจะย่ืนคําขอหนังสือรับรองราคาประเมินทุนทรัพยเฉพาะ
ส่ิงปลกู สรา งเพยี งอยา งเดียว ใหพนกั งานเจา หนาท่สี ่งั ไมรับดาํ เนนิ การตามคําขอ พรอมแจง
เหตุผลและสทิ ธกิ ารอทุ ธรณต ามกฎหมายวา ดวยวธิ ปี ฏบิ ตั ิราชการทางปกครองใหผ ูขอทราบดวย

–––––––––––––––––––

๔๙๘

สาํ หรบั ประชาสัมพันธ
สรปุ หลกั เกณฑ
การขอหนงั สือรบั รองราคาประเมนิ ทุนทรัพยท ี่ดนิ พรอ มสิ่งปลกู สราง
_________________
กรณที ี่เจาของท่ดี นิ ทีม่ ีอาคารสิ่งปลูกสรา งตง้ั อยบู นท่ดี ินของตนเอง หากประสงค
จะขอหนังสือรับรองราคาประเมนิ ทุนทรพั ย เพอื่ นําไปใชเ ปน หลกั ฐานประกอบคาํ ขอทาํ ธุรกรรม
กับหนวยงานตางๆ ไดแ ก การขอสินเช่ือกบั สถาบันการเงิน หรอื ใชเปน หลกั ประกนั ตวั ผูต อ งหา
ซึ่งจะตองเปนการขอหนังสือรับรองราคาประเมินทุนทรัพยที่ดินและส่ิงปลูกสรางที่ปลูกอยูบนท่ีดิน
น้ันไปในคราวเดยี วกนั โดยพนกั งานเจา หนาท่จี ะออกหนังสอื รับรองราคาประเมินทุนทรัพยท ดี่ ิน
พรอ มสงิ่ ปลูกสรา ง จะไมด ําเนินการออกหนังสอื รับรองราคาประเมินทนุ ทรัพยเ ฉพาะสิ่งปลกู สรา ง
เพียงอยางเดียว ทง้ั น้ี ผขู อสามารถดําเนนิ การได ดังนี้
๑. เจาของท่ีดินและสิ่งปลูกสรางหรือผูท่ีไดรับมอบอํานาจย่ืนคําขอตอพนักงาน
เจาหนา ท่ี ณ สาํ นักงานที่ดินทอ งทซี่ ึง่ ท่ีดินต้ังอยู พรอ มดว ยโฉนดทด่ี ินหรือหนงั สอื รับรองการทํา
ประโยชน บตั รประจาํ ตวั ประชาชน สาํ เนาทะเบยี นบา น และหลักฐานทเี่ กย่ี วกับรายละเอยี ด
ส่ิงปลูกสราง ไดแก
๑.๑ หลักฐานแสดงวาผูขอเปนเจาของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสรางที่
ไดม าพรอ มกันโดยจดทะเบยี นตอพนกั งานเจาหนา ท่ี (เชน หลักฐานสัญญาซือ้ ขายท่ดี นิ พรอม
ส่ิงปลูกสรา ง เปน ตน ) หรือ
๑.๒ หลักฐานที่แสดงวาผูขอเปนเจาของส่ิงปลูกสรางโดยมีการจดทะเบียนตอ
พนกั งานเจาหนาที่ กรณีท่ีสิง่ ปลูกสรางไดม าไมพรอ มกับทด่ี นิ และสง่ิ ปลูกสรา งน้นั ต้ังอยบู นทดี่ ิน
แปลงทข่ี อออกหนังสอื รบั รองราคาประเมินทนุ ทรัพย (กรณไี ดท ีด่ ินกับสิ่งปลูกสรางมาไมพรอมกนั
เชน ผูขอเปน เจาของทีด่ ินอยกู อ นแลว ตอมาภายหลงั จดทะเบียนรับโอนมรดกสงิ่ ปลูกสราง หรือ
ขอปลูกสรางส่ิงปลกู สรางนัน้ ขึน้ ภายหลัง เปนตน )
๑.๓ หลกั ฐานหมายเลขประจาํ ตวั หรอื หมายเลขทข่ี องสง่ิ ปลกู สรา ง การขออนญุ าต
ปลกู สรางทม่ี ชี ือ่ ผขู อเปน ผูขออนุญาต พรอ มดว ยรายละเอียดประเภทสง่ิ ปลูกสราง จาํ นวนเนือ้ ที่
และปที่ปลูกสราง
๒. กรณผี ขู อประสงคจ ะขอหนงั สอื รบั รองราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยท ด่ี นิ พรอ มสง่ิ ปลกู สรา ง
ตา งสํานักงานทด่ี นิ ผูข อสามารถยน่ื คําขอตอ พนักงานเจาหนาท่ี ณ สํานกั งานท่ดี ินจงั หวดั
สํานกั งานทด่ี ินสาขา สาํ นักงานที่ดนิ สวนแยก หรือสํานกั งานท่ีดนิ อาํ เภอแหง ใดแหงหนง่ึ ได พรอม
ดวยโฉนดท่ดี นิ หรอื หนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน และเอกสารหลักฐานอนื่ ที่เกยี่ วของ เชนเดยี ว
กับ ขอ ๑

๔๙๙

๓. คาธรรมเนียมการขอหนงั สือรับรองราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ย
๓.๑ โฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน ใหเรียกเก็บคาธรรมเนียม

คาํ ขอ แปลงละ ๕ บาท และคา ธรรมเนียมหนงั สือรับรองราคาประเมินทุนทรัพย ฉบับละ ๑๐ บาท
(ตามกฎกระทรวงซงึ่ ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗)

๓.๒ หองชุด ใหเรียกเก็บคาธรรมเนียมคําขอ หองชุดละ ๒๐ บาท และ
คา ธรรมเนียมหนงั สือรบั รองราคาประเมินทุนทรพั ย ฉบับละ ๑๐ บาท (ตามกฎกระทรวงกาํ หนด
คาธรรมเนียมและคา ใชจ ายเกย่ี วกบั อาคารชุด)

–––––––––––––––––––

๕๐๐

ดว นทส่ี ุด (สาํ เนา)
ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๒๒๓๖ กรมทดี่ นิ
ศูนยราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖

เร่ือง มาตรการปรับปรงุ บญั ชอี ัตราภาษีเงินไดส ําหรบั บุคคลธรรมดา
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวดั ทกุ จงั หวัด
ส่ิงทส่ี ง มาดวย ๑. สาํ เนาพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วา ดว ยการลดอัตรา

รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๗๕) พ.ศ.๒๕๕๖
๒. ตารางเปรยี บเทียบอตั ราภาษีเงินไดบคุ คลธรรมดาเดิม และอตั ราภาษเี งินได

บุคคลธรรมดาใหม

กรมทด่ี นิ ขอสง สาํ เนาพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร วา ดว ย
การลดอัตรารษั ฎากร (ฉบับท่ี ๕๗๕) พ.ศ.๒๕๕๖ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎกี า
เลม ๑๓๐ ตอนที่ ๑๒๓ ก วันท่ี ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ มีผลใชบังคับต้งั แตวันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเปนตนไป (วนั ท่ี ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๕๖) มสี าระสาํ คญั เปนการปรบั ปรงุ อตั รา
ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาสําหรบั คํานวณเงนิ ไดส ทุ ธจิ าก ๕ ขนั้ อตั รา เปน ๗ ขั้นอตั รา และลดอตั รา
ภาษเี งินไดบ คุ คลธรรมดาจากอัตราสงู สดุ รอยละ ๓๗ เปน รอ ยละ ๓๕ มผี ลใชบ งั คับสําหรบั เงนิ ได
ที่ไดรับในป พ.ศ.๒๕๕๖ และป พ.ศ.๒๕๕๗ มาเพอ่ื โปรดทราบและแจง ใหพ นกั งานเจา หนาที่
ทราบและถือปฏบิ ตั ิตอไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอ่ื ) พินจิ หาญพาณชิ ย

(นายพินจิ หาญพาณชิ ย)
อธบิ ดกี รมท่ดี นิ

สํานักมาตรฐานการทะเบยี นที่ดนิ
สวนมาตรฐานการจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๑ - ๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๐๑

(สําเนา) สงิ่ ท่ีสง มาดว ย ๑

พระราชกฤษฎกี า
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
วา ดวยการลดอตั รารัษฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๗๕)

___พ_._ศ_._๒_๕_๕__๖___
ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วนั ที่ ๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
เปน ปท ่ี ๖๘ ในรชั กาลปจจบุ นั

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา

โดยทีเ่ ปนการสมควรลดอตั ราภาษีเงนิ ไดสาํ หรับบคุ คลธรรมดา
อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนญู แหงราชอาณาจักรไทย
และมาตรา ๓ (๑) แหง ประมวลรัษฎากร ซง่ึ แกไ ขเพิม่ เติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติม
ประมวลรษั ฎากร (ฉบับท่ี ๑๐) พ.ศ.๒๔๙๖ อนั เปนกฎหมายทมี่ บี ทบัญญัตบิ างประการเกยี่ วกับ
การจาํ กดั สิทธิและเสรภี าพของบคุ คล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑
ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติ
แหงกฎหมาย จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกาข้นึ ไว ดงั ตอ ไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานเี้ รียกวา “พระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวล
รัษฎากร วาดวยการลดอัตรารษั ฎากร (ฉบับท่ี ๕๗๕) พ.ศ. ๒๕๕๖”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาเปนตน ไป
มาตรา ๓ ใหลดอัตราภาษเี งินไดต าม (๑) สําหรบั บคุ คลธรรมดา ของบัญชอี ัตรา
ภาษเี งนิ ไดท า ยหมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แหงประมวลรัษฎากร ซึ่งแกไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชกําหนด
แกไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลรษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๑๖) พ.ศ.๒๕๓๔ สาํ หรบั เงนิ ไดส ทุ ธทิ ไ่ี ดร บั ในป พ.ศ.๒๕๕๖
และป พ.ศ.๒๕๕๗ ดังตอ ไปนี้
(๑) เงนิ ไดสุทธไิ มเกินหน่งึ แสนบาท ใหค งจัดเก็บในอัตรารอยละหา
(๒) เงนิ ไดส ุทธเิ ฉพาะสวนที่เกินหนงึ่ แสนบาท แตไมเ กินสามแสนบาท ใหจดั เก็บ
ในอตั ราลดลง จากรอ ยละสบิ ใหเ หลือรอ ยละหา สําหรบั เงินไดส ทุ ธิสว นท่เี กินสามแสนบาท
แตไมเกนิ หาแสนบาท ใหค งจัดเกบ็ ในอัตรารอยละสิบ

๕๐๒

(๓) เงินไดสุทธิเฉพาะสวนท่ีเกินหาแสนบาท แตไมเกินเจ็ดแสนหาหมื่นบาท
ใหจ ัดเก็บในอตั ราลดลงจากรอ ยละย่ีสบิ ใหเ หลอื รอ ยละสบิ หา สาํ หรบั เงนิ ไดส ทุ ธิสว นที่เกนิ
เจ็ดแสนหาหมื่นบาท แตไ มเกินหนึ่งลา นบาท ใหคงจดั เกบ็ ในอตั รารอ ยละยี่สิบ

(๔) เงนิ ไดส ทุ ธิเฉพาะสว นทีเ่ กนิ หนึง่ ลานบาท แตไ มเกนิ สองลานบาท ใหจ ัดเก็บใน
อตั ราลดลงจากรอยละสามสิบ ใหเหลือรอยละยีส่ บิ หา สาํ หรบั เงนิ ไดส ุทธสิ วนท่เี กนิ สองลา นบาท
แตไมเกินส่ลี านบาท ใหค งจัดเก็บในอตั รารอ ยละสามสิบ

(๕) เงินไดส ุทธิสว นท่ีเกินสล่ี า นบาท ใหจดั เก็บในอตั ราลดลงจากรอยละสามสิบเจ็ด
ใหเหลือรอยละสามสิบหา

มาตรา ๔ ใหรฐั มนตรวี า การกระทรวงการคลงั รักษาการตามพระราชกฤษฎกี าน้ี
ผรู บั สนองพระบรมราชโองการ

ยิ่งลกั ษณ ชนิ วัตร
นายกรัฐมนตรี

______________________________________________________________________________
หมายเหตุ :– เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎกี าฉบบั นี้ คือ เนอ่ื งจากรัฐบาลมีนโยบาย
ในการบรรเทาภาระภาษีใหแกผูมีเงินไดเพ่ือสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแขงขันของ
ประเทศ สรา งความเปนธรรมในสงั คม และเสรมิ สรางความมัน่ คงทางเศรษฐกิจ สมควรลดอตั รา
ภาษเี งนิ ไดส ําหรับบคุ คลธรรมดาท่ีกาํ หนดไวใ นบัญชีอตั ราภาษเี งนิ ไดท ายหมวด ๓ ในลักษณะ
๒ แหงประมวลรษั ฎากร สาํ หรับเงินไดสุทธทิ ีไ่ ดร ับในป พ.ศ.๒๕๕๖ และป พ.ศ.๒๕๕๗ จงึ จําเปน
ตองตราพระราชกฤษฎกี านี้

๕๐๓

สง่ิ ท่สี งมาดว ย ๒

ตารางเปรียบเทียบอตั ราภาษเี งินไดบ ุคคลธรรมดาเดิม และอตั ราภาษีเงนิ ไดบ ุคคลธรรมดาใหม

อัตราภาษีเงินไดบุคคลธรรมดาเดมิ อัตราภาษเี งินไดบคุ คลธรรมดาใหม
ตามพระราชกําหนดแกไขเพิ่มเตมิ ประมวลรัษฎากร ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
(ฉบบั ท่ี ๑๖) พ.ศ. ๒๕๓๔ วาดวยการลดอตั รารษั ฎากร
(ฉบบั ท่ี ๕๗๕) พ.ศ. ๒๕๕๖
เฉพาะใน ป พ.ศ. ๒๕๕๖ และป พ.ศ. ๒๕๕๗
(ใชบ ังคับตัง้ แตวันท่ี ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๕๖ เปนตน ไป)

เงินไดสุทธติ ้งั แต อัตราภาษี เงินไดสทุ ธติ งั้ แต อัตราภาษี
(บาท) (รอยละ) (บาท) (รอ ยละ)

๐ – ๑๐๐,๐๐๐ ๕ ๐ – ๑๐๐,๐๐๐ ๕
๑๐๐,๐๐๑ – ๕๐๐,๐๐๐ ๑๐ ๑๐๐,๐๐๑ – ๓๐๐,๐๐๐ ๕
๓๐๐,๐๐๑ – ๕๐๐,๐๐๐ ๑๐
๕๐๐,๐๐๑ – ๑,๐๐๐,๐๐๐ ๒๐ ๕๐๐,๐๐๑ – ๗๕๐,๐๐๐ ๑๕
๗๕๐,๐๐๑ – ๑,๐๐๐,๐๐๐ ๒๐
๑,๐๐๐,๐๐๑ – ๔,๐๐๐,๐๐๐ ๓๐ ๑,๐๐๐,๐๐๑ – ๒,๐๐๐,๐๐๐ ๒๕
๒,๐๐๐,๐๐๑ – ๔,๐๐๐,๐๐๐ ๓๐
๔,๐๐๐,๐๐๑ ขึ้นไป ๓๗
๔,๐๐๐,๐๐๑ ขนึ้ ไป ๓๕

๕๐๔

อัตราภาษีเงนิ ไดบคุ คลธรรมดาใหม
ตามพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร วาดวยการลดอัตรารษั ฎากร

(ฉบับที่ ๕๗๕) พ.ศ. ๒๕๕๖
เฉพาะใน ป พ.ศ. ๒๕๕๖ และป พ.ศ. ๒๕๕๗
(ใชบ งั คบั ตั้งแตวนั ท่ี ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๖ เปน ตน ไป)

เงนิ ไดส ุทธติ งั้ แต เงนิ ไดแตล ะข้ัน อัตราภาษี เงนิ ไดแ ตละขัน้ ภาษีสะสม
(บาท) (รอยละ)
๑๐๐,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๕,๐๐๐
๐ – ๑๐๐,๐๐๐ ๒๐๐,๐๐๐ ๕ ๑๐,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐
๑๐๐,๐๐๑ – ๓๐๐,๐๐๐ ๒๐๐,๐๐๐ ๕ ๒๐,๐๐๐ ๓๕,๐๐๐
๓๐๐,๐๐๑ – ๕๐๐,๐๐๐ ๒๕๐,๐๐๐ ๑๐ ๓๗,๕๐๐ ๗๒,๕๐๐
๕๐๐,๐๐๑ – ๗๕๐,๐๐๐ ๒๕๐,๐๐๐ ๑๕ ๕๐,๐๐๐ ๑๒๒,๕๐๐
๗๕๐,๐๐๑ – ๑,๐๐๐,๐๐๐ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ๒๐ ๒๕๐,๐๐๐ ๓๗๒,๕๐๐
๑,๐๐๐,๐๐๑ – ๒,๐๐๐,๐๐๐ ๒,๐๐๐,๐๐๐ ๒๕ ๖๐๐,๐๐๐ ๙๗๒,๕๐๐
๒,๐๐๐,๐๐๑ – ๔,๐๐๐,๐๐๐ ๓๐
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
๔,๐๐๐,๐๐๑ ขนึ้ ไป ๓๕

๕๐๕

ดวนท่ีสุด (สาํ เนา)
ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๒๓๔๗ กรมทดี่ ิน
ศนู ยร าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๖

เรื่อง การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรมเก่ียวกบั ทรัพยสินของบรรษทั บรหิ ารสินทรัพยไทย (บสท.)
เรียน ผูวา ราชการจงั หวดั ทุกจังหวัด
อา งถึง หนงั สือกรมท่ดี ิน ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๘๙๑๑ ลงวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔
สงิ่ ท่ีสง มาดวย ๑. สําเนาบันทึกสาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เร่ือง การชาํ ระบญั ชีบรรษทั

บรหิ ารสินทรัพยไทย (เรอื่ งเสร็จท่ี ๕๘๓/๒๕๕๖)
๒. สาํ เนาคาํ สั่งกระทรวงการคลงั ท่ี ๘๔๑/๒๕๕๖ ลงวันท่ี ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖

เรอื่ ง การมอบหมายและมอบอํานาจใหป ลดั กระทรวงการคลงั ปฏบิ ตั ริ าชการ
แทนรัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลัง
๓. สําเนาคําสัง่ กระทรวงการคลังท่ี ๘๔๒/๒๕๕๖ ลงวนั ท่ี ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖
เรอื่ ง การมอบหมายและมอบอํานาจทปี่ ลัดกระทรวงการคลงั ไดรบั มอบอํานาจ
จากรฐั มนตรวี าการกระทรวงการคลังใหแ กอธิบดีกรมบญั ชกี ลาง

ตามหนังสือที่อางถึง กรมท่ีดินไดสงสําเนาพระราชกฤษฎีกาวาดวยการชําระ
บญั ชบี รรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ยไ ทย พ.ศ. ๒๕๕๔ เพอ่ื ใหเ จา หนา ทท่ี ด่ี นิ ศกึ ษาทาํ ความเขา ใจเกย่ี วกบั
การยกเวนคาธรรมเนยี ม และภาษีอากรตามมาตรา ๑๗ แหงพระราชกฤษฎีกาฯ พรอ มทั้ง
ถือปฏิบัตใิ นสว นทเี่ กี่ยวขอ ง นั้น

บดั นี้ กรมบัญชีกลางไดแ จง ใหกรมทีด่ ินทราบวา ปจจุบันคณะกรรมการชําระ
บัญชี บสท. ที่ตั้งข้ึนตามพระราชกฤษฎีกาวาดวยการชําระบัญชีบรรษัทบริหารสินทรัพยไทย
พ.ศ. ๒๕๕๔ ไดสง มอบสินทรัพย หนี้สิน และทรพั ยส ินคงเหลือ สมดุ บญั ชี รวมทงั้ เอกสาร
ท้งั หมดใหแ กก ระทรวงการคลงั เปน ผูดาํ เนนิ การ บรหิ ารจดั การภารกิจคงคา งของ บสท. และ
กรมบญั ชีกลางเปนผูรบั มอบอํานาจจากกระทรวงการคลังในการดําเนนิ การตางๆ ท่ีเกย่ี วขอ งกบั
บสท. แลว ดังนน้ั จงึ แจง ใหเ จาหนา ท่ที ่ดี นิ ทราบไวเ ปน ขอ มลู และถือปฏบิ ตั ใิ นสวนทเี่ ก่ียวของ ดงั น้ี

๕๐๖

๑. พระราชกาํ หนดบรรษัทบรหิ ารสินทรพั ยไ ทย พ.ศ. ๒๕๔๔ ไดสนิ้ สดุ การบังคบั
ใชแลว แตว นั ที่ ๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๖ ตามนัยมาตรา ๙๕ แหง พระราชกาํ หนดบรรษทั บริหาร
สนิ ทรพั ยไทย พ.ศ. ๒๕๔๔ ซ่ึงมผี ลทําใหบรรษทั บริหารสนิ ทรัพยไ ทย (บสท.) ไดย ุบเลกิ แลว

๒. การชาํ ระบญั ชขี องบรรษทั บริหารสินทรพั ยไทย (บสท.) ซึ่งไดม ีการแตง ต้งั
คณะกรรมการชําระบญั ชีเปน ผูดําเนนิ การกจิ การตางๆ แทน บสท. ตามพระราชกฤษฎกี าวาดวย
การชาํ ระบัญชีบรรษทั บรหิ ารสินทรพั ยไ ทย พ.ศ.๒๕๕๔ และอํานาจของคณะกรรมการชําระบญั ชี
ดงั กลาวไดสน้ิ สดุ ลงแลว (ภายในวนั ที่ ๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๖) จงึ ไมอ าจดําเนนิ การจดทะเบียนสทิ ธิ
และนิตกิ รรมในนามของ บสท. ไดแ ตอ ยางใด ทั้งนี้ ตามบนั ทึกสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
เร่ือง การชําระบัญชบี รรษัทบรหิ ารสนิ ทรัพยไ ทย เรือ่ งเสรจ็ ท่ี ๕๘๓/๒๕๕๖ ตามสิ่งท่สี ง มาดว ย ๑.
และขณะน้คี ณะกรรมการชําระบัญชี บสท. ไดสง มอบสินทรพั ย หนีส้ ิน และทรพั ยสนิ คงเหลอื
สมดุ บัญชี รวมทง้ั เอกสารทง้ั หมดใหแ กก ระทรวงการคลังเพื่อเปนผูดาํ เนินการบริหารจัดการ
ภารกจิ คงคา งของ บสท. เรียบรอ ยแลว ดงั นั้น หากปรากฏวามผี มู ายื่นคําขอจดทะเบียนสิทธแิ ละ
นิตกิ รรมเกย่ี วกบั ทรัพยส นิ ของ บสท. ใหแ กผูรบั โอนทม่ี ิใชกระทรวงการคลงั และผูโอนมใิ ชผูรบั
มอบอํานาจจากกรมบญั ชกี ลาง พนักงานเจาหนาทีย่ อ มไมอ าจรบั จดทะเบียนใหไดตามเหตุผล
ดังกลา วขา งตน และใหพ นักงานเจา หนาทแ่ี จงใหค ูกรณที ราบและประสานงานกบั กรมบัญชีกลาง
ซ่งึ เปน ผรู ับมอบอาํ นาจจากกระทรวงการคลงั ในการดําเนนิ การตางๆ ทีเ่ กี่ยวของกบั บสท. กอน
ตามสิง่ ที่สง มาดวย ๒. และ ๓.

๓. สําหรับการดําเนินการเพ่ือเปล่ียนแปลงทางทะเบียนในท่ีดินและ
อสงั หารมิ ทรัพยอ ยา งอนื่ จากชอื่ ของ บสท. ในฐานะผถู อื กรรมสิทธิห์ รอื ผูท รงบุริมสิทธิม์ าเปนของ
กระทรวงการคลัง นนั้ อธิบดีกรมบัญชีกลางในฐานะผูร บั มอบอํานาจจากกระทรวงการคลังเปน
ผูดําเนินการแทนปลัดกระทรวงการคลังเพียงฝายเดียวสามารถ ย่ืนคําขอจดทะเบียนโอน
กรรมสทิ ธิ์หรอื สทิ ธคิ รอบครองในอสงั หารมิ ทรพั ยของ บสท. ใหแกก ระทรวงการคลงั ไดในประเภท
“โอนตามกฎหมาย (ตามมาตรา ๑๙ แหงพระราชกฤษฎีกาวา ดวยการชําระบญั ชบี รรษทั บรหิ าร
สินทรัพยไทย พ.ศ. ๒๕๕๔)” แตหากเปน กรณีทม่ี ีการยนื่ คาํ ขอจดทะเบยี นโอนสิทธิตา งๆ เชน
บุริมสิทธ,ิ์ จาํ นอง เปนตน การเขยี นชอ่ื ประเภทการจดทะเบยี นใหปรบั ไปตามประเภทการ
จดทะเบยี นน้นั ๆ เชน โอนบุริมสทิ ธิต์ ามกฎหมายหรอื โอนสทิ ธิการรับจํานองตามกฎหมาย (ตาม
มาตรา ๑๙ แหง พระราชกฤษฎีกา วา ดวยการชาํ ระบัญชีบรรษัทบริหารสนิ ทรพั ยไทย พ.ศ.๒๕๕๔)
เปน ตน และเพือ่ ใหรูว าทรัพยส ินดงั กลา วเปนทรพั ยสนิ ของ บสท. ที่กระทรวงการคลงั รับโอนมา
และตองมกี ารบริหารจดั การสินทรพั ย หนส้ี นิ ใหเสรจ็ ส้ินตอไป ในสารบญั จดทะเบียนชองผูรับ
สัญญาจงึ ใหลงชื่อ “กระทรวงการคลัง (เพ่ือการบริหารจัดการสนิ ทรพั ย หนี้สิน และทรพั ยส ินท่ี
คงเหลือของ บสท.)” และหากไมม กี ฎหมายอ่นื บญั ญตั ยิ กเวน คา ธรรมเนยี มไว กรณนี ี้ จะเรียก
เกบ็ คา ธรรมเนยี มประเภทไมมีทุนทรัพยแ ปลงละ ๕๐บาท ตามขอ ๒ (๗) (ฑ) แหงกฎกระทรวง

๕๐๗

ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงใหพนักงานเจาหนาที่ทราบและถือปฏิบัติ
ตอ ไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชื่อ) พนิ จิ หาญพาณิชย

(นายพินิจ หาญพาณชิ ย)
อธบิ ดกี รมท่ีดิน

สํานักมาตรฐานการทะเบยี นทด่ี นิ
สว นมาตรฐานการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๑ - ๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๐๘

ส่ิงทีส่ ง มาดว ย ๑
เร่ืองเสรจ็ ท่ี ๕๘๓/๒๕๕๖
บันทกึ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เรอ่ื ง การชาํ ระบ__ัญ_ช__บี _ร_ร_ษ_ัท__บ_ร_ิห_ารสนิ ทรัพยไ ทย
บรรษทั บริหารสินทรพั ยไ ทยไดม หี นังสอื ดว นทีส่ ดุ ท่ี ๑/๒๕๕๖ ลงวนั ที่ ๑๗
เมษายน ๒๕๕๖ ถงึ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สรุปความไดวา ตามท่ไี ดมกี ารตรา
พระราชกฤษฎีกาเพื่อชําระบัญชีบรรษัทบริหารสินทรัพยไทย (บสท.) และรัฐมนตรีไดแตงตั้ง
คณะกรรมการชาํ ระบญั ชเี พอ่ื ดาํ เนนิ การชาํ ระบญั ชี บสท. ใหแ ลว เสรจ็ ในเวลาไมช า กวา ปท ส่ี บิ สอง
นับต้งั แตว นั ท่ีพระราชกําหนดบรรษัทบริหารสินทรพั ยไทย พ.ศ.๒๕๔๔ ใชบงั คับ ซ่ึงจะครบกําหนด
ในวันท่ี ๘ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖ ตามนัยมาตรา ๙๕ แหงพระราชกาํ หนดบรรษัทบริหารสินทรพั ย
ไทย พ.ศ.๒๕๔๔ ประกอบมาตรา ๙ แหง พระราชกฤษฎกี าวา ดว ยการชาํ ระบญั ชบี รรษทั บรหิ าร
สินทรัพยไทย พ.ศ.๒๕๕๔ แตการดาํ เนนิ การชําระบญั ชขี องคณะกรรมการชาํ ระบัญชยี ังมีภารกจิ
คา งอยู เชน การคาํ นวณผลกําไรหรือขาดทนุ เพื่อแบง ปน ผลกําไรหรอื รบั ผดิ ชอบในผลขาดทุนกบั
สถาบนั การเงนิ หรือบริษทั บริหารสนิ ทรัพยทโี่ อนสนิ ทรัพยใหแก บสท. และยงั มกี รณีคดที ่ี บสท.
เปนโจทกฟองลูกหน้ีและบุคคลภายนอกในคดีแพง และคดลี ม ละลาย และคดที ่ี บสท. ถูกฟอ งเปน
จําเลยในคดแี พง และคดีอาญา ซง่ึ ยงั อยูร ะหวางการพจิ ารณาของศาล เปนเหตุใหไมอาจชาํ ระ
บัญชีใหแ ลว เสร็จภายในระยะเวลาทีก่ ฎหมายกาํ หนด ดังนัน้ จงึ ขอหารือประเด็นขอกฎหมายวา
เม่ือครบกาํ หนดท่ีกฎหมายใหช าํ ระบัญชีใหแ ลว เสร็จภายในวันท่ี ๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๖ แตไมอ าจ
ชําระบัญชีไดเสร็จสิ้น คณะกรรมการชําระบัญชียังจะมีอํานาจหนาที่ดําเนินการชําระบัญชีได
ตอ ไปอกี หรือไม และหากไมมอี าํ นาจ บสท. ตอ งปฏิบัตอิ ยางไร
คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะท่ี ๓) ไดพิจารณาขอหารือของบรรษัทบริหาร
สนิ ทรัพยไ ทย โดยรบั ฟง คาํ ชแ้ี จงจากผแู ทนกระทรวงการคลัง (สาํ นกั งานเศรษฐกิจการคลัง) และ
ผแู ทนบรรษทั บริหารสินทรัพยไ ทยแลว ปรากฏขอ เทจ็ จรงิ เพมิ่ เตมิ วา ในปจ จุบนั บรรษัทบริหาร
สนิ ทรพั ยไทย (บสท.) ไดย ุบเลิกแลว และอยูในระหวางการชาํ ระบัญชี โดยมภี ารกิจสําคัญท่ยี งั
ดาํ เนนิ การไมแ ลว เสร็จ คือ การคํานวณผลกาํ ไรหรือขาดทนุ เพอื่ แบง ปนผลกําไรหรอื รับผดิ ชอบ
ในผลขาดทุนกบั สถาบันการเงนิ หรอื บริษัทบริหารสนิ ทรพั ยท ีโ่ อนสินทรพั ยใหแ ก บสท. เนอ่ื งจาก
ยังมสี นิ ทรัพยและทรัพยสนิ บางสวนอยูระหวางการพิจารณาคดขี องศาล และการดําเนนิ คดีความ
ในศาลทัง้ ในคดที ี่ บสท. เปน โจทกฟอ งลูกหนีแ้ ละบคุ คลภายนอก และในคดที ่ี บสท. ถกู ฟอ งเปน
จําเลย นอกจากนี้ กระทรวงการคลงั ไดม กี ารเตรียมการรองรบั การส้นิ สดุ การชําระบญั ชี บสท. แลว

__________________________
สง พรอ มหนงั สือ ดว นทีส่ ุด ที่ นร ๐๙๐๑/๐๘๐๑ ลงวนั ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ซ่ึงสํานกั งาน

คณะกรรมการกฤษฎกี ามถี ึงสํานกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี

๕๐๙

โดยรัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลังไดมอบหมายใหสํานักงานคณะกรรมการนโยบาย
รัฐวสิ าหกิจ เปนผูรับโอนทรัพยสนิ ท่ีคงเหลือ สมุด บญั ชี และเอกสารทั้งหมดของ บสท. ตอไป

คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๓) ไดพ จิ ารณาขอหารือดังกลาว ประกอบกับ
ขอ เทจ็ จรงิ เพิ่มเตมิ แลว มคี วามเหน็ ดังน้ี

ประเดน็ ทห่ี นง่ึ เมอ่ื ครบกาํ หนดระยะเวลาการชาํ ระบญั ชบี รรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ยไ ทย
ใหแลว เสร็จ ตามมาตรา ๙๕ แหงพระราชกาํ หนดบรรษัทบริหารสนิ ทรพั ยไทย พ.ศ.๒๕๔๔ แลว
อํานาจหนาที่ในการชําะระบัญชีของคณะกรรมการชําระบัญชีบรรษัทบริหารสินทรัพยไทยจะ
ส้ินสุดลงหรือไม นน้ั เหน็ วา พระราชกาํ หนดบรรษัทบรหิ ารสินทรัพยไทยฯ เปนกฎหมายที่มี
วัตถุประสงคเฉพาะเพื่อแกไขปญหาในสภาวะท่ีประเทศไทยประสบปญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจ
อยางรา ยแรง โดยการจดั ตง้ั บรรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ยไ ทย (บสท.) ทาํ หนา ที่แกไ ขปญ หาการคาง
ชําระหนข้ี องลกู หนข้ี องสถาบนั การเงินของรฐั และเอกชนใหเปนไปอยา งรวดเรว็ เพ่อื แกไขปญ หา
ทในาชงเว ศงรรษะยฐะกเจิ วลเปาทน ่ีจกาํากรเดั ฉพโดายะตกาจิ มทมั้งานต้ี รกาฎ๙ห๕มา๑ยแกหาํ หง พนรดะใรหา ชบกสาํ ทห.นมดอี บํารนรษาจทั หบนราหิ ทา่ดีรสาํ นิเนทินรกัพายรไเทพยยี ฯง
บัญญัติให บสท. ตองยุบเลิกเมื่อสิ้นปที่สิบนับแตวันที่กฎหมายใชบังคับ (พระราชกําหนดฯ
ใชบงั คับในวนั ท่ี ๙ มถิ นุ ายน ๒๕๔๔ และการยบุ เลกิ บสท. มีผลในวนั ท่ี ๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๔) และ
ชาํ ระบญั ชีใหแลวเสรจ็ ในเวลาไมช า กวาปทส่ี ิบสองนบั แตวนั ทีก่ ฎหมายใชบ งั คับ (ภายในวนั ที่ ๘
มถิ ุนายน ๒๕๕๖) และใหพ ระราชกําหนดน้ีเปน อันยกเลิกเม่ือครบสิบสองปน ับแตวนั ทีก่ ฎหมาย
ใชบ ังคบั โดยในสว นการชาํ ระบญั ชี บสท. ใหม ีการแตง ตัง้ คณะกรรมการชาํ ระบญั ชี วธิ ีการชําระ
บญั ชี ระยะเวลาการชาํ ระบญั ชี เง่อื นไขในการโอนทรพั ยส นิ และหนี้สนิ ของ บสท. และมเี งอ่ื นไข
อ่นื ใดตามทก่ี ําหนดในพระราชกฤษฎีกา ซงึ่ ตราโดยอาศยั อํานาจตามมาตรา ๙๕ วรรคสอง
ประกอบมาตรา ๙๓๒ แหงพระราชกาํ หนดบรรษัทบรหิ ารสนิ ทรพั ยไทยฯ และในปจ จุบันไดมีการ
ตราพระราชกฤษฎีกาดังกลาวแลว คอื พระราชกฤษฎกี าวาดวยการชําระบญั ชบี รรษัทบริหาร
สินทรัพยไทย พ.ศ.๒๕๕๔

เม่ือพิจารณาเจตนารมณของมาตรา ๙๕ แหงพระราชกําหนดบรรษัทบริหาร
สินทรพั ยไทย พ.ศ. ๒๕๔๔ ทก่ี าํ หนดระยะเวลาการชําระบญั ชี บสท. ใหแ ลวเสรจ็ ในเวลาไมชา

_____________๑__ม_า_ต__รา___๙_๕___เมอ่ื ครบเจด็ ปนบั แตว นั ทพี่ ระราชกาํ หนดนี้ใชบ งั คับ ให บสท. เตรยี มการเพอ่ื
เลกิ ดาํ เนินกิจการโดยใหยบุ เลิก บสท. เม่อื สิ้นปทสี่ ิบ และชําระบญั ชีใหแ ลวเสรจ็ ในเวลาไมช ากวา ปทสี่ บิ สอง
นับแตวันท่ีพระราชกําหนดนี้ใชบังคับ และใหพระราชกําหนดน้ีเปนอันยกเลิกเม่ือครบสิบสองปนับแตวันท่ี
พระราชกําหนดนี้ใชบังคับ แตทั้งนี้ ไมเปนการลบลางความผิดตามพระราชกําหนดนี้ที่ไดกระทํากอนวันที่
พระราชกําหนดนี้ถกู ยกเลกิ

ใหนําบทบญั ญัตมิ าตรา ๙๓ และมาตรา ๙๔ มาใชบ งั คบั แกก ารชําระบัญชตี ามวรรคหนึ่ง
โดยอนุโลม ๒ มาตรา ๙๓ เมื่อคณะรฐั มนตรีมมี ติใหย บุ เลิก บสท. ตามมาตรา ๙๑ หรือตามมาตรา ๙๒
ใหกาํ หนดการแตง ตงั้ คณะกรรมการชําระบัญชี วธิ กี ารชําระบัญชี ระยะเวลาการชําระบญั ชี เงือ่ นไขในการโอน
ทรพั ยสนิ และหน้ีสินของ บสท. และเง่อื นไขอนื่ ใดทจี่ าํ เปน โดยการตราเปน พระราชกฤษฎีกา

๕๑๐

กวาปท่ีสิบสองนับแตวันท่ีพระราชกําหนดใชบังคับ และกําหนดระยะเวลาใหพระราชกําหนด
ดังกลาวเปนอันยกเลิกเมื่อครบสิบสองปนับแตวันท่ีพระราชกําหนดใชบังคับแลว เห็นไดวา
กรอบระยะเวลาในการชําระบัญชี บสท. ใหแลวเสร็จ เปนกําหนดเวลาเดียวกับการยกเลิก
พระราชกําหนดฯ ดงั นนั้ การชําระบญั ชี บสท. จึงตองดําเนินการใหแ ลวเสร็จภายในกรอบระยะ
เวลาดังกลาวอยางเครง ครัด เนอ่ื งจากเม่อื ถึงกาํ หนดระยะเวลาทพี่ ระราชกาํ หนดบรรษัทบริหาร
สินทรพั ยไ ทยฯ สน้ิ สุดการมีผลใชบ ังคบั อาํ นาจหนาที่ของคณะกรรมการชาํ ระบญั ชีในการชําระ
บญั ชี บสท. ตามทก่ี าํ หนดไวใ นพระราชกฤษฎกี าวา ดว ยการชาํ ระบญั ชบี รรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ยไ ทยฯ
อันเปนกฎหมายอนุบัญญัติ ยอ มตอ งส้ินสุดลงไปดวย

ประเดน็ ที่สอง หากอํานาจหนา ทีใ่ นการชาํ ระบัญชีของคณะกรรมการชาํ ระบญั ชี
บรรษัทบริหารสินทรัพยไทยสิ้นสุดลง การดําเนินการเกย่ี วกบั ภารกิจของบรรษัทบริหารสินทรัพย
ไทย ทค่ี า งอยู ตอ งปฏบิ ตั ิอยา งไร นนั้ เห็นวา เน่อื งจากไมมบี ทบญั ญตั ใิ นกฎหมายท่ีกาํ หนดเรือ่ ง
การดาํ เนนิ การเกย่ี วกับทรัพยสินและหนสี้ นิ ของ บสท. หากการชาํ ระบญั ชียงั ไมแลว เสรจ็ ตาม
กรอบระยะเวลาที่กําหนด คงมแี ตเพียงบทบญั ญตั ิในมาตรา ๑๙๓ แหง พระราชกฤษฎกี าวาดว ย
การชําระบัญชีบรรษัทบรหิ ารสนิ ทรพั ยไทย พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งเปนขัน้ ตอนการปฏบิ ัติเมือ่ การชําระ
บญั ชีเสร็จส้ินแลว ดงั นั้น การดําเนนิ การในกรณีท่ีการชําระบญั ชียังไมแลว เสร็จ แตอํานาจหนาที่
ของคณะกรรมการชาํ ระบญั ชีสนิ้ สดุ ลง จึงตองพจิ ารณาโดยเทยี บเคยี งกบั มาตรา ๑๙ แหง พระราช
กฤษฎกี าวาดวยการชาํ ระบัญชบี รรษัทบรหิ ารสนิ ทรัพยไ ทยฯ โดยคณะกรรมการชาํ ระบญั ชตี อ ง
ดาํ เนนิ การเสนอรายงานการชาํ ระบัญชีตอ รฐั มนตรีวาการกระทรวงการคลงั และใหโอนทรัพยส นิ
ท่ีคงเหลือและหน้สี ินรวมทั้งมอบสมดุ บญั ชี และเอกสารทัง้ หมดของ บสท. ใหแกกระทรวง
การคลงั ซึ่งเปนหนว ยงานของรฐั ท่ีกํากับดแู ล บสท. เปนผูดําเนนิ การตอ ไป

(นายอัชพร จารจุ นิ ดา)
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
พฤษภาคม ๒๕๕๖

_____________๑__ม_า_ต__รา__๑_๙___เ_มอ่ื เสรจ็ การชําระบญั ชแี ลว ใหค ณะกรรมการชาํ ระบญั ชีดําเนนิ การดงั ตอไปนี้
(๑) เสนอรายงานการชําระบัญชีตอรัฐมนตรีภายในสิบสี่วันนับแตวันท่ีเสร็จการชําระบัญชี

เพ่ือรายงานตอคณะรฐั มนตรี และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ท้งั น้ี ใหถือวาวันทปี่ ระกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาเปนวนั ถึงท่ีสดุ แหง การชําระบัญชี

(๒) ใหโอนทรัพยสินท่ีคงเหลือใหแกกระทรวงการคลังภายในหกสิบวันนับแตวันถึงท่ีสุดแหง
การชาํ ระบญั ชี

(๓) มอบสมดุ บญั ชี และเอกสารทง้ั หมดของบรรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ยไ ทยใหแ กก ระทรวง
การคลังภายในสิบส่วี ันนับแตวนั ถึงท่สี ดุ แหงการชําระบัญชี

๕๑๑

ส่งิ ท่สี งมาดว ย ๒
(สําเนา)
คําสั่งกระทรวงการคลงั
ท่ี ๘๔๑ / ๒๕๕๖
เรื่อง การมอบหมายและมอบอาํ นาจใหป ลดั กระทรวงการคลงั
ปฏบิ ัติราชการแทนรัฐมนตรวี า การกระทรวงการคลัง
______________
ดว ยกระทรวงการคลัง ไดรบั มอบสินทรัพย หนีส้ นิ และทรัพยส ินท่ีคงเหลือของบรรษทั
บริหารสินทรัพยไ ทย (บสท.) และยงั มภี าระงานคงคางท่ีตองดาํ เนนิ การอกี เปน จํานวนมาก ดงั นน้ั
เพื่อใหการบริหารจัดการในเรื่องดังกลาวเปนไปดวยความเรียบรอย รัฐมนตรีวาการกระทรวง
การคลงั อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๒๐ มาตรา ๓๘ และมาตรา ๓๙ แหงพระราชบัญญัติ
ระเบยี บบรหิ ารราชการแผน ดิน พ.ศ.๒๕๓๔ ซง่ึ แกไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบญั ญัติระเบยี บบริหาร
ราชการแผน ดนิ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ.๒๕๔๕ และพระราชบญั ญตั ิระเบียบบรหิ ารราชการแผน ดิน
(ฉบับท่ี ๗) พ.ศ.๒๕๕๐ จึงมอบหมายและมอบอาํ นาจใหปลดั กระทรวงการคลงั ส่ังและปฏบิ ัติ
ราชการแทนรัฐมนตรวี าการกระทรวงการคลัง ในเรอ่ื งการดาํ เนินการเกี่ยวกับสนิ ทรัพย หน้ีสิน
และทรัพยส นิ ทไี่ ดรบั โอนจาก บสท. ดงั ตอไปนี้
๑. การบรหิ ารจัดการสนิ ทรพั ย หนสี้ ิน และทรัพยส นิ ทีค่ งเหลอื ของ บสท. ในทุก
ประการ ใหเปนไปตามกฎหมาย ระเบยี บหรือขอบงั คับทเ่ี กย่ี วขอ ง
๒. การแตงตัง้ ทนายความ หรือพนกั งานอัยการ หรือบุคคลอื่น เพ่ือฟองหรือแกต าง
คดใี นคดีตา งๆ รวมทงั้ คดีปกครองแลว แตกรณี ตลอดจนดําเนินการในช้นั บังคับคดจี นเสร็จการ
เชน การโตแ ยง สิทธิ การขบั ไล การรับ–จา ยเงินคาเชาและคา ธรรมเนียม คาเสยี หาย คาดอกเบีย้
คาทนายความ การรบั เงินใดๆ ทั้งในศาลและนอกศาล หรอื ทเ่ี กิดจากการบงั คบั คดี การยึดทรพั ย
การรอ งขัดทรัพย รวมถงึ การมอบอํานาจใหท นายความมีอํานาจในการดําเนินกระบวนพิจารณา
ใดๆ ไปในทางจําหนายสทิ ธิ เชน การยอมรบั ตามท่ีคูความอกี ฝา ยหนึ่งเรียกรอ ง การถอนฟอ ง
การประนีประนอมยอมความ การสละสทิ ธิหรือใชส ทิ ธิในการอทุ ธรณ ฎกี า หรือการขอใหพ จิ ารณา
คดีใหม รวมท้ังดําเนนิ การท้งั ปวงเกย่ี วกบั การดาํ เนนิ คดปี กครอง รวมถึงการสวมสิทธิทางคดี
๓. การดําเนินการอื่นใด นอกจากทกี่ ลาวตน ท่ีเกย่ี วกบั การบรหิ ารจัดการสนิ ทรพั ย
หนีส้ ิน และทรัพยสินที่คงเหลือของ บสท.
การมอบอํานาจตามขอ ๑ – ขอ ๓ ดงั กลาว ใหผรู ับมอบอํานาจ มอบอาํ นาจใหแก
อธิบดี กรมบญั ชกี ลาง หรือผดู ํารงตาํ แหนง อื่น ปฏบิ ัติราชการแทนตอ ไปไดท ้ังหมดหรือบางสว น
ตามความเหมาะสม

๕๑๒

บรรดาระเบยี บและคําสง่ั ใดในสวนท่กี าํ หนดไวแ ลวในคาํ สงั่ น้ี หรือขัดหรอื แยง กบั
คาํ ส่งั นี้ ใหใ ชค ําสงั่ นแ้ี ทน

ทัง้ นี้ ตั้งแตว นั ท่ี ๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ เปนตนไป
สง่ั ณ วันท่ี ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
(ลงชอื่ ) กติ ตริ ตั น ณ ระนอง
(นายกติ ติรตั น ณ ระนอง)
รฐั มนตรวี า การกระทรวงการคลัง

๕๑๓

ส่ิงทส่ี ง มาดวย ๓
(สําเนา)
คาํ สง่ั กระทรวงการคลัง
ที่ ๘๔๒ / ๒๕๕๖
เรือ่ ง การมอบหมายและมอบอาํ นาจท่ปี ลัดกระทรวงการคลงั ไดร บั มอบอํานาจ
จากรฐั มนตรวี าการกระทรวงการคลัง ใหแกอ ธบิ ดกี รมบญั ชกี ลาง
______________
ตามท่ีปลัดกระทรวงการคลัง ไดรับมอบหมายและมอบอาํ นาจจากรฐั มนตรวี าการ
กระทรวงคลงั ในเร่ืองการดําเนินการเกีย่ วกับสินทรัพย หนีส้ ิน และทรพั ยส ินทไ่ี ดร ับโอนจาก
บรรษัทบรหิ ารสินทรัพยไ ทย (บสท.) โดยรฐั มนตรวี าการกระทรวงการคลงั ใหผูรับมอบอํานาจ
มอบอาํ นาจใหแ กอ ธิบดีกรมบัญชีกลาง หรอื ผูดํารงตาํ แหนงอ่ืนปฏิบัติราชการแทนตอไปทงั้ หมด
หรอื บางสวนตามความเหมาะสม นั้น
เพือ่ ใหก ารดาํ เนนิ การในเร่อื งตามที่ปลัดกระทรวงการคลังไดรับมอบอาํ นาจนน้ั เปน
ไปดวยความเรยี บรอยและคลอ งตัว ปลัดกระทรวงการคลัง อาศยั อํานาจตาม มาตรา ๓๘ และ
มาตรา ๓๙ แหง พระราชบญั ญัตริ ะเบียบบรหิ ารราชการแผนดิน พ.ศ.๒๕๓๔ ซงึ่ แกไ ขเพ่ิมเติมโดย
พระราชบัญญัติระเบยี บบรหิ ารราชการแผนดิน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๕๐ จงึ มอบหมายและมอบอาํ
นาจใหอ ธิบดกี รมบญั ชีกลาง ส่งั และปฏิบัตริ าชการแทนปลัดกระทรวงการคลงั ตอไป ในเรือ่ งการ
ดําเนินการเก่ียวกับสินทรพั ย หนี้สนิ และทรพั ยส ินทีไ่ ดร ับโอนจาก บสท. ดังตอ ไปน้ี
๑. การบรหิ ารจดั การสนิ ทรัพย หนส้ี นิ และทรัพยสินท่ีคงเหลอื ของ บสท. ในทกุ
ประการ ใหเ ปน ไปตามกฎหมาย ระเบยี บหรือขอบงั คับทเ่ี กย่ี วของ
๒. การแตงตงั้ ทนายความ หรือพนักงานอยั การ หรอื บุคคลอ่นื เพื่อฟองหรอื แกต า ง
คดีในคดตี า งๆ รวมทั้งคดปี กครองแลว แตก รณี ตลอดจนดาํ เนินการในช้นั บังคบั คดีจนเสรจ็ การ
เชน การโตแ ยงสทิ ธิ การขับไล การรับ–จา ยเงินคา เชา และคาธรรมเนยี ม คาเสยี หาย คาดอกเบี้ย
คาทนายความ การรบั เงินใดๆ ทง้ั ในศาลและนอกศาล หรอื ทเ่ี กดิ จากการบงั คับคดี การยึดทรัพย
การรองขดั ทรพั ย รวมถงึ การมอบอํานาจใหท นายความมีอํานาจในการดาํ เนนิ กระบวนพจิ ารณา
ใดๆ ไปในทางจําหนา ยสทิ ธิ เชน การยอมรบั ตามท่ีคูค วามอกี ฝายหนง่ึ เรียกรอง การถอนฟอ ง
การประนีประนอมยอมความ การสละสิทธิหรือใชส ิทธิในการอุทธรณ ฎีกา หรือการขอใหพจิ ารณา
คดใี หม รวมทัง้ ดําเนนิ การทั้งปวงเกีย่ วกับการดําเนินคดปี กครอง รวมถงึ การสวมสิทธทิ างคดี
๓. การดาํ เนนิ การอน่ื ใด นอกจากทีก่ ลาวตน ท่เี กีย่ วกับการบริหารจัดการสินทรพั ย
หนส้ี นิ และทรพั ยสนิ ทีค่ งเหลอื ของ บสท.

๕๑๔

บรรดาระเบยี บและคําสงั่ ใดในสว นทีก่ าํ หนดไวแลว ในคําสัง่ น้ี หรอื ขดั หรือแยงกบั
คาํ ส่งั นี้ ใหใ ชค าํ สงั่ น้แี ทน

ทั้งน้ี ตั้งแตวันที่ ๗ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖ เปนตน ไป
ส่ัง ณ วนั ที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
(ลงช่ือ) อารีพงศ ภูชอมุ
(นายอารีพงศ ภชู อุม)
ปลัดกระทรวงการคลัง

๕๑๕

๕๑๖

บญั ชรี ายช่ือหนงั สือเวียน ระเบยี บ และคําสง่ั ตางๆ
สาํ นักมาตรฐานการออกหนงั สือสําคญั
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๖

๑. เลขที่หนังสือเวียน ชื่อเร่ือง หนา
ลาํ ดบั ท่ี ระเบยี บ คําส่งั

๒. ลงวัน เดือน ป

๑. ดว นท่ีสุด
ที่ มท ๐๕๑๖.๒(๑) / ว ๓๖๑๖๓ การทําความเห็นเสนอตอ ศาล ตามมาตรา ๘ ๘๘๘
ลว. ๒๖ ธ.ค. ๕๖ แหง พระราชบัญญตั แิ กไขเพ่ิมเติมประมวล
กฎหมายท่ีดนิ (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑

๒. ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๓๖๗๗๒ การออกโฉนดที่ดนิ หรอื หนงั สอื รับรอง ๘๘๘
ลว. ๒๘ ธ.ค. ๕๖ การทําประโยชนเ ปนการเฉพาะราย
กรณไี ดเนอ้ื ที่เกินจากหลักฐานทีด่ ินเดิม

๓. ท่ี มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๓๖๗๗๖ การเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินกรณไี ดเนอ้ื ท่ี
ลว. ๒๘ ธ.ค. ๕๖ เกนิ จากหลักฐานท่ดี ินเดิม

๔. ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๒๓๙๑ การหารอื ขอ ราชการ
ลว. ๒๘ ม.ค. ๕๖

๕. ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๔๔๗๐ การสง่ั ยกเลิกคาํ ขอออกโฉนดทีด่ นิ
ลว. ๑๘ ก.พ. ๕๖

๖. ท่ี มท ๐๕๑๖.๒(๑) / ว ๖๑๑๖ การขอขยายระยะเวลาตอศาล ตามมาตรา ๘
ลว. ๗ มี.ค. ๕๖ แหง พระราชบญั ญตั แิ กไขเพ่ิมเตมิ ประมวล
กฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑

๗. ท่ี มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๑๒๖๔๖ หารอื กรณีผมู สี ิทธิจดทะเบยี นภาระจํายอม
ลว. ๑๖ พ.ค. ๕๖ ตามคาํ พพิ ากษาขอออกใบแทน

๕๑๗

บญั ชีรายชื่อหนังสอื เวยี น ระเบียบ และคําสง่ั ตางๆ
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนงั สือสาํ คญั
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๖

๑. เลขทหี่ นังสือเวยี น ชื่อเร่ือง หนา
ลาํ ดบั ท่ี ระเบยี บ คาํ สง่ั ๘๘๘

๒. ลงวนั เดือน ป

๘. ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๑๘๘๘๕ หารือกรณีการขอออกโฉนดทีด่ ินในเขต
ลว. ๒๔ ก.ค. ๕๖ นิคมสหกรณโคกขาม

๙. ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๒๒๓๔๐ ซอ มความเขา ใจแนวทางปฏบิ ตั กิ ารดาํ เนินการ ๘๘๘
ลว. ๒๗ ส.ค. ๕๖ ของคณะกรรมการตรวจพสิ ูจนท่ีดนิ ตาม
กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ
ใหใชประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ.๒๔๙๗

๑๐. ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๒๖๐๓๒ โครงการเรง รัดการออกโฉนดทด่ี นิ หรอื
ลว. ๗ ต.ค. ๕๖ หนงั สอื รบั รองการทําประโยชนจ ากหลักฐาน
ส.ค. ๑ สําหรบั คาํ ขอที่อยูระหวางดาํ เนินการ
ทสี่ ํารวจ ณ วันที่ ๘ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๓
ปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ – พ.ศ. ๒๕๕๖

๕๑๘

ดวนทีส่ ุด (สําเนา)
ท่ี มท ๐๕๑๖.๒ (๑) / ว ๓๖๑๖๓
กรมที่ดนิ
ศูนยราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๖ ธนั วาคม ๒๕๕๕

เร่ือง การทาํ ความเหน็ เสนอตอศาล ตามมาตรา ๘ แหง พระราชบญั ญัติแกไขเพมิ่ เติม
ประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑

เรยี น ผูว าราชการจงั หวัดทกุ จงั หวัด
อางถงึ หนังสือกรมที่ดิน ดวนที่สดุ ที่ มท ๐๕๑๖.๒ (๑)/ว ๑๔๗๘๙ ลงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓

ตามที่กรมที่ดินไดแจงแนวทางปฏิบัติ กรณี มีผูนําหลักฐานแบบแจงการ
ครอบครองท่ีดนิ (ส.ค. ๑) มายน่ื ขอออกโฉนดทดี่ ินหรอื หนงั สอื รับรองการทําประโยชนภายหลงั
วนั ท่ี ๘ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๓ วา พนกั งานเจา หนาทส่ี ามารถรับคาํ ขอออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือ
รับรองการทาํ ประโยชนไ ด แลวดาํ เนนิ การรังวดั ไปตามระเบยี บและวธิ กี ารจนครบขัน้ ตอน รวมทั้ง
กรมทด่ี นิ ไดม อบอาํ นาจใหเ จา พนกั งานทด่ี นิ จงั หวดั เจา พนกั งานทด่ี นิ จงั หวดั สาขา เจา พนกั งานทด่ี นิ
หวั หนา สวนแยก เจา พนกั งานท่ดี ินอําเภอในสํานกั งานทด่ี นิ ทอ งทท่ี ่ีท่ดี ินน้นั ต้งั อยเู ปนผดู าํ เนินการ
ตามคาํ สัง่ ศาล ในเรือ่ งการตรวจสอบเอกสารเกีย่ วกบั แปลงทดี่ นิ การตรวจสอบตาํ แหนงทีด่ ิน
และใหเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดในทองท่ีเปนผูทําความเห็นเสนอตอศาลตามคําสั่งกรมที่ดิน
ที่ ๒๒๗/๒๕๕๓ ลงวันท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓ และหากมกี รณีทไี่ มส ามารถจดั ทาํ ความเห็นเสนอ
ตอ ศาลไดทนั ภายในระยะเวลาทก่ี ฎหมายกาํ หนด กรมทด่ี นิ ไดม ีคําส่งั กรมที่ดนิ ท่ี ๖๒๐/๒๕๕๓
ลงวนั ท่ี ๓ มีนาคม ๒๕๕๓ มอบอํานาจใหบ ุคคลตามคาํ สัง่ ท่ี ๒๒๗/๒๕๕๓ ลงวนั ท่ี ๒๗ มกราคม
๒๕๕๓ เปนผูขอขยายระยะเวลาตอ ศาล ความละเอียดแจงแลว นน้ั

กรมทดี่ ินขอเรียนวา นับตงั้ แตกรมที่ดนิ ไดแ จง แนวทางปฏบิ ตั เิ พือ่ ดาํ เนนิ การตาม
มาตรา ๘ แหง พระราชบญั ญตั ิแกไ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
ภายหลงั วนั ที่ ๘ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๓ (แกไ ขเพมิ่ เติม) ใหทุกจังหวัดทราบและถือปฏิบัตมิ าเปน
ระยะเวลากวา ๒ ป พบวาการทาํ ความเหน็ เสนอตอ ศาลมหี ลายจังหวัดศาลไดท วงถามการจัดทาํ
ความเหน็ ไปยงั กรมที่ดินบอ ยคร้งั วา ศาลยงั ไมไดรบั รายงานการจัดทําความเห็นเสนอตอศาลตาม
วัน เวลา ทีศ่ าลจะทาํ การไตส วนคาํ รอ ง ท้ังๆ ท่ีระยะเวลาดังกลา วเปน ระยะเวลาตามกฎหมาย

๕๑๙

ที่เจาพนักงานที่ดินจะตองปฏิบัติโดยเครงครัด ดังนั้น หากไมสามารถจัดทําความเห็นเสนอ
ตอศาลไดภ ายในระยะเวลาทก่ี ฎหมายกําหนด ขอใหจ งั หวดั กาํ ชับใหบุคคลตามคําสั่งกรมท่ีดิน
ท่ี ๒๒๗/๒๕๕๓ ลงวนั ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓ ขอขยายระยะเวลาตอ ศาล และกาํ ชบั ใหพนกั งาน
เจาหนาที่เรงตรวจสอบเกี่ยวกับแปลงที่ดิน ตําแหนงที่ดินและการเสนอความเห็นเบื้องตนให
เจา พนักงานทด่ี ินจงั หวดั เพ่อื ประกอบการพจิ ารณาจัดทาํ ความเห็นตอศาลภายในกาํ หนดระยะ
เวลาทก่ี ฎหมายกาํ หนดดวย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอไดแจงใหพนักงานเจาหนาท่ีทราบและ
ถอื ปฏิบัติโดยเครง ครัด

ขอแสดงความนับถือ
(ลงช่อื ) บุญเชิด คดิ เหน็

(นายบุญเชดิ คิดเห็น)
อธบิ ดีกรมทดี่ นิ

สํานักมาตรฐานการออกหนังสือสาํ คญั
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐
โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐

๕๒๐

ท่ี มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๓๖๗๗๒ (สําเนา)
กรมทีด่ ิน
ศูนยราชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั ส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๕

เร่อื ง การออกโฉนดที่ดนิ หรอื หนงั สือรับรองการทําประโยชนเปนการเฉพาะราย กรณีไดเ นือ้ ท่ี
เกนิ จากหลกั ฐานทด่ี ินเดิม

เรยี น ผูวา ราชการจังหวดั ทุกจังหวดั
อา งถึง ๑. หนังสือกรมทีด่ ิน ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๑๘๐๘๓ ลงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔

๒. คําส่งั กรมที่ดิน ที่ ๑๖๖๑ / ๒๕๕๔ ลงวนั ที่ ๓๐ มถิ ุนายน ๒๕๕๔
สิง่ ทส่ี ง มาดว ย ๑. สําเนาคําสัง่ กรมท่ดี นิ ท่ี ๔๘๒๙/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๒๘ ธนั วาคม ๒๕๕๕

เรอื่ ง แตง ตัง้ คณะกรรมการตรวจสอบการออกโฉนดทด่ี นิ หรือหนงั สอื รับรอง
การทาํ ประโยชนเ ปนการเฉพาะราย กรณีไดเนือ้ ท่เี กนิ จากหลกั ฐานท่ีดนิ เดมิ
จํานวน ๑ ฉบบั
๒. ตวั อยา งรายงานการประชุม และหนังสือแจง ผขู อ จาํ นวน ๓ ฉบับ

ตามหนงั สอื ทอ่ี า งถึง กรมท่ดี นิ ไดว างแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการออกโฉนดทีด่ นิ
หรอื หนงั สือรบั รองการทาํ ประโยชนเ ปน การเฉพาะราย กรณีไดเนื้อทเ่ี กนิ จากหลกั ฐานทดี่ นิ เดิม
ตั้งแต ๑๐ หรือ ๒๐ เปอรเซ็นตขึ้นไป แลวแตกรณี โดยใหเจาพนักงานที่ดินสงเรื่องให
คณะกรรมการตรวจสอบการออกโฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชนเ ปน การเฉพาะราย
ตามคาํ สัง่ กรมทด่ี นิ ท่ี ๑๖๖๑/๒๕๕๔ ลงวันท่ี ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ เร่ือง แตง ตัง้ คณะกรรมการ
ตรวจสอบการออกโฉนดที่ดนิ หรอื หนงั สือรบั รองการทําประโยชนเ ปนการเฉพาะราย กรณีไดเ นื้อท่ี
เกนิ จากหลกั ฐานที่ดินเดิม พจิ ารณาทุกเร่อื งวา เปน การนําทีด่ ินนอกหลักฐานมารวมออกโฉนด
ทีด่ ิน หรอื หนงั สือรบั รองการทาํ ประโยชนโ ดยไมชอบดวยกฎหมายหรือไม อยางไร เพือ่ ใหก ารออก
โฉนดที่ดินหรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน กรณเี นอ้ื ท่ีเกินจากหลกั ฐานทีด่ ินเดิมเปนไปโดย
รอบคอบ และปองกันการออกโฉนดทดี่ นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชนไปโดยไมชอบดว ย
กฎหมาย น้นั

โดยทป่ี รากฏวา แนวทางปฏบิ ตั ิตามหนังสอื กรมทดี่ นิ ดงั กลาวสงผลกระทบตอ
การปฏบิ ตั งิ านของเจา หนา ทใ่ี นสว นองคป ระกอบของคณะกรรมการและเกณฑจ าํ นวนเนอ้ื ทท่ี ก่ี าํ หนด
ในคําสัง่ จงึ ใหย กเลกิ หนังสือกรมทด่ี นิ และคําส่งั กรมที่ดนิ ที่อา งถึง และใหถ ือปฏิบตั ดิ งั นี้

๕๒๑

๑. การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนเปนการเฉพาะราย
กรณีไดเน้อื ทเ่ี กนิ จากหลกั ฐานท่ดี นิ เดิม ใหเ จาพนักงานท่ีดินสงเรื่องใหคณะกรรมการตรวจสอบ
การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนเปนการเฉพาะราย ตามคําส่ังกรมที่ดิน
ที่ ๔๘๒๙/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ เรื่อง แตงตง้ั คณะกรรมการตรวจสอบการออก
โฉนดท่ดี ินหรือหนงั สอื รบั รองการทําประโยชนเปนการเฉพาะราย กรณีไดเ นือ้ ทเี่ กนิ จากหลกั ฐาน
ท่ดี ินเดิม พิจารณาทุกเรอ่ื ง ในกรณีดังนี้

๑.๑ กรณีหลักฐานเดิมเปนหนังสือรับรองการทําประโยชน (น.ส. ๓ ก.)
หนังสือแสดงการทําประโยชนใ นเขตนิคมสรางตนเอง (น.ค. ๓) หนงั สือแสดงการทาํ ประโยชนใน
เขตนิคมสหกรณ (ก.ส.น. ๕) และกรณีการรงั วัดเพื่อเปลยี่ นโฉนดตราจอง โฉนดแผนท่ี หรอื
ตราจองทต่ี ราวา “ไดทําประโยชนแ ลว” เปนโฉนดทด่ี นิ ผลการรังวัดออกโฉนดทด่ี นิ หรือหนงั สือ
รับรองการทําประโยชนไดเ น้อื ทเี่ กนิ ต้ังแต ๑๐ เปอรเ ซน็ ต ขึ้นไป

๑.๒ กรณหี ลักฐานเดิมเปนแบบแจงการครอบครองที่ดนิ (ส.ค. ๑) ใบจอง
(น.ส. ๒) หนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชน (น.ส. ๓, น.ส. ๓ ข.) ผลการรงั วดั ออกโฉนดท่ดี ินหรอื
หนงั สอื รับรองการทาํ ประโยชนไ ดเ น้อื ท่ีเกินตั้งแต ๒๐ เปอรเซ็นตข ้ึนไป

๒. เมอื่ คณะกรรมการฯ พจิ ารณาเสร็จแลว ใหทาํ บนั ทึกรายงานการประชมุ
การตรวจสอบแลวลงนามรวมกันเปนหลักฐานรวมไวในเรื่องการรังวัดออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือ
รบั รองการทําประโยชนท กุ เรื่อง และหากผลการพจิ ารณาเปนไปในทางใดทางหน่งึ ใหดําเนินการ
ดงั น้ี

๒.๑ กรณีท่ีคณะกรรมการฯ พจิ ารณาแลวเห็นวา มไิ ดเปน การนาํ ท่ีดินนอก
หลักฐานมารวมออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนโดยไมชอบดวยกฎหมาย
ใหคณะกรรมการฯ ทาํ บนั ทึกรายงานการประชุมตามวรรคหนง่ึ แลวแจง ใหเจา พนักงานทด่ี นิ
ดาํ เนินการใหผขู อตอ ไป

๒.๒ กรณที ค่ี ณะกรรมการฯ พจิ ารณาแลว เหน็ วา เปน การนาํ ทด่ี นิ นอกหลกั ฐาน
มารวมออกโฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชนโ ดยไมช อบดว ยกฎหมาย ใหค ณะกรรมการฯ
ทําบันทึกรายงานการประชุมตามวรรคหนึ่ง แลวแจงใหเจาพนักงานท่ีดินแจงผูขอทราบเพื่อ
กันเขตท่ดี ินดงั กลาวออก หากผขู อไมยนิ ยอม ใหเจา พนกั งานทดี่ นิ งดดําเนินการสาํ หรับท่ีดิน
แปลงนน้ั แลว แจงเหตุที่ไมอาจออกโฉนดทด่ี ินหรือหนงั สือรบั รองการทําประโยชนใหกับผูข อได
พรอ มท้งั แจงสทิ ธอิ ุทธรณตามพระราชบัญญตั วิ ธิ ปี ฏบิ ตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ซ่ึงหาก
ผูข อมไิ ดอ ทุ ธรณภายในกาํ หนดระยะเวลาตามกฎหมายดังกลา ว ใหเจา พนกั งานทดี่ นิ ส่งั ยกเลกิ
คําขอตอไป

๓. หากตรวจสอบพบวาท่ีดินแปลงใดไดรังวัดออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชนไดเน้ือที่เกินจากหลักฐานเดิมตามหลักเกณฑขอ ๑ โดยนําท่ีดินนอกหลักฐาน

๕๒๒

รวมเขาไปดวย โดยท่ีพนักงานเจา หนา ที่ไมปฏิบตั ิตามกฎหมาย ระเบยี บและคําสั่งที่เก่ยี วขอ ง
กรมที่ดินจะถอื วา พนกั งานเจา หนา ท่ีผนู ั้นจงใจไมป ฏิบัติตามกฎหมายและระเบยี บคาํ สัง่ ของทาง
ราชการ ซ่งึ นอกจากจะตอ งไดรบั โทษทางวนิ ัยแลว จะตอ งรับผิดทง้ั ทางแพง และทางอาญาดว ย
และหากเร่ืองใดคณะกรรมการฯ พิจารณาใหความเห็นชอบไปโดยไมชอบดวยระเบียบและ
กฎหมาย กรรมการเฉพาะบุคคลท่มี ีความเหน็ ไมถกู ตอ งก็จะอยูใ นขา ยบกพรองตอหนา ที่ หรือ
ปฏิบัตหิ นาทโ่ี ดยมิชอบ ซ่งึ ถือเปน ความผิดวินัยตามควรแกก รณีดว ย

อน่ึง การที่กรมที่ดินไดวางแนวทางปฏิบัติตามหนังสือฉบับนี้ มิไดเปนการ
สั่งหามมิใหออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน กรณีเน้ือที่เกินจากหลักฐาน
ท่ีดนิ เดิมตัง้ แต ๑๐ หรอื ๒๐ เปอรเซ็นตข ึ้นไป แลว แตก รณี แตมีวัตถุประสงคเพื่อใหการออก
โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน กรณีเน้ือที่เกินจากหลักฐานเดิมเปนไปโดย
รอบคอบ และปองกนั การออกโฉนดที่ดนิ หรอื หนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชนไ ปโดยไมชอบดว ย
กฎหมาย จงึ หา มมิใหนํากรณีดงั กลา วไปสรางเง่อื นไขหรือนําเปน ขอตอรองกับผูขอออกโฉนดทด่ี นิ
หรอื หนังสือรบั รองการทําประโยชนโดยเด็ดขาด

จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ และแจง ใหพ นักงานเจาหนา ทีถ่ ือปฏบิ ัตโิ ดยเครงครัด
ตอไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงช่ือ) บุญเชดิ คิดเห็น

(นายบุญเชิด คดิ เหน็ )
อธบิ ดกี รมท่ีดนิ

สํานกั มาตรฐานการออกหนงั สือสาํ คญั
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐
โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐

๕๒๓

(สําเนา)

คําสงั่ กรมทดี่ ิน
ท่ี ๔๘๒๙ / ๒๕๕๕
เรอ่ื ง แตง ตง้ั คณะกรรมการตรวจสอบการออกโฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน
เปน การเฉพาะราย กรณีไดเ นื้อทเ่ี กินจากหลักฐานทด่ี นิ เดิม
–––––––––––––––––––––––

ตามคาํ สัง่ กรมทีด่ นิ ท่ี ๑๖๖๑ / ๒๕๕๔ ลงวันท่ี ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๕๔ เร่ือง แตงต้ัง
คณะกรรมการตรวจสอบการออกโฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชนเ ปน การเฉพาะราย
กรณีไดเนื้อที่เกินจากหลักฐานท่ีดินเดิม ไดกําหนดหลักเกณฑและแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับ
การออกโฉนดทีด่ ินหรือหนงั สือรับรองการทําประโยชน กรณีไดเ นอ้ื ทเี่ กินจากหลกั ฐานท่ดี นิ เดมิ
ตัง้ แต ๑๐ หรอื ๒๐ เปอรเซ็นต ข้ึนไป แลวแตก รณี โดยใหม คี ณะกรรมการตรวจสอบการ
ดําเนนิ การดงั กลา วกอ นออกหนังสอื แสดงสิทธใิ นที่ดินใหก ับผขู อ เพอ่ื ใหการออกโฉนดทด่ี ินหรือ
หนังสือรับรองการทําประโยชนเปนไปตามกฎหมายและระเบียบท่ีเก่ียวของและสามารถปองกัน
มิใหมีการออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนโดยนําท่ีดินนอกหลักฐานรวมเขาไป
ดวยโดยไมช อบดวยกฎหมายไดอยา งมปี ระสิทธภิ าพ นน้ั
กรมท่ดี นิ ไดพจิ ารณาแลวเห็นวา คาํ สั่งกรมที่ดนิ ที่ ๑๖๖๑ / ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๓๐
มถิ ุนายน ๒๕๕๔ ดังกลา วสงผลกระทบตอ การปฏิบัติงานของเจา หนา ทใี่ นสว นองคป ระกอบ
ของคณะกรรมการและเกณฑจ ํานวนเนื้อทท่ี ี่กาํ หนดในคาํ สัง่ ฉะนนั้ อาศยั อาํ นาจตามความใน
มาตรา ๓๒ แหงพระราชบัญญตั ิระเบียบบรหิ ารราชการแผน ดิน พ.ศ.๒๕๓๔ แกไ ขเพ่มิ เติมโดย
พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบบริหารราชการแผนดนิ (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ.๒๕๔๕ ประกอบกบั ขอ ๒ (๑)
(๔) และขอ ๒๐ (๑) แหง กฎกระทรวง แบงสว นราชการกรมท่ดี นิ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ.๒๕๕๓
จงึ ใหย กเลิกคําสัง่ ดังกลา ว และแตงตัง้ คณะกรรมการตรวจสอบการออกโฉนดทดี่ นิ หรอื หนังสือ
รับรองการทําประโยชนเปนการเฉพาะราย กรณีไดเนื้อท่ีเกินจากหลักฐานที่ดินเดิมเสียใหม
ดงั ตอ ไปน้ี
องคประกอบ
๑. การออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนในพื้นท่ีรับผิดชอบของ
สํานักงานทด่ี ินจงั หวดั ประกอบดวย
(๑) เจาพนักงานท่ดี ินจังหวดั เปน ประธานคณะกรรมการ
(๒) หวั หนาฝายทะเบยี น เปนกรรมการ
(๓) หวั หนาฝายรงั วัด เปนกรรมการ
(๔) หวั หนางานนติ ิกรรม ๒ เปนกรรมการและเลขานกุ าร
(๕) ชางรังวัดผูทาํ การรงั วัด เปนกรรมการและผชู วยเลขานกุ าร

๕๒๔

๒. การออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนในพ้ืนท่ีรับผิดชอบของ
สาํ นกั งานทีด่ นิ จังหวัดสาขา หรอื สวนแยก ประกอบดวย
(๑) เจา พนักงานท่ดี นิ จังหวัดสาขาหรอื หัวหนา สว นแยก เปน ประธาน
คณะกรรมการ
(๒) หัวหนา ฝายทะเบียนหรอื ผทู ําหนาท่หี ัวหนา ฝายทะเบียน เปน กรรมการ
ในสาขาหรือสว นแยก
(๓) หัวหนา ฝา ยรงั วดั หรอื ผทู าํ หนาที่หวั หนา ฝายรังวัด เปน กรรมการ
ในสาขาหรือสวนแยก
(๔) หวั หนา งานนติ กิ รรม ๒ หรอื ผทู าํ หนาทห่ี ัวหนา เปนกรรมการและ
งานนติ กิ รรม ๒ ในสาขาหรือสวนแยก เลขานกุ าร
(๕) ชา งรงั วัดผูท ําการรังวดั เปนกรรมการและ
ผชู วยเลขานุการ
อํานาจหนาท่ี
๑. ใหค ณะกรรมการฯ มีอาํ นาจหนาที่รว มกนั ตรวจสอบเรือ่ งราวการรังวดั ออกโฉนด
ที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนซึ่งมีผลการรังวัดไดเนื้อท่ีมากกวาหลักฐานที่ดินเดิม
ทุกเรอ่ื งในกรณีดังนี้
๑.๑ กรณีหลกั ฐานเดิมเปน หนังสือรับรองการทําประโยชน (น.ส.๓ ก.) หนังสือ
แสดงการทําประโยชนใ นเขตนิคมสรางตนเอง (น.ค.๓) หนงั สือแสดงการทําประโยชนใ นเขต
นคิ มสหกรณ (ก.ส.น.๕) และกรณีการรงั วดั เพ่ือเปลี่ยนโฉนดตราจอง โฉนดแผนท่ี หรอื ตราจอง
ท่ตี ราวา “ไดทาํ ประโยชนแลว ” เปน โฉนดทด่ี ิน ผลการรงั วัดออกโฉนดทดี่ ินหรือหนงั สอื รบั รอง
การทําประโยชนไดเ นอื้ ท่ีเกนิ จากหลกั ฐานเดิมต้ังแต ๑๐ เปอรเซนตขึน้ ไป
๑.๒ กรณหี ลกั ฐานเดมิ เปน แบบแจง การครอบครองทด่ี นิ (ส.ค.๑) ใบจอง (น.ส.๒)
หนงั สือรับรองการทําประโยชน (น.ส. ๓, น.ส. ๓ ข.) ผลการรังวดั ออกโฉนดทดี่ ินหรือหนงั สือรบั รอง
การทาํ ประโยชนไดเน้ือท่เี กนิ จากหลักฐานเดิมตง้ั แต ๒๐ เปอรเ ซ็นตข ึ้นไป
โดยพจิ ารณาวา เปนการนําทดี่ ินนอกหลักฐานมารวมออกโฉนดทีด่ ินหรือหนงั สอื
รบั รองการทําประโยชนโดยไมช อบดว ยกฎหมายหรอื ไม อยางไร โดยใหค วามเห็นและจดั ทํา
รายงานการประชุมไวเปน หลักฐาน มรี ายละเอยี ดการพิจารณาแตละแปลง พรอมท้ังระบเุ หตุผล
ใหชัดเจน แลวเกบ็ รายงานการประชุมรวมไวใ นสารบบเรื่องราวการออกโฉนดท่ีดนิ หรือหนงั สอื
รับรองการทาํ ประโยชน
๒. กรณคี ณะกรรมการฯ มไี มครบตามท่ีแตง ตั้ง ใหค ณะกรรมการฯ เทา ทีม่ อี ยู
พิจารณาดาํ เนนิ การตอไปได

๕๒๕

๓. ใหค ณะกรรมการฯ ตรวจสอบการดําเนนิ การดังกลาวใหเ ปนไปตามกฎหมาย
ระเบียบ คาํ ส่งั ของทางราชการอยางเครงครดั และพิจารณาดําเนินการใหแลวเสร็จภายใน ๑๕ วนั
นบั แตว ันท่ฝี ายทะเบียนรับเรอ่ื งจากฝา ยรังวัด

ทัง้ น้ี ตั้งแตบ ดั นเ้ี ปนตน ไป
ส่งั ณ วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชอื่ ) บุญเชดิ คดิ เห็น
(นายบญุ เชิด คดิ เห็น)
อธิบดีกรมท่ีดนิ

๕๒๖

ตัวอยา ง (กรณนี าํ ทด่ี นิ นอกหลกั ฐานรวมเขา ไปดว ย)

รายงานการประชุม
คณะกรรมการตรวจสอบกรณกี ารออกโฉนดทด่ี ินหรอื หนังสือรบั รองการทําประโยชนเ ปนการเฉพาะราย

กรณไี ดเน้อื ที่เกนิ จากหลักฐานทดี่ นิ เดิม
สาํ นกั งานท่ีดินจงั หวดั /สาขา/สว นแยก............................

เมอื่ วันท.ี่ ............................
ณ ............................................

––––––––––––––––––

ผูเ ขาประชมุ
๑. ..........................................เจาพนกั งานที่ดนิ .............. ประธานกรรมการ
๒. ..........................................หัวหนา ฝายทะเบยี น กรรมการ
๓. ..........................................หัวหนา ฝา ยรังวดั กรรมการ
๔. ..........................................หวั หนา งานนติ ิกรรม ๒ กรรมการและเลขานุการ
๕. ..........................................ชา งรงั วดั ผูทาํ การรังวัด กรรมการและผชู ว ยเลขานกุ าร

ระเบยี บวาระที่ ๑ เรือ่ งท่ปี ระธานแจงใหทปี่ ระชมุ ทราบ

ระเบียบวาระท่ี ๒ เรอ่ื ง รบั รองรายงานการประชมุ

ระเบยี บวาระท่ี ๓ เร่อื ง พิจารณา
๓.๑ การรงั วดั ออกโฉนดท่ดี นิ /หนงั สือรับรองการทําประโยชน กรณเี น้ือท่มี ากกวา

หลักฐานเดมิ ราย..............................................................
นาย/นาง/นางสาว....................................ไดขอรังวัดออกโฉนดทด่ี ิน/หนังสือรบั รอง

การทาํ ประโยชน (น.ส.๓/น.ส.๓ ก.) จากหลกั ฐาน....................เลขที่.........หมูท่.ี ......ตาํ บล...................
อาํ เภอ.......................จังหวัด......................เนอ้ื ท.ี่ ..........ไร...........งาน..........ตารางวา ซ่งึ ผลการรังวดั
ไดเ นอื้ ท.่ี ..........ไร..........งาน.........ตารางวา มากกวา หลกั ฐานเดิม..........ไร. ..........งาน..........ตารางวา
คดิ เปน ..................เปอรเ ซน็ ต คณะกรรมการฯ ไดรว มกันตรวจสอบแลว มีความเห็นวา เปน การนําทด่ี นิ
นอกหลักฐานมารวมออกโฉนดท่ีดนิ /หนงั สือรบั รองการทาํ ประโยชนโ ดยไมช อบดว ยกฎหมาย เนอื่ งจาก
......................................................................................เหน็ ควรตดั ระยะดานทิศ......................ออก

...............(ชื่อ, ตาํ แหนง)...........มคี วามเห็นแยงวา ไมเ ปนการนาํ ทดี่ ินนอกหลกั ฐาน
มารวมออกโฉนดทด่ี นิ /หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชนโ ดยไมช อบดว ยกฎหมายแตอ ยา งใด เหตทุ ไ่ี ดเ นอ้ื ท่ี
เพ่มิ ข้นึ เนอ่ื งจาก....................โดยไดตรวจสอบจากหลักฐาน...................ประกอบแลว เหน็ วา การรังวัด
ออกหลกั ฐาน.......................เดิม มีความคลาดเคล่อื นดวยเหตดุ ังกลาวจริง เหน็ ควรใหอ อกโฉนดที่ดนิ /
หนงั สือรบั รองการทาํ ประโยชน ตามผลการรงั วดั คร้ังน้ี

๕๒๗

มติท่ีประชมุ ท่ีประชุมเสียงสวนใหญเห็นวาการรังวัดออกโฉนดท่ีดิน/หนังสือรับรองการทําประโยชน
แปลงนี้ มกี ารนําท่ดี ินนอกหลกั ฐานมารวมเขา ไปดว ย เห็นควรใหเจา หนา ทีแ่ จงใหผขู อทราบ เพอื่ กันเขต
เนื้อท่สี ว นทเ่ี กินจากหลกั ฐานเดมิ ออกใหถูกตอ งตามขอ เทจ็ จรงิ พรอ มทั้งแจงสิทธอิ ทุ ธรณแ ละสิทธใิ น
การฟองคดีปกครองใหผ ขู อทราบตามพระราชบัญญัตวิ ธิ ปี ฏิบตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ ดว ย

๓.๒ .........................ฯลฯ......................
ระเบยี บวาระที่ ๔ เรื่อง อ่นื ๆ

................................................ ผจู ดรายงานการประชุม
................................................ ผูตรวจรายงานการประชุม

๕๒๘

ตวั อยา ง (กรณมี ไิ ดน าํ ทด่ี นิ นอกหลกั ฐานรวมเขา ไปดว ย)

รายงานการประชุม
คณะกรรมการตรวจสอบกรณกี ารออกโฉนดท่ดี นิ หรือหนงั สอื รับรองการทําประโยชนเ ปน การเฉพาะราย

กรณีไดเนื้อทีเ่ กนิ จากหลักฐานท่ดี ินเดมิ
สํานักงานที่ดินจังหวดั /สาขา/สวนแยก............................

ครั้งที.่ ............/..............
เมอื่ วนั ที.่ ............................
ณ ............................................

––––––––––––––––––

ผูเ ขาประชุม
๑. ..........................................เจาพนกั งานทด่ี นิ .............. ประธานกรรมการ
๒. ..........................................หวั หนา ฝายทะเบียน กรรมการ
๓. ..........................................หวั หนา ฝา ยรงั วดั กรรมการ
๔. ..........................................หวั หนา งานนติ ิกรรม ๒ กรรมการและเลขานุการ
๕. ..........................................ชางรังวัดผทู ําการรังวดั กรรมการและผชู ว ยเลขานุการ

ระเบียบวาระท่ี ๑ เรอ่ื งท่ปี ระธานแจงใหท ่ปี ระชุมทราบ

ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่อง รับรองรายงานการประชุม

ระเบยี บวาระที่ ๓ เรอ่ื ง พจิ ารณา
๓.๑ การรงั วดั ออกโฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน กรณเี นอ้ื ทม่ี ากกวา

หลักฐานเดมิ ราย..............................................................
ผลการพจิ ารณา นาย/นาง/นางสาว.......................ไดยืน่ คาํ ขอรังวัดออกโฉนดท่ดี นิ /

หนังสอื รบั รองการทําประโยชน (น.ส.๓/น.ส.๓ ก.) จากหลักฐาน........................เลขที่............หมทู .ี่ ......
ตาํ บล.....................อาํ เภอ...................จังหวัด.................เนอ้ื ท่.ี ...........ไร............งาน..........ตารางวา
ซง่ึ ผลการรังวัดออกโฉนดทด่ี นิ /หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน ไดเ น้อื ท่.ี ........ไร. ........งาน........ตารางวา
มากกวาหลกั ฐานเดิม...............ไร................งาน..............ตารางวา คิดเปน........................เปอรเซ็นต
คณะกรรมการฯ ไดรวมกนั ตรวจสอบแลว เห็นวา ไมม ีการนาํ ทดี่ นิ นอกหลักฐานมารวมออกโฉนดท่ดี ิน
โดยไมชอบดวยกฎหมายแตอ ยางใด เหตทุ ไี่ ดเ นื้อทเี่ พ่ิมข้นึ เนือ่ งจาก..................................................
......................................................................................................................................................
ซึง่ ไดต รวจสอบจากหลักฐาน..............................ประกอบแลว เห็นวา ตามหลกั ฐาน......................เดิม
มีความคลาดเคลื่อนดวยเหตุดังกลาวจริง เห็นควรใหออกโฉนดที่ดิน/หนังสือรับรองการทําประโยชน
ตามผลการรงั วดั ครง้ั น้ี

นาย.........(ชื่อ, ตําแหนง ).........มีความเห็นแยง โดยมเี หตุผลวา ..............................
๓.๒ .........................ฯลฯ......................

ระเบยี บวาระท่ี ๔ เรื่อง อนื่ ๆ

................................................ ผจู ดรายงานการประชมุ

................................................ ผูตรวจรายงานการประชุม
๕๒๙

ตัวอยางหนังสือแจงผขู อ

ท่ี................................ สํานกั งานทดี่ นิ ..............................
...................................................

วนั ที.่ .......................................

เร่อื ง การขอรงั วดั ออกโฉนดทีด่ ิน/หรอื หนังสือรับรองการทําประโยชน

เรยี น ............................................................

ตามคาํ ขอรังวัดของทานเมอ่ื วันท.ี่ ....................พ.ศ...............เพื่อออกโฉนดทดี่ ิน/หนงั สอื
รบั รองการทําประโยชน จากหลกั ฐาน...........................เลขท.ี่ ............หมทู ี่.........ตาํ บล.......................
อําเภอ...........................จังหวดั .......................เน้ือท.่ี ..........ไร. ..........งาน..........ตารางวา น้นั

สํานกั งานทีด่ นิ ......................................ขอเรียนวาผลการรังวดั ออกโฉนดทีด่ ินปรากฏวา
ไดเ นือ้ ที่..........ไร...........งาน.........ตารางวา มากกวา หลกั ฐานเดิม..........ไร. .........งาน..........ตารางวา
มากกวาเดิมคดิ เปน............................เปอรเ ซน็ ต และคณะกรรมการตรวจสอบการออกโฉนดท่ีดินหรือ
หนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชนเ ปนการเฉพาะราย กรณไี ดเน้อื ท่ีเกินจากหลักฐานที่ดนิ เดมิ ตามคาํ สง่ั
กรมทด่ี ิน ท.ี่ ...๔..๘...๒...๙..../๒๕๕๕ ลงวันที่...๒...๘...ธันวาคม ๒๕๕๕ มีความเห็นวา กรณีดงั กลา วเปน การ
นาํ ท่ีดนิ นอกหลักฐานทางดานทิศ................................มารวมดว ย ทาํ ใหไดเนอ้ื ท่ีเพิ่มขนึ้

ดังนั้น เจาพนักงานที่ดินพิจารณาแลวเห็นวา การรังวัดออกโฉนดที่ดิน/หนังสือรับรอง
การทําประโยชนของทานตามนัยดังกลา วขา งตน เปนการนาํ ท่ดี ินนอกหลักฐานมารังวดั รวมเขา ไปดว ย
โดยไมชอบดวยกฎหมาย ซึ่งไมอยูในหลักเกณฑที่จะดําเนินการออกโฉนดที่ดิน/หนังสือรับรองการทํา
ประโยชนใหไ ด จึงขอใหท า นไปพบพนกั งานเจา หนา ที่ ณ สํานักงานทีด่ นิ ..........................................
ในวนั ที่...........................เพื่อกันเขตสวนทีด่ นิ ซึ่งเปน ทน่ี อกหลกั ฐานออกใหถ กู ตองตามขอ เท็จจรงิ ตอ ไป
หากทา นมิไดไปตามกาํ หนดดังกลา ว ถอื วา ทา นไมป ระสงคจ ะดาํ เนนิ การตามคาํ ขอรงั วดั เพอื่ ออกโฉนด
ทดี่ ิน/หนงั สอื รับรองการทําประโยชนต อ ไป จะส่ังยกเลิกเร่อื ง

อนึง่ โดยท่ีคาํ ส่ังไมอ อกโฉนดทด่ี นิ /หนังสอื รบั รองการทําประโยชนน ้ีเปน คําสง่ั ทางปกครอง
อนั อาจอทุ ธรณต อไปได หากทานไมเหน็ ดวยและประสงคจะอุทธรณห รอื โตแยง คาํ สง่ั นี้ ใหย่นื อทุ ธรณ
ตอ เจา พนักงานทดี่ นิ ผอู อกคําส่ัง ณ สาํ นักงานท่ดี นิ ..................................ภายใน ๑๕ วนั นบั แตวนั ท่ี
ไดร บั แจง ตามมาตรา ๔๔ แหง พระราชบญั ญตั วิ ธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ ในกรณที ม่ี ี
การอทุ ธรณ หากครบกาํ หนดระยะเวลาในการพจิ ารณาของผมู อี าํ นาจพจิ ารณาอทุ ธรณ ตามมาตรา ๔๕
แหงพระราชบญั ญตั ิวธิ ปี ฏิบัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกอบกบั กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔
(พ.ศ.๒๕๔๐) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ดิ งั กลา วแลว ไมว า จะมคี าํ วนิ จิ ฉยั ของผมู อี าํ นาจพจิ ารณา
อุทธรณห รอื ไมก ็ตาม ทา นสามารถทจี่ ะยน่ื คาํ ขอฟอ งตอ ศาลปกครองภายในระยะเวลา ๙๐ วัน นบั แต
วนั ท่ีรหู รอื ควรรูถึงเหตุแหงการฟองคดี ตามมาตรา ๔๙ แหงพระราชบญั ญตั ิจดั ตงั้ ศาลปกครองและ
วธิ ีพจิ ารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒

จึงเรียนมาเพ่อื ทราบ
ขอแสดงความนับถอื

เจาพนกั งานทดี่ ิน............................

โทร......................... ๕๓๐

ท่ี มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๓๖๗๗๖ (สําเนา)
กรมท่ดี ิน
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๕

เรอื่ ง การเดินสํารวจออกโฉนดทีด่ นิ กรณีไดเนือ้ ทเ่ี กนิ จากหลักฐานทีด่ นิ เดิม
เรียน ผูวาราชการจงั หวัดทุกจงั หวัด
อางถึง ๑. หนงั สอื กรมทด่ี นิ ดว นท่สี ดุ ท่ี มท ๐๕๑๖.๒ (๑) / ว ๓๗๙๗๖ ลงวันท่ี

๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๓
๒. คําส่งั กรมทดี่ นิ ท่ี ๓๒๗๓ / ๒๕๕๓ ลงวันที่ ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๓
สงิ่ ทีส่ งมาดว ย ๑. สาํ เนาคําสัง่ กรมทีด่ ิน ท่ี ๔๘๓๐/๒๕๕๕ ลงวันท่ี ๒๘ ธนั วาคม ๒๕๕๕

เรือ่ ง แตงต้งั คณะกรรมการตรวจสอบการเดนิ สํารวจออกโฉนดท่ดี นิ
กรณีไดเ น้อื ที่เกนิ จากหลกั ฐานที่ดินเดมิ จาํ นวน ๑ ฉบับ
๒. ตัวอยางรายงานการประชมุ และหนงั สือแจง ผูขอ จาํ นวน ๔ ฉบบั

ตามหนังสือที่อางถึง กรมท่ีดินไดวางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเดินสํารวจ
ออกโฉนดที่ดนิ จากหลกั ฐานหนังสอื รบั รองการทําประโยชน กรณีไดเ นือ้ ทเ่ี กนิ จากหลักฐานทีด่ นิ
เดิมต้ังแต ๑๐ เปอรเซน็ ต ขนึ้ ไป โดยใหพ นกั งานเจาหนา ทส่ี ง เร่ืองใหค ณะกรรมการตรวจสอบ
กรณีการเดินสาํ รวจออกโฉนดทดี่ นิ จากหลกั ฐานหรอื หนงั สือรับรองการทาํ ประโยชน ตามคําส่ัง
กรมทด่ี นิ ที่ ๓๒๗๓/๒๕๕๓ ลงวนั ที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ พจิ ารณาทกุ เร่ืองวา เปน การนาํ
ที่ดนิ นอกหลักฐานมารวมออกโฉนดทีด่ นิ โดยไมชอบดว ยกฎหมายหรอื ไม อยางไร เพอื่ ใหก ารเดนิ
สํารวจออกโฉนดที่ดินกรณีเน้ือท่ีเกินจากหลักฐานที่ดินเดิมเปนไปโดยรอบคอบ และปองกัน
การเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินไปโดยไมชอบดวยกฎหมาย ซ่ึงปรากฏมีขาวทางสื่อมวลชน
แขนงตา งๆ ในทางท่เี กดิ ความเสียหายกับกรมทดี่ นิ อยเู นืองๆ น้นั

กรมท่ดี ินพิจารณาแลวเหน็ วา ตามหนงั สือกรมทด่ี ินและคําสั่งกรมทด่ี นิ ที่อา งถึง
ยังไมครอบคลุมถึงการเดินสํารวจออกโฉนดท่ีดินโดยอาศัยหลักฐานเดิมบางประเภทและเกณฑ
การกาํ หนดเน้ือทีย่ งั ไมเหมาะสมกับสถานการณปจ จบุ นั ดงั นั้น เพ่ือใหการเดินสาํ รวจออกโฉนด
ท่ดี ินจากหลกั ฐานเดิมทุกประเภทเปน ไปดว ยความรอบคอบ และปองกนั การเดนิ สาํ รวจออกโฉนด
ทด่ี นิ ไปโดยไมช อบดว ยกฎหมาย จงึ ใหยกเลิกหนงั สือกรมทดี่ ินและคําสัง่ กรมทด่ี ินท่อี า งถงึ และ
ใหถ ือปฏิบัติดงั นี้

๕๓๑

๑. การเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินกรณีไดเน้ือท่ีเกินจากหลักฐานที่ดินเดิม
ใหพนักงานเจาหนาที่สงเรื่องใหคณะกรรมการตรวจสอบการเดินสํารวจออกโฉนดท่ีดินกรณี
ไดเ นื้อท่ีเกนิ จากหลักฐานทดี่ นิ เดมิ ตามคําส่งั กรมท่ีดิน ที่ ๔๘๓๐/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๒๘ ธนั วาคม
๒๕๕๕ เร่ือง แตงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการเดนิ สาํ รวจออกโฉนดที่ดินกรณไี ดเ นอื้ ทเ่ี กนิ จาก
หลักฐานท่ีดินเดิม พจิ ารณาทุกเรื่อง ในกรณดี ังน้ี

๑.๑ กรณีหลักฐานเดิมเปนหนังสือรับรองการทําประโยชน (น.ส. ๓ ก.)
หนงั สือแสดงการทาํ ประโยชนในเขตนิคมสรา งตนเอง (น.ค. ๓) หนังสอื แสดงการทําประโยชนใ น
เขตนคิ มสหกรณ (ก.ส.น. ๕) และกรณกี ารรงั วดั เพอื่ เปลีย่ นโฉนดตราจอง โฉนดแผนที่ หรอื
ตราจองทต่ี ราวา “ไดท ําประโยชนแลว ” เปน โฉนดทด่ี ิน ผลการรังวดั ออกโฉนดที่ดินไดเนื้อทเ่ี กนิ
ต้ังแต ๑๐ เปอรเ ซน็ ต ข้ึนไป

๑.๒ กรณหี ลกั ฐานเดิมเปน แบบแจงการครอบครองทดี่ ิน (ส.ค.๑) ใบจอง
(น.ส.๒) หนังสือรบั รองการทําประโยชน (น.ส.๓, น.ส.๓ ข.) ผลการรงั วัดออกโฉนดท่ดี นิ ไดเ น้อื ท่ี
เกินต้ังแต ๒๐ เปอรเซน็ ตขน้ึ ไป

โดยใหชางเดินสํารวจและเจาหนาท่ีสอบสวนสิทธิตรวจสอบสาเหตุท่ีไดเน้ือที่
มากกวาหลกั ฐานเดิม หากเห็นวา ผูนําเดินสํารวจไดน าํ ที่ดนิ นอกหลกั ฐานมารวมออกโฉนดท่ดี ิน
ใหบนั ทึกเสนอคณะกรรมการฯ

๒. หากคณะกรรมการฯ เหน็ วา ถกู ตอง เหมาะสม ก็ใหเ สนอผอู ํานวยการศูนยฯ
ลงนามออกโฉนดท่ีดินตอไป หากเห็นวา ไมเหมาะสม จงึ ใหเ จาหนา ทีส่ อบสวนสิทธแิ จง ใหผูนํา
ทําการเดนิ สาํ รวจหรือผแู ทนทราบ ถา ผูนาํ ทาํ การเดินสํารวจหรือผแู ทนยนิ ยอมใหกันเขตเนื้อท่ี
สวนทเ่ี กินจากหลกั ฐานเดิม ใหบันทึกถอ ยคาํ ไวเ ปน หลักฐาน แลวใหเ จา หนาทเี่ ดินสาํ รวจออกไป
ทําการรังวัดกันเขตใหถูกตองตรงกับหลักฐานเดิมเสร็จแลวเสนอใหผูอํานวยการศูนยฯ ลงนาม
ออกโฉนดทีด่ นิ ตอ ไป แตถา ผูนาํ เดินสํารวจไมยินยอมใหก ันเขตเนอื้ ท่ีสว นทเ่ี กนิ จากหลักฐานเดมิ
ใหบันทึกถอยคําไวเปนหลักฐาน แลวรายงานผูบังคับบัญชาเหนือข้ึนไปตามลําดับทราบ
หากผูอํานวยการศูนยฯ พิจารณาแลวเหน็ วา ผูนําทําการเดินสาํ รวจนาํ ทด่ี นิ นอกหลกั ฐานมา
รวมจริง กใ็ หส ง่ั งดการเดนิ สาํ รวจทด่ี นิ แปลงนน้ั แลว แจง ผนู าํ ทาํ การเดนิ สาํ รวจทราบพรอ มแจง
สิทธิอุทธรณใหผูนําทําการเดินสํารวจทราบตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ. ๒๕๓๙

๓. ในการประชุมคณะกรรมการฯ ใหคณะกรรมการฯ รว มกนั ตรวจสอบวา ท่ดี ิน
แปลงนั้นมีการนําท่ีดินนอกหลักฐานมารวมออกโฉนดท่ีดินโดยไมชอบดวยกฎหมายหรือไม
อยางไร สาเหตุที่ทาํ ใหไดเนอื้ ทเ่ี พ่ิมขึ้นเพราะเหตใุ ด เสร็จแลวใหจัดทาํ รายงานการประชุมตาม
ตัวอยางรายงานการประชุมที่แนบมาพรอมน้ีไวเปนหลักฐาน ในกรณีที่ดินท่ีมีเน้ือท่ีเกินจาก
หลกั ฐานเดมิ ๑๐–๒๐ เปอรเซ็นต ข้นึ ไป แลวแตก รณี จํานวนหลายแปลง กใ็ หน ําเร่ืองราวการ

๕๓๒

เดินสํารวจฯ เขา ทป่ี ระชุมในคราวเดียวกันได โดยในบันทกึ รายงานการประชุมใหมีรายละเอยี ด
การพจิ ารณาแตละแปลง โดยระบเุ หตผุ ลใหชัดเจนและเสนอเรอื่ งราวการเดินสํารวจใหผ อู ํานวย
การศูนยฯ พจิ ารณาพรอ มกับรายงานการประชุม เม่อื ผอู ํานวยการศนู ยฯ ลงนามในโฉนดทดี่ นิ
แลวใหสําเนารายงานการประชุมดังกลาวเก็บไวในสารบบเร่ืองราวการเดินสํารวจของทุกแปลงท่ี
มกี ารพจิ ารณา

๔. กอนลงนามในโฉนดที่ดนิ ใหผ อู ํานวยการศนู ยฯ บนั ทึกใหปรากฏในดานหนา
มมุ บนดา นขวาของใบไตสวน (น.ส.๕) วา เห็นดวยกับผลการประชมุ ของคณะกรรมการฯ และ
ลงนามในโฉนดทีด่ นิ ตอ ไป

๕. ในกรณีท่ีผูอํานวยการศูนยฯ ยังมิไดลงนามในโฉนดท่ีดินเน่ืองจากส้ินสุด
โครงการในปน้ันกอนท่ีศูนยอํานวยการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินจะสงมอบเรื่องราวการเดิน
สาํ รวจทีค่ างลงนามใหกับสาํ นกั งานทีด่ ินจงั หวดั หรอื สาขา หรือสวนแยก ใหผ อู ํานวยการศนู ยฯ
ดําเนินการประชุมคณะกรรมการฯ ใหแ ลว เสร็จ และใหผูอาํ นวยการศนู ยฯ ใหค วามเหน็ ไวใน
ใบไตสวนดวย

๖. หากมกี ารตรวจสอบพบในภายหลงั วา ท่ดี นิ แปลงใดไดเ ดินสาํ รวจออกโฉนด
ท่ีดินจากหลักฐานเดิมแลวไดเนื้อที่เกินจากหลักฐานเดิมโดยไมชอบดวยกฎหมาย กรมที่ดิน
จะถือวาเปนความบกพรองของเจาหนาท่ีที่เก่ียวของทุกราย และหากรายใดไดพิจารณาผาน
ความเหน็ ของคณะกรรมการฯ โดยไมช อบดวยกฎหมาย ระเบียบ กรรมการบคุ คลที่มคี วามเห็น
ไมถูกตอ งก็จะอยใู นขายบกพรองตอหนา ที่ หรือปฏบิ ตั ิหนาท่โี ดยไมช อบ ซง่ึ ถอื เปน ความผิดวินยั
ตามแตกรณี และจะพจิ ารณาโทษเจาหนาทท่ี เ่ี กี่ยวของกบั การออกโฉนดท่ีดินแปลงนั้นทกุ คน

จึงเรียนมาเพอื่ โปรดทราบ และแจงใหศนู ยอาํ นวยการเดนิ สํารวจออกโฉนดทด่ี ิน
ในจงั หวดั นถี้ ือปฏิบัติโดยเครงครดั ดวย

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชือ่ ) บุญเชิด คดิ เห็น

(นายบุญเชิด คิดเห็น)
อธบิ ดกี รมทีด่ ิน

สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสาํ คญั
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐
โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐

๕๓๓

(สาํ เนา)

คาํ ส่ังกรมทีด่ นิ
ท่ี ๔๘๓๐ / ๒๕๕๕
เรอ่ื ง แตง ตง้ั คณะกรรมการตรวจสอบการเดนิ สาํ รวจออกโฉนดทด่ี นิ
กรณีไดเ นอื้ ท่ีเกนิ จากหลักฐานทด่ี ินเดมิ
––––––––––––––––––––

ตามคําสงั่ กรมที่ดนิ ที่ ๓๒๗๓ / ๒๕๕๓ ลงวนั ที่ ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๓ เรอ่ื ง
แตงต้ังคณะกรรมการตรวจสอบกรณีการเดินสํารวจออกโฉนดท่ีดินจากหลักฐานหนังสือรับรอง
การทาํ ประโยชน ไดกําหนดหลักเกณฑแ ละแนวทางปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกบั การเดนิ สาํ รวจออกโฉนดทด่ี นิ
จากหลกั ฐานหนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชนแ ลว ไดเ นอ้ื ทม่ี ากกวา หลกั ฐานเดมิ เพอ่ื ปอ งกนั มใิ ห
มีการเดินสํารวจออกโฉนดท่ีดินจากหลักฐานหนังสือรับรองการทําประโยชนโดยการนําท่ีดินนอก
หลกั ฐานมารวมโดยไมช อบดว ยกฎหมาย นน้ั
กรมท่ดี นิ ไดพ ิจารณาแลว เหน็ วา คาํ ส่ังกรมทดี่ ิน ที่ ๓๒๗๓ / ๒๕๕๓ ลงวันท่ี ๓๐
พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ยงั ไมครอบคลมุ ถึงการเดนิ สํารวจออกโฉนดทีด่ นิ โดยอาศัยหลกั ฐานเดมิ
บางประเภทและเกณฑก ารกาํ หนดเนื้อท่ียังไมเหมาะสม จึงใหย กเลิกคาํ ส่งั ดังกลาวและแตงต้งั
คณะกรรมการตรวจสอบการเดนิ สาํ รวจออกโฉนดทด่ี นิ ประกอบดว ยบคุ คลดงั ตอ ไปนี้
๑. ผูอ าํ นวยการศนู ยเดินสาํ รวจออกโฉนดทด่ี นิ เปนประธานกรรมการ
๒. ผกู าํ กบั การเดินสํารวจทุกคนในศูนย เปน กรรมการ
๓. ผกู ํากบั การรงั วดั ทุกคนในศนู ย เปนกรรมการ
๔. ผูก ํากบั การเดนิ สาํ รวจซึ่งผูอ าํ นวยการศนู ยฯ มอบหมาย เปนเลขานกุ าร
ใหคณะกรรมการฯ รวมกันตรวจสอบเร่ืองราวการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินจาก
หลักฐานเดิมซึ่งมีผลการรังวัดไดเนื้อท่เี กนิ จากหลกั ฐานเดมิ ทุกเร่อื งในกรณีดงั นี้
– กรณีหลกั ฐานเดิมเปนหนงั สือรับรองการทําประโยชน (น.ส. ๓ ก.) หนังสอื แสดง
การทําประโยชนใ นเขตนคิ มสรา งตนเอง (น.ค. ๓) หนงั สอื แสดงการทาํ ประโยชนในเขตนคิ ม
สหกรณ (ก.ส.น. ๕) และกรณีการรงั วัดเพ่ือเปลีย่ นโฉนดตราจอง โฉนดแผนที่ หรือตราจองท่ีตรา
วา “ไดท ําประโยชนแลว ” เปน โฉนดท่ีดิน ผลการรังวดั ออกโฉนดท่ดี นิ ไดเนอ้ื ทีเ่ กนิ จากหลกั ฐานเดมิ
ตงั้ แต ๑๐ เปอรเ ซน็ ต ขึ้นไป
– กรณหี ลักฐานเดมิ เปน แบบแจง การครอบครองท่ดี ิน (ส.ค.๑) ใบจอง (น.ส.๒)
หนงั สือรับรองการทาํ ประโยชน (น.ส. ๓, น.ส.๓ ข.) ผลการรังวดั ออกโฉนดทด่ี นิ ไดเ นอ้ื ทเ่ี กินจาก
หลกั ฐานเดิมตั้งแต ๒๐ เปอรเ ซ็นตขนึ้ ไป

๕๓๔

โดยใหพ ิจารณาตรวจสอบสาเหตุทท่ี าํ ใหไ ดเน้อื ท่เี พมิ่ ขึน้ วา เปนการนาํ ท่ีดนิ นอก
หลกั ฐานมารวมออกโฉนดท่ดี ินโดยไมชอบดว ยกฎหมายหรอื ไม อยางไร และใหจ ดั ทํารายงาน
การประชมุ ไวเปน หลักฐาน โดยมรี ายละเอียดการพจิ ารณาแตล ะแปลง โดยระบุเหตุผลใหชัดเจน
แลวเก็บรายงานการประชุมรวมไวในสารบบเรอ่ื งราวการเดนิ สํารวจ

ทัง้ น้ี ต้งั แตบ ดั นเี้ ปนตนไป
ส่ัง ณ วันท่ี ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชื่อ) บญุ เชิด คดิ เห็น
(นายบุญเชดิ คดิ เห็น)
อธิบดีกรมท่ดี นิ

๕๓๕

ตวั อยาง (กรณกี รรมการทกุ คนเหน็ วา ชอบ)

รายงานการประชมุ
คณะกรรมการตรวจสอบการเดินสาํ รวจออกโฉนดทดี่ ิน กรณไี ดเนือ้ ท่ีเกนิ จากหลักฐานท่ีดนิ เดมิ

จงั หวดั ...............................
คร้ังท.่ี ............/..............เมอ่ื วนั ท่ี................................

ณ ...................................................
––––––––––––––––––

ผเู ขารว มประชมุ
๑. ...........................ผูอํานวยการศนู ยเดินสาํ รวจจังหวัด................ ประธานกรรมการ
๒. ...........................ผูกํากบั การเดนิ สํารวจ กรรมการ
๓. ...........................ผูกาํ กบั การรงั วดั กรรมการ
๔. ...........................ผูกํากบั การเดนิ สํารวจซ่ึงผอู าํ นวยการศนู ยฯ มอบหมาย เลขานกุ าร

ระเบยี บวาระท่ี ๑ เร่อื งทป่ี ระธานแจงใหทปี่ ระชุมทราบ

ระเบียบวาระที่ ๒ เรือ่ ง รบั รองรายงานการประชุม

ระเบียบวาระท่ี ๓ เร่อื ง พิจารณา
๓.๑ เรอ่ื ง การเดนิ สาํ รวจออกโฉนดทด่ี นิ จากหลกั ฐาน.............................................

กรณเี นอ้ื ทม่ี ากกวา หลกั ฐานเดมิ ราย..............................................................
ผลการพิจารณา นาย/นาง/นางสาว.........................ไดนาํ เดนิ สาํ รวจออกโฉนดที่ดิน

จากหลกั ฐาน......................เลขที.่ ........หมทู .่ี ......ตําบล..................อําเภอ.................จงั หวดั ..............
เนอื้ ที่............ไร. ...........งาน..........ตารางวา ซึ่งผลการรงั วัดไดเ นอ้ื ที.่ ..........ไร. ........งาน.........ตารางวา
มากกวา หลักฐานเดิม...............ไร. ...............งาน..............ตารางวา คดิ เปน........................เปอรเ ซ็นต
คณะกรรมการฯ ไดรว มกนั ตรวจสอบแลว เห็นวา ไมม กี ารนําท่ดี ินนอกหลกั ฐานมารวมออกโฉนดท่ีดนิ
โดยไมช อบดวยกฎหมายแตอยางใด เหตุที่ไดเนอ้ื ท่เี พมิ่ ขึ้น เน่อื งจาก..................................................

ระเบยี บวาระท่ี ๔ เรือ่ ง อ่ืนๆ

................................................ ผจู ดรายงานการประชุม
................................................ ผตู รวจรายงานการประชมุ

๕๓๖

ตัวอยาง (กรณกี รรมการเหน็ ตางกัน)

รายงานการประชุม
คณะกรรมการตรวจสอบการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดนิ กรณไี ดเ นือ้ ทีเ่ กนิ จากหลักฐานที่ดินเดิม
จงั หวัด...............................
ครั้งที่............./..............เม่ือวันท.่ี ...............................
ณ ...................................................
––––––––––––––––––
ผเู ขา รวมประชุม
๑. ...........................ผอู ํานวยการศนู ยเดินสํารวจจังหวดั ................ ประธานกรรมการ
๒. ...........................ผกู าํ กับการเดนิ สํารวจ กรรมการ
๓. ...........................ผูก ํากับการรังวัด กรรมการ
๔. ...........................ผูกํากับการเดนิ สํารวจซงึ่ ผอู าํ นวยการศนู ยฯ มอบหมาย เลขานุการ
ระเบยี บวาระที่ ๑ เรื่องที่ประธานแจงใหท ่ีประชมุ ทราบ
ระเบียบวาระที่ ๒ เรือ่ ง รบั รองรายงานการประชุม
ระเบยี บวาระท่ี ๓ เรื่อง พจิ ารณา
๓.๑ เรอ่ื ง การเดนิ สาํ รวจออกโฉนดทด่ี นิ จากหลกั ฐาน.............................................
กรณเี นอ้ื ทม่ี ากกวา หลกั ฐานเดิม ราย..............................................................
ผลการพิจารณา นาย/นาง/นางสาว.........................ไดน าํ เดนิ สาํ รวจออกโฉนดท่ดี นิ
จากหลักฐาน......................เลขท.ี่ ........หมูที.่ ......ตาํ บล..................อําเภอ.................จังหวัด..............
เนอ้ื ที่............ไร............งาน..........ตารางวา ซ่ึงผลการรังวัดไดเน้ือท.ี่ ..........ไร.........งาน.........ตารางวา
มากกวาหลกั ฐานเดิม...............ไร................งาน..............ตารางวา คดิ เปน........................เปอรเ ซ็นต
คณะกรรมการฯ ไดร ว มกนั ตรวจสอบแลวมีความเหน็ แตกตา งกนั ดังน้ี
(๑) ...............(ช่ือ, ตาํ แหนง)...............เห็นวา ไมมกี ารนําที่ดินนอกหลกั ฐานมารวม
ออกโฉนดท่ีดินโดยไมช อบดว ยกฎหมายแตอยางใด เหตทุ ไ่ี ดเนอื้ ทเี่ พมิ่ ข้ึน เนื่องจาก..............................
โดยไดต รวจสอบจากหลักฐาน......................ประกอบแลว เห็นวาการรงั วดั ออกหลักฐาน................เดมิ
มคี วามคลาดเคลอ่ื นดว ยเหตุดังกลา วจริง เห็นควรใหออกโฉนดทด่ี นิ ตามผลการรังวัดครั้งน้ี
(๒) ............(ชอื่ , ตําแหนง)...........มคี วามเห็นแยงวา เปน การนาํ ท่ีดนิ นอกหลักฐาน
มารวมออกโฉนดที่ดินโดยไมชอบดวยกฎหมาย เนื่องจาก..................................................................
เหน็ ควรตัดระยะดา นทศิ ..........................................ออก

มติท่ีประชมุ ท่ีประชุมเสียงสวนใหญเห็นวาการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินแปลงนี้ไมเหมาะสม
เนือ่ งจากมีการนําท่ดี ินนอกหลักฐานมารวมเขา ไปดว ย เห็นควรใหเจา หนา ท่ีสอบสวนสทิ ธแิ จง ใหผ ูนาํ
ทาํ การเดินสาํ รวจหรอื ผแู ทนทราบ ถา ผนู ําเดินสํารวจยนิ ยอมใหกันเขตเนอ้ื ทีส่ ว นทีเ่ กนิ จากหลกั ฐานเดิม
ใหเจาหนา ที่เดนิ สาํ รวจออกไปทําการกันเขตใหถ ูกตอ งตามหลกั ฐานเดมิ แลวเสนอใหผอู าํ นวยการศนู ยฯ
ลงนามออกโฉนดทด่ี ินตอไป แตถ าผูนาํ เดนิ สํารวจไมย นิ ยอมใหกนั เขตเน้อื ทีส่ วนท่เี กนิ จากหลักฐานเดิม
กใ็ หง ดการเดินสาํ รวจทด่ี นิ แปลงนน้ั แลว แจง ใหผูน าํ เดนิ สํารวจทราบพรอมแจงสทิ ธิอทุ ธรณใ หผูนําเดนิ
สาํ รวจทราบตามพระราชบัญญตั วิ ธิ ีปฏบิ ตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙

................................................ ผจู ดรายงานการประชมุ
................................................ ผูตรวจรายงานการประชุม

๕๓๗

ตัวอยางหนงั สือแจง ผนู ําเดนิ สาํ รวจ (กรณีผนู ําเดินสาํ รวจไมย อมใหก ันเขต)

ท.่ี ............................... ศนู ยอํานวยการเดินสํารวจ.......................

วนั ท่.ี .......................................

เรอื่ ง การเดนิ สาํ รวจออกโฉนดท่ดี ิน

เรียน ............................................................

อางถงึ หนังสือศูนยอ าํ นวยการเดนิ สํารวจออกโฉนดที่ดนิ ....................ท.่ี ......../........ลงวนั ท.่ี ...............

ตามที่ศนู ยอํานวยการเดินสาํ รวจออกโฉนดทด่ี ิน...........................................ไดมหี นงั สือ
แจง ใหท า นไปพบพนกั งานเจา หนา ทเ่ี พอ่ื นาํ เจา หนา ทเ่ี ดนิ สาํ รวจไปทาํ การรงั วดั กนั เขตทด่ี นิ สว นทเ่ี กนิ จาก
หลกั ฐานเดมิ กรณีทา นไดน ําเดนิ สํารวจออกโฉนดทีด่ นิ จากหลักฐาน....................เลขท่.ี .........หมูที่.......
ตาํ บล.......................อําเภอ....................จังหวดั ...................เนื้อที่..........ไร. .........งาน.........ตารางวา
โดยทา นไดน ําชี้ที่ดนิ ตามหลักฐาน..................................ดงั กลาว ผลการรังวดั ออกโฉนดที่ดนิ ปรากฏวา
ไดเนอ้ื ท่.ี .........ไร. ..........งาน.........ตารางวา มากกวาหลกั ฐานเดิม..........ไร. .........งาน..........ตารางวา
คดิ เปน............................เปอรเซน็ ต ศูนยอํานวยการเดนิ สาํ รวจออกโฉนดทีด่ นิ จงั หวดั .........................
ไดน าํ เรอื่ งเดินสาํ รวจแปลงนใี้ หคณะกรรมการตรวจสอบการเดนิ สาํ รวจออกโฉนดที่ดิน กรณีไดเน้ือทเ่ี กิน
จากหลกั ฐานทีด่ นิ เดมิ ตามคําส่งั กรมทดี่ ิน ท่.ี ....๔...๘...๓..๐...../..๒...๕...๕...๕.....ลงวนั ท.ี่ ..๒...๘.......ธนั วาคม ๒๕๕๕
พิจารณาแลว คณะกรรมการฯ มีมติวา เปนการนําทดี่ ินนอกหลักฐาน.....................ทางดา นทิศ............
มารวมดว ย ทําใหไดเนอื้ ทีเ่ พ่มิ ขึ้น และใหศ นู ยอ ํานวยการเดนิ สํารวจฯ แจงใหท า นทราบ เพ่อื ทําการรงั วดั
กันเขตเนื้อที่สวนท่ีเกินจากหลักฐานเดิมออกใหถูกตองตามหลักฐานเดิม ซ่ึงทานไดไปพบพนักงาน
เจาหนาทแี่ ลว แตไ มย ินยอมใหกนั เขตเนอื้ ทสี่ ว นทเี่ กนิ ออกจากหลักฐานเดิม นนั้

ศนู ยอ ํานวยการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินจังหวัด.............................พิจารณาแลวเหน็ วา
การนําเดินสํารวจออกโฉนดท่ีดินของทานเปนการนําที่ดินนอกหลักฐาน...............มารวมออกโฉนดที่ดิน
โดยไมชอบดวยกฎหมาย พนักงานเจา หนาทจ่ี งึ ไมอาจออกโฉนดที่ดนิ ใหแ กท านตามท่ไี ดนาํ ทําการรงั วดั
ไวได จึงงดดาํ เนนิ การออกโฉนดท่ดี ินใหแกท าน และเนื่องจากการไมออกโฉนดท่ีดนิ ใหแกทา นเปน คาํ ส่ัง
ทางปกครองอนั อาจอุทธรณตอ ไปได หากทา นประสงคจะอุทธรณหรือโตแยงคําสัง่ นี้ ใหย ่ืนอุทธรณตอ
ผอู ํานวยการเดินสาํ รวจออกโฉนดที่ดนิ จังหวัด..........................ภายใน ๑๕ วนั นบั แตวนั ไดรบั แจงคําสัง่
ตามนัยมาตรา ๔๔ แหง พระราชบัญญตั วิ ธิ ปี ฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกอบกับ
กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๔๐) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิดังกลา วแลว ไมวา จะมี
คําวนิ จิ ฉยั ของผมู อี ํานาจพิจารณาอทุ ธรณห รอื ไมก ต็ าม ทา นสามารถท่จี ะยน่ื คาํ ฟอ งตอศาลปกครอง
ช้นั ตน ท่ที านมภี ูมลิ าํ เนา หรอื ทม่ี ลู คดเี กิดขึ้นในเขตศาลปกครองชน้ั ตนนนั้ หรือสงคําฟองทางไปรษณีย
ลงทะเบียนไปยงั ศาลปกครองดงั กลา วภายในระยะเวลา ๙๐ วัน นับแตวันทรี่ ูหรือควรรถู งึ เหตุแหง
การฟองคดี ตามมาตรา ๔๙ แหงพระราชบัญญัติจัดต้ังศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
พ.ศ.๒๕๔๒

จงึ เรยี นมาเพ่ือทราบ
ขอแสดงความนบั ถือ

ผูอ าํ นวยการศูนยเ ดนิ สํารวจ............................
๕๓๘

ตวั อยางหนงั สือแจง ผูนําเดนิ สาํ รวจ

ท่ี................................ ศนู ยอํานวยการเดินสํารวจ.......................
วันที่........................................
เรือ่ ง การเดินสํารวจออกโฉนดที่ดิน
เรยี น ............................................................

ตามที่ทา นไดนําเดนิ สาํ รวจออกโฉนดท่ดี ินจากหลักฐาน................เลขที่..........หมูที่........
ตําบล.......................อาํ เภอ.....................จงั หวดั ...................โดยทา นนาํ ชี้ทีด่ นิ ตามหลักฐานดังกลาว
ผลการรังวดั ออกโฉนดท่ีดินปรากฏวา ไดเ นอ้ื ท่ี........ไร. .........งาน..........ตารางวา มากกวา หลักฐานเดมิ
..........ไร. .........งาน..........ตารางวา คิดเปน............................เปอรเซน็ ต

ศูนยอํานวยการเดินสํารวจออกโฉนดท่ีดินจังหวัด.........................ไดนําเรื่องเดินสํารวจ
แปลงนใ้ี หค ณะกรรมการตรวจสอบการเดนิ สาํ รวจออกโฉนดทด่ี นิ กรณไี ดเ นอ้ื ทเ่ี กนิ จากหลกั ฐานทด่ี นิ เดมิ
ตามคําสงั่ กรมท่ดี นิ ท่ี........๔...๘...๓..๐......./....๒...๕...๕...๕......... ลงวนั ท.่ี ...๒...๘......ธันวาคม ๒๕๕๕ พิจารณาแลว
คณะกรรมการฯ มีมติวา เปนการนาํ ที่ดินนอกหลกั ฐาน.............................ทางดานทศิ .....................
มารวมดวย ทําใหไ ดเ นื้อทเี่ พ่มิ ข้นึ และใหศนู ยอํานวยการเดนิ สาํ รวจฯ แจง ใหท านทราบ เพอ่ื ทําการรงั วดั
กันเขตเนื้อทสี่ วนทีเ่ กินจากหลกั ฐานเดิมออกใหถ กู ตองตามหลกั ฐานเดมิ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ และขอใหทานไปพบพนักงานเจาหนาที่ ณ ศูนยอํานวยการ
เดินสํารวจออกโฉนดที่ดินจังหวัด..................ในวันท่ี..............เพื่อนําเจาหนาที่เดินสํารวจไปทําการ
รงั วัดกนั เขตสวนทเี่ กินจากหลกั ฐานเดมิ ออกใหถ ูกตอ งตอ ไป

ขอแสดงความนับถอื

ผูอ าํ นวยการศนู ยเ ดินสาํ รวจ............................

โทร. ..........................

๕๓๙

ที่ มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๒๓๙๑ (สาํ เนา)
กรมท่ีดิน
ศนู ยราชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทุงสองหอ ง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๘ มกราคม ๒๕๕๖

เร่อื ง การหารอื ขอ ราชการ
เรยี น ผูวา ราชการจังหวัดทุกจังหวดั
อา งถึง ๑. หนังสอื กรมทดี่ ิน ท่ี มท ๐๖๑๐ / ว ๑๓๑๑๒ ลงวนั ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๓๖ เร่ือง

การหารอื ขอ ราชการ
๒. หนงั สอื กรมทด่ี ิน ท่ี ๐๗๑๙ / ๒๑๕๔๐ ลงวนั ท่ี ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๔๒ เร่อื ง

การออกโฉนดท่ดี นิ โดยอาศัยหลักฐานหนังสอื รบั รองการทําประโยชน
๓. หนังสอื กรมที่ดิน ท่ี มท ๐๕๐๑.๒/ว ๒๖๔๖๑ ลงวนั ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๖ เรอื่ ง

การหารอื ขอราชการ
๔. หนงั สอื กรมที่ดิน ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๒๓๔๘๔ ลงวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๐ เร่อื ง

การหารอื ขอราชการและการบริการประชาชน

ตามท่กี รมที่ดินไดว างแนวทางปฏิบตั ิในการหารือขอ ราชการตามหนังสือทีอ่ า งถงึ
และกาํ ชับเก่ยี วกับการสงเรอ่ื งหารือขอ ราชการ โดยใหเ จา หนาทห่ี มัน่ ศึกษา คน ควา ระเบยี บ
กฎหมายทเี่ กย่ี วขอ ง พยายามใชด ุลยพินิจแกป ญหาที่เกดิ ขึ้นใหร อบคอบ เพ่อื ใหการบรกิ าร
ประชาชนเปนไปอยา งคลองตวั สะดวก รวดเร็ว มใิ หส งเร่ืองหารอื ไปกรมท่ีดนิ โดยไมจ าํ เปน
โดยเฉพาะอยางยิ่งเรื่องท่ีมีกฎหมาย ระเบียบปฏบิ ตั ชิ ดั เจนแลว หากปรากฏวา ยงั มกี ารสงเร่อื ง
ที่ไมสมควรหารือไปอกี กรมที่ดินจะพิจารณาสมรรถภาพของผบู ริหารของสํานักงานทด่ี นิ ท่หี ารอื
ดวย น้ัน

กรมที่ดนิ ขอเรยี นวา การสงเรื่องหารอื ขอ ราชการท่ผี า นมาพบวา เร่ืองหารือ
ขอราชการสวนใหญเปนปญหาขอเท็จจริง หรือเรื่องที่กรมท่ีดินไดวางแนวทางปฏิบัติไวโดย
ชดั เจนแลว ซง่ึ อยใู นดลุ ยพนิ จิ ของเจา พนกั งานทีด่ นิ ท่ีจะพจิ ารณาตดั สินใจได ไมใชเ รอ่ื งทก่ี รมทด่ี ิน
ไมไ ดวางแนวทางปฏิบัติไว หรอื เกิดปญหาสืบเนื่องจากแนวทางปฏิบตั ิท่ีกรมทด่ี นิ วางไวไ มช ัดเจน
สาเหตหุ นงึ่ สืบเนอ่ื งจากเจาหนา ที่ไมแสวงหาขอเท็จจริงใหเปน ทีย่ ตุ ิ หรือไมศกึ ษาระเบียบคําส่ังท่ี
เกีย่ วของในเรือ่ งนัน้ ๆ และเจา พนกั งานทีด่ ินไมก ลาตดั สนิ ใจท้งั ทมี่ ีขอ เทจ็ จรงิ และแนวทางปฏบิ ตั ิ

๕๔๐

ทีช่ ดั เจนอยแู ลว ทําใหมีการสงเรอ่ื งหารอื ขอราชการเปนจาํ นวนมาก การท่ีกรมทด่ี นิ ตอ งตอบ
ขอหารือของสํานักงานที่ดินในเรื่องที่ไมสมควรหารือ จึงเปนการสิ้นเปลืองทรัพยากรและเวลา
ท้ังทาํ ใหก ารใหบ ริการประชาชนเกดิ ความลาชา ไมสอดคลองกบั นโยบายการบริการประชาชน
และการเรงรัดงาน ดังน้ัน ขอใหจังหวัดไดโปรดแจงใหเจาหนาท่ีในสังกัดกรมท่ีดินทราบวา
การหารอื ขอราชการใหถอื ปฏบิ ัติตามนัยหนงั สือกรมทด่ี นิ ดงั กลา วโดยเครง ครัด หากยงั มกี ารหารอื
ขอราชการโดยไมจําเปนกรมที่ดินจะไดพิจารณาถึงสมรรถภาพของผูบริหารสํานักงานที่ดินอยาง
เด็ดขาดตอ ไป

จงึ เรียนมาเพอื่ โปรดทราบและแจง ใหเ จาหนาท่ีในสงั กดั กรมที่ดนิ ทราบตอไป
ขอแสดงความนับถอื

(ลงชือ่ ) บญุ เชดิ คิดเห็น
(นายบญุ เชดิ คดิ เหน็ )
อธิบดกี รมทด่ี ิน

สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสําคัญ
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๘๑๒
โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๓๙๘

๕๔๑

ท่ี มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๔๔๗๐ (สําเนา)
กรมท่ดี ิน
ศนู ยราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๘ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๖

เร่อื ง การส่ังยกเลกิ คาํ ขอออกโฉนดทดี่ ิน
เรียน ผูวาราชการจังหวดั ทกุ จงั หวัด

ดวยปรากฏวาในปจจุบันไดมีราษฎรรองเรียนวาเจาหนาที่ไมออกโฉนดท่ีดินให
ทง้ั การรองเรยี นไปยงั กรมท่ีดนิ และหนวยงานทีเ่ กีย่ วขอ ง ตลอดจนมีการฟอ งคดตี อ ศาลปกครอง
วาเจาหนาท่ีละเลยการปฏิบัติหนาท่ีไมออกโฉนดที่ดินใหหรือปฏิบัติหนาที่ลาชา ซึ่งเมื่อมีการ
ตรวจสอบแลวพบวา เปนเรื่องท่ีไมสามารถดําเนินการออกโฉนดที่ดินใหไดเน่ืองจากไมอยูใน
หลักเกณฑท่จี ะออกโฉนดที่ดินได แตเจาพนักงานที่ดินจังหวัด เจา พนกั งานท่ดี ินจังหวัดสาขา หรือ
เจาพนักงานท่ีดินหัวหนาสวนแยกไมดําเนินการส่ังยกเลิกเรื่องและแจงผูขอทราบเพ่ือใหเปนไป
ตามพระราชบัญญตั วิ ิธีปฏิบตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ แตกลบั เกบ็ เร่ืองไวโ ดยไมม กี าร
ดําเนินการใดๆ เมอื่ ผูข อมาตามเรือ่ งจงึ ไมส ามารถช้ีแจงใหผ ขู อทราบได ทาํ ใหเกิดภาพลกั ษณ
ในทางทีเ่ สยี หายตอกรมทีด่ ินอยูเนืองๆ อีกทัง้ บางกรณี ผขู อไดฟ อ งคดตี อ ศาลปกครองและเรียก
คาเสียหายจากการละเลยการปฏบิ ัติหนาท่ีของเจาหนา ทห่ี รอื ปฏิบตั ิหนา ที่ลา ชา และกรมทีด่ ิน
ตอ งแพค ดี เนอื่ งมาจากเหตุดงั กลาว ทําใหเกิดความเสียหายตอ ทางราชการเปนอยางมาก

กรมท่ีดินพจิ ารณาแลว เห็นวา การละเลยไมด ําเนนิ การใดๆ ของเจาหนาที่ใน
ลกั ษณะดงั กลาว อาจกอใหเกดิ ความเสียหายตอทางราชการ ฉะนัน้ เพ่อื ปองกันความเสยี หายอนั
อาจจะเกิดขนึ้ จงึ วางแนวทางปฏบิ ตั ใิ หเจา หนา ทีถ่ อื ปฏบิ ัติ ดงั น้ี

๑. กรณีผูขอมาย่ืนคําขอออกโฉนดท่ีดินโดยพนักงานเจาหนาท่ีไดทําการรังวัด
และประกาศครบกําหนดแลว และไมม ีเหตขุ ดั ขอ งอ่นื ใหเ จา พนกั งานทดี่ ินจังหวัด เจา พนักงาน
ทดี่ นิ จังหวดั สาขา หรือเจา พนักงานท่ดี ินหวั หนาสวนแยก ดาํ เนนิ การออกโฉนดทีด่ นิ ใหแ กผ ูขอ
และเรยี กผขู อมารบั โฉนดทดี่ ินโดยเร็ว

๒. กรณีเรื่องอยูระหวางดําเนินการที่อยูในหลักเกณฑที่จะออกโฉนดท่ีดินได
แตย งั ไมส ามารถออกโฉนดทด่ี นิ ไดเ นอ่ื งจากอยรู ะหวา งการดาํ เนนิ การตรวจสอบของหนว ยงานอน่ื
ถายังไมไดรับแจงผลจากหนวยงานนั้น ใหมีหนังสือขอทราบผลจากหนวยงานนั้นเปนระยะๆ

๕๔๒

เพ่อื เปน หลักฐานวาเจา หนาทไ่ี มไ ดเ กบ็ เร่อื งไวโดยไมไ ดด าํ เนินการใดๆ อันจะเปนมลู เหตใุ หผูขอ
ฟอ งคดีตอ ศาลปกครองวา เจา หนาที่ละเลยไมป ฏิบัติหนาที่หรอื ปฏิบัตหิ นา ทล่ี าชา และเกดิ ความ
เสียหายตอ ผูขอ

๓. กรณเี รอ่ื งใดทไ่ี มอ ยใู นหลกั เกณฑท จ่ี ะออกโฉนดทด่ี นิ ใหผ ขู อได ใหเ จา พนกั งาน
ทีด่ ินสั่งยกเลกิ คาํ ขอและแจง ผูขอทราบ เพ่ือใชสทิ ธอิ ุทธรณตามพระราชบญั ญัติวธิ ีปฏิบตั ริ าชการ
ทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเร็ว หากพิจารณาแลวเห็นวาไมสามารถออกโฉนดที่ดินได
หา มมใิ หเ กบ็ เรอ่ื งไวโ ดยไมส ง่ั ยกเลกิ คาํ ขอและแจง ผขู อทราบโดยเดด็ ขาด หากปรากฏวา มกี าร
รอ งเรยี นวา เจา หนา ทไ่ี มอ อกโฉนดทด่ี นิ ใหแ ละเปน กรณที ไ่ี มอ ยใู นหลกั เกณฑท จ่ี ะออกโฉนดทด่ี นิ ได
แตเจาพนักงานท่ีดินไมไดส่ังยิกเลิกคําขอในเร่ืองน้ัน กรมที่ดินจะไดพิจารณาสมรรถนะของ
เจาพนกั งานที่ดินตามควรแกก รณตี อ ไป

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงใหพนักงานเจาหนาที่ทราบและถือปฏิบัติ
ตอ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชือ่ ) บุญเชิด คิดเห็น

(นายบุญเชดิ คิดเหน็ )
อธิบดกี รมที่ดิน

สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสําคญั
โทร. / โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๕๒

๕๔๓

ที่ มท ๐๕๑๖.๒ (๑) / ว ๖๑๑๖ (สําเนา)
กรมที่ดนิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๗ มีนาคม ๒๕๕๖

เร่อื ง การขอขยายระยะเวลาตอ ศาล ตามมาตรา ๘ แหง พระราชบัญญตั แิ กไ ขเพม่ิ เตมิ
ประมวลกฎหมายทีด่ นิ (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑

เรยี น ผวู าราชการจังหวัดทุกจงั หวดั
อางถึง หนงั สือกรมท่ีดิน ดวนทสี่ ุด ที่ มท ๐๕๑๖.๒(๑)/ว ๑๔๗๘๙ ลงวนั ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓

ตามที่กรมท่ีดินไดแจงแนวทางปฏิบัติ กรณี มีผูนําหลักฐานแบบแจงการ
ครอบครองท่ดี ิน (ส.ค. ๑) มายนื่ ขอออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนภ ายหลงั
วันที่ ๘ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๓ วา พนกั งานเจาหนา ท่สี ามารถรบั คําขอออกโฉนดทีด่ นิ หรอื หนังสือ
รบั รองการทําประโยชน และดาํ เนนิ การรงั วัดและสอบสวนสทิ ธิตามระเบียบและวธิ ีการจนครบ
ขน้ั ตอน โดยพนกั งานเจา หนา ทจ่ี ะออกหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ ใหไ ด ตอ เมอ่ื ศาลไดม คี าํ พพิ ากษา
หรือคําสั่งถึงท่ีสุดวาผูน้ันเปนผูครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินโดยชอบดวยกฎหมายกอน
ประมวลกฎหมายทด่ี นิ ใชบ ังคับเทานนั้ ทงั้ นีก้ รมทีด่ ินไดมคี ําสั่ง ที่ ๒๒๗/๒๕๕๓ ลงวนั ท่ี ๒๗
มกราคม ๒๕๕๓ มอบอํานาจใหเจาพนักงานที่ดินจังหวัด เจาพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา
เจา พนกั งานทด่ี นิ หัวหนา สว นแยก เจา พนกั งานท่ีดินอาํ เภอในสาํ นกั งานท่ีดินทอ งทท่ี ที่ ด่ี นิ ต้งั อยู
เปน ผูด าํ เนนิ การตามมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญตั แิ กไ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบับ
ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ แทนกรมที่ดนิ รวมทง้ั ไดมคี ําส่งั กรมทด่ี ิน ท่ี ๖๒๐/๒๕๕๓ ลงวันที่ ๓ มีนาคม
๒๕๕๓ มอบอํานาจใหบ คุ คลตามคาํ สงั่ กรมทีด่ นิ ท่ี ๒๒๗/๒๕๕๓ ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓
เปน ผขู อขยายระยะเวลาตอ ศาล ในกรณไี มส ามารถเสนอความเหน็ ตอ ศาลไดภ ายในระยะเวลาที่
กฎหมายกําหนดและในการไปใหถอยคําตอศาลกรณีท่ีศาลมีหมายเรียกใหไปเปนพยานหรือให
ขอ มูลเกีย่ วกบั การตรวจสอบท่ดี นิ แปลงท่มี กี ารย่นื คาํ รองตอศาล ความละเอียดแจงแลว นั้น

กรมทดี่ ินขอเรียนวา เนอ่ื งจากในปจ จุบันมปี ญ หาในทางปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับการขอ
ขยายระยะเวลาตอศาลในกรณีที่ไมสามารถเสนอความเห็นตอศาลไดภายในระยะเวลาตามท่ี
กฎหมายกาํ หนด กลา วคอื สาํ นักงานท่ีดินจังหวดั และสํานักงานทดี่ ินจงั หวดั สาขาในแตละจงั หวดั

๕๔๔

ยังปฏิบัติไมเหมือนกันบางจังหวัดเจาพนักงานที่ดินจังหวัดเปนผูขอขยายระยะเวลาตอศาล
แตบางจังหวัดเจา พนักงานที่ดนิ จงั หวัดสาขา เปนผขู อขยายระยะเวลาตอ ศาล จึงทําใหการปฏิบตั ิ
ในเรอื่ งดังกลาวไมเปนไปในแนวทางเดยี วกนั กรมท่ีดนิ พจิ ารณาแลว เห็นวา ตามคาํ สง่ั กรมทด่ี ิน
ที่ ๒๒๗/๒๕๕๓ ลงวนั ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓ กรมทด่ี นิ ไดม อบอํานาจในการดาํ เนนิ การตาม
มาตรา ๘ แหง พระราชบญั ญัติแกไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
ใหเจาพนักงานทีด่ นิ จังหวัด เจา พนกั งานทดี่ ินจงั หวัดสาขา เจา พนักงานที่ดินหัวหนา สวนแยก
เจาพนกั งานทด่ี ินอําเภอ เปนผดู ําเนนิ การตามคําสงั่ ศาลในเรอื่ งการตรวจสอบเอกสารเกย่ี วกับ
ทด่ี ินแปลงทมี่ ีผูยืน่ คํารองตอ ศาล ตามมาตรา ๘ แหง พระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพ่มิ เติมประมวล
กฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ.๒๕๕๑ การตรวจสอบตําแหนง ของที่ดนิ และการดําเนินการอน่ื ๆ
ตามทีศ่ าลมคี ําสงั่ ตลอดจนการเสนอความเหน็ เบื้องตนตอเจาพนักงานท่ดี ินจังหวัดวาผูร อ งฯ
ไดครอบครองหรือทําประโยชนในท่ีดินโดยชอบดวยกฎหมายกอนวันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดิน
ใชบังคับหรือไมและใหเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดเปนผูทําความเห็นเสนอตอศาลเก่ียวกับท่ีดินที่มี
การรองตอ ศาลในเขตจงั หวัดตามมาตรา ๘ วรรคส่ี แหงพระราชบัญญตั ิแกไขเพิ่มเตมิ ประมวล
กฎหมายทด่ี นิ (ฉบับที่ ๑๑ ) พ.ศ. ๒๕๕๑ วา ผรู องฯ ไดค รอบครองหรือทําประโยชนในทด่ี ิน
แปลงใดในเขตจังหวัดนั้นโดยชอบดวยกฎหมายกอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับหรือไม
ดังนั้น หากมีกรณีท่ีมีเหตุขัดของไมสามารถจัดทําความเห็นเสนอตอศาลไดภายในระยะเวลา
ที่กฎหมายกําหนด และจําเปนตองขอขยายระยะเวลาตอศาลก็ขอใหเจาพนักงานท่ีดินจังหวัด
ซงึ่ เปน บคุ คลทีไ่ ดรบั มอบอํานาจจากกรมที่ดินตามคาํ สั่งกรมทด่ี นิ ที่ ๒๒๗/๒๕๕๓ ลงวนั ที่ ๒๗
มกราคม ๒๕๕๓ ขอ ๒ เปน ผขู อขยายระยะเวลาตอศาล

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และขอไดแจงใหพนักงานเจาหนาที่ทราบและ
ถอื ปฏิบัติโดยเครงครัด

ขอแสดงความนับถอื
(ลงชื่อ) บญุ เชดิ คิดเห็น

(นายบญุ เชดิ คดิ เห็น)
อธิบดกี รมท่ดี นิ

สาํ นักมาตรฐานการออกหนังสือสาํ คัญ
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐
โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐

๕๔๕

ท่ี มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๑๒๖๔๖ (สําเนา)
กรมที่ดิน
ศูนยราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖

เรื่อง หารอื กรณีผมู ีสิทธจิ ดทะเบยี นภาระจาํ ยอมตามคําพพิ ากษาขอออกใบแทน
เรยี น ผวู าราชการจงั หวัดทกุ จังหวดั
ส่งิ ท่สี ง มาดว ย สําเนาหนงั สือสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ นร ๐๙๐๑/๐๒๙๑ ลงวนั ที่ ๑๒

กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๖ เร่ือง หารอื กรณผี ูม ีสิทธจิ ดทะเบียนภาระจาํ ยอมตามคําพิพากษา
ขอออกใบแทน

ดว ยกระทรวงมหาดไทยไดห ารอื คณะกรรมการกฤษฎกี าในปญ หาขอ กฎหมายวา
ผูม สี ทิ ธิจดทะเบยี นตามคาํ พพิ ากษาของศาลตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตาม
ความในพระราชบัญญตั ใิ หใชประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ.๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓) หมายความเฉพาะ
สทิ ธใิ นความเปน เจา ของทด่ี นิ เพยี งประการเดยี วเทา นน้ั หรอื หมายความรวมถงึ สทิ ธอิ น่ื ๆ โดยไมต อ ง
เปนเจาของท่ีดนิ ดว ย

คณะกรรมการกฤษฎกี า (คณะท่ี ๗) ไดพ จิ ารณาแลว เหน็ วา คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั
รองทกุ ขไดเคยวนิ จิ ฉยั ในคาํ วนิ จิ ฉยั ของคณะกรรมการวินจิ ฉัยรอ งทกุ ข ที่ ๔๘/๒๕๒๙ วา ในกรณี
ท่ผี ูร อ งทุกขไดนาํ คาํ พิพากษาของศาล พรอ มท้งั ใบสําคัญคดถี ึงท่ีสุดไปแสดงตอพนักงานท่ีดิน
เพื่อใหจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ โดยใหถือเอาคําพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจําเลย
เนื่องจากไมสามารถนําโฉนดที่ดินของจําเลยมาโอนกรรมสิทธิ์ได เพราะจําเลยไดหลบหนีไป
ใหถือวาเปนกรณีโฉนดที่ดินสูญหาย เม่ือผูรองทุกขไปยื่นคําขอออกใบแทนโฉนดที่ดินตอ
เจาพนักงานทด่ี นิ เจา พนักงานท่ีดนิ ตองออกใบแทนโฉนดท่ีดนิ ดังกลา วแกผ ูข อ และกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน
พ.ศ.๒๔๙๗ กําหนดขึน้ โดยมเี จตนารมณป ระการหนง่ึ ในการปรับปรุงแบบ หลกั เกณฑ และวิธกี าร
ออกโฉนดที่ดิน รวมทั้งใบแทนโฉนดที่ดิน เพื่อใหเจาพนักงานที่ดินสามารถปฏิบัติการตาม
ประมวลกฎหมายที่ดนิ ได เมอ่ื พิจารณาประกอบกบั บทบัญญัติในเรื่องการออกใบแทนโฉนดทดี่ นิ
ทกี่ าํ หนดไวใ นขอ ๑๗ แหง กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗)ฯ โดยขอ ๑๗ (๑) และ (๒)
กาํ หนดใหเ จาของที่ดนิ เปน ผมู ีสิทธยิ นื่ คําขอออกใบแทนโฉนดทด่ี นิ กรณที ีโ่ ฉนดทดี่ นิ เปนอนั ตราย

๕๔๖


Click to View FlipBook Version