The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมระเบียบคำสั่ง กรมที่ดิน ประจำปี 2556 (ปี 2556)

กองแผนงาน

Keywords: ด้านทั่วไป

ส่ิงที่สง มาดว ย ๒
(สาํ เนา)
พระราชบัญญตั ิ
ปองกนั และปราบปรามการสนบั สนนุ ทางการเงนิ แกก ารกอ การราย
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๖___
ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วันที่ ๑ กมุ ภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๖
เปน ปท ี่ ๖๘ ในรชั กาลปจจบุ นั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา
โดยท่ีเปนการสมควรใหมีกฎหมายวาดวยการปองกันและปราบปรามการสนับสนุน
ทางการเงินแกก ารกอ การราย
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพ
ของบุคคล ซ่งึ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๑ และ
มาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนญู แหง ราชอาณาจักรไทย บัญญตั ใิ หกระทําไดโ ดยอาศัยอํานาจตาม
บทบญั ญัติแหง กฎหมาย
จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหต ราพระราชบญั ญตั ขิ น้ึ ไวโ ดยคาํ แนะนาํ และยนิ ยอม
ของรฐั สภา ดังตอ ไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินเ้ี รียกวา “พระราชบัญญตั ิปองกันและปราบปรามการ
สนบั สนนุ ทางการเงนิ แกก ารกอการราย พ.ศ. ๒๕๕๖”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับนับแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษา เปนตนไป
มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญัตินี้
“ทรัพยสิน” หมายความวา เงนิ ทรัพย หรอื วตั ถไุ มมรี ปู รา งซงึ่ อาจมีราคาและอาจ
ถอื เอาไดรวมทง้ั ดอกผลของเงิน ทรัพย หรอื วตั ถุดังกลาว เอกสารทางกฎหมาย หรือตราสารใน
รปู แบบใดๆ ทง้ั ทปี่ รากฏในส่ืออนื่ ใด กระดาษ หรอื รปู แบบอิเล็กทรอนกิ ส ท่ีเปน หลกั ฐานแสดง
กรรมสิทธ์ิ สิทธิครอบครอง สทิ ธเิ รียกรอง หรือประโยชนอ่ืนใดในทรัพยส นิ นน้ั
“การกอ การรา ย” หมายความวา การกระทําท่เี ปน ความผดิ เกีย่ วกับการกอการรา ย
ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือการกระทาํ ท่เี ปนความผิดตามกฎหมายซง่ึ อยภู ายใตขอบเขต
ของอนสุ ญั ญาและพธิ สี ารระหวา งประเทศเกย่ี วกบั การกอ การรา ยทป่ี ระเทศไทยเปน ภาคหี รอื รบั รอง
ท้ังนี้ ไมวาการกระทาํ ทเ่ี ปนความผดิ นน้ั ไดกระทําขน้ึ ในราชอาณาจกั รหรอื นอกราชอาณาจักร

๓๙๗

“บคุ คลท่ีถูกกาํ หนด” หมายความวา บคุ คล คณะบคุ คล นิติบุคคล หรือองคกรตาม
รายช่ือซ่ึงมีมติของหรือประกาศภายใตคณะมนตรีความมั่นคงแหงสหประชาชาติกําหนดใหเปน
ผูทม่ี กี ระทาํ อนั เปน การกอการรา ย หรือบุคคล คณะบุคคล นิตบิ คุ คล หรอื องคกรตามรายช่อื
ท่ีศาลไดพ จิ ารณาและมคี ําส่ังใหเปน บุคคลทถ่ี ูกกาํ หนดตามพระราชบญั ญตั นิ ี้

“ผูม ีหนา ท่รี ายงาน” หมายความวา ผมู ีหนา ท่ีรายงานการทําธุรกรรมตามกฎหมาย
วาดว ยการปอ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ

“ระงับการดาํ เนินการกับทรัพยสิน” หมายความวา การหามโอน ขาย ยกั ยอก หรือ
จําหนายซ่งึ ทรพั ยสินหรือเปลย่ี นสภาพใชประโยชนห รอื กระทําการใดๆ ตอทรพั ยส นิ อันจะสง ผล
เปลยี่ นแปลงตอ จํานวน มูลคา ปริมาณ ทาํ เลทตี่ ง้ั หรือลักษณะของทรพั ยสินน้ัน

“คณะกรรมการ” หมายความวา คณะกรรมการปอ งกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ตามกฎหมายวาดว ยการปอ งกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ

“คณะกรรมการธรุ กรรม” หมายความวา คณะกรรมการธรุ กรรมตามกฎหมายวาดวย
การปอ งกนั และปราบปรามการฟอกเงิน

“สาํ นกั งาน” หมายความวา สํานกั งานปองกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ
มาตรา ๔ ในกรณีที่มีมติของหรือประกาศภายใตคณะมนตรีความม่ันคงแหง
สหประชาชาติ กาํ หนดรายชอ่ื บคุ คล คณะบคุ คล นติ ิบุคคล หรอื องคกรใดเปนผทู มี่ กี ารกระทํา
อนั เปน การกอการรา ย ใหส าํ นกั งานเสนอรายชอ่ื ดงั กลาวไปยังรัฐมนตรวี าการกระทรวงยตุ ิธรรม
เพอ่ื มคี าํ ส่งั ประกาศรายชอื่ เปน บุคคลทถี่ ูกกําหนดโดยไมชักชา ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี าร
ท่กี ําหนดในกฎกระทรวง
การเพิกถอนรายชื่อของบุคคลท่ีถกู กาํ หนดตามวรรคหนงึ่ ใหกระทาํ ไดเมือ่ มมี ติของ
หรือประกาศภายใตคณะมนตรีความม่ันคงแหงสหประชาชาติอันเปนผลใหตองเพิกถอนรายช่ือ
ผูนั้นออกจากรายช่ือบคุ คลที่ถกู กาํ หนดแลว
มาตรา ๕ ในกรณที ม่ี เี หตอุ นั ควรสงสยั วา ผใู ดมพี ฤตกิ ารณเ กย่ี วขอ งกบั การกอ การรา ย
หรอื การสนับสนนุ ทางการเงินแกก ารกอการราย หรือดําเนินการแทนหรอื ตามคาํ สัง่ หรือภายใต
การควบคมุ ของบุคคลน้ัน ใหส าํ นกั งานโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรรมการธรุ กรรมพจิ ารณา
สงรายช่ือผูน้ันใหพนักงานอัยการพิจารณาย่ืนคํารองฝายเดียวขอใหศาลมีคําสั่งเปนบุคคลที่ถูก
กาํ หนด และถา ปรากฏแกศ าลวา มพี ยานหลกั ฐานอนั ควรเชอ่ื ไดด งั ตอ ไปน้ี ใหศ าลมคี าํ สง่ั ตามทข่ี อ
(๑) ผูน้ันมีพฤติการณเก่ียวของกับการกอการรายหรือการสนับสนุนทางการเงินแก
การกอการราย หรือ
(๒) ผูน้ันดําเนินการแทนหรือตามคําสั่งหรือภายใตการควบคุมของบุคคลท่ีถูก
กาํ หนดตาม (๑) หรอื ตามมาตรา ๔

๓๙๘

ทง้ั น้ี พฤตกิ ารณเ กี่ยวขอ งกับการกอ การรา ยหรอื การสนบั สนนุ ทางการเงนิ แกการ
กอการรายหรือการดําเนินการแทนหรือตามคําส่ังหรือภายใตการควบคุมดังกลาวตามวรรคหน่ึง
ตองมอี ยใู นวันท่ีศาลมีคาํ ส่ังเปน บุคคลทถ่ี กู กาํ หนด

ใหส าํ นกั งานทบทวนรายชื่อบคุ คลทถ่ี ูกกําหนดตามวรรคหน่ึง ถา เหน็ วามพี ฤติการณ
เปล่ียนแปลงไป ใหสํานักงานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาสงเร่ือง
ใหพนักงานอัยการพิจารณาย่ืนคํารองฝายเดียวขอใหศาลมีคําส่ังเพิกถอนรายช่ือผูน้ันออกจาก
รายชอ่ื บคุ คลทถี่ กู กําหนด

หลักเกณฑและวิธีการพิจารณาของสํานักงานและคณะกรรมการธุรกรรมตาม
วรรคหน่ึง และวรรคสามใหเปน ไปตามทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง โดยในกฎกระทรวงดังกลา ว
ที่เกี่ยวกับการพิจารณาของสํานักงานใหสํานักงานแตงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งเพ่ือ
พิจารณารายช่อื กอนสง เรอ่ื งใหคณะกรรมการธรุ กรรมพิจารณาใหความเห็นชอบ

ใหสาํ นกั งาน คณะกรรมการธรุ กรรม พนกั งานอัยการ และศาล ดําเนินการตาม
มาตรานี้โดยไมช กั ชา

มาตรา ๖ ใหสํานักงานประกาศรายช่ือบุคคลท่ีถูกกําหนดตามมาตรา ๔ และ
มาตรา ๕ พรอมท้ังแจงใหบุคคลท่ีถูกกําหนดและผูมีหนาท่ีรายงานหรือบุคคลท่ีครอบครอง
ทรพั ยสนิ ของบคุ คลท่ถี กู กาํ หนดดําเนินการดงั ตอ ไปนโ้ี ดยไมช ักชา

(๑) ระงับการดาํ เนินการกับทรัพยส นิ ของบุคคลท่ีถกู กาํ หนด หรือของผูกระทาํ การ
แทน หรอื ตามคําสั่งของผนู ้ัน หรอื ของกิจการภายใตการควบคุมของผนู ้ัน

(๒) แจงขอ มลู เก่ียวกับทรพั ยสนิ ท่ีถูกระงับการดําเนินการใหสํานักงานทราบ
(๓) แจงใหสํานักงานทราบเก่ียวกับผูท่ีเปนหรือเคยเปนลูกคาซ่ึงอยูในรายชื่อบุคคล
ทีถ่ ูกกําหนด หรอื ผูท่มี หี รือเคยมีการทําธรุ กรรมกับผนู น้ั
หลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารประกาศและแจง รายชื่อไปยังบุคคลตามวรรคหนึ่ง รวมท้ัง
การดาํ เนนิ การตาม (๑) (๒) และ (๓) ใหเ ปนไปตามระเบยี บทค่ี ณะกรรมการประกาศกาํ หนด
ใหผ มู หี นา ทร่ี ายงานกาํ หนดนโยบายในการประเมนิ ความเสย่ี งหรอื แนวทางปฏบิ ตั ใิ ดๆ
เพอื่ ปองกันมใิ หม กี ารสนับสนนุ ทางการเงินแกก ารกอการราย หรอื กาํ หนดมาตรการอ่นื ใดทีจ่ ําเปน
เพ่อื ปฏบิ ตั ใิ หเ ปนไปตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี ทงั้ น้ี ตามหลกั เกณฑและวธิ ีการที่คณะกรรมการ
ประกาศกําหนด
มาตรา ๗ การเก็บรักษาและการบริหารจัดการทรัพยสินที่ถูกระงับการดําเนินการ
กบั ทรพั ยสนิ ใหเปน ไปตามระเบียบท่ีคณะกรรมการประกาศกําหนด
มาตรา ๘ ผูซึ่งไดดําเนินการตามมาตรา ๖ โดยสุจริตไมตองรับผิดแมกอใหเกิด
ความเสยี หายแกบ ุคคลใด เวนแตจะพสิ จู นไ ดว า เปน การกระทําโดยประมาทเลนิ เลอ อยา งรา ยแรง

๓๙๙

มาตรา ๙ บคุ คลทถี่ ูกกาํ หนดตามมาตรา ๕ หรอื ผซู งึ่ ถกู ระงับการดําเนินการกบั
ทรพั ยส นิ ตามมาตรา ๖ อันเนอ่ื งมาจากมีการกาํ หนดการเปนบุคคลท่ีถกู กาํ หนดตามมาตรา ๕
อาจยืน่ คาํ รองตอศาลเพอ่ื ใหพจิ ารณาในเร่ืองดังตอ ไปนี้

(๑) ขอใหด าํ เนนิ การเพิกถอนรายชื่อออกจากรายชือ่ บคุ คลทถ่ี กู กําหนด
(๒) ขอใหเพกิ ถอนการระงับการดําเนนิ การกบั ทรัพยสิน
(๓) ขอใหม ีคาํ สัง่ อนญุ าตใหดาํ เนนิ การใดๆ กับทรพั ยสินท่ีถูกระงับการดําเนินการ
กับทรพั ยสนิ
กรณมี ีคําสั่งอนุญาตตาม (๓) ศาลอาจกําหนดเงอื่ นไขใดๆ ท่ีจําเปนเพ่อื ปองกนั มิให
มกี ารนําทรัพยสนิ ไปใชในการสนบั สนนุ ทางการเงนิ แกการกอ การรา ยดวยกไ็ ด และหากปรากฏ
ขอ เทจ็ จรงิ วา การอนญุ าตดงั กลา วอาจเปน ชอ งทางใหน าํ ทรพั ยส นิ ไปใชใ นการสนบั สนนุ ทางการเงนิ
แกการกอการรา ย ศาลจะกําหนดเงื่อนไขใดๆ เพม่ิ เตมิ หรอื จะเพิกถอนการอนุญาตนัน้ เสียกไ็ ด
มาตรา ๑๐ บุคคลอนื่ นอกจากบุคคลท่ีถูกกาํ หนดตามมาตรา ๔ หรอื มาตรา ๕
อาจยนื่ คาํ รอ งตอศาลเพอ่ื ใหม คี าํ สั่งอนญุ าต ดงั ตอไปนี้
(๑) เปนการชําระหน้ีที่ถึงกําหนดชําระแกผูที่ถูกระงับการดําเนินการกับทรัพยสิน
ตามมาตรา ๖ ซึ่งสัญญาหรือขอผูกพันนั้นไดทําข้ึนหรือเกิดขึ้นกอนวันท่ีบัญชีน้ันถูกระงับการ
ดาํ เนนิ การกบั ทรพั ยส ิน
(๒) เปนการชําระดอกเบี้ยหรือดอกผลและเปนกรณีจําเปนท่ีตองชําระเงินเขาบัญชี
ของผทู ถ่ี ูกระงับการดําเนนิ การกับทรพั ยสนิ ตามมาตรา ๖
(๓) เปนการชําระหน้ีซึ่งศาลมีคําพิพากษาถึงท่ีสุดใหผูที่ถูกระงับการดําเนินการกับ
ทรพั ยส ินอันเน่อื งมาจากเปนบคุ คลทีถ่ กู กําหนดตามมาตรา ๕ เปน ผทู ่ีตองชาํ ระหนี้
(๔) ใหดําเนินการใดๆ กบั ทรัพยสนิ ท่ถี กู ระงบั การดําเนินการกับทรพั ยสินอนั เนือ่ งมา
จากเปนบคุ คลทีถ่ กู กําหนดตามมาตรา ๕
กรณมี คี าํ สง่ั อนญุ าตตามวรรคหนง่ึ ถา ตอ งมกี ารชาํ ระหนห้ี รอื โอนเงนิ เขา หรอื ออกจาก
บัญชขี องผทู ่ถี ูกระงบั การดําเนินการกบั ทรัพยสินตามมาตรา ๖ ศาลอาจกําหนดเง่อื นไขตามทีเ่ ห็น
สมควรเพ่อื ปองกนั มใิ หนําทรัพยสินไปใชใ นการสนบั สนุนทางการเงนิ แกก ารกอการรา ยก็ได
มาตรา ๑๑ การดําเนนิ การทางศาลตามมาตรา ๕ มาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ ใหยื่น
ตอศาลแพง และใหน ําประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความแพงมาใชบังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๑๒ เพ่อื ประโยชนใ นการปฏบิ ัติตามพระราชบัญญัตินี้ ใหคณะกรรมการมี
อํานาจหนา ที่ดังตอไปน้ี
(๑) กําหนดหลักเกณฑ ระเบียบ และประกาศตามพระราชบญั ญัตินี้
(๒) กาํ หนดแนวทางในการกาํ กบั ดแู ล ตรวจสอบ ตดิ ตาม และประเมนิ ผล ใหเปน ไป
ตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี

๔๐๐

(๓) กําหนดแนวทางปฏิบัติที่จําเปนเพื่อใหผูมีหนาที่ทํารายงานหรือบุคคลอื่นใด
ดําเนนิ การใหเ ปน ไปตามพระราชบญั ญัติน้ี

(๔) ติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑๓ เพอ่ื ประโยชนใ นการปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญตั นิ ้ี ใหส าํ นกั งานมอี าํ นาจ
หนาที่ดงั ตอ ไปน้ี
(๑) ใหคําแนะนําหรือชี้แจงแนวทางปฏิบัติแกผูมีหนาที่ตองปฏิบัติใหเปนไปตาม
พระราชบญั ญตั ิน้ี
(๒) ตดิ ตาม ประเมนิ ผล ตรวจสอบ และกํากบั ดูแลใหเปนไปตามพระราชบญั ญตั นิ ี้
รวมถงึ การดําเนินคดกี ับผทู ี่ฝา ฝนหรอื ไมป ฏิบัติตามบทบัญญตั แิ หงพระราชบัญญตั ิน้ี
(๓) รับหรือสงรายงานหรือขอมูลที่จะเปนประโยชนในการปฏิบัติการตามพระราช
บญั ญัตนิ ี้ หรอื ตามกฎหมายอน่ื
(๔) เก็บรวบรวมขอมูลและพยานหลักฐานเพื่อดําเนินการเก่ียวกับการยึด อายัด
หรอื ริบทรัพยส ินตามพระราชบัญญัตนิ ้หี รอื ตามกฎหมายอน่ื
มาตรา ๑๔ ผใู ดฝาฝนหรือไมป ฏบิ ัตติ ามมาตรา ๖ (๑) หรอื (๒) ตองระวางโทษ
จําคุกไมเ กนิ สามป หรอื ปรับไมเ กินสามแสนบาท หรือท้งั จําทัง้ ปรบั
ผูมีหนาที่รายงานผูใ ดฝา ฝนหรือไมปฏบิ ัติตามมาตรา ๖ (๑) หรอื (๒) ตอ งระวางโทษ
ปรบั ไมเกนิ หน่ึงลา นบาท และปรบั อีกวนั ละหน่งึ หม่ืนบาทตลอดเวลาที่ยงั ฝา ฝนอยู หรอื จนกวาจะ
ไดปฏิบัติใหถ กู ตอ ง
ในกรณีท่ีการกระทําความผิดตามวรรคสองเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของ
บคุ คลใด หรือไมส่งั การ หรือไมกระทาํ การอนั เปนหนา ทท่ี ่ีตอ งกระทาํ ของกรรมการ ผจู ดั การ หรอื
บคุ คลใด ซ่งึ รับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิตบิ ุคคลนน้ั บคุ คลดงั กลา วตองระวางโทษจําคกุ
ไมเกินสามป หรือปรับไมเ กนิ สามแสนบาท หรอื ท้ังจาํ ท้งั ปรับ
มาตรา ๑๕ ผูมีหนาทีร่ ายงานผูใดฝาฝน หรือไมป ฏิบัติตามมาตรา ๖ (๓) ตองระวาง
โทษปรบั ไมเกินหา แสนบาท และปรับอกี วันละหา พันบาทตลอดเวลาทย่ี งั ฝา ฝนอยู หรือจนกวา จะ
ไดปฏิบัติใหถูกตอง
ในกรณีที่การกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของ
บคุ คลใดหรอื ไมส่งั การ หรือไมก ระทาํ การอันเปน หนา ทท่ี ีต่ อ งกระทําของกรรมการ ผจู ดั การ หรอื
บุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลนั้น บุคคลดังกลาวตองระวางโทษจําคุก
ไมเ กินหน่ึงปหรือปรบั ไมเ กนิ หนึ่งแสนบาท หรอื ท้งั จาํ ทง้ั ปรบั
มาตรา ๑๖ ผูใ ดจัดหา รวบรวม หรือดําเนนิ การทางการเงินหรอื ทรพั ยสินหรอื
ดําเนินการดว ยประการใดๆ โดยรูอยูแลว วา ผไู ดรบั ประโยชนท างการเงนิ หรอื ทรพั ยสินหรือจาก
การดาํ เนนิ การนน้ั เปน บคุ คลทถ่ี กู กาํ หนด หรอื โดยเจตนาใหเ งนิ หรอื ทรพั ยส นิ หรอื การดาํ เนนิ การนน้ั

๔๐๑

ถกู นาํ ไปใชเ พอ่ื สนบั สนนุ การดาํ เนนิ กจิ กรรมใดๆ ของบคุ คลทถ่ี กู กาํ หนดหรอื ของบคุ คลหรอื องคก ร
ทีเ่ กย่ี วของกบั การกอ การรา ย ผูน้นั กระทําความผดิ ฐานสนับสนุนทางการเงินแกก ารกอการราย
ตองระวางโทษคําคกุ ตัง้ แตสองปถ ึงสิบป และปรบั ตง้ั แตส่ีหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือท้ังจาํ
ทงั้ ปรับ

ผใู ดเปน ผูใ ชหรือผูส นับสนุน หรอื สมคบกันในการกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนงึ่ ตอ ง
ระวางโทษเชนเดียวกบั ตัวการในการกระทําความผดิ นน้ั

ผใู ดพยายามกระทําความผดิ ตามวรรคหนึ่ง ผูนั้นตองระวางโทษสองในสามสวนของ
โทษท่ีไดก าํ หนดไวส ําหรบั ความผดิ นนั้

นิติบุคคลใดกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง วรรคสอง หรอื วรรคสามตอ งระวางโทษ
ปรับตั้งแตหาแสนบาทถึงสองลานบาท

ในกรณีท่ีการกระทําความผิดของนิติบุคคลตามวรรคสี่เกิดจากการส่ังการหรือการ
กระทาํ ของบคุ คลใด หรือไมส งั่ การ หรอื ไมก ระทําการอันเปน หนาที่ท่ีตอ งกระทาํ ของกรรมการ
ผจู ดั การ หรือบคุ คลใดซงึ่ มีอํานาจตามกฎหมายในการดําเนินงานของนิตบิ คุ คลน้นั บุคคล
ดงั กลาวตอ งระวางโทษจําคกุ ตงั้ แตสองปถ ึงสบิ ป หรอื ปรับตงั้ แตส ี่หมนื่ บาทถึงสองแสนบาท หรอื
ทงั้ จําท้งั ปรับ

ใหค วามผิดตามมาตรานี้ เปนความผดิ มูลฐานตามกฎหมายวาดว ยการปองกนั และ
ปราบปรามการฟอกเงิน

มาตรา ๑๗ ใหนายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ึี และใหมีอํานาจ
ออกกฎกระทรวงเพอ่ื ปฏบิ ตั กิ ารตามพระราชบัญญัตินี้

กฎกระทรวงนน้ั เม่ือประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาแลวใหใ ชบงั คับได
ผรู บั สนองพระบรมราชโองการ

ย่ิงลกั ษณ ชนิ วัตร
นายกรฐั มนตรี

๔๐๒

หมายเหตุ :– เหตุผลในการประกาศใชพ ระราชบญั ญัตฉิ บบั นี้ คือ โดยทปี่ จจบุ นั ความผดิ เกี่ยวกบั
การกอการรายไดสงผลกระทบตอ ความมนั่ คงของประเทศตางๆ เปน อยางมาก ถงึ แมประเทศไทย
จะมีการกําหนดความผิดฐานกอการรายไวในประมวลกฎหมายอาญา และกําหนดใหเปน
ความผิดมูลฐานตามกฎหมายวาดว ยการปองกันและปราบปรามการฟอกเงินแลวกต็ าม แตยงั คง
ไมมีมาตรการปองกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแกการกอการรายและการเขาถึง
เงินทุนของผูกอการราย ดังน้ัน จึงมีความจําเปนตองกําหนดมาตรการในการปองกันและ
ปราบปรามเรอื่ งดงั กลา ว โดยใหม ีการจดั ทํารายชื่อบุคคลท่ีถูกกาํ หนด การระงับการดําเนนิ การ
กับทรัพยส นิ ของผมู ีช่ืออยใู นรายชื่อบคุ คลท่ีถกู กําหนด การกําหนดใหผูมีหนา ทร่ี ายงานการทํา
ธุรกรรมตามกฎหมายวาดวยการปองกันและปราบปรามการฟอกเงินระงับการดําเนินการกับ
ทรพั ยส นิ ของผูม ีชอ่ื อยใู นรายชือ่ บุคคลทถ่ี ูกกําหนด การกําหนดอาํ นาจหนาทีข่ องคณะกรรมการ
ปองกันและปราบปรามการฟอกเงินและสํานักงานปองกันและปราบปรามการฟอกเงินให
สอดคลองกับการปฏิบัติหนาที่ในเร่ืองดังกลา วขา งตน ตลอดจนการกาํ หนดโทษสาํ หรับการฝาฝน
หรือไมปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ เพื่อใหการปฏิบัติงานเปนไปอยางมีประสิทธิภาพ
ซึ่งสอดคลองกับมาตรฐานสากลในการรวมมือกันเพ่ือปองกันและปราบปรามการกระทําใดท่ี
เปน การกอการรา ย ซึ่งรวมถึงการสนบั สนุนทางการเงนิ ทรัพยส นิ หรอื กรณีอ่ืนใดท่มี วี ตั ถปุ ระสงค
จะนําไปใชใ นการกอการราย จงึ จําเปน ตองตราพระราชบญั ญตั นิ ี้

๔๐๓

สิง่ ท่ีสงมาดวย ๓

(สําเนา)

กฎกระทรวง
การกาํ หนดใหผ ทู ่ีมกี ารกระทาํ อันเปนการกอ การรา ยตามมติของหรือประกาศภายใต

คณะมนตรคี วามม่ันคงแหงสหประชาชาติเปน บคุ คลทถ่ี กู กําหนด
____พ_._ศ_._๒_๕_๕__๖____

อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๑๗ วรรคหน่งึ แหง พระราช
บัญญัตปิ องกันและปราบปรามการสนบั สนุนทางการเงนิ แกก ารกอ การราย พ.ศ.๒๕๕๖ อนั เปน
กฎหมายทม่ี ีบทบญั ญตั บิ างประการเกย่ี วกับการจาํ กัดสิทธแิ ละเสรภี าพของบุคคล ซง่ึ มาตรา ๒๙
ประกอบกบั มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนญู
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
นายกรฐั มนตรีออกกฎกระทรวงไว ดังตอไปนี้

ขอ ๑ ในกฎกระทรวงน้ี
“เลขาธิการ” หมายความวา เลขาธิการคณะกรรมการปองกันและปราบปราม
การฟอกเงนิ
“พนักงานเจาหนาท่ี” หมายความวา พนักงานเจาหนาที่ตามกฎหมายวาดวย
การปอ งกนั และปราบปรามการฟอกเงิน
ขอ ๒ เมอ่ื กระทรวงการตางประเทศไดร ับรายช่ือบุคคล คณะบคุ คล นติ ิบุคคล หรอื
องคก ร ซ่งึ เปน ผทู ม่ี ีการกระทาํ อันเปน การกอการรา ยตามมตขิ องหรือประกาศภายใตค ณะมนตรี
ความมัน่ คงแหงสหประชาชาติ ใหกระทรวงการตางประเทศตรวจสอบความถูกตอ งของขอ มลู หรอื
หลกั ฐานท่ไี ดรบั จากสหประชาชาติแลวดําเนนิ การสงรายช่อื ดงั กลา วไปยังสาํ นักงานโดยไมชักชา
ขอ ๓ เมื่อสํานักงานไดรับรายชื่อจากกระทรวงการตางประเทศ ใหสํานักงาน
ตรวจสอบความถูกตองแลวเสนอรายชื่อดังกลาวไปยังรัฐมนตรีวาการกระทรวงยุติธรรมเพ่ือใหมี
คาํ ส่งั ประกาศเปน บคุ คลทถ่ี กู กาํ หนดโดยไมช กั ชา
ขอ ๔ ในกรณีท่ีไดรับแจงจากกระทรวงการตางประเทศหรือจากบุคคลที่ถูกกําหนด
ซง่ึ ไดม ีการประกาศตามขอ ๓ หรอื ปรากฏขอ เท็จจริงจากการตรวจสอบของสาํ นักงานวา ไดม ีมติ
ของหรอื ประกาศภายใตค ณะมนตรคี วามมน่ั คงแหง สหประชาชาตใิ หเ พกิ ถอนรายชอื่ ผใู ดออกจาก

๔๐๔

รายชื่อผูทมี่ กี ารกระทาํ อันเปนการกอการรา ย ใหส าํ นักงานตรวจสอบความถูกตองแลวเสนอเรือ่ ง
ไปยังรัฐมนตรีวาการกระทรวงยุติธรรมเพ่ือมีคําสั่งเพิกถอนรายชื่อผูน้ันออกจากรายช่ือบุคคลที่ถูก
กาํ หนดโดยไมช ักชา

ใหไว ณ วันท่ี ๕ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๖
ย่ิงลักษณ ชินวตั ร
นายกรัฐมนตรี

______________________________________________________________________
หมายเหตุ :– เหตผุ ลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบบั น้ี คือ โดยทีม่ าตรา ๔ แหง พระราช
บญั ญตั ิปองกนั และปราบปรามการสนบั สนนุ ทางการเงินแกก ารกอการรา ย พ.ศ. ๒๕๕๖ บัญญัติ
ใหในกรณีท่ีมีมติของหรือประกาศภายใตคณะมนตรีความม่ันคงแหงสหประชาชาติกําหนด
รายชอ่ื บุคคล คณะบคุ คล นติ บิ คุ คล หรอื องคกรใดเปนผูทม่ี กี ารกระทาํ อนั เปน การกอการรา ย
ใหสํานักงานปองกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอรายช่ือดังกลาวไปยังรัฐมนตรีวาการ
กระทรวงยตุ ธิ รรมเพอ่ื มคี าํ สง่ั ประกาศรายชอ่ื เปน บคุ คลทถ่ี กู กาํ หนด ทง้ั นใ้ี หเ ปน ไปตามหลกั เกณฑ
และวิธีการท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง นอกจากน้ี การเพกิ ถอนรายชอื่ ดังกลาวใหกระทําไดเมอื่ มี
มตขิ องหรือประกาศภายใตค ณะมนตรีความม่ันคงแหงสหประชาชาตดิ วย จึงจําเปนตอ งออก
กฎกระทรวงนี้

๔๐๕

สงิ่ ท่ีสง มาดว ย ๔

(สาํ เนา)

กฎกระทรวง
การพิจารณารายช่ือและการทบทวนรายช่ือบคุ คลทถี่ ูกกาํ หนด
ของสาํ นกั งานปอ งกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ และคณะกรรมการธรุ กรรม

____พ_._ศ_._๒_๕_๕__๖____

อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๑๗ วรรคหน่ึง แหง พระราช
บัญญตั ิปองกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงนิ แกการกอ การราย พ.ศ.๒๕๕๖ อันเปน
กฎหมายท่มี บี ทบญั ญัติบางประการเกย่ี วกับการจาํ กดั สิทธิและเสรภี าพของบคุ คล ซ่งึ มาตรา ๒๙
ประกอบกบั มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนญู
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
นายกรฐั มนตรีออกกฎกระทรวงไว ดังตอ ไปนี้

ขอ ๑ ในกฎกระทรวงนี้
“เลขาธิการ” หมายความวา เลขาธิการคณะกรรมการปองกันและปราบปราม
การฟอกเงิน
“พนักงานเจาหนาท่ี” หมายความวา พนักงานเจาหนาท่ีตามกฎหมายวาดวย
การปองกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ
ขอ ๒ เมื่อสํานักงานไดรับคํารองขอหรือจากการตรวจสอบของสํานักงานแลวมีเหตุ
อันควรสงสัยวาผูใดมีพฤติการณเก่ยี วของกบั การกอการรา ย หรือการสนับสนุนทางการเงนิ แก
การกอการราย หรือดําเนินการแทนหรือตามคําสั่งหรือภายใตการควบคุมของบุคคลดังกลาว
ใหสํานักงานเสนอเรื่องใหคณะกรรมการตามขอ ๓ พิจารณารายชื่อผูนั้นกอนเสนอตอคณะ
กรรมการธุรกรรมเพ่ือพิจารณาใหความเห็นชอบใหสํานักงานสงรายช่ือผูน้ันใหพนักงานอัยการ
พิจารณายนื่ คํารอ งฝา ยเดียวขอใหศาลมคี ําส่งั เปน บคุ คลทีถ่ ูกกําหนดโดยไมชกั ชา
การเสนอเรือ่ งของสํานกั งานตามวรรคหนง่ึ ควรตองมีขอ มูลหรอื หลกั ฐาน ดังตอไปนี้
(๑) กรณีเปนบุคคลธรรมดา

(ก) ชื่อและนามสกลุ (ใหระบชุ ือ่ อืน่ ดว ยทุกชอื่ (ถาม)ี ) และถามีชอ่ื เปนภาษา
ตา งประเทศใหร ะบดุ วย

(ข) คํานําหนาช่ือ ยศหรือตาํ แหนง
(ค) อาชพี
(ง) เพศ

๔๐๖

(จ) วนั เดือน ปเ กดิ
(ฉ) สถานท่ีเกดิ
(ช) สัญชาติ (ใหร ะบสุ ัญชาติเดิม (ถา มี) และสัญชาติปจ จบุ นั )
(ซ) เลขประจาํ ตวั ประชาชน และในกรณที เ่ี ปนคนตางดาว ใหแสดงเลข
หนงั สอื เดินทาง หรือเลขใบสําคญั ประจาํ ตวั คนตางดา ว หรือเลขเอกสารหลกั ฐานแสดงตนอน่ื ท่ี
ออกหรอื รับรองโดยหนว ยงานหรอื องคกรทีน่ าเชอ่ื ถือ
(ฌ) ทอ่ี ยูตามทะเบียนบา น หรือที่อยทู ี่ติดตอได
(๒) กรณเี ปนนิตบิ คุ คลหรอื คณะบุคคล
(ก) ช่ือเตม็ (ใหระบุชอ่ื อนื่ ดว ยทกุ ชอ่ื (ถาม)ี ) และถา มชี อื่ เปนภาษาตางประเทศ
ใหระบดุ วย
(ข) เลขทะเบียนนิติบคุ คล
(ค) เลขประจําตัวผูเ สยี ภาษี
(ง) สถานท่ตี ั้ง หรือสาขา หรือสถานที่ติดตอ
(๓) ขอ มูลหรอื พยานหลักฐานใดๆ ท่ที าํ ใหม ีเหตุอันควรสงสัยวา ผนู ัน้ มีพฤตกิ ารณ
เก่ยี วขอ งกบั การกอการราย หรอื การสนบั สนนุ ทางการเงินแกก ารกอการรา ย หรือดําเนนิ การแทน
หรอื ตามคาํ สงั่ หรือภายใตการควบคุมของบุคคลน้ัน เชน ขอมลู การสบื สวนสอบสวน หมายจบั
หรอื คําพพิ ากษาของศาล
(๔) ขอมูลอื่นใดท่ีเห็นวาจะเปนประโยชนในการพิจารณากําหนดรายชื่อผูน้ันเปน
บคุ คลท่ถี ูกกาํ หนด
ขอ ๓ ใหมคี ณะกรรมการพจิ ารณากาํ หนดรายช่อื คณะหนึ่ง ประกอบดว ยเลขาธิการ
เปน ประธานกรรมการ ผแู ทนสํานกั ขา วกรองแหงชาติ ผแู ทนสภาความมั่นคงแหงชาติ ผูแทนกรม
องคก ารระหวางประเทศ ผแู ทนกรมการปกครอง ผูแ ทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผูแทนสํานักงาน
ตํารวจแหงชาติ ผูแทนสํานักงาน ปปง. และผูแทนกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายใน
ราชอาณาจกั รเปน กรรมการ
ใหเลขาธิการแตงต้ังขาราชการในสํานักงานเปนกรรมการและเลขานุการจํานวน
หนึง่ คนและผชู ว ยเลขานุการอกี ไมเ กนิ สองคน
ขอ ๔ การประชุมของคณะกรรมการตามขอ ๓ ตองมีกรรมการมาประชุมไมน อย
กวา กงึ่ หน่ึงของจาํ นวนกรรมการทั้งหมดจงึ จะเปน องคประชุม ถา ประธานกรรมการไมอาจรวม
ประชมุ ได ใหทปี่ ระชมุ เลอื กกรรมการคนหนึ่งเปน ประธานทป่ี ระชุม
การวินจิ ฉัยชี้ขาดของที่ประชุมใหถ ือเสยี งขา งมาก กรรมการคนหนึง่ ใหม เี สยี งหนึง่ ใน
การลงคะแนน ถา คะแนนเสียงเทากนั ใหป ระธานท่ีประชมุ ออกเสยี งเพมิ่ ขึน้ อีกเสียงหนง่ึ เปน เสียง
ช้ขี าด

๔๐๗

ขอ ๕ ในการพจิ ารณาของคณะกรรมการตามขอ ๓ หรือคณะกรรมการธรุ กรรม
แลวแตกรณี ถาเห็นวารายชื่อบุคคลท่ีสํานักงานเสนอใหพิจารณายังมีขอมูลหรือหลักฐาน
ไมเพียงพอใหควรเชื่อไดว า ผใู ดมพี ฤตกิ ารณเ ก่ียวขอ งกับการกอ การรา ย หรือการสนับสนุนทาง
การเงนิ แกก ารกอ การรา ย หรอื ดาํ เนนิ การแทนหรอื ตามคาํ สง่ั หรอื ภายใตก ารควบคมุ ของบคุ คลนน้ั
ใหค ณะกรรมการตามขอ ๓ หรือคณะกรรมการธุรกรรม แลว แตก รณี แจง ใหส าํ นักงานดําเนินการ
เพ่ือใหไ ดม าซ่งึ ขอมลู หรอื หลักฐานดงั กลาว

ในการดําเนินการของสํานักงานเพื่อใหไดมาซ่ึงขอมูลหรือหลักฐานตามวรรคหนึ่ง
เลขาธิการอาจมอบหมายพนกั งานเจา หนาที่เพอื่ ใหดําเนินการดังกลา วกไ็ ด

ขอ ๖ เม่ือปรากฏพยานหลักฐานอันควรเชื่อไดวาผูใดมีพฤติการณเก่ียวของกับการ
กอการรายหรอื การสนับสนุนทางการเงินแกก ารกอ การราย หรอื ดาํ เนนิ การแทนหรือตามคาํ ส่งั
หรือภายใตการควบคุมของบุคคลน้ัน ใหคณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบใหสํานักงาน
ดาํ เนนิ การใหเปน ไปตามขอ ๒ โดยไมช ักชาตอ ไป

ขอ ๗ เมื่อศาลมีคําส่ังใหผูใดเปนบุคคลท่ีถูกกําหนดแลว ใหสํานักงานทบทวน
รายชือ่ ดงั กลาว ถา เหน็ วามพี ฤติการณเ ปลี่ยนแปลงไป ใหสาํ นักงานเสนอเรื่องใหค ณะกรรมการ
ตามขอ ๓ พจิ ารณารายชอ่ื ผนู น้ั กอ นเสนอตอ คณะกรรมการธรุ กรรมเพอ่ื พจิ ารณาใหค วามเหน็ ชอบ
ใหสํานักงานสงรายช่ือผูน้ันใหพนักงานอัยการพิจารณายื่นคํารองใหศาลมีคําส่ังเพิกถอนรายชื่อ
ผูน ้ันออกจากรายชื่อบคุ คลทถี่ กู กาํ หนดโดยไมช กั ชา

ใหไว ณ วนั ท่ี ๕ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๖
ยงิ่ ลักษณ ชนิ วัตร
นายกรัฐมนตรี

______________________________________________________________________
หมายเหตุ :– เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๕ วรรคสี่
แหง พระราชบญั ญตั ปิ อ งกนั และปราบปรามการสนบั สนนุ ทางการเงนิ แกก ารกอ การรา ย พ.ศ. ๒๕๕๖
บัญญัติใหการพิจารณารายชื่อของสํานักงานปองกันและปราบปรามการฟอกเงินและ
คณะกรรมการธุรกรรมเพื่อดําเนินการเสนอใหศาลมีคําส่ังใหเปนบุคคลที่ถูกกําหนดใหเปนไปตาม
หลกั เกณฑและวิธกี ารที่กาํ หนดในกฎกระทรวง จึงจาํ เปนตอ งออกกฎกระทรวงนี้

๔๐๘

ส่ิงทีส่ งมาดวย ๕

(สาํ เนา)

ระเบยี บคณะกรรมการปอ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ
วา ดวยการประกาศและการแจง รายช่อื บุคคลทถ่ี กู กําหนด

และการดําเนนิ การตามมาตรา ๖ (๑) (๒) และ (๓)
____พ_._ศ_._๒_๕_๕__๖____

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ วรรคสอง และมาตรา ๑๒ (๑) แหงพระราช
บัญญัติปอ งกันและปราบปรามการสนับสนนุ ทางการเงินแกก ารกอ การราย พ.ศ. ๒๕๕๖ อันเปน
กฎหมายทมี่ ีบทบญั ญตั บิ างประการเกย่ี วกับการจาํ กัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซงึ่ มาตรา ๒๙
ประกอบกบั มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย
คณะกรรมการปองกันและปราบปรามการฟอกเงนิ จึงออกระเบยี บไว ดงั ตอ ไปน้ี

ขอ ๑ ระเบียบน้ีเรียกวา “ระเบียบคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน วาดวยประกาศและการแจง รายช่อื บุคคลท่ถี กู กําหนด และการดําเนนิ การตามมาตรา ๖
(๑) (๒) และ (๓) พ.ศ. ๒๕๕๖”

ขอ ๒ ระเบียบนี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปน ตน ไป

ขอ ๓ ในระเบยี บน้ี
“เลขาธิการ” หมายความวา เลขาธกิ ารคณะกรรมการปอ งกันและปราบปราม
การฟอกเงนิ
“พนกั งานเจาหนาท่ี” หมายความวา พนักงานเจา หนาที่ตามกฎหมายวาดวยการ
ปองกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ขอ ๔ เมอ่ื มคี าํ สง่ั ของรฐั มนตรวี า การกระทรวงยตุ ธิ รรมหรอื ศาลใหผ ใู ดเปน บคุ คลทถ่ี กู
กําหนดใหสํานักงานประกาศรายชอื่ บุคคลทถ่ี ูกกาํ หนดดังกลาวในระบบสารสนเทศของสาํ นักงาน
เพื่อเผยแพรรายช่ือสูสาธารณะ พรอมทั้งแจงรายช่ือดังกลาวไปยังบุคคลที่ถูกกําหนดและผูมี
หนาที่รายงานหรือบุคคลที่ครอบครองทรัพยสินของบุคคลที่ถูกกําหนดเพื่อใหทราบถึงการกําหนด
รายชื่อนน้ั โดยไมช ักชา
การแจง รายชื่อบคุ คลทถ่ี กู กําหนดตามวรรคหน่งึ ใหดําเนนิ การดงั ตอ ไปนี้
(๑) ในกรณแี จงผมู หี นา ที่รายงาน ใหส าํ นักงานแจงเปนขอ มลู อเิ ล็กทรอนิกสต าม
กฎหมายวา ดว ยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส

๔๐๙

(๒) ในกรณีแจงบุคคลที่ถูกกําหนดและบุคคลที่ครอบครองทรัพยสินของบุคคลที่ถูก
กําหนดใหสาํ นักงานแจง เปนหนงั สอื หรอื เปนขอมูลอิเล็กทรอนกิ ส โดยตอ งระบุขอ เทจ็ จริงทเี่ ปน
มูลเหตุของการกาํ หนดรายชือ่ รวมทั้งสิทธิของบุคคลดังกลาวดวย

ทง้ั น้ี การแจงไปยงั ผูมีหนาที่รายงานตาม (๑) ท่ีมีสถานประกอบกิจการหลายแหง
หากสาํ นกั งานไดแจงรายชอ่ื ดงั กลาวไปยังสํานกั งานใหญ หรือกรณีทีไ่ มม ีสํานักงานใหญห าก
สํานักงานไดแจงรายช่ือไปยังสถานท่ีท่ีผูมีหนาที่รายงานเลือกเปนสถานประกอบกิจการประจํา
แลว กใ็ หถ อื วามผี ลเปน การแจงรายชอ่ื ดงั กลาวใหท ราบแลว

ขอ ๕ วธิ กี ารแจงตามขอ ๔ หากแจง เปนหนังสอื ใหสํานักงานดาํ เนนิ การ ดังตอ ไปนี้
(๑) กรณบี คุ คลซงึ่ มภี ูมิลาํ เนาอยูในราชอาณาจักร

(ก) กรณีแจงเปนหนงั สือใหส ง หนงั สือแจงไปยงั ภูมิลําเนาของผูนัน้ โดยใหถ ือ
วาบุคคลดงั กลา วไดรบั แจงตัง้ แตใ นขณะที่หนังสอื ไปถงึ หรือ

(ข) กรณแี จง โดยวธิ ีสงทางไปรษณยี ต อบรับ ใหถ ือวา ผนู ัน้ ไดรบั แจงเมอ่ื ครบกํา
หนดสบิ หาวนั นับแตวนั สง

(๒) กรณบี คุ คลซง่ึ มีภูมิลาํ เนาอยนู อกราชอาณาจกั ร
(ก) การแจงบุคคลท่ีถูกกําหนดตามคําสั่งของศาลซ่ึงมีคํารองขอจากตาง

ประเทศ ใหสง หนังสอื แจง ไปยังหนว ยงานตา งประเทศที่ไดส งคํารอ งขอน้นั เพื่อใหดาํ เนินการแจง
ใหทราบถงึ การถูกกาํ หนดรายชอ่ื

(ข) การแจงบุคคลที่ถูกกําหนดตามคําส่ังศาลซ่ึงมิไดมีคํารองขอจากหนวยงาน
ตา งประเทศ หรอื บคุ คลที่ถกู กาํ หนดตามคาํ สง่ั ของรฐั มนตรีวาการกระทรวงยุตธิ รรม ใหสงเร่อื งไป
ยังกระทรวงการตางประเทศเพอ่ื ประสานไปยังรัฐบาลตา งประเทศทผี่ ูน้นั ถือสัญชาติ หรอื ท่ีนาเชื่อ
วาผูนัน้ มถี ่ินที่อยูเพ่ือแจง ใหทราบถึงการถกู กาํ หนดรายชอื่

การแจงบุคคลทถ่ี ูกกาํ หนดตาม (๑) หากไมส ามารถกระทาํ ไดเ นื่องจากไมม ีผรู บั การ
แจง จะกระทาํ โดยการปด ประกาศคําส่งั การเปน บคุ คลทถี่ ูกกําหนดไว ณ สถานตี ํารวจแหง ทองที่
ท่ผี ูนน้ั มีภมู ิลาํ เนา หรอื ในกรณที ไ่ี มรภู ูมลิ ําเนาของบุคคลท่ีถูกกาํ หนด การแจง จะกระทําโดยการ
ประกาศในหนังสอื พิมพร ายวนั ท่แี พรห ลาย ในกรณนี ี้ใหถือวา บุคคลที่ถูกกําหนดไดร บั แจง เม่อื
ลวงพนระยะเวลาสบิ หาวนั นบั แตวนั ท่ไี ดแจง โดยวิธดี งั กลา ว

ขอ ๖ เมอ่ื ไดท ราบขอ มลู รายชือ่ บุคคลทีถ่ ูกกาํ หนดแลว ใหบ คุ คลที่ถกู กําหนด ผมู ี
หนาท่ีรายงาน หรอื บคุ คลที่ครอบครองทรัพยสนิ ของบคุ คลที่ถูกกาํ หนดดาํ เนนิ การดังตอ ไปนโี้ ดย
ไมช ักชา

(๑) ระงบั การดําเนนิ การกับทรัพยสนิ ของบคุ คลทถี่ กู กาํ หนด รวมท้ังของผูก ระทาํ
การแทน หรือตามคําสงั่ ของผูน น้ั หรือของกจิ การภายใตการควบคุมของผูน นั้

๔๑๐

(๒) แจง ขอ มลู เกย่ี วกบั ทรพั ยส นิ ทถ่ี กู ระงบั การดาํ เนนิ การตาม (๑) ใหส าํ นกั งานทราบ
ภายในสามวนั ทาํ การนับแตว นั ท่ีไดร ะงับการดาํ เนินการกับทรัพยสนิ น้นั

(๓) แจงใหสํานักงานทราบเกี่ยวกับผูที่เปนหรือเคยเปนลูกคาซึ่งอยูในรายชื่อบุคคล
ท่ถี กู กาํ หนดหรือผทู ี่มีหรือเคยมีการทาํ ธรุ กรรมกบั ผูน ้ัน ทงั้ น้ี ภายในสามวนั ทําการนบั แตวนั ท่ี
ไดพบขอ มูลนนั้

การตรวจสอบขอ มูลตาม (๓) ใหตรวจสอบยอนหลงั ภายในกาํ หนดหา ปกอ นวนั ท่ี
ไดมคี าํ ส่งั ใหผใู ดเปน บคุ คลที่ถูกกําหนด

ขอ ๗ หลกั เกณฑและวธิ กี ารแจง ขอ มูลตามขอ ๖ ใหเปน ไปตามแบบที่สํานักงาน
ประกาศกาํ หนด

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๒ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๖
รอ ยตํารวจเอก เฉลิม อยบู ํารงุ

ประธานกรรมการปอ งกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ

๔๑๑

(สาํ เนา)

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๐๔๗๙ กรมทดี่ ิน
ศนู ยร าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๗ สงิ หาคม ๒๕๕๖

เรื่อง การประเมินราคาทุนทรพั ยท ่ีดินโดยนาํ ราคาประเมนิ ทนุ ทรัพยข องท่ีดินแปลงใกลเคียง
มาเทยี บเคยี ง

เรียน ผูวา ราชการจงั หวดั ทุกจงั หวดั

อา งถึง หนงั สอื กรมที่ดนิ ดว นที่สดุ ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๗๔๗๐ ลงวันที่ ๒๑ กนั ยายน ๒๕๕๒

ส่ิงทส่ี งมาดว ย ตวั อยา งแบบรายงานขอมลู การประเมนิ ราคาทนุ ทรัพยท ่ีดินโดยนําราคาประเมนิ
ทนุ ทรัพยข องทด่ี นิ แปลงใกลเคยี งมาเทียบเคยี ง จํานวน ๑ ฉบบั

ตามหนงั สอื ทอ่ี า งถงึ กรมทด่ี นิ ไดแ จง ทางปฏบิ ตั ใิ นการประเมนิ ราคาทนุ ทรพั ยท ด่ี นิ
โดยนําราคาประเมนิ ทุนทรัพยของที่ดนิ แปลงใกลเคยี งมาเทยี บเคยี ง และเม่อื มกี ารจดทะเบียน
สทิ ธิและนติ ิกรรมท่ดี นิ โดยมีการประเมินราคาเทยี บเคยี งกับทีด่ นิ แปลงใกลเ คยี งแลว ใหแ จง
ธนารักษพ ืน้ ที่ทราบเพ่อื กาํ หนดราคาประเมนิ ทุนทรัพยของทีด่ นิ พรอ มทั้งรายงานกรมท่ีดินทราบ
ภายในวันที่ ๕ ของเดอื นตอ ไป เพอ่ื แจงกรมธนารกั ษต ิดตามการกาํ หนดราคาประเมินของ
ธนารักษพ้ืนที่ น้นั

กรมทด่ี นิ พจิ ารณาแลว เหน็ วา เพอ่ื ใหก ารรายงานขอ มลู การประเมนิ ราคาทนุ ทรพั ย
ทด่ี นิ โดยนาํ ราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยข องทด่ี นิ แปลงใกลเ คยี งมาเทยี บเคยี งเปน ไปในแนวทางเดยี วกนั
และมขี อ มลู ครบถว นเพอื่ สงใหกบั กรมธนารักษ จึงขอสง ตวั อยางแบบรายงานตามสิ่งทีส่ งมาดวย
มาเพ่อื ใหพนักงานเจา หนาทีไ่ ดถ ือปฏิบัตแิ ละในการรายงานขอมูล ขอใหจังหวัดกาํ ชบั สาํ นักงาน
ที่ดินใหตรวจสอบขอมูลใหครบถวนกอนรายงานธนารักษพื้นท่ีและกรมที่ดินดวย เพื่อปองกัน
ความผิดพลาดคลาดเคลอื่ นของขอมลู

จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ และแจง พนกั งานเจา หนา ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ ไป
ขอแสดงความนับถือ

(ลงชือ่ ) บญุ เชดิ คิดเหน็
(นายบญุ เชิด คิดเหน็ )
อธิบดกี รมท่ดี ิน

สํานกั มาตรฐานการทะเบียนท่ีดนิ
สว นมาตรฐานการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๔๑๒

– ตัวอยา ง –
แบบรายงานขอ มูลการประเมินราคาทนุ ทรพั ยท ดี่ ินโดยนําราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยของท่ดี ินแปลงใกลเ คียงมาเทียบเคยี งของจงั หวดั ................

เดอื น.......................... พ.ศ. ....................

ลาํ ดบั ช่ือเจาของท่ีดนิ ตําแหนงท่ีดินแปลงแยกใหม ตาํ บล อําเภอ เนอ้ื ที่ ราคาประเมนิ ที่ดนิ ราคาประเมนิ ท่ีดิน เลขทด่ี นิ หมายเลขระวาง
โฉนดเลขท่ี หนา สาํ รวจ เลขทดี่ นิ หมระาวยาเลง ข กอนแบงแยก แปลงเทียบเคียง แปลงเทียบเคยี ง แปลงเทยี บเคียง

๔๑๓

ที่ มท ๐๕๑๕.๒ / ว ๒๑๒๔๔ (สาํ เนา)
กรมทดี่ นิ
ศนู ยราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั ส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๖

เร่ือง กําชับการนาํ แบบแจงการครอบครองทด่ี นิ (ส.ค.๑) เพ่ิมลงในทะเบยี นการครอบครองทด่ี นิ
เรียน ผูว า ราชการจังหวดั ทกุ จังหวัด
อา งถงึ ๑. หนังสอื กรมที่ดนิ ที่ ๑๑๙/๒๕๐๒ ลงวันท่ี ๗ มกราคม ๒๕๐๒

๒. หนงั สอื กรมทด่ี นิ ที่ มท ๐๖๑๐/ว ๔๗๐ ลงวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๑๔

ตามหนังสือที่อางถึง ๑. กรมที่ดินวางแนวทางปฏิบัติใหจังหวัดรายงานการ
เปลย่ี นแปลงทะเบียนการครอบครองที่ดนิ กรณี เมื่อผูว าราชการจังหวดั สงั่ ผอนผนั ใหร บั แจงการ
ครอบครองทด่ี ิน มกี ารออกใบจองใหเ พิ่มเติมหรือแกไขเปลย่ี นแปลงอยางหน่ึงอยางใด มีการ
ออกหนงั สือรับรองการทําประโยชนหรือแจกใบไตส วน มีการแบง แยก โดยเม่ือไดแ กหรือแจง
รายการทะเบียนการครอบครองที่ดินทางอําเภอเรียบรอยแลว ใหรายงานการเปล่ียนแปลง
ทะเบียนการครอบครองที่ดินไปยังกรมที่ดิน เพื่อจดแจงรายการทะเบียนการครอบครองที่ดิน
ทเี่ กบ็ รกั ษาอยทู างสว นกลางใหถกู ตอ งตรงกนั และตามหนังสือท่อี า งถึง ๒. ไดวางแนวทางปฏบิ ัติ
กรณีทผ่ี แู จง การครอบครองท่ีดนิ ไดแจง การครอบครองทีด่ นิ (ส.ค. ๑) ไวแ ลว ภายในระยะเวลา
ทก่ี ฎหมายกําหนด แตม ไิ ดม ีการนํามาลงทะเบียนการครอบครองที่ดินตามระเบยี บ จึงมิใชเ ปน
กรณีการแจงการครอบครองที่ดินผิดพลาดคลาดเคล่ือนท่ีใหผูวาราชการจังหวัดเปนผูมีอํานาจ
สง่ั แกไ ข ตามคาํ สั่งกระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๒๔๔/๒๔๙๗ ลงวนั ที่ ๙ พฤศจกิ ายน ๒๔๙๗ แตเปน
เรื่องการนํา ส.ค.๑ มาลงทะเบียนใหม เพอื่ ปอ งกันความเสยี หายท่อี าจจะเกดิ ขน้ึ จากกรณีดงั กลาว
ใหจังหวัดสอบสวนขอเท็จจริงและจัดสงเอกสารประกอบการพิจารณาแลวสงเรื่องไปใหกรมที่ดิน
พจิ ารณาส่งั การกอ น นนั้

กรมทีด่ ินพจิ ารณาแลวเห็นวา เนือ่ งจากมสี ํานกั งานท่ีดินบางแหงไมไดป ฏิบตั ิ
ตามแนวทางท่ีวางไว กลา วคอื เมื่อมีผูน ําแบบแจงการครอบครองทดี่ ิน (ส.ค. ๑) มายื่นคําขอ
ออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินและพนักงานเจาหนาท่ีตรวจสอบแลวปรากฏวาแบบแจงการ
ครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) เลขท่ีดังกลาวไมมีในเลมทะเบยี นการครอบครองทีด่ ิน หรือตรวจสอบ
จากขอมูลทะเบียนการครอบครองที่ดินทางสวนกลาง ท่ีกรมท่ีดินไดถายเอกสารในลักษณะ

๔๑๔

Portable Document Format (PDF) มาใหเพอ่ื ใชต รวจสอบทะเบยี นการครอบครองทดี่ นิ แลว
ไมป รากฏในเลม ทะเบยี นการครอบครองที่ดิน แตพ นักงานเจาหนา ที่ยงั คงดาํ เนนิ การออกหนงั สอื
แสดงสิทธใิ นท่ดี ิน โดยใชห ลกั ฐาน ส.ค. ๑ ดังกลาวตอไปจนเสรจ็ สน้ิ แลวจงึ รายงานเปลย่ี นแปลง
ทะเบียนการครอบครองท่ีดินไปยังกรมที่ดินโดยมิไดมีการดําเนินการสงเร่ืองการขอเพิ่มแบบ
แจง การครอบครองท่ดี ิน (ส.ค. ๑) ไปใหกรมทดี่ ินพิจารณาส่งั การกอน ตามหนังสอื ท่อี างถงึ ๒.
ดังนั้นเพ่ือปองกันไมใหเกิดปญหาเกี่ยวกับหลักฐานเดิมที่ใชในการขอออกหนังสือแสดงสิทธิใน
ที่ดนิ จึงขอซอ มความเขา ใจแนวทางปฏิบัติ กรณีตรวจสอบไมพ บเลขที่แบบแจงการครอบครอง
ทดี่ ิน (ส.ค. ๑) ทใ่ี ชย ืน่ คาํ ขอในเลม ทะเบยี นการครอบครองทด่ี นิ กอ นทพ่ี นักงานเจา หนา ทีจ่ ะนํา
แบบแจงการครอบครองทด่ี นิ (ส.ค. ๑) เพ่มิ ลงในทะเบียนการครอบครองท่ดี ิน ตองดาํ เนินการ
สอบสวนขอ เท็จจรงิ ใหเ ปนทยี่ ตุ เิ สียกอ นวา แบบแจงการครอบครองท่ดี นิ (ส.ค. ๑) ดังกลา ว ไดมี
การแจง การครอบครองทีด่ ินโดยชอบดว ยกฎหมาย ตามมาตรา ๕ แหง พระราชบญั ญตั ิใหใช
ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ หรือไม หากเปนการแจงการครอบครองทด่ี นิ โดยชอบแลว
ก็ดาํ เนินการสรุปความเห็นและจดั สง เอกสารทเ่ี กี่ยวขอ งใหกรมท่ีดนิ พิจารณากอ น เมือ่ กรมท่ดี ิน
พิจารณาแลวอนุญาตใหลงเพ่ิมในทะเบียนการครอบครองที่ดิน ก็ใหนําเพ่ิมลงในทะเบียน
การครอบครองท่ีดินได พรอ มน้ีสามารถศกึ ษาแนวทางปฏิบัติเก่ยี วกับ ส.ค.๑ เพิ่มเติมไดท เ่ี ว็บไซต
ของกรมที่ดิน www.dol.go.th โดยเลือก เว็บไซตห นว ยงานภายใน หนวยงานสวนกลาง
สาํ นกั มาตรฐานการทะเบียนทีด่ นิ สวนกาํ หนดสิทธิในท่ดี ินและควบคมุ ทะเบยี นทีด่ ิน
หลกั เกณฑการตรวจสอบและควบคมุ ทะเบียนทด่ี ิน หวั ขอ หนังสือเวียน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจงใหพนักงานเจาหนาที่ทราบและถือปฏิบัติ
ตอไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชอ่ื ) ธรรมศกั ดิ์ ชนะ

(นายธรรมศักด์ิ ชนะ)
รองอธิบดี รกั ษาราชการแทน

อธิบดกี รมท่ดี นิ

สํานักมาตรฐานการทะเบยี นทด่ี นิ
สวนกําหนดสิทธิในท่ีดินและควบคุมทะเบียนทีด่ นิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๗๕ – ๗
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๘

๔๑๕

ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๑๗๖๓ (สําเนา)
กรมที่ดนิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทุงสองหอ ง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๑ สงิ หาคม ๒๕๕๖

เร่ือง การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมกรณคี ูสมรสขอซ้ืออสังหารมิ ทรพั ยในระหวางสมรส
เพียงฝา ยเดยี ว

เรียน ผวู า ราชการจงั หวดั ทกุ จังหวดั
อา งถึง หนงั สือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๖๑๐/ว ๒๔๖๓๕ ลงวันที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๓๙
ส่ิงท่สี ง มาดวย ตัวอยา งบันทกึ ถอยคําและหนังสอื ยนิ ยอมของคสู มรส จาํ นวน ๑ ฉบับ

ตามหนังสือท่ีอางถึง กรมท่ีดินไดวางทางปฏิบัติในการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมเกย่ี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ย กรณผี ูทท่ี าํ การสมรสแลวเปนผูซอื้ อสงั หารมิ ทรพั ยใ นระหวาง
สมรส ใหพนักงานเจา หนาทีส่ อบสวนบันทกึ ถอยคาํ ผซู ้ือใหไ ดขอ เทจ็ จรงิ วา มีสญั ญากอ นสมรส
กําหนดในเรื่องทรพั ยสนิ ไวห รอื ไม อยางไร กอ นจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม เนื่องจากกฎหมาย
มิไดบญั ญัตบิ ังคบั ใหใ นการซ้อื อสงั หารมิ ทรพั ย สามีและภรยิ าจะตองจดั การรวมกัน หรือไดรับ
ความยินยอมจากอีกฝายหน่งึ ดังน้ัน กรณีท่ไี มมสี ัญญากอ นสมรสกําหนดในเร่ืองทรพั ยส นิ ไวเปน
อยางอืน่ ใหพ นักงานเจา หนา ท่ีรับจดทะเบยี นไดโ ดยไมต องใหคสู มรสอกี ฝา ยหนง่ึ ใหความยนิ ยอม
นั้น

ปรากฎวา ในการปฏิบัติงานของพนกั งานเจา หนา ท่ี บางสํานกั งานท่ดี ินไมไ ด
ปฏิบัติตามแนวทางที่กรมที่ดินไดวางไว กลาวคือ พนักงานเจาหนาที่แจงใหฝายผูซื้อตองนํา
คสู มรสไปใหถ อ ยคาํ ยนิ ยอม หรอื นาํ หนงั สอื ยนิ ยอมของคสู มรสฝา ยผซู อ้ื ไปประกอบการจดทะเบยี น
หรอื บนั ทกึ ถอ ยคาํ ของคกู รณที ง้ั สองฝา ยเพอ่ื ยนื ยนั ใหจ ดทะเบยี นทกุ กรณี โดยไมไ ดม กี ารสอบสวน
ใหเปนทยี่ ุติกอ นวาผูซ้ือทีท่ ําการสมรสแลว มสี ัญญากอนสมรสกําหนดในเรอ่ื งทรัพยส นิ ไวหรอื ไม
อยา งไร ตามแนวทางปฏบิ ตั ทิ ่ีวางไว ฉะนน้ั เพ่อื ใหพ นกั งานเจา หนา ทผ่ี สู อบสวนและจดทะเบยี น
เกี่ยวกับกรณีดังกลาวปฏิบัติโดยถูกตองตามบทบัญญัติของกฎหมายและเปนไปในแนวทาง
เดียวกัน จึงขอซอ มความเขาใจใหพ นักงานเจาหนา ทถี่ อื ปฏบิ ัติ ดังน้ี

๑. ในการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมเกีย่ วกับอสงั หารมิ ทรัพย กรณผี ทู ีท่ าํ การ
สมรสแลว เปนผูซื้ออสังหาริมทรพั ยใ นระหวา งสมรสเพยี งฝา ยเดียว ใหพ นักงานเจาหนาที่สอบสวน
และบันทึกถอยคาํ ผซู ือ้ ใหไดขอเท็จจรงิ วา มสี ัญญากอ นสมรสกาํ หนดในเรื่องทรัพยสนิ ไวหรอื ไม
อยา งไร ตามแบบบนั ทกึ ถอยคาํ ทา ยหนงั สอื นี้ (ตัวอยา งที่ ๑ และตัวอยางที่ ๒)

๔๑๖

๒. กรณไี มมีสัญญากอนสมรสกาํ หนดในเรอ่ื งทรพั ยส ินไว ใหพนักงานเจาหนาท่ี
รับจดทะเบียนไดโดยไมตองใหคูสมรสอีกฝายหนึ่งใหความยินยอม เนื่องจากเรื่องการจัดการ
สนิ สมรสของคูสมรสนนั้ มาตรา ๑๔๗๖ แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มิไดบัญญตั ิ
บังคบั วาในการซอื้ อสงั หาริมทรพั ย คสู มรสทง้ั สองฝา ยจะตองจัดการรว มกัน หรือไดรับความ
ยินยอมจากอีกฝายหน่ึงแตอยางใด เวนแตคูสมรสจะไดทําสัญญากอนสมรสในเร่ืองทรัพยสิน
กนั ไวเ ปนอยา งอนื่ ตามนัยมาตรา ๑๔๖๕ แหง ประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย เทา น้นั

๓. กรณีมีสัญญากอนสมรสกําหนดใหสามีหรือภริยาเปนผูจัดการสินสมรส
เพียงฝายเดียว เมื่อสามีหรือภริยาฝายท่ีมีอํานาจจัดการมาขอทํานิติกรรมซื้ออสังหาริมทรัพย
ใหพนักงานเจา หนาท่รี ับจดทะเบยี นไดโดยไมต อ งใหค ูสมรสอกี ฝา ยหนึง่ ใหความยินยอม แตถา
สามีหรือภริยาฝายที่ไมมีอํานาจจัดการเปนผูขอทํานิติกรรมซ้ืออสังหาริมทรัพยตองใหคูสมรสอีก
ฝายหน่ึงใหความยินยอมกอ น ตามแบบบนั ทึกถอ ยคํายนิ ยอมหรือหนังสือยินยอมทายหนังสอื น้ี
(ตัวอยางท่ี ๓ และตัวอยางที่ ๔)

๔. กรณีมีสัญญากอนสมรสตกลงกําหนดใหสามีและภริยาตองจัดการสินสมรส
โดยซื้ออสังหาริมทรัพยรวมกันเพิ่มจากกรณีที่กฎหมายไดบัญญัติไวเปนการเฉพาะกรณีตาม
มาตรา ๑๔๗๖ แหงประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย เมื่อสามีหรือภริยาฝายใดฝายหน่ึงมาขอ
ทํานติ กิ รรมซื้ออสังหารมิ ทรพั ย ตองใหค ูส มรสอกี ฝายหนงึ่ ใหความยนิ ยอมกอน ตามแบบบนั ทึก
ถอ ยคํายินยอมหรือหนงั สือยินยอมทายหนงั สอื น้ี (ตวั อยา งท่ี ๓ และตวั อยางท่ี ๔)

๕. การใหความยินยอมตามขอ ๓ และ ๔ ตองทาํ เปนหนังสอื ถาไมมีความ
ยนิ ยอมเปน หนงั สือหรอื ไมมคี าํ ส่งั ของศาลอนุญาตแทนตามมาตรา ๑๔๗๘ แหงประมวลกฎหมาย
แพง และพาณิชย แตคกู รณที ั้งสองฝายยืนยันใหจดทะเบียน ใหพ นกั งานเจาหนา ทีบ่ ันทึกถอ ยคาํ
ของคกู รณไี วเปน หลักฐาน แลวจดทะเบียนตอไปไดโ ดยใหบ นั ทึกถอ ยคาํ คูกรณีทัง้ ผูขายและผูซ้อื
ตามแบบบันทกึ ถอยคาํ ทายหนงั สอื น้ี (ตวั อยางท่ี ๕)

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจงใหพนักงานเจาหนาท่ีทราบเพ่ือถือปฏิบัติ
โดยเครงครัดตอไป ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงชื่อ) ธรรมศักดิ์ ชนะ
(นายธรรมศักด์ิ ชนะ)

รองอธบิ ดี รกั ษาราชการแทน
อธบิ ดีกรมทีด่ นิ

สาํ นกั มาตรฐานการทะเบียนท่ดี นิ
สวนมาตรฐานการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๔๑๗

ตวั อยา งบนั ทกึ ถอ ยคําและหนังสือยินยอมของคูสมรส

ตัวอยา งที่ ๑ บันทกึ ถอยคาํ ผูซือ้ กรณีไมม ีสญั ญากอ นสมรสกําหนดไว ใหบ นั ทึกวา
“ขา พเจา (นาย/นาง)...............................................ผซู ื้อ ขอใหถ อยคาํ รบั รองวา
ในการสมรสของขา พเจา กับ (นาย/นาง)..........................ไมมีสัญญากอ นสมรส
กําหนดในเรือ่ งการจัดการสินสมรสไวแตอยางใด

ลงชอ่ื .....................................ผใู หถ อ ยคาํ
ลงช่อื .....................................พนกั งานเจา หนาที่
ลงชื่อ.....................................พยาน
ลงชื่อ.....................................พยาน”

ตัวอยางท่ี ๒ บนั ทึกถอ ยคาํ ผูซ้อื กรณมี สี ญั ญากอนสมรสกาํ หนดไว ใหบ นั ทึกวา
“ขาพเจา (นาย/นาง)...............................................ผูซ้ือ ขอใหถ อ ยคํารับรองวา
ในการสมรสของขา พเจา กบั (นาย/นาง)..............................มสี ัญญากอ นสมรส
กาํ หนดในเรื่องการจัดการสินสมรสไวต ามบันทกึ แนบทายทะเบียนสมรสวา........
....................................................................................................................
ลงชอ่ื .....................................ผูใหถอ ยคาํ
ลงช่อื .....................................พนักงานเจาหนาที่
ลงช่อื .....................................พยาน
ลงชื่อ.....................................พยาน”

ตัวอยางที่ ๓ บนั ทกึ ถอยคาํ ยนิ ยอมของคูสมรส (กรณีทค่ี สู มรสมาบนั ทกึ ถอ ยคาํ ตอพนักงาน
เจา หนาที)่ ใหบ นั ทกึ วา
“ขาพเจา (นาย/นาง)......................................................ขอใหถ อยคํารับรองวา
ในการสมรสของขาพเจา กับ (นาย/นาง)..............................มสี ญั ญากอ นสมรส
กําหนดในเรื่องการจัดการสินสมรสไวตามบนั ทกึ แนบทายทะเบียนสมรสวา
( ) ใหส ามี/ภริยา เปน ผจู ดั การสินสมรสฝา ยเดยี ว
( ) สามแี ละภรยิ า ตอ งจัดการสินสมรสโดยซื้ออสงั หาริมทรพั ยรวมกนั
( ) กรณอี น่ื .........................................................................................

๔๑๘

ขา พเจา ขอใหถ อ ยคํายินยอมใหนาย/นาง........................................ทํานติ ิกรรม
ซอื้ อสังหาริมทรัพย หรือลงชื่อเปนผถู ือกรรมสทิ ธ์ิ หรือสทิ ธคิ รอบครองใน
อสังหารมิ ทรัพยเ พยี งคนเดียวได

ลงชื่อ.....................................ผูใ หถอยคํายินยอม (คสู มรส)
ลงชอื่ .....................................พนกั งานเจา หนา ที่
ลงชอ่ื .....................................พยาน
ลงช่ือ.....................................พยาน”

ตวั อยา งท่ี ๔
หนงั สอื ยินยอมคูสมรส
เขียนที่.....................................
วันท.ี่ ........เดอื น.........................พ.ศ. ..............

ขาพเจา (นาย/นาง)............................................................ขอใหถอ ยคํารบั รองวา
ในการสมรสของขา พเจา กับ (นาย/นาง)......................................................มสี ัญญากอนสมรส
กาํ หนดในเรอื่ งการจดั การสินสมรสไวตามบนั ทกึ แนบทายทะเบียนสมรสวา

( ) ใหส าม/ี ภริยา เปนผจู ดั การสนิ สมรสฝายเดียว
( ) สามีและภริยา ตอ งจดั การสินสมรสโดยซอื้ อสงั หาริมทรัพยรวมกัน
( ) กรณอี ่นื ..................................................................................................
ขาพเจา ขอใหถอ ยคํายินยอมใหน าย/นาง.............................................ทํานติ กิ รรม
ซ้ืออสงั หาริมทรัพย หรอื ลงชื่อเปน ผูถอื กรรมสทิ ธิ์ หรอื สิทธิครอบครองในอสงั หาริมทรัพยเพยี ง
คนเดียวได โดยไดล งลายมือชอ่ื ไวต อหนา คสู มรสของขาพเจา และพยาน

ลงช่อื .....................................ผใู หถ อยคาํ ยนิ ยอม
ลงชือ่ .....................................คสู มรสอกี ฝา ยรับรอง
ลงชอื่ .....................................พยาน
ลงชอื่ .....................................พยาน

๔๑๙

ตวั อยา งที่ ๕ บันทกึ ถอยคาํ ยนื ยนั ใหจ ดทะเบยี นของคกู รณที ้งั ฝายผูขายและผูซ้ือ ใหบนั ทึกวา
“ขา พเจา (นาย/นาง)........................................................................ผซู ื้อ และ
(นาย/นาง).......................................ผูขาย ขอใหถอยคาํ รับรองวาในการซ้อื ขาย
อสงั หาริมทรพั ยครง้ั นี้ ผซู ้ือไดม ีการทาํ สญั ญากอนสมรสกําหนดไววา.................
....................................................................................................................
โดยผซู ือ้ ไมไ ดร ับความยินยอมจากคูส มรสอกี ฝา ยหน่ึง แตผ ูข ายและผูซ อื้ ยืนยนั
ใหจ ดทะเบยี น หากเกดิ ความเสยี หายใดๆ ขน้ึ ในภายหลงั คกู รณยี นิ ยอมรบั ผดิ ชอบ
ทุกประการ
ลงชื่อ..........................................ผูซื้อ
ลงชอ่ื ..........................................ผูขาย
ลงชอ่ื ..........................................พนกั งานเจา หนา ท่ี
ลงชื่อ..........................................พยาน
ลงชอ่ื ..........................................พยาน”

๔๒๐

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๒๒๕๐ (สําเนา)
กรมทด่ี นิ
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๗ สงิ หาคม ๒๕๕๖

เรือ่ ง แจง รายชอื่ บริษทั บริหารสินทรพั ยรายใหม
เรียน ผูวาราชการจังหวัดทกุ จังหวดั
อา งถึง ๑. หนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท ๐๗๑๐/ว ๐๖๘๔๑ ลงวนั ท่ี ๓ มนี าคม ๒๕๔๒

๒. หนงั สือกรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๓๘๔๗ ลงวนั ที่ ๑๑ กุมภาพันธ ๒๕๕๑
๓. หนังสอื กรมท่ีดิน ดวนท่สี ดุ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๙๖๕๘ ลงวันท่ี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๑
สิ่งท่สี ง มาดวย ภาพถา ยใบทะเบียนบรษิ ทั บรหิ ารสนิ ทรัพยของบริษัท บริหารสนิ ทรัพย ไนท คลับ

แคปปตอล จาํ กดั ฉบบั ท่ี ๐๐๘/๒๕๕๖ ลงวนั ที่ ๘ สงิ หาคม ๒๕๕๖

ตามหนังสือที่อางถึง ๑. กรมท่ีดินไดแจงทางปฏิบัติในการจดทะเบียนขาย
หรือโอนอสังหาริมทรัพยอันเปนสินทรัพยดอยคุณภาพจากสถาบันการเงินไปใหบริษัทบริหาร
สินทรพั ยว า นอกจากหลกั ฐานอ่ืนท่ผี ขู อจดทะเบยี นตอ งนาํ มาแสดงแลว ใหพนกั งานเจาหนาที่
เรียกใบทะเบียนบริษัทบริหารสินทรัพยตามสําเนาตัวอยางที่สงมา เพื่อเปนหลักฐานแสดงการ
จดทะเบยี นเปน บริษัทบรหิ ารสินทรพั ย และเปนหลกั ฐานประกอบการขอรบั สทิ ธปิ ระโยชนต างๆ
ตามพระราชกําหนดบริษัทบริหารสินทรัพย พ.ศ. ๒๕๔๑ และตอมาไดมีหนังสือที่อางถึง ๒.
สง พระราชบญั ญัติแกไ ขเพ่มิ เติมพระราชกาํ หนดบริษทั บริหารสนิ ทรัพย พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๐
มาเพือ่ ทราบและถอื ปฏบิ ตั ิในสว นท่เี ก่ยี วของ โดยในกรณีบรษิ ัทบริหารสินทรพั ยขอไดมาซง่ึ ทดี่ นิ
หรือหอ งชุดใหพนกั งานเจา หนา ท่ีถือปฏิบัติตามหนงั สือทอี่ า งถึง ๓. นน้ั

บดั น้ี ธนาคารแหง ประเทศไทยแจง วา บรษิ ทั บรหิ ารสนิ ทรพั ย ไนท คลบั
แคปปต อล จาํ กดั ไดจดทะเบียนเปนบริษัทบริหารสินทรัพยกับธนาคารแหงประเทศไทยแลว
ทั้งนี้ ตามหลักฐานภาพถายใบทะเบียนบรษิ ทั บรหิ ารสินทรัพยของบริษัท บรหิ ารสนิ ทรัพย ไนท
คลับ แคปปต อล จํากัด ฉบบั ท่ี ๐๐๘/๒๕๕๖ ลงวันท่ี ๘ สงิ หาคม ๒๕๕๖

๔๒๑

กรมทด่ี ินจงึ ขอสง ภาพถา ยใบทะเบยี นบรษิ ทั บรหิ ารสินทรพั ยของบรษิ ัท บรหิ าร
สินทรัพย ไนท คลับ แคปปตอล จํากัด มาเพ่ือโปรดทราบและแจงใหพ นักงานเจาหนา ทที่ ราบ
และถือปฏบิ ัตติ อ ไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่ือ) ธรรมศักดิ์ ชนะ

(นายธรรมศักดิ์ ชนะ)
รองอธิบดี ปฏบิ ัติราชการแทน

อธิบดีกรมทด่ี นิ

สาํ นักมาตรฐานการทะเบยี นท่ดี ิน
สว นมาตรฐานการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๔๒๒

๔๒๓

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๔๐๓๐ (สําเนา)
กรมที่ดิน
ศนู ยราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๓ กันยายน ๒๕๕๖

เรอ่ื ง ระเบยี บกรมทด่ี นิ วา ดว ยการตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดิน การขอคดั ขอถา ยสาํ เนาเอกสาร
และการตรวจสอบหลกั ทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๖

เรียน ผวู า ราชการจังหวดั ทกุ จังหวดั
ส่ิงท่สี ง มาดวย ระเบียบกรมทีด่ ิน วา ดว ยการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นที่ดิน การขอคัด ขอถายสาํ เนา

เอกสาร และการตรวจสอบหลักทรัพย พ.ศ. ๒๕๕๖

ดวยกรมทีด่ นิ ไดออกระเบยี บกรมทดี่ ิน วา ดวยการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นท่ีดนิ
การขอคัด ขอถายสําเนาเอกสาร และการตรวจสอบหลักทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๖ เพ่อื ใหพนักงาน
เจา หนา ทใี่ ชในการปฏบิ ัติงานไดอ ยางสะดวก รวดเรว็ ถกู ตอ ง และเปน มาตรฐานเดียวกัน
รายละเอยี ดปรากฏตามระเบยี บกรมทีด่ ิน วา ดว ยการตรวจหลักฐานทะเบียนทดี่ ิน การขอคดั
ขอถา ยสาํ เนาเอกสาร และการตรวจสอบหลักทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๖ ทสี่ ง มาพรอมนี้

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจงใหพนักงานเจาหนาท่ีทราบและถือเปน
แนวทางปฏิบัติ พรอมทงั้ นาํ ระเบียบกรมท่ดี นิ ดงั กลา วไปเพ่มิ เตมิ ในหนังสอื รวมระเบยี บ คาํ สั่ง
เกย่ี วกับการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรม เพอื่ ใหสามารถใชอ างอิงไดอยา งถูกตอง สะดวก รวดเรว็
ตอไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชื่อ) บญุ เชดิ คิดเห็น

(นายบุญเชิด คดิ เห็น)
อธิบดกี รมทด่ี ิน

สํานักมาตรฐานการทะเบยี นท่ีดนิ
สว นมาตรฐานการจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๕๙, ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๕
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๔๒๔

(สาํ เนา)
ระเบยี บกรมทด่ี ิน
วา ดว ยการตรวจหลกั ฐานทะเบียนทด่ี นิ การขอคดั ขอถา ยสําเนาเอกสาร
และการตรวจสอบหลกั ทรัพย
____พ_._ศ_._๒_๕_๕__๖____
โดยทเ่ี หน็ เปน การสมควรใหม กี ารรวบรวมปรบั ปรงุ หลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารตรวจหลกั ฐาน
ทะเบียนทด่ี นิ การขอคดั ขอถายสาํ เนาเอกสารและการตรวจสอบหลักทรพั ย เพ่อื ใหพ นกั งาน
เจาหนาทส่ี ามารถปฏบิ ัติงานไดอ ยา งถกู ตอง สะดวก รวดเร็ว และเปน มาตรฐานเดยี วกัน
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๓๒ แหงพระราชบญั ญัตริ ะเบยี บบรหิ ารราชการ
แผนดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ ซง่ึ แกไ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผนดิน (ฉบับ
ที่ ๕) พ.ศ.๒๕๔๕ ประกอบกบั ขอ ๒ (๑) (๔) และขอ ๑๙ (๑) แหง กฎกระทรวงแบง สว นราชการ
กรมที่ดนิ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๕๓ ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบยี บบรหิ าร
ราชการแผน ดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ อธบิ ดกี รมที่ดนิ จึงวางระเบียบไวดงั ตอไปนี้
ขอ ๑ ระเบียบนีเ้ รยี กวา “ระเบียบกรมท่ดี นิ วาดวยการตรวจหลกั ฐานทะเบียน
ทีด่ นิ การขอคัด ขอถา ยสําเนาเอกสาร และการตรวจสอบหลักทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๖”
ขอ ๒ ระเบยี บนีใ้ หใ ชบังคบั ต้งั แตบัดน้ีเปน ตน ไป
ขอ ๓ ใหยกเลกิ
(๑) หนงั สือกรมทะเบียนทด่ี ิน กระทรวงเกษตราธิการ ลงวนั ท่ี ๓๑ สิงหาคม พระพทุ ธ
ศกั ราช ๒๔๕๗
(๒) คําส่ังกรมที่ดนิ ท่ี ๔/๒๕๐๐ ลงวันท่ี ๒๕ มีนาคม ๒๕๐๐
(๓) หนังสือกรมท่ดี ิน ที่ ๒๓๘๙/๒๕๐๐ ลงวนั ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๐๐
(๔) หนงั สือกรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๖๐๘/ว ๒๐๖๘๓ ลงวนั ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๑๔
(๕) หนงั สอื กรมทีด่ ิน ที่ มท ๐๖๐๘/ว ๓๑๐๐๐ ลงวนั ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๑๔
(๖) ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดินทางไปรษณีย
พ.ศ. ๒๕๒๕
(๗) หนงั สือกรมทีด่ ิน ท่ี มท ๐๖๑๒/๑/ว ๒๙๗๗๐ ลงวันท่ี ๒๒ ธนั วาคม ๒๕๒๕
(๘) หนงั สอื กรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๖๑๐/ว ๓๗๘๖๗ ลงวนั ท่ี ๑๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๕
(๙) หนงั สอื กรมทด่ี ิน ท่ี มท ๐๖๑๐/ว ๘๙๖๗ ลงวันท่ี ๑๘ เมษายน ๒๕๓๘
(๑๐) หนังสือกรมท่ดี นิ ที่ มท ๐๖๑๐/ว ๑๒๔๘๖ ลงวนั ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๓๙
(๑๑) หนงั สือกรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๖๑๐/ว ๑๘๓๘๒ ลงวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๓๙

๔๒๕

(๑๒) หนังสอื กรมท่ดี นิ ท่ี มท ๐๗๑๐/ว ๐๙๓๗๓ ลงวนั ที่ ๒๗ มนี าคม ๒๕๔๐
(๑๓) หนงั สอื กรมทีด่ นิ ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๗๑๖๓ ลงวันท่ี ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๗
(๑๔) หนังสือกรมทดี่ ิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๒๗๘๗๐ ลงวนั ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๔๙
(๑๕) หนงั สือกรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๒๓๐๙ ลงวันท่ี ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๐
(๑๖) หนงั สอื กรมที่ดิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๔๐๒๔ ลงวนั ท่ี ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๑
(๑๗) หนงั สอื กรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๑๔๑๔๔ ลงวนั ท่ี ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๓
(๑๘) หนังสือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๑๓๗๘ ลงวันท่ี ๑๘ เมษายน ๒๕๕๕
ขอ ๔ บรรดาระเบยี บ ขอกําหนด หรอื คําสงั่ อน่ื ใดทก่ี าํ หนดไวแ ลว ในระเบียบนี้
หรือซ่งึ ขดั หรือแยงกับระเบียบน้ี ใหใชร ะเบยี บนีแ้ ทน
ขอ ๕ ในระเบียบนี้
“หลักฐานทะเบยี นที่ดนิ ” หมายความวา เอกสารเกี่ยวกับทีด่ นิ ซ่ึงเจาหนา ท่ขี อง
รัฐไดจัดทําขึ้นไวเ ปนหลกั ฐาน และเอกสารทเ่ี กี่ยวกับทดี่ ินท่ีเก็บไวเปนหลักฐาน ตลอดจนให
หมายความรวมถงึ เอกสารตา งๆ ของอาคารชุดและหอ งชดุ ดว ย
“การตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ ” หมายความวา การขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ
ท่ีผูข อทราบเลขทีห่ นังสือแสดงสิทธใิ นท่ดี นิ เครื่องหมายท่ีดิน หรือทีผ่ ูข อสามารถระบุทตี่ ัง้ ของทีด่ ิน
ไดชัดเจนวาอยูที่ใดโดยผูขอตองการทราบวาท่ีดินดังกลาวปจจุบันมีชื่อบุคคลใดเปนผูมีสิทธิใน
ท่ดี ิน ไดท ดี่ นิ มาอยา งไร เม่ือใด มภี าระผูกพนั หรือไม มีการยดึ หรืออายดั ตามกฎหมายใดหรอื ไม
และไดมกี ารออกใบแทนไปแลวหรือไม เมอ่ื ใด รวมท้ังขอทราบเกยี่ วกับเอกสารหลกั ฐานทะเบียน
ทดี่ ินท่ีเกีย่ วของ
“การตรวจสอบหลักทรัพย” หมายความวา การตรวจหลกั ฐานทะเบียนทดี่ นิ ที่ผขู อ
ทราบเฉพาะชอ่ื บุคคลหรือนติ ิบคุ คล แตไมท ราบรายละเอียดหรอื เลขทห่ี นงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทีด่ ิน
โดยผูขอตองการทราบวา บุคคลหรือนติ ิบุคคลใด เปน ผูถอื กรรมสทิ ธห์ิ รือสทิ ธคิ รอบครองในที่ดนิ
แปลงใด และใหหมายความรวมถงึ หองชดุ ดว ย
“หนว ยงานของรัฐ” หมายความวา กระทรวง ทบวง กรม หรอื สวนราชการทเี่ รยี กช่ือ
อยา งอน่ื และมีฐานะเปนกรม ราชการสว นภมู ภิ าค ราชการสว นทองถ่นิ และรฐั วิสาหกจิ ทต่ี ัง้ ขึน้
โดยพระราชบัญญัตหิ รอื พระราชกฤษฎกี า ยกเวน รฐั วสิ าหกจิ ประเภทธนาคาร และใหหมายความ
รวมถงึ หนวยงานอน่ื ของรัฐท่ีกฎหมายกาํ หนดใหเปน หนวยงานของรฐั
ขอ ๖ ใหผูอํานวยการสํานักมาตรฐานการทะเบียนที่ดินเปนผูรักษาการตาม
ระเบยี บน้ี

๔๒๖

หมวด ๑
การตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดนิ การขอคดั ขอถายสาํ เนาเอกสาร

______________
สวนที่ ๑

การขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ดี ิน การขอคัด ขอถายสําเนาเอกสาร
______________

ขอ ๗ ผูใ ดมีความประสงคขอตรวจหลกั ฐานทะเบียนทีด่ นิ ขอคดั หรอื ขอถา ย
สําเนาเอกสารเกี่ยวกับหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ แปลงใด ใหย ืน่ คาํ ขอตามแบบ ท.ด. ๙ ตอ พนกั งาน
เจาหนา ที่ ณ สาํ นักงานทดี่ นิ ทองทซี่ ่งึ ที่ดินต้งั อยู และแจงเหตุผลท่ีขอคัดหรอื ถา ยสําเนาเอกสาร
พรอมทั้งเครื่องหมายที่ดินหรือขอความเทาที่ผูขอสามารถแจงใหทราบถึงที่ตั้งของที่ดินแปลงนั้น
มีความประสงคจ ะขอตรวจหลักฐานทะเบยี นท่ีดิน หรอื ขอคัด หรอื ถา ยสาํ เนาเอกสารใด เพ่ือ
ประโยชนอะไร และจะใหรบั รองเอกสารดว ยหรอื ไม

ขอ ๘ ใหพนกั งานเจา หนา ท่ีสอบสวนใหไดความวา ผขู อตองการขอตรวจหลักฐาน
ทะเบยี นทด่ี นิ ของทด่ี นิ แปลงใด เพอ่ื ตอ งการทราบเกย่ี วกบั เรอ่ื งใด หรอื คดั หรอื ถา ยสาํ เนาเอกสารใด
เพ่อื ประโยชนอ ะไร แลวพิจารณาเปด เผยหลักฐานทะเบียนทดี่ นิ โดยปฏิบตั ิตามหลกั เกณฑของ
พระราชบญั ญัติขอ มูลขาวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐

กรณีขอตรวจหลกั ฐานทะเบียนทดี่ ิน หากตรวจพบวาหลักฐานหนังสือแสดงสิทธใิ น
ท่ดี ินไดมีการออกเปนหนังสอื แสดงสิทธใิ นทดี่ ินประเภทอนื่ ไปแลว เชน ส.ค. ๑ ออกเปนหนงั สอื
รับรองการทําประโยชน หรือหนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน ออกเปน โฉนดท่ดี ิน ไปแลว เปน ตน
ใหพนักงานเจา หนา ทแ่ี จงใหผขู อทราบดวย

หากสอบสวนแลวเห็นวาไมอาจเปดเผยหลักฐานทะเบียนที่ดินใหแกผูขอได หรือ
เปนเรื่องที่ไมมีกฎหมายใหกระทําไดแลว ใหพนักงานเจาหนาท่ีส่ังไมรับดําเนินการตามคําขอ
พรอ มแจง เหตผุ ลและสทิ ธกิ ารอทุ ธรณต ามพระราชบญั ญตั ขิ อ มลู ขา วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
ใหผูข อทราบ

การสงั่ การเกีย่ วกับการตรวจหลักฐานทะเบยี นทดี่ ิน การขอคัด ขอถายสําเนาเอกสาร
ใหหวั หนาฝายทะเบยี น หรอื ผูท่ีไดรับมอบหมาย หรอื เจา พนกั งานทด่ี ินอําเภอ แลว แตก รณี
เปน ผมู อี าํ นาจส่ังการ

ขอ ๙ หามพนกั งานเจาหนา ทดี่ ําเนนิ การตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน หรือคัดหรอื
ถา ยสาํ เนาเอกสารใหแกผใู ดโดยไมมคี าํ ขอ

ขอ ๑๐ การขอตรวจสอบหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นที่ดินซึ่งเปนเอกสารมหาชน บุคคล
ท่ัวไปขอตรวจสอบไดต ามพระราชบญั ญัตขิ อมลู ขาวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ โดยใหระบุ

๔๒๗

หมายเลขหนังสือแสดงสทิ ธิในทีด่ นิ ทีจ่ ะขอตรวจสอบใหชัดเจน หากไมสามารถระบุใหช ัดเจนได
กไ็ มอ าจใหตรวจสอบได

ขอ ๑๑ การขอตรวจ ขอคัด หรือขอถายสําเนาเอกสารตางๆ หากเปนเอกสาร
ทเ่ี กย่ี วขอ งกบั ประชาชนและไมต อ งหา มตามพระราชบญั ญตั ขิ อ มลู ขา วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
หรอื เปน เอกสารทม่ี ลี ายมอื ชอ่ื ของเจา ของทด่ี นิ หรอื คกู รณี ใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของพนกั งานเจา หนา ท่ี
ถา มีเหตผุ ลอนั สมควรในการขอดาํ เนนิ การ พนักงานเจาหนา ท่สี ามารถอนญุ าตผขู อใหข อตรวจ
ขอคดั หรือขอถายสําเนาเอกสารน้ันไดท ง้ั หมดหรือบางสว นตามท่เี ห็นสมควร โดยผูขอไมจ ําเปน
ตอ งเปนตองเปน ผมู ีสวนไดเ สยี ในทด่ี ินหรือเอกสารนัน้

กรณีขอถา ยสาํ เนาหนังสอื มอบอาํ นาจ ซึ่งมรี ายละเอยี ดการมอบอาํ นาจ ลายมอื ช่อื
ผมู อบอาํ นาจและความเหน็ ของพนกั งานเจา หนา ทเ่ี กย่ี วกบั หนงั สอื มอบอาํ นาจไมถ อื เปน ความลบั
ใหถ า ยและรับรองสําเนาเอกสารหนงั สือมอบอาํ นาจนั้นได ในกรณีพนกั งานเจา หนา ทเี่ ห็นวา อาจ
จะกอ ใหเ กิดความเสยี หาย ใหใ ชด ลุ ยพินจิ สง่ั การตามท่เี ห็นสมควรภายใตพ ระราชบัญญตั ขิ อ มูล
ขาวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐

ขอ ๑๒ กรณขี อถา ยหลกั ฐานสาํ เนาทะเบยี นบา น หรอื สาํ เนาบตั รประจาํ ตวั ประชาชน
ที่เก็บไวในสารบบ ใหแจงผูขอไปดําเนินการขอถายสําเนาเอกสารจากหนวยงานซ่ึงเปนผูออก
เอกสารน้ันโดยตรง เวนแตเปน กรณจี ําเปนที่ตองใชสําเนาหลกั ฐานดงั กลาว เชน ผขู ออา งวามีการ
ปลอมแปลงเอกสารหลักฐาน เปน ตน

ขอ ๑๓ กรณีที่สํานักงานท่ีดินไมมีเคร่ืองถายเอกสารไวบริการสําหรับประชาชน
ในสํานักงานท่ีดิน ใหผูขอที่จะขอถายเอกสารพรอมกับพนักงานเจาหนาท่ีของสํานักงานที่ดิน
นําเอกสารไปถายสําเนานอกสํานักงานท่ีดินได โดยตองไดรับอนุญาตจากเจาพนักงานท่ีดิน
จงั หวัด เจา พนกั งานทดี่ ินจังหวดั สาขา เจาพนักงานท่ีดินหัวหนา สวนแยก หรือเจา พนักงานทด่ี นิ
อําเภอ แลวแตก รณี และใหผขู อเปน ผชู าํ ระคา ใชจายและคา ถา ยสําเนาเอกสารเอง

ขอ ๑๔ กรณที ผ่ี ูขอประสงคใหพนักงานเจาหนาที่รบั รองสําเนาเอกสาร กอ นท่ีจะ
รับรองสาํ เนาเอกสาร ใหพนกั งานเจาหนาทตี่ รวจสอบสาํ เนาเอกสารวา มีความชดั เจนครบถว น
ถูกตอ งตรงกบั เอกสารทีข่ อใหร ับรองหรอื ไม

การรับรองสําเนาเอกสารใหพนักงานเจาหนา ท่ลี งนามรบั รองสาํ เนาถูกตอง พรอ ม
ระบชุ ือ่ ตําแหนง และวัน เดอื น ป ทุกแผนทุกหนา

ขอ ๑๕ กรณีการขอตรวจหลักฐานทะเบยี นท่ดี นิ การขอคัด หรือขอถายสาํ เนา
เอกสารและสาํ เนาจากส่ือบนั ทึกขอ มูลทางคอมพวิ เตอร หรอื สื่ออิเลก็ ทรอนิกสอ ่ืน ใหเรยี กเก็บ
คา ธรรมเนยี มและคา ใชจาย ตามหมวด ๔ ของระเบยี บน้ี

๔๒๘

สว นที่ ๒
หนวยงานของรฐั ขอตรวจหลักฐานทะเบียนทด่ี นิ ขอคัด ขอถายสําเนาเอกสาร

______________
ขอ ๑๖ กรณหี นวยงานของรัฐซ่งึ อาศัยอํานาจตามกฎหมาย แจงใหต รวจหลักฐาน
ทะเบียนท่ีดินและจัดสงเอกสารเก่ียวกับท่ีดิน ในกรณีที่ตรวจพบใหจัดสงแตสําเนาเอกสาร
ซงึ่ พนกั งานเจาหนาท่ีลงนามรบั รองสําเนาวาถกู ตอ งตรงกับตน ฉบับ เวน แตเ ร่ืองใดท่รี ะบคุ วาม
จําเปน ชดั แจง วา ตอ งการตน ฉบับ จึงใหส งตน ฉบับเฉพาะในกรณที ี่มีความจําเปนเทานนั้ การสง
เอกสารตนฉบับใหกําหนดเวลาการสงคืน โดยใหพนักงานเจาหนาที่ถายสําเนาเอกสารหรือ
สารบบนั้นไว พรอมทั้งทําบัญชีไวเปนหลักฐานและใหถือเปนเร่ืองสําคัญท่ีพนักงานเจาหนาท่ี
จะตองเอาใจใสและคอยระมดั ระวงั เรียกเอกสารกลับคนื
ขอ ๑๗ กรณีท่ีหนวยงานของรัฐมีหนังสือขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดิน ขอถาย
สาํ เนาเอกสารและใหจ ัดสง เอกสารโดยมไิ ดส ง เจาหนา ที่มาดาํ เนนิ การ ใหแ จงหนว ยงานของรัฐ
นั้นทราบวาการขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดิน ขอถายสําเนาเอกสารน้ันมีคาธรรมเนียมและ
คาใชจายการถายสําเนาเอกสาร และใหแนะนําหนวยงานของรัฐนั้นมอบหมายเจาหนาท่ีไป
ดาํ เนินการขอตรวจหลักฐานทะเบยี นท่ดี ิน และถายสําเนาเอกสารจากสาํ นักงานทีด่ ินโดยตรง
เม่อื ไดร ับการตดิ ตอ จากหนวยงานนนั้ ๆ แลว ใหด าํ เนนิ การใหตามขอ ๑๙ (๑) (๒) (๓) แลวแตก รณี
กรณหี นว ยงานของรฐั ขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ ใหพ นกั งานเจา หนา ทด่ี าํ เนนิ การ
ตรวจจากสื่อบนั ทึกขอมลู ทางคอมพวิ เตอร หรอื สื่ออิเล็กทรอนิกสอ ื่น หากหลักฐานทะเบียนที่ดนิ
ทีข่ อตรวจสอบยังสามารถตรวจสอบไดดวยมือ และหนวยงานดังกลาวมีความประสงคที่จะดาํ เนนิ
การตรวจสอบดว ยมือ โดยไดส ง เจาหนา ทข่ี องหนวยงานนัน้ มาเปนผูดําเนินการ ในกรณีเชนนี้ให
พนักงานเจา หนาท่ีดาํ เนินการใหแกหนว ยงานนัน้ ตามความประสงค
ขอ ๑๘ กรณศี าลมีคาํ สง่ั เรยี กพยานเอกสารประกอบคดตี ามทค่ี คู วามรองขอ โดยท่ี
คูค วามไมม ายืน่ ขอคัด หรือขอถา ยสําเนาเอกสารดว ยตนเอง แตเ ปนกรณีทีข่ อใหศาลมหี มายเรียก
สําเนาเอกสารมายงั สํานักงานทีด่ นิ โดยตรง ใหพนกั งานเจาหนา ที่จัดสง สาํ เนาเอกสารใหแ กศาล
ตามหมายเรยี ก แลวใหเรียกเก็บคา ธรรมเนียมและคา ใชจ า ยเปนคาคดั หรอื ถายสําเนาเอกสาร
และคา รับรองเอกสาร ตามหมวด ๔ ของระเบยี บน้ี โดยใหพ นกั งานเจาหนา ทีแ่ จง ศาลขอใหเ รียก
เกบ็ คา ธรรมเนยี มและคาใชจ า ยดงั กลาวจากคูค วามผูอางเอกสารน้นั แลว จัดสง ใหสาํ นักงานท่ีดนิ
เวน แตกรณีเปน คดที ี่มีกฎหมายใหยกเวน คา ธรรมเนยี ม สว นคาคําขอไมต องเรียกเกบ็ เพราะคาํ ส่งั
เรยี กพยานเอกสารของศาลมใิ ชค ําขอ
กรณีท่ีคูความนาํ หมายศาลมาดาํ เนินการดวยตนเอง ใหพ นักงานเจา หนาท่เี รียกเกบ็
คาธรรมเนียมและคาใชจ า ยจากคูความ เปนคาคดั หรือถา ยสาํ เนาเอกสารและคา รับรองเอกสาร
ตามหมวด ๔ ของระเบียบน้ี สวนคาคําขอไมตอ งเรียกเก็บ และใหพนักงานเจาหนา ท่ที าํ หนงั สือ

๔๒๙

แจงใหศาลทราบโดยระบุในหนังสือแจงศาลดวยวาผูขอเปนผูรับสําเนาเอกสารไปดวยตนเอง
ในกรณที ม่ี เี หตขุ ดั ขอ งไมส ามารถดาํ เนนิ การใหค คู วามรบั สาํ เนาเอกสารไปได ใหพ นกั งานเจา หนา ท่ี
จดั สงสาํ เนาเอกสารใหแ กศาลโดยอนุโลมดําเนินการตามวรรคหน่ึง

ขอ ๑๙ กรณหี นวยงานของรฐั ขอตรวจหลักฐานทะเบยี นทีด่ นิ ขอคดั หรือขอถาย
สําเนาเอกสารใหพิจารณาเปดเผยหลักฐานทะเบียนท่ีดินตามหลักเกณฑของพระราชบัญญัติ
ขอ มูลขาวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ และใหด าํ เนนิ การ ดงั น้ี

(๑) กรณีย่ืนคําขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน ขอคัดหรือขอถายสําเนาเอกสาร
ดวยมอื เปน กรณีที่พนักงานเจาหนาที่ของสํานกั งานทีด่ นิ ตอ งเปนผดู าํ เนนิ การให ถงึ แมหนว ยงาน
นนั้ จะสงเจาหนาทมี่ าคดั หรือถายสําเนาเอกสารดว ยตนเอง ก็ไมอาจใหด ําเนินการเองได เน่อื งจาก
การยื่นคําขอ (ท.ด. ๙) เปน การแสดงความประสงคท ี่จะใหพนักงานเจาหนาทีข่ องสํานกั งานที่ดิน
ดาํ เนินการให จงึ เปนกรณที ่ีตอ งเรียกเกบ็ คาธรรมเนียมและคา ใชจา ย ตามขอ ๓๑ ขอ ๓๔ และ
ขอ ๓๙ ของระเบยี บนี้

(๒) กรณีมหี นังสือแจง ขอความรวมมอื ขอตรวจหลักฐานทะเบียนทีด่ นิ ขอคัดหรอื
ขอถายสําเนาเอกสารดวยมือ โดยสงเจา หนาที่ของหนว ยงานน้ันมาคดั หรือถา ยสาํ เนาเอกสารเอง
พนักงานเจาหนาที่ของสํานักงานท่ีดินมีเพียงหนาที่เพียงแตอํานวยความสะดวกดานขอมูลเทาน้ัน
ไมตองเรียกเก็บคาธรรมเนียมเน่ืองจากเปนการประสานงานระหวางหนวยงาน มิใชกรณีตาม
มาตรา ๑๐๓ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน

กรณมี หี นังสอื แจงขอความรว มมอื ขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี ิน ขอคัดหรือ
ขอถา ยสําเนาเอกสารดวยมือ โดยไมไ ดส งเจาหนา ทขี่ องหนว ยงานนน้ั มา หรอื สงมาแตไมไ ดเปน
ผดู ําเนนิ การคดั หรอื ถายสาํ เนาเอกสารเอง เปน กรณีที่พนักงานเจา หนาท่ีของสาํ นักงานทีด่ นิ เปน
ผดู ําเนนิ การ ในกรณีเชน น้ีใหเรยี กเก็บคา ธรรมเนยี มและคา ใชจาย ตามขอ ๓๑ ขอ ๓๔ และ
ขอ ๓๕ ของระเบยี บน้ี

การดาํ เนนิ การคดั หรอื ถา ยสาํ เนาเอกสารตามวรรคหนง่ึ ใหอ ยภู ายใตก ารควบคมุ
ดูแลของพนกั งานเจาหนา ที่ โดยใหพ นกั งานเจาหนา ท่อี ํานวยความสะดวกตามความเหมาะสม
และระมัดระวังความชํารุดเสียหาย กรณีที่เปนเอกสารสําคัญที่ตองระวังความชํารุดเสียหาย
ใหพนักงานเจา หนาทเ่ี ปน ผคู ดั หรอื ถายสาํ เนาเอกสารให

(๓) กรณียื่นคําขอหรือมีหนังสือแจงขอความรวมมือขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน
และขอสาํ เนาจากส่ือบนั ทกึ ขอมูลทางคอมพิวเตอร หรือส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ สอน่ื เชน การขอขอมลู
แปลงท่ีดินทางระบบ Land Information System (LIS) เปนตน และใหพนกั งานเจา หนาทข่ี อง
สาํ นักงานทดี่ นิ เปนผูด ําเนนิ การ เนื่องจากมรี ะบบรกั ษาความปลอดภัยทีจ่ ะเขา ถงึ ฐานขอ มูล และ
ใหเ รียกเกบ็ คา ธรรมเนียม ตามขอ ๓๑ และขอ ๓๕ ของระเบียบน้ี

๔๓๐

(๔) กรณีขอใหพนักงานเจาหนาที่รับรองเอกสารท่ีคัดหรือถายสําเนาเอกสาร
ใหเ รียกเก็บคาธรรมเนียมการรับรองเอกสารท่ีคัดหรือถา ยสําเนาเอกสารตามขอ ๓๖ ของระเบียบ
นี้ เวนแตก รณีที่มีกฎหมายกาํ หนดใหยกเวน

การขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน ขอคัดหรอื ขอถา ยสาํ เนาเอกสาร เม่ือพนักงาน
เจา หนาทีด่ าํ เนนิ การแลว ใหผูขอหรือเจา หนา ที่ของหนว ยงานนั้นลงนามรบั รองไวเปน หลกั ฐานวา
ไดตรวจหลักฐานทะเบียนท่ดี นิ หรือคัดหรือถา ยสําเนาเอกสารแลว แตเม่ือใด

ขอ ๒๐ กรณที ่ีหนว ยงานของรฐั ซึง่ อาศยั อํานาจตามกฎหมาย เชน มาตรา ๑๒ ตรี
แหง ประมวลรษั ฎากรมาตรา ๑๔ แหง พระราชบญั ญตั ปิ อ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙
มาตรา ๒๕ แหงพระราชบัญญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู วา ดวยการปองกันและปราบปรามการทจุ ริต
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓๘ แหง พระราชบญั ญตั ิปองกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๔๒ แหง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาดวยการตรวจเงินแผน ดนิ พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๒๔ แหงพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ และมาตรา ๑๘
แหง พระราชบญั ญตั มิ าตรการของฝา ยบรหิ ารในการปอ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ.๒๕๕๑
เปนตน ขอตรวจหลกั ฐานทะเบียนท่ีดนิ ขอคดั หรอื ขอถายสําเนาเอกสาร ในกรณเี ชนนีถ้ อื วา เปน
หนา ท่ีท่พี นกั งานเจา หนาท่ตี องปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ไมต อ งเรยี กเก็บคาธรรมเนยี มในการตรวจ
หลักฐานทะเบยี นทดี่ ิน การคดั หรือถายสาํ เนาเอกสารหรือคา รบั รองเอกสารเพอ่ื สงสําเนาเอกสาร
ใหแ กหนว ยงานตามท่ีกฎหมายกําหนด แมจ ะเปน การตรวจหลักฐานทะเบยี นทด่ี ิน การคดั หรือ
สําเนาจากสอ่ื บนั ทึกขอมูลทางคอมพิวเตอร หรือส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกสอ ืน่

ขอ ๒๑ กรณหี นวยงานของรัฐวาจางบุคคลหรอื นิติบคุ คลใหดาํ เนนิ การเรื่องใด แลว
ผูรบั จางน้นั มายื่นคําขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นท่ดี นิ ขอคัด หรือขอถา ยสาํ เนาเอกสาร โดยมใิ ช
กรณีหนว ยงานของรัฐขอความรว มมือและมาดาํ เนินการเอง ใหพ นักงานเจาหนา ที่สอบสวนและ
บนั ทกึ เหตผุ ลในคาํ ขอวา ขอไปเพอ่ื เหตใุ ด พรอ มทง้ั ระบเุ ลขทห่ี นงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ ทข่ี อใหช ดั เจน
และใหเ รยี กเกบ็ คาธรรมเนียม ตามขอ ๓๑ ขอ ๓๔ และขอ ๓๕ ของระเบียบนี้

หมวด ๒
การตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดินทางไปรษณยี 

______________
ขอ ๒๒ การตรวจหลกั ฐานทะเบียนที่ดนิ ทางไปรษณยี  กรณีเปนที่ดนิ ใหขอตรวจได
เฉพาะทีด่ ินทม่ี ีโฉนดทด่ี นิ หรือหนงั สอื รบั รองการทําประโยชน และกรณีเปน อาคารชดุ ใหขอตรวจ
ไดเฉพาะหนงั สอื กรรมสิทธ์หิ อ งชุด โดยไมร วมถึงการตรวจสอบหลักทรัพย การขอคัด และขอถา ย
สําเนาเอกสาร
การขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดินทางไปรษณียใหตรวจไดเฉพาะหลักฐาน
ดงั ตอไปนี้

๔๓๑

(๑) ทด่ี นิ มชี อื่ บุคคลใดเปนผูมีสทิ ธใิ นที่ดนิ หรอื หอ งชุด ไดมาอยา งไร เมื่อใด มีภาระ
ผูกพนั หรือไม อยางไร

(๒) ทีด่ ินมีการยึดหรืออายัดตามกฎหมาย หรือไม
(๓) ไดมีการออกใบแทนไปแลว หรอื ไม เมอื่ ใด
กรณผี ขู อ ขอตรวจหลกั ฐานทะเบียนทดี่ ินและขอคัดหรือขอถา ยสาํ เนาเอกสารดวย
ใหพนักงานเจาหนาทด่ี ําเนินการใหเ ฉพาะการตรวจหลักฐานทะเบียนทด่ี ินตาม (๑) – (๓) เทา น้นั
สว นอ่นื ๆ ใหแจงผูขอทราบวา ไมอ ยูในหลกั เกณฑที่จะขอดาํ เนนิ การทางไปรษณยี ไ ด
ขอ ๒๓ กรณีบุคคลใดมีหนังสือขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดินทางไปรษณีย
ใหพนกั งานเจา หนา ทีด่ ําเนนิ การ ดังน้ี
(๑) ใหต รวจสอบเอกสารหลักฐานทผ่ี ขู อสง มา แลวจัดทําบญั ชคี ุมเร่ืองการขอตรวจ
หลักฐานทะเบยี นท่ดี นิ ทางไปรษณีย โดยบนั ทึกขอมลู รายละเอยี ดชื่อ ท่ีอยขู องผขู อ เลขทีโ่ ฉนด
ที่ดนิ หรือหนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน หรอื หนงั สือกรรมสิทธ์ิหอ งชุด รายละเอียดตาํ แหนง ท่ดี นิ
ความประสงคในการขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดินเพื่อประโยชนใด และไดสงคาธรรมเนียม
ถกู ตองหรือไม
กรณีที่ผขู อไมไดสง เงนิ คาธรรมเนยี มมา หรือสงมาแตไ มถกู ตอง ใหแจง ผูขอดาํ เนิน
การสง เงินคาธรรมเนยี มใหถ ูกตองครบถว นเสยี กอ น ตามแบบทา ยระเบยี บนี้
(๒) ในกรณีที่ตรวจสอบแลวสามารถดําเนินการได ใหลงบัญชีรับทําการโดยถือ
หนังสือขอตรวจหลกั ฐานทะเบียนทีด่ ินทางไปรษณยี เปน คําขอ แลวเรยี กเก็บคา ธรรมเนียมตาม
ขอ ๓๑ ของระเบียบนี้
(๓) เมอ่ื ทําการตรวจสอบแลว ใหทาํ หนังสอื แจง ผลการตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน
ใหผูข อทราบภายใน ๗ วันทําการนบั แตวนั ท่ีไดรับคําขอ ตามแบบทา ยระเบียบนี้ ถา มเี งนิ เหลอื พอ
สาํ หรบั การสง เงนิ คนื ใหจ ดั สง พรอ มทง้ั สง ใบเสรจ็ รบั เงนิ คา ธรรมเนยี มไปดว ย หากมเี งนิ เหลอื ไมพ อ
สําหรับสงคืน ใหแ จงผขู อรับเงินที่เหลอื คืนโดยดวนภายใน ๓๐ วนั โดยใหดาํ เนนิ การฝากเก็บ
เงนิ เหลอื ดังกลาวไวท ํานองเดียวกบั เงนิ คาใชจายมัดจาํ รังวัด
(๔) กรณีท่ีไมอาจดําเนินการใหผูขอได ใหแจงผูขอทราบถึงขอขัดของน้ันพรอม
สง เงินคืนใหแกผูข อภายใน ๗ วนั ทําการนบั แตวันที่ไดร ับคําขอ หากกรณมี ขี อขดั ของเน่ืองจาก
เอกสารหรอื คา ธรรมเนยี มไมค รบถว น หรอื อน่ื ๆ ใหแ จง ผขู อดาํ เนนิ การเพม่ิ เตมิ ใหค รบถว นเสยี กอ น
ตามแบบทา ยระเบียบนี้ แลว ดําเนินการใหแกผูขอตอไป
(๕) เม่อื ดําเนินการตาม (๓) หรือ (๔) แลว แตกรณี ใหพนักงานเจาหนาทีห่ มายเหตุ
ในบัญชีคมุ เรือ่ ง การขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ดี นิ ทางไปรษณีย ลงชื่อพนกั งานเจาหนาท่ี พรอ ม
วัน เดือน ป ที่ดําเนนิ การแลวเสรจ็ และเกบ็ เร่ืองรวมเขา สารบบทดี่ นิ ตามระเบียบ
ขอ ๒๔ ใหส าํ นกั งานทด่ี นิ ประชาสมั พนั ธใ หป ระชาชนไดท ราบหลกั เกณฑแ ละวธิ กี าร
ขอตรวจสอบหลักฐานทะเบยี นทด่ี ินทางไปรษณยี  วา สามารถขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นที่ดนิ ได

๔๓๒

เฉพาะการตรวจหลกั ฐานตามขอ ๒๒ เทา นน้ั ไมรวมถึงการตรวจสอบหลักทรัพย การขอคัดหรือ
ขอถา ยสําเนาเอกสาร โดยผูข อตองสงเงินคา ธรรมเนยี มคาํ ขอ และคาตรวจหลกั ฐานทะเบยี นท่ีดนิ
โดยเช็คไปรษณยี ห รือธนาณตั ิ หรือวิธีการอ่ืนตามทีก่ รมท่ีดินกําหนด พรอมสง ซองจดหมายปด
แสตมปจ า หนาซองถึงตัวผูขอ โดยระบทุ อี่ ยูใหช ัดเจนเพื่อจะไดแจง ผลการตรวจสอบหรอื ขดั ของ
ใหทราบ

หมวด ๓
การขอตรวจสอบหลักทรัพย

______________
ขอ ๒๕ ผูใดมีความประสงคขอใหพนักงานเจาหนาที่ตรวจสอบหลักทรัพยของ
บคุ คลหรือนติ ิบคุ คลใด เพ่อื ใหทราบวา บคุ คลหรือนติ บิ ุคคลน้นั มีชอ่ื เปนผถู ือกรรมสิทธิห์ รอื สิทธิ
ครอบครองในทด่ี ินแปลงใดหรอื อสังหาริมทรพั ยอืน่ ใด ใหยืน่ คําขอตามแบบ ท.ด. ๙ ตอพนักงาน
เจา หนา ท่ี ณ สํานักงานทดี่ นิ ทอ งท่ีซง่ึ ทด่ี นิ หรอื อสงั หาริมทรพั ยน้ันตั้งอยู พรอ มหลักฐานท่แี สดงวา
มสี ิทธิตรวจสอบหลกั ทรัพยไ ดต ามกฎหมาย และแจง ความประสงคว า ขอตรวจสอบเพ่ือประโยชน
อยางไร
ขอ ๒๖ ใหพ นกั งานเจา หนา ทส่ี อบสวนใหไ ดค วามวา เปน การขอตรวจสอบหลกั ทรพั ย
ของบุคคลหรือนิตบิ คุ คลใด เพือ่ ตอ งการทราบวา บคุ คลหรอื นติ ิบคุ คลนั้น เปน ผูถอื กรรมสิทธ์ิหรือ
สิทธิครอบครองในทดี่ ินแปลงใด หรืออสงั หาริมทรพั ยอ ่ืนใด เพื่อประโยชนอ ยางไร แลวพิจารณา
เปด เผยหลักฐานทะเบยี นทดี่ นิ โดยปฏิบตั ิตามหลกั เกณฑข องพระราชบัญญตั ขิ อ มูลขาวสารของ
ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
ขอ ๒๗ กรณหี นว ยงานของรฐั หรือเอกชนผูม สี ทิ ธติ ามกฎหมาย เชน เจา หนีต้ าม
คําพิพากษาหรอื คาํ ส่ังศาลถงึ ท่สี ดุ หรือทนายความรไู ดร บั มอบอาํ นาจจากเจาหนด้ี งั กลาว ซึง่ เปน
ผูม สี ิทธติ ามมาตรา ๒๔ (๘) แหงพระราชบัญญตั ิขอ มูลขา วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ขอตรวจ
สอบหลักทรัพยของลูกหน้ีตามคําพิพากษาหรือคําสั่งศาลน้ัน ใหย่ืนคําขอตอพนักงานเจาหนาท่ี
พรอมดวยคําพิพากษาหรือคําส่ังศาลถึงที่สุดแสดงวาตนมีสิทธิขอตรวจสอบหลักทรัพย และให
เรียกเก็บคาธรรมเนยี มตามขอ ๓๒ ของระเบยี บนี้
กรณคี ดที ย่ี งั ไมม คี าํ พพิ ากษาหรอื คาํ สง่ั ศาลถงึ ทส่ี ดุ คคู วามในคดดี งั กลา วยงั ไมถ อื วา
เปนผมู ีสทิ ธติ ามมาตรา ๒๔ (๘) แหงพระราชบญั ญัตขิ อมลู ขาวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
ใหพนักงานเจาหนาที่ส่ังไมรับดําเนินการตามคําขอ พรอมแจงเหตุผลและสิทธิการอุทธรณตาม
พระราชบญั ญัตขิ อมูลขาวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ใหผูขอทราบ
ขอ ๒๘ กรณีหนวยงานของรัฐท่ีมีอํานาจตรวจสอบหลักทรัพยตามกฎหมาย
ขอตรวจสอบหลักทรัพยของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลใหหนวยงานน้ันระบุเลขประจําตัว
ประชาชน (เลข ๑๓ หลกั ) หรอื เลขทะเบียนนิตบิ คุ คล (เลข ๑๓ หลกั ) ของผถู ูกตรวจสอบ

๔๓๓

หลักทรพั ยดวย หากตรวจพบรายช่ือทขี่ อตรวจสอบหลกั ทรพั ย ใหพนักงานเจาหนาท่ตี รวจสอบวา
เปนบคุ คลหรือนิตบิ ุคคลเดยี วกับผทู ่หี นวยงานนนั้ ระบุเลขประจําตัวประชาชน หรือเลขทะเบยี น
นิติบุคคลไวในคําขอหรือไม

กรณีหนวยงานดังกลาวไมไดระบุเลขประจําตัวประชาชนหรือเลขทะเบียนนิติบุคคล
ของผูถูกตรวจสอบมาดวย และพนักงานเจาหนาท่ีตรวจพบวาผูถูกตรวจสอบหลักทรัพยเปน
ผูถือกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย ในการแจงผลการตรวจสอบหลักทรัพย
ใหพนกั งานเจาหนาทร่ี ะบเุ ลขประจาํ ตวั ประชาชน พรอมแจงชือ่ บิดา มารดา และอายุของบุคคล
หรือเลขทะเบียนนิติบุคคลและที่ต้ังสํานักงานแหงใหญของนิติบุคคลผูถือกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ
ครอบครองในอสังหารมิ ทรัพยน ้นั ไปดวย เพื่อใหผ ูขอตรวจสอบหลกั ทรพั ยไดตรวจสอบขอมลู วา
เปนบุคคลหรอื นติ ิบุคคลเดยี วกับทีต่ อ งการตรวจสอบหรือไม

กรณีที่หนวยงานของรัฐไดขอตรวจสอบหลักทรัพยและขออายัดอสังหาริมทรัพยน้ัน
โดยใชอํานาจตามกฎหมายท่ีใหอ าํ นาจไวมาพรอมกนั ใหพ นกั งานเจาหนา ที่แจงหนวยงานนนั้
ทราบดวยวา ถา ปรากฏวาไมใ ชบ คุ คลหรือนิติบคุ คลเดยี วกับผูท่ีขอตรวจสอบหลักทรัพย ขอใหแ จง
สาํ นกั งานที่ดินทราบโดยดว น เพอื่ ยกเลิกการอายดั อสงั หารมิ ทรัพยข องผูทไี่ มเกยี่ วของน้นั

ขอ ๒๙ กรณเี อกชนผมู สี ทิ ธติ ามกฎหมายขอตรวจสอบหลกั ทรพั ยข องบคุ คลธรรมดา
หรอื นติ บิ ุคคลตามขอ ๒๗ ใหผขู อระบเุ ลขประจําตัวประชาชน (เลข ๑๓ หลัก) หรอื เลขทะเบียน
นิตบิ คุ คล (เลข ๑๓ หลกั ) ของผถู กู ตรวจสอบหลักทรพั ยดวย หากตรวจพบรายชื่อทขี่ อตรวจสอบ
หลกั ทรัพย ใหพ นักงานเจา หนา ทีต่ รวจสอบวาเปน บุคคลหรอื นิติบคุ คลเดียวกบั ผทู ่หี นวยงานน้นั
ระบเุ ลขประจําตวั ประชาชนหรอื เลขทะเบียนนติ ิบคุ คลไวใ นคําขอหรือไม

กรณที ่ีผขู อไมส ามารถระบเุ ลขประจาํ ตวั ประชาชน หรือเลขทะเบียนนิติบคุ คลของ
ผูถ ูกตรวจสอบได และพนกั งานเจา หนา ท่ีตรวจพบวา ผถู ูกตรวจสอบหลกั ทรพั ยเปนผถู อื กรรมสิทธิ์
หรอื สทิ ธคิ รอบครองในอสงั หารมิ ทรพั ยใ นการแจง ผลการตรวจสอบหลกั ทรพั ย ใหพ นกั งานเจา หนา ท่ี
ระบเุ ลขประจาํ ตัวประชาชน พรอมแจงชอ่ื บิดา มารดา และอายุของบคุ คล หรือเลขทะเบียน
นิติบุคคลและท่ีตั้งสํานักงานแหงใหญของนิติบุคคลผูถือกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองใน
อสังหาริมทรัพยน้ันไปดวย เพื่อใหผขู อตรวจสอบหลักทรพั ยไดตรวจสอบขอ มูลวาเปนบุคคลหรือ
นิตบิ คุ คลเดียวกบั ท่ตี อ งการตรวจสอบหรือไม

ขอ ๓๐ กรณีทห่ี นว ยงานของรฐั ซ่ึงอาศยั อาํ นาจตามกฎหมาย เชน มาตรา ๑๒ ตรี
แหงประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๔ แหงพระราชบัญญัติปองกันและปราบปรามยาเสพติด
พ.ศ. ๒๕๑๙ มาตรา ๒๕ แหง พระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วาดว ยการปอ งกันและปราบ
ปรามการทจุ รติ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๓๘ แหงพระราชบญั ญตั ปิ องกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๔๒ แหง พระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู วาดว ยการตรวจเงินแผนดนิ
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๔ แหง พระราชบัญญตั ิการสอบสวนคดพี ิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ และมาตรา ๑๘

๔๓๔

แหง พระราชบญั ญตั มิ าตรการของฝา ยบรหิ ารในการปอ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ.๒๕๕๑
เปน ตน ขอตรวจสอบหลักทรัพยของบคุ คลหรอื นติ ิบุคคลใด ถือวา เปนหนา ท่ที พ่ี นกั งานเจาหนาที่
ตองปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ไมตอ งเรยี กเก็บคา ธรรมเนียมในการตรวจสอบการคัดหรือถา ยสาํ เนา
เอกสารหรือคารับรองเอกสารเพื่อสงสําเนาเอกสารใหแกหนวยงานตามท่ีกฎหมายกําหนดแม
จะเปนการตรวจสอบการคัดหรือสําเนาเอกสารจากส่ือบันทึกขอมูลทางคอมพิวเตอรหรือส่ือ
อเิ ลก็ ทรอนิกสอืน่

หมวด ๔
คา ธรรมเนียม
______________

สว นที่ ๑
คา ธรรมเนยี มการตรวจหลกั ฐานทะเบียนท่ีดิน

______________
ขอ ๓๑ คาธรรมเนียมตรวจหลักฐานทะเบยี นที่ดิน ณ สํานักงานทดี่ นิ และทาง
ไปรษณีย ใหเรยี กเก็บ ดงั นี้
(๑) คาคําขอใหเรียกเก็บแปลงละ ๕ บาท ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๗
(พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซง่ึ แกไ ข
เพิ่มเตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใช
ประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๒ (๑๐) (ก)
(๒) คาตรวจหลกั ฐานทะเบยี นที่ดิน ใหเ รียกเก็บ ดังนี้

(๒.๑) กรณีตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดินจากส่ือบันทึกขอมูลทางคอมพิวเตอร
หรอื สอ่ื อิเลก็ ทรอนิกสอ ื่น รวมทั้งขอ มูลแปลงท่ดี นิ ทางระบบ Land Information System (LIS) ให
เรียกเกบ็ ครัง้ ละ ๑๐๐ บาท (คาํ ขอละ) ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ.๒๕๕๑) ออกตามความ
ในพระราชบัญญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซงึ่ แกไ ขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ.๒๔๙๗
ขอ ๒ (๑๐) (ญ)

(๒.๒) กรณีตรวจหลักฐานทะเบยี นทด่ี ินดวยมือ ใหเรยี กเก็บเปนรายแปลงๆ ละ
๑๐ บาท ตามกฎกระทรวงฉบบั ท่ี๔๗ (พ.ศ.๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวล
กฎหมายทีด่ ิน พ.ศ.๒๔๙๗ ซึ่งแกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๓ (พ.ศ.๒๕๔๙) ออกตาม
ความในพระราชบญั ญัตใิ หใชป ระมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ.๒๔๙๗ ขอ ๒ (๑๐) (ง)

๔๓๕

สวนท่ี ๒
คา ธรรมเนยี มการตรวจสอบหลกั ทรัพย

______________
ขอ ๓๒ คา ธรรมเนียมตรวจสอบหลกั ทรัพย ใหเ รียกเกบ็ ดงั น้ี
(๑) คาคําขอใหเรียกเก็บตามจํานวนรายลูกหนี้ท่ีขอตรวจสอบ รายละ ๕ บาท
อนโุ ลมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใช
ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซ่งึ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ.๒๔๙๗ ขอ ๒ (๑๐) (ก) เชน
ขอตรวจสอบหลกั ทรัพยข องลกู หนต้ี ามคําพิพากษาถึงทส่ี ุด จํานวน ๒ ราย ในคาํ ขอเดียวกนั ให
เรียกเกบ็ คา คําขอ รายละ ๕ บาท รวมเปน ๑๐ บาท เปน ตน
(๒) คา ตรวจสอบหลกั ทรัพย ใหเ รียกเกบ็ ดงั นี้

(๒.๑) กรณีตรวจจากสื่อบนั ทึกขอมูลทางคอมพิวเตอร หรอื ส่ืออเิ ล็กทรอนกิ สอ่ืน
ใหเ รยี กเกบ็ คา ตรวจสอบ ครั้งละ ๑๐๐ บาท (คาํ ขอละ) ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๗ (พ.ศ.๒๕๔๑)
ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึง่ แกไขเพมิ่ เตมิ โดย
กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใชประมวลกฎหมาย
ทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๒ (๑๐) (ญ) ไมวา ในคาํ ขอนัน้ จะขอตรวจสอบรายชือ่ ก่รี ายก็ตาม เชน
ยน่ื คาํ ขอตรวจสอบ จํานวน ๑๒ ราย ในคําขอฉบบั เดยี วกัน ใหพ นกั งานเจาหนาท่ีเรยี กเกบ็
คาตรวจสอบตามจาํ นวนคาํ ขอ คาํ ขอละ ๑๐๐ บาท แมวา ในคําขอฉบับเดียวจะขอตรวจสอบ
รายชอ่ื จาํ นวน ๑๒ ราย ก็ตาม

(๒.๒) กรณีท่ีไมสามารถตรวจจากสื่อบันทึกขอมูลทางคอมพิวเตอร หรือส่ือ
อเิ ล็กทรอนิกสอ ่ืนได และหากสามารถตรวจสอบไดดวยมอื ใหเรียกเกบ็ เปน รายแปลงทด่ี นิ ตาม
ทต่ี รวจสอบพบ แปลงละ ๑๐ บาท ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความ
ในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๒ (๑๐) (ง) หากตรวจไมพบไมต องเรยี กเก็บคาตรวจสอบ

สว นที่ ๓
คาธรรมเนียมการขอถายเอกสารรปู แผนที่จากระวางแผนที่

______________
ขอ ๓๓ คาธรรมเนียมคําขอถายเอกสารรูปแผนท่ีจากระวางแผนท่ี ใหคิดเปน
รายแปลงตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใช
ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึง่ แกไ ขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙)

๔๓๖

ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๒ (๑๐) (ก)
แปลงละ ๕ บาท เชน ขอถา ยเอกสารรูปแผนที่จากระวางแผนท่ีโดยระบจุ ํานวนแปลงทข่ี อถาย
๕ แปลง คดิ คา ธรรมเนยี มคาคาํ ขอ ๕ แปลงๆ ละ ๕ บาท รวมเปน เงนิ ๒๕ บาท

การขอถา ยเอกสารรปู แผนที่จากระวางแผนที่ จาํ นวน ๑ ระวาง ใหค ดิ คาคําขอตาม
จํานวนแปลงที่ปรากฏในระวางแผนที่นนั้ เชน ในระวางแผนท่ี มรี ปู แผนท่ีจํานวน ๕๐ แปลง ใหคิด
คาคาํ ขอ ๕๐ แปลง

สว นท่ี ๔
คาธรรมเนยี มและคาใชจ า ย การคัด การถา ยสาํ เนาเอกสาร
และสาํ เนาจากสอ่ื บนั ทึกขอ มลู ทางคอมพวิ เตอรห รือสือ่ อเิ ล็กทรอนกิ สอ ่ืน

______________
ขอ ๓๔ คา คดั สําเนาเอกสารตางๆ รวมท้งั คาคัดสําเนาเอกสารเปน พยานในคดีแพง
โดยพนักงานเจาหนา ที่เปนผูคดั ใหเรียกเกบ็ ตามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออก
ตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดย
กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ.๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมาย
ทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๒ (๑๐) (ข)
ขอ ๓๕ คาถา ยสําเนาเอกสาร และคา สําเนาจากสือ่ บนั ทึกขอมลู ทางคอมพิวเตอร
หรือสอื่ อเิ ล็กทรอนิกสอ ืน่ ใหเรียกเกบ็ ดงั นี้
(๑) กรณเี ปน การจัดทําสาํ เนาโดยเครอ่ื งถายเอกสารของทางราชการ ใหเ รียกเกบ็
คา ถายสาํ เนาเอกสารโดยเคร่ืองถายเอกสารคดิ ตามขนาดกระดาษ ตามประกาศคณะกรรมการ
ขอมูลขาวสารของราชการและประกาศกรมที่ดินเกี่ยวกับการเรียกเก็บคาธรรมเนียมการขอสําเนา
หรือขอสาํ เนาทีม่ ีคาํ รบั รองถูกตองของขอ มูลขา วสารของราชการ
(๒) กรณีเปนการจัดทําสําเนากระดาษ จากสื่อบันทึกขอมูลทางคอมพิวเตอร
หรอื ส่อื อิเล็กทรอนกิ สอ ื่น ใหเรยี กเก็บคา ธรรมเนียม แผน ละ ๕๐ บาท (ไมร วมกรณี CD–ROM /
Diskette) ตามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ช
ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซง่ึ แกไ ขเพิม่ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๒ (๑๐) (ฎ)

สวนท่ี ๕
คาธรรมเนยี มการรบั รองสาํ เนาเอกสาร

______________
ขอ ๓๖ คา ธรรมเนยี มการใหค าํ รับรองถกู ตองของสําเนาเอกสารทะเบยี นทด่ี ิน และ
หนังสอื แสดงสทิ ธิในทดี่ นิ ใหเรียกเก็บคา ธรรมเนียมการรบั รอง ฉบบั ละ ๑๐ บาท ตามกฎกระทรวง

๔๓๗

ฉบบั ท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
ซึ่งแกไขเพิม่ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญัติ
ใหใชป ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๒ (๑๐) (ค)

การรบั รองสําเนาเอกสาร ใหเ รยี กเกบ็ เปน รายฉบับ ฉบับละ ๑๐ บาท แมว าเอกสาร
ทข่ี อรับรองสาํ เนาฉบบั หนง่ึ ๆ จะมีหลายหนาตอ งถือวา เปน ๑ ฉบบั เชน ขอถายสําเนาโฉนดที่ดนิ
๑ ฉบับ ซง่ึ มี ๓ หนา ใหเรียกเกบ็ คา รับรอง ๑๐ บาท

สวนที่ ๖
คาพยาน
______________
ขอ ๓๗ คาํ ขอตรวจหลกั ฐานทะเบียนท่ีดิน ขอคดั ขอถา ยสาํ เนาเอกสาร และขอ
ตรวจสอบหลกั ทรัพย หามพนักงานเจาหนาทเ่ี รยี กเกบ็ คาพยานในคําขอ เวนแตผขู อประสงคจ ะ
ใหพนกั งานเจาหนา ทล่ี งนามในฐานะพยานไวเปน หลักฐานในคาํ ขอ กใ็ หผขู อแสดงความประสงค
ไวในคําขอนน้ั ๆ พนักงานเจา หนา ที่จึงจะลงนามเปน พยาน และใหเ รยี กเกบ็ คา พยาน คนละ ๑๐
บาท ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวล
กฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแกไ ขเพมิ่ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๘ (พ.ศ. ๒๕๔๒) ออกตาม
ความในพระราชบัญญตั ิ ใหใชป ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๔ (๖)

สว นที่ ๗
คาธรรมเนียมและคา ใชจายเก่ยี วกบั อาคารชุดและหองชดุ

______________
ขอ ๓๘ คาธรรมเนียมการตรวจหลักฐานทะเบียนและคาธรรมเนียมการตรวจสอบ
หลกั ทรัพยเกี่ยวกับอาคารชดุ และหอ งชุด ไดแ ก คา คําขอ คาตรวจสอบ คาถา ยสาํ เนาเอกสาร
หรอื คาสําเนาจากสื่อบันทึกขอ มูลทางคอมพิวเตอร หรือสอ่ื อิเล็กทรอนกิ สอ น่ื หรอื สําเนาขอ มูลอื่น
และคา รับรองเอกสาร ใหเ รยี กเก็บตามกฎกระทรวงกาํ หนดคาธรรมเนียมและคา ใชจ า ยเกี่ยวกับ
อาคารชดุ พ.ศ. ๒๕๕๓ ขอ ๑ (๘) และหามพนักงานเจาหนาทเี่ รยี กเกบ็ คาพยานในคําขอ เวนแต
ผูขอประสงคจะใหพนักงานเจาหนาท่ีลงนามในฐานะพยานไวเปนหลักฐานในคําขอ ก็ใหผูขอ
แสดงความประสงคไ วในคาํ ขอน้นั ๆ พนักงานเจาหนาท่ีจงึ จะลงนามเปนพยานและใหเ รียกเกบ็
คา พยาน คนละ ๒๐ บาท ตามกฎกระทรวงกําหนดคา ธรรมเนียมและคาใชจา ยเกยี่ วกับอาคารชุด
พ.ศ. ๒๕๕๓ ขอ ๒ (๒)

ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
(ลงชอ่ื ) บญุ เชิด คิดเห็น
(นายบุญเชิด คดิ เห็น)
อธบิ ดีกรมท่ีดิน
๔๓๘

แบบหนงั สือแจงผลการตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดินทางไปรษณยี  ตามขอ ๒๓ (๓)

ท่ี................/................ สาํ นกั งานท่ีดนิ .........................

วันท.่ี .........เดอื น....................พ.ศ. ..........

เรื่อง แจง ผลการตรวจหลักฐานทะเบยี นทดี่ ินทางไปรษณีย

เรียน ............................................................

อา งถงึ หนงั สือ.....................ลงวนั ที.่ .......เดือน.....................พ.ศ. ....

ตามทข่ี อตรวจหลกั ฐานทะเบยี นท่ีดนิ และสง เงนิ คา ธรรมเนียมไป จาํ นวน..................บาท
เพอ่ื ขอตรวจหลักฐานทะเบียนทีด่ นิ
■ โฉนดที่ดิน/หนังสอื รบั รองการทําประโยชน เลขที่...............................หมูที่................
ตําบล..............................อําเภอ..............................จงั หวดั ..............................
■ หนงั สอื กรรมสทิ ธ์ิหองชดุ เลขที่.....................ชัน้ ท.ี่ ...........อาคารเลขท.่ี .....................
ช่ืออาคารชุด..............................ทะเบยี นอาคารชุดเลขท.่ี ..............ตั้งอยบู นโฉนดที่ดินเลขท.่ี ...............
ตาํ บล..............................อําเภอ..............................จังหวดั ..............................นัน้
บดั นี้ สํานกั งานที่ดนิ ....................ไดต รวจสอบแลวเมอ่ื วันท่.ี ........เดอื น.............พ.ศ. ....
เวลา...................น. ขอเรยี นดงั นี้
๑. ชือ่ ผูถ ือกรรมสทิ ธิ์/สทิ ธิครอบครองปจจบุ นั คือ.........(ใสช ื่อผูถือกรรมสิทธทิ์ กุ คน)........
ไดที่ดนิ มาโดย.............................................................เม่อื วันท.ี่ ..........เดือน.........................พ.ศ. ....
๒. ผลการตรวจภาระผูกพัน/การอายัด/การออกใบแทน
■ ไมม ีภาระผกู พัน ■ มีภาระผกู พัน คือ.........................................
■ ไมมีการยดึ หรืออายดั ■ มีการยดึ หรืออายัด ตาม...............................
■ หนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ /กรรมสทิ ธห์ิ อ งชดุ ฉบบั เจา ของทด่ี นิ ไมม กี ารออกใบแทน
■ หนงั สือแสดงสิทธใิ นท่ดี ิน/กรรมสิทธห์ิ องชุด ฉบบั เจาของทีด่ นิ ปจ จุบันเปน ใบแทน
ออกให เมอื่ วนั ที.่ ..........เดอื น..........................พ.ศ. ....
๓. เงินคาธรรมเนียมเหลือคืน จํานวน.................บาท (สง คนื โดยเชค็ ไปรษณีย/ ธนาณัติ/
หรอื ใหไ ปรับคนื ณ สํานักงานที่ดนิ ภายใน ๓๐วนั )
ทั้งนี้ สาํ นกั งานที่ดนิ ........................ไดเรียกเก็บคา ธรรมเนยี มเปน คา คาํ ขอ............แปลง
เปน เงิน..................................บาท คาตรวจหลักฐานทะเบียนทีด่ ิน/หองชุด.........................แปลง/หอ ง
เปนเงิน..................................บาท รวมเปน เงนิ .................................บาท
อน่งึ ผลการตรวจหลกั ฐานทะเบียนที่ดินทแ่ี จงมาใหทราบนี้ อาจมีการเปลีย่ นแปลงไป
หลังจากวนั เวลา ท่ีไดต รวจสอบ ฉะนั้น กรณที ่ีผขู อประสงคจ ะนําไปใชเพือ่ อา งอิงขอมลู ใดๆ ควรย่นื ขอ
ตรวจหลักฐานทะเบียนทดี่ ิน ณ สํานกั งานท่ดี ินทองท่ซี งึ่ ท่ดี นิ ตง้ั อยูอีกครัง้ หนง่ึ

..................................... ขอแสดงความนับถอื
โทร. ............................. ลงชอื่ ..........................................

(........................................)
ตําแหนง ...........................................

๔๓๙

แบบหนังสือแจง ขอขัดของ ตามขอ ๒๓ (๑) และ (๔)

ท.่ี .............../................ สาํ นกั งานทดี่ นิ .........................

วันที.่ .........เดอื น....................พ.ศ. ..........

เร่อื ง แจง ขอ ขดั ขอ งการตรวจหลกั ฐานทะเบียนทีด่ ินทางไปรษณยี 

เรยี น ............................................................

อางถงึ หนังสือ.....................ลงวนั ท่.ี .......เดือน.....................พ.ศ. ....

ตามทีข่ อตรวจหลักฐานทะเบียนทด่ี นิ และสง เงนิ คา ธรรมเนียมไป จาํ นวน..................บาท
เพื่อขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทดี่ นิ

■ โฉนดทีด่ นิ /หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน เลขที่...............................หมทู ี่................
ตาํ บล..............................อําเภอ..............................จงั หวดั ..............................

■ หนงั สอื กรรมสทิ ธิห์ อ งชุด เลขท.่ี ....................ชั้นท่.ี ...........อาคารเลขท่.ี .....................
ชือ่ อาคารชดุ ..............................ทะเบียนอาคารชุดเลขท.่ี ..............ต้งั อยบู นโฉนดที่ดินเลขที่................
ตําบล..............................อําเภอ..............................จงั หวดั ..............................นั้น

สาํ นกั งานทด่ี นิ ..............................ไดต รวจสอบแลว ไมส ามารถดาํ เนนิ การตรวจหลกั ฐาน
ทะเบยี นทด่ี นิ (โฉนดทด่ี นิ /หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชน/ หนงั สอื กรรมสทิ ธห์ิ อ งชดุ ) ดงั กลา วได เนอ่ื งจาก

■ ไมพบหลกั ฐาน (โฉนดทีด่ ิน/หนงั สือรบั รองการทําประโยชน/หนงั สอื กรรมสิทธห์ิ องชุด)
ทท่ี า นขอตรวจสอบ จงึ ไมอ าจดาํ เนนิ การตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ ใหท า นได และไดส ง เงนิ คา ธรรมเนยี ม
จาํ นวน...............................บาท คนื มาโดย...............(เชค็ ไปรษณยี / ธนาณตั )ิ ................

■ ใหน าํ สง เอกสารเพ่ิมเติม.........................................................................................
หรอื นําสงคา ธรรมเนียม เพ่มิ อีก จํานวน......................................บาท

■ อนื่ ๆ......................................................................................................................
ดังน้ัน จึงขอใหทานนําสงเอกสารเอกสารหลักฐาน/เงินคาธรรมเนียม ดังกลาวขางตน
ไปยงั สํานักงานที่ดนิ ..............................โดยดว น และสง ซองจดหมายปดแสตมปจ าหนาซองถึงตัวทา น
เพ่ือจะไดแ จง ผลการตรวจสอบใหทราบตอไป

ขอแสดงความนับถือ
ลงชอื่ ..........................................

(........................................)
ตําแหนง ...........................................

.....................................
โทร. .............................

๔๔๐

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๕๒๒๘ (สําเนา)
กรมทด่ี นิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลกั ส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๗ กันยายน ๒๕๕๖

เร่อื ง การรับคาํ ขอและการจดทะเบียนตางสํานกั งานที่ดนิ
เรยี น ผวู า ราชการจังหวดั ทกุ จงั หวดั
อา งถึง ๑. ระเบียบกรมทีด่ นิ วา ดว ยการรบั คาํ ขอจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรมเกย่ี วกบั

อสงั หารมิ ทรัพยส าํ หรับทด่ี นิ ทมี่ โี ฉนดทดี่ นิ ใบไตสวน หรือหนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน
ณ สาํ นักงานทด่ี ินแหง ใดแหง หนึ่ง พ.ศ.๒๕๕๔
๒. หนงั สือกรมทีด่ ิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๙๘๑๘ ลงวันท่ี ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๑

ดวยปรากฏวา มสี าํ นักงานท่ดี ินแหงหนง่ึ รับคําขอจดทะเบียนตา งสาํ นักงานท่ดี ิน
ตามระเบยี บกรมทีด่ นิ วา ดว ยการรับคาํ ขอจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมเกี่ยวกบั อสงั หาริมทรัพย
สาํ หรบั ทด่ี นิ ท่มี โี ฉนดทดี่ ิน ใบไตสวน หรือหนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชน ณ สาํ นักงานทดี่ ิน
แหงใดแหงหน่ึง พ.ศ. ๒๕๕๔ แตไดสงเอกสารเร่ืองราวการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให
สํานักงานท่ีดินทองท่ีเพื่อดําเนินการจดทะเบียนลาชากวาระยะเวลาที่ระเบียบกรมที่ดินกําหนด
ซงึ่ ตอมาปรากฏวา ผูถอื กรรมสทิ ธิใ์ นโฉนดท่ดี ินดงั กลา วซึ่งเปนบคุ คลธรรมดาไดเ สยี ชีวิตไปกอ น
ที่พนกั งานเจา หนา ที่ ณ สํานักงานทีด่ ินทองท่ีจะจดทะเบยี น เปน เหตใุ หการจดทะเบียนสิทธิและ
นิตกิ รรมไมช อบดวยกฎหมาย ซึ่งจะตอ งดาํ เนินการตามมาตรา ๖๑ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน

กรมท่ีดินพิจารณาแลวเห็นวา ตามระเบียบกรมที่ดินที่อางถึง ๑. ไดกําหนด
ใหสํานักงานที่ดินท่ีรับคําขอและสํานักงานท่ีดินทองท่ีท่ีมีหนาท่ีจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ตอ งดําเนินการใหแลวเสรจ็ ภายในระยะเวลาทก่ี าํ หนดไว กลาวคอื ภายใน ๓ วันทาํ การและ
๕ วันทําการตามลําดับ แตเนื่องจากการจดทะเบียนกรณีดังกลาวเปนการจดทะเบียนตาง
สํานกั งานท่ีดิน ซ่งึ มีชว งระยะเวลาในการสง เอกสารระหวางสาํ นกั งานทด่ี ิน และชวงระยะเวลา
ดําเนนิ การในสว นทีเ่ ก่ยี วขอ ง แมระเบียบกรมที่ดนิ จะกําหนดเวลาใหด าํ เนินการแลว เสรจ็ ไว และ
แมว าพนกั งานเจา หนาท่ีจะไดป ฏิบตั ิตามระเบียบดงั กลา วโดยเครงครดั ก็ตาม ในชว งระยะเวลา
ระหวางการสงเอกสารและดําเนินการในสวนท่ีเกี่ยวของก็อาจเกิดเหตุการณกรณีดังกลาวข้ึนได
ดังน้ันเพื่อเปนการปองกันปญหากรณีดังกลาว จึงขอใหกําชับแกพนักงานเจาหนาที่ดําเนินการ
ดังน้ี

๔๔๑

๑. สํานักงานที่ดินท่ีรับคําขอ ใหพนักงานเจาหนาท่ีเรงรัดดําเนินการภายใน
กําหนดระยะเวลาตามระเบยี บกรมทีด่ นิ ดงั กลาวโดยเครง ครดั และใหบ นั ทึกคูกรณรี ับทราบถึง
ผลตามกฎหมายของการย่ืนคําขอและการจดทะเบียนไวดานหลังสัญญาหรือบันทึกขอตกลง
ดวยวา การย่นื คาํ ขอจดทะเบียนตา งสํานักงานทีด่ นิ จะมผี ลสมบรู ณต ามกฎหมายเม่อื พนักงาน
เจา หนาที่ ณ สํานกั งานท่ดี นิ ทอ งท่ีไดจ ดทะเบียนแลว

๒. สาํ นกั งานทีด่ นิ ทองที่ ใหพนกั งานเจา หนา ทเ่ี รงรัดดําเนินการภายในกําหนด
ระยะเวลาตามระเบยี บกรมทด่ี ินดังกลาวโดยเครงครัด และในการตรวจสอบสภาพบคุ คลของผูขอ
กรณเี ปน บคุ คลธรรมดา ใหด าํ เนินการ ดงั นี้

๒.๑ กรณีสํานักงานท่ีดินที่ใชระบบคอมพิวเตอรเพ่ือการจดทะเบียนสิทธิและ
นติ กิ รรมแลว กอ นจดทะเบียนใหพนักงานเจาหนาทต่ี รวจสอบขอมลู ของผขู อท้งั สองฝา ยจากฐาน
ขอมลู ทะเบียนกลาง เพอื่ การปฏบิ ตั ิงานเกี่ยวกับการจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรมใหทราบวาผูข อ
ยังมีสภาพบุคคลอยูหรือไม ทั้งนี้ตามบันทึกขอตกลงวาดวยการขอใชประโยชนขอมูลทะเบียน
ประวัติราษฎรจากฐานขอมูลทะเบียนกลางดวยระบบคอมพิวเตอรโดยวิธีการ COUNTER
SERVICE ระหวา ง สาํ นักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กบั กรมทีด่ ิน ตามหนงั สอื ท่ีอางถงึ ๒.

๒.๒ กรณีสํานักงานที่ดินที่ไมไดใชระบบคอมพิวเตอรเพ่ือการจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมใหพนักงานเจาหนาที่ทําหนังสือหรือประสานงานดวยวิธีอื่น ขอความรวมมือ
ตรวจสอบขอ มลู ของผูข อทั้งสองฝายกับนายทะเบียนทองถน่ิ เปน กรณีเรง ดว น เพื่อใหทราบวา ผูขอ
มสี ภาพบคุ คลอยหู รอื ไม ทง้ั น้ี ใหเ รง ดาํ เนนิ การใหแ ลว เสรจ็ ภายในกาํ หนดเวลาไมเ กนิ ๕ วนั ทาํ การ
นับแตว นั ท่ีไดรบั เรอ่ื งตามระเบยี บกรมทีด่ นิ ดงั กลาวดว ย

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงพนักงานเจาหนาท่ีทราบและถือปฏิบัติ
โดยเครง ครัดตอ ไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชอ่ื ) บญุ เชิด คิดเห็น

(นายบญุ เชิด คดิ เหน็ )
อธิบดกี รมท่ดี นิ

สํานักมาตรฐานการทะเบียนท่ีดนิ
สว นมาตรฐานการจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ ิกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๕๙
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๔๔๒

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๕๒๖๐ (สาํ เนา)
กรมทด่ี ิน
ศูนยราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๗ กันยายน ๒๕๕๖

เร่อื ง ระเบียบกรมท่ีดนิ วาดว ยการประเมินราคาทุนทรพั ยเ พอ่ื เรยี กเกบ็ คา ธรรมเนยี มในการ
จดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรม และการขอหนังสือรับรองราคาประเมินทนุ ทรัพยท ีด่ ินและ
อสงั หาริมทรพั ยอ ยางอืน่ พ.ศ. ๒๕๕๖

เรยี น ผวู า ราชการจังหวดั ทกุ จังหวัด
ส่ิงท่ีสง มาดวย ระเบยี บกรมที่ดิน วา ดว ยการประเมนิ ราคาทนุ ทรพั ยเ พอ่ื เรยี กเก็บคา ธรรมเนยี ม

ในการจดทะเบียนสทิ ธิและนติ กิ รรม และการขอหนังสอื รบั รองราคาประเมิน
ทนุ ทรพั ยท ่ีดินและอสงั หารมิ ทรัพยอ ยา งอืน่ พ.ศ. ๒๕๕๖

ดวยกรมที่ดินไดออกระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการประเมินราคาทุนทรัพย
เพ่ือเรียกเก็บคาธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และการขอหนังสือรับรองราคา
ประเมินทุนทรัพยที่ดินและอสังหาริมทรัพยอยางอ่ืน พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อใหพนักงานเจาหนาที่
ใชใ นการปฏบิ ัติงานไดอยา งถกู ตอ ง สะดวก รวดเร็วและเปนมาตรฐานเดยี วกัน โดยไดร วบรวม
ระเบียบ หนังสอื เวียน และหนงั สอื ตอบขอ หารือเกี่ยวกบั การประเมินราคาทุนทรพั ยเ พื่อเรียกเก็บ
คาธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และการขอหนังสือรับรองราคาประเมิน
ทุนทรัพยท ี่ดินและอสังหาริมทรพั ยอยา งอื่น นาํ เน้ือหามาปรบั ปรุงและรวบรวมไวใ นระเบียบนเ้ี พอ่ื
ใหเหมาะสมกับสถานการณในปจจุบัน และเปนไปตามกฎหมายวาดวยวิธีปฏิบัติราชการทาง
ปกครอง พระราชบัญญัตขิ อมลู ขา วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ และกฎหมายอ่นื ท่ีเก่ยี วของ
โดยไดยกเลิกหนังสือเวียนเกี่ยวกับการประเมินราคาทุนทรัพยท่ีเก่ียวของและระเบียบกรมที่ดิน
วา ดว ยการขอทราบราคาประเมินทด่ี นิ ทางไปรษณยี  พ.ศ. ๒๕๔๐ รวมท้งั ไดก ําหนดหลกั การใหม
โดยใหพนักงานเจาหนาที่สามารถออกหนังสือรับรองราคาประเมินท่ีดินพรอมสิ่งปลูกสรางกรณี
ที่ผูขอเปนเจาของที่ดินและสิ่งปลูกสรางได รายละเอียดปรากฏตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวย
การประเมินราคาทุนทรัพยเพ่ือเรียกเก็บคาธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และ
การขอหนังสือรับรองราคาประเมินทุนทรัพยที่ดินและอสังหาริมทรัพยอยางอ่ืน พ.ศ. ๒๕๕๖
ตามสง่ิ ท่สี ง มาดวย

๔๔๓

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจงใหพนักงานเจาหนาท่ีทราบและถือปฏิบัติ
พรอมท้ังนําระเบียบกรมท่ีดินดังกลาวไปเพิ่มเติมในหนังสือรวมระเบียบ คําสั่ง เกี่ยวกับการ
จดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรม เพื่อใหส ามารถใชอางองิ ไดอยางถกู ตอง สะดวก และรวดเรว็ ตอ ไป

ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่อื ) บุญเชิด คดิ เหน็

(นายบุญเชิด คดิ เหน็ )
อธิบดีกรมท่ีดนิ

สาํ นักมาตรฐานการทะเบียนที่ดิน
สว นมาตรฐานการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๕๙, ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๕
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๔๔๔

(สําเนา)
ระเบียบกรมทด่ี นิ
วา ดว ยการประเมนิ ราคาทนุ ทรพั ยเ พอ่ื เรยี กเกบ็ คา ธรรมเนยี มในการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม
และการขอหนงั สอื รับรองราคาประเมนิ ทนุ ทรัพยทด่ี ินและอสงั หาริมทรพั ยอยา งอ่นื
____พ_._ศ_._๒_๕_๕__๖____
โดยท่ีเห็นเปนการสมควรใหมีการรวบรวมปรับปรุงหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับ
การประเมนิ ราคาทนุ ทรพั ย เพอ่ื เรียกเก็บคาธรรมเนยี มในการจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ ิกรรม และ
การขอหนงั สอื รบั รองราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยท ่ีดินและอสงั หาริมทรพั ยอยา งอื่น เพอื่ ใหพนักงาน
เจา หนาท่ีใชในการปฏบิ ัตงิ านไดอยางถกู ตอง สะดวก รวดเร็ว และเปนมาตรฐานเดยี วกนั
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แหงพระราชบัญญตั ริ ะเบียบบรหิ ารราชการ
แผนดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซงึ่ แกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติระเบยี บบริหารราชการแผน ดิน (ฉบบั
ที่ ๕) พ.ศ.๒๕๔๕ ประกอบกบั ขอ ๒ (๑) (๔) และขอ ๑๙ (๑) แหง กฎกระทรวงแบง สว นราชการ
กรมทดี่ ิน กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๕๓ ออกตามความในพระราชบญั ญัติระเบยี บบรหิ าร
ราชการแผนดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ อธิบดีกรมท่ดี ินจึงวางระเบยี บไวดังตอไปน้ี
ขอ ๑ ระเบียบนเ้ี รยี กวา “ระเบียบกรมท่ีดิน วา ดวยการประเมนิ ราคาทุนทรัพย
เพื่อเรียกเก็บคาธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการขอหนังสือรับรองราคา
ประเมนิ ทนุ ทรพั ยที่ดินและอสงั หารมิ ทรัพยอ ยา งอ่ืน พ.ศ. ๒๕๕๖”
ขอ ๒ ระเบยี บน้ีใหใ ชบ งั คับตัง้ แตบ ัดน้ีเปนตนไป
ขอ ๓ ใหยกเลิก
(๑) หนงั สือกรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๖๑๒/๑/ว ๑๓๘๘๒ ลงวนั ที่ ๒๗ มถิ นุ ายน ๒๕๒๖
(๒) หนงั สอื กรมท่ีดนิ ดว นมาก ท่ี มท ๐๗๑๓/ว ๑๐๖๗๙ ลงวันที่ ๘ พฤษภาคม
๒๕๒๘
(๓) หนงั สอื กรมท่ีดนิ ดว นทส่ี ุด ท่ี มท ๐๗๑๔/ว ๘๒๔ ลงวนั ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๓๑
(๔) หนงั สือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๗๑๔/ว ๗๙๔๓ ลงวนั ที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๓๑
(๕) หนังสอื กรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๖๒๐/๑๓๓๑๒ ลงวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๕
(๖) หนังสือกรมทด่ี ิน ท่ี มท ๐๖๑๐/ว ๑๐๒๘๐ ลงวันท่ี ๑๖ เมษายน ๒๕๓๖
(๗) ระเบยี บกรมที่ดนิ วา ดวยการใหใ ชบ ันทึกการประเมินราคาทรัพยส ิน (ท.ด. ๘๖)
พ.ศ. ๒๕๓๖
(๘) หนังสอื กรมที่ดิน ที่ มท ๐๗๒๐/ว ๑๖๑๒๕ ลงวนั ท่ี ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๐
(๙) ระเบยี บกรมทด่ี นิ วา ดว ยการขอทราบราคาประเมนิ ทด่ี นิ ทางไปรษณยี  พ.ศ.๒๕๔๐

๔๔๕

(๑๐) หนังสอื กรมทีด่ นิ ดวนทีส่ ุด ท่ี มท ๐๗๒๐.๑/ว ๓๓๓๘๒ ลงวนั ที่ ๑๘ พฤศจิกายน
๒๕๔๑

(๑๑) หนงั สือกรมท่ีดนิ ดวนทสี่ ดุ ท่ี มท ๐๗๒๐.๑/ว ๓๘๓๓๑ ลงวันท่ี ๒๙ ธนั วาคม
๒๕๔๑

(๑๒) หนังสือกรมทดี่ ิน ที่ มท ๐๗๒๐.๑/ว ๒๖๕๕๒ ลงวันท่ี ๖ สงิ หาคม ๒๕๔๒
(๑๓) หนังสอื กรมท่ดี ิน ท่ี มท ๐๗๒๐.๑/ว ๒๗๗๓๑ ลงวันท่ี ๑๒ กนั ยายน ๒๕๔๓
(๑๔) หนงั สือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๗๒๗/ว ๓๘๙๔๐ ลงวนั ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๓
(๑๕) หนงั สอื กรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๗๒๗.๑/ว ๐๙๓๙๘ ลงวันท่ี ๑๒ เมษายน ๒๕๔๔
(๑๖) หนงั สอื กรมที่ดิน ท่ี มท ๐๗๒๗.๑/ว ๑๗๘๗๕ ลงวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๔
(๑๗) หนังสือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๗๒๘/ว ๑๑๘๑๗ ลงวันท่ี ๑๐ เมษายน ๒๕๔๕
(๑๘) หนังสือกรมที่ดนิ ดว นทส่ี ุด ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๓๕๔๔๗ ลงวันท่ี ๒๖ พฤศจกิ ายน
๒๕๔๕
(๑๙) หนังสอื กรมท่ดี นิ ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๒๖๕๘๖ ลงวนั ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๖
(๒๐) หนงั สือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๖๓๐๙ ลงวนั ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๗
(๒๑) หนังสือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๖๒๓๖ ลงวนั ที่ ๑ มถิ ุนายน ๒๕๔๘
(๒๒) หนงั สอื กรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๒๕๔๖๐ ลงวันท่ี ๑๙ กันยายน ๒๕๕๑
(๒๓) หนังสือกรมทดี่ ิน ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๕๐๘๘ ลงวนั ท่ี ๓ มิถุนายน ๒๕๕๒
(๒๔) หนงั สอื กรมทดี่ นิ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๑๐๒๑ ลงวันท่ี ๒๗ เมษายน ๒๕๕๔
(๒๕) หนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๐๔๗๙ ลงวันท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๕๖
ขอ ๔ บรรดาระเบยี บ ขอ กาํ หนด หรอื คาํ ส่ังอื่นใดท่ีกาํ หนดไวแ ลว ในระเบยี บนี้ หรอื
ซง่ึ ขัด หรือแยง กบั ระเบียบนี้ ใหใ ชระเบยี บนี้แทน
ขอ ๕ ใหผูอํานวยการสํานักมาตรฐานการทะเบียนท่ีดินเปนผูรักษาการตาม
ระเบียบน้ี

หมวด ๑
การประเมนิ ราคาทนุ ทรพั ยทด่ี นิ และทดี่ นิ พรอมส่ิงปลกู สราง

______________
สว นที่ ๑

การประเมนิ ราคาทนุ ทรพั ยเ พอ่ื เรยี กเกบ็ คา ธรรมเนยี มในการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม
______________

ขอ ๖ การประเมินราคาทุนทรัพยของพนักงานเจาหนาท่ีเพ่ือเรียกเก็บคาธรรมเนียม
ภาษีเงนิ ไดห กั ณ ทจ่ี า ย ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป ในการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม
เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยประเภทท่ีพนักงานเจาหนาท่ีตองประเมินราคาทุนทรัพย ใหพนักงาน

๔๔๖


Click to View FlipBook Version