อ13101

• Cut.

33

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 th, ch and sh sounds เวลา 1 ช่วั โมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียงคาํ ศพั ทไ์ ด้
- ระบชุ อื่ และเสยี งของตัวอักษรได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งทฟ่ี งั และอ่านจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตุผล
ตัวชวี้ ัด
ต 1.1 ป. 3/2 อา่ นออกเสียงคํา สะกดคาํ อา่ นกลุ่มคาํ ประโยค และบทพูดเขา้ จงั หวะ (chant) ง่าย ๆ

ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ป. 3/3 เลอื ก/ระบุภาพหรอื สัญลกั ษณต์ รงตามความหมายของกล่มุ คําและประโยคท่ฟี งั

2. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด
การร้จู กั ชือ่ และเสยี งของตวั อกั ษร เปน็ พื้นฐานในการอ่านออกเสยี งและสะกดคําศัพท์ท่ีเรียน

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features
Vocabulary: three, thirteen, thin, chicken, chips, cheese, shirt, shoes, shorts
Pronunciation: th, ch and sh sounds
2) Language Skill
Reading: อ่านออกเสียงคําศพั ทท์ ี่ขึ้นต้นด้วย th, ch และ sh

4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร

34

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ Warm up

นักเรยี นแบ่งเป็น 2 กลมุ่ เล่นเกม Memory Game โดยครูนําบตั รภาพ 8 ใบ และบัตรคาํ ที่สัมพันธ์กนั
8 ใบ มาวางเรียงคละกันบนพืน้ หน้าห้อง ดงั น้ี

จากนัน้ แต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมาเลือกเปิดบัตร 2 ใบ ถา้ เปดิ ไดบ้ ัตรภาพและบัตรคาํ ท่สี ัมพนั ธ์กนั
ใหเ้ พ่อื นในกลุ่มอา่ นออกเสียงคาํ ศัพทใ์ นบตั รคาํ และบอกความหมาย แลว้ จะได้ 2 คะแนน ถา้ ไมส่ ัมพันธ์
กนั จะต้องควํา่ บตั รภาพไว้เหมอื นเดมิ แล้วให้ตัวแทนอกี กลุม่ ออกมาทาํ กจิ กรรมแทน

ขั้น Presentation
1. สอนคําศัพท์ chicken, chips และ cheese ดังน้ี

• แสดงบัตรภาพ นกั เรียนบอกคําศัพท์ เม่อื ได้คาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง นกั เรยี นออกเสยี งคําศัพท์พรอ้ มกัน
• ครูตดิ บตั รภาพบนกระดานและสมุ่ เรยี กนกั เรียนออกมาเขยี นคาํ ศัพทใ์ ต้บัตรภาพ แลว้ นกั เรยี นอา่ น

ออกเสยี งคําศัพทพ์ ร้อมกัน
• ขดี เสน้ ใต้ ch และถามนักเรียนว่า ch ออกเสียงว่าอยา่ งไร เมอื่ ได้คาํ ตอบว่า /tʃ/ แล้ว ครูอธิบายว่า

เสยี งนี้ออกเสยี งเหมือนเสียงฉึกฉกั ของรถไฟ แลว้ ใหน้ ักเรยี นออกเสยี ง ch ตามครู 2-3 ครัง้
หลังจากนนั้ ครดู งึ บัตรภาพบนกระดานออก แลว้ ใหน้ กั เรยี นอา่ นคําศัพท์บนกระดานอีกคร้งั
2. ครทู ํากจิ กรรมเช่นเดยี วกนั นกี้ บั คําศพั ท์ three, thirteen และ thin เพื่อสอนเสยี ง th โดยใหน้ กั เรยี น
ออกเสยี งนด้ี ว้ ยการเอาลน้ิ แตะทข่ี อบฟันบน จากนั้นทํากิจกรรมเช่นเดยี วกันนก้ี ับคําศพั ท์ shirt, shoes
และ shorts เพ่ือสอนเสยี ง sh โดยบอกวา่ เสียงนอี้ อกเสียงเหมอื นบอกใหผ้ ้อู นื่ เงยี บเสียงลง Shhh!
3. ครูเขยี น ch, th และ sh บนกระดาน แล้วออกเสียงอกี ครง้ั และให้นกั เรยี นออกเสียงตาม ครูชใี้ หน้ กั เรียน
เหน็ วา่ ตัวอักษรเหลา่ น้มี ี 2 ตัว แต่เวลาออกเสียงจะออกเสียงเป็น 1 เสียง

35

ขน้ั Practice

1. ครแู สดงบัตรภาพและออกเสยี งคําศพั ท์ ใหน้ กั เรยี นบอกวา่ คําศพั ทเ์ หลา่ นีข้ ึน้ ตน้ ด้วยตัวอักษรใด

2. นกั เรยี นทาํ ใบงานท่ี 4 (Worksheet 4) Ex. A โดยดูภาพและฟงั ครูออกเสียงคาํ ศพั ท์ จากนั้นวงกลม
ตัวอักษรทขี่ นึ้ ต้นดว้ ยคําศพั ทด์ งั กลา่ ว

1 chips 2 shirt 3 three

4 thin 5 cheese 6 shorts
7 shoes 8 thirteen 9 children

ใบงานท่ี 4 (Worksheet 4) Ex. A 3 th

1 ch 2 sh 6 sh
9 ch
4 th 5 ch
7 sh 8 th

3. นกั เรียนทาํ ใบงานที่ 4 (Worksheet 4) Ex. B ดภู าพและเติมคําใหส้ มบูรณ์ เสรจ็ แล้วครูสุม่ เรียกนกั เรียน
บอกคาํ ตอบและอา่ นออกเสียงคาํ ศัพทท์ งั้ หมดพรอ้ มกนั

ใบงานที่ 4 (Worksheet 4) Ex. B 3 th
6 sh
1 sh 2 ch
4 sh 5 th

ข้ัน Production

1. ครูเขียนคาํ ศัพท์บนกระดานดังน้ี
chicken, chips, chicken, chips, chicken, chips, _____, _____

ครอู ่านออกเสยี งคาํ ศพั ทเ์ หลา่ นี้แบบเปน็ จงั หวะ แล้วใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงไปพรอ้ มกับครู

และบอกว่า คําทีห่ ายไปคือคําว่าอะไร

จากนน้ั ครูทาํ กิจกรรมเช่นเดยี วกันนก้ี บั คาํ ศพั ทท์ ีอ่ ยใู่ นหมวดเดยี วกนั ดงั นี้
shirt, shoes, shirt, shoes, shirt, shoes, _____, _____

36

three, thirteen, three, thirteen, three, thirteen, _____, _____
ตอ่ มาครูทาํ กิจกรรมอีกครัง้ คราวนป้ี รบั pattern เปน็ 1, 2, 3 เช่น

chicken, chips, cheese, chicken, chips, cheese, chicken, chips, cheese, _____, _____
เมอื่ ครบคําศัพทท์ ัง้ หมดแล้ว ครูแบง่ นักเรยี นเปน็ กลมุ่ แล้วให้แตล่ ะกลมุ่ อ่านคาํ ศัพทแ์ บบเขา้ จังหวะ
2. นักเรียนจดคําศพั ท์ในแต่ละแถว (pattern 1, 2, 3) ลงสมดุ ครูสุม่ เรียกนักเรียนอ่านคําศัพทท์ ตี่ นเองจด
แบบเขา้ จังหวะให้เพ่อื นฟงั

7. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวัด ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการอ่านออกเสยี งคาํ ศพั ท์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการระบุตัวอกั ษรจากการฟัง ใบงานที่ 4 (Worksheet 4)
สงั เกตพฤติกรรมบ่งชด้ี า้ นใฝเ่ รียนรู้
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ
อันพึงประสงค์

8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 ใบงานที่ 4 (Worksheet 4)
8.2 บตั รภาพและบตั รคํา

37

ใบงานท่ี 4 (Worksheet 4) 3ƒ
A. Listen and circle ch, sh or th.

‚

ch sh th ch sh th ch sh th
„ … †

ch sh th ch sh th ch sh th
‡ ‰
ˆ 13
ch sh th ch sh th
ch sh th

B. Complete the words. ƒ 13
__ __irteen
‚
†
__ __irt __ __eese

„ …

__ __orts __ __in __ __oes

38

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 8 Short vowel sounds (a, e, i, o, u)

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objective)
- อ่านออกเสยี งคําศพั ทท์ ีม่ สี ระเสียงสนั้ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมเี หตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป. 3/2 อา่ นออกเสียงคํา สะกดคาํ อ่านกล่มุ คาํ ประโยค และบทพดู เขา้ จงั หวะ (chant) ง่าย ๆ

ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาํ ไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชี้วดั
ต 2.1 ป. 3/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกับวัย

2. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด
การรจู้ กั ชือ่ และเสียงของสระ เปน็ พื้นฐานในการอา่ นออกเสยี งและสะกดคาํ ศัพท์

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features
Vocabulary: คําศัพท์ทมี่ ีสระเสยี งส้นั
Pronunciation: vowel sounds (a, e, i, o, u)
2) Language Skill
Reading: อ่านออกเสียงคาํ ศัพท์ทีม่ ีสระเสยี งสน้ั

4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร

39

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้น Warm up

1. ครเู ขยี นตัวอกั ษรต่อไปนบ้ี นกระดาน a, e, i, o, u แลว้ ถามนักเรียนวา่ จาํ เสียงของตัวอักษรเหล่านีไ้ ด้

หรอื ไม่ ตัวอกั ษรเหล่านี้เปน็ เสียงสระหรือพยัญชนะ เม่ือได้คาํ ตอบว่าเสียงสระแลว้ นกั เรยี นชว่ ยกันบอก

เสยี งสระของตัวอกั ษรเหลา่ นี้ จากนนั้ ครูแสดงบตั รภาพและให้นกั เรียนออกเสยี งคําศพั ท์ตามครู

T: (แสดงบัตรภาพแอปเปิล) Apple.

Ss: Apple.

T: A/a , /æ/, apple. (เอ แอะ แอปเปิล)

Ss: A/a , /æ/, apple. (เอ แอะ แอปเปลิ )

ครชู ใ้ี หเ้ หน็ ว่า ชื่อของตวั อกั ษร A/a คอื เอ แต่เสยี งของตัวอักษรคอื แอะ และเปน็ สระเสยี งสัน้ จากน้ันทํา

กิจกรรมเชน่ เดยี วกันนีก้ ับสระทเ่ี หลือ จนนกั เรยี นสามารถบอกชอ่ื และเสยี งของสระ a, e, i, o และ u

ไดค้ รบ

ตวั อักษร เสียง คําศัพท์ อา่ นออกเสยี ง

E/e /e/ egg อี เอะ เอก้

I/i /I/ ink ไอ อิ อิงค

O/o /ɒ/ orange โอ เอาะ ออเรน็ จ

U/u /ʌ/ umbrella ยู อะ อมั เบรลละ

2. ครเู ปิดเพลง The Vowel Song (a e i o u) ของ Maple Leaf Learning จาก www.youtube.com

ใหน้ กั เรยี นฟังและฝกึ รอ้ งตาม เพอ่ื ทบทวนเสยี งสระอกี คร้งั

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
Can you read this word?
/k/ /æ/ /t/ cat

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/

40

Can you read this word?
/b/ /e/ /d/ bed

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
Can you read this word?
/p/ /I/ /g/ pig

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
Can you read this word?
/d/ /ɒ/ /g/ dog

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
Can you read this word?
/b/ /ʌ/ /s/ bus

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/

It is fun to read.

ขั้น Presentation hat pan rat van
1. ครเู ขียนคําศัพทต์ ่อไปน้บี นกระดาน pen ten men web
lip sit wig zip
a - cat log mop top fox
e - bed gum jug nut sun
i - kid
o - dog
u - bus

41

ครูอา่ นออกเสยี งคําศัพท์แบบผสมเสยี งตัวอกั ษร เช่น
/k/ /æ/ /t/ cat
/h/ /æ/ /t/ hat
/p/ /æ/ /n/ pan
/r/ /æ/ /t/ rat
/v/ /æ/ /n/ van

แล้วใหน้ กั เรยี นออกเสียงตามครู
2. สมุ่ เรียกนกั เรยี นอา่ นออกเสยี งคนละ 1 แถว และให้เพือ่ น ๆ อ่านออกเสยี งตามพรอ้ มกัน

ข้ัน Practice
1. ครแู บง่ ตารางเป็น 5 ชอ่ ง บนกระดาน ดงั น้ี

ae i ou

จากน้นั ครแู สดงบัตรภาพทลี ะใบ แล้วสุม่ เรียกนกั เรยี นนําบตั รภาพไปติดลงบนกระดานในช่องของสระที่
ถกู ต้อง เช่น บัตรภาพแมว นกั เรยี นนาํ ไปตดิ ที่ช่อง a เมอ่ื ตดิ ได้ถูกตอ้ งแล้ว นกั เรียนช่วยกนั สะกดคําศัพท์
และอ่านออกเสียงคาํ นี้พร้อมกนั เช่น C-A-T, cat
2. ครแู จกตารางบงิ โก 1 ใหน้ ักเรยี น จากนั้นครสู มุ่ อ่านคาํ ศพั ท์ ให้นักเรียนกากบาทคาํ ศัพทท์ ี่ได้ยิน นักเรยี น
คนใดกากบาทได้ 4 ชอ่ งตดิ กันก่อนในแนวใดกไ็ ด้ ให้ตะโกนวา่ บิงโก
3. ครูแจกตารางบิงโก 2 ใหน้ กั เรยี น และสมุ่ เรยี กนักเรยี นจับฉลากคําศพั ท์ซ่งึ จะเป็นคําศัพทเ์ ดียวกบั ในตาราง
บิงโก 2 แล้วนักเรยี นอา่ นออกเสยี งคาํ ศพั ท์ที่จับฉลากได้ ให้ตนเองและเพ่อื น ๆ กากบาทคําศัพท์
ทไ่ี ด้ยิน นักเรยี นคนใดกากบาทได้ 4 ช่องติดกนั ก่อน ใหต้ ะโกนว่า บงิ โก

ข้นั Production
นกั เรยี นแบ่งกลุ่มคละความสามารถ กลุ่มละ 4 คน เด็กเก่งชว่ ยเหลือเพื่อนในการอา่ นคาํ ศพั ท์ในใบงาน
ท่ี 5 (Worksheet 5) เสร็จแลว้ มาอา่ นให้ครูฟัง

42

7. การวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
วิธกี ารวัด ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการอ่านออกเสียงคาํ ศพั ท์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการเล่นเกมภาษาอังกฤษ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้
สงั เกตพฤติกรรมบ่งชด้ี า้ นใฝ่เรียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์

8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 ใบงานที่ 5 (Worksheet 5)

8.2 เพลง The Vowel Song (a e i o u) จาก https://www.youtube.com/watch?v=fR-

BLFZyAWs

8.3 บตั รภาพ
8.4 ตารางบิงโก 3-4 (Bingo 3-4)

43

pan Bingo 3 fox
sun dog
mop bus ten bed
rat hat van wig
sit pen
" kid jug pen
gum
men Bingo 4 top
fox cat
zip hat lip
nut sun log
bus jug
ten web

44

ใบงานที่ 5 (Worksheet 5)
A. Read aloud.

cat hat pan rat van

a
e bed pen ten men web
i kid lip sit wig zip

o dog log mop top fox

u bus gum jug nut sun

45

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 Magic E (1)

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ระบุสระเสียงส้นั และเสยี งยาวได้
- อ่านออกเสยี งคําศพั ทท์ ีม่ ีสระเสียงยาวได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งทฟ่ี ังและอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมเี หตุผล
ตัวช้วี ัด
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสียงคาํ สะกดคํา อา่ นกลุ่มคํา ประโยค และบทพูดเขา้ จงั หวะ (chant) งา่ ย ๆ

ถกู ต้องตามหลกั การอา่ น

2. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด
การร้จู กั ชื่อและเสยี งของสระ เป็นพืน้ ฐานในการอ่านออกเสยี งและสะกดคําศพั ท์ท่เี รยี น

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features
Vocabulary: คําศัพทท์ ม่ี สี ระเสยี งยาว
Pronunciation: long vowel sounds (a_e, i_e, o_e, u_e)
2) Language Skill
Reading: อ่านออกเสยี งคาํ ศพั ท์ทม่ี ีสระเสยี งยาว

4. สมรรถนะสาํ คัญของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้

46

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั Warm up

นักเรยี นรอ้ งเพลง The Vowel Song (a e i o u) ของ Maple Leaf Learning จาก
www.youtube.com จากน้ันสรปุ เสยี งของสระ a, e, i, o และ u เสรจ็ แล้วนกั เรียนระบวุ า่ สระ a,
e, i, o และ u เปน็ สระเสยี งสน้ั หรอื เสียงยาว (ส้ัน)

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
Can you read this word?
/k/ /æ/ /t/ cat

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
Can you read this word?
/b/ /e/ /d/ bed

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
Can you read this word?
/p/ /I/ /g/ pig

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
Can you read this word?
/d/ /ɒ/ /g/ dog

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/

47

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
Can you read this word?
/b/ /ʌ/ /s/ bus

/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/
/æ/, /e/, /I/, /ɒ/, /ʌ/

It is fun to read.

ขนั้ Presentation

1. ครเู ขยี นตัวอักษร e บนกระดาน ครูถามนกั เรยี นวา่ ตัวอกั ษรนีม้ ีชื่อวา่ อะไร เม่ือไดค้ ําตอบวา่ อี แลว้

ครบู อกว่า ตวั อกั ษรนี้มมี นตร์วเิ ศษชอื่ ว่า magic e เพราะคาํ ศัพท์ท่มี สี ระเสียงสั้นอย่าง a, e, i, o และ u

เมอื่ นาํ e มาวางทา้ ยคํา จะทําใหส้ ระเสยี งส้ันในคําน้ันกลายเปน็ เสยี งยาว หรือถา้ ใหจ้ ําง่าย ๆ ก็คอื

จะมเี สยี งเหมือนกับชอ่ื ของสระตัวนนั้ เพราะปกตแิ ลว้ ชื่อและเสียงของสระ a, e, i, o และ u

จะไม่เหมอื นกนั เช่น

A/a ออกเสยี ง /æ/ (แอะ) เมอ่ื เตมิ e ท้ายคาํ เปน็ a_e จะกลายเปน็ เสยี งยาวเหมือนกับช่ือ คือ /eI/

(เอ)

เชน่ can (แคน) cane (เคน)

hat (แฮท) hate (เฮท)

mat (แมท) mate (เมท)

I/i ออกเสยี ง /I/ (อ)ิ เมอ่ื เติม e ทา้ ยคาํ เป็น i_e จะกลายเปน็ เสยี งยาวเหมือนกบั ชื่อ คือ /aI/ (ไอ)

เชน่ kit (คิท) kite (ไคท)

hid (ฮิท) hide (ไฮด)

rid (ริด) ride (ไรด)

O/o ออกเสยี ง /ɒ/ (เอาะ) เมอ่ื เตมิ e ทา้ ยคํา เปน็ o_e จะกลายเปน็ เสยี งยาวเหมอื นกบั ช่ือ คอื /əʊ/

(โอ)

เชน่ cod (คอ็ ด) code (โค้ด)

not (นอ็ ท) note (โนท้ )

rob (ร็อบ) robe (โร้บ)

U/u ออกเสยี ง /ʌ/ (อะ) เม่อื เตมิ e ท้ายคาํ เปน็ u_e จะกลายเป็นเสียงยาวเหมือนกับชื่อ คอื /juː/

(ยู)

เชน่ us (อสั ) use (ยูส)

48

cub (คบั ) cube (ควูบ้ /ควู บ) (มีการเชอ่ื มเสียง /k/ + / juːb/)

tub (ทบั ) tube (ทวบู้ /ทูวบ) (มกี ารเชือ่ มเสียง /t/ + / juːb/)

2. นักเรียนอ่านออกเสียงคําศัพทบ์ นกระดานตามครู 2-3 ครง้ั และชว่ ยกันอธิบายความหมายของคําศพั ทท์ ่ี

รู้จัก แลว้ ครูช่วยอธบิ ายคาํ ศัพท์ทีน่ กั เรียนไมร่ ู้เพม่ิ เตมิ

SHORT VOWELS LONG VOWELS

Short a Long a

can (แคน) = กระปอ๋ ง/สามารถ cane (เคน) = ไมเ้ ท้า

hat (แฮท) = หมวก hate (เฮท) = เกลยี ด

mat (แมท) = เส่อื mate (เมท) = เพ่อื น

Short i Long i

kit (คทิ ) = ชุดอปุ กรณ์ kite (ไคท) = ว่าว

hid (ฮิท) = ซอ่ น (รปู อดีตของ hide) hide (ไฮด) = ซอ่ น

rid (รดิ ) = กาํ จัด ride (ไรด) = ขี่

Short o Long o

cod (ค็อด) = ปลาคอ็ ด code (โคด้ ) = รหสั

not (น็อท) = ไม่ note (โนท้ ) = บันทึกสนั้ ๆ

rob (ร็อบ) = ปลน้ robe (โรบ้ ) = เส้ือคลุมยาว/เสื้อคลมุ ท่ี

มักใส่ในงานพิธี

Short u Long u

us (อัส) = เรา (รปู กรรมของ we) use (ยูส) = ใช้
cub (คับ) = ลูกของสตั วบ์ างชนดิ
tub (ทบั ) = อ่างอาบน้ํา cube (ควบู้ /คูวบ) = ลกู บาศก์

tube (ทวู้บ/ทวู บ) = ทอ่

ขนั้ Practice สระเสยี งยาว (long vowels)
1. ครแู บ่งกระดานเป็น 2 สว่ น ดังนี้

สระเสยี งสัน้ (short vowels)

ครอู ่านออกเสยี งคําศัพทค์ รัง้ ละ 1 คํา แล้วสุ่มเรยี กนกั เรยี นครงั้ ละ 1 คน ไปเขยี นคําศพั ท์ดงั กลา่ วลงใน
ชอ่ งทถี่ ูกตอ้ ง เมื่อเขียนหมดทกุ คาํ แล้ว นักเรียนอา่ นออกเสียงคําศัพทเ์ หล่านีพ้ รอ้ มกนั อีกครั้ง

49

2. ครูแจกใบงานท่ี 6 (Worksheet 6) นกั เรียนอ่านคาํ ศัพทท์ ่ีใหม้ าใน Ex. B แล้วระบายสคี าํ ศัพท์ท่ีเปน็
สระเสียงสั้นดว้ ยสแี ดงและระบายสีคาํ ศัพทท์ ่เี ป็นสระเสียงยาวด้วยสเี ขียว เสรจ็ แล้วครเู ฉลยคาํ ตอบพร้อม
กนั

short vowels (สระเสียงส้นั ) : mat, hat, can, not, cub, us
long vowels (สระเสยี งยาว) : tube, code, kite, tape, hate, ride, mate

ขัน้ Production
นกั เรียนแบ่งกล่มุ แบบคละความสามารถ กลุม่ ละ 4 คน เดก็ เกง่ ชว่ ยเหลอื เพอื่ นในกลมุ่ โดยอา่ นออกเสียง

คําศพั ทใ์ นใบงานท่ี 6 (Worksheet 6) Ex. A เสรจ็ แลว้ กลับไปเขียนคําอ่านเป็นการบ้านมาสง่ ครู

7. การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
วิธกี ารวัด
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการอา่ นออกเสียงคาํ ศัพท์
ตรวจการระบสุ ระเสยี งสัน้ และเสียง ตรวจใบงานท่ี 6 (Worksheet 6) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ยาว
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 ใบงานท่ี 6 (Worksheet 6)
8.2 เพลง The Vowel Song (a e i o u) จาก https://www.youtube.com/watch?v=fR-

BLFZyAWs

50

ใบงานที่ 6 (Worksheet 6)
A. Read and write how to say.

SHORT VOWELS (สระเสยี งส้ัน) LONG VOWELS (สระเสียงยาว)

Short a คาํ อ่าน Long a คําอ่าน

can ......................................... cane .........................................
hat ......................................... hate .........................................
mat ......................................... mate .........................................

Short i คําอ่าน Long i คําอา่ น

kit ......................................... kite .........................................
hid ......................................... hide .........................................
rid ......................................... ride .........................................

Short o คาํ อา่ น Long o คําอา่ น

cod ......................................... code .........................................
not ......................................... note .........................................
rob ......................................... robe .........................................

Short u คําอ่าน Long u คําอ่าน

us ......................................... use .........................................

cub ......................................... cube .........................................
tub ......................................... tube .........................................

51

B. Colour.

short vowels (สระเสียงสั้น) = red
long vowels (สระเสียงยาว) = green

tube hat code kite
mat not hate

can tape mate us

ride cub

52

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 Magic E (2)

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objective)
- อา่ นออกเสยี งคาํ ศัพทท์ ่ีมีสระเสียงยาวได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่อื งท่ีฟังและอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อยา่ งมเี หตผุ ล
ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสียงคํา สะกดคาํ อ่านกลุม่ คาํ ประโยค และบทพดู เขา้ จงั หวะ (chant) ง่าย ๆ

ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใชไ้ ด้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชีว้ ดั
ต 2.1 ป. 3/3 เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่เี หมาะกับวัย

2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด
การร้จู กั ชือ่ และเสยี งของสระ เป็นพน้ื ฐานในการอ่านออกเสยี งและสะกดคาํ ศัพท์ทีเ่ รียน

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features
Vocabulary: คาํ ศัพทท์ ี่มสี ระเสียงยาว
Pronunciation: long vowel sounds (a_e, e_e, i_e, o_e, u_e)
2) Language Skill
Reading: อา่ นออกเสียงคาํ ศพั ท์ทม่ี ีสระเสยี งยาว

4. สมรรถนะสาํ คัญของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร

53

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm up

ครูเขยี นคําศัพท์ในใบงานท่ี 6 (Worksheet 6) บนกระดาน แล้วให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งคําศพั ท์
ดว้ ยตนเอง

SHORT VOWELS LONG VOWELS

Short a Long a

can cane
hat hate
mat mate

Short i Long i

kit kite
hid hide
rid ride

Short o Long o

cod code
not note
rob robe

Short u Long u

us use
cub cube
tub tube

ขั้น Presentation
ครเู ปดิ เพลง The Magic E Song ของ KidsTV123 จาก www.youtube.com ใหน้ ักเรียนฟงั และฝึก
ร้องตาม จากนั้นนักเรยี นช่วยกนั สรุปเสียงของสระต่อไปน้ี a_e, e_e, i_e, o_e และ u_e

54

The Magic E Song
Magic E, Magic E makes the short sound long
Magic E, Magic E. This is the magic E song.
pin pine
fin fine
hat hate
mat mate
bit bite
kit kite
This is the magic E song.
cap cape
tap tape
cod code
rod rode
cub cube
tub tube
This is the magic E song.
Magic E, Magic E makes the short sound long
Magic E, Magic E. This is the magic E song.
can cane
man mane
rid ride
hid hide
not note
rob robe
This is the magic E song.
dim dime

tim time
mad made
fad fade

55

pet pete
met mete
This is the magic E song.
Magic E, Magic E makes the short sound long
Magic E, Magic E. This is the magic E song.
This is the magic E song.

ขน้ั Practice

1. ครเู ขียนคาํ ศัพท์ในเพลงใสล่ งในกระดาษแผ่นใหญ่และตดิ ลงบนกระดาน แล้วนกั เรียนอา่ นออกเสยี ง ตาม

ครใู นรอบแรก และอา่ นดว้ ยตนเองในรอบถดั ไป

can cane cap cape

fad fade hat hate

mat mate mad made

man mane tap tape

hid hide pin pine

fin fine bit bite

kit kite rid ride

hid hide dim dime

tim time pet pete

met mete cod code

rod rode not note

rob robe cub cube

tub tube

2. ครูแจกใบงานท่ี 7 (Worksheet 7) จากน้ันนักเรยี นทํา Ex. A โดยฟงั คาํ ศพั ทท์ ค่ี รูพดู แลว้ วงกลม

ลอ้ มรอบคําศัพทท์ ี่ครพู ูด

1 hat 2 tube 3 kite 4 not
5 tap 6 ride 7 hop 5 Pete

56

ใบงานที่ 7 (Worksheet 7) Ex. A

1 a) hat 2 b) tube 3 b) kite 4 a) not
7 a) hop 8 b) Pete
5 a) tap 6 b) ride

ขนั้ Production
1. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ทํากิจกรรมในใบงานที่ 7 (Worksheet 7) Ex. B โดยผลดั กันทอยลูกเต๋า

ทอยไดห้ มายเลขใด ให้อา่ นออกเสียงคาํ ศพั ท์ในแถวดังกล่าว ครูเดนิ สังเกตเพอ่ื ใหค้ ําแนะนาํ ทีจ่ าํ เปน็

2. นกั เรียนเขยี นตามคําบอก โดยครูพูดคําศพั ท์ที่มี magic E เชน่ kite, hate, note, ride, cane, made,
cube

7. การวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
วธิ ีการวัด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการอา่ นออกเสยี งคําศัพท์ ใบงานท่ี 7 (worksheet 7) ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการระบคุ ําศัพท์จากการฟัง
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 ใบงานที่ 7 (Worksheet 7)
8.2 เพลง The Magic E Song จาก https://www.youtube.com/watch?v=bZhl6YcrxZQ

57

ใบงานท่ี 7 (Worksheet 7)

A. Listen and circle the word.

1. a) hat b) hate

2. a) tub b) tube

3. a) kit b) kite

4. a) not b) note

5. a) tap b) tape

6. a) rid b) ride

7. a) hop b) hope

8. a) Pet b) Pete

B. Roll and read.

l cane cape hate mate tape

ll hide fine ride kite time

l code note robe hope rose
l
l

ll use tube cube June rule
ll

ll cake Pete like vote rude
l
ll

ll lake Steve dive joke flute
ll
ll

58

1 Back to School!

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรียน 14 ช่วั โมง
11...

1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟงั และอ่านจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อยา่ งมีเหตุผล

ตวั ชวี้ ดั

ต 1.1 ป. 3/1 ปฏบิ ตั ติ ามคําส่ังและคําขอรอ้ งทีฟ่ ังหรอื อา่ น

ต 1.1 ป. 3/2 อา่ นออกเสยี งคํา สะกดคํา อ่านกลุ่มคํา ประโยค และบทพดู เขา้ จงั หวะ (chant) ง่าย ๆ
ถกู ต้องตามหลักการอ่าน

ต 1.1 ป. 3/3 เลอื ก/ระบุภาพหรอื สัญลกั ษณ์ตรงตามความหมายของกลุม่ คําและประโยคท่ีฟงั
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคําถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค บทสนทนา หรอื นิทานง่าย ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ

ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป. 3/1 พดู โตต้ อบดว้ ยคาํ ส้ัน ๆ งา่ ย ๆ ในการสอ่ื สารระหว่างบุคคลตามแบบทฟ่ี ัง

ต 1.2 ป. 3/2 ใชค้ ําสง่ั และคาํ ขอร้องง่าย ๆ ตามแบบทฟ่ี ัง
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและให้ขอ้ มลู ง่าย ๆ เก่ยี วกบั ตนเองและเพอื่ นตามแบบที่ฟงั

มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งตา่ ง ๆ
โดยการพูดและการเขียน

ตวั ช้วี ดั
ต 1.3 ป. 3/1 พดู ใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกลต้ ัว

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใช้

ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

59

ตัวชีว้ ดั
ต 2.1 ป. 3/1 พูดและทาํ ท่าประกอบตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป. 3/2 บอกชื่อและคําศัพทง์ ่าย ๆ เกีย่ วกบั เทศกาล/วันสําคัญ/งานฉลอง และชวี ติ

ความเป็นอยขู่ องเจ้าของภาษา
ต 2.1 ป. 3/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกับวยั
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนํามาใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
ตัวชี้วดั
ต 2.2 ป. 3/1 บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คํา กลุ่มคาํ และประโยคง่าย ๆ

ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ ับกลุม่ สาระการเรยี นร้อู ื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ น่ื และเป็น

พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
ตัวชี้วดั
ต 3.1 ป. 3/1 บอกคาํ ศัพท์ที่เก่ียวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พันธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทัง้ ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ตัวชว้ี ดั
ต 4.1 ป. 3/1 ฟงั /พดู ในสถานการณง์ า่ ย ๆ ท่เี กิดขึ้นในห้องเรยี น
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเคร่อื งมอื พ้นื ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชพี

และการแลกเปลย่ี นเรียนร้กู บั สงั คมโลก
ตัวชว้ี ดั
ต 4.2 ป. 3/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศเพ่อื รวบรวมคําศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งใกลต้ วั

2 สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด

การเรยี นรคู้ าํ ทกั ทาย คํากล่าวลา ประโยคแนะนําตนเอง ประโยคทีใ่ ชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับชอื่ และ
ประโยคคาํ ส่งั ชว่ ยใหพ้ ูดสอ่ื สารในชีวิตประจาํ วนั ได้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม รวมถงึ การเรียนรู้ขอ้ มลู เกี่ยวกับ
ประเทศตะวนั ตกและการทกั ทายของประเทศในอาเซียน ชว่ ยใหพ้ ดู สอื่ สารข้อมูลเกยี่ วกบั ประเทศนนั้ ๆ และมี
ความเข้าใจในวฒั นธรรมของประเทศต่าง ๆ

60

3 สาระการเรยี นรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions
Vocabulary: (greeting) Good morning., Good afternoon., Good evening.,

Goodnight., Hello.
(leave taking) Goodbye., Bye.

school, friend, teacher, dog, game, girl, gum, gift, kite, kid, king,
kangaroo, parrot, wall, little, country, states, capital, flag, stripe,

fifty, wai, shake hands, give a bow, Xin Chao, Vietnam,
Mingalaba, Myanmar, Sawasdee, Thailand

Structure: Hello, I’m Wendy. What’s your name?
My name’s Oscar. How are you?

I’m fine, thanks!

Goodbye, Oscar!

Bye, Wendy!

Who’s that? That’s my friend, Cindy.
Hello, what’s your name?

How do you spell it?

Good morning, Cindy. How are you?

Bye, Mum!
Goodbye, Lin!

Tom, who’s that? That’s my friend, Cindy.

Hello, everyone! My name is Cindy.

This is my friend, Tom, and this is my teacher, Miss Parker.
Hello, everyone!, My name is … .

(classroom commands) Be quiet!, Listen!, Write!, Read!, Look!,

Sing!, Stand up!, Sit down!, Hands up!, Hands down!, Open your

book!,
Close your book!

Two little parrots sitting on a wall.

My name’s Eric!, My name’s Paul!

Hello, Eric!, Hello, Paul!

61

Goodbye, Eric!, Goodbye, Paul!

My name’s Malee and I’m from Thailand.

I’m Kim. I’m from Myanmar.

My name’s Hai Van. I’m from Vietnam.

What’s your name? My name’s … . / I’m … .

Pronunciation: word stress, pronunciation of contracted form: I’m, My name’s,

linking sound, consonant sounds /ɡ/ and /k/

Functions: introducing oneself and greeting others,

greeting and leave taking,

greeting and introducing others,

asking for the people’s names,

introducing yourself and others,

giving and responding to classroom commands,

giving basic information about the UK, the USA and countries in

ASEAN,

giving personal information

2) Language Skills

Listening: ฟงั เพื่อระบภุ าพและคาํ ศพั ท,์ ฟงั เพ่ือหาข้อมลู เฉพาะ

Speaking: พูดทกั ทายและกลา่ วลา, พดู แนะนาํ ตวั เองและพูดถาม-ตอบชือ่ บคุ คล,

พดู ขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับบคุ คลโดยใชค้ าํ ถาม Who’s that?, พดู ขอ

และให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ช่อื และตัวสะกด, แสดงบทบาทสมมตเิ ก่ียวกบั เร่อื ง ที่

ฟังและอา่ น, พูดทักทายและแนะนําตนเอง, พดู ประโยคคําส่ัง, รอ้ งเพลง

ภาษาอังกฤษ, บอกขอ้ มูลเกี่ยวกับสหรฐั อเมรกิ าและสหราชอาณาจักร,

พดู คาํ ทักทายของประเทศในอาเซียน, พูดให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองงา่ ย ๆ

Reading: อ่านเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขียนแนะนาํ ตนเอง, เขียนเนือ้ เพลงเก่ยี วกบั การทกั ทายและแนะนําตนเอง,

เขียนคําทักทายของประเทศในอาเซียน

62

4 สมรรถนะสําคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

5 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มงุ่ มั่นในการทาํ งาน

6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
6.1 การพดู ทักทายและกล่าวลา
6.2 การพูดขอและใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกับชอ่ื และตวั สะกด
6.3 การพดู ขอและให้ข้อมลู เก่ยี วกับบคุ คลโดยใช้คําถาม Who’s that?
6.4 การพูดแนะนําตนเองและสตั ว์เลีย้ ง
6.5 การแสดงบทบาทสมมติ
6.6 ช้ินงาน Portfolio
6.7 การร้องเพลงภาษาองั กฤษ
6.8 ช้นิ งานธงชาตแิ ละการพดู นําเสนอ
6.9 ชิน้ งานคาํ ทักทาย
6.10 ชิ้นงานสมุดคําศพั ท์

7 การวัดและประเมินผล
7.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
- ทาํ แบบฝึกหัดในหนังสือเรียน
- ทาํ แบบฝกึ หัดในหนงั สอื แบบฝกึ หดั (Workbook)
- ทาํ ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1)
7.2 การประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินชน้ิ งานและภาระงานในขอ้ 6

63

8 สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สือแบบฝึกหดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1)
8.5 บตั รภาพและบตั รคํา
8.6 ภาพบคุ คลท่ีมชี อ่ื เสียง ภาพสัตว์เล้ียง หนุ่ มือหรือภาพนกแก้ว และภาพกําแพง
8.7Story Cutouts
8.8สือ่ ประกอบการเรยี นการสอน ไดแ้ ก่ ภาพธงชาติประเทศสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
แผนที่โลก และแผนทีท่ วีปเอเชยี
8.9อุปกรณก์ ารทาํ งาน ไดแ้ ก่ กระดาษแข็ง กระดาษ A4 และดนิ สอสี
8.10 เพลง The Greetings Song จาก https://www.youtube.com/watch?v=gVIFEVLzP4o
8.11 เพลง Hi. Hello. Goodbye. จาก https://www.youtube.com/watch?v=svS0UikccrY

64

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 Back to school!

เวลา 1 ช่วั โมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคํา และบอกความหมายของคาํ ทกั ทายทก่ี ําหนดได้

- พูดทักทายตามชว่ งเวลาได้

- บอกความแตกตา่ งของการทักทายของไทยกบั องั กฤษได้

- เล่นเกมภาษาองั กฤษได้
- รวบรวมคาํ ศัพทต์ ามทก่ี ําหนดได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองท่ีฟงั และอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป. 3/2 อา่ นออกเสยี งคํา สะกดคํา อ่านกลุ่มคาํ ประโยค และบทพูดเขา้ จังหวะ (chant) งา่ ย ๆ

ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรือสัญลกั ษณ์ตรงตามความหมายของกลุ่มคําและประโยคท่ีฟัง
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป. 3/1 พูดโต้ตอบดว้ ยคาํ ส้ัน ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหว่างบคุ คลตามแบบทฟ่ี งั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใช้

ไดอ้ ย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้วี ดั
ต 2.1 ป. 3/1 พูดและทําทา่ ประกอบตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ป. 3/3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่เี หมาะกับวยั

65

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนาํ มาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม

ตวั ชีว้ ดั
ต 2.2 ป. 3/1 บอกความแตกต่างของเสยี งตวั อักษร คํา กลุ่มคาํ และประโยคงา่ ย ๆ

ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครือ่ งมือพนื้ ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชพี

และการแลกเปลยี่ นเรยี นรูก้ บั สงั คมโลก
ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป. 3/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศเพอ่ื รวบรวมคาํ ศพั ทท์ ี่เก่ยี วข้องใกล้ตวั

2. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรยี นรวู้ ฒั นธรรมการทักทายของชาวตะวนั ตก ช่วยให้พูดสอ่ื สารในชีวิตประจาํ วันได้อยา่ งถูกตอ้ ง

และเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (greeting) Good morning., Good afternoon., Good evening.,
Goodnight., Hello.
2) Language Skill
Speaking: พดู ทกั ทาย

4. สมรรถนะสาํ คัญของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้

66

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm up
1. ครูและนักเรยี นพดู ทกั ทายกนั
2. ทบทวนคําศพั ทเ์ ก่ียวกับสี โดยนําบตั รภาพสมี าแสดงและใหน้ ักเรียนพูดคาํ ศพั ท์ พร้อมกบั สะกดคาํ เช่น

T: (แสดงบัตรภาพสีฟา้ )
Ss: Blue. B-L-U-E.
3. ทบทวนคาํ ศพั ทเ์ กีย่ วกับตวั เลขแสดงจาํ นวน โดยนําบัตรภาพสิ่งของมาแสดงและให้นักเรยี นบอกจาํ นวน
ส่งิ ของ พรอ้ มกบั สะกดคําศพั ท์ตวั เลขทแี่ สดงจํานวนส่ิงของนัน้ เชน่
T: (แสดงบตั รภาพลกู บอล 7 ลูก) How many balls can you see?
Ss: Seven. S-E-V-E-N.

ขั้น Presentation
1. ครูนําเสนอคาํ ทักทายต่อไปน้ี Good morning! (สวัสดีตอนเช้า), Good afternoon! (สวสั ดตี อนบา่ ย),

Good evening! (สวัสดตี อนเยน็ ), Goodnight! (ราตรสี วสั ด์ิ), Hello. (สวสั ดี) และ Goodbye! (ลากอ่ น)
โดยครูบอกชว่ งเวลาหรือสถานการณ์ แล้วใหน้ ักเรยี น 1 คน (ทคี่ รซู ้อมบทเตรียมไว้แลว้ ) พดู ทักทายกบั ครู
จนครบทุกคํา เช่น

T: (เวลาเชา้ ) Good morning, May!
S1: Good morning, teacher!
T: (กําลังจะกลบั บ้าน) Goodbye, May!
S1: Goodbye, teacher!
จากนนั้ นกั เรยี นในชน้ั พดู คําทักทายทกุ คําตามครู 2 คร้ัง แล้วครสู ่มุ เรียกนกั เรยี นหลาย ๆ คู่ ออกมา
พดู ทกั ทายทหี่ น้าชนั้ ตามช่วงเวลาหรือสถานการณ์ทีค่ รพู ดู
2. หนงั สือเรียน หนา้ 4 Ex. 1 ครเู ปิด CD ใหน้ ักเรียนฟงั คาํ ทกั ทายและชคี้ ําศัพท์ตามทไี่ ด้ยิน แล้วครเู ปดิ
CD อกี ครั้ง นักเรียนออกเสียงตาม CD พร้อมกัน ครสู ่มุ เรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนอ่านออกเสียง โดยครู
ตรวจสอบวา่ นกั เรียนออกเสียงถกู ตอ้ งหรอื ไม่ ถ้ายังไมถ่ กู ต้องครูช่วยแก้ไข
3. หนังสอื เรียน หนา้ 4 Ex. 1 ครูเขยี นคําศพั ท์ใน Ex. 1 บนกระดาน จากนน้ั ครเู ปดิ CD และช้ีไปทค่ี ําศพั ท์
บนกระดานตามเสียงทีไ่ ด้ยนิ เสรจ็ แลว้ นักเรียนอ่านออกเสยี งคําศพั ท์เหล่าน้พี รอ้ มกนั

67

1 Good morning! 2 Good afternoon! 3 Good evening!
4 Goodnight!
5 Hello! 6 Goodbye!

4. ครูอธบิ ายเกย่ี วกบั การทกั ทายในชว่ งเวลาต่าง ๆ ดังน้ี
Good morning. สวัสดตี อนเชา้ (หลงั เทย่ี งคนื - เท่ยี งวัน)
Good afternoon. สวสั ดตี อนบ่าย (หลงั เท่ยี งวนั - เวลา 18:00 น.)
Good evening. สวสั ดตี อนเยน็ /คํ่า (หลงั 18:00 น. - เทยี่ งคนื )

จากนนั้ ครใู ห้นักเรยี นช่วยกันคิดว่า คาํ ทักทายของไทยกบั ของอังกฤษมีความเหมอื นหรือต่างกันอยา่ งไร
แล้วรวบรวมคาํ ตอบจากนักเรยี นหลาย ๆ คน

คนไทยทกั ทายกันดว้ ยการไหว้ แตค่ นองั กฤษเม่ือพบกนั จะใช้วิธียน่ื มือขวาจบั กนั และเขยา่ เล็กนอ้ ย
(Shake hand) ผู้ชายจบั มอื ผ้ชู าย จะบีบมอื และเขย่าหนักแนน่ ส่วนผูห้ ญิงกับผู้หญงิ หรือผู้ชาย
กับผู้หญิงจะจับมอื กันเบา ๆ เขยา่ น้อยคร้ัง ขณะจบั มอื ควรจะพดู ว่า “How do you do? หรอื
Nice (Pleased) to meet you, my name is… .” และอีกฝา่ ยหนง่ึ ควรจะพูดตอบเช่นเดยี วกนั
(คนท่มี อี ายุนอ้ ยกวา่ ควรจะเป็นผู้พูดก่อน) ต่อจากนั้นจงึ ค่อยเร่มิ บทสนทนา

ขั้น Practice
1. หนังสอื เรียน หนา้ 5 Ex. 4 นักเรียนเลน่ เกม Who am I? เพอื่ ฝกึ ฝนการพูดทกั ทาย ดงั น้ี

1) นกั เรียนแบง่ กลุม่ กลมุ่ ละ 10 คน แล้วแตล่ ะกลมุ่ ยืนเปน็ วงกลม
2) คนทจี่ ะเร่มิ เล่นเกมคนแรก 1 คน ออกมาน่ังกลางวงพรอ้ มกบั หลับตา
3) สมาชิกในกลุ่ม 1 คน ที่ยืนอยู่เดินไปหาคนทน่ี ั่งกลางวง และพดู ใกล้ ๆ ดว้ ยประโยค Good

morning/Good afternoon, (ช่อื คนทนี่ ัง่ กลางวง). Who am I? เม่ือพดู เสรจ็ แล้ว ให้เดนิ
กลับไปยนื ท่ตี ําแหนง่ เดมิ
4) คนที่นงั่ กลางวงทายชือ่ เพื่อนทีอ่ อกมาพดู ทกั ทาย เมื่อทายแลว้ ใหล้ ืมตาได้ จากน้ันคนท่ีออกมา
พูดทกั ทายยกมอื ขน้ึ เพือ่ เฉลยว่าทายถูกต้องหรอื ไม่ จากนน้ั เร่ิมเกมใหม่โดยเปล่ียนคนที่น่งั กลาง
วง แล้วเล่นเกมซ้ําจนนักเรยี นในกลุม่ ออกมาเปน็ คนทายครบทกุ คน
2. ครเู ปดิ เพลง The Greetings Song ของ Maple Leaf Learning จาก www.youtube.com ครูเปิด
เพลง อีกรอบแล้วร้องไปพรอ้ มกบั นักเรยี น

68

Good morning, Good morning, Good afternoon.
Good evening, Good evening, Goodnight, Goodnight.

Nice to meet you. Nice to meet you too.
Goodbye, Goodbye, see you.

3. นักเรียนจบั คสู่ นทนาเกย่ี วกบั การกล่าวคาํ ทักทาย และการแนะนําตวั ดงั น้ี
A: Good morning! I’m Sam. What’s your name?
B: Good morning, Sam. I’m Ann.

นกั เรียนผลัดกนั ถาม-ตอบบทสนทนา จากน้ันครสู ุม่ เรยี กนักเรยี นหลาย ๆ คใู่ ห้สาธติ การถาม-ตอบ

ข้ัน Production
นกั เรียนวาดภาพ 1 ภาพให้มชี ่วงเวลา 4 ช่วงเวลา พรอ้ มกบั เขยี นคําทักทาย Good morning, Good
afternoon, Good evening และ Goodnight นักเรยี นระบายสตี กแต่งภาพให้สวยงาม แลว้ นาํ ผลงาน
ตดิ ทีบ่ อรด์ ในหอ้ งเรยี น

My word book
นักเรยี นทําสมุดคําศัพท์เพอื่ รวบรวมคําศัพท์ท่เี รียน แล้วนักเรียนบนั ทึกคําทกั ทายที่เรียนลงในสมุดคําศัพท์
พร้อมท้ังบอกความหมาย ครูแนะนาํ ให้นักเรยี นบนั ทึกคาํ ศัพทโ์ ดยเรียงตามตวั อักษร a-z

หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook)
นกั เรียนทําแบบฝกึ หดั ทบทวนสง่ิ ที่เรยี นในหนังสือแบบฝกึ หัด หนา้ 4 Ex. 1 และหนา้ 5 Ex. 4
เป็นการบ้าน

หนังสอื แบบฝกึ หดั (Workbook) หนา้ 4 Ex. 1

1 Good morning! 2 Hello!

3 Goodbye! 4 Good evening!
5 Goodnight! 6 Good afternoon!

หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 5 Ex. 4

2 Goodbye! – d 3 Goodnight! – a 4 Hello! – b

69

7. การวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือ เกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวัด แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคําศพั ท์
แบบประเมนิ ชนิ้ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการพูดทกั ทาย รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการบอกความแตกตา่ งของ หนงั สือแบบฝกึ หัด (Workbook) ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
การทักทายของไทยกบั อังกฤษ
แบบประเมินคณุ ลักษณะ
ตรวจสมดุ คําศัพท์ อันพงึ ประสงค์

ตรวจแบบฝึกหัด

สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ดี ้าน
ใฝ่เรยี นรู้

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สอื แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 บตั รภาพ
8.5 เพลง The Greetings Song จาก https://www.youtube.com/watch?v=gVIFEVLzP4o

70

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 Hello! and Goodbye!

เวลา 1 ช่วั โมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคํา และบอกความหมายของคาํ ทกั ทายและคํากล่าวลาที่กําหนดได้
- พูดทกั ทายและกลา่ วลาได้
- พดู แนะนําตวั และถาม-ตอบชอ่ื ได้
- รวบรวมคําศพั ท์ตามท่กี าํ หนดได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทฟ่ี ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสยี งคาํ สะกดคํา อ่านกลุ่มคาํ ประโยค และบทพดู เขา้ จังหวะ (chant) งา่ ย ๆ

ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป. 3/3 เลอื ก/ระบภุ าพหรอื สัญลกั ษณ์ตรงตามความหมายของกลุ่มคาํ และประโยคท่ฟี งั
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ

และความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ช้วี ัด
ต 1.2 ป. 3/1 พดู โต้ตอบดว้ ยคาํ สน้ั ๆ งา่ ย ๆ ในการส่ือสารระหว่างบคุ คลตามแบบทฟ่ี ัง
ต 1.2 ป. 3/4 พดู ขอและใหข้ อ้ มลู งา่ ย ๆ เก่ยี วกบั ตนเองและเพ่ือนตามแบบท่ฟี งั
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาํ ไปใช้

ได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชว้ี ัด
ต 2.1 ป. 3/1 พดู และทําท่าประกอบตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ป. 3/3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่เี หมาะกบั วัย

71

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธก์ บั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

ตัวชวี้ ดั
ต 4.1 ป. 3/1 ฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่าย ๆ ทีเ่ กิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี น
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเปน็ เคร่อื งมือพนื้ ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี

และการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ตวั ชว้ี ัด
ต 4.2 ป. 3/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเพ่อื รวบรวมคําศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งใกลต้ วั

2. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด
การเรยี นรูว้ ฒั นธรรมการทกั ทายของชาวตะวันตก การพดู ทักทายและการกล่าวลา การพูดแนะนาํ

ตนเอง และการพูดถาม-ตอบช่อื ของบุคคล ช่วยให้พูดส่อื สารในชีวติ ประจาํ วันได้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (greeting) Good morning., Good afternoon., Good evening.,
Goodnight., Hello.
(leave taking) Goodbye.
Structure: Hello, I’m Wendy. What’s your name?
My name’s Oscar. How are you?
I’m fine, thanks!
Goodbye, Oscar!
Bye, Wendy!
Pronunciation: word stress, pronunciation of contracted form: I’m, My name’s

Functions: introducing oneself and greeting others
greeting and leave taking

2) Language Skills
Speaking: พูดทักทายและกล่าวลา
พดู แนะนาํ ตัวเองและพดู ถาม-ตอบช่ือบุคคล

72

4. สมรรถนะสาํ คัญของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้น Warm up
1. ครูทกั ทายนกั เรยี นในหอ้ ง และนกั เรียนทกั ทายตอบ
2. ทบทวนการพูดทกั ทายตามชว่ งเวลาด้วยเพลง The Greetings Song ของ Maple Leaf Learning จาก

www.youtube.com ครเู ปดิ เพลงแล้วร้องไปพรอ้ มกับนักเรยี น

Good morning, Good morning, Good afternoon.
Good evening, Good evening, Goodnight, Goodnight.

Nice to meet you. Nice to meet you too.
Goodbye, Goodbye, see you.

ข้นั Presentation
1. ครูเปิดเพลง Hi. Hello. Goodbye. ของ English Singsing จาก www.youtube.com จากน้ันครูเปดิ

เพลงอีกรอบแลว้ รอ้ งไปพร้อมกบั นกั เรียน

Hi, hi. I’m Jiho. Hi, hi. I’m Bomi.
Goodbye, Jiho. Bye, bye. Goodbye, Bomi. Bye, bye.

Hello, hello. I’m Wiz. Hello, hello. I’m Wiki.
Goodbye, Wiz. Bye, bye. Goodbye, Wiki. Bye, bye.

2. ครูนาํ เสนอการกล่าวทักทายและการกลา่ วลา ดงั น้ี
การทักทาย
Mint: Good morning! I’m Mint. What’s your name?
Jane: Good morning, Mint. I’m Jane.
Mint: How are you?
Jane: I’m fine, thanks!

73

การกลา่ วลา

Mint: Goodbye, Jane!

Jane: Bye, Mint!

จากน้นั สุ่มเรยี กนักเรียนหลาย ๆ คู่อ่านบทสนทนา ครสู ังเกตการอา่ นออกเสยี งของนกั เรยี นใหถ้ ูกตอ้ ง

3. ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปนีบ้ นกระดาน แล้วสอนการถาม-ตอบช่ือ โดยครพู ูด What’s your name?

ใหน้ ักเรียนพูดตาม แล้วครูตอบ I’m Winny. แลว้ นักเรียนพูดตาม จากน้ันครูสนทนากบั นักเรียน 1 คน

ดงั น้ี

T: Hello, I’m Winny. What’s your name?

S1: I’m Ted.

ครูอธบิ ายวา่ การบอกช่ือจะพดู วา่ I’m … . หรอื My name’s … . กไ็ ด้ แลว้ ใหน้ ักเรยี นผลัดกันถาม-ตอบ

ชื่อของเพ่ือนทน่ี ่งั ข้าง ๆ

4. ครูเขยี น My name is และ My name’s แล้วอธิบายวา่ ’s เป็น short form มาจาก is ครเู ขียนอีก

ประโยค

I am และ I’m แลว้ อธิบายว่า ’m เปน็ short form มาจาก am จากนั้นครูอา่ นออกเสียงประโยค แลว้ ให้

นักเรียนอ่านออกเสยี งตามครู

long form short form

I am (ไอ แอม) I’m (ไอม)

My name is (มาย เนม อีส) My name’s (มาย เนมซ)

ข้ัน Practice
1. หนงั สือเรียน หนา้ 4 Ex. 2 ครูพดู ว่า Open your book to page 4, please. นกั เรียนเปิดหนังสอื เรยี น

(ทกุ คร้ังทค่ี รขู อให้นักเรียนทําอะไร ควรใชค้ ําสั่งภาษาองั กฤษ เพอื่ ฝึกให้นักเรียนคนุ้ เคยกบั การใช้
ภาษาองั กฤษ) แลว้ ครพู ูดสัง่ Repeat after me, please. นักเรียนอา่ นบทสนทนาตามครูพรอ้ มกนั
ครูสุ่มเรียกนักเรียนหลาย ๆ คู่อ่านบทสนทนา โดยตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการออกเสยี งและ
การเน้นโทนเสยี ง
2. หนงั สอื เรียน หน้า 4 Ex. 2 นักเรยี นจบั คู่กบั เพ่อื น พดู ถาม-ตอบโดยใชข้ อ้ มลู ของตนเอง
เม่อื ครูเปา่ นกหวดี ใหส้ ัญญาณ ให้นกั เรียนหยดุ และยกมอื ขึ้นเหนือศรี ษะ จากน้นั ครเู ปา่ นกหวีดอีกคร้งั ให้
นักเรียนเปล่ียนคู่สนทนา ครูทําเช่นน้ี 4-5 คร้งั แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนออกมาสาธิตการสนทนาหนา้ ชัน้
หลาย ๆ คู่
3. หนังสอื เรียน หน้า 5 Ex. 3 นกั เรยี นอา่ นประโยคในข้อ 1-3 ตามครู จากนนั้ ใหเ้ วลานกั เรียนเลือกประโยค
ทีถ่ ูกต้อง เสร็จแล้วครูสมุ่ เรยี กนกั เรียนหลาย ๆ คนบอกคําตอบ แล้วครูจงึ คอ่ ยเฉลยคําตอบ ท่ีถกู ต้อง

74

1 a) Hello, I’m Paul. 2 b) Hi! My name’s Ann.

3 b) I’m Ben. What’s your name?

ขั้น Production
นักเรียนดตู ัวอย่างบทสนทนาในหนงั สอื เรียน หนา้ 4 Ex. 2 นกั เรยี นทาํ งานเป็นคเู่ พ่อื แสดงบทบาทสมมติ
(role playing) การถาม-ตอบเก่ยี วกบั การทักทาย การกลา่ วลา และการถาม-ตอบชอื่ ครใู หเ้ วลานักเรียน
เตรยี มตวั แลว้ เลอื กนกั เรยี นที่ยังไม่เคยออกมานาํ เสนอหน้าชั้นเรยี นออกมาแสดงบทบาทสมมติ เพือ่ ให้
นกั เรียนไดม้ โี อกาสนําเสนอหน้าชัน้ เรยี นทุกคน

My word book
นกั เรยี นทาํ สมุดคําศพั ท์เพ่อื รวบรวมคาํ ศัพท์ที่เรยี น แลว้ นักเรียนบนั ทกึ คาํ ทักทายที่เรยี นลงในสมุดคําศพั ท์
พร้อมทั้งบอกความหมาย ครแู นะนําใหน้ ักเรยี นบันทกึ คําศพั ท์โดยเรียงตามตวั อักษร a-z

หนังสือแบบฝึกหดั (Workbook)
นกั เรียนทาํ แบบฝกึ หดั ทบทวนส่ิงท่เี รยี นในหนงั สอื แบบฝึกหดั หนา้ 4 Ex. 2 และหนา้ 5 Ex. 3
เปน็ การบา้ น

หนังสอื แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 4 Ex. 2 4 My name’s

2a 3b
หนงั สอื แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 5 Ex. 3

2 Hi 3 What’s your

75

7. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
วิธีการวัด แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคําศพั ท์
สงั เกตการพูดทักทายและกล่าวลา แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

สังเกตการพดู ถาม-ตอบชือ่ แบบประเมินชน้ิ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
หนังสือแบบฝึกหดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจสมดุ คําศพั ท์ แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหดั อนั พึงประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีด้าน
ใฝเ่ รยี นรู้

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรียน EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สอื แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 เพลง Greetings Song จาก https://www.youtube.com/watch?v=gVIFEVLzP4o
8.5 เพลง Hi. Hello. Goodbye. จาก https://www.youtube.com/watch?v=svS0UikccrY

76

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 Who’s that?

เวลา 1 ชว่ั โมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสยี ง สะกดคาํ และบอกความหมายของคําศพั ท์ท่เี รียนได้
- ฟงั แล้วระบุภาพและคาํ ศัพท์ได้
- พดู ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับบคุ คลโดยใช้คําถาม Who’s that? ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อยา่ งมเี หตผุ ล
ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ป. 3/2 อา่ นออกเสยี งคาํ สะกดคํา อา่ นกลุ่มคาํ ประโยค และบทพูดเข้าจงั หวะ (chant) ง่าย ๆ

ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรอื สญั ลกั ษณต์ รงตามความหมายของกลมุ่ คาํ และประโยคท่ฟี ัง
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ

และความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชี้วดั
ต 1.2 ป. 3/4 พดู ขอและให้ขอ้ มลู งา่ ย ๆ เกย่ี วกบั ตนเองและเพอื่ นตามแบบทฟ่ี งั
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พันธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ตัวชว้ี ัด
ต 4.1 ป. 3/1 ฟงั /พดู ในสถานการณง์ า่ ย ๆ ท่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน

2. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรปู้ ระโยคที่ใชข้ อและให้ข้อมลู เกยี่ วกบั บุคคล ช่วยให้พดู ส่อื สารได้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

77

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: school, friend, teacher
Structure: Who’s that? That’s my friend, Cindy.
Pronunciation:word stress
2) Language Skills
Listening: ฟงั เพื่อระบุภาพและคําศัพท์
Speaking: พูดขอและให้ข้อมูลเก่ียวกบั บคุ คลโดยใช้คําถาม Who’s that?

4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั Warm up
1. ครเู ข้ามาในหอ้ งและกล่าวทักทาย พร้อมถามทกุ ข์สขุ กับนกั เรยี นตามที่เคยเรยี นมาแล้ว

T: Good morning/Good afternoon, class. (ใชค้ าํ ทกั ทายตามช่วงเวลาที่สอน)
Ss: Good morning./Good afternoon.
T: How are you?
Ss: I’m fine. Thank you.
จากนน้ั นักเรยี นจบั คู่กับเพ่ือนท่ีนั่งทางดา้ นซ้ายมือเพื่อทกั ทายกนั เองด้วย
2. ทบทวนการถาม-ตอบชือ่ โดยนกั เรียนจบั คู่กับเพื่อนท่นี ัง่ ทางดา้ นขวามอื และถาม-ตอบกนั

ขั้น Presentation
1. ครสู อนคําศัพทใ์ หม่ ได้แก่ friend (เพือ่ น), school (โรงเรยี น) และ teacher (คร)ู โดยแสดงบัตรภาพให้

นักเรยี นดหู รือใช้บคุ คลในหอ้ งเรียนประกอบการสอน ครอู อกเสียงคําศัพท์ แล้วนกั เรียนออกเสยี งตาม
หลาย ๆ ครั้งจนคล่อง จากน้ันครูแสดงบตั รภาพอีกครัง้ ใหน้ ักเรยี นพูดคําศพั ทด์ ว้ ยตนเอง
2. ครูนาํ เสนอประโยคคาํ ถาม Who’s that? ใชเ้ พอ่ื ถาม-ตอบเกี่ยวกบั บุคคล โดยครูสาธติ กบั นักเรยี น 1 คน
(ทค่ี รซู อ้ มเตรียมไว้แล้ว) ดังน้ี

78

T: Who’s that?
S1: That’s my friend, Jane.
ตอ่ มาครูเขียนคาํ ถาม Who’s that? บนกระดาน นักเรยี นอ่านประโยคตามครู แล้วครูอธิบายวา่
Who’s that? ใช้ถามว่าบุคคลนนั้ เปน็ ใคร การตอบจะบอกสถานะของบคุ คลนน้ั และอาจตามด้วยช่ือได้
เช่น That’s my sister, Nan.

ข้นั Practice
1. ครูส่มุ เรยี กนักเรียน 1 คน แล้วครูชีไ้ ปทีน่ กั เรยี นคนดังกล่าว พร้อมกับถามนักเรยี นในหอ้ งวา่

Who’s that? ให้นักเรียนตอบ That’s my friend, (ช่ือเพื่อน). เช่น
T: Who’s that? (ชี้ท่ี Tim)
Ss: That’s my friend, Tim.

แลว้ ครูสุม่ เรียกนกั เรยี นหลาย ๆ คนเพื่อทํากจิ กรรมน้ี
2. หนังสือเรียน หน้า 6 Ex. 5 นกั เรยี นอา่ นคําสัง่ และครูช่วยอธิบาย จากนัน้ นักเรยี นเลอื กคาํ หรือประโยค

ที่มคี วามหมายตรงกับภาพแลว้ เขยี นลงไปใต้ภาพนน้ั เมอื่ นักเรียนทําเสรจ็ ครพู ดู คําสง่ั Listen carefully,
please. แล้วเปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟงั และช้ีภาพ พร้อมกับออกเสียงคําศัพทต์ ามท่ไี ดย้ ิน จากนน้ั ครสู ่มุ เรยี ก
นักเรียนหลาย ๆ คนออกมาเขยี นคําตอบบนกระดาน แล้วจึงเฉลยคาํ ตอบ

1 friend 2 school
3 teacher 4 Who’s that?

1 friend 2 school
3 teacher 4 Who’s that?

3. หนงั สือเรียน หนา้ 6 Ex. 6 นักเรยี นดภู าพและอา่ นบทสนทนาตามครพู รอ้ มกนั จากนั้นนักเรยี นจบั ค่กู ับ
เพ่อื นฝึกการถาม-ตอบเพ่ือระบบุ ุคคล โดยใหค้ นหนึง่ ชภ้ี าพใน Ex. 6 และถามคําถาม แลว้ ให้อีกคนหน่ึง
ตอบคําถาม เชน่
S1: Who’s that? (ชีภ้ าพ Wendy)
S2: That’s my sister, Wendy.

79

เสรจ็ แล้วใหน้ กั เรียนสลบั บทบาทกัน โดยชภี้ าพทีไ่ มซ่ า้ํ กับภาพท่เี พ่อื นเลือกไปแล้ว ขณะทน่ี กั เรยี นทํา
กจิ กรรมครสู ังเกตวา่ นักเรียนสนทนาและออกเสียงได้ถกู ต้องหรือไม่ ถา้ ไม่ถกู ต้องครชู ว่ ยแกไ้ ข

ข้ัน Production
นกั เรียนจบั กลมุ่ 3 คน พดู บทสนทนา ดังน้ี
S1: Who’s that? (ชี้ไปยังนกั เรยี นคนท่ี 3)
S2: That’s my friend, Mint.
นกั เรียนแต่ละกลุ่มสลับบทบาทกันจนไดเ้ ป็นท้ังคนถามและคนตอบครบทุกคนในกล่มุ ครใู ห้เวลานักเรยี น
พดู บทสนทนาสกั ครู่ โดยครเู ดนิ ไปรอบ ๆ หอ้ งเพื่อตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการออกเสียง จากนัน้ ขอ
อาสาสมัครนกั เรยี นหลาย ๆ กลุ่มออกมาสาธติ การสนทนาหนา้ ห้องเรยี น

My word book
นักเรียนบันทกึ คาํ ศัพทท์ ี่เรยี นลงในสมดุ คําศัพท์ พร้อมท้งั บอกความหมาย โดยครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ
คาํ ศพั ท์โดยเรียงตามตวั อกั ษร a-z

หนังสือแบบฝกึ หัด (Workbook)
นักเรียนทาํ แบบฝกึ หัดทบทวนสง่ิ ทเี่ รียนในหนังสือแบบฝกึ หดั หนา้ 6 Exs. 5-6 เป็นการบา้ น

หนังสอื แบบฝกึ หัด (Workbook) หน้า 6 Ex. 5

2c 3b 4e 5d

หนงั สอื แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 6 Ex. 6

2 teacher 3 dog 4 school

80

7. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั แบบทดสอบ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตการออกเสยี งคําศัพท์ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์

ตรวจการระบภุ าพตรงตาม แบบประเมินชิน้ งาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ความหมายของคํา รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
หนงั สอื แบบฝึกหดั (Workbook) ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการพดู ขอและให้ขอ้ มลู
เก่ียวกบั บุคคลโดยใชค้ ําถาม แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
Who’s that? อันพงึ ประสงค์
ตรวจสมุดคาํ ศัพท์

ตรวจแบบฝึกหดั

สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีด้าน
ใฝ่เรยี นรู้

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สอื แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 บตั รภาพ

81

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 4 How do you spell it?

เวลา 1 ช่วั โมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ฟงั แล้วระบุช่ือบุคคลได้
- พดู ขอและให้ข้อมลู เก่ียวกับชือ่ และตวั สะกดได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องท่ีฟงั และอา่ นจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อยา่ งมีเหตุผล
ตวั ช้ีวัด
ต 1.1 ป. 3/3 เลอื ก/ระบุภาพหรือสัญลกั ษณต์ รงตามความหมายของกลุ่มคาํ และประโยคทฟ่ี ัง
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ

และความคิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ช้ีวัด
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและให้ข้อมูลงา่ ย ๆ เกีย่ วกบั ตนเองและเพอ่ื นตามแบบทฟ่ี งั
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
ตัวชว้ี ัด
ต 4.1 ป. 3/1 ฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ย ๆ ท่ีเกดิ ข้นึ ในห้องเรยี น

2. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรยี นรู้ประโยคที่ใชข้ อและให้ข้อมลู เก่ยี วกบั บุคคล ชว่ ยให้พดู ส่อื สารไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม

82