ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1) daddy
A. Listen and circle the words. candy
pony
1. sunny rainy
2. bunny
3. windy
4. body
B. Write. Listen and check.
bun___ ___ win___ ___
bo___ ___ sun___ ___
po___ ___ dad___ ___
433
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 12 Whose is this T-shirt?
เวลา 1 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ระบุภาพตรงตามความหมายของประโยคทฟ่ี งั ได้
- สนทนาเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายตามแบบท่ีฟังได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งทฟ่ี งั และอา่ นจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมเี หตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรอื สญั ลักษณต์ รงตามความหมายของกลมุ่ คาํ และประโยคทฟี่ งั
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรูส้ ึก
และความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและให้ข้อมลู ง่าย ๆ เกย่ี วกับตนเองและเพ่ือนตามแบบทฟี่ งั
2. สาระสาํ คัญ/ความคิดรวบยอด
การรคู้ าํ ศพั ทเ์ กย่ี วกับเครื่องแตง่ กายและโครงสรา้ งประโยคทีใ่ ชใ้ นการถามและบอกความเป็นเจา้ ของ
ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจเรอ่ื งท่ีฟังและพูดสอื่ สารในชวี ิตประจําวันไดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features
Vocabulary: (clothes) skirt, T-shirt, dress, trousers, shorts, shoes
Structure: This is my pink skirt.
These are my black shorts.
Whose is this green T-shirt? It’s my mum’s.
Whose are these red shoes? They’re sister’s.
434
2) Language Skills
Listening: ฟงั และระบายสีภาพ
Speaking: สนทนาตามแบบทฟ่ี งั
4. สมรรถนะสําคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
1. ครแู สดงบัตรภาพเกี่ยวกบั เครอ่ื งแต่งกาย ไดแ้ ก่ skirt (กระโปรง), T-shirt (เสือ้ ยืด), dress (ชุดกระโปรง),
trousers (กางเกงขายาว), jacket (เสื้อแจ็กเกต), shoes (รองเท้า), coat (เสอ้ื คลุม) และ gloves (ถุงมือ)
แล้วให้นักเรียนบอกคาํ ศพั ท์ จากนัน้ ครูนาํ บตั รภาพไปติดบนกระดาน ต่อมาครแู สดงบตั รคําพรอ้ มอ่าน
ออกเสยี งคาํ ศพั ท์และให้นักเรียนอ่านออกเสยี งตามและสะกดคาํ ครูสุ่มเรียกนักเรียนนําบตั รคาํ ไปติดใต้
บัตรภาพบนกระดานให้ถูกตอ้ ง
2. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ 5 กลุม่ ครูแจกซองที่บรรจบุ ตั รตัวอักษรของคาํ ศพั ท์เครอ่ื งแตง่ กายให้แตล่ ะกลมุ่ จากนน้ั
ครพู ดู คาํ ศัพท์และให้นักเรียนเรียงตวั อักษรให้ถกู ต้อง กลุ่มท่เี รียงได้เรว็ และถูกต้องจะได้ 1 คะแนน กลุ่มที่
ไดค้ ะแนนมากทสี่ ดุ เป็นกลุ่มที่ชนะ
ขน้ั Pre-listening
1. ครนู ําเครื่องแต่งกายของจรงิ เขา้ มาในช้ันเรยี น จากนน้ั สนทนากบั นกั เรียน 1 คน ทคี่ รูเตรยี มไว้ ดงั น้ี
S1: (ชี้ทเ่ี ครอ่ื งแตง่ กายทคี่ รูนํามา) Are these clothes yours?
T: Yes, they are. (หยบิ กระโปรงข้นึ มา) This is my blue skirt.
S1: That’s nice.
T: And these are my green trousers. I love my green trousers.
S1: Whose is this black shirt?
T: A black shirt? Oh, it’s my son’s. It’s not my shirt.
2. เมอ่ื สนทนาเสร็จ ครูถามนกั เรียนวา่ เป็นบทสนทนาเก่ียวกับเรอื่ งอะไร จากน้นั ครทู บทวนโครงสรา้ ง
ประโยคท่ใี ชใ้ นการแนะนําเครื่องแต่งกายของตนเอง ดงั นี้
This is my + (คํานามเอกพจน)์ .
435
These are my + (คํานามพหพู จน)์ .
จากนน้ั ครูส่มุ เรียกนักเรยี นออกมาหนา้ ช้นั ทีละคน แลว้ ใหน้ ักเรยี นชท้ี ี่เครอ่ื งแต่งกายที่ตนเองสวมใสแ่ ละ
พดู แนะนาํ เครอ่ื งแตง่ กายของตนเอง เชน่
S1: (ชี้ท่ีเส้ือของตนเอง) This is my white shirt.
S2: (ช้ีทกี่ างเกงขาส้นั ของตนเอง) These are my brown shorts.
S3: (ช้ีทก่ี ระโปรงของตนเอง) This is my blue skirt.
3. นักเรียนนําเครอ่ื งแต่งกายของตนเองท่ีครูบอกไว้ล่วงหนา้ มาคนละ 3 ชิ้น โดยวางบนโต๊ะของตนเอง
จากนน้ั ครูเดนิ สุ่มหยิบเครื่องแตง่ กายของนกั เรยี นขน้ึ มาแสดง แล้วถามนักเรยี นในชน้ั วา่ เปน็ ของใคร โดย
ใช้โครงสรา้ ง Whose is this …? และ Whose are these …? เชน่
T: (หยิบชุดกระโปรงสีเหลอื งของแอนขน้ึ มา) Whose is this yellow dress?
S1: It’s Ann’s. It’s not my dress.
T: That’s correct!
ครเู ขยี นคาํ ตอบท่ถี ูกต้องบนกระดาน It’s Ann’s. โดยอธบิ ายว่า ประโยคน้ียอ่ มาจาก It’s Ann’s yellow
dress. เนอ่ื งจากในคําถามเรารู้อยแู่ ล้วว่ากลา่ วถงึ yellow dress ในการตอบจึงละไว้ในฐานท่ีเข้าใจ
ซงึ่ ลักษณะการพดู เชน่ นใ้ี นภาษาไทยกม็ ี เช่น
คําถาม : ชุดสีเหลอื งนขี้ องใคร
คาํ ตอบ : ของแอน
เราตอบโดยไมต่ ้องกล่าวซ้ํา น่ีคือชดุ สีเหลอื งของแอน
เมอื่ อธิบายเสรจ็ แล้ว ครหู ยบิ เครอื่ งแต่งกายของนกั เรยี นมาฝึกอกี 4-5 ครั้ง จนนกั เรยี นพูดไดค้ ลอ่ ง เช่น
T: (หยิบกางเกงขายาวของแจ็คข้นึ มา) Whose are these grey trousers?
S1: They’re Jack’s.
T: That’s correct! Repeat. They’re Jack’s. They’re not my trousers.
Ss: They’re Jack’s. They’re not my trousers.
4. นกั เรยี นดภู าพในหนังสือแบบฝกึ หดั (Workbook) หนา้ 49 Ex. 11 และบอกคําศพั ทเ์ กีย่ วกับ
เครื่องแตง่ กาย จากนน้ั ครอู ธบิ ายวา่ นักเรียนจะได้ฟังบทสนทนา 1 บท ซ่ึงเปน็ การสนทนาเกย่ี วกบั เคร่ือง
แตง่ กายระหวา่ งบคุ คล 2 คน คือเด็กผู้หญงิ ในภาพชอ่ื May กบั ผชู้ ายคนหนง่ึ
ขน้ั Listening
หนังสือแบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 49 Ex. 11 ครูเปดิ CD ใหน้ ักเรียนฟังบทสนทนา 2 รอบ รอบท่ี
1 ครเู ปดิ ใหน้ ักเรยี นฟงั อย่างต่อเนอื่ ง ครเู ปดิ CD รอบที่ 2 นักเรยี นฟงั และระบายสใี หถ้ กู ต้อง ครูอาจให้
นกั เรียนระบายสีไว้เล็กน้อย เม่ือจบบทสนทนาจึงกลับมาระบายสใี หส้ วยงาม
436
Narrator: Listen and colour.
Man:
May: Hello, May. Are these clothes yours?
Man: Yes, they are. This is my pink skirt.
May:
Man: A pink skirt. That’s nice.
May:
And this is my blue T-shirt. I love my blue T-shirt.
Man:
May: Whose is this green dress?
A green dress? Oh, it’s my mum’s. It’s not my dress.
But these are my red shoes.
Your clothes are very nice, May.
Thank you.
ข้นั Post-listening
1. เมื่อนักเรียนทํากจิ กรรมการฟงั เสรจ็ ครูตรวจคาํ ตอบโดยถามคําถามและใหน้ ักเรยี นตอบ ดังนี้
T: What colour is May’s skirt? Ss: Her skirt is pink.
T: What colour is her T-shirt? Ss: Her T-shirt is blue.
T: What colour is her mum’s dress? Ss: Her mum’s dress is green.
T: What colour are her shoes. Ss: Her shoes are red.
หนังสอื แบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 49 Ex. 11 shoes - สแี ดง
skirt - สีชมพู dress - สเี ขยี ว T-shirt - สีฟ้า
2. ครูติดแผน่ ป้าย Audio Script ของ Ex. 11 บนกระดาน จากนนั้ เปิด CD ให้นักเรยี นฟงั และอ่านตามในใจ
แล้วเปดิ อีกครัง้ และให้นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งตาม CD
3. นักเรยี นจับคู่กัน จากนนั้ นาํ เครอ่ื งแต่งกายทีน่ ํามาจากบา้ นซง่ึ มขี องตนเอง 3 ชนิ้ และของสมาชกิ ใน
ครอบครวั 1 ชิ้นมาแสดงใหเ้ พือ่ นดู และผลดั กนั พูดนําเสนอและถาม-ตอบเกี่ยวกบั เครื่องแต่งกายทีน่ าํ มา
เหมือนดงั บทสนทนาตวั อยา่ งท่คี รูติดบนกระดาน
S1: This is my green shirt.
S2: That’s nice.
S1: And these are my black shorts. I love my black shorts.
S2: Whose is this red dress?
437
S1: It’s my sister’s. It’s not my dress. But these are my pink skirt.
S2: Your clothes are very nice.
S1: Thank you.
หนังสือแบบฝึกหัด (Workbook)
นกั เรียนทําแบบฝึกหัดทบทวนสิง่ ท่ีเรยี นในหนงั สอื แบบฝึกหดั หน้า 49 Ex. 12 เป็นการบ้าน
หนงั สือแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 49 Ex. 12 5 no
2 no 3 yes 4 no
7. การวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หนังสอื แบบฝึกหดั (Workbook)
ตรวจการระบายสีจากการฟัง และแบบทดสอบ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการสนทนาตามแบบทฟ่ี งั แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหดั
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งชี้ดา้ น หนงั สอื แบบฝกึ หัด (Workbook)
ใฝเ่ รียนรู้
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์
8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือแบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 บัตรภาพ บตั รคาํ และบตั รตวั อักษร
8.3 แผ่นปา้ ย Audio Script หนงั สือแบบฝกึ หดั หนา้ 49 Ex. 11
8.4 ส่งิ ของจริง ไดแ้ ก่ เครือ่ งแต่งกาย
438
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 13 People at work.
เวลา 1 ชว่ั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคําถามจากการอา่ นได้
- พดู นําเสนอเกยี่ วกบั เครือ่ งแตง่ กายของบุคคลในอาชีพต่าง ๆ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ีฟังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรอื สัญลักษณต์ รงตามความหมายของกลมุ่ คําและประโยคท่ฟี งั
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคาํ ถามจากการฟงั หรอื อา่ นประโยค บทสนทนา หรือนิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรอ่ื งตา่ ง ๆ
โดยการพูดและการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ป. 3/1 พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเองและเรอื่ งใกลต้ ัว
2. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด
การเรยี นรเู้ กยี่ วกบั เครือ่ งแต่งกายของอาชพี ตา่ ง ๆ ในประเทศอังกฤษ ช่วยให้รู้ข้อมลู พื้นฐานและเขา้ ใจ
วฒั นธรรมของประเทศนนั้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: postman, postbag, letter, fireman, helmet, lollipop lady
Structure: John Carter is a postman. He’s got a red postbag for his letters.
Functions: describing clothes,
talking about jobs
2) Language Skills
439
Speaking: พดู นาํ เสนอเก่ียวกับเคร่ืองแต่งกายของบคุ คลในอาชีพตา่ ง ๆ
Reading: อ่านและระบุภาพ, อา่ นเพือ่ หาข้อมลู เฉพาะ
3)Culture: อาชีพตา่ ง ๆ ของคนองั กฤษ
4. สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุง่ มัน่ ในการทาํ งาน
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ Warm up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ทบทวนประโยคบรรยายการแตง่ กายของบคุ คล โดยใหน้ กั เรียนทไี่ ด้คะแนนในการทาํ Portfolio ได้ดี 5
คนแรกออกมาพูดนําเสนอผลงานให้เพื่อนฟงั เป็นตัวอย่าง เช่น
S1: This is my mother. Her name is Jane. She’s a policewoman.
These are her clothes. Her hat is black.
These are her trousers. They’re black too.
ขั้น Pre-reading
1. ครูนาํ เสนอคาํ ศพั ท์เก่ียวกับอาชพี ได้แก่ fireman (พนกั งานดบั เพลงิ ), lollipop lady (เจา้ หน้าทผ่ี หู้ ญิง
ซึ่งถือปา้ ยวงกลมทม่ี ลี กั ษณะคล้ายอมยิ้ม มีหน้าทชี่ ่วยเหลอื นกั เรยี นในการข้ามถนน), postman
(บุรุษไปรษณยี ์) และ policeman (ตํารวจ) โดยการแสดงบัตรภาพและออกเสยี งคําศพั ท์ ใหน้ ักเรียน
ออกเสยี งตาม 2-3 คร้ัง
2. ครูแสดงบตั รภาพคู่กับบตั รคาํ และออกเสียงคําศัพท์ ให้นักเรียนออกเสียงตาม จากนนั้ ครแู สดงบัตรคาํ ให้
นกั เรียนออกเสียงคาํ ศพั ทด์ ว้ ยตนเอง
3. ครูถามนกั เรยี นว่า รู้จกั อาชพี ในบัตรภาพหรอื ไม่ ในประเทศไทยมีอาชพี เหลา่ นีห้ รอื ไม่ แลว้ ครูบอกว่า
lollipop lady เป็นอาชพี ท่ีไมม่ ีในประเทศไทย แตโ่ รงเรียนของไทยหลายแห่งบางคร้งั จะมตี าํ รวจจราจร
440
มาช่วยเหลือนักเรียนในการข้ามถนน สว่ นอาชพี พนักงานดบั เพลงิ บุรุษไปรษณยี ์ และตาํ รวจจะมี เครือ่ ง
แตง่ กายทแี่ ตกตา่ งจากของประเทศองั กฤษ
ขน้ั Reading
1. หนังสือเรียน หนา้ 61 Ex. 17 นกั เรียนอา่ นข้อความ A-D และจบั คกู่ บั ภาพ 1-4 เสรจ็ แล้วครูเฉลยคาํ ตอบ
1B 2C 3A 4D
2. หนังสอื เรยี น หน้า 61 Ex. 18 นักเรยี นอา่ นคําศัพทท์ กี่ าํ หนดให้ แลว้ อา่ นขอ้ ความใน Ex. 17 อีกครัง้
และจบั คภู่ าพกบั คําศัพทท์ ่สี มั พันธ์กนั เสรจ็ แลว้ ครสู ุม่ เรยี กนักเรยี นเฉลยคําตอบ
postbag - 3 lollipop lady - 2
policemen - 4 helmet and jacket - 1
3. ครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
- John Carter is a postman. His jacket and trousers are blue. (True)
- Peter Brown is a fireman. His trousers are pink. (False)
นักเรียนอา่ นประโยคบนกระดานพรอ้ มกนั แลว้ บอกวา่ ประโยคถกู หรอื ผดิ ถ้านกั เรยี นยงั ตอบไม่ได้
ใหย้ ้อนไปอ่านขอ้ ความใน Ex. 17 อกี คร้ัง
ขั้น Post-reading
นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ให้แตล่ ะกลุม่ คน้ หาภาพของบคุ คลในอาชพี ตา่ ง ๆ มา 2 อาชพี อาจเปน็
อาชีพของประเทศอื่นกไ็ ด้ แล้วเขียนบอกอาชพี และบรรยายเคร่ืองแตง่ กายของบคุ คลในภาพ จากนน้ั
ให้แต่ละกลุ่มออกมาแสดงผลงานหน้าหอ้ ง พรอ้ มกับพูดนาํ เสนอ เช่น He is a policeman. His shirt
and trousers are brown. His shoes are black.
My word book
นักเรียนบันทกึ คาํ ศพั ทท์ ีเ่ รยี นลงในสมุดคําศัพท์ พร้อมทง้ั บอกความหมาย โดยครแู นะนาํ ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ
คําศพั ท์โดยเรยี งตามตวั อักษร a-z
441
หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook)
นักเรียนทาํ แบบฝึกหดั ทบทวนสิง่ ท่เี รียนในหนงั สอื แบบฝึกหัด หนา้ 51 Exs. 14-15 เป็นการบา้ น
หนังสือแบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 51 Ex. 14
2 lollipop lady 3 fireman 4 policeman
4 postbag
หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 51 Ex. 15
2 helmet 3 lollipop lady
7. การวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
แบบทดสอบ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาํ ถามจากการอา่ น แบบประเมนิ ช้นิ งาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
หนังสอื แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพดู นาํ เสนอเกยี่ วกบั แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เคร่ืองแต่งกายของบคุ คลอาชีพตา่ ง อนั พึงประสงค์
ๆ
ตรวจสมุดคาํ ศพั ท์
ตรวจแบบฝกึ หัด
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งชี้ดา้ น
ใฝเ่ รียนรแู้ ละม่งุ มัน่ ในการทํางาน
8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสอื เรียน EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนังสอื แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 บตั รภาพและบตั รคาํ
8.4 อปุ กรณ์การทํางาน ไดแ้ ก่ กระดาษ A4
8.5 อนิ เทอร์เน็ต
442
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 14 The uniform
เวลา 1 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านเพ่อื ระบขุ อ้ มลู เฉพาะได้
- พูดและเขยี นนําเสนอเกย่ี วกับเครื่องแบบนกั เรยี นของตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชว้ี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคําถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองตา่ ง ๆ โดยการ
พดู และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ป. 3/1 พูดใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว
2. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด
การร้เู ก่ียวกบั การแตง่ กายของบคุ คลในประเทศตา่ ง ๆ ชว่ ยให้ร้ขู อ้ มูลพืน้ ฐานและเขา้ ใจวฒั นธรรมของ
ประเทศนั้น ๆ
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Function
Vocabulary: primary school, uniform, high school
Structure: In Indonesia, primary school children wear school uniforms.
Look at their clothes! Their shirts are white and their skirts are
red.
Their caps are red and white too.
Primary school children in Vietnam wear school uniforms.
443
Look at their clothes! Their shirts are white and their scarves are
red.
Function: talking about clothes in ASEAN countries
2) Language Skills
Speaking: พดู นาํ เสนอเก่ียวกับเคร่ืองแบบนกั เรียนของตนเอง
Reading: อา่ นเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ
Writing: เขยี นบรรยายเกย่ี วกบั เครอ่ื งแบบนักเรียนของตนเอง
4. สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมั่นในการทาํ งาน
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้น Warm up
1. ครูและนักเรียนกลา่ วทักทายกัน
2. ทบทวนคาํ ศัพท์เก่ียวกบั อาชีพ โดยครูแสดงบัตรภาพอาชพี ต่าง ๆ เช่น postman, lollipop lady,
policeman, fireman, doctor, clown, ballerina แล้วให้นักเรยี นบอกคําศพั ท์
T: (แสดงบัตรภาพบุรุษไปรษณยี ์) What does he do?
Ss: He is a postman.
ขนั้ Pre-reading
1. นกั เรียนอ่านช่อื เร่ือง The Uniform ในหนงั สอื เรียน หนา้ 62 ตามครู 2-3 คร้ัง แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดา
ความหมายของ uniform (เครอื่ งแบบ)
2. นักเรียนดูภาพเครื่องแบบนักเรยี นของประเทศเพือ่ นบา้ น เชน่ อนิ โดนเี ซีย เวยี ดนาม ในหนังสือเรียน หนา้
62 แล้วครบู อกนกั เรียนว่า ประเทศเหล่าน้ีถึงแมว้ า่ จะอยใู่ นกลมุ่ อาเซยี นเหมอื นกนั แตม่ ีความแตกตา่ งกนั
ในด้านการแต่งกาย ขนึ้ อยู่กับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ
3. ครูนําเสนอคําศัพท์ primary school (โรงเรยี นประถม) และ high school (โรงเรยี นมธั ยม) บนกระดาน
ใหน้ กั เรียนออกเสยี งตาม
444
ขนั้ Reading
1. หนงั สือเรียน หนา้ 62 Ex. 1 นกั เรยี นอ่านประโยค 1-4 แลว้ อา่ นเนอ้ื เรื่องในใจ เพอ่ื หาวา่ ประโยคเหลา่ น้ี
พูดถงึ เครือ่ งแบบนักเรยี นของประเทศใด เสรจ็ แลว้ ช่วยกันเฉลยคําตอบ
2 Vietnam 3 Vietnam 4 Indonesia
2. หนังสือเรียน หนา้ 63 Ex. 2 นกั เรียนอา่ นประโยค a-d แล้วอ่านเนอ้ื เรือ่ งอีกคร้งั และจบั คู่ประโยคกับ
ประเทศทสี่ มั พนั ธก์ นั เสรจ็ แล้วชว่ ยกนั เฉลยคาํ ตอบ
Vietnam - a, c Indonesia - b, d
3. นกั เรียนอา่ นออกเสยี งเน้อื เร่อื งตามครูทลี ะประโยค โดยครูชว่ ยอธิบายเน้อื หาในสว่ นที่นกั เรยี นยงั ไม่เข้าใจ
ข้นั Post-reading
1. หนงั สอื เรยี น หน้า 63 Ex. 3 นกั เรียนทาํ ชิน้ งาน My school uniform โดยนกั เรียนวาดภาพเครื่องแบบ
นักเรียนของตนเองลงในกระดาษ A4 พรอ้ มทง้ั ระบายสีให้สวยงาม และเขยี นบรรยายภาพโดยดตู ัวอยา่ ง
เนือ้ เรอ่ื งในหน้า 62 ครอู าจนําตัวอยา่ งชิ้นงานท่ีเสรจ็ สมบรู ณ์แล้วมาแสดงใหน้ ักเรยี นดู
2. เม่อื นักเรยี นทําชน้ิ งานเสร็จแล้ว ครูสมุ่ เรียกนักเรยี นออกมาแสดงผลงานใหเ้ พ่อื นดหู น้าหอ้ ง พร้อมกบั พูด
นาํ เสนอเคร่ืองแบบนกั เรยี นของตนเอง เช่น Look at my school uniform! My shirt is white and
my shorts are blue. จากน้ันครูนําผลงานของนักเรยี นมาจัดแสดงบนบอรด์ โดยมีหวั ข้อว่า My school
uniform
My word book
นักเรยี นบนั ทึกคําศัพทท์ ีเ่ รยี นลงในสมดุ คําศพั ท์ พรอ้ มทัง้ บอกความหมาย โดยครูแนะนําใหน้ กั เรยี นบนั ทึก
คําศพั ทโ์ ดยเรียงตามตวั อักษร a-z
445
7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั แบบทดสอบ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคําถามจากการอา่ น แบบประเมินชิน้ งานและ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ชนิ้ งาน My school
uniform และการพูดนาํ เสนอ แบบประเมนิ ช้ินงาน
ตรวจสมดุ คําศัพท์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีด้าน
ใฝ่เรยี นรแู้ ละมุ่งมัน่ ในการทาํ งาน
8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 บตั รภาพ
8.3 อุปกรณก์ ารทํางาน ไดแ้ ก่ กระดาษ A4 และดินสอสี
446
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 15 CLIL 5 Play the music!
เวลา 1 ชวั่ โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ศพั ท์เก่ยี วกับเครอ่ื งดนตรีได้
- พดู และเขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับเครอื่ งดนตรที ่ตี ้องการเล่นได้
- รวบรวมคาํ ศัพทเ์ กย่ี วกับเครื่องดนตรีได้
- ร้องเพลงภาษาองั กฤษที่กําหนดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั
สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งท่ีฟังและอ่านจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสียงคํา สะกดคาํ อ่านกลุ่มคาํ ประโยค และบทพูดเข้าจงั หวะ (chant) ง่าย ๆ
ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบภุ าพหรือสัญลกั ษณ์ตรงตามความหมายของกลุ่มคาํ และประโยคทีฟ่ ัง
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึก
และความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
ตัวชว้ี ัด
ต 1.2 ป. 3/3 บอกความต้องการง่าย ๆ ของตนเองตามแบบทฟี่ ัง
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชว้ี ดั
ต 2.1 ป. 3/3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วัย
สาระท่ี 3 ภาษากับความสมั พันธก์ ับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ น่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ืน่ และเป็น
พืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
ตวั ชี้วดั
ต 3.1 ป. 3/1 บอกคําศัพทท์ ่ีเกย่ี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น
447
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเคร่อื งมือพ้นื ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลีย่ นเรียนรู้กับสงั คมโลก
ตัวชว้ี ดั
ต 4.2 ป. 3/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเพอ่ื รวบรวมคาํ ศัพท์ทีเ่ กี่ยวข้องใกล้ตัว
2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด
การรคู้ าํ ศพั ท์เกีย่ วกบั เครอื่ งดนตรีและโครงสรา้ งประโยคที่ใชบ้ อกความต้องการ ช่วยให้พดู และเขยี น
ส่อื สารเกี่ยวกบั ตนเอง และเป็นการใช้ภาษาอังกฤษเชื่อมโยงความรูก้ บั วชิ าดนตรี ซง่ึ เป็นพ้นื ฐานในการแสวงหา
ความรูแ้ ละเปดิ โลกทศั น์
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features
Vocabulary: (musical instruments) piano, violin, drum, guitar, trumpet,
tambourine, recorder
bang, blow, play
Structure: I want to play the piano.
I want to bang the drum.
I want to blow the trumpet.
2) Language Skills
Listening: ฟังและระบุภาพ
Speaking: พูดบอกเครือ่ งดนตรที ีต่ อ้ งการเลน่ , รอ้ งเพลงภาษาอังกฤษ
Writing: เขียนบอกเครื่องดนตรที ต่ี ้องการเล่น
4. สมรรถนะสาํ คัญของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุ่งมัน่ ในการทํางาน
448
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm up
1. ครูเขา้ มาในหอ้ งเรียนและพดู ทักทายกับนักเรียน
2. ครถู ามนักเรียนว่า ใครชอบเลน่ ดนตรีบ้าง และชอบเล่นเคร่ืองดนตรีอะไร จากนั้นใหน้ ักเรยี นช่วยกนั บอก
ช่ือเครื่องดนตรใี นภาษาองั กฤษทรี่ ู้จกั
3. ครเู ปดิ เสยี งเคร่อื งดนตรตี ่าง ๆ ใหน้ กั เรยี นฟัง แล้วช่วยกันทายว่าเป็นเสียงเครื่องดนตรีชนิดใด โดยเข้าไปท่ี
เว็บไซต์ www.youtube.com แล้วพมิ พช์ ื่อคลปิ วิดีโอ “เกม ทายเสยี งเครื่องดนตรี 10 ขอ้ ”
ข้ัน Presentation
1. ครูนําเสนอคําศัพท์เกย่ี วกบั เครือ่ งดนตรี ได้แก่ piano (เปยี โน), violin (ไวโอลิน), drum (กลอง), guitar
(กีตาร)์ , trumpet (ทรมั เปต็ ), tambourine (แทมบูรนี ) และ recorder (ขลุย่ ) โดยการแสดงบตั รภาพ
และออกเสยี งคาํ ศพั ท์ ให้นักเรยี นออกเสยี งตาม 2-3 ครงั้ จากนนั้ ครูแสดงบัตรภาพอกี คร้งั ให้นักเรียน
ออกเสยี งคําศัพทด์ ว้ ยตนเองและชว่ ยกันบอกความหมาย
พยางคท์ พ่ี ิมพต์ วั หนา คอื พยางค์ท่ีลงเสยี งหนักในคาํ
piano violin guitar
trumpet tambourine recorder
2. หนังสือแบบฝกึ หดั หน้า 72 Ex. 1 ครเู ปดิ CD ใหน้ ักเรียนฟังคําศพั ท์และชี้ภาพตามไปดว้ ย แลว้ ครเู ปิด
CD อีกครัง้ โดยหยุด CD ทีละคํา เพอ่ื ให้นกั เรียนพดู คาํ ศัพทต์ าม ครสู งั เกตการลงเสยี งหนักในคําด้วย
piano violin drum guitar
trumpet tambourine recorder
3. ครสู อนคาํ ศัพท์ bang (ต)ี , blow (เปา่ ) และ play (เลน่ ) โดยติดบตั รคาํ บนกระดานและออกเสียงคาํ ศพั ท์
ใหน้ กั เรยี นออกเสียงตามครู 2-3 ครัง้ ต่อมาครูชีบ้ ตั รคาํ ทีละใบ ใหน้ ักเรยี นออกเสียงคาํ ศัพทด์ ้วยตนเอง
แลว้ ครบู อกความหมายของคาํ ศัพท์ จากนน้ั ครูพดู ประโยค I want to bang the drum. พร้อมทาํ ท่าตี
กลอง ให้นกั เรยี นพูดและทาํ ทา่ ตามครู ครูใชว้ ิธเี ดียวกันเพ่ือนําเสนอประโยค I want to blow the
trumpet. และ I want to play the piano.
449
4. ครูพดู ประโยค I want to play the piano. และเขยี นประโยคบนกระดาน ให้นักเรียนอา่ นตามครู 2 คร้ัง
แลว้ ครูอธิบายความหมายของประโยค จากนัน้ ครูแสดงบตั รภาพเครอ่ื งดนตรี ให้นกั เรยี นช่วยกนั พดู
ประโยคโดยเปล่ียนเป็นเครอื่ งดนตรีในบตั รภาพ เชน่
T: (แสดงบตั รภาพกลอง)
Ss: I want to play the drum.
ครทู ํากจิ กรรมเชน่ นจ้ี นครบคาํ ศัพทท์ ุกคําทีเ่ รียน แล้วช้ใี หน้ กั เรยี นสงั เกตวา่ การเลน่ เครือ่ งดนตรจี ะตอ้ งใช้
play + the + เคร่อื งดนตรี ในขณะที่ช่ือกีฬาไม่จาํ เป็นต้องมี the เชน่ play football
เมอื่ นักเรียนพูดประโยคได้คล่องแล้ว ครอู ธิบายวา่ I want to … ใช้บอกว่าตอ้ งการทาํ อะไร เชน่ I want
to eat ice cream.
ขน้ั Practice
1. ครสู มุ่ ชี้ภาพเคร่อื งดนตรี 2-3 ภาพ ในหนังสือแบบฝกึ หดั หน้า 72 Ex. 2 แล้วถามว่า What’s this?
ให้นักเรียนช่วยกันตอบ เชน่
T: What’s this? (ครชู ้ีภาพทางขวา ข้อ 1)
Ss: It’s a piano.
จากนั้นใหน้ ักเรยี นจับค่กู นั ฝึกถาม-ตอบเกย่ี วกบั เครอ่ื งดนตรีจนครบทุกภาพ
2. หนงั สอื แบบฝึกหัด หนา้ 72 Ex. 2 ครเู ปิด CD ให้นกั เรยี นฟงั และระบวุ ่าเปน็ เสยี งของเคร่ืองดนตรี
ชนิดใด เสร็จแล้วครูเปิด CD ใหน้ ักเรยี นฟงั อกี คร้งั เพอ่ื เฉลยคําตอบ
1 เสียงเปียโน 2 เสยี งทรมั เป็ต 3 เสียงไวโอลนิ
4 เสยี งกลอง 5 เสยี งแทมบรู นี 6 เสยี งขล่ยุ
1 piano 2 trumpet 3 violin
4 drum 5 tambourine 6 recorder
3. หนงั สือแบบฝกึ หดั หน้า 73 Ex. 3 ครูเปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟงั เพลงและดูเนื้อเพลงตามไปดว้ ย แล้วครูเปดิ
CD อกี 2-3 คร้งั ให้นักเรยี นฝกึ ร้องเพลงตาม CD พร้อมทัง้ ทําทา่ ประกอบ เมือ่ นกั เรยี นร้องเพลงคลอ่ งแลว้
ครถู ามวา่ มเี ครือ่ งดนตรีชนดิ ใดบ้างทไี่ ด้ยินในเพลง
450
ขนั้ Production
1. นกั เรียนเลน่ เกมทบทวนคําศัพทเ์ กีย่ วกับเครอ่ื งดนตรี โดยครสู ุ่มเรียกนกั เรยี น 1 คน ออกมาแสดงท่าทาง
เลน่ เครอ่ื งดนตรี และพดู ว่า I want to play the … ให้เพอ่ื นในชั้นทายช่ือเครอ่ื งดนตรี ใครทายไดถ้ กู ต้อง
จะไดอ้ อกมาแสดงทา่ ทางใหเ้ พอื่ นทายเปน็ คนต่อไป เชน่
S1: I want to play the … (แสดงทา่ ทางเล่นเปยี โน)
S2: piano!
S1: Yes. I want to play the piano!
S2: I want to play the … (แสดงท่าทางเป่าขลุ่ย)
S3: recorder!
S2: Yes. I want to play the recorder!
2. ครูแจกกระดาษ A4 ให้นกั เรยี นวาดภาพเครอื่ งดนตรที ่ีต้องการเลน่ 1 ช้ิน และระบายสีให้สวยงาม
เสร็จแล้วเขียนประโยคใต้ภาพ เชน่ I want to play the drum. จากนน้ั ครูสมุ่ เรยี กนกั เรยี นออกมาแสดง
ผลงานใหเ้ พอื่ นดูท่ีหนา้ หอ้ งพรอ้ มกับพดู นาํ เสนอ
My word book
นกั เรยี นบันทกึ คําศัพทท์ เ่ี รียนลงในสมดุ คาํ ศพั ท์ พรอ้ มทง้ั บอกความหมาย โดยครแู นะนําให้นกั เรียนบนั ทึก
คาํ ศัพท์โดยเรียงตามตวั อกั ษร a-z
7. การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการออกเสยี งคาํ ศพั ท์ แบบประเมนิ ช้นิ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการร้องเพลงภาษาอังกฤษ แบบประเมินชนิ้ งาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ชิ้นงานภาพเครื่องดนตรี หนังสือแบบฝึกหัด (Workbook) ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และการพดู บอกเคร่ืองดนตรที ี่
ต้องการเล่น แบบประเมนิ คุณลักษณะ
ตรวจสมุดคาํ ศัพท์ อนั พึงประสงค์
ตรวจแบบฝกึ หัด
สงั เกตพฤติกรรมบ่งชดี้ า้ น
ใฝ่เรียนรู้และมงุ่ มัน่ ในการทํางาน
451
8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 บัตรภาพ
8.4 อปุ กรณก์ ารทาํ งาน ได้แก่ กระดาษ A4 และดินสอสี
452
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 Fashion show เวลา 2 ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์ (Objective)
- ออกแบบเสอื้ ผ้าของตนเองและพดู นาํ เสนอได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขียน
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.3 ป. 3/1 พดู ให้ขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเองและเรือ่ งใกลต้ ัว
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาํ ไปใช้
ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวช้วี ดั
ต 2.1 ป. 3/3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกับวยั
2. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเปดิ โอกาสใหผ้ ูเ้ รียนได้ใช้ภาษาในสถานการณท์ ่ีกาํ หนดขน้ึ ช่วยใหน้ ําภาษาไปใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
และการทาํ ช้ินงานช่วยใหผ้ ้เู รยี นเกิดความคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์และทาํ งานเปน็ ทีม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Function
Vocabulary: ทบทวนคําศัพทเ์ ก่ยี วกบั เครอ่ื งแต่งกาย
Structure: ทบทวนโครงสรา้ งทางภาษาเกยี่ วกับเครือ่ งแต่งกาย
Function: talking about clothes
2) Language Skill
Speaking: พูดนาํ เสนอเส้ือผ้าท่ีตนเองออกแบบ
453
4. สมรรถนะสําคญั ของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 มุ่งม่ันในการทาํ งาน
5.2 มจี ิตสาธารณะ
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1
ขน้ั Warm up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทักทายกนั
2. ทบทวนคําศพั ท์เก่ยี วกบั เครื่องแต่งกาย สี และอาชพี โดยใหน้ กั เรียนร้องเพลงในหนงั สือเรยี น หน้า 60 Ex.
15 ครูอาจใหน้ กั เรียนรอ้ งเพลงและทาํ ท่าประกอบตามเนอื้ เพลงดว้ ย
ขั้น Presentation
นกั เรียนอา่ นเนื้อหาในกรอบ Go Green หนงั สอื เรียน หน้า 53 แลว้ ช่วยกนั อภปิ รายว่า เราสามารถนํา
เสือ้ ผา้ เก่าไปทําอะไรได้บา้ ง เพือ่ หลีกเล่ยี งการสรา้ งขยะเพ่มิ ให้กบั โลกใบน้ี
ขั้น Practice
นกั เรยี นนําเสอื้ ยืดทต่ี นเองไมใ่ ส่แล้วแตย่ ังอยใู่ นสภาพทด่ี อี ยู่มา ครขู อความรว่ มมอื จากครูวชิ าศลิ ปะ สอน
ใหน้ กั เรยี นตกแตง่ เส้อื ผา้ ของตนเองให้ดูทันสมัย โดยออกแบบลงในกระดาษกอ่ นจะลงมือทาํ จริง จากนั้น
นักเรียนแบง่ กลุ่ม ผลัดกันแสดงความคดิ เห็นเพอ่ื ให้คาํ แนะนาํ งานออกแบบของเพอื่ น
ขน้ั Production
1. นักเรียนตกแต่งเสอ้ื ของตนเองตามแบบทีท่ าํ ไว้
2. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ และวางแผนการเดนิ แบบของกลุม่ ตนเองเพื่อนําเสนอเสื้อผ้าทตี่ นเองออกแบบในคาบ
ถัดไป
454
ช่วั โมงท่ี 2
ขน้ั Warm up
1. นักเรียนเล่นเกม What’s missing? ทบทวนคําศพั ท์เกยี่ วกับเครอื่ งแต่งกาย โดยครตู ิดบัตรภาพบน
กระดานครง้ั ละ 4 ใบ ให้นักเรยี นจดจาํ คาํ ศพั ทแ์ ละตําแหนง่ ของบตั รภาพ แลว้ นักเรียนหลบั ตา ครูดงึ บัตร
ภาพออก 1 ใบ จากน้นั นักเรยี นลืมตาและบอกว่าบตั รภาพที่หายไปคือคําวา่ อะไร ครใู หน้ กั เรยี น เลน่ เกม
3-4 รอบ
ขนั้ Production (ตอ่ )
1. ครูอธบิ ายวา่ เมอื่ แต่ละกลุ่มออกมาเดินแบบแนะนาํ เสื้อผา้ ให้ผูช้ มตั้งใจดูและลงคะแนนเสียงเลอื กเสื้อผ้า
ทอี่ อกแบบไดส้ วยทส่ี ุด และกลมุ่ ท่ีนําเสนอเสือ้ ผ้าไดส้ รา้ งสรรคท์ ่สี ดุ
2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานําเสนอเสื้อผ้าโดยนางแบบหรอื นายแบบแตล่ ะคนจะตอ้ งพดู นาํ เสนอเสื้อผ้า
ของตนเองโดยใช้โครงสรา้ ง This is my … . หรอื These are my … . เชน่ This is my T-shirt. It’s
red. It has got a panda on it.
3. ถ้านกั เรยี นทาํ ผลงานออกมาไดด้ ี ครอู าจใหน้ กั เรียนจัดประมูลเส้อื ผา้ และนาํ รายไดไ้ ปช่วยเหลือองคก์ รการ
กุศลทนี่ กั เรียนเลือก หรอื นําเสอื้ ผ้าไปบรจิ าคให้คนท่ีต้องการ
7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ การเดนิ แบบ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วธิ ีการวดั
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเดนิ แบบเพ่ือ อันพึงประสงค์
นําเสนอเส้ือผา้ ท่ตี นเองออกแบบ
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีด้าน มงุ่ ม่นั
ในการทาํ งานและมจี ิตสาธารณะ
8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรียน EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 อุปกรณก์ ารทาํ งาน ได้แก่ เส้อื ยดื ทไี่ มใ่ สแ่ ล้ว กรรไกร กาว และอปุ กรณต์ กแต่ง เช่น ไหมพรม
กระดมุ
455
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 17 Modular Revision and Assessment 5
เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objective)
- ระบขุ อ้ มูลเฉพาะจากการฟงั ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอื่ งทฟ่ี งั และอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมีเหตผุ ล
ตวั ช้วี ดั
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรือสัญลักษณต์ รงตามความหมายของกลมุ่ คําและประโยคท่ีฟงั
2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด
การรูค้ ําศัพทเ์ ก่ียวกบั อาชีพและเคร่อื งแต่งกาย ชว่ ยให้เขา้ ใจบทสนทนาที่ฟังและส่ือสารไดถ้ ูกต้อง
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features
Vocabulary: blue, yellow, pink, black, orange, red, green, skirt, dress,
trousers, shoes, jacket, cap
Structure: Whose is this blue jacket?
Chai’s jacket is blue.
2) Language Skills
Listening: ฟังเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ
Speaking: พดู ให้ข้อมลู เกี่ยวกบั สขี องเคร่อื งแตง่ กาย
4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
456
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ Warm up
1. นกั เรียนช่วยกันบอกคําศัพทท์ ่ีเรียนไปแล้วในหน่วยฯ ท่ี 5 และสะกดคํา จากนัน้ ครูเขียนคาํ ตอบของ
นักเรียนบนกระดานแลว้ ให้นักเรียนอ่านออกเสียงพรอ้ มกัน
2. นักเรยี นวาดตารางขนาด 3x3 ชอ่ ง ลงในกระดาษ จากน้ันเขยี นคําศพั ทบ์ นกระดานลงในชอ่ ง โดยแตล่ ะ
ชอ่ งคาํ ศัพท์ห้ามซาํ้ กนั จากนน้ั ครสู ุ่มเลอื กคาํ ศพั ทบ์ นกระดานและออกเสยี ง ใหน้ ักเรยี นกากบาททับ
คําศัพท์ท่ไี ดย้ ิน นกั เรียนทีก่ ากบาทเรยี งติดต่อกนั 3 ชอ่ ง ในแนวใดก็ได้ใหต้ ะโกนวา่ บิงโก
ขน้ั Pre-listening
1. ครใู หน้ ักเรยี นชาย 1 คน ถอื บัตรภาพเคร่ืองแตง่ กายและบัตรสี จากนัน้ ครชู ไี้ ปทน่ี กั เรยี นคนดงั กล่าวและ
พูดวา่ He is Chai. ให้นักเรียนสังเกตที่เครื่องแตง่ กายของ Chai แล้วครูถามนักเรียน ดงั นี้
T: Whose is this blue jacket?
Ss: It’s Chai’s.
T: Chai’s jacket is blue. Repeat.
Ss: Chai’s jacket is blue.
T: Whose are these black trousers?
Ss: It’s Chai’s.
T: Chai’s trousers are black. Repeat.
Ss: Chai’s trousers are black.
ครูเขียนประโยค Chai’s jacket is blue. และ Chai’s trousers are black. บนกระดาน จากน้ันให้
นักเรียนบอกความหมาย (แจ็กเกตของชยั สีฟา้ ) (กางเกงขายาวของชยั สดี าํ ) จากนน้ั ครูนําเสนอโครงสรา้ ง
การบอกสีของเครอ่ื งแตง่ กาย ดงั นี้
ประธาน’s + (คาํ ศพั ทเ์ คร่ืองแตง่ กายที่เปน็ เอกพจน)์ + is + สี
ประธาน’s + (คาํ ศพั ท์เครือ่ งแตง่ กายทเ่ี ป็นพหูพจน)์ + are + สี
2. ครแู จกบัตรภาพเครื่องแตง่ กายและบตั รสีให้นกั เรยี น 5-6 คน จากน้ันให้นักเรียนบอกสขี อง
เคร่ืองแตง่ กายของเพอื่ น เช่น
S1: (ถอื บตั รภาพกระโปรงและบัตรสีชมพู)
457
Ss: Dao’s skirt is pink.
S2: (ถือบัตรภาพกางเกงขาส้ันและบตั รสีเหลือง)
Ss: Wat’s shorts are yellow.
3. หนงั สือแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 52 Exs. 1-4 นักเรียนประเมินตนเองโดยทํา Exs. 1-4 ภายใน
เวลา 10-15 นาที เสรจ็ แล้วเฉลยคาํ ตอบรว่ มกนั ครสู ังเกตวา่ นกั เรียนส่วนใหญท่ าํ ขอ้ ใดผิด และสอน
ประเดน็ ดงั กลา่ วใหน้ กั เรยี นอีกคร้ัง
หนงั สือแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 52 Ex. 1
1a 2e 3d 4f 5c
3 babies
หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 52 Ex. 2
3 Those
1 tomatoes 2 glasses 4f 5e
4 watches 5 boxes
หนังสือแบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 52 Ex. 3
1 These 2 This
4 This 5 Those
หนังสือแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 52 Ex. 4
1d 2a 3c
4. หนงั สอื แบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 53 Ex. 5 นักเรียนอ่านคาํ ส่ังพรอ้ มกัน แล้วอา่ นช่อื บุคคลที่ให้มา
จากนน้ั ชว่ ยกนั พูดบรรยายเครอื่ งแตง่ กายที่แต่ละบุคคลสวมใส่ เสรจ็ แลว้ ครูอธิบายวา่ นกั เรียนจะได้ฟงั บท
สนทนาสนั้ ๆ 4 บท เกี่ยวกับเครอ่ื งแตง่ กายทแ่ี ตล่ ะบคุ คลสวมใสแ่ ละจับคู่ภาพบุคคลกบั ชือ่ ที่ปรากฎ
ขั้น Listening
นักเรยี นทาํ กจิ กรรมการฟงั ใน Ex. 5 โดยครูเปิด CD ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ รอบท่ี 1 ครูเปิดให้นักเรยี นฟัง
อย่างตอ่ เน่อื ง รอบท่ี 2 เปิดใหน้ กั เรยี นฟงั ทลี ะขอ้ จากน้ันใหน้ ักเรียนโยงเสน้ จับคบู่ คุ คลและช่อื ใหถ้ ูกตอ้ ง
458
Narrator: Listen and draw lines.
One
Female: Look at Bill! Bill’s jacket and trousers are blue.
Bill’s cap is red.
Two
Female: Can you see Paul? Paul’s jacket and trousers are red.
His cap is red too.
Three
Female: Now, look at Jenny. Jenny’s skirt and boots are pink.
Her gloves are pink too.
Four
Female: Can you see Donna? Donna’s skirt and boots are yellow.
Her gloves are pink.
ข้นั Post-listening
1. เมือ่ นักเรยี นทํา Ex. 5 เสรจ็ ครูตรวจคําตอบโดยถามคาํ ถามนกั เรียน ดงั นี้
T: Whose jacket and trousers are blue?
Ss: Bill’s jacket and trousers are blue.
T: Whose jacket, trousers and cap are red?
Ss: Paul’s jacket, trousers and cap are red.
T: Whose skirt, boots and gloves are pink?
Ss: Jenny’s skirt, boots and gloves are pink.
T: Whose skirt and boots are yellow?
Ss: Donna’s skirt and boots are yellow.
ครรู วบรวมคําตอบจากนกั เรียนและเขียนคาํ ตอบทถี่ ูกตอ้ งบนกระดาน
หนังสอื แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 53 Ex. 5
b1 c2 d3
459
2. หนังสือแบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 53 Ex. 6 นกั เรียนอ่านคําส่ังและคําถามพร้อมกัน ครถู ามวา่
ข้อมูลท่ตี อ้ งนาํ มาเติมมีอะไรบ้าง ครูให้เวลาทํา 5 นาที จากนัน้ เฉลยคําตอบร่วมกนั
หนังสอื แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 53 Ex. 6
1 ten 2 play 3 teacher
4 dad’s 5 black
เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรยี นอ่านออกเสียงบทอ่านตามครทู ลี ะประโยค แล้วช่วยกนั อธิบายความหมาย
7. การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วิธีการวดั รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หนังสือแบบฝึกหัด (Workbook)
ตรวจการระบภุ าพจากการฟัง และแบบทดสอบ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ดี า้ น แบบประเมินคณุ ลักษณะ
ใฝเ่ รยี นรู้ อันพึงประสงค์
8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สอื แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 บตั รภาพและบตั รสี
460
6 Things I Can Do!
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลาเรียน 20 ชวั่ โมง
11...
1 สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งทฟ่ี ังและอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.1 ป. 3/2 อา่ นออกเสียงคํา สะกดคํา อา่ นกลุม่ คาํ ประโยค และบทพูดเข้าจงั หวะ (chant) ง่าย ๆ
ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบภุ าพหรอื สญั ลักษณต์ รงตามความหมายของกล่มุ คาํ และประโยคทฟ่ี ัง
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคําถามจากการฟงั หรอื อ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ป. 3/1 พดู โตต้ อบดว้ ยคําสั้น ๆ งา่ ย ๆ ในการส่ือสารระหวา่ งบุคคลตามแบบทฟ่ี ัง
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและให้ข้อมลู งา่ ย ๆ เกยี่ วกับตนเองและเพ่ือนตามแบบทฟ่ี งั
ต 1.2 ป. 3/5 บอกความร้สู กึ ของตนเองเกยี่ วกบั ส่ิงต่าง ๆ ใกลต้ วั หรอื กจิ กรรมต่าง ๆ ตามแบบท่ีฟัง
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการ
พูดและการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ป. 3/1 พูดใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั ตนเองและเรอื่ งใกลต้ ัว
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวัด
ต 2.1 ป. 3/2 บอกช่ือและคําศพั ท์งา่ ย ๆ เกี่ยวกับเทศกาล/วันสําคัญ/งานฉลอง และชวี ติ
ความเปน็ อย่ขู องเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป. 3/3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกบั วยั
461
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็น
พ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
ตวั ชีว้ ดั
ต 3.1 ป. 3/1 บอกคําศพั ท์ทเ่ี กีย่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ตัวช้วี ัด
ต 4.1 ป. 3/1 ฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่าย ๆ ทีเ่ กดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรยี น
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครือ่ งมอื พืน้ ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กับสงั คมโลก
ตัวชว้ี ัด
ต 4.2 ป. 3/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเพ่ือรวบรวมคําศพั ทท์ เี่ ก่ยี วข้องใกล้ตัว
2 สาระสาํ คัญ/ความคิดรวบยอด
การเรยี นรู้คํากริยา การใช้ can บอกความสามารถ และประโยคทใี่ ชใ้ นการเสนอแนะ ช่วยให้พูดสอื่ สาร
ไดถ้ ูกตอ้ ง รวมทงั้ การเรยี นรู้เกีย่ วกับสถานทที่ ่องเทย่ี วของประเทศองั กฤษและการละเลน่ ตา่ ง ๆ ของประเทศใน
อาเซียน ชว่ ยใหร้ ูข้ ้อมลู เกี่ยวกับชวี ติ ความเปน็ อยู่และเข้าใจวฒั นธรรมของประเทศตา่ ง ๆ ตลอดจนการเรยี นรู้
เกี่ยวกับประสาทสมั ผสั ทง้ั 5 เป็นการเช่อื มโยงความรูก้ บั กล่มุ สาระการเรียนรูอ้ ื่น
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (verbs) jump, draw, sing, hear, see, fly, read, dance, run, cook
drive, ride, play, swim, fish
(sports) football, hockey, tennis, basketball, volleyball
(instruments) guitar, drum, piano, violin, recorder
park, zoo, beach, cinema, the Statue of Liberty, visit, wonderful,
view, roller coaster, circus, playtime, great, fun, bar, jump over,
touch, hold, bump, lose, ground, cross, line, catch, hear, smell,
see, taste, touch, ear, hand, tongue, eye, nose
(-m sound) mum, jam, drum, arm
462
(-n sound) green, run, sun, moon
Structure: Oscar can jump.
Can she hear? No, she can’t.
Can you swim? Yes, I can.
Can you play football? No, I can’t.
What can we do? Let’s go to the park.
I can play football and I can play tennis.
I can play the guitar but I can’t play the piano.
Tom can read and he can write too.
What can we do in the park? We can run in the park!
I can’t draw but I can fly!
I can see the Statue of Liberty!
He can play the guitar and he can play the drum too!
Can you help me, please?
Hello, I’m Wendy and I’m eight years old. I can write but I can’t
draw.
I can sing and I can dance too.
I can play the piano and you can play with me!
Visit Blackpool and have a fantastic time!
You can swim at the Pleasure Beach.
I hear with my ears.
I smell with my nose.
I see with my eyes.
I taste with my tongue.
I touch with my hands.
Hello, we are Giant group. We can sing and dance.
What’s your name? My name’s …
How do you spell your name?
How old are you?
Have you got any brothers or sisters?
Can you sing?
Pronunciation: final sounds: /m/ and /n/
463
Functions: talking about ability and things you can do in some places,
suggesting,
introducing yourself,
talking about the five senses
2) Language Skills
Listening: ฟังเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟงั และระบคุ าํ
Speaking: พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกบั ความสามารถของตนเองและผูอ้ น่ื , พดู ขอและใหข้ ้อมูล
เกี่ยวกับความสามารถของผอู้ ืน่ , พดู ถามเก่ียวกบั กิจกรรมทอ่ี ยากทําและ
เสนอแนะโดยใชโ้ ครงสร้างภาษาทก่ี าํ หนด, พูดให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั
ความสามารถของบุคคลและสตั ว์, พูดบอกความสามารถของตนเองเกยี่ วกับ
การเล่นดนตรีและกีฬา, พูดให้ข้อมลู เก่ยี วกับกจิ กรรมทสี่ ามารถ ทาํ ได้ใน
สถานท่ตี า่ ง ๆ, แสดงบทบาทสมมตเิ ก่ยี วกับเรอ่ื งท่ีฟังและอ่าน, พูดนาํ เสนอ
เกยี่ วกับส่ิงทตี่ นเองทําได้และทําไม่ได้, พูดให้ข้อมลู เกยี่ วกบั กิจกรรมที่
สามารถทาํ ได้ทส่ี ถานทีท่ ่องเทีย่ วในประเทศอังกฤษและประเทศไทย, พูด
เกี่ยวกบั ประสาทสมั ผัสท้งั 5, รอ้ งเพลงภาษาองั กฤษ, พูดแนะนาํ ตนเองและ
บอกความสามารถ, พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั บุคคลอื่นง่าย ๆ
Reading: อ่านเพ่อื หาข้อมลู เฉพาะ, อา่ นออกเสยี งคําศัพทท์ ่ีลงทา้ ยดว้ ยเสยี งพยญั ชนะ
/m/ และ /n/, อ่านออกเสยี งเนอื้ เรื่องสน้ั ๆ, อ่านและเตมิ คาํ
Writing: เขียนบอกความสามารถของตนเองเกีย่ วกับการเลน่ ดนตรีและกฬี า,
เขยี นให้ข้อมูลเก่ียวกบั สิง่ ทีต่ นเองทาํ ได้และทาํ ไมไ่ ด้
4 สมรรถนะสําคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
5 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 ม่งุ ม่ันในการทาํ งาน
464
6 ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
6.1 การพดู บอกความสามารถของตนเองและผอู้ ื่น
6.2 ชิ้นงานโปสเตอร์ Can
6.3 การพดู ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความสามารถของผอู้ ่ืน
6.4 การพูดถามเกยี่ วกับกิจกรรมทอ่ี ยากทําและเสนอแนะโดยใชโ้ ครงสร้างภาษาทีก่ าํ หนด
6.5 ช้นิ งาน I can …
6.6 การพูดใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับสง่ิ ท่สี ามารถทาํ ไดใ้ นสถานที่ตา่ ง ๆ
6.7 การแสดงบทบาทสมมติ
6.8 ชิน้ งาน Portfolio
6.9 การพดู นําเสนอเก่ียวกับส่ิงทตี่ นเองทําไดแ้ ละทําไม่ได้
6.10 การพดู ให้ข้อมลู เกย่ี วกับกจิ กรรมทีส่ ามารถทาํ ได้ทส่ี ถานทีท่ อ่ งเท่ยี วในประเทศองั กฤษและ
ประเทศไทย
6.11 ช้นิ งานการละเลน่ ของไทย
6.12 การพูดเกย่ี วกับประสาทสัมผสั ทงั้ 5
6.13 การแสดงความสามารถ
6.14 การพดู ขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับบคุ คลอ่นื ง่าย ๆ
6.15 ชน้ิ งานสมดุ คําศพั ท์
7 การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมินผลระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
- ทาํ แบบฝกึ หัดในหนงั สือเรียน
- ทําแบบฝึกหดั ในหนงั สอื แบบฝึกหดั (Workbook)
- ทาํ ใบงานที่ 1-3 (Worksheets 1-3)
7.2 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินชิน้ งานและภาระงานในข้อ 6
8 สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สอื แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 ใบงานที่ 1-3 (Worksheets 1-3)
465
8.5 บตั รภาพ บตั รคํา และแถบประโยค
8.6 ภาพเทพีเสรีภาพและภาพ Blackpool
8.7 สาํ เนา Story Cutouts
8.8 Audio Script หนังสอื แบบฝกึ หัด หนา้ 59 Ex. 11
8.9 สลากคาํ ศัพทแ์ ละสลากชือ่ ตัวละคร
8.10 อปุ กรณ์การทํางาน ได้แก่ กระดาษ A4 ภาพจากนิตยสารหรอื อนิ เทอรเ์ นต็ และดนิ สอสี
8.11 อปุ กรณก์ ารเลน่ เกม ได้แก่ ผ้าปิดตา ถุงผ้าใบใหญ่ทึบแสง กอ้ นหิน กระดาษ ใบไม้ ผา้ เช็ดตวั
และยางลบ
8.12 คลิปวิดีโอ Best Kid Auditions And Performances Ever On Got Talent Around The
World ของ
Got Talent Global จาก https://www.youtube.com/watch?v=fjuBrs4FJhA
466
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 Oscar can jump!
เวลา 1 ช่วั โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสยี ง สะกดคาํ และบอกความหมายของคําศพั ทท์ ีเ่ กีย่ วกับการทาํ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ได้
- พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ความสามารถของผูอ้ ่ืนได้
- รวบรวมคาํ ศพั ทต์ ามท่ีกาํ หนดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งทฟี่ ังและอ่านจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสยี งคาํ สะกดคํา อา่ นกลุ่มคํา ประโยค และบทพดู เข้าจงั หวะ (chant) ง่าย ๆ
ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 3/3 เลอื ก/ระบภุ าพหรอื สญั ลักษณต์ รงตามความหมายของกลุ่มคาํ และประโยคทฟี่ งั
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองตา่ ง ๆ โดยการ
พดู และการเขยี น
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.3 ป. 3/1 พดู ให้ข้อมลู เก่ยี วกับตนเองและเรอื่ งใกลต้ ัว
สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครอื่ งมือพ้ืนฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปล่ยี นเรยี นรูก้ ับสังคมโลก
ตวั ช้ีวัด
ต 4.2 ป. 3/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเพื่อรวบรวมคําศัพท์ทเ่ี ก่ียวข้องใกล้ตวั
2. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด
การรูค้ าํ ศัพทแ์ ละสาํ นวนภาษาเกี่ยวกบั การทาํ กจิ กรรมตา่ ง ๆ และการใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถ
เป็นพน้ื ฐานในการสอื่ สารในชวี ติ ประจาํ วัน
467
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Function
Vocabulary: (verbs) jump, draw, sing, hear, see, fly, read, dance, run, cook
Structure: Oscar can jump.
Function: talking about ability
2) Language Skill
Speaking: พดู ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับความสามารถของผู้อื่น
4. สมรรถนะสําคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มงุ่ ม่นั ในการทาํ งาน
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ Warm up
1. ครูและนักเรียนกลา่ วทักทายกัน
2. นักเรยี นเลน่ เกม What’s missing? เพอื่ ทบทวนคําศพั ท์เกี่ยวกบั เสือ้ ผ้า โดยครแู บง่ นักเรยี นออกเป็น
2 กล่มุ จากนน้ั นาํ บัตรภาพเส้อื ผา้ มาตดิ บนกระดานครัง้ ละ 4-5 ใบ ให้นกั เรียนจดจําคาํ ศพั ทแ์ ละตาํ แหนง่
แล้วนกั เรยี นหลับตา ครูดงึ บัตรภาพออก 1 ใบ ครูให้นกั เรยี นลมื ตา จากน้ันแต่ละกลุ่มแขง่ กนั ตอบว่า
บตั รภาพทีห่ ายไปคือคาํ วา่ อะไร
ขนั้ Presentation
1. ครเู ขียนคํากรยิ า jump (กระโดด), draw (วาดภาพ), sing (รอ้ งเพลง), hear (ไดย้ นิ ), see (ดู, เห็น), fly
(บนิ ), read (อ่าน), dance (เตน้ ), run (วง่ิ ) และ cook (ทําอาหาร) บนกระดานทีละคํา และออกเสยี ง
คาํ ศัพท์ พรอ้ มทงั้ แสดงท่าทางประกอบ ให้นกั เรียนออกเสยี งคาํ ศัพทแ์ ละแสดงท่าทางตามครู ดังนี้
jump แสดงทา่ ทางกระโดด draw แสดงทา่ ทางวาดภาพ
sing แสดงท่าทางรอ้ งเพลง hear แสดงทา่ ทางฟงั
see แสดงทา่ ทางดู fly แสดงทา่ ทางบนิ
read แสดงทา่ ทางอ่าน dance แสดงทา่ ทางเต้น
468
run แสดงทา่ ทางวิ่ง cook แสดงทา่ ทางทาํ อาหาร
จากน้นั ครูสมุ่ ช้คี าํ ศพั ทบ์ นกระดาน ใหน้ ักเรียนพูดคําศพั ทแ์ ละแสดงท่าทางดว้ ย
2. หนังสือเรียน หน้า 64 Ex. 1 นกั เรยี นอ่านคาํ ศพั ท์ทีอ่ ยู่ในกรอบสีตา่ ง ๆ และนําคาํ ศัพท์ไปเติมใต้ภาพ
ใหถ้ กู ตอ้ ง จากนัน้ ครเู ปิด CD ใหน้ กั เรยี นฟังและช้ีภาพตามไปดว้ ย แลว้ ครเู ปดิ CD อกี ครัง้ โดยหยุดหลงั
คาํ ศัพท์แต่ละคาํ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นพูดตาม ครูตรวจสอบว่านักเรยี นออกเสียงถกู ตอ้ งหรอื ไม่
jump draw sing hear see
cook
fly read dance run
3. ครูนาํ เสนอโครงสร้างประโยค He can … . และ She can … . โดยให้นกั เรยี นดูภาพในหนงั สอื เรยี น หนา้
64 Ex. 1 ครูชไี้ ปท่ภี าพเดก็ ผูช้ ายกระโดด แลว้ พดู วา่ He can jump. นกั เรียนพูดตาม ครูช้ไี ปทภี่ าพ
เดก็ ผู้หญิงวาดรปู แล้วพดู วา่ She can draw. นักเรียนพูดตาม ครทู าํ เชน่ นี้จนครบทกุ ภาพ แล้วเขียนคาํ
ว่า can บนกระดานและออกเสียง 2 คร้ัง ใหน้ กั เรยี นออกเสียงตาม และขอให้นักเรยี นช่วยสรปุ
ความหมายของคาํ ว่า can (สามารถ)
4. ครูอธบิ ายการใช้ can ในประโยคบอกเล่าแกน่ ักเรียน
การใช้ can
can มคี วามหมายวา่ สามารถ เป็นคาํ กรยิ าชว่ ย ใช้ได้กับทงั้ ประธานเอกพจนแ์ ละ
พหพู จน์
โครงสร้างประโยคบอกเล่า คือ (ประธาน) + can + (คาํ กรยิ าชอ่ งที่ 1). เชน่
- I can sing.
- He can cook.
- They can dance.
ขน้ั Practice
1. ครูทาํ สลากคาํ ศพั ทใ์ นหนังสือเรียน หนา้ 64 Ex. 1 จากนนั้ นักเรียนแบ่งเปน็ 2 กลุม่ เล่นเกมใบ้คาํ
โดยผลดั กันส่งตวั แทนออกมาจับสลากและทําท่าใบค้ ําเพ่อื ให้เพ่ือนในกลมุ่ ทาย กลุ่มท่ที ายไดม้ ากทส่ี ดุ คือ
กลมุ่ ท่ชี นะ
2. หนังสอื เรยี น หน้า 64 Ex. 2 นกั เรียนบอกชือ่ ตัวละครในภาพ (Oscar, Lin, Wendy และ Tom) แลว้ ครู
ทาํ สลากชอื่ ตวั ละคร ให้นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุม่ ละ 4 คน แตล่ ะกลุ่มจบั สลากชื่อตัวละคร ถา้ ได้ช่อื ตวั ละครใด
ให้พูดประโยคตามภาพนน้ั ดงั นี้
469
2 Lin can dance.
3 Wendy can run.
4 Tom can cook.
5 Oscar can read.
ขณะท่เี พอื่ นพูดประโยค ใหแ้ ต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ตรวจสอบวา่ เพื่อนพูดถกู หรอื ไม่ ครูเดนิ สังเกตรอบ ๆ ห้อง
จากนน้ั ขออาสาสมคั ร 4 คน พูดประโยคใหค้ รฟู งั
ข้นั Production
นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน ทาํ ช้นิ งานโปสเตอร์ Can โดยเลือกคํากรยิ าทีเ่ รียนไปแลว้ มา 5-6 คาํ
และหาภาพของบคุ คลท่ีมคี วามสามารถในการทาํ กิจกรรมเหลา่ นจี้ ากนติ ยสารหรอื อินเทอรเ์ นต็ มาตดิ แลว้
แตง่ ประโยคเพื่อนาํ เสนอความสามารถบุคคลในภาพ จากน้ันนกั เรยี นนาํ ผลงานทที่ าํ เสร็จเรียบรอ้ ยแล้วมา
แสดงหนา้ หอ้ ง พรอ้ มกับพูดนาํ เสนอ เชน่ P'Bird can sing. P'Toon can run.
My word book
นกั เรยี นบันทกึ คําศัพทท์ ี่เรยี นลงในสมดุ คําศพั ท์ พรอ้ มทั้งบอกความหมาย โดยครูแนะนาํ ให้นกั เรียนบนั ทกึ
คําศพั ท์โดยเรียงตามตวั อักษร a-z
หนงั สือแบบฝกึ หัด (Workbook)
นักเรียนทําแบบฝึกหัดทบทวนสงิ่ ทเี่ รียนในหนงั สอื แบบฝึกหดั หน้า 54 Ex. 1 เปน็ การบา้ น
หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 54 Ex. 1
1 hear 2 run 3 cook 4 sing
8 draw
5 dance 6 see 7 jump
470
7. การวัดและประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์
วธิ ีการวัด แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการออกเสยี งคาํ ศัพท์
สงั เกตการพูดบอกความสามารถ แบบประเมนิ ชิน้ งาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ของผู้อน่ื
ประเมินชน้ิ งานโปสเตอร์ Can แบบประเมินชน้ิ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
หนงั สอื แบบฝกึ หัด (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจสมดุ คําศพั ท์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด อนั พงึ ประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ดี า้ น
ใฝเ่ รียนรแู้ ละมงุ่ ม่นั ในการทํางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรียน EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนังสอื แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 บัตรภาพ
8.5 สลากคาํ ศพั ท์และสลากช่อื ตวั ละคร
8.6 อุปกรณ์การทํางาน ได้แก่ ภาพจากนติ ยสารหรอื อนิ เทอรเ์ นต็ กระดาษ A4 และดนิ สอสี
471
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 Can she hear?
เวลา 1 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ความสามารถของผอู้ ่ืนได้
- พดู ให้ขอ้ มลู เก่ียวกับความสามารถของตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรูส้ ึก
และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวช้ีวดั
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและใหข้ อ้ มูลง่าย ๆ เกี่ยวกับตนเองและเพือ่ นตามแบบท่ีฟัง
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการ
พดู และการเขียน
ตัวชี้วัด
ต 1.3 ป. 3/1 พดู ใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใช้
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชว้ี ดั
ต 2.1 ป. 3/3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกับวัย
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวช้วี ดั
ต 4.1 ป. 3/1 ฟงั /พดู ในสถานการณง์ า่ ย ๆ ทีเ่ กดิ ขนึ้ ในห้องเรียน
2. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด
การรคู้ ําศพั ท์เก่ียวกบั คาํ กรยิ าและโครงสรา้ งทใ่ี ชใ้ นการขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับความสามารถเปน็
พน้ื ฐานในการส่อื สารในชีวิตประจาํ วัน
472
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Function
Vocabulary: (verbs) jump, draw, sing, hear, see, fly, read, dance, run, cook
Structure: Can she hear? No, she can’t.
Function: talking about ability
2) Language Skill
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับความสามารถของผู้อืน่ ,
พดู ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถของตนเอง
4. สมรรถนะสาํ คัญของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั Warm up
1. ครูและนักเรียนกลา่ วทักทายกนั
2. ครูทําสลากคําศัพท์กิจกรรมตา่ ง ๆ ดังน้ี jump, draw, sing, hear, see, fly, read, dance, run และ
cook แล้วสุ่มเรยี กนกั เรียนออกมาหน้าหอ้ ง 1 คน ให้นกั เรียนจับสลาก 1 ใบ แล้วอา่ นคําศัพท์และแสดง
ท่าทางตามคาํ ศพั ท์น้นั ใหเ้ พ่อื นทาย นกั เรียนคนใดทายถูกจะไดอ้ อกมาแสดงทา่ ทางให้เพอื่ นทายเป็นคน
ตอ่ ไป
ขน้ั Presentation
1. ครูนาํ เสนอประโยคบอกเลา่ และประโยคปฏิเสธของ can โดยใชค้ าํ ศพั ท์เกยี่ วกับสตั ว์ที่เรยี นมาแล้ว ไดแ้ ก่
fish, parrot, mouse และ rabbit แลว้ ครูทาํ กิจกรรม ดงั น้ี
1) แสดงบัตรภาพนกแกว้ พรอ้ มกบั พูดว่า A parrot can fly. It can’t jump. ใหน้ กั เรยี นพดู
ตาม แลว้ ครูเขียนประโยคบนกระดาน
2) แสดงบตั รภาพปลา พรอ้ มกับพูดวา่ A fish can swim. It can’t run. ให้นักเรียนพดู ตาม
แล้วครเู ขียนประโยคบนกระดาน
473
นักเรียนอา่ นประโยคบนกระดานตามครู แล้วครูถามว่า ถ้าจะบอกวา่ สามารถทําได้จะใช้ can หรือ can’t
เมอ่ื ไดค้ าํ ตอบว่า can ครอู ธบิ ายวา่ เราใช้ can เพ่อื บอกว่าสามารถทาํ ได้ และใช้ can’t เพือ่ บอกว่าไม่
สามารถทําได้ จากน้นั ครูแสดงบัตรภาพหนูและกระต่าย ใหน้ ักเรียนพดู บอกส่งิ ที่สัตว์เหล่านสี้ ามารถ ทํา
ได้และทาํ ไม่ได้
2. ครูนําเสนอประโยคคาํ ถามของ can และการตอบ โดยตดิ บตั รภาพกระต่ายบนกระดานและถามวา่ Can it
jump? แลว้ ครตู อบ Yes, it can. ครเู ขยี นคําถามและคาํ ตอบบนกระดาน แลว้ นักเรียนอา่ นตามครู ตอ่ มา
ครตู ิดบัตรภาพปลาและถามว่า Can it fly? แล้วครูตอบ No, it can’t. ครเู ขียนคําถามและคําตอบ แล้ว
ใหน้ กั เรียนอา่ นตามครู จากน้ันครูแสดงบตั รภาพสัตวอ์ ่ืน ๆ และถามคาํ ถาม ให้นกั เรียนตอบ หรอื อาจ
สุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คน เปน็ ผถู้ ามคาํ ถาม ให้นกั เรยี นในชนั้ ตอบ
3. ครูส่มุ ถามความสามารถของนักเรยี น 2-3 คน ถ้านักเรียนตอบ yes ตอ้ งแสดงความสามารถดังกล่าว
ให้เพ่ือนดูด้วย เชน่
T: Can you dance?
S1: Yes, I can. (ทาํ ท่าเต้น)
T: Can you cook?
S2: No, I can’t.
จากนน้ั ครูสุ่มเรียกนกั เรยี น 1 คู่ ออกมาหนา้ ห้อง แลว้ ครูสง่ บตั รภาพคาํ กริยาใหค้ นละ 1 ใบ ให้ผลดั กนั
พูดถาม-ตอบความสามารถตามคํากรยิ าในภาพ เชน่
S1: Can you swim? (แสดงบตั รภาพว่ายน้ํา)
S2: Yes, I can.
4. ครูเขียนประโยคบอกเลา่ ปฏิเสธ และคาํ ถามของ can บนกระดาน แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกันวิเคราะห์
โครงสรา้ งประโยค
การใช้ can
can มคี วามหมายว่า สามารถ เปน็ คาํ กริยาชว่ ย ใชไ้ ด้กับทัง้ ประธานเอกพจนแ์ ละ
พหพู จน์
โครงสรา้ งประโยคบอกเลา่ คือ (ประธาน) + can + (คาํ กรยิ าช่องที่ 1). เชน่
- I can sing.
- It can fly.
โครงสรา้ งประโยคปฏิเสธ คือ (ประธาน) + cannot (can’t) + (คาํ กริยาชอ่ งที่ 1). เชน่
- He cannot (can’t) run.
474
- They cannot (can’t) read.
โครงสรา้ งประโยคคําถาม คือ Can + (ประธาน) + (คาํ กริยาช่องท่ี 1)? เช่น
- Can he swim?
- Can they walk?
การตอบคําถาม
ถ้าสามารถทาํ ได้ จะใช้โครงสร้าง Yes, + (ประธาน) + can.
ถา้ ไมส่ ามารถทาํ ได้ จะใชโ้ ครงสรา้ ง No, + (ประธาน) + can’t.
ขน้ั Practice
1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 65 Ex. 3 นักเรยี นเตมิ can หรอื can’t ลงในประโยคให้ถูกตอ้ ง โดยสังเกตสญั ลักษณ์
หน้ายิ้มและหนา้ บ้ึง เสรจ็ แลว้ ชว่ ยกนั เฉลยคําตอบ
2 can’t 3 can’t 4 can 5 can 6 can’t
2. หนังสือเรยี น หน้า 65 Ex. 4 นกั เรยี น 1 คน ออกมาพูดถาม-ตอบกบั ครเู พือ่ เปน็ ตวั อย่างแกน่ กั เรียนในหอ้ ง
จากนนั้ นักเรยี นจับคู่กนั พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั ความสามารถโดยใช้ข้อมูลจากภาพท่ีกาํ หนดให้ ครูเดนิ สงั เกต
ขณะนกั เรยี นฝึกพูด แล้วครูสมุ่ เรียกนกั เรยี น 3 คู่ ออกมาสนทนาใหเ้ พ่อื นฟงั หน้าห้อง เชน่
1 S1: Can it jump?
S2: No, it can’t.
2 S1: Can he run?
S2: No, he can’t.
3 S1: Can they cook?
S2: Yes, they can.
3. หนงั สือเรียน หนา้ 65 Let’s play! นกั เรียนเลน่ เกมทบทวนการใช้ I can … โดยใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่
กลุม่ ละ 3 คน แล้วแต่ละกล่มุ ยนื เขา้ แถวตอนลกึ และเลน่ เกม ดังนี้
1) คนแรกพูดประโยคบอกวา่ ตนเองสามารถทาํ อะไรได้
2) คนที่ยนื ลําดับที่ 2 พดู ทวนประโยคของคนแรก แล้วจึงพดู ประโยคของตนเอง
3) คนที่ยนื ลาํ ดับที่ 3 พูดทวนประโยคของเพ่ือน 2 คน แลว้ จงึ พดู ประโยคของตนเอง เชน่
S1: I can dance.
S2: I can dance and I can sing.
S3: I can dance, I can sing and I can cook!
475
ครูสุ่มเรียกนักเรยี นคร้งั ละ 2 กลุ่ม ออกมาเล่นเกม กลุ่มที่พดู ผดิ จะต้องออกจากการเลน่ เกมจนเหลือ
2-3 กลมุ่ ทเ่ี ป็นกลมุ่ ท่ชี นะ
ขน้ั Production
ครแู จกใบงานท่ี 1 (Worksheet 1) ใหน้ กั เรยี นสํารวจเพ่ือนรว่ มชน้ั 3 คน ว่าสามารถทาํ กจิ กรรมต่าง ๆ
ในแบบสอบถามไดห้ รือไม่ จากน้นั เขียนรายงานสง่ิ ทเ่ี พอื่ นทําไดแ้ ละทําไมไ่ ด้ แลว้ ออกมาพดู นาํ เสนอ ท่ี
หน้าหอ้ ง
หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook)
นกั เรยี นทําแบบฝึกหัดทบทวนสิง่ ทเี่ รยี นในหนงั สอื แบบฝึกหดั หน้า 54 Ex. 2 เปน็ การบา้ น
หนังสือแบบฝกึ หัด (Workbook) หน้า 54 Ex. 2
2 dance, I can dance. / I can’t dance.
3 jump, I can jump. / I can’t jump.
4 fly, I can’t fly.
5 cook, I can cook. / I can’t cook.
6 guitar, I can play the guitar. / I can’t play the guitar.
7 sing, I can sing. / I can’t sing.
8 basketball, I can play basketball. / I can’t play basketball.
7. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วธิ กี ารวัด
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการพดู ขอและให้ขอ้ มลู
เกี่ยวกับความสามารถของผ้อู น่ื แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการพดู บอกความสามารถ อนั พงึ ประสงค์
ของตนเอง
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ดี า้ นใฝเ่ รยี นรู้
476
8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 ใบงานที่ 1 (Worksheet 1)
8.3 บัตรภาพ
8.4 สลากคําศพั ท์
477
ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1) Yes No
A. Ask your friends. No
No
Name _______________
Can you
1. ride a bike?
2. fly a kite?
3. cook?
4. swim?
5. sing?
________ can __________________________________________
________ can’t _________________________________________
Name _______________ Yes
Can you
1. ride a bike?
2. fly a kite?
3. cook?
4. swim?
5. sing?
______________________________________________________
______________________________________________________
Name _______________ Yes
Can you
1. ride a bike?
2. fly a kite?
3. cook?
4. swim?
5. sing?
______________________________________________________
______________________________________________________
478
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 Can you swim?
เวลา 1 ชัว่ โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดขอและให้ข้อมูลเก่ยี วกบั ความสามารถของบคุ คลและสตั ว์ได้
- เลน่ เกมทางภาษาตามทีก่ าํ หนดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตัวช้ีวดั
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและใหข้ ้อมลู งา่ ย ๆ เก่ียวกบั ตนเองและเพ่ือนตามแบบที่ฟงั
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใช้
ได้อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชีว้ ดั
ต 2.1 ป. 3/3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกับวยั
2. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรสู้ ํานวนภาษาท่ีใช้ในการขอและให้ขอ้ มูลงา่ ย ๆ เก่ยี วกบั ความสามารถของบุคคลและสตั ว์
ช่วยใหส้ ่อื สารในชวี ิตประจําวนั ได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Function
Vocabulary: (verbs) jump, draw, sing, hear, see, fly, read, dance, run, cook,
swim, fish, drive, ride, play
Structure: Can you swim? Yes, I can.
Can you play football? No, I can’t.
Function: talking about ability
2) Language Skill
479
Speaking: พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ความสามารถของบคุ คลและสตั ว์
4. สมรรถนะสําคญั ของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มุ่งมั่นในการทํางาน
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั Warm up
1. ครูแสดงบัตรภาพคาํ กริยาต่อไปนี้ jump, draw, sing, see, fly, read, dance, run, cook และ swim
นักเรียนบอกคาํ ศัพทแ์ ละครูนาํ บัตรภาพไปติดบนกระดาน ตอ่ มาครแู สดงบัตรคาํ และออกเสียง แล้วให้
นกั เรยี นอา่ นออกเสียงตาม จากน้นั ครสู ่มุ เรยี กนักเรียนนาํ บตั รคาํ ไปติดใตบ้ ัตรภาพบนกระดานให้ถูกต้อง
2. นกั เรยี นเล่นเกมส่งสารเพอ่ื ทบทวนคาํ ศพั ท์อกี ครงั้ โดยครูดาํ เนินกจิ กรรม ดงั นี้
1) แบง่ นักเรยี นออกเปน็ 2 กลุม่ ยืนเขา้ แถวตอนลกึ หัวแถวอยูห่ น้าห้องและทา้ ยแถวอยูห่ ลงั ห้อง
2) เม่ือจัดแถวเสรจ็ นักเรยี นคนที่อยทู่ ้ายแถวหนั หลังกลับมาหาครทู อ่ี ยู่หลังหอ้ ง จากนัน้ ครใู ห้
นักเรยี นอ่านคําศพั ทจ์ ากกระดาษท่คี รูถือและคิดท่าทาง
3) นกั เรยี นทีอ่ า่ นคาํ ศพั ทส์ ะกิดเพือ่ นคนทอี่ ยถู่ ดั จากตนเอง แลว้ แสดงท่าทางที่ตนเองคิดให้เพอื่ น
ดู โดยห้ามพูดคําศพั ท์ เมื่อเพ่อื นรบั สารแลว้ ใหน้ กั เรียนหันหลงั กลบั มา
4) เพือ่ นสะกดิ คนถดั ไปและสง่ สาร เมื่อสง่ สารแล้วหันหลังกลบั มาเชน่ เดิน
5) นักเรยี นส่งสารไปเรือ่ ย ๆ จนถงึ คนแรกทีอ่ ยหู่ ัวแถว ใหน้ ักเรยี นคนดงั กล่าวเขียนคําศัพท์ตาม
ท่าทางที่เพอื่ นแสดง
6) กลมุ่ ทเ่ี ขยี นคําศพั ท์ถูกต้องจะได้ 1 คะแนน กลุม่ ทไ่ี ดค้ ะแนนมากที่สดุ เป็นกลุ่มที่ชนะ
ขัน้ Presentation
1. ครนู ําเสนอคาํ กรยิ า drive (ขบั รถ), swim (ว่ายน้าํ ), ride (ข่ี) และ play (เล่น) โดยแสดงบตั รคําและให้
นกั เรียนอ่านออกเสยี งตาม แล้วครสู ุ่มเรยี กนกั เรียนอ่านออกเสียงทีละคน จากน้ันครูบอกความหมาย
2. ครสู ุ่มถามคาํ ถามเก่ียวกับความสามารถของนกั เรียน 4-5 คน เพอ่ื ทบทวนการถามด้วย You และตอบโดย
ใช้ I เช่น
T: Pong, can you swim?
S1: Yes, I can.
480
จากนั้นครเู ขียนประโยคคาํ ถามและคาํ ตอบบนกระดาน แลว้ ให้นักเรยี นชว่ ยกันสรุปโครงสร้างของประโยค
คาํ ถามและคําตอบของ can จากนน้ั ครูเขยี นให้นักเรยี นดูบนกระดาน
3. ครสู ุ่มเรียกนกั เรียนชาย 1 คน นกั เรียนหญงิ 1 คน และนกั เรยี นอกี 2 คน มาท่ีหนา้ ห้อง เพื่อนาํ เสนอการ
พดู ถาม-ตอบเก่ียวกับความสามารถ โดยใชค้ ําสรรพนามในการตอบใหถ้ ูกตอ้ ง ดงั นี้
T: (ถามนกั เรียนชาย 1 คน) Jack, can you swim?
Jack: Yes, I can.
T: (ถามนกั เรียนในช้นั ) Can Jack swim?
Ss: Yes, he can.
ครสู งั เกตคําตอบของนักเรียนวา่ ใชค้ าํ สรรพนามถูกต้องหรือไม่ แล้วถามคาํ ถามเพอ่ื กระตนุ้ ให้นกั เรียนคิด
ว่า ทําไมจึงใชค้ ําสรรพนาม he ในการตอบ (เพราะ Jack เปน็ ผ้ชู าย)
ครทู ํากจิ กรรมเชน่ เดียวกบั นี้กบั นกั เรยี นหญิง 1 คน เพือ่ ยกตัวอยา่ งการตอบโดยใชค้ าํ สรรพนาม she และ
นักเรยี น 2 คน เพ่ือยกตวั อย่างการตอบโดยใชค้ าํ สรรพนาม they
เสรจ็ แลว้ ครถู ามคําถามนักเรียนทั้งหอ้ งพร้อมกัน โดยเลือกคําถามท่นี ักเรยี นตอบเหมอื นกนั ได้ เชน่ Can
you write ABC?, Can you drive a car? เพ่อื ให้นกั เรียนพูดตอบโดยใช้ Yes, we can. หรอื No, we
can’t. เพื่อนําเสนอการใช้คาํ สรรพนาม we
ขัน้ Practice
1. เลน่ เกม Secret letter โดยครูบอกวา่ ครจู ะเขยี นตวั อักษรภาษาองั กฤษ 1 ตัวไวใ้ นกระดาษแผน่ เล็ก ๆ
แล้วให้นกั เรยี นถามครวู ่า สามารถ... ได้ไหม ถ้ากจิ กรรมดงั กล่าวมีตวั อักษรท่คี รูเขียนไว้ในกระดาษครจู ะ
ตอบว่า Yes, I can. แตถ่ ้าไมม่ คี รูจะตอบว่า No, I can’t. กลมุ่ ใดทายตัวอกั ษรทค่ี รูเขียนไว้ในกระดาษได้
ถูกต้องจะได้ 1 คะแนน กลมุ่ ท่ไี ดค้ ะแนนมากทส่ี ดุ จะเป็นกล่มุ ท่ีชนะ เมอื่ นักเรยี นเขา้ ใจกติกาแล้ว ครู
แบง่ นักเรียนเปน็ 2 กล่มุ และเล่นเกม เชน่
T: (เขียนตวั อกั ษร F/f ไว้ในกระดาษ) Group 1: Can you play the
drum?
T: No, I can’t. Group 2: Can you drive a car?
T: No, I can’t. Group 1: Can you sing?
T: No, I can’t. Group 1: Can you swim?
T: No, I can’t. Group 2: Can you fish?
T: Yes, I can. Group 2: Letter F/f.
T: That’s correct. (แสดงกระดาษที่ครเู ขียนตวั อักษร F/f)
Group 2 gets 1 point.
481
2. หนังสือแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 55 Ex. 3 นักเรียนอา่ นคําส่งั และประโยคท่ีใหม้ า จากน้นั บอก
ความสามารถของบคุ คลและสตั ว์ท่ีเหน็ ในภาพ แลว้ ทาํ เครอื่ งหมาย ü หรือ ในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง
หนังสอื แบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 59 Ex. 11
2 ü 3 ü 4 ü 5 6 ü
3. หนงั สือแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 55 Ex. 4 นักเรียนจับคกู่ ับเพ่ือนผลัดกันพูดถาม-ตอบเกย่ี วกบั
ความสามารถของบุคคลหรอื สัตว์ในภาพ ครูเดินสังเกตเพอื่ ใหค้ ําแนะนําท่จี าํ เปน็ จากนั้นครูเฉลยคาํ ตอบ
โดยสมุ่ นักเรยี น 5 คู่ พดู ถาม-ตอบกันอกี ครั้งเพ่อื ใหเ้ พ่ือนในชัน้ ฟัง โดยเพ่ือน ๆ ในชั้นระบุว่า คาํ ตอบ
ถูกตอ้ งหรือไม่ เสรจ็ แล้วนกั เรยี นเขยี นคําตอบเปน็ การบา้ นมาสง่ ครู
หนังสอื แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 55 Ex. 4
2 Can it read? No, it can’t.
3 Can they dance? Yes, they can.
4 Can it swim? No, it can’t.
5 Can he cook? Yes, he can.
6 Can she run? No, she can’t.
ขน้ั Production
ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ ักเรียนคนละ 1 แผ่น และบอกนักเรียนว่าจะไดว้ าดภาพ 1 ภาพ โดยอาจจะวาด
ภาพคนหรอื สตั ว์ 1 ตัว และส่ิงของ 3 สิง่ ในภาพ แล้วระบายสใี หส้ วยงาม จากนัน้ จบั คู่ผลดั กนั ถาม-ตอบ
เกี่ยวกบั ความสามารถของคนหรือสัตวท์ ี่นักเรียนวาด โดยเดาจากสง่ิ ของ เชน่
S1: (แสดงภาพลิงกับภาพหนงั สอื รถยนต์ และจกั รยาน)
S2: What’s that?
S1: It’s a monkey.
S2: Can it read?
S1: No, it can’t.
S2: Can it ride a bike?
S1: Yes, it can!
482