purple กบั violet ต่างกนั อยา่ งไร
purple และ violet มคี วามหมายเหมอื นกนั คอื สมี ่วง แต่นํามาใช้ตา่ งกันคือ
purpleจะใชเ้ รียกสมี ว่ งท่เี กิดจากการผสมสรี ะหว่างสีแดงกบั สีน้ําเงิน ส่วนสมี ่วงที่เรยี กว่า
violet มกั จะใช้ในเรือ่ งของคลน่ื แสงในทางวทิ ยาศาสตร์ เช่น สีม่วงในรุ้งกนิ น้าํ
ทม่ี า : http://www.oxbridge.in.th/ภาษาอังกฤษน่าร/ู้ เทคนคิ การเรยี กชือ่ สใี น
2. ครูแบง่ กระดานออกเปน็ 2 ฝัง่ ฝงั่ ซ้ายเขยี นว่า warm colours (สีวรรณะร้อน) ส่วนฝง่ั ขวาเขียนวา่ cold
colours (สีวรรณะเยน็ ) แล้วออกเสยี งทัง้ 2 คํา ให้นักเรียนออกเสยี งตาม แล้วครูบอกความหมาย
สีวรรณะรอ้ น คือ สีทใ่ี ห้ความรู้สึกอบอนุ่ หรอื ร้อน
สวี รรณะเย็น คือ สที ีใ่ ห้ความรสู้ กึ เย็น สงบ สบาย
ใหน้ ักเรยี นคดิ วา่ สีแต่ละสีน่าจะอยใู่ นวรรณะใด จากน้ันครถู ามนักเรียน ดงั น้ี
T: (แสดงบตั รภาพสีแดง) What colour?
Ss: Red.
T: Is it warm or cold?
Ss: Warm.
T: That’s right!
ครทู าํ กิจกรรมเชน่ เดยี วกนั น้ีกับสีอืน่ ๆ ได้แก่ blue, orange, green, violet และ yellow เสรจ็ แล้วครู
เขยี นเฉลยบนกระดานและให้นกั เรยี นอา่ นออกเสียงคําศพั ทเ์ กีย่ วกับสใี นแต่ละวรรณะ ดงั น้ี
warm colours: red, orange, yellow
cold colours: green, blue, indigo, violet
3. นกั เรียนดูภาพร้งุ กนิ นา้ํ ในหนงั สอื แบบฝึกหัด หนา้ 68 Ex. 1 และพูดบอกสีของรงุ้ กนิ นํ้า จากนั้นนักเรียน
อ่านเนือ้ เพลงตามครูทลี ะประโยค
ขนั้ Practice
1. หนงั สือแบบฝึกหัด หนา้ 68 Ex. 1 ครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังเพลงและชส้ี ขี องรุ้งกินนํ้าตามไปดว้ ย
จากน้ันครเู ปิด CD อกี 2-3 ครงั้ ใหน้ ักเรียนฝึกร้องเพลงตาม เมื่อรอ้ งเพลงจบครถู ามนักเรยี นว่า รงุ้ กนิ นา้ํ มี
ทง้ั หมดก่สี ี สีอะไรบา้ ง ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบ (รงุ้ กินน้ํามี 7 สี คือ ม่วง คราม นํ้าเงนิ เขียว เหลอื ง แสด
และแดง)
283
2. หนงั สือแบบฝึกหดั หน้า 68 Ex. 2 นักเรียนดภู าพและอ่านประโยคขอ้ ที่ 1-2 แลว้ เลือกคําตอบทถ่ี กู ต้อง
เสร็จแลว้ ช่วยกันเฉลยคาํ ตอบ โดยพดู วา่ Red, orange and yellow are warm colours. Blue, green
and violet are cold colours.
1 warm 2 cold
3. หนังสอื แบบฝกึ หดั หนา้ 69 Ex. 3 ครูอ่านคําถามขอ้ ที่ 1-8 แลว้ รวบรวมคาํ ตอบจากนักเรยี น เสร็จแลว้
เฉลยคาํ ตอบทถ่ี ูกตอ้ งพร้อมกนั
1b 2a 3b 4a
5b 6b 7a 8b
ขน้ั Production
หนงั สือแบบฝึกหัด หน้า 69 Project Time นกั เรียนอา่ นคาํ สงั่ และช่วยกันบอกวา่ คาํ สัง่ ใหท้ าํ อะไร
จากนน้ั ครบู อกนกั เรยี นวา่ นกั เรียนจะตอ้ งระบายสภี าพตามวรรณะสีทกี่ ําหนด เมื่อนกั เรียนทาํ เสรจ็ แล้ว
ครสู มุ่ เรยี กนกั เรียน 4-5 คน ออกมาแสดงผลงานทีห่ นา้ หอ้ งและให้เพื่อนตรวจวา่ ระบายสีถกู ตอ้ งหรอื ไม่
My word book
นกั เรยี นบันทกึ คําศัพท์ทเี่ รียนลงในสมุดคําศัพท์ พร้อมทั้งบอกความหมาย โดยครแู นะนาํ ให้นกั เรยี นบันทกึ
คําศพั ทโ์ ดยเรียงตามตวั อักษร a-z
7. การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วธิ ีการวัด แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการพดู บอกสีวรรณะร้อน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
และสีวรรณะเยน็ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook) ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สังเกตการร้องเพลงภาษาอังกฤษ
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
ตรวจแบบฝึกหัด อันพงึ ประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ชี้ดา้ น
ใฝเ่ รียนรแู้ ละมุง่ มั่นในการทาํ งาน
284
8. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สอื แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 3 ป.3
8.2 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 บตั รภาพ
285
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 14 Warm colours make us think of
sun!
เวลา 1 ชัว่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- จัดหมวดหมู่สีตามวงจรของสแี ละวรรณะของสีได้
- พดู ให้ขอ้ มูลเก่ยี วกับวรรณะสีร้อนและเย็นของส่งิ ต่าง ๆ ในธรรมชาติได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรือ่ งต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ป. 3/1 พดู ให้ข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเองและเร่ืองใกล้ตัว
ต 1.3 ป. 3/2 จัดหมวดหมู่คําตามประเภทของบคุ คล สตั ว์ และสงิ่ ของตามที่ฟงั หรอื อา่ น
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสมั พันธ์กบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่นื
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรูก้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น และเป็น
พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
ตวั ชี้วดั
ต 3.1 ป. 3/1 บอกคําศพั ท์ที่เกย่ี วข้องกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น
2. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด
การรคู้ ําศัพทเ์ กี่ยวกบั สแี ละการจดั หมวดหมขู่ องสีตา่ ง ๆ ตามวงจรของสแี ละวรรณะของสี เปน็ การใช้
ภาษาองั กฤษเชอ่ื มโยงความร้กู ับวิชาศิลปะ ซงึ่ เปน็ พนื้ ฐานในการแสวงหาความรู้และเปิดโลกทศั น์
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features
Vocabulary: (primary colours) red, blue, yellow
(secondary colours) orange, violet, green
(warm colours) red, orange, yellow
286
(cold colours) green, blue, indigo, violet
Structure: Red and blue, what do you get? Purple.
Warm colours make us think of sun.
Cold colours make us think of trees.
2) Language Skills
Speaking: พูดบอกตวั อย่างของวรรณะสีรอ้ นและสีเยน็ ในธรรมชาติ
Reading: จดั หมวดหมคู่ าํ ศัพทข์ องสีตามวงจรของสแี ละวรรณะของสี
4. สมรรถนะสําคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 ม่งุ มนั่ ในการทาํ งาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั Warm up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกัน
2. ทบทวนคําศพั ท์เก่ยี วกับวรรณะสีต่าง ๆ ที่เรยี นมาแลว้ โดยนกั เรยี นร้องเพลง Rainbow, rainbow in the
sky. ในหนงั สอื แบบฝกึ หัด หน้า 68 แลว้ ครูชีท้ ี่สีของรุง้ กนิ นาํ้ ทีละแถบสีและถามนกั เรียน ดังนี้
T: (ช้ีไปทส่ี แี ดง) What colour is it?
Ss: Red.
T: Is it a warm or cold colour?
Ss: Warm.
ครูถามเช่นน้ไี ปจนครบท้งั 7 สี
ขัน้ Presentation
1. ครูทบทวนคําศพั ทเ์ กยี่ วกับสขี ั้นที่ 1 หรือทเ่ี รยี กว่าแมส่ ี และสีขน้ั ที่ 2 โดยแสดงบัตรภาพแมส่ ี ไดแ้ ก่ สีแดง
นํา้ เงนิ และเหลอื งพร้อมกบั พูดว่า Red, blue and yellow are primary colours. นักเรียนพดู ตามครู
แล้วครูแสดงบัตรภาพสขี ้นั ที่ 2 ได้แก่ สีสม้ ม่วง และเขียวพรอ้ มกับพดู วา่ Orange, violet and green
are secondary colours. นกั เรียนพดู ตามครู ครถู ามนกั เรียนว่า primary colours และ secondary
287
colours คือสีอะไร โดยใหน้ ักเรยี นสังเกตจากสีในประโยคท่ีครูพดู จนได้คําตอบว่า primary colours
(แมส่ หี รอื สขี ั้น ที่ 1) และ secondary colours (สขี น้ั ที่ 2)
2. ครูแสดงบตั รภาพแมส่ คี รัง้ ละ 2 สี แล้วถามนกั เรยี นว่า เม่อื ผสมแมส่ ี 2 สีน้ีแล้วจะไดส้ ีอะไร เช่น
T: Red and blue, what do you get?
Ss: Violet.
T: Is it warm or cold?
Ss: Cold.
ครูเปล่ียนเปน็ สอี ื่น ๆ จนม่นั ใจวา่ นกั เรียนสามารถตอบได้อยา่ งคล่องแคลว่
ข้นั Practice
1. นกั เรยี นทําใบงานที่ 4 (Worksheet 4) The colour wheel โดยระบายสใี นชอ่ งแม่สีทง้ั 3 สีกอ่ น จากนนั้
ครู ให้นกั เรยี นดชู ่องท่เี ป็นสีขน้ั ที่ 2 ว่าอยู่ระหวา่ งแมส่ ีใด ใหน้ ักเรยี นบอกสีขั้นที่ 2 ทเ่ี กิดจากการผสมของ
แมส่ ีท้งั 2 สี แลว้ ระบายสใี นชอ่ งสขี ้ันท่ี 2 เช่น
T: Red and yellow, what do you get?
Ss: Orange.
T: (ครูชีท้ ีช่ ่องระหว่างสีแดงกบั เหลอื ง) Colour it orange, please.
ครทู าํ กิจกรรมเช่นน้จี นนักเรียนระบายสไี ด้ครบทกุ ชอ่ ง
ใบงานที่ 4 (Worksheet 4)
warm colours: red, orange, yellow
cold colours: violet, blue, green
2. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 4-5 คน เลน่ เกม Spin the wheel โดยให้ผเู้ ลน่ ครงั้ ละ 1 คนนาํ ดินสอวางไว้
ตรงกลางของวงลอ้ สี The colour wheel ในใบงานท่ี 4 (Worksheet 4) และหมนุ ดินสอ เม่อื ปลาย
ดินสอหยุดและชไ้ี ปทส่ี ใี ดให้ถามเพือ่ นในกลมุ่ ดังน้ี
S1: What colour is it?
Ss: (สแี ดง) Red.
S1: Primary or secondary?
Ss: Primary.
S1: Warm or cold?
Ss: Warm.
288
นักเรยี นผลดั กันเปน็ ผหู้ มนุ ดินสอในวงล้อสจี นครบทกุ คน ครูอาจสมุ่ เรยี กนักเรียน 2-3 คู่ ออกมาสาธติ การ
ถาม-ตอบทห่ี น้าหอ้ ง
ขั้น Production
นักเรียนทาํ ช้นิ งาน Colours of the nature โดยครูพูดชอ่ื สี เช่น
T: Red. Warm or cold?
Ss: Warm.
T: A Red colour makes you think of … .
ครทู าํ เช่นน้จี นครบทกุ สีที่เรยี น จากน้ันให้นกั เรยี นวาดภาพ 2 ภาพ ภาพที่ 1 เป็นภาพของสิง่ ต่าง ๆ
ในธรรมชาติทม่ี ีสีวรรณะร้อน และภาพที่ 2 เปน็ ภาพของสิง่ ตา่ ง ๆ ในธรรมชาติทีม่ สี ีวรรณะเยน็ เสร็จแล้ว
นกั เรยี นแสดงช้ินงานให้เพอื่ นดแู ละพดู นาํ เสนอสน้ั ๆ เช่น Warm colours make me think of sun.
Cold colours make me think of sea.
7. การวดั และประเมนิ ผล
วิธีการวัด เครอื่ งมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สังเกตการพดู บอกสี ประเภทของสี แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตามวงจรของสแี ละวรรณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ชิน้ งานวงลอ้ สี The แบบประเมินชิ้นงานและ
colour wheel และการพดู แบบประเมินการพูด
นําเสนอ
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ดี ้าน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ
ใฝ่เรยี นรแู้ ละมุง่ มัน่ ในการทํางาน อันพงึ ประสงค์
8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 3 ป.3
8.2 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 บัตรภาพและบัตรคาํ
8.4 ใบงานที่ 4 (Worksheet 4)
289
ใบงานท่ี 4 (Worksheet 4)
THE COLOUR WHEEL
warm colours:___________, ___________, __________
cold colours:___________, ___________, ___________
290
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 15 Modular Revision and Assessment 3
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสยี งและสะกดคําศัพท์เก่ยี วกับเครื่องเรือนและส่ิงของตา่ ง ๆ ในบ้านได้
- ปฏบิ ัติตามคําสั่งทฟี่ งั ได้ถกู ตอ้ ง
1. สาระมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งที่ฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป. 3/1 ปฏบิ ัตติ ามคําส่งั และคาํ ขอร้องทีฟ่ ังหรืออา่ น
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสียงคํา สะกดคาํ อ่านกลุ่มคํา ประโยค และบทพูดเข้าจงั หวะ (chant) งา่ ย ๆ
ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรือสัญลักษณ์ตรงตามความหมายของกลุ่มคาํ และประโยคทฟ่ี ัง
2. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด
การรคู้ าํ ศัพท์เกยี่ วกับเครอื่ งเรือน สิง่ ของตา่ ง ๆ ในบ้าน และประโยคคําสงั่ ช่วยให้เข้าใจบทสนทนา ที่
ฟังและปฏบิ ตั ิตามคาํ สัง่ ได้ถกู ต้อง
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Feature
Structure: Put the pen on the desk.
2) Language Skill
Listening: ฟงั และปฏิบตั ติ ามคาํ ส่งั
4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
291
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ Warm up
1. นักเรยี นชว่ ยกนั บอกคําศพั ท์ทเี่ รยี นไปแล้วในหน่วยฯ ท่ี 3 และสะกดคาํ จากนัน้ ครูเขียนคาํ ตอบของ
นกั เรยี นบนกระดาน
2. นักเรียนวาดตารางขนาด 3x3 ลงในกระดาษ จากนั้นเขยี นคาํ ศพั ทบ์ นกระดานลงในชอ่ งโดยแต่ละชอ่ ง
คาํ ศัพทห์ า้ มซาํ้ กัน จากนน้ั ครสู ุ่มเลอื กคําศัพทบ์ นกระดานและออกเสียง ใหน้ ักเรยี นกากบาททับคาํ ศพั ท์
ท่ีไดย้ นิ นกั เรยี นทีก่ ากบาทเรยี งติดต่อกนั 3 ช่อง ในแนวใดก็ได้ ให้ตะโกนคําวา่ บิงโก
ขั้น Pre-listening
1. ครูสุ่มเรยี กนักเรียน 1 คนมายืนใกล้ ๆ กับโต๊ะครูและยืน่ ปากกาใหน้ ักเรยี น แล้วใหน้ ักเรยี นปฏิบตั ติ าม
คาํ สัง่ ของครู เชน่
T: Put the pen on my desk.
S1: (วางปากกาบนโต๊ะครู)
T: Put the ruler under the desk.
S1: (วางไมบ้ รรทดั ใตโ้ ตะ๊ ครู)
จากนัน้ ครูเขียนประโยคท้ัง 2 ประโยคบนกระดานและให้นักเรียนอา่ นออกเสียงตามครู แล้วชว่ ยกนั บอก
ความหมาย
2. นกั เรียนหยิบอุปกรณก์ ารเรยี นของตนเองขนึ้ มา จากน้ันครูพูดประโยคและใหน้ กั เรยี นออกเสียง
พร้อมปฏิบัตติ ามที่ครพู ดู ดังนี้
T: Put the ruler under the book.
Ss: (วางไมบ้ รรทัดไว้ใต้หนังสือ)
T: Put the rubber on the book.
Ss: (วางยางลบบนหนงั สือ)
ครทู าํ กจิ กรรมเชน่ เดยี วกันน้อี กี 3-4 รอบ หรอื จนกวา่ นักเรยี นจะปฏิบตั ิตามไดค้ ลอ่ ง
3. หนังสอื แบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 32-33 Exs. 1-5 นกั เรียนประเมินตนเองโดยทํา Exs. 1-5
ภายในเวลา 10-15 นาที เสร็จแล้วเฉลยคําตอบรว่ มกัน ครสู ังเกตว่า นกั เรียนสว่ นใหญ่ทาํ ขอ้ ใดผิด และ
สอนประเดน็ ดงั กล่าวใหน้ ักเรยี นอกี คร้ัง
292
หนังสอื แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 32 Ex. 1 5a
1b 2a 3b 4a 5 an
หนงั สอื แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 32 Ex. 2 5 on
1 a 2 an 3 an 4 a 5 It
หนังสือแบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 32 Ex. 3
1 in 2 on 3 on 4 under
หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 32 Ex. 4
1 It 2 He 3 She 4 It
หนงั สือแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 33 Ex. 5
1a 2b 3a
4. หนงั สือแบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 33 Ex. 6 นักเรียนอา่ นคําส่ังพร้อมกัน จากน้นั ดภู าพและบอก
สงิ่ ทีเ่ หน็ ในภาพ ครบู อกว่า จะเปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ แลว้ ให้นกั เรยี นโยงเสน้ สง่ิ ของไปทต่ี ําแหนง่
ตา่ ง ๆ ในภาพตามท่ไี ด้ฟัง
ข้นั Listening
รอบท่ี 1 ครูเปดิ CD ให้นักเรียนฟงั อยา่ งต่อเนอื่ ง รอบที่ 2 เปดิ ให้นกั เรยี นฟงั ทีละบทสนทนา เพือ่ ให้
นกั เรียนโยงเส้นสิง่ ของกบั ตาํ แหน่ง
Narrator: Listen and draw lines.
Male: Put the ball on the bed.
Female: Sorry?
Male: The ball. Put the ball on the bed.
Female: OK.
Narrator: Can you see the line? This is an example.
Now, you listen and draw lines.
293
Male: Can you see the umbrella?
Female: Yes.
Male: Put the umbrella on the desk.
Female: On the desk?
Male: That’s right.
Male: Look at the teddy bear.
Female: Yes. I see it.
Male: Put the teddy bear in the box.
Female: Sorry?
Male: Put the teddy bear in the box.
Female: OK. A teddy bear in the box.
Male: Put the cap under the bed.
Female: A cap under the bed?
Male: That’s right.
Female: OK. There’s a cap under the bed.
Male: Put the doll on the chair.
Female: Pardon?
Male: Put the doll on the chair.
Female: OK.
Male: Put the dog under the desk.
Female: Sorry?
Male: Under the desk. Put the dog under the desk.
Female: OK.
ขั้น Post-listening
1. เมื่อนักเรยี นทาํ กจิ กรรมการฟงั ใน Ex. 6 เสร็จ ครูตรวจคาํ ตอบ โดยถามนกั เรียนด้วยประโยค Where’s
the …? จากนนั้ ให้นกั เรยี นบอกคําตอบ เช่น
T: Where’s the umbrella?
294
Ss: It’s on the desk.
T: The umbrella is on the desk. Repeat.
Ss: The umbrella is on the desk.
T: Where’s the doll?
Ss: It’s on the chair.
T: The doll is on the chair. Repeat.
Ss: The doll is on the chair.
ครทู าํ กจิ กรรมเชน่ เดียวกนั น้กี บั สง่ิ ของที่เหลอื
หนังสือแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 33 Ex. 6
2. หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook) หนา้ 33 Ex. 7 นักเรียนอ่านคําสั่งพร้อมกนั จากนัน้ บอกคาํ ศัพท์
สิง่ ของทเ่ี หน็ ในภาพ ครูให้เวลานกั เรยี นเตมิ คาํ ตอบลงในชอ่ งวา่ งให้ถกู ตอ้ ง เมอ่ื ทาํ เสร็จครตู รวจคาํ ตอบ
โดยให้นักเรียนบอกคาํ ตอบและสะกดคาํ ศัพท์ แลว้ ครเู ขยี นคําตอบทถ่ี กู ต้องบนกระดาน
หนงั สอื แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 33 Ex. 7
1 bed 2 table 3 chair
4 lamp 5 doll
3. ครูอา่ นบทอ่านใน Ex. 7 และใหน้ กั เรียนอ่านตามในใจ จากน้นั อา่ นทลี ะประโยคและใหน้ ักเรยี นอา่ นออก
เสียงตาม แล้วให้นกั เรียนอา่ นบทอ่านดว้ ยตนเองพรอ้ มกนั อีกครั้ง
295
4. นกั เรยี นเกง่ จบั คกู่ บั นกั เรยี นออ่ นฝึกอ่านบทอ่าน จากนัน้ ครูสมุ่ เรียกนกั เรยี นหลาย ๆ คน ออกมาอา่ นบท
อ่านให้เพื่อนฟัง สว่ นนกั เรยี นทเี่ หลอื มาอ่านใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน
7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธีการวดั หนังสอื แบบฝึกหดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
และแบบทดสอบ
ตรวจการปฏิบตั ิตามคาํ สั่งท่ีฟัง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการอ่านออกเสียงและสะกด หนงั สอื แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
คาํ ศัพท์ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหดั อนั พึงประสงค์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ชด้ี ้าน
ใฝ่เรียนรู้
8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสือแบบฝึกหดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 ส่ิงของจรงิ ได้แก่ อุปกรณก์ ารเรียน
296
4 Happy Birthday!
ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลาเรียน 18 ช่วั โมง
11...
1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตุผล
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.1 ป. 3/2 อา่ นออกเสียงคํา สะกดคํา อ่านกลุ่มคาํ ประโยค และบทพดู เข้าจงั หวะ (chant) ง่าย ๆ
ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบภุ าพหรอื สัญลกั ษณต์ รงตามความหมายของกลุ่มคําและประโยคที่ฟัง
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคําถามจากการฟงั หรืออ่านประโยค บทสนทนา หรอื นิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ
และความคิดเห็นอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ตัวชว้ี ดั
ต 1.2 ป. 3/1 พดู โต้ตอบดว้ ยคําสนั้ ๆ งา่ ย ๆ ในการส่อื สารระหว่างบคุ คลตามแบบทฟี่ งั
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและให้ข้อมลู งา่ ย ๆ เก่ียวกับตนเองและเพ่อื นตามแบบท่ีฟัง
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่อื งต่าง ๆ โดยการ
พดู และการเขียน
ตัวชว้ี ดั
ต 1.3 ป. 3/2 จัดหมวดหมู่คาํ ตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และสงิ่ ของตามท่ีฟงั หรืออ่าน
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชว้ี ัด
ต 2.1 ป. 3/1 พดู และทําท่าประกอบตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
297
ต 2.1 ป. 3/2 บอกชื่อและคําศพั ท์ง่าย ๆ เกีย่ วกับเทศกาล/วันสาํ คัญ/งานฉลอง และชวี ิต
ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป. 3/3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกบั วัย
สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธก์ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่อื มโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรอู้ ่นื และเป็น
พืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
ตวั ชี้วดั
ต 3.1 ป. 3/1 บอกคําศัพทท์ เี่ ก่ยี วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม
ตวั ช้ีวัด
ต 4.1 ป. 3/1 ฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ย ๆ ที่เกดิ ขึ้นในห้องเรยี น
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเปน็ เครื่องมอื พ้ืนฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี
และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสงั คมโลก
ตวั ช้วี ัด
ต 4.2 ป. 3/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเพ่อื รวบรวมคําศัพท์ทเี่ กีย่ วขอ้ งใกลต้ วั
2 สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด
การรคู้ ําศัพท์เกย่ี วกับสิ่งของต่าง ๆ ใกล้ตวั ตวั เลขแสดงจาํ นวน และสาํ นวนภาษาท่ใี ช้ในการ
อวยพรวนั เกดิ มอบของขวัญ การขอและใหข้ ้อมลู เกี่ยวกบั อายุ ชว่ ยให้พูดสื่อสารเก่ียวกบั เรอื่ งใกล้ตัวใน
ชีวติ ประจําวันได้ถกู ต้อง รวมถงึ การเรียนรเู้ กย่ี วกบั การละเล่นต่าง ๆ ของสหราชอาณาจักร และการจดั งาน วัน
เกดิ ของประเทศตา่ ง ๆ ในอาเซียน ชว่ ยให้เขา้ ใจวฒั นธรรมของประเทศนั้น ๆ ตลอดจนการเรยี นรเู้ ก่ยี วกับ
ลกั ษณะของสงิ่ มีชีวิตกบั สง่ิ ไม่มชี วี ิต ชว่ ยให้สามารถแยกแยะสิง่ แวดลอ้ มใกล้ตัวได้ ซึง่ เป็นการเช่อื มโยงกับวชิ า
วิทยาศาสตร์
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (numbers) ten, eleven, twelve, thirteen, fourteen, fifteen,
sixteen, seventeen, eighteen, nineteen, twenty
plus, minus
298
(games) pass the parcel, hula hoop, musical chairs, bobbing for
apples, tag, pin the tail on the donkey
(living things) lady bug, chick, butterfly, plant, flower, bee,
horse, tree
(non-living things) roller skate, ice cream, car, cup, table, book
(-le sound) apple, circle, table, bicycle
(-ll sound) doll, wall, ball, bell
CD, watch, present, bat, cake, guitar, basketball, camera, blow
out, car, chair, apple, lamp, cap, egg, hat, birthday cake, make a
wish, candle, spacesuit, fantastic, dear, Best wishes!, special,
delicious, noodles, meat, vegetable, celebrate, parents,
envelope, lucky money, tet, pancit guisado, kakanin, breathe,
move, grow, eat
Structure: This is for you. It’s a CD!
How many cars? Two cars.
Happy Birthday, Tom! Here’s your present.
Thank you!
How old are you today? I’m nine.
Twenty minus twelve plus four is twelve.
What is seven plus five? Twelve.
What is it? It’s a bike.
What are they? They’re dolls.
How many presents are there?
Here’s your birthday cake.
Make a wish and blow out the candles.
You’re welcome!
Best wishes on your birthday!
What is it? Open it and see.
Wow! It’s a doll! Thank you!
Flowers are living things.
Chairs are non-living things.
Pronunciation: word stress, words ending with -le and -ll
299
Functions: giving presents,
asking and answering about quantity,
asking and answering about age,
asking and giving information about things,
making a wish on one’s birthday,
saying thank you and giving response,
talking about popular children’s games in the UK,
describing birthday party in the Philippines and Vietnam
2) Language Skills
Listening: ฟังและระบุภาพ, ฟงั และระบตุ วั เลข, ฟังเพ่อื หาข้อมลู เฉพาะ, ฟังและ
ระบุคํา
Speaking: พูดมอบส่งิ ของให้ผอู้ นื่ , สนทนาเกยี่ วกบั การให้ของขวัญวนั เกิด
พรอ้ มทง้ั กล่าวขอบคุณและตอบรบั คําขอบคุณ, พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ยี วกบั
จาํ นวนส่งิ ของ, อวยพรวันเกดิ และมอบของขวญั และรอ้ งเพลงวันเกิด, พดู
ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกับอายุของตนเองและผอู้ น่ื , พดู ขอ
และให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับสง่ิ ของใกลต้ ัว, พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับการบวก
และลบเลขเปน็ ภาษาองั กฤษ, แสดงบทบาทสมมตเิ กย่ี วกับเรอ่ื งทฟี่ ัง
และอา่ น, รอ้ งเพลงภาษาองั กฤษ, บอกคาํ ศพั ทเ์ กีย่ วกบั การละเลน่ ของ
สหราชอาณาจักร, บอกข้อมลู เกย่ี วกับการจดั งานวนั เกิดของประเทศใน
อาเซยี น, พูดแยกแยะสิ่งมชี ีวิตกบั สิง่ ไม่มีชีวติ
Reading: อ่านเพอื่ หาข้อมูลเฉพาะ, อ่านและระบุภาพ
อา่ นออกเสียงคาํ ศัพทท์ ี่ลงทา้ ยด้วย -le และ -ll
Writing: เขยี นอวยพรวันเกดิ
3) Culture: การละเลน่ ของสหราชอาณาจักร
4 สมรรถนะสาํ คัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
300
5 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มุง่ มัน่ ในการทํางาน
6 ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
6.1 การพูดมอบส่งิ ของให้ผู้อน่ื
6.2 การพดู ขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั จํานวนของสิ่งของ
6.3 การพดู อวยพรวนั เกดิ มอบของขวญั และการขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับอายขุ องตนเองและผู้อนื่
6.4 การพดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับการบวกและลบเลขเป็นภาษาองั กฤษ
6.5 การพดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับสงิ่ ของใกล้ตัว
6.6 การแสดงบทบาทสมมติ
6.7 การพดู สนทนาเกี่ยวกับการให้ของขวัญวันเกดิ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณและตอบรบั คําขอบคณุ
6.8 ชิน้ งาน Portfolio
6.9 การเขา้ ร่วมและจดั งานเลย้ี งวันเกดิ
6.10 ชนิ้ งานสมุดคําศพั ท์
7 การวัดและประเมนิ ผล
7.1 การประเมินระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
- ทาํ แบบฝกึ หดั ในหนังสอื เรียน
- ทาํ แบบฝึกหดั ในหนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook)
- ทําใบงานที่ 1-3 (Worksheets 1-3)
7.2 การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ ชิน้ งานและภาระงานในขอ้ 6
8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สือแบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 ใบงานที่ 1-3 (Worksheets 1-3)
8.5 บตั รภาพ บัตรคาํ บตั รตัวเลข และแถบประโยค
8.6 สง่ิ ของจรงิ ได้แก่ อุปกรณ์การเรียน แผ่น CD ซองจดหมายและกระดาษ
8.7 สําเนา Story Cutouts และสําเนาบทอ่านจากหนงั สอื เรยี น หน้า 50
301
8.8 หนุ่ มือ
8.9 ภาพส่งิ มีชีวติ และสงิ่ ไม่มชี วี ิต
8.10 อปุ กรณ์การทํางาน ได้แก่ กระดาษ A4 และดนิ สอสี
8.11 คลปิ วิดีโอ A birthday party ของ British Council | ESOL Nexus จาก
https://www.youtube.com/watch?v=ibmku9k-coU
302
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 This is for you. It’s a CD!
เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคาํ และบอกความหมายของคําศพั ท์ทก่ี ําหนดได้
- พดู มอบสง่ิ ของให้ผอู้ ืน่ ได้
- รวบรวมคําศพั ทท์ ่ีเรียนได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองทีฟ่ ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความ
คดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้วี ดั
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสียงคาํ สะกดคาํ อ่านกลุ่มคาํ ประโยค และบทพดู เขา้ จังหวะ (chant) งา่ ย ๆ
ถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบภุ าพหรือสญั ลกั ษณ์ตรงตามความหมายของกล่มุ คาํ และประโยคท่ีฟัง
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึก
และความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป. 3/1 พูดโตต้ อบด้วยคําสน้ั ๆ ง่าย ๆ ในการส่ือสารระหว่างบคุ คลตามแบบท่ฟี ัง
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเปน็ เครอื่ งมือพื้นฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั สังคมโลก
ตัวช้ีวดั
ต 4.2 ป. 3/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเพือ่ รวบรวมคาํ ศัพทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งใกล้ตัว
2. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด
การรคู้ ําศพั ทเ์ ก่ียวกบั สงิ่ ของตา่ ง ๆ ช่วยให้พูดสือ่ สารระหวา่ งบุคคลได้
303
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Function
Vocabulary: CD, watch, present, bat, cake, guitar, basketball, camera, blow
out
Structure: This is for you. It’s a CD!
Function: giving presents
2) Language Skill
Speaking: พดู มอบส่งิ ของให้ผอู้ น่ื
4. สมรรถนะสําคญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั Warm up
1. ครูและนักเรยี นทกั ทายกัน
T: Hello! How are you?
Ss: I’m fine, thank you. And you?
T: I’m very well, thank you.
ครูยา้ํ วา่ ในการตอบคาํ ถาม How are you? ไมจ่ าํ เปน็ ต้องตอบ I’m fine. เสมอไป สามารถตอบได้
หลากหลาย เชน่ I’m good. I’m very well. เป็นต้น
2. ทบทวนคําบพุ บทที่เรียนมาแล้วในหนว่ ยฯ ท่ี 3 โดยครูพูดบอกตาํ แหน่งให้นักเรยี นนําอุปกรณก์ ารเรยี นไป
วางในตาํ แหนง่ ตา่ ง ๆ เชน่
T: Put the pencil on the book.
Ss: (วางดนิ สอไว้บนหนงั สอื )
T: Put the rubber in the pencil case.
Ss: (วางยางลบไว้ในกระเป๋าดนิ สอ)
304
ข้ัน Presentation
1. ครูนําเสนอคําศัพทเ์ กย่ี วกบั สง่ิ ของ ดังนี้ CD (แผ่นซีด)ี , watch (นาฬกิ าขอ้ มอื ), present (ของขวัญ), bat
(ไมเ้ บสบอล), cake (เค้ก), guitar (กีตาร)์ , basketball (ลกู บาสเกตบอล) และ camera (กลอ้ งถา่ ยรปู )
โดยแสดงบตั รภาพและออกเสยี งคาํ ศพั ท์ ใหน้ ักเรียนออกเสยี งตามครู 2-3 ครั้ง ต่อมาครวู าดภาพเค้ก
ทมี่ ีเทียนปักไว้ 1 เล่ม บนกระดาน และใหน้ กั เรยี น 1 คน ออกมาทาํ ท่าเปา่ เทียน แล้วครูพดู คําศัพท์
blow out (เป่า) ให้นักเรียนพูดตาม
2. หนังสือเรียน หน้า 40 Ex. 1 ครูเปดิ CD ให้นกั เรียนฟังและชี้ภาพตามคําศัพทท์ ่ไี ด้ยิน พร้อมกับออกเสยี ง
คําศพั ท์ตาม CD จากนนั้ ครูเปดิ CD อกี ครัง้ ให้นักเรียนพูดคาํ ศพั ท์ตาม CD ครตู รวจสอบว่า นักเรียน ออก
เสยี งถูกตอ้ งหรือไม่ และชว่ ยแนะนาํ การออกเสยี งให้ถูกตอ้ ง โดยเฉพาะคาํ ว่า camera ท่ตี วั e
ไม่ออกเสียง
CD watch present bat cake
blow out
guitar basketball camera
พยางค์ทพี่ ิมพ์ตวั หนา คอื พยางค์ท่ลี งเสียงหนักในคํา
CD present guitar basketball
camera blow out
3. นาํ เสนอประโยคการพูดเพอ่ื มอบสิ่งของใหผ้ ้อู น่ื โดยนกั เรียน 3 คนออกมาหน้าห้อง จากนนั้ ครูส่ง
บตั รภาพส่ิงของให้แต่ละคน พร้อมกับพดู ประโยค และนักเรยี นส่งบัตรภาพกลับมาให้ครพู รอ้ มกับ
พูดประโยคเช่นเดยี วกัน เชน่
T: (สง่ บตั รภาพซดี ใี หน้ กั เรยี นคนท่ี 1)
This is for you. It’s a CD.
S1: (สง่ บัตรภาพซดี กี ลับให้ครู)
This is for you. It’s a CD.
T: (ส่งบัตรภาพไมเ้ บสบอลใหน้ ักเรียนคนที่ 2)
This is for you. It’s a bat.
S2: (ส่งบัตรภาพไม้เบสบอลกลบั ใหค้ รู)
This is for you. It’s a bat.
T: (สง่ บตั รภาพนาฬกิ าข้อมอื ให้นกั เรยี นคนท่ี 3)
305
This is for you. It’s a watch.
S3: (ส่งบตั รภาพนาฬิกาขอ้ มือกลับให้ครู)
This is for you. It’s a watch.
ครูเรียกนักเรยี นหลาย ๆ คนออกมาทํากจิ กรรมน้จี นม่นั ใจวา่ นักเรียนพูดได้คล่องแคลว่
ขนั้ Practice
1. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 5-6 คน เลน่ เกมใบ้คํา Miming game โดยครูแจกบัตรภาพ (ภาพซีดี, นาฬิกา
ข้อมือ, ของขวญั , ลกู บาสเกตบอล, ไมเ้ บสบอล, เคก้ , กตี าร,์ กล้องถา่ ยรูป และเป่าเทยี น หรอื อาจถา่ ย
เอกสารภาพจากหนงั สือเรียน หน้า 40 Ex. 1 แลว้ ตดั ภาพออกมาเปน็ ชนิ้ เลก็ ๆ) ให้ทุกกลุ่ม กลุ่มละ
1 ชดุ สมาชกิ ในกลมุ่ ผลัดกนั หยิบบัตรภาพขึน้ มาครั้งละ 1 ใบ โดยไมใ่ ห้เพอ่ื นคนอืน่ ในกลมุ่ เหน็ ภาพ
แล้วทาํ ทา่ เพอ่ื ใบค้ ําน้นั ให้เพ่ือนทายโดยห้ามพูดคําศัพท์ในภาพนั้นออกมา สมาชกิ ในกลุ่มคนใดท่ี
ทายถกู จะได้ 1 คะแนนและเป็นผหู้ ยิบบตั รภาพและใบ้คาํ ตอ่ ครูใหน้ ักเรยี นเล่นเกมนีซ้ า้ํ 3-4 รอบ
จนสังเกตวา่ นกั เรยี นจดจาํ คาํ ศัพท์ได้
2. หนังสือเรยี น หนา้ 40 Ex. 2 นกั เรยี นฝึกพดู ประโยคมอบของขวญั ให้ผู้อน่ื ตามภาพท่กี ําหนด
โดยนกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน ผลัดกนั พูดประโยคตามภาพคนละ 2 ข้อ ให้เพื่อนในกลมุ่ ตรวจความ
ถูกตอ้ ง จากนัน้ ครูขออาสาสมคั รนักเรียนหลาย ๆ กล่มุ ออกมาสาธิตการพูดหนา้ หอ้ งเรียน
ข้ัน Production
นกั เรียนวาดภาพสิ่งของท่นี กั เรยี นอยากใหเ้ พอื่ นเป็นของขวญั ลงในกระดาษ A4 แล้วระบายสีให้สวยงาม
เสรจ็ แล้วนกั เรยี นเดินไปหาเพื่อน 2-3 คน ย่ืนภาพให้เพื่อนพรอ้ มกบั พดู ประโยควา่ This is for you. It’s
a … . โดยนักเรียนทีไ่ ด้รบั สิ่งของจากเพอื่ นตอ้ งพดู ตอบกลบั วา่ Thank you. ด้วย เสร็จแลว้ ครขู อ
อาสาสมคั รนกั เรยี นหลาย ๆ คนออกมาแสดงผลงานและสาธิตการพดู หน้าห้องเรียน
My word book
นกั เรียนบันทกึ คําศัพท์ที่เรียนลงในสมดุ คําศพั ท์ พรอ้ มทัง้ บอกความหมาย โดยครแู นะนาํ ใหน้ ักเรยี นบนั ทกึ
คาํ ศพั ท์โดยเรยี งตามตัวอักษร a-z
หนงั สือแบบฝึกหัด (Workbook)
นกั เรยี นทาํ แบบฝกึ หัดทบทวนสิ่งที่เรยี นในหนังสอื แบบฝกึ หดั หน้า 34 Exs. 1-2 เป็นการบ้าน
306
หนงั สือแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 34 Ex. 1
1 guitar 2 CD
3 watch 4 ball
หนังสือแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 34 Ex. 2
7. การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคาํ ศพั ท์
สงั เกตการพูดมอบของขวญั แบบประเมินชนิ้ งาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ใหผ้ อู้ ่นื รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจสมดุ คําศัพท์ หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook) ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หดั
สังเกตพฤติกรรมบ่งชี้ด้าน แบบประเมินคุณลักษณะ
ใฝเ่ รียนรู้ อนั พึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สอื แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสอื่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 บัตรภาพ
8.5 ส่ิงของจรงิ ได้แก่ อปุ กรณ์การเรยี น
307
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 2 How many?
เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสยี ง สะกดคาํ และบอกความหมายของคําศัพท์ที่กาํ หนดได้
- พูดขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับจํานวนของสิ่งของได้
- ระบุภาพจากการฟงั ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชว้ี ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทฟ่ี งั และอ่านจากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความ
คดิ เหน็ อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสยี งคํา สะกดคาํ อ่านกลมุ่ คาํ ประโยค และบทพูดเขา้ จงั หวะ (chant) งา่ ย ๆ
ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป. 3/3 เลอื ก/ระบุภาพหรอื สญั ลกั ษณต์ รงตามความหมายของกลมุ่ คําและประโยคท่ฟี ัง
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ
และความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ช้วี ัด
ต 1.2 ป. 3/4 พดู ขอและใหข้ อ้ มูลง่าย ๆ เกีย่ วกบั ตนเองและเพือ่ นตามแบบท่ฟี ัง
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใช้
ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวช้ีวดั
ต 2.1 ป. 3/3 เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะกบั วัย
2. สาระสาํ คัญ/ความคิดรวบยอด
การรคู้ าํ ศพั ท์เกีย่ วกบั สิ่งของต่าง ๆ ใกลต้ วั และรปู คํานามพหูพจน์ เปน็ พ้ืนฐานในการใช้ภาษาอังกฤษ
เพ่อื การสือ่ สารในชีวติ ประจําวนั ได้ถกู ต้อง
308
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Function
Vocabulary: CD, present, bat, guitar, camera, car, chair, apple, lamp, cap,
egg, hat
Structure: How many cars? Two cars.
Function: asking and answering about quantity
2) Language Skills
Listening: ฟังและระบภุ าพ
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั จาํ นวนของสิ่งของ
4. สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
1. ครูและนักเรยี นทกั ทายกัน
2. ครูนาํ กลอ่ งของขวัญกล่องใหญเ่ ข้ามาในหอ้ งเรียนและใหน้ กั เรียนทายว่าในกล่องมอี ะไร
T: Can you guess what’s in the box?
S1: A watch.
T: No. Sorry.
S2: A CD.
T: No. Sorry.
S3: A game.
T: No. Sorry.
S4: A basketball.
T: Yes. This is for you. It’s a basketball.
ครูทาํ กิจกรรมนซี้ าํ้ อีก 1 รอบ โดยใหน้ ักเรียนท่ีทายถูกวาดภาพสิ่งของและวางในกล่อง จากนน้ั
ขออาสาสมัครนกั เรยี น 4-5 คน ออกมาพูดทายสงิ่ ของหนา้ หอ้ งเรียน
309
ข้ัน Presentation
1. ครตู ิดบตั รภาพ car, guitar, bat, lamp, cap, CD, apple, camera, present, chair, egg และ hat บน
กระดานและให้นกั เรยี นออกเสียงตามครู 2-3 ครงั้ จากน้นั ครชู ี้ไปทบี่ ัตรภาพทลี ะใบ แล้วใหน้ กั เรียนบอก
คาํ ศพั ทด์ ้วยตนเอง หรอื ครูอาจสุ่มเรียกนักเรยี นหลาย ๆ คน ให้บอกคาํ ศพั ทเ์ พือ่ ตรวจสอบว่านกั เรียนจดจํา
คําศัพท์ได้หรอื ไม่
2. ครูวาดภาพแอปเปลิ จํานวน 5 ลูก บนกระดาน แล้วพดู กับนักเรยี น ดังนี้
T: What are they?
Ss: They’re apples.
T: How many?
Ss: Five apples.
ครูวาดภาพอีก 3-4 ภาพ และให้นักเรยี นตอบโดยเนน้ ให้นักเรียนออกเสยี ง s ท้ายคาํ นาม
3. ครูชูแผ่น CD 1 แผ่น แล้วพูดวา่ a CD ให้นกั เรยี นพดู ตาม ครูหยิบแผ่น CD อีก 1 แผ่น แลว้ พดู ว่า Two
CDs. ครเู ขยี นคาํ วา่ a CD และ Two CDs บนกระดาน แล้วขีดเสน้ ใต้ ใหน้ กั เรียนสงั เกตและชว่ ยกนั
บอกวา่ ทําไม two CDs จึงต้องเติม s เมือ่ นักเรียนตอบแลว้ ครูจงึ คอ่ ยอธบิ ายว่า ในภาษาองั กฤษ
ไมเ่ หมอื นภาษาไทยที่เม่อื คํานามมมี ากกว่า 1 ซง่ึ เราเรียกวา่ คาํ นามพหพู จน์จะตอ้ งเตมิ -s ท่ที ้ายคาํ นาม
ครยู กตัวอย่างให้นักเรียนดูเพมิ่ เตมิ โดยวาดภาพสิ่งของและเขียนคาํ นามพหูพจนข์ องคาํ นามนน้ั
บนกระดาน เชน่ two bats, five guitars, six balls และ eight cameras เป็นตน้
การเปลยี่ นคาํ นามเอกพจนเ์ ปน็ พหพู จน์
1. คาํ นามท่ัวไปสามารถเติม -s ท้ายคําได้เลย เช่น
cat - cats pen - pens ball - balls
2. ถ้าคํานามลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x และ z ใหเ้ ติม -es ท้ายคํา เช่น
bus - buses dress - dresses dish - dishes
match - matches box - boxes
3. คํานามลงทา้ ยด้วย y ให้เปล่ียน y เป็น i แลว้ เติม -es เชน่
baby - babies city - cities
แต่ถา้ ข้างหนา้ y เป็นสระ (a, e, i, o และ u) ให้เติม -s เช่น
key - keys day - days
310
ขัน้ Practice
1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 41 Ex. 3 นักเรียนนับจํานวนของสง่ิ ของในภาพและเขยี นบอกจาํ นวนให้ถกู ตอ้ ง
เสร็จแลว้ ครูถามคาํ ถามเพ่ือให้นักเรียนตอบจํานวน เชน่
T: How many guitars?
Ss: Three guitars.
2 three guitars 3 five bats 4 four lamps
5 six caps 6 eight CDs 7 seven apples
2. หนงั สือเรยี น หน้า 41 Ex. 4 นักเรยี นเลน่ เกมบอกคํานามพหูพจน์ โดยจับคู่กบั เพอ่ื นและตกลงกันวา่
ใครจะเปน็ A หรือ B แล้วใช้ภาพใน Ex. 3 เพอ่ื เล่นเกม โดยครอู ธิบายวธิ ีเล่นเกม ดงั น้ี
1) นักเรยี น A เลอื กภาพในใจ จากนั้นพดู เฉพาะจาํ นวน
2) นกั เรียน B หาภาพส่ิงของทีม่ จี าํ นวนตรงกับทน่ี กั เรยี น A พูด แล้วพดู บอกจาํ นวนและ
คําศพั ท์ของส่งิ ของน้นั
3) ถา้ นักเรยี น B พดู ถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน แล้วให้สลับบทบาทกันทํากจิ กรรม เช่น
A: three
B: three guitars
3. หนงั สอื เรียน หน้า 41 Ex. 5 ครเู ปดิ CD 2 ครัง้ ใหน้ ักเรียนฟงั และเลอื กคําศัพท์ใหถ้ ูกตอ้ ง เสรจ็ แลว้
ครเู ปดิ CD อกี คร้ัง ให้นกั เรยี นฟงั และออกเสียงคําศพั ทต์ าม แล้วชว่ ยกนั เฉลยคาํ ตอบ
1 cameras 2 present 3 eggs
4 guitars 5 chair 6 hats
1b 2a 3b
4b 5a 6b
311
ขั้น Production
นักเรยี นวาดภาพสิ่งของทีม่ ีจํานวนมากกว่า 1 จากนน้ั นักเรียนยืนเปน็ วงกลมซ้อนกนั 2 วง ครูเปิดเพลงให้
นักเรียนที่ยนื อย่วู งนอกเดินวนไปทางขวาเร่อื ย ๆ เมื่อครูหยดุ เพลงนกั เรยี นหยดุ ตรงกับเพอ่ื นคนใด
ให้ผลัดกนั แสดงภาพที่วาดและพดู ถาม-ตอบกันโดยใช้โครงสร้าง How many (คํานามพหูพจน)์ ? เช่น
S1: How many cars?
S2: Two cars.
เสร็จแล้วครูเปดิ เพลงอีกครง้ั และให้นกั เรียนทํากิจกรรมเชน่ เดมิ ครูทําเช่นนีอ้ ีก 3-4 รอบ
หนงั สอื แบบฝึกหดั (Workbook)
นักเรยี นทําแบบฝึกหัดทบทวนสิง่ ทเ่ี รียนในหนังสอื แบบฝึกหัด หนา้ 35 Ex. 3 เป็นการบ้าน
หนงั สือแบบฝกึ หัด (Workbook) หน้า 35 Ex. 3
2 one, guitars 3 four, present 4 one, hat s
5 six, camera 6 three, cake
7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวัด แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการออกเสยี งคําศัพท์ แบบทดสอบ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สังเกตการเลน่ เกมภาษาองั กฤษ
หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการระบุภาพจากการฟงั
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการพูดขอและใหข้ อ้ มูล
เกีย่ วกบั จาํ นวนของสงิ่ ของ อนั พงึ ประสงค์
ตรวจแบบฝกึ หดั
สังเกตพฤติกรรมบ่งชดี้ ้าน
ใฝ่เรยี นรู้
312
8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนังสอื แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 บัตรภาพ
8.5 สิง่ ของจริง ได้แก่ แผ่น CD
313
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 How old are you today?
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสยี ง สะกดคาํ และบอกความหมายของคําศพั ทเ์ กยี่ วกบั ตวั เลขแสดงจาํ นวน 11-20 ได้
- พดู อวยพรวนั เกดิ และมอบของขวัญได้
- พดู ขอและใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับอายขุ องตนเองและผูอ้ ื่นได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทีฟ่ งั และอา่ นจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความ
คดิ เหน็ อยา่ งมีเหตุผล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสียงคาํ สะกดคํา อา่ นกลุม่ คาํ ประโยค และบทพูดเข้าจังหวะ (chant) ง่าย ๆ
ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรอื สญั ลกั ษณ์ตรงตามความหมายของกลุม่ คําและประโยคทีฟ่ งั
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตัวชว้ี ดั
ต 1.2 ป. 3/1 พดู โตต้ อบด้วยคําสั้น ๆ งา่ ย ๆ ในการส่ือสารระหว่างบคุ คลตามแบบที่ฟัง
ต 1.2 ป. 3/4 พดู ขอและใหข้ ้อมูลง่าย ๆ เกี่ยวกบั ตนเองและเพอื่ นตามแบบทีฟ่ งั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใช้
ได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชีว้ ดั
ต 2.1 ป. 3/1 พดู และทาํ ทา่ ประกอบตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
2. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด
การรคู้ ําศพั ทเ์ กีย่ วกบั ตัวเลขแสดงจาํ นวนและสาํ นวนภาษาท่ใี ช้ในการอวยพรวันเกิดและมอบของขวัญ
รวมท้ังการขอและให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับอายุ ช่วยให้พูดสือ่ สารไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสมตามมารยาทและวัฒนธรรม
ของเจา้ ของภาษา
314
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Function
Vocabulary: (numbers) ten, eleven, twelve, thirteen, fourteen, fifteen,
sixteen, seventeen, eighteen, nineteen, twenty
Structure: Happy Birthday, Tom! Here’s your present.
Thank you!
How old are you today? I’m nine.
Function: asking and answering about age
2) Language Skill
Speaking: พดู อวยพรวนั เกดิ และมอบของขวัญ,
พดู ขอและให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั อายุของตนเองและผอู้ ่นื
4. สมรรถนะสําคัญของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm up
1. ครูแสดงหุ่นมอื ให้นกั เรยี นดูพรอ้ มกับพูดวา่ Good morning!/Good afternoon!, I’m Sally. แล้วขอให้
นกั เรยี นพูดทกั ทาย Sally พร้อมกันทั้งหอ้ ง หรอื ครูอาจสมุ่ เรยี กนกั เรียนหลาย ๆ คนกลา่ วทกั ทาย Sally
2. ทบทวนตัวเลขแสดงจํานวน 1-10 โดยครูแสดงบตั รตัวเลข 1-10 ทลี ะใบแบบไม่เรียงลําดับให้นกั เรยี นบอก
คําศัพท์ แล้วครสู มุ่ เรยี กนกั เรียนออกมาเขยี นคาํ ศพั ท์บนกระดาน
3. เล่นเกม Memory game เพื่อทบทวนคํานามพหูพจนแ์ ละการใช้ How many …? โดยนักเรยี นเปิด
หนังสอื เรียน หน้า 41 ครูบอกวา่ นกั เรยี นมเี วลา 30 วนิ าทีจดจาํ จาํ นวนของส่งิ ตา่ ง ๆ ในภาพ เมอื่ ครบ
30 วนิ าที นกั เรียนตอ้ งปิดหนังสอื เรยี น ครถู ามจาํ นวนของสิง่ ตา่ ง ๆ ในภาพ นักเรียนคนใดตอบไดถ้ ูกตอ้ ง
ใหอ้ อกมาเป็นผถู้ ามคาํ ถาม เสร็จแล้วครอู าจให้นักเรียนเล่นเกมน้อี กี คร้ัง โดยใชภ้ าพจากหนังสือแบบฝึกหัด
หน้า 35 Ex. 3
315
ขัน้ Presentation
1. ครนู ําเสนอคาํ ศพั ท์ตัวเลขแสดงจํานวน 11-20 โดยชูบตั รตัวเลขทลี ะใบและใหน้ กั เรียนออกเสยี งตามครู 2-
3 ครั้ง จากน้ันครแู สดงบตั รคําและใหน้ กั เรยี นออกเสียงตามครู eleven (สบิ เอด็ ), twelve (สิบสอง),
thirteen (สบิ สาม), fourteen (สิบส่)ี , fifteen (สบิ ห้า), sixteen (สบิ หก), seventeen (สบิ เจ็ด),
eighteen (สบิ แปด), nineteen (สิบเกา้ ) และ twenty (ยี่สบิ ) ครแู นะนําใหน้ กั เรียนลงเสียงหนักในคาํ ให้
ถกู ตอ้ ง
พยางคท์ พ่ี ิมพต์ วั หนา คือ พยางค์ที่ลงเสียงหนกั ในคํา
eleven thirteen fourteen fifteen
sixteen seventeen eighteen nineteen twenty
2. ครแู สดงบตั รคํา eleven - twenty ทลี ะใบแบบไม่เรียงลาํ ดบั แล้วสมุ่ เรยี กนักเรยี นพูดคําศพั ทแ์ ละออกมา
เขียนตัวเลขบนกระดาน
3. ครูแสดงห่นุ มอื Sally บอกนักเรียนวา่ วนั นี้เปน็ วนั เกดิ ของ Sally แลว้ พดู ว่า
T: Happy Birthday, Sally! Here’s your present.
Sally: Thank you!
T: How old are you today?
Sally: (อายุ 12 ปี) I’m twelve.
ครูติดแถบประโยคของบทสนทนาน้ีบนกระดาน แล้วพดู ประโยคซ้ําอกี รอบและให้นกั เรยี น
อา่ นออกเสียงตาม 2-3 ครัง้
ขน้ั Practice
1. หนังสอื เรยี น หน้า 42 Ex. 6 ครูเปดิ CD ใหน้ กั เรยี นฟังคําศัพท์ ชี้ตัวเลข และออกเสียงคาํ ศพั ทต์ าม CD
จากนน้ั ให้นกั เรียนจับคตู่ วั เลขกับคาํ ศัพท์ใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแล้วครูเฉลยคําตอบ
ten eleven twelve thirteen
fourteen fifteen sixteen seventeen
eighteen nineteen twenty
316
twenty - k eleven - b eighteen - i
twelve - c ten - a fourteen - e
seventeen - h thirteen - d fifteen - f
nineteen - j sixteen - g
2. หนงั สือเรยี น หนา้ 42 Ex. 7 นกั เรยี นอา่ นชื่อบุคคลท่กี าํ หนดใหใ้ นขอ้ 1-6 ตามครู แล้วจบั คกู่ บั เพอ่ื น
สมมตวิ ่าตนเองเป็นบุคคลในภาพ จากน้นั ผลัดกันพูดถาม-ตอบตามบทสนทนา เช่น
S1: Happy Birthday, Patrick! Here’s your present.
S2: Thank you!
S1: How old are you today?
S2: I’m twenty.
ครูเดนิ ไปรอบ ๆ ห้องเพอ่ื สงั เกตและให้คาํ แนะนําท่จี ําเปน็ แล้วจึงสมุ่ เรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่ ออกมา
แสดงบทสนทนาหน้าหอ้ ง
ขนั้ Production
นักเรยี นแบง่ ออกเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน แต่ละกลมุ่ น่ังเป็นวงกลม ครูวางสลากตวั เลข 10-20
ไว้ตรงกลางวง จากน้นั ให้นักเรยี นทาํ กจิ กรรม ดังนี้
1) สมาชิก 1 คน ออกมาจับสลาก 1 ใบ แลว้ ยนื อยู่กลางวง
2) คนทน่ี ่งั ตรงข้ามกับสมาชิกทีจ่ บั สลากออกมาพดู อวยพรวนั เกดิ มอบของขวัญ (โดยแสดง
ทา่ ทางประกอบดว้ ย) และถามอายุ โดยให้คนทจ่ี บั สลากบอกอายตุ ามตัวเลขในสลาก
3) คนทพ่ี ูดอวยพรวนั เกดิ จับสลากเปน็ คนตอ่ ไป แล้วนักเรียนทาํ กิจกรรมเช่นเดยี วกันน้ี จน
ทุกคนในกลมุ่ ได้ออกมาจบั สลากและพูดอวยพรวนั เกิด มอบของขวัญ และถามอายุ
My word book
นักเรยี นบนั ทกึ คําศัพท์ทเี่ รยี นลงในสมุดคําศัพท์ พร้อมทัง้ บอกความหมาย โดยครแู นะนาํ ใหน้ กั เรียนบันทึก
คําศัพทโ์ ดยเรียงตามตัวอักษร a-z
หนงั สือแบบฝึกหดั (Workbook)
นกั เรียนทําแบบฝกึ หดั ทบทวนสงิ่ ที่เรยี นในหนังสอื แบบฝกึ หดั หนา้ 35 Ex. 4 และหนา้ 36 Exs. 5-6
เป็นการบา้ น
317
หนงั สอื แบบฝกึ หดั (Workbook) หนา้ 35 Ex. 4
2 five hats 3 one cake 4 fourteen presents
5 two guitars 6 one ball
หนงั สอื แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 36 Ex. 5
2 fifteen 3 eleven 4 sixteen
5 twelve 6 twenty
หนังสอื แบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 36 Ex. 6
2 fifteen sixteen 3 nineteen twenty
4 twelve thirteen 5 eighteen nineteen
7. การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการออกเสยี งคาํ ศัพท์
แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการพูดอวยพรวนั เกิดและ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
มอบของขวัญ รวมทั้งการพูดขอ หนังสอื แบบฝกึ หัด (Workbook) ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั อายุของ
ตนเองและผ้อู ืน่ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ
ตรวจสมดุ คาํ ศพั ท์ อนั พงึ ประสงค์
ตรวจแบบฝึกหดั
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ดี ้าน
ใฝ่เรยี นรู้
8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สอื แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 บัตรตวั เลข บัตรคาํ และแถบประโยค
8.5 ห่นุ มอื
318
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 Ten plus five is fifteen!
เวลา 1 ชัว่ โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ระบตุ ัวเลขตรงตามความหมายของประโยคทฟี่ งั ได้
- พดู ขอและใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั การบวกและลบเลขงา่ ย ๆ เปน็ ภาษาองั กฤษได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความ
คิดเห็นอย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรือสัญลกั ษณ์ตรงตามความหมายของกลุม่ คาํ และประโยคท่ีฟงั
สาระท่ี 3 ภาษากับความสมั พนั ธก์ ับกลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรียนร้อู ่ืน และเปน็
พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
ตวั ชว้ี ดั
ต 3.1 ป. 3/1 บอกคาํ ศพั ทท์ ่เี กย่ี วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
2. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด
การรคู้ ําศัพท์เกีย่ วกบั การบวกและลบเลขง่าย ๆ เปน็ การใช้ภาษาอังกฤษในการเช่อื มโยงความรู้
กบั วิชาคณติ ศาสตรซ์ ึ่งชว่ ยนกั เรียนพฒั นาความรู้ของตนเอง
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features
Vocabulary: plus, minus
Structure: Twenty minus twelve plus four is twelve.
What is seven plus five? Twelve.
319
2) Language Skills
Listening: ฟังและระบุตัวเลข
Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั การบวกและลบเลขเป็นภาษาองั กฤษ
4. สมรรถนะสําคญั ของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ัน Warm up
1. ครูและนักเรยี นกลา่ วทกั ทายกัน
2. ทบทวนการพูดถาม-ตอบอายุ โดยใชค้ าํ ถาม How old are you today? นักเรียนเดนิ ไปรอบ ๆ หอ้ ง
เพ่อื ถามอายขุ องเพ่ือน 4 คน จากนนั้ ครูสมุ่ เรยี กนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบหน้าหอ้ ง เชน่
S1: How old are you today?
S2: I’m eight.
ขน้ั Presentation
1. ครูเขยี นเคร่ืองหมายบวก (+) บนกระดาน อา่ นออกเสยี ง และใหน้ ักเรียนอา่ นตาม 2-3 ครั้ง จากน้ัน
ครูเขยี น 1+1 = 2 แลว้ ใหน้ กั เรยี นพดู ตามครู ดังนี้
T: One plus one is two.
Ss: One plus one is two.
ครูถามนกั เรียนว่า plus มีความหมายว่าอย่างไร และเขยี นคําวา่ plus บนกระดานและให้นักเรียน
อา่ นออกเสยี งตามครู จากน้นั ครูเขยี นโจทยก์ ารบวกเลขง่าย ๆ อีก 2-3 ขอ้ ใหน้ กั เรียนพูดตามครู
2. ครูทํากจิ กรรมเชน่ เดียวกันนโ้ี ดยใช้โจทย์การลบเลขง่าย ๆ เพื่อนําเสนอคําวา่ minus
3. ครูถามนักเรียนเก่ียวกบั การบวกและลบเลขง่าย ๆ เชน่
T: What is six plus four?
Ss: Ten.
T: What is seven plus five?
Ss: Twelve.
320
T: What is twenty minus ten?
Ss: Ten.
สญั ลกั ษณต์ ่าง ๆ ทางคณติ ศาสตร์
สญั ลักษณ์ คําศัพท์ ความหมาย
+
- plus, add บวก
×
minus ลบ
÷
multiply คูณ
=
divide หาร
equal เทา่ กบั
ขั้น Practice
1. หนงั สอื เรยี น หน้า 43 Ex. 10 นักเรยี นทาํ โจทยเ์ ลขท่ีใหม้ า แล้วจับคกู่ บั เพือ่ นผลัดกนั พูดถาม-ตอบ เชน่
S1: Twenty minus twelve plus four is …
S2: Twelve.
ครเู ดินสังเกตรอบ ๆ หอ้ งเพ่อื ตรวจสอบวา่ นักเรียนพูดประโยคถูกต้องหรอื ไม่ จากนน้ั สุ่มเรียกนกั เรยี น
บอกคําตอบ เช่น Seven plus nine minus one is fifteen.
a 12 b 15 c 18 d 14 e 11
2. นกั เรยี นทาํ ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1) นักเรียนฟงั ครูบอกโจทย์เลข แล้ววงกลมเลือกคําตอบที่ถกู ต้อง
ครพู ูดโจทย์เลข ดงั นี้
1. What is four plus ten?
2. What is nine plus nine?
3. What is ten minus five?
4. What is eighteen minus eight?
5. What is nineteen plus one?
321
ใบงานที่ 1 (Worksheet 1) Ex. A 4 10 5 20
1 14 2 18 3 5
3. นักเรียนทําใบงานที่ 1 (Worksheet 1) Ex. B เสรจ็ แลว้ ครเู ฉลยคาํ ตอบ และให้นักเรียนจบั คผู่ ลัดกนั
ถาม-ตอบโจทย์เลขกับเพอ่ื น เช่น
S1: What is eight plus five?
S2: Thirteen.
ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1) Ex. B
1 13 2 11 3 16 4 18 5 7
ขนั้ Production
ครใู หน้ กั เรียนเขยี นโจทยก์ ารบวกและการลบเลขง่าย ๆ ที่ไดผ้ ลลัพธไ์ ม่เกนิ 20 คนละ 5 ข้อ จากนั้นจบั คู่
กบั เพ่ือนผลดั กนั พดู ถาม-ตอบ เช่น
S1: What is nine plus three?
S2: Twelve.
S1: What is four plus nine?
S2: Thirteen.
ครเู ดนิ สงั เกตและสมุ่ เรยี กนกั เรยี น 4-5 คนออกมาถามโจทย์เลขของตนเองใหเ้ พือ่ น ๆ ในห้องบอก
ผลลพั ธ์
My word book
นกั เรยี นบนั ทึกคําศพั ทท์ ่ีเรยี นลงในสมุดคาํ ศพั ท์ พร้อมท้งั บอกความหมาย โดยครแู นะนําให้นักเรยี นบันทกึ
คาํ ศัพท์โดยเรยี งตามตัวอกั ษร a-z
322
7. การวดั และประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการระบตุ วั เลขจากการฟงั ใบงานที่ 1 (Worksheet 1) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการบวกและลบเลขงา่ ย ๆ ใบงานที่ 1 (Worksheet 1) ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เปน็ ภาษาองั กฤษ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการพูดขอและใหข้ อ้ มลู แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้
เกย่ี วกับการบวกและลบเลขงา่ ย ๆ
ตรวจสมดุ คําศพั ท์ แบบประเมนิ ช้นิ งาน
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีด้าน แบบประเมนิ คุณลักษณะ
ใฝเ่ รยี นรู้ อันพึงประสงค์
8. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1)
323
ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1) 13
A. Listen and circle the numbers. 18
5
1. 14 11
2. 8 20
3. 4
4. 10
5. 18
B. Do the sums.
1. 8 + 5 = ______________
2. 19 - 8 = ______________
3. 7 + 9 = ______________
4. 2 + 16 = ______________
5. 14 - 7 = ______________
324
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 5 What are they? They’re bats.
เวลา 1 ชวั่ โมง
จุดประสงค์ (Objective)
- พูดขอและใหข้ ้อมลู เกีย่ วกับสง่ิ ของตา่ ง ๆ ใกล้ตวั ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ
และความคิดเหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
ตัวชว้ี ัด
ต 1.2 ป. 3/4 พดู ขอและให้ข้อมูลงา่ ย ๆ เกีย่ วกับตนเองและเพ่อื นตามแบบทีฟ่ งั
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ตัวช้ีวดั
ต 4.1 ป. 3/1 ฟงั /พดู ในสถานการณง์ ่าย ๆ ท่เี กดิ ขึน้ ในห้องเรยี น
2. สาระสาํ คัญ/ความคดิ รวบยอด
การรคู้ าํ ศพั ท์และสํานวนภาษาเพอ่ื ขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกบั ส่ิงตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ชว่ ยให้พูดส่อื สาร
ในชวี ิตประจาํ วนั ได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Function
Structure: What is it? It’s a bike.
What are they? They’re dolls.
Function: asking and giving information about things
2) Language Skill
Speaking: พดู ขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกับสิ่งตา่ ง ๆ ใกล้ตัว
325
4. สมรรถนะสาํ คญั ของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ Warm up
1. ครูและนกั เรยี นกล่าวคําทักทายกัน
2. ทบทวนการพดู บวกและลบเลข โดยนักเรียนแบ่งเป็น 4-5 กลุ่ม ครูเขียนโจทยเ์ ลขการบวกและ
การลบง่าย ๆ จํานวน 5 ขอ้ บนกระดาน นักเรยี นทุกกลมุ่ มเี วลา 5 นาทีเพอ่ื หาผลลัพธ์ เมอื่ หมดเวลา
ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ อ่านโจทยแ์ ละบอกผลลัพธ์ ถา้ ถกู ต้องจะได้ขอ้ ละ 1 คะแนน กลุ่มใดที่มีคะแนนมาก
ทส่ี ดุ เปน็ กลุม่ ท่ีชนะ
โจทย์เลข
1) 5+11-3=? (Five plus eleven minus three is thirteen.)
2) 18-7+9=? (Eighteen minus seven plus nine is twenty.)
3) 9+9-1=? (Nine plus nine minus one is seventeen.)
4) 7+16-9=? (Seven plus sixteen minus nine is fourteen.)
5) 20-17+2=? (Twenty minus seventeen plus two is five.)
ขั้น Presentation
1. ทบทวนรูปย่อของ verb to be โดยครูชท้ี ี่ตัวเองและพูดว่า I am a teacher. ครูพดู อีกประโยควา่
I’m a teacher. แล้วเขียนสองประโยคนีบ้ นกระดาน
I am a teacher. I’m a teacher.
ครขู ดี เสน้ ใต้ I am และ I’m และบอกนกั เรียนวา่ ’m เปน็ รปู ย่อของ I am จากนน้ั ครูเขียนรปู ยอ่ ของ
verb to be ตัวอ่นื ๆ บนกระดาน ดงั นี้
Long forms Short forms
I am I’m
He is He’s
She is She’s
It is It’s
You are You’re
326
We are We’re
They are They’re
ครูช้ที ีละคาํ และอา่ นออกเสยี ง แลว้ ให้นักเรียนออกเสยี งตาม จากนัน้ ครูลบรปู ยอ่ ออกและสมุ่ เรียก
นกั เรียนหลาย ๆ คนออกมาเขยี น และใหเ้ พือ่ นคนอืน่ ๆ ชว่ ยกนั ตรวจว่าถูกต้องหรอื ไม่
2. ครูทบทวนคําถาม What is it? ในการถาม-ตอบเกี่ยวกบั สง่ิ ของท่เี ป็นเอกพจนโ์ ดยครชู สู ่ิงของ 1 ชนิ้
และถามคําถาม ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ เช่น
T: What is it? (ชดู ินสอ 1 แท่ง)
Ss: It’s a pencil.
ต่อมาครูสอนการถาม-ตอบเก่ยี วกบั ส่ิงของท่เี ปน็ พหูพจน์ โดยครชู หู นงั สือ 2 เล่ม และถาม What are
they? ให้นกั เรยี นพูดตาม ครบู อกคาํ ตอบ They’re books. ใหน้ ักเรียนพดู ตาม แลว้ ครูเขียนคาํ ถามและ
คาํ ตอบบนกระดาน ให้นกั เรียนอา่ นตามครู ครยู า้ํ วา่ They’re ต้องตามด้วยคํานามพหพู จน์ จากนนั้
ครชู ูส่งิ ของหลาย ๆ ชิ้น และถามคําถาม ให้นกั เรยี นช่วยกันตอบ เช่น
T: What are they? (ชูดินสอ 5 แท่ง)
Ss: They’re pencils.
ขนั้ Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 43 Ex. 8 นกั เรยี นเติมประโยคโดยใช้รปู ยอ่ ของ verb to be เสร็จแลว้ ช่วยกนั เฉลย
คําตอบ
2 They’re 3 It’s 4 You’re 5 She’s 6 He’s
2. หนังสือเรยี น หน้า 43 Ex. 9 นักเรยี นดูภาพและเติมคําถาม แล้วเลอื กคาํ ตอบท่สี มั พันธก์ บั ภาพ เสรจ็
แลว้
ครใู หน้ กั เรียน 4 คู่ พูดถาม-ตอบกนั คู่ละ 1 ขอ้ และให้เพือ่ นในชั้นชว่ ยกนั ตรวจคาํ ตอบ เช่น
S1: What is it? (พร้อมกบั ชภี้ าพในขอ้ 1)
S2: It’s a bike.
จากนั้นให้นักเรยี นจบั คู่กับเพ่ือนฝกึ พูดถาม-ตอบจนครบทุกข้อ
327
1 is it, bike 2 are they, dolls
3 are they, balls 4 is it, computer
3. นกั เรียนทําแบบฝึกหัดในหนงั สอื แบบฝกึ หัด หนา้ 37 Ex. 7 เมือ่ ทําเสร็จครูสุม่ เรยี กนักเรยี นหลาย ๆ คู่
ใหผ้ ลัดกันถาม-ตอบ
หนังสือแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 37 Ex. 7
2 What are they? They’re hats.
3 What is it? It’s a chair.
4 What are they? They’re bats.
5 What is it? It’s an egg.
6 What are they? They’re cars.
ขนั้ Production
นักเรียนทํางานเป็นคู่ นกั เรียนแตล่ ะค่ผู ลดั กนั ชี้ไปทีส่ ิง่ ของตา่ ง ๆ ในห้องเรียนแล้วผลัดกันพดู ถาม-ตอบ
เช่น
S1: (ช้ีไปทเี่ ก้าอี)้ What are they?
S2: They’re chairs.
ครูสังเกตความถูกตอ้ งของการใช้คําศัพท์และการออกเสยี งของนักเรียน แลว้ สมุ่ เรียกนักเรยี นหลาย ๆ คู่
ออกมาแสดงการสนทนาหน้าหอ้ งเรียน
หนังสือแบบฝกึ หดั (Workbook)
นักเรียนทาํ แบบฝกึ หดั ทบทวนสงิ่ ทเี่ รยี นในหนงั สือแบบฝึกหดั หน้า 37 Ex. 8 เป็นการบา้ น
328
หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 37 Ex. 8
2 It is not a clock.
3 The presents are on the table.
4 Are Ann and Tina sisters?
5 You are my friend.
6 They aren’t dolls.
7 Billy and Greg are Sam’s brothers.
8 What are they?
7. การวัดและประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
วธิ ีการวัด แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการพูดขอและใหข้ อ้ มลู หนังสือแบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เกย่ี วกบั สิ่งของใกล้ตัว
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น อนั พึงประสงค์
ใฝเ่ รียนรู้
8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนังสือแบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 ส่งิ ของจริง ไดแ้ ก่ อุปกรณก์ ารเรียน
329
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 6 Happy Birthday, Tom!
เวลา 2 ชวั่ โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- บอกขอ้ มลู เฉพาะจากการฟังได้
- เลือกภาพตรงตามความหมายของกลุ่มคาํ /ประโยคทอี่ ่านได้
- แสดงบทบาทสมมตเิ กีย่ วกบั เรอื่ งราวท่ไี ด้ฟงั หรืออา่ นได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ีฟงั และอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมเี หตุผล
ตัวช้ีวดั
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสียงคํา สะกดคาํ อา่ นกลุ่มคํา ประโยค และบทพูดเขา้ จังหวะ (chant) ง่าย ๆ
ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ป. 3/3 เลอื ก/ระบภุ าพหรือสัญลักษณต์ รงตามความหมายของกลุ่มคําและประโยคทีฟ่ งั
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.2 ป. 3/1 พูดโตต้ อบด้วยคําส้นั ๆ งา่ ย ๆ ในการสอื่ สารระหว่างบคุ คลตามแบบทฟ่ี ัง
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและใหข้ ้อมูลงา่ ย ๆ เกย่ี วกับตนเองและเพอ่ื นตามแบบทฟี่ ัง
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใชไ้ ด้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชีว้ ัด
ต 2.1 ป. 3/1 พูดและทาํ ท่าประกอบตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ป. 3/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วยั
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พันธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเคร่ืองมอื พ้ืนฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี
และการแลกเปลยี่ นเรยี นรูก้ ับสงั คมโลก
ตวั ชว้ี ัด
330
ต 4.2 ป. 3/1 ใช้ภาษาต่างประเทศเพ่อื รวบรวมคาํ ศัพทท์ ี่เก่ยี วขอ้ งใกล้ตัว
2. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรยี นรคู้ าํ ศัพท์และโครงสรา้ งประโยค ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจเรื่องราวทฟ่ี ังและอา่ น และเขา้ ร่วมกิจกรรม
ทางภาษาได้อย่างสนกุ สนาน
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features
Vocabulary: birthday cake, make a wish, candle, spacesuit, fantastic
Structure: How many presents are there?
Here’s your birthday cake.
Make a wish and blow out the candles.
You’re welcome!
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ
Speaking: แสดงบทบาทสมมตเิ ก่ยี วกับเรือ่ งทฟ่ี ังและอ่าน
Reading: อา่ นและระบภุ าพ
4. สมรรถนะสําคัญของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทํางาน
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ชว่ั โมงที่ 1
ขนั้ Warm up
ทบทวนคําศพั ทเ์ กี่ยวกบั ตวั เลขแสดงจาํ นวน 10-20 ดว้ ยการเลน่ เกมบงิ โก โดยให้นักเรียนทาํ ตาราง
9 ชอ่ ง ลงในสมุด และสมุ่ เขียนตวั เลข 10-20 ลงในตารางช่องละ 1 ตัวเลข จากนั้นครพู ดู คําศัพท์
331
ถ้าในตารางของนักเรยี นมีตัวเลขตรงกบั คาํ ศพั ทท์ ี่ครพู ูดใหก้ ากบาททบั ชอ่ งนนั้ คนทีก่ ากบาทได้ 3 ชอ่ ง
ติดกันกอ่ นในแนวใดก็ไดแ้ ละพูดว่า บิงโก เปน็ คนแรกเปน็ ผู้ชนะ
ข้ัน Pre-listening and reading
1. ครสู อนคาํ ศัพท์ birthday cake (เค้กวันเกิด), make a wish (ขอพร, อธษิ ฐาน), candle (เทยี นไข),
spacesuit (ชดุ อวกาศ) และ fantastic (มหัศจรรย์, เยย่ี มยอด, วเิ ศษ) โดยเขียนคําศัพทบ์ นกระดานและ
อ่านออกเสียง ใหน้ ักเรยี นอา่ นตาม 2-3 ครง้ั จากนัน้ ครอู ่านคําศัพทอ์ ีกครง้ั พร้อมกับบอกความหมาย
2. ครสู อนการใช้ You’re welcome. เพือ่ ตอบรับคําขอบคุณ โดยสาธิตกับนักเรยี น 1 คนที่ครูเตรียมไวแ้ ล้ว
ดังน้ี
T: Happy Birthday, Pang! This is for you. It’s a watch.
S1: Thank you.
T: You’re welcome.
ครเู ขยี นประโยค You’re welcome. บนกระดาน ใหน้ กั เรียนอา่ นตามครู 2-3 ครง้ั แล้วนักเรยี นชว่ ยกนั
บอกความหมายของ You’re welcome. (ดว้ ยความยนิ ดี) จากนน้ั นักเรยี นจับคกู่ ับเพ่ือนและสนทนากัน
3. นักเรยี นดภู าพในหนังสือเรียน หนา้ 44-45 Ex. 11 ครชู ้ภี าพตวั ละครและถามวา่ Who is he/she?
ใหน้ ักเรยี นบอกชื่อ แลว้ ครูถามว่า เหน็ อะไรในภาพบ้าง ใหน้ ักเรียนพูดคําศพั ท์ จากนัน้ นักเรียนเดาว่า
เนอื้ หาน่าจะเกย่ี วกับเรื่องอะไร
4. หนังสือเรยี น หน้า 44-45 Ex. 11 นกั เรยี นอ่านคําสั่งและอา่ นประโยคข้อที่ 1 และ 2 พร้อมกัน
แลว้ ช่วยกนั สรุปว่า นักเรยี นจะต้องฟังเพือ่ หาข้อมูลเกย่ี วกบั อะไร (อายุของ Tom และจาํ นวนของขวัญ)
ข้ัน Listening and reading
1. หนงั สอื เรียน หน้า 44-45 Ex. 11 ครูเปิด CD ใหน้ กั เรียนฟงั 2 ครั้ง แลว้ รวบรวมคําตอบจากนักเรียน
หลาย ๆ คน แลว้ จึงค่อยเฉลยคําตอบท่ถี กู ต้อง
1 yes 2 no
2. ครูเปดิ CD อกี ครั้ง โดยหยดุ เม่ือจบแต่ละประโยคเพอื่ ใหน้ ักเรยี นอา่ นออกเสียงตาม ครูสังเกตคําทนี่ กั เรียน
มกั ออกเสยี งผิดและแก้ไขให้ถูกต้อง
3. หนงั สือเรียน หน้า 45 Ex. 12 นกั เรียนอา่ นประโยคข้อ 1-4 พรอ้ มกัน แลว้ กลบั ไปอา่ นเนื้อเรอ่ื งอกี ครงั้
อยา่ งรวดเรว็ เพอื่ หาว่าประโยคข้อ 1-4 ตรงกับภาพใดในเนอ้ื เรอื่ ง เสรจ็ แลว้ ชว่ ยกันเฉลยคําตอบ
332