3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Hello, what’s your name?
How do you spell it?
Pronunciation:word stress, linking sound
2) Language Skills
Listening: ฟงั เพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ
Speaking: พูดขอและใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับช่ือและตวั สะกด
4. สมรรถนะสําคัญของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm up
1. ครูและนักเรยี นพูดทักทายกัน
2. เลน่ เกม Hot Ball ทบทวนการถาม-ตอบเพ่ือระบุชือ่ บคุ คล ครูใหน้ ักเรียนยืนเปน็ วงกลม แลว้ ส่งลูกบอล 2
ลกู ทมี่ สี ีตา่ งกัน (ลกู บอลสีแดงและสเี ขยี ว) ใหน้ กั เรียน 2 คนท่ียนื ตรงข้ามกนั ถือไว้ จากน้นั ครูเปิดเพลง
นักเรียนสง่ ลูกบอลต่อ ๆ กนั เม่ือเพลงหยดุ นกั เรยี นท่มี ลี ูกบอลสแี ดงในมอื ชีไ้ ปทีน่ กั เรยี นอกี คนทีม่ ี ลกู
บอลสีเขียว พร้อมกับถามเพ่อื นคนอ่ืน ๆ ในวงว่า Who’s that? เพ่ือน ๆ ชว่ ยกันตอบคําถามนี้ เชน่
That’s my friend, Pook. ครเู ลน่ เกมซํ้าอีก 4-5 รอบ
ขน้ั Pre-listening
1. ครูเขียนพรอ้ มกบั พดู บทสนทนาต่อไปนท้ี ลี ะประโยค แลว้ ใหน้ กั เรยี นพูดตาม
A: Hello, what’s your name?
B: I’m Dan.
A: How do you spell it?
B: D-A-N
83
ครูพูดและเขยี นคาํ วา่ spell บนกระดาน แล้วถามนกั เรยี นว่า spell แปลว่าอะไร (สะกด) จากนนั้ ครู
อธิบายวา่ การขอให้ผ้อู นื่ สะกดช่อื จะพดู ว่า How do you spell it? แล้วนักเรยี นอา่ นบทสนทนาบน
กระดาน ตามครูพร้อมกัน
2. ครูขออาสาสมคั รนกั เรยี น 5 คนออกมาหนา้ ช้นั เรยี น แลว้ แจกภาพบคุ คลทีม่ ชี ือ่ เสยี งที่มีชอ่ื ภาษาอังกฤษ
กาํ กับใตภ้ าพ ให้นกั เรยี นถอื ไว้คนละ 1 ภาพ ครบู อกวา่ ตอนนีส้ มมติให้นักเรยี นทัง้ 5 คนเปน็ บุคคลทีม่ ี
ชอ่ื เสียงตามภาพท่นี กั เรยี นไดร้ ับ จากนัน้ ครูถามชอื่ และให้นกั เรียนบอกชือ่ พรอ้ มกับสะกดชอ่ื บุคคล ตาม
ภาพทีน่ ักเรยี นถืออยู่ ครูอาจเตรียมภาพบุคคลทีม่ ชี ่ือเสียงไว้หลาย ๆ ภาพ แลว้ ขออาสาสมัครนกั เรียน
หลาย ๆ คนออกมาแสดงการตอบคาํ ถาม จนครมู ่นั ใจว่านักเรยี นสามารถตอบคาํ ถามไดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่ว
การออกเสียงเชอ่ื มคําในประโยค (Linking sound)
การเชอ่ื มเสยี งเกิดขึน้ เม่ือพยางค์ทีต่ ามหลังเป็นเสยี งสระ โดยจะออกเสยี งควบเสยี ง
ตัวสะกดของพยางคข์ ้างหน้ากบั เสียงสระทข่ี ึ้นต้นของพยางค์หลงั เชน่
This is Malee. How do you spell it?
3. หนงั สือเรียน หน้า 7 Ex. 7 นกั เรยี นอา่ นคําส่ังพรอ้ มกัน แลว้ ครถู ามวา่ ในแบบฝดึ หดั น้นี ักเรียนต้องฟัง
เพ่อื หาคาํ ตอบเก่ียวกบั อะไร (ช่ือบคุ คลในภาพ)
ขนั้ Listening
หนงั สอื เรยี น หนา้ 7 Ex. 7 ครเู ปิด CD ใหน้ ักเรยี นฟัง โดยเน้นฟงั ชอ่ื บคุ คล จากนน้ั ครูเปดิ CD อีกคร้งั
โดยหยดุ CD เมอื่ จบแต่ละบทสนทนา เพ่ือให้เวลานักเรียนเขียนชื่อบุคคล เม่อื ทําเสรจ็ แล้วสุ่มเรยี ก
นักเรียนหลาย ๆ คนออกมาเขียนคาํ ตอบบนกระดาน ครขู อใหน้ ักเรยี นคนอน่ื ๆ ชว่ ยตรวจคาํ ตอบ ของ
เพื่อนแลว้ ครูจงึ คอ่ ยเฉลยคําตอบที่ถกู ต้อง
84
Woman: Hello, what’s your name?
Linda: Linda.
Woman: How do you spell it?
Linda: L-I-N-D-A
Man: Hello, what’s your name?
Peter: Peter.
Man: How do you spell it?
Peter: P-E-T-E-R
Woman: Hello, what’s your name?
Jane: Jane.
Woman: How do you spell it?
Jane: J-A-N-E
1 Linda 2 Peter 3 Jane
ขั้น Post-listening
1. หนังสอื เรียน หน้า 7 Ex. 8 นักเรียนดูภาพและอา่ นบทสนทนาตามครู แล้วครสู ่มุ เรียกนกั เรียนออกมาหนา้
ห้อง 2 คน เพ่ือสาธติ การอ่านบทสนทนา จากนัน้ นักเรียนจบั คสู่ นทนากัน ครูเดินไปรอบ ๆ หอ้ งเพ่ือ
ตรวจสอบความถูกต้องของการออกเสียงและการเนน้ โทนเสยี งของนกั เรยี น
2. ครเู ขียนชือ่ นักเรียนเป็นภาษาองั กฤษแจกใหน้ ักเรียนทกุ คน จากนน้ั นกั เรยี นพูดสนทนาโดยดตู วั อย่าง
บทสนทนาจากหนงั สอื เรียน หน้า 7 Ex. 8 นกั เรยี นสนทนาโดยเปลยี่ นชื่อในบทสนทนาเปน็ ชอ่ื ของ
ตนเอง ครเู น้นใหน้ ักเรยี นออกเสยี งเชื่อมคาํ ในประโยคใหช้ ัดเจน โดยเฉพาะในวลี spell it
85
My word book
นักเรยี นบันทึกคําศัพท์ที่เรียนลงในสมุดคําศพั ท์ พรอ้ มท้ังบอกความหมาย โดยครูแนะนําให้นกั เรยี นบนั ทกึ
คาํ ศัพท์โดยเรยี งตามตัวอักษร a-z
หนังสอื แบบฝกึ หัด (Workbook)
นักเรยี นทําแบบฝึกหดั ทบทวนสิง่ ท่ีเรยี นในหนังสือแบบฝกึ หัด หนา้ 7 Ex. 9 เป็นการบ้าน
หนังสอื แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 7 Ex. 9
(Suggested Answer)
My name’s Peter. P-E-T-E-R Goodbye
7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบทดสอบ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจการระบชุ ่อื บุคคลจากการฟงั หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สังเกตการพูดขอและใหข้ อ้ มูล อนั พึงประสงค์
เกย่ี วกับชอ่ื และตวั สะกด
ตรวจแบบฝึกหดั
สังเกตพฤติกรรมบง่ ชด้ี ้าน
ใฝ่เรียนรู้
8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนังสอื แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 ภาพบุคคลทม่ี ีชื่อเสยี ง
86
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 5 Good morning, Cindy.
เวลา 2 ชว่ั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ฟังบทสนทนาแลว้ บอกข้อมูลเฉพาะได้
- อา่ นเน้อื เรื่องแล้วตอบคาํ ถามได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งทฟี่ ังและอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสียงคํา สะกดคาํ อ่านกลมุ่ คํา ประโยค และบทพูดเขา้ จงั หวะ (chant) งา่ ย ๆ
ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคําถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค บทสนทนา หรือนทิ านง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ตัวช้ีวดั
ต 1.2 ป. 3/1 พูดโตต้ อบด้วยคาํ สั้น ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหว่างบคุ คลตามแบบทีฟ่ งั
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและให้ขอ้ มลู งา่ ย ๆ เกย่ี วกบั ตนเองและเพ่ือนตามแบบท่ีฟัง
2. สาระสาํ คัญ/ความคดิ รวบยอด
การฟังบทสนทนาและอ่านเนือ้ เร่อื ง เป็นการฝกึ ทกั ษะการฟงั และการอ่านและช่วยใหใ้ ชค้ าํ ศัพท์ และ
โครงสรา้ งภาษาท่เี รียนสือ่ สารในชวี ติ ประจําวันไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Good morning, Cindy. How are you?
I’m fine, thanks!
87
Bye, Mum!
Goodbye, Lin!
Tom, who’s that?
That’s my friend, Cindy.
How do you spell it?
Functions: greeting and introducing others,
asking and giving personal information
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื หาข้อมูลเฉพาะ
Reading: อ่านเพอื่ หาข้อมลู เฉพาะ
4. สมรรถนะสาํ คญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ชัว่ โมงท่ี 1
ขัน้ Warm up
1. ครูเขา้ มาในห้องและพดู ทักทายกับนักเรยี น
T: Good morning/Good afternoon, class. (ทักทายตามช่วงเวลาทสี่ อน)
Ss: Good morning/Good afternoon, teacher.
T: How are you today?
Ss: I’m fine, thank you. And you?
T: I’m great.
ครูควรทกั ทายนกั เรียนเปน็ รายบคุ คลด้วย เพือ่ ใหน้ กั เรยี นได้ฝกึ พดู และเป็นการสรา้ งบรรยากาศที่ดี ใน
การเรยี น
2. นักเรียนเล่นเกม What’s your name? ทบทวนการถาม-ตอบช่อื ดังน้ี
1) ครูกาํ หนดเวลา 5 นาที เพอ่ื ให้นกั เรียนแตล่ ะคนเดินไปถามชอ่ื เพอื่ นในช้ัน โดยถามว่า
What’s your name? ใหค้ นตอบบอกชอ่ื ของตนเอง พรอ้ มกับสะกดชอ่ื เป็นภาษาองั กฤษ
แล้วคนถามเขียนช่อื เพ่อื นลงในกระดาษ
88
2) คนทถ่ี ามและเขยี นช่ือเพ่ือนได้ถกู ต้องมากทส่ี ดุ จะเปน็ ผชู้ นะ
ข้นั Pre-listening and reading
1. หนงั สอื เรียน หนา้ 8 Ex. 9 นักเรยี นดูภาพ ครูชี้ภาพตัวละครทีละตัว พรอ้ มกบั ถามว่า Who’s that?
ครสู มุ่ เรียกนักเรยี นหลาย ๆ คนให้ตอบคําถามและสะกดชือ่ ตัวละครดว้ ย โดยครูถามต่อวา่
How do you spell it?
2. หนงั สือเรยี น หนา้ 9 Ex. 9 นักเรียนดูภาพท่ี 2-7 สักครู่ ครถู ามคาํ ถามเก่ยี วกับภาพ ดงั นี้
- Who can you see in the pictures? What are their names?
(I can see a teacher and students. They are Oscar, Tom, Cindy and Miss Parker.)
- Where are they?
(In the classroom.)
ครูชีไ้ ปทีภ่ าพ Oscar แล้วถามนักเรียนวา่
- Who’s that? (Oscar.)
- How do you spell it? (O-S-C-A-R)
ครูชี้ไปทภ่ี าพ Miss Parker แลว้ ถามนักเรียนวา่
- Who’s that? (Teacher.)
- What’s her name? (Miss Parker.)
- How do you spell it? (P-A-R-K-E-R)
3. หนงั สือเรียน หน้า 8 Ex. 9 ครูและนักเรยี นอา่ นคาํ สัง่ พรอ้ มกัน แลว้ นกั เรียนบอกวา่ ในแบบฝกึ หัดน้ี
นกั เรียนจะตอ้ งฟังเพื่อหาขอ้ มลู เกยี่ วกับอะไร (ชื่อคน)
ขนั้ Listening and reading
1. หนังสือเรียน หนา้ 8 Ex. 9 ครูเปิด CD ให้นักเรยี นฟงั 2 คร้งั ครูรวบรวมคาํ ตอบโดยสมุ่ เรยี กนักเรียน
ออกมาเขียนชื่อบุคคลบนกระดาน จากน้ันครูจงึ คอ่ ยเฉลยคาํ ตอบ (Cindy, Lin, Tom, Oscar และ Miss
Parker)
2. หนงั สือเรียน หนา้ 9 Ex. 10 นักเรยี นอ่านเนอื้ เรือ่ งตาม CD 1 รอบ จากน้ันอา่ นขอ้ ความทใ่ี ห้มาและตอบ
คําถามใหถ้ ูกต้อง ครใู ห้เวลานกั เรยี นทําแบบฝกึ หัดสกั ครู่ แลว้ จึงรวบรวมคําตอบโดยขออาสาสมัคร
นักเรยี นหลาย ๆ คนพดู คําตอบของตนเอง จากนัน้ ครจู งึ ค่อยเฉลยคาํ ตอบ
89
1 b) 2 a)
ขั้น Post-listening and reading
1. นักเรยี นจับกล่มุ กล่มุ ละ 3 คน ครูถ่ายเอกสารจากหนังสือแบบฝกึ หัด (Workbook) หน้า 79 Story
Cutouts แลว้ แจก Story Cutouts ท่ตี ัดภาพเปน็ กรอบแลว้ ใหน้ กั เรยี นกลุ่มละ 1 ชุด ครูพดู ประโยค
ทลี ะภาพโดยไม่เรยี งลาํ ดับ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแข่งขนั กันชภู าพที่ตรงกับประโยคทคี่ รพู ูด กลมุ่ ใดชูภาพ ได้
ถูกต้องและรวดเร็วทสี่ ุดจะได้ 1 คะแนน กลุ่มทีม่ ีคะแนนมากท่สี ดุ เปน็ กลุม่ ทช่ี นะ
2. นกั เรียนแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 8 คน เพือ่ แสดงบทบาทสมมตติ ามเรือ่ งทอี่ ่านในหนังสอื เรียน หน้า 8-9 Ex. 9
โดยนักเรียนแบ่งบทบาทกันว่าใครจะแสดงเป็นตัวละครตวั ใดและฝกึ ซ้อมการแสดง เพอ่ื นาํ เสนอ ใน
คาบเรียนถัดไป
หนังสอื แบบฝกึ หดั (Workbook)
นกั เรยี นทําแบบฝกึ หัดทบทวนสิง่ ทีเ่ รยี นในหนงั สือแบบฝึกหัด หนา้ 8 Exs. 10-11 เปน็ การบ้าน
หนงั สือแบบฝกึ หัด (Workbook) หน้า 8 Ex. 10 5f 6d
2b 3c 4a
หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 8 Ex. 11
(Suggested Answer)
This is my teacher, (ช่อื คร)ู .
(ขน้ึ อยกู่ บั ดุลยพนิ จิ ของผู้สอน)
ชว่ั โมงที่ 2
ขน้ั Warm up
ครูนาํ Story Cutouts มาตดั และขยายแต่ละกรอบเปน็ ภาพใหญ่ จากนั้นครูสุ่มแสดงภาพและให้นักเรยี น
พูดบทสนทนาในกรอบน้ัน เช่น
T: ครแู สดงภาพที่ 6
S1: Oscar? How do you spell it?
90
S2: O-S-C-A-R
ขั้น Post-listening and reading (ต่อ)
1. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาแสดงบทบาทสมมตทิ ี่หน้าชนั้ เรียน
2. ครใู ห้นักเรียนกล่มุ อนื่ ท่เี ป็นผูช้ มตั้งใจดกู ารแสดงของเพื่อนและจดบันทึกขอ้ มลู เม่อื เพื่อนแสดงเสร็จ ใหแ้ ต่
ละกลุ่มชว่ ยกันใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั ท้งั ขอ้ ท่คี วรชืน่ ชมและขอ้ ท่คี วรแก้ไขปรับปรุง และมอบรางวลั Best
play และ Best actor and actress โดยให้นักเรยี นทุกคนร่วมกันลงคะแนนเสยี งคัดเลอื ก
7. การวัดและประเมินผล
วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาํ ถามจากการฟงั และ แบบทดสอบ
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
อ่าน
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมินการแสดงละคร/
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
บทบาทสมมติ
ตรวจแบบฝึกหัด หนังสอื แบบฝึกหัด
(Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบ่งชี้ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์
8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สือแบบฝึกหดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 สาํ เนา Story Cutouts
91
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6 Hello, everyone!
เวลา 1 ชว่ั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ระบภุ าพจากการฟงั ได้
- พูดแนะนําตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอื่ งท่ฟี งั และอ่านจากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบภุ าพหรอื สญั ลักษณ์ตรงตามความหมายของกลุ่มคําและประโยคท่ฟี ัง
มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่อื งต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขียน
ตวั ชี้วดั
ต 1.3 ป. 3/1 พดู ให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเองและเรอื่ งใกล้ตัว
2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด
การฝกึ ทกั ษะการฟงั ชว่ ยพฒั นาการใชค้ ําศพั ท์และโครงสร้างภาษาท่เี รียนทาํ ใหส้ ่ือสารใน
ชวี ิตประจําวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Hello, everyone! My name is Cindy.
This is my friend, Tom, and this is my teacher, Miss Parker.
Function: greeting and introducing others
92
2) Language Skills
Listening: ฟงั และระบุภาพ
Speaking: พูดทกั ทายและแนะนําตนเอง
Writing: เขยี นประโยคแนะนําตนเอง
4. สมรรถนะสําคัญของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm up
1. ครูพดู ทกั ทายกับนกั เรียน
2. ทบทวนการพูดแนะนาํ ตนเอง โดยครูสมุ่ เรยี กนักเรยี น 1 กลมุ่ ออกมาแสดงบทบาทสมมตติ ามเนอ้ื เร่ืองใน
หนังสือเรยี น หน้า 8-9 ที่หน้าห้อง
ขัน้ Pre-reading
1. หนงั สอื เรียน หนา้ 10 Ex. 11 นักเรยี นดูภาพทใ่ี หม้ าและบอกชื่อของตวั ละคร เช่น
T: What is the girl’s name?
Ss: Cindy.
2. ครูถามนักเรยี นว่า Cindy อยทู่ ไี่ หน และนา่ จะกําลงั ทาํ อะไรอยู่ เพื่อเตรยี มพร้อมนักเรยี นสูก่ ิจกรรม
การฟงั และการอา่ น
ขั้น Reading
หนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 11 ครเู ปิด CD ใหน้ ักเรยี นฟงั และอา่ นออกเสียงตามในใจ แล้วจับคภู่ าพที่ 1-3
กับคาํ ศพั ท์ a-c จากนั้นครูเปดิ CD อกี คร้ังเพือ่ ใหน้ ักเรยี นตรวจคําตอบของตนเอง ครรู วบรวมคําตอบจาก
นักเรียนหลาย ๆ คน แลว้ จงึ คอ่ ยเฉลยคาํ ตอบทีถ่ กู ต้อง
93
Cindy: Hello, everyone! My name is Cindy. This is my friend, Tom,
and this is my teacher, Miss Parker. Look! This is my dog,
Jessie!
1c 2b 3a
ข้นั Post-reading
หนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 12 นกั เรยี นดูภาพพรอ้ มกับอ่านประโยคจากน้นั นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน
สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มผลัดกันพดู แนะนาํ ตนเองและสตั วเ์ ลย้ี งหรอื ส่ิงของ พรอ้ มกบั แสดงภาพประกอบให้เพ่อื นดู
ดว้ ย เชน่ Hello, everyone! My name is (ชอื่ นักเรียน). This is my dog, (ช่ือสัตว์เล้ียง).
7. การวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมอื เกณฑ์
แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการระบภุ าพจากการฟงั แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
อันพึงประสงค์
สงั เกตการพดู แนะนําตนเองและ
สตั ว์เลี้ยงหรือส่ิงของ
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งชีด้ า้ น
ใฝ่เรียนรู้
8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสือเรียน EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 ภาพสัตว์เลยี้ งหรอื สง่ิ ของ
94
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 7 Portfolio
เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objective)
- พูดและเขยี นแนะนําตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ป. 3/1 พูดใหข้ ้อมลู เก่ยี วกับตนเองและเรื่องใกลต้ วั
2. สาระสาํ คัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรยี นรคู้ ําศพั ท์และประโยคที่ใช้ในการพูดและเขียนเพือ่ แนะนาํ ตนเองในภาษาองั กฤษ ช่วยให้
สอ่ื สารในชีวิตประจาํ วันได้ถูกตอ้ ง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: Hello, everyone!, My name is … .
Function: introducing yourself and others
2) Language Skills
Speaking: พดู แนะนาํ ตนเอง
Writing: เขยี นแนะนําตนเอง
4. สมรรถนะสาํ คัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
95
5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งมั่นในการทาํ งาน
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้น Warm up
ครเู ข้ามาในห้องและพดู ทักทายกับนกั เรียน
T: Good morning/Good afternoon, class. (ทักทายตามชว่ งเวลาทส่ี อน)
Ss: Good morning/Good afternoon, teacher.
T: How are you today?
Ss: I’m fine, thank you. And you?
T: I’m great.
ขัน้ Pre-writing
1. หนังสือเรยี น หน้า 10 Ex. 11 ครูเปิด CD ให้นกั เรียนฟงั และอา่ นบทอา่ นตามพรอ้ มกนั
2. หนังสอื เรียน หน้า 15 Portfolio ครอู ธิบายวา่ ให้นักเรียนเขียนแนะนําตนเองและบคุ คลอน่ื โดยดู
ตัวอยา่ งของ Cindy ในหนงั สือเรยี น หนา้ 10 Ex. 11
ข้นั Writing
นกั เรยี นเขยี นขอ้ มลู ของตนเองร่างใส่กระดาษภายในเวลา 10 นาที
ขน้ั Post-writing
นกั เรยี นจบั คกู่ บั เพื่อนสลับกนั ตรวจผลงาน แลว้ ครตู รวจผลงานของนกั เรียนอกี ครง้ั จากนน้ั ใหเ้ วลา
นกั เรยี นแกไ้ ขงานเขียนของตนเองและเขยี นใหมล่ งในกระดาษ A4 พร้อมวาดภาพและระบายสตี กแตง่ ให้
สวยงาม เสรจ็ แล้วครสู ุ่มเรยี กนักเรยี น 3-4 คน ออกมานาํ เสนอผลงานให้เพ่อื นฟังทหี่ น้าหอ้ ง
7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมนิ ชนิ้ งาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงาน Portfolio แบบประเมินคุณลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งชด้ี า้ น
ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ มั่นในการทํางาน
96
8. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนังสือเรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 อุปกรณ์การทํางาน ได้แก่ กระดาษ A4 และดินสอสี
97
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 8 /g/ and /k/ sounds
เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ออกเสยี งคําศัพท์ท่ขี ึน้ ต้นดว้ ยเสียงพยัญชนะ /ɡ/ และ /k/ ได้
- เลอื กภาพตรงตามความหมายของคาํ ทีฟ่ ังและอ่านได้
- ใช้คาํ สั่งและปฏบิ ตั ติ ามคําส่งั ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งทฟี่ ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 3/1 ปฏบิ ัติตามคําสง่ั และคําขอรอ้ งที่ฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ป. 3/2 อ่านออกเสยี งคํา สะกดคาํ อา่ นกลมุ่ คํา ประโยค และบทพดู เข้าจงั หวะ (chant) ง่าย ๆ
ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 3/3 เลอื ก/ระบุภาพหรอื สัญลกั ษณต์ รงตามความหมายของกลมุ่ คาํ และประโยคทีฟ่ งั
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ
และความคิดเหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ช้วี ัด
ต 1.2 ป. 3/2 ใชค้ าํ สั่งและคาํ ขอร้องงา่ ย ๆ ตามแบบท่ฟี ัง
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใช้
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวช้ีวดั
ต 2.1 ป. 3/3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกับวยั
2. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรปู้ ระโยคคําส่ังและการออกเสยี งพยัญชนะในภาษาอังกฤษ ช่วยให้พดู ส่อื สารในชวี ติ
ประจาํ วนั ไดถ้ กู ต้อง
98
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: game, girl, gum, gift, kite, kid, king, kangaroo
Structure: (classroom commands) Be quiet!, Listen!, Write!, Read!, Look!,
Sing!, Stand up!, Sit down!, Hands up!, Hands down!, Open your
book!,
Close your book!
Pronunciation: consonant sounds /ɡ/ and /k/
Function: giving and responding to classroom commands
2) Language Skills
Listening: ฟงั และระบุภาพ
Speaking: พูดประโยคคําสง่ั
4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
1. ครูเข้ามาในห้องและพูดทกั ทายกบั นักเรยี น
T: Good morning/Good afternoon, class. (ทกั ทายตามช่วงเวลาทีส่ อน)
Ss: Good morning/Good afternoon, teacher.
T: How are you today?
Ss: I’m fine, thank you. And you?
T: I’m great.
2. เล่นเกมปฏบิ ตั ิตามคําส่ัง Teacher Says ครูอธิบายการเล่นเกมวา่ ครจู ะพูดคาํ สัง่ ใหน้ ักเรียนปฏบิ ตั ติ ามซึ่ง
มเี งื่อนไขว่า ถา้ ครูพดู ประโยคคาํ ส่ังท่ีมี Teacher says… นาํ หนา้ ให้นักเรียนปฏิบตั ิตาม แต่ถา้ ไมม่ ี
Teacher says… นําหน้า ใหน้ กั เรียนทําท่าอื่นท่ีต่างจากคาํ สงั่ นักเรยี นคนใดปฏิบัติไมถ่ ูกตอ้ งใหอ้ อกจาก
เกม เช่น
99
T: Teacher says, sit down!
Ss: (นักเรียนนั่งลง)
T: Close your book!
Ss: (นกั เรียนทาํ ท่าอืน่ ท่ีไมใ่ ชก่ ารปดิ หนังสอื )
ประโยคคําสง่ั ท่ใี ช้ในการเลน่ เกม
Be quiet! (เอานว้ิ ชว้ี างบนปาก) Listen! (เอามอื ปอ้ งหู)
Write! (ทําทา่ เขียนหนงั สือ) Read! (ทําท่าอ่านหนงั สอื )
Look! (เอามอื ปอ้ งตา) Sing! (ทําทา่ ถือไมโครโฟนร้องเพลง)
Stand up! (ยนื ขึน้ ) Sit down! (น่ังลง)
Hands up! (ยกมอื ขึ้น) Hands down! (เอามอื ลง)
Open your book! (ทาํ ทา่ เปิดหนังสือ) Close your book! (ทาํ ทา่ ปดิ หนงั สอื )
ขน้ั Presentation
1. สอนคําศพั ท์ game, girl, gum และ gift ดังนี้
1) แสดงบัตรภาพ นักเรียนบอกคําศพั ท์ เมือ่ ได้คาํ ตอบท่ถี กู ตอ้ ง นักเรียนออกเสยี งคําศัพท์พรอ้ มกัน
2) ครูตดิ บตั รภาพบนกระดานและส่มุ เรยี กนักเรยี นออกมาเขยี นคาํ ศัพท์ใต้บัตรภาพ แล้วนักเรยี นอา่ น
ออกเสียงคาํ ศัพทพ์ ร้อมกนั
3) ขีดเส้นใต้ g และถามนกั เรียนว่า g ออกเสยี งวา่ อย่างไร เมื่อได้คําตอบว่า /ɡ/ แลว้ ครอู ธิบายวา่
เสยี งน้ีไม่มีในภาษาไทย เสยี งพยัญชนะ /ɡ/ ออกเสยี งคลา้ ยกบั เสยี งทีส่ ะกดด้วย “ก” ในภาษาไทย
แตต่ ่างกันที่เสยี ง /ɡ/ เปน็ เสียงก้อง เสน้ เสียงส่นั ครูสาธิตการออกเสยี ง /ɡ/ นักเรียนออกเสยี งตาม
ครู 2-3 คร้ัง จากนนั้ ครดู งึ บัตรภาพบนกระดานออก แลว้ ให้นกั เรยี นอา่ นคําศัพท์บนกระดานอีก
ครง้ั
4) ครทู าํ กิจกรรมเชน่ เดียวกันน้กี บั คาํ ศพั ท์ kite, kid, kangaroo และ king เพอ่ื สอนเสียง /k/
โดยครูอธิบายว่า เสยี งนอ้ี อกเสยี งคล้ายกับเสียงที่สะกดด้วย “ค” ในภาษาไทย
2. หนงั สอื เรียน หน้า 11 Sound Spot นกั เรยี นดูภาพในหวั ขอ้ Sound Spot และฟงั คําศพั ท์เสียง /ɡ/
และ /k/ จาก CD 2-3 ครัง้ นกั เรยี นออกเสยี งตามโดยเนน้ ออกเสียงใหถ้ กู ตอ้ ง ครตู รวจสอบการออกเสียง
ดว้ ยการสุ่มเรยี กนักเรียนใหอ้ อกเสยี งทีละคน
/ɡ/ game, girl /k/ kite, kid
100
เสยี งพยญั ชนะ /ɡ/ และ /k/ เปน็ เสียงพยัญชนะระเบิดหรือพยัญชนะกัก ซึ่งเกดิ ขน้ึ ที่
เพดานอ่อน ในการออกเสียง /ɡ/ และ /k/ ลน้ิ ส่วนหลังจะยกข้นึ แตะเพดานอ่อน กระแสลม
ซง่ึ ออกมาจากปอดจะถูกกกั อยู่ช่ัวขณะหนง่ึ ตรงจดุ ทล่ี ิ้นสว่ นหลงั สมั ผสั กับเพดานอ่อน
เมอ่ื ปลอ่ ยลนิ้ ส่วนหลงั ออกจากเพดานออ่ น กระแสลมจะถกู ปลอ่ ยออกมาอยา่ งรวดเรว็
เสียง /ɡ/ และ /k/ ต่างกันท่เี สียง /ɡ/ เปน็ เสยี งกอ้ ง สว่ นเสยี ง /k/ เปน็ เสยี งไมก่ ้อง
เสียงพยัญชนะ /k/ ออกเสยี งคลา้ ยกบั เสียงทีส่ ะกดด้วยตวั อักษร “ค” ในภาษาไทย เมื่อเกิด
ท่ตี น้ คาํ หรอื ต้นพยางคท์ ่เี น้น
เสยี งพยญั ชนะ /ɡ/ ไมม่ ใี นภาษาไทย จงึ เป็นเสียงท่ีเป็นปัญหาสําหรับคนไทย เสยี งพยญั ชนะ
/ɡ/ ออกเสียงคล้ายกับเสียงทสี่ ะกดด้วย “ก” ในภาษาไทย แต่ต่างกนั ท่ีเสียง /ɡ/ เปน็ เสยี งก้อง
เส้นเสยี งส่ัน สว่ นเสยี งทสี่ ะกดดว้ ย “ก” เปน็ เสียงไม่กอ้ ง เสน้ เสียงไม่สัน่ ดังนน้ั เวลาออกเสียง
พยัญชนะ /ɡ/ จะต้องใหเ้ ส้นเสยี งสน่ั เสมอ
ทม่ี า : ปรารมภ์รัตน์ โชตกิ เสถียร. (2557). การออกเสยี งสระและเสียงพยัญชนะใน
ภาษาองั กฤษ. กรุงเทพมหานคร : สาํ นกั พิมพแ์ หง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
ขน้ั Practice
1. ครูแสดงบัตรภาพ ดงั น้ี game, girl, gum, gift, kite, kid, kangaroo และ king ทีละใบและออกเสียง
คําศพั ท์ ให้นักเรียนบอกวา่ คําศัพท์เหลา่ นข้ี ้นึ ต้นด้วยตวั อักษรใด
2. นกั เรยี นทําใบงานที่ 1 (Worksheet 1) Ex. A โดยดูภาพ พร้อมกับอา่ นคําศพั ทท์ ่ีใหม้ าในขอ้ ท่ี 1-4
จากน้ันครูออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ีละข้อ ใหน้ ักเรียนวงกลมคาํ ศัพทต์ ามที่ได้ยนิ โดยครูออกเสียงคําศัพท์ ดงั น้ี
ขอ้ 1 kid ขอ้ 2 kite
ข้อ 3 girl ขอ้ 4 gum
ใบงานที่ 1 (Worksheet 1) Ex. A 3 girl 4 gum
1 kid 2 kite
3. นักเรียนทาํ ใบงานที่ 1 (Worksheet 1) Ex. B ดูภาพและเติมคาํ ให้สมบูรณ์ เสรจ็ แล้วครสู ุม่ เรียกนักเรยี น
บอกคําตอบและอา่ นออกเสียงคาํ ศัพทท์ ัง้ หมดพรอ้ มกนั
101
ใบงานที่ 1 (Worksheet 1) Ex. B 3g
1g 2k 6k
4k 5g
7g 8 k
4. นกั เรยี นอา่ นประโยคคาํ ส่ังในหนงั สอื เรียน หนา้ 11 Ex. 13 ตามครู จากนัน้ นักเรยี นเล่นเกม โดยครแู บง่
นกั เรยี นออกเป็น 4 กลมุ่ และใหน้ ักเรียนตงั้ ช่อื กลมุ่ โดยเลือกจากคําตอ่ ไปน้ี king, girl, kid และ game
เมอ่ื ครเู รยี กชื่อกลุ่มใดใหก้ ลุ่มนน้ั ปฏบิ ัติตามคาํ ส่ังทค่ี รูพดู
ขั้น Production
นกั เรียนแบ่งกลุ่มคละความสามารถ กลุ่มละ 4 คน เด็กเก่งชว่ ยเหลือเพอื่ นในการอา่ นคาํ ศัพท์ในใบงาน
ที่ 1 (Worksheet 1) เสรจ็ แล้วมาอา่ นให้ครูฟัง
My word book
นกั เรียนบันทกึ คาํ ศพั ท์ท่เี รยี นลงในสมดุ คําศพั ท์ พร้อมท้ังบอกความหมาย โดยครแู นะนาํ ใหน้ กั เรยี นบนั ทกึ
คาํ ศพั ทโ์ ดยเรียงตามตัวอกั ษร a-z
หนงั สอื แบบฝึกหดั (Workbook)
นักเรียนทาํ แบบฝกึ หัดทบทวนสง่ิ ทีเ่ รยี นในหนังสือแบบฝกึ หัด หน้า 9 Exs. 12-13 เป็นการบ้าน
หนงั สอื แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 9 Ex. 12
2 Be quiet! 3 Hands up! 4 Stand up!
4 Stand
5 Sit down! 6 Open your books!
หนังสือแบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 9 Ex. 13
2 Write 3 Open
102
7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธกี ารวัด
ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคาํ ศัพทท์ ี่
ข้ึนต้นด้วยเสียงพยญั ชนะ /ɡ/ และ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
/k/ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินชนิ้ งาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการเลอื กภาพตรงตาม หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook) ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ความหมายของกลุ่มคําทีฟ่ ังและ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
อา่ น อนั พึงประสงค์
สังเกตการพูดประโยคคาํ สงั่ และ
ปฏบิ ัติตามคาํ สง่ั ในการเล่นเกม
ตรวจสมุดคาํ ศพั ท์
ตรวจแบบฝึกหัด
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ชีด้ ้าน
ใฝเ่ รียนรู้
8. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรียน EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สอื แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 ใบงานท่ี 1 (Worksheet 1)
8.5 บตั รภาพ
103
ใบงานที่ 1 (Worksheet 1) gift
A. Listen and circle the words. kite
girl
1. kid kangaroo
2. game
3. king
4. gum
B. Complete the words.
__ irl __ ite
__ ift __ ing
__ um __ id
__ ame __ angaroo
104
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 Let’s sing! เวลา 1 ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objective)
- รอ้ งเพลงภาษาองั กฤษเก่ียวกับการทกั ทาย กล่าวลา และแนะนําตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความร้สู ึก
และความคดิ เห็นอย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตัวชวี้ ดั
ต 1.2 ป. 3/1 พดู โตต้ อบดว้ ยคําสน้ั ๆ ง่าย ๆ ในการสือ่ สารระหวา่ งบคุ คลตามแบบทฟี่ งั
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใช้
ได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวช้วี ดั
ต 2.1 ป. 3/1 พดู และทําทา่ ประกอบตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป. 3/3 เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะกบั วัย
2. สาระสาํ คัญ/ความคิดรวบยอด
การเรยี นรคู้ ําศัพท์และประโยคทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กลา่ วลา และแนะนําตนเอง ช่วยใหพ้ ดู สอ่ื สารใน
ชีวติ ประจําวนั ไดถ้ กู ตอ้ ง
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: parrot, wall, little
Structure: Two little parrots sitting on a wall.
My name’s Eric!, My name’s Paul!
Hello, Eric!, Hello, Paul!
105
Goodbye, Eric!, Goodbye, Paul!
Functions: greeting and leave taking
introducing oneself
2) Language Skills
Speaking: ร้องเพลงภาษาอังกฤษ
Writing: เขียนเนอื้ เพลงเกี่ยวกับการทักทายและแนะนําตนเอง
4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มงุ่ มัน่ ในการทํางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั Warm up
1. ครแู ละนกั เรียนทักทายกนั
2. เล่นเกม The Name Game ทบทวนการพูดแนะนําตนเอง ครอู ธิบายวิธีการเลน่ เกมวา่ ครูจะจับสลาก
ช่ือนักเรียน 1 คน และให้นกั เรียนคนดังกลา่ วออกมายนื หันหลงั ใหเ้ พื่อนท่หี น้าหอ้ ง จากนั้นครูจะชไ้ี ปยงั
นักเรียนทนี่ ง่ั อยู่ 1 คน นักเรยี นคนนเี้ ลือกวา่ จะบอกช่อื ตัวเองหรอื จะแกลง้ บอกชื่อของนักเรียนคนอื่น ใน
ห้อง เชน่ My name’s Pang. นกั เรียนทยี่ นื หันหลังจะตอ้ งทายว่า เพือ่ นพดู ช่อื ตวั เองจรงิ หรอื แกล้งพดู
ช่อื ของนกั เรยี นคนอ่ืน ถา้ ทายว่าเพอ่ื นพูดชอื่ ตัวเองจริงให้พูดว่า Hello! แต่ถา้ ทายว่าเพ่ือนพูดไมจ่ ริง ให้
พูดวา่ Goodbye! ครเู ลน่ เกมน้ี 3-4 รอบ
ขั้น Presentation
1. ครแู สดงภาพหรอื หุ่นมอื ของนกแกว้ 2 ตวั และติดภาพกําแพงบนกระดาน ครชู ไี้ ปทภี่ าพนกแก้ว 2 ตวั
พรอ้ มพดู วา่ two little parrots นกั เรียนพูดตาม ครูช้ไี ปท่ีภาพกําแพงพร้อมพดู วา่ a wall นกั เรียนพดู
ตาม ครูพูดคําว่า little แล้วบอกความหมาย (little แปลวา่ เล็ก) ครูตรวจสอบความเข้าใจคําศพั ท์ของ
นักเรียนดว้ ยการช้ไี ปทภ่ี าพนกแกว้ และกาํ แพง แล้วใหน้ ักเรียนพดู คาํ ศัพท์ ครสู ุม่ เรียกนกั เรียนหลาย ๆ
คนใหบ้ อกคาํ ศัพท์ จนครมู ัน่ ใจวา่ นกั เรยี นจดจาํ คําศพั ท์ได้
2. ครูแสดงภาพหรอื หุน่ มอื นกแก้วตัวที่ 1 พรอ้ มพูดวา่ Look, this is Eric! ครูกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนพูด
Hello, Eric! ครูแสดงภาพหรือหนุ่ มอื นกแก้วตัวท่ี 2 และพดู วา่ Look, this is Paul! นกั เรยี นพดู ตอบว่า
106
Hello, Paul! จากนัน้ ครคู อ่ ย ๆ นาํ ภาพหรือหุ่นมอื นกแกว้ ไปทีด่ า้ นหลังครู พร้อมพูดว่า Goodbye, Eric!
Goodbye, Paul! ครูทาํ แบบนซ้ี าํ้ อีก 1 รอบ จนมัน่ ใจวา่ นักเรียนสามารถพดู ตอบไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่
3. หนงั สือเรยี น หนา้ 12 Ex. 14 นกั เรียนอา่ นเน้อื เพลงตามครูทลี ะประโยค
ขัน้ Practice
1. หนังสอื เรียน หน้า 12 Ex. 14 ครูบอกนกั เรียนว่า จะให้รอ้ งเพลงเกย่ี วกับการทกั ทาย แนะนําตนเอง
และกล่าวลา นักเรยี นฟังเพลงจาก CD ครูเปิด CD 2-3 ครัง้ ให้นกั เรียนฝึกรอ้ งเพลงตาม CD
2. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน นกั เรยี นแต่ละกลุ่มฝึกรอ้ งเพลง พร้อมแสดงทา่ ทางประกอบ ครใู ห้
เวลานกั เรยี นฝกึ ซ้อมสกั ครู่ แล้วจึงให้แต่ละกลมุ่ ออกมานําเสนอหน้าชนั้ เรยี น
ข้ัน Production
หนังสือเรียน หนา้ 12 Ex. 15 นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม 4 คน ชว่ ยกนั แตง่ เพลง Two little parrots sitting on
a wall โดยเปลี่ยนเน้อื เพลงตามท่ีกําหนดให้ ตวั อย่างเชน่
Two little pupils, sitting on a wall,
My name’s Pichai!
My name’s Pim!
Hello, Pichai!
Hello, Pim!
Goodbye, Pichai!
Goodbye, Pim!
Goodbye, Pichai!
Goodbye, Pim!
เมอื่ แตง่ เพลงเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนร้องเพลงตามทต่ี นเองแตง่ โดยครูสุ่มเรียกนักเรยี น 2-3 กลุม่ ออกมา
รอ้ งเพลงใหค้ รูและเพ่ือนฟังทห่ี น้าห้อง
หนังสือแบบฝกึ หัด (Workbook)
นักเรียนทําแบบฝกึ หัดทบทวนสง่ิ ท่เี รียนในหนังสอื แบบฝกึ หัด หน้า 10 Ex. 14 เป็นการบ้าน
หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 10 Ex. 14
1c 2a 3b
107
7. การวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
วธิ กี ารวัด ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการร้องเพลงภาษาอังกฤษ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด หนังสอื แบบฝกึ หดั (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ดี ้าน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
ใฝเ่ รยี นรแู้ ละม่งุ มัน่ ในการทํางาน อันพงึ ประสงค์
8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนังสอื แบบฝกึ หดั EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 หุ่นมอื หรือภาพนกแกว้ และภาพกําแพง
108
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 A view of the UK and the USA
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาํ ถามจากการอา่ นได้
- บอกขอ้ มลู เก่ียวกบั สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจกั รได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ีฟังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตัวชวี้ ัด
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรอื สัญลกั ษณต์ รงตามความหมายของกลุ่มคําและประโยคทฟี่ ัง
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค บทสนทนา หรือนทิ านงา่ ย ๆ
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวช้วี ัด
ต 2.1 ป. 3/2 บอกชื่อและคาํ ศพั ทง์ ่าย ๆ เก่ยี วกบั เทศกาล/วนั สาํ คญั /งานฉลอง และชวี ติ
ความเปน็ อยูข่ องเจา้ ของภาษา
2. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้ข้อมลู เกยี่ วกบั ประเทศทเ่ี ปน็ เจ้าของภาษา ช่วยใหพ้ ดู สอื่ สารขอ้ มูลเก่ยี วกับประเทศดังกล่าว
มีความเข้าใจในวฒั นธรรม และนําไปใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: country, states, capital, flag, stripe, fifty
Function: giving basic information about the UK and the USA
2) Language Skills
109
Speaking: บอกขอ้ มูลเกีย่ วกับสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจกั ร
Reading: อา่ นเพ่ือหาข้อมูลเฉพาะ
4. สมรรถนะสําคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งม่นั ในการทํางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ัน Warm up
1. ครูเข้ามาในหอ้ ง พร้อมกับทกั ทายนักเรยี น และนักเรียนทกั ทายตอบครู
2. ทบทวนเพลงทเ่ี รยี นในชั่วโมงทีแ่ ล้ว โดยแบ่งนักเรียนออกเปน็ 3 กลมุ่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ผลดั กนั ร้องเพลง กลมุ่
ละ 1 ทอ่ น เมือ่ ร้องเพลงท่อนทกี่ ล่มุ ตนเองรับผิดชอบแลว้ ใหส้ ลับกนั รอ้ งเพลงทอ่ นอ่นื จนทุกกลุ่มไดร้ อ้ ง
เพลงครบทกุ ท่อน
ข้ัน Pre-reading
1. ครนู าํ แผนท่โี ลกมาติดบนกระดาน ชใ้ี หน้ กั เรยี นดปู ระเทศสหรัฐอเมรกิ า พรอ้ มกับพดู ชอ่ื ประเทศ the
United States of America นกั เรียนพูดตาม ครูช้ีไปทปี่ ระเทศสหราชอาณาจักร พร้อมกบั พูดช่ือ
ประเทศ the United Kingdom นักเรียนพดู ตาม เมื่อนกั เรียนออกเสยี งช่ือทั้ง 2 ประเทศจนคลอ่ งแล้ว
ครูสุ่มเรยี กนกั เรียน 5-6 คน ออกเสยี งช่ือประเทศให้เพ่ือนฟัง
2. ครตู ิดภาพธงชาตขิ องประเทศสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจกั รบนกระดาน แล้วชภ้ี าพธงชาติ พร้อม
กบั พูดชื่อประเทศ ให้นักเรียนพดู ตาม จากนั้นครชู ีภ้ าพธงชาติ ให้นกั เรียนพูดชือ่ ประเทศ ด้วย
ตนเอง
3. ครแู สดงภาพพร้อมกบั ออกเสียงคําตอ่ ไปน้ี fish and chips (ปลาและมนั ฝร่งั ทอด), hot dog (ขนมปงั ท่มี ี
ไสก้ รอกยาวอยู่ตรงกลาง), Statue of Liberty (อนสุ าวรยี ์เทพีเสรีภาพ), London Eye (ลอนดอนอาย),
double-decker bus (รถโดยสารสองชน้ั ), Big Ben (หอนาฬกิ าบ๊ิกเบน) และ Black cap (รถแท็กซ)ี่
นักเรียนออกเสียงตามครู 1-2 ครงั้ แลว้ ครถู ามว่า นกั เรียนรจู้ ักสงิ่ ที่เห็นในภาพหรือไม่ จากนัน้ ครอู ธิบาย
เพิ่มเตมิ
110
4. ครูตดิ บัตรคาํ the United States of America (สหรฐั อเมรกิ า), the United Kingdom (สหราช
อาณาจักร), country (ประเทศ), states (รัฐ), capital (เมอื งหลวง), flag (ธงชาต)ิ , stripe (ริว้ หรอื แถบ)
และ fifty (50) ไว้บนกระดานอีกฝัง่ ครูออกเสียงคาํ ศพั ท์ ให้นกั เรยี นออกเสียงตาม 2 ครง้ั แล้วครูบอก
ความหมาย
the United Kingdom (the UK) ประกอบด้วย 4 ประเทศ คอื ประเทศ
อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอรแ์ ลนดเ์ หนอื
England มีเมืองหลวง คือ กรุงลอนดอน (London)
Scotland มเี มอื งหลวง คอื กรุงเอดินบะระ (Edinburgh)
North Ireland มีเมอื งหลวง คอื กรงุ เบลฟาสต์ (Belfast)
Wales มีเมอื งหลวง คือ กรุงคารด์ ฟิ ฟ์ (Cardiff)
Washington DC มกั เรียกทวั่ ไปวา่ กรุงวอชิงตัน หรือ ดีซี เปน็ เมืองหลวงของ
ประเทศสหรัฐอเมรกิ า ซึง่ DC ย่อมาจาก District of Columbia เมืองวอชิงตนั ดีซี
ก่อต้ังขน้ึ ภายหลังจากการปฏวิ ัติอเมรกิ า โดยชอ่ื วอชิงตัน มาจากชือ่ ของจอร์จ
วอชงิ ตนั ประธานาธบิ ดคี นแรกของสหรัฐอเมรกิ า
ท่ีมา : https://th.wikipedia.org/wiki/วอชิงตนั _ด.ี ซี.
ข้นั Reading
หนังสอื เรียน หนา้ 13 Ex. 16 ครอู า่ นบทอา่ นทลี ะประโยค และนักเรียนอา่ นตามครู แล้วให้นกั เรยี น
อา่ นเองพรอ้ มกัน เมื่ออ่านจบครูถามคาํ ถาม ดงั นี้
T: How many states are there in the USA?
Ss: 50.
T: What is the capital city of the United States of America?
Ss: Washington DC.
T: How many countries are there in the United Kingdom?
Ss: 4.
T: What is the capital city of the UK?
Ss: London.
111
ขนั้ Post-reading
1. ครูแบง่ กระดานออกเปน็ 2 ชอ่ ง เขียนคําวา่ the USA และ the UK จากนน้ั ครูแสดงบตั รคาํ ต่อไปน้ี
50 states, 4 countries, Scotland, Wales, Ireland, England, Washington DC, Statue of
Liberty, hot dog, fish and chips, double-decker bus ทีละใบ ครูสมุ่ เรียกนกั เรยี นอา่ นคาํ ศัพท์ และ
นาํ บัตรคําไปติดลงในช่องของแต่ละประเทศให้ถกู ต้อง เม่ือตดิ เสรจ็ แล้วครูแสดงแถบประโยค แล้วให้
นกั เรียนอา่ นออกเสียงตามพร้อมกัน
- The United States of America (USA) is a very big country.
- The capital of the UK is London.
- The capital is Washington DC.
- There are 4 countries in the United Kingdom (UK): Scotland, Northern
Ireland, Wales and England.
- There are 50 states in the USA.
2. หนงั สอื เรยี น หน้า 13 Ex. 17 นักเรยี นดูภาพธงชาติและบอกว่าเป็นธงชาตขิ องประเทศใดบ้าง แล้วให้
นักเรียนช่วยกันเดาวา่ ธงในภาพใดเรียกวา่ Union Jack และธงในภาพใดเรยี กวา่ Stars and Stripes
จากนนั้ ครเู ฉลยคาํ ตอบ และอธบิ ายเพิ่มเตมิ เก่ียวกับธงชาตทิ งั้ 2 ประเทศให้นกั เรียนฟงั
ภาพ a คือ ธงชาติของประเทศสหรัฐอเมรกิ า เรยี กว่า Stars and Stripes
ภาพ b คือ ธงชาตขิ องประเทศสหราชอาณาจักร เรียกว่า Union Jack
112
ธงชาติสหราชอาณาจกั ร (the Union Flag) หรอื ท่ีเรียกกนั
โดยทว่ั ไปวา่ Union Jack เน่ืองจากสหราชอาณาจกั ร (the United
Kingdom)
รวม 4 ประเทศเข้าไวด้ ว้ ยกัน ไดแ้ ก่ England, Scotland, Wales
และ Northern Ireland ดงั น้นั ธงชาตขิ องสหราชอาณาจักรจงึ เปน็ การรวมเอาลกั ษณะ
ธงชาตขิ องประเทศเหลา่ น้ีเขา้ ไวด้ ้วยกนั คือ
- ธงรปู กางเขนของนักบญุ จอรจ์ (the cross of St George) เปน็ ตวั แทนของประเทศ
อังกฤษและเวลส์ เนือ่ งจากนกั บุญจอร์จเป็นนักบญุ อปุ ถมั ภข์ องทง้ั 2 ประเทศนี้
- ธงรปู กางเขนไขวข้ องนกั บุญแพทรกิ (the cross of St Patrick) เน่ืองจากนักบุญ
แพทรกิ เปน็ นักบุญอปุ ถัมภข์ องประเทศไอร์แลนด์
- ธงรูปกางเขนไขว้สขี าวของนกั บุญแอนดรูว์ (the cross of St Andrew) เนอ่ื งจาก
นกั บญุ แอนดรูวเ์ ปน็ นกั บุญอุปถมั ภข์ องประเทศสกอตแลนด์
ธงชาตสิ หรัฐอเมริกา มีช่อื เรยี กอน่ื ๆ อีก 3 ชอ่ื คอื the
Stars and Stripes, Old Glory และ the Star-Spangled
Banner มีลกั ษณะเป็นสี่เหล่ยี มผืนผ้า ภายในเปน็ สแี ดง
สลับสีขาว
รวมกัน 13 ร้วิ โดยเป็นรว้ิ สีแดง 7 ริว้ และร้ิวสีขาว 6 รวิ้ ท่ีมุมบนด้านคันธงเปน็ รูป
สีเ่ หลี่ยมผนื ผ้าพื้นสนี ้าํ เงิน ภายในมีรปู ดาว 5 แฉกสีขาว จาํ นวน 50 ดวง เรยี งกันตาม
แนวตัง้ เปน็ แถวดาว 6 ดวง สลบั กับแถวดาว 5 ดวง รวมทง้ั หมด 9 แถว ซึง่ จาํ นวน
ของดาว 50 ดวงในพืน้ สนี ้าํ เงนิ หมายถงึ รัฐตา่ ง ๆ ของสหรฐั อเมริกาทง้ั 50 รฐั โดย
จํานวนดาวจะเปล่ยี นแปลงทกุ ครั้งเม่อื มีการเพ่มิ จํานวนรัฐในการปกครอง สว่ นรว้ิ สแี ดง
สลบั ขาวท้ัง 13 ริว้ หมายถึง อาณานิคม 13 แหง่ ของสหรฐั อเมรกิ า
ทมี่ า : https://th.wikipedia.org/wiki/
113
3. นกั เรียนวาดภาพและระบายสีธงชาติของประเทศสหราชอาณาจกั ร (the UK) หรอื ประเทศสหรัฐอเมริกา
(the USA) เสรจ็ แล้วครสู ่มุ เรียกนกั เรยี นออกมาพูดนําเสนอ โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค ดงั นี้
This is the flag of (the UK/the USA). It’s called (the Union Jack/the Stars and Stripes).
My word book
นักเรียนบนั ทึกคําศพั ท์ที่เรียนลงในสมุดคาํ ศพั ท์ พร้อมทั้งบอกความหมาย โดยครูแนะนําให้นกั เรยี นบนั ทกึ
คาํ ศพั ท์โดยเรยี งตามตวั อกั ษร a-z
หนังสือแบบฝกึ หัด (Workbook)
นักเรยี นทาํ แบบฝกึ หดั ทบทวนสิ่งที่เรยี นในหนังสอื แบบฝึกหัด หน้า 11 Ex. 15 เปน็ การบา้ น
หนงั สือแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 11 Ex. 15
USA: Statue of Liberty, the USA flag (the Stars and Stripes), hot dog
UK: fish and chips, the UK flag (the Union Jack), double-decker bus
7. การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคําถามจากการอา่ น แบบประเมนิ ช้ินงานและ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการพดู
สังเกตการบอกขอ้ มูลเกี่ยวกับ แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเทศสหรฐั อเมรกิ าและ หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเทศสหราชอาณาจกั ร แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
อนั พึงประสงค์
ประเมนิ ชิ้นงานธงชาติและการพดู
นาํ เสนอ
ตรวจสมดุ คําศพั ท์
ตรวจแบบฝึกหดั
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีด้าน
ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุ่งม่ันในการทํางาน
114
8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื เรียน EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 หนงั สือแบบฝึกหัด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชุด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.4 ส่อื ประกอบการเรียนการสอน ไดแ้ ก่ ภาพธงชาตปิ ระเทศสหรฐั อเมรกิ าและสหราชอาณาจกั ร
และแผนทโี่ ลก
8.5 บัตรภาพและบตั รคาํ
8.6 อปุ กรณ์การทาํ งาน ได้แก่ กระดาษ A4 และดินสอสี
115
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 11 Welcome to ASEAN countries 1
เวลา 1 ช่วั โมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาํ ถามจากการอา่ นได้
- พดู /เขียนคําทกั ทายของประเทศในอาเซยี นได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทฟี่ งั และอ่านจากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมีเหตุผล
ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคําถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค บทสนทนา หรอื นิทานงา่ ย ๆ
สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธก์ บั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชือ่ มโยงความรู้กับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่ และเป็น
พ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ป. 3/1 บอกคําศัพทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรียนรอู้ ่นื
2. สาระสาํ คัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนร้ขู อ้ มูลเก่ียวกับการทกั ทายของประเทศในอาเซยี น ชว่ ยใหเ้ ข้าใจวัฒนธรรมของประเทศ
นัน้ ๆ และนําไปใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: wai, shake hands, give a bow, Xin Chao, Vietnam, Mingalaba,
Myanmar, Sawasdee, Thailand
Structure: My name’s Malee and I’m from Thailand.
I’m Kim. I’m from Myanmar.
My name’s Hai Van. I’m from Vietnam.
116
Function: giving basic information about countries in ASEAN
2) Language Skills
Speaking: พูดคําทกั ทายของประเทศในอาเซียน
Reading: อ่านเพอื่ หาข้อมลู เฉพาะ
Writing: เขียนคําทกั ทายของประเทศในอาเซยี น
4. สมรรถนะสาํ คญั ของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 ม่งุ ม่นั ในการทํางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั Warm up
1. ครูและนกั เรยี นพูดทักทายกนั
2. ทบทวนเก่ยี วกบั ประเทศสหราชอาณาจกั รและประเทศสหรัฐอเมรกิ า ดว้ ยการแสดงภาพธงชาติของทงั้ สอง
ประเทศ แลว้ ถามคําถามนักเรยี น ดังนี้
T: Which flag is called the Union Jack?
Ss: The flag of the United Kingdom.
T: Which flag is called the Stars and Stripes?
Ss: The flag of the United States of America.
ขนั้ Pre-reading
1. ครูนําแผนทท่ี วีปเอเชยี มาติดบนกระดานและชี้ใหน้ กั เรียนดปู ระเทศไทยและประเทศเพ่ือนบ้าน ได้แก่
ประเทศลาว กัมพชู า เวยี ดนาม เมียนมา อินโดนเี ซยี สงิ คโปร์ ฟิลปิ ปนิ ส์ บรไู น และมาเลเซยี พร้อมกบั
อธบิ ายว่า ประเทศเหลา่ นี้เปน็ ประเทศในอาเซยี นรวมทง้ั ไทย
2. ครูแสดงบตั รภาพทา่ ทางการทักทาย wai (ไหว)้ , shake hands (จบั มอื ) และ give a bow (โคง้ คํานบั )
ทลี ะใบพร้อมกบั ออกเสยี งคําศัพท์ แล้วนกั เรยี นออกเสียงตามทีละคํา จากน้นั ครแู สดงบตั รภาพคูก่ ับ บตั ร
คาํ นักเรยี นออกเสียงตามครู แล้วครูบอกความหมายและอธิบายวา่ คําเหลา่ นี้เป็นคําศพั ท์ท่ีบอกทา่ ทางการ
ทกั ทายของประเทศในอาเซียน
117
3. ครตู ดิ บัตรคาํ Sawasdee, Mingalaba และ Xin Chao บนกระดานพร้อมกบั อา่ นออกเสยี งทลี ะคาํ และ
นกั เรยี นอา่ นตาม ครูอธิบายว่าคาํ เหลา่ นี้เป็นคํากลา่ วทักทายของประเทศในอาเซยี น ซ่งึ แต่ละประเทศ มี
คาํ กลา่ วทักทายทแี่ ตกตา่ งกัน
การทกั ทายของประเทศในอาเซยี น
ประเทศ การทกั ทาย คําทักทาย
ไทย
ลาว ไหว้ Sawasdee
กมั พูชา
ไหว้ Sabaidee
เวยี ดนาม
คล้ายกับการไหว้ แต่โค้งศรี ษะลงเพยี งเลก็ น้อย Shuo Sa Dai
เมยี นมา เอามอื ไว้ระดับหนา้ อก
อนิ โดนเี ซีย
สงิ คโปร์ จับมือ 2 ข้าง และจะกอดอกพร้อมกบั โคง้ ตวั ลง Xin Chao
ฟลิ ิปปินส์
คาํ นบั
บรูไน
มาเลเซีย จับมือ Mingalaba
จับมอื Selamat Siang
จับมอื กนั เบา ๆ Ni Hao
จับมือหรือโค้งคาํ นับ Kumusta
ผ้ชู ายจับมอื กบั ผู้ชาย และผ้หู ญงิ จบั มอื กับผูห้ ญิง Selamat Datang
ผู้ชายจับมือกบั ผชู้ าย และผู้หญิงจับมือกับผหู้ ญิง Selamat Datang
ทีม่ า : https://jeanvrd.blogspot.com/2013/08/greeting-of-asean.html
ขน้ั Reading
1. หนงั สือเรยี น หน้า 14 Ex. 1 ครูอา่ นออกเสยี งเนือ้ เรอ่ื งทีละประโยค และนักเรยี นอา่ นตาม จากน้ันครู
อา่ นชอื่ เรือ่ ง แลว้ ใหน้ ักเรียนเดาวา่ เปน็ เร่ืองเก่ยี วกบั อะไร (Greeting การทกั ทาย) ครูให้นกั เรียนสังเกต
ภาพ แล้วถามว่า
T: Where are people in the pictures from?
(Thailand, Myanmar and Vietnam.)
ครูใหเ้ วลานักเรียนอา่ นเนื้อเรื่องอกี ครง้ั เพื่อจบั คคู่ าํ ทักทายกับช่อื ประเทศให้ถกู ต้อง ครสู มุ่ เรยี กนักเรยี น
หลาย ๆ คน ใหบ้ อกคําตอบ แล้วครูจงึ คอ่ ยเฉลยคาํ ตอบทีถ่ กู ตอ้ ง
118
1 Xin Chao - b 2 Mingalaba - c
3 Sawasdee - a
2. หนงั สอื เรียน หน้า 15 Ex. 2 นักเรียนอา่ นประโยคข้อ 1-3 ตามครู แลว้ อา่ นเนื้อเรอื่ งอีกคร้งั เพือ่ หา
คาํ ตอบมาเติมลงในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง เสรจ็ แล้วครสู มุ่ เรียกนักเรยี นหลาย ๆ คน ออกมาเขียนคาํ ตอบ บน
กระดาน ครขู อให้นักเรียนคนอื่น ๆ ในห้องชว่ ยกันตรวจคาํ ตอบ แล้วครูจงึ ค่อยเฉลยคําตอบ
1 Myanmar 2 Thailand 3 Vietnam
ขัน้ Post-reading
1. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ 2 กลมุ่ และวางบตั รคําช่ือประเทศ Thailand, Vietnam และ Myanmar คว่าํ ไว้บน
โต๊ะครู นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมาคร้ังละ 1 คน เพ่อื หยิบบตั รคํา ถ้าหยิบไดช้ ื่อประเทศใด ให้
พดู แนะนาํ ตนเองและบอกว่ามาจากประเทศนัน้ พรอ้ มกับพูดคาํ ทกั ทายของประเทศน้นั ด้วย เชน่
I’m Nid. I’m from Myanmar. Mingalaba. ถา้ นักเรยี นพดู ถกู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน กล่มุ ทไ่ี ด้คะแนน
มากท่ีสุดเปน็ ผู้ชนะ
2. หนังสือเรยี น หนา้ 15 Ex. 3 นักเรียนทําชน้ิ งานคาํ ทักทาย โดยเขียนคําทักทายของประเทศของตนเอง
หรอื คาํ ทักทายของประเทศใดประเทศหนึ่งในอาเซียนลงในกระดาษ A4 แล้วระบายสีใหส้ วยงาม เสร็จ
แล้วเขียน by (ชอื่ นกั เรียน) ที่มมุ ลา่ งด้านขวาของกระดาษ
My word book
นกั เรยี นบนั ทกึ คําศัพทท์ เี่ รียนลงในสมุดคาํ ศัพท์ พร้อมทั้งบอกความหมาย โดยครแู นะนาํ ให้นกั เรยี นบนั ทกึ
คําศพั ท์โดยเรยี งตามตัวอกั ษร a-z
119
7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์
วิธีการวัด แบบทดสอบ
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาํ ถามจากการอ่าน
สงั เกตการพูดคาํ ทักทายของประเทศ แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ น
ในอาเซยี น เกณฑ์
ประเมินช้ินงานคําทักทาย
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่าน
ตรวจสมุดคําศพั ท์ แบบประเมินชิ้นงาน เกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ชดี้ า้ นใฝ่เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ พอใช้ ผ่าน
เกณฑ์
และมงุ่ มัน่ ในการทํางาน อันพงึ ประสงค์
ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผา่ น
เกณฑ์
8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรยี น EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 แผนทที่ วีปเอเชีย
8.3 บัตรภาพและบตั รคํา
8.4 อปุ กรณก์ ารทาํ งาน ได้แก่ กระดาษแขง็ กระดาษ A4 และดินสอสี
120
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 12 CLIL 1 Greeting!
เวลา 1 ชัว่ โมง
จุดประสงค์ (Objective)
- พดู ทกั ทายและกลา่ วลาได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ป. 3/1 พูดโต้ตอบดว้ ยคาํ สั้น ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบทฟ่ี ัง
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใช้
ได้อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.1 ป. 3/1 พดู และทาํ ทา่ ประกอบตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ป. 3/3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกับวัย
2. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด
การเรยี นรูป้ ระโยคเกย่ี วกับการทักทายและการกลา่ วลา ช่วยใหพ้ ดู ส่อื สารในชวี ติ ประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ ง
ถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Feathers and Functions
Vocabulary: hello, bye, goodbye, good morning
Function: greeting and leave taking
2) Language Skill
Speaking: พดู ทักทายและกลา่ วลา
121
4. สมรรถนะสําคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
ทบทวนคาํ ทักทายท่ีเคยเรยี นมาแลว้ โดยครแู สดงบตั รภาพการทักทายตามช่วงเวลาต่าง ๆ ให้นักเรยี นพดู
คาํ ทกั ทายทม่ี ีความหมายตรงกบั ภาพ ครูอาจให้พูดพรอ้ มกันท้งั หอ้ งหรือทีละคน
ข้ัน Presentation
1. ครูส่มุ เรียกนักเรยี นออกมาหน้าชนั้ คร้งั ละ 2 คน แล้วครแู สดงบัตรภาพการทกั ทายช่วงเวลาต่าง ๆ
ใหน้ กั เรียนพดู ทักทายกันตามบตั รภาพท่คี รแู สดงและถาม-ตอบชอ่ื เชน่
T: (แสดงบัตรภาพการทกั ทายชว่ งเวลาเชา้ )
S1: Good morning. I’m Malee. What’s your name?
S2: My name’s Kit.
2. ครเู ขียนประโยคทกั ทายบนกระดาน เช่น Hello, Ann. Hello, May. แลว้ อา่ นออกเสยี ง นักเรียนฝึก
ออกเสียงตามครู
3. ทบทวนการใช้ Goodbye, Bye และสอนการใช้ See you! โดยให้นกั เรยี น 2 คนท่ีครูเตรียมไว้แลว้
ออกมาสาธิตการพูดสนทนา ดงั น้ี
S1: Bye, May. See you!
S2: Bye, Ann. See you!
ครูเขยี นประโยค See you! แล้วบอกว่าหมายถงึ แล้วพบกัน เป็นวลที ี่ใชใ้ นการกล่าวลา
4. ครูแสดงภาพสามีและภรรยา ครูชไี้ ปที่ภาพสามี แล้วพูดวา่ Good morning/Good afternoon, Mr
Brown. และชี้ภาพภรรยาแลว้ พดู ว่า Good morning/Good afternoon, Mrs Brown. ครูพดู ซํา้ อีกครั้ง
และใหน้ ักเรยี นพูดตาม จากน้นั ครูอธิบายการเรยี กช่ือคนทเ่ี พ่งิ รู้จักกันหรอื คนที่ไมส่ นทิ สนมกนั วา่
ตามธรรมเนียมตะวนั ตกจะเรยี กนามสกุลไมเ่ รยี กช่อื และพูดคํานาํ หนา้ ชือ่ เชน่ Mr นาย Miss นางสาว
(ผู้หญิงทีย่ งั ไมแ่ ตง่ งาน) และ Mrs นาง (ผู้หญิงทแ่ี ต่งงานแลว้ ) ตามดว้ ยนามสกลุ ครเู ขยี นสรุปเปน็
โครงสรา้ งพร้อมยกตัวอย่าง ดังนี้
122
Mr, Miss, Mrs + นามสกุล
เช่น James Potter จะเรยี กว่า Mr Potter
Lilly Potter จะเรียกวา่ Mrs Potter
ข้ัน Practice
1. หนังสือแบบฝึกหัด หน้า 64 Ex. 1 นักเรยี นดภู าพ และเลอื กประโยคในกรอบสชี มพเู ติมลงใน
บทสนทนา จากนัน้ นกั เรียนฟงั CD เพื่อตรวจคาํ ตอบ
Girl: Hello, Ben!
Boy: Hello, Jenny!
Woman: Hello, Sue!
Girl: Good morning, Mrs Collins!
Man: Good morning, Mrs Hills!
Woman: Good morning, Mr Green!
Girl 1: Bye, Emma! See you!
Girl 2: Bye, Tina!
Man: Goodbye, Mrs Clark!
Woman: Goodbye, Mr Fox.
2C 3E 4D 5B
2. ครูเปิด CD ใน Ex. 1 ให้นักเรยี นฟงั และอ่านออกเสยี งตาม จากน้นั นกั เรยี นจับคูก่ บั เพ่ือนฝึกสนทนากัน
3. หนังสอื แบบฝกึ หัด หนา้ 65 Ex. 2 นักเรยี นดูภาพ และอา่ นบทสนทนาทัง้ 2 ขอ้ พร้อมกัน แลว้ ให้นกั เรียน
เลอื กประโยคท่ีสัมพันธก์ ับภาพ เสร็จแล้วใหช้ ว่ ยกนั เฉลยคาํ ตอบ
123
1a 2b
4. หนังสือแบบฝกึ หดั หนา้ 65 Ex. 3 นักเรียนรอ้ งเพลงเกี่ยวกบั การทักทายและกล่าวลา โดยครเู ปิด CD
ใหน้ กั เรียนฟงั เพลงและดเู น้ือเพลงตามไปด้วย แล้วครูเปดิ CD อกี 2 ครง้ั ให้นกั เรียนฝึกร้องเพลง พรอ้ ม
กับ CD และทาํ ท่าประกอบ
Say hello, say hello.
Say good morning!
Say hello, say hello, say hello!
Hello!
Say goodbye, say goodbye.
See you later!
Say goodbye, say goodbye, say goodbye!
Goodbye!
ขัน้ Production
นักเรียนทุกคนเดินไปรอบ ๆ ห้อง เพอื่ ทักทายและกล่าวลาเพอื่ นในหอ้ งตามประโยคทเี่ รียนมา
ครูกระตนุ้ ให้นักเรยี นแสดงทา่ ทางประกอบดว้ ย เชน่ จับมอื เม่อื กลา่ วทกั ทายเพือ่ นและโบกมอื ลาเม่ือกลา่ ว
ลา เชน่
S1: Hello, Pat! (จบั มือกับเพื่อนขณะพูด)
S2: Hello, John! (จับมือกบั เพ่ือนขณะพูด)
S3: Bye, Kelly. (โบกมือลาขณะพดู )
S4: Goodbye, Paul. (โบกมือลาขณะพดู )
124
7. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการพูดทกั ทายและกล่าวลา ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด หนงั สือแบบฝกึ หดั (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบ่งชด้ี า้ น แบบประเมินคุณลกั ษณะ
ใฝเ่ รยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์
8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนงั สอื แบบฝกึ หัด EXTRA and Friends 3 ป.3
8.2 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 บตั รภาพ
125
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 13 Modular Revision and Assessment 1
เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับตนเองงา่ ย ๆ ได้
- ตอบคาํ ถามจากการฟงั ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี งั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวช้วี ัด
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรอื นิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอื่ งตา่ ง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชวี้ ัด
ต 1.3 ป. 3/1 พูดใหข้ ้อมลู เก่ียวกับตนเองและเรอ่ื งใกลต้ วั
2. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้คาํ ศัพท์ สาํ นวนภาษา และโครงสรา้ งประโยคเก่ยี วกับการทักทาย การกลา่ วลา การแนะนํา
ตนเอง และประโยคคําสง่ั งา่ ย ๆ ชว่ ยให้เขา้ ใจเรื่องที่ฟังและสามารถพูดสอื่ สารเก่ยี วกับตนเอง ซง่ึ เป็นการ
สอื่ สารในชวี ติ ประจําวัน
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Hello!, Good morning!, Good afternoon!, Good
evening!, Goodnight!, Goodbye!, friend, teacher, dog
Structure: What’s your name?
My name’s … . / I’m … .
Hands up!, Stand up!, Sit down!, Be quiet!, Hands down!,
126
Open your books!
Function: giving personal information
2) Language Skills
Listening: ฟังเพ่อื หาข้อมูลเฉพาะ
Speaking: พดู ให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับตนเองง่าย ๆ
4. สมรรถนะสําคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ Warm up
1. ทบทวนการทกั ทาย ได้แก่ Hello!, Good morning!, Good afternoon!, Good evening!,
Goodnight! และ Goodbye! โดยเปิดเพลง The Greetings Song ของ Maple Leaf Learning จาก
www.youtube.com
Good morning, Good morning, Good afternoon.
Good evening, Good evening, Goodnight, Goodnight.
Nice to meet you. Nice to meet you too.
Goodbye, Goodbye, see you.
นักเรียนร้องตามและแสดงทา่ ทางประกอบตามครู ดงั นี้
Good morning นกั เรยี นทําท่าโบกมอื ทีละขา้ ง พรอ้ มกับเอียงศรี ษะ
Good afternoon นกั เรียนทําท่าโคง้ คํานับ
Good evening นักเรยี นทาํ ทา่ ยกมอื ข้นึ และหมุนมอื 2 ข้าง
Goodnight นักเรยี นทาํ ท่าพนมมอื และวางไว้แนบหู พรอ้ มกบั เอยี งศรี ษะ
Nice to meet you (too). นักเรยี นทาํ ทา่ จับมือกบั เพอ่ื นข้าง ๆ
Goodbye นกั เรียนทําท่าโบกมอื ลา
2. ครทู บทวนประโยคคําส่งั โดยพูดประโยคคาํ ส่ังทีละประโยคและใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ิตาม
127
ขั้น Pre-listening
1. ครูถามชอื่ ของนักเรยี น 1 คน จากน้นั สลบั ให้นักเรยี นเป็นคนถามครูบ้าง ดงั นี้
T: What’s your name? S1: My name’s (ชอื่ นักเรียน).
S1: What’s your name? T: I’m (ชอ่ื ครู).
ครถู ามนักเรียนว่า นอกจากประโยค My name’s … . แลว้ มีประโยคอะไรอีกบา้ งทใี่ ช้บอกช่อื
(I’m … .)
2. หนังสือแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 12-13 Exs. 1-4 นกั เรยี นประเมนิ ตนเองโดยทาํ Exs. 1-4
ภายในเวลา 10 นาที เสร็จแลว้ เฉลยคําตอบร่วมกนั ครสู ังเกตว่า นกั เรียนส่วนใหญท่ าํ ขอ้ ใดผดิ และสอน
ประเด็นดังกลา่ วใหน้ กั เรยี นอีกครัง้
หนังสือแบบฝกึ หดั (Workbook) หนา้ 12 Ex. 1
1 Goodnight! 2 Goodbye!
3 Good morning! 4 Good evening!
5 Good afternoon!
หนงั สอื แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 12 Ex. 2
1b 2a 3a 4b
หนงั สือแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 13 Ex. 3 5c
1 e 2 b/f 3 a 4 f/b
หนังสือแบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 13 Ex. 4
1b 2a 3b
3. หนังสอื แบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 13 Ex. 5 นกั เรยี นอา่ นคําสง่ั และอ่านออกเสียงช่ือบุคคล จากนน้ั
ครบู อกวา่ นักเรยี นจะไดฟ้ งั บทสนทนาสั้น ๆ 4 บทเกยี่ วกับการถาม-ตอบช่ือของบคุ คลในภาพ ซ่งึ บท
สนทนาที่ 1 มีคําตอบให้แล้ว
ข้ัน Listening
นกั เรียนทาํ กจิ กรรมการฟงั ใน Ex. 5 โดยครูเปิด CD ใหน้ ักเรยี นฟงั 2 รอบ รอบท่ี 1 ครเู ปดิ ใหน้ ักเรยี น
ฟงั อยา่ งต่อเนื่อง รอบที่ 2 เปดิ ให้นกั เรียนฟังทลี ะบทสนทนา แลว้ โยงเสน้ จับคภู่ าพกบั ชอื่ ใหถ้ กู ต้อง
128
Narrator: Listen and match. There is one example.
Woman: Hello, what’s your name?
Hello. I’m Sam!
Boy: Can you see the line? Now, you listen and match.
Narrator: What’s your name?
Hi, I’m Julie!
One
Woman: And who are you? What’s your name?
Hello. My name’s Dave.
Girl:
And who’s this?
Two This is my dog, Rex. Say hello, Rex.
Woman:
Boy:
Three
Woman:
Boy:
ข้นั Post-listening
1. เมอื่ นกั เรยี นทํา Ex. 5 เสรจ็ ครูตรวจคําตอบโดยถามชือ่ ของแต่ละบคุ คลในภาพ ดงั น้ี
T: Number 1. What’s the girl’s name?
Ss: Julie.
T: Number 2. What’s the boy’s name?
Ss: Dave.
T: Number 3. What’s the dog’s name?
Ss: Rex.
หนงั สือแบบฝกึ หัด (Workbook) หน้า 13 Ex. 5
1 Julie 2 Dave 3 Rex
ข้อใดที่นกั เรยี นส่วนใหญต่ อบผิด ครเู ปดิ CD ให้นกั เรยี นฟงั บทสนทนานน้ั อีกครัง้
129
2. หนงั สอื แบบฝกึ หดั (Workbook) หนา้ 13 Ex. 6 นักเรียนอ่านคําสัง่ พรอ้ มกนั จากนนั้ ครูใหเ้ วลาเตมิ
คําลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง โดยดูจากตวั อกั ษรทใ่ี หม้ า เม่ือทาํ เสรจ็ ครูตรวจคําตอบโดยให้นักเรยี นบอก
คําตอบและตัวสะกด แลว้ ครเู ขียนคาํ ตอบทถี่ กู ต้องบนกระดาน
หนังสือแบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 13 Ex. 6
1 teacher 2 dog
3. นกั เรียนจับคูก่ นั ผลดั กันพดู ใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง โดยใชข้ อ้ ความใน Ex. 6 เปน็ ต้นแบบในการพูด
จากน้นั ครสู ุม่ เรียกนักเรียนหลาย ๆ คน ออกมาพดู ทีห่ น้าหอ้ ง ส่วนนักเรยี นทีเ่ หลือมาพดู ใหค้ รูฟัง นอก
เวลาเรยี น
7. การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมนิ การพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ใหข้ ้อมูลเกีย่ วกับ หนงั สอื แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตนเองง่าย ๆ และแบบทดสอบ
ตรวจการตอบคําถามจากการฟัง ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
หนงั สือแบบฝกึ หัด (Workbook) ระดับคุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ คุณลักษณะ
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ดี า้ น อันพึงประสงค์
ใฝเ่ รียนรู้
8. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สอื แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.2 Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชดุ EXTRA and Friends 3 ป. 3
8.3 เพลง The Greetings Song จาก https://www.youtube.com/watch?v=gVIFEVLzP4o
130
2 My Family
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรียน 17 ช่ัวโมง
11...
1 สาระ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งทีฟ่ งั และอา่ นจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมีเหตุผล
ตัวชวี้ ัด
ต 1.1 ป. 3/2 อา่ นออกเสยี งคาํ สะกดคํา อา่ นกลมุ่ คาํ ประโยค และบทพดู เข้าจังหวะ (chant) งา่ ย ๆ
ถกู ต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 3/3 เลือก/ระบุภาพหรือสญั ลกั ษณต์ รงตามความหมายของกลุ่มคําและประโยคทีฟ่ ัง
ต 1.1 ป. 3/4 ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ
และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ช้ีวัด
ต 1.2 ป. 3/1 พดู โต้ตอบดว้ ยคาํ สน้ั ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหว่างบคุ คลตามแบบท่ีฟัง
ต 1.2 ป. 3/4 พูดขอและใหข้ ้อมลู งา่ ย ๆ เกย่ี วกบั ตนเองและเพอื่ นตามแบบทฟี่ งั
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรือ่ งตา่ ง ๆ โดยการ
พูดและการเขยี น
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.3 ป. 3/1 พดู ให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว
ต 1.3 ป. 3/2 จดั หมวดหมู่คาํ ตามประเภทของบุคคล สัตว์ และส่ิงของตามที่ฟงั หรืออ่าน
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนําไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชวี้ ดั
ต 2.1 ป. 3/1 พดู และทาํ ทา่ ประกอบตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
131
ต 2.1 ป. 3/2 บอกชื่อและคาํ ศัพทง์ า่ ย ๆ เกี่ยวกับเทศกาล/วันสาํ คญั /งานฉลอง และชีวติ
ความเปน็ อยขู่ องเจ้าของภาษา
ต 2.1 ป. 3/3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วัย
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเปน็ เครอื่ งมอื พ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชพี
และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป. 3/1 ใช้ภาษาต่างประเทศเพือ่ รวบรวมคําศัพทท์ ี่เก่ียวขอ้ งใกล้ตัว
2 สาระสาํ คัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรยี นรู้คาํ ศพั ท์เกีย่ วกบั สมาชิกในครอบครวั คาํ แสดงความเปน็ เจา้ ของ คาํ ศพั ท์เกี่ยวกับชว่ งอายขุ อง
บคุ คล ประโยคทีใ่ ชแ้ นะนาํ ตนเอง สมาชิกในครอบครวั และส่งิ ของ ประโยคที่ใชถ้ ามความเป็นเจา้ ของ และ
ประโยคที่ใชข้ อและใหข้ ้อมลู เกยี่ วกับหมายเลขโทรศพั ท์ ช่วยให้ใชภ้ าษาสอื่ สารเกย่ี วกบั ตนเอง บคุ คลและเรอ่ื ง
ใกล้ตัวในชวี ิตประจําวันได้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม รวมถึงการรู้จักตัวอักษรและเสียงพยญั ชนะใน
ภาษาอังกฤษ เป็นพ้นื ฐานในการอ่านออกเสยี งคาํ และสะกดคํา ตลอดจนการเรยี นรขู้ อ้ มูลเก่ยี วกับประเทศ
เจา้ ของภาษาและครอบครัวของประเทศในอาเซียน ชว่ ยให้เข้าใจชวี ติ ความเป็นอยูแ่ ละวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษาและประเทศต่าง ๆ ในอาเซยี น ทาํ ให้นาํ ภาษาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (family) family, father, mother, brother, sister, grandfather,
grandmother, dad, mum
numbers 1-9, oh
spaceship, phone book, clock, TV, computer, bike, radio, tie,
tick, late, take, hen, more, door, zoo, fix, plate, pen, popular,
cartoon character, parents, pet, robot, cute, alien, funny, live,
family, call, baby, toddler, child, teenager, adult, jump, clap,
sad, hand
Structure: This is my (grandfather).
I’m Extra and this is my spaceship.
132