The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวข้อสอบเอกวิทยาศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by maruding.pe, 2021-03-18 04:32:24

แนวข้อสอบเอกวิทยาศาสตร์

แนวข้อสอบเอกวิทยาศาสตร์

คมู่ อื เตรยี มสอบ 551

ก. คอลลอย์ประเภทของแข็ง แขวนลอยในของเหลว

ข. คอลลอยป์ ระเภทของเหลว แขวนลอยในของเหลว

ค. คอลลอย์ประเภทของแข็ง แขวนลอยในของแข็ง

ง. คอลลอย์ปที่มีอนุภาคของแก๊ส แขวนลอยในของเหลวหรอื ของแข็ง

12. สารประกอบสามารถแยกออกเป็นองค์ประกอบไดด้ ้วยวิธใี ดตอ่ ไปน้ี

ก. สกัดดว้ ยตวั ทำละลาย ข. การแยกดว้ ยไฟฟ้า

ค. การกลน่ั ด้วยไอนำ้ ง. วธิ โี ครมาโทกราฟฟี

13. การทดลองตอ่ ไปนีข้ ้อใดควรใชว้ ธิ กี ารโครมาโทกราฟฟี

ก. ตอ้ งการแยกน้ำมันออกจากนำ้ ข. ตอ้ งการสกัดสีม่วงจากดอกอญั ชนั

ค. ตอ้ งการวิเคราะหว์ า่ สแี ดงจากทอฟฟคี ือสใี ด ง. ตอ้ งการสกัดน้ำมนั หอมระเหยจากดอกมะลิ

14. ขอ้ ใดต่อไปนี้ไม่ใชก่ ารเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี

ก. ผสมสารละลาย NaOHกับสารละลาย HCl

ข. การบูดของอาหาร

ค. ผลึกไอโอดีนสีมว่ งในขวดปิด กลายเปน็ ไอสมี ว่ งแดง แล้วต่อมาเหน็ เป็นผลึกเล็กๆ

ง. การทำอิเลก็ โทรลซิ ิสของสารละลายเกลอื NaCl

15. สารในข้อใดจัดเปน็ สารประกอบทัง้ หมด

ก. ทองแดง เงนิ นาก ข. หินปนู นาก เกลือแกง

ค. น้ำ กรดน้ำสม้ แกลือแกง ง. น้ำ ทองแดง เงิน

16. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง

ก. สารละลายทุกชนิดจดั เป็นของเหลวเนอ้ื เดียวกัน

ข. สารบรสิ ทุ ธ์ิทุกชนิดจัดเป็นสารเน้อื เดียวกนั แตส่ ารเนื้อเดียวกันไมจ่ ำเป็นต้องเปน็ สารบรสิ ทุ ธิ์

ค. สารเนอ้ื เดยี วจะต้องเป็นสารเพยี งชนิดเดียวเท่าน้นั

ง. สารละลายบางชนิดจัดเป็นสารบรสิ ุทธ์ิ

17. ถา้ นำธาตุ X ไปผ่านกระบวนการอย่างหนง่ึ ซ่ึงมผี ลทำใหอ้ ะตอมของธาตุ X เกิดการเปลย่ี นแปลง

ถ้าจะพิจารณาว่า X เป็นธาตุใหมห่ รือไม่ จะพิจารณาจากข้อใด

ก. จำนวนโซโทปของธาตุ X มจี ำวนมากขึ้นกวา่ เดิม

ข. จำนวนนิวตรอนเปลี่ยนไปจากเดิม

ค. จำนวนโปรตรอนเปล่ยี นไปจากเดมิ

ง. มีการเปลย่ี นแปลงอเิ ลก็ ตรอนในแต่ละช้ันพลงั งานอยา่ งเห็นไดช้ ดั

ภาค ข (วิชาความร้คู วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วิชาเอก วทิ ยาศาสตร์

552 ค่มู อื เตรยี มสอบ

18. ถา้ ไอโซโทปของธาตุชนิดหน่งึ มปี ระจใุ นนวิ เคลียสเป็น 2 เทา่ ของประจุในนวิ เคลียสของ

และมเี ลขมวลเปน็ 1.5 เทา่ ของ ไอโซโทปนจ้ี ะมีอนภุ าคมลู ฐานอย่างละกอ่ี นภุ าค

ก. อิเลก็ ตรอน 6 ,โปรตรอน12 และนวิ ตรอน 6 ข. อิเล็กตรอน 2 ,โปรตรอน2

ค. อิเลก็ ตรอน 12 ,โปรตรอน12 และนิวตรอน 6 ง. อเิ ล็กตรอน12 ,โปรตรอน12 และ

นวิ ตรอน 18

19. ข้อใดมจี ำนวนอิเลก็ ตรอนมากกวา่ นวิ ตรอน

ก. ข. ค. ง.

20. แสงใดมีพลังงานสงู ที่สุด

ก. แสงสมี ่วง ข. แสงสแี ดง ค. แสงสีน้ำเงนิ ง. แสงสขี าว

21. การทดลองใดที่แสดงไดว้ ่านวิ เคลยี สมีอนภุ าคนวิ ตรอนเป็นองค์ประกอบและมปี ระจุเปน็
กลาง

ก. ใชท้ ดลองรังสแี คโทดสุญญากาศและผ่านกระแสไฟฟ้าศักย์สงู ๆ จะปรากฏรงั สีเรืองแสง
ข. ยงิ อนุภาคแอลฟาไปยังธาตตุ ่างๆ
ค. ยิงอนภุ าคแอลฟาผ่านแผ่นโลหะทองคำบาง
ง. โดยใชว้ ธิ ีหยดนำ้ มัน
22. เลขมวลหมายถึง
ก. ตัวเลขท่ีแสดงจำนวนนวิ ตรอน
ข. ตวั เลขท่แี สดงจำนวนโปรตรอนหรอื จำนวนอิเลก็ ตรอน
ค. ผลรวมของจำนวนโปรตรอนและอเิ ล็กตรอน
ง. ผลรวมของจำนวนโปรตรอนและนิวตรอน
23. ไอโซโทป หมายถงึ
ก. ธาตุต่างชนิดกนั มเี ลขมวลเทา่ กนั ข. ธาตุต่างชนดิ กนั มเี ลขอะตอมเทา่ กนั
ค. ธาตชุ นดิ เดียวกันมเี ลขอะตอมต่างกัน ง. ธาตชุ นิดเดียวกนั มเี ลขมวลต่างกัน
34. เลขออกซเิ ดชนั ของ O ในสารประกอบ KO2มีคา่ เทา่ กบั

ก. - ข. -1 ค. +1 ง. -2

25. สมบัตขิ อ้ ใดที่ไม่เป็นสมบัติของธาตุทีอ่ ยู่ในหม่เู ดียวกัน

ภาค ข (วชิ าความร้คู วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

คมู่ อื เตรยี มสอบ 553

ก. ธาตุหมู่เดียวกันจะมีขนาดเทา่ กนั ข. จำนวนเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนเท่ากนั

ค. เกิดปฏิกิรยิ าทางเคมคี ลา้ ยกนั ง. การนำไฟฟ้าเหมือนกัน

26. สารประกอบสองชนิดในขอ้ ใดทแ่ี รงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งโมเลกุลมคี ่ามากทสี่ ดุ

ก. HF,CCl4 ข. HCl,SiH4 ค. CH4,PH3 ง. NH3,HF

27. พนั ธะเดย่ี วหมายถงึ อะไร

ก. พนั ธะทีเ่ กดิ จากการใชอ้ ิเล็กตรอนค่โู ดดเด่ยี วรว่ มกนั 1 คู่

ข. พนั ธะท่เี กิดจากการใช้เวเลนซ์อิเลก็ ตรอนร่วมกัน1คู่

ค. พันธะท่เี กดิ จากการใช้เวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอนร่วมกัน2คู่

ง. พนั ธะท่เี กดิ จากการใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกนั 3คู่

28เหตุใดสารโคเวเลนตจ์ งึ มีจุดเดือดจดุ หลอมเหลวต่ำ

ก. สารโคเวเลนต์มีแรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกุลน้อยข. สารโคเวเลนตม์ กั สลายตัวได้งา่ ย

ค. สารโคเวเลนต์ไมม่ ีประจุไฟฟา้ ง. สารโคเวเลนต์มักมีโมเลกุลขนาดเล็ก

29. พนั ธะเคมหี มายถึงอะไร

ก. การอยรู่ วมกันของอะตอม ข. พลงั งานทท่ี ำให้อะตอมสลายตวั

ค.แรงยดึ เหนย่ี วระหว่างอะตอม ง. การอยรู่ วมกันของโมเลกุล

30. การทดสอบขอ้ ใดไมส่ ามารถใชใ้ นการบอกประเภทของเสน้ ใย

ก. การทนต่อความยบั ยูย่ ่ี ข. ความคงทนต่อสารเคมี

ค. ความยดื หยุนของเสน้ ใย ง. ความยากงา่ ยในการเปรอะเปอ้ื นของเส้นใย

31. องค์ประกอบใดของสบู่และผงซกั ฟอกท่ีไม่ต่างกนั

ก. การแตกตวั ข. การทไี่ ม่แตกตวั

ค. จำนวนออกซเิ จนอะตอม ง. วัตถดุ บิ ในการสงั เคราะห์

32. ข้อใดเป็นหน้าท่ีของสารประกอบฟอสเฟตในผงซักฟอก

ก. ละลายไขมัน ลดแรงตึงผิวของน้ำ

ข. ทำให้นำ้ แทรกซึมเขา้ ไปในเน้อื ผา้ ละลายไขมนั

ค. รักษาระดับความเปน็ เบส ลดแรงตงึ ผวิ ของน้ำ

ง. ลดความกระดา้ งของนำ้ ทำใหเ้ ป็นเบสพอเหมาะกบั การซกั ล้าง

33. ถา้ น้ำทใี่ ช้ซักลา้ งมีความกระด้างมาก ควรใชผ้ งซกั ฟอกแบบใด

ก. เพมิ่ ความเปน็ เบส

ข. เพิม่ ปรมิ าณฟอสเฟต

ภาค ข (วิชาความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วิชาเอก วทิ ยาศาสตร์

554 ค่มู อื เตรยี มสอบ

ค. เพิ่มปรมิ าณซลั ฟอเนต

ง. เพ่ิมไฮโดรคารบ์ อนของผงซักฟอก

34. ขอ้ ใดไมใ่ ชส่ มบัติของโมเลกุลสบู่

ก. สว่ นท่ลี ะลายนำ้ ประกอบด้วยคาร์บอนและออกซเิ จน

ข. ส่วนที่ละลายในไขมนั ประกอบดว้ ยคาร์บอนและไฮโดรเจน

ค. เปน็ สารประกอบของเกลือโซเดียมกบั กรดที่ไดจ้ ากน้ำมนั พชื

ง. สว่ นทแี่ ตกตัวเปน็ ไอออนลบประกอบด้วยไฮโดรเจนและคาร์บอน

35. ขอ้ ใดไมจ่ ัดเป็นสารโมเลกุล

ก. เซลลโู ลส ข. DNA ค. เอนไซม์ ง. เบนซิน

36. โปรตนี คารโ์ บไฮเดรต และกรดนวิ คลอี ิก ประกอบดว้ ยธาตหุ ลักเหมือนกันคือข้อใด

ก. คาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน

ข. คารบ์ อน ไฮโดรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน

ค. คาร์บอน ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส

ง. คารบ์ อน ไฮโดรเจน ออกซเิ จน กำมะถัน

37. สบู่ไดจ้ ากการตม้ สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์กบั สารใด

ก. แอกกอฮอล์ ข. คารโ์ บไฮเดรต ค. ไขมัน ง. โปรตนี

38. ทำไมผสู้ ูงอายุจึงต้องการโปรตีนน้อยลง

ก. เพราะรา่ งกายมีภูมิต้านทานเพยี งพอแล้ว

ข. เพราะระบบรา่ งกายยอ่ ยโปรตนี เสอ่ื ม

ค. เพราะไม่ต้องการสรา้ งเซลลเ์ นอื้ เย่อื ในการเจริญเติบโตอีก

ง. เพราะร่างกายมโี ปรตีนทส่ี ะสมอยู่มากในสว่ นตา่ งๆ

39. สารในขอ้ ใดไม่ได้เกิดจาการรวมตวั ของหนว่ ยยอ่ ยท่ีเหมือนกนั จำนวนมากเขา้ ด้วยกัน

ก. เซลลโู ลส ข. แป้ง ค. DNA ง. สเตอ

รอยด์

40. การเติม H ลงในกรดไขมันไมอ่ ่ิมตัวเพื่อจุดประสงคใ์ ด

ก. ช่วยปอ้ งกันการเหม็นหนื ข. ช่วยให้แขง็ ตัวงา่ ย

ค. ชว่ ยใหไ้ ม่แขง็ ตัว ง. ลดการเกิดคอเลสเทอรอล

ภาค ข (วิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วิชาเอก วิทยาศาสตร์

คมู่ อื เตรยี มสอบ 555

41. วธิ ีการในข้อใดใชต้ รวจสอบสารอาหารประเภทโปรตีน

ก. เติมสารละลายคอปเปอร์ (II) ซัลเฟต ในสภาวะท่ีเปน็ เบส

ข. เติมสารละลายคอปเปอร์ (II) ซลั เฟต ในสภาวะทเี่ ปน็ กรด

ค. เตมิ สารละลายคอปเปอร์ (II) ซลั เฟต ในสภาวะที่เป็นเบสแล้วนำไปต้ม

ง. เตมิ สารละลายคอปเปอร์ (II) ซัลเฟต ในสภาวะที่เป็นกรดแล้วนำไปต้ม

42. ขอ้ ใดถกู ต้อง

ก. ควรกนิ อาหารท่ีมีสารอาหารครบทุกประเภทในสัดส่วนที่เทา่ กนั

ข. ควรกินอาหารท่ีมีสารอาหารครบทุกประเภทในปรมิ าณและสดั สว่ นทเี่ หมาะสม

ค. ควรเลอื กกนิ อาหารท่ีมีโปรตีน คารโ์ บไฮเดรต และไขมันในสดั ส่วนที่เทา่ กนั

ง. ควรกนิ อาหารประเภทผกั ผลไม้ ในสกั ส่วนทม่ี ากกว่าโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมนั

43. ข้อใดไม่ใชห่ น้าทีข่ องไขมัน

ก. ทำให้ผวิ ชมุ่ ช่ืน ข. ชว่ ยในการสรา้ งวติ ามนิ เค

ค. เปน็ สว่ นประกอบของเย่ือห้มุ เซลล์ ง. เป็นฉนวนปอ้ งกันการสญู เสยี ความร้อน

44. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หน้าท่ีของโปรตีน

ก. ใหพ้ ลังงาน ข. เปน็ เอมไซม์ ค. รักษาสมดุลนำ้ ง. ลำเลยี ง

สารอาหาร

45. DNA และ RNA เปน็ สารชีวโมเลกุลทีป่ ระกอบด้วยหน่วยย่อย เรยี กว่าอะไร

ก. เปปไทด์ ข. นวิ คลโี อไทด์ ค. กรดนวิ คลีอกิ ง. ไตรกลี

เซอไรด์

46. ในการทดสอบอาหารมอื้ หนึง่ พบวา่

วธิ กี ารทดสอบ ผลท่ีสังเกตได้

ก เตมิ สารละลายไอโอดนี สารละลายสีนำ้ เงิน

ข เตมิ สารละลายเบเนดิกต์ สารละลายสีฟ้า ไม่มีตะกอน

ค เติมสารละลาย NaOHและ CuSO4 สารละลายสีม่วง

ง แตะบนกระดาษ โปร่งแสง

อาหารท่ีนำมาทดสอบ น่าจะเป็นอาหารชดุ ใดต่อไปนี้

ข. มนั ทอด นำ้ อัดลม ข. สลดั ผลไม้ นมเปรย้ี ว

ค. มนั ฝรงั่ บด น้ำผลไม้ ง. ขนมปงั ทาเนย นมถั่วเหลือง

47. ในการกนิ ขา้ วไก่ทอด จะมีจุดเริ่มตน้ การย่อยสลายสารอาหารทีใ่ ดบ้าง

ภาค ข (วชิ าความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

556 คมู่ อื เตรยี มสอบ

ก. กระเพาะอาหาร ลำไสเ้ ลก็ ข. ปาก กระเพาะอาหาร

ค. ปาก ลำไสเ้ ล็ก ง. ปาก กระเพาะอาหาร ลำไส้เลก็

48. ไฮโดรคารบ์ อนส่วนตา่ งๆทีไ่ ดจ้ ากการกลั่นนำ้ มนั ดิบ ส่วนใดมีจดุ เดือดสูงทส่ี ุด

ก. น้ำมันดเี ซล ข. นำ้ มันหล่อลน่ื ค. น้ำมนั เบนซิน ง. นำ้ มันเตา

49. ขอ้ ใดเป็นการเรียงลำดับผลติ ภัณฑ์ท่มี ีจุดเดือดตำ่ ไปยังผลติ ภณั ฑ์ทีม่ จี ดุ เดือดสูง

ก. แกส๊ ปิโตรเลยี ม น้ำมันเบนซนิ น้ำมนั ก๊าด แนฟทา

ข. นำ้ มนั เบนซิน นำ้ มนั หล่อล่นื น้ำมันกา๊ ด น้ำมนั เตา

ค. น้ำมนั กา๊ ด น้ำมนั โซล่า น้ำมนั หล่อลน่ื น้ำมนั เตา

ง. แนฟทา นำ้ มันโซลา่ น้ำมันก๊าด น้ำมนั หล่อล่นื

50. สารประกอบไฮโดรคารบ์ อนในข้อใดเม่อื นำมากล่ันลำดับส่วนจะออกมาหลงั สดุ

ก. นำ้ มันดเี ซล ข. น้ำมันหลอ่ ลื่น ค. นำ้ มนั เตาใส ง.

น้ำมันก๊าด

51. ข้อใดกล่าวถึงแก๊สแอลพีจไี ดถ้ ูกตอ้ ง

ก. เปน็ แกส๊ ผสมระหว่างโพรเพนกบั อเี ทน

ข. ใช้แทนนำ้ มันเบนซนิ ได้ดี เพราะมีเลขออกเทนอยู่ในชว่ ง 85 ถึง 108

ค. ถา้ ลมื ปิดแกส๊ ในครัว จะทราบทันท่เี นื่องจากแกส๊ มีกลนิ่ เหม็น

ง. เป็นเช้อื เพลงิ ท่ีสะอาดเผาไหม้ได้สมบรู ณ์มคี ารบ์ อนมอนอกไซดแ์ ละคาร์บอนไดออกไซด์

เกดิ ขนึ้ น้อย

52. เมอื่ นำน้ำมันดิบมากลน่ั ลำดับส่วน สารทีก่ ลนั่ ได้ จะมลี ำดบั ตามข้อใด

ก. แก๊ส น้ำมันเบนซิน นำ้ มนั กา๊ ด ข. น้ำมันดเี ซล น้ำมนั ก๊าด นำ้ มันเบนซนิ

ค. น้ำมันก๊าด นำ้ มันเบนซนิ นำ้ มันดเี ซล ง. นำ้ มนั ดีเซล นำ้ มนั หลอ่ ล่ืน น้ำมันเตาใส

53. สารท่ีได้จากการกลั่นลำดับส่วนจะมีลักษณะเปน็ เชน่ ใด

ก. เป็นของเหลว ไม่มีสี ไม่มกี ลิ่น ข. เปน็ ของเหลวสขี าว มีกลนิ่ คาว

ค. เปน็ ของเหลว ไม่มสี ี มีกลน่ิ บา้ ง ง. เป็นของเหลวสขี าว ไมม่ ีกลิ่น

54. พชื ชนิดใดท่ีสามารถนำมาใช้ผลติ พลังงานทดแทนในรูปไบโอดเี ซลได้

ก. มันสำปะหลงั ข. สบดู่ ำ ค. อ้อย ง. ตาล

55. การเปล่ียนแปลงในข้อใดเป็นการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี

ภาค ข (วิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วิชาเอก วิทยาศาสตร์

คมู่ อื เตรยี มสอบ 557

ก. นำ้ แข็งในแกว้ ละลาย ข. นำคอปเปอร์(II)ซัลเฟตละลายน้ำไดส้ นี ้ำเงิน

ค. กระดาษไหม้ไฟ ง. เติมน้ำลงในนำ้ หวานสีแดงจางลง

56. ปจั จัยทีม่ ผี ลต่อปฏิกิรยิ าเคมี คือ

ก. ความเข้มขน้ ของสารละลาย ความดนั ตัวเร่งปฏิกิรยิ า พันธะโคเวเลนต์

ข. พนั ธะโคเวเลนต์ อณุ หภมู ิ ความเข้มขน้ ของสารละลาย ความดนั

ค. อณุ หภมู ิ ความเข้มขน้ ของสารละลาย พ้ืนทผ่ี ิว ตัวเรง่ ปฏิกริ ิยา

ง. อณุ หภูมิ พันธะโคเวเลนต์ พนื้ ทผี่ วิ ตัวเร่งปฏิกริ ิยา

57. ขอ้ ใดไม่ถกู ต้องเกย่ี วกับตัวเรง่ ปฏกิ ริ ิยา

ก. ทำใหไ้ ด้สารใหมเ่ พิ่มมากขึ้น ข. ทำใหป้ ฏกิ ิรยิ าเกิดเร็วขน้ึ กว่าเดิม

ค. ทำให้ขน้ั ตอนของปฏิกิรยิ าเปล่ียนไป ง. ทำปฏิกริ ิยาเกิดได้ง่ายขึน้

58. ในการเก็บอาหารไว้ในท่ีอุณหภูมิตำ่ เพื่ออะไร

ก. เพือ่ เพมิ่ การทำงานของเอมไซม์ หรือ แบคทเี รียใหเ้ รว็ ข้ึน

ข. เพ่อื ลดการทำงานของเอมไซม์ หรือแบคทีเรยี ให้ชา้ ลง

ค. เพอื่ ลดการทำงานของเอมไซม์ แตเ่ พ่ิมการทำงานของเอมไซม์

ง. เพ่ือเพิ่มการทำงานของเอมไซม์ แต่ลดการทำงานของแบคทเี รยี

59. pHของฝนกรดมีค่าเท่าใดและเกิดผลกระทบอยา่ งไร

ก. มากกวา่ 7 ส่งิ ก่อสร้างท่ีทำด้วยโลหะเสียหาย

ข. มากกวา่ 7 ต้นไม้ออกผลช้า

ค. นอ้ ยกวา่ 7 ทำให้เกิดหนิ งอกและหนิ ย้อย

ง. นอ้ ยกว่า 7 สิ่งก่อสรา้ งทีท่ ำดว้ ยหินปนู และหินอ่อนเสยี หาย

60. สารใดเป็นตัวการท่ีทำให้เกดิ หินงอกหนิ ย้อยโดยธรรมชาติ

ก. คารบ์ อนมอนอกไซด์ ข. คารบ์ อนไดออกไซด์

ค. สาร CFC ง. สาร CFC และแก๊สโอโซน

61. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเม่อื มปี ฏิกิริยาเคมีเกดิ ขึ้น

ก. พลังงานถูกดดู เข้าไป ข. พลังงานจะถกู คายออกมา

ค. มที ั้งให้พลงั งานและดดู พลังงานเขา้ ไป ง. มีการเปลย่ี นแปลงสถานะเกดิ ข้ึน

62. ธาตุ X มีจำนวนอิเล็กตรอนและนิวตรอนเท่ากบั 13 กับ 14 ตามลำดับ ธาตุ X มเี ลข

อะตอมและเลขมวลเท่าใด

ก. 14 , 27 ข. 13 , 14 ค. 13 , 27 ง. 27 , 13

ภาค ข (วิชาความร้คู วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

558 ค่มู อื เตรยี มสอบ

63. การเขียนสัญลกั ษณ์นวิ เคลยี รข์ อ้ ใดถูกต้อง

ก. ข. ค. ง.

64. ถา้ ธาตุ A มีเลขอะตอมเท่ากับ 80 เลขมวลเท่ากับ 200 ธาตุ A จะมีจำนวนนิวตรอน

เทา่ ใด

ก. 80 ข. 280 ค. 200 ง. 120

65. แรงยึดเหน่ยี วระหว่างอะตอมสองอะตอมให้อยรู่ วมกนั เรยี กว่าอะไร

ก. แรงโน้มถ่วง ข. พนั ธะเคมี ค. พันธะโคเวเลนต์ ง. พันธะ

ไอออนนิก

66. ธาตทุ ่ีมกี ารเปลีย่ นแปลงในนิวเคลียสไม่เสถยี ร เรยี กวา่

ก. ธาตแุ ทรนซชิ ัน ข. ธาตกุ ่งึ โลหะ ค. แก๊สเฉือ่ ย ง. ธาตุ

กมั มนั ตรังสี

67. ธาตุ X มีครงึ่ ชวี ติ 4 วัน ทิง้ ไว้ 16 วนั จะเหลือก่ีเปอรเ์ ซ็นต์

ก. 50 % ข. 25 % ค. 12.5% ง. 6.25%

68. ขอ้ ใดเป็นระบบนเิ วศ

1. กล้วยไม้เกาะบนต้นไม้ใหญ่ 2. เหาฉลามอยูร่ วมกบั ฉลาม

3. นคิ มอตุ สาหกรรม 4. ต้เู ล้ยี งปลาและพชื น้ำ

ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3 ค. 3 และ 4 ง. 1 และ 4

69. ส่งิ มชี วี ิตใดช่วยในการปรับปรุงคุณภาพดนิ โดยไมเ่ ป็นอันตรายต่อพืช

ก. รา ข. หอยทาก ค. ไสเ้ ดอื น ง. ไส้เดอื น

ฝอย

70. การหมนุ เวยี นธาตคุ ารบ์ อน อาจเสยี สมดุลไดจ้ ากกระบวนการในข้อใด

ก. การหายใจของส่ิงมีชวี ิต ข. การใช้พลังงานฟอสซิล

ค. การสงั เคราะห์แสงของพชื ง. การยอ่ ยสลายอินทรีย์สารโดยแบคทีเรยี

71. ในการศึกษาคุณภาพน้ำในแม่น้ำแหง่ หน่ึง พบวา่ คา่ DO วัดเม่ือ 9.30 น. เป็น 1.0 มิลิ

กรัมต่อลติ ร และคา่ DO วดั ตอน 15.30 น. เปน็ 5 มิลิกรมั ตอ่ ลติ ร ค่าที่แตกต่างน้มี สี าเหตุ

มาจากข้อใด

ก. สตั วน์ ำ้ ใช้ออกซิเจนมากในเวลาตอนเชา้

ภาค ข (วิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

คมู่ อื เตรยี มสอบ 559

ข. แพลงกต์ อนพชื สังเคราะห์แสงไดด้ ีในช่วง 9.30 น.

ค. สตั วน์ ำ้ มีการอพยพออกไปหากนิ ท่อี ่ืน

ง. แพลงก์ตอนพืชสังเคราะหแ์ สงให้ออกซิเจนสะสมเพิ่มข้ึน

72. หมบู่ า้ นแหง่ หน่ึง หลังคาบา้ นและชายคาของบา้ นแตล่ ะหลงั ผกุ รอ่ น ตน้ ไมโ้ ตชา้ ความ

เปน็ กรด-เบสของดินพบว่ามีค่าเป็น 4 หมู่บ้านน้ีต้ังอยู่ใกลโ้ รงงานใด

ก. โรงโม่หิน ข. โรงงานกระดาษ ค. โรงงานทำแบตเตอรี่ ง. โรงกลน่ั น้ำมัน

ปโิ ตรเลียม

73. กำหนดให้ข้อมลู ดังตาราง

แหลง่ น้ำ ค่า DO (มลิ กิ รัมต่อลิตร) คา่ BOD 5 วนั (มลิ ิกรัมตอ่ ลติ ร)

A6 4

B5 3

C4 2

D3 1

จากตารางถ้าค่าต่างๆ นอกเหนือจากที่แสดงในตารางอยู่ในเกณฑ์ทำการประมงได้ แลว้ แห่ง

นำ้ ใดสามารถทำการประมงได้

ข. A ข. B ค. C ง. D

74. ขอ้ ใดไม่ใชผ่ ลกระทบของการตัดไมท้ ำลายปา่

ก. ความหลากหลายทางชวี ภาพลดลง

ข. ความสมบรู ณใ์ นระบบนเิ วศลดลง

ค. การหมนุ เวียนของแรธ่ าตุต่างๆ ในระบบนิเวศเพ่มิ มากขึ้น

ง. ปรมิ าณกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น

75. เมอ่ื นำเน้ือเยอ่ื ของสิ่งมีชวี ติ ทีอ่ าศยั อยู่ในสระน้ำทัว่ ไปมาตรวจหาสารกำจดั แมลงชนิด

หนึ่งทปี่ นเปอ้ื นอยใู่ นน้ำพบว่า มกี ารสะสมของสารนสี้ งู สุดในปลาช่อนเสมอ แสดงว่าปลา

ชอ่ นเปน็

ก. ผู้บริโภคพืชลำดับแรกของโซ่อาหาร ข. ผู้บรโิ ภคท้งั พืชและสตั ว์

ค. ผบู้ ริโภคสตั วล์ ำดับแรกในโซ่อาหาร ง. ผูบ้ ริโภคสตั วล์ ำดับสดุ ทา้ ยของโซ่อาหาร

76. ถา้ ต้องการลดการทำลายโอโซนในบรรยากาศ เราควรปฏบิ ตั ิอย่างไร

ก. ลดการตดั ไม้ทำลายป่า ข. ลดการใชส้ าร CFC

ค. ลดการใช้น้ำมัน ง. ลดการใชเ้ ช้อื เพลิงฟอสซิล

ภาค ข (วิชาความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

560 ค่มู อื เตรยี มสอบ

77. กลมุ่ ส่งิ มชี ีวิตท่ีอยู่ในทห่ี น่ึงๆมคี วามสมั พนั ธซ์ ่งึ กันและกันหลายแบบ สิง่ มีชวี ติ ใดท่ีมี

ความสมั พันธซ์ งึ่ เทยี บได้กับไลเคน

ก. ดอกไม้กับแมลง ข. พลดู า่ งเกาะอยู่กบั ต้นไม้

ค. นกทสี่ รา้ งรังบนตน้ ไม้ ง. เช้อื ราทขี่ ้นึ บนผลไม้สุก

78. ข้อใดแสดงถึงองค์ประกอบของระบบนิเวศ

ก. ผ้ผู ลิต + ผูบ้ รโิ ภค ข. หว่ งโซ่อาหาร + สายใยอาหาร

ค. กลุ่มส่งิ มชี วี ิต + แหล่งทอ่ี ยู่ ง. ผู้ผลติ + ผู้บริโภค + ผยู้ อ่ ยสลาย

79. วฏั จักรท่ีมคี วามสมั พนั ธก์ ันอย่างมากคือ

ก. วัฏจกั รของคาร์บอน และวัฏจกั รของนำ้

ข. วัฏจักรไนโตรเจน และวัฏจกั รของน้ำ

ค. วฏั จักรแคลเซียม และวฏั จกั รไนโตรเจน

ง. วฏั จักรของคารบ์ อน และวัฏจักรไนโตรเจน

80. สารใดต่อไปน้ีมกี ารหมนุ เวยี นสู่บรรยากาศ

ก. คาร์บอน ข. แคลเซียม ค. ไนโตรเจน ง.

คารบ์ อนไดออกไซด์

81. วฏั จักรของสารใดไม่เก่ยี วข้องกบั ส่ิงมชี วี ิต

ก. ออกซิเจน ข. ไนโตรเจน ค. คาร์บอน ง. น้ำ

82. ความรู้สกึ กระหายนำ้ เกี่ยวข้องกบั การทำงานข้อใดมากท่ีสุด

ก. ตอ่ มหมวกไต ข. ตอ่ มใตส้ มอง ค. ระดับสารในร่างกาย ง. ถูก

มากกวา่ 1 ข้อ

83. สารใดไม่พบในปัสสาวะคนปกติ

ก. โปรตีน ข. ยเู รยี ค. ยูริก ง. เกลือ

โซเดียม

84. หลังจากออกกำลงั กายกลางแดดนานๆ รา่ งกายมีกลไกในการรกั ษาดุลยภาพของ

อณุ หภูมิอย่างไร

ก. ลดอัตราเมแทบอลซิ ึมและหลอดเลือดขยายตัว

ข. ลดอตั ราเมแทบอลซิ ึมและหลอดเลอื ดหดตัว

ภาค ข (วิชาความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

ค่มู อื เตรยี มสอบ 561

ค. เพิม่ อัตราเมแทบอลซิ ึมและหลอดเลือดขยายตัว

ง. เพ่ิมอัตราเมแทบอลิซมึ และหลอดเลอื ดหดตัว

85. ศูนย์กลางควบคมุ อุณหภมู ิในรา่ งกายของคนเราอยู่ทส่ี มองสว่ นใด

ก. ซีรีเบลลัม ข. ไฮโพทาลามัส ค. เมดลุ ลา ง. ออปติ

กโลบ

86. ทำไมในชว่ งอากาศหนาวจดั คนเราจึงมีอาการตวั สัน่

ก. กล้ามเนื้อลายหดตัว ข. กล้ามเน้ือเรียบทีโ่ คนเสน้ ขนหดตวั

ค. อัตราเมแทบอลซิ ึมลดต่ำลง ง. ถกู ทุกขอ้

87. ในวันที่มอี ากาศหนาวปสั สาวะจะถูกสรา้ งขึ้นมามาก เนือ่ งจาก

ก. ไตทำงานได้ดีข้ึน ข. ต่อมเหง่ือกำจดั เหงือ่ ไดน้ ้อย

ค. ร่างกายใชน้ ้ำมากขนึ้ ง. นำ้ ในเลือดมากกว่าปกติ

88. กา๊ ซออกซิเจนจากถุงลมในปอดเขา้ สู่หลอดเลอื ดฝอยรอบๆถงุ ลมโดยกระบวนการใด

ก. การแพร่ ข. การออสโมซสิ

ค. การลำเลียงแบบฟาซลิ ิเทต ง. การลำเลียงแบบใช้พลงั งาน

89. ส่ิงมีชีวติ ใดไม่สามารถสงั เคราะหโ์ ปรตีนได้ดว้ ยตัวเอง

ก. แบคทเี รยี ข. ยสี ต์ ค. รา ง. ไวรสั

90. ปรากฏการณ์ใดที่เกิดกบั เซลล์พชื ท่แี ช่ในสารละลายไฮโพโทนิค

ก. เซลลเ์ ตง่ ข. เซลลแ์ ตก ค. เซลล์เหย่ี ว ง. เซลลเ์ หมือนเดิม

91. สตั วใ์ นขอ้ ใดท่อี ุณหภูมริ า่ งกายแปรผันตามอุณหภมู ขิ องส่งิ แวดลอ้ ม

ก. ม้าน้ำ ข. แมวนำ้ ค. นกเป็ดน้ำ ง. พะยูน

92. เม่ือเซลลเ์ ม็ดเลือดขาวนำแบคทเี รียเขา้ สเู่ ซลลแ์ ลว้ ออร์แกเนลใดทำหน้าที่ทำลาย

แบคทีเรียนัน้

ก. ไรโบโซม ข. ไรโซโซม ค. ไมโทคอนเดรยี ง. กอลจคิ อมเพลกซ์

93. ข้อใดไมใ่ ช่กลไกการป้องกนั เชือ้ โรคเขา้ สู่ร่างกาย

ก. หาวเมอ่ื งว่ งนอน ข. จามเมอ่ื มีฝุ่นฟงุ้

ค. นำ้ ตาไหลเม่ือฝุ่นเขา้ ตา ง. กระพรบิ ตาเม่อื ลมพดั ผ่าน

94. วัคซีนทหี่ ยดป้องกนั โรคโปลิโอในเดก็ คือสารใด

ก. แอนติบอดี ข. แอนตเิ จน ค. เอนไซม์ ง. แอนติไบ

โอติค

ภาค ข (วชิ าความรูค้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วิทยาศาสตร์

562 ค่มู อื เตรยี มสอบ

95. ถา้ ตรวจเลือดแล้วพบว่าเมด็ เลือดขาวเพม่ิ ขึ้นผิดปกติแสดงว่าเปน็ โรคใด

ก. เอดส์ ข. ติดเชอ้ื ค. โลหติ จาง ง. ธาลัสซี

เมีย

96. แตงโมลกั ษณะผลสเี ขยี ว ขม่ ผลลายได้อย่างสมบูรณ์ เม่ือผสมพนั ธ์ุแตงโมผลลายกับผลสี

เขยี วพันธ์ทางแล้วได้แตงโมจำนวน 100 ผล ในจำนวนนจ้ี ะมีแตงโมผลลายกี่ผล

ก. 0 ข. 25 ค. 50 ง. 75

97. ในครอบครัวที่มีลกู 2 คน โอกาสท่จี ะได้ลูกชายท้ัง 2 คน เป็นอัตราสว่ นเทา่ ใด

ก. 1/4 ข. 2/4 ค. 3/4 ง. 1

98. การแบง่ เซลล์แบบไมโทซีสพบได้ในข้อใด

ก. การสรา้ งอสจุ ขิ องม้า ข. การสร้างไข่ของนกกระทา

ค. การสรา้ งรงั ไข่ของดอกกุหลาบ ง. การสร้างละอองเรณูของดอกชบา

99. ครอบครัวหนึง่ มีบตุ ร 4 คน มหี มู่เลอื ดเป็น A,B,ABและ O พ่อและแมค่ วรมีหมเู่ ลือดตาม

ขอ้ ใด

ก. พอ่ A แม่ B ข. พ่อ O แม่ AB ค. พอ่ B แม่ AB ง. พอ่ AB

แม่ O

100. ขอ้ ใดไม่ใชล่ กั ษณะของการแบ่งเซลลแ์ บบไมโอซิส

ก. ในระยะแรกของการแบง่ มีการลดจำนวนโครโมโซมลงคร่ึงหนงึ่

ข. การแบ่งเซลลใ์ นระยะทีส่ องเหมอื นกับการแบ่งในไมโทซีส

ค. เมือ่ สิ้นสุดการแบ่ง มีเซลล์สบื พันธุ์เพศเมยี เพยี งเซลลเ์ ดียว

ง. ในระยะทส่ี องของการแบง่ เซลล์จะไม่มกี ารจำลองตวั เองใหม่ เพราะเริ่มในระยะท่ี 1 แลว้

101. สมชายเปน็ ฮีโมฟิเลยี แต่งงานกับสมรซ่ึงปกติ ท้ังคู่ควรตดั สินวางแผนการมีลูกอย่างไร

เพอื่ ยีนฮโี มฟิเลียถา่ ยทอดไปสู่ลกู

ก. มลี ูก 1 คนแลว้ ทำหมนั ข. มีแตล่ ูกชายอย่ามีลกู สาว

ค. มีแตล่ กู สาวอย่ามีลูกชาย ง. มีลูกชาย 1 คนลกู สาว 1 คนแล้วทำหมนั

102. ชายปกติแต่งงานกบั หญิงตาปกติท่ีมีพ่อตาบอดสี โอกาสของลกู ท่ีจะเกิดขน้ึ เปน็ ตาบอด

สีมเี ท่าใด

ก. 0 ข. 25 ค. 50 ง. 100

ภาค ข (วิชาความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

ค่มู อื เตรยี มสอบ 563

103. กรณีใดมีอัตราเสย่ี งตอ่ การมลี กู กล่มุ อาการดาวน์สูงท่ีสุด

ก. เมื่อมีลูกคนแรก ข. แมอ่ ายุมากกว่า 35 ปี

ค. แม่ท่อี ายุต่ำกว่า 25 ปี ง. เม่ือมีลูกมาแล้ว 4 คน

104. เพราะเหตุใดจงึ ห้ามแต่งงานในสายเครือญาติ

ก. เพราะจะทำให้ลูกเกดิ มาเป็นหมนั

ข. เพราะจะทำให้ยีนดอ้ ยที่ไม่พึงประสงคเ์ ขา้ คู่กนั

ค. เพราะเปน็ การทำผดิ จารตี ประเพณี

ง. เพราะจะทำให้ไมส่ ามารถให้กำเนดิ บตุ รได้ เพราะการเข้าคู่กนั ของยนี

105.คล่ืนนำ้ มีความถ่ี 20 เฮริ ตซ์ ความยาวคลื่น 0.1 เมตร จะมอี ัตราเรว็ กเ่ี มตรต่อนาที

ก. 2ข. 20 ค. 100 ง. 200

106.รถไฟขบวนหน่ึงจอดรอหลีกใกล้สถานีสามแสน เม่ือได้รบั สัญญาณไฟให้เข้าสถานี

คนขับจงึ เปิดหวดู มี ความถ่ี 500 เฮิรตซ์ ความยาวคลนื่ 0.02 เมตร นายสถานีได้ยินเสยี งหวดู น้ี

ภายหลังจากให้สญั ญาณไฟเป็นเวลา 10 วนิ าที แสดงวา่ รถไฟขบวนนอ้ี ยู่หา่ งจากสถานี

ก.5 เมตร ข. 50 เมตร ค. 100 เมตร ง.. 150 เมตร

107. เสียงเคลอ่ื นที่ได้ระยะทาง 3.4 กโิ ลเมตร ในเวลา 10 วนิ าที ถ้าเสียงมีความยาวคล่ืน

68 เซนตเิ มตร เสียงจะมีความถีก่ ่ีเฮิรตซ์

ก. 200 ข. 340 ค. 500ง..1,000

108.ชายคนหนึ่งนง่ั ตกปลาอยู่รมิ ตล่ิง สงั เกตเหน็ ทนุ่ ของเบ็ดกระเพอื่ มขึ้นลง 10 ครงั้ ใน

เวลา 4นาที ระยะทางระหว่างยอดคล่นื น้ำเคลอ่ื นทดี่ ว้ ยความเร็วเทา่ ใด

ก.5 เซนติเมตรต่อวินาที ข.8 เซนตเิ มตรตอ่ วนิ าที

ค. 10 เซนติเมตรต่อวนิ าทงี .. 12 เซนติเมตรต่อวนิ าที

109.ลกู เสือสองกลมุ่ เดนิ ทางไปไกลไปตามถนนสายหนง่ึ โดยเดินแยกกันไปในทศิ ทางตรง

ข้าม หลังจากออกเดนิ ทางแล้ว 1 ชั่วโมง กลมุ่ หนึ่งยิงพลุขึ้นฟ้าในแนวด่งิ อกี กลุ่มหนงึ่ จะไดย้ ินเสยี ง

พลุหลงั จากยิงแลว้ 12 วินาที อัตราเรว็ ของเสยี งในอากาศขณะนั้น 350 เมตรต่อวินาที ถ้าแตล่ ะกลุ่ม

เดนิ ด้วยอัตราเรว็ เดยี วกนั อัตราเร็วนี้เปน็ กเี่ มตรต่อนาที

ก. 21 เมตรตอ่ วินาทขี . 35 เมตรตอ่ วินาที

ค. 42 เมตรตอ่ วนิ าทงี .. 70 เมตรตอ่ วนิ าที

ภาค ข (วชิ าความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วิชาเอก วิทยาศาสตร์

564 คมู่ อื เตรยี มสอบ

110.ในการหาความลึกของท้องทะเล โดยเรอื ลำหนง่ึ ปลอ่ ยคล่นื อัลทราซาวด์ลงไปในน้ำ

หลังจากปล่อยคลื่นไปแลว้ 10 วนิ าที กร็ บั สัญญาณคล่นื สะท้อนจากก้นทะเลได้ จงหาว่าทะเลบริเวณ

น้ันลกึ เท่าไร กำหนดอัตราเรว็ คลน่ื ในน้ำทะเลเทา่ กับ 1,200 เมตรต่อวนิ าที

ก. 4,000 เมตรข. 5,000 เมตรค. 6,000 เมตรง..ผิดทกุ ข้อ

111.วทิ ยุกระจายเสยี งแห่งหน่ึงส่งคลืน่ ความยาว 250 เมตร มคี วามเร็วคลนื่ เท่ากบั สามแสน

กโิ ลเมตรต่อวินาที อยากทราบวา่ คลน่ื ทีส่ ่งดว้ ยความถี่กเ่ี มกะไซเกิล

ก. 0.4 MHz ข.0.8 MHz ค.1.2 MHzง..1.6 MHz

112. ในการหาความลึกของทะเลโดยสง่ คลนื่ ถ่ี 4กโิ ลเฮิรตซ์ ลงในน้ำทะเล ได้ยินเสยี ง

สะท้อนกลับมาภายในเวลา 2 วินาที ถ้าความเร็วของคลื่นเสียงในนำ้ ทะเลเท่ากับ 1,420 เมตรตอ่

วินาที ทะเลมีความลกึ กีเ่ มตร

ก. 1,000 ข. 1,420ค. 2,840 ง. 5,680

113.ชายคนหนึง่ ยิงปืนไปยังเป้าโลหะซ่ึงอยหู่ ่างออกไป 85 เมตร จงหาว่าหลังจากยิงปืนไป

แล้วก่วี ินาทีจงึ ได้ยินเสยี งลูกปืนกระทบเปา้ กำหนดให้ลูกปืนมอี ัตราเรว็ 170 เมตรตอ่ วนิ าที และเสียง

คลน่ื เคล่ือนท่ีในอากาศด้วยอัตราเร็ว 340 เมตรต่อวนิ าที

ก.0.25 วนิ าทีข. 0.5 วนิ าทคี . 0.75 วินาทงี . 1 วนิ าที

114. นายดุลมองดภู าพเทียนไขในกระจกเงาระนาบบานหน่งึ เหน็ ภาพเทียนไขอยู่หา่ งจาก

ตา 30 เซนติเมตรอยากทราบวา่ เทียนไขวา่ งหา่ งจากตานายดุลก่ีเซนตเิ มตร วดั ในแนวเดยี วกบั ทเ่ี ขา

มองดูภาพเทยี นไข

ก. 10ข. 20 ค. 30 ง. 40

115.วางวัตถุหน้ากระจกนนู เป็นระยะ 10 เซนตเิ มตร แล้วไดภ้ าพอยู่หลังกระจกและหา่ งจาก

กระจก 5 เซนติเมตร จงหาความยาวโฟกัสของกระจกนูนน้ี

ก. 3.33 เซนตเิ มตร ข. 5.00 เซนติเมตรค. 7.5 เซนตเิ มตรง.10เซนติเมตร

116.ถ้าวัตถแุ ละภาพในกระจกเว้ามคี วามสูงเทา่ กนั เม่ือระยะวัตถเุ ปน็ 20.0 เซนติเมตร จาก

กระจก จงหาความยาวโฟกสั ของกระจกเว้าน้ี

ก. 10 เซนตเิ มตรข. 15 เซนติเมตรค. 20 เซนติเมตรง. 40 เซนติเมตร

117.วางวตั ถุหนา้ กระจกนูน 12.6 เมตร ทำใหเ้ กิดภาพหลังกระจกเป็นระยะ 6.00 เมตร จง

หาความยาวโฟกสั ของกระจกนนู น้ี

ภาค ข (วิชาความรูค้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วิทยาศาสตร์

ค่มู อื เตรยี มสอบ 565

ก. 4.06 เซนติเมตรข. 6.3 เซนติเมตรค. 11.45 เซนติเมตร ง. 18.6 เซนตเิ มตร

118. วตั ถุสูง 2.50เมตร วางอยหู่ น้ากระจกโคง้ 8.60 เมตร แล้วได้ภาพห่างจากกระจกโคง้

3.75 เมตร จงหาความสูงของภาพท่เี กิดข้ึน

ก. 0.92 เมตร ข. 1.09 เมตรค. 10.09 เมตรง. 12.92 เมตร

119. เข็มหมดุ ยาว 10 เซนติเมตร วางตามแนวราบ โดยปลายที่อย่หู ่างจากกระจกเวา้ 50

เซนติเมตร

ถา้ กระจกเว้ามีความยาวโฟกัส 20 เซนตเิ มตร จงหากำลังขยายของภาพ

ก. 10.25 เท่า ข. 0.33 เท่าค. 0.67 เท่าง. 0.75 เทา่

120. จะต้องเอาวตั ถุวางห่างจากกระจกนูนที่มีรัศมีความโค้ง 20 เซนตเิ มตร ระยะเท่าใด

ภาพทเ่ี กิดข้นึ จงึ มีขนาดเลก็ ลงเป็น4 เทา่

ก. 30 เซนตเิ มตรข. 50 เซนติเมตรค. 60 เซนติเมตร ง. 100 เซนติเมตร

121.เม่อื แสงผา่ นแท่งแกว้ ปริซมึ จะเกิดการกระจายแสงออกเป็นแสงสสี เปกตรัม 7 สี แสงสี

ใดท่เี บยี่ งเบนไป จากแนวเดิมมากทสี่ ดุ

ก. แดง ข. เขียว ค. นำ้ เงนิ ง. ม่วง

122. ถ้าความสูงของวัตถุเปน็ 5.00 เซนติเมตร วางไว้ห่างจากเลนส์นูน 15.0 เซนตเิ มตร ทำ

ใหเ้ กิดภาพจรงิ ห่างจาดเลนส์ 7.50 เวนติเมตร จงหาความยาวโฟกัสของเลนส์ และความสูงของภาพ

ตามลำดบั (หน่อยเปน็ เซนตเิ มตร)

ก. 3, 10 ข. 5, 2.55 ค. 5, 2.5ง. 3, 22.5

123. เมอื่ วา่ งวตั ถหุ น่ึงหา่ งจากเลนส์นูน 12 เซนตเิ มตร เกิดภาพขา้ งเดียวกับวัตถุ ภาพอยู่

ห่างจากเลนส์ 30 เซนติเมตร เลนสน์ นู มคี วามยาวโฟกสั กเ่ี ซนติเมตร

ก. 10 ข. 20ค. 30 ง. 40

124. เมอื่ วา่ งวตั ถหุ น้าเลนสน์ นู อนั หนึง่ เหน็ ภาพชัดเจนเมื่อระยะภาพนั้นเปน็ 2 เทา่ ของ

ระยะวัตถุ ภาพน้ันมขี นาดก่ีเท่าของวตั ถุ

ก. 1 เท่า ข. 2 เทา่ ค. 3 เทา่ ง. 4 เทา่

125. นักเรยี นสอ่ งเลนส์นนู ดูตัวหนงั สือ เหน็ ตวั หนงั สือหวั ตง้ั ขยาย 4 เท่า ของตวั หนงั สอื

เดิม และห่างจากเลนส์ 25 เซนตเิ มตร เลนส์มคี วามยาวโฟกัสกเ่ี ซนตเิ มตร

ก. 5 ข. ค. ง. 25 เทา่
126. เมอื่ ใช้แว่นขยายส่องดูลายมอื เห็นมือโตเปน็ สองเทา่ ถา้ มอื อยหู่ า่ งจากแวน่ 10

เซนติเมตร แวน่ ขยายนี้ มีความยาวโฟกสั ก่เี ซนตเิ มตร

ภาค ข (วชิ าความรูค้ วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วิชาเอก วิทยาศาสตร์

566 ค่มู อื เตรยี มสอบ

ก. 10 ข. 20ค. 50 ง. 100

127. จะต้องเอาวตั ถุห่างจากเลนสเ์ ว้ามคี วามยาวโฟกัส 15 เซนติเมตร เปน็ ระยะเท่าใด จึง

จะได้ภาพที่มีขนาดเลก็ ลงเปน็ 3 เท่าของวัตถุ

ก. 15 เซนตเิ มตรข. 20 เซนติเมตรค. 30 เซนตเิ มตรง..60 เซนตเิ มตร

1 28. วางวัตถุห่างจากเลนส์เป็นระยะ 30 เซนตเิ มตร เกิดภาพเสมอื นห่างจากเลนส์ 20

เซนตเิ มตร เลนสน์ ้เี ป็นเลนสอ์ ะไร มคี วามยาวโฟกัสเท่าใด

ก. เลนส์เว้า ความยาวโฟกัส 60 เซนติเมตร ข.เลนสน์ ูน ความยาวโฟกสั 12

เซนติเมตร

ค. เลนสเ์ ว้า ความยาวโฟกัส 30 เซนตเิ มตร ง.. เลนสน์ ูน ความยาวโฟกัส 6

เซนตเิ มตร

129. แวน่ ขยายทีใ่ ห้กำลังขยาย 6 เท่า ในระยะ 25 เซนตเิ มตร จะมีความยาวโฟกสั ก่ีเวน

ตเิ มตร

ก. 3.6 ข. 4.2 ค. 5.0ง. 10.0

130. ในการสร้างกลอ้ งโทรทรรศนช์ นิดหกั เหแสง ซง่ึ มีกำลงั ขยายสงู สดุ 10 เท่า โดยใช้

เลนส์ใกลต้ า มคี วามยาวโฟกัส 10 เซนติเมตร กล้องโทรทรรศนต์ ้องมีความยาวอยา่ งน้อยท่ีสุดก่ี

เซนติเมตร

ก. 90 ข. 100 ค. 110ง. 120

131. 1 กรมั ต่อลกู บาศก์เซนติเมตรเทา่ กับกีก่ ิโลกรัมตอ่ ลูกบาศกเ์ มตร

ก. 1 kg/ ข. 10 kg/ ค. kg/ ง. kg/

132.ความหนาแนน่ ของน้ำกลั่นในระบบ SI มหี นอ่ ยเปน็

ก. 1 กรมั ต่อลูกบาศก์เซนตเิ มตร ข. 1,000 นิวตนั ตอ่ ลูกบาศก์เมตร

ค. 1,000 กโิ ลกรมั ต่อลกู บาศกเ์ มตร ง. 1,000 กโิ ลกรัมต่อลูกบาศกเ์ ซนติเมตร

133. ถ่านก้อนหนึ่งมีปริมาณ 80 ลูกบาศก์เซนตอเมตร ลอยในนำ้ พบวา่ ส่วนทล่ี อยพ้นผิว

น้ำ 20ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตรความถ่วงจำเพาะของถา่ นก้อนนี้มคี า่ เท่าใด

ก. 0.25 ข. 0.40 ค. 0.75ง. 0.80

ภาค ข (วชิ าความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วิชาเอก วิทยาศาสตร์

คมู่ อื เตรยี มสอบ 567

134. แทง่ ไม้สี่เหลยี่ มลกู บาศก์ยาวดา้ นละ 10 เซนติเมตร มีความหนาแน่น 0.6 กรัมต่อ

ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตรถ้านำไปลอยในภาชนะที่มนี ำ้ เกลืออยูเ่ ต็มพอดี น้ำเกลือจะลน้ ออกไปกี่ลกู บาศก์

เซนตเิ มตร ความหนาแนน่ ของน้ำเกลือเท่ากบั 1.2 กรมั ต่อลูกบาศก์เซนติเมตร

ก. 40 ข. 50 ค.500 ง.

600

135. เรือสนิ คา้ จอดอยู่ท่ที า่ น้ำ ปรมิ าตรส่วนทลี่ อยพน้ 3.75 ลกุ บาศกเ์ ซนติเมตร ถา้

บรรทกุ ข้าวสารกระสอบละ 100 กโิ ลกรัม จะบรรจุได้อย่างมากกี่กระสอบ

ก. 30 กระสอบ ข. 37 กระสอบค. 38กระสอบ ง. 39กระสอบ

136. นายดำหนกั 50กิโลกรัม แบกกระจาดใส่มะมว่ งหนัก 20 กิโลกรัม เดนิ ขน้ึ

สะพานลอยหนา้ โรงเรยี นเตรียมอุดมศึกษา บนั ไดมคี วามยาว 15 เมตร สะพาน 5 เมตร ถนนกวา้ ง

50 เมตร ในการข้ามสะพานลอยนี้ นายดำทำงานได้กี่นิวตนั เมตร กำหนด 1 กโิ ลกรัม เท่ากับ 10นวิ

ตนั

ก.350 ข. 700 ค. 3,500ง.4,200

137. ชายคนหนึง่ หาบของ 2อยา่ งด้วยคานยาว 2 เมตร ของชิ้นหน่ึงมีมวล 30กโิ ลกรัม อีก

ช้ินหนงึ่ จะมมี วลเท่าใด ถา้ เขาหาบห่างจากมวลนอ้ ย 120 เวนตเิ มตร

ก. 10 กโิ ลเมตร ข. 15 กิโลเมตร ค. 20 กิโลเมตรง. 25 กโิ ลเมตร

138. ด.ญ.หนกั นอ้ ย 30 กิโลเมตร เล่นไม้กระดานหกกบั พ่ีใหญห่ นกั 50 กิโลกรัม ถา้ ด.ญ.

น้อยและพี่ใหญ่นั่งอยูป่ ลายกระดานหกทงั้ 2 ขา้ ง ยาวข้างละ 2.50 เมตร ด.ญ. นอ้ ยจะต้องไปชวน

เพ่อื นหนัก 25 กโิ ลกรัม มานงั่ หา่ งจาก ด.ญ.น้อยเท่าใด จงึ จะเล่นไม้กระดานได้อย่างสนุกสนาน

ก. 2.00 เมตรข. 1.25 เมตร ค. 0.75 ง. 0.50เมตร

139.ชายคนหนึ่งใชม้ ือถือกล่องหนกั 8 นิวตนั ไว้ ความยาวของแขนช่วงฝา่ มือถึงข้อศอก

เทา่ กบั 40 เซนติเมตร ถ้าแขนวางตัวในแนวระดบั กลา้ มเนื้อส่วนทอ่ี ยู่ระหว่างข้อศอกและมืออยุ่หา่ ง

จากข้อศอกเท่ากบั 5 เซนติเมตร จะตอ้ งออกแรงก่ีนิวตัน

ก. 8 ข. 40 ค.56

ง.64

140. แรงในข้อใดทำงานได้ดีทีส่ ุด

ก. แบกลงั หนัก 500นิวตัน เนนิ สงู 4 เมตร

ข. แรง 400 นิวตนั ผลกั รถยนตใ์ หเ้ คล่อื นท่ไี ปบนพ้นื ถนนราบ เป็นระยะทาง 5 เมตร

ค.แบกกระสอบขา้ วสารหนกั 1,000นวิ ตันเดนิ ไปบนสะพานราบ เปน็ ระยะทาง 10 เมตร

ภาค ข (วชิ าความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วิชาเอก วิทยาศาสตร์

568 ค่มู อื เตรยี มสอบ

ง.รถเครนยกของใช้ยกของใช้กำลงั 400 วตั ต์ ยกทังน้ำมันหนกั 800นิวตัน ข้นึ ในแนวดงิ่

นาน 10 วินาที

141.แรงเสียดทาน สงู สดุ ระหว่างแทง่ ไมก้ บั พน้ื โต๊ะเปน็ 18นิวตนั ถ้าออกแรงดึงแทง่ ไม้ตาม

แนวราบขนานกับพ้นื โต๊ะดว้ ยแรง 12นิวตนั อยากทราบว่าแรงเสียดทานมีค่าเท่าใด

ก. 0 N ข. 6 N ค. 12 N ง. 15 N

142. รถยนตแ์ ล่นไปตามถนน ตรงไปทางทศิ ตะวนั ออกเปน็ ระยะทาง 60 เซนตเิ มตร แลว้

เลี้ยวข้ึนไปทางทิศเหนือเป็นระยะทาง 100กิโลเมตร และย้อนกลบั ทางเดมิ เป็นระยะทาง 20

กิโลเมตร

ใช้เวลาในการเคล่อื นท่ีทัง้ หมด 2 ช่ัวโมง 30 นาที ความเรว็ เฉล่ยี มคี ่าเทา่ ใดในหนว่ ยกิโลเมตรต่อ

ชัว่ โมง

ก. 40 ข. 47 ค. 56 ง. 72

143. ลูกบอล 0.2 กโิ ลกรัม ตกจากทีส่ ูง 5 เมตร เหนือพ้นื ดิน ขณะเคล่ือนที่ลงได้ 1.25

เมตร จะมีพลังงานจลนเ์ ท่าใด(กำหนดความเรง่ เนื่องจากสนามโนม้ ถว่ ง 10 เมตรต่อ )

ก. 1.25 จูล ข.2.5จูลค. 7.5จลู ง. 10.0 จูล

144.เครนยกของมกี ำลงั 400 วตั ต์ ยกถังน้ำมวล 80 กโิ ลกรัม ข้นึ ไปในแนวด่ิงใชเ้ วลา 10

นาที จะยกถังนำ้ ข้ึนสงู เทา่ ใด(ความเร่งเนอื่ งจากแรงโนม้ ถว่ งของโลก 10 เมตรต่อ )

ก. 5 เซนตเิ มตร ข. 5 เมตร ค. 50 เซนตเิ มตร ง. 50 เมตร

145. ใชร้ อกเด่ยี วตายตวั ขนาดเล็ก น้ำหนกั เบา เข้าชว่ ยยกวัตถหุ นัก 80 นิวตัน ขึ้นสูงจาก

พ้นื 3 เมตร ใน 10 วินาที ในการนี้ต้องใชก้ ำลัง 30 วัตต์ จงหาประสิทธิภาพของรอกเท่าใด

ก. 37.5% ข.75% ค. 80%ง.100%

146. บนยอดดอยแมส่ ะลองในจงั หวัดเชียงราย นาย ก วดั ความดันบรรยากาศได้ 540

มลิ ลิเมตร

ของปรอท ยอดดอยแหง่ นนั้ สูงเท่าใด

ก. 220 เมตร ข.2,200เมตร ค. 2,420 เมตร ง.4,400

147. นกั กระโดดร่มด่ิงพสธุ าขณะลอยต่ำลงอยู่ในอากาศทตี่ ำแหน่งหนงึ่ อา่ นความดัน

บรรยากาศจากเครื่องท่วี ดั ข้อมอื ของเขาได้ 560 มิลลิเมตรปรอท ขณะเขาอยู่สูงจากระดับนำ้ ทะเลกี่

เมตร

ภาค ข (วชิ าความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

คมู่ อื เตรยี มสอบ 569

ก.560 ข.2,200ค. 5,400 ง. 6,160

148. ผ่านกระแสไฟฟา้ ลง ในลวดนิโครมซึง่ จุ่มอยู่ในแคลอริมิเตอร์มนี ้ำประจุอยู่ 100

ลูกบาศก์เซนติเมตร อุณหภมู ิ 30 องศาเซลเซียส ปรากฏว่านำ้ รอ้ นขึ้นเปน็ 35 องศาเซลเซยี ส

พลังงานไฟฟา้ จะเปลี่ยนรปู เป็นพลงั งานความร้อนเท่าใด

ก. 210จูล ข. 500 จลู ค. 1,090จลุ ง. 2,100 จลู

149. อุณหภูมิ 15 เทา่ กับกี่เควิล

ก. 300 K ข. 288 K ค. 173 K ง. 98 K

150. วัดค่าความชน้ื สมั พนั ธ์ได้ 60% และอุณหภูมใิ นขณะน้นั สามารถมีไอนำ้ อ่มิ ตัวได้ 80

กรัมต่อลูกบาศกเ์ มตร ถามวา่ ในขณะนน้ั มีไอน้ำอยู่เทา่ ใด

ก. 4.8 g/m3 ข. 48 g/m3 ค. 4.8 % ง. 48%

151. จุดนำ้ ค้างคอื

ก. อณุ หภมู ขิ ณะทีน่ ำ้ ค้างกลายเปน็ ไอนำ้ ข. อณุ หภมู ิที่ไอน้ำกล่ันตวั เป็นหยดนำ้

ค. อุณหภูมทิ ี่ 0 ง. อุณหภูมทิ ี่ 32

152. ความต้านทาน 40 โอห์ม และ R โอห์ม ต่อกันแบบอนุกรม ถ้าความตา่ งศกั ยร์ ะหว่าง

ปลายของความตา้ นทานทง้ั สองทต่ี ่ออนุกรมนี้เปน็ 120 โวลต์ จงหาค่าความตา้ นทาน R

ถา้ กระแสไฟฟา้ ทไี่ หลผ่านความต้านทาน 40 โอห์ม มีคา่ 2 แอมแปร์

ก. 20 โอห์ม ข. 30 โอห์ม ค. 45 โอห์ม ง. 50 โอหม์

153. หลอดไฟฟ้าหลอดหนง่ึ เขยี นว่า 60W 12V หลอดไฟหลอดน้ีตอ้ งใช้กระแสเท่าไร

ก. 0.5 A ข. 1.5 A ค. 2.5 A ง. 5 A

154. ถ้านำหลอดไฟขนาด 110V 60Wไปใช้กบั ไฟบา้ นท่มี ีความต่างศักย์ 220 V จะ

เกดิ ผลอยา่ งไร

ก. ฟิวสข์ าด ข. ไสห้ ลอดขาด ค. ใหค้ วามสว่างน้อย ง. เปลืองไฟ

มาก

155. บ้านหลังหนงึ่ ใชเ้ คร่อื งใช้ไฟฟ้าพร้อมกนั 3 อย่างคอื เตารดี ขนาด 1,000วตั ต์220

โวลต์ เคร่ืองปรบั อากาศนาด 5 แอมแปร์ 220 โวลต์ และตูเ้ ยน็ ขนาด 750 วัตต์ 220 โวลต์

ในเวลา6 ช่วั โมง จะเสียค่าไฟฟ้ากี่บาท(ยนู ิตละ 3 บาท)

ก. 30 บาท ข. 51.30 บาท ค. 59.50 บาท ง. 67.42

บาท

156. บิกแบงเป็นทฤษฎอี ธบิ ายสง่ิ ใด

ภาค ข (วิชาความรูค้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วิทยาศาสตร์

570 คมู่ อื เตรยี มสอบ

ก. การระเบดิ ทำให้พลงั งานส่วนหน่ึงเปลย่ี นเป็นเนื้อสาร

ข. มีววิ ฒั นาการต่อเนื่องจนเกิดเปน็ กาแล็กชี

ค. การเกิดระบบสุรยิ ะ

ง. ถกู ทุกขอ้

157. ทฤษฎใี ดท่ีใช้อธบิ ายการเกิดเอกภพ

ก. ทฤษฎบี กิ แบง ข. ทฤษฎีสภาวะคงท่ี ค. ทฤษฎีหดตวั ง. ทฤษฎี

ขยายตัว

158. ควาร์กเกิดการรวมตัวกันไปเป็นส่งิ ใด

ก. โปรตอนและนิวตรอน ข. โปรตอนและอิเล็กตรอน

ค. โปรตอนและโฟตอน ง. อิเล็กตรอนและนิวทรโิ น

159. กาแล็กซที างช้างเผือกมีรูปรา่ งแบบใด

ก. รปู ร่างไมแ่ น่นอน ข. รูปร่างแบบกงั หันมีแกน หรือบารส์ ไปรัล

ค. รูปร่างแบบกังหัน หรอื สไปรลั ง. รูปร่างแบบกลมรี หรือรปู ไข่

160. ธาตุอะไรมีมากที่สดุ ในเอกภพ

ก. ออกซิเจน ข. ไฮโดรเจน ค. ฮีเลยี ม ง.

ไนโตรเจน

เฉลยรวมโจทยว์ ทิ ยาศาสตรช์ ดุ ท่ี 1

1 ข 2 ก 3 ก 4 ง 5 ค 6 ข 7 ข 8 ก 9 ข 10 ง

11 ข 12 ข 13 ค 14 ค 15 ค 16 ข 17 ค 18 ค 19 ง 20 ก

21 ค 22 ง 23 ง 24 ก 25 ก 26 ก 27 ข 28 ก 29 ค 30 ก

31 ก 32 ก 33 ข 34 ง 35 ง 36 ก 37 ค 38 ค 39 ง 40 ข

41 ก 42 ข 43 ข 44 ง 45 ข 46 ง 47 ก 48 ง 49 ค 50 ค

51 ค 52 ก 53 ก 54 ข 55 ค 56 ค 57 ก 58 ข 59 ง 60 ข

61 ค 62 ค 63 ค 64 ง 65 ข 66 ง 67 ง 68 ค 69 ง 70 ข

71 ง 72 ง 73 ก 74 ค 75 ง 76 ข 77 ก 78 ค 79 ก 80 ข

81 ง 82 ข 83 ก 84 ก 85 ข 86 ก 87 ข 88 ก 89 ง 90 ก

91 ก 92 ข 93 ก 94 ข 95 ข 96 ค 97 ก 98 ค 99 ก 10 ข

ภาค ข (วิชาความรูค้ วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

คมู่ อื เตรยี มสอบ 571

0
10 ข 10 ข 10 ข 10 ข 10 ก 10 ค 10 ค 10 ก 10 ข 11 ค
1234567890
11 ค 11 ข 11 ค 11 ก 11 ง 11 ก 11 ค 11 ข 11 ค 12 ก
1234567890
12 ง 12 ค 12 ข 12 ข 12 ค 12 ข 12 ค 12 ก 12 ค 13 ค
1234567890
13 ง 13 ค 13 ค 13 ค 13 ข 13 ค 13 ค 13 ง 13 ง 14 ง
1234567890
14 ค 14 ง 14 ค 14 ข 14 ค 14 ค 14 ข 14 ง 14 ข 15 ข
1234567890
15 ข 15 ก 15 ง 15 ข 15 ข 15 ก 15 ก 15 ก 15 ค 16 ข
1234567890

ภาค ข (วิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วิชาเอก วิทยาศาสตร์

572 คมู่ อื เตรยี มสอบ

รวมโจทย์วทิ ยาศาสตรท์ ี่ออกบ่อย ชดุ ที่ 2

1) ขอ้ ใดไม่ใชเ่ กณฑ์ในการจัดหมวดหมู่ของส่ิงมชี ีวติ

ก. โครงสรา้ ง ข. การเจริญเติบโตของตวั อ่อน

ค. ปริมาณของสิ่งมชี ีวติ ง. กระบวนการทางสรีระวทิ ยา

2) วธิ กี ารดีที่สดุ ในการศึกษาการจำแนกสิ่งมีชวี ติ คอื

ก. จำลกั ษณะสำคัญเดน่ ชัดของสิง่ มีชวี ติ

ข. รู้และเข้าใจรายละเอยี ดโรงสรา้ งของส่ิงมชี ีวติ

ค. รชู้ ือ่ สามญั และชอ่ื วิทยาศาสตร์ของส่งิ มีชวี ติ กลุ่มตา่ งๆ

ง. ศกึ ษาเปรียบเทียบลกั ษณะสำคญั ระหวา่ งส่ิงมชี ีวิตกล่มุ ต่างๆ

3) ลกั ษณะใดสำคญั ที่สดุ ท่ีจัดว่าเป็นนก

ก. มีฟนั ปลายปกี มีน้ิว ข. ขามเี กลด็ เท้ามนี ว้ิ และเล็บ

ค. มปี กี ใช้บินหรือร่อนได้ ง. มขี นเปน็ แผง

4) โครงสร้างคูใ่ ดของร่างกายส่ิงมชี ีวิตตา่ งชนิดกนั ทเ่ี ป็นโฮโมโลกัสกนั

ก. ปีกค้างคาวกับครีบฉลาม ข. ขาคหู่ นา้ ของสนุ ัขกับขาหน้าของตั๊กแตนตำข้าว

ค. แขนคนกับครบี ของปลาพยูน ง. ปีกผเี สอ้ื กลางคนื กบั ปีกนกกระจอกเทศ

5) หลกั สำคญั ในการจดั หมวดหมู่ของสงิ่ มีชวี ิตในปัจจบุ นั คือ สิ่งมชี วี ติ ทจ่ี ะจัดอยใู่ นกลุ่มเดียวกันตอ้ ง

ก. มรี ปู รา่ งคลา้ ยกนั ข. มโี ครงสรา้ งเหมือนกนั
ค. มีความสัมพันธ์กนั ทางวิวัฒนาการ ง. มจี ำนวนโครโมโซมเท่ากนั

ภาค ข (วิชาความร้คู วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วิชาเอก วทิ ยาศาสตร์

คมู่ อื เตรยี มสอบ 573

6) ดาวกิ าแบง่ สง่ิ มีชีวิตพวก แมว เปด็ นกพิราบ กบ กระต่าย ปลาฉลาม ปลาตะเพยี น คางคก

จงิ้ เหลน งู สนุ ัข ปลาจาระเม็ด ได้ 3 กลุ่มคือ

กลุ่มท่ี 1 แมว กบ สนุ ัข กระต่าย คางคก จงิ้ เหลนกลมุ่ ที่ 2 เปด็ นกพิราบ

กลุม่ ท่ี 3 ปลาฉลาม ปลาคะเพียน ปลาจาระเม็ด

เขาใช้เกณฑ์ข้อใดในการจัดจำพวก

ก. สัตว์บก , บินได้ , สตั วน์ ำ้ ข. 4 ขา, 2 ขา, 2 ปีก, ไมม่ ีขา

ค. มีระยางค์ 2 คู่, 1 ค,ู่ ไมม่ รี ยางค์ ง. ขนแบบ hair, ขนแบบ feather, มีเกล็ด

7) ถ้ากำหนดให้

A =ไฟลมั B= จีนสั C = คลาส

D=แฟมลิ ่ี E=อาณาจักร F=ดิวชิ น่ั

G=ออร์เดอรH์ =สปชี ีส์I= ซบั สปีซีส์

ขอ้ ใดเรยี งลำดบั ขน้ั หมวดหมู่ จากลำดับใหญ่ไปยอ่ ยถกู ต้อง

ก. E -----> A -----> D -----> C -----> G

ข. C -----> G -----> D -----> B-----> H

ค. F -----> X -----> G -----> D -----> B

ง. A-----> C-----> D -----> G -----> H

8) จากข้อกำหนดในข้อ 7 ลำดบั ขน้ั การจดั หมวดหมู่ใด อยู่ในลำดบั ข้ันเดยี วกนั

ก. H กับ I ข.A กบั F ค. E กบั F ง. D กบั G

9) ถา้ ยงุ จากราชบรุ ีและเลย รูปร่างคล้ายกันและมีจำนวนโครโมโซม 4 คู่เทา่ กนั ยุง 2 แหง่ น้ีผสม

ในหอ้ งปฏิบตั ิการได้ลูก F1 ซ่ึงไม่สามารถผสมพนั ธ์ุต่อได้ แสดงวา่ ยงุ 2 พวกนี้

ก. เป็นสปชี ีส์เดียวกัน ข. ต่างเชอ้ื ชาติกัน ค. ต่างซบั สปีชีสก์ ัน ง. ต่างสปชี ีส์กนั

10) ข้อใดถือเปน็ เกณฑ์สำคัญในการจดั สิ่งมีชีวติ ว่าเป็นสปีชสี เ์ ดียวกนั ได้

ก. ดลู กั ษณะคลา้ ยกบั โครงสร้าง ข. ผสมแล้วไดล้ ูก

ค. มีลกู แลว้ ลูกจะเป็นหมันหรือไม่ ง. ลูกที่ไดพ้ ิการหรือไม่

11) ข้อใดไม่ใชส่ าเหตทุ ี่ทำให้สัตวด์ ำรงสปีชีส์ไวไ้ ด้

ก. การกินอาหารที่แตกต่างกัน

ข. ฤดกู าลในการผสมพนั ธท์ุ ่ีต่างกัน

ค. สรีระของอวัยวะสบื พันธ์ุที่แตกต่างกัน

ง. เสียงรอ้ งของสตั วผ์ ู้ท่เี รยี กตัวเมยี เขา้ ผสมพนั ธุ์ท่ีแตกตา่ งกัน

ภาค ข (วิชาความร้คู วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วิทยาศาสตร์

574 คมู่ อื เตรยี มสอบ

12) ข้อใดมีแบบแผนการเรียงตวั ของโครงกระดกู ไม่เหมือนกันทงั้ 3 ชนิด

ก. ขาหนา้ ของหมีโคอาสา ปีกของค้างคาว แขนคน ข. ปีกของค้างคาว ปกี ต๊ักแตน ปกี ของ

นก

ค. ปกี ไก่ ขาหน้ากบ ปกี นก ง. ครีบปลาพยนู มอื ของลงิ ปีกของ

คา้ งคาว

13) ข้อใดไม่ทำให้เกิดสปซี ีสใ์ หม่

ก. น้ำท่วมแยกหนูอยูค่ นละเกาะ ต่างฝา่ ยพัฒนาจนเม่ือกลับมาผสมพนั ธกุ์ ันจะไดล้ ูกเป็นหมัน

ข. ภเู ขาสงู ก้ันนกอยูค่ นละฟาก ต่างฝ่ายตา่ งหากนิ พฒั นาจนมีพฤติกรรมการสืบพนั ธแ์ุ ตกตา่ งกนั

ค. ยงุ ทีร่ อดชีวติ จากการจำกัดด้วยดีดที ี ต่อมาพฒั นาจนสามารถตา้ นทานดดี ีทีได้

ง. ภูเขาไฟระเบดิ แยกนอกออกเป็นสองกล่มุ แล้วพฒั นาจนมีรปู รา่ งและขนาดแตกต่างกันจนไม่

สามารถผสมพนั ธ์ุกนั ได้

14) ข้อใดไม่ใชล่ กั ษณะของลุกทเ่ี กดิ จากการผสมขา้ มสปีชีส์

ก. ลกู ตายกอ่ นคลอด

ข. ลูกเจรญิ เตบิ โตดีแตเ่ ปน็ หมัน

ค. ลกู อ่อนแอ และตายก่อนถึงวัยเจรญิ พนั ธ์ุ

ง. ลกู ผสมพนั ธ์ตุ ่อไปได้ แตล่ ูกรุ่นต่อๆ มาอ่อนแอลงเร่ือยๆ

15) ส่ิงมชี ีวติ ทส่ี ามารถจดั รวมเปน็ พวกเดยี วกบั สาหร่ายสเี ขยี วแกมนำ้ เงนิ จะต้องมีลักษณะใดเป็น

สำคัญ

A.มคี ลอโรฟลิ ล์ B.เคลื่อนที่ไม่ได้

C.มีลกั ษณะเป็นเซลลเ์ ดียว D.ขอบเขตของนวิ เคลียสไมช่ ัดเจน

ก. A และ B ข. B และ C ค. C และ D ง. ก และ ง

16) ปัจจัยเริม่ แรกขอ้ ใดท่ีทำใหน้ กฟินสม์ วี ิวฒั นาการไปเป็นนกฟนิ สส์ ปีชีส์ต่างๆ

ก. การผ่าเหลา่ การคัดเลือกโดยธรรมชาติ ข. ชนดิ ของอาหาร การคดั เลือกโดยธรรมชาติ

ค. สภาพภมู ิศาสตร์ พฤติกรรมารผสมพันธ์ุ ง. สภาพภูมศิ าสตร์ การปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั

สิ่งแวดลอ้ ม

17) ข้อใดไมเ่ ป็นกลไกของสง่ิ มีชีวติ ในการดำรงความเป็นสปีชสี เ์ อาไว้

ก. ซีโบรสไม่สามารถแพร่พันธุ์ต่อไปได้

ภาค ข (วชิ าความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วิชาเอก วิทยาศาสตร์

ค่มู อื เตรยี มสอบ 575

ข. ปกู า้ มดาบชกู า้ มใหญส่ ีสดเพอ่ื ชกั จงู ตวั เมยี ให้มาผสมพันธ์ุ

ค. ลกู ทไี่ ด้จากหมีโคล่าเผอื ก มสี ขี าวทงั้ ตวั และมีตาสีชมพู

ง. หิง่ ห้อยมจี งั หวะของแสงที่กะพรบิ ต่างกัน เพื่อบอกว่าเปน็ เพศเมียหรอื ผู้

18) ข้อใดไมใ่ ชก่ ารปรบั ตัวเพื่อความอยรู่ อด

ก. การลอกคราบของปู ข. การได้อาหารของกาฝาก

ค. การลดรูปใบของกระบองเพชร ง. การสร้างทนุ่ ลอยน้ำของผักกระเฉด

19) หลักฐานในข้อใดแสดงว่าเต่าและนกมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน

กายวิภาคเปรยี บเทยี บซากดึกดำบรรพ์

ก. ซากดึกดำบรรพ์ รอ่ งรอยของอวยั วะที่ไม่ใชง้ าน

ข. การเจริญของเอ็มบริโอในช่วงแรก รอ่ งรอยของอวัยวะท่ีไมใ่ ชง้ าน

ค. การเจริญของเอ็มบรโิ อในช่วงแรก กายวภิ าคเปรียบเทียบ

ง. การเจรญิ ของเอ็มบริโอในช่วงแรก กายวภิ าคเปรยี บเทียบ

20) พฤตกิ รรมการเกย้ี วพาราสขี องห่ิงห้อยโดยใชจ้ ังหวะการกระพริบของแสง เป็นกลไกลชนดิ ใด

ก. กลไกการเกดิ สปซี ีส์ใหม่ ข. กลไกการดำรงของสปีซสี ์

ค. กลไกการรวมกันของสปีซีส์ ง. กลไกการแบง่ แยกพนื้ ที่ของสปซี สี ์

21) หลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาและจัดสิ่งมีชวี ติ เข้าไวใ้ นอาณาจักรพชื คือ

ก. ผนังเซลล์ประกอบดว้ ยเซลลโู ลส ข. มีเนอ้ื เย่ือและระยะเอมบริโอ

ค. คลอโรฟิลล์อยูใ่ นเมด็ คลอโรพลาสต์ ง. ถกู หมดทุกข้อ

22) ขอ้ ใดถือวา่ ไม่ใช่สาเหตทุ ี่ทำใหเ้ กดิ ความหลากหลายทางชีวภาพ

ก. การสบื พันธ์ุแบบอาศัยเพศ ข. การเกดิ มิวเตชนั ของยีน

ค. การเกดิ ความแปรผันทางพันธกุ รรม ง. การมปี ระชากรสง่ิ มชี วี ิตชนดิ หน่ึงจำนวนมาก

23) ข้อใดใชเ้ ป็นเกณฑ์ในการพิจารณาคุณค่าของความหลากหลายทางชวี ภาพ

ก. ประโยชน์, คณุ คา่ ท่ีมีต่อมนุษย์ ข. ความชุกชุมของสิ่งมชี ีวติ นั้นๆ

ค. สงิ่ มีชวี ติ สามารถดำรงชีวติ อย่างปกตสิ ขุ ง. การบริโภคเปน็ อาหารและราคาขายเปน็ สิ้น

ค้า

24) ความหลากหลายทางชวี ภาพ หมายถึงข้อใด

ก. การมชี วี ิตหลากหลายชนดิ ณ บรเิ วณใดบริเวณหนึ่ง

ข. การมีส่ิงมีชีวติ ใดชนดิ หน่ึงจำนวนมาก ณ บริเวณนัน้

ภาค ข (วิชาความรูค้ วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

576 คมู่ อื เตรยี มสอบ

ค. การมสี ภาพแวดลอ้ มทางชีวภาพแตกตา่ งกัน

ง. ระบบนิเวศความอุดมสมบูรณด์ ว้ ยพชื พรรณ

25) ข้อใดไมใ่ ช่ปัญหาความหลากหลายทางชวี ภาพ

ก. ปัญหามลพษิ ของสิง่ แวดล้อมต่อส่งิ มีชีวิต ข. ปญั หาการใชส้ อยทรัพยากรมากเกินไป

ค. ปัญหาการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศยั ของพืช, สตั ว์ ง. ปญั หาส่งิ มีชวี ติ ท่วั โลกกำลังเพิ่มจำนวนอยา่ ง

รวดเรว็

26) บคุ คลทช่ี อบตัดต้นไมแ้ ละทำลายปา่ ซ่งึ นับว่าเปน็ ผทู้ ่ีทำให้สมดลุ ธรรมชาติในกลมุ่ ส่ิงมีชีวติ น้ัน

สุดเสียไปเปน็ บคุ คลเชน่ ใด

ก. ขาดความรู้ ข. เห็นแกต่ ัว ค. ไมร่ ับผดิ ชอบ ง. ไมเ่ ข้าใจปัญหาท่ี

จะเกดิ ขน้ึ

27) การระบาด ของต๊ักแตนปาทงั กา้ ในสภาวะปจั จบุ นั เปน็ ผลมาจากการโคน่ ถ่างป่าเพอ่ื ทำการ

เพาะปลูก ขอ้ ใดต่อไปนี้ถูกต้องท่ที ำให้การระบาดของตก๊ั แตนรนุ แรงมากขึ้น

ก. ความเข้มแข็งแสงเพยี งพอ ข. อาหารเหมาะสมกวา่

ค. แพรพ่ ันธไ์ุ ดอ้ ย่างรวดเร็ว ง. ถกู หมดทุกข้อ

28) สมดุลธรรมชาติ (Balance of nature) หมายถึงข้อใดต่อไปนี้

ก. การท่กี ลมุ่ สง่ิ มีชีวิตตา่ งพงึ่ พาอาศัยซงึ่ กนั และกนั

ข. การมีปัจจยั ทางกายภาพเหมาะสมกับส่ิงมีชวี ิตในถ่ินท่อี ยู่นนั้ ๆ

ค. การได้ประโยชนแ์ ละเสียประโยชนใ์ นสง่ิ ชวี ิตเปน็ ไปอยา่ งสมดุล

ง. จำนวนหรือปรมิ าณของกลุ่มส่งิ มชี วี ติ ทมี่ ีอยู่ในธรรมชาติอย่างพอเหมาะ

29) ความหลากหลายทางชวี ภาพ (Biodiversity) หมายถึงข้อใดท่ถี ูกตอ้ งท่ีสุด

ก. บรเิ วณน้นั มีนกจำนวนมาก ข. บริเวณน้ันมีปลาอยูม่ ากมาย

ค. บริเวณนั้นมกี ้งุ , หอย จำนวนมาก ง. บริเวณนน้ั มีกงุ้ , หอย, ปู, ปลา จำนวนมาก

30) สาหร่ายสีเขยี ว มอส และลเิ วอรเ์ วริ ต์ ต่างก็ไมม่ ีราก ลำต้นและใบแทจ้ รงิ แตม่ อสและลิเวอร์

เวิรต์ ถูกจดั เปน็ พชื เพราะ

ก. มีหลายเซลล์ ข. มคี ลอโรพลาสต์ ค. มรี ะยะเอ็มบรโิ อ ง. มีการสืบพนั ธ์ุแบบ

สลบั

31) สิ่งมีชีวติ ท่ีจัดไว้ในอาณาจักรพชื (Kingdom Plantae) ควรมลี ักษณะดงั ขอ้ ใด

ภาค ข (วชิ าความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วิชาเอก วทิ ยาศาสตร์

ค่มู อื เตรยี มสอบ 577

ก. มีคลอโรพลาสต์และประกอบดว้ ยเซลลห์ ลายเซลล์

ข. มคี ลอโรพลาสต์ 1 เม็ด มเี นอ้ื เยือ่ และระยะเอม็ บรโิ อ

ค. มคี ลอโรพลาสต์>1 เม็ด มีเนือ้ เยือ่ และระยะเอ็มบริโอ

ง. เซลลม์ ีเยื่อหุ้มนวิ เคลียส ประกอบด้วยเซลล์หลายเซลล์

32) สง่ิ มีชวี ิตใดทำหน้าทเี่ ป็นตัวกลางในการถา่ ยทอดพลงั งาน

ก. งู ข. นก ค. เพลยี้ ง. ผลนอ้ ยหน่า

33) ลกั ษณะสำคัญของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรดังกล่าวคอื

ก. เซลลข์ าดเยอื่ ห้มุ เซลล์ ข. เซลล์ขาดเยื่อหุม้ นวิ เคลียส

ค. เซลล์ขาดผนงั เซลล์ ง. เซลล์ขาดออร์แกเนลล์ภายใน

34) ข้อใดไมใ่ ช่ลักษณะของลูกทเ่ี กิดจากการผสมขา้ มสปชี ีส์

ก. ลกู ตายก่อนคลอด ข. ลกู เจริญเติบโตดแี ตเ่ ป็นหมัน

ค. ลูกออ่ นแอและตายกอ่ นถงึ วยั เจรญิ พันธ์ุ ง. ลูกผสมพันธต์ุ ่อไปได้ แต่รุน่ ลกู อ่อนแอลง

เร่ือยๆ

35) แบคทเี รีย และสาหร่ายสีเขยี วแกมน้ำเงิน มลี กั ษณะคลา้ ยกันคือ

ก. ไม่มรี ะยะเอม็ บรโิ อ ข. ไมม่ ีเยื่อหุ้มนิวเคลียส

ค. ถกู ทง้ั 2 ข้อ ง. ไมถ่ กู ท้ัง 2 ข้อ

36) พืชชนิด หนง่ึ มีลกั ษณะลำตน้ แบบเล้ือยไมม่ หี ูใบ ใบเป็นแบบเด่ยี ว เสน้ ใบเปน็ แบบร่างแห ออก

ดอกเป็นดอกเด่ียว กลบี ดอกมี 5 กลบี รังไข่อยู่ใต้กลีบดอก นกั เรยี นจะจำแนกพืชน้โี ดยใชค้ ยี ์

สำหรบั พืชนดิ ใด

ก.ไม้นำ้ ข. พืชบก ค. พืชใบเลีย้ งเด่ยี ว ง. พชื ใบ

เลีย้ งคู่

37) พืชทีเ่ รม่ิ มีราก ลำต้น และใบท่ีแท้จริง มีระบบท่อลำเลียงแตย่ งั ไม่มีดอกเมลด็ คอื

ก. มอส สาหร่าย ข. ปรง เฟิรน์ ค. จอกหหู นู ง. แหน สน

ฉตั ร

38) ประภาเรยี ม หรอื ตู้เล้ยี งปลาแบบปิดสนิท และสิง่ มีชีวิตต่างๆ ใน๖ได้แก่ ปลา หอย กงุ้ โปรโต

ซัว และพืชนำ้ สามารถดำรงชวี ิตอยไู่ ดเ้ ปน็ เวลานานนบั เดือน เพราะ

ก. สิ่งมชี ีวติ ไมเ่ จรญิ เติบโต ข. สงิ่ มชี ีวติ ไม่รบกวนซ่งึ กันและกนั

ค. ไมม่ ีจลุ ินทรยี ์เข้าไปรบกวน ง. การได้และใช้พลงั งานอยู่ในสภาพสมดุล

39) ถ้าส่ิงมชี ีวติ พวกผู้ผลติ ตายหมดจะเกิดอะไรขนึ้ กับระบบนิเวศ

ภาค ข (วิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วชิ าเอก วทิ ยาศาสตร์

578 ค่มู อื เตรยี มสอบ

ก. ไม่มีอนิ ทรียส์ ารสำหรบั สิ่งมชี วี ิต

ข. สิ่งมชี ีวติ ท่ีสร้างอาหารเองไม่ได้จะตายทนั ที

ค. สิง่ มชี ีวติ จำพวกสร้างอาหารเองไม่ได้จะอยู่ไดต้ ามปกติ

ง. สง่ิ มชี วี ิตจำพวกสร้างอาหารเองไม่ได้จะมชี ีวติ อย่รู ะยะหน่งึ

40) การทีต่ ั๊กแตนปาทงั กา้ ระบาดจำนวนมาก และฝงู ตั๊กแตนนีเ้ มื่ออพยพผ่านไปในทีม่ ีต้นไมส้ เี ขยี ว

กจ็ ะกินจนราบเรยี บ ทงั น้ีเป็นผลจาก

ก. การปรับตัวของแมลง ข. การคดั เลือกตามธรรมชาติ

ค. การเสยี สมดลุ ธรรมชาติ ง. การเปลีย่ นแปลงโครงสร้างพชื

41) สง่ิ มีชวี ติ ในข้อใด เรียงลำดับตามววิ ฒั นาการไดถ้ กู ต้อง

ก. เหด็ ----->แบคทีเรยี ----->อะมีบา

ข. สาหรา่ ยสเี ขียว ----->สาหร่ายสเี ขียวแกมนำ้ เงิน ----->มอส

ค. หนอนตัวแบน ----->ฟองนำ้ ----->ดาวทะเล

ง. สาหร่าย ----->สนสองใบ ----->พชื ใบเล้ียงคู่

42) สารประกอบใดท่ีหมุ้ สารพนั ธุกรรมของไวรสั

ก. ฟอสโฟลิพิด ข. นิวคลโี อไทด์ ค. คาร์บอนไฮเดรต ง. โปรตนี

43) แมลงคใู่ ดต่อไปนี้มรี ปู แบบการกนิ อาหารเหมือนกัน

ก. แมลงวัน ยุง ข. ยุง เพลี้ยออ่ น ค. เพลยี้ ออ่ น ตั๊กแตน ง. ตั๊กแตน

แมลงวัน

44) ไวรัสทที่ ำใหเ้ กิดโรคไข้หวัดนกเป็นสายพนั ธใ์ุ ด

ก. H5 N1 ข. H5 N2 ค. H1 N5 ง. H2 N5

45) โครงสร้างเซลลส์ ่งิ มีชวี ติ 4 ชนิด ในนำ้ เป็นดงั น้ี

ชนิดส่งิ มีชวี ิต ผนังเซลล์ โครงสรา้ ง นิวเคลียส
แวคิวโอ คลอโรฟิลล์

A √- √ -

B -√ - √

C -√ √ √

D √- - -

ภาค ข (วิชาความร้คู วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วิชาเอก วทิ ยาศาสตร์

ค่มู อื เตรยี มสอบ 579

สง่ิ มชี วี ิตในขอ้ ใดจัดอยู่ในอาณาจกั รมอเนอรา ง.A และ D

ก. A และ B ข. B และ C ค. C และ D ง. น้ำตาลเพนโทส
ง. 123 และ 4
46) ใดไม่ใชล่ กั ษณะเฉพาะของไวรัสHIV ง. โปรตนี

ก. ทำลายเซลลเ์ มด็ เลือดทุกชนิด

ข. กลายพันธไ์ุ ด้ง่าย

ค. ถ่ายทอดได้ทางเพศสัมพันธ์ หรือรับเลือดจากผตู้ ิดเช้ือ

ง. เพม่ิ จำนวนโดยใช้วัตถุดิบจากเซลล์ทถ่ี ูกทำลาย

47) ส่ิงมีชวี ติ ในข้อใดต่อไปน้ี เรียงตามลำดบั ววิ ัฒนาการได้อย่างถูกต้อง

ก. อะมบี า ----->สาหร่ายสเี ขยี วแกมน้ำเงนิ ----->หนอนตัวแบน

ข. แบคทเี รีย ----->ราเมอื ก ----->เห็ด

ค. ไสเ้ ดอื นดนิ ----->แมลง ----->หอย

ง. โพรทิสต์ ----->ยสี ต์ ----->สาหรา่ ยสเี ขียวแกมน้ำเงนิ

48) ขอ้ ใดไมเ่ ป็นองค์ประกอบของดีเอน็ เอ

ก. กรดอะมโิ น ข. ไนโตรเจน ค. หมู่ฟอสเฟต

49) ไวรัสเพิม่ จำนวนได้ในสภาวะใด

1.ในเซลล์สัตว์ 2.ในเซลล์พชื

3. ในอาหารสังเคราะห์ 4. ในซากสง่ิ มชี ีวติ

ก. 1 และ 2 ข. 3 และ 4 ค. 12 และ 3

50) สารปรกอบใดที่ห่อหมุ้ สารพนั ธกุ รรมของไวรัสโดยตรง

ก. ฟอสโฟลพิ ิด ข. นิวคลโี อไทด์ ค. คาร์โบไฮเดรต

51) สิง่ มีชีวติ ในข้อใดต่อไปน้ี เรยี งลำดับวิวฒั นาการได้ถูกตอ้ ง

ก. เห็ด ----->แบคทีเรีย----->อะมีบา

ข. สาหร่ายสีเขียว ----->สาหร่ายสเี ขียวแกมนำ้ เงนิ ----->มอส

ค. หนอนตัวแบน ----->ฟองน้ำ ----->ดาวทะเล

ง. สาหรา่ ยสนี ้ำตาล ----->สนสองใบ----->พชื ใบเล้ียงคู่

52) ไมส้ นเหมาะในการใช้ปลูกป่าเนอ่ื งจาก

ก. มีสาหรา่ ยสีเขียวแกมนำ้ เงินอย่ดู ้วย ทำใหเ้ จริญเตบิ โตได้รวดเร็ว

ข. มสี าหรา่ ยสีเขียวอยดู่ ้วย ทำให้เจรญิ เตบิ โตไดร้ วดเรว็

ค. มรี าไมคอไรซาเจรญิ อย่ดู ้วย ทำให้เจริญเตบิ โตได้อยา่ งรวดเรว็

ภาค ข (วิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วิทยาศาสตร์

580 คมู่ อื เตรยี มสอบ

ง. มแี บคทีเรียไรโซเบยี มอยู่ด้วย ทำใหเ้ จริญเติบโตได้รวดเรว็

53) มา้ และลาจัดไวต้ ่างสปชี ีสก์ ันเนอ่ื งจาก

ก. ผสมพันธกุ์ ันไม่ได้ ข. ผสมพนั ธุก์ นั ได้แตไ่ ม่ได้ลกู

ค. ผสมพนั ธ์ุกนั ไดแ้ ละไดล้ กู ท่ีเปน็ หมนั ง. ผสมพันธ์ุกนั ไดแ้ ละไดล้ ูกทไ่ี มเ่ ปน็ หมัน

54) อาณาจักรมอนอรา เปน็ อาณาจักรที่ประกอบด้วย

ก. พวกสาหร่ายทัง้ หลาย ข. พวกโพรโทซวั และเห็ดรา

ค. พวกสาหร่ายโพรโทรซัว แบคทีเรีย และรา ง. พวกแบคทีเรยี และสาหร่ายสสีเขยี วแกมน้ำ

เงนิ

55) ซากดึกดำบรรพ์ของ Archeopteryxทำใหท้ ราบว่า

ก. สัตวเ์ ล้ียงลกู ดว้ ยนม มวี วิ ฒั นาการมาจากสัตวป์ กี ข. สัตวป์ ีกมีววิ ัฒนาการมากจาก

สัตว์เล้อื ยคลาน

ค. สตั วเ์ ลอ้ื ยคลานมีวิวัฒนาการจากสัตวค์ รึง่ บกคร่งึ น้ำ ง. สัตว์คร่ึงบกคร่งึ นำ้ มวี วิ ัฒนาการจาก

ปลา

56) ข้อใดท่ีทำให้ส่งิ มีชีวิต 2 สปีซสี ์อาศัยอยู่ปะปนกนั โดยไมท่ ำให้เกดิ สปซี ีสใ์ หม่

1. แหล่งอาหารแตกต่างกัน 2. รปู รา่ งแตกต่างกนั

3. ฤดูกาลและเวลาผสมพันธ์แุ ตกต่ากัน 4. พฤติกรรมการเกย้ี วพาราสีแตกต่างกนั

ก.1,2,3 ข.2,3,4 ค.3,4,1 ง.4,1,2

57) ชาวบ้านทอี่ าศยั อยู่ตามปา่ ชายเลนได้หันมามีอาชีพเลี้ยงกงุ้ บรเิ วณชายฝั่งทะเล จะส่งผลอยา่ งไร

บ้าง

ก. ชาวบา้ นมอี าชีพ แบะรายได้ ข. จำนวนสตั วท์ ะเลมีมากขึ้น จากการเพาะเลี้ยง

ค. ปริมาณแพลงตอนท่อี าศัยตามหมด ง. จำนวนสตั วท์ ะเลน้อยลง เพราะไมม่ ีแหลง่ อนบุ าล

สัตว์นำ้

58) ถ้าพอ่ มหี มเู่ ลือด AB แมม่ ีหม่เู ลือด O ลูกทเ่ี กิดจะมีหม่เู ลอื ดอะไรบา้ ง

ก. A,B,ABและ Oข. A,Bและ O ค. A และ B ง.A,Bเท่านัน้

59) ข้อใดไม่ใชล่ ักษณะของสายวิวฒั นาการทีเ่ กดิ ข้นึ จรงิ

ก. แมลงปกี ----->นก ข. สัตว์เลื้อยคลาน ----->นก

ค. สัตวเ์ ลือ้ ยคาน----->สัตว์เลย้ี งลกู ดว้ ยนม ง. สัตวเ์ ซลลเ์ ดยี ว ----->สตั ว์เลย้ี งลูกด้วยนม

ภาค ข (วิชาความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วิทยาศาสตร์

ค่มู อื เตรยี มสอบ 581

60) ใบของต้นกระบอกเพชร ลดรูปเป็นหนามเพื่อลดการคายนำ้ กรณีนี้อธบิ ายไดว้ ่าอย่างไร

1. การคัดเลอื กโดยธรรมชาติ 2. การเกิดสปชี ีสใ์ หม่

3.การปรับตัวทางพันธกุ รรม 4.การปรบั ตัวเพอื่ ความอยูร่ อด

ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3 ค. 3 และ 4 ง. 4 และ 1

61) การทดลองผสมพนั ธร์ุ ะหวา่ งผกั กาดขาวกับกะหลำ่ ปลี พบวา่ สามารถใหล้ กู เป็นหมัน ผลการ

ทดลองน้ี แสดงหลกั ฐานวิวัฒนาการหรอื ไม่ อย่างไร

ก. ไม่แสดงหลกั ฐานวิวัฒนาการ เนอ่ื งจากการผสมระหว่างผกั กาดขาวกบั กะหล่ำปลใี ห้ลกู ผสมเปน็

หมัน

ข. แสดงหลักฐานววิ ฒั นาการการเจรญิ ของเอ็มบรโิ อของลูกผสม ผกั กาดขาวกับกะหล่ำปลอี ยูต่ ่างสปี

ชีส์ แต่มีบรรพบุรุษรว่ มกนั

ค. แสดงหลกั ฐานววิ ฒั นาการทางพนั ธุศาสตร์ ผักกาดขาวกับกะหล่ำปลอี ยู่ตา่ งสปชี ีส์ แต่มบี รรพ

บุรุษร่วมกัน

ง. แสดงหลักฐานวิวฒั นาการทางพันธศุ าสตร์ ผกั กาดขาวกับกะหล่ำปลีอยใู่ นสปชี สี เ์ ดยี วกัน แต่มี

บรรพบรุ ุษร่วมกัน

62) แมห่ มูตวั หนงึ่ คลอดลูกออกมา 10 ตวั ตามแนวความคิดของชาร์ลส์ดาร์วนิ ลกู หมทู ั้ง 10 ตัว

จะมีลักษณะเหมือนกันหรอื แตกต่างกันอยา่ งไร

ก. ลกั ษณะต่างๆ ทุกลกั ษณะเหมือนกันข. ลกั ษณะตา่ งๆ ทุกลกั ษณะเหมือนแม่

ค. ลักษณะตา่ งๆ ทุกลักษณะแตกตา่ งกนั ง. ลักษณะบางลกั ษณะเหมอื นกัน และบางลักษณะ

แตกต่างกนั

63) ข้อความต่อไปน้ีขอ้ ใดผิด

ก. ไวรสั เป็นสง่ิ มีชีวิตและเป็นสาเหตทุ ำให้เกิดโรคหวัดกับคน

ข. ไวรัสสามารถแบง่ เซลล์เจริญเตบิ โตเพิ่มปริมาณไดม้ ากข้ึนเม่ืออยเู่ ปน็ อสิ ระ

ค. ไวรสั สามารถผลิตหน่วยที่เหมอื นคนเองได้โดยอาศยั สารอินทรียจ์ ากสิ่งมีชวี ิต

ง. ไวรสั เป็นสิ่งมีชวี ิต แตไ่ ม่สามารถแสดงคุณสมบัตขิ องตนเองเมื่ออยู่เป็นอิสระ

64) อะไรเปน็ ตัวกำหนดทิศทางความแตกต่างทางพนั ธุกรรม

ก. พ่อและแม่ ข. การมีลกั ษณะเหมอื นกัน

ค. การคดั เลอื กตามธรรมชาติ ง. การผสมพนั ธ์ุกนั ตามธรรมชาติ

65) ขอ้ ใดไมเ่ ป็นสาเหตขุ องการเกดิ วิวัฒนาการ

ก. การผา่ เหล่า ข. การอพยพของประชากร

ภาค ข (วชิ าความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วชิ าเอก วิทยาศาสตร์

582 คมู่ อื เตรยี มสอบ ง. การถ่ายทอดยีนอยู่ในสภาพสมดุล

ค. การผสมพันธ์แุ บบไมเ่ ป็นอิสระ

66)

A ในภาพอยู่ในฐานะอะไรในสายในอาหาร

ก. ผู้ย่อยสลาย ผูบ้ ริโภคอันดบั 1 ข. ผบู้ ริโภคพืช ผูบ้ รโิ ภคอันดัน 2

ค. ผบู้ รโิ ภคอันดับ 1 ผบู้ ริโภคอนั ดับ 2 ง. ผบู้ ริโภคพืช ผู้บรโิ ภคอนั ดับ 1

67) พ่อเป็นสัตว์ลกู ผสมทเี่ ป็นหมัน เกดิ จากการผสมระหวา่ งมา้ กับลา มา้ กบั ลามคี วามสัมพันธุ์กัน

อยา่

ก. มา้ กบั ลาเป็นสัตว์สปีชสี เ์ ดียวกนั เพราะผสมพันธ์กุ นั ได้

ข. ม้ากับลาเป็นสตั วส์ ปชี สี เ์ ดียวกนั เพราะมลี ักษณะคล้ายคลึงกนั

ค. มา้ กบั ลาเปน็ สตั ว์ต่างสปีชีสก์ ัน เพราะมขี นาดต่างกนั

ง. มา้ กบั ลาเป็นสตั วต์ า่ งสปชี ีส์กนั เพราะพ่อไมส่ ามารถสืบพนั ธแ์ุ ละขยายพันธ์ตุ ่อไปได้

68) นายแดงได้ นำสัตวม์ าผสมกนั 1 คู่ หลังจากผสมกนั หลายครง้ั เขาสรปุ ว่าสัตวค์ นู่ ีต้ ่างสปีชีส์กัน

ข้อมลู ข้อใดน่าจะสนบั สนนุ ความคิดของเขา ได้

ก. ผสมครัง้ แรกลูกในท้องแท้งเมือ่ อายเุ พียง 2 สปั ดาห์

ภาค ข (วิชาความรคู้ วามสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วิชาเอก วทิ ยาศาสตร์

ค่มู อื เตรยี มสอบ 583

ข. ผสมครง้ั ทส่ี องในขณะท่ีรา่ งกายสมบรู ณ์เตม็ ท่ี แต่ไม่พบการตัง้ ครรภ์

ค. ผสมคร้ังท่สี ามไดล้ กู เพศผู้ซึง่ เม่อื โตเต็มวัยไมส่ ร้างสปริ ์ม

ง. ผสมคร้ังทสี่ ี่ไดล้ ูกเพศผู้และแม่ตายหลังคลอด

69) ข้อใดเป็นการเรยี งลำดับสาเหตกุ ารเกดิ โรคมะเร็งผวิ หนังไดถ้ ูกตอ้ ง

1. โอโซนถูกทำลายโดยอนุมลู คลอไรด์

2. อตั รารไวโอเลตผ่านขน้ั สตราโตสเฟยี ร์ไดม้ ากข้นึ

3.อัตราไวโอเลตทำลาย CFC และปล่อยอนุมลคลอด์

ก.1,2,3 ข.2,3,1 ค.3,1,2 ง. 3,2,1

70) ตามแผนผังแสดงววิ ฒั นาการลำดบั ววิ ฒั นาการของพืชตามลำดับขา้ งล่างนี้ เฟิรน์ ควรอยใู่ นชว่ ง

ใด

ก. ก ข. ข ค. ค ง. ง

71) ในกลุ่ม สง่ิ มีชีวติ ท่ีประกอบด้วย กุหลาบ เพล้ีย แมลงเต่าทอง เห็ด รา นก งู ผ้รู ับการ

ถา่ ยทอดพลังงานเคมเี ป็นลำดับแรกของโซ่อาหารคือข้อใด

ก. นก ข. เห็ด ค. เพลีย้ ง. กหุ ลาบ

72) ตัวอยา่ งกล่มุ ใดทแี่ สดงลำดบั ของววิ ัฒนาการได้ถูกต้อง

1. แบคทเี รีย ปลาดาว ไก่ แมว

2. แบคทีเรีย แมงป่อง ปลากะเบน กิง้ ก่า

3. แบคทีเรยี ฟองนำ้ ปลาวาฬ กบ

4. แบคทเี รยี กุ้ง ปลาหมึก จระเข้

ก. 12 ข. 23 ค. 34 ง. 14

73) ถา้ การสญู พนั ธขุ์ องไดโนเสารม์ สี าเหตุจากลกู อุกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลก ทำให้เกดิ ฝนุ่ หนา

ทึบ ฟุ้งกระจายไปทัว่ ทัง้ โลกเปน็ เวลานานหลายปี ท่านคดิ ว่าไดโนเสาร์ชนิดใดนา่ จะเสยี ชวี ิตก่อน

เนอ่ื งขากขาดอาหาร

ก. ไดโนเสาร์ทก่ี นิ ไข่เป็นอาหาร ข. ไดโนเสาร์ท่กี ินพชื เปน็ อาหาร

ค. ไดโนเสาร์ท่กี นิ สตั วเ์ ป็นอาหาร ง. ไดโนเสารท์ ีก่ ินพืชและสัตวเ์ ปน็ อาหาร

74) ข้อใดไม่ใช่หว่ งโซอ่ าหารที่ทำใหส้ ารตะก่วั ซ่ึงปนเป้ือนอยใู่ นนำ้ เข้าส่รู ่างกายของคน

ก. หญ้า ---->ววั คน ข. ปลาเล็ก ---->ปลาใหญ่ ---->คน

ค. ขา้ วโพด ---->หนู ---->นก ---->คน ง. เพล้ีย ---->ข้าวโพด นก ---->คน

ภาค ข (วชิ าความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วิทยาศาสตร์

584 คมู่ อื เตรยี มสอบ

75) พืชจำพวกมอสไดช้ ่ือวา่ เปน็ พืชท่ีมวี ิวัฒนาการน้อยทส่ี ุด ลกั ษณะเด่นทยี่ ืนยนั ความเชอื่ นี้

สามารถสังเกตไดจ้ ากลักษณะใด

ก. การออกดอก-ผล ข. การสรา้ งสปอร์

ค. การมที ่อลำเลยี ง ง. การมีข้อ – ปล้องของลำต้น

76) ขอ้ ใดต่อไปนี้ถูกต้องท่ีสดุ

ก. สภาวะเรือนกระจกจะทำใหร้ งั สีอลุ ตราไวโอเลตในบรรยากาศเพม่ิ ขึน้

ข. กา๊ ซซัลเฟอรไ์ ดออกไซดท์ ำให้เกดิ ฝนกรด

ค. สาร CFC จะทำลายโอโซนในชั้นสตราโตสเฟยี รท์ ำใหโ้ ลกร้อนขนึ้

ง. คาร์บอนไดออกไซด์ในชนั้ บรรยากาศจะเป็นเกราะกำบงั รังสีอลุ ตราไวโอเลต

77) โรคอีสุก อีใสเกิดจากไวรัสชนิดหนึ่ง คนทเี่ คยเป็นอีสุกอใี สแลว้ จะมีความตา้ นทานต่อโรคได้

แตบ่ างคนกลบั เป็นขน้ึ มาใหม่อกี ครั้งได้เพราะเหตุใด

ก. ไวรัสที่ทำใหเ้ กดิ โรคอีสุกอีใสกลบั ฟน้ื ตวั ขนึ้ มาใหม่

ข. ไดร้ บั เชอื้ ไวรสั ปชี ีส์ใหม่ทรี่ ่างกายไมม่ ภี ูมิคุ้มกันต่อตา้ นได้

ค. ภูมคิ ุ้มกันที่ได้รบั จากไวรสั สปชี สี เ์ ดมิ เสอ่ื มไป

ง. ภูมคิ ุม้ กันเดมิ ที่เคยมอี ยูเ่ ป็นเวลานานเปลี่ยนไปเป็นสารใหม่ตามธรรมชาติของมัน

78) ในขวด อาหารท่ีเล้ยี งแมลงหว่ี มที ั้งแมลงหวี่ปกี ยาวตรงและปกี กะดก เมื่อเลอื กเอาแมลงหว่ที ี่

มีลักษณะปีกกะดกออกมาผสมกันหลายๆรนุ่ จนในที่สดุ ได้แมลงหวีป่ ีกะดกหมดทุกตัว ผลที่ไดน้ ้ี

เปน็ ไปตามหลักการข้อใด

ก. การคัดเลือกยีน ข. การคัดเลือกคามแปรผัน

ค. วิวัฒนาการ ง. มิวเตชัน

79) ในการศกึ ษาเอ็มบริโอของสตั ว์ 5 ชนดิ คำถามใดไมส่ ามารถตอบไดจ้ ากการศึกษาครัง้ นี้

ก. เปน็ สัตวท์ ม่ี ีกระดูกสันหลังหรือไม่

ข. มีสายววิ ฒั นาการใกล้ เคยี งกันหรอื ไม่

ค. ระยะเวลาของพัฒนาการของเอ็มบรโิ อของสัตว์ต่างกันหรือไม่

ง. เอม็ บริโอของสตั วเ์ หลา่ น้ใี นระยะท่ี 1 มรี ปู รา่ งคลา้ ยกนั หรือไม่

ภาค ข (วชิ าความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหนง่ ) วิชาเอก วิทยาศาสตร์

ค่มู อื เตรยี มสอบ 585

80) นายมชี ัย ผสมพนั ธน์ุ ก 2 ชนดิ ชนดิ แรกมีปากแหลม นิว้ เท้าไม่มีพังผดื ขนมนั ชนดิ ท่ีสอง ปาก

เบน นิ้วเทา้ มีพงั ผดื ขนหยาบ เมือ่ ลกู ผสมฟักออกมาจากไข่ นายมีชยั นำไปเลี้ยงในคลองหนา้ บ้าน

ลูกผสมลกั ษณะเช่นใดท่ีมโี อกาสรอดชีวิตได้ มากที่สุด

ก. ปากแหลม ขนมนั น้ิวเทา้ มีพงั ผืด ข. ปากแหลม ขนหยาบ น้ิวเทา้ มีพังผืด

ค. ปากเบน ขนหยาบ นว้ิ เท้ามีพงั ผืด ง. ปากเบน ขนมนั นิว้ เทา้ มีพงั ผนื

เฉลยรวมโจทยว์ ิทยาศาสตรช์ ดุ ที่ 2
1 ค 2 ง 3 ข 4 ค 5 ข 6 ข 7 ข 8 ก 9 ค 10 ก
11 ก 12 ข 13 ค 14 ง 15 ค 16 ค 17 ค 18 ก 19 ง 20 ข
21 ง 22 ง 23 ก 24 ก 25 ง 26 ข 27 ง 28 ง 29 ง 30 ค
31 ค 32 ง 33 ข 34 ง 35 ค 36 ง 37 ค 38 ง 39 ง 40 ค
41 ง 42 ง 43 ข 44 ก 45 ง 46 ก 47 ข 48 ก 49 ก 50 ง
51 ง 52 ค 53 ค 54 ง 55 ข 56 ข 57 ง 58 ค 59 ง 60 ง
61 ค 62 ง 63 ข 64 ค 65 ง 66 ง 67 ง 68 ค 69 ค 70 ค
71 ค 72 ก 73 ข 74 ง 75 ค 76 ข 77 ค 78 ก 79 ก 80 ก

ภาค ข (วชิ าความร้คู วามสามารถเฉพาะตำแหน่ง) วชิ าเอก วิทยาศาสตร์


Click to View FlipBook Version